ตอนที่29
#เครื่องกลชนโยธา
ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแสงแดดในยามเช้าและอาการชาช่วงแขนซ้ายที่เมื่อก้มมองไปภาพที่ได้เห็นก็คือหัวทุยของใครอีกคนที่กำลังนอนซุกอยู่ ดวงตาคู่เอาแต่ใจหลับพริ้มเหลือไว้เพียงแพขนตายาวให้ได้เห็น ปลายจมูกโด่งเชิดดูน่าบีบจนเสืออดไม่ได้ที่จะใช้มือดึงปลายจมูกเล็กตรงหน้าแล้วเสียงครางงึมงำในลำคอจากร่างที่หลับทำให้คนตัวสูงต้องละมือของตัวเองออกแล้วเปลี่ยนเป็นใช้มืออีกข้างลูบหัวของไทเกอร์แทน
...ฟอดด..!
“ตื่นได้แล้ว” ก่อนกดฝังปลายจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มแล้วเอ่ยปลุกเมื่อพบว่าตอนนี้สายเอาการแล้ว
“วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่หรอ....”
“ตอนบ่ายไปบ้านมึงกันไง”
“ไปไมอะ” คนถามยอมที่จะเปิดเปลือกตาแล้วช้อนสายตาขึ้นมองหน้าของเขา
“วันนี้แม่กูก็ว่าง ก็จะได้ไปบ้านมึงกันไง”
“.........”
“พ่อกับแม่มึงไม่ได้ไปไหนใช่มั้ย” ไทเกอร์พยักหน้ารับในขณะที่ภายในหัวก็กำลังประมวลผลอย่างหนักเช่นกัน มองหน้าของเสืออยู่ซักพักก่อนที่คนตัวขาวจะขยับหน้าเข้าไปใกล้แล้วกดจุ๊บลงบนริมฝีปากหยักก่อนผละออกแล้วเปลี่ยนมาเป็นการนอนกอดอีกคนเอาไว้ตามเดิม วางมือลงบนมืออีกข้างที่ว่างของเสือพร้อมใช้นิ้วเกลี่ยนิ้วเรียวยาวเล่นโดยที่เจ้าของมือกำลังก้มมองอยู่
“ไปอาบน้ำไป”
“มึงอาบก่อนดิ” คนขี้เซาอย่างไทเกอร์ยังคงหาข้อโต้แย้ง
“คนที่แต่งตัวนานกว่าก็ต้องอาบก่อนดิ”
“อาบพร้อมกันจบ” ทางออกของไทเกอร์สำหรับปัญหานี้...
“ไม่จบหรอก ไม่จบแค่อาบน้ำหรอก” แต่ประโยคต่อมาของเสือทำไทเกอร์ต้องขมวดคิ้วพร้อมตีมือลงบนหน้าผากเนียนก่อนหลุดหัวเราะแล้วเดินหนีออกมาจากเตียง คนตัวสูงที่นอนอยู่ได้แต่มองตามแผ่นหลังขาวของอีกคนจนกระทั่งหายลับเข้าไปในห้องน้ำ เสือถึงละสายตาออกมาแล้วหันกลับมาสนใจยังโทรศัพท์มือถือของไทเกอร์บนหัวเตียงแทน
...ครืดดดครืดดดด…
ยิ่งเห็นว่าเป็นทอยที่โทรมาคิ้วเข้มถึงได้ยิ่งขมวดแต่มือก็ยอมกดรับ
[ไม่อยู่บ้านหรอ มารอรับแล้วเนี่ยลงมาดิ]
“มันอาบน้ำ” จนกระทั่งที่เสือตัดสินใจพูดไปดูเหมือนว่าปลายสายจะชะงัก
[ไอ้เสือ?]
“เออกูเอง มันนัดมึงจะไปไหน”
[เปล่า ฝากบอกมันด้วยแล้วกันว่ากูโทรมา] แล้วสายก็ถูกตัดไปท่ามกลางความไม่เข้าใจของเสือ จนกระทั่งที่เสียงร้องเพลงตามปกติของไทเกอร์ดังขึ้นมาพร้อมร่างขาวที่เดินหน้าแป้นแล้นออกจากห้องน้ำ พอเห็นว่าเสือกำลังเล่นโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ไทเกอร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วเพียงเดินไปหน้ากระจกเพื่อเตรียมทาครีมเท่านั้น
“ไปอาบน้ำได้แล้วมึงอะ”
“ไอ้ทอยโทรมา”
“หะ?” สีหน้าของไทเกอร์จากตอนแรกที่สงสัยก็เปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อนึกบางอย่างออก
“เวรแล้วกูลืมเลยว่าวันนี้นัดมันว่าจะพาไปเรียนเพิ่มอะ!”
“เรียนเพิ่มทำไมมึงเป็นอะไร”
“ไม่ใช่กู...แต่ไอ้ทอยมันขาดเยอะละอาจารย์ให้ไปเรียนเพิ่ม ไม่งั้นจะไม่มีสิทธิ์สอบ” หลังจากอธิบายเสร็จไทเกอร์รีบวางผ้าขนหนูในมือลงแล้วเดินมาคว้าโทรศัพท์ของตัวเองพร้อมกดโทรออกไปหาทอยอีกครั้งแต่สิ่งที่ได้กลับมาดันเป็นการกดตัดสายก่อนที่สุดท้ายทอยจะปิดเครื่องหนี
เจองอนอีกแล้ว....
“เคลียกันเอาเองแล้วกัน” เสือพูดตัดบท เดินไปคว้าที่ผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป
“ไอ้สองตัวนี้อะไรกันนักหนาวะเนี่ยยย” สุดท้ายไทเกอร์สบถออกมาทั้งนั่งขยี้หัวตัวเอง พยายามโทรหาทอยครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไล่ผลจนกระทั่งล้มเลิกแล้วก็เป็นเงลาเดียวกับที่เสืออาบน้ำเสร็จพอดี คนหน้างอทิ้งตัวนั่งลงบนหน้ากระจก ไทเกอร์ได้แต่มองก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปคว้าไดร์ในมือของเสือมาจัดการเป่าผมให้มันแทน
“กูก็ไปกับมึงอยู่แล้วแต่แค่จะโทรบอกไอ้ทอยก่อน”
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” แล้วเสือสวนมาทั้งที่หน้างอกว่าอะไรดี
“มึงไม่ชอบอะไรมันนักหนา”
“แล้วถ้าเวลามีคนมาชอบกู แล้วแถมกูต้องไปไหนมาไหนกับคนนั้นด้วยบ่อยๆเป็นมึงจะชอบปะ”
“แล้วไอ้ทอยมันได้ชอบกูที่ไหนหละ” ถ้าไม่ติดว่าต้องใจเย็นกับมันนะไทเกอร์หละอยากจะจับไดร์ในมือเขกลงบนหัวแม่งซักที เสือยังคงขมวดคิ้วมองเขาผ่านกระจกซึ่งไทเกอร์ที่กำลังเป่าผมให้ร่างตรงหน้าก็ทำได้เพียงมองกลับไปซึ่งเสือยกมือขึ้นจับคางของเขาก่อนออกแรงบีบแก้มนิ่มแผ่วเบา
“กูเชื่อใจมึง”
“เชื่อใจมากเลยแต่งอนกูเพราะเรื่องนี้รอบที่ร้อยแล้วเนี่ย” ไทเกอร์ตอบไป
“หวงนี่หว่า”
“หวงอะไร เมียมันเป็นร้อยไอ้ทอยอะ...มันจะมาอะไรกับกู” พูดถึงตรงนี้ไทเกอร์หลุดขำและเสือดูจะสบายใจขึ้นเยอะเพราะอย่างน้อยไทเกอร์มันก็เห็นทอยเป็นแค่เพื่อนแหละวะ เขาก็ไม่ได้อยากจะอะไรเรื่องนี้หรอกนะแต่ก็ต้องยอมรับว่าโคตรไม่ไว้ใจไอ้ทอยมันเลย แบบมองตาเดียวก็รู้แล้วอะว่ามันแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเอง และในสำหรับเช้านี้พวกเราก็มีเรื่องให้ต้องทำความเข้าใจและแอบมีถกเถียงกันนิดหน่อยแต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะต้องปรับตัวอีกเยอะและอาจยังต้องมีอีกหลายเรื่องให้ทำความเข้าใจ แต่มันไม่ได้แย่อะไร เพราะถ้ามีใครอาจเผลอทำตัวไร้เหตุผลเมื่อไหร่ อีกคนก็เต็มใจที่จะนั่งอธิบายเพื่อที่สุดท้ายจะได้กลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิม
เรามีงอนบ้าง ทำตัวเอาแต่ใจบ้างในบางครั้ง
แต่มันดีกว่าใครก็แค่ตรงที่ถ้าหากว่าผมทำตัวเป็นเด็กเมื่อไหร่คุณก็พร้อมที่จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้เหมือนกัน
................
การเดินทางจากคอนโดของเสือมายังบ้านของไทเกอร์ยังเต็มไปด้วยรถติดแสนน่าเบื่อเหมือนอย่างในทุกครั้ง แดดแรงจ้าที่ส่องเข้ามาแสบตาจนไทเกอร์ต้องคว้าแว่นกันแดดขึ้นมาใส่ให้ไอ้คนขับข้างกาย ก้มดูดกาแฟปั่นที่เสือแวะจอดรถซื้อให้ก่อนมือขาวจะใช้มืออีกข้างหยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นมาเปิดแล้วยื่นส่งให้แก่เสือได้ดื่ม
“ป่านนี้แม่มึงรอแล้วแน่เลย” ไทเกอร์พูดขึ้น
“เขาคงคุยกันอยู่แล้วมั้ง” ขับรถเลี้ยวเข้ามาในซอยบ้านพอดีและไทเกอร์ตาโตเมื่อพบว่าสิ่งที่เห็นคือรถหลายคันที่จอดเรียงกันอยู่หน้าบ้านตัวเอง เดินลงจากรถได้ยังต้องมาชะงักเมื่อพบว่าเป็นแฟรงค์อีกครั้งที่กำลังยืนเล่นโทรศัพท์พิงรถยนต์คันสีแดงเพลิงราคาแพงซึ่งไทเกอร์คาดว่าก็น่าจะคือรถของมัน
ตอนเขาอายุสิบเก้า
จำได้ว่าม๊ายังไม่ยอมซื้อรถหรูขนาดนี้ให้ขับเลยด้วยซ้ำ
“รู้แล้วว่ามึงเปย์ได้ใครไอ้เสือ”
“บ้านกูก็แบบนี้แหละ” เดินคุยกันมาตามทางจนกระทั่งเดินถึงจุดที่แฟรงค์ยืนอยู่
“มาช้าว่ะพี่ ป่านนี้เขาคุยกันถึงค่าสินสอดเท่าไหร่แล้วมั้ง”
“แล้วมึงมาทำไม” เสือตั้งคำถามใหม่กับแฟรงค์ขึ้น
“มาเป็นเพื่อนแม่...เพราะออกจากนี่ไปแม่จะพาไปสมัครเรียน ที่มหาลัยพี่” มันย้ำชัดเจนที่ไอ้ประโยคหลังและเสือชี้หน้าคาดโทษก่อนเดินกอดคอไทเกอร์ออกมาท่ามกลางรอยยิ้มขบขันของคนตัวขาวอีกแล้ว ก็ยังตลกเหมือนเก่าในครั้งที่ไอ้สองพี่น้องนี้มันคุยกัน เหมือนนิสัยจะคนละขั้วเลยด้วยเพราะเสือน่ะกวนประสาทก็จริงแต่ดูท่าจะไม่เท่าแฟรงค์ ไอ้เด็กนั่นน่ะทั้งดูเจ้าเล่ห์และอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ สมกับเป็นเด็กนรกแบบที่ไอ้เสือบอกเลยบางที
แต่แล้วความคิดขบขันของไทเกอร์ต้องหยุดลง
เพราะเมื่อเดินเข้ามาถึงกลางห้องโถงของบ้าน...
“ขอโทษที่มาช้าครับ” เป็นเสือที่พูดประโยคนี้ขึ้นพร้อมต้องยอมปล่อยให้ไทเกอร์ได้เดินไปนั่งลงข้างพ่อกับแม่ของตัวเอง ส่วนเขาก็นั่งลงข้างแม่โดยที่ยังไม่รู้ด้วยว่าผู้ใหญ่เขาคุยกันไปถึงไหนแล้ว แต่เหมือนจะแอบเครียดเพราะพ่อของไทเกอร์ยังมีสีหน้าไม่ได้ออกความเห็นอะไรแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเหมือนอย่างในครั้งที่คุยกับเขา
“แต่ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่จะให้สองคนนี้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน”
“ถ้าคุณพ่อไม่สบายใจเรื่องนี้งั้นเดี๋ยวฉันให้ตาเสือคอยไปรับส่งไทเกอร์ก็ได้ค่ะ” เสือเพิ่งจะเห็นว่าแม่ตัวเองใจดีก็วันนี้
“แต่ลูกผมขับรถเป็นนะครับ แกก็มีรถของแก”
“ถ้าอย่างงั้น...เอาเป็นว่าวันไหนที่ไทเกอร์ต้องการให้เสือมารับก็บอก แล้วก็หวังว่าคุณทั้งสองจะเอ็นดูลูกชายฉันด้วยนะคะ แกอาจดูไม่ใช่เด็กเรียบร้อยเท่าไหร่...แต่ว่า แกก็พอจะมีอนาคตอยู่บ้างน่ะค่ะ” ประโยคนี้ไทเกอร์เม้มปากเกือบหลุดขำเพราะสีหน้าของเสือที่พอฟังแม่ตัวเองพูดจบแบบหงิกลงทันที คำว่าพอจะมีอนาคตอยู่บ้าง นี่คือหมายถึงแบบริบรี่อะไรเถือกนั้นหรือเปล่าและไทเกอร์ลองที่จะหันมองม๊าของตัวเองบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ม๊าดูไม่ได้มีปัญหาเพราะเขาบอกแล้วว่าม๊าน่ะตาใจเขาจะตายก็คงจะมีแค่ป๊าที่อาจไม่ชอบเรื่องนี้นัก
“ที่จริงที่ฉันมาวันนี้เพราะเพียงแค่อยากมาบอกให้พวกคุณสองคนรู้ ว่าเรื่องนี้ดิฉันก็รับรู้แล้วเหมือนกัน”
“...........”
“ลูกชายของฉันไม่ได้คบหาลูกชายคุณแบบหลบๆซ่อนๆแน่นอนค่ะ”
“..........”
“หวังว่าจะเอ็นพวกแกกันนะคะ” แล้วการพูดคุยกันจบลงโดยที่เหมือนแม่ของเสือและไทเกอร์จะสนิทกันในระดับหนึ่ง คงเพราะจะหัวอกคนเป็นแม่เหมือนกันเพราะเมื่อคุยกันจบแล้วม๊าของไทเกอร์ได้ชวนแม่ของเขาทานอาหารกลางวันร่วมกันแต่ก็ต้องขอปฏิเสธเนื่องเพราะติดธุระเรื่องของไอ้น้องชายตัวแสบอยู่
เสือยอมรับว่าตัวเองโล่งอกในระดับหนึ่งเพราะแม่ของไทเกอร์เหมือนจะเอ็นดูเข้าไม่น้อย
แต่กับทางฝั่งป๊า....
“ทำยังไงดีป๊ามึงถึงจะชอบกู” เมื่อเข้ามานั่งในห้องนอนเสือถามคำนี้ขึ้น
“เดี๋ยวป๊าก็ดีเองแหละ ป๊ากูน่ะใจดีจะตายนะ”
“โห...หรอ เหมือนเขาอยากเอาลูกซองกรอกปากกูเลย” ร่างสูงเอ่ยประโยคนี้ซึ่งไทเกอร์หัวเราะเสียงดังแล้วรีบเดินเข้าไปแกล้งโอ่มัน เสือนั่งเล่นเกมเหมือนอย่างในตอนที่ว่างทุกครั้งส่วนไทเกอร์กำลังนั่งหาบางอย่างจากกระเป๋าสะพาดคาดอกที่คุณแฟนเพิ่งจะถอยมาให้เมื่อวาน จนเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ
...ครืดด.
ร่างขาวเดินไปเปิดประตูระเบียงก่อนนั่งลงบนชั้นพักตรงขอบประตู และเสือรีบเดินไปหา
“ทำอะไร” ก่อนถามและนั่งลงข้างอีกร่างด้วยใบหน้าเชิงดุ
“สูบบุหรี่ดิ” พูดตอบมาทั้งที่ควันเต็มปาก ไทเกอร์แสดงใบหน้าไม่เข้าใจว่าเสือจะโกระเขาเรื่องอะไร
“มันไม่ดีสูบทำไม”
“มึงก็สูบ” จนร่างขาวตรงหน้าสวนมาแบบนี้ก็เป็นเสือที่ชะงักนิ่งลงก่อนที่มือหนาจะล้วงซองบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงออกมา หันมองหน้าไทเกอร์อีกครั้งซึ่งไทเกอร์เองก็ยอมที่จะใช้นิ้วคีบบุหรี่ออกจากปากพร้อมสบสายตาคู่คมเช่นกัน
“ถ้ากูเลิกมึงจะเลิกปะ” และเสือถามประโยคนี้
“เลิกบุหรี่ใช่ปะ ไม่ใช่เลิกกับมึง”
“เออดิ” เสียงกลั้วหัวเราะจากร่างสูงปรากฏอีกครั้ง ไทเกอร์เองเมื่อได้คำตอบที่กระจ่างชัดเจนก็เพียงแค่ยิ้มมุมปากพร้อมทิ้งบุหรี่ในมือลงบนพื้นระเบียงก่อนใช้เท้าเหยียบและเดินกลับไปหยิบซองบุหรี่ที่เหลืออยู่ในกระเป๋าออกกลับมานั่งยังจุดเดิม
...กรึบ...
ก่อนจัดการบีบขย้ำสิ่งในมือจนยับยู่ยี่และมองหน้าของเสือนิ่ง
“อย่าให้รู้ว่าแอบสูบแล้วกัน” ไทเกอร์พูดคำนี้ไปและเสือยักไหล่
...กรึบ...
ก่อนขย้ำซองบุหรี่ของตัวเองปาทิ้งลงถังขยะเช่นกัน
“สูบให้โง่ทำไม เดี๋ยวตายเร็วอดอยู่กับมึงดิ”
“แหวะ” ทั้งที่ก็เขินแหละแต่ไทเกอร์ทำท่าเป็นจะอ้วกมาแทนและพวกเรามองหน้ากันก่อนหลุดยิ้มออกมาทั้งคู่ แขนยาวรั้งคอของไทเกอร์มากอดเอาไว้เหมือนอย่างทุกครั้ง มองสิ่งที่อยู่ในถังขยะก่อนกลับมามองหน้าไทเกอร์อีกครั้ง ใช้มือบีบปลายจมูกคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว ขยับหน้าเข้าใกล้จนหน้าผากแนบชนกัน ก่อนที่เสือจะกดแนบริมฝีปากของตัวเองลงกับกลีบเนื้อนิ่มสีอ่อนตรงหน้า
“อืออ...” และไทเกอร์ครางประท้วงกลับมาก่อนที่มันจะงุดหน้าลงซบกับไหล่ของเขาหลังจากที่ผละริมฝีปากออกจากกันแล้ว พวกเรายังนั่งพิงกันอยู่แบบนี้ท่ามกลางความเงียบโดยรอบตัว แล้วเป็นเสืออีกครั้งที่นึกอะไรบางอย่างออก
“นี่ไอ้เกอร์ ตอนเย็นเดี๋ยวพาออกไปขับรถเล่นนะ”
“หืม อืมก็ได้”
เป็นเพราะอยากทำอะไรหลายอย่างให้มันเป็นความทรงจำที่ดีในช่วงความสัมพันธ์ระยะแรกเริ่มของพวกเรา
เสือไม่เคยมีโมเม้นต์นั่งคิดอะไรโรแมนติกไร้สาระแบบนี้
เขาไม่เคยคิดอยากจะอยากเลิกสูบบุหรี่เพื่อใครเลยด้วยซ้ำ
...จนกระทั่งที่ได้มาเจอมัน คนธรรมดาบนโลกคนหนึ่งที่ในตอนนี้ได้กลายมาเป็นคนพิเศษของเขา...
# # # # # # # #
ตอนหน้าก็จบแล้วน้า><