คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 167580 ครั้ง)

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #150 เมื่อ13-06-2007 12:10:31 »

ทำตามหน้าที่ของแฟนไปงั้นแระ...........อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #151 เมื่อ13-06-2007 17:05:13 »

จริงเย้อ  คุณคนเขียน   :haun5:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #152 เมื่อ13-06-2007 17:55:10 »

พอกันทั้งคู่เลยอ่า  :o7:
คนนึงก็ฟอร์มจัด  รักษาท่าทีอยู่ไม่ใช่น้อย
อีกฝ่ายนึงก็กลัวความสัมพันธ์จะถูกจับตาจากสังคมรอบข้าง

แต่ก็นะ.... มาถึงวันนี้จนได้ (ดีใจด้วยเน้อ  บรรยายน้อยดิ ไม่ไหวๆ) o3
แต่จะทำยังไงกับความสัมพันธ์นี้ละ ในเมื่อใจอีกฝ่ายยังไม่พร้อมจะท้าทายสายตาจากโลกภายนอกเลย  o7

รออ่านต่อจ้า  :impress:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #153 เมื่อ14-06-2007 13:59:30 »

                        กลิ่นลูกชิ้นทอดหอมฉุยลอยเตะจมูก............การที่ต้องทำกับข้าวกินที่ห้องบ่อยๆแบบนี้รู้สึกเกรงใจคนข้างห้องเหมือนกันนะ.........แต่จะทำไงได้.....ในเมื่อมันเป็นทางออกเดียวที่ผมมีอยู่ในตอนนี้นี่นา.........ทำตัวเป็นนกน้อยในกรงทองด้วยความสมัครใจ...............แม้จะสุขบ้างทุกข์บ้างก็ช่างมันเถอะ.....
ผมยกลูกชิ้นทอดไปเสิร์ฟบนโต๊ะ.......ก่อนจะหันมารินรูทเบียร์ใส่แก้ว.............การปรนนิบัติแฟนเป็นหน้าที่ที่ผมคิดว่าสมควรกระทำ มิให้บกพร่อง......นัทรับแก้วรูทเบียร์ไปดื่ม....วันนี้ดูสีหน้าเค้าดูเครียดๆจัง.........ไม่เหมือนทุกวันเลย......

                        “นัทไม่ได้คิดกับพี่กั้งแบบแฟน” เค้าโพล่งออกมาขณะที่กำลังกินลูกชิ้นอยู่…ผมจ้องหน้าเค้านิ่งไปชั่วขณะ
                        “หา.....ว่าไงนะ” ผมไม่แน่ใจว่าที่ได้ยินเมื่อครู่นั้น......ฟังถูกหรือไม่
                       “นัทไม่ได้รักพี่กั้ง.......นัทเป็นแฟนกับผู้ชายไม่ได้” สีหน้าเค้าดูเรียบเฉย....ไม่ยอมสบตา....ขณะที่ผมกำลังตกตะลึงในสิ่งที่ได้ยินโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
                       “แล้วนัทมาบอกพี่ทำไม” ผมพยายามข่มน้ำเสียงให้ฟังดูเป็นปกติ......แต่ในใจนั้นร้าวรานจนสุดจะทน........เรากำลังจะไปกันได้ด้วยดีแท้ๆ.......แล้วเค้าจะมาพูดให้ทุกอย่างมันแย่ลงทำไม......

                      “นัทอยากจะเลิกกับพี่เหรอ” ผมอยากรู้ว่าจุดประสงค์ของเค้าที่ต้องการจะบอกคืออะไร....หวังว่าเค้าคงไม่ใช่พวกเลือดเย็นที่ชอบมาหลอกให้รักแล้วถึงมาหักอกในภายหลังหรอกนะ
                        “ไม่ใช่แบบนั้น.....นัทแค่อยากบอกให้พี่กั้งรู้เอาไว้ ว่านัทเป็นอย่างที่พี่กั้งหวังไม่ได้” ผมไม่มีอะไรจะพูด....ไม่แม้แต่จะทวงถามถึงสิ่งต่างๆที่ผ่านมาว่าคืออะไร..........แล้วผมเป็นอะไรสำหรับเค้าในตอนนี้........แต่จะถามหาคำตอบไปก็ป่วยการ............ในเมื่อเค้าบอกอยู่โต้งๆแบบนี้แล้ว......ผมคงไม่หน้าด้านไปทวงถามสิทธิงี่เง่าอะไรพวกนั้นให้ต้องได้อับอายซ้ำสอง........

                      “นัทไม่อยากทำร้ายพี่กั้ง นัทรู้ว่าพี่กั้งเป็นคนดี พี่กั้งดีกับนัทมาก แต่นัทเป็นอะไรกับพี่กั้งมากไปกว่านี้ไม่ได้” โฮะ!...............นี่นายกำลังจะบอกว่าระหว่างเรามันเป็นแค่เซ็กส์สินะ
                      “พี่ก็ไม่ได้คิดว่าจะผูกมัดอะไรนัทนี่ เราคบกับไปแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว พอนัทเรียนจบเราก็ต่างคนต่างไปอยู่ดี” เป็นความจริงจากใจผมที่เคยคิดเอาไว้ว่า ระหว่างเราคงจบลงเมื่อนัทสำเร็จการศึกษาและไปจากเชียงใหม่..........แต่เค้าไม่น่ามาพูดเรื่องนี้ให้ผมเสียความรู้สึกเลย.....สิ่งดีๆที่ผมเคยรู้สึกกับเค้าที่ผ่านมามลายหายไปในพริบตา.........
                    “เวลานัทอยู่คนเดียวนัทคิดแต่เรื่องพี่กั้งตลอด พี่กั้งไม่รู้หรอกว่านัทกลุ้มเรื่องพี่กั้งมากแค่ไหน” นี่เค้ากำลังจะพูดอะไรอีกล่ะ............ผมก้มหน้านิ่ง...........ไม่โต้ตอบอะไร.........ไม่อยากให้เค้าเห็นแววตาของผมในเวลานี้..............ผมไม่ต้องการความสงสาร...............
                     “นัทอยากให้เราเป็นพี่น้องกัน ถ้านัทจบไปแล้วนัทอยากกลับมาเจอพี่กั้ง และก็เลี้ยงข้าวพี่กั้งบ้าง” เค้ายังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ......ผมรู้สึกหูอื้อ..........พี่น้องเหรอ.....พี่น้องเค้าทำกันแบบนี้น่ะเหรอ.....ผมอยากจะตะโกนใส่หน้าเค้านัก........
                      “ถ้านัทอยากเลิกกับพี่ก็ได้นะ พี่ไม่ว่าอะไร” ผมเหนื่อยมาพอแล้ว..........จะอยู่หรือไปก็ไม่ได้แตกต่างกัน...............ถ้าไม่เต็มใจจะอยู่ก็ไปซะเถอะ.......
                      “นัทไม่ได้หมายความแบบนั้น.....เราก็คบกันแบบเดิมนี่แหล่ะ แต่ถ้าพี่กั้งอยากเลิกนัทก็แล้วแต่”......พูดง่ายดีนี่.............ผมหันหน้าหนี...........น้ำตาเริ่มเอ่อ............พยายามสูดลมหายใจลึกๆ...........ผมจะไม่มีวันแสดงความอ่อนแอให้เค้าเห็นเด็ดขาด............ผมก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ถึงแม้มันจะเหลืออยู่น้อยนิดในเวลานี้ก็ตาม...........
                       “พี่กั้งอย่าทำแบบนี้สิ........นัทจะร้องไห้แล้วนะ”................ผมเหลือบตาไปมอง....ด้วยอยากจะรู้ว่าคำว่าจะร้องไห้มันทำให้สีหน้าอวดดีของเค้าเปลี่ยนไปยังไง............นัทกระพริบตาถี่ๆ ทำปากเบะเหมือนคนจะร้องไห้............นี่อย่าบอกนะว่าเค้าเจ็บปวดกับสิ่งที่เค้าได้พูดไปแล้ว.........เค้าทำร้ายความรู้สึกคนอื่นอย่างเลือดเย็นแล้วยังจะมีหน้ามาทำทีว่าเจ็บปวดงั้นเหรอ............
                       “เราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ” ผมตัดบท.........เพราะถึงพูดไปก็มีแต่จะทำให้อะไรๆแย่ลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ...............
                      “พี่กั้งยิ้มก่อนสิ อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้ได้มั้ย นะ.....ยิ้มก่อนนะ” เค้าคะยั้นคะยอให้ผมยิ้ม..........จะมีคนบ้าที่ไหนกันที่จะยิ้มออก.......แต่ผมก็บ้าพอที่จะยิ้ม............ไม่ใช่ว่ายิ้มเพื่อเอาใจนัท........แต่ผมยิ้มเพื่ออยากให้อะไรๆต่ออะไรมันจบๆไปซะที............ผมเหนื่อยมาพอแล้ว.........

                       “พรุ่งนี้แม่นัทจะมา นัทคงไปค้างที่บ้านญาติ” .....เค้ากำลังจะบอกว่าเราจะไม่ได้เจอกัน.......คงจะถือโอกาสบอกเลิกกับผมไปในตัว...........แต่ผมไม่มีเรี่ยวแรงจะทัดทานใดๆจึงได้นิ่งเงียบอยู่.........

                         ผมส่งนัทกลับไปแล้ว.............ตอนขากลับแวะซื้อเบียร์ติดมือมาสามขวด...........อยากจะดื่มให้เมาๆไปเลย..........ผมเปิดคลอเบาๆ พลางนั่งนึกทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา...........นี่เค้าจะบอกเลิกผมหรือยังไง..........พยายามจะบีบน้ำตาแบบในหนัง......แต่ทำไมน้ำตามันไหลยากอย่างนี้ล่ะ......มันรู้สึกแต่ว่าปวดร้าวอยู่ภายใน ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากนอนครวญคราง.......เหมือนคนเมาเหล้า ที่รู้สึกอยากจะอ้วกแต่ก็อ้วกไม่ออก.....นี่ถ้าอ้วกออกมาได้คงจะโล่งกว่านี้......

                       ผมนอนครวญครางสลับกับดื่มเบียร์และเปิดเพลงอกหักฟังซ้ำไปซ้ำมาจนค่อนดึก....เมื่อโศกเศร้าจนสาแก่ใจ.....จึงค่อยได้สติ..............ในเวลาแบบนี้น่าจะหาที่ปรึกษาสักคน.....ผมจึงยกโทรศัพท์ถึงศิราณีจำเป็น..........ความเป็นจริงแม้เธอจะอยู่ไกลถึงกรุงเทพ..........แต่เธอก็รับรู้เรื่องผมกับนัทมาตั้งแต่เริ่มต้น.......
                      “หนูว่าเค้าก็จริงใจกับพี่นะที่บอกเรื่องนี้ตามตรง ดีกว่าหลอกลวงกัน ที่จริงเค้าเลือกที่จะไม่พูดก็ได้ แค่ทำเป็นเฉยๆ พอเรียนจบก็ต่างคนต่างไป แต่นี่เค้าเลือกที่จะพูดเพราะอยากให้พี่ทำใจให้ได้ ถึงตอนนั้นจะได้ไม่ต้องเจ็บมาก ก็ถือว่าแคร์ความรู้สึกพี่อยู่”...........ศิราณีของผมวิเคราะห์ไปในอีกแง่มุมหนึ่งซึ่งผมไม่เคยมองในมุมนี้มาก่อน........อาจจะจริงของเธอก็ได้........
                     “คนอย่างเค้านี่นะจะนึกถึงจิตใจคนอื่น” ผมพยายามหาข้อโต้แย้ง.....ไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบใจในคำอธิบายของศิราณี.........แต่ผมต้องการเหตุผลให้มากกว่านี้
                     “เค้าคงกลุ้มพอสมควร......พี่ก็คิดดูสิ เวลามีปัญหาพี่ยังระบายกับใครต่อใครได้ แต่เค้าต้องเก็บมันไว้คนเดียว เค้าจะคิดได้กี่แง่มุมกัน ในเมื่อเค้ามีหัวเดียว....ส่วนพี่มีคนให้ปรึกษาตั้งมากมาย.....ไหนจะยังศาสนาของเค้าอีก…..น่าเห็นใจเค้าเหมือนกันนะ” ผมเริ่มอ่อนลง.....ภายหลังจากที่คุยกับศิราณีได้เกือบชั่วโมง............มีเสียงเรียกซ้อนเข้ามา.............
                    “เดี๋ยวก่อนนะมีสายเรียกซ้อน” ผมบอกให้ศิราณีถือสายรอก่อน........แล้วพลิกดูที่หน้าจอมือถือ..........ใครกันนะโทรมาดึกดื่นขนาดนี้ ไม่รู้หรือไงว่าโลกกำลังจะแตกอยู่แล้ว.............นัท...........จะโทรมาทำไมอีก............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2007 14:04:12 โดย moody »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #154 เมื่อ14-06-2007 14:11:13 »


..........จะคาดหวังอะไรกับความสัมพันธ์ที่มันไม่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น.... :o11: :o11:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #155 เมื่อ14-06-2007 14:42:36 »

รอลุ้นต่อไปจ๊ะ  :undecided:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #156 เมื่อ14-06-2007 19:00:32 »

เพิ่งรู้สึกดีกับนัท ก็ตอนที่บอกเลิกกับกั้งนี่แหละ  o8
ลุ้นต่อ อิอิ  o14

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #157 เมื่อ15-06-2007 10:32:56 »

                        “ฮัลโหล......เป็นไง” นัทถาม ทำเสียงยานคาง.....เค้าไม่ได้มีวี่แววว่าจะสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย...........นี่คงเป็นวิธีง้อของเค้าล่ะมั้ง.........ประมาณว่าฟอร์มเยอะ.......
                       “มีอะไร” แม้จะดีใจอยู่ลึกๆ แต่ผมก็ยังไม่มีอารมณ์จะเสวนาด้วยน้ำเสียงที่ดูดีกว่านี้ได้แล้ว........
                       “จะโทรมาถามว่าตายหรือยัง” ....โฮะ!.......ยังจะมาปากดีอีกแน่ะ
                       “ยัง.....ทำไมต้องตายด้วยอ่ะ” ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้ม.....หน้าบาน......อดขำในใจไม่ได้กับวิธีการง้ออันแสนจะกระด้างของเค้า......แต่แปลกที่ผมกลับชอบวิธีแบบนี้........มันบ้านๆดี..........
                       “จะรู้มั้ยล่ะ.....ก็เห็นทำท่ายังกะจะตายอยู่เลยเมื่อตอนเย็นอ่ะ” เค้าเน้นเสียงประชดประชัน..........เชอะ.....ทำมาเป็นพูดดี…………
                      “แล้วนี่อยู่ไหนอ่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่องคุย....เพราะไม่อยากพูดเรื่องเดิมให้ต้องขุ่นมัวในอารมณ์อีก....
                      “อยู่บ้านน้า........วันนี้นัทอาจจะนอนที่นี่”
                      “อืม ดีแล้วล่ะ....แม่มาเยี่ยมก็ควรจะไปให้เค้าได้เห็นหน้าเห็นตามั่ง” ผมแสดงความเห็นในแง่บวกต่อแม่ของแฟน
                      “แต่นัทเบื่อ......พวกผู้ใหญ่คุยอะไรกันก็ไม่รู้ อยากกลับไปนอนห้องมากกว่า” เค้าทำท่าบ่นกระปอดกระแปด...........
                      “จะทำอย่างนั้นได้อย่างไง ไม่ดีหรอก” ผมรีบห้าม........ไม่อยากให้เค้าเอาแต่ใจตัวเองจนเกินไป......จนลืมความขุ่นใจไปเสียสิ้น
                      “ไม่รู้ล่ะ ดึกๆนัทคงจะกลับไปนอนที่หอ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้”
                     “ตามใจล่ะกัน” ผมคร้านจะเถียงอีก จึงต้องเป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้อีกตามเคย.............

                      นัทวางสายไปแล้ว............ความรู้สึกแย่ๆเมื่อครู่ที่มีของผมหายไปจนหมดสิ้น...........แปลกใจตัวเองเหลือเกิน.......เมื่อกี้ทำท่าว่าจะเป็นจะตายอยู่แท้ๆ.........พอเค้าโทรมาหน่อยก็ทำเป็นลืมซะแล้ว.....ไอ้ที่ฟูมฟายไปใหญ่โตเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนนั่นล่ะ…..เป็นอันสูญเปล่ากระนั้นหรือ.........เจ็บไม่รู้จักจำนะกั้งเอ๋ย.........ผมเก็บขวดเบียร์ที่เหลือเข้าแช่ในตู้เย็น.....ก่อนจะขึ้นไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นบนเตียง........มึนหัวจัง........

                         “พี่กั้ง มารับหน่อย” นัทโทรมาตามผมในบ่ายของวันต่อมา
                        “แม่กลับไปแล้วเหรอ” เวลานี้เค้าควรจะอยู่กับแม่ไม่ใช่หรือไง
                         “กลับไปแล้ว นัทมีกระเพาะปลามาด้วย พี่กั้งช่วยยำให้กินหน่อย” เอาล่ะสิ....เกิดมาไม่เคยกินยำกระเพาะปลาเลยสักหน....แล้วจะทำเป็นมั้ยเนี่ย.........เอาน่าคงทำเหมือนยำปลาดุกฟูนั่นแหล่ะ
                        “เอามาสิ เดี๋ยวพี่ทำให้กิน” ผมรับปาก.......ถึงเค้าอยากจะกินอะไรนอกเหนือไปกว่านี้ ผมก็คงต้องสรรหามาให้อยู่แล้ว............

                        “ไม่เห็นจะอร่อยเลย” นัททำปากแหวะ.....หลังจากที่ชิมยำกระเพาะปลาของผมคำแรก
                        “จะให้อร่อยได้ไง กระเพาะปลาที่นัทเอามาเหม็นหืนจะตาย” ผมเถียง....ก็มันหืนจริงๆอ่ะ........แต่นัทก็กลิ่นจนเกลี้ยงตามเคย........
                        “วันนี้นัทถือศีลวันสุดท้าย” เค้าบอกหลังจากกินข้าวอิ่มแล้ว
                        “ช่วงนี้ถือศีลเหรอ ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เลย” จะว่าไปแล้ว.......พักหลังนี้ผมเจอนัทแค่ในช่วงเย็นเท่านั้น จึงไม่ค่อยได้สังเกตเลยว่าช่วงกลางวันเค้าต้องอดอาหาร..........มิน่าล่ะ.....พอตกเย็นทีไร เห็นกินข้าวยังกะตายอดตายอยากมาทุกที.......
                       “ถ้าศีลขาดในวันไหนก็ต้องถือเพิ่มตามจำนวนวันที่ขาด” เค้าอธิบายต่อ.........ลำบากจังเนาะ ต้องอดอาหารด้วยเหรอนี่................

                       คืนนี้นัทนอนค้างที่นี่.......เค้าไม่ได้บอกแต่แรกว่าจะค้างหรือไม่ค้าง............แต่แค่ดู ผมก็รู้แล้วว่าคืนนี้เค้าไม่กลับ........เค้าไม่ยอมอาบน้ำ พอดูหนังเสร็จก็ผล็อยหลับไปเลย........ผมจึงลุกขึ้นไปปิดไฟ.......คลี่ผ้าห่มออกมาคลุมให้....ก่อนจะเอนตัวลงนอน............อดไม่ได้ที่จะเหลือบตาไปมอง.......เสียงหายใจสม่ำเสมอแผ่วเบาแสดงว่าหลับไปแล้ว
                       เค้านอนในท่าตะแคงหันหลังมาทางผม.........ดูจากท่านอนแล้วรู้สึกว่าระวังตัวจัง............ผมไม่ชอบให้เค้านอนหันหลังให้แบบนี้เลย.........มันดูแห้งแล้งยังไงพิกล..........อยากจะเอื้อมมือไปกอด...........คงจะพอแก้ความหนาวเหน็บในค่ำคืนนี้ได้ไม่น้อย.............พลันมือผมก็เอื้อมไปดังที่ใจปรารถนา..................ค่อยๆวางลงบนเอวเบาๆ.......ก่อนจะสอดเข้าไปเกาะกุมที่พุงหยุ่นๆ......กระชับให้แน่นขึ้น...........แล้วขยับตัวเข้าไปประชิดเพื่อสัมผัสความอบอุ่นจากแผ่นหลังกว้าง..............รู้สึกดีจัง........ยังไม่ทันที่จะได้รับไออุ่นให้สมใจอยาก..............นัทแกะมือผมออกจากการเกาะกุม แล้วขยับตัวหนีออกไปนอนชิดที่ขอบเตียง...................ผมพลิกตัวกลับมาที่ริมเตียงอีกข้างด้วยความร้าวรานใจ.....ทำไมเค้าต้องทำแบบนี้.......ก็ในเมื่อเค้าก็ดูเหมือนจะชอบผมเช่นกัน................แล้วทำไมเค้าถึงไม่ยอมให้ผมกอด......ผมมีอะไรน่ารังเกียจหรือยังไง.......ถ้าจะเอาแบบนั้นก็ได้..............งั้นเราก็เลิกคบกันเสียดีกว่า.........ผมพยายามข่มตานอนทั้งที่ภายในใจนั้นสุดแสนจะเจ็บปวด........ผมรักเค้า.....แต่ในเวลาเดียวกันผมก็เกลียดเค้า............

                      “พี่กั้งไม่รู้เหรอว่าศาสนาเค้าห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงถือศีล ไม่งั้นจะศีลขาด” ศิราณีแสดงความเป็นผู้ทรงภูมิเมื่อผมโทรไประบายปัญหาหัวใจเช่นเคย
                     “จริงเหรอ เธอไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหน พี่ก็นึกว่าเค้าแค่อดอาหารอย่างเดียวซะอีก” ก็ผมรู้มาแค่นี้จริงๆอ่ะ
                     “ก็เหมือนพวกเราบวชพระแหล่ะพี่.....จะทำผิดศีลได้มั้ยล่ะ หนูถามเพื่อนที่ถือศาสนาเดียวกับเค้าให้แล้ว” ศิราณียังคงยืนยันต่อด้วยความมั่นใจ โดยอ้างถึงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
                     “อ้าวเหรอ” ผมรู้สึกดีขึ้นที่ได้รู้ความจริง......ตลอดเวลาที่คบกันผมต้องคอยหาข้อแก้ต่างดีๆให้เค้าเสมอ.......แต่มันก็ไม่ทำให้ผมสบายใจได้อยู่ดี............รอดูต่อไปอีกสักระยะก็แล้วกัน เค้าออกจากช่วงถือศีลแล้วนี่............คอยดูซิว่าจะทำเหมือนเดิมอีกมั้ย.......ถ้าทำแบบนี้อีก คราวนี้คงต้องเลิกกัน.............เพราะไม่รู้จะคบกันต่อไปทำไม.....ในเมื่อเค้ามีข้อแม้เยอะแยะมากมายจนผมแทบจะทนรับไม่ไหวแล้วนะ........

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #158 เมื่อ15-06-2007 11:13:46 »


..........คุณกั้งยังไม่ยอมแพ้..... o3 o3

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #159 เมื่อ15-06-2007 11:19:53 »

ยังไม่ยอมแพ้หรอก จนกว่าจะหมดแรงไปซะก่อน....อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #159 เมื่อ: 15-06-2007 11:19:53 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #160 เมื่อ15-06-2007 14:00:28 »

เขียนได้ผิดหวังมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

บอกตรงๆ

เสียแรง.....

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #161 เมื่อ15-06-2007 15:10:17 »

เสียแรงไรจ้ะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #162 เมื่อ15-06-2007 18:48:05 »

นึกว่าจะถอดใจซะเเล้ว  :o9:

เอวใจช่วยให้สำเร็จนะ สู้ สู้  o13

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #163 เมื่อ15-06-2007 18:59:10 »

 :o11: ทั้งรักและทั้งเกลียด  :undecided:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #164 เมื่อ16-06-2007 15:43:45 »

ใจมันพร้อมจะรัก  ต่อให้มีข้อเสียมากยังไง
ก็ยังพร้อมจะเข้าใจเค้าอยู่ดี

รออ่านต่อนะ  ว่าเหตุผลที่ว่านะมันจริงเหรอ  o15

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #165 เมื่อ16-06-2007 23:02:54 »

ขอบคุณครับ

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #166 เมื่อ18-06-2007 07:29:22 »

                        “พี่กั้งอาบน้ำด้วยกันมั้ย” นัทโผล่หน้าออกมาร้องเรียกจากในห้องน้ำ .......เกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมาอีกล่ะ...........พักหลังนี้เค้าทำตัวดีขึ้นผิดหูผิดตา...........ผมจึงลืมเรื่องที่เค้าเคยไม่ยอมให้กอดในคืนนั้นเสียสนิทใจ..............มันก็คงจะจริงอย่างที่ศิราณีพูดกระมัง.............เค้าถือศีลอยู่จึงอาจจะไม่อยากยุ่งกับผมก็ได้...........ตอนนี้ก็พ้นช่วงถือศีลมาแล้ว บรรยากาศเลยผ่อนคลายมากขึ้น........
                       ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยอาบน้ำร่วมกับใครเลย......น่าสนุกดีเหมือนกันนะ........แทบจะไม่ต้องรอให้ถูกเรียกเป็นซ้ำสอง.................ผมรีบถอดเสื้อผ้าถลาไปยังห้องน้ำทันที......................

                      รู้สึกเขินอยู่หน่อยๆเหมือนกันนะ แต่ระหว่างเราสองคนคงไม่มีอะไรให้ต้องอายอีกแล้วมั้ง เพราะต่างฝ่ายต่างก็เห็นทุกซอกทุกมุมของกันและกันจนหมดแล้วนี่...............เมื่อพ้นประตูห้องน้ำเข้าไป..........ผมเห็นนัทกำลังยืนสระผมอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า..............
                        “มานี่ นั่งลงสิ เดี๋ยวพี่จะสระผมให้” ผมออกคำสั่ง.........นัทเอื้อมมือไปปิดฝาชักโครกแล้วนั่งลงอย่างว่าง่าย.....ปล่อยให้สระผมให้เหมือนเด็กๆ......
                       “อย่าขยี้แรงสิ มันเจ็บ” เค้าทำเสียงประท้วง เมื่อผมลงแรงขยี้หนักจนเกินไป.......
                      “อ่ะเสร็จแล้ว ลุกขึ้น เดี๋ยวจะถูสบู่ให้”  ผมหันไปหยิบสบู่มาฟอกให้นัทตามลำตัว ตั้งแต่ลำคอไล่ลงมาถึงปลายเท้า
                      “ทำไมเท้าดำจัง เหมือนคนไปทำนามาเลย” ผมแกล้งแซว.....แต่มันก็ดำจริงๆนั่นแหล่ะ.....เหมือนคนไม่ค่อยได้ล้างเท้ากระนั้น........ผมย่อตัวลงฟอกสบู่ที่เท้าและออกแรงขัดเบาๆ........นึกถึงสมัยยังเป็นเด็ก เวลาที่แม่อาบน้ำให้ทีไรจะชอบขัดที่เล็บเท้าแรงๆเพื่อขจัดคราบสกปรกตามซอกหลืบ.........ผมอยากทำให้นัทแบบนั้นมั่ง..............
                    “โอ้ยเจ็บ ถูเบาๆหน่อยสิ” นัททำเสียงงอแง.......การที่เค้ายอมให้ผมปรนนิบัติโดยดีแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก...............รู้สึกเหมือนเราเป็นแฟนกันจริงๆเลย.......
                    เราผลัดกันอาบน้ำให้กันและกันจนพอใจ..................
                    “มานั่งตรงนี้ เดี๋ยวพี่จะเป่าผมให้” ผมหยิบดรายเป่าผมขึ้น พลางกวักมือเรียกนัทให้มานั่งใกล้ๆ............ผมเค้านิ่มมือดีจัง...........ผมบรรจงหวีอย่างแผ่วเบา.................
                  “อ่ะ นอนลงสิจะได้ทาแป้ง” หุหุ.....สนุกดี.........เล่นเหมือนเด็กๆเลย..............นัทนอนหงายลงบนเตียงทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่า............ผมค่อยๆเทแป้งลงบนตัวเค้าก่อนจะลงมือละเลงทาไปทั่วทุกซอกมุม................
                  “เสร็จแล้ว ไปใส่เสื้อผ้าได้” ผมจูบที่หน้าผากเค้าเบาๆ  ก่อนจะปล่อยให้ไปหาเสื้อผ้าใส่..........เหมือนมีลูกน้อยเลย.............แต่มันก็เป็นมุมที่กุ๊กกิ๊กดีนะ........ในเวลาที่อยู่กับสังคมภายนอกคนเรามักจะทำตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่ วางมาดน่าเชื่อถือ............แต่ไม่ว่าใครก็ย่อมต้องมีมุมที่เป็นเด็กอยู่.........ดังคำที่ว่าผู้ใหญ่ก็คือเด็กที่ตัวโต............การที่มีใครสักคนไว้ให้เราได้ทำตัวเป็นเด็กๆที่ไม่ได้เรื่องได้ราว.............อยู่กับเราในมุมปัญญาอ่อนซึ่งคนอื่นๆไม่สามารถเข้าถึงได้.....มันเป็นความรู้สึกที่เยี่ยมจริงๆ.............ผมคิดว่านัทเองก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน.........เวลาที่เรามีปัญหากันทีไร.......เราสองคนมักจะกลับมารอมชอมและทำตัวสวีทกันแบบนี้ทุกที...........มันเหมือนเป็นการชดเชยสิ่งแย่ๆที่นัทได้ทำกับผม.............แต่ผมเชื่อว่าผมจะต้องเปลี่ยนทัศนะคติของเค้าให้ได้สักวัน............ตราบใดที่เค้ายังไม่หนีไปไหน.............ผมก็จะพยายามทำจนสุดความสามารถ.........คำว่าน้ำหยดลงบนหิน ถึงแม้อาจจะฟังดูเชย แต่มันคือความจริง..........ผมเชื่อแบบนั้น.....เว้นเสียแต่ว่าเค้าจะเป็นฝ่ายบอกลา และจากไปเสียเอง..............


                      “หวัดดีครับพี่กั้ง” เจเข้ามาทักในเอ็มเอสเอ็นระหว่างที่ผมกำลังนั่งทำงานในช่วงบ่ายของวันหนึ่ง
                     “เป็นไงเจ ไม่ได้เจอกันซะนานเลย” ผมทักตอบไปตามมารยาท.........เจกับผมมีประวัติร่วมกันมายาวนาน......ผมเคยคลั่งไคล้เค้าอยู่พักหนึ่งตั้งแต่สมัยก่อนไปเมืองนอก...............แต่ดูเค้าดูเล่นตัวจนเกินไป........ชอบทำตัวเรื่องมาก.....ลูกล่อลูกชนแพรวพราวจนจับไม่ติด..............เดี๋ยวเข้ามาใกล้ชิด ประเดี๋ยวก็ถอยออกห่าง.........มันจะยากอะไรกันนักหนา สมบัติกะอีแค่คนเราจะชอบกัน.....ชอบก็บอกว่าชอบ.....ไม่ชอบก็ไม่ต้องมาเสียเวลา..........เรื่องมันง่ายนิดเดี๋ยว แต่เค้าทำให้มันดูยุ่งยากไปเสียหมด.......เราชิงไหวชิงพริบกันได้ระยะหนึ่ง..........โดยต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ...................จนผมเบื่อและยอมรามือไปเองในที่สุด..........ผมเป็นประเภทไม่เสียเวลากับสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงอยู่แล้ว..............และนี่เค้าคงจะได้ข่าวว่าผมมีแฟนแล้วล่ะสิ ถึงได้เข้ามาคุยด้วยในวันนี้............
                      “ได้ข่าวว่ามีแฟนแล้วเหรอ” นั่นไงล่ะ...........เป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้ไม่มีผิด.....
                      “ใช่ เค้าเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย” ผมถือโอกาสอวด........คนอย่างกั้งไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกหรอกนะบอกให้..........มีแฟนเรียนหมอเชียวนะ ดีกว่านายตั้งเยอะ..........ผมแอบยิ้มเยาะอยู่ในใจ.......
                     “เหรอ ไปหามาจากไหนล่ะ” เจซักต่ออย่างสนอกสนใจ..........สงสัยจะเสียดายที่ผมหลุดมือล่ะสิ.......ช่วยไม่ได้ อยากชักช้ายืดยาดเอง........
                    “อ๋อ......ค้าเป็นรุ่นน้องของเพื่อนน่ะ” ผมโกหกอีกแล้ว........ผมเล่าที่มาจอมปลอมระหว่างผมกับนัทให้ใครต่อใครฟังอย่างคล่องปาก.............จนบางครั้งทำให้ผมหลงเชื่อไปจริงๆว่า เราสองคนเจอกันเพราะเค้าเป็นรุ่นน้องของเพื่อน..............
                  “ดีจัง น่าอิจฉา พามาให้รู้จักมั่งสิ”ผมรู้ว่าเค้าทำท่าอิจฉาพอเป็นพิธีไปยังงั้นแหล่ะ..........คนอย่างเค้าไม่ชอบเห็นใครมีความรักหรอก........ขี้อิจฉาจะตาย.........เค้าต้องหาทางมาป่วนจนได้........ถ้าจะเป็นอย่างนั้น คงต้องลองดูกันสักตั้ง งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องเป็นฝ่ายเจ็บสักทาง.........ผมจะสอนบทเรียนแห่งความพ่ายแพ้ให้เค้าเอง.........
                    “มาตีแบดด้วยกันมั้ยล่ะ” ผมเริ่มวางหมาก.........
                        “เอาสิ ไม่ได้ออกกำลังกายนานแล้ว” หึ.....อย่ามาตอแหล.....ฉันรู้หรอกว่านายอยากมาป่วน..........เค้าหุบเหยื่อและเดินมาตามหมากที่ผมวางเอาไว้............การที่ให้เค้ามาตีแบดด้วยมีประโยชน์สองสถาน......ประการแรก..........ผมจะใช้เค้าเป็นตัวกระตุ้นให้นัทแสดงความรู้สึกที่พยายามข่มไว้ในใจออกมา............ความรู้สึกหึงหวงเนื่องจากการคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของยังไงล่ะ..............ประการที่สอง............ผมจะตอบแทนเค้าให้สาและสะแก่ใจด้วยการทำให้เค้าเห็นว่า ผมไม่ได้สนใจเค้าอีกต่อไปแล้ว...........เลิกลำพองตัวซะทีเถอะ....เค้าเป็นเพียงแค่อะไรบางอย่างที่ผมไม่เอาไงล่ะ.....น่าสนุกดีไม่หยอก......เค้ารนหาที่เองนะ ช่วยไม่ได้.....
                      “ถ้างั้นพรุ่งนี้หกโมงเย็นเจอกันนะ” ผมบอกเวลานัด..........ภายในใจเต้นระส่ำด้วยความรู้สึกสนุกในเกมส์ที่เพิ่งคิดขึ้นมาได้สดๆร้อนๆ...........งานนี้ต้องมันส์แน่ๆ.....

                     “ว่าไงนะ พี่กั้งนัดเจไปตีแบดด้วยเหรอ” น้องพรทำท่าตกใจเมื่อได้ยินผมเล่าถึงแผนการตีแบดในวันพรุ่งนี้
                    “ทำไมล่ะ ไปกันหลายๆคนก็สนุกออก” ผมให้เหตุผล....น้องพรเอียงคอ....หรี่ตามองผมเพื่อค้นหาความจริง.........ผมยักไหล่ ทำท่าเมินมองไปทางอื่น.....
                    “บอกมาก่อนว่าพี่กั้งจะทำอะไร พี่กับเค้าไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วนี่” น้องพรคาดคั้นเอาความจริง.........หล่อนเป็นคนที่เห็นการเริ่มต้นของผมกับเจตั้งแต่แรก............เรื่องมันก็เกิดขึ้นที่สนามแบดอีกนั่นแหล่ะ............วันนั้นเราไปตีแบดกันสามคน..........มีผม น้องพรและก็เพื่อนสาว.........เจมากับเพื่อนของเค้า.........เนื่องจากว่าเราขาดคนเล่น น้องพรจึงอาสาไปเรียกเจและเพื่อนของเจมาเล่นกับพวกเรา เพราะถึงยังไงเค้าก็ไม่ได้จองคอร์ทเอาไว้.........เจมาแต่โดยดีแต่เพื่อนเค้ามีท่าทีอิดออด.........ตั้งแต่นั้นมาเราก็ได้มาตีแบดด้วยกันเสมอๆ..............ผมเป็นฝ่ายเริ่มจีบเค้าก่อน.........เราไม่ได้คบกันอย่างเป็นทางการ........เนื่องจากเจมีอะไรหลายอย่างที่ไม่โปร่งใส.........เค้าทำเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นเรื่องเล่นๆ..........แต่ผมไม่ชอบคบใครเล่นๆ........เมื่อเวลาผ่านมาได้ซักระยะ ผมจึงเลิกสนใจเค้าไปโดยปริยาย...........
                     “พี่จะไปมีปัญญาทำอะไรเค้าได้ ก็ถ้าเค้าอยากมาพี่ก็แค่ชวนเค้ามา มันก็เท่านั้น”....เหมือนงูกับไก่ที่รู้เช่นเห็นชาติกันดี.....เราสองคนไม่ต้องอธิบายอะไรมาก.....น้องพรพยักหน้าหงึกหงัก.........หล่อนเข้าใจแผนที่ผมคิดโดยที่ไม่ต้องอธิบายให้เปลืองน้ำลาย...........

                       “พรุ่งนี้เราไปตีแบดกันนะ” ผมบอกนัทระหว่างทานอาหารเย็น
                       “มีใครไปมั่ง” นัทซักไซ้........เค้าไม่มีปัญหาเรื่องไปไหนมาไหนกันเป็นกลุ่ม.........มันคงทำให้รู้สึกปลอดภัยจากการโดนเพ่งเล็งมั้ง.....
                      “ก็กลุ่มเดิม และก็มีเจมาเพิ่มอีกคน” ผมบอก.......ก่อนจะทิ้งปริศนาเอาไว้ในน้ำเสียงเมื่อกล่าวถึงเจ.............

                      ผมเห็นเจนั่งรออยู่ในสนามแบดก่อนแล้ว เมื่อพวกเรามาถึง...........วันนี้เป็นวันรวมกิ๊กและแฟนปัจจุบันของผม.........มีปอหนุ่มที่ไม่ยอมคบกับผมเพราะเหตุผลทางศาสนา........เจ กิ๊กเก่าที่เล่นตัวมากเกินไปจนน่าเบื่อ (คงคิดว่าตัวเองวิเศษนักหนากระมัง) และนัทคนเจ้าอารมณ์และชอบเอาแต่ใจ.....ที่ขาดไม่ได้คือน้องพรตัวช่วยที่สำคัญในทุกสถานการณ์.....
                      “หวัดดีครับพี่กั้ง” เจเดินรี่เข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...........ผมแนะนำนัทและปอให้เจรู้จัก.......สถานการณ์เริ่มส่อเค้าอึมครึม.............จากรูปการณ์แล้วผมอาจดูเหมือนคนมักมากหลายใจ.......แต่ความจริงหากจะถามผมสักคำโดยไม่รีบด่วนตัดสินจากภาพที่เห็นภายนอกเสียก่อน จะรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย.............ถ้าจะถามถึงในใจของผมตอนนี้ ผมมีเพียงนัทคนเดียวเท่านั้น.........โดยเนื้อแท้แล้วผมไม่ใช่คนหลายใจ.......ถ้าลงได้ตัดสินใจเลือกใครสักคนแล้ว เอาคอเป็นประกันได้เลยว่าผมจะไม่มีวันนอกใจเค้าโดยเด็ดขาด.........เพื่อนสนิททุกคนต่างลงความเห็นว่าผมเป็นคนดูมารยา......ลีลายั่วยวนเจนจัดชั้นเซียน.....ยากนักที่คนภายนอกจะรู้ได้ว่า จริงๆแล้วผมมีทัศนะอย่างไรหากไม่ได้เข้ามาสัมผัสให้ลึกซึ้ง........
                     “ความที่ดูแพรวพราวมากชั้นเชิงคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แกขึ้นคาน” นี่เป็นคำวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาของกูรูทั้งหลาย........ประการที่หนึ่งก็คือการที่ผมดูแพรวพราวจนเกินไปจะเป็นการสกัดคนดีๆที่อาจจะสนใจเราออกไปตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้าศึกษานิสัยใจคอ........ประการที่สองคนประเภทที่ชอบความแพรวพราวดังกล่าวเมื่อเข้ามารู้จักตัวตนที่แท้จริงอันแสนจืดชืด สนิมสร้อยที่ซ่อนอยู่ก็จะหนีหายเข้ากลีบเมฆไปโดยพลัน.....สรุปแล้วเป็นกั้งนี่ไม่มีอะไรดีสักกะอย่างเดียว..........ผมก็แค่อยากเจอใครดีๆที่จริงใจจะเข้ามาคบหาเหมือนคนอื่นๆนั่นแหล่ะ.....แล้วทำไมอะไรต่ออะไรสำหรับผมมันถึงได้ยากจังล่ะ..........

                     ในฐานะที่เจเป็นแขกที่มาทีหลัง ผมจึงให้เกียรติตีคู่กับเค้า ในขณะที่น้องพรตีคู่อยู่กับนัท....เจเล่นแบดได้ไม่ค่อยดีนัก.......ผมจึงต้องเหนื่อยแรงมากกว่าปกติ..........สถานการณ์ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง......ผมสังเกตว่านัทชอบตีใส่เจแรงๆ.....ในขณะที่เจเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน..........เอ....หรือว่าผมจะคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปเนี่ย....อิอิ.....

                      ระหว่างพัก....ผมเดินไปเข้าห้องน้ำ.........น้องพรรีบวิ่งรี่ตามมากระซิบกระซาบทำปากยื่นปากยาว....
                     “พี่กั้งๆ ตอนที่น้องตีคู่กับไอ้นัทนะ น้องยุมันด้วยว่าพี่กั้งกับเจเล่นเข้าขากันดีเนาะ”  ผมหยุดชะงักฟังอย่างตั้งใจ.....ทำงานได้อย่างใจผมจริงๆ.....ขนาดไม่ได้เตี้ยมกันไว้นะเนี่ย.....
                    “เหรอ แล้วเค้าว่าไงล่ะ” ผมทำเป็นไม่อยากรู้....
                   “มันก็บ่นพึมพำคนเดียวว่าเดี๋ยวโดนๆ ทำนองนี้แระ น้องเงี่ยหูฟังได้ยินพอดี” หล่อนคงมัวแต่เงี่ยหูฟังจนไม่เป็นอันตี
แบดสินะ.....อิอิ
                  “แล้วน้องก็ยุมันต่อว่าทำไมไอ้เจชอบตีใส่นัทแรงๆ ไอ้นัทมันก็เลยว่าจริงหรือพี่ เดี๋ยวเถอะมึงๆ เล่นมันมั้ยพี่ เล่นมันมั้ย” น้องพรเล่าพลางหัวเราะทำท่าชอบใจ
                  “เหรอ....ประสาท” แม้จะทำท่าว่าเรื่องที่ได้ยินเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ลึกๆแล้วผมรู้สึกสาแก่ใจนัก........... 

                      เรากลับมาเล่นต่อหลังจากพักเหนื่อยได้ครู่หนึ่ง………….
                  “อือหื้อๆ พี่กั้งลีลาสวยยยย” เจเดินเกร่เข้ามาส่งเสียงแซวอยู่ข้างสนามระหว่างที่ผมกำลังตีกับคนอื่นๆ.............เริ่มแล้วสินะ.....ผมคิดในใจ...........ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเค้ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่......ผมไม่โต้ตอบใดๆ.........ตามน้ำน่าจะดีกว่าไม่ใช่หรือ......
เจพยายามทำตัวเหมือนสนิทสนมกับผมจนออกนอกหน้า.....เค้ายังคงนั่งอยู่ที่ขอบสนาม....พูดและก็พูดไม่หยุด..........นึกรำคาญอยู่เหมือนกัน แต่ผมจะไม่ยับยั้งเค้าหรอก.......เพราะผมเองก็อยากให้เค้าทำแบบนี้อยู่แล้ว..........
                     
                          “เจเข้ามาตีสิ เดี๋ยวพี่จะนั่งพักก่อน” ผมบอกให้เจเข้ามาเล่นแทน.........เจเข้าไปตีคู่กับปอส่วนนัทตีคู่กับน้องพร............เกมส์เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด..........ผมรู้ว่าทั้งเจและนัทต่างฝ่ายต่างพยายามชิงไหวชิงพริบกันอยู่.............นัทคอยพูดจาเยาะเย้ยถากกางเจต่างๆนานา..........แต่ในขณะเดียวกันเจเองก็ตอบโต้ตามสไตล์นิ่มๆของเค้า............ตลกดี...........ผมจะปล่อยให้เค้าสนุกกันโดยที่ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมจะได้ยังไง.........ผมจึงเดินเข้าไปยืนที่ขอบสนาม........
                   
                    “ทำไมไม่รับอ่ะ” นัทตะโกนส่งเสียงเย้ยเจ............ทั้งๆที่ตัวเองตบลูกออกไปนอกสนามตั้งวา
                    “ลูกออกตั้งวา ใครรับก็โง่แล้ว” ผมยื่นปากเข้าไปสอด
                    ปอเดินไปเก็บลูกกลับมาเสิร์ฟใหม่.............และโดยที่ทุกคนไม่ทันได้คาดฝัน............นัทตบลูกผัวะมาที่ผมอย่างแรง............ผมขยับตัวหลบ.............ไม่พูดอะไรนอกจากหัวเราะแล้วเดินกลับไปที่นั่ง.............อิอิ สะใจจริงๆ............หึงจนเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่เลยเหรอเนี่ย..........ทำตัวยังกะเด็กๆ......
                        เรื่องสนุกๆแบบนี้จะปล่อยให้จบไปง่ายๆได้ยังไง............หลังจากที่กลับมานั่งดูอยู่ห่างๆ ผมจึงเดินกลับไปที่ขอบสนามใหม่อีกรอบ.........หุหุ...........แกล้งยั่วให้โมโหอีกดีกว่า..............ไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไรด้วยซ้ำ.......แค่เดินไปยืนที่ขอบสนามเฉยๆ........นัทก็ตบลูกขนไก่มาใส่ผมอีกครั้งคราวนี้แรงกว่าเดิม............ทุกคนในสนามตกตะลึงซ้ำสองกับพฤติกรรมดังกล่าว.............
                      “บ้าเอ๊ย” ผมบ่นเบาๆ ก่อนจะเดินออกมาแอบยิ้มอยู่คนเดียว...........อยากจะด่าอยู่เหมือนกัน............แต่จะด่าไปก็รังแต่จะอายคนอื่นเค้าเปล่าๆ สู้สงบปากสงบคำเอาไว้จะดีกว่า..........

                         ขากลับจากเล่นแบดผม นัทและน้องพรขับรถเลยไปกินข้าวเย็นกันต่อ............รถเคลื่อนมาหยุดตรงสี่แยกระหว่างที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง
                       “อ้าวนั่นเจนี่” น้องพรชี้ไปยังรถจักรยานยนตร์ที่จอดรอสัญญาณไฟอยู่ข้างๆ……..
                       “เจๆๆ” นัทเลื่อนกระจกลงก่อนจะตะโกนทัก พลางทำหน้าตาล้อเลียนหัวเราะชอบใจ.........เชื่อเค้าเลย.............เด็กจริงๆ..............ผมเห็นสีหน้าเจสลดวูบลง หุบเหลือเพียงแค่สองนิ้ว............ไม่เห็นจะสดชื่นดูเจ้าแผนการเหมือนเมื่อครู่นี้เลย.............ลิ้มรสความพ่ายแพ้แล้วสินะ...............ผมตวัดสายตาเหลือบมองเจเพียงแวบเดียวก่อนจะใส่เกียร์ขับรถพุ่งออกไปเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว........ทิ้งเค้าเอาไว้เบื้องหลังกับความรู้สึกอย่างไรนั้นผมก็สุดจะคาดเดา.........รู้แต่ว่าคงไม่ใช่ความรู้สึกมีความสุขแน่ๆ.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2007 07:51:49 โดย moody »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #167 เมื่อ18-06-2007 11:48:21 »


............ณ ตอนนี้ก็อยู่ดีมีวามสุข........

............แล้วทำไมต้องหาเรื่องมาใส่ตัว.......... :undecided: :undecided:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #168 เมื่อ18-06-2007 12:07:44 »

ไอ้นัทมันน่ารักดีเนาะ

ว่าแต่  คุณพี่นะ-ดอก-ไม้จังเลยเนาะ

เอาฉายา...ประดิษฐ์...ไปใช้หน่อยไหมเคอะ

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #169 เมื่อ18-06-2007 13:21:09 »

ดอกตรงไหน....ใส่ร้ายกันชัดๆ......หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #169 เมื่อ: 18-06-2007 13:21:09 »





ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #170 เมื่อ18-06-2007 14:19:25 »

ความรักไม่ใช่เกม
 m3

tor13

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #171 เมื่อ18-06-2007 15:23:00 »

 o16เห็นด้วยกับรีบนว่าไม่ใช่เกม m4 m4
แต่ถ้ามีอะไรที่น่าตื่นเต้นก็น่าลองน่ะจะได้ไม่จืดชืด :teach: :teach:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #172 เมื่อ18-06-2007 17:15:45 »

ไม่ได้คิดว่าเป็นเกมส์สักหน่อย...........คุณ Blue น่ะ ชอบมองโลกในแง่ร้าย.............คิดแต่ว่าตัวเองรู้จักความรักอยู่คนเดียวรึไง

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #173 เมื่อ18-06-2007 17:23:05 »

แก่นเซี้ยวนะเคอะคุณพี่

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #174 เมื่อ18-06-2007 19:03:17 »

 :เฮ้อ: ถ้าคุมสถานการณ์ไม่อยู่ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง  :undecided:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #175 เมื่อ18-06-2007 21:40:39 »

คุณพี่นี่ช่างคิดยอกย้อนจริงๆ
ซับซ้อน  การกระทำไม่ตรงกับใจ  เป็นแฟนคุณพี่นี่เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย 
ไม่ธรรมดาๆ อิอิ  แต่ก็น่ารักดีนะ (ถ้าได้อ่านความคิดนะ)  :laugh3:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #176 เมื่อ19-06-2007 08:16:10 »

                         อาทิตย์หน้านัทก็จะออกไปฝึกงานที่โรงพยาบาลชุมชนแล้ว คิดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็พาลจะหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียดื้อๆ.........ช่วงที่ผ่านมาเราสองคนตัวติดกันตลอด...........แม้ว่าความสัมพันธ์จะยังไม่ชัดเจนนักสำหรับนัท............แต่สำหรับผมแล้วเค้าคือสิ่งเดียวที่มีค่ามากที่สุดในขณะนี้...........ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผ่านมาของผมก็ว่าได้.............

                        “นัทเค้าจะสอบวันพรุ่งนี้แล้ว พี่จะซื้ออะไรให้เค้าดีนะ” ผมปรึกษาน้องพร ระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินชอบปิ้งแถวย่านหลังมหาวิทยาลัย........ผู้คนคึกคักพอสมควรสำหรับช่วงหัวค่ำเช่นนี้....
                       “พี่กั้งก็ซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนสิ” น้องพรแนะ..........อืม........เป็นความคิดที่ดีไม่เลว........เราตัดสินใจแวะเข้าร้านเครื่องเขียนเล็กๆตรงหัวมุมถนน...........คนขายเป็นป้าแก่ๆท่าทางใจดี...........ผมเดินเลือกของที่คิดว่าจำเป็นสำหรับใช้ในการอ่านหนังสือสอบ สองสามอย่าง............อาทิ ปากกา ดินสอกด ยางลบ......ปากกาเน้นคำ น้ำยาลบคำผิด..........
                      “เค้าต้องประทับใจแน่ๆเลย พี่กั้งนี่ละเอียดอ่อนดีเนาะ คราวหลังน้องจะจำเอาไว้ใช้มั่ง” น้องพรทำท่าประจ๋อประแจ๋.........วิถีของผมมักโดนนำไปใช้เป็นต้นแบบของหล่อนเสมอ...........อยู่ใกล้ใครก็เลียนแบบคนนั้น เห็นทีจะจริงอย่างเค้าว่านั่นแล้ว.............ใช่สิน้องพรเอ๋ย........ต่อให้เค้าใจแข็งเป็นหินแค่ไหน เจอเข้าแบบนี้รับรองต้องอ่อนระทวย.......ผมแอบยิ้มกริ่มอยู่ในใจ

                     “อ่ะพี่ให้” ผมยื่นถุงอุปกรณ์เครื่องเขียนให้นัทหลังจากขับรถเข้ามาจอดใต้คอนโดแล้ว...........เค้าทำหน้าเหรอหรา.......สงสัยคงจะงง
                    “อะไรอ่ะ” นัทรับถุงไปแกะออกดู…..ท่าทางอยากรู้อยากเห็น
                    “พี่เห็นว่านัทใกล้จะสอบแล้ว เลยซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนมาให้” ผมว่า.....พยายามซ่อนยิ้มเอาไว้ในแววตา..........เมื่อเห็นท่าทางนัทดีใจกับสิ่งที่ได้รับจนออกนอกหน้า...........ถึงมันจะเป็นของเล็กๆน้อยๆ แต่มันแสดงถึงการใส่ใจต่อกัน.........เรื่องแบบนี้ถูกนำมาใช้มัดใจใครๆมานักต่อนักแล้ว..............
                   “น่ารักจัง” นัทเผลอเอ่ยปากชมออกมาในที่สุด............ผมรู้ว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจพูดคำนั้น........แต่มันเป็นความรู้สึกที่หลุดออกมาเองโดยอัตมัติ.............ได้ผลเกินคาดแฮะ........เค้าเลือกเอาเพียงบางอย่างแล้วยื่นส่วนที่เหลือกลับมาให้ผม
                  “อ่ะ นัทเอาแค่นี้” ผมรับกลับคืนมาอย่าง งงงวย
                  “ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอ” แปลกเหลือเกิน มีคนประเภทนี้ด้วยหรือ.....
                 “พวกนี้นัทมีแล้ว นัทเลือกเอาแต่อันที่นัทไม่มี” เค้าอธิบายเหตุผล.............มักน้อยจังเนาะ.........ทั้งๆที่ผมตั้งใจให้ไปทั้งหมด แต่เค้ากลับเลือกจะรับเฉพาะเท่าที่เค้าต้องการ............หวังว่าเค้าคงไม่ปฏิบัติในแบบเดียวกันต่อความรักที่ผมให้ไปหรอกนะ............เลือกรับไว้เฉพาะที่ต้องการ................

                 วันนี้นัทเอาหนังสือมาด้วย สงสัยจะเอามาอ่านที่ห้องผมเหมือนเคย................
                 “นัทไม่ค้างที่ห้องพี่กั้งนะ ขืนค้างเดี๋ยวก็ไม่ได้อ่านหนังสือกันพอดี” ดูพูดเข้าสิ..........ทำท่ายังกะผมจะเป็นมารผจญกระนั้น..........มาอ่านที่ห้องผมน่ะสิดี จะได้มีคนคอยปรนนิบัติพัดวีให้สำราญใจ อ่านหนังสือได้อักโข...........
                 “ตามใจสิ” ผมบอก.........เราควรจะคอยส่งเสริมแฟนของเราให้ทำในสิ่งที่จะเป็นผลดีต่อตัวเค้า..........จึงจะเรียกว่าแฟนที่ดี......
                  “วันนี้กินสุกี้นะ พี่ซื้อเครื่องมาเตรียมไว้แล้ว” กิจวัตรประจำวันของผมตั้งแต่คบกับนัทคือ..........หลังจากเลิกทำงานที่แลปในช่วงบ่าย..........ผมจะต้องรีบออกไปจ่ายตลาด........มาเตรียมอาหารไว้รอท่า.......ใจจริงอยากให้เค้าไปซื้อเป็นเพื่อนเหมือนกัน อย่างน้อยๆก็ยังจะพอมีคนช่วยหิ้วข้าวของบ้าง........แต่เมื่อนึกถึงท่าทางขึงตึง ร้อนเนื้อร้อนตัวของเค้าเวลาอยู่ข้างนอกด้วยกันทีไร.........ผมขอเลือกมาเดินซื้อเอง สบายใจกว่าเยอะ.........
สุกี้เป็นเมนูที่ทำง่าย ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก.........ขอแค่มีน้ำจิ้มอร่อยๆก็พอแล้ว.............นัทชอบกินสุกี้มาก.............ทำทีไรเกลี้ยงหม้อทุกที.............เคล็ดลับของน้ำซุปต้องใส่ซุปไก่ก้อน....อิอิ.............จนบางทีเค้าจะชอบบ่นให้ผมว่า
                 “ทำอะไรก็ใส่แต่ซุปไก่ ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย”...... หึ.........ก็เห็นกินหมดทุกทีแหล่ะ.........แล้วยังจะมาทำบ่น...........

                หลังจากทานอาหารเสร็จนัทก็ขึ้นไปนอนเอกเขนกบนเตียง อ่านหนังสือสบายใจเฉิบ...........นานๆเค้าถึงจะช่วยล้างจานหรือกวาดถูห้องสักที.............แต่ถ้าผมจะปล่อยให้เค้าทำงานพวกนั้น ผมเองก็คงจะไม่สบายใจ...........ใครมาเห็นเข้าก็คงจะเอาไปนินทาว่าเราใช้แฟนทำงานบ้านให้เสื่อมเสียชื่อเสียงไปเปล่าๆปลี้ๆ.......................ผมจะไม่ร้องขอให้เค้าทำงานพวกนี้หรอก...........เว้นแต่เค้าจะอาสาทำเอง.........ซึ่งก็ทำให้ผมปลื้มไปได้สามวันแปดวัน............แต่ก็นานๆจึงจะเกิดขึ้นสักที..........
                   "ไหนขอดูมั่งซิ.".........ผมเข้าไปคว้าเอกสารมาดูพลางล้มตัวลงนอนหนุนที่บั้นท้ายของนัท............เค้าเป็นคนอวบ บั้นท้ายนุ่มดี.............ผมชอบ...........บางทีก็ต่อยเล่นสนุกๆ.........
                   “อยู่ดีๆ” นัทขยับตัวหนี
                   “เดี๋ยวก็โดนหรอก.........เนี่ยชอบทำอย่างนี้อ่ะดิถึงไม่อยากมาอ่านหนังสือที่นี่อ่ะ” เค้าบ่นกระปอดกระแปด...........เดี๋ยวนี้ผมไม่สนใจแล้ว............อยากกอดผมก็จะกอด จะทำไม........ผมชอบกอดที่สุด.........โดยเฉพาะกอดคนตัวอวบๆแบบนี้...........อุ่นดี..........
                   “ไม่ยุ่งก็ได้” ผมแกล้งไม่ใส่ใจ เดินหลบออกไปยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียง...............ใครๆก็บอกว่า ผมดูไม่เหมือนคนสูบบุหรี่เลย.........โดยเฉพาะเพื่อนๆ มักจะต่อต้านเนื่องจากเห็นว่าทำให้เสียภาพลักษณ์คุณหนู....
                    “แกเลิกสูบได้มั้ย ทำตัวเหมือนกระหรี่” เพื่อนผมสะบัดหน้าใส่ ทำท่ารังเกียจทุกครั้งที่เห็นผมสูบบุหรี่..........และผมก็หยักไหล่อย่างไม่ยี่หระทุกครั้งเช่นกัน..................ความจริง เดิมทีผมเป็นคนไม่สูบบุหรี่เลย...............แต่ภายหลังอกหักจากเก้งครั้งก่อน............ผมก็สูบบุหรี่เรื่อยมา..........เหมือนทำเพื่อประชดชีวิต............แต่ก็สะใจดีเหลือเกิน............เลือดบ้าในตัวผมก็ยังพอมีอยู่เหมือนคนอื่นๆนั่นแหล่ะ.....................เมื่อติดแล้วจึงยากที่จะเลิก...........โดยเฉพาะคนที่มีจิตใจอ่อนแอแบบผม.......

นัทไม่ชอบให้ผมสูบบุหรี่..........เค้าเดินทำหน้างอมาเลื่อนประตูปิด..........เมื่อสูบบุหรี่เสร็จผมจะเดินกลับเข้าห้องจึงได้รู้ว่าเค้าล็อกประตูไม่ยอมให้ผมเข้าเสียแล้ว............เฮ้ย..........จะบ้าหรือไงเนี่ยยยยยยยยย...........
                     “ปิดประตูเดี๋ยวนี้” ผมเคาะที่กระจกแรงๆ............นัทเดินมาทำหน้าตาล้อเลียน............
                     “บอกว่าให้เปิดไง ไม่ได้ยินเหรอออออ” ผมตะโกนซ้ำ.........นัทยังคงทำเฉย..........เชอะไม่เข้าก็ได้..........ผมสะบัดหน้าใส่ ทำเป็นไม่สนใจ...........ในที่สุดเค้าก็เป็นฝ่ายยอมเดินมาเปิดประตูให้.......ผมแกล้งเดิรนลอยหน้าเข้ามาในห้อง............นัทคว้าข้อมือเอาไว้..........ก่อนที่ผมจะได้ทันสะบัดหลุด............เค้าก็ผลักผมลงที่เตียง...............ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาประชิดอย่างรวดเร็ว............ผมยังคงเชิดหน้าท้าทายต่อ ดูซิจะกระตุ้นแรงปรารถนาเค้าได้มากแค่ไหน................นัทยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนลมหายใจของเราแทบจะหลอมเป็นหนึ่งเดียว................ใจผมเต้นระส่ำ ตั้งตื่นเต้น ทั้งสะใจ.........
                   “ไปบ้วนปากก่อนไป เหม็นบุหรี่” โฮะ.....พูดซะหมดอารมณ์เลย...................

นัทอยู่กับผมจนเวลาล่วงเลยมาค่อนดึก เค้าจึงเอ่ยปากชวนให้กลับไปส่งที่หอเนื่องจากพรุ่งนี้มีสอบ...................
                  “พี่กั้งไปส่งหน่อย” ผมขยับตัวลุกขึ้น แต่งตัวลวกๆ............ไม่อยากออกไปส่งเลย ขี้เกียจจัง......แต่ถ้าต้องไปส่งเค้าที่ห้องสอบแต่เช้าก็คงไม่เอาด้วยหรอก............อยากนอนตื่นสายๆมากกว่า...........ระหว่างที่เราเดินออกมาที่ลิฟต์………..เสียงโทรศัพท์ของนัทดังทำลายความเงียบขึ้นมาจนผมสะดุ้งสุดตัว...................
                   “ฮัลโหล” นัทรับโทรศัพท์ ทำเสียงอือๆออๆ ผมพยายามเงี่ยหูฟัง.............ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมานัทไม่เคยมีเรื่องเจ้าชู้ให้ได้หมองใจเลยสักครั้งเดียว............สังเกตุได้ไม่ยาก เวลาผมอยู่กับเค้าไม่ว่าจะยี่สิบสี่ชั่วโมง หรือสี่สิบแปดชั่วโมงก็ตาม จะไม่เคยมีแม้แต่เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามารบกวน...... ทั้งๆที่เปิดเครื่องไว้ตลอดเวลา.............โดยเฉพาะในยามวิกาลหลังสี่ทุ่ม.............ซึ่งหากมีสายแปลกๆเข้ามาหลังสี่ทุ่มแสดงว่าต้องมีอะไรแอบแฝง.........เพราะเวลาดังกล่าวผมถือว่าเป็นเวลาคุยโทรศัพท์ของคนพิเศษเท่านั้น............
                   “ไม่ช่ายยยย.....ไม่ใช่......ไม่ได้มีแฟน” นัททำท่าเขินอายแก้ตัวพัลวัล............เฮอะ ใครนะโทรมาถามเรื่องแบบนี้............แล้วทำไมนัทต้องแก้ตัวขนาดนั้นด้วย..........แคร์เค้ามากเลยหรือไง....ผมพยายามระงับความโมโหเอาไว้ รอจนเค้าวางสายไป..................
                   “ใครโทรมา” เสียงผมเครียดจนดูเป็นคนละคน.....นัทเองก็คงตกใจไม่น้อย
                   “เพื่อน” นัทตอบสั้นๆ
                   “เพื่อนเหรอ เพื่อนต้องโทรมาเวลานี้ และถามเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ” ผมซักต่อจะเอาเรื่องให้ได้................ผมเกลียดการนอกใจที่สุด...........ถ้าจับได้ว่านอกใจกันล่ะก็......ต่อให้รักมากแค่ไหนผมก็จะเลิก.........ถ้าเลวอย่างอื่นผมไม่ว่า ยังพอทนกันได้.........
นัทส่ายหัว ทำท่าว่าจะไม่ยอมอธิบาย............แต่เมื่อเห็นสีหน้าเอาจริงของผม สุดท้ายเค้าจึงยอมแพ้......
                   “อีพี่กั้งบ้า คิดเองเออเอง ก็บอกว่า เพื่อนๆๆ” ผมยังยืนกระต่ายขาเดียว...........ถ้าไม่อธิบายผมจะเลิกจริงๆ.....ไม่ได้พูดเล่น..........เหมือนนัทจะมีสัมผัสพิเศษ...........เค้าจึงอธิบายต่อ
                  “ก็เพื่อนจริงๆมันชื่อนังจูน เป็นกระเทย มันโทรมาตามเอาชีตส์ที่นัทยืมมันมา พี่กั้งก็เคยเห็นแล้วนี่” เหรอ........ผมคิดในใจ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ
                 “ถ้าไม่เชื่อ ก็พานัทไปที่หอมันเลย นัทจะเอาชีตส์ไปส่งมันเนี่ย” นัทย้ำความบริสุทธิ์ใจ จนผมคลายใจลงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่วายค่อนขอด
                  “จะให้พาแฟนไปส่งที่หอชู้เหรอ.....เฮอะ”  นัทหลิ่วตามอง.......ก่อนจะผลักศรีษะผมเบาๆ.....เป็นอันต้องจบคำถาม.........
                 
                 ไม่ใช่ว่าผมเชื่อในสิ่งที่เค้าพูดหรอก...........แต่ก็เป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าเค้าจะพูดความจริง.........เพราะผมเคยเห็นรูปน้องจูนนั่นมาก่อนแล้ว เป็นภาพที่นัทเอามาให้ดูตอนเค้าไปงานเลี้ยงอำลานักศึกษาปีสุดท้ายของคณะ.....หล่อนแต่งสาวเลยล่ะ และก็ไม่สวยด้วย อิอิ........และนัทเคยเปรยให้ฟังว่ายืมชีสต์เพื่อนมา..........อีกอย่างช่วงนี้เค้าหายตัวไปจากหอบ่อยๆ เพื่อนย่อมต้องสงสัยว่านัทมีแฟนหรือเปล่า...........เมื่อโดนแซวเค้าจึงปฏิเสธพัลวัลแบบนี้...........และที่สำคัญดูจากแววตาผมเชื่อว่าเค้าไม่โกหก.........

                  ตลกดีนะ ผมหึงเค้าด้วยเหรอเนี่ย...............และเค้าก็กลัวเวลาผมหึงด้วย.............อย่างน้อยๆจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็พอจะบอกได้ว่า ความสัมพันธ์ของผมกับนัทกระชับเข้ามาอีกก้าวหนึ่งแล้ว.....ผมมีสิทธิ์จะหึงเค้า.....และเค้าก็แคร์ผมด้วยแหล่ะ.......ไม่เสียแรงเลยกั้งที่สู้อุตส่าห์อดทนทำความความดีมาตลอด......พยายามอีกสักหน่อยก็คงจะเข้าใกล้ความจริงแล้วกระมัง............

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #177 เมื่อ19-06-2007 08:48:04 »

ขอสารภาพนะครับ ผมอ่านทีไรมีอึ้งทุกทีซิ    :try2: :try2: :try2:

ทำไม  ความคิดช่างแพรวพราว ขนาดนี้เนี่ย     o13 o13 o13

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #178 เมื่อ19-06-2007 11:31:59 »

จริงดิ....อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #179 เมื่อ19-06-2007 11:51:20 »

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆ

น้องรู้นะว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้..

“แกเลิกสูบได้มั้ย ทำตัวเหมือนกระหรี่”

แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็น..ขนมดังเมืองสระบุรี...แล้วนี่  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด