คุณอาจรู้อยู่แล้วว่าเป็นหลักกลัวทะเล แต่คิดเช่นและรักแท้ไม่รู้
เป็นหลักไม่เคยเล่าสิ่งที่ยังติดตาในคืนที่แม่ตาย
เรื่องบางเรื่องเจ็บปวดและน่ากลัวเกินกว่าจะพูดถึงมันอีกครั้ง
เป็นหลักไม่เคยมาทะเลอีกนับจากวันนั้น
แต่จู่ๆคิดเช่นก็ผุดโปรเจ็คพิเศษ
“ไปฮันนีมูนกันมะ”
คิดเช่นจัดการทุกอย่างรวดเร็ว
เป็นหลักจัดกระเป๋าโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังจะไปที่ไหนด้วยซ้ำ
เมื่อตอนมาถึงสนามบินจึงได้แต่ก้มอ่านชื่อจุดหมายปลายทางที่ปรากฏอยู่บนตั๋วเครื่องบิน
เป็นหลักถอนหายใจ และสอนตัวเองว่า ครั้งต่อไปหากคิดเช่นถามว่าอยากไปที่ไหน ห้ามตอบว่า “ที่ไหนก็ได้” แต่ต้องตอบว่า “ไม่เอาเกาะ ไม่เอาทะเล”
ไม่เป็นไรหรอกมั้ง มีคิดเช่นอยู่ด้วยทั้งคน
เป็นหลักถอนหายใจอีกเฮือก ก่อนหันไปมอง คนผมยาวที่กำลังคุยโทรศัพท์
“เสร็จงานแล้ว อย่าลืมปริ้นท์ที่ส่งไปในเมล์นะ ทำเช็คอินมาเลยล่ะ…อือๆ ไม่ต้องห่วง นี่คุณคิดเช่นนะ จะพาลักกี้ทัวร์จนเป็นเพื่อนซี้กับเต่าทะเลเลย…รู้น่า…ค้าบ…พอยัง…ไปก่อนแค่สองวันเอง ประชุมเสร็จ คุณรักแท้ก็ตามมาแล้วนี่นา”
เป็นหลักอมยิ้ม
ตั้งแต่รักแท้เรียนจบแล้วมาทำงานเป็นบิ๊กบอส ก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าคิดเช่นอีกสักสองสามเท่า
ถึงจะไม่ได้ยินว่ารักแท้พูดอะไร แต่ก็พอเดาได้ ว่าไม่พ้นเรื่อง ดูแลให้ปลอดภัย, อย่าพากันทำอะไรผาดโผน,อย่า…และ ห้าม…
จริงๆแล้ว ไม่ใช่เพราะรักแท้อายุมากขึ้น แต่เป็นเพราะเรื่องในตอนนั้นยังฝังใจอยู่
การนั่งหน้าห้องฉุกเฉิน เฝ้าภาวนาไม่ให้คนที่รักตายจากไป
เรื่องแบบนั้นต้องไม่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง
รักแท้เลยระวังและเป็นห่วงไปทุกอย่าง
บางทีก็เลยดูเหมือนลุงแก่ๆที่คอยจู้จี้
คิดเช่นค่อนข้างมีปัญหากับนิสัยนี้ของ คุณลุงรักแท้
เพราะธรรมชาติของคิดเช่นแล้ว ถ้าเปรียบเป็น ลาบราเดอร์สักตัว ก็เป็นตัวที่ถ้าได้ยินคำสั่งให้ไปซ้าย ก็จะเลี้ยวขวา ถ้าบอกให้รีบมาก็จะแวะชมทุ่งหญ้าระหว่างทาง
ไม่ชอบข้อจำกัด
…………
ช่วงแรกๆ รักแท้กับคิดเช่นทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อย
ครั้งหนึ่ง เป็นหลักต้องแยกคิดเช่นที่กำลังหัวเสียอย่างหนักออกมานั่งที่ระเบียง
“พี่รักไม่ได้ห้ามให้พี่ไปเที่ยว เขาแค่ขอให้เปลี่ยนเมืองที่จะไป”
“มันไม่ใช่ทุกเมืองที่มีคอร์สสอนทำอาหารแบบนั้น” คนที่กำลังหงุดหงิด ขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิง
“แต่ที่นั่นกำลังมีสงครามกลางเมือง”
“โธ่ลักกี้ คุณคิดเช่นไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”
ลักกี้หันไปมองเสี้ยวหน้าของคนข้างๆ “ผมน่าจะถ่ายวีดีโอเอาไว้ ตอนที่พี่รักเขาเกาะกระจกของห้องปลอดเชื้อมองพี่ที่นอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เป็นเดือน ๆ”
กองไฟถูกดับทันที
ความไม่พอใจทั้งหมดของคิดเช่นหยุดลง
“อยากให้พี่เห็นสายตาเขาในตอนนั้น”
รักแท้กำลังจ้องจอคอมพิวเตอร์ ค้นหาคอร์สเรียนทำอาหารที่ใกล้เคียงกับที่คิดเช่นอยากเรียน ขณะที่ได้ยินเสียงประตูเปิด และสัมผัสอ้อมกอดจากด้านหลัง
“จะไม่ทำให้เป็นห่วง จะอยู่กับรักแท้ไปนานๆ” เสียงอู้อี้เพราะคิดเช่นบดหน้าตนเองลงไปกับบ่าซ้ายของรักแท้
……………
เป็นหลักเงียบลงเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงที่หมาย
คิดเช่นเริ่มผิดสังเกตตั้งแต่ตอนเดินทางมาถึงสนามบินท้องถิ่น
เป็นหลักสวมแว่นดำและหลุบหมวกลงต่ำตลอดเวลาจนมาถึงที่หมาย
ทั้งๆที่ท้องฟ้าก็สดใสดี ทะเลก็สวย
ที่พักที่เขาเลือกไว้ ก็เป็นส่วนตัว ทั้งเกาะมีบ้านพักอยู่ไม่ถึงสิบหลัง แล้วยังเป็นแบบที่ยื่นออกไปในทะเล ตื่นมาปุ๊บก็ลงน้ำได้เลย
มันดีหมดเลย
แต่คงมีอะไรสักอย่างนอกเหนือจากนี้ที่กำลังกวนใจเป็นหลัก
คิดเช่นจะไม่ถาม คนเราย่อมต้องมีวันที่ไม่เป็นปกติ ควรเว้นช่องว่างให้เจ้าตัวได้ปรับอารมณ์สักหน่อย
หวังว่าบรรยากาศที่นี่จะทำให้เป็นหลักปลอดโปร่งขึ้นบ้าง
เป็นหลักกำลังจัดของเข้าตู้ พยายามอยู่ห่างหน้าต่างบานโตที่เห็นวิวทะเลสุดลูกตา
สิ่งที่รู้สึกตอนนี้คือ เขาไม่ชอบการที่ถูกน้ำล้อมไปรอบด้าน
“ไปเดินเล่นกัน” คิดเช่นโผล่มาชวนด้วยรอยยิ้มกว้าง
เป็นหลักไม่อยากทำลายความร่าเริงของคิดเช่น
พี่เช่นต้องอยากให้เขามีความสุข ถึงจัดเตรียมทุกสิ่งอย่างดี
“ไปสิครับ”
ทันทีที่ก้าวเท้าลงเหยียบผืนทรายและเห็นทุกส่วนที่เรียกรวมกันว่าทะเลชัดๆเต็มสองตา
เป็นหลักก็รู้สึกว่าร่างกายไม่ปกติ
“ไปทะเลกันไหม” แม่ชวน
เป็นหลักเห็นตัวเองตอนเป็นเด็กยืนอยู่ใต้ต้นมะพร้าวนั่น
ลมพัดหวีดเหมือนคนกำลังกรีดร้อง
ภาพที่เคยเห็นเพียงจางๆ กลับชัดเจน เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้
เป็นหลักกลืนก้อนความกลัวกลับลงไป
เขาไม่อยากทำให้ทริปนี้ล่ม
มาฮันนีมูนทั้งทีก็อยากจะเดินเล่นไปพร้อมๆกับคิดเช่น
เป็นหลักจึงพยายามลากเท้าช้าๆ ไปตามชายหาด
ทรายใต้ฝ่าเท้าเป็นเม็ดละเอียด แต่เป็นหลักกลับรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนเศษแหลมเล็กๆ
เสียงคลื่นสาดเข้าฝั่งทำให้รู้สึกอยากอาเจียน
แต่ยังพยายามก้าวต่อไป
คิดเช่นเห็นความผิดปกตินี้แล้ว
รีบสาวเท้าตามไปแล้วกอดเป็นหลักเอาไว้
โกรธตัวเองจนต้องหลุดคำหยาบคายออกมา
เรื่องที่ควรต้องระวังที่สุด แต่กลับไม่รู้
“เกิดอะไรที่ทะเลเล่ามาให้หมด นอกจากเสียงดัง กับทะเลแล้วมีอะไรที่กลัวอีกบ้าง”
“ผมขอโทษ” ทำเสียเรื่องแล้วเป็นหลัก
“เข้าบ้านก่อนแล้วกัน เดี๋ยวต้องโทรติดต่อเปลี่ยนที่พักด้วย”
“ผมไหว ไม่ต้องย้ายที่หรอก” เป็นหลักรีบแย้ง
คิดเช่นตวัดสายตามองทันที
“ผมไหวจริงๆ” เป็นหลักยังกลั้นใจเถียงออกไป
“ไหวห่าอะไร” คิดเช่นสบถออกมาอีกยาวเหยียด ทั้งหมดล้วนแต่ด่าตัวเองที่ไม่ใส่ใจให้มากพอ
“เล่ามาให้หมด” คิดเช่นกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟา
ส่วนเป็นหลักก้มหน้ามองพื้น นิ่งเงียบและใจเสีย
คิดเช่นยกมือลูบหน้า ปรับอารมณ์ให้เย็นลง
ย้ายไปนั่งใกล้ๆกับเป็นหลัก รวบตัวคนอายุน้อยกว่าขึ้นนั่งระหว่างขาของตน
กอดไว้ พร้อมเอาคางเกยไหล่
“โมโหตัวเองน่ะ เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมถึงมองข้ามไปได้”
นั่นคือคำขอโทษในแบบของคิดเช่น
เป็นหลักสบตาคิดเช่น “พี่กอดผมไว้นะ ผมจะเล่าทั้งหมดเลย”
คิดเช่นกระชับอ้อมแขนให้แน่นเข้า
ภาพในคืนที่แม่ตายถูกถ่ายทอดออกมา
คนเล่าตัวสั่นเทา
คนฟังน้ำตาไหล
คิดเช่นโกรธตัวเองมากขึ้นอีก ที่เพิ่งมารู้เอาป่านนี้
ทิ้งเด็กคนนี้อยู่ในความทรงจำแบบนั้นเพียงลำพัง
“ขอโทษนะ” ในที่สุดคิดเช่นก็พูดคำที่ตรงกับความหมายของมันออกมา
คำขอโทษทั้งที่ไม่จำเป็นต้องขอโทษ
แต่ห้ามความรู้สึกผิดนี้ไม่ได้
ทำไมเขาไม่อยู่ตรงนั้นกับเป็นหลัก
อยากปกป้องไว้จากทุกๆอย่าง
“ครับ…ขอบคุณครับ”
เป็นหลักมองแผ่นหลังของคิดเช่นที่กำลังติดต่อเรื่องการย้ายกลับเข้าฝั่งในวันพรุ่งนี้
ล่มจนได้ มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่ดี ไม่ใช่แบบนี้
เขาหลับตาลง
นึกเกลียดตัวเอง
เหนื่อยล้ากับความอ่อนแอนี้จริงๆ
อยากจะเติบโตขึ้นโดยไม่มีอดีตที่ฝังใจ
เป็นหลักพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง
แต่คราบน้ำตาทำให้เปลือกตาหนักอึ้ง
โธ่ แค่ลืมตา ยังทำไม่ได้เลย
ก่อนที่เป็นหลักจะนึกสมเพชตัวเองไปมากกว่านี้ คิดเช่นใช้มืออุ่นๆกุมใบหน้าของเป็นหลักเอาไว้แล้วไล้นิ้วโป้งไปทั่วเปลือกตา
ปัดคราบน้ำตาที่เริ่มแห้งกรังแล้วก้มลงจูบซับอีกครั้ง
ถนอมทุกส่วนบนใบหน้านั้น เรื่อยไล้ปลายนิ้วอย่างเบามือที่สุด
คิดเช่นสังเกตเห็นตั้งแต่แรก และเดาได้ว่า เป็นหลักกำลังรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระอีกแล้ว
คิดเช่นจะไม่พลาดอีก จึงใส่ใจระวังความรู้สึกของเป็นหลักอยู่ตลอด
จะสัมผัสและเข้าใจความคิดของอีกคนให้มากกว่านี้
“คืนเดียวนะ ไหวไหม พรุ่งนี้มีสปีดโบ้ทมารับตอนสิบโมง”
เดาได้ใช่ไหมว่าเป็นหลักตอบว่า “ไหว”
แต่กลับนอนฝันร้ายเกือบทั้งคืน
ในฝัน เป็นหลักมองเห็นตัวเองจมอยู่ในทะเล มืด และหายใจไม่ออก
ไม่เอา
กลัว
ช่วยพาออกไปที
คิดเช่นแทบไม่ได้นอน เพราะคนที่นอนข้างๆกระสับกระส่าย จนคิดเช่นวิตก
แปดโมงเช้า
ท้องฟ้าเป็นสีเทาเข้ม
คิดเช่นรับโทรศัพท์ และได้รับแจ้งว่า เรือออกจากฝั่งไม่ได้เพราะเสี่ยงเกินไป พายุกำลังจะเข้า
คิดเช่นขยี้ผมยาวของตัวเองจนยุ่งเหยิง
มีเรื่องผิดแผนเยอะไปหมด
เย็นไว้น่า คิดเช่นคนคูล เขาพ่นลมหายใจยาว
“อีกสักคืนไหวไหม” เขาหันไปถาม หงุดหงิดตัวเองที่ต้องพูดประโยคทำนองนี้กับเป็นหลักอีกแล้ว
เป็นหลักพยักหน้า ซ่อนความรู้สึกมิดชิด
คิดเช่นรู้ ว่าเป็นหลักกำลังทำเพื่อคิดเช่น
เป็นภาระให้น้อยที่สุด
สร้างปัญหาให้น้อยที่สุด
แม้จะต้องฝันว่า จมอยู่ในทะเลนั่นอีกคืนก็ตาม
ไม่ว่ากี่ปีเป็นหลักก็ละความรู้สึกพวกนี้ไปไม่ได้
ลบคำว่า ตัวถ่วง ออกไปไม่หมดเสียที
คิดเช่นทอดสายตามองคนที่นั่งข้างๆ จากนั้นก็เข้าไปกอดไว้
หวังว่าความรักจากเขาจะบรรเทาความทุกข์ทรมานของเด็กน้อยข้างในตัวเป็นหลักได้
“ขอโทษนะ”
สำหรับคนที่ไม่พูดคำนี้พร่ำเพรื่อ อย่างคิดเช่นแล้ว แสดงว่าเขารู้สึกแย่มากจริงๆ
“พี่เช่น ผมไหว” เป็นหลักยืนยัน
“ไหวยังไง เมื่อวานพอเห็นทะเลกับหาดทราย ลักกี้ก็มือเย็นเฉียบเลย”
เป็นหลักยิ้ม ”พี่จะอยู่ข้างผมใช่ไหม”
คิดเช่นยิ้มบางๆ
อย่างน้อยเจ้าเด็กข้างหน้าก็วาง ความเชื่อใจ ไว้ที่เขา
“อือ จะอยู่ตรงนี้แหละ”
เป็นหลักซุกหน้าลงไปบนบ่าของคิดเช่น
“พี่ยิ้มสวยนะ” น้ำเสียงอู้อี้
“เรื่องนี้รู้อยู่แล้ว”
ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ กับคนที่ยังซบนิ่งอยู่
อย่างน้อยเป็นหลักก็พยายามทำให้ความกลัวในตอนนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ท้องฟ้าเปลี่ยนสีจนน่ากลัว
เสียงลมสะบัด
ระลอกคลื่นรุนแรงจนทำให้บ้านทั้งหลังที่ยื่นออกไปในทะเลไหวโยก
เป็นหลักแย่ลงกว่าเดิม
สั่นกลัวจนแทบไม่มีสติ
ถึงแม้คิดเช่นจะกอดเขาไว้แน่น
ไม่น่าจะไหว
คิดเช่นมองออกไปนอกหน้าต่าง
ก่นด่า ฟ้าฝนอยู่ในใจ
ไหนข้อมูลบอกว่า ฤดูนี้ไม่มีพายุ
แล้วนี่อะไร
ลมกับทะเลบ้าคลั่งเหมือนอยากจะฉีกทึ้งทุกอย่างที่ขวางหน้า
พลาดฉิบหายเลยคิดเช่น
แล้วไหนพนักงานบอกว่า ไม่ใช่พายุลูกใหญ่อะไร แค่หลบอยู่ในบ้านพักก็ปลอดภัย
นาทีนี้เขาคิดถึงรักแท้ที่สุด
อยากให้มาช่วย ให้มาอยู่ตรงนี้
เพราะคิดเช่นกำลังจะรับมือกับเรื่องนี้ไม่ไหว
เป็นหลักอยู่ในอาการที่คิดเช่นไม่เคยเห็นมาก่อน
มันทำให้เขากลัวไปด้วย
ท่าทางหวาดผวาแบบนั้น
ร่ำไห้
สองมือกุมหูตัวเองแน่น
เป็นหลักแทบไม่รู้สึกตัวแล้วว่าคิดเช่นอยู่ตรงนี้
เขาเริ่มหวั่นว่า ความกลัวของเป็นหลักจะถึงขีดสุด
“เป็นหลัก” เขาเรียก พร้อมเขย่าตัวเจ้าของชื่อแรงๆ
“ผมไม่อยากอยู่ตรงนี้” แม้อีกแค่วินาทีเดียวก็นานเกินไป
ฟ้าผ่าเปรี้ยง
เป็นหลักสะดุ้งสุดตัว แล้วกระโจนลุกขึ้น
คิดเช่นผวาตาม ตะครุบตัวของเป็นหลักเอาไว้
“เป็นหลัก เป็นหลัก” คิดเช่นออกแรงกดตัวของคนที่พยายามตะกายไปข้างหน้า
“ไม่ได้ ต้องไปจากตรงนี้ ไม่เอา” เขาไม่อยากกลับไปเป็นเด็กคนนั้น ไม่ต้องการเห็นภาพเหตุการณ์ในวันนั้น
เป็นหลักดิ้นไม่หยุด
และสามารถลากตัวเองไปข้างหน้าได้ ทั้งๆที่คิดเช่นเอาตัวกดทับเป็นหลักเอาไว้
คิดเช่นเบิกตากว้าง
เขากำลังจะสู้แรงของเป็นหลักไม่ไหว
ความกลัวที่พลุ่งพล่านทำให้ในที่สุดเป็นหลักก็สะบัดคิดเช่นกระเด็น
แล้ววิ่งตรงไปยังประตูบ้านพัก
ฟ้าผ่าอีกเปรี้ยง
เป็นหลักกรีดร้อง
แม่งเอ้ย ต่อไปนี้คิดเช่นคงเกลียดฟ้าผ่าเหมือนกัน
เขากระโจนพรวด แต่ไม่ทัน
คิดเช่นใจหายวาบ
เป็นหลักเปิดประตูออกไปแล้ว และเริ่มวิ่งไปตามสะพานไม้
มันทอดสู่ทะเล
ฝนกระหน่ำจนทุกอย่างข้างหน้าเป็นสีขาว
แทบมองไม่เห็นทะเล
สะพานไม้ค่อนข้างลื่น
ไม่ได้
คิดเช่นจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด
เขาคว้าตัวคนที่สติเตลิดไว้ได้อีกครั้ง
เป็นหลักพยายามสะบัดอีก
“เป็นหลัก!!!” คิดเช่นแผดสุดเสียงซึ่งทำให้เป็นหลักชะงักได้
คิดเช่นรีบรวบตัวเป็นหลักไว้แน่น ทั้งปลอบทั้งลากเพื่อพาเป็นหลักกลับเข้าบ้านพัก
น้ำเจิ่งนองทั่วพื้นห้อง
เป็นหลักหายใจหอบแรง หัวใจเต้นกระหน่ำ
คิดเช่นไม่ปล่อยให้เป็นหลักห่างจากตัว
“พี่อยู่นี่” เขาพูดประโยคนี้ข้างหูเป็นหลัก
แนบริบฝีปากให้ใกล้ใบหูที่สุด หวังให้เสียงของเขาเรียกสติของเป็นหลักให้กลับคืน
“ไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว ฟังเสียงพี่ อย่าฟังเสียงข้างนอกนั่น” ถ้อยคำนี้ของคิดเช่นนุ่มนวลกว่าประโยคก่อนหน้า
เขากดจูบที่ใบหู หวังว่าสัมผัสจากปากอุ่นๆจะช่วยทำให้รู้สึกว่ายังมีใครอีกคนมีตัวตนอยู่ตรงนี้
เป็นหลักขบกรามแน่น ตัวและใบหน้าเกร็ง
คิดเช่นได้ยินเสียงฟันขบกัน
“อ้าปาก” เขาพยายามง้างปากเป็นหลัก
เป็นหลักสะบัดหน้าหนี
คิดเช่นตามไปคว้าไว้
ใช้สองมือบังคับให้เป็นหลักเชิดหน้าขึ้น
เริ่มต้นกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของคนตรงหน้าเพียงแผ่วเบา
จากนั้นยกริมฝีปากขึ้น สบตาคนตรงหน้า
อ้อนวอน
เปิดปากเถอะเด็กน้อย
แล้วกดริมฝีปากลงไปอีกครั้ง
ทำอย่างนี้ซ้ำๆ ช้าๆ
คิดเช่นผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งใจ ในวินาทีที่เป็นหลักยอมคลายริมฝีปากที่เม้มแน่น
ได้กลิ่นเลือด ฟันคงขบลงไปที่ไหนสักแห่ง
คิดเช่นไล้ปลายลิ้นไปทั่ว ปลอบประโลมความตื่นตระหนกนั้น
แต่แล้ว ลมข้างนอกก็แรงขึ้น
ปัง!
ประตูบ้านที่เขายังไม่ทันปิด ถูกลมกระแทกให้เปิดกว้างขึ้น บานประตูแกว่งกระทบผนังเสียงดัง
เป็นหลักสะดุ้งอีก ยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้าง
เสียงคลื่นและลมทำให้เขาสั่นขึ้นมาอีกรอบ
คิดเช่นรีบกดน้ำหนักตัวทับเป็นหลักไว้ให้เคลื่อนที่ไม่ได้
ยกมือประกบทับลงไปบนมือของเป็นหลักอีกชั้น
กดจูบให้หนักหน่วงขึ้น
คำปลอบคงไม่ได้ผล
หวังว่า สัมผัสเหล่านี้จะช่วยดึงเป็นหลักออกจากอาการพวกนี้ได้
เป็นหลักเงยหน้าขึ้นรับจูบของคิดเช่น
เบี่ยงหน้าให้คิดเช่นสามารถจูบได้ถนัดขึ้น
เป็นหลักรู้ ว่าคิดเช่นกำลังทำอะไร
และเป็นหลักเปิดรับความช่วยเหลือนี้
เป็นหลักจูบตอบอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคิดเช่นอยู่ตรงนี้
“อย่าทิ้งผม”
“ไม่มีวันนั้นหรอก”
“ผมไม่ชอบทะเลเลย”
“พี่รู้แล้ว ขอโทษนะ”
เป็นหลักไม่ทันสังเกต ว่าคิดเช่นไม่เคยเรียกตัวเองว่า พี่ มาก่อน เขาเพียงรับรู้ว่าคำพูดนั้นอ่อนโยนเหลือเกิน
โชคยังดี ที่ลมพายุสงบก่อนฟ้าสาง
คลื่นลมสงบ เหมือนเมื่อคืนเป็นแค่ภาพสมมติ
เป็นหลักขยับตัวตื่นอย่างเชื่องช้า
ลืมตามอง ผู้ชายอีกคนที่หลับอยู่ข้างกัน
ปัดผมบางส่วนที่ระอยู่บนใบหน้านั้น
ย้อนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
ขอบคุณคิดเช่น ที่ช่วยเขาเอาไว้
ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าวิ่งเข้าหาทะเลที่มีคลื่นสูงแบบนั้นได้ยังไง
กลับไปแล้ว คงต้องไปพบจิตแพทย์
เป็นหลักไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเมื่อวานเกิดซ้ำอีก เพียงแค่มีสิ่งหนึ่งมากระทุ้ง ภาพอดีตก็ทำให้เขาคุมตัวเองแทบไม่ได้
“ผมอยากมาทะเลกับพี่สองคนนะ” เขากระซิบบอกคนที่ยังไม่ยอมตื่น
อยากทำให้สิ่งที่คิดเช่นตั้งใจไว้เป็นจริง
พี่อุตส่าห์หาวันว่าง เพื่อให้ทริปแบบนี้เกิดขึ้น
“ในสักวันหนึ่งนะครับ เราจะมาทะเลกันสามคนเลย”
“จะรอ” คิดเช่นตอบทั้งๆที่ตายังหลับ
เป็นหลักอมยิ้ม แล้วโน้มลงจูบ
“ลักกี้ตัวเย็นจัง” คิดเช่นงึมงำ
“พี่เป็นไข้แล้วล่ะ”
“อือ น่าจะเพราะฝน หรือไม่ก็เพราะออกแรงเยอะไปหน่อย เวลาลักกี้คุมตัวเองไม่ได้นี่แรงเยอะชะมัด”
“ผมว่า เป็นเพราะพี่ไม่ค่อยมีแรงมากกว่า”
คิดเช่นรู้สึกเหมือนโดนหยาม
เลยออกแรงพลิกตัวเป็นหลักให้เป็นฝ่ายอยู่ข้างใต้
ปลายผมยาวของคิดเช่น เขี่ยอยู่บนใบหน้าเป็นหลัก ขณะที่คิดเช่นเป็นฝ่ายโน้มตัวลงมาจูบเขา
“ผมยังจำจูบของพี่เมื่อวานได้แม่น”
“อือ” คิดเช่นประกบปากลงอีก “สู้จูบของรักแท้ได้ไหม” คิดเช่นแหย่
เริ่มคิดถึงรักแท้มากขึ้น อยากให้มาอยู่ด้วยกันตรงนี้ เดี๋ยวนี้เลย
“เทียบแบบนั้นคงไม่ได้”
“เทียบไม่ติด?”
“ไม่ใช่แบบนั้น อืมมม อธิบายไม่ถูก”
“งั้นขอคุณคิดเช่นจูบอีกที”
เป็นหลักอมยิ้ม
“ครับ”
.
.
.
To be continued
treenature