ตอนจบ
วันนี้คือปิดเทอมเดือนธันวาวันแรก ผมต้องทำภารกิจสำคัญนั่นก็คือกลับบ้านไปหาแม่! แม่ของผมอยู่คนเดียวที่บ้านเหงาๆยิ่งช่วงหลังๆมานี่ผมไม่ค่อยโทรหาท่านเพราะมัวแต่ขลุกอยู่กับแฟนผมยิ่งรู้สึกผิดจนอยากใช้เวลาอยู่กับแม่ให้นานที่สุด แต่รู้สึกผิดก็ส่วนรู้สึกผิด ปิดเทอมนี้ผมมีของกำนัลเทียบมูลค่ามิได้ไปง้อคุณแม่แล้ว
แม่จะต้องภูมิใจที่ผมหาผู้ชายพรีเมี่ยมมาฝากแทนของฝาก
ทีแรกผมก็ไม่ได้จะพาฟรานไปหาแม่ด้วยหรอก แต่เจ้าตัวส่งแววตาตัดพ้อมาไม่เลิกรา ทำประหนึ่งว่าไม่ได้เจอหน้าผมสักเดือนนึงจะขาดใจตายสุดท้ายผมก็ใจอ่อนยอมให้ติดสอยห้อยตามมาด้วยจนได้
“หึหึหึ”
“อย่ายิ้มชั่วร้ายแบบนั้น มันไม่น่ารัก”ของฝากพรีเมี่ยมของผมเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง
“เดินตามมาเร็วๆ เราจะไปเซอไพรส์แม่กัน!”ผมหันไปกวักมือเร่งคนที่เดินถือกระเป๋าชักช้าอยู่ด้านหลังให้เข้ามาในโซนของรีสอร์ทเร็วๆ เนื่องจากวันนี้เป็นวันธรรมดาผมเลยมาหาแม่ที่ออฟฟิศ อ๊ะ ผมเคยบอกรึยังว่าแม่ผมเป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ชลบุรีน่ะ?
ผมเป็นเด็กทะเลที่ตัวขาวจั๊วะ
“อ้าว น้องครามไม่ได้เจอกันเลยลูกคิดถึงจังไม่สูงขึ้นเลยลูก ตายจริงพ่อหนุ่มคนนี้ใครเนี่ยหล่อมากเลย ที่กรุงเทพนี่มีแต่ผู้ชายหล่อๆหรือไงนะ แฟนเก่าน้องฟ้าคนนั้นก็หล่อวัวตายควายล้มเลยลูก โอ๊ยยย ชื่ออะไรจ๊ะ”
“ป้าเนียร อย่าเนียนจับเนื้อต้องตัวฟรานของผมนะ!”ผมรีบปราดเข้าไปกันท่า ป้าเนียรนี่ยังไงกันทักผมว่าเตี้ยแต่ดันชมคนอื่นเปราะ ฮึ่ยยย ไม่ต้องเอื้อมมือมาลูบหัวฟรานเลยนะ ฟรานด้วยอย่ายืนเฉยๆให้ป้าเขาแต๊ะอั๋งซี่!
“หวงซะด้วย ฮ่ะๆๆ ป้าไม่แย่งจ้าป้าไม่แย่ง ไปหาคุณแม่เถอะบ่นหาเรามาทั้งเทอมถ้าได้เจอหน้าลูกชายต้องดีใจแน่ๆ”ป้าเนียรแค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แกเป็นมือขวาของแม่ผมเอง ทำหน้าที่ตั้งแต่แม่บ้าน คนสวน ยันผู้จัดการรีสอร์ท
ผมเดินนำไปตามทางที่คุ้นเคย พอถึงบ้านสำนักงานหลังเล็กก็ไม่รอช้ารีบวิ่งไปเปิดประตูพร้อมตะโกนดังๆว่า”ลูกรักของแม่กลับมาแล้วจ้า!!!”
คนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานเงยหน้าขึ้นมาจากแล็ปท็อป เมื่อแม่เห็นผมแม่ก็ทำหน้าเหวอๆเหมือนไม่คาดฝันว่าผมจะกลับบ้าน”คิดถึงแม่จัง!”ผมกระโดดผล็อยเข้าไปกอดคอคุณแม่ที่รักและแถมด้วยการปีนไปนั่งตักอย่างไม่เกรงใจน้ำหนักตัวเอง
”มายังไงไปยังไงเนี่ยเรา สบาดีมั้ยทำไมเทอมนี้ไม่ค่อยโทรหาแม่เลยเป็นห่วงนะรู้มั้ย แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ”แม่กอดตอบผมก่อนจะหันไปทักฟราน
คนที่หาคิวแทรกไม่ได้รีบยกมือไหว้ก่อนแนะนำตัวสั้นๆว่า”สวัสดีครับ ฟรานครับ”
ชิ๊
ทีกับผมนะกำชับคำว่าแฟนซ้ำแล้วซ้ำอีกไหงทีงี้อยู่ต่อหน้าแม่ผมถึงไม่ยอมแนะนำว่าผมเป็นแฟนอะ
อ๊ะ หรือว่าผมต้องเป็นคนแนะนำเอง
อ้อ ได้ๆ
“ลูกเขยแม่อะ เป็นไง หล่อมะ”
“!!!”คนถูกแนะนำตัวว่าเป็นลูกเขยทำหน้าอึ้งๆเชื่อว่าเจ้าตัวคงไม่คิดว่าผมจะบอกแม่ไปตรงๆแบบนี้ อาจจะกลัวว่าแม่ผมจะไม่ยอมรับหรือดุผมสินะ แต่เชื่อเหอะว่าแม่ผมไม่ว่าหรอก ตอนนี้เราเหลือกันแค่สองคนแม่ลูกกะอีแค่ผมชอบผู้ชายแค่นี้แม่ไม่ห้ามหรอก
“แม่ตกใจนะเนี่ย เอ๋~~ ฮ่ะๆ ลูกชายคนนี้นี่น้า...จริงๆเล้ยให้ตายเถอะ”
“แม่จะพูดว่าแรดจริงๆเล้ยก็พูดมาตรงๆไม่ต้องละไว้”
“รู้ตัวด้วยเหรอ”
“รู้สิ ถ้าไม่แรดนะไม่ได้คนนี้มาหรอก”
“อายหน่อยก็ดีนะ ดูฟรานสิเขินไปหมดแล้ว ฮ่ะๆๆๆๆ”
.
.
“เห้อ...”เมื่อเข้ามาในบ้านซึ่งปลูกติดกับรีสอร์ทฟรานก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“แม่ครามน่ารักมั้ย”ผมถามคนข้างๆด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
“น่ารักทั้งแม่ทั้งลูกเลย”
“น้ำเสียงดูประชดๆเนอะ”
“น่ารักจริงๆ”พอถูกผมทำหน้างอนใส่อีกฝ่ายเลยพูดย้ำด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นอีก คราวนี้ผมจะยอมเชื่อก้ได้ว่าผมน่ารัก คิกคิก
“ฮ่ะๆๆ เรา...ไปเดินเล่นกันเถอะ!”เล่นพูดด้วยแววตาจริงจังแบบนั้นก็เขินดิ เห็นด้านๆแบบนี้ผมก็ขี้อายไม่แพ้กันหรอกกกก
ผมกะชวนฟรานไปเดินเล่นชมวิวที่ทะเล แต่ก่อนจะออกทะเลมันต้องเดินผ่านส่วนฐานแอดเวนเจอร์ก่อนไงผมก็เลยแนะนำคร่าวๆว่า”ช่วงรับน้องที่นี่ขายดีมากเลยนะ เด็กคณะที่มีเงินหน่อยจะมาเช่าทำกิจกรรมกันเพราะเครื่องเล่นของเราค่อนข้างใหม่แล้วก็มีกิมมิคเล็กๆน้อยๆต่างจากที่อื่น ดูอันนั้นสิ...”
“เล่นกันมั้ย”
งานเข้ากูแล้วววว
“เล่นตอนนี้ไม่ได้ ต้องมีพนักงานดูแลตามมารตฐานความปลอดภัย”ผมแถไปโน่น ความจริงคือปอดแหกเอง เกิดและโตมาพร้อมกับฐานกิจกรรมเข้าค่ายแต่ไม่เคยขึ้นไปเล่นสักครั้ง
“หึ”
“หัวเราะเหยียดกันเหรอ?”
“เปล่าๆ ไปเดินริมหาดกันเถอะ พกหมวดปีกกว้างมาด้วยรึป่าวจะได้ถ่ายรูป แสงตอนนี้สวยกำลังดีเลย”ได้ยินฟรานพูดแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนโดนตามใจอยู่เลยแฮะ
ผมมุ่ยหน้าและเดินนำไปที่ทะเล ชายหาดบ้านผมค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะวันนี้ไม่มีแขกมาพักพอดีคงเพราะมันเป็นหน้าหนาวแถมเพิ่งเลยปีใหม่มา ปกติบ้านผมมีแขกมาพักเยอะนะขอโม้!
“นี่ๆ วิวนี้โอเคป่าว ย้อนแสงมั้ย”
“สวยแล้วๆ ก้มหน้าลงมาอีกนิด โอเค 1 2… เปลี่ยนท่า โอเค 1 2…”
“ไหนๆ ขอดูหน่อยสิ โอ๊ะ สวยแฮะ มุมนี้มาถ่ายเองตั้งหลายรอบไม่เห็นออกมาเป็นแบบนี้เลย ฟรานส่งกล้องมาดิเดี๋ยวครามถ่ายให้มั่ง ตั้งมุมไว้เลยก็ดีครามชอบถ่ายเบี้ยว วันหลังน่าจะเอาขาตั้งกล้องมาด้วยเนอะจะได้ถ่ายรูปคู่ถนัดๆ ไปขอให้ป้าเนียรมาช่วยถ่ายจะได้เรื่องมั้ยเนี่ย...”ผมเป็นคนบอกให้ฟรานพกกล้องมาเองแหละ กล้องของฟรานเป็นกล้องโปรที่คุณภาพพรีเมี่ยมพอๆกับเจ้าของเลย
“ไม่ต้องก็ได้ ถ่ายแค่รูปสีครามคนเดียวก็พอ”เจ้าของกล้องกล่าวเสียงเรียบ
“ได้ไงล่ะ มาด้วยกันแต่มีรูปคนเดียวเนี่ยนะ อ๊ะ จะว่าไปในเฟสก็ไม่ค่อยลงรูปตัวเองเลยนี่ทำไมล่ะ ถ่ายไว้เป็นที่ระลึกไง”
“...”
“นะ รูปถ่ายมันมีความหมายนะ เหมือนหยุดเวลาได้เลยพอผ่านไปสักสิบปีแล้วย้อนกลับมาดูทั้งความรู้สึกทั้งความทรงจำในช่วงขณะนั้น...”
“ถ่ายก็ได้”ในที่สุดฟรานก็ยกธงขาวยอมแพ้
ผมยิ้มจนตาหยี รอให้ฟรานเซ็ตกล้องเป็นแบบนับเวลาถอยหลังและหาโลเกชั่นดีๆ
ผมเกิดที่นี่ โตที่นี่ ภาพทะเลกับท้องฟ้าที่นี่มีความทรงจำมากมายของผมอัดแน่นอยู่ ผมไม่เคยเห็นหน้าพ่อแต่ในอัลบั้มรูปสมัยแบเบาะของผมมีรูปที่พ่ออุ้มผมอยู่ มันทำให้ผมรู้ว่าอ้อ ครั้งนึงเราก็เคยเจอพ่อนี่นะ ผมเสียพี่ชายไปแล้วแต่ก็มีรูปคู่ของพวกเรามากมาย โดยเฉพาะรูปริมหาดแบบนี้มีไม่รู้กี่เซ็ตถ่ายตั้งแต่เด็กยันโตยังกับไดอารี่ติดตามพัฒนาการเลย แน่นอนว่ามีรูปของแม่ รูปของนิทาน รูปของเต้ย
ทุกคนที่เคยมาเที่ยวบ้านผมต้องมีรูปในวิวนี้ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึง!
“ได้แล้วนะ มุมนี้โอเคมั้ย มีท่าโพสต์บังคับมั้ย”
“รูปหัวใจ!”ผมวิ่งด๊อกแด๊กไปหาร่างสูงพร้อมตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ท่าโหลไปปะ”
“มันคือท่าบังคับของคนเป็นแฟนกันต่างหาก”
“อืมมม งั้นได้ ทำท่าหัวใจกัน”
“แต่ก่อนจะถ่ายสีครามต้องตอบคำถามผมมาก่อน”
“คำถามไรอะ”จะคบกันต้องมีสัมภาษณ์ด้วยหรือ
“ตอนฟังดนตรีสดด้วยกันที่คณะผมเมื่อวันนั้นสีครามเคยถามใช่มั้ยว่าหัวใจอยู่ที่ไหน และผมก็ตอบว่าอยู่ข้างความรัก”ร่างสูงเดินเข้ามาสวมกอดผม อกของเราแนบชิดกันจนสัมผัสได้ถึงหัวใจที่สั่นอยู่ภายในตัว
“วันนี้สีครามรู้รึยังว่าหัวใจของสีครามอยู่ที่ไหน”
“มามุกนี้ก็ตายดิ”ผมตอบแก้เขิน
“ฮ่ะๆๆๆ ตอบเร็ว”ฟรานกล่าวกลั้วหัวเราะ เขาปล่อยตัวผมเป็นอิสระเพื่อมองหน้าผมได้ชัดๆ พวกเราจ้องหน้ากันพักหนึ่งก่อนผมจะรวบรวมความกล้าสำเร็จ
“อยู่...ตรงนี้”ผมชี้นิ้วไปที่ฟราน ไม่กล้าสบตาเลยเฉไฉมองฟ้ามองทะเลไปเรื่อย
“อืม ให้มาแล้วผมไม่คืนนะ”
“ไม่เอาคืนหรอกน่า ฮึ่ยยย อย่ามาเล่นมุกจีบแบบนี้ได้ปะ ถ้าพี่ฟ้าดูอยู่ต้องหัวเราะลั่นแล้วแน่ๆ”พี่ชายผมเป็นคนขี้แกล้งจะตาย ถ้ารู้ว่าผมถูกสารภาพรักด้วยโมเมนต์แบบนี้พี่เขาต้องเข้าฝันมาล้อผมแน่!
“พี่เขาไม่หัวเราะหรอก พี่ฟ้าต้องดีใจที่ในที่สุดน้องน้อยก็มีคนดูแลแทนเขาแล้ว”
“...”
“รักสีครามนะ ขอบคุณมากที่เข้ามาเป็นแรงบันดาลใจของผม”
“ก็...รักฟรานเหมือนกันนะ”
พวกเราสวมกอดกันเบาๆเป็นการแลกเปลี่ยนหัวใจ ก่อนจะผละออกจากกันล่ายรูปคู่รูปแรกด้วยท่าโพสต์สุดคลาสสิค เอาไว้กลับกรุงเทพผมจะเอารูปนี้ไปอัดและซุกไว้ที่หัวเตียงแต่ต้องแอบๆหน่อยเดี๋ยวฟรานหาว่าผมเป็นโรคจิต
“เบื่อรึยัง”ฟรานถาม
“เดินเล่นอีกหน่อยก็ดี”
“โอเค”ร่างสูงตอบรับพร้อมส่งมือมาให้ ผมสอดมือตัวเองเข้าไปอย่างรู้งาน
พวกเราเดินจูงมือไปตามเส้งทางที่ผมคุ้นชิน ฟรานกระชับมือผมแน่นและหันมายิ้มให้ หากเป็นเมื่อครึ่งปีก่อนผมคงมาเดินที่นี่ด้วยจิตใจเศร้าโศกคิดถึงแต่พี่แล้วก็ร้องไห้ฟูมฟายไม่เป็นอันทำอะไร แต่คราวนี้ผมเลือกที่จะยิ้มกลับไป
เพราะมีผมเดินข้างๆฟรานถึงยิ้ม และรอยยิ้มนั้นก็ทำให้ผมยิ้มตาม
เป็นช่วงเวลาที่แสนธรรมดา ทิวทัศน์รายทางก็เห็นมาไม่รู้กี่รอบแต่นาทีนี้กลับรู้สึกได้ถึงความพิเศษ
พี่ฟ้าครับ วันนี้ผมมีแฟนแล้วนะ เขาเป็นผู้ชายที่มีดีตรงหน้าตาส่วนนิสัยผมไม่อยากจะโม้เดี๋ยวพี่ฟ้าอิจฉา แต่เอาเป็นว่าพี่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ เขารักผมและผมก็รักเขา ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับคนนี้ไปเรื่อยๆ ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้ก็ราบรื่น เกรดเทอมที่แล้วกระเตื้องขึ้นมาหน่อย คุณแม่ก็สุขสบายดี ผมจะรักษาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของผมในตอนนี้อย่างดีและจะทนุถนอมสิ่งที่พี่หลงเหลือเอาไว้เสมอ ทั้งคำสอนหรือความสุขที่พี่เคยมอบให้ผมจะไม่มีวันลืม
ความเศร้าที่สูญเสียพี่ไม่เคยจางหายไปไหน ทุกครั้งที่เห็นรูปของพี่ ทุกครั้งที่เดินผ่านที่ที่เคยเดินเคียงกันผมยังคงเสียใจเสมอเพราะผมยังคงรักพี่ชายของผมอยู่ แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ทรมาณอยู่ตลอดเวลาเพราะความรู้สึกรักของคนคนนึงและความสุขเล็กๆที่ได้เดินไปพร้อมกันกับเขาค่อยๆเติมเข้ามาจนเต็มที่ว่างในใจ
หนึ่งใจเต็มดวงในตัวของผม ❤
------------------------------
สีครามจบแล้วค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาถึงตรงนี้นะคะ
จุ๊บๆ
นี่ปกสีครามเอง รอเวอร์เต็มได้ที่เพจสนพ.นะคะ https://m.facebook.com/sensebookpublishing/
หรือถ้าใครว่างๆไม่มีนิยายอ่านก็ไปอ่านเรื่องใหม่ของเราได้ค่ะ
[คิดเล่นเป็นรัก]
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67054.0
ปะ ไปอ่านกันเถอะ
ปะ ไปอ่านกันเถอะ
ปะ ไปอ่านกันเถอะ
ปะ ไปอ่านกันเถอะ
ปะ ไปอ่านกันเถอะ
#ขายตรงสุดใจขาดดิ้น 5555