มาแว้วววววว ตอนต่อนะค้าบบบ อ่านแล้ว เม้นต์ให้กำลังใจ ผมหน่อยนะค้าบบ อยากได้กำลังใจ
ตอน สิบ ห้า
ผมรีบกระเด้งออกจากเตียง แล้วตรงไปที่ประตู จวนถึงอยู่แล้ว แต่มันก็ลุกก้าวตาม มันก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวผมแล้ว มันรวบตัวผมมากอดทันที
"จะไปไหน"
มันกัดฟันพูด เหมือนหมั่นเขี้ยว
"ปล่อยนะ เอ" ผมร้อง
"ไม่ปล่อย กัดผมแล้วจะไปง่ายๆเหรอ"
มันโยนผมลงเตียงอย่างแรง แล้วตัวมันก็ตามขึ้นมาทับทันที
"ปล่อย จะทำอะไรน่ะ"
ผมร้อง พยายามดิ้นเอาตัวออก
"จะมีอะไรกับพี่ไง ไหนลองดูซิ"
"ไอ้บ้า ปล่อย"
ผม ร้องขู่ แต่มันไม่สน หน้ามันอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงคืบ หนักตัวมันก็หนัก รู้สึกหายใจไม่ออก ผมเอามือผลักหน้ามันออก แต่มันยิ่งกอดรัดแน่นขึ้น ผมไม่มีแรงจะต่อสู้กับมัน จึงนิ่ง เบือนหน้าออกไปอีกทาง มันไม่สนใจซุกไซร้ตามซอกคอ แต่ผมก็พยายามนิ่ง จนมันเงยหน้าขึ้น เอามือจับหน้าผมให้จ้องตามัน สายตามัน ยั่วโมโหมาก ผมเม้มปาก
"อยากมีอะไรกับ พี่มากนักเหรอ ได้"
ผมกัดฟันพูด จ้องตามันเขม็ง
"อยากทำอะไรก็ทำเลย เอาเลย ทำสิ"
ผม ท้า มันยิ้มที่มุมปาก ลมหายใจของมันรดหน้าผม รู้สึกหวั่นๆ เหมือนกัน ถ้ามันบ้าทำจริงขึ้นมาล่ะ ตายล่ะสิ มันก้มลงประกบปากผมทันที ผมเม้มปากไว้ แต่มันก็พยายามดันลิ้นเข้ามาในปาก ผมจะเบี่ยงหน้าหนี มันก็เอามือจับหน้าไว้ ผมนอนตัวแข็งทื่อ ตกใจไม่คิดว่ามันจะทำ เพราะพูดประชดไป ผมไม่ตอบสนอง นอนแข็งทื่อเป็นตอไม้
"แหม เคลิ้มเชียว ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวพี่ติดใจขึ้นมา จะสอนผมรู้เรื่องไหมเนี่ย ไม่ใช่จะสอนอยู่แต่เรื่องเดียว"
มัน ผละออก คงคิดอะไรได้ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมนอนนิ่งมองเพดาน หลับตาปริบๆ ใจหายใจคว่ำไปหมด ผมพยายามประครองตัวลุกจากเตียง แต่มันก็คว้าผมลงไปนอนอีก
"นอนกอดกันเฉยๆดีกว่า"
ผมไม่พูดอะไร ไม่ดิ้นหนี นอนนิ่ง ตกใจก็ตกใจ กลัวก็กลัว มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ในหัวผมคิดอยู่แค่นี้
"แล้วไม่ไปกินข้าวเหรอ"
ผมถามเสียงกระท่อนกระแท่น
"เอาไว้ก่อน ขอนอนกอดก่อน"
มันพูดหน้าตาเฉย ให้ตายเถอะผมไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่ามันมาก่อน ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเจอ สงสาร ครูบาอาจารย์ที่สอนมันจังเลย คงจะสุดขั้วน่าดู มันนอนนิ่ง ผมคิดไปต่างๆนานา ไม่น่าให้เรื่องล่อแหลมแบบ นี้เกิดขึ้น มันเสี่ยงเกินไปที่จะอยู่กับมันสองคนแบบนี้ ใครจะรู้บางทีมันคึกขึ้นมา แม้บางทีมันดูเหมือนแค่ล้อผมเล่น แต่มันดูมากขึ้นทุกที อย่างน้อยผมก็เหมือนเป็นครูของมัน
เสียง หายใจของมันเริ่มยาว ลึก เป็นจังหวะสม่ำเสมอ คงหลับไปแล้ว ผมค่อยๆ แกะมือมันออก แล้วลุกออกจากพันธนาการของมัน ผมยืนมองมันที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง มันก็แค่เด็กที่อยู่ในร่างที่โตเกินวัย เท่านั้นเอง เวลานอนดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ดูสงบนิ่ง ต่างกันเสียเหลือเกิน ผมเดินออกจากห้อง ลงไปในครัว อุ่นอาหาร แล้วไปนั่งดู โทรทัศน์ โทรหา จ๋า แต่ขานั้นกำลังเดทอยู่ เลยไม่ได้คุย โทรหาพล ก็กำลังวุ่นวายอยู่กับเด็ก จึงไม่ได้คุยอีก ผมนั่งดู โทรทัศน์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มหิว จึงเดินขึ้นไปบนห้อง ตามเจ้าตัวดีมากินข้าว มันยังคงนอนอยู่ ผมไปเขย่าตัวมัน
"เอ ไปกินข้าว เอ"
"อืม"
มันงัวเงีย หน้าตาเหมือนเด็กที่เพิ่งตื่นนอน ถ้ามันเป็นแบบนี้ตลอดก็คงดี แต่มันหลับตาลงอีก ดิ้นไปอีกทาง
"ตามใจนะ พี่ไม่เหลือไว้ให้นะ"
ผมพูดแล้วลงมาจากห้องเลย ไปตักกับข้าวใส่ถ้วย ตักข้าวไว้เผื่อมัน ผมลงมือกินไปก่อน สักพักมันก็ เดินลงมา
"ไม่รอเลย น้า"
"ไม่นอนต่อล่ะ จะได้เหลือแต่ถ้วยเปล่า"
"โห ใจร้ายว่ะ หิวๆ"
มันไม่สนใจนั่งลงกินข้าว ผมรีบกินแล้วไปเอาน้ำมะตูมที่แม่ต้มไว้ในตู้เย็น
"ไม่เอามาเผื่อผมด้วยล่ะ"
"เกินไป อยากกินก็ไปเอาเอง"
"โห ทำเสียงดุ มันเริ่มเจ็บแล้วอ่ะพี่ แขนผมน่ะ"
มันทำท่าโอดครวญ
"ไหน เดี๋ยวใส่ยาอีกรอบ บอกแล้วไม่ฟัง สมน้ำหน้า"
"เห็นแบบนี้ มีเขี้ยวเล็บเหมือนกันนะพี่น่ะ"
ผมขี้เกียจต่อกรกับมัน จึงเดินไปที่โซฟาเปิดโทรทัศน์ดูอีกรอบ พอมันกินเสร็จ ก็ถือแก้วน้ำแข็งใส่น้ำมะตูมเดินมานั่งข้างๆผม แต่ผมก็ลุกเดินหนีกลับเข้าไปในครัว เพราะไปเก็บจานที่กินไว้ พอล้างจานเสร็จ เห็นมันนอนดูโทรทัศน์อย่างสบายใจ ผมจึงย่องขึ้นไปบนห้อง ล็อคประตูใส่กลอนแน่นหนา ไม่อยากให้มันเข้ามาอีก เพราะไล่กลับบ้านตอนนี้ จะเหมือนไปยุให้มันอยู่เสียมากกว่า ผมหยิบหนังสือมาอ่าน พออ่านได้สักพักก็เริ่มง่วง หลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แต่สะดุ้งตื่น เพราะมันมาเคาะประตูเสียงดังเรียก
"พี่โยๆ เปิดประตูหน่อย"
ผมงัวเงียเดินไปที่ประตู แต่ยังไม่เปิด
"มีอะไร จะกลับบ้านเหรอ"
ผมได้ที
"เปิดหน่อย หิวอีกแล้ว"
"อะไร เพิ่งกินไปเมื่อกี๊"
"เพิ่งกินอะไรล่ะ นี่มัน หกโมงกว่าแล้วพี่"
มันย้อน ผมไม่เชื่อ ต้องเหลือบไปดูนาฬิกาที่หัวเตียง ตายจริง หกโมงกว่าจริงๆ นี่ผมนอนหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอนี่ ผมเปิดประตู
"กลัวผมขนาดนั้นเชียว"
มันแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว
"ใครบอกกลัว รู้จักคำว่าส่วนตัวไหม"
"ไม่รู้ล่ะหิวแล้ว"
มันเดินไปล้มตัวลงนอน นี่มันกรรมเวรแต่ชาติปางไหนนะ ผมต้องสอนหนังสือมัน แล้วยังต้องมาดูแลมันอีก
"จะกินอะไรล่ะ"
"อยากกิน กุ้งเผา"
"จ้า พ่อคุณ เนรมิตรเอาสิ"
"อยากกินอ่ะ"
"ขี้เกียจออกไปตลาด"
ผมปัดไป เพราะขี้เกียจจริงๆ
"อยากกิน จริงๆนะพี่ นะเดี๋ยวผมช่วยทำ"
"ไม่ได้ยินเหรอ ขี้เกียจออก หัดกินอะไรที่มันง่ายๆไม่เป็นเหรอ อยากกินนั่นอยากกินนี่ เหมือนทำเป็น"
ผมแว้ดใส่
"อ้าว ก็มีพี่อยู่นี่ นะนะ สงสารน้องหน่อย"
"ทีอย่างนี้ทำมาเป็นพูดดี รู้จักน้อง รู้จักพี่ด้วยเหรอ"
"ตอนนี้รู้ แต่บนเตียงไม่รู้"
มันทำหน้ากวนประสาท
"งั้นก็ไม่ต้องกิน อย่างเธอน่ะ ไข่ต้มก็น่าจะพอ"
"ไม่เอาอ่ะ ผมจะกินกุ้งเผา"
"โว้ย รำคาญ ทีจะเป็นเด็กนี่ก็เหลือเกินจริงๆนะ ขอล้างหน้าก่อน ลงไปรอข้างล่าง"
ผมตะคอกใส่มันแล้วดันหลังให้มันออกจากห้องไป แล้วผมปิดประตูใส่หน้ามัน นี่ผมต้องอยู่กับไอ้นี่อีกนานแค่ไหนนะ เบื่อเหลือทน ผมรำพึงรำพรรณกับตัวเอง แต่ก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พามันออกไปซื้อของ
เรา นั่งรถสองแถวออกไปคาร์ฟูล เพราะตลาดคงไม่มีแล้วป่านนี้ เวลาอยู่ในห้าง มันก็คอยเกาะแกะ ต่างๆนานา อายคนก็อาย ผมรีบซื้อเสร็จก็พามันนั่งรถกลับมาเหมือนเดิม ได้ของครบตามที่มันต้องการ ดีจัง มันไม่ต้องจ่ายสักบาท ผมให้มันหิ้วของทั้งหมด ตอนแรกทำท่าจะบ่น แต่ผมขู่ไว้เลยยอมเงียบแต่โดยดี
"เอาของไปล้าง เสร็จแล้วเอาเตาถ่านออกมาหน้าบ้านด้วย"
ผมออกคำสั่ง
"คร้าบบ"
มัน ลากเสียงยาวล้อเลียน มันเอาชามใส่น้ำ ตอนแรกท่าทางดูเอาการ แต่เอาไปเอามา ผมต้องเป็นคนทำเอง เพราะมันทำแรง ของช้ำหมด ล้างกุ้งยังไม่เป็น ผมเลยไล่ให้มันออกไปก่อไฟ
"นี่พอแล้วๆ ออกไปก่อเตานู่น ล้างผักล้างปลายังทำไม่เป็นแล้วจะไปทำอะไรกิน"
ผมเขี่ยให้มันออกจากทาง
"ก็ให้พี่เลี้ยงไง มีคนทำให้กินอยู่แล้วจะกลัวอะไร"
"นี่แค่ครั้งนี้หรอก รู้ไว้ด้วย ที่ทำให้กินน่ะเพราะรำคาญ"
"เดี๋ยวก็ชินเองล่ะพี่"
โอ๊ย ผมผิดเองที่ต่อกรกับมัน ผมล้างของเอง แล้วให้มันไปให้พ้นๆหน้า ผมหันมาล้างกุ้งแบ่งเป็นสองส่วน ให้มันเผากินส่วนหนึ่ง อีกส่วนผมจะทำต้มยำ พอล้างเสร็จผมก็เริ่มทำต้มยำ พอเสร็จก็ยกของออกไปให้มัน เห็นกำลังง่วนอยู่กับการก่อเตา พอมันหันหน้ามา ผมก็อดหัวเราะไม่ได้ เพราะถ่านดำเปื้อนหน้ามันทั้งแถบ คงจะเอามือขึ้นเช็ดหน้า
"ขำไรพี่"
มันทำหน้าเลิ่กลั่ก
"หน้าเหมือนลิงเลย"
ผมหัวเราะ ออกมาเสียงดัง มันลุกขึ้นมาเอามือ ป้ายหน้าผมทันที
"เอ๊ะ เอามาป้ายหน้าพี่ทำไม"
ผมโวยวาย เอามือปัดออกพัลวัล
"หัวเราะดีนักนี่แน่ะ"
"นิสัยไม่ดี"
ผมผลักมันออก แล้วรีบไปล้างหน้า แต่มันกลับไม่สนใจที่จะล้าง เวลามันย่างกุ้งไป ผมก็อมยิ้มเพราะไม่กล้าหัวเราะ กลัวมันเอามาทาอีก
"เวลาพี่ยิ้มแล้วน่ารักดีนะ"
มันโพล่งขึ้นมา
"ทำไมไม่ค่อยยิ้มเวลาอยู่กับผม เห็นเก๊กหน้าดุตลอดเวลา"
"จำเป็นต้องยิ้มด้วยเหรอ ฉันมีหน้าที่สอนเธอนะ ไม่ใช่มายิ้มให้"
"แหมก็เสริมสร้างบรรยากาศหน่อยดิพี่ ทำหน้าบูดอย่างนั้นใครมันจะเรียนรู้เรื่อง"
ผมหุบยิ้ม ทำหน้าตึง ไม่อยากให้มันมาลาม
"พี่เลิกกับแฟนคนนั้นแล้วเหรอ"
มันถามขึ้น ผมถึงกับสะอึก
"ทำไม"
ผมถามเสียงห้วน
"ก็เห็นช่วงนี้พี่ดูแปลกๆ"
"แปลกยังไง"
"ไม่รู้ แต่รู้สึกได้ว่าพี่อกหัก"
มันพูดแบบไม่ได้ใส่ใจ เคี้ยวกุ้งเผาไป ตาก็ไม่หันมามอง
"อย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย ฉันจะอกหักรักคุด มันไปเกี่ยวอะไรกับเธอ"
ผมเริ่มพาล
"ปล่าวหรอก แค่อยากบอก ถ้าไม่มีใครเอา มาเป็นกิ๊กผมได้นะ ผมจะลองทำใจคบดู"
"หยาบคาย นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ อย่าพูดอะไรให้มันติดตลกไปซะทุกเรื่อง ไว้หน้ากันบ้าง"
ผมโมโห ตวาดเสียงดัง ผมรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาทันที จะลุกไปก็จะเกินไปหน่อย จึงเงียบ ก้มหน้าก้มตากินต่อ
"โหแค่นี้ก็โกรธ ถ้าผมอยากได้พี่เป็นแฟน จริงๆล่ะ พี่จะยอมไหม"
มันยังไม่ยอมหยุด
"ไม่มีทาง จำไว้ ไม่มีทาง"
ผมจ้องมันเขม็ง เหลือทนกับมันเต็มที
"พี่คอยดูเถอะ พี่ต้องรักผมสักวัน แล้ววันนั้น อย่ามาขอร้องผมก็แล้วกัน"
มัน ก็จ้องตาผม แววตามันเอาเรื่องเหมือนกัน แต่มันก็หลุบตาลงไม่สนใจกับสิ่งที่มันพ่นออกมา ผมรู้สึกเสียวปลาบที่สันหลัง แววตามันดูเหมือนอยากจะเอาชนะ ผมได้แต่เม้มปากเพราะพูดอะไรไม่ออก ดูด้อยกว่ามันไปเลย เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรดูเหมือนมันจะทำท่าไม่สนใจ แต่เวลามันพูดอะไรมาทำไมผมถึงรู้สึกโกรธมากขนาดนี้
"นี่พี่ เดี๋ยวอาทิตย์หน้า ผมว่าจะขอแม่มาค้างที่นี่ เพราะอยากมาติวให้หนักๆ"
มันพูดขึ้นมาลอยๆ
"ไม่ได้ ฉันก็ต้องทำงาน ไม่มีเวลามาสอนหรอก"
"วันเสาร์ อาทิตย์ดิ"
"ไม่ได้ ไปสอนที่บ้านล่ะ สะดวกกว่า"
"ไม่รู้ล่ะ ผมอยากมานอนนี่ เดี๋ยวจะขอแม่อรเอง" มันรั้น
"ไม่มีทาง ไม่มีห้องให้นอนหรอก"
"ก็นอนกับพี่ไง"
มันพูดแล้วอมยิ้ม
"บ้าเหรอ ฉันไม่เคยนอนกับใคร ไม่ได้"
ผมยังยืนกระต่ายขาเดียว
"นอนบนพื้นก็ได้"
"นี่ถามหน่อย เป็นอะไรมากหรือเปล่า อยู่บ้านตัวเองก็เรียนได้ อยากรู้อะไรก็โทรมาถามสิ ทำไมต้องทำให้ผู้ใหญ่เขาลำบากใจ"
"อะไรวะพี่ ผมอยากเรียนให้หนักๆ แล้วให้พี่สอนให้มันผิดเหรอ" มันขึ้นเสียง
"เอาเถอะ อย่าคุยเรื่องนี้เลย รีบกินซะ แล้วรีบกลับบ้านเดี๋ยวมันจะค่ำก่อน"
ผมเปลี่ยนเรื่อง พยายามทำใจเย็นๆ
"ไม่กลับ จะนอนที่นี่"
"เอ๊ะ พูดไม่รู้เรื่องเหรอ"
"ทำไมล่ะ ผมไม่เคยอยู่บ้านคนเดียวนี่ น่ากลัวจะตาย"
"กลัวอะไร บ้านตัวเอง"
"ไม่รู้ล่ะ ถ้าพี่ไม่ยอม ผมโทรไปขอแม่อรเองนะ"
"ไอ้บ้า เก่งนักนะเรื่องฟ้องน่ะ"
ผม กระฟัดกระเฟียดเดินเข้าไปในบ้าน ไม่อยากคุยกับมันแล้ว เพราะถ้ามันโทรไปหาแม่จริง ผมนั่นล่ะที่จะโดนด่า เซ็งเลย ผมได้แต่ภาวนาให้มันกลับบ้าน ผมเดินเข้าไปในครัวเพื่อเก็บกวาด พอเสร็จก็เดินออกมาเก็บนอกบ้าน ไม่เห็นมันอยู่แล้ว ของยังวางระเกะระกะ ผมเดินดูรอบๆ ไม่เห็นมันแล้ว แอบยิ้ม มันคงกลับไปแล้ว ผมรีบปิดหน้าบ้านทันที แล้วเอาของเข้ามาเก็บในครัว แอบมองห้องนั่งเล่นก็ไม่เห็น คงกลับจริงๆ กลับซะที ไอ้ตัวแสบ