- ดื่มครั้งที่ 8 -
เสียงฟ้าร้องโครมครามไม่ได้ทำให้ผมกลัวเลยสักนิด แต่ในเวลานี้หัวใจกลับเต้นรัวเร็วเมื่อผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เหตุการณ์ที่ทำให้ความรู้สึกของผมไม่มั่นคง การกระทำและคำพูดของพี่จีบยังคงชัดเจนในความทรงจำของผม แม้แต่ร่องรอยการสัมผัสก็ยังคงไม่จางหายถึงมันจะผ่านมาแล้วเกือบสิบชั่วโมงก็ตาม
ผมนั่งพิงหัวเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมขาไว้แบบนี้ตั้งแต่แยกย้ายกับเขาเมื่อคืน อาการนอนไม่หลับโจมตีผมอย่างรุนแรง เมื่อครั้งหลับตาลงภาพที่จีบและคำเอ่ยหวานหูก็ยังตามมาหลอกหลอน ความสับสนและความไม่เข้าใจกำลังถาโถมให้ผมกลายเป็นคนหาทางออกให้กับชีวิตตัวเองไม่ได้ ผมว่าผมควรปรึกษาคนแมนๆเล่นบาสฯอย่างไอ้ภีม เพราะคนแมนๆเตะบอลอย่างผมกำลังแย่แล้ว
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์หน้าจอเพื่อปลดล็อกก่อนจะกดเข้าแอพพลิเคชั่นสีเขียวยอดฮิต นิ้วของผมกำลังไล่หารายชื่อของไอ้ภีมแต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อมีอะไรบางอย่างสะดุดสายตา ผมไม่รอช้าที่จะกดเข้าไปอ่านข้อความไลน์จากใครคนหนึ่งทันทีด้วยความอยากรู้ เพราะตอนกลับมาถึงห้องผมก็ไม่ได้สนใจโทรศัพท์อีกเลย
อัศวิน
- ถ้ารู้สึกไม่สบายตัวก็กินยาด้วยนะ 23:00
- ฝันดี 23:02
ผมนั่งอ่านข้อความของพี่จีบด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งดีใจที่เชาเป็นห่วงและทั้งแปลกใจที่อยู่ๆเขาส่งมาบอกฝันดีกัน เพราะว่าปกติแล้วเราสองคนไม่ได้คุยไลน์ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นจริงๆ แต่คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆเพราะยังไงๆก็ไม่มีคำตอบให้กับความสงสัยของตัวเอง ผมอ่านข้อความนั่นอีกครั้งก่อนจะพิมพ์ตอบไป
× คิสสึ ×
- อรุณสวัสดิ์ครับผม 10:30
ผมกดส่งไปแล้วแต่เพิ่งคิดได้ว่าเวลานี้คงสายโด่สำหรับคนที่ตื่นมาเปิดร้านทำมาหากินแล้วล่ะ ทำไมชอบปล่อยความเอ๋อให้พี่จีบเห็นบ่อยๆวะ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ผมละความสนใจจากแชทพี่จีบแล้วเลื่อนหารายชื่อให้ภีมต่อจนเจอ ภาวนาขอให้มันว่างตอบผมด้วยเถอะ
× คิสสึ ×
- มึงงงงงงงงง ว่างป่ะ มีเรื่องจะปรึกษา 10:32
หลังจากส่งข้อความไปผมก็ไหลตัวลงนอนราบไปกับเตียง มือยังคงถือโทรศัพท์ไว้ ดวงตากลมจับจ้องอยู่ที่หน้าจอแชทรอค่อยการตอบสนองของเพื่อนรักด้วยใจจดจ่อ ผ่านไปแล้วหนึ่งนาทีทุกอย่างยังนิ่งเงียบจนผมเริ่มร้อนรน จะให้โทรไปหาก็ไม่ไหว เพราะกลัวจะไปขัดเวลาแห่งความสุขระหว่างมันกับพี่ดีพ ถ้าให้พูดตามตรงคือไม่อยากให้พี่ดีพเสือกเรื่องนี้...
"แม่ง...มัวสวีทกับพี่ดีพแน่ๆ"
ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออหมาเฮือกใหญ่ ผ่านไปแล้วห้านาทีก็ยังไม่มีการตอบสนองกลับมาจากภีม ผมตัดใจเลิกรอและกำลังจะวางโทรศัพท์ลงที่เดิม แต่มีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าดังขึ้นซะก่อน ด้วยความที่หวังว่าภีมจะตอบกลับมาเลยรีบเปิดดู แต่ก็ต้องชะงักค้างเพราะไม่ใช่ภีมแต่เป็นพี่จีบ
อัศวิน
- สายโด่ละมึง ดูนาฬิกาหน่อย 10:50
- วันนี้มาที่ร้านไหม? 10:51
× คิสสึ ×
- คงไม่ได้ไปมั้งพี่ ฝนตกหนักขนาดนี้ 10:51
ผมตอบก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่านออก เมฆฝนดำทะมึนปรากฏสู่สายตา สายฝนที่ตกลงกระทบระเบียงนั้นกระเซ็นเปียกไปทั่วบริเวณ ถ้าแค่วิ่งออกไปเพียงหนึ่งวินาทีคงเปียกชุ่มได้ไม่ยาก วันนี้คงเหงาอยู่ห้องชัวร์ ผมก้มลงดูเจ้าโทรศัพท์เครื่องสี่เหลี่ยมอีกครั้ง พี่จีบส่งข้อความกลับมาแล้ว
อัศวิน
- ให้กูไปรับป่ะ? 10:52
คำถามแบบนี้มาอีกแล้ว คำถามที่เผลอทำให้ใจเต้นรัวถึงสองครั้ง ไม่รู้ว่าทำไมพี่จีบถึงมีความขยันในการขับรถในวันฝนตกขนาดนี้ ผมไม่ไปที่ร้านสักวันแล้วพี่เขาจะขายกาแฟไม่ได้หรือยังไงกัน
× คิสสึ ×
- มารับทำไมวะพี่ ไม่เห็นหน้าผมแล้วคิดถึงเหรอ? 10:53
- 55555555 ล้อเล่นนะๆ 10:53
อัศวิน
- เออ คิดถึง ตกลงจะให้ไปรับไหม? 10:53
ผมอ่านข้อความนั้นแล้วอ้าปากหวอ รู้สึกว่าใบหน้าเริ่มเห่อร้อน ทำไมต้องเขินตอนพี่จีบบอกว่าคิดถึงด้วยว่ะ แล้วพี่จีบมันเป็นบ้าอะไรเนี่ยมาพูดจาหวานๆใส่ ถ้าจะคิดถึงจริงก็ประสาทเกินไปหน่อยแล้ว เมื่อคืนเพิ่งแยกจากกันยังไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยเถอะ เกินมีความรักน้องขึ้นมาหรือยังไงกันนะ
× คิสสึ ×
- หูยย พูดแบบนี้ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นผู้ชายผมคิดว่าพี่หยอดผมนะเนี่ย!
10:54
อัศวิน
- ทำไม มึงเป็นผู้ชายแล้วกูจะหยอดมึงไม่ได้ว่างั้น? 10:54
× คิสสึ ×
- ผมไม่ใช่สาวๆสวยๆซะหน่อยพี่ จะมาหยอดกันทำไมวะ 10:54
อัศวิน
- นี่มึงไม่รู้จริงๆดิ? 10:55
× คิสสึ ×
- หา รู้อะไรยังไง งงอ่ะ @_@ 10:55
อัศวิน
- ช่างแม่งเถอะ ไปอาบน้ำแต่งตัว อีกครึ่งชั่วโมงจะไปรับ 10:55
พี่จีบทำผมตกใจอีกรอบด้วยการมัดมือชกบังคับผมให้ไปอาบน้ำแล้วตัวเองจะมารับ... แล้วไอ้เรื่องหยอดนั่นยังคุยไม่จบเลยนะเว้ย มันคาใจอ่ะ มันค้างอ่ะ ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ ชอบช่างแม่งช่างมันแล้วผมก็กลายเป็นคนโง่ทุกรอบแบบนี้ เริ่มหงุดหงิดแล้วนะเว้ย
× คึสสึ ×
- เดี๋ยวๆไอ้พี่จีบ ยังพูดเรื่องหยอดไม่จบเลยนะเว้ย 10:56
อัศวิน
- สนใจไรวะ ไม่มีไร รีบๆไปอาบน้ำ กูไปทำงานต่อแล้ว 10:57
× คิสสึ ×
- ................ 10:57
แล้วมันก็ทิ้งผมไปจริงๆ ห่าราก!! มาพูดให้คิดแล้วจากไป อีกครึ่งชั่วโมงต้องเจอหน้ากัน แล้วมันคิดว่าผมจะทำตัวยังไงมองหน้ามันยังไง ไหนตอบ!!! ไอ้ภีมเฮงซวยก็ไม่รู้หายไปตายที่ไหน นี่ไปอยู่กับพี่ดีพมันไม่คิดจะตอบข้อความผมเลยหรือยังไงวะ หึ กูจะยุให้พี่ดีพจับมึงทำเมีย จำไว้!!
ผมรีบวิ่งไปอาบน้ำเมื่อรู้ว่าเวลาที่พี่จีบให้กันเหลือน้อยลงทุกที ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนอาบน้ำนานอะไรหรอก แต่วันนี้อากาศหนาวต้องใช้เวลาทำใจก่อนอาบน้ำอีกนานโข กว่าจะเอื้อมมือสัมผัสกับสายน้ำจากฝักบัว กว่าจะกลั้นใจไปยืนดิ้นแด่วๆให้ตัวเปียกน้ำได้ก็โคตรจะเสียเวลา หอผมไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยไงครับ บรรลัยไปอีก มันเป็นเพราะความอยากโชว์พาวเวอร์ของผมเองนั่นล่ะที่ไปบอกป๊ากับม๊าว่าไม่ชอบอาบน้ำอุ่น คนแมนๆเขาอาบน้ำเย็นๆกันทั้งนั้นล่ะ ปากหาเรื่องซะไม่มีเลยกู
กว่าจะเตรียมตัวเรียบร้อยก็โดนพี่จีบโทรตามกันซะแล้ว ชุดที่เลือกใส่วันนี้ก็เป็นแค่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยสีกรมท่า ทรงผมเป็นเห็ดเพราะเพิ่งสระผมใหม่ๆ ดูตัวเองในกระจกแล้วไม่เหมาะที่จะเป็นเด็กปีสองเลยว่ะ เหมือนเด็กมัธยมกางเกงน้ำเงินยังไงไม่รู้
มีเวลาตบตีกับตัวเองไม่มากก็ต้องหยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ กุญแจห้องแล้วรีบวิ่งไปลงลิฟท์ทันที พอวิ่งออกมาหน้าประตูหอเท่านั้นล่ะ ร่มคันใหญ่ก็ถูกขยับมากางให้กันพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของพี่จีบเข้ามาแนบชิด ผมเงยมองหน้าเขาก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้ แต่ความทรงจำเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาเล่นงานผมเอาซะดื้อๆจนต้องรีบหันกลับไปมองทางด้านหน้าอย่างช่วยไม่ได้ อยู่ๆก็รู้สึกตัวเกร็งขึ้นมา พี่จีบแน่ใจเหรอวะว่าจะพาผมไปถึงร้านจริงๆ เพราะตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศตายตรงนี้เลยวะแม่ง ฮือ
"เดินดิ ยืนเซ่ออยู่ทำไมวะ"
พี่จีบใช้แขนที่พาดโอบไหล่กันอยู่ออกแรงดันหลังผมให้เดินไปข้างหน้า ไอ้คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ายืนเกร็งเป็นก้อนหินอย่างผมเลยรีบก้าวไปข้างหน้าไวๆโดนลืมไปแล้วว่าฝนตก ลำบากไอ้พี่จีบต้องคว้าคอเสื้อกันดึงกลับไปเดินอยู่ใต้ร่มเหมือนเดิม
"เป็นเชี่ยไรของมึงเนี่ย ดูใจลอยๆนะ"
พี่จีบถามขึ้นเมื่อเราทั้งสองคนอยู่ในรถ ผมสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปยิ้มให้คนด้านข้างที่กำลังสตาร์ทรถอยู่ ใจลอยไปหามึงมั้งไอ้พี่จีบ จะช่างสังเกตไปถึงไหนวะ ปล่อยๆกูไปบ้างเถอะ
"เบลอๆน่ะพี่ นอนไม่พอ"
ผมตอบไปตามความจริงเพียงครึ่งเดียว ไอ้สาเหตุที่นอนไม่พอมันเพราะมึงคนเดียวเลย มึงอ่ะ เพราะมึง ไอ้พี่จีบ!
"มัวดูหนังโป๊หรือไง ไม่หลับไม่นอน"
มันหันมายักคิ้วให้กันก่อนจะออกตัวรถไปท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา ผมย่นจมูกใส่มันแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ผมไม่ใช่สายหื่นขนาดนั้นนะเว้ย พี่จีบแม่ง..เอาความชอบของตัวเองมายัดเยียดให้ผมอีก
"ใครจะไปหื่นเหมือนพี่วะ"
"รู้ได้ไงว่ากูหื่น?"
แค่ถามไม่ต้องโน้มหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ก็ได้มั้ง... ทำไมต้องติดไฟแดงพอดีกับที่มันถามคำถามนี้ด้วยวะแม่ง แล้วไอ้ดวงตาเป็นประกายวิบวับนั่นคืออะไร เสียงกระซิบเบาๆชวนให้ใจสั่นนั่นอีก โอ้ย อยากแกล้งตายหนีไอ้พี่จีบจริงๆ แต่ทำได้แค่ขยับหนีจนไหล่ติดกับกระจกรถเท่านั้น แล้วเสียงหัวเราะก็ดังออกมาจากคนขี้แกล้ง หัวใจเอ้ย หยุดเต้นแรงสักทีเหอะว่ะ เหนื่อย!!
"ไม่รู้เว้ย จะขยับเข้ามาใกล้ทำไมอ่ะ"
มันคาใจ ถามซะเลยแม่ง ไม่อยากคิดเองอีกแล้ว ปวดหัว! ถามเขาแต่ตาไม่มองเขา... ไอ้นิสัยที่พูดกับใครแล้วชอบมองตาคู่สนทนานี่เอามาใช้กับพี่จีบไม่ได้ว่ะ เป็นเชี่ยอะไรไม่รู้ มองตามันทีไรใจเสือกเต้นแรงทุกที
"ความพอใจของกู มึงมีปัญหาเหรอ?"
ถามไปดีๆทำไมต้องตอบแบบหาเรื่องกันด้วยว่ะ ผมมองพี่จีบตาขวางแต่ไอ้คนที่ขับรถอยู่เนี่ยเสือกยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง อารมณ์ดีอะไรนักหนาครับพ่อคุณทูนหัว ฮือ
"พี่จีบแม่ง..."
ผมพึมพำกับตัวเอง ไม่กล้าด่ามันครับ กลัวจะโดนเตะโด่งออกจากรถ ซึ่งมันไม่ดีเอามากๆถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นจริงๆ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเพราะฝนตกรถติด คาดว่าต้องอยู่ในรถกับพี่จีบอีกนานผมเลยหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดและพบว่าไอ้ภีมตอบไลน์กลับมาแล้ว เยสๆๆๆ ผมรีบกดอ่านข้อความของมันทันทีโดยไม่ได้สนใจไอ้พี่จีบอีก
#ชายภีม
- มีอะไรจะปรึกษา กูเพิ่งตื่น 11:40
× คิสสึ ×
- เชี่ยไรเนี่ย ที่ญี่ปุ่นมันบ่ายโมงแล้วไม่ใช่ เมื่อคืนหนักเหรอ กิ๊วๆ ~ 11:40
ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับข้อความของตัวเอง อารมณ์ดีเสมอเมื่อได้แซวไอ้ภีมเรื่องพี่ดีพ.. เอาจริงๆผมเชียร์พี่ดีพให้เป็นสามีไอ้ภีมว่ะ ผมไม่ได้อวยพี่ชายตัวเองนะเว้ย แต่พี่ดีพมันหล่อกว่าไอ้ภีมจริงๆแถมตัวยังหนากว่าอีก
#ชายภีม
- เออหนัก หนักมาก พี่มึงตัวหนักมาก! แดกเหล้าจนเมาหลับ ลำบากกูลากมันกลับห้องเนี่ย -_- 11:41
ผมหุบยิ้มทันที เกลียดไอ้พี่ดีพก็ตรงเนี่ย ไม่ได้มีโมเม้นต์เมาแล้วปลุกปล้ำใครเขาหรอก มันเมาทีไรหลับคอพับคออ่อนทุกที เปอร์เซ็นจะได้เป็นผัวไอ้ภีมริบหรี่มาก ถ้าวันไหนไอ้ภีมมันคึกเสียบพี่ดีพตอนเมาขึ้นมานะ ผมจะหัวเราะเยาะให้ ไม่ได้ดั่งใจเลยว่ะ พี่ชายโคตรกากแบบนี้
× คิสสึ ×
- นึกว่าจะได้พี่สะใภ้มาเชยชมซะแล้ว เซ็ง 11:41
#ชายภีม
- พี่สะใภ้พ่อง! มีไรรีบๆว่ามา จะไปอาบน้ำ 11:42
× คิสสึ ×
- อย่าเพิ่งง เออ.. คือ แบบว่าแบบ ._. 11:42
#ชายภีม
- แบบเชี่ยไร 11:42
× คิสสึ ×
- เออ เรื่องพี่จีบเว้ย กูเครียด 11:42
#ชายภีม
- ทำไม? 11:43
× คิสสึ ×
- คืองี้เว้ย เมื่อวานพี่จีบมันพูดแปลกๆกับกูอ่ะ บอกว่าอยากดูแลกูไงเงี้ย 11:43
#ชายภีม
- ไม่เห็นจะแปลก อยากดูแลคนที่ตัวเองชอบ 11:44
× คิสสึ ×
- เชี่ยย ไม่เล่นดิ กูจริงจัว!! 11:45
ลนลานจนพิมพ์ผิดเลยไอ้เชี่ย! จริงจัวบ้านพ่อกูสิ จริงจังไหมล่ะสังคม ผมเหลือบมองไอ้พี่จีบขณะที่ตัวเองใจเต้นตุบๆ มันยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถมีแต่ผมนี่ล่ะที่ไม่มีสมาธิห่าอะไรเลยตอนนี้ ระแวงว่ามันจะรู้เรื่องที่ผมคุยไลน์กับไอ้ภีมหรือเปล่า โอ้ย บ้าบอ มันจะรู้ได้ยังไงไม่ได้ออกเสียงคุยนี่หว่า ประสาทจะแดกแล้วกูเนี่ย ฮือ
#ชายภีม
- มึงอย่าโง่น้องจูบ กูจะบอกมึงครั้งสุดท้ายนะ แล้วจำใส่สมองกลวงๆของมึงเอาไว้ พี่จีบเขากำลังจีบมึงอยู่ไอ้ฟายยยย 11:46
โง่ก็มา ฟายก็มา สมองกลวงก็มาวะ แต่ไม่ตะลึงเท่ากับพี่จีบกำลังจีบกูเหรอ จริงอ่ะ บ้าน่า เอาจริงเหรอวะ จีบจริงๆอ่ะ ฮึก ควรรู้สึกยังไงที่มายไอดอลจีบตัวเองวะ เหนือความคาดหมายสุดๆ ใจเต้นแรงเหี้ยๆ แต่พี่จีบอาจจะแค่อัธยาศัยดีก็ได้นี่ คิดได้แบบนั้นก็เหลือบสายตาไปมองมันแต่ก็ต้องตกใจที่พี่จีบกำลังจ้องผมอยู่ เชี่ยไรเนี่ยติดไฟแดงอีกแล้วเหรอวะ
"เป็นไรของมึง เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวทำหน้าตกใจกับโทรศัพท์"
พี่จีบเลิกคิ้วก่อนจะหันมามองกันแบบเต็มๆทั้งหน้าทั้งตัว แขนด้านขวาวางทิ้งไว้บนพวงมาลัย ถ้าจะมองกันจริงจังขนาดนั้นนะ.. ผมทำตัวไม่ถูกเว้ย หัวใจเต้นจนรู้สึกปวดหน้าอกไปหมดแล้ว
"คือ.. คือว่า.. คือ.."
แล้วเป็นเชี่ยอะไรเนี่ย ลิ้นแข็งพูดไม่ออก ฮือ เชี่ย หัวใจไม่ปกติ จะตายแล้ว จะตายแล้ววว
"ทริปเปิ้ลคือแล้วมึง มีไรพูดมา"
ยังจะมาเล่นคำใส่กูอีก! ฟาดหน้าแม่งสักทีได้ไหม เอาแต่มองกันแล้วยกยิ้มมุมปากแบบหล่อเชี่ยๆมาให้กันเนี่ย ต้องการอะไรวะ ต้องการอะไรจากกู! เทลมีพลีส!!
"พี่...จีบผมเหรอวะ!"
ผมกลั้นใจตะโกนถามลั่นรถ คือไม่มีสติ ไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นของตัวเองได้ ถามจบก็เอาแต่หลับตาปี๋เกิดเดตแอร์ไปชั่วขณะจนเริ่มใจเสีย คำถามของผมมันมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าวะ ผมลืมตาขึ้นช้าๆอย่ากล้าๆกลัวๆแล้วเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง พี่จีบไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรแต่มุมปากยกยิ้มเหมือนกำลังพอใจอะไรบางอย่างก่อนที่เสียงหัวเราะในลำคอจะดังขึ้น
"ฉลาดแล้วเหรอมึง?"
พี่จีบคลี่ยิ้มกว่ากว่าเดิมจนผมใจสั่นมากกว่าเดิม แค่ที่เป็นอยู่ยังไม่พออีกหรือยังไงวะ เจ็บอกไปหมดแล้วเว้ย แล้วสายตาที่ดูหวานเชื่อมแบบนั้นคืออะไรครับ โอ้ย ไอ้คำถามที่พูดออกมาเหมือนเป็นการบอกรักกลายๆเลย
"ฉะ ฉลาดอะไรวะแม่ง"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง รู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนวูบวาบจนต้องยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองเอาไว้ บ้าบอที่สุด เป็นสถานการณ์ที่เชี่ยที่สุดในชีวิต
"ฉลาดที่รู้ตัวสักที่ว่ากูกำลังจีบมึงไง"
เสียงพี่จีบดังขึ้นข้างๆหู ไม่จำเป็นต้องกระซิบใกล้ขนาดนี้ไหววะ พูดปกติทำตัวห่างๆไม่ได้หรือยังไง กลัวนะ กลัวว่ามันจะได้ยินเสียงหัวใจของผม ผมแทบจะกรีดร้องเมื่อพี่จีบยืนยันข้อสงสัยของผมด้วยเสียงกระซิบที่โคตรจะหนักแน่นในความรู้สึกของผม ลมหายใจอุ่นๆที่คลอเคลียอยู่กับแก้มยิ่งทำให้หน้าของผมร้อนวูบขึ้นอีก โอ้ย ไม่เอาแล้ว อยากลงจากรถไปตากฝนแม่ง แอร์รถไม่ได้ช่วยกูเลย อ๊ากกก
"มะ ไม่ล้อเล่นนะพี่จีบ อย่า..กะ แกล้งผมดิ"
ไม่เอา ผมตะไม่ยอมรับแบบง่ายๆหรอกว่ากำลังโดนมายไอดอลของตัวเองจีบอยู่ ก็เห็นมันแมนๆเตะบอลนี่หว่า จะมาชอบผู้ชายด้วยกันได้ยังไง อย่ามาหลอกกันมันไม่สนุกนะ
"เรื่องความรักกูไม่เคยล้อเล่นว่ะคิส กูชอบมึง ชัดไหม"
เชี่ย... ตกย้ำกันเข้าไป ยิ่งทำให้ผมอึกอักหนักกว่าเดิมเป็นสิบเท่า มันทั้งอึ้งทั้งตะลึง หัวใจเสือกหวั่นไหวไปกับคำพูดของพี่จีบด้วยไง
"มะ ไม่ชัด ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย ไม่ใช่สาวๆสวยๆ"
"ผู้ชายแล้วยังไง กูชอบซะอย่าง"
"พะ พี่เป็นเกย์เหรอ?"
"ถ้าชอบมึงแล้วต้องเป็นเกย์กูก็ยอม"
"ฮือออ ไอ้พี่จีบบ้า พูดเชี่ยอะไรเนี่ย ไม่ฟังแล้วเว้ย"
ผมหลับหูหลับตาฟาดมือใส่มันไม่ยั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองทำแบบนี้ไปทำไม ในหัวมันตื้อตันคิดอะไรไม่ออก อยากจะทำอะไรเพื่อระบายความรู้สึกที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรออกไปให้หมด
"โอ้ย ไอ้คิส มึงเขินแล้วซาดิสหรือไงกูเจ็บ"
พี่จีบมันโวยวายก่อนจะรวบแขนผมเอาไว้ทั้งสองข้าง ไม่กล้ามองหน้ามันเลยให้ตายเถอะ ฮือ หัวใจจะพังแล้วใครก็ได้ช่วยผมออกไปจากสถานการณ์นี้สักที ได้โปรดด
"ไม่รู้ ไม่เอา ไม่ๆๆๆๆๆ"
ผมสติแตกครับ ยอมรับง่ายๆเลย เอาแต่นั่งส่ายหัวไปมาแล้วพยายามดึงแขนตัวเองกลับแต่ไอ้พี่จีบเหมือนไม่เข้าใจความพยายามของผมแม้แต่น้อย มันดึงผมเข้าไปรวบกอดเอาไว้จากที่ดิ้นจะเป็นจะตายกลับต้องชะงักตัวแข็งค้างเมื่อเสียงหัวใจของพี่จีบก็เต้นดังไม่แพ้กัน
"คิส.. มึงใจเย็นๆ ตอนนี้มึงแค่ตกใจหรือรังเกียจกูกันแน่"
เสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลเอ่ยถามกัน ผมเผลอกลั้นหายใจแอบรู้สึกแย่กับคำถามของพี่จีบ ผมผละตัวออกจากอ้อมกอดอบอุ่นนั่นแล้วช้อนตามองคนที่กำลังมีแววตาเศร้า
"คือว่า..ผม"
พูดไม่ออก ทั้งๆที่ตั้งใจจะพูดแต่มันกลับจุกอยูที่คอหอย พี่จีบเบือนหน้าหนีก่อนจะดับเครื่องรถ นั่นยิ่งทำให้ผมไปไม่เป็น ดับเครื่องทำไม นี่เรายังติดไฟแดงอยู่ไม่ใช่เหรอวะ
"ลงเถอะ ถึงร้านนานแล้ว"
พี่จีบพูดก่อนจะเปิดประตูลงจากรถทั้งๆที่ฝนยังไม่หยุดตก ผมที่เพิ่งรู้ตัวว่าเข้าใจผิดมาตลอดรีบคว้าร่มที่อยู่ด้านหลังเบาะมาถือไว้แล้วรีบลงจากรถวิ่งตามไปกางร่มให้พี่จีบที่ยังเดินไปไม่ได้ไกล เราจอดรถห่างจากร้านอยู่พอตัวจะให้เดินตากฝนไปแบบนั้นมีหวังเปียกชุ่มยันกางเกงชั้นในแน่ๆ
"พี่จีบรอผมด้วย!"
ผมวิ่งกระหืดกระหอบทั้งๆที่กางร่มไปด้วย มีหลายจังหวะที่ลมพัดจนร่มแทบตีกลับ แต่ผมก็คว้าจับมันไว้ทัน พี่จีบหยุดยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่หันมามองกัน ผมไม่สนว่าวิ่งแล้วน้ำบนพื้นถนนจะทำให้รองเท้าเปียก สิ่งที่ผมสนคือพี่จีบที่ตัวกำลังเปียกต่างหาก
"แฮ่กๆ เดินตาก ฝะ ฝนทำไม"
ผมหอบแฮ่กแต่ก็ยังพยายามยืดตัวกางร่มให้คนที่สูงกว่าตัวเองอยู่ พี่จีบแย่งร่มไปถือไว้เองแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำจนผมใจเสีย ไม่เคยเจอพี่จีบโหมดเงียบขรึมแบบนี้ น่ากลัวเกินไป
"พี่จีบ คือผม.."
"ไปเถอะ เดี๋ยวจะเปียกมากกว่าเดิม"
ผมยังพูดไม่ทันจบแต่พี่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือข้างที่เหลือมาจับข้อมือกันไว้แล้วออกแรงกระตุกลากผมให้เดินตาม ซึ่งผมก็ยอมเดินตามแต่โดยดีจนถึงร้าน
"ไอ้จีบบบ กว่าจะกลับมา กูต้องรีบเข้าบริษัทว่ะพ่อโทรมาตาม"
พี่ไลค์รีบเดินอ้อมออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์ทันทีแล้วมาหยุดลงตรงหน้าผม พี่จีบเหลือบมองเพียงแค่หางตาแล้วพยักหน้ารับเบาๆ
"เออ รีบไปซะ"
"เออๆ ถ้าเสร็จไวจะรีบกลับมาช่วย"
พี่ไลค์บอกก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแล้วรีบวิ่งออกไปจากร้านทันที คงรีบมากจริงๆนั่นล่ะ ผมละความสนใจจากพี่ไลค์หันกลับมามองคนข้างตัวที่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"คิส ขออะไรอย่างนึงได้ไหม?"
เขาหันมามองผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ ผมพยักหน้าเบาๆเพราะอยากตามใจคนตรงหน้าขึ้นมาซะดื้อๆ ผมไม่ชอบให้พี่จีบเป็นแบบนี้ มันไม่ใช้พี่จีบที่ผมรู้จักเลยสักนิดว่ะ ไม่ชินเลย
"ครับ ได้ครับ"
"ช่วยงานที่ร้านหน่อยนะ วันนี้ลูกค้าเยอะ"
"อ้อ ได้ครับ ให้ช่วยอะไรก็บอกนะ"
"อืม"
หลังจากนั้นผมก็มายืนเก้ๆกังๆอยู่หลังเค้าน์เตอร์บาร์ พี่จีบให้ผมช่วยบดเมล็ดกาแฟและคอยสตีมนมเพื่อทำเมนูที่ต้องใช้นมเป็นส่วนประกอบ เขาสอนวิธีสตีมนมให้ผมเพียงคร่าวๆโดยที่ เราต้องเทนมสดลงใน Picher สแตนเลสที่มีขนาด 500 ml. ตามสากลเขาใช้ เทนมลงไปในปริมาณเพียงครึ่งหนึ่ง ใช้มือข้างที่ถนัดจับ Picher ให้มั่น แล้วจุ่มก้านสตีมนมลงไปสัมผัสแค่ด้านบนผิวนมก่อนจะเปิดทำงาน ใช้สันมืออีกข้างคอยจับประคอง Picher ไว้
ถ้าถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่านมที่สตีมอยู่ได้ที่แล้ว คำตอบคือให้ใช้ความรู้สึกที่อุ้งมือ ถ้าหากอุ้งมือที่ประคอง Picher ทนอุณหภูมิความร้อนของนมไม่ไหวก็แสดงว่านมที่สตีมใช้งานได้แล้ว เพราะอุ้งมือของคนเราจะสามารถรับความร้อนได้ที่ 65 °c เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดของการสตีมนม แต่ด้วยความที่ผมไม่ชำนาญเลยทำให้เผลอปล่อย Picher ทิ้งด้วยความลืมตัว นมอุณหภูมิร้อนลวกมือตัวเอง
"โอ้ย แสบๆๆๆ"
ผมกระโดดหนีไปไกล ส่วนพี่จีบที่เดินกลับมาจากหลังร้านรีบวิ่งเข้ามาดูทันที พี่จีบก้าวขาข้ามนมที่หกเลอะเทอะทั่วบริเวณมาหาผม โดนดุแน่ๆ ขอโทษครับ ขอโทษ
"พะ พี่จีบผมขอ.."
"เป็นไงบ้างวะ มือแดงหมดเลยมึง เจ็บมากไหม?"
ผมยังพูดไม่ทันจบพี่จีบก็เอื้อมมือมาจับมือผมที่โดนนมลวกไปเป่าเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆทำให้ผมหายเจ็บขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ รับรู้ได้ถึงความห่วงใยของพี่จีบไม่มีแม้แต่ความโกรธในน้ำเสียงนั่นเลย
"ผมขอโทษ"
ผมก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาเขา ความรู้สึกผิดกำลังเล่นงานผมอย่างหนัก ทั้งเรื่องบนรถทั้งเรื่องซุ่มซ่าม
"ขอโทษอะไรของมึง ขึ้นไปข้างบนกับกูเลย"
"พี่อิ๊งครับผมฝากร้านแป็ปนึงนะ"
"ได้ค่ะน้องจีบ"
เสียงหวานๆตอบกลับมาก่อนที่พี่จีบจะจูงมือผมขึ้นชั้นสอง ไม่มีคำพูดจาระหว่างเราจนเข้ามาในห้อง พี่จีบกดไหล่ผมให้นั่งลงบนโซฟาก่อนเจ้าตัวจะหายไปรื้ออะไรบางอย่างที่มุมห้องมาวางไว้บนโต๊ะ
"ไปล้างมือล้างแขนก่อนไป"
พี่จีบโบกมือไล่กัน ผมพยักหน้ารับแล้วเดินมึนไปไปล้างคราบนมออกจากตัวก่อนจะเดินกลับมาหากัน
"มานั่ง เดี๋ยวทายาให้"
พี่จีบตบมือลงบนโซฟาที่ว่างข้างตัว ผมเดินเข้าไปนั่งด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมแล้วเหลือบสายตามองพี่เขาที่กำลังเอื้อมมือหยิบหลอดยา
"เอ่อ.. ผมทาเองดีกว่าครับ"
พี่จีบชะงักมือแล้วมองผมด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะวางหลอดยาลงบนตักของผมแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"อืม คงรังเกียจกูจริงๆสินะ"
ผมสะอึกทันทีเพราะไม่คิดว่าพี่จีบจะพูดออกมาแบบนี้ ยิ่งนานไปพี่จีบก็ยิ่งเข้าใจผิดว่ะ ผมต้องรวบรวมความกล้าบอกสิ่งที่สมควรบอกกับพี่เขาแล้วว่ะ
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คือ.."
เอาอีกแล้ว.. พูดไม่ออกอีกแล้ว โอ้ย ทำไมต้องรู้สึกตื่นเต้นบ้าบออะไรตอนนี้ด้วยว่ะ แค่บอกคำง่ายๆออกไปแค่นี้เอง พี่จีบไม่กัดคอมึงหรอกไอ้คิส!
"....."
"เอ่อคือ..."
"ช่างแม่งเถอะ กูลงไปทำงานล่ะ"
พี่จีบก้าวขาออกไปแต่ผมกลับเร็วกว่าตรงที่สามารถคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ได้ พี่จีบชะงักแล้วหันมามองกัน ผมช้อนตามองไม่คิดจะหนีอีกต่อไป
"มีอะไร?"
"ผมไม่ได้รังเกียจพี่จีบนะเว้ย.. แค่มันเขินๆว่ะ"
ผมหลบสายตาเมื่อพูดประโยคหลัง รู้สึกว่าหน้าร้อนวูบวาบอย่างห้ามไม่ได้ มือที่จับแขนพี่จีบไว้เริ่มชื้นเหงื่อจนคิดจะปล่อย แต่พี่จีบกลับทาบอีกข้างลงมาบนมือผมแล้วออกแรงบีบเบาๆ
"มึงแม่ง..น่ารักว่ะ"
ผมแทบจะหยุดหายใจเมื่อพี่จีบนั่งยองๆลงตรงหน้า สองมือเอื้อมมาประคองแก้มของผมเอาไว้แล้วบังคับให้มองสบตากัน รอยยิ้มละมุนนั่นทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำอีกแล้ว
"บ้าว่ะ ใครเขาชมผู้ชายว่าน่ารัก"
"ก็มึงน่ารักสำหรับกู เข้าใจยัง?"
ผมเม้มปากแน่นพยายามกลั้นยิ้มอย่างหนัก หน้าร้อนอย่างกับจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ โอย ไม่เอา พี่จีบอย่าแอทแทคกันแบบนี้สิเว้ย
"อื้อ"
ผมพยักหน้ารับเพราะไม่รู้จะเถียงออกไปยังไง ดวงตากลมหลุบต่ำมองหน้าตักตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะเห็นเงาไวๆของพี่จีบโน้มตัวเข้ามาใกล้ สัมผัสนุ่มหยุ่นของริมฝีปากประทับลงบนหน้าผากของผมเพียงแผ่วเบา เพียงแค่นั้นก็ทำให้ผมแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว อยากจะดิ้น ดิ้นตายอยู่ตรงนี้ เกลียดพี่จีบ เกลียดดดด ทำไมต้องทำให้ใจระทวยอยู่เรื่อยเลยวะ
"ต่อไปนี้มึงจำเอาไว้ว่ากูจีบมึงอยู่ โอเคไหม?"
"ถะ ถ้าตอบว่าไม่โอเคล่ะ"
"ไม่ได้"
"แล้วจะถามผมทำไมเนี่ย"
ผมแกล้งแปะมือลงบนแก้มพี่จีบเบาๆคล้ายจบตบ เขายกยิ้มกว้างก่อนจะจับมือผมไปงับนิ้วเบาๆ
"อ๊ะ"
หน้าผมร้อนวาบเมื่อพี่จีบทำแบบนั้น เขาปล่อยนิ้วผมออกก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์
"ถ้ามึงลืม กูจะ 'ทำ' ให้มึงจำเอง"
ทำ... ทำอะไรของมึง ช่วยขยายความที อ๊ากกกกก
------------------------------------------------------
Q & A กับ พี่จีบ
Q : คิสฉลาดขึ้นแล้ว จีบรู้สึกยังบ้าง?
A : เสียใจครับ
Q : อ่าว มันต้องดีใจไม่ใช่เหรอที่น้องรู้ว่าตัวว่าโดนเราจีบ
A : ก็แบบ..วางแผนจะปล้ำมันแล้วนี่นา /ทำหน้าเซ็ง
Q : ...................
น้องคิสฉลาดแล้วนะรู้ยัง... 555555555 รู้สึกอิจฉาน้องที่มีคนแบบพี่จีบมาชอบ
ตอนนี้ใครฟินอนุญาตให้กรี๊ดดังๆเลยนะ คึคึ
ปล. อ่านให้สนุกน้า ♥