♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]  (อ่าน 169774 ครั้ง)

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
งืออออ เขิลลลล มันดีต่อใจมากเลยยยย

ในที่สุดน้องคิสก็รู้ตัวสักที

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เย้ คิสรู้ตัวสักที ถึงจะถามจากภีมก็เถอะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Naam3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :-[ :laugh: :katai2-1: :katai2-1:เย้ๆๆๆๆพี่จีบๆๆๆๆน้องเขินๆๆๆ :katai3:
อ่านสนุกๆๆชอบๆๆๆ :L1: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กว่าจะฉลาดนะลูกกกกกกกกกกก
ถ้าอิพี่จีบมันจะปล้ำจิงๆ คงเสดพี่แกไปหลายตลบแล้ว 555555555

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รุกหนักมาก อ่อยยยย!!

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ในที่สุด คิสก็รู้ตัวซะที โอ๊ยยยยยย ลุ้นแทบแย่กว่าจะยอมรับได้ เฮ้อออออ :m2: :m2:

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
หนูคิดพึ่งรู้พี่จีบนี้ได้กำไรมาบานเลย

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 8.5 -



ความอบอุ่นจากร่างกายคนข้างตัวทำให้ผมไม่อยากตื่นสักเท่าไหร่ถึงแม้ว่าแสงอาทิตย์จะทำลายบรรยากาศการนอนลงแล้วก็ตาม ใบหน้าคมคายรูปไข่ จมูกโด่งเป็นสัน ปากรูปกระจับ  ดวงตารีเล็กแต่คมกริบ ล้อมกรอบด้วยผมสีน้ำตาลอ่อนทรงอันเดอร์คัต ทั้งหมดทั้งมวลนี้รวมกันเป็นผู้ชายตรงหน้าผม 'ดีพ' เขาหล่อและเจิดจ้ามากให้ความรู้สึก เดือนมหา'ลัยที่ใครๆต่างหมายปองแทนที่เขาจะมีแฟนเป็นสาวสวยแต่กลับมีแฟนเป็นผู้ชายที่มีดีกรีเป็นเดือนคณะอย่างผม จะว่าแปลกก็แปลกแต่ตลกมากกว่า ยัยอิงออยจะบ่นเสมอว่า 'สมัยนี้คนหล่อไม่ตกถึงท้องชะนีแล้วค่ะ กินกันเองทั้งนั้น' มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ก็แค่คนสองคนไม่ได้มองเรื่องเพศและใจตรงกันเท่านั้นเอง

มือเรียวไล้ไปตามกรอบหน้าอย่างหลงใหล มุมปากของผมมีรอยยิ้มเล็กๆประดับเมื่อคิดได้ว่าผู้ชายตรงหน้าผมปากร้ายแต่ใจดีเสมอกับคนอื่นๆ แต่สำหรับผมแล้วนั้นดีพจะชอบแสดงนิสัยเด็กๆออกมาให้เห็นไม่สมกับหน้าตาหล่อเหลาเลยสักนิด ติดจะเป็นคนขี้อ้อนซะด้วยซ้ำ

"อือ"
ดีพร้องครางด้วยความรำคาญใจเมื่อผมเริ่มบีบแก้มกร้านเล่นอย่างสนุกมือ มันเขี้ยวคนเมาที่หลับได้หลับดีแถมยังกอดผมไว้ทั้งคืนไม่ยอมปล่อยอีก ตาคมปรือปรอยค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มทักทายผมในเช้าวันใหม่
"คอนนิจิวะ"
เสียงทุ้มแทบทักทายกันอย่างมั่นใจ ผมขำออกมาน้อยๆก่อนจะขยับตัวหนีจากอกแกร่ง แต่ดีพไม่ปล่อยผมไปง่ายๆหรอก เจ้าตัวกระชับวงแขนแน่นแล้วกดจูบลงบนหน้าผากของผม

"มั่นใจจังนะ ทักทายกูคอนนิจิวะเนี่ย"
ผมเอ่ยแซวพร้อมยักคิ้วกวนๆให้มัน ดีพยิ้มเผล่ก่อนจะกดจมูกลงที่แก้มของผม ขโมยหอมไปอีกหนึ่งฟอดจนผมต้องผลักหน้ามันไปไกลๆ นับวันยิ่งแสดงท่าทางว่าอยากกดผมให้จมเตียง แต่ใครจะยอมง่ายๆกันวะ ผู้ชายแมนๆกันทั้งคู่ แต่ถ้าดีพมันทำให้ผมยอมได้นั่นก็ว่าไปอีกอย่างล่ะนะ ไม่ค่อยซีเรียสกับการเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับเท่าไหร่ แต่ผมขอเวลาทำใจหน่อยสิ.. ทั้งชีวิตเคยรุกแต่กับผู้หญิง อยู่ๆจะให้มารับผู้ชายมันก็ตะขิดตะขวงในใจแปลกๆ

"กูเมาทีไรตื่นเที่ยงทุกทีนี่หว่า"
มันส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้กันพร้อมกับมือที่อยู่ไม่สุขไล้ไปตามสะโพกของผมทั้งบีบทั้งคลึงสนุกเขาล่ะครับ

"เชี่ยดีพ หยุดเลย"
ผมว่ามันเสียงดุก่อนจะตะปบเข้าที่มือซุกซนของมัน เผลอเป็นไม่ได้เลยครับเลื้อยใส่ตลอด ไม่ค่อยมั่นใจว่ามาเรียนที่ญี่ปุ่นเขาสอนหลักสูตรเป็นปลาไหลให้ด้วยหรือยังไง เหมือนมันจะอัพสกิลความเชี่ยวขึ้นเยอะ ดีพหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างถูกใจแล้วกดจูบลงมาบนปากผมอย่างรวดเร็ว

"ไอ้นี่! ลามปามแล้วนะมึง"
ผมแยกเขี้ยวใส่มันทันทีเมื่อโดนรุกแบบนี้ กำหมัดต่อยลงไปบนไหล่มันอย่างหมั่นไส้ ดีพร้องโอดโอยจนผมเบ้ปาก สำออยไม่มีใครเกิน

"จูบแฟนผิดตรงไหนวะ ไม่เจอกันตั้งหลายเดือน คิดถึง"
ดวงตาคมเข้มที่มองตรงมามีแววออดอ้อนอย่างปิดไม่มิด อ้อมแขนกระชับกอดแน่นขึ้นจนปลายจมูกของเราชนกัน นี่ลืมไปแล้วหรือยังไงว่ายังไม่ได้แปรงฟัน บอกกี่ครั้งก็ไม่เคยจำ โว้ะ

"ไม่ผิด แต่กูบอกมึงเป็นร้อยรอบแล้วป่ะว่าไม่ชอบจูบตอนตื่นนอน ปากเน่า"
ผมย่นจมูกใส่ ทำหน้าเหม็นซะเต็มประดา ไอ้คนดื้อหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงก่อนจะกดจูบลงมาบนปากผมอีกรอบ ดูมันทำ.. เคยฟังกันที่ไหน รั้นเหมือนไอ้คิสไม่มีผิด ดีพนี่รั้นแบบฉลาด ส่วนไอ้คิสรั้นแบบโง่ๆ

"ไม่เห็นเน่า ปากมึงหอมจะตายภีม"
พูดจบมันก็จูบลงมาซ้ำๆจนผมต้องใช้ฝ่ามือดันหน้าผากมันไว้ เสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจดังขึ้นในลำคอของมันอย่างห้ามไม่ได้ แต่ไม่นานมันก็กลีบมายิ้มกริ่มอีกครั้ง.. โคตรเกลียดแววตาเป็นประกายของมันจริงๆ

"ลุกไปอาบน้ำเลยนะมึง ถ้าวันนี้ยังไม่พากูไปเที่ยวอีกกูจะหนีกลับไทย"
ผมผละออกจากอ้อมกอดของดีพอย่างง่ายดายแล้วลุกขึ้นนั่งก่อนจะขยี้หัวตัวเองเบาๆ เหลือบเห็นคนด้านข้างก็ทำแบบเดียวกับผมก่อนจะหันมามองหน้ากันนิ่งๆ ผมเลิกคิ้วกลับไปเป็นเชิงถาม ฝ่ายนั้นถอนหายใจก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่กัน

"กูซื้อตั๋วให้มึงมาหากูนะ ไม่ใช่มาเที่ยว"

"มึงจะนอนกกกูทั้งวันว่างั้น?"

"ถ้าได้ก็ดี"

"อย่ามางอแงนะดีพ มึงแก่แล้วนะ"

"ไม่แก่ กูไม่ยอมแก่"
มันเบะปากใส่ผมก่อนจะเอาหัวยุ่งๆมาซบไหล่กันแล้วถูไปมาอย่างเด็กเอาแต่ใจ เห็นนิสัยแบบนี้มันคิดจะเป็นผัวผมเถอะ แบบนี้มันสมควรยอมให้หรือยังไงกัน ผมผลักหัวมันเบาๆก่อนจะขำออกมา

"อะไรของมึงเนี่ยดีพ อ้อนจะเอาอะไรจากกูหื้ม?"
ผมก้มหน้าลงไปกดจมูกลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่แสนจะยุ่งเหยิง ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมาซบตาผมก่อนดีพจะใช้มือหนาโน้มคอผมลงไปจูบ ไม่ได้เร่าร้อนแต่มันกลับอ่อนโยนละมุนละไม กลีบปากหยักได้รูปบดคลึงลงมาเบาๆอย่างอ้อยอิงเพื่อถ่ายถอดความรู้สึกคิดถึงที่มีให้ต่อกัน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ริมฝีปากเราสัมผัสกัน รู้แค่ว่าอยากจูบกันไปเรื่อยๆก็แค่นั้น

"อีกแล้วนะดีพ กูบอกให้แปรงฟันก่อนจูบไง"
ผมพูดเสียงไม่จริงจังมากนักก่อนจะยกมือขึ้นดีดหน้าผากมันเบาๆ รอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่บนหน้ามัน.. รอยยิ้มที่สามารถทำให้ผมตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า จะไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าผมรักมันมาก และมันจะเป็นผู้ชายคนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตของผม

"ก็กูไม่ได้รังเกียจนี่หว่า มึงเป็นแบบไหนกูก็รับได้ทั้งนั้น"
มันผละออกไปนั่งตรงๆแล้วมองหน้าผมด้วยแววตาจริงจังจนรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เกลียดตอนมันพูดอะไรแบบนี้จริงๆทำให้ใจผมเต้นแรงเหลือเกิน

"พอเลยมึง ไปอาบน้ำไป"
ผมผลักหน้าอกดีพจนมันเกือบหงายหลังตกจากเตียง แต่ดีหน่อยที่ผมคว้าข้อมือมันไว้ทัน นี่ผมไม่ได้เขินนะ.. จริงๆ

"เชี่ย นึกว่าจะลงไปนอนกลิ้งข้างล่างซะแล้วกู"
มันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆราวกับโล่งใจก่อนจะใช้มือข้างที่เหลือมาผลักหัวผมเบาๆ

"กูไม่ได้ตั้งใจเถอะ"
ผมว่าก่อนจะปล่อยข้อมือมันออกแล้วเดินลงจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วขว้างไปคลุมหัวมันพอดิบพอดี ดีพร้องโวยวายอย่างกับเด็กห้าขวบแล้วกระโดดลงจากเตียงมารวบตัวผมไปกอดจากด้านหลัง ผมดิ้นเบาๆพอเป็นพิธีแล้วหันไปค้อนมันวงใหญ่ เล่นอยู่ได้เมื่อไหร่จะถึงห้องน้ำ

"ดีพ เมื่อไหร่มึงจะไปอาบน้ำ"
ผมกดเสียงต่ำแล้วหยิกลงบนแขนแกร่งของมัน หมั่นไส้ว่ะ อุตส่าห์ทำหน้าดุใส่ก็แล้วไม่คิดจะกลัวกันหน่อยหรือยังไง

"โอ้ย ไปอาบน้ำด้วยกันดิ"
มันก้มหน้าลงมากระซิบก่อนจะแกล้งขบติ่งหูผมจนต้องย่นคอหนี เชี่ยเอ้ย ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย ผมฟาดมือลงบนแขนมันเต็มแรง มันซี้ดปากก่อนจะยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ ผมหนีห่างออกมาจากมันหลายก้าวก่อนจะหันไปทำหน้ายักษ์ใส่

"เล่นเชี่ยอะไรเนี่ย! แล้วเป็นบ้าอะไรอาบน้ำคนเดียวไม่ได้ขึ้นมา"

"กู 'อยาก' อาบน้ำกับมึง"
ทำหน้าเป็นหมาหงอย ทำเสียงอ่อย แต่สายตาหื่นกามไม่มีปิดบัง ใช่ว่าผมอาบที่จะอาบน้ำกับมัน แต่...ผมกลัวว่ามันจะไม่จบแค่การอาบน้ำนี่สิ

"จำเป็นมากไหมที่ต้องเน้นคำว่าอยากด้วยสายตาหื่นกามแบบนั้น"
ผมเหล่ตามองมันแล้วส่ายหน้าเบาๆ ในหัวมีแต่เรื่องหื่นกามทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันหรือยังไง ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรกับมันหรอกนะ ผู้ชายเหมือนกัน แต่มันชอบทำตัวหื่นกามได้ทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่จำกัดเวลาและสถานที่

"โห พูดซะกูดูแย่เลยอ่ะ"
ยังจะแสร้งทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จใส่กันอีก เห็นแล้วรำคาญลูกตาจนต้องยกเท้าแตะต้นขาด้านข้างมันไป มันเอี้ยวตัวหลบได้อย่างหวุดหวิดจนน่าหมั่นไส้ ผมจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดเมื่อมันวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที

"ปวดหัวแม่ง"
ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ผมกลับยกยิ้มมุมปากกับความทะลึ่งทะเล้นของมัน อยู่ด้วยกันไม่เคยมีเรื่องเครียดให้ปวดหัวหรอกเพราะชอบกวนตีนกันมากกว่า ไอ้เรื่องนอกใจนี่ตัดไปได้เลยไม่เคยมีอยู่ในหัวของมันและหัวของผม

ตอนนี้พวกเราพากันมาที่สวนสาธารณะอูเอโนะ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นดอกซากุระที่กำลังผลิบาน ดอกสีชมพูล้อมรอบไปทั่วบริเวณจนต้องยกกล้องโปรขึ้นมาถ่ายเก็บภาพ

"ดีพ"
ผมลดกล้องลงแล้วหันไปเรียกคนที่กินไอติมอยู่ข้างๆกัน มันหันหน้ามาหาผมแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

"มีอะไร หรือว่าอยากกินไอติมแล้ว?"
มันยื่นไอติมมาให้ ผมส่ายหน้าปฏิเสธแล้วหลุดขำออกมาเมื่อมุมปากมันมีคราบสีน้ำตาลของไอติมช็อคโกแลตติดอยู่ กินอะไรเลอะเป็นเด็กๆไปได้ นี่ถ้าแฟนคลับของมันมาเห็นคงกรี๊ดกร้าดกันน่าดู ทั้งๆที่ผมมองว่ามันตลกแต่แฟนคลับกลับมองว่ามันน่ารัก

"แดกเลอะเป็นเด็กๆไปได้นะมึง"
ผมล้วงทิชชู่ที่หยิบติดมาจากร้านอาหารส่งให้ดีพ มันส่ายหน้าก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วมองผมด้วยสายตาออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้

"เช็ดให้หน่อย"
ผมเบ้ปากใส่ ทำไมต้องอ้อนกันขนาดนี้ด้วยวะ ก่อนมาเรียนที่นี่ยังไม่อาการหนักขนาดนี้เลย แอบไปทำอะไรผิดแล้วทำตัวน่ารักกลบเกลื่อนกันหรือเปล่า โคตรน่าสงสัย

"อายคนอื่นเขา เอาไปเช็ดเองไป"
ผมยัดกระดาษทิชชู่ใส่มือเด็กโข่งแล้วไม่สนใจมันอีกก่อนจะผละตัวออกไปถ่ายรูป ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกครับ ก็อยู่ใกล้ๆกันนี่ล่ะ

"ทำไมใจร้ายจังวะแฟน"
เสียงง้องแง้งดังขึ้นข้างๆมาพร้อมกับร่างเขื่องๆของมันที่เบียดไหล่เขามาแนบชิดกัน ผมขยับหนีเล็กน้อยเมื่อสังเกตได้ถึงสายตาจากคนรอบข้าง

"อะไร กูใจร้ายตรงไหน?"
ผมหันไปมองคนด้านข้างที่ตอนนี้ไม่มีไอติมอยู่ในมือแล้ว ใบหน้าคมมองตรงไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย อารมณ์ติสต์แตกของมันมาอีกแล้วสิ เด็กวิศวะเชี่ยอะไรเนี่ย

"ทำไมมึงทำท่าเหมือนรังเกียจกู"
น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยออกมาทำให้ผมสะดุดลมหายใจตัวเอง ผมไม่ได้รังเกียจ ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับมันเลยสักครั้ง แล้วทำไมมันถึงพูดแบบนี้ออกมากันนะ หรือผมเผลอทำอะไรให้มันคิดมาก

"ดีพ.. มึงเป็นอะไร?"
ผมแตะมือลงบนต้นแขนของมันเบาๆ แอบใจเสียอยู่เหมือนกันที่มันรู้สึกแบบนั้น

"ไม่รู้ กูคงงี่เง่าเองมั้ง ปกติมึงก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ขอโทษนะ"
มันหันมายิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่พยายามปั้นแต่งจนดูเหมือนหุ่นยนต์ไร้ชีวิตอย่างไรอย่างนั้น ผมไม่ใช่คนปากหวาน ไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรหวานๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่คึกขึ้นมาความหวานก็แผ่กระจายได้เหมือนกัน

"ดีพ...มึงกำลังคิดอะไรอยู่"

"ช่างมันเหอะ กูชิวๆ"

"กูเกลียดคำว่าช่างมัน ทั้งๆที่มึงไม่ได้ช่างอย่างที่พูด"
ผมพูดจบมันเงียบ ผมก็เงียบ เกิดเดตแอร์ระหว่างผมกับมันนานพอตัว ต่างคนต่างมองสบตากันพยายามค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น จนผมทนไม่ไหวต้องทำลายความเงียบนี้ลง

"ดีพ กูขอร้องล่ะ มึงคิดอะไรมึงช่วยพูดออกมาได้ไหม บางครั้งกูก็ไม่ได้เก่งถึงขนาดเดาใจมึงได้ทุกครั้งนะ"
มันมองหน้าผมก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพยักหน้าเบาๆ มันเอื้อมมือมาจับแขนผมก่อนจะพาไปนั่งบนเก้าอี้ตัวยาวใต้ต้นซากุระ

"มึงอายเหรอที่เราคบกัน"
คำถามที่หลุดออกจากปากดีพทำให้ผมนิ่งอึ้ง มือที่เคยจับข้อมือกันคลายออก การที่ผมหลีกเลี่ยงทำตามที่มันอ้อนคือการที่ผมอายอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่แบบนั้นนะ ดีพกำลังเข้าใจผิด

"ไม่ใช่ กูไม่ได้อาย"

"แล้วทำไม..มึงต้องเมินกูด้วย"

"กูไม่ได้เมิน ไอ้เชี่ย"
ทนไม่ไหวจนต้องแอบด่าไปด้วย คือผมไม่เคยเมินมันเลยเว้ย สายตาผมไม่เคยละจากมันเลยสักครั้ง มีแต่มันเองนั่นล่ะที่ชอบคิดเล็กคิดน้อยกับการกระทำที่แข็งกระด้างบางทีของผม

"แล้วทำไมมึงต้องพูดว่าอายคนอื่นเขา"
ส่งสายตาเศร้ามาให้กันอย่างไม่บิดบัง จนผมได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวจนยุ่งไปหมด โอย ทำไมเป็นผู้ชายที่ขี้น้อยใจขนาดนี้วะ

"กูเขิน ชัดยัง ไอ้เหี้ย คนมองขนาดนั้นไม่คิดว่ากูจะเขินหรือยังไง ผู้ชายตัวควายๆสองคนมายืนเช็ดปากให้กันเนี่ย"
ยอมครับ ทนปากแข็งมาได้ตั้งนานสองนาน ไม่คิดว่าดีพจะคิดมากขนาดหาว่าผมรังเกียจมัน คนที่ได้รับคำตอบดูจะอึ้งๆไปก่อนจะยิ้มกว้างแล้วคว้ามือของผมไปกุมไว้ด้วยสีหน้าดีใจแบบสุดๆ

"คนอย่างมึงเขินเป็นด้วยเหรอ น่ารักวะ"
มันยิ้มกว้างจนผมต้องเบนหน้าหลบสายตานั่น บ้าจริงๆทำไมต้องรู้สึกเขินกับคำชมสาวแตกแบบนั้นของมันด้วยวะ

"พ่อง น่ารักเชี่ยไรล่ะ กูก็คนนะทำไมจะเขินไม่ได้วะ"

"ปกติมึงเขินยากจะตายไป"
ดีพพูดจบก็พุ่งเข้ามารวบตัวผมไปกอด ผมสะดุ้งตกใจเลยพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนมัน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มมองกันแล้ว น่าอายชะมัด แก้มก็ร้อนวูบวาบ

"ไอ้ดีพ ปล่อยกู"
ผมกดเสียงต่ำแต่แทนที่มันจะกลัวและสำนึก เปล่าเลยครับ มันยิ่งออกแรงกอดรัดเอวผมมากยิ่งขึ้นจนตอนนี้หน้าผมซุกอยู่ที่ไหล่ของมันยังห้ามไม่ได้ ดีพหัวเราะเอิ้กอ้ากไม่รู้ว่าสนุกอะไรนักหนา

"ไม่ปล่อย จะอายทำไมวะ ไม่มีใครรู้จักเราสักหน่อย"
ผมนิ่งไปแล้วคิดตามมัน ก็จริงนะที่ไม่มีใครรู้จักพวกเรา แต่บอกไปแล้วไงว่าเขิน ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือยังไง! ผมอ้าปากงับลงบนไหล่มันด้วยความหมั่นไส้ ดีพร้องเสียงดังก่อนจะรีบปล่อยผมออกจากอ้อมกอดทันที ผมขยับหนีมันแล้วยักคิ้วใส่

"สมน้ำหน้า!"
ผมพูดจบก็วิ่งหนีมันทันที ได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากด้านหลังไม่หยุดหย่อน แต่คิดว่าผมจะยอมหยุดตามที่มันสั่งง่ายๆเหรอ ฝันไปเถอะครับ วิ่งให้เหนื่อยตายกันไปข้างนี่ล่ะเว้ย

ผมกับดีพวิ่งไล่กันจนเหนื่อยหอบเลยพากันมายืนพักตรงลานน้ำพุกลางสวนสาธารณะอุเอโนะ กล้องถ่ายรูปถูกยกขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบอีกครั้ง โดยที่มีนายแบบจำเป็นอย่างดีพร่วมเฟรมโดยเจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ผมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้รูปดีพตอนเผลอมาครอบครอง เขาเป็นคนที่ดูดีทุกมุมมอง ดีจนน่าอิจฉา แต่ที่มากกว่านั้นคือ... ผมหวง

"ทำไรภีม?"
เหมือนดีพจะรู้ตัวว่าโดนแอบถ่ายเลยเดินตรงมาหาผมแล้วยื่นหน้าเข้ามาดูหน้าจอกล้องด้วยกัน มุมปากหยักได้รูปยกยิ้มก่อนจะมองสบตากับผม

"หล่อนะเนี่ย"
ว่าแล้วก็เสยผมตัวเองก่อนจะยักคิ้วให้ผม น่าหมั่นไส้จนต้องผลักหัวมันไปเบาๆ

"หลงตัวเองฉิบหาย"
ผมบ่นเสียงไม่จริงจังมากนักก่อนจะย่นจมูกใส่มันที่ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี

"มึงก็หลงกูด้วยเถอะ"

"หุบปากได้แล้ว"
ผมหมุนตัวหนีมันไปถ่ายรูปทางด้านอื่น ดีพเดินตามมาติดๆแล้วเอื้อมมือมาสะกิดไหล่กัน ผมหยุดแล้วเลิกคิ้วหันไปมองก่อนจะลดกล้องลง

"ไปปั่นเรือเป็ดกันไหม?"
ผมเหลือกตาใส่มันอย่างเหลือเชื่อ ตกลงว่านิสัยไอ้เดือนมหา'ลัยเนี่ยเป็นคนน่ารักๆมุ้งมิ้งจริงๆใช่ไหม ไม่ใช่พยายามทำตัวหวานๆใส่แฟนแบบผมเพื่อเอาใจ

"เป็นไรของมึงเนี่ย เหลือกตาทำไมวะ"

"มึงอยากปั่นเรือเป็ดจริงดิ?"
ผมถามมันก่อนจะเลิกคิ้วจนรู้สึกว่าหน้าผากตัวเองย่นยับ มันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มแฉ่งส่งมาให้เหมือนเด็กๆกำลังตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่ ผมหลุดหัวเราะพรืดเพราะไม่เคยคิดว่าคนหล่อหน้าเข้มอย่างมันจะมีมุมน่ารักๆแบบนี้

"ดีพ... มึงโคตรมุ้งมิ้งเลยว่ะ มาเป็นเมียกูเถอะ"
ผมทำหน้ากรุ้มกริ่มก่อนจะรั้งเอวมันมากอดไว้ ตอนนี้ไม่อายแล้วครับความอยากแกล้งไอ้ดีพมีมากกว่า มันตกใจทำตาโตก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมเสียวสันหลังวาบ

"กูกำลังทำให้มึงตายใจอยู่ไงที่รัก"
มันมองผมด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เสียงแหบพร่ากระซิบเข้าข้างหูก่อนที่มันจะกดปลายจมูกลงบนซอกคอผมอย่างหน้าตาเฉย ไอ้เชี่ยนี่ลามปามไปเรื่อยแล้วนะ คนแม่งก็หันมามองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้ บางคนถึงกับดีดดิ้นออกอาการฟินจนผมหน้าร้อนวูบวาบแล้วผลักมันออกไปไกลๆ

"เกลียดมึง! จะไปปั่นเป็ดก็รีบๆเข้า"
ผมรีบสาวเท้าเดินเร็วๆหนีมันทันที บอกได้เลยว่าตอนนี้โคตรอาย โคตรเขิน ทำอะไรประเจิดประเจ้อเกินไปแล้วครับ

"รอกูด้วยภีมมมมม ~"
แล้วมันก็แหกปากวิ่งตามมาก่อนจะกอดคอผมแล้วเดินไปด้วยกัน

ตกเย็นพวกเราก็พากันมาย่านการค้าที่มีอาหารขายเต็มสองข้างทางถนน ไฟประดับประดาสีสันสวยงามไม่ต่างจากกรุงเทพฯยามค่ำคืนสักเท่าไหร่นัก

"กินอะไรกันดี?"
ผมถามคนที่เดินเคียงข้างกัน ดีพยกแขนขึ้นมาพาดไหล่แล้วดึงผมเข้าไปใกล้ ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้กรอกครับว่าดีพทำแบบนี้แล้วผมรู้สึกดีเพราะอากาศกำลังเย็นลง

"มึงอยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวกูพาไป"
ดีพหันมายิ้มให้ มันเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขที่เขาชอบมอบให้ผมเสมอมา

"คิดไม่ออก มึงอยากกินอะไร"
ผมถามมันกลับไปบ้างก่อนจะหยุดเดินแล้วหมุนตัวกลับทางที่เพิ่งเดินผ่านมา ผมมึนงงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ท้วงอะไรออกไป

"กูอยากกินมึง ได้ป่ะ?"
มันกระซิบข้างหูก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่มใส่กัน ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะตบหัวมันไปเต็มๆ แล้วผลักมันออกไปไกลๆ ดีพหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างพอใจ นี่ก็แม่งหื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ -_-

"ฝันอยู่เหรอไง"
ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะเดินหนีกลับไปทางเดิม คือหิวครับไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย

"ภีมอ่า มึงอย่างอนดิ กูล้อเล่น"
มันเดินตามผมมาก่อนจะดึงแขนผมไปกอด ดวงตาคมฉายแววออดอ้อนจนผมที่เผลอมองแอบใจสั่น จริงๆก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าทุกครั้งที่มันพูดเรื่องอย่างว่าแล้วผมแอบเคลิ้มตามไปกับมัน แต่พอคิดขึ้นมาได้ว่าคนอย่างมันไม่มีทางรับ ผมก็กลัวขึ้นมา... กลัวเจ็บ ก็คนมันไม่เคยนะเว้ย แล้วคิดถึงสภาพตัวเองร้องครางใต้ร่างมันสิ อัปยศอดสูฉิบหาย โอยย แล้วทำไมต้องหน้าร้อนวูบวาบด้วยวะเนี่ย เกลียดตัวเอง

"พอ เลิกหื่นสักวันมันไม่ตายหรอกดีพ"
ผมเหล่ตามองมันแล้วส่ายหัวปลงๆ ดีพแสร้งทำหน้าหงอยแล้วพยักหน้าเบาๆ

"ก็ได้ๆ ไปกินราเมนกัน"

"อือ"
แล้วเราก็จบลงที่ร้านราเมนชื่อดังในย่านการค้าแห่งนี้ กว่าจะกลับถึงห้องพักเวลาก็ล่วงเลยเข้าช่วงสี่ทุ่มไปแล้ว ผมจัดการอาบน้ำเรียบร้อยแล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงอย่างหมดแรง วันนี้ชีพจรลงเท้าทั้งวันจนปวดเมื่อยไปหมด

"เป็นไรวะภีม"
ดีพออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ยอมรับว่าโคตรเซ็กซี่ ส่วนบนเปลือยเปล่าโชว์ซิกแพคลอนสวย มีเพียงกางเกงวอร์มขายาวที่ปกปิดร่างกาย หยดน้ำเกาะพราวอยู่บนเส้นผม ผ้าผืนเล็กสีขาวกำลังขยับไปตามเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ดูดีจนต้องเบือนหน้าหนี ที่มันถามออกมาแบบนั้นคงเพราะเห็นว่าผมบิดตัวไปมาบนเตียงพร้อมกับทำใบหน้ายุ่งแน่ๆ

"ปวดขา ปวดเท้า"
ผมนอนกางแขนกางขาอยู่นิ่งๆก่อนจะรู้สึกว่ามีเงาดำๆขึ้นมาทาบทับตัวเอง ดีพเดินเข้ามาหยุดตรงตำแหน่งปลายเตียงที่ผมนอนอยู่ มันลากเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งลงก่อนจะดึงขาผมแล้ววางลงบนตักตัวเอง ยอมรับว่าตกใจกับการกระทำของมันจนต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่ง

"จะทำอะไร?"
ผมถามมันด้วยน้ำเสียงตกใจ ไม่เคยพบเคยเจอดีพในโหมดนี้มาก่อนถึงจะคบกันมาเกือบปีก็เถอะ

"เดี๋ยวนวดเท้ากับขาให้"
มันยิ้มก่อนจะวางมือลงบนเท้า ผมรีบดึงเท้ากลับแต่มันก็คว้าข้อเท้าไว้เต็มมือก่อนจะส่งสายตาดุๆมาให้กัน

"เห้ย ไม่เอา กูนวดเองได้ นั่นเท้านะเว้ย"
ผมกระตุกเท้าเบาๆเพื่อจะให้มันปล่อย แต่ดีพยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นแล้วออกแรงบีบข้อเท้าผม

"แล้วยังไง กูไม่ได้รังเกียจสักหน่อย"
สายตาจริงจังส่งมาให้กันจนผมไปไม่เป็นเลยทีเดียว

"แต่มึงเป็นพี่กูนะ แล้วนั่นมันของต่ำ"
ผมหลุบตามองมือมันที่จีบข้อเท้าผมอยู่ ดีพแก่กว่าผมหนึ่งปี แต่ที่ผมไม่ยอมเรียกว่าพี่เพราะ..ผมไม่เคยเรียกแฟนว่าพี่นี่หว่า

"กูเป็นพี่มึงก็จริง แต่กูก็เป็นแฟนมึงด้วย ดูแลแฟนแค่นี้กูเต็มใจว่ะ มึงนั่งเงียบๆไปเลย"
คำพูดของมันทำให้ผมนิ่งอึ้งจนไม่กล้าพูดอะไรต่อ ได้แต่ปล่อยให้มันจัดการเป็นหมอนวดจำเป็นไปก่อนที่รอยยิ้มบางจะประดับขึ้นทั้งบนใบหน้าของผมและของมัน ไม่ต้องทำอะไรมากแค่อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว ผมนั่งมองมันอย่างเงียบเชียบ เวลาดีพตั้งใจทำอะไรสักอย่างแววตาจะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สีหน้าจริงจังดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด มีหลายครั้งที่ดีพเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม เราต่างคนต่างยิ้มให้กัน

"ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"
ดีพหยุดมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสบตา ผมพยักหน้าก่อนจะโน้มคอมันเข้ามาใกล้แล้วกดจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆเพื่อเป็นการขอบคุณ

"ขอบคุณนะดีพ"
ผมผละออกแล้วเอ่ยคำขอบคุณอีกครั้ง ดีพขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยประโยคที่ฟังแล้วน่าถีบให้กระเด็นตกจากเก้าอี้จริงๆ

"ไม่พอ อยากได้อีก"
มันส่งสายตากรุ้มกริ่มก่อนจะดันให้ผมนอนราบลงกับเตียง ส่วนตัวมันขยับขึ้นมาคร่อมไว้ ผมยกมือดันหน้าอกแกร่งของมันให้ระยะห่างของเราอยู่ในช่วงปลอดภัย

"โลภมาก"
ผมเบ้ปากใส่มันก่อนจะแอบหยิกเนื้อบริเวณหน้าอกของดีพ มันยู่ปากเล็กน้อยก่อนจะกลับมายิ้มกริ่มเหมือนเดิม ยอมรับว่าตอนนี้ผมโคตรใจสั่นเลยครับ

"ตั้งแต่ได้รักมึงกูก็กลายเป็นคนโลภมาก"

"อย่ามาโทษกู"
ผมถลึงตาใส่แต่มือที่ดันอกมันเปลี่ยนไปโอบรอบคอหนาแทน ปากสวนทางกับการกระทำนี่ก็มีผมคนหนึ่งล่ะครับที่เป็น

"เวลาอยู่กับมึงอะไรๆมันก็ไม่เคยพอนี่หว่า ไม่เห็นกูจะมีอาการแบบนี้กับคนอื่น"
มันโน้มตัวลงมาจนปลายจมูกของเราแตะกัน ลมหายใจอุ่นๆเบารดลงบนแก้มของผมจนร้อนวูบวาบ ไม่รู้ว่าร้อนเพราะลมหายใจหรือเพราะเขิน

"ปากหวานนะมึง"
ผมว่าก่อนจะเกร็งตัวงับปลายจมูกของมัน ดีพย่นจมูกก่อนจะยิ้มแล้วเลื่อนมือมาลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบา สายตาของเรามองประสานกันไม่มีท่าทีว่าใครจะยอมแพ้

"หวานให้มึงชิม"

"งั้นเอามาชิม"
ผมโน้มคอมันลงมาจนริมฝีปากของเราแตะกัน ริมฝีปากหยักค่อยๆบดคลึงลงมาอ่อนโยน เรียวลิ้นร้อนถูกส่งออกมาละเลียดไปตามริมฝีปากของผมมันช่างอ้อยอิ่งจนรู้สึกวาบหวาม ปากล่างถูกดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบวมเจ่อ ผมเผยอปากกอบโกยอากาศเข้าปอดเป็นจังหวะดีที่ดีพสอดลิ้นเข้ามาเกี่ยวตวัดหยอกล้อเคล้าคลึงกับลิ้นของผม จูบช่างหอมหวานจนไม่อยากผละออกจากกัน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างอ่อนโยน ไม่มีการล้วงล้ำกันมากกว่านั้นจนสุดท้ายเราก็ผละออกจากกัน

"หวานป่ะ?"
คำถามกวนๆมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ โคตรขัดกันแต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มออกมา

"เออ หวาน"
ผมตอบไปก่อนจะโน้มคอมันลงมาจูบอีกครั้ง ผมคึกแล้วล่ะ...ความหวานเลยแผ่กระจายขนาดนี้

"อยากชิมตัวมึงบ้าง.. แต่กูไม่บังคับมึงนะ"

"อือ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่กูจะบอก"

"ครับผม กูจะรอนะ.. รอจนกว่าจะทนไม่ไหว"
ผมถลึงตามองมันทันทีเมื่อรู้สึกว่าคำพูดของมันแปลกเกินไป ดีพเลิกคิ้วขึ้นทำหน้าใสซื่อแล้วทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆกัน

"มึงคิดจะปล้ำกูใช่ไหม?"
ผมพลิกตัวนอนตะแคงแล้วมองมันอย่างคาดคั้น เจ้าตัวหันมามองกันแล้วยิ้มเผล่ออกมาก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก

"ก็มึงน่าฟัด ไม่รู้กูจะทนได้แค่ไหน"
พูดจบก็ตรงเข้ามางับแก้มกันกน้าตาเฉยจนผมต้องใช้มือดันหน้าผากให้ดีพออกไปห่างๆ

"คืนนี้มึงออกไปนอนนอกห้อง นี่คือคำสั่ง!!"
ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะยกเท้าถีบมันจนตกเตียง เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นทันทีเมื่อก้นมันสัมผัสกับพื้นแบบเต็มๆ ผมนอนหัวเราะเอิ้กอ้ากด้วยความสะใจเมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งที่มองตรงมา

"ใจร้าย! อย่าเผลอนะภีม มึงต้องเสร็จกูสักวัน"
มันชี้หน้าคาดโทษกัน แต่ผมแลบลิ้นใส่ ไม่แคร์หรอกครับ กล้าปล้ำก็เอาสิ แต่หลังจากปล้ำแล้วมันคงตายคาตีนผมอย่างไม่ต้องสงสัย

"กูจะรอวันนั้นนะดีพ โอ้ยๆ ตื่นเต้นจัง"
ผมแกล้งทำสะดีดสะดิ้งทั้งๆที่ไม่ชอบ แต่การได้แกล้งแหย่มันเป็นอะไรที่ผมมีความสุข ดีพพุ่งตัวขึ้นมานอนทับกันก่อนจะจับผมฟัดด้วยความมันเขี้ยว

"ไอ้เชี่ย! หยุดเลย"
แล้วผมก็ถีบมันตกเตียงไปอีกรอบ คราวนี้มันนั่งหน้างอง้ำอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จา สงสัยจะโกรธจริง ผมคลานลงจากเตียงแล้วไปนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้า ใช้สองมือประคองแก้มมันบังคับให้สบตา

"กูขอโทษ เจ็บมากไหม?"
มันมองหน้าผมนิ่ง ไม่ยอมตอบอะไรออกมาจนผมต้องโน้มตัวเข้าไปจุ๊บปากมันเบาๆ

"ขอโทษนะครับ"
ยังคงเงียบไร้สัญญาณตอบรับจนผมต้องกดจูบลงบนปากนั่นอีกครั้ง

"พี่ดีพครับ ภีมขอโทษ ไม่โกรธภีมนะครับคนดี"
พอพูดจบเท่านั้นล่ะ ดีพก็ดึงผมเข้าไปกอดแนบอกทันที ผมเผลอยิ้มแล้วซุกหน้าลงบนไหล่หนา อ้อนเข้าหน่อยดีพก็แพ้ผมแล้ว

"กูรักมึงนะภีม"
คำบอกรักที่ไม่ได้หวานหูแต่มันกลับอุ่นไปทั้งหัวใจ ชอบนะชอบมากกับคำบอกรักที่ออกมาจากใจจริงๆ ไม่มีการปรุงแต่งแบบนี้

"รักมึงเหมือนกัน"



----------------------------------------------------------

เห็นจีบกับคิสเขางุ้งงิ้งกันมามากแล้ว คราวนี้มาจับตามองคู่ดีพภีมกันบ้างเนอะ คึคึ

ปล.อ่านให้สนุกน้า  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2016 13:41:43 โดย Ch0cmint »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1:   :o8:   กลายเป็นว่าคู่พี่นี่ถีบไปจูบไป หวานเนอะ
เอาไว้ค่อยตกลงเรื่องใครกดใครเนอะ น่าสงสารภีมเบาๆเหมือนกัน เดี๋ยวเดี้ยงแล้วอดเที่ยว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2016 13:15:12 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
พี่ดีพค่ะ คนอ่านก็ลุ้นอยู่นึกว่าจะมี อะไร  :z2: แบบนี้อ่ะป่าว ที่ไหนได้ยังได้เเค่ เต๊าะ ภีม หู๊ยยยยย

ส่วนน้องชายพี่ กำลัง อินเลิฟ เหมือนกันนะ
มีความอยากอ่านพี่จีบ น้องจูบ เเล้วนะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
แหม คู่นี้ต้องแบบถีบแล้วจูบซินะ  :hao7:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ภีม - ดีพ  เดี๋ยวจูบเดี๋ยวถีบ
รอดูว่าใครจะได้กดใคร


 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
นี่ไม่รู้จะ #ทีมภีม หรือ #ทีมดีพ ดีเลยเนี่ย

ฮาาาาา

ทีมพี่จีบละกัน กร๊ากกกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
น่ารักอ่ะ มุ้งมิ้งกันดีจริงๆ ขออีกๆๆๆ o13 o13

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 9 -




แดดตอนเที่ยงวันแผดเผาทุกอย่างจนร้อนระอุ อุณหภูมิมากกว่า 35 °c ทำให้ผมพาตัวเองพุ่งเข้าร้านกาแฟทันที เหงื่อเม็ดโตเปียกชื้นตามไรผมและค่อยๆไหลลงตามกรอบหน้า มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อออกด้วยความรำคาญอย่างสุดซึ้ง มืออีกข้างดึงเสื้อเชิ้ตตัวเก่งสีชมพูอ่อนสะบัดไปมาเพื่อไล่ความร้อน เครื่องปรับอากาศเย็นช่ำกำลังเป่าลมรดลงบนหัวได้อย่างพอดิบพอดี

วันนี้เป็นวันอาทิตย์และเป็นวันหยุดของร้านกาแฟ แต่ที่พี่จีบเรียกผมมาที่ร้านก็เพราะว่าต้องทำกาแฟไปส่งให้เพื่อนๆที่หอสมุดกลางมหา'ลัยซึ่งผมก็ต้องมาช่วยพี่เขาก่อนจะพาผมไปเที่ยวต่อ

"ไปยืนทำอะไรตรงประตูวะ เดินเข้ามาดิ"
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหน้านั้นช่างคุ้นเคย ผมส่งยิ้มให้บุคคลที่โผล่ออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์ด้วยรอยยิ้มแหย

"ขอตากแอร์แป็ปนึง"
ผมเงยหน้ารับลมเย็นแล้วหลับตาลงพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา มันช่างสดชื่นจนไม่อยากออกไปเผชิญกับแสงแดดด้านนอกอีกแล้ว

"เข้ามานั่งดีๆ ตรงนี้แอร์ก็เย็น"
คนร่างสูงเดินตรงเข้ามาแล้วใช้ท่อนแขนแข็งแรงล็อกคอผมก่อนจะลากให้เดินไปหย่อนตัวลงบนเก้าอี้บาร์ตัวสูง ผมดิ้นเล็กน้อยเพราะหายใจไม่ออก

"โอย พี่จีบ ผมหายใจไม่ออกเว้ย จะฆ่ากันหรือไง"
ผมแหกปากโวยวายแต่อีกคนกลับหัวเราะเอิ้กอ้ากเพราะสามารถแกล้งผมได้ จากวันนั้นที่ผมรู้ว่าพี่เขาจีบผมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังขี้แกล้งมากกว่าเดิมอีกด้วย ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตอนที่พี่จีบยอมละแขนออกจากคอแล้ว

"ใครเขาจะฆ่ามึงกันไอ้คิส มโนเนอะ"
พี่จีบว่าก่อนจะยิ้มขำ ผมมุ่ยหน้าใส่แล้วหันหนีมันทันที จีบกันแบบนี้เหรอครับ? ป่าเถื่อนสิ้นดี ทั้งด่าทั้งแกล้ง หึ!

"งอนเหรอ?"

"เปล่า!"
ไม่งอนครับ แต่เสียงสะบัดจนเด็กห้าขวบยังจับได้ ผมกอดอกตัวเองแน่นแล้วเบะปากลงอย่างขัดใจ รู้สึกได้ว่านับวันไอ้ความแมนๆเตะบอลจะลดน้อยลงขึ้นทุกวัน.. ลดฮวบลงอย่างน่ากลัวซะด้วย ผมยังวางพี่จีบอยู่ในฐานะไอดอลนะ เพราะยังไม่แน่ใจว่าการชอบใครสักคนแบบคนรักมันเป็นยังไง ก็คนมันไม่เคยมีแฟนนี่หว่า อย่ามาเร่งรีบกับคนอย่างผม ถ้าชอบจริงต้องรอได้ครับ ถึงจะไม่เคยมีแฟนแต่ผมก็อยากคบใครสักคนด้วยความรู้สึกรักจริงๆไม่ใช่แค่ชอบ

"มึงนี่ปากแข็งแต่การกระทำได้โล่ไปละ"
พี่จีบทำหน้าเซ็งๆแต่มืออยู่ไม่สุขเอื้อมมาขยี้หัวปมจนยุ่งเหยิงไปหมด ผมค้อนขวับใส่เขาทันทีแล้วปัดมือออกด้วยท่าทีไม่จริงจังมากนัก คนเขาอุตส่าห์เซ็ตผมซะดิบดีเพราะพี่จีบจะพาไปเที่ยวหรอกนะ

"ผมยุ่งเนี่ย หมดหล่อแล่ว!"
ผมทำหน้าบูดบึ้งแล้วใช้มือจัดแต่งทรงผมใหม่แบบลวกๆ พี่จีบมองมาแล้วขำเบาๆอย่างไม่สะทกท้านว่าผมกำลังหงุดหงิด ร่างสูงเดินกลับเค้าไปหลังเค้าน์เตอร์บาร์โดยไม่พูดอะไรอีกแล้วไม่นานนักเสียงเครื่องทำกาแฟก็ดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคยโชยมาแตะจมูก น้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงานเรียกหาอาหารทันที

"เอาไป ไถ่โทษที่กูแกล้งมึงแล้วกัน"
แก้วทรงผลส้มสีใสบรรจุเครื่องดื่มสีน้ำตาลอ่อนถูกส่งมาตรงหน้า กลิ่นหอมของกาแฟและนมที่ลงตัวลอยมาแตะจมูกจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหาย นมสีขาวละมุนถูกวาดลวดลายเป็นรูปหัวใจตรงกึ่งกลางแก้ว ดูแล้วมันช่างหอมหวานยังไงชอบกล ผมรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบเมื่อได้เห็นลาเต้อาร์ตแก้วนี้ ซึ่งมันต่างจากแก้วอื่นๆที่เคยเห็นมาอย่างสิ้นเชิง... โดยทำกาแฟจีบก็คราวนี้ล่ะวะไอ้คิส

"โห.. ทำรูปหัวใจก็ได้ด้วยเหรอ? ปกติไม่เห็นเคยทำเลย"
ผมแสร้งถามออกไปด้วยใบหน้าที่ปั้นแต่งให้ใสซื่อที่สุด ปกติพี่จีบไม่เคยทำลาเต้อาร์ตรูปหัวใจเลยเพราะเขาจะทำรูปคล้ายๆใบไม้ทุกครั้ง ผมไม่อยากยอมรับว่าหลังๆมานี้ฉลาดขึ้นเยอะสามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนเป็นมุกจีบผมของพี่เขาบ้าง อย่างเช่นตอนนี้โดนจีบอยู่แน่ๆ

"ทำให้คนพิเศษอย่างเดียวว่ะ"
พี่จีบตอบกลับก่อนจะยักคิ้วให้กัน ผมที่รู้อยู่แล้วว่าโดนจีบแต่ก็ยังเขินจนได้ ไร้ภูมิต้านทานจากโรคจีบลิซึ่มจริงๆให้ตายเถอะ นี่ขนาดยังชอบแบบมายไอดอลนะ แต่ถ้าวันไหนผมรู้ใจตัวเองว่าชอบพี่จีบแบบคนรักขึ้นมาผมจะหลงมันหัวปักหัวปำขนาดไหน!

"เสี่ยวเหรอ?"
ผมเบ้ปากใส่แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมาจรดริมฝีปากเพื่อลดความเขิน ไอน้ำร้อนๆปะทะเข้ากับแก้มเลยไม่รู้ว่าหน้าร้อนเพราะไอกาแฟหรือเขินคนตรงหน้ากันแน่

"กูไม่เสี่ยว แต่กูชอบทำให้เสียวนะ"
ใบหน้าคมก้มลงมาจนจมูกเกือบชนกัน ผมผงะถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้ แก้วกาแฟในมือสั่นกึกๆเพราะหัวใจกำลังเต้นแรง พี่จีบพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแล้วใช้สายตากรุ้มกริ่มมองกันจนผมอดขนลุกซู่ไม่ได้

"แม่ง หื่นกาม!"
ผมละล่ำละลักด่ามันไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ มือสั่นกึกๆจนไม่สามารถประคองแก้วลาเต้ไม่ได้สุดท้ายก็ตัดสินใจวางมันบนจานรองเหมือนเดิม ดวงตากลมเบนหนีไปมองพื้นหินอ่อนของร้านอย่างไม่จำเป็น

"ล้อเล่นน่า จริงจังไปได้"
พี่จีบว่าก่อนจะส่งเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ ผมเบ้ปากใส่มัน หัวเราะแบบนั้นใครเขาคงเชื่อว่าล้อเล่น โคตรเจ้าเล่ห์เลยเหอะ

"ใครจะไปเชื่อ พี่จีบมีเรื่องที่ผมคาดไม่ถึงตลอดเลยนะ"
ผมว่าก่อนจะเหลือบมองคนที่เอาแต่ส่งรอยยิ้มอารมณ์ดีมาให้กัน นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนเค้าน์เตอร์บาร์เป็นจังหวะเหมือนต้องการกดดันอะไรบางอย่าง แต่ผมคงรู้สึกไปเอง

"ไม่เชื่อตอนนี้ไม่เป็นไร เพราะต่อไปกูจะทำให้มึงเชื่อใจกูเอง"

"โหย เลี่ยนๆ กาแฟไม่อร่อยเลยเนี่ย"
ผมพูดปัดๆก้อนจะทำหน้ายี้ใส่แก้วกาแฟ รูปหัวใจที่เกิดจากการเทนมยังไม่เสียรูปทรงแต่อย่างใด มองแล้วก็พาลทำให้แก้มร้อนได้อีกครั้ง

"กาแฟไม่อร่อย งั้นลองชิมบาริสต้าหน่อยไหมครับน้องคิส?"
พี่จีบยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินอ้อมออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์ ผมรีบกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วขยับตัวหนี พี่จีบสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วคว้าข้อมือของผมไปจับไว้ก่อนจะออกแรงกระตุกให้ผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำหอมยี่ห้อดังผสมกับกลิ่นกาแฟอ่อนๆ จะว่ากลิ่นมันแปลกก็แปลกจะว่าหอมก็หอม สรุปแล้วเคลิ้มจนลืมตัวว่าโดนแต๊ะอั๋งอยู่ เมื่อผมได้สติจึงดิ้นไม่หยุด วงแขนแกร่งออกแรงรัดรอบตัวผมเพิ่มขึ้นจนรู้สึกเจ็บ ฮึก นี่ชอบผมจริงๆเหรอดูยังไงๆก็เหมือนจะฆ่ากัน

"ไอ้พี่จีบ ปล่อยผมนะ ไอ้คนหื่นกาม ทะลึ่ง!!"
ผมดิ้นขลุกขลักต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้ มือทั้งสองข้างปัดป่ายทุบตีไปมั่วซั่วโดนบ้างไม่โดนบ้าง แต่พี่จีบยังคงยิ้มหน้าบานและหัวเราะเอิ้กอ้ากด้วยความสะใจ ฮึ่ยย ผมหมดแรงจะดิ้นเลยหยุดแล้วหอบแฮ่กออกมาเสียงดัง พี่จีบยอมปล่อยตัวผมแล้วดึงไปนั่งที่โซฟาเป็นการพัก

"กูแกล้งมึงเล่นเอง จริงจังไปได้ว่ะ"
พี่เขานั่งยองๆลงตรงหน้าผมก่อนจะใช้ปลายนิ้วดันเชยคางให้มองสบตากัน ผมจิ๊ปากก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาอ่อนโยนนั่น ตบหัวแล้วลูบหลังหรือยังไงกัน น่าหงุดหงิดชะมัดแต่หัวใจมันทรยศเต้นดังโครมครามก้องหู

"พี่แม่ง ไม่เลิกแกล้งผมสักที"
ผมบ่นเสียงงึมงำเพราะยังเหนื่อยจากการออกแรงดิ้น เสียงหอบเล็กน้อยเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดี

"เคยบอกมึงไปยังว่ากูชอบใครก็แกล้งคนนั้นล่ะ"
พี่จีบยกมือขึ้นขยี้หัวผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่ปัดออกเพราะสัมผัสมันช่างอ่อนโยนและปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกอบอุ่น ถึงคำพูดจะดูกวนตีนไปหน่อยแต่น้ำเสียงของเขากลับทำให้ผมไม่โกรธอะไร ฟังไปฟังมาเหมือนคำสารภาพรักเลยแฮะ

"อือ รู้แล้วๆ พี่เป็นอะไรกับหัวผมมากไหมเนี่ย ชอบเล่นจังนะ หมดหล่อเลย"
ผมบ่นกระปอดกระแปดไม่เต็มเสียงนักก่อนจะย่นจมูกใส่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาผมช้อนมองหน้าผมที่พยายามก้มหลบจนคางเกือบจะชิดอก มือที่ขยี้ผมไปเมื่อครู่เลื่อนลงมากอบกุมแก้มของผมก่อนจะดึงเบาๆด้วยความมันเขี้ยว

"ได้แต๊ะอั๋งมึงแล้วมีความสุขว่ะ"
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้าวยาวๆเดินจากไป ปล่อยให้ผมนั่งมึนกับสิ่งที่ได้รับ ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยกมือทั้งสองขึ้นปิดหน้าแล้วส่ายหัวไปมาด้วยความเขิน ถ้าไม่เกรงใจว่าพี่จีบจะตกใจผมคงว้ากเสียงดังลั่นร้านไปแล้ว ผมดีดดิ้นเป็นคนบ้าอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ได้ยินเสียงหัวเราะแว่วดังมาจากด้านหลังเค้าน์เตอร์จึงต้องหันไปค้อนใส่คนอารมณ์ดี

ผมนั่งรอพี่จีบทำออเดอร์ของบรรดาเพื่อนบังเกิดเกล้าอย่างพี่แก๊ปกับพี่คิน ระหว่างนั้นก็นั่งเล่นเกมปลูกผักในฟาร์มฆ่าเวลาไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักเสียงเรียกของพี่เขาก็ดังขึ้นจนผมต้องละสายตาออกจากจอสี่เหลี่ยม

"เสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวมึงถือแก้วไปนั่งรอบนรถนะ กูเก็บของแป็ป"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะรับกุญแจรถ BMW ลูกรักของพี่จีบมาถือไว้พร้อมกับถือแก้วมอคค่าเย็นและคาปูชิโน่เย็นพร้อมด้วยถุงขนมเค้กแล้วเดินออกไปขึ้นรถ พี่เขาก็ไว้ใจผมเนอะให้กุญแจมาเปิดรถเองเนี่ย ถ้าเกิดผมขโมยรถขึ้นมาล่ะ? ไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองจะโดนกระทืบจนเละแค่ไหน

ผมวางทุกสิ่งอย่างไว้บนตัก สองมือประคองแก้วกาแฟไว้เพราะกลัวมันหก พี่จีบที่ปิดร้านเรียบร้อยเปิดประตูรถแล้วสอดตัวเข้ามานั่งประจำที่คนขับก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกุญแจบนตักผม... แต่ความบัดซบก็บังเกิดเมื่อผมเสือกวางกุญแจรถไว้ใกล้น้องชายตัวเอง แถมมือยังไม่ว่างหยิบให้ไอ้พี่จีบอีก

หมับ

"เอ่อ... ขอโทษว่ะ"
พี่จีบเอ่ยปากขอโทษเมื่อรู้ตัวว่าสัมผัสโดนเป้ากางเกงผม กุญแจที่ถืออยู่ในมือสั่นเล็กน้อย ดวงตาคมเหลือบมองมาทางผมด้วยสีหน้าที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจก่อนความอายจะแล่นริ้วไปทั่วใบหน้า ฮือ โง่เองที่ตั้งไม่ถูกที่ถูกเวลา

"มะ ไม่เป็นไรครับพี่"
ผมพูดตะกุกตะกักมือเรียวเผลอบีบแก้วกาแฟแน่นเพราะอาย ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหน จะเปิดประตูแล้ววิ่งลงจากรถก็ดูจะโอเวอร์มากเกินไป

"คิส..."
พี่จีบเรียกผมเสียงเบาจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความงงปนสงสัย ใบหน้าด้านข้างของพี่จีบขึ้นสีแดงระเรื่อจางๆ... ผมเม้มปากแน่นก่อนที่ความคิดในสมองจะเตลิดไปไกล โอ้ย จากที่ไม่เป็นอะไรตอนนี้จะเป็นแล้วครับ หน้าร้อน ตัวร้อน เหมือนจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆแล้ว พี่มันจะมาเขินอะไรตอนจับเป้าผมล่ะเว้ยยยยย

"คะ ครับ"
ฮือ ไม่ไปแล้วได้ไหม พี่แก๊ปกับพี่คินมึงถ่อสังขารมาเอากาแฟเองดิ๊ แล้วเป็นห่าอะไรกาแฟที่มหา'ลัยก็มีขายทำไมไม่ซื้อแดก ฮ่วยยยย รบกวนวันหยุดยังไม่พอพากูอับอายขายขี้หน้าด้วยเนี่ย

"มึงยั่วกูเหรอ?"
พี่จีบหันมามองกันเต็มๆสองตาก่อนที่มุมปากจะกระตุกเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย ผมอ้าปากหวอก่อนจะแยกเขี้ยวใส่มันเมื่อตั้งสติได้ ถ้าไม่ติดว่าถือแก้วกาแฟอยู่นะจะฟาดแม่งให้น่วมคามือเลยไง คิดมาได้ยังไงวะว่าผมยั่ว ไม่ได้ถอดกาเกงโชว์แก้มก้นให้ดูสักหน่อยเว้ย ว่าผมขี้มโนจังนะ ไม่รู้ตัวเองเลยว่าโคตรขี้มโน!

"บ้า! ไอ้พี่จีบนะ ถ้ายังไม่เลิกแกล้งกันผมซัดแก้วกาแฟใส่หน้าจริงด้วย"
ผมยกแก้วกาแฟขึ้นเหนือหัวแสดงความเอาจริง แววตาที่ใช้มองพี่จีบไม่มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด เขาทำหน้าเหวอก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นยอมแพ้ ผมจิ๊ปากใส่ก่อนจะยอมลดแก้วในมือลง

"ยอมแพ้ๆ อย่าซัดมานะเว้ย เดี๋ยวรถเลอะ"
พี่จีบหันไปเสียบกุญแจแล้วสตาร์ทรถขับออกไปทันที ผมนั่งหน้าบึ้งไปตลอดทางจากร้านกาแฟถึงมหา'ลัย เสียงเพลงที่เปิดคลอไปเบาๆไม่ได้ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นเลยด้วยซ้ำเพราะมีน้ำเสียงทุ้มๆของพี่จีบร้องคลอไปด้วย... ทำไมต้องเป็นเพลงรักหวานซึ้งด้วยวะ ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกหน้าร้อนทั้งๆที่เขาไม่ได้ร้องให้ผมฟังสักหน่อย!

Please, Give me the first kiss ~

ผมสะดุดกึกกับเพลงเกาหลีท่อนหนึ่ง..ไม่รู้ว่าพี่จีบมันจงใจร้องท่อนนี้หรือมันร้องได้แค่ท่อนนี้กันแน่ แต่สายตาที่มองมามันระยิบระยับจนผมต้องเบือนหน้าหนีไปมองข้างทาง ใครใช้ในรถติดไฟแดงตอนนี้ล่ะวะ จะมาขอจูบแรกกันหน้าด้านๆงี้เลยเหรอ ไม่ให้หรอกเว้ย หวงมากอยากบอก

"ลงไป"
น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นเมื่อรถเข้ามาเทียบจอดหน้าหอสมุดกลางภายในมหา'ลัย ผมทำหน้าเหรอหราก่อนจะใช้นิ้วง้างประตูเปิดออกอย่างทุลักทุเล ถ้าไม่ระวังมีหวังได้อาบกาแฟแน่ๆ ผมพยายามอยู่นานแต่ก็เปิดไม่ได้สักที ตั้งใจว่าจะวางฝากแก้วกาแฟให้พี่จีบถือแต่ก็ต้องชะงักเมื่อแขนแกร่งเอื้อมมาเปิดประตูให้กัน ใบหน้าด้านข้างของพี่จีบเฉียดปลายจมูกผมไปเพียงนิดเดียว นี่มันเท่ากับผมหอมแก้มมันหรือเปล่าวะ... อ๊ากกก

"เอ้า นั่งตัวแข็งอยู่ทำไม รีบๆลง น้ำแข็งละลายแล้ว"
พี่จีบมองผมด้วยสายตาดุๆ ผมรีบลงจากรถอย่างทุลักทุเลแล้วใช้สะโพกดันประตูรถให้ปิดลง พี่จีบลดกระจกก่อนจะพูดกับผม

"ไปนั่งรอมันที่ม้าหินอ่อนนะ เดี๋ยวกูโทรให้มันลงมาเอา"
ผมพยักหน้ารับคำหงึกหงักแล้วหมุนตัวกำลังจะเดินไปแต่ก็ต้องชะงักแล้วเอี้ยวคอไปถามคนที่จอดรถรออยู่

"พี่จีบจะรอตรงนี้หรือไปรอที่จอดรถครับ"

"มึงเสร็จแล้วโทรมา เดี๋ยวกูวนรถมารับ"

"โอเคครับ"
ผมพูดจบก็หันกลับแล้วเดินตรงไปหย่อนตัวลงที่ม้าหินอ่อนในสวนหย่อมเล็กๆหน้าหอสมุด รอไม่นานนักร่างของคนสูงโปร่งก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับทักทายกันด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ

"น้องคิส ~"
เสียงทุ้มหวานของพี่คินเรียกชื่อผมจนแอบขนลุก ผมหันไปยิ้มหวานให้กับคนมาเยือนแล้วรีบส่งของทั้งหมดให้เจ้าตัวก่อนจะแบมืออกไปตรงหน้าเพื่อรับค่าเสียหาย พี่คินถึงกับผงะในการกระทำของผม

"ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอครับ?"
พี่คินขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะยกแก้วคาปูชิโน่ขึ้นไปดูด

"ไม่ครับ ผมจะไปเที่ยวต่อ"
ผมฉีกยิ้มกว้างไป มือที่แบอยู่ก็กระดิกไปมาแสดงความกดดัน พี่คินหลุดขำออกมาแต่ไม่ยอมล้วงเงินให้ดีๆแถมยังทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันอีก

"ไปเดทกับไอ้จีบสินะ"
คำพูดของพี่คินมาพร้อมกับสายตาหยอกล้อ นิ้วเรียวสวยเย็นชืดเพราะจับแก้วกาแฟจิ้มลงบนแก้มผมจึกๆ อยากจะหันไปด่าว่านี่แก้มคนไม่ใช่ขี้แต่ก็เกรงใจ เดี๋ยวจะหาว่าเป็นเด็กเป็นเล็กแล้วลามปามกับผู้ใหญ่ ใจจริงแล้วแค่กลัวพี่คินมันจะแกล้งผมเท่านั้นเอง

"ดะ เดทบ้าอะไรพี่ ไปเที่ยวเฉยๆ"
ทั้งๆที่มั่นใจว่าพี่จีบไม่ได้ชวนไปเดทแน่ๆ ก็แค่ไปกินข้าวดูหนังกันธรามดา... เอ้ะ ธรรมดาของคนเดทกันล่ะสิไม่ว่า!!! นี่กูซื่อบื้อจนโดนพี่จีบหลอกไปเดทอีกแล้วสินะ ฮือ ตอนมันชวนก็แค่คิดว่าของกินฟรีหนังฟรีสบายจะตาย พอคิดได้แบบนั้นหน้ามันก็พาลร้อนวูบวาบขึ้นมาซะเฉยๆ

"ไปเที่ยวนี่กินข้าว ดูหนังป่ะ?"
พี่คินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะใช้ไหล่กระแซะกับไหล่ผม ทำไมกวนตีนแบบนี้ อยากได้เงินอ่ะ เปย์มาเดี๋ยวนี้ก่อนที่ผมจะบีบคอพี่!

"อือ! สามร้อยครับ รีบจ่ายมาเลย"
ผมแสร้งทำเสียงเข้มแล้วแบมือไปตรงหน้าพี่คินอีกครั้ง ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วยอมส่งเงินสามร้อยบาทให้กันง่ายๆ ผมรีบยัดใส่กระเป๋าเสื้อทันทีแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมเดินหนีเต็มที่แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเจอประโยคถัดมากระแทกเข้าหน้าเต็มๆ

"เคี่ยวขนาดนี้ เตรียมเป็นเมียที่ดีให้ไอ้จีบแน่ๆ"
ผมหันขวับไปหาพี่คินด้วยใบหน้างอง้ำ อยากจะโวยวายแต่ก็ทำไม่ได้ จะเข้าไปตบตีมันก็ทำไม่ได้ยังไม่สนิทกันขนาดนั้น โอย ไม่ได้โมโห แต่คนมันเขินจนทำตัวไม่ถูกอ่ะเข้าใจไหม ฮือ อยากฟาดไอ้พี่จีบระบายอารมณ์ฉิบหายเผื่อจะดีขึ้น

"พี่คิน! หยุดแซวผมได้แล้ว เดี๋ยวแฟนคลับพี่จีบมาได้ยินผมยังไม่อยากกินยำตีนนะ"
เขินก็เขิน กลัวกก็กลัว ใครเข้าใจผมบ้างวะแม่ง ผมเหลียวซ้ายแลขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ แต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นเงาใครตะคุ่มๆอยู่ข้างตึก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ มือเย็นชื่นไปด้วยหยาดเหงื่อ ตายแน่ๆ กูตายแน่ ไอ้เชี่ยพี่คินมึงยังยิ้มอยู่ได้นะ สัดด

"ไอ้แก๊ป ทำเชี่ยไรวะ?"
พี่คินเอ่ยทักบุคคลที่ยืนอยู่มุมตึก ใบหน้าหล่อลูกครึ่งหันมามองพวกผมก่อนจะยกมือขึ้นทักทาย คงจะทักทายผมนั่นล่ะ ไอ้ผมนี่ยืนอ้าปากหวอไปแล้ว เชี่ย พี่แก๊ปนี่เองนึกว่าใคร

"หาของ"
เสียงทุ้มตอบกลับมาก่อนจะกลับไปก้มๆเงยๆหาของเหมือนเดิม ผมกับพี่คินมองหน้ากันก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่แก๊ป

"หาไรวะ?"

"ต่างหูที่มึงซื้อให้"

"อ๋อ ไอ้รูปไม้กางเขนนั่นอ่ะนะ?"

"เออ มันตก"

"ไม่ต้องหาหรอก ไว้กูซื้อให้ใหม่"
พี่คินยิ้มอย่างไม่ถือสาก่อนจะยัดแก้วมอคค่าเย็นที่น้ำแข็งละลายลงไปกว่าครึ่งให้พี่แก๊ป ฝ่ายนั้นรับของไปแล้วยกขึ้นดูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก.. ทำไมวะ กาแฟไอ้พี่จีบไม่อร่อยเหรอ

"ไม่ได้ นั่นมันของชิ้นแรกที่มึงให้กู"
ผมลอบถอนหายใจเมื่อสิ่งที่ไอ้พี่แก๊ปกังวลไม่ใช่รสชาติกาแฟ แต่ดูเหมือนต่างหูที่พี่คินให้จะสำคัญกับพี่แก๊ปมาก

"มึงจะคิดมากอะไรวะแก๊ป กูชิวๆ ไม่คิดมาก"
พี่คินพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆแล้วยกแก้วคาปูชิโน่ขึ้นมาดูดไปอีกหลายอึก คนเครียดยังคงขมวดคิ้วยุ่ง สายตายังจับจ้องไปที่พื้นตัวหนอนหน้าหอสมุด

"มันสำคัญ"

"มันสำคัญกว่าคนให้แบบกูเหรอไง เดี๋ยวพ่อตบกะโหลกแยก"

"อย่ามาโหด เดี๋ยวจะโดนจัดหนัก"

"เชี่ยยย หุบปากเลยนะมึง!"
พี่คินเบิกตากว้างก่อนรีบพุ่งตัวเอามือข้างที่ว่างอยู่ตะครุบปากไอ้พี่แก๊ปทันที ผมว่าไอ้บทสนทนาเมื่อกี้มันทะแม่งๆว่ะ ซัมติงเปลี่ยนเป็นซั่มแน่ๆ ฟันเฟิร์ม!!

"น้องคิส ~ รีบไปเที่ยวกับจีบไม่ใช่เหรอ ไปไป๊ เดี๋ยวไอ้จีบรอนานนะ"
พี่คินหันมาพูดเสียงหวานไล่กันแบบหน้าด้านๆ แหม.. กลัวผมรู้ความลับอะไรหรือยังไง เมื่อกี้ยังรั้งผมเอาไว้อยู่เลย หึหึ ไมายอมหรอก ขอแกล้งคืนสักหน่อยเหอะวะ

"แก๊ปคินหรือคินแก๊ปน้า สงสัยจังเลย ~"
ผมแกล้งบีบเสียงเล็กเสียงน้อยมองหน้าพี่แก๊ปกับพี่คินสลับกัน ไอ้พี่คินอ้าปากพะงาบๆเหมือนอยากด่าผม แต่ไอ้พี่แก๊ปดึงมือพี่คินออกแล้วยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบออกมาอย่างอารมณ์ดี

"แก๊ปคินครับ"
พี่คินแยกเขี้ยวใส่ไอ้พี่แก๊ปแล้วกระหน่ำหมัดใส่ทีนที ไม่สนแก้วกาแฟในมือเลยด้วยซ้ำเพราะพี่เขาปล่อยมันล่วงลงสู่พื้นตัวหนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เสียงโวยวายดังลั่นเมื่อพี่แก๊ปเริ่มวิ่งหนี

"ไอ้เชี่ยแก๊ป มึงบ้าจี้ตอบน้องมันทำไม! ตายซะเถอะ ย๊าก!!!!!"
ผมหัวเราะกับภาพตรงหน้าก่อนจะปลีกตัวออกมาเมื่อรับรู้ว่าตัวเองหายไปนานกว่าที่คิดเอาไว้ กะว่าเดินออกมาสักระยะจะโทรหาพี่จีบ แต่เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นซะก่อน

"ครับพี่จีบ เสร็จแล้วครับ"

'ทำไมช้าจังวะ'

"พี่คินอ่ะดิชวนคุยยาว"

'เออๆ จะเดินไปไหนมึง?'

"ห้ะ ก็ไปที่รถไง"
ผมตอบออกไปด้วยความงง ก็รถจอดอยู่ทางนั้น ความจำผมดีนะเว้ย

'อยู่ยืนอยู่ทางขวามือมึงเนี่ย'

"อ๋อ.."
ผมหันกลับไปก็เจอพี่จีบยืนอยู่ใต้ต้นไม้ อย่างเท่ครับยืนหลังพิงต้นไม้พอยท์เท้าเนี่ย จะถ่ายแบบหรือยังไง หมั่นไส้ ผมสาวเท้าเข้าไปหาคนที่กดวางโทรศัพท์แล้วถือมันเอาไว้

"มายืนรอนานยังครับ?"

"ห้านาที ไปกัน กูหิวข้าว"
พี่จีบพูดจบก็พาดแขนกอดคอแล้วลากผมไปที่รถทันที.. แล้วเมื่อกี้จะให้กูเดินย้อนมาทำพระแสงอะไรครับคุณจีบ คิดแล้วก็หงุดหงิด แต่ไม่เป็นไรข้าวฟรีหนังฟรีรออยู่ เย่

"พี่จีบ.. ถามไรหน่อยดิ"
ผมอ้าปากถามเมื่อรถกำลังเคลื่อนออกจากประตูมหา'ลัย พี่จีบเหลือบมองผมก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วหักพวงมาลัยเลี้ยวรถ

"ผมเคยสงสัยว่าพี่แก๊ปกับพี่คินเขามีซัมติงกันว่ะ"

"แล้วไงต่อ"

"แต่ตอนนี้ผมว่าเขาน่าจะซั่มกันแล้ว"
ผมพูดออกไปหน้าตาเฉยเพราะความคิดกำลังไหลรื่น ส่วนพี่จีบเบิกตาค้าง สงสัยจะตกใจที่ไม่รู้เรื่องของเพื่อนสนิทตัวเองแน่ๆ เห็นไหมๆ ผมฉลากกว่าพี่จีบแล้วนะ

"เชี่ย มึงนี่ทะลึ่งนะ"
พี่จีบสบถออกมาเบาๆ แต่ผมได้ยินเลยหันไปค้อนขวับใส่ก่อนจะเบ้ปากให้

"ไม่ได้ทะลึ่งเว้ย ก็เมื่อกี้อ่ะพี่เขาทะเลาะกันแล้วพี่แก๊ปบอกว่า อย่ามาโหด เดี๋ยวจะโดนจัดหนัก ... ผมนี่คิดเลยเว้ย ซั่มกันแล้วแน่ๆ"
ผมทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะใช้มือลูบคางไปมา พี่จีบดีดหน้าผากผมดังป๊อกแล้วทำหน้าเฉยเมยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมมุ่ยหน้าแล้วลูบหน้าผากตัวเองไปมา พูดอะไรผิดวะเนี่ย ชิ

"รู้ดีจังนะมึง แอบไปอยู่ใต้เตียงมันสองคนมาหรือไง"

"โห ใครจะบ้าบิ่นขนาดนั้นวะพี่จีบ"
ผมกรอกตาทำหน้าเบื่อหน่าย แต่พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดออกมาหน้าตาเฉย

"แต่กูเคยแอบอยู่ใต้เตียงมันว่ะ"

"เห้ย! จริงดิพี่จีบ มีไรตื่นเต้นๆเกิดขึ้นป่ะ?"
ผมทำท่าอยากรู้อยากเห็นซะเต็มประดา ลืมตัวไปเกาะแขนพี่จีบแล้วเขย่าเบาๆไปอีก... ไม่อายตอนนี้ก็ไม่รู้จะเก็บไปอายตอนไหนแล้ว พี่จีบหันมามองก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมผงะปล่อยมือแล้วยิ้มแหยส่งให้

"มึงนี่เสือกจริงๆ"

"เอ้า ก็คนเขาสงสัย ตกลงเพื่อนพี่มีซัมติงกันใช่ป่ะ?"
ผมไม่ละความพยายามที่จะถาม อยากรู้เรื่องชาวบ้านต้องหน้าด้านเข้าไว้..น้องอิงออยสอนผมมาแบบนี้

"ไม่บอก"
พี่จีบลอยหน้าลอยตาก่อนจะเคาะนิ้วตามจังหวะเสียงเพลงในรถ ดูท่าทางมีความสึขเหลือเกิน แต่ผมเป็นคนที่เกลียดคำว่าไม่บอกที่สุด มันกวนส้นตีนสิ้นดี ผมเบะปากลงจนเป็นเส้นโค้งด้วยความไม่พอใจ พี่จีบแม่งขัดใจตลอดอ่ะ อย่าหวังว่าจะจีบผมติดง่ายๆนะเออ

"พี่จีบแม่ง กวนตีนอ่ะ สรุปว่าไม่ได้ไปแอบอยู่ใต้เตียงอย่างที่พูดไว้ใช่ป่ะ?"
ผมเหล่มองใบหน้าหล่อๆด้านข้างของมันแล้วนึกหมั่นไส้ อะไรจะหล่อได้ทุกมุมทุกองศา ขนาดทำตัวน่าหมั่นไส้ยังจะมีเสน่ห์ดึงดูดคนอื่นเข้าอีก

"มึงนี่ทะลึ่งนะ ใครจะบ้าขนาดนั้นวะ นอกจากกูเป็นชู้นั่นล่ะถึงจะไปแอบใต้เตียง"
พี่จีบส่ายหน้าเบาๆให้ผม อย่าหลอกกันนักดิวะ ไอ้ผมก็เป็นพวกบ้าจี้เชื่อคนง่ายอีก เฮ้อ

"แกล้งกันตลอดๆๆๆ"
ผมงึมงำอยู่คนเดียวแต่พอเหลือบไปมองคนด้านข้างแล้วพบกับคนบ้ากำลังนั่งหัวเราะหึหึ... พี่มันแม่งจะเส้นตื้นไปไหนวะ

"มึงอยากรู้จริงๆเหรอว่าสองคนนั้นมีซัมติงกันหรือเปล่า"
อยู่ๆในขณะรถติดไฟแดงพี่จีบก็ยื่นหน้าเข้ามาถามกันเหมือนกำลังให้ความหวัง ไอ้ความอยากรู้ของผมก็มีสูงเลยพยักหน้ารับอย่างห้ามไม่ได้

"บอกหน่อยได้ไหม?"
ผมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้มัน พร้อมกับกระพริบตาปริบๆทำตัวให้น่ารักที่สุด

"บอกก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน"
แววตาเจ้าเลห์เหมือนหมาป่ากำลังจะจับกระต่ายกินนั่นคืออะไร.. แต่ขอโทษเถอะ ผมไม่ใช่กระต่ายน้อยน่ารัก แต่เป็นหมาป่าเหมือนกันเถอะ... แต่ดูสภาพการแล้วคงเป็นหมาป่าที่เป็นเมียหมาป่าอ่ะ

"ข้อแลกเปลี่ยนอะไรครับ?"

"หอมแก้มกู แล้วกูจะบอก"

"หอมหัวใหญ่เถอะครับ!!!!"
ไม่อยากรู้ก็ได้แม่ง ฮือ จะทำอะไรก็เสียเปรียบตลอด งอนเว้ย งอนนนนน ก็ทำได้แค่ร่ำร้องอยู่ในใจเงียบๆคนเดียว


--------------------------------------------------------


Q & A กับแก็ป และ คิน
Q : ตกลงเราสองคนเป็นอะไรกัน?
Gap : เป็นเพื่อนสนิทกันครับ
Kin : /พยักหน้ารัวๆ ใช่ๆ เป็นเพื่อนสนิทกันครับ
Gap : เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อน่ะครับ ^^
Kin : ไอ้....!!!!!!!!!!!!!!!!!!! /หน้าแดง
Q : อุย... หึหึหึ




ตอนที่ 9 มาแล้วน้า ใครรอพี่จีบกับน้องคิสอยู่บ้าง? ตอนนี้ทุกคนดูไร้สาระและหื่นกามกันมาก.. 5555555
ไหนใครอยู่ทีมใครบ้างเนี่ย เราอยากรู้จัง ส่วนเรา #ทีมจีบ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจีบมีนิสัยคล้ายๆเรา เอ้ะ

ปล. อ่านให้สนุกน้า  :mew1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เสี่ยวเรี่ยราดจริงๆพี่จีบ

 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
 :-[ อ่านเรื่องนี้เเล้ว รู้สึกเมื่อยเเก้มเกิ๊นนนน
คืออมยิ้มทั้งเรื่อง เเก็ปxคิน ก็มา 55555
ชอบตอน ซั่มเเน่ๆ อ๊าคคคค คิสทะลึ่ง
พี่จีบ ฉันรู้ แกก็เเพรวพราวนะ อยากมีซัมติงไวไวนี้ละสิ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คิสเตรียมพร้อมไว้เนาะ ช่วงนี้พี่จีบเสี่ยวบ๊อยบ่อย
อีกหน่อยพี่จีบคงพาเสียวบ๊อยบ่อยเอง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ฮาาาาา น้องคิสโดนแกล้งตลอดดดดดด

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รักหรอกจึงหยอกเล่น ใช่ม่ะ :hao3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงพี่จีบน้องคิสจังเลยยยย
อ่านไปปวดแก้มไป
เขินลำไส้บิดแทนน้องคิสแล้ว  :hao5:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อ่านเรื่องนี้แล้วเมื่อยแก้มจริงๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่อย!! อิจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด