ตอนที่ 43 เพลงกล่อมของอโดนิส“ ไม่ใช่อโดนิสคนที่เจ้าคิดว่าข้าเป็นหรอก ” เขายิ้ม “ข้าเป็นโจรสลัดเปอร์เซีย ภายใต้การจ้างรบในทัพหน้าของไซรัสมหาราช ซึ่งจะโจมตีบาบิโลนเดือน 9 นี้”
ณ นาทีนั้น ผมได้แต่มอง - - ‘อโดนิส’ ชื่อนี้ ครั้งแรกที่ผมได้ยินตอน งานล่าสิงโต ท่านเซอซัสเป็นคนกำชับว่าห้ามพูดเรื่อง อโดนิส ให้ท่านบาลิธฟัง… แต่ว่า…อโดนิสแสนรักของท่านบาลิธ
ไม่ได้ตาย…
...เส้นผมที่ท่านบาลิธมโนถึงมาตลอด…เส้นผมที่ทำให้ท่านเซอซัสเลือกผม…ทำให้ผมได้เข้าวัง - -ผมกำลังมองเจ้าของของมันอยู่ และเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว
“ผมนึกว่า… ¬ ท่านบาลิธสั่ง - เอ่อ - -นึกว่าท่านตายไปแล้ว” พูดติดขัด
“สั่งประหาร…ใช่ ” อโดนิสพยักหน้า ตบโต๊ะ
“นากัล มีหลายอย่างที่ข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟัง และข้าสัญญาว่ามันจะหมดเปลือก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าอยากรู้ ข้าอยู่ตรงนี้แล้ว จะไม่มีอะไรปิดบังอีก… แต่ตอนนี้เจ้าเหนื่อยมามาก ทั้งโดนโจรจับมาหลายวัน เจ้าอาจจะติดเชื้อตามบาดแผล …ข้าต้องให้เจ้าไปอาบน้ำ กินอาหาร - -เราค่อยคุยกันจนเจ้าพักผ่อนเต็มอิ่ม”
“ไม่เป็นไรฮะ!” ผมอยากรู้เกินทน “แล้วท่านบาลิธจริงๆแล้วปล่อยท่านไปใช่มั๊ยฮะ? ใครเป็นคนบอกท่านเรื่องผม?- - จะส่งผมกลับบาบิโลนใช่มั๊ยฮะ?”
“นากัล” อโดนิสปรามผมด้วยเสียงอ่อนโยน “ไว้คุยกันเรื่องนี้ …ตอนนี้เจ้าต้องเชื่อฟังข้า…- -”
เขายืนขึ้น สั่งคนให้มาพาผมออกไป …อโดนิสตัวสูงโปร่ง มีกล้ามเนื้อผู้ชาย ผิวออกแดดไม่สม่ำเสมอ เขาผอมก็จริง แต่ไม่เปราะบาง …หากแต่แกร่งสู้ลมฝน เหมือนกับกระโดงเรือ เพียงแต่ใบหน้านั่น มันสวยราวกับฑูตสวรรค์เลย
แปปเดียว ผมถูกลูกเรือชื่อว่า เกร็นพาลงมาข้างล่าง… เกร็นส่งเสียงคุยเอะอะกับลูกเรือข้างล่าง ผู้ชายเปอร์เซียท่าทางสกปรก แต่ร่างกายกำยำพอๆกับพวกทหาร นี้คือพวกโจรสลัดจริงๆหรอ!? อโดนิสมาเป็นโจรสลัด!? แต่ผมไม่กลัวหรอกฮะ ผมคือนากัลนี่หน่า ขอให้มีอาหารและชีวิตที่ปลอดภัยก็พอแล้ว
..
เขาพาผมมาถึงระเบียงแข่ยื่นไปในทะเล แล้วสั่งให้ผมถอดเสื้อผ้า เกร็น เอาถังน้ำเปล่าเย็นๆมาราดใส่ผม และใช้ไม้ถูพื้น? ถูผมแรงๆ ดั่งก้อนอึที่น่ารังเกียจ
“โอ้ยย!! ” ผมร้องตกใจ เขาราดโซ่อีกอย่างรวดเร็ว
“ต้องขูดเอาขี้กลาก ขี้ไคลของเจ้าออกซะ…เราต้องอยู่บนเรืออีกนานโว้ย! เสี่ยงโรคหัดไม่ได้ดอก! ได้ฉิบหายกันหมด!!”
….
หลังจากการอาบน้ำ ผมสวมเสื้อผ้าใหม่ และก็ได้กินปลาย่างตัวโตที่สุด ผมไม่เคยรู้ว่าปลามันตัวใหญ่ได้ขนาดนี้เลย
ความมืดมาถึงแล้ว เกร็นบอกให้ผมเข้าไปรออโดนิสในห้องท้ายเรือ …ผมกำลังจุดไฟห้อยเพดานตอนที่อโดนิสเดินเข้ามา
- -
“นากัล- -” อโดนิสสวมเสื้อขาวบางๆแบบชาวเรือ
“อโดนิส ขอบคุณสำหรับทั้งหมดนะฮะ” ผมยิ้ม
เขาหัวเราะ มือถือแก้วเหล้า เขานั่งลงบนโต๊ะไม้ตรงข้ามผมดังโครม!! ดึงลิ้นชักออก
อโดนิสหยิบ กล่องๆหนึ่ง ตั้งไว้กลางโต๊ะ พลางจ้องผม…
เขาถอนใจเฮือกใหญ่มาก ลมหายใจส่งกลิ่นเหล้าคลุ้ง …เขาเลื่อนแก้วเหล้ามาทางผม
“ดื่ม!”
“ห๋า?”
“…ดื่ม..ดื่มเถอะ นั่นเป็นเหล้ากร็อกที่ข้าต้มเอง ” เขาทักท้วง
“เอ่อ..” อโดนิสมีสีหน้าดุๆ …จะให้ผมทำไงได้ละ! ผมยอมจิบเหล้าขืนๆ
“ดีมาก ต่อจากนี้เจ้าคงต้องกินมันเป็นเพื่อนข้า” เขายืดใหล่ “เอาหล่ะ! กล่องที่วางอยู่ตรงหน้า คือทั้งหมด…ที่เกี่ยวกับตัวเจ้า”
“เกี่ยวกับตัวผม?” ขมวดคิ้วฮะ “เกี่ยว?”
…เขาแกะจดหมายในกล่องออกมาคลี่
“ ถึงโดส เรื่องเร่งด่วนที่สุด เจ้าต้องรีบมาที่ท่าเรืออังคิต วันที่ 8 ของเดือน ก่อนเรือขนทาสของพวกโจรภูเขาเฮนน์จะมาถึง มองหาเด็กผู้ชาย ยิวอายุ 12 ขวบ ผมบลอนด์ ตาฟ้า เขาคือ นากัล…เจ้าทำพลาดไม่ได้เด็ดขาด นำเขาขึ้นเรือ และดูแลเขาให้ดีที่สุด จนกว่าข้าจะติดต่อไป ซ. ”
“ซ. ย่อมาจากเซอซัส เขาส่งมาสองวันก่อน ตอนรู้ว่าเจ้าถูกโจรจับไป…”
“ท่านเซอซัส!” หัวใจผมพองโต ดีใจจนน้ำตารื้นขึ้นมา “ท่านเซอซัสยังมีชีวิตอยู่ - -เอ้ะ แต่งั้น เขารู้มาตลอดว่าท่านไม่ได้ตาย?”
“ท่านเซอซัสช่วยชีวิตข้าไว้ - -ท่านเป็นยอดคนเลยล่ะ ” อโดนิสพูดด้วยน้ำเสียงเคารพมาก “ท่านเล่าเรื่องเจ้าให้ข้าฟังทางจดหมายตลอด…” บางอย่างในสีหน้าอโดนิสทำให้ผมเอะใจ
“เล่าเรื่องผมให้ฟังตลอด? แปลว่าพวกท่านติดต่อกัน แล้วท่านบาลิธไม่รู้ฮะ?”
“นากัล ฟังนะ” เขาตบโต๊ะ “ เรื่องที่ข้าจะเล่าให้ฟัง มันจะทำร้ายเจ้ามาก…เข้าไม่รู้ว่าเจ้าพร้อมสำหรับมันแล้วรึเปล่า? ”
ผมขมวดคิ้ว งุนงน “ทำร้ายผมงั้นหรอ? ยังไง”
นัยน์ตาสีฟ้าเป็นกังวลมาก อ้ะ!!หรือว่า!
ผมร้องเหวอ “ ท่านบาลิธตายหรอฮะ?!! พวกโจรชนะ!? ”
“ไม่ๆ ..ไม่ ไม่ บาลิธชนะอยู่แล้วสิ เขาไม่เคยแพ้ศึกไหนเลย …นากัล เขาไม่เคยแพ้!! นั่นคือสิ่งที่เขาเป็นมาตลอด” อโดนิสส่าย
หัว เขารวบผมทองไปไว้ข้างหลัง ถอนใจอีก “- -ไม่มีใครฆ่าคนแบบนั้นได้หรอก คนอย่างบาลิธน่ะ ” เขากลอกตา
ผมพยายามเข้าใจว่าอโดนิสซ่อนอะไรอยู่ เขาพูดเหมือนไม่ใช่ท่านบาลิธคนเดียวที่ผมรู้จัก ท่านบาลิธที่แสนสุขุม อ่อนโยน…ขอบคุณเทพเจ้าที่ให้ทั้งสองยังมีชีวิตอยู่
“เรื่องที่เกี่ยวกับตัวเจ้าเอง การได้เข้ามาในวัง แผนการณ์ต่างๆที่เซอซัสส่งมาบอกข้า และพรรคพวกชาวเปอร์เซีย”
เขายื่นจดหมายมากมายที่ผมอ่านไม่ออก วางเรียงตรงหน้าเป็นสิบๆแผ่น
“เจ้ารู้มั๊ย ว่าชื่อของเจ้า นากัลน่ะ มันฟังคล้ายชื่อเทพองค์หนึ่ง…” เขาก้มหน้ามาประชิด
“ฮะ…พวกชาวยิว…เอ่อ พวกทาสยิวในวังบาบิโลน เคยบอกผมว่า ผมเป็นตัวแทนของเทพ- -เนอร์กาล อะไรก็ไม่รู้ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ เป็นลางบอกว่าพวกเขาชนะ- -”
“ใช่ …เทพ เนอร์กาล คือเทพแห่งสงคราม และความตาย… ชาวยิวเป็นชนชาติที่มีศรัทราแรงกล้า เคร่งศาสนา พวกเราเปอร์เซียเชื่อว่า ถ้าสามารถทำให้ พวกยิวมาเป็นพันธมิตรได้ เราจะชนะสงครามครั้งนี้แน่นอน เราต้องการรวมชาติมากกว่าพิชิต ไซรัสมหาราชตรัสเช่นนั้น ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมละฮะ?”ผมถามซื่อ
อโดนิสขยับหน้าใกล้
“เจ้าคือ ผู้ที่จะทำให้ชาวยิวลุกขึ้นมาต่อสู้ มีทาสยิวจำนวนมาก อยู่ในแผ่นดินบาบิโลน ร่วมกว่า แสน…ถ้าสามารถรวบรวมกองกำลังยิวได้ เป็นพันธมิตรลับ เมื่อทัพของเราโจมตี ยิวจะช่วยถล่มจากด้านใน แน่นอนว่า ชัยชนะต้องตกเป็นของเปอร์เซียอย่างง่ายดาย
แต่เพราะพวกยิวยังหวาดกลัว …กลัวทหารและกฎหมายคาลเดียน เรารู้ดีว่ากองกำลังทางเปอร์เซียมีไม่มากพอ เราเสียคนไปมาก ในศึกอนาตาเลีย…และกำแพงของบาบิโลนแน่นหนาเกินไป จนเราไม่มีหวังจะชนะง่ายๆ”
อโดนิสก้มหน้าอ่านต่อ ชี้ในจดหมาย
“ ก็คือ เจ้า นากัล…ตามคำทำนายของชาวยิว เจ้าคือ ร่างทรงของเทพเนอร์กาล ใช้ศาสนาที่พวกเขาศรัทราอยู่แล้ว …เพราะ ความงมงายคือยาพิษ เซอซัสเคยบอกข้าแบบนั้น
แท้จริงแล้ว เจ้าจะต้องเป็นผู้นำทาสชาวยิวออกจากคุกใต้ดิน เจ้าต้องช่วยนำ ท่านไมคิส ออกจากการคุมขัง …และสุดท้าย เจ้าจะเป็นหนึ่งใน กบฎยิวที่ช่วยให้เปอร์เซียทำสงครามสำเร็จ ทั้งหมดนี้มันจะเกิดขึ้นถ้าเจ้าได้อยู่ที่วังต่ออีกซัก 2-3 ปี จนเจ้าเป็นหนุ่มที่ถูก เซอซัส ฝึกเพื่อทำลายล้าง”
“ผมไม่เข้าใจฮะ หยุดก่อนฮะ!”อโดนิสหยุด
ผมสูดหายใจ ทั้งหมดมันมากไป ผมตามไม่ทัน ไม่อยากจะเชื่อ
“ท่านเซอซัส จะฝึกผม- - ” ผมจุก “ทะ- -ท่านเซอซัส”
“เขาเป็นคนวางแผนทั้งหมด…” อโดนิสตอบเรียบๆ ซดเหล้าเพิ่มจนหน้าเริ่มแดง
“งะ- -งั้น ทะ- -” ร่างกายผมสั่น ไม่ใช่สิ! นี้มันไม่ถูกต้องหรอก
มันไม่จริง
.
ท่านเซอซัสไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกฮะ ตลกน่า
.
ผมลุกขึ้นยืน เก้าอี้ล้มโครมไปด้านหลัง ผมมองแผ่นกระดาษยู่ยี่สิบแผ่น
“ทั้งหมด คือ- -งั้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือแผนการณ์ พวกท่าน- -พวกเปอร์เซีย จะใช้ผม เพื่อชนะสงคราม?”
“เดี๋ยว นากัล!” อโดนิสร้อง “ข้ายังพูดไม่หมด””
“ท่านเซอซัส- -” น้ำตาผมหยด “ วางแผนใช้ผม?” อโดนิสรีบอ้อมโต๊ะมาทางผม ผมยืนตัวแข็งชา เขาจับใหล่ แต่ผมสะดุ้งและปัดออก แก้วเหล้าตกลงพื้นแตก!
“ข้าขอโทษ นากัล ข้ารู้ว่ามันจะทำร้ายหัวใจเจ้า แต่ข้าต้องทำหน้าที่อธิบายทั้งหมด… ท่านเซอซัสยังไม่ทันได้ฝึกเจ้า เขาทำไม่ลง เพราะเขารักเจ้า! แต่ชีวิตเขาถูกเลี้ยงมาเพื่อสงครามครั้งนี้ เพื่อเป็นไส้ศึก …เจ้ายังไม่รู้ว่าตัวจริงของเขาคือใคร ได้โปรดให้ข้าอธิบายนะ นากัล!”
ผมถอยหนีเขาอย่างรวดเร็ว แล้วผมก็สะอื้นเฮือกเสียงลั่น …
ผมวิ่งไปชนกล่องไม้ข้างห้อง และเซล้ม
อโดนิสไวมาก เขาประคองกอดผมไว้ …ในร่างผอมๆ แต่รัดแน่นเหมือนกลัวว่าผมจะหล่นหายไป
“ชู่…ชู่ ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าจะเป็นอโดนิสของเจ้า ข้าจะดูแลเจ้านะ…” เขาลูบหัวผมไม่หยุด
น้ำมูกผมเลอะผมสีทองสวยของอโดนิสหมดเลยอะ
“ข้าต้องอ่านจดหมาย ฉบับวันนี้ให้เจ้าฟัง…เซอซัสส่งมาเมื่อเช้า” เขาค่อยๆคลายกอด และมองตรงที่ตา “ มา!นั่งลง - - ข้าจะอ่านให้ฟัง”
อโดนิสพาผมกลับไปที่เก้าอี้ มืออโดนิสทาบบนหน้าผากผม อุ่นจัง ไม่อยากให้ปล่อยเลย
เขาลูบเส้นผมเบาๆ ก่อนจะเริ่มอ่านจดหมายฉบับนั้น
“ ถึง โดส
ข้าตัดสินใจแล้ว นากัลจะไม่กลับมาอีก …ข้ายอมผิดคำสาบานเลือด แต่ข้าเลือกสิ่งนี้ เจ้าต้องพานากัลกลับไปที่ ไร่ยูเทนส์ บ้านเก่าข้า ผู้เฒ่าจะดูแลเขา บอกความจริงเขาทั้งหมด ข้าต้องการให้นากัลมีชีวิตที่ดี และเหนือสิ่งอื่นใด มีอิสรภาพ อย่างที่เขาควรได้รับ…
เจ้าจงดูแลเขา ให้เติบโตเป็นคนที่สมบูรณ์ ” อโดนิสหยุด ดวงตาฉายแววเศร้า เขาอ่านต่อโดยไม่มองหน้าผม
“
- -นากัลมีชีวิตเป็นทาสมานาน เป็น- -โสเภณี... เขาไม่เคยรู้จัก อิสรภาพ หรือคุณค่าในตัวเอง… แต่ยามเขาโต เขาจะไม่ใช่ของเล่นของใคร อโดนิส ตลอดชีวิตข้าไม่เคยร้องขออะไรเลย ข้าขอเพียงเรื่องเดียว โปรดเลี้ยงนากัลให้เขารู้ว่า เขา นั้นมี คุณค่า มากกว่าทองใดๆในโลก มากกว่าความสุขสมที่ชายใดๆเคยได้รับจากเขา เขามีคุณค่าด้วยตัวของเขาเอง …ขอให้หัวใจของเขาเป็นอิสระ
บอกนากัลว่าข้าขอโทษสำหรับทุกอย่าง และ ระหว่างข้ากับนากัล มัน ‘จริง’ เป็นสิ่งเดียว ที่จริง เหนือคำลวงทั้งชีวิตที่ข้าต้องอยู่ในนั้น
ข้าไม่ต้องการให้นากัลเป็นเหยื่อสงครามครั้งนี้ ต่อให้เขาถูกกำหนดมาให้เป็น ข้าก็จะเปลี่ยนแปลงมันตอนนี้
บอกทุกคนว่าเขาไม่ใช่เนอร์กาล…ข้าจะหาเนอร์กาลคนใหม่
ข้ารักเด็กคนนี้
เซอซัส”
.
.
…
ผมไม่ได้ร้องให้แล้ว แต่เรือที่รองรับร่างผมอยู่ หายไป และ กลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเล
อโดนิสวางจดหมายลงบนโต๊ะ …ข้างๆ แสงเทียนวูบไหว ราวกับอยู่ในที่ไกลๆ บนฝั่งที่ผมไม่มีวันไปถึง
อโดนิสเอ่ยด้วยเสียงปลอบโยน มือขาวอุ่นวางทับบนหลังมือผม
“นากัล…เจ้าต้องเข้าใจ เพราะท่านเซอซัส เป็นลูกนอกราชวงศ์ของ ไซรัสมหาราช กษัตริย์ของเปอร์เซียตอนนี้…”
============================
เกร็ดประวัติศาสตร์
พระเจ้าไซรัสมหาราช (Cyrus the Great; ประสูติราวปีที่ 600 หรือ 576 ก่อนคริสตกาล เป็นปฐมกษัตริย์แห่งจักรวรรดิอาคีเมนิด (Achaemenid Empire) ซึ่งพระองค์ทรงผนวกขึ้นจากอารยรัฐแถบตะวันออกใกล้แต่เดิม และทรงขยายจนเจริญกว้างขวางกระทั่งทรงมีชัยเหนือเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียกลางส่วนใหญ่ ยุโรปบางส่วน และคอคาซัส
เปอร์เซีย ได้ก่อตัวและขยายอำนาจครอบครองอารยธรรมโบราณอื่นๆ และได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทเป็นศูนย์กลางของความเจริญรุ่งเรืองของโลกยุคโบราณ ภายใต้การปกครองของ พระเจ้าไซรัสมหาราช
พระองค์ได้ดำเนินนโยบายขยายดินแดนของเปอร์เซียออกไปอย่างกว้างขวาง มีอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมโยงดินแดนทั้งเอเชียตะวันออก เอเชียกลาง อินเดีย อียิปต์และดินแดนแถบเมดิเตอร์เรเนียน จนทำให้เปอร์เซียกลายเป็นจักรพรรดิใหญ่แห่งแรก หลังการล่มสลายของอาณาจักรยุคโบราณ
ในราวปีที่ 539 ถึง 530 ก่อนคริสตกาล พระองค์ยังได้ตราจารึกทรงกระบอก เรียก "กระบอกพระเจ้าไซรัส" (Cyrus Cylinder) มีเนื้อหาซึ่งถือกันว่าเป็นประกาศสิทธิมนุษยชนฉบับต้น ๆ ของโลกด้วย
เรื่องสิทธิมนุษย์ชน
ในยุคที่มีทาส และ ความไม่เท่าเทียมในโลกที่เรียกว่าป่าเถื่อน สมัยก่อน
สิทธิมนุษย์ชนไม่มีอยู่ในโลกเลย จนกระทั่ง จักรพรรดิไซรัสมหาราช (Cyrus the Great) เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
หลังจากยึดเมืองบาบิโลนได้ จักรพรรดิไซรัสก็เปลี่ยนแปลงสังคมไปอย่างสิ้นเชิง พระองค์ทรงประกาศปลดปล่อยทาสทั้งหมด แล้วพระองค์ยังทรงประกาศด้วยว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิในการเลือกชีวิตและเลือกศาสนาของตัวเอง ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นชนกลุ่มใดก็ตาม พระราชดำรัสของพระองค์ได้ถูกจารึกลงบนกระบอกดินเผา ที่รู้จักกันในนามว่า “The Cyrus Cylinder” และด้วยสิ่งนี้เอง สิทธิมนุษยชนก็ถือกำเนิดขึ้น
Thanks Credit: http://www.baanjomyut.com/library_2/origin_of_civilization/03.html
Note* ไซรัสมหาราชเป็นกษัตริย์ที่นักเขียนยกย่อง และปลื้มเป็นฮีโร่มากค่ะ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แต่งนิยายเรื่อง นากัลด้วย
ถ้าใครสนใจเรื่องของ Cyrus the Great อีก ตามไปอ่านที่ลิงค์นี้ได้นะคะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Cyrus_the_Great