ไปต่อกันเลยนะครับ ผมมมม
****************************************************************************
๖
พาทิศรู้สึกคุ้นเคยกับบรรยากาศของโรงแรมเกต ออฟ พาราไดส์อย่างน่าประหลาด เพียงแค่เขาก้าวลงจากรถของตัวเขาเอง แล้วอ้อมมาเปิดประตูให้คุณนาย เพลงพิณ และคุณ เกรียงไกรเท่านั้นก็รู้สึกราวกับว่าได้มาเหยียบที่ที่เขาคุ้นเคยดี แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยมาที่นี่เลยก็ตามพ่อและแม่ ของพาทิศเดินก้าวสั้นๆ แต่มั่นคงลงมาจากรถ ทั้งคู่เข้าควงแขนกันอย่างคุ้นเคยกับงานสังคมแบบที่เขาและเธอเข้าร่วมประจำ สูทสีดำของพ่อ สวมทับอยู่บนเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม ทำให้เขาดูหล่อคมพอดีในวัยของเขา
คุณนายเพลงพิณอยู่ในเดรสสีน้ำเงินเข้ากัน ผ่าลึกลงมาเผยให้เห็นคอขาวระหง ที่ประดับด้วยสร้อยเพชรประดับพลอยไพลินออกแบบเป็นเถาไม้เล็กที่เลื้อยรอบคอของหล่อน ไม่ให้คอและหน้าอกขาวนั้นดูโล่งจนเกินไป ชุดกระโปรงยาวลงมาประเข่าขาวเนียนทั้งสองข้าง ตรงกลางคาดด้วยเข็มขัดเพชรเส้นใหญ่ รองเท้าก็เป็นประกายเพชร ขาวสะอาดเข้ากัน ดูสวยสง่าราวกับว่าวัย 51 นั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ที่จะทำให้ความสาวความสวยของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไปเลย
คุณนายเพลงพิณ ควงแขนสามี เดินเข้าไปในโรงแรมก่อน แม่ของเขาหันกลับมาพูดกับลูกชาย เพื่อย้ำความมั่นใจให้เขาตามหล่อนไปที่ห้อง ไกรลาส บอลล์รูม พาทิศรับคำ แล้ววนรถไปจอด ก่อนจะค่อยๆ เดินขึ้นโรงแรมตามมารดาของเขาไป
พาทิศมั่นใจว่าเขายังไม่เคยมาสถานที่นี้มาก่อน และรูปแบบของการจัดโรงแรมแบบนี้ เขาก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน แต่กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่า เขาเคยได้มาเหยียบสถานที่นี้มาก่อนแล้ว เขารู้สึกคุ้นเคยกับบริเวณนั้น ไม่ต่างจากที่เขารู้สึกคุ้นเคยกับบ้านของเขาเอง โรงแรมนี้ตกแต่งแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน โดยรูปแบบของโรงแรมนี้ผ่านการออกแบบมาอย่างดีโดยคุณผ่านฟ้า ตามที่คุณป้าชมนาดพูดโม้ไว้ตั้งแต่ก่อนจะออกจากบ้าน
“คุณผ่านฟ้าเป็นผู้ที่สนใจในวรรณคดีมาก” พาทิศยังจำเสียงแหลมๆของพี่สาวคุณแม่เขาได้ “โรงแรมนี้ออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาจาก เรื่องของป่าหิมพานต์ และ เขาไกรลาส ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนในประเทศไทย"
อย่างที่ป้าชมนาดโม้ไว้นั่นแหละ ด้านหน้าของโรงแรมจัดเป็นสวนขนาดย่อมๆ มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเขียวครึ้ม และแม้จะมองเห็นจากเวลากลางคืนก็ยังเห็นดอกไม้ในวรรณคดีไทย เต็มสวนไปหมด ราวกับว่าในอีกไม่กี่นาทีนี้จะมีบรรดากินรีเดินขบวนออกมาชมดอกไม้ที่หอมหวน อบอวลตรงนั้นเลยทีเดียว จากลานจอดรถ ที่แรกที่เขาเข้ามาถึง คือบริเวณโถงทางเข้า ซึ่งออกแบบเป็นอีกส่วนหนึ่งของป่าหิมพานต์ มีม่านปักลายกินรี ราชสีห์ ช้าง และ ต้นมักกะลีผล มีโซฟา ม้านั่งตามมุมต่างๆ รอบๆ เป็นห้องอาหาร คาเฟ่ ห้องน้ำ ห้องฟิตเนสและอีกมากมาย เคาน์เตอร์ต้อนรับ ตั้งอยู่ทางขวามือของเขา พาทิศเดินตรงไปหาพนักงานหนุ่มสาวที่แต่งตัวเป็นนางกินรี และ กินนรหนุ่ม ทันทีที่เขาไปถึงบริเวณเคาน์เตอร์พนักงานทั้งสองก็ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแบบที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี น้ำเสียงที่พูดขึ้น เป็นเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานของนางกินรี
“เกต ออฟ พาราไดส์ ประตูสู่สรวงสวรรค์ยินดีต้อนรับค่ะ”
“ผมจะไปห้อง ไกรลาส บอลล์รูม ครับ ต้องไปทางไหนหรือครับ” พาทิศถามเสียงทุ้มลึก สูทดำกับเชิ้ตขาวทำให้เขาดูหล่อเหลากว่าที่เคย ทำให้ทั้งกินรี ทั้งกินนรต่างส่งตาหวานมองเขาอย่างห้ามไม้ได้
“ขึ้นลิฟต์ไปชั้นหนึ่งครับ ห้องอยู่ทางขวา” กินนรหนุ่มว่า แล้วพาทิศก็กล่าวคำขอบคุณสั้นๆ ก่อนที่จะยิ้มแล้วเดินจากไป กินรีสาวทำท่าเหมือนถูกบ่วงของพรานบุญรัดไว้จนหายใจไม่ออก หากว่าหล่อนเป็นนางโนราห์ละก็ คงจะยอมให้พระสุธน พาทิศจับนางไปเป็นมเหสีได้อย่างไม่ขัดข้อง แต่พาทิศไม่สนท่าทางของหญิงสาว เขาชินเสียแล้วกับสายตาที่มองเขาด้วยความสนใจทุกครั้งที่เขาแต่งตัวออกงาน
ชายหนุ่มเดินมาที่บริเวณลิฟต์ซึ่งอยู่ถัดมาจากเคาน์เตอร์นั้นไปทางซ้าย ลิฟต์มีทั้งหมดสี่ตัวมีอยู่สองฝั่ง ฝั่งละสองตัวหันหน้าเข้าหากัน พาทิศมองตรงไปข้างหน้าก็รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เขาได้พบเห็น เขาตัดสินใจเดินเลยลิฟต์มาเพื่อเดินเข้าไปในห้องที่ด้านหน้ามีป้ายเขียนเป็นอักษรไทยที่วิจิตรบรรจงตวัดเป็นคำว่า “ห้อง อโนดาต” ตรงกลางห้อง มีสระขนาดใหญ่ สีเขียวมรกตตั้งอยู่ อะไรบางอย่างดึงดูดให้เขาเดินตรงเข้าไปที่สระนี้ และไม่สามารถละสายตาจากตัวสระได้เลย สระนี้ถูกบังไว้ด้วย ห้อง ที่อยู่ชั้นบน และผนังด้านบนก็ไม่มีหลอดไฟดวงใดเลยที่ส่องแสงสาดลงมาที่ผิวน้ำ มีเพียงดวงไฟสีเขียวที่ส่องมาจากด้านข้างเท่านั้นที่กระทบกับผิวน้ำ ทำให้มันดูระยิบระยับราวกับทำจากเศษมรกตนับล้านชิ้น น้ำของสระนี้ขุ่นมัวราวกับว่าเป็นสระที่ขุดขึ้นเลียนแบบสระธรรมชาติอย่างแท้จริง มีกอบัว และปลาแหวกว่ายอยู่ในสระตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง พาทิศเป็นนักเขียน ดังนั้นเขาจึงพอรู้ว่า อโนดาต แปลว่า สระที่ไม่มีแสงส่องให้ร้อน คุณผ่านฟ้า คงยึดความเป็นสระอโนดาตเอาไว้ตามวรรณคดีโดยไม่ปล่อยให้รายละเอียดใดๆผิดไปได้แม้แต่น้อยเลยเพราะ สระอโนดาตนั้น มีเงื้อมผาโค้ง โอบบังแสงไว้ด้านบน ทำให้แสงอาทิตย์และแสงจันทร์ ไม่สามารถส่องผ่านไปโดนน้ำตรงๆ ได้ แสงลอดเข้าเพียงด้านข้างเท่านั้น
ความสวยงามของบ่อนี้ทำให้ พาทิศนึกอยู่ในใจว่า สระนี้ ใช่สระที่เขาสร้างขึ้นใหม่ หรือว่าเป็นสระที่มีอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่บริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่บ้านคุณหลวงพินิจราชอักษรกันแน่ ตรงอีกปลายฝั่งหนึ่งของสระน้ำ มีศาลาทรงแปดเหลี่ยมทำจากไม้ ทาสีขาว และมีลายฉลุที่ดูสวยงาม แสดงถึงความโบราณของมันอย่างเห็นได้ชัด พาทิศตั้งใจจะเดินไปให้ถึงศาลาเพื่อจับต้องดูว่าเป็นของเก่าหรือของใหม่ที่ทำเลียนแบบกันแน่ แต่ไม่ทันจะเดินไปที่ศาลาแปดเหลี่ยมนั้น เขาก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้เดินไปสัมผัสผิวน้ำเย็นเฉียบสีเขียวมรกตนั้นได้ เพียงสัมผัสที่ผิวน้ำ ความเย็นก็ลูบไล้มือของพาทิศราวกับจะเตือนไม่ให้เข้าใกล้ไปมากกว่านั้น ชายหนุ่มถอนมือออกเพื่อเดินไปที่ศาลาสีขาวที่ห่างไปอีกไม่กี่ก้าว แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็น อะไรบางอย่าง ในน้ำที่ทำให้เขาขนลุก ... เขาไม่แน่ใจว่าเขาตาฝาดไปหรือเปล่า แต่
มีใครบางคนอยู่ในน้ำ และจ้องมองเขาราวกับจะขอความช่วยเหลือ
แต่คนที่ไหนเล่าจะลงไปอยู่ในสระน้ำอย่างนั้นได้โดยไม่ต้องหายใจ... หรือที่อยู่ใต้น้ำนั้นจะ ไม่ใช่คน หรืออย่างน้อย ก็ไม่ใช่คนที่มีชีวิตแล้ว