ตอนพิเศษ5 เมียกู..รั่วแดกตลอด
“อืม..ใช่”
“ช่าย เพลงก็คนละเพลง สี่เพลงพอดี เจอกันที่บ้านกูล่ะ..พรุ่งนี้สิบโมงห้ามสาย”
“สายไม่ได้ ตอนเย็นกูต้องรีบไปซ้อมร้องประสานเสียงที่มอ” มันเริ่มกระแทกเสียง
“อืม..อืมๆ จองแล้ว..เอาเงินมาให้กูด้วย”
“อืม เพลงSee Scape ของสครับอ่ะ..บอกไปแล้วอ่ะ ไมชอบให้พูดซ้ำวะ” เสียงสลิ่มเริ่มหงุดหงิด ที่มันบอกชื่อเพลงนั่นคงหมายถึงเพลงที่จะทำประกอบอยู่ในวิดีโอที่ไปเที่ยวที่พิษณุโลกกันมานั่นแหละ
“รู้แล้ว เค..บาย” มันบอกแล้วตัดสายไป
“.....................” สลิ่มนั่งทำหน้าเหนื่อยใจมองไอ้มิ้วค์ที่ตอนนี้กำลังซ้อมชกมวยอยู่ เช้านี้สลิ่มตื่นมาวิ่งกับกูและไอ้มิ้วค์แต่เช้า พอวิ่งกันเสร็จไม่รู้สลิ่มดันคึกอะไรขึ้นมา มันจับไอ้มิ้วค์มาซ้อมมวย กูขอบอกเลยว่าน้องชายกูคนนี้ไม่มีศิลปะการต่อสู้เอาซะเลย เอาแค่ว่าให้มันโมโหคนเป็นก็แทบยากแล้ว แต่นี่จับมันมาชกมวยยิ่งเป็นเรื่องยากสำหรับมันเข้าไปใหญ่
“ดูน้องมึง” สลิ่มถอนหายใจเหมือนทนดูสภาพไอ้มิ้วค์ไม่ไหวแล้วจริงๆ กูยิ้มให้แล้วลุกขึ้นยืนถอดเสื้อออกเพราะกะว่าจะจับไอ้ช็อปเปอร์กับไอ้ลูกหินอาบน้ำซะหน่อย
“เมตร ไปกี่โมง” ไอ้โมทเดินออกมาถาม
“บ่ายครึ่ง” กูตอบ วันนี้กูต้องเดินทางขึ้นเครื่องไปภูเก็ตเพราะต้องไปติดต่อเรื่องบวช กูว่าจะไปคุยกับหลวงพ่อที่วัดก่อน อีกอย่างที่ต้องกลับไปเพราะว่าแม่อยากให้ไปทำบุญวันเกิดกูด้วยกัน เลยต้องกลับไปแต่จะกลับไปแค่สามสี่วันเท่านั้น หลังวันเกิดกูก็เดินทางกลับเลยทันทีเพราะจะต้องมาเรียนทำอาหารต่อและต้องไปดูน้ององุ่นประกวดไอโอลินเป็นเพื่อนไอ้มิ้วค์กับสลิ่มด้วย
“อืม” ไอ้โมทพยักหน้า
“ไปส่งกูป่ะเนี้ย” กูถาม
“ให้ไปส่งป่ะล่ะ” มันย้อนหน้ากวน
“ไปดิ” กูตอบทันที ไอ้โมทยิ้มให้แล้วเดินกลับเข้าบ้านไป
“ลูกหิน ช็อปเปอร์” กูเรียก ไอ้สองตัวรีบวิ่งเข้ามาหาทันที
“ทำอะไรของแกเนี้ยห๊ะ” สลิ่มพูดเสียงห้วน มันคงรำคาญลูกกะตาจริงๆ
“ก็..ก็มิ้วค์ ไม่อยากทำอ่ะ” ไอ้มิ้วค์พูด สลิ่มตบหัวไอ้มิ้วค์ไปหนึ่งที
“ไม่ทำไม่ได้” สลิ่มว่า
“แต่มิ้วค์ไม่ไปมีเรื่องกับใครหรอกนะพี่” ไอ้มิ้วค์เถียง
“ไม่มีก็ต้องเรียนรู้ไว้ เกิดองุ่นเป็นอะไรขึ้นมา มิ้วค์จะทำยังไง” สลิ่มเถียงบ้าง
“....................” ไอ้มิ้วค์เงียบหน้าสลดไป กูได้แต่นั่งมองพร้อมกับจับไอ้สองตัวลงอ่างอาบน้ำ
“มันไม่มีหรอก มิ้วค์ก็จะคุยกับเค้าดีๆ..ปัญหาอะไรหลีกเลี่ยงได้เราก็ควรจะหลีกเลี่ยงนะครับ” ไอ้มิ้วค์บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมสุดๆ
“ไม่ได้..ถ้าเกิดองุ่นโดนทำร้ายขึ้นมา ใครจะดูแล..แล้วมิ้วค์จะดูแลองุ่นได้ยังไง ผู้ชายเป็นเพศที่ต้องปกป้องผู้หญิงนะ” สลิ่มว่าอีก
“....................” ไอ้มิ้วค์นิ่งไปเลย กูเองก็ว่าอะไรไม่ได้ พูดตามความจริงแล้วน้องกูเองก็ควรจะเรียนรู้ไว้ ตลอดมาที่กูไม่เคยบังคับเพราะกูคิดว่าคนอย่างมันไม่มีทางไปมีเรื่องกับใครหรอก แต่ถ้ามองอีกมุม ถ้ากูต้องมองในมุมของสลิ่ม มันก็พูดถูกของมัน มันเองก็หวงน้องสาวมันมาก ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาที่ไม่มีใครคาดคิดแล้วใครจะดูแลองุ่นอย่างที่มันว่า
“ก็ได้ แต่มิ้วค์อ่ะ..ไม่กล้าชกจริงๆนี่” ไอ้มิ้วค์พูด
“มันจะยากอะไร ก็แค่เอามือกระแทกหน้าอีกฝ่ายเนี้ย” สลิ่มพูดอย่างหงุดหงิดอีก ไอ้มิ้วค์หันมามองหน้ากูเหมือนขอความช่วยเหลือ
“โอเค..เอาใหม่” สลิ่มถอนหายใจ
“ชกไป นับหนึ่งสอง..หนึ่งสอง” สลิ่มทำท่าชกให้ดู ไอ้มิ้วค์ทำตาม
“อย่ารีบสิ ทำช้าๆ..ปล่อยหมัดก่อนช้าๆแบบนี้” สลิ่มสาธิตท่าให้ดู
“ระหว่างหมัดจะตรงกับแขน ไหล่..อยู่ระดับตรงแบบนี้นะ” ไอ้มิ้วค์พยักหน้ารับ
“พอปล่อยหมัดหนึ่ง กาดแขนอีกข้างต้องยังอยู่เห็นไหม..ต้องชักแขนกลับให้มาเป็นกาดก่อนค่อยปล่อยหมัดสอง ทำช้าๆก่อน..ทำช้าๆแล้วพอเริ่มรู้จังหวะก็ปล่อยหมัดให้เร็วขึ้น” สลิ่มทำท่าชกให้ดู ไอ้มิ้วค์เริ่มดูอย่างตั้งใจมากกว่าเดิม
“ทำไป..ทำไปจนกว่าจะบอกว่าพอ” สลิ่มบอกไอ้มิ้วค์ ไอ้มิ้วค์เดินชกลมไปเรื่อยระหว่างทางในบ้านกู มันเดินชกลมไปจนถึงประตูรั้วแล้วก็เดินกลับมา
“ชกให้มันมีจังหวะด้วย นับหนึ่งสองๆ..ทำแบบนั้น มึงจะเตรียมตัวว่ายน้ำหรอห๊ะ” มันยืนเท้าเอวว่า
“พอหนึ่งสองเข้าที่แล้ว ก็เริ่มชกหนึ่งสองสามสี่..หนึ่งสองสามสี่ นับไป” สลิ่มตะโกนบอก กูนั่งขำเพราะท่าไอ้มิ้วค์ชกได้เก้ๆกังๆมาก
ตื๊ด ๆ ๆ
สายเข้า >> “น้ององุ่น ^~^”
“สลิ่ม โทรศัพท์” กูตะโกนบอก สลิ่มเดินมาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะไป
“ฮัลโหลว่าไงครับ” มันกดรับสายแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ไม้หินอ่อนข้างๆกู
“หื้ม พี่ตื่นนานแล้ว” มันยิ้มพูดอย่างกับมีความสุขซะเต็มประดา ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ
“อืม วันนี้ประมาณบ่ายๆแหละ” สลิ่มพูด วันนี้หลังจากที่มันต้องไปส่งกูที่สนามบิน ไอ้โมทก็ต้องไปส่งสลิ่มที่บ้านเลยเพราะสลิ่มจะไปอยู่บ้านจนกว่ากูจะกลับมา
“พี่ลุกมาวิ่ง..ลูกหินหรอ เดี๋ยวถ่ายไปให้ดู หึ..ครับ”
“ยังไม่ได้กิน พี่โมทกำลังทำอยู่..มิ้วค์กำลัง อืม..กำลังตากผ้าน่ะ” สลิ่มบอก กูยิ้มส่ายหัวให้
“อื้ม เดี๋ยวกลับไปกิน..ได้ แต่ให้คนขับรถพ่อไปส่งนะ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน ครับ..คิดถึงเหมือนกัน” มันยิ้มแป้นแล้ววางสายไป
“น้องกูน่ารัก” มันยิ้มบอกกู
“ไอ้ติดน้อง” กูว่า
“ทำไมอ่ะ..น้องกูน่ารักออก” มันพูด
“มึงรักน้องมึง กูก็รักน้องกู..แต่ดูมึงทำกับน้องกูดิ” กูพูดแล้วมองไปที่ไอ้มิ้วค์ สลิ่มมองตามก่อนที่จะทำหน้ากวนกลับมามองหน้ากูอีกครั้ง
“ก็น้องมึงมาชอบน้องกูทำไมล่ะ ช่วยไม่ได้..” มันยักไหล่
“มีการโกหกน้องตัวเองอีก ทุเรศ..ทารุณกรรมน้องคนอื่น” กูว่า
“หึหึ อะไรอ่ะ” มันทำหน้างอเหมือนแกล้งน้อยใจใส่
“ถ้าองุ่นรู้นะ..น้องมันต้องโกรธมึงแน่ๆที่มาทำน้องกูแบบนี้” กูขู่แกล้ง
“ไม่สักหน่อย องุ่นต้องเข้าใจ..ไม่งั้นกูจะไม่ให้คบ” มันพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“.................” กูส่ายหัว
“แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก น้องกูดูแลตัวเองได้อยู่ละ” สลิ่มพูด กูหันไปมองหน้ามันอย่างสงสัย
“.................” สลิ่มยิ้มกว้างเป็นคำตอบให้
“แต่ก็ดีนะ น้องมึงไม่เป็นไรเลย..จะได้ทำไรน้องกูไม่ได้ แต่..น้องมึงอย่าทำให้น้องกูโมโหก็แล้วกัน คึคึ” มันพูดพร้อมกับตบไหล่กูเบาๆแล้วเดินจากไป กูมองค้างและคิดว่าไอ้ประโยคที่มันพูดเมื่อกี้จะต้องแฝงไปด้วยอะไรสักอย่างที่ไอ้มิ้วค์ไม่รู้แน่ๆ
“วันนี้เอาแค่หมัดกับศอกให้รอดก่อน” สลิ่มพูดบอกไอ้มิ้วค์พร้อมกับสาธิตการฟันศอกให้ไอ้มิ้วค์ดู
“เอ้ ลูกหิน” กูว่าปรามเพราะมันเริ่มเดินวนรอบอ่างไปมา
“กระแทกมา กระแทกมาแรงๆ” สลิ่มค้างศอกตัวเองไว้พร้อมกับบอกให้ไอ้มิ้วค์เอามือกระแทกเข้าที่ลำแขนของมัน ไอ้มิ้วค์ไม่ค่อยกล้ากระแทกมือลงไปมากนัก
“ทำมาให้แรงที่สุดเท่าที่ทำได้อ่ะ พี่ไม่เจ็บหรอก” สลิ่มบอก ไอ้มิ้วค์กระแทกมืออย่างแรง สุดท้ายแล้วกลายเป็นไอ้มิ้วค์เองที่เจ็บมือไปโดยปริยาย
“เห็นไหม..คนที่เจ็บคืออีกฝ่าย ถ้าโดนไม่แตกก็น็อก..แต่ตอนฟันศอก อย่าตีศอกเข้าไป..เพราะถ้าตีเราจะเจ็บ แขนเราจะไม่มีแรง แต่ถ้าฟัน..ตวัดแขนแล้วฟาดเข้าไปให้เร็ว มันจะพอดี..โดนหน้าพอดี” สลิ่มบอก
“แตกกกกกกก !! มันจะต้องแตก..เข้าใจไหม แตกกกกกกกก!!” สลิ่มกระแทกเสียงฮาร์ดคอบอกไอ้มิ้วค์ กูนี่ได้แต่นั่งขำอย่างเดียว ไอ้มิ้วค์เองก็ขำด้วย
“มึงเป็นเหี้ยไรเนี้ย” กูว่าไปขำไป
“กูเก็บกด” มันยิ้มตอบ
“ทำไป..นับหนึ่งสอง ฟัน..หนึ่งสองฟัน ให้รู้จังหวะด้วย” มันบอกพร้อมกับยืนมองไอ้มิ้วค์อย่างกับตัวเองเป็นเทรนเนอร์นักมวยซะอย่างงั้น กูอาบน้ำให้ไอ้ลูกหินเสร็จก็อาบน้ำให้ไอ้ช็อปเปอร์ต่อ
“กับข้าวเสร็จแล้วนะ มากินกันได้เลย” ไอ้โมทเดินออกมาบอกแล้วเดินกลับเข้าบ้านไป สลิ่มซ้อมมวยให้ไอ้มิ้วค์อยู่อีกเกือบยี่สิบนาทีจนกูอาบน้ำให้ไอ้สองตัวเสร็จนั่นแหละ
“หอมแล้ว ลูกหินหอมแล้ว” สลิ่มวิ่งเข้ามากอดหมากูไป เน้น..หมาของกูไป กูจัดการเทอาหารให้ไอ้สองตัว
“เอ้ อย่าตะกายสิ” สลิ่มว่าแล้ววางไอ้ลูกหินลง
“ลูกหินนนนนนนน” สลิ่มลากเสียงยานคางเพราะไอ้ลูกหินไม่ยอมหยุดตะกายตัวมัน
“ลูกหิน นั่ง..นั่งลง” กูบอก ไอ้ลูกหินหยุดนั่งลงทันที ส่วนไอ้ช็อปเปอร์ไม่ต้องพูดถึง มันเป็นหมาเรียบร้อยและเจ้าระเบียบดีมาก ไม่ค่อยซนเท่าไหร่นัก
“ทำ..ทำไมมันถึงฟังมึง” สลิ่มชี้เหมือนไม่ยอม
“ก็หมากูอ่ะ” กูตอบ
“แต่มันสนิทกับกู” มันว่า
“มันบอกมึงเมื่อไหร่” กูย้อนยิ้มๆ
“...................” สลิ่มเงียบไป
“ก็มึงชอบไปตามใจมันอ่ะสิ เคยตัว” กูบอก
“ดื้อ ซน” สลิ่มว่าไอ้ลูกหิน ไอ้ลูกหินเอียงคอไปมามองหน้าแม่มัน กูหัวเราะมองหน้าเมียตัวเองที่กำลังทำหน้างอนใส่หมา หึ..ว่าหมานี่ไม่ได้ดูตัวเองเลยนะพ่อคุณ
หลังจากที่กูให้อาหารหมาทั้งสองตัวเสร็จแล้ว พวกกูก็แยกย้ายกันไปล้างหน้าล้างตาก่อนที่จะลงมากินข้าว พอกินข้าวเสร็จกูก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วจัดกระเป๋าเตรียมเดินทาง ประมาณเที่ยงกว่าๆกูออกเดินทางโดยมีไอ้โมทขับรถไปส่ง ไอ้มิ้วค์ก็ไปกับเค้าด้วย
“ไปนะ” กูบอกทุกคน พวกมันพยักหน้าตอบให้
“เอ่อ..เมตร” กูหันกลับมามองหน้าสลิ่ม มันค้างไปหน่อยแล้วมองซ้ายมองขวา กูมองหน้ามันอย่างสงสัย
“ถึงแล้ว โทรหาด้วย” มันบอกเสียงเบา กูยิ้มกว้างออกมา
“ครับ” กูตอบแล้วโบกมือให้พวกมันก่อนที่จะเดินจากมา
...................
...................