พิมพ์หน้านี้ - ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Ch0cmint ที่ 08-07-2016 19:35:38

หัวข้อ: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 08-07-2016 19:35:38
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ Intro : ทดลองดื่ม (08.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 08-07-2016 19:42:18
(http://i.imgur.com/f4ryy34.png)


COFFEE SHOP
รักนี้...รสกาแฟ ♥



- จีบ -
บาริสต้าหนุ่มประจำร้าน IT' s LOVE มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะบริหาร
และยังคงเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 สาขาคอมพิวเตอร์ มีนิสัย ขี้เล่น อารมณ์ดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
แต่เวลาอยู่กับกาแฟเขาจะดูเป็นคนจริงจังขึ้นมาทันที
มีเสน่ห์ต่อทุกเพศทุกวัย ชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจรองจากกาแฟ
มีพี่ชาย 1 คน ชื่อ 'ไลค์' ที่แปลว่า 'ชอบ'
ตัวเขาเอง ชื่อ 'จีบ' ที่แปลว่า 'การจีบ'
และมีน้องชายอีก 1 คน ชื่อ 'ซารัง' ที่แปลว่า 'รัก'
รวมกันสามพี่น้องเกิดเป็นขั้นตอนของความรัก 'ชอบ จีบ รัก' < พ่อกับแม่เป็นกูรูด้านความรักเหรอ?



- คิส -
เด็กหนุ่มคณะศิลปกรรมศาสตร์ผู้ไม่ชอบรสชาติของกาแฟตั้งแต่ไหนแต่ไร
แต่วันนึงกลับเปลี่ยนความคิดแล้วพยายามดื่มกาแฟให้ชิน
เพียงเพื่อจะได้ใกล้ชิดมายไอดอลในดวงใจของตัวเอง
มีนิสัย ขี้อาย พูดมาก ร่าเริงแจ่มใส กลัวความเร็วที่สุดในสามโลก
มีพี่ชาย 1 คน ชื่อ 'ดีพ' ที่แปลว่า 'ลึก'
ตัวเขาเอง ชื่อ 'คิส' ที่แปลว่า 'จูบ'
รวมกันสองคนพี่น้องคือ 'Deep Kiss' < ไม่รู้พ่อกับแม่จะเฟี้ยวฟ้าวไปไหน


- สารบัญ -
#ทดลองดื่ม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3419226#msg3419226)
#ดื่มครั้งที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3422797#msg3422797)
#ดื่มครั้งที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3423871#msg3423871)
#ดื่มครั้งที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3424769#msg3424769)
#ดื่มครั้งที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3426571#msg3426571)
#ดื่มครั้งที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3427112#msg3427112)
#ดื่มครั้งที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3429152#msg3429152)
#ดื่มครั้งที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3429966#msg3429966)
#ดื่มครั้งที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3430698#msg3430698)
#ดื่มครั้งที่ 8.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3432290#msg3432290)
#ดื่มครั้งที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3433572#msg3433572)
#ดื่มครั้งที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3436024#msg3436024)
#ดื่มครั้งที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3437472#msg3437472)
#ดื่มครั้งที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3438204#msg3438204)
#ดื่มครั้งที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3439776#msg3439776)
#ดื่มครั้งที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3440384#msg3440384)
#ดื่มครั้งที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3441274#msg3441274)
#ดื่มครั้งที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3442479#msg3442479)
#ดื่มครั้งที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3444022#msg3444022)
#ดื่มครั้งที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3445758#msg3445758)
#ดื่มครั้งที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3447394#msg3447394)
#ดื่มครั้งที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3449031#msg3449031)
#ดื่มครั้งที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3451384#msg3451384)
#ดื่มครั้งที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3452770#msg3452770)
#ดื่มครั้งที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3455740#msg3455740)
#ดื่มครั้งที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3458525#msg3458525)
#ดื่มครั้งที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3460906#msg3460906)
#ดื่มครั้งที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3463094#msg3463094)
#ดื่มครั้งที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3466553#msg3466553)
#ดื่มครั้งที่ 27.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3469139#msg3469139)
#ดื่มครั้งที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3472320#msg3472320)
#ดื่มครั้งที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3476754#msg3476754)
#ดื่มครั้งที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3480403#msg3480403)
#ดื่มครั้งที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3483666#msg3483666)
#ดื่มครั้งที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3485557#msg3485557)
#ดื่มครั้งสุดท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690.msg3488563#msg3488563)




เข้าไปเวิ่นเว่อกับเราที่เพจได้น้า https://www.facebook.com/Ch0cmint/




ผลงานทั้งหมด
♥ [เรื่องสั้น] Tweet Love (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54078) - จบแล้ว
♥ [เรื่องสั้น] Flirt (Pack x Jeans) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54393) - จบแล้ว
♥ [เรื่องยาว] Follow You คามรักคุณ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962) - จบแล้ว
♥ [เรื่องยาว] Day & Night เพราะว่ารัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54272) - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Fierce ถึงร้ายก็รัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55202) - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Love at first sight คุณครับ...มาเป็นของผมเถอะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55408) - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Demon' s Contract (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55940) - ยังไม่จบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ Intro : ทดลองดื่ม (08.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 08-07-2016 19:43:55
- ทดลองดื่ม -




ควันสีขาวพวยพุ่งออกจากเครื่องทำกาแฟกึ่งอัตโนมัติขนาดใหญ่ กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟส่งกลิ่นหอมฟุ้งเมื่อผ่านเครื่องบด และเมื่อมันสัมผัสกับน้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะได้เป็นกาแฟสีน้ำตาลเข้มข้น ไม่นานนักบาริสต้าหนุ่มหล่อก็หันหน้ากลับมาที่เค้าน์เตอร์บาร์พร้อมกับแก้วเอสเพรสโซ่หนึ่งชอต เครื่องหน้าคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ตาคมสองชั้นคล้ายตาเหยี่ยว ปากรูปกระจับสีชมพูอ่อน ผิวขาวไม่จัดในแบบฉบับผู้ชาย หุ่นสมส่วน ทั้งหมดนี้หล่อหลอมเป็นบุคคลที่มีนามว่า 'จีบ'

ผมมองแก้วกาแฟขนาดสามสิบมิลลิลิตรแล้วกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ ยอมรับว่ากลิ่นหอมของมันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย แต่เมื่อเห็นสีสันของเครื่องดื่มรสเข้มข้นนี่แล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตายซะตอนนี้เพราะดันเผลอสั่งเมนูที่ตัวเองไม่เคยดื่ม ชายหนุ่มตรงหน้าผมมองตรงมาพร้อมกับคลี่ยิ้มสดใส เสื้อกั๊กสีดำที่เขาสวมทับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนส่งให้เขาดูหล่อขึ้นอีกเท่าตัว

"เอสเพรสโซ่หนึ่งชอตได้แล้ว"
เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมมือหนาที่เลื่อนแก้วกาแฟขนาดเล็กที่บรรจุกาแฟรสเข้มข้นที่สุดมาให้กัน ฟอง Crema สีน้ำตาลทองหนาลอยอ้อยอิ่งอยู่เบื้องบนทำให้รู้ว่ามันเป็น Perfect Shot อย่างไม่ต้องสงสัย ผมพยักหน้าแล้วสอดมือเข้าที่หูจับแก้วก่อนจะยกมันขึ้นมาใกล้จมูก กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วจนผมต้องกลืนน้ำลาย

"ขอน้ำตาลหน่อยดิครับ"
ผมแบมือข้างที่เหลือออกไปรอรับซองน้ำตาลขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่จนแล้วจนรอด 'พี่จีบ' ก็ไม่ยอมขยับมือไปหยิบซองน้ำตาลหลังเค้าน์เตอร์บาร์ให้กันสักที จนผมต้องเลิกคิ้วขึ้นแล้วจ้องหน้าเขากลับไป

"ขอน้ำตาลหน่อย ~"
ผมลากเสียงยาวพร้อมทั้งกระดิกนิ้วมือไปมา เขายักคิ้วให้ผมข้างเดียวก่อนจะก้มลงมองมือผมแล้วยกมือหนาของตัวเองแปะลงไปแทนที่จะเป็นซองน้ำตาลที่ขอไว้ก่อนหน้านี้

"ดื่มเอสเพรสโซ่ให้ได้รสชาติเขาไม่ใส่น้ำตาลกันหรอก"
บาริสต้าหนุ่มพูดพร้อมกับตีมือแปะๆลงซ้ำๆบนมือผม ผมเห็นแบบนั้นเลยรีบขยับมือหนีกันแล้วเบะปากลงเป็นเส้นโค้ง ก็มันขมจะตาย ปกติผมก็สั่งแต่ลาเต้ซะด้วย จะให้กินเข้าไปได้ยังไงกัน แต่พี่จีบไม่ได้สนใจที่ผมทำหน้าบึ้งเขายกยิ้มมุมปากส่งมาให้กันแล้วหยิบซองน้ำตาลที่ผมต้องการแกว่งไปมาตรงหน้าผม

"ก็ผมจะใส่อ่ะ เอามา ~"
ผมพูดพร้อมกับเอื้อมทั้งมือและตัวเพื่อคว้าซองน้ำตาลที่อยู่แค่เอื้อม แต่สุดท้ายพี่จีบก็ขยับมือหลบไปด้านหลังพร้อมกับซ่อนซองน้ำตาลเอาไว้ ทำให้ผมจิ๊ปากเบาๆแล้วกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ด้านหน้าเค้าน์เตอร์บาร์เหมือนเดิม คนบ้าอะไรโคตรขี้แกล้งกันเลย

"ลองชิมก่อนดิ"
พี่จีบขยับตัวเข้ามาใกล้เค้าน์เตอร์บาร์อีกครั้งก่อนจะเท้ามือลงบนโต๊ะที่ออกแบบให้ติดกับเค้าน์เตอร์วางอุปกรณ์ต่างๆ ดวงตาคมจับจ้องมาที่ผมก่อนจะพยักพเยิดหน้ามาทางแก้วกาแฟ

"ไม่เอา มันขม"
ผมเบ้ปากแล้วก้มมองแก้วกาแฟเจ้าปัญหาที่ตั้งอยู่ตรงหน้า รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ชอบรสขมมากๆแต่ก็ยังเสนอหน้าสั่งมันมา... จริงๆแล้วเขาก็กินอะไรขมๆได้นะ แต่ไม่ใช่อะไรที่มีรสขมเดี่ยวๆแบบนี้ มีรสอื่นตัดกันก็โอเค

"รู้ว่ามันขมมากแล้วจะสั่งทำไม?"
คำถามแทงใจดำดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะนิ้วเป็นจังหวะเบาๆลงบนเค้าน์เตอร์บาร์ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่มือข้างนั้นเลื่อนมาอยู่ใกล้ๆมือผม

"ก็...อยากลองสั่งอะไรเท่ๆมาดื่มดูบ้างอ่ะ"
ผมตอบเสียงอ้อมแอ้มกลับไป รู้ตัวว่าเหตุผลโคตรงี่เง่าเลยไม่กล้ามองหน้าพี่จีบ

"เท่ตรงไหนวะ? ปกติเห็นสั่งแต่ลาเต้"
พี่จีบขมวดคิ้วแน่นแล้วหยุดเคาะนิ้วไป ผมเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มแหยส่งไปให้

"เพื่อนบอกว่าล้าเต้มันเป็นเครื่องดื่มของผู้หญิง"
ผมยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเพราะอายเหตุผลของตัวเอง แต่เพื่อนมันชอบล้อนี่ว่าผมดื่มอะไรเป็นสาวน้อยไปได้ ผู้ชายแมนๆต้องดื่มเอสเพรสโซ่สิ สองชอตยิ่งดี... เหอะๆ ชอตเดียวผมยังจะไม่รอดเลย พี่จีบมองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังใช้ได้ ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าคนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

"เพื่อนมึงนี่ใครวะ โคตรตลกเลยแม่ง กาแฟมันไม่ได้แยกเพศคนดื่มนะเว้ย มันอยู่ที่ความชอบส่วนตัว เข้าใจ๊?"
ผมพยักหน้ารับว่าเข้าใจ พี่จีบก็เลยพยักหน้ากลับมาให้กันด้วย คนอะไรวะจะทำหน้าแบบไหนก็หล่อ มีตอนไหนบ้างที่รักษาความหล่อไม่ได้บ้างเนี่ย โคตรหน้าอิจฉาคนหล่อทุกมุมอย่างพี่จีบจริงๆ

"แต่ผมก็อยากลองดื่มเอสเพรสโซ่ดูนะ"
ผมก้มลงมองแก้วกาแฟบนโต๊ะอีกรอบ ชั่งใจอยู่สักพักก็ตัดสินใจยกแก้วขึ้นมาอีกครั้ง เป็นไงเป็นกันขอลองหน่อยแล้วกัน ผมขยับแก้วกาแฟมาจรดริมฝีปากตัวเองแต่ยังไม่ทันได้จิบก็โดนมือหนาของพี่จีบจับข้อมือกันเอาไว้ซะก่อน

"หยุดเลย กาแฟนมันเบิร์นไปแล้ว ถ้าจะลองดื่มเดี๋ยวทำให้ใหม่"
พี่จีบปล่อยมือออก ส่วนผมก็ลดแก้วกาแฟลงแล้วมองหน้าเขาด้วยความสงสัย อะไรคือกาแฟเบิร์นแล้ว?  งงฉิบหายเลยครับตอนนี้

"เอสเพรสโซ่เนี่ยชงเสร็จแล้วต้องดื่มเลย ช้าสุดก็ภายในสองนาทีเท่านั้น หลังจากนั้นกาแฟมันจะไหม้ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปจากเดิม พูดง่ายๆก็คือ กาแฟมันไม่อร่อยแล้ว"
ผมวางแก้วกาแฟลงแล้วพยักหน้าเข้าใจกับความรู้ใหม่ที่ได้รับ พี่จีบมองผมแว็บหนึ่งก่อนจะหันหลังกลับไปชงกาแฟแก้วใหม่ให้ผม แผ่นหลังกว้างดูมีเสน่ห์... ได้ซบสักครั้งคงฟินไม่รู้ลืม

ผมเป็นรุ่นน้องที่มหา'ลัยของพี่จีบ เขาไม่รู้จักผมเป็นการส่วนตัวรู้แค่ว่าผมเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์เพราะผมชอบแบกอุปกรณ์กระดานอะไรต่อมิอะไรเข้ามาในร้าน ครั้งแรกที่ผมมาเยียบที่นี่เพราะเพื่อนสนิทเป็นคนชวนมา ร้านอยู่ใกล้หอพักของผมมากแค่เดินมาประมาณห้านาทีก็ถึง

ผมยอมรับว่าผมเป็นคนที่ชอบพวกขนมนมเนยมากไม่ว่าจะทั้งคาวหรือหวานแต่ไม่ชอบกาแฟขมๆเอาซะเลย แต่ความคิดนั้นกลับเปลี่ยนไผเมื่อผมได้เจอกับบาริสต้าประจำร้าน มันทำให้ผมสนใจเขาและอยากรู้จักเขามากขึ้นเลยทำให้ผมพยายามฝึกดื่มกาแฟที่ได้ชื่อว่าเป็นกาแฟที่รสอ่อนที่สุดในบรรดากาแฟทั้งหมด นั่นก็คือล้าเต้ ครั้งแรกที่สัมผัสรสกาแฟยอมรับเลยว่ามันขมไม่ถูกปาก แต่พอกลั้นใจฝึกดื่มไปเรื่อยๆกลับพบว่ามันมีความอร่อยแฝงอยู่ในความขมนั่น ทั้งยังมีกลิ่นหอมชวนให้กระหายอยากดื่มมันอีกด้วย ผมมาที่ร้าน IT' s LOVE นี้เกือบทุกวันจนพี่จีบจำหน้าผมได้ซะแล้ว

"มองอะไรนักหนา?"
พี่จีบหันกลับมาพร้อมแก้วกาแฟในมือ เขาวางมันลงตรงหน้าผมก่อนจะเท้าคางมองกัน ผมเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอมองเขานานไปจนถูกจับได้เลยต้องเบนความสนใจโดยการก้มหน้ามองเครื่องดื่มในแก้วอย่างเอาเป็นเอาตาย อับอายขายขี้หน้าชะมัดมายืนจ้องผู้ชายอยู่ได้

"เอ่อ...มองพี่ทำกาแฟไง! เพลินดี"
ผมแถข้างๆคูๆให้ตัวเองรอดพ้น ที่จริงแล้วผมตั้งใจมองเขานั่นล่ะ ไม่ได้เพลินกับการที่เขาทำกาแฟเลยสักนิด ถ้ามาถามกันว่าเมื่อกี้พี่จีบทำอะไรไปบ้างผมคงตอบไม่ได้

"เออๆ รีบชิมกาแฟได้แล้ว"
มือหนาเลื่อนแก้วกาแฟมาให้ ผมพยักหน้ารับก่อนจะยกแก้วขึ้นมาจรดริมฝีปากแล้วเป่าเบาๆก่อนที่จะทดลองจิบทีละนิด... อ่า สัมผัสแรกที่กาแฟโดนลิ้นผมอยากจะดิ้นตายชะมัด มันขมโคตรพ่อโคตรแม่เลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลิ่นมันหอมยั่วน้ำลายมาก

"แค่กๆ ขมมาก!!"
ผมสำลักกาแฟเล็กน้อยเพราะมันขมเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้ ผมวางแก้วลงก่อนจะยกมือปิดปากแล้วไอออกมาอีกสองสามครั้ง พี่จีบมองหน้าผมแล้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะส่งแก้วน้ำดื่มเย็นๆมาให้ ผมรีบรับแล้วยกขึ้นดื่มอึกๆทันที พอเวลาผ่านไปสักพักกลับรู้สึกได้ว่ามีความหวานจางๆติดอยู่ที่ปลายลิ้น.. แปลกดี

"เออ ถามไรหน่อยดิ"

"ครับ?"

"ชื่ออะไร? คุยกันมาสักพักยังไม่รู้จักกันจริงๆจังๆเลยว่ะ"
อยู่ๆเขาก็ตั้งคำถามชวนใจเต้นแรง ไม่เคยคิดว่าคนตรงหน้าที่มีดีกรีเป็นเดือนคณะบริหารจะมาถามชื่อกันได้ ก็คุยกันมาแบบนี้เกือบครบเดือนแล้วไหมล่ะ

"ห้ะ...ผมเหรอ?"
ผมไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่เลยถามย้ำพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง พี่จีบพยักหน้าเบาๆแล้วพูดซ้ำ

"เออ คุยกับมึงแล้วจะให้ถามหมาที่ไหน?"
ความกวนตีนของพี่เขานี้ผมขอซื้อทิ้งได้ไหมครับ ก็คนมันตื่นเต้น มายไอดอลถามชื่อกันเลยนะเว้ย

"ชื่อคิสครับ"

"หืม คริส เค อาร์ ไอ เอส น่ะเหรอ?"

ไม่ใช่ๆ เค ไอ ดับเบิ้ลเอส ครับ"

"จูบเหรอ?"

"ถูกต้องนะคร้าบ ~"
ผมลากเสียงยาวพร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าถูกต้องนะคร้าบยอดฮิตนั่นไปด้วย พี่จีบหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

"กูชื่อจีบ ยินดีที่ได้รู้จัก"

"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับผม!"
ผมทำท่าตะเบะอย่างทหารนั่นทำให้พี่จีบคนหล่อยิ่งหัวเราะหนักขึ้น

"มึงนี่ติ๊งต๊องนะ"
เขาว่าก่อนจะพยายามหยุดหัวเราะ ผมมองหน้าเขาแล้วส่งยิ้มกว้างไปให้กัน ไม่ถือสาหรอกครับ มายไอดอลว่าอะไรผมก็ไม่โกรธหรอก

"เขาเรียกว่าร่างเริงเหอะพี่"
ผมเถียงกลับไปด้วยเสียงไม่จริงจังนัก ส่วนพี่จีบก็หยุดหัวเราะไปแล้วก่อนที่เขาจะเริ่มตั้งคำถามใหม่กับผม

"เห็นมึงใส่ชุดนักศึกษา มีเรียนตอนไหน?"

"อ๋อ ผมมีเรียนบ่ายครับ พี่ล่ะ?"

"บ่ายเหมือนกัน มึงไปมอยังไง?"
ผมมองหน้าพี่จีบก่อนจะใช้มือทำสัญลักษณ์เป็นการบิดแฮนด์มอร์เตอร์ไซต์ ผมขี่ Honda msx สีแดงครับ จริงๆอยากได้สปอร์ตไบค์คันโตนะ แต่พ่อให้งบมาแค่นี้

"อ๋อ งั้นกูติดรถไปด้วยดิ พอดีรถเสียว่ะ"
ผมแทบจะสำลักน้ำเปล่าอีกครั้งเมื่อพี่จีบขอร้องกันแบบนี้ ผมรีบวางแก้วน้ำเปล่าลงก่อนจะพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มกว้างไปให้ โอกาสใกล้ชิดกับมายไอดอลมาหาเองแบบนี้ใครมันจะไปปฏิเสธลงกันเล่า

"ได้ครับพี่ แต่รถผมมันคันเล็กนะไม่รู้จะนั่งจุหรือเปล่า"

"มึงขี่รถอะไรวะ?"

"Honda msx ครับ"

"อ๋อ สบายๆกูเคยนั่งซ้อนเพื่อนมาแล้ว"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ก่อนจะจัดการถอดเสื้อกั๊กและผ้ากันเปื้อนออกแล้วหยิบเนคไทมหา'ลัยที่ตั้งอยู่แถวนั้นขึ้นมาใส่... แบบนี้ล่ะครับเด็กบริหารต้องดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ต่างจากเด็กคณะผมที่ใส่แค่เสื้อนักศึกษากับกางเกงยีนส์ รองเท้าหนังนี่ได้แตะแค่ตอนปีหนึ่ง พอขึ้นปีสองดีสุดแค่ผ้าใบ สถุลสุดรองเท้าแตะแบบหนีบ ช้างดาวอะไรทำนองนั้น

"จะไปเลยเหรอพี่?"
ผมถาม เขาหันมามองแล้วพยักหน้ารับก่อนจะจัดเนคไทและเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

"เดี๋ยวไอ้ไลค์มาเฝ้าร้านแทน ออกไปเร็วจะได้ไปหาอะไรกินด้วย ไปสายแม่งโรงอาหารคนเยอะ"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวสูง แล้วล้วงมือควานหากระเป๋าตังค์

"พี่จีบ.. ค่ากาแฟเท่าไหร่ครับ?"
ผมเปิดกระเป๋าตังค์รอส่วนพี่จีบมองหน้าผมสลับกับแล้วกาแฟก่อนจะส่ายหน้าไปมาพร้อมกับโบกมือ

"ไม่ต้องๆ ถือว่ากูเลี้ยงเนื่องในโอกาสรู้จักกันอย่างเป็นทางการ"
พี่จีบเดินออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์พร้อมกับกระเป๋าเป้สีดำยี่ห้อดัง และผมก็พบความจริงอีกข้อหนึ่งว่าพี่จีบสูงกว่าผมเกือบสิบเซนติเมตร ในขณะที่ตัวผมสูงหนึ่งร้อยเจ็บสิบเจ็ดเซนติเมตรเข้าไปแล้ว ผมมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าจนพี่จีบเลิกคิ้วมองมาทางผม แหะ เผลอใช้สายตาสำรวจเขาอีกแล้ว

"มองอะไรของมึงอีกเนี่ย?"

"พี่จีบสูงเท่าไหร่วะ?"

"กูสูงร้อยแปดสิบเจ็ด ถามไม?"

"ถึงว่า... ผมกลายเป็นคนแคระไปเลย"
ผมมองตัวเองบ้างแล้วมองพี่จีบอีกรอบ คนตรงหน้ากลั้นยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมกันซะอย่างนั้น ผมตกใจที่อยู่ก็โดนแตะตัวกันแบบนี้ เป็นปลื้มเลยว่ะ

"มึงก็สูงแล้วนะ คนแคระเชี่ยไรสูงขนาดนี้ แบบกูเขาไม่เรียกสูงแล้ว เขาเรียกยักษ์"
พี่จีบว่าก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วผละมือออกจากหัวผม... ตอนนี้ไอ้ความอยากโวยวายที่อีกคนมาทำหัวให้ยุ่งเหยิงกลับหายไปเพราะเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเขาที่มีให้กัน

"ยักษ์หล่อ"
ผมพึมพำเบาๆก่อนจะก้มหน้าก้มตาควานหากุญแจรถในกระเป๋าเป้ พอเจอผมก็หยิบขึ้นมาแล้วควงมันด้วยนิ้วชี้เล่นแต่ต้องแปลกใจเมื่อฝ่ามือใหญ่แบมาด้านหน้าของผม

"หวงรถป่ะ ถ้าไม่หวงกูขี่ให้"
พี่จีบยักคิ้วทั้งสองข้างให้กับผม มุมปากมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ ให้ตายเถอะครับถาผมเป็นผู้หญิงคงละลายลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว

"แน่ใจนะพี่ว่าจะขี่ ผมตัวหนักนะเว้ย"
ผมพูดกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองเมื่อโดนสายตาคมจ้องมา ผมว่าผู้ชายก็คงอาจละลายได้เหมือนกันล่ะมั้ง

"ตัวก็บางแค่เนี่ยจะหนักแค่ไหนกันวะ เอากุญแจมา จะได้รีบไป"
พี่จีบกระดิกนิ้วเร่ง ผมเลยวางกุญแจรถลงบนมือเขาก่อนที่ผมจะเดินนำเขาไปที่รถมอร์เตอร์ไซต์ของตัวเอง

"คันนี้ครับ"
ผมตบมือลงบนเบาะแล้วหันไปยิ้มกว้างให้คนที่เดินตามกันมา พี่จีบพยักหน้ารับแล้วหยิบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบส่งมาให้ผม

"มึงใส่ไว้ กูไม่ชอบใส่หมวกกันน็อค"

ผมพยักหน้าแล้วรับหมวกมาใส่ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายคนที่เตรียมรถรอกันอยู่แล้ว

"กอดเอวกูไว้ก็ได้นะถ้ามึงกลัว"
เสียงทุ้มดังขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองกัน เขาสตาร์ทรถแต่ยังไม่ได้ออกตัว

"หา กลัวอะไรครับ?"
ผมเปิดกระจกหมวกกันน็อคออกแล้วถามไป คำตอบที่ผมอยากได้มันมาพร้อมการกระทำที่เหนือความคาดหมาย รถผมพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วจนผมต้องรีบคว้าเอวของพี่จีบไว้

"ไอ้พี่จีบ! ทำไมขี่รถเร็วแบบนี้วะ!!"
ผมตกใจจนลืมตัวสบถคำไม่ควรออกมา แต่ไอ้คนขับมันยิ้มออกมาหน้าระรื่น

"กูบอกมึงแล้วนะ!!"
เสียงทุ้มตะโกนแข่งกับลมที่เข้ามาปะทะหน้า ผมยิ่งกอดเอวพี่จีบแน่นขึ้น เพราะตัวเลขไมล์หน้าปัดรถพุ่งเอาๆ

"บอกตอนไหนวะ บอกแค่กลัวให้กอดเอว!"

"นั่นล่ะกูบอกแล้ว!"

"อ๊ากกก เบาๆหน่อยสิโว้ย ผมกลัวความเร็ว ฮือ!"
แล้วผมก็แหกปากโวยวายไปแบบนั้นโดยที่ไอ้คนขี้แกล้งมันไม่ได้ลดความเร็วลงเลยสักนิด จอดรถเมื่อไหร่พ่อจะด่าให้ลืมทางไปคณะเลย มายไอดอลก็มายไอดอลเถอะ!! ใครหาว่าผมมีความขัดแย้งในตัวผมก็ยอมรับนะ ผมชอบรถที่มีความเร็วสูงก็จริงแต่ไม่ได้ชอบความเร็วเว้ย มันไม่ปลอกภัย มันน่ากลัว!




------------------------------------------------------

ช่วยติชมกันด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ Intro : ทดลองดื่ม (08.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-07-2016 19:53:01
จีบกับจูบเหรอ. น่ารักดีค่ะ ถ้าอ่านตอนเช้าต้องออก/ปสั่งกาแฟกินแน่นอน.
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 13-07-2016 09:15:35
- ดื่มครั้งที่ 1 -



พี่จีบค่อยๆชะลอรถมอเตอร์ไซค์ลงเมื่อเข้าเขตคณะบริหารก่อนจะจอดเทียบฟุตบาทแล้วตะโกนเรียกผู้ชายสองคนที่กำลังเดินเลี้ยวเข้าคณะ พวกเขาหันมาแล้วโบกมือทักทายก่อนจะเดินกอดคอกันตรงมาที่พวกผม

"ทำไมวันนี้มามอ'ไซค์วะ แถมมีสก๊อยติดมาด้วย"
เสียงทุ้มๆหวานๆดังขึ้นผมรีบถอดหมวกกันน็อกออกทันทีด้วยความตกใจที่โดนหาว่าเป็นสก๊อย นี่ผมเป็นผู้ชายนะเว้ยแถมเป็นเจ้าของรถด้วยนะ ที่แน่ๆคือผมก็ใส่ชุดนักศึกษาผู้ชายเหมือนๆกับพวกเขา แต่เซอร์และซกมกกว่าเกือบสิบเท่า คนที่พูดเมื่อกี้ดูจะอึ้งๆไปเมื่อเห็นหน้าผม ส่วนอีกคนแค่มองมาเฉยๆ

"โห.. สก๊อยแม่งน่ารักว่ะ"
พี่มันยังพึมพำหาว่าผมเป็นสก๊อยไม่เลิกจนพี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากเหมือนกับกำลังถูกใจ ให้ตายเถอะครับ มายไอดอลของผมเส้นตื้นหรือยังไงกัน ผมมุ่ยหน้าลงด้วยความขัดใจไม่ชอบให้ใครมาชมว่าน่ารักเลยเถอะ มันแปลกตรงไหนที่เป็นลูกคนจีน ผิวขาว ปากแดงวะเนี่ย

"พอๆหยุดล้อมันได้แล้ว พวกมึงรีบไปจองโต๊ะเลย เดี๋ยวกูเอารถไปจอดแล้วจะตามไป"
พี่จีบหยุดหัวเราะแล้วหันไปพูดกับเพื่อนต่อ ไอ้คนที่แซวผมก็พยักหน้ารับแต่ไม่วายยักคิ้วมาให้ผมก่อนจะเดินกอดคอกับเพื่อนอีกคนเดินออกไป

"อย่าไปถือสาไอ้คินมันนะ มันปากหมางี้ล่ะ"
พี่จีบหันใบหน้าด้านข้างมาเพื่อคุยกับผม แค่ด้านข้างก็หล่อขนาดนี้ ไม่แปลกที่ตลอดทางเข้ามหา'ลัยมาจะมีแต่คนมองมาที่พวกเรา

"พูดซะผมเสียเซลฟ์เลยว่ะพี่"
ผมยกมือขึ้นเกาแก้มแล้วทำหน้าเซ็งๆ พี่จีบมองผมนิ่งก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอีกรอบ แต่คราวนี้แค่เล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมให้ยุ่งยิ่งกว่าตอนถอดหมวก ผมเอียงตัวหลบนิดหน่อยเพราะไม่อยากให้ผมยุ่งมากไปกว่านี้อีกแล้ว

"ไม่ใช่อย่างที่มันพูดก็ไม่ต้องใส่ใจ เออ มึงจะรอกูตรงนี้หรือจะไปจอดรถด้วยกัน?"

"ไปด้วยๆ อย่าปล่อยผมให้เคว้งคว้างดิ"
ผมกอดหมวกกันน็อกไว้แน่นแล้วมองแผ่นหลังของเขา... คนอะไรน่าซบชะมัด

"เออๆ"
พี่จีบตอบผมกลับมาโดยไม่ได้หันมามองแล้วสตาร์ทรถพาผมไปยังที่จอดรถคณะบริหาร หลังจากนั้นพวกเราก็พากันเดินเข้าส่วนของโรงอาหารคณะ ซึ่งตอนนี้คนเริ่มพลุกพล่านและสายตาหลายคู่ก็จับจ้องมาที่เรา คนส่วนใหญ่คงมองอดีตเดือนคณะอย่างพี่จีบ แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่มองการแต่งตัวของผม... กางเกงยีนส์สีซีดขาดตรงหัวเขากับผ้าใบยี่ห้อดังสีดำแดง เรียบร้อยซะไม่มีอ่ะครับ

"เดินเร็วๆดิวะ จะทำตัวลีบทำไม?"
พี่จีบหยุดรอแล้วหันมามองผมที่เดินตามหลังเขาอยู่หลายก้าว ผมไม่ค่อยชอบสายตาที่มองมาเหมือนผมเป็นของแปลกแบบนั้น มันทำให้ผมเสียความมั่นใจเอาได้ง่ายๆ ผมส่งยิ้มแห้งไปให้แล้วรีบสาวเท้าเข้าไปหาอีกคน

"ไม่ค่อยชอบให้คนมองเลยพี่ ผมแต่งตัวประหลาดเหรอ?"
ผมมองตัวเองอีกครั้งแล้วเงยหน้าขอความคิดเห็นจากผู้ชายตรงหน้า เขามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยกมือหนาลูบคางตัวเองไปมาเหมือนใช้ความคิด พี่จีบมองอยู่แบบนั้นซ้ำๆจนผมเริ่มอายแล้วเหมือนกัน

"จะสนใจสายตาคนอื่นอะไรนักหนาวะคิส มั่นใจเข้าไว้มึง"
พี่จีบยิ้มกว้างก่อนจะวาดแขนมาคว้าคอผมไปกอด ผมเบิกตาขึ้นเพราะอยู่ๆพี่จีบเข้ามาใกล้กันขนาดนี้ รู้สึกว่าจังหวะหัวใจของตัวเองเริ่มถี่ขึ้นแปลกๆ

"อือ"
ผมตอบไปสั้นๆในขณะที่หน้าเริ่มเห่อร้อนเพราะอากาศ... แถไปอย่างนั้นล่ะครับ จริงๆแล้วเขินน่ะ เพราะเหมือนพี่เขาโอบผมไปทั้งตัวเพราะด้วยความสูงที่ต่างกันเยอะนี้ล่ะ

"แต่ต้องทำใจนะเว้ย อยู่กับกูก็โดนมองแบบนี้ล่ะ ตอนแรกๆกูก็อึดอัดนะ ตอนนี้ชินแล้วว่ะ"
เขาออกแรงดันให้ผมเดินไปพร้อมกัน ผมเงยหน้ามองเสี้ยวหน้านั่นก็จะแอบทำหน้าบูด เพราะเป็นคนหล่อ เพราะเป็นอดีตเดือนคณะสินะ... ทำไมผมต้องรู้สึกหงุดหงิดที่มีคนชอบพี่จีบเยอะด้วยว่ะ ทั้งๆที่ผมก็มีสถานะเดียวกับพวกแฟนคลับเขานั่นล่ะ

พวกเราเดินมาถึงโต๊ะที่พี่คิน.. เพิ่งรู้จักชื่อเมื่อกี้ จองเอาไว้ พี่เขามองผมกับพี่จีบด้วยสายตาล้อๆเพราะพี่จีบยังไม่ยอมปล่อยคอผม ส่วนพี่อีกคนก็ก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษรายงาน ให้ผมเดาก็คงเป็นการบ้านที่จะส่งในคาบบ่ายนี้แน่ๆ

"แหมๆ.. กอดคอกันมาเชียวนะไอ้จีบ"
สายตาล้อเลียนที่ส่งมาทำให้ผมต้องรีบขยับตัวออกจากแขนพี่จีบแล้วยืนสงบนิ่งอยู่ข้างๆแทน พี่จีบหันมามองกันก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วจับข้อมือผมกระตุกให้นั่งลงข้างๆกัน ผมหันขวับไปมองด้วยความตกใจแต่ก็ยอมนั่งลงข้างกันอย่างว่าง่าย

"กอดคอแล้วมันแปลกยังไงวะมึง?"
พี่จีบเลิกคิ้วมองพี่คินด้วยความไม่เข้าใจแล้วปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ พี่คนที่นั่งข้างๆพี่คินเหลือบมองผมแว็บหนึ่งก่อนจะกลับไปสนใจงานตัวเองต่อ.. จากที่ผมคอยืดคอยาวแอบมองงานที่พี่เขาเขียนก็เจอกับตัวเลขอันหน้าปวดหัว เดาได้ว่าต้องเป็นวิชาบัญชีแน่ๆ

"ก็เปล้า แล้วมึงไม่คิดจะแนะนำหน่อยเหรอว่าเด็กที่มึงสอยมาเป็นใครมาจากไหน?"
สายตาอย่างรู้อย่างเห็นจ้องตรงมาที่ผมอย่างปิดไม่มิด ผมสบตาเขาก่อนจะเบนหน้าหนี ไอ้พี่คินเป็นคนหล่อนะ แต่ดูไปดูมาผมว่ามันสวยมากกว่าอีก ผิวขาวเนียนละเอียด ขาวกว่าพี่จีบด้วย แถมใบหน้าเรียวรูปไข่ จมูกโด่งอย่างกับสันเขื่อน ปากบางสีแดงระเรื่อ... ถ้าพี่เขาผมยาวผมคงคิดว่าเป็นผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่ะ

"สอยพ่อง เห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ยห้ะ?"
พี่จีบด่าเพื่อนไปก่อนจะเหลือบมามองหน้าผม ผมส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

"อาเสี่ยเลี้ยงอิหนู"
พี่คินลอยหน้าลอยตาตอบจนพี่จีบเอื้อมมือไปตบหน้าผากด้วยความหมั่นไส้ พี่คินยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเองด้วยสีหน้าตกใจ พี่ที่นั่งข้างๆกันยังหลุดขำออกมาเบาๆ ไม่ต้องห่วงว่าพวกแฟนคลับที่มองอยู่จะไม่เห็นนะ พวกนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเหตุการณ์นั่นกันระนาวเลยล่ะครับ

"อย่าใส่ความกูไอ้คิน เดี๋ยวน้องเข้าใจกูผิดหมด"

"อะไรวะๆ มีกลัวน้องเขาเข้าใจผิดด้วย มีซัมติงกันป่ะเนี่ย"
พี่คินหรี่ตามองผมสลับกับพี่จีบ ผมส่ายหน้าพรืดทันที จะบ้าหรือยังไงกันหาว่าผมมีซัมติงกับพี่จีบเนี่ยนะ ชาติหน้าตอนบ่ายๆนู่นล่ะมั้งที่พี่จีบจะหันมาสนใจมีซัมติงด้วย

"มึงเลิกกวนตีนคนอื่นสักทีไอ้คิน"
พี่ที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นจากกระดาษรายงานผมเลยมีโอกาสได้พิจารณาใบหน้านั้นเต็มๆ.. สรุปได้คำเดียวว่าผู้ชายกลุ่มนี้เด็ดทุกคนครับ พี่คนนี้ใบหน้าคมเข้ม สีผิวไม่ขาวจัดมาก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างเห็นได้ชัด ปากหยักสวยได้รูป คิ้วเข้มจัด เอาง่ายๆคือหล่อแบบลูกครึ่งล่ะครับ

"กูไม่ได้กวนตีนเว้ยแก็ป กูแค่สงสัยอ่ะ สงสัย ยูโน้ว?"
ผมยอมรับอย่างไม่อายเลยว่าโคตรเกลียดคำว่ายูโน้วของพี่คินมาก ไม่รู้จะทำปากยื่นปากยาวด้วยทำไม มันดูกวนตีนขึ้นอีกเท่าตัวเลยนะ พี่แก็ป..ตามที่พี่คินเรียกส่ายหน้าเบาๆแล้วทำหน้าเอือมใส่ พี่คินยังคงลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกรู้สาเหมือนเดิม ถ้าผมเป็นพี่แก็ปผมคงตบพี่คินกบาลแยกไปแล้ว คนอะไรกวนตีนทั้งหน้าทั้งคำพูดขนาดนี้

"สงสัยหรือเสือกเอาดีๆ"
ผมแอบยกนิ้วโป้งให้พี่แก็ปใต้โต๊ะเลยครับ คำถามโคตรโดนใจบอกตามตรง แต่สีหน้าสะใจผมคงแสดงออกมากไปจนโดนคนที่นั่งข้างกันกระทุ้งศอกใส่แขนเบาๆแล้วโน้มตัวลงมากระซิบกระซาบใกล้ๆจนใจผมหวิว

"สะใจขนาดนั้นเลยเหรอวะ?"
เสียงติดทะเล้นถามขึ้น ผมรีบตีสีหน้าเรียบเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทันที พี่จีบมองหน้าผมก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

"ทำหน้าอะไรของมึงโคตรตลก"
พี่จีบขยับนั่งตัวตรงเหมือนเดิมแล้วจ้องหน้ากัน ผมแค่เบิกตาแข็งค้างไว้เท่านั้นเอง ตลกตรงไหนวะเนี่ย

"ไอ้แก็ปมึงนี่มันร้ายกาจ"
ก่อนที่ผมจะได้หาข้อแก้ตัวให้กับหน้าตาของตัวเองก็โดนเสียงของพี่คินหยุดไว้ก่อน ทั้งผมทั้งพี่จีบหันไปสนใจสองคนตรงหน้าแทน พี่คินมุ่ยหน้าลงเหมือนกำลังหงุดหงิด ส่วนพี่แก็ปยังคงทำหน้าตายเหมือนเดิมแต่ก็ยกปากกาในมือมาจิ้มแก้มคนข้างๆเล่น พี่คินจิ๊ปากแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงหน้าหลบ

"อย่ามาง้องแง้ง อายน้องมันบ้าง"
พี่แก็ปเหลือบมามองผมแล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กัน ผมเพิ่งสังเกตว่าที่ข้อมือของเขาสักตัวอักษรเล็กๆเอาไว้ซะด้วย เท่ว่ะ

"ไม่พูดกับมึงละ น้องครับแนะนำตัวหน่อยสิ พี่อยากรู้จัก"
พี่คินหันหน้าหนีจากพี่แก็ปแล้วหันมายิ้มกว้างให้ผม พี่จีบพยักพเยิดหน้ามาเป็นสัญญาณให้ผมแนะนำตัวเองไปซะทีเรื่องจะได้จบๆ

"เอ่อ ผมชื่อคิสครับ เรียนศิล'กรรมปีสอง"
ผมพูดไม่เต็มเสียงนักเพราะพี่คินเอาแต่จ้องผมไม่วางตา จากที่ผมมองสบตาเขากลายเป็นว่าต้องหาจุดโฟกัสใหม่ ทั้งๆที่ปกติแล้วผมชอบสบตาคู่สนทนา

"ว้าวๆ เด็กศิลป์ซะด้วย ว่าแต่ชื่อคริสเหรอ หล่อเลยว่ะ"
เอาอีกแล้วครับ ใครๆก็หาว่าชื่อผมหล่อแล้วยังออกเสียงผิดอีก ผมชื่อคิสนะ ไม่ใช่ คริส

"หูตึงเหรอมึง น้องเขาชื่อคิส ไม่ใช่ คริส"
พี่จีบแก้ความเข้าใจผิดนั้นใหม่เพราะพี่เขาเคยพลาดมาแล้ว พี่คินเลิกคิ้วมองหน้าผมเป็นเชิงถามว่าตัวเขาเองผิดตรงไหน

"ผมชื่อคิส คิสที่แปลว่าจูบน่ะครับ"

"อ้อ... น้องจูบนี่เอง ว่าแต่ขอจูบหน่อยได้ป่ะครับ คึคึ"
พี่คินส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้กันจนผมแอบสะดุ้ง ตกลงตอนนี้พี่มันแกล้งผมหรือมันกำลังเอาจริงอยู่กันแน่วะเนี่ย ถึงพี่มันจะหล่อแต่ผมไม่ได้เป็นเกย์นะเฟ้ย

"ไอ้คิน มึงกำลังทำให้น้องเขากลัวมึงนะ"
พี่จีบพูดก่อนจะเอื้อมมือไปดีดหน้าผากพี่คิน รายนั้นมุ่ยหน้าลงเตรียมอ้าปากเถียงเต็มที่แต่ก็โดนพี่แก็ปขัดขึ้นมาซะก่อน

"ลุก"
คำสั้นๆจากพี่แก็ปทำให้พวกเราทั้งโต๊ะงง ผมกับพี่จีบหันมองหน้ากัน ส่วนคนที่โดนสั่งก็ทำหน้าเหรอหราไม่เข้าใจอะไร

"มึงน่ะลุกขึ้น ไอ้คิน"
พี่แก็ปดึงข้อมือพี่คินให้ลุกขึ้นตามตัวเอง พี่คินเลยลุกขึ้นด้วยความงง

"ไปไหนของมึง?"

"ซื้อข้าว"

"เห้ย เดี๋ยวดิ กูยังคุยกับน้องคิสไม่จบเลย"
พี่คินทำเสียงกระเง้ากระงอดแล้วมองมาทางพี่จีบอย่างขอความช่วยเหลือ พี่จีบทำเพียงยักไหล่ไม่ยอมให้ความร่วมมือใดๆทั้งสิ้น จนเป้าหมายต่อไปของพี่คินตกมาอยู่ที่ผม

"เอ่อ..."
ผมไม่รู้จะพูดยังไงดีเลยพูดได้แค่นั้นแล้วก็เงียบไป พี่คินยังคงส่งสัญญาณ SOS มาให้กันอยู่

"จะไปดีๆหรือให้กูถีบมึง"
เสียงพี่แก็ปเริ่มจริงจังขึ้น พี่คินแอบสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังดื้อไม่ยอมเดินตามแรงลากของพี่แก็ปไปดีๆ

"ไอ้แก็ปป ไอ้คนขี้บังคับ ปล่อยกู ~"
พี่คินโวยวายไปตามทางเดินอย่างไม่อายใคร ส่วนพี่แก็ปก็ตีหน้านิ่งแล้วออกแรงลากที่คินเดินไปเรื่อยๆโดนไม่หันมาสนใจมองคนที่ทำหน้าบูดร้องโวยวายด้านหลังเลยสักนิด ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วยิ้มแหยออกมา หวังว่าพี่คินจะมีชีวิตรอดกลับมาพร้อมข้าวนะ

"พี่จีบ..."
ผมสะกิดคนข้างๆที่กำลังเอียงโทรศัพท์ไปทางซ้ายทีทางขวาที เดาได้ไม่ยากว่ามายไอดอลของผมกำลังเล่นเกมอยู่แน่ๆ แล้วมันก็จริงเมื่อลองตั้งใจฟังเสียงทีเล็ดลอดออกมาจะได้ยินเสียงเกมแข่งรถ

"มีไรมึง?"
เขาถามผมทั้งๆที่ตายังจ้องจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น นี่ผมไปกวนเขาเล่นเกมหรือเปล่า... ขอโทษ

"ไม่มีไรๆ ขอโทษที่กวน"
ผมบอกปัดพร้อมกับขอโทษพี่เขาออกไป แต่พี่จีบก็กดหยุดเกมแล้วหันมามองกัน ผมใจหายวาบคิดว่าพี่จีบต้องด่าแน่ๆเลยหลับตาลงแน่นพร้อมรับชะตากรรม

"อะไรของมึงเนี่ยคิส มีไรก็พูดดิ ไม่ได้กวนสักหน่อย กูแค่เล่นเกม"
มือหนาวางลงบนหัวผมก่อนจะออกแรงขยี้อย่างเมามัน พี่จีบแม่งเป็นอะไรกับหัวผมมากไหมเนี่ย เอะอะๆเป็นจับขยี้ทุกที หัวฟูเป็นรังนกแล้วเว้ย ยิ่งเป็นคนไม่ชอบหวีผมอยู่ด้วย

"แค่สงสัยว่าสองคนนั้นคงไม่ตีกันตายหรอกนะ"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้ม พี่จีบชะงักมือก่อนจะผละออกแล้วหัวเราะออกมา ผมเลิกคิ้วมองด้วยความงง อะไรของไอ้พี่จีบวะ วันนี้มันหัวเราะไปล้านรอบแล้วมั้งเนี่ย มีอะไรให้ตลกขนาดนั้น ผมก็ไม่ใช่ตลกคาเฟ่ด้วยดิ

"เรื่องธรรมดาของผัวเมีย มึงอย่าไปสนใจพวกมันมาก"
พี่จีบยิ้ม ส่วนผมใบ้แดกไปแล้วครับ อะไรนะ เรื่องธรรมดาของผัวเมียอย่างนั้นเหรอ แสดงว่าไอ้พี่สองคนนั่นมันเป็น...

"มึง... อ้าปากจนน้ำลายจะไหลออกมาแล้ว"
พี่จีบเอามือดันปากผมให้ประกบกันเหมือนเดิม ผมตกใจเลยถอยห่างจนเกือบตกเก้าอี้ ดีหน่อยที่พี่จีบมันมือไว้คว้าแขนผมไว้ได้ทัน

"มึงมันเซ่อซ่าขนาดนี้เลยเหรอวะ?"
พี่จีบมองแล้วยิ้มขำๆก่อนจะปล่อยมือออกเมื่อผมทรงตัวเลย ผมก้มหน้างุดเพราะอายความเปิ่นของตัวเองที่หลุดออกมาไม่หยุด

"เปล่าซะหน่อย แค่ตกใจ"

"กูพูดเล่นเว้ย มึงก็เชื่อไปได้"
พี่จีบส่ายหน้าไปมาแล้วผลักหัวผมเบาๆ พี่ผมว่าพี่คินกวนตีนคงไม่ท่าพี่จีบว่ะ กวนตีนแบบหน้าตายซะด้วย โอย มายไอดอลเชี่ยไรวะเนี่ย เลิกชอบตอนนี้ทันไหมครับ

"พี่แม่งหลอกผม"
ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะโดนพี่จีบมองด้วยสายตากรุ้มกริ่มแปลกๆ ผมเริ่มอยู่ไม่สุขอีกครั้งแล้วขยับตัวห่างพี่จีบออกมา ภาวนาให้พวกพี่คินกับพี่แก็ปกลับมาเร็วๆ โดนพี่จีบแกล้งแล้วเหนื่อยเถอะ หัวใจเต้นอย่างกับจะหลุดออกมานอกอก

"เชื่อคนง่ายแบบนี้ หลอกให้รักซะดีไหมวะ?"
พี่จีบพูดเสียงทะเล้นก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้กัน ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนวูบขึ้นมาซะอย่างนั้น พี่มันจะรู้ตัวบางไหมว่าแกล้งคนอื่นแบบนี้มันไม่สนุกนะเว้ย เผลอคิดจริงขึ้นมาจะให้ทำยังไง

"พี่แม่งแกล้งผมอีกแล้วนะ"
ผมทำหน้าบูดใส่ทั้งๆที่ในใจกรีดร้องแทบบ้า อย่ามาชักชวนให้เป็นเกย์ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นดิวะ ไม่ขำนะเว้ยไอ้พี่จีบบ้า

"ฮ่าๆ ก็แกล้งมึงสนุกอ่ะ โอ๋ๆไม่งอนพี่นะครับน้องคิส"
ท้ายประโยคทำให้หัวใจของผมกระตุกวูบ ยิ่งมือหนาเอื้อมมาจิ้มแก้มง้อกันแบบนี้ ผมอยากจะงับหัวพี่จีบแล้วสะบัดๆให้คอหลุดจากบ่าฉิบหายเลย ฮือ กำลังทำอะไรอยู่รู้ตัวบ้างไหมวะ กำลังจะฆ่าผมทั้งเป็นแล้วนะเว้ย

"พอเลยพี่ ผมไม่ได้งอนซะหน่อย"
ผมว่าก่อนขยับตัวหนีเป็นจังหวะเดียวกับพี่พี่คิสและพี่แก็ปกลับมา สายตาล้อเลียนถูกส่งมาให้กันอีกระลอก... ไม่ต้องเหนื่อยหาคำตอบให้ยาก พี่คินมันมาทันเห็นพี่จีบง้อผมแน่ๆ

"แหม.. พวกกูหายไปซื้อข้าวกันแป็ปเดียว หาเรื่องสวีทกันกลางโรงอาหารเลยเหรอเนี่ย"
พี่คินยักคิ้วให้ผมก่อนจะวางจานข้าวแล้วนั่งลง จานหนึ่งเลื่อนมาให้ผมอีกจานเป็นของเขาเอง ส่วนพี่แก็ปถือมาจานเดียว





มีต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ Intro : ทดลองดื่ม (08.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 13-07-2016 09:16:07
ต่อ



"เสือกจริงๆ แล้วไหนข้าวกูอ่ะ ซื้อมาฝากแต่ไอ้คิส"
ว่าแล้วก็พาลมาเหล่ตามองผม พี่คินยักไหล่ให้แล้วพูดออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ

"เดี๋ยวก็มีสาวเอาของกินมาให้มึง จะเสียตังค์ซื้อแดกทำไม ส่วนข้าวน้องคิสเนี่ยกูเลี้ยงเนื่องในโอกาสได้รู้จักกัน"
พี่เขาหันมาขยิบตาให้ ผมรีบยกมือไหว้ขอบคุณแถมด้วยรอยยิ้มหวานๆอย่างเอาใจ วันนี้โคตรโชคดีครับมีคนเลี้ยงกาแฟแล้วยังมีคนเลี้ยงข้าวอีก พี่จีบเบ้ปากใส่ผมก่อนจะสบถด่าเพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย

"ไอ้เชี่ย มึงไม่รู้หรือไงว่ากูเบื่อของกินจากคนพวกนั้นแค่ไหน มีแต่ของหวานๆเลี่ยนๆ กูยังไม่อยากเป็นเบาหวานตาย"
พี่จีบทำหน้ายุ่งเหมือนเขาจะไม่ชอบของพวกนั้นจริงๆ ผมพอจะเดาได้ว่าสาวๆพวกนั้นคงหอบพวกขนมหวานๆมาให้แน่ๆ ไม่มีใครหอบอาหารหรือของคาวมาให้หรอก ที่ผมรู้เพราะเพื่อนผมที่เป็นเดือนมหา'ลัยปีที่แล้วก็โดนแบบนี้บ่อยๆเหมือนกัน

"มึงก็อย่าพูดแบบนี้ดิวะ เดี๋ยวคนให้เขาได้ยินจะเสียใจนะเว้ย"
พี่คินพูดออกมาขำๆก่อนจะตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยเหมือนกำลังยั่วคนตรงหน้า พี่จีบจิ๊ปากด้วยความขัดใจ

"มึงอย่ามาพูด มึงก็บ่นเหมือนกันเหอะตอนหนุ่มๆเอาของแบบนั้นมาให้"
พี่จีบพูดก่อนจะยกยิ้มมุมปากแบบคนที่อยู่เหนือกว่า พี่คินชะงักช้อนกลางอากาศแล้วถลึงตาใส่พี่จีบทันที ส่วนพี่แก็ปเหลือบมองพี่คินนิดหน่อยก่อนจะกลับไปสนใจจานข้าวของตัวเองต่อ... ผมชักจะทะแม่งๆว่าพี่แก็ปกับพี่คินมีซัมติงกันแน่ๆ

"มึงหยุดพูดเลยไอ้จีบ อัปยศอดสูที่สุดในชีวิต"
พี่คินทำหน้าเซ็งก่อนจะยัดข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวแรงๆเหมือนหงุดหงิด ก็ไม่น่าแปลกที่จะมีหนุ่มๆเข้าหาพี่เขา ก็ดันหน้าหวานซะขนาดนั้น ถ้าไม่ติดว่าพี่เขาปากหมาไปหน่อยผมคงจะชมพี่เขาจากใจจริงแบบตรงๆไปแล้ว

"เกิดมาสวยเอง ช่วยไม่ได้นะน้องคิน"
พี่จีบว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มพี่คินอย่างหยอกล้อ พี่แก็ปมองตาขวางทันทีจนพี่จีบปล่อยมือแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทันที เหมือนพี่จีบกับพี่แก็ปจะมีความลับต่อกันโดยที่พี่คินไม่รู้แหงๆ

"หุบปากๆๆๆ ก่อนที่กูจะหาเรื่องให้มึงโดนผู้หญิงรุมทึ้ง!!"
พี่คินชี้หน้าขู่พี่จีบจนมือสั่นปากสั่นไปหมด ดูท่าทางเขาจะไม่ชอบจริงจัง แต่เมื่อกี้ยังขอจูบผมน่าด้านๆอยู่เลย มีความขัดแย้งในตัวเองสูงนะเนี่ย

"โอ๋ๆ กูขอโทษคร้าบ"
พี่จีบก้มหัวบอโทษเพื่อนด้วยท่าทางกวนตีน แต่พี่คินก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังยอมสงบปากสงบคำกลับไปกินข้าวต่อด้วย ผมที่มัวแต่มองฟังพวกพี่เขาคุยกันเพลินเลยยังไม่ได้แตะต้องข้าวตัวเองเลยสักนิดเดียว จนพี่จีบสะกิดนั่นล่ะถึงได้รู้ตัว

"ขยับจานมานี่"
พี่จีบบอกก่อนจะมองมาที่จานข้าว ผมเลิกคิ้วก่อนจะตั้งคำถาม

"พี่จีบจะกินเหรอ เดี๋ยวผมเดินไปซื้อใหม่ก็ได้"
ผมเลื่อนจานข้าวไปตรงหน้าเขา แต่มือของร่างสูงก็ดันมันกลับให้อยู่ระหว่างกลางของเราแถมยังแย่งจับส้อมเอาไว้แทนที่จะเป็นช้อนอีกด้วย

"ไม่ต้องซื้อใหม่ กินด้วยกันนี่ล่ะ"
เขาพูดจบก็ใช้ส้อมตักข้าวใส่ปาก มันดูทุลักทุเลยังไงก็ไม่รู้ เพราะตักขึ้นมาข้าวมันก็ลอดช่องร่วงลงในจานไปเกือบครึ่ง

"พี่เอาช้อนไปใช้ดิ กินด้วยส้อมมันลำบากนะเว้ย แล้วเรื่องข้าวผมไปซื้อใหม่ดีกว่า กินด้วยกันไม่อิ่มหรอก"
ผมหยิบช้อนแล้วยัดใส่มือพี่จีบ แต่เขาไม่รับแล้วดันช้อนใส่มือผมก่อนจะมองกันดุๆ

"กินไปเลยมึง ถ้ายังพูดมากเดี๋ยวกูจะจับยัดปาก"
ผมรีบจับช้อนตักข้าวใส่ปากทันที ตอนที่คนร่าเริงดุนี่น่ากลัวฉิบหายเลยว่ะ พี่จีบมองผมแล้วยิ้มอย่างพอใจก่อนจะกลับไปพยายามตักข้าวด้วยส้อมต่อ เห็นแล้วลำบากแทนว่ะ จริงๆให้ผมป้อนก็ได้นะ -//- แหะๆ

"พี่จีบคะ"
เสียงหวานๆที่ดังขึ้นข้างโต๊ะทำให้พวกผมชะงักมือค้างกลางอากาศ พี่จีบเป็นคนแรกที่วางอาวุธลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน ผมที่ยังคงงับช้อนคาปากอยู่เงยมองขึ้นบ้างแล้วก็พบเข้ากับสาวน้อยน่ารักที่มีดีกรีเป็นดาวแพทย์ปีนี้ ในมือของเธอมีถุงขนมจากร้านเค้กชื่อดัง ด้านในบรรจุเค้กสีสันสดใสเอาไว้พร้อมกับกระดาษโพสต์อิทลายน่ารัก นี่ผมไม่ได้สอดรู้สอดเห็นเลยนะครับ สายตามันเหลือบไปเห็นเองต่างหาก

"ครับผม"
พี่จีบตอบรับด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้ เธอหน้าแดงก่ำก่อนจะยืนบิดไปมาด้วยความเขินอาย รอยยิ้มของพี่จีบสามารถฆ่าคนได้เสมอ ผมเชื่อแบบนั้น

"เอ่อคือ... ลาเต้เอาขนมมาฝากน่ะค่ะ"
เธอยื่นถุงเค้กมาตรงหน้าพี่จีบ ดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นหลุบต่ำลงไม่กล้ามองอาจจะเพราะกำลังเขินอาย ถึงลาเต้จะใส่แว่นแต่ความสวยแม่งทะลุออกมาเลยว่ะ แถมชื่อเล่นยังโคตรจะเข้าทางพี่จีบที่เป็นบาริสต้าอีกด้วย

"ขอบคุณนะครับลาเต้"
พี่จีบรับถุงขนมมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณเธอด้วยเสียงอ่อนโยน ลาเต้ยิ่งบิดหนักขึ้นมากกว่าเดิมจนผมกลัวว่าเธอตัวจะเป็นเกลียวไปซะก่อน

"อย่าลืมอ่านโพสต์อิทด้วยนะคะ!"
แล้วเธอก็วิ่งหนีออกไปทันที ปล่อยให้พวกผมมองตามไปอย่างอึ้งๆ เหลือแต่พี่แก็ปนี่ล่ะที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับอาหารของตัวเอง

"มีคนมาส่งเสบียงอีกละ คราวนี้ดาวแพทย์เลยนะเว้ย"
พี่คินยิ้มกรุ้มกริ่มส่งมาให้พี่จีบที่ทำหน้าเฉยเมย เขาวางถุงเค้กลงอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่

"ดาวแพทย์แล้วยังไงวะ กูไม่ชอบเขานี่"
พี่จีบว่าก่อนจะยักไหล่แบบไม่ใส่ใจก่อนจะกลับไปหยิบส้อมแล้วตั้งใจตักข้าวกินอีกรอบ พี่คินมองมาพร้อมเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้

"ไอ้จีบ.. แบบไหนๆมึงก็บอกว่าไม่ชอบทั้งนั้นอ่ะ มึงจะเอายังไงกันแน่"
พี่จีบชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่คิน ผมแสร้งทำเป็นไม่รับรู้แล้วตักข้าวเข้าปากเลียนแบบพี่แก็ปไปเรื่อยๆ

"มึงเคยได้ยินป่ะว่าคนที่ใช่ไม่ต้องพยายาม ถ้ากูจะชอบกูก็ชอบเขาเองล่ะ ไม่ต้องมาพยายามทำให้กูชอบหรอก"
พี่จีบพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจังจนพี่คินยกมือขึ้นยอมแพ้แล้วกลับไปกินข้าวของตัวเองต่อ ผมมองใบหน้าด้านข้างของเขาก่อนจะแอบลอบยิ้ม คนที่พี่จีบชอบคงโชคดีไม่น้อย ผมจะรอดูว่าผู้โชคดีคนนั้นจะเป็นใคร คนๆนั้นคงต้องเป็นคนที่วิเศษมากแน่ๆ แฟนคลับพี่จีบคงอิจฉาเธอคนนั้นชัวร์ๆ

"มึงชอบกินเค้กป่ะ?"
อยู่ๆพี่จีบก็ถามขึ้นมา ผมพยักหนาอย่างแข็งขันเพราะชอบกินขนมมากกว่ากินข้าวซะอีก พี่จีบยิ้มน้อยๆก่อนจะเลื่อนถุงขนมของน้องดาวแพทย์มาให้กัน

"หือ จะให้ผมกินเหรอ?"
ผมถามแล้วชี้มือเข้าหาตัวเอง พี่จีบพยักหน้าเบาๆ

"ใช่ เอาไปกินแทนกูหน่อย"
ผมมองเค้กสลับกับพี่จีบ.. ทำแบบนี้ถ้าคนที่เขาให้รู้ขึ้นมาคงเสียใจแย่เลย

"แต่ว่า..."
ผมว่าเสียงอ่อย มันเสียใจจริงๆนะเวลาที่เอาของไปให้ใครแล้วมารู้ที่หลังว่าคนรับไม่สนใจมันน่ะ ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเพราผมเคยผ่านมันมาก่อน

"ดีกว่ากูเอาไปทิ้ง"

"อื้อ งั้นผมกินนะ"
ผมตอบรับก่อนจะส่งยิ้มไปให้ พี่จีบพยักหน้าเบาๆเพื่ออนุญาตอีกครั้งหนึ่ง

"กับเพื่อนไม่คิดจะให้บ้างเลยนะ"
เสียงพี่คินจิกกัดพี่จีบอีกตามเคย ถามจริงเหอะ พ่อแม่พี่เป็นนกป่ะวะเนี่ย

"เดี๋ยวไอ้จุนก็เสนอหน้าเอาขนมมาให้มึง"
คำพูดของพี่จีบทำให้พี่คินแยกเขี้ยวใส่ทันที ส่วนพี่แก็ปวางช้อนลงกับจานเสียงดังจนผมแอบสะดุ้ง ชัวร์แล้วล่ะครับว่าพี่แก็ปแอบชอบพี่คินแน่ๆ

"มึงอย่าไปพูดถึงมันสิวะ เดี๋ยวแม่งก็โผล่มา"
พี่คินเบ้ปากก่อนจะลูบแขนตัวเองไปมา สงสัยว่าไอ้จุนอะไรเนี่ยคงเป็นคนน่ารำคาญพอตัว

"แดกข้าวให้หมดสักทีเหอะ"
พี่แก็ปหันมาดุพี่คินที่เอาแต่คุย พี่คินถลึงตาใส่แต่ก็ยอมตักข้าวใส่ปากกินไปเรื่อยจนหมด ส่วนผมกับพี่จีบก็จัดการอาหารตรงหน้าจนหมดแล้วเช่นเดียวกัน และเชื่อว่าไอ้พี่จีบยังไม่อิ่มแน่ๆ

ผมล้วงนาฬิกาออกมาดูเวลาก่อนจะพบว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันกระหน่ำส่งไลน์มาเกือบยี่สิบข้อความ ผมเลื่อนมือสไลด์หน้าจอเพื่อปลดล็อกแล้วกดเข้าโปรแกรมสีเขียวไล่อ่านข้อความทั้งหมดพร้อมกับอ้าปากหวอ จับใจความได้คร่าวๆว่า มึงไปทำอะไรคณะบริการ ทำไม่มีรูปมึงในเพจคนดังมหา'ลัย ทำไมรูปแม่งดูสวีทกับพี่จีบขนาดนั้น มึงไปสนิทกับพี่จีบตอนไหนและอีกมากมายนับไม่ถ้วน... ผมจะตอบอันไหนก่อนดีวะ

"เป็นไรวะคิส คิ้วผูกโบว์เชียว"
พี่จีบทักขึ้นก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นดื่ม ผมลังเลว่าจะบอกเรื่องที่มีรูปคู่ของเราลงเพจคนดังหรือเปล่า สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่บอกอะไรดีกว่า

"เพื่อนไลน์มาถามเรื่องการบ้านครับ"
ผมแถออกไปด้วยเรื่องเรียบง่ายที่สุด เอาตัวรอดไว้ก่อนเป็นยอดดี พี่จีบพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พี่คินกับพี่แก็ปก็เช่นกัน จานข้าวตรงหน้าโดนพี่จีบแย่งไปถือไว้ ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบถุงเค้กแล้วแบมือไปขอจานข้าวจากพี่จีบ แต่เขาเลิกคิ้วมองแล้วขยับจานหนีผม

"กูเอาไปเก็บเอง"

"แต่ว่าผมเป็นน้อง ผมควรเอาไปเก็บดิ"
ผมพูดตามที่ผมคิด ให้รุ่นพี่เอาไปเก็บมันดูน่าเกลียดป่ะวะ ทั้งๆที่ก่อนกน้านี้ก็ใช้จานกินข้าวร่วมกัน พี่จีบหลุดขำออกมาแล้วยกมือข้างที่ว่างมากอดไหล่ผมเอาไว้ บางทีผมก็อยากบอกพี่จีบว่าแคร์สายตาแฟนคลับบ้างเถอะครับ ถ้าไม่อย่างนั้นก็แคร์ผมหน่อยก่อนที่ผมจะโดนแฟนคลับพี่รุมกระทืบ

"เป็นเด็กดีจริงๆเลยนะมึงเนี่ย"
พี่จีบว่าก่อนจะพาผมเดินออกไปจากตรงนั้น ผมทันเห็นสายตาแฟนคลับบางคนของพี่จีบที่ส่งสายตาไม่พอใจมาให้กันจนแอบเสียวสันหลังวาบ เรื่องที่ผมอยากบอกเขาอีกอย่างก็คือจริงๆแล้วผมไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย แต่อยากเป็นคนดีของพี่จีบแค่นั้นเอง... เพ้อเจ้อไปเรื่อยอย่าสนใจผมเลยครับ

พวกเราเดินออกจากโรงอาหารก่อนจะมาทิ้งตัวนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนตรงลานหน้าคณะ เหลือเวลาอีกเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาเรียนของพวกเรา

"น้องคิสเรียนศิล'กรรมสาขาอะไร?"
พี่คินถามผมขึ้นมาเพราะไม่รู้ว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี ซึ่งผมก็เต็มใจที่จะตอบเนื่องจากมันไม่ได้ลำบากอะไร

"คอมพิวเตอร์กราฟิกครับผม"
ผมยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ... อย่าเพิ่งคิดว่าผมเป็นโอตาคุนะเว้ย ผมแค่ชอบเล่นเกม ชอบการ์ตูนก็แค่นั้น ไม่ได้ถึงขนาดคลั่งไคล้

"เจ๋งว่ะๆ"
แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปเรียนโดยพี่จีบเดินไปส่งผมที่จอดรถแล้วตอนเลิกเรียนผมจะมารับพี่จีบที่หน้าคณะ จริงๆพี่เขาจะกลับเองนั่นล่ะแต่ผมไม่ยอมแล้วอ้างว่ายังไงๆผมกลับหอก็ต้องผ่านร้านกาแฟอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปเบียดเสียดขึ้นรถเมล์กับคนอื่นเขาหรอก พี่จีบก็ได้แต่พยักหน้ารับแล้วบอกให้ผมตั้งใจเรียน เอาจริงๆผมไม่เคยมีกำลังใจในการเรียนมากเท่านี้มาก่อนเลยว่ะ โอย อยากเรียนแล้วเนี่ย วันนี้คงเป็นวันที่ผมตั้งใจเรียนวันแรกในชีวิตเลยล่ะ



--------------------------------------------------------

ตอนที่ 1 มาแล้ว ~ เพื่อนๆจีบนี่ไม่ค่อยมีคนปกติหรอก... คนหนึ่งบ้า คนหนึ่งเงียบ
เจ้าตัวเองก็เส้นตื้นไปอีก มาช่วยให้กำลังใจคิสในการเป็นแฟนคลับ(ที่ใกล้ชิด) ของจีบกันเถอะ 555555555 อ่านให้สนุกน้า



ปล. เรื่องนี้จะสอดแทรกความรู้เรื่องกาแฟ การชงกาแฟลงไปด้วยน้า ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยฮับผม ♥
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 13-07-2016 10:34:55
อิพี่นี่ก็เนียนอ่อยน้องแบบไม่รู้ตัวเลยน้า :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 13-07-2016 13:07:15
พี่จีบกับน้องจูบ


 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-07-2016 13:18:02
 :L1:   ละมุน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-07-2016 13:44:03
คิสน่ารักอ่ะ พี่จีบนี่อ่อยน้องแบบเนียนๆป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 13-07-2016 15:45:18
ชื่อเฟี้ยวฟ้าวกันมาก น่ารักน่าเอ็นดูมากเลยค่ะ อ่านเพลินเลย ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-07-2016 22:40:07
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 01 : ดื่มครั้งที่ 1 (13.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 13-07-2016 22:59:30
แอบเห็นความอ่อยของพี่จีบยังไงไม่รู้สิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 14-07-2016 21:24:56
- ดื่มครั้งที่ 2 -




ผมรีบวิ่งเข้าห้องเรียนทันทีเพราะตอนนี้นาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าถึงเวลาเรียนแล้ว เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเพื่อนร่วมเซคเป็นตัวช่วยให้ผมมั่นใจว่าอาจารย์ยังไม่เริ่มสอน ผมรีบมองหาเพื่อนสนิทก่อนจะเจอมันโบกมือมาให้ด้วยสีหน้ายุ่งๆ เพราะปกติผมมาก่อนเวลาเรียนเสมอ สองขารีบก้าวเข้าไปแล้วหย่อนตัวลงนั่งตรงกลางระหว่างไอ้ภีมอดีตเดือนมหา'ลัยปีที่แล้ว และ ไอ้ออยสาวสวยประจำกลุ่ม ผมยังไม่ทันได้หายใจหายคอออยก็สาดคำถามใส่ผมทันที

"มึงตอบคำถามกูมาเดี๋ยวนี้เลย เอาให้ละเอียด!"
ออยกระซิบเสียงลอดไรฟันจนผมขนลุกซู่ เวลามันจะโหดมันก็โหดแบบไม่ลืมหูลืมตา มีครั้งหนึ่งผมบ่ายเบี่ยงจะตอบเรื่องอะไรมันสักอย่างนี่ล่ะ มันโมโหจนถีบผมกระเด็น ตั้งแต่นั้นมาผมไม่กล้าจะหือกับมันอีกเลย แต่ครั้งนี้ผมขอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนนะครับ

"คำถามอะไรวะ?"
ผมแสร้งทำหน้าซื่อตาใสเอียงคอมองแล้วกระพริบตาปริบๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันอยากรู้เรื่องพี่จีบ แต่จะให้ผมบอกเพื่อนได้ยังไงว่าผมไปร้านกาแฟทุกวันจนพี่จีบจำหน้าได้ คุยกันแบบล่องลอยมาเกือบเดือนแต่ไม่รู้จักกันเลยถามชื่อ พี่จีบรถเสีย เลยต้องอาศัยมากับผม แบบนี้น่ะเหรอ? เพื่อนแม่งได้แซวกันจนลูกบวชอ่ะครับ

"ไอ้จูบ มึงอย่ามาซึน กูรู้ว่ามึงอ่านไลน์แล้ว"
ไอ้ออยผลักหัวผมอย่างแรงก่อนมันจะถลึงตาใส่กัน ผมยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองก่อนจะหันไปฟ้องไอ้ภีม

"ภีมมม มึงดูไอ้ออยดิ เป็นผู้หญิงประสาอะไรวะทำร้ายร่างกายกูเนี่ย"
ผมเบะปากก่อนจะมองตาขวางไปที่ออย มันไม่ได้สำนึกอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังชี้หน้าคาดโทษผมอีก ไอ้ภีมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะวางมือลงบนหัวผมแล้วขยี้ไปมา

"ออย..มึงก็อย่าไปตบหัวมันมาก เดี๋ยวจะเอ๋อหนักกว่าเดิม"
ไอ้ภีมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆจนผมหันขวับไปมองหน้ามันแล้วสะบัดหัวออก ตกลงมันจะเข้าข้างไอ้ออยใช่ไหม ได้ๆ เดี๋ยวกูจะยุให้ไอ้พี่ดีพมันมีกิ๊กแม่งเลย

"มึงเข้าข้างไอ้ออยใช่ป่ะ? เดี๋ยวกูจะยุให้พี่ดีพมีกิ๊ก!"
ผมยักคิ้วกวนส่งให้ ก่อนที่มันจะหันมาแยกเขี้ยวใส่กัน มุกนี้ผ่านเสมอเมื่อมันแกล้งผมหรือทำร้ายร่างกายผม ไอ้ภีมหวงพี่ดีพยิ่งกว่าอะไรดี

"ถ้าไอ้เชี่ยดีพมีกิ๊กกูจะตามไปยิงแม่งให้สมองกระจุย"
ผมกับไอ้ออยสะดุ้งกับสีหน้าและคำพูดของไอ้ภีม... ไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าเพื่อนตัวเองหึงโหดขนาดนี้ พี่ชายผมกับไอ้ภีมเป็นแฟนกัน.. แต่ไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายรับเพราะแมนๆเตะบอลทั้งคู่ แถมยังเป็นอดีตเดือนมหา'ลัยทั้งคู่ด้วย ไม่รู้มันไปชอบกันตอนไหน โคตรตกข่าว รู้อีกทีมันก็คบกันไปได้สองสามเดือนแล้ว

"โอย พี่สะใภ้กูโหดแท้"
ผมทำหน้าหวาดกลัวใส่มันพร้อมทั้งยกมือขึ้นปิดปากนั่นทำให้ผมโดนไอ้ภีมเขกกบาลมาอีกหนึ่งครั้ง เสียงไอ้ออยหัวเราะลั่นจนผมต้องหันไปมองมันตาขวาง ออยหุบปากทันทีแต่หน้ายังสั่นเพราะกลั้นขำเอาไว้

"ถ้ามึงเรียกกูว่าพี่สะใภ้อีกที กูถีบมึงตกเก้าอี้แน่"
ผมพยักหน้ารับเพราะกลัวตาย มันสูงพอๆกับพี่จีบแถมเป็นนักกีฬาบาสฯอีกด้วย ไม่ค่อยอยากเสี่ยงเท่าไหร่

"อืม แล้วตกลงมึงกับพี่จีบทำไมไปกินข้าวด้วยกันได้"
กลายเป็นไอ้ภีมตั้งคำถามขึ้นแทน ส่วนไอ้ออยก็เงี่ยหูฟังแบบเสนอหน้าให้รู้กันชัดๆไม่มีปิดบัง ผมกรอกตาเลิ่กลั่กไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไงดี พวกมันไม่เคยรู้ว่าผมติดใจพี่จีบตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน

"เอ่อ... เห้ย 'จารย์เข้าแล้วๆ"
สายตาผมเหลือบไปเห็นประตูกระจกบานเลื่อนของห้องปฏิบัติการเปิดออกพร้อมกับร่างของอาจารย์หนุ่มหล่อเดินเข้ามา การเอาตัวรอดของผมสำเร็จผล เพราะหลังจากนั้นไอ้ออยก็ตั้งใจเรียนไปเพราะมันแอบชอบอาจารย์คนนี้ ส่วนไอ้ภีมมันก็เป็นพวกไม่ชอบเซ้าซี้ใครอยู่แล้วด้วย ผมก็เลยนั่งเรียนอย่างสบายใจไปทั้งคาบ

หลังเลิกเรียนพวกเราก็เดินลงมาที่ลานคณะ ผมมีภารกิจต้องไปรับพี่จีบที่คณะบริหารแต่ก็ไม่ได้บอกใครไว้ ถ้ามันจะชวนกันไปไหนต่อความซวยจะตกลงมาที่ผมอีกครั้งแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆเพราะไอ้ออยอ้าปากชวนไปกินข้าว... ร้อยวันพันปีเลิกเรียนเย็นก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน วันนี้เป็นเชี่ยอะไรครับคุณเพื่อนกระแดะอยากกินข้าวเย็นบนห้างเนี่ย

"มึงว่างป่ะภีม ไอ้จูบด้วย"
เสียงหวานๆของออยดังขึ้น ใบหน้าสวยของมันประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เดาได้ไม่ยากว่าต้องมีอะไรใหม่ๆที่มันอยากกินแน่ๆเลยชวนกันกะทันหันแบบนี้

"กูชื่อคิส ไม่ได้ชื่อจูบ"
ผมแย้งมันออกไปก่อนจะหาวิธีเลี่ยงไม่ไปกินข้าวกับมัน แต่ถ้าผมบอกว่าไม่ว่าง คำถามต่อไปต้องถามว่า มึงมีธุระอะไรเป็นแน่ เอาไงดีวะ จะโทรไปหาพี่จีบก็ไม่ได้ซะด้วยไม่มีเบอร์ เกิดเป็นไอ้คิสแท้จริงแสนลำบาก เลือกทางไหนก็ตายทุกทาง

"เออน่า ตกลงว่างป่ะ?"
ออยถามย้ำอีกครั้ง ภีมพยักหน้ารับเพราะมันไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว ไอ้พี่ดีพก็ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นด้วย ผมขมวดคิ้วเพราะยังคิดไม่ตก ไม่ชอบอะไรที่ต้องเลือกเลยว่ะ ลำบากใจ

"เหลือมึงละคิส ทำไมคิดนานจังวะ?"

"คือกู.. ไปด้วยก็ได้ แต่ขอไปทำธุระแป็ปนึงได้ป่ะ?"
สุดท้ายผมก็เลือกที่จะไปกับเพื่อนแล้วไปขอโทษพี่จีบที่คณะ ไอ้ออยหรี่ตาผมอย่างมีเลศนัยแล้วเข้ามากระแซะไหล่กันหน้าตาเฉย

"เกี่ยวกับเรื่องที่พี่จีบมาม'หาลัยกับมึงป่ะ?"
มันกระซิบกระซาบก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ผมเลิกคิ้วขึ้นเบิกตาโตทำหน้าใสซื่อแบบสุดขีด อย่ามารู้ทันกูครับ กูเอาตัวรอดไม่ได้!

"เพ้อเจ้อละมึง กูไปทำธุระก่อน เจอกันที่ห้างเลยนะเว้ย"
ผมพูดก่อนจะเดินตรงไปที่ลานจอดรถข้างตึกทันทีโดยไม่สนใจว่าเพื่อนจะว่ายังไง เดี๋ยวมันมีอะไรก็คงโทรหรือไม่ก็ไลน์มาเอง

ผมขี่รถมาจอดเทียบฟุตบาทหน้าคณะบริหารซึ่งมีพี่จีบยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว เขายกมือขึ้นโบกทักทายผมเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหากัน ผมถอดหมวกกันน็อกออกแล้วส่งยิ้มเจือนไปให้

"เป็นไรวะ เรียนยากเหรอ ทำหน้าเหมือนจะตาย"
พี่จีบหยุดอยู่ข้างๆผมก่อนจะโน้มหน้าลงมามองใกล้ๆ ผมผงะตกใจเกือบจะหงายหลังตกจากรถ ดีหน่อยที่สามารถทรงตัวเองได้ไม่ต้องให้อีกคนประคอง หัวใจของผมเริ่มทำงานหนักขึ้นมาอีกแล้ว ทำไมพี่จีบชอบเข้ามาประชิดตัวกันนักวะเนี่ย

"เปล่าๆ พี่จีบ..คือว่าเย็นนี้ผมไปส่งพี่ไม่ได้แล้วอ่ะ ต้องไปกินข้าวกับเพื่อน"
ผมกลั้นไปพูดสิ่งที่ต้องการไปรวดเดียวจนจบไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ หมวกกันน็อกกลายเป็นจุดโฟกัสของผมไปซะแล้ว ในใจก็ได้แต่คิดว่าสรุปแล้วตัวเองคุยกับพี่จีบหรือหมวกกันน็อกบนหน้าตักกันแน่ เหมือนผมได้ยินเสียงพี่จีบสูดลมหายใจเข้าหนักๆเลยช้อนสายตามอง ในหัวคิดว่าพี่จีบต้องทำหน้าไม่พอใจอยู่แน่ๆ แต่เปล่าเลย ความจริงคือพี่จีบกำลังยิ้มอยู่ เป็นยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามันเจ้าเล่ห์ชอบกล

"กูไปกินข้าวด้วยได้ป่ะ?"
จากที่ทำเพียงแค่ช้อนสายตามองกลายเป็นว่าผมเงยหน้าขึ้นจนคอแทบเคล็ดแล้วเบิกตามองพี่จีบ เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะวางมือแปะลงบนหัวผมพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้... อีกแล้ว ทำผมใจเต้นอีกแล้ว

"ทำไมต้องทำหน้าตาตลกแบบนั้นด้วยวะ"
เมื่อกี้ผมอาจจะทำหน้าตลกอย่างที่พี่จีบว่าก็ได้ แต่ตอนนี้หน้าผมร้อนวูบและเกรงว่ามันจะแดงจนพี่จีบจับได้ ผมเขินนะเว้ย มาจ้องหน้ากันในระยะประชิดแบบนี้ ผมเบนสายตาหนีดวงตาคมนั่น ปากบางเม้มแน่นเข้าหากันอัตโนมัติ... ไม่ได้ช่วยให้หน้าร้อนน้อยลงเลยว่ะเฮ้ย แย่แล้ว แย่แน่ๆ

"จะไปกินข้าวกับผมจริงอ่ะ แต่ผมไปกับเพื่อนนะ"
ผมไม่ได้ตอบคำถามเขากลับไปแต่กลับตั้งคำถามใหม่ขึ้นมาแทน พี่จีบผละตัวออกไปยืนตรงเหมือนเดิมแล้วพยักหน้าลงช้าๆแล้วส่งยิ้มมุมปากมาให้กัน

"ไปได้ดิ ไม่มีปัญหา หรือมึงไม่อยากกินข้าวกับกู?"

"เปล่าๆ กลับช้าหน่อยที่ร้านคงไม่วุ่นวายใช่ไหมพี่?"
ผมรีบตอบกลับทันทีด้วยความกลัว กลัวพี่เขาจะเขาใจผิดคิดว่าผมรังเกียจ... ผมน่ะชอบพี่จีบจะตายไป โธ่

"ไม่หรอก ไอ้ไลค์กับไอ้ซารังสองคนก็เอาอยู่แล้ว"
พี่จีบยักคิ้วมาให้กัน ทำเอาใจผมกระตุกอีกแล้ว ไม่ว่าจะทำกริยาท่าทางแบบไหนมันก็ดูดีไปเสียหมด น่าอิจฉาจริงๆ ส่วนคนที่ชื่อไลค์เป็นพี่ชายของพี่จีบและน่าจะเป็นเจ้าของร้าน ส่วนซารังนี่เป็นน้องชายคนเล็กที่เรียนหมออยู่ปีหนึ่ง... อย่าหาว่าผมคลั่งพี่จีบเลยนะ นี่แค่ชอบจริงๆ

"โอเค งั้นพี่ขึ้นมาเลยครับ ผมบริการเองรอบนี้"
ผมยิ้มกว้างและยืดอกด้วยความภูมิใจว่าจะได้ขี่รถให้มายไอดอลนั่ง แต่ในใจลึกๆคือผมมีประสบการณ์การขี่รถของพี่จีบเลยฝังใจ... มันขี่รถไว จะแข่งเอาถ้วยหรือยังไงวะ คิสไม่ปลื้ม จบป่ะ!!!

"มึงอ่ะขยับไปซ้อนท้าย กูขี่เอง"
น้ำเสียงจริงจังส่งมาพร้อมสายตาดุๆ แต่รอบนี้ผมไม่ยอมแพ้หรอกเว้ย จะเป็นจะตายยังไงจะไม่ขอซ้อนท้ายพี่จีบไปอีกตลอดชีวิต ผมชิงใส่หมวกกันน็อกแล้วสตาร์ทรถทันที ท่าเตรียมพร้อมจะออกรถแล้วด้วย

"ขึ้นมาสิครับ"
ผมเปิดกระจกขึ้นแล้วหันไปพูดกับคนที่ยังยืนตีหน้ายักษ์อยู่ พี่เขาไม่แม้แต่คิดจะขยับตัวไปไหนยังคงใช้สายตากดดันกันอยู่แบบนั้น ทำแบบนี้คิดว่าผมจะกลัวหรือไงวะ เหอะ ลงก็ได้ ขยับก็ได้ ซ้อนท้ายก็ได้ ~ ฮือ

ผมดับเครื่องรถแล้วถีบสแตนลงก่อนจะขยับก้นไปนั่งประจำที่คนซ้อน พี่จีบคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะจับหัวผมที่มีหมวกกันน็อกสวมอยู่โยกไปมาเบาๆ เขายกขาขึ้นคร่อมรถแบบสบายๆแล้วนั่งประจำที่ ผมที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้หลังจากพี่พี่จีบยิ้มให้รีบถอดหมวกกันน็อกออกแล้วส่งให้เจ้าตัวทันที

"คราวนี้พี่ต้องใส่แล้วนะครับ"
ผมยื่นหมวกกันน็อกไปด้านหน้าของพี่จีบทำให้แขนของเขาเสียดสีเข้ากับสีข้างของเขา แต่แทนที่พี่จีบจะว่าอะไร เป็นผมเองที่หน้าร้อนวูบขึ้นมาเฉยๆ ไม่พอแค่นั้นหน้าอกผมยังแนบเข้ากับแผ่นหลังกว้างนั่นอีกด้วย แย่แน่ๆ แบบนี้ตายแน่ไอ้คิสเอ้ย

"โอเค ใส่ให้ด้วย"
พี่จีบอยู่ในท่าเตรียมพร้อมออกรถเรียบร้อยแต่ไม่ยอมรับหมวกไปใส่เอง แถมผมยังเหลือบตามองเห็นพี่จีบกำลังยกยิ้มเหมือนพึงพอใจอะไรสักอย่างผ่านกระจกรถ นั่นยิ่งทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นไปอีก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในฉากหนังรัก ที่นางเอกใส่หมวกกันน็อกให้พระเอกเลยว่ะ แต่เสียใจ ที่ผมไม่ใช่นางเอกแถมยังเป็นผู้ชายอีก

"พี่ใส่เองดิวะ ผมว่ามันแปลกๆอ่ะ"
ผมเคาะหมวกลงบนขาพี่จีบเร่งให้เขารับไป เพราะตอนนี้เริ่มมีคนหันมามองเราทั้งคู่แล้ว ไอ้ท่าทางที่มองจากมุมอื่นแล้วเหมือนผมโอบพี่จีบอยู่เนี่ย ไม่นานคงมีรูปลงเพจคนดังมหา'ลัยแน่ๆ ฟายเอ้ย เกลียดคนชอบถ่ายรูปก็วันนี้ล่ะวะ พี่จีบเหมือนจะสังเกตเห็นสิ่งที่ผมกำลังกังวลใจ เขาหันมองรอบๆตัวก่อนจะยกยิ้มปาก

"มึงจะแคร์สายตาคนอื่นทำไม ใครจะคิดอะไรก็ช่าง รีบๆใส่มาเหอะน่า มึงเลทแล้วนะ"
ผมอึกอักก่อนจะทำใจใส่หมวกกันน็อกให้พี่จีบอย่างเบามือ ผมเหลือบไปเห็นคนพวกนั้นยกโทรศัพท์มาถ่ายรูปกันยกใหญ่จนผมต้องก้มหน้าก้มตาลง

"รูปเกลื่อนเพจอีกแน่ๆ"
ผมพึมพำเบาๆไม่ให้พี่จีบได้ยิน ทุกอย่างยังคงนิ่งเงียบเพราะเขาไม่ยอมออกรถ ก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรใบหน้าด้านข้างของพี่จีบก็หันมาพร้อมกับคำพูดที่ทำให้ผมเบิกตาค้าง

"เออ รูปในเพจคนดังกูเห็นแล้วนะ ดูเหมือนแฟนกันเลย"
เชี่ย.. ผมพูดได้แค่ในใจ เมื่อกี้พี่จีบมันได้ยินที่ผมบ่นหรือมันเดาใจผมถูกกันแน่วะ ตรงประเด็นฉิบหาย แล้วไอ้คำว่าเหมือนแฟนกันเนี่ย พี่จีบมันพูดออกมาหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติ ไม่ขนลุกบ้างเหรอวะ

"แฟนบ้าอะไรเล่าพี่ แฟนคลับพี่จะมากระทืบผมอ่ะดิ"
ผมบุ้ยปากเพราะอารมณ์ตอนนี้เริ่มไม่ดี เพราะเดาได้ว่าอีกไม่นานไอ้เพจคนดังต้องอัพรูปผมกับพี่จีบอีกแน่ๆ ไอ้คนตัวโตที่รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นก็ไม่แคร์สายตาใครอีก ผมควรจะทำยังไงดี

"ไม่มีใครทำร้ายมึงหรอก ถ้ามีกูจัดการเอง"
คำว่ากูจัดการเองดังก้องอยู่ในสมองผมเป็นสิบๆรอบโดยลืมความกลัวเรื่องซ้อนท้ายพี่จีบได้เลย เพิ่งมาดึงสติได้ก็ตอนพี่จีบจอดติดไฟแดงนี่ล่ะ ผมยังทึ่งตัวเองอยู่เลยที่หัวฟูขนาดนี้แต่ไม่ได้ร้องโวยวาย... นี่มันสัญญาณอันตรายมากที่เคลิ้มกับคำพูดคนๆหนึ่งได้มากขนาดนี้

"เมื่อเช้ายังกลัวจะเป็นจะตาย ทำไมตอนนี้ไม่ร้องแหกปากวะ"
เขาเอียงหน้ามาพูดด้วยในขณะที่ผมเอามือสางหัวอย่างเอาเป็นเอาตาย นี่ขนาดตัวรองทรงแล้วนะยังจะพันกันขนาดนี้ พี่จีบหัวเราะขึ้นมาผมเลยหยุดมือเอาไว้ นี่ผมทำเรื่องเปิ่นๆต่อหน้าเขาตลอดเลยหรือไง

"ไอ้พี่จีบ เขียวแล้วๆ"
ผมตบไหล่ร่างสูงแรงๆจนอีกฝ่ายสะดุ้งตกใจแล้วหันหน้ากลับออกรถอย่างรวดเร็ว ผมกระตุกหงายหลังก่อนจะคว้าเอวพี่จีบแน่น ไอ้เชี่ยพี่จีบ มึงออกรถเร็วเกินไปป่ะวะเนี่ย ฮือ ผมยังรักชีวิตตัวเองอยู่นะเว้ย

"อ๊ากกกกกกกกกก ช้าๆเว้ย จะตายแล้ว แค่ก"
ทั้งลมทั้งฝุ่นไม่ได้ปรานีผมเลยแม้แต่น้อย มันประเดประดังเข้ามาตีหน้าผมจนสำลักไอโขลก แขนทั้งสองข้างรวบกอดเอวพี่จีบเอาไว้อย่างแน่นหนา ยิ่งผมโวยวายเขาก็ยิ่งเพิ่มความเร็วขึ้น นี่มันแกล้งกันชัดๆ! แถมยังจะมาหัวเราะเอิ้กอ้ากใส่กันอีก โอย พ่อบาริสต้าสุดหล่อที่ใครๆก็ชอบเนี่ย ถ้าได้มาสัมผัสตัวจริงใกล้ๆแบบผมคงอึ้งไปตามๆกันแน่ๆ

"อย่าสิงกูนะคิส!!"
หัวเราะเยาะกันไม่พอยังจะหาเรื่องแกล้งผมต่ออีก แค่กอดเว้ยไม่ได้จะสิงเห็นผมเป็นตัวอะไรวะเนี่ย ผมบุ้ยปากก่อนจะกำหมัดทุบลงบนไหล่ไอ้คนขี้แกล้ง ขอทำร้ายมันหน่อยเถอะครับทนไม่ไหวแล้ว

"เงียบไปเลยไอ้พี่จีบ อ๊ากๆๆ"
ผมแหกปากลั่นเมื่อพี่จีบหลบรถซ้ายขวาโดยไม่ชะลอความเร็วเลยสักนิด  พี่จีบหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งอย่างสะใจแต่ผมนี่สิ ใจผมหล่นไปอยู่เคียงข้างเท้าเรียบร้อยแล้ว อย่าให้ลงรถไปได้นะ พ่อจะวิ่งไล่เตะกันพี่จีบเลยคอยดู!!!

ผมลงจากรถแล้วยืนหอบอยู่ตรงนั้น ขาทั้งสองขาสั่นจนก้าวขาออกเดินไม่ได้ ไอ้พี่จีบที่ลงตามมาเดินมาหยุดเคียงขาก่อนจะใช้มืออุ่นแตะลงบนไหล่ของผม ผมช้อนตามองเขม็งด้วยความกลัวและหงุดหงิดที่ยังหลงเหลืออยู่ คราวนี้ผมงอนจริงๆนะเว้ย รู้ว่ากลัวก็ยังแกล้งกันแบบนี้ เกิดช็อกตายขึ้นมาจะทำยังไง

"ไหวป่ะมึง?"
เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แววตาจริงจังส่งมาให้ต่างจากพี่จีบคนขี้แกล้งเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง แต่ผมยังหงุดหงิดและกลัวเลยไม่ได้สนใจความเป็นห่วงนั่นเลย

"ไม่ไหวเพราะพี่นั่นล่ะ"
ผมตอบเสียงอ่อยเพราะตอนนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะเดิน ขายังไม่หยุดสั่นจนต้องเดินไปพิงเสาแถวๆนั้น พี่จีบเดินตามมาติดๆแล้วก้มหน้าลงมาใกล้จนรู้สึกได้ว่าลมหายใจอุ่นๆกำลังรดลงมาบนหัว ปลายเท้าของพี่จีบที่อยู่ใกล้กับเท้าของผมทำให้รู้ว่าตอนนี้เรายืนใกล้กันมากแค่ไหน แว็บหนึ่งที่หน้าร้อนวูบ แต่หัวใจกลับเต้นแรงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

"คิส โกรธกูเหรอ?"
พี่จีบพูดเสียงอ่อยก่อนจะส่งมือหนามาวางลงบนไหล่ผมแล้วอกแรงบีบเบาๆกระตุ้นให้ผมตอบรับอะไรสักอย่างออกไป เพราะตั้งแต่พี่มันยืนหายใจรดหัวผมมา ผมยังไม่พูดอะไรออกไปสักคำเอาแต่เท้ามือกับขาแล้วยืนหอบอยู่แบบนั้น

"ไม่ แต่พี่แกล้งผมมากเกินไปแล้วนะเว้ย ถ้าช็อกตายขึ้นมาจะทำยังไง"
ผมพยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้กลายเป็นตะคอก กับคนที่เพิ่งทำความรู้จักกันมาไม่อยากให้เลิกคุยเพราะยั้งอารมณ์ของตัวเองไม่ได้

"ขอโทษว่ะ ถ้ามึงตายไปกูคงเสียใจ"
พี่จีบพูดจบก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดหน้าตาเฉย หน้าของผมซุกลงตรงไหล่ของพี่เขาแบบพอดิบพอดี กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาปะทะจมูกทำให้ลืมเรื่องความโกรธไปโดยสิ้นเชิง ใครมันใช้ให้พี่จีบใช้น้ำหอมกลิ่นโปรดของผมกันล่ะวะ ฮึ่ยย

"อือ อย่าแกล้งกันอีกนะ ไม่งั้นผมโกรธพี่จริงๆด้วย"
ผมผละตัวออกจากอ้อมกอดนั่นเพราะเริ่มรู้สึกว่าหน้าร้อนแปลกๆ พี่จีบยกยิ้มกว้างมาให้ก่อนจะวางมือลงมาขยี้หัวกันอีกแล้ว.. จะไม่มีวันให้ผมได้ผุดได้เกิดเรื่องความหล่อเลยใช่ไหม?

"อื้อ อย่าขยี้หัวดิ หมดหล่อแล้วเนี่ย"
ผมพูดเสียงกระเง้ากระงอดแล้วปัดมือพี่จีบออกแบบไม่จริงจังนักแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูงก่อนจะย่นจมูกใส่ เขาเลิกคิ้วมองผมอย่างกับผมพูดอะไรไม่เข้าหูอย่างนั้นล่ะ

"มึงเนี่ยนะหล่อ เพ้อเจ้อว่ะ ไปๆเข้าไปในห้างได้แล้ว เพื่อนมึงรอจนแดกควายได้แล้วมั้ง"
แล้วผมก็ไม่มีโอกาสได้เถียงอะไรอีกเพราะโดนพี่จีบดันหลังให้ออกเดิน ระหว่างทางที่เดินเข้าห้าง เพื่อนสุดที่เลิฟก็กระหน่ำไลน์มาจนโทรศัพท์ผมจะค้าง แต่ละข้อความที่ส่งมานั้นถ้ามันด่าต่อหน้าผมคงเตะมันกระเด็นติดผนังไปแล้ว ร้ายกาจทั้งนั้น

♡ น้องอิงออย ♡
- ไอ้จูบ ทำไมมึงช้าแบบนี้ ตายไปยังวะ 17:25
- ไอ้เชี่ยนี่ มัวไปหาผัวอยู่หรือไงห้ะ 17:55

# ชายภีม
- จะแดกควายได้แล้ว 17:56
- ไอ้คิส พี่ดีพโทรมาตามกูกลับหอแล้วนะมึง 18:01

♡ น้องอิงออย ♡
- ไอ้คิสสสสสส เทลมี มึงอยู่ไหน พี่ดีพจะกินหัวพวกกูแล้ว 18:10


ผมอ่านมาจนถึงข้อความสุดท้ายแล้วเบะปากใส่หน้าจอสี่เหลี่ยม พี่จีบที่เดินอยู่ข้างกันก็กดโทรศัพท์ยุกยิกคุยกับใครอยู่ก็ไม่รู้แต่ผมไม่ได้สนใจ ตอนนี้คงต้องตอบข้อความไอ้เพื่อนตัวดีก่อนที่มันจะกระหน่ำโทรเข้ามา

× คิสสึ ×
- กูยังไม่ตายเว้ย แช่งกูจังนะพวกมึง เชี่ยมาก 18:11
- หาผัวพ่อง.. กูอยู่กับพี่จีบเว้ย 18:11
- อย่าเพิ่งแดกควายนะกูสงสารมัน 18:11
- ช่างหัวพี่ดีพดิ อยู่ตั้งญี่ปุ่นยังจะตาม โว้ะ 18:12
- แล้วพวกมึงอยู่ร้านไหน? 18:12

ผมพิมพ์ตอบกลับไปด้วยสกิลขั้นเทพแล้วจ้องจอสี่เหลี่ยมรอพวกมันตอบกลับมา ผมเหลือบไปมองคนข้างตัวที่ตอนนี้เก็บโทรศัพท์ไปเรียบร้อยแล้ว

"เพื่อนรออยู่ที่ไหน?"

"มันยังไม่ตอบกลับมาเลยพี่ รอแป็ปๆ มันอ่านละ"
ผมตอบกลับไปหน้าจอแสดงผลว่ามีใครคนใดคนหนึ่งในหลุ่มสนทนาอ่านแล้ว พี่จีบพยักหน้ารับก่อนจะแตะเข้าที่มือผม ผมเงยหน้ามองเขาแล้วเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงง อยู่ๆมาสกินชิพอีกแล้ว ชอบสกินชิพหรือยังไงกัน

"หยุดคุยก่อนไหม เดินไปเรื่อยเดี๋ยวแม่งได้ย้อนกลับไปกลับมา"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยืนข้างพี่จีบ ตอนนี้เรายืนอยู่ใกล้ๆร้านหนังสือมีทั้งเด็กมัธยมและมหา'ลัยเดินพลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะหันมามองพี่จีบแล้วซุบซิบ บางพวกถึงกับใจกล้าส่งยิ้มมาให้กันเลยทีเดียว ไอ้คนข้างตัวผมก็มีไมตรีจิตสูงส่งเหลือเกินที่ฉีกยิ้มกลับไปเนี่ย ผมเลิกสนใจพี่จีบแล้วกลับไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์ต่อ

♡ น้องอิงออย ♡
- กรี๊ดดดดด ทำไมมึงอยู่กับพี่จีบ!! 18:14
- บอกกูม๊าาาาาาาา 18:14

# ชายภีม
- อยู่ซูกิชิ รีบมา กูรำคาญไอ้ดีพแล้วเนี่ย วีดีโอคอลมาอีกละ 18:14


× คิสสึ ×
- เออๆ เดี๋ยวกูไป 18:15

ผมตอบแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะหันไปมองพี่จีบที่ยืนส่งยิ้มให้สาวๆอยู่ เห็นแล้วหมั่นไส้ว่ะ แจกยิ้มอยู่ได้ หวงๆไว้ให้คนพิเศษของตัวเองบ้างเหอะ

"พี่จีบ"
ผมเรียกเสียงไม่ดังมานักพร้อมกับจ้องหน้าด้านข้างของเขาไปด้วย พี่จีบหันกลับมาทั้งๆยังคงค้างรอยยิ้มสุดท้ายที่ส่งยิ้มให้สาวสวยคนนั้น ในใจผมร้องตะโกนอย่างหนักว่าไม่ต้องเอารอยยิ้มที่ให้คนอื่นไปแล้วมาให้ผมต่อดิวะ แต่ก็ทำได้แค่ตีสีหน้าปกติออกไป

"ว่าไงมึง"

"อยู่ซูกิชิ ไปกัน"
ผมพูดจบก็หันหน้าเดินนำพี่จีบออกไปทันทีไม่ได้สนใจว่าพี่เขาเดินตามออกมาหรือเปล่า แต่เดินไปแค่ไม่กี่ก้าวผมก็รับรู้ได้ว่าพี่จีบออกเดินมาพร้อมกันเนื่องจากแขนหนักๆพาดลงบนไหล่กัน ผมเงยหน้ามองเขาก็หันมาส่งยิ้มให้ซะอย่างนั้น

"พี่จีบชอบสกินชิพเหรอ?"
ผมมองหน้าเขากลับไปแล้วถามในสิ่งที่คาใจ หลายต่อหลายครั้งแล้วภายในวันนี้เขาทำแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน ถ้าไม่ติดว่าต่างคนต่างเป็นผู้ชายด้วยกัน ผมคงคิดว่าพี่จีบกำลังอ่อยผมแน่ๆ เขาเหมือนจะงงในคำถามของผมเพราะเลิกคิ้วขึ้น แต่เพียงแค่แว็บเดียวก็เปลี่ยนมายกยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้าลงเบาๆ

"เออดิ ชอบมากด้วย"
พี่มันไม่ว่าเปล่าแต่กลับกระชับแขนดึงให้ผมเข้าไปใกล้อีก จนเหมือนผมเดินซบกับเขาอยู่อย่างนั้น คนที่เดินผ่านพวกเราไปมองไม่วางตา บางคนซุบซิบ บางคนกรี๊ดกร้าด... ผมว่าผมเริ่มอายแล้วว่ะ แต่คนไม่สนโลกอย่างพี่จีบคงไม่สนใจ ถ้าผมบอกเขา เขาก็จะพูดแบบเดิมๆว่าทำไมผมต้องสนใจคนอื่น... เอาเถอะ จะไม่สนใจคนอื่นบ้างแล้วกัน

"กับพวกพี่คินพี่แก็ปพี่ก็ชอบสกินชิพแบบนี้ใช่ป่ะ?"
เหมือนพี่จีบจะชะงักการเดินไป แต่ก็กลับมาเดินได้อยากปกติในเวลาต่อมา

"ไม่ว่ะ ขนลุกตาย"
คำตอบของพี่จีบทำให้ผมขมวดคิ้วยุ่ง ปกติไอ้คนที่ชอบสกินชิพคนอื่นมันก็ต้องเริ่มจากเพื่อนก่อนไม่ใช่เหรอวะ ไอ้กรณีพี่จีบนี่เริ่มกับคนอื่นแบบผม ผมว่ามันเริ่มทะแม่งๆแล้วนะ แต่พยายามที่จะไม่คิดมาก เพราะเขาอาจจะแกล้งผมอีกก็ได้ บวกกับไม่มีเวลาทักท้วงอะไรเพราะตอนนี้เราเดินเข้ามาในร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว ผมมองหาเพื่อนอยู่สักพักแล้วเจอมันโบกมือให้กันก่อนที่ไอ้ออยจะอ้าปากค้างไปเพราะเห็นพี่จีบกอดคอผมอยู่

ผมเดินเข้าไปหาพวกมัน ไอ้ออยรีบย้ายก้นไปนั่งข้างไอ้ภีมปล่อยให้ผมนั่งกับพี่จีบหน้าตาเฉย มันหรี่ตามองผมแล้วส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้กัน... มึงอย่าแซว ขอร้อง กลัวพี่จีบจะเตะโด่งผมออกจากโต๊ะ

"หวัดดีพี่จีบ"
เสียงไอ้ภีมดังขึ้นและเหมือนไอ้พี่จีบเพิ่งสังเกตเห็นเพื่อนผม พี่มันยิ้มกว้างก่อนจะทักทายไอ้ภีมกลับเหมือนสนิทกันมาแต่ชาติปางก่อน.. ก็นะ พวกคนหน้าตาดีจะรู้จักกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดา

"อ้าวไอ้ภีม มึงเป็นเพื่อนคิสเหรอวะ"
พี่จีบดูจะตื่นเต้นมากกว่าผมที่พาคนอื่นมาเจอเพื่อนตัวเองอีก... ไอ้ภีมพยักหน้าอย่างแข็งขัน

"ใช่แล้วพี่ ไปไงมาไงถึงมากับไอ้คิสได้"
ไอ้ภีมยิงคำถามต่อทันที ผมเบิกตาค้างเพราะถ้าพี่จีบตอบพวกมันต้องซักต่อแน่นอนว่าไปรู้จักกันตอนไหน แล้วความจะแตกเรื่องที่ผมไปร้านพี่จีบทุกวัน... ตายแน่ๆครับคราวนี้

"พี่จีบ สั่งอาหารเถอะผมหิวแล้วเนี่ย"
ผมตัดสินใจสะกิดพี่จีบที่กำลังอ้าปากจะตอบคำถามไอ้ภีม เขาหันมามองผมสลับกับไอ้ภีมก่อนจะพยักหน้า ผมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เย้ ไอ้พี่จีบอยู่ข้างผมว่ะ หางตาผมเหลือบเห็นไอ้ออยกับไอ้ภีมเบ้ปากมาให้ ผมเลยยักคิ้วกวนมันไป ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร

หลังจากที่เราสั่งอาหารกันไปเรียบร้อยก็หาเรื่องมาชวนคุยกัน แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของผมและพี่จีบอีกแล้ว และผมก็ได้ความรู้เพิ่มมาอย่างหนึ่งว่าพี่จีบแม่ง...ชอบแข่งรถ ทั้งสปอร์ตไบค์และรถยนต์ ให้ตายเถอะครับ พี่เขาดันชอบสิ่งที่ผมเกลียด ฮึก

ไม่นานนักเมนูทุกอย่างที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟ ไอ้ออยรับหน้าที่เป็นคนย่างเนื้อบนเตา ส่วนพวกผมก็รอกินอย่างเดียว เนื้อต่างๆถูกคีบลงจากเตาโดยพี่จีบแล้วส่งตรงมาให้ผม ผมมองอย่างทึ้งๆแล้วเอ่ยขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าจนไอ้ออยแอบสะกิดหลังมือผมยิกๆ

"อะไรยังไงกันแน่"
เสียงมันกระซิบลอดไรฟันมาถามผม สายตาเหล่มองไอ้ภีมกับพี่จีบที่กำลังคุยกันอย่างออกรสชาติเรื่องเกมแข่งรถออกใหม่

"ไม่รู้เว้ย"
ผมตอบมันกลับไปก่อนจะคีบเนื้อใส่ปาก มีคนคีบเนื้อมาประเคนถึงที่ผมว่าดีจะตาย ไม่อยากไปคิดมากอะไร พี่จีบอาจจะเป็นคนที่ชอบเทคแคร์คนอื่นอยู่แล้วก็เป็นได้

"คิส ปากเลอะ"
พี่จีบจ้องหน้าผมก่อนจะใช้นิ้วเช็ดคราบตรงมุมปากผมออก ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่พี่จีบทำเพียงแค่ยกยิ้มขึ้นแล้วหันกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น... ไอ้ภีมมองผมก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ออยที่ตาเบิกค้าง ใบหน้าของผมร้อนผ่าวขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ที่บอกว่าพี่จีบเทคแคร์คนอื่นดี มันต้องแกล้งผมแน่ๆ ใช่แน่ๆ ไอ้คนขี้แกล้ง ฮือ!!!


-----------------------------------------------


Q & A กับ พี่จีบ ♡

Q : จีบเป็นคนติดสกินชิพเหรอ?
A : เกิดมายี่สิบปีเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนติดสกินชิพตอนรู้จักกับคิสนี่ล่ะครับ ^^






ตอนที่ 2 มาแล้วนะ พี่จีบนี่อะไรยังไง มาอ่อยคิสจริงหรือเปล่า หรือแค่แกล้งเล่นเพราะคิสทำตัวน่ารักกันนะ

ปล. อ่านให้สนุกน้า ช่วยติชมกันด้วยเนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-07-2016 21:41:05
พี่จีบรุกหนักจริงๆเนียนๆด้วยนะกรี้ด.
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 14-07-2016 22:28:22
รุกแรงน้องหายใจหายคอไม่ทันเลย 5555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-07-2016 22:31:10
มีความเนียน มีความอ่อย มีความชอบสกินชิพคิส


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 14-07-2016 23:04:06
แอร๊ยยยยย อ่าน Q&A แล้วชัดเลย

พี่เขาอ่อยแรงมาก แต่น้องยังไม่รู้ตัวสินะ

พี่จีบคงเนียนเกินไป ฮาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 14-07-2016 23:17:23
พี่จีบหลานยายเนียน
เนียนเบอร์ใหญ่

น่ารักอ่ะ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-07-2016 01:26:49
น่ารัก!!!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 15-07-2016 07:02:10
พี่จีบถ้ามาทำเล่นๆกับน้องจูบนะ
โดนแน่

 :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-07-2016 09:47:21
อั๊ยยยยย พี่จีบรุกหนักอ่ะ แถมขี้แกล้งอีก คิดอะไรกัคิสป่าวเนี่ย อั๊ยยยยๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 15-07-2016 15:26:27
พี่จีบเนียนมาก  :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-07-2016 18:49:45
สนิทกันเร็วแต้ๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-07-2016 23:37:21
อร๊ายยย อีพี่จีบอ่อยน้องคิสแรงอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 02 : ดื่มครั้งที่ 2 (14.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-07-2016 00:06:05
พี่จีบเนียนไปแล้ววว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 16-07-2016 09:22:01
- ดื่มครั้งที่ 3 -



วันนี้ผมมาที่ร้าน IT 's LOVE เช้ากว่าปกติ เพราะพี่จีบบอกว่าถ้าผมมีเรียนเช้าให้แวะมารับพี่เขาด้วยเนื่องจากว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จ และวันนี้ผมก็มีเรียนตอนเก้าโมงเช้าพอดี วันนี้ที่ร้านออกจะแตกต่างไปจากปกตินิดหน่อยด้วยเพราะเวลาที่ผมมาเหยียบร้านต่างออกไปจากเดิม ประตูหน้าร้านยังแขวนป้ายไม้ลวดลายสวยงามที่มีคำว่า Close ไว้ แต่ถ้าลองผลักประตูกระจกใสเข้าไปจะพบว่ามันไม่ได้ล็อค เนื่องจากเจ้าของร้านมาแล้ว

บุคคลที่เคยเห็นผ่านตามาบ้างกำลังจัดเรียงอุปกรณ์สำหรับใช้งานอยู่หลังเค้าน์เตอร์บาร์ ส่วนสูงไล่เลี่ยกับผู้เป็นน้องคนกลาง ทรงผมอันเดอร์วีคัตนั่นทำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างพี่จีบและพี่ไลค์ คนน้องจะตัดผมทรงอันเดอร์คัตที่ดูสุภาพเรียบร้อยมากกว่า บรรยากาศภายในร้านตอนนี้ดูสงบเงียบ มีแค่เสียงวอร์มเครื่องชงกาแฟดังเบาๆ กลิ่นหอมที่ลอยวนในอากาศ ณ เวลานี้เป็นกลิ่นของสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นสดชื่น ถ้าสายๆหน่อยคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟคั่วบดคุณภาพดี

ผมยืนมองหลังของพี่ไลค์ที่ขยับไปทางนั้นทีทางนี้ที ดูจะวุ่นวายอยู่ไม่น้อยและอีกฟากของร้านก็มีร่างของชายหนุ่มอีกคนกำลังสาละวนกับการจัดโต๊ะและเก้าอี้ให้เป็นระเบียบ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วผลักประตูกระจกเข้าไป เสียงกระดิ่งดังกังวานเสียงใสบ่งบอกให้คนภายในร้านรับรู้ว่ามีแขกมาเยือน เจ้าของทรงผมอันเดอร์วีคัตหันมามองกัน ในมือของเขายังถือ Picher ค้างอยู่ ใบหน้าหล่อที่ไม่ค่อยแตกต่างจากพี่จีบมากนักกำลังขมวดคิ้วยุ่ง คงคิดว่าลูกค้ามาผิดเวลาแน่ๆ

"เอ่อ..ร้านเปิดเก้าโมงครึ่งครับ"
พี่ไลค์วาง Picher ลงบนเค้าน์เตอร์ก่อนจะส่งยิ้มมาให้กัน ผมส่งยิ้มกลับไปให้พร้อมกับยกมือขึ้นเกาแก้มเล็กๆ.. ว่าแล้วไง ผมมาที่นี่ทุกวันจะไม่รู้เวลาเปิดปิดร้านได้ยังไง

"ผมมาหาพี่จีบครับ"
ผมก้าวเข้าไปใกล้พี่ไลค์มากขึ้น ดวงตาคมที่จ้องมามาเบิกขึ้นก่อนจะร้องอ๋อออกมาเบาๆแล้วชี้นิ้วไปทางพี่จีบ

"ไอ้จีบอยู่ตรงนั้น"
พี่ไลค์ยกยิ้มนิดๆแล้วช่วยมองหาคนที่ผมกำลังตามหา ผมพยักหน้ารับแล้วหันไปยิ้มให้เขาอีกครั้ง

"ขอบคุณครับ"
ผมยกมือไหว้พี่เขาก่อนจะหมุนตัวไปในทิศทางที่พี่จีบอยู่ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขา คนที่กำลังจัดโต๊ะก็หันมาสบตากันพอดีก่อนยิ้มทักทายและเดินเข้ามาหาผม ผมส่งยิ้มให้เขากลับไปเหมือนกัน ช่างเป็นเช้าที่สดใสจริงๆเลยเนอะ

"มาไวดีว่ะ"
พี่จีบเดินมาหยุดตรงหน้าผม วันนี้เขาก็ยังอยู่ในชุดนักศึกษาที่เรียบร้อยเช่นเคย และวันนี้ผมก็เรียบร้อยกับเขาเหมือนกันเพราะมีเรียนวิชารวมคณะอื่น

"กลัวจะไปสายไงพี่ แล้วนี่กินข้าวเช้ายังครับ?"

"ยังเลย ไปกินที่มอเลยแล้วกัน"
พี่จีบเดินกลับไปหยิบเสื้อสูทที่พาดอยู่บนเก้าอี้บาร์ขึ้นมาสวมใส่และหยิบกระเป๋าเป้แบรนด์ดังขึ้นมาสะพาย.. อยากจะบอกว่าโคตรไม่เข้ากันเลยครับ แต่ไม่ว่าจะยังไงพี่จีบก็ยังเป็นบุคคลที่ดูดีในสายตาผม

"เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อน นี่อะไรยังไง น้องเขาเป็นใคร ทำไมต้องไปมอพร้อมกันวะจีบ?"
พี่ไลค์ที่ยืนเงี่ยหูฟังบทสนทนาระหว่างสองคนมานานเดินอ้อมจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์มันยืนขั้นกลางระหว่างผมกับพี่จีบ ใบหน้าหล่อๆหันมองหน้าผมสลับกับหน้าน้องชายตัวเอง พี่จีบทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ยอมตอบกลับไป

"ไม่ถามสักเรื่องได้ป่ะมึง"
พี่จีบมองพี่ชายของตัวเองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พี่ไลค์ส่ายหน้ารัวราวกับว่าเรื่องของน้องชายเขาจะไม่ยอมพลาดสักเรื่อง

"ไม่ได้ มึงเป็นน้องกูนะจีบ"

"ถ้ากูมีแฟนมึงจะยังเสือกเรื่องของกูอีกไหม?"

"ทุกเรื่องของมึงกูต้องรู้อ่ะ"
พี่ไลค์ยิ้มหวานหยดย้อยจนผมแอบขนลุก พี่จีบถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับยอมแพ้แล้วส่ายหน้าเบาๆ... คงจะปลง

"กูยอมมึง นี่คิส ลูกค้าประจำร้านเราไง มึงไม่คุ้นบ้างเหรอ?"
พี่จีบหันมองผมแว็บหนึ่งก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ชายที่ทำสีหน้าครุ่นคิดหนัก แต่ผมนี่กำลังกลั้นยิ้มกับสถานะใหม่ที่พี่จีบหยิบยื่นให้ 'ลูกค้าประจำร้าน'

"อ๋อ ก็ว่าหน้าคุ้นๆแต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน น้องคิสเหรอ หน้าตาน่ารักว่ะ"
พี่ไลค์พูดจบก็หันมามองผมด้วยแววตาวิบวับ ผมรู้สึกหวั่นแปลกๆเลยขยับตัวไปหลบหลังพี่จีบช้าๆอย่างแนบเนียน

"อย่าทำหน้าตาหื่นกามใส่น้อง"
พี่จีบผลักหัวพี่ชายตัวเองที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พี่ไลค์จิ๊ปากเบาๆแต่ก็ยังส่งยิ้มหวานมาให้ผม

"มึงนี่.. แค่เห็นว่าน้องน่ารักเฉยๆ กูยังชอบผู้หญิงอยู่เว้ย"

"เออๆ แล้วนี่จะถามอะไรอีกไหม กูจะสายแล้ว"
พี่จีบว่าก่อนจะยืนจ้องหน้าพี่ไลค์ เมื่อไม่มีคำตอบเขาเลยสะกิดแขนผมเป็นสัญญาณว่าไปกันได้แล้ว แต่ในจังหวะนั้นพี่ไลค์ก็พูดขึ้นจนผมชะงักเท้า

"มึงให้น้อง..มารับ?"
พี่ไลค์มองหน้าพี่จีบด้วยแววตาสงสัย ผมได้แต่ยืนมองอยู่เงียบๆ ปล่อยให้พี่จีบเป็นคนตอบน่าจะดีกว่า

"ใช่ ถามมากจังวะมึง"
พี่จีบบุ้ยปากเล็กน้อยใส่พี่ชายตัวเอง ผมที่แอบมองอยู่เกือบหลุดขำท่าทีที่เหมือนเด็กโดนขัดใจของพี่จีบ ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปได้

"แล้วรถมึงล่ะ?"

"รถกูยังซ่อมไม่เสร็จไง กูไปละ"
พูดจบพี่จีบก็คว้าแขนผมออกไปทันที ทิ้งไว้แต่พี่ไลค์ที่ยังตะโกนอะไรไม่รู้โหวกเหวกอยู่ในร้าน แต่พี่จีบไม่ได้สนใจเลยสักนิด เจ้าตัวพาผมมาหยุดที่รถแล้วแบมือขอกุญแจ ผมส่ายหน้าน้อยๆเพราะกลัวว่าจะโดนแกล้งอีก ถ้าคราวนี้โดนอีกผมโกรธพี่จีบจริงๆด้วย

"กลัวจะโดนแกล้งอีกหรือไง?"
พี่จีบถามอย่างรู้ทัน ใบหน้าคมเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกเสียวสันหลัง มือกำกุญแจในกระเป๋ากางเกงไว้แน่น อย่าใจอ่อนกับมายไอดอลเด็ดขาด!

"อือ ผมขี่เองดีกว่า"
ผมตอบรับก่อนจะเบี่ยงตัวไปขึ้นคร่อมรถแล้วจัดการใส่หมวกกันน็อกทันที สตาร์ทรถเสร็จสรรพไม่สนใจว่าพี่จีบจะมองเขาด้วยสายตาแบบไหน

"โอเค วันนี้กูยอมซ้อนท้าย"
วันนี้? ยังจะมีวันหลังอีกเหรอวะ รู้สึกตัวเองพัวพันกับไอ้พี่จีบนี่มากไปแล้วมั้ง ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีแค่กลัวแฟนคลับเขามาตามรุมกระทืบแค่นั้นเอง พี่จีบพูดจบก็ขึ้นนั่งซ้อนท้ายผมดิบดีแถมด้วยแขนแกร่งโอบรอบเอวผมไว้หลวมๆ คิดว่าคนอย่างไอ้คิสจะเป็นยังไงเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้? คำตอบคือตัวแข็งทื่อตาเบิกค้าง ท่าทางอึกอักแบบน้ำท่วมปากนี่มันยังไงกัน

"พะ พี่จีบ กอดเอวผมทำไมวะ?"
ผมพยายามแล้วที่จะควบคุมเสียงไม่ให้สั่น แต่ทำไม่ได้ ตอนนี้หน้าร้อนวูบวาบทั้งๆที่อากาศก็เย็นเพราะฝนเพิ่งตกไปตอนหกโมงเช้า บางทีเสียงหัวใจของคนเราก็ดังจนน่ารำคาญว่าไหม

"ก็กูไม่ไว้ใจ ปกติไม่เคยซ้อนท้ายใครนี่หว่า"
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมกับยื่นหน้าข้ามไหล่จนรู้สึกได้ว่ากระจกหมวกกันน็อกด้านข้างเกิดฝ้าจางๆเพราะลมหายใจอุ่นๆของพี่จีบรดลงมา ระยะห่างแค่เพียงน้อยนิดทำให้หัวใจเต้นโครมครามจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยิน แผ่นหลังเล็กๆโดนอกแกร่งแนบชิด ได้แต่ท่องไว้ในใจว่าพี่จีบชอบสกินชิพ ไม่ได้ชอบคิส

"อ่ะเอ่อ.. ผมขับช้า ปล่อยเอวผมเถอะ"
เหตุการณ์แบบนี้แน่ครับ ถึงจะไม่ได้คิดอะไรด้วย ถึงจะแมนๆเตะบอลกันทั้งคู่แต่ท่าทางแบบนี้มันก็ชวนให้ใจสั่นอยู่นะ อีกอย่างที่สำคัญคือเพจคนดังมหา'ลัย โคตรน่ากลัว

"ไม่ปล่อย กูกลัวนี่"
น้ำเสียงที่ผมได้ยินมันไม่จริงใจเลยว่ะ แถมสายตายังเหลือบไปเห็นรอยยิ้มทะเล้นของพี่จีบผ่านกระจกด้วย... ให้ตายเถอะ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็หาทางแกล้งผมอีกจนได้ล่ะน่า! ทุบให้หายซ่าสักทีดีไหม

"เดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก"
ผมพึมพำเบาๆ แต่พี่จีบกลับได้ยินแถมกระชับกอดแน่นขึ้นด้วย คางมนเกยลงบนไหล่ผมก่อนจะออกแรงถูไปมาเบาๆ โอย กูขนลุกครับพี่จีบ ผมหดคอหนีพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดเขาแต่เหมือนกับว่าพี่จีบจะยิ่งออกแรงกอดผมมากขึ้น สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ เล่นเอาเหงื่อออกตั้งแต่เช้าเลยครับคนเรา

"ก็บอกว่าช่างหัวคนอื่นไงวะ เราทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไป"
ผมโคตรอยากเห็นหน้าพี่จีบตอนพูดประโยคนี้เลย.. มันหมายความว่าพี่ชอบเป็นข่าวกับผมหรือเปล่า? แค่มโนเข้าข้างตัวเองก็เขินแล้วเว้ย

"หมายความว่าไงอ่ะ?"
ผมถามเพื่อความแน่ใจ แต่พี่จีบไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขาแบมือออกตีลงบนหน้าขาของผม สะดุ้งสิครับรออะไร

"ออกรถเร็วๆ จะสายแล้วมึง"
ผมยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงห้าสิบนาทีเข้าไปแล้ว ให้ตายเถอะชีวิต ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยนะเว้ย แถมผมยังมีเรียนสี่ชั่วโมงติดเพราะเป็นวิชาเอก ผมไม่สนทนากับพี่จีบอีกแล้วรีบออกรถทันที

ตอนนี้ผมจอดเทียบฟุตบาทที่หน้าคณะบริหารเพราะตัวตึกมันถึงก่อนคณะของผม พี่จีบลงจากรถแต่ไม่ยอมเดินเข้าคณะสักที จนผมสงสัยเลยเปิดกระจกหมวกกันน็อกขึ้นแล้วถามออกไป

"มีอะไรหรือเปล่าพี่?"
ผมมองไปยังคนตัวสูงที่ยืนขมวดคิ้วยุ่งอยู่ ดวงตาคมจับจ้องอะไรบางอย่างหลังพุ่มไม้คณะ แต่เพียงไม่นานเขาก็เปลี่ยนใบหน้าเป็นเจ้าเล่ห์ทันที พี่จีบหันมายกยิ้มมุมปากให้ผมก่อนจะสาวเท้าเข้ามาชิด มือหนารั้งท้ายทอยของผมเข้าหาอกแกร่งทันที โอ้โห... ให้ผมทายนะ ต้องมีคนแอบถ่ายรูปเราสองคนอยู่หลังพุ่มไม้แน่ๆ ไอ้พี่จีบก็ไปแกล้งเขา ไม่สงสารผมที่จะเป็นคนโดนยำเละเลยหรือยังไงวะ แล้วหัวใจบ้านี่จะเต้นแรงไปไหน! สติแล้วความแมนจงอยู่กับข้า อาเมน

"พี่จีบปล่อยผมนะเว้ย"
ผมประท้วงดิ้นออกจากมือแกร่งที่ล็อคคอผมไว้แน่น มืออย่างกับคีมคีบจะแข็งไปไหนวะเนี่ย ถึงผมจะดิ้นแรงแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าจะปล่อยแถมยังหัวเราะโรคจิตออกมาอีก

"หึหึหึ... อยู่นิ่งๆน่า กำลังสนุกเลย"
พี่จีบก้มหน้าลงมากระซิบข้างหู ดีนะที่ยังมีหมวกกันน็อกคั่นกลางระหว่างเราไว้ ไม่อย่างนั้นระยะห่างอันน่าเสียวไส้คงทำให้ผมใจเต้นแรงอีกแน่ๆ

"พี่จีบไม่เล่นนะเว้ย ผมกลัวถูกแฟนคลับพี่กระทืบเนี่ย"
ผมยอมหยุดดิ้นแต่ก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงติดโมโห มือหนารีบคลายออกแล้วผละตัวผมมามองหน้ากัน ดวงตาคมจ้องมาแต่ผมก็ต้องหลบเพราะมองตาคู่นั้นทีไรเผลอเคลิ้มไปซะทุกที

"บอกแล้วไงว่าใครทำร้ายมึงกูจัดการเอง เข้าใจ๊?"
มือหนาแปะลงบนหมวกกันน็อกก่อนจะโยกหัวผมไปมาเบาๆ พูดเหมือนจะปกป้องกันอีกแล้ว.. ทำแบบนี้บ่อยๆผมก็กลายเป็นคนอ่อนแอดิวะ ยิ่งมีคนมาเสนอตัวปกป้องผมก็ยิ่งกลายเป็นเด็ก หนักกว่านั้นคือผมอยากอ้อน แต่คงไม่เหมาะจะอ้อนพี่จีบเพราะเรายังไม่สนิทกัน

"พี่แม่ง... พูดไปเรื่อย รีบไปเรียนได้แล้วครับ"
ผมโบกมือไล่อีกคนไปโดยไม่ยอมมองหน้า พี่จีบหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ

"ตั้งใจเรียน เออ ตอนเที่ยงมาหากูที่คณะหน่อยได้ไหม?"

"หือ มีธุระไรป่ะวะพี่?"
ผมหันไปมองพี่จีบทันทีด้วยสีหน้าสงสัย ตอนนี้ผมปิดกระจกหมวกกันน็อกลงเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าคมเข้มเลื่อนเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งชนเข้ากับกระจกหมวกกันน็อกเบาๆ ไอ้พี่จีบบ้า! หัวใจกูจะวายแล้วครับ เลิกแกล้งสักทีสิเว้ย นี่ถ้าไม่มีกระจกกันไม่อยากจะคิดเลย แค่นี้ก็หน้าร้อนจะระเบิดอยู่แล้ว นึกว่าตัวเองเป็นภูเขาไฟพร้อมปะทุซะอีก ผมเอนหลังหนี พี่จีบหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน นี่ผมคงทำหน้าตลกใส่มันอีกแล้วสินะ

"มีเรื่องให้ช่วย ไปล่ะ"
แล้วเขาก็ไม่ได้รอคำตอบของผม พี่จีบหันหลังเดินจากไปพร้อมกับยกมือขึ้นมาโบกให้ทั้งอย่างนั้น โคตรเท่ครับบอกได้คำเดียว หลังจากพี่จีบเดินลับสายตาผมก็มองไปรอบๆตัวก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขี่ออกไป

ผมรีบสาวเท้าเข้าบริเวณโรงอาหารก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆไอ้ภีมที่กำลังยัดแซนวิชเข้าปาก ส่วนไอ้ออยนั่งแกะเปลือกไข่ต้มอยู่ตรงข้ามผม สงสัยเหลือเกินว่าแดกไข่ต้มฟองเดียวจะเอาอะไรไปอิ่ม

"วันนี้พี่จีบมากับมึงอีกแล้วเหรอวะ?"
ไอ้ออยเอ่ยถามกันทั้งๆที่สายตายังไม่ละจากการแกะเปลือกไข่ ผมว่าวันนี้มันคงได้กินแค่ไข่แดงเพราะไข่ขาวติดเปลือกไข่ออกไปหมดแล้ว นี่มันปัญหาระดับชาติจริงๆ ผมชะงักกับคำพูดมันไป คือมันรู้ได้ยังไงว่าพี่จีบมากับผม เพราะผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครเลยนะ

"รู้ได้ไงวะ?"
ผมมองไอ้ออยอย่างต้องการคำตอบ มันเหลือบตาขึ้นมามองผมแว็บหนึ่งก่อนจะกับไปขมวดคิ้วยุ่งกับไข่ต้มของมัน

"เพจคนดังอัพรูปอ่ะดิ แคปชั่นทำกูเกือบสำลักน้ำ"
ไข่ต้มในมือของไอ้ออยแหว่งซ้ายแหว่งขวาแต่มันก็ยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจก่อนจะใช้ฟันกัดซองซอสปรุงรสแล้วบีบมันลงไป ระวังติดคอนะเพื่อนกูเป็นห่วง

"แคปชั่นไรวะ?"
ผมถามออกไปก่อนจะยกแก้วชานมของไอ้ภีมมาดูดอย่างหน้าตาเฉย มันหันมาถลึงตาใส่ผมแล้วคว้าแก้วน้ำกลับไปทั้งๆที่หลอดยังคาปากผมอยู่ ได้เรื่องสิครับชานมกระเซ็นเป็นสายเลอะเสื้อนักศึกษาเลย ผมเบ้ปากแต่ไอ้ภีมยิ้มสะใจ

"เชี่ยภีม แม่ง"
ผมบ่นกระปอดกระแปดทั้งๆที่ปากยังคาบหลอดเจ้าปัญหาอยู่ ก้มหน้าลงมองเสื้อตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา ถ้าไอ้พี่ดีพอยู่มันบ่นผมหูชาแน่ที่ทำเสื้อเลอะขนาดนี้ เป็นจุดอย่างกับงานศิลปะสะบัดปลายพู่กัน

"สมน้ำหน้า"
ไอ้ภีมยักคิ้วก่อนจะกัดแซนวิชโชว์ผมไปอีกคำ หมั่นไส้เว้ย แต่ทำอะไรไม่ได้ ไอ้ออยก็เคี้ยวไข่ต้มตุ่ยๆแต่ก็ยังจะหัวเราะออกมาอีก ขอให้ติดคอตาย!

"บอกมาได้ละว่าแคปชั่นอะไร"
ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้สึกตัวเองจะหน้าบาง ยางอายเริ่มเอ่อขึ้นบนใบหน้า ทำตัวเอง เลอะเอง เฮ้อ ไอ้ออยกลืนไข่ต้มลงคอแล้วยกขวดน้ำดื่มกระดกอึกๆ แถมดื่มเสร็จยังใช้หลังมือปาดน้ำที่เลอะมุมปากออกอีก... สาบานเถอะว่าครั้งหนึ่งมันเคยลงประกวดดาวคณะ แมนกว่าผู้ชายอีกมั้ง เห็นแล้วก็เครียดกลัวว่ามันจะหาผัวไม่ได้ ดีไม่ดีได้เมียไปอีก

"หวานขนาดนี้เป็นแค่แฟนคลับ หรือ เป็นแฟนครับกันแน่ ใครรู้ช่วยแอดมินสืบข่าวสองคนนี้ด้วยนะ แถมมีติดแท็ก จีบคิส ด้วย"
ผมเบิกตากว้าง แอดมินนี้เป็นสาววายหรือยังไงวะ เห็นผู้ชายเข้าใกล้กันหน่อยต้องคิดว่าเป็นแฟนกันตลอดเลยหรือยังไง... แต่หน้าจอสี่เหลี่ยมของไอ้ออยที่ส่งมาให้ดู ถ้าเป็นมุมมองก็โคตรเหมือนแฟนกันเลยไง ไปอิงแอบแนบชิดซบอกกันหน้าคณะเนี่ย แล้วก็เพิ่งเห็นว่าไอ้พี่จีบมันเอาจมูกแตะลงบนหมวกกันน็อกผม ฮ่วย!! มึงจะแกล้งแฟนคลับมึงไปถึงไหนครับพี่ครับ คนซวยมันเป็นผมเนี่ย

"เชี่ย"
ผมสบถออกมาเบาๆก่อนจะรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวูบวาบ ไอ้ภีมที่กินเสร็จเรียบร้อยแล้วใช้มือทั้งสองข้างเข้ามาประคองหน้ากันก่อนจะจ้องหน้าผมอย่างเอาเป็นเอาตาย

"พี่มันมาจีบมึงเหรอ?"
ผมเบิกตาโตกว่าเดิม อ้าปากพะงาบๆเพราะไม่คิดว่าไอ้ภีมจะถามออกมาแบบนี้ แล้วเรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นกับผมคือทำไมต้องใจเต้นแรงกับสิ่งที่ไอ้ภีมถาม

"จีบอะไรเล่า เพิ่งรู้จักกันนะมึง แล้วพี่จีบมันก็แมนไม่ใช่เหรอวะ?"
ผมดึงมือไอ้ภีมออก มันพยักหน้ารับเบาๆแต่ก็ยังจ้องหน้าผมอยู่แบบนั้น มึงต้องการอะไรจากกูอีกชายภีม แค่แฟนคลับของพี่มันกูก็กลัวจะตายอยู่แล้ว ยังโดนมึงคาดคั้นอีก โว้ยยย

"แล้วมึงแมนป่ะ?"
อ้าว ไอ้ออยทำไมมึงถามเพื่อนมึงแบบนี้อ่ะ เห็นผมเป็นคนแบบไหนวะเนี่ย ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มองนมมองก้นผู้หญิงมาตลอด.. นี่ไม่ได้หื่นนะ มันก็เรื่องธรรมดาของผู้ชายป่ะวะ แหะๆ ผมแยกเขี้ยวใส่มันก่อนจะเอื้อมมือไปดีดหน้าผาก คำถามมึงนี่ทำกูใจแป้ว ช่วงนี้ยิ่งเขินไอ้พี่จีบบ่อยด้วย

"แมนๆเตะบอลเลยครับน้องสาว"
ผมยืดอกแล้วทุกกำปั้นลงไป เป็นไงเท่ใช่ไหมล่ะ แต่ขอสารภาพนะครับ โคตรจุกเลย เผลอทุบแรงไปหน่อย ไอ้ออยเบ้ปากใส่ผมแบบคนที่ไม่เคยเชื่ออะไรเลย

"กูจะดูว่ามึงจะแมนได้นานแค่ไหน ดูอย่างไอ้ภีมดิ แมนๆเล่นบาสฯยังมีแฟนเป็นพี่ดีพเลย"
ไอ้คนถูกพาดพิงถึงกับหันขวับขึ้นมาจากโทรศัพท์ทันที แต่มันก็คือเรื่องจริงซึ่งไอ้ภีมไม่สามารถปฏิเสธได้

"เงียบๆไปไอ้ออย"
ไอ้ภีมชี้หน้าอย่างคาดโทษ ประมาณว่าถ้ามึงยังพูดออกมาอีกคำเดียวแก้วชานมจะไปแปะอยู่บนหน้ามัน

"โธ่ เพื่อนกูจะหนีไปมีผัวกันหมดแล้วเหรอ งั้นกูหนีไปมีเมียบ้างดีป่ะ?"
ไอ้ออยยังไม่เลิกพูดจาเพ้อเจ้อ แถมยังทำหน้าตาชวนฝันอีก ไอ้ภีมทนไม่ได้จนต้องล้วงน้ำแข็งหลอดในแก้วปาใส่ไอ้ออย รายนั้นสะดุ้งตกใจแล้วรีบสะบัดมือไปมาด้วยความรังเกียจ

"ยี้ๆๆๆ กูจะฟ้องพี่ดีพว่ามึงสกปรก!"
ไอ้ออยเบะปากลงเป็นเส้นโค้ง ผมได้แต่นั่งหัวเราะกับความบ้าบอของเพื่อน ส่วนไอ้ภีมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจถึงออยจะฟ้องไปพี่ดีพก็เข้าข้างแฟนตัวเองอยู่ดี แต่เหมือนผมจะลืมปฏิเสธอะไรไอ้ออยไปนะ...

"เห้ย!! กูไม่ได้จะมีผัวนะไอ้ออย พี่เขาไม่ได้มาจีบกู!"
พอคิดได้ก็รีบร้องแก้ตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ความคิดหมาไม่แดกของไอ้ออยถ้ามีใครได้ยินแล้วเอาไปพูดต่อทั้งผมทั้งพี่จีบจะเสียหายเอาได้ง่ายๆ

"เออๆไม่จีบก็ไม่จีบ กูจะคอยดู"

"ดูอะไรของมึง?"

"เปล้า ไปเรียนเหอะ"
สรุปผมก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ไอ้ออยพูด มิหนำซ้ำยังลืมกินข้าวเช้าไปซะอย่างนั้น พอเลิกเรียนปุ๊ปผมก็ดิ่งตรงไปหาพี่จีบที่คณะทันที ไม่ได้สนใจเพื่อนที่ตะโกนโวยวายโหวกเหวกว่าผมจะรีบไปไหน

ผมยืนหอบแฮ่กอยู่ตรงต้นเสาหน้าโรงอาหารบอกตามตรงว่านัดกับพี่จีบเหมือนเป็นคำพูดไม่มีน้ำหนัก เพราะไม่อาจติดต่อเขาได้ ถ้าพี่จีบเบี้ยวนัดผมก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเลยจำใจยืนรออย่างใจเย็นอยู่ตรงนี้ ไม่นานนักผมก็รู้สึกว่ามีมือใครบางคนมาสะกิดเข้าที่หัวไหล่ พอหันกลับไปก็อ้าปากร้องลั่นทันที จนเจ้าของมือต้องปิดปากผมเอาไว้

"อื้อออ อ่อย(ปล่อย)"
ผมประท้วงก่อนจะแงะมือพี่คินออกจากปากแล้วหอบหายใจอีกรอบ ก็ใครบอกให้พี่เขาใส่หน้ากากผีมาหลอกกันล่ะวะ

"ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอน้องคิส"
เสียงทุ้มหวานติดหัวเราะเอ่ยถามขึ้น ผมช้อนตามองพี่เขาอย่างเคืองๆแต่ก็ยอมพยักหน้ารับ สองสิ่งที่ผมกลัวมากคือความเร็วกับผีนี่ล่ะ หัวใจจะวายตาย

"ขวัญเอ้ยขวัญมานะมึง"
พี่จีบกลั้นหัวเราะก่อนจะวางมือลงมาลูบหัวกันเบาๆ ผมส่งสายตาเคืองๆไปให้แต่ก็ไม่ปัดมือนั่นทิ้ง ก็ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นเพราะสัมผัสของพี่จีบนี่หว่า

"ไปหาที่นั่งกัน"
พี่แก็ปมองผมก่อนจะจับแขนเสื้อพี่คินแล้วลากออกไป ไอ้คนบ้าก็มองหน้าผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์จนผมหลุดขำออกมา พี่คินนี่โอเวอร์แอคติ้งได้ตลอดสิน่าให้ตายเถอะ

"กินข้าวด้วยกันนะ"
พี่จีบชวน ผมรีบพยักหน้ารับเพราะไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้า ร่างสูงส่งยิ้มมาให้กันก่อนจะเดินตามเพื่อนอีกสองคนออกไปซึ่งผมก็เดินตามไปด้วย

ผมซื้อทั้งข้าวทั้งก๋วยเตี๋ยวมาตั้งไว้แล้วลงมือจัดการมัน คนอื่นมองมาอย่างทึ่งๆจนผมหยุดมือกินแล้วเลิกคิ้วมองพวกเขา

"ทำไมกินเยอะจังวะ"
พี่จีบหันมาถามผมทั้งๆที่ตัวเองยังถือช้อนค้างอยู่ พี่คินมองผมไม่วางตาส่วนพี่แก็ปก็กินข้าวของตัวเองไปปกติ ผมรีบเคี้ยวข้าวแล้วกลืนลงคอก่อนจะตอบออกไป

"เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวอ่ะ"
ตอบเสร็จก็คว้าขวดน้ำมากระดกอึกใหญ่แล้ววางลงก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆไปให้เพราะเจอสายตาดุๆของพี่จีบ

"ทำไมไม่กิน หลังจากมาส่งกูก็เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ"
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน มือยังถือช้อนค้างอยู่แบบนั้น ถ้าผมไม่กลัวพี่จีบต่อยหน้าผมคงอ้าปากงับข้าวคำนั้นไปแล้ว

"แหะ.. คุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อยเลยลืมกิน"
ผมก้มหน้าลงด้วยความอาย ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเล็กน้อย จะให้บอกความจริง่วาคุยเรื่องแคปชั่นรูปตัวเองกับพี่จีบในเพจคนดังมหา'ลัยมันก็รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจแปลกๆ

"อ๋อ เออ กินเข้าไปเยอะๆ"
พี่จีบพูดจบก็เลื่อนช้อนของตัวเองมาจ่อหน้ากัน ผมมองด้วยความสงสัย คือส่งมาทำไม? จะป้อนเหรอ

"กินดิ ป้อน"
คำสั้นๆ น้ำเสียงราบเรียบธรรมดาแต่มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยๆเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว ยิ่งสายตาติดล้อเลียนของพี่คินส่งมายิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยึกยักจะปฏิเสธก็ไม่กล้าจะตอบรับก็รู้สึกขัดเขิน

"เร็วๆกูเมื่อยแขนแล้วเนี่ย"
เหมือนจะเร่งเร้าให้รับ สุดท้ายผมก็หมดหนทางบ่ายเบี่ยงจำใจอ้าปากงับข้าวในช้อนเข้าปากไปอย่างว่าง่าย พี่จีบยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะใช้ช้อนคันเดิมตักข้าวเข้าปากตัวเองอย่างสบายใจ และเหมือนไอ้พี่คินที่รอจังหวะมานานได้โอกาส สายตาเจ้าเล่ห์ส่งมาให้ก่อนคำถามของพี่คินจะทำให้ผมสำลักข้าวอย่างหนัก

"วันนี้ก็มาด้วยกันอีกแล้วเหรอวะ สองคนนี้แอบกิ๊กกันป่ะเนี่ย"
สายตากรุ้มกริ่มส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มเข้าเล่ห์ ผมชะงักแล้วสำลักข้าวอย่างหนักเมื่อฟังประโยคนั้นจบ จากมีซัมติงตอนนี้พัฒนาเป็นกิ๊กแล้วเว้ย ไอ้เชี่ยพี่คินนน สมองมึงคิดเป็นแต่เรื่องชู้สาวหรือยังไงวะ ผมไอโขลกอย่างหนักดีนะที่ปิดปากทันไม่อย่างนั้นทั้งโต๊ะคงได้รับกระสุนเมล็ดข้าวกับผัดกะเพราหมูแน่ๆ พี่จีบส่งขวดน้ำมาให้ผมอยากรวดเร็วก่อนจะช่วยลูบหลังกันขณะที่ผมดื่มน้ำ

"แค่ก กิ๊กบ้าอะไรของพี่คินวะ แค่มาด้วยกันเอง"
ผมพูดออกไปทั้งๆที่ยังไม่หายจากอาการสำลักเท่าไหร่ พี่จีบที่ลูบหลังกันอยู่ก็ไม่เคยคิดจะพูดปฏิเสธเพื่อนบ้างหรือยังไงวะ เอาแต่ยิ้มบ้าบออยู่ได้ คิดจะแกล้งอะไรผมอีกล่ะ

"รถมันก็มีนะน้องคิส จะรบกวนน้องคิสทำไมล่ะ"

"มึงลืมเหรอว่ารถกูเสียยังซ่อมไม่เสร็จ"
พี่จีบพูดด้วยท่าทางสบายๆไม่มีความกังวลเรื่องรถเสียเลยสักนิด แต่พี่คินนี่หรี่ตามองพี่จีบเหมือนกับมองอะไรบ้างอย่างออก

"อ๋อหราาาา ยังซ่อมไม่เสร็จเหรอ อืมๆ"
เสียงพี่คินกวนตีนชะมัด แต่พี่จีบก็ไม่ได้สนใจอะไรแถมยังแอบจิ้มลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวผมไปอีกด้วย ฮึ่ย ของโปรดเลยนะเว้ยแต่ที่ไม่โวยวายเพราะคนขโมยเป็นพี่จีบหรอกนะ ถ้าเป็นพี่คินผมคงโวยจนโรงอาหารแตก

ผมกินอาหารจนหมดแล้วลูบท้องตัวเองป้อยๆ อิ่มแล้วหนังตาก็เริ่มหย่อน และเหมือนสมองจะประมวลผลอะไรบางอย่างได้ ที่พี่จีบนัดผมมาที่นี่เพราะว่ามีธุระนี่หว่า เจ้าตัวลืมแล้วหรือเปล่าเนี่ย

"พี่จีบมีธุระอะไรกับผมครับ?"
พี่จีบหันมามองผมทั้งๆที่คาบหลอดอยู่ ภาพตรงหน้าทำให้ผมอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถ่ายรูปสักสองสามรูป องศานี้ท่าทางแบบนี้ โคตรเซ็กซี่เลยว่ะมายไอดอล

"หือ.. ลืมไปแล้วว่ะ ถ้าคิดออกจะบอกแล้วกัน"
พี่จีบยักคิ้วให้ก่อนจะดูดน้ำทั้งๆที่มองหน้าผมอยู่ สายตากรุ้มกริ่มที่ส่งมานั่นคืออะไรกันครับ ช่วยบอกผมทีเถอะ!! หัวใจเจ้ากรรมมันจะพังลงมากองอยู่นอกอกอยู่แล้ว โทษฐานที่เต้นแรงเกินไป

"อะ อือ"
ถึงกับตอบรับติดอ่างไปเลยครับ... แล้วผมก็เหมือนโดนหลอกให้มานั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันยังไงก็ไม่รู้เพราะจนแล้วจนรอดพี่จีบก็คิดธุระของตัวเองไม่ออก ไม่รู้ว่าเพจคนดังจะอัพเดทอะไรกันอีกไหม สงสัยต้องสมัครเฟซลับเอาไว้ติดตามเพจเองซะแล้วล่ะมั้ง


---------------------------------------------------


Q & A กับ ไลค์ และ จีบ
Q : รถจีบยังซ่อมไม่เสร็จอีกเหรอ ได้ข่าวว่าส่งซ่อมไปนานแล้วนะ
ไลค์ : ซ่อมไม่เสร็จที่ไหนกัน ก็รถมันจอด... อื้อออ อ่อยอู! (ปล่อยกู) /จีบเอื้อมมือไปปิดปากพี่ไลค์พร้อมล็อคคอ
จีบ : พอดีว่าอะไหล่รถต้องนำเข้าจากต่างประเทศเลยใช้เวลานานหน่อยน่ะครับ เลยยังซ่อมไม่เสร็จ ^^

--------------------------

Q & A กับ แก็ป
Q : คิดว่าคินเป็นคนยังไง?
A : คนบ้า แต่ก็น่ารัก
Q : เอ๊ะ ชมกันแบบนี้มีซัมติงอะไรกันหรือเปล่า? /เหล่มอง
A : ขอเปลี่ยนคำถามครับ ^^
Q : .......



ตอนที่ 3 มาแล้วว ~ เรายังคงเห็นพี่จีบเนียนไปเรื่อย น้องคิสก็ยังคงเป็นเด็กน่ารักน่าแกล้ง
ไม่รู้ว่าโดนพี่จีบหลอกสกินชิพมากี่รอบแล้วด้วย หึหึ
Q & A เหมือนจะเผยด้านมืดตัวละครยังไงก็ไม่รู้ 555555
ปล. อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 16-07-2016 09:52:01
พี่จีบแกเนียนมากจริงๆ
น้องคิสก็โดนหลอกง่ายเกินไปแล้วนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-07-2016 10:22:49
ค่อยๆเนียนไปค่ะพี่อิอิ.
อิพี่ก็อยากอ่อย อิน้องก็อยากอ้อน.  :mew3:
แอดมินเพจทำดีค่ะ คู่จิ้นคู่ใหม่กำลังจะกลายเป็นคู่จริงแล้ว
#มนต์รักหมวกกันน็อค #จีบคิส.  ขอบคุณคนเขียนค่ะ รอต่อนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nnutchachar ที่ 16-07-2016 11:01:43
โอ๊ยยย เห็นชื่อคนแต่งแล้วกด+1เลยค่าา
ปกตินี่ตามในเด็กดีมินฟอง (คนที่เม้นยาวๆน่ะค่ะ..555555555)
ฮืออออ เรื่องใหม่ก็น่ารักเหมือนเดิม แต่ไม่ได้จีบตรงๆเหมือนมินฟอง
ชอบคาแรกพี่จีบจัง มีความกวนโอ๊ย มีความวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว5555555
สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ♥
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 16-07-2016 11:32:14
แอดมินเพจนี่รับสมัครผู้ช่วยมั้ยคะ
อนากไปส่องคนเนียนขี้เต๊าะด้วยละเกิน :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-07-2016 11:34:14
ธุระที่พี่จีบว่าคือการมาทานข้าวด้วยกันพร้อมได้จูบทางอ้อม :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 16-07-2016 11:40:53
ความเนียนพี่จีบเรายอมใจอ่ะ
ฮ่าาา ส่วนคนน้องก็ยังว้าวึ่นอยู่
ใจเต้นแรงจะหลุดมาละมั้งลูกกกกกก
 :katai2-1: :katai2-1:

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 16-07-2016 14:59:14
 o18 ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  ทำไมเรื่องนี้มันดีต่อใจขนาดเน๊ !!!!!!

ชอบพระเอก ที่เเสดงออกชัดเจนแบบนี้มากกกกกกกก ถึงจะทำมึน ทำซิน ทำอึนๆ เนียนๆ เเต่ปลื้มมาก
รู้ไหม ว่า อิมเมจของ จีบ นี้คิดถึง จิ่งหยู (อิจิ่งคนกาก ขึ้นมาทันใด) เพราะรายนั้นนางมีเเค่ความมึน ความเกรียน 555 ติ่งเฮโรอีนก็มา โว๊ะ ( ผิดเรื่องๆๆๆๆ)

(http://postto.me/1e/ojn.jpg)

ส่วนน้องคิส คนงานก็ชอบบบ นางเอ๋อดี นางน่ารัก นางคิดว่าตัวเองเเมน เเตะบอลไรงี้ 555555555


(http://postto.me/1e/ojv.jpg)

หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-07-2016 15:10:27
นาทีนี้บอกได้อย่างเดียวว่า
พี่จีบ เนียนมาก

 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 16-07-2016 16:02:59
คือไม่รู้ว่าพี่จีบสกิลเนียนสูงเกินไป หรือว่าน้องคิสใสเกินไปกันแน่

ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 16-07-2016 17:42:58
พี่จีบมีสกิลเนียนน้องคิสก็น่ารักเหลือเกินลูกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 16-07-2016 18:07:28
โอ๊ยยย คนพี่เนียนมาก คนน้องตามไม่ทัน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-07-2016 18:21:21
เนียนเข้าไป เนียนเข้าไปนะพี่จีบ หวังว่าถ้าน้องคิสรู้ความจริงแล้วจะไม่โกรธนะครับ เอาใจช่วย ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-07-2016 18:36:08
พี่จีบโกหกน้องคิสสหรออ
อยากให้น้องมารับก็ไม่บอกน้องดีๆ หึหึ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-07-2016 23:02:07
อุต๊ะ พี่จีบมาอย่างเนียนๆมากอ่ะ  :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-07-2016 00:11:07
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-07-2016 00:57:48
คงไม่มีมาม่าหรอกเนาะ ตามๆด้วยคนชอบๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-07-2016 11:41:40
พี่คิสจีบได้เจ๋งอ่าาาาาาาา อ่านแล้วนานเนียนได้โล่จิงๆ 555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 03 : ดื่มครั้งที่ 3 (16.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 18-07-2016 08:06:12
 :กอด1: มาส่องพี่จีบ  สงสัยชงกาเเฟเพลิน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 18-07-2016 20:14:50
- ดื่มครั้งที่ 4 -



วันนี้เป็นเช้าวันเสาร์ที่มีอากาศไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่เนื่องจากท้องฟ้ามืดครึ้มและมีสายฝนกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ไม่พอยังมีเสียงฟ้าร้องและแสงฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะ  แต่ไม่มีอะไรดีกว่าอากาศยามฝนตกเพราะมันเย็นจนไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศให้กินค่าไฟ

ผมนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างสบายใจแม้ตอนนี้เวลาจะเลยช่วงเก้าโมงเช้ามาแล้วก็ตาม  แต่นอนอยู่ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ก็ดังเป็นเสียงแจ้งเตือนข้อความ ผมสอดมือออกจากผ้าห่มเพื่อหยิบมันที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาดู

หน้าจอสี่เหลี่ยมสว่างวาบปรากฏเป็นข้อความแจ้งเตือนเพิ่มเพื่อนใหม่ มือเรียวเลื่อนปลดล็อกแล้วจิ้มแอพพลิเคชั่นไลน์ทันที บุคคลดังกล่าวแอดเฟรนด์ผมผ่านเบอร์โทรศัพท์ หัวคิ้วขมวดเข้ากันยุ่งเมื่อรูปโปรไฟล์ของเขาไม่ขึ้นโชว์รูปใดๆ แถมชื่อไลน์ยังมีแค่ตัวย่อที่ผมไม่เข้าใจ เห็นแบบนั้นผมเลยตัดสินใจแคปเจอร์หน้าจอแล้วส่งให้เพื่อนสนิทในไลน์กรุ๊ป มันอาจจะรู้ว่าคนๆนี้เป็นใคร เพราะปกติผมก็ไม่ได้แจกไลน์ในใครพร่ำเพรื่ออยู่แล้ว รอไม่นานนักไอ้ออยสาวสวยประจำกลุ่มก็ตอบมา

♡ น้องอิงออย ♡
- ใครแอดมึงมาวะคิส ดูน่ากลัวว่ะ รูปโปรก็ไม่มี 09:38

× คิสสึ ×
- ถ้ารู้จะถามพวกมึงทำไม -_- 09:39

♡ น้องอิงออย ♡
- งั้นรอไอ้ภีมตอบละกัน กูไปนอนต่อละ อิอิ 09:39

× คิสสึ ×
- มึงเพลาๆการนอนมั่งเหอะ นอนแดกบ้านแดกเมืองตลอดผู้หญิงบ้าไรวะ 09:39

♡ น้องอิงออย ♡
- กูโสดอ่ะ ไม่ต้องตื่นมาคุยกับใครแบบพวกมึงนี่ ชิ! 09:40

× คิสสึ ×
- เดี๋ยวๆ กูก็โสดไหม มีไอ้ภีมคนเดียวที่ไม่โสด มึงอย่ามั่ว 09:40

♡ น้องอิงออย ♡
- เดี๋ยวมึงก็ไม่โสดละ!!! กูไปนอนดีกว่า บาย 09:41

× คิสสึ ×
- เอ้า ไอ้นี่ กลับมาเคลียร์ก่อนเส้ กูจะไม่โสดได้ยังไง ! 09:41

ผมทิ้งโทรศัพท์ลงข้างตัวทั้งๆที่ยังงงกับข้อความที่ไอ้ออยส่งมา อีกไม่นานผมจะไม่โสดได้ยังไงกันในเมื่อผมก็ไม่ได้ไปจีบใคร แล้วที่สำคัญกว่านั้นคือไม่มีใครมาจีบผมด้วย ผมปล่อยให้ความสงสัยตกตะกอนอยู่แบบนั้นแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำเพราะมีงานที่ต้องเคลียร์ต่อถึงแม้อากาศจะน่านอนแค่ไหนก็เถอะ แล้วตอนบ่ายผมมีภารกิจออกไปกินกาแฟนั่นด้วยน้า

ผมเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งลงบนเตียงด้วยสภาพที่ใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงบ็อกเซอร์สีแดงตัวเก่ง ผ้าเช็ดตัวคลุมอยู่บนเส้นผมที่ยังไม่ได้ผ่านการเช็ด มือเรียวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คเผื่อจะมีใครโทรมา ซึ่งมันก็มีจริงๆไม่ใช่โทรศัพท์แต่เป็นข้อความไลน์จากภีม ผมรีบกดเข้าไปดูแล้วก็ต้องอึ้งกับคำตอบที่ได้รับ

# ชายภีม
- ไลน์พี่จีบ เขาขอเบอร์มึงไปบอกว่ามีธุระจะคุยด้วย 10:20

ผมเบิกตากว้างอ่านข้อความของไอ้ภีมซ้ำไปซ้ำมาว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด ผมแทบกีดร้องด้วยความดีใจที่อยู่ๆมายไอดอลก็เข้าหาเองโดยที่ผมไม่ต้องไปตามสืบเสาะหาข้อมูลเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์พี่จีบเหมือนแฟนคลับคนอื่นๆ ตอนนี้รู้สึกได้ว่าแก้มจะแตกอยู่แล้วเพราะยิ้มด้วยความดีใจ ถ้าไม่เกรงใจคนข้างห้องคงว๊ากเสียงดังลั่นไปแล้ว โอยๆๆ ว่าแล้วก็ลงไปดิ้นบนที่นอนโดยไม่สนใจเลยว่าผมยังไม่แห้ง และผลของการดีใจไม่ดูตาม้าตาเรือทำให้มือเผลอกดไปโดนหน้าจอโทรศัพท์

× คิสสึ ×
- ฟหผหกหแก 10:35
- เชี่ย โทษๆ มือไปโดนหน้าจอ 10:36
- พี่มันมีธุระอะไรกับกูวะ? 10:36

# ชายภีม
- ตอแหลได้อีก ดีใจจนพิมพ์ไม่ถูกก็บอกมา 10:37
- ไม่รู้ดิ พี่จีบไม่ได้บอก กูว่าคงอ้างไปงั้นอ่ะ ที่จริงจะจีบมึง 10:37

"เชี่ย..."
ผมสบถออกมาแต่หัวใจกับเต้นรัวเพราะข้อความของไอ้ภีม พี่มันเนี่ยนะจะจีบผมมโนได้อีกเพื่อนกู เทวดากับหมาวัดชัดๆ ผมอ่ะหมา พี่จีบอ่ะเทวดา แล้วไอ้ที่ว่าผมตอแหลนั่นล่ะ.. อยากตบกบาลมันนัก!

× คิสสึ ×
- กูไม่ได้ตอแหลเว้ย สัดด ถ้าเจอจะโบกหัวให้ 10:39
- อีกแล้วนะเชี่ยภีม พี่จีบไม่ได้จีบกูเว้ย ! 10:39

มือไม้สั่นไปหมดไม่รู้ว่าตัวเองโมโหหรือยังตื่นเต้นกับข้อความของไอ้ภีม มันเอาอะไรมาพูดว่าคนอย่างพี่จีบจะมาจีบผู้ชายอย่างผม ต่างคนต่างก็เป็นผู้ชายชอบผู้หญิงมาเหมือนกันตลอด ยิ่งเป็นคนอัธยาศัยดีแบบพี่จีบด้วยแล้วคงมีคนเข้าหานับไม่ถ้วน แต่คิดไปคิดมาไอ้ภีมมันก็รู้จักพี่จีบดีกว่าผม.. หรือว่าไอ้พี่จีบเป็นไบวะ! คิดได้แบบนั้นผมก็รัวนิ้วลงบนหน้าจอแล้วส่งข้อความไลน์หาไอ้ภีมอีกรอบโดยที่มันยังไม่ได้อ่านข้อความเก่า

× คิสสึ ×
- ไอ้ภีม.. ที่มึงพูดๆว่าพี่มันจะจีบกูเนี่ย พี่มันเป็นไบเหรอวะ? 10:41

ผมส่งข้อความออกไปแล้วจ้องจอสี่เหลี่ยมไม่วางตา มันทั้งลุ้น กลัว ตื่นเต้น ถ้าเจอคำตอบว่าพี่มันเป็นไบแล้วผมจะรู้สึกยังไงวะไม่อยากจะคิดสภาพเลย ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไปก่อนจะพบว่ามีคนอ่านข้อความแล้วหนึ่งคนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไอ้ภีม แต่ผิดว่ะ..

♡ น้องอิงออย ♡
- โอ้ยๆๆๆ กรี๊ดดด อะไรนะ พ่อคนหล่อของกูขอเบอร์ไอ้จูบเหรอ อิจฉา!! 10:45

♡ น้องอิงออย ♡
- เชี่ยยย จีบเหรอ จริงอ่ะ จริงอ่ะไอ้ภีมมมมมม โอ้ยๆๆๆ คนหล่อของกูเป็นเกย์เหรอวะ ฮือๆๆ แล้วผู้หญิงอย่างกูยังจำเป็นอยู่ไหม 10:46

ผมเบะปากใส่ข้อความของน้องอิงออย มันเป็นบ้าอะไรของมันเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยจะกรี๊ดพี่จีบใส่พวกผมสักครั้ง แล้วนี่อะไรครับ มีอิจฉากันด้วย.. แล้วมันเอาส่วนไหนคิดว่าพี่จีบมันเป็นเกย์ ตลกแล้วครับ ความคิดมันล้ำกว่าผมมากโขเลยไง

× คิสสึ ×
- ไอ้ออย ตั้งสติหน่อยคุณเพื่อน พี่จีบเขามีธุระกับกูเฟ้ย 10:47
♡ น้องอิงออย ♡
- กูไม่มีสติ! ก็ไอ้ภีมมันบอกพี่จีบจะจีบมึงอ่ะ กูเชื่อไอ้ภีม พวกผีเห็นผี 10:47

ผมสตั้นไปกับข้อความของน้องอิงออย ผีเห็นผีอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่หรอกน่า พี่จีบมันเป็นคนอัธยาศัยดีเข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะ จากที่ผมสังเกตและได้พูดคุยกับมันจริงๆมาสองสัปดาห์ แต่ถ้าลองคิดเล่นๆว่ามันมาจีบผมจริงๆนี่แอบขนลุกนะ เพราะผมแมนๆเตะบอลไง หุ่นผู้หญิงน่ามองกว่าหุ่นผู้ชายเสมอล่ะน่า ผมนั่งขำกับความคิดของไอ้ออยก่อนจะพิมพ์ตอบมันกลับไป

×คิสสึ ×
- มั่วทั้งคู่อ่ะ พี่มันแค่อัธยาศัยดี 10:48

# ชายภีม
- พี่จีบเป็นผู้ชายว่ะ แล้วมึงดูผู้ชายอย่างกูดิ มีแฟนเป็นตัวอะไร -_- 10:48

♡ น้องอิงออย ♡
- ไอ้ภีมพูดถูกใจจจ มาให้น้องออยหอมแก้มที จุ๊บๆๆ 10:48

× คิสสึ ×
- เชี่ย... พี่ดีพเป็นคนนะเว้ย อย่าเรียกมันเป็นตัวดิ 10:48
# ชายภีม
- ออย.. กูกลัวมึงมาก 10:49
- มึงหลงประเด็นไหมไอ้คิส ฟาย ไม่คุยกับมึงละ 10:49

ผมขมวดคิ้วแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ผมผิดตรงไหนวะก็ไอ้พี่ดีพมันเป็นคนนี่จะใช้คำว่าตัวกับมันได้ยังไง แล้วผมไม่คิดว่าผู้ชายอย่างพี่จีบจะแปลงร่างได้เหมือนไอ้ภีมกับพี่ดีพหรอก ผมหัวเราะแล้วไม่สนใจเรื่องพี่จีบอีก มือเรียวจับผ้าเช็ดตัวขยี้ผมตัวเองไปมา เสื้อยืดสีขาวที่ใส่อยู่เปียกเป็นจุดๆเพราะทิ้งให้น้ำบนผมหยดใส่ จากที่หนาวอยู่แล้วยิ่งหนาวเข้าไปอีก

หลังจากนั้นผมก็เดินไปหาอะไรกินและมานั่งทำงานค้างที่ต้องส่งวันจันทร์ไปเรื่อยจนถึงเวลาเที่ยงตรง มือเรียวควานหาโทรศัพท์ที่ตั้งไว้ข้างๆกันขึ้นมาเช็คแล้วเจอเข้ากับข้อความแจ้งเตือนไลน์อีกแล้ว.. แต่คราวนี้คนที่แอดเฟรนด์มาเมื่อเช้าเขาทักมาหาผม รูปโปรไฟล์เปลี่ยนเป็นรูปแก้วกาแฟเอสเพรสโซ่ขนาดหนึ่งชอต ชื่อไลน์จากตัวย่อที่ผมไม่เข้าใจเปลี่ยนมาเป็นชื่อ 'อัศวิน'

อัศวิน
-ไม่คิดจะรับแอดกูจริงๆเหรอวะ? 12:00

× คิสสึ ×
- โทษทีครับคุณอัศวิน เมื่อเช้าผมเบลอๆอ่ะ 12:01

อัศวิน
- รีบๆรับเลย อย่าเล่นตัว 12:01

× คิสสึ ×
- โอ้ย ไอ้พี่จีบแม่ง ใครเขาเล่นตัวกันเล่า! 12:01

เบะปากมองบนให้กับข้อความของพี่จีบเสร็จก็รีบเลื่อนนิ้วไปกดรับแอดเฟรนด์มันทันที คนบ้าอะไรแม้กระทั่งในไลน์ยังขยันกวนตีนกันขนาดนี้

× คิสสึ ×
- รับแล้วนะพี่ 12:01
- แล้วนี่ว่างเหรอ? 12:01

อัศวิน
- อือ ว่างอยู่ วันนี้มึงไม่มาที่ร้านเหรอวะ? 12:02

× คิสสึ ×
- ที่จริงกะว่าจะไปตอนบ่ายแต่ฝนยังตกอยู่เลยว่ะ 12:02

ผมตอบพี่จีบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฝนฟ้าอากาศผ่านทางกระจกบานใสตรงระเบียงห้อง สายฝนยังเทลงมาไม่ขาดสาย ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยด้วยซ้ำ อยากไปหาพี่จีบ เอ้ย อยากไปกินกาแฟใจจะขาด

อัศวิน
- ให้กูไปรับที่หอป่ะ? 12:03

× คิสสึ ×
- เห้ยยย จะมารับทำไม 12:03

ผมตอบกลับไปอย่างรวดเร็วทั้งๆที่ใจเต้นรัวเร็ว มือที่ใช้พิมพ์ข้อความก็ยังสั่นกึกๆอยู่ จะมารับผมที่หอมันหมายความว่ายังไงวะ ผมไม่ไปที่ร้านแค่วันเดียวมันเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติเลยหรือยังไง.. หรือสิ่งที่ไอ้ภีมพูดจะเป็นความจริง??

อัศวิน
- กูมีธุระกับมึงเนี่ย คุยผ่านไลน์ไม่สะดวกไง เจอหน้ากันคุยง่ายกว่า 12:04

ข้อความที่ตอบกลับกันมาไม่ได้ทำให้ใจผมสงบลงเลยแม่แต่น้อย มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกขึ้นในอกอย่างช่วยไม่ได้ เจอหน้ากันคุยง่ายกว่า.. คำนี้โคตรทำให้ผมคิดไปไกลเลยเถอะ ถ้าไอ้ภีมไม่พูดอะไรทำนองนั้นผมจะไม่คิดอะไรเลย แต่ดูเหมือนว่าผมจะตบตีกับความคิดตัวเองมากเกินไปจนอีกฝ่ายทนรอคำตอบไม่ได้เลยส่งข้อความมาอีกรอบ

อัศวิน
- ว่ายังไงมึง เดี๋ยวบ่ายโมงครึ่งกูต้องไปช่วยไอ้ไลค์ชงกาแฟต่อนะ 12:07

× คิสสึ ×
- คุยวันอื่นก็ได้มั้ง ลำบากพี่เปล่าๆ 12:07

อัศวิน
- กูจะคุยกับมึงวันนี้! 12:07

ยิ่งพี่มันย้ำคำผมยิ่งสติแตก ทำไมไม่เกริ่นธุระมึงมาก่อนวะพี่จีบ หัวข้อ ชื่อเรื่องอะไรทำนองเนี่ย นี่บอกแค่มีธุระๆ โอ้ย ทำให้กูคิดไม่ตกแล้วเนี่ย หัวใจเวรนี่จะเต้นทำไมวะ หอยโข่งจริงๆเลยไอ้คิส เอาไงเอากันวะ คนอย่างไอ้คิสสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว

× คิสสึ ×
- โอเคๆ มารับได้เลย 12:08

และแล้วตอนนี้ผมก็ผ่าฝนจากใต้หอขึ้นมานั่งกอดตัวเองบนรถของไอ้พี่จีบเรียบร้อยแล้ว... เสื้อยืดสีขาวของผมเปียกชุ่มจนหาพื้นที่แห้งของมันไม่เจอ แอร์เย็นๆปะทะเข้าหาตัวจนอยากจะหนีลงจากรถเลยทีเดียว

"ลูกหมาตกน้ำหรือไงวะ?"
พี่จีบหันมามองผมแล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากพร้อมกับส่งมือมาขยี้หัวผมเบาๆ แล้วเบ้ปากใส่กันเมื่อน้ำกระเซ็นเข้าหน้าหล่อๆของตัวเอง ผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่จีบจะเอามือมาขยี้หัวผมทำซากอ้อยอะไร รถเปียกหมดแล้วพี่!

"ตากฝนมานี่หว่าพี่"
ผมสะบัดหัวออกจากมือไอ้พี่จีบ มันก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังยิ้มออกมาอีก

"มึงรีบวิ่งมาเอง กูว่าจะเอาร่มลงไปรับมึง"
พี่จีบชี้ไปที่ร่มด้านหลังแล้วยักคิ้วให้กัน ผมเบิกตากว้างแล้วอ้าปากพะงาบๆ ก็เมื่อกี้พี่มันเปิดกระจกแล้วโบกมือให้ผมยิกๆ ไอ้เราก็กลัวว่าจะรอนานเลยรีบวิ่งผ่าฝนมาหา โอ้ย นี่ผมทำอะไรเปิ่นๆให้มันเห็นอีกแล้วสินะ

"ไม่บอกชาติหน้าเลยล่ะวะ"
ผมบ่นงุบงิบใส่มันแล้วมุ่ยหน้าใส่ไม่ยอมมองหน้าพี่จีบอีก ไอ้คนขี้แกล้งได้ทุกเวลาทุกสถานการณ์ก็หัวเราะเบาๆก่อนจะออกรถไป ตอนนี้ผมรู้สึกว่าแอร์รถมันหนาวขึ้นทุกขณะจนได้ยินเสียงฟันของตัวเองกระทบกันดังกึกๆ แขนทั้งสองข้างกระชับกอดตัวเองเอาไว้แน่น เชี่ยเอ้ย แอร์รถพี่จีบจะหนาวไปไหนวะเนี่ยเหลือบมองแล้วเหลือบมองอีกก็พบว่ามันเปิดแค่เบอร์หนึ่งเอง

"หนาวเหรอ?"
เสียงทุ้มถามขึ้นขณะที่จอดรถติดไฟแดง ผมพยักหน้าหงึกๆให้ ไม่วายคืนนี้ต้องเป็นไข้แน่ๆ

"รอแป็ป"
พี่จีบบอกผมก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบเสื้อกันหนาวที่เบาะด้านหลังแล้วเหวี่ยงมาคลุมลงบนตัวผม แต่ตอนนี้ตัวผมเปียกโชกขนาดนี้เดี๋ยวก็ทำเสื้อกันหนาวมันเปียกไปด้วยหรอก คิดได้แบบนั้นก็เลยดันเสื้อกันหนาวออก แต่พี่จีบส่งสายตาดุมาให้

"เอาออกทำไมวะ เดี๋ยวก็หนาวตาย"

"ก็ตัวเปียกอ่ะ เสื้อกันหนาวพี่จะเปียกไปด้วยนะ"
ผมมองเขากลับไป สายตาดุเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายลงทันทีแล้วมือหนาก็เอื้อมมาดึงเสื้อกันหนาวคลุมตัวให้ผมแบบเดิม

"ไม่ต้องคิดมาก เสื้อของไอ้ซารังนู่น"
พี่จีบว่าก่อนจะหัวเราะออกมา... ด่ามันได้ไหม ถีบมันตกรถได้หรือเปล่า ไอ้พี่จีบแม่งโคตรกวนตีนเลยไงครับ เสื้อไอ้น้องหมอเหรอ มันจะมาฆ่าผมไหมวะเนี่ย ผมแยกเขี้ยวใส่พี่จีบแม่งเลย ถ้ากระโดดกัดคอได้ผมทำไปแล้วเนี่ย

"พี่จีบแม่ง..."

"พี่รู้ว่าพี่หล่อ ไม่ต้องชมนะ"
พี่จีบหันมายักคิ้วแล้วยิ้มมุมปากให้กันก่อนจะออกรถไป ผมเบะปากจนเป็นเส้นโค้งกับความหลงตัวเองของมัน แต่จะไม่เถียงหรอกนะเพราะที่เขาพูดมาทั้งหมดมันก็เห็นชัดเจนบนใบหน้าหล่อๆนั่นอยู่แล้ว แต่ผมรู้สึกใจสั่นๆกับการที่พี่จีบพูดเพราะว่ะ อยากให้มันเปลี่ยนมาพูดเพราะๆกับผมบ้าง ต้องทำยังไงนะ

ตอนนี้บีเอ็มลูกรักของพี่จีบจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าร้าน IT 's LOVE และในมือของพี่จีบก็ถือร่มคันใหญ่ไว้พร้อมแล้ว ส่วนผมแค่เดินไปไม่ถึงสิบก้าวก็ถึงกันสาดหน้าร้าน แต่พี่จีบดึงแขนผมไว้ตอนจะเปิดประตูรถ แล้วบอกให้ผมนั่งเฉยๆรอพี่เขาเดินอ้อมลงไปรับ จะให้เถียงก็ไม่ไหวเพราะตอนนี้รู้สึกเริ่มมีอาการปวดหัวขึ้นมาแล้ว

เขาเปิดประตูแล้วดันร่มขึ้นสูงแล้วกางมันออกก่อนจะเบียดตัวออกไปและปิดประตูลง ร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดที่ข้างประตูรถฝั่งผมก่อนจะเปิดมันออก ผมรีบลงจากรถเบียดตัวเข้าไปอยู่ใต้ร่มคันเดียวกับพี่จีบ แขนแกร่งเกี่ยวคอผมเอาไว้ให้ขยับเข้าใกล้ตัวเองมากขึ้น... ผมอยากขยับออกห่างเพราะตัวเองเปียกแต่ก็ต้องทำใจเมื่อพี่จีบลากผมเดินต่อซะแล้ว ไอ้คนที่มาอาศัยกันสาดร้านพี่จีบหลบฝนก็มองพวกผมด้วยสายตาต่างกันออกไป บางคนมองมาแล้วยิ้มๆ บางคนมองมาก็เบะปากใส่ คือคิดอะไรกันอยู่ครับ ผมกับพี่จีบแค่หลบฝนใต้ร่มคันเดียวกันไหมล่ะ ก็ร่มมันมีคันเดียวเนี่ย!!

ประตูหน้าร้านเปิดออกพร้อมกับร่างของชายหนุ่มหน้าละอ่อน ดวงตาใต้แว่นกรอบดำนั้นเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนเข้าจะวิ่งหายไปทางหลังร้านแล้วกลับมาด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่

"นี่ครับพี่"
พี่จีบปล่อยแขนออกจากมือผมก่อนจะหุบร่มแล้วส่งให้หนุ่มน้อยตรงหน้า เขารับผ้าขนหนูผืนนั้นมาแล้วคลุมลงบนหัวผม

"มึงพาคิสไปข้างบนนะ เดี๋ยวกูตามไป"
พี่จีบหันไปสั่งเด็กคนนั้นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็น 'ซารัง' น้องชายคนเล็กของครอบครัว น้องพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำผมไปที่บันไดหลังร้านขึ้นสู่บริเวณชั้นสอง ห้องที่น้องพาผมมาเป็นห้องนอนขนาดกลาง ตกแต่งโทนสีอบอุ่นแบบเดียวกับตัวร้านกาแฟไม่มีผิด ภายในห้องมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะราคาแพง โซฟาตัวเล็ก เตียงนอนขนาดห้าฟุต และมีตู้เสื้อผ้าขนาดกะทัดรัดวางอยู่มุมห้อง มีห้องน้ำในตัวด้วยนะ ดูรวมๆแล้วหรูกว่าหอผมอีก

"เดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยนนะ พี่ไปยืนรอในห้องน้ำได้เลย"
ผมหันไปพยักหน้าให้กับซารังแล้วเดินไปยืนรอในห้องน้ำ ตอนนี้รอยเท้าผมเป็นทางยาวเลยเถอะ น่าเกลียดฉิบหาย ดีนะที่รถพี่จีบเป็นเบาะหนังไม่อย่างนั้นตอนขามาคงได้ไปนั่งบนกระโปรงรถเป็นผีเกาะรถอยู่นั่นล่ะ

"ไอ้ซารัง"
เสียงคุ้นหูดังขึ้นเรียกชื่อน้องชายตัวเอง ผมเกาะขอบประตูห้องน้ำแล้วเอี้ยวตัวออกไปดูก็พบพี่จีบยืนหน้ายุ่งอยู่ ซารังหันกลับไปหาพี่ชายตัวเองพร้อมด้วยในมือถือชุดลำลองไว้ก่อนจะเลิกคิ้วมองพี่ชายตัวเอง

"ว่า?"

"มึงลงไปรับลูกค้าเลยไป"
ว่าจบก็แย่งเสื้อผ้ามาจากซารังแล้วโบกมือไล่น้องซะอย่างนั้น ซารังเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้ผมแล้วเดินออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไร พี่จีบเดินตรงมาหาผมก่อนจะยื่นชุดในมือทั้งหมดมาให้กัน

"อาบน้ำไปเลยนะมึง สระผมด้วย"
ผมมุ่ยหน้าเพราะเมื่อเช้าก็สระผมไปแล้ว.. จะบ้าตาย คนยิ่งขี้เกียจๆสระอยู่

"เมื่อเช้าสระแล้ว"
ผมงึมงำอยู่ในลำคอขืนพูดดังไปโดนไอ้พี่จีบด่าอีกแน่ๆ แต่ก็ไม่พ้นหรอกครับหูมันโคตรจะดีเลย

"แล้วไงวะ ตากฝนมามึงจะไม่สระอีกรอบหรือไง?"
ผมช้อนตามองมันก่อนจะหลุบตาลง เถียงไม่ได้ว่ะก็แค่บ่นเอง ทำไมวันนี้มันต้องดุผมแล้วดุผมอีกวะเนี่ย

"เปล่า แค่บ่นอ่ะ"

"เออๆ จะเอากางเกงในป่ะ มีให้ยืม"
พี่จีบเท้าแขนลงกับขอบประตูห้องน้ำแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้กัน  ตอนนี้เหมือนตัวเอกตกอยู่ในฉากละครไทยเลยว่ะ ตอนนางเอกจะเสียตัวให้พระเอก โอ้ย นี่กูฟุ้งซ่านอะไรวะเนี่ย เพราะไอ้ภีมคนเดียวเลย เชี่ย

"ยืมบ้านพี่ดิ!!"
ผมตะโกนใส่มันแล้วถอยหลังพรืดเข้าห้องน้ำ พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากจนต้องเอามือกุมท้อง ตลกมากไหม ตลกแดกเลยสินะ ฮ่วย!

"มีตัวใหม่ยังไม่ได้ใช้ มึงคิดว่ากูจะให้ยืมตัวที่กูใส่แล้วหรือไง"

"ปะ เปล่าเว้ย แต่พี่ตัวใหญ่กว่า ผมจะใส่ได้ไงวะ"
รู้ว่าตัวเองต้องหน้าแดงเถือกเพราะความอายแน่ๆเลยยกชุดลำลองขึ้นมาปิดหน้า เสียงที่พูดออกไปก็โคตรอื้ออึงฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

"ของไอ้ซารังไง"
ผมถลึงตาใส่คนที่ยืนยิ้มร่า อีกแล้ว ของซารังอีกแล้ว มึงไม่คิดว่ามันมากเกินไปหรือยังไง อะไรๆก็ของน้องทั้งนั้น ไม่มีขอก่อนด้วยเถอะ เกิดซารังมันโมโหแล้วเอาแก้วกาแฟปาหัวผมจะทำยังไง

"พี่ไม่คิดจะขอน้องก่อนหรือไง?"

"ทำไมต้องขอวะ มันไม่กล้าขัดใจกูอยู่แล้ว"
พี่จีบพูดก่อนจะยักคิ้วกวนให้กัน เอ้อ ไอ้พ่อคนมีอิทธิพล ไอ้พ่อคนสำคัญของบ้าน อย่าให้รู้นะว่ามึงหงอกับเมีย พ่อจะหัวเราะให้ฟันหัก!

"งั้นเอามาเลย ไม่มีใส่กลัวโล่งๆเหมือนกัน"
ผมแบมือไปตรงหน้าไอ้พี่จีบ ฝ่ายนั้นมองมาแล้วยิ้มให้ก่อนจะแปะมือลงมาแล้วตีเบาๆ มันจะชอบสกินชิพมากเกินไปมั้ง ผมหลบมือออกก่อนจะทำหน้ายุ่ง พี่จีบหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะเดินไปรื้อตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง คือผมสงสัยว่าสามคนนี้ใช้ห้องนอนห้องเดียวกันเหรอวะ

"เอาไป"
พี่จีบเดินกลับมาพร้อมยื่นกางเกงในใหม่เอี่ยมมาให้ผม ไม่อยากจะบอกว่ามันเป็นของ Clavin Klein ว่ะ ผมส่ายหน้ารัวเลยเถอะ ไม่มีปัญญาซื้อคืนครับบอกตามตรง

"อะไรของมึงอีก"
พี่จีบชักสีหน้ายุ่งก่อนจะยัดกางเกงในราคาแพงใส่มือผม

"พี่จีบแม่ง... มันแพง ผมไม่มีปัญญาซื้อคืนซารังนะ"
ผมยัดมันคืนใส่มือพี่จีบ ถ้าจะให้ใส่ Clavin Klien ผมยอมเย็นวาบดีกว่าว่ะ ไม่ใช่ไม่อยากใส่ เพราะไม่มีเงินซื้อคืนและกลัวว่าจะคันแพ้ของแพง

"คิดไรมากวะ เดี๋ยวกูซื้อคืนไอ้ซารังเอง เอาไปแล้วไปอาบน้ำ ไข้จะแดกหัวมึงละ"
พี่จีบวางกางเกงในแหมะไว้บนไหล่ผม.. ไม่วางบนหัวเลยล่ะมึงถ้าจะขนาดนี้ แต่แม่งกางเกงในตัวละพันกว่าบาทเลยนะ จะออกเงินให้ผมจริงอ่ะ ไม่ป๋าไปหน่อยเหรอ หรือว่ามันจะจีบผมจริง บ้าน่า ผมส่ายหัวน้อยๆไล่ความคิดพิเรนทร์ของตัวเองออกไป เลยโดนไอ้พี่จีบทักขึ้นมาอีก

"ยืนคิดอะไรอยู่ รีบๆอาบดิวะ เดี๋ยวกูอาบต่อ"
มันขมวดคิ้วยุ่งใส่กัน ผมรู้สึกว่าตั้งแต่มันกลับเข้าร้านแล้วมันดูจะขี้หงุดหงิดแปลกๆ

"โอเคๆ"
ผมไม่อยากทำให้เขาหงุดหงิดมากกว่าเดิมเลยตัดสินใจปิดประตูห้องน้ำแล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ไม่อยากจะบอกว่าเสื้อที่ซารังหามาให้นั้นเหมือนชุดเดรสผู้หญิงเลยวะ เชื่ย จะตัวใหญ่ไปไหน ใส่แล้วเกือบคลุมเข่าเลยเถอะ แถมไอ้กางเกงบ็อกเซอร์นี่มันก็หดเข้าไปอยู่ใต้เสื้อเชิ้ตเรียบร้อยแล้วด้วย กูล่ะเห็นตีวเองเป็นนายเอกการ์ตูนวายของญี่ปุ่นเลยไง

ผมเปิดประตูออกไปด้วยท่าทีเก้ๆกังๆเพราะยังอายสภาพตัวเองอยู่ เหลือบมองไอ้พี่จีบที่นั่งอยู่ปลายเตียงก็เจอมันมองมาพอดิบพอดี ตาคมเหมือนจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้กันแล้วเดินเข้ามาหา

"พี่จีบ.. ทำไมเสื้อตัวใหญ่แบบนี้วะ"
ผมถามพร้อมกับกระพือเสื้อที่ใส่อยู่ไปมา ไหล่เสื้อแม่งตกไปไหนต่อไหนแล้วเนี่ย ถ้าไม่ติดกระดุมคอเสื้อมีหวังพี่จีบได้คิดว่าผมอ่อยแน่ๆ

"เสื้อไอ้ไลค์ตอนมันอ้วน มึงใส่แล้วเหมือนสาวๆในหนังเอวีเลยว่ะ"
พี่จีบยิ้มกรุ้มกริ่มจนผมเสียวสันหลังวาบ ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดลงบนเส้นผมเปียกชื้นของผม ข้อความของไอ้ภีมฉายชัดในสมองของผมอีกครั้งจนหน้าเริ่มร้อนวูบวาบ แต่ว่าหนังเอวีเหรอ..ไอ้เชี่ยพี่จีบหื่น!

"หนังเอวีบ้าอะไรวะ ถอยไปเลย ลามกฉิบ"
ผมผลักอกมันแล้วเดินลิ่วๆไปทิ้งตัวลงบนเตียงไม่สนใจว่าอีกคนจะยิ้มหรือหัวเราะอะไรทั้งสิ้น หัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมาจากอก โคตรจะเกลียดความขี้แกล้งของมันเลยเถอะ ไอ้ที่เข้ามาพูดแล้วหัวเราะทีหลังเนี่ย แกล้งกันชัดๆ

ผมรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนพี่จีบเข้ามาปลุก ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองเผลอหลับลงบนที่นอนนุ่มๆตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมปรือตามองคนที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกัน ฝ่ามืออุ่นทาบทับลงบนหน้าผาก

"คิส มึงไม่สบาย"
ผมหลับตาลงแล้วพยักหน้าเบาๆก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ ไม่ค่อยถูกกับฝน ทุกทีที่โดนฝนเข้าไปไม่เคยหลีกหนีอาการป่วยได้สักที พี่จีบเลื่อนฝ่ามืออุ่นลงมาแนบที่แก้มและซอกคอของผมก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหายออกไปจากห้อง ผมขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงด้วยร่างกายที่อ่อนล้า อาการปวดหัวเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าแอร์ในห้องนี้หนาวเกินไปหรืออุณหภูมิร่างกายต่ำเกิน ผมดึงผ้าห่มที่ร่นกองอยู่ปลายเท้าขึ้นมาคลุมตัวไว้พร้อมกับเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น พี่จีบกลับมาพร้อมกระปุกยาพาราเซตามอล น้ำเปล่าและแผ่นเจลลดไข้ เขาเดินลงมาทิ้งตัวลงนั่งตำแหน่งเดิมก่อนจะเทยาลงใส่มือแล้วส่งให้ผม

"กินซะ"
เขาบอกแล้วเทยาลงบนฝ่ามือของผมที่หงายอยู่บนตัก แก้วน้ำถูกส่งมาให้ตรงหน้า ผมส่ายหัวเบาๆเพราะไม่ชอบกินยา

"ไม่เอา"
เสียงแหบร้องบอกพร้อมกับปากที่เบะลงเป็นเส้นโค้ง พี่จีบส่งสายตาดุๆมาให้ก่อนจะหยิบยาจากมือผมไป เขาวางแก้วน้ำในมือลงก่อนจะบีบคางผมแล้วส่งยาใส่ปากกัน

"อื้อออ"
ผมครางพร้อมกับสะบัดหน้าออกจากมือแกร่ง ทำท่าจะคายยาทิ้งแต่โดนพี่จีบดุขึ้นก่อน ฮึก

"แดกๆเข้าไป ถ้าคายออกมากูถีบตกเตียง"

"ฮึก"
ผมรีบคว้าแก้วน้ำมาดื่มรวดเดียวจนหมด ปลายลิ้นขมปร่า อยากจะหาลูกอมกินใจจะขาด แล้วก็ได้ตามที่คิดไว้ มือหนาส่งลูกอมรสน้ำผึ้งมะนาวมาให้กัน จากที่ตอนแรกจะโกรธคนขี้บังคับตอนนี้ก็เลยทำได้แค่รับลูกอมมาแกะใส่ปาก

"นอนพักซะ ตื่นเมื่อไหร่ค่อยมาคุยธุระกัน"
ผมพยักหน้าแล้วรับสัมผัสอ่อนโยนของพี่จีบที่ส่งมือมาลูบหัวกันเบาๆ ความรู้สึกดีที่มีคนคอยดูแลอยู่ข้างๆมันดีแบบนี้นี่เอง ปกติแล้วเวลาผมป่วยที่บ้านไม่มาดูแลหรอก เขาจะบอกแค่ให้ผมหายากินแล้วนอนพักเท่านั้น ก็ผมเป็นผู้ชายนี่เนอะ

"คุยก่อนก็ได้"
เสียงแหบๆพูดออกไป พี่จีบมองผมด้วยสายตาอ่อนโยนแล้วส่ายหน้าเบาๆก่อนจะดันให้ผมลงนอนราบกับเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดจนถึงหน้าอกให้กัน

"นอนพักไปเหอะ กูรอได้ ถ้ามีอะไรโทรเรียกนะ กูไปช่วยไอ้ไลค์ละ"
ก่อนไปพี่จีบจัดแจงติดแผ่นเจลลดไข้ให้ผมแล้วก็เดินออกไปจากห้อง หลังจากนั้นดวงตาก็ทนฝืนพิษไข้ไม่ไหวก่อนจะปิดลงสู่ห้วงนิทรา



--------------------------------------------------



Q & A กับ น้องซารัง
Q : ตกใจไหมตอนที่พี่จีบสั่งให้เราพาคิสขึ้นไปชั้นสอง?
A : นิดหน่อยครับ เพราะปกติไอ้พี่จีบไม่เคยให้ใครขึ้นไปชั้นสองหรอก แม้กระทั่งเพื่อนสนิทตัวเอง เพราะไม่ชอบให้ใครเข้าไปในพี่ที่ส่วนตัว
Q : แล้วแบบนี้น้องซารังไม่คิดว่าพี่จีบแปลกๆเหรอ?
A : แปลกมากครับ... สงสัยว่าพี่ชายผมจะแปลงร่างแล้วหรือเปล่าน้า แต่พี่คิสเขาน่ารักดีนะครับ /ยิ้มเจ้าเล่ห์





ตอนที่ 4 มาแล้วน้า ใครรออยู่บ้างเอ่ย ~ ดูเจ้าน้องคิสสิป่วยจนได้ แถมพี่จีบยังมาดูแลอีก น่าอิจฉาเนอะ
พี่จีบนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ ไปขอเบอร์โทรศัพท์น้องจากภีมหน้าตาเฉย แถมยังแอดไลน์อีก นี่เขาเนียนหรือยังไงกันแน่หว่า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ติชมกันน้า ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านขนาดนี้ มีกำลังใจแต่งต่อเยอะเลย
ปล. อ่านให้สนุกน้า ตอนต่อไปจะรู้ว่าพี่จีบมีธุระอะไรกับน้องคิส ดูสิว่ามันสำคัญถึงขนาดต้องไปรับกันถึงหอไหม
ปล.2 พี่จีบชื่อจริงชื่ออัศวินนะ ส่วนพี่ไลค์ชื่อแม่ทัพ น้องซารังชื่อองครักษ์
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-07-2016 20:26:38
มีความละมุน ธุระของพี่เอาไว้ก่อนเนอะตอนนี้เป็นคุณหมอกับคนไข้ไปก่อนเนอะ
น้องคิสสึต้องอ้อนเยอะๆนะแล้วก็อย่าดื้อมากล่ะเดี๋ยวไม่หายสักทีต้องอยู่กับพี่จีบยาวนะ.  :katai3:   
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-07-2016 20:47:45
เนียนกว่ารองพื้นBB ก็พี่จีบเนี่ยแหละ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 18-07-2016 21:36:02
พี่จีบเนียนอ้ะ เนียนสุดๆ
ธุระอ่ะ รีบๆคุยสิเราก็อยากรู้แล้ว
555555
จะจีบน้องก็บอกตรงๆ
 :hao7
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 18-07-2016 21:38:48
 :hao7: มาเเย้ววววว ขอบคุณน๊าที่มาอัฟ นี้มาส่องทุก ชั่วโมง กลัวพี่จีบเเมร่งตีเนียนคิสน้อยหอยสังข์ของเลาาาา 55555 มโนๆๆๆ
เรื่องนี้มันดีต่อใจมากกกก มีความเรียล 55555
มีความเชื่อว่า กางเกงในคาลวินไคลน์ นี้จะเป็นของอีพี่จีบ เเล้วนางเนียนซื้อไซส์เล็กไว้ 5555(ปล่อยเลา เลาจะฟินจนถึงฝั่ง55555)
เสน่ห์ของนักเขียนคือ การมีวินัยในการอัฟนิยาย ที่ไม่ทิ้งคนอ่าน ขอบคุณนะ ที่เขียนเรื่องฟินๆมาให้อ่านแบบนี  :z2:
ไฟท์ติ้งงงง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 18-07-2016 22:35:19
พี่จีบก็เนียนเสมอต้นเสมอปลาย

แต่คนน้องนี่ก็ไม่ได้รู้เรื่องกับเขาเลยยยยยย ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-07-2016 23:36:21
อ่อยย!! ขอสักคนได้มะพี่น้องบ้านนี้ 5555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 19-07-2016 00:03:22
เนียนอะไรเบอร์นั้นล่ะพ่อคุณณณ :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-07-2016 00:06:42
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 19-07-2016 00:16:16
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 19-07-2016 02:31:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:ขอบคุณน่ามาอัพให้่อ่านทุกวีนๆๆๆๆ :L1: :L2: :impress2: :impress2:พี่จีบๆๆๆของน้องคิสๆๆๆรอๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-07-2016 06:44:49
เราว่าจีบคงไม่ได้มีธุระหรอกใช่ม่ะ อยากเจอหน้าน้องมันอ่ะซี๊~~~~!!! -.,-
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 04 : ดื่มครั้งที่ 4 -P.2- (18.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-07-2016 07:40:38
อั๊ยยยยยยย น่ารักอ่ะ น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 19-07-2016 11:48:52
- ดื่มครั้งที่ 5 -




- จีบ -


เสียงสายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายทำให้เสียงเพลงที่เปิดคลอภายในร้ายฟังไม่ได้ศัพท์ ควันสีขาวพวยพุ่งลอยวนอยู่ในอากาศกลิ่นหอมยั่วน้ำลายของกาแฟชั้นดีตลบอบอวลไปทั่วร้าน มันกลิ่นที่ผมคุ้นเคยและคลุกคลีอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด ครอบครัวของผมทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกกาแฟคุณภาพดี มีไร่กาแฟเป็นของตัวเองอยู่ทางภาคเหนือและทางภาคใต้ของประเทศ จังหวัดเชียงรายปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ส่วนจังหวัดชุมพรปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า

ผมเดินลงมาจากชั้นสองแล้วกลับมาใส่เสื้อกั๊กประจำตำแหน่งบาริสต้าอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่ชายที่กำลังขมักเขม้นกับการทำเอสเพรสโซ่สองชอตอยู่ ไลค์เหลือบตามองผมแว็บหนึ่งแล้วกลับไปสนใจกาแฟตรงหน้าต่อ น้ำร้อนจากเครื่องทำกาแฟค่อยๆไหลผ่านผงกาแฟเนียนละเอียดช้าๆ น้ำสีน้ำตาลเข้มของกาแฟไหลเอื่อยลงในแก้วเนื้อใสส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ รอไม่เกินหนึ่งนาทีก็ได้เอสเพรสโซ่แบบ Perfect Shot มาเชยชม

"น้องคิสเป็นไงบ้าง?"
มือเรียวของไลค์ยกแก้วบรรจุกาแฟขนาดหกสิบมิลลิลิตรวางลงบนจานรองก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่เค้าน์เตอร์บาร์แล้วส่งแก้วให้กับซารังไปเสิร์ฟลูกค้า

"กินยานอนไปแล้ว"
ผมตอบสั้นๆก่อนจะเข้ามายืนแทนที่ของไลค์แล้วลงมือทำออเดอร์ถัดไป ถ้าใครสงสัยว่าทำไมผมไม่เคยเรียกไลค์ว่าพี่และพูดคำหยาบใส่ ผมบอกได้เลยว่าไลค์เกิดห่างจากผมแค่ปีเดียว ไลค์เข้าเรียนไวส่วนผมเข้าเรียนช้าเลยทำให้ไลค์เรียนก่อนผมไปสองปี

"ดูมึงจะเป็นห่วงน้องมันจังนะ รีบวิ่งมาขอยาจากกูเชียว"
ไลค์หรี่ตามองผมอย่างมีเลศนัย ผมเหลือบตามองมันก่อนยักไหล่ไม่ใส่ใจ คนเขาเป็นไข้จะไม่ให้กูเป็นห่วงได้ยังไงวะไลค์มันเรื่องปกติ

"เรื่องของกู แล้วนี่มึงว่างนักหรือไงมายืนมองกูเนี่ย"
ผมยกกาแฟที่เสร็จเรียบร้อยไปตั้งบนเค้าน์เตอร์บาร์ก่อนจะพิงตัวเข้ากับส่วนโต๊ะแล้วมองหน้าไลค์ มันพยักหน้าเบาๆก่อนจะยิ้มกว้างให้กัน น่าหมั่นไส้ชะมัด

"แน่นอน กูเจ้าของร้านนะ"

"ไปไกลๆเลยไลค์ ถ้ามึงว่างมากนักก็ช่วยไอ้ซารังเสิร์ฟ"
ผมมองซารังที่ตอนนี้เดินขาแทบขวิด ถึงในร้านจะมีลูกจ้างอีกสามคนก็เถอะแต่วันฝนตกแบบนี้ลูกค้าเยอะจริงๆครับ

"นี่มึงอารมณ์เสียอะไรมา?"
มันถามผมด้วยแววตาสงสัยก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอก ผมถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองไปมา ก็ตอนที่ผมกลับเข้าร้านมาก่อนจะขึ้นไปหาคิสผมโดนลูกค้าผู้หญิงโต๊ะหนึ่งเรียกเข้าไปหา ตอนแรกก็คุยเล่นกันตามปกติแต่พอผมเผลอสาวเจ้าก็ยืดตัวขึ้นมาหอมแก้มผมซะอย่างนั้น ไอ้ผมก็เป็นคนเกลียดการสกินชิพมาแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย โดนแบบนี้เข้าไปเลยหงุดหงิดเป็นธรรมดา แต่เรื่องที่ชอบสกินชิพกับคิสนั่นข้อยกเว้นนะ แปลกใจตัวเองเหมือนกัน

"โดนลูกค้าหอมแก้ม"
ผมตอบเสียงสะบัดเล็กน้อยเพราะยังหงุดหงิดไม่หาย เหมือนตอนที่ผมเอายาไปให้คิสก็เผลอหงุดหงิดใส่มันไปด้วย อยากจะขอโทษอยู่หรอกแต่มันดื้อไม่ยอมกินยาก่อนเองช่วยไม่ได้

"ยังไม่ชินอีกหรือไง?"
ไอ้ไลค์ขำออกมาเบาๆหลังจากพูดจบ ผมถลึงตาใส่มัน ใครจะไปชินวะ โดนลูกค้าลวนลามขนาดนี้ อยากจะบอกว่านี่ร้านกาแฟนะครับไม่ใช่ผับ ผมเป็นบาริสต้านะครับไม่ใช่โฮสต์ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะที่บ้านสอนมาว่า ลูกค้าคือพระเจ้า ถ้ามันงี่เง่าก็กระทืบมันซะ... คำสอนบ้านผมดีใช่ไหมล่ะ ภูมิใจมาก

"ชินบ้านเตี่ยมึงดิ"
ผมแยกเขี้ยวใส่มันอีกครั้งด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหันไปรับใบออเดอร์ใหม่จากซารังแล้วเลิกสนใจไอ้ไลค์

"เตี่ยมึงกับเตี่ยกูก็คนเดียวกันอ่ะ บ้านหลังเดียวกันด้วย"
มันพูดจบแล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก ขนาดเสียงฝนกระหน่ำแบบนี้ เสียงหัวเราะของมันยังดังชัดเจน ผมหันขวับไปจ้องมันเขม็ง เล่นมุกเชี่ยอะไรเกรงใจกันบ้างเถอะ มันไม่ขำเว้ย

"ไปไกลๆเลยนะ ก่อนที่กูจะง้างตีนถีบมึง!"
ผมขยับเข้าไปทำท่าง้างเท้าจะถีบมันจริงๆ ไอ้ไลค์ทำหน้าเหวอแล้วรีบถอยหลังออกห่าง ผมจิ๊ปากใส่มันก่อนจะหันไปสตีมนมใน Picher ต่อ

"กูขึ้นไปดูน้องคิสดีกว่า ~"
ไอ้ไลค์หันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ผม นี่มันกำลังกวนตีนผมใช่ไหม จะไปยุ่งอะไรกับคิสอีกวะ ผมเทนมที่สตีมเสร็จแล้วลงในแก้วที่มีเอสเพรสโซ่นอนอ้อยอิ่งรออยู่ จากนั้นใช้ช้อนสแตนเลสตักฟองนมใส่ด้านบนเป็นขั้นตอนการทำล้าเต้ร้อนแบบง่ายๆ หลังจากที่ยกแก้ววางบนเค้าน์เตอร์เสร็จผมเลยเดินเข้าไปหาไอ้ไลค์ที่ยังยืนยิ้มกว้างอยู่

"มึงจะขึ้นไปกวนคิสทำไม?"
ผมกดเสียงต่ำแสดงให้ไลค์รู้ว่ากำลังไม่พอใจ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ไลค์ยักไหล่แล้วแบมือทั้งสองข้างประกอบว่าไม่สนใจสิ่งที่ผมพูดเลยสักนิด

"กูจะไปดูแลน้องไง คนไม่ว่างอย่างมึงจะทำอะไรได้"
ไม่พูดเปล่ายังจะยืนกระดิกเท้าอีก ผมชักคิ้วกระตุกแล้วนะ ไม่นานเท้าจะกระตุกไปเตะมันด้วย พี่ชายอะไรวะโคตรกวนส้นตีน นิสัยดีเหมือนผมไม่มีผิด

"ไม่ต้องเสือกไหม น้องกูกูดูแลเอง"

"โอ้ มึงมีน้องเพิ่มอีกคนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ถ้าน้องเป็นน้องมึงก็เป็นน้องกูด้วยนะจีบ ~"
พูดจบมันก็ทำหน้าทะเล้นใส่ ผมหมดความอกทนเลยหยิบซองน้ำตาลทรายแถวนั้นขว้างใส่มันอย่างเหลืออด วันนี้ไลค์จะอารมณ์ดีอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ปกติก็ไม่ได้กวนตีนหนักขนาดนี้

"โอ้ย ไอ้จีบขว้างมาทำไมวะ มึงนี่ดูหวงคิสเกินพี่น้องแล้วนะเว้ย"
ไอ้ไลค์บ่นกระปอดกระแปดแล้วหยิบซองน้ำตาลขึ้นมาถือไว้ก่อนจะโยนลงบนโต๊ะวางอุปกรณ์ด้วยสีหน้ายุ่งๆ ประโยคเมื่อสักครู่สะกิดใจผมเขาอย่างจัง นี่ผมหวงคิสอย่างนั้นเหรอ ใช่แน่เหรอครับ ผมจะเอาสิทธิ์อะไรไปหวงน้องมันวะ

"ไม่เสือกนะไลค์ มึงออกไปไกลๆก่อนที่กูจะถีบมึงจริงๆ"
ผมโบกมือไล่มันด้วยสีหน้าจริงจัง ไลค์หันมายิ้มกริ่มก่อนจะพูดประโยคถัดมาให้ผมเข้าไปถีบมันจังๆ

"ไปอยู่กับน้องคิสดีกว่า คนแถวนี้ใจร้าย"

"ไอ้สัดไลค์!"
แล้วผมก็ยันโครมมันเข้าให้ ไอ้ไลค์เบ้ปากก่อนจะใช้มือลูบบริเวณที่ผมถีบเอาก่อนจะใช้มืออีกข้างยกนิ้วกลางส่งให้กัน ผมแยกเขี้ยวใส่แล้วขยับตัวทำท่าจะถีบมันอีกรอบ ไลค์เลยรีบเดินหนีออกไปจากตรงนั้น ผมรู้สึกหงุดหงิดที่ใครต่อใครในครอบครัวผมดูจะสนใจคิสเป็นพิเศษ คือปล่อยให้ผมสนใจมันคนเดียวก็พอไหม อย่ายุ่ง

ผมยอมรับอย่างลูกผู้ชายอกสามศอกเลยว่าสนใจในตัวคิสตั้งแต่ครั้งแรกที่มันก้าวเข้ามาในร้าน กลุ่มเด็กมหา'ลัยสามคนแบกกระดานวาดรูปขนาดใหญ่พร้อมด้วยเสียงคุยเจื้อยแจ้วดังมาเป็นระยะ คิสดูเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง แต่ก็ดูขี้อายอยู่เหมือนกัน เขาจะคุยแล้วยิ้มหัวเราะไปกับพวกเพื่อนๆ และถ้าลองสังเกตมันดีๆดวงตากลมๆนั่นจะสอดส่ายสายตามาหยุดลงที่ผมเสมอ ครั้งแรกๆก็ไม่ค่อยมั่นใจหรอก แต่พอเวลาผ่านไปหลายวันผมก็มั่นใจว่าน้องมองผม ไอ้อาการหน้าแดงที่โดนผมมองกลับโคตรน่ารักเลยเถอะ

มันเนียนเข้ามาสั่งกาแฟที่ร้านทุกวัน สั่งลาเต้ร้อนบ้างเย็นบ้างแล้วแต่ความอยากดื่มของมัน แต่ทุกครั้งมันจะขอน้ำตาลเพิ่มอีกซองเสมอ ดูแล้วเป็นเด็กที่ไม่ชอบรสขมสักเท่าไหร่ ผมมีโอกาสได้แกล้งมันมาบ้างเล็กน้อยอย่างเช่น 'กินลาเต้ทุกวันไม่เบื่อหรือไง' 'เป็นสาวกลาเต้เหรอวะ' 'ไม่คิดจะเปลี่ยนรสชาติดูบ้างเหรอ' ถามวันละนิดล่ะหน่อย จนวันหนึ่งมันเดินตรงเข้ามาสั่งเอสเพรสโซ่นั่นล่ะ บทสนทนาจริงจังของเราสองคนก็เริ่มขึ้น

หลังจากวันนั้นผมก็เนียนใช้ความอัธยาศัยดีของตัวเองกับมัน ไม่รู้ว่าน้องจะรู้ตัวไหมว่าผมสนใจ แต่ดูเหมือนน้องมันจะไม่คิดอะไรมากผมเลยเนียนหลอกนั่นหลอกนี่เพื่อเจอมันเรื่อยๆ อย่างเรื่องรถบีเอ็มสีขาวปลอดของผม จริงๆมันซ่อมเสร็จตั้งแต่หลังจากวันที่ผมติดรถมอ'ไซต์ของมันเข้ามอวันแรก ครั้งต่อมาที่เนียนคือหลอกล่อมันมากินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารด้วยกัน และครั้งต่อๆมาผมก็เนียนให้มันมารับทุกวันที่มีเวลาเรียนตรงกัน และผมก็คงจะเนียนต่อๆไปจนกว่าจะแน่ใจความรู้สึกของตัวเอง ผมไม่ได้แคร์เรื่องเพศอะไรหรอกนะ ถ้าสนใจไปแล้วจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เกี่ยวหรอก ถ้าถามว่าผมกับคิสจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันไปไกลกว่านี้ไหม ก็คงตอบได้เพียงว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต

"พี่จีบ"
ผมหลุดจากความคิดของตัวเองก็ตอนโดนซารังเข้ามาเรียก น้องมายืนข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้ ตอนนี้ออเดอร์ลูกค้าหมดแล้วพวกเราก็เลยมีเวลาว่างคุยกัน

"ว่าไง เหนื่อยไหม?"
ผมหันไปมองน้องก่อนจะยกมือขึ้นขยี้เส้นผมสีดำสนิทเบาๆ เส้นผมของน้องเปียกชื้นเหงื่อทั้งๆที่อากาศหนาวขนาดนี้ ดวงตากลมใต้กรอบแว่นสีดำช้อนมองผมก่อนจะย่นจมูกใส่กัน

"เหนื่อยมาก ลูกค้าก็แม่งชอบลวนลามตลอด"
ซารังทิ้งตัวพิงสะโพกเข้ากับโต๊ะวางอุปกรณ์ด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง ผมผละมือออกก่อนจะยิ้มขำให้กับน้อง ซารังเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก ผิวขาว จมูกโด่งติดจะรั้นเล็กๆ ดวงตากลมโต ส่วนสูงไล่เลี่ยกับคิส เพราะเหตุนี้ทำให้ลูกค้าชอบลวนลามเด็กเสิร์ฟคนนี้ตลอด ส่วนผมก็โดนบ้างเป็นครั้งคราวเมื่อต้องไปช่วยซารังเสิร์ฟ

"บ่นเป็นหมีกินผึ้งนะมึง"
ผมว่าก่อนจะหยิบคุกกี้ยื่นไปตรงหน้าน้อง มันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะงับคุกกี้ของโปรดเข้าปากแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ย

"พี่ขึ้นไปดูอาการพี่คิสดิ "

"มึงขึ้นไปกับกู"

"หือ ทำไมอ่ะ?"

"เผื่อมันตัวร้อนขึ้นมาว่าที่หมออย่างมึงจะได้เช็ดตัวให้คนไข้ไง"

"เออๆ ก็ได้"
แล้วผมกับซารังก็พาตัวเองขึ้นชั้นสองไม่วายไล่ไอ้ไลค์ที่นั่งกินเค้กอยู่ด้านหลังให้ไปเฝ้าหน้าร้าน มันอิดออดจะขอตามขึ้นมาด้วยแต่ผมแยกเขี้ยวใส่ มันเลยเบะปากแล้วเดินคอตกออกไป

ซารังเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนก่อนจะใช้หลังมือแตะลงที่ซอกคอของคิส น้องขมวดคิ้วยุ่งแล้วหันมามองผมที่ยังยืนค้ำหัวมันอยู่

"ตัวร้อนจี๋เลยพี่"
ผมฟังมันพูดจบแล้วขยับตัวเข้าไปแตะซอกคอไอ้คิสดูบ้าง พบว่าตัวมันร้อนอย่างกับไฟ แบบนี้ต้องทำยังไงต่อวะ ต้องพาไปหาหมอเลยหรือเปล่า

"พาไปหาหมอเลยป่ะวะ?"
ผมถามน้องออกไปด้วยความสงสัย เกิดมายี่สิบปีไม่เคยดูแลคนป่วยสักครั้ง ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

"ไม่ๆ ลองเช็ดตัวดูก่อนแล้วกัน ถ้าไข้ไม่ลดค่อยพาไปหาหมอ"
ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเดินไปหากะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้ซารัง มันลงมือจุ่มผ้าลงไปในน้ำอุ่นๆก่อนจะผิดพอหมาดแล้วเช็ดลงตามตัวไอ้คิส ฝ่ายนั้นครางอือออกมา หัวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างนึกรำคาญ แต่ก็กลับไปสงบเมื่อรู้สึกสบายตัว เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งของไอ้ไลค์ที่ซารังใส่อยู่ถูกเปิดขึ้น หน้าท้องขาวแบนราบกำลังกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจเข้าออกของคนป่วย ช่วงเอวคอดจนไม่กล้านึกว่านี่จะเป็นหุ่นของผู้ชายจริงๆ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้น หุ่นของผู้ชายตรงหน้ากำลังทำให้ผมปั่นป่วน ยิ่งไปกว่านั้นตอนไอ้ซารังวางผ้าลงบนหน้าท้องผมเกิดอาการหวงไอ้คิสขึ้นมาซะอย่างนั้นจนต้องจับข้อมือน้องเอาไว้ ซารังหันมามองผมด้วยความงง

"เดี๋ยวกูทำต่อเอง มึงลงไปช่วยไลค์เฝ้าร้านเถอะ"
ผมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและไม่แสดงออกความรู้สึกทางสีหน้าใดๆ แต่จบประโยคนั้นสายตาเจ้าเล่ห์ของไอ้ซารังมองผมมาอย่างรู้ทัน ไอ้เด็กนี่มันฉลาดครับ รู้ทันผมไปหมดทุกเรื่องจริงๆ

"แหม หวงก็บอกมาเหอะพี่"

"หวงเชี่ยไร ลุกออกไปเลย"
ผมแสร้งทำหน้าตายแล้วดึงแขนน้องให้ลุกขึ้น มันก็ทำตามอย่างว่าง่ายแล้วยัดผ้าผืนเล็กใส่มือก่อนจะดันผมให้นั่งลงแทน

"เช็ดดีๆ ห้ามของขึ้นนะเว้ย"
ไอ้ซารังเตือนผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ปากบางยกยิ้มทะเล้นส่งมาให้กัน วินาทีนั้นผมขว้างผ้าในมือใส่มันโดยไม่ต้องพูดคำใดๆออกไป เป็นว่าที่หมอเชี่ยอะไรหื่นกามฉิบหาย ไม่อยากจะคิดถ้ามันพิเรนทร์เลือกเรียนสูตินารีเวชต่อตอนเรียนจบเลย

"ลามกจริงๆเลยมึง"
ผมบ่นก่อนจะหยิบผ้าที่ไอ้ซารังรับได้กลับมา มันย่นจมูกใส่ผมก่อนจะบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ก็พี่จีบนั่นล่ะชอบเก็บแผ่นหนีงเอวีไว้ที่นี่ ผมมานอนเฝ้าร้านว่างๆเลยเปิดดูไงวะ"

"ได้ข่าวว่าหนังเอวีกูมีแต่ชายหญิงนะ"
ผมหรี่ตามองมันอย่างจับผิด น้องผมมันแปลงร่างไปนานแล้วครับ เป็นเกย์อย่างเต็มรูปแบบแถมเป็นฝ่ายรับซะด้วย พ่อแม่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เขาบอกแค่ว่าพ่อแม่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องลูกจะเป็นเพศอะไรหรือชอบใคร เขารับได้ ขอแค่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอใจแล้ว

"ก็... ไม่พูดกับพี่จีบแล้วว่ะแม่ง เชิญรับบทคุณหมอดูแลคนป่วยไปเลย!"
พูดจบมันก็กระแทกส้นเท้าตึงๆออกจากห้องไป ได้ยินเสียงไอ้ไลค์บ่นขึ้นมาว่า มึงจะกระทืบเท้าให้ร้านเป็นรอยร้าวเลยหรือยังไงถึงจะพอใจ ผมได้แต่หลุดขำพรืดออกมาเบาๆแล้วหันกลับไปสนใจคนป่วยต่อ

"เอาวะ มึงโชคดีมากเลยนะไอ้คิส กูไม่เคยทำแบบนี้ให้กับใครเลยนะ"
ผมวางแปะผ้าลงบนหน้าท้องมันก่อนจะเคลื่อนมือช้าๆไปตามผิวขาว อาการกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากกลับมาอีกครั้งเมื่อมือของผมเลื่อนสูงขึ้นถึงบริเวณหน้าอกบ้าง ยอดอกสีชมพูของไอ้คิสดึงดูดความสนใจของผมเข้าให้แล้ว ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้จนต้องเบนสายตาหลบภาพตรงหน้าแล้วดึงเสื้อของมันลง เลิกครับ เลิกเช็ดแม่งแล้ว ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะยกกะละมังไปเทน้ำทิ้งแล้วซักผ้าขนหนูตากไว้

"อือ"
เสียงครางเบาๆหลุดออกมาจากลำคอของคนป่วย ผมที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำรีบสาวเท้าเข้าไปดูอาการคิสทันที มันเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆอย่างยากลำบาก ใบหน้าแดงก่ำเพราะพิษไข้ดูแล้วน่าสงสารมาก

"เป็นไงบ้างวะ?"
ผมนั่งลงที่ว่างข้างๆมัน แล้วจ้องมองใบหน้าน่ารักที่ดูอ่อนแรงเต็มทน ดวงตากลมช่ำน้ำมองมาที่ผมอย่างออดอ้อนจนเผลอใจสั่น คนป่วยไม่จำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้ก็ได้มั้งครับ

"ปวด..หัว"
เสียงแหบแห้งดังออกมา ตากลมปรือปรอยพร้อมจะหลับลงอีกครั้ง ผมส่งมือหนาไปลูบหัวมันเบาๆอย่างอ่อนโยน ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันว่ะ ไม่รู้ต้องพูดปลอบแบบไหน

"นอนพักไปเดี๋ยวก็หาย"

"อือ"
คิสครางรับก่อนจะขยับตัวเข้ามาซุกใกล้ๆกับต้นขาของผม ลมหายใจที่เป่ารดลงเข้ามามันร้อนผ่าวจนทำให้ผมคิดถึงไอน้ำที่พวยพุ่งออกจากเครื่องทำกาแฟ ถึงอุณหภูมิจะต่างกันเยอะก็เถอะ ผมเบิกตากว้างขึ้นเพราะคิดอะไรบางอย่างออก เขาว่ากันว่าคนป่วยมักจะชอบอ้อนคนอื่น ผมอยากรู้ว่าทฤษฎีนี้จริงหรือเปล่า ใช้ไอ้คิสเป็นตัวทดลองคงไม่ผิดหรอกมั้ง

"คิส"
ผมก้มหน้าลงมองคนที่ยังปรือตามองกันอยู่ ถ้ามันจะลำบากขนาดนั้นทำไมมึงไม่หลับตาวะเนี่ย

"คะ ครับ"
หัวใจผมนี่หล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้วตอนน้องตอบกลับมาด้วยเสียงขาดห้วงขนาดนั้น ผมควรอุ้มมันใส่รถแล้วพาไปโรงพยาบาลไหม ใจคอไม่ดีเลยว่ะ

"มึงอยากอ้อนกูป่ะ?"
มันเบิกตากว้างขึ้นคงเพราะตกใจคำถามของผมก่อนจะกลับไปทำหน้าซึมๆเหมือนเดิม ผมเลื่อนมือไปลูบแก้มมันเบาๆดวงตากลบเลยช้อนขึ้นมองผมอีกครั้ง

"อ้อนได้เหรอ?"

"เออ จะอ้อนก็อ้อน กูอนุญาต"
ผมบอกน้องก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่นเมื่อโดนดวงตากลมช่ำน้ำมองมาด้วยแววตาดีใจแฝงความออดอ้อนเอาไว้ แอบหวั่นใจเล็กๆว่าคิสจะกลัวผมที่แสดงออกมาขนาดนี้ แต่ถ้าสังเกตดีๆแล้วน้องคงไม่คิดว่าผมจะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ ถ้าน้องคิดแบบนี้ได้ก็ดีผมจะได้มีโอกาสใกล้ชิดน้องมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่พอถึงจุดๆหนึ่งที่ผมมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง ผมก็อยากให้มันคิดได้บ้าง

"อื่อ"
เสียงทุ้มของน้องครางในลำคอก่อนจะสัมผัสได้ถึงหัวทุยๆขยับขึ้นมานอนบนตักผม มันเอาแก้มนุ่มนิ่มแนบลงกับต้นขาผมก่อนจะออกแรงถูเบาๆ ยอมรับว่าจั๊กจี้แต่หัวใจกลับรู้สึกคันยุบยิบ ในช่วงชีวิตที่ผ่านไม่เคยมองผู้ชายด้วยกันว่าน่ารัก ก็จะมีแต่ไอ้คิสนี่ล่ะที่ทำให้ผมคิดแบบนั้น

"ผมอ้อนเยอะไปก็อย่าถีบผมนะ"

"เป็นเด็กคิดมากตั้งแต่เมื่อไหร่วะ กูอนุญาตเองกูจะถีบมึงทำไม"
ผมดีดหน้าผากมันไปเบาๆด้วยความเอ็นดู ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าใสของคนป่วยไม่วางตา เด็กน้อยขี้อ้อนหลับตาลงอย่างวางใจก่อนปากซีดจะคลี่ยิ้มออกบางๆ ไม่นานนักลมหายใจเข้าออกของคิสก็สม่ำเสมอแสดงให้เห็นว่าน้องจมดิ่งสู่นิทราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ความเหนื่อยล้าบวกกับที่โดนละอองฝนทำให้ความอ่อนเพลียเข้าโจมตีผมช้าๆ ไม่นานนักดวงตาของคนเฝ้าไข้อย่างผมก็ปิดลง รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ใครบางคนเอานิ้วมาจิ้มแก้มกัน

"ตื่นแล้วเหรอ?"
เสียงแหบๆถามกลับมาพร้อมกับที่ผมกำลังกระพริบตาเพื่อปรับโฟกัสให้ชัดขึ้น ใบหน้าของคิสอยู่ห่างจากผมแค่ไม่ถึงคืบ นี่น้องจะรู้ตัวไหมว่าระยะแค่นี้มันอันตราย แต่ผมก็ต้องพับความคิดเก็บไว้เมื่อคนตรงหน้าถอยหลังออกไปเพราะคิดขึ้นได้ว่าอยู่ใกล้กันมากไป

"อืม ตื่นนานหรือยัง?"
ผมขยับตัวออกจากหัวเตียงแล้วบิดตัวเบาๆเพื่อคลายความเมื่อยขบ ต้นขาข้างซ้ายชาหนึบรู้สึกเหมือนมีมดทั้งรังรุมไต่คงเป็นผลพวงจากการใช้ขาเป็นหมอนให้คิส

"ก่อนหน้าพี่จีบแป็ปเดียวครับ"
คิสฝืนยิ้มให้กันทั้งๆที่หน้ามันยังซีดอยู่ แต่อาการของมันน่าจะดีขึ้นแล้วเพราะสามารถนั่งทรงตัวอยู่ได้

"....."
ผมเงียบแต่เอื้อมมือไปแตะหน้าผากมัน ความอุ่นทำให้รู้ว่าไข้ลดลงไปแล้วไม่ตัวร้อนจี๋เหมือนเมื่อหลายชั่วโมงก่อน คิสดูจะตกใจกับการกระทำของผมจนน้องนิ่งค้างไป ผมยิ้มให้กับท่าทางนั้น ยิ่งมองยิ่งน่ารักน่าแกล้งว่ะ

"ไข้ลดแล้วนี่ หิวไหม?"
ผมเหลือบมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้องแล้วตกใจนิดหน่อย ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว ด้านล่างคงเตรียมปิดร้านเรียบร้อย คิสที่เหมือนดึงสติกลับมาได้พยักหน้าเบาๆก่อนจะลูบท้องตัวเองไปมาแล้วยิ้มแห้งส่งมาให้

"หิวแล้ว เมื่อเที่ยงก็ยังไม่ได้กินอะไร"
เสียงอ่อยๆดังขึ้นผมให้ผมคิ้วกระตุก แล้วทำไมต้อนขึ้นรถมาไม่บอกกันสักคำวะว่ายังไม่ได้กินข้าว แบบนี้มันน่าจับลงโทษให้เข็ดเถอะครับ

"ทำไมไม่บอกวะว่ายังไม่ได้กินอะไร มึงนี่นะ.." ทำให้กูเป็นห่วงอยู่เรื่อย ผมอยากจะพูดต่อแต่เก็บไว้ดีกว่า ผมส่งมือหนาไปผลักหัวมันเบาๆอย่างหมั่นไส้ก่อนจะได้รับสีหน้ายุ่งเหยิงพร้อมกับเสียงจิ๊ปากเบาๆกลับมา

"กลัวพี่จีบรำคาญนี่หว่า"
มันก้มหน้ามองมือตัวเองที่ตั้งอยู่บนตัก ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่าผมจะไปรำคาญอะไรมันได้ก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของมันเอาไว้แล้วบีบลงเบาๆบังคับให้มันเงยหน้าขึ้นมามองกัน

"ไม่นึกว่ามึงจะเป็นเด็กคิดมากนะไอ้คิส"

"ไม่รู้ดิ แต่ก่อนก็ไม่เคยคิดอ่ะ ตั้งแต่รู้จักกับพี่จีบผมก็กลายเป็นคนคิดมากไปเลย"
มันว่าเสียงหงอยๆก่อนจะหลุบตาลงต่ำ แก้มขาวๆขึ้นสีชมพูระเรื่อ ความคิดในหัวกำลังตีกันว่าจะแกล้งต่อให้มันเขินหรือดีใจดีวะ สับสนฉิบหาย

"รู้จักกับกูนี่เป็นเรื่องดีหรือแย่วะคิส?"
ผมถามมันออกไปก่อนจะผละมือออกจากตัวมันแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่ก่อนจะได้ทำอะไรต่อประตูห้องก็เปิดออกพร้อมร่างของซารังเดินเข้ามา เสื้อเชิ้ตสีขาวของน้องเปียกเหงื่อชุ่มจนแนบสนิทไปกับผิวเนื้อ เส้นผมสีดำเปียกลู่ เห็นแล้วก็อยากจะชอโทษที่ปล่อยให้ยุ่งวุ่นวายกันขนาดนี้โดยไม่ได้ลงไปช่วย

"พี่ไลค์ให้ขึ้นมาถามว่าพี่จะกลับบ้านหรือนอนที่ร้าน"
ซารังเอี้ยวตัวไปมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วส่งยิ้มให้ ฝ่ายนั้นก็ยิ้มกลับมาให้เหมือนกัน อย่ามาส่งยิ้มหวานข้ามหัวกันนักสิวะ กูยืนอยู่ตรงกลางนะเว้ย นี่สูงจนจะถึงขอบประตูอยู่แล้วยังจะมองข้ามกันอีก

"นอนนี่ มึงรีบกลับไปเลยไป"
ผมตีหน้ายักษ์ใส่มันแต่ซารังไม่ได้กลัวเลยด้วยซ้ำ ใบหน้าหวานของมันยกยิ้มมุมปากส่งความเจ้าเล่ห์มาให้กันเต็มที่ อย่ามารู้ทันกูไอ้องครักษ์

"ผมไปส่งพี่คิสให้เปล่า?"
มันยักคิ้วกวนๆมาให้ก่อนจะเอี้ยวตัวไปส่งยิ้มพิมพ์ใจให้คนด้านหลังผมอีกครั้ง ไอ้นี่นิ มึงจะมากไปแล้วนะ มาทำสายตาเจ้าชู้ใส่ไอ้เด็กซื่อบื่อได้ยังไง ยิ่งโง่ๆตามใครไม่ทันอยู่ด้วย

"เสือกละไอ้องครักษ์ กลับบ้านไปไป๊ ไอ้แม่ทัพรอเหนียงยานแล้วมึง"
ผมผลักหัวมันไปหนึ่งที ไอ้ซารังเลยเบ้ปากใส่ก่อนจะเดินสะบัดตูดออกไปเงียบๆ แว่วเสียงไอ้แม่ทัพตะโกนเรียกซารังจากชั้นล่าง ไอ้ตีวดีก็ยิ่งกระทืบเท้าตึงๆแกล้งพี่ใหญ่มันให้ด่าอีกระลอก เอาจริงๆโคตรเพลียใจกับความเป็นพี่ใหญ่และน้องเล็กของมันสองคนจริงๆ

"พี่จีบ"
เสียงเบาหวิวดังมาจากด้านหลัง ผมหันหน้าไปมองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม น้องอ้ำอึ้งอยู่สักพักก่อนจะช้อนตามองกันแล้วตั้งคำถาม

"มีธุระอะไรกับผมเหรอ?"
ผมเอ๋อไปชั่วขณะตอนที่มันถามว่าผมมีธุระอะไรกับมัน.. หาคำตอบไม่ทันเลยครับ เพราะจริงๆแล้วแค่อยากให้มันมานั่งเล่นที่ร้านเฉยๆ ขาดมันไปแล้วร้านดูขาดสีสันแปลกๆ แต่แล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็นแบบร่างแผ่นเมนูสำหรับลูกค้าอันใหม่ที่ยังไม่เสร็จดีเลยเกิดปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ผมสาวเท้าเข้าไปที่โต๊ะทำงานก่อนจะหยิบกระดาษเอสี่ส่งให้มัน คิสรับไปดูแล้วมองหน้าผมอย่างมีคำถาม

"อะไรครับ?"
คิสพลิกกระดาษในมือไปมาแล้วไล่สายตามองไปตามชื่อเมนูต่างๆบนกระดาษ ผมลอบยิ้มกับความสนใจของคนตรงหน้าแล้วดึงเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานออกมานั่งไขว่ห้างมอง

"จะให้ช่วยออกแบบเมนูให้หน่อย"
ผมตีสีหน้าราบเรียบตอนที่น้องเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ดวงตากลมฉายแววฉงนก่อนปากซีดๆจะบ่นมุบมิบอยู่คนเดียวและยอมส่งเสียงออกมาในที่สุด

"ไม่เอาอ่ะ กลัวทำไม่ถูกใจ"
มันส่ายหน้ารัวเร็วพร้อมกับตั้งกระดาษร่างของผมไว้ข้างตัว ผมหัวเราะออกมากับท่าทางไม่มั่นใจในตัวเองของมัน ใช่ว่าผมจะโมเมหาธุระให้มันทำแบบลวกๆสักหน่อย ไอ้ภีมมันเคยเอางานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ของคิสมาให้ผมดูอยู่เหมือนกัน สวยใช้ได้เลย

"หัวเราะอะไรอ่ะพี่จีบ"
คนตรงหน้าหยุดส่ายหัวแล้วเอียงคอมองผมก่อนจะกระพริบตาปริบๆ ผมมองใบหน้าของมันก่อนจะยกยิ้มมุมปาก.. อยากจะบอกมันให้เลิกทำตัวน่ารักแบบนี้สักที นี่ไม่ได้ดูสภาพของตัวเองเลยหรือยังไงว่าเหมือนนางเอกหนังเอวีขนาดไหน ทั้งชุดที่ใส่ หุ่น ยกเว้นหน้าตาที่ยังมีความเป็นผู้ชายผสมรวมอยู่ในความน่ารัก

"มึงออกแบบมาก่อนเถอะน่า ถ้ากูไม่ชอบกูก็บอกให้มึงแก้เอง"
ดูเหมือนคำพูดของผมจะกำกวมเกินไปถึงได้ทำให้แก้มทั้งสองข้างของไอ้คิสแดงเถือกแบบนั้น คือแก้งานครับไม่ใช่แก้ผ้า ไอ้เด็กนี่คิดลึกแน่ๆ

"อื้อ กะ ก็ได้ แล้วเดตไลน์วันไหน?"
มันตอบเสียงอ้อมแอ้มและขยับมือลูบท้องตัวเองไปมา ผมว่าผมชวนมันคุยเพลินนะคงต้องพามันไปหาอะไรก่อนจะไปส่งที่หอแล้วล่ะนะ

"ให้เวลาสองอาทิตย์ พอไหม?"

"โอเคครับผม!"
มันรับคำแล้วยิ้มร่าก่อนจะไอออกมาเบาๆจนผมเผลอตัวเข้าไปลูบหลังมันซะอย่างนั้น จะห่วงอะไรมันมากมายวะกู ก็ผู้ชายเหมือนๆกันนะ ตอนไอ้ซารังป่วยไม่เห็นตัวเองจะกระตือรือร้นดูแลมันเลย ทีกับไอ้คิสนี่ทำตัวเป็นคุณหมอขึ้นมาเชียว

"ไหวป่ะวะ?"

"ไหวๆ ไปกินข้าว หิวแล้ว ~"

"เออๆ ไปก็ไป"



---------------------------------------------


Q & A กับ น้องคิส
Q : ตอนพี่จีบอนุญาตให้เราอ้อนได้รู้สึกยังไงบ้าง?
A : /ยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเองทั้งสองข้าง เอ่อ..ก็ดีครับ แต่เขินมากกว่า -//-
Q : แบบนี้มีแอบหวั่นไหวกับพี่จีบบ้างหรือเปล่าน้า?
A : หวั่นไหวอะไรกัน! นั่นมายไอดอลผมนะ /หน้าแดงเถือกลามไปถึงหู





ตอนที่ 5 มาแล้วน้า ช่วงนี้เราคึกไปหน่อย 5555555 แต่หลังจากหยุดยาวแล้วคงไม่ได้อัพบ่อยนะ
เพราะต้องกับไปยุ่งกับงานแล้ว ฮือๆ ตอนนี้เป็นพาร์ทพี่จีบเนอะ เราก็ได้ล้วงความลับคุณอัศวินกันแล้ว
พี่เขาไม่มีอะไรมากหรอกนอกจากหาวิธีเนียนให้ได้เจอกับน้องคิส ธุระอะไรไม่เคยมีจริงๆหรอก

ปล. วันนี้เอาแฟนอาร์ตกากๆของพี่จีบมาฝากด้วย เราวาดเองล่ะฝีมือโคตรจะห่วยเลย 55555

(http://i.imgur.com/OqD7nr5.png)

ใครหาว่าผมอ่อย? จะจับจูบเรียงคนเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-07-2016 12:00:19
น้องคิสตะหากที่อ่อย. อิอิ. ทั้งอ้อนทั้งอ่อยรัวๆ
พี่จีบจงหมดความอดทนในเร็ววัน.  :mew1:   ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 19-07-2016 12:06:39
คนป่วยจำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้ไหมอะงือออ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 19-07-2016 12:20:44
พี่จีบขี้หวงเวอร์
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-07-2016 12:26:38
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-07-2016 12:27:50
หุๆๆๆๆ น่าจะนอนด้วยกันซะเลยนะพี่จีบ :haun5: :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 19-07-2016 12:30:22
น้องอ้อนน่ารัก
 :mew1:

หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-07-2016 12:30:56
ตอนนี้พี่จีบเป็น My Idol
อีกไม่นานจะกลายเป็น My Husband
โอเคไหมคิส :m1: :m1: :m1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 19-07-2016 13:13:55
พี่จีบๆๆๆๆๆกำลังสนุกๆๆ :pig4: :pig4: :L1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 19-07-2016 13:24:11
โอย น้องคิสอ้อนน่ารัก  :-[
อยากลักพาตัวกลับบ้านจัง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 19-07-2016 14:00:43
 o13 กลับจากพักเที่ยงเข้าออฟฟิศ โอ้ววว มาอัฟเเล้ว ( ดีมากกก )  :katai4:
น้องคิส คิดกับพี่จีบคือ My idol (แต่จะหนักไปทางอาการปลื้มผู้ชายเหมือนผู้หญิงอ่ะเป่า)

อ้อนไปเหอะ คิสเอ้ยยย พี่จีบปลื้ม พี่จีบหวั่นไหว อ้อนหนักๆไปเลอออออ กร๊ากกๆๆๆ

อยากให้มีฉากพี่จีบ ลืมตัว จูจุ๊บน้องแบบเน๊ 55555555555555

(http://www.mx7.com/t/b55/JojV1B.gif) (http://www.mx7.com/view2/z6OKauivrGyj8mmO)
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-07-2016 18:38:35
น้องคิสตอนไม่สบายตัลล๊าคคคคคคคคค >\\\\\<
พี่จีบนี่ถึงกับหลงไปกันใหญ่ 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 19-07-2016 20:54:02
น่ารักกก ไหนคิสคนแมน เห็นแต่คิสคนขี้อ้อน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 19-07-2016 21:25:55
นั่นสิ คนป่วยจำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้ไหม? ฮาาาา

แต่ตอนน้องจีบเขินน่ารัก น่าแกล้งจริงๆด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-07-2016 22:55:20
น้องป่วยก็ต้องดูแลน้อง ให้น้องอ้อน
แบบนี้นะถูกแล้วนะพี่จีบ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 20-07-2016 00:42:11
อ้อนเข้าไปอีกน้องคิส
อนากเห็นคนตบะแตก  :hao4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-07-2016 02:14:02
โอ๊ยยยยยย ... น่ารักอ่ะ อ้อนเยอะๆ เลยน้องคิส พี่จีบคงชอบ ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 20-07-2016 03:43:25
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 21-07-2016 07:37:17
 :t3: พี่จีบ กลับมาสักที
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 21-07-2016 09:20:40
ีเรารออ่านต่ออยู่  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 21-07-2016 15:01:16
- ดื่มครั้งที่ 6 -




แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตา ผมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงอย่างหงุดหงิดเพราะเพิ่งได้นอนไปเมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงสอบกลางภาคที่คณะอื่นต้องมุ่งมั่นอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายแต่คณะและสาขาของผมต้องลงมือปฏิบัติผลงานกันเป็นส่วนมาก เมื่อคืนผมถ่างตาปั้นโมเดลหุ่น 3D จนออกมาเป็นรูปร่างที่ต้องการได้สำเร็จ อาจจะมีบางส่วนที่ดูไม่สมดุลแต่ถือว่างานอยู่ในระดับที่ผมพอใจแล้ว ส่วนคนอื่นจะว่ายังไงก็ช่าง

ผมโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มในอีกสิบนาทีถัดมาอย่างเกียจคร้าน ดวงตากลมปรือขึ้นอย่างยากลำบาก สองแขนยืดขึ้นจนสุดเพื่อไล่ความเมื่อยขบออกจากตัวหมุนตัวบิดทางซ้ายทีทางขวาทีจนพอใจแล้วกระเด้งตัวขึ้นนั่ง เส้นผมชี้ฟูยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบยิ่งทำให้หน้าตาของผมดูขี้เหร่ขึ้นอีกเท่าตัว

"หาว ~"
ผมนั่งหาวหวอดก่อนจะขยี้หัวตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวถูกนำมาพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่ก่อนจะพาตัวเองมายืนงงอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า สมองกำลังประมวลผลอย่างหนักว่าทำไมไม่มีเสื้อนักศึกษาที่รีดแล้วเหลือสักตัวจนสายตาเหลือบไปเจอกองเสื้อผ้าที่ปลายเตียง อ๋อ.. ยังไม่ได้สัก เชี่ยแล้วไงครับพี่น้อง ไอ้คิสคนนี้ยังไม่ได้ซักเสื้อนักศึกษาสักตัวแล้วจะเอาอะไรไปใส่วะกู จะให้รื้อจากกองเสื้อผ้ามาใส่ก็ทนรับกลิ่นไม่ไหว อยากจะลาตายตรงนี้ มีพรีเซนต์ไอ้หุ่นก๊องแก๊ง 3D นั่นด้วยสิ

"ตายแน่ๆกู"
ขยี้หัวตัวเองจนพอใส่ก่อนจะเดินไปรื้อกองเสื้อผ้าใช่แล้วอย่างช่วยไม่ได้ ยกเสื้อแต่ละตัวขึ้นมาดมพิสูจน์กลิ่นจนได้ตัวที่หอมที่สุดมาใส่ ถึงแม้มันจะยับไปหน่อยก็ยังดีกว่าไม่มีใส่ล่ะวะ เสือกมีพรีฯเช้าอีก ฮ่วย

ผมรีบเร่งแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบทุกอย่างที่จำเป็นใส่กระเป๋าก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกจากห้องโดยที่ไม่ลืมล็อกประตู ลานจอดรถของหอพักอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ผมพาตัวเองมาหา Honda MSX ลูกรักก่อนจะพามันทะยานสู่ร้านกาแฟที่ไม่ได้มาเหยียบเกือบอาทิตย์เพราะมัวแต่ปั่นงานมิดเทอม

ผมจอดรถที่หน้าร้านพร้อมกับสำรวจหน้าตาและเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปผลักประตูร้าน เสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งดังกังวานบอกให้คนด้านในรู้ว่ามีผู้มาเยือน บุคคลที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์หันมาแล้วส่งยิ้มกวนๆให้กันเป็นการทักทาย

"ทำไมเสื้อยับขนาดนั้นวะ?"
คำทักทายแรกจากพี่จีบทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน ผมปั้นหน้ายิ้มอย่างยากลำบากเมื่อนึกถึงความว่าเสื้อยังไม่ได้ผ่านการซักรีด ผมไม่ได้เข้าไปใกล้เค้าน์เตอร์บาร์เพราะกลัวเขาได้กลิ่นไม่พึงประสงค์

"แหะๆ"
ผมทำได้แค่หัวเราะแล้วยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ จะให้ตอบจริงๆเหรอวะ โดนพี่จีบถีบกระเด็นออกจากร้านแน่ๆถ้ารู้ว่ามีน้องชายโคตรซกมกอย่างผม

"แหะอะไรของมึง กูถามก็ตอบดิ"
พี่จีบจ้องมองมาที่เสื้อผมอย่างไม่ปิดบัง คุยกันก็มองหน้าดิวะมองนมกันทำไม.. เหมือนจะผิดประเด็น

"ลืมซักเสื้อนักศึกษาอ่ะ เลยรื้อของเก่ามาใส่"
ผมอายจนไม่กล้าสบตากับพี่จีบ ไม่นานนักเสียงหัวเราะก็ดังลั่นร้าน เขาหัวเราะจนต้องเอามือกุมท้องตัวเอง มันตลกนักหรือยังไงวะ คนไม่ได้ซักเสื้อผ้าเนี่ย โอ้ย อยากจะกระโดดถีบขาคู่แม่ง

"มึงแม่งซกมกได้อีก"
ว่ากันไม่พอยังหัวเราะต่อจนหน้าดำหน้าแดง ผมค้อนขวับใส่วงใหญ่ถึงจะยอมกลั้นขำแล้วกวักมือเรียกให้เข้าไปหา ผมส่ายหน้าพรืดเพราะไม่อยากให้พี่จีบสูดรับกลิ่นเสื้อเน่าของผมเข้าไป

"มานี่"
พี่จีบยังเพียรพยายามกวักมือเรียกคนที่ยืนว่ายหน้าคอแทบหลุดอย่างผมอยู่ อยากถามว่าพี่อยากสูดกลิ่นเสื้อเน่าผมนักหรือยังไงกัน

"ไม่เอา เดี๋ยวพี่ได้กลิ่นเสื้อผม"

"เชี่ย มีกลิ่นด้วย มึงกล้าใส่ออกมาได้ยังไงเนี่ย"
พี่จีบทำหน้ายี้ใส่กันก่อนจะโอเวอร์แอคติ้งโดยการใช้นิ้วบีบจมูกตัวเอง ผมเบะปากจนเป็นเส้นโค้งใส่มัน น่าโมโหไหมล่ะ กวนตีนไม่พอยังปากหมาอีก

"ก็มันไม่มีใส่อ่ะ มีพรีฯงานเช้าด้วย"
ผมว่าเสียงหงอยๆ ถ้าหากเป็นหมาคงมีอาการหูลู่หางตกไปแล้ว พี่จีบเลิกทำท่ารังเกียจกันก่อนจะเดินอ้อมออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์ เขาสาวเท้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆแต่ผมกลับก้าวถอยหลังหนี ไม่อยากให้พี่จีบเข้ามาใกล้ กลัวจะตายเพราะรับกลิ่นเน่าจากผม

"จะเดินหนีกูทำไมเนี่ย"
พี่จีบเอื้อมมือมาดึงคอเสื้อด้านหลังกันจนผมแทบหงายหลัง แต่ดีหน่อยที่พี่จีบเข้ามารับไว้ทันแถมยังเปลี่ยนมาเป็นกอดคอกันด้วย ผมรับรู้ถึงระยะที่ใกล้กันเกินไปก่อนจะรีบดิ้นหนี แต่ก็โดนสายตาดุๆของพี่จีบมองมาจนต้องยื่นอยู่นิ่งๆ ไม่รู้ว่าพี่มันเข้าใจความอายของผมบางไหม เห็นแบบบ้าบอแบบนี้มียางอายเยอะนะเว้ยบอกเลย

"ปล่อยเหอะ เสื้อผมเหม็น"

"ไม่เชื่อ ต้องให้กูดมดูก่อน"
ผมกำลังจะอ้าปากถามว่าพี่จะดมอะไร แต่ก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อมันโน้มตัวลงมาดมบนปกเสื้อของผมสูดกลิ่นเสื้อเข้าไปจนมีเต็มปอด แต่นั่นมันยังน้อยไปเมื่อเทียบกับปลายจมูกของมันที่แตะอยู่บนซอกคอผม อ๊ากกกก ฉิบหาย บรรลัยแล้วชีวิตกู โดนผู้ชายไซร้ซอกคอ

"เออว่ะ เหม็นจริงด้วย"
พี่จีบผละตัวออกไปก่อนจะบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง แต่แววตาที่มองมานั่นดูเจ้าเล่ห์ที่สุดในสามโลก ผมไม่รู้ว่านั่นเป็นแค่เหตุบังเอิญหรือเป็นความตั้งใจกันแน่ แต่ที่รู้ๆในตอนนี้เลยคือหน้าผมต้องแดงมากเพราะรู้สึกร้อนจนหน้าแทบระเบิด

"บะ บอกแล้วไงว่าเหม็นยังจะดมอีก"
ผมพยายามแล้ว พยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุดแต่ไม่สามารถทำได้ หัวใจเต้นรัวเหมือนไปวิ่งแข่งมา รู้สึกเหนื่อยจนแทบจะกลายร่างเป็นขอมดำดินมุดหนีซะเดี๋ยวนี้เลย

"เสื้อเหม็นแต่ตัวมึงหอม"
พี่จีบพูดก่อนจะยักคิ้วให้กัน มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอบยิ้มที่มองยังไงๆมันก็เจ้าเล่ห์จนน่ากลัว และผมในตอนนี้ก็ตายลงกับคำพูดพี่จีบโดยสมบูรณ์แล้ว เชี่ยเอ้ยยย อะไรมาบอกว่ากูตัวหอมวะ เกลียด เกลียดดดดดด ทำไมต้องทำให้หวั่นไหวว่ะ เป็นมายไอดอลควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนตาดำๆไม่ใช่เหรอ

"พูดอะไรของพี่วะ"
เป็นการแก้ความเขินที่ห่วยแตกที่สุดในชีวิตด้วยการตั้งคำถามโง่ๆออกไป มือไม้เริ่มไม่มีที่วาง ตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะแวะเอาเมนูกาแฟที่พี่จีบฝากออกแบบมาให้ดู แต่ตอนนี้หาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้ายังไม่ได้เลย แย่แน่ๆ

"ให้กูดมพิสูจน์อีกทีป่ะ?"
ไม่ว่าเปล่าแถมยังสาวเท้าเข้ามาใกล้กันจนผมผงะถอยหลังไปตั้งตัวซะหลายก้าว แต่ดูเหมือนพี่จีบจะชะงักใครเมื่อสายตาไปเจอเข้ากับซารังที่เดินออกจากมุมเค้าน์เตอร์อีกฝั่ง

"มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
พี่จีบถามขึ้น ซางรังรีบหันมายิ้มกว้างทันที

"เมื่อกี้เอ๊ง"
ซารังตอบเสียงสูงด้วยใบหน้าระรื่น.. ใครเชื่อมันก็ควายแล้วเว้ย มีพิรุธมากขนาดนั้น

"แล้วนั่นมึงจะไปไหน?"
พี่จีบกดเสียงต่ำลงเมื่อเห็นน้องชายกำลังจะหายเข้าไปทางหลังร้าน ซารังหยุดฝีเท้าแล้วทำหน้าตาใสซื่อก่อนจะตอบคำถามออกมา

"ไปสอบไง เนี่ยๆจะสายแล้ว วันนี้มีสอบอังกฤษด้วย"

"ประตูอยู่ทางนี้นะ"
พี่จีบชี้ไปที่ประตูหน้าร้าน มันตั้งอยู่ด้านหลังของเราสองคน ซารังเหมือนจะเหวอไปชั่วขณะแต่ก็สามารถแถจนสีข้างของตัวเองถลอก

"จะออกทางด้านหลังไง๊ รถจอดอยู่ข้างหลัง"
ซารังยิ้มแฉ่งก่อนจะรีบผลุบเข้าไปหลังร้านทันที พี่จีบส่ายหน้าช้าๆพร้อมกับหัวเราะออกมากับพฤติกรรมสุดแสนประหลาดของน้องชาย

"ซารังแม่งท่าจะบ้า รถมันจอดอยู่หน้าร้านเนี่ย"
ผมมองตามสายตาของพี่จีบไปก็เจอเข้ากับรอสปอร์ตไบค์สีเหลืองดำคันโตจอดอยู่หน้าร้าน ตอนเข้ามาผมยอมรับว่าไม่ทันได้สังเกตจริงๆ ถ้ามีโอกาสผมจะเข้าไปอ้อนซารังขอขี่หน่อยแล้วกัน โคตรเท่เลยอ่ะ MSX ของผมนี่ชิดซ้ายไปเลย

"มองตาเป็นมันเลย อยากขี่เหรอ?"
พี่จีบโผล่เข้ามายืนข้างผมตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ผมคงให้ความสนใจกับสปอร์ตไบค์มากเกินไปเลยไม่ทันรู้ตัว

"อือ เท่วะพี่"
ผมตอบรับไปแต่ตายังจ้องมองมันไม่หยุดหย่อน จนคนหน้าหวานอย่างซารังพาสปอร์ตไบค์หายลับไปจากสายตาผมนั่นล่ะถึงดึงตัวเองกลับเข้าสู่โลกความจริงได้

"ถ้าอยากก็บอกเดี๋ยวกูให้ขี่"
พี่จีบพูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม ผมเบิกตากว้างอ้าปากพะงาบๆเพราะคำพูดของมันกำกวมชวนให้คิดลึกฉิบหาย ผมกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอก่อนจะตั้งคำถามหน้าโง่ออกไปอีกระลอก

"ขี่อะไรพี่?"
น้ำเสียงของผมเบาหวิวจนรู้สึกได้ เหมือนกับหัวใจของผมที่รู้สึกหวิวๆยังไงชอบกล

"ขี่รถดิ หรือว่า...มึงอยากขี่กู"
พี่จีบโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า ผมสะดุ้งก่อนจะขยับตัวหนีมันด้วยหน้าตาตื่นตกใจ เชี่ยยย ขี่กูคืออะไร ไอ้พี่จีบ ไอ้ลามก! ฟัคยู มายไอดอลที่ผมหลงนักหนาทำไมเป็นคนจัญไรแบบนี้

"ไอ้คิสมึงทำหน้าตลกอีกแล้วว่ะ"
พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างถูกใจ ผมเบ้ปากใส่ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองหน้าแดง แกล้งกันเข้าไป เอาให้หัวใจวายตายไปเลย!

"ไม่แกล้งผมสักวันจะตายไหมพี่จีบ?"
ผมพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะย่นจมูกใส่มัน พี่จีบส่ายหน้าก่อนจะเอื้อมมือมาดึงจมูกของผมอย่างมันเขี้ยว

"ไม่แกล้งมึงสักวันกูคงขาดใจตาย"

"แม่ง.."

"ตามกูมา จะเอาเสื้อนักศึกษาให้ยืมใส่ก่อน ไปสภาพแบบนี้มึงคิดว่ามึงจะได้เอเหรอ?"
มีความล่อลวงให้ขึ้นชั้นสองอีกแล้ว ความทรงจำในวันที่ผมป่วยเริ่มหลั่งไหลเข้ามา... ผมเผลออ้อนไอ้พี่จีบไปแล้วด้วย แถมยังจำสายตามันที่มองผมอย่างกับจะกลืนกินกันได้อย่างชัดเจน ฮือ ความแมนจงสถิตกับลูกเถอะ อย่าให้ลูกหวั่นไหวกับมายไอดอลเลย

"รอตรงนี้ได้ไหมอ่า?"
ผมลองยื่นข้อต่อรอง แต่พี่จีบส่ายหน้าก่อนจะคว้าหมับเข้าที่คอผมแล้วดึงไปกอดไว้

"มึงจะแก้ผ้าตรงนี้ทั้งๆที่ร้านกูเป็นกระจกใสรอบด้าน?"
ผมกวาดตามองรอบๆแล้วถึงบางอ้อ เออว่ะ ผมก็ไม่ได้ใจกล้าหน้าด้านจะมาถอดเสื้อโชว์หุ่นขี้ก้างให้ใครดูนี่หว่า

"ไปด้วยก็ได้ แหะๆ"

"เออ"

หลังจากนั่นผมก็อยู่ในเสื้อตัวโคร่งไหล่ตกเล็กน้อย จริงๆแล้วมีเสื้อนักศึกษาของซารังแต่พี่จีบไม่กล้าให้ยืมเลยเอาของตัวเองให้แทน ทีกางเกงในน้องไม่เห็นจะเกรงใจให้ยืมแบบหน้าตาเฉย!! ผมกับพี่จีบกลับลงมาที่ชั้นล่างก่อนที่นาฬิกาบนผนังจะบอกเวลาแปดโมงตรง

"เออลืมถาม แล้วนี่มาทำไมแต่เช้า"
พี่จีบที่กลับเข้าไปหลังเค้าน์เตอร์อีกรอบจัดการจัดเรื่องอุปกรณ์และเปิดวอร์มเครื่องทำกาแฟ ไอน้ำสีขาวเริ่มปรากฏอย่างเชื่องช้าให้เห็นในอากาศ เสียงแรงดันน้ำดังขึ้นยามพี่จีบเปิดก้านน้ำร้อนทำความสะอาด

"ว่าจะเอาแบบเมนูมาให้ดูอ่ะ"
ผมว่าก่อนจะรื้อกระเป๋า แต่พี่จีบส่งเสียงห้ามไว้ก่อน

"ตอนเย็นค่อยเอามาให้ก็ได้ ตอนนี้มึงรีบไปพรีฯได้แล้ว"
พี่จีบบอกผมทั้งๆที่ยังจัดการเครื่องทำกาแฟอยู่ ผมมองแผ่นหลังกว้างนั่นด้วยสายตาชื่นชม ไม่มีครั้งไหนที่พี่จะไม่จริงจังกับงานตรงหน้าสักครั้ง แววตาท่าทางมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตกหลุมรักเขา อยากเป็นแบบพี่จีบบ้างจัง บางครั้งก็นึกอิจฉาในตัวเขาที่สามารถตั้งใจทำงานตรงหน้าอย่างไม่ไขว้เขวต่อสิ่งเร้า ไม่เหมือนกับผมที่สมาธิสั้น ใครเอาขนมมาล่อตอนทำงานก็พังแล้ว งานพังถลาใส่ขนมทันที

"พี่จีบ.."
ผมเรียกเขาก่อนจะเม้มปากเพื่อรวบรวมความกล้าขออะไรบางอย่างจากเขาก่อนไปพรีฯงาน มันเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับผมเลยก็ว่าได้

"หืม ว่าไง?"
คนตัวสูงหันกลับมาก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างเท้าลงบนส่วนโต๊ะหลังเค้าน์เตอร์บาร์ ทำให้ระยะห่างระหว่างเราลดลงไปอีกนิดหน่อยเพราะตอนนี้ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้บาร์ตัวสูง

"ขอกำลังใจหน่อยได้ไหมครับ?"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะช้อนสายตามองคนตรงหน้าอย่างออดอ้อน ไม่เคยคิดจะอ้อนพี่จีบเลยสักครั้ง แต่พอมันมีครั้งแรกคนเรามันก็ต้องมีครั้งที่สองเสมอ เหมือนพี่จีบจะชะงักไปแล้วกลับมายิ้มก่อนจะส่งมือหนาที่แสนจะอุ่นมาขยี้หัวกันเบาๆ

"ขี้อ้อนนะมึง"
คำพูดของพี่จีบก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนะแต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าซะอย่างนั้น รู้สึกว่าตัวเองจะเขินพี่จีบบ่อยไปแล้วว่ะ มีวิธีห้ามตัวเองไม่ให้เขินมายไอดอลไหม อยากรู้แบบด่วนๆเลย

"ไม่ใช่ประเด็นแล้ว"
ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะเสหน้ามองไปทางอื่น มือหนายังคงวางอยู่ตำแหน่งเดิมแต่เปลี่ยนเป็นโคลงหัวกันเบาๆแทน

"ตั้งใจพรีฯให้เต็มที่ ขอให้ได้คะแนนสวยๆ"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากเพียงนิดหน่อย แต่ในความรู้สึกของคนได้รับรอยยิ้มอย่างผมกลับรู้สึกว่ามันละมุนละไมจนหัวใจพองโต ผมพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้

"ขอบคุณครับผม!"
พูดจบก็ทำท่าตะเบะเยี่ยงทหารก่อนจะโดนมือใหญ่ดีดหน้าผากเบาๆแล้วโบกมือไล่กัน

"ไปได้แล้ว"

"คร้าบ ~ เดี๋ยวตอนเย็นมาหานะ"
ผมพูดจบก็รีบวิ่งออกไปจากร้านโดยไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ด้านหลังจะมองตามมาและยกยิ้มพอใจส่งมาให้อยู่

เที่ยงตรงพวกผมออกมาจากห้องพรีเซนต์งานด้วยสภาพคล้ายกับซอมบี้ แต่ละคนดวงตาลึกโหลดำคล้ำอย่างน่ากลัว แต่ทุกคนกลับมีรอยยิ้มประดับบนหน้าเพราะมันคืองานชิ้นสุดท้ายและสอบตัวสุดท้ายของการสอบมิดเทอมครั้งนี้ พวกผมทั้งสามคนทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะอย่างหมดแรง

"สอบเสร็จสักที"
ไอ้ภีมพูดก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ต่อจากนี้จะเป็นเวลาหยุดยาวหนึ่งอาทิตย์สำหรับการพักผ่อนของพวกผม

"หยุดยาวอาทิตย์นึงไปไหนกันวะ?"
สาวสวยประจำกลุ่มที่นอนฟุบลงบนโต๊ะเอ่ยถามขึ้น ผมที่กำลังสไลด์หน้าจอปลดล็อกโทรศัพท์เลยหยุดมือไว้

"คงอยู่หออ่ะ แล้วมึงไปไหน?"
ผมตอบก่อนจะมองไอ้ออยที่เงยหน้าขึ้นมองกัน ผมไม่อยากกลับบ้านเท่าไหร่เพราะกลับไปก็ไม่ได้เจอใคร พ่อกับแม่ไปฮันนีมูนรอบที่ล้านที่ออสเตรเลีย ก่อนเขาจะไปผมงอแงยกใหญ่ว่าถ้าไม่มีของฝากจะโกรธ พวกท่านเลยรับปากว่าจะแบกของฝากมาให้ถ้าไม่ลืม... ขอเกลียดคำว่าถ้าได้ไหมครับ

"กูกลับเชียงใหม่ แล้วมึงอ่ะภีม"
บ้านไอ้ออยอยู่เชียงใหม่ครับ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันสวย ก็สาวเชียงใหม่สวยๆทั้งนั้น แถมยังขาวซะจนเหมือนกระดาษ

"ไปญี่ปุ่น"
มันตอบสั้นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ผมนี่เบะปากคว่ำแล้วครับ เพราะเดาได้เลยว่ามันไปหาพี่ดีพแน่ๆ

"ว้าย ไปหาสามีเหรอ ชีวิตดี๊ดีอ่ะ"
ไอ้ออยสะดีดสะดิ้งขึ้นมาทันที จากที่นอนตายซากอยู่เมื่อกี้ตอนนี้กลับนั่งตัวตรงตาใสกิ๊งเลย ส่วนไอ้ภีมที่โดนกล่าวหาหน้างอง้ำไปแล้ว

"สามีเชี่ยอะไร ไอ้ดีพดิต้องเป็นเมียกู"

"นี่มึงคิดกดพี่กูจริงๆอ่ะ?"

"เออ มีปัญหาเหรอไง?"

"เปล่า แต่ก็ดีนะถ้ามึงเป็นพี่เขย บ้านกูจะได้รอรับสินสอด"
ผมหัวเราะเอิ้กอ้ากถูกใจความคิดของตัวเอง ไอ้ออยก็ยื่นมือมาแท็กทีมกันเป๋นอย่างดีปล่อยให้ไอ้คนที่หน้าง้ำในตอนแรกขมวดติ้วหนักเข้าไปอีก

"ฝันไปเถอะมึง"
จบลงด้วยการโดนไอ้ภีมโบกหัวคนละหนึ่งที พวกเราแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน เพราะออยต้องไปขึ้นเครื่องตอนห้าโมงเย็น ส่วนไอ้ภีมต้องกลับไปจัดกระเป๋าเพราะออกเดินทางพรุ่งนี้ ส่วนผมพาน้อง MSX ลูกรักไปจอดที่ร้านพี่จีบก่อนจะเดินโซซัดโซเซดันประตูกระจกของร้านเข้าไป

"สวัสดีครับพี่ไลค์"
ผมยกมือไหว้คนที่ยืนอยู่ตรงเค้าน์เตอร์บาร์ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ สายตาสอดส่ายหาพี่จีบไปทั่วแต่ก็ไม่เจอแม่แต่เงา

"มาหาไอ้จีบเหรอ?"
เสียงทุ้มถามขึ้นขณะที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำลาเต้อาร์ตอยู่ ที่ร้านมีบริการพิเศษสำหรับคนที่สั่งลาเต้ด้วยนะ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากได้ลาเต้อาร์ตหน้าตาแบบไหน ผมนี่อยากสั่งรูปหัวใจแต่ยังไม่กล้าขนาดนั้น

"ก็ด้วยครับ แต่ตอนนี้ขอลาเต้เย็นแก้วนึงครับ ~"
ผมสั่งออเดอร์กับพี่ไลค์ก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้ เขาพยักหน้ารับก่อนจะเขียนรายการยุกยิกลงบนกระดาษ ผมเหลือบสายตามองพบว่าอีกสี่คิว ไม่เป็นไรผมไม่รีบ

"แล้วนี่พี่จีบไปไหนอ่ะ?"
ผมเท้าแขนลงบนเค้าน์เตอร์ก่อนจะวางคางลงบนมือ ช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาแทบไม่ได้คุยกับพี่จีบเลยเพราะต่างคนต่างเข้าสู่ช่วงสอบ ตัวผมเองก็ไม่มีเวลาปลีกตัวมาที่ร้านเหมือนกัน ขาดลาเต้เหมือนขาดใจ

"จีบไปสอบตัวสุดท้าย คิดถึงมันเหรอ? ~"
ถึงจะไม่เห็นว่าพี่ไลค์ทำหน้าตาแบบไหนแต่ไอ้ท้ายประโยคที่ลากเสียงยาวเนี่ยเป็นตัวบอกได้อย่างดีว่ากำลังล้อผมอยู่แน่ๆ แบบนี้ต้องเขินด้วยไหมพี่ไลค์ถึงจะพอใจ!

"คิดถึงอะไร ผมรอเอาแบบเมนูที่พี่จีบฝากให้ช่วยทำมาให้ดูหรอก"
ผมรีบรื้อกระเป๋าแล้วส่งกระดาษไปตรงหน้าของคนที่หันกลับมาพร้อมแก้มเครื่องดื่ม ร่างสูงผงะไปเล็กน้อยก่อนจะขำออกมาแล้ววางแก้วลงก่อนจะหยิบกระดาษในมือผมไปดู

"สวยดีนี่ แต่จีบมันก็ทำงานออกแบบเป็นนะ ไม่เห็นต้องเดือดร้อนใช้งานคนอื่นเลยนี่หว่า"
ท้ายประโยคเหมือนพี่ไลค์จะพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับผม เพราะมันเบาจนเสียงเครื่องทำกาแฟกลบซะหมด ต่อมเผือกหยุดการทำงานลงโดยอัตโนมัติ

"งืม ไม่รู้พี่จีบจะให้แก้อะไรอีกไหม"
ผมรับกระดาษคืนจากพี่ไลค์แล้วยัดใส่แฟ้มเก็บลงกระเป๋าตามเดิม ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ปกติแล้วจะหนักไปทางวาดรูป ทำ CG Painting มากกว่า

"รอให้มันมาดูแล้วกัน นี่คิสจะอยู่รอไอ้จีบเลยเหรอ?"

"อ่าฮะ พี่จีบบอกไว้หรือเปล่าครับว่าจะกลับกี่โมง"
พี่ไลค์ยกแก้วลาเต้เย็นมาให้ผมก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะร้องอ๋อออกมาเบาๆ

"คงเย็นๆล่ะมั้ง เห็นบอกว่ามีนัดคุยเล่มร่างโปรเจ็คจบกับอาจารย์"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะจับหลอดสีดำสนิทมาดูดลาเต้เย็นเข้าปาก รสสัมผัสนุ่มละมุนของนมแฝงความเข้มข้นของกาแฟคุณภาพดีมันช่างเป็นอะไรที่ลงตัวสำหรับผม กลิ่นหอมของมันกำลังเรียกน้ำย่อยให้กระเพาะทำงานหนัก

"งั้นผมกลับหอก่อนดีกว่า ตอนเย็นจะกลับมาใหม่"
ผมเงยหน้ามองบาริสต้าจำเป็นที่กำลังวางซองน้ำตาลและซองครีมเทียมลงบนจานรองแก้ว พี่ไลค์ชะงักมือแล้วมองออกไปนอกร้านคล้ายกับจะสภาพอากาศด้านนอก

"รออยู่นี่ล่ะ ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตกหนัก"
ผมมองตามสายตาพี่ไลค์ไปก็เจอกับเมฆฝนก้อนโต ดูท่าทางแล้วฝนจะตกหนักเหมือนวันที่พี่จีบไปรับผมจากหอ ไม่อยากนึกสภาพตอนขี่รถกลับแล้วมันตกลงมากลางทางเลย... ป่วยชัวร์

"อ่า.. ก็ได้ครับ"
ผมตอบรับก่อนจะส่งยิ้มให้พี่ไลค์ แต่เขาก็พูดประโยคอะไรบางอย่างให้ผมเกือบหงายหลัง




มีต่อด้านล่างนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 05 : ดื่มครั้งที่ 5 -P.2- (19.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 21-07-2016 15:01:47
ต่อ



"ขึ้นไปรอชั้นสองนะ เดี๋ยวจีบมาแล้วพี่จะบอกให้ ส่วนค่ากาแฟไม่ต้องจ่าย พี่เลี้ยง"
ผมอ้าปากพะงาบๆก่อนพยักหน้าตกลง ไม่ได้ตกใจที่มีคนเลี้ยงกาแฟแต่ตกใจที่ให้ผมขึ้นไปรอชั้นสอง... ก็แม่ง มีแต่ห้องนอน สภาพห้องชั้นสองอารมณ์ประมาณคอนโดหนึ่งห้องเลยครับ แค่มันไม่มีห้องครัวเท่านั้นเอง

"ขะ ขอบคุณครับพี่ไลค์"
พอตั้งสติได้ก็ยกมือไหว้แล้วเอ่ยขอบคุณคนใจดีทันที พี่เขายิ้มแล้วเอื้อมมือมาดึงแก้มกันจนผมตกใจ

"น่ารักว่ะน้องคิส"

"อ่ะ เอ่อ... ไม่หรอกครับ"
ผมยิ้มแหยส่งไปให้ ทำตัวไม่ถูกว่ะที่อยู่ๆมีคนมาชมแถมยังดึงแก้มกันอีก ถึงจะสนิทกับพี่ไลค์ระดับหนึ่งแล้วก็เถอะ

"อย่าเถียงพี่น่า"
น้ำเสียงไม่จริงจังพร้อมกับรอยยิ้มกว้างส่งมาให้กัน ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยทำได้แค่ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขิน หลังจากนั้นพี่ไลค์ก็กลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ ผมนั่งเล่นสักพักจนลาเต้เย็นหมดแก้วจึงขอตัวขึ้นไปชั้นสอง

ผมค่อยๆแง้มประตูห้องเข้าไปช้าๆ ทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่แต่ก็อดประหม่าไม่ได้ พอก้าวเข้ามาก็รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างตรงที่มันมีโซฟาหนังสีดำสนิทเพิ่มขึ้นมากับที่นอนที่เปลี่ยนเป็นขนาดคิงไซต์ ผมปิดประตูแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาใหม่เอี่ยมพร้อมกับเปิดพัดลมเพดานแทนที่จะเปิดแอร์ ระหว่างที่ไม่มีอะไรทำผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะจิ้มนิ้วลงบนแอพพลิเคชั่นสีเขียวยอดฮิตพิมพ์ข้อความส่งให้ใครบางคน

× คิสสึ ×
- พี่ดีพ ~ คอนนิจิวะ!! 14:50

จริงๆที่ผมทักพี่ชายไปไม่ใช่เพราะคิดถึงอะไรหรอก แต่ไอ้ภีมกำลังจะไปหาพี่ดีพผมเลยอยากให้พี่ดีพเจียดเงินค่าขนมตัวเองซื้อฟิกเกอร์เรื่อง Tokyo Ghoul ให้สักหน่อยแล้วฝากไอ้ดีพกลับไทย รอไม่นานไอ้พี่ชายสุดที่รักก็ตอบข้อความกลับมา

Deeper
- ทักมาแบบนี้กูต้องเสียเงินแน่ๆ -_- 14:55

ผมเบะปากให้กับความรู้ทันแต่ก็ยกยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อรู้นิสัยพี่ชายของตัวเองดี ถึงมันจะบ่นผมมากแค่ไหนสุดท้ายก็ยอมตามใจทุกที เพราะพี่ดีพรักผมมากไง พูดแล้วเขินจัง

× คิสสึ ×
- รู้ใจน้องจังเลย ♡ 14:55

Deeper
- อย่ามาแบ๊ว อยากได้อะไรว่ามา ไม่ต้องอ้อมค้อม 14:56

× คิสสึ ×
- โห้ยย ไม่คิดว่าน้องจะคิดถึงพี่บ้างเหรอวะ :( 14:56

Deeper
- น้องคิสครับ มึงอย่าเฟค กูขอร้อง 14:56
- ร้อยวันพันปีไม่เคยทักไลน์กูมาก่อนสักครั้ง 14:57
- มึงทักมาก่อนทีไรกูเสียเงินทุกที ! 14:57

× คิสสึ ×
- เสียใจว่ะว่าน้อง ;--; 14:57
- เออ อยากได้ฟิกเกอร์ Tokyo Ghoul อ่ะ 14:57

กดส่งข้อความไปแล้วก็นั่งกระดิกเท้ารอพี่ดีพรัวแป้นพิมพ์ด่ากลับมา ผมไม่เคยสะทกสะท้านกับคำด่าของมันเลยสักครั้งเพราะพี่ชายผมเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งตั๋วเครื่องบินไปกลับญี่ปุ่นให้ไอ้ภีมแบบฟรีๆหรอก! เปย์แฟนมากกว่าเปย์น้องได้ยังไง ผมไม่ยอมแน่ๆ หึ

Deeper
- ไอ้น้องเชี่ย ฟิกเกอร์ห่าไรของมึงอีก ผลาญเงินกูจังเลยนะ! 14:59

อ่านข้อความของพี่ดีพแล้วผมก็ฉีกยิ้มกว้าง.. หยาบคายที่สุดพี่ชายใครก็ไม่รู้ แต่ก็ใจดีที่สุดเหมือนกันน้า คนดีๆแบบนี้น่าเอาไปทำแฟนนะครับ แต่เสียใจด้วยที่เพื่อนผมมันคว้าพี่ดีพไปกินซะแล้ว

× คิสสึ ×
- นะครับน้า ~ เขาอยากได้ ซื้อให้หน่อยพี่ดีพสุดหล่อ '^' 15:00

อ้อนเท่านั้นที่ครองโลกครับ ถึงจะโดนด่าเป็นพันครั้งก็ยอม

Deeper
- อย่ามาปากหวาน -_- อยากได้ตัวไหน? 15:00

× คิสสึ ×
- ทุกตัวได้เปล่า *^* 15:01

Deeper
- พ่อง! ไปขอผัวมึงนู่นไป๊!!! 15:01

ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นข้อความล่าสุดของพี่ชาย ไม่ได้ตกใจที่มันด่าพ่อง แต่ตกใจที่มันไล่ให้ผมไปขอผัว... คืออะไรใครมีผัว กูไม่มีแฟน ที่สำคัญคือกูเป็นผู้ชายจะมีผัวได้ยังไง๊!! ผมรีบรัวนิ้วพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็วแล้วกดส่งทันที ใจตุ้มๆต่อมๆนั่งรอมันตอบจนก้นไม่ติดโซฟา

× คิสสึ ×
- ผัวอะไรของพี่วะ ! 15:02

Deeper
- ไอ้บาริสต้าร้านกาแฟไง อย่าคิดว่ากูไม่รู้เรื่องนะ 15:02

× คิสสึ ×
- เห้ยย ไม่ใช่ผัวเว้ย นั่นพี่จีบ เป็นมายไอดอลของน้อง 15:02

ผมรีบแก้ตัวไปอย่างรวดเร็ว กลัวพี่ดีพเข้าใจผิดแล้วเอาไปบอกคนอื่น แล้วจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ไอ้ภีมเอาเรื่องนี้ไปพูด อ๊ากกก ไอ้เพื่อนทรยศ ทำกูคิดมากไม่พอยังเผื่อแผ่พี่ชายผมอีก อย่าให้เจอนะผมจะไล่เตะมัน!

Deeper
- มึงโง่หรือโง่ จากที่กูฟังภีมเล่าก็รู้แล้วว่าไอ้จีบไรของมึงเขาสนใจมึง ฟายแท้ๆเลยว่ะน้องกู 15:03

× คิสสึ ×
- พี่จีบมันอัธยาศัยดีเว้ย พี่อย่าใส่ร้ายมายไอดอลผมดิวะ พี่เขาแมนอ่ะ ไม่มีทางสนใจผมแน่นอน ยืนยัน นั่งยัน นอนยันเลย! 15:03

Deeper
- โว้ะ up to u เลยน้องรัก 15:04
- ตกลงฟิกเกอร์มึงจะเอาตัวไหน 15:04

พอเรื่องฟิกเกอร์วกกลับมาไอ้ความอยากเถียงพี่ดีพเรื่องพี่จีบก็มลายหายไปจนสิ้น กลับมาดี๊ด๊าหน้าบานรีบพิมพ์บอกสิ่งที่ตัวเองต้องการทันที

× คิสสึ ×
- เอาคาเนกิตอนเป็นกลู ขอหน้ากากด้วยนะ *^* 15:06

Deeper
- เออ สัด เยอะนะเยอะ กูไปกินข้าวละ 15:07

"เย้!"
ผมร้องเย้ออกมาลั่นห้องด้วยความดีใจ ยิ้มน้อยยิ้มก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาจูบแรงๆ ได้ของที่ต้องการแล้วโคตรสบายใจเลยครับ แต่พอละสายตาจากหน้าจอสี่เหลี่ยมก็เห็นปลายเท้าของใครบางคนยืนอยู่ข้างโซฟา เหลือบดวงตากลมมองก็เจอเข้ากับพี่จีบที่กำลังมองจ้องมาด้วยใบหน้าที่อ่านไม่ออกว่ารู้สึกยังไง หน้าผมร้อนวูบขึ้นมาทันทีด้วยความอาย เพราะมัวแต่ดีใจเลยแสดงอาการบ้าบออกมาให้อีกคนเห็น ชีวิตนี้ในสายตาพี่จีบผมคงไม่มีอะไรดีอีกเลย

"คุยกับใคร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนไม่รู้ตัวว่ากูเดินเข้ามา"
พี่จีบเดินผ่านหน้าผมไปแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆไม่ไกลผมนักเท่าไหร่ หน้าตาหล่อๆของเขาดูเหนื่อยล้าจนผมไม่กล้ากวนตีน

"แหะ คุยกับพี่ชายอ่า สอบเป็นไงบ้างครับ?"
พี่เขาเหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพยักหน้าเบาๆ ผมเลยขยับเข้าไปใกล้แล้วบีบนวดแขนให้พี่จีบอย่างเอาใจ

"เหนื่อยว่ะ แต่สอบเสร็จแล้วก็ดี"
พี่จีบพิงหลังกับพนักโซฟาแล้วไหลตัวจนหัวซบอยู่บนไหล่ของผม พี่เขาหลับตาลงอย่างต้องการพัก แต่ผมนี่ดิครับนั่งตัวแข็งไปแล้ว ทำไมต้องทำตัวเหมือนจะอ้อนกันแบบนี้ด้วยวะ หัวใจโคตรเต้นแรงเลย

"ขอยืมไหล่สักพักนะ ง่วงว่ะ"
เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะเงียบไป ผมเม้มปากแน่นเพราะกำลังกลั้นยิ้ม โอย มายไอดอลขอยืมไหล่ซบนอนว่ะมึงใครจะมีบุญวาสนาแบบกูอีกเนี่ย เป็นแฟนคลับที่ได้อยู่ใกล้มายไอดอลขนาดนี้ แต่คิดไปคิดมาสักวันผมก็คงแพ้แฟนครับของพี่จีบอยู่ดี

"อื้อ ตามสบายครับผม"
ตอบออกไปก่อนจะก้มมองคนข้างตัว มุมปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างพอใจ วันนี้มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเลย เกิดเป็นไอ้คิสบางทีมันก็ดีสุดๆไปเลยเนอะ


--------------------------------------------------------

Q & A กับ พี่จีบ

Q : ตอนดมเสื้อคิสเนี่ย จีบรู้ตัวหรือเปล่าว่าปลายจมูกเราเผลอโดนซอกคอน้อง?
A : /ทำหน้าใสซื่อ อ้าวเหรอครับ? ผมไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย ^^
Q : เจ้าเล่ห์นะเรา /เหล่มอง
A : ผมเป็นคนใสใสไม่มีภัยหรอก /ยิ้มหวาน



ตอนที่ 6 มาแล้วน้า ใครรออยู่บ้างเอ่ย 5555555 เราปั่นมาให้แล้วน้า
ความเนียนของพี่จีบนั้นนับวันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องคิสจะรู้ตัวเมื่อไหร่
เอาใจช่วยพี่จีบแทะโลมคนซื่อ(บื่อ)ด้วยเนอะ

ปล. อ่านให้สนุกน้า ตอมเม้นต์ให้กำลังใจเรากันหน่อยน้า จุ๊บ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-07-2016 15:13:31
 :hao6:  "ฟัคยู มายไอดอลที่ผมหลงนักหนาทำไมเป็นคนจัญไรแบบนี้"   ===> เข้าใจถูกต้องแจ่มแจ้งแล้วจ้าน้องคิสสึ

ดีพ฿คิส โอ๊ย พ่อแม่ช่างตั้งชื่อเหลือเกินน้อบ้านนี้

น้องคิสใสๆไม่ทันพี่จีบมันหรอก ขอบคุณคนเขียนที่มาอัพจ้า  o13   :mew1: 
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 21-07-2016 15:24:14
กว่าคิสจะรู้ตัว คิสคงโดนพี่จีบแทะโลมจนสึก  :m20: :m20:
อะไรจะซื่อเบอร์นั้นลูก  :m20:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-07-2016 15:58:52
ขนาดพี่ดีพบอกคิสยังไม่เชื่อว่าพี่จีบเขาชอบ สงสัยต้องเลิกจีบแล้วจับจูบเลยดีกว่า

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 21-07-2016 16:08:55
 :m20: เจ้าคิส ว่าพี่จีบจังไร 555555555555555555
เดี๊ยวเหอะเเกร เด่วโดนของจริง จะร้องไม่ออก นี้ถึงขั้นพี่ชายรู้ว่ามีผัวเเล้วด้วย กร๊ากๆๆๆๆ
อยากให้อัฟต่อตอนนี้เลยด้วย ค้างมาก เสพติดกาแฟ โอ๊ะ ไม่สิ เสพติดคิสคนเเมน กับ บาริต้าขี้อ่อย :-[

มาให้กำลังใจนักเขียน นะ สู้ๆ ไฟท์ติ้งงงง อังยองงงง    ซารางเฮโย  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 21-07-2016 16:16:07
จะแฟนคลับหรือแฟนครับก็คนเดียวกันนั่นแหละน้องคิส :-[
น่ารักมากกก อ่านได้เรื่อยๆไม่เบื่อเลย มาต่อบ่อยๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 21-07-2016 16:26:51
น้องคิสของพี่จีบๆๆๆๆๆๆๆ :hao3: :katai5: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 21-07-2016 17:49:40
น้องจะรู้ตัวอีกทีตอนจะโดนกิน 5555555
 :hao6:

พี่จีบที่หนึ่งแห่งความเนียน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-07-2016 19:12:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 21-07-2016 20:13:44
เรื่องความเนียนไว้ใจพี่จีบ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-07-2016 20:27:48
พี่จีบนี่เนียนจุ๊บซอกคอน้องใช่ม่ะ หึๆๆๆๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 21-07-2016 20:37:17
อื้อหืออออ พี่จีบใสๆเนอะ เชื่อค่ะเชื่อ

น้องคิสก็ช่างไม่รู้ตัวเอาซะเล้ยยยยยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 21-07-2016 21:06:07
น้องคิสยังคงน่ารักไม่เปลี่ยนเลย แล้วก็เลิกคิดว่าพี่จีบอัธยาศัยดีไปทั่วได้แล้ว พี่จีบสนใจแต่คิสเถอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 06 : ดื่มครั้งที่ 6 -P.3- (21.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 22-07-2016 07:24:53
โอย แฟนคลับกับมายไอดอลคู่นี้นี่!!! >\\\\\\\<
พี่จีบแต๊ะอั๋งเด็กอ่า~~~~~!!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 22-07-2016 15:56:41
- ดื่มครั้งที่ 7 -




"ไม่ชอบสีตัวหนังสือว่ะ พื้นหลังสีเข้มไป"
พี่จีบกำลังนั่งดูแบบเมนูกาแฟที่ผมปริ้นท์ออกมาให้อยู่ข้างๆผมบนโซฟาตัวเดิม กว่าพี่เขาจะตื่นขึ้นมาแสดงความคิดเห็นกับงานผมก็ปาเข้าไปหกโมงกว่าแล้ว แต่ไม่รู้ไอ้การดูแบบเนี่ยมันต้องนั่งใกล้กันขนาดไหน หัวพี่จีบที่ก้มดูกระดาษในมือชนโดนหัวผมเบาๆเป็นระยะๆ แต่พี่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะผละออก ไอ้ผมก็ไม่ได้รำคาญอะไรเลยปล่อยๆไป

"งั้นเดี๋ยวผมเอากลับไปแก้ให้นะ"
ผมบอกก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากกระดาษ ในจังหวะนั้นพี่จีบก็เงยหน้าขึ้นจากระดาษด้วยเช่นกัน ต่างคนต่างหันหน้าเข้าหากันระยะห่างเลยใกล้จนน่าตกใจ ปลายจมูกของเราสัมผัสกันเล็กน้อยก่อนที่ผมตะเบิกตากว้างแล้วรีบผละออก หัวใจเต้นตุบๆจนกลัวว่ามันตะกระเด้งออกมา พี่จีบไม่ได้มีท่าทางตกใจเลยแม้แต่น้อย เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกลับไปดูกระดาษในมือต่อ

"เดี๋ยวใช้คอมฯกูแก้แบบเลยแล้วกัน อยากได้วันนี้ว่ะ"
พี่จีบวางกระดาษลงบนหน้าขาแล้วหันมามองกัน ผมรีบหลบสายตาแล้วนั่งตัวตรงทันที สมองเจ้ากรรมก็ฉายภาพเมื่อกี้ซ้อนทับกับหน้าพี่จีบอย่างชัดเจนจนผมหน้าร้อนวูบวาบ เคยโดนคนที่หล่อชนิดที่ว่าหล่อวัวตายควายล้มเข้าใกล้แบบไม่มีระยะห่างไหม ถ้าเคยจะรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศตายเหมือนผมแน่ๆ

"หา ว่าอะไรนะครับ?"
พอต้องสติได้ก็เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ฟังที่พี่จีบบอกเลยสักอย่าง ใบหน้าคมยังคงจ้องมองหน้าผมแต่ปากกับยกยิ้มมุมปากขึ้นมา

"บอกว่ากูจะเอาแบบวันนี้ มึงใช้คอมฯกูแก้แบบเลยแล้วกัน"
พี่จีบบอกเสียงนุ่มก่อนจะกางแขนออกพาดกับพนักพิงโซฟาแล้วออกแรงบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ หายเมื่อยแล้วทำไมไม่เก็บแขนไปอีกวะ.. แบบนี้ก็เหมือนพี่จีบนั่งโอบผมอ่ะดิ? แต่จะไปคิดมากอะไรว้า แมนๆทั้งคู่

"เอางั้นจริงอ่ะ มีโปรแกรม AI เหรอ?"
ผมถามหาโปรแกรมที่ตัวเองใช้ทำเมนูขึ้นมา พี่จีบยกมือขึ้นวางแปะลงบนหัวผมแล้วโคลงเล่นไปมาก่อนจะพยักหน้ารับ อย่าถามหลายครั้งแล้วว่าเป็นอะไรกับหัวผมนักหนาเล่นได้เล่นดีแต่ก็ไม่กล้าถามออกไปกลัวเขาจะตบกบาลเอา

"มีดิวะ กูก็เคยใช้งานโปรแกรมนี้เหมือนกัน ไปเปิดคอมฯได้แล้วไป"
พี่จีบผลักหัวผมเบาๆก่อนจะลุกขึ้นปล่อยให้คนโทษทำร้ายอย่างผมต้องเบะปากใส่แผ่นหลังกว้าง ความรู้สึกอยากซบซุกแผ่นหลังของพี่จีบกลับมาแล้วว่ะ... ควรทำยังไงดี ผมสะบัดไล่ความคิดบ้าๆทิ้งไปก่อนจะเดินตามพี่จีบไปที่โต๊ะคอมฯ อยากจะบอกว่าบนโต๊ะเรียบร้อยมาก ทุกอย่างวางเป็นระเบียบ ต่างจากโต๊ะที่ห้องผม รกอย่างกับรังหนู

"นั่งลง"
พี่จีบที่หันมาเจอผมอยู่ด้านข้างก็คว้าไหล่กันแล้วกดลงให้นั่งลงบนเก้าอี้เบาะนุ่ม ผมรีบค้นหาแฟลชไดร์ฟออกจากกระเป๋าเสื้อนักศึกษาแล้วเสียบเข้ากับช่อง USB ทันที ผมเลื่อนเม้าส์และคลิกอย่างคล่องแคล่วจนงานปรากฏบนหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ยอมรับว่าตื่นเต้นกับระบบปฏิบัติการ Mac อยู่พอตัวเพราะปกติผมใช้แต่ระบบปฏิบัติการ Windows

"แก้สีตัวหนังสือใช่ไหมพี่จีบ?"
ผมเหลียวไปมองหน้าเขาขอคำตอบแต่ก็ต้องหันกลับอย่างรวดเร็วเพราะพี่จีบก้มตัวลงมาหาผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ดวงตาคมจับจ้องอยู่ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมแต่มุมปากกับยกยิ้มหล่อซะอย่างนั้น ไม่รู้จะยิ้มอะไรนักหนา

"ใช่ แต่ตอนนี้ลองปรับพื้นหลังให้สีอ่อนกว่านี้หน่อย"
พี่จีบพูดจบผมก็รีบทำตามแล้วพิงหลังลงบนพนักเก้าอี้เมื่อจัดการงานตรงหน้าเสร็จ แต่มันมีบางอย่างทำให้ผมรู้สึกแปลกและเมื่อใช้หางตามองซ้ายมองขวาก็พบว่าพี่จีบใช้ฝ่ามือเท้าลงบนพนักพิงไว้ เหมือนกำลังจะกอดซ้อนหลังผมเลยว่ะ... ทำแบบนี้กับผมบ่อยๆชักจะเริ่มคิดตามพี่ดีพกับไอ้ภีมแล้วนะเว้ย แต่คนอย่างพี่จีบเนี่ยนะจะสนใจคนเอ๋อๆ สติไม่เต็มเต็งอย่างผม บ้าน่า

"บะ แบบนี้ใช้ได้ไหม?"
แล้วนี่เสียงจะสั่นทำหอยโข่งอะไรวะกู ไม่รู้ด้วยว่าพี่จีบทำสีหน้าแบบไหน ตอนนี้เริ่มรู้สึกร้อนรนแปลกๆเพราะมือพี่จีบเลื่อนมาจับไหล่ผมแทนพนักพิงเก้าอี้แล้ว ผมแทบจะกลั้นหายใจชักดิ้นชักงออยู่ตรงนี้ โรคชอบสกินชิพกำเริบหรือยังไงวะ

"เออ ดีแล้ว คราวนี้ลองปรับสีตัวอักษร"
เขาพูดจบผมก็รีบเปลี่ยนสีตัวอักษรทันทีก่อนจะหันไปแสดงความมีน้ำใจเล็กๆน้อยๆเพราะกลัวพี่จีบจะเมื่อยโดยการถามไถ่

"พี่จีบจะนั่งป่ะ เดี๋ยวผมไปลากเก้าอี้ตรงนั้นมาให้"
ผมชี้ไปที่เก้าอี้อีกตัวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆตู้เสื้อผ้า พี่จีบมองตามก่อนจะส่ายหน้าแล้วมองมาที่ผมแทน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กำลังประดับอยู่บนใบหน้าหล่อจนทำให้ผมต้องเลิกคิ้วมอง

"มึงขยับดิ"
พี่จีบไม่ว่าเปล่ายังใช้ฝ่ามือดันไหล่ผม ไอ้ผมที่งงว่าทำไมต้องขยับเลยทำตามโดยไม่ได้ถามออกไป พอขยับไปครึ่งเท่านั้นล่ะพี่จีบทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันทันที แถมยังใช้แขนพาดลงบนไหล่ผมอีกด้วย มันจะใกล้ไปแล้วเว้ย ใกล้จนจะขึ้นไปนั่งบนตักอยู่แล้ว!

"เอ่อ... ผะ ผมว่าผมไปเอาเก้าอี้มาอีกตัวดีกว่านะ นั่งแบบนี้อึดอัดนะพี่"
ผมละล่ำละลักพูดออกไปก่อนจะหาทางหนีจากแขนแกร่งที่พาดไหล่ไว้ แต่พี่จีบหันมาส่งสายตาดุให้ก่อนจะกอดไหล่ผมดึงเข้าหาอกแกร่งของตัวเอง จนตอนนี้ไหล่ผมเกยอยู่บนหน้าอกเขา เสียงหัวใจของผมเต้นดังก้องอยู่ในหู กลัวเหลือเกินว่าคนที่อยู่ใกล้กันแบบนี้จะได้ยิน อยากจะออกไปที่ระเบียงแล้วตะโกนให้โลกรู้ว่ากูไม่ไหวแล้ว กูหวั่นไหว กูอยากเป็นไอ้คิสแมนๆเตะบอลคนเดิม ฮึก แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมันใจแล้วว่าไอ้ความแมนๆเตะบอลของตัวเองเนี่ยจะคงอยู่ไปถึงเมื่อไหร่ หัวใจโคตรจะอ่อนแอ

"นั่งแบบนี้ดีแล้ว กูหนาว"
พี่จีบพูดจบยังขยับหน้าเข้ามาใกล้กันอีก ใกล้จนแก้มเฉียดแก้มให้ใบหน้าผมร้อนผ่าว หัวใจยิ่งเต้นโครมครามหนักขึ้น ตอนนี้เริ่มเกลียดการถูกพี่จีบสกินชิพแล้วว่ะ รู้สึกจะหัวใจจะวายตายทุกครั้งที่โดนสัมผัส..

"หนาว...หนาวก็ไปเพิ่มแอร์ดิวะพี่ เปิดสิบแปดองศาไม่หนาวก็แปลกแล้ว"
ผมบอกเสียงเบาหวิว ตอนนี้แม่งไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลยกลัวพี่จีบมันจะดึงตัวผมเข้าไปชิดตัวมันมากกว่านี้อีก อยากจะสารภาพบาปอีกอย่างคือตอนนี้ผมไม่มีสมาธิกับงานตรงหน้าเลยว่ะ แย่ฉิบหาย

"รีโมทแอร์ถ่านหมด"
ไม่พูดเปล่ายังหันมรยิ้มแฉ่งใส่อีก.. รีโมทแอร์ถ่านหมดไปอีกมึง! อะไรมันจะพอเหมาะพอเจาะขนาดนี้ แล้วทำไมพี่มึงไม่เปลี่ยนถ่านวะ เชี่ยเอ้ยย จะทำยังไงให้ตัวเองหนีพี่จีบพ้นวะ

"ปะ ไปเอาเสื้อกันหนาวป่ะพี่?"
ผมยังไม่ละความพยายามหรอกนะเว้ย หัวใจไม่ปลอดภัยขนาดนี้กลัวตัวเองช็อกตายไปก่อนจะมีแฟนว่ะ.. เกิดมาสิบเก้าปียังไม่เคยมีแฟนสักคนนะเว้ย ยังตายไม่ได้!

"มึงนี่ยังไง นอกเรื่องมานานแล้วนะ งานจะเสร็จไหม?"
ผมหุบปากฉับทันทีเมื่อพี่จีบพูดเสียงดุ แต่ผมไม่กล้ามองหน้ามันเลยไม่รู้ว่าพี่มันทำหน้าแบบไหน ผมรีบทำเป็นตั้งใจมองหน้าจอทันทีมือจับเม้าส์แน่นมาก

"ทะ ทำต่อๆ แก้อะไรอีก"

"ตรงนี้"
พี่จีบผละแขนออกจากรอบคอผมแล้วเลื่อนไปวางทาบมือผมที่จับเม้าส์อยู่ก่อนจะลากเม้าส์ไปตำแหน่งที่ตัวเองต้องการ ผมมองตามมือของพี่จีบอย่างลืมตัว ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ปากบางเม้มแน่นเข้าหากัน โว้ย ทนไม่ไหวแล้วเว้ย แค่บอกก็ได้ไหมวะกูเลื่อนเองได้ เกลียดความขี้สกินชิพของมึงแล้ว ฮือ หยุดทำแบบนี้สักทีสิวะ มายไอดอลเชี่ยอะไรเนี่ยทำกูหวั่นไหวอีกแล้ว

"แค่บอกก็พอไหม ไม่เห็นต้องจับมือผมเลย"
ผมกำลังจะดึงมือตัวเองออกแต่พี่จีบจับมือผมไว้แน่นจนผมต้องหันไปมองคนด้านข้างว่าต้องการอะไรจากผมกันแน่ ดวงตาคมจ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว มันมีประกายวิบวับจนผมแล้วหวั่นใจ

"กูมีอะไรจะถาม มึงต้องตอบความจริง"
อ่า... พี่จีบพูดกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจังจนไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพยักหน้ารับช้าๆ

"มึงโง่หรือโง่?"
ผมมุ่ยหน้าทันทีเมื่อได้ยินคำถามแบบนี้ จำได้ว่าไอ้พี่ดีพกับไอ้ภีมก็เคยถามผมแบบนี้ แล้วมันมีอะไรให้ผมเลือกตอบล่ะวะมันก็โง่ทั้งคู่ นี่ผมบ้าหรือพี่จีบมึนวะ

"จะให้ผมตอบอะไรวะพี่ มีแต่โง่กับโง่อ่ะ"
ผมขวดคิ้วหนักขึ้น ก็คนมันไม่เข้าใจนี่หว่า พี่จีบมองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจหนักๆออกมาแล้วปล่อยมือผมให้เป็นอิสระก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"นี่มึงไม่รู้ใช่ไหมว่าทำไมกูชอบอยู่ใกล้มึง?"
ผมขยับเข้ามานั่งเต็มก้นแล้วช้อนตามองพี่จีบที่ยืนกอดอกแล้วจ้องผมเขม็ง คิ้วเข้มๆขมวดเข้าหากันแน่น.. ทำไมต้องเครียดขนาดนั้นวะคนเรา

"รู้ดิ"
ผมตอบสั้นๆ พี่จีบคลายหัวคิ้วออกแล้วยกมือขึ้นวางแปะลงบนหัวผม

"ฉลาดขึ้นมาแล้วสินะ ไหนตอบกูมาว่ารู้อะไร?"
พี่จีบก้มหน้าลงมาจนห่างจากหน้าผมแค่คืบเดียว ลมหายใจอุ่นเป่ารดหน้าผากกันทำให้เกิดความรู้สึกดีแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก ผมเห็นความคาดหวังในแววตาคู่นั้น ผมต้องทำให้พี่จีบภูมิใจ

"เพราะพี่ชอบสกินชิพไง"
ผมตอบพร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้ พี่จีบขมวดคิ้วฉับเหมือนเดิมก่อนจะออกแรงผลักหัวผมก่อนจะยืดตัวยืนตรง ผมเบ้ปากทันที อะไรวะ นี่ผมพูดอะไรผิดอีกเนี่ย พี่จีบแม่งเป็นเมนส์หรือไงเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหน้าบึ้ง เดี๋ยวอ่อนโยนเดี๋ยวสายโหด โอ้ย ตามไม่ทันครับ

"โง่เหมือนเดิม"
พูดจบก็ถอนหายใจใส่กัน ไม่พอแค่นั้นยังทำหน้าเบื่อโลกอีกด้วย

"อะไรของพี่จีบวะ ผมงงไปหมดแล้วเนี่ย"
ผมยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองไปมาจนมันยุ่งเหยิงไปหมด ยิ่งมองพี่จีบคำถามในหัวยิ่งมากมายไปหมด

"ช่างแม่งเถอะ เซฟงานลงเครื่องกูแล้วออกไปหาอะไรกินกัน"
พี่จีบบอกก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาที่อยู่ห่างออกไป ผมมองตามไปก่อนจะแอบถอนหายใจแล้วรีบเซฟงานลงเครื่องพี่จีบทันทีก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาเขา

"เรียบร้อยแล้วครับ"

"อืม"
เขาตอบรับสั้นๆก่อนจะเดินนำผมลงไปชั้นล่าง ไอ้ผมก็ไม่กล้าถามอะไรเลยได้แต่เก็บกระเป๋าแล้วเดินตามลงไปเงียบๆ ก่อนที่เราจะก้าวขาออกจากร้านพี่ไลค์ก็เรียกไว้ซะก่อน

"จะไปไหนกัน"
พี่ไลค์เดินเข้ามาขวางผมทั้งสองคนเอาไว้ ตอนนี้ร้านปิดแล้วพนักงานกำลังช่วยกันเก็บร้านอยู่

"ไปหาไรกิน"
พี่จีบตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ปกติเท่าไหร่ คงเป็นเพราะผมแน่ๆ ขอโทษ..

"ไปด้วยดิ"

"ไม่ กูจะไปมอ'ไซต์"

"ไรวะ จะไปสวีทกับน้องคิสสองคนหรือยังไง?"
พี่ไลค์มองผมสลับกับพี่จีบด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ผมนี่รีบยกมือโบกปฏิเสธไปมา จะบ้าหรือยังไง ไม่ได้เป็นแฟนกันนะเว้ย สวีทอะไรล่ะครับคุณ แต่ไอ้พี่จีบนี่ดิไม่ได้ช่วยกันปฏิเสธเลยแถมยังไปตอบรับให้คนอื่นเขาเข้าใจผิดไปอีก

"เออ เพราะงั้นอย่าเสือก"
พี่จีบพูดจบก็คว้าข้อมือผมออกจากร้านไปทันที ผมได้แค่โค้งตัวลาพี่ไลค์แทน รายนั้นก็ยิ้มกว้างแถมกับโบกมือลาเสียดิบดี เชี่ยมาก เชื่อพี่จีบไปแล้วแน่ๆ

"พี่จีบ"
ผมเรียกชื่อเขาเมื่อเรามาหยุดอยู่ที่รถสปอร์ตไบค์ที่ผมไม่ค่อยคุ้นตา รถ Ducati ที่มีราคาเหยียบล้าน.. ใบหน้าคมหันมองกันแต่ยังไม่ยอมปล่อยข้อมือของผมให้เป็นอิสระ

"ว่าไง"

"ทำไมบอกพี่ไลค์ไปแบบนั้นอ่ะเดี๋ยวก็โดนเข้าใจผิดหรอก"

"แคร์คนอื่นอีกแล้วนะมึง"

"อ่าว ก็มันไม่ใช่ความจริงนี่หว่าพี่"
ผมยกมือข้างที่เหลืออยู่เกาท้ายทอย ดวงตากลมเสมองไปทางอื่นเมื่อเริ่มรู้สึกเขินสายตาของพี่จีบ แรงบีบที่ข้อมือแน่นขึ้นแต่ไม่ถึงกับเจ็บ แสงไฟสลัวๆกับอากาศหลังฝนตกมันทำให้รู้สึกโรแมนตกแปลกๆ... กูเนี่ยแปลก สถานการณ์แบบนี้ยังคิดว่ามันโรแมนติกได้อีก

"สนใจแต่คนอื่นสนกูบ้างไม่ได้หรือยังไง"

"หา?"
ผมว่าผมไม่เข้าใจสิ่งที่พี่จีบกำลังสื่อว่ะ แล้วผมไม่สนใจพี่เขาตรงไหนว่ะ ยกให้เป็นมายไอดอลขนาดนี้ยังหาว่าไม่สนใจกันอีก ต้องบอกออกไปตรงๆไหมว่าพี่อยู่ในสถานะไหนสำหรับผมเนี่ย

"เฮ้อ ไม่มีอะไร ขึ้นรถเหอะ"
พี่จีบพูดก่อนจะก้าวขาคร่อม Ducati ตรงหน้า ผมตามเขาไม่ทัน ตกลงว่ารถคันนี้ของพี่จีบเหรอวะ โอ้ยๆๆๆ เท่สัดๆ คนอะไรทำไมเพอร์เฟ็คขนาดนี้ว้า ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงกรี๊ดพี่จีบคอแทบแตกอ่ะ

"จะยืนอยู่อีกนานป่ะ?"
พี่จีบหันมาค้อนใส่เบาๆหนึ่งวง ผมที่เพิ่งได้สติรีบเกาะไหล่เขาแล้วเทคตัวขึ้นรถทันที แต่คุณเคยเห็นข้อเสียของสปอร์ตไบค์ไหม.. คนซ้อนท้ายแม่งตรงแนบชิดกับคนขี่ตลอดเวลาอ่ะ ผมพยายามนั่งตัวตรงแต่ดูจะน่าหวาดเสียวไม่ใช่น้อยเมื่อระลึกถึงวีรกรรมการขับขี่รถของพี่จีบ

"กอดเอวกู"
เสียงเข้มๆออกคำสั่งจนผมอ้าปากหวอ เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ

"ว่าไงนะพี่?"

"กอดเอวกู"

"เอ่อ..."

"อย่าให้กูพูดหลายรอบ หิวแล้ว"
ผมว่าผมเห็นไอ้พี่จีบมันกำลังยิ้มนะ! แต่ไม่อยากท้วงไง เดี๋ยวแม่งแกล้งผมอีก คนยิ่งกลัวๆอยู่

"กอดแล้วคร้าบคุณพี่ ปรานีผมด้วย"
ผมกอดเอวมันแน่นพร้อมกับซุกหน้าลงบนแผ่นหลังกว้าง.. เผลอสูดกลิ่นกายผู้ชายแมนๆเข้าไปจนเต็มปอด ฮึก หอมจังแถมยังอุ่นด้วย ณ เวลานี้นายคิสรู้จักคำว่าฟินอย่างถ่องแท้เลยครับ

หลังจากวันนั้นเมนูที่ผมออกแบบก็ได้นำออกมาใช้เป็นทางการแล้ว ผมภูมิใจกับผลงานของตัวเองอยู่ไม่น้อย และพี่จีบยัดเยียดเงินค่าออกแบบให้ผมแต่ผมไม่รับ จนกลายมาเป็นว่าพี่จีบจะสอนการทำกาแฟให้ผมเป็นค่าตอบแทน ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มครึ่งผมนั่งรอพี่จีบอยู่หน้าเค้าน์เตอร์บาร์ ส่วนเขากำลังถอดเสื้อกั๊กออกแล้วพาดไว้

"พร้อมยัง?"
ใบหน้าคมหันมามองกันก่อนที่เขาจะเท้าแขนกับเค้าน์เตอร์บาร์แล้ววางแก้มลงบนฝ่ามือ ผมพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน สมุดโน้ตกับปากกาในมือพร้อม

"พร้อมแล้วครับคุณบาริสต้า"
ผมยิ้มแฉ่งก่อนจะเปิดสมุดโน้ตและปากกา พร้อมแล้วที่จะบันทึกทุกคำสั่งสอนของพี่จีบลงในสมุด แต่ไอ้ดวงตาคมที่มองมานั้นมันไม่เหมือนคนที่มองลูกศิษย์ของตัวเอง มันมีความอ่อนหวานอ่อนโยนแปลกๆจนทำให้ผมแอบขนลุก

"วันนี้เรียนเกี่ยวกับประวัติกาแฟก่อนแล้วกัน"

"คร้าบบ ~"

"กาแฟที่นิยมปลูกมีสองสายพันธุ์หลักๆคืออาราบิก้าและโรบัสต้า อาราบิก้าจะปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น กลิ่นกาแฟชัดเจน รสนุ่มนวลคาเฟอีนน้อย ส่วนโรบัสต้านิยมปลูกในเขตอากาศร้อน กลิ่นไม่ค่อยหอม คาเฟอีนเกือบเป็นสองเท่าของอาราบิก้า"
พี่จีบยังคงพูดต่อไป ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตาพยายามที่จะจดทุกคำพูดของเขาลงสมุด ผมรู้สึกว่าทุกอย่างที่เป็นกาแฟมีความน่าสนใจอย่างมาก จนบางทีผมก็คิดว่าตัวเองตกหลุมรักกาแฟเข้าแล้วจริงๆ ทั้งกลิ่นหอม รสชาติ และอีกอย่างที่ทำให้ผมสนใจมันขนาดนี้ก็เพราะคนที่กำลังตั้งใจจะให้ความรู้ผม ตอนที่เขาตั้งใจทำอะไรสักอย่างโคตรมีเสน่ห์จริงๆ

"วันนี้กูจะให้มึงลองทำเอสเพรสโซ่นะ เดี๋ยวตามมาดูวิธีทำ"
หลังจากที่พี่จีบไล่ประวัติยาวเหยียดของกาแฟจบก็ถึงขั้นตอนสาธิตการทำเอสเพรสโซ่ที่เป็นหัวใจของกาแฟทุกชนิด ผมเดินตามพี่จีบเข้าไปหลังเค้าน์เตอร์บาร์ด้วยความตื่นเต้น ร่างสูงประจำที่อยู่ตรงหน้าเครื่องกาแฟก่อนจะลงมืออธิบายส่วนประกอบต่างๆ ผมจดทันบ้างไม่ทันบ้าง ลายมือโคตรไก่เขี่ยอ่ะครับ ใครอย่าขออ่านนะ อาย

"ดูแล้วก็จำนะ เดี๋ยวจะให้ลองทำ"
พี่จีบลงมือกดสวิตซ์เปิดเครื่องบดเมล็ดกาแฟอัตโนมัติ จากคำแนะนำของเขาคือไม่ควรบดกาแฟทิ้งไว้จนเต็มโถของเครื่องบด แต่ควรบดเป็นครั้งคราวไป พูดง่ายๆคือจะชงตอนไหนก็บดตอนนั้น พอได้ปริมาณที่ต้องการก็ทำการปัดก้านเครื่องบดให้ผงกาแฟตกลงใน Group Head ที่เราถือรองไว้ มันเป็นหัวชงกาแฟนั่นเอง มีทั้งแบบทางเดียวและสองทาง หลังจากได้ผงกาแฟมาให้เราทำการเคาะ Group Head ลงกับฝ่ามือเพื่อให้ผงกาแฟกระจายตัวให้ทั่ว ก่อนจะใช้ Temper อัดกาแฟให้เรียบ แล้วนำ Group Head ไปใส่เครื่องทำกาแฟกดปุ่มทำเอสเพรสโซ่บนเครื่องทำกาแฟเซมิ-ออโต้ที่มีการเซ็ตค่าน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว นับ 1-5 วิ จะเป็นเวลาที่พอดีในการให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟ และนับต่ออีก 25 วินาทีจะได้เอสเพรสโซ่ที่ดีมาหนึ่งแก้ว กลิ่นกาแฟหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ แก้วกาแฟขนาดเล็กถูกนำมาวางที่หน้าเค้าน์เตอร์ ฟอง Crema สีน้ำตาลทองลอยอ้อยอิ่งอยู่ด้านบน สำหรับฝีมือของพี่จีบแล้ว เอสเพรสโซ่แก้วนี้เป็น Perfect Shot อย่างไม่ต้องสงสัย

"โห กลิ่นหอมมากเลยพี่จีบ"
ผมยื่นหน้าลงไปดมแล้วยิ้มออกมา แต่จะให้ลองกินกาแฟตอนนี้คงทรมานตัวเองมากเกินไป พี่จีบแกล้งกดหัวผมลงไปจนปลายจมูกเกือบจะจุ่มกาแฟ ผมผงะตัวขึ้นแล้วแยกเขี้ยวใส่คนขี้แกล้งทันที

"ทำอะไรของพี่เนี่ย! ถ้าหน้าจุ่มไปในกาแฟจะทำยังไงเล่า"

"จุ่มก็ล้าง ง่ายๆ"
พี่จีบยักคิ้วส่งยิ้มกวนๆมาให้กัน ผมเบ้ปากก่อนจะหันหน้าหนี คนอะไรวะแกล้งคนอื่นได้อย่างหน้าตายจริงๆ

"งอนเหรอวะ"
เสียงทุ้มเอ่ยถามแต่ผมไม่ตอบ แม่ง งอนอ่ะ งอนจริงๆนะเว้ย

"คิสครับ อย่างอนดิ พี่ล้อเล่น"
น้ำเสียงที่อ่อนลงบวกกับคำพูดเพราะๆทำให้หัวใจของผมอ่อนยวบอย่างช่วยไม่ได้ จากที่โมโหจะเป็นจะตายตอนนี้กลับไม่รู้สึกแบบนั้น ความเขินเข้ามาแทนได้ยังไง โคตรงงตัวเอง

"ไม่งอน ไหนอ่ะ จะลองทำแล้ว"
ผมเบียดตัวเข้าไปยืนอยู่หน้าเครื่องบดกาแฟพยายามไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่อยากให้พี่จีบรู้ว่าผมหายโกรธเขาด้วยคำพูดเพราะๆพวกนั้น ดูเป็นคนโคตรใจง่ายเลยว่ะ

"เริ่มเลย จำได้ไหมว่าทำอะไรแบบไหนบ้าง?"
พี่จีบเดินเข้ามาซ้อนหลังกันแต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่เพราะกำลังเพ่งสมาธิไปที่เครื่องบดกาแฟ ผมพยักหน้าหงึกหงักเพราะจำได้คราวๆว่าต้องทำอะไรบ้าง

"กดสวิตซ์ตรงนี้ใช่ป่ะ?"
ผมชี้ไปที่สวิตซ์ข้างตัวเครื่องบดกาแฟอัตโนมัติแล้วมองมันสลับกับหน้าคนที่อยู่ด้านหลัง พี่จีบพยักหน้ารับเบาๆผมเลยกดลงไป เครื่องกำลังทำงานทยอยบดเมล็ดกาแฟในโถด้านบนลงสู่โถด้านล่าง ในโถจะแบ่งช่องย่อยๆให้พอดีกับผงกาแฟขนาด 7-9 กรัม เป็นปริมาณผงกาแฟที่พอดีสำหรับการทำเอสเพรสโซ่หนึ่งชอต ผมกดสวิตซ์หยุดเมื่อได้ผงกาแฟเต็มหนึ่งช่อง มือเรียวคว้าเอง Group Heard หนึ่งทางมารองใต้เครื่องก่อนจะปัดก้านให้ช่องทีมีมีผงกาแฟตรงกับ Group Head เมื่อผงกาแฟร่วงหล่นลง ผมเคลื่อนมือออกแล้วยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อเห็นผงกาแฟที่ตัวเองบดเองกับมือ(?)

"ต่อจากนี้ต้องเคาะให้เรียบสินะ"
ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะลงมือจับ Group Head ไว้ให้มันแล้วใช่สันมือเคาะลงไปอย่างมั่นใจ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคนที่ยืนซ้อนหลังกันยกมือขึ้นมาโอบผมแล้วจับมือทั้งสองข้างไว้ แผ่นหลังแนบชิดกับอกกว้างอย่างช่วยไม่ได้ พี่จีบกำลังทำให้ผมไม่มีสมาธินะเว้ย... มือไม้อ่อนหมดแล้วเนี่ย

"มึงอย่าเอาสันมือไปเคาะ ต้องเอา Group Head เคาะลงบนสันมือแบบนี้"
ใบหน้าหล่อยื่นผ่านไหล่ผมมาจนใบหน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ เสียงทุ้มต่ำทำให้หัวใจของผมรู้สึกวาบหวิว.. เหมือนพี่จีบตั้งใจจะใช้ระดับเสียงกระซิบกับผม หลังจากเขาพูดจบมือที่จับมือผมเอาไว้เริ่มเคลื่อนไหว สันมือนิ่งอยู่กับที่แล้วเลื่อนมือที่กำลังถือ Group Head เข้าเคาะกับสันมือแทน

"ทำแบบนี้นะ เข้าใจหรือยัง"
เสียงนุ่มเอ่ยถามแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากกัน ผมพยักหน้าเบาๆทั้งๆที่สมองไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว สมาธิที่ควรจะมีกับการชงกาแฟมันเหือดหายไปหมด ฝ่ามืออุ่นๆที่ทาบทับอยู่บนมือของผมทำให้หัวใจกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

"ขะ เข้าใจแล้วครับ"
ผมตอบก่อนที่พี่จีบจะปล่อยมือแล้วให้ผมทำขั้นตอนต่อๆไปด้วยตัวเองจนได้เอสเพรสโซ่หนึ่งชอตออกมา น้ำที่ไหลผ่านกาแฟใช้เวลาไวกว่า 5 วินาที พี่จีบบอกว่า สาเหตุอาจจะมาจากผมอัดผงกาแฟไม่แน่น แต่สำหรับการทำกาแฟครั้งแรกของผมพี่จีบบอกว่าดีแล้ว ให้พยายามฝึกบ่อยๆ พอเกิดความชำนาญขึ้นเราจะสามารถทำ Perfect Shot ได้แบบสบายๆ

ผมเก็บสมุดเข้ากระเป๋าก่อนจะเดินออกมารอพี่จีบที่กำลังปิดร้าน วันนี้พี่จีบไม่ได้นอนเฝ้าร้านแต่จะกลับบ้านแทน ส่วนผมไม่ได้เอารถมาเพราะเมื่อตอนเย็นฝนตก พี่จีบเลยอาสาไปรับผมที่หอแทน

"ป่ะ เดี๋ยวไปส่ง"
พี่จีบควงกุญแจรถ BMW สีขาวลูกรักไว้ในมือแล้วหันมาชวนกัน

"คือ.. ผมเรียกแท็กซี่กลับเองก็ได้ครับ ไม่รบกวนพี่จีบดีกว่า"
ถึงพี่จีบจะบอกว่าการสอนทำกาแฟให้ผมมันเป็นค่าตอบแทนสำหรับงานออกแบบ แต่ผมก็ยังคิดว่าตัวเองรบกวนเวลาว่างของพี่เขาอยู่ดี ปิดร้านตั้งทุ่มครึ่งแล้ว ยังมาสอนผมจนถึงสามทุ่มครึ่งอีกแทนที่จะได้พักผ่อนเลยไม่อยากรบกวนไปมากกว่านี้แล้ว

"กูยังไม่ได้พูดสักคำว่ารบกวน"
ดวงตาคมมองสบมาก่อนจะเบือนหน้าไปมองท้องฟ้าที่ไร้ดาว มันมืดสนิทจนดูลึกลับ สายฝนโปรยปรายลงมาเพียงบางเบา แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อากาศเย็นกว่าเดิม

"แต่มันดึกแล้วนะครับ"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้ม ใจจริงก็อยากให้พี่จีบไปส่ง แต่อีกใจก็เป็นห่วงสุขภาพพี่เขานั่นล่ะ กลัวจะนอนไม่พอ

"เออน่า กูไปส่งมึงได้ ฝนตกด้วยเนี่ย"
พี่จีบว่าก่อนจะยื่นมือออกไปนอกชายคาสัมผัสกับสายฝนที่ตกหนักลงมามากกว่าเดิม ผมรู้สึกได้ว่าสถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ผมเกลียดฝน แค่ละอองของมันก็ทำให้ผมป่วยได้แล้ว ไม่ชอบเลย ผมทำท่าจะขยับไปชิดประตูหน้าร้านเพื่อหลบละอองฝน แต่พี่จีบที่ยืนอยู่ข้างกันกลับขยับไปยืนบังฝนให้ แค่นั้นไม่พอยังส่งเสื่อกันหนาวแขนยาวที่หยิบติดมือมาส่งให้ผมอีก

"ใส่เอาไว้ เดี๋ยวจะไม่สบาย"
สายตาแสดงความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิดส่งมาให้กัน ผมอึกอักเพราะอยากให้คนตรงหน้าใส่เอาไว้มากกว่า ก็ผมใส่เชิ้ตแขนยาวอยู่แล้วส่วนพี่จีบใส่แค่เชิ้ตสีขาวบางแขนสั้น

"แต่ว่า..พี่ใส่เสื้อบางกว่าผมนะ"
พี่จีบคลี่ยิ้มแล้วกางเสื้อกันหนาวคลุมให้ผมเองโดยไม่ให้ปฏิเสธอีก

"กูดูแลตัวเองได้น่า"
มือหนายกขึ้นลูบหัวผมเบาๆอย่างอ่อนโยน จนผมเผลอหลับตาลงแล้วซึมซับกับไออุ่นจากฝ่ามือนั้น

"ผมก็ดูแลตัวเองได้นะครับ"
ผมช้อนตามองเขา พี่จีบชะงักมือก่อนจะเลื่อนมันลงมาประคองแก้มด้านขวาของผมเอาไว้ สายตาที่ส่งให้กันเหมือนกำลังพยายามสื่อความหมายอะไรบางอย่าง

"แต่กูอยากดูแลมึง"
พี่จีบยกยิ้มให้กัน ผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจกับคำพูดนั้น จะว่าอะไรไหมถ้าผมจะหวงสัมผัสของพี่จีบ สายตาของพี่จีบ ร่างกายของพี่จีบ หรือแม้กระทั่งคำพูดของพี่จีบ ผมมีสิทธิ์จะหวงไหมครับ ในฐานะแฟนคลับคนหนึ่ง ผมขอหวงทุกอย่างของพี่จีบได้ไหม ไม่อยากให้คนอื่นได้มันไป แล้วจะผิดไหมถ้าผมไม่อยากให้พี่จีบมีใครไปเรื่อยๆแบบนี้ ขอโทษนะครับที่เป็นแฟนคลับที่แย่มากๆ ขอโทษจริงๆ



----------------------------------------------------------



*Group Head - หัวชงกาแฟ มีทั้งแบบหนึ่งทางสำหรับทำกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ชอต (30 ml.) แบบสองทางสำหรับทำเอสเพรสโซ่ 2 ชอต (60 ml.)
*Temper - เป็นตัวบดอัดผงกาแฟให้เข้ากับหัวชงกาแฟ
*ระยะเวลาการไหลของเอสเพรสโซ่ที่ดีที่สุดคือ 20-30 วินาที
*อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมต่อการทำกาแฟคือ 90-96 °c
*ปริมาณผงกาแฟที่เหมาะสมต่อการทำเอสเพรสโซ่ 1 ชอตคือ 7-9 กรัม
*Perfect Shot ของเอสเพรสโซ่จะแบ่งเป็นสามชั้นชัดเจน ประกอบด้วย Crema (ฟองกาแฟที่น้ำตาลทอง) , Body (เนื้อกาแฟสีน้ำตาล) , Heart (เนื้อกาแฟสีน้ำตาลเข้ม มีรสเข้มข้นที่สุด)


=============================



Q & A กับ น้องคิส
Q : ตกลงว่าน้องคิสอยากเป็นแฟนคลับหรือแฟนครับของพี่จีบ?
A : หา ~ แฟนคลับสิครับ จะเป็นแฟนครับได้ยังไงกัน /ทำหน้าตกใจ
Q : อ้าว นี่น้องคิสไม่รู้เหรอว่าพี่จีบเขาคิดยังไงกับเรา
A : หือ คิดอะไรยังไงเหรอครับ?
จีบ : คิสอยู่นี่เอง ไปหัดทำเอสเพรสโซ่ได้แล้ว อย่าอู้ /แล้วจีบก็ลากคิสออกไป
Q : อะ ไอ้จีบตัวแสบ...!




ตอนที่ 7 มาแล้วน้า น้องคิสไม่ยอมฉลาดเลยไง ขัดใจพี่จีบไปอีก สงสัยพี่จีบต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแล้วม้าง

ปล.ความรู้เรื่องกาแฟทั้งหมดในนิยายตอนนี้ เราได้รับการเทรนนิ่งมาจากบาริสต้าท่านหนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ ถ้าหากผิดพลาดประการใดของอภัย ณ ที่นี้ด้วยน้า ♡

ปล.2 อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-07-2016 16:05:18
 :o8:  ใจสั่นยังกับซัดโรบัสต้าไปสามแก้ว
เอาเป็นว่าแบบนี้แหละไก่ไม่ตื่นดี ไปรู้สึกตัวอีกทีก้อตอน   :oo1: 
คริคริ  :hao6:  ขอบคุณคนเขียนนะคะ ขยันมากเลย หาข้อมูลมาแน่นปึ้กด้วย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-07-2016 16:52:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 22-07-2016 16:57:09
                                  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:

หะ หะ หัวใจฉัน เต้นเเรงมาก เขิน อมยิ้ม ทำไมต้องละมุน อ๊าคคคคคคคคคคคคค นิยามคำว่าฟิน คืออัลไล
อยากกลับไปเเมนๆ เเตะบอลคงไม่ทัน 55555555555
เค้าโอบกันเเล้ว เค้ากอดกันเเล้ว เค้าสนิทชิดเชื้อกันด้วย นี้เขินเเทนคิสคนซื้อ(บื้อ)จัง กร๊ากๆๆๆๆๆ

ตอนนี้ คิสใจเเตกเเล้วสินะ กู่ไม่กลับเเล้วด้วย พี่จีบ สกิลการจีบ นางเนียน ละมุนไปอีก

รักกาเเฟจัง อยากกินเเล้วนึกถึงสองคนนี้ ต่อไปคงเเบบ ถ่ายรูปกาเเฟเเล้วเเบบตั้งเเคปชั้น #จีบคิส 5555555555

 :hao7:  :hao7:  :hao7:  :hao7:  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 22-07-2016 17:26:55
โอ๊ยยยยยบ อยากจะกรี๊ดๆๆๆ >\\\\\\\<
เป็นการทำเอสเพรสโซที่หวานมาก น้ำตาลมาจากไหนไม่รู้เต็มเลยอ่า~~~~~~~~
น้องคิส ลูก อิพี่จีบอ่ะ มันจีบหนูอยู๊!!!!!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-07-2016 18:46:13
ไม่แปลกใจว่าทำไมทั้งพี่และเพื่อนรวมถึงพี่จีบถึงได้ถามคิสว่า โง่หรือโง่
ป่านนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-07-2016 18:50:26
น้องคิสนี่น๊า เมื่อไรจะรู้ตัวเนี่ย พี่จีบเดินหน้าแล้วนั่น
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 22-07-2016 19:06:23
เมื่อไหร่จะรู้ตัวสักทีคิสเอ้ยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 22-07-2016 19:16:51
น่าย๊ากกกกกกก o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-07-2016 19:53:52
อ่อยย อิจมั้ยละ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 22-07-2016 20:25:04
ยิ้มตามจนคนอื่นนึกว่าเป็นบ้าแล้ว ฮือออออ :-[
มาต่อเลยได้มั้ยยยยยย *ดิ้น* :ling1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 22-07-2016 21:08:32
 :impress2: :impress2:พี่จีบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 22-07-2016 21:42:21
ก็เนี่ย พี่จีบเนียนเกินไป น้องก็เลยไม่รู้เรื่องสักที

สงสารรรรรรร ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 22-07-2016 22:19:29
พี่จีบคือดีอะคือเนียน หนูคิสก็ยังคงไม่รู้ตัวต่อไป555555  :katai5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 07 : ดื่มครั้งที่ 7 -P.4- (22.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 23-07-2016 00:04:09
ซื่อไปอี๊กกกกน้องคิส
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 23-07-2016 13:53:21
- ดื่มครั้งที่ 8 -



เสียงฟ้าร้องโครมครามไม่ได้ทำให้ผมกลัวเลยสักนิด แต่ในเวลานี้หัวใจกลับเต้นรัวเร็วเมื่อผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เหตุการณ์ที่ทำให้ความรู้สึกของผมไม่มั่นคง การกระทำและคำพูดของพี่จีบยังคงชัดเจนในความทรงจำของผม แม้แต่ร่องรอยการสัมผัสก็ยังคงไม่จางหายถึงมันจะผ่านมาแล้วเกือบสิบชั่วโมงก็ตาม

ผมนั่งพิงหัวเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมขาไว้แบบนี้ตั้งแต่แยกย้ายกับเขาเมื่อคืน อาการนอนไม่หลับโจมตีผมอย่างรุนแรง เมื่อครั้งหลับตาลงภาพที่จีบและคำเอ่ยหวานหูก็ยังตามมาหลอกหลอน ความสับสนและความไม่เข้าใจกำลังถาโถมให้ผมกลายเป็นคนหาทางออกให้กับชีวิตตัวเองไม่ได้ ผมว่าผมควรปรึกษาคนแมนๆเล่นบาสฯอย่างไอ้ภีม เพราะคนแมนๆเตะบอลอย่างผมกำลังแย่แล้ว

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์หน้าจอเพื่อปลดล็อกก่อนจะกดเข้าแอพพลิเคชั่นสีเขียวยอดฮิต นิ้วของผมกำลังไล่หารายชื่อของไอ้ภีมแต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อมีอะไรบางอย่างสะดุดสายตา ผมไม่รอช้าที่จะกดเข้าไปอ่านข้อความไลน์จากใครคนหนึ่งทันทีด้วยความอยากรู้ เพราะตอนกลับมาถึงห้องผมก็ไม่ได้สนใจโทรศัพท์อีกเลย

อัศวิน
- ถ้ารู้สึกไม่สบายตัวก็กินยาด้วยนะ 23:00
- ฝันดี 23:02

ผมนั่งอ่านข้อความของพี่จีบด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งดีใจที่เชาเป็นห่วงและทั้งแปลกใจที่อยู่ๆเขาส่งมาบอกฝันดีกัน เพราะว่าปกติแล้วเราสองคนไม่ได้คุยไลน์ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นจริงๆ แต่คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆเพราะยังไงๆก็ไม่มีคำตอบให้กับความสงสัยของตัวเอง ผมอ่านข้อความนั่นอีกครั้งก่อนจะพิมพ์ตอบไป

× คิสสึ ×
- อรุณสวัสดิ์ครับผม 10:30

ผมกดส่งไปแล้วแต่เพิ่งคิดได้ว่าเวลานี้คงสายโด่สำหรับคนที่ตื่นมาเปิดร้านทำมาหากินแล้วล่ะ ทำไมชอบปล่อยความเอ๋อให้พี่จีบเห็นบ่อยๆวะ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ผมละความสนใจจากแชทพี่จีบแล้วเลื่อนหารายชื่อให้ภีมต่อจนเจอ ภาวนาขอให้มันว่างตอบผมด้วยเถอะ

× คิสสึ ×
- มึงงงงงงงงง ว่างป่ะ มีเรื่องจะปรึกษา 10:32

หลังจากส่งข้อความไปผมก็ไหลตัวลงนอนราบไปกับเตียง มือยังคงถือโทรศัพท์ไว้ ดวงตากลมจับจ้องอยู่ที่หน้าจอแชทรอค่อยการตอบสนองของเพื่อนรักด้วยใจจดจ่อ ผ่านไปแล้วหนึ่งนาทีทุกอย่างยังนิ่งเงียบจนผมเริ่มร้อนรน จะให้โทรไปหาก็ไม่ไหว เพราะกลัวจะไปขัดเวลาแห่งความสุขระหว่างมันกับพี่ดีพ ถ้าให้พูดตามตรงคือไม่อยากให้พี่ดีพเสือกเรื่องนี้...

"แม่ง...มัวสวีทกับพี่ดีพแน่ๆ"
ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออหมาเฮือกใหญ่ ผ่านไปแล้วห้านาทีก็ยังไม่มีการตอบสนองกลับมาจากภีม ผมตัดใจเลิกรอและกำลังจะวางโทรศัพท์ลงที่เดิม แต่มีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าดังขึ้นซะก่อน ด้วยความที่หวังว่าภีมจะตอบกลับมาเลยรีบเปิดดู แต่ก็ต้องชะงักค้างเพราะไม่ใช่ภีมแต่เป็นพี่จีบ

อัศวิน
- สายโด่ละมึง ดูนาฬิกาหน่อย 10:50
- วันนี้มาที่ร้านไหม? 10:51

× คิสสึ ×
- คงไม่ได้ไปมั้งพี่ ฝนตกหนักขนาดนี้ 10:51

ผมตอบก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่านออก เมฆฝนดำทะมึนปรากฏสู่สายตา สายฝนที่ตกลงกระทบระเบียงนั้นกระเซ็นเปียกไปทั่วบริเวณ ถ้าแค่วิ่งออกไปเพียงหนึ่งวินาทีคงเปียกชุ่มได้ไม่ยาก วันนี้คงเหงาอยู่ห้องชัวร์ ผมก้มลงดูเจ้าโทรศัพท์เครื่องสี่เหลี่ยมอีกครั้ง พี่จีบส่งข้อความกลับมาแล้ว

อัศวิน
- ให้กูไปรับป่ะ? 10:52

คำถามแบบนี้มาอีกแล้ว คำถามที่เผลอทำให้ใจเต้นรัวถึงสองครั้ง ไม่รู้ว่าทำไมพี่จีบถึงมีความขยันในการขับรถในวันฝนตกขนาดนี้ ผมไม่ไปที่ร้านสักวันแล้วพี่เขาจะขายกาแฟไม่ได้หรือยังไงกัน

× คิสสึ ×
- มารับทำไมวะพี่ ไม่เห็นหน้าผมแล้วคิดถึงเหรอ? 10:53
- 55555555 ล้อเล่นนะๆ 10:53

อัศวิน
- เออ คิดถึง ตกลงจะให้ไปรับไหม? 10:53

ผมอ่านข้อความนั้นแล้วอ้าปากหวอ รู้สึกว่าใบหน้าเริ่มเห่อร้อน ทำไมต้องเขินตอนพี่จีบบอกว่าคิดถึงด้วยว่ะ แล้วพี่จีบมันเป็นบ้าอะไรเนี่ยมาพูดจาหวานๆใส่ ถ้าจะคิดถึงจริงก็ประสาทเกินไปหน่อยแล้ว เมื่อคืนเพิ่งแยกจากกันยังไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยเถอะ เกินมีความรักน้องขึ้นมาหรือยังไงกันนะ

× คิสสึ ×
- หูยย พูดแบบนี้ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นผู้ชายผมคิดว่าพี่หยอดผมนะเนี่ย! :P 10:54

อัศวิน
- ทำไม มึงเป็นผู้ชายแล้วกูจะหยอดมึงไม่ได้ว่างั้น? 10:54

× คิสสึ ×
- ผมไม่ใช่สาวๆสวยๆซะหน่อยพี่ จะมาหยอดกันทำไมวะ 10:54

อัศวิน
- นี่มึงไม่รู้จริงๆดิ? 10:55

× คิสสึ ×
- หา รู้อะไรยังไง งงอ่ะ @_@ 10:55

อัศวิน
- ช่างแม่งเถอะ ไปอาบน้ำแต่งตัว อีกครึ่งชั่วโมงจะไปรับ 10:55

พี่จีบทำผมตกใจอีกรอบด้วยการมัดมือชกบังคับผมให้ไปอาบน้ำแล้วตัวเองจะมารับ... แล้วไอ้เรื่องหยอดนั่นยังคุยไม่จบเลยนะเว้ย มันคาใจอ่ะ มันค้างอ่ะ ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ ชอบช่างแม่งช่างมันแล้วผมก็กลายเป็นคนโง่ทุกรอบแบบนี้ เริ่มหงุดหงิดแล้วนะเว้ย

× คึสสึ ×
- เดี๋ยวๆไอ้พี่จีบ ยังพูดเรื่องหยอดไม่จบเลยนะเว้ย 10:56

อัศวิน
- สนใจไรวะ ไม่มีไร รีบๆไปอาบน้ำ กูไปทำงานต่อแล้ว 10:57

× คิสสึ ×
- ................ 10:57

แล้วมันก็ทิ้งผมไปจริงๆ ห่าราก!! มาพูดให้คิดแล้วจากไป อีกครึ่งชั่วโมงต้องเจอหน้ากัน แล้วมันคิดว่าผมจะทำตัวยังไงมองหน้ามันยังไง ไหนตอบ!!! ไอ้ภีมเฮงซวยก็ไม่รู้หายไปตายที่ไหน นี่ไปอยู่กับพี่ดีพมันไม่คิดจะตอบข้อความผมเลยหรือยังไงวะ หึ กูจะยุให้พี่ดีพจับมึงทำเมีย จำไว้!!

ผมรีบวิ่งไปอาบน้ำเมื่อรู้ว่าเวลาที่พี่จีบให้กันเหลือน้อยลงทุกที ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนอาบน้ำนานอะไรหรอก แต่วันนี้อากาศหนาวต้องใช้เวลาทำใจก่อนอาบน้ำอีกนานโข กว่าจะเอื้อมมือสัมผัสกับสายน้ำจากฝักบัว กว่าจะกลั้นใจไปยืนดิ้นแด่วๆให้ตัวเปียกน้ำได้ก็โคตรจะเสียเวลา หอผมไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยไงครับ บรรลัยไปอีก มันเป็นเพราะความอยากโชว์พาวเวอร์ของผมเองนั่นล่ะที่ไปบอกป๊ากับม๊าว่าไม่ชอบอาบน้ำอุ่น คนแมนๆเขาอาบน้ำเย็นๆกันทั้งนั้นล่ะ ปากหาเรื่องซะไม่มีเลยกู

กว่าจะเตรียมตัวเรียบร้อยก็โดนพี่จีบโทรตามกันซะแล้ว ชุดที่เลือกใส่วันนี้ก็เป็นแค่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยสีกรมท่า ทรงผมเป็นเห็ดเพราะเพิ่งสระผมใหม่ๆ ดูตัวเองในกระจกแล้วไม่เหมาะที่จะเป็นเด็กปีสองเลยว่ะ เหมือนเด็กมัธยมกางเกงน้ำเงินยังไงไม่รู้

มีเวลาตบตีกับตัวเองไม่มากก็ต้องหยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ กุญแจห้องแล้วรีบวิ่งไปลงลิฟท์ทันที พอวิ่งออกมาหน้าประตูหอเท่านั้นล่ะ ร่มคันใหญ่ก็ถูกขยับมากางให้กันพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของพี่จีบเข้ามาแนบชิด ผมเงยมองหน้าเขาก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้ แต่ความทรงจำเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาเล่นงานผมเอาซะดื้อๆจนต้องรีบหันกลับไปมองทางด้านหน้าอย่างช่วยไม่ได้ อยู่ๆก็รู้สึกตัวเกร็งขึ้นมา พี่จีบแน่ใจเหรอวะว่าจะพาผมไปถึงร้านจริงๆ เพราะตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศตายตรงนี้เลยวะแม่ง ฮือ

"เดินดิ ยืนเซ่ออยู่ทำไมวะ"
พี่จีบใช้แขนที่พาดโอบไหล่กันอยู่ออกแรงดันหลังผมให้เดินไปข้างหน้า ไอ้คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ายืนเกร็งเป็นก้อนหินอย่างผมเลยรีบก้าวไปข้างหน้าไวๆโดนลืมไปแล้วว่าฝนตก ลำบากไอ้พี่จีบต้องคว้าคอเสื้อกันดึงกลับไปเดินอยู่ใต้ร่มเหมือนเดิม

"เป็นเชี่ยไรของมึงเนี่ย ดูใจลอยๆนะ"
พี่จีบถามขึ้นเมื่อเราทั้งสองคนอยู่ในรถ ผมสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปยิ้มให้คนด้านข้างที่กำลังสตาร์ทรถอยู่ ใจลอยไปหามึงมั้งไอ้พี่จีบ จะช่างสังเกตไปถึงไหนวะ ปล่อยๆกูไปบ้างเถอะ

"เบลอๆน่ะพี่ นอนไม่พอ"
ผมตอบไปตามความจริงเพียงครึ่งเดียว ไอ้สาเหตุที่นอนไม่พอมันเพราะมึงคนเดียวเลย มึงอ่ะ เพราะมึง ไอ้พี่จีบ!

"มัวดูหนังโป๊หรือไง ไม่หลับไม่นอน"
มันหันมายักคิ้วให้กันก่อนจะออกตัวรถไปท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา ผมย่นจมูกใส่มันแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ผมไม่ใช่สายหื่นขนาดนั้นนะเว้ย พี่จีบแม่ง..เอาความชอบของตัวเองมายัดเยียดให้ผมอีก

"ใครจะไปหื่นเหมือนพี่วะ"

"รู้ได้ไงว่ากูหื่น?"
แค่ถามไม่ต้องโน้มหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ก็ได้มั้ง... ทำไมต้องติดไฟแดงพอดีกับที่มันถามคำถามนี้ด้วยวะแม่ง แล้วไอ้ดวงตาเป็นประกายวิบวับนั่นคืออะไร เสียงกระซิบเบาๆชวนให้ใจสั่นนั่นอีก โอ้ย อยากแกล้งตายหนีไอ้พี่จีบจริงๆ แต่ทำได้แค่ขยับหนีจนไหล่ติดกับกระจกรถเท่านั้น แล้วเสียงหัวเราะก็ดังออกมาจากคนขี้แกล้ง หัวใจเอ้ย หยุดเต้นแรงสักทีเหอะว่ะ เหนื่อย!!

"ไม่รู้เว้ย จะขยับเข้ามาใกล้ทำไมอ่ะ"
มันคาใจ ถามซะเลยแม่ง ไม่อยากคิดเองอีกแล้ว ปวดหัว! ถามเขาแต่ตาไม่มองเขา... ไอ้นิสัยที่พูดกับใครแล้วชอบมองตาคู่สนทนานี่เอามาใช้กับพี่จีบไม่ได้ว่ะ เป็นเชี่ยอะไรไม่รู้ มองตามันทีไรใจเสือกเต้นแรงทุกที

"ความพอใจของกู มึงมีปัญหาเหรอ?"
ถามไปดีๆทำไมต้องตอบแบบหาเรื่องกันด้วยว่ะ ผมมองพี่จีบตาขวางแต่ไอ้คนที่ขับรถอยู่เนี่ยเสือกยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง อารมณ์ดีอะไรนักหนาครับพ่อคุณทูนหัว ฮือ

"พี่จีบแม่ง..."
ผมพึมพำกับตัวเอง ไม่กล้าด่ามันครับ กลัวจะโดนเตะโด่งออกจากรถ ซึ่งมันไม่ดีเอามากๆถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นจริงๆ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเพราะฝนตกรถติด คาดว่าต้องอยู่ในรถกับพี่จีบอีกนานผมเลยหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดและพบว่าไอ้ภีมตอบไลน์กลับมาแล้ว เยสๆๆๆ ผมรีบกดอ่านข้อความของมันทันทีโดยไม่ได้สนใจไอ้พี่จีบอีก

#ชายภีม
- มีอะไรจะปรึกษา กูเพิ่งตื่น 11:40

× คิสสึ ×
- เชี่ยไรเนี่ย ที่ญี่ปุ่นมันบ่ายโมงแล้วไม่ใช่ เมื่อคืนหนักเหรอ กิ๊วๆ ~ 11:40

ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับข้อความของตัวเอง อารมณ์ดีเสมอเมื่อได้แซวไอ้ภีมเรื่องพี่ดีพ.. เอาจริงๆผมเชียร์พี่ดีพให้เป็นสามีไอ้ภีมว่ะ ผมไม่ได้อวยพี่ชายตัวเองนะเว้ย แต่พี่ดีพมันหล่อกว่าไอ้ภีมจริงๆแถมตัวยังหนากว่าอีก

#ชายภีม
- เออหนัก หนักมาก พี่มึงตัวหนักมาก! แดกเหล้าจนเมาหลับ ลำบากกูลากมันกลับห้องเนี่ย -_- 11:41

ผมหุบยิ้มทันที เกลียดไอ้พี่ดีพก็ตรงเนี่ย ไม่ได้มีโมเม้นต์เมาแล้วปลุกปล้ำใครเขาหรอก มันเมาทีไรหลับคอพับคออ่อนทุกที เปอร์เซ็นจะได้เป็นผัวไอ้ภีมริบหรี่มาก ถ้าวันไหนไอ้ภีมมันคึกเสียบพี่ดีพตอนเมาขึ้นมานะ ผมจะหัวเราะเยาะให้ ไม่ได้ดั่งใจเลยว่ะ พี่ชายโคตรกากแบบนี้

× คิสสึ ×
- นึกว่าจะได้พี่สะใภ้มาเชยชมซะแล้ว เซ็ง 11:41

#ชายภีม
- พี่สะใภ้พ่อง! มีไรรีบๆว่ามา จะไปอาบน้ำ 11:42

× คิสสึ ×
- อย่าเพิ่งง เออ.. คือ แบบว่าแบบ ._. 11:42
#ชายภีม
- แบบเชี่ยไร 11:42

× คิสสึ ×
- เออ เรื่องพี่จีบเว้ย กูเครียด 11:42

#ชายภีม
- ทำไม? 11:43

× คิสสึ ×
- คืองี้เว้ย เมื่อวานพี่จีบมันพูดแปลกๆกับกูอ่ะ บอกว่าอยากดูแลกูไงเงี้ย 11:43

#ชายภีม
- ไม่เห็นจะแปลก อยากดูแลคนที่ตัวเองชอบ 11:44

× คิสสึ ×
- เชี่ยย ไม่เล่นดิ กูจริงจัว!! 11:45

ลนลานจนพิมพ์ผิดเลยไอ้เชี่ย! จริงจัวบ้านพ่อกูสิ จริงจังไหมล่ะสังคม ผมเหลือบมองไอ้พี่จีบขณะที่ตัวเองใจเต้นตุบๆ มันยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถมีแต่ผมนี่ล่ะที่ไม่มีสมาธิห่าอะไรเลยตอนนี้ ระแวงว่ามันจะรู้เรื่องที่ผมคุยไลน์กับไอ้ภีมหรือเปล่า โอ้ย บ้าบอ มันจะรู้ได้ยังไงไม่ได้ออกเสียงคุยนี่หว่า ประสาทจะแดกแล้วกูเนี่ย ฮือ

#ชายภีม
- มึงอย่าโง่น้องจูบ กูจะบอกมึงครั้งสุดท้ายนะ แล้วจำใส่สมองกลวงๆของมึงเอาไว้ พี่จีบเขากำลังจีบมึงอยู่ไอ้ฟายยยย 11:46

โง่ก็มา ฟายก็มา สมองกลวงก็มาวะ แต่ไม่ตะลึงเท่ากับพี่จีบกำลังจีบกูเหรอ จริงอ่ะ บ้าน่า เอาจริงเหรอวะ จีบจริงๆอ่ะ ฮึก ควรรู้สึกยังไงที่มายไอดอลจีบตัวเองวะ เหนือความคาดหมายสุดๆ ใจเต้นแรงเหี้ยๆ แต่พี่จีบอาจจะแค่อัธยาศัยดีก็ได้นี่ คิดได้แบบนั้นก็เหลือบสายตาไปมองมันแต่ก็ต้องตกใจที่พี่จีบกำลังจ้องผมอยู่ เชี่ยไรเนี่ยติดไฟแดงอีกแล้วเหรอวะ

"เป็นไรของมึง เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวทำหน้าตกใจกับโทรศัพท์"
พี่จีบเลิกคิ้วก่อนจะหันมามองกันแบบเต็มๆทั้งหน้าทั้งตัว แขนด้านขวาวางทิ้งไว้บนพวงมาลัย ถ้าจะมองกันจริงจังขนาดนั้นนะ.. ผมทำตัวไม่ถูกเว้ย หัวใจเต้นจนรู้สึกปวดหน้าอกไปหมดแล้ว

"คือ.. คือว่า.. คือ.."
แล้วเป็นเชี่ยอะไรเนี่ย ลิ้นแข็งพูดไม่ออก ฮือ เชี่ย หัวใจไม่ปกติ จะตายแล้ว จะตายแล้ววว

"ทริปเปิ้ลคือแล้วมึง มีไรพูดมา"
ยังจะมาเล่นคำใส่กูอีก! ฟาดหน้าแม่งสักทีได้ไหม เอาแต่มองกันแล้วยกยิ้มมุมปากแบบหล่อเชี่ยๆมาให้กันเนี่ย ต้องการอะไรวะ ต้องการอะไรจากกู! เทลมีพลีส!!

"พี่...จีบผมเหรอวะ!"
ผมกลั้นใจตะโกนถามลั่นรถ คือไม่มีสติ ไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นของตัวเองได้ ถามจบก็เอาแต่หลับตาปี๋เกิดเดตแอร์ไปชั่วขณะจนเริ่มใจเสีย คำถามของผมมันมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าวะ ผมลืมตาขึ้นช้าๆอย่ากล้าๆกลัวๆแล้วเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง พี่จีบไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรแต่มุมปากยกยิ้มเหมือนกำลังพอใจอะไรบางอย่างก่อนที่เสียงหัวเราะในลำคอจะดังขึ้น

"ฉลาดแล้วเหรอมึง?"
พี่จีบคลี่ยิ้มกว่ากว่าเดิมจนผมใจสั่นมากกว่าเดิม แค่ที่เป็นอยู่ยังไม่พออีกหรือยังไงวะ เจ็บอกไปหมดแล้วเว้ย แล้วสายตาที่ดูหวานเชื่อมแบบนั้นคืออะไรครับ โอ้ย ไอ้คำถามที่พูดออกมาเหมือนเป็นการบอกรักกลายๆเลย

"ฉะ ฉลาดอะไรวะแม่ง"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง รู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนวูบวาบจนต้องยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองเอาไว้ บ้าบอที่สุด เป็นสถานการณ์ที่เชี่ยที่สุดในชีวิต

"ฉลาดที่รู้ตัวสักที่ว่ากูกำลังจีบมึงไง"
เสียงพี่จีบดังขึ้นข้างๆหู ไม่จำเป็นต้องกระซิบใกล้ขนาดนี้ไหววะ พูดปกติทำตัวห่างๆไม่ได้หรือยังไง กลัวนะ กลัวว่ามันจะได้ยินเสียงหัวใจของผม ผมแทบจะกรีดร้องเมื่อพี่จีบยืนยันข้อสงสัยของผมด้วยเสียงกระซิบที่โคตรจะหนักแน่นในความรู้สึกของผม ลมหายใจอุ่นๆที่คลอเคลียอยู่กับแก้มยิ่งทำให้หน้าของผมร้อนวูบขึ้นอีก โอ้ย ไม่เอาแล้ว อยากลงจากรถไปตากฝนแม่ง แอร์รถไม่ได้ช่วยกูเลย อ๊ากกก

"มะ ไม่ล้อเล่นนะพี่จีบ อย่า..กะ แกล้งผมดิ"
ไม่เอา ผมตะไม่ยอมรับแบบง่ายๆหรอกว่ากำลังโดนมายไอดอลของตัวเองจีบอยู่ ก็เห็นมันแมนๆเตะบอลนี่หว่า จะมาชอบผู้ชายด้วยกันได้ยังไง อย่ามาหลอกกันมันไม่สนุกนะ

"เรื่องความรักกูไม่เคยล้อเล่นว่ะคิส กูชอบมึง ชัดไหม"
เชี่ย... ตกย้ำกันเข้าไป ยิ่งทำให้ผมอึกอักหนักกว่าเดิมเป็นสิบเท่า มันทั้งอึ้งทั้งตะลึง หัวใจเสือกหวั่นไหวไปกับคำพูดของพี่จีบด้วยไง

"มะ ไม่ชัด ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย ไม่ใช่สาวๆสวยๆ"

"ผู้ชายแล้วยังไง กูชอบซะอย่าง"

"พะ พี่เป็นเกย์เหรอ?"

"ถ้าชอบมึงแล้วต้องเป็นเกย์กูก็ยอม"

"ฮือออ ไอ้พี่จีบบ้า พูดเชี่ยอะไรเนี่ย ไม่ฟังแล้วเว้ย"
ผมหลับหูหลับตาฟาดมือใส่มันไม่ยั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองทำแบบนี้ไปทำไม ในหัวมันตื้อตันคิดอะไรไม่ออก อยากจะทำอะไรเพื่อระบายความรู้สึกที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรออกไปให้หมด

"โอ้ย ไอ้คิส มึงเขินแล้วซาดิสหรือไงกูเจ็บ"
พี่จีบมันโวยวายก่อนจะรวบแขนผมเอาไว้ทั้งสองข้าง ไม่กล้ามองหน้ามันเลยให้ตายเถอะ ฮือ หัวใจจะพังแล้วใครก็ได้ช่วยผมออกไปจากสถานการณ์นี้สักที ได้โปรดด

"ไม่รู้ ไม่เอา ไม่ๆๆๆๆๆ"
ผมสติแตกครับ ยอมรับง่ายๆเลย เอาแต่นั่งส่ายหัวไปมาแล้วพยายามดึงแขนตัวเองกลับแต่ไอ้พี่จีบเหมือนไม่เข้าใจความพยายามของผมแม้แต่น้อย มันดึงผมเข้าไปรวบกอดเอาไว้จากที่ดิ้นจะเป็นจะตายกลับต้องชะงักตัวแข็งค้างเมื่อเสียงหัวใจของพี่จีบก็เต้นดังไม่แพ้กัน

"คิส.. มึงใจเย็นๆ ตอนนี้มึงแค่ตกใจหรือรังเกียจกูกันแน่"
เสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลเอ่ยถามกัน ผมเผลอกลั้นหายใจแอบรู้สึกแย่กับคำถามของพี่จีบ ผมผละตัวออกจากอ้อมกอดอบอุ่นนั่นแล้วช้อนตามองคนที่กำลังมีแววตาเศร้า

"คือว่า..ผม"
พูดไม่ออก ทั้งๆที่ตั้งใจจะพูดแต่มันกลับจุกอยูที่คอหอย พี่จีบเบือนหน้าหนีก่อนจะดับเครื่องรถ นั่นยิ่งทำให้ผมไปไม่เป็น ดับเครื่องทำไม นี่เรายังติดไฟแดงอยู่ไม่ใช่เหรอวะ

"ลงเถอะ ถึงร้านนานแล้ว"
พี่จีบพูดก่อนจะเปิดประตูลงจากรถทั้งๆที่ฝนยังไม่หยุดตก ผมที่เพิ่งรู้ตัวว่าเข้าใจผิดมาตลอดรีบคว้าร่มที่อยู่ด้านหลังเบาะมาถือไว้แล้วรีบลงจากรถวิ่งตามไปกางร่มให้พี่จีบที่ยังเดินไปไม่ได้ไกล เราจอดรถห่างจากร้านอยู่พอตัวจะให้เดินตากฝนไปแบบนั้นมีหวังเปียกชุ่มยันกางเกงชั้นในแน่ๆ

"พี่จีบรอผมด้วย!"
ผมวิ่งกระหืดกระหอบทั้งๆที่กางร่มไปด้วย มีหลายจังหวะที่ลมพัดจนร่มแทบตีกลับ แต่ผมก็คว้าจับมันไว้ทัน พี่จีบหยุดยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่หันมามองกัน ผมไม่สนว่าวิ่งแล้วน้ำบนพื้นถนนจะทำให้รองเท้าเปียก สิ่งที่ผมสนคือพี่จีบที่ตัวกำลังเปียกต่างหาก

"แฮ่กๆ เดินตาก ฝะ ฝนทำไม"
ผมหอบแฮ่กแต่ก็ยังพยายามยืดตัวกางร่มให้คนที่สูงกว่าตัวเองอยู่ พี่จีบแย่งร่มไปถือไว้เองแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำจนผมใจเสีย ไม่เคยเจอพี่จีบโหมดเงียบขรึมแบบนี้ น่ากลัวเกินไป

"พี่จีบ คือผม.."

"ไปเถอะ เดี๋ยวจะเปียกมากกว่าเดิม"
ผมยังพูดไม่ทันจบแต่พี่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือข้างที่เหลือมาจับข้อมือกันไว้แล้วออกแรงกระตุกลากผมให้เดินตาม ซึ่งผมก็ยอมเดินตามแต่โดยดีจนถึงร้าน

"ไอ้จีบบบ กว่าจะกลับมา กูต้องรีบเข้าบริษัทว่ะพ่อโทรมาตาม"
พี่ไลค์รีบเดินอ้อมออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์ทันทีแล้วมาหยุดลงตรงหน้าผม พี่จีบเหลือบมองเพียงแค่หางตาแล้วพยักหน้ารับเบาๆ

"เออ รีบไปซะ"

"เออๆ ถ้าเสร็จไวจะรีบกลับมาช่วย"
พี่ไลค์บอกก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแล้วรีบวิ่งออกไปจากร้านทันที คงรีบมากจริงๆนั่นล่ะ ผมละความสนใจจากพี่ไลค์หันกลับมามองคนข้างตัวที่ถอนหายใจออกมาเบาๆ

"คิส ขออะไรอย่างนึงได้ไหม?"
เขาหันมามองผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ ผมพยักหน้าเบาๆเพราะอยากตามใจคนตรงหน้าขึ้นมาซะดื้อๆ ผมไม่ชอบให้พี่จีบเป็นแบบนี้ มันไม่ใช้พี่จีบที่ผมรู้จักเลยสักนิดว่ะ ไม่ชินเลย

"ครับ ได้ครับ"

"ช่วยงานที่ร้านหน่อยนะ วันนี้ลูกค้าเยอะ"

"อ้อ ได้ครับ ให้ช่วยอะไรก็บอกนะ"

"อืม"

หลังจากนั้นผมก็มายืนเก้ๆกังๆอยู่หลังเค้าน์เตอร์บาร์ พี่จีบให้ผมช่วยบดเมล็ดกาแฟและคอยสตีมนมเพื่อทำเมนูที่ต้องใช้นมเป็นส่วนประกอบ เขาสอนวิธีสตีมนมให้ผมเพียงคร่าวๆโดยที่ เราต้องเทนมสดลงใน Picher สแตนเลสที่มีขนาด 500 ml. ตามสากลเขาใช้ เทนมลงไปในปริมาณเพียงครึ่งหนึ่ง ใช้มือข้างที่ถนัดจับ Picher ให้มั่น แล้วจุ่มก้านสตีมนมลงไปสัมผัสแค่ด้านบนผิวนมก่อนจะเปิดทำงาน ใช้สันมืออีกข้างคอยจับประคอง Picher ไว้

ถ้าถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่านมที่สตีมอยู่ได้ที่แล้ว คำตอบคือให้ใช้ความรู้สึกที่อุ้งมือ ถ้าหากอุ้งมือที่ประคอง Picher ทนอุณหภูมิความร้อนของนมไม่ไหวก็แสดงว่านมที่สตีมใช้งานได้แล้ว เพราะอุ้งมือของคนเราจะสามารถรับความร้อนได้ที่ 65 °c เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดของการสตีมนม แต่ด้วยความที่ผมไม่ชำนาญเลยทำให้เผลอปล่อย Picher ทิ้งด้วยความลืมตัว นมอุณหภูมิร้อนลวกมือตัวเอง

"โอ้ย แสบๆๆๆ"
ผมกระโดดหนีไปไกล ส่วนพี่จีบที่เดินกลับมาจากหลังร้านรีบวิ่งเข้ามาดูทันที พี่จีบก้าวขาข้ามนมที่หกเลอะเทอะทั่วบริเวณมาหาผม โดนดุแน่ๆ ขอโทษครับ ขอโทษ

"พะ พี่จีบผมขอ.."

"เป็นไงบ้างวะ มือแดงหมดเลยมึง เจ็บมากไหม?"
ผมยังพูดไม่ทันจบพี่จีบก็เอื้อมมือมาจับมือผมที่โดนนมลวกไปเป่าเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆทำให้ผมหายเจ็บขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์  รับรู้ได้ถึงความห่วงใยของพี่จีบไม่มีแม้แต่ความโกรธในน้ำเสียงนั่นเลย

"ผมขอโทษ"
ผมก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาเขา ความรู้สึกผิดกำลังเล่นงานผมอย่างหนัก ทั้งเรื่องบนรถทั้งเรื่องซุ่มซ่าม

"ขอโทษอะไรของมึง ขึ้นไปข้างบนกับกูเลย"

"พี่อิ๊งครับผมฝากร้านแป็ปนึงนะ"

"ได้ค่ะน้องจีบ"
เสียงหวานๆตอบกลับมาก่อนที่พี่จีบจะจูงมือผมขึ้นชั้นสอง ไม่มีคำพูดจาระหว่างเราจนเข้ามาในห้อง พี่จีบกดไหล่ผมให้นั่งลงบนโซฟาก่อนเจ้าตัวจะหายไปรื้ออะไรบางอย่างที่มุมห้องมาวางไว้บนโต๊ะ

"ไปล้างมือล้างแขนก่อนไป"
พี่จีบโบกมือไล่กัน ผมพยักหน้ารับแล้วเดินมึนไปไปล้างคราบนมออกจากตัวก่อนจะเดินกลับมาหากัน

"มานั่ง เดี๋ยวทายาให้"
พี่จีบตบมือลงบนโซฟาที่ว่างข้างตัว ผมเดินเข้าไปนั่งด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมแล้วเหลือบสายตามองพี่เขาที่กำลังเอื้อมมือหยิบหลอดยา

"เอ่อ.. ผมทาเองดีกว่าครับ"
พี่จีบชะงักมือแล้วมองผมด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะวางหลอดยาลงบนตักของผมแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"อืม คงรังเกียจกูจริงๆสินะ"
ผมสะอึกทันทีเพราะไม่คิดว่าพี่จีบจะพูดออกมาแบบนี้ ยิ่งนานไปพี่จีบก็ยิ่งเข้าใจผิดว่ะ ผมต้องรวบรวมความกล้าบอกสิ่งที่สมควรบอกกับพี่เขาแล้วว่ะ

"ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คือ.."
เอาอีกแล้ว.. พูดไม่ออกอีกแล้ว โอ้ย ทำไมต้องรู้สึกตื่นเต้นบ้าบออะไรตอนนี้ด้วยว่ะ แค่บอกคำง่ายๆออกไปแค่นี้เอง พี่จีบไม่กัดคอมึงหรอกไอ้คิส!

"....."

"เอ่อคือ..."

"ช่างแม่งเถอะ กูลงไปทำงานล่ะ"
พี่จีบก้าวขาออกไปแต่ผมกลับเร็วกว่าตรงที่สามารถคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ได้ พี่จีบชะงักแล้วหันมามองกัน ผมช้อนตามองไม่คิดจะหนีอีกต่อไป

"มีอะไร?"

"ผมไม่ได้รังเกียจพี่จีบนะเว้ย.. แค่มันเขินๆว่ะ"
ผมหลบสายตาเมื่อพูดประโยคหลัง รู้สึกว่าหน้าร้อนวูบวาบอย่างห้ามไม่ได้ มือที่จับแขนพี่จีบไว้เริ่มชื้นเหงื่อจนคิดจะปล่อย แต่พี่จีบกลับทาบอีกข้างลงมาบนมือผมแล้วออกแรงบีบเบาๆ

"มึงแม่ง..น่ารักว่ะ"
ผมแทบจะหยุดหายใจเมื่อพี่จีบนั่งยองๆลงตรงหน้า สองมือเอื้อมมาประคองแก้มของผมเอาไว้แล้วบังคับให้มองสบตากัน รอยยิ้มละมุนนั่นทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำอีกแล้ว

"บ้าว่ะ ใครเขาชมผู้ชายว่าน่ารัก"

"ก็มึงน่ารักสำหรับกู เข้าใจยัง?"
ผมเม้มปากแน่นพยายามกลั้นยิ้มอย่างหนัก หน้าร้อนอย่างกับจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ โอย ไม่เอา พี่จีบอย่าแอทแทคกันแบบนี้สิเว้ย

"อื้อ"
ผมพยักหน้ารับเพราะไม่รู้จะเถียงออกไปยังไง ดวงตากลมหลุบต่ำมองหน้าตักตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะเห็นเงาไวๆของพี่จีบโน้มตัวเข้ามาใกล้ สัมผัสนุ่มหยุ่นของริมฝีปากประทับลงบนหน้าผากของผมเพียงแผ่วเบา เพียงแค่นั้นก็ทำให้ผมแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว อยากจะดิ้น ดิ้นตายอยู่ตรงนี้ เกลียดพี่จีบ เกลียดดดด ทำไมต้องทำให้ใจระทวยอยู่เรื่อยเลยวะ

"ต่อไปนี้มึงจำเอาไว้ว่ากูจีบมึงอยู่ โอเคไหม?"

"ถะ ถ้าตอบว่าไม่โอเคล่ะ"

"ไม่ได้"

"แล้วจะถามผมทำไมเนี่ย"
ผมแกล้งแปะมือลงบนแก้มพี่จีบเบาๆคล้ายจบตบ เขายกยิ้มกว้างก่อนจะจับมือผมไปงับนิ้วเบาๆ

"อ๊ะ"
หน้าผมร้อนวาบเมื่อพี่จีบทำแบบนั้น เขาปล่อยนิ้วผมออกก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์

"ถ้ามึงลืม กูจะ 'ทำ' ให้มึงจำเอง"
ทำ... ทำอะไรของมึง ช่วยขยายความที อ๊ากกกกก




------------------------------------------------------



Q & A กับ พี่จีบ
Q : คิสฉลาดขึ้นแล้ว จีบรู้สึกยังบ้าง?
A : เสียใจครับ
Q : อ่าว มันต้องดีใจไม่ใช่เหรอที่น้องรู้ว่าตัวว่าโดนเราจีบ
A : ก็แบบ..วางแผนจะปล้ำมันแล้วนี่นา /ทำหน้าเซ็ง
Q : ...................






น้องคิสฉลาดแล้วนะรู้ยัง... 555555555 รู้สึกอิจฉาน้องที่มีคนแบบพี่จีบมาชอบ
ตอนนี้ใครฟินอนุญาตให้กรี๊ดดังๆเลยนะ คึคึ

ปล. อ่านให้สนุกน้า ♥  :o8: :-[ :impress2:


หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 23-07-2016 14:34:00
'ทำ' อะไรไม่รู้แต่เชียร์
ทำเลย ทำเลย ทำเลย กรี๊ดดด!!!! :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 23-07-2016 15:01:13
55555555

ในที่สุดน้องคิส ก็รู้ตัวซะที


 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-07-2016 15:20:45
กรี้ด.  น้องมีเอ๋อชั่วคราวเพราะโดนจีบแอทแทครัวๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-07-2016 15:25:49
ทำให้พี่จีบใจเสียงานนี้ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะน้องคิส

 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 23-07-2016 15:59:27
พี่จีบนี่ว่องไวเยี่ยงความเร็วแสง  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 23-07-2016 16:05:32
 :laugh:  แกเขินเเล้วเเกซาดิสนะคิสคนเเมน 5555555555555555 โวยวายๆ
นี้เค้ากำลังคบกันยัง เอิ๊กๆๆๆๆ ชายภีมกลับมาจากญี่ปุ่นเหมือน งานล้อเลียนก็มา ไหนอิงออยอีก กิ้วๆๆๆๆ
จีบกันเรื่อยๆนะ รอฟินอยู่
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 23-07-2016 16:17:24
น้องจูบ เสร็จพี่จีบแน่  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 23-07-2016 16:23:07
ฉลาดแล้วโว้ยยย
5555555
คนแมนขี้เขิน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-07-2016 16:24:43
แหม น้องคิสค่ะหนูน่าจะโง่นานกว่านี้อีกนิด พวกป้าๆ จะได้ดูว่าพี่จีบจะจับน้องปล้ำด้วยวิธีไหนนะคะเนี่ย :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 23-07-2016 16:26:20
รู้แล้วซินะว่าพี่เขาจีบ
เขินแบบนี้พี่เขาก็ยิ่งชอบใจซิ่
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 23-07-2016 17:25:02
น้องคิสเขินแล้วชอบตีเหมือนเราเลยย5555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 23-07-2016 17:38:21
งืออออ เขิลลลล มันดีต่อใจมากเลยยยย

ในที่สุดน้องคิสก็รู้ตัวสักที
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 23-07-2016 17:56:32
เย้ คิสรู้ตัวสักที ถึงจะถามจากภีมก็เถอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-07-2016 18:03:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 23-07-2016 18:04:42
 :-[ :laugh: :katai2-1: :katai2-1:เย้ๆๆๆๆพี่จีบๆๆๆๆน้องเขินๆๆๆ :katai3:
อ่านสนุกๆๆชอบๆๆๆ :L1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-07-2016 18:19:23
กว่าจะฉลาดนะลูกกกกกกกกกกก
ถ้าอิพี่จีบมันจะปล้ำจิงๆ คงเสดพี่แกไปหลายตลบแล้ว 555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-07-2016 20:21:33
รุกหนักมาก อ่อยยยย!!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-07-2016 22:35:29
ในที่สุด คิสก็รู้ตัวซะที โอ๊ยยยยยย ลุ้นแทบแย่กว่าจะยอมรับได้ เฮ้อออออ :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 24-07-2016 23:06:05
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ 08 : ดื่มครั้งที่ 8 -P.4- (23.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 24-07-2016 23:39:37
หนูคิดพึ่งรู้พี่จีบนี้ได้กำไรมาบานเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 25-07-2016 12:03:50
- ดื่มครั้งที่ 8.5 -



ความอบอุ่นจากร่างกายคนข้างตัวทำให้ผมไม่อยากตื่นสักเท่าไหร่ถึงแม้ว่าแสงอาทิตย์จะทำลายบรรยากาศการนอนลงแล้วก็ตาม ใบหน้าคมคายรูปไข่ จมูกโด่งเป็นสัน ปากรูปกระจับ  ดวงตารีเล็กแต่คมกริบ ล้อมกรอบด้วยผมสีน้ำตาลอ่อนทรงอันเดอร์คัต ทั้งหมดทั้งมวลนี้รวมกันเป็นผู้ชายตรงหน้าผม 'ดีพ' เขาหล่อและเจิดจ้ามากให้ความรู้สึก เดือนมหา'ลัยที่ใครๆต่างหมายปองแทนที่เขาจะมีแฟนเป็นสาวสวยแต่กลับมีแฟนเป็นผู้ชายที่มีดีกรีเป็นเดือนคณะอย่างผม จะว่าแปลกก็แปลกแต่ตลกมากกว่า ยัยอิงออยจะบ่นเสมอว่า 'สมัยนี้คนหล่อไม่ตกถึงท้องชะนีแล้วค่ะ กินกันเองทั้งนั้น' มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ก็แค่คนสองคนไม่ได้มองเรื่องเพศและใจตรงกันเท่านั้นเอง

มือเรียวไล้ไปตามกรอบหน้าอย่างหลงใหล มุมปากของผมมีรอยยิ้มเล็กๆประดับเมื่อคิดได้ว่าผู้ชายตรงหน้าผมปากร้ายแต่ใจดีเสมอกับคนอื่นๆ แต่สำหรับผมแล้วนั้นดีพจะชอบแสดงนิสัยเด็กๆออกมาให้เห็นไม่สมกับหน้าตาหล่อเหลาเลยสักนิด ติดจะเป็นคนขี้อ้อนซะด้วยซ้ำ

"อือ"
ดีพร้องครางด้วยความรำคาญใจเมื่อผมเริ่มบีบแก้มกร้านเล่นอย่างสนุกมือ มันเขี้ยวคนเมาที่หลับได้หลับดีแถมยังกอดผมไว้ทั้งคืนไม่ยอมปล่อยอีก ตาคมปรือปรอยค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มทักทายผมในเช้าวันใหม่
"คอนนิจิวะ"
เสียงทุ้มแทบทักทายกันอย่างมั่นใจ ผมขำออกมาน้อยๆก่อนจะขยับตัวหนีจากอกแกร่ง แต่ดีพไม่ปล่อยผมไปง่ายๆหรอก เจ้าตัวกระชับวงแขนแน่นแล้วกดจูบลงบนหน้าผากของผม

"มั่นใจจังนะ ทักทายกูคอนนิจิวะเนี่ย"
ผมเอ่ยแซวพร้อมยักคิ้วกวนๆให้มัน ดีพยิ้มเผล่ก่อนจะกดจมูกลงที่แก้มของผม ขโมยหอมไปอีกหนึ่งฟอดจนผมต้องผลักหน้ามันไปไกลๆ นับวันยิ่งแสดงท่าทางว่าอยากกดผมให้จมเตียง แต่ใครจะยอมง่ายๆกันวะ ผู้ชายแมนๆกันทั้งคู่ แต่ถ้าดีพมันทำให้ผมยอมได้นั่นก็ว่าไปอีกอย่างล่ะนะ ไม่ค่อยซีเรียสกับการเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับเท่าไหร่ แต่ผมขอเวลาทำใจหน่อยสิ.. ทั้งชีวิตเคยรุกแต่กับผู้หญิง อยู่ๆจะให้มารับผู้ชายมันก็ตะขิดตะขวงในใจแปลกๆ

"กูเมาทีไรตื่นเที่ยงทุกทีนี่หว่า"
มันส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้กันพร้อมกับมือที่อยู่ไม่สุขไล้ไปตามสะโพกของผมทั้งบีบทั้งคลึงสนุกเขาล่ะครับ

"เชี่ยดีพ หยุดเลย"
ผมว่ามันเสียงดุก่อนจะตะปบเข้าที่มือซุกซนของมัน เผลอเป็นไม่ได้เลยครับเลื้อยใส่ตลอด ไม่ค่อยมั่นใจว่ามาเรียนที่ญี่ปุ่นเขาสอนหลักสูตรเป็นปลาไหลให้ด้วยหรือยังไง เหมือนมันจะอัพสกิลความเชี่ยวขึ้นเยอะ ดีพหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างถูกใจแล้วกดจูบลงมาบนปากผมอย่างรวดเร็ว

"ไอ้นี่! ลามปามแล้วนะมึง"
ผมแยกเขี้ยวใส่มันทันทีเมื่อโดนรุกแบบนี้ กำหมัดต่อยลงไปบนไหล่มันอย่างหมั่นไส้ ดีพร้องโอดโอยจนผมเบ้ปาก สำออยไม่มีใครเกิน

"จูบแฟนผิดตรงไหนวะ ไม่เจอกันตั้งหลายเดือน คิดถึง"
ดวงตาคมเข้มที่มองตรงมามีแววออดอ้อนอย่างปิดไม่มิด อ้อมแขนกระชับกอดแน่นขึ้นจนปลายจมูกของเราชนกัน นี่ลืมไปแล้วหรือยังไงว่ายังไม่ได้แปรงฟัน บอกกี่ครั้งก็ไม่เคยจำ โว้ะ

"ไม่ผิด แต่กูบอกมึงเป็นร้อยรอบแล้วป่ะว่าไม่ชอบจูบตอนตื่นนอน ปากเน่า"
ผมย่นจมูกใส่ ทำหน้าเหม็นซะเต็มประดา ไอ้คนดื้อหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงก่อนจะกดจูบลงมาบนปากผมอีกรอบ ดูมันทำ.. เคยฟังกันที่ไหน รั้นเหมือนไอ้คิสไม่มีผิด ดีพนี่รั้นแบบฉลาด ส่วนไอ้คิสรั้นแบบโง่ๆ

"ไม่เห็นเน่า ปากมึงหอมจะตายภีม"
พูดจบมันก็จูบลงมาซ้ำๆจนผมต้องใช้ฝ่ามือดันหน้าผากมันไว้ เสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจดังขึ้นในลำคอของมันอย่างห้ามไม่ได้ แต่ไม่นานมันก็กลีบมายิ้มกริ่มอีกครั้ง.. โคตรเกลียดแววตาเป็นประกายของมันจริงๆ

"ลุกไปอาบน้ำเลยนะมึง ถ้าวันนี้ยังไม่พากูไปเที่ยวอีกกูจะหนีกลับไทย"
ผมผละออกจากอ้อมกอดของดีพอย่างง่ายดายแล้วลุกขึ้นนั่งก่อนจะขยี้หัวตัวเองเบาๆ เหลือบเห็นคนด้านข้างก็ทำแบบเดียวกับผมก่อนจะหันมามองหน้ากันนิ่งๆ ผมเลิกคิ้วกลับไปเป็นเชิงถาม ฝ่ายนั้นถอนหายใจก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่กัน

"กูซื้อตั๋วให้มึงมาหากูนะ ไม่ใช่มาเที่ยว"

"มึงจะนอนกกกูทั้งวันว่างั้น?"

"ถ้าได้ก็ดี"

"อย่ามางอแงนะดีพ มึงแก่แล้วนะ"

"ไม่แก่ กูไม่ยอมแก่"
มันเบะปากใส่ผมก่อนจะเอาหัวยุ่งๆมาซบไหล่กันแล้วถูไปมาอย่างเด็กเอาแต่ใจ เห็นนิสัยแบบนี้มันคิดจะเป็นผัวผมเถอะ แบบนี้มันสมควรยอมให้หรือยังไงกัน ผมผลักหัวมันเบาๆก่อนจะขำออกมา

"อะไรของมึงเนี่ยดีพ อ้อนจะเอาอะไรจากกูหื้ม?"
ผมก้มหน้าลงไปกดจมูกลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่แสนจะยุ่งเหยิง ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมาซบตาผมก่อนดีพจะใช้มือหนาโน้มคอผมลงไปจูบ ไม่ได้เร่าร้อนแต่มันกลับอ่อนโยนละมุนละไม กลีบปากหยักได้รูปบดคลึงลงมาเบาๆอย่างอ้อยอิงเพื่อถ่ายถอดความรู้สึกคิดถึงที่มีให้ต่อกัน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ริมฝีปากเราสัมผัสกัน รู้แค่ว่าอยากจูบกันไปเรื่อยๆก็แค่นั้น

"อีกแล้วนะดีพ กูบอกให้แปรงฟันก่อนจูบไง"
ผมพูดเสียงไม่จริงจังมากนักก่อนจะยกมือขึ้นดีดหน้าผากมันเบาๆ รอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่บนหน้ามัน.. รอยยิ้มที่สามารถทำให้ผมตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า จะไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าผมรักมันมาก และมันจะเป็นผู้ชายคนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตของผม

"ก็กูไม่ได้รังเกียจนี่หว่า มึงเป็นแบบไหนกูก็รับได้ทั้งนั้น"
มันผละออกไปนั่งตรงๆแล้วมองหน้าผมด้วยแววตาจริงจังจนรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เกลียดตอนมันพูดอะไรแบบนี้จริงๆทำให้ใจผมเต้นแรงเหลือเกิน

"พอเลยมึง ไปอาบน้ำไป"
ผมผลักหน้าอกดีพจนมันเกือบหงายหลังตกจากเตียง แต่ดีหน่อยที่ผมคว้าข้อมือมันไว้ทัน นี่ผมไม่ได้เขินนะ.. จริงๆ

"เชี่ย นึกว่าจะลงไปนอนกลิ้งข้างล่างซะแล้วกู"
มันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆราวกับโล่งใจก่อนจะใช้มือข้างที่เหลือมาผลักหัวผมเบาๆ

"กูไม่ได้ตั้งใจเถอะ"
ผมว่าก่อนจะปล่อยข้อมือมันออกแล้วเดินลงจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วขว้างไปคลุมหัวมันพอดิบพอดี ดีพร้องโวยวายอย่างกับเด็กห้าขวบแล้วกระโดดลงจากเตียงมารวบตัวผมไปกอดจากด้านหลัง ผมดิ้นเบาๆพอเป็นพิธีแล้วหันไปค้อนมันวงใหญ่ เล่นอยู่ได้เมื่อไหร่จะถึงห้องน้ำ

"ดีพ เมื่อไหร่มึงจะไปอาบน้ำ"
ผมกดเสียงต่ำแล้วหยิกลงบนแขนแกร่งของมัน หมั่นไส้ว่ะ อุตส่าห์ทำหน้าดุใส่ก็แล้วไม่คิดจะกลัวกันหน่อยหรือยังไง

"โอ้ย ไปอาบน้ำด้วยกันดิ"
มันก้มหน้าลงมากระซิบก่อนจะแกล้งขบติ่งหูผมจนต้องย่นคอหนี เชี่ยเอ้ย ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย ผมฟาดมือลงบนแขนมันเต็มแรง มันซี้ดปากก่อนจะยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ ผมหนีห่างออกมาจากมันหลายก้าวก่อนจะหันไปทำหน้ายักษ์ใส่

"เล่นเชี่ยอะไรเนี่ย! แล้วเป็นบ้าอะไรอาบน้ำคนเดียวไม่ได้ขึ้นมา"

"กู 'อยาก' อาบน้ำกับมึง"
ทำหน้าเป็นหมาหงอย ทำเสียงอ่อย แต่สายตาหื่นกามไม่มีปิดบัง ใช่ว่าผมอาบที่จะอาบน้ำกับมัน แต่...ผมกลัวว่ามันจะไม่จบแค่การอาบน้ำนี่สิ

"จำเป็นมากไหมที่ต้องเน้นคำว่าอยากด้วยสายตาหื่นกามแบบนั้น"
ผมเหล่ตามองมันแล้วส่ายหน้าเบาๆ ในหัวมีแต่เรื่องหื่นกามทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันหรือยังไง ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรกับมันหรอกนะ ผู้ชายเหมือนกัน แต่มันชอบทำตัวหื่นกามได้ทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่จำกัดเวลาและสถานที่

"โห พูดซะกูดูแย่เลยอ่ะ"
ยังจะแสร้งทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จใส่กันอีก เห็นแล้วรำคาญลูกตาจนต้องยกเท้าแตะต้นขาด้านข้างมันไป มันเอี้ยวตัวหลบได้อย่างหวุดหวิดจนน่าหมั่นไส้ ผมจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดเมื่อมันวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที

"ปวดหัวแม่ง"
ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ผมกลับยกยิ้มมุมปากกับความทะลึ่งทะเล้นของมัน อยู่ด้วยกันไม่เคยมีเรื่องเครียดให้ปวดหัวหรอกเพราะชอบกวนตีนกันมากกว่า ไอ้เรื่องนอกใจนี่ตัดไปได้เลยไม่เคยมีอยู่ในหัวของมันและหัวของผม

ตอนนี้พวกเราพากันมาที่สวนสาธารณะอูเอโนะ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นดอกซากุระที่กำลังผลิบาน ดอกสีชมพูล้อมรอบไปทั่วบริเวณจนต้องยกกล้องโปรขึ้นมาถ่ายเก็บภาพ

"ดีพ"
ผมลดกล้องลงแล้วหันไปเรียกคนที่กินไอติมอยู่ข้างๆกัน มันหันหน้ามาหาผมแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

"มีอะไร หรือว่าอยากกินไอติมแล้ว?"
มันยื่นไอติมมาให้ ผมส่ายหน้าปฏิเสธแล้วหลุดขำออกมาเมื่อมุมปากมันมีคราบสีน้ำตาลของไอติมช็อคโกแลตติดอยู่ กินอะไรเลอะเป็นเด็กๆไปได้ นี่ถ้าแฟนคลับของมันมาเห็นคงกรี๊ดกร้าดกันน่าดู ทั้งๆที่ผมมองว่ามันตลกแต่แฟนคลับกลับมองว่ามันน่ารัก

"แดกเลอะเป็นเด็กๆไปได้นะมึง"
ผมล้วงทิชชู่ที่หยิบติดมาจากร้านอาหารส่งให้ดีพ มันส่ายหน้าก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วมองผมด้วยสายตาออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้

"เช็ดให้หน่อย"
ผมเบ้ปากใส่ ทำไมต้องอ้อนกันขนาดนี้ด้วยวะ ก่อนมาเรียนที่นี่ยังไม่อาการหนักขนาดนี้เลย แอบไปทำอะไรผิดแล้วทำตัวน่ารักกลบเกลื่อนกันหรือเปล่า โคตรน่าสงสัย

"อายคนอื่นเขา เอาไปเช็ดเองไป"
ผมยัดกระดาษทิชชู่ใส่มือเด็กโข่งแล้วไม่สนใจมันอีกก่อนจะผละตัวออกไปถ่ายรูป ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกครับ ก็อยู่ใกล้ๆกันนี่ล่ะ

"ทำไมใจร้ายจังวะแฟน"
เสียงง้องแง้งดังขึ้นข้างๆมาพร้อมกับร่างเขื่องๆของมันที่เบียดไหล่เขามาแนบชิดกัน ผมขยับหนีเล็กน้อยเมื่อสังเกตได้ถึงสายตาจากคนรอบข้าง

"อะไร กูใจร้ายตรงไหน?"
ผมหันไปมองคนด้านข้างที่ตอนนี้ไม่มีไอติมอยู่ในมือแล้ว ใบหน้าคมมองตรงไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย อารมณ์ติสต์แตกของมันมาอีกแล้วสิ เด็กวิศวะเชี่ยอะไรเนี่ย

"ทำไมมึงทำท่าเหมือนรังเกียจกู"
น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยออกมาทำให้ผมสะดุดลมหายใจตัวเอง ผมไม่ได้รังเกียจ ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับมันเลยสักครั้ง แล้วทำไมมันถึงพูดแบบนี้ออกมากันนะ หรือผมเผลอทำอะไรให้มันคิดมาก

"ดีพ.. มึงเป็นอะไร?"
ผมแตะมือลงบนต้นแขนของมันเบาๆ แอบใจเสียอยู่เหมือนกันที่มันรู้สึกแบบนั้น

"ไม่รู้ กูคงงี่เง่าเองมั้ง ปกติมึงก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ขอโทษนะ"
มันหันมายิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่พยายามปั้นแต่งจนดูเหมือนหุ่นยนต์ไร้ชีวิตอย่างไรอย่างนั้น ผมไม่ใช่คนปากหวาน ไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรหวานๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่คึกขึ้นมาความหวานก็แผ่กระจายได้เหมือนกัน

"ดีพ...มึงกำลังคิดอะไรอยู่"

"ช่างมันเหอะ กูชิวๆ"

"กูเกลียดคำว่าช่างมัน ทั้งๆที่มึงไม่ได้ช่างอย่างที่พูด"
ผมพูดจบมันเงียบ ผมก็เงียบ เกิดเดตแอร์ระหว่างผมกับมันนานพอตัว ต่างคนต่างมองสบตากันพยายามค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น จนผมทนไม่ไหวต้องทำลายความเงียบนี้ลง

"ดีพ กูขอร้องล่ะ มึงคิดอะไรมึงช่วยพูดออกมาได้ไหม บางครั้งกูก็ไม่ได้เก่งถึงขนาดเดาใจมึงได้ทุกครั้งนะ"
มันมองหน้าผมก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพยักหน้าเบาๆ มันเอื้อมมือมาจับแขนผมก่อนจะพาไปนั่งบนเก้าอี้ตัวยาวใต้ต้นซากุระ

"มึงอายเหรอที่เราคบกัน"
คำถามที่หลุดออกจากปากดีพทำให้ผมนิ่งอึ้ง มือที่เคยจับข้อมือกันคลายออก การที่ผมหลีกเลี่ยงทำตามที่มันอ้อนคือการที่ผมอายอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่แบบนั้นนะ ดีพกำลังเข้าใจผิด

"ไม่ใช่ กูไม่ได้อาย"

"แล้วทำไม..มึงต้องเมินกูด้วย"

"กูไม่ได้เมิน ไอ้เชี่ย"
ทนไม่ไหวจนต้องแอบด่าไปด้วย คือผมไม่เคยเมินมันเลยเว้ย สายตาผมไม่เคยละจากมันเลยสักครั้ง มีแต่มันเองนั่นล่ะที่ชอบคิดเล็กคิดน้อยกับการกระทำที่แข็งกระด้างบางทีของผม

"แล้วทำไมมึงต้องพูดว่าอายคนอื่นเขา"
ส่งสายตาเศร้ามาให้กันอย่างไม่บิดบัง จนผมได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวจนยุ่งไปหมด โอย ทำไมเป็นผู้ชายที่ขี้น้อยใจขนาดนี้วะ

"กูเขิน ชัดยัง ไอ้เหี้ย คนมองขนาดนั้นไม่คิดว่ากูจะเขินหรือยังไง ผู้ชายตัวควายๆสองคนมายืนเช็ดปากให้กันเนี่ย"
ยอมครับ ทนปากแข็งมาได้ตั้งนานสองนาน ไม่คิดว่าดีพจะคิดมากขนาดหาว่าผมรังเกียจมัน คนที่ได้รับคำตอบดูจะอึ้งๆไปก่อนจะยิ้มกว้างแล้วคว้ามือของผมไปกุมไว้ด้วยสีหน้าดีใจแบบสุดๆ

"คนอย่างมึงเขินเป็นด้วยเหรอ น่ารักวะ"
มันยิ้มกว้างจนผมต้องเบนหน้าหลบสายตานั่น บ้าจริงๆทำไมต้องรู้สึกเขินกับคำชมสาวแตกแบบนั้นของมันด้วยวะ

"พ่อง น่ารักเชี่ยไรล่ะ กูก็คนนะทำไมจะเขินไม่ได้วะ"

"ปกติมึงเขินยากจะตายไป"
ดีพพูดจบก็พุ่งเข้ามารวบตัวผมไปกอด ผมสะดุ้งตกใจเลยพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนมัน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มมองกันแล้ว น่าอายชะมัด แก้มก็ร้อนวูบวาบ

"ไอ้ดีพ ปล่อยกู"
ผมกดเสียงต่ำแต่แทนที่มันจะกลัวและสำนึก เปล่าเลยครับ มันยิ่งออกแรงกอดรัดเอวผมมากยิ่งขึ้นจนตอนนี้หน้าผมซุกอยู่ที่ไหล่ของมันยังห้ามไม่ได้ ดีพหัวเราะเอิ้กอ้ากไม่รู้ว่าสนุกอะไรนักหนา

"ไม่ปล่อย จะอายทำไมวะ ไม่มีใครรู้จักเราสักหน่อย"
ผมนิ่งไปแล้วคิดตามมัน ก็จริงนะที่ไม่มีใครรู้จักพวกเรา แต่บอกไปแล้วไงว่าเขิน ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือยังไง! ผมอ้าปากงับลงบนไหล่มันด้วยความหมั่นไส้ ดีพร้องเสียงดังก่อนจะรีบปล่อยผมออกจากอ้อมกอดทันที ผมขยับหนีมันแล้วยักคิ้วใส่

"สมน้ำหน้า!"
ผมพูดจบก็วิ่งหนีมันทันที ได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากด้านหลังไม่หยุดหย่อน แต่คิดว่าผมจะยอมหยุดตามที่มันสั่งง่ายๆเหรอ ฝันไปเถอะครับ วิ่งให้เหนื่อยตายกันไปข้างนี่ล่ะเว้ย

ผมกับดีพวิ่งไล่กันจนเหนื่อยหอบเลยพากันมายืนพักตรงลานน้ำพุกลางสวนสาธารณะอุเอโนะ กล้องถ่ายรูปถูกยกขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบอีกครั้ง โดยที่มีนายแบบจำเป็นอย่างดีพร่วมเฟรมโดยเจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ผมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้รูปดีพตอนเผลอมาครอบครอง เขาเป็นคนที่ดูดีทุกมุมมอง ดีจนน่าอิจฉา แต่ที่มากกว่านั้นคือ... ผมหวง

"ทำไรภีม?"
เหมือนดีพจะรู้ตัวว่าโดนแอบถ่ายเลยเดินตรงมาหาผมแล้วยื่นหน้าเข้ามาดูหน้าจอกล้องด้วยกัน มุมปากหยักได้รูปยกยิ้มก่อนจะมองสบตากับผม

"หล่อนะเนี่ย"
ว่าแล้วก็เสยผมตัวเองก่อนจะยักคิ้วให้ผม น่าหมั่นไส้จนต้องผลักหัวมันไปเบาๆ

"หลงตัวเองฉิบหาย"
ผมบ่นเสียงไม่จริงจังมากนักก่อนจะย่นจมูกใส่มันที่ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี

"มึงก็หลงกูด้วยเถอะ"

"หุบปากได้แล้ว"
ผมหมุนตัวหนีมันไปถ่ายรูปทางด้านอื่น ดีพเดินตามมาติดๆแล้วเอื้อมมือมาสะกิดไหล่กัน ผมหยุดแล้วเลิกคิ้วหันไปมองก่อนจะลดกล้องลง

"ไปปั่นเรือเป็ดกันไหม?"
ผมเหลือกตาใส่มันอย่างเหลือเชื่อ ตกลงว่านิสัยไอ้เดือนมหา'ลัยเนี่ยเป็นคนน่ารักๆมุ้งมิ้งจริงๆใช่ไหม ไม่ใช่พยายามทำตัวหวานๆใส่แฟนแบบผมเพื่อเอาใจ

"เป็นไรของมึงเนี่ย เหลือกตาทำไมวะ"

"มึงอยากปั่นเรือเป็ดจริงดิ?"
ผมถามมันก่อนจะเลิกคิ้วจนรู้สึกว่าหน้าผากตัวเองย่นยับ มันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มแฉ่งส่งมาให้เหมือนเด็กๆกำลังตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่ ผมหลุดหัวเราะพรืดเพราะไม่เคยคิดว่าคนหล่อหน้าเข้มอย่างมันจะมีมุมน่ารักๆแบบนี้

"ดีพ... มึงโคตรมุ้งมิ้งเลยว่ะ มาเป็นเมียกูเถอะ"
ผมทำหน้ากรุ้มกริ่มก่อนจะรั้งเอวมันมากอดไว้ ตอนนี้ไม่อายแล้วครับความอยากแกล้งไอ้ดีพมีมากกว่า มันตกใจทำตาโตก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมเสียวสันหลังวาบ

"กูกำลังทำให้มึงตายใจอยู่ไงที่รัก"
มันมองผมด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เสียงแหบพร่ากระซิบเข้าข้างหูก่อนที่มันจะกดปลายจมูกลงบนซอกคอผมอย่างหน้าตาเฉย ไอ้เชี่ยนี่ลามปามไปเรื่อยแล้วนะ คนแม่งก็หันมามองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้ บางคนถึงกับดีดดิ้นออกอาการฟินจนผมหน้าร้อนวูบวาบแล้วผลักมันออกไปไกลๆ

"เกลียดมึง! จะไปปั่นเป็ดก็รีบๆเข้า"
ผมรีบสาวเท้าเดินเร็วๆหนีมันทันที บอกได้เลยว่าตอนนี้โคตรอาย โคตรเขิน ทำอะไรประเจิดประเจ้อเกินไปแล้วครับ

"รอกูด้วยภีมมมมม ~"
แล้วมันก็แหกปากวิ่งตามมาก่อนจะกอดคอผมแล้วเดินไปด้วยกัน

ตกเย็นพวกเราก็พากันมาย่านการค้าที่มีอาหารขายเต็มสองข้างทางถนน ไฟประดับประดาสีสันสวยงามไม่ต่างจากกรุงเทพฯยามค่ำคืนสักเท่าไหร่นัก

"กินอะไรกันดี?"
ผมถามคนที่เดินเคียงข้างกัน ดีพยกแขนขึ้นมาพาดไหล่แล้วดึงผมเข้าไปใกล้ ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้กรอกครับว่าดีพทำแบบนี้แล้วผมรู้สึกดีเพราะอากาศกำลังเย็นลง

"มึงอยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวกูพาไป"
ดีพหันมายิ้มให้ มันเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขที่เขาชอบมอบให้ผมเสมอมา

"คิดไม่ออก มึงอยากกินอะไร"
ผมถามมันกลับไปบ้างก่อนจะหยุดเดินแล้วหมุนตัวกลับทางที่เพิ่งเดินผ่านมา ผมมึนงงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ท้วงอะไรออกไป

"กูอยากกินมึง ได้ป่ะ?"
มันกระซิบข้างหูก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่มใส่กัน ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะตบหัวมันไปเต็มๆ แล้วผลักมันออกไปไกลๆ ดีพหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างพอใจ นี่ก็แม่งหื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ -_-

"ฝันอยู่เหรอไง"
ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะเดินหนีกลับไปทางเดิม คือหิวครับไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย

"ภีมอ่า มึงอย่างอนดิ กูล้อเล่น"
มันเดินตามผมมาก่อนจะดึงแขนผมไปกอด ดวงตาคมฉายแววออดอ้อนจนผมที่เผลอมองแอบใจสั่น จริงๆก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าทุกครั้งที่มันพูดเรื่องอย่างว่าแล้วผมแอบเคลิ้มตามไปกับมัน แต่พอคิดขึ้นมาได้ว่าคนอย่างมันไม่มีทางรับ ผมก็กลัวขึ้นมา... กลัวเจ็บ ก็คนมันไม่เคยนะเว้ย แล้วคิดถึงสภาพตัวเองร้องครางใต้ร่างมันสิ อัปยศอดสูฉิบหาย โอยย แล้วทำไมต้องหน้าร้อนวูบวาบด้วยวะเนี่ย เกลียดตัวเอง

"พอ เลิกหื่นสักวันมันไม่ตายหรอกดีพ"
ผมเหล่ตามองมันแล้วส่ายหัวปลงๆ ดีพแสร้งทำหน้าหงอยแล้วพยักหน้าเบาๆ

"ก็ได้ๆ ไปกินราเมนกัน"

"อือ"
แล้วเราก็จบลงที่ร้านราเมนชื่อดังในย่านการค้าแห่งนี้ กว่าจะกลับถึงห้องพักเวลาก็ล่วงเลยเข้าช่วงสี่ทุ่มไปแล้ว ผมจัดการอาบน้ำเรียบร้อยแล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงอย่างหมดแรง วันนี้ชีพจรลงเท้าทั้งวันจนปวดเมื่อยไปหมด

"เป็นไรวะภีม"
ดีพออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ยอมรับว่าโคตรเซ็กซี่ ส่วนบนเปลือยเปล่าโชว์ซิกแพคลอนสวย มีเพียงกางเกงวอร์มขายาวที่ปกปิดร่างกาย หยดน้ำเกาะพราวอยู่บนเส้นผม ผ้าผืนเล็กสีขาวกำลังขยับไปตามเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ดูดีจนต้องเบือนหน้าหนี ที่มันถามออกมาแบบนั้นคงเพราะเห็นว่าผมบิดตัวไปมาบนเตียงพร้อมกับทำใบหน้ายุ่งแน่ๆ

"ปวดขา ปวดเท้า"
ผมนอนกางแขนกางขาอยู่นิ่งๆก่อนจะรู้สึกว่ามีเงาดำๆขึ้นมาทาบทับตัวเอง ดีพเดินเข้ามาหยุดตรงตำแหน่งปลายเตียงที่ผมนอนอยู่ มันลากเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งลงก่อนจะดึงขาผมแล้ววางลงบนตักตัวเอง ยอมรับว่าตกใจกับการกระทำของมันจนต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่ง

"จะทำอะไร?"
ผมถามมันด้วยน้ำเสียงตกใจ ไม่เคยพบเคยเจอดีพในโหมดนี้มาก่อนถึงจะคบกันมาเกือบปีก็เถอะ

"เดี๋ยวนวดเท้ากับขาให้"
มันยิ้มก่อนจะวางมือลงบนเท้า ผมรีบดึงเท้ากลับแต่มันก็คว้าข้อเท้าไว้เต็มมือก่อนจะส่งสายตาดุๆมาให้กัน

"เห้ย ไม่เอา กูนวดเองได้ นั่นเท้านะเว้ย"
ผมกระตุกเท้าเบาๆเพื่อจะให้มันปล่อย แต่ดีพยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นแล้วออกแรงบีบข้อเท้าผม

"แล้วยังไง กูไม่ได้รังเกียจสักหน่อย"
สายตาจริงจังส่งมาให้กันจนผมไปไม่เป็นเลยทีเดียว

"แต่มึงเป็นพี่กูนะ แล้วนั่นมันของต่ำ"
ผมหลุบตามองมือมันที่จีบข้อเท้าผมอยู่ ดีพแก่กว่าผมหนึ่งปี แต่ที่ผมไม่ยอมเรียกว่าพี่เพราะ..ผมไม่เคยเรียกแฟนว่าพี่นี่หว่า

"กูเป็นพี่มึงก็จริง แต่กูก็เป็นแฟนมึงด้วย ดูแลแฟนแค่นี้กูเต็มใจว่ะ มึงนั่งเงียบๆไปเลย"
คำพูดของมันทำให้ผมนิ่งอึ้งจนไม่กล้าพูดอะไรต่อ ได้แต่ปล่อยให้มันจัดการเป็นหมอนวดจำเป็นไปก่อนที่รอยยิ้มบางจะประดับขึ้นทั้งบนใบหน้าของผมและของมัน ไม่ต้องทำอะไรมากแค่อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว ผมนั่งมองมันอย่างเงียบเชียบ เวลาดีพตั้งใจทำอะไรสักอย่างแววตาจะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สีหน้าจริงจังดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด มีหลายครั้งที่ดีพเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม เราต่างคนต่างยิ้มให้กัน

"ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"
ดีพหยุดมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสบตา ผมพยักหน้าก่อนจะโน้มคอมันเข้ามาใกล้แล้วกดจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆเพื่อเป็นการขอบคุณ

"ขอบคุณนะดีพ"
ผมผละออกแล้วเอ่ยคำขอบคุณอีกครั้ง ดีพขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยประโยคที่ฟังแล้วน่าถีบให้กระเด็นตกจากเก้าอี้จริงๆ

"ไม่พอ อยากได้อีก"
มันส่งสายตากรุ้มกริ่มก่อนจะดันให้ผมนอนราบลงกับเตียง ส่วนตัวมันขยับขึ้นมาคร่อมไว้ ผมยกมือดันหน้าอกแกร่งของมันให้ระยะห่างของเราอยู่ในช่วงปลอดภัย

"โลภมาก"
ผมเบ้ปากใส่มันก่อนจะแอบหยิกเนื้อบริเวณหน้าอกของดีพ มันยู่ปากเล็กน้อยก่อนจะกลับมายิ้มกริ่มเหมือนเดิม ยอมรับว่าตอนนี้ผมโคตรใจสั่นเลยครับ

"ตั้งแต่ได้รักมึงกูก็กลายเป็นคนโลภมาก"

"อย่ามาโทษกู"
ผมถลึงตาใส่แต่มือที่ดันอกมันเปลี่ยนไปโอบรอบคอหนาแทน ปากสวนทางกับการกระทำนี่ก็มีผมคนหนึ่งล่ะครับที่เป็น

"เวลาอยู่กับมึงอะไรๆมันก็ไม่เคยพอนี่หว่า ไม่เห็นกูจะมีอาการแบบนี้กับคนอื่น"
มันโน้มตัวลงมาจนปลายจมูกของเราแตะกัน ลมหายใจอุ่นๆเบารดลงบนแก้มของผมจนร้อนวูบวาบ ไม่รู้ว่าร้อนเพราะลมหายใจหรือเพราะเขิน

"ปากหวานนะมึง"
ผมว่าก่อนจะเกร็งตัวงับปลายจมูกของมัน ดีพย่นจมูกก่อนจะยิ้มแล้วเลื่อนมือมาลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบา สายตาของเรามองประสานกันไม่มีท่าทีว่าใครจะยอมแพ้

"หวานให้มึงชิม"

"งั้นเอามาชิม"
ผมโน้มคอมันลงมาจนริมฝีปากของเราแตะกัน ริมฝีปากหยักค่อยๆบดคลึงลงมาอ่อนโยน เรียวลิ้นร้อนถูกส่งออกมาละเลียดไปตามริมฝีปากของผมมันช่างอ้อยอิ่งจนรู้สึกวาบหวาม ปากล่างถูกดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบวมเจ่อ ผมเผยอปากกอบโกยอากาศเข้าปอดเป็นจังหวะดีที่ดีพสอดลิ้นเข้ามาเกี่ยวตวัดหยอกล้อเคล้าคลึงกับลิ้นของผม จูบช่างหอมหวานจนไม่อยากผละออกจากกัน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างอ่อนโยน ไม่มีการล้วงล้ำกันมากกว่านั้นจนสุดท้ายเราก็ผละออกจากกัน

"หวานป่ะ?"
คำถามกวนๆมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ โคตรขัดกันแต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มออกมา

"เออ หวาน"
ผมตอบไปก่อนจะโน้มคอมันลงมาจูบอีกครั้ง ผมคึกแล้วล่ะ...ความหวานเลยแผ่กระจายขนาดนี้

"อยากชิมตัวมึงบ้าง.. แต่กูไม่บังคับมึงนะ"

"อือ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่กูจะบอก"

"ครับผม กูจะรอนะ.. รอจนกว่าจะทนไม่ไหว"
ผมถลึงตามองมันทันทีเมื่อรู้สึกว่าคำพูดของมันแปลกเกินไป ดีพเลิกคิ้วขึ้นทำหน้าใสซื่อแล้วทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆกัน

"มึงคิดจะปล้ำกูใช่ไหม?"
ผมพลิกตัวนอนตะแคงแล้วมองมันอย่างคาดคั้น เจ้าตัวหันมามองกันแล้วยิ้มเผล่ออกมาก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก

"ก็มึงน่าฟัด ไม่รู้กูจะทนได้แค่ไหน"
พูดจบก็ตรงเข้ามางับแก้มกันกน้าตาเฉยจนผมต้องใช้มือดันหน้าผากให้ดีพออกไปห่างๆ

"คืนนี้มึงออกไปนอนนอกห้อง นี่คือคำสั่ง!!"
ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะยกเท้าถีบมันจนตกเตียง เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นทันทีเมื่อก้นมันสัมผัสกับพื้นแบบเต็มๆ ผมนอนหัวเราะเอิ้กอ้ากด้วยความสะใจเมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งที่มองตรงมา

"ใจร้าย! อย่าเผลอนะภีม มึงต้องเสร็จกูสักวัน"
มันชี้หน้าคาดโทษกัน แต่ผมแลบลิ้นใส่ ไม่แคร์หรอกครับ กล้าปล้ำก็เอาสิ แต่หลังจากปล้ำแล้วมันคงตายคาตีนผมอย่างไม่ต้องสงสัย

"กูจะรอวันนั้นนะดีพ โอ้ยๆ ตื่นเต้นจัง"
ผมแกล้งทำสะดีดสะดิ้งทั้งๆที่ไม่ชอบ แต่การได้แกล้งแหย่มันเป็นอะไรที่ผมมีความสุข ดีพพุ่งตัวขึ้นมานอนทับกันก่อนจะจับผมฟัดด้วยความมันเขี้ยว

"ไอ้เชี่ย! หยุดเลย"
แล้วผมก็ถีบมันตกเตียงไปอีกรอบ คราวนี้มันนั่งหน้างอง้ำอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จา สงสัยจะโกรธจริง ผมคลานลงจากเตียงแล้วไปนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้า ใช้สองมือประคองแก้มมันบังคับให้สบตา

"กูขอโทษ เจ็บมากไหม?"
มันมองหน้าผมนิ่ง ไม่ยอมตอบอะไรออกมาจนผมต้องโน้มตัวเข้าไปจุ๊บปากมันเบาๆ

"ขอโทษนะครับ"
ยังคงเงียบไร้สัญญาณตอบรับจนผมต้องกดจูบลงบนปากนั่นอีกครั้ง

"พี่ดีพครับ ภีมขอโทษ ไม่โกรธภีมนะครับคนดี"
พอพูดจบเท่านั้นล่ะ ดีพก็ดึงผมเข้าไปกอดแนบอกทันที ผมเผลอยิ้มแล้วซุกหน้าลงบนไหล่หนา อ้อนเข้าหน่อยดีพก็แพ้ผมแล้ว

"กูรักมึงนะภีม"
คำบอกรักที่ไม่ได้หวานหูแต่มันกลับอุ่นไปทั้งหัวใจ ชอบนะชอบมากกับคำบอกรักที่ออกมาจากใจจริงๆ ไม่มีการปรุงแต่งแบบนี้

"รักมึงเหมือนกัน"



----------------------------------------------------------

เห็นจีบกับคิสเขางุ้งงิ้งกันมามากแล้ว คราวนี้มาจับตามองคู่ดีพภีมกันบ้างเนอะ คึคึ

ปล.อ่านให้สนุกน้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-07-2016 12:19:24
 :กอด1:   :o8:   กลายเป็นว่าคู่พี่นี่ถีบไปจูบไป หวานเนอะ
เอาไว้ค่อยตกลงเรื่องใครกดใครเนอะ น่าสงสารภีมเบาๆเหมือนกัน เดี๋ยวเดี้ยงแล้วอดเที่ยว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 25-07-2016 12:50:24
พี่ดีพค่ะ คนอ่านก็ลุ้นอยู่นึกว่าจะมี อะไร  :z2: แบบนี้อ่ะป่าว ที่ไหนได้ยังได้เเค่ เต๊าะ ภีม หู๊ยยยยย

ส่วนน้องชายพี่ กำลัง อินเลิฟ เหมือนกันนะ
มีความอยากอ่านพี่จีบ น้องจูบ เเล้วนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-07-2016 13:02:13
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-07-2016 14:18:09
แหม คู่นี้ต้องแบบถีบแล้วจูบซินะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 25-07-2016 15:07:04
ภีม - ดีพ  เดี๋ยวจูบเดี๋ยวถีบ
รอดูว่าใครจะได้กดใคร


 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-07-2016 16:20:04
นี่ไม่รู้จะ #ทีมภีม หรือ #ทีมดีพ ดีเลยเนี่ย

ฮาาาาา

ทีมพี่จีบละกัน กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-07-2016 18:59:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-07-2016 22:13:32
น่ารักอ่ะ มุ้งมิ้งกันดีจริงๆ ขออีกๆๆๆ o13 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 25-07-2016 22:47:32
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษของภีม -P.5- (25.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-07-2016 01:20:42
อ่อย!! อิจ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 26-07-2016 20:46:11
- ดื่มครั้งที่ 9 -




แดดตอนเที่ยงวันแผดเผาทุกอย่างจนร้อนระอุ อุณหภูมิมากกว่า 35 °c ทำให้ผมพาตัวเองพุ่งเข้าร้านกาแฟทันที เหงื่อเม็ดโตเปียกชื้นตามไรผมและค่อยๆไหลลงตามกรอบหน้า มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อออกด้วยความรำคาญอย่างสุดซึ้ง มืออีกข้างดึงเสื้อเชิ้ตตัวเก่งสีชมพูอ่อนสะบัดไปมาเพื่อไล่ความร้อน เครื่องปรับอากาศเย็นช่ำกำลังเป่าลมรดลงบนหัวได้อย่างพอดิบพอดี

วันนี้เป็นวันอาทิตย์และเป็นวันหยุดของร้านกาแฟ แต่ที่พี่จีบเรียกผมมาที่ร้านก็เพราะว่าต้องทำกาแฟไปส่งให้เพื่อนๆที่หอสมุดกลางมหา'ลัยซึ่งผมก็ต้องมาช่วยพี่เขาก่อนจะพาผมไปเที่ยวต่อ

"ไปยืนทำอะไรตรงประตูวะ เดินเข้ามาดิ"
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหน้านั้นช่างคุ้นเคย ผมส่งยิ้มให้บุคคลที่โผล่ออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์ด้วยรอยยิ้มแหย

"ขอตากแอร์แป็ปนึง"
ผมเงยหน้ารับลมเย็นแล้วหลับตาลงพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา มันช่างสดชื่นจนไม่อยากออกไปเผชิญกับแสงแดดด้านนอกอีกแล้ว

"เข้ามานั่งดีๆ ตรงนี้แอร์ก็เย็น"
คนร่างสูงเดินตรงเข้ามาแล้วใช้ท่อนแขนแข็งแรงล็อกคอผมก่อนจะลากให้เดินไปหย่อนตัวลงบนเก้าอี้บาร์ตัวสูง ผมดิ้นเล็กน้อยเพราะหายใจไม่ออก

"โอย พี่จีบ ผมหายใจไม่ออกเว้ย จะฆ่ากันหรือไง"
ผมแหกปากโวยวายแต่อีกคนกลับหัวเราะเอิ้กอ้ากเพราะสามารถแกล้งผมได้ จากวันนั้นที่ผมรู้ว่าพี่เขาจีบผมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังขี้แกล้งมากกว่าเดิมอีกด้วย ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตอนที่พี่จีบยอมละแขนออกจากคอแล้ว

"ใครเขาจะฆ่ามึงกันไอ้คิส มโนเนอะ"
พี่จีบว่าก่อนจะยิ้มขำ ผมมุ่ยหน้าใส่แล้วหันหนีมันทันที จีบกันแบบนี้เหรอครับ? ป่าเถื่อนสิ้นดี ทั้งด่าทั้งแกล้ง หึ!

"งอนเหรอ?"

"เปล่า!"
ไม่งอนครับ แต่เสียงสะบัดจนเด็กห้าขวบยังจับได้ ผมกอดอกตัวเองแน่นแล้วเบะปากลงอย่างขัดใจ รู้สึกได้ว่านับวันไอ้ความแมนๆเตะบอลจะลดน้อยลงขึ้นทุกวัน.. ลดฮวบลงอย่างน่ากลัวซะด้วย ผมยังวางพี่จีบอยู่ในฐานะไอดอลนะ เพราะยังไม่แน่ใจว่าการชอบใครสักคนแบบคนรักมันเป็นยังไง ก็คนมันไม่เคยมีแฟนนี่หว่า อย่ามาเร่งรีบกับคนอย่างผม ถ้าชอบจริงต้องรอได้ครับ ถึงจะไม่เคยมีแฟนแต่ผมก็อยากคบใครสักคนด้วยความรู้สึกรักจริงๆไม่ใช่แค่ชอบ

"มึงนี่ปากแข็งแต่การกระทำได้โล่ไปละ"
พี่จีบทำหน้าเซ็งๆแต่มืออยู่ไม่สุขเอื้อมมาขยี้หัวปมจนยุ่งเหยิงไปหมด ผมค้อนขวับใส่เขาทันทีแล้วปัดมือออกด้วยท่าทีไม่จริงจังมากนัก คนเขาอุตส่าห์เซ็ตผมซะดิบดีเพราะพี่จีบจะพาไปเที่ยวหรอกนะ

"ผมยุ่งเนี่ย หมดหล่อแล่ว!"
ผมทำหน้าบูดบึ้งแล้วใช้มือจัดแต่งทรงผมใหม่แบบลวกๆ พี่จีบมองมาแล้วขำเบาๆอย่างไม่สะทกท้านว่าผมกำลังหงุดหงิด ร่างสูงเดินกลับเค้าไปหลังเค้าน์เตอร์บาร์โดยไม่พูดอะไรอีกแล้วไม่นานนักเสียงเครื่องทำกาแฟก็ดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคยโชยมาแตะจมูก น้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงานเรียกหาอาหารทันที

"เอาไป ไถ่โทษที่กูแกล้งมึงแล้วกัน"
แก้วทรงผลส้มสีใสบรรจุเครื่องดื่มสีน้ำตาลอ่อนถูกส่งมาตรงหน้า กลิ่นหอมของกาแฟและนมที่ลงตัวลอยมาแตะจมูกจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหาย นมสีขาวละมุนถูกวาดลวดลายเป็นรูปหัวใจตรงกึ่งกลางแก้ว ดูแล้วมันช่างหอมหวานยังไงชอบกล ผมรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบเมื่อได้เห็นลาเต้อาร์ตแก้วนี้ ซึ่งมันต่างจากแก้วอื่นๆที่เคยเห็นมาอย่างสิ้นเชิง... โดยทำกาแฟจีบก็คราวนี้ล่ะวะไอ้คิส

"โห.. ทำรูปหัวใจก็ได้ด้วยเหรอ? ปกติไม่เห็นเคยทำเลย"
ผมแสร้งถามออกไปด้วยใบหน้าที่ปั้นแต่งให้ใสซื่อที่สุด ปกติพี่จีบไม่เคยทำลาเต้อาร์ตรูปหัวใจเลยเพราะเขาจะทำรูปคล้ายๆใบไม้ทุกครั้ง ผมไม่อยากยอมรับว่าหลังๆมานี้ฉลาดขึ้นเยอะสามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนเป็นมุกจีบผมของพี่เขาบ้าง อย่างเช่นตอนนี้โดนจีบอยู่แน่ๆ

"ทำให้คนพิเศษอย่างเดียวว่ะ"
พี่จีบตอบกลับก่อนจะยักคิ้วให้กัน ผมที่รู้อยู่แล้วว่าโดนจีบแต่ก็ยังเขินจนได้ ไร้ภูมิต้านทานจากโรคจีบลิซึ่มจริงๆให้ตายเถอะ นี่ขนาดยังชอบแบบมายไอดอลนะ แต่ถ้าวันไหนผมรู้ใจตัวเองว่าชอบพี่จีบแบบคนรักขึ้นมาผมจะหลงมันหัวปักหัวปำขนาดไหน!

"เสี่ยวเหรอ?"
ผมเบ้ปากใส่แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมาจรดริมฝีปากเพื่อลดความเขิน ไอน้ำร้อนๆปะทะเข้ากับแก้มเลยไม่รู้ว่าหน้าร้อนเพราะไอกาแฟหรือเขินคนตรงหน้ากันแน่

"กูไม่เสี่ยว แต่กูชอบทำให้เสียวนะ"
ใบหน้าคมก้มลงมาจนจมูกเกือบชนกัน ผมผงะถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้ แก้วกาแฟในมือสั่นกึกๆเพราะหัวใจกำลังเต้นแรง พี่จีบพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแล้วใช้สายตากรุ้มกริ่มมองกันจนผมอดขนลุกซู่ไม่ได้

"แม่ง หื่นกาม!"
ผมละล่ำละลักด่ามันไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ มือสั่นกึกๆจนไม่สามารถประคองแก้วลาเต้ไม่ได้สุดท้ายก็ตัดสินใจวางมันบนจานรองเหมือนเดิม ดวงตากลมเบนหนีไปมองพื้นหินอ่อนของร้านอย่างไม่จำเป็น

"ล้อเล่นน่า จริงจังไปได้"
พี่จีบว่าก่อนจะส่งเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ ผมเบ้ปากใส่มัน หัวเราะแบบนั้นใครเขาคงเชื่อว่าล้อเล่น โคตรเจ้าเล่ห์เลยเหอะ

"ใครจะไปเชื่อ พี่จีบมีเรื่องที่ผมคาดไม่ถึงตลอดเลยนะ"
ผมว่าก่อนจะเหลือบมองคนที่เอาแต่ส่งรอยยิ้มอารมณ์ดีมาให้กัน นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนเค้าน์เตอร์บาร์เป็นจังหวะเหมือนต้องการกดดันอะไรบางอย่าง แต่ผมคงรู้สึกไปเอง

"ไม่เชื่อตอนนี้ไม่เป็นไร เพราะต่อไปกูจะทำให้มึงเชื่อใจกูเอง"

"โหย เลี่ยนๆ กาแฟไม่อร่อยเลยเนี่ย"
ผมพูดปัดๆก้อนจะทำหน้ายี้ใส่แก้วกาแฟ รูปหัวใจที่เกิดจากการเทนมยังไม่เสียรูปทรงแต่อย่างใด มองแล้วก็พาลทำให้แก้มร้อนได้อีกครั้ง

"กาแฟไม่อร่อย งั้นลองชิมบาริสต้าหน่อยไหมครับน้องคิส?"
พี่จีบยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินอ้อมออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์ ผมรีบกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วขยับตัวหนี พี่จีบสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วคว้าข้อมือของผมไปจับไว้ก่อนจะออกแรงกระตุกให้ผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำหอมยี่ห้อดังผสมกับกลิ่นกาแฟอ่อนๆ จะว่ากลิ่นมันแปลกก็แปลกจะว่าหอมก็หอม สรุปแล้วเคลิ้มจนลืมตัวว่าโดนแต๊ะอั๋งอยู่ เมื่อผมได้สติจึงดิ้นไม่หยุด วงแขนแกร่งออกแรงรัดรอบตัวผมเพิ่มขึ้นจนรู้สึกเจ็บ ฮึก นี่ชอบผมจริงๆเหรอดูยังไงๆก็เหมือนจะฆ่ากัน

"ไอ้พี่จีบ ปล่อยผมนะ ไอ้คนหื่นกาม ทะลึ่ง!!"
ผมดิ้นขลุกขลักต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้ มือทั้งสองข้างปัดป่ายทุบตีไปมั่วซั่วโดนบ้างไม่โดนบ้าง แต่พี่จีบยังคงยิ้มหน้าบานและหัวเราะเอิ้กอ้ากด้วยความสะใจ ฮึ่ยย ผมหมดแรงจะดิ้นเลยหยุดแล้วหอบแฮ่กออกมาเสียงดัง พี่จีบยอมปล่อยตัวผมแล้วดึงไปนั่งที่โซฟาเป็นการพัก

"กูแกล้งมึงเล่นเอง จริงจังไปได้ว่ะ"
พี่เขานั่งยองๆลงตรงหน้าผมก่อนจะใช้ปลายนิ้วดันเชยคางให้มองสบตากัน ผมจิ๊ปากก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาอ่อนโยนนั่น ตบหัวแล้วลูบหลังหรือยังไงกัน น่าหงุดหงิดชะมัดแต่หัวใจมันทรยศเต้นดังโครมครามก้องหู

"พี่แม่ง ไม่เลิกแกล้งผมสักที"
ผมบ่นเสียงงึมงำเพราะยังเหนื่อยจากการออกแรงดิ้น เสียงหอบเล็กน้อยเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดี

"เคยบอกมึงไปยังว่ากูชอบใครก็แกล้งคนนั้นล่ะ"
พี่จีบยกมือขึ้นขยี้หัวผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่ปัดออกเพราะสัมผัสมันช่างอ่อนโยนและปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกอบอุ่น ถึงคำพูดจะดูกวนตีนไปหน่อยแต่น้ำเสียงของเขากลับทำให้ผมไม่โกรธอะไร ฟังไปฟังมาเหมือนคำสารภาพรักเลยแฮะ

"อือ รู้แล้วๆ พี่เป็นอะไรกับหัวผมมากไหมเนี่ย ชอบเล่นจังนะ หมดหล่อเลย"
ผมบ่นกระปอดกระแปดไม่เต็มเสียงนักก่อนจะย่นจมูกใส่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาผมช้อนมองหน้าผมที่พยายามก้มหลบจนคางเกือบจะชิดอก มือที่ขยี้ผมไปเมื่อครู่เลื่อนลงมากอบกุมแก้มของผมก่อนจะดึงเบาๆด้วยความมันเขี้ยว

"ได้แต๊ะอั๋งมึงแล้วมีความสุขว่ะ"
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้าวยาวๆเดินจากไป ปล่อยให้ผมนั่งมึนกับสิ่งที่ได้รับ ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยกมือทั้งสองขึ้นปิดหน้าแล้วส่ายหัวไปมาด้วยความเขิน ถ้าไม่เกรงใจว่าพี่จีบจะตกใจผมคงว้ากเสียงดังลั่นร้านไปแล้ว ผมดีดดิ้นเป็นคนบ้าอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ได้ยินเสียงหัวเราะแว่วดังมาจากด้านหลังเค้าน์เตอร์จึงต้องหันไปค้อนใส่คนอารมณ์ดี

ผมนั่งรอพี่จีบทำออเดอร์ของบรรดาเพื่อนบังเกิดเกล้าอย่างพี่แก๊ปกับพี่คิน ระหว่างนั้นก็นั่งเล่นเกมปลูกผักในฟาร์มฆ่าเวลาไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักเสียงเรียกของพี่เขาก็ดังขึ้นจนผมต้องละสายตาออกจากจอสี่เหลี่ยม

"เสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวมึงถือแก้วไปนั่งรอบนรถนะ กูเก็บของแป็ป"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะรับกุญแจรถ BMW ลูกรักของพี่จีบมาถือไว้พร้อมกับถือแก้วมอคค่าเย็นและคาปูชิโน่เย็นพร้อมด้วยถุงขนมเค้กแล้วเดินออกไปขึ้นรถ พี่เขาก็ไว้ใจผมเนอะให้กุญแจมาเปิดรถเองเนี่ย ถ้าเกิดผมขโมยรถขึ้นมาล่ะ? ไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองจะโดนกระทืบจนเละแค่ไหน

ผมวางทุกสิ่งอย่างไว้บนตัก สองมือประคองแก้วกาแฟไว้เพราะกลัวมันหก พี่จีบที่ปิดร้านเรียบร้อยเปิดประตูรถแล้วสอดตัวเข้ามานั่งประจำที่คนขับก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกุญแจบนตักผม... แต่ความบัดซบก็บังเกิดเมื่อผมเสือกวางกุญแจรถไว้ใกล้น้องชายตัวเอง แถมมือยังไม่ว่างหยิบให้ไอ้พี่จีบอีก

หมับ

"เอ่อ... ขอโทษว่ะ"
พี่จีบเอ่ยปากขอโทษเมื่อรู้ตัวว่าสัมผัสโดนเป้ากางเกงผม กุญแจที่ถืออยู่ในมือสั่นเล็กน้อย ดวงตาคมเหลือบมองมาทางผมด้วยสีหน้าที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจก่อนความอายจะแล่นริ้วไปทั่วใบหน้า ฮือ โง่เองที่ตั้งไม่ถูกที่ถูกเวลา

"มะ ไม่เป็นไรครับพี่"
ผมพูดตะกุกตะกักมือเรียวเผลอบีบแก้วกาแฟแน่นเพราะอาย ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหน จะเปิดประตูแล้ววิ่งลงจากรถก็ดูจะโอเวอร์มากเกินไป

"คิส..."
พี่จีบเรียกผมเสียงเบาจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความงงปนสงสัย ใบหน้าด้านข้างของพี่จีบขึ้นสีแดงระเรื่อจางๆ... ผมเม้มปากแน่นก่อนที่ความคิดในสมองจะเตลิดไปไกล โอ้ย จากที่ไม่เป็นอะไรตอนนี้จะเป็นแล้วครับ หน้าร้อน ตัวร้อน เหมือนจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆแล้ว พี่มันจะมาเขินอะไรตอนจับเป้าผมล่ะเว้ยยยยย

"คะ ครับ"
ฮือ ไม่ไปแล้วได้ไหม พี่แก๊ปกับพี่คินมึงถ่อสังขารมาเอากาแฟเองดิ๊ แล้วเป็นห่าอะไรกาแฟที่มหา'ลัยก็มีขายทำไมไม่ซื้อแดก ฮ่วยยยย รบกวนวันหยุดยังไม่พอพากูอับอายขายขี้หน้าด้วยเนี่ย

"มึงยั่วกูเหรอ?"
พี่จีบหันมามองกันเต็มๆสองตาก่อนที่มุมปากจะกระตุกเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย ผมอ้าปากหวอก่อนจะแยกเขี้ยวใส่มันเมื่อตั้งสติได้ ถ้าไม่ติดว่าถือแก้วกาแฟอยู่นะจะฟาดแม่งให้น่วมคามือเลยไง คิดมาได้ยังไงวะว่าผมยั่ว ไม่ได้ถอดกาเกงโชว์แก้มก้นให้ดูสักหน่อยเว้ย ว่าผมขี้มโนจังนะ ไม่รู้ตัวเองเลยว่าโคตรขี้มโน!

"บ้า! ไอ้พี่จีบนะ ถ้ายังไม่เลิกแกล้งกันผมซัดแก้วกาแฟใส่หน้าจริงด้วย"
ผมยกแก้วกาแฟขึ้นเหนือหัวแสดงความเอาจริง แววตาที่ใช้มองพี่จีบไม่มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด เขาทำหน้าเหวอก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นยอมแพ้ ผมจิ๊ปากใส่ก่อนจะยอมลดแก้วในมือลง

"ยอมแพ้ๆ อย่าซัดมานะเว้ย เดี๋ยวรถเลอะ"
พี่จีบหันไปเสียบกุญแจแล้วสตาร์ทรถขับออกไปทันที ผมนั่งหน้าบึ้งไปตลอดทางจากร้านกาแฟถึงมหา'ลัย เสียงเพลงที่เปิดคลอไปเบาๆไม่ได้ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นเลยด้วยซ้ำเพราะมีน้ำเสียงทุ้มๆของพี่จีบร้องคลอไปด้วย... ทำไมต้องเป็นเพลงรักหวานซึ้งด้วยวะ ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกหน้าร้อนทั้งๆที่เขาไม่ได้ร้องให้ผมฟังสักหน่อย!

Please, Give me the first kiss ~

ผมสะดุดกึกกับเพลงเกาหลีท่อนหนึ่ง..ไม่รู้ว่าพี่จีบมันจงใจร้องท่อนนี้หรือมันร้องได้แค่ท่อนนี้กันแน่ แต่สายตาที่มองมามันระยิบระยับจนผมต้องเบือนหน้าหนีไปมองข้างทาง ใครใช้ในรถติดไฟแดงตอนนี้ล่ะวะ จะมาขอจูบแรกกันหน้าด้านๆงี้เลยเหรอ ไม่ให้หรอกเว้ย หวงมากอยากบอก

"ลงไป"
น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นเมื่อรถเข้ามาเทียบจอดหน้าหอสมุดกลางภายในมหา'ลัย ผมทำหน้าเหรอหราก่อนจะใช้นิ้วง้างประตูเปิดออกอย่างทุลักทุเล ถ้าไม่ระวังมีหวังได้อาบกาแฟแน่ๆ ผมพยายามอยู่นานแต่ก็เปิดไม่ได้สักที ตั้งใจว่าจะวางฝากแก้วกาแฟให้พี่จีบถือแต่ก็ต้องชะงักเมื่อแขนแกร่งเอื้อมมาเปิดประตูให้กัน ใบหน้าด้านข้างของพี่จีบเฉียดปลายจมูกผมไปเพียงนิดเดียว นี่มันเท่ากับผมหอมแก้มมันหรือเปล่าวะ... อ๊ากกก

"เอ้า นั่งตัวแข็งอยู่ทำไม รีบๆลง น้ำแข็งละลายแล้ว"
พี่จีบมองผมด้วยสายตาดุๆ ผมรีบลงจากรถอย่างทุลักทุเลแล้วใช้สะโพกดันประตูรถให้ปิดลง พี่จีบลดกระจกก่อนจะพูดกับผม

"ไปนั่งรอมันที่ม้าหินอ่อนนะ เดี๋ยวกูโทรให้มันลงมาเอา"
ผมพยักหน้ารับคำหงึกหงักแล้วหมุนตัวกำลังจะเดินไปแต่ก็ต้องชะงักแล้วเอี้ยวคอไปถามคนที่จอดรถรออยู่

"พี่จีบจะรอตรงนี้หรือไปรอที่จอดรถครับ"

"มึงเสร็จแล้วโทรมา เดี๋ยวกูวนรถมารับ"

"โอเคครับ"
ผมพูดจบก็หันกลับแล้วเดินตรงไปหย่อนตัวลงที่ม้าหินอ่อนในสวนหย่อมเล็กๆหน้าหอสมุด รอไม่นานนักร่างของคนสูงโปร่งก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับทักทายกันด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ

"น้องคิส ~"
เสียงทุ้มหวานของพี่คินเรียกชื่อผมจนแอบขนลุก ผมหันไปยิ้มหวานให้กับคนมาเยือนแล้วรีบส่งของทั้งหมดให้เจ้าตัวก่อนจะแบมืออกไปตรงหน้าเพื่อรับค่าเสียหาย พี่คินถึงกับผงะในการกระทำของผม

"ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอครับ?"
พี่คินขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะยกแก้วคาปูชิโน่ขึ้นไปดูด

"ไม่ครับ ผมจะไปเที่ยวต่อ"
ผมฉีกยิ้มกว้างไป มือที่แบอยู่ก็กระดิกไปมาแสดงความกดดัน พี่คินหลุดขำออกมาแต่ไม่ยอมล้วงเงินให้ดีๆแถมยังทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันอีก

"ไปเดทกับไอ้จีบสินะ"
คำพูดของพี่คินมาพร้อมกับสายตาหยอกล้อ นิ้วเรียวสวยเย็นชืดเพราะจับแก้วกาแฟจิ้มลงบนแก้มผมจึกๆ อยากจะหันไปด่าว่านี่แก้มคนไม่ใช่ขี้แต่ก็เกรงใจ เดี๋ยวจะหาว่าเป็นเด็กเป็นเล็กแล้วลามปามกับผู้ใหญ่ ใจจริงแล้วแค่กลัวพี่คินมันจะแกล้งผมเท่านั้นเอง

"ดะ เดทบ้าอะไรพี่ ไปเที่ยวเฉยๆ"
ทั้งๆที่มั่นใจว่าพี่จีบไม่ได้ชวนไปเดทแน่ๆ ก็แค่ไปกินข้าวดูหนังกันธรามดา... เอ้ะ ธรรมดาของคนเดทกันล่ะสิไม่ว่า!!! นี่กูซื่อบื้อจนโดนพี่จีบหลอกไปเดทอีกแล้วสินะ ฮือ ตอนมันชวนก็แค่คิดว่าของกินฟรีหนังฟรีสบายจะตาย พอคิดได้แบบนั้นหน้ามันก็พาลร้อนวูบวาบขึ้นมาซะเฉยๆ

"ไปเที่ยวนี่กินข้าว ดูหนังป่ะ?"
พี่คินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะใช้ไหล่กระแซะกับไหล่ผม ทำไมกวนตีนแบบนี้ อยากได้เงินอ่ะ เปย์มาเดี๋ยวนี้ก่อนที่ผมจะบีบคอพี่!

"อือ! สามร้อยครับ รีบจ่ายมาเลย"
ผมแสร้งทำเสียงเข้มแล้วแบมือไปตรงหน้าพี่คินอีกครั้ง ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วยอมส่งเงินสามร้อยบาทให้กันง่ายๆ ผมรีบยัดใส่กระเป๋าเสื้อทันทีแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมเดินหนีเต็มที่แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเจอประโยคถัดมากระแทกเข้าหน้าเต็มๆ

"เคี่ยวขนาดนี้ เตรียมเป็นเมียที่ดีให้ไอ้จีบแน่ๆ"
ผมหันขวับไปหาพี่คินด้วยใบหน้างอง้ำ อยากจะโวยวายแต่ก็ทำไม่ได้ จะเข้าไปตบตีมันก็ทำไม่ได้ยังไม่สนิทกันขนาดนั้น โอย ไม่ได้โมโห แต่คนมันเขินจนทำตัวไม่ถูกอ่ะเข้าใจไหม ฮือ อยากฟาดไอ้พี่จีบระบายอารมณ์ฉิบหายเผื่อจะดีขึ้น

"พี่คิน! หยุดแซวผมได้แล้ว เดี๋ยวแฟนคลับพี่จีบมาได้ยินผมยังไม่อยากกินยำตีนนะ"
เขินก็เขิน กลัวกก็กลัว ใครเข้าใจผมบ้างวะแม่ง ผมเหลียวซ้ายแลขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ แต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นเงาใครตะคุ่มๆอยู่ข้างตึก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ มือเย็นชื่นไปด้วยหยาดเหงื่อ ตายแน่ๆ กูตายแน่ ไอ้เชี่ยพี่คินมึงยังยิ้มอยู่ได้นะ สัดด

"ไอ้แก๊ป ทำเชี่ยไรวะ?"
พี่คินเอ่ยทักบุคคลที่ยืนอยู่มุมตึก ใบหน้าหล่อลูกครึ่งหันมามองพวกผมก่อนจะยกมือขึ้นทักทาย คงจะทักทายผมนั่นล่ะ ไอ้ผมนี่ยืนอ้าปากหวอไปแล้ว เชี่ย พี่แก๊ปนี่เองนึกว่าใคร

"หาของ"
เสียงทุ้มตอบกลับมาก่อนจะกลับไปก้มๆเงยๆหาของเหมือนเดิม ผมกับพี่คินมองหน้ากันก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่แก๊ป

"หาไรวะ?"

"ต่างหูที่มึงซื้อให้"

"อ๋อ ไอ้รูปไม้กางเขนนั่นอ่ะนะ?"

"เออ มันตก"

"ไม่ต้องหาหรอก ไว้กูซื้อให้ใหม่"
พี่คินยิ้มอย่างไม่ถือสาก่อนจะยัดแก้วมอคค่าเย็นที่น้ำแข็งละลายลงไปกว่าครึ่งให้พี่แก๊ป ฝ่ายนั้นรับของไปแล้วยกขึ้นดูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก.. ทำไมวะ กาแฟไอ้พี่จีบไม่อร่อยเหรอ

"ไม่ได้ นั่นมันของชิ้นแรกที่มึงให้กู"
ผมลอบถอนหายใจเมื่อสิ่งที่ไอ้พี่แก๊ปกังวลไม่ใช่รสชาติกาแฟ แต่ดูเหมือนต่างหูที่พี่คินให้จะสำคัญกับพี่แก๊ปมาก

"มึงจะคิดมากอะไรวะแก๊ป กูชิวๆ ไม่คิดมาก"
พี่คินพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆแล้วยกแก้วคาปูชิโน่ขึ้นมาดูดไปอีกหลายอึก คนเครียดยังคงขมวดคิ้วยุ่ง สายตายังจับจ้องไปที่พื้นตัวหนอนหน้าหอสมุด

"มันสำคัญ"

"มันสำคัญกว่าคนให้แบบกูเหรอไง เดี๋ยวพ่อตบกะโหลกแยก"

"อย่ามาโหด เดี๋ยวจะโดนจัดหนัก"

"เชี่ยยย หุบปากเลยนะมึง!"
พี่คินเบิกตากว้างก่อนรีบพุ่งตัวเอามือข้างที่ว่างอยู่ตะครุบปากไอ้พี่แก๊ปทันที ผมว่าไอ้บทสนทนาเมื่อกี้มันทะแม่งๆว่ะ ซัมติงเปลี่ยนเป็นซั่มแน่ๆ ฟันเฟิร์ม!!

"น้องคิส ~ รีบไปเที่ยวกับจีบไม่ใช่เหรอ ไปไป๊ เดี๋ยวไอ้จีบรอนานนะ"
พี่คินหันมาพูดเสียงหวานไล่กันแบบหน้าด้านๆ แหม.. กลัวผมรู้ความลับอะไรหรือยังไง เมื่อกี้ยังรั้งผมเอาไว้อยู่เลย หึหึ ไมายอมหรอก ขอแกล้งคืนสักหน่อยเหอะวะ

"แก๊ปคินหรือคินแก๊ปน้า สงสัยจังเลย ~"
ผมแกล้งบีบเสียงเล็กเสียงน้อยมองหน้าพี่แก๊ปกับพี่คินสลับกัน ไอ้พี่คินอ้าปากพะงาบๆเหมือนอยากด่าผม แต่ไอ้พี่แก๊ปดึงมือพี่คินออกแล้วยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบออกมาอย่างอารมณ์ดี

"แก๊ปคินครับ"
พี่คินแยกเขี้ยวใส่ไอ้พี่แก๊ปแล้วกระหน่ำหมัดใส่ทีนที ไม่สนแก้วกาแฟในมือเลยด้วยซ้ำเพราะพี่เขาปล่อยมันล่วงลงสู่พื้นตัวหนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เสียงโวยวายดังลั่นเมื่อพี่แก๊ปเริ่มวิ่งหนี

"ไอ้เชี่ยแก๊ป มึงบ้าจี้ตอบน้องมันทำไม! ตายซะเถอะ ย๊าก!!!!!"
ผมหัวเราะกับภาพตรงหน้าก่อนจะปลีกตัวออกมาเมื่อรับรู้ว่าตัวเองหายไปนานกว่าที่คิดเอาไว้ กะว่าเดินออกมาสักระยะจะโทรหาพี่จีบ แต่เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นซะก่อน

"ครับพี่จีบ เสร็จแล้วครับ"

'ทำไมช้าจังวะ'

"พี่คินอ่ะดิชวนคุยยาว"

'เออๆ จะเดินไปไหนมึง?'

"ห้ะ ก็ไปที่รถไง"
ผมตอบออกไปด้วยความงง ก็รถจอดอยู่ทางนั้น ความจำผมดีนะเว้ย

'อยู่ยืนอยู่ทางขวามือมึงเนี่ย'

"อ๋อ.."
ผมหันกลับไปก็เจอพี่จีบยืนอยู่ใต้ต้นไม้ อย่างเท่ครับยืนหลังพิงต้นไม้พอยท์เท้าเนี่ย จะถ่ายแบบหรือยังไง หมั่นไส้ ผมสาวเท้าเข้าไปหาคนที่กดวางโทรศัพท์แล้วถือมันเอาไว้

"มายืนรอนานยังครับ?"

"ห้านาที ไปกัน กูหิวข้าว"
พี่จีบพูดจบก็พาดแขนกอดคอแล้วลากผมไปที่รถทันที.. แล้วเมื่อกี้จะให้กูเดินย้อนมาทำพระแสงอะไรครับคุณจีบ คิดแล้วก็หงุดหงิด แต่ไม่เป็นไรข้าวฟรีหนังฟรีรออยู่ เย่

"พี่จีบ.. ถามไรหน่อยดิ"
ผมอ้าปากถามเมื่อรถกำลังเคลื่อนออกจากประตูมหา'ลัย พี่จีบเหลือบมองผมก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วหักพวงมาลัยเลี้ยวรถ

"ผมเคยสงสัยว่าพี่แก๊ปกับพี่คินเขามีซัมติงกันว่ะ"

"แล้วไงต่อ"

"แต่ตอนนี้ผมว่าเขาน่าจะซั่มกันแล้ว"
ผมพูดออกไปหน้าตาเฉยเพราะความคิดกำลังไหลรื่น ส่วนพี่จีบเบิกตาค้าง สงสัยจะตกใจที่ไม่รู้เรื่องของเพื่อนสนิทตัวเองแน่ๆ เห็นไหมๆ ผมฉลากกว่าพี่จีบแล้วนะ

"เชี่ย มึงนี่ทะลึ่งนะ"
พี่จีบสบถออกมาเบาๆ แต่ผมได้ยินเลยหันไปค้อนขวับใส่ก่อนจะเบ้ปากให้

"ไม่ได้ทะลึ่งเว้ย ก็เมื่อกี้อ่ะพี่เขาทะเลาะกันแล้วพี่แก๊ปบอกว่า อย่ามาโหด เดี๋ยวจะโดนจัดหนัก ... ผมนี่คิดเลยเว้ย ซั่มกันแล้วแน่ๆ"
ผมทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะใช้มือลูบคางไปมา พี่จีบดีดหน้าผากผมดังป๊อกแล้วทำหน้าเฉยเมยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมมุ่ยหน้าแล้วลูบหน้าผากตัวเองไปมา พูดอะไรผิดวะเนี่ย ชิ

"รู้ดีจังนะมึง แอบไปอยู่ใต้เตียงมันสองคนมาหรือไง"

"โห ใครจะบ้าบิ่นขนาดนั้นวะพี่จีบ"
ผมกรอกตาทำหน้าเบื่อหน่าย แต่พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดออกมาหน้าตาเฉย

"แต่กูเคยแอบอยู่ใต้เตียงมันว่ะ"

"เห้ย! จริงดิพี่จีบ มีไรตื่นเต้นๆเกิดขึ้นป่ะ?"
ผมทำท่าอยากรู้อยากเห็นซะเต็มประดา ลืมตัวไปเกาะแขนพี่จีบแล้วเขย่าเบาๆไปอีก... ไม่อายตอนนี้ก็ไม่รู้จะเก็บไปอายตอนไหนแล้ว พี่จีบหันมามองก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมผงะปล่อยมือแล้วยิ้มแหยส่งให้

"มึงนี่เสือกจริงๆ"

"เอ้า ก็คนเขาสงสัย ตกลงเพื่อนพี่มีซัมติงกันใช่ป่ะ?"
ผมไม่ละความพยายามที่จะถาม อยากรู้เรื่องชาวบ้านต้องหน้าด้านเข้าไว้..น้องอิงออยสอนผมมาแบบนี้

"ไม่บอก"
พี่จีบลอยหน้าลอยตาก่อนจะเคาะนิ้วตามจังหวะเสียงเพลงในรถ ดูท่าทางมีความสึขเหลือเกิน แต่ผมเป็นคนที่เกลียดคำว่าไม่บอกที่สุด มันกวนส้นตีนสิ้นดี ผมเบะปากลงจนเป็นเส้นโค้งด้วยความไม่พอใจ พี่จีบแม่งขัดใจตลอดอ่ะ อย่าหวังว่าจะจีบผมติดง่ายๆนะเออ

"พี่จีบแม่ง กวนตีนอ่ะ สรุปว่าไม่ได้ไปแอบอยู่ใต้เตียงอย่างที่พูดไว้ใช่ป่ะ?"
ผมเหล่มองใบหน้าหล่อๆด้านข้างของมันแล้วนึกหมั่นไส้ อะไรจะหล่อได้ทุกมุมทุกองศา ขนาดทำตัวน่าหมั่นไส้ยังจะมีเสน่ห์ดึงดูดคนอื่นเข้าอีก

"มึงนี่ทะลึ่งนะ ใครจะบ้าขนาดนั้นวะ นอกจากกูเป็นชู้นั่นล่ะถึงจะไปแอบใต้เตียง"
พี่จีบส่ายหน้าเบาๆให้ผม อย่าหลอกกันนักดิวะ ไอ้ผมก็เป็นพวกบ้าจี้เชื่อคนง่ายอีก เฮ้อ

"แกล้งกันตลอดๆๆๆ"
ผมงึมงำอยู่คนเดียวแต่พอเหลือบไปมองคนด้านข้างแล้วพบกับคนบ้ากำลังนั่งหัวเราะหึหึ... พี่มันแม่งจะเส้นตื้นไปไหนวะ

"มึงอยากรู้จริงๆเหรอว่าสองคนนั้นมีซัมติงกันหรือเปล่า"
อยู่ๆในขณะรถติดไฟแดงพี่จีบก็ยื่นหน้าเข้ามาถามกันเหมือนกำลังให้ความหวัง ไอ้ความอยากรู้ของผมก็มีสูงเลยพยักหน้ารับอย่างห้ามไม่ได้

"บอกหน่อยได้ไหม?"
ผมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้มัน พร้อมกับกระพริบตาปริบๆทำตัวให้น่ารักที่สุด

"บอกก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน"
แววตาเจ้าเลห์เหมือนหมาป่ากำลังจะจับกระต่ายกินนั่นคืออะไร.. แต่ขอโทษเถอะ ผมไม่ใช่กระต่ายน้อยน่ารัก แต่เป็นหมาป่าเหมือนกันเถอะ... แต่ดูสภาพการแล้วคงเป็นหมาป่าที่เป็นเมียหมาป่าอ่ะ

"ข้อแลกเปลี่ยนอะไรครับ?"

"หอมแก้มกู แล้วกูจะบอก"

"หอมหัวใหญ่เถอะครับ!!!!"
ไม่อยากรู้ก็ได้แม่ง ฮือ จะทำอะไรก็เสียเปรียบตลอด งอนเว้ย งอนนนนน ก็ทำได้แค่ร่ำร้องอยู่ในใจเงียบๆคนเดียว


--------------------------------------------------------


Q & A กับแก็ป และ คิน
Q : ตกลงเราสองคนเป็นอะไรกัน?
Gap : เป็นเพื่อนสนิทกันครับ
Kin : /พยักหน้ารัวๆ ใช่ๆ เป็นเพื่อนสนิทกันครับ
Gap : เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อน่ะครับ ^^
Kin : ไอ้....!!!!!!!!!!!!!!!!!!! /หน้าแดง
Q : อุย... หึหึหึ




ตอนที่ 9 มาแล้วน้า ใครรอพี่จีบกับน้องคิสอยู่บ้าง? ตอนนี้ทุกคนดูไร้สาระและหื่นกามกันมาก.. 5555555
ไหนใครอยู่ทีมใครบ้างเนี่ย เราอยากรู้จัง ส่วนเรา #ทีมจีบ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจีบมีนิสัยคล้ายๆเรา เอ้ะ

ปล. อ่านให้สนุกน้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 26-07-2016 21:01:48
เสี่ยวเรี่ยราดจริงๆพี่จีบ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 26-07-2016 21:34:03
 :-[ อ่านเรื่องนี้เเล้ว รู้สึกเมื่อยเเก้มเกิ๊นนนน
คืออมยิ้มทั้งเรื่อง เเก็ปxคิน ก็มา 55555
ชอบตอน ซั่มเเน่ๆ อ๊าคคคค คิสทะลึ่ง
พี่จีบ ฉันรู้ แกก็เเพรวพราวนะ อยากมีซัมติงไวไวนี้ละสิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-07-2016 21:41:21
คิสเตรียมพร้อมไว้เนาะ ช่วงนี้พี่จีบเสี่ยวบ๊อยบ่อย
อีกหน่อยพี่จีบคงพาเสียวบ๊อยบ่อยเอง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-07-2016 21:52:38
ฮาาาาา น้องคิสโดนแกล้งตลอดดดดดด
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-07-2016 22:08:45
รักหรอกจึงหยอกเล่น ใช่ม่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-07-2016 23:59:56
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 27-07-2016 00:02:20
คิดถึงพี่จีบน้องคิสจังเลยยยย
อ่านไปปวดแก้มไป
เขินลำไส้บิดแทนน้องคิสแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-07-2016 00:09:55
อ่านเรื่องนี้แล้วเมื่อยแก้มจริงๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-07-2016 01:21:17
อ่อย!! อิจ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-07-2016 05:21:16
ฮ่าๆ น้องคิสยังคงซื่อๆ ต่อไป ถึงแม้พี่จีบจะบอกความจริงไปแล้วก็ตาม ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 27-07-2016 22:09:59
ค้ดถึงน้องคิสพี่จีบๆๆๆๆ :ling1: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :ling1: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 27-07-2016 22:48:20
พี่จีบนี่จีบได้สมกับชื่อตัวเองจริงๆ  :ruready
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 28-07-2016 13:10:17
  :katai5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 9 -P.5- (26.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 28-07-2016 13:24:26
                               คิดถึงพี่จีบเเล้วน่ะ ^____^
 
                        (http://postto.me/1e/dp8.jpg)
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 29-07-2016 21:11:20
- ดื่มครั้งที่ 10 -



ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมืองอัดแน่นไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ มันเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการผักผ่อนหย่อนใจ หาความบันเทิงใส่ตัว หรือแม้แต่การช็อปปิ้งเพื่อสร้างความสบายใจของเหล่าสาวๆ

ผมเดินเคียงข้างอยู่กับผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ภายใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินเข้มพับแขนพร้อมด้วยกางเกงยีนส์ขาเดฟราคาเหยียบครึ่งหมื่น รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังที่ผมเคยอยากได้นักหนาไอ้พี่จีบมันก็สอยมาใส่อวดกันหน้าตาเฉย ในมือยังถือโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วด้วยราคาแพงลิบลิ่วที่ผมเอื้อมไม่ถึง ส่วนตัวผมนั้นอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพูอ่อนสดใสพร้อมด้วยกางเกงขาสั้นเหนือเข่านิดหน่อยบวกด้วยรองเท้าผ้าใบที่ผมใส่ไปเรียนอย่างสม่ำเสมอ เหมือนจะคนละแนวกับพี่จีบแต่ก็เข้ากันได้อย่างลงตัวว่าไหม?

คนตัวสูงกว่ายกมือขึ้นพาดไหล่ผมอย่างหน้าตาเฉย ไม่ได้หันมามองกันตรงๆแต่ใบหน้าหล่อเหลากลับประดับด้วยรอยยิ้มละลายใจสาวๆ ผมไม่ได้ขัดขืนอะไรแต่ถ้ามองไปรอบๆตัวแล้วสายตาของคนอื่นๆจะมองตรงมายังพวกเราเสมอ ไม่ใช่พวกเราหรอกคงเป็นพี่จีบที่มีออร่าเป็นนายแบบนิตยสารดังได้สบายๆ ผมเคยถามนะว่าพี่จีบไม่รับงานถ่ายแบบบ้างเหรอ พี่มันตอบหน้าตาเฉยว่า 'มีคนเคยมาเสนอนะแต่กูไม่อยากสนองว่ะ มันน่ารำคาญ' ตอบโคตรกำกวมชวนคิดไปไกลสไตล์พี่เขาล่ะครับ

"พี่จีบ สาวๆมองพี่อีกแล้วว่ะ"
ผมทำปากยื่นปากยาวตอนที่พี่เขาหันมามองเพราะอยากจะชี้ชวนให้มันสนใจคนรอบข้างบ้าง ดวงตาคมมองไปตามทางที่ผมบอกจนเจอเข้ากับสาวๆที่ส่งยิ้มมาให้ พี่จีบก็อัธยาศัยดียิ้มตอบกลับไปจนพวกเธอกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ผมแอบเบ้ปากเพราะรู้สึกหงุดหงิดในใจแปลกๆ อาจจะเพราะอิจฉาไอ้พี่จีบที่หล่อขนาดนี้ก็เป็นได้

"หึงเหรอ?"
พี่จีบหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ผมก่อนจะออกแรงกระชับแขนดึงให้ผมเข้ามาแนบชิดขึ้นไปอีก แค่นี้หัวไหล่ผมก็กระแซะอยู่ใต้รักแร้พี่เขาแล้วครับ ผมออกแรงผละตัวออกแต่ไม่สามารถสู้แรงได้ก็เลยจำใจต้องเดินกึ่งโดนโอบอยู่แบบนี้

"หึงอะไรเล่า ก็แค่ชี้ให้ดูว่าสาวๆมอง"
ผมตอบพลางทำเป็นมองร้านเสื้อผ้าแถวๆนั้น ให้ตายเถอะครับมีแต่เสื้อผ้าผู้หญิง เป็นอะไรที่โดนจับผิดได้ง่ายมากว่าผมกำลังเลี่ยงตอบความจริง

"อ๋อเหรอ เห็นทำปากเบี้ยวนึกว่าหึงซะอีก"
พี่จีบพูดเสียงทะเล้นก่อนจะยกมือข้างที่กอดไหล่กันขึ้นมายีหัวผมจนต้องขยับหนี จะให้ดูขี้เหร่มากกว่าเดิมไปอีกแค่ไหนพี่เขาถึงจะพอใจวะ ก่อนถึงห้างก็โดนยีผมจนหัวจะล้านอยู่แล้วเนี่ย

"ปากเบี้ยวบ้าอะไรของพี่ นั่นพิการแล้วมั้ง"
ผมย่นจมูกใส่เขาก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นอีกรอบ ได้ยินเสียงหัวเราะถูกอกถูกใจดังมาจากคนข้างตัวแล้วนึกหมั่นไส้จนต้องใช้ข้อศอกกระทุ้งเข้าที่สีข้าง พี่จีบร้องออกมาเบาๆก่อนจะหยุดเดินแล้วล็อกคอผมเอาไว้

"แค่ก ทำไรวะพี่ ปล่อยผม"
ผมดิ้นไปมาเพราะพี่จีบมันรัดคอผมจนหายใจไม่ออก คนตัวโตคลายแขนลงเล็กร้อยแต่ไม่ยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระก่อนจะก้มลงมากระซิบอะไรบ้างอย่างให้ผมขนลุกซู่

"ทำร้ายกู ระวังกูเอาคืนนะ"
พี่จีบพูดจบยังเบาลมเบาๆใส่หูกันอีก ผมย่นคอหนีแทบไม่ทันเพราะรู้สึกสยิวแปลกๆ แล้วก็ต้องหน้าแดงเมื่อมองไปรอบๆแล้วเจอสาวๆชี้มาทางนี้ โอย คงจะใกล้กันมากไปจนโดนจิ้นสินะ อายเว้ย ฮือ

"ไอ้พี่บ้า ปล่อยผมเลยนะ อายคนอื่นเขา"
ผมฟาดมือลงบนแขนแกร่งของอีกคน พี่จีบยอมปล่อยมือออกทำให้ผมหันไปค้อนเขาได้อย่างเต็มวง

"เขาจะคิดอะไรก็ช่างดิวะ แคร์สายตาคนอื่นเยอะไปแล้วนะมึง"
พี่จีบมองผมด้วยสายตาจริงจังก่อนจะเอื้อมมือมาจับข้อมือกันแล้วกระตุกให้ออกเดินตาม ผมได้แต่ก้มหน้าหงุดๆเดินตามเขาไปอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ที่บอกว่าอายคนอื่นน่ะ กลัวพี่จีบจะโดนมองไม่ดีที่มายุ่งกับคนอย่างผมต่างหาก และที่สำคัญคือ...กูเขิน! ทำไมไม่เข้าใจคนขี้อายอย่างผมบ้างวะเนี่ย

"พี่จีบ.."
ผมเรียกคนที่เดินนำหน้าด้วยเสียงแผ่วเบา มือของเขายังไม่ยอมปล่อยให้ผมได้เดินเอง ก็ไม่รู้จะจูงมือกันไปถึงไหน.. คนอื่นคงคิดว่าเราเป็นแฟนกันไปแล้วมั้ง

"ว่าไง"
พี่จีบถามเสียงราบเรียบและยังคงพาผมเดินผ่าผู้คนไปเรื่อยๆจนถึงบริเวณโซนโรงภาพยนตร์ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าโปสเตอร์สารพัดเรื่อง

"เปล่าครับ แหะๆ"
จากที่อยากพูดอะไรออกไปสักอย่าง แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจไม่พูดดีกว่า กลัวจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าเดิม

"วุ่นวายจริงๆนะมึง อยากดูเรื่องอะไร?"
พี่จีบหันมามองกันก่อนจะหันกลับไปไล่สายตาตามโปสเตอร์โฆษณาภาพยนตร์

"อยากดูแนวแฟนตาซีอ่ะ"
ผมขยับเข้าไปใกล้พี่จีบจนแขนเราทั้งสองคนแนบสนิทกัน จริงๆไม่ได้ตั้งใจหรอกครับแต่โปสเตอร์ภาพยนตร์แฟนตาซีมันอยู่ทางด้านพี่จีบ จะให้ผมก้าวขาเดินอ้อมพี่มันไปก็ขี้เกียจ

"เรื่องนั้นอ่ะนะ กูดูไปแล้วว่ะ"
นิ้วเรียวชี้ไปที่โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เป็นแนวแฟนตาซีอยู่เรื่องเดียวในตอนนี้ ผมทำหน้าหมาหงอยทันทีเพราะเรื่องที่เหลือมีแต่ ผี ย้อนยุค ความรัก ซึ่งผมไม่ชอบเลย แต่ก็ไม่อยากให้พี่จีบเสียเงินกับเรื่องที่เคยดูไปแล้ว

"งั้นดูเรื่องนี้ก็ได้"
สุดท้ายผมก็ชี้นิ้วไปภาพยนตร์ที่เหลือเป็นตัวเลือก พี่จีบหันมาเลิกคิ้วมองหน้ากันก่แนจะถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

"จะดูเรื่องนี้จริงเหรอวะ?"
พี่จีบถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงจนผมต้องพยายามยิ้มกว้างส่งไปให้

"อือ ก็น่าดูดีนะพี่"
ผมว่าไม่เต็มเสียงนักเพราะเรื่องที่ผมเลือกไปมันเป็นเรื่องผีนี่สิ.. ก็มันดีกว่าไปนั่งดูแนวย้อนยุคหรือความรักล่ะน่า ผมคงหลับคาโรงหนังแน่ๆ ถ้าเป็นเรื่องผีมันต้องตื่นเต้นชัวร์ๆ

"อย่ากระโดดมานั่งตักกูก็แล้วกัน หึหึ"
ไอ้พี่จีบหัวเราะโรคจิตแล้วเดินไปต่อแถวซื้อตั๋วหนังปล่อยให้ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะเพราะเซ็งที่มันรู้ทัน.. ผมกลัวผีมาก แต่นิสัยแปลกๆของผมคือกลัวให้ตายก็ยังอยากดู อยากรู้ว่ามันจะน่ากลัวแค่ไหน จริงๆแล้วเรื่องผีๆมันอยู่ตรงกลางระหว่างความชอบและความเกลียดของผม

"เสร็จแล้ว หนังรอบบ่ายสองครึ่ง ไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วกัน"
พี่จีบยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาแล้วเอื้อมมือมายัดตั๋วหนังใส่กระเป๋าเสื้อผม ผมตกใจจนผละถอยหลังเพราะนึกว่าจะโดนแกล้งอีก แต่พอรู้จุดประสงค์เลยเบ้ปากใส่ไป พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นพาดไหล่ของผมอีกแล้ว อยากรู้ว่าเดินแบบธรรมดาไม่ได้เหรอ แต๊ะอั๋งตลอดเวลาจริงๆ

"เดินดีๆไม่ได้เหรอพี่?"
ผมยู่ปากมองคนด้านข้างที่เอาแต่ก้าวขาไปข้างหน้า ดูท่าทางจะอารมณ์ดีที่ได้เสียเงินเลี้ยงข้าวเลี้ยงหนังผมนะเนี่ย

"ทำไม เดินใกล้กูอึดอัดเหรอ?"
คำถามของพี่จีบทำให้ผมสะอึก แต่ใบหน้าหล่อๆไม่ได้ฉายแววดราม่าเหมือนคำพูดเลยสักนิดเดียว เป็นคนที่เดาอารมณ์ยากคนหนึ่งเลยทีเดียว

"ไม่ได้อึดอัดเว้ย แต่ผมว่ามันเดินลำบากอ่ะ"
ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม เอาจริงๆคือทำตัวไม่ค่อยถูกที่ต้องโดนโอบไหล่ ไม่ชินสักทีทั้งที่โดนแบบนี้มาหลายรอบแล้ว

"ไม่เห็นจะลำบาก กูอยากแต๊ะอั๋งมึงอ่ะ มีปัญหาไรป่ะ?"
พี่จีบยักคิ้วกวนๆส่งให้กันก่อนจะใช้มือที่โอบไหล่ผลักหัวผมให้ชนกับต้นคอเขาซะอย่างนั้น ไม่ให้ผมหันหน้าไปจูบซอกคอเลยล่ะถึงจะพอใจ!

"โหย จะตรงไปป่ะวะ ไม่คิดว่าผมจะเขินหรือไง!"
ผมโวยวายเสียงไม่ดังนักเพราะรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวูบวาบ... แค่ร้อนก็พอนะอย่าแดงเลยไม่อยากโดนไอ้พี่จีบแซวอีกแล้ว เขินจนจะมุดรักแร้มันอยู่แล้วเนี่ย

"เขินก็ดีดิวะ กูชอบ"
เขาก้มตัวลงมากระซิบข้างหูทำให้ผมต้องย่นคอหนีอีกแล้ว ก็มันสยิว..

"พอเลย เลิกจีบ!"
ผมเหวเสียงดังจนรอบข้างหันมามองเรามากยิ่งขึ้น ผมเลยยิ้มแหยๆแล้วก้มหัวขอโทษคนที่มองมา ส่วยไอ้พี่จีบยิ้มหน้าระรื่นไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับชาวบ้านเขาหรอก ชิ

"เอาเรื่องจริงไหม?"
อยู่ๆพี่จีบก็พูดเสียงจริงจังขึ้นมา ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มกลับเรียบเฉยลงซะดื้อๆ ผมเลิกคิ้วมองเขาเพราะยังไม่เข้าใจในคำถามนั่น

"เรื่องจริงอะไรครับ?"

"จริงๆแล้วกูหวงมึงว่ะ"
ผมรู้สึกหน้าร้อนวูบอีกครั้งเมื่อเจอคำตอบเหนือความคาดหมาย พี่มันจะมาหวงอะไรผมวะ ไม่ได้หน้าตาหล่อขั้นเทพแบบมันสักหน่อย แล้วอีกอย่างไม่ได้เป็นอาตี๋น่ารักเหมือนซารังด้วย

"หวงบ้าอะไรพี่ ไม่เห็นมีอะไรน่าหวง"
ผมพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แต่พี่จีบหันมาจ้องหน้าผมด้วยสายตาจริงจังก่อนจะเลี้ยวเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง เราเลือกนั่งที่ริมด้านในสุดเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว พนักงานยื่นเมนูให้เราทั้งสองคนและอีกสักครู่จะมารับออเดอร์

"วันนี้มึงแต่งตัวน่ารักไม่รู้หรือยังไง"
พี่จีบพูดต่อเรื่องที่ค้างอยู่ เล่นเอาผมที่กำลังไล่สายตาดูเมนูต้องหยุดชะงักแล้วช้อนตามองคนตรงหน้าที่ยังไม่ละสายตาจากเมนูของตัวเอง

"หือ ก็ปกตินี่ครับ"
ผมก้มมองการแต่งตัวของตัวเองแล้วพบว่ามันก็เป็นสไตล์การแต่งตัวปกติของผมเวลาออกไปเที่ยว ไม่เห็นมันจะน่ารักตรงไหนเลยนี่หว่า

"หึ คนเขามองมึงยังไม่รู้ตัวอีก"
พี่จีบลดเมนูลงแล้วส่งสายตาดุๆมาให้กัน ผมอ้าปากพะงาบๆเพราะไม่คิดว่าใครจะมองผม ที่เขามองมานั่นคงสนใจพี่จีบอ่ะ พี่แม่งมั่วแน่ๆ

"เห้ย สาวๆพวกนั้นเขาสนใจพี่จีบเหอะ จะมาสนใจอะไรผมวะ"
ผมขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า แววตาแสดงออกชัดเจนว่าตอนนี้มีแต่ความงง พี่จีบถอนหายใจเบาๆก่อนจะยกเมนูขึ้นปิดหน้าอีกครั้ง

"ไม่ใช่สาวๆ แม่ง ผู้ชายทั้งนั้นที่มองมึง ถ้าไม่เชื่อมึงลองหันไปที่โต๊ะข้างๆดิ หงุดหงิดฉิบ"
ผมเหวอไปทันที ในชีวิตไม่เคยคิดว่าจะมีผู้ชายมามองเลยนะเว้ย พี่จีบแม่งคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ลองทำตามที่ไอ้คนขี้หวงพูดหน่อยก็ดี ผมค่อยๆหันไปมองโต๊ะข้างๆที่มีผู้ชายอยู่สี่คน หนึ่งในนั้นหันหน้ามาทางผมแล้วยิ้มหวานให้กันแค่นั้นก็ทำให้ผมรีบหันกลับแล้วยกเมนูขึ้นมาบังหน้าทันที บรรลัยล่ะกู ไหนความั่นใจเรื่องแมนๆเตะบอลของกูวะ.. ที่ผ่านมาคือกูรู้สึกไปเองคนเดียวใช่ไหม คนอื่นไม่ได้สำเหนียกว่าผมแมนเลยสินะ ทำไมพระเจ้าใจร้ายกับผมแบบนี้

"เชี่ย"
ผมสบถออกมาเบาๆ แต่พี่จีบดันหูดีได้ยินจนได้ มันปั้นหน้าบึ้งมองแล้วแล้วพูดแบบไร้เสียงว่า 'เป็นไงล่ะ' ครับ... ต้องส่งยิ้มแหยๆไปให้มันเลยไง เห้อ

"ขออนุญาตรับออเดอร์ค่ะ
เสียงพนักงานสาวดังขึ้นข้างโต๊ะทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นจากเมนู บางครั้งพนักงานก็รีบมาเกินไปว่ะผมยังเลือกเมนูไม่ได้เลย และบางครั้งพนักงานก็มาช้าเหลือเกิน ไม่มีอะไรที่พอดีเลยในโลกใบนี้

"ผมเอาเซ็ตซาซิมิ สเต็กแซลมอน เนื้อวากิวย่างครับ คิสจะเอาอะไร?"
พี่จีบสั่งเสร็จแล้วหันมาถามผมที่ยังหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ไม่รู้จะกินอะไรดีลายตาไปหมด แล้วดูไอ้พี่จีบสั่งแต่ละอย่างแพงๆทั้งนั้น ผมนี่ไม่กล้าสั่งอะไรเลยไง

"เอ่อ.. เอาบะหมี่เย็นครับ"

"แค่นั้นเหรอ?"

"อือ พอแล้ว"

"อิ่มแน่เหรอ?"

"อื้อ"

"ไม่ต้องเกรงใจ กินให้เต็มที่ ไม่อยากไปฟังเสียงท้องมึงร้องในโรงหนัง"
พี่จีบพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ผมย่นจมูกใส่มันที่รู้ทันกันอีกแล้ว และก้มลงดูเมนูต่อ

"อ่า ขอเป็นเกี๊ยวซ่าครับ แค่นี้ครับ"

"รับน้ำอะไรดีคะ?"

"อ่า ของผมเป็นน้ำเปล่าครับ พี่จีบเอาน้ำไร?"
ผมหันไปถามพี่จีบต่อ รายนั้นทำหน้าคิดอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยสั่งเอง

"ของผมขอชาเขียวออริจินัลครับ"

หลังจากนั้นเราก็นั่งรออาหารกันโดนที่ต่างคนต่างหยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่น ไม่นานนักก็รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ข้างๆโต๊ะ คงเป็นพนักงานแต่พอเงยหน้าขึ้นมองเท่านั้นล่ะ ผมเหมือนเห็นความพินาศอยู่ตรงหน้าเพราะมันคือผู้ชายโต๊ะข้างๆ

"สวัสดีครับ"
คำทักทายจากคนแปลกหน้ามาพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ขอบอกเลยว่าเขาหล่อไม่ได้ครึ่งของพี่จีบอ่ะ ไม่ได้อวยนะเว้ยนี่พูดเรื่องจริงเลย ผมเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้ามกับผมที่ตอนนี้เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเรียบร้อยแล้วนั่งจ้องผมอยู่เงียบๆ... ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปยิ้มรับไมตรีจากคนที่ยืนค้ำหัวกันอยู่

"สวัสดีครับผม"
ผมทักทายเขากลับไป เขายิ้มกว้างมากกว่าเดิม ดูไปดูมามันก็หล่ออยู่หรอก ขาวๆ หุ่นนักกีฬาแต่คงสูงพอๆกับผมนี่ล่ะ

"เราชื่ออินนะ นายชื่ออะไร?"

"เอ่อ ชื่อคิสครับ"

"ชื่อน่ารักจัง แล้วนี่มากับพี่ชายเหรอ?"
ยังมีหน้ามาถามด้วยใบหน้าระรื่นอีก ไม่เห็นหรือไงพี่จีบแม่งทำหน้ายักษ์อย่างกับจะกินหัวคนได้อยู่แล้ว

"ครับ ผมเป็นพี่ชายเขา"
ผมไม่ได้ตอบนะ.. พี่จีบตอบแทน แต่น้ำเสียงโคตรจะเข้มจนผมขนลุกซู่เลยครับ ไอ้อินอะไรเนี่ยยังส่งยิ้มหวานมาให้ผมอีก

"ครับ ~ คิส ขอเบอร์โทรได้หรือเปล่า?"
อินส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้กันอีกแล้ว ต่างจากไอ้พี่จีบที่คิ้วกระตุกยิกๆแต่ยังวางมาดนิ่งเฉยอยู่ แกล้งดีไหม ให้เบอร์อินไป แล้วผมก็ตายคาตีนพี่จีบ! บทเรียนที่ผ่านๆมาสอนให้รู้ว่าอย่าลองดีกับพี่จีบครับ เพราะฉะนั้น ปฏิเสธไปเถอะเพื่ออนาคตที่สดใส

"เอ่อ คงไม่ได้อ่ะครับ ขอโทษด้วยนะ"
ผมยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เก้อพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆไปให้กับอิน ฝ่ายนั้นหุบยิ้มแทบจะในทันทีแต่ในตายังมีประกายแห่งความหวังอยู่ อยากจะบอกว่าไม่ต้องหวังอะไรขนาดนั้นก็ได้ ขนลุกเว้ย

"ไม่สะดวกเหรอ งั้นขอไลน์ก็ได้ครับ"
อินพูดจบพร้อมส่งโทรศัพท์มาตรงหน้ากัน ผมอ้าปากพะงาบๆแล้วมองอินสลับกับพี่จีบ ถ้ามันจะพยายามขนาดนี้นะเว้ย ผมได้ยินเสียงพี่จีบจิ๊ปากด้วยเถอะ วันนี้ผมจะรอดไหมวะ แล้วทำไมคนอย่างผมต้องกลัวพี่จีบด้วยเนี่ย! มันเป็นคนจีบผมนะเว้ย ผมต้องเหนือกว่าดิ

"ถ้าไลน์ก็ได้...อ่ะ"

"น้องผมไม่สะดวกทั้งเบอร์โทรทั้งไลน์ ขอโทษด้วยนะครับ"
พี่จีบพูดแทรกขึ้นมาตอนที่ผมจะให้ไลน์กับอินพร้อมส่งยิ้มหวานที่น่าขนลุกสำหรับผมให้ไป อินถึงกับอึ้งแล้วรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วโค้งตัวหน่อยๆลาผมกับพี่จีบแล้วเดินตามเพื่อนออกไปจากร้านทันที

"โห.. ขัดอ่ะ"
ผมว่าด้วยเสียงเซ็งๆแล้วกอดอกทิ้งตัวลงพิงพนักโซฟา พี่จีบถลึงตาใส่กันแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้แทบจะข้ามโต๊ะมาหาผมอยู่แล้ว แค่แกล้งเอง...ทำหน้าจริงจังไปได้ว่ะ ว่าจะให้ไอดีไลน์ไอ้พี่ดีพไปสักหน่อย ถ้าอินจีบขึ้นมาพี่ดีพคงด่าเปิงครับ

"ทำไม มึงชอบมันหรือไง?"
เสียงแข็งมาเชียวครับ ผมนี่กลั้นใจทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป เขาแกล้งมาเราก็แกล้งกลับสิ นานๆจะได้เอาคืนสักครั้ง จริงไหม?

"ก็เขาแค่ขอไลน์อ่ะ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย"

"เป็น เป็นมากด้วย กูจีบมึงได้คนเดียวจำไว้"
พี่จีบผละตัวออกไปแล้วกระแทกหลังลงกับพนักพิงด้วยความหงุดหงิด แต่ผมนี่ดินั่งหน้าร้อนเลยครับ พูดอะไรออกมาไม่เคยเห็นใจคนฟังอย่างผมเลยให้ตายสิ

"ทำไมงกแบบนี้"
ผมแกล้งว่าไปอีกหนึ่งดอกจนพี่จีบแยกเขี้ยวใส่กันจากที่ผมยิ้มหน้าระรื่นอยู่จำเป็นต้องหุบยิ้มทันที โห แกล้งนิดแกล้งหน่อยก็ไม่ได้ต้องโหดใส่ตลอดเลยวะคนเรา

"กูไม่ได้งก แต่กูไม่ยอมให้ใครได้มึงไปหรอกจำไว้"
หลังจากที่พี่จีบพูดจบอาหารก็มาเสิร์ฟพอดีทำให้เรื่องที่กำลังถกเถียงกันจบไปแบบดื้อๆ ผมกินบะหมี่เย็นของตัวเองไปเรื่อยๆจนคนตรงข้ามคีบเนื้อปลาแซลมอนดิบจิ้มวาซาบิพร้อมด้วยโชยุส่งมาตรงหน้ากัน

"กิน"
คำพูดสั้นๆไม่รู้ว่าต้องการขอร้องหรือบังคับกัน ผมส่ายหน้าพรืดเพราะไม่ชอบกินวาซาบิ กินทีไรมันปรี๊ดขึ้นสมองทุกที

"ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบวาซาบิ"

"เรื่องมากจริงๆ"
พี่จีบว่าก่อนจะหันตะเกียบกลับเอาแซลมอนชิ้นโตเข้าปากตัวเองแล้วเคี้ยวหงุบหงับอย่างเอร็ดอร่อย ปล่อยให้ผมมองตามตาละห้อย ทีแรกว่าจะไม่แย่งพี่จีบกินตอนนี้อยากแย่งขึ้นมาแล้วล่ะ แต่ก่อนที่ผมจะได้ย้ายตะเกียบจากจานบะหมี่เย็นของตัวเองไปยังเรือซาซิมิของพี่จีบ ตะเกียบอันเดิมคีบของสิ่งเดิมแต่คราวนี้มันไม่ได้จิ้มวาซาบิส่งตรงมาให้กัน ผมเงยมองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น

"ให้ผมเหรอ?"
พี่จีบพยักหน้าผมเลยหยิบจานเปล่าส่งไปรับแซลมอนผู้โชคร้าย แต่พี่จีบส่ายหน้าเบาๆแล้วเอาตะเกียบหลบกันทำให้ผมเอียงคอมองแล้วขมวดคิ้วแน่น ไหนว่าให้ผมไงวะแล้วทำไมต้องเอาตะเกียบหนีกัน

"อ่าว ให้ผมไม่ใช่เหรอ?"

"เออให้ แต่ต้องกินจากตะเกียบกู"
พี่จีบยักคิ้วให้กันก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างดึงจานจากมือผมไปแล้วเลื่อนตะเกียบมาจ่อปาก ผมผงะถอยหลังนิดหน่อยแล้วหันมองซ้ายมองขวา คนเยอะฉิบหายเลยไงถ้าให้ผู้ชายสองคนมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำกันมันจะดูแปลกๆไหมล่ะ...

"พี่จะป้อนผมเหรอ?"
ผมยังหน้าซื่อตาใสถามไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ พี่จีบเบ้ปากใส่กันก่อนจะส่งแซลมอนมาโดนปากผม

"เออดิ ทำขนาดนี้แล้ว กูจะยัดปากมึงละ"
ไม่ใช่จะดิพี่จีบ นี่มันทิ่มปากผมแล้วเนี่ย สุดท้ายก็จำใจงับแซลมอนเข้าปากแล้วเคี้ยวหงุบหงับ ไอ้คนป้อนก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับถูกใจนักหนาที่บังคับให้ผมกินของที่เขาพยายามป้อนได้

"อร่อยป่ะ?"
ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะกลืนแซลมอนลงคอแล้วตอบไป

"อร่อยมาก"
ตอบเสร็จก็ส่งรอยยิ้มหวานๆไปให้ รู้สึกเขินแปลกๆว่ะที่โดนคนอื่นเทคแคร์ดีขนาดนี้

"กูมีความลับจะบอกว่ะ สำคัญมากด้วย"
พี่จีบทำหน้าตาจริงจังก่อนจะวางตะเกียบลงแล้วเท้าแขนทั้งสองข้างลงกับโต๊ะแล้ววางคางไว้บนหลังมือที่ประสานกัน ทำให้ผมต้องวางอาวุธในมือแล้วตั้งใจฟังไปด้วย

"ความลับอะไรเหรอ?"
ผมถามเสียงกระซิบเพราะคิดว่าเรื่องที่พี่จีบบอกต้องสำคัญอย่างที่เจ้าตัวว่าแน่ๆเลยเผลอจริงจังตามไปด้วย แต่ไอ้คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้ผมแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีกลายร่างเป็นขอมดำดินได้ยิ่งดี

"กูอร่อยกว่าแซลมอนอีก รอให้มึงมาชิมอยู่นะ"
ริมฝีปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่วนคนฟังแบบผมได้แต่เบิกตากว้างอ้าปากพะงาบๆหน้าร้อนวูบวาบจนต้องหันหน้าหนี หัวใจเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมาเต้นข้างนอก ใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมด ผู้ชายอะไรวะโคตรขี้อ่อยเลย อ่อยหน้าด้านๆด้วย ไม่ใช่เชลล์ชวนชิมอาหารรสเด็ดนะเว้ย

"อย่ามาอ่อย!"
ผมโวยวายเสียงไม่ดังนักก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาโซ้ยบะหมี่เย็นเข้าปากแบบไม่หยุดพักหายใจ เสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากดังขึ้นอย่างมีความสุขจากคนหล่อตรงหน้า อยากรู้จริงๆว่าชีวิตมันเคยมีเรื่องเครียดบ้างไหม แกล้งผมได้ทุกวี่ทุกวันเนี่ย อยากจะถามนักที่บอกว่าชอบนี่ชอบจริงๆหรือชอบแกล้งกันแน่ ไม่ค่อยมั่นใจแล้ว

"แล้วอ่อยได้ผลป่ะ?"
พี่จีบยิ้มกรุ้มกริ่มให้กัน ผมที่ทำได้แค่เหลือบตามองแทบจะเอาหน้ามุดจานบะหมี่เย็นให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมไปหลงปลื้มมันแล้วยกให้เป็นมายไอดอลได้วะ ไม่รู้เลยว่าพี่จีบมันจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้

"ไม่ได้ผลเว้ย รีบๆกินเลยจะถึงเวลาหนังฉายแล้ว"
ผมบอกปัดๆก่อนจะรีบจัดการอาหารบนโต๊ะให้เรียบร้อย พี่จีบขำเบาๆแล้วไม่ว่าอะไรต่ออีก แต่ก็ยังคีบนั่นคีบนี่ใส่จานให้ผมกินอยู่ดี อะไรจะเทคแคร์ดีขนาดนี้วะ กับคนอื่นทำแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่าชักสงสัย

หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยและชำระเงินค่าอาหารโดยป๋าจีบแล้ว เราก็พากันเข้ามานั่งดูตัวอย่างภาพยนตร์ในโรง และเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าไอ้พี่จีบมันควักเงินซื้อที่นั่งแบบสวีต เชี่ยมาก เชี่ยสุดๆ โอกาสที่ผมจะตกใจกลัวผีแล้วขึ้นไปนั่งตักมันมีสูงมาก ผมพยายามทำตัวลีบนั่งชิดฝั่งตัวเองให้มากที่สุด ส่วนพี่จีบนั่งแทบจะกลางโซฟาเหมือนกำลังแกล้งผมอย่างไรอย่างนั้น

"พี่จีบ นั่งดีๆดิมาเบียดกันทำไม"
ผมกระซิบกระซาบมันไปด้วยเสียงที่ดังพอใช้ มันมองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด กำหมัดแล้วตั๊นหน้ามันสักทีได้ไหม กวนตีนไม่มีใครเกินจริงๆ

"ก็มันหนาว"
คำตอบของพี่จีบทำให้ผมต้องเบะปากแรงๆใส่มัน หนาวที่ไหนกันครับ ตอนนี้เหงื่อตกแล้วเนี่ย อาจจะเป็นผมคนเดียวก็ได้ที่รู้สึกว่าตัวร้อนวูบวายขนาดนี้

"ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ"
ผมบ่นพึมพำแต่ก็ตั้งใจให้มันได้ยินนั่นล่ะ แต่เจ้าตัวเขาทำหูทวนลมนั่งดูหนังตัวอย่างสบายใจ ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยปล่อยเลยตามเลย ตอนแรกก็รู้สึกขัดเขินแต่ตอนนี้รู้สึกดีเพราะหนังดำเนินไปอย่างรุนระทึก หัวใจผมเต้นแรงมากเมื่อเสียงดนตรีของหนังกำลังเข้าช่วงวิกฤต

"มึงว่าผีจะออกมาตอนไหนวะ"
พี่จีบเอียงตัวมาถามกัน ผมแอบสะดุ้งเพราะกำลังตั้งใจดูหนังอยู่ คือไม่ใช่ว่าหนังสนุกแต่ไม่อยากละสายตาเพราะกลัวว่าผีจะโผล่ออกมาตอนผมไม่ทันตั้งตัว

"ไม่รู้...อ๊ากกกกก อุบ"
ยังตอบไม่ทันจบ ไอ้ผีบ้าหน้าเละเทะก็โผล่ออกมาจากห้องมืดๆ พี่จีบเอื้อมมือมาปิดปากผมที่เผลอร้องเสียงดังเอาไว้ได้ทันการ มีหลายคนที่หันมามองพวกเรา นี่แสดงว่าเสียงผมดังกว่าเพื่อนเลยใช่ไหม ขอโทษจากใจเลยครับ

"มึงทำกูตกใจไปด้วย"
พี่จีบว่าขำๆก่อนจะปล่อยมือออก ผมหายใจหอบเพราะยังตกใจผีอยู่ ตอนนั้รู้สึกได้ว่าไรผมชื้นเหงื่อไปหมด ฮือ ออกไปข้างนอกตอนนี้ได้ไหม ไม่อยากดูแล้วอ่า

"น่ากลัวอ่ะพี่ ฮือ"
ผมทำเสียงร้องไห้ก่อนจะยกขาขึ้นชันเข่าบนโซฟาเรียบร้อยแล้วพร้อมกับวาดแขนกอดรอบขาตัวเองเอาไว้ เอาหน้าซุกลงไป ตอนนี้ไม่พร้อมจะเผชิญหน้าจับหน้าจอสี่เหลี่ยมเลย

"กลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ จะกอดกูแทนก็ได้นะ"
พี่จีบส่งยิ้มทะเล้นมาให้กัน ถึงจะอยู่ในความมืดก็เห็นนะเว้ย ผมถลึงตาใส่มัน ใครจะไปทำแบบนั้นกันเล่า

"ไม่เอา ไม่ต้องมาหลอกกันเลยนะเว้ย"
ผมว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองจอต่อ ยังไงๆก็เสียเงินค่าตั๋วแพงหูฉีกมาแล้วก็ต้องดูให้คุ้ม

"ตามใจ"
พี่จีบยักไหล่ก่อนจะกลับไปสนใจจอสี่เหลี่ยมต่อ

หนังดำเนินมาถึงตอนลุ้นระทึกอีกครั้ง คราวนี้ดนตรีเร่งเร้าจนหัวใจผมเต้นตุบๆ เผลอหยุดหายใจไปหลายครั้งเพราะลุ้นเกินไป แต่พอผมผ่อนคลายเท่านั้นล่ะ ไอ้ผีตัวเดิมโผล่ออกมาจากหลังประตูที่เปิดแง้มอยู่ เผชิญหน้ากับตัวเอกแบบ Full HD เลยทีเดียว

"อ๊ากๆๆๆๆ"
ผมร้องออกมาก่อนจะพุ่งเข้ากอดไอ้คนข้างๆพร้อมกับซุกหน้าลงบนต้นแขนแกร่งทันที หัวใจเต้นตุบๆจนรู้สึกคลื่นไส้ ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าก่อนหน้านี้ตัวเองพูดอะไรไปบ้าง ขอหาที่พึ่งทางใจก่อนเถอะ

"โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะครับ"
เสียงทุ้มนุ่มปลอบผมก่อนจะมีมืออุ่นๆโอบไหล่แล้วลูบต้นแขนเบาๆ ผมช้อนตามองก่อนจะซุกลงที่ไหล่พี่จีบอีกรอบเมื่อได้รับรอยยิ้มอ่อนโยนกลับมา เขินครับ... ฮือ

"ไม่ดูแล้วได้ไหมพี่ น่ากลัวโคตรๆ"
ผมพูดเสียงสั่นๆไม่ยอมปล่อยพี่จีบให้เป็นอิสระ ตอนนี้ขอยึดตัวเขาเป็นที่กำบังก่อนแล้วกัน

"ถ้ากลัวมากจะมานั่งตักกูก็ได้นะ"
น้ำเสียงนุ่มไม่ได้ส่อแววหื่นกามทำให้ผมที่กลัวผีมากๆตอนนี้คล้อยตามได้ง่ายๆอย่างลืมตัวแล้วพยักหน้ารับไปเหมือนโดนมนต์สะกด พี่จีบยิ้มนิดๆก่อนจะดึงตัวผมไปนั่งตักตัวเองแล้วเอาคางมาเกยไหล่กันวาดแขนเกร็งโอบรอบเอวผมไว้อีกเป็นของแถม หัวใจผมเต้นตึกๆ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเต้นเพราะกลัวผีหรือเขินคนด้านหลังกันแน่

"หอมว่ะ"
พี่จีบกระซิบเบาๆข้างหู ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย ตอนนี้ยอมรับว่าเนื้อเรื่องหนังไม่ได้เข้าสมองเลยสักนิด สมาธิทั้งหมดจดจ่ออยู่กับคนเป็นเก้าอี้ส่วนตัว

"อะ อะไรหอม?"
ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ตอนนี้รู้สึกว่าต้นคอได้รับลมหายใจอุ่นๆ หน้าเริ่มร้อนวูบวาบ ฮือ คิดผิดที่ยอมนั่งตักพี่จีบว่ะ จะลงก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงด้วย

"ตัวมึง น่าฟัดฉิบหาย"
เสียงแหบพร่าที่กระซิบมานั่นคืออะไรครับ! ผมนั่งตัวแข็งทื่อโดยอัตโนมัติกลัวว่าถ้าขยับแม้แต่นิดเดียวจะโดนฟัดอย่างที่พี่จีบบอกไว้จริงๆ

"หยุดหื่นเลยนะไอ้พี่จีบ"
ผมเหวก่อนจะฟาดมือลงบนแขนที่โอบรอบเอวผมอยู่ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นข้างหู อารมณ์ดีเกินไปแล้ว

"ยากว่ะ พอๆกับบอกให้กูเลิกชอบมึง ซึ่งกูทำไม่ได้"
ตายครับ ยอมรับว่าตายกับประโยคนี้ ใครคิดถึงผมเจอกันที่ศาลาวัดได้เลย ตั้งสวดศพอยู่นี่นั่นนะ ฮือออ



----------------------------------------------------


Q & A กับน้องคิส
Q : นั่งตักพี่จีบแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
A : แข็งครับ ไม่เห็นจะนุ่มเลย /หน้าแดง
Q : ไม่ใช่แบบนั้นดิ ความรู้สึกน่ะ
A : เปลืองตัว!!!! T//////////T




เรามาอัพแล้วววว ใครรออยู่บ้าง ~~~ ดูสกิลการจีบของพี่เขาสิ... เราจะระทวยแทนคิสแล้ว
หน้าด้านไม่มีใครเกินอีกด้วยนะพี่จีบเนี่ย อ่อยกันแบบโต้งๆเลยเนี่ย ทำไมเป็นพระเอกสายอ่อยได้ขนาดนี้ 5555

อ่านให้สนุกน้า

ปล. ฝากกดไลค์เพจเราด้วยน้า เพิ่งเปิดวันนี้สดๆร้อนๆเลย https://www.facebook.com/Ch0cmint/  :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-07-2016 21:21:40
น้องคิสที่ว่านั่งตักพี่จีบแล้วบอกว่าแข็ง อยากรู้ว่าอะไร แข็ง อ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-07-2016 21:29:48
 :z1:    เขินจุง.  คิสจ๋าอย่ายั่วมากสิ. พี่จีบยิ่งหื่นๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 29-07-2016 21:31:10
พี่จีบอ่อยแรงตล๊อด......

 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 29-07-2016 21:45:24
ฮาาาา พี่เขาหวงอะเนอะ

พี่จีบนี่ก็อ่อยแรงตลอดดดดด
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-07-2016 21:57:36
พี่จีบขี้หวงมากกกกกกกก :hao3: :hao3:

คิดผิดแล้วคิสที่นั่งตักพี่จีบอ่ะ โดนแต๊ะอั๋งตลอดเรื่องแน่งานนี้ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 29-07-2016 21:59:56
อู้ยยยยยจีบหนักจัดเต็มสมชื่อ เขินนน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 29-07-2016 22:05:02
อ่อยตลอดอ่ะพี่จีบ  :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 29-07-2016 22:05:21
โอ้ยยยยย มาสักที นี้ดีใจมาก มีเพจให้ไปตามถึงที่เเล้ว 555555
#พี่จีบสายอ่อย ขยี้เข้าไปค่ะ #นี้สายฟินรออยู่ กร๊ากกกก คิสมันบอกตัวเองหล่อ สายเเมนๆเเตะบอล นี้ดูท่าเเล้วว่าน่าจะไม่ใช่ ถ้าไม่จิ้มลิ้ม ก็น่ารัก มีหรือฟีโรโมนฟุ้งกระจาย จนผู้ชายมองห๊ะแกร
ส่วนอิพี่ เค้ามีความหึงค่ะ ให้กูจีบได้คนเดียวจบนะ นี้ยังไม่ค่อยเห็นฉากในมหาลัย ว่าจะดังเเค่ไหน กระเเสจีบคิสในโซเชียลยังจิ้นอยู่ไหม อิอิ
มาอัฟบ่อยๆให้หายคิดถึงนะ อย่าหนีไปชงกาเเฟเพลิน  :hao7:  :hao7:  :hao7:  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 29-07-2016 22:10:56
 :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 29-07-2016 22:32:54
โอ้โห คะแนนความแมนในโรงหนังเต็มร้อยไปเลยค่ะพี่จีบ และคะแนนความหื่นก้อตีคู่สูสีมาเลยเหมือนกัน 5555555555
ได้ ไม่ได้ ก้อแต๊งอั๋ง จันนู่น อ่อยนี่ตลอดดดดดด
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-07-2016 22:50:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 30-07-2016 00:20:46
คิส ซื่อจริงรึแกล้งซื่อกันแน่ แต่น่าจะซื่อจริงนะเพราะโดนพี่จีบ หลอกลวนลามขนาดนี้แต่กว่าจะรู้ตัวก็ไม่ทันล่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-07-2016 01:18:10
รุกหนักมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 30-07-2016 02:45:28
อะไรเเข็งนะคะน้องคิส5555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 30-07-2016 11:43:54
จีบ จีบแรงมาก  :m25:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 30-07-2016 13:28:20
พี่จีบสกิลการอ่อยของพี่โคตรจะขั้นสุดยอดเลยอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-07-2016 20:13:05
สกิลพี่จีบไม่ธรรมดาาาาา o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-07-2016 21:58:06
น่ารัก น้องคิสน่ารักแบบไม่รู้ตัวจนพี่จีบมีอาการหึงหวง ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 10 -P.6- (29.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BeautifulGirl ที่ 30-07-2016 22:17:06
เรื่องนี้ทำเราฟินหลายรอบมากกกก เขินจนแก้มจะแตกแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 31-07-2016 20:24:16
- ดื่มครั้งที่ 11 -



หลังจากหยุดยาวมาร่วมหนึ่งอาทิตย์ วันนี้การเริ่มชีวิตในมหา'ลัยจะได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านเข้ามาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าถึงเวลาตื่นนอนแล้ว ผมขยับตัวพลิกไปมาแล้วบิดขี้เกียจด้วยการยืดตัวเหมือนที่แมวชอบทำเมื่อหายเมื่อยมือเรียวก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเพื่อดูเวลาและสำรวจโซเชี่ยลว่ามีอะไรเคลื่อนไหวบ้าง และแอพพลิเคชั่นที่ถูกเลือกเป็นอันดับแรกได้แก่แอพฯสีน้ำเงินยอดฮิตติดลมบน

"เชี่ย"
ผมสบถออกมาเบาๆเมื่อเห็นหน้าฟีดข่าวที่ยังไม่ได้ผ่านการรีเฟรชซ้ำ มันแสดงชื่อเพจหนึ่งที่ได้ติดตามเมื่อไม่นานมานี้ รูปของผมกับพี่จีบโชว์เด่นหราเห็นหน้าอย่างชัดเจน พี่จีบกำลังป้อนแซลมอนผม.. ขนาดวันหยุดยังเจอคนถ่ายรูปมาลงเพจคนดังมหา'ลัยอีกเหรอวะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลไม่น่าตกใจเท่ากับยอดไลค์ที่เหยียบสองพัน พร้อมกับคอมเม้นต์ต่างๆนาๆยาวเป็นพรืด ด้วยความอยากรู้ผมเลยเลื่อนอ่านมัน

Cherry Ford
ยี้ เสียดายพี่จีบอ่ะ คนหล่อต้องคู่กับคนสวยอย่างเราสิ
Jammy L
อร้ายย พี่จีบกับพี่คิสน่ารักจังเลย #ทีมจีบคิส
Kin Napat
ไอ้จีบมันร้ายว่ะ Gapp Daran
Ingoil Jiranan
กรี๊ดดดด อิคิสส กูอิจฉา อยากได้พี่จีบบ้าง! เอามาแบ่งเพื่อนเลย Kiss Inthipat

ผมแทบจะขว้างโทรศัพท์ทิ้งเมื่ออ่านมาถึงคอมเม้นต์เพื่อนตัวเอง ไม่คิดว่ามันจะแท็กชื่อผมติดไปด้วย อยากฆ่าตัวตายมาก... ตอนนี้รู้สาเหตุแล้วว่าทำไมแจ้งเตือนนับร้อยข้อความถึงโผล่ขึ้นมาดื้อๆ ทั้งแอดเฟรนด์ทั้งข้อความอินบ็อกซ์ เพราะไอ้อิงออยคนเดียว ผมอุตส่าห์ซุ่มอยู่เงียบๆตั้งนาน! ผมทำหน้ายุ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ ชีวิตที่เคยสงบสุขของผมคงไม่เหลืออีกแล้ว

มือเรียวไล่กดอ่านอินบ็อกซ์พร้อมขมวดคิ้วยุ่ง ส่วนมากจะเป็นข้อความถามว่า 'คิสกับพี่จีบเป็นอะไรกัน' 'เป็นแฟนกันหรือเปล่า' 'เชียร์อยู่นะ' แต่มีคนที่ชื่อ Cherry Ford ที่ส่งข้อความมากล่าวว่ากันได้อย่างดุเดือดจนผมต้องเบ้ปากแรง

Cherry Ford
ไอ้คนวิปริตผิดเพศ เอาพี่จีบคืนมานะ 07:10
แกไม่คู่ควรกับพี่เขาเลยสักนิด หน้าตาก็บ้านๆ ยี้ 07:11

Kiss Inthipat
ผมไม่ได้ขโมยพี่จีบไปจากเธอสักหน่อย พี่เขามาจีบผมเองนะ 08:30
ผมจะคู่ควรไม่คู่ควรแล้วมันหนักส่วนไหนของเธอครับ เรื่องนี้ผมว่าอยู่ที่พี่จีบจะคิดมากกว่านะ ถึงผมจะหน้าตาบ้านๆก็ดีกว่าคนสวยอย่างเธอที่พี่จีบไม่สนใจแล้วกัน ^^ 08:30

ผมวางโทรศัพท์เอาไว้ที่เดิมก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจอีกรอบด้วยใบหน้าแจ่มใส ไม่เครียดกับการโจมตีของผู้หญิงนิสัยแย่แบบนี้หรอก ถึงผมจะดูซื่อบื้อแต่จริงๆแล้วก็ไม่ยอมให้ใครมาต่อว่าหรือด่าเอาง่ายๆทั้งที่ผมไม่ได้ทำผิดอะไร กำลังจะลุกไปอาบน้ำแต่เสียงโทรศัพท์กลับแผดเสียงดังขึ้นมาซะก่อน ดวงตากลมชำเลืองมองชื่อที่ปรากฏบนจอสี่เหลี่ยมก่อนจะหยิบขึ้นมากดรับสาย

"สวัสดีครับพี่จีบ"
ผมกรอกเสียงงัวเงียลงไปก่อนจะหาวหวอดใส่คนปลายสาย มีเสียงหัวเราะเบาๆดังรอดออกมาก่อนจะตามด้วยเสียงพูดที่คุ้นเคย

'เพิ่งตื่นเหรอ รับสายแล้วหาวใส่กูซะงั้น'

"ตื่นสักพักแล้วครับ โทรมามีอะไรหรือเปล่า?"
ผมตามกลับไปก่อนจะยกมือข้างที่ว่างขยี้ผมตัวเองไปมา คงต้องสระผมแล้วล่ะเหนียวฉิบหาย

'มีเรียนบ่ายใช่ไหม?'

"อ่าฮะ จะมารับเหรอ ~"
ผมถามเสียงทะเล้นแล้วก้าวลงจากเตียงไปเตรียมชุดนักศึกษาที่ถูกระเบียบเพราะมีเรียนร่วมกับคณะอื่น

'เออ เดี๋ยวสิบเอ็ดโมงไปรับ เตรียมตัวให้เรียบร้อยนะ'

"อ่ะ.. โอเคครับ"
ผมตอบรับกลับไปด้วยความตะลึง เพราะเมื่อกี้ผมแค่พูดเล่น ไม่คิดว่าคนปลายสายจะมารับกันจริงๆจังๆ

'แค่นี้นะ บาย'

"บายครับ"
ผมอมยิ้มก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วหอบเอาเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป จากที่หงุดหงิดเรื่องเพจคนดังตอนนี้ลืมไปแล้วหมดสิ้น อารมณ์ดีๆเกิดขึ้นตั้งแต่พี่จีบโทรมาหานั่นล่ะ

ผมแต่งตัวเสร็จก็เดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรง่ายๆมากินได้ขนมปังหน้าสังขยากับนมจืดหนึ่งกล่องก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียง โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆกันส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าของแอพพลิเคชั่นสีเขียวสดใส ผมคาบขนมปังไว้ก่อนจะหยิบเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาเปิดอ่าน

♡ อิงออย ♡
- ไอ้คิสสสสส Cherry Ford เหี้ยไรเนี่ยเป็นใครวะ 09:57

× คิสสึ ×
- ไม่รู้ ทำไมอ่ะ? 09:58

♡ อิงออย ♡
- เกร้ดด มันอินบ็อกซ์มาด่ากูเว้ย ! มึงเห็นมันไปคอมเม้นต์รูปมึงกับพี่จีบหรือยัง? ในเพจคนดังอ่ะ 09:59

× คิสสึ ×
- เห็น.. อินบ็อกซ์มาด่ากูด้วย -_- 09:59
ผมตอบด้วยความเซ็งแล้วขยับปากเคี้ยวขนมปังต่อไป ไม่ชอบให้ใครมาระรานทั้งๆที่ผมก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้ไปอวดใครสักหน่อย ถึงจะตอบข้อความเขาไปแบบนั้นแต่ก็เพราะความหมั่นไส้ล้วนๆ

♡ อิงออย ♡
- โอ้ย ด่าว่าไง เล่า!! 10:00

× คิสสึ ×
- มันด่าว่า กูเป็นพวกวิปริตผิดเพศ หน้าตาบ้านๆ ไม่เหมาะสมกับพี่จีบ ให้กูคืนพี่จีบให้มัน 10:00
♡ อิงออย ♡
- ฟายยยยยย น่าไปดักตบ ของกูมันด่าว่า เธอเพี้ยนไปแล้วเหรอ ชอบให้ผู้ชายกินกันเองเหรอ ประสาท! 10:01
-กูเลยตอบมันไปว่า เธอเองนั่นล่ะบ้า พี่จีบเขาไม่ชอบเธอเลยต้องมาตามระรานคนอื่นเหรอ 10:01

× คิสสึ ×
- เออ แม่ง น่ารำคาญว่ะ 10:02
- แล้วมึงไปมอยัง 10:02

♡ อิงออย ♡
- กำลังจะออกจากบ้าน เดี๋ยวเจอกันลานคณะ พิมพ์คุยไม่ได้อรรถรสว่ะ 10:03

×คิสสึ ×
- เออๆ ค่อยเม้าท์ 10:04
ผมโยนมือถือลงบนเตียงแล้วหยิบกล่องนมที่นอนอยู่ข้างๆขึ้นมาเจาะดูด ในสมองมีเรื่องราวมากมายตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ไม่ใช่แค่ Cherry Ford ที่แอนตี้เขา แต่ยังมีอีกหลายๆคนที่ไม่เห็นด้วยกับ #ทีมจีบคิส แต่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นมาระรานแบบส่วนตัวขนาดนี้ ผมไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเสียหายหรอก เพราะเป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้มีชื่อเสียงในมหา'ลัยเหมือนพี่จีบ เดี๋ยวเจอกันคงต้องถามแล้วล่ะว่ารู้เรื่องในเพจคนดังไหม

ผมนอนกลิ้งไปมาจนเผลอหลับไปและถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์จากพี่จีบ นั่งเบลออยู่สักพักแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยเก็บของทุกอย่างที่ต้องใช้ในวันนี้ลงไปข้างล่าง พี่จีบนั่งรออยู่ที่ส่วนกลางของหอพัก ใบหน้าหล่อเหลาหันมายิ้มให้กันเมื่อเห็นผมกำลังเดินตรงเข้าไปหา

"รอนานไหม?"
ผมถามขึ้นก่อนจะหยุดตรงหน้าคนที่ลุกขึ้นยืนแล้ว เขายกมือขึ้นมาจัดผมให้ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ หัวใจของผมเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้จนต้องเบนสายตาหนี

"ไม่นาน หัวมึงโคตรยุ่ง เพิ่งตื่นเหรอ?"
พี่จีบถามก่อนจะยกมือพากไหล่แล้วพาผมเดินไปที่รถ

"ใช่ครับ นอนกลิ้งไปมาเลยเผลอหลับ แหะๆ"
ผมยกมือเกาท้ายทอยแก้เขิน พี่จีบหัวเราะนิดๆก่อนจะเปิดประตูรถให้แล้วผลักเบาๆให้ผมขึ้นไปนั่ง ส่วนตัวเขาก็เดินไปนั่งฝั่งคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายเข็มขัดนิรภัยถูกล็อกก่อนจะออกตัวรถขันหรูไปตามท้องถนน

"พี่จีบ พี่เคยเข้าเพจคนดังของมอบ้างป่ะ?"
ผมฉุกคิดเรื่องนี้ได้เลยรีบถามก่อนที่จะลืมมันไปอีกเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา พี่จีบเหล่มองผมแล้วพยักหน้าน้อยๆ

"เคย แต่นานๆครั้ง มีอะไร?"
พี่จีบพูดโดยที่ไม่ได้หันมามองกัน ตอนนี้บนถนนรถติดจึงต้องใช้สมาธิจดจ่อกับการขับรถเป็นพิเศษ ผมเม้มปากเข้าหากันเพราะกำลังคิดว่าจะพูดเรื่องที่ตัวเองประสบพบเจอมาเมื่อเช้าดีหรือไม่ แต่สุดท้ายกลับตัดสินใจไม่พูดจะดีกว่าเพราะมันยังไม่มีอะไรร้ายแรง

"เปล่าครับ"

"เหรอ? แต่เมื่อเช้ากูเข้าเพจนะ"
ประโยคที่พี่จีบพูดเรียกความสนใจของผมได้ดี ผมหันขวับไปมองใบหน้าด้านข้างของพี่จีบด้วยดวงตาเบิกกว้าง ความอยากรู้กำลังตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่ปาก

"อ๋อ อื้อ"
ผมไม่รู้จะถามอะไรออกไปดี อยากรู้เหมือนกันนะว่าพี่จีบคิดยังไงกับคอมเม้นต์ใต้รูป แต่ก็ไม่กล้าถามรู้สึกขัดเขินยังไงก็ไม่รู้

"มึงคิดมากกับพวกแอนตี้นั่นหรือเปล่า?"
เสียงทุ้มเจือไปด้วยความห่วงใยถามขึ้น ผมเผลอสะดุดลมหายใจตัวเองก่อนจะพยักหน้าช้าๆยอมรับอย่างว่าง่าย ทั้งๆที่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่อยากสนใจแต่สุดท้ายแล้วก็เก็บเอามาคิดจนเครียดอยู่ดี

"นิดหน่อยครับ"
ผมยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองไปมาเผื่อว่ามันจะช่วยระบายความเครียดลงได้บ้าง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยจนเผลอถอนหายใจออกมาก่อนจะได้รับสัมผัสอบอุ่นที่วางแปะลงกลางหัว มือหนาลูบมันเบาๆอย่างอ่อนโยนจนผมเผลอหลับตาซึมซับสัมผัสนั้น

"สนใจแค่กูก็พอ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง คนพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไรกับกูเลย"
น้ำเสียงอ่อนโยนพูดปลอบปะโลมกัน ผมลืมตาก่อนจะมองคนข้างๆที่ตอนนี้ก็มองผมอยู่เช่นกัน ดวงตาของเราประสานกันครู่หนึ่งก่อนที่พี่จีบจะละสายตากลับไปมองทางด้านหน้า

"แต่ผมกลัวพี่จะเสียหาย"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มแล้วก้มหน้ามองมือตัวเองทั้งๆที่มือของอีกคนยังไม่ได้ละออกจากหัว พี่จีบดันหน้าผมให้เงยขึ้นก่อนจะบังคับให้หันมาสบตากัน รถจอดสนิทเพราะติดไฟแดงเลยทำให้เรามีโอกาสทำแบบนี้

"เสียหายอะไร กูเป็นคนจีบมึงนะคิส แล้วกูก็ไม่สนใจด้วยว่าใครจะพูดยังไง จะเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกูตัดสินเองได้ กูไม่โง่ จนต้องให้คนอื่นมาชักจูง เข้าใจไหม?"
พี่จีบร่ายยาวแล้วมองผมด้วยสายตาจริงจังจนผมรู้สึกว่าตอนนี้น้ำตาจะไหล ทั้งๆที่ไม่ใช่คำบอกชอบหวานหูอะไร แต่ทั้งหมดนั่นทำให้หัวใจของผมพองโตอย่างน่าประหลาด

"อื้อ ขอโทษนะครับที่คิดมาก"
ผมคลี่ยิ้มบางส่งให้คนตัวโตก่อนจะผงกหัวเป็นการขอโทษ พี่จีบส่ายหัวเบาๆก่อนจะยิ้มให้กัน มันเป็นยิ้มที่อบอุ่นมากเลยล่ะ.. ขอหวงไว้มองคนเดียวได้ไหมครับ บางทีผมก็เป็นคนเห็นแก่ตัวนะ

"ไม่ต้องขอโทษ มึงไม่ผิดหรอก แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ว่ากูไม่ได้แคร์คนทั้งโลก กูแคร์มึง"
ประโยคนี้ทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบทันที หัวใจกระตุกก่อนจะเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง น้ำเสียงเรียบเฉยแต่สั่นสะเทือนความรู้สึกกันได้เยอะสุดๆ

"ครับๆ รู้แล้ว"
หลังจากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไปก่อนจะเลี้ยวเข้ามหา'ลัย พี่จีบจอดส่งผมที่หน้าคณะก่อนบอกให้ผมรอที่เดิมเพราะตอนเย็นจะมารับกลับด้วย ผมปฏิเสธอะไรไม่ได้เลยพยักหน้ารับไป สบายออกมีคนไปรับไปส่ง ไม่เปลืองค่าน้ำมันแถมยังอุ่นใจ

ผมเดินตรงไปที่ลานคณะก่อนจะเจอออยกับภีมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ผมยกมือทักทายพวกมันก่อนจะได้รับการทักทายตอบและเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวที่ว่าง

"เป็นไงบ้างมึง พี่ดีพดูแลดีป่ะ?"
ผมเอ่ยถามไอ้ภีมคนแรกเพราะมันเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อเช้านี่เอง เห็นบอกว่าไอ้พี่ดีพมันงอแงไม่ยอมให้เพื่อนผมกลับมา ต่อรองกันอยู่นานจากที่ภีมจะกลับเช้าวันอาทิตย์เลยได้กลับช่วงค่ำแทน

"ก็ดี แต่แม่งนวดเท้ากูอยู่ดีๆเผลอแป็ปเดียวเอามือมาลูบแก้มกูซะงั้น"
ไอ้ภีมว่าเสียงเซ็งๆแต่ในแววตากลับดูมีความสุขดี ทั้งๆที่หน้ามันไม่ได้ยิ้มแต่ก็มีออร่าบางอย่างทำให้ผมเดาได้ไม่ยาก

"โอ้ย กูขำอ่ะ"
ผมว่าก่อนจะหัวเราะจนปวดท้องไปหมด ไอ้ออยก็ไม่แพ้กันหลุดหัวเราะกร๊ากจนโต๊ะข้างๆหันมามอง ไอ้ภีมค้อนขวับส่งสายตาดุๆมาให้กันจนพวกเราต้องหุบปาก ถ้าเกิดมันโมโหขึ้นมาเกรงว่าจะเป็นภัยต่อตัวเอง

"เงียบๆไปเลย แล้วนี่ฟิกเกอร์ของมึง"
มันล้วงถุงสีสันสดใสออกมาจากกระเป๋าก่อนจะส่งมาให้ ผมรับถึงมาเปิดดูแล้วยิ้มกว้าง ฮือ คาเนกิที่รัก ~ ผมยกฟิกเกอร์ขึ้นมากอดจูบลูบคลำจนไอ้ออยทำหน้าขยะแขยงใส่ ส่วนไอ้ภีมส่ายหัวอย่างเอือมระอา

"น้อยๆหน่อยไอ้คิส อย่ามาทำตัวเป็นโอตาคุแถวนี้"
ไอ้ออยว่าด้วยเสียงเบื่อหน่ายก่อนจะเท้าคางลงบนมือตัวเอง

"กูรักของกูอ่ะ"
ผมยู่ปากก่อนจะเก็บคาเนกิใส่ถุงแล้วยัดลงกระเป๋า พอดีว่าอายคนอื่นที่หันมามอง แหะๆ

"รักมากกว่าพี่จีบป่ะ?"
ออยทำเสียงทะเล้นก่อนจะเอื้อมมือมาดึงแก้มกันอย่างหยอกล้อ ผมสะบัดหน้าหยีมันแล้วจิ๊ปาก ทำไมต้องหน้าร้อนกับคำถามไร้สาระของมันด้วยเนี่ย

"พูดไรของมึง บ้าบอ"
ผมว่ามันเสียงดุๆแต่ไม่ได้จริงจังนัก ไอ้ออยทำแค่ยักไหล่ไม่สนใจก่อนจะยกประเด็นใหม่ขึ้นมาพูด

"เออ ไอ้ภีม.. มึงรู้จัก Cherry Ford อะไรนี่ป่ะ?"
ออยยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าของไอ้ภีม คงเป็นเฟซบุคของคนที่มีเรื่องกับพวกเราเมื่อเช้าแน่ๆ

"รู้จัก ดาวบริหารปีนี้ มีไรเปล่า?"
ไอ้ภีมเงยหน้าขึ้นจากจอสี่เหลี่ยมแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยก่อนจะมองหน้าไอ้ออยกับผมสลับกัน

"โอ้ย มึงรู้ป่ะ มันนิสัยแย่มากเว้ยมึง อินบ็อกซ์มาด่ากูกับไอ้คิสเรื่องพี่จีบอ่ะ"
ไอ้ออยเล่ารัว หน้าตามันแสดงออกว่าเกลียดผู้หญิงคนนี้เข้าไส้

"อะไรนะ เชอร์ทำขนาดนั้นเลยเหรอวะ?"
ไอ้ภีมดูตกใจมาก ส่วนพวกผมนี่รีบเปิดอินบ็อกซ์สนทนาให้มันอ่านเลยทีเดียว ไอ้ภีมรับโทรศัพท์ของพวกเราไปอ่านก่อนจะเบ้ปากใส่แล้วส่งคืนมา

"เป็นไงล่ะ กูหมั่นไส้มาก อย่าให้เจอนะ แม่จะตบให้เละ"
ไอ้ออยแยกเขี้ยวก่อนจะทำถ้าตบแบบจริงจัง

"กูว่าน้องมันไม่น่ารอดมาถึงพวกมึงหรอก"
ผมกับไอ้ออยมองหน้ากันด้วยความงง ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าไอ้ภีมมันต้องการสื่ออะไร แต่เพื่อนที่ดีไม่ปล่อยให้เรางงนานๆหรอกครับ

"เชอร์เป็นหลานรหัสของพี่จีบ"
คำตอบของความสงสัยทำให้ผมกับไอ้ออยเผลอกลั้นหายใจ ทำไมแม่งโลกกลมขนาดนี้ เคสน้องรหัสแอบชอบสายรหัสตัวเองเนี่ย

"ฉิบหาย พี่จีบมันจะเข้าข้างน้องเชอร์ป่ะวะ"
ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ดูท่าทางแล้วน้องเชอร์อะไรนั่นน่าจะออกตัวแรง เพราะหลังจากที่ผมส่งข้อความตอบกลับไป น้องมันก็ด่าอะไรผมกลับมาอีกเยอะแยะมากมาย แต่ผมขี้เกียจอ่านให้รกสมอง

"หึ ไม่อ่ะ พี่จีบไม่ค่อยสนใจเชอร์หรอก น้องมันทำตัวน่ารำคาญ อย่าว่าแต่พี่จีบเลย คนอื่นๆก็รำคาญมันจะตาย"
คนอื่นๆที่ไอ้ภีมว่าน่าจะเป็นพวกดาวเดือนทั้งหลายของมหา'ลัย เพราะปกติแล้วพวกคนหน้าตาดีจะนัดสังสรรค์เฉพาะกลุ่มเป็นครั้งคราว

"อือๆ ไปเรียนกันได้แล้ว"
ผมตอบก่อนจะชวนทุกคนไปเรียน เสียงอาจารย์สอนวิชานี้ทำให้ผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์มันมึนๆเบลอๆคล้ายจะหลับอยู่ตลอดเวลา มีหลายครั้งที่มือไม้อ่อนจนปากกาขีดไปตามชีทจนเปรอะเปื้อน เดือดร้อนไอ้ออยต้องค่อยสะกิดกันเป็นพักๆ ช่วงพักสิบนาทีผมก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเหมือนปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือแจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นสีน้ำเงินนี่ล่ะที่ขยันเด้งเอาๆจนคิดจะล็อกเอ้าท์ออกหลายรอบแล้ว

"เชี่ยเอ้ย เชอร์แม่งเป็นนกหรือยังไงจิกอยู่ได้"
ผมวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างหัวเสียเมื่ออ่านข้อความทั้งหมดที่เชอร์ส่งมา มีทั้งด่าว่ามีทั้งเหน็บแนม ผมไม่ได้ตอบกลับเธอไป เธอก็หาว่าผมป๊อด ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายบ้าบออะไรไม่รู้ ผมเป็นผู้ชายป่ะวะไม่ได้นิยมมีปากเสียงกับผู้หญิงเท่าไหร่หรอก ไม่ใช่คนหน้าตัวเมีย

"โห.. นี่มันไม่เว้นช่วงหายใจเลยเหรอวะคิส รัวข้อความทุกนาทีขนาดนี้"
ไอ้ออยทำตาโตเพราะเอาโทรศัพท์ของผมไปก่อนก่อนจะตั้งคืนที่เดิม ไอ้ภีมหยิบไปอ่านบ้างก่อนจะขมวดคิ้วยุ่งแล้ววางมันลงที่เดิม

"โรคจิตว่ะ"
ไอ้ภีมพูดออกมาก่อนจะเบ้ปาก นานๆครั้งมันจะด่าคนอื่นนะ แสดงว่าเชอร์เป็นคนที่น่ารำคาญมากแน่ๆ

"มึงว่าเชอร์จะมาดักรอเราที่หน้าคณะป่ะวะ?"
ผมถามก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ถ้าน้องเขามาจริงขอให้คุยกันดีๆเถอะ มายืนทะเลาะกันมันไม่สนุกนะ แถมจะเป็นขี้ปากชาวบ้านเขาอีกด้วย คนยิ่งจับตามองหมากับเทวดาเยอะอยู่

"เหอะๆ ไม่แน่ว่ะคิส เชอร์มันนิสัยแบบอยากทำไรก็ทำไมแคร์ชาวบ้านเขาหรอก"
ไอ้ภีมตบบ่าผมเป็นเชิงปลอบ ก็ได้แต่ชวนกันถอนหายใจออกมาเพราะไม่รู้ว่าชะตากรรมต่อไปจะเป็นอย่างไร อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดล่ะวะ สู้ๆเว้ยตัวเรา!

ผมเรียนเสร็จก็เดินลงมาจากตึกก่อนจะเจอเข้ากับผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะสูงไม่เกินร้อยหกสิบเดินตรงเข้ามาหากัน ใบหน้าสวยใสแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเนื้อดีแต่มันกลับบึ้งตึงเหมือนคนอารมณ์เสียก็ไม่ปาน ผมมองหน้าไอ้ภีมกับไอ้ออยสลับกันก่อนจะเลิกคิ้วสูงเมื่อเธอหยุดอยู่ตรงหน้า

"ชื่อคิสใช่มะ?"
วัยรุ่นจ๋ามาเลยว่ะเห้ย ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะสำเหนียกได้ว่าเธอคือเชอร์คนเดียวกับที่ด่ากันผ่านอินบ็อกซ์

"หึ ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย แถมยังเป็นผู้ชายอีกด้วย ใช้มารยาอะไรหลอกล่อพี่จีบล่ะ?
เธอมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดๆ ปากอวบอิ่มเบะลงจนเป็นเส้นโค้ง สีหน้าแสดงออกว่ารังเกียจในตัวผมเป็นอย่างมาก ผมสตั้นไปเมื่อเจอเธอจู่โจมใส่กันแรงขนาดนี้ทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ส่วนไอ้ออยโมโหจนกำหมัดแน่นแล้วมายืนขวางระหว่างผมกับเชอร์

"นี่น้อง ตัวเท่าลูกหมาอย่าทำตัวกร่างนะ"
ออยใช้สายตาจิกกัดและน้ำเสียงดุๆส่งไป แต่เชอร์กลับลอยหน้าลอยตาไม่กลัวเกรงแต่อย่างใด เหมือนเธอจะเพิ่งสังเกตเห็นภีมที่ยืนอยู่ข้างๆผม

"พี่ภีมทำไมมาอยู่ตรงนี้คะ?"
น้ำเสียงของเธออ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มทันที แต่ผมคิดว่าเธอคงหลอกเพื่อนผมไม่สำเร็จหรอก อยากโง่ไม่ยอมสังเกตสิ่งรอบตัวให้ดีซะก่อนแสดงกริยามารยาทแย่ๆออกมา

"พี่ก็ยืนอยู่ตรงนี้มาตั้งนานแล้วนะ ตั้งแต่เชอร์เดินเข้ามาแล้วเอาแต่ด่าเพื่อนพี่ปาวๆ"
ภีมจ้องเชอร์เขม็งแล้วใช้น้ำเสียงราบเรียบคุยกัน เหมือนเชอร์จะตกใจเพราะดวงตากลมสวยของเธอเบิกกว้าง ท่าทีอึกอักทำอะไรไม่ถูกแสดงออกมาชัดเจน

"พะ เพื่อนพี่เหรอ?"
เสียงหวานสั่นเครือ อาจจะเพราะว่ากลัวเรื่องไปถึงหูพี่จีบก็เป็นได้ เธอมองผมสลับกับมองภีมอย่างไม่เชื่อสายตา

"ใช่ครับ เป็นเพื่อนกับคนหน้าตาบ้านๆที่เคยเป็นรองเดือนคณะมาก่อน เชอร์มีปัญหาอะไรไหม?"
เชอร์สะอึกไปกับคำพูดของภีม เรื่องจริงอีกหนึ่งเรื่องคือผมเคยเป็นรองเดือนคณะศิลปกรรมศาสตร์จริงๆ แต่มันก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่ใครๆเขาจะพูดถึงกันหรอก ผมยังคิดอยู่เลยว่าหน้าตาอย่างผมเนี่ยโดนส่งประกวดได้ไง แล้วไอ้คนที่โหวตผมตาถั่วหรือยังไง

"หน้าตาแบบนี้เนี่ยนะเป็นรองเดือนคณะ เหอะ คนโหวตคงใช้ตาตุ่มดูล่ะมั้งคะ"
เธอจีบปากจีบคอพูดก่อนจะใช้สายตามองสำรวจผมอีกครั้ง คราวนี้เพื่อนและตัวผมเองเริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้วแต่ยังไม่ใครได้ทำอะไรก็มีผู้มาเยือนคนใหม่เดินเข้ามา ภีมหลีกทางให้ร่างสูงยืนข้างๆผม แขนแกร่งพาดลงบนไหล่ของผมอย่างเคยชิน แต่ใบหน้าหล่อเหลากับเรียบเฉยขณะที่มองไปยังหลานรหัสตัวเอง เชอร์เบิกตากว้างก่อนจะอ้าปากพะงาบๆเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่โดนพี่จีบพูดขัดซะก่อน

"พี่ไม่คิดว่าเชอร์จะไร้มารยาทขนาดนี้ พี่รู้ว่าเชอร์คิดยังไงกับพี่ แต่พี่ชอบคิส เชอร์ไม่มีสิทธิ์มาระรานกันแบบนี้"
พี่จีบกดเสียงลงต่ำก่อนจะใช้สายตาดุๆมองสาวร่างบางตรงหน้า ผมยอมรับเลยว่าตอนนี้พี่จีบดูน่ากลัวมากๆจนผมเองยังแอบขนลุกแทน เชอร์เบะปากลงแต่แววตาไม่ได้ยอมแพ้ไปด้วย

"เชอร์เป็นหลานรหัสของพี่จีบนะ เชอร์ชอบพี่จีบมาก่อนด้วย ทำไมอ่ะ ทำไมพี่จีบไม่สนใจเชอร์!"
เธอเข้ามากระชากตัวผมออกจากพี่จีบด้วยแรงมหาศาล ผมที่ยังไม่ทันตั้งตัวเลยเซไปทางออยที่ตั้งรับผมได้ทันท้วงที ไม่อย่างนั้นคงมีลงไปนอนเล่นบนพื้นตัวหนอนบ้างล่ะงานนี้

"ใจเย็นๆแล้วฟังพี่"
พี่จีบแกะมือของเชอร์ที่รวบรอบเอวสอบของตัวเองออกก่อนจะเลื่อนมือไปจับไหล่คนตรงหน้าแล้วจ้องตาด้วยความจริงจัง ใบหน้าสวยของเชอร์บึ้งตึงและมีทีท่าว่าเธอจะไม่ยอมกันเด็ดขาด

"ไม่ฟัง เชอร์ไม่อยากฟังพี่จีบปฏิเสธเชอร์อีกแล้ว ขอโอกาสได้ไหมคะ มองเชอร์บ้างได้ไหม เชอร์มีอะไรด้อยกว่าผู้ชายคนนี้เหรอ?"
เชอร์ปรายหางตามามองผมก่อนจะหันกลับไปจ้องหน้าพี่จีบด้วยสายตาอ้อนวอน เธอเป็นน่ารักนะถ้าไม่ติดว่าเป็นคนดื้อรั้นพี่จีบอาจจะชอบไปแล้วก็ได้ล่ะมั้ง

"เชอร์ไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่าคิสเลยครับ บางทีเชอร์อาจจะดีกว่าคิสก็ได้"
พี่จีบพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะหันมาสบตากับผมพร้อมกับยกยิ้มบางมาให้กัน ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงเลยหันหน้าหนีไปอีกทาง สถานการณ์ตอนนี้โคตรน่าอึดอัด คำพูดของพี่จีบไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเสียใจอะไรเพราะทั้งหมดมันอาจจะเป็นเรื่องจริง สิ่งที่เชอร์มีเหนือกว่าผมอยู่แล้วคือเพศสภาพที่เหมาะสมและคู่ควรกับพี่จีบซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมไม่มี

"ถ้าเชอร์ดีกว่ามัน พี่จีบก็เลือกเชอร์สิคะ"
ดวงตากลมสวยเริ่มมีน้ำใสๆคลอหน่วย ปากบางสีชมพูสั่นระริกเหมือนๆกับไหล่ของเธอกำลังสั่นสะท้าน น้ำเสียงยามขอร้องช่างน่าสงสารต่างกับเชอร์ที่แว้ดๆใส่ผมเป็นไหนๆ

"พี่เลือกเชอร์ไม่ได้ครับ"
เสียงพี่จีบอ่อนลงพร้อมกับมือหนาที่เลื่อนไปกอบกุมแก้มใสเบาๆ น้ำตาหยดลงทันทีที่ได้ยินคำปฏิเสธของคนตรงหน้าเธอ

"ทะ ทำไมคะ ฮึก เป็นเชอร์ไม่ได้เหรอ"
นิ้วเรียวปาดน้ำตาให้เชอร์อย่างเบามือ ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมเชอร์ต้องตามตื้อพี่จีบขนาดนี้.. เพราะพี่เขาอ่อนโยนแบบนี้ยังไงล่ะ ขนาดผมเป็นผู้ชายเหมือนกันยังแอบหวั่นไหวอยู่บ่อยๆเลย

"พี่ขอโทษนะเชอร์ แต่พี่ชอบคิส"

"แต่นั่นมันเป็นผู้ชายนะ!"
เธอเผลอสะบัดเสียงใส่แล้วมองผมด้วยความเกลียดชัง ไอ้ภีมขยับตัวมาบังกันแล้วดันให้ผมหันหน้าไปทางอื่น ไม่ใช่ว่าเพื่อนกลัวผมจะทำร้ายเขา แต่คงกลัวผมเสียใจที่อยู่ๆก็มาเจอคนเกลียดกันซะอย่างนั้น

"เชอร์ฟังนะ สำหรับพี่ความรักไม่ได้แบ่งเพศชายหญิงหรอก ถ้าชอบหรือรักใครไปแล้วเรื่องเพศมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย แล้วอีกอย่างนะเชอร์เป็นน้องพี่เราจะไม่มีวันเลิกกันนะ แต่ถ้าเชอร์เป็นแฟนพี่สักวันเราอาจจะเลิกกันก็ได้"
เชอร์ชะงักไปก่อนจะแสดงสีหน้าปวดร้าวออกมา น้ำตาเธอเริ่มไหลลงมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงสะอื้น คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเอาแต่มองจ้องมาที่พวกเรา บางคนยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปกันให้วุ่น และผมเชื่อว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเพจคนดังคงอัพรูปพวกนี้แน่ๆ

"เชอร์จะรอวันที่พวกพี่เลิกกัน เชอร์ไม่ยอมแพ้พี่คิสหรอก!"
แล้วเธอก็วิ่งจากไปปล่อยให้พวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก สรุปที่พี่จีบพูดไปทั้งหมดเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของน้องเขาหมดเลยสินะ ได้ยินเสียงพี่จีบถอนหายใจแรงๆก่อนจะยักไหล่ราวกับบอกให้ผมช่างมันเถอะ ไอ้ออยกับไอ้ภีมพอจบเรื่องก็ขอตัวแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว คนหนึ่งพี่สาวตามคนหนึ่งแฟนตามดีแท้

"เราก็กลับกันเถอะ"
พี่จีบพูดขึ้นแล้วเดินเข้ามาจับไหล่กัน ผมส่ายหัวก่อนจะช้อนตามองพี่จีบ มีเรื่องยังคาใจจากเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่นิดหน่อย ต้องถามให้รู้เรื่องก่อนเดี๋ยวสมองปลาทองของผมจะลืมอีก

"หือ มีอะไร?"

"คือ.. ไอ้ที่พี่พูดเมื่อกี้อ่ะ เป็นแฟนกันมีวันเลิกกัน ถ้าเกิดวันหนึ่งผมตกลงเป็นแฟนพี่ ผมก็ต้องมานั่งกลัวเหรอว่าเราจะเลิกกันวันไหน"
ผมเอียงคอมองด้วยความสงสัย ไม่ได้ดราม่านะ แต่มันตะขิดตะขวงในใจแปลกๆ

"มึงนี่คิดมากเนอะ ที่กูพูดเมื่อกี้ก็แค่อยากหลอกเชอร์ แต่ความจริงกูไม่เคยคิดแบบนั้นสักหน่อย"
พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นมาโยกหัวผมเล่น ผมเบ้ปากน้อยๆแต่ก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร

"จริงๆแล้วพี่คิดยังไง?"

"อยากรู้เหรอ?"

"ถามก็เพราะอยากรู้ไง"

"งั้นจะบอกให้ก็ได้"
ร่างสูงก้มหน้าลงมาให้ปากอยู่ระดับใบหูของผมก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบาแต่มั่นคง

"เมื่อกูรักใครไปแล้วไม่เคยคิดถึงวันที่เลิกกันเลยว่ะ รักแล้วรักเลยไม่คิดจะเลิก"
คนฟังอย่างผมได้แต่ยืนหน้าร้อนอยู่อย่างนั้น คำตอบของพี่จีบดังก้องอยู่ในหัวเหมือนกำลังรีเพลย์ซ้ำๆให้ผมมั่นใจ ตอนนี้ผมอาจจะแค่เขินพี่เพราะพี่เป็นไอดอลของผม แต่ถ้าวันไหนผมเปลี่ยนมุมมองในการชอบพี่ขึ้นมา ผมจะบอกให้พี่รู้ตัวทันทีนะ



----------------------------------------------


Q & A กับพี่จีบ
Q : รู้สึกยังไงที่มีคนมาชอบเราขนาดนั้น?
A : ใครๆก็ต้องรู้สึกดีอยู่แล้วครับที่มีคนมาชอบ แต่สำหรับผมแล้วในกรณีของเชอร์ทำให้ผมอึดอัดมากครับ
Q : จีบปฏิเสธเชอร์ไปกี่รอบแล้ว?
A : เกินสิบครั้งครับ เธอเป็นคนที่น่ารักนะ ถ้าผมบังคับตัวเองให้ชอบเชอร์ได้ผมทำไปแล้ว
Q : ถ้าจีบไม่ได้เจอกับคิส เชอร์จะมีสิทธิ์ไหม?
A : คงไม่มีครับ ^^




พี่จีบคนฮอตของเราเสน่ห์แรงจริงๆเลยน้า แม้แต่หลานรหัสตัวเองยังแอบชอบได้ขนาดนี้
ถ้าคิสไม่ยอมอ่อนให้พี่จีบสักทีมีหวังคนอื่นๆต้องเข้ามาหาพี่จีบอีกเยอะแยะแน่ๆ
แต่จีบก็คือจีบ มั่นคงยิ่งกว่า้สาหินไปอีก 55555555555 ชอบแล้วชอบเลย รักแล้วรักเลยนะจ๊ะ

อ่านให้สนุกน้า ♥ ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามและช่วยกันคอมเม้นต์น้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 31-07-2016 21:04:34
ทีมพี่จีบคิสๆๆๆๆๆๆ o13 o13 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 31-07-2016 21:04:53
โอ้ยยยยยย เเพ้ทางผู้ชายชัดเจนค่ะ  จีบคือจีบ ชอบคือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ชอบคาเรคเตอร์ของจีบมาก นางชัดเจนตั้งเเต่ต้น เเม้จะมีความเนียนๆบ้าง เเต่นางเเสดงออกเสอม สมเเล้วที่เป็นพระเอก นางไม่หนีปัญหา นางเป็นที่พึ่งเเละหาทางออกให้เสอม นี้คิสไม่ต้องกังวลเลย ไม่กลัวดราม่าเลย เพราะพี่เค้ารัก เค้าจะทำทุกอย่างอยู่เเล้ว
ขอบคุณนะที่มาอัฟ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 31-07-2016 21:16:03
แหม่ก็พี่เล่นใจดีกะนางขนาดนี้ ก็ต้องมีความหวังบ้างแหละ ฮ่วย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-07-2016 22:06:56
คิสยอมพี่จีบเหอะ ยอมให้จีบแบบสุดๆไปเลย
คนอ่านยอมใจในความแน่วแน่ของพี่แกค่ะ
ขอบคุณค่ะ. แอบมาดมกาแฟดึกๆ.  :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 31-07-2016 22:13:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 31-07-2016 22:20:22
แหหหหหหหหม่ พี่จีบคนฮอต

ว่าแต่น้องคิสน่าฟัดเนอะ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 31-07-2016 22:25:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-07-2016 22:37:16
ถ้าเจอผู้หญิงอย่างเชอร์ที่พูดดีก็แล้วพูดร้ายก็แล้วยังไม่รู้เรื่อง
คงอดใจไม่ไหวได้เอา Teen ยัดปากนางแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 31-07-2016 23:00:25
คนอย่าเชอร์นี่พูดดีๆแล้วไม่รู้เรื่องก็จัดหนักให้เธอเจอเลย  :m16:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 31-07-2016 23:07:48
โอ้...นางแรงมากกกกกกกกกกก ตื้อสุดยอดดดดดดดดดดดด  :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 31-07-2016 23:36:14
ดูท่าแล้ว(นัง)น้องเชอร์นี่จะไม่ยอมจบง่ายๆ นะครับเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-08-2016 00:18:03
รีบๆ รู้ใจตัวเองเร็วๆ นะคิส เดี๋ยวคนอื่นจะมาสนใจพี่จีบอีกแล้วจะแย่นะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-08-2016 00:41:49
เกลึยดความสุภาพบุรุษเกินไป ชะนีอาจเข้าใจผิดได้
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-08-2016 03:05:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 11 -P.6- (31.07.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-08-2016 06:37:56
โหหหหหห ตอนนี้นี่พี่จีบเท่มากๆอ่ะ
เอาใจไปเลยแกร >\\\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 01-08-2016 18:47:15
-ดื่มครั้งที่ 12 -




อากาศยามเที่ยงวันที่ร้อนระอุ แสงแดดสายส่องลงกลางศีรษะแบบพอดิบพอดีจนต้องหาอะไรมาบังหลบร้อน ผมและเพื่อนๆรีบวิ่งเข้าใต้ตัวอาคารหลังกลับจากตึกเรียนรวม ช่วงบ่ายเด็กปีสองคณะศิลปกรรมศาสตร์จะมีประชุมเรื่องงานดนตรีของมหา'ลัย หน้าที่ในการจัดงานทั้งหมดตกอยู่ที่พวกผม เป็นงานประจำปีที่สำคัญพอตัวเลยก็ว่าได้ มีการแสดงของวงดนตรีชื่อดัง และมีการประกวดวงดนตรีจากบุคคลภายนอก สโมสรนักศึกษาจะเป็นคนกระจายงานและจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด

พวกเราทั้งสามคนกำลังจะเดินเข้าหอประชุมของทางคณะแต่แล้วก็ได้ยินเสียงคนจำนวนหนึ่งกำลังโวยวายอยู่ใกล้ๆจนต้องแอบเดินเข้าไปดูก็พบว่าเป็นพี่จีบกับพี่แบทที่เป็นสโมสรนักศึกษากำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่โดยมีพี่คินกับพี่แก๊ปมองอย่างขำๆ

"มึง..พี่จีบกับพี่แบททำไรกันวะนั่น เหมือนกำลังจะฆ่ากันเลยอ่ะ"
ไอ้ออยขยับไปอยู่ด้านหน้าของพวกผมที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ ผมกับไอ้ภีมส่ายหน้าพรืดพร้อมกัน จะไปรู้เรื่องได้ยังไงก็เดินมาพร้อมกันวะ ไอ้ออยก็ถามแปลกๆ

"ขยับไปอีกดิ เผื่อจะได้ยินเสียง"
ไอ้ภีมเสนอ พวกเราเลยขยับเข้าไปใกล้อีกระดับโดยหลังยองๆลงที่หลังพุ่มไม้เตี้ยๆ แล้วก็จริงอย่างที่ไอ้ภีมว่าได้ยินเสียงทะเลาะกันชัดเจนมาก

"ไอ้จีบ มึงต้องไปกับกู"
พี่แบทล็อกคอพี่จีบแน่นแล้วพยายามลากให้เดินไปด้วยกัน ถ้าจะให้เดาคงจะลากพี่จีบเข้าหอประชุมคณะแน่ๆ

"กูไม่ไป!"
พี่จีบตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับสะบัดตัวไปมา สองคนนี้รูปร่างใกล้เคียงกันมากจนไม่สามารถเดาได้ว่าใครแรงเยอะกว่าใคร

"มึงต้องไปร้องเพลงเรียกคนดู!"
พี่แบทตะโกนแข่งบ้างก่อนจะพยายามออกแรงลากพี่จีบอีกครั้ง พวกผมไม่มีใครพูดอะไรเพราะมัวแต่ลุ้นเหตุการณ์ตรงหน้า ดูสิว่าใครจะชนะ

"กูไม่ร้อง ไม่เอา ไม่ไป ไอ้แบทปล่อยกู!"

"มึงต้องไปไอ้เชี่ย ช่วยงานพวกกูหน่อย"

"ไม่ช่วย ไอ้สัด! #@$×#$$^"##-"#()฿฿"

"ไอ้จีบ! มึงอย่ารัวภาษาเกาหลีใส่กู กูฟังไม่รู้เรื่อง!!!"
ผมเบิกตากว้างกับสิ่งที่พี่แบทพูด.. พี่จีบรัวภาษาเกาหลีใส่พี่แบทเหรอวะ แล้วทำไมพี่จีบพูดเกาหลีได้ ผมงงนะเนี่ย

"ปล่อยกูสิ ปล่อย ไอ้แก๊ปช่วยกูด้วย!!"

"มึงก็ไปร้องเพลงให้มันเหอะ ไม่งั้นมันก็ตามรังควานมึงอยู่แบบเนี่ยไม่หยุดหย่อน"
พี่คินพูดขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปช่วยพี่แก๊ปลากตัวพี่จีบออกจากแขนไอ้พี่แบท

"โว้ย ห่าไรเนี่ย กูร้องเพลงเป็นซะที่ไหน"
พี่จีบทำหน้ายุ่งก่อนจะถูรอบคอตัวเองไปมาเบาๆ สงสัยโดนไอ้พี่แบทรัดแน่นจนเจ็บ

"มึงร้องผิดคีย์สาวๆก็กรี๊ด เชื่อกู"
ไอ้พี่แบทยังไม่ยอมแพ้ ผมกำลังลุ้นว่าพี่จีบจะตอบกลับว่าอะไรแต่ไอ้ออยกรี๊ดลั่นซะก่อนจนพวกผมสะดุ้งตามๆกัน

"กรี๊ดดด เหี้ยๆๆๆๆๆๆๆ"
ไอ้ออยกรี๊ดก่อนจะชี้นิ้วไปที่ตัวเงินตัวทองที่กำลังเดินตรงมาที่พวกผม มันออกวิ่งตรงไปทางกลุ่มพี่จีบเป็นคนแรกส่วนพวกผมเมื่อตั้งสติได้ก็รีบออกวิ่งไปเหมือนกัน

"อ๊ากกกกก เหี้ย"
ผมแหกปากร้องไปด้วยตอนวิ่ง ไอ้พี่แบททำหน้าตาตกใจก่อนจะคว้าหมับที่ไหล่ผม กำลังจะวิ่งผ่านแล้วนะแม่งจะมาเบรกกันทำไมวะ แถมเอาแขนล็อกคอกันอีก

"แค่กๆๆ ไอ้พี่แบท ปล่อย!"
ผมดิ้นขลุกขลักหอบหายใจแรงๆเพราะวิ่งด้วยความเร็วมา พี่แบทตั้งสติได้เลยคลายแรงรัดรอบคอผมลงแต่ยังไม่ยอมปล่อยกัน

"มึงหนีอะไรมาเนี่ย"

"หนีตัวเหี้ยมาพี่"

"ไอ้แบท ปล่อย"
เสียงที่สามแทรกบทสนทนาของเราทั้งสองคนขึ้นมา ผมหันไปก็พบกับพี่จีบที่ยืนทำหน้าตาบูดบึ้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ส่วนไอ้พี่แบทมองด้วยความสงสัยว่าไอ้พี่จีบสั่งให้ปล่อยอะไร

"ปล่อยอะไรของมึง?"

"ปล่อยไอ้คิส"
สายตาดุๆถูกส่งมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาใกล้แล้วแกะแขนไอ้พี่แบทออกจากคอผมก่อนที่พี่จีบจะดึงตัวผมเขาไปกอดไว้แนบอก

"พี่จีบ ทำไรเนี่ย หายใจไม่ออก"
ผมดิ้นขลุกขลักแต่ไอ้พี่จีบไม่ยอมปล่อยกันแถมยังลากผมให้อยู่ห่างจากพี่แบทด้วย

"ไม่ให้คนอื่นกอด"
ประโยคสั้นๆที่ฟังยังไงก็ไม่ได้ช่วยไขความกระจ่าง ผมดันหน้าอกคนตัวสูงแล้วพยายามมุดออกมาจากอ้อมกอดของเขาได้สำเร็จ ดวงตาคมจ้องมองผมอย่างเอาเรื่อง คือแบบ...คิสทำอะไรผิด ฮือ

"ทำไมต้องดุด้วย"
ผมว่าเสียงอ่อยก่อนจะก้มหน้ามองพื้น มือหนายกขึ้นวางแปะลงบนหัวผมเบาๆแล้วออกแรงขยี้

"กูหวงมึง ไม่อยากให้ใครใกล้ เข้าใจไหม?"
ผมสะดุดลมหายใจก่อนจะช้อนตามองคนตรงหน้า รู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายโดนเฉพาะตรงแก้มจะร้อนวูบวาบเป็นพิเศษ แล้วไอ้ที่พูดหวานๆใส่กันเนี่ยไม่เกรงใจเพื่อนพี่บ้างหรือยังไงวะ!

"เดี๋ยวๆๆๆ ไอ้จีบ อย่าบอกนะว่ามึงจีบน้องรหัสกู?"
พี่แบทย่างสามขุมมาเกี่ยวคอผมไปกอดไว้อีก เลยได้สายตาดุๆจากไอ้พี่จีบมาอีกครั้ง ผมยิ้มแหยส่งไปให้ทั้งคู่เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี ทางหนึ่งก็พี่จีบทางหนึ่งก็พี่รหัสตัวเอง

"เออ แล้วหนักส่วนไหนของมึง?"
พี่จีบกดเสียงต่ำลงจนน่ากลัว พี่คินกับพี่แก๊ปไม่รู้หายตัวไปไหนซะแล้ว ไม่อยู่ช่วยกันเลยวะ ขอแช่งให้มันสองคนไม่มีแรงทำการบ้าน!!!

"ไม่หนักๆ กูขอคุยกับคิสแป็ปนึง"
พี่แบทยิ้มหน้าระรื่นจนผมแอบเสียวสันหลังวาบ พี่จีบขมวดคิ้วแน่นเหมือนจะไม่ยอม แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาแรงๆแล้วพยักหน้าเบาๆ พี่แบทลากผมออกมาไม่ไกลนักก่อนจะจับไหล่ทั้งสองข้างของผมเอาไว้ก่อนจะใช้สายตาคาดหวังมองตรงมา... มันต้องมีเรื่องเชี่ยๆให้ผมทำแน่ๆ ฮือ พี่รหัสผมไม่ไม่ครบบาท!

"มึงอ้อนไอ้จีบให้ไปร้องเพลงในงานดนตรีหน่อย..นะ"
ไม่นะได้ไหม.. ผมมองหน้าพี่แบทก่อนจะส่ายหัวรัวๆ คนอย่างไอ้พี่จีบถ้าไม่ทำมันก็ไม่ทำ ผมอ้อนให้ตายก็เปลืองตัวโดยใช่เหตุสิ

"พี่จีบไม่ยอมหรอก"

"มึงไม่ลองก่อนอ่ะ"
พี่แบทใช้น้ำเสียงอ้อนๆพูดกับผม ดวงตาคมเป็นประกาบวาววับด้วยความคาดหวัง.. อยากจะบอกแสกกลางหน้ามากว่าอย่ามาคาดหวังอะไรกับคนอย่างผม ถ้าผิดหวังขึ้นมาผมยังไม่อยากโดนกระทืบนะเว้ย

"ไม่เอา พี่จีบไม่ยอมหรอก"
ผมยืนยันเสียงดังฟังชัดจนไอ้พี่แบทชักสีหน้าหงุดหงิดใส่

"มึงต้องไปลองอ้อนมันเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง!"
ผมเบ้ปากใส่คนที่ออกเสียงสั่งลอดไรฟัน พอไม่ได้ดั่งใจก็ออกคำสั่งตลอด อยากขัดก็ขัดไม่ได้เพราะคำว่าน้องรหัสมันค้ำคอต้องพึ่งบุญบารมีของไอ้พี่แบทไปอีกนาน

"ชอบบังคับจริงๆ วู้"
ผมว่าก่อนจะหันหลังให้มันแล้วรีบวิ่งหนีเพราะรู้ตัวดีว่าพี่แบทมันง้างเท้าจะแต่ผมตั้งแต่เบ้ปากใส่ พี่จีบที่มองมาหัวเราะขำๆกับการวิ่งของผม.. ก็วิ่งแบบขี้เกียจอ่ะ เหมือนจะไถลไปตามพื้นอยู่แล้ว นี่ถ้าพื้นสากคงสะดุดลงไปนอนกองเรียบร้อย

"ทำอะไรของมึง?"
คำถามแรกที่ถามกันหลังจากผมเบรกตรงหน้าพี่จีบด้วยท่วงท่าที่สวยงาม ผมยิ้มกว้างก่อนจะรวบเข้าแขนขวาของเขามากอดไว้แล้วใช้แก้มถูไถเบาๆบนไหล่

"พี่จีบ ~"
ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงหวานจนตัวเองแอบขนลุกหน่อยๆ ทั้งชีวิตไม่เคยคิดจะอ้อนใครขนาดนี้เลยนะเว้ย อายตัวเองฉิบหาย แต่ตอนนี้ต้องหน้าด้านเพื่อนงานคณะและงานของชั้นปีตัวเอง

"อะ อะไรของมึง"
เสียงพี่จีบตอบกลับมาตะกุกตะกักจนผมแปลกใส่เลยเงยหน้าขึ้นไปมอง บนใบหน้าหล่อเหลามีสีแดงระเรื่อ ดวงตาคมเสมองไปทางอื่นเมื่อเห็นผมกำลังจ้องอยู่.. ผมอมยิ้มนิดๆกับท่าทีน่ารักของพี่จีบที่นานๆครั้งจะได้เห็น ตอนแรกก็คิดว่าอากาศคงร้อนพี่มันเลยหน้าแดงแต่พอสังเกตรายละเอียดเล็กน้อยก็พบว่าพี่จีบกำลังเขิน

"ไปร้องเพลงงานดนตรีให้หน่อยสิครับ ~"
ผมอ้อนเสียงหวานพร้อมกับกระชับกอดรอบแขนแน่ขึ้น กระพริบตาปริบๆให้ดูน่ารักขึ้นไปอีก... ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่จีบจะคิดว่าน่ารักหรือน่าสยอง

"มะ ไม่เว้ย ร้องเพลงไม่เป็น"
พี่จีบเอามือผลักหัวผมออกไกลโดยไม่ยอมมองหน้ากัน ผมจิ๊ปากเบาๆก่อนจะปล่อยแขนเขาออกแต่เปลี่ยนมาเป็นดึงมือหนามาจับไว้แทน พี่จีบหันขวับมามองด้วยดวงตาเบิกกว้างก่อนจะขมวดคิ้วยุ่งขึ้น

"แต่ผมอยากฟังพี่จีบร้องเพลงนี่นา นะครับ น้า ~"
มีมารยาเท่าไหร่ผมดึงออกมาใช้หมดเปลือกแล้วครับ ถ้าไม่ตกลงครั้งนี้ผมแม่งกัดหัวไอ้พี่จีบแน่ ไอ้พี่แบทก็หัวเราะบ้าบออะไรของมันไม่รู้ คนเขาช่วยแล้วยังจะมาหัวเราะกันอีก ไม่สำนึกบุญคุณ! พี่จีบเหล่มองผมที่กำลังเอาแก้มถูลงบนมือหนาอย่างอ้อนๆ แก้มกร้านแดงขึ้นอีกครั้งก่อนจะสะบัดมือตัวเองออกเบาๆ

"เออๆ ร้องก็ร้องแม่ง"
ตอบรับด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงแต่มุมปากกลับมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ ผมยิ้มกว้างก่อนจะกระโดดร้องอย่างดีใจ

"เย้ๆ พี่จีบยอมแล้ว"
ผมวิ่งวนไปรอบตัวพี่จีบก่อนจะโดนจับมารวบกอดเอาไว้จากด้านหลัง ผมตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับไปไหน

"ปะ ปล่อยผมเถอะ"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักด้วยความอายเมื่อเจอสายตาล้อเลียนของไอ้พี่แบทมองมา ทั้งๆที่ไอ้พี่จีบตกลงร้องเพลงให้แล้วไอ้พี่แบทก็ยังยืนเงียบดูปฏิกิริยาของพวกเราอยู่เฉยๆ มันต้องการอะไรวะเนี่ย ตอบ!

"มึงซนเป็นลิง กูจะปล่อยได้ไงหืม?"
พี่จีบก้มลงมากระซิบข้างหูกันจนต้องหดคอหนี คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มมองมา บางคนยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปจนผมต้องหันหน้าหลบ

"พี่จีบครับ คนมองใหญ่แล้ว ปล่อยเถอะ"
ผมใช้เสียงจริงจังพูด ใบหน้าหล่อยอมผละออกแล้วคลายอ้อมแขนปล่อยให้ผมเป็นอิสระ เสื้อผ้ายับยู่ยี่จนผมต้องจัดมันใหม่ให้เข้าที่ พี่จีบอมยิ้มน้อยๆกับสิ่งที่ผมทำโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองยังไง

"ทำหน้าบึ้งทำไม กลัวเป็นข่าวกับกูอีกเหรอ?"
พี่จีบเอื้อมมือมาดึงแก้มกันจนผมตกใจเลยถอยหนี ยอมรับว่าหน้าร้อนมากเพราะทั้งอายและทั้งเขิน

"นิดหน่อยครับ เข้าหอประชุมกันเหอะนะ"
ผมบอกก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่แบทที่กวักมือเรียกอยู่บริเวณหน้าหอประชุม พี่จีบสาวเท้าเดินตามมาแต่ก็ใช้มือรั้งไหล่ผมเอาไว้จนต้องหันไปมองแล้วก็เจอกับเขาที่กำลังเลิกคิ้วมองอยู่ด้วยความสงสัย

"กูต้องเข้าประชุมด้วยเหรอวะ?"
ผมหน้าเหวอขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่พี่จีบถาม ลืมไปว่าเขาไม่ได้อยู่ในส่วนจัดงานแต่อยู่ในส่วนแสดง ไอ้ผมก็ปล่อยไก่ตัวใหญ่อีกตามเคย ผมเกาหัวแกรกๆแล้วยิ้มเผล่ออกไป

"แหะๆ ไม่ต้องครับ งั้นผมเข้าประชุมก่อนนะ"

"เออๆ เดี๋ยวรอที่ลานคณะ"

"หา รอทำไมครับ?"
ผมร้องเสียงหลงเพราะเมื่อเช้าต่างคนต่างมาแท้ๆ แล้วจะรอผมทำไม ไม่ได้มีนัดอะไรกันด้วย

"อยากรอ ไม่ได้หรือไง?"
คำตอบกวนๆมาพร้อมกับการยักคิ้วข้างเดียวให้กัน ผมเบ้ปากเล็กน้อยแต่ก็แอบดีใจอยู่ลึกๆที่พี่จีบมานั่งรอ มันจะเป็นการทรมานพี่จีบหรือเปล่า ผมเกรงใจว่ะ

"คือรอได้ แต่ผมไม่รู้จะประชุมเสร็จเมื่อไหร่ กลัวพี่รอนานครับ แล้วอีกอย่างหนึ่งวันนี้ผมเอามอ'ไซต์มา"

"ไม่เป็นไร กูรอได้ วันนี้กูไม่ได้เอารถมา เมื่อเช้ามาพร้อมไอ้ซารัง"
ผมพยักหน้าหงึกหงักรับรู้ พี่จีบยิ้มให้ก่อนจะยกมือขึ้นยีหัวผมอีกแล้ว.. ผมยู่ปากด้วยความขัดใจ ทรงผมไม่เคยจะดูดีกับเขาเลยสักครั้ง

"พี่เป็นอะไรกับหัวผมมากไหมเนี่ย ยุ่งเหยิงหมดแล้ว"
ผมว่าก่อนจะปัดมือพี่จีบทิ้งแล้วใช้มือจัดทรงผมตัวเองลวกๆ เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นจากคนตรงหน้าทำให้ผมต้องค้อนขวับใส่

"หัวยุ่งๆดีแล้ว จะได้ไม่มีใครมอง"

"ใครที่ไหนจะมามองวะ ไม่ได้หล่อเหมือนพี่นะเว้ย"

"แต่มึงน่ารักมากนะ"

"อะ ไอ้พี่จีบ ผมไปประชุมแล้ว!!"
ไม่รู้จะเถียงมันยังไงว่าตัวเองไม่น่ารัก ไม่ใช่เพราะว่ายอมรับแต่มันเขินกับคำชมตรงๆของเขาซะอย่างนั้น ผมพูดจบก็หันหลังรีบก้าวยาวๆเข้าหอประชุมไปด้วยใจที่เต้นตึกตักทันที กว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้ก็เมื่อเจอไอ้ออยกับไอ้ภีมกวักมือเรียก

"ช้าว่ะมึง มัวทำไรอยู่"
ผมทิ้งตัวลงนั่งตรงกลางระหว่างไอ้ออยกับไอ้ภีมที่มันเว้นว่างไว้ให้ ตอนนี้เรานั่งกันเป็นวงกลมครับ วงละสิบคน คงจะแบ่งสัดส่วนแล้วว่าทำอะไรกันบ้าง

"พี่แบทดิ.. ให้กูไปยืนอ้อนพี่จีบอยู่ได้"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มให้ได้ยินแค่ไอ้ภีมกับไอ้ออย ถ้าเกิดคนอื่นที่นั่งอยู่ได้ยินมีหวังผมต้องกลายเป็นขอมดำดินตอนนี้แน่ๆ

"ว้าย อ้อนอะไรกันยะ?"
ไอ้ออยเอาไหล่บางๆมากระแซะไหล่ผมก่อนจะมองมาด้วยแววตาเป็นประกายวิบวับ ส่วนไอ้ภีมแค่โน้มตัวเข้ามารอฟังใกล้ๆอย่างเงียบๆ เพื่อนผมไม่ค่อยเผือกกันเลยเนอะ

"เสือกจริงๆ"
ผมว่าก่อนจะผลักหัวมันทั้งสองคนเบาๆ แต่ไม่มีใครยอมแพ้ในการเผือกสักคนเดียว ยอมใจจริงๆครับเพราะพวกมันก็โน้มตัวเข้ามาเสือกใหม่อยู่ดี

"เล่ามาเลย ให้ไว อย่าอิดออดอ๊อดอ๊อด"
ผมกับไอ้ภีมถึงกับหลุดขำในความติ๊งต๊องของไอ้ออย สติไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวมันสักเท่าไหร่

"เออ ก็อย่างที่พวกมึงได้ยินกันว่าพี่แบทบังคับให้พี่จีบไปร้องเพลงในงานดนตรี แต่พี่มันไม่ยอมใช่ป่ะ พี่แบทเลยให้กูไปอ้อนพี่จีบเว้ย"

"แล้วไงต่อวะ กูเห็นพี่แบทจะฆ่าพี่มันอยู่แล้ว พี่มันยังไม่ยอม"
ไอ้ภีมพูดขึ้นบ้างหลังจากที่ฟังอยู่นาน

"ก็... พอกูไปอ้อนนิดอ้อนหน่อยพี่จีบก็ยอมว่ะ"
พูดแล้วก็เผลอยกมือขึ้นเกาแก้ม เขินว่ะ อย่าให้เล่านะว่าอ้อนยังไง คราวนี้ผมมุดดินหนีแน่นอน

"อุ้ยตาย เพื่อนกูค่ะ เพื่อนกู เอาผัวอยู่หมัดแน่ๆ"
ไอ้ออยพูดด้วยเสียงดี๊ด๊าจนน่าหมั่นไส้ ผมเลยต้องเอื้อมมือไปดึงแก้มมัน ใบหน้าสวยบึ้งตึงมันยกมือเรียวขึ้นฟาดลงบนมือผมทันทีทันใด ผมเบ้ปากก่อนจะยอมปล่อยแก้มมันให้เป็นอิสระ

"ทำร้ายกู"
มันแยกเขี้ยวใส่ผมก่อนจะสะบัดหน้าจนปลายผมมันโดนหน้าผม เจ็บสัดๆเลยครับพี่น้องครับ ผมเอนตัวไปพิงไอ้ภีมเพราะหลบผมไอ้ออย

"มึงนั่นล่ะ พูดเชี่ยไร ใครผัวใคร บ้าบอ"

"พี่จีบไงผัวมะ...อื้ออ"
ไอ้ออยพูดเสียงดังเกินไปจนผมต้องเอื้อมมือไปปิดปากมันไว้เพราะคนที่นั่งล้อมวงทั้งหมดหันมามองพวกผมเป็นตาเดียว ไอ้ออยที่ดิ้นในตอนแรกกลับหยุดนิ่งเมื่อเจอสายตาของคนอื่นๆมองมา

"เออๆ กลุ่มเราได้หน้าที่อะไรวะ?"
ผมปล่อยไอ้ออยให้เป็นอิสระก่อนจะดึงความสนใจของเพื่อนในวง ดีหน่อยที่ทุกคนตรงนี้เป็นเพื่อนในสาขากันหมดเลยไม่มีใครติดใจอะไรมาก

"ดูแลพวกวงดนตรีกับจัดคิวการประกวดน่ะ"
แพทตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่เครียดอย่างเห็นได้ชัด ก็แค่ดูแลป่ะวะทำไมต้องเครียดอ่ะ คนหล่องงจัง

"อ๋อ แล้วทำไมต้องทำหน้าเครียดวะแพท?"
ผมถามกลับไปแล้วมองหน้าเพื่อนมันที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับผม ไอ้ทอยแยกเขี้ยวใส่ผมก่อนจะทำท่าให้ผมหุบปากซะ... ผมเลิกคิ้วมองเพราะไม่เข้าใจที่ในกำลังจะสื่อ แต่ก็สังเกตได้ว่าแพทมีสีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

"คือ.. วงมหา'ลัยมีแฟนเก่าเราด้วย"
เสียงหวานสั่นเครือตอบกลับมา.. ผมถึงบางอ้อตอนนั้นเดี๋ยวนั้นและทำอะไรไม่ถูกก่อนจะยิ้มแหยๆส่งให้ไอ้ทอยที่นั่งส่ายหัวเบาๆราวกับเหนื่อยใจ แพทกับทอยเป็นฝาแฝดชายหญิงครับ หน้ามันสองคนคล้ายกันมาก จะบอกว่าไอ้ทอยสวยเหมือนแพทคงจะไม่ผิดมากนัก แต่นิสัยมันแมนมาก แมนๆเตะบอลเหมือนผมนี่ล่ะ.. คิดว่าผมยังแมนนะเว้ย!

"งั้นเอางี้ดิ พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่มย่อย กลุ่มหนึ่งดูแลวงมหา'ลัยกับวงดนตรีที่จะเชิญมา ส่วนอีกกลุ่มดูแลเรื่องจัดคิวประกวดดีป่ะ?"
ไอเดียดีๆมาจากตัวท็อปของชั้นปีอย่างไอ้เกมเด็กแว่นที่ไม่ได้เนิร์ดอะไรเลย แต่เพราะมันสายตาสั้นดูอะนิเมะมากก็แค่นั้น

"เออดีๆ"
ทุกคนพูดออกมาแทบจะพร้อมกัน ซึ่งมันเป็นความคิดที่ดี ให้แพทไปอยู่กลุ่มจัดคิวการแสดงก็หมดเรื่อง ไม่ต้องพบเจอแฟนเก่าให้ลำบากหัวใจ

"งั้น คิส ออย ภีม ภพ กู จะดูและวงมหา'ลัยกับวงดนตรีที่จ้างมาเอง ส่วนที่เหลือก็ดูแลเรื่องการจัดคิวประกวด โอเคป่ะ?"
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยยกเว้นไอ้ออยที่นั่งเงียบมาตลอดแถมยังแผ่รังสีดำมืดออกมาอีกด้วย.. ผมสะกิดมันเบาๆก่อนจะได้รับสายตาดุดันกลับมา

"เป็นไร?"
ผมถามมันกลับไปด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ไอ้ภีมก็ยื่นหน้าเข้ามามองด้วย ร่วมด้วยช่วยกันเป็นห่วงเพื่อนคืองานของเรา

"กูไม่อยากอยู่กับภพ"
ไอ้ออยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆจนผมอ้าปากหวอ ไอ้ภีมเองก็เผลอขมวดคิ้วเหมือนกัน ผมไม่ค่อยรู้เรื่องระหว่างออยกับภพสักเท่าไหร่ รู้แค่ว่าสองคนนี้เคยเรียนที่เดียวกันตอนมัธยม

"เดี๋ยวนะ พวกมึงทะเลาะอะไรกัน?"
ผมถามด้วยความงง ไอ้ออยไม่ตอบอะไรแต่เดินออกไปจากตรงนี้ซะเฉยๆเดือดร้อนให้ไอ้ภีมต้องเดิมตามไปติดๆแล้วฝากให้ผมเคลียร์เรื่องงานที่เหลือ

"เอ่อ.. ขอโทษแทนออยด้วยนะภพ มันคงเมนส์มามั้ง แหะๆ"
ผมก้มหัวขอโทษพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆไปให้ ภพส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะยกยิ้มบาง

"ไม่เป็นไร กูย้ายไปอยู่กลุ่มนู้นแล้วกัน ทอยมึงมาอยู่แทนกูได้ป่ะ?"
ประโยคหลังภพหันไปขอร้องไอ้ทอย แต่..ทอยมันจะยอมมาดูแลแฟนเก่าของพี่สาวตัวเองเหรอวะ? ผมได้แต่นั่งลุ้นคำตอบจากไอ้ทอยไม่ต่างจากคนอื่นๆ มันทำท่าทางคิดหนักก่อนจะพยักหน้าตกลงเมื่อแพทยิ้มเป็นเชิงอนุญาต

"เออ ได้ๆ"
ทอยสลับที่กับภพแล้วมานั่งรวมกลุ่มสรุปงานส่วนของเรากัน เสร็จจากตรงนั้นผมก็เดินหาออยกับภีมไม่เจอ แต่ได้รับสายจากพวกมันว่าแยกย้ายกันกลับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว ผมเลยเดินไปที่ลานคณะเพื่อจะไปหาพี่จีบ แต่พอไปถึงเท่านั้นล่ะอยากจะเดินกลับทันที ก็จะอะไรซะอีก.. ผู้หญิงเข้าไปนั่งคุยด้วยเยอะแยะ เห็นแล้วน่าหงุดหงิด ผมยืนพิงเสาใต้ตึกคณะแล้วมองพี่จีบนิ่งๆ ท่าทางดูมีความสุขดี ก็เพราะเป็นคนอัธยาศัยดีล่ะมั้งถึงคุยได้กับทุกคนแบบนั้น เป็นผมเข้าหน่อยเถอะแทบไม่อ้าปากพูดกับคนแปลกหน้าเลย

"ไอ้คิส!"
พี่จีบหันมาเจอผมที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่แล้วเรียกกันเสียงดังจนผมสะดุ้งแล้วยอมเดินผละออกจากต้นเสาอันเป็นที่รัก ผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพี่จีบก็มองมายังผมเช่นกัน สายตาของพวกเธอดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด

"นั่งก่อนดิ"
พี่จีบชวน ส่วนผมพยักหน้ารับแล้วเดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้อีกตัว แต่โดนพี่จีบดึงแขนให้นั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดียวกันจนแทบจะนั่งตัก เพราะที่มันแคบเกินไปสำหรับผู้ชายตัวใหญ่ๆสองคน

"พี่ มันนั่งลำบาก"
ผมกระซิบบอกเบาๆก่อนจะแกะมือปลาหมึกของอีกคนออก สายตาเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยความหวาดหวั่น ไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบเชอร์อีกแล้ว

"นั่งนี่ล่ะ อย่างอแง"
พี่จีบมองดุๆก่อนจะหันไปยิ้มสดใสให้เธอทั้งสองคน ส่วนผมก็ทำได้แค่แอบถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วพยายามขยับไม่ให้หัวไหล่ชิดกับตัวอีกคน เอาง่ายๆคือผมนั่งครึ่งก้น

"นี่... เรื่องในเพจคนดังมหา'ลัยเป็นเรื่องจริงเหรอคะ?"
ผู้หญิงผมสั้นแต่งหน้าจัดถามขึ้นก่อนจะใช้สายตาไม่เป็นมิตรมองตรงมาที่ผม พี่จีบเหลือบมองกันก่อนจะยกแขนขึ้นพาดไหล่ผมอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ผมไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะทำไปอาจจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเหมือนจะผิดไปซะทุกอย่าง

"จริงครับ ผมบอกนุ่นไปหลายครั้งแล้วนะ"
พี่จีบย้ำเสียงคำว่าหลายครั้งจนคนชื่อนุ่นทำหน้าบึ้ง.. ทำไมผู้หญิงที่เข้ามาชอบพี่จีบมีแต่พวกเอาแต่ใจ ฟังคำปฏิเสธของคนอื่นไม่รู้เรื่องวะ หรือเพราะไอ้พี่จีบอัธยาศัยดีจนดูเหมือนให้ความหวังคนอื่นไปทั่ว

"แต่คนอย่างจีบ.. ไม่น่าจะชอบผู้ชายนี่คะ"

"ความชอบมันจำกัดได้ด้วยหรือครับ?"
พี่จีบถามกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แววตาคมฉายแววจริงจังจนคนชื่อนุ่นเผลอเม้มปากเข้าหากันแน่น

"แต่.. น้องเขาเป็นผู้ชาย จีบเป็นเกย์เหรอ?"
เธอมองผมอีกครั้งก่อนจะเบะปากลงไม่เกรงใจว่าจะเสียมารยาทแค่ไหน ส่วนผู้หญิงผมยาวหน้าหวานอีกคนหนึ่งเอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมพูดจา เอาแต่จ้องหน้าพี่จีบด้วยแววตาเศร้า

"เปล่าครับ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคนในโลก ผมชอบแค่คิส"

"แต่ยัยฟีมชอบจีบมากนะคะ"
เธอหันไปมองหน้าเพื่อนสาวที่มาด้วยกันก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมเธอเบาๆคล้ายกำลังปลอบโยน

"ฟีมชอบผมมากแล้วนุ่นล่ะครับ ชอบฟีมมากหรือเปล่า?"
นุ่นชะงักไปก่อนจะเบิกตาโพลงแล้วทำท่าอึกอักกับคำถามของพี่จีบ.. ถ้าผมเดาไม่ผิดคือ พี่นุ่นชอบพี่ฟีม แต่พี่ฟีมชอบพี่จีบ พี่นุ่นเลยอยากจะช่วยคนที่ตัวเองชอบให้มีความสุข.. ถึงแม้ตัวเองจะต้องเจ็บอ่ะนะ? ผมโคตรนับถือเลยว่ะ

"จะ จีบพูดเรื่องอะไรคะ?"
เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือเรียวที่เคยลูบหัวฟีมกลับตกลงข้างตัวราวดับไร้เรี่ยวแรง

"ผมถามครับว่านุ่นชอบฟีมมากหรือเปล่า ไม่สิ ต้องถามว่านุ่นรักฟีมมากหรือเปล่าต่างหาก"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากนิดๆราวกับเขารู้เรื่องของนุ่นอย่างละเอียด รู้แม้กระทั่งความรู้สึกลึกๆที่นุ่นมีให้กับฟีม

"บะ บ้าน่า จีบถามอะไรแปลกๆ นุ่นเป็นเพื่อนกับฟีมนะ นุ่นก็ต้องรักฟีมเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"

"นุ่นครับ นุ่นควรบอกฟีมนะว่าจริงๆแล้วนุ่นรู้สึกยังไงกับฟีม อย่าเสียเวลากับผมเลยครับ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่มีวันชอบฟีมหรอก ขอโทษนะ"
พี่จีบพูดจบแล้วจับมือผมให้ลุกขึ้นตามก่อนจะพาผมออกมาจากตรงนั้น

"พี่จีบ..ปล่อยไว้แบบนั้นมันจะดีเหรอ?"
ผมถามขณะที่เราเดินตรงไปลานจอดรถมอ'ไซต์ทั้งๆที่มือของเรายังจับกันอยู่

"ดีแล้วน่า หรือมึงชอบให้กูเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นวะ?"
พี่จีบหยุดเดินเมื่อมาถึงรถของผม เขาหันมาก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอกุญแจรถ ผมส่งให้โดยไม่อิดออด เพราะหลังๆมานี้พี่เขาไม่แกล้งผมแล้ว แค่เรื่องขี่รถเร็วอ่ะนะ

"ก็เปล่า พี่จีบนี่ฮอตเนอะ ใครๆก็รุมชอบ"
ผมว่าก่อนจะหยิบหมวกกันน็อกมาใส่อย่างรู้หน้าที่ พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะจับหมวกแล้วบังคับให้ผมสบตากับเขา

"แต่มีคนนึงว่ะที่ไม่ชอบกูสักที"

"ใครที่ไหนวะ?"

"มึงไง"

"รู้ได้ไงว่าไม่ชอบ?"
ผมถลึงตามองกลับไป มากล่าวหากันแบบนี้ได้ไงทั้งๆที่ผมก็ชอบเขาอยู่ ชอบมาหลายเดือนแช้วด้วย

"พูดแบบนี้แสดงว่ามึงชอบกูแล้วเหรอ?"
ในแววตาคมเหมือนมีความหวังซ่อนอยู่ แต่สิ่งที่ผมจะตอบออกไปคงทำให้พี่จีบผิดหวัง

"ชอบนะ พี่จีบเป็นไอดอลของผม"

"เฮ้อ เปลี่ยนสถานะให้กูสักทีเหอะคิส กูไม่อยากได้แฟนคลับเพิ่ม"
พี่จีบปล่อยมือจากหมวกกันน็อกก่อนจะคร่อมตัวขึ้นรถทำให้ผมรีบถามขึ้นไปซ้อนท้ายทันที

"อ้าว แล้วพี่อยากได้อะไรเล่า?"
ผมถามออกไปเสียงดังเพราะกลัวคนที่กำลังออกรถไม่ได้ยิน

"กอดเอวกูดิแล้วกูจะบอก"
เสียงทะเล้นดังขึ้นพร้อมกับความเร็วรถที่เพิ่มขึ้น แต่ผมก็ยังพยายามนั่งโดนไม่ยอมกอดเอวพี่จีบเหมือนเดิมถึงแม้ความกลัวกำลังแทรกซึมเข้ามา

"ไม่กอดเว้ย อย่ามาหลอกกันให้ยาก อ๊ากกก"
ไม่ทันจบประโยคดีไอ้พี่จีบก็เร่งความเร็วจนผมตกใจแล้วเผลอตะครุบกอดมันก่อนจะเอาหน้าซุกลงไปบนแผ่นหลังกว้างด้วยความกลัวสุดใจ เสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากสะใจดังมาจากคนขี้แกล้ง จนผมต้องกำหมัดแล้วทุบเข้าที่หน้าท้องมันเบาๆ ฮึ่ย หมั่นไส้

"กูอยากได้แฟนครับ รีบชอบกูแล้วมาเป็นแฟนกันเถอะ!"
โวยยย ไม่อยากรู้แล้ว ไม่อยากฟังแล้ว ฮือ ใครก็ได้มาชิงตัวผมลงจากรถตัวเองที ไอ้ประโยคเมื่อกี้ทำใจเต้นกว่ากลัวความเร็วอีก เกลียดมัน เกลียดๆๆๆๆ เกลียดไอ้พี่จีบที่ขยันหยอด ขยันจีบ ขยันทำให้ใจเต้น ขยันทำให้หน้าร้อน ฮือ เกลียดที่สุด เขาบอกว่าเกลียดอะไรจะได้อย่างนั่นใช่ไหมล่ะ! ขอเกลียดพี่จีบไปจนตายเลยแล้วกัน



------------------------------------------


Q & A กับพี่จีบ
Q : ร้องเพลงไม่เป็นจริงๆเหรอ?
A : เปล่าหรอกครับ แต่ความจริงคือขี้เกียจ
Q : อ้าว นิสัยไม่ดีเลยอ่ะ แต่ก็ยอมร้องเพราะคิสขอนี่
A : ถ้าลำพังไอ้แบทขอผมไม่ยอมหรอก แต่นี่คิสขอไงครับผมเลยยอม ^^
Q : อ่อยย อิจฉา อยากเกิดเป็นคิสอ่ะ!!
A : เกิดสิครับ แต่ผมชอบได้แค่ คิส อินธิพัฒน์ คนเดียวนะ ♡
Q : ..... หึ!!




น้องคิสกับพี่จีบมาแล้ว งานดนตรีคงจะวุ่นวายน่าดูล่ะ.. แบทเอาจีบมาล่อคนดูขนาดนี้
อาจจะเกิดการหึงหวงขึ้นได้ 555555555 ยังไงก็รอติดตามตอนต่อๆไปเนอะ

อ่านให้สนุกน้า ♥

หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-08-2016 19:10:53
ต้องร้องเพลงก่อนนะคะ แล้วค่อยขอน้องเป็นแฟน
ชะนี้จงมาดูจะได้รู้พร้อมๆกัน ชิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-08-2016 19:29:22
งานดนตรีครั้งนี้คงได้เห็นใครซักคนหึงแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 01-08-2016 19:32:58
เลาก็ชอบ มินกะฟองนะ คนเหนือเดือน 5555
อ้าว นี้ตกลงคิสยังมองพี่จีบเป็นไอดอลอยู่หรอออ โอ้ยยยยยคิสเอ้ยย
เค้ารุ้กันหมดเเล้วป่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 01-08-2016 20:28:18
รอฟังพี่จีบร้องเพลง

 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 01-08-2016 20:35:47
เมื่อไหร่เค้าจะเเป็นแฟนกัน :hao7:
นี้ก็ทำตัวเหมือนแฟนกันเข้าไปทุกที
เผลอคิดว่าคิสจีบเป็นแฟนกันตลอดอ่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 01-08-2016 20:58:12
อ่อยใหญ่มากค่ะ พี่จีบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 01-08-2016 21:19:02
พี่จีบชอบแกล้งน้องงงงงง

รีบๆ ชอบพี่จีบเร็วๆ นะน้องคิส
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-08-2016 21:28:13
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
อยากฟังพี่จีบร้องเพลงงงงงงงงง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-08-2016 23:03:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 01-08-2016 23:18:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-08-2016 00:18:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-08-2016 15:00:13
ถ้าได้คิสเป็นนี่ มองเห็นอนาคตอันใกล้ของพี่จีบได้เลยค่ะ 55555 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-08-2016 21:41:29
ง่อวววววง เจอท่าไม้ตายของคิสเข้าไป ขออะไรพี่จีบก้อคงให้ 555555555
จีบนี่เสน่ห์แรงจิงๆนะเนี่ย สาวมาตอมหึ่งเบยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 03-08-2016 15:55:18
- ดื่มครั้งที่ 13 -



"ปุจฉา"

"วิสัชนา"

"อะไรเอ่ย นั่งก็ห้อย ยืนก็ห้อย ร้อยทั้งร้อยเป็นของผู้ชาย?"

"คำถามเชี่ยไรเนี่ย ไข่?"

"ไอ้น้องจูบ มึงทะลึ่งอ่ะ กูรับไม่ได้!"

"เอ้า ก็ดูคำถามมึงดิออย อะไรห้อยๆ"

"เนคไทพอไหม?"

"อ่าวเหรอ กูไม่รู้"

"เออๆ ปุจฉา"

"วิสัชนา"

"อะไรเอ่ย.. ต / พอไหมออย มึงอยากจะถามอะไรก็ถามมา ไม่ใช่มานั่งเล่นปัญญาอ่อนกับไอ้คิส"
ผมกับไอ้ออยหันขวับไปหาต้นเสียงที่ทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ ตอนนี้พวกเรานั่งเล่นกันอยู่ที่ลานคณะหลังจากเรียนภาคเช้าจบแล้ว

"มึงอย่าเร่ง ให้กูคลายเครียดกับไอ้คิสก่อน"
ไอ้ออยพูดเสียงเครียดพร้อมกับส่งสายตาจริงจังไปให้ไอ้ภีมที่ต้อนนี้ยกแก้วชาเขียวขึ้นมาดูดทั้งๆที่มันเป็นของผม เพื่อนเชี่ย!

"มึงเล่นปุจฉาวิสัชนากับมันมาสิบรอบละ กูรำคาญ"
มันวางแก้วชาเขียวที่ว่างเปล่าลงแล้วเลื่อนมาคืนผม เหลือแต่น้ำแข็งมึงยังจะคืน ไอ้สัด! ถ้าไม่ติดว่าเป็นแฟนพี่ดีพนะผมเอาไม้หน้าสามฟาดแม่งให้ตายไปแล้ว ผมเบ้ปากใส่มันก่อนจะหยิบน้ำแข็งในแก้วปาใส่ มันหลบได้แถมยังยักคิ้วกวนตีนให้กันอีก

"ไปซื้อน้ำมาคืนกูเลยนะไอ้ภีม!"
ผมพูดเสียงลอดไรฟันก่อนจะบีบแก้วชาเขียวแน่น คือซื้อมาเพิ่งดูดได้อึกเดียว นอกนั้นไอ้ภีมจัดการเรียบช่วงที่ผมเล่นปุจฉาวิสัชนากับไอ้ออยนี่ล่ะ.. ระวังตัวไว้เถอะมึงกูจะฟ้องพี่ดีพแล้วยุให้มันจับมึงทำเมีย หึหึ

"ไม่ ก็มึงปล่อยให้มันละลาย กูเสียดายของ อุตส่าห์ช่วยกิน"
มันว่าก่อนจะยิ้มกวนตีนมาให้ ผมแทบจะลุกขึ้นถีบมันให้กระเด็น แต่ทำได้แค่นั่งฮึดฮัดอยู่กับที่ เพราะขนาดตัวที่ต่างกันทำให้ผมต้องเจียมสังขาร

"เชี่ย มึงมันเชี่ยยยยย!"
ผมด่าก่อนจะแยกเขี้ยวใส่มันแล้วคว้าซองมันฝรั่งทอดกรอบตรงหน้ามันมากินแทน แล้วความเชี่ยก็มาเยือนอีกครั้งเมื่อมือล้วงไปเจอแต่ความว่างเปล่า พอเอาหน้าส่องเข้าไปในถุงกลับพบว่ามันไม่เหลือสักชิ้น อ๊าก กูอยากจะบ้า กูอยากเป็นทีเร็กซ์ จะไล่ขย้ำมันให้ตายคาปากกู!

"มึงจะแดกของกูทุกอย่างเลยหรือยังไง!"
ผมขว้างถุงขนมใส่มัน แต่ไม่โดนหรอกก็ถุงมันเบาขนาดนี้ ไอ้ภีมหัวเราะเบาๆแล้วเอื้อมมือมาตบบ่าผมเหมือนจะเห็นใจกันแต่ความจริงคือกวนตีนล้วนๆ

"กูไม่แดกพี่จีบอ่ะบอกเลย"

"พ่องงง พี่จีบไม่ใช่ของกู"
ผมด่ามันไปแต่กลับหน้าร้อนวูบวาบจนต้องยกมือขึ้นมาปิดแก้มตัวเอง ไอ้ภีมไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมาเอาแต่หัวเราะหึหึเหมือนคนโรคจิต

"ออย คิ้วมึงจะผูกโบว์กันแล้ว"
ไอ้ภีมทักไอ้ออยจนผมต้องเงยหน้ามองด้วย จากผู้หญิงที่เคยร่าเริงตอนนี้กลายเป็นผู้หญิงเงียบขรึมนิ่งเงียบไปซะอย่างนั้น

"กูเครียดจริงๆนะ"

"ตกลงมึงจะถามอะไรพวกกู?"
ผมเป็นฝ่ายถามขึ้นบ้าง แล้วขยับไปทิ้งตัวลงข้างๆมันแล้วยกมือลูบหัวไอ้ออยเบาๆ

"สมมตินะ.. ถ้ามึงเลิกกับแฟนเก่าแล้วตกลงเป็นเพื่อนกัน แต่วันหนึ่งมันกลับมาขอคืนดี มึงจะทำไงวะ?"

"มันเป็นใคร?"
ผมกับไอ้ออยหันขวับไปหาไอ้ภีมทันที.. คือมันไม่ตอบคำถามแถมยังถามกลับมาอีก มันเป็นใครอะไร ไอ้ออยแค่สมมติไม่ใช่เหรอ? หรือว่า....

"อะ อะไรของมึงภีม ถามอะไรออกมา"
ไอ้ออยละล่ำละลักพูดก่อนจะเบนสายตาหลบไอ้ภีม ไม่เคยมีใครที่สามารถปิดบังไอ้ภีมได้ถ้ามีสกิลการโกหกต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

"มึงตอบมาว่าแฟนเก่ามึงเป็นใคร ไม่ต้องมาสมมติ"
ไอ้ภีมถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้น สีหน้าของมันจริงจังไม่มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด ไอ้ออยที่หลบหน้าหลบตาไอ้ภีมอยู่ถอนหายใจออกมาเบาๆ

"กูเคยโกหกอะไรมึงได้สักครั้งป่ะเนี่ย"
ไอ้ออยขยี้หัวตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด บางทีก็อยากให้มันห่วงสวยบ้างอะไรบ้าง แอบเพลียใจผู้ชายที่มาชอบมันฉิบหาย

"รู้ว่าโกหกไม่ได้ก็ตอบมา"

"เออๆ ก็ไอ้ภพนั่นล่ะ อยู่ๆก็กลับมาขอคืนดีห่าไรไม่รู้ ทั้งๆที่แม่งทิ้งกูแล้วไปเป็นเมียคนอื่น"

"หา!!"
ผมกับไอ้ภีมร้องเสียงหลงขึ้นมาพร้อมกัน ดวงตาเบิกกว้างเพราะตกใจกับสิ่งที่ไอ้ออยเล่า ช็อกยิ่งกว่าตอนรู้ว่าไอ้ภีมกับพี่ดีพเป็นแฟนกันอีก.. นี่ไอ้ภพเคยเป็นเมียคนอื่นด้วยเหรอวะ ฉิบหายแล้ว หล่อลากดินขนาดนั้นเนี่ยนะ กูจะร้องไห้เมื่อมองดูตัวเอง แล้วอย่างผมจะเหลือรอดไปเป็นผัวใครได้ล่ะ

"มึงจะหาเชี่ยไรเสียงดังนักหนา คนอื่นมองแล้วเนี่ย"
ไอ้ออยแจกมะเหงกให้กับผมและไอ้ภีมคนละที ใบหน้าสวยๆของมันยิ่งเครียดหนักขึ้นไปอีก

"โทษๆ ก็กูตกใจอ่ะ"
ผมพูดเสียงเบาก่อนจะนอนลงบนแขนที่เหยียดยาวไปกับโต๊ะ ไอ้ออยถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนจะทำตามผม ตอนนี้เราเลยนอนมองหน้ากันอยู่

"ตกลงพวกมึงจะทำยังไง?"

"มึงยังรักภพหรือเปล่า?"
เสียงนิ่งๆของไอ้ภีมถามขึ้นแต่สีหน้ามันไม่ได้แสดงความเครียดอะไรออกมา ในมือกลับมีป๊อกกี้รสช็อกโกแลตอยู่ในมืออีก.. คือขนมกูไหมล่ะ!

"มึงหยุดแดกขนมกูทีเหอะ"
ผมกลับไปนั่งตัวตรงเหมือนเดิมก่อนจะเบะปากแล้วกรอกตามองบนไปให้ มันทำแค่ยักไหล่แบบไม่แคร์ก่อนจะยัดป๊อกกี้สองแท่งเข้าปากหน้าตาเฉย พอผมขยับตัวไปคว้ามันก็เอากล่องหลบด้านหลังอีก ฟายยยย ขนมกู!

"ได้ข่าวว่าพี่จีบซื้อมาให้"
ชะ เชี่ย... พูดไม่ออกเลยไงครับ เพราะเมื่อกี้ไอ้พี่จีบมาหาที่คณะแล้วหย่อนทั้งขนมทั้งชาเขียวให้ผมก่อนจะกลับไปเรียนต่อ ไม่ใช่อะไรหรอก มันไลน์มาโทรมาแล้วผมไม่รู้เรื่องเพราะปิดเสียงปิดสั่นโทรศัพท์เอาไว้ พี่เขาเลยต้องถ่อสังขารมาหาพร้อมกับบอกว่าเย็นนี้รอมันซ้อมดนตรีด้วย

"ฮ่วย ไม่เถียงกับมึงแล้ว กลับมาเรื่องไอ้ออยต่อ"
ผมบอกปัดๆเพราะรู้สึกไม่ว่าจะพูดอะไรก็แพ้มันทุกที ไอ้ออยเบ้ปากใส่ผมกับไอ้ภีมที่เอาแต่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ

"ควรจะพูดเรื่องกูให้จบแล้วค่อยกัดกันนะ"

"กูไม่ใช่หมา!"
ผมกับไอ้ภีมตะโกนออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายจนต้องหันไปก้มหัวขอโทษคนอื่นๆที่มองมาด้วยสายตาไม่พอใจ ฮือ ไม่ได้ตั้งใจจะเสียงดังเลยจริงๆนะ

"เร็วๆตอบมา กูเครียดจนหิวอีกรอบละ"
ไอ้ออยว่าด้วยสีหน้าบูดบึ้งก่อนมือเรียวสวยของมันจะล้วงเข้าไปหยิบขนมปังไส้ทูน่ามากิน.. คือของกูอ่ะ พี่จีบซื้อให้กูแดกนะเว้ย ผมยังไม่ได้แตะสักอย่างเลยเถอะ!

"มึงตอบกูก่อนไหมออย"

"ตอบไรวะ"
มันคาบขนมปังไว้เต็มปากแต่ยังเสือกอยากพูด ไม่เข้าใจทำไมมึงไม่ดึงขนมปังออกมาก่อนแล้วค่อยพูดวะ ซกมกไม่มีใครเกินจริงๆ

"กูถามว่ามึงรักมันอยู่หรือเปล่า"

"อ๋อ.. เปล่า ไม่ได้รักแล้ว"
ไอ้ออยตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ แววตาไร้ความรู้สึกเมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับภพ

"แล้วจะเครียดทำไม ไม่รักก็ไม่ต้องกลับไปคบ"

"เออรู้ แต่อึดอัดว่ะ"

"ช่างมันสิ เรื่องของมัน มันจะคิดยังไงก็ช่างป่ะวะ"
ผมพูดบ้าง ไม่ใช่ว่าอยากให้เพื่อนเป็นคนเลวอะไร แต่ภพมันเป็นคนทิ้งออยไปเองแล้วมาขอคืนดีแบบนี้ เป็นใครก็ต้องไม่ไว้ใจเป็นธรรมดาป่ะ แถมยังเคยไปเป็นเมียคนอื่นอีก จะกลับมาแมนร้อยเปอร์เซ็นคงยาก อย่างมากก็แค่เป็นไบ

"แต่มันเป็นเพื่อนที่ดีนะเว้ย ไม่อยากเสียเพื่อน"
ไอ้ออยกลับมาพูดเสียงเครียดอีกครั้งจนผมต้องยกมือขึ้นจับไหล่มันแล้วออกแรงบีบเบาๆ ผมเข้าใจว่าออยอยากรักษาความเป็นเพื่อนกับภพไว้ แต่ภพล่ะ.. ที่เขาทำแบบนี้เขาไม่ต้องการรักษาความเป็นเพื่อนหรือเปล่า

"มึงไม่อยากเสียเพื่อน แต่ภพเขาคิดแบบเดียวกับมึงหรือเปล่าออย"
ผมพูดเสียงอ่อนแล้วยกมือขึ้นลูบหัวมันเบาๆ ไอ้ภีมมองออยด้วยสายตาเป็นห่วง มือหนาของมันเอื้อมมาจับมืออยแล้วบีบเบาๆเพื่อให้ผ่อนคลาย ไม่ว่ายังไงพวกผมก็อยู่ข้างออยเสมอ

"อืม คงไม่ กูจะไม่สนใจแม่งละ"
ไอ้ออยพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ไม่ได้แคร์เลยว่าพวกผมที่จับตัวมันอยู่จะเป็นยังไง... สะดุ้งกันไปคนละทางสิครับรออะไร

"แล้วนี่มึงจะไปไหน?"
ไอ้ภีมเงยหน้ามองไอ้ออยที่กำลังก้าวขาออกจากโต๊ะ ผมมองตามไปด้วยเช่นกัน งงมาก

"จะกลับบ้านไปนอนละ เมื่อคืนคิดเรื่องแม่งจนไม่ได้หลับได้นอน หาวิธีรักษาคำว่าเพื่อนอยู่ตั้งนานสองนาน"

"อ่าว ไม่อยู่รอพี่จีบซ้อมดนตรีเหรอวะ?"
ผมถามด้วยหน้าเหวอๆ ตอนแรกมันตกลงจะอยู่เป็นเพื่อนผมรอพี่จีบอ่ะ ส่วนไอ้ภีมมีนัดเลี้ยงสายรหัสตอนสี่โมง

"เปลี่ยนใจละ กูไม่ใช่เมียเขา อยู่ไปเขาก็ไม่สนใจ ชิ"
ท้ายประโยคมันปรายตามามองก่อนจะสะบัดหน้าแรงๆจนผมสยายเหมือนนางพญาแล้วเดินจ้ำอ้าวปล่อยให้ผมอ้าปากพะงาบๆเพราะไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าในความบ้าของมันดี

"ไอ้ออยแม่ง บ้า"
ผมสบถออกมาเบาๆก่อนจะยืดแขนทั้งสองข้างไปตามความยาวของโต๊ะ ไอ้ภีมยกแขนหลบแล้ววางทับลงบนมือผมหน้าตาเฉย เจ็บนะเว้ย

"มันก็เป็นงี้มานาน ยังไม่ชินอีกหรือไง?"
ไอ้ภีมพูดก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นโดยที่ช่วงแขนมันยังตั้งทับมือผมอยู่ ผมเบ้ปากเพราะข้อศอกมันกดลงมาบนแขนจนเจ็บไปหมดแล้ว

"เชี่ยย ขยับแขนมึงออกไป๊ กูเจ็บ"
ผมโวยวายเสียงไม่ดังนัก ไม่กล้าสุ่มสี่สุ่มห้าดึงมืออกหรอก ถ้าไปขูดกับโต๊ะแล้วเป็นแผลขึ้นมาเรื่องใหญ่อีก

"โอ้ะ กูก็ว่าทำไมโต๊ะนุ่มจัง โทษๆ"
มันยิ้มทะเล้นก่อนจะยอมยกแขนออกจากมือกัน ผมแยกเขี้ยวก่อนจะยกนิ้วกลางให้แม่งไปแบบเต็มๆหน้า หงุดหงิด รุมแกล้งกันอยู่ได้!

"มึง"
หลังจากที่ต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์กันอยู่นานผมเลยทำลายความเงียบด้วยการเรียกคนตรงหน้า มันเหลือบตามองกันก่อนจะลดโทรศัพท์ที่บังหน้าลงก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

"มีอะไร"

"มึงว่าพี่จีบชอบกูจริงๆเหรอวะ?"
ผมยังคิดไม่ตกเลยนะที่เดือนบริหารหน้าตาระดับเทพขนาดนั้นมาชอบผม หรือมันจะพนันอะไรไว้กับเพื่อนวะ ถ้าจีบผมติดให้เงินสองหมื่นแล้วก็ทิ้งผมไรงี้.. คิดแล้วก็เครียดว่ะ

"ขนาดนี้ละ ยังจะถามอีกเหรอ ไปรับไปส่ง หาของมาให้แดก ปฏิเสธผู้หญิงที่มาชอบ บอกคนอื่นๆว่ากำลังจีบมึง มีอะไรทำให้มึงไม่มั่นใจในตัวพี่จีบอีกวะ ยังจริงใจจริงจังไม่พออีกหรือไง?"
ไอ้ภีมวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทั้งๆที่เกมยังดำเนินต่อไป เอ้ยๆ แม่งนั่นมึงโดนบอสตีจะตายห่าอยู่แล้วนะสนใจมันหน่อยไม่ใช่เอาแต่จ้องหน้ากู

"กะ ก็.. มันหน้าตาดีหล่อขั้นเทพขนาดนั้นมาชอบคนอย่างกูเนี่ยนะ แถมเป็นผู้ชายอีกต่างหาก"
มันจ้องผมจนพูดติดอ่างเลยไง.. อย่าแดกหัวกูนะภีม กูไม่เคยมีคนมาจีบนี่หว่า!

"ถ้ากูเป็นพี่จีบนะ ไม่กูจับมึงปล้ำก็เลิกชอบมึงซะ จะได้จบๆเรื่องไป คิดห่าอะไรนักหนาวุ่นวาย คนมันจะชอบมันก็ชอบป่ะวะ แล้วอีกอย่างที่หอไม่มีกระจกหรือยังไง ไม่เคยรู้เหรอว่าหน้าตัวเองเป็นแบบไหน"

"อะ อะไร ไม่ขนาดนั้นป่ะวะ แล้วหน้ากูมันเป็นยังไง?"
ผมพูดตะกุกตะกักแล้วยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองทั้งสองข้าง ไอ้ภีมพูดซะผมเสียความมั่นใจไปเลยว่ะ หน้ากูขี้เหร่ขนาดนั้นเลย

"นี่กูพูดกับคนหรือควาย"

"คนดิ กูไม่ใช่ควาย"

"อ๋อเหรอ เห็นโง่"

"ไอ้สัดภีม!!"
ผมชี้หน้าด่ามันมือสั่นปากสั่นไปหมด เรื่องอะไรมาด่าผมเป็นควายวะเนี่ย ไม่ได้ตัวดำนะ ออกจะขาวออร่าขนาดนี้!

"เบาๆป่ะ เดี๋ยวมึงจะโดนรุมกระทืบ เสียงดับฉิบหาย"
ไอ้ภีมทำหน้ากวนตีนก่อนจะทำท่าจับหูส่ายไปมา ผมกระฟัดกระเฟียดแยกเขี้ยวใส่มัน เพราะแพ้อีกแล้ว อย่าให้ชนะบ้างนะ!

"บอกมาได้แล้วว่าหน้ากูเป็นยังไง"
ผมถามย้ำก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอก ปากบางๆเบะคว่ำลงจนไอ้ภีมหัวเราะออกมา

"มึงน่ารัก ตัวขาว ปากแดง ตากลมๆ รวมๆแล้วโคตรน่าฟัด ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเพื่อนกู อย่าหวังว่าไอ้ดีพจะมีโอกาสได้กูเป็นแฟนเลย"
ผมอึ้งกับสิ่งที่มันพูดออกมา.. เชี่ย ไหนคำว่าหล่อวะ แล้วที่กูมั่นใจมาตลอดสิบแปดสิบเก้าปีคืออะไร ฮึก ไม่จริง กูไม่ได้น่ารัก ไอ้เชี่ยภีมโกหก!

"หมายความว่าไงวะ!"

"หมายความว่ากูจับมึงทำเมียไปนานแล้วไง"
มันพูดก่อนจะยักคิ้วจึกๆให้กัน ผมอ้าปากพะงาบๆเพราะไม่รู้จะด่ามันว่าอะไรดี ไอ้ห่า ไอ้เลว จ้องจะปล้ำกูตลอดเวลาเลยหรือยังไง!

"กูจะโทรไปฟ้องไอ้พี่ดีพเดี๋ยวนี้ว่ามึงเคยคิดจะปล้ำกู!"
ผมโวยวายก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเป้บนตัก แต่ยังไม่ทันได้กดเบอร์โทรออกก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังอยู่ด้านหลังซะก่อน

"ใครปล้ำใครวะ?"
พี่จีบทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันก่อนจะมองผมสลับกับไอ้ภีม ส่วนพี่คินกับพี่แก๊ปก็นั่งบนเก้าอี้ที่เหลืออีกสองตัว

"พี่จีบ ไอ้ภีมมันคิดจะปล้ำผม!"
เอาสิ ได้ทีกูฟ้องพี่จีบก่อนเลย ไอ้ภีมโดนกระทืบแน่ๆรับรอง

"ว้าว ภีมคิดเหมือนพี่เลยว่ะ น้องคิสน่าปล้ำเนอะ"
ผมหันขวับไปทางต้นเสียง ไอ้พี่คินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมยังกอดคอไอ้ภีมซะด้วย โอย พวกมึงบกพร่องทางสายตาเหรอถึงอยากปล้ำกูกันเนี่ย ระบบประสาทพังเหรอ!

"น้อยๆหน่อยพวกมึง กูนั่งหัวโด่อยู่นี่"
พี่จีบว่าเสียงแข็งก่อนจะแจกมะเหงกให้ไอ้ภีมกับพี่คินไปคนละทีสองที พี่แก๊ปยกยิ้มเหมือนกำลังสะใจอยู่

"ไรว้า ก็น้องมันน่าปล้ำจริงๆ"
ไอ้พี่คินยังยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยน จนพี่จีบส่ายหน้าเอือมๆ

"พูดไรเกรงใจไอ้แก๊ปบ้าง นั่งหัวโด่อยู่เนี่ย"
พี่จีบทำปากยื่นปากยาวมาทางพี่แก๊ปที่นั่งอยู่ข้างๆผม พี่เขาไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนอย่างที่พี่จีบบอกเพราะเจ้าตัวทำเพียงยักไหล่ไม่ใส่ใจ

"เห็นไหมๆ ไอ้แก๊ปใจดีจะตาย เนอะ"
พี่คินส่งยิ้มหวานให้สามี(?) ผมมั่นใจเกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นว่าพี่แก๊ปเป็นสามีแน่ๆ อีกสามสิบเปอร์เซ็นเหลือเอาไว้เผื่อวันดีคืนดีพี่คินมันคึกกดพี่แก๊ป

"อืม ใจดีมากจนคืนนี้ต้องขอจัดหนักมึงสักสี่ห้ารอบ"
พี่แก๊ปยกยิ้มมุมปากก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้เมีย(?) พี่คินอ้าปากกว้างก่อนหน้าขาวๆจะแดงแจ๋เป็นลูกมะเขือเทศสุก บางปากพะงาบๆไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา

"เดี๋ยวครับ ตกลงว่าพี่แก๊ปกับพี่คินคบกันเหรอ?"
ไอ้ภีมที่นั่งทำหน้าหมางงมานานถามขึ้นด้วยความอยากรู้ ซึ่งไม่ต่างจากผมมากนัก ถึงพอจะเดาได้แต่ก็อยากฟังความจริงจากปากทั้งสองคนเอง

"คบดิวะ ถามไรแปลกๆ คบมาตั้งสามปีแล้วเนี่ย"
ไอ้พี่คินรีบแย่งพี่คินพูดทันที... นี่ก็เฉไฉแถจนสีข้างถลอกแล้วม้าง คนฉลาดอย่างพี่คินจะไม่รู้เชียวหรือยังไงว่าไอ้ภีมหมายถึงอะไร

"ยังนะมึง ยัง"
พี่แก๊ปพูดขึ้นมาส่งผลให้ผมกับไอ้ภีมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คือยังอะไรของพี่มันวะ ทาทายังมาเหรอ??

"ยังอะไรของมึงอ่ะแก๊ป"
พี่คินถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ตากลมไหวระริก คือ...อีกคนจ้องเขม็ง อีกคนกลัวจนตัวสั่น เหมือนฉากเสือกำลังจะแดกกวางในสารคดีสัตว์เลยว่ะ!

"ยังไม่สำนึกอีก"
พี่แก๊ปว่าเสียงนิ่งๆ แต่ไอ้พี่จีบดันหัวเราะไม่เข้าสถานการณ์ขึ้นมาซะอย่างนั้น ทำให้ไอ้พี่คินถึงกับหน้าเหวอมากกว่าเดิม

"มึงตายแน่ๆคืนนี้ ทำอะไรพูดอะไรไม่รู้จักคิดให้รอบคอบ ผัวขี้หึงก็น่าจะรู้ตัวดีนะคิน"
พี่จีบว่าพร้อมกับยกมือขึ้นโยกหัวไอ้พี่คินไปมาราวกับเอ็นดูนักหนา ผมแอบหงุดหงิดที่มืออบอุ่นของพี่จีบแตะลงบนหัวขนอื่นว่ะ

"เงียบๆๆๆ เงียบเลยนะมึง แก๊ปมึงอย่าโกรธกูดิ ก็ยังไม่ชินกับสถานะใหม่นี่หว่า"
พูดไปก็ก้มหน้าไปแต่มันไม่สามารถซ่อนได้มิดหรอกครับ ก็เล่นหน้าแดงลามไปถึงหูซะขนาดนั้น

"ไม่ชิน? โดนแดกอยู่ทุกคืนยังไม่ชินอีกเหรอ แบบนี้ต้องเพิ่มรอบแล้วมั้ง"

"อะ ไอ้เชี่ย หยุดความหื่นของมึงเลยนะ มานี่กับกูเลย!"
ไอ้พี่คินรีบลุกขึ้นมาดึงไอ้พี่แก๊ปที่นั่งยิ้มหน้าบานออกไปจากโต๊ะ คงจะทั้งเขินทั้งอายที่สามีตัวเองพูดเรื่องบนเตียงแบบไม่อายปาก ไอ้พี่จีบน้อยหน้าซะที่ไหนตะโกนแซวตามหลังไปด้วย

"อย่ารุนแรงนะเว้ย พรุ่งนี้มีสอบย่อย!"
แล้วมันก็นั่งหัวเราะเอิ้กอ้ากบ้าบออยู่คนเดียว พอสังเกตเห็นว่าผมกำลังจ้องอยู่มันก็หุบปากแล้วยักคิ้วให้แทน กวนตีนไม่มีใครเกินอ่ะ

"เออ แล้วไม่มีเรียนเหรอพี่ เพิ่งบ่ายสองเองนะ"
ผมถามออกไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าปกติวันนี้พี่จีบจะเลิกเรียนตอนสี่โมงเย็น ผมไม่ได้จำตารางเรียนมันนะเว้ย.. แค่บังเอิญคิดขึ้นมาได้อ่ะ อย่าจับผิดกันนะ!

"อาจารย์ปล่อยเร็ว"
พี่มันตอบสั้นๆก่อนจะล้วงกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบอมยิ้มออกมาส่งให้ผม มันเป็นอมยิ้มกลิ่นโคล่าที่ผมชอบกิน ส่วนอีกอันเป็นกลิ่นวนิลลาที่ผมเกลียด




ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 12 -P.7- (01.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 03-08-2016 15:55:49
ต่อ




"ไม่กลัวผมฟันผุหรือไง?"
ว่าไปแบบนั้นแต่มือก็รับอมยิ้มมาแกะเข้าปากทันที อา.. อร่อย ฟิน ปลื้มม

"เดี๋ยวกูทำความสะอาดฟันมึงให้เอง"
พี่จีบพูดโดยไม่ได้มองหน้ากันเพราะมันกำลังยื่นอมยิ้มกลิ่นวนิลลาให้กับไอ้ภีมอยู่ แม่ง..ไม่ได้ให้ผมคนเดียวเหรอ ชิ!

"ไม่ต้อง ผมแปรงฟันเองได้"
ผมว่าเสียงงอนๆก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ตัวเดียวกัน แล้วย้ายไปนั่งแทนที่พี่แก๊ป

"ใครบอกจะแปรงฟันให้วะ?"
พี่จีบถามก่อนจะแกะอมยิ้มรสโคล่าเหมือนของผมเข้าปากแล้วเท้าคางมองกัน ผมเลิกคิ้วสูงเพราะไม่เข้าใจว่านอกจากแปรงฟันแล้วจะให้ทำความสะอาดฟันด้วยวิธีไหน จะบอกว่าบ้วนปากก็ไม่ต้องช่วยป่ะวะ

"อ้าว แล้วช่วยผมยังไงอ่ะ?"

"ดีพคิส มึงรู้จักป่ะ?"
พี่จีบยิ้มกริ่มก่อนจะขยับมานั่งใกล้ผมเข้าไปอีก ผมผงะแล้วสไลด์ตัวไปจนเกือบตกเก้าอี้ ดีนะมีไอ้ภีมช่วยเอาตีนยันก้นไว้ ขอบใจมากเพื่อน.. ชายเสื้อนักศึกษากูเป็นรอยรองเท้าเลยไอ้สัด!

"อะ !!!!!"
ภาพการดีพคิสที่เคยพบเจอตามเว็บหนังโป๊ฉายชัดใจสมอง ลิ้นร้อนกวาดไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็ก ดูดดุนหยอกล้อกันไปมา.. มันชอนไชไปตามฟันเรียงตัวสวยของอีกคน ไอ้เชี่ยพี่หื่น กูจะฆ่ามึง!!

"ออกตัวแรงว่ะพี่ แบบนี้จีบไอ้คิสติดแน่ๆ"
ไอ้ภีมยิ้มกริ่มก่อนจะยัดอมยิ้มเข้าปากไปอีกคน ผมได้แต่เบ้ปากใส่คนนั้นทีคนนั้นทีเพราะไม่รู้จะโต้ตอบกลับไปยังไง

"เออ ไอ้คิส พี่รหัสมันไลน์มาตามตัวกูละ"
อยู่ๆไอ้ภีมก็พูดขึ้นมา.. ตามอะไรของมัน ไหนบอกนัดสี่โมงไงอย่ามาตอแหล!

"นี่เพิ่งบ่ายสองกว่า จะรีบตามไปไหนวะ?"

"เห็นบอกว่าลุงรหัสกูเลิกเรียนไวเลยเลื่อนเวลานัด"
ไอ้ภีมยกโทรศัพท์ขึ้นมาจิ้มๆหน้าจอ สงสัยจะตอบไลน์สายรหัสของมัน

"แล้วน้องรหัสมึงไม่มีเรียนเหรอไง"
ผมพยายามยื้อเวลาไอ้ภีมให้ได้มากที่สุดเพราะการอยู่กับไอ้พี่จีบสองคนมันอันตรายต่อหัวใจผมมาก

"แล้วน้องรหัสมึงมีเรียนไหมล่ะ"
มันถามผมกลับก่อนจะกรอกตามองบน.. เออว่ะ น้องมันกับน้องผมก็เรียนเซคเดียวกันแถมเป็นเพื่อนสนิทกันอีก นี่กูเป็นควายจริงๆใช่ไหม

"งั้นมึงจะไปแล้วอ่ะดิ"

"เออ พี่จีบ ผมฝากมันด้วยนะครับ ไปนะมึง บาย"
แล้วมันก็รีบร้อนเดินออกไปปล่อยให้ผมอ้าปากค้างเพราะเตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันว่ะ รีบอะไรขนาดนั้นวะเนี่ย อย่าให้รู้ว่าเมาเป็นหมานะ พ่อจะฟ้องพี่ดีพให้ยับเลย

"ไปไหนกันดีวะ อีกตั้งเกือบสองชั่วโมงถึงจะซ้อม"
พี่จีบเอ่ยถามขึ้นมาขณะมองมาที่ผม ไม่ใช่สิ เรียกว่าจ้องกันเลยดีกว่า ผมเบนหลบสายตานั่นเพราะหัวใจกำลังเต้นแรงขึ้นมาอีกแล้ว เดี๋ยวนี้การได้อยู่กับพี่จีบสองคนทำให้ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่เรื่อย

"ไม่รู้เหมือนกัน"

"ไปกินไอติมป่ะ กูเลี้ยง"
พี่จีบเสนอจบผมรีบหันขวับไปมองอาเสี่ยจีบด้วยตาเป็นประกายก่อนจะพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เรื่องกินขอให้บอก ไอ้คิสสู้ตาย..

"ไป ~"
สิ้นสุดคำผมก็โดยพามานั่งที่ร้ายไอติมใกล้ๆมอ เราสั่งฮันนี่โทสต์หนึ่ง แพนเค้กหนึ่งแล้วมาแบ่งกันกิน.. ให้อารมณ์มาเดทแบบเต็มที่ คิดแล้วก็คันหัวใจยิบๆยังไงไม่รู้ มันเขินๆตอนพี่จีบตกฮันนี่โทสต์มาป้อนกัน ฮือ ผมว่าผมเริ่มจะโอนเอนไม่มีความมั่นคงเข้าซะแล้วล่ะ

ตอนนี้ผมโดนปล่อยทิ้งอยู่ตรงซุ้มขายน้ำในตึกคณะ พี่จีบโดนไอ้พี่แบทโทรตามกะทันหัน ผมเลยอาสาจะซื้อน้ำซื้อขนมไปให้มันแทน หลังจากได้ของครบก็เดินตรงไปที่ห้องซ้อมดนตรีของคณะทันที หน้าประตูห้องมีร่างของพี่แบทยืนพิงอยู่ ในมือถือกระดาษเอกสารอะไรบางอย่างเอาไว้ และท่าทางเหมือนกำลังรอใครบางคนอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปทัก

"หวัดดีพี่"
ผมยิ้มก่อนจะยกมือไว้อย่างทุลักทุเลเพราะถุงขนมกับน้ำมันหนัก ไอ้พี่แบทยกมือรับไว้ลวกๆแล้วขำกับท่าทางของผม

"หิ้วไรมาเยอะแยะวะ"

"เสบียงของพี่จีบอ่ะ"
ผมตอบก่อนจะยกถุงพลาสติกสูงขึ้นแล้วหมุนไปมาตรงหน้าตัวเอง ไม่รู้จะสั่งอะไรนักหนา พี่แบทยิ้มล้อเลียนผมซะอย่างนั้น

"มีส่งเสบียง อิจฉาไอ้จีบวุ้ย แล้วมีของกูบ้างป่ะ?"

"หึ ไม่มีอ่ะ นี่เงินพี่จีบล้วนๆ"
ผมยิ้มเผล่ ก็ไม่ได้มีเงินถึงขนาดซื้อขนมแจกใครป่ะวะ สิ้นเดือนแล้วด้วยพ่อกับแม่ยังไม่คัมแบคเลยเถอะ ฮันนีมูนจนน้ำผึ้งพระจันทร์จืดหมดแล้ว

"งกนะมึง ซื้อขนมเลี้ยงผัวหน่อยไม่ได้"
ไอ้พี่แบทเบ้ปาก ส่วนผมแยกเขี้ยวใส่มัน จะบ้าหรือยังไงพูดอะไรวะเนี่ย!

"ผัวเผออะไรพี่! มั่วซั่ว แล้วนี่มายืนรอใคร?"
ผมถามสิ่งที่สงสัยตั้งแต่แรกออกไป เห็นยืนหน้าบูดเป็นตูดนานละ

"รอมือกีต้าร์ ใช้มันไปซื้อบุหรี่ แม่งไม่รู้ไปผลิตเองอยู่หรือเปล่า"
พี่แบทว่าเสียงหงุดหงิด มันเป็นคนไม่ชอบรออะไรนานๆ ครั้งหนึ่งเคยนัดเลี้ยงสายรหัสแล้วผมนอนเพลินจนลืม.. ซึ่งมันมารอรับผมไง ช้าไปสิบนาทีมันด่าผมหนึ่งชั่วโมงเต็มอ่ะ แดกเหล้าไม่อร่อยเลยวันนั้น

"ยังสูบบุหรี่อยู่อีกเหรอวะ เหม็นจะตาย"
ผมว่าก่อนจะย่นจมูกใส่มันทำท่ารังเกียจ ไอ้พี่แบทถลึงตาใส่ก่อนจะผลักหัวผมเบาๆ

"กูบอกแล้วไง ถ้าได้มึงเป็นเมียเมื่อไหร่จะเลิกสูบ"
พี่แบทพูดก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้กัน รอยยิ้มทะเล้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคายนั่น.. ไอ้นี่ก็ขี้แกล้ง! ผมใช้ผ่ามือดันหน้าผากมันออกไปก่อนจะเดินหนีไปเปิดประตูห้องซ้อมแล้วหันไปตะโกนด่ามัน

"งั้นก็สูบให้ตายไปเลย ไอ้พี่เชี่ย!"
แล้วผมก็ปิดประตูห้องซ้อมลง.. ไม่ทันดูว่าใครอยู่ข้างในห้องบ้าง ผมขอโทษ ฮือ

"มาแล้วเหรอ ช้าจริง"
เสียงพี่จีบทักขึ้นผมเลยหมุนตัวไปเผชิญหน้ากันแล้วต้องพบเจอกับความหงุดหงิดอันใหญ่หลวงเมื่อเห็นมือคีย์บอร์ดสาวผมสั้นนั่งแนบชิดอยู่ข้างๆพี่จีบ ในมือมีกระดาษที่เขียนรายชื่อเพลงยาวเหยียด สงสัยจะเลือกเพลงกันอยู่.. แต่ที่ตั้งกว้างไม่ต้องเบียดขนาดนั้นก็ได้มั้ง!

"คุยกับพี่แบทอยู่หน้าห้อง เอานี่ขนม"
ผมยื่นถุงขนมไปตรงหน้าพี่จีบแล้วทิ้งตัวลงนั่งโซฟาเดี่ยวที่ตั้งอยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนนั้นส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้กัน ส่วนผมยิ้มตอบไปตามมารยาท ไม่เคยเห็นคนๆนี้มาก่อน ส่วนมือเบส มือกลองผมรู้จักดีอยู่แล้ว

"เป็นไรของมึง หน้าหงิกๆ"
พี่จีบขยับมาใกล้ผมก่อนจะใช้มือหนาจับคางบังคับให้มองสบตากัน ผมเบะปากใส่มันก่อนจะสะบัดหน้าหนี

"ไม่ได้เป็นไร จะกลับบ้านแล้วนะ"
ทั้งๆที่ก้นเพิ่งหย่อนสัมผัสกับโซฟาเมื่อกี้กลับออกตัวแรงว่าจะกลับบ้านซะอย่างนั้น มึงมีความขัดแย้งในตัวเองมสกเลยนะอินธิพัฒน์ ถ้าอิธพัฒน์มันรู้เรื่องเข้าต้องพาผมไปพบจิตแพทย์แน่ๆ

"อย่าหนี มึงเป็นอะไรไอ้คิส"
พี่จีบจับไหล่ผมไว้แน่นแล้วจ้องมาด้วยสายตาจริงจังจนผมไม่กล้าขยับหนีไปไหน ไอ้มือเบสกับมือกลองมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็จ้องมองมาตาเป็นประกายเชียว กูรู้สึกขนลุกแปลกๆแล้วนะ

"เปล่าไง ไปเลือกเพลงต่อดิ"
ผมดันแขนพี่จีบให้พ้นจากไหล่ตัวเองแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาไม่ยอมให้มันจับตัวอีก พี่จีบลอบถอนหายใจเบาๆก่อนจะขยับกลับไปแนบชิดกับผู้หญิงคนนั้นอีกรอบ เสียงคุยกระหนุงกระหนิงดังมาไม่ขาดสาย โอ้ย ทำไมคุยแต่เรื่องอื่นวะ ไหนอ่ะเลือกเพลงอไหนอ่ะงาน หงุดหงิดๆ ทำไมต้องนั่งเบียดกัน นั่งตักกันเลยไหมล่ะ!! ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออยู่อย่างนั้นเพราะไม่สามารถทำอะไรได้ ฮึ่ย อยู่ๆไอ้ความรู้สึกหวงบ้าบอนี่มันอะไรกัน.. ไม่ใช่ว่าผมชอบพี่จีบไปแล้วนะ?

"ไอ้คิส"

"อะไร!"
อุบ... ผมเผลอตวาดเสียงดังลั่นเมื่อโดนพี่จีบเรียก จะแก้ตัวยังไงดีวะ เมื่อกี้มันเผลอระงับอารมณ์ไม่ทันอ่ะ ตายแน่ๆ พี่จีบฆ่ากูแน่ๆ

"มึงหงุดหงิด"

"ก็..นิดหน่อย"

"ไม่ใช่ว่า..."
พี่จีบพูดแล้วเว้นระยะก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วยกแขนขึ้นพาดไหล่ผู้หญิงข้างๆ ไหล่ของเธอซ้อนทับบนแผ่นอกกว้าง ทำไมต้องแนบชิดขนาดนั้นวะ ทนไม่ไหวแล้วนะ ผมกัดฟันกรอดพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่แสดงอาการอะไร

"อะไร"

"มึงกำลังหึงกูเหรอ?"
เกิดเดตแอร์ขึ้นชั่วขณะ.. ผมใบ้กินไปตามระเบียบ ความรู้สึกต่างๆมากมายกำลังพรั่งพรูเข้ามาเหมือนสายน้ำไหล และในตอนนี้ความรู้สึกบางอย่างที่ผมสงสัยมานานกลับชัดเจนแจ่มแจ้ง.. ชัดมากจนไม่กล้ายอมรับว่าผม 'ชอบพี่จีบ' เข้าให้แล้ว

"มโน ขี้มโนวะ!"
พูดจบก็รีบวิ่งออกมาจากห้องซ้อมทันที ได้ยินเสียงไอ้พี่จีบตะโกนไล่หลังมาแต่ผมไม่มีทางหยุดให้มันจับตัวได้แน่ๆ เดี๋ยวมันจะรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับมัน ยังไม่พร้อมจะบอกตอนนี้ ขอหนีก่อนแล้วกันนะครับ!!



---------------------------------------------



Q & A กับพี่จีบ
Q : จีบรู้จักผู้หญิงทีเป็นมือคีย์บอร์ดด้วยเหรอ?
A : ญาติผมเอง ชื่อ ‘ชเว อึนนา’
Q : ทำไมมีญาติชื่อเกาหลีขนาดนั้น?
A : อ่าว ผมไม่เคยบอกเหรอครับว่าผมเป็นลูกครึ่ง ไทย-เกาหลี ^^
Q : จีบจะบอกคิสเรื่องนี้ไหม?
A : ถ้าไม่ถามก็ไม่บอกครับ เห็นคนหงุดหงิดแล้วผมอารมณ์ดี
Q : ........ เอาที่สบายใจเลย






เหยยยยย น้องคิสรู้ใจตัวเองแล้วนะ 555555555
ออกอาการหึงหวงอย่างเห็นได้ชัดเลยไง จนพี่จีบอดแกล้งไม่ได้
แต่น้องยังคงปากแข็งต่อไปนะ... ถ้าไม่ถามก็ไม่บอก ตรรกะเดียวกันกับจีบเป๊ะๆ

อ่านให้สนุกน้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 03-08-2016 16:11:10
 :laugh: มาเม้นก่อน ปั่นงานอยู่ยังไม่ได้อ่าน เเต่ตาไวมาก 555555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-08-2016 16:19:23
 :impress2:  น่ารักมากๆเลยน้องจูบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 03-08-2016 17:53:36
ก็ว่าอยู่ทำไมคราวก่อนรัวภาษาเกาหลี เป็นลูกครึ่งเกาหลีนี่เอง

และๆๆๆๆ เริ่มรู้ตัวแล้วสินะน้องคิส โฮะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 03-08-2016 18:43:17
คิสงอนเลยนนน งอนรัวๆ ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-08-2016 19:19:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-08-2016 19:33:22
พี่จีบแกล้งน้อง

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-08-2016 19:45:59
อั๊ยยะ คิสรู้ใจตัวเองแล้วอ่ะ พี่จีบขอหวานหน่อยค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-08-2016 20:00:10
พี่จีบขี้แกล้ง :mew3: :mew3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 03-08-2016 20:48:02
พี่จีบ น้องจูบ นางหึง 5555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-08-2016 22:03:03
คิสยอมรับเถอะ ว่าชอบพี่จีบแล้วน่ะ 555555 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-08-2016 22:18:33
เอร๊ยยยยยย คิสหึงหนเามืดจนรู้ใจตัวเองเลยอ่ะ 5555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 03-08-2016 22:22:33
ขอฉากฟินๆ แบบเน้นๆ ฟินๆจนตัวเเตกได้ป่าววววววววววววววว  :hao6:
พี่จีบนี้รู้จุดอ่อนของคิสเเล้วสินะ งั้นต่อไปขอให้คิสหึงพี่จีบอีก เเล้วตะโกนบอกเเม่งเลย พี่จีบของคิส 5555555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-08-2016 23:30:46
พี่จีบชอบแกล้งน้องคิสนะ ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 03-08-2016 23:43:55
หนูจูบปากแข็งอะไรเยี่ยงนี้ พี่จีบจับดูดให้ปากอ่อนซิ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 13 -P.7- (03.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 04-08-2016 08:38:53
พี่จีบตามน้องคิสไปเลยยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 04-08-2016 13:05:44
- ดื่มครั้งที่ 14 -




กลิ่นกาแฟที่คุ้นเคยลอยวนอยู่ในอากาศภายในร้านสีอบอุ่น ร่างสูงภายใต้เสื้อกั๊กสีดำสนิทกำลังเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความชำนาญ มือเรียวบรรจงจับวางแก้วลงบนจานรองอย่างเบามือ น้ำกาแฟสีน้ำตาลอ่อนกระเพื่อมเล็กน้อยก่อนจะหยุดนิ่งเผยเห็นเห็นรูปร่างลาเต้อาร์ตได้ถนัดตา

"เชิญดื่มครับ"
รอยยิ้มพิมพ์ใจถูกส่งมาให้กันพร้อมกาแฟลาเต้ที่มีควันสีขาวลอยคลุ้ง ผมเผลอมองบาริสต้าจนลืมสนใจสิ่งที่สั่งไปเมื่อครู่ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาฟาดนิ้วเรียวลงบนแก้มผมเบาๆเป็นการเรียกสติ

"ไอ้คิส มึงมองอะไรกูนักหนา จะแดกกูแทนกาแฟหรือไง?"
สติของผมทั้งหมดถูกดึงกลับมาเมื่อได้ยินพี่จีบพูดถึงการแดก... ใครจะแดกพี่วะแม่ง บรึ๋ย แค่คิดก็เสียว เอ้ย สยองแล้ว

"พูดไรวะ กินกาแฟดิไม่กินพี่หรอก"
ผมมุ่ยหน้าก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาเป่าแล้วจรดกับริมฝีปากเพื่อรับรสชาติที่คุ้นเคย ความหวานของนมบวกกับความเข้มข้นของกาแฟทำให้สัมผัสที่ได้รับช่างมีความกลมกล่อมเกินจะบรรยาย

"เออ ลืมไปว่ากูต้องเป็นฝ่ายกินมึง"
พี่จีบยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะหันหลังกลับไปจัดการเมนูต่อไปของลูกค้า ผมเบิกตากว้างแล้วสำลักกาแฟอย่างหนัก พูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าทำให้คนอื่นจะบ้าตาย ถ้าหัวใจวายขึ้นมาจะรับผิดชอบยังไง ไหนตอบ!

"แค่กๆ ใครจะให้พี่กิน ฝันไปเหอะ แค่กๆ"
ผมปิดปากแล้วไอโขลกออกมาก่อนจะยกแก้วน้ำเปล่าที่มีบุคคลใจดีอย่างหนุ่มน้อยหน้าหวานยกมาเสิร์ฟแถมยังช่วยลูบหลังกันอีกด้วย

"ใจเย็นๆนะพี่คิส โดนพี่อัศวินของผมจีบลำบากหน่อยนะ"
ซารังว่าขำๆก่อนจะนั่งลงทีาเก้าอี้บาร์ข้างๆกัน เราทั้งสองคนมีจุดโฟกัสเดียวกันคือแผ่นหลังของบาริสต้าคนหล่อ

"ลำบากยังไงเหรอซารัง?"
ผมถามน้องกลับไปแล้วไอออกมาเล็กน้อย แก้วน้ำดื่มถูกวางลงบนเค้าน์เตอร์บาร์เหมือนเดิมแต่ปริมาณน้ำลดลง ดวงหน้าขาวใสยิ้มกว้างก่อนจะตอบคำถามกลับมา

"โดนรุกหนักไง"
ตอบจบก็หัวเราะคิกคักด้วยท่าทีน่ารัก.. ว่าที่คุณหมอน่ารักแบบนี้คนไม่ป่วยก็อยากป่วยล่ะวะ ใครได้ซารังเป็นแฟนคงมีความสุขทุกวันแน่ๆ

"โห.. จะช้ำในตายแล้วครับ จีบแบบฮาร์ดคอร์ ทะลึ่ง ลามก ครบจริงๆ"
ผมพูดเสียงกระซิบเพราะกลัวว่าคนที่ทำงานอยู่จะได้ยินขึ้นมา.. ยังไม่อยากเอาสวัสดิภาพตัวเองไปเสี่ยงกับพ่อปลาไหลสักเท่าไหร่ ตั้งแต่รู้ตัวเองว่าชอบพี่จีบในสถานะที่ต่างออกไปก็ระวังตัวมากขึ้น เพราะกลัวว่าจะเผลอตัวเผลอใจให้มันแต๊ะอั๋งเอาง่ายๆ นี่ขนาดระวังตัวแล้วนะ วันที่ผมอยู่รอมันซ้อมดนตรีวันแรกยังโดนมันกอดอยู่เลย ฮึ่ย วิ่งหนีไม่พ้นจริงๆ

"เป็นผู้ชายแซ่บๆครบรสไงครับพี่คิส ต้องลองชิมนะแล้วจะติดใจ"
น้องซารังกระซิบกระซาบก่อนจะขยิบตาให้กัน ผมหน้าร้อนวูบเมื่อฟังจบ.. ชะ ชิมเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว พี่จีบมันจะแซ่บขนาดนั้นเลยหรือไงวะ น้องชายมันถึงขนาดโฆษณาแบบนี้

"เอ่อ.. น้องซารังได้ค่าจ้างเท่าไหร่?"
ผมถามพร้อมกับเหล่ตามอง ซารังทำตาโตก่อนจะส่ายหัวพรืดแล้วขำออกมา

"พี่จีบมันไม่เสียเงินกับเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกครับ พี่ผมดีจริงๆน้า พี่คิสไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ?"
ซารังมองผมด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมเบนหน้าหนีก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่น กลัวจะเผลอยิ้มกลัวว่าไอ้พี่จีบมันจะรู้ ไม่ใช่อะไรหรอก.. เขิน

"เฮ้ๆ ซารังทำอะไร?"
เสียงทุ้มดังขัดจังหวะทำให้ผมรอดตัวไปกับคำถามของซารัง แก้วเอสเพรสโซ่ถูกยัดใส่มือคนน้องแถมยังโดนสายตาดุๆจ้องอีกด้วย ซารังไหวไหล่แบบไม่ทุกข์ร้อนก่อนจะยิ้มหน้าระรื่นตอบคำถามพี่ชายตัวเอง

"มาจีบพี่คิส ทำไมอ่ะ หวงเหรอ?"
กวนประสาทพี่ชายตัวเองไม่พอยังยักคิ้วใส่อีก ไม่วายเอามือข้างที่ว่างมาดึงแก้มผมแล้วเดินหนีไปเสิร์ฟกาแฟซะดื้อๆโดยทิ้งระเบิดเอาไว้ให้ผมลูกมโหฬาร พี่จีบหันมาจ้องเขม็งจนผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก อยู่ๆก็รู้สึกอยากเป็นลมหนีปัญหาขึ้นมาซะอย่างนั้น

"มันจีบเหรอ?"
น้ำเสียงแข็งๆถามมาทำให้ผมรีบส่ายหัวรัวๆ

"ไม่ได้จีบ แค่คุยกันเฉยๆ พี่จะดุทำไมเนี่ย"
ผมว่าก่อนจะยกแก้วลาเต้ขึ้นมาจิบอีกครั้ง มันทำให้ผมไม่ต้องมองหน้าพี่จีบไง.. เป็นวิธีหนีแบบเนียนๆของผมเองล่ะ

"ก็กูหวง"
เขากอดอกแล้วจ้องผมไม่ยอมวางตา สีหน้าจริงจังจนผมหน้าร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นระรัว.. มันจะขยันทำงานมากเกินไปแล้วนะ

"นั่นน้องชายพี่นะเว้ย"

"กับใครกูก็หวงทั้งนั้นล่ะ ยังจีบไม่ติดเลยเถอะ"
พี่จีบพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้า ดวงตาคมจ้องมองมาที่ผมอย่างอ้อนวอน.. ขอร้องครับอย่าทำหน้าแบบนั้นเลย ไอ้คิสจะอ่อนระทวยแล้ว ฮือ อย่าแอทแทคกันแบบนี้ได้ไหม ผมเบนสายตาหนีก่อนจะขยับตัวลงจากเก้าอี้บาร์ อยู่ตรงนี้นานๆอาจจะเกิดการละลายจากของแข็งกลายเป็นของเหลวได้

"ผะ ผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ"
ผมวางเงินค่ากาแฟเอาไว้ก่อนจะหันหลังเดินตรงไปที่ประตูร้าน ตอนนี้เวลาเที่ยงตรงผมต้องเข้าไปเรียนวิชาเลือก

"เดี๋ยวก่อน"
เสียงพี่จีบรั้งขาที่กำลังจะก้าวเดินของผมเอาไว้ก่อนที่แขนยาวๆจะคว้าข้อมือผมไปจับไว้

"มี มะ มีอะไรครับ?"
ผมมองข้อมือตัวเองก่อนจะหันกลับไปจ้องประตูร้านเขม็ง ยอมรับว่าเขินหนักมาก แต่ไม่อยากให้พี่จีบรู้เลยต้องทำตัวขรึมๆเข้าไว้

"รอแป็ปนึง เดี๋ยวกูไปส่ง"

"ผมขี่มอ'ไซต์มานะ ไม่ต้องไปส่งหรอก"
ผมบอกพี่จีบเผื่อเขาจะลืมว่าผมไม่ได้เดินมาที่ร้านสักหน่อย ที่มาเนี่ยเพื่อจะมากินกาแฟเพิ่มพลังชีวิตหรอกน่า ไม่ได้ตั้งใจจะมาเจอหน้าใครเลยจริงๆนะเออ

"อย่าขัดได้ไหม กูจีบมึงอยู่นะ เรื่องแค่นี้เรื่องเล็กป่ะวะ"
น้ำเสียงพี่จีบปนไปด้วยความน้อยใจและหงุดหงิด แรงบีบที่ข้อมือมีมากขึ้นอาจจะเพราะอารมณ์ของเขาในตอนนี้ไม่ดีนัก ผมได้แต่อ้ำอึ้งเพราะทำตัวไม่ถูกจริงๆเวลาอยู่ใกล้ พอรู้ใจตัวเองอะไรๆมันก็ดูขัดเขินไปหมด เหมือนหัวใจมันพองโตจนแทบระเบิดออกมาตลอดเวลา กลัวว่าจะเคยชินกับการมีพี่จีบอยู่ข้างๆมากไป แล้วถ้าวันหนึ่งเกิดไม่มีขึ้นมาล่ะ.. มันจะแย่หรือเปล่า

"แค่เกรงใจอ่ะ ที่สำคัญพี่ไปส่งผมเดี๋ยวก็ต้องกลับมาที่ร้านอีก ขับรถไปๆมาๆผมก็เป็นห่วงป่ะ"
ผมตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกไป มาถึงขนาดนี้แล้ว รู้สึกขนาดนี้แล้วลดความปากแข็งของตัวเองลงบ้างคงไม่แย่นักหรอกมั้ง พูดจบก็หันไปสบตากันโดยไม่หลบเลี่ยง มุมปากหยักได้รูปของเขาค่อยๆยกยิ้มขึ้น

"เป็นห่วงกูเหรอ? ทำไมทำตัวน่ารักวะ รู้ไหมว่ากูไม่อยากจีบมึงแล้วนะ"
ผมเลิกคิ้วขึ้นสูงเอียงคอเล็กน้อยเพราะกำลังสงสัยในคำพูดของพี่จีบ เขาไม่ได้ตอบคำถามผมในทันทีแต่ลากผมไปหลังร้าน ไอ้ผมก็ใจง่ายไงตามเขาไปซะเฉยๆ ระหว่างทางพี่จีบก็ฝากร้านไว้กับพี่ไลค์ไว้แล้ว

"พาผมมาตรงนี้ทำไม แล้วที่พี่พูดเมื่อกี้หมายความว่าไงครับ?"
ผมมองพี่จีบตาแป๋ว ไม่ได้จะอ้อนหรืออะไรนะ ก็มันสงสัยจริง คนมันไม่เข้าใจ

"สาบานว่ามึงไม่ได้ยั่วกู"
พี่จีบขยับหน้าเข้ามาใกล้จนผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆรดลงบนหน้า ปลายจมูกโด่งแตะแผ่วเบาลงบนปลายจมูกผม หัวใจกระตุกวาบทันทีทันใด ผมเบนหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะละลายลงตรงหน้าคนๆนี้

"ยั่วที่ไหนเล่า คิดอกุศลกับผมอยู่เรื่อยเลยนะ"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มแล้วยกมือขึ้นดันอกแกร่งนั่นให้ออกห่าง แต่แทนที่จะเป็นไปอย่างที่คิดกลับโดนพี่จีบรวบมือทั้งสองข้างเอาไว้แล้วกดปลายจมูกลงบนหลังมือกันซะอย่างนั้น ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่ใบหน้าจะร้อนฉ่า ฮือ ทำแบบนี้ฆ่ากันเลยเถอะ ฆ่ากันให้ตาย

"กูไม่อยากจีบมึงแล้วนะ อยากรวบหัวรวบหางทำให้มึงเป็นของกูซะตอนนี้เลย"
สายตากรุ่มกรุ่มถูกส่งมาพร้อมกับหน้าผากที่เคลื่อนเข้ามาแตะโดนกับผม อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ดวงตากลมหลุบต่ำลงไม่กล้ามองหน้าเขาเลยสักนิด หัวใจกำลังเต้นโครมครามเหมือนจังหวะกลอง กลัวว่าพี่จีบจะได้ยินเสียงมันจนเผลอยกมือขึ้นกุมอกด้านซ้าย คำพูดคำจาโคตรทะลึ่งแต่กลับทำให้ผมเขินจนอยากแทรกแผ่นดินหนี

"พะ พอเลยพี่ จีบหนักไปแล้วนะครับ ไม่คิดว่าผมจะเขินบ้างหรือไง"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มพยายามหลีกหนีไปหน้าหล่อที่เลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ รู้ทั้งรู้ว่าพี่จีบไม่คิดจะทำอะไรหรอกแต่ก็แอบใจสั่นอยู่ดี

"เขินสิดี แสดงว่ากูมีหวัง"
พี่เขาหัวเราเบาๆก่อนจะผละตัวออกไปแล้วยิ้มกริ่ม ผมเหลือบตามองก่อนจะหันหลังให้เมื่อเจอสายตาของคนที่อยู่ด้านหลังพี่จีบ.. ไอ้พี่ไลค์แม่งมายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ฮือ อายนะเว้ย

"แหม.. นี่มึงจะแดกว่าที่น้องสะใภ้ในร้านกูเลยหรือยังไง?"
ไม่วายเสียงทะเล้นก็ดังขึ้น ผมไม่รู้ว่าพี่จีบจะทำสีหน้ายังไงเมื่อมีคนอื่นมาเห็นฉากชวนฟินเมื่อกี้ แต่ผมนี่สิหน้าร้อนจนแทบระเบิด เดือดร้อนต้องยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเองไว้ เม้มปากกลั้นยิ้มสุดชีวิต อยากจะดิ้นให้ตายตรงนี้แต่กลัวเขาจะคิดว่าเป็นลมบ้าหมูซะก่อน

"ไอ้ไลค์ มึงนี่เสือกจริงๆเลยนะ"
พี่จีบพูดเสียงดังจนผมอยากรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลยหมุนตัวกลับไปช้าๆ ตอนนี้พี่จีบยืนประจันหน้ากับพี่ไลค์ ฝ่ายนั้นก็ยักคิ้วกวนๆมาให้กัน ส่วนพี่จีบแทบจะแยกเขี้ยวพ่นไฟใส่พี่ชายตัวเองอยู่แล้ว

"นั่นว่าที่น้องสะใภ้กูนะ กูต้องปกป้องเป็นธรรมดาอ่ะ จริงไหมครับน้องคิส"
รอยยิ้มหวานๆส่งมาให้พร้อมการขยิบตาในแบบฉบับของคนเจ้าชู้ พี่จีบถึงกับกัดฟันกรอดก่อนจะเดินมาคว้าไหล่ผมไปกอดไว้

"แต่นี่ว่าที่เมียกู เพราะฉะนั้นมึงอย่ามายุ่งจะดีกว่า"
พี่จีบว่าพร้อมกับยักคิ้วกวนกลับไม่แพ้กัน พี่ไลค์อ้าปากหวอก่อนจะยกนิ้วโป้งให้

"แรงว่ะ ยอมใจ สุดยอดจริงๆน้องกู"
พี่ไลค์ยิ้มกว้างก่อนจะตบบ่าพี่จีบเชิงให้กำลังใจ ผมถึงกับเป็นผ่ายเหวอซะเอง ก็เมื่อกี้ยังกวนประสาทกันอยู่เลยตอนนี้ญาติดีกันซะแล้ว

"อะ เอ่อ.. สะ สะใภ้อะไรกันครับ! ผมไปเรียนดีกว่า ขอตัวนะ"
ผมละล่ำละลักพูดแล้วเดินหนีออกมาจากหลังร้านไวๆ หน้าไม่ได้เงยดูทางเลยชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนเซไปชนเข้ากับผนัง มือหนาของเขารวบเอวผมเอาไว้ได้ทันท้วงที

"เป็นอะไรหรือเปล่า"
เสียงทุ้มแหบดังขึ้นมันเป็นอะไรที่คุ้นเคยจนผมต้องรีบเงยหน้าขึ้นมอง

"อ้าว ไอ้คิส"

"พี่แบท! มาทำไรที่นี่วะ"
ผมผละตัวออกจากอ้อมแขนไอ้พี่แบทแล้วจัดเสื้อผ้าตัวเอง ฝ่ายนั้นดูยังมีอาการเหวอๆแต่ไม่นานก็ยิ้มออกมาจนได้

"มึงนี่เดินไม่ดูทางเลยนะ กูมาซื้อกาแฟ"

"อ๋อ แล้วนี่มีเรียนบ่ายเหมือนผมใช่ป่ะ"

"เออดิ มึงเข้ามอยังไง"

"มอ'ไซต์ พี่ล่ะ?"

"กูโดนไอ้ปอนด์ทิ้งว่ะ อีกครึ่งชั่วโมงจะมารับ"

"อ้าว ไหงงั้นวะ พี่เข้ามอพร้อมผมเลยก็ได้นะ"
ผมถามพร้อมส่งรอยยิ้มจริงใจไปให้ พี่แบทเป็นพี่รหัสที่ดีถึงจะกวนตีนและขี้แกล้งไปหน่อยแต่ผมก็รักมันนะ

"เออ ก็ได้ๆ"

"ไม่ได้"
ผมยังไม่ทันพูดอะไรกลับไปเสียงที่สามก็ดังขึ้นขัดจังหวะทางด้านหลัง ไอ้พี่จีบยืนค้ำหัวผมอยู่ ใบหน้าคมแสดงสีหน้าเรียบเฉยแต่ความไม่พอใจฉายชัดอยู่ในแววตา กับไอ้พี่แบทมันก็ยังจะหึงเนอะคนเรา ส่วนพี่ไลค์เดินผ่านพวกเราออกไปชงกาแฟเรียบร้อยแล้ว

"อะไรของพี่วะเนี่ย"
ผมถามกลับเสียงเบาก่อนจะช้อนตามองคนด้านหลัง พี่จีบไม่ได้มองกลับมาแต่พูดกับไอ้พี่แบทแทน

"เดี๋ยวไปรถกู กูจะไปส่งไอ้คิสเข้ามอพอดี"
พี่จีบมัดมือชกผมซะอย่างนั้น ก็บอกไปแล้วไงว่าเกรงใจ ลำบาก ไม่เคยฟังกันเลยว่ะ แต่ในใจลึกๆก็แอบดีใจที่พี่จีบดูแลกันขนาดนี้นะ ถ้ามันเปลี่ยนใจไปจีบคนอื่นล่ะก็ผมเอามันตายแน่

"อ่าว แต่เมื่อกี้น้องมันบอกว่า.."

"กูไปส่ง โอเคนะ?"
พี่จีบก้มลงมองหน้าผมด้วยสายตาดุ ผมอึกอักไม่กล้าปฏิเสธเลยพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้ ไปส่งก็ไปส่งวะ ขากลับรับกลับด้วยแล้วกัน

"อื้อ โอเคๆ ไปส่งก็ไปส่ง ขากลับไปรับด้วยนะ"
ผมมัดมือชกกลับบ้างจนพี่จีบเบ้ปากใส่แต่ก็ยอมพยักหน้ารับก่อนจะยกมือหนาขึ้นยีหัวผม พี่แบทมองตรงมาที่พวกเราก่อนจะยิ้มล้อ แต่ในตาพี่เขาไม่ได้รู้สึกแบบที่แสดงออกมาทางสีหน้าเท่าไหร่.. เหมือนกำลังฝืนอะไรบางอย่าง

"ได้คืบจะเอาศอกเนอะมึงเนี่ย"
พี่จีบว่าผมก่อนจะเลื่อนมือมากอดไหล่กัน ผมเพิ่งสังเกตว่าเจ้าตัวถอดเสื้อกั๊กออกแล้ว ชุดที่กำลังใส่คือเข้าไปนั่งเรียนกับผมได้สบายๆเลยอ่ะ

"พี่จีบผมอยู่น้า ตามใจผมหน่อยดิ"
เขาหยอดผมได้ผมก็หยอดได้เหมือนกันวะ วิน-วินทั้งคู่

"เออๆ ตามใจทุกอย่างแล้วเนี่ย รีบใจอ่อนได้แล้วรู้ไหม"
มือหนายกขึ้นมาดึงแก้มกันจนรู้สึกปวดไปหมด ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะดึงแก้มพี่จีบกลับ เกิดเสียงหัวเราะทั้งจากผมทั้งจากพี่จีบทันที ไม่ยอมแพ้หรอกนะ

"หยุดเล่นกันได้แล้ว ไปมอเหอะเดี๋ยวเข้าเรียนสาย"
พี่แบทว่าเสียงเรียบก่อนจะหมุนตัวเดินนำออกไป.. คงจะไปเอากาแฟแล้วออกไปรอข้างนอกร้านเลยล่ะมั้ง พี่จีบหุบยิ้มก่อนจะมองตรงมาที่ผม

"คิส มึงรู้ตัวไหมว่ามีคนแอบชอบมึงอยู่"
พี่จีบพูดเสียงจริงจังจนผมสะดุดลมหายใจ พี่จะมามุกไหนอีกวะเนี่ย ถามมาแบบนี้คือไม่รู้ตัวเองเหรอว่าชอบผมอยู่

"รู้ดิ ก็พี่จีบไงชอบผมอยู่"
ผมยิ้มกว้างก่อนจะใช้มือจิ้มแก้มใสๆนั่นเล่นอย่างสนุกมือ แต่พี่จีบไม่ยิ้มแถมยังคว้ามือผมไปจับอีก ดีนะที่ตอนนี้เรายังอยู่ในส่วนของทางเดินไปหลังร้าน ผมหุบยิ้มลงเมื่อสัมผัสถึงบรรยากาศแปลกๆ

"ไม่ใช่มีแค่กูที่ชอบมึงนะคิส"
ผมหน้าเหวอทันที.. อะไรวะ ก็มีแค่พี่จีบไม่ใช่เหรอ ยังจะมีใครอีก สาวๆก็ไม่เห็นแสดงตัวอะไรนี่ แล้วพี่จีบจะรู้ได้ไงว่ามีคนชอบผม

"หือ มีใครอีกเหรอ? ผมว่าก็ไม่มีนะครับ"

"มี ไอ้แบทไง"

"หา พี่จีบอย่าล้อเล่น ไอ้พี่แบทเนี่ยนะจะชอบผม บ้าไปแล้ว"
ผมหัวเราะออกมาเสียงไม่ดังนัก เพราะเรื่องที่พี่จีบพูดมามันเป็นไปไม่ได้หรอก คนหล่อของสโมสรนักศึกษาเนี่ยนะจะมาชอบผม ผมไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้มนะเว้ย

"กูพูดเรื่องจริง เพียงแค่มันไม่กล้าจีบมึงเหมือนกูก็เท่านั้นล่ะ"
พี่จีบพูดจบก็คว้าข้อมือผมให้เดินตามออกไปขึ้นรถ โดยปราศจากพี่แบท เพราะเจ้าตัวโทรมาบอกว่าพี่ปอนด์มารับแล้ว ผมเงียบตั้งแต่ฟังประโยคนั้นจบ.. ถ้าจะพูดกันตามตรงไอ้พี่แบทมันก็ชอบแกล้งผมคล้ายๆกับจะหยอดอยู่บ่อยๆ แต่เพราะเป็นผู้ชายเหมือนๆกันผมเลยมองว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่นมาตลอด ส่วนตัวไอ้พี่แบทเองก็ทำเหมือนไม่จริงจังอะไร

"พี่จีบ.. ทำไมถึงคิดว่าพี่แบทชอบผม"
ผมถามสิ่งที่ค้างคาใจออกไปขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆเพราะจราจรติดขัด ดีหน่อยที่ผมมีเรียนตอนบ่ายสอง ไม่อย่างนั้นคงเข้าเรียนสาย พี่จีบชำเลืองมองผมเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

"มันบอกกูเอง"

"บอกตอนไหน?"

"วันแรกที่พวกกูซ้อมดนตรีไง"
น้ำเสียงของพี่จีบราบเรียบจนผมเดาอารมณ์ไม่ได้ วันนั้นที่ผมเดินหนีพี่จีบออกมาจากห้องซ้อม พี่เขาก็ตามมาทันนะแล้วพยายามง้อกันจนผมยิ้มได้ หลังจากนั้นพี่จีบก็ขอให้พี่แก๊ปไปส่งผมที่หอแทนเพราะว่าอาจจะกลับดึก ตอนแรกผมก็ดึงดันไม่อยากกลับเพราะคิดถึงผู้หญิงมือคีย์บอร์ดนั่น แต่พี่จีบบอกว่าเธอไม่ได้ชอบพี่หรอก ผมเลยวางใจกลับหอกับพี่แก๊ป.. เรื่องที่พี่จีบพูดตอนนี้คงเป็นเหตุการณ์หลังจากนั้นสินะ

"อ๋อ... ผมช็อกว่ะพี่ ชอบคนอย่างผมเนี่ยนะ"

"ขนาดกูยังชอบมึงได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ใกล้ชิดมึง"
เสียงของพี่จีบสั่นเล็กน้อยพอๆกับแววตาที่วูบไหว ตอนนี้รถติดไฟแดงอยู่แยกหน้ามหา'ลัยทำให้เราได้มีเวลามองสบตากัน

"คิส.. ถ้าแบทมันสารภาพว่าชอบมึง มึงจะชอบมันกลับไหม?"
แววคมที่มองมาฉายแววเศร้าอย่างเห็นได้ชัด คำถามของพี่จีบทำให้ผมสะดุดลมหายใจตัวเองไปหนึ่งจังหวะ ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆผมคงลำบากใจ แต่ไม่ใช่ว่าชอบพี่แบทแบบนั้นหรอกนะ..การปฏิเสธใครสักคนไม่ให้เขาเจ็บมากมันยาก.. ซึ่งผมเองก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนด้วย

"ผมไม่เคยคิดกับพี่แบทเกินพี่น้องนะ ไม่เคยคิดเลย แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่าควรปฏิเสธเขายังไงดี"
ผมพูดเสียงอ่อย ความรู้สึกตีรวนไปหมด ไม่รู้ว่าถ้าเจอหน้าพี่แบทอีกครั้งจะทำยังไง

"อย่าให้ความหวังมันก็พอ.. ที่มันไม่กล้าจีบมึง เพราะมันคิดว่าคนอย่างมึงไม่มีทางชอบผู้ชาย"

"อ่า.. จริงๆแล้วผมก็ไม่ชอบผู้ชายนะพี่"

"อืม.. มึงจะบอกกูด้วยใช่ไหม?"

"คือ.. จะบอกว่าไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคนบนโลกนี้"

"แล้วมันต่างกันยังไงวะ มึงอยากปฏิเสธกูตรงๆไหม กูรับได้นะ"
ถึงน้ำเสียงพี่จีบจะมั่นคงแต่แววตาของเขากลับปวดร้าวมาก หลังจากนั้นก็เกิดเดตแอร์ระหว่างผมกับพี่จีบ เพราะรถกำลังเคลื่อนตัวต่อไป ความเงียบยังหลอกหลอนเราจนพี่จีบจอดรถที่ตึกเรียนรวม

"พี่จีบ.. ผมไม่ปฏิเสธว่ะ ไม่อยากปฏิเสธ จีบผมต่อนะ"
ผมซ่อนใบหน้าที่ร้อนวูบวาบไว้หลังกระเป๋าเป้ที่ยกขึ้นมาบังหน้า พี่จีบหันมามองกันด้วยแววตาที่เป็นประกาย ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่กล้ายืนยันความรู้สึกของตัวเองแบบเต็มร้อย แต่ผมไม่อยากให้พี่เขาเลิกจีบผม.. เพราะการที่มีเขาอยู่ใกล้ทำให้ผมมีความสุขอย่างน่าประหลาด

"กูถือว่ามึงให้ความหวังกับกูแล้วนะ ห้ามมึงให้คนอื่นด้วย"

"อื้อ.. ใครมันจะไปให้ความหวังคนอื่นเรื่อราดวะ"

"เอากระเป๋าออกหน่อยดิ"

"อะ เอาออกทำไม ไม่เอา"
ผมซุกหน้ากอดกระเป๋าแน่นขึ้นโผล่ขึ้นมาแค่ลูกตา ถ้าเอากระเป๋าออกพี่จีบต้องรู้ว่าผมกำลังเขินแน่ๆ ไม่อยากโดนแซวอ่ะ แค่นี้ตัวก็จะระเบิดอยู่แล้ว

"เอาออกหน่อย พี่อยากเห็นหน้าน้องคิสตอนนี้ ได้ไหมครับ"
น้ำเสียงนุ่มๆสายตาอ้อนวอนถูกส่งมาให้จนผมต้องเม้มปากแน่น มือไม้อ่อนยอมลดกระเป๋าลงจากหน้าแต่ก็ไม่วายก้มหน้าลงจนคางเกือบชิดอก จะบ้าตาย มาพูดเพราะๆอ้อนกันขนาดนี้ใครมันจะใจแข็งไหวเล่า ฮือ ทำไมต้องอ้อนน่ารักขนาดนี้ด้วยวะ

"เงยหน้าหน่อยสิครับ"
เสียงนุ่มยังคงตามหลอกหลอนผมอยู่ ผมส่ายหน้ารัวทันทีแค่นี้ก็แย่จะตายอยู่แล้วอ่ะ แย่มากๆ หัวใจเนี่ยเต้นโครมครามจนรู้สึกคลื่นไส้ไปหมดแล้ว เหมือนกินกาแฟรสเข้มเยอะๆแล้วใจสั่นแรงอะไรประมาณนั้น

"ไม่เอา"
ผมพูดเสียงอู้อี้ ไม่กล้าเงยหน้าหรอกกลัวจะเจอจีบแอทแอคจนหัวใจล้มเหลวไปซะก่อนเรียนจบ พี่จีบเงียบไปแต่กลับส่งมือหนาขึ้นมาเชยคางกัน.. พูดดีๆไม่ยอมทำตามก็บังคับมันซะเลยอย่างนี้ก็ได้เหรอ ฮือ! ผมหลบสายตาคมที่จ้องมองมาถึงจะหลบหน้าไม่ได้แต่แบบนี้ก็ยังดีกว่าจ้องตากันอ่ะ หางตาเหลือบเห็นเขายกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจ

"น่ารักว่ะ แทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว"
มือหนาเกลี่ยไล่ไปตามกรอบหน้าของผม หัวใจกระตุกวูบเมื่อได้รับสัมผัสชวนขนลุกแบบนี้ ไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลยเว้ย ให้ตายสิ แล้วก็มานั่งตัวแข็งทื่อให้โดนลวนลามเนี่ยนะ บ้าไปแล้วไอ้คิสเอ้ยยย

"อด อดใจอะไรเล่า ผมจะไปเรียนแล้ว"
สุดท้ายผมก็กลั้นใจปัดมือพี่จีบออกแล้วพยายามง้างประตูรถให้เปิดออก แต่พี่จีบไม่ยอมปลดล็อกให้จนผมต้องส่งสายตาดุๆไปให้กัน

"พี่จีบเปิดประตูรถ! ผมจะสายแล้วนะ"
ผมโวยวายเสียงดังกลบเกลื่อนเสียงหัวใจของตัวเองไปด้วย ทำไมต้องทำตาเป็นประกายแถมยังยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้อีก ตัวผมก็เบียดกับประตูรถจนจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว ไม่แกล้งกันดิ ถ้าเขินจนเป็นลมขึ้นมาใครจะรับผิดชอบวะ

"สายอะไร เพิ่งบ่ายโมงครึ่ง เขินก็บอกมาตรงๆ"
พี่จีบสอดมือเข้ามาดึงผมเข้าไปปะทะอกแกร่ง ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ใจเต้นตึกตักจนแทบระเบิดออกมา ถ้าไม่ติดว่ามีเกียร์ขั้นอยู่ระหว่างเราผมคงได้ขึ้นไปนั่งตักพี่จีบแล้ว

"ปล่อยผมเลยนะ ทำไมชอบลวนลามกันแบบนี้วะ"
ผมดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดอุ่นนั่น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีที่โดนโอบกอดขนาดนี้ แต่ตอนนี้ความเขินมันเหนือทุกสิ่งอย่าง ต้องการหาความปลอดภัยให้กับหัวใจตัวเองด้วยเลยพยายามหาทางออกจากรถให้ได้ไงล่ะ

"อยู่นิ่งๆให้กอดเถอะ ไม่งั้นกูจับจูบจริงๆด้วย"
เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบข้างหูทำให้ผมตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที.. จะ จูบเลยเหรอ ไม่เอาอ่ะ ไม่เคยจูบกับใครนะเว้ย ฮือ

"ดีมาก น่ารัก เดี๋ยวกูไปนั่งเรียนด้วยนะ"

"ปะ ไปทำไมพี่จีบ เดี๋ยว'จารย์ก็ด่า"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกัก.. อาจารย์เขาจำไม่ได้หรอกว่ามีใครบ้างเพราะวิชาเลือกมันเรียนกันจำนวนคนเยอะ แต่ความจริงคือกลัวไอ้ภีมกับไอ้ออยจะล้อต่างหาก ไหนจะพวกที่เรียนรวมด้วยกันอีก.. ตกเป็นเป้าสายตาแน่ๆ

"อาจารย์ไม่รู้หรอก นะครับ ให้พี่ไปเรียนด้วยนะ"
เสียงออดอ้อนหวานๆดังขึ้นข้างหูก่อนที่ลมหายใจอุ่นๆจะถูเป่าเข้ามาราวกับจะแกล้งให้ขนลุกซู่ ผมย่นคอหนีจากคนขี้แกล้งทันทีก่อนจะได้รับเสียงหัวเราะเบาๆ ฮึ่ย เจ็บใจนักที่เอาคืนไม่ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะนายอัศวิน สักวันนายอินธิพัฒน์จะเอาชนะให้ได้

"อือ ไปก็ไป ปล่อยผมได้แล้ว!"
ผมฟาดมือลงบนแขนแกร่ง พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะปล่อยผมให้เป็นอิสระแถมยังปลดล็อกประตูให้อีกด้วย

ตอนนี้เราอยู่ในห้องเล็คเชอร์ขนาดกลางบรรจุคนได้เกือบแปดสิบคน ที่นั่งเป็นสโลปลงไป พวกผมเลือกนั่งหลังสุด มีพี่จีบ ผม ไอ้ออย ปิดท้ายด้วยไอ้ภีม ไม่อยากจะบอกว่าผมได้สายตาล้อเลียนจากเพื่อนทั้งสองตั้งแต่เดินผ่านประตูเข้ามาเลยทีเดียว.. อยากจะทุดดินหนี

"ผัวมาคุมเหรอนุ้งคิส"
ไอ้ออยกระซิบกระซาบ ผมถึงกับสำลักอากาศทันทีก่อนจะหันไปผลักหัวมัน

"ผัวบ้านมึง หยุดพูดไปเลยนะ"
ผมกัดฟันพูดก่อนจะเหลือบมองพี่จีบ ไม่รู้ว่าจะได้ยินสิ่งที่ผมพูดกับไอ้ออยหรือเปล่า ถ้าได้ยินขึ้นมาผมคงตายแน่ๆ

"แหมๆ ด่ากูแต่หน้าแดงอย่างกับมะเขือเทศ มีความเขินแรงว่ะ กิ๊วๆ"
ไม่วายยังจะพูดแกล้งกันต่อ ทำเสียงล้อเลียนจนหน้าหมั่นไส้อีกด้วย

"กิ๊วพ่อง! ตั้งใจเรียนไปเลย"
ผมผลักตัวมันออกไปห่างๆแล้วก้มหน้าก้มตาจดบ้าอะไรไม่รู้ลงในสมุด.. หลีกหนีคำแซวทุกอย่างจากเพื่อนและหลีกหนีสายตาหวานๆที่จ้องมองมาไม่หยุดหย่อนไปด้วย ผมถือว่าการเรียนวันนี้เป็นอะไรที่ผมตั้งใจที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะไอ้พี่จีบคนเดียวเลย

"คิสครับ"
เสียงนุ่มๆมาอีกแล้ว... สมาธิที่จดจ่อการเรียนการสอนเมื่อกี้หายวับไปกับตาทันที มือไม้กลับมาสั่นกึกๆจนตัวหนังสือกลายเป็นไส้เดือนไปแล้ว

"คะ ครับ"

"คืนนี้ไปร้านเหล้ากับพี่หน่อยนะ"

"ปะ ไปทำไมครับ"

"เพื่อนชวนกินเหล้า แต่อยากให้คิสไปด้วย ได้ไหมครับ?"

"อะ เอ่อ.. แต่ผมไปด้วยพี่อาจจะไม่สนุกนะ"

"ไม่หรอก พี่อยากให้คิสไปด้วย ได้ไหมครับ ไปกับพี่หน่อยนะ"
โอย ผมวางปากกาลงบนโต๊ะทันทีเพราะไม่สามารถเขียนหนังสือแบบปกติได้อีกแล้ว เสียงพี่จีบที่คอยอ้อนกันทำลายสมาธิผมอย่างหนัก ไหนจะฝ่ามืออุ่นๆที่วางลงบนขาอีก.. เตลิดไปหมดแล้วเว้ยกูเนี่ย อยากจะตะโกนใส่หน้าว่ากูยอมไปด้วยตั้งแต่ชวนประโยคแรกแล้ว แต่กูอยากเล่นตัวไง เล่นไปเล่นมากูก็แพ้อยู่ดี แพ้แบบไม่มีวันชนะ แพ้ตลอดชีวิตอ่ะ !

"ปะ ไปก็ได้ครับ เลิกทำตัวน่ารักสักที ผมจะตายแล้ว!"
ผมหลุดปากพูดออกไปจนหมด พอรู้ตัวถึงได้ยกมือขึ้นมาตะครุบปากตัวเองไว้ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เชี่ยเอ้ย พูดอะไรออกไปเนี่ย แง อายเว้ย อาย ขายขี้หน้าเป็นที่สุด ไอ้พี่จีบมันก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเอาแต่ยิ้มหน้าบานหัวเราะหึหึเหมือนคนโรคจิต ปล่อยให้ผมแสดงอาการบ้าบออยู่คนเดียว โคตรไม่ยุติธรรมเลยแม่ง คืนนี้จะแดกเหล้าแทนน้ำให้ดู ล้างความอายความเขินวันนี้ไปให้หมดสิ้นซะที!!



-----------------------------------------------------



Q & A กับน้องคิส
Q : ถ้าแบทสารภาพว่าชอบคิสก่อนจีบ แบทจะมีหวังไหม?
A : เอ่อ... ผมไม่ได้คิดเกินเลยกับพี่แบทนะ
Q : แล้วถ้าแบทเกิดจีบคิสขึ้นมาล่ะ จะหวั่นไหวไหม?
A : อ่า มันอาจจะรู้สึกแปลกๆ... แต่คงไม่หวั่นไหวครับ




พี่แบทเขาแอบชอบน้องจูบมาตั้งแต่รับน้องแล้วนะ แต่เป็นการชอบแบบแอบมองอยู่ห่างๆ
ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับพี่จีบและน้องคิสอย่างแน่นอน ใครรีเควสขอหวานๆ ตอนนี้หวานพอหรือยัง?
แต่ขอบอกว่านี่แค่หวานระดับต้นๆเท่านั้นน้า คึคึ ยังมีหวานกว่านี้อีกเยอะ รับรองเลย

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 04-08-2016 14:32:38
ถึงกับต้องไปนั่งเฝ้าน้องเลยหรอพี่จีบ


 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-08-2016 15:13:50
เขินแทนน้องจังเลย
พี่จีบสู้ๆ จีบต่อไปนะคะ   :mew1: 
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 04-08-2016 15:36:28
แอบสงสารพี่แบทคนเจียมตัวจัง   :hao5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 04-08-2016 16:11:45
พี่แบทเขาแอบชอบน้องจูบมาตั้งแต่รับน้องแล้วนะ แต่เป็นการชอบแบบแอบมองอยู่ห่างๆ
ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับพี่จีบและน้องคิสอย่างแน่นอน ใครรีเควสขอหวานๆ ตอนนี้หวานพอหรือยัง?
แต่ขอบอกว่านี่แค่หวานระดับต้นๆเท่านั้นน้า คึคึ ยังมีหวานกว่านี้อีกเยอะ รับรองเลย

เด่วนะ คิสสสสสส เเกรเขินได้รัชดาลัยเธียเตอร์มากกกกกกกกกกกก
 :-[  :-[  :-[  :-[  :-[

ชักกระเเด่วๆ ชักกระเเด่วๆ

 พี่จีบ!! ขอขัดนี๊สสสนึงเคอะ ชวนน้องคิสไปกินเหล้า คือ!!!
แกรจะมอมเหล้าคิสใช่ไหม พูด!!!! ดูมีลับลมคมใน นี้เเกวางแผนอัลไล จะเปิดตัวกะเพื่อน จะมอมเหล้าให้คิสมันสารภาพ? (จริงๆใช่ม่๊ะ) จะดูคนหึงในผับใช่ไหม ไม่ใช่คิสมันจะมีคนมาจีบอีกเเล้วโมโหหึงน้องนะเคอะ 55555

พี่เเบทน่าสงสาร จับไปจิ้นกะออยไป ปรึกษาออยเลย ออยยิ่งมีปัญหากะเเฟนเก่า เอาพี่แบทไปช่วยเเกล้งว่าเเฟนใหม่ไปเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 04-08-2016 16:15:08
โอ้ยเขินแรง :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-08-2016 16:35:38
หวังว่าพี่แบทจะไม่ทำอะไรที่เกินกว่านี้นะครับ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 04-08-2016 16:48:20
พี่จีบก็หยอดซะเขินเป็นเพื่อนน้องคิสแล้วเนี่ย ฮาาา

และๆๆๆ น้องคิสยังไม่ใช่ตัวจริงของพี่แบทก็ได้ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-08-2016 18:47:22
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 04-08-2016 20:02:40
พี่จีบ แกจัดใหญ่มากค่ะ มีตามคุม  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-08-2016 20:17:35
พี่จีบอย่าอ้อนบ่อย เดี๋ยวคิสละลายซะก่อนนน :-[ :-[

น่าสงสารพี่แบทเล็กๆแต่น่าจับคู่พี่แกกับออยนะ แบบอกหักมาพบแบบนั้นไงงงงงงง :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 04-08-2016 20:18:47
น่ารักกกกกกกอ่ะ เขินนน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-08-2016 21:36:07
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-08-2016 23:01:17
พี่จีบ ออกตัวจีบจริงจังขนาดนี้น้องคิสจะไปไหนรอด อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-08-2016 23:08:26
อ่อยยย!! สวยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 05-08-2016 17:04:03
- ดื่มครั้งที่ 15 -




จีบ


อากาศช่วงเย็นวันนี้ร้อนอบอ้าวกว่าทุกๆวัน เหงื่อพาลจะไหลเมื่อนักศึกษาทุกคนก้าวออกจากห้องเรียน ผมไปนั่งเฝ้าคิสเรียนจนเผลอหลับไปช่วงท้ายคาบ ที่ตื่นมาได้เพราะไอ้ตัวเล็กมันปลุกผม

"พี่จีบนัดเพื่อนกี่โมงครับ?"
เสียงใสๆของคิสถามขึ้นขณะที่เราเดินไปลานจอดรถด้วยกัน ส่วนออยกับภีมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า.. สรุปแล้วคือผมชวนเพื่อนคิสไปกินเหล้าด้วยกันเลย ไม่อยากให้น้องมันอึดอัดที่ไม่สนิทกับเพื่อนผม

"สองทุ่ม เดี๋ยวไปรับที่หอ"
ผมพูดก่อนจะปลดล็อกรถแล้วเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ ส่วนไอ้คิสก็ประจำที่นั่งตุ๊กตาหน้ารถของผม จริงๆแล้วผมไม่เคยให้ใครนั่งคู่ด้วยนะเพราะปกติผมจะเอาพวกกระเป๋าและเอกสารต่างๆตั้งไว้ ส่วนใครที่ติดรถผมมาก็นั่งข้างหลังไป ไม่ได้ถือสากับการที่หลายๆคนมองว่าทำแบบนี้แล้วเหมือนคนขับรถ

"ผมไปเองก็ได้นะพี่ หรือไม่ก็ให้ไอ้ภีมมารับก็ได้"
คิสตอบก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดแล้วหันมายิ้มให้กัน รู้ไหมว่าพอมันยิ้มให้ทีไรใจผมกระตุกทุกที มันเป็นรอยยิ้มสดใสที่ทำให้ผมหลงได้เสมอ

"ยังไงหอมึงก็ทางผ่านไปร้านเหล้าอยู่แล้ว จะลำบากไอ้ภีมทำไมวะ"
ผมถามก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป ไอ้คิสกระพริบตาปริบๆเอียงคอเล็กน้อยเหมือนกำลังใช้ความคิด ถ้าไม่ติดว่าผมต้องใช้สมาธิขับรถคงจ้องมันไม่วางตาไปแล้ว ชอบทำตัวน่ารักอยู่เรื่อย ไม่รู้บ้างหรือยังไงว่าการยับยั้งช่างใจไม่ให้คิดอกุศลกับมันนั้นยากแค่ไหน

"ร้านแถวๆฝั่งคณะวิด'วะน่ะเหรอพี่"
มันหันมาถามกันก่อนจะยกมือขึ้นเกาแก้ม แอบเห็นว่ามันมีตุ่มเล็กๆสงสัยจะโดนยุงกัด บางทีก็อิจฉายุงนะ.. ถ้าไม่กลัวว่ามันจะหนีห่างกันผมคงฝั่งจมูกลงบนแก้มใสๆนั่นแล้วล่ะ

"เออ ร้านนั้นล่ะ กูรู้จักเจ้าของร้าน"
ไอ้คิสร้องอ๋อเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับรู้ ผมแอบยกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจเพราะว่าจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นร้านเหล้าฝั่งวิศวะหรือร้านเหล้าโซนหลังมหา'ลัยผมก็รู้จักเจ้าของร้านทั้งนั้น แต่ที่เลือกฝั่งนี้ก็เพราะว่าถ้าผมขับรถออกจากร้านกาแฟไปร้านเหล้ามันจะต้องผ่านหอไอ้คิสก่อน พูดง่ายๆคือหาข้ออ้างไปรับมันแบบเนียนๆนั่นเอง เจ๋งไหมล่ะ

"พี่จีบ.. ผมถามได้ป่ะว่ามีใครไปบ้าง"
ไอ้คิสยกมือขึ้นลูบท้ายทายแล้วยิ้มแหยส่งมาให้ ผมเผลอหลุดหัวเราะเบาๆกับท่าทีเอ๋อๆของมัน แต่ดูยังไงก็น่ารักสำหรับผม

"มึงก็ถามกูมาแล้วป่ะวะ ไปเดี๋ยวก็รู้เองล่ะน่า"
ผมไม่ตอบเพราะอยากแกล้งให้ไอ้คิสมันกังวล จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีคนอื่นเลยมีแค่ไอ้คิน ไอ้แก๊ป เพื่อนคิส เพิ่มมาก็แค่ไอ้แฝดอียิปต์ ที่เรียกมันแบบนั้นก็เพราะว่าชื่อฟาโรห์กับไคโร

"เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหม"
มันหันมาถามผมด้วยใบหน้าที่เต็มไปความกังวลจนผมต้องละมือออกจากพวงมาลัยไปลูบหัวมันเบาๆ แกล้งมันไปก็ต้องปลอบมันอีก สรุปแล้วผมไม่ควรแกล้งมันใช่ไหม

"กูอ้อนมึงไปตั้งเยอะนะ อย่าให้มันเสียเปล่าดิ"
ผมยิ้มให้มันก่อนจะผลักหัวเบาๆ มันยู่ปากใส่ผมก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น แก้มขาวๆขึ้นสีระเรื่อจนผมอยากเอาจมูกไปชนแรงๆสักที มันเขี้ยวว่ะ

"ใครเขาขอให้อ้อนวะ"
มันพึมพำเบาๆแต่ผมกลับได้ยินชัดเจนเพราะในรถเงียบมาก ผมกลั้นหัวเราะก่อนจะเอ่ยแซวมันด้วยเสียงทะเล้น เลิกแกล้งมันไม่ได้จริงๆนะ ตอนเห็นมันหงุดหงิดแล้วผมโคตรจะมีความสุขเลย

"มึงไม่ชอบเหรอ"

"ชะ ชอบอะไรเล่า! ขับรถไปเลยพี่"
มันละล่ำละลั่กตอบกลับมา หูเหอแดงไปหมด ผมลอบยิ้มด้วยความพอใจที่ทำให้ไอ้คิสเขินได้ ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองสักเท่าไหร่แต่ผมว่าคิสมันเริ่มชอบผมแล้วล่ะ

"เขินแล้วชอบเสียงดังนะมึงเนี่ย"
ผมพูดโดยไม่มองหน้ามันแล้วเคาะนิ้วเป็นจังหวะลงกับพวงมาลัยอย่างอารมณ์ดี ไอ้คิสหันขวับจ้องผมเขม็งก่อนจะโวยวายออกมาหนักกว่าเดิม

"ใครเขาเขินพี่กัน ขี้มโนว่ะ โมเมด้วย!"
มันว่าผมก่อนจะเบะปากลงจนเป็นเส้นโค้งผมนึกหมั่นไส้เลยเอื้อมมือไปปาดปากมันเล่น ได้รับเสียงฮึดฮัดพร้อมกับมือที่ปัดมือผมออกเป็นพัลวันกลับมา

"ไอ้พี่จีบ แหวะๆ มือเค็มอ่ะ สกปรก!"
มันเอามือเช็ดปากไปมาจนแดงไปหมด ผมขำเอิ้กอ้ากออกมาจนมันยกมือขึ้นฟาดลงบนแขนผมแบบเต็มแรง ยอมรับเลยครับว่าแสบแขนมากๆ มือหนักใช่เล่นทำเอาผมเซจนไหล่กระทบกระจกเลย

"โอย มือหนักฉิบหายเลยไอ้คิส แขนกูแดงหมดแล้วมั้ง"
ขณะที่ติดไฟแดงผมเลยหันไปตีหน้าขรึมใส่มัน คิสเหมือนจะตกใจที่เผลอตีผมเต็มแรงเลยออกอาการหน้าเหวอให้เห็นก่อนจะมันจะยกมือขึ้นมาลูบแขนผมเบาๆด้วยความเป็นห่วง

"พี่จีบเจ็บมากไหม ผมขอโทษ"
มันพูดขอโทษผมรัวๆ ตากลมเอาแต่มองที่ต้นแขนผมไม่หยุด บางครั้งมือบางนั้นยังสอดเข้าไปในแขนเสื้อผมแล้วถลกมันขึ้นดู  นี่ถ้าผมใส่เสื้อแขนยาวมันจะทำยังไงวะ ผมลอบยิ้มกับความเป็นกระต่ายตื่นตูมของมัน... ทำอะไรก็น่ารักไปซะหมด สงสัยผมจะหลงมันแล้วล่ะนะ

"แดงเป็นรอยมือมึงเลยไง"
ผมแกล้งก้มลงไปมองแขนตัวเองที่โดนนี้เห็นเป็นรอยนิ้วชัดเจน หน้าผากของผมวางลงบนหัวขอไอ้คิสแบบจงใจจนมันสะดุ้งเฮือกแต่ไม่กล้าขยับไปไหน ปากบางๆที่ช่วยเบาลมอุ่นๆหวังจะบรรเทาอาการเจ็บให้ผมกลับหยุดนิ่ง ถ้าสังเกตให้ดีๆใบหูของไอ้ตัวเล็กแดงขึ้นอีกแล้ว

"ขอโทษ..."
คิสพูดขอโทษผมอีกครั้งแต่มันเบาราวกับกระซิบ มือที่เคยจับต้นแขนกันบัดนี้ถูกทิ้งลงบนตักเจ้าตัวไปเรียบร้อยแถมยังกุมบีบไว้จนมือขาวไปหมด บางทีก็ลังเลระหว่างคิสเขินหรืออึดอัดกันแน่ ผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะเคลื่อนหน้าไปกระซิบข้างหูมันแทน

"เปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นอย่างอื่นได้ไหม?"
มันขยับหนีผมจนตัวแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของเบาะ ใบหน้าหวานๆของมันพยายามซุกลงบนเบาะไปด้วย จะกลัวการสบตามองหน้ากับผมขนาดนั้นเลยหรือยังไงวะ

"เปลี่ยนเป็นอะไรเล่า"
มันพูดเสียงเบาก่อนจะเม้มปากเข้าหากันจนกลายเป็นเส้นตรง ผมลอบยิ้มเมื่อเหยื่อติดกับง่ายๆ

"หอมแก้มกูดิ แล้วกูจะยกโทษให้"
ผมยิ้มกริ่มตอนที่มันหันมาถลึงตาใส่กัน มือเรียวดันหน้าผมออกห่างแล้วจิ๊ปาก แก้มใสๆแดงขึ้นอีกรอบอย่างช่วยไม่ได้จนผมเผลออมยิ้มแล้วจ้องมองอยู่นาน ลืมด่ามันเรื่องเอามือมาดันหน้ากันไปซะสนิท

"ไม่หอมเว้ย เชิญงอนต่อไปเลย แล้วนี่จ้องอะไรผมนักหนาอ่ะ ถอยออกไปเลย จะไฟเขียวแล้วด้วย!"
มันหลับหูหลับตาโวยวายจนผมหลุดหัวเราะกับท่าทางสติหลุดของมันก่อนจะยอมล่าถอยมาเตรียมตัวขับรถต่อแทน ก่อนจะลอยหน้าลอยตาพูดแกล้งมันต่อไป

"จ้องจะกินมึง ให้กูกินได้ป่ะ?"
ผมแกล้งแลบลิ้นเลียปากแล้วเหล่สายตามองคิส มันหลบหน้าผมแล้วมองไปนอกหน้าต่างรถอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนเห็นยานอวกาศมาปรากฏอย่างไรอย่างนั้น

"ไปกินอึนนานู่นไป!"
มันเหวเสียงดังออกมา แทนที่ผมจะปรามมันกลับยิ้มกว้างออกมา ที่พูดถึงอึนนาคือหึงจริงๆใช่ไหม ผมยังไม่ได้บอกความจริงกับมันเลยว่าอึนนากับผมเป็นญาติกัน แต่หลังจากวันนี้ที่ผมบอกว่าอึนนาไม่ได้ชอบผมหรอก แต่วันต่อๆมาก็ยังแอบตัวติดกันอยู่เหมือนเดิมจนไอ้คิสแสดงท่าทีหงุดหงิดออกมาหลายรอบ.. ผมก็แค่ตกลงอะไรนิดหน่อยกับอึนนาเพื่อแกล้งไอ้คิสเท่านั้นเอง อย่าหาว่าผมร้ายเลยนะ ก็เด็กมันน่ารักน่าฟัดน่าแกล้งขนาดนั้น

"เกี่ยวไรกับอึนนาวะ?"
ผมแกล้งถามออกไปแล้วย่นคิ้วให้สมกับความสงสัยที่แสร้งทำ ไอ้คิสเหลือบมองกันก่อนจะเบ้ปากหนัก.. นี่ถ้ามันเกิดเส้นยึดแล้วปากเบี้ยวขึ้นมาจะทำยังไง

"เห็นชอบตัวติดกันนักนี่ ตกลงไม่ได้ชอบกันจริงๆหรือไง.. อุบ"
เหมือนมันจะเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมาจนต้องยกมือขึ้นตะครุบปากตัวเองไว้ ดวงตากลมกรอกไปมาด้วยความกังวล ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยแซวมัน

"กูชอบมึงไง มึงจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าอึนนาเป็นใคร?"

"ทำไมต้องถามอ่ะ ไม่อยากรู้"

"แน่ใจ๊?"

"นะ แน่สิ"

"แต่กูอยากบอกนะ"

"กะ ก็บอกมาดิ"

"ไหนบอกว่าไม่อยากรู้ไง"
ผมเหล่มองก่อนจะเดาะลิ้นกวนๆใส่มัน ไอ้คิสย่นจมูกใส่กันก่อนจะทำปากขมุบขมิบ

"อยากรู้แล้วไง บอกมาเลย"

"หึ อึนนาเป็น..."
ผมแกล้งทิ้งช่วงนานแล้วลอบสังเกตพฤติกรรมของคิส สายตาของมันที่จ้องผมแฝงด้วยความจริงจัง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นเพราะคงลุ้นคำตอบจากผมอยู่ แต่ด้วยความที่อยากแกล้งมันผมเลยเงียบไปซะเฉยๆแล้วจอดรถที่หน้าร้านกาแฟของตัวเอง

"ไอ้พี่จีบ บอกมาดิ จะเงียบทำไมเล่า อึนนาเป็นใคร"
มาเป็นชุดเลยครับ.. ถ้าได้เป็นเมียไปผมต้องกลัวมันไหมเนี่ย นับวันยิ่งดุ ตอนแรกก็ใสๆดีหรอก สงสัยพัฒนาสกิลป้องกันตัวเองมาแน่ๆ

"อยากรู้ขนาดนั้นเชียว?"
ผมเลิกคิ้วมอง มุมปากกระตุกยิ้มเล็กๆกวนตีนคนตรงหน้า ไอ้คิสถึงกับแยกเขี้ยวใส่แล้วฟึดฟัดเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นสะพายจนเกือบฟาดหน้าผม ดีนะหลบทัน ไม่งั้นจะได้เปิดศึกในรถกันบ้างล่ะ

"ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก เรื่องไปร้านเหล้าคืนนี้ก็ยกเลิกเลยแล้วกัน!"
โอ้โห..เดี๋ยวนี้หัดต่อรองครับ เป็นไอ้คิสที่อัพเลเวลว่ะ ผมถึงกับต้องคว้าต้นแขนมันเอาไว้แล้วดึงตัวเข้ามารวบกอด คิสดิ้นไปมาผมก็ยิ่งกระชับแรงกอดมากยิ่งขึ้นจนมันหยุดดิ้นไปเอง

"ปล่อยนะพี่จีบ ไม่งั้นผมจะกัดแขนพี่จริงๆด้วย"
มันว่าเสียงงอนๆ ผมไม่กลัวคำขู่ของมันเลยสักนิด ถ้ามันกล้ากัดจริงๆมันคงไม่มานั่งขู่ผมให้เสียเวลาแบบนี้หรอก

"อึนนาเป็นญาติกู คราวนี้ก็ไปร้านเหล้ากับกูได้แล้วนะ"
ผมก้มลงพูดข้างหูก่อนจะแกล้งเป่าลมใส่เบาๆ ไอ้คิสหดคอหนีก่อนจะเอามือมาบังต้นคอตัวเองเอาไว้

"ญาติอะไร ชื่อโคตรเกาหลี"
มันว่าเสียงอ้อมแอ้ม คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนยุ่งไปหมด อยากฟัดว่ะ.. แต่ไม่กล้า ยังจีบไม่ติดไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าคิสจะไม่หนีผมไปไหนสักหน่อย ออกตัวแรงกว่านี้เกรงว่าไก่อย่างมันจะกลัวผมน่ะสิ

"กูเป็นไอดอลของมึงไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่รู้ว่ากูเป็นลูกครึ่งเกาหลีวะ"

"หา พี่เป็นลูกครึ่งเหรอ!"
มันว่าเสียงตื่นๆก่อนจะหันหน้ามามองกัน.. แต่คิสคงลืมไปว่าหน้าผมอยู่ระดับเดียวกันเลยทำให้จมูกของมันแตะโดนแก้มของผมพอดิบพอดี ไอ้ครั้นที่มันจะผละตัวหนีก็ทำได้ยากลำบากเพราะโดนกอดไว้ซะแน่นหนา

"มะ ไม่ได้ตั้งใจนะ มันเป็นอุบัติเหตุ"
คิสรีบพูดรัวจนลิ้นพันกัน มันหันหน้ากลับแทบจะในทันทีที่ตั้งสติได้ ผมลอบยิ้มกับท่าทางไปไม่เป็นของมัน ได้เป็นแฟนเมื่อไหร่อย่าหวังว่าจะลอดเงื้อมมือผมไปได้นะ โดนฟัดทุกวันแน่ๆ

"ถ้าตั้งใจกูก็ไม่ว่านะ กูชอบ"

"ไม่ จะลงแล้ว ปล่อยๆๆๆ"
มันฟาดมือลงบนแขนผมรัว เจ็บครับเจ็บจนต้องยอมปล่อยแล้วปลดล็อกประตูให้มันลงจากรถ หลังจากนั้นผมตกลงกับมันว่าจะไปรับตอนหนึ่งทุ่มตรงแล้วเราก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวสำหรับคืนนี้

หนึ่งทุ่มตรงผมจอดรถเทียบหน้าหอของคิส เจ้าตัวกำลังเดินลงมาแบบพอดิบพอดี ร่างสูงโปรงอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวสกรีนตัวอักษรเท่ๆ กางเกงยีนส์ขาเดฟที่มีรอยขาดจนน่าหงุดหงิดกับร้องเท้าผ้าใบคู่เก่งที่มันใส่ประจำ ดูรวมๆแล้วก็เป็นเด็กผู้ชายวัยมหา'ลัยทั่วๆไป แต่สำหรับผมมันน่ารักว่ะ

"รอนานป่ะพี่"
คำถามแรกตอนที่มันเปิดประตูรถออกพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาก่อนจะสอดตัวเข้านั่งที่ประจำของมัน.. คิสไม่เคยรู้หรอกว่ามันเป็นคนแรกที่นั่งบนเบาะนี้ พ่อกับแม่ผมก็ยังไม่เคยนั่งซะด้วยซ้ำ

"ไม่นาน เพิ่งมาถึงตอนมึงลงมานี่ล่ะ"
ผมพูดก่อนจะออกตัวรถ การจราจรมีติดขัดเล็กน้อยแต่คาดว่าน่าจะถึงร้านก่อนสองทุ่มได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก ผมเอื้อมมือไปเปิดเพลงคลอเบาๆเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบเกินไป ไอ้คิสขยับตัวไปมาก่อนจะยิ้มกริ่ม

"เพลงเพราะเนอะพี่"
มันพูดก่อนจะส่งยิ้มมาให้กัน ผมพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะร้องคลอไปกับเพลงเบาๆ

"พี่จีบ.. ทำไมต้องโกหกพี่แบทว่าร้องเพลงไม่เป็น ทั้งๆที่ร้องเพราะขนาดประกวดได้สบายๆอ่ะ"
แววตาสงสัยถูกส่งมาให้กัน ผมเหลือบมองมันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆและเฉลยความงี่เง่าของตัวเองให้มันรับรู่

"ขี้เกียจว่ะ คนเยอะ วุ่นวาย กูอยากเป็นคนร่วมงานบ้าง"
ผมยักคิ้วให้มันเมื่อพูดจบ ไอ้คิสถึงกับขำเบาๆออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นกลั้นขำเมื่อผมส่งสายตาดุๆไปให้

"งั้นปีที่แล้วพี่ไม่ได้เป็นคนร่วมงานเหรอ"
เสียงใสๆถามขึ้น แต่ดวงตาไม่ได้สนใจผมเพราะมันมัวแต่จิ้มๆเครื่องมือสื่อสารสี่เหลี่ยมอยู่ ผมไม่ค่อยสนใจหรอกว่ามันจะคุยหรือจะทำอะไรกับใคร เพราะผมเชื่อว่าถ้าคิสเลือกผมเขาจะไม่มีวันทำให้ผมเสียใจเป็นอันขาด

"เปล่า ปีที่แล้วกูป่วยเลยไม่ได้ไปงาน"

"ตอนพี่อยู่ปีหนึ่งล่ะ"

"ตอนปีหนึ่งก็เปิดซุ้มขายของดิวะ"
ผมตอบมันไปพลางขมวดคิ้ว.. งานดนตรีทุกปีจะให้เด็กปีหนึ่งทุกคณะ ทุกภาค ทุกสาขาเปิดซุ้มกิจกรรมหรือขายของ ชั้นปีอื่นๆก็ฟรีสไตล์กันไป ยกเว้นแค่เด็กปีสองคณะศิลปกรรมศาสตร์เท่านั้นที่ต้องเป็นแม่งานจัดงาน

"เออว่ะ ลืมไปครับ แหะๆ"
มันยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยแล้วหัวเราะแห้งๆ ผมยิ้มก่อนจะส่ายหน้าเบาๆกับความติ๊งต๊องของมัน หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดกันอีกจนมาถึงร้านเหล้า บรรยากาศของร้านไม่ได้มืดสลัวนัก เสียงเพลงเบาๆสบายๆกำลังบรรเลงไปเรื่อยๆ มีทั้งโซนด้านในร้านและโซนโอเพ่นแอร์นอกร้าน พวกเราเลือกที่จะนั่งด้านนอกเพราะบรรยากาศถ่ายเทกว่าด้านใน พนักงานยิ้มให้กับผมก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะริมสุดด้านในที่มีคนจับจองที่นั่งโซฟากันหมดแล้ว

"ป๋าจีบมาแล้วเว้ยพวกเรา ~"
เสียงไอ้ฟาโรห์ดังขึ้นพร้อมกับตัวมันที่ลุกขึ้นโค้งให้กับผม ไอ้ไคโรส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นมาให้กันเหมือนจะถามว่าหนุ่มน้อยข้างๆมึงเป็นใครอะไรทำนองนั้น

"เออ นั่งลงได้แล้วมึง คิสเข้าไปนั่งไป"
ผมดันหลังน้องให้เขาไปนั่งที่ว่างข้างๆออยแล้วตบท้ายด้วยผม เพราะอีกฝั่งเพื่อนผมมันนั่งอัดกันสี่คนไปแล้ว โคตรสงสัยว่าทำไมไม่ขอเก้าอี้เพิ่มวะ

"พาเมียมาด้วยเหรอ"
เสียงไอ้ไคโรถามขึ้นก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่มให้กับไอ้คิส ผมรีบยกมือเอื้อมไปดีดหน้าผากไอ้เพื่อนตัวดีทันที ขี้ม่อไม่มีใครเกินจริงๆ

"เออ อย่าม่อเมียกูขอเตือน"
ผมถลึงตาใส่มันก่อนจะหันไปรับเมนูมาจากไอภีมที่นั่งอยู่อีกด้านของออย ไอ้คิสอ้าปากหวอเพราะโดนหาว่าเป็นเมียผม มันละล่ำละลักแก้ตัวกับไอ้ไคโรเป็นการใหญ่

"มะ ไม่ใช่เมียครับพี่ ผมเป็นรุ่นน้องพี่จีบ"
ไอ้ฟาโรห์กับไคโรมองหน้ากันก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนจะมองมายังไอ้คิส... พวกมันต้องแกล้งน้องแน่ๆเชื่อผม เพราะไอ้พวกนี้รู้อยู่แล้วว่าผมจีบไอ้คิสอยู่

"พี่ชื่อไคโรนะ ส่วนไอ้นี่ชื่อฟาโรห์เรียนวิด'วะโยธา"
ไคโรแนะนำตัวเองกับพี่ชายฝาแฝดของมันเสร็จสรรพแล้วยิ้มกว้าง ส่วนไอ้คิสกำลังจะอ้าปากแนะนำตัวกลับแต่โดนเสียงฟาโรห์ขัดซะก่อน

"น้องคิสไม่ต้องแนะนำตัวครับ พวกพี่รู้จักน้องดี ว่าที่แฟนป๋าจีบ"
มันพูดก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้ากถูกใจ ไอ้คิสที่ทำอะไรไม่ได้เลยทำแค่เม้มปากแน่น และแก้มขาวๆก็แดงขึ้นมา

"แดกๆไป อย่าแซวน้องมันมาก"
ไอ้แก๊ปเป็นคนเบรกทั้งสองคนไว้ก่อนจะเอาถั่วลิสงอบเกลือยัดปากไอ้ฟาโรห์ที่นั่งอยู่ข้างๆ สถานการณ์ดูวุ่นวายเมื่อไอ้ฟาโรห์ไม่ยอมไอ้แก๊ปง่ายๆเลยเกิดสงครามถั่วลิสงขึ้นนิดหน่อยโดยมีไอ้คินกับไอ้ไคโรร่วมด้วย ผมส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเลือกเมนูเครื่องดื่มต่อ

"พี่จีบ"
เสียงเรียกดังขึ้นจากคนข้างตัว ผมเหลือบตาขึ้นจากเมนูไปมองมัน

"ว่าไง"

"ไม่ห้ามหน่อยเหรอวะ ถั่วจะหมดจานแล้วอ่ะ"
มันว่าพร้อมกับทำหน้าเสียดายเต็มที่ ผมยิ้มมุมปากแล้วยกมือขึ้นโยกหัวมันไปมา

"หมดก็สั่งใหม่ พวกมันชอบเล่นแบบนี้ประจำ"
มันพยักหน้ารับหงึกหงักแล้วขยับตัวมาดูเมนูในมือผมด้วยกัน ตอนนี้เปิดค้างอยู่ตรงหน้า Coffee Liqueur เป็นเหล้าหวานที่ผสมสารสกัดจากกาแฟ ดื่มได้ง่ายเพราะมีรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟ

"พี่จีบๆ อันนี้น่ากิน"
คิสชี้นิ้วลงบนเมนู B52 ก่อนจะมองหน้าผมด้วยความตื่นเต้น ถ้าเดาไม่ผิดมันคงชอบที่เขาจุดไฟในแก้วเป็นแน่ ถ้าคนไม่เคยแตะแอลกอฮอล์มาเลยเจอเข้ากับเมนูนี้อาจจะสลบตั้งแต่แก้วแรกก็เป็นได้ เพราะส่วนผสมแต่ละตัวนำดีกรีมารวมกันแล้วก็สูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

"จะเอาไหมล่ะ เดี๋ยวกูสั่งให้"
ผมถามมันก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานแถวๆนั้นมารับออเดอร์

"เอาๆๆ"
มันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แววตาเป็นประกายวิบวับจนผมอดยิ้มให้กับความเป็นเด็กของมันไม่ได้ ดูท่าทางแล้วคงจะไม่ค่อยสันทัศน์เรื่องเครื่องดื่มมึนเมาสักเท่าไหร่ล่ะมั้ง

"ขอ B52* หนึ่งแก้ว Kahlua Milk* หนึ่งแก้วครับ"
ผมสั่งก่อนพนักงานจะพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป ไอ้คิสจ้องผมเหมือนมีคำถามอะไรบางอย่าง

"พี่จีบ.. B52 B53* B54* มันต่างกันยังไงอ่ะ?"
ผมแทบอยากพามันกลับบ้านไปสอนเรื่องเหล้าซะตอนนี้ ไม่ใช่จะว่าถ้าเกิดไม่รู้ แต่มันใช่เวลาถามไหมล่ะไอ้คิส กูไม่ได้เป็นบาเทนเดอร์นะเว้ย แต่เอาเถอะ ดีกว่ามันไปถามเพื่อนผมล่ะวะ.. คนมันหวงทำไงได้

"มึงเห็นในรูปป่ะ เครื่องดื่มมันจะแยกเป็นชั้นๆ อย่างเช่น B52 ที่มึงสั่ง ชั้นบนสุดจะเป็นครองต์โทร์* ชั้นกลางคือไบเล่ย์* ชั้นล่างสุดคือคาลัวร์* ถามว่ามันต่างกันยังไงใช่ไหม"
ผมถามก่อนจะเว้นช่วงพักหายใจ คิสพยักหน้าตอบก่อนผมจะเริ่มอธิบายต่อ

"มันต่างกันตรงที่ส่วนผสมชั้นบนสุด B53 จะใช้วอดก้า* ส่วน B54 จะใช้ตากีล่า*"
มันพยักหน้าหงึกหงักคล้ายกับว่าจะเข้าใจ แต่ผมจะไม่ถามซ้ำหรอกเพราะขี้เกียจอธิบายแล้ว แก้วเหล้าเย็นๆแตะที่แขนผมจนต้องหันไปมองพบว่าไอ้ไคโรส่งแก้วมาให้ ผมรับแล้วอ้าปากพูดแบบไร้เสียงว่าขอบคุณไปให้มัน

"แล้วเขาจุดไฟกันยังไงอ่ะ อยากรู้"




ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 14 -P.8- (04.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 05-08-2016 17:04:32
ต่อฮับ



"มึงถามเหมือนกูเป็นบาเทนเดอร์ กูเป็นบาริสต้านะไอ้คิส"
ผมว่ามันกลับไปก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม ไอ้คิสทำหน้าเหวอก่อนจะหัวเราะแห้งๆออกมาแล้วยกแก้วเหล้าที่ตั้งอยู่ตรงหน้าขึ้นดื่มบ้าง

"ลืมไปอ่า ขอโทษครับ"
มันว่าก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบกลับแกล้มส่งเข้าปาก ผมมองมันแล้วเอนหลังพิงพนักก่อนจะพาดแขนยาวๆลงไปเหมือนจะโอบคนข้างๆอย่างไรอย่างนั้น จริงๆก็ตั้งใจจะโอบนั่นล่ะ แต่กลัวว่าเพื่อนผมจะแซวจนไอ้คิสหนีกลับบ้านซะก่อน

"คิส.. มึงคออ่อนหรือเปล่า?"
คนถูกถามหันขวับมามองกันก่อนจะพยักหน้ายอมรับอย่างง่ายดาย.. รู้ตัวว่าคออ่อนแต่ก็ยังรับแก้วเหล้าจากเพื่อน ไหนจะสั่ง B52 มาอีก.. ชีวิตคงบรรลัยแน่ๆ

"แหะ ถ้าผมเมาพี่แบกผมกลับด้วยนะครับ"
เสียงใสๆพูดอ้อนกันหน้าตาเฉย.. กินไปแค่สองสามแก้วก็กรึ่มแล้วเหรอวะ อันตรายกจริงๆ ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรมันกลับไปพนักงานก็เข้ามาเสิร์ฟ B52 และ Kahlua Milk ไอ้คิสดูจะตื้นตาตื่นใจกับไฟสีน้ำเงินส้มนั่นเหลือเกิน

"กินดิ"
ผมว่าก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปที่แก้วชอตของมัน ไอ้คิสขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันมาถามผมที่กำลังจิบ Kahlua Milk แบบเพลินๆ มันเบาๆสบายๆเหมือนกินกาแฟผสมนม.. เอาจริงๆคือผมยังไม่ได้กินกาแฟวันนี้เลยอดใจมากินที่ร้านเหล้าแทน

"กินไงอ่ะ"
มันมองแก้วอย่างหวาดๆจนคนอื่นๆยิ้มเอ็นดูกับความใสของมัน ผมเลยต้องชี้ไปบนโต๊ะที่มีหลอดดูดตั้งอยู่

"ใช้หลอดดูดเอา"
มันร้องอ๋อเบาๆก่อนจะหยิบหลอดไฟเสียบแล้วค่อยๆดูดเครื่องดื่มลงคอ คิสหลับตาปี๋ในตอนแรกก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วยกยิ้มมุมปากเหมือนกำลังพอใจในรสชาติ

"เป็นไง?"
ผมถามก่อนจะวางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะ แก้วเหล้าถูกยกขึ้นมาแทนทีอีกครั้ง ถึงผมจะกินอะไรตีกันมั่วสักเท่าไหร่ก็ไม่เคยเมาเพราะได้รับฉายาว่าซุปเปอร์คอทองแดง จะบอกว่าดีมันก็คงดีล่ะวะ แต่บางทีก็เปลืองเหล้า

"อร่อยดี แต่ไม่ไหวแล้วอ่ะมึนหัว"
มันว่าก่อนจะเอนหัวมาพิงไหล่ผมหน้าตาเฉยจนผมเผลอยกยิ้มขึ้นมา แบบนี้ถือว่าเด็กมันมาเองนะครับ ผมไม่ได้หลอกล่อนะเออ

"คออ่อนจริงๆเลยนะมึง"
ผมว่าก่อนจะลูบผมมันเบาๆ หัวทุยๆขยับไปมาเหมือนกำลังหาท่าสบายอยู่

"พวกมึง.. อย่าสวีทกันนักได้ป่ะ เหล้ากูหวานหมดแล้วเนี่ย"
เสียงแซวจากใครสักตัวดังมาแต่ผมทำแค่ยักคิ้วกวนๆกลับไป จะว่าอะไรก็ช่างเถอะครับ ตอนนี้ผมได้กำไรเต็มๆ

"โหย ไอ้คิส มึงจะอ้อนพี่จีบมากไปล่ะนะ กูอิจฉาอ่ะ"
เสียงออยดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าที่แขนไอ้คิส... ทำแบบนี้มันจะยิ่งมึนนะน้องนะ

"กูจะถ่ายรูปไปฟ้องพี่ดีพว่ามึงเมาแล้วอ้อนผู้ชาย"
เสียงไอ้ภีมลอยมาพร้อมกับที่มันยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปจริงๆ ไอ้คนตัวเล็กที่พิงผมอยู่ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแต่ก็ไม่ยอมนั่งตัวตรงๆสักที

"เชิญเลย จะทำอะไรก็เชิญ กูมึน!"
หลังจากนั้นมันก็นั่งอยู่ท่านั้นนานสองนาน ไม่รู้ว่ามึนจริงๆหรือแค่แกล้งเพราะในมือมันยังพิมพ์แชทตอบใครสักคนได้อยู่เลย

"โอป้า ~"
เสียงใสๆที่ผมจำได้ดีดังมาจากทางด้านหลัง ผมหันไปมองก็พบสาวผมสั้นแต่งตัวสไตล์เกาหลีเดินมาหยุดอยู่ข้างกัน

"มาช้านะเรา"

"น่าๆ ขยับหน่อยสิคะ"

"บอกพนักงานให้เอาเก้าอี้มาเพิ่ม"
ผมบอกน้องก่อนจะพยักพเยิดให้เธอเรียกพนักงาน แต่อึนนาส่ายหน้ารัวก่อนจะมองมาข้างๆผม

"โอป้าให้คิสนั่งตักสิคะ เร็วๆอึนนาเมื่อยแล้ว"
เธอเขย่าไหล่ผมพยายามเร่งเร้าให้ผมดึงคิสนั่งตัก ไอ้คนโดนพาดพิงผละตัวออกจากผมอย่างรัวเร็วแล้วส่ายหน้ารัวๆ เหมือนมันจะสร่างเมาทันทีทันใด

"มานั่งตักกู"
ผมบอกมันเสียงเข้มก่อนจะดึงตัวมันขึ้นมาบนตักโดนไม่รอคำตอบก่อนจะใช้มือรวบเอวบางๆของมันไว้

"ขอบคุณค่ะโอป้า"
อึนนาทิ้งตัวลงนั่งแทนที่ไอ้คิสก่อนจะหันมาขอบคุณและทักทายแนะนำตัวกับคนในโต๊ะ

"พี่จีบให้ผมไปหาเก้าอี้มานั่งเองก็ได้ แบบนี้มันแปลกๆอ่ะ"
มันว่าก่อนจะขยับตัวยุกยิกบนตักผม โอกาสมาถึงขนาดนี้คิดว่าผมจะปล่อยมันไหมล่ะ ถึงตัวมันจะไม่เบาเลยก็เถอะ แต่ได้กำไรขนาดนี้ยอมครับ

"นั่งๆไปเหอะน่า เอ้า กินเข้าไปจะได้ไม่ต้องพูด"
ผมยัดแก้วเหล้าจางๆใส่มือให้มันกินอีกรอบโดยไม่สนใจว่ามันจะทำสีหน้ายังไง ผมวางคางลงบนไหล่มันอย่างแนบเนียนแถมเพิ่มแรงกอดไปด้วย อื่ม.. ฟินฉิบหาย กลิ่นสบู่หอมๆจากตัวมันทำให้ผมเคลิ้มใช่เล่น เหมือนตอนนี้สมองมันเบลอๆคล้ายจะเมา.. เมาไอ้คิสน่ะนะ

"พะ พี่จีบ เพื่อนมองใหญ่แล้ว"
มันว่าเสียงสั่นผมพยายามเอียงคอให้อยู่ห่างจากหน้าผมมากที่สุด แก้มขาวๆแดงระเรื่อไม่รู้ว่าจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเขินกันแน่

"ปล่อยมันมองไป ถ้าเขินก็ซบหน้าลงกับไหล่กูนี่"
ผมว่าก่อนจะมองมันที่หันมาสบตากัน ดวงตากลมๆช่ำเยิ้มเหมือนคนเมา... นี่เผลอกินไปกี่แก้ววะเนี่ย

"งืม งั้นซบนะ"
พูดจบมันก็นั่งคร่อมตักผมแล้วซบหน้าลงกับไหล่ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมาแรงๆ ไม่นานนักมันก็ดังสม่ำเสมอคล้ายกับคนนอนหลับ.. ผมหัวเราะเบาๆออกมากับสภาพของคนคออ่อนที่หลับคาอก หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาเมื่อโดนลมหายใจร้อนๆปะทะเข้ากับซอกคอ

"จีบ.. มึงมอมเหล้าน้องคิสเหรอ"
เสียงไอ้คินดังแหวกเสียงเพลงมา สายตาล้อเลียนถูกส่งมาให้จนผมยกยิ้มมุมปาก

"เปล่า น้องมันคออ่อนเอง"

"ลากเข้าห้องเลยป่ะ? หึหึ"
ไอ้แฝดประสานเสียงกันถามออกมา ผมกรอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่ายที่พวกมันชอบคิดอกุศล

"พ่อง ขืนทำงั้นมองหน้ากันไม่ติดพอดี กูว่าจะพามันกลับละ"

"ฝากเพื่อนผมด้วยนะพี่"
เสียงไอ้ภีมฝากฝัง

"เออๆ งั้นกลับละ"
ผมว่าก่อนจะยกตัวไอ้คิสขึ้นอุ้มท่าเจ้าสาวอย่างทุลักทุเล ดีหน่อยที่มีไอ้ภีมคอยช่วยประคองไปจนถึงรถ ผมจัดท่าให้มันนอนสบายๆก่อนจะขับไปส่งมันที่หอ กว่าจะมาถึงห้องได้เล่นเอาเหนื่อยลิ้นห้อยเหมือนกัน ผมทิ้งมันลงบนเตียงก่อนจะจัดการถอดรองเท้าให้ ใบหน้าหวานๆแดงก่ำ ปากบางสีแดงสดกำลังเชิญชวนให้ผมสัมผัส.. แค่นิดเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง

ผมก้มหน้าลงประกบปากจูบก่อนจะบดเบียดละเลียดชิมริมฝีปากสวยนั่นอย่างเชื่องช้า กลิ่นคาลัวร์อ่อนๆชวนให้เคลิ้บเคลิ้มได้ไม่ยาก ลิ้นร้อนไล่เลียดูดดุนก่อนจะสอดเข้าไปกวาดความหวานหอมด้านใน หยอกล้อเกี่ยวตวัดกับลิ้นเล็กไปมาอย่างวาบหวาม ไอ้คิสครางออกมาเบาๆก่อนที่ผมจะถอนจูบออก.. ถ้ามันหยุดตอนนี้เกรงว่ามันจะเลยเถิด ผมขยับตัวมานั่งข้างๆก่อนจะมองใบหน้ายามหลับของมันด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรักก่อนจะกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมน

"ราตรีสวัสดิ์คนดีของพี่"



-----------------------------------------------------


B52, B53, B54 – ค็อกเทลร้อนที่สามารถจุดไฟได้
ครองต์โทร์ (COINTREAU) – เหล้าที่ผลิตจากเปลือกส้ม มีดีกรีประมาณ 40%
ไบเล่ย์ (BAILEY IRISH CREAM) – เป็นแอลกอฮอล์ที่หมักขึ้นจากหางนมผสมกับครีมและไอริสวิสกี้ มีดีกรีประมาณ 17%
คาลัวร์ (KAHLUA) – เหล้าหวานที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกาแฟ มีดีกรีประมาณ 26.50%
วอดก้า (VODKA) – เป็นเหล้าสีขาวใส มีกลิ่นเพียงเล็กน้อย มีดีกรีประมาณ 40-60%
ตากีล่า (TEQUILA) – เป็นเหล้าสีขาวที่มีกลิ่นแรง 38-40%





Q & A กับพี่จีบ
Q : หลังจากแอบจูบน้องได้ทำอะไรอีกหรือเปล่า?
A : ทำครับ
Q : ทำอะไรเนี่ย?
A : เช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ หลังจากนั้นผมก็กลับไปนอนที่ร้าน
Q : แหมๆ เป็นสุภาพบุรุษเชียวน้า
A : ถ้าผมไม่รักมันคงปล้ำไปแล้วล่ะครับ แต่นี่บังเอิญว่าผมรักเลยอยากให้มันสมยอมเองมากกว่า
Q : เลิกจีบคิสแล้วมาจีบเราแทนเถอะ... อยากได้
A : อย่าทำให้ผมกลัวเลยนะ /เดินหนี
Q : ….. ฮือ





เป็นไงกันบ้าง... พาร์ทนี้ไม่มีอะไรหวือหวาจริงๆนะ ' ' เป็นตอนใสๆเบาๆเนอะ 555555555
ไอ้พี่จีบมันร้ายไม่เบาเลยนะเนี่ย เขียนเองแล้วอยากได้คนแบบนี้มาเป็นเแฟน ฮือ
ขี้แกล้งแต่ก็รักจริง ถ้ามีคนแบบนี้มาจีบจะไม่เล่นตัวเลยนะ รีบตะครุบเลยเชียว

อ่านให้สนุกน้า ตอนหน้าจะเป็นงานดนตรีแล้ว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-08-2016 17:32:33
งือออออออออ อย่างฟินนนอ่ะ อั๊ยยยยยยย :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 05-08-2016 17:58:26
 :-[ :impress2: :-[
พี่จีบๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-08-2016 18:00:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-08-2016 18:16:51
พี่จีบน่ารักอ่ะ อยากได้เป็นเจ้าของอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 05-08-2016 18:23:15
คิสอ้อนเก่งเหลือเกินลูก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-08-2016 19:06:07
ฮือออออ เราก้ออยากได้แบบนี้ค่ะคุณคนเขียน >\\\\\\<
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 05-08-2016 19:34:22
พี่จีบหวานซ๊า.......

 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-08-2016 19:36:52
พี่จีบใจดีมาก แบบนี้ไม่นานน้องคิสคงยอมเป็นแฟน ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 05-08-2016 19:45:50
ง๊อววววววววววววว นึกว่าจะลักหลับน้องคิส 555555 ไอ่เราก็นึกว่า จะมีโมเม้นอะไรต่อ ไหงเมาเเล้วหลับเฉยๆน่ะ หุ๊ยยยยยย เเต่ไม่เป็นไร รอฟินตอนหน้า ร้องเพลงจีบคิสกลางงานดนตรีไปเลย ประกาศไปเลยว่ากำลังจีบคิสอยู่  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 05-08-2016 20:16:09
แหนะๆ แอบมีลักหลับอีกนะคนเรา  :m22:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-08-2016 20:44:04
พี่จีบน่ารักอ่ะ นึกว่าน้องเมาแล้วจะแต๊ะอั๋งน้องมากกว่าจูบซะแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 15 -P.8- (05.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 05-08-2016 22:13:53
ไอ้พี่จีบมันร้ายจริงๆด้วยค่ะหัวหน้า....

งืออออออ อ่านไปช่วยน้องคิสเขินไปละเนี่ย   :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 07-08-2016 09:17:40
- ดื่มครั้งที่ 16 -




ร่างกายจดจำสัมผัสที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ความนุ่มหยุ่นที่ประทับลงมาบนกลีบปาก ความวาบหวามยามถูกไล่ต้อนด้วยลิ้นร้อนยังคงตราตรึง สมองจดจำและถ่ายทอดทุกๆอย่างชัดเจนไม่มีขาดตกบกพร่องราวกับมันเป็นเรื่องราวยิ่งใหญ่ที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต... จูบแรกของผม

เมื่อวานผมรู้สึกตัวตั้งแต่หลังแตะลงบนเตียงแต่ครั้นจะลืมตาก็ทำได้ยากลำบาก หนังตามันหนักเหมือนมีใครเอาหินงอกหินย้อยมาถ่วงเอาไว้ ตอนแรกก็กะว่าจะพลิกตัวเพราะอึดอัด แต่ถูกพี่จีบคุกคามซะก่อน ยอมรับว่าช็อกจนเผลอกลั้นหายใจ ตอนริมฝีปากอุ่นร้อนประกบลงมานั้นหัวใจกระตุกวูบ คิดแต่ว่าต้องแกล้งตายให้แนบเนียนที่สุดเพราะไม่กล้าโวยวายอะไรออกมา และเมื่อลิ้นร้อนไล้ต้อนกวาดความหวานจากโพรงปาก สติของผมพร่าเลือนหัวสมองเบลอไปหมด รู้แค่เพียงว่ามันรู้สึกดีจนปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว

ตอนนี้เป็นปัญหาใหญ่เพราะเมื่อผมคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนทีไรหัวใจจะเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก หน้าร้อนผ่าวเหมือนมีใครเอากาแฟร้อนมาอังไว้ ขนาดไม่ได้เจอหน้าพี่จีบยังเป็นได้ขนาดนี้ ถ้าเจอกันผมจะเป็นยังไง ไม่อยากคิดเลย

"ฮือ ไอ้พี่จีบแม่ง ขโมยจูบแรกกู"
ผมงอแงกับตัวเองดิ้นไปมาบนเตียงจนผ้าห่มหล่นไปอยู่ที่พื้น ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้เพราะไม่สามารถกลั้นยิ้มได้เลย ถึงจะงอแงแต่ก็รู้สึกดีกับสัมผัสนั้นเป็นไหนๆ.. บอกได้คำเดียวว่าสร่างเมาแทบจะทันที

"โอยย ออกไปจากหัวผมทีพี่ ผมจะบ้าตายแล้ว"
ผมยกตุ๊กตาไข่ขี้เกียจตัวเหลืองๆกลมๆขึ้นมาปิดหน้า ไม่รู้จะหาทางออกให้ความเขินของตัวเองยังไงดี วิธีนี้อาจจะช่วยได้บ้างล่ะมั้ง อ๊ากก หลังจากเวิ่นเว่อบ้าบอกับตัวเองอยู่นานสองนานก็ระลึกชาติได้ว่าวันนี้ต้องเข้ามหา'ลัยไปเตรียมงานดนตรีสำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะจัดงานทั้งวัน ผมรีบวางตุ๊กตาลงข้างๆแล้วกระเด้งตัวขึ้นนั่งก่อนจะขยี้ผมฟูๆของตัวเองให้ยุ่งขึ้นอีกก่อนจะเดินไปจัดการอาบน้ำแต่งตัว

เสียงริงโทนของโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ผมก้าวขาออกจากประตูห้องน้ำและมีผ้าขนหนูผืนเล็กวางแปะอยู่บนหัว มือเรียวหยิบมันขึ้นมาดูชื่อผู้โทรเข้าแล้วกดรับ

"ฮัลโหล"
ผมกรอกเสียงเซ็งๆลงไป เพราะจำได้ลางๆว่าไอ้ภีมฝากฝังให้ผมกลับมาพร้อมพี่จีบเลยต้องเสียจูบแรกไปแบบสติไม่เต็มร้อย.. ฮือ

'เป็นไรของมึง เสียงแข็งมาเชียว'

"เพราะมึงเลย มึงคนเดียว ไม่ยอมมาส่งกูเมื่อคืน"
ผมว่ามันก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงแล้วใช้มือข้างที่ว่างเช็ดผมตัวเองไปด้วย

'พูดเรื่องอะไรของมึง มากับพี่จีบก็กลับกับพี่จีบสิวะ'
ปลายสายเหมือนจะงงๆไม่เข้าใจสิ่งที่ผมบอกไป พอคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครั้ง หน้าก็พลันร้อนวูบขึ้นมาซะอย่างนั้น พอมองไปที่กระจกตั้งโต๊ะบนหัวเตียงก็พบว่าหน้าตัวเองแดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศสุกซะอีก ไอ้คิสแย่แล้ว แย่แน่ๆ พี่จีบขโมยจูบไม่พอยังขโมยหัวใจของผมไปด้วย

"กลับกับพี่จีบไงแม่ง ได้เรื่องเลย"
ผมว่าก่อนจะหยุดมือที่เช็ดผมก่อนจะเบิกตาโต... หลุดปากว่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะเล่าให้ใครฟังเลยนะเว้ย อ๊าก ทำไงดีๆ

'เรื่องไรวะ.. อย่าบอกนะว่า มึงเสร็จพี่จีบแล้ว!!"
เสียปลายสายดูตื่นเต้นมาจนผมตกใจ เชี่ยไรคือคิดว่าผมเสร็จพี่จีบแล้ววะ ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นจริงๆแล้วผมตื่นมาไร้เงาคนก่อเรื่องขนาดนี้ คิดว่าผมจะอยู่เฉยๆหรือยังไงวะ!

"เสร็จเชี่ยไร แค่จูบเว้ย!! อุบ"
ผมยกมือตะครุบปากตัวเองแทบจะทันที ไอ้เชี่ย หลุดอีกแล้วขยันหลุดฉิบหาย โอย หมดกันครับชีวิตผม ฮือ ไม่เหลืออะไรแล้ว

'อื้อหือ.. เขาพัฒนาแล้วครับ มีจูบแรกแล้วด้วย'
เสียงล้อเลียนดังมาจนทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบ ใจเต้นตึกตักรัวเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว ลำพังคิดเองเขินเองก็หนักแล้ว เจอเพื่อนแซวขนาดนี้เหมือนหัวใจจะวายเลย

"เลิกแซวเลยแม่ง ขโมยจูบตอนกูเมาเนี่ยนะ ฮึ่ย"

'อยากให้พี่มันจูบตอนมึงมีสติครบถ้วนว่างั้น?'

"โอยย หุบปากไปเลย มึงโทรมามีอะไร?"
ผมตัดบทซะดื้อเพราะในจิตใจสำนึกก็แอบคิดว่าจูบตอนมีสติครบถ้วนอาจจะดีกว่า คิดมาได้ยังไงอายตัวเองว่ะ ไอ้คิสอย่าเป็นเด็กใจแตกแบบนี้นะเว้ย

'โทรมาตามมึงไง พี่แบทมันเลื่อนนัดเป็นบ่ายโมงตรง'
ผมฟังที่ภีมพูดแล้วขมวดคิ้วสงสัย ปกติถ้าเลื่อนนัดหรือมีอะไรเกี่ยวกับตัวผมพี่แบทจะบอกผมเอง แต่ครั้งนี้คืออะไรต้องฝากไอ้ภีมมากบอก ผมทิ้งตัวลงนั่งหน้าพัดลมก่อนจะเป่าผมไปด้วย

'ไอ้เชี่ย พายุเข้าเหรอไง'

"โทษๆ กูเป่าผม แล้วทำไมพี่แบทไม่บอกกูเองวะ"
ผมขยี้หัวตัวเองพลางคิดว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่แบทดูห่างเหินกับผมขนาดนี้ คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่ะ หรือว่าไม่กล้าคุยกับผมหลังจากบอกเรื่องนั้นกับพี่จีบ คิดไปต่างๆนานาจนไอ้ภีมทำลายทุกอย่างลงด้วยคำตอบของมัน

'พี่มันยุ่งๆเลยฝากกูมาบอก รีบๆมานะ กูรออยู่ที่ลานคณะ'

"เออๆ งั้นแค่นี้นะ"
ผมกดวางสายก่อนจะรีบเป่าผมและจัดทรงให้เรียบร้อย เก็บของทุกอย่างที่จำเป็นลงกระเป๋าเป้ใบเก่งแล้วลงไปหามอ'ไซต์ลูกรัก

ผมมาถึงมหา'ลัยเวลาบ่ายโมงเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน จอดรถเสร็จก็รีบเดินไปที่ลานคณะทันที ไอ้ออยกำลังนั่งหวีผมส่วนไอ้ภีมกำลังวีดีโอคอลกับพี่ดีพผมเลยได้โอกาสโผล่หน้าเข้าไปทักทายพี่ชายที่ชาตินึงจะโทรหาครั้งนึง พูดง่ายๆคือเกิดอาการหมั่นไส้ที่โทรหาแฟนได้แต่โทรหาผมไม่ได้นั่นเอง

"ไฮ พี่ดีพ!"
ผมตะโกนจนให้ภีมหันขวับมาด้วยความตกใจแล้วง้างมือข้างที่ว่างตบหัวกัน ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะยกมือลูบหัวเบาๆแล้วเบียดไอ้ภีมก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง

"เชี่ยนี่เสียงดัง"
ไอ้ภีมด่าผมก่อนจะหันไปสนใจคนในจอสี่เหลี่ยมต่อ ผมยักไหล่แบบไม่ใส่ใจแล้วก็ทำตามไอ้ภีมคือสนใจคนในจอ

'ว่าไงวะไอ้น้องชาย ได้ข่าวว่าเสียจูบแรกไปแล้ว'
ไอ้พี่ดีพยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน หางคิ้วผมกระตุกยิกๆจนต้องคว้าคอเสื้อไอ้ภีมให้หันหน้ามาเผชิญกัน มันเหลือบตามองมือผมก่อนจะจ้องหน้ากันด้วยความกวนตีน

"จะทำอะไรกูหื้ม?"
เสียงสูงเพื่อ.. ผมจิ๊ปากเบาๆก่อนจะปล่อยคอเสื้อมันเพราะลืมไปว่าไอ้พี่ดีพมองอยู่ รายนั้นเขารักแฟนมากกว่าน้องตัวเองอีกเถอะ ยังไม่อยากถูกแหกอกก็ต้องสงบเสงี่ยมกันหน่อยวะ

"มึงบอกพี่ดีพทำไมวะ มันล้อกูตายแน่ๆ"
ผมกัดฟันพูดเสียงเบาๆเพราะไม่อยากให้ไอ้คนที่อยู่ในจอสี่เหลี่ยมได้ยิน แต่ไอ้ภีมกับยิ้มกริ่มแล้วพูดประโยคที่ผมแทบจะภีมมันตกเก้าอี้

"ไอ้ออยก็รู้แล้วนะ"

"หา! มึงจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้เลยหรือยังไง"
ผมเหวมันเสียงดังก่อนจะหันไปเจอกับรอยยิ้มกรุ่มกริ่มและท่าทางฟินหนักมากของมัน จนผมแทบมุดหน้าหนีกับแขนไอ้ภีม โอย ห่าเอ้ย โดนล้อทั้งวันทั้งคืนแน่ๆแบบนี้ ฮือ ตายๆๆๆ

'น้องพี่จะมีผัวแล้ว ดีใจจัง'
ผมถลึงตามองไอ้พี่ดีพก่อนจะจับหน้าจอโทรศัพท์ของไอ้ภีมเขย่าแรงๆด้วยความหงุดหงิด ดีใจบ้าบออะไร นี่น้องตัวเองเป็นผู้ชายนะเว้ย ไม่คิดว่าผมจะเป็นฝ่ายรุกบ้างหรือยังไง!

"ดีใจบ้าไรวะ ไม่คุยด้วยละแม่ง กวนตีน!"
ผมด่ามันก่อนจะย้ายก้นไปนั่งเก้าอี้ข้างๆแทน คราวนี้ไม่โดนพี่ดีพแซวแต่โดนไอ้ออยคุกคามแทน

"ไอ้คิสสสสส ~ กูอิจฉา เป็นไงๆ ฟินป่ะ?"
มันย้ายก้นมานั่งแหมะข้างผมก่อนจะกอดแขนเอาไว้แน่นแล้วส่งตาเป็นประกายมาให้กัน ผมถลึงตาใส่ก่อนจะผลักหัวมันออกไปไกลๆ ฟินบ้านป้าแกสิวะไอ้ออย กูจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วเว้ย ได้ยินก็เขินขึ้นมาอีกแล้ว โอย หัวใจสั่นแรงมาก

"ฟะ ฟินบ้าพ่อง ไม่รู้เว้ย เมา หลับ!"
ผมแกะแขนมันออกแล้วพยายามหันหน้าหนี เพราะตอนนี้ไอ้ออยขยับหน้ามาล้อเลียนผมอีกระลอก จะอะไรนักหนาวะเนี่ย แล้วไอ้ตัวต้นเหตุก็หายเงียบไปเลย ปกติถ้าผมไม่ไปที่ร้าน ไม่ตอบไลน์หรือตื่นสายพี่จีบจะติดต่อมา แต่นี่อะไรเหมือนตายไปจากชีวิตกันซะอย่างนั้น

"แหมๆ หลับแล้วจะรู้ได้ไงวะว่าโดนจูบ ~"
ไอ้ออยยังไม่เลิกทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่กัน ผมเบ้ปากแล้วมองซ้ายมองขวาหาอะไรยัดปากมัน แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพี่จีบเดินมากับผู้หญิงคนหนึ่ง ดูท่าทางสนิทกันมากจนผมรู้สึกหน่วงในใจขึ้นมาแปลกๆ สายตายังมองเขาไปจนลับ ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

"น้องจูบ มึงเป็นอะไรหรือเปล่า"
เสียงออยเบาลงก่อนจะใช้มือสวยวางบนไหล่กัน ผมยิ้มบางพร้อมกับส่ายหน้าไปมา..

"ไม่เป็นไร ไปจัดสถานที่กันเหอะ"
ผมลุกขึ้นยืนก่อนที่ออยจะจับแขนกันแล้วลุกขึ้นตาม ส่วนไอ้ภีมก็บอกลาพี่ดีพเรียบร้อยแล้วออกเดินตามกันไปยังบริเวณจัดงาน ถึงปากผมจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่สมองไม่ได้เป็นไปตามปากเลย มันพาลแต่จะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มีความสำคัญกับเขามากแค่ไหน แล้วที่ไม่ติดต่อมาเลยวันนี้เพราะยุ่งหรือเพราะมัวดูแลผู้หญิงคนนั้นกันแน่

"คิส"

"....."

"ไอ้คิส"

"......"

"ไอ้จูบ!!"
ผมสะดุ้งเมื่อไอ้ภีมตะโกนเรียก คิ้วของมันขมวดเข้าหากันจนแทบจะเป็นปม

"หา อะไรวะ"
ผมที่ได้สติละล่ำละลักถามออกไป ในมือยังมีอุปกรณ์ตัดกระดาษคาอยู่ในมือ กระดาษที่ตัดอยู่ยังไม่ได้ขาดออกจากกันสักนิดเดียว

"มึงเหม่ออะไรเนี่ย จะตัดมือตัวเองอยู่แล้ว"
ไอ้ภีมดึงกรรไกรออกจากมือผมไปถือเอาไว้แล้วส่งสายตาดุๆมาให้กัน ผมหัวเราะแห้งๆก่อนจะขอโทษออกไปเพราะรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง

"ขอโทษๆ คิดอะไรเพลินไปหน่อยว่ะ"
พูดขอโทษไปก็เจอพี่จีบเดินผ่านไปกับผู้หญิงคนเดิมอีกแล้ว.. แต่คราวนี้เพิ่มสกิลความใกล้ชิดเป็นควงแขน คือจะให้คิดยังไงวะ ควงกันไปควงกันมาแบบนี้ แล้วไอ้ที่จูบผมไปเมื่อคืนคือจูบลาหรือยังไง

"เรื่องที่คิดอยู่เกี่ยวกับคนที่มึงมองอยู่ใช่ป่ะ?"
ไอ้ภีมกอดไหล่ผมเอาไว้แล้วมองกันด้วยสายตาจริงจัง ผมไม่รู้จะโกหกเพื่อนไปทำไมเลยพยักหน้ารับดีกว่า

"อืม คืออะไรวะ จีบกูแต่ควงคนอื่นเนี่ยนะ แล้วเมื่อคืนมาจูบกูทำไม"
ผมถามออกไปอย่างล่องลอย ไม่ได้ต้องการคำตอบจากใครทั้งนั้น ในหัวสมองมันคิดไล่ลำดับสิ่งที่พี่จีบเดินเข้ามาในชีวิตเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ มีอะไรผิดพลาดตรงไหน? หรือเป็นแค่การหยอกเอินเล่นๆของพวกคนฮอต พอรู้ว่าเหยื่อติดกับก็ถอนตัวแบบนั้นน่ะเหรอ

"คิส.. มึงกำลังเสียใจเหรอ?"
ไอ้ภีมถามขึ้นพร้อมกับบังคับให้ผมมองหน้ามัน ดวงตาคมที่จ้องมองมาทำให้ผมต้องเบนหลบ กลัวว่าดวงตาที่สั่นไหวจะมีน้ำใสๆไหลออกมา ยอมรับว่าตอนนี้มันปวดร้าวไปทั้งใจ ตลอดเวลาสี่ห้าชั่วโมงที่ผ่านมามันช่างทรมานเหลือเกิน

"กู.. ชอบพี่จีบไปแล้วว่ะภีม ฮึก"
สุดท้ายผมก็ไม่สามารถสั่งการอะไรตัวเองได้อีก น้ำตาไหลเป็นสาย เสียงสะอึกสะอื้นดังออกมาอย่างไม่อายใครจนไอ้ออยต้องวางมือจากงานแล้วดึงผมเข้าไปกอดไว้

"ใจเย็นนะคิส พี่จีบไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก"
ออยพูดปลอบก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวผมเป็นการปลอบประโลมกัน

"ไม่รู้ กูสับสน กูไม่กล้าถาม ฮึก"
ผมส่ายหน้าเบาๆกับไหล่ไอ้ออยปล่อยน้ำตาให้ไหลเปรอะเสื้อสีชมพูตัวเก่งของมันไปเรื่อยๆ

"คิส มึงหยุดร้องแล้วฟังกูก่อนได้ป่ะวะ"
ไอ้ภีมแตะไหล่ผมก่อนจะบีบเบาๆ ผมผละออกจากออยก่อนจะใช้มือปาดน้ำตาแล้วหันไปมองไอ้ภีม ผมพยักหน้าเบาๆแล้วสูดน้ำมูกไปด้วย อับอายฉิบหาย

"คือ.. ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นรุ่นพี่พี่จีบ เป็นแฟนกับพี่ไลค์"
ผมเบิกตากว้างก่อนจะอ้าปากหวอ มันว่าอะไรนะ แฟนพี่ไลค์เหรอ! แล้วทำไมมาควงพี่จีบอยู่แบบนี้ล่ะวะ

"อะไรนะ แล้วทำไมไม่รีบบอกวะ ปล่อยให้กูร้องไห้ไปเหอะ!"
ผมฟาดแขนไอ้ภีมไปเต็มๆ รายนั้นแทนที่จะโวยวายเพราะจับตัวกลับลงไปนอนดิ้นบนพื้นแล้วขำตัวงอ ใบหน้าหล่อๆแดงเถือกไปหมด ไอ้ออยยังทำหน้าเหวอส่งมาให้กันด้วย คงจะอึ้งพอๆกับผม

"โอ้ย ปวดท้องว่ะ แกล้งมึงสนุกอ่ะ"
มันยังขำต่อไปแบบไม่อายใคร ผมเลยกำหมัดทุบลงบนแขนมันอีกรอบ หน้าตาบิดเบี้ยวเพราะทั้งโมโหทั้งอาย ฮึ่ย มึงโดนไอ้พี่ดีพปล้ำแน่ มึงต้องโดนแน่ๆ!!

"หยุดเลยนะไอ้ภีม เอาความรู้สึกกูมาล้อเล่นไม่สนุกนะ"
ผมว่าก่อนจะมุ่ยหน้า โมโหนะแต่แอบดีใจที่พี่จีบไม่ได้ไปควงคนอื่น จะโกรธไอ้ภีมก็โกรธไม่ลงไปอีก เพราะเหตุการณ์นี้มันทำให้ผมมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแบบสุดๆว่าผมชอบพี่จีบเข้าแล้วจริงๆ ไม่ใช่ในฐานะไอดอลแต่เป็นในฐานะคนๆหนึ่ง

"กูขอโทษ แต่มึงก็ยอมรับแล้วนะว่ามึงชอบพี่จีบแล้ว"
มันกลั้นขำก่อนจะตบบ่าผมเหมือนให้กำลังใจกัน ผมเบะปากใส่ก่อนจะผลักอกมันเบาๆแล้วยิ้มออกมา ต้องขอบคุณมันหรือเปล่าล่ะ แหม!

"มึงแสบมากอ่ะภีม กูยอมใจ"
เสียงไอ้ออยว่าอย่างหวาดๆ มองไอ้ภีมด้วยสายตาหวาดกลัวก่อนจะกลับไปทำงานที่มันรับผิดชอบต่อ ไอ้ภีมทำแค่ยังไหล่แบบไม่แคร์แล้วทำงานของตัวเองบ้าง

"คิส"
เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้น ผมไม่คิดว่าเข้าจะมายืนค้ำหัวกันตรงนี้ และที่สำคัญคือไอ้พี่จีบมันเดินมาตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ผมเพิ่งตั้งหน้าตั้งตาทำงานได้ไม่ถึงห้านาทีหลังจากเหตุการณ์เมื่อครู่เองนะ

"คะ ครับ"
ผมเงยหน้าก่อนจะยิ้มเผล่ไปให้ ร่างสูงนั่งยองๆลงตรงหน้าแล้วจ้องกันอย่างจับผิด.. เอ่อ คือว่า ผมทำอะไรผิดเหรอ

"ทำไมตาบวม"
พี่จีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกจนผมต้องเอนหลังหนี ได้ยินเสียงไอ้ออยกับไอ้ภีมซุบซิบอะไรกันก็ไม่รู้ แต่ไม่มีสมาธิเผือกเรื่องเขาไง เรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดเลย หัวใจก็เต้นอย่างกับไปวิ่งสี่ร้อยเมตรมา

"มันร้องไห้"
ผมกำลังจะตอบแต่ไอ้ภีมขัดขึ้นซะก่อนจนต้องหันไปถลึงตาใส่มันแล้วด่าเชี่ยแบบไม่มีเสียงออกไป มันยักคิ้วกวนๆให้กันก่อนจะกลับไปสนใจงานต่อ ไอ้นี่ชอบทิ้งระเบิดแล้วหนีไปตลอด

"ร้องไห้ ร้องทำไมวะ ใครทำอะไรมึง"
มือหนายกขึ้นประคองแก้มทั้งสองข้างจนผมสะดุ้งเฮือก จะขยับหนีก็กลัวว่าไอ้พี่จีบจะยื่นหน้าลงมาใกล้กันกว่านี้

"อะ เอ่อ ไอ้ภีมมันมั่ว ผมแค่นอนดึกอ่ะ แล้วนี่พี่มาทำอะไรครับ"
ผมเบนสายตาไปทางอื่นก่อนจะหัวเราะแห้งๆออกมา พี่จีบถอนหายใจเบาๆก่อนจะผละมือออกแล้วทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิตรงหน้ากัน ดูหน้าเขาแล้วคงเหนื่อยพอตัวเลย

"เมื่อเช้าไปรับพี่ไนน์ที่สนามบินแทนไอ้ไลค์ แล้วโดนวงเรียกซ้อมร้องเพลงกะทันหัน"
พี่จีบพูดก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ผมมองเขาแล้วรู้สึกว่าอยากช่วยให้หายเหนื่อย แต่ไม่รู้ว่าจะทำวิธีไหนดี

"อ๋อ.. คนที่มากับพี่น่ะเหรอครับ"
ผมเลือกถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป พี่จีบลืมตามองกันก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก แต่ไม่นานนักก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

"เห็นด้วยเหรอว่ากูพาพี่ไนน์มา ไม่ใช่มึงคิดว่ากูควงสาวคนอื่นหรอกนะเลยร้องไห้"

"เฮ้ย ไม่ใช่เว้ย ก็บอกแล้วไงว่านอนดึก"
ผมรีบพูดจนลิ้นแทบจะพันกัน ก้มหน้าก้มตาตัดกระดาษอย่างเอาเป็นเอาตาย โอยแม่ง เบี้ยวด้วยเถอะ สมาธิ สติ ไม่มีเหลือแล้วงานนี้ ผมเป็นคนดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ ตายๆๆๆ

"พี่ไนน์เป็นแฟนไอ้ไลค์"
อยู่ๆพี่จีบก็พูดขึ้นมาแถมยังส่งยิ้มที่ดูยังไงก็โคตรจะอบอุ่นให้กัน พร้อมกับมืออุ่นๆที่ผมชอบยกขึ้นโยกหัวหัวเบาๆ แค่นี้หัวใจก็พองโตจนคับอกไปหมดแล้ว จีบแอทแทคนี่น่ากลัวจริงๆนะ

"บะ บอกทำไมเล่า"
ผมก้มหน้าหลบตาทำเป็นตั้งใจทำงานของตัวเองไปทั้งๆที่ตัวเองเลือกรับรู้ตอนนี้แค่เรื่องของคนตรงหน้าเท่านั้น

"เผื่อคนแถวนี้กำลังคิดมาก เออ ตั้งใจทำงานนะเว้ย กูคงซ้อมจนดึกว่ะวันนี้ พรุ่งนี้ก็ซ้อมอีก เจอกันที่งานตอนเย็นนะ"
พี่จีบพูดก่อนจะผละมือออกแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจนผมต้องหยุดทำงานในมือแล้วเงยมองกัน

"เอ่อ.. ตั้งใจซ้อมนะครับ"
ผมส่งยิ้มหวานๆไปให้กัน เผื่อเขาจะมีกำลังใจซ้อมมากขึ้น พี่จีบยิ้มตอบก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

"ขอบคุณ แต่ถ้าเปลี่ยนจากคำพูดเป็นการกระทำจะดีกว่านะ"
สายตาเจ้าเล่ห์ถูกส่งมาให้ ดวงตาคมดูเป็นประกายจนผมขนลุกซู่ การกระทำบ้าอะไรวะ แล้วนี่พูดอะไรไม่อายเพื่อนผมเลยหรือยังไง

"ทำอะไรเล่า รีบไปซ้อมเลยพี่"
ผมไล่ก่อนจะเอามือดันขาให้พี่เขาออกเดิน แต่เจ้าตัวขืนตัวไว้แล้วดันโน้มตัวลงมาใกล้ๆ

"ให้หอมแก้มสักครั้งแล้วจะตั้งใจ"

"ไม่เอา!"

"น่า นิดเดียวเองครับ"

"คนเยอะเว้ย อย่ามาอ้อนนะพี่"

"ถ้าคนไม่เยอะแปลว่าหอมได้เหรอ?"

"มะ ไม่ได้"

"ภีม ปิดตาไอ้คิสดิ"
ผมกรอกตาเลิ่กลั่กไม่เข้าใจว่าพี่จีบต้องการอะไรแต่ไอ้ภีมก็ทำตามเอื้อมมือมาปิดตากันซะอย่างนั้น ไอ้ผมก็งงๆว่าเขาทำอะไรกันเลยไม่ทันตั้งตัว

ฟอด ~

"ชื่นใจ ไปละ"
มันขโมยหอมแก้มผมเสร็จก็วิ่งหนีไปด้วยความเร็วสูง ปล่อยให้ผมอ้าปากค้าง หน้าร้อนฉ่า ใจเต้นโครมครามอย่างรุนแรง ไอ้ภีมลดมือลงก่อนจะส่งยิ้มล้อเลียนมาให้กัน ส่วนไอ้ออยนี่วี๊ดว้ายจนผมเขินหนักขึ้นไปอีก โวยย ไม่ไหวแล้วเว้ย ถ้าจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้นะ! แพ้อ่ะ แพ้จนยอมทุกอย่างแล้ว ได้ยินไหมว่ายอมแล้ว ชอบแล้ว มาขอเป็นแฟนซะสิ!

และแล้ววันงานดนตรีก็มาถึง ตอนนี้ผมกำลังวุ่นวายอยู่หลังเวทีเพราะต้องจัดหาเก้าอี้ให้วงดนตรีที่มาประกวดและดูแลวงดนตรีชื่อดังที่มาแสดงเปิดงานด้วย ส่วนวงของมหา'ลัยก็นั่งจับเข่าคุยกันอยู่มุมหนึ่งของเต้นท์ติดแอร์

"ไอ้คิส นั่งพักไปมึง เดี๋ยวพวกกูดูแลต่อเอง มึงวิ่งวุ่นมาสองชั่วโมงแล้วนะ"
เสียงไอ้ทอยตะโกนมา ผมเลยพยักหน้ารับแล้วเดินไปหย่อนตัวลงนั่งข้างๆพี่จีบ ก่อนจะมีขวดน้ำยื่นมาตรงหน้า ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ไอ้พี่จีบนั่นเอง

"เอาไป เหนื่อยมากไหม"
ผมพยักหน้าน้อยๆก่อนจะรับขวดน้ำมากระดก พี่จีบมองยิ้มๆก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่มาซับเหงื่อให้จนผมผละถอยออกมาเพราะตรงนี้คนเยอะ

"อื้อ เดี๋ยวผมเช็ดเองครับ"
ผมวางขวดน้ำลงที่โต๊ะใกล้ๆก่อนจะแย่งทิชชู่ในมือพี่จีบมาเช็ดหน้าเอง คนในวงมองมายิ้มๆแต่ไม่พูดอะไร.. ผมล่ะอยากกราบขอบคุณทุกคนที่ไม่แซวผม




ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 07-08-2016 09:18:27
ต่อน้า



"ทำไมวะ อายหรือไงที่กูจีบมึง"
คำถามของพี่จีบทำให้ผมชะงักมือทันทีก่อนจะช้อนตามองด้วยความกังวล จริงๆไม่ได้อายอะไรแต่..มันมีเหตุผลมากกว่านั้น

"ไม่ใช่แบบนั้นครับ แต่พี่เป็นคนดังขอมหา'ลัยนะทำแบบนี้อาจจะโดนมองไม่ดีก็ได้"
ผมรู้ว่านิสัยตัวเองเป็นคนที่แคร์สายตาคนอื่นมาก ไม่อยากให้พี่จีบโดนว่าแบบนั้นแบบนี้ ใครจะว่าผมผมยอมรับได้นะ

"ใครอยากตัดสินเราแบบไหนเราก็ห้ามเขาไม่ได้หรอก แค่เรารู้ว่าตัวเองเป็นยังไงก็พอ บอกแล้วไงว่าให้แคร์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่มัวแต่แคร์คนอื่นแล้วตัวเองไม่มีความสุข"
พี่จีบมองมาด้วยแววตาอ่อนโยนจนเผลอใจกระตุก จริงอย่างที่เขาว่า ถ้าเรามัวแต่แคร์คนอื้นแล้วลืมแคร์ตัวเองจนไม่มีความสุขมันคงเป็นอะไรที่แย่มากจริงๆ

"อื้อ ขอโทษนะครับที่ผมยังแก้นิสัยแบบนี้ไม่ได้ แต่จะพยายามนะ"
ผมพูดก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้

"จริงๆไม่ต้องแก้หรอก แค่แคร์ตัวเองกับคนที่สำคัญให้มากขึ้นก็คงพอมั้ง"

"อื้อ"
หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงของวงมหา'ลัยเพื่อเปิดงานแล้วตามด้วยวงดนตรีที่เราเชิญมา งานเบื้องหน้าเต็มไปด้วยเสียงเฮฮาแห่งความสุข พวกผมก็ต้องวุ่นวายดูแลวงดนตรีต่อไป จนการประกวดเสร็จสิ้น วงที่ชนะได้แก่เด็กมหา'ลัยเราเองนั่นล่ะ.. ไม่อยากจะชมสักเท่าไหร่ว่าเด็กที่นี่เก่งๆกันทั้งนั้น คงยกเว้นผม

"ต่อไปเป็นการแสดงปิดงานของวง xxx ครับ ~ มามันส์กันเลยดีกว่า"
เสียงพิธีกรประกาศชื่อวงดนตรีของมหา'ลัยดังลั่น เสียงกรี๊ดกร้าดจากสาวๆก็ดังไม่แพ้กัน ผมที่เพิ่งได้พักเหนื่อยมาไม่นานยังคงนั่งอยู่ที่เดิมกับทีมงานคุณภาพสี่ห้าคนอย่างที่เคยได้แบ่งกลุ่มเอาไว้ รอพี่จีบร้องเพลงที่สองที่สามค่อยออกไปดูแล้วกัน

"ออกไปดูพี่จีบดิมึง"
ไอ้ออยที่นั่งข้างๆกระแซะเข้ามาหาผมก่อนจะทำปากยื่นปากยาวไปด้านหน้าเวที ผมส่ายหน้าพรืดเพราะยังไม่หายเหนื่อยจากงาน

"เหนื่อยอ่ะ ขอพักแป็ปนึง เดี๋ยวค่อยไปดู"
ผมว่าก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลงพักสายตา ไม่นานนักก็รู้สึกเหมือนมีใครมายืนค้ำหัวกัน ดวงตาคมเปิดขึ้นก่อนจะเบิกกว้างตกใจเมื่อใบหน้าของใครคนหนึ่งอยู่ใกล้ขนาดปลายจมูกแทบชนกัน

"เชี่ยย!"
ผมตะโกนพร้อมกับผละตัวหนีทันที คนที่ยืนก็หลบได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่หัวเราจะโขกกัน มีเสียงหัวเราะเกิดขึ้นเบาๆจากทางด้านหลัง

"ด่าพี่เหรอครับ เสียใจจัง"
พี่คินพูดแบบนั้นแต่กลับส่งยิ้มกว้างมาให้ ข้างๆกันเป็นพี่แก๊ปที่ยกยิ้มมุมปากอยู่ ผมถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเห็นหน้าคนทั้งคู่ชัดๆ นึกว่าจะมีใครมาแกล้งหลอกผีซะแล้ว

"ขอโทษๆ ก็มันตกใจนี่ครับ"

"ออกไปดูจีบร้องเพลงกันเถอะ"
พี่คินพูดจบก็ถือวิสาสะจับข้อมือกันแล้วกระตุกให้ผมลุกขึ้น

"เดี๋ยวครับ ผมเหนื่อยอ่ะ ขอพักแป็ปนึงนะ"
ผมมองพี่คินด้วยสายตาออดอ้อน แต่พี่คินกลับยิ้มหวานแล้วออกแรงกระตุกจนผมต้องลุกขึ้น พี่แก๊ปส่ายหน้าเบาๆเหมือนจะไม่ยอมให้ผมพักเช่นกัน

"เดี๋ยวไม่ทัน ไปกันเถอะ"
พี่แก๊ปพูดออกมาสั้นๆก่อนจะจับข้อมือผมอีกข้างแล้วช่วยกันลากผมไปหน้าเวทีที่มีคนเบียดเสียดกันเป็นจำนวนมาก ตอนนี้พี่จีบร้องเพลงมาถึงลำดับที่สามซึ่งเป็นเพลงช้าๆฟังสบายๆแต่เนื้อหาเพลงโคตรจะหน่วง น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังแล้วชวนให้เคลิ้บเคลิ้ม ไม่นานนักมันก็จบลงและลำดับเพลงสุดท้ายก็ถูกประกาศโดยพี่จีบ และผมที่โดนพามายืนติดขอบเวทีตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้ มีพี่แก๊ปและพี่คินขนาบทั้งสองข้าง

"เพลงนี้ผมตั้งใจจะร้องให้คนๆหนึ่งฟัง ฟังจบแล้วผมก็อยากได้คำตอบจากเขาด้วย เพราะอย่านั้นอย่ารอช้าเลยครับ ไปฟังกันเลย"
ตั้งแต่ต้นประโยคยันท้ายประโยคสายตาของพี่จีบจับจ้องมาที่ผมแต่เพียงผู้เดียว นั่นทำให้หัวใจที่เคยเต้นใจจังหวะปกติเริ่มรัวเร็วขึ้นไปพร้อมๆกับจังหวะกลองในตอนนี้ ความตื่นเต้นและความรู้สึกกับลงผสมปนเปกันไปหมด

เธอน่ารักไม่ต้องสงสัย
คิดถึงทีไรก็เพ้อ
ก็เลยรักจนหมดหัวใจ
เป็นตายยังไงก็ต้องมีเธอ

หัวใจผมกระตุกวาบเมื่อรับรู้ได้ถึงเสียงทุ้มนุ่มเปล่งออหมาเป็นทำนอง เนื้อเพลงที่ไม่เคยได้ยินมานานกลับผ่านเข้าหูและกำลังฝังลึกลงในสมองและหัวใจอย่างช้าๆ

เฝ้าแอบฝันไปไกลถึงไหน
ว่าเธอมีใจเสมอ
แต่ในความจริงมันจะเป็นได้ไหม
มีเพียงทางเดียวก็ต้องถามเธอ

คำว่ารักฉันพูดมาตลอดเลย
อย่างที่เธอเคยเคยได้รับฟัง
แต่เธอก็รู้ คนเรามันตบมือข้างเดียวไม่ดัง
ฉันเลยต้องมา มาขอความเมตตาสักครั้ง

พี่จีบมองสบตากับผม.. แววตาที่จ้องมองกันเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัย ผมรู้สึกหน้าร้อนฉ่าเมื่อสำเหนียกได้ว่าท่อนต่อไปเนื้อร้องเป็นยังไง มือไม้เริ่มชื้นเหงื่อไปหมด

เธอจะรักฉันได้ไหม ถ้าเธอยังไม่รักใคร
อยากให้เธอเปิดใจให้กัน
ขอสัญญาด้วยชีวิตฉัน
ว่าจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ

ได้โปรดรักฉันได้ไหมขอร้อง
ไม่อยากต้องเห็นเธอเป็นของใคร
จะอยู่บนโลกนี้ยังไง
ถ้าไม่มีเธอเคียงข้างกัน

พี่จีบถ่ายทอดความรู้สึกที่เขามีต่อผมทั้งหมดผ่านแววตา น้ำเสียง และการกระทำ ไม่มีครั้งไหนเลยที่คนตรงหน้าผมจะหวั่นไหวต่อสิ่งเร้า ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะล้อเล่นกับความรู้สึกของผม ตอนนี่ผมได้แต่ยืนเม้มปากแล้วจ้องคนบนเวทีไม่ละสายตา รู้สึกได้ว่าตัวจะระเบิดเพราะอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นซะดื้อๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรแสดงสีหน้าท่าทางแบบไหนดี.. โดนขอความรักกันกลางงานขนาดนี้คิดว่าผมจะไม่เขินเลยหรือยังไงวะ! ถ้าจะทำแบบนี้ไม่ประกาศชื่อกลางเวทีเลยวะ!

ผมยืนอ้ำๆอึ้งๆฟังเพลงจนจบด้วยความรู้สึกมากมายที่ตีกันไปมา ทั้งเขิน ตื่นเต้น กังวล กลัว สารพัดสารเพ เสียงรอบข้างเงียบลงแล้วเมื่อเสียงเพลงหยุดลง ผมที่เผลอก้มหน้าในช่วงท้ายเพลงกลับต้องเงยหน้าขึ้นมองพี่จีบเหมือนกับโดนมนต์สะกด

"คนๆนั้นอย่าเพิ่งหนีไปไหนนะครับ ผมอยากได้คำตอบ"
แล้วร่างสูงก็ส่งไมค์ต่อให้คนในวงก่อนจะกระโดดลงจากเวทีมาหยุดตรงหน้าผมแบบพอดิบพอดี มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามกันไป มีเสียงกรี๊ดกร๊าดเป็นแบล็คกราวด์ประกอบไม่ขาดสาย

ตอนนี้เราสองคนอยู่ที่ลานน้ำพุหน้าคณะบริหาร แสงไฟประดับประดาตรงซุ้มหน้าคณะดีสวยงาม.. ธีมงานของคณะบริหารคืออินเลิฟ ซึ่งมีการจัดซุ้มดอกกุหลาบไว้หน้าคณะแบบพอดิบพอดี เสียงของน้ำพุดังแหวกท่ามกลางความมืด.. แต่เชื่อไหมว่าเสียงหัวใจของผมในตอนนี้ดังกว่าเป็นไหนๆ

"พะ พี่พาผมมาตรงนี้ทำไม"
ผมถามเสียงตะกุกตะกักไม่กล้ามองหน้าพี่จีบ จากที่เคยจับข้อมือกันตอนนี้กลับกลายเป็นว่าพี่จีบจับมือผมเอาไว้หลวมๆแทน

"พี่มีคำถามให้คิสตอบครับ"
น้ำเสียงนุ่มๆเพราะๆถูกเปล่งออกมาชวนให้ใจกระตุก ฉับพลันรู้สึกได้เลยว่าแก้มตัวเองตอนนี้ต้องร้อนมาแน่ๆ สมองกำลังฉายวนฉากจูบและเสียงเพลงตรึงใจนั่น

"คะ ครับ"

"อินธิพัฒน์ครับ Would you love me?"



---------------------------------------------------------

เพลง เธอจะรักฉันได้ไหม – Instinct





Q & A กับคิน
Q : จีบเป็นคนร้ายกาจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คินรู้ไหม?
A : เมื่อก่อนมันก็ไม่ได้เป็นคนแบบนี้หรอกครับ ตั้งแต่เจอคิสมันก็กลายเป็นคนเจ้าแผนการไปเลย
Q : แล้วเรื่องแก๊ปกับคินล่ะ.. อยากไขความกระจ่างให้ทุกคนแล้วหรือยัง?
A : ก็.. -/////- คบกันแล้วครับ




งานดนตรีหรืองานขอความรักกันแน่น้อ ~ 55555555 น้องคิสเราถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว
แล้วน้องเขาจะตอบคำถามของพี่จีบว่ายังไงนะ... เป็นเราคงพุ่งเข้ากอดแล้วลากพี่จีบเข้าห้องเลย(?) หึหึ

อ่านให้สนุกน้า ช่วยคอมเม้นต์ติชมด้วยเนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 07-08-2016 09:44:31
งานดนตรีนะจ๊ะพี่จีบ มิใช่วาเลนไทน์ขอความรัก 555555 เอาเเล๊วๆๆๆๆ ก็ชอบไปแล้วอ่ะ งั้นก็เป็นเเฟนกันไปเลยละกัน ไม่ต้องชงเเล้วคู่นี้
รีบเป็นเเฟนกันก่อน จะมีคนมางาบนะน้องคิส
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-08-2016 10:24:52
กรี๊ดดดดดดด ขอน้องเปนแฟนแบบออกสื่อมากๆ
ฟินอ่าาาาาา >\\\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-08-2016 10:26:39
ตอบตกลงพี่จีบเลยคิส  :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 07-08-2016 10:30:36
 :impress2: :L1: :hao3:พี่จีบๆๆๆเจ้าแผนการน้องคิสๆๆ :katai2-1: :ling1: :pig4: :pig4:
รอๆๆๆๆตอนต่อปายยยยย :L2: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 07-08-2016 12:32:56
Say Yes ไหมจ๊ะ น้องจูบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-08-2016 12:42:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-08-2016 13:14:39
คิสจ๋ากระโดดล้อคคอเกี่ยวเอวเลยจ้า
อย่าให้หลุดมือไปได้นะลูกนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-08-2016 13:42:11
ตอบตกลงเลยค่ะ น้องคิส อั๊ยยยยยยยยยยยย :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 07-08-2016 17:55:16
อุ้ยยยยยย ตกลงไปเลยน้องคิส

พี่จีบน่ารักน๊าาาาาาาา (ช่วยพี่จีบขายของ ฮาาาา)
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 07-08-2016 18:32:19
ตอบตกลงไปเลยน้องจูบ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-08-2016 18:59:20
ตกลงไปเลยจ้าาาาาา น้องคิส
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 16 -P.9- (07.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-08-2016 19:20:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 09-08-2016 14:18:58
- ดื่มครั้งที่ 17 -




"อินธิพัฒน์ครับ Would you love me?"
คำถามเพียงประโยคเดียวทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์ หัวสมองตื้อไปหมด อาจจะเพราะทั้งตกใจ ดีใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ หัวใจเต้นดังโครมครามจนเหมือนมีแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นทั้งๆที่ผมยังทรงตัวได้ดีบนพื้นตัวหนอน ดวงตาคมจับจ้องมาที่ผมด้วยความจริงจัง ผมควรจะตอบพี่จีบว่ายังไงดี ไม่เคยโดนขอความรักแบบตรงๆมาก่อนเลย ครั้งนี้ครั้งแรกกับคนแรกที่ดันตกหลุมชอบเขา

"เอ่อ คือ..."
ผมเอ่ยตะกุกตะกักก้มลงมองมือตัวเองที่โดนมือใหญ่ประสานเอาไว้ ขอให้รักเหรอ..ผมยังไม่มั่นใจเลยว่ารักพี่จีบหรือเปล่า แต่ถ้าถามว่าชอบไหม ตอบได้แบบไม่ต้องอ้อมค้อมเลยว่าชอบไปแล้ว

"ถ้าไม่พร้อมตอบก็ไม่เป็นไร กูรอได้"
พี่จีบยกยิ้มบางส่งให้กัน แววตามีแววความผิดหวังแต่ก็เพียงแค่ครู่เดียวก่อนจะกลับมาคาดเดาไม่ได้ มีที่เคยประสานเอาไว้คลายออก แต่ผมกลัวว่าถ้าพี่จีบปล่อยมือไปแล้วเราจะไม่มีโอกาสได้จับมือกันแบบนี้อีก ผมเลยตัดสินใจจับมือเขาเอาไว้แน่นก่อนจะทำใจแข็งมองตาคู่สวยนั่นไปแบบตรงๆ

"ผมชอบพี่แล้วนะ รอผมได้ไหมครับ รอคำว่ารักจากผม"
ผมมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอนแบบปิดไม่มิด ผมยอมรับว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่อยากให้เขาเลิกรอ ไม่อยากให้เขามองคนอื่นนอกจากผม เพราะผมชอบเขาไปแล้ว แค่รอเวลาให้ผมมั่นใจว่าผมรักคนๆนี้จริงๆ.. ผมไม่อยากคบกับใครเพราะเพียงแค่คำว่าชอบเท่านั้น อยากให้คบกันด้วยความรัก

"แค่ชอบก็ดีแล้วว่ะ จะให้รอเป็นปีก็รอได้ กูเก่ง"
พี่จีบพูดจบก็คลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิมให้กัน ผมคลายมือที่จับมือที่จีบไว้ก่อนจะโถมตัวเข้าไปกอด ใบหน้าที่ร้อนวูบวาบซุกลงบนไหล่กว้าง อยู่ๆก็รู้สึกเขินกับสิ่งที่พี่จีบพูดออกมาซะอย่างนั้น คนบ้าอะไรวะทำตัวน่ารักขนาดนี้ เพียงแค่นี้หัวใจก็ทำงานหนักจะแย่แล้ว

"ตกใจหมดเลยมึง"
พี่จีบว่าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วโอบกอดผมเอาไว้เงียบๆ เราไม่ได้พูดอะไรกันอีกหลังจากนั้น บทสนทนาของเราเริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อมาถึงลานจอดรถของคณะผม.. ดึกมากแล้ว ไอ้ออยกับไอ้ภีมก็กลับไปแล้วด้วย

"กลับกับกูเถอะ ไม่อยากให้มึงขี่รถดึกๆดื่นๆแบบนี้ มันอันตราย"

"แล้วจะให้ผมทิ้งรถไว้ตรงนี้เหรอ"
ผมถามแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง.. ตอนนี้มันเหลือแค่รถผมคันเดียวที่จอดอยู่ ดูสถานการณ์แล้วไม่ว่ายังไงก็ไม่สมควรทิ้งมันไว้ตรงนี้จริงๆนะ พี่จีบเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้แล้วล้วงของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ มันคือกุญแจรถ BMW ลูกรักของเขานั่นเอง

"มึงขับรถเป็นป่ะ"

"เป็นครับ ทำไมเหรอ"
ผมเอียงคอมองด้วยความสงสัยก่อนที่กุญแจรถหรูจะโดนยัดใส่มือกันง่ายๆ ผมอ้าปากหวองงกับการกระทำของร่างสูงตรงหน้า หมายความว่ายังไงกันล่ะนี่

"เอากุญแจมึงมา"
มือใหญ่แบมาตรงหน้าแถมกระดิกนิ้วเร่งยิกๆ ไอ้ผมก็ยังเอ๋อแดกอยู่ไง ไม่เข้าใจว่าพี่เขาต้องการอะไรกันแน่

"ไม่ๆ เดี๋ยวดิ คืออะไรเนี่ย ผมงงไปหมดแล้ว"
ผมกำกุญแจรถพี่จีบแน่นก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงเพราะความสงสัยมันล้นออกมา พี่จีบพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะจิ๊ปากเหมือนกำลังถูกขัดใจอะไรเทือกนั่น

"มึงขับรถกู เดี๋ยวกูขี่รถมึงกลับเอง"
ดวงตาคมจ้องมองมาไม่มีแววล้อเล่น ผมที่ยังเอ๋ออยู่โดนประโยคนี้เข้าไปยิ่งเอ๋อหนักเป็นสองเท่า ให้ผมขับลูกรักของพี่เนี่ยนะ ถ้าเกิดไปชนเข้าล่ะ ผมไม่เป็นหนี้พี่ไปจนตายเลยหรือยังไง

"ไม่เอา ผมขี่กลับเองได้ ไม่มีอะไรหรอกน่า ผมก็เป็นผู้ชายนะเว้ย"
ผมว่าก่อนจะยืดอกแสดงความแมนออกมา ถึงจะผอมไม่ค่อยมีกล้ามเนื้ออย่างพี่เขาก็เถอะ แต่ผมก็เป็นผู้ชายที่สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรเลยนะ ไม่ได้ตัวเล็กผอมบางสักหน่อย

"จะเป็นอะไรกูก็ไม่สน รู้แค่ว่ากูเป็นห่วงมึง เข้าใจ๊?"
พี่จีบว่าก่อนจะยกมือขึ้นมาดีดหน้าผากกัน ผมหลับตาปี๋ก่อนจะร้องโอ้ยออกมาเบาๆ ทำไมต้องลงไม้ลงมือด้วยว่ะเนี่ย แต่คำพูดของพี่จีบชวนให้ใจเต้นอีกแล้ว จะหยอดให้เปลี่ยนจากชอบกลายเป็นรักภายในเที่ยงคืนวันนี้เลยหรืออย่างไรกัน ผมไม่ใช่ซินเดอเรลล่านะเว้ย ถึงพี่จะเป็นเจ้าชายก็เถอะนะ

"แต่.. ผมก็เป็นห่วงพี่เหมือนกันนะ!"
ผมตะโกนออกไปไม่ดังนักแล้วหลบสายตาที่จ้องมาแบบตื่นๆ พี่จีบคงตกใจที่ผมแสดงอาการเป็นห่วงเขาออกมาไม่แพ้กัน ใครจะอยากให้คนที่ตัวเองชอบไปเสี่ยงอันตรายแทนกันเล่า เป็นตายยังไงผมก็ไม่ยอมให้พี่จีบขี่รถกลับแน่ๆ แต่..ถ้าคิดในมุมมองพี่จีบ เขาก็คงคิดเหมือนผมเช่นกัน

"เป็นห่วงกูจริงๆเหรอ"
น้ำเสียงทุ้มถามขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มอย่างที่เขาชอบทำบ่อยๆและผมก็ยอมรับทุกครั้งว่ามันดูเท่ปนเจ้าเล่ห์ชอบกล ผมเบนสายตามองไปทางอื่น กุญแจรถหรูในมือคงกำลังชื้นไปด้วยเหงื่อแน่ๆ ลมออกจะพัดเย็นสบายแต่ร่างกายของผมกลับร้อนวูบวาบราวกับคนจะเป็นไข้

"ไม่พูดแล้ว ทิ้งรถไว้นี่ก็ได้ครับแล้วเรากลับด้วยกันนะ เดี๋ยวผมเดินไปบอกพี่ยามที่ตึกไว้ก็ได้"
สุดท้ายผมก็ยอมจำนนต่อตัวเอง ทั้งๆที่รู้ว่าฝากรถไว้กับพี่ยามได้แต่ผมเลือกอยากจะเอามันกลับเอง เพราะคิดว่ามันคงไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรงเกิดขึ้นหรอก ก็แค่ขี่รถกลับหอเอง แต่ก็ไม่อยากให้พี่จีบเขาเป็นห่วงนี่

"ไม่ห่วงรถแล้วหรือไง"
ทั้งๆที่ผมไม่ได้พูดออกไปว่าเป็นห่วงรถสักคำ แต่พี่จีบเขาก็จีบสังเกตได้ ผมส่งยิ้มแหยๆให้ไป ก็คนมันเป็นห่วงพี่จีบมากกว่านี่นา ถ้ารถหายก็ถือว่าฟาดเคราะห์แล้วกันวะ โดนพ่อกับแม่สวดสักอาทิตย์นึงคงพอไหวอยู่

"เอาน่าๆ ผมไปคุยกับพี่ยามแป็ปนึงนะครับ"
ผมว่าก่อนจะรีบเดินไปหาพี่ยามที่ยืนยิ้มแฉ่งให้ผมอยู่ พวกเราคุยกันอยู่สักพักก่อนจะจะกล่าวขอบคุณพี่ยามผู้ใจดีที่สัญญาว่าจะดูแลรถผมเยี่ยงไข่ทองคำ.. บางทีพี่ยามก็โอเวอร์ไปว่ะ

ผมกลับมาหาคนที่ยืนรออยู่ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ พี่จีบสาวเท้าเข้ามาหากันก่อนจะถือวิสาสะจับมือผมเอาไว้

"ดึกแล้ว เดี๋ยวหลง"
พี่เขาว่าก่อนจะออกแรงกระตุกมือให้ออกเดินไปพร้อมๆกัน ในใจอยากตะโกนกรีดร้องออกไปว่านี่มันมหา'ลัยนะไม่ใช่ป่าดงดิบที่จะเดินหลงน่ะ.. แล้วไอ้การไปเอารถที่ตึกกลางก็ไม่ได้เดินไกลสักเท่าไหร่ด้วย แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธมืออุ่นๆนั่นหรอกนะ และผมคงเริ่มชินกับความเนียนของพี่จีบไปแล้วล่ะมั้ง ไอ้ที่ว่าหลงเนี่ย.. กลัวผมจะหลงพี่จีบจนถอนตัวไม่ขึ้นมากกว่า

ผมมาถึงหอพักในเวลาเกือบๆจะเที่ยงคืนและไอ้ความที่ผมเป็นห่วงพี่จีบไม่อยากให้ขับรถกลับบ้านเท่าไหร่ก็ผุดขึ้นมาจนทำให้ผมลากพี่จีบขึ้นมาบนห้องด้วย ไม่ได้ใจง่ายชวนผู้ชายขึ้นห้องนะเว้ย อย่าเข้าใจผิด แค่เป็นห่วงไม่อยากให้ขับรถ โอเคนะ!

"ห้องหรือรังหนูวะ"
พี่จีบนั่งลงบนเตียงก่อนจะมองไปรอบๆห้องด้วยใบหน้าขำๆ ผมถลึงตาใส่ก่อนจะรีบเก็บเศษกระดาษที่หล่นเกลื่อนกลาดตามพื้นลงถังขยะใบน้อยที่ดูยังไงก็ไม่สามารถยัดความซกมกของผมลงไปได้หมด คือ..ก่อนหน้านี้อาจารย์สั่งงาน CG Painting แล้วผมร่างรูปออกมาไม่ถูกใจสักที เลยขยำกระดาษทิ้งใบแล้วใบเล่าจนรกอย่างปัจจุบันนี่ล่ะ.. ให้วาดอะไรไม่วาด ให้วาดการ์ตูนแนวแฟนตาซี ตอนลงสีคงตายอย่างเขียดกับเอฟเฟ็คตะการตาเป็นแน่ ก่อนจะสั่งงานแบบนี้ควรทดสอบการลงสีของนักศึกษาก่อนนะครับนะ

"โหย ก็ทำงานอ่ะ ไม่ว่างเก็บ"
ผมบอกก่อนจะมุ่ยหน้าใส่คนที่นั่งกระดิกเท้าสบายใจเฉิบ ก้มเก็บขยะของตัวเองไปเรื่อยๆ ปากก็บ่นงุ้งงิ้งๆไม่เป็นภาษา จนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆมาจากพี่จีบ

"บ่นๆ ทำรกเองแล้วมาบ่นนะมึง"
พี่จีบยกมือขึ้นผลักหัวกันเล็กน้อยขณะที่ผมเดินไปเก็บขยะใกล้ๆ ผมถลึงตาใส่ก่อนจะปาก้อนกระดาษในมือใส่ แต่มันรับได้อ่ะ ท่าเท่ซะด้วยสิ หมั่นไส้โว้ย อุตส่าห์ให้มานอนด้วยทั้งๆที่ไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง พี่ก็ควรจะทำตัวดีๆดิวะ

"พาลนะมึง"
พี่จีบพูดก่อนจะรวบตัวผมกอดไว้แล้วดึงลงผมลงนั่งตัก นี่ก็ขยันแต๊ะอั๋งกันจังเนอะคนเรา กว่าจะได้เป็นแฟนกันตัวคงพรุนหมดแล้วมั้ง ฮึ่ย ผมดิ้นขลุกขลักไปมาเพราะรู้สึกตัวร้อนจะระเบิด แต่ไอ้พี่จีบก็เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้แล้วกดปลายคางลงกับไหล่ผม

"ปล่อยดิพี่ ทำไมชอบแต๊ะอั๋งแบบนี้วะ"
ผมหยุดดิ้นเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย อะไรๆของพี่จีบจะแข็งแกร่งขึ้นมาซะก่อน.. เสียงหัวเราะเบาๆนั่นทำให้ผมรู้เลยว่าเจ้าตัวกำลังสนุกและมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้แกล้งกันแบบนี้

"หากำไรกับคนที่ตัวเองชอบ มันจะแปลกอะไรวะ"

"กำไรของพี่คนเดียวอ่ะดิ"
ผมว่าก่อนจะเบะปากลง ผมไม่เห็นจะได้กำไรอะไรเลยวะ.. ขาดทุนเห็นๆ ขาดทุนจนจะล้มละลายอยู่แล้วเนี่ย

"มึงอยากได้กำไรจากกูบ้างหรือไง?"
เสียงทะเล้นถามกลับมาทำให้ผมหน้าร้อนวูบ หากำไรจากร่างกายพี่จีบเนี่ยนะ ให้ตายเถอะครับพี่น้อง ไม่อยากจะคิดอะไรทั้งนั้น

"ไม่เว้ย ปล่อยเลย จะไปอาบน้ำแล้ว"
ผมฟาดแขนไอ้พี่จีบเพื่อให้มันคลายแขนที่กอดเอวผมไว้แน่น มีเสียงหัวเราะเบาๆก่อนที่ความอึดอัดตรงช่วงเอวจะหายไป ผมรีบกระเด้งตัวออกจากตักพี่จีบเหมือนมันเป็นของร้อนแล้วรีบเดิมไปคุ้ยเสื้อผ้าในตู้แบบลวกๆก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป

กระจกสะท้อนภาพผู้ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าแดงก่ำ มุมปากยกยิ้มจนน่าหมั่นไส้ ความแมนที่เคยภูมิใจกับต้องพังทลายเมื่อโดนผู้ชายคนหนึ่งสั่นคลอนมัน นิ้วเรียวพยายามกดมุมปากตัวเองลงแต่ไม่สามารถทำได้เมื่อคิดไปถึงคนที่นั่งๆนอนๆอยู่บนเตียงของเขา ตอนนี้อยากไล่พี่จีบกลับบ้านแล้วว่ะ...ไม่ใช่ว่ากลัวเสียตัว แต่กลัวหัวใจจะวายตายซะก่อน

ผมสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะเปลื้องเสื้อผ้าแล้วจัดการชำระร่างกายตัวเองให้สะอาด แต่งตัวเรียบร้อยแล้วผลักประตูห้องน้ำให้เปิดออก ผ้าขนหนูผืนเล็กถูกขยี้ไปบนเส้นผมที่เปียกน้ำ พี่จีบมองตรงมาทางนี้ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายจนผมต้องหลบไปรื้อตู้เสื้อผ้าหาชุดให้เขาใส่แทน ทำตัวไม่ถูกเลยว่ะ ควรทำยังไงดี

"พี่ครับ ใส่ได้หรือเปล่า"
ผมกางเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งของไอ้พี่ดีพต่อหน้าพี่จีบที่นั่งอยู่ปลายเตียง ร่างสูงพยักหน้าหงึกหงักก้อนจะรวบมันไปไว้ในอ้อมแขน

"ใส่ได้ เสื้อมึงเหรอ"
สายตาอยากรู้อยากเห็นถูกส่งมาให้กันจนผมรู้สึกแปลกๆ ผมหลบสายตาก่อนจะโยนกางเกงบ็อกเซอร์ให้พี่เขาอีก

"เปล่า เสื้อพี่ดีพ ไปอาบน้ำได้แล้ว ผ้าเช็ดตัวอยู่ในห้องน้ำนะ"
ผมดันไหล่ให้พี่จีบลุกขึ้นจากเตียง พี่เขายิ้มให้ก่อนจะยอมลุกไปอาบน้ำดีๆ แต่ทำไมต้องทิ้งเสื้อผ้าไว้ตรงนี้ด้วยวะ ทำไม่เอาไปเปลี่ยนในห้องน้ำ อ๊าก แกล้งหนีไปมาร์ทก่อนได้ไหม จะแกล้งกันไปถึงไหนวะ ถ้าแม่งมีพุงนะจะอยู่ล้อมันจนแก่เลยคอยดู!

ผมนอนกลิ้งไปมาเล่นโทรศัพท์บ้างเล่นเกมบ้างจนเกือบเผลอหลับไปเสียงลูกบิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่นุ้งแค่ผ้าเช็ดตัวไว้ที่ช่วงล่าง ผมกลืนน้ำลายลงคออยากยากลำบากเมื่อตัวเองกำลังนอนตะแคงหันหน้าไปทางนั้นแบบพอดิบพอดี ซิกแพคเป็นลูกเข้ากระแทกตากันอย่างจังไหนจะหยดน้ำที่เกาะพราวไปตามกล้ามเนื้อลอนสวยนั่นอีก.. เซ็กซี่เป็นบ้า โอย แล้วทำไมใจต้องสั่นกับหุ่นผู้ชายด้วยกันเองล่ะวะ สติเว้ยสติไอ้คิส

"มองอะไร อยากลูบซิกแพคกูเหรอ?"
คนโดนมองยกยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับสาวเท้าเข้ามาใกล้จนผมต้องรีบพลิกตัวตะแคงไปอีกข้างอย่างรวดเร็วแล้วแสร้งกดโทรศัพท์อย่างเอาเป็นเอาตาย ใบหน้าที่ร้อนวูบวาบตอนนี้อาจจะเป็นหลักฐานชั้นเยี่ยมว่าผมกำลังรู้สึกยังไง แต่ถ้าแสดงอาการมากไปจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

"อะไรเล่า คนเขาเล่นเกมอยู่ไม่เห็นเหรอ"
ผมว่าเสียงติดรำคาญไป นิ้วยังคงจิ้มหน้าจอสี่เหลี่ยมจึกๆ ไม่ได้มีสมาธิอะไรกับเกมตรงหน้าเลยซะด้วยซ้ำ

"ไหนเกมมึง โปเกม่อนไม่เห็นจะโผล่มาสักตัว"
พี่จีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆข้างแก้ม หางตาเหลือบเห็นหน้าอกแกร่งอาจจะใหญ่กว่านมผู้หญิงด้วยซ้ำ ยอดอกสีน้ำตาลนั่นอีกจะทิ่มตากันอยู่แล้ว หัวใจก็เต้นรัวเหลือเกิน ไอ้เกม Pokemon GO นี่ก็ไม่ได้ช่วยชีวิตผมเลย จะโผล่มาให้ขว้างบอลใส่สักตัวก็ไม่ได้ โคตรพลาดที่นิ้วกดโดนเกมนี่ เชี่ยเอ้ย

"กะ ก็รออยู่นี่ไง ไปแต่งตัวเลยไป"
ผมว่าก่อนจะซุกหน้าลงกับหมอนมากขึ้น.. แทบจะเปลี่ยนเป็นนอนคว่ำเลยด้วยซ้ำ พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะยอมถอยทัพหยิบเสื้อผ้าตรงปลายเตียงไปใส่จนเรียบร้อย ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียง ร่างสูงขยับเข้ามานั่งลงข้างๆก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่ผมแทบหัวทิ่ม

"ให้กูนอนที่ไหน"
พี่จีบกวาดตามองไปรอบห้องที่ไม่มีโซฟา เนื่องด้วยผมอยู่คนเดียว ส่วนมากกลับห้องมาก็ทิ้งตัวลงบนเตียงไปเลย เฟอร์นิเจอร์ในห้องเลยมีแค่ที่จำเป็นเท่านั้น แต่เตียงมันก็นอนได้สองคนแบบสบายๆนะเว้ย แต่...อาจจะไม่ปลอดภัย

"นะ นอนบนเตียงด้วยกันก็ได้"
ผมว่าเสียงตะกุกตะกักจนต้องเบนหน้าไปสนใจทีวีที่กำลังฉายการ์ตูนอยู่ มันเป็นหายนะอย่างหนึ่งที่เผลอคิดเรื่องอกุศลตอนกำลังจะตอบคำถามใครคนหนึ่ง พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ่มกริ่มให้พร้อมกับขยับเข้ามาใกล้จนพื้นที่ข้างตัวผมยวบลง

"ไม่ได้ยั่วใช่ไหม ที่จริงกูนอนพื้นก็ได้นะ ถ้ามึง...กลัว"
คำว่า 'กลัว' มันเบาราวกับกระซิบเพราะพี่จีบดันพูดข้างหูผมจนต้องผละตัวหนีอย่างรวดเร็ว ดีนะทรงตัวทันไม่อย่างนั้นคงได้ล้มลงบนเตียงทั้งๆที่นั่งอยู่นี่ล่ะ แต่ไอ้ที่พูดว่ายั่วนั่นพี่มันจะมโนมากไปแล้วเว้ย ชวนนอนไม่ได้ชวนเอา!

"ยั่วบ้าอะไรล่ะ ไม่ได้กลัวด้วย แต่ห้ามทำอะไรผมนะเว้ย รู้จำคำว่านอนเฉยๆป่ะ"
ผมเหวเสียงดังโดยไม่มองหน้าพี่จีบ แล้วขยับตัวจนชิดขอบเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงหน้าอก แต่ความผิดพลาดมันโผล่มาอีกแล้วเมื่อผมลืมว่าผ้าห่มมีแค่ผืนเดียว ฮือ ชวนเขามานอนด้วย ไม่มีอะไรที่กูพร้อมสักอย่าง สถานการณ์แม่งพร้อมให้กูถูกขย้ำเหลือเกินชีวิต

"รู้จัก แต่ไม่รับปาก"
มุมปากหยักกระตุกรอยยิ้มชั่วร้ายจนผมหัวใจกระตุกตาม มือไม้เริ่มชื้นเหงื่อขึ้นมา จากที่เคยหนาวจนสั่นกลายเป็นร้อนวูบวาบขึ้นมาซะเฉยๆ อะไรคือการที่พี่จีบไม่รับปากว่าจะนอนเฉยๆวะ

"พี่แม่ง คิดอกุศลกับผมเหรอ ถ้างั้นกลับบ้านไปเลย ไม่ก็กลับไปนอนร้าน"
ผมไล่เสียงไม่จริงจังนักก่อนจะกระชับผ้าห่มแน่นขึ้น พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากออกมาก่อนจะผลักหัวผมเบาๆแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆกัน ผมเบ้ปากใส่เขาก่อนจะจ้องเขม็ง มีอะไรให้หัวเราะนักหนานะคนเรา

"ถึงกูจะคิดอกุศลกับมึงแค่ไหน กูก็ไม่ทำหรอก ไม่ชอบฝืนใจใคร ชอบแบบสมยอมเองมากกว่า"
เขาหันมายิ้มก่อนจะยักคิ้วให้กัน ผมเผลอหลบสายตาหวานเยิ้มนั้นเพราะรู้สึกว่าตัวเองแก้มร้อน ทำมาเป็นคนดีเนอะคนเรา จะรอดูว่าทนได้แค่ไหนกัน..

"ทำให้ได้จริงๆแล้วกัน"
ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะยอมคลายผ้าห่มออกให้พี่จีบครึ่งหนึ่ง เขามองก่อนจะสอดตัวเข้ามาอยู่ใต้ผ้าผืนเดียวกัน เรานอนมองเพดานเหมือนๆกัน ไม่มีคำพูดใดๆเล็ดลอดออกมาอีกเหมือนต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเองชั่วขณะ แต่เพียงไม่นานพี่จีบก็ทำลายความเงียบลง

"ง่วงหรือยัง"
เขาหันมาถามกันด้วยน้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่าง่วงแค่ไหน ผมแอบอมยิ้มแล้วพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่ไฟหัวเตียงจะถูกปิดลงด้วยฝ่ามือใหญ่ของคนข้างๆ

"ฝันดีนะคิส"
เสียงทุ้มเอ่ยฝันดีเบาๆก่อนจะได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอตามมา ผมลอบยิ้มกับการหลับง่ายของพี่จีบ ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำราตรีสวัสดิ์ออกไปถึงแม้คนฟังจะไม่รับรู้แล้วก็ตาม

"ฝันดีครับพี่จีบ"
ผมพูดจบแต่ก็ไม่ได้หลับไปกับเขาด้วย สมองยังคงคิดอะไรเรื่อยเปื่อย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ผมยังนอนเบิกตาโพลงอยู่แบบนี้ สาเหตุที่แท้จริงคือคนที่นอนข้างๆกันต่างหาก ก่อนนอนเจอหน้าเขาเป็นคนสุดท้าย พรุ่งนี้ตื่นก็เจอหน้าเขาเป็นคนแรก.. มันเหมือนคู่รักดีๆนี่เอง แต่น่าเศร้าตรงที่มันจะเป็นแบบนี้แค่ครั้งนี้เท่านั้น ถ้าในอนาคตจะเวียนมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมก็อยากให้มันเกิดทุกวันตลอดไป คงจะดีไม่น้อย

ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน แต่รู้ตัวอีกทีก็ตอนแสงอาทิตย์ลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านเข้ามา ความรู้สึกแรกที่รับรู้ตอนตื่นคือความอบอุ่นและความหนักตรงบริเวณเอว สายตาปรับโฟกัสได้อย่างชัดเจนถึงกับตกใจอ้าปากค้างเพราะพี่จีบกำลังนอนกอดผมอยู่ หัวใจเริ่มทำงานหนักแทบบ้า หน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

"พะ พี่จีบ"
ผมออกเสียงเรียกคนที่ยังหลับสบาย มุมปากสวยกำลังยกยิ้มอย่างกับคนฝันดี ผมไล่มองเค้าโครงหน้าเรียวได้รูปนั่นอย่างหลงใหล ดวงตาคมที่กำลังปิดสนิททำให้คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาดูไร้พิษภัย จมูกโด่งเป็นสันรับกับทุกส่วนของใบหน้าอย่างลงตัว ผิวขาวที่ไม่ได้ขาวจนเว่อร์ทำให้ดูหล่อขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

"พี่จีบครับ ตื่นเถอะ"
ผมเรียกเขาเสียงดังขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มสกิลการปลุกโดนการตีแก้มกร้านเบาๆ ร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย

"อือ"
เสียงครางอื้ออึงในลำคอดังขึ้นพร้อมกับตาคมที่ค่อยๆปรือเปิดออก ขนาดตอนตื่นนอนยังหล่อได้ขนาดนี้ คนบ้าอะไรวะน่าอิจฉาเป็นที่สุด

"อรุณสวัสดิ์"
พี่จีบเอ่ยทักทายกันก่อนจะกระชับอ้อมกอดจนหน้าของผมซุกลงบนอกเขาอย่างพอดิบพอดี แทนที่จะปล่อยกันกลับกอดแน่นขึ้นคืออะไรวะ

"ปล่อยผมดิ"
ผมพยายามใช้มือดันตัวพี่จีบออกแต่ก็เปล่าประโยค เพราะแขนขาของเขาล็อกตัวผมไว้แบบมั่นคง ดิ้นหนีไม่หลุดกันเลยทีเดียว

"ขอกอดหน่อยน่า กูติดหมอนข้าง"
คำขอที่โคตรกวนตีนถูกเปล่งออกมาแบบหน้าตาเฉย ผมไม่รู้ว่าตอนนี้พี่จีบทำหน้ายังไง แต่รู้เพียงแค่จมูกโด่งๆนั่นกดลงมากลางกระหม่อมของผมอย่างรักใคร่ ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจตอนนี้มันก็ดีนะ ดีจนน้ำตาจะไหลเลยว่ะ บางครั้งก็อยากเอ่ยปากขอบคุณพี่จีบที่เผลอมารักคนอย่างผม และเอาใจใส่กันขนาดนี้ แต่เขินไง ไม่กล้าพูดหรอก ขืนพูดไปผมคงโดนกดลงเตียงทันทีแน่ๆ

"ไม่เอาดิ หมอนกอดก็มีอยู่ข้างตัวเองทำไมไม่กอดเล่า"
ผมพูดพร้อมกับดิ้นขลุกขลักเล็กน้อย จะให้นอนกอดเฉยๆก็ดูใจง่ายไปไง

"หมอนมันไม่อุ่นเหมือนมึงนี่หว่า"
คำพูดของพี่จีบกระแทกหัวใจผมเต็มๆจนมันสั่นคลอนไปหมด เชี่ยมากที่ผมเขินจนขยับหัวซุกลงบนอกพี่จีบมากขึ้น ก็ไม่มีอะไรให้มุดแก้เขินแล้วนี่หว่า

"แต่ผมไม่ให้หมอนข้างเหอะ ติดหมอนข้างไม่ใช่เหรอไง"
ผมพยายามพูดหาทางออกให้ตัวเองด้วยประโยคงี่เง่าและแสนเด็กน้อย พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะผละตัวออกแล้วใช้นิ้วเรียวเชยคางผมขึ้นให้ดวงตาเราสบกัน อยากจะเบนหน้าหนีแต่ก็อยากรู้ว่าไอ้คนเจ้าแผนการจะทำอะไรกับผมอีก

"ว่าจะเลิกแล้วว่ะ"

"หา เลิกอะไรครับ"
ผมถามไปด้วยความงง อะไรกันอยู่ๆมาบอกว่าจะเลิก เลิกจีบผมเหรอ ไม่ยอมนะเว้ย

"เลิกติดหมอนข้าง เปลี่ยนมาติดมึงแทน"
พี่จีบส่งยิ้มละมุนมาให้ ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้ามาจรดริมฝีปากลงบนหน้าผาก ผมตะลึงงันเมื่อโดนทั้งคำพูดและการกระทำของพี่จีบแอทแทคเข้าเต็มๆ พี่เขาจะรู้ไหมว่าผมแทบจะละลายคาอกเขาอยู่แล้ว พี่เขาจะรู้ไหมว่าผมแทบควักหัวใจที่เต้นแรงเหมือนกับใครจับมันเขย่าออกมาให้พี่ทั้งดวง

"รักนะ"
คำบอกรักเบาๆเรียกสติให้กลับมาเผชิญกับคนตรงหน้า ผมเม้มปากเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรง รับรู้ได้เลยว่าทั้งหน้าทั้งตัวจะต้องแดงมากแน่ๆ อยู่ๆมาบอกรักกันบนเตียงเนี่ยนะ ขอละเหยเป็นไอน้ำหนีได้ไหมเนี่ย ไอ้คิสตัวจะแตกแล้ว ผู้ชายมาบอกรักเว้ย!

"อื้อ ระ รู้แล้วเว้ย ปล่อยผมได้หรือยัง"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มแล้วก้มหน้าลงจนเกือบชิดอก พี่จีบไม่ขยับแถมยังรวบผมเข้าไปกอดเหมือนเดิมอีก ใบหน้าของผมแนบไปกับอกแกร่งจนได้ยินเสียงหัวใจของพี่จีบเต้นรัวไม่แพ้กับของผม แต่แค่นี้มันก็ทำให้ผมยิ้มกว้างจนหุบไม่ได้อยู่แล้ว

"ไม่อยากปล่อยเลยว่ะ ตอนนี้โคตรมีความสุข"
คิดว่าพูดแบบนี้ผมจะใจร้ายต่อได้ยังไงวะ ยอมเขาสิครับ แค่กอดไม่ได้เสียหายอะไรมากสักหน่อย เอาเถอะ.. ยังไงๆผมก็รู้สึกดีเหมือนกันอยู่แล้ว

"ให้กอดก็ได้ แค่กอดนะ"

"อืม"

หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเกือบเที่ยง พอจัดการตัวเองอะไรเรียบร้อยก็กะว่าจะออกไปหาอะไรกินที่ห้างใกล้ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมีมารผจญมาหาผมถึงหอ.. จะเป็นใครไปไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ไอ้ภีมที่เดินตรงเข้ามาหากัน ผมแทบจะวิ่งกลับขึ้นห้องเพราะสายตาล้อเลียนที่มันส่งมาให้กัน จะรอดได้ยังไงในเมื่อพี่จีบแม่งลงมาจากห้องพร้อมกับผม

"สวัสดีครับพี่จีบ"
ไอ้ภีมยิ้มก่อนจะเอ่ยทักทายคนข้างตัวผม มีมารยาทขึ้นมาเลยนะมึง.. ผมเบ้ปากใส่ตอนที่มันยักคิ้วใส่ผม

"เออ หวัดดีๆ"
พี่จีบทักทายกลับไปก่อนจะส่งยิ้มให้มัน

"มึงมาทำไม"
ผมถามออกไปเพราะไอ้ภีมไม่ได้โทรมาบอกกันก่อนว่าจะมา

"ดีพบอกให้กูมาเอาของกะทันหันว่ะ เลยไม่ได้โทรมาบอกก่อน แล้วนี่เมื่อคืนพี่จีบค้างกับไอ้คิสเหรอ"
ประโยคแรกมันพูดกับผมส่วนประโยคหลังมันหันไปพูดกับพี่จีบซะอย่างนั้น

"ตามนั้น แล้วนี่กินอะไรหรือยัง พวกกูกำลังจะไปหาอะไรกิน"
พี่จีบถามรวบกับการเอ่ยชวนกันแบบอ้อมๆ เอาจริงๆก็ไม่ได้ขัดอะไรถ้าไอ้ภีมตะไปด้วย แต่ปากมันนี่สิจะคอยแซวผมตลอดแน่ๆ

"เรียบร้อยครับ พี่กับไอ้คิสไปกันเถอะผมไม่อยากเป็นก้าง"
มันยิ้มกว้างอย่างที่ไม่ค่อยทำในเวลาปกติ รู้ได้เลยว่าตอนนี้มันกำลังกวนตีนผมแบบจังๆ ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มันแต่กลับได้รับมาเพียงความเฉยเมย เจ็บใจนัก

"โอเค มึงไม่ไปด้วยก็ดีแล้ว กูชวนเป็นมารยาทไปงั้นล่ะ"
พี่จีบหันมายักคิ้วให้กันจนผมเผลอแสยะยิ้มใส่ไอ้ภีมด้วยความสะใจ โอย พี่จีบน่ารักอ่ะ ผมอยากจะกระโดดหอมแก้มพี่เขาสักที แต่ไม่ได้ครับเดี๋ยวได้ใจไปกันใหญ่

"เอ้อ ใช่สิ ผมมันแค่น้องนี่หว่า นั่นว่าที่เมีย เหอะ! ไปล่ะ"
มันว่าก่อนจะก้าวฉับๆขึ้นห้องผมไป.. ไม่ต้องแปลกใจครับ พี่ดีพมันอยู่หอกับผมไม่ผิดอะไรที่ไอ้ภีมจะมีกุญแจห้องผม

"ไอ้เพื่อนเชี่ย"
ผมตะโกนไล่หลังมันไป เรื่องอะไรมาพูดว่าผมเป็นว่าที่เมียพี่จีบวะ เพ้อเจ้อสุดๆ แค่แฟนให้มันได้เป็นก่อนเถอะเว้ย แต่ทำไมต้องใจเต้นแรงแล้วแอบดีใจลึกๆวะ ความแมนจงกลับมาเถอะครับ ฮือ เป็นเมียเขามันดีแล้วจริงๆเหรอ... ได้แต่คิดแล้วก็เสียวแปลกๆ

"ไปกันเหอะ หิวแล้ว"
พี่จีบว่าก่อนจะใช้มือกอดคอผมเดินออกจากหอ ผมสงสัยแบบจริงๆจังๆเลยว่ะว่าทำไมพี่เขาชอบเดินกับผมด้วยท่าทางแบบนี้จัง วันนี้ผมต้องรู้ให้ได้ถึงเหตุผลที่แท้จริงไม่ใช่แค่การอยากอยู่ใกล้แน่ๆ พอเรานั่งประจำที่ในรถเรียบร้อยผมก็เอ่ยปากถามทันที

"พี่จีบ ผมถามจริงๆนะว่าทำไมถึงชอบกอดคอผมนัก"
พี่จีบชะงักมือที่กำลังจะเข้าเกียร์ไว้แล้วหันมาสบตากัน

"แสดงความเป็นเจ้าของสไตล์กูเอง สงสัยอะไรอีกไหม"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วให้กันก่อนจะเข้าเกียร์และออกรถ ผมได้แต่ส่ายหน้ารัวๆแล้วซุกหน้าลงกับผ่ามือตัวเองด้วยความเขิน โอ้ย พอเถอะครับ เลิกจีบกันสักวันไม่ได้เลยหรือยังไง ต้องให้ผมบอกรักพี่ก่อนเหรอวะถึงจะหยุดจีบกันแบบนี้ ได้แต่คิดแล้วก็ยิ้มเหมือนคนบ้า มีความสุขจัง

“ขากลับอย่าลืมไปส่งผมที่มหา’ลัยนะ เป็นห่วงรถแล้ว”

“ครับผมคุณชายคิส ตามบัญชาเลย”




-----------------------------------------------





Q & A กับภีม
Q : เห็นจีบเดินลงมาจากหอพักพร้อมคิสแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
A : ตกใจนิดหน่อยครับ ไม่คิดว่าพี่จีบจะนอนค้างกับมัน
Q : แล้วคิดว่าใครกันแน่ที่เป็นคนขอให้นอนค้าง?
A : ให้ผมเดานะ เป็นไอ้คิสแน่ๆ เห็นแบบนั้นมันก็ขี้อ่อยเถอะครับ แต่มันไม่รู้ตัว หึหึ




หูย... เขานอนด้วยกันล่ะ 555555555 อิจฉาคิสเว้ย
พี่จีบก็หยอดเอาๆไม่เกรงใจคนโดนหยอดเลยนะนั่น

ปล. อ่านให้สนุกน้า อย่าลืมคอมเม้นท์กันด้วยเนอะ ♥
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-08-2016 14:39:52
 :-[   อบอุ่นละมุนสุดๆเลยค่ะ
น่ารักตรงที่น้องคิสเอาหน้าซุกๆเพราะเขิน
อิจพี่จีบมากๆค่ะตอนนี้
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-08-2016 15:01:43
หูย......ทำไมน่ารักแบบนี้เนี่ย อิจฉาคิสจริง พี่จีบก็แสนดี โห้ยยยย อยากมีแฟนแบบพี่จีบบ้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 09-08-2016 15:36:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-08-2016 15:50:42
ยิ้มแก้มแตกเลยอ่ะ เขินแทนคิส :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 09-08-2016 16:32:56
อ๊าคคค พี่จีบผมเขิน จะบ้าตายอยู่เเล้ว !!!
(http://postto.me/1e/294.jpg)



(http://postto.me/1e/31f.jpg)

คิส "มึงยั่ว" หรือ "มึงเขิน" กูตามไม่ทัน

5555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-08-2016 17:31:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-08-2016 20:11:50
น้องคิส อยู่ๆไปชวนพี่จีบนอนค้าง นี่ถ้าพี่จีบคิดน้อยซักหน่อย หนูเสร็จพี่จีบไปแล้วนะเนี่ยะ วุ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-08-2016 20:33:26
พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว
พี่จีบ น้องจูบ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-08-2016 20:41:39
ตามมาอ่าน สนุกดี
ชอบพี่จีบมาก ขยันจีบ ขยันหยอด
จนคิสตัวจะแตก เพราะเขินแรง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-08-2016 20:52:03
อิจฉาคิสสสสสสสส เค้าอย่าได้แบบพี่จีบบ้าง
 >\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-08-2016 21:50:42
น้องคิสนี่น๊า อ่อยพี่จีบแบบไม่รู้ตัวตลอดเลย ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 09-08-2016 22:06:22
รู้ลึกรู้จริงก็ภีมนี่แหละ....

กร๊ากกกกกน้องคิส ถึงจะอ่อย แต่ถ้าไม่รู้ตัวก็ไม่นับเนอะ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-08-2016 22:44:50
น่ารัก มุ้งมิ้ง ฟินเวอร์อ่ะ อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย :-[ :-[

พี่จีบก็ขยันหยอดจริง สกิลเนียนนี่ก็สงสัยจะเต็ม Max แล้วแน่ๆ เนียนเกิ๊นนนนนนนนนนนนน :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 09-08-2016 22:54:24
น้องจูบขี้อ่อย :z1:
พี่จีบน่าจะชอบบบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 10-08-2016 11:44:52
พี่จีบ ชัดเจนสุดๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 17 -P.9- (09.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 11-08-2016 12:21:43
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 11-08-2016 22:46:57
- ดื่มครั้งที่ 18 -




หลังจากงานดนตรีได้ไม่นานช่วงฤดูสอบปลายภาคก็เริ่มขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ ผมยังวุ่นวายกับงานค้างมากมายของวิชาปฏิบัติและต้องอ่านหนังสือสอบวิชาทฤษฎีอีกด้วย ช่วงสามสี่วันมานี้ผมขาดคาเฟอีนอย่างหนักเพราะไม่มีเวลาปลีกตัวไปดื่มกาแฟที่ร้านพี่จีบเลย แถมยังไม่ได้เจอเจ้าตัวเขาอีกด้วย แต่คนเล่ห์เหลี่ยมจัดอย่างเขาไม่ยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์หรอก วีดีโอคอลมานั่งเฝ้าผมทำงานทุกคืน ไม่รู้ว่ามีความสุขตรงไหนกัน เคยถามว่าไม่เบื่อเหรอว่านั่งเฝ้ากันแบบนี้ แล้วก็ได้คำตอบที่ผมแทบทะลุหน้าจอสี่เหลี่ยมไปกัดหัวคนกวนตีน

'เฝ้ามึงทำงานมองแล้วเพลินดีออก เดี๋ยวก็แยกเขี้ยว เดี๋ยวก็ขมวดคิ้ว เดี๋ยวก็ยิ้ม เหมือนคนบ้าดี'

ดูเขาเถอะครับ.. นี่จีบ นี่รักกันจริงๆใช่ไหม ทำไมกวนตีนได้ขนาดนี้วะคนเรา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระทำเสมอต้นเสมอปลายของพี่จีบทำให้ใจผมเต้นแรงได้เสมอ บางครั้งที่ละสายตาจากงานไปเจอคนในหน้าจอสี่เหลี่ยมกำลังจ้องมองเราแล้วมันเขินแปลกๆว่ะ อย่างเช่นตอนนี้ก็เหมือนกัน

"พี่จะมองอะไรผมนักหนาเนี่ย สึกหมดแล้ว"
ผมเบ้ปากใส่คนที่อยู่ในจอสี่เหลี่ยมขนาดเล็กตอนนี้แล้วหันกลับไปสนใจจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ต่อ นิ้วเรียวคลิกเม้าส์อย่างคล่องแคล่วในการทำการ์ตูนอนิเมชั่นแบบ 2D โดยใช้โปรแกรมง่ายๆอย่าง Flash ใบหน้าหล่อๆเผยยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมา

'สึกเพราะกูไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าสึกเพราะคนอื่นก็พอ'

"เลิกหยอดเลย ไม่มีสมาธิทำงานเนี่ย"
ผมพูดด้วยเสียงที่พยายามปั้นแต่งให้ดูหงุดหงิดทั้งๆที่มือซ้ายยกหนังสือประกอบการใช้โปรมแกรมขึ้นมาบังริมฝีปากของตัวเองที่กำลังยกยิ้มอยู่ หางตาเหลือบเห็นคนในจอสี่เหลี่ยมเปลี่ยนอริยบถเป็นนอนหงายลงกับเตียงเรียบร้อยแล้ว จะว่าไปตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงคืนเข้าไปทุกที แถมพี่เขายังมีเรียนเช้าอีก ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปนอน ผมคงเจอโหมดดื้อของพี่จีบเข้าให้แล้วล่ะ

'มึงจะสนใจกูทำไมล่ะ ตั้งใจทำงานไป หาว ~'
คนในจอสี่เหลี่ยมปิดปากหาว ดวงตาคมหรี่ปรือลงอย่างน่าสงสารจนผมต้องหยุดมือแล้วจ้องโทรศัพท์แทน

"พี่จีบ.. ดึกแล้วนะ ไปนอนเหอะ พรุ่งนี้พี่มีเรียนเช้านี่"
ผมว่าก่อนจะเอานิ้วไปจิ้มหน้าจอจึกๆคล้ายกับผมกำลังจิ้มแก้มคนแก่จอมดื้ออยู่ ไอ้พี่จีบทำท่าอ้าปากงับนิ้วผมตอบกลับมา ซึ่งนั่นเรียกเสียงหัวเราะของผมได้เป็นอย่างดี จากที่คิ้วขมวดเป็นปมกับคลายออกอย่างง่ายดาย

'อย่ามาไล่กู จะแอบไปคุยกับคนอื่นแน่ๆ'
ดวงตาคมจ้องเขม็งผ่านกล้องมาเล่นเอาผมหน้าเหวอก่อนจะหลุดหัวเราะเสียงดัง พี่จีบมองผมแล้วขมวดคิ้วยุ่งทันที

'ขำอะไรของมึง'
เสียงดุๆถูกถ่ายทอดออกมาพร้อมสายตาดุๆ จนผมต้องรีบหุบปากฉับ

"นอกจากพี่ก็ไม่มีใครตาถั่วมาคุยกับผมแล้วน่า หวงเหรอ ~"
ผมพูดเสียงกวนๆพร้อมกับยักคิ้วจึกๆให้คนในจอ พี่จีบถลึงตาใส่ก่อนจะนอนตะแคงแล้วดึงหมอนข้างมากอด.. ผิดไหมที่แอบอิจฉาหมอน

'คนอะไร หลงตัวเองฉิบหาย'
พี่จีบว่าก่อนจะปิดปากหาวหวอดอีกครั้งทำให้ผมได้แต่อมยิ้มกับภาพที่เห็นจนลืมโกรธที่เจ้าตัวเหน็บแนมไปซะหมด

"แน่ใจว่าเหรอว่าผมหลงตัวเอง ไม่ใช่พี่หลงผม"

'ไม่รู้ไม่ชี้ มีสมองก็คิดเอง'
พี่จีบว่าก่อนจะยักคิ้วกวนกันทั้งๆที่ตาปรือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ ผมถึงกับเบ้ปากหนักๆกับความกวนตีนของเขา ทุกวันนี้สงสัยจริงๆนะว่าพี่จีบมันมีปัญหาเรื่องการจีบคนอื่นหรือเปล่า... ทำไมพูดจากวนประสาทได้ขนาดนี้

"ออกตัวแรงตลอดว่ะพี่ ไม่คุยด้วยแล้ว จะทำงาน"
ผมว่าก่อนจะสะบัดหน้าใส่แล้วหันไปสนใจอนิเมชั่นที่ยังทำค้างอยู่.. ต้นแบบตัวการ์ตูนไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็ไอ้คนกวนบาทาที่นั่งเฝ้ากันทำงานอยู่นี่ล่ะ

'สมควรตั้งใจนานแล้วว่ะ'
เสียงทุ้มหัวเราะอย่างมีความสุขที่โจมตีผมได้อีกครั้ง ปล่อยเขามีความสุขไปครับ ผมต้องรีบปั่นงานเลยไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป นานอยู่เหมือนกันที่ต่างคนต่างเงียบไปแต่พี่จีบก็ทำลายความเงียบโดยการขยับโทรศัพท์อีกเครื่องมาให้ผมดู

'ไอ้คิส ที่บ้านกูโปเกม่อนเต็มเลย สนใจมาจับไหม'
ผมรีบหันขวับไปมองจอสี่เหลี่ยมเล็กทันทีแล้วพบว่าละแวกนั้นมีโปเกม่อนเต็มไปหมด.. ผมตาลุกวาวทันทีเพราะมีแต่ตัวที่ยังจับไม่ได้ ไอ้คนที่เอามาล่อก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้กันแปลกๆ

'สนใจมาป่ะ ในห้องนอนมีด้วยนะ บนเตียงเลย'

"ทะแม่งๆนะพี่จีบ แม่ง จะหลอกผมไปปล้ำป่ะ!!"
ผมเหวใส่เสียงดังทันทีที่สมองคิดลึก.. ไม่ใช่แค่ชวนไปจับโปเกม่อนแน่ๆ มันต้องมีความหมายแฝง ผมเอาหัวเป็นประกันเลย ไอ้พี่จีบมองผมด้วยความอึ้งก่อนจะยกนิ้วโป้งให้กัน

'ยอดเยี่ยม เดี๋ยวนี้แม่งเก่งว่ะ ตามกูทันตลอด'
พูดจบก็หัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างอารมณ์ดี ดวงตาที่เคยปรือปรอยกลับมาสดใสวาววับเหมือนคนหายง่วง คงเพราะได้แกล้งผมสินะ

"พี่มันเจ้าเล่ห์ หมาป่าชัดๆ!"

'มึงน่ะ เป็นกระต่ายรอกูขย้ำดีๆก็พอแล้ว โอเคป่ะ'

"ไม่เป็นเว้ย ใครเขาจะโง่รอพี่มาขย้ำวะ"

'แสดงว่ามึงจะขย้ำกูงั้นสิ มาๆ กูพร้อม'
พูดจบร่างสูงก็นอนหงายพร้อมกับขยับกล้องไปใกล้ใบหน้าหล่อเหลา ฟันขาวขบลงเป็นริมฝีปากหยักอย่างเซ็กซี่ ดวงตาปรือปรอยลงอย่างยั่วยวน ผมเผลอสำลักลมหายใจตัวเองก่อนจะเบือนหน้าหนี มือไม้มันสั่นไปหมด หน้าตาร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกคลื่อไส้ ไอ้พี่จีบแม่ง ไปหัดทำแบบนี้มาจากที่ไหนวะ ผมเจอจีบแอทแทคอีกแล้ว ช่วยด้วย ช่วยผมที เฮือก!

"ไอ้พี่จีบ พอเลย วางไปได้แล้ว"
ผมว่าเสียงตะกุกๆมือไม้ที่อยู่ไม่สุขดันไปปัดโทรศัพท์มือถือล้ม ส่งผลให้ไอ้พี่จีบหัวเราะเสียงดังใส่ทันที ผมลนลานรีบหยิบเครื่องมือสื่อสารมาตั้งตำแหน่งเดิมแล้วมุ่ยหน้าใส่เขาทันที เรื่องที่ฉลาดขึ้นและตามพี่จีบทันคือเรื่องจริง แต่ไอ้ที่เซ่อซ่า ชอบแสดงอาการบ้าๆนี่แก้ไม่หายว่ะ

'เขินก็บอก ไม่ต้องไล่กันก็ได้'

"ไม่ได้เขิน พี่ไปนอนเถอะ เที่ยงคืนแล้วนะครับ"
ผมว่าเสียงอ้อนๆเพราะไม่อยากลำบากให้พี่จีบมานั่งเฝ้ากันทั้งคินแบบนี้ ถึงจะบอกว่าจีบผมอยู่ก็เถอะ ไม่ต้องขยันทำคะแนนนักก็ได้ แค่นี้มันก็จะเต็มร้อยคะแนนอยู่แล้ว

'เออๆ จะไปนอนแล้ว มึงก็ตั้งใจทำงานนะ รีบๆทำให้เสร็จจะได้พักผ่อน'
รอยยิ้มบางๆถูกส่งมาให้กัน ผมพยักหน้ารับคำหงิกหงักก่อนจะยกมือขึ้นโบกไปมาเป็นการลา แต่เสียงพี่จีบดังขึ้นหยุดชะงักมือผมได้ทันที

'คิส.. พรุ่งนี้มึงจะมาที่ร้านไหม'
ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าเสียงของพี่จีบมันฟังแล้วให้ความรู้สึกอ้อนแปลกๆ สายตาที่ส่งมาคล้ายกำลังเว้าวอนให้ผมไปที่ร้านไม่มีผิด

"เอ่อ... ผมยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย"
ผมตอบก่อนจะเสมองไปทางอื่น ใจจริงก็อยากไปนะ แต่ผมยังไม่ได้เริ่มอ่านวิชาทฤษฎีสักตัวเลย

'เออว่ะ สอบเสร็จวันไหน'

"วันศุกร์ครับพี่ ทำไมเหรอ"

'สอบเสร็จมาที่ร้านได้ป่ะวะ'

"ก็ได้ครับ พี่ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนะ"

'เออ อย่าลืมมานะเว้ย กู... คิดถึง'
ปลายประโยคมันช่างแผ่วเบาแต่กลับได้ยินชัดเจนในความรู้สึก หัวใจเผลอกระตุกวูบเมื่อได้ยินคำว่าคิดถึงของเขา รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาให้กันจนผมรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบไปหมด.. ถ้ามาพูดกันต่อหน้าจริงๆผมจะทำยังไงวะเนี่ย

"อะ อือ! แค่นี้นะครับ"
ผมว่าก่อนจะรีบตัดสาย มือเรียวยกขึ้นกุมตำแหน่งหัวใจตัวเองก่อนจะเม้มปากกลั้นยิ้ม เงาสะท้อนจากกระจกบานเล็กบนโต๊ะทำให้ผมเห็นผู้ชายวัยสิบเก้าปีหน้าแดงเถือก เอาจริงๆหมั่นไส้ตัวเองว่ะ

"สมาธิจงมา ฮึบ!!"
ผมเรียกสมาธิตัวเองกลับคืนมาก่อนจะขะมักเขม้นปั่นงานของตัวเองต่อไปจนเวลาล่วงเลยจนถึงตีสามชิ้นงานที่พยายามทำมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนก็เสร็จลง ผมยืดแขนทั้งสองข้างขึ้นและบิดตัวไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยขบออกจากร่างกาย พลันหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กก็สว่างวาบขึ้นก่อนจะมีแจ้งเตือนข้อความเข้าตามมา มือเรียวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านแล้วต้องยิ้มกว้างกับข้อความไลน์ที่ถูกส่งมา

อัศวิน
- นอนไปหรือยัง กูตื่นมาเข้าห้องน้ำว่ะ 03:15

× คิสสึ ×
- ยังครับ เพิ่งทำงานเสร็จเลย 03:15

อัศวิน
- กูวีดีโอคอลหาได้ไหม 03:15

× คิสสึ ×
- เอ้ย ไม่เอา พี่ไปนอนต่อเลย ผมก็จะนอนต่อแล้ว 03:16

อัศวิน
- ใจร้ายว่ะ งั้นไปนอนกัน ฝันดีครับ 03:16

× คิสสึ ×
- ครับผม ฝันดีนะ 03:16
ผมใกล้จะเป็นคนบ้ามากขึ้นทุกวันแล้วล่ะมั้ง ก็เล่นนั่งยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์บ่อยขนาดนี้ ผมปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงโดยไม่ลืมหยิบเจ้าเครื่องสีเหลี่ยมติดมือมาตั้งไว้บนหัวเตียง มือเรียวรั้งผ้าห่มผืนหนาดึงขึ้นมาปิดอก ดวงตากลมปิดลงอย่างเหนื่อยล้า ไม่นานก็จมลงสู่ห้วงนิทรา

จากวันที่ส่งงาน 2D ไป วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายสำหรับการอ่านหนังสือแล้ว ในพรุ่งนี้ฤดูการสอบจะเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง ผมมองปฏิทินอย่างอ่อนแรง อยากลบวันจันทร์ออกไปมากที่สุด ยังไม่พร้อมสอบ

กระดาษถูกพลิกเปลี่ยนหน้าใหม่หลังจากไล่สายตาอ่านทุกตัวอักษรจนหมด มือขวาเขียนสรุปเนื้อหาทบทวนแบบรวบรัดไปด้วย ไม่รู้ว่าเวลาผ่านมานานแค่ไหนแล้วที่นั่งหลังขดหลังแข่งอ่านหนังสือมา รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเสียงท้องร้องประท้วงหาอาหารนั่นเอง

ผมวางมือก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ยืดเส้นยืดสายไล่ความเมื่อยขบและลุกขึ้นยืนเดินไปเปิดตูเย็นหาอาหารสำหรับมื้อค่ำนี้ แต่ความผิดหวังแล่นเข้ามากระแทกหน้ากันเต็มๆเมื่อประตูตู้เย็นเปิดออกและพบแต่ความว่างเปล่า นี่ผมเสียบปลั๊กตู้เย็นไว้กินไฟเล่นๆหรือยังไง ทั้งตู้มีแค่น้ำเปล่าสามสี่ขวดเนี่ยนะ ชีวิตช่างอนาถ

ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะพาตัวเองไปหยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ และกุญแจห้องเตรียมพร้อมสำหรับลงไปซื้อของกิน แต่ยังไม่ทันก้าวถึงหน้าประตูดี เสียงโทรศัพท์ในมือก็แผดเสียงดังลั่นจนผมต้องรีบยกขึ้นมาดูก่อนจะเจอกับชื่อที่ทำให้ต้องอมยิ้ม

"สวัสดีครับ"
ผมกรอกเสียงเนือยๆลงไปก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเดินลงบันไดไปช้าๆ

'ทำอะไรอยู่'
เสียงทุ้มที่คุ้นเคยถามกลับมาด้วยเสียงที่ดูเหนื่อยไม่แพ้กัน สงสัยคงเพิ่งเลิกอ่านหนังสือเหมือนกับผม

"กำลังลงไปซื้อของกินครับผม พี่จีบมีอะไรหรือเปล่า"
ผมก้าวขาลงบันไดไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบ เพราะกลัวจะหน้าทิ่มซะก่อน

'อ๋อ ลงมาก็ดี กูอยู่หน้าหอมึง เดี๋ยวพาไปหาอะไรกิน'
ผมหยุดกึกอยู่ตรงชั้นพัก บางครั้งผมก็คิดว่าพี่มันมีญาณทิพย์หรือเปล่า ทำไมมาได้ตรงเวลาขนาดนี้

"เอ้ย จริงอ่ะ พี่ล้อเล่นป่ะเนี่ย"
ผมว่าเสียงล้อๆก่อนจะลงบันไดต่อ พี่จีบเงียบไปสักพักก่อนจะตอบคำถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมต้องหยุดเดินอีกครั้ง

'เปล่า ตั้งใจจะมารับอยู่แล้ว อยากเห็นหน้า'
เจอประโยคนี้ผมตายครับ ตายจริงๆ ตายแน่ๆ โอย ใครใช้ให้เป็นคนแบบนี้วะเนี่ย จะเอาใจใส่กันมากเกินไปแล้วนะเว้ย ไอ้การที่ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์คือพี่จีบมันหายไปอัพสกิลการหยอดมาอีกระดับเหรอ ทำไมรู้สึกว่าใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งขนาดนี้

"อะ เอ่อ.. เอารถอะไรมาครับ"
เปลี่ยนเรื่องแม่ง ทั้งๆที่ยิ้มจนแก้มจะแตกอยู่แล้ว

'มอ'ไซต์ รีบเดินมาเลย ยืนบิดทำไมวะ เขินกูเหรอ'
ผมเหลียวซ้ายมองขวาจนเจอคนที่คุยสายด้วยกัน ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะกดวางสายแล้วรีบสาวเท้าเข้าไปหา ร่างสูงโบกมือเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มมุมปากแบบหล่อวัวตายควายล้มมาให้กัน ผมแทบจะเดินหนีเลนเถอะ แพ้พี่จีบจริงๆ แพ้ทุกอย่างเลยว่ะ

"ยังไม่ตอบคำถามกูเลยนะ"
พี่จีบเอื้อมมือมาดึงข้อมือผมเข้าหาตัวเอง ผมเบิกตาโพลงเพราะไม่ทันตั้งตัวเลยถลาเข้าใส่คนที่นั่งคร่อมมอเตอร์ไซต์แบบเต็มๆ วงแขนอบอุ่นโอบรอบเอวประคองตัวผมไว้ได้ทันท้วงทีก่อนที่หน้าจะลงไปทิ่มตรงระหว่างขาเขา หัวใจเต้นตึกตักอย่างแรงเพราะตกใจ

"พี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย"
ผมใช้ไหล่พี่จีบเป็นที่ดันตัวเองให้ผละออกห่าง แต่แรงโอบกอดที่เอวกลับเพิ่มมากขึ้นจนผมต้องหันซ้ายหันขวามองคนรอบข้าง ดีนะที่ช่วงนี้นักศึกษาหมกตัวอ่านหนังสือกัน

"กูคิดถึง กอดไม่ได้เหรอ"
เสียงอ้อนๆดังขึ้นมาจนผมใจอ่อนยวบจากที่จะผลักเขาออกกลับยืนนิ่งยอมให้กอดอยู่แบบนั้น

"ไม่เจอกันเป็นอาทิตย์ พี่ไปอัพสกิลเต๊าะผมมาหรือยังไงวะ"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะเบนหน้าหนี ให้ตายเถอะครับ มาหายใจรดแขนกันแบบนี้ก็ขนลุกสิวะพี่จีบ

"ขนาดนี้มึงยังเรียกว่าเต๊าะอีกหรือไง จะให้กูย้ำกี่รอบว่ากูจีบมึง"
ผมยกมือขึ้นปิดปากไอ้พี่จีบทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมหอพักเดินเฉียดพวกเราไปแบบจงใจ ถ้าจะเผือกขนาดนั้นหยุดฟังเลยไหมครับ พี่จีบมองหน้าผมก่อนจะจุ๊บลงบนฝ่ามือจนผมรีบผละมือออกอย่างรวดเร็ว รู้สึกตัวร้อนวูบวาบจนต้องแกะแขนแกร่งออกจากรอบเอวตัวเองไปยืนห่างๆคนเจ้าเล่ห์

"ฉวยโอกาสตลอดว่ะคนเรา ฮึ่ย"
ผมแกล้งทำหน้ายุ่งใส่คนที่นั่งยิ้มเผล่ให้กัน ทำไมต้องเป็นคนร่าเริงตลอดเวลาด้วยวะ ไม่รู้หรือยังไงทำแบบนี้คนอื่นเขาจ้องจะงาบพี่กันทั้งนั้น!

"ยอมรับด้วยความเต็มใจครับ"
พี่จีบโค้งให้ผมก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้ ผมเบะปากใส่ก่อนจะก้าวขาคร่อมรถทันทีทั้งๆที่พี่จีบยังไม่สั่ง ทำยังไงก็ได้ให้ผมรอดพ้นสายตาหวานเชื่อมที่ส่งมาให้กันก่อนเถอะ ขนาดมานั่งซ้อนท้ายพี่จีบแม่งยังส่งสายตาผ่านกระจกมาจนผมต้องเบนสายตาหนี

"ไปได้แล้วพี่ เดี๋ยวผมกลับมาอ่านหนังสืออีก"
ผมว่าก่อนจะตีลงบนต้นแขนของเขา พี่จีบพยักหน้าเบาๆก่อนจะเตะขาตั้งขึ้นแล้วสตาร์ทรถออกตัวไปช้าๆ ลมเย็นๆปะทะหน้าทำให้ความเครียดสะสมจากการอ่านหนังสือเบาบางลง ไม่นานนักเราก็มาถึงร้านอาหารตามสั่งเจ้าอร่อย ผมลงจากรถก่อนจะเดินไปจองโต๊ะ พี่จีบเดินตรงมานั่งลงตรงข้ามกัน

"กินอะไรดี"
ผมถามขณะที่ตาไล่อ่านเมนูแผ่นใหญ่บนผนังร้าน พี่จีบส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบจนผมเผลอเบะปากใส่ ไม่ได้ช่วยอะไรกันเลยว่ะ

"กินผัดกะเพราหมูสับป่ะ"
ผมถามออกไป พี่จีบขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหน้า

"งั้นสุกี้"
ยังคงได้รับการส่ายหัวกลับมา ผมเลยไล่ส่ายตาอ่านเมนูอีกครั้ง

"ข้าวผัด ผัดพริก ผัดเผ็ด เกาเหลา หมูทอด ไข่เจียว"
ทั้งหมดที่ผมพูดมาพี่จีบเอาแต่ส่ายหน้าแล้วจ้องมองผมอยู่แบบนั้น ไอ้ผมก็เริ่มหงุดหงิดเพราะเสนออะไรไปก็ได้รับการปฏิเสธกลับมาทั้งนั้น

"อะไรก็ไม่เอา แล้วพี่จะกินอะไรวะ ผมจะได้ไปสั่งสักที"
ผมหรี่ตามองมันอย่างเอาเรื่อง นิ้วเรียวเคาะลงบนโต๊ะไม้เพราะต้องการกดดันเอาคำตอบ ไม่นานนักสีหน้าเรียบเฉยของพี่จีบกลับมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับ ผมมองอย่างหวาดๆมีลางสังหรณ์ว่าจะโดนพี่จีบโจมตีแน่ๆ

"อยากกินมึง ต้องสั่งที่ไหน"
แล้วประโยคฆ่าผมก็เล็ดลอดออกมาจากปากหยักสวยอย่างแผ่วเบา ผมเบิกตากว้างก่อนจะแยกเขี้ยวใส่มันอย่างเอาเป็นเอาตายแถมยกเท้าเตะหน้าแข้งคนหื่นไปอีกที ดูมันนะจะกินข้าวแม่งยังจะจีบอีก สมชื่อจริงๆว่ะยอมใจเลยกู

"ไม่มีเว้ย กินไม่ได้ ไม่ต้องสั่ง"
ผมกัดฟันโวยวายก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะซะดื้อๆแล้วเดินไปสั่งเมนูสิ้นคิดอย่างกะเพราหมูสับไข่ดาวสองจาน ถ้าพี่จีบมันไม่กินก็ช่างแม่ง อยากจีบกันไม่รู้เวลาดีนัก ผมกลับมานั่งพร้อมกับแก้วน้ำแข็งเปล่าในมือ พี่จีบส่งยิ้มกวนๆให้กันอย่างอารมณ์ดี ผมเบ้ปากใส่มันพลางคิดในใจว่า นี่เป็นการทบต้นทบดอกเวลาที่ห่างกันไปใช่ไหม.. น่ากลัวจริงๆ

"คิส.. ปิดเทอมไปเชียงรายกับกูไหม"
ผมที่กำลังดูดน้ำจากหลอดหยุดชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งตรงข้ามกันด้วยแววตาสงสัย อยู่ๆชวนไปเชียงรายทำไมวะ

"ไปทำไมอ่ะ.. เที่ยวเหรอ"
ผมปล่อยหลอดดูดก่อนจะถามออกไป แขนทั้งสองข้างเท้าลงกับโต๊ะ มือประสานกันรองรับคางมนได้พอดิบพอดี

"เปล่า ไปดูไร่กาแฟที่เชียงราย ถ้ามึงไปกูก็จะพาไปเที่ยว"

"ปิดเทอมต้องกลับบ้านอ่ะพี่จีบ แต่ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะอยู่บ้านหรือเปล่านี่ดิ เห็นมีแพลนจะไปหาพี่ดีพที่ญี่ปุ่นอีก"

"แล้วมึงไม่ไปญี่ปุ่นกับพ่อแม่เหรอ"

"หึ ไม่อ่ะ เดี๋ยวหมดปิดเทอมพี่ดีพก็กลับมาเรียนที่ไทยต่อแล้ว จริงๆผมไม่ค่อยชอบญี่ปุ่นด้วยล่ะ"
ผมตอบก่อนที่ข้าวกะเพราจะมาเสิร์ฟ หลังจากนั้นเลยไม่มีใครพูดอะไรกันอีก ต่างคนต่างตั้งใจจัดการอาหารของตัวเองจนเกลี้ยง มื้อนี้เสี่ยจีบเลี้ยงอีกตามเคยทั้งๆที่ผมจะจ่ายเอง แต่ก็โดนยัดเงินกลับมาอยู่ดี ช่างเถอะ อิ่มจังตังค์อยู่ครบก็ดีเหมือนกัน

"คิส"
พี่จีบเรียกผมตอนที่ลงจากรถเรียบร้อยแล้ว จากที่จะเดินเข้าหอกลับต้องชะงักเท้าแล้วหันไปมองเจ้าของเสียง

"ครับพี่"
ผมตอบรับก่อนจะเห็นแววตาลังเลของพี่จีบ เราเงียบกันอยู่สักพัก แต่ก็ไม่นานเกินรอเสียงทุ้มก็เปล่งขึ้นมาอีกรอบ

"ปิดเทอมถ้าพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน มึงไปเชียงรายกับกูนะ"
ผมถึงกับไปไม่เป็นเมื่อโดนชวนอีกรอบ ไอ้อยากไปมันก็อยากไปเพราะปิดเทอมตรงกับหน้าหนาวพอดี แต่มันก็รู้สึกขัดเขินนะเว้ย ให้ไปกันแค่สองคนเนี่ยนะ

"เอ่อ.. ถ้าผมไปแล้วมีคนอื่นไปด้วยป่ะครับ"
ผมถามเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ เพราะมีเปอร์เซ็นสูงที่พ่อกับแม่จะไปหาพี่ดีพช่วงผมปิดเทอม เหมือนพวกเขาคุยๆกันอยู่แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

"มี ปกติกูไปกับซารัง ถ้ามึงไปจะชวนภีมกับออยไปด้วยก็ได้"

"เอ้อ ไอ้ออยบ้านมันอยู่เชียงใหม่อ่ะพี่ ถ้าผมได้ไปจะลองชวนพวกมันไปดูนะ"

"โอเคครับ ไว้ค่อยคุยกัน ตั้งใจอ่านหนังสือด้วย กูไปล่ะ"
พี่จีบว่าก่อนจะขี่รถออกไป ปล่อยให้ผมยืนเอ๋อเพราะไม่ทันได้พูดลาอะไรกับเขาสักอย่าง

ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย หนังสือเล่มเดิมถูกเปิดอ่านต่อจากส่วนที่ค้างไว้ จนเวลาล่วงเลยมาถึงห้าทุ่ม หนังสือเล่มหนาก็ถูกปิดลงพร้อมๆกับที่พลังงานแทบหมดไปจากร่างกาย ผมย้ายสังขารอ่อนเปรี้ยมาทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงไม่วายยกโทรศัพท์มากดเข้าแอพพลิเคชั่นสีเขียวก่อนจะพิมพ์ข้อความถึงคนที่ต้องการคุย

× คิสสึ ×
- นอนหรือยังครับ 23:07
ผมนอนรออยู่ประมาณสิบนาทีก็มีข้อความตอบกลับมา

อัศวิน
- เพิ่งทวนวิชาเขียนโปรแกรมจบ มึงล่ะอ่านหนังสือจบยัง 23:18

× คิสสึ ×
- เรียบร้อยครับ นอนแผ่บนเตียงแล้ว ^(+++)^ 23:18

อัศวิน
- ตั้งใจสอบนะพรุ่งนี้ 23:19

× คิสสึ ×
- เหมือนกันนะครับพี่จีบ 23:20

อัศวิน
- อืม นอนได้แล้ว 23:20

× คิสสึ ×
- ครับผม งั้นฝันดีนะพี่ 23:20

อัศวิน
- ฝันดีครับคนดีของพี่ 23:21

ผมถึงกับหน้าร้อนเมื่อได้อ่านข้อความสุดท้ายของวัน.. อะไรคือคนดีของพี่วะ อย่ามาละมุนได้ไหม ใจจะขาดแล้วเว้ย ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีสมาธิสอบผมจะโทษพี่!!

และแล้วฤดูการสอบมหาโหดก็จบลง หลังจากสอบเสร็จพวกเราต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะเพลียเกินกว่าจะไปฉลองที่ไหน ผมเลยตรงดิ่งไปที่ร้านกาแฟของพี่จีบทันที เจ้าตัวเขาสบายหน่อยที่สอบเสร็จตั้งแต่เมื่อวาน ผมเปิดประตูกระจกใสเข้าไปก่อนกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นจะปะทะเข้าหน้า กลิ่นที่ไม่ได้สัมผัสมาราวๆสองอาทิตย์ยังคงเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี ผมก้าวขาเข้าไปยืนตรงเค้าน์เตอร์บาร์ ร่างสูงที่ง่วนอยู่กับการทำลาเต้อาร์ตเหลือบตามองกันก่อนจะยิ้มให้

"สอบวันสุดท้ายเป็นไงบ้าง"
เสียงทุ้มถามกันเมื่อมือหนาส่งแก้วลาเต้อาร์ตให้กับพี่อิ๊งที่เป็นพนักงานเสิร์ฟสาวเสร็จ ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ บ่งบอกถึงอาการเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด

"ก็ดีครับ แต่ข้อสอบโคตรยาก"
ผมพูดเสียงอู้อี้ก่อนที่จะได้รับสัมผัสอบอุ่นบนกระหม่อม มือหนาลูบหัวผมเบาๆอย่างอ่อนโยน ผมแทบจะเคลิ้มหลับไปเลยล่ะตอนนี้

"ไม่ต้องไปเครียด กูเชื่อว่ามึงทำได้"
มือหนาผละออกไป ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นพี่จีบกลับไปวุ่นวายกับเครื่องทำกาแฟต่อแล้ว ผมลอบยิ้มกับคำพูดสั้นๆแต่มีความหมาย ทำให้ความเครียดที่เอาออกมาจากห้องสอบคลายลงไปได้เยอะ

"ขอบคุณนะครับ"
ผมเอ่ยขอบคุณ ร่างสูงที่หันหลังทำเพียงพยักหน้าเบาๆ กว่าจะหันมามองกันอีกครั้ง มือหนาก็ส่งแก้วลเต้เย็นมาให้กันแล้ว

"กินซะ ขาดคาเฟอีนมาหลายวันแล้วนี่"
พี่จีบยิ้ม ส่วนผมรับแล้วมาแล้วดื่มมันทันที เมื่อปลายลิ้นสัมผัสความขมปนหวานมัน ร่างกายก็แทบจะกลับมามีพลังเต็มร้อยทันที

"อร่อยมากครับ แต่วันนี้ผมว่ากลิ่นมันหอมแปลกๆนะ"
ผมมองแก้วตัวเองอย่างกับจะหาความผิดปกติเจอ แต่สุดท้ายก็ได้แต่นั่งทำตาแป๋วรอคำตอบจากคนตรงหน้า

"ใส่มิ้นท์ไซรัปลงไปน่ะ กลิ่นมันช่วยให้ผ่อนคลายดี"

"อ๋อ อร่อยดีครับ"
ผมว่าก่อนจะดื่มลาเต้เย็นสูตรพิเศษเข้าไปอีก ก่อนจะเพลินจนลืมทุกอย่างโทรศัพท์เจ้ากรรมที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อเกิดสั่นแรงขึ้นมาจนต้องล้วงออกมาดู พบว่าแม่เป็นคนโทรเข้านั่นเอง

"สวัสดีครับคนสวย ~"
ผมลากเสียงยาวทะเล้นๆ คนปลายสายหัวเราะเบาๆก่อนจะเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบกันตามปกติ จนมาถึงหัวข้อสำคัญของแม่ ทำให้ผมต้องเบะปากแรงใส่โทรศัพท์อย่างช่วยไม่ได้

'ลูกปิดเทอมพรุ่งนี้แล้วใช่ไหม'

"ครับ ถามแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้หรอกนะ"
ผมขมวดคิ้วแน่นตอนรอคำตอบจากผู้เป็นแม่

'เปล่าจ้า ตอนนี้อยู่สนามบินแล้วค่ะคุณลูก'
ปลายสายหัวเราะร่วน แต่ผมนี่อ้าปากค้างไปแล้ว อะไรคืออยู่สนามบินแล้วเพิ่งโทรมาบอกกันวะ ไม่โทรมาบอกตอนที่ถึงญี่ปุ่นแล้วเลยไหมล่ะ!

"แม่! ไม่บอกผมพรุ่งนี้เลยล่ะครับ"
ผมว่าเสียงดังเล็กน้อย ใบหน้ายุ่งเหยิงขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนทิ้งกะทันหันแบบนี้

'ก็กะจะบอกตอนที่ถึงญี่ปุ่นแล้วเหมือนกัน แต่พ่อกลัวว่าลูกจะงอนน่ะเลยให้บอกวันนี่'

"โอ้ยย ตอนนี้ก็งอนครับ ถ้าอยากให้หายงอนก็ซื้อของฝากมาให้ผมเยอะๆนะ"
ผมยู่ปากทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เห็นก็เถอะ มันอดทำไม่ได้นี่หว่า พี่จีบก็แม่งกลั้นหัวเราะอยู่ได้ คนเขากำลังเซ็งนะเว้ย

'จ้าๆ พ่อทูนหัวคนที่สามของแม่ แม่วางแล้วนะลูก ดูแลตัวเองดีๆ'

"ครับๆ เดินทางปลอดภัยนะทั้งสองคน"
หลังจากนั้นสายก็ตัดไป ปล่อยให้ผมมองหน้าจอสี่เหลี่ยมแล้วถอนหายใจออกมา

"พี่จีบ.. ผมโดนทิ้งว่ะ ฮือ"
ผมทำเสียงร้องไห้ฟ้องคนตรงหน้าทันที พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ รู้ว่าเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างผมกับแม่ทั้งหมด

"ไปเชียงรายกับกูไหมล่ะ"

"ไปวันไหนอ่ะ"

"อีกสามวัน"

"อือ...ไป!"
แล้วผมก็ใจง่ายตกลงปลงใจไปกับพี่จีบ ไม่ต้องกลัวหรอกยังไงๆไอ้ภีมกับไอ้ออยต้องไปกับผมแน่ๆ เที่ยวเชียงรายครั้งนี้อาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปก็ได้... เนอะ



----------------------------------------------------------




Q & A กับจีบ
Q : ชวนน้องไปเชียงรายคิดอะไรหรือเปล่าเนี่ย
A : ไม่คิดครับ.. ไม่คิดน้อยน่ะนะ หึหึ
Q : หัวเราะแบบนี้คิสจะรอดไหมเนี่ย
A : ต้องคอยดูกันต่อไปครับ /ยิ้มเจ้าเล่ห์




พี่จีบเขาอัพสกิลอีแล้วครับคุณณณณ แม้จะอยู่ในช่วงสอบมหาประลัยพี่แกก็ไม่เว้นนะเอ้อ
รอดูกันนะว่าทริปเชียงรายจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หึหึ

อ่านให้สนุกน้า

หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 11-08-2016 23:07:37
จัดไปทริป เชียงรายว้าวุ่น มีการชวนน้องไปเที่ยวไร่กาเเฟ เห้ยยยย โมเม้นโรเเมนติกป่ะเนี้ยยย  คิสเนี้ยต้องเจอพี่จีบจัดหนัก เเล้วเมื่อไหร่จะเป็นเเฟนกันเนี้ย คิสนี้ยังไม่กล้าเปิดเผยสักเท่าไหร่ เพราะไม่เเน่ใจหรอ ???? งั้นเอาเป็นว่า ทริปเชียงรายน่าจะมีเหตุการ์ณดีๆเกิดขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-08-2016 23:37:56
พี่จีบพาน้องไปเปิดตัวเหรอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 12-08-2016 00:14:49
ถ้าจะหวานขนาดนี่
ไม่กลัวน้องโดนมดกัดหรอคะพี่จีบ

 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 12-08-2016 00:19:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-08-2016 02:00:13
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-08-2016 03:19:12
ไปเชียงรายจะรอดไหมน้องคิส? พี่จีบวางแผนขย้ำแน่ๆ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 12-08-2016 07:12:11
ไปเชียงรายงวดนี้น้องจะรอดหรือน้องคิสสสสสส
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 12-08-2016 07:15:00
วีดีโอคอลมาเฝ้า อื้อหือออออออ น้องไม่รอดแน่พี่จีบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-08-2016 08:10:57
 :z1:   จงได้กันๆๆ. เชียงรายเหรอกำลังสวยเลย.  เราก็จะขึ้นเหมือนกัน
ไปจับโปเกม่อนกับพี่จีบสิ. ได้มากกว่าจับแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 12-08-2016 08:48:12
แม้จะเป็นช่วงสอบ ก็เดินหน้าจีบ อย่างต่อเนื่องเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-08-2016 09:31:41
พรำๆ คราวนี้ พี่จีบจับกินให้ได้นะคะ หึๆๆๆ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 12-08-2016 10:16:28
ยอมๆๆอีพี่จีบๆๆจิงๆๆๆ
 :hao6: :katai2-1: o13 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 18 -P.10- (11.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 14-08-2016 07:31:57
สกิลการจีบสมชื่อจิงงงงงๆๆ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 14-08-2016 09:01:26
- ดื่มครั้งที่ 19 -



เช้านี้ท้องฟ้าไม่ค่อยสดใสสักเท่าไหร่ เมฆหมอกดูเหมือนจะมีจำนวนมากเป็นพิเศษแถมอากาศในตอนเช้ายังหนาวเกินไปไม่สมกับเป็นเมืองร้อนอย่างไทยเลยสักนิด แต่คงไม่แปลกอะไรเมื่อตอนนี้เข้าช่วงฤดูหนาวแล้ว ถึงจะหนาวไม่ทั่วทั้งประเทศก็เถอะ

ผมยืนรับลมหนาวอยู่ที่ริมระเบียงในเวลาเก้าโมงเช้า หน้าตาไม่ได้บ่งบอกว่ามีความสุขแต่อย่างใดเมื่อโทรชวนเพื่อนๆไปเชียงรายด้วยกัน แต่โดนตอบปฏิเสธกลับมาหมด ตกลงว่าผมก็ต้องไปเชียงรายกับพี่จีบและซารังแค่นั้นสินะ.. ไปก็ไปวะ ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย พี่จีบมันคงไม่ลุกขึ้นมาปล้ำผมทั้งๆที่น้องชายเขาอยู่ด้วยกันหรอกน่า

ตอนนี้ผมยังถือสายคุยกับไอ้ภีมอยู่เลย.. น่าหมั่นไส้ตรงที่ผมเพิ่งรู้จากปากมันว่าพ่อกับแม่ลากมันไปหาพี่ดีพด้วยกัน แต่บินคนละวันแค่นั้น ไม่ต้องตกใจว่าทำไมบ้านผมไม่เดือดร้อนที่ลูกชายมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน ท่านแค่บอกพวกเราว่าจะรักใครชอบใครหรือจะเป็นเพศอะไรพ่อแม่รับได้ทั้งนั้น ขอให้ลูกเป็นคนดีก็พอ ซึ้งสิครับงานนี้..

"มึงอยู่สนามบินเหรอ"
ผมถามไอ้ภีมกลับไปโดยที่สายตายังคงทอดมองความวุ่นวายของท้องถนนเบื้องล่าง จราจรติดขัดเป็นสิ่งที่แก้ไม่หายสำหรับเมืองกรุงจริงๆ

'กำลังไป โคตรง่วงเลย'
เสียงไอ้ภีมบ่นกระปอดกระแปดลอดออกมา ถ้าได้เห็นหน้ามันตอนนี้คงยุ่งเหยิงน่าดู ดวงตาคมๆคงจะปรือจนแทบปิดแน่ๆ ผมหลุดยิ้มออกมาเมื่อจินตนาการไปแบบนั้น โคตรตลก

"อย่าหลับนะมึง เดี๋ยวโดนแท็กซี่ลากไปข่มขืน"
ผมว่าก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้าก บางทีการได้แกล้งเพื่อนก็ทำให้เราคลายเครียดลงได้เหมือนกัน

'ข่มขืนบ้าไร กูผู้ชายนะเว้ย'
ไอ้ภีมกดเสียงต่ำจนผมแอบเสียวสันหลังวาบ ถ้ามันอยู่ข้างๆกันตอนนี้ผมคงโดนมันเขกกบาลแยกไปแล้ว

"สมัยนี้ผู้ชายถูกข่มขืนเยอะจะตายไป"
ผมว่าก่อนจะนึกไปถึงข่าวผู้หญิงล่อลวงผู้ชายไปทำมิดีมิร้าย.. สมัยนี้โลกมันกลับตาลปัตรแล้วหรือยังไง ผู้หญิงฟันแล้วทิ้งผู้ชายก็ยังมี แต่พวกเธอคงโดนทำร้ายมาเยอะเลยลุกขึ้นสู้บ้างล่ะมั้ง

'พูดมากไปเหอะ ระวังโดนพี่จีบปล้ำ'

"พี่มันไม่กล้าปล้ำกูหรอกน่า ถ้ามันทำกูจะโกรธมันตลอดชีวิต!"
ผมว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง ให้มันรู้ไปสิว่าพี่จีบจะกล้าปล้ำคนที่ตัวเองรัก นี่ไม่ได้หลงตัวเองนะพี่เขาบอกผมแบบนี้

'จะโกรธพี่จีบ หรือจะติดใจเอาให้แน่นะมึง หึหึ'

"โอย กูไม่คุยกับมึงแล้วภีม ชวนกูเสียตัวตลอด เดินทางปลอดภัยขอให้ได้ขอให้โดนนะมึง"

'เดี๋ยวๆ อะไรของมึง ขอให้ได้ขอให้โดนเนี่ย'

"โดนพี่ดีพปล้ำ บาย!"
ผมพูดจบก็รีบตัดสายอย่างรีบร้อน แต่ก็ทันได้ยินเสียงไอ้ภีมโวยวายกลับมายกใหญ่ ผมมองเครื่องมือสื่อสารในมือก่อนจะแลบลิ้นใส่ด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเดินเข้าห้องโดยไม่ลืมปิดประตูระเบียง เที่ยงนี้ผมต้องไปหาพี่จีบที่ร้านล่ะ.. เขาขอให้ผมไปเป็นลูกมือให้หน่อยเพราะซารังติดประชุมที่คณะ ส่วนพี่ไลค์ลงใต้ไปดูไร่กาแฟแล้ว

ผมฮัมเพลงด้วยความสบายใจที่ไม่รู้อยู่ๆผุดมาจากไหนก่อนจะหยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องอย่างไม่รีบร้อน สายน้ำเย็นไหลลงมาชำระร่างกาย สบู่กลิ่นหอมอ่อนๆถูกบรรจงลูบไล้ไปตามผิวนุ่มนิ่มจนเกิดเป็นฟองสีขาวฟูฟ่อง ร่างกายเริ่มผ่อนคลายเรียกให้ความสดชื่นกลับมาได้ไม่ยาก

ผ้าขนหนูสีขาวสะอาดปัดป่ายไปตามร่างกายจนแห้งสนิท ชั้นในสีเข้มถูกสวมใส่ก่อนที่กางเกงขาเดฟสีดำสนิทจะตามมาอยู่บนร่างกาย เสื้อเชิ้ตแขนยาวสะอาดพลิ้วตามลมยามที่สะบัดสวมใส่ กระดุมทุกเม็ดถูกติดไม่เว้นแม้แต่คอเสื้อ ดูเป็นเด็กเนิร์ดขึ้นมาทั้งๆที่ปกติเซอร์จนซกมก.. ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์ กระเป๋าตังค์และกุญแจห้องมาถือไว้ก่อนจะเดินไปใส่รองเท้าผ้าใบคู่เก่งและออกมาจากห้องโดยที่ไม่ลืมล็อกประตู ไม่นานนักเสียงเรียกเขาของเครื่องมือสื่อสารก็ดังขึ้นระหว่างทางเดินลงบันได

"ครับผม ~"
มือเรียวกดรับสายและรีบกรอกเสียงสดใสลงไป ขายาวๆก้าวลงบันไดอย่างรวดเร็วตามความเคยชิน

'กูอยู่หน้าหอแล้วนะ'
เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังลอดออกมา ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเองก่อนขมวดคิ้วยุ่ง.. พี่จีบมาก่อนเวลานัดตั้งสิบนาที

"มาไวมากครับ"
ผมรีบก้าวขาออกจากตัวอาคารแล้วตรงไปที่รถ BMW สีขาวปรอดทันที มือเรียวเปิดประตูรถก่อนจะสอดตัวเข้าไปนั่งประจำที่ตุ๊กตาหน้ารถ.. ตอนแรกๆก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เป็นเรื่องปกติแล้วที่ผมจะนั่งตรงนี้ประจำ

"เดินมาหากูก็ไม่ยอมตัดสายเนอะ"
พี่จีบแซวขึ้นจนผมต้องมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ก็ตอนคุยตามันเหลือบเห็นรถเขาพอดีผมเลยรีบเดินมาหาจนลืมตัดสาย

"โทษทีครับ ผมลืมอ่ะ"
ผมว่าก่อนจะยิ้มแห้งๆแล้วรีบกดตัดสายพี่จีบ ใบหน้าคมส่งยิ้มให้กันแล้วขับรถออกไป

"เดี๋ยวพาไปกินข้าวต้มเจ้าอร่อย"
คนที่ตั้งใจขับรถพูดขึ้นในขณะที่ท้องผมร้องประท้วงพอดิบพอดีเหมือนรู้ใจกัน ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วยิ้มกว้าง เรื่องกินขอให้บอกไอ้คิสสู้ตายครับผม

"เออพี่... ไอ้ภีมกับไอ้ออยไปเชียงรายไม่ได้นะ"
ผมพูดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าเจอเพื่อนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย พี่จีบหันมามองกันเล็กน้อยก่อนจะกลับไปสนใจถนนต่อ ถ้าผมมองไม่ผิดครู่หนึ่งเหมือนจะเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังไงไม่รู้

"ทำไม"
คำถามสั้นๆดังมาจนผมต้องเบะปากลงเมื่อต้องตอบคำถามของพี่จีบ คิดแล้วก็หมั่นไส้ไอ้ภีมที่หนีไปญี่ปุ่นหน้าตาเฉยแบบนั้น บ้านช่องมีไม่กลับบ้างหรือยังไงวะ เอะอะๆก็ไปหาแต่พี่ดีพ ใช่สิเรามันคนโสดนี่หว่า เชอะ

"ไอ้ออยแม่กับพ่อมันมาเยี่ยมหลานที่นี่ ส่วนไอ้ภีมหนีไปหาพี่ดีพที่ญี่ปุ่นแล้ว"
พูดจบก็แอบทำเสียงจิ๊จ๊ะเล็กน้อยจนพี่จีบหันมาเลิกคิ้วใส่กัน มือหนาเอื้อมมาโคลงหัวผมไปมาอย่างสนุกสนานส่งผลให้ผมต้องถลึงตาใส่

"อะไรๆ หัวผมไม่ใช่ของเล่นนะพี่จีบ"
ผมบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะปัดมือหนาออกอย่างไม่จริงจังนัก ใบหน้ามู่ทู่เพราะผมที่อุตส่าห์ลงทุนเซ็ตเมื่อเช้ากลับยุ่งเหยิงจนเหมือนรังนก จะว่าไปวันนี้พี่จีบดูมีออร่าความหล่อเพิ่มขึ้นว่ะ.. ผมลอบมองเขาอีกครั้งก่อนจะพบว่าไอ้พี่จีบทำสีผมใหม่ ทรงอันเดอร์คัตด้านบนเป็นสีเทาควันบุหรี่ตัดกับส่วนด้านล่างที่เป็นสีผมปกติ โคตรเท่เลยว่ะ แบบนี้สาวๆจะไม่มองพี่มันมากขึ้นหรือยังไง คิดๆไปแล้วหงุดหงิด

"มึงไม่ใช่ของเล่นสักหน่อย เป็นตัวจริงสำหรับกูต่างหาก"
ผมถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเอง ไม่ทันตั้งตัวก็โดนน็อคเอ้าท์ซะแล้ว มีอะไรให้ผมชนะพี่จีบบ้างไหม.. อยู่ๆหน้าก็ร้อนวูบวาบทั้งๆที่มือเย็นจนจะแข็งเพราะแอร์รถหนาวมาก ไม่ต้องมีใครมาแซวว่าหน้าแดงอะไรทั้งนั้นเพราะรู้ตัวเองดี

"พี่จีบ.. มั่วว่ะ เกี่ยวอะไรเนี่ย หยอดพร่ำเพรื่อเกินไปแล้วนะเว้ย"
ผมแกล้งโวยวายกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง ตุ๊กตาปิกาจูสีเหลืองตรงคอนโซลรถถูกหยิบมาบีบขย้ำจนตัวบิดเบี้ยวไปหมด ลงที่คนไม่ได้ก็ขอลงที่ของก็ยังดีวะ พี่จีบหัวเราะเบาๆในลำคอราวกับพบเจอเรื่องสนุก

"พอใจจะหยอด ไม่ได้หรือไง"
ดูคำพูดคำจาเขาสิครับคุณ ผมจะเถียงอะไรได้ล่ะคราวนี้ ผมเลยย่นจมูกใส่คนที่หันมายักคิ้วหลิ่วตาใส่กัน สายตาเจ้าเล่ห์ส่งมาให้อย่างไม่ปิดบัง ผมแอบหวั่นใจว่าสักวันจะยอมพลีกายให้คนข้างๆแบบง่ายๆนี่สิ กลัวใจตัวเองเหลือเกิน

"ตามสบายครับคุณ เอาให้เต็มที่ เอาให้ผมแม่งหัวใจวายตายไปเลยไหมล่ะ"
ผมว่าประชดก่อนจะเม้มปากแน่น ไม่ได้โมโห ไม่ได้โกรธ แต่กำลังกลั้นยิ้มต่างหาก หัวใจทำงานหนักไม่เว้นแต่ละวันจริงๆ บางครั้งก็กลัวว่าถ้าวันหนึ่งพี่เขาจีบผมติดขึ้นมาแล้วเลิกหยอดกันคงจะเหงาแปลกๆ

"ไม่เอาว่ะ หยอดให้รักก็พอแล้ว ถ้ามึงตายกูจะไปรักใครที่ไหนล่ะ"
น็อคเอ้าท์ครั้งที่สองไหมล่ะ เหมือนโดนกระชากหัวใจออกจากอก เหมือนโดนรัวหมัดซ้ายขวาใส่หน้าไม่ยั้งเพราะตอนนี้ปวดแก้มไปหมด กลั้นยิ้มจนร้าวไปหมดแล้ว! ใครก็ได้ช่วยลากผมออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้ที จะตายแล้วจริงๆ ฮือ สวรรค์เปิดรอผมอยู่ใช่ไหม สวรรค์สีชมพูอมม่วงเลยแม่งเอ้ย

"สะ สาวๆมีให้รักตั้งเยอะแยะเถอะพ่อเดือนบริหาร"
จะเหน็บแนมเขากลับพูดตะกุกตะกักจนเสียความจริงจังไปจนหมดสิ้น พี่จีบหรี่ตามองก่อนจะยกยิ้มมุมปากที่ทำให้สาวๆสามารถละลายได้.. ผมก็เช่นกัน จีบแอทแทคนี่มันน่ากลัวจริงๆนะ

"ก็รักมึงไม่ได้รักคนอื่นนะครับ"
พี่จีบพูดก่อนจะหักพวงมาลัยเข้าจอดเทียบริมฟุตบาทหน้าร้านข้าวต้มเจ้าดังที่ผมเคยมากินแค่ครั้งสองครั้ง ด้วยความเขินหรือความหิวก็ไม่อาจรู้ได้ทำให้ผมไม่สนใจจะต่อปากต่อคำกับเขาแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถก้าวขายาวๆเข้าไปในร้านทันที

"ป้าครับ ~ ขอข้าวต้มหมูใส่ทุกอย่าง แต่ไม่ใส่ขึ้นฉ่ายนะ"
ผมสั่งอาหารอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะว่าง ไม่นานนักคนที่พยายามหนีกันก็เดินเข้ามา

"ทิ้งกูนะ"
คำสั้นๆที่พูดออกมาทำให้ผมใจหายวูบ ทิ้งอะไรกันแค่รีบเดินมาสั่งอาหาร ก็คนมันหิว.. เอ้อ ยอมรับก็ได้ว่าเขิน

"ไม่ได้ทิ้ง แค่หิว"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะเอื้อมมือไปจับขวดน้ำดื่มที่เด็กเสิร์ฟเพิ่งเอามาให้เปิดออกและรินมันใส่แก้วทั้งสองใบ พี่จีบนั่งมองผมอย่างไม่ละสายตา ไอ้อาการทำอะไรไม่ถูกมันกำลังย้อนกลับมาหาผมอีกครั้ง มองน่ะมองได้แต่อย่าจ้องกันด้วยสายตาจะกลืนกินแบบนั้น มันรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ

"กูก็หิว"
พี่จีบพูดก่อนจะแลบลิ้นสีชมพูเลียริมฝีปากตัวเอง ผมลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อคิดว่าพี่จีบโคตรเซ็กซี่และหื่นกระหายแปลกๆ จะกินผมแทนข้างไหมล่ะแบบนี้

"อือ เดี๋ยวข้าวต้มก็มาแล้ว...เนอะ"
พูดออกไปทั้งๆที่ไม่คิดว่าพี่จีบจะหิวข้าวต้มว่ะ สายตาแม่งโลมเลียผมจนเห็นได้ชัดขนาดนั้น จากที่อากาศหนาวกลายเป็นร้อนแปลกๆเมื่อใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้กัน

"หิวมึง กินได้ไหม"
ผมเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าไอ้พี่จีบมันจะหน้าด้านกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย เสียงแหบพร่าเมื่อครู่เกือบทำให้ผมสติหลุด มือไม้สั่นเหมือนเจ้าเข้า หัวใจเจ้ากรรมก็ขยันทำงานอะไรตอนนี่วะเนี่ยแถมแก้มก็ยังมาร้อนจนต้องยกมือขึ้นมาปิดอีก เขินในร้านข้าวต้มมันเป็นอะไรที่...ไม่รู้จะอธิบายยังไง

"แม่ง.. พี่จีบอย่ามาหื่นกลางร้านข้าวต้มนะเว้ย"
ผมบ่นพึมพำพอดีกับข้าวต้มหมูหอมๆมาเสิร์ฟ หลังจากนั้นเราก็ตั้งหน้าตั้งตาจัดการอาหารเช้าของตัวเองกันไปโดยไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเลยจนมาถึงร้านกาแฟ

ผมรับเสื้อกั๊กสีดำสนิทมาสวมทับเสื้อเชิ้ตอย่างลวกๆเพราะลูกค้าเริ่มทยอยเข้าร้านเยอะขึ้น วันนี้ได้รับหน้าที่เสิร์ฟแทนซารังไปโดยปริยาย ถ้าสังเกตดูแล้วจะมีแต่สาวๆที่เข้ามาทั้งนั้น ผมแอบเหล่สายตามองบาริสต้ามือโปรลงมือทำกาแฟด้วยความคล่องแคล่ว สายตาหลายคู่กำลังจับจ้องอยู่ที่เขาจนผมรู้สึกหงุดหงิด ถ้าจะมองขนาดนั้นไม่สั่งบาริสต้าดื่มแทนกาแฟเลยล่ะ!

"เป็นอะไร ยืนทำหน้าหงิกอยู่ได้"
พี่จีบหันกลับมาเมื่อทำเมนูคาปูชิโน่เสร็จ มือหนายกแก้วกาแฟใส่ถาดเสิร์ฟแล้วเลื่อนมันมาให้กัน ผมรับไว้ก่อนจะทำปากยื่นปากยาวไปที่กลุ่มสาวๆตาหวานเยิ้มพวกนั้น เขามองตามไปแล้วยกยิ้มบางๆส่งมา

"หวงเหรอ"
คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างกวนๆ ผมเบะปากใส่แล้วหมุนตัวเดินหนีทันที ไม่อยากตอบเพราะเป็นอย่างที่พี่จีบบอกมานั่นล่ะ เสียเซลฟ์ฉิบหาย มาหวงคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเนี่ยนะ อาการหนักจริงๆไอ้คิส

"อุ้ย เด็กเสิร์ฟใหม่เหรอคะ น่ารักจังเลย"
ผมได้สติกลับคืนมาเมื่อเสียงใสๆจากลูกค้าสาวทักขึ้น ผมยกยิ้มการค้าให้กับเธอก่อนจะเสิร์ฟคาปูชิโน่ให้

"อ่า.. ผมแค่มาช่วยงานชั่วคราวน่ะครับ"
ผมกอดถาดเสิร์ฟไว้หลวมๆ เธอพยักหน้ารับรู้ก่อนจะพูดต่อ

"ช่วยนั่งดื่มกาแฟเป็นเพื่อนพวกเราได้ไหมคะ อยากทำความรู้จักจังเลย"
สาวสวยอีกคนพูดขึ้น ไอ้จะปฏิเสธลูกค้ามันก็ดูน่าเกลียด แต่ครั้นจะให้ทำตามก็ดูเหมือนเด็กนั่งดริ๊งค์ยังไงชอบกล นี่มันร้านกาแฟนะเว้ยไม่ใช่ร้านเหล้า บางทีผมก็สับสนกับลูกค้าพี่จีบว่ะ หรือร้านมันเป็นกึ่งโฮสต์คลับ ให้ตายเถอะ!

"เอ่อคือว่า..."

"มีอะไรกันเหรอครับ"
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูก่อนที่แขนแกร่งจะพาดไหล่กัน พี่จีบเข้ามาช่วยชีวิตผมได้ทันเวลาพอดี อยากกราบขอบคุณแนบอกเหลือกเกิน

"อุ้ย น้องจีบทำสีผมใหม่เหรอ หล่อมากเลย ~"
ผมหันขวับไปมองพี่สาวคนที่สามกำลังส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้พี่จีบ เจ้าตัวเขาพยักหน้าก่อนจะยิ้มโปรยเสน่ห์ให้ซะอย่างนั้น  มันน่าหมั่นไส้ เริ่มจะหวงทุกอย่างที่เป็นพี่จีบแล้วว่ะ นิสัยเสียจังเลยกู

"ชมกันแบบนี้ผมเขินแย่เลยครับ แต่ว่าพวกพี่มีอะไรกับน้องผมเหรอ"

"อ๋อ พวกพี่เห็นน้องเขาน่ารักดีเลยอยากให้นั่งคุยกันหน่อยน่ะ"
เธอพูดก่อนจะขยิบตาให้ผม.. น่ากลัวยังไงไม่รู้ ผมมองพี่จีบด้วยสายตาอ้อนวอน อย่าปล่อยให้กูทำความรู้จักกับพวกพี่สาวเลยนะ ห่วงสวัสดิภาพร่างกายตัวเองว่ะ

"อ่า... คงไม่ได้นะครับ คนนี้ผมหวง"
พี่จีบยิ้มกว้างจนผมเผลอใจกระตุก พูดออกมาได้ยังไงว่าหวงผมต่อหน้าคนอื่นวะ แถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย ไม่กลัวว่าเขาจะมองตัวเองแปลกๆหรือยังไงกัน ดูพวกเธอจะตกใจอยู่ไม่น้อยซะด้วยสิ

"พูดแบบนี้มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่าคะเนี่ย"
กอไผ่ก็มาเว้ย สายตาจ้องจับผิดกันจนน่ากลัวถูกส่งมาที่ผมกับพี่จีบเต็มๆ อยากจะสารภาพว่าทำตัวไม่ถูกจนเผลอจับเสื้อของคนด้านข้างไว้แน่น ดวงตากลมกรอกไปมาอย่างลนลาน หัวใจเต้นตึกตักเพราะกลัวว่าจะโดนจับได้.. ไม่ได้อายหรอก แค่เขิน!

"ล้อเล่นน่ะครับ พอดีวันนี้ลูกค้าเยอะ ขอตัวก่อนนะครับ"
พี่จีบพูดจบก็โปรยยิ้มหล่อก่อนจะลากผมออกมาจากตรงนั้น พอรอดออกมาได้ก็เผลอถอนหายใจออกมาพร้อมกันทั้งคู่ เราต่างมองสบตากันก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมา

"เสน่ห์แรงนะมึง"
พี่จีบพูดก่อนจะยกมือหนาขึ้นมาขยี้หัวผมเบาๆ น้ำเสียงไม่ได้โกรธเคืองอะไรแถมยังติดทะเล้นอีกต่างหาก ผมช้อนตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะยักคิ้วให้กัน

"ก็คนมันหล่อ"
เรื่องหลงตัวเองขอให้บอก คิสจัดให้

"ห้ามหล่อ ห้ามน่ารัก"

"อ่าว ทำไมอ่ะ"

"กูหวง"

"หึ พี่ไปย้อมผมกลับได้ไหมล่ะ"

"หืม ทำไมวะ"

"หล่อ...เกินไปว่ะ"

"ไม่ชอบเหรอ"

"ไอ้ชอบมันก็ชอบเว้ย แต่อยากชอบคนเดียวอ่ะ ไม่อยากมีเพื่อนร่วมชอบด้วย พอดีเป็นคนขี้หวง"
ผมพูดจบก็เดินหนีออกมาดื้อๆ หลุดปากบอกมันไปจนได้ว่าตัวเองก็หวงเหมือนกัน โอย ชีวิตต้องมาผ่ายแพ้ผู้ชายตัวสูงกว่าเนี่ยนะ จากที่คิดว่าตลอดว่าจะต้องหาผู้หญิงดีๆมาเป็นแฟนสักคนคงต้องล้มเลิกความคิดนั้นแบบถาวรแล้วล่ะ เพราะสายตาของผมตอนนี้มันคอยมองแต่พี่จีบเพียงคนเดียว และภาพของเขาค่อยๆเด่นชัดขึ้นในหัวใจทุกวัน

จนถึงเวลาสองทุ่มที่เราช่วยกันปิดร้าน พี่จีบอาสาพาผมไปเลี้ยงข้างเป็นการตอบแทน จริงๆไม่ต้องก็ได้แต่พี่เขาไม่ยอมผมเลยตามใจเสี่ยจีบ พอท้องอิ่มสารถีส่วนตัวก็พามาส่งที่หอพร้อมกำชับว่าพรุ่งนี้อย่าลืมของเด็ดขาด เตรียมตัวให้พร้อมซะตั้งแต่คืนนี้เพราะทริปไปเชียงรายมาถึงแล้ว

ผมเดินขึ้นห้องด้วยความเหนื่อยล้า สองขาก้าวไปยังเตียงนอนแล้วทิ้งตัวลงอย่างหมดสภาพ เปลือกตาปิดลงเพื่อคลายความเมื่อยล้าของร่างกาย คืนนี้คงหลับเป็นตายแน่ๆ

"อื้อ ~"
ผมยืดตัวเพื่อไล่ความเมื่อยขบก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นแล้วมองไปที่กระเป๋าเดินทางตรงมุมห้อง ทุกอย่างที่จำเป็นได้ถูกบรรจุอยู่ในนั้นพร้อมแล้วไม่ต้องเสียเวลาเช็คอีกรอบเพราะมั่นใจว่าไม่ได้ลืมอะไร กะว่าจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่ความคิดดันหยุดชะงักเพราะเสียงสายเรียกเข้าที่ดังขึ้นจากโทรศัพท์เครื่องเก่ง มือเรียวล้วงกระเป๋าเสื้อแล้วดึงออกมากดรับสาย

"ฮัลโหล"
ผมกรอกเสียงอ่อนแรงลงไปจนคนปลายสายเผลอหลุดขำเบาๆ มันมีอะไรน่าตลกนักวะ

'ไปทำอะไรมาไอ้น้องชาย เสียงเพลียสุดๆ'
พี่ดีพถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการล้อเลียน ไม่พ้นคิดอกุศลอยู่เป็นแน่ ผมพลิกตัวนอนตะแคงแล้วตอบคำถามพี่ชายสุดที่รักกลับไป

"ไปช่วยงานพี่จีบที่ร้าน เพิ่งกลับถึงหอ"

'แหม เดี๋ยวนี้ทำตัวเป็นเมียที่ดีเนอะ มีช่วยงานผัวด้วย'
จบประโยคของมันผมแยกเขี้ยวทันที ผัวเผออะไรล่ะวะ ไม่ได้เป็นอะไรกันเว้ย แล้วทำไมหน้าต้องร้อนขนาดนี้ แล้วปากเนี่ยจะยกยิ้มทำไม!

"ไอ้พี่ดีพ! ผมกับพี่จีบไม่ได้เป็นอะไรกันเว้ย"
โวยวายกลบเกลือนความเขินของตัวเอง หวังว่าคนปลายสายที่ญี่ปุ่นจะจับไม่ได้..

'เหรอๆ ไม่ใช่ว่าสารภาพไปแล้วหรือไงว่าชอบไอ้จีบน่ะ'
น้ำเสียงกวนตีนไม่มีใครเกิน ถ้าพี่ดีพอยู่ใกล้ๆกันนะผมจะเอาหมอนฟาดมันให้ยับ แต่ตอนนี้ทำได้แค่ยกหมอนมาปิดหน้าตัวเอง แทนที่จะโกรธเพราะโดยแซวกลับยิ้มจนแก้มจะแตก

"ก็แค่ชอบป่ะวะ ยังไม่ได้รัก!"
เอาจริงๆตอนนี้ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่แล้วว่าชอบหรือรักกันแน่ มันก่ำกึ่ง อาจจะเพราะยังกังวลว่าพี่จีบฮอตหรือตัวเองไม่เหมาะสมกับเขา ความรู้สึกที่มีเลยยังไม่แน่ชัดสักเท่าไหร่

'คิส มึงแน่ใจเหรอว่าแค่ชอบไอ้จีบ กูไม่ได้จะอะไรนะเว้ย แต่ถ้าเกิดมึงยังลังเลไม่แน่ใจหรือไม่มั่นใจในตัวเองอยู่แบบนี้ บางทีอะไรๆมันอาจจะสายไปก็ได้'
ไม่รู้ว่าพี่ดีพเก่งที่อ่านใจผมได้หรือเพราะรู้นิสัยของผมกันแน่ถึงได้พูดแทงใจดำกันขนาดนี้ ยอมรับว่าสะอึกกับประโยคยืดยาวที่ได้ยิน สมองเริ่มประมวลผลอีกครั้งพร้อมทั้งกลั่นกรองความรู้สึกภายในจิตใจ ถ้าแค่ชอบคงไม่หวง ถ้าแค่ชอบคงไม่หึง ถ้าแค่ชอบคงไม่อยากดูแลซึ่งกันและกัน ถ้าแค่ชอบคงไม่อยากครอบครอง ถ้าแค่ชอบคงไม่เห็นแก่ตัวอยากเก็บเขาไว้คนเดียว สรุปแล้วผมคงรักพี่จีบเข้าแล้วล่ะ

'เงียบไปนานขนาดนี้เปลืองค่าโทรศัพท์กูไหมล่ะคิส'
เสียงพี่ดีพดึงสติผมกลับมารวมกันเหมือนเดิม แทนที่จะรู้สึกหงุดหงิดที่พี่ชายเอ่ยแซวแบบนั้นแต่ไม่เลย ตอนนี้ผมกลับยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าเมื่อค้นพบความรู้สึกรูปแบบใหม่ที่มีให้พี่จีบ

"อย่างกได้ป่ะพี่ดีพ"
ผมมุ่ยหน้าทั้งๆที่รู้ว่าพี่ดีพคงไม่เห็น แต่ก็อยากขอบคุณพี่ชายสุดเกรียนเหมือนกันที่ทำให้ผมจัดการความรู้สึกของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องใช้ระยะเวลาทดลองหัวใจตัวเองไปมากกว่านี้

'กูล้อเล่น กับน้องชายสุดที่รักกูยอมทุกอย่างล่ะ'

"อื้อ ขอบคุณนะครับ"

'พูดแบบนี้แสดงว่าได้คำตอบแล้วเหรอ'

"ได้แล้วสิ"

'หวังว่าทริปเชียงรายมึงคงไม่ไวไฟข้ามขั้นจากแฟนไปเป็นผัวเมียกันเลยนะ ถ้าเป็นแบบนั้นกูรับไม่ได้ว่ะ ให้กูกับภีมได้เสียกันก่อนนะ.. โอ้ยๆ จะตีกูทำไมเนี่ยภีม เจ็บนะเว้ย'
ผมหลุดหัวเราะออกมาจนได้เพราะไอ้ภีมมันน่าจะทนความเกรียนของไอ้พี่ดีพไม่ได้ สมน้ำหน้ามันครับ พูดอะไรไม่เคยเกรงใจคนฟังแบบนี้โดนสั่งสอนซะบ้างจะได้จำไว้

"ไม่ข้ามขั้นหรอกเว้ย ไอ้พี่บ้า!"

'เออๆ รักนวลสงวนตัวเอาไว้ มึงเป็นสาวเป็นนาง'
มันว่าก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้าก ถูกใจเขาล่ะที่หาว่าผมเป็นน้องสาวไปได้

"สาวบ้าไรวะ เป็นผู้ชายเว้ย ไม่คุยด้วยแล้วประสาทจะแดก"

'เออๆ พรุ่งนี้ก็เดินทางปลอดภัย บอกว่าที่น้องเขยกูด้วยว่าขับรถดีๆ กูวางล่ะ โอยะซุมิ ~'
หลังจากคำบอกฝันดีสายก็ตัดไป ผมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะยกมือบีบแก้มตัวเองไปมาโทษฐานที่ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย ไม่รู้ว่าการค้นพบความรู้สึกใหม่มันดีหรือไม่ดี แต่ที่รู้แน่ๆคือพรุ่งนี้ผมคงทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่กับพี่จีบ มันคงใจเต้นตึกตักไปตลอดทางกรุงเทพฯ-เชียงรายแน่ๆ โอย หัวใจ ขอเหล็กเสริมความแข็งแกร่งด่วนเลยครับ

และแล้วแสงดวงอาทิตย์รำไรก็ลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านเข้ามาบ่งบอกว่าทุกชีวิตกำลังเริ่มต้นกับเช้าวันใหม่ นาฬิกาเรือนกลมที่หัวเตียงบ่งบอกเวลาหกโมงเช้าอย่างแม่นยำ ผมยืนแขนยืนขาก่อนจะบิดตัวไล่ความเมื่อยก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นมายีผมจนยุ่งเหยิง ดวงตากลมยังปรือปรอยโฟกัสสายตายังเลือนรางจนต้องใช้มือคลำหาอุปกรณ์สื่อสาร

หน้าจอสี่เหลี่ยมขึ้นแจ้งเตือนโปรแกรมแชทยอดนิยมเกือบหนึ่งร้อยข้อความส่วนมากมาจากบรรดาเพื่อน แต่มีสามข้อความจากคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงได้เสมอ ผมไม่รีรอที่จะกดอ่านทันที พลันรอยยิ้มก็แย้มออก

อัศวิน
- อรุณสวัสดิ์ครับ อีกหนึ่งชั่วโมงไปรับนะ 05:40
- คิส.. ตื่นเต้นว่ะ 05:55
- คิส.. กูไปหาเลยได้ป่ะวะ อยากเห็นหน้าแล้ว 06:07

แก้มแทบจะแตกเมื่ออ่านข้อความสุดท้ายจบ ทำไมต้องเขินบิดตั้งแต่เช้าด้วยวะ จิตใจพี่จีบทำด้วยอะไรไม่สงสารคนอ่านอย่างผมบ้างเหรอ จากที่ตื่นไม่เต็มตาตอนนี้ตื่นซะยิ่งกว่าตื่นซะอีก หัวใจพองโตจนคับอกไปหมดแล้วเว้ย ฮือ

× คิสสึ ×
- มอร์นิ่งครับพี่จีบ เลี่ยนแต่เช้าเลยว่ะ 06:09
- ผมเพิ่งตื่นเองนะ รีบขนาดนั้นเลย 06:09

ผมตอบกลับไปก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมเพราะต้องเตรียมตัวไปอาบน้ำ แต่เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้ารั้งตัวผมไว้ให้หยุดชะงักทันที จากที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก็ต้องทิ้งตัวนั่งลงไปใหม่ พี่จีบมันเฝ้าโทรศัพท์อยู่หรือไงถึงตอบกลับมาไวแบบนี้

อัศวิน
- ทำไมวะ อยากเห็นหน้าคนที่ตัวเองรักมันผิดตรงไหน? 06:10
- แล้วอีกอย่าง.. มีคนรออยู่ที่เชียงราย 06:10

โอย เต็มปากเต็มคำเลยเนอะคนเราพูดออกมาได้ คนรักบ้าอะไรเล่า เขินจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย เขินจนต้องหยิบหมอนขึ้นมากัดเลยเถอะ แล้วคืออะไรที่บอกว่ามีคนรออยู่.. คงไม่ใช่ว่าหลอกผมไปเชือดนะเว้ย ด้วยความอยากรู้เลยพิมพ์ถามกลับไปโต้งๆ

× คิสสึ ×
- ใครรออยู่อ่ะ 06:10

อัศวิน
- ไม่คิดจะแสดงอาการเขินกับสิ่งที่กูหยอดไปก่อนหรือไง 06:11

× คิสสึ ×
- ไม่เขินเว้ย เดี๋ยวพี่ได้ใจ ตอบมาเร็วดิใครรออยู่ 06:11

อัศวิน
- อ่าว นี่กูยังไม่ได้ใจมึงอีกเหรอ ทำไม่ยากจัง เฮ้อ 06:12

× คิสสึ ×
- ไอ้พี่จีบๆๆๆๆ อย่าเบี่ยงประเด็น รีบตอบมาเลย 06:12
อัศวิน
- ออมม่ารออยู่ 06:13

เอ้ะ... เกิดเดตแอร์และการแดกจุดขึ้นกลางอากาศ สมองเบลอไปชั่วขณะเมื่อค้นพบว่าเมมโมรี่ไม่เคยบันทึกคำว่า 'ออมม่า' ไว้ในหัว จะให้ถามกลับไปว่า 'ออมม่าคืออะไร' ก็ดูโง่อยู่พอตัว แต่ไม่เป็นไรกูเกิ้ลช่วยคุณได้ ผมพิมพ์คำที่ต้องการในช่องค้นหารออยู่ไม่นานสิ่งที่ต้องการก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า พร้อมกับที่ผมอ้าปากกว้างเบิกตาโพลง

'ออมม่าเป็นคำที่ใช้เรียกแม่ในภาษาเกาหลี'

วอทเดอะฟัคคคคคคคคค ไอ้พี่จีบ ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้... หมดคำด่าแล้วเว้ย ฮือ มึงพากูไปฆ่าชัดๆอ่ะ ใจร้ายที่สุด!!




-------------------------------------------------




Q & A กับคิส
Q : อยากไปเที่ยวที่ไหนในเชียงรายมากที่สุด
A : อยากไปภูชี้ฟ้าครับ วิวน่าจะสวย ^^
Q : คิดว่าพี่จีบจะยอมพาไปไหม?
A : ถ้าไม่ยอมพาไปก็อ้อนสิครับ จะไปยากอะไร /ขยิบตา







ไอ้น้องคิสมันรู้ใจตัวเองแล้วนะ... ฉลาดแล้วนะเอ้อ!! 5555555555
ใครลุ้นให้น้องมันรู้ใจตัวเอง ตอนนี้ประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้าแล้วนะ ยินดีด้วย
พี่จีบ.. แสบมาก ไม่ยอมบอกน้องก่อนว่าคุณแม่รออยู่ที่เชียงราย จะเกิดอะไรขึ้นบ้างรอติดตามกันเนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 14-08-2016 09:16:35
พี่จีบจะเปิดตัวน้องกับคุณแม่แล้ว

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-08-2016 09:48:32
ให้เวลาคิสเตรียมใจนิดเดียวเอง
คุณแม่รอเห็นหน้าลูกสะใภ้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-08-2016 10:10:28
ตอนหน้าคือตอนฝากตัวเป็นลูกสะใภ้สินะ ยอมใจสกิลหยอดของพี่จีบแกอะ
คิสระทวยแล้วระทวยอีกไม่รู้ใจตัวเองก็แย่แล้วล่ะเนอะ
อะไพี่ดีพช้าเองมาอะไรเนี่ย. ภีมไม่ยอมพี่ก็ถวายตัวเลยไหมล่ะ 555
ออมมอนีรอคิสสึแปปนะค้า.  ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-08-2016 10:44:41
รอลุ้นเปิดตัวลูกสะใภ้ด้วยคน
พี่จีบหยอดมากๆ ระวังคิสเบาหวานขึ้นนะ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 14-08-2016 11:00:13
พี่จีบน่ารักขนาดนี้ ออมม่าก็คงใจดีมากแน่ๆ คิสอย่ากลัวไปเลย 55
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-08-2016 13:01:50
พี่จีบจะพาน้องคิสเข้าบ้านในฐานะไหนครับ ลูกสะไภ้? ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 14-08-2016 13:16:23
เค้ายังไม่ทันจะรับเป็นแฟนก็พาเค้าไปเปิดตัวกับแม่ซะแล้วพี่จีบ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 14-08-2016 14:00:41
หยอดอะไรถี่ปานนั้น

และมีเปิดตงเปิดตัวแล้วด้วยพี่จีบ พัฒนาใหญ่แล้วเนี่ย

และ...เห็นด้วยค่ะน้องคิส อยากได้อะไรก็อ้อนเข้าไปค่ะ พี่จีบไปไหนไม่รอดอยู่แล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-08-2016 14:03:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 14-08-2016 14:44:48
เปิดตัวสะใภ้หรอพี่จีบบบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 14-08-2016 16:23:17
หยอดรัวๆพี่จีบ อาศัย รัวหยอดเยอะๆมันต้องติดสักอันน 555 เอาแล้ว คิส จะไปเจอ ออมม่ายา~~แล้ว คิคิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-08-2016 17:07:54
พี่จีบจะพาน้องไปเจออ่อมม่า~~~~!!!!
คิสสู้ๆนะ ชนะใจแม่ยาย!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-08-2016 20:23:11
พี่จีบพาลูกสะใภ้ไปเปิดตัวแล้ววุ้ย 55555 :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-08-2016 20:55:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: isuloveU Soly ที่ 14-08-2016 22:26:09
อ่านรวดเดียวมาทั้งวัน เรื่องนี้น่ารักมากกกกก เขิลพี่จีบมากมาย จำเป็นต้องทำให้เขินขนาดนี้มั้ยยยยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-08-2016 12:43:11
ขอสักคนได้มั้ยแบบนี้งะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-08-2016 17:46:47
ตายแล้วววววววว พี่จีบจะพาน้องคิสไปเปิดตัวกับคุณแม่แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 19 -P.10- (14.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 15-08-2016 18:48:33
งุ้ยยยย ดีพภีมมม  น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 16-08-2016 16:59:18
- ดื่มครั้งที่ 20 -




บรรยากาศภายในรถช่างเป็นอะไรที่อึดอัดเกินกว่าจะขยับตัว ไม่ใช่เพราะว่าเบียดเสียดอะไร แต่เพราะคำพูดของซารังก่อนหน้านี้ทำให้ผมนั่งตัวลีบติดเบาะรถมานานแล้ว

'พี่คิสรู้ป่ะ.. เบาะข้างคนขับไม่มีใครเคยได้นั่งเลยนะ คนในบ้านก็ไม่เคย เพราะพี่จีบไม่ชอบให้ใครนั่งข้างๆ แต่พี่เป็นคนแรกที่ได้เป็นตุ๊กตาหน้ารถ'

ผมถึงกับหน้าร้อนวูบวาบมือไม้อ่อนจนเกือบเผลอทำโทรศัพท์ในมือตกเมื่อได้ฟังประโยคยืดยาวนั้นจบ.. ซารังยิ้มจนแก้มจะแตก ส่วนไอ้ตัวต้นเหตุผิวปากอย่างอารมณ์ดีไปตามจังหวะเพลงที่เปิดคลอเบาๆ สรุปที่ผ่านมาคือผมโง่อยู่คนเดียวใช่ป่ะวะ โดนไอ้พี่จีบหลอกซ้ำซากแถมยังถวายตัวเองเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้มันโดยไม่รู้ตัวอีก หลงรักคนเจ้าเล่ห์นี่มันหายนะชัดๆ

"ถึงกับช็อค"
พี่จีบพูดเสียงทะเล้นจนผมต้องหันขวับไปมองตาขวาง ไม่ให้ช็อคได้ยังไงล่ะวะ นั่งตรงนี้มาตั้งหลายเดือน ก็คิดว่าแม่งปกติของคนทั่วไปไงที่ต้องนั่งเบาะคู่กัน ถ้ามีคนหนึ่งขับแล้วคนหนึ่งนั่งเบาะหลังมันก็เหมือนคนขับรถไม่ใช่เหรอวะ ไม่เคยคิดเลยว่าสำหรับพี่จีบมันจะเป็นที่พิเศษสำหรับคนพิเศษ คิดได้แบบนั้นก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นรัวขึ้นมาจนเผลอยกมือขึ้นกุมหน้าอก

"อย่ามาล้อเลียน"
ผมเบนหน้าหนีมองทิวทัศน์ข้างทางไปเรื่อยๆทั้งที่มีแต่รถทั้งนั้น ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยด้วยซ้ำ

"เขินล่ะสิ"
พี่จีบเอื้อมมือมาจิ้มแก้มกันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อผมยกมือขึ้นปัดป้องแบบมั่วซั่วสุดๆ ดวงตากลมหลับลงปิดแน่นเพราะไม่อยากมองใบหน้าหล่อของเขา

"ซารังแลกที่กันหน่อย รำคาญพี่จีบ!"
ผมหันไปขอร้องซารังก่อนจะหันไปตะคอกใส่คนด้านข้าง แต่แทนที่เขาจะทำหน้าสลดกลับกลายเป็นง่ายักคิ้วกวนตีนแล้วยกยิ้มมุมปากอีกด้วย ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะต่อยลงที่ต้นแขนแกร่งด้วยความหมั่นไส้ คนอะไรกวนตีนฉิบหาย

"โนๆ ผมเป็นแค่น้องชาย ตำแหน่งสูงไม่พอจะแลกที่กัน"
ซารังกระดิกนิ้วชี้ส่ายไปมา ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความทะเล้น ส่วนผมเอ๋อแดกไปแล้วเพราะสมองเออเร่อไม่สามารถประมวลผลประโยคเมื่อคู่ให้ตัวเองเข้าใจได้ ปากอ้ากว้างดวงตากลมกระพริบปริบๆด้วยความงงงวยจนพี่จีบต้องใช้ปลายนิ้วเย็นๆดันปากผมให้ประกบกัน สงสัยจะกลัวแมลงวันบินเข้าปากผมแน่ๆ...

"ซารัง.. ดูเหมือนไอ้คิสจะเครื่องเออเร่อแล้วว่ะ"
พี่จีบเหลือบสายตามามองกันก่อนรอยยิ้มขำๆจะถูกประดับบนใบหน้า ผมยังคงไม่ตอบโต้อะไรกลับไปแล้วเอี้ยวคอมองซารังอย่างต้องการคำตอบ

"ที่นั่งข้างพี่จีบมีไว้สำหรับสะใภ้ของบ้านน่ะครับ"
คำตอบของซารังทำให้ผมอ้าปากหวออีกครั้ง หัวใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง แก้มเห่อร้อนขึ้นมาจนรู้สึกเหมือนจะระเบิด อะไรคือกูมานั่งเขินกับคำว่าสะใภ้วะเนี่ย ฮือ ความแมนที่มั่นใจนักมั่นใจหนามันหายไปไหน ใครก็ได้ช่วยออกตามหาเป็นเพื่อนผมที

"โอ้ย ง่วงจัง นอนดีกว่า"
ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี เลยแกล้งทำเป็นง่วงแล้วหลับตาหนีปัญหาซะอย่างนั้น ได้ยินเสียงไอ้พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างมีความสุข โอย หมั่นไส้มาก อย่าให้ถึงคราวผมเอาคืนนะ จะทำให้แม่งเขินจนตัวแดงเลยคอยดู!

ผมตื่นอีกครั้งเมื่อพี่จีบแวะร้านอาหาร สายตาของซารังมองมาที่ผมแปลกๆเหมือนอยากบอกอะไรสักอย่างแต่โดนห้ามไว้ประมาณนั้น... ทำไมพี่น้องคู่นี้ชอบมีลับลมคมในกันจังวะ คิดถูกหรือคิดผิดที่หลวมตัวมากับพวกนี้เนี่ย โบกรถกลับกรุงเทพฯตอนนี้ทันไหม

"นี่ๆ"
อยู่ๆซารังก็เดินมากระแซะผมช่วงที่พี่จีบเดินไปห้องน้ำ เสียงทุ้มติดหวานมาพร้อมกับใบหน้าน่ารักถ้าไม่ติดว่าผมโดนพี่ชายเขาจีบผมคงจีบซารังไปแล้ว.. อย่าเพิ่งขว้างขวดใส่นะ ผมล้อเล่นเว้ย ก็ว่าที่คุณหมอน่ารักนี่หว่า

"มีอะไรเหรอ"
ผมถามออกไปเสียงไม่ดังนักพลางมองหาโต๊ะว่างนั่ง ซารังกรอกตาไปมาเหมือนกำลังระวังพี่จีบอยู่ ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ผมอยากรู้เข้าไปอีก ไม่ใช่ทำให้ตื่นเต้นแล้วบอกว่าตัวเองปวดอึอะไรแบบนั้นนะ ถ้าเป็นอย่างที่คิดผมถีบซารังกระเด็นแน่ ข้อหากวนตีน

"มีความลับจะบอก คึคึ"
ซารังหัวเราะแบบนั้นทำให้ผมแอบขนลุกซู่ สายตาล้อเลียนส่งมาให้กันแบบไม่ปิดบัง ผมว่ามันต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่จีบแน่ๆเลยเถอะ ผมเหล่มองคนตัวเล็กก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะว่างๆ ซารังนั่งลงข้างๆผม สรุปว่าจะเป็นปาท่องโก๋ตัวติดกันใช่ไหมเนี่ย แต่ก็ดีว่ะไม่ต้องนั่งข้างพี่จีบ

"ความลับอะไรเหรอ"

"เมื่อกี้...พี่คิสโดนลักหลับล่ะ คึคึ"
ซารังยักคิ้วหลิ่วตาให้กัน ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ รู้สึกว่าร่างกายมันร้อนวูบวาบแปลกๆถึงจะยังไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัด แต่ต้องโดนไอ้พี่จีบลวนลามอะไรสักอย่างแน่ๆ ผมกำลังจะอ้าปากถามน้องกลับไปแต่ไอ้ตัวต้นเหตุเดินตรงลิ่วๆมาดึงคอเสื้อซารังให้ขยับเปลี่ยนไปนั่งฝั่งตรงข้ามแทน แล้วพี่จีบก็นั่งลงข้างผม ไอ้มารเอ้ย ขัดขวางการรู้ความลับจริงๆเลย!

"โหย อะไรเนี่ย กับน้องกับนุ่งจำเป็นต้องใจร้ายขนาดนี้ไหม!"
ซารังโวยวายไม่จริงจังนัก ใบหน้าหวานๆงอง้ำลงจนผมอยากเอื้อมมือไปหยิกแก้มน้อง เป็นเด็กผู้ชายที่โคตรน่าทะนุถนอมจริงๆเลยให้ตายสิ แต่มันติดตรงพี่จีบนั่งคุมเชิงอยู่นี่ดิ เซ็ง

"มากระซิบกระซาบอะไรกับไอ้คิสล่ะ"
พี่จีบจ้องเขม็งมาที่ผมสลับกับซารังอย่างคาดคั้น เจ้าน้องชายตัวดีทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"ถามพี่คิสดิ ผมไปเข้าห้องน้ำดีกว่า"
ซารังหันมาขยิบตาให้ผมก่อนจะโบกมือให้กัน ผมได้แต่อ้าปากด่าน้องมันตามหลังอย่างทำอะไรไม่ได้ พี่จีบจิ๊ปากเบาๆก่อนจะเปลี่ยนโฟกัสมาจ้องผมแทน แถมยังขยับหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆกลิ่นมิ้นท์ สติเหมือนจะร่องลอยไปไกลยามเมื่อริมฝีปากสีอ่อนถามคำถาม

"เหลือมึงคนเดียวแล้ว ตอบกูมา"

"ตะ ตอบอะไร วู้ สั่งอาหารยัง หิวแล้วเนี่ย"
ผมเฉไฉก่อนจะเบี่ยงหน้าหลบแล้วยกมือขึ้นลูบท้องตัวเองแบบเก้ๆกังๆ ไอ้พี่จีบมันไม่ยอมแพ้เพราะมือหนาบังคับให้ผมหันไปสบตากับเขา ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้อีกนิด อีกนิด และอีกนิด จนปลายจมูกของเราชนกัน ผมแทบจะโวยวายลั่นแต่ยั้งตัวเองไว้ได้ นี่มันกลางร้านอาหารนะเว้ยช่วยเกรงใจคนอื่นหน่อยได้ไหม ฮือ ซารังกลับมาสักทีสิวะท้องเสียเหรอ หรือแอบไปพี้กัญชา!

"ถอยออกไปนะเว้ยพี่จีบ"
ผมละล่ำลักลักพูดกรอกตาไปมาอย่างกังวล คนอื่นๆเริ่มมองมาที่เรากันแล้ว ผมใช้มือดันหน้าอกของเขาให้ออกห่าง พี่จีบยกยิ้มมุมปากก่อนจะยอมปล่อยกันดีๆทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

"จะตอบได้หรือยัง ถ้าไม่ตอบกูจับจูบกลางร้านแน่"
ผมหันขวับไปจ้องหน้าคนพูดเขม็ง ปากบางเบะลงอย่างไม่พอใจ อะไรๆก็ขู่กันตลอด กล้าทำเหรอ คนเยอะแยะขนาดนี้ คนอย่างพี่จีบคงไม่หน้าด้านล่ะมั้ง.. หวังว่านะ

"กล้าเหรอๆ คนเยอะแยะ"
ผมพูดก่อนจะทำหน้าตากวนตีนใส่กัน พี่จีบมองซ้ายมองขวาก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของผมทั้งสองข้าง คราวนี้กลายเป็นผมที่ต้องตกใจแทน

"ลองดูไหมล่ะ กูทำได้มากกว่าที่มึงคิดนะ"
พี่จีบตบท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะโรคจิต ผมรีบผละออกจากมันแล้วขยับเก้าอี้หนีทันที หัวใจจะวายตายวันละหลายๆรอบ ทำไมพี่มันดูหื่นกามขึ้นวะ... ไปเชียงรายผมจะรอดไหมล่ะแบบนี้

"พี่จีบแม่ง บ้าบอว่ะ"

"ตอบได้หรือยัง"

"เออๆ ซารังบอกว่าพี่ลักหลับผม"
ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม.. จะว่ากระดากปากก็คงใช่ จะว่าเขินก็คงใช่ แต่ที่ใช่ที่สุดคือเกลียดตัวเองว่ะ ทำไมต้องก้มหน้ากลั้นยิ้มเหมือนสาวน้อยแรกแย้มด้วยวะ โอยย รำคาญตัวเอง

"อ๋อ"
พี่มันพูดแค่นั้นแล้วเอาแต่นั่งยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว ในตอนแรกที่ผมเขินอยู่กลับกลายเป็นต้องสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป ความอยากรู้ส่งผลให้ผมกล้าถามในสิ่งที่ไม่คิดจะถามมาก่อน

"พี่จีบแอบจูบผมเหรอวะ"
ผมโผลงถามออกไปก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง พี่จีบหันมามองกันตาโตก่อนไหล่หนาจะสั่นกึกๆแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะที่พยายามกลั้นสุดชีวิต.. มีอะไรน่าขำวะ

"ขำอะไรวะพี่จีบ หยุดเลยนะ"
ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะกำหมัดต่อยลงที่อกของพี่จีบไม่แรงมากนัก มือหนาคว้าจับข้อมือของผมเอาไว้ก่อนจะส่งสายตาล้อเลียนมามองกัน.. หึ ไม่เคยจะหวานหรอกครับ จีบได้แป็ปๆกวนตีนต่อตลอดคนเรา

"ทำไมคิดว่ากูแอบจูบวะ อาจจะทำอย่างอื่นก็ได้นะ"
พี่จีบยักคิ้วกวนๆให้กันแต่ไม่ยอมปล่อยมือผม แถมยังเลื่อนมากุมไว้แบบเต็มมืออีกต่างหาก ผมเบนสายตาหนีไปทางอื่นเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้รับความอายครั้งยิ่งใหญ่

"มะ ไม่รู้ ก็เดา พี่แม่งหื่นจะตาย"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะพยายามดึงมือออกแต่พี่จีบจับไว้แน่นเกินไป.. ฮือ ซารังกลับมาช่วยพี่ทีเถอะ จะละลายเพราะไอ้พี่จีบอยู่แล้วเนี่ย ถึงในร้านอาหารจะติดแอร์แต่ผมเหงื่อแตกอ่ะคิดดู

"แค่จูบหน้าผาก ถ้าจูบปากอยากจูบตอนมึงมีสติมากกว่า อย่างเช่น...ตอนนี้"
เดี๋ยวนะ ตอนนี้บ้าอะไรของพี่มันวะเนี่ย ไม่เอาเว้ย คนเยอะแยะ เอ้ย ไม่ใช่ จูบไม่ได้เว้ย ไม่ได้ โอย

"ฮยอง! จะทำอะไรครับนั่น"
ผมกับพี่จีบชะงักค้างเพราะเสียงตะโกนของซารังทำให้โต๊ะอื่นๆหันมามองเป็นตาเดียว เราผละออกจากกันอย่างรวดเร็วแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนซารังยิ้มทะเล้นแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผม หัวใจเต้นตึกตักเหมือนตอนแม่จับได้ว่าแอบกินลูกอมเลยว่ะ ฮือ เกือบไปแล้วไหมล่ะ เกือบเสียจูบแรก... จูบแรกตอนมีสติไปแล้วเว้ย

"แหม... อดใจรอให้ถึงเชียงรายก่อนก็ไม่ได้นะ ฮยองนี่ใจร้อนจริงๆเลย"
ฮยองนี่เหมือนหมูหยองป่ะวะ? คิสงงครับ ช่วยพูดภาษาไทยที โฮก แล้วอะไรคืออดใจรอให้ถึงเชียงราย นี่พวกมึงสองพี่น้องวางแผนจะฆ่ากูเหรอ

"เงียบๆไปซารังเดี๋ยวไก่ตื่น"
พี่จีบพูดจบอาหารที่พี่มันไปแอบสั่งไว้ก็มาเสิร์ฟพอดีเราเลยไม่รอช้าที่จะจัดการมัน ไอ้ผมอยากจะเถียงกลับไปว่า... ไก่ที่มึงกลัวจะตื่นน่ะ ตอนนี้มันพร้อมจะตีปีกหนีแล้วเว้ย เล่นมาพูดกันต่อหน้าแบบนี้ใครไม่รู้เรื่องก็โง่แล้ว!

พวกเราเริ่มเดินทางกันต่อในเวลาเกือบบ่ายโมง ก่อนจะขึ้นรถเลยแวะเข้ามาร์ทหมายเลขเจ็ดสิบเอ็ดได้พวกขนมขบเคี้ยวและน้ำอัดลมไว้เป็นเสบียงระหว่างทาง เพลงสากลถูกเปิดคลอเบาๆทำให้บรรยากาศในรถไม่เงียบจนเกินไป มีเสียงฮัมเพลงจากคนหน้าหวานดังมาเป็นระยะๆ ส่วนคนด้านข้างก็มีสมาธิกับการขับรถทางไกลไปเรื่อย

"จะกินขนมตอนไหนบอกนะ ผมจะแกะให้"
ผมบอกคนด้านข้างก่อนจะส่งยิ้มให้พี่จีบพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเอื้อมมือมาโยกหัวกันเล่น ขับรถอยู่ยังจะมีกะจิตกะใจแต๊ะอั๋งคนอื่นอีกนะคนเรา แต่ผมไม่ปัดป้องหรอกถือว่าเป็นค่าเหนื่อยที่ต้องขับรถให้ผมนั่งสบายๆแล้วกัน จริงๆผมก็ถามแล้วนะว่าผลัดกันขับไหม พี่จีบบอกไม่เป็นไรหรอก กูบริการว่าที่แฟนดีอยู่แล้ว เขินสิครับรออะไร เปิดประตูรถแล้วสอดตัวเข้ามานั่งเงียบอย่างไวเลยล่ะ

"ถ้าป้อนด้วยจะดีมาก"
อื้อหือ คนเรานี่ได้คืบจะเอาศอกจริงๆอ่ะครับ ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะปัดมือหนานั่นทิ้ง.. เอาจริงๆยอมรับว่าเคลิ้มทุกทีที่โดนพี่จีบเล่นหัวแบบนี้ มันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนที่เขาส่งมาให้

"เป็นง่อยเหรอ"
ผมถามออกไป พี่จีบหัวเราะก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผมใจกระตุก

"ถ้าเป็นง่อยแล้วมีมึงเป็นคนดูแลกูก็ยอมว่ะคิส"
น้ำเสียงนุ่มๆทำให้หัวใจของผมเต้นถี่รัว มือไม้ชื้นเหงื่อไปหมด อยากจะฟาดไอ้คนขี้หยอดให้เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว แต่ติดตรงที่เขาขับรถและน้องเขานั่งจ้องผมตาเป็นมันอยู่ด้านหลัง ก็เลยทำได้แค่นั่งบีบมือตัวเองเล่นไปเพื่อระบายความเขิน

"พี่จีบไม่สงสารพี่คิสเหรอ หยอดเอาๆขนาดนี้หัวใจเต้นแรงจนจะพังแล้วม้าง"
ซารังขึ้นเสียงสูงท้ายประโยคซึ่งมันให้ความกวนตีนเป็นอย่างมาก และเมื่อผมหันไปแยกเขี้ยวใส่น้องกลับได้รอยยิ้มทะเล้นและการยกคิ้วกวนมาให้กันอีก จิตใจคนบ้านนี้เขาทำด้วยอะไรครับทำไมชอบแกล้งคนอื่นเขาแบบนี้ ไม่รู้หรือยังไงว่าหัวใจผมอ่อนแอเมื่อเจอคนชื่อจีบเนี่ย

"มึงก็อย่าไปแซวมันมาก เดี๋ยวมันงอนจะเรื่องใหญ่ ลำบากกูง้ออีก"
ผมหันขวับไปมองไอ้พี่จีบ รายนั้นเลิกคิ้วขึ้นสูงเหมือนจะถามว่าตัวเองพูดอะไรผิด

"อุย... ผมง่วงอ่ะ นอนนะ"
ซารังหลับคอพับคออ่อนทันทีที่พูดจบไม่เปิดโอกาสให้ใครแย้งการกระทำปัญญาอ่อนของตัวเองได้เลย

"มองอะไรหืม หลงความหล่อของกูแล้วอ่ะดิ"
ผมที่ยังคงมองพี่จีบอยู่รีบหันกลับไปมองทางด้านหน้าทันทีเมื่อโดนแซว ผมย่นจมูกให้กับความหลงตัวเองของเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องกลั้นยิ้ม ก็ที่เขาพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง หลงความหล่อ หลงนิสัยกวนตีน หลงความอบอุ่น หลงความขี้แกล้ง ไม่รู้จะหลงอะไรของพี่จีบนักหนา เอาเป็นสรุปง่ายๆเลยนะว่าผม 'หลงรัก' พี่จีบเข้าเต็มๆเลยล่ะตอนนี้

"คนอะไรหลงตัวเอง ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ"
ผมพูดเสียงเบาราวกับบ่นกับตัวเองแต่เหมือนพี่จีบจะได้ยินเพราะเจ้าตัวเขาเอาแต่หัวเราะเบาๆออกมา ผมไม่อยากกวนสมาธิการขับรถของเขามากนักเลยหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเกมยอดนิยมขณะนี้แทน

"ทำอะไร"
เสียงพี่จีบถามขึ้นพร้อมกับเลื่อนหน้าหล่อชะโงกมาดูหน้าจอสี่เหลี่ยม ผมขยับเครื่องมือสื่อสารนิดหน่อยเพื่อให้อีกคนมองได้ถนัด.. ตอนนี้กำลังถึงช่วงสำคัญของชีวิตเลยครับ ขว้างบอลธรรมดาใส่โปเกม่อนตัวแอดวานซ์เนี่ย ถ้าดวงดีหน่อยก็จับได้ถ้าว่าไปตามเนื้อผ้าก็บอลแตกยับเยิน

"จับยากว่ะพี่"
ผมบ่นกระปอดกระแปดเมื่อเจ้าตัวอ้วนกลมน่ารักๆสีฟ้าทำบอลแตกไปหลายครั้งโดยไม่ทันระวังคนข้างตัวที่ฝังจมูกลงบนแก้มผมอย่างรวดเร็วแล้วผละตัวกลับไปนั่งปกติ ผมอ้าปากหวอปล่อยโทรศัพท์มือถือลงบนตัก มือเรียวยกขึ้นมาปิดแก้มตัวเองทันทีเพราะรับรู้ได้ว่าแก้มตัวเองต้องแดงมากแน่ๆ ใจนึงอยากจะด่าคนฉวยโอกาสแต่อีกใจนึงกลับชอบไปซะอย่างนั้น ฮือ ไอ้คิสกลายเป็นคนใจง่ายไปแล้วครับพี่น้อง

"แก้มนุ่มว่ะ ชอบ"
คนทำผิดยิ้มน่าระรื่น รถยังคงไม่ขยับจากจุดเดิมสักเท่าไหร่ ผมภาวนาเหลือเกินว่ารถจะไม่ติดแบบนี้ เพราะนี่คือช่วงเวลาที่จะทำให้ผมโดนลวนลามอย่างยากจะหนีไปไหน

"ไอ้พี่จีบ ฉวยโอกาสตลอดเลยนะ"
ผมว่าด้วยน้ำเสียงติดงอนๆ ตอนแรกๆที่เนียนมาจีบไม่เห็นจะรุกหนักขนาดนี้เลยนี่หว่า ทำไมพอสารภาพว่าชอบพี่เขาไปแล้วโดนรุกจนเกือบถูกกดแล้วเนี่ย จะไวไฟไปไหนครับคุณ ขอผมเป็นแฟนก่อนเถอะอย่าเพิ่งรีบข้ามขั้นขยับความสัมพันธ์เป็นผัวเมียกันก่อนเลย ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พี่เตะลูกโทษเข้าประตูหลังนะเว้ย

"หรือจะให้กูฉวยโอกาสกับคนอื่น"
พี่จีบถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่คิ้วขมวดเข้าหากัน ผมเผลอเบะปากเพราะเป็นคำถามที่โคตรทำร้ายจิตใจ จะไปทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่นแทนที่จะเป็นผมเนี่ยนะ ใครยอมก็บ้าแล้ว แต่ไม่อยากพูดออกไปไง... เขิน

"ก็ตามใจดิ"
พูดจบก็ยกแขนขึ้นกอดอกตัวเอง เบนหน้ามองไปทางกระจกด้านข้าง ไม่ได้แสดงอาการงอนเลยนะเว้ย นี่ทำตัวปกติสุดๆแล้วนะ

"โอเค งั้นถึงเชียงรายกูจะฉวยโอกาสกับสาวๆสักคนสองคน สวยๆขาวๆ สเป็คกูเลย"

"กวนตีนนะ ห้ามฉวยโอกาสกับคนอื่น ไม่ชอบ!"
กว่าจะรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย ฝ่ามือยกขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้ด้วยความอาย ไอ้นิสัยโมโหแล้วชอบโผลงพูดสิ่งที่ตัวเองคิดมันแก้ไม่หายสักที ความลงความลับของหัวใจก็แม่งเอาไปบอกเขาหมด ฮือ ฮือออ

"มีความหวงแรงว่ะ"
ไม่ว่าเปล่ายังส่งนิ้วมาจิ้มมือกันจึกๆ ผมปัดนิ้วเย็นๆนั่นทิ้งก่อนจะจิ๊ปากแล้วมุ่ยหน้าด้วยความหงุดหงิด ทำให้ผมอารมณ์เสียไม่พอยังจะมากวนตีนกันอีก ฮึ่ย เดี๋ยวก็ไม่รักซะเลยนี่

"ใครหวง เงียบไปครับ"
ผมว่าก่อนจะส่งสายตาอาฆาตแค้นไปให้ สักวันผมจะเอาคืนพี่จีบให้สาสมเลยคอยดู หึ




ต่อด้านล่างเนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 16-08-2016 17:00:42
หลังจากนั้นผมก็หลับเป็นตายจนตื่นอีกครั้งตอนถึงลำปาง อีกไม่นานก็จะถึงเชียงใหม่สักที พี่จีบก้าวขาลงจากรถแล้วบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อย ส่วนซารังนั่งทำหน้าเบลอๆตาปรือๆอยู่เบาะหลัง ดูสภาพแล้วยังตื่นไม่เต็มตาแน่ๆ

"ลงไปหาอะไรกินกัน"
ผมชวน ซารังพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะใช้มือสางผมลวกๆแล้วเปิดประตูลงจากรถพร้อมกัน พี่จีบเดินนำเข้าร้านข้าวต้มโต้รุ้งเพราะเหมาะกับอากาศที่เริ่มหนาว ไม่คิดว่ามันจะหนาวได้ขนาดนี้ ผมไม่เคยขึ้นเหนือช่วงปลายปีเลย ครั้งนี้อาจจะถือว่าเป็นครั้งแรกก็ได้

"อยากกินอะไรก็สั่ง"
พี่จีบพูดและเริ่มสั่งอาหารสองสามอย่างที่เหลือเลยตกเป็นหน้าที่ของพวกผม ซารังสั่งอีกอย่างผมสั่งอีกอย่าง หลังจากนั้นเราก็นั่งรออาหารมาเสิร์ฟ

"พี่จีบ.. หนาวว่ะ"
ผมพูดพร้อมกับกอดตัวเองไว้ เพราะเมื่อครู่มีลมพัดเข้ามาจนหนาวสั่นไปหมด ผมไม่ได้ใส่เสื้อแขนยาวด้วยล่ะ.. หาเรื่องให้ตัวเองจริงๆ

"มานั่งตักกูไหม เดี๋ยวกอดให้อุ่นเลย"
พี่มันยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะทำท่าดึงผมขึ้นไปนั่งตักจริงๆ ไอ้ผมนี่รีบถอยห่างเพราะตกใจ

"พอเลย หาเรื่องลวนลามกันตลอด"
ผมกัดฟันว่าพี่จีบไปทั้งๆที่ตัวเองหน้าร้อน เขายักไหล่ไม่แคร์คำพูดกันก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่รถซะอย่างนั้น

"เอ่อ... พี่จีบไปไหนอ่ะ"
ผมหันไปขอความคิดเห็นจากซารัง รายนั้นคาบหลอดดูดน้ำอัดลมอย่างสบายใจ น้องส่ายหน้ารัวเป็นคำตอบก่อนจะชี้มือชี้ไม้ไปที่ไอ้พี่จีบ ส่งผลให้ผมต้องรีบมองตามไป เจ้าคนตัวโตเดินกลับมาหากันพร้อมเสื้อกันหนาวแขนยาวในมือ ผมควรจะหาที่ลับแล้วว้ากให้สุดเสียง ทำไมพี่จีบต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยวะ ฮือ ยอมแล้วทูนหัว ยอมเป็นเมียก็ได้

"ใส่ซะ ถ้ายังไม่หายหนาวกูจะกอดมึงจริงๆแล้วนะ"
พี่จีบยื่นเสื้อกันหนาวมาให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆกัน ผมรับเสื้อมาใส่แล้วกล่าวขอบคุณเขาจากใจจริงพร้อมส่งยิ้มหวานให้ เอาใจคนข้างๆบ้างคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

"เราจะถึงเชียงรายกี่โมงเหรอครับ"
ผมยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา หน้าปัดนาฬิกาสีดำสนิทบ่งบอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง

"ประมาณราวๆสี่ทุ่มไม่ก็ห้าทุ่มล่ะมั้ง"

"ดึกนะครับนั่น แล้วแม่พี่ยังรออยู่หรือเปล่า"
ผมถามเพราะกังวลว่าท่านจะนั่งรอบรรดาลูกชายของตัวเองจนดึกดื่นแล้วไม่ได้พักผ่อน... จะว่าไปตอนนี้เริ่มคิดมากอีกแล้ว อยู่ๆพาผมมาเจอแม่เนี่ยนะ บ้าสุดๆ ไม่มีเวลาให้ผมได้ทำใจอะไรเลยวะ

"ออมม่านอนดึกจะตายพี่คิส ตอนนี้คงกำลังดูซีรี่ย์อยู่มั้ง"
ซารังตอบจบก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก อาหารมาเสิร์ฟพอดีเราเลยลงมือกินกันอย่างเงียบๆ พอได้เวลาประมาณทุ่มครึ่งเราก็ออกเดินทางกันอีกครั้งโดยที่พี่จีบเปลี่ยนให้ซารังขับแล้วลากผมมานั่งเบาะหลังด้วยกัน ตอนแรกผมโวยวายยกใหญ่ว่าจะแห่ไปนั่งข้างหลังให้น้องดูเหมือนคนขับรถทำไม แต่ซารังบอกว่า 'ไปนั่งเถอะครับ ผมยินดีบริการตลอดทริปฮันนีมูนของคู่รัก' ผมนี่แทบกระโดดถีบว่าที่คุณหมอตกรถ พูดอะไรไม่คิดถึงจิตใจกูเลยแต่ละคน จีบหนัก แซวหนักกันทั้งนั้น นี่ถ้ามีพี่ไลค์อีกคนผมคงตายตั้งแต่ก้าวขาขึ้นรถจากหอ

สองชั่วโมงกว่าๆผ่านไปเราก็มาถึงจุดหมายปลายทางเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นขนาดใหญ่มีพื้นที่กว้างขวาง บนกำแพงติดป้ายเด่นหรา 'บ้านอัศวธนากุล' น่าจะเปลี่ยนจากคำว่าบ้านเป็นคฤหาสน์คงจะเหมาะกว่า ใกล้ๆโรงจอดรถมีสระว่ายน้ำ และที่สำคัญกว่านั้นคือหน้าประตูบ้านมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนยิ้มกว้างอยู่ ผมแทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นหน้าเธอชัดๆตอนที่เราขนของลงจากรถและเตรียมตัวเข้าบ้าน เธอสวยอย่างกับนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี

"ออมม่า ~"
เสียงซารังดังมาจากทางด้านหลังก่อนที่ร่างบางจะวิ่งนำไปกอดผู้หญิงคนนั้นแบบเต็มรัก ผมอ้าปากค้างเมื่อรู้ว่าเธอเป็นใคร... แม่ง ตอนแรกนึกว่าไอ้พี่จีบซ่อนกิ๊กไว้ที่นี่ ที่ไหนได้คุณแม่ยังสาว!!

"อะไร อย่าบอกนะว่าหลงรักแม่กู"
พี่จีบกระทุ้งศอกใส่ต้นแขนผมก่อนจะก้มลงมากระซิบกระซาบประโยคนั้น ผมเบิกตากว้างพร้อมกับส่ายหน้ารัวๆ ไอ้นี่ก็เล่นของสูงวะ เดี๋ยวถีบกระเด็นเลย

"บ้าเหรอพี่! ตอนแรกผมนึกว่าเป็นกิ๊กพี่ซะอีก ไม่คิดว่าแม่จะสวยแถมสาวขนาดนี้"
ผมกระซิบกระซาบกลับไป น้ำเสียงยังคงดูตื่นๆ พี่จีบหัวเราะเบาๆแล้วยกมือขึ้นขยี้หัวกันแล้วผลักเบาๆให้ผมออกเดินไปข้างหน้า

"แม่กูคงเป็นปีศาจว่ะ ไม่ยอมแก่สักที"
กัดแม่ตัวเองจบพี่จีบก็ส่งยิ้มหวานให้กับคนเป็นแม่ ผมยกมือไหว้อย่างเก้ๆกังๆจนเธอยิ้มขำออกมาก่อนที่จะรับไหว้ผม

"นัมจาชินกู?"
ห่ะ... แม่พี่จีบพูดว่าอะไรนะ ช่วยแปลเกาหลีเป็นไทยให้ผมรับรู้บ้างได้ไหมครับ ฮึก ผมงงเป็นไก่ตาแตกแล้ว

"ยังครับแม่"

"....."

"ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน"
โอ้โห คราวนี้เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับว่าเมื่อกี้แม่พี่จีบถามอะไรลูกชายตัวเอง จะไม่ด่ามันหน่อยเหรอว่าทำไมทำตัวแบบนี้ ไปรักผู้ชายได้ยังไง ฮึก... ผมเริ่มจะอยู่ไม่สุขแล้วว่ะ ต้องทำตัวยังไงดีตอนนี้ ควรมองไปทางไหน ควรพูดอะไร โอ้ย ลนลานเว้ย แกล้งตายได้ป่ะวะ

"น้องชื่อคิสครับแม่"
หือ... แนะนำตัวให้กูเรียบร้อย แถมยังจับข้อมือกูอีก โอย ชีวิตหนอชีวิต มึงช่วยเกรงใจแม่หน่อยได้ไหมวะ ถึงแม่เขาจะไม่ว่าอะไรที่ลูกวิปริตมาชอบของแปลกแบบผม แต่ช่วยดูหน้ากูด้วยว่ามันแดงเถือกแค่ไหน

"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ หนูคิสน่ารักจัง"
แม่พี่จีบเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ ผมแทบลืมหายใจเมื่อเห็นหน้าเธอชัดๆ โคตรสวยอ่ะหน้าโคตรใส นี่ถ้าเอาแม่ผมมาด้วยนะ.. เปรียบเทียบกันนะ แม่ผมคงได้กลายเป็นแม่ของพี่จีบทันทีอ่ะ!

"เอ่อ.. ยะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณน้า"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักอย่างทำตัวไม่ถูก ดวงตากลมกรอกไปมาจนเริ่มมึนหัว พี่จีบก็แม่งจะแสดงความเป็นเจ้าของจับมือถือแขนผมไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย ยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะเว้ย ให้มันน้อยๆหน่อยสิวะ

"เรียกแม่เหมือนพี่จีบเถอะนะ แล้วก็...ยอมใจอ่อนให้ลูกชายแม่เร็วๆนะคะ"
ประโยคสุดท้ายคุณแม่ก้มลงมากระซิบข้างหูผมก่อนจะผละออกไปส่งยิ้มหวานมาให้กัน ผมรู้สึกว่าตัวร้อนวูบวาบราวกับจะเป็นไข้ ถ้าจะอ้อนกันแบบนี้นะ ฮึก แล้วจะให้ผมปฏิเสธยังไงล่ะวะ ฮือ

"ขึ้นไปพักผ่อนกันได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปไร่กาแฟกับแม่กันนะ"

"ครับผม รับทราบ"
ซารังตอบเสียงร่าเริงก่อนจะเดินนำไป ผมโค้งให้คุณแม่ก่อนจะเดินตามไปแล้วปิดท้ายด้วยพี่จีบ ระหว่างทางเดินขึ้นบันไดผมแทบจะหัวทิ่มเพราะคำพูดของคนที่เดินตามกันมาติดๆ

"แม่บอกว่าให้มึงนอนกับกูจะได้กระชับความสัมพันธ์"

"คะ ความสัมพันธ์อะไรวะไม่เอา จะไปนอนกับซารัง!"
ผมรีบก้าวขาขึ้นบันไดอย่างรีบเร่งจนทันซารังที่เดินอยู่ด้านหน้า น้องหันมายิ้มให้ผมก่อนจะส่ายหน้าให้กัน

"ห้องผมเต็มอ่ะ พอดีต้องนอนกับหมาอีกสองตัว"
หน้าผมมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด หมาที่ไหนอีกวะเนี่ย อ๊าก พอเดินมาถึงชั้นบนก็ได้รับคำตอบเมื่อไซบีเรียนฮัสกี้สองตัวขนาดโตเต็มวัยตัวหนึ่งสีน้ำตาลทองแดงขาว ตัวหนึ่งสีเทาขาววิ่งปราดเข้ามาพันแข้งพันขาซารังกับพี่จีบทันที

"ไปนอนกับกูเหอะน่า สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรถ้ามึงไม่ยั่ว"
คือเชี่ยอะไรเนี่ย แล้วไอ้คำว่ายั่วของพี่จีบมันคืออะไรล่ะ คำจำกัดความขอบเขตมันมีไม่เท่ากันนะเว้ย ถ้าผมเผลอทำอะไรที่อยู่ในขอบเขตคำว่ายั่วของพี่จีบขึ้นมา ผมจะไม่เสียตัวเหรอวะ!

"มีห้องนอนแขกหรือห้องเก็บของอะไรไหม นอนกับพี่แม่งไม่ปลอดภัยอ่ะ"

"มีห้องนอนแขกนะ แต่มีหมาอีกสองตัวยึดพื้นที่แล้ว"
อะไรนะ หมาอะไรอีกเนี่ย ตกลงบ้านนี่เลี้ยงหมากี่ตัววะ

"เอ้ย อะไรเนี่ย อย่าบอกนะว่าบ้านพี่เลี้ยงไซบีเรียนครบทุกสีอ่ะ"
ผมก็เดาไปเรื่อย เคยรู้มาว่ามันมี สีดำขาว เทาขาว น้ำตาลทองแดงขาว และก็ขาวล้วน..

"เออ อย่างที่มึงคิดนั่นล่ะ ซารังเอาข้าวปั้นกับข้าวกล้องกลับห้องได้แล้ว"

"ครับผมๆ ไปๆข้าวปั้น ข้าวกล้อง คืนนี้พี่ซารังจะมอบความอบอุ่นให้น้องๆเอง"
แล้วหนึ่งคนกับอีกสองตัวก็พากันเดินกระหนุงกระหนิงเข้าห้องไป

"คืนนี้พี่จีบจะให้ความอบอุ่นกับน้องคิสเองนะ"
ว่าจบพี่มันก็ลากผมเข้าห้องทันที ไม่มีเวลาจะปฏิเสธหรือทำอะไรทั้งนั้น ว้ากกกก ใครก็ได้ส่งคนมาช่วยผมที ยังไม่พร้อม ฮือ




--------------------------------------------------




Q & A กับจีบ
Q : สรุปว่าจีบเลี้ยงเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ 4 ตัวจริงดิ?
A : ครับ มีข้าวปั้น ข้าวกล้อง ข้าวแช่ แล้วก็ข้าวเหนียว
Q : โห เยอะมาก แล้วข้าวแช่กับข้าวเหนียวนี่ยึดพื้นที่ห้องนอนแขกจริงๆเหรอ?
A : เปล่าครับ... ข้าวแช่กับข้าวเหนียวนอนกับออมม่าครับ ที่ผมบอกคิสไปน่ะโกหกล้วนๆ ^^
Q : .................... นายมันร้าย!




เขาถึงเชียงรายกันแล้วหนา... น้องคิสคนซื่อก็ยังคงโดนหลอกต่อไป
ถ้าสงสัยว่าทำไมออมม่าของพี่จีบถึงยอมรับง่ายขนาดนั้น ก็ขอบอกเลยว่า...ตั้งแต่ครั้งที่ซารังสารภาพว่าเป็นเกย์
ที่บ้านก็ทำใจรับได้มาตลอด ใช้หลักของความเป็นจริงที่ว่า 'ลูกจะเป็นเพศไหนไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดีก็พอ'
(พ่อกับแม่เราพูดแบบนี้เสมอ 5555555) ถ้าใครยังสงสัยอีกว่าครอบครัวนี้ไม่ต้องการหลานเหรอ ตอบได้เลยว่า เรามีหน่วยผลิตลูกหลานอย่างพี่ไลค์และพี่ไนนือยู่แล้วจ้า

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-08-2016 17:10:10
 :impress2:    งื้ออออ น่ารักมากๆๆ
คืนนี้หนาวๆทำไงดีนะพี่จีบ น้องคิสหนาว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-08-2016 17:10:36
ออมม่าน่ารักที่สุด ที่ยอมรับได้

พี่จีบรุกหนักอย่างต่อเนื่อง

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 16-08-2016 17:15:05
ึิ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-08-2016 18:53:32
สงสัยน้องคิส กลับกทม.คราวนี้ คงกลับไปในฐานะแฟน(รึเมีย)พี่จีบ แน่ๆ 555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 16-08-2016 19:48:24
งืออออ ค้างงงงง มาต่อไวๆนะคะ
พี่จีบรุกคืบเหล๊ยยยยย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 16-08-2016 19:50:08
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-08-2016 20:02:44
คุณแม่ท่าทางใจดี หวังว่าจะไม่แกล้งน้องคิสนะครับ ^^"
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-08-2016 20:18:04
น้องคิสคะ ดูท่าความบริสุทธิ์ของน้องจะอยู่ในขั้นวิกฤตแล้วล่ะค่ะ  :hao7: :hao7: :hao7:

เชียร์พี่จีบกดคิสเร็วๆนะคะ 555555 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 16-08-2016 20:22:33
พี่จีบหยอดแรงตลอดไม่พักแบบนี้ น้องคิสเขินจนทำตัวไม่ถูกแล้วน๊าาาา อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-08-2016 20:31:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Diamdiam ที่ 16-08-2016 20:39:20
พี่จีบมันร้ายจังค่ะ!  :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 16-08-2016 22:29:29
 :z1: :z1: :mew1: :hao6:
ยอมๆๆๆพี่จีบๆๆๆไปเถอะน้องคิสๆๆๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 16-08-2016 22:40:49
พี่จีบร้ายนัก!! แต่ไม่เปนไรเราโอเค!! 5555554
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-08-2016 23:28:50
เขินแทนคิสจนแทบจะชักตายอยู่แล้ว  :m1: :m1: :m1: :m1:
ทั้งแม่ทั้งลูกช่วยกันล่อลวงคิสน่าดู

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-08-2016 00:00:10
 :L2: :pig4:
พี่มันเจ้าเล่ห์
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-08-2016 12:03:35
พี่จีบวางแผนไว้แล้วใช่มั้ย บอกมาาาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 17-08-2016 19:16:04
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 17-08-2016 22:38:21
จีบกันได้น่ารักมาก :-[
เขินแทนยังกะโดนจีบเอง  :hao7:
น้องคีสรีบตกลงเป็นแฟนเร็วๆ นะ
นอกจากจะชอบเนื้อเรื่องแล้ว
เราชอบช่วงทอล์กของคนเขียนด้วยนะ อมยิ้มตามตลอดเลยค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 20 -P.11- (16.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 18-08-2016 03:39:18
รอติดตามน๊
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 19-08-2016 16:13:45
- ดื่มครั้งที่ 21 -




ความอึดอัดช่วงอกและช่วงลำตัวทำให้ผมหายใจติดขัด ดวงตาปิดสนิทไม่กล้าเปิดมองอะไรก็ตามที่นั่งทับกันอยู่ เหงื่อกาฬแตกพลั่กเมื่อสติทบทวนทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้วได้คำตอบว่า ไอ้ความอึดอัดที่มีจนขยับตัวไม่ได้คือโดน 'ผีอำ' ไม่ผิดแน่ๆ ฮึก นอนคืนแรกก็เจอดีเลยเหรอวะกู... เขามาหลอกผมเพราะหวงไอ้พี่จีบหรือเปล่าวะ

ผมพยายามขยับแขนปัดป่ายที่นอนด้านข้างเผื่อจะเจอความอุ่นใจขึ้นมาบ้าง แต่เปล่าเลย ไอ้พี่จีบมันลุกไปไหนของมันวะเนี่ย ปล่อยให้ผมโดนผีอำตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ ฮือ แล้วผีเชียงรายมันหน้าตาน่ากลัวขนาดไหนวะไม่เคยเจอมาก่อนซะด้วยสิ

"พี่จีบ ฮือ ช่วยด้วย"
ผมร้องเรียกเสียงไม่ดังนักด้วยเสียงสั่นเครือ ไม่กล้าขยับตัวมากมายกลัวว่าผีที่กำลังอำกันอยู่จะทำการใหญ่อย่างลุกขึ้นมาบีบคอกัน

"ช่วยอะไร"
ผมได้ยินเสียงคนที่ต้องการดังอยู่ไกลๆ เขาดูไม่ทุกข์ร้อนหรือมีแววหวาดกลัวใดๆทั้งสิ้น จนเผลอคิดไปว่าไอ้ผีตัวนี้มันหลอกผมคนเดียวแน่ๆ ปากที่เคยเม้มสนิทกลับเบะลงเตรียมตัวร้องไห้เต็มที่

"ผีอำ ช่วยที ฮือ"
ผมยังคงส่งเสียงครวญครางอยู่จนรู้สึกได้ถึงที่นอนข้างตัวยวบลง ถ้าให้เดาพี่จีบคงเดินมานั่งบนเตียงแล้ว

"ลืมตา"

"ไม่เอา กลัว ฮือ"

"กูบอกให้ลืมตาไอ้คิส ผีเผออะไรของมึงเนี่ย"

"พี่แม่งไม่เห็นมันหรอก ผีหลอกผมคนเดียว แง"
ผมยังคร่ำครวญไปเรื่อยๆเมื่อความอึดอัดยังไม่จางลง ได้ยินเสียงพี่จีบขำออกมาเบาๆ มีอะไรน่าขำคนโดนผีอำ!

"เออ หลอกมึงคนเดียว ขึ้นไปนอนทับมึงทั้งตัวเลยเนี่ย มีขนด้วยนะ"

"อ๊ากก เห็นด้วยเหรอ ฮือ ไล่ผีออกไปที แง"

"กูไม่ใช่หมอผีว่ะ ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก"
พี่จีบพูดเสียงกลั้วหัวเราะก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรที่ชื้นแฉะบนใบหน้า... ฮึก ผีเลียหน้า ไม่นะ ไม่!

"ฮึก มันเลียหน้า!"
คราวนี้ผมทนไม่ไหวเลยกลั้นใจสะบัดตัวหนี ไอ้ผีบ้าบนตัวก็ไม่ยอมขยับไปไหน แถมยังส่งเสียง 'บู้ววว' ออกมาด้วย แต่เดี๋ยวนะ... ผมลืมตาโพลงเพราะอยากเห็นว่าผีหน้าตาแบบไหนหอนเหมือนหมา แล้วก็ได้คำตอบที่ทำให้หน้าแตกละเอียด เมื่อไอ้ก้อนขนสีดำขาวอายุราวๆสามสี่เดือนกำลังนอนทับบนอกผมและใช้ดวงตาสีฟ้าสดใสจ้องมองกัน

"หมา!!"
ผมตะโกนเสียงดังลั่นห้องก่อนจะหันขวับไปหาคนที่เปลือยท่อนบนแล้วนั่งหัวเราะจนตัวงออยู่ข้างๆ ไอ้พี่จีบขี้แกล้ง แม่ง!

"เออ ก็หมาไง ไอ้ข้าวเหนียวมันคงเข้ามาตอนกูแง้มประตูทิ้งไว้"
ยัง...ยังจะขำอีก หน้าดำหน้าแดงขนาดนี้ตลกมากไหมครับคุณ ผมนี่หน้าง้ำจนปากจะติดจมูกอยู่แล้ว ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำท่ากระฟัดกระเฟียด ไอ้ข้าวเหนียวนี่ก็ไม่ยอมหนีไปไหนจริงๆนะ แทนที่จะกลัวผมโวยวาย มันกลับขยับไปนอนข้างๆแล้วเอาหัวเกยท้องผมแทน อ๊าก กวนตีนเหมือนเจ้าของไม่มีผิด จับปั้นจิ้มน้ำพริกใส่ปากแม่ง

"พี่จีบแกล้งผม!"
ผมตะโกนเสียงไม่ดังนักก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงโดยไม่สนว่าไอ้ข้าวเหนียวจะกลิ้งลุนๆไปทางไหน เพราะพ่อมันต้องรอรับอยู่แล้ว

"กูบอกให้มึงลืมตาแล้วไง นี่กูผิดเหรอวะ"
คำถามไม่ได้คล้องจองกับการกระทำเลย เพราะในเมื่อพี่จีบมันยังนั่งหัวเราะเอิ้กอ้ากสนุกสนานไปเรื่อย ส่วนผมเอาแต่มุ่ยหน้าอยู่ใต้ผ้าห่ม ที่จริงไม่ใช่เพราะโมโหอะไรหรอก แต่สายตาดันไปปะทะกับซิกแพคและอกแน่นๆของมัน ใจพาลเต้นตึกตักจนน่ากลัวว่าจะหลุดออกมาจากอก

"ไปใส่เสื้อผ้าไป!"
ผมเหวอีกรอบแล้วขยับยุกยิกหันหลังให้มันก่อนจะออกจากผ้าห่ม แต่ไม่ทันระวังตัวให้ดีไอ้พี่จีบก็โน้มหน้าลงมาใกล้จนปลายจมูกชนเข้ากับแก้มผมแบบจงใจ หน้าเห่อร้อนขึ้นแทบจะทันที ร่างกายแข็งทื่อยิ่งกว่าตอนที่คิดว่าผีอำเป็นไหนๆ จะจู่โจมกันหนักเกินไปแล้วนะเว้ย ไม่เกรงใจกูก็เกรงใจไอ้ข้าวเหนียวที่ข้ามฝั่งมานอนมองหน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้บ้างก็ได้

"เขินเหรอหืม"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากก่อนจะใช้จมูกโด่งคลอเคลียกับแก้ม ผมปัดป่ายมือพัลวันจนโดนพี่จีบรวบแขนไว้

"อื้อ อย่ามาลวนลามนะเว้ย"
ผมดิ้นขลุกขลักจนถีบผ้าห่มและหมอนข้างตกลงพื้น ดีหน่อยที่ไม่เผลอไปถีบไอ้ข้าวเหนียวเข้า ไม่อย่างนั้นผมคงโดนพี่จีบกระทืบตายแน่

"อย่าดิ้นสิวะ เสื้อมึงเปิดจะถึงคออยู่แล้ว ยั่วหรือไง"
ผมชะงักกึกกับประโยคที่พี่จีบพูดขึ้น พอมองสำรวจตัวเองแล้วก็พบว่าหน้าท้องขาวแบนราบของตัวเองปรากฏสู่สายตาของร่างสูงแบบจังๆ จะไม่รีบลนลานดึงเสื้อปิดเลยถ้าพี่จีบมันไม่ได้คิดอกุศลกับผมแบบนี้

"ใครยั่ว ไม่ได้ยั่วเว้ย ไปแต่งตัวเลย ผมจะไปอาบน้ำแล้ว"
ผมดึงข้อมือออกจากการเกาะกุมของพี่จีบก่อนจะดึงเสื้อปิดหน้าท้องอย่างรวดเร็วแล้วกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงในเวลาต่อมา ครั้นจะลุกพรวดออกไปเลยก็ไม่ได้เพราะไอ้ข้าวเหนียวนอนมองตาวาวอยู่

"เออๆ ไล่จังวะ หุ่นกูไม่น่ามองหรือไง"
เสียงพี่จีบดังขึ้นด้านหลังก่อนจะรู้สึกถึงแรงขยับตัวลุกขึ้นของเขา ผมเม้มปากแน่นไม่ยอมตอบอะไรออกไป เพราะถ้าบอกไปไอ้คนหื่นกามมันคงดีใจจนเนื้อเต้น... ก็หุ่นไอ้พี่จีบแม่งโคตรเซ็กซี่ เอาง่ายๆแซ่บลืมอ่ะครับ ฮือ ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอน้ำลายไหลไปบ้างหรือเปล่า

"เงียบอีก.. ไปอาบน้ำไป จะสายแล้ว"

"ครับๆ"

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่จีบก็พาผมลงมาชั้นล่างของบ้าน เจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้สี่ตัวรีบพุ่งเข้ามาคลอเคลียทันที ไม่เว้นแม้แต่ผมก็ยังโดนไปด้วย เพิ่งเห็นว่าตัวสีขาวที่ชื่อข้าวแช่ตัวเล็กพอๆกับไอ้ข้าวเหนียวที่มาแกล้งผมเลย

"พี่จีบๆ ดูไอ้ข้าวเหนียวดิ ปีนขาผมใหญ่เลย"
ผมชี้ชวนให้พี่จีบที่กำลังลูบหัวข้าวปั้นเล่นอยู่มองข้าวเหนียวที่พยายามยืนแล้วปีนขาผมอยู่

"สงสัยจะติดใจมึงแล้วมั้ง ใช่ไหมข้าวเหนียว มาหาพ่อมา"
พี่จีบตบมือลงบนขาเบาๆเรียกข้าวเหนียวให้เข้าไปหา มันมองตาวาวก่อนจะรีบวิ่งไปหาพ่อ ดูมีความสุขทั้งคนทั้งหมาจังวะ... ทำไมรู้สึกอิจฉาตะหงิดๆ หรือผมจะแพ้หมา

"ติดใจอะไรวะพี่ ผมไม่ได้เล่นอะไรกับมันเลยนะ"
ผมว่าก่อนจะเดินตามคนที่อุ้มข้าวเหนียวไปนั่งบนโซฟา ไอ้สามหน่อที่เหลือก็แยกย้ายกันเดินเล่นไปมาบริเวณใกล้ๆ ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันก่อนจะถือวิสาสะลูบหัวไอ้หมาเด็กเล่น ขนนุ่มดีว่ะ ถ้าได้กอดรับรองจะไม่ปล่อย หึหึ

"ปกติข้าวเหนียวไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้าเท่าไหร่ แต่กับมึงนี่.. รีบวิ่งไปนอนทับเลย"
พูดจบก็ขำเอิ้กอ้ากขึ้นมาอีกรอบ สงสัยว่าเจ้าตัวคงเห็นตั้งแต่มันขึ้นมานอนทับผมแน่ๆแต่ไม่ยอมไล่ ฮึก ปล่อยให้ผมโวยวายเป็นคนบ้าอยู่ได้ พี่จีบคงรักผมมากสินะ!

"จะฆ่าผมให้ตายเพราะหวงพ่อมันป่ะ"
ผมว่าก่อนจะมุ่ยหน้าใส่ข้าวเหนียวที่ปีนขึ้นมานอนบนตักผมหน้าตาเฉย ทำมาอ้อนออเซาะนะ ทีเมื่อเช้าร่วมมือกันกับพ่อมึงแกล้งกูอยู่เลย

"หมาที่ไหนจะฆ่าแม่ตัวเองได้ลงวะ ตลกละมึง"
พี่จีบมองผมก่อนจะยักคิ้วกวนให้กัน ผมเบิกตาค้างอ้าปากพะงาบๆ ไม่ได้ตกใจที่โดนหาว่าเป็นแม่หมา แต่พ่อหมาแม่หมาเป็นเป็นของคู่กันนี่ดิ อยู่ๆแก้มก็ร้อนวูบวาบขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

"แม่อะไรวะ ไม่คุยด้วยแล้ว หิวข้าว!"
ผมลุกพรวดแล้วเดินดุ่มๆไปที่ห้องครัวทันที แต่...ห้องครัวมันอยู่ส่วนไหนของบ้านยังไม่รู้เลย ตามทางก็เจอเข้ากับข้าวแช่ตัวสีขาวสะอาดกำลังนอนเกลือกกลิ้งบนพื้น ผมนั่งยองๆก่อนจะลูบหัวมันเล่น ชอบนะกับน้องหมาเนี่ย แต่ไม่มีปัญญาจะเลี้ยง เพราะพ่อกับแม่ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าไหร่ จะลำบากให้แม่บ้านเลี้ยงก็ยังไงอยู่ เกรงใจเขา

"ไหนบอกหิว จะกินไอ้ข้าวแช่แทนหรือไง"
พี่จีบยืนค้ำหัวกันก่อนจะยักคิ้วกวนส่งมาให้ ผมเบ้ปากแล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ

"หาครัวไม่เจออ่ะ แล้วนี่แม่กับซารังไปไหนกันหมด"
ผมหันซ้ายหันขวาก็ไม่พบทั้งสองคน เจอแต่แม่บ้านยิ้มหวานส่งให้อยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน

"มึงนี่นะ แม่กับซารังออกไปไร่แล้ว เราค่อยตามไปทีหลัง"
พี่จีบพูดก่อนจะถือวิสาสะคว้าข้อมือผมให้เดินตามกันไปที่โต๊ะอาหารซึ่งอยู่อีกฟากของบ้าน โต๊ะกลมหมุนสวยงามขนาดใหญ่ พร้อมด้วยเก้าอี้สีครีมอีกหกตัว อาหารเช้าสไตล์ยุโรปถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย

"ไปล้างมือก่อนไป"
พี่จีบดันหลังผมให้เดินไปที่ห้องครัวใกล้ๆ ส่วนเขานั่งรออยู่ที่โต๊ะ ผมจัดการล้างมือและเช็ดจนแห้งก่อนจะเดินกลับมานั่งข้างๆกัน ไข่ดาว ไส้กรอก เบคอน แฮม ขนมปังปิ้งทาเนยทำให้น้ำย่อยของผมทำงานแทบจะในทันทีที่เห็น

"กินซะ"
พี่จีบว่าก่อนจะส่งขวดซอสมะเขือเทศมาให้กัน ผมรับมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณร่างสูง แล้วตั้งหน้าตั้งตากินอาหารของตัวเองไป

ตอนนี้เราทั้งสองคนอยู่บนรถที่กำลังมุ่งหน้าขึ้นดอยไปไร่กาแฟของครอบครัวพี่จีบ หนทางออกจะลำบากเล็กน้อยแต่ผมก็ไม่หวั่น แต่ที่หน้าหนักใจคือไอ้สองตัวที่ยึดตักผมเป็นที่นอนอยู่เนี่ยสิ.. จะตามมาทำไมวะเนี่ย

"เอาข้าวเหนียวกับข้าวแช่ไปด้วยจะดีเหรอพี่"
ผมถามในขณะที่หมาทั้งสองตัวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักของผม มือเรียวยกขึ้นลูบตั้งแต่หัวจรดหางด้วยความเพลิดเพลิน พี่จีบเหลือบมามองกันเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

"มันชอบออกมาเที่ยว... ตอนเดือนสองเดือนกูชอบพามันออกไปนั่งรถเล่นบ่อยน่ะ เลยนิสัยเสียแบบนี้"
พี่จีบอธิบายส่วนผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ

"เอ้อ แล้วแม่พี่อยู่เชียงรายตลอดเลยเหรอ"
อันนี้ผมสงสัยมานานแล้ว เพราะลูกทั้งสามคนรวมถึงพ่ออยู่บ้านในกรุงเทพฯแล้วทำไมแม่มาโผล่อยู่ที่เชียงรายซะได้

"แม่มาเชียงรายปีละครั้งช่วงพวกกูปิดเทอมนี่ล่ะ พอหมดปิดเทอมแม่ก็กระเตงลูกรักสี่ตัวกลับกรุงเทพฯ"

"อ๋อ..."
หลังจากนั้นบทสนทนาของเราก็จบลงเพราะไอ้ข้าวเหนียวดันตื่นขึ้นมาแล้วนอนกลิ้งจนเผลอไปทับไอ้ข้าวแช่ คราวนี้งานใหญ่เลยครับเพราะมันตื่นมาจะเล่นกัน ลำบากผมต้องขยับขยายตัวเองไปนั่งเบาะหลังแล้วคุมมันสองตัวเอาไว้ไม่ให้รบกวนพี่จีบขับรถจนไปถึงไร่นั่นล่ะ ผมนี่แทบจะคลานลงจากรถเพราะใช้พลังงานเล่นกับหมาสองตัวเยอะมาก

ผมอุ้มไอ้ข้าวเหนียวที่ติดผมแจลงจากรถ ส่วนไอ้ข้าวแช่โดนพ่อหมาอุ้มไปเรียบร้อย เราเดินลัดเลาะไปตามต้นกาแฟที่สูงเทียมไหล่ไปเรื่อยๆจนเจอแม่และซารังที่ยืนโบกมืออยู่ไม่ไกล ถึงจะมีแดดแต่ไม่ได้ร้อนเพราะอากาศบนดอยบวกกับอากาศช่วงปลายปี

"ไม่เอาลูกผมมาด้วยอ่ะ"
ซารังยิ้มแฉ่งก่อนจะคว้าไอ้ข้าวแช่ไปจากมือพี่จีบที่ส่งให้กัน ผมแทบอยากตะโกนใส่หน้าว่า 'แค่ไอ้สองตัวเนี่ยกูก็จะตายแล้ว ถ้าเอาลูกมึงมาด้วยกูคงตายตั้งแต่ขึ้นรถ'

"แค่สองตัวนี้ก็ซนแล้ว ลูกมึงมาด้วยกูคงตกเขาตาย"
พี่จีบพูดก่อนจะผลักหัวน้องเบาๆ ซารังมุ่ยหน้าก่อนจะพาไอ้ข้าวแช่ไปเดินเล่นซะอย่างนั้น ส่วนไอ้ข้าวเหนียวพ่อเห็นแม่ก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กๆจะไปหาทันที ผมเลยส่งเจ้าตัวน้อยให้แม่อุ้มแทน

"ข้าวเหนียวดูท่าทางจะติดแม่มากเลยนะครับ"
ผมพูดก่อนจะยิ้มให้ แม่พี่จีบยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบคำถาม

"แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ข้าวเหนียวกับข้าวแช่นอนกับแม่ทุกคืนเลยนะ"
ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเบิกตากว้างเพราะคิดอะไรบ้างอย่างขึ้นได้ ไอ้พี่จีบบอกว่าข้าวเหนียวกับข้าวแช่ยึดห้องนอนแขกไม่ใช่หรือไง แล้วทำไม.... อ๊าก ไอ้พี่จีบ ไอ้คนเจ้าเล่ห์ หลอกให้ผมไปนอนด้วยกันนี่หว่า ทำไมเป็นคนร้ายกาจแบบนี้นะ!

"ไอ้พี่จีบ!"
ผมเผลอตะโกนใส่แล้วกำหมัดทุบลงบนอกคนที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ ใบหน้าหล่อเบ้ทันทีที่รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด แม่มองผมสลับกับพี่จีบก่อนจะขอตัวไปเดินเล่นซะดื้อๆ ดีครับ ผมจะกระทืบไอ้พี่จีบ แม่ไม่อยู่ดูน่ะดีแล้วครับ

"อะไรวะ ทุบกูทำไมเนี่ย"

"ก็เมื่อคืนหลอกผมให้ไปนอนด้วยทำไมเล่า!"
ผมเหวเสียงดังแต่ไม่ยอมสบตาคนตรงหน้าที่เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปเมื่อคืน พี่จีบขยับตัวเข้ามาชิดก่อนจะวาดแขนกอดรอบเอวผมจากทางด้านหลังอย่างหน้าตาเฉย อยากดิ้นอยู่หรอกนะแต่มันหนาวอ่ะ กอดไว้แบบนี้มันก็อุ่นดี

"ถ้าไม่หลอก มึงจะยอมไปนอนกับกูหรือไง"
เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นชิดใบหูจนผมต้องย่นคอหนีเพราะรู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้ ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกำลังเค้นสมองตามหาคำตอบของคำถามนั้น.. นั่นสิถ้าไม่หลอกกันผมจะยอมนอนกับเขาเหรอ

"บอกดีๆก็ได้ ไม่ต้องหลอก"
ผมว่าเสียงอ่อย เอาจริงๆแล้วคำตอบของคำถามพี่จีบมันโคตรง่ายเลยนะ แต่ผมไม่อยากตอบให้อีกคนดีใจหรอก ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้พี่มันก็ทำให้ผมเขินจนตัวจะแตกอยู่แล้ว ถ้าบอกไปอาจจะโดนจู่โจมจากเขาจนผมหัวใจวายตายไปก่อนจะได้คบกันก็ได้

"ถ้าบอกแล้วจะยอมเหรอ"

"ถ้าผมไม่ยอมพี่ก็อ้อนสิครับ ไม่เห็นยากเลย"
งานแกล้งก็มา.. เอาจริงๆผมอยากเจอพี่จีบโหมดอ้อนอีกสักครั้ง ตอนเขาทำตัวน่ารักๆผมนี่แทบละลายไปกองกับพื้น ถึงมันจะเป็นการทำร้ายตัวเองแต่ผมก็ยอมนะ

"ให้กูอ้อนเนี่ยนะ ไม่เอาด้วยหรอก กระดากปาก"
พี่มันว่าก่อนจะแกล้งกดคางลงบนไหล่ก่อนจะออกแรงขยับหมุนวนจนรู้สึกจั๊กจี้ ผมขยับตัวดิ้นเบาๆเพื่อหนีจากคางมน แต่พี่จีบรัดรอบเอวผมไว้แน่นเกินกว่าจะหนี

"งะ งั้นคืนนี้ผมไม่นอนกับพี่แล้ว"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักแต่กดให้มันต่ำลงเหมือนจะจริงจัง แต่เปล่าเลยครับ แค่กำลังตัวรุมๆ เขินๆยังไงไม่รู้ อยู่ใกล้กับพี่จีบนานๆแล้วหัวใจมันทำงานหนัก

"ไม่เอาดิวะ จะทิ้งกูหรือไง มาด้วยกันก็นอนด้วยกันดิ"
พี่จีบเริ่มเข้าโหมดเด็กน้อยงอแงพร้อมกระชับวงแขนกอดผมแน่นขึ้น จมูกโด่งกดย้ำลงบนไหล่คล้ายกำลังอ้อนวอน ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นยิ้มกับการกระทำของคนตัวโต ไม่ไหวว่ะ รีเควสเองจะตายเองแบบนี้ ไม่โอเค

"มาด้วยกันสามคนนะ ก็ต้องนอนด้วยกันสามคนไหม"
ผมพูดออกไปเมื่อคิดตามพี่จีบแล้วได้คำถามเชิงกวนตีนแบบนั้น นี่สาบานเลยนะว่าไม่ได้กวนตีน จริงๆนะ เชื่อผมสิ เชื่อนะ หึหึ

"คิสครับ นอนกับพี่เถอะนะ นะครับนะ คนดีของพี่จีบ ~"
พี่จีบลากเสียงยาวท้ายประโยค น้ำเสียงออดอ้อนจนผมเผลอใจสั่นแรง แก้มเห่อร้อนลามไปถึงใบหูอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกแปลกประหลาดกำลังถาโถมเข้ามาไม่ขาดสาย ผมกำลังอยากขย้ำพี่จีบ ทำไมถึงอ้อนได้น่ารักขนาดนี้วะ นี่แค่คำพูดนะยังไม่เห็นสีหน้าเลย

"ไหน...ไหนบอกว่าจะไม่อ้อนไง กระดากปากไม่ใช่เหรอครับ"
ผมถามก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายแล้วถึงจะเม้มปากแน่นจนเจ็บไปหมดก็ไม่สามารถกลั้นยิ้มได้เลยยกมือขึ้นมาปิดปากแทน โอย ลำบากอะไรขนาดนี้วะคนเรา แล้วอะไรมายืนอ้อนกันกลางไร่กาแฟวะ ดีนะที่คนงานเขาไม่เดินมาแถวนี้ไม่อย่างนั้นคงได้อายแน่ๆ

"ยอมว่ะ ถ้าอ้อนแล้วมึง 'นอน' ด้วยกัน"
เสียงกระซิบแผ่วเบาทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบวาบ ทำไมพี่จีบต้องเน้นคำว่านอนด้วยวะ ชักจะแปลกๆเกินไปแล้วนะ

"ทำไมเน้นจังคำว่า 'นอน' เนี่ย"
ผมถามก่อนจะเอี้ยวหน้าไปมอง พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะตอบกลับมาอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับตัวเองไม่ได้คิดเรื่องอกุศลอะไร

"ก็หมายความว่านอนเฉยๆ หรือมึงคิดลึก"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาจนผมต้องหลบสายตา เปลี่ยนโพกัสใหม่อย่างเร่งรีบ ผมบ่นพึมพำงุ้งงิ้งอยู่คนเดียวก่อนจะตอบกลับไป

"พี่นั่นล่ะ ชอบชวนให้ผมคิดลึก"

"กูชวนให้มึงสมยอมต่างหาก"
ผมเบิกตากว้างก่อนจะรัวมือลงบนแขนแกร่ง พี่จีบรีบคลายอ้อมกอดออกทันทีก่อนจะเบ้หน้า

"รุนแรงนะมึง"

"พี่ชอบแกล้งผมอ่ะ สมน้ำหน้า!"

"กูไม่ได้แกล้ง จริงจังอยู่นะ"
สายตาที่พี่จีบใช้มองกันไม่มีแววของความขี้เล่นเลยสักนิด จนผมเผลอถอยหลังหนีเขา.. นี่มันจริงจังจะปล้ำผมขนาดนั้นเลยเหรอวะ

"จะ จริงจังเรื่องจะปล้ำผมเนี่ยนะ"
ผมพูดตะกุกตะกักไม่ยอมมองหน้าพี่จีบ ได้ยินคนตรงหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่จนน่าแปลกใจเลยลองเหลือบตามอง สีหน้าเขาเหมือนกำลังเหนื่อย

"เปล่า แค่มึงสมยอมมาเป็นแฟนกูให้ได้ก่อนเถอะ คนอะไรจีบยากฉิบหาย"
พี่มันว่าก่อนจะยกมือขึ้นโยกหัวผมไปมาแล้วระบายยิ้มออกมาบางๆ ผมได้แต่แอบมองเขาอยู่แบบนั้น ผมจีบยากเหรอ...เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่ะ

"ไปเก็บเมล็ดกาแฟกัน"
พี่จีบลดมือลงมากอดคอกันแล้วออกแรงดันให้ผมเดินไปข้างหน้า ไม่มีการขัดขืนหรืองอแงใดๆหลังจากนั้น

ผมกับพี่จีบเดินผ่านต้นกาแฟมากมาย ผลกาแฟยังคงมีสีเขียวหรือเขียวปนแดง เขาบอกว่าผลสีแดงล้วนทั้งเมล็ดเท่านั้นถึงจะเก็บได้

"เก็บตรงนี้ล่ะ"
พี่จีบหยุดเดินแล้วลดมือลงจากบ่า ผมมองต้นกาแฟตรงหน้าที่สูงเทียมหัว บนต้นมีผลกาแฟสีแดงเต็มไปหมดจนน่าเขย่ามันลงมา

"เก็บทีละเม็ดนะเว้ย ห้ามรูดจากก้าน มันจะเสีย"
ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรับตะกร้าสานใบโตมาถือไว้ ผมเริ่มเลือกเมล็ดสีแดงๆแล้วค่อยเด็ดมันออกจาต้นอย่างระมัดระวัง

"แบบนี้ป่ะพี่"
ผมยื่นเมล็ดกาแฟที่ตัวเองเก็บไปตรงหน้าของเขา ดวงตากลมจับจ้องก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"เก็บลูกแดงๆ สีแดงเสมอกันทั้งลูก"
ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเก็บเมล็ดกาแฟเมื่อครู่ลงกระเป๋าเสื้อแทน เพราะมันมีสีเขียวแซมอยู่เล็กน้อย ผมเอื้อมือไปเก็บลูกใหม่แล้วส่งให้พี่จีบดูอีกครั้ง คราวนี้ใบหน้าหล่อระบายยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ผมยิ้มกว้างก่อนจะเริ่มเก็บต่ออย่างสนุกสนานจนเริ่มเที่ยงเลยเลิกเก็บกันไปโดยปริยาย

"จีบ"
เสียงคุณแม่ยังสาวเรียกลูกชายตัวเองที่พยายามยัดเมล็ดกาแฟดิบใส่ปากผม เจ้าตัวดีชะงักกึกก่อนจะปล่อยผมให้เป็นอิสระ

"ครับแม่"
พี่จีบขานรับอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เกรงกลัวเลยว่าแม่ของตนจะด่าว่าเรื่องแกล้งผม

"แกล้งน้องแบบนั้นระวังเถอะ น้องจะไม่รักเรานะ"
พี่จีบมุ่ยหน้าแล้วหันขวับมามองกันอย่างเอาเรื่อง ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะอุ้มไอ้ข้าวเหนียวขึ้นมากอดไว้ ตอนนี้เรากลับมาที่บ้านกันแล้วครับ ผมกับพี่จีบนั่งอยู่บนพรม ส่วนแม่นั่งอยู่บนโซฟา ซารังกำลังทำขนมอยู่ในครัวเตรียมเพื่อพรุ่งนี้เราจะขึ้นดอยภูชี้ฟ้า

"แม่อย่าแช่งผม.. ตอนนี้มันก็ยังไม่รักผมเลย"
พี่จีบมองมาด้วยสายตาเศร้าสร้อยจนผมเผลอหลุดปากบอก แต่ไม่ได้ครับ บอกไปตอนนี้มันไม่ได้บรรยากาศสักเท่าไหร่ แถมมีแม่นั่งอยู่ด้วย ความด้านของหน้ายังมีไม่มากพอจะทำอะไรแบบนั้น

"พยายามเข้าค่ะลูกชาย อะไรที่ได้มายากๆ แม่เชื่อว่าลูกจะรักษามันเท่าชีวิต"
พี่จีบพยักหน้ารับหงึกหงัก ส่วนผมได้แต่แอบยิ้มทั้งๆที่ก้มหน้าลูบขนไอ้ข้าวเหนียวอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งครอบครัวเขาออกตัวแรงกันมากจนผมแทบลาตาย ไม่ไหวจริงๆ ใครๆก็รุมอ้อนให้ผมยอมเป็นแฟนกับพี่จีบเหลือเกิน

"แม่ครับ พรุ่งนี้ไปภูชี้ฟ้าด้วยกันหรือเปล่า"

"ไม่ค่ะ ลูกไปกับน้องๆเถอะ แก๊ปกันคินก็จะไปสมทบใช่ไหม"
ผมรีบเงยหน้าขึ้นมาแม่สลับกับพี่จีบทันที ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่แก๊ปกับพี่คินจะตามขึ้นดอยด้วย แล้วไปกันแบบเราสี่ห้าคน คือก็ไม่อยากคิดอะไรมาก แต่พี่แก๊ปกับพี่คิน ผมกับไอ้พี่จีบ มันก็เป็นคู่ๆไม่ใช่เหรอวะ แล้วซารังล่ะ...

"ใช่ครับ เดี๋ยวน้องตินเพื่อนซารังจะตามไปด้วย"
ผมถึงบางอ้อกับคำตอบของพี่จีบ ที่แท้เพื่อนของซารังก็จะตามไปด้วยนี่เอง

"โอเค ดูแลน้องๆกับเพื่อนๆดีๆนะคะ"

"ครับผม"

ตกเย็นผมก็โดนพี่จีบลากออกไปถนนคนเดินเชียงราย หรือที่เขาเรียกกันว่า 'กาดเจียงฮายรำลึก' ยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกันที่คนเยอะขนาดนี้ แทบจะไหลไปตามผู้คนโดยไม่ต้องขยับขาเดินเลนด้วยซ้ำ จะแวะซื้ออะไรครั้งหนึ่งต้องหลบแล้วหลบอีกให้พ้นทางเดิน พี่จีบบอกว่าถนนคนเดินเชียงใหม่คนเยอะกว่านี้อีก ผมถึงกับร้องเสียงหลงเลยทีเดียว

"หิวหรือยัง"
เสียงทุ้มดังมาจากคนที่เดินอยู่เคียงข้างกัน ดวงตาคมมองผมตลอดเวลาที่ยังไม่ได้คำตอบไป

"นิดหน่อยครับ"
ผมตอบก่อนจะไล่สายตาดูร้านค้ามากมาย ของฝากพื้นเมืองเยอะแยะละลานตาไปหมด

"อยากกินอะไรบอกได้นะ"
พี่จีบว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือกันเบาๆ ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะขมวดคิ้วมอง

"เดี๋ยวหลงกัน คนเยอะ"
คำตอบที่ตรงกับคำถามในใจของผมดังขึ้น ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาว่า คนเริ่มเยอะถ้าไม่จับกันเอาไว้อีกคนอาจจะไหลไปตามกระแสชนได้อย่างง่ายดาย

"อื้อ อยากกินขนมจีนน้ำเงี้ยวอ่ะ พี่เคยกินป่ะ"
ผมนึกเมนูอย่างหนึ่งที่มีชื่อเสียงพอตัว ขนมจีนน้ำเงี้ยวที่มีน้ำแกงสีส้มอมแดง ใส่เลือดไก่ หมูสับ กระดูกหมู หรือแม้แต่ตีนไก่... พูดแล้วน้ำลายไหลอ่ะ ต้องอร่อยมากแน่ๆ

"เคยกินนะ"
ร่างสูงตอบก่อนจะสอดส่ายสายตาหาอะไรบ้างอย่างก่อนจะชี้มือไปทางด้านหน้า

"นั่นไงร้านขายขนมจีนน้ำเงี้ยว ไปกินกัน"
พี่จีบกึ่งลากกึ่งจูงผมเข้าไปที่ร้าน เขามีโต๊ะเล็กๆให้สำหรับนั่งกิน พี่จีบอาสาสั่งให้ผมเรียบร้อย ส่วนตัวเองสั่งแค่น้ำอัดลมกิน

"ทำไมพี่ไม่สั่งด้วยอ่ะ ไม่หิวเหรอครับ"
ผมเอียงคอถามด้วยความสงสัย ให้ผมนั่งกินคนเดียวแล้วพี่มันนั่งเฝ้าอาจจะดูแปลกๆไปป่ะวะ

"มันเผ็ด กูกินแล้วปากเจ่อทุกที"
พี่จีบเบ้ปากใส่กัน ผมหลุดขำออกมาเล็กน้อยเพราะเพิ่งคิดได้ว่าพี่เขาไม่กินเผ็ด มีครั้งหนึ่งไปกินข้าวด้วยกัน พี่มันดันกัดใส่เม็ดพริก คายแทบไม่ทัน วุ่นวายเติมน้ำใส่แก้วให้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเจ้าตัวอิ่มน้ำแทนข้าวไปโดยปริยาย

"หัวเราะอะไรวะ ลูกครึ่งกินเผ็ดไม่ได้ไม่เห็นจะแปลก"
ลูกครึ่งไทยเกาหลีหน้างอง้ำเหมือนเด็กน้อยขี้งอน ผมรีบเม้มปากกลั้นขำทันทีเพราะกลัวคนตรงหน้าโกรธ

"แต่พริกเกาหลีก็เผ็ดนะพี่ ซี๊ดซ๊าดมากอ่ะ"
ผมเคยกินแกงกิมจิสูตรเผ็ดจัดอยู่ครั้งหนึ่ง ซูดน้ำเข้าไปคำแรกสำลักน้ำตาเล็ดน้ำตาไหลไอจนแสบคอไปหมด ก็เดือดร้อนพี่จีบรินน้ำใส่แก้วไปอีก

"หึ มันเผ็ดไม่เหมือนกัน เอ้า กินได้แล้วจะได้เดินต่อ"
พี่จีบเลื่อนจานขนมจีนมาตรงหน้ากันหลังจากที่แม่ค้านำมาเสิร์ฟ ผมหยิบช้อนส้อมขึ้นมาจับให้มั่นแต่แล้วก็ต้องเบรกเมื่อเจอก้านอะไรแข็งๆสีน้ำตาลเข้มในจาน ผมใช้ช้อนตักมันขึ้นมาก่อนจะถามคนตรงหน้า

"นี่อะไรอ่ะ"

"ดอกงิ้ว แดกไม่ได้หรอก ไม่รู้จะใส่มาทำไม"
พี่จีบกระซิบกระซาบก่อนจะเหลือบตามองแม่ค้าวัยป้า

"พี่นี่ เดี๋ยวป้าเขาก็ไล่เราออกจากร้านหรอก"
ผมว่าก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เขา พี่จีบเลิกคิ้วก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงบอกว่าไม่แคร์ ผมส่ายหน้าแล้วตักขนมจีนกินไปเรื่อยๆ อร่อยเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าปีหน้าได้มาอีกจะกลับมากินอีกนะ

หลังจากกินอิ่มเรียบร้อยพี่จีบก็จูงมือผมเดินไปดูพวกของฝาก เป็นของแฮนด์เมดทำมือกระจุกกระจิก ไม้แกะสลักเอย ที่เสียบปากกาเอย พวงกุญแจเอย.. เลือกซื้อไม่ถูกเลยครับ ได้แค่ขนมกลับมาเต็มไม้เต็มมือ ถึงเราจะเดินเล่นที่ถนนคนเดินนานแค่ไหนแต่มือเราทั้งคู่ไม่เคยจะปล่อยออกจากกัน ต่างคนต่างเป็นห่วงกันและคอยดูแลกันและกันอยู่เสมอ ผมมีความสุขนะ มีความสุขที่ตัดสินใจมาเชียงรายกับพี่จีบ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้กัน




----------------------------------------




Q & A กับจีบ

Q : พาน้องไปภูชี้ฟ้านี่มีแผนการอะไรหรือเปล่า?
A : ไม่บอกครับ ความลับ ^^






พี่จีบเข้าพาน้องขึ้นไปสอย เอ้ย ไปเที่ยวภูชี้ฟ้าด้วยนะ บรรยากาศโรแมนติกแน่ๆ อู้วว
ไอ้พี่จีบมันร้ายนะอย่าลืม บางทีอาจจะมีแผนการอะไรอยู่ก็ได้ หึหึ รอติดตามกันเนอะ

ขอบคุณทุกคนที่ชอบพี่จีบ น้องคิส และทุกๆคนในเรื่องน้า ~
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเลย ทั้งคอมเม้นท์และไม่คอมเม้นท์ (เราไม่ได้อะไรกับเรื่องคอมเม้นท์นะ แต่เราเป็นคนชอบอ่านคอมเม้นท์อ่ะ 555555 มันแบบ... ได้รู้ว่าคนอ่านรู้สึกยังไงกับนิยายของเรา)

เราอยากรวมเล่มนะ... มีใครเห็นด้วยบ้าง 5555
(แต่งจบอาจจะลองส่งสำนักพิมพ์ที่ไหนสักที่ ถ้าดวงดีอาจจะได้เห็นเป็นรูปเล่ม)
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-08-2016 16:42:21
พี่จีบวางแผนอะไรไว้บอกมานะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 19-08-2016 16:43:37
อยากจะตามขึ้นดอยไปดูเค้าจีบกันเลย   :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 19-08-2016 16:45:18
ร้ายกาจฮ่าาา มากันครบคู่เลยนะ พี่คิน พี่แก๊ป ซารัง น้งติน สามคู่ ฮ่าา คิส จะสารภาพมั้ยน้อ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 19-08-2016 17:07:11
เมื่อไหร่จะ เป็นเเฟนกันค่ะ น้องจูบจีบยาก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-08-2016 17:17:13
ง่อวววว พี่จีบมีความมีลับลมคมนัย -.,-
รอลุ้นตอนหน้าครัช อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-08-2016 17:42:27
 :L2: :pig4:

ตลกคิสที่ชอบถูกอ้อน น้ออ
รอบดูความโรแมนติก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-08-2016 18:28:15
น่ารักกรุบกริบดีแท้
อยากได้ฮัสกี้มานอนด้วยสักตัวมั้งจัง 555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 19-08-2016 18:37:52
ขึ้นภูน่าจะขอน้องเป็นแฟนแน่เลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-08-2016 19:23:53
จะขึ้นภูแล้วลุ้นให้คิสรับเป็นแฟนพี่จีบซะที

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

"พยายามเข้าค่ะลูกชาย อะไรที่ได้มายากๆ แม่เชื่อว่าลูกจะรักษามันเท่าชีวิต"
พี่ตีบพยักหน้ารับหงึกหงัก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-08-2016 20:13:01
พี่จีบแกล้งน้องตลอด
แต่คนอ่านอย่างเราชอบ

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-08-2016 20:37:26
ดอกงิ้วกินได้นะจ๊ะพี่จีบ  :m26:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 19-08-2016 20:58:12
ออกตัวแรงกับทั้งบ้านจริงๆ ด้วย น้องคิสต้องรีบตกลงเป็นแฟนพี่จีบได้แล้วล่ะ อิอิ

ปล. เราอยากฟัดข้าวเหนียวกับข้าวแช่ด้วยอ่าาาาา ฟัดทั้งสี่ตัวเลยได้ไหมอ่าาา? ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-08-2016 23:00:13
รอคิสรับรักพี่จีบอ่ะ รับรักเร็วๆนะเดี๋ยวพี่แกจะแห้งเหี่ยวไปซะก่อน 555555 :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 19-08-2016 23:34:28
กะไปขอน้องเป็นแฟนที่ภูชี้ฟ้ารึป่าวพี่จีบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-08-2016 01:07:07
อ่อยยยย!! อิจมั้ยละ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 21 -P.12- (19.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 20-08-2016 11:16:38
เขามากันเป็นคู่ๆ เลยอะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 21-08-2016 19:03:03
- ดื่มครั้งที่ 22 -




อากาศช่วงเช้าในเดือนธันวาคมเย็นยะเยือกจนต้องขยับกายหาไออุ่นจากคนด้านข้าง หมอนกอดที่กั้นเราสองคนเอาไว้ตกหล่นไปอยู่ที่พื้นตอนไหนไม่อาจทราบได้ ดวงตากลมหลับตาพริ้มเพราะไม่อยากเปิดเปลือกตา ใบหน้าหล่อปนน่ารักซุกเข้ากับอกแกร่งอย่างลืมตัว... ไม่ได้ลืมตัวหรอก แค่ทำเนียนเป็นละเมอกอดคนด้านข้าง ไม่อยากให้ถูกจับได้ว่าจงใจ เพราะมันเขินแต่เหมือนจะโดนจับได้

"จะกอดก็กอดดีๆ วาดมือสะเปะสะปะแบบนั้นจะตบกูหรือไง"
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบเบาๆข้างหู ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะผละออกจากอกแกร่งแล้วเปิดเปลือกตาช้อนมอง

"หูย อะไรอ่ะ อุตส่าห์เนียนแล้วนะ"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มแล้วหลบสายตาคมที่จ้องมองกัน แขนแกร่งวางพาดลงบนเอวสอบของผมก่อนจะกระชับกอดหลวมๆ ใบหน้าผมฝังลงบนอกอย่างเดิม มีอาการเขินตั้งแต่เช้าไม่ดีแน่ๆเลยว่ะ ถึงภายในห้องจะยังสลัวๆก็เถอะ

"มึงหลับตา กูลืมตาจับไม่ได้ก็แปลกแล้ว เด็กโง่"
พี่จีบว่าก่อนจะขำออกมาเบาๆ ปลายจมูกโด่งกดลงกลางกระหม่อมอย่างอ่อนโยน วูบหนึ่งผมเผลอหดคอหนีเพราะเกิดความวาบหวามในใจ คำพูดของเขาไม่ได้หวานอะไร แต่การกระทำนี่สิชวนใจเต้นราวกับตีกลองรบ ถ้าผมอยู่ในสนามรบแล้วมีศัตรูเป็นนายอัศวิน นายอินธิพัฒน์คงแพ้ราบคาบ

"ด่าผมว่าโง่ แล้วรักเด็กโง่อย่างผมป่ะ"
ครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้ถึงได้ตั้งคำถามไปแบบนั้น ถามเองเขินเองแบบนี้ก็แย่... มือที่เคยวางนิ่งๆบนเอวเขาตอนนี้กลับกำเสื้อยืดสีขาวสะอาดของอีกฝ่ายไว้แน่น

"ไม่รัก..."

"....."
โคตรเจ็บปวดที่หัวใจจนพูดไม่ออก

"ไม่รักก็บ้าแล้ว"
พี่จีบหัวเราะเบาๆเมื่อแกล้งผมได้สำเร็จ จมูกโด่งฝังลงบนแก้มผมอย่างจาบจ้วง ผมฟึดฟัดเล็กน้อยก่อนจะหยิกเอวเข้าให้ หมั่นไส้ที่สุด

"แกล้งกันตลอดว่ะ ทำตัวไม่น่ารักเลย"
ผมว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง เบะปากลงน้อยๆอย่างขัดใจ พี่จีบก้มหน้าลงมาแล้วส่งยิ้มกวนๆให้กัน

"ถามแต่กูว่ารักมึงไหม ให้กูถามกลับบ้างได้ไหม"
เสียงพี่จีบเบาหวิวจนผมเผลอมองสบตากับเขา จะถามอะไรถึงได้ทำสายตาอ้อนวอนขนาดนั้น

"ถาม...อะไรเหรอครับ"
เสียงของผมขาดห้วงเมื่อใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้จนหน้าผากของเราแตะกัน ลมหายใจอุ่นๆรินรดลงบนใบหน้า สร้างความหวามไหวขึ้นจนรู้สึกว่าตัวเองจะละลายทั้งๆที่อุณหภูมิอากาศอยู่ในหลักสิบกว่าองศาแค่นั้น

"รักพี่หรือยังครับ"
คำพูดอ่อนหวานมาพร้อมกับสายตาหวานเชื่อม ผมเม้มปากแน่นก่อนจะซุกหน้าลงกับอกแกร่ง ไม่ใช่ว่าลำบากใจที่จะตอบ แต่มันเขินจนพูดไม่ออกเลยได้แต่เงียบใส่อยู่แบบนี้

"....."

"ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร ลุกไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะได้ออกเดินทาง"
ผมอ้าปากหวอเมื่อคนด้านข้างคลายกอดแล้วผละตัวออกไปดื้อๆ ทิ้งให้ผมทำตัวไม่ถูกอยู่บนเตียง พี่จีบโกรธไหม หรือเหนื่อยที่จะตามคนอย่างผมแล้ว... อยากเดินไปบอกความรู้สึกของตัวเองตอนนี้แต่คงไม่เหมาะเท่าไหร่เพราะเขาหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว

เราออกเดินทางกันตอนแปดโมงเช้าโดยใช้เส้นทางเชียงราย-เทิง แต่ละคนได้ขนมปังทาแยมมาประทังชีวิตกันคนละแผ่น กระเป๋าสัมภาระพร้อมกับเต็นท์สองหลังถูกพี่จีบขนโดยตัวคนเดียว ปล่อยให้ผม ซารังและตินที่มาสมทบที่บ้านขึ้นไปนั่งรอบนรถอย่างกับคุณชาย แว๊บแรกที่ผมเจอตินนึกว่าเขาจะเป็นแฟนกับซารังเสียอีก แต่ที่ไหนได้กลับกลายเป็นเพื่อนสนิทที่มีสถานะเป็นฝ่ายรับเหมือนกันไปซะนี่

"พี่คิสกินขนมป่ะ"
ซารังยื่นขนมขบเคี้ยวมาให้จากเบาะหลัง ผมส่ายหน้าเบาๆเพราะตอนนี้ไม่อยากกินอะไร ดูเหมือนคนข้างๆกันจะไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนอากาศตอนนี้เลยสักนิดเดียว ปกติจะต้องกวนตีนหรือหาอะไรมาแกล้งผม แต่นี้เดินทางมาร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้วเขายังนิ่งเงียบและเอาแต่สนใจเส้นทางตรงหน้า แปลกจนรู้สึกอยากถามว่าโกรธเรื่องเมื่อเช้าหรือเปล่า แต่ทำไม่ได้เพราะซารังกับตินก็อยู่ด้วย

"พี่จีบอ่ะ กินขนมไหม"
น้องเปลี่ยนเป้าหมายไปถามขนขับรถแทน ฝ่ายนั้นเหลือบตามองคนด้านหลังผ่านกระจกแล้วพยักหน้าเบาๆ ซารังยิ้มกริ่มก่อนจะส่งถุงขนมมาให้ผม

"หา.."
ผมอุทานอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่ก็รับถุงขนมมาแบบงงๆ จะให้เขาถือไว้แล้วให้พี่จีบหยิบกินล่ะมั้ง แต่คำพูดถัดมาของซารังทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบเลยทีเดียว

"ฝากป้อนพี่จีบด้วยนะครับ จะให้กินเองมันอันตราย... เนอะ"
มานงมีเนอะแล้วจะให้ปฏิเสธยังไงวะ ผมพยักหน้ารับแกนๆก่อนจะมองถุงขนมในมือสลับกับใบหน้าด้านข้างของพี่จีบ ผมตัดสินใจหยิบขนมชิ้นหนึ่งแล้วส่งไปตรงหน้าคนที่ทำเป็นไม่สนใจกัน ฝ่ายนั้นเหลือบตามองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"ผมป้อน"
เสียงเบาหวิวราวกลับกระซิบแถมไม่กล้าสบตาคู่สนทนาอีก แค่ป้อนขนมไม่จำเป็นต้องเขินขนาดนี้ก็ได้มั้ง

"อยากป้อนเองหรือทำตามที่ซารังบอก"
น้ำเสียงเรียบเฉยตั้งคำถามที่ทำให้ผมเผลอสะดุดลมหายใจตัวเองไปหนึ่งจังหวะ เหลือบสายตาไปหาซารัง น้องทำเพียงแค่ยิ้มแหยส่งมาให้กันทำนองว่าฝากผมช่วยแก้ปัญหาด้วยนะ

"พี่โกรธผมเรื่องเมื่อเช้าเหรอ"
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจถามสิ่งที่คาใจมานานออกไป ขนมในมือถูกดึงกลับมาใส่ปากตัวเองดื้อๆ

"มีอะไรให้โกรธวะ คิดมากเกินไปนะมึง"
ถึงปากจะบอกว่าไม่โกรธแต่แทบไม่มองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ ถึงผมจะซื่อจะโง่แค่ไหน แต่ความรู้สึกของคนที่รักผมก็สังเกตมันอย่างดีมาตลอดนะ

"พี่จีบครับ..."
ผมเรียกเขาเสียงอ่อย ไม่รู้จะต้องเค้นด้วยวิธีไหนเขาถึงจะยอมพูดความรู้สึกจริงๆออกมา ยิ่งแย่ไปใหญ่เมื่อในรถไม่ได้มีแค่เราสองคนแบบนี้

"หยิบขนมมาป้อนหน่อย"
เป็นเขาเองที่เปลี่ยนเรื่องไปดื้อๆ แถมไม่ติดใจจะเอาคำตอบเรื่องที่ผมตั้งใจป้อนหรือทำตามคำบอกของน้องชายตัวเองอีก ได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆแล้วหยิบขนมไปจ่อที่ปาก

"นี่ครับ"
พี่จีบเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากงับลงมา ผมสะดุ้งเล็กน้อยเพราะกลีบปากหยักสัมผัสโดนปลายนิ้วมือ เขาไม่ได้ขยับหนีแต่กลับอ้อยอิ่งเหมือนจะกลืนกินนิ้วผมเข้าไปด้วย เผลอร้อนวูบขึ้นมาทั้งร่างกายอย่างช่วยไม่ได้จนต้องเบนหน้าหนีและดึงมือกลับอย่างเก้ๆกังๆ

"หวานกันจัง... ตินอิจฉา"
เสียงแซวดังลอยมาจากด้านหลังจนผมไม่กล้าหันไปมอง จนเรามาถึงน้ำตกภูซางซึ่งเป็นน้ำตกน้ำอุ่นอยู่ที่ประมาณสามสิบห้าองศาเหมาะแก่การพาตัวเองไปสัมผัสในยามอากาศหนาวแบบนี้

พวกเราเดินทอดน่องชมนกชมไม้ไปตามสะพานไม้ บ้างก็ยกโทรศัพท์มือถือในมือขึ้นมาถ่ายรูป บ้างก็ชี้ชวนกันดูนั่นนี่ไปตลอดทาง ซารังกับตินเดินนำไปแล้วทิ้งไว้แค่ผมกับพี่จีบที่เดินเคียงข้างกันอย่างช้าๆไม่รีบร้อน สายตาผมเหลือบมองเขาเป็นระยะเพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดปากพูด และแล้วโอกาสก็มาเมื่อพี่จีบหันมาสบตากันพอดี

"พี่จีบ..."

"หืม มีอะไร จ้องกันขนาดนั้นถ้าเป็นปลากัดกูคงท้องไปแล้ว"
พูดติดตลกแต่ปากกับตาไม่ได้รู้สึกสนุกตามไปด้วยเลย ผมเม้มปากสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะกลั้นใจพูดสิ่งที่คิดออกไป

"น้อยใจเรื่องที่ผมไม่ยอมตอบคำถามเมื่อเช้าเหรอ"
ผมถามในขณะที่สายตายังคงจับจ้องใบหน้าหล่อเหลา เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอียงคอมองกัน ไม่นานรอยยิ้มเล็กๆก็ผุดขึ้นที่มุมปาก

"เป็นห่วงความรู้สึกกูเหรอ"
สีหน้าของพี่จีบเหมือนจะกลับมาสดใสขึ้นอีกครั้งจนผมรู้สึกว่าตัวเองพลาดที่จงใจแสดงออกว่าเป็นห่วงทั้งคำพูดและแววตาออกไปขนาดโดนจับได้

"อือ ก็เห็นนั่งเงียบมาตลอดทางไม่ยอมพูดอะไรเลยทั้งๆที่ปกติชอบแกล้งแท้ๆ"
ผมบ่นพึมพำเสียงเบา ก้มหน้าก้มตาจนคางเกือบจะชิดหน้าอกอยู่รอมร่อ ฝ่ามือใหญ่วางแปะลงบนหัวก่อนจะโคลงไปมาเบาๆ ผมช้อนตามองคนตรงหน้าหวังว่าจะได้คำตอบที่ไม่ทำร้ายจิตใจกันเกินไป

"ไม่รู้สิ อยากทำตัวเป็นคนดีในสายตามึงบ้าง กลัวจะไม่ถูกรักล่ะมั้ง"
พูดจบก็ระบายยิ้มอ่อนโยนมาให้กัน คำพูดทั้งหมดนั้นกระตุ้นให้ใจผมเต้นรัวได้ไม่ยาก แก้มเห่อร้อนขึ้นมาง่ายๆ คนอย่างพี่จีบกลัวผมไม่รัก... อยากจะถามสักร้อยครั้งว่าทำไมพี่จีบที่แสนกวนตีนมีมุมน่ารักแบบนี้เยอะจัง เยอะจนเผลอหวงอยากเก็บเอาไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครเห็นเขาในมุมที่ผมเห็นเลย

"มั่นใจในตัวเองหน่อยสิครับ ไม่ต้องกลัวหรอก"

"มึงรู้อะไรไหม กูมั่นใจทุกเรื่องนะ แต่มีเรื่องมึงเรื่องเดียวที่กูไม่เคยมั่นใจเลย"
ดวงตาของเราประสานมองสบกันไม่มีใครอยากละสายตาจากใครเลยแม้แต่นิดเดียว มือใหญ่เลื่อนมาจับไหล่ทั้งสองข้างของผมแล้วออกแรงบีบเบาๆ

"ไม่มั่นใจในตัวผมเหรอ"

"เปล่า ไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะทำให้มึงหันมารักกูได้"
น้ำเสียงฟังดูเศร้าสร้อยยังไงชอบกลจนผมเผลอเอื้อมมือไปแตะแก้มของอีกฝ่ายแล้วลูบไปมาเบาๆโดยไม่อายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆส่งไปให้

"กลายเป็นคนคิดมากไปแล้วรู้ตัวป่ะเนี่ย"

"เพราะใครล่ะ"

"เพราะผม... เพราะผมคนเดียว"

"ใช่ เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ตัวแสบ"
จบประโยคเราก็พากันหัวเราะ ไม่รู้ทำไมถึงอยากหัวเราะออกมา แต่การได้หัวเราะกับคนตรงหน้ามันทำให้มีความสุขที่สุดเลย อยากฟังเสียงหัวเราะของเขาไปอีกนานๆจัง

เวลาประมาณบ่ายสามโมงเราก็มาถึงภูชี้ฟ้า พวกเราช่วยกันขนสัมภาระต่างๆรวมทั้งเต็นท์ลงจากรถ ที่เชิงดอยจะมีจุดกลางเต้นสำหรับนักท่องเที่ยว ผมได้แต่ยืนมองตาละห้อยเพราะสกิลการกางเต็นท์ติดลบแบบย่อยยับ อยากช่วยแต่จะพังของเขาซะมากกว่า หลังจากยืนเงอะๆงะๆได้ไม่นานก็มีเสียงทุ้มต่ำที่ไม่ได้ยินมาสักพักดังขึ้นข้างหูจนต้องหันกลับไปมองทันที

"น้องคิส ~"
เสียงหวานๆที่ใช้เรียกชวนให้ขนลุกซู่ พี่คินกับพี่แก๊ปยิ้มทักทาย ผมยกมือไหว้พวกเขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปสะกิดพี่จีบ

"มาสายนะพวกมึง"
แทนที่จะทักทายเพื่อนแบบดีๆกลับแขวะกันซะอย่างนั้น พี่คินเบ้ปากน้อยๆก่อนจะเดินฟึดฟัดไปหาที่กางเต็นท์ของตัวเองซึ่งอยู่ถัดไปจากของซารัง

"มัวแต่แวะไร่สตรอเบอร์รี่เลยช้า"
พี่แก๊ปไขข้อข้องใจให้พวกเราก่อนจะเดินไปช่วยพี่คินกางเต็นท์ ได้ยินเสียงบ่นงุ้งงิ้งๆของพี่ชายหน้าหวานดังมาเป็นระยะๆจนผมอดขำไม่ได้

"มัวแต่ขำ ขนกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าเต็นท์ไป"
พี่จีบหันมาดุไม่จริงจังนักก่อนจะเดินมาช่วยกันหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บไว้ในเต็นท์ ที่จริงผมจะงอแงไปนอนเบียดกับซารังและติน แต่คิดไปคิดมานอนกับพี่จีบคงไม่เสียหายอะไรมั้ง มันคงไม่ครึ้มอกครึ้มใจปล้ำผมขึ้นมามั้ง คนเยอะแยะขนาดนี้

"หนาวไหม"
คำถามเป็นห่วงเป็นใยดังขึ้นจากทางด้านหลังเมื่อผมกำลังกลางแผ่นพลาสติกรองนั่งลงบนพื้นที่ว่างหน้าเต็นท์

"นิดหน่อยครับ นี่ขนาดแดดเปรี้ยงนะ ถ้าตกเย็นจะหนาวขนาดไหน"
ผมหย่อนตัวลงนั่งกอดเข่าตัวเอง ทั้งๆที่ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนากางเกงวอร์มขายาว ถุงมือ ถุงเท้า ความหนาวก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามากระทบผิวกายได้ พี่จีบทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันก่อนจะยกมือขึ้นโอบไหล่ผมอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการเคอะเขินคนหมู่มากแต่อย่างใด กลับเป็นผมเองที่ก้มหน้าก้มหน้าลงมองพื้นหญ้าที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยแทน

"หนาวจนมือจะแข็งเลยล่ะ คงสักประมาณสิบเจ็ดองศาเป็นอย่างต่ำ"
คำบอกเล่าด้วยน้ำเสียงเนิบนาบแบบไม่ทุกข์ร้อนทำให้ผมแอบหมั่นไส้เขากรายๆ พี่เขาอาจจะชอบอากาศหนาวก็เป็นได้ ผมก็ชอบเหมือนกันนะแต่ถ้าหนาวเกินไปก็ไม่ไหวอยู่ดี

"ผมไม่อาบน้ำได้ป่ะ"
ลองถามหยั่งเชิงไปอย่างนั้นล่ะ... จริงๆก็ตั้งใจว่าจะอาบอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่าน้ำมันจะเย็นขนาดไหนนี่สิ ถ้าพี่เขาอนุญาตไม่ให้อาบผมก็พร้อมใจจะทำตามโดยไม่มีปากเสียง

"กูไม่นอนกับคนเน่านะ"
พี่จีบว่าก่อนจะทำหน้ายี้ใส่กัน ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะปัดมือที่โอบไหล่ตัวเองออก แค่นี้ต้องรังเกียจกันด้วยเหรอ แค่ไม่อาบน้ำเองนะ!

"งั้นผมไปนอนที่อื่นก็ได้"
ผมว่าเสียงติดจะงอนก่อนจะสะบัดหน้าหันไปมองทางอื่น ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของคนด้านข้างยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นไปอีก ซารังกับตินก็ออกไปเดินเล่น ส่วนพี่คินกับพี่แก๊ปก็หายเข้าเต็นท์และเงียบไปเลย

"จะไปนอนที่ไหนหืม ไม่มีที่ว่างอื่นสำหรับมึงนอกจากที่ว่างข้างกูหรอกนะ"
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกข้างใบหูจนต้องขยับตัวหนี ไม่ใช่เพราะโกรธแต่เพราะกลัวว่าพี่จีบจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามในตอนนี้ต่างหาก ใครใช้ให้หยอดกันขนาดนี้วะ อากาศหนาวทำให้ภูมิต้านทานต่ำไม่รู้หรือยังไง!

"กะ ก็มันหนาวนี่ ถ้าผมแข็งตายขึ้นมาจะทำยังไง"
พูดเสียงตะกุกตะกักจนได้ มือที่เคยกอดเข่าตัวเองก็เลื่อนมาจับประคองหน้าไว้แทนเพราะรู้สึกว่า... แก้มร้อนจัง

"มึงก็มีกูอยู่นี่ไง"
คำพูดที่ผมแปลความหมายไม่ออกดังขึ้นก่อนจะมีมือหนาๆสอดเข้ามาดึงรั้งผมเข้าไปกอดไว้ หลังชิดกับอกแกร่งจนรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วกว่าปกติคนด้านหลัง

"มะ มีแล้วยังไงล่ะ ไม่เห็นจะเข้าใจ"

"กูให้ความอบอุ่นกับมึงได้เสมอ ถ้ามึงต้องการ"
ผมซุกหน้าลงกับเข่าเพื่อปิดบังใบหน้าแดงก่ำของตัวเอง เชื่อไหมว่าหัวสมองผมบรรเจิดถึงขั้นเปลี่ยนคำว่าอบอุ่นของเขาเป็นคำว่าเร่าร้อนไดอย่างหน้าตาเฉย บ้าเอ้ย นับวันจะซึมซับความหื่นมาจากจอมลามกที่นั่งกอดกันมากขึ้นทุกที

"หูย มดกันเว้ยๆ"
เสียงพี่คินลอยมาจนผมกับพี่จีบตกใจแล้วผละตัวออกจากกัน ต่างคนต่างเงอะๆงะๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนโดนคนอื่นแซวเขาจะไม่เขินเลยแท้ๆ หรืออาจจะเป็นเพราะรู้สึกมากกว่าเก่ากับผมเลยทำให้เขินหรือเปล่านะ

"อย่ามาแซวกู พวกมึงน่ะกกกันอยู่ได้ ออกมาเตรียมอาหารได้แล้ว"
หลังจบประโยคนั้นพี่คินก็มุดออกมาจากเต็นท์พร้อมกับพี่แก๊ปที่หัวฟูฟ่องคงเพราะเพิ่งตื่นนอนเป็นแน่ ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าพี่จีบไม่อยากนอนพักบ้างหรือไง ขับรถมาตั้งร้อยกว่ากิโลแน่ะ

หลังจากนั้นเราก็ได้ลิ้มรสหมูกระทะในยามอากาศหนาวสั่น มือไม้เริ่มแข็งอย่างที่พี่จีบเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ นั่งทอดสายตามองดวงไฟระยับระยับที่เปิดแข่งกันเพื่อรอเวลาอาหารย่อยซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากเพราะไม่ยอมอาบน้ำก่อนกินข้าว เวลาหนึ่งทุ่มกับอากาศสิบหกองศาแบบนี้ไม่เหมาะแก่การเปลื้องเสื้อผ้าชำระร่างกายแน่ๆ

"มึง... ไปอาบน้ำ"
พี่จีบสะกิดแขนผมเบาๆ ในมือของเขามีเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนและผ้าเช็ดตัวสองผืน ผมเบะปากลงก่อนจะส่งตาละห้อยไปให้

"ไม่อาบได้ป่ะพี่ แค่นี้ก็ปากสั่นแล้ว"
เสียงผมสั่นเครือเพราะฟันเริ่มกระทบกันดังกึกๆ แขนทั้งสองข้างโอบกอดตัวเองไว้อย่างแน่นหนา พี่จีบถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะดึงแขนผมให้ลุกขึ้นยืนจนได้

"ยิ่งดึกยิ่งหนาว ทางเดินก็มืด ไม่กลัวหรือไง"
ผมชะงักกึกแล้วมองไปรอบๆตัวก่อนจะตะหนักขึ้นได้ว่าตัวเองกลัวผีขึ้นสมองขนาดไหน แล้วไอ้อาการปวดฉี่ก็รุมเร้ามานานแล้วด้วยจะปฏิเสธก็กะไรอยู่

"ปะ ไปก็ได้"
ผมกอดแขนพี่จีบไว้แน่นอย่างไม่อาย เพราะตอนนี้หนาวขึ้นมาจับใจ ตอนแรกกะว่าจะมุดกลับเข้าเต็นท์ไปเอาเสื้อผ้าแต่พอสังเกตดีๆพี่จีบเตรียมมาให้เรียบร้อยแล้ว

พวกเรามาถึงห้องน้ำในเวลาถัดมา ผมยืนละล้าละลังอยู่สักพักเพราะไม่กล้าเหยียบห้องน้ำซะด้วยซ้ำ ตอนเดินมาเท้าก็เปียกแฉะไปด้วยน้ำค้างดีหน่อยดีหยิบรองเท้าแตะติดมือกันมาคนละคู่ ไม่ต้องลำบากเอาผ้าใบมาลุย

"รีบๆเข้าไปเร็ว ชักช้ายิ่งหนาวนะเว้ย เดี๋ยวกูเฝ้าหน้าห้อง"
พี่จีบส่งเสื้อผ้าและของจำเป็นมาให้กัน ผมมองอย่างหวาดๆก่อนจะรับมากอดไว้แนบอก ไม่อยากอาบน้ำจริงๆเลยให้ตายสิ

"เร็วเข้า กูหนาวเหมือนกันนะ"
เสียงเร่งดังขึ้นอีกครั้ง สังเกตได้ว่าคราวนี้ปากหยักสั่นน้อยๆ ผมเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนตัดสินใจพูดออกไป

"อะ อาบน้ำพร้อมกันไหม เข้าไปคนเดียวกลัวผีอ่ะ"
ผมไม่ได้มีเจตนาอื่นนอกจากความกลัวผีของตัวเองล้วนๆ ยิ่งมาในสถานที่ไม่คุ้นเคยจินตนาการเรื่องสิ่งลี้ลับยิ่งมีสูงกว่าปกติ พี่จีบเบิกตากว้างแล้วหันมามองกันด้วยความอึ้งเล็กน้อย

"มึงสาบานว่ากลัวผีจริงๆไม่ได้ยั่วกูใช่ไหม"
นั่นปะไร ไอ้ความคิดอกุศลมันต้องมาแน่ๆ ผมโคตรพลาดที่ชวนมันอาบน้ำด้วย จะให้เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ไม่ดีเพราะระหว่างคนกับผี ผมยอมพี่จีบจะดีกว่า...มั้ง

"ยะ ยั่วบ้าอะไร ไม่มีอารมณ์นั้นเว้ย หนาวจะตายอยู่แล้ว"
ผมรีบก้าวขาเข้าห้องน้ำอย่างไม่รีรอ เพราะความเขินหรือเพราะความหนาวที่เร่งเร้าอยากอาบน้ำให้มันเสร็จๆไปก็ไม่รู้ พี่จีบยิ้มกริ่มก่อนจะเดินเข้ามาด้วยกันแล้วปิดประตูลงกลอน ผมเผลอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคิดว่าถ้าพี่มันปล้ำขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง เป็นฝ่ายพลาดเองแท้ๆ

"เผื่ออยากได้ไออุ่นจากร่างกายพี่ไงครับน้องคิส"
ผมชะงักมือที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าออกทันที มีสัญญาณบางอย่างร้องเตือนว่าอาจจะมีการเสียตัวเกิดขึ้นจนเผลอกำสาบเสื้อแน่น

"ถ้าปล้ำจะโกรธตลอดชีวิต!"
ขู่เขาแต่ใจหวั่นว่าพี่มันจะไม่กลัวกัน ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

"มีขู่ด้วยว่ะ คิดว่าคนอย่างกูจะกลัวเหรอ"
พี่จีบย่างสามขุมเข้ามาใกล้ เสียงรองเท้าแตะสัมผัสกับน้ำดังเสียงเจ๊าะแจ๊ะจนหวั่นใจ ผมถอยหลังจนชิดกำแพงเย็นชืดรู้สึกได้เลยว่าตัวกำลังสั่นอย่างกับเจ้าเข้า

"ไม่รักนะ"
ผมเอ่ยเสียงแผ่วแต่อีกฝ่ายชะงักฝีเท้ากึก เห็นอย่างนั้นเลยช้อนตามองอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยปากย้ำคำเดิมให้ชัดเจนขึ้น

"ถ้าปล้ำ จะไม่รักนะครับ"
สาบานได้ว่าวูบหนึ่งผมเห็นดวงตาของพี่จีบสั่นไหว เขาก้าวเท้าออกห่างก่อนจะยืนหันหลังให้กัน

"อาบน้ำซะ เดี๋ยวกูยืนหันหลัง"

"อื้อ"
ผมตอบรับแล้วมองเขาสลับกับค่อยๆถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วรีบอาบน้ำทั้งๆที่มันเย็นจัดให้เสร็จๆไป ไม่อยากให้เขารอนานและที่สำคัญกลัวจะเผลอใจเข้าไปกอดเขา

พวกเรากลับเต็นท์ในเวลาเกือบสามทุ่ม คนอื่นๆมุดตัวเข้าสู่อ้อมกอดของผ้านวมผืนหนาไปแล้ว ที่รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อใช้เวลาเดินทางเท้าขึ้นจุดชมวิว ผมแทรกตัวผ่านรอยแยกของซิปเข้าไปก่อนจะมุดตัวลงในผ้านวมผืนหนา พี่จีบตามเข้ามาและรูดซิปปิดเต็นท์แล้วมุดเข้ามาใต้ผ้านวมเช่นกัน

"อุ่นขึ้นไหม ขอโทษที่ลากไปอาบน้ำ"
พี่จีบถามก่อนจะนอนตะแคงมองกัน ผมส่ายหัวเบาๆก่อนจะตอบคำถามเขาออกไป

"ไม่เป็นไรครับ อาบน้ำก็ดีเหมือนกัน แต่โคตรหนาวเลยอ่ะ นึกว่าจะแข็งตายในห้องน้ำแล้ว"
คิดไปถึงตอนอาบน้ำหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมากะทันหัน ก็ตอนที่อาบน้ำเสร็จแล้วทั้งคู่พี่จีบแทบจะกอดผมตัวกลมตอนเดินกลับเต็นท์

"อยากกอดไหม"
อยู่ๆพี่จีบก็ถามขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ผมเบิกตากว้างกับคำถามตรงไปตรงมา... ตอบยังไงดีล่ะ เขินอ่ะ แต่มันหนาวนี่นา

"กะ กอดได้เหรอ"

"อืม ก็บอกแล้วไงว่าพร้อมให้ความอบอุ่นเสมอ"
บอกได้คำเดียวว่าตอนนี้อากาศหนาวไม่ได้เป็นอุปสรรคในการหน้าร้อนวูบวาบเลยสักนิด โดนจีบแอทแทคอีกแล้วชีวิตผม

"อื้อ งั้นกอดนะ กอดอย่างเดียวนะ ห้ามลวนลาม"
ผมจ้องเขม็งก่อนจะค่อยๆซุกตัวลงกับอ้อมแขนแกร่งที่เปิดรอรับอยู่แล้ว พี่จับตวัดแขนโอบรอบเอวก่อนจะรั้งให้ตัวเราแนบกัน ยอมรับว่าเกร็งแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุ่นขึ้นมาก อุ่นแม้กระทั่งหัวใจ

"กลัวกูปล้ำจังเลยนะมึงเนี่ย"
พี่จีบพูดจบแล้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจมูกโด่งจะกดลงบนแก้มของผม เนี่ย... แต๊ะอั๋งกันตลอดจะไม่ให้กลัวได้ยังไงวะ

"กะ ก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่หว่า"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักก่อนจะเบียดตัวเข้าหาอีกฝ่ายมากขึ้น ก็มันหนาวไม่ได้ยั่ว...

"ถ้าเป็นแฟนกันแล้วจะยอมว่างั้น"

"มะ ไม่รู้ นอนแล้วนะ ฝันดี"
ผมตัดบทแล้วแกล้งหลับทันที ได้ยินเสียงพี่จีบหัวเราะขึ้นมาอีกรอบก่อนที่คำหวานจะดังขึ้นข้างหู แม้จะแผ่วเบาจนเหมือนเสียงกระซิบแต่มันกลับชัดเจนในความรู้สึก

"รักนะ ฝันดีครับ"
คงจะฝันหวานด้วยล่ะ : )

ผมถูกปลุกในเวลาตีห้า สภาพแต่ละคนอย่างกับแหนมเพราะมีอะไรก็จีบมาห่อตัวไว้กันหมด ผมโดนพี่จีบสั่งให้ใส่เสื้อกันหนาวสองชั้นก่อนจะออกมาล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวเดินเท้าขึ้นจุดชมวิว

"หนาวฉิบหาย"
เสียงสั่นๆบ่นอยู่ข้างหู พี่คินแทบจะหายตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่แก๊ป ตินกับซารังยืนเบียดจนแทบจะสิงกันอยู่รอมร่อ ผมกับพี่จีบจับมือกันไว้พร้อมออกเดินทาง... ธรรมดาที่สุดแล้วเนี่ย

พวกเราเดินเท้ากันไปอย่างไม่เร่งรีบ เหนื่อยก็พักก่อนจะค่อยเดินต่อจนไปถึงจุดชมวิวในเวลาหกโมงกว่าๆ ทะเลหมอกกับแสงรำไรตรงขอบฟ้าทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเก็บรูปไว้ เหลือบไปเห็นคนข้างกายกำลังจดจ้องไปยังฝืนฟ้าด้านหน้าด้วยใบหน้าดูมีความสุขเลยอดไม่ได้ที่จะแอบถ่ายรูปเก็บไว้

"แอบถ่ายกูเหรอ"
พี่จีบหันมายิ้มให้กันก่อนจะขยับหน้ามาดูหน้าจอสี่เหลี่ยมในมือผม

"อื้อ สวยป่ะ"
ผมถามก่อนจะส่งยิ้มให้ ไม่ได้อยากอวดฝีมือตัวเองสักเท่าไหร่หรอก แต่มั่นใจระดับหนึ่งว่าตัวเองถ่ายรูปสวย

"ไม่อ่ะ"
คำตอบสั้นๆผมให้ผมหันขวับไปมองใบหน้าที่กับมาเรียบเฉยของพี่จีบ ไม่สวยจริงๆเหรอวะหรือฝีมือตกไปแล้ว

"ไม่สวยจริงๆเหรอ"
ผมว่าเสียงอ่อยก่อนจะก้มลงมองรูปที่ปรากฏบนจอ

"เพราะมึงสวยกว่า"
คำสั้นๆของเขาทำให้ผมตะลึงอีกครั้ง.. อยู่ๆมาพูดหวานใส่กันแบบนี้ได้ยังไง ทำตัวไม่ถูกเลยเหอะ บ้าที่สุด

"เพ้อเจ้อแล้ว!"
ผมพูดก่อนจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรอดวงอาทิตย์ขึ้น เป็นช่วงที่ผมรอคอยมากที่สุดในชีวิต เมื่อดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นลับของฟ้า ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนตลอดไป

เรายืนรออย่างเงียบๆ หลังมือที่ทิ้งอยู่ข้างตัวสัมผัสกันเบาๆแค่นี้ก็อบอุ่นจนหัวใจพองโต แสงเรืองรองกำลังเคลื่อนตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า สีส้มตัดกับสีฟ้าทึมยามเช้าช่างสวยงดงาม ผมหันไปหาเขาก่อนจะจับมือใหญ่มากุมเอาไว้ พี่จีบหันมาเผชิญหน้ากันแล้วเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

"ก้มหน้าลงมาหน่อย"
ผมพูดเสียงเบา พี่จีบทำหน้างงเล็กน้อยและถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ

"ก้มทำไม"

"ผมมีคำตอบให้แล้วนะ"

"หือ คำตอบอะไร"

"ที่ถามว่าผมรักพี่หรือยังไง ก้มมาฟังกันหน่อยสิครับ"
ผมคลี่ยิ้มหวาน พี่จีบดูตะลึงไปเล็กน้อยก่อนจะยอมก้มหน้าลงมา ผมเคลื่อนตัวไปใกล้ใบหูก่อนจะกระซิบคำตอบที่หวานที่สุดให้เขาฟัง

"ผม...รักพี่นะครับ"
พูดจบก็ผละตัวออกมาจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ยังเรียบสนิท เขานิ่งจนผมใจหาย หรือคำตอบของผมไม่ดีพอกันนะ แต่มันจะมีอะไรดีไปกว่าคำว่ารักอีกวะ

"พี่จีบ... ไม่ดีใจเหรอ"
ผมถามเสียงสั่น กลัวว่าคำตอบที่ให้อีกฝ่ายมันจะช้าไป

"เปล่า"
คำตอบสั้นๆมาพร้อมกับดวงตาคมที่จ้องมองกัน มือใหญ่บีบมือผมกลับมาก่อนที่มุมปากจะคลี่ยิ้มออก

"ดีใจจนพูดไม่ออกเลยว่ะคิส ดีใจมาก"
พูดจบเข้าก็ดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น ผมโอบกอดเข้าตอบด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี รัก รักผู้ชายคนนี้ รักที่สุด

"อื้อ เขินว่ะพี่"
ผมพูดเสียงอู้อี้ก่อนจะถูแก้มลงกับอกแกร่งเผื่อจะระบายความร้อนที่มีออกไปได้บ้าง แต่ไม่ได้ช่วยเลยเหมือนจะยิ่งร้อนกว่าเดิมไปอีก

"เป็นแฟนกันนะ"
กะทันหันจนหัวใจจะวาย ผมพยักหน้าหงึกหงักกับอก ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะครับ นายอินธิพัฒน์แพ้นายอัศวินอย่างราบคาบจริงๆ

"อื้อ ผมขี้หวงนะ ถ้านอกใจพี่ตายแน่"

"หึ กูก็ขี้หวง ถ้ามึงนอกใจรับรองว่าชู้มึงตายแน่ๆ"

"แล้วผมล่ะ"

"ลงโทษจนมึงจะยอมรักกูแค่คนเดียว"

เรากอดกันแน่นขึ้นส่งผ่านความรู้สึกที่มีให้กันอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่ามีดวงตาอีกสี่คู่จ้องมองมาอย่างยินดี




--------------------------------------------




Q & A กับคิส

Q : ทำไมต้องรอไปบอกรักพี่จีบบนภูชี้ฟ้าด้วยล่ะ
A : ก็บรรยากาศมันโรแมนติกดีไม่ใช่เหรอ.. อยากให้พี่เขาจำขึ้นใจ -////-





จุดพลุ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เขาเป็นแฟนกันแล้วนะเออ หวานไหม ไม่หวานเดี๋ยวเราใส่น้ำตาลเพิ่มให้ #เดี๋ยวๆ
ใครลุ้นอยู่ไม่ต้องลุ้นแล้วน้า พี่จีบเขาปฏิบัติภารกิจสอยน้องคิสมาเป็นแฟนได้เรียบร้อยแล้ว... เหลือแค่สอยเป็นเมีย หึหึ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 21-08-2016 19:24:09
ในที่สุดดดดดด เค้าเป็นแฟนกันแล้วววววว ฟินสุดค่ะะะ รู้สึกอบอุ่นประหนึ่งอยู่ในอ้อมกอดจีบคิส ฮ่าๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-08-2016 19:33:35
ฟินอะไรเยี่ยงนี้
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 21-08-2016 19:47:26
 น้องคิส รอมาถึงที่นี่เพราะอยากได้บรรยากาศดีๆนี่นะ แล้วก็ปล่อยให้พี่จีบใจตุบๆตอมๆมาตั้งนาน
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-08-2016 19:49:31
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 21-08-2016 20:03:36
เป็นแฟนกันแล้วววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 21-08-2016 20:26:43
โอ้ยยย ลุ้นตัวสั่นไปด่วยว่าน้องจะยอมบอกรึยัง ดีใจจจจ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 21-08-2016 20:27:30
เค้าเป็นแฟนกันแล้ว

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 21-08-2016 20:37:56
อย่าเพิ่งกลับกันนะ ก่อนกลับ ขอNCทิ้งทวน มาเสียตัวบนดอย 5555555  :hao6:  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 21-08-2016 21:08:37
เขา เป็น แฟน กัน แล้ว !!  :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-08-2016 21:09:20
 :L2: :L1: :pig4:
ประทับใจ คิสโรแมนติกก็มา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 21-08-2016 21:15:26
เย้ๆๆๆๆๆเค้าเป็นแฟนกันแง้ววววๆๆๆ :ling1: :mew1: o13 :katai2-1: :pighaun: :z1: :hao3: :katai2-1:
รอตอนต่อปายๆๆๆๆน้องจีบๆๆๆ :hao6:
ชอบทุกเรื่องเลยๆๆๆๆที่ไรท์เขียนรอติดตามจร้าๆๆๆ :L2: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 21-08-2016 21:45:33
โรแมนติกจ้าาา วรั่ยยยยแฟนก็เป็นแล้ว ที่นี้เสร็จแน่คิสเอ๋ยยยย ฮ่าาา :impress2: :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 21-08-2016 22:05:23
จริงๆก็อยากจะบอกนานแล้ว แต่กลัวไม่ประทับใจสุดๆ เลยรอไปบอกบนภูเนอะ

เหตุผลน่ารักมากกกก (ช่วยพี่จีบหลงน้อง ฮาาา)
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-08-2016 22:12:32
เขาบอกรักกันแล้ววว ฮิ้วๆๆๆ รอพี่จีบสอยน้องคิสเป็นเมียค่าาาาาาาา :hao7: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 21-08-2016 23:04:48
เป็นแฟนกันแล้ววว ดูแลกันดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 21-08-2016 23:40:34
ดีใจจัง เป็นแฟนกันแล้ว
ว่าแต่ว่า บทลงโทษของพี่จีบน่ารักจัง :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 22-08-2016 07:17:52
เขาเป็นแฟนกันแล้วววววววววววว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: isuloveU Soly ที่ 22-08-2016 07:20:11
เค้าเป็นแฟนกันแย้ววววว  :z2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kawin_KW ที่ 22-08-2016 11:04:29
 :oo1: ในที่สุดก็ตกลงเป็นแฟนกัน  ><
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-08-2016 11:37:49
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 22-08-2016 15:55:53
ตามอ่านทันแล้วววว
อ่านไปยิ้มไป เขินพี่จีบ หยอดตลอดอ่ะ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-08-2016 20:00:29
เค้าจะได้กานล้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 22-08-2016 22:49:39
จุดพลุฉลอง :mc4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 23-08-2016 17:50:09
รอๆๆๆพี่ยีบๆๆๆๆๆน้องคิสๆๆๆๆ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 22 -P.12- (21.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-08-2016 21:35:54
คิสมีความเล่นตัว ต้องบอกรักบนภูอ่ะ 55555
แต่ในที่สุดก้อเปนแฟนกันสักที เหลือแต่ได้กัน..เอ๊ย...เหลือแต่เปิดตัว อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 25-08-2016 20:43:18
- ดื่มครั้งที่ 23 -




ท้องถนนยามเที่ยงวันแออัดไปด้วยรถนานาชนิด การเคลื่อนที่ช้ายิ่งกว่าเต่าคลานเป็นไหนๆ เสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆในรถไม่ได้ทำให้อารมณ์เย็นลงเลยด้วยซ้ำ คนข้างๆกันที่วันนี้แต่งตัวดูดีเป็นพิเศษแถมยังหยิบแว่นกันแดดแบรนด์ดังสีชามาใส่อีก อยากจะถามจริงๆว่าไปรับคนที่สนามบินหรือจะไปเดินแบบบนรันเวย์ เห็นแล้วก็หมั่นไส้จไม่รู้จะทำตัวหล่อไปถึงไหนนะคนเรา ไม่รู้หรือยังไงว่าคนเป็นแฟนมันหวง

"รถติดฉิบหาย"
เสียงบ่นดังขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก นิ้วเรียวเคาะลงบนพวงมาลัยเป็นจังหวะตามทำนองเพลง ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองกันจนผมต้องเบนหน้าหนี ปกติพี่จีบมันก็หล่ออยู่แล้วไง วันนี้ทั้งเซ็ตผมทั้งใส่แว่นตากันแดด โคตรเหมือนนายแบบหลุดออกมาจากนิตยสารเลย ผมนี่เหมือนเด็กรับใช้ของมันหัวยุ่งเหยิง ตาปรือ หน้าโทรมเพราะลงจากดอยมาเมื่อสามวันที่แล้วก็ไม่สบาย ยันกลับมากรุงเทพฯก็ยังไม่หาย

"พี่ดีพกับไอ้ภีมใกล้จะแลนด์ดิ้งแล้วมั้งเนี่ย"
ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วถอนหายใจออกมายาวเหยียด อีกยี่สิบนาทีเครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้ว แต่รถยังติดอยู่กลางทาง... คงอีกหนึ่งชั่วโมง

"ช่วยไม่ได้ว่ะ รถมันติดกว่าทุกวัน"
ผมพยักหน้าหงิกหงัก วันนี้รถติดกว่าทุกวันจริงๆ ปกติผ่านมาทางนี้ไม่เคยจะติดแบบนี้เลยสักครั้ง

"พี่จีบ... ถามจริงเหอะ ทำไมต้องแต่งตัวเต็มขนาดนี้วะ แค่ไปสนามบินนะเว้ย"
ผมเหล่ตามองมันก่อนจะเบะปากลงนิดๆ พี่จีบเลิกคิ้วมองกันแล้วเอื้อมมือมาวางแปะลงกลางกระหม่อมบังคับให้ผมหันไปสบตา

"ไม่ชอบหรือหวง พูดมาตรงๆ"
สายตาคาดคั้นถูกส่งมาให้กัน มุมปากกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมต้องหลุบตามองต่ำ แต่คงต่ำเกินไปว่ะเจอเป้าพี่จีบเต็มๆ ฮือ ทำไมตั้งแต่ตกลงคบกันผมรู้สึกว่าตัวเองซึมซับความหื่นจากไอ้พี่จีบมาวันละนิดละหน่อยวะ แย่แน่ๆ

"มะ ไม่รู้เว้ย ถามก็ตอบมาดิ ไม่ใช่ถามกลับแบบนี้!"
ผมบุ้ยปากกลบเกลื่อนความจริงที่อยู่ในใจ ถ้าตอบสิ่งที่คิดออกไปพี่จีบแม่งได้ใจใหญ่แน่ๆ มันคงอารมณ์ดียิ้มทั้งวันเหมือนคนบ้าชัวร์ๆ ยังไม่อยากให้ไอ้พี่ดีพมันมาว่าผมว่าเอาคนบ้าเป็นแฟนหรอกนะ

"มึงก็ตอบกูก่อนไง เร็วๆ"
มีเร่ง... ทั้งๆที่ตัวเองต้องตอบผมก่อนไม่ใช่เหรอวะ ทำไมเป็นคนเลวแบบนี้เนี่ย ถอนตัวไม่คบกับมันยังทันไหม

"หวง พอใจยัง!"
ผมเหวเสียงดังแล้วใช้มือปัดป่ายมืออีกคนออกก่อนจะแยกเขี้ยวใส่มัน สู้เขาไม่ได้ก็พาลแกล้งทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนไปซะทุกที แต่พี่จีบมันก็ไม่เคยกลัวกันหรอก แถมยังเห็นเป็นเรื่องตลกไม่ยอมง้อกันอีกด้วย

"ทำไมแฟนกูน่ารักแบบนี้วะ ไหนๆมาจุ๊บหน่อยสิ"
เขาพูดจบก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทั้งๆที่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ผมดันหน้าอกไอ้คนหื่นออกไปไกลๆแล้วใช้ถุงขนมปังทาเนยมาบังหน้าเอาไว้ ฮึก แต่ก็ไม่รอดพ้นจากริมฝีปากร้อนผ่าวของพี่จีบหรอกเพราะมันประทับลงบนหลังมือผมแบบเต็มๆ มือไม้อ่อนแทบทำถุงขนมหล่นเลย!

"อยากให้จุ๊บมือก็ไม่บอก หึหึ"
เสียงหัวเราะโรคจิตดังมากระทบโสตประสาทการรับรู้ยิ่งทำให้ผมแก้มร้อนมากขึ้นไปอีกเท่าตัว คราวนี้ทำถุงขนมปังร่วงอย่างช่วยไม่ได้ จังหวะที่ลนลานก้มเก็บมันเลยเปิดโอกาสให้อีกคนขโมยหอมแก้มผมได้สำเร็จ

"อ๊ะ ไอ้พี่จีบ!"
ผมร้องเสียงหลงเบิกตากว้างก่อนจะยกมือขึ้นปิดแก้มตัวเอง โอย หน้าจะระเบิดอยู่แล้ว ไม่ไหวๆ อยู่กับพี่จีบเปลืองตัวฉิบหายเลยเว้ย ผมกำลังเขินอย่างหนักแต่ไอ้พี่จีบกำลังอารมณ์ดีอย่างหนัก เพราะมันยิ้มหน้าบานแถมยังผิวปากเป็นจังหวะตามทำนองเพลงอีก ฮึ่ย หมั่นไส้เว้ย

"ครั้งต่อไปขอปากนะ"

"ไม่เว้ย ไม่ให้! ตั้งใจขับรถไปเลยไป"
ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะนั่งบ่นงุ้งงิ้งๆต่อท้ายประโยคนั่นไปตลอดทาง พี่จีบหัวเราะเบาๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนเราถึงที่หมาย ตั้งแต่พี่จีบก้าวลงจากรถก็มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา ตอนแรกๆก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่เดินเข้าในตัวอาคารแล้วเจอกรุ๊ปทัวร์เป็นสาวๆเข้าหน่อย มองกันแบบจะกลืนกินไอ้พี่จีบเข้าไปทั้งตัว เห็นแล้วอารมณ์หงุดหงิดก็มาจนต้องเดินเข้าไปจับต้นแขนมันแสดงความเป็นเจ้าของกลายๆซะเลย ให้มันรู้ซะบ้างว่าของใครเป็นของใคร ถึงจะยังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นก็เถอะ

"หืม มีอะไรหรือเปล่า เห็นเมื่อกี้เดินห่างกับกูเป็นวา"
พี่จีบเหล่มองผมอย่างจับผิด ก็ตอนแรกที่ลงมาจากรถผมกลัวว่าจะโดนพี่ดีพกับไอ้ภีมแซวเลยเดินห่างๆเขา แต่ตอนนี้จะให้ห่างยังไงไหวเมื่อมีคนคิดจะกินแฟนตัวเองเนี่ย

"ดะ เดินไม่ทันต่างหากพี่แม่งขายาวไง"
เฉไฉไปเรื่อยแต่ไม่ยอมสบตาเพราะกลัวว่าคนฉลาดอย่างเขาจะรู้ทันคนโง่อย่างผม โกหกอะไรไม่เคยแนบเนียนสักครั้ง เมื่อครู่ยังพูดตะกุกตะกักไปอีกมันคงเชื่อ

"เหรอครับที่รัก ไม่ใช่ว่ากำลังหึงผมหรอกนะ"
พี่จีบก้มลงกระซิบข้างหูกันด้วยน้ำเสียงติดจะหยอกล้อ ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะผลักไหล่มันเบาๆ สุดท้ายก็โดนจับได้อีกแล้ว อยากมีความลับบ้างควรทำยังไงวะ ขั้นแรกคงต้องไปหัดฉลาดหลีกหนีการถูกลวนลามจากไอ้พี่จีบให้ได้ก่อนจะดีกว่า

"พูดอะไรของพี่ รีบๆเดินเลย"
ผมก้าวฉับๆเร่งความเร็วแซงหน้ามันซะเลย แต่ไปไม่ถึงไหนหรอกครับคอเสื้อด้านหลังถูกคว้าจนเซปะทะเข้ากลับอกแกร่ง

"ถ้าเดินไม่รอกัน กูจะอ่อยสาวพวกนั้นนะ"
เหี้ยเถอะ! ผมหันไปจ้องพี่จีบเขม็งก่อนจะกำหมัดทุบลงบนอกมันไปแบบเต็มแรง หมั่นไส้! คิดว่าตัวเองทำแบบนี้ได้คนเดียวหรือไง อย่าให้ถึงทีผมบ้างนะ จะทำให้หวงจนอยู่ไม่สุขเลยคอยดู

"โอย ไอ้คิส กระดูกกูจะหักไหมเนี่ย ทุบมาซะเต็มแรง"
พี่จีบลูบอกตัวเองไปมา ใบหน้าบูดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับ ผมเบะปากลงก่อนจะแลบลิ้นใส่ สมน้ำหน้า ชอบทำให้คนอื่นเขาหวงดีนัก

"สมควร รู้ว่าผมหวงยังจะแกล้งกันอีก หึ"
ผมว่าก่อนจะเดินหนีออกมา คราวนี้ไม่มีการฉุดกระชากคอเสื้อเกิดขึ้นเพราพี่จีบทำเพียงแค่เร่งความเร็วมาเดินเคียงข้างกันก่อนที่มือหนาจะสอดประสานเข้ากับมือผมอย่างแนบเนียน ตอนแรกก็จะสะบัดทิ้งอยู่หรอกเพราะหงุดหงิด แต่พอเห็นสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้กันเลยใจร้ายทำไม่ลง ก็ได้แต่ปล่อยให้เขาจับมือกันเดินไปอย่างนั้นจนมาเจอพี่ดีพกับไอ้ภีมโบกมือไวๆให้กันนี้ล่ะ

"พี่ดีพ! มากอดหน่อย คิดถึง ~"
ผมเดินลิ่วๆตรงเข้าไปหาพี่ชายทันที แต่มือใหญ่รีบผละจากกระเป๋าเดินทางของตัวเองมาดันหน้าผากผมไว้ ก่อนจะเบ้ปากใส่กันอย่างรังเกียจ

"ไม่เห็นจะคิดถึงมึงเลย ไปไกลๆ"
พี่ดีพว่าก่อนจะยักคิ้วกวนๆส่งมา ผมปัดมือมันออกแล้วบุ้ยปากใส่ เป็นพี่ชายที่แสดงความรักกับน้องได้โคตรแย่เลย

"ไรวะ! น้อยใจอ่ะ"

"ตามใจมึงเลย กูอยากกอดน้องเขยมากกว่า"
พี่ดีพเบนสายตาไปมองคนข้างๆก่อนจะยิ้มทักทาย ไอ้พี่จีบยิ้มตอบก่อนจะโค้งตัวทักทายมัน

"สวัสดีครับพี่"

"เออ หวัดดีๆน้องเขย หล่อนะเรา คิดยังไงมาชอบของแปลกแบบไอ้คิสวะ"
ทั้งไอ้พี่ดีพ ไอ้พี่จีบ ไอ้ภีมมองผมด้วยสายตาแปลกประหลาดก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน ผมมุ่ยหน้าทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ แค่เจอกันวันแรกยังเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแบบนี้ อนาคตผมคงโดนแกล้งไปจนวันตายอ่ะครับ ฮึก เกิดเป็นอินธิพัฒน์ชีวิตมันน่าเศร้าจริงๆ

"ถึงมันจะแปลกแต่ผมก็รักนะพี่"
พี่จีบพูดก่อนจะหันมายักคิ้วให้กัน ไอ้ผมที่กำลังหงุดหงิดอยู่กลายเป็นว่ามีอาการเขินเข้ามาแทนที่แบบฉับพลันซะอย่างนั้น บ้าบอมากไหมมาบอกรักกันกลางสนามบินเนี่ย โว้ย

"พอๆๆ กลับบ้านกันได้แล้ว"
ผมว่าก่อนจะเดินไปลากไอ้ภีมให้เดินไปด้วยกัน ไม่สนแล้วว่าสองคนนั้นจะพูดอะไรกันบ้าง

"เฮ้ย เบาๆ กระเป๋ากูหนัก"
ไอ้ภีมบ่นกระปอดกระแปดจนผมต้องยอมลดความเร็วในการเดินลง สองคนด้านหลังยังคงคุยกันอย่างออกรสชาติ แต่เสียงเบาเกินกว่าจะเผือกได้ว่าเขาคุยเรื่องอะไรกัน เจ็บใจจริงๆ

"มึง.. ทำไมกูรู้สึกว่าพี่ดีพกับพี่จีบสนิทกันเร็วจังวะ"
ผมกระซิบถามไอ้ภีมด้วยความสงสัย คือปกติแล้วพี่ดีพไม่เคยสนิทกับใครเร็วขนาดนี้ แต่นี่อะไรหัวเราะเฮฮาเหมือนกับรู้จักมักจี่กันมาก่อน หรือผมพลาดอะไรไปวะ

"หือ นี่มึงลืมอะไรป่ะคิส"
ไอ้ภีมพูดแค่นั้นก็หยุดไปก่อนจะทำหน้าเอือมๆใส่กัน ผมขมวดคิ้วยุ่งพยายามคิดว่าลืมอะไรไป แต่คิดไม่ออกว่ะ สมองมันยังมึนๆงงๆเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป

"กูลืมอะไร คิดไม่ออก"

"พี่ดีพเป็นคนแนะนำร้านของพี่จีบให้พวกเรารู้จักไง มันไปนั่งชิวบ่อย สมองปลาทองเหรอมึง"
ผมถึงกับเบิกตาโตที่เพิ่งคิดได้ ไอ้ภีมส่ายหน้าช้าๆเหมือนกับปลงตกในความขี้ลืมของผม... ไม่ได้ตั้งใจลืมนะเว้ยแต่ไม่ได้ใส่ใจต่างหาก โอ้ย นี่ชีวิตกูจะพลาดอะไรขนาดนี้วะเนี่ย

"โอย กูอยากมุดดินหนี เชี่ยเอ้ย"
ผมขยี้หัวตัวเองแรงๆ ทำไมโง่แบบนี้เนี่ย คนอื่นเขาฉลาดจนไปถึงดาวอังคารกันแล้วมั้ง กูยังแดกหญ้าอยู่หน้าบ้านเนี่ย

"บ่นอะไรงุ้งงื้งๆ ขึ้นรถไป"
ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงไอ้พี่ดีพดังขึ้นใกล้ๆ ไม่รู้มันเดินมาตีเสมอกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมตอนนี้ยังหยุดอยู่ข้าง BMW ลูกรักของไอ้พี่จีบแล้วด้วย เจ้าของรถขำออกมาเบาๆก่อนจะช่วยขนกระเป๋าขึ้นท้ายรถแล้วเดินมาเปิดประตูสอดตัวเข้าประจำที่คนขับ ส่วยผมก็ที่เดิม ตุ๊กตาหน้ารถเพียงหนึ่งเดียวของพี่จีบ

รถเคลื่อนตัวออกไปอย่างไม่รีบร้อน จะให้เร่งความเร็วมากก็คงทำไม่ได้เพราะการจราจรยังคงติดขัดอยู่เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ดีหน่อยเพราะผมจะกลับบ้านที่ชานเมืองพอดีเลยใช้เวลาไม่นานจากสนามบินไปถึงที่หมาย

"ไอ้คิส มึงกลับบ้านบ้างหรือเปล่า"
อยู่ๆไอ้พี่ดีพก็ถามขึ้น ผมหันไปมองมันก่อนจะต้องเบ้ปากแรงๆเพราะมันทิ้งตัวลงนอนตักไอ้ภีมหน้าตาเฉย หมั่นไส้เว้ย หวานกันอยู่ได้ไอ้คู่รุกรุก!

"จะให้กลับไปอยู่กับแมวที่ไหนอ่ะ ไม่มีใครอยู่บ้านสักคน"
ถามแปลกๆแต่ละคนถ่อสังขารไปญี่ปุ่นกันทั้งนั้น จะให้ผมกลับบ้านทำไม สู้อยู่กับไอ้พี่จีบยังดีกว่า... อย่ามองผมด้วยสายตาล้อเลียนเลยนะ ก็ไอ้พี่จีบมันแค่เสนอตัวมานอนเป็นเพื่อนที่หอแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรในกอไผ่เลย

"เออลืม... แล้วมึงอยู่หอคนเดียวเหรอ"
พี่ดีพทำหน้าสงสัยก่อนจะคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบ สาบานว่าเรื่องพี่จีบมานอนด้วยกันผมไม่ได้หลุดปากบอกใครแน่ๆ

"หรือมีใครนอนด้วยวะ บอกมาซะดีๆนะไอ้น้องคิส"
พี่ดีพล็อกคอกันจากด้านหลังจนผมต้องฟาดมือลงบนแขนมันรัวๆ ทำแบบนี้จะฆ่ากันหรือไงวะ

"แค่ก ไอ้พี่ดีพ ปล่อยนะเว้ย หายใจไม่ออก"

"ตอบมาก่อน ไม่งั้นก็ตายไป"
พี่จีบทำท่าจะช่วยแต่ไอ้พี่ดีพแยกเขี้ยวขู่ไว้ซะก่อน ตกลงว่าผมเป็นน้องทันจริงๆหรือแค่เด็กที่พ่อแม่เก็บมาเลี้ยงวะ ทำไมต้องรุนแรงกันขนาดนี้ ถามดีๆตอบดีๆเป็นไหม ไอ้ฟายเอ้ย

"ตอบแล้ว ปล่อยเด้ แค่กๆ"
ผมดึงแขนมันออกห่างจากคอให้มากที่สุด พี่จีบหันมามองกันด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่แต่มุมปากแม่งจะกระตุกเป็นยิ้มอยู่เรื่อย คืออะไรวะ!

"ตอบมา ไม่งั้นกูไม่ให้ของฝากนะ"
ร้ายแรงกว่าล็อกคอกันคือไม่ให้ของฝากนี่ล่ะ!

"พี่จีบไปนอนด้วย"
ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม รู้สึกว่าหน้าร้อนจนต้องเอามือมาปิดแก้มตัวเอง พี่ดีพยอมละแขนออกไปแล้วหัวเราะโรคจิตจนผมแอบขนลุก ทำไมแต่ละคนชอบคิดอกุศลเรื่องผมกับพี่จีบจังวะ เราเป็นคู่รักใสใสนะ

"พัฒนาไปไกลนะ ยังไม่ได้กันใช่ป่ะวะ"
ตาผมแทบถลนเมื่อไอ้พี่ดีพถามออกมา พี่จีบสำลักน้ำลายตัวเองเลยเถอะ ฉิบหายเหลือเกินพี่กู ทำไมมันเป็นคนลามกแบบนี้วะเนี่ย ผมหันไปฟาดแขนมันดังปัก แต่ได้รับเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากกลับมา

"ถามบ้าอะไรวะพี่ น่าเกลียด"
ผมโวยวายแล้วหันหน้าแดงๆกลับมา แทนที่จะรู้สึกโมโหแต่เขินแทนซะอย่างนั้น เขินแบบไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนเลย พี่จีบก็ยังสำลักน้ำลายค่อกแค่กจนหน้าแดงไปหมด ไม่รู้เพราะไอหรือเพราะเขินกันแน่

"ก็ถามให้แน่ใจ ไม่อยากให้น้องไวไฟ"
พี่มันว่าเสียงนุ่มๆ แต่ผมแปลความหมายได้ว่า 'ถ้ามึงมีผัวก่อนกูมีเมีย มึงตายแน่' อะไรประมาณนี้

"เออน่า ถึงจะเป็นผู้ชายก็รักนวลสงวนตัวเหอะ"
ผมตอบปัดๆไม่อยากเอาพี่ชายตัวเองมาขายเท่าไหร่ เพราะถ้าปากโป้งออกไปผมคงโดนไอ้พี่ดีพฆ่าหมกส้วม และไอ้ภีมคงฆ่าพี่ดีพแล้วเอามาหมกไว้ที่เดียวกันแน่ๆ

"ทำใจหน่อยนะ น้องกูมันเป็นสาวหัวโบราณว่ะจีบ"
พี่ดีพตบบ่าไอ้พี่จีบเหมือนกำลังปลอบใจ แต่หน้าตานี่กวนตีนสุดใจมากครับ แต่เดี๋ยวนะ... สาวหัวโบราณคืออะไร ผมเป็นผู้ชายมีแท่งนะเว้ย ตะให้เอาออกมาโชว์ไหม! ผมหันไปถลึงตาใส่มันจนปวดเบ้าตาไปหมด

"ผมเป็นผู้ชายเว้ย!"

"อ้าวเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีน้องชาย"
เสียงกวนตีนได้อีก หน้ากวนตีนได้อีก ลงจากรถไปต่อยกันเลยไหม!

"กวนตีนว่ะพี่ดีพ แม่ง"
ผมว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วไม่ยุ่งกับมันอีก แขนทั้งสองข้างยกขึ้นกอดอกจนแน่น โมโหเว้ย กลับมาวันแรกก็เปิดศึกกันเลย หึ!

"ดีพ...มึงอย่าไปแกล้งไอ้คิสมาก เพื่อนกูนะ"
น้องภีมคนดีที่นั่งเงียบมานานเริ่มออกโรงปกป้องผมแล้ว ถึงพี่ดีพจะใจดีกับมัน แต่มันไม่ใจดีกับพี่ดีพนะ

"นั่นก็น้องกูนะทำไมจะแกล้งไม่ได้อ่ะ"

"กูเป็นแฟนมึง กูพูด มึงต้องฟัง เข้าใจไหม"
หูย... ผมนี่ขนลุกแทนพี่ดีพเลยว่ะ เห็นอนาคตโดนว่าที่เมียกดขี่ข่มเหงมาแต่ไกล โชคดีมีชัยนะพี่ชาย หึหึ

"เผด็จการว่ะ โดนกูปล้ำสักทีแล้วจะไม่พูดแบบนี้"

"บ่นอะไรของมึง เดี๋ยวจะโดนถีบตกรถ"

"โหย รุนแรงอีกแล้ว เงียบก็ได้"
เสียงไอ้พี่ดีพอ่อยจนน่าสงสาร แต่ผมเม้มปากกลั้นขำจนหน้าแดงไปหมด ไอ้พี่จีบก็เหลือบมามองกันอีก

เรามาถึงบ้านกันประมาณเกือบบ่ายสองโมง ผมช่วยขนกระเป๋าเดินทางรวมทั้งถุงน้อยใหญ่ลงจากรถ เครื่องปรับอากาศภายในบ้านถูกเปิดทันทีเมื่อพวกเรานั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่อย่างเหนื่อยล้า

"มึงจะนอนบ้านไหม"
พี่ดีพหันมาถามผมที่นั่งอยู่ข้างๆกัน ผมพยักหน้าน้อยๆก่อนจะนั่งตัวตรงแล้วหันไปถามพี่จีบต่อ

"พี่จีบจะกลับตอนไหน"

"ให้จีบค้างที่นี่"
เสียงพี่ดีพขัดขึ้นทำให้ผมกับพี่จีบเบิกตากว้าง... ให้พี่จีบค้างที่นี่ จะนอนตรงไหน เสื้อผ้าล่ะ

"นอนกับมึงนะคิส แล้วก็เสื้อผ้ายืมกูก่อนก็ได้"
เหมือนรู้ว่าผมกำลังกังวลอะไร ได้คำตอบมาแบบมัดมือชกซะด้วย ผมนี่อ้าปากพะงาบๆจะเถียงก็เถียงไม่ออก ส่วนไอ้พี่จีบนี่ยิ้มกริ่มพยักหน้าหงึกหงักไปแล้ว

"พี่ดีพแม่ง..."
ผมบ่นงุ้งงิ้ง ไม่ใช่ว่าไม่อยากนอนด้วยกัน แต่นี่มีคนอื่นอยู่ในบ้านด้วยไง กลัวจะทำอะไรเสียงดังจนเขาจับได้... อย่างเช่นเถียงกันอะไรแบบนี้ อย่าเพิ่งคิดลึกนะ

"แยกย้ายๆ ตอนเย็นค่อยออกไปกินข้าวด้วยกัน"
พี่ดีพพูดก่อนจะลากไอ้ภีมขึ้นไปบนห้อง ผมกับพี่จีบมองตามด้วยใบหน้าที่ติดจะอึ้งเล็กน้อย คิดจะทำอะไรก็ทำนิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆพี่ผมเนี่ย

"ทำอะไรกันดี"
พี่จีบถามขณะที่ขยับมานั่งชิดกับผม ใบหน้าหล่อยื่นเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รินรดแก้ม ผมเอียงตัวหลบก่อนจะเม้มปากแน่น ทำไมคำถามมันชวนคิดลึกยังไงไม่รู้

"หาอะไรกินป่ะพี่ บ่ายสองแล้วเนี่ย"
ผมพูดก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นยืน ที่ชวนน่ะไม่ใช่ว่าทำอาหารเป็นหรอกนะ แต่จะพาไปกินร้านหน้าปากซอยต่างหาก

"มึงทำเป็นเหรอ"
พี่จีบถามทั้งๆที่เขายังไม่ได้ขยับตัวไปไหน ผมเหลียวไปมองก่อนจะยิ้มแห้งๆให้กันแล้วส่ายหัวพรืด เขามองอึ้งๆก่อนจะหัวเราะออกมา

"ทำไมต้องหัวเราะวะ ก็ทำไม่เป็นอ่ะ"
ผมมุ่ยหน้าก่อนจะโดนพี่จีบดึงลงไปนั่งบนตัก แก้มทั้งสองข้างร้อนวูบวาบทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงต้นขาแกร่งที่รองรับน้ำหนักกันอยู่ ผมไม่กล้าดิ้นไปไหนเพราะกลัวอะไรๆมันจะตื่นขึ้นมา

"ปล่อยผมดิ ทำไมชอบลวนลามกันจังวะ"
ผมบ่นอุบอิบก่อนจะเม้มปากแน่นกลั้นยิ้มเมื่อคางมนวางลงมาบนไหล่แล้วถูไปมาอย่างออดอ้อน เชื่อเขาเลยว่าคนโคตรเกรียนจะอ้อนเก่งด้วย

"ไม่ลวนลามแฟนแล้วจะให้พี่ไปลวนลามใครครับหื้ม ไหนบอกพี่หน่อยสิ"
เสียงหวานๆกระซิบข้างหูจนผมต้องหดคอหนี ไม่ชินจริงๆเมื่อโดนใช้ถ้อยคำนุ่มนวลแบบนี้ใส่ แก้มปวดร้าวไปหมดเพราะพยายามกลั้นยิ้มจนสุดชีวิต หน้าอกแกร่งขยับมาแนบชิดกับแผ่นหลังจนรู้สึกร้อนวาบไปทั้งร่างกาย หัวใจก็เต้นแรงจนเหนื่อย

"พูดแบบนี้อยากไปลวนลามคนอื่นเหรอ"
ผมถามเสียงนิ่ง เอาจริงๆก็แค่อยากแกล้งพี่จีบก็แค่นั้นครับ ได้เอาคืนบ้างมันก็ดีไม่ใช่เหรอ

"ถ้ากูอยากลวนลามคนอื่น กูจะมายุ่งวุ่นวายกับมึงทำไมหืม"
เขาพูดจบก็กดจมูกโด่งฝังลงบนแก้มผมทันควัน ไม่ได้ตั้งตัวจนเผลอนั่งเกร็งไปซะอย่างนั้น

"ฉวยโอกาสตลอดว่ะ ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็ไม่ได้ยอมง่ายๆนะพี่"
ผมว่าก่อนจะรีบลุกขึ้นทันที เพราะพี่จีบคลายกอดออก ใจเต้นตุ่มๆต่อมๆพิกล เหมือนคืนนี้จะโดนขย้ำยังไงก็ไม่รู้ว่ะ

"เห็นกูเป็นพวกชอบขืนใจคนอื่นหรือไง"
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ไม่รู้ตัวเลยว่าพี่จีบมันลุกขึ้นจากโซฟาตอนไหน มือปลาหมึกของมันก็ลูบไล้อยู่ตรงเอวสอบของผม ฮึ่ย ถ้าจะลวนลามกันไม่เว้นช่วงให้หายใจขนาดนี้ลากกูขึ้นห้องตอนบ่ายๆเลยไหมครับพี่น้อง

"เออ ได้ทีเป็นลวนลามตลอดจะให้คิดยังไงวะ"
ผมปัดมือปลาหมึกของเขาทิ้งแล้วเดินลิ่วๆไปหน้าบ้านก่อนจะคว้าจักรยานมาคร่อม ไม่สนแล้วครับ จะไปหาอะไรกินคนเดียวแล้วแม่ง อยู่ด้วยกันนานๆมีแววเสียตัวโดนที่ผมเผลอสมยอมแน่ๆ

"จะไปไหนวะ"
พี่จีบที่เดินตามกันมารีบวิ่งมาขวางทาง รองเท้าก็ยังไม่ได้ใส่นะนั่น ผมเกือบหลุดขำแต่กลั้นไว้ได้ทันแล้วตีสีหน้านิ่งๆใส่

"ไปหาอะไรกิน อยู่กับพี่แล้วไม่ปลอดภัย"

"กูไปด้วยดิ จะทิ้งกูไว้เหรอ"

"ไม่ได้ทิ้งไง แต่ไม่ให้ไป"

"แบบนั้นเขาเรียกทิ้ง"

"เออๆ ไปด้วยกันก็ได้ งั้นพี่เป็นคนปั่นนะ"
ผมลงจากจักรยานแล้วยืนรอพี่จีบเข้ามาคร่อมแทน แต่เขายืนนิ่งก่อนจะยิ้มแหยส่งมาให้กัน ผมเอียงคอมองอย่างสงสัย อย่าบอกนะว่า...

"พี่ปั่นจักรยานไม่เป็นเหรอ"

"อือ ตอนเด็กๆล้มเพราะจักรยานเลยไม่กล้าปั่นอีก"
พี่จีบมองจักรยานหวาดๆ ผมเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ... มีความน่ารักว่ะ ไม่รู้สิ รู้สึกถึงความเป็นเด็กในตัวของพี่จีบ

"ไว้ผมจะสอนนะ มันไม่น่ากลัวหรอก วันนี้ซ้อนท้ายผมก่อนแล้วกัน"
ผมว่าก่อนจะส่งยิ้มให้ พี่จีบขมวดคิ้วแต่ก็ยอมพยักหน้ารับ ผมขึ้นคร่อมจักรยานอีกครั้งก่อนจะตบเบาะด้านหลังเป็นสัญญาณให้พี่จีบขึ้นซ้อน เขาทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะวาดมือกอดเอวเอาไว้

"พร้อมแล้ว มึงปั่นเลย"
พี่จีบว่าเสียงสั่นๆ แต่ผมจะปั่นยังไงวะ พี่เขาเล่นกอดผมจนแทบหายใจไม่ออกเนี่ย

"คลายกอดหน่อยพี่ ผมอึดอัด"

"อ่าวเหรอ ขอโทษๆ"
พี่จีบยอมคลายกอดออก ผมเลยเริ่มต้นปั่นจักรยาน มีเซเล็กน้อยก่อนจะราบรื่นจนถึงร้านข้าวหน้าปากซอย เราสั่งข้าวผัดทะเลคนละจาน ก่อนกลับก็ได้ขนมขบเคี้ยวเล็กๆน้อยๆติดมือมาด้วย

มื้อเย็นจบลงด้วยร้านอาหารใกล้ๆบ้านโดยมีอาเสี่ยใจดีอย่างพี่ดีพเป็นคนเลี้ยง เนื่องในโอกาส 'ต้อนรับน้องเขย' ผมแทบจะฉีกปากพี่ชายตัวเอง ไม่คิดว่าผมจะเป็นสามีใครได้บ้างเหรอวะเนี่ย ยัดเยียดให้ผมเป็นเมียอยู่ได้ มันยังบอกอีกนะพ่อแม่คงดีใจ เพราะจะได้สินสอดจากพี่จีบ... คือแบบ คิดไปไกลกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ เพลียใจจริงๆเลยกู

"นอนได้ป่ะพี่ ผมไม่มีหมอนข้างให้กอดนะ"
ผมกับพี่จีบนั่งอยู่ปลายเตียงหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนชุดกันเรียบร้อยแล้ว เขาเหล่มองผมก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาให้กัน

"ไม่มีหมอนแต่มีมึง ดีกว่าเป็นไหนๆ"
แม่ครับ พี่เขาจีบผมอีกแล้วครับแม่ ไม่รู้จะจีบไปถึงไหน เขินเว้ย

"เสี่ยวได้อีกพี่"
ผมว่าก่อนจะหัวเราะออกมา พี่จีบรวบเอวผมเข้าไปกอดไว้ก่อนจะเกยคางไว้บนไหล่กัน

"เสียวแทนได้ไหม"
เสียงกระเส่าดังขึ้นข้างหู รู้ว่าพี่มันแกล้งแต่อดใจเต้นไม่ได้ว่ะ เผลอคิดลึกด้วย ฮือ ติดนิสัยเสียของไอ้พี่จีบมาแล้วแน่ๆ

"สะ เสียวอะไรวะ นี่จ้องจะกินผมตลอดเวลาเลยหรือไง"
ผมผละตัวออกจากมันแล้วลุกพรึบไปยืนห่างเตียง ไอ้พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากจนล้มตัวลงบนเตียง ดูมีความสุขเนอะ แกล้งผมได้ไม่เว้นแต่ละวันเนี่ย

"หัวเราะอะไรวะ เดี๋ยวจะหนีไปนอนที่อื่น"
ผมเบ้ปากใส่มัน กระทืบเท้าปึงบังอยู่กับที่ ไม่เคยจะหวานได้เกินสิบนาทีเป็นอันต้องแกล้งกันตลอด

"โอ๋ๆ มานอนข้างกูมา ไม่แกล้งแล้ว"
พี่จีบลุกขึ้นแล้วเดินมาจับมือผมไปนอนบนเตียงด้วยกัน ดวงตากลมเหล่มองก่อนจะยอมล้มตัวลงนอนข้างๆ เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาของเราประสานกัน

"จูบได้ไหม"
คำขอแสนเรียบง่ายแต่กลับทำให้ใจคนฟังเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก... ขอกันแบบนี้สู้จูบมาเลยจะดีกว่าไหม ทำแบบนี้มันเขินกว่าปกติมากนะเว้ย

"อือ"
คำตอบเชิงอนุญาตของผมทำให้พี่จีบส่งยิ้มบางมาให้ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มหยุนจะประทับลงมา เขาบดจูบเนิบนาบลิ้นร้อนค่อยๆละเลียดชิมไล้ไปตามกลีบปาก ความวาบหวามเกิดขึ้นจนผมกำมือแน่น ไม่อยากยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกดีเป็นอย่างมาก

ผมจูบตอบอย่างเงอะๆงะๆเพราะไม่เคยมาก่อน พี่จีบดูจะพึงพอใจกับความไร้เดียงสาของผม เพราะมือหนารั้งท้ายทอยเข้าไปให้แนบชิดขึ้นไปอีก ลิ้นชื้นแหวกกลีบปากก่อนจะไล่วนเกี่ยวตวัดหยอกล้อ มือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามเอวสอบของผม... ตอนนี้สติกลับมาเกือบจะครบร้อยและรู้สึกว่ามันเริ่มเลยเถิดผมเลยผละอกพี่จีบออก ก่อนจะหอบหายใจออกมา

"พะ พอแล้วพี่"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักแล้วหลบสายตาหวานเชื่อมที่กำลังมองมา เขาวาดแขนดึงผมเข้าไปกอดแนบอก เสียงหัวใจเต้นตึกดักเป็นจังหวะเดียวกันจนผมต้องยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้

"คิส..."
เสียงเรียกเบาหวิวของพี่จีบทำให้ผมต้องช้อนตามองเขา ดวงตาคมสั่นไหวเล็กน้อย ริมฝีปากหยักเม้มเข้าหากันเหมือนกับต้องการระงับอารมณ์อะไรบ้างอย่าง

"อะไรเหรอพี่"

"กู... กูมีอารมณ์ว่ะ"

"หา! ฉิบหายแล้วไหมล่ะ"
ผมผลักไอ้พี่จีบก่อนจะกระโดดลงจากเตียงเหมือนหนีผี ไม่ได้รังเกียจแต่ยังไม่ได้ทำใจ ยังไม่พร้อมจะเสียตัวเว้ย

"คิส... กูขอได้ไหม"
พี่จีบลุกขึ้นนั่งก่อนจะค่อยๆคลานใกล้เข้ามาโดนไม่ยอมลงจากเตียง ผมส่ายหน้าพรืดก้าวถอยหลังจนชนเข้ากับตู้เสื้อผ้าดังปึก สีหน้าหวาดหวั่น ปากบางเบะลงราวกับจะร้องไห้ ไม่เอานะเว้ย อย่าข่มขืนนะเดี๋ยวยอม ฮือ ไม่ต้องทำหน้าอ้อนเลยนะเว้ย!

"มะ ไม่ ผมยังไม่พร้อมอ่ะพี่"
ผมตอบเสียงสั่น แต่ที่สั่นกว่าคือไหล่พี่จีบ... ไอ้แฟนเชี่ย แกล้งผมอีกแล้ว!!!

"กูแกล้งเล่นน่า กลัวจนตัวสั่นเชียว"
พี่จีบกุมท้องแล้วขำเอิ้กอ้าก ผมแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะพุ่งใส่ล้มทับมัน แล้วเนาก็ฟัดกันไปกันมาจนเตียง ไม่ยอมหรอกเว้ย ยกนี้ผมต้องชนะ!

ผมมีอะไรจะสารภาพ... ผมมีอารมณ์ว่ะ  ช่วยผมที!!



-------------------------------------------------




Q & A กับจีบ

Q : แกล้งคิสจริงๆเหรอที่บอกว่ามีอารมณ์น่ะ
A : จริงๆแล้วมีครับ แต่ไม่อยากให้น้องตกใจ ก็เลยทำเป็นแกล้งไปอย่างนั้นล่ะ
Q : ....................









เอาแล้วไง... หนูคิสมีอารมณ์ ควรจะทำยังไงดีหนอ ช่วยน้องคิดกันหน่อยเร็ว 555555555
น้องจะใสใสได้นานแค่ไหนกันนะ แล้วไอ้พี่จีบจะอดทนได้นานแค่ไหน คึคึ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 25-08-2016 21:10:49
 :z3:  :z3:  :z3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-08-2016 21:16:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 25-08-2016 21:27:23
ถ้ายังไม่พร้อมจะเสียประตูก็โลกสวยด้วยมือเราไปก่อนนะลูกนะ 55555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 25-08-2016 21:48:30
ก้อว่าอยู่ว่าพี่จีบจะทนได้ยังไง 555555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-08-2016 21:52:18
ไวไฟจริงๆ น้องคิส ส่วนพี่จีบก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปนะครับ น้องยังไม่เคย คริคริ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-08-2016 21:59:43
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-08-2016 22:10:07
 :m20:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 25-08-2016 22:27:13
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-08-2016 22:31:36
ถึงจะเป็นแฟนแล้ว พี่จีบก็ยังคงรุกอย่างต่อเนื่อง

สงสารคิส โดนรุมแกล้งตลอด ฮาาาาา มีความน่ารังแกสูงก็เงี้ยยยยะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-08-2016 23:34:10
คนน่ารักมักโดนแกล้งไงคะ ร่องรอย 555555 :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-08-2016 00:26:31
 :L2: :pig4: :L1:

คิสใสใส
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 26-08-2016 00:58:29
พี่จีบนิสหน่อยก็เอาา ส่วนน้องคิสมีอารมณ์อะไรลูกอารมณ์แบบพี่จีบ หรือ อยากขย้ำพี่จีบ 5555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-08-2016 10:05:47
 :z1:  น้องคิสมีแฟนแล้วก็ต้องใช้แฟนให้เป็นประโยชน์สิคะ
พี่จีบตัวต้นเหตุต้องรับผิดชอบสิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 26-08-2016 11:38:25
น้องคิสใกล้จะเสียตัวแล้ว


 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-08-2016 15:30:55
โธ่ น้องคิส น้องก็ไม่ต้องให้ทำถึงที่สุดซิ ช่วยกันแค่ภายนอกกันก่อนก็ได้มีตั้งหลายวิธีอ่ะ
พี่จีบไปศึกษามานะ จะได้ไม่ต้องทนอึดอัด อัดอั้น กันแบบนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-08-2016 00:20:19
น่ากลัว55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-08-2016 05:17:01
พี่จีบแม่ง น่ารักว่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 27-08-2016 12:15:40
อยู่กับพี่จีบแล้วคงเขินจนตัวแตกแน่ หยอดได้หยอดดี ต้องหายารักษาโรคหัวใจมากินแต่เนิ่นๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 28-08-2016 15:57:29
อิอิ เอางัยละทีนี้มีอารมณ์ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 23 -P.13- (25.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 29-08-2016 15:03:09
ตามอ่านทันแล้วววววว น้องจูบน่ารักว่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 29-08-2016 16:50:35
- ดื่มครั้งที่ 24 -





หลังจากที่ผมเลิกเล่นมวยปล้ำกับพี่จีบเพราะเกิดมี..เอ่อ นั่นล่ะขึ้นมา ร่างกายแทบจะไร้เรี่ยวแรงจนต้องลงมานอนแผ่ข้างๆ ใบหน้ายังคงร้อนวูบวาบอย่างน่ากลัว ตอนนี้ผมกำลังเค้นสมองอันน้อยนิดคิดว่าควรทำอย่างไรดี จะให้ชวนพี่จีบทำเรื่องอย่างว่ามันก็เร็วไปป่ะวะ เพิ่งคบกันยังไม่ครบอาทิตย์ด้วยซ้ำ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ถ้าอย่างนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ....

"พี่จีบ ไปเตะบอลกัน!"
ผมพูดออกไปเสียงดังพอตัว คนด้านข้างหันมองขวับแทบจะทันทีที่ฟังจบ สีหน้าของเขาดูจะงงกับสิ่งที่ผมพูดไปมาก เป็นผมก็งงนะ มาชวนเตะบอลตอนใกล้เที่ยงคืนเนี่ย โฮ ก็แม่งฟุ้งซ่าน ไม่รู้จะระงับอารมณ์ตัวเองยังไง จะให้ขออนุญาตไปโลกสวยด้วยมือเราก็กลัวจะโดนล้อ

"เตะบอลอะไรของมึงตอนใกล้เที่ยงคืนวะ"
พี่จีบขมวดคิ้วแน่นมองกัน มือหนายกขึ้นจิ้มระหว่างคิ้วของผมจึกๆเหมือนบอกว่าผมบ้าไปหรือเปล่า

"ก็...มันอยากเล่นอ่ะ"
ผมปัดมือเขาออกแบบไม่จริงจังนักก่อนจะเสตามองไปทางอื่น เห็นหน้าพี่จีบแล้วอารมณ์ยิ่งพลุ่งพล่านกว่าเดิมอีก แย่แน่ๆ นอนหายใจรดกันไปมาไม่นานคงได้เสียกันว่ะ ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่คิดได้ พี่จีบดูจะงงๆแต่ก็ยอมลุกจากเตียงด้วยเช่นกัน

"คิส... ไม่ใช่ว่ามึงมีอารมณ์กับกูใช่ไหม"
ผมสำลักอากาศแทบจะในทันทีแล้วไอโขลกจนพี่จีบต้องขยับมาลูบหลังกัน ผมแทบจะมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมเขาถึงเก่งนักวะ หรือแอบมานั่งอยู่ในสมองของผม

"โหย ใครจะไปหื่นเหมือนพี่วะ"
ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามคุมไม่ให้สั่น มือไม้เริ่มชื้นเหงื่อเพราะกลัวว่าพี่จีบจะจับได้ ขาเริ่มสั่นเบาๆเพราะกำลังตื่นเต้น โอย ทรมานฉิบหาย จะวิ่งออกจากห้องไปเลยมันก็ผิดสังเกตเกินไป จะนั่งอยู่ด้วยกันแบบนี้ก็โคตรแย่ ฮึก น้องคิสอยากขอตัวช่วยอ่ะครับ มีไหม

"คิส ถ้ากูจับได้ว่ามึงโกหก กูจัดหนักมึงแน่"
เสียงเข้มดังขึ้นพร้อมกับสายตาเป็นประกายวิบวับมองมา ผมเม้มปากเข้าหากันแน่น ชั่งใจอยู่มาจะพูดหรือไม่พูดดีเพราะรู้สึกอายและกระดากปากเกินจะบอกความจริง คือไม่เคยเกิดอารมณ์กับคนอื่นเลยเริ่มต้นไม่ถูก ปกติเกิดจากการดูหนังเอวีอะไรแบบนี้

"ผมมีคำถาม..."
หลังจากที่คิดวนไปวนมาราวๆสิบวินาที ผมก็ตัดสินใจขอความคิดเห็นจากพี่จีบ ทั้งๆที่คาดว่าคำตอบที่ได้รับคงไม่เป็นไปตามที่หวังแต่ก็อยากถามว่ะ ดีกว่าอึดอัดแบบนี้

"ถามอะไร"
เขาหันมองผมนิ่งไม่ละสายตาไปไหน บางครั้งผมก็อยากบอกว่าไม่ต้องทำท่าตั้งใจฟังขนาดนั้นก็ได้ ผมพูดไม่ออกเว้ย ยิ่งเรื่องที่กำลังจะถามมันไม่ปลอดภัยกับตัวเองสักเท่าไหร่ด้วย

"จะเลือกไปเตะบอลหรือใช้มือ"
ผมถามเสียงอ้อมแอ้มไม่มีเท้าความให้ยาวยืด พี่จีบถึงกับอ้าปากหวองงกับคำถามของผม

"หา ถามอะไรของมึง"
พี่จีบเกาหัวแกรกๆ ทีเรื่องอื่นฉลาดทำไมเรื่องนี้ถึงไม่เข้าใจง่ายๆบ้างวะเนี่ย ผมเม้มปากแน่นอีกครั้งแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อกลั้นใจถามคำถามพี่เขาอีกรอบ

"ตอนมีอารมณ์อ่ะจะเลือกทำอะไร!"
ผมพูดจบเสียงพี่จีบระเบิดหัวเราะก็ดังขึ้น ดวงตาคมจับจ้องมาอย่างจริงจังก่อนเสียงทุกอย่างจะเงียบลง ระยะห่างระหว่างเรากำลังน้อยลง น้อยลง จนปลายจมูกของเราชนกัน ผมไม่มีทางหนีเพราะมือใหญ่กับรั้งท้ายทอยกันเอาไว้

"ไม่มีตัวเลือกไหนของมึงที่กูอยากทำ"
เสียงกระเส่าของพี่จีบยิ่งทำให้สติที่พยายามควบคุมไว้เตลิดไปไกลกว่าเดิม อะไรๆที่ไม่เคยสงบอยู่ก่อนหน้านี้กลับแข็งขันขึ้นจนต้องเอามือปิดไว้ ไม่ฉิบหายวันนี้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

"ละ แล้วอยากทำอะไรล่ะ"
ถามออกไปด้วยเสียงตะกุกตะกักและเบาหวิวราวกระซิบ จมูกโด่งสวยได้รูปกำลังคลอเคลียอยู่ที่แก้มใส ผมอยากผลักคนเจ้าเล่ห์ออกแต่ร่างกายกลับโอนอ่อนตามเขาไปแล้ว นี่สินะที่เขาว่า 'ร่างกายทรยศสมอง'

"อือ พะ พี่จีบ หยุดก่อนสิวะ"
ผมละมือออกจากตรงนั้นมาดันอกแกร่งไว้ ไอ้คนขี้แกล้งยิ้มกริ่มแล้วกดจูบลงมาบนริมฝีปากอย่างรวดเร็วจนผมเบิกตาค้าง ความนุ่มหยุนบดเบียดลงมาอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากหยักค่อยๆขบเม้มดูดดึงริมฝีปากของผม มือไม้ที่เคยผลักไสอีกคนกลับอ่อนยวบไม่มีแรง

"อื้อ!"
ลิ้นร้อนไล้วนรอบริมฝีปากก่อนที่มันจะผ่านรอยแยกเข้ามาเกี่ยวตวัดหยอกล้อกับปลายลิ้นของผม ความเสียววูบไหวตรงท้องน้อยบอกให้รู้ว่าตอนนี้อารมณ์กำลังฉุดไม่อยู่ แต่...ผมยังไม่พร้อมเสียตัวเลยดึงสติกลับมาแล้วผลักอกพี่จีบออก ก่อนจะหอบหายใจแรง

"แฮ่ก จะปล้ำผมหรือไง"
ผมหลบสายตาหวานเยิ้มนั่น ถ้าจ้องมองกันตรงๆคงละลายตรงนี้แน่ๆ แขนแกร่งคร่อมตัวผมไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ จมูกโด่งยังคอยหาที่ซุกไซร้ไม่หยุดหย่อนจนผมต้องคว้าหมอนมากอดคั่นกลางระหว่างเราเอาไว้ พี่จีบกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เสียงหัวเราะดังเล็ดลอดออกมาราวกับเจอเรื่องสนุก...

"ถ้ามึงสมยอมก็ไม่เรียกว่าปล้ำนะ"
ตอบได้หน้าตาเฉย... แถมน้ำเสียงยังทะเล้นจนผมรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบ คำถามที่ถามไปไม่ต้องรอคำตอบให้เสียเวลาเพราะมันชัดเจนมานานแล้ว ผมไม่น่าโง่ถามเลยเถอะ ฮือ

"ในสมองไม่คิดเรื่องอื่นเลยหรือไง"

"ตอนมีอารมณ์จะให้คิดอะไรวะนอกจากเรื่องเซ็กซ์"
ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ ที่พี่จีบพูดออกมาเขาหมายถึงตัวเองหรือหมายถึงผมที่มีอารมณ์ รู้สึกเหมือนกำลังโดนหลอกอยู่เลยวะ

"พี่มีอารมณ์เหรอ"
ผมถามเสียงแผ่วเพราะไม่แน่ใจว่าพี่จีบพูดถึงใครกันแน่ แต่พอคิดทบทวนไปทบทวนมามันน่าจะไม่ได้หมายถึงผม

"อืม... ใช่ ที่กูไม่บอกเพราะกลัวว่ามึงจะตกใจ"

"อะ เอ่อ ตกใจนิดหน่อย"

"ให้ช่วยไหม สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลยกว่าภายนอก"
ผมหันขวับไปมองแทบจะทันที จะช่วยยังไง ให้พี่สัมผัสน้องชายผมแบบนั้นน่ะเหรอ อายตาย... ทำเองเสร็จเองก็ได้มั้ง

"ทะ ทำเองดีกว่า"
ผมตอบไม่เต็มเสียงนักแล้วกอดหมอนแน่นขึ้นไปอีก ความคิดกำลังตีกันอย่างหนัก ถ้าจะบอกว่าอยากลองก็คงไม่ผิดนักแต่ก็กลัวว่าจะโดนกล่าวหาเป็นคนใจง่าย

"มึงมีอารมณ์เพราะใครคิส"
ผมชะงักก่อนจะช้อนตามองคนตรงหน้า พี่จีบใช้สายตาจริงจังมองมา จะให้ตอบกันโต้งๆจริงๆเหรอวะ

"ถามอะไรวะเนี่ย ไม่คิดว่าคนตอบจะอายบ้างหรือไง"
เสียงอู้อี้ดังขึ้นเพราะเอาหน้าซุกหมอนเหลือแค่ดวงตาที่โผล่พ้นออกมา พี่จีบถอนหายใจเบาๆก่อนจะใช้มือเกลี่ยเส้นผมที่ปรกลงมาตรงหน้าของผมออกให้ เผลอกลั้นหายใจเพราะความอ่อนโยนที่ได้รับอีกแล้ว

"มันเรื่องธรรมชาติ มึงมีอารมณ์เพราะกูใช่ไหม ให้กูช่วยก็จบเรื่อง"

"ตะ แต่ว่า..."

"เชื่อใจกูไหมคิส"

"คือ..."
คำถามนี้มีคำตอบของมันอยู่แล้ว แต่ไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะเผลอเรียกร้องอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า ถ้าหากอารมณ์มันควบคุมไม่อยู่ ผมเม้มปากแน่นและไม่ได้ตอบอะไรเขาออกไปนานพอตัว พี่จีบเลยผละตัวออกแล้วหลับตาลงช้าๆก่อนจะลืมขึ้นมาใหม่คล้ายกำลังพยายามทำจิตใจให้สงบ

"ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปนอนโซฟาข้างล่างแล้วกัน"
พี่จีบว่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหอบเอาหมอนและผ้าห่มเดินไปที่ประตู ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าไม่เชื่อใจกันก็เลยรีบเดินไปสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง พี่จีบชะงักไปเล็กน้อยแล้วหันมามองกัน

"พี่จีบ...ชะ ช่วยผมหน่อย"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะก้มหน้าลงจนคางเกือบชิดอก ไม่อยากมอง ไม่อยากสบตากับเขาในตอนนี้เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังจะละลาย แข็งขาแทบจะไร้เรี่ยวแรงเมื่อพี่จีบปล่อยหมอนและผ้าห่มให้ตกลงที่พื้นและใช้สองมือรวบเข้าที่เอวสอบของผม

"ขอบคุณที่เชื่อใจ"
เสียงกระซิบข้างใบหูทำให้ผมขนลุกซู่ ลิ้นเปียกชื้นกำลังไล่เลียไปตามใบหูจนผมเผลอร้องครางออกมา น่าอายที่สุด อายจนต้องซุกหน้าเข้ากลับอกแกร่ง

"อะ อือ"
มือใหญ่กำลังสอดแทรกเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบาง มันไล่วนบีบเค้นส่วนเอวจนเผลอบดเบียดลำตัวเข้าหา ความเสียวซ่านกำลังแล่นริ้วไปตามทุกส่วนของร่างกายเมื่อพี่จีบใช้ปากขบเม้มซอกคอกัน

"ไปที่เตียงนะ"
เขาพูดก่อนจะดันผมให้เดินถอยหลังไปที่เตียง เมื่อร่างของผมนอนลงพี่จีบก็ขึ้นมาตร่อมกันอย่างไม่รอช้า ผมหลับตาปี๋เพราะไม่กล้าสบตามองเขาในเวลานี้ มันเป็นเรื่องน่าอายมากๆ

"หลับตาทำไม ไม่อยากเห็นหน้ากูเหรอ"
เสียงพูดหยอกเย้าทำให้ผมเม้มปากแน่น รู้หรอกว่าไม่ได้ต้องการคำตอบเพราะเสื้อยืดของผมถูกถอดออกไปแล้วก่อนที่มือหนาจะถูกส่งมาลูบไล้และเค้นคลึงหน้าอกอย่างเมามัน ลิ้นร้อนตวัดไล่เลียลงมาบนยอดอกจนผมลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ ความวาบหวามกำลังเกิดขึ้นอย่างห้ามไม่ได้เมื่อปากหยักทั้งเม้มทั้งดูดยอดอกอย่างเพลิดเพลิน

"อะ อ่า อื้อ"
เสียงครางน่าอายยังดังเป็นระยะจนต้องยกมือขึ้นปิดปาก พี่จีบกระตุกยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้ว่าอะไร เขายังคงทำหน้าที่ปรนเปรอจนผมหัวสมองขาวโพลน รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่ร่างกายเปลือยเปล่าหมดแล้ว สัมผัสอ่อนโยนที่กอบกุมน้องชายของผมทำใจหัวใจเต้นระรัว ยามที่มันเคลื่อนไหวยิ่งทำให้ขนอ่อนในกายลุกชัน ยอมรับได้เต็มปากว่าดีกว่ามือตัวเองเป็นไหนๆ

"พะ พี่จีบ เสียว"

"อืม... คิสมึงอย่าพูดแบบนั้น มันเหมือนกำลังยั่ว"
พี่จีบกัดฟันพูดอย่างข่มอารมณ์ ผมเม้มปากแน่นเพราะกลัวจะทำให้อีกฝ่ายทรมานกว่าเดิม มือใหญ่ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี เป็นผมเองที่เผลอแอ่นหายรับสัมผัสได้อย่างหน้าอาย หมอนถูกดึงมาใช้ปิดปากอีกครั้งเพื่อกลั้นเสียงครางของตัวเอง แต่ดูเหมือนมันจะไร้ความหมายเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน

"อะ อ๊า ระ เร็วหน่อย"
ผมร้องขอเมื่อรู้สึกถึงความอึดอัดที่กำลังจะพวยพลุ่งออกมา ดวงตากลมปรือช่ำเยิ้มมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างหลงใหล คนที่อยู่ด้วยกันตอนนี้ มอบความสุขให้กันตอนนี้คือคนที่ผมรักเขาหมดหัวใจ เผลอไผลไปกับความอ่อนโยนจนถอนตัวไม่ขึ้น ถ้าวันหนึ่งผมเสพติดเขาอย่าได้สงสัยกันเลยนะ

"คิส...มึงกำลังแกล้งกูนะ"
พี่จีบเม้มปากแน่นก่อนที่มือจะหยุดทำหน้าที่ลง ผมขมวดคิ้วมองเพราะไม่เข้าใจว่าไปแกล้งแฟนตัวเองตอนไหน

"หือ กะ แกล้งอะไรครับ"

"ร้องขอกันแบบนั้นมันยั่วชัดๆ"

"อือ... ให้ผม ช่วยพี่ไหม"

"แน่ใจเหรอ"

"อื้อ"
ผมตอบก่อนจะควานมือสะเปะสะปะไปปลดกางเกงอีกฝ่ายออกอย่างเก้ๆกังๆ จะไม่มีการเอาเปรียบกันเกิดขึ้น ทำมาทำกลับแฟร์ๆ... แต่ถ้าเสียบมาไม่เสียบกลับนะเว้ย

"อืม"
เสียงครางต่ำทำให้ผมมือสั่นเล็กน้อย สายตาประจักต่อน้องชายของพี่จีบที่มีใหญ่กว่าของผมมาก.. มือเรียวกอบกุมมันอย่างแผ่วเบาแล้วค่อยๆขยับช้าๆ ใบหน้าหล่อจ้องมองมาที่ผมด้วยดวงตาหวานเยิ้ม เราประสานสายตามองกันยามที่ส่วนล่างถูกรวบเข้าหากันด้วยมือของผม เรื่องความอายขอเก็บเข้าลิ้นชักก่อนแล้วกันตอนนี้

มือเรียวขยับรูดรั้งน้องชายของเราที่แนบชิดกันอย่างรวดเร็ว เสียงครางต่ำสลับกับเสียงครางหวานดังระงมจนเสียงเครื่องปรับอากาศยังแพ้ เหงื่อกาฬผุดขึ้นตามไรผมทั้งๆที่อุณหภูมิต่ำมากแท้ๆ ความวาบหวามเสียวซ่านกำลังแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย เมื่อแตะถึงสวรรค์เสียงหอบหายใจก็ดังขึ้นประสานกันแทน

"ไม่คิดว่ามึงจะกล้าทำอะไรแบบนี้"
พี่จีบพูดขึ้นก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากแล้วเอื้อมมือหยิบทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำให้กัน ถ้าจะดูแลกันขนาดนี้จะไม่ให้ผมกลัวเผลอใจยอมพี่ง่ายๆได้ยังไงกันวะ

"ก็...มันน่าจะรู้สึกดีกว่าไม่ใช่เหรอ"
พูดเองก็อายเองว่ะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนแถมยังกล้าถึงขั้นให้น้องชายของเขากับของผมสัมผัสกัน ฮึก ไอ้คิสคงซึมซับความหื่นกามมาจากพี่จีบแล้วแน่ๆ

"อืม ดีสุดๆเลยล่ะ"
เขาพูดก่อนจะจัดการใส่เสื้อผ้ากลับให้ผมและจัดการใส่ให้ตัวเอง เห็นแบบนี้ก็อดเขินจนต้องเอามือปิดหน้าไม่ได้ กำลังโดนมอบความรักความเอาใจใส่แบบนี้ ไม่ค่อยชินเลย

"นอนพักเถอะ"
พี่จีบทิ้งตัวลงนอนข้างๆกันก่อนริมฝีปากนุ่มจะประทับลงมาตรงตำแหน่งเดียวกันแล้วผละออกช้าๆ

"อื้อ"
ผมตอบรับก่อนจะดึงหมอนมาหนุนให้ดีๆและดึงพี่จีบมานอนด้วยกัน ดูเหมือนเขาจะตกใจนิดหน่อยที่อยู่ๆผมก็ให้เขามานอนเบียดบนหมอนใบเดียวกัน

"กอดหน่อยนะ"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะซุกหน้าลงกับอกแกร่งแล้วปิดเปลือกตาลงด้วยความอ่อนล้า กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาทำให้ผมผ่อนคลายและเคลิ้มหลับไปในที่สุดโดยไม่ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เขาพูด

"โคตรน่ารักเลยว่ะ"

ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อแสงแดดแทรกผ่านรอยแยกของผ่านม่านเข้ามา ดวงตากลมปรือปรอยยังไม่พร้อมต่อสู้กับยาวเช้าเท่าไหร่ แต่พอปรับโฟกัสได้ก็ร้องโวยวายดังลั่นเพราะไอ้พี่จีบคร่อมกันอยู่

"เฮ้ย ทำอะไรของพี่เนี่ย"
ผมใช้มือสองข้างดันหน้าอกแกร่งที่กำลังเคลื่อนมาใกล้ สายตาหื่นกามส่งมาให้กันอย่างไม่ปิดบังจนผมเริ่มหวั่นใจ หรือว่ามันอารมณ์ค้างจากเมื่อคืนวะ

"ไปสนามหลวงกัน"
น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้นจนผมเผลอกลั้นหายใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆถึงโดนชวนไปสนามหลวงด้วยน้ำเสียงกระเส่าแบบนั้นวะ

"ปะ ไปทำไมพี่"
ผมถามเสียงตะกุกตะกัก ดวงตากลมเสมองไปทางอื่นไม่กล้าสบกับคนที่มองจ้องกันราวกับจะกลืนกิน

"ไป..."
เขาพูดแค่นั้นก่อนจะใช้มือหนาลูบไล่ไปตามแก้มของผมอย่างแผ่วเบา ขนในกายลุกชันอย่างห้ามไม่ได้เมื่อรู้สึกวูบไหวตรงช่วงท้องน้อย เช้าๆของแม่งก็ขึ้นอยู่แล้วยิ่งอยู่ในสภาพล่อแหลมแบบนี้จะให้ทำยังไงวะ

"ไป...อะไร พูดให้จบดิวะ"
ผมเหลือบมองพี่จีบด้วยหางตายังคงเห็นเขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้กัน มือใหญ่ไล่ลงต่ำจนถึงหน้าท้องแบนราบอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมเผลอเกร็งตัวและกลั้นหายใจ ไม่เอานะเว้ย กลัวจะเสียตัวตอนนี้

"ไปเล่นว่าว"
น้ำเสียงดูหนักแน่นจนผมเบิกตากว้าง ไอ้พี่จีบ...แม่ง! เล่นว่าวมันนี่ไม่ใช่ความหมายตรงตัวแน่ๆ เพราะสายตาที่มองมามันบ่งบอกว่าเป็นความหมายในเชิงอย่างว่า

"ไปพี่จีบ แม่ง หื่นกามแต่เช้าเลยนะ!"
ผมทุบอกมันรัวๆก่อนที่เสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากจะดังขึ้น มือสองข้างถูกรวบไว้แน่นก่อนจมูกโด่งจะกดลงมาที่แก้มของผมอย่างฉวยโอกาส ฮึ่ย

"แกล้งมึงแล้วมีความสุขว่ะ"

"โอย ไอ้บ้า ลุกออกไปเลยนะ"
ผมใช้เข่ากระทุ้งท้องมันเบาๆเป็นสัญญาณให้ลุกออกไปได้แล้ว ดวงตาคมจ้องมองกันสักพักก่อนจะพยักหน้ารับแล้วเคลื่อนตัวออกไปนั่งลงข้างๆ ผมรีบยันตัวลุกขึ้นนั่งทันทีเพราะกลัวว่าจะโดนแกล้งอีกซ้ำสอง

"ไปอาบน้ำไป จะได้ลงไปกินข้าว พี่ดีพมาตามแล้ว"
พี่จีบพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะดันตัวผมให้ลุกขึ้นจากเตียง ความขี้เกียจมีอยู่สูงจนต้องเลื้อยตัวไปนอนตักเขา

"ขี้เกียจอ่ะ ยังอยากนอนต่ออยู่เลย"
พูดจบก็ใช้แก้มถูไถกับต้นขาของคนที่เป็นหมอนหนุนพิเศษในตอนนี้ เขาดูจะนิ่งไปจนผมแปลกใจ ดวงตากลมช้อนมองใบหน้าคมที่ก้มลงมามองกันอยู่ก่อนแล้ว

"ขี้อ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
มือหนายกขึ้นลูบหัวเบาๆอย่างอ่อนโยน ผมหลับตาพริ้มรับสัมผัสนั้นโดยไม่ปัดป้อง ชอบเวลาพี่เขาทำแบบนี้ถึงบางครั้งจะรู้สึกว่ามันชอบแกล้งทำให้หัวผมยุ่งก็เถอะนะ

"เปล่าสักหน่อย แค่ง่วง"
ผมตอบเสียงอู้อี้เพราะจมูกฝังอยู่บนต้นขาอีกคน การกระทำช่างสวนทางกับคำพูดเป็นไหนๆ ก็ขี้อ้อนเฉพาะกับพี่จีบล่ะวะแต่ไม่อยากบอกให้รู้ตัวก็แค่นั้นเอง

"นอนกินบ้านกินเมืองนะมึง"

"ไม่เอาอ่ะ กินพี่จีบแทนได้ป่ะครับ"
ผมหยอดมุกดูบ้าง เป็นคนโดนบ่อยๆเลยอยากรู้ว่าเป็นคนหยอดจะรู้สึกยังไง แต่เหมือนจะเล่นแรงไปล่ะมั้งเพราะพี่จีบหน้าแดงเถือกลามไปถึงหูในเวลาแค่ไม่กี่วินาที ปากหยักเม้มเข้าหากันแน่น มือหนาที่คอยลูบหัวกันกลับหยุดชะงัก ผมลอบยิ้มอย่างมีชัย ในที่สุดก็สามารถทำให้เขาเขินได้ เย่!

"ไอ้คิส... มึงแกล้งกู"
สุดท้ายก็โดยรู้ทันจนถูกจับฟัดจนหอบตัวโยน พอได้ช่องทางการหนีเลยวิ่งเข้าห้องน้ำทันที

หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็พากันลงไปชั้นล่าง เจอเข้ากับพี่ดีพที่กำลังตักไข่ดาวใส่ปากอยู่ ส่วนไอ้ภีมกำลังดื่มนม ดวงตาสองคู่จับจ้องมาที่ผมกับพี่จีบด้วยความใคร่รู้ เสียวสันหลังแปลกๆว่ะ

"มองอะไรกันวะ"
ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่ดีพในขณะที่พี่จีบก็นั่งลงข้างไอ้ภีม  ทั้งสองหันมองหน้ากันเลิ่กลักก่อนจะตั้งคำถามที่ทำให้ผมสำลักอากาศโดยทันที

"เมื่อคืนมึงทำอะไรกันวะ เสียงดัง"

"แค่กๆ"
ผมสำลักทันทีเมื่อได้ยินคำถาม ไอ้พี่ดีพตัวต้นเหตุเลยรีบวางส้อมในมือลงแล้วช่วยลูบหลังกัน พี่จีบเบิกตาโพลงแต่ก็เก็บอาการตกใจไว้เป็นอย่างดีต่างจ่กผมที่มีพิรุธตลอด

"ถามแค่นี้ทำไมต้องสำลักด้วยวะ ก็ไอ้ภีมมันบอกว่าพวกมึงเสียงดัง กลัวกูนอนไม่หลับเลยเอาหูฟังมายัดแล้วเปิดเพลงกรอก"
ผมหันขวับไปมองไอ้ภีมที่ก้มหน้าก้มตาหันไส้กรอกใส่ปากอย่างสบายอารมณ์ มันเหลือบตามองกันเล็กน้อยก่อนจะยักคิ้วให้... ฉิบหายบรรลัยก็คราวนี้ล่ะ ไอ้ภีมต้องรู้แน่ๆว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่มันคงโกหกไอ้พี่ดีพไป ไอ้พี่จีบแม่งก็เนียนได้อีกนั่งกินไม่พูดไม่จา

"เอ่อ...ทะเลาะแย่งเล่นเกมกันนิดหน่อยอ่ะพี่ดีพ ไม่มีอะไรหรอก"
ผมว่าก่อนจะหันไปยิ้มแฉ่งให้พี่ชาย มันมองนิ่งๆก่อนจะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ความสงสัยของมันมีไม่มากหรอก จะโกหกมันก็ไม่สนเพราะมันไม่ได้รู้ด้วยตัวเอง

"เสียงดัง 'โวยวาย' สุดๆ"
ไอ้ภีมหันมาพูดกับผมโดยเน้นคำว่า 'โวยวาย' ซึ่งทำให้รู้สึกสะเทือนใจแปลกๆ ผมหลบสายตามันก่อนจะจ้วงอาหารใส่ปากแบบไม่สนใจใครไปเงียบๆ ไม่ไหวจริงๆที่มีเพื่อนหูดีและรู้ทันกันไปทุกเรื่องขนาดนี้

หลังจากกินอาหารเช้าเรียบร้อยผมก็ออกจากบ้านมาพร้อมกับพี่จีบเพื่อไปร้านกาแฟด้วยกัน ช่วยแฟนทำงานคือหน้าที่ของแฟนที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ประเด็นหรอก จริงๆแล้วตอนเย็นพี่จีบบอกว่าจะพาไปกินอาหารเกาหลีที่ร้านเพื่อนพี่ไลค์ เห็นแก่กินล้วนๆ

รถจอดสนิทที่หน้าร้าน พี่ไลค์กำลังยืนก้มๆเงยๆเก็บอะไรอยู่ตรงนั้นพอดิบพอดี ผมก้าวลงจากรถก็พบเจอกับรอยยิ้มสว่างไสวของคนที่ไม่ได้เจอกันมาพักใหญ่

"สวัสดีครับพี่ไลค์"
ผมยกมือไหว้ก่อนจะคลี่ยิ้ม พี่ไลค์พยักหน้ารับแล้วเหลือบมองคนที่เพิ่งเดินมาหยุดข้างกัน

"แหม... หน้าตาสดชื่นเหมือนได้ปลดปล่อยเลยนะมึง"
เสียงเอ่ยแซวพร้อมกับยิ้มกรุ่มกริ่มที่ส่งมาให้ทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบ ตงิดๆกับคำว่าปลดปล่อยของพี่ไลค์ชะมัด พี่จีบไหวไหล่ก่อนจะเดินชนไหล่พี่ไลค์เข้าไปในร้าน

"ขอตัวนะครับพี่ไลค์"
ผมพูดจบก็สาวเท้าหนีพี่เขาทันทีก่อนจะโดนถามอะไรที่ส่อเสียดความหมายกำกวมแบบนั้น

ผมช่วยพี่จีบทำงานจนถึงช่วงเวลาหกโมงเย็น วันนี้ปิดร้านเร็วกว่าปกติเพราะต้องทำบัญชีรายเดือน พวกเราเลยได้โอกาสไปกินอาหารเกาหลีโดยทิ้งพี่ไลค์ให้ทำงานต่อไปคนเดียว นี่ล่ะน้องชายที่ดี... พี่จีบเขาบอกมาแบบนั้น

รถ BMW สีขาวกำลังแล่นตรงไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง การจราจรติดขัดจนเป็นอัมพาตพวกเราเลยเปลี่ยนแผนแค่ซื้ออะไรไปทำกินที่หอก็พอ ไม่ใช่ผมทำนะ เป็นพี่จีบต่างหากที่เสนอตัวทำ

"พี่ทำอาหารเป็นด้วยเหรอ"
ผมถามอย่างตื่นเต้น เพราะตัวเองทอดไข่เจียวไม่ไหม้ก็เป็นบุญมากแล้ว แต่ทอดได้ในที่นี้คือทอดกินคนเดียวนะไม่กล้าให้คนอื่นกิน

"เป็นดิวะ มึงทำไม่เป็นใช่ไหม"
เหมือนอยู่ด้วยกันมานับสิบปี รู้ทันไปหมดทุกเรื่องจนผมเผลอคิดไปว่ามีอะไรบ้างที่พี่เขาไม่รู้เกี่ยวกับตัวผมบ้างไหม พี่จีบเหล่สายตามองกัน

"แหะ ไม่เป็นครับ กินเป็นอย่างเดียว"
ผมยิ้มแห้งก่อนจะเกาท้ายทอยแก้เขิน อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย การที่เกิดมาเป็นน้องคนเล็กของบ้านใครๆก็ต่างเอาใจเลยทำให้ผมไม่ขวนขวายจะเรียนรู้การทำอาหารสักเท่าไหร่ อยู่หอก็มีพี่ดีพทำให้กิน ตอนอยู่คนเดียวก็ฝากท้องไว้กับร้านข้าวตรงข้ามหอพัก สะดวกสบายคลายกังวลจะตาย

"มึงนี่ ไม่มีคุณสมบัติของศรีภรรยาเลยนะ"
พี่จีบขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินนำไปทางแผนกของสด ลืมบอกไปว่าตอนนี้เราอยู่ซุปเปอร์มาเก็ตแถวๆหอพักผมแล้ว มือหนาเลือกผักไปเรื่อยๆส่วนผมเดินวนไปวนมาเพราะช่วยอะไม่ได้

"พี่ๆ อยากกินบลูเบอร์รี่อ่ะ"
ผมชี้ไปทางชั้นวางบลูเบอร์รี่สดเป็นกล่องๆ พี่จีบขมวดคิ้วแน่นก่อนจะเอ่ยถามกัน

"มันเปรี้ยวมากนะ ไม่ได้หวานเหมือนแยม"

"หือ นึกว่ามันจะหวานซะอีก ถ้างั้นไม่กินแล้ว"
ผมไม่ค่อยชอบของเปรี้ยวสักเท่าไหร่เลยขอบายดีกว่า พี่จีบพยักหน้าเล็กน้อยก้อนจะเดินนำไปส่วนที่ขายเนื้อสัตว์ ผมเดินตามไปติดๆแล้วยืนมองพวกบรรดาไส้กรอกในตู้แช่ อยากกินอ่ะ

"พี่จีบจะทำเมนูอะไรนะ"
ผมถามแต่ตายังไม่ละออกจากไส้กรอกพวกนั้น

"จะทำแกงจืดวุ้นเส้นหมูสับกับปลาสามรส"
เขาตอบก่อนจะหันกลับไปเลือกซื้อหมูกับปลาต่อ ผมช่างใจอยู่สักพักแล้วสะกิดต้นแขนแกร่งเบาๆ

"พี่จีบๆ ผมซื้อไส้กรอกได้ป่ะ อยากกินอ่ะ"
พี่จีบหันมาเลิกคิ้วมองกันก่อนจะพยักหน้า ผมคลี่ยิ้มกว้างแล้วสั่งพนักงานทันที เมื่อได้รับของมายิ่งยิ้มหน้าบานมากขึ้นไปอีก มีคนทอดไส้กรอกให้กินแล้วเว้ย ซื้อไปทีไรได้แต่ใส่ไมโครเวฟ เพราะทอดทีไรไหม้เกรียมทุกที

"พี่ทอดให้ผมกินด้วยนะ!"

"อ่าว นึกว่าจะเอาไปเวฟกิน"

"ไม่ อยากกินไส้กรอกทอด ทำให้หน่อยนะครับนะ"
ผมเข้าไปเกาะแขนพร้อมกับทำน้ำเสียงออดอ้อนโดยลืมไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่บ้านเลยโดนสายตาอยากรู้อยากเห็นของคุณป้าพนักงานขายหมูมองมายิ้มๆ เธอส่งของให้กับพี่จีบก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้น

"น้องชายเหรอคะ น่ารักจังเลย"
เขาถามพี่จีบก่อนจะมองมาที่ผมแล้วส่งยิ้มหวานมาให้ อยากจะถามออกไปว่าเราสองคนหน้าเหมือนกันตรงไหน นั่นเทวดาส่วนนี่หมาวัดชัดๆ

"ไม่ใช่น้องชายครับ แฟนผมเอง"
พี่จีบตอบก่อนจะคลี่ยิ้มส่งให้คุณป้าที่ช็อกไปแล้ว เขาลากผมเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบในขณะที่ผมไม่สามารถหุบปากตัวเองลงได้ อะไรจะกล้าบอกคนอื่นมาเราเป็นอะไรกันได้ขนาดนั้นวะ เขินนะเว้ย

"พะ พี่จีบ บอกคนอื่นไปแบบนั้นพี่ไม่อายเหรอ"
ผมถามเสียงอ้อมแอ้ม มือเรียวยังคงโดยพี่จีบจับเอาไว้อย่างแน่นหนาและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย เขายังคงเดินไปเรื่อยๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้มจนผมเผลอเม้มปาก

"อายทำไมวะ มีแฟนน่ารักขนาดนี้"
ขอตัวไประเบิดก่อนนะ... จีบติดแล้วไม่จำเป็นต้องหยอดกันแล้วมั้งคุณ!

มื้ออาหารเย็นวันนี้เป็นอะไรที่พิเศษมาก เพราะพ่อครัวน่ารัก อาหารอร่อย แถมยังเอาใจด้วยการตักนั่นตักนี่ให้ตบอดมื้ออาหาร แถมด้วยบริการหลังการขายที่ว่า 'อยากกินอะไรเป็นพิเศษก็บอก จะทำให้กิน' มีแฟนดีเป็นศรีแก่ตัวจริงๆ แต่สำหรับวันนี้ค่าตอบแทนเรื่องอาหารคือพี่จีบจะนอนค้างกับผม และตอนนี้ก็พร้อมจะนอนแล้วด้วย

"วันมะรืนอยากไปไหนหรือเปล่า กูว่างนะ"
พี่จีบบอกในขณะที่ลูบหัวผมเล่นอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ดวงตากลมช้อนมองใบหน้าหล่อเหลาแล้วใช้ความคิดอยู่สักพักจนได้คำตอบ

"อยากไปคาเฟ่สัตว์"

"สัตว์อะไรล่ะ หมา แมว กระต่าย แรคคูน หมาจิ้งจอก"
ผมถึงกับชะงักไปเมื่อไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี มีแต่สัตว์น่าสนใจทั้งนั้น

"ถ้าคิดออกแล้วจะบอกนะพี่ นอนกันเถอะ ผมง่วงแล้ว"
ผมบอกก่อนจะซุกตัวลงกับอกแกร่ง ไม่อยากบอกเท่าไหร่มาตอนนี้โดยพี่จีบกอดอยู่... จากที่เคยเป็นคนไม่ชอบนอนกอดใคร ตอนนี้กลับรู้สึกดีที่มีเขาคอยกอดกัน อบอุ่นจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ออกเลยว่ะ

"โอเค ฝันดีครับ"
จุมพิตแผ่วเบาประทับลงมาบนหน้าผากก่อนเปลือกตาจะปิดลงแล้วดึงผมจมลงสู่นิทราแสนหวาน





-------------------------------------------------------



Q & A

Q : คิสน่ารักไหม?
A : ถามถึงตอนไหนกันครับ?
Q : ก็.... เรื่องคืนนั้น ~
A : ทะลึ่งนะครับ /เหล่มอง ของแบบนี้เขาเก็บไว้รู้กันแค่สองคนนะ จุ๊ๆ
Q : T^T




เป็นไงกันบ้าง ตอนนี้เบาๆเนอะ ' ' เบาตัวน่ะ 555555555555
พี่จีบมันจะเป็นคนตรงๆเกินไปแล้ว ตรงจนหน้าด้านแล้วเนี่ย
ส่วนน้องคิสก็เริ่มติดความลามกมาจากแฟนเต็มๆ มีอัตราเสี่ยงในการเสียตัวสูงากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 29-08-2016 17:06:32
อ๊ายยยย หน้าบาน เกือบไปแล้วลูกดีนะพี่จีบมีสติพอจะไม่หม่ำน้องเลย น่ารักมากคู่นี้ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 29-08-2016 17:11:53
พี่จีบน่ารักอ่ะ เป็นผู้ชายที่ดีครบสูตรมากๆ อยากได้
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 29-08-2016 17:19:50
อื้อหืออ มีการพัฒนาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 29-08-2016 17:33:09
น้องคิสอ้อนน่ารักไม่ไหวแล้ววววว

แต่มันดีต่อใจละเกินนนน เนอะพี่จีบเนอะ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 29-08-2016 17:59:36
ช่วยมาช่วยกลับไม่โกงงง จ้าาาา  ภีม หูดีไปนะ 555 ช่วยเพื่อนต่อหน้าพี่ แล้วจะไปล้อตอนหลังใช่มะ 555
คิสจะรอดไปได้อีกเท่าไหร่น้อ 555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 29-08-2016 18:11:46
น้องคิสอ้อนเยอะๆ
ชอบเวลาพี่จีบเขิน

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 29-08-2016 18:35:03
อ้อนเข้าไว้ อิพี่จีบมันจะหลงจนหัวปลักหัวปลำ55555555
เเกจะบ๊องไปไหน จะเเตะบอลตอนเที่ยงคืน นี้ท่ามีอารมณ์ตอนตี 2 ชวนพี่จีบไปวิ่งรอบสนามนะ  :z2:  :z2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 29-08-2016 18:40:45
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-08-2016 18:49:44
ทำดีมากจ้า ต้องช่วยๆกันสิจ๊ะเด็กๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-08-2016 19:37:18
น้องคิสขี้อ้อนจังแล้วแบบนี้พี่จีบจะหนีไปไหนพ้นเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-08-2016 20:08:48
 :L2: :pig4:
รักกันเบาๆ (ดิ)
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 29-08-2016 20:10:51
อร๋ายยยย เขาช่วยกัน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-08-2016 20:47:55
อิอิ ทำอารายกานนนนน
ร่วมด้วยช่วยกันออกกำลัง
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 29-08-2016 21:11:32
แหมๆ หวานกันเข้าไปนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-08-2016 21:35:27
 :-[ :-[ :-[ :-[ พี่จีบโดนน้องหยอดจนเขินหน้าแดง  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-08-2016 21:54:21
โอ๊ยยยยยยยยยย หวานเกิ๊นนนนนนน น่ารักอ่ะ ยิ้มจนปวดแก้มล่ะ
คิสอ้อนบ่อยๆ พี่จีบจะไปไหนได้ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 29-08-2016 22:01:55
 :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 29-08-2016 22:02:16
 :impress2: :mew3: :-[ :o8:
น้องคิสอ้อนนนนนนๆๆๆคิคิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 29-08-2016 22:14:15
หวานละมุนละไมมากกกกก :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 29-08-2016 23:17:37
พี่จีบว่าน้องยั่ว แต่พี่จีบนั่นล่ะที่ล่อลวงน้องคิส ใช่มั้ย ตอบ!!!!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-08-2016 23:43:20
อ่อยยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 30-08-2016 15:21:48
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 24 -P.14- (29.08.59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 31-08-2016 22:33:14
คิสหนูจะน่ารักเกินไปแล้ว  :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 01-09-2016 17:00:17
- ดื่มครั้งที่ 25 -




เช้าวันอาทิตย์ที่มีอากาศร้อนอบอ้าวทั้งๆที่อยู่ในเดือนมกราคมก่อนเปิดภาคเรียนที่สอง แต่ละภูมิภาคของประเทศช่างลำเอียงเหลือเกิน ถ้าเลือกได้ก็อยากกลับขึ้นไปเชียงรายสัมผัสความหนาวเย็นอีกสักครั้ง ผมขยี้ตาเพราะไม่สามารถสู้แสงแดดที่ลอดผ่านรอยแยกผ้าม่านเข้ามา มืออีกข้างควานสะเปะสะปะหาคนที่นอนด้านข้างเมื่อคืนนี้แต่กลับพบแค่ความว่างเปล่า

ผมลืมตาขึ้นแทบจะทันทีแล้วมองไปรอบๆห้องอย่างตื่นตกใจ ก็ไหนวันนี้บอกจะพาไปคาเฟ่สัตว์ยังไงล่ะวะ ทำไมมาหายตัวไปตั้งแต่เช้าแบบนี้

"เป็นอะไรของมึง ทำหน้าตลกว่ะ"
ผมหันขวับไปตามเสียงที่ได้ยินแล้วพบกับพี่จีบที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวปิดบังส่วนล่างไว้ กล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนสวยจนผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สัมผัสเมื่อวันวานยังติดตรึงอยู่ที่ปลายนิ้วจนรู้สึกว่าแก้มร้อนวูบวาบขึ้นมา ผมเบนสายตาหนีก่อนจะดึงหมอนขึ้นมานั่งกอดเพื่อแก้เขิน

"ก็...ตื่นมาไม่เจอ นึกว่าหายไปไหน"
ผมพูดเสียงอู้อี้กับหมอน ดวงตากลมกรอกไปมาอย่างหวาดระแวงกลัวอีกคนจะจับได้ว่าเมื่อครู่เผลอจ้องอะไรไป แต่เหมือนอีกคนจะรู้เลยจงใจเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงตรงหน้าของผมแบบพอดิบพอดี

"ทำไม กลัวกูทิ้งเหรอ"
คำถามแทงใจดำทำให้ผมตวัดสายตามองจ้องเขม็งใบหน้าหล่อเหลาทันที พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อผมย่นจมูกใส่เขาไป

"กล้าทิ้งเหรอวะ"
ไม่ตอบแต่ตั้งคำถามกลับไปจนโดนพี่จีบใช้มือขยี้หัวไปมาจนยุ่งเหยิงกว่าเก่าหลายเท่าตัว ผมปัดมือเขาออกอย่างไปจริงจังนักก่อนจะเบะปากใส่ พี่จีบหัวเราะเบาๆออกมาแล้วใช้มือจับแก้มทั้งสองข้างบังคับให้มองสบตากัน

"ใครจะไปกล้าทิ้งเด็กโง่วะ ทิ้งไปคงเป็นภาระให้คนอื่น สู้ดูแลเองยังดีกว่า"
พี่จีบคลี่ยิ้มกว้างเมื่อพูดจบ ผมแทบจะกระโดดถีบเพราะคำพูดคำจาของเขากวนตีนเหลือเกิน แต่ไม่กล้าทำร้ายเลยแยกเขี้ยวขู่เหมือนหมาเด็กไปวันๆ

"แง่ง พูดงี้ต่อยกันไหมพี่ นี่แฟนนะเว้ย"
แล้วก็หลุดปากท้าต่อยคนตัวโตกว้างไปแบบไม่จริงจัง พี่จีบเบิกตากว้างมองจ้องก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นกลิ่นเปปเปอร์มินท์ ไม่อยากยอมรับว่าเผลอเคลิ้มไปนิดหน่อย

"เปลี่ยนจากต่อยเป็นจูบได้ไหม กูถนัดมากกว่า"
ผมผงะถอยหลังทันทีที่พี่จีบพูดจบ สองมือยกขึ้นปิดปากตัวเองแบบอัตโนมัติแล้วส่ายหน้ารัวๆ ฟันยังไม่ได้แปรงเลยเถอะ ขออายบ้างอะไรบ้างถึงจะบอกว่าไม่รังเกียจกันก็เถอะ

"ไม่เอา ออกไปเลย"
ผมพูดเสียงอู้อี้เพราะไม่ยอมเอามือออก พี่จีบยิ้มกริ่มก่อนจะก้มตัวลงมาประทับรอยจูบลงบนหลังมือกันแล้วผละออกไปแต่งตัวอย่างหน้าตาเฉย ปล่อยให้ผมนอนหอบหายใจแรงเพราะตื่นเต้นอยู่คนเดียว มือเรียวทิ้งลงข้างตัวอย่างอ่อนแรง แค่ถูกจู่โจมแบบเบาๆยังเป็นได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเราสองคนผ่านเรื่องคืนนั้นมาด้วยล่ะมั้ง แต่...ทำไมเป็นผมที่มีอาการเก้อเขินรุนแรงอยู่คนเดียวล่ะวะ ไม่ยุติธรรม!

"ลุกไปอาบน้ำดิ จะเขินอีกนานไหม"
เสียงทะเล้นดังมาจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง พี่จีบกำลังเซ็ตผมแต่งหล่ออยู่ตรงนั้น ซึ่งผมยังอยู่ในชุดนอนลายหมีขี้เกียจแขนยาวขายาวอยู่เลย

"ใครเขินอะไรวะ มั่ว!"
ผมปาหมอนใส่มันแล้วรีบลุกจากเตียงเดินไปรื้อเสื้อผ้าที่ต้องการออกจากตู้ ไม่นานนักก็รู้สึกว่ามีเงาสีดำมาทาบทับอยู่ด้านหลัง อกแกร่งปะทะเข้ากับแผ่นหลังบางจนเซไปด้านหน้าเล็กน้อย ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะใช้ศอกกระทุ้งท้องคนด้านหลังเบาๆเพราะหมั่นไส้

"มายืนอะไรตรงนี้เนี่ย ถอยออกไปเลย"
ผมบ่นงุ้งงิ้งก่อนจะรื้อเสื้อผ้าต่อแต่คนด้านหลังกลับเอื้อมมือมาจับกันไว้แล้วหมุนตัวผมให้กลับไปเผชิญหน้ากับถุงเสื้อผ้าที่พี่จีบถืออยู่ ผมเห็นเสื้อฮู้ดสีเหลืองนอนอยู่ก้นถุง ไม่แน่ใจนักว่าเขาไปซื้อมาตอนไหน

"ใส่นี่ กูฝากเพื่อนซื้อมาจากญี่ปุ่น"
ถุงตรงหน้าถูกยัดใส่มืออย่างรวดเร็วก่อนที่เจ้าของมันจะเดินผิวปากเข้าไปในห้องครัว ผมมองตามไปด้วยความงงก่อนจะหยิบเสื้อออกมาจากถุงแล้วคลี่ออกดู ดวงตากลมเบิกค้างก่อนจะอ้าปากตะโกนใส่คนที่ยืนดื่มนมอยู่ตรงกรอบประตูครัว

"เสื้อฮู้ดปิกาจูเนี่ยนะพี่ เห็นผมกี่ขวบวะ!"
ผมเหวเสียงดังพลิกเสื้อในมือไปมาแล้วเดินตรงไปหาคนที่กำลังดื่มนมอย่างสบายใจ แก้วเปล่าถูกลดต่ำเผยให้เห็นเขากำลังยิ้มอย่างสนุกสนาน

"เหมาะกันดีนี่ มึงใส่คงน่ารัก"
มือใหญ่วางลงบนหัวก่อนจะโยกเบาๆ ผมเม้มปากแน่นเมื่อโดนชมกันแบบโต้งๆ ไม่เคยชอบของมุ้งมิ้งน่ารักแบบนี้เลยในชีวิต วันนี้ยอมพี่จีบวันนึงก็ได้วะ เห็นว่าตั้งใจฝากเพื่อนซื้อมาจากญี่ปุ่นหรอกนะ

"เออๆ ใส่ก็ใส่ ไปอาบน้ำแล้วนะ"
ผมบอกทิ้งท้ายแล้วรีบหอบเสื้อผ้ารวมทั้งผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ยี่สิบนาทีให้หลังก็ออกจากห้องน้ำด้วยอาการเคอะเขินเล็กน้อยเพราะเห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วไม่ค่อยชินเท่าไหร่ บนหมวกฮู้ดมีเขาหรือหูของปิกาจูอยู่ด้วย ส่วนด้านหลังชายเสื้อมีหางเช่นกัน

ผมมองไปรอบๆห้องกลับไม่เห็นแฟนของตัวเองอยู่ในห้อง คงจะลงไปซื้ออะไรมาให้กินอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ผมหย่อนตัวลงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา เสียบปลั๊กเสร็จสรรพเตรียมจะเปิดเครื่องแล้วต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ทาบทับลงมาจับไว้ ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเจอพี่จีบยืนค้ำหัวกัน... กลับเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง ถ้าเป็นเวลากลางคืนเขาคงหัวใจวายตายนึกว่าโดนผีหลอกไปแล้ว

"โผล่มาเงียบๆตกใจนะพี่"
ผมว่าก่อนจะย่นจมูกใส่คนด้านหลัง พี่จีบก้มหน้าลงมากดจมูกลงกลางกระหม่อมก่อนจะใช้มือขยี้เบาๆ การกระทำเมื่อครู่ทำให้ผมต้องหลบตาแทบจะทันทีแต่ก็หนีไม่พ้นเพราะโดนสบตาจากทางกระจกอีกครั้ง ถ้าจะหนีครั้งนี้คงต้องก้มหน้าก้มตาแล้วล่ะ

"มึงไม่ระวังตัวเองนะคิส โทษกูไม่ได้"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากก่อนจะลงมือเป่าผมให้กัน ความร้อนจากเครื่องทำให้ผมหดคอหนีเป็นครั้งคราวเพราะแสบต้นคอแต่ก็ได้มือใหญ่คอยลูบเบาๆคลายร้อนให้ หัวใจกำลังเต้นตึกตักอย่างไม่เคยชินกับความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้สักที ถึงจะเป็นแฟนกันแล้วก็เถอะ ไม่เคยเลิกเขินได้เลย

"รู้ได้ไง ผมระวังตัวนะ"
ผมบุ้ยปากก่อนจะเสมองไปทางอื่นเมื่อโดนสายจาคมจ้องมองมาอย่างกับถามว่ามึงระวังตัวตอนไหน

"ยังไง"
คนด้านหลังถามซ้ำ ผมเม้มปากแน่นไม่รู้ว่าควรตอบอย่างที่ตัวเองคิดออกไปหรือเปล่า ถ้าตอบไปจะโดนหัวเราะใส่ไหม ก็ความคิดของเขามันเด็กมาก

"เอ้า เงียบทำไม ถามก็ตอบสิ"
พี่จีบหยุดเป่าผมแล้วเดินมาอยู่ข้างๆก่อนจะใช้มือจับไหล่บังคับให้หันไปมองกัน ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากนิดๆอย่างชั่งใจก่อนจะตอบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

"ระวังตัวไม่ให้พี่ปล้ำ"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะมุดลอดใต้วงแขนของเขาหนีออกมา พี่จีบไม่ได้ตามมาในทันทีเพราะเอาแต่ยืนอึ้งกับคำตอบ แต่ไม่นานนักร่างสูงก็หัวเราะก่อนจะเดินเขามาหาผมที่หย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะอาหาร

"แน่ใจว่าระวังตัวแล้วเหรอ"
เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูจนผมสะดุ้งแล้วหันไป ปลายจมูกของเราเผลอชนกันและผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประทับลงมาก่อนจะผละออก คนขโมยจูบได้สำเร็จยิ้มกริ่มแล้วพาตัวเองไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามอย่างสบายอารมณ์

"พี่จีบฉวยโอกาสตลอด"
ถึงจะว่าไปแบบนั้นแต่ไม่สามารถกลั้นยิ้มได้เลยจนต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้ อีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยแซวอะไรเรื่องที่ผมเขิน แต่กลับพูดอีกประโยคที่ทำให้ผมยิ้มแก้มแทบแตก

"ถ้ากูจะปล้ำ กูได้มึงเป็นเมียไปนานแล้วคิส ที่มึงยังอยู่รอดทุกวันนี้เพราะกูรักมึง อยากให้มึงเต็มใจเป็นของกูเองแบบไม่ต้องบังคับ เพราะฉะนั้นมึงไม่จำเป็นต้องระวังตัวจากกูเลย"
สายตาจริงจังถูกส่งมาให้กันจนผมลดมือที่ปิดปากลงแล้วส่งยิ้มกว้างให้เขา ผมลุกขึ้นยืดตัวไปด้านหน้าแล้วฝังจมูกลงบนแก้มกร้านไวๆแล้วกลับมานั่งที่เดิม

"รักพี่จีบนะ"
ผมเอ่ยเสียงเบาแล้วลงมือรื้อถุงของกินตรงหน้าแก้อาการเขิน ยิ่งคนตรงหน้าเงียบมากเท่าไหร่ความเขินก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีก มือไม้ที่รื้อของอยู่ก็สั้นอย่างกับเจ้าเข้า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าของที่รื้ออยู่มีอะไรบ้าง

"ชอบที่มึงบอกรักว่ะ ฟังแล้วมีความสุข"
พี่จีบคลี่ยิ้มละมุนส่งให้กัน มือใหญ่วางลงบนมือผมที่หยุดชะงักการรื้อถุง เขาบีบเบาๆเป็นสัญญาณให้มองหน้ากัน ผมเม้มปากแน่นก่อนจะช้อนตามอง หัวใจเต้นตึกตักเมื่อเราสบตากัน

"อื้อ มีความสุขเหมือนกันล่ะน่า กินข้าวได้แล้วครับ หิว"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะดึงมือตัวเองออกมาหยิบของกินออกจากถุง พี่จีบหัวเราะเบาๆแล้วยิงมุกใส่อีกรอบ

"ไม่มีข้าวนะ กูซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหูมาให้"

"เออ กินๆเลย ไม่เล่นแล้ว"
ผมก้มหน้าก้มตาหยิบปาท่องโก๋ขึ้นมากำลังจะจับมันแยกออกจากกัน แต่พี่จีบจับข้อมือผมเอาไว้ก่อน คิ้วขมวดมุ่นมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย หิวจะตายอยู่แล้วนะเว้ย

"อยากแยกมันดิ จะกินก็กินเข้าไปทั้งชิ้นเลย"

"หา ทำไมอ่ะ"
ผมเอียงคอถามเพราะงงหนักเข้าไปอีก จะให้กินเข้าไปทั้งชิ้นได้ยังไงก็พี่เขาเล่นซื้อปาท่องโก๋ไซต์ยักษ์มาขนาดนี้ จิ้มลงไผในถ้วยนมข้นยังไม่ได้เลยเนี่ย

"มันจะได้อยู่เป็นคู่ ไม่ต้องแยกจากกันเหมือนเราไง"
พี่จีบยักคิ้วกวนตีน แต่ผมดันหน้าแดงเพราะมุกห้าบาทสิบบาทของมันซะอย่างนั้น ภูมิต้านทานโรคพี่จีบลิซึ่มนี่ไม่มีหรือยังไงวะ เป็นแบบนี้ผมก็แย่อยู่คนเดียวอ่ะดิ

"แหวะ เลี่ยนเว้ย กินๆไปเลย"
ผมโวยวายกลบเกลื่อนความเขินแล้วยัดปาท่องโก๋ตัวใหญ่ใส่ปากเคี้ยวหงุบหงับจนพี่จีบหัวเราะออกมา เขาลุกขึ้นไปหยิบแก้วเปล่ามาเทน้ำเต้าหู้ให้ บริการดีแบบนี้ผมชักจะเคยตัวจนเป็นง่อยแล้ว

"กินดีๆระวังติดคอนะมึง"
พี่จีบบอกก่อนจะเริ่มกินบ้าง มื้ออาหารเช้าเราผ่านไปแบบทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะพี่จีบไม่ยอมให้ผมฉีกปาท่องโก๋เป็นชิ้นเล็ก กินแต่ละทีเสี่ยงติดคอจะตาย ขนมเต็มปากจะด่าคนขี้แกล้งก็ไม่ได้เมื่อโดนขโมยหอมแก้มไปหลายครั้ง อยู่กับเขาไม่นานผมน่าจะเสียตัวว่ะ...

สิบเอ็ดโมงตรงพี่จีบก็ลากผมมาประจำที่ในรถ BMW สีขาวลูกรักของเขา ดวงตาคมจับจ้องถนนที่ตอนนี้การจราจรติดขัด ผมฮัมเพลงเบาๆตามเสียงของวิทยุ อยากจะบอกว่าสกิลการร้องเพลงของตัวเองต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ปกติจะไม่ยอมแหกปากร้องเพลงให้ใครฟังเลยนอกจากคนในครอบครัว แต่ตอนนี้มีความสุขที่จะได้ไปเที่ยวเลยลืมเรื่องความอายไปจนหมดสิ้น

"บ่นอะไรงึมงัม"
พี่จีบเหลือบหางตามองกันก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก ผมหยุดชะงักก่อนจะเม้มปากแน่น คิดว่ามันไม่ได้ยินนะเนี่ย

"ไม่ตอบกูอีก หยิ่งเหรอ"

"หยิ่งบ้าอะไรเล่า เดี๋ยวหยิ่งใส่จริงๆเลยนี่"
ผมเบ้ปากใส่คนขี้แกล้งแล้วหันหลังให้ ดวงตากลมมองวิวข้างทางแล้วคิดว่าช่างไม่มีอะไรน่าสนใจเพราะเจอแต่ตึกรามบ้านช่อง คนในรถน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆแต่ก็นั่นล่ะไม่อยากมองให้โดนแกล้งบ่อยๆหรอก

"กล้าเหรอคิส"
เสียงดุถามขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้หันมามอง แต่ผมรับรู้ได้ว่าคนที่นั่งหลังพวงมาลัยคงทำสีหน้าบึ้งตึงอยู่แน่ๆ บางทีก็เดาอารมณ์ไม่ได้ว่าแกล้งงอนหรืองอนจริงๆ ผมหันหน้ากลับไปมองก่อนจะใช้นิ้วจิ้มแก้มกร้านเบาๆ

"งอนเหรอพี่"
ผมถามก่อนจะเอียงคอปรับองศาให้เห็นใบหน้าคมชัดขึ้น พี่จีบเหล่ตามองกันแล้วไม่พูดอะไร ผมเบะปากลงก่อนจะใช้หัวซบลงบนไหล่กว้างแล้วถูไปมาเบาๆอย่างออดอ้อน

"ทำไมแฟนขี้งอนจัง"
ผมพูดลอยๆก่อนจะช้อนตามอง พี่จีบยังคงทำหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิมจนผมเริ่มใจเสีย ถ้าจะแกล้งกันตอนนี้นับถือเลยว่าเนียนมาก เนียนจนใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว

"ออกไป ขับรถลำบาก"
เสียงราบเรียบดังขึ้นจนผมต้องผละตัวออกมานั่งตัวตรง ไม่ชอบเวลาพี่จีบทำตัวเย็นชาแบบนี้เลยว่ะ ทำไมวันนี้อารมณ์ขึ้นๆลงๆจังวะ เมื่อเช้ายังหยอดมุกจีบกันอยู่เลย

"งอนจริงๆเหรอพี่ ผมไม่หยิ่งใส่หรอก แค่ล้อเล่นเอง"
ผมพูดเสียงอ่อย ก้มลงมองมือตัวเองที่บีบกันไว้บนตัก

"อะไรของมึงคิส กูยังไม่ได้บอกสักคำว่างอน"
พี่จีบยกมือใหญ่มาขยี้หัวกันเบาๆ ก่อนรอยยิ้มจะผุดขึ้นที่มุมปาก ผมเหลือบมองคนข้างๆแล้วถอนหายใจอย่างโล่ง

"ก็พี่เงียบใส่นี่หว่า คิดมากนะเว้ย"
ผมบอกก่อนจะดึงมือที่ทำหัวยุ่งลงมาจับไว้ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่จีบแล้วก็กลายเป็นคนคิดมากทุกที อาจจะเพราะกลัวเขาไม่รักก็เป็นได้

"กูแค่คิดว่าจะไปคาเฟ่หมาไซบีเรียนทำไม ไปบ้านกูไม่ดีกว่าเหรอมีตั้งสี่ตัว"

"เฮ้ย มันคนละบรรยากาศกันป่ะวะพี่"
ผมบุ้ยปากก่อนจะปล่อยมือพี่จีบแล้วปัดๆมันออกจากตัก ไม่เขาใจฟีลลิ่งหรือยังไงวะว่ามันต่างกัน

"กูก็ล้อเล่นน่า"
พี่จีบพูดก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยๆ ผมแลบลิ้นใส่มันก่อนจะไม่พูดด้วยอีกจนถึงคาเฟ่หมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่อยู่ในซอยลึกพอสมควร เมื่อวานโทรมาจองโต๊ะเรียบร้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีที่นั่งแน่ๆเพราะเวลาเที่ยงวันคนจะเยอะอยู่พอตัว

ผมกับเขาสั่งอาหารไปคนละอย่างสองอย่างพร้อมกับฮันนี่โทสต์หลังอาหารอีกหนึ่งจาน ผมเดินไปเกาะกระจกดูพวกเจ้าหมาทั้งหลายหลากสีสันกำลังวิ่งเล่นในลานกว้างภายนอกร้าน ที่นี่จะแบ่งโซนระหว่างที่นั่งทานอาหารและเล่นกับน้องหมา

"ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ"
พี่จีบที่นั่งอยู่ถามขึ้น โต๊ะของเราติดกระจกพอดีเลยไม่ลำบากสักเท่าไหร่ แต่ที่ผมมายืนเกาะกระจกเป็นตุ๊กแกอยู่แบบนี้เพราะตั้งใจจะมองพวกมันเล่นกันโดยเฉพาะ

"ก็ชอบนะ มันหล่อตั้งแต่เล็กจนโตอ่ะ แต่หมาพันธุ์อื่นโตขึ้นหน่อยก็ไม่น่ารักแล้ว"
ดวงตากลมยังคงจับจ้องบรรดาน้องหมาที่เล่นกัน ฟัดกันบ้าง นอนแผ่ลงบนพื้นบ้าง พวกมันเรียกรอยยิ้มจากผมได้ไม่ยากนัก

"อยากเลี้ยงไหม"

"หือ ก็อยากนะ แต่ไม่สะดวกอ่ะ"

"ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดสิ กูจะเอาข้าวเหนียวมาเลี้ยง"

"หา! ตกลงทุกวันนี้พี่นอนร้าน บ้าน หรือคอนโดกันแน่"
ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจว่าตกลงแล้วพี่จีบนอนที่ไหนกันแน่ เพราะไม่เคยถามเลยด้วยซ้ำ

"ปกตินอนคอนโด ที่ร้านก็นอนบ้าง ที่บ้านนานๆกลับที"
ผมกระพริบตาปริบๆเมื่อได้รับข้อมูลใหม่ รู้จักกันมาจะครบปีเพิ่งรู้ว่าที่ซุกหัวนอนพี่มันมีเยอะขนาดนี้ แล้วอะไรคือชวนไปอยู่คอนโดด้วยกันวะ...

"อยู่คอนโดกับใครอ่ะ"

"ซารัง แต่ปีหน้ามันจะย้ายเข้าหอพักนักศึกษาแพทย์แล้ว"

"อ๋อ จะดีเหรอให้ผมไปอยู่ด้วยอ่ะ"
ผมกลับมานั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วเท้าคางมอง เอาจริงๆแล้วแอบหวั่นใจเล็กน้อยว่าจะโดนพ่อกับแม่ด่าที่ไปอยู่กับคนอื่น แต่ไอ้ความใฝ่ฝันอยากไปอยู่กับแฟนมันก็มีมากเหมือนกัน

"ดี ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ"
ออกปากชวนพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนมาให้กัน ขอกันง่ายๆแบบนี้ผมขอใจง่ายตอบตกลงเลยได้ไหมวะ ไปมอก็ไม่ต้องขี่รถเองมีสารภีส่วนตัวไปรับไปส่งอะไรแบบนั้น

"เอ่อ... คือ ต้องขอพ่อแม่ก่อนดิพี่"

"ไม่ต้อง กูขอให้เรียบร้อยแล้ว"
พี่จีบยักคิ้วจึกๆให้กัน ผมอ้าปากค้างเพราะยังประมวลผลไม่ทัน ไปขอกันตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วพ่อแม่รู้เรื่องที่ผมคบกับพี่จีบแล้วเหรอวะ... เพิ่งคบกันมาอาทิตย์กว่าๆเองนะเว้ย งง

"เอ้ย เดี๋ยวๆ ไปขอกันตอนไหนอะไรยังไง"
ผมละล่ำละลักถามแทบไม่เป็นภาษา มือไม้เริ่มชื้นเหงื่อ ทำไมผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยวะ มีอะไรมากกว่าที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้อีกหรือเปล่า

"พี่มึงอ่ะตัวดีเลย โทรไปบอกพ่อแม่เรียบร้อยว่ามึงคบกับกู"
พี่จีบพูดเสียงราบเรียบก่อนจะตักข้าวผัดอเมริกันที่เพิ่งมาเสิร์ฟเข้าปาก ส่วนผมนั่งอ้าปากพะงาบๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี เหมือนโดนไอ้พี่ดีพถีบลงสระน้ำแบบไม่ทันตั้งตัว พ่อแม่ไม่ด่าตายเหรอวะที่มีลูกชายสองคนดันมีแฟนเป็นเพศเดียวกันหมด...

"แล้วพ่อกับแม่ว่าไงอ่ะ พี่ดีพไม่เห็นบอกอะไรผมเลย"
ผมว่าก่อนจะชักสีหน้าเครียด คือยังไม่พร้อมจะบอกเพราะเหมือนตัวเองจะเป็นความหวังสุดท้ายของบ้านที่มีหลานให้ได้ถ้าหากมีแฟนเป็นผู้หญิง

"อืม... ก็ตกใจ แต่ท่านก็ถามกลับมาว่ามึงเป็นรุกหรือรับ พอพี่ดีพบอกเป็นรับพวกท่านก็ถอนหายใจแล้วบอกว่า ดี จะได้ค่าสินสอดบ้าง"

"เฮ้ย อย่ามาล้อเล่น"
ผมว่าเสียงสั่น ไม่จริงใช่ไหมที่พ่อแม่ผมจะพูดแบบนั้น สินสอดอะไรวะ คิดกันไปถึงไหน

"ล้อเล่น พ่อแม่ก็ตกใจนั่นล่ะ เขาถามว่าจริงจังกันแค่ไหน กูเลยโดนพี่ดีพให้คุยกับท่านเอง"

"อ่า... แล้วว่าไงบ้างอ่ะ"

"ก็... ตอบไปว่าจริงจัง จะดูแลให้ดี ไม่ทำให้เสียใจ ถ้าวันไหนผิดคำพูดจะให้ท่านลงโทษยังไงก็ได้"
พี่จีบบอกก่อนจะใช้ดวงตาคมมองมาด้วยความจริงจัง ผมเผลอกลั้นหายใจ รู้สึกว่าขอบตามันร้อนแปลกๆ ดีใจนะที่ได้คนเสมอต้นเสมอปลายอย่างเขาเป็นแฟน

"กูรักมึงนะคิส"
เขาบอกรักผมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนให้ใจสั่น ผมพยักหน้าหงึกหงักแรงๆแล้วยิ้มกว้าง

"กินข้าวกันเถอะ จะได้ไปเล่นกับน้องหมา"

"อืม!"
เรานั่งกินอาหารกันจนเสร็จและได้เวลาไปหาเจ้าหมาขนฟูหน้าหล่อ ก่อนอื่นต้องสวมถุงพลาสติกเข้ากับเท้าและทำการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือก่อนจะสัมผัส และจะมีพนักงานยืนอธิบายข้อมูลต่างๆให้เราได้รับรู้ว่าน้องหมาชื่ออะไรอายุเท่าไหร่กันบ้าง

"พี่จีบๆ ถ่ายรูปให้หน่อย"
ผมส่งโทรศัพท์ให้กับพี่จีบแล้วตรงเข้าไปหาเจ้าขนฟูสีน้ำตาลขาวก่อนจะโพสต์ท่าจะงับหัวมัน ก่อนที่เขาจะถ่ายรูปให้ก็เดินมาดึงฮู้ดใส่หัวผม

"ปิกาจูกินหมา"
พี่เขาพูดแล้วกดถ่ายรูปให้ทั้งๆที่ยังทำหน้าเอ๋ออยู่ โอย อยากตรงเข้าไปถีบฉิบหายแต่ติดว่าถ้าไม่วานให้พี่จีบถ่ายรูปให้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว

"พี่แม่ง ชอบแกล้งผม"
ผมบ่นอุบอิบแต่พี่จีบไม่ใส่ใจแถมยังสั่งให้โพสต์ท่าใหม่ดีๆ หลังจากนั้นเราก็ถ่ายรูปไปเรื่อย เล่นกับหมาบ้าง กอดบ้าง มีความสุขกันไป แต่ที่ทำให้ผมหุบยิ้มคือผู้หญิงคนหนึ่งส่งยิ้มหวานให้พี่จีบก่อนจะเดินตรงมาแนะนำตัวทำความรู้จักแบบหน้าตาเฉย... คือพี่จีบไม่ใช้หมาไม่ต้องมาทำความรู้จักได้ป่ะวะ เจ้าของหวงไม่รู้หรือยังไง

ผมยืนขึ้นทันทีที่เธอก้าวเข้ามาใกล้พี่จีบแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พี่เขาหันมองผมเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้กับคนตรงหน้า

"สวัสดีค่ะ ชอบเจ้าไซบีเรียนเหรอ"
คำถามเบสิกในการเข้าหาคนอื่น เธอวางตัวดีกว่าผู้หญิงคนอื่นๆที่เข้ามาจีบแฟนผม

"อ่า... ที่บ้านเลี้ยงสี่ตัวครับ แต่วันนี้ผมพาแฟนเดทน่ะครับ เจ้าตัวเขาชอบ"
พี่จีบพูดก่อนจะยิ้มน้อยๆ เธอดูอึ้งไปแต่ก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"อ๋อ... คุณแฟนคงน่ารักน่าดูเลยนะคะเนี่ย ชอบน้องหมาด้วย"

"ก็...น่ารักครับ"

"พี่จีบ ผมจะกลับแล้วนะ"
ผมปั้นหน้านิ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ รู้สึกว่าเธอไม่ได้สนใจผมที่ยืนแทบจะสิงพี่จีบเลยด้วยซ้ำ ท่าทางของเธอไม่ได้สนใจคำว่ามีแฟนแล้วหรือยังไม่มี เหมือนคนที่พร้อมจะแย่งทุกเมื่อหากเจอคนที่สนใจ เธอนิ่งไปเล็กน้อยแล้วหันมามองผม

"อ่าว รีบกลับไปไหนวะ เหนื่อยแล้วเหรอ"
พี่จีบพูดก่อนจะใช้หลังมือแตะๆตรงไรผมให้ไม่ได้สนใจว่ามีสายตาสงสัยมองมาอยู่เลย ผมแอบลอบยิ้มก่อนจะตีหน้าบึ้งใส่แล้วเอื้อมมือไปหยิกแก้มร่างสูง

"เหนื่อยแล้วครับ กลับกัน อากาศร้อน"

"โอเคๆ เอ่อ...ผมกลับก่อนนะครับ"
ประโยคหลังเขาหันไปพูดกับเธอที่ยืนทำหน้าเหวอ พวกเราเดินออกมาโดยที่ไม่หันกลับไปมองเธออีกเลย

ตอนนี้ผมกำลังนั่งเงียบอยู่ข้างๆสารภีประจำตัวที่ขับรถไม่เกินแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงตรงไปยังสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ร่างสูงมองมาเป็นระยะก่อนจะลอบถอนหายใจออกมายาวๆ

"เป็นอะไรครับ"
เสียงราบเรียบเอ่ยถามขึ้น ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบเดิมในท่ากอดอกตั้งแต่ขึ้นรถมา ไม่ได้อยากงอนอะไรเขาหรอก แต่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ว่าพี่จีบอยู่เฉยๆนิ่งๆยังมีคนเข้าหา ถ้าพี่มันเจ้าชู้ล่ะ...ไม่แย่กว่านี้เป็นสิบเท่าหรือยังไง

"เปล่าครับ ลงไปเดินเล่นกันเถอะ"
ผมบอกก่อนจะปลดสายเข็มขัดแล้วเปิดประตูลงไปโดยไม่ได้รออีกคน พี่จีบรีบลงตามมาก่อนจะคว้าต้นแขนกันเอาไว้แล้วดึงไปนั่งที่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่

"หวงเหรอ"
คำถามแรกที่หลุดออกจาปากร่างสูงทำให้ผมชะงักกึก สายตาที่กำลังถอดมองบึงตรงหน้าเบนกลับมามองพี่จีบ ปากบางเม้มเข้าหากันแน่ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

"เด็กน้อย"
พี่เขาว่าก่อนจะใช้มือหนาโยกหัวกันเบาๆ ผมมุ่ยหน้าใส่แต่ก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร

"เสน่ห์แรงเกินไปแล้วนะเว้ย"
ผมบ่นอุบอิบก่อนจะเอาหัวชนเข้าที่ต้นแขนเพื่อเป็นการลงโทษ พี่จีบเซเล็กน้อยแต่ก็สามารถนั่งทรงตัวได้ เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะโอบไหล่ผมเข้าไปกอดไว้

"จะสนใจอะไรวะ กูมั่นคงกับมึงขนาดนี้ยังต้องหวงอีกเหรอ"
พี่จีบมองมาด้วยสายตาจริงจังจนผมเผลอกลั้นหายใจ มั่นคงน่ะรู้แต่ไม่ไว้ใจคนอื่นที่เขามาหาพี่มากกว่า

"แฟนผมนี่ จะไม่หวงได้ยังไงครับ หล่อขนาดนี้"
ว่าแล้วก็ย่นจมูกใส่แล้วผละตัวออกจากอ้อมกอด เตรียมจะลุกขึ้นยืนแต่กลับโดนดึงให้นั่งลงในตำแหน่งใหม่โดยมีร่างสูงนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ผมนั่งกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง

"ปล่อยนะพี่ คนเยอะ"
ผมดิ้นขลุกขลักเพราะท่านั่งมันประเจิดประเจ้อมากไป คนเดินผ่านไปมาส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นตรงมาจนผมต้องก้มหน้าลงมองพื้นหญ้าตรงหน้า

"เฉยๆน่า ให้กูกอดหน่อยไม่ได้เหรอ ไถ่โทษที่ทำให้มึงหวงไง"
น้ำเสียงทะเล้นดังขึ้นข้างหูจนผมหยุดดิ้น เพราะไอ้ที่ทำอยู่ตอนนี้คนได้กำไรมันเป็นพี่จีบเห็นๆแล้วจะเรียกว่าการไถ่โทษได้ยังไงกันวะ

"พี่จีบโคตรมั่ว หลอกกอดผมมากกว่านะ"

"เออ รู้ทันก็ดี นั่งนิ่งๆให้พี่กอดนะครับคุณแฟน"

"อือ"
โดนเสียงหวานๆนิ่มๆกรอกหูเข้าหน่อยก็ยอมเขาง่ายๆ เออ ก็ผมมันใจอ่อนให้พี่จีบทุกทีล่ะ ไม่รักไม่ยอมขนาดนี้หรอก!




-------------------------------------------------



Q & A กับคิส

Q : มีคนเข้ามาจีบบ้างไหม?
A : ... คิดดีแล้วเหรอครับถึงถามผมแบบนี้ T^T สะเทือนใจอ่ะ
Q : แสดงว่าไม่มีสินะ อืม...
A : ฮึก อย่าตอกย้ำนะ!





พี่จีบมันร้าย หลอกล่อน้องจูบให้ไปอยู่ด้วยกัน... ไม่นานคงโดนกินแน่ 555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและคอมเม้นท์น้า ~
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 01-09-2016 17:38:24
พี่จีบจับคีสปล้ำเถอะ  น่ารักขนาด   :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 01-09-2016 17:40:18
ย้ายไปเลยคิส มันดีกับใจคนอ่าน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 01-09-2016 17:57:51
ถ้าได้ไปอยู่ด้วยกันจริงๆ จะดูซิว่าพี่จีบจะทนได้ขนาดไหน
เอ หรือจะเป็นน้องคิสที่อดใจไม่อยู่กันแน่
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 01-09-2016 18:02:37
ตอนนี้ยังเรื่อยๆ เด่วย้ายไปอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ เด่วรู้กัน อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 01-09-2016 18:16:35
พี่จีบหลอกน้องคิสไปอยู่ด้วยย คิดอะไรอ่ะปล่าววว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 01-09-2016 18:23:43
เอาน่าคิสสสส มีแฟนเป็นพี่จีบทั้งทีต้องอดทน 5555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 01-09-2016 18:45:29
พี่จีบเจ้าเล่ห์จัง หลอกพาน้องไปอยู่ด้วย
แต่หนูคิสก็อย่าคิดเยอะ เก็บกระเป๋าไปคอนโดพี่จีบเลยลูก 
:katai3:  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-09-2016 18:53:12
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-09-2016 19:20:23
ปล้ำซะดีมั้ยเนี่ยท่าจะน่ารักซะขนาดนี้น้องคิส
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-09-2016 19:44:01
โธ่ พี่จีบถ้ามีคนมาจีบคิส จะรอดูว่าหึงหวงไหม :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-09-2016 19:52:17
โถหนูคิส อย่างน้อยก็มีพี่จีบไงคนนึง  :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-09-2016 19:54:21
มีการชวนย้ายเข้าบ้านด้วยอ่าาาาา
เอาหมามาล่อ แถมขออนุญาติคุณพ่อคุณแม่คิสแล้วอีก แผนสูงมากๆค่ะพี่จีบ 5555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 01-09-2016 20:55:37
พี่จีบร้ายกาจมาก
นำน้องเสมอ

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 01-09-2016 21:05:26
หุหุ น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-09-2016 21:12:38
เบาสบายยยยย ฮ่า ๆ พี่จีบได้กล่าวไว้
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-09-2016 21:19:20
มีความเมียสูงมาก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 01-09-2016 21:30:34
อื้อหืออออ....นี่คือเขาเข้าทางพ่อแม่เรียบร้อยโรงเรียนพี่จีบแล้วด้วย?

พี่จีบเขาร้ายจริงๆค่ะหัวหน้า!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-09-2016 23:00:05
ตะล่อมเรื่อยๆเดี๋ยวพี่จีบก็ได้กินน้องแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-09-2016 23:24:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-09-2016 07:07:01
พอเป็นแฟนก็ชวนไปอยู่ด้วยเลยรึพี่จีบ  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 02-09-2016 16:54:17
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 04-09-2016 08:08:27
 :impress2:รอต่อนะครับสนุกมาก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 25 -P.15- (01.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-09-2016 12:57:50
รอตอนน้องโดนกิน!!! :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 04-09-2016 17:58:27
- ดื่มครั้งที่ 26 -




เสียงลมพัดหวีดหวิวช่วงเดือนมกราคมไม่ได้พาเอาไอความเย็นจากภาคเหนือมาเลยสักนิด ดวงอาทิตย์กำลังแผดเผาผิวขาวเนียนให้ไหม้เกรียมอย่างง่ายดาย มนุษย์ตัวน้อยสามชีวิตกำลังยืนหลบแดดอยู่ใต้ตึกอาคารเรียนหลังจากเลิกภาคเช้า เหงื่อเม็ดโตไหลย้อยจนเสื้อนักศึกษาสีขาวแนบเนื้อในบางส่วน

"ทำไมร้อนแบบนี้วะ"
ไอ้ออยบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะกระพือเสื้อนักศึกษาไปมาเพื่อคลายร้อน อย่าไปกลัวว่านมมันจะโผล่เพราะอกแบนราบยิ่งกว่าไม้กระดานอีก

"จะไปรู้ไหม ไปถามดวงอาทิตย์ไป"
เสียงไอ้ภีมตอบกลับมาด้วยสีหน้ากวนบาทา ไอ้ออยแยกเขี้ยวใส่ทำท่าจะเข้าไปฟาด แต่ติดตรงที่ผมเป็นคนกลางเลยต้องรีบห้ามทัพ อากาศร้อนยังจะมาทะเลาะกันอีก

"พอๆ แยก เดี๋ยวไปหาไรกินเย็นๆกัน"
ผมใช้ฝ่ามือดันมันทั้งสองให้แยกออกจากกันแล้วถอนหายใจเฮือกออกมา มันร้อนจนตับจะแตกจริงๆนะ ได้กินไอติมคงช่วยคลายร้อนได้บ้าง

"เลี้ยงป่ะ"
ไอ้ออยยื่นหน้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้มหวานช่ำ ผมเหลือบตามองมันก่อนจะพ่นลมหายใจใส่แล้วส่ายหน้าพรืด จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงนักหนาเพิ่งจ่ายค่าทำรายงานไปตั้งหลายร้อย

"ใครกินคนนั้นจ่าย แฟร์ๆ"

"โห มีผัวรวยอย่ามางก!"

"เฮ้ย ไม่มีผัวเว้ย มีแต่แฟน!"

"แหมๆ... เดี๋ยวต่อไปก็เป็นผัว"

"หยุดพูดเลยมึง"
ผมพูดเสียงรอดไรฟันทั้งๆที่หน้าร้อนวูบวาบด้วยความเขิน ไอ้ที่มันพูดมาก็จริงว่าในอนาคตพี่จีบต้องมีตำแหน่งเป็นสามีแน่ๆ เพราะดูจากขนาดตัวและความดูแลเอาใจใส่กันแล้ว ผมไม่สามารถผลักดันตัวเองให้เป็นฝ่ายรุกได้เลยแม้แต่น้อย อีกเหตุผลหนึ่งคือคิดภาพไม่ออกว่าพี่จีบมันจะเป็นภรรยาในรูปแบบไหน แค่คิดก็แอบขนลุกแล้วว่ะ

"ว้าย เพื่อนกูหน้าแดง ต้องถ่ายรูปเก็บไว้ให้พี่จีบดู"
พูดจบมันก็คนกระเป๋าเป้หาโทรศัพท์ทันที ผมกำลังจะเข้าไปห้ามแต่มีเสียงใครคนหนึ่งดังแทรกจนพวกเราต้องหันขวับไปมอง... คนที่ไม่ได้เจอกันมาสักพักหยุดยืนอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส

"พี่แบท.."
ผมเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา คนอื่นทักทายพี่แบทอย่างปกติแต่เพราะว่าผมคิดย้อนไปถึงเรื่องที่พี่จีบเคยบอกไว้ เลยเกิดอาการทำตัวไม่ถูกขึ้นมาซะอย่างนั้น

"เป็นไงบ้าง สบายดีกันป่ะ"
พี่แบทถามขึ้นก่อนจะส่งรอยยิ้มที่เฉพาะเจาะจงมาให้ผม เหมือนออยกับภีมก็สังเกตเห็นเหมือนกันแต่ไม่พูดอะไรออกมา ทุกคนพยายามทำตัวให้ปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

"สบายดีครับ"
ภีมตอบ

"สบายดีค่ะ แต่เหนื่อยอ่ะพี่ เลี้ยงหลาน"
ไอ้ออยตอบเสียงงอแงเล็กน้อยจนพี่แบทขำออกมา

"แล้วมึงล่ะ ได้ข่าวว่าไปเชียงรายกับไอ้จีบมานี่ สนุกไหม"
ผมชะงักกึกก่อนจะมองหน้าพี่แบทที่ยิ้มแย้มแต่สายตาแสดงความปวดร้าวได้อย่างชัดเจน ถ้าพี่เขาอ้าปากสารภาพความรู้สึกกับผมขึ้นมาจะทำยังไง ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เก็บความรู้สึกเอาไว้เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

"ก็..สนุกดี หนาวฉิบหายเลยพี่"
ผมตอบก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างจริงใจ พี่แบทพยักหน้ารับน้อยๆ รอยยิ้มที่ได้รับก่อนหน้านี้มันจางลงอย่างเห็นได้ชัด

"ผมกับไอ้ออยขอตัวก่อนนะ ไอ้คิสกูรอที่รถนะเว้ย"

"เดี๋ยวๆ จะไปไหนกัน"
ผมรั้งไหล่มันทั้งสองคนเอาไว้ด้วยหน้าตาตื่นๆ อยู่ๆมาทิ้งกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยได้ยังไงวะ ไม่ทันตั้งตัวนะเว้ย

"ภีมไม่ต้องรอคิสนะ เดี๋ยวกูพามันไปเลี้ยงข้าว"
พี่แบทพูดทำลายทุกอย่างจนหมดสิ้น ผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆพร้อมกับที่มือตัวเองทั้งสองข้างโดนเพื่อนรักปัดออกแล้วเดินจากไป แทนที่จะช่วยชีวิตกันกลับผลักไสผมซะอย่างนั้น งานงอกไหมล่ะถ้าพี่จีบรู้เรื่องขึ้นมาเนี่ย

"เอ่อ..."
ผมอึกอักก่อนจะหลบสายตาที่มองจ้องกัน ทำตัวไม่ถูกตั้งแต่พี่จีบบอกว่าพี่แบทรู้สึกยังไงกับผม อยากจะทำตัวปกติแต่มันไม่สนิทใจแล้ว เข้าใจคนที่ไม่เคยมีใครมาเคยมีใครมาชอบไหม พอมันมีขึ้นมาก็วางตัวไม่ถูกน่ะ...

"ทำไม ไม่อยากกินข้าวกับกูเหรอ"
น้ำเสียงรายเรียบถามขึ้นจนทำให้ผมต้องช้อนสายตามองอีกคน ใบหน้าของเขาเรียบเฉยจนผมเดาอารมณ์ไม่ถูก มีแต่ดวงตาคมเท่านั้นที่กำลังสั่นไหว ผมเม้มปากเข้าหากันก่อนจะส่ายหน้าเบาๆปฏิเสธความคิดของคนตรงหน้า ไม่ได้ไม่อยาก แต่...มันอึดอัดแปลกๆ

"เปล่าครับ แต่ขอโทรไปบอกพี่จีบก่อนนะ"
ผมบอกน้ำเสียงอ้อมแอ้มแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า พี่แบทมองมาแล้วขมวดคิ้วแน่นเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมผมไปไหนมาไหนต้องบอกพี่จีบ

"บอกมันทำไม"
เสียงพี่แบทดุขึ้นจนผมรู้สึกได้ ปกติเขาไม่เคยทำสีหน้าและท่าทางขึงขังขนาดนี้

"เอ่อ... เดี๋ยวพี่จีบเป็นห่วงไงครับ บอกไว้ก่อนจะดีกว่า"
ผมพูดเสียงเบาก่อนจะหลบสายตาดุๆนั่น พี่แบทก้าวเข้ามาชิดมากกว่าเดิมก่อนจะใช้มือจับไหล่กันเอาไว้แล้วคาดคั้นสิ่งที่เขาอยากรู้

"เป็นแฟนกันแล้วเหรอ..."
คำถามช่างแผ่วเบาแต่ผมกลับได้ยินชัดยิ่งกว่าเสียงโหวกเหวกโวยวายรอบตัว ดวงตาคมสั่นระริกพร้อมกับมือที่บีบไหล่ผมหนักขึ้นจนเผลอนิ่วหน้า

"พี่แบทผมเจ็บ.."
ผมบอกเขาก่อนจะจับมือหนาเพื่อดึงออกแต่พี่แบทยิ่งบีบไหล่ผมแน่นขึ้นไปอีกเท่าตัวจนผมต้องเม้มปากเข้าหากันกลั้นเสียงร้อง เจ็บเหมือนโดนคีมเหล็กคีบ

"ตอบมาสิ"

"เป็นครับ ผมเป็นแฟนกับพี่จีบแล้ว"
แรงบีบคลายออกแทบจะในทันที แขนทั้งสองตกลงข้างลำตัวอย่างไร้เรียวแรง มุมปากหยักกระตุกเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันความผิดพลาดครั้งนี้ ผมมองพี่แบทด้วยความรู้สึกหลากหลาย มันกระอักกระอวนในใจเมื่อเห็นพี่ชายที่รักคนหนึ่งต้องเจ็บเพราะตัวเอง แต่จะให้ทำยังไงเมื่อตลอดมาไม่เคยมองเขาในฐานะอื่น ถึงจะเขามาจีบก่อนคนอื่นๆก็คงได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม

"ช้าไปอีกแล้วสินะ เป็นกูไม่ได้เหรอ"
สายตาอ้อนวอนของพี่แบททำให้ผมใจกระตุก ไม่ใช่เพราะว่าหวั่นไหวแต่มันรู้สึกวูบโหวงในอก กลัวว่าพี่ชายที่แสนดีจะเปลี่ยนไป

"คือ...พี่แบทครับ"
พูดไม่ออก ต้องเริ่มจากตรงไหนได้แต่ยืนประสานมือทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้แน่จนชื้นเหงื่อ สถานการณ์น่าอึดอัดจนอยากมุดดินหนี ถ้าพี่จีบโผล่หัวมาตอนนี้ผมคงรู้สึกดีกว่านี้ เผชิญหน้ากับความกระอักกระอ่วนใจคนเดียวมันไม่ดีเลยจริงๆ

"กูชอบมึงนะ ชอบมาก่อนไอ้จีบอีก... อุตส่าห์เนียนเข้าหามึง แต่ทำไมมันได้มึงไปล่ะคิส"
เป็นประโยคบอกเล่าพร้อมคำถามที่เหมือนว่าไม่ต้องการคำตอบเท่าไหร่ ดวงตาคมหวั่นไหวจนเห็นความปวดร้าวฉายชัดออกมา ผมเม้มปากแน่นเพราะถ้าตอบออกไปอาจจะทำร้ายหัวใจของคนตรงหน้าอย่างย่อยยับจนน่ากลัว

"....."

"เคยหวั่นไหวกับกูบ้างไหมคิส เคยไหม"
คำถามย้ำๆดังขึ้น น้ำใสๆกำลังคลอหน่วยอยู่ในดวงตาคมเข้ม ผมอยากเอื้อมมือไปเช็ดให้แต่กลัวว่านั่นจะเป็นการให้ความหวังกับคนตรงหน้า คนหล่อๆรอบตัวนี่สติดีหรือเปล่ามารุมชอบผมเนี่ย ไอ้สาวๆสวยๆมีอยู่เยอะแยะทำไมไม่ไปชอบกันวะเนี่ย

"มะ ไม่เคยครับ"
ผมตอบเสียงสั่นเมื่อพี่แบทขยับเข้ามาใกล้อีกคนผมเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว

"อืม... เข้าใจแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้อึดอัด"
พี่เขาถอยหลังแล้วฝืนคลี่ยิ้มให้กัน ผมเม้มปากแน่นเพราะไม่รู้จะจัดการสถานการณ์ตรงหน้ายังไงดี แต่หางตาเหลือบเห็นพี่แก๊ปยืนพิงรถอยู่ คงจะผ่านมาเห็นพอดีและเหมือนจะยืนรอผมอยู่ด้วย

"มะ ไม่เป็นไรครับ"

"อืม กูกลับก่อนนะ ขอโทษที่ไม่ได้พาไปเลี้ยงข้าวแล้ว"
หลังจากจบประโยคเมื่อครู่ร่างสูงก็รีบก้าวเท้ายาวๆเดินหลบไปอีกทางทันที ปล่อยให้ผมยืนเคว้งกับความรู้สึงวูบโหวงในใจ ดูเหมือนว่าผมกับพี่แบทคงต้องห่างกันสักพัก

ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะมองไปทางพี่แก๊ปอีกครั้ง เขายิ้มให้และกวักมือเรียกกันอยู่ตรงนั้น ผมรีบก้าวยาวๆเข้าไปหาคนที่รออยู่แล้วสูดลมหายใจลึกๆ

"สวัสดีครับพี่แก๊ป มาทำอะไรที่นี่เนี่ย"
ผมยิ้มให้ พี่แก๊ปคลี่ยิ้มบางๆตอบกลับมาก่อนจะวางมือใหญ่ลงบนหัวแล้วโยกเล่นเบาๆอย่างอ่อนโยน

"มาเอาของให้อาจารย์ ไปหาไอ้จีบกับพี่ไหม"

"อ่า.. เลิกเรียนกันแล้วเหรอครับ"

"เปล่า แต่ไปนั่งรอได้ ป่ะ"
ยังไม่ทันได้ตอบพี่แก๊ปก็เปิดประตูรถแล้วดันหลังให้ผมเข้าไปนั่งก่อนจะปิดประตูให้แล้วเดินไปฝั่งคนขับ เรานั่งเงียบกันตลอดทางจนมาถึงคณะบริหาร ที่ลานกว้างมีคนพลุ่กพล่านส่วนมากเป็นหนุ่มสาวหน้าตาดี อาจจะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมคนหน้าตาดีของมหา'ลัยก็ได้

ผมเดินตามพี่แก๊ปเข้าตึกคณะไปเรื่อยๆจนถึงห้องเรียน ตอนแรกว่าจะนั่งรอที่หน้าระเบียงแต่โดนมือใหญ่คว้าต้นแขนให้เดินตามเข้าไปด้วยกันก่อนจะบอกว่าอาจารย์ปล่อยทิ้งให้ทำงานเท่านั้นไม่ได้อยู่ด้วย ถ้าใครเสร็จไวก็กลับก่อน พอพ้นประตูกระจกบานเลื่อนเข้าไปเท่านั้นทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเรา ผมกรอกตาเลิ่กลั่กก่อนจะใช้พี่แก๊ปเป็นกำบังแล้วตามมาด้วยเสียงผิวปาก บ้างก็เป็นเสียงกรี๊ดเล็กๆของสาวๆ

"แฟนมาหาถึงที่เลยเว้ย อิจฉา ~"
เสียงแปร่งๆเหมือนคนเป็นหวัดดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าทะเล้นที่ส่งยิ้มมาให้กัน ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ไอ้พี่คินตัวดีนั่นเอง ไม่พูดเปล่าแต่กลับเดินเข้ามากอดคอแล้วดึงให้ไปหาพี่จีบที่ยังจ้องจอคอมฯไม่วางตา รายนั้นรับรู้ถึงการมาของผมแต่ทำเป็นไม่สนใจ... หึ เห็นหรอกว่าแอบยิ้มอยู่

"เก้าอี้ไม่ว่าง นั่งตักแทนได้ไหม"
พี่จีบเงยหน้าขึ้นมาพูดตอนที่ผมหยุดยืนอยู่ข้างโต๊ะ ผมเบิกตาค้างหันซ้ายหันขวาอย่างระแวงกลัวว่าใครจะได้ยินและเหมือนจะมุดดินหนีเมื่อสายตาของคนทั้งห้องส่อแววล้อเลียนมาอย่างเห็นได้ชัด โอย กูจะบ้าตาย นี่มันป่าวประกาศให้คนทั้งเซครู้หรือยังไงกัน

"ไอ้พี่จีบ พูดบ้าอะไรวะ ทำงานไปเลยไป"
ผมบุ้ยปากใส่ก่อนจะยืนค้ำหัวอยู่ด้านหลังเก้าอี้ พี่จีบเงยหน้าเอาหัวมาชนท้องผมเบาๆก่อนจะกลับไปตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์โค้ดโปรแกรมยาวเหยียด ผมเพ่งสายตาพยายามทำความเข้าใจแต่แล้วก็ต้องยอมแพ้เพราะมันยิ่งกว่าภาษาต่างดาวซะอีก

"นั่งลงดิ จะยืนค้ำหัวทำไม"
พี่จีบหันมามองกันก่อนจะมองที่ว่างข้างตัวซึ่งเป็นเก้าอี้ของพี่แก๊ปที่เจ้าตัวเพิ่งลุกออกไปกวนประสาทพี่คินเมื่อครู่ ผมส่ายหน้าพรืดเพราะอีกเดี๋ยวเจ้าของคงกลับมาทวงที่นั่งคืน

"ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวพี่แก๊ปก็กลับมา"

"หึ มันทำงานเสร็จแล้ว"
พี่จีบพูดจบก็ดึงให้ผมนั่งลงข้างๆจนได้ ดวงตาคมกลับไปสนใจงานตรงหน้าพร้อมที่นิ้วเรียวจะพิมพ์ลงบนคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ อยากจะบอกว่าเมื่อครู่ไปเจออะไรมาบ้างแต่กลัวคนที่ตั้งใจทำงานจะเสียสมาธิเลยได้แต่นั่งมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น จนเจ้าตัวหันกลับมาเลิกคิ้วใส่กันผมเลยได้สติ

"มีอะไรจะพูดป่ะวะ เห็นนั่งมองหน้ากูตั้งนานแล้ว"

"อ่า... ทำงานไปก่อนเดี๋ยวค่อยคุยก็ได้"

"โอเค"
หลังจากนั้นเขาก็กลับไปตั้งใจทำงานจนเสร็จ เราออกมาจากตึกบริหารในเวลาเกือบห้าโมงเย็น พี่แก๊ปกับพี่คินขอตัวแยกย้ายไปฟิตเนส ส่วนผมกับพี่จีบตกลงกันว่าจะไปกินข้าวแล้วกลับเข้าร้านกาแฟต่อ

"มีอะไรจะพูดล่ะมึง"
เขาถามในขณะที่คาดเข็มขัดนิรภัย ผมที่กำลังจะทำอย่างเดียวกันเกิดชะงักแล้วช้อนตามองเขาก่อนจะส่งยิ้มแหยๆให้ ไม่รู้ว่ามันเหมาะที่จะพูดในเวลานี้หรือเปล่า ไม่รู้ว่าถ้าบอกไปแล้วพี่จีบจะรู้สึกยังไงด้วย ไม่ค่อยอยากให้เขาอารมณ์เสียสักเท่าไหร่

"เอ่อ ค่อยพูดดีกว่ามั้ง เดี๋ยวไม่มีสมาธิขับรถ"
ผมเบี่ยงประเด็นก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยตามบ้าง แต่ต้องตกใจเมื่อใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาจนปลายจมูกแตะกันเบาๆ ดวงตาคมจับจ้องมาที่ผมอย่างไม่ลดละ อยากจะขยับตัวหนีแต่ก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะจู่โจมมากกว่านี้เลยทำได้แค่ขยำเสื้อนักศึกษาของอีกคนไว้แน่น

"พูดมาครับ พี่รอฟังอยู่"
เขาพูดจบก็แต้มจูบลงมาบนริมฝีปากเบาๆ ผมเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าพี่จีบจะทำ คนขโมยจูบกันผละตัวออกแล้วยกยิ้มหวานให้จนผมต้องหลบสายตาเพราะเขิน คนที่ปกติกวนตีนถึงคราวอ่อนโยนแล้วทำให้ใจเต้นแรงชะมัด

"คือ...พี่แบทมาหา"

"อ่าฮะ"

"พี่แบท...บอกว่าชอบผม"

"อืม...แล้วไงต่อครับ"

"เขาถามว่า เป็นเขาไม่ได้เหรอที่ผมจะรัก"

"แล้วตอบว่าไง"

"ยะ ยังไม่ได้ตอบครับ พี่เขาถามแทรกขึ้นมาว่าเคยหวั่นไหวกับพี่บ้างหรือเปล่า"

"อืม.. แล้ว?"

"ก็เลยตอบไปว่าไม่เคย แล้วพี่เขาก็บอกว่าขอโทษที่ทำให้อึดอัด"

"อืม...หวง"
พี่จีบดึงผมเข้าไปกอดทันทีที่ฟังจบ ผมสูดหายใจเข้าหนักๆก่อนจะสอดมือกอดเอวสอบตอบและซุกหน้าลงกับลาดไหล่กว้าง เขากดจูบลงข้างขมับก็จะกระซิบเสียงแผ่วเบาข้างใบหู

"นายอินธิพัฒน์เป็นของนายอัศวินคนเดียวนะ รู้ไหม"

"ระ รู้ครับ ผมเป็นของพี่จีบคนเดียว"
ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนวูบวาบจนต้องมุดหน้าลงกับอกแกร่งเพื่อซ่อนมันไว้ทั้งหมด พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะกดปลายจมูกลงกลางกระหม่อมแล้วดันไหล่ผมเพื่อที่จะมองหน้ากันได้ถนัด

"รักคิสนะครับ"
คำบอกรักหวานซึ้งทำให้ผมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะมอบจูบแสนละมุนราวปุยเมฆและเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นเมื่อริมฝีปากโดนขบเม้มดูดดึงอย่างวาบวาม สองมือขย้ำเสื้อบนอกของพี่จีบจนยับยู่ยี้ อากาศหายใจเหลือน้อยเต็มทีจนต้องร้องครางประท้วงให้อีกคนผละออก

"แฮ่ก.. อะ ออกรถเถอะครับ หิวแล้ว"
ผมเบนหน้าหนีก่อนจะก้มจนคางเกือบจะชิดอก คนตัวโตขยับห่างแล้วทำตามที่บอกอย่างไม่อิดออด แต่ไอ้คำพูดที่ออกมาจากปากเขาทำให้ผมแทบกระโดดหนีลงจากรถ

"กูก็หิวนะ.... หิวมึง กินได้ไหม"
คำถามทีเล่นทีจริงทำให้ผมฟาดมือลงกับต้นแขนของพี่จีบด้วยความเขิน แทนที่จะร้องโวยวายกลับหัวเราะเอิ้กอ้ากออกมาอย่างมีความสุข รู้ว่าแกล้งแต่ในนั้นก็เต็มไปด้วยความหื่นจริงๆเช่นกัน ฝันไปเถอะว่าจะใจอ่อนยอมเสียประตูหลังให้ง่ายๆ ถ้าไม่กลัวเจ็บคงถวายตัวไปนานแล้ว... หลอก! ใครจะไปทำแบบนั้นกันเล่า กับผู้หญิงยังไม่เคยจะมาเสียพรหมจรรย์กับผู้ชายเนี่ยนะไม่คลูเลยอ่ะ

"พี่จีบ... พอเลย ฝันไปเถอะว่าจะได้กินผมง่ายๆ"
ผมย่นจมูกใส่แล้วแลบลิ้นแถมให้ พี่จีบหัวเราะก่อนจะออกรถไปอย่างช้าๆ เราแวะกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ววนกลับไปที่ร้านกาแฟเพื่อจะช่วยงานช่วงเย็นที่ลูกค้าเยอะเป็นปกติ

ผมรีบเข้าไปรับผ้ากั้นเปื้อนจากพนักงานในร้านมาใส่แล้วประจำที่ผู้ช่วยบาริสต้าอย่างที่เคยทำประจำ ส่วนพี่ไลค์ที่วางมือให้พี่จีบรับช่วงต่อยังคงยืนพิงเค้าเตอร์บาร์จ้องหน้ากันอยู่ ผมกรอกตาไปมาแล้วยกมือขึ้นแตะๆหน้า มีอะไรติดอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย

"มีอะไรติดหน้าผมเหรอพี่"
ผมทำหน้าตาเหลอหลาจนพี่ไลค์เผลอยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบาๆก่อนจะยื่นมือมาจับแก้มกันแล้วออกแรงยืดจนพี่จีบที่ยืนชงเอสเพรซโซ่อยู่หันมามองตาเขียวปั๊ด ผมส่งยิ้มแหยไปให้ไม่กล้าปฏิเสธพี่ชายแฟนซะด้วยซ้ำ

"น่ารักขึ้นนะคิส ถ้าพี่ไม่มีแฟนว่าจะขอจีบเรา"

"อันเดว! นี่เมียกูนะไอ้ไลค์ เอามือเน่าๆของมึงออกไปเลย"
พี่จีบละจากเครื่องทำกาแฟตรงมาปัดมือพี่ไลค์ออกด้วยสีหน้าบึ้งตึงแถมยังคว้าคอผมเข้าไปกอดไว้แน่นจนต้องดิ้นน้อยๆให้เขารู้ว่าผมกำลังหายใจไม่ออก และจากการแอบเรียนรู้ภาษาเกาหลีด้วยตัวเองมาบ้างเลยรู้ว่า 'อันเดว' แปลว่า 'ไม่ได้'

"เฮ้ยๆ แฟนพอพี่ เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด"
ผมรีบประท้วงคำพูดของพี่จีบทันทีที่ได้รับอิสระกลับคืน ส่งสัญญาณส่ายหน้ารัวๆให้กับพี่ไลค์ว่าไม่จริงอย่างที่น้องชายพี่พูดนะ

"ขี้หวงวะ นี่พี่นะ"

"ให้กูไปยุ่งกับไนน์บ้างไหมล่ะ"

"เออๆ แม่ง ยอมแพ้ กูไปทำบัญชีละ"
แล้วพี่ไลค์ก็เดินหายไปทางหลังร้าน ปล่อยให้พี่จีบมองตามแล้วส่ายหน้าเอือมๆ ผมแตะไหล่เขาเบาๆก่อนที่เราจะเริ่มทำงานกันอีกครั้ง เหนื่อยนะ เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดแต่พอสายตาหันไปสบกันกับพี่จีบ ความเหนื่อยพี่เผชิญมาทั้งวันกลับลดลงจนเกือบหมดอย่างน่าประหลาด นี่ล่ะมั้งที่เขาเรียกว่ากำลังใจในการทำงาน

ช่วงหนึ่งทุ่มกว่าๆมีกลุ่มนักเรียนสาวมัธยมในเครื่องแบบโรงเรียนเอกชน เกือบทุกคนมีใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างกับการ์ตูนญี่ปุ่น ผมมองพวกเขาก่อนจะส่งยิ้มการค้าไปให้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงส่งสายตาเจ้าชู้ให้ไปแล้ว แต่ตอนนี้เหรอ... แฟนทั้งคนกำลังชงกาแฟอยู่ด้านหลังนี่สิ

"รับอะไรดีครับ"
ผมถามอย่างสุภาพก่อนจะส่งแผ่นป้ายเมนูให้กับพวกเธอทั้งสามคน หนึ่งในนั้นมองหน้าผมแล้วยิ้มอย่างอายๆก่อนจะสะกิดเพื่อนแล้วซุบซิบอะไรกันโดยที่ผมไม่ได้ยิน แต่ไม่นานนักเธอคนนั้นก็แทรกกายมายืนอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะใช้สายตาหวานเยิ้มมองมา

"มีเมนูอะไรแนะนำไหมคะ"
ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเพราะบนเมนูมีรายการแนะนำประจำเดือนติดอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรมากกว่าการยิ้มกลบเกลื่อนความแคลงใจ... เหมือนอยากจะชวนคุยแปลกๆ

"เดือนนี้มีเมนู มอคค่ามิ้นท์ เฟรชมิลล์มิ้นท์ และก็โกโก้มิ้นท์ครับ"

"ไม่มีพี่เหรอคะ"

"หา อะไรนะครับ"
ผมถามย้ำเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาดไปก็ได้ แต่คนด้านหลังยืนยันประโยคนั้นให้ผมมั่นใจโดยการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของด้วยการโอบไหล่ผมแล้วคลี่ยิ้มเย็นยะเยือกไปให้พวกเธอ

"จะจีบพนักงานขายคนนี้ยากหน่อยนะครับน้อง"

"หือ... ทำไมถึงยากล่ะคะ"
เธอถามก่อนจะเอียงคอมองพวกผมสลับกันไปมา ดวงตากลมโตฉายแววสงสัยอย่างเห็นได้ชัด ดูๆแล้วมีความมุ้งมิ้งสูงมาก... น่าจะเป็นคนขี้งอแงพอตัวเลยว่ะ

"เขามีแฟนแล้วน่ะ ใช่ไหมครับ"
ประโยคหลังหันมาถามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่เห็นแล้วอดขนลุกไม่ได้ ผมอยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อเธอแล้วถามว่าหล่อๆอย่างไอ้พี่จีบทำไมไม่เต๊าะ มาเต๊าะผมที่เป็นของแปลกทำไม... ฮึก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบให้สาวๆเข้าหาแต่ดูเหมือนว่าคนข้างกายมันจะขี้หวงขี้หึงมากกว่าที่คิด

"ชะ ใช่ครับ พี่มีแฟนแล้ว"
ผมตอบกลับไปเสียงตะกุกตะกักก่อนจะส่งยิ้มแหยๆให้สาวน้อยตรงหน้า เธอมองผมด้วยดวงตาเศร้าสร้อยครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสายตาเจ้าเล่ห์อย่างที่นางร้ายในละครชอบทำกัน ผมเผลอกำผ้ากั้นเปื้อนสีดำสนิทแน่น เหมือนเธอกำลังจะสร้างสงคามยังไงก็ไม่รู้ โอย... ไม่เอานะ ยังไม่อยากโดนพี่จีบมันลงโทษ

"แฟนสวยสู้หนูได้หรือเปล่า ถ้าสวยสู้ไม่ได้พี่หันมาสนใจหนูดีกว่านะคะ"
เธอขยิบตาให้ผมจนพี่จีบเริ่มคิ้วกระตุก อีกสองสาวยิ้มกริ่มเพราะคิดว่าเพื่อนของตัวเองช่างกล้าน่านับถือให้เป็นไอดอล แต่หารู้ไม่ว่าหายนะกำลังจะมาเยือนพวกเธออยู่แล้ว

"อย่างพี่พอจะสวยสู้น้องได้ไหมครับ พอดีพี่เป็นแฟนเขาน่ะ"
พี่จีบพูดก่อนจะส่งยิ้มละมุนละไมให้สาวน้อยที่ตอนนี้ทำตาโตอ้าปากค้างไปทั้งสามคนแล้ว ส่วยผมได้แต่ยืนหน้าร้อนวูบวาบไม่รู้จะมุดส่วนไหนของร้านดีเพราะทั้งเขินทั้งอายในเวลาเดียวกัน พี่จีบแม่งพูดได้น่าไม่อายสุดๆ จะภูมิใจอะไรมากมายที่มรผมเป็นแฟนวะเนี่ย... แต่เอาจริงๆผมก็ภูมิใจนะที่มีเขาเป็นแฟน แต่อย่างหวังว่าจะพูดให้ฟัง อายจะตาย

"อ่ะ เอ่อ... แหะๆ ล้อเล่นค่า"
เธอคนที่เต๊าะผมก่อนหน้านี้รีบเปลี่ยนท่าทีอย่างไว เพื่อนของเธอก็รีบพยักหน้าเห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียง ผมแทบจะหลุดขำแต่ต้องกลั้นไว้เพราะสีหน้าพี่จีบไม่สู้ดีนัก

"ตกลงรับอะไรดีครับ หรือถ้าไม่ก็จะได้เชิญคิวถัดไป"
พี่จีบพูดเสียงราบเรียบจนพวกเธอมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ผมใช้ศอกกระทุ้งหน้าท้องของเขาเบาๆเพื่อให้ลดความดุลงหน่อย แต่เหมือนพี่เขาจะไม่พร้อมทำอะไรอย่างนั้นเลยย่นคิ้วใส่กัน

"เอ่อๆ รับเฟรชมิลล์มิ้นท์สอง มอคค่ามิ้นท์หนึ่งค่ะ"
เธอสั่งรัวเร็วก่อนจะรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะ พี่จีบเหลือบมองกันเล็กน้อยแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

"หลังจากปิดร้านมีเรื่องต้องคุยกัน"
พี่จีบพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะกลับไปทำงานต่อ ผมมองแผ่นหลังคนตัวโตอย่างหวาดๆแล้วก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ตัวเองไปจนถึงเวลาปิดร้านและในตอนนี้ผมกำลังนั่งเกร็งอยู่บนโซฟาในคอนโดของพี่จีบ เขาไม่ยอมไปส่งผมที่บ้าน... ด้วยเหตุที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยนั่นล่ะ

"เดี๋ยวนี้เสน่ห์แรงนะ ต่อไปไม่ต้องไปช่วยงานที่ร้านแล้ว"
ร่างสูงเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันพร้อมกับน้ำดื่มเย็นๆสองแก้วในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะกระจกแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาก่อนจะกระตุกแขนผมให้นั่งพิงอกเขาอีกต่อหนึ่ง แขนแกร่งสอดกอดรอบเอวสอบของผมเอาไว้หลวมๆทำให้ผมต้องทิ้งน้ำหนักตัวลงไปอีก

"หือ ไม่ได้เสน่ห์แรงสักหน่อยน่า ขี้หวงไปได้"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มเพราะรู้สึกเขินเวลาโดนพี่จีบหึงหวงแบบนี้ มันแสดงให้เห็นว่าผมเป็นคนสำคัญกับเขามากแค่ไหน

"วันนี้ทั้งไอ้แบททั้งน้องผู้หญิงคนนั้นเลยนะ จะไม่ให้กูหวงได้ยังไง แฟนกูทั้งคน"
พูดจบฟันคมก็คบลงมาบนต้นคอขาวอย่างมันเขี้ยว ผมเผลอสะดุ้งเฮือกเพราะยังไม่ทันตั้งตัวและไม่ทีหนทางหนีด้วย ใบหน้าร้อนวูบวาบจนรู้สึกชาไปหมด ชักจะทำให้ใจผมสั่นจนควบคุมไม่ได้แล้วนะ ถ้ามันเกิดหลุดออกมาจากอกพี่จีบต้องรับผิดชอบนะเว้ย

"พวกนั้นตาถั่วจะตาย โธ่ อย่าอารมณ์เสียสิครับที่รัก"
เกือบจะกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อรู้ว่าตัวเองใช้น้ำเสียงและคำพูดอะไรไปเมื่อครู่นี้ พี่จีบผละตัวผมออกแล้วลุกยืดตัวขึ้นมามองหน้ากัน มือหนาจับประคองไหล่ของผมเอาไว้ก่อนใบหน้าคมจะเคลื่อนเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเราสัมผัสกัน ผมเผลอกลั้นหายใจเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นร้อนบริเวณต้นแขนไล่ลงมาเลื่อนถึงมือ

"อย่าดูถูกตัวเอง เพราะมึง...โคตรน่ารัก น่าขย้ำ"
พูดจบริมฝีปากหยักก็ประทับลงมากดจูบอย่างแผ่วเบาและมันเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆเมื่อลิ้นร้อนไล่เลียชิมรสหวานของริมฝีปากบาง ผมขย้ำชายเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้แน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอย่างห้ามไม่อยู่ กลีบปากถูกดุนดันให้เผยออกจนลิ้นเปียกชื้นของร่างสูงสามารถแทรกผ่านเข้ามาเก็บเกี่ยวควสมหวานที่แสนวาบหวามไปได้ ปลายลิ้นหยอกล้อดุนดันก่อนจะเกี่ยวตวัดอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงครางอื้ออึงในลำคออย่างพออกพอใจของพี่จีบดังขึ้ยทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบ... จะทำให้ผมละลายอยู่แล้วเขารู้ตัวบ้างไหม

"อึก อือ"
ผมใช้ผ่ามือดันหน้าท้องของเขาเป็นสัญญาณว่ากำลังจะขาดอากาศหายให้ ปากหยักยอมผละออกให้ผมโกยอากาศก่อนจะประทับลงมาใหม่อย่างเร่าร้อน มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุขสอดใส่เข้ามาใต้เสื้อนักศึกษาตัวบางจนผมเผลอเกร็งหน้าท้องอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อสัมผัสวาบหวามไล่สูงขึ้นมาหยอกล้อยอดอกสีหวาน ผมสะดุ้งตกใจแล้วรีบผลักร่างสูงออกห่างก่อนจะหอบหายใจแรงๆ

"ขอได้ไหมครับ คิสเป็นของพี่ได้ไหม..."
ผมเม้มปากแน่นเมื่อเจอเสียงออดอ้อนของเขา อยากบอกว่าใจพร้อมให้แล้ว แต่ร่างกายยังกลัวความเจ็บปวด หัวสมองเลยพาลคิดหาเงื่อนไขต่อรองเพื่อให้ตัวเองรอดไปอีกสักระยะด้วยการ....

"ถ้าสอบได้เกรด 3.8 อัพพี่มาเอารางวัลจากผมได้เลย"

"พูดแล้วห้ามคืนคำนะคิส"

"ได้ คำไหนคำนั้น ผมเป็นลูกผู้ชายพอ!"

"หึหึ"
เสียงหัวเราะชวนขนลุกทำให้ผมรู้ว่าที่พูดไปคงผิดพลาดมหันต์แล้วล่ะครับ ฮือ!!




-------------------------------------------------------




Q & A กับจีบ

Q : เกรด 3.8 นี่มั่นใจว่าจะทำได้กี่เปอร์เซ็น?
A : หึหึ บอกได้คำเดียวว่าไอ้คิสมันพลาดแล้วล่ะครับ





เขามีความหึงหวง น้องคิสมีความเสน่ห์แรงอยู่นะเออ 555555
คิสไปท้าจีบไว้แบบนั้นคือพลาดจริงๆเราบอกเลย หึหึหึ

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-09-2016 18:12:17
แอร๊ยยย. น้องคิสจ๋า คิดเกรดได้ดีค่ะ เพราะถ้าตั้งสูงกว่านี้คงจะยากไป
น่ารักน่าขย้ำจริงๆ ขอสักคำได้ไหมอ่า. วาบหวามเขียนแบบนี้จ้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 04-09-2016 18:33:46
 :laugh:
จะรอดไหมล่ะ....ตอบเลยว่าไม่  555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 04-09-2016 18:38:36
พี่จีบนี่4.0รึเปล่านะ คิสพลาดแล้วล่ะ555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 04-09-2016 18:45:34
หวังว่า อิพี่จีบคงไม่เรียน ได้ 4.00 ทุกเทอมหรอกนะ
ห๊ะ...!! อะไรนะ ได้จริงๆหรอ..
  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 04-09-2016 19:34:30
คิสโดนแน่  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-09-2016 20:08:24
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 04-09-2016 20:18:53
น้องคิสเอ้ยยยยยย พลาดแน่ๆเลยลูกเอ้ยยยย

สงสารรรรรร ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-09-2016 20:34:46
 :m20: พลาดขนานใหญ่แล้วน้องคิส

3.8 มันก็สูงนะ แต่ท่าทางพี่จีบสบายๆ งานนี้ไม่รอดแน่
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-09-2016 20:37:37
อย่าบอกนะว่าพี่จีบเป็นว่าที่บัณฑิตเกียรตินิยม  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-09-2016 20:39:49
พลาดซะแล้ว หนูคิส เสร็จพี่จีบแน่คราวนี้ รออ่านๆๆๆ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 04-09-2016 20:41:31
นี่เชื่อว่าอิพี่จีบเป็นตัวท็อปของรุ่นแน่นแน่ เกรด4ทุกเทอมชัวร์ 555555555 :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 04-09-2016 21:19:50
ไม่รอดแน่น้องจูบ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-09-2016 22:08:44
แลกเกรดวะ 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-09-2016 22:44:40
3.8  เสร็จพี่จีบแน่คิส :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-09-2016 01:05:51
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-09-2016 01:19:18
พี่จีบจะคว้า 4.00 มาให้น้องคิสใช่ป่ะครับ? ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-09-2016 07:23:37
คิสพี่ว่าเราพลาดซะแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-09-2016 08:36:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-09-2016 15:35:59
โอ๊ยตายแล้วววววว ๆ เขิลเว้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 05-09-2016 18:46:08
โอ้ยน่ารัก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 26 -P.15- (04.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 05-09-2016 19:37:45
อ่านแบบ นอนสต็อป อยากได้บาริสต้าบ้างอะ
คิส น่ารัก มโนหน้าไปว่าคงน่าแกล้งมาก
ป.ล.อยากให้มี ตอนของ ซารังกับใครสักคนแอบหลงรักคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 09-09-2016 11:52:29
- ดื่มครั้งที่ 27 -




เสียงเซ็งแซ่ในห้องเรียนดังจนน่ารำคาญ เมื่อนักศึกษากว่าร้อยชีวิตโอดครวญเรื่องการบ้านที่อาจารย์เพิ่งออกปากให้ไปเมื่อครู่ ชีวิตของนักศึกษาชาวศิลปกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์กราฟิกชั้นปีที่สองยังคงหนีไม่พ้นจากวิชาดรออิ้ง

'วาดภาพเหมือนบุคคลครึ่งตัวคนละ 1 ภาพ'

ผมแทบจะลาตายเมื่อฟังคำสั่งงานจบ ไอ้เรื่องวาดภาพเหมือนก็หนึ่งปัญหาเรื่องคนมาเป็นแบบนั่นอีก ห้ามซ้ำกับคนในเซคด้วยนะ ไอ้ออยฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วกรี๊ดอัดใส่กระเป๋าดินสอแสนมุ้งมิ้งของมัน ส่วนไอ้ภีมนั่งกดโทรศัพท์สบายใจเฉิบราวกับเป็นเรื่องง่ายๆ ถ้าถามถึงผมล่ะก็... กำลังขยี้หัวตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด

"มึงสติแตกหรือไง"
ไอ้ภีมเหลือบสายตาขึ้นจากจอสี่เหลี่ยมมามองผมอย่างเอือมๆ ผมหยุดมือแล้วหันขวับไปมองมันตาเขียวปั๊ดก่อนจะใช้ไหล่กระแทกด้วยความหมั่นไส้

"เครียดเว้ย ฝีมือก็ห่วยแตกไหนจะเรื่องแบบอีก เอาใครดีวะ"
ผมใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะเรียนอย่างใช้ความคิด การที่ต้องวาดรูปจากคนจริงๆมันยากกว่าการวาดจากรูปถ่ายเป็นไหนๆ แล้วใครจะมานั่งทนให้ผมเล็งซ้ายเล็งขวาเป็นชั่วโมงวะ แค่คิดก็เพลียแล้ว

"แฟนมึงไง คิดอะไรมากวะ"
ไอ้ภีมเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าแล้วหันมายักคิ้วให้ ผมถึงกับคลี่ยิ้มกว้างอย่างสดใส ทำไมคิดไม่ถึงวะว่าพี่จีบเหมาะจะเป็นแบบวาดที่สุด... แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่พี่จีบยังยอมนั่งนิ่งๆทนเมื่อยได้หรือไง

"ถ้าพี่จีบไม่ยอมล่ะวะ นั่งเป็นแบบให้กูชั่วโมงสองชั่วโมงเลยนะ"

"เอารางวัลล่อเข้าหน่อยก็ยอมแล้วมั้ง"
ไอ้ภีมลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเล็กน้อยทำให้ผมกับไอ้ออยรีบเก็บของแล้วลุกขึ้นตามก่อนจะพากันออกมานอกห้องเรียน พี่จีบที่เลิกเรียนก่อนมานั่งแหมะรออยู่ริมระเบียงทางเดินเรียบร้อยแล้ว อยากจะถามว่ามานั่งรอนานแค่ไหนโดนสายตาสาวๆแทะโลมไปแล้วกี่คนชะมัดเพราะหน้าตาหล่อๆของเขาบึ้งตึงอย่างกับโดนใครทำให้หงุดหงิดมา เรื่องจะขอให้ช่วยงานต้องพับเก็บไว้ก่อน

"ทำไมออกมาช้า"
แทนที่ผมจะได้เอ่ยปากทักทายพี่จีบ กลับเป็นเขาที่เห็นผมแล้วลุกขึ้นมาหาทันทีทันใด น้ำเสียงที่ใช้ถามติดจะหงุดหงิดอยู่นิดหน่อยจนผมได้แต่ส่งยิ้มเจือนๆไปให้

"นั่งคุยเรื่องงานอยู่น่ะครับ รอนานไหม"
ผมหันซ้ายหันขวาหาเพื่อนตัวเองแต่ก็พบกับความว่างเปล่า คือพวกมันเป็นนินจาหรือผีกันแน่หายตัวกันไวเหลือเกิน พี่จีบมองกันเล็กน้อยแล้วใช้แขนโอบไหล่ผมก่อนจะออกแรงดันให้รีบเดินออกไปจากตรงนี้ถึงจะงงอยู่เล็กน้อยแต่ยอมทำตามอย่างว่าง่าย

"รอนานแค่ไหนก็รอได้ แต่รำคาญพวกที่มาขอถ่ายรูป ขอไลน์นี่ล่ะ เปลืองน้ำลายจะปฏิเสธ"
ผมหยุดชะงักเท้าแล้วหันไปมองพี่จีบจนตาเกือบถลน ไอ้ที่บอกว่าเปลืองน้ำลายจะปฏิเสธมันหมายความว่ายังไง เหนื่อยจนให้ๆไปจะได้จบๆ หรือทำหน้าตายซากใส่คนอื่นกันล่ะ พี่จีบเลิกคิ้วมองกันด้วยสีหน้างงงวย คงสงสัยว่าผมหยุดเดินทำไมทั้งๆที่ยังไม่ถึงลานจอดรถ

"ตกลงว่าปฏิเสธหรือรำคาญเลยให้ไลน์เขาไป"
ผมถาทเสียงแข็งไม่มีแววล้อเล่นอยู่ในดวงตากลม นี่ไม่ได้หึงไม่ได้หวงเลยนะถามเพราะความอยากรู้ล้วนๆ จริงๆนะ เชื่อผมเถอะ เชื่อเหอะนะ เชื่อที พลีส!

"อยากให้เป็นแบบไหนล่ะ"
พี่จีบว่าก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้กัน ผมหมั่นไส้เลยกระทุ้งศอกใส่หน้าท้องแกร่งไปหนึ่งที ดูไม่ออกหรือยังไงว่าผมจริงจังอยู่ เล่นไม่ดูสถานการณ์ตลอดเลย

"อย่ามากวนตีนนะ รีบๆตอบมาเลย"
ผมเบ้ปากใส่แล้วสะบัดตัวออกไปยืนห่างๆเขา ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอื้อมมือมาดึงแก้มกันอย่างมันเขี้ยวจนผมรู้สึกหงุดหงิดเลยกระหน่ำมือตีให้เขาปล่อย แต่อย่างหวังว่าคนกวนประสาทอย่างเขาจะยอมปล่อย ยิ่งตียิ่งโดนบีบแก้มแรงขึ้นจนระบมไปหมดแล้ว

"โอ้ย เจ็บนะไอ้พี่จีบ"
ผมโวยวายเสียงดังจนคนรอบข้างหันมาให้ความสนใจ แต่จริงๆแล้วอาจจะโดนมองก่อนหน้านั้นอีก ก็ไอ้พี่จีบมันหล่อนี่ คนดังมหา'ลัยด้วย หึ

"โวยวายเสียงดังว่ะ"
เขาปล่อยแก้มผมให้เป็นอิสระแล้วใช้ฝ่ามือขยี้หัวผมจนยุ่งเหยิง อยู่กลางผู้คนนี่จะไม่เกรงใจเรื่องถึงเนื้อถึงตัวกันเลยหรือยังไงวะ รู้ว่าไม่แคร์คนอื่นแต่กูก็คน เขินเป็น!

"ตอบคำถามมาเลย อย่าเปลี่ยนเรื่อง"
ผมบุ้ยปากใส่มันแล้วยืนกอดอกพร้อมกับจ้องเขม็ง พี่จีบหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะโยกหัวผมไปมาอย่างกับเด็กน้อย

"หวงเหรอ"

"ยังจะถามอีก"
ผมแยกเขี้ยวใส่มัน จริงๆนิสัยขี้หวงของผมแสดงออกชัดเจนจนโดนจับได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พี่จีบมันก็ยังตีหน้าซื่อถามทุกครั้งเพราะอยากแกล้งให้ผมเขิน จะปล่อยให้เก๊กขรึมบ้างมันจะตายหรือยังไงวะ

"โอ๋ๆ ที่รักไม่งอนพี่นะครับ เดี๋ยวพาไปกินเค้กเนอะ"
เดี๋ยวนี้ชอบเอาของกินมาล่อเวลาผมงอน เพราะมันจะประหยัดเวลาง้อลงประมาณสองในสามของการง้อปกติเลยทีเดียว แต่ครั้งนี้ผมต้องได้คำตอบก่อนสิจะหลงกลไอ้คนเจ้าเล่ห์ไม่ได้

"ตอบมาก่อน ไม่งั้นไม่ต้องมายุ่งกัน"

"โห... หวงแรงว่ะ"
พี่จีบทำเสียงล้อเลียนจนผมเริ่มอยากกระโดดกัดคอมันแล้วนะ ทำไมถึงได้ลีลาขนาดนี้ ถ้าไม่เกรงใจสายตานับสิบคู่ที่กำลังมองมาผมกระโดดกัดหูมันแน่

"พี่จีบ จะโกรธแล้วนะ"
ผมกดเสียงต่ำจนพี่จีบทำหน้าเหวอก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือกันแล้วกระตุกให้เดินต่อ ผมเงียบแต่ก็ยอมเดินตามไปที่ลานจดรถ

"คิส มึงฟังกูนะ"
พี่จีบพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วใช้มือดันคางผมให้เราได้สบตากัน แผ่นหลังบางแนบกับตัวรถ BMW ลูกรักของเขา

"....."

"กูสนแค่มึง รักแค่มึง ไม่มีวันที่กูจะทรยศมึงเข้าใจไหม"
ดวงตาคมฉายแววจริงจังจนผมเริ่มเขินอาย จริงๆไม่ได้โกรธอะไรเลยแค่อยากทดสอบว่าพี่จีบจะทำยังไงเวลาผมโกรธขึ้นมา ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่าเขาจะไม่ใช้วิธีแบบเด็กๆแต่จะคุยกันด้วยเหตุผลและให้ความมั่นใจแทน

"อือ ปล่อยได้แล้ว"
ผมหลบตาเขาก่อนจะดึงมือที่เชยคางออก แต่พี่จีบไม่ยอมและขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนผมตาเบิกโพลง ดวงตากลมกรอกไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อดูว่ามีคนอื่นนอกเหนือจากพวกเราหรือเปล่า ผมแทบจะถอนหายใจเมื่อพบว่าที่ลานจอดรถมีแค่เราสองคนเท่านั้น แต่ไอ้การที่เอาปลายจมูกมาชนกันกลางที่สาธารณะแบบนี้มันไม่ควรหรือเปล่าวะ ไม่แคร์คนอื่นมากไปแล้วเว้ย

"พี่จีบจะทำอะไร ถอยออกไปนะเว้ย"
ผมโวยวายก่อนจะใช้มือดันอกแกร่งให้ออกห่าง ใบหน้าเริ่มเห่อร้อนจนอยากจะมุดดินหนี มันไม่ใช่เวลามาทำตัวสวีทไม่เลือกสถานที่นะ แต่ไอ้คนตัวโตเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับประโยคที่ผมพูดไป เพราะปลายจมูกโด่งเลื่อนลงมาฝังบนแก้มอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออกแล้วเดินหนีไปฝั่งคนขับทันที

"ฮึ่ย!"
ผมได้แต่ทำท่าฮึดฮัดแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าจะโดนทิ้ง คนขับสุดแสนจะอารมณ์ดีเพราะยิ้มกริ่มมาตลอดทางแถมฮัมเพลงภาษาเกาหลีอย่างมีความสุขอีกด้วย ต่างจากผมที่ยังคงนั่งทำหน้างอ ไม่ได้งอนแค่รู้สึกว่าพี่จีบมันเปิดเผยจนน่ากลัวเท่านั้นเอง วันไหนเกิดคึกปล้ำผมกลางแจ้งทำไงล่ะ...

"จะเบะปากอีกนานไหม เดี๋ยวจับจูบเลย"
พี่จีบพูดทีเล่นทีจริงจนผมรีบเม้มปากเข้าหากันแน่นแล้วถลึงตาใส่ อีกคนหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างชอบใจ ผมนึกหมั่นไส้เลยอ้าปากงับเข้าที่แขนแกร่งไปหนึ่งที พี่จีบสะดุ้งเล็กน้อยแต่แทนที่จะโวยวายว่าโดนทำร้ายกลับกวนประสาทแทน

"อยากกินกูเหรอ เดี๋ยวคืนนี้ยอมให้กินทั้งตัวเลยเอาไหม"
พี่จีบพูดแล้วทำตาเล็กตาน้อยใจกันจนผมรู้สึกขนลุกซู่ ไม่รู้ว่ามันจะจำได้ไหมว่าต้องเอาเกรดมาแลกน่ะ! จะหื่นกามพร่ำเพรื่อใส่ผมแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย ไม่ใช่คนใจแข็งมากมายอะไรเผื่อจะยังไม่รู้กัน กลัวใจตัวเองว่าจะไปปล้ำเขาก่อนนี่ล่ะ ฮือ

"หึ ใครจะไปอยากกินพี่ หลงตัวเองชะมัด"
ปากไม่ตรงกับใจใครจะสู้ไอ้คิสคนนี้ เอาตัวรอดแบบถูๆไถๆโดยจับได้ทุกครั้งก็ยังไม่เข็ดแถมยังลอยหน้าลอยตาเอื้อมมือไปปรับคลื่นวิทยุเขาอีก... น่าถีบกระเด็นเนอะผมเนี่ย

"แต่กู... อยากกินมึงนะ"
เสียงกระซิบข้างหูดังขึ้นตอนที่รถของเราติดไฟแดงพอดิบพอดี ผมเกร็งตัวเผลอกำชายเสื้อนักศึกษาที่หลุดลุ่ยของตัวเองเอาไว้แน่น อุณหภูมิเย็นยะเยือกของเครื่องปรับอากาศรถยนต์ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายของผมหายร้อนเลยด้วยซ้ำ ทำไมต้องพูดเรื่องแบบนี้ออกมาง่ายๆด้วยวะ ไม่รู้หรือไงว่าทำให้คนอื่นเขาระทวย จะสมยอมมันในรถอยู่แล้วเนี่ย สติเว้ยสติ!

"พูดบ้าอะไรของพี่ เงียบไปเลยนะ"
ผมบ่นงุ้งงิ้งก่อนจะยกมือกุมแก้มตัวเองเอาไว้เพราะไอ้พี่จีบมันก้มหน้าจนจมูกจะชนอีกแล้ว... แต่ไม่วายที่จะกดปลายจมูกโด่งลงกลางหลังมือ ฮือ เขินหนักกว่าเดิมอีกเว้ย จีบแอทแทคนี่ผมขอสงวนลิขสิทธิ์ผูกขาดเป็นเจ้าของคนเดียวนะ คนอื่นห้ามยุ่ง

"กูพูดความจริง กำลังตั้งใจเรียนเพื่อมึงเลยนะ"
ตั้งใจเรียนเพื่อผมกับผีนะสิ.. เพื่อร่างกายผมล่ะไม่ว่า พี่จีบยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาให้แสดงออหอย่างชัดเจนว่าความหมายมันส่อไปในทางหื่นกามอย่างแน่นอนจนผมขยับตัวชิดหน้าต่างเลยทีเดียว

"พอๆๆๆ เลิกพูดเรื่องนี้เลย แล้วนี่จะพาผมไปไหนอ่ะ ไม่ใช่ทางไปร้านกาแฟนี่"
ผมเพิ่งรู้ตัวว่าโดนพาออกนอกเส้นทาง พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นแล้วหัวเราะออหมาเบาๆกับความเอ๋อของผม

"นี่ถ้ากูพามึงไปขายจะรู้เรื่องไหม"
พี่จีบพูดติดตลกก่อนจะเหยียบคันเร่งออกรถ ผมทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจเพราะเหมือนโดนด่าว่าโง่ทางอ้อมยังไงก็ไม่รู้

"กล้าเอาแฟนตัวเองไปขายเหรอ"
ผมถามเสียงแข็งก่อนจะหันไปมองด้านนอกเพราะไม่อยากมองหน้าพี่จีบที่เอาแต่ยิ้มมีความสุข เห็นแล้วหมั่นไส้อยากกัดคอให้ขาด

"เดี๋ยวนี้ยอกย้อนนะคิส"

"ทำไมอ่ะ ไม่ได้เหรอ นี่แฟนนะ"

"ไม่อยากมีแฟนแล้ว"

"อะไร พูดแบบนี้หมายความว่าไง!"
ผมหันขวับไปจ้องไอ้พี่จีบตาเขม็ง มือของผมกำหมัดเตรียมต่อยหน้ามันเต็มที่หากพูดไม่เข้าหู เพิ่งคบกันมาได้สองเดือนจะเลิกแล้วหรือยังไง

"มึงจะกินหัวกูเหรอ อารมณ์ร้อนฉิบหาย ท้องป่ะเนี่ย"
เขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะกลัวผมแม้แต่น้อยเพราะยังเผยรอยยิ้มกวนๆให้ได้เห็นกันอยู่ ส่วนผมที่โดนหาว่าอารมณ์ร้อนได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะให้ลำคอก่อนจะบ่นพึมพำคนเดียว

"ใครจะไปท้อง เสียบก็ไม่เคยเสียบ"
แทนที่จะบอกว่าเป็นผู้ชายจะท้องได้ไงเนอะ แม่ง แต่เหมือนจะบ่นเสียงดังไปหน่อยไอ้คนข้างๆเลยเลิกคิ้วมองกัน มือที่จับพวงมาลัยละมาวางบนขาผมแล้วออกแรงลูบไล้จนรู้สึกขนลุกซู่ อยากจะปัดออกใจจะขาดแต่ก็กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ โอย ไอ้บ้า หื่นอะไรตลอดเวลาขนาดนี้วะเนี่ย

"พะ พี่จีบทำอะไรวะ ขนลุกหมดแล้ว"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักสายตายังคงจับจ้องมือหนาเคลื่อนตัวไปมาตำแหน่งเดิม มุมปากหยักของคนหล่ออย่างพี่จีบกระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้ผมเสียวสันหลังวาบทันที อึก มันโดนน้องชายกูแล้ว ฮือ

"อยากโดนเสียบไม่ใช่เหรอ"
มันหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ก่อนจะขยำลงมาบนขาอ่อนผมเบาๆ ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นและรู้ว่าถ้ายังคงปล่อยให้มันลูบแบบนี้มีหวังสติแตกแน่ๆเลยกลั้นใจตะครุบมือหนาเอาไว้ไม่ให้ซุกซนไปมากกว่านี้ ผมสูดหายใจเข้าแรงๆเพื่อระงับความร้อนรุ่มของร่างกายไว้

"หูเพี้ยนเข้าข้างตัวเองตลอดอ่ะคนเรา"
ผมย่นจมูกใส่แล้วดึงมือพี่จีบไปตั้งบนพวงมาลัยเหมือนเดิม พยายามทำเสียงให้ปกติและไม่แสดงอาการอะไรออกมาทั้งๆที่ใจสั่นจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว

"เผื่อมึงใจอ่อนไง แล้วนี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ"
ผมเหลือกตาใส่ก่อนจะหันหลังให้กัน คำถามชวนให้สติแตกนั่นคืออะไร เขาต้องการคำตอบแบบไหนจากผมวะ.. หลับจาหนีแม่ง ตอบยากจะตาย

"....."

"คิส หลับเหรอ"

"....."

"เฮ้อ งั้นขับกลับคอนโดเลยนะ"

"....."
จะไปไหนก็ไปเถอะ ตอนนี้ขอหนีก่อนแล้วกัน จะพาขึ้นคอนโดก็ยอมแล้วจังหวะนี้ ยอมไปนะไม่ใช่สมยอม!

หลังจากนั้นผมก็หลับจริงๆมารู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่พี่จีบเดินมาเปิดประตูรถแล้วปลุกนั่นล่ะ ผมลืมตางัวเงียก่อนจะลงจากรถเดินตามเขาขึ้นคอนโดไปด้วยสติที่ยังไม่ครบถ้วน วันนี้เป็นวันศุกร์ที่เราตกลงกันไว้ว่าผมจะมานอนค้างจนถึงวันอาทิตย์ ปิดเทอมใหญ่เมื่อไหร่ถึงยังย้ายเข้ามาแบบเต็มตัว

"อ่าว วันนี้ซารังไปไหนครับ"
ผมถามเมื่อเข้ามาแล้วเจอแต่ห้องที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากผมกับพี่จีบ เขาหันมามองก่อนจะชี่ไปที่โพสต์อิทสีเขียวมะนาวตรงตู้เย็น

"น่าจะออกไปไหนมั้ง อ่านดูดิ"
พี่เขาพยักพเยิดไปทางด้านนั้นอีกครั้ง ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินตรงไปดึงโพสต์อิทออกมาอ่าน พี่จีบกำลังถอดเสื้อนักศึกษาออกเหลือแค่เสื้อกล้ามสีขาวด้านใน

"ออกไปทำรายงานและค้างบ้านเพื่อน"
ผมอ่านข้อความในกระดาษให้ฟัง พี่จีบพยักหน้ารับก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแล้วกดเปิดเครื่องปรับอากาศทันที เพราะรู้สึกว่ามันร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตก ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันแล้วรวบรวมความกล้าเรื่องขอให้พี่จีบเป็นแบบวาดภาพให้ กลัวโดนปฏิเสธจังว่ะ

"พี่จีบ คือว่า..."
ผมเงียบหลังจากคำนั้นเพราะยังชั่งใจอยู่ว่าจะขอช่วยดีไหม เห็นสภาพเหนื่อยล้าของเขาแล้วก็ไม่อยากกวนเท่าไหร่ ตัวเลือกอื่นที่พอคิดได้ในตอนนี้มันลำบากเกินไป อย่างพี่แบทเนี่ย... พี่จีบคงฆ่าปาดคอผมแน่ๆ พี่ดีพยิ่งไม่ต้องพูดถึงรายนั้นคงโดนไอ้ภีมขอช่วยไปแล้ว

"หืม มีอะไร"
พี่เขาหันมามองกันก่อนจะยืดตัวนั่งตรงๆราวกับสนใจฟังมาก ผมอึกอักเล็กน้อยแต่ในที่สุดก็ต้องขอร้องเขาอยู่ดีนั่นล่ะ แฟนกันไม่ช่วยกันผมจะงอนไปสองชั่วโมงเลย หึ!

"ช่วยเป็นแบบวาดภาพให้หน่อยดิ"
ผมกำชายเสื้อตัวเองแน่นเพราะลุ้นคำตอบ พี่จีบเลิกคิ้วมองกันด้วยความสงสัยก่อนจะตั้งคำถามกลับมา

"หืม ปีสองยังเรียนดรออิ้งอยู่เหรอวะ"

"ครับ ได้ไหม เป็นแบบให้หน่อย"

"แบบนู้ดเหรอ"
พี่จีบยิ้มกรุ่มกริ่มแต่ผมเบิกตาโพลงเพราะตกใจสิ่งที่เขาพูด มือเรียวฟาดลงบนต้นแขนของพี่จีบอย่างไม่ต้องคิดอะไร มันหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างถูกใจที่สามารถทำให้ผมแสดงหน้าเหวอๆออกมา แกล้งกันตลอด

"ไอ้บ้า ใช่ที่ไหนเล่า!"
ผมแยกเขี้ยวใส่มันก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อจะหนีแต่ไอ้คนมือไว้กลับฉุดแขนผมให้นั่งลงบนตักของมันอย่างพอดิบพอดี แขนแกร่งสอดล็อคช่วงเอวเอาไว้ไม่ให้ผมดิ้นหนีราวกับรู้ทัน ยอมใจจริงๆ.. ผมนั่งนิ่งๆแต่ทำเสียงฮึดฮัดจนพี่จีบกดจมูกลงบนต้นคอกัน ขนอ่อนในกายลุกชันทำให้ผมนั่งเกร็งทันที อารมณ์ที่เคยสงบได้ก่อนหน้านี้เหมือนมันจะเริ่มก่อตัวใหม่จนน่ากลัว

"ทะ ทำอะไร"
ผมถามเสียงตะกุกตะกัก รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่างกายจนไม่สามารถควบคุมได้ อยากลงจากตักมันจะแย่แต่ไม่กล้าขัดขืนเพราะกลัวมันจะหงุดหงิดและไม่ยอมเป็นแบบทำงานให้กับผม

"แค่อยากทำ เป็นแบบให้ก็ได้ แต่มีของตอบแทนกูไหม"
แรงกอดกระชับเพิ่มขึ้นและรับรู้ได้ว่าคางของเขาวางลงมาบนไหล่ ลมหายใจอุ่นๆรินรดต้นคอจนทำให้รู้สึกวาบหวิวแปลกๆ ผมเม้มปากแน่นแล้วคิดถึงคำพูดของไอ้ภีม เอาของตอบแทนล่อสักหน่อยพี่จีบก็ช่วยแล้ว ซึ่งมันก็จริง แต่คงต้องเป็นสิ่งที่คุ้มค่าพอสำหรับเขา

"โห... ช่วยฟรีๆไม่ได้เหรอ"
ผมแกล้งทำน้ำเสียงผิดหวังแต่มีหรือคนอย่างพี่จีบมันจะแคร์เรื่องแค่นี้ จมูกโด่งกดลงมาบนซอกคอผมอีกครั้งจนได้ยินเสียงสูดอากาศเข้าปอด ผมเบี่ยงตัวหนีเพราะกลัวว่ากลิ่นเหงื่อจะทำให้อีกคนบ่น ไม่ใช่คนที่มีกลิ่นหอมตลอดเวลานะเว้ย ไม่ได้มั่นใจในตัวเองขนาดนั้น

"นั่งนิ่งๆให้มึงวาดไม่รู้กี่ชั่วโมง จะใจร้ายใจดำไม่มีของตอบแทนจริงๆเหรอ"
เสียงออดอ้อนทำให้ผมเผลอใจอ่อนยวบ นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเองว่าทำไมต้องแพ้ไอ้คนเจ้าเล่ห์นี่ทุกครั้ง เมื่อไหร่จะชนะบ้างเล่า

"เออๆ มีให้อยู่แล้วล่ะครับ ไม่ต้องทวงหรอกน่า"
ผมว่าก่อนจะหันไปดึงแก้มกร้านเล่นอย่างมันเขี้ยว พี่จีบคลี่ยิ้มกว้างแล้วใช้จังหวะนั้นกดริมฝีปากลงมาทาบทับตำแหน่งเดียวกันของผมอย่างรวดเร็ว ความนุ่มหยุ่นที่มาพร้อมกับแรงดูดเม้มทำให้ผมใจกระตุกและเต้นถี่รัว อุณหภูมิในร่างกายพุ่งสูงขึ้นจนต้องผละออกอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่เสียดายรสจูบหอมหวานอยู่ไม่น้อย กลัวมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ถ้ายอมให้ง่ายๆก็กลัวว่าสักวันจะโดนทิ้งได้ง่ายๆเหมือนกัน

"ผะ ผมจะไปอาบน้ำแล้ว"
ผมบอกก่อนจะแกะแขนแกร่งออกจากรอบเอว คราวนี้เขายอมกันง่ายๆปล่อยให้ผมลุกขึ้นจากตักโดยไม่ทักท้วงอะไร แต่ที่น่าแปลกคือเขาลุกขึ้นตามก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องน้ำก่อนจะกวักมือเรียกกัน ผมเอียงคอมองด้วยความสงสัยแต่ก็คว้าเอาผ้าขนหนูตามไป

"เดี๋ยวช่วยอาบนะ"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปาก ผมถึงกับกำหมัดแล้วต่อยเข้าที่อกแกร่งก่อนจะวิ่งผ่านเขาเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วแล้วปิดประตูลงทันที ได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วมาจากหน้าประตูนั่นทำให้รู้ว่าโดนแกล้งอีกแล้ว วันนี้มันทำให้ผมเขินมากี่รอบแล้ววะเนี่ย โอย เหนื่อยจะตายอยู่แล้วที่หัวใจเต้นแรงไม่หยุดหย่อน ขยันหยอดกันมากเกินไปแล้วเว้ย!

ผมกลับออกมาอีกครั้งก็เห็นพี่จีบนอนยาวอยู่บนโซฟา เปลือกตาปิดสนิทลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าเขาหลับทั้งๆที่เสียงทีวียังคงดังอยู่ ผมทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นหน้าโซฟาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบรีโมทที่ตั้งอยู่บนหน้าท้องแกร่งมาเปลี่ยนช่อง มือเรียวขยี้ผ้าผืนเล็กลงบนเส้นผมไปเรื่อยๆ ตากลมก็จ้องมองรายการเพลงเกาหลีอย่างเอาเป็นเอาตาย อยากเรียนภาษานี้เพราะบางครั้งพี่จีบก็ชอบพูดอะไรที่ผมฟังไม่รู้เรื่องอยู่เรื่อย ไม่รู้ด่ากันบ้างหรือเปล่า

"อือ"
เสียงครางทำให้ผมละสายตาจากรายการทีวีที่ฟังไม่รู้เรื่องมาสนใจคนที่นอนยาวเหยียดบนโซฟาแทน ดวงตาคมปรือขึ้นอย่างยากลำบากเพราะตอนนี้ผมเปิดไฟสว่างโล่ มือหนายกขึ้นขยี้ตาตัวเองเบาๆช่างเป็นภาพที่น่ารักจนผมหลุดขำออกมา อยากจะหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะมาถ่ายรูปเก็บไว้ แต่โดนเขาใช้แขนมาโอบกอดซะก่อน แถมยังขยับหน้ามาซุกลงตรงไหล่อีกด้วย กำลังอ้อนกันอยู่หรือเปล่านะ

"ทำไมไม่ปลุก จะได้ไปอาบน้ำ"
เสียงอู้อี้ดังมาจากข้างหูหลังจากนั้นรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่าลดลงมา จมูกโด่งกำลังซุกไซร้ต้นคอของผมจนรู้สึกขนลุกขึ้นมาอีกแล้ว ฮึ่ย นี่จะเอาให้ผมใจอ่อนให้ได้เลยใช่ไหมวะ!

"จะไปอาบก็ไปเลย ๆม่ใช่มาทำให้คนอื่นเขาขนลุกแบบนี้!"
ผมว่าเสียงดังก่อนจะใช้มือดันหัวพี่จีบออกไปห่างๆและขยับหนีไปไกลๆมันอีกที เขาเลิกคิ้วมองกันก่อนจะขยี้หัวตัวเองแล้วยกยิ้มมุมปากขึ้นราวกับเจอเรื่องถูกใจ

"แค่อยากพิสูจน์ว่ามึงตายด้านหรือเปล่า"

"ไอ้บ้า ก็รู้ว่าไม่ได้ตายด้าน อย่าหาเรื่องลวนลามคนอื่นแบบนี้ดิ"
ผมเบ้ปากใส่มันทั้งๆที่เขินจะตายอยู่แล้ว ใครใช้ให้มันพิสูจน์วันละหลายๆรอบแบบนี้ล่ะวะ คนนะเว้ยไม่ใช่พระอิฐพระปูน กลัวใจตัวเองจะปล้ำมันไม่รู้วันละกี่รอบ โอย อยากจะฆ่าแฟนตัวเองหมกส้วมจริงๆ

"เหรอ... ก็เห็นตอนอยู่ในรถทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร"
พี่จีบไม่พูดเปล่าแต่ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนผมผงะถอยหลังชนโต๊ะกาแฟตัวเตี้ยทันที ระยะห่างไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยด้วยซ้ำ มือทั้งสองข้างจึงเป็นเครื่องมือดันให้ผมกับเขาห่างกันออกไปเล็กน้อย ใจสั่นจะตายแล้วเว้ย

"ใครเขาจะหน้าด้านบอกล่ะว่ารู้สึก! ผมไม่ใช่พี่นะเว้ย"
ผมเผลอโวยวายออกไปจนหมดเปลือกทำให้เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะแกล้งขยับหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดชิดริมฝีปากกัน

"ตอนนี้ยังรู้สึกไหม กูช่วยได้นะ"

"ไม่โว้ย ไปอาบน้ำไป หิวข้าว!"
ผมผลักพี่จีบออกแล้วลุกขึ้นเดินลิ่วๆหนีเข้าห้องครัวทันที ใครจะอยากให้มันช่วยล่ะ น่าอายจะตาย ฮือ ครั้งนั้นตัวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆเพราะความเขิน ถ้ามีอีกครั้งผมคงหัวใจวายตายคาที่นอนแน่ๆ ฮึ่ย

นั่งตีอกชกลมอยู่ได้ไม่นานพี่จีบก็เดินเข้ามาในห้องครัวหลังจากอาบน้ำเสร็จ ยอมรับว่าเผลอสูดกลิ่นสบู่อ่อนๆที่ลอยเข้ามาแตะจมูกเข้าไปเต็มๆ ก็พี่จีบดันมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆนี่หว่า

"ทอดไข่เจียวให้กินหน่อย เดี๋ยวกูหุงข้าวเอง"
พี่จีบพูดเสียงราบเรียบทำให้ผมหันขวับไปมองเข้าอย่างไม่เชื่อหู ร้อยวันพันปีไม่เคยจะไว้ใจให้ทำอาหาร แล้ววันนี้นึกคึกอะไรขึ้นมาวะ

"พี่... คึกอะไรขึ้นมาวะ ให้ผมทอดไข่เจียวเนี่ยนะ มันจะกลายเป็นไข่ไหม้อ่ะดิ"
เขาไหวไหล่ก่อนจะลุกขึ้นไปเตรียมหุงข้าว ผมเดินเข้าไปประชิดตัวพี่จีบก่อนจะยืนจ้องอยู่แบบนั้นอย่างต้องการคำตอบ ตั้งแต่โดนสอนให้ทำอาหารมาผมเพิ่งเคยโดนพี่จีบขอร้องให้ทำเองครั้งนี้ครั้งแรกเลยนะ แอบตื่นเต้นและกลัวอยู่เหมือนกัน

"อยากกินฝีมือว่าที่ศรีภรรยาหน่อยไม่ได้เหรอไง"
ผมสะอึกกับคำนั้นทันที แก้มสองข้างร้อนวูบวาบอยากจะเถียงแต่เถียงไม่ออกได้แต่ก้มหน้างุดๆเดินไปหยิบไข่ในตู้เย็นสองฟองมาตอกใส่ถ้วย มือไม้สั่นกึกๆไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือหงุดหงิดกับคำที่พี่จีบใช้เรียกแทนตัวผมเมื่อครู่ น้ำปลา น้ำตาลถูกใส่ลงในถ้วยแบบไม่รู้ปริมาณมากน้อยด้วยซ้ำ ถ้ากินไม่ได้อย่ามาโทษกันนะเว้ย เพราะต้นเหตุมันมาจากพี่คนเดียวเลย!

ไม่อยากจะโม้ว่าหน้าตาไข่เจียวออกมาน่ากิน แต่เรื่องรสชาติยังไม่กล้าพูดว่ามันอร่อย จานไข่เจียวถูกตั้งลงกลางโต๊ะก่อนที่ข้าวสวยร้อนๆจะตามมา ผมนั่งมองพี่จีบที่จ้องไข่เจียวตาเป็นมันก่อนจะยกนิ้วโป้งให้กันเมื่อเห็นว่ามันหน้าตาดีกว่าที่คิด

"น่ากินดี ไม่ไหม้นี่"
เขาพูดก่อนจะตักไข่เจียวใส่จานตัวเอง ดวงตาคมเหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนจะตักไข่เจียวเข้าปาก เข้าชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเคี้ยวต่อและกลืนลงคอก่อนจะคลี่ยิ้มให้โดยไม่พูดอะไรออกมา ผมที่กำลังลุ้นถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อพี่จีบยังคงกินข้าวไปเงียบๆ

ผมตักไข่เจียวมาลองกินบ้างก็พบว่ามันเค็มมากเกินไป จนเกือบคายทิ้ง แต่พี่จีบกินได้อย่างหน้าตาเฉยแถมยังดูมีความสุขอีกด้วยจนผมต้องวางช้อนของตัวเองแล้วรั้งข้อมืออีกคนให้หยุดกินสักที

"กินเข้าไปได้ไง เค็มมากเลยนะพี่"
พี่จีบช้อนตามองกันก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างจนผมเผลอกลั้นหายใจ ไม่ต้องมาจีบแอทแทคตอนนี้ได้ไหมวะ กำลังกังวงเรื่องไข่เจียวเค็มอยู่นะเว้ย

"เพราะเป็นฝีมือมึงไง รสชาติจะเป็นยังไงกูก็กินได้"

"ไอ้บ้า... อย่ามาทำซึ้งนะเว้ย"
ผมก้มหน้างุดเพราะไม่สามารถสู้สายตาหวานเยิ้มที่พี่จีบส่งมาให้กันได้ เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสอุ่นที่บนหลังมือของผม จากที่ตอนแรกจับมือเขากลายเป็นโดยจับไว้ซะเอง

"พี่พูดเรื่องจริง อะไรที่คิสตั้งใจทำให้ พี่ชอบทั้งนั้นล่ะ"

อา...ผมแพ้อีกแล้วครับ แพ้อย่างราบคาบจริงๆ ยอมแพ้ตลอดชีวิตกับคนๆนี้แล้วจริงๆ




------------------------------------------------------





Q & A กับจีบ

Q : ทนกินไข่เจียวเค็มได้จริงๆน่ะเหรอ?
A : ได้สิครับ เพราะรักหรอก ไม่งั้นผมเอาไข่เจียวโปะหน้าไอ้คิสแล้ว
Q : ถ้าเราทำไขาเจียวเค็มๆให้จีบกินบ้างล่ะ?
A : ถังขยะอยู่ที่ไหนครับ !
Q : ใจร้าย ! T^T




มาอัพแล้วน้า... ไข่เจียวเค็มๆก็อร่อยได้เพราะความรัก ฮิ้วว คนอ่านอย่าเพิ่งอ้วกนะ 5555555
พี่จีบมันขยันแต๊ะอั๋งน้องจริงจังเพราะหวังผลนะเออ ไอ้เรื่องเกรดนั่นอาจจะนานเกินรอไปหน่อย -..-

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-09-2016 12:15:54
 o13  อื้อหือ  ยอมใจพี่จีบเลยอะ รางวัลเป็นอะไรดีน้อ น้องจูบของพี่จีบ   :katai3: 
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 09-09-2016 12:52:45
ขยันเตาะขนาดนี้ ขอให้สำเร็จในเร็ววันนะพี่จีบนะ โฮะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 09-09-2016 13:25:31
เต๊าะบ่อยๆ น้องจูบก็จะจับตัวเองใส่พานถวาวอยู่แล้ว 555 สงสารน้องจูบจะทนได้อีกกี่น้ำ555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 09-09-2016 13:43:18
ขนาดเป็นแฟนกันแล้วยังพูดจาจีบคีสอยู่เลย
คิสจะไปไหนรอดเนี่ยพี่จีบ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-09-2016 15:12:28
ผู้ชายแบบพี่จีบมีอีกมั๊ย

เค้าอยากได้บ้าง

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-09-2016 15:40:11
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 09-09-2016 15:53:53
น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-09-2016 16:05:19
อืมมมมม รักนี่เนอะทำอะไรให้ก็อร่อยหมดแหล่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-09-2016 18:05:36
ไม่รอดแน่น้องคิส พี่จีบจัดหนักแน่ ทั้งเรื่องเกรด แล้วก็เป็นแบบ คริคริ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-09-2016 19:06:16
จ้ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 09-09-2016 19:27:42
ขอแบบพี่จีบคนได้มั้ยคะ ฮือออ น่ารักกก หยักดั้ยยยย
สงสารคิสนะ ขนลุกแล้วขนลุกอีก รอเกรดออกพี่จีบจัดน้องให้หนัก เอาให้สบายตัวไปเลยนะ 555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-09-2016 21:13:34
ของรางวัลนี่จะเป็นไรดีล่ะ รู้สึกเหมือนพี่จีบแกอยากได้ตัวน้องคิสมากกว่านะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-09-2016 00:22:30
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-09-2016 10:03:57
เต๊าะ ไปอีก ๆ เราชอบ 555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 10-09-2016 11:05:36
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 27 -P.16- (09.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 10-09-2016 14:41:31
มีความ อิจ คิส มากมาย อยากได้แบบพี่จีบสักคนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 12-09-2016 16:26:35
- ดื่มครั้งที่ 27.5 -
(จีบ x คิส)




ฝนตกอีกแล้วเหรอ?

คำถามนี้วนเวียนอยู่ในสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันไม่ได้ต้องการคำตอบอะไร แค่ถามกับตัวเองด้วยความเบื่อหน่ายก็แค่นั้นเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาจะหยุดเมื่อไหร่ ละอองน้ำเพียงเล็กน้อยที่ตกกระทบลงมาบนตัวทำให้คนไม่ถูกกับฝนจามแล้วจามอีกจนปลายจมูกกลายเป็นสีแดงระเรื่ออย่างน่าสงสาร ครั้นจะลากไปหลบฝนที่อื่นก็เกรงว่าจะไม่ได้เพราะคนแน่นขนัดเหลือเกินในยามนี้ น้ำเจิ่งนองไปทั้งถนนจนเกรงว่าถ้าย่ำรองเท้าผ้าใบลงไปจะสามารถเลี้ยงปลาทองไว้ในรองเท้าได้ไม่ยาก

"คิส ไหวไหม"
ผมถามคนข้างตัวด้วยความเป็นห่วง จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เขาตากฝนและป่วยแทบจะทันที ครั้งนี้ต่างกันมากตรงที่เรายืนแช่ให้ละอองฝนตกกระทบตัวเกือบราวสามสิบนาทีเข้าไปแล้ว กุญแจรถ BMW ในมือถูกหมุนไปมาด้วยความร้อนใจเล็กๆ คิสหันมามองกันก่อนจะพยักหน้าเบาๆทั้งทีเมื่อครู่เพิ่งจามติดต่อกันไปสองรอบ มีแววว่าผมจะได้ดูแลคนป่วยอีกแล้วสินะ

"ยังไหวอยู่ แต่โคตรหนาวเลย"
ร่างบางเบียดเข้ามาหากันจนแทบจะสิงกัน ถ้าหากในยามปกติเขาคงไม่ทำแบบนี้เพราะกลัวสายตาคนอื่นจะมองเราไม่ดีที่ผู้ชายสองคนตัวใหญ่ๆมายืนแนบชิดกัน แต่ในขณะนี้ความเปียกชื้นและละอองฝนที่กระเซ็นโดนตัวคงผลักดันให้ทำโดยไม่แคร์สายตาใคร ผมนึกขอบคุณสายฝนที่ทำให้แฟนไม่สนใจคนอื่นมากกว่าความรู้สึกตัวเอง

"ยืนหลบหลังกูก่อนก็ได้"
ผมพูดพลางกระตุกแขนเขาให้ขยับไปยืนซ้อนหลัง ผมที่มีความสูงและโครงสร้างร่างกายหนากว่าแทบจะบังคิสจากสายตาคนที่มองมาได้สนิท รอยยิ้มเล็กๆจากใบหน้าเอ๋อๆทำให้ผมเผลอยิ้มตามได้ทุกครั้ง จากสนใจ กลายเป็นชอบ จนสุดท้ายก็รักอย่างไม่รู้ตัว แทนที่ผมจะสนใจสาวๆสวยๆที่รายล้อมรอบตัว กลับตกหลุมเด็กผู้ชายที่เป็นแฟนคลับของตัวเองซะอย่างนั้น

"พี่จีบ เสื้อนักศึกษาเปียกหมดแล้วนะ เอาเสื้อกันหนาวผมไปใส่เหอะ"
ผมก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วเบ้ปากใส่เล็กน้อย เสื้อนักศึกษาสีขาวเปียกลู่เพราะละอองฝนจำนวนมากกำลังแนบสนิทกับผิวเนื้ออย่างไร้ช่องว่าง จากที่คิดว่าคงไม่เป็นไรพอถูกทักเข้าหน่อยเริ่มรู้สึกหนาวจนผิดปกติขึ้นมาบ้างแล้ว แต่จะให้แย่งเสื้อเจ้าเด็กอ่อนแอต่อฝนก็เห็นจะใจร้ายเกินไปหน่อยล่ะมั้ง

"ไม่เอา มึงบ่นหนาวยังจะมาห่วงกูอีก"
ผมยกมือขึ้นขยี้หัวคิสจนยุ่งเหยิงไปหมด เขามุ่ยหน้าใส่กันแต่ก็ไม่ยอมปัดมือที่น่ารำคาญของผมทิ้ง อาจจะเพราะชอบหรือเหนื่อยจะห้ามแล้วก็ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่ผมนึกอยากขย้ำเขาเพราะความน่ารักจะระงับตัวเองด้วยการขยี้ผมเขานี่ล่ะ

"ระวังป่วยนะพี่จีบ ผมดูแลใครไม่เป็นนะเว้ย"
เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังขึ้นพร้อมกับจมูกโด่งๆถูไถลงมากับต้นแขนของผมเพียงครู่เดียวก่อนจะผละตัวมาเบะปากใส่กัน ใครจะมองว่ามันทำตัวปัญญาอ่อนก็ช่างแต่สำหรับผมมันน่ารักน่าฟัดเสมอ

"เออน่า ไม่ป่วยง่ายๆหรอก"
ผมตอบก่อนจะยิ้มมุมปากให้ไป หลังจากนั้นเราทั้งคู่ยืนรอฝนซาแต่เหมือนมันจะไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย นาฬิกาข้อมือบอกเวลาหกโมงเย็นที่ควรจะกลับคอนโดได้แล้วเพราะเจ้าข้าวเหนียวรออยู่ มันคงหอนเรียกร้องให้เจ้านายกลับมาใจจะขาดแล้วล่ะมั้งตอนนี้

"คิส กูวิ่งตากฝนไปขับรถมารับมึงดีกว่า ดูท่าทางฝนจะไม่หยุดตกแล้ว"
ผมหันไปบอกคนที่ยืนกอดตัวเองซะแน่นหนา น่าสงสารแต่ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ในเมื่อเสื้อผ้าเปียกโชกมากกว่าเขาอีก ดวงตากลมช้อนมองก่อนจะส่ายหน้าแรงๆ คิสใช้มือข้างหนึ่งสอดเข้ามารั้งรอบเอวของผมไว้ด้วยความเป็นห่วงจนทำให้เผลอหลุดยิ้มได้ง่ายๆ ก็ไหนบอกว่าแคร์สายตาคนอื่นนักหนา แล้วมากอดเอวแบบนี้ไม่อายหรือยังไง

"ไม่เอานะ ตากฝนขนาดนั้นไม่สบายแน่ๆ"

"เป็นห่วงหรือขี้เกียจดูแล"
น้ำเสียงหยอกเย้าของผมได้รับการตอบรับด้วยฝ่ามือเล็กๆที่ลาดไหล่ เสียงดังเพี๊ยะเรียกสายตาคนรอบข้างให้หันมามองเราอย่างฉงน ผมแอบเบ้ปากเล็กน้อยเพราะคิสตีลงมาแบบไม่ออมแรงเลยสักนิด ใบหน้าติดจะหวานของมันบึ้งตึงอย่างกับคนถ่ายไม่ออก มองแล้วก็ตลกดี

"ใครจะขี้เกียจดูแลแฟนตัวเองวะ"
บ่นพึมพำกับตัวเองแต่ผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนจนเผลอหลุดยิ้มออกมาครั้งแล้วครั้งเล่ากับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนกัน คิสน่ารักกว่าใครผมรู้ดี คิสเอาใส่ใจผมมากกว่าใคร ที่บอกว่าดูแลใครไม่เป็นนั่นเรื่องโกหกทั้งนั่นล่ะน่า ผมเชื่อว่าถ้าป่วยขึ้นมาเด็กคนนี้ก็พร้อมที่จะดูแลอยู่แล้ว ถึงมันจะเงอะๆงะๆไปบ้างก็เถอะ

"น่ารักจริงนะมึง"

"น่ารักก็รักเยอะๆ"
เสียงกระซิบแผ่วเบามาพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะความเขิน เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าคิสติดนิสัยหยอดหนักไปจากผมหรือเปล่าถึงได้ชอบพูดคำหวานแบบนี้ออกมาบ่อยๆ

"ทำตัวแบบนี้ไม่กลัวโดนปล้ำเหรอวะ"
ผมก้มลงกระซิบข้างหูร่างบางด้วยเสียงที่แหบพร่าเพราะอยากแกล้ง คิสสะดุ้งแล้วผละตัวออกแถมยังปล่อยแขนที่โอบรอบเอวผมออกด้วย ใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก เขาก้มหน้าบ่นอะไรงึมงัมคนเดียวไม่ให้ผมได้ยิน

"รออยู่นี่นะ จะผ่าฝนไปเอารถแล้ว ไม่งั้นไม่ได้กลับแน่ๆ"
ผมไม่รอฟังคำทักท้วงอะไรจากเขาแล้วรีบวิ่งผ่าสายฝนตรงไปที่ลานจอดรถของคณะศิลปกรรมศาสตร์ทันที เมื่อมาถึงก็รีบเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งทั้งๆที่ตัวเปียกอย่างกับลูกหมาตกน้ำ แต่ไม่เป็นไรเพราะเบาะเป็นหนังอย่างดี ผมยกมือขึ้นขยี้หัวเล็กน้อยก่อนจะเสียบกุญแจแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ มือเรียวเอื้อมเปิดแอร์แล้วพบกับความหนาวสะท้านจนปากสั่นเล็กๆ ผมน่าจะพลาดแล้วเพราะร่างกายที่อดหลับอดนอนมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ปั่นงานกำลังประท้วงว่ามันมีอาการผิดปกติแทรกซ้อน ป่วยก็ป่วยวะ อยากรู้เหมือนกันว่าคิสจะทำยังไง

ผมขับรถมาจอดหน้าตึกแล้วรีบคว้าร่มที่อยู่เบาะหลังมาก่อนจะเปิดประตูและกางร่มลงจากรถ รีบก้าวเท้าฉับๆย่ำน้ำเฉอะแฉะบนถนนโดยไม่สนว่ารองเท้าจะสกปรกหรือไม่เพราะตอนนี้คิสสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ปล่อยให้โดนละอองฝนนานๆไม่ดีแน่ๆ

"พี่จีบ เปียกทั้งตัวแล้วนะนั่น!"
คิสทำหน้าตาตื่นเมื่อเห็นสภาพเสื้อนักศึกษาเปียกลู่แนบกับผิวเนื้อ วันนี้ผมไม่ได้ใส่เสื้อกล้ามไว้ข้างในเพราะตอนเช้าอากาศร้อนจะเป็นจะตายใครจะนึกว่าตอนเย็นฝนจะเทลงมาอย่างกับฟ้ารั่วแบบนี้

"มาเร็วๆ มึงน่ะยืนโดนละอองฝนนานแล้ว"
ผมคว้าข้อมือเขามาจับไว้แล้วออกแรงดึงในมาอยู่ใต้ร่มคันเดียวกันแล้วพาไปที่รถอย่างรวดเร็ว ผมส่งคิสก่อนจะเดินไปฝั่งคนขับ ขึ้นรถได้ผมก็ทิ้งร่มเปียกชื้นไว้ทางเบาะหลังทันที

"พี่จีบจะป่วยเอานะครับ เปียกขนาดนี้"
คิสยังคงส่งสายตาห่วงใยมาให้กัน ผมเลยเอื้อมมือไปขยี้หัวมันเบาๆอย่างนึกเอ็นดู และในขณะนั้นเสียงจามก็ดังขึ้นจนผมแอบสะดุ้ง สงสัยคราวนี้จะเป็นหวัดทั้งสองคนแล้วล่ะ

"ห่วงตัวเองก่อนเถอะ จามไม่หยุดแล้ว"
ผมว่าก่อนจะเลื่อนมือไปดึงแก้มคิสเบาๆด้วยความมันเขี้ยว รู้จักห่วงตัวเองก่อนคนอื่นบ้างเถอะน่า

"อือ ไม่ป่วยหรอก เดี๋ยวนี้ผมถึกจะตายไป แค่จามนิดหน่อยคงไม่ร้ายแรง ว่าแต่พี่เถอะ อดหลับอดนอนมาเป็นอาทิตย์แล้วนะเว้ย จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง"
บ่นเป็นหมีกินผึ้งแต่คิสก็ยังน่ารักในสายตาผมเสมอ ไม่เคยคิดว่าจะรักใครคนหนึ่งได้มากขนาดที่ว่าหลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าจะกลายเป็นคนขี้หวง ไม่เคยคิดว่าจะกล้าป่าวประกาศว่าตัวเองมีแฟนเป็นผู้ชายแบบนี้ แต่ความเป็นคิสผลักดันให้ผมกล้าทำทุกอย่างออกมาเป็นธรรมชาติอย่างไม่กระดากอายเลยสักนิด ก็แฟนน่ารักใครมันก็อยากอวด

"เออๆ บ่นจริงๆเลย ยิ่งกว่าแม่อีก"
ผมว่าติดตลกแต่คิสมุ่ยหน้าใส่กันซะอย่างนั้น มือเรียวยื่นมาดึงแก้มผมด้วยความหมั่นไส้ เขาออกแรงมากเกินไปจนแก้มผมแทบจะหลุดติดมือ

"โอ้ย เจ็บนะ"

"ผมเป็นแม่ทูนหัวไงครับ"
มันว่าก่อนจะส่งยิ้มเย็นให้กับผม เชื่อเขาเลยว่าตอนจะดุกลับดุได้อย่างน่ากลัว จากลูกกระต่ายตัวน้อยๆกลายเป็นกระต่ายหนุ่มวัยต่อต้านไปซะอย่างนั้น

"ครับๆแม่ทูนหัว"
หลังจากนั้นผมก็ขับรถมาจอดใต้คอนโดหรูก่อนจะพากันขึ้นห้องด้วยสภาพที่เละเทะพอตัว สายฝนยังคงเทกระหน่ำลงมาอย่างน่ากลัว ผ้าที่ตากไว้ตรงระเบียงห้องเปียกซกจนต้องเดินออกไปเก็บมาซักใหม่ อย่าคิดว่าผมจะซักเองนะ... ร้านซักรีดใต้คอนโดเลย

"คิสรีบไปอาบน้ำก่อนเลยไป"
ผมบอกเขาเมื่อหอบผ้าเปียกๆมาใส่ตะกร้าก่อนจะปิดประตูกระจกที่ระเบียงลง ร่างบางพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรวบเอาเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป ผมเห็นแบบนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าที่เปียกโยนใส่ตะกร้าทั้งหมอแล้วดึงเอาผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง อาการปวดหัวกำลังเล่นงานเข้าอย่างจัง งานเข้าแล้วไหมละ เฮ้อ

ผมกำลังจะหลับตาลงเพราะรู้สึกหนักเปลือกตา แต่เสียงทุ้มเอ่ยทักกันก่อนที่ร่างบางจะนั่งลงข้างๆแล้วใช้หลังมือแตะหน้าผากกัน

"ตัวร้อนแล้วนะ ไม่ต้องอาบน้ำแล้ว เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ดีกว่า"
ผมยังไม่ทันได้ทักท้วงอะไร คิสก็ลุกขึ้นไปเตรียมอุปกรณ์สำหรับเช็ดตัวกันแล้ว ผมได้แต่ลอบมองแล้วยิ้มออกมาอย่างคนหมดทางสู้ เอาเถอะ ให้แฟนเหนื่อยหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ

"มาครับๆ นอนลงนะ จะได้เช็ดง่ายๆ"
เสียงใสๆดังขึ้นทำให้ผมนอนลงอย่างว่าง่าย มือเรียวบิดไล่น้ำจากผ้าขนหนูผืนเล็กก่อนจะเช็ดมันไปตามลำตัวของผมอย่างเงอะๆงะๆ ถ้าตาไม่ฝาดจะเห็นว่าแก้มขาวๆซับสีชมพูระเรื่อไว้ มือเขาเริ่มสั่นน้อยๆเมื่อเลื่อนต่ำลงใกล้จุดอ่อนไหว บางปากเม้มเข้าหากันแน่นอย่างกับคนกำลังคิดอะไรในสมอง

ผมลอบมองปฏิกิริยาเหล่านั้นอย่างใจเย็น อยากรู้ว่าคิสจะทำยังไงต่อไปกับเหตุการณ์ชวนวาบหวิวนี้ดี คิดแล้วก็ตลกเหมือนกัน ทั้งๆที่ร่างกายของเราก็มีอะไรๆเหมือนกันแท้ๆทำไมเขาต้องอายเมื่อเห็นของผม และทำไมผมต้องหื่นเมื่อเห็นร่างกายของเขานะ อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกพิเศษที่มีให้กัน...รัก

"ฮึบ"
ผมได้ยินเสียงเบาๆก่อนที่มือเรียวจะปลดผ้าขนหนที่พันรอบเอวของผมออก แต่ตากลมนั่นกับปิดแน่นราวกลัวว่าจะเห็นอะไม่ดีไม่งาม มือไม้เริ่มปัดป่ายไปเรื่อยๆจนผมต้องกัดปากยับยั้งอารมณ์เพราะคิสสัมผัสโดนน้องชายไปหลายรอบ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองป่วยคงกระโดดเข้าขย้ำคนเอ๋อตรงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้แม้แต่แรงจะพูดยังไม่มีเลย เหนื่อยกับตัวเองฉิบหาย ถ้าป่วยเมื่อไหร่จะหนักจนทุกคนผวาเลยล่ะ ไม่เข้าโรงพยาบาลก็นอนซมไปสามสี่วันอะไรประมาณนั้น

"คิส...อึก พะ พอ"
ผมแทบจะพูดไม่เป็นภาษาเมื่อผ้าผืนน้อยปัดป่ายไปมาตรงเป้าไม่หยุด ไแคนที่หลับตาปี๋จะไม่รู้เลยหรือยังไงว่ามีอะไรบางอย่างเริ่มดุนดันมือตัวเองเนี่ย จะเอ๋อไปถึงไหนวะแฟนผม โดนปล้ำสักทีอาจจะหายเอ๋อ...หรือเปล่า ช่างแม่งเรื่องนั้นก่อนเถอะ ตอนนี้ปวดหัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เกลียดตัวเองที่ยังมีอารมณ์หื่นในเวลาแบบนี้ด้วย บ้าจริง

"หือ เหวอ!"
พอลืมตาเท่านั้นล่ะ เขาก็ผงะถอยหลังจนก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น ดีหน่อยที่ไม่แรงมากเท่าไหร่ไม่อย่างนั้นมีช้ำกันบ้าง มือเรียวยกขึ้นปิดหน้าปิดตาตัวเองแต่ใบหูก็บ่งบอกได้ดีว่าเกิดอาการเขินมากขนาดไหน ผมที่เห็นอาการนั่นถึงกับหลุดขำออกมาได้ง่ายดาย คนบ้าอะไรจะน่ารักได้ตลอดเวลาขนาดนี้วะ ดูท่าผมจะเป็นเอามากแล้วว่ะ แอทแทคเขา เขาแอทแทคกลับ แฟร์ๆเนอะ

"พี่จีบแม่ง ลามก!!"
ว่าผมไม่พอยังฟาดมือลงมาบนหน้าท้องเต็มๆจนจุก นี่มันจะเขินแรงไปถึงเมื่อไหร่บางทีก็สงสารตัวเองเหมือนกันนะรองรับมือเท้ามันเนี่ย แต่ก็ไม่ถือสาอะไรหรอก ก็ผมรักของผมล่ะเนอะ แค่นี้จิ๊บๆ แต่ตอนป่วยโคตรไม่จิ๊บเลยว่ะ รู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

"เจ็บ"
พูดได้แค่นั้นก่อนจะนอนงอตัวอย่างคนหมดสภาพ คิสรีบลนลานเอาผ้าขนหนูมาปิดส่วนสงวนของผมไว้แล้วรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ให้กันจนเรียบร้อย

"หิวหรือยังครับ เดี๋ยวผมลงไปซื้ออะไรให้กินนะ"
คิสว่าก่อนจะลุกพรวดพลาดออกไปโดยไม่รอคำทักท้วงของผมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฝนยังตกเลยไม่อยากให้ออกไปไหน ถ้าเกิดป่วยขึ้นมาอีกคนจะลำบากเอาไหมล่ะชีวิต คิดไปก็เหนื่อยนอนดีกว่า

ตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าที่นี่ไม่ใช้คอนโดของตัวเอง แต่เป็นห้องสีขาวสะอาดมีกลิ่นเฉพาะตัวเจือจางในอากาศ ดวงตาปรือเปิดอย่างยากลำบากเมื่อแสงไฟในห้องพักยังสว่างจ้า เมื่อหันไปมองข้างตัวกลับพบใบหน้าแสนรักที่กำลังเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆ ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะบีบกระชับมือที่กุมกันไว้ให้เขารู้ตัวว่าทำได้สติแล้ว

"พี่จีบ!"
เขาร้องเรียกผมซะดังลั่นจนพี่ดีพที่นั่งอยู่บนโซฟาก้าวขายาวๆมาปิดปากไว้ สายตาดุๆส่งให้คนเป็นน้องราวกับจะเตือนว่าเมื่อครู่ทำตัวไม่เหมาะสมเพราะที่นี่คือโรงพยาบาล สุดท้ายผมก็ลงเอยที่นี่จนได้สินะ อา...เกลียดจัง

"เสียงดังไปนะมึง"
พี่ดีพว่าปรามๆก่อนจะปล่อยมือออกแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ผมอ้าปากพะงาบๆพยายามจะทักทายเขาแต่มันไม่มีเสียงใดๆลอดออกมาสักนิด ฉิบหายอีกแล้วไง

"ไม่ต้องพูดๆ นอนพักไปเลย มึงป่วยนี่ยังคงความหล่ออีกนะไอ้จีบ กูชักหมั่นไส้มึงตงิดๆ"
พี่ดีพพูดที่เล่นทีจรจนผมหัวเราะออกมา แต่กลับกลายเป็นเสียงไอ้โขลกแบบมีเสมหะเป็นล้านตันติดอยู่ในคอซะอย่างนั้น คิสทำหน้าตาตื่นอีกครั้งแล้วรีบใช้มือลูบไหล่ผมอย่างทำตัวไม่ถูก ผมอยากบอกให้เขาดึงสติกลับมาหน่อย ก็แค่ป่วยธรรมดาไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงสักหน่อย

"พี่ดีพหยุดพูดไปเลยนะเว้ย พี่จีบป่วยอยู่นะ"

"อ่าวๆ พอหมดประโยชน์แล้วร้ายใส่เลยนะน้องกู"
พี่ดีพลุกขึ้นจากโซฟามาผลักหัวคิสไปหนึ่งทีแล้วขอตัวกลับบ้าน พรุ่งนี้จนขนเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ผมกับคิสพร้อมใจกันยกมือไหว้ขอบคุณพี่ดีพก่อนเขาจะออกจากห้องไป

"พี่จีบ หิวน้ำไหม"
เหมือนเขาจะเพิ่งคิดได้ว่าควรเอาน้ำให้ดื่ม ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะฝืนกระตุกยิ้มที่มุมปากไปให้ ร่างบางรีบจัดการรินน้ำใส่แก้วให้กันแล้วจ่อหลอดมาที่ริมฝีปาก ผมงับหลอดอย่างคนอ่อนแรงแล้วดื่มน้ำเข้าไปเพียงอึกเดียว สมองแม่งสั่งให้หลับอีกแล้ว เวรเอ้ย

"เป็นห่วงนะ ฮึก พี่ตัวร้อนจี๋จนผมตกใจต้องเรียกพี่ดีพไปรับอ่ะ"
เด็กน้อยเริ่มสะอื้นอีกครั้งเมื่อเขาเล่าย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนผ่าวแนบกับแก้มใสแล้วลูบไล้ไปมาเบาๆอย่างปลอบประโลม แฟนใครทำไมขี้แย่จังวะเนี่ย ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงดึงคิสลงมากอดปลอบแล้ว

"ใจ...เย็น แค่ป่วย แค่ก ธรรมดา"
ผมแค่นเสียงอย่างยากลำบาก คันคอฉิบหายจนไอโขลกหนักๆออกมาอีกรอบ คิสกรอกตาไปมาอย่างลนลานมือไม้สั่นเทิมไปหมดจนน่าสงสาร สาบานว่าต่อไปจะรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุด ป่วยแล้วไม่ได้แย่แค่ตัวเอง คนรอบข้างก็แย่ ไม่ดีเลย

"ป่วยธรรมดาอะไรเล่า เป็นไข้หวัดใหญ่เลยนะ!!"

"!!!!!"
อ้าว ไอ้ฉิบหาย... ผมเริ่มเกลียดฝนขึ้นมาเหมือนคิสซะแล้วสิ แต่สายฝนในวันนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่า คนที่เรารักเป็นห่วงเรามากแค่ไหน : ) ถึงจะป่วยแต่ก็มีความสุขนะ

โคตรรักมึงเลยว่ะ





-----------------------------------------------------------


ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมากๆ พี่จีบกับคิสเขาก็ตามเทรนด์นะ? 5555555
ตอนพิเศษเบาๆ ไม่หวือหวา คึคึ

รักษาสุขภาพกันด้วยน้าคนอ่าน ♥

หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-09-2016 16:35:09
 :impress2:   น่ารักจังเลย ขนาดเขาป่วยกันนะเนี่ย  สัมผัสได้ถึงความละมุนไปทั่วโรงพยาบาล อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-09-2016 17:05:57
ดูแล กันไป จีบกันไปเนอะ ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-09-2016 18:13:59
ขนาดป่วยยังมีอารมณ์หื่นอีกนะพี่จีบบบบบบบ :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-09-2016 18:30:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-09-2016 19:03:54
หวานรับฤดูฝน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 12-09-2016 19:31:29
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-09-2016 19:37:15
หมั่นไส้คนรักก้น
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 12-09-2016 19:51:18
พี่จีบคุณค่าที่ควรรักษา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-09-2016 21:01:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-09-2016 21:24:02
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 12-09-2016 22:19:10
เพ่จีบบบมาแล้ววววว :impress2: o13 :z1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 12-09-2016 22:30:14
หายเร็วๆนะคะพี่จีบ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 12-09-2016 23:48:33
 :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 13-09-2016 00:53:26
น่ารักกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-09-2016 00:55:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-09-2016 17:50:00
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-09-2016 18:44:03
 :hao7: :hao7: ดีใจที่พี่จีบป่วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-09-2016 23:04:14
อ่านทันแล้ว พี่จีบบบบ ทูนหัวของบ่าว :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งพิเศษวันฝนตก -P.17- (12.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 16-09-2016 13:11:01
หวานกันได้ทุกตอนจนอิจฉาละ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 16-09-2016 17:32:54
- ดื่มครั้งที่ 28 -
( จีบ )





"นิ่งๆสิครับพี่"
เสียงสั่งการของคนตรงหน้าทำให้ยิ่งขยับตัวมากขึ้น นั่งมานับชั่วโมงจะให้นิ่งแข็งเป็นหินก็ใช่เรื่อง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไปหมดแล้ว ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูงานของคิสแล้วพบว่าที่เสียเวลานั่งเก๊กไปแทบจะไม่ได้อะไรเพราะในกระดาษปรากฏแค่เค้าโครงหน้าเท่านั้น เพื่ออะไรวะเนี่ย เห็นลบแล้วลบอีกจนกระดาษจะเปื่อยอยู่แล้ว

"กูนั่งเกร็งมาเป็นชั่วโมงวาดได้แค่นี้เนี่ยนะ"
ผมว่าก่อนเอนหลังพิงโซฟาทั้งๆที่คนตรงหน้าเบ้ปากใส่ด้วยความขัดใจ เจ้าตัวเลยพลอยวางกระดานลงบนโต๊ะกาแฟไปด้วย อาจจะเหนื่อยกับการเล็งใบหน้าผมแล้วมั้ง

"ก็ผมวาดไม่เก่งนี่หว่า วาดๆลบๆเพราะมันเบี้ยวอ่ะ"
คิสทำหน้าสลดจนผมนึกอยากดึงมากอดปลอบแต่หมั่นไส้ที่มันทำให้ผมนั่งเมื่อยมาตั้งชั่วโมงเลยทำได้แค่ผลักหัวเบาๆเป็นการตอบแทน

"พักกินข้าวก่อนไหมล่ะ"
ผมถามก่อนจะเอื้อมมือไปบีบจมูกคิสเบาๆ เขาย่นจมูกใส่ผมเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับแล้วใช้มือลูบท้องตัวเองแสดงอาการหิว ผมปล่อยมือก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วบิดขี้เกียจไปมา กะว่าจะเดินผ่านไปเข้าครัวแต่ดวงตาคมกลับหยุดชะงักอยู่ที่ใบหน้าติดหวานแดงระเรื่อ ผมก้มมองตัวเองก่อนจะพบว่าขอบกางเกงในโผล่เล็กน้อยและซิกแพคเล็กน้อย

"คิดต่างไปทางอื่น คิดหื่นมาทางคิสป่ะ"
ผมแกล้งแหย่ก่อนจะโน้มตัวไปใกล้จนใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ คิสผงะถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้แต่ผมรั้งไหล่เขาไว้ทัน จะตกใจโอเว่อร์อะไรขนาดกัน ทำอย่างกับไม่เคยจูบกันอย่างนั้นล่ะ คิดแล้วก็ขำทุกครั้งที่คิสมีปฏิกิริยาเขินอายแบบนี้ มันทำให้ผมอยากฟัดเขาให้เร็วขึ้นไปอีก ผลการเรียนบ้าอะไรไม่อยากรอแล้วไง

"ไอ้บ้า ผะ ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ไปทำกับข้าวได้แล้ว!"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะยอมแพ้แล้วเดินเข้าครัว ถ้าขืนอยู่ต่อผมคงจับคิสปล้ำแน่นอน ก็ไอ้ตอนมันเขินน่ะหน้าแดงหูแดงไปหมด ชอบโวยวายหรือทำร้ายร่างกายผมเป็นการแก้เขินตลอด

ผมเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำข้าวผัดแฮมง่ายๆสำหรับมื้อเที่ยง มือสาละวนกับการรื้อตู้เย็นของตัวเองที่คิสซื้อขนมนมเนยมายัดเต็มไปหมด นี่ขนาดยังไม่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันถาวรนะ จริงๆแล้วลาภปากซารังเลยล่ะ ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง เดาได้ไม่ยากว่าไอ้ตัวยุ่งอยากมาช่วยกันทำอาหารนั่นล่ะ

"มีไรให้ช่วยไหม"
น้ำเสียงสดใสดังขึ้นก่อนจะรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆด้านข้างเนื่องจากคิสขยับมายืนแทนตำแหน่งที่ว่าง ผมเหลือบมองทั้งๆที่มือยังคงรื้อหาผักที่ต้องการ ข้าวโพดอ่อน แครอท หอมหัวใหญ่ประมาณนี้

"ช่วยหาผักหน่อย เอาไปยัดไว้ตรงไหน"
ผมลุกขึ้น ส่วนคิสนั่งยองๆลงค้นหาผักให้กัน ส่วนผมเดินไปเตรียมข้าวและกระทะมาตั้งไฟก่อนจะเดินกลับไปหยิบเนยใช้แทนน้ำมันเพิ่มความหอม จริงๆแล้วเพิ่มความอ้วนให้คิสด้วย เพราะเดี๋ยวนี้ดูเหมือนแฟนผมจะเคร่งเครียดกับการทำงานส่งอาจารย์มากกว่าจะสนใจกิน ผอมเกินไปจับไม่เต็มไม้เต็มมือหรอก

"เจอแล้วครับ!"
คิสตะโกนบอกแล้วจัดการเตรียมผักให้ ไม่นานนักอาหารง่ายๆก็ส่งกลิ่นหอมฉุยชวนให้กระเพาะอาหารร้องประท้วง เรานั่งกินข้าวกันไปเงียบๆจนอิ่ม คิสอาสาล้างจานส่วนผมเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม

"งานส่งพรุ่งนี้แล้วอ่ะ วาดยากชะมัด"
คิสเดินกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมก่อนจะยกกระดานวาดรูปตั้งไว้บนตัก ดวงตากลมดูหม่นแสงเมื่อก้มมองผลงานในมือ ผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้หัวเขาเล่น ไม่ได้จะกวนแค่ต้องการปลอบใจ

"อย่าท้อ ตั้งใจทำให้เต็มที่ก็พอ กูพร้อมแล้ว มาๆ"
ผมนั่งเก๊กท่าเดิมอีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจว่าจะไม่กวนใจคนตรงหน้าอีกแล้ว แม้จะโดนให้นั่งเป็นก้อนหินนานกว่าเก่าก็จะไม่บ่นเมื่อยแม้แต่คำเดียว ปกติแล้วคิสไม่ค่อยขอร้องให้ผมช่วยงานเขาสักเท่าไหร่ พอโดนขอเข้าหน่อยก็รู้สึกพิเศษ

"ขอบคุณครับ ~"
คิสกลับมาร่าเริงใส่อีกครั้งแล้วเริ่มต้นวาดรูปไปเงียบๆ หลายต่อหลายครั้งที่เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบตากับผมแล้วหน้าซับสีเลือด อาจจะเขินอายที่โดนผมจ้องอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ละสายตา ซึ่งถ้ามีโอกาสหลีกเลี่ยงได้ผมก็ไม่อยากทำมันหรอก มองกี่ทีๆก็ไม่เคยเบื่อ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

อีกสองชั่วโมงถัดมาคิสวางดินสอในมือลงพร้อมกับร้องเสียงดังอย่างหมดแรงว่างานสำเร็จแล้ว ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะยืดแขนแล้วบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ คิสวางกระดานไม้ลงบนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเช่นกัน ผลงานออกมาดีมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้ ก็อยากชมอยู่หรอกนะแต่ตอนนี้ขอทวงของแลกเปลี่ยนที่ช่วยงานก่อนแล้วกัน

"ไหนล่ะค่าตอบแทน"
ผมยกขาขึ้นไขว่ห้างก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองคิสที่หยุดชะงักกึกอยู่กับที่ ท่าทางยกไม้ยกมืออย่างกับเด็กน้อยทำให้ผมแอบนึกขำอยู่ในใจ จะหลุดเก๊กตอนนี้ไม่ได้หรอกเดี๋ยวทวงของตอบแทนไม่สำเร็จ

"อะไร ค่าตอบแทนอะไรเหรอ"
คิสปรับสีหน้าเป็นใสซื่อแล้วถามกันอย่างไร้เดียงสาเหมือนจำไม่ได้ว่าเมื่อวานพูดอะไรกับผมเอาไว้ แถมยังยกกระดานวาดรูปขึ้นมากอดไว้แนบอกอีกด้วย ทำท่าทางจะหนีกันซะอย่างนั้น แต่อย่าหวังว่าจะรอดเลย ไม่รู้บ้างหรือไงว่าความอดทนของผมมันมีจำกัด

"ค่าตอบแทนที่กูเป็นแบบให้ไง อย่าบอกนะว่าจะเบี้ยว"
ผมดักคอแล้วจ้องมองไปหน้าลุกลี้ลุกลนของเขาเขม็ง คิสกอดกระดานไม้แน่นขึ้นพลางเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิด คิดจะเบี่ยงแน่ๆ ผมรู้ดี

"อะ อะไร ไม่เบี้ยวหรอกน่า เอาของไปเก็บก่อนดิ ตั้งไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลืมเอาไปส่ง"
คิสตอบเสียงตะกุกตะกักก่อนจะรีบเดินไวๆเอากระดานไม้ไปตั้งรวมกับกระเป๋าเป้ที่ใช้ไปมหา'ลัย ที่จริงเขาบอกจะกลับหอวันนี้ตอนเย็นแต่ผมรั้งเขาไว้สำเร็จด้วยการเอาอาหารเวียดนามล่อ... หึหึ แพ้ของกินตลอด

"ไวๆเลย วางของแค่นั้นทำไมนาน"
ผมตะโกนให้คิสได้ยินเพราะเดินไปเก็บของไกลจากผมแค่ประมาณสิบกว่าแต่ทำเป็นจัดนั่นจัดนี่ไม่ยอมเดินกลับมาสักทีจนผมนึกหมั่นไส้ เห็นอีกคนไม่ตอบกลับเลยจะลุกขึ้นไปตามแต่ก็ได้แค่ชะงักเมื่อคิสหมุนตัวเดินกลับมาด้วยใบหน้าที่ผมไม่สามารถอ่านได้ คิดอะไรของเขาอยู่ทำไมถึงหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศขนาดนั้นกันนะ

เขาหยุดลงตรงหน้าผมก่อนจะจับมือที่ตั้งอยู่บนตักไว้แล้วเดินมานั่งคร่อมลงบนตักแทน ผมเบิกตาเล็กน้อยเพราะตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้า คือไม่อยากคิดอะไรมากเพราะถ้าคิดแล้วผมจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกเลย เรียกง่ายๆว่าความอดทนผมหมดลงแล้วนั่นเอง ตอนนี้พร้อมจะจู่โจมฟัดคิสได้ทุกเวลา

"หืม"
ผมครางในลำคอเบาๆแล้วจ้องมองดวงตากลมที่มองสบกันเป็นเวลาหนึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะเบนสายตาหนีแล้วขยับร่างกายเข้ามาแนบชิด สองแขนยกขึ้นคล้องรอบคออย่างเก้ๆกังๆ

"ยั่วเหรอ"
ผมถามด้วยน้ำเสียงกระซิบแกล้งเป่าลมอุ่นๆใส่ใบหูของคิสให้รู้สึกสยิวเล่น เขาย่นคอเล็กน้อยก่อนจะช้อนตามองและเข้ามาประกบปากผมอย่างรวดเร็ว จะเรียกว่ากระแทกเข้ามาคงไม่ผิดนัก คนตรงหน้าขบเม้มริมฝีปากผมอย่างเงอะๆงะๆแล้วพยายามใช้ลิ้นดันแยกกลีบปากออกเพื่อจะสอดลิ้นเข้ามา ผมเผยอปากออกเล็กน้อยเปิดทางให้แฟนมอบค่าตอบแทนให้อย่างว่าง่าย แต่มือไม้อยู่ไม่สุขเริ่มลูบไล้ไปตามเอวบางอย่างย่ามใจ

คิสครางเสียงแผ่วในลำคอทั้งๆที่ปากของเรายังแนบชิดกัน ปลายลิ้นเกี่ยวตวัดหยอกล้ออย่างไม่มีใครยอมแพ้กัน แต่เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วเย็นเยียบของผมแตะลงบนยอดอกสีหวาน

"อ๊ะ พี่จีบจะทำอะไร"
คิสผละตัวออกก่อนจะหอบหายใจหนักๆ ใบหน้าเอ๋อๆซับสีเลือดจนดูน่ามันเขี้ยว ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่กดจูบย้ำแบบไม่รุกล้ำก่อนจะเคลื่อนปลายจมูกสัมผัสกับซอกคอขาว กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ลอยมาแตะจมูกยิ่งทำให้สติเลอะเลือนยิ่งขึ้น

"อื้อ มะ ไม่เอานะครับ พอแล้ว"
เขาดันอกผมให้ออกห่าง ผมยอมถอยเพราะถ้าทำต่อคิสอาจจะโกรธกันก็ได้ ในเมื่อผมกับเขาคุยกันเรื่องนี้และตกลงกันเรียบร้อยไปแล้ว ถ้าผิดคำพูดขึ้นมากลัวจะเป็นเรื่องใหญ่โต

"แค่ฟัดนิดหน่อยเอง ไม่ปล้ำหรอก"
ผมว่าก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มขาวอีกครั้ง ในใจนึกเสียดายอยู่ไม่น้อย ที่ไม่สามารถจับคนตรงหน้ากดได้ตามใจอยากทั้งๆที่เป็นแฟนกันแล้ว รักมากจนไม่กล้าบังคับเคยเป็นกันไหม

"ฟัดนิดหน่อย แต่ผมจะตายเอานะ ใจเต้นแรงฉิบหาย"
คิสบ่นเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้าลงแต่ไม่ยอมลงจากตักกันซะอย่างนั้นทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้กอดเขาไว้สักหน่อย ทำไมชอบให้คิดว่ายั่วกันตลอดเลยนะไม่เข้าใจจริงๆ

"ไม่ลงจากตักหรือไง ไม่กลัวโดนฟัดอีกเหรอ"
ผมโน้มตัวกระซิบข้างหู คิสถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าไปมา ดวงตากลมช้อนมองกันครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะโถมตัวมากอดกันไว้แน่นและการเป็นผมที่ตกใจเสียเอง เพราะถ้ามองไม่ผิดดวงตาของเขาสั่นไหวแปลกๆ

"เบื่อผมหรือเปล่า"
น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้นในขณะที่เขายังซบหน้าลงกับลาดไหล่ ผมย่นคิ้วเข้าหากันก่อนจะยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเขาเบาๆ ความสงสัยผุดขึ้นในใจราวกับดอกเห็ดในฤดูฝน ทำไมอยู่ๆเข้าโหมดดราม่าได้วะ

"ทำไมถามแบบนั้น"

"ก็ผม...เอาแต่ห้ามเรื่องอย่างว่าตลอดเลย"

"อืม ก็เบื่อนะ"

"....."

"เบื่อที่มึงน่ารักแล้วกูห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดอกุศลกับมึงไม่ได้สักที"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆกับความคิดบ้าๆของตัวเอง ท่าทางจะอาการหนักแล้วจริงๆอาจจะต้องหักดิบเรื่องหื่นกามแล้วมั้ง แฟนยังเป็นเด็กน้อยไม่ประสีประสา

"ใจหายหมดเลย นึกว่าเบื่อกันจริงๆซะอีก"
คิสผละตัวออกจากไหล่ก่อนจะกัดปลายจมูกของผมเบาๆเป็นการลงโทษในขณะที่แก้มขาวซับสีเลือดจนแดงไปหมด ผมรั้งเอวของเขาเอาไว้ก่อนจะโน้มตัวกระซิบชิดริมฝีปาก

"เขินก็บอกเขินไม่ใช่ทำร้ายกันแบบนี้"
พูดจบก็กดจูบหนักๆลงไปอีกครั้งแล้วปล่อยให้คิสเป็นอิสระโดยง่ายเพราเสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น เขาลุกออกจากตักแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกัน ผมหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูก่อนจะพบเข้ากับชื่อเพื่อนสนิทที่โทรเขามา พอกดรับเสียงปลายสายที่แสนราบเรียบก็ดังขึ้น

'มึง ไอ้คินโทรไปหาบ้างไหม'

"หือ ไม่นะ มีอะไรกันหรือเปล่า"
ผมถามด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัย ปกติแล้วคินกับแก๊ปย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้ว ทำไมต้องมาตามจากผมล่ะ หรือพวกมันทะเลาะกัน

'ติดต่อไม่ได้'
น้ำเสียงแก๊ปไม่สู้ดีนัก แต่แม่งอธิบายมาสั้นๆแบบนั้นกูคงตรัสรู้เรื่องของมึงหรอกนะ

"ทำไมวะ ทะเลาะกันเหรอ"
คิสหันมามองกันด้วยสายตาเจือความเป็นห่วงไปให้เพื่อนผม แอบรู้สึกดีที่เพื่อนกับแฟนเข้ากันได้ ไม่มีเรื่องชวนปวดหัวอะไร

'หึ เปล่า บอกจะออกไปทำธุระสองชั่วโมง ตอนนี้ปาไปสามชั่วโมงแล้ว'

"รถติดหรือเปล่า อย่ากังวลดิวะ"

'แล้วทำไมติดต่อไม่ได้ กูอยู่หน้าห้องมึงแล้ว เปิดประตูหน่อย'

"เอ้า ไอ้เชี่ย มาก็ไม่บอก รอแป๊ป"
ผมวางโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปเปิดประตูให้ไอ้แก๊ปเข้ามา พอเห็นสภาพมันผมถึงกับหลุดขำก๊ากแบบไม่ไว้หน้า สงสัยจะรีบมาจริงๆเพราะทั้งตัวมีแค่เสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์เท่านั้น กล้าเดินขึ้นมาได้ยังไงวะ

"โห... ดูท่าทางจะเป็นห่วงไอ้คินมากนะมึง"
มันเหล่ตามองผมก่อนจะสอดตัวเข้าห้องไปอย่างเงียบเชียบ ผมปิดประตูแล้วเดินตามกลับไปพบมันนั่งลงข้างๆคิสแล้วรู้สึกคิ้วกระตุกแปลกๆ ที่ตั้งกว้างทำไมต้องนั่งเบียดวะ

"เชี่ยแก๊ป จะเบียดอะไรคิสนักหนาวะ"
ผมพูดอย่างที่คิดออกไปก่อนจะผลักไหล่มันให้ขยับออกไปห่างๆ ไอ้คิสนั่งทำหน้าเอ๋อเพราะไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ส่วนไอ้แก๊ปหัวเราะหึออกมาเบาๆก่อนจะขยับให้ผมนั่งแทรกตรงกลางได้ง่ายๆ

"อยากแกล้งมึงเฉยๆ"

"เหี้ย"

"เอ่อ... ผมไปเอาน้ำกับขนมมาให้เนอะ"
แล้วคิสก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบของที่บอกไว้เมื่อครู่ให้ไอ้แก๊ป ส่วนผมจ้องมองหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะเปิดประเด็นเรื่องไอ้คิน

"ตกลงว่ายังไงวะเรื่องไอ้คิน"

"หึ ไม่รู้มัน วันนี้ครบรอบหกเดือนด้วย"
อ๋อ...วันนี้วันครบรอบที่มันกับไอ้คินคบกัน แป๊ปเดียวครึ่งปีแล้วเหรอวะ ผมว่าไอ้คินคงแอบไปทำเซอร์ไพร์สอะไรแน่ๆ ไอ้บ้านั่นเอาแน่เอานอนกับชีวิตไม่ได้อยู่แล้ว

"เดี๋ยวมันก็กลับ ห่วงไรนักหนาวะแก๊ป"

"ถ้าเป็นเมียมึงหายบ้างจะทำไง"
โห...ย้อนมาแบบนี้กูก็เงียบสิครับ ยอมแพ้เลย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ส่วนขนมที่คิสเอามาให้แก๊ปกินกลานเป็นว่าเจ้าตัวกินซะเอง เพราะเพื่อนสนิทผมมันเอาแต่จ้องโทรศัพท์ไม่วางตา ก็ไม่รู้จะช่วยพวกแม่งยังไงในเมื่อติดต่อไม่ได้แบบนี้ ไอ้คินโผล่หัวมาเมื่อไหร่คงโดนลงโทษหนักแน่ๆ มันไม่รู้หรือไงว่าผัวตัวเองโหดขนาดไหน

"คิส เย็นนี้อยากกินอะไร"
ผมหันไปถามคนข้างตัวเพื่อทำลายความเงียบที่แสนอึดอัด แต่มันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะมัวแต่พิมพ์ข้อความตอบใครบางคนอยู่ แต่พอหน้าจอสี่เหลี่ยมยื่นมาตรงหน้าผมก็ถึงบางอ้อ ไอ้คินส่งไลน์มาหาแฟนผมนี่เอง

Kinn
- แก๊ปอยู่กับน้องคิสป่ะครับ ~ 15:00

ผมขมวดคิ้วแล้วแย่งโทรศัพท์มาจากคิสก่อนจะพิมพ์ข้อความกลับไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ถ้าอยู่ต่อหน้าไอ้ประโยคเนี่ยน้ำเสียงมันต้องอ้อนอยู่แน่ๆ

× คิสสึ ×
- อยู่ แล้วมึงหายหัวไปไหนมา! 15:01

Kinn
- เฮ้ย... ทำไมน้องคิสหยาบกับพี่แบบนี้อ่า เสียใจจัง 15:02

× คิสสึ ×
- เสียใจพ่อง นี่ผัวไอ้คิส มึงจำได้มะ 15:02

Kinn
- อุย... พี่จีบที่รักของน้องคิน ~ เค๊าขอโทษ 15:02

× คิสสึ ×
- ตอบคำถามกูมาเลยนะ ผัวมึงเป็นห่วงจะแย่ละ 15:03

Kinn
- เออ กูแค่อยากเซอร์ไพร์สวันครบรอบไง... เดี๋ยวไปคอนโดมึงนะ จะถึงแล้ว อิอิ 15:03

× คิสสึ ×
- เหอะๆ มึงจะเจอเซอร์ไพร์สยำเละของไอ้แก๊ปด้วย สัด 15:04

Kinn
- อย่าแช่ง! กูขอยืมห้อง มึงจะไปไหนกับคิสก็ไป 15:04

× คิสสึ ×
- ไอ้เหี้ย มึงไล่เจ้าของห้องแบบนี้เหรอวะ กูบอกไอ้แก๊ปดีไหม ไม่ต้องเซอร์ไพร์สห่าอะไรแล้ว รำ!! 15:04

Kinn
- ม่ายย คินขอโทษ กรุณาคินด้วยนะคุณชายจีบ ฮือๆ 15:05

× คิสสึ ×
- ปัญญาอ่อน ขับรถดีๆเลย กูจะออกไปละ โชคดีนะมึง 15:05

ผมส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองไอ้แก๊ปที่เหลือบตาจ้องมา

"กูกับไอ้คิสออกไปซื้อของแป๊ป มึงเฝ้าห้องให้หน่อยได้ป่ะวะ"
ไอ้แก๊ปมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบตกลงแล้วก้มลงไปสนใจโทรศัพท์ต่อ คิสยืนขึ้นแล้วใช้มือจับแขนกระตุกให้ผมรีบเดินออกไปจากห้อง คือรีบไปไหนกูยังไม่ได้หยิบของเลยเว้ย

หลังจากหยิบกุญแจรถ โทศัพท์ กระเป๋าเงินจบก็รีบลงมาจากห้องเพราะไอ้คินยืนรออยู่ที่ลานจอดรถเรียบร้อยแล้ว เห็นมันโบกมือไวๆตอนที่ประตูลิฟท์เปิดออก ผมเดินเช้าไปหาก่อนจะยกมือขึ้นผลักหัวเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นไส้ ไอ้คินเบ้ปากแล้วบ่นงึมงำอะไรสักอย่าง ส่วนคิสส่งยิ้มแหยเป็นการทักทายไป

"ผลักหัวกูทำไมเนี่ย"
คินยกมือลูบหัวตัวเองไปมา ส่วนอีกข้างหอบกล่องของขวัญขนาดใหญ่เอาไว้

"หมั่นไส้ จะทำอะไรก็อย่าให้ไอ้แก๊ปเป็นห่วงดิ เล่นอะไรของมึงติดต่อไม่ได้วะ"

"ขอโทษๆ ถ้ากูไม่ปิดสัญญาณไว้พอแก๊ปโทรเข้ากูอดใจไม่ไหวว่ะ ใจแข็งไม่พอที่จะไม่รับสายมัน"
คินว่าก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างลูบท้ายทอยแก้เขิน ก่อนหน้าที่ช่วงเริ่มคบกันใหม่ๆไอ้คินนี่ตัวปากแข็งเลย ถามอะไรปัดตบอด ไม่เคยทำตัวเป็นแฟนไอ้แก๊ปสักนิด ใครมาถามก็บอกโสดไปซะอย่างนั้น ดีหน่อยที่เพื่อนลูกครึ่งของผมมันไม่ถือสาความบ้าบอของไอ้คินเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นคงงานงอกตีกันตายไปแล้ว หรือคินจะโดนลงโทษแต่ผมไม่รู้วะ... แต่นั่นเรื่องของผัวเมียผมไม่ค่อยอยากยุ่งเท่าไหร่ แค่ว่าที่เมียของตัวเองก็ปวดหัวจะแย่ เสน่ห์แรงใช่เล่น

"จะอ้วก รีบๆขึ้นไปก่อนที่มันจะเป็นบ้าตายเพราะห่วงมึง เอ้า คีย์การ์ดกับกุญแจห้อง"
ผมยัดของสำคัญใส่มือมันก่อนจะจับมือคิสดึงไปขึ้นรถ ได้ยินเสียงไอ้คินตะโกนขอบคุณไล่หลังมาทำให้ผทอมยิ้มเล็กน้อยที่คนบ้าอย่างมันเปลี่ยนตัวเองให้มีมุมน่ารักกับแฟนบ้าง จริงๆไม่เคยคิดหรอกว่าคินมันจะทำแบบนี้ได้ ก็ซึนใส่แก๊ปมันตลอดนี่

"เราจะไปไหนกันล่ะนี่"
คิสถามขึ้นในขณะที่ผมเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวออกจากคอนโด ดวงตากลมจ้องมองมาด้วยสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดวิทยุ ผมเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยตามจังหวะเพลง ออกมาก่อนเวลาอาหารเย็นแบบนี้ก็มืดแปดด้านว่ะ

"ดูหนังกันป่ะ"
คิสเสนอมาแบบนั้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น ในมือเรียวถือโทรศัพท์แล้วโชว์หน้าจอที่มีข้อมูลหนังเรื่องใหม่ปรากฏ ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงง นี่มันจะดูหนังผีอีกแล้วเหรอวะ ครั้งที่แล้วยังไม่เข็ดอีกหรือไงไม่เข้าใจจริงๆว่าคนกลัวผีทำไมชอบดูหนังผี

"จะดูหนังผีอีกหรือไงวะ"
ผมถามขึ้นก่อนจะใช้มือผลักหัวคิสเบาๆ มันยู่ปากใส่กันก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วคลี่ยิ้มแห้งๆมาให้ ผมได้แต่ลอบถอนหายใจกับความบ้าของเขา

"นะ... คืนนี้ค้างกับพี่จีบไง"

"เออ อย่าละเมอถีบกูแล้วกัน"

"เย้ๆ ไม่ถีบหรอกแต่จะกอดแน่นๆต่างหาก"
เออเว้ย... เดี๋ยวนี้หัดหยอดกลับ เอาซะผมแอบยอมแพ้ในบางครั้งเลยให้ตายเถอะ

ไม่นานนักเราทั้งสองคนก็มาถึงหน้าโรงภาพยนตร์ ผมซื้อตั๋วรอบนี้ได้ทันเวลาพอดีเลยล่กไอ้คิสเข้าโรงหนังได้เลยโดยไม่ต้องรอเวลาอีก ตลอดทั้งเรื่องคนข้างตัวผมแทบจะกระโดดมานั่งตักกัน บางครั้งเอาหัวมามุดแขนผมจนเจ็บไปหมดจากที่จะได้สนใจหนังในจอกลายเป็นสนใจคิสมากกว่า ถือว่าได้กำไรจากมันล้วนๆ ใครอย่ามาถามว่าเนื้อเรื่องเป็นไงเพราะผมไม่ได้ดูเลย หึหึ

หลังหนังจบก็ออกไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น คิสกินเยอะขึ้นกว่าปกติจนผมพอใจ อาทิตย์ที่ผ่านมากินแบบแมวดมจนผมเริ่มหนักใจกลัวว่าจะล้มป่วยไป พอเราจัดการอาหารเรียบร้อยก็โทรหาไอ้คินถามว่าแผนเซอร์ไพร์สมันเรียบร้อยหรือยัง แต่กลายเป็นคุณชายแก๊ปรับสายแทนด้วยน้ำเสียงระรื่นพร้อมคำตอบว่า

'กูลงโทษมันพร้อมกับให้ของขวัญครบรอบไปสามยก'

เชี่ย... ไม่ต้องบอกก็ได้ไหมว่าซั่มเมียไปกี่รอบ ดวงตาเริ่มร้อนผ่าวเพราะอิจฉาขึ้นมาจับใจ ไอ้คนข้างๆที่นั่งอยู่ด้วยกันบนรถกลับยิ้มหน้าระรื่นเพราะได้ขนมไทยากิสอดไส้สตรอเบอร์รี่ครีมชีสมากิน มันแดกขนมผมก็อยากแดกมันจะรู้ตัวบ้างไหม ได้แต่นั่งเลียปากแล้วมองครีมที่เลอะอยู่มุมปากของมัน เดี๋ยวติดไฟแดงมึงเจอกูแน่คิส

ไฟแดงสวรรค์ของคนคิดอกุศลมาแล้ว ผมแตะเบรกจอดรถก่อนจะหันไปจ้องมองคิสที่ยังเคี้ยวขนมหงุบหงับอยู่ในปากอย่างไม่รู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตราย ดวงตากลมเหลือบมองมาก่อนเจ้าตัวจะหันหน้ามาเผชิญกันพร้อมเลิกคิ้วขึ้นสูง

"ปากเลอะ"
ผมบอกสั้นๆก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ คิสผงะถอยหลังอย่างรวดเร็วแต่ยังห่วงเคี้ยวขนมในปากอยู่ ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะอาศัยจังหวะที่เขากำลังเอ๋อรวบรัดท้ายทอยไว้ก่อนจะก้มลงเลียครีมที่ติดอยู่มุมปากอย่างรวดเร็ว

"อ๊ะ..."
คิสหลุดเสียงร้องออกมาแค่นั้นแล้วเกร็งตัวจนผมสัมผัสได้ เรียวลิ้นเปียกชื้นไล่เลียไปตามชิ้นเยลลี่นุ่มหยุ่นอย่างอ้อยอิ่ง ความหวานของครีมที่ติดปลายลิ้นเมื่อครู่ส่งผลให้ปากบางนี่น่ากินยิ่งขึ้นไปอีก ผมละเลียดมันอย่างตะกละตะกลาม แต่ไม่นานก็ต้องผละออกจากกันเพราะคิสใช้มือดันหน้าอกผมไว้

"อยากกินก็บอกดีๆดิวะ"
คิสบ่นเสียงงุ้งงิ้งทั้งๆที่ใบหน้าแดงก่ำ ผมยกยิ้มมุมปากแล้วกดจูบลงซ้ำที่เดิมอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว ทำไมชอบพูดจากำกวมเปิดช่องว่างให้ผมแทะเล็มเขาแบบนี้วะ หรือคิสมันจะร้ายแกล้งยั่วผมให้เป็นบ้าตายกันวะ

"บอกแล้วจะได้กินเหรอไง"

"เออดิ ก็ให้กินไง"
มันตอบเสียงอ้อมแอ้มแล้วส่งขนมไทยากิที่เหลือครึ่งชิ้นมาให้กัน ผมเลิกคิ้วมองก่อนจะส่ายหน้าเป็นสัญญาณว่าไม่เอาและไม่ใช่หมายถึงขนมในมือสักหน่อย

"ที่กูถามไม่ใช่เรื่องขนมนะ"
ผมส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้ ดวงตากลมที่จ้องมองมาเริ่มสั่นไหว กำปั้นลุนๆต่อยลงมาบนอกผมไม่แรงมากนัก

"แล้วหมายความว่าไง"
ผมรู้ว่าคิสรู้แต่ก็ยังทำหน้ามึนมาถามกันอีก... นี่คิดจะยั่วไปถึงไหนกันวะ นี่ในรถนะเว้ย ติดไฟแดงอยู่ด้วย ช่วยเว้นระยะการยั่วบ้างครับที่รัก ถ้าของขึ้นขึ้นมาผมซวยอีกสิ ใช้มือมันน่าสมเพชแค่ไหนไม่รู้หรือยังไงสำหรับคนมีแฟนเนี่ย

"หมายความถึงตัวมึงไง เมื่อไหร่กูจะได้กินสักที ขยันยั่วแบบนี้ตบะกูจะแตกมาหลายรอบแล้วนะ"

"อู้ว ใครยั่ว ไม่มี๊ อย่ามโนเองดิ"
น้ำเสียงกวนตีนแบบนี้คืออะไร... แถมยังฉีกยิ้มกว้างมาให้กันอีก ผมตั้งใจจะยกมือขึ้นตบหัวมันสักทีแต่สัญญาณไฟเขียวกลับช่วยชีวิตเอาไว้ เฮ้อ โดนเอาคืนแล้วสินะ แกล้งเขาไว้เยอะนี่

พวกเรากลับถึงห้องในเวลาเกือบสามทุ่ม คิสขออาบน้ำก่อนเพราะเขาง่วงตาแทบจะปิด ส่วนผมนั่งเคลียร์งานวิชาอัลกอลิทึ่มที่ยังค้างอยู่ อยากจะบอกว่าเรียนวิชานี้ก็ทึ่มตามชื่อมันเลยล่ะ.. แต่เชื่อเถอะว่าคนอย่างผมไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เกรดสามจุดแปดเหรอ หมูๆเพราะปกติก็ทำได้อยู่แล้ว

"พี่จีบทำไรอยู่"
คิสชะโงกหน้าเข้ามาดู กลิ่นหอมอ่อนๆจากแชมพูและสบู่ลอยมาแตะปลายจมูกจนผมต้องละสายตาจากการบ้านตรงหน้า ปากกาในมือถูกยกขึ้นจิ้มแก้มเขาเป็นการหยอกล้อ

"ทำงานอยู่ ไปเช็ดผมไป"
เส้นผมสีดำสนิทเปียกลู่ไม่เป็นทรง บนหัวทุยมีผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กคลุมอยู่ คิสเบ้ปากน้อยๆก่อนจะยอมถอยหลังออกไปนั่งเช็ดผมที่ปลายเตียง ผมหลุดยิ้มกับท่าทางที่ดูเหมือนเด็กน้อยโดนขัดใจแล้วหมุนตัวกลับไปถาม

"หน้าบูดเป็นตูดเลยนะ กูขัดใจอะไรอีก"
ผมยิ้มน้อยๆให้ ส่วนคิสจ้องเขม็งแล้วย่นจมูกใส่กันก่อนจะตอบเสียงงุ้งงิ้งกลับมาให้ผมใจสั่นเล่นๆ

"จะอ้อนให้เช็ดผมให้หน่อย โดนไล่ให้เช็ดเองควรจะงอนป่ะวะ"

"นับวันยิ่งอ่อยหนักนะครับเนี่ย"

"ไม่ได้อ่อยเว้ย พี่รีบไปอาบน้ำดิวะ กลัวผี"

"เออๆ ไปแล้ว"
ผมจำใจพักทุกอย่างแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ พอกลับมาเท่านั้นล่ะคนที่บอกว่ากลัวผีก็นอนหลับปุ๋ยใต้ผ้าห่มผืนหนาไปแล้ว สงสัยจะเพลียหนักไปความกลัวเลยมีผลต่อหนังตาน้อย

ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงช้าๆเพื่อไม่ให้สะเทือนมากนักเพราะกลัวคิสตื่น ไม่ว่าจะมองสักกี่ครั้งก็ไม่รู้เบื่อสักที ไม่รู้ว่าแอบไปทำเสน่ห์กับอาจารย์ดังที่ไหนมาหรือเปล่าถึงทำให้หลงหัวปักหัวปำแบบนี้ ผมเอนตัวนอนลงข้างๆก่อนจะซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันแล้วขยับไปกอดเขาเอาไว้แล้วหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา

"โอ้ย เชี่ย"
ผมโอดครวญเมื่อรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว นอนอยู่บนเตียงดีๆกลับถูกถีบลงมานอนตัวงออยู่ที่พื้นซะอย่างนั้น ก็ไอ้คนบนเตียงมันละเมอนึกว่าผีจับตัวเองไว้น่ะสิ ไหนบอกว่าจะนอนกอดไงวะ ถีบกูจนได้นะไอ้คิส ตื่นมามึงโดนลงโทษแน่ !




-----------------------------------------------





Q & A กับคิส

Q : คิสยั่วพี่จีบหรือเปล่าเนี่ย?
A : เอ๋ ยั่วคืออะไรเหรอครับ ผมไม่รู้จัก /ทำหน้าใสซื่อแต่ดวงตาโคตรเจ้าเล่ห์
Q : ร้ายนักนะเรา




ตอนนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากความหื่นของพี่จีบและความใสซื่อ(?)ของน้องจูบ 55555
เอาจริงๆสงสารพี่จีบนะ ไม่ได้หนึ่ง สอง ซั่มกับคิสสักที จะกลายเป็นคนตายด้านแล้วม้าง

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-09-2016 17:53:43
หวานอยู่ดีๆ
หักมุมตอนโดนถีบตกเตียง


 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 16-09-2016 18:23:58
 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 16-09-2016 18:36:36
555 น้องจูบร้ายนะคะ เดี๊ยวโดนทบต้นทบดอกแน่ๆเลย 555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-09-2016 18:48:12
เดะโดนจัดหนัก ตอนวันจิง 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-09-2016 18:56:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-09-2016 18:59:17
พี่จีบอย่ายอมสิคะ มีคนสปประมาทพี่นะททต้องพิสูจน์ตัวเอง
ย่องไปเตรียมเลือดสำรอง ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-09-2016 19:22:01
ยั่วมากๆระวังพี่จีบตบะแตกจะเบรกไม่ทันนะ หนูคิส :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 16-09-2016 20:24:32
 :laugh: จะสงสารหรือขำก่อนดี อุตส่าจะกอด โดนถีบซะงั้น 555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 16-09-2016 21:16:02
55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-09-2016 21:53:31
 :L2: :L1: :pig4:
สงสารจีบ ไม่ได้กิน โดนเพื่อนเกทับ แล้วยังโดนถีบอีก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-09-2016 22:08:57
นั่นซิ พี่จีบหื่นขึ้นทุกวันเพราะไม่ได้กินสักที โดนเพื่อนเกทับไปแล้ว  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 16-09-2016 23:54:51
สงสารพี่จีบจัง 5555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 17-09-2016 00:09:22
คีสเป็นน้องพี่ดีพนะ ถึงจะซื่อยังไงแต่ก็ไม่โง่แน่ๆค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 17-09-2016 08:30:32
จีบ ใจเย็น ๆ นะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 17-09-2016 11:02:50
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-09-2016 14:25:41
น้องคิสร้ายใช่เล่นนะเนี่ย พี่จีบจะทนได้อีกกี่นานกัน ^^"
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-09-2016 15:38:49
น้องคิสค่ะ นอนดิ้นเกินไปแล้วค่ะพี่จีบเขาเจ็บนะ พี่จีบค่ะวิธีแก้ง่ายๆ ลองดูค่ะ กอดแน่นๆ แม่งเลยดิ้นไม่ได้ชัวร์
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 28 -P.17- (16.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 18-09-2016 18:22:05
พี่จีบผู้น่าสงสาร ทนอีกนิด รอเกรดก่อน แล้วจัดหนักเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 22-09-2016 14:19:51
- ดื่มครั้งที่ 29 -




ผ่านมาเกือบสี่เดือนแล้วที่ผมกับพี่จีบคบกันมาเรามีความสุขกันดีไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันเลยสักครั้ง เรื่องงอนง้อมีบ้างตามประสาคนรักกันแต่ก็เพียงเล็กน้อย ช่วงนี้ต่างคนต่างต้องเตรียมความพร้อมเรื่องการส่งงานและสอบปลายภาคที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้าเลยทำให้พวกเราไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ และเมื่อคืนผมก็โดนพี่จีบลากออกมาจากหอพักเพื่อมานอนค้างด้วยกัน ก็ไม่อยากปฏิเสธอะไรเลยเก็บผ้าเก็บผ่อนหนีตามมาซะดื้อๆ ใจง่ายไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยไอ้คิสเอ้ย

เช้าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสแต่สภาพร่างกายไม่ได้สดชื่นตามเพราะผมท้องเสียทั้งคืนแถมยังนอนไม่หลับอีกด้วย ตอนนี้เลยทำได้แค่นั่งมองพี่จีบที่หลับตาพริ้มหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอในอ้มแขนมีตุ๊กตาหมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่ผมซื้อให้เมื่อตอนวันครบรอบสามเดือน จำได้ว่าวันนั้นพี้จีบเกือบจะกัดคอผมขาดโทษฐานให้อะไรไม่เหมาะกับหน้าตาทั้งๆที่เขาซื้อเสื้อเชิ้ตสีชมพูพาสเทลให้ผม! มันเข้ากับคนหน้าตาอย่างผมตรงไหนกันวะ

"หล่อทุกเวลาจนน่าอิจฉาแล้วรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย"
ผมจิ้มปลายจมูกพี่จีบเบาๆแล้วเบะปากใส่ แฟนผมเขาหล่อจนน่าหมั่นไส้ แต่ที่มากกว่านั้นคือสาวๆก็ยังไม่เลิกที่จะเข้ามาขายขนมจีบอยู่ดีทั้งๆที่เจ้าตัวเขาก็ออกปากว่ามีแฟนแล้วอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีใครสนใจความจริงข้อนี้สักที อยากจะตะโกนบอกคนอื่นนี้ไม่ใช่สามีแห่งชาตินะเว้ย พี่จีบน่ะของผมเลิกวอแวกันสักที แต่ไม่อยากออกตัวแรงกลัวโดนบาทาซะก่อน

"มองขนาดนั้นกินกูเข้าไปเลยไหม"
ผมสะดุ้งตกใจผงะถอยหลังเกือบจะตกเตียงเมื่อเสียงแหบทุ้มของคนที่คาดว่าน่าจะหลับอยู่กลับดังขึ้นแถมยังลืมตามามองกันโดยที่ไม่มีอาการงัวเงียใดๆทั้งนั้น ลองคิดย้อนไปจะพบว่าตัวเองเป็นคนโง่มากแค่ไหน เพราะผมเพิ่งกลับมาจากไปเข้าห้องน้ำมาเลยไม่ทันเอะใจว่าพี่จีบจะตื่นแล้วเหมือนกัน ก็ตอนนี้มันเพิ่งหกโมงครึ่งเองนี่หว่า

"ตื่นตั้งแต่เมื่อไหนเนี่ย"
ผมถามด้วยหน้าตาตื่นๆไม่หาย เผลอพูดชมพี่จีบไปเมื่อครู่ซะด้วย อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ตรงไหนดี แต่ความคิดทั้งหมดกลับหยุดชะงักเมื่อมือหนาดึงผมตัวเขาเข้าไปกอดหน้าตาเฉยแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ขาแกร่งยกขึ้นพาดเอวเกี่ยวผมล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาเพื่อกันทางหนีทีไล่ไปซะหมด อยากจะบอกว่าผมไม่หนีพี่หรอกอยากกอดจะแย่อยู่แล้ว แต่กระดากปากมากกว่า ไม่อยากเห็นไอ้คนเจ้าเล่ห์ได้ใจด้วยเพราะมันน่าหมั่นไส้

"ตื่นตั้งแต่มึงลุกไปเข้าห้องน้ำนั่นล่ะ ท้องเสียเหรอ"
น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยดังขึ้นข้างหูลมหายใจอุ่นๆเบารดแก้มกันจนรู้สึกขนลุกซู่ยังไงชอบกล จากที่จะต่อว่าเรื่องโดนกอดสักหน่อยกลับต้องยกเลิกไปแล้วมุดหน้าเข้าหาอกแกร่งอย่างออดอ้อน เวลาป่วยก็อยากให้ใครสักคนคอยดูแลเคยรู้สึกแบบนี้กันไหมล่ะ

"อือ... ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยพี่ เพลียมาก"
ผมพูดเสียงอู้อี้เพราะหน้ายังซุกอยู่กับอกแกร่ง ดีหน่อยที่อาการปวดท้องหายไปแล้วในตอนนี้ แทบจะคลานออกจากห้องน้ำอยู่เหมือนกัน

"ตอนนี้หายหรือยัง จะไปหาหมอไหมหรือจะเอาเกลือแร่ดี"

"ดีขึ้นแล้วครับ เดี๋ยวผมลุกไปเอาเกลือแร่ก่อนนะ ลืมไปเลย"
ผมกำชังจะผละตัวออกแต่โดนพี่จีบจับไหล่ไว้ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นเองก่อนจะหันมาสบตากัน ผมกระพริบตาปริบๆเพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าพี่จีบจะทำอะไร

"นอนไป เดี๋ยวกูไปเอามาให้เอง ป่วยอยู่ยังจะซ่าอีก"
พี่จีบพูดจบก็ส่งมือมาดีดหน้าผากกันเบาๆแล้วลุกออกไปจากห้อง ผมมองตามคนตัวสูงไปแล้วคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แทนที่จะโกรธคนปากร้ายกลับกลายเป็นว่าผมสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงและความอ่อนโยนในแววตาของเขา ถึงพี่จีบจะไม่หวานเหมือนน้ำผึ้งเดือนห้าแต่ก็ซาบซ่าเหมือนโซดานะ ใครห้ามขอลองชิมด้วย

"ทำไมไปนานจัง"
ผมถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียเมื่อพี่จีบเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วเกลือแร่ในมือ เขาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆกันก่อนจะพยักพเยิดหน้าให้ผมลุกขึ้นไปดื่ม

"ทำไม คิดถึงกูเหรอ"
พี่จีบส่งแก้วในมือมาให้ก่อนจะพูดประโยคหลงตัวเองออกมา ที่ถามเพราะเห็นหายไปเกือบครึ่งชั่วโมงหรอกไม่ได้คิดถึงเลยจริงๆนะเว้ย...

"เปล่าเว้ย ก็พี่หายไปนานนี่หว่า ผมจะหลับอยู่แล้วเนี่ย"
พูดจบก็ย่นจมูกใส่ก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มน้ำเกลือแร่รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆติดเค็มเล็กน้อยลงคอ พี่จีบหัวเราะออกมาเบาๆแล้ววางมือหนาลงบนหัวผม

"ก็เกลือแร่มันหมดเลยลงไปซื้อมาให้นี่ไง ซื้อโจ๊กมาให้แล้วด้วย"
มือหนาขยี้ผมกันเบาๆก่อนจะละออกไปแล้วรับแก้วคืนไป ผมทิ้งตัวลงนอนบนตักของเขาอย่างเงียบเชียบแล้วหลับตาลงโดยที่ไม่ขออนุญาตใดๆ หน้าด้านไม่พอที่จะอ้อนพี่จีบแบบตรงๆ ยังไงก็ไม่ชินเวลาที่ตัวเองทำตัวเป็นเด็กน้อยใส่เขาอยู่ดี มันเขินแปลกๆกับปฏิกิริยาตอบกลับ

"อื้อ ขอบคุณนะครับ"
ผมเอ่ยขอบคุณก่อนจะใช้แก้มถูกับต้นขาของพี่จีบอย่างออดอ้อน เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะใช้มือดึงแก้มกันอย่างมันเขี้ยวทำให้ผมต้องลืมตาแล้วส่งค้อนวงใหญ่ไปให้ ก็เล่นดึงซะแก้มจะยืดติดมือไปอยู่แล้วเนี่ย

"เจ็บนะเว้ย ดึงมาได้"
ผมบุ้ยปากใส่ก่อนจะกลิ้งตัวลงมานอนหนุนหมอนแทน รู้สึกเหมือนจะเริ่มปวดท้องตงิดๆขึ้นมาอีกรอบยังไงก็ไม่รู้ ต้องกินยาช่วยหยุดถ่ายป่ะวะ รู้สึกอยากจะตายตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ฮือ

"หมั่นไส้ไง แล้ววันนี้มีเรียนหรือเปล่า"
ตอบตรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว... ผมล่ะยอมใจพี่เขาจริงๆเลย จริงๆวันนี้ผมก็มีเรียนนะแต่เพื่อนเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่ายกคลาสเลยกลายเป็นว่าวันนี้ว่างทั้งวัน

"ไม่มีครับ วันนี้ยกคลาส"

"เออ ดีเลย ไปช่วยงานที่ร้านได้ไหม ช่วงบ่ายก็ได้"

"หือ วันนี้คนเยอะเหรอครับ"
ผมถามด้วยความแปลกใจเพราะก่อนหน้านี้โดนสั่งห้ามไม่ให้ไปช่วยงานที่ร้านอีกหลังจากมีลูกค้าทั้งชายทั้งหญิงเข้ามาวอแวด้วย อาการหวงของพี่จีบบางทีก็รุนแรงกว่าที่คิดเอาไว้จนผมเผลอดีใจอยู่หลายครั้ง ไม่เคยรำคาญที่แฟนแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอะไรนะ ดีซะอีกที่ได้รู้ว่าตัวเองสำคัญกับเขาแค่ไหน

"อืม มีอีเว้นท์งานวันเกิดด้วยน่ะ เลยต้องจัดสถานที่"
พี่จีบตอบก่อนจะจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาเป็นประกายแต่ไม่สามารถเดาได้เลยว่าเขาต้องการสื่ออะไร ผมทำได้แค่เลิกคิ้วมองเพราะไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรออกไปดี

"ลองช่วยคิดธีมงานดูนะ ถ้าคิดออกโทรไปบอกกูด้วย"

"หา ให้ผมคิดเนี่ยนะ มันจะพังเอานะพี่ ลูกค้าไม่ได้กำหนดมาเหรอครับ"
ผมกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่จีบจะโยนงานสำคัญให้กันขนาดนี้ ถ้าธีมงานที่ผมคิดไปแล้วลูกค้าไม่ชอบขึ้นมาอาจจะทำให้ร้านได้รับความนิยมน้อยลงก็ได้ใครจะรู้ ไม่กล้าเสี่ยงหรอก

"ถ้าลูกค้ากำหนดมากูคงไม่ลำบากให้มึงช่วยคิดหรอก เชื่อมั่นในตัวเองดิวะ ชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้นล่ะ พวกกูสมองตันไปหมดแล้ว หวังพึ่งมึงนี่ล่ะครับคุณแฟนสุดที่รัก"
ร่ายมายาวเหยียดก่อนจะขโมยหอมแก้มผมหน้าด้านๆแล้วยังจะยิ้มหน้าระรื่นก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเดินหนีกันไปซะอย่างนั้น ปล่อยให้ผมนั่งอมลมหน้าดำหน้าแดงเพราะความเขินอยู่ได้ บ้าฉิบหาย

หลังจากตีอกชกลมอยู่คนเดียวก็ได้เวลาเข้าสู่นิทราแล้วเพราะเพลียเกินกว่าจะเดินเหินไปไหน ส่วนพี่จีบที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ฝากฝังให้ผมกินข้าวและกินยาซะก่อนจะออกไปช่วยงานที่ร้านกาแฟ ถ้าผมดีขึ้นเมื่อไหร่แล้วพร้อมจะช่วยงานให้โทรไปบอกเดี๋ยวสารถีประจำตัวจะมารับถึงหน้าหอ

ผมตื่นมาอีกครั้งในช่วงราวๆสิบโมง อาการท้องเสียหายเป็นปลิดทิ้งไปแล้วแต่ความอ่อนเพลียยังคงหลงเหลืออยู่เล็กน้อย ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจอยู่สองสามครั้งก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมาเปิดดูแล้วเจอเข้ากับข้อความจากพี่จีบ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าแทบจะทันทีเมื่ออ่านข้อความจบ

'ตื่นหรือยัง คิดถึงแล้วว่ะ'

ร้อยวันพันปีจะพิมพ์ข้อความแบบนี้ส่งหากัน ผมยิ้มแก้มแทบแตกฟินจนไม่รู้จะฟินยังไง เขินจนต้องเอาตุ๊กตาหมาขึ้นมากัดหูซะอย่างนั้น ถ้าพี่จีบรู้มันคงไล่เตะผมแน่ๆที่ทำร้ายของสุดที่รักของเขาแบบนี้ ผมพิมพ์ข้อความตอบกลับไปก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวและออกมานั่งละเลียดโจ๊กหมูไปเรื่อยๆ ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นสายเรียกเข้าจากซารังนั่นเอง

"ว่าไงครับคนสวย"
ผมแกล้งแหย่คนปลายสายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนเพลีย ถึงจะไม่ค่อยมีแรงทำอะไรแต่ก็ยังอยากหาเรื่องใส่ตัวอยู่เหมือนเดิม...

'รับโทรศัพท์แบบนี้ลงมาต่อยกันข้างล่างเลยดีกว่า'
ซารังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนักก่อนจะหัวเราะเบาๆ ผมวางมือจากการกินโจ๊กแล้วจัดการหยิบยาใส่ปากแล้วดื่มน้ำตามลงไป หวังว่ายาจะช่วยให้ผมดีขึ้นนะ

"พี่ล้อเล่นน่า แล้วนี่มาถึงแล้วเหรอวะ โคตรไวเลย"
สารถีประจำตัวของผมอีกคนหนึ่งโดนกำกับมาจากพี่จีบให้มารอแน่ๆ คนปลายสายครางอือเบาๆขานรับมาจนผมเผลอหลุดยิ้ม

'อือ โดยพี่จีบเร่งให้ออกมาหาพี่คิสเนี่ย จริงๆผมยังนอนคลุมโปงอยู่เลยอ่ะ'
เสียงบ่นงุ้งงิ้งจากปลายสายทำให้ผมจินตนาการใบหน้าของเขาออก คงกำลังเบะปากบางๆสีชมพูระเรื่ออยู่แน่ๆ คิดแล้วก็อยากขย้ำแก้มน้องสักครั้งสองครั้ง ก็ว่าที่คุณหมอน่ารักอย่างกับตุ๊กตา

"โอ๋ๆนะคนดี เดี๋ยวพี่ลงไปจูบปลอบเลย"
ผมพูดจบแล้วหัวเราะออกมาก่อนจะกุญแจห้อง คีย์การ์ดและกระเป๋าตังค์ออกจากห้องไป ปลายสายตอบกลับมาด้วยเสียงแตกตื่นราวกับมีใครจะฆ่ากันอย่างนั้นล่ะ

'โอ้ย ไม่เอาด้วยนะพี่คิส ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป สงสารคนไม่มีแฟนแบบผมด้วยเถอะนะ!'

"นิดๆหน่อยๆเอง พี่จีบไม่รู้หรอกน่า"
ผมยังคงแกล้งน้องต่อไปเรื่อยๆเพราะเก็บกดมานาน... ก็ไม่ได้แกล้งใครเลยนี้หว่าเป็นฝ่ายโดนแกล้งตลอดเวลา ไม่ว่าจะเพื่อน พี่ หรือแฟนก็ไม่เคยปรานีกันเลยสักครั้ง เผลอเมื่อไหร่พลาดท่าเสียทีกันตลอด

'ไม่เอ๊า! ใครจะอยากเสี่ยงกับคนหึงโหดอย่างพี่จีบกันเล่า'
หน้าซารังตอนนี้คงยับยู่ยี่เป็นแน่ เพราะเรื่องความหึงของพี่จีบที่มีต่อพี่น้องก็ไม่เคยเว้นให้กันหรอก ใครเข้ามาวอแวกับผมมากๆเป็นอันโดนพี่จีบไล่เตะตลอด

"ล้อเล่นๆ พี่กำลังลงไปหา แค่นี้นะ"

'ครับๆ รออยู่หน้าเซเว่นนะพี่'

หลังจากนั้นผมก็ก้าวลงบันไดไปเรื่อยๆจนออกมาจากตัวหอก็เห็นรถ BMW สีดำจอดเทียบอยู่ตรงฟุตบาทหน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ก็นึกว่าจะขับรถพี่ชายมาซะอีก ที่ไหนได้เอารถตัวเองมาซะอย่างนั้น ผมล่ะอิจฉาพี่น้องบ้านนี้ ไม่รู้เป็นโรค BMW นิยมหรือเปล่า เพราะขับกันทุกคนเชียวล่ะ

ผมเดินตรงไปเคาะกระจกที่ติดฟิล์มดำเกือบสนิทสองสามครั้งก่อนที่คนในรถจะเปิดกระจกลงแล้วส่งยิ้มหวานๆมาทักทายกัน เห็นน้องกี่ครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองมีความแมนขึ้นมาทันทีทันใด ความแมนที่แสนจะภาคภูมิใจมันจะหวนกลับมาตอนอยู่กับซารังเท่านั้นล่ะ...

"ขึ้นมาเลยครับ ผมพร้อมออกเดินทางแล้ว"
น้ำเสียงสดใสต่างจากเมื่อครู่เรียกรอยยิ้มให้กันง่ายๆ ผมพยักหน้าตอบรับก่อนจะเปิดประตูแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับ ซารังเหลือบมองกันเล็กน้อยก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไป เสียงเพลงภาษาเกาหลีดังคลอเบาๆ ยอมรับว่าฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ชอบสไตล์เพลงนะ มันติดหูดี

"วันนี้ที่ร้านมีจัดงานวันเกิดให้ลูกค้าเหรอ"
ผมถามขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ผมต้องไปช่วยงานที่ร้านเพราะเหตุผลอะไร เดาว่างานวันเกิดที่จะจัดคงยุ่งยากไม่น้อยแน่ๆ เลยต้องมีคนช่วยจัดการงานในร้านแบบนี้ ซารังเหลือบมองกันเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมา

"อ่า...ใช่ๆ แต่งานเริ่มตอนเกือบเที่ยงคืนอ่ะ"

"อ๋อ..."
ผมตอบกลับไปสั้นๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเวลานั้นเราทุกคนที่เป็นพนักงานร้านสมควรกลับบ้านไปนอนแล้วซะมากกว่า นี่ร้านกาแฟระเว้ยไม่ใช่ผับจะได้ปิดตีสองเนี่ย

"คิดธีมงานออกยังพี่ จะได้ตรงไปซื้อของจัดงานกันก่อน"

"ก็พอคิดออก แต่ต้องปรึกษาพี่จีบกับพี่ไลค์ก่อนป่ะวะ"

"ไม่ต้องๆ พี่จีบเชื่อฝีมือพี่อยู่แล้ว งั้นตรงไปซื้อของกันเลยเนอะ"
มัดมือชกไม่มีใครเก่งเท่ากับพี่น้องบ้านนี้ผมยืนยันด้วยเกียรติของลูกเสือเลย

"โอเคๆ..."

หลังจากนั้นพวกเราสองคนก็ไปเดินเลือกซื้อของสำหรับจัดตกแต่งงานวันเกิดกันโดยเงินได้รับกรุณาจากพี่จีบเพราะฝากมากับซารังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยากจะไปก้มกราบแนบตักเขาสักทีเพราะรู้ใจกันเหลือเงินว่าผมไม่มีเงินจะออกค่าของให้ก่อน

ผมและซารังกลับเข้าร้านในเวลาเกือบบ่ายสองโมงเพราะเดินกันเพลินเล็กน้อยบวกกับหาข้าวเที่ยงกินในห้างด้วย แทนที่จะขนของเข้าร้านจบแล้วจะได้ช่วยงานเสิร์ฟอย่างที่คิดไว้กลับโดนพี่จีบลากตัวขึ้นไปที่ชั้นสองให้นอนพักซะอย่างนั้น แล้วตอนหนึ่งทุ่มค่อยลงไปจัดสถานที่สำหรับวันเกิด ตอนนี้ก็เลยต้องมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนชั้นสองของร้าน

Rrrrrr
เสียงริงโทนดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะผล็อยหลับ หน้าจอสี่เหลี่ยมปรากฏสายเรียกเข้าจากพี่ชายสุดที่รัก ผมเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงเบื่อหน่ายลงไป ก็นะ.. ชาติหนึ่งถึงจะโทรหากัน แถมกลับมาจากญี่ปุ่นก็ย้ายข้าวย้ายของไปอยู่กับไอ้ภีมซะอย่างนั้น มันน่าเจ็บใจไหมล่ะที่ปล่อยให้น้องชายที่แสนน่ารักต้องเผชิญหน้ากับมาม่าเป็นอาหารหลัก ถ้าไม่มีพี่จีบคอยลากออกไปกินข้าวคิดว่าตอนนี้คงมีสภาพคล้ายๆเส้นมาม่าไปแล้ว

"พายุจะเข้าป่ะ โทรมาหาผมได้"
รับโทรศัพท์ด้วยการแขวะอย่างหน้าไม่อาย ยอมรับเลยว่าหมั่นไส้พี่ชายตัวเองที่แรดไปอยู่กับแฟนอย่างหน้าตาเฉย ถึงจะไปขลุกอยู่ด้วยกันแบบนั้นแต่ก็ยังไม่มีใครยอมใคร งัดข้อกันไปงัดข้อกันมาจนผมคิดว่าสุดท้ายแล้วสองคนนี้คงตายด้านเรื่องเซ็กซ์กันไปซะก่อน

'นั่นปากเหรอครับน้อง น่าต่อยให้เลือดกบจริงๆ'
เสียงขู่ไม่จริงจังนักดังลอดออกมาก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนเนื้อโดนของหนักๆกระทบ เดาได้ไม่อยากว่าเพื่อนรักอย่างไอ้ภีมคงออกตัวปกป้องผมอยู่เป็นแน่

'โอย ภีมตีกูทำไมเนี่ย'
เสียงโวยวายดังลอดออกมาจนผมต้องลอบถอนหายใจปลงๆ บทจะหวานคู่นี้เขาก็หวานไม่แคร์สายตาใคร บทจะโหดก็โหดจนโลกไม่ลืมเลยก็ว่าได้

'มึงจะโหดกับไอ้คิสทำไมวะ โทรไปหาเพราะคิดถึงก็พูดๆไป'

'ทำไมกูต้องบอกมันอ่ะ อายตายห่าเลย'

'ตอนนี้มันก็รู้แล้วล่ะว่ามึงโทรไปทำไม กากจริงๆเลยมึงเนี่ย'
ผมหลุดขำเมื่อคิดถึงหน้าตาและท่าทางกวนตีนของไอ้ภีมเวลาอยู่กับพี่ดีพ ทุกครั้งที่พี่ชายโดนไอ้ภีมกวนตีนใส่เขาจะห้ามตัวเองไม่ให้กระโจนเข้าไปทำโทษไม่ได้ แต่หลังๆมานี่โดยฝ่าเท้ายันออกมาพี่ดีพเลยสงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้นมาเยอะ

"คุยกับจบยัง ค่อยโทรมาใหม่ป่ะพี่ดีพ"
ผมว่าด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ไอ้รอเขาคุยกันน่ะรอได้ แต่ตอนนี้ความง่วงมันรุมเร้าอีกแล้วก็เลยรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยถึงปานกลาง

'อะไรวะ แค่นี้ทำน้อยใจไปได้'
พี่ดีพตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ส่วนผมไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่เพราะตอนนี้กำลังขยี้ตาอยู่ ถ้าไม่ติดว่ากลัวโดนคนปลายสายด่าผมคงหลับคาโทรศัพท์ไปแล้ว

"เปล่า ผมง่วงอ่ะ เมื่อคืนท้องเสียทั้งคืนยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย"
ตาเริ่มเบลอๆเหมือนสติเริ่มจาง รู้สึกได้เลยว่าตาผมกำลังจะปิดอยู่แล้ว เสียงพี่ดีพดังหึ่งๆน่ารำคาญชะมัด

'อ่าวเหรอ หายดียังวะ ไปหาหมอป่ะ'
น้ำเสียงเป็นห่วงถูกส่งมาจนสัมผัสได้ แต่อารมณ์ตอนนี้คือง่วง ไม่ไหวแล้ว ตาจะปิดแล้ว ขอนอนเถอะ

"ไม่เป็นไรแล้ว แค่เพลียๆ แล้วตกลงมีธุระอะไรป่ะ"

'เปล่าๆ โทรมาเฉยๆ งั้นมึงนอนพักเหอะ กูไม่กวนแล้ว'

ผมวางสายจากพี่ดีพแล้วกดปิดเสียงโทรศัพท์มือถือทันทีก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงคออย่างสบายใจ แต่ครั้นจะปิดเปลือกตาลงประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่คุ้นเคยเดินเข้ามาหากัน แต่น่าแปลกใจที่ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไรเพราะโดนขัดขวางการนอนอีกครั้งหนึ่ง

"ยังไม่นอนอีกเหรอวะ"
เสียงทุ้มเอ่ยถามในขณะที่เขาหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ผมหาวหวอดออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะขยับไปหนุนหัวตรงตักกว้างแล้วหลับตาลงโดนไม่ตอบอะไรออกไป เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจรู้ได้แต่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงปลุกจากพี่จีบ เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว นี่ผมนอนกินบ้านกินเมืองขนาดนั้นเลยเหรอวะ ทึ่งตัวเองสุดๆ

"ทำไมไม่รีบปลุกอ่ะ แล้วจัดงานเสร็จแล้วเหรอ"
ผมงัวเงียลุกขึ้นแล้วใช้นิ้วขยี้ตาเล็กน้อย พี่จีบส่งยิ้มมาให้กันก่อนจะดันหลังให้ผมลุกขึ้น

"ไปอาบน้ำแต่งตัวไป"

"หือ แต่งตัวอะไร"
ผมขมวดคิ้วแล้วมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าด้วยความงุนงง ทำไมต้องแต่งตัวด้วย พูดอย่างกับว่าเราต้องลงไปร่วมงานวันเกิดอย่างนั้นล่ะ

"ก็ต้องลงไปร่วมงานวันเกิดไง เจ้าของวันเกิดรู้จักเรา"

"อ้อ... ใครเหรอครับ"

"เออน่า ถึงเวลาก็รู้เอง"

หลังจากนั้นผมก็เดินงงๆไปอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดที่พี่จีบเตรียมให้กัน พอก้าวเท้าออกมากลับพบเพียงซารังที่ยังยิ้มหน้าแป้นรอกันอยู่

"พี่จีบไปไหนแล้วล่ะ"
ผมใช้มือลูบหน้าลูบตาตัวเองเล็กน้อยแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆซารัง น้องยิ้มให้ผมก่อนจะเอื้อมมือมาจัดทรงผมให้กัน รู้สึกว่าบรรยากาศมันจะเริ่มแปลกๆแล้วนะ ตกลงงานวันเกิดใครกันแน่วะ แต่จะว่าไปพรุ่งนี้ก็วันเกิดผมแล้วนี่นา แต่ยังไม่ได้บอกพี่จีบซะหน่อย

"เตรียมงานอยู่ด้านล่างครับ พี่หิวยังผมเอาขนมมาให้กิน"
ซารังผละมือออกจากหัวผมก่อนจะเอื้อมไปหยิบจานขนมครัวซองต์ไส้แฮมชีสส่งมาให้กัน ผมพยักหน้ารับแล้วหยิบมันขึ้นมากัด ก็เล่นนอนข้ามมื้อเย็นขนาดนั้นไม่หิวก็แปลกแล้ว

"ขอบคุณนะ แล้วนี่ซารังไม่ต้องลงไปช่วยงานเหรอ"
ผมถามที่ยังเคี้ยวขนมตุ้ยๆอยู่แบบนั้น ซารังส่ายหน้าช้าๆก่อนจะเอนหลังลงนอนบนเตียงทั้งๆที่ตัวเองใส่เสื้อเชิ้ตเรียบกริบ กลัวเหลือเกินว่ามันจะยับยู่ยี่ไปหมด

"ไม่ต้องอ่ะ รอลงไปข้างล่างพร้อมพี่คิสเลย"

"อืมๆ เดี๋ยวกินเสร็จลงไปกัน"
ผมบอกก่อนจะรีบยัดขนมใส่ปากแล้วตามด้วยนมสดหนึ่งแก้วที่ซารังเอามาให้อีก เสร็จเรียบร้อยก็เอื้อมมือไปดึงแขนคนที่หลับตาพริ้มบนเตียงให้ลงไปด้วยกัน แต่รายนั้นอิดออดไม่ยอมลุกขึ้นสักที ขนาดตัวก็ไม่ได้ต่างกันมากนักเลยยากลำบากอย่างที่เห็น ผมแทบจะลงไปนอนทับเขาอยู่แล้วเนี่ย

"ซารังเว้ย ลุกขึ้นเร็ว เดี๋ยวพี่จีบก็ด่าหรอก"
ผมตะโกนใส่หู น้องย่นจมูกใส่กันก่อนจะเหลือบมองเวลาบนผนังห้องแล้วลุกขึ้นอย่างง่ายดายและยกแขนขึ้นบิดไปมาไล่ความเกียจคร้าน ผมมองภาพนั้นแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ คนบ้านนี้หน้าตาดีอย่างเดียวไม่พอแถมนิสัยยังน่ารักอีกด้วย

"ป่ะครับ ผมพร้อมแล้ว"
ซารังยิ้มร่าก่อนจะคว้ามือผมไปจับเอาไว้แล้วเดินนำไปด้านล่าง ทางเดินมืดสลัวแต่ยังพอมองเห็นเพราะแสงเทียนวูบไหวจากด้านล่าง พอลงมายืนอยู่ตรงตีนบันไดก็ต้องอึ้งเมื่อมีเทียนประดับเป็นทางเดินตรงไปสู่พื้นที่กลางร้าน พี่จีบยืนรออยู่ตรงนั้นพร้อมกับเค้กก้อนใหญ่ในมือ ซารังดันหลังให้ผมเดินไปเผชิญหน้าก่อนที่เสียงเพลงวันเกิดจะดังขึ้น สรุปแล้วผมโดนหลอกให้คิดธีมงานวันเกิดตัวเองสินะ ไอ้พวกบ้า ทั้งพี่ ดีพ ภีม ออย พี่ไลค์ พี่จีบ ซารัง พี่แก๊ป พี่คิน มากันครบอ่ะ ฮือ

เพลงจบลงพร้อมกับพี่จีบที่ขยับเข้ามาใกล้ เค้กในมือถูกยื่นมาตรงหน้ากันก่อนที่คำอวยพรหวานหูจะดังมาจากปากหยักได้รูปนั่น

"สุขสันต์วันเกิดนะครับคิส ขอให้มีความสุขมากๆ อยู่กับกูไปจนแก่เลยนะ"
รอยยิ้มละมุนถูกส่งมาให้กัน ผมพยักหน้ารัวๆก่อนจะโดนคนอีกนับสิบชีวิตผิวปากแซว คือแค่โดนเซอร์ไพร์สแบบนี้ก็เขินจนตัวจะแตกอยู่แล้วยังจะเป็นเป้านิ่งให้โดนแกล้งอีก โอย อยากมุดอกพี่จีบหนีจัง ฮึ่ย

"อื้อ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณทุกคนด้วย"
ผมเอ่ยขอบคุณก่อนจะเป่าเทียนบนเค้กจนดับ ไฟในร้านสว่างวาบขึ้นทันตาเห็น ลูกโป่งอัดก๊าซฮีเลียมลอยอยู่ทั่งบริเวณร้าน ให้ความรู้สึกฟูฟ่องในใจยังไงชอบกล แถมด้วยโต๊ะอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ไปอีก ถ้าไม่บอกว่าเป็นงานวันเกิดคงคิดว่าเป็นงานฉลองสมรสล่ะวะ

"อ่ะ ของขวัญจากพวกกูรวมๆกันซื้อ"
พี่ดีพส่งของขวัญมาให้กัน ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นของที่อยู่ด้านในถุงใบใหญ่ Mac Book Pro ราคาเกินครึ่งแสนกำลังนอนแน่นิ่งส่องประกายวิบวับอยู่ในนั้น ผมเงยหน้าขึ้นมาทุกๆคนที่เข้ามารวมกลุ่มกันก่อนที่น้ำตาจะคลอหน่วย อยากจะร้องไห้ว่ะ

"ซื้อนี่ให้เลยเหรอวะ มันแพงมากเลยนะเว้ย"
ผมกอดของขวัญไว้แน่นอย่างหวงแหน พี่ดีพเดินเข้ามาลูบหัวกันอย่างเบามือก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างมาให้กัน

"มึงไม่ต้องห่วงหรอก สปอนเซอร์เราแน่นหนาเว้ย พ่อแม่สามีมึงก็ร่วมด้วย"
ประโยคนี้ทำให้ผมถึงกับรู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้า พอเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆก็เจอเข้ากับรอยยิ้มชวนใจสั่น อยากจะกระโดดกอดแล้วล้มลงบนเตียงฟัดซะให้เข็ด แต่ถ้าผมทำแบบนั้นคงโดนปล้ำอย่างไม่ต้องสงสัย

"มานี่หน่อย กูมีของขวัญส่วนตัวจะให้ด้วย"
พี่จีบจับข้อมือกันแล้วพาผมเดินมาหยุดตรงมุมหนึ่งของร้าน มือหนาล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อก่อนจะหยิบแหวนทองคำขาวเกลี้ยงๆวงหนึ่งออกมา ยอมรับว่าตอนนี้ใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมาจากอก ตื่นเต้นกว่าได้ Mac Book Pro จากมือพี่ดีพอีก

"แหวนวงนี้กูขอจองมึงไว้ก่อนแล้วกัน เรียนจบมีงานทำจะเอาแหวนหมั้นมาใส่ให้"
พี่จีบมองหน้ากันเหมือนกำลังขออนุญาตสวมแหวนให้ ผมพยักหน้ารับก่อนที่มือซ้ายจะถูกคนตรงหน้าคว้าไปจับไว้และตามมาด้วยสัมผัสเย็นๆบนนิ้วนางข้างซ้าย ตอนนี้อธิบายความรู้สึกของตัวเองไม่ถูกเลยเพราะมันตีกันวุ่นวายไปหมด แต่ที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นความรักที่มีให้กับพี่จีบนี่ล่ะ

"แม่ง บ้าฉิบหาย ทำคนอื่นเขาเขินไม่รู้ตัวหรือไง"
ผมบ่นเสียงงุ้งงิ้งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตากัน พี่จีบหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะก้มหน้าลงมาฝังจมูกขโมยหอมแก้มไปหนึ่งฟอด ผมตกใจเลยผงะถอยหลังออกมาเพราะกลัวคนอื่นๆเห็น มือเรียวยกขึ้นแตะแก้มตัวเองก่อนจะมองค้อนคนเจ้าเล่ห์ที่ยืนยิ้มกว้างให้กันอยู่

"เจ้าเล่ห์ว่ะ"

"แน่นอน"

"ไหนๆก็วันเกิดผม ขออะไรอย่างดิ"
ผมยักคิ้วจึกๆส่งไปให้พี่จีบที่ยืนพิงโต๊ะอยู่ด้วยใบหน้าเรียบๆแต่หัวคิ้วกลับขมวดเข้าหากัน

"จะขออะไรว่ามา วันนี้กูตามใจมึง"

"จริงๆนะ"

"เออ"

"พี่จีบ...เลิกพูดกูมึงกับผมได้ไหมอ่า ฟังแล้วไม่ค่อยรื่นหูเลย"
ผมทำสายตาออดอ้อนส่งไปให้อีกคน เห็นพี่จีบแอบสะดุ้งเล็กน้อยด้วย แค่ขอเรื่องนี้ทำไมต้องตกใจวะ แต่ไม่นานเขาก็หลุดหัวเราะออกมาก่อนจะพูดตอบ

"หึ รู้ไหมว่าทำไมกูไม่เลิกพูดหยาบกับมึง"
พี่จีบยกมือขึ้นมาประคองหน้าผมเอาไว้เหมือนกำลังบังคับไม่ให้ผมหลีกหนีสายตากรุ้มกริ่มที่ส่งมาให้กัน ผมเม้มปากแน่นเพราะระยะห่างระหว่างเราเหลือเพียงไม่ถึงคืบ ชวนให้ใจสั่นอีกระลอกเหมือนสึนามิจะซัดเข้าหาฝั่งยังไงก็ไม่รู้

"ไม่รู้..."
ผมตอบเสียงแผ่วพยายามกรอกตาหนี แต่สุดท้ายก็ยังเห็นพี่จีบจ้องกันแทบจะกลืนกินอยู่ดี ไม่รู้หรือไงว่าผมแพ้สายตาหื่นกามของมันเนี่ย

"เพราะกูเขินไงวะ เวลาไม่ใช้คำหยาบรู้สึกบรรยากาศมันจะหวานแปลกๆ แต่คิสขอพี่ก็จะทำให้ เพราะรักหรอกนะ"
เขายิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่สามารถละลายหัวใจของผมได้อย่างเฉียบขาด ยอมแล้วจริงๆกับคนๆนี้ ยอมทั้งตัวทั้งใจ ถ้าเกิดพี่จีบมันคึกจะปล้ำขึ้นมา ผมคงยอมถวายตัวให้โดยง่ายไม่ต้องรอเกรดแล้วล่ะ

"อือ... รักเหมือนกัน"
ก็ตอบกลับได้แค่นั้นเพราะหลังจากประโยคเมื่อครู่จบลงปากหยักก็เคลื่อนมาประกบมอบจูบอ่อนหวานให้กันโดยไม่แคร์สายตาใคร ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณสำหรับงานวันเกิดที่แสนวิเศษ




---------------------------------------------------------




Q & A กับจีบ

Q : ทำไมเลือกซื้อ Mac Book ให้คิสกันล่ะ?
A : เพราะเครื่องเก่าของคิสมันเริ่มเออเร่อแล้วครับ ซ่อมบ่อยเกินไป
Q : อ๋อ แล้วเรื่องแหวนทองคำขาวบนนิ้วนางคิสล่ะ
A : ก็...ขอจองไว้ก่อนไงครับ คนอื่นจะได้ไม่มาจีบมัน ผมหวง






ตอนที่ 29 มาแล้วน้า รอกันนานไหมเอ่ย ช่วงนี้เรางานรัดตัวมากเลย ฮือ
เป็นไงบ้างๆ ตอนนี้เซอร์ไพร์สตามคิสกันบ้างไหม... คึคึ อยากได้แฟนแบบพี่จีบสักคน
มีขายที่ไหนบ้าง อยากได้จริงๆนะ 555555 มีความน่ารักและความหื่นสูสีกันมาก

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 22-09-2016 14:38:13
น่าอิจฉาน้องจูบฮรืออออ ละมุนมากพี่จีบ มีจองด้วยอ่ะ โอ้ยยยยย ถวายตัวเลยน้องจูบ หึหึ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 22-09-2016 14:56:58
งือ เหมือนจะใกล้จบแล้วยังไงไม่รู้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-09-2016 15:44:46
โหย ... มีจองด้วยอ่ะ อยากมีโมเม้นต์แบบนี้บ้าง T^T
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-09-2016 16:32:51
 :katai2-1:  น่ารักจัง เอาใจช่วยคนเขียนนะคะ

ว่าแต่เกรดพี่จีบเมื่อไหร่อะออกล่ะคะ ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-09-2016 16:52:32
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 22-09-2016 16:56:05
อยากได้แฟนแบบพี่จีบ

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 22-09-2016 17:39:11
แอร๊ยยยละลาย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-09-2016 18:19:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 22-09-2016 18:58:54
หวานเว่อร์อ่าาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-09-2016 19:45:10
เบาหวานขึ้นแน่เลยเรา หวานกันขนาดนี้  :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-09-2016 19:45:39
วุ้!! อิจฉา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 22-09-2016 20:08:24
โอยยยย อิจฉาาาาาา คือคิสโชคดีมากอ่ะที่ได้พี่จีบ 55555 โคตรเอาใจใส่ โคตรน่ารัก หวานมาก  :impress2: ชอบช่วงQ&A พี่จีบน่ารัก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-09-2016 20:37:54
พี่จีบน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีแบบพี่จีบสักคนไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 22-09-2016 20:41:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-09-2016 00:10:19
ขอให้น้องคิสมีความสุขมากๆ เป็นฝั่งเป็นฝาเร็วๆน้าาาาา อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-09-2016 06:59:48
พี่จีบน่ารักอ่ะ ดูแลเอาใจใส่ฝุดๆ >\\\\\\<
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 23-09-2016 19:36:19
พี่จีบดีขนาดนี้ คิสไม่ต้องรอเกรดออกแล้ว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-09-2016 21:16:38
หวานอ่ะ หวานจนกลัวมดจะขึ้นเลยนะเนี่ย ว๊ายๆๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 23-09-2016 23:53:57
แหวนก้ใส่แล้ว
คำหยาบก้ไม่พูดแล้ว
สอบก้สอบแล้ว
ตอนหน้าก้ เกรดออกแล้วซินะ
อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 29 -P.18- (22.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-09-2016 21:09:04
ชอบพี่จีบบบบบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 27-09-2016 21:14:06
- ดื่มครั้งที่ 30 -




สอบปลายภาคสิ้นสุดลงไปหลายอาทิตย์แล้ว เกรดแต่ละวิชาก็เริ่มทยอยออกให้ลุ้นจนตัวโก่งไม่เป็นอันทำอะไรในแต่ละวัน ปิดเทอมอยากกลับไปเป็นคุณชายนอนตีพุงอยู่บ้านแบบสบายๆมีอาหารอร่อยๆให้กินก็ไม่ได้ ในเมื่อพ่อกับแม่แอบหนีผมไปต่างประเทศอีกแล้ว คราวนี้ไปเป็นเดือนๆเพราะหอบกันไปทำงานด้วย หึ ทิ้งได้เป็นทิ้งตลอด ส่วนพี่ดีพสุดที่รักก็พาตัวเองไปอยู่ที่บ้านไอ้ภีมซะอย่างนั้น ทำให้ผมเหี่ยวแห้งอยู่ที่หอเหมือนเดิม แต่วันนี้คงหมดกังวลเรื่องอยู่คนเดียว เพราะพี่จีบจะย้ายผมเข้าไปอยู่คอนโดกับเขาวันนี้ล่ะ

"คิส ตื่นได้แล้ว"
เสียงทุ้มนุ่มที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นข้างหู ผมรู้ว่าเขาเป็นใครแต่หนังตาไม่ยอมเปิดเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว เก็บของยัดลงลังแทบเป็นแทบตายโดยไอ้คนที่ปลุกกันอยู่เนี่ยเพิ่งกลับจากงานเลี้ยงที่บริษัทของพ่อมาเหมือนกัน ไม่ได้ช่วยอะไรยังมากวนใจกันอีก มันน่าบีบคอไหมถามใจดู

"อือ ขออีกครึ่งชั่วโมง"
ผมพลิกตัวหนีมือปลาหมึกที่แกล้งลูบไล้ช่วงเอวกัน ได้ยินเสียงหัวเราะหึในลำคอก่อนที่ทั้งร่างจะโดนรวบกอดเอาไว้ ผมจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะหยิกแขนแกร่งไปแรงๆ ถ้ากอดเฉยๆจะไม่ว่าหรอก เอาน้องชายมาจิ้มก้นกันนี่สิ อยากจะหนีไปไกลๆแต่ไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา

"ไม่ตื่นพี่จะล้วงนะ"

"เชี่ย ล้วงอะไร!"
ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ความง่วงที่มีก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง พูดอะไรส่อเสียดให้เสียวสันหลังวาบตลอดไม่คิดว่าตัวเองหน้าด้านบ้างหรือยังไงวะ นี่มันเป็นเดือนคณะบริหารได้ยังไง อยากบอกพวกแฟนคลับให้เลิกคิดว่าพี่จีบเป็นชายในฝันซะที ตัวจริงแสนจะหื่นกาม ผมใช้ศอกกระทุ้งท้องให้เขาปล่อย แต่แรงกอดรัดยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก ผมได้ทำได้แค่ส่งเสียงขู่แง่งๆเหมือนแมว ทำไมชีวิตรันทดแบบนี้วะ

"ล้วงอะไรดีล่ะหืม วันนี้เกรดออกครบทุกตัวด้วยนะ"
ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าพี่จีบกำลังยิ้มและทำสายตากรุ้มกริ่มใส่กันขนาดไหน น้ำเสียงยียวนกวนประสาทจนผมอยากจะตั้นหน้าหล่อๆให้ช้ำสักที ไม่รู้หรอกว่าไอ้เกรดสามจุดแปดที่ตั้งไว้มันจะสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปสำหรับเขา แต่มีลางสังหรณ์ว่าจะเสียตัวยังไงไม่รู้... คิดแล้วก็อยากกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่ยังไม่พร้อม ผมยังซิงทั้งหน้าทั้งหลังนะ ฮึก

"ไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยได้แล้วพี่จีบ อึดอัด"
ผมออกแรงดิ้นเบาๆเลยทำให้เขาฝังจมูกลงมาบนซอกคอกันหนักๆแถมยังมีแอบไซร้ให้ขนลุกเล่นๆอีกด้วย โอย สยิว ขนลุกขนพองไปทั้งตัวจนต้องย่นคอหนี

"อื้อ อย่าเล่นดิพี่จีบ"
ผมโวยวายไม่เต็มเสียงนักเมื่อฝ่ามือร้อนๆสอดเข้ามาใต้เสื้อนอนตัวบาง ปลายนิ้วลากไล้ผ่านแอ่งชีพจรไปจนถึงตุ่มไตสีหวานทำให้ผมสะดุ้งเฮือกพลางกลั้นหายใจ ความเสียวซ่านแล่นริ้วไปแทบจะทุกส่วนของร่างกาย ฝันขาวขมเม้มริมฝีปากจนซีดความไร้เลือดเพื่อกลั้นเสียงครางแสนน่าอายเอาไว้

"อึก อือ!"
เผลอกัดปากตัวเองจนได้กลิ่นคาวเลือดเพราะโดนนิ้วเย็นๆบดคลึงยอดอกไปมาอย่างเพลิดเพลิน ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากคนด้านหลังแล้วพาลให้รู้สึกโมโหขึ้นมาตงิดๆ ถ้าจะแกล้งกันแบบนี้นะ ผมจะฟาดไม่ยั้งเลยคอยดู

"คล้อยตามบ้างหรือยังคนดี"
เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู ถ้าเมื่อครู่ไม่เผลอกัดปากตัวเองแรงๆคงเคลิ้มตามไปแล้ว แต่ตอนนี้มีสติครบถ้วนอย่าหวังว่าผมจะยอมกันง่ายๆเลย

"ไม่คล้อยตามหรอก ไอ้คนหื่น"
ผมก้มลงกัดแขนพี่จีบที่กอดรัดกันอยู่จนจมเขี้ยว เขาร้องออกมาก่อนจะปล่อยตัวกันให้เป็นอิสระทันทีทันใด เมื่อได้โอกาสผมเลยดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วแต่ไม่หนีไปไหนหรอกนะ เห็นพี่จีบลูบแขนตัวเองตรงที่มีรอยฟันด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงแล้วตลกดี และผมเพิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้ใส่เสื้อนอน.... นี่กะจะอ่อยให้ผมขึ้นคร่อมหรือยังไง ไม่คิดถึงใจกันบ้างหรือไงวะ อยากกัดซิกแพคให้จมเขี้ยวแม่ง โชว์กันดีนัก

"เป็นหมาเหรอ กัดจนช้ำเลยแม่ง"
พี่จีบสบถออกมาแล้วถลึงตาใส่กันก่อนจะลุกขึ้นนั่ง มือหนาผลักหัวผมเบาๆอย่างหมั่นไส้ก่อนจะขยับหน้าเข้ามาใกล้กัน ผมผงะถอยหลังเพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหนอีก ถึงจะเป็นแฟนกันก็ระแวงนะ เพราะไม่เคยตามความคิดพี่จีบทันแบบจริงๆจังๆเลยสักครั้ง

"กัดปากตัวเองทำไม"
หน้าผากของเราสองคนแนบชิดกัน ดวงตาคมที่มองมาฉายแววเป็นห่วงต่างกับเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ผมเลิกหนีแล้วยกแขนทั้งสองข้างคล้องคอคนตรงหน้าไว้หลวมๆแล้วแต้มจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆอย่างออดอ้อน อารมณ์เปลี่ยนไวจนกลัวตัวเองแล้วเนี่ย ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆก็อยากอ้อนขึ้นมา คงเพราะเจ็บและเห็นความห่วงใยที่เขาส่งมาให้กันล่ะมั้ง

"ก็พี่นั่นล่ะ แกล้งผมตลอด ไม่รู้หรือไงว่ามัน...เสียว"
ท้ายประโยคผมจงใจกระซิบข้างหูเขา พี่จีบสะดุดลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะเม้มริมฝีปากเข้าหากันเหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์อะไรสักอย่าง ผมสาบานว่าไม่ได้ยั่วจริงๆนะ แค่อ่อยเล็กน้อย บางทีก็อยากรู้ว่าเขาต้องการเรามากแค่ไหน และที่สำคัญคือเขาอดทนรอเราได้มากแค่ไหน

"นี่กำลังแกล้งพี่กลับใช่ไหมครับ"
ดวงตาคมจ้องกันแทบจะกลืนกิน แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ เมื่อไหร่ที่มีโอกาสเอาคืนได้จะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดลอยไปง่ายๆหรอก ทั้งหมดที่เป็นอยู่ก็เรียนรู้มาจากคนเจ้าเล่ห์นี่ล่ะ หึหึ

"คิดว่าเป็นแบบนั้นเหรอ"
ผมขยับเข้าไปใกล้จนเกือบจะนั่งเกยตักกันอยู่แล้ว แต่พี่จีบขยับตัวถอยห่างด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง ปากหยักเบะลงอย่างเอาแต่ใจ เห็นแบบนั้นก็อยากหัวเราะดังๆแต่กลัวหลุดเก๊ก

"ไม่ให้ก็อย่าทำให้มีอารมณ์ดิวะ เดี๋ยวจะโดนเตะ"
พี่จีบว่าเสียงแข็งแล้วใช้สายตาดุๆส่งมาให้ ผมสะอึกก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆแล้วขยับไปหอมแก้มพี่จีบเป็นการง้อ ถ้าสังเกตดีๆจะรู้ว่าพี่จีบงอนเข้าให้แล้ว

"ไม่งอนผมนะพี่จีบ ~"
ผมพูดเสียงอ้อนพร้อมกับเข้าไปกอดแขนเขาไว้ หน้ามันๆถูลงบนต้นแขนเปลือยจนโดนผลักหัวออกมาด้วยความขยะแขยง หึ!

"ไปไกลๆ หน้ามันฉิบหาย ทอดไข่ดาวได้ไหมเนี่ย"
ไล่ไปไกลๆ ทำท่าขยะแขยงแต่ก็จับแก้มผมดึงไปมาซะอย่างนั้น จากที่ตั้งใจว่าจะงอนเขากลับกลายเป็นว่าหลุดหัวเราะกับความน่ารักของพี่จีบ ทำอะไรตรงข้ามกับคำพูดของตัวเองตลอดเลย แบบนี้เขาเรียกคนปากไม่ตรงกับใจหรือเปล่า แต่บางทีก็เป็นคนตรงจนผมแอบตะลึงเลยก็มี ตามไม่ทันจริงๆกับผู้ชายคนนี้

"ลองเอาไข่มาตอกบนหน้าผมไหมล่ะ จะได้มาร์กหน้าเลยด้วย"
ผมหัวเราะก๊ากออกมาเลยโดนพี่จีบดีดเหม่งเข้าให้ ผมยกมือขึ้นลูบหน้าผากพร้อมกับย่นจมูกใส่

"เดี๋ยวนี้กวนตีนนะคิส"

"ติดมาจากพี่นั่นล่ะครับ"
ผมตอบก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้ไป พี่จีบเบ้ปากใส่กันก่อนจะยกมือขยี้หัวผมเล่นอย่างสนุกสนาน

"เออๆ ยอมแพ้ ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวอีกสักพักจะมีคนมาขนของแล้ว"
พี่จีบดันให้ผมลุกขึ้นจากเตียง ส่วนตัวเองกลับทิ้งตัวลงนอนที่เดิมอย่างเกียจคร้านแถมยังหลับตาพริ้มทั้งๆที่ฉีกยิ้มกว้างอีก ความหมั่นไส้เกิดขึ้นแทบจะในทันทีเลยเอื้อมมือไปบีบแก้มเขาแล้ววิ่งหนีเข้าห้องน้ำทันที ได้ยินเสียงโวยวายไล่หลังมาแต่ผมไม่สนใจ อยากหาเรื่องเจ็บตัวเองก็ช่วยไม่ได้นะเออ

ผมถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่เร่งรีบ วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวพอตัวจนอยากจะแช่น้ำให้ตัวเปื่อย แต่เกรงใจคนที่นอนรออยู่ด้านนอกอยู่เหมือนกันเลยทำได้แค่รีบเดินไปยืนใต้ฝักบัวและเริ่มเปิดน้ำชำระร่างกาย กลิ่นหอมเย็นของสบู่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ความกังวลที่จะย้ายไปอยู่กับเขาแบบจริงจังเบาลงไปเยอะ ไม่ใช่ว่าอึดอัด แต่กลัวว่าจะทำให้พี่จีบไม่สะดวกใจต่างหาก ก็ปกติต่างคนต่างก็อยู่ในที่ของตัวเองนี่หว่า

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูแบบไม่เร่งรีบดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังใส่เสื้อชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตะโกนถามคนด้านนอกว่าต้องการอะไร

"มีอะไรครับ กำลังจะเสร็จแล้ว"

"จะบอกว่าคนขนของมาถึงแล้วนะ แค่นั้นล่ะ"
เสียงทุ้มราบเรียบตอบกลับมา ผมเปิดประตูออกไปก็เจอเข้ากับพี่จีบที่ยืนเปลือยท่อนบนพิงวงกบประตูห้องน้ำอยู่ อะไรจะมาอ่อยกันถึงที่ขนาดนี้ล่ะคุณ ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเบนสายตาหนี มองนานๆแล้วรู้สึกตัวเองหื่นกามยังไงก็ไม่รู้

"มาแล้วเหรอ งั้นไปกันครับ"
ผมเดินผ่านหน้าเขาไปแต่เพิ่งคิดได้ว่าไอ้พี่จีบยังเปลือยท่อนบนอยู่ คงน่าเกลียดเกินไปถ้าหากออกจากห้องในสภาพแบบนั้น แล้วคนอื่นจะคิดว่าเราทำอะไรกันล่ะ...

"เอ่อ พี่ไปใส่เสื้อก่อนป่ะวะ มันโป๊"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มแล้วหลุบตาลงมองพื้น พี่จีบเหมือนจะจับได้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่เลยเดินเข้ามาประชิดก่อนจะรวบตัวผมเข้าไปกอดจากด้านหลัง ความอุ่นวาบแผ่กระจายจนรู้สึกอยากหนี

"หวงเหรอครับ"
เสียงทุ้มถามกระซิบข้างหูจนรู้สึกขนลุกซู่ พยายามเบี่ยงหน้าเบี่ยงคอขนาดไหนพี่จีบก็ยังสามารถใช้จมูกโด่งๆกดลงมาบนแก้มกันแล้วฟัดด้วยความมันเขี้ยว

"ฮื้อ"
ผมครางเสียงดังอย่างขัดใจแล้วฟาดมือลงบนแขนแกร่งเต็มแรง พี่จีบปล่อยมือออกทันทีแล้วถลึงตาใส่กัน ผมแลบลิ้นก่อนจะรีบวิ่งเปิดประตูห้องนอนออกไป แต่ก็ต้องเบรกเอี๊ยดเมื่อเจอหนุ่มเกาหลีผิวขาวจัดยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตู... ส่วนสูงของผมกับเขาต่างกันลิบลับเลยว่ะ เหมือนจะสูงกว่าพี่จีบด้วยนี่ดิ ตอนเด็กๆพ่อแม่ให้กินยีราฟเป็นอาหารหรือยังไง

"เอ่อ..."

"สวัสดีครับคุณคิส"
สำเนียงภาษาไทยแปลกๆดังลอดริมฝีปากสีชมพูอ่อนออกมา รอยยิ้มหวานๆถูกส่งให้จนตาเล็กๆนั่นกลายเป็นสระอิ ผมอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง โดนเรียกว่าคุณแล้วดูเป็นทางการแปลกๆ

"สวัสดีครับคุณหนู"
เขาหันไปทักทายคนที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้ พี่จีบเบ้ปากก่อนจะแยกเขี้ยวใส่คนของเขา ผมกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดงเมื่อจับสังเกตได้ว่าพี่จีบหงุดหงิดกับคำเรียกแทนตัวเองแน่ๆ... คุณหนูจีบ โอย โคตรมุ้งมิ้งเลยว่ะ

"พี่จินยองเลิกเรียกผมว่าคุณหนูเถอะครับ โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว"
พี่ตีบว่าเสียงดุๆ แต่พี่จินยองยังคงส่งยิ้มแบบไม่สะทกสะท้านกลับมาให้กัน ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจภาษาไทยหรือกำลังกวนตีนคุณหนูของเขาอยู่กันแน่

"เรียกว่าคุณหนูน่ารักออกครับ จริงไหมคุณคิส"
พี่จินยองหันมาหาแนวร่วมแบบหน้าตาเฉย จากที่กลั้นขำกลับหลุดหัวเราะออกมาแล้วพยักหน้าแสดงความเห็นด้วยรัวๆ พี่จีบหันมาแยกเขี้ยวใส่กันก่อนจะเขกหัวผมไปหนึ่งทีไม่แรงนัก

"อย่ารุม ขนของไปเลยครับ"
พี่จีบตัดบทดื้อๆทำให้พวกเราหยุดแกล้งแล้วช่วยกันขนของลงไปชั้นล่าง ดีที่ผมไม่ได้มีของอะไรมากในหอพักทั้งๆที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สองปีแล้ว ส่วนเจ้า MSX คันเก่งของผมโดนพี่จินยองขี่ไปให้ถึงคอนโด อยากจะบอกว่าผู้ชายที่มากับเขาอีกคนหนึ่งหล่อมาก อย่างกับนักร้องเกาหลี ผมเลยเลียบๆเคียงๆถามพี่จีบว่าเขาคือใคร คำตอบที่ได้กลับมาทำให้อ้าปากค้าง 'แฟนพี่จินยอง'

"แวะกินข้าวก่อนไหม"
พี่จีบถามขณะขับ BMW ลูกรักไปตามทางสู่คอนโดหรู ผมส่ายหน้ารัวเพราะอยากกินอาหารฝีมือพี่จีบ... แฮะๆ ก็ไม่ได้กินนานแล้วนี่นา

"พี่จีบทำให้กินแทนได้ป่ะ"
พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกระพริบตาปริบๆด้วยท่าทางที่คิดว่าจะน่ารักมัดใจเขาได้ พี่จีบเหลือบมองกันก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วพยักหน้ารับคำอย่างง่ายดาย

"ก็ได้ ที่ห้องมีของสดพอดี"

"พี่จีบน่ารักที่สุดเลย ~"

"น่ารักก็อยากนอกใจ"

"ใครเขาจะไปนอกใจเล่า พี่นั่นล่ะอย่านอกใจผม สาวๆติดตรึมขนาดนั้น"

"ใครจะนอกใจครับคุณ กว่าจะจีบติด แทบจะไปบนศาลพระภูมิที่บ้านละ"
พี่จีบพูดก่อนจะย่นจมูกใส่กัน ผมขำเอิ้กอ้ากอย่างถูกใจ ไม่ใช่จีบยากสักหน่อย แต่ทึ่งที่มีเดือนคณะมาจีบต่างหาก แถมยังหล่อลากไส้เป็นคนดังของมหา'ลัยอีก

"หัวเราะอะไร"

"เปล้า ตั้งใจขับรถไปครับ"
ผมยิ้มหน้าระรื่นอย่างมีความสุข ส่วนพี่จีบถอนหายใจทำหน้าปลงๆส่งมาให้แล้วไม่พูดอะไรอีก เพลงที่เปิดคลอเบาๆทำให้บรรยากาศในรถดูสดชื่นขึ้นมาอีกนิดหน่อย ผมเคลิ้มจนแทบจะหลับถ้าเกิดไม่มีเสียงริงโทนดังขึ้นกวนใจซะก่อน

Rrrrrr

พี่จีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วส่งให้กัน ผมขมวดคิ้วแน่นแต่ก็ยอมรับมาถือไว้ด้วยความงุนงง เอามาให้ทำไมวะเนี่ย

"รับสายไอ้คินแทนหน่อย"

"โอเค"
ผมตอบรับไปก่อนจะกดรับสายของพี่คิน เสียงดังโหวกเหวกลอยเข้ามาก่อนที่คนปลายสายจะเอ่ยทักทายกัน

'ฮัลโหลๆ ไอ้เชี่ยจีบ!'
เหี้ยก็มาวะ....

"เอ่อ ผมคิสครับพี่คิน มีอะไรฝากบอกไว้ได้ พี่จีบขับรถอยู่"

'อ๋อ ฝากบอกมันด้วยนะว่าเกรดตัวสุดท้ายออกแล้ว'
เสียงคนปลายสายฟังดูร่าเริงผิดปกติ เดาไม่ยากพี่คินคงได้เกรดสวยๆมากกว่าที่คิดไว้ล่ะมั้ง แต่ผมนี่ดิเผลอกลั้นหายใจจนเกือบขาดอากาศตาย เกรดออกแล้วก็แสดงว่าความเสี่ยงการเสียตัวก็พร้อมแล้วเช่นกัน รู้สึกว่าตัวเองมือสั่นยังไงชอบกล ฮึก

"อ่ะ เอ่อ... จะบอกให้ครับ"
เชี่ย... เสียงสั่นด้วย จะบ้าตายเว้ย พี่จีบเลิกคิ้วมองกันด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อยแล้วหันกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ พวงมาลัยหักเลี้ยวเข้าจอดใต้อาคารคอนโดหรูเรียบร้อยในตอนนี้

'ครับผม แล้วเกรดของน้องคิสออกครบหรือยังเอ่ย'
มีถามกลับตอกย้ำให้ใจหวิวเล่นๆ แต่ก่อนจะได้อ้าปากตอบไปพี่จีบก็ดึงโทรศัพท์ไปคุยซะเอง ผมลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และปลดเข็มขัดนิรภัยออก

"เออๆ ถ้าดูแล้วจะไลน์ไปบอก แค่นี้นะ"
ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์แว่วออกมาในขณะที่ผมก้าวลงจากรถแล้วปิดประตูลง พี่จีบตามมาติดๆแล้วพากันขึ้นบนห้องไปอย่างเงียบเชียบ ทำไมต้องทำตัวลึกลับในขณะที่หัวใจผมเต้นแรงขนาดนี้ด้วยวะพี่จีบ

"คิสเอาของไปจัด เดี๋ยวพี่ไปทำอาหาร"
พี่จีบบอกก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมพยักหน้ารับแล้วลากกล่องต่างๆไปตามมุมต่างๆที่ต้องการให้มันอยู่แล้วลงมือจัดของไปเงียบๆ เริ่มจากของสำคัญไปก่อน ถ้าไม่เสร็จภายในวันนี้ก็ไม่เป็นไร

ผมรื้อของออกมาจัดได้มากกว่าครึ่งที่พี่จินยองกับแฟนขนขึ้นมาให้ก่อนหน้าที่เราจะมาถึง ในตอนนี้กลิ่นหอมของอาหารโชยมาแตะจมูกชวนให้กระเพาะทำงานอย่างหนัก เสียงร้องโครกครากย้ำเตือนว่าถึงความหิวได้อย่างดี ไม่นานนักเสียงสวรรค์ก็ขานเรียกกัน

"คิส มากินข้าว"

"ครับผม จะไปเดี๋ยวนี้"
ผมรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปล้างมือให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามพี่จีบแล้วลงมือกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย มีของหวานตบท้ายเป็นเค้กก้อนเล็กๆ หลังจากจัดการอาหารทั้งหมดเรียบร้อยโทรศัพท์มือถือก็ถูกส่งมาตรงหน้ากัน ผมเงยมองด้วยความสงสัยก่อนจะถามออกไป

"อะไรครับ"

"เอาไปดู"

"หา ดูอะไร"

"เกรดไง"

!!!!!!

ผมยื่นมือที่สั่นเทาไปรับเครื่องมือสื่อสารมา ใบหน้าของพี่จีบเรียบเฉยจนเดาไม่ออกเลยว่าเกรดออกมาดีหรือแย่ ยิ่งทำให้ผมลุ้นจนก้นแทบไม่ติดเก้าอี้ ดวงตากลมเหลือบมองหน้าจออย่างกล้าๆกลัวๆ โชคเข้าข้างแค่ไหนที่นิ้วดันปิดตรง GPA แบบพอดิบพอดี ฮึก ยังทำใจไม่ได้ว่ะ...

"ดูยัง"
พี่จีบถามกันก่อนจะหยิบแก้มน้ำขึ้นมาดื่ม ผมเหลือบสายตามองก่อนจะค่อยๆแง้มนิ้วตัวเองขึ้น ตัวเลขสีดำเข้มปรากฏสู่สายตาจนทำให้ผมอ้าปากค้างน้ำลายแทบไหลออกจากมุมปากด้วยความตะลึง ตายห่าแล้วไหมล่ะไอ้คิส!!

"พี่จีบ ทำไมไม่บอกผมวะ"
ผมพูดออกไปเหมือนคนกำลังตกอยู่ในภวังค์หลังจากที่เลื่อนย้อนดูเกรดทุกเทอมที่ผ่านมาของพี่จีบซ้ำแล้วซ้ำอีก ดวงตากลมยังเบิกค้างอยู่แบบนั้น... พี่จีบ ไอ้คนหลอกลวง!

"บอกอะไร"
เขาถามเสียงติดทะเล้นเล็กน้อย คงรู้แล้วล่ะว่าทำไมผมมีอาการเหมือนคนช็อคได้ขนาดนี้ อยากจะขว้างโทรศัพท์ใส่หน้าแล้วตรงเข้าไปเขย่าคอฉิบหายเลย

"เชี่ย พี่ลาออกเหอะ ไม่ต้องเรียนแล้ว"

"ทำไมวะ"
ยังมีหน้ามาถาม ทำไมหน้าด้าน ทำไม่กล้าถาม!

"ได้สี่ทุกเทอม อัจฉริยะมาเกิดหรือไง!!!!"
ผมตะโกนลั่นด้วยความโมโห แต่พี่จีบกลับหลุดหัวเราะออกมาอย่างพอใจ หลงกลมันแล้วไหมล่ะ รู้ตัวเลยว่าโง่ดักดานแค่ไหน  เสียตัวเห็นๆเลยกูเนี่ย ไม่รู้จะต่อรองกับมันไปทำพระแสงอะไร โอ้ย พลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตจริงๆ

"โกรธเหรอวะ พี่ไม่บังคับคิสหรอก เรื่องเกรดก็แค่รับข้อเสนอไปขำๆเอง ไม่ต้องกังวล"
พี่จีบหยุดหัวเราะแล้วเอื้อมมือมาดึงโทรศัพท์กลับไป ผมเบะปากก่อนจะงอแงใส่พอหอมปากหอมคอ

"พี่แม่ง เมื่อไหร่จะเลิกแกล้งกันวะ"

"โอ๋ๆนะครับที่รัก"
พี่จีบเดินเข้ามากอดกัน ใบหน้าของผมซุกลงที่หน้าท้องแกร่งแล้วยกมือขึ้นกอดรอบเอวของเขาเอาไว้ ไม่ใช่ไม่ชอบที่โดนแกล้ง แต่มัน...แค่เขินที่โดนแกล้งทำนองวาบหวิวแบบนี้

หลังจากนั้นเราก็ย้ายตัวเองมาดูหนังที่ฉายทางทรูวิชชั่นจนล่วงเลยมาถึงเวลากลางคืน ข้าวเย็นผ่านไปด้วยอาหารเรียบง่ายอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า อร่อยมากจนอยากจะกินเพิ่มอีกสักจานแต่เกรงใจพุงที่เริ่มป่อง

"จะอาบน้ำก่อนหรือจะให้พี่อาบก่อน"
พี่จีบเดินไปปิดทีวีแล้วถามกันขึ้นมา ผมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วบิดขี้เกียจก่อนจะตอบกลับไปเสียงใส

"ผมขออาบก่อนแล้วกันครับ"
พี่จีบพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำเข้าห้องนอนไปโดยมีผมเดินตามไป

ผมอาบน้ำโดยใช้เวลาไม่เกินสิบนาทีก่อนจะออกมาด้วยชุดเสื้อยืดสีขาวตัวบางกับบ๊อกเซอร์ขาสั้นตัวเก่ง ไม่รู้ทำไมแอบรู้สึกหวิวๆแปลกๆทั้งๆที่ปกติก็ใส่ชุดทำนองนี้นอนประจำ หรือในหัวกำลังคิดอกุศลอยู่วะ

"พี่จีบครับ ไปอาบน้ำ"
ผมเรียกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นเกมอยู่ พี่จีบเหลือบมองกันก่อนจะพยักหน้าแล้ววางโทรศัพท์ลงแล้วเดินหายเข้าห้องน้ำไป

"เอาไงดีวะกู"
ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียง ในหัวคิดวิธีการอ่อยพี่จีบสารพัดไปหมด ไม่ได้อยากเสียตัวนะเว้ย แค่ไม่อยากผิดคำพูดเฉยๆ กรุณาเชื่อสิ่งที่ผมพูด!  ผมพลิกตัวไปมาจนเสื้อยืดเปิดขึ้นมาเล็กน้อย สายตาสะดุดกึกอยู่ที่หน้าท้องขาวๆของตัวเอง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นจนเริ่มกลัวตัวเองแล้วนอนนิ่งอยู่ในท่านั้นจนพี่จีบเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงขาสั้นติดร่างกายเพียงชิ้นเดียว

"ไอ้คิส... เสื้อเปิด"
พี่จีบทิ้งตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะเบนสายตาหนีกัน ผมยิ้มกริ่มแล้วจับแขนแกร่งไว้หลวมๆ

"ดึงลงให้หน่อยสิครับ หรือจะถอดออกเลยก็ไม่ว่ากันนะ"
อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้ต้องมายั่วผู้ชายเพราะไม่อยากผิดคำพูดของตัวเอง... สารภาพความจริงก็ได้ว่าไม่พร้อม แต่เพราะรักถึงยอมให้

"หืม ยั่วเหรอ"
พี่จีบหันมามองกันก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมาคร่อมอย่างเนิบนาบ ดวงตาคมเป็นประกายกำลังจ้องมองอย่างกับจะกลืนกินผมลงไปทั้งตัว... ถอนตัวตอนนี้คงไม่ทันแล้วใช่ไหมวะ

"คิดว่าแบบไหนก็แบบนั้นล่ะครับ"
ผมตอบก่อนจะหลบสายตา เพิ่งรู้ว่าตัวเองหน้าบางก็ตอนโดนมองอย่างเอาเป็นเอาตายนี่ล่ะ หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าตอนวิ่งแข่งแปดร้อยเมตรซะอีก จะตายก่อนเข้าด้ายเข้าเข็มหรือเปล่าวะ หัวใจวายเฉียบพลันอะไรแบบนั้น

"ครั้งนี้พี่จะไม่ยอมทนแล้วนะคิส"
เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นก่อนที่จมูกโด่งจะไล้ไปตามกรอบหน้าอย่างเชื่องช้า ขนอ่อนในกายลุกซู่จนเผลอย่นคอหนีเล็กน้อย

"อือ... ไม่ทนก็ไม่ต้องทนครับ ผมสัญญาไว้แล้วนี่ว่าจะให้"

"แต่พี่บอกแล้วว่าไม่ได้จริงจัง"

"แต่ผมเต็มใจครับ"
ผมเอื้อมมือคล้องแขนไว้กับลำคอแกร่งแล้วโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาแตะจูบเบาๆ พี่จีบบดเบียดริมฝีปากลงมาเบาๆก่อนจะเพิ่มแรงขึ้นอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนไล่เลียไปตามริมฝีปากจนเปียกชื้นแรงดูดทำให้เจ็บเล็กน้อยแต่กลับเสียววาบไปจนถึงแกนกลางลำตัว มือหนาเปิดเสื้อผมขึ้นก่อนจะหยอกล้อกับตุ่มไตสีหวานจนเผลอร้องครางเสียงหวานออกมา

"อ๊ะ อื้อ"
ปากยังคงไม่ผละออก พี่จีบยังคงป้อนความหวานให้อย่างไม่ขาดสาย มือหนายังทำหน้าที่หยอกล้อเค้นคลึงจนความเสียวแล่นปลาบไปทั่วร่างกาย อารมณ์พุ่งสูงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ และไม่รู้ตัวเลยว่ากางเกงหลุดร่วงไปอยู่ข้างเตียงตั้งแต่ตอนไหน คนบนร่างของผมเกินคำว่าเชี่ยวชาญไปมากโขแล้วมั้ง

"อ๊ะ"
ผมร้องออกมาเมื่อนิ้วมืออุ่นทาบทับลงบนแกนกลางของร่างกาย มันขยับอย่างเนิบนาบจนผมแทบขาดใจ ความรู้สึกดีจนพูดไม่ออกกำลังทำให้หัวสมองขาวโพลน

"ระ เร็วขึ้นอีกได้ไหม"
ผมร้องขอโดยปราศจากยางอาย อารมณ์ที่มีในตอนนี้ทำให้สติยั้งคิดกลายเป็นรองไปซะหมด พี่จีบยิ้มกริ่มก่อนจะทำตามที่ขออย่างไม่อิดออด ไม่นานนักน้ำสีขาวขุ่นก็เปรอะเปื้อนมือหนา ผมนอนหอบหายใจอย่างหมดแรง และต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงการรุกล้ำจากช่องทางด้านหลัง มันเจ็บจนต้องกัดฟันทนแต่ไม่นานนักความเย็นของเจลก็ทำให้ผ่อนคลายลงไปมาก

"รู้สึกดีไหม"
เสียงทุ้มเอ่ยถามกันด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ผมพยักหน้ารับอย่างเขินอายก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้า ให้ตายเถอะ เห็นพี่จีบเปลือยแล้วหน้าร้อนกว่าเดิมอีก

"จะใส่เข้าไปแล้วนะ"
เขาบอกแค่นั้นก่อนจะถอนนิ้วออกไป ความคับแน่นเกิดขึ้นจนผมต้องนิ่วหน้าแล้วเอื้อมมือไปจับแขนพี่จีบเอาไว้


"อ๊ะ เจ็บ!"
พี่จีบหยุดก่อนจะก้มลงจูบกันแล้วเอื้อมมือเช็ดน้ำตาที่ปริ่มอยู่ออกให้ ผมเม้มปากเน้นเพราะรู้สึกปวดตุบๆตรงช่องทางด้านหลัง

"อย่าเกร็งครับคนเก่ง ผ่อนคลายเนอะ แต่ถ้าไม่ไหวก็ระบายความเจ็บกับตัวพี่ได้เต็มที่"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะเลื่อนมือไปเกาะไหล่อีกคนไว้แน่น เขาเริ่มสอดใส่เข้ามาอีกครั้งอย่างเชื่องช้า ผมเม้มปากแน่นกลั้นใจไม่โวยวายออกไป ไม่อยากให้มันจบเพราะความอ่อนแอของตัวเอง มาถึงขนาดนี้ก็อยากจะให้มันผ่านไปตลอดรอดฝั่ง

ความเจ็บปวดคลายลงหลังจากเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง ความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ขนผมเผลอร้องครางออกมาหลายต่อหลายครั้งอย่างน่าอาย แต่ดูเหมือนจะถูกใจคนบนร่างที่ขยับตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ผมไม่รู้ว่าเผลอสร้างรอยแผลระบายความวาบหวามไปบนตัวพี่จีบกี่ครั้ง สมองแทบจะเอ่อเร่อเมื่อมือหนากอบกุมแกนกายกันอีกครั้ง จังหวะมือและจังหวะขยับตัวประสานกันทำให้ผมเสียวจนแทบขาดใจ ไม่นานนักก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งพร้อมกับอีกคน...

นึกว่าเรื่องจะจบแล้วเมื่อครั้งแรกผ่านไป... ฮึก อย่าถามว่าผมมีชีวิตรอดได้ยังไงเพราะรู้ซึ้งและเข้าใจคำว่า 'ฟ้าเหลือง' ก็วันนี้ล่ะ




-------------------------------------------------------



เกรดพี่จีบออกแล้ว.... เป็นยังไงบ้าง น้องคิสเขาใสใสเนอะ 555555555
เราไม่ค่อยมั่นใจกับการแต่งฉากนี้เท่าไหร่ กลัวเขียนได้ไม่ดี
งด Q & A เนอะ ให้น้องคิสเขาพักผ่อน คึคึ
อยากจะบอกว่า ร่วมด้วยช่วยจุดพลุกับเราหน่อย ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถแต่งนิยายได้ 30 ตอนเข้าไปแล้ว
เกินความคาดหมายสุดๆ (ถ้ารวมจริงๆ 33 ตอนแล้วเนอะ) ตอนแรกตั้งไว้แค่ 25 ตอนจบ แต่เพราะรักเลยยังไม่อยากให้จบ


อ่านให้สนุกน้า ขอบคุณที่ติดตามกันมาอย่างยาวนาน คาดว่าไม่น่าจะเกิน 3-4 ตอนจะจบแล้วน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-09-2016 21:33:35
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 27-09-2016 21:50:34
55555 ว่าละพี่จีบคนหื่นไม่มีทางรอบเดียว น้องจูบของพี่ พักให้เพียงพอซะนะ 555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-09-2016 23:55:56
พอได้กินแล้ว ก็กินน้องจนฟ้าเหลือง :jul1: :jul1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 28-09-2016 00:17:27
กลัวแต่ก็อยาก...ทำตามสัญญา น้องคิสเป็นอย่างนั้นเลย อร๊ายยยยยย  :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-09-2016 00:20:10
 :haun4:
555
ในที่สุดพั่จีบก็ได้ปักธง

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 28-09-2016 00:25:22
คิสมีความยั่วยวน
เค้าได้กันแล้วอะ คือดี   :m25:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-09-2016 00:29:05
หนีไม่รอดแล้วน้องคิส พี่จีบเก่งเกิ๊น ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-09-2016 01:50:38
ทำใจนะน้องคิส พี่จีบแกเก็บกดมานานมันก็หลายรอบเป็นธรรมดา 5555555 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 28-09-2016 08:27:00
น้องคิสคนใสๆ
 :hao6:

ได้กันแว้วววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-09-2016 10:38:41
 :katai3:   :mc4:  จุดพลุ ปุ้งๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 28-09-2016 10:44:52
ครั้งแรกก็ฟ้าเหลืองเลยหรอพี่จีบ


 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 28-09-2016 11:37:53
หิ้ววววววว ในที่สุดก้อเสดพี่จีบ 5555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-09-2016 11:49:35
พี่จีบค่ะ ครั้งแรกก็จัดหนักแบบนี้ เดี๋ยวน้องคิสก็ไม่สบายหรอกค่ะ

ขอแนะนำหน่อยค่ะพี่จีบ พี่จีบไม่เคยได้ยินหรอค่ะว่าค่อยๆ กินทีละนิด แต่กินได้นานๆ

ดีกว่ากินหนักๆ แล้วแต่นานๆ ครั้งล่ะค่ะ อดทนหน่อยซิค่ะพี่
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 28-09-2016 11:53:42
มีจองกันด้วยยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 28-09-2016 20:00:36
 :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 28-09-2016 20:29:10
พี่จีบพาไปดูฟ้าสีสวยไหมลูกคิส ฟ้าสีเหลือง :laugh: :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 28-09-2016 21:15:58
แอร๊ยยฟิน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 28-09-2016 21:46:26
 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 28-09-2016 22:17:48
เรียบร้อยโรงเรียนพี่จีบแล้วเน้อออ
ต่อไปก้ออออออ เหลือพี่ดีพกับภีมมม ใครดีใครดี
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-09-2016 23:00:20
เอ้าปิดซอยยยยย โต๊ะจีนลง !  :mc4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: isuloveU Soly ที่ 28-09-2016 23:17:17
ในที่สุดพี่จีบก็ทำสำเร็จ ฮุฮุ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 30 -P.19- (27.09.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-09-2016 17:31:18
กรี้ดดดดด!!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.19- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 02-10-2016 20:16:04
- ดื่มครั้งที่ 31 -




ช่วงสายของวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ปราศจากการเรียนการสอนของนักศึกษาปีสามคณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาคคอมพิวเตอร์กราฟิก ผมนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาเนื่องจากอากาศในวันนี้ยังคงความเย็นเหลืออยู่ เพราะเมื่อคืนฝนหลงฤดูเทลงมาอย่างหนัก ความสัมพันธ์ของผมกับพี่จีบผ่านมาเป็นปีแล้ว ความรักยังคงเสมอต้นเสมอปลายไม่มีเปลี่ยนแปลง และดูเหมือนว่าพี่จีบจะเอาใจผมมากขึ้นด้วยหลังจากที่เราเป็นของกันและกัน คิดแล้วก็เขินไปอีกชีวิต

"คิส"
เสียงเรียกที่แสนคุ้นหูดังขึ้นจากด้านนอกห้องนอน ผมเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก รู้สึกว่าตัวเองไร้เรี่ยวแรงไปหมด เพราะเมื่อคืนพี่จีบดันจัดหนักในรอบอาทิตย์น่ะสิ โหย ใจคอจะไม่ให้ผมหนีเที่ยวสุดสัปดาห์ได้เลยใช่ไหมเนี่ย

"อือ"
ผมครางเบาๆออกมาก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงหัว ยังไม่อยากตื่นเลย ไม่มีแรงจะขยับตัวไปไหนด้วยซ้ำ ระบมไปหมด ต้องโทษพี่จีบเลยนะ เจ้าคนหื่นกาม!

"คิสครับ ตื่นได้แล้ว"
ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาหากัน ผมยิ่งขดตัวแน่นขึ้นและจับผ้าห่มไว้มั่นป้องกันการดึง แต่พี่จีบทำเพียงแค่ทิ้งตัวลงนอนข้างๆแล้วขยับเข้ามากอดทั้งอย่างนั้น

"อือ ไม่เอา ออกไปเลยนะ"
ผมบ่นเสียงอู้อี้แล้วดิ้นขลุกขลักไปมา ยังงอนเรื่องเมื่อคืนอยู่เลย บอกว่าให้แค่รอบเดียวแต่นี่ล่อไปสามรอบ หึ ไม่เอาให้ตายคาเตียงไปเลยล่ะ

"ยังงอนอยู่อีกเหรอคนดี"
เสียงทุ้มนุ่มถามกลับมา อ้อมแขนแกร่งกระชับกอดกันแน่นขึ้นอย่างออดอ้อน ผมอยากจะงอนเขาได้สักหนึ่งวันเผื่อความหื่นที่มีจะลดลงบ้าง แต่แค่ครึ่งชั่วโมงผมยังทำไม่ได้เลย ก็ใช้การง้อแบบนี้เนี่ย ให้ใจแข็งยังไงไหวล่ะ

"พอเลยพี่จีบ ขยับออกไปเลย ผมจะลุกแล้ว"
ยังคงแสร้งทำเสียงแข็งทั้งๆที่กลั้นยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว พี่จีบคลายกอดกันผมเลยขยับตัวโผล่หัวออกมาเจอกับใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องมองกันอยู่ ดวงตาคมฉายแววอ่อนโยนทุกครั้งที่มองมา ริมฝีปากหยักเคลื่อนมาประทับรอยจูบลงบนหน้าผากอย่างนุ่มนวล ฮึ่ย เขินเว้ย

"ขอโทษนะครับที่เอาแต่ใจไปหน่อย"
แต๊ะอั๋งกันเสร็จยังขอโทษด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นยิ้มเอาไว้ ก็ไม่อยากให้พี่จีบได้ใจนี่หว่า เดี๋ยวจะเคยตีวหาว่าผมเป็นคนง้อง่ายอีก

"อือ หิวแล้วอ่ะ"
ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนจะใช้มือเกาหัวแกรกๆ ไม่ได้สระผมมาสองวันเพราะความซกมกของตัวเองล้วนๆ แต่พี่จีบก็ไม่ได้บ่นสักคำด้วย สงสัยมันยังไม่ส่งกลิ่นเท่าไหร่

"เตรียมข้าวต้มซีฟู้ดร้อนๆไว้ให้แล้ว รีบลุกไปล้างหน้าแปรงฟันเลย"
พี่จีบเอื้อมมือมาตีก้นกันก่อนจะลุกเดินออกไปด้านนอก ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนจะไปทำตามคำสั่งของพ่อทูนหัวให้เรียบร้อยแล้วเดินไปนั่งทำหน้าอึนที่โต๊ะอาหาร เขาตักข้าวต้มมาเสิร์ฟให้ถึงที่แถมโรยขิง ผักชี พริกไทยให้กันอีกด้วย จะมีใครน่ารักไปกว่าแฟนผมอีกน้า มีความสุขสุดๆไปเลยนะเนี่ย

"กินเยอะๆ บำรุงร่างกาย"
พี่จีบตักกุ้งตัวโตจากถ้วยของตัวเองมาให้กัน ผมพยักหน้ารับคำก่อนจะตักข้าวต้มพูนช้อนมาเป่าแล้วงับเข้าปาก อืม... ฝีมือพี่จีบไม่เคยตกจริงๆนะ อร่อยเสมอ ถ้าไม่ติดว่าเรียนจบแล้วเขาต้องเข้าทำงานบริษัทนำเข้าและส่งออกเมล็ดกาแฟของที่บ้านนะ ผมจะยุให้เปิดร้านอาหารซะเลย

"ใช้แรงงานผมแล้วมาเอาใจทีหลังเหรอ"
ผมว่าเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะใช้มือดึงหางกุ้งออกจากปาก ทิชชู่ส่งตรงมาให้กันแทบจะในทันที โอย ดูแลดีขนาดนี้จะไม่รักยังไงไหวล่ะ

"ใครเรียกว่าใช้แรงงานวะ เรียกว่ามอบความเสียวซ่านให้ดีกว่า"
พูดจบแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้กันอย่างอารมณ์ดี ผมนี่สำลักข้าวต้มอย่างแรงกับประโยคที่ได้ยิน โอ้ย แฟนใครวะ ทำไมหน้าด้านขนาดนี้ ตอบ!

"แค่กๆ หยุดพูดไปเลยนะเว้ย"
ผมไอโขลกออกมาแล้วรีบหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอย่างรวดเร็ว รู้สึกเจ็บคอไปหมดจนต้องจ้องตัวต้นเหตุเขม็งก่อนจะแยกเขี้ยวใส่ พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างสนุกสนานแต่ก็เอื้อมมือมาลูบหัวกันแบบละมุนละม่อมอีก ฮึ่ย

"โอ๋ๆนะเมีย มาให้จูบหน่อย"
ไม่ว่าเปล่าแต่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกเราแตะกัน ผมกำลังจะผละตัวหนีแต่มือหนากับรั้งต้นคอเอาไว้อย่างรู้ทัน  เกลียดชะมัดเลย

"ไม่เอา เหม็นกลิ่นผักชีจะตาย"
ผมย่นจมูกใส่แล้วพยายามใช้สองมือผลักอกของเขาให้ถอยห่างออกไป แต่มันไม่ได้ผลเมื่อริมฝีปากหยักกดจูบลงมาจนได้ ก็ว่าจะไม่เคลิ้ม... แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้อีกคนรุกล้ำเข้ามาอย่างใจอ่อน เพราะรักหรอกน่าถึงยอมขนาดนี้

"อือ"
ผมครางเสียงแผ่วในลำคอเมื่อริมฝีปากถูกครอบครองและดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย รู้สึกร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นมาซะอย่างนั้น ในใจนึกกลัวว่ามื้อเช้าของพี่จีบจะกลายเป็นตัวของผมเอง แต่ยังไม่อยากหยุดเลยไง ปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน กำลังเพลิน

"เป็นอาหารเช้าให้พี่ไหม"
พี่จีบผละจูบออกแล้วถามกันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ผมเม้มปากแน่นก่อนจะกำมือทุบลงบนอกแกร่งแล้วขยับตัวหนีทันที นี่ยังระบมไม่หายมาถามกันแบบนี้อีก วันหยุดไม่ต้องนอนเป็นผักเหี่ยวอยู่แค่บนเตียงหรือไง

"ยังไม่พออีกหรือไง เลิกหื่นสักวันเถอะพี่จีบ"
ผมว่าก่อนจะตักข้าวต้มใส่ปากอีกครั้ง เนี่ย ข้าวก็เพิ่งกินไปได้สองสามคำ จะเอาแรงที่ไหนไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะบนเตียงเล่าพ่อคุณ ปล่อยผมให้มีความสุขกับมื้ออาหารธรรมดาๆบ้างเถอะ

"ล้อเล่นน่า จริงจังไปได้"
พี่จีบหัวเราะออกมาเบาๆแล้วทิ้งตัวลงนั่งกินข้าวเช้าจ่อไปเงียบๆ หลังจากจัดการเรียบร้อยผมก็เป็นคนเก็บจานไปล้าง ทีแรกพี่จีบขัดไว้เพราะเห็นว่ายังระบมตรงส่วนนั้น แต่เรื่องแค่นี้คนอย่างนายอินธิพัฒน์ทนได้อยู่แล้ว

"คิส ไปทะเลกัน"
ผมที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาออกแบบคาแรกเตอร์งานสร้างการ์ตูน 3D อยู่เงยหน้าขึ้นมองพี่จีบแทบจะในทันที หัวคิ้วขมวดเข้าหากันยุ่งเหยิงแล้วถามกลับไปเสียงเครียด

"อะไรนะ อยู่ๆมาชวนผมทะเลาะ"
พูดจบก็เบะปากใส่ไปหนึ่งที พี่จีบถึงกับชะงักแล้วหลุดหัวเราะก๊ากออกมาจนผมทำตัวไม่ถูก อะไรวะ ทำอะไรผิด ก็ได้ยินว่าชวนทะเลาะ แล้วตอนนี้มาหัวเราะใส่กันซะอย่างนั้น ตามไม่ทันเว้ย

"ใครชวนมึงทะเลาะเนี่ย พี่ชวนไปทะเลเว้ย ทะเลน่ะ"
พี่จีบกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดงแต่สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาอีก ผมได้แต่นั่งเกาแก้มแก้เขิน ยิ้มแห้งๆส่งไปให้กัน หน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บเลยกู ฮือ

"ขอโทษที ได้ยินไม่ชัดอ่า"

"ตกลงจะไปหรือไม่ไป"

"ไปเมื่อไหร่"

"ตอนนี้ล่ะ"

"เฮ้ย กะทันหันไปป่ะวะพี่"
ผมเบิกตากว้างเมื่อทุกอย่างมันรวดเร็วแบบนี้ แต่ใจนี่ลอยไปอยู่ที่ทะเลเรียบร้อยแล้วเว้ย ไม่ได้ไปตั้งนาน เอะอะๆขึ้นเหนือตลอด

"จะไปไหมล่ะ พัทยาใกล้ๆ วันอาทิตย์ค่อยกลับ"
พี่จีบดึงผมขึ้นมาจากพื้นแล้วบังคับให้นั่งลงบนตักกัน คางมนเกยอยู่ที่หัวไหล่ ลมหายใจร้อนๆกระทบกับซอกคอทำให้รู้สึกสยิวยังไงชอบกล ขนลุกไปหมดแล้ว จะกี่ครั้งก็ไม่ชินสักทีกับการใกล้ชิดกันแบบนี้

"กะ ก็ได้ แล้วจะไปกันแค่สองคนเหรอ"
ผมถามกลับแล้วพยายามย่นคอหนีเพราะพี่จีบแกล้งใช้จมูกไล้ไปตามซอกคอ ฮื้อ ไม่เอาแบบนี้นะ เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปไหนกันพอดี พี่แค่แกล้งแต่ผมจะหื่นจริงแล้วนะเว้ย คนบ้า!

"จะชวนใครก็เอาสิ ไม่สนใจอยู่แล้ว ยังไงพี่ก็หาทางลวนลามคิสได้"
พูดจบก็ใช้ปากงับซอกคอกันเบาๆจนผมสะดุ้งเฮือก หน้าร้อนวูบวาบกับสัมผัสแนบชิดแบบนั้น ยิ่งคำพูดกระซิบข้างหูเมื่อครู่นั่นอีก นี่กำลังบังคับให้ผมยอมเสียตัวให้อีกครั้งใช่ไหม ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ

"เลิกคิดเรื่องลามกก่อนดิ"
ผมหมุนตัวนั่งคร่อมตักแล้วเผชิญหน้ากัน แขนยกขึ้นคล้องรอบคออีกคนไว้หลวมๆก่อนจะก้มหน้างับคอพี่จีบคืน ปากบอกให้หยุดแต่ผมกลับแสดงออกตรงข้าม มันคือการเอาคืนนั่นเอง ไม่ต้องตกใจหรอกนะ หึหึ

"งั้นก็เลิกยั่วก่อนสิ เดี๋ยวทริปก็โดนพับเก็บกันพอดี"
พูดห้ามกันแต่มือหนากลับยกขึ้นบีบคลึงสะโพกอย่างเมามัน นี่มันคู่รักซึนเดเระแห่งปีชัดๆ ผมตีมือพี่จีบก่อนจะจับเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ลวนลามต่อได้อีก แล้วโน้มหน้าลงไปขโมยจูบเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืน

"โทรไปชวนไอ้ออยกับภีมก่อนนะ"
ผมยกยิ้มกวนๆใส่พี่จีบแล้วคว้าเอาโทรศัพท์กลับเข้าห้องนอน ระหว่างรอต่อสายก็รื้อเสื้อผ้าที่ต้องการมายัดใส่กระเป๋า พี่จีบก็เดินตามมาทำอย่างเดียวกันไปเงียบๆ ไม่นานนักไอ้ออยสาวสวยประจำกลุ่มก็รับสาย

'ฮัลโหล ~'
เสียงสดใสยิ่งกว่ายืนบนไหล่เขาดังแทรกเข้ามา แต่ฟังแทบไม่รู้เรื่องเหมือนเพื่อนตัวดีกำลังอยู่ในที่คนพลุกพล่าน

"มึงอยู่ไหนอ่ะออย"
ผมหนีบโทรศัพท์ไว้กับหัวไหล่ก่อนจะหยิบของที่จำเป็นยัดใส่กระเป๋าต่อ พี่จีบคงเห็นความลำบากเลยแย่งทุกอย่างไปทำซะเอง ผมกล่าวขอบคุณเขาแบบไร้เสียงแล้วเดินไปหย่อนตัวนั่งลงปลายเตียงเพื่อจะคุยโทรศัพท์ได้สะดวก

'อยู่พารากอน มึงมีอะไรหรือเปล่า'

"ว่าจะชวนไปทะเลอ่ะ"

'ไปวันไหน'

"วันนี้"

'ไอ้เชี่ย ไม่บอกกูพรุ่งนี้เลยล่ะคะเพื่อน กูไม่ว่างเว้ย กำลังจะดูหนังกับพี่!'
มันโวยกลับมาเสียงดังจนผมต้องย้ายโทรศัพท์ออกจากหูแล้วทำปากขมุบขมิบใส่ พี่จีบหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นท่าทางของผมก่อนจะหันกลับไปจัดของต่อ

"ก็พี่จีบชวนกะทันหันอ่ะมึง"
ผมพูดเสียงอ่อยกลับไป ดูท่าทางมีหวังจะได้ไปด้วยกันแบบสองต่อสองแน่ๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากไป แต่ผมไม่เคยไปทะเลกับเพื่อนไง ถึงจะเคยแต่มันก็นานมาแล้วจนลืมบรรยากาศแบบนั้น

'เชิญไปสวีทกับผัวสองคนเถอะค่ะเพื่อน ถ่ายรูปมาฝากเยอะๆละกัน'
มันบอกน้ำเสียงประชดจนผมนึกหมั่นไส้ แล้วอะไรคือการบอกให้ผมไปสวีทกับผัวสองคน ใช้คำพูดไม่สมกับความเป็นกุลสตรีเลยไหมล่ะ ไม่กระดากปากบ้างหรือไงวะ  จริงๆแล้วผมพาลไปอย่างนั้นล่ะ เพราะเขิน ฮือ

"รูปทะเลอ่ะนะ"
ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เผื่อไอ้ออยมันติสท์แตกให้ถ่ายรูปฝรั่งแก้ผ้าเดินชายหาดไปให้มันอีก

'เปล่า รูปมึงกับพี่จีบอ่ะ กูจะส่งให้แอดมินเพจคนดังมหา'ลัย'
แสงมันระริกระรี้ชอบกลจนผมอ้าปากพะงาบๆ จะเอาไปให้แอดมินเพจคนดังฯทำไมวะ ยังไม่อยากโดนแฟนคลับมันกระหน่ำด่านะเว้ย รู้อะไรไหม ทุกวันนี้พอโดนแอบถ่ายรูปไปลงเพจ มีทั้งคนชอบ คนด่า คนหมั่นไส้ แต่ปลงแล้ว เพราะพี่จีบก็ไปไล่ออกความคิดเห็นมันซะทุกรูปเหมือนกัน หึหึ เอาสิ คนของผมก็ต้องปกป้องผมเป็นธรรมดา

"ส่งให้ทำเชี่ยอะไรเนี่ย ไม่เอา!"

'น่าๆ เขาเป็นแฟนคลับจีบคิสน่ะ รับรองว่าไม่เอาไปลงเพจหรอก เก็บไว้ฟินส่วนตัวอะไรงี้'

" โอย รูปเดียวพอ!"
ก็ยังจะใจอ่อนให้เขาหนอคนเรา เพลียใจกับตัวเองจริงๆเลย ไม่ใช่ว่าอยากอวดความรักของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ แค่ทำให้แอดมินเขามีความสุขก็เท่านั้นเอง จริงๆนะ คิสเป็นคนใสใสใครๆก็รู้ ไม่ได้ประกาศความเป็นเจ้าของพี่จีบเล้ย

'ถ้ารูปเดียวขอแบบจูบดูดดื่มนะ'
ไอ้ออยหัวเราะเสียงใสกับคำของตัวเอง ผมนั่งอ้าปากพะงาบๆแก้มร้อนวูบทันที ใครมันจะไปถ่ายรูปแบบนั้นแล้วส่งให้คนอื่นดูกันเล่า ประสาท!

"ไม่เว้ย แค่นี้นะ คุยกับมึงแล้วปวดหัว"
ผมกดวางสายทันทีแล้วนั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว พี่จีบเดินมาแล้วหย่อนตัวลงข้างๆแล้วใช้มือดึงแก้มกันเบาๆอยากหยอกล้อ

"เป็นอะไรหืม หน้ายับย่นเหมือนหมาปั๊กเลยนะ"
พี่จีบว่าก่อนจะยกยิ้มกวนๆให้กัน ผมเหลือกตามองด้วยความหงุดหงิดก่อนจะใช้หัวแข็งๆชนปลายคางอย่างหมั่นไส้ เรื่องอะไรมาว่าผมเหมือนหมาปั๊กกันล่ะ

"โอยคิส เดี๋ยวคางแตก"
พี่จีบยกมือขึ้นลูบคางตัวเองไปมาแล้วส่งสายตาดุๆให้กัน ผมแลบลิ้นใส่ก่อนจะขยับหนีแขนยาวๆที่พยายามจะล็อคคอ อย่างหวังว่าจะชนะผมได้อีกนะ ครั้งนี้ไม่มีทางแน่นอน

"ว่าผมเป็นหมาก่อนทำไมล่ะ"

"ทำไมเดี๋ยวนี้ขี้งอนจังวะ หรือว่าท้อง"

"ฮึ่ย จะบ้าเหรอ ผมท้องไม่ได้!"

"ใจเย็นน่า ล้อเล่น จะโทรไปชวนใครอีกไหม"
พี่จีบถามก่อนจะดึงผมเข้าไปนั่งตักอีกแล้ว แต่ขี้เกียจขัดขืนเลยไม่ดิ้นหนีไปไหน ปล่อยให้เข้ากอดรอบเอวเอาไว้หลวมๆ

"ขอโทรชวนภีมก่อน ออยมันไม่ว่างอ่ะ"
ผมตอบกลับไปแล้วยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมากดต่อสายหาไอ้ภีม รอเสียงสัญญาณจนแทบสายจะตัดแล้วจึงมีเสียงคนงัวเงียพูดแทรกขึ้นมา

'อือ ใครครับ'
เสียงงัวเงียจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ ให้เดาคนปลายสายคงยังไม่ตื่นเป็นแน่

"ไอ้ภีมไปไหนอ่ะ"
ผมถามกลับไปทันทีเพราะรู้ว่าเป็นพี่ชายของตัวเองรับสายไม่ผิดแน่ แต่ไอ้พี่ดีพนี่สิท่าทางจะไม่รู้ว่าใครโทรไปด้วยซ้ำ

'มึงเป็นใคร มาถึงก็ถามหาแฟนกู'
เอ่อ... ผมเอ๋อแดกไปชั่วขณะก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆแล้วหลุดหัวเราะออกมา อยากรู้ว่าตอนนี้พี่ชายงัวเงียหรือเมากันแน่ ถึงขนาดจำเสียงผมไม่ได้ขนาดนี้เนี่ย

"พี่ดีพ ผมคิสไง เมาเหรอวะ!"
ผมโวยกลับไปเสียงไม่ดังนัก พี่จีบคงพอจะเดาได้ว่าผมคุยอะไรกันอยู่เลยหลุดหัวเราะออกมาบ้าง แถมมือที่เคยโอบเอวกันไว้หลวมๆเริ่มเลื้อยไปตามขาอ่อนจนผมต้องตะปบเอาไว้ก่อนที่มันจะย้ายเข้าไปอยู่ในขากางเกง

'หา อ๋อ โทษที กูยังแฮงก์อยู่ เมื่อคืนภีมมอมเหล้ากู'

"หา มอมเหล้า นี่พี่เสร็จไอ้ภีมแล้วเหรอ"
ผมถามออกไปด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีไอ้ภีมเคยทำแบบนั้นซะที่ไหนสงสัยจะเอาจริงด้วยการชิงเป็นผัวพี่ดีพซะก่อนที่มันจะตกเป็นเมียแน่ๆ โอย แต่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้อ่ะ

'เสร็จพ่อง! กูแค่หื่นใส่มันเฉยๆ มันเลยหลอกให้กูกินเหล้าให้เมาแล้วหลับนี่ไง'
เสียงพี่ดีพติดหงุดหงิดจนผมเริ่มกลัว สงสัยจะหัวเสียน่าดูที่พลาดโอกาสปล้ำให้ภีมครั้งแล้วครั้งเล่า พูดไปพูดว่าก็สงสารพี่ชายตัวเองอยู่เหมือนกัน ตอนแรกๆที่เขารู้ว่าผมกับพี่จีบทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาคู่มันไปแล้ว โดนโกรธไปเกือบหนึ่งอาทิตย์แหนะ

"เออๆ ว่าจะชวนไปทะเลอ่ะ ไปด้วยกันป่ะ"

'วันไหน'
ทำไมต้องถามคำถามเดียวกันวะ ไม่พ้นโดนด่าอีกแน่ๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบออกไปไม่เต็มเสียงนัก ไอ้คนที่กอดกันอยู่ก็หายใจรดต้นคออยู่ได้ ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย

"วันนี้อ่ะ พี่จีบเพิ่งชวน"

'เหี้ย ชวนปุ๊ปจะไปปั๊ป ไม่ว่าง มีนัดกินข้าวกับพ่อแม่ไอ้ภีมว่ะ'
เหี้ยเต็มสองหูจนต้องเบะปากมองบนกันเลยทีเดียว แต่ก็ดีหน่อยที่ไม่โดนเทศน์จนหูชา

"อ๋อ จะไปขอลูกชายเขาหรือไง"
ได้ทีขอแซวหน่อยเถอะ สนิทสนมกันจนน่าหมั่นไส้เลยทีเดียว

'หึ ให้กูได้มันเป็นเมียก่อนเถอะน้องชาย โอ้ย ภีมหยิกตูดกูทำไมเนี่ย!'
ได้ยินเสียงโวยวายลอดออกมาทำให้ผมหัวเราะทันที เดาว่าภีมคงเดินกลับมาจากที่ไหนสักแห่งแล้วบังเอิญได้ยินประโยคเมื่อครู่เข้าให้แน่ๆ

'แค่นี้นะมึง โอ้ยภีม พอแล้วกูเจ็บ!'
แล้วสายก็ตัดไปดื้อๆทำให้ผมนั่งหัวเราะจนตัวสั่นอยู่แบบนั้น สรุปก็เป็นทริปสองต่อสองกับพี่จีบอีกสินะ เพราะรู้มาว่าพี่คินกับพี่แก๊ปนัดกันไปย้อนวัยที่สวนสนุก

ผมลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วขนกระเป๋าลงไปขึ้นรถ BMW เคลื่อนตัวไปช้าๆตามเส้นทางมุ่งสู่พัทยา ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการเดินทาง ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือของพี่จีบก็ยื่นมาตรงหน้า ผมรับไว้ด้วยความงุนงงแล้วถามกลับไปว่าให้ทำอะไร

"ส่งมาทำไมครับ"

"โทรจองบ้านพักหน่อย"

"อ๋อ... โอเค"
ผมก้มลงมองหน้าจอก็เจอเข้ากับชื่อโรงแรมที่พัก จากนั้นก็กดโทรออกทำเรื่องจองบ้านพักแบบบังกะโลหนึ่งหลังเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ผมวางเครื่องมือสื่อสารลงเมื่อทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อยก่อนจะขอนอนพักเพราะยังรู้สึกเพลียๆ จนมาตื่นอีกครั้งก็ตอนพี่จีบปลุกกันนั่นล่ะถึงรู้ว่ามาถึงแล้ว

เราขนของลงจากรถไปที่ล็อบบี้เพื่อรับกุญแจบ้าน หลังจากนั้นก็เอาของไปเก็บไว้และชวนกันมาเดินเล่นริมชายหาด เสียงคลื่นกระทบฝั่งฟังแล้วคล้ายกับเสียงดนตรีที่คอยขลับกล่อมนักท่องเที่ยวให้ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยลง เท้าเปลือยเปล่าย่ำลงบนผืนทรายขาวเนียนละเอียดมันเปียกชื้นแต่ก็ให้ความรู้สึกดี สายลมอ่อนๆพัดกระทบใบหน้ากันให้ความรู้สึกสดชื่น ติดตรงที่ลมทะเลมันเหนียวตัวนี่ล่ะนะ

"เอารองเท้ามานี่ เดี๋ยวถือให้"
พี่จีบแบมือข้างที่ว่างมาตรงหน้า ผมเลิกคิ้วมองก่อนจะส่ายหัวไปมา เรื่องอะไรที่จะใช้แฟนถือของต่ำให้กันเล่า สู้เอามือที่ว่างจับกันไว้ไม่ดีกว่าเหรอ

"ไม่เอา ผมถือเองได้น่า"
ผมบอกก่อนจะปัดมือพี่จีบทิ้งอย่างไม่จริงจังนัก เจ้าตัวไหวไหล่แล้วยอมปล่อยเลยตามเลย เราเดินไปตามชายหาดเงียบๆ แต่แล้วก็มีสาวน้อยสามคนเดินตรงเข้ามาหาพวกเรา หึ... มาหาพี่จีบแน่ๆ ให้ตายเถอะชีวิต มีแฟนหล่อนี่มันเป็นปัญหาใหญ่โดยแท้จริงสินะ

"เอ่อ... ขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ"
คนที่ดูหน้าตาน่ารักที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้น ผมกับพี่จีบมองหน้ากันแว๊บหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป

"ได้สิ มีอะไร"
พี่จีบตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกไป ส่วนผมยืนเงียบอยู่ข้างๆกันเพื่อรอดูว่าพวกเธอจะทำอะไรต่อ

"ชื่ออะไรเหรอคะ"
เธอถามด้วยท่าทางเขินอาย ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็มีอาการไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ แต่ไม่ชัดเจนเท่ากับคนถาม ผมขมวดคิ้วแน่นเพราะเดาได้ว่าไม่ช้าก็เร็วพี่จีบต้องโดนขอเบอร์แน่ๆ ฮึ่ม

"ถามผมหรือถามคนข้างๆ"
โอ้โห... แฟนผมก็ถามอะไรโง่ๆเนอะ ทั้งที่สายตาเขาจับจ้องพี่เป็นประกายระยิบระยับขนาดนั้น แต่การทำเป็นซื่อก็ช่วยยืดเวลาในการตอบคำถามไปได้เยอะเหมือนกัน

"เอ่อ ทะ ทั้งสองคนค่ะ"

"อ๋อ ผมชื่อจีบ ส่วนนี่คิส"
พี่จีบแนะนำตัวให้เสร็จสรรพก่อนจะคลี่ยิ้มบางซึ่งผมก็ทำตาม มันเป็นมารยาททางสังคมน่ะนะ พวกเธอพยักหน้าหงึกหงักรับรู้แต่ไม่แนะนำตัวกลับมา ประหลาดจริงๆ

"เอ่อ... อายุเท่าไหร่คะ"
นี่สอบถามไปทำทะเบียนราษฎร์หรือเปล่าครับคุณ

"ถามทำไมครับ"
คราวนี้เป็นผมเองที่ถามสวนกลับไปเพราะรู้สึกว่าพวกเธอเริ่มก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันมากขึ้น จะบอกว่าผมหวงอีกคนก็ได้ อะไรที่มาทำนองนี้คือตั้งใจจะมาจีบกันทั้งนั้นล่ะ

"อ่า... คือ จะได้เรียกถูกไงคะ"

"ถ้าไม่มีธุระอะไรผมขอตัวนะครับ"
พี่จีบพูดแทรกขึ้นมาแล้วคว้ามือของผมไปจับเอาไว้แน่น พวกเธอดูจะตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่ไม่น้อยแต่ไม่ได้ถามอะไรออกมาทั้งๆที่แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นมากขนาดนั้น

"คือว่า ขอเบอร์จีบได้ไหมคะ"
ในที่สุดสิ่งที่ผมคิดก็เกิดขึ้น เฮ้อ ผมแกะมือพี่จีบออกแล้วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาคมเลื่อนมองกันแล้วหันกลับไปมองพวกเธออีกหน

"ผมให้ไม่ได้หรอกครับ"

"ทำไมเหรอคะ"

"เดี๋ยวแฟนจะงอนน่ะครับ"

"อ่า... มีแฟนแล้วเหรอคะ เสียดายจัง"
เธอว่าเสียงอ่อยอย่างน่าสงสาร อาการร่าเริงเหมือนตอนแรกหายไปทันที ดวงตากลมใสนั่นสั่นระริกและเต็มไปด้วยความผิดหวัง

"อืม... ขอตัวนะครับ"
พี่จีบว่าก่อนจะคว้ามือผมไปจับแล้วประสานกันแน่น พวกเราเดินออกมาจากตรงนั้นและได้ยินเสียงพวกเธอไล่หลังมาทำนองว่า 'ฉันบอกแล้วว่าเขาเป็นแฟนกัน ทำไมแกไม่เชื่อ' และ 'ใครจะไปรู้อ่ะ ก็ดูแมนทั้งคู่นี่หว่า' และ 'กรี๊ด เขาน่ารักกันจังเลยแก' จากที่จะโกรธเพราะโดนนินทากลับกลายเป็นว่าเขินไปซะอย่างนั้น

"คิส ไม่งอนเนอะ"
พี่จีบแกว่งมือข้างที่จับกันไว้เบาๆ ผมเงยมองคนข้างๆแล้วส่ายหน้าไปมาเป็นการบอกว่าไม่ได้งอน มีหึงบ้างเล็กน้อยแต่พี่จีบก็ปฏิเสธออกไปชัดเจนแล้วจะเหลืออะไรให้รู้สึกไม่พอใจกันล่ะจริงไหม

"ให้งอนเรื่องอะไรล่ะ พี่เล่นปฏิเสธไปตรงๆแบบนั้น"
ผมว่าก่อนจะแกล้งบีบมือกันแน่นๆ พี่จีบหันมายิ้มละมุนให้กันแล้วดึงมือให้ผมหยุดเดินก่อนจะบังคับให้หันหน้าเข้าหาทะเลยามเย็น พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ทำให้แสงสีส้มกระจายไปทั่วบริเวณ ดูแล้วร้อนแรงแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด เหมือนกับคนข้างๆล่ะมั้ง

"น่ารักใช่ไหมล่ะ"
พี่จีบพูดติดตลกก่อนคลายมือที่เกาะกุมกันออกแล้วเปลี่ยนมากอดไหล่แทน ดวงตาคมก้มลงมาจ้องมองกัน ผมย่นจมูกใส่แล้วแกล้งเอาหัวชนอกกว้างด้วยความมันเขี้ยว

"คนอะไรหลงตัวเองเป็นบ้า"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มเมื่อโดนมือใหญ่กดหัวในแนบลงกับอกเพื่อฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงเป็นจังหวะเดียวกัน หัวใจของกันและกัน

"คิสก็หลงพี่ไม่แพ้กันหรอก"
ผมเถียงไม่ออกเลยได้แค่แกล้งอ้าปากงับอกแกร่งเล่น ตอนนี้ความเขินมันมีมากกว่าที่จะแคร์สายตาใครๆ จะมีคนอื่นมองการกระทำของเราผมก็ไม่สนใจแล้ว ละทิ้งเรื่องคนอื่นแล้วมองแค่ตัวเรากับคนที่เรารักในตอนนี้ก็พอ

"ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้น่า ผมภูมิต้านทานต่ำพี่ก็รู้"

"รู้ไง ก็อยากให้เขิน น่ารักดี"
ไม่รู้ว่าคู่อื่นเขายังจีบกันแบบนี้หรือเปล่าหลังจากที่เป็นแฟนกันแล้ว แต่ผมกับพี่จีบยังหมั่นจะหยอดกันไปกันมาเพื่อเพิ่มความหวานเหมือนมันแรกที่จีบกันอยู่ มันทำให้อบอุ่นใจนะ ไม่เชื่อลองทำดูสิ

"พี่แม่งโรคจิตอ่ะ"
ผมผละตัวออกจากอกแกร่งแล้วใช้มือทั้งสองข้างดึงแก้มพี่จีบด้วยความมันเขี้ยว เขายิ้มและไม่บ่นสักคำว่าเจ็บ แถมยังเลื่อนหน้าผากเข้ามาแตะกันด้วยซ้ำ การกระทำทุกอย่างชะงักลงเมื่อสายตาประสานกัน

"ทำไมนิสัยเสียวะ"
อยู่ๆพี่จีบก็ย่นคิ้วแล้วว่ากันแบบนั้น ผมเบิกตาโตด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าไปแสดงนิสัยเสียๆตอนไหน ประมวลผลอย่างรวดเร็วก็ไม่พบอะไร

"หือ พี่จีบพูดอะไรวะ ผมไม่เข้าใจ"
ผมขมวดคิ้วแน่นเพราะเริ่มเครียดก่อนจะผละตัวออกห่าง แต่พี่จีบกลับใช้มือรั้งท้ายทอยกะนเอาไว้และบังคับให้ประสานสายตากันเหมือนเดิม ดวงตาคมไม่ได้ฉายแววดุดันหรือตัดพ้อแต่อย่างใด มันฉายแววความอ่อนโยนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักจนผมรู้สึกขัดเขินยังไงชอบกล

"นิสัยเสียที่ทำให้พี่หลงหัวปักหัวปำไง ไม่รู้ตัวเหรอ"
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้กัน คำหวานที่ผ่านหูไปเมื่อครู่ทำให้ผมสะดุดลมหายใจของตัวเองไปหนึ่งจังหวะเต็มๆ ใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมา แก้มต้องแดงมากแน่ๆ บ้าเอ้ย

"ฮื้อ พี่ก็นิสัยเสียเหมือนกันเหอะ ทำให้ผมเขินตัวจะแตกขนาดนี้"
ว่าแล้วก็เขย่งเท้าจูบปิดริมฝีปากหยักซะเลย พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วไม่ต้องกังวลว่าใครจะเห็นหรอก ถึงจะเห็นก็ไม่แคร์อะไรแล้ว คนรักเขาจะบอกรักกันช่วยหยวนๆทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วยเถอะนะ ไม่อยากจะอวดเลยว่าการมาทะเลครั้งนี้มีความสุขมากจริงๆ สุขเพราะได้มากับคนรัก สุขเพราะได้รับความรักมากมาย สุขเพราะการดูแลเอาใจใส่ และสุขที่ได้มีกันและกัน



'ผมอาจจะดูโลภมากไปหน่อย แต่อยากขอให้เรามีกันและกันแบบนี้... ตลอดไป'






------------------------------------------------------------------



น้ำทะเลที่ว่าเค็มนักหนายังยอมแพ้ให้กับความหวานของจีบคิสเลยครับคุณ 5555555555
หวานจนน่าอิจฉา อยากได้ผู้ชายแบบพี่จีบมาครอบครองจริงๆวุ้ย แย่งของคิสได้ไหมเนี่ย
ดื่มครั้งที่ 32 พี่จีบของเราจะลากสังขารไปฝึกงานแล้วหนา คึคึ


อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-10-2016 21:10:38
 :katai2-1:   ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-10-2016 21:49:00
หวานเกิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 02-10-2016 21:53:08
หวานมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-10-2016 22:08:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-10-2016 22:15:54
อ่อยเกลียด!! ดีเกินไป 5555

อิจฉา 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 02-10-2016 22:20:12
หวานได้อีกกกกก
แต่ว่าคู่นี้จะมีมารพจนไม๊อะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 02-10-2016 22:21:54
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-10-2016 22:33:23
พี่จีบ o13 o13 o13 รักคิสมากก็แบบเนี่ย :กอด1: :กอด1: ปฏิเสธหญิงแบบชัดๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 02-10-2016 22:36:16
เบาหวานขึ้นตาเลยเจ้าค่ะ
เขินยังกะเป็นน้องคิสซะเอง  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 02-10-2016 22:39:44
มดขึ้นหมดแล้ววว
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-10-2016 23:28:13
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-10-2016 00:33:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-10-2016 01:04:06
หวานตลอด หื่นตลอด
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-10-2016 07:50:16
โอ๊ยยยยยยยย อิจจจจจจอย่างแรง หวานเวอร์
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-10-2016 08:47:52
อิจฉาน้องคิสแรงงงงงงงง
ได้สามีดี

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-10-2016 12:12:36
โอยยยยยเขินไปอีกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 03-10-2016 15:48:10
พี่จีบหวานตลอด
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 03-10-2016 19:11:53
ขอคู่นี้มาหวีทหวานตรงหน้าแบบrealๆได้ไหมคะ น่ารักอ่า ^^ :L2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-10-2016 21:42:33
อุ๊ป๊าดดดดดด หวานอะไรเบอร์นี้ >\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 31 -P.20- (02.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-10-2016 22:10:23
หวานๆ หื่นๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 05-10-2016 08:32:34
- ดื่มครั้งที่ 32 -




ฤดูกาลฝึกงานของเด็กปีสี่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว พี่จีบเลือกบริษัทของรุ่นพี่ในคณะที่จบออกไปแล้วเป็นที่ฝึกงาน หน้าที่ของเขาคือฝ่ายไอที... ไม่ต้องแปลกใจที่เรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจแต่ไปโผล่ฝึกงานคนละสายแบบนี้ เพราะเจ้าตัวเองยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะได้ใช้ความรู้ที่เรียนไปยังไง

วันนี้ไม่ต่างจากทุกวัน เพราะพี่จีบต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานให้ทันเวลาแปดโมงครึ่ง ส่วนผมไม่มีเรียนเลยยังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาดูอีกคนแต่งตัว พี่จีบหันมามองกันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อผมทำเสียงงุ้งงิ้งตอนบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน

"ลุกได้แล้วมั้ง จะนอนกินบ้านกินเมื่อหรือไง"
คำพูดติดตลกดังขึ้นพร้อมกับเขาที่เดินมาหยุดข้างเตียงแล้วใช้แรงดึงผมขึ้น แต่ใครจะยอมลุกจากที่นอนแสนนุ่มในเวลาเพียงแค่หกโมงครึ่งแบบนี้ล่ะ

"ไม่เอา ยังเช้าอยู่เลยนะพี่จีบ"
ผมบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะออกแรงกระตุกร่างอีกคนให้ลงมานอนทับกันแล้วยกแขนขาเกี่ยวรอบตัวไว้ พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะอ้าปากงับคอกันอย่างหยอกล้อจนผมสะดุ้งเฮือก ตอนเช้าๆผู้ชายไวต่อความรู้สึกนะเออ

"ไม่อยากไปทำงานเลยว่ะ"
พี่จีบบ่นเสียงงุ้งงิ้งเพราะยังซบหน้ากับซอกคอของผมอยู่เหมือนเดิม ยิ่งนานวันยิ่งเผยมุมน่ารักมาให้เห็นจนบางทีก็นึกมันเขี้ยวอยากจะกัดให้จมเขี้ยวอยู่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่ครั้งหนึ่งเคยกัดแล้วโดนจับฟัดจนน่วมไปทั้งตัว ผมหัวเราะออกมาเบาๆแล้วยกมือขึ้นลูบหัวเขาเหมือนปลอบเด็กน้อย

"โอ๋ๆนะครับ ไม่งอแงนะน้องจีบคนเก่ง"
ผมพูดกลั้วหัวเราะแล้วกดจมูกลงบนเส้นผมสีดำสนิท กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูทำให้เคลิบเคลิ้มซะง่ายๆ พี่จีบผงกหัวขึ้นมาก่อนจะงับลงบนปลายจมูกของผมเบาๆเป็นการเอาคืนที่หาว่าเขาเป็นเด็กน้อย

"วันนี้กลับดึก มีงานสต๊าฟปาร์ตี้"
ผมอ้าปากค้างเล็กน้อยเพราะพี่จีบไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะกลับดึก มันผิดวิสัยอย่างรุนแรงเพราะทุกครั้งเขาจะบอกก่อนถ้าจะไปไหนมาไหนแล้วกลับคอนโดผิดเวลา

"ทำไมเพิ่งมาบอกเนี่ย"
ผมว่าก่อนจะดันไหล่ให้พี่จีบลุกขึ้น เขาปรายตามองกันเล็กน้อยแล้วยอมทำตามอย่างไม่อิดออด ใบหน้าหล่อเรียบเฉยไม่แสดงท่าทีว่าตัวเองผิดแต่อย่างใด ซึ่งนั่นผมก็ไม่ใส่ใจเพราะเชื่อว่าพี่จีบมีเหตุผลเสมอ

"พี่แอมเพิ่งไลน์มาบอกเมื่อเช้า"
พี่จีบตอบน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะช่วยดึงแขนให้ผมลุกขึ้นได้สะดวก หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิงเพราะผู้หญิงที่ชื่แอมนั้นหลุดเข้ามาในบทสนทนาของเราอีกแล้ว จะอะไรนักหนากับพี่จีบวะเนี่ย

"พี่แอมอีกแล้วเหรอ สรุปว่าเขาหวังดีเพราะเป็นพี่เลี้ยง หรือคิดจะจีบพี่กันแน่ ไลน์หาไม่เว้นวันหยุดขนาดนี้อะ"
ผมว่าก่อนจะทำหน้าบูด หลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เริ่มฝึกงานมาจนเข้าเดือนที่สอง พี่แอมขยันหมั่นเพียรไลน์มาถามสารทุกข์สุกดิบของพี่จีบบ่อยจนน่าสงสัย เอาง่ายๆคือเธอต้องส่งข้อความมาหาทุกวัน

"ก็นะ... เหมือนจะจีบกันนั่นล่ะ แต่พี่ไม่สนใจไง อย่าคิดมากสิครับเมีย"
พี่จีบเอื้อมมือมาดึงแก้มกันก่อนจะคลี่ยิ้มหวานมาให้ ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะพุ่งเข้าไปซบอกแบบหน้าตาเฉย เขาชะงักเล็กน้อยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆกับการกระทำแสดงความหึงหวงของผม

"ให้มันจริงเถอะ ถ้านอกใจขึ้นมาผมจะเชือดน้องชายพี่ทิ้ง!"
ผมว่าก่อนจะผละตัวออกมาแล้วจ้องคนตรงหน้าเขม็ง พี่จีบทำหน้าตกใจใส่กัน แต่ดูก็รู้ว่าแกล้งทำทั้งนั้น น่าหมั่นไส้จนผมกำหมัดต่อยลงบนอกเขาไม่แรงมากนัก ฮึ่ย

"โอย เจ็บนะ"
แกล้งร้องสำออยไปอย่างนั้นล่ะ ก็เขาเอาปากมันชนกับแก้มผมแรงๆอยู่เลย ไม่รู้จะด่าว่าอะไรดี เผลอทีไรเป็นได้หากำไรจากกันตลอด จะบอกว่าผมเสียเปรียบทั้งหมดก็ไม่ใช่ แอบชอบแต่ไม่บอกหรอก เดี๋ยวได้ใจ!

"อย่ามาสำออย ไปทำงานได้แล้วพี่จีบ เดี๋ยวสาย"
ผมดันอกพี่จีบให้ถอยห่างออกไปก่อนจะฝังจมูกเข้าที่แก้มนุ่มนิ่มของเขาเป็นการให้กำลังใจ แต่จมูกยังไม่ได้ทันแตะ ปากของพี่จีบกลับหันมาจุ๊บกันซะอย่างนั้นทำให้ผมรีบผละตัวออกทันที ทำไมชอบจูบกันแบบไม่แปรงฟันตลอดเลยวะ ผมอายนะเว้ย

"อื้อ ยังไม่แปรงฟันนะ"
ผมว่าก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพราะพี่จีบทำท่าจะประกบลงมาอีกครั้ง เขาคลี่ยิ้มกวนก่อนจะเปลี่ยนเป็นกดจูบลงที่หน้าผากแทนแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จัดเสื้อนักศึกษาให้เข้าที่

"วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงานนะ ขากลับกลัวจะเมาแล้วขับรถไม่ได้"
เขาหันมาบอก ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตามไปส่งที่หน้าประตูห้อง จริงๆก็ยังติดใจเรื่องพี่แอมอะไรนั่นอยู่ อยากไปเจอตัวจริงสักครั้งว่าเป็นคนแบบไหน ทั้งๆที่พี่จีบก็บอกไปแล้วว่ามีแฟน แต่เธอก็ยังไม่เลิกตื้อกันสักที

"ไปนะ"

"เดี๋ยว... พี่ไปงานสต๊าฟปาร์ตี้ที่ไหนครับ"
ผมเรียกรั้งพี่จีบเอาไว้ก่อนจะเขาจะเดินออกไป ก็มันอยากรู้ เผื่อจะตามไปรับกลับไง...

"อ๋อ ผับ xx จะตามไปคุมสามีเหรอครับ"
เขาว่าก่อนจะหยิกแก้มกันเบาๆอย่างมันเขี้ยว ผมย่นจมูกใส่แล้วผลักพี่จีบให้ขยับพ้นประตูห้องไปเลี่ยงตอบคำถามกันซะอย่างนั้น

"ไม่รู้ไม่ชี้ ตั้งใจทำงานครับ"
ผมปิดประตูลงแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้อง เลขหมายที่คุ้นเคยถูกเลิกให้ต่อสายทันทีทันใด และรอเพียงไม่นานก็มีเสียงตอบรับกลับมา

'ฮัลโหล'
เสียงงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนตอบกลับมา เมื่อคืนคงสู้รบปรบมือกับพี่ดีพเหมือนเคยสินะเพื่อนผม คู่นี้ไม่มีใครยอมใครเรื่องบนเตียงจริงๆนะ คบกันมาจะสองปีแล้วมั้งยังไม่มีใครได้จิ้มใครเลย สุดยอดจริงๆ

"ยังไม่ตื่นหรือไง"
ผมถามกลับไปก่อนจะเดินไปที่ประตูกระจกแล้วเปิดมันออกไปยืนรับวิตามินจากแสงแดดตอนเช้า กระถามดอกกุหลาบสีขาวที่ตั้งอยู่บนระเบียงเริ่มเหี่ยวแห้งเพราะอุณหภูมิร้อนอบอ้าวของประเทศไทย จริงๆแล้วแค่อยากปัดความรับผิดชอบตรงที่ลืมรดน้ำ...

'ตื่นตอนมึงโทรมานี่ล่ะ ดีพแม่งกวนตีนทั้งคืน'
มันบนเสียงติดหงุดหงิดกลับมาจนผมเผลอหัวเราะ ไม่มากนักหรอกที่เพื่อนจะเอาเรื่องของพี่ชายมาฟ้องกัน ครั้งนี้คงเหลืออดแล้วจริงๆล่ะมั้ง

"กวนอะไร ไหนเล่าหน่อย"
ผมถามกลับไปแล้วเอื้อมมือไปลูบกลีบกุหลาบสีขาวเล่น ถ้าพี่จีบเข้ามาเห็นตอนนี้คงตีมือหักแน่ๆ ก็คนนั้นเขารักต้นไม้ยิ่งกว่าอะไร คงเป็นเพราะว่าได้รับจากผมในวันครบรอบที่ผ่านมาก็เป็นได้ อะไรที่ผมให้ไปเขามักจะหวงมันเสมอ ผมก็เช่นกัน

'ทำไมขี้เสือกจัง'
เสียงติดล้อเลียนต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ทำให้ผมจิ๊ปากเบาๆเพราะโดนด่า แต่เอาเข้าจริงก็หน้าด้านยอมรับเพราะอยากรู้เรื่องนี่นา จะเก็บความสงสัยเอาไว้ให้อึดอัดใจทำไม

"ยอมรับ เล่ามาเลย"

'ก็นะ... พยายามปล้ำกูจัง พอกูถีบให้ก็งอนเป็นตุ๊ด เมื่อเช้าก็หนีไปทำงานเงียบๆซะงั้น สงสัยอาการจะหนัก'
ภีมเล่าออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติเหมือนคนที่ตื่นเต็มตาแล้ว ผมเผลอหลุดหัวเราะก๊ากทันทีกับมุมที่ไม่ค่อยมีใครได้สัมผัสของพี่ดีพ กับแฟนจะชอบทำตัวง้องแง้งเหมือนเด็กไม่รู้จักโตตลอด คิดว่าตัวเองน่ารักมากว่าอย่างนั้นเถอะ

"มึงก็ไม่ยอมๆพี่ดีพมันไปล่ะ คบมาสองปีแล้วไม่ใช่เหรอ"

'หึ ไอ้ยอมมันก็ยอมได้นะ สำหรับกูบนล่างไม่สำคัญหรอก แต่หมั่นไส้คนหื่นไง อยากแกล้ง เข้าใจไหม'
ผมถึงกับอ้าปากค้างกับประโยคที่ได้ยิน ไม่คิดว่าเพื่อนจะยอมให้พี่ดีพขนาดนั้น ทั้งๆที่ทั้งสองคนไม่มีใครเหมาะจะเป็นฝ่ายรับเลย ทั้งรูปร่าง หน้าตา นิสัย แมนๆกันทั้งคู่จริงๆ

"อยากอัดเสียงมึงเก็บไว้ให้พี่ดีพฟังฉิบ คงจะดีใจ"
ผมว่าเสียงกลั้วหัวเราะอย่างมีความสุข แต่ไอ้ภีมกลับส่งเสียงจิ๊จ๊ะมาทันที รู้ล่ะว่าไม่พอใจ แต่ก็อยากแกล้ง เข้าใจไหม หึหึ ยืมมาใช้บ้าง

'ถ้าทำ กูจะโกรธมึง'
น้ำเสียงจริงจังถูกส่งมาขู่กัน ผมถึงกับเบ้ปากใส่ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีทางเห็น ทำไมถึงได้ตกเป็นรองขึ้นอยู่อยู่เรื่อยวะ เมื่อไหร่จะชนะเขาบ้างไอ้คิส

"กูล้อเล่น จริงจังไปได้"
ผมว่าเสียงอ่อยก่อนจะเท้าแขนกับระเบียงห้องแล้วมองท้องฟ้าสีสดใสปราศจากก้อนเมฆ อากาศแบบนี้ต้องซักผ้ากันหน่อยแล้วล่ะ

'เออ แล้วโทรมามีอะไรหรือเปล่า'

"อ๋อ ว่าจะชวนไปผับ xx คืนนี้อ่ะ พี่จีบมีงานสต๊าฟปาร์ตี้ที่นั่น อยากเห็นหน้าไอ้พี่แอมว่ะ"
ผมบอกภีมไปตามตรงถึงจุดประสงค์ของค่ำคืนนี้ มันเงียบอยู่สักพักก่อนจะตอบกลับมาน้ำเสียงร่าเริงจนน่ากลัว

'ไปดิ อยากเจอตัวจริงเหมือนกันว่ะ ผู้หญิงอะไรโคตรขี้ตื้อ'

"โอเค สองทุ่มมารับกูนะ"

'ได้ แล้วพี่จีบจะไปหลังเลิกงานเลยเหรอ'

"เปล่าๆ มีนัดกินข้าวกับพี่ไลค์แถวๆนั้นพอดีน่ะ ยาวๆไป"
ผมตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ จะให้พี่จีบย้อนไปกลับก็เสียเวลากันพอดี ที่ฝึกงานก็ไม่ใช่ว่าจะใกล้คอนโดสักเท่าไหร่ด้วย

'อืมๆ งั้นแค่นี้ก่อน ไอ้ดีพโทรมาหลายสายแล้ว'

"โอเคๆ บาย"
ผมวางสายแล้วยิ้มให้กับหน้าจอสี่เหลี่ยม ถึงพี่ดีพจะทำเป็นงอนไอ้ภีมมากแค่ไหนแต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายทนไม่ได้ที่ต่างฝ่ายต่างเงียบใส่กัน รอให้ไอ้ภีมง้อคงแก่จนผมหงอกกันพอดี เพราะรายนั้นถ้าไม่ผิดก็จะไม่ยอมใครแน่นอน

ผมหอบตะกร้าผ้าลงไปชั้นล่างแล้วจัดการส่งซักเรียบร้อยก่อนจะกลับขึ้นห้อง ตอนแรกว่าจะไปอาบน้ำแต่งตัวแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นบรรดาอาหารเช้าที่อีกคนเตรียมให้กันตั้งเอาไว้บนโต๊ะ กลิ่นหอมยังคงดึงดูดความสนใจของผมได้เสมอ ขายาวๆก้าวเข้าไปแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากอย่างมีความสุข

"จะน่ารักไปไหนนะคนเรา"
พึมพำกับตัวเองจบก็เลื่อนจานอาหารเช้าแบบอเมริกันมากิน มันอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ก็เมื่อคืนผมบ่นๆว่า อยากกินไส้กรอก ไข่ดาว ไข่กวนอยู่เลย เช้าขึ้นมาก็มีเทวดาสุดหล่อเนรมิตให้กันซะอย่างนั้น น่ารักไม่มีใครเกินเลยจริงๆ

หลังจากจัดการมื้อเช้าเรียบร้อยและอาบน้ำจนเสร็จ ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาก่อจะหยิบเอาโน้ตบุคมาเปิดเพื่องานก่อนจะสอบปลายภาค กว่าจะเสร็จเรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยเข้าช่วงเที่ยงกว่าๆของวัน โทรศัพท์แผดเสียงร้องจนผมสะดุ้งตกใจ มือเรียวคว้ามันขึ้นมาดูก่อนจะกดรับด้วยเสียงสดใส

"สวัสดีครับพี่จีบ"

'อืม กินอะไรหรือยัง'
น้ำเสียงเนือยๆถามกลับมา วันนี้คงงานหนักเป็นพิเศษเพราะช่วงนี้ฝนฟ้าอากาศไม่ดีสักเท่าไหร่ บางวันฝนตก บางวันแดดจ้าสลับกันไป งานฝ่ายไอทีจึงมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตอยู่บ่อยครั้ง

"ยังเลยครับ เคลียร์งานค้างอยู่"
ผมตอบกลับแล้วทิ้งตัวพิงพนักโซฟาอย่างเกียจคร้าน งานถูกเซฟและปิดโปรแกรมลงไปแล้ว ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ตอนนี้เลยปรากฏหน้าเว็บไซต์โซเชี่ยลยอดนิยมที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปตัวเอฟแทน

'หาอะไรกินซะ เดี๋ยวปวดท้องอีก ไม่มีใครดูแลนะ'
น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยถูกส่งมาให้กันจนผมต้องยกยิ้มกว้าง รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจขึ้นมาทันทีทันใด ที่ต้องเตือนกันเพราะช่วงนี้ผมปั่นงานหนักมากเลยกินข้าวไม่ตรงเวลา ไม่ใช่ว่าเป็นคนเดียวนะ พี่จีบก็เหมือนกันเพราะเขาทั้งฝึกงานแล้วต้องทำโปรเจ็คจบไปพร้อมๆกันด้วย เขียนโปรแกรมอะไรสักอย่างนี่ล่ะ อย่างกับเด็กวิศวะคอมฯแหนะ

"โหย ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวคุยเสร็จจะรีบลงไปร้านข้าวใต้คอนโดเลย"
ผมว่าก่อนจะคลิกเม้าส์เลื่อนดูหน้าไทม์ไลน์ไปด้วย เพจคนดังของมหา'ลัยก็ยังคงลงรูปผู้หญิงสวยผู้ชายหล่อไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง มีประปรายที่รูปของพี่จีบและผมจะโผล่ไปบ้าง และเหมือนเดิมคือมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ปลงแล้วล่ะ เพราะไม่สามารถบังคับใจใครให้มาชอบเราได้

'ดีมากครับ แล้วคืนนี้จะมารับพี่หรือเปล่า'

"อ้าว ต้องไปรับด้วยเหรอ นึกว่าจะให้พี่โจ้มาส่งซะอีก"

'หึ หรือจะให้พี่แอมไปส่งดีนะ'
เล่นผมแล้วไหมละไอ้พี่จีบ! ทำเสียงทะเล้นใส่กันอยู่ได้ ไม่รู้หรือยังไงว่าผมหึงจนจะพ่นไฟได้อยู่แล้วเนี่ย มันน่าโมโหนักนะ อยากจะบีบคอแล้วจับหันเป็นชิ้นๆใส่ปากกลืนลงท้องจริงๆเลย!

"ถ้าให้พี่แอมมาส่งก็นอนนอกห้องไป!"
ผมตอบด้วยความหงุดหงิด รู้ว่าโดนแกล้งแต่มันอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงนี่นา ก็รู้ว่าไม่ไว้ใจพี่แอมอะไรนั่นมากแค่ไหนกัน ยังจะแกล้งอีก

'เดี๋ยวนี้โหดนะครับแฟน'
พี่จีบพูดก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมา ผมเบะปากก่อนจะกรอกตาไปมา ไม่รู้จะระบายความโมโหลงที่ไหนเลยเดินไปหยิบตุ๊กตาที่เคยให้พี่จีบมาต่อยรัวๆ หมั่นไส้ๆๆๆๆ

"เพราะพี่เสน่ห์แรงไง ต้องโหดเป็นธรรมดา เดี๋ยวมีคนมาแย่ง"
พูดจบก็เอาตุ๊กตาเข้าปากแล้วกัดมันจนจมเขี้ยว มีแฟนหล่อนี่เป็นปัญหาระดับชาติจริงๆนะ ขนาดบอกคนอื่นมามีแฟนครั้งแล้วครั้งเล่าไม่เห็นจะมีใครใส่ใจเลย คนสมัยนี้หน้าด้านจนน่ากลัวเลยล่ะ แย่งของชาวบ้านกันได้อย่างหน้าไม่อายด้วย

'เด็กขี้หวง ถ้างั้นคืนนี้ก็มานั่งเฝ้าพี่แล้วกัน แค่นี้ก่อนนะ พี่แอมเรียกแล้ว'
ไปแน่ ผมวางแผนไว้แล้วเถอะพี่จีบ ว่าจะอารมณ์ดีแล้วเชียวที่ได้รับอนุญาตให้ไปนั่งเฝ้ากันได้แต่กลับมีชื่อพี่แอมแทรกเข้ามาอารมณ์เลยดิ่งพสุธายิ่งกว่าเดิม ฮึ่ม!

"เบื่อพี่แอมจริงๆ คืนนี้เจอกันครับ บาย"

'บาย ไอ้เด็กขี้หวง'
ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนสายจะตัดไป ผมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะออกไปหาอะไรกินตามที่บอกพี่จีบเอาไว้ ไม่อยากทำตัวเป็นภาระในยามที่ต่างคนต่างมีงานต้องรับผิดชอบเป็นของตัวเอง พยายามอย่างมากที่จะใช้เหตุผลให้อยู่เหนือความรู้สึกอยากงอแงเวลาเหนื่อยล้า เราเหนื่อยเขาก็เหนื่อยไม่แพ้กัน สู้เป็นกำลังใจให้ดีกว่าจะเห็นแก่ตัว

ผ่านพ้นช่วงบ่ายเข้าสู่ช่วงหกโมงเย็นอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าที่เอาไปฝากซักที่ร้านได้รับกลับมาแล้วโดนไม่ต้องเดินไปเอาเองให้เสียเวลา เพราะเป็นลูกค้าประจำเลยมีบริการส่งถึงห้อง แต่ความจริงแล้วคือผมนั่งดูหนังจนลืม ฮือ

Rrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ผมละมือจากถุงขนมไปรับสายแทน เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยทักทายกันในรอบที่สองของวัน

'อาบน้ำแต่งตัวหรือยัง'

"โห ไม่คิดจะถามอย่างอื่นก่อนหรือไงวะ"
ผมถามกลับไปก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย นี่เพิ่งหกโมงเย็นเองทำไมต้องมาเร่งกันด้วย นัดไว้ตั้งสองทุ่มเชียวนะ

'มึงชักช้านี่ กูจะถึงคอนโดแล้วนะ'
ผมเลิกคิ้วสูงขึ้นด้วยความแปลกใจ ปกติภีมไม่มาก่อนเวลานัดขนาดนี้หรอก เดาว่าต้องเกิดอะไรขึ้นระหว่างมันกับพี่ดีพแน่ๆ

"ทำไมมาเร็วจังวะ"
ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย ไม่ได้อยากเสือกอะไรนักหรอกแต่มันผิดวิสัยของไอ้ภีมจริงๆ ปลายสายก็ดูจะมีท่าทีอึกอักแปลกๆ เหมือนจะบอกแต่ก็ไม่ยอมบอก

'เออน่า เดี๋ยวเล่าให้ฟัง รอเปิดประตูให้ด้วย'

"เออๆ"
ผมตอบกลับไปก่อนจะกดวางสายแล้วทิ้งตัวลงนอนเกลือกกลิ้งบนโซฟา ไม่นานนักเสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้นเลยต้องลากสังขารไปเปิดประตูให้เพื่อนสนิทได้เข้ามา หน้าตาของมันดูปกติไม่มีแววเครียดเลยสักนิดจนผมยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกระดับ

"ไอ้ภีม"
ผมเรียกมันหลังจากพากันมานั่งบนโซฟา ภีมเลิกคิ้วมองกันอย่างใสซื่อเหมือนลืมไปแล้วว่าเคยพูดอะไรไปก่อนหน้านั้น หรือง่ายๆก็คือเขากำลังทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อเลี่ยงตอบคำถามนั่นเอง ร้ายนักนะ!

"อะไร"

"เล่า"

"หืม เรื่องไร"

"ก็ที่ถามว่าทำไมมาหากูเร็วไง"

"อ๋อ..."
แล้วมันก็เงียบไป คืออะไรครับคุณ ไอ้คิสไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว

"อ๋อแล้วไงต่อ มึงอย่ามาอ๋อค้างคา"
ผมว่าก่อนจะผลักหัวมันเบาๆ ภีมหลุดหัวเราะแล้วเอื้อมมือมาดึงแก้มกันเล่น อย่าเฉไฉไม่ตอบคำถามด้วยวิธีนี้เพราะมันไม่สำเร็จ!

"คือ... ดีพไม่กลับหอ ต้องอยู่เคลียร์งานที่บริษัทกับพ่อมึงต่อ"
คำตอบของภีมชัดเจนจนผมไม่ได้ถามอะไรต่อนอกจากพยักหน้ารับเป็นสัญญาณว่าเข้าใจแล้วก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างที่ไอ้ภีมต้องการ

เราออกจากคอนโดในเวลาเกือบสองทุ่มเพราะผับ xx อยู่ไกลพอสมควร จราจรไม่ติดขัดเท่าช่วงเย็นถือว่าการเดินทางสะดวกมากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ ผมมองแสงไฟยามค่ำคืนอย่างตื่นเต้น ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนตอนกลางคืนมานานมากแล้ว ถึงจะได้ไปก็แค่ร้านกาแฟกับมหา'ลัยตอนที่ต้องเคลียร์งานเท่านั้น

"ภีม ครั้งสุดท้ายที่มึงไปผับนี่เมื่อไหร่วะ"
ผมทำลายความเงียบด้วยการถามคำถามที่รู้อยู่แก่ใจ เพราะทุกคนพร้อมใจกันเลิกเข้าผับตั้งแต่พี่ดีพเป็นแฟนกับภีม ไม่ใช่ว่าสั่งห้ามหรืออะไร แต่อาจจะเป็นเพราะเบื่อหน่ายสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านเสียงอึกกะทึกครึกโครม เลยลองเปลี่ยนไปนั่งชิวร้านกาแฟและติดใจมาถึงทุกวันนี้... ผมน่ะติดใจบาริสต้า ส่วนคนอื่นนั้นไม่รู้

"ถามทำไมวะ ก็เลิกเที่ยวพร้อมๆกัน"
ภีมเหลือบสายตามองกันเล็กน้อยแล้วกลับไปสนใจถนนต่อ ผมไหวไหล่ก่อนจะทอดสายตามองทิวทัศน์ยามราตรีต่อไปโดยไม่พูดอะไรอีกจนมาถึงที่หมาย ผมส่งข้อความถามตำแหน่งที่พี่จีบสิงสถิตอยู่แล้วได้ความว่า นั่งที่โต๊ะริมนอกสุดหน้าเวที

ผมกับภีมเดินเข้าไปอย่างไม่รอช้าและสายตาดันปะทะกับภาพบาดตาบาดใจพอดิบพอดี ชายหนุ่มที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดีกำลังทำหน้าตาเหมือนอยากจะหนีไปไกลๆผู้หญิงที่กำลังพยายามคลอเคลียและใช้เต้าที่ใหญ่มหาศาลเบียดต้นแขนกันอยู่ ถ้าหากเพ่งมองดีๆเธอจะเป็นคนที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดี...พี่แอม

"ใจเย็นนะมึง"
ไอ้ภีมบอกก่อนจะวางแขนพาดบ่าผมเอาไว้ อยากจะบอกว่าพยายามสงบอารมณ์อย่างเต็มที่เผื่อไม่โวยวาย เห็นกันอยู่ชัดๆว่าพี่จีบไม่เล่นด้วยแต่เธอก็ยังตื้ออยู่ไม่ห่าง ผมก้าวขาเดินเข้าไปหาพี่จีบพร้อมๆกับเพื่อนสนิทแล้วหยุดยืนในตำแหน่งที่ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากโต๊ะมากนัก แทนที่จะได้อ้าปากทักทายก่อนดันโดนพี่จีบทักมาซะอย่างนั้น

"คิส มาช้าว่ะ"
พี่จีบส่งสายตาดุๆมาให้กัน ผมทำเพียงคลี่ยิ้มเย็นๆแล้วมองพี่แอมที่ยังไม่รู้ตัวว่าผมมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเธอ หน้าอกเนื้อนมไข่ยังพยายามแนบชิดกับต้นแขนแกร่งไม่ห่าง ทั้งๆที่พี่จีบเบี่ยงตัวจนจะตกลงมาจากโซฟาอยู่แล้ว ดูท่าทางพี่แอมคงกรึ่มๆได้ที่เลยกล้าทำอะไรประเจิดประเจ้อต่อหน้าคนหมู่มากขนาดนี้

"ขอโทษทีครับ นั่งด้วยได้ปะ"
พี่จีบพยักหน้าอนุญาต ผมเดินอ้อมไปด้านหน้าเพื่อให้พี่แอมเห็นกัน เธอเงยหน้ามองด้วยความงง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันแน่น ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงเผยอออกก่อนจะเอ่ยคำถามออกมา

"ใครกันล่ะเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย"
เธอส่งยิ้มหวานมาให้กันในขณะที่ผมกำลังจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเดี่ยว แต่ไอ้ภีมชิงนั่งลงไปซะก่อนผมเลยได้แต่ยืนทำหน้ามึนอยู่ตรงนั้น เชี่ยเอ้ย อายไหมล่ะ

"ผมชื่อคิสครับ มาหาพี่จีบ"
ผมตอบกลับไปก่อนจะส่งรอยยิ้มจอมปลอมไปให้ พี่จีบจับมือแล้วกระตุกให้ผมนั่งลงข้างๆหลังจากขยับที่ว่างให้กันเรียบร้อย นั่นก็หมายความว่าเขาต้องใกล้ชิดพี่แอมมากขึ้นซึ่งผมไม่ยอมแน่ๆ

"อุ้ย น้องชายของจีบเหรอคะ น่ารักจังเลยเนอะ"
ผมขัดขืนการนั่งที่ว่างแล้วเป็นฝ่ายกระตุกข้อมือพี่จีบให้ขยับห่างออกมาแล้วใช้สายตาดุๆมอง เขายอมทำตามอย่างว่าง่ายแต่มิวายที่จะมีปลิงดูดเลือดขยับตามมาด้วย โอย เห็นแล้วหงุดหงิดฉิบหาย ต้องข่มใจท่องอยู่ตลอดว่าอีกผ่ายเป็นผู้หญิง ไม่สามารถทำอันตรายได้

"คิสไม่ใช่น้องชายของผมครับ"
พี่จีบเป็นคนตอบแทนก่อนจะดึงผมให้นั่งลงบนตักของเขาอย่างหน้าตาเฉยแถมยังยกมือทั้งสองข้างโอบรอบเอวกันไว้หลวมๆจนพี่แอมถึงกับตกใจจนทำตาโตใส่พวกเรา แว่วเสียงไอ้ภีมหัวเราะหึอยู่ด้านหลัง ฟังดูแล้วคงสะใจที่เธอโดนหักหน้าแน่ๆ

"เอ๋ งั้นก็เป็นเพื่อนสิน้า ~ "
เธอยังไม่ลดละที่จะเกาะแกะพี่จีบเช่นเคยทั้งๆที่ผมนั่งอยู่บนตักเขาเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์บางอย่าง แต่พี่แอมกลับเลือกจะเมินมันไปแล้วเข้ามาเกาะแขนพี่จีบอย่างหน้าตาเฉย

"พี่แอมครับ คิสไม่ใช่เพื่อน"
พี่จีบพยายามแกะมือเธอออกช้าๆ แต่พี่แอมกลับกระชับอ้อมแขนให้แน่นยิ่งกว่าเดิม แถมยังเดินเครื่องเต็มกำลังบนเบียดก้อนเนื้อตรงหน้าอกเข้าใส่พี่จีบ ผมเริ่มจะหงุดหงิดจนควบคุมตัวเองไม่อยู่เลยเผลอพูดอะไรบางอย่างออกไปที่ทำให้คนทั้งโต๊ะนิ่งเงียบ

"พี่แอมครับ กรุณาปล่อยแขนพี่จีบด้วย"
ผมพยายามข่มอารมณ์มากถึงมากที่สุดเพราะยังไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานของแฟนเท่าไหร่ ถ้าผมทำตัวงี่เง่าคนเดือดร้อนคงเป็นพี่จีบอย่างไม่ต้องสงสัย พี่แอมเลิกคิ้วมองกันแล้วคลี่ยิ้มสวยมาให้แต่ไม่ยอมฟังสิ่งที่ผมบอกเลยสักนิด

"หื้ม ทำไมพี่ต้องปล่อยด้วยล่ะคะ"
ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่สายตาเชือดเฉือนกันน่าดู คงคิดว่าผมจะมาแย่งพี่จีบสินะ แต่ผิดแล้วล่ะเพราะผมเป็นเจ้าของเขาอย่างถูกต้องทั้งร่างกายและหัวใจ

"ปล่อยเถอะครับ เดี๋ยวแฟนผมงอน"
เป็นพี่จีบเองที่พยายามแกะมือของพี่แอมออก เธอชักสีหน้ายุ่งๆใส่แต่ไม่ยอมปล่อยกลับรัดแน่นขึ้นอีกจนแขนแทบจะหายไปอยู่ในร่องอกของเธอ ผมกัดฟันกรอดพยายามข่มอารมณ์ขั้นสุดยอดเอาไว้ โดยที่พี่จีบกระชับกอดมากขึ้นจนแผ่นหลังแนบชิดกับอกแกร่ง ไอร้อนผ่าวทำให้อารมณ์เย็นลงเล็กน้อย

"กลัวอะไรคะน้องจีบ แฟนไม่ได้มาด้วยสักหน่อย"
อืม...ผมนั่งตักขนาดนี้ยังคิดว่ามีสถานะอะไรกับพี่จีบอีกเหรอ ไม่ใช่ว่าที่ว่างจะไม่มีพอให้ผมนั่งสักหน่อย ทำไมคนเราถึงหลอกตัวเองได้อย่างน่าไม่อายขนาดนี้ทั้งๆที่เห็นชัดเต็มตาว่าเรื่องจริงเป็นยังไง




ต่อด้านล่างจ้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 05-10-2016 08:32:52
"ไอ้แอม มึงหยุดทำเรื่องบ้าๆได้ละ"
ไอ้พี่โจ้ที่นั่งเคี้ยวถั่วอยู่นานสะกิดแขนพี่แอมยิกๆเพราะสังเกตได้ว่าผมเริ่มมีอารมณ์พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ เธอหันไปมองก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ

"มึงอย่ามาขัดได้ไหมโจ้ กูมีโอกาสอ่อยน้องก็ปล่อยกูเถอะ"
คำตอบที่ไม่สนใจคนฟังที่นั่งอยู่แทบสิบคนในโต๊ะดังขึ้น ไอ้ภีมถึงกับสูดลมหายใจเข้าหนักๆทันทีที่จบประโยค พี่โจ้ตบหน้าผากตัวเองเสียงดังด้วยความเหนื่อยใจ ผมนั่งกำหมัดแน่น ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงผมคงต่อยหน้ายับไปแล้ว

"แต่มึงกับลังอ่อยไอ้จีบต่อหน้าแฟนมัน!"
พี่โจ้คงหมดความอดทนเลยตะโกนและกระชากตัวพี่แอมออกจากพี่จีบ เธอทำท่าจะโวยวายแล้วตะเกียกตะกายจะกลับมาเกาะแขนกันใหม่ แต่พี่จีบเบรกทุกอย่างไว้อย่างอยู่หมัด

"พี่แอมครับ คิสเป็นแฟนผม คราวนี้ก็เลิกยุ่งกันได้แล้ว...เนอะ"
พี่จีบพูดเสียงเย็นก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับประคองใบหน้าของผมให้หันไปมองสบตากัน ริมฝีปากได้รูปเคลื่อนมาประกบจูบอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการยืนยันว่าประโยคที่พูดไปก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริงจนเพื่อนในโต๊ะโห่แซวกันยกใหญ่ เว้นแต่พี่แอมที่นั่งอ้าปากค้างจนเกรงว่าแมลงวันจะบินเข้าไปวางไข่

"คะ แค่แฟน พี่ไม่ยอมถอยง่ายๆหรอก น้องจีบอาจจะอยู่ในช่วงหลงก็ได้"
เธอยังคงสรรหาความคิดมโนของตัวเองมาแย้งจนได้ ผมแทบกระโดดลงจากตักพี่จีบไปขย้ำคอพี่แอมให้รู้แล้วรู้รอด ไม่รู้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงออกตัวแรงว่าอยากได้พี่จีบขนาดนั้น ขนาดไอ้ภีมยังแสดงสีหน้าไม่ชอบใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด พี่จีบถอนหายใจเฮือกอย่างคนเหนื่อยล้า พี่โจ้นี่ถึงกับส่ายหน้าด้วยความระอาเลยด้วยซ้ำ

"ถ้าพี่บอกว่าผมหลง ใครจะบ้าหลงคนๆหนึ่งมาได้เกือบสองปีครับ ผมเป็นคนขี้เบื่อนะ แต่กับคิสไม่ใช่หลง แต่เป็นรัก แล้วที่สำคัญ คิสไม่ใช่แฟนครับ น้องเป็นเมียผม"
ทุกคนอึ้ง ผมก็อึ้ง ไม่คิดว่าพี่จีบจะกล้าพูดออกไปตรงๆกับเพื่อนร่วมงานขนาดนี้ ไม่กลัวคนรอบข้างนึกรังเกียจที่เราเป็นแบบนี้บ้างเหรอวะ ยอมใจแล้วจริงๆ พี่แอมถึงกับกรี๊ดออกมาเมื่อประโยคสุดท้ายสิ้นสุดลง เดือดร้อนพี่โจ้เอามืออุดปากแล้วลากออกจากโต๊ะไป ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"กลับคอนโดครับ"
ผมบอกทั้งภีมและพี่จีบก่อนจะเดินออกไปรอที่นอกร้าน ไม่นานนักทั้งสองคนก็เดินออกมาพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจนผมนึกหมั่นไส้ บอกเลยว่าแอบงอนที่ยอมให้พี่แอมเอานมมาเบียดต้นแขนอยู่ได้นานสองนาน หงุดหงิดเว้ย

"ปะๆ กลับ"
ไอ้ภีมเดินนำไปเปิดประตูรถแล้วบังคับให้ผมกับพี่จีบนั่งเบาะหลัง ส่วนมันยอมเป็นคนขับรถเฉพาะกิจให้หนึ่งวันโดยไม่คิดค่าตัว

ผมนั่งกอดอกแล้วเงียบไปตลอดทางเพราะไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นพูดอะไรออกมา ความคิดกำลังตีกันยุ่งเหยิงไปหมด อีกใจอยากจะงอแงงี่เง่าใส่พี่จีบแต่อีกใจกลับกลัวเขาเหนื่อย เป็นไอ้คิสใครว่าน่าอิจฉา มีแฟนหล่อก็ลำบากเหมือนกันนะเว้ย

"คิสครับ"

"....."

"โกรธพี่เหรอ"

"....."

"คิส... หันมาคุยกันหน่อยสิครับ"

"ค่อยคุย"
สุดท้ายผมก็ทนเงียบไม่ได้เพราะพี่จีบทำเสียงอ่อยจนน่าสงสาร เฮ้อ ก็แพ้มันซะทุกทีล่ะครับชีวิต ถ้าไม่รักกันจริงคงไม่ยอมอ่อนข้อให้ขนาดนี้

หลังจากบอกลาและขอบคุณไอ้ภีมเรียบร้อย ผมกับพี่จีบก็พาสังขารเหนื่อยๆเพลียๆขึ้นห้อง ปลายเตียงเป็นที่พักพิงชั้นดีให้กับเราสองคน เขาไม่ยอมขยับห่างจากผมเลยแม้แต่นิดเดียว นี่ไม่คิดจะไปอาบน้ำเลยหรือไงกัน

"คิสครับ"
เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจนผมใจกระตุก พยายามจะปั้นหน้าดุให้รู้ว่ายังไม่หายโกรธ แต่ดวงตาคมนั่นฉายแววอ้อนเหมือนลูกหมาทำผิด มันน่ารักจนผมอยากจะจับฟัดให้เข็ด ฮึ่ย แพ้อีกแล้ว แพ้ๆๆๆ

"ไปอาบน้ำ"
ผมบอกเสียงแข็งโดยที่ไม่ยอมมองสบตากันอีก ขืนยังจ้องกันต่อมีหวังยอมหายโกรธทั้งๆที่ไม่โดนง้อแน่ๆ เดี๋ยวคนทำผิดจะเคยตัวซะก่อน ซึ่งยอมกันไม่ได้หรอก

"ไม่เอาครับ ให้พี่ง้อเราก่อนนะ มันค้างคาไม่สบายใจ"
พี่จีบรวบเอวผมไปกอดเอาไว้หลวมๆก่อนจะใช้จมูกโด่งกดลงมาบนซอกคอกัน ถ้านี่คือการง้อที่พี่จีบอ้างไว้ผมก็พร้อมจะเสียเปรียบ...

"อือ รู้ปะว่าทำไมผมโกรธ"

"รู้ เรื่องพี่แอมใช่ไหม พี่พยายามปลีกตัวหลายรอบแล้ว แต่ก็อย่างที่เห็น เกาะแน่นยิ่งกว่าปลิง"
พี่จีบว่าเสียงอ่อยๆก่อนจะกดจูบลงบนแก้มและย้ำอยู่หลายรอบจนผมเริ่มใจอ่อน

"โคตรน่าหงุดหงิดเลย"
ผมว่าก่อนจะหันไปจ้องตาพี่จีบเขม็ง เขาเลื่อนมือมาลูบแก้มกันก่อนจะกดจูบลงมาบนริมฝีปากอย่างออดอ้อน และเพิ่มระดับความวาบหวามขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายผมก็ไม่อาจขัดขืนวิธีการง้อของเขาได้... ง้อแบบเขาได้กำไรแต่ผมเสียเปรียบแบบที่สุด

ค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกลจน 'ฟ้าเหลือง' เช่นเคย สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ และ อรุณสวัสดิ์เผื่อไว้เลยนะครับ




------------------------------------------------------


มาแล้วๆ น้องคิสต้องทำใจหน่อยนะมีแฟนหล่อเนี่ย... แต่พี่เขารักเดียวใจเดียวนะ ไม่ต้องกังวล
ตอนหน้าจะจบแล้ว... ฮือๆ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาหลายเดือนเลย
หลังจากนี้จะมีตอนพิเศษมาให้อ่านแน่นอน ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 05-10-2016 09:13:01
ตลอดดดด พ่ายแพ้ตลอดดด 5555 น้องจูบจะสู้พี่จีบได้สักครั้งมั้ยเนี่ย เจอหอมๆกอดๆ ยอมตลอดดด จะจบละอ่ะ ง่อออออ คิดถึงพี่จีบน้องจูบแน่เลยยยย :katai5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 05-10-2016 09:39:18
จะจบแล้วเหงาแย่เลย ชอบคู่นี ^^ งานนี้น้องหึงเหนื่อยเลยเจอขาตื้อขั้นเทพ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 05-10-2016 10:18:58
หึงได้น่ารักมากลูก  :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 05-10-2016 11:02:05
ทำไมอ่านแล้วเครียด...แม้จะหึงและง้อกันสำเร็จแล้วก็ตาม -^-

นี่คือ...ไม่เคยเข้าใจคนที่จ้องจะแย่งแฟนชาวบ้าน คือมั่นหน้า? หรืออะไร? แย่งได้คือชนะ เหรอ~~

เปลี่ยนที่ฝึกงานทันมั้ย...หรือพี่โจ้นั่นจะทำยังไง เจ๊ชะนีหายเมาแล้วอายบ้างมั้ย...อยากรู้แฮะ คนเราน่าจะชัดเจนเรื่องการวางตัวเนอะ
ผู้ร่วมงานน่ะ สำคัญที่การวางตัว...แม้เป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน ต้องเรียนรู้ ต้องพึ่งพา แต่ว่า...ความเป็นคนโตกว่า ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร...เนาะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-10-2016 11:27:43
ตื้อเป็นปลิงแล้วบังเอานมตูมๆ มาเบียดแขนพี่จีบนี่แบบนี้มันน่าตบให้นมแตกจริงๆ  :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-10-2016 11:44:27
หวังว่าจะไม่ตามมาราวีอีกนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 05-10-2016 12:05:14
นางคงจะไม่มาวุ่นวายอีกนะ นี่ขนาดโผล่มาแปปเดียวเอง
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-10-2016 14:10:26
โธ่น้องคิส เป็นพี่ถ้าโดนง้อแบบนั้นก็ยอมเสียเปรียบเหมือนกันแหล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 05-10-2016 18:09:11
แค่นี้น้อยไประ
กับพวกที่ชอบยุ่งกับแฟนชาวบ้าน
ผู้ชายเค้าก็ไม่เล่นด้วย

 :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-10-2016 18:31:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-10-2016 18:41:10
ดีงามที่สุดตรงตอนท้าย. ฟ้าเหล่องนี่แหละ
ดีค่ะไม่งอนกันข้ามคืนเนาะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 05-10-2016 20:04:05
เป็นการง้อที่พี่จีบได้กำไรนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-10-2016 20:30:33
มีความง้อไว เพราะพี่จีบมีหลักสูตรเร่งรัด 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 05-10-2016 20:40:43
นางจะหายไม๊อะ
หรือไม่หาย
แต่พี่จีบชัดเจนขนาดนี้แล้ว
น่าจะหายบ้านะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-10-2016 21:25:45
สมแล้วที่โดนหักหน้าแบบนั้น คนแบบนี้น่ารังเกียจชะมัด :m16: :m16: :m16:

แต่พี่จีบนี่ง้อแบบได้กำไรจริงๆ ควรสงสารคิสใช่มั้ยเนี่ยยย 5555 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-10-2016 23:17:18
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 05-10-2016 23:54:55
น้องคิสแพ้ทางพี่จีบตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 06-10-2016 00:00:34
จะจบแล้ว เหงาแย่เลย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-10-2016 02:34:25
จ้ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 06-10-2016 05:25:41
ไม่อยากให้จบเลยค่ะ เรื่องน่ารักๆอ่านแล้วได้อมยิ้ม ทำให้ใจมีความสุข อยากอ่านไปอีกนานๆ ขอบคุณมากๆค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 06-10-2016 07:41:57
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-10-2016 12:17:43
โอ้ยยย คนเราจะมโนเข้าข้างตัวเองได้สุดๆขนาดนี้เลย ต้องให้พูดตรงๆให้เงิบเลยใช่มะ หน้าหงายเลย55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 06-10-2016 20:44:57
หวังว่าชะนีจะไม่มาวุ่นวายอีกนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งที่ 32 -P.20- (05.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 08-10-2016 22:08:18
ไม่อยากให้จบเลยค่ะ แง้ :sad4: :sad4:
ชอบน้องคิสกะพี่จูบ :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 09-10-2016 09:55:17
- ดื่มครั้งสุดท้าย -




หลังจากค่ำคืนงานสต๊าฟปาร์ตี้ พี่แอมคนสวยก็เงียบหายจากทุกโซเชี่ยลของพี่จีบ ไม่เว้นแม้แต่ที่บริษัทเพราะเธอแทบจะไม่คุยอะไรด้วยเลย แถมยังขอเปลี่ยนตัวกับพนักงานคนอื่นให้เป็นพี่เลี้ยงแทนอีกด้วย พี่โจ้บอกว่าเธอขยะแขยงพวกรักร่วมเพศ อืม จะว่าดีมันก็ไม่ดีหรอก แต่ทำให้เธอเลิกยุ่งกับพี่จีบได้มันก็ดีนะ

เวลาในแต่ละวันผ่านไปไวราวกับโกหก นี่ก็ผ่านไปราวๆสามสี่ปีแล้วหลังจากที่พี่จีบกับผมคบกัน พอเรียนจบอยากจะทำงานให้ตรงสาย แต่รู้อะไรไหมว่าทุกวันนี้ผมนั่งแหมะอยู่หน้าห้องผู้จัดการบริษัทนำเข้าและส่งออกกาแฟรายใหญ่ของประเทศ ตำแหน่งเลขานุการหน้าห้องที่ไม่เคยได้นั่งประจำที่เลยสักครั้ง เอะอะๆเจ้านายเรียกเข้าห้องตลอด หึ! ตอนนี้ก็เหมือนกัน...

Rrrrr

เสียงโทรศัพท์ไร้สายบนโต๊ะทำงานดังขึ้น ผมเอื้อมมือไปรับพร้อมเบะปากใส่ ก็เบอร์ที่โชว์บนหน้าจอมาจากให้ห้องเจ้านายจอมหื่นของเขานั่นเอง

"สวัสดีครับคุณจีบ"
แกล้งแดกดันไปอย่างนั้นเพราะหมั่นไส้ที่เมื่อเช้าฟัดผมจนเกือบจมเตียง มาทำงานสายด้วยกันทั้งคู่ แถมยังโดนพนักงานบริษัทที่สนิทกันทักเรื่องรอยแดงบนคอ... บอกกี่ครั้งกี่หนว่าอย่าทำรอยก็ไม่เคยฟัง เหตุผลที่บอกกันมาคือ 'ต้องทำรอยไว้ คนอื่นจะได้ไม่ยุ่งกับคนของพี่' อยากถามว่าใครสมควรหวงใครกันแน่

'พูดจาห่างเหิน ต้องเรียกว่าคุณสามีสิครับ'
เสียงกลั้วหัวเราะดังลอดออกมาจนผมอยากจะหาอะไรขว้างประตูห้อง ยิ่งนับวันนิสัยกวนบาทายิ่งมีมากขึ้น แทนที่อายุเยอะแล้วจะสำรวมมากกว่าที่เป็นอยู่ กลับกลายเป็นว่านานวันยิ่งแกล้งผมหนักขึ้น

"จะบ้าหรือไง แล้วมีอะไรครับ?"
ผมกัดฟัดพูดกลับไป ไม่อยากให้พนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ยินสักเท่าไหร่ ใครๆต่างก็รู้ว่าไอ้เลขาฯหน้าห้องคนนี้มีความสัมพันธ์แบบไหนกับผู้จัดการบริษัทสุดหล่อ ถ้าจะให้มาได้ยินประโยคสนทนาแสนเป็นส่วนตัวระหว่างกันคงไม่เหมาะ ง่ายๆ คือผมเขินเว้ย

'เข้ามาในห้องหน่อย'

"เพิ่งออกมาไม่ถึงสิบนาทีเองนะพี่"
ผมตอบกลับไปทันควัน หัวคิ้วขมวดเข้าหากันยุ่งเหยิงไปหมดเพราะก่อนหน้านั้นผมก็นั่งอยู่ในห้องด้วยกันไม่ได้ทำงานหรอก เรียกไปนั่งมองตาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนับอาทิตย์เพราะพี่จีบบินไปทำงานที่เกาหลี ที่ได้กลับมานั่งประจำโต๊ะของตัวเองเพราะพี่ไลค์ประธานบริษัทคนใหม่เข้ามาปรึกษาเรื่องงานกับน้องชายเล็กน้อย

'ถ้าย้ายโต๊ะเข้ามาอยู่ด้วยกันได้ ทำไปนานแล้ว'

"บ้า แบบนั้นเขาไม่เรียกเลขาฯแล้ว"
ผมตอบกลับไปเสียงงุ้งงิ้ง จริงๆ อยากขอปลีกตัวไปดูแลร้านกาแฟมากกว่า แต่ทำไม่ได้เพราะโดยเจ้านายบังคับให้มานั่งทำงานบริษัทแทน ส่วนร้านกาแฟก็ให้ลูกน้องดูแลไป จะมีก็แต่ในโอกาสพิเศษที่พี่จีบจะเป็นบาริสต้าเฉพาะกิจให้กับร้าน

'เข้ามาไวๆ อย่าให้ต้องออกไปลากเอง'

เขาวางสายไปแล้ว ผมทำได้แค่ทำเสียงฮึดฮัดแล้วยอมทำตามคำสั่งของเจ้านายที่ชอบเอาแต่ใจแถมยังเผด็จการเป็นที่สุด ประตูเปิดออกพร้อมกับที่ผมเห็นพี่จีบเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร รอยยิ้มมุมปากที่เคยทำให้ผมหลงใหลตั้งแต่เจอกันครั้งแรกกำลังประดับอยู่บนใบหน้าหล่อในตอนนี้ ไม่ว่ามองมานานเท่าไหร่ก็ไม่เคยนึกเบื่อเลยสักครั้ง มีแต่จะรักมากขึ้นทุกวัน

"ว่าไงครับคุณผู้จัดการ"
ผมถามด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา ดวงตาคมจับจ้องอย่างไม่ละสายตาก่อนที่ปากกาในมือจะถูกวางลง เป็นอันว่างานทั้งหลายโดนดองตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป

"คิดถึง"
คำสั้นๆ ที่สามารถกระตุกหัวใจผมได้อย่างรุนแรง พี่จีบลุกจากเก้าอี้ประจำตำแหน่งเดินอ้อมโต๊ะมาหากันแล้วทิ้งตัวลงนั่งยองๆ บังคับให้ผมหันไปเผชิญหน้า เราสบตากันก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา

"อ้อนเหรอครับ?"
ผมถามกลับไปแล้วใช้มือทั้งสองข้างประคองแก้มคนตรงหน้าเอาไว้ก่อนจะโน้มตัวลงไปให้หน้าผากจรดกัน ดูเหมือนว่าพี่จีบกำลังมีไข้เล็กน้อยเพราะอุณหภูมิร่างกายสูงผิดปกติ สงสัยเจออากาศที่เกาหลีหนาวจัดกลับมาไทยอากาศร้อนอบอ้าวเลยปรับสภาพร่างกายไม่ทันแน่ๆ แถมพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ไปอีก แลนด์ดิ้งตอนหกโมงเช้าทำงานต่อตอนเก้าโมง เจริญไปอีกคนเรา

"นิดหน่อย ไม่ได้เจอกันตั้งหนึ่งอาทิตย์"
พูดจบก็โน้มลำคอผมลงไปกดจูบที่ริมฝีปากเพียงแค่แตะกันไม่มีการรุกล้ำใดๆ ถ้าอยากได้มากกว่านี้เชิญที่คอนโดครับ

"เดี๋ยวนี้งอแงเก่งนะครับ ยิ่งแก่ยิ่งกลายเป็นเด็กน้อยเหรอไง"
ผมว่าเสียงหยอกล้อแล้วดึงแก้มพี่จีบไปมาอย่างมันเขี้ยว เขาไม่ตอบกลับแต่ดึงมือผมไปกดจูบย้ำๆ จนรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้... จะขี้อ้อนไปไหนนะคนเรา ไม่รู้หรือไงว่าหัวใจผมทำงานหนัก

"พะ พอแล้วน่า จะคิดถึงอะไรขนาดนั้นครับ?"
เป็นผมเองที่ต้องกระตุกมือออกจาการเกาะกุมแล้วเบนสายตามองไปทางอื่น การกลั้นยิ้มทำได้ยากเหลือเกินเมื่อคนตรงหน้าอ้อนกันขนาดนี้ ดวงตาคมที่ใช้มองกันก็หวานเชื่อมจนใจสั่นจริงๆ

"คิสไม่คิดถึงพี่หรือไงถึงถามกันแบบนั้น"
น้ำเสียงติดงอแงเล็กน้อยดังขึ้น ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ อาการขี้งอนกำลังกำเริบอย่างไม่ต้องสงสัย

"พูดอะไรสักคำหรือยังว่าไม่คิดถึง"
ผมว่าก่อนจะลุกจากเก้าอี้ตัวเดิมไปนั่งคร่อมตักบุคคลขี้งอนแห่งปี ลงทุกทำขนาดนี้ยังไม่คิดจะมองกันเลยเถอะ ไปพัฒนาสกิลการงอแงมากจากไหนกันนะ หรือแอบติดนิสัยไปจากผม... เหมือนที่ผมก็ซึมซับนิสัยหื่นกามของเขามา

"....."
เงียบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศและเสียงจังหวะการหายใจของเราสองคน ผมยกแขนขึ้นคล้องคอคนตรงหน้าอย่างออดอ้อน เขางอนได้ผมก็ง้อได้เหมือนกัน สำหรับเราแล้วไม่มีที่ต้องเป็นฝ่ายง้ออยู่ข้างเดียวหรอก พี่จีบหันหน้ากลับมาจ้องกันก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะผุดขึ้นตรงมุมปาก อ่า โดนหลอกอีกแล้วสินะ

"ยังไม่หายงอน จูบก่อนสิ"
ปากบอกยังไม่หายแต่ยิ้มออกมาเนี่ยนะ ไปหลอกเด็กที่ไหนก็ไม่เชื่อคำพูดของพี่หรอก ผมเบะปากลงแล้วกดท้ายทอยของเขาให้เข้ามาชิดแล้วจัดการประกบจูบลงไปอย่างนุ่มนวลก่อนจะออกแรงบดคลึงเพียงเล็กน้อย และด้วยความหมั่นไส้ที่สะสมมาทำให้ผมงับเข้าที่ริมฝีปากหยักไม่แรงมากนักแต่ส่งผลให้อีกฝ่ายสะดุ้ง

"อือ"
พี่จีบครางออกมาแผ่วเบาก่อนจะลงโทษความกล้าหาญของผมด้วยการดูดดุนริมฝีปากจนบวมเจ่อก่อนจะสอดลิ้นร้อนเก็บกักความหวานกลับไปอย่างช่ำชอง ผมเคยนึกเกลียดความเก่งกาจในเรื่องจูบและเรื่องบนเตียงของเขา เพราะมันแสดงให้เห็นว่าผ่านเรื่องแบบนั้นมามากแค่ไหน แต่ถ้าตัดความงี่เง่าออกไปมันก็เป็นเพียงอดีตที่ผ่านมาแล้วเท่านั้น

"ปากเจ่อ"
พี่จีบผละจูบออกไปก่อนจะพูดหยอกล้อกัน นิ้วเรียวสวยของเขาแตะลงบนริมฝีปากแล้วออกแรงคลึงเบาๆ จนผมอ้าปากงับอย่างมันเขี้ยว ทำไมชอบสร้างอารมณ์ให้ตอนที่สถานที่ไม่เอื้ออำนวยด้วยนะ ไม่รู้หรือไงว่ามันทรมานแทบขาดใจ

"เพราะใครล่ะ เดี๋ยวผมโดนแซวอีกแน่ๆ"
ผมบ่นเสียงงุ้งงิ้งก่อนจะซบหน้าลงบนลาดไหล่กว้าง สองแขนโอบรอบตัวของพี่จีบเอาไว้หลวมๆ เสียงหัวเราะเบาๆ ข้างหูย้ำเตือนว่าเขาอารมณ์ดีมากเพียงใดนั่นส่งผลให้ผมหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาซะอย่างนั้น คนมันเขิน คนมันอาย จะมีอะไรฉุดได้ล่ะ

"จะกลัวอะไรกับคำแซววะ"

"ใครบอกว่ากลัว"

"แล้วเพราะอะไร?"

"เขินดิถามได้!"
พูดจบก็กระหน่ำหมัดรัวๆ ใส่หน้าอกแกร่งแต่แทนที่เขาจะร้องโอดโอยกลับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ไม่ได้ห้ามหรือส่งเสียงด่าทอกันเลยแม้แต่นิดเดียว จนผมเหนื่อยและยอมหยุดมือไปเองนั่นล่ะ

"ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยวะคนเรา"
พี่จีบออกปากชมกันดื้อๆ จนผมมือไม้อ่อนไปหมด กำลังจะลุกขึ้นจากตักแต่กลับโดนรั้งเอวกอดไว้ไม่ให้หนีไปไหน ถ้าเกิดใครจะเข้ามาพบผู้จัดการคงได้อ้าปากค้างกันบ้างล่ะ

"ชมว่าหล่อบ้างก็ได้นะคนเรา"
ผมหัวเราะร่าที่ยืมคำเขามาใช้ตอบกลับ คบกันมาชมว่าน่ารักไปกี่แสนรอบแล้วเคยนับบ้างไหม คำว่า 'คิสหล่อ' นี่มันพูดยากขนาดนั้นเลยเหรอ คนบ้าที่ไหนชมผู้ชายด้วยคำว่าน่ารักล่ะหืม

"ไม่ ก็แฟนไม่หล่อ"
พี่จีบพูดก่อนจะกดจูบลงมาปิดปากกันทั้งๆ ที่ผมกำลังจะตอบโต้ เสียงถูกกลืนหายลงลำคอในที่สุด ความหนุ่มหยุ่นของริมฝีปากชวนให้เคลิบเคลิ้มได้อีกครั้งจนสติแทบเลือนรางถ้าไม่มีเสียงเคาะประตูช่วยชีวิต ผมคงเสร็จเจ้าคนหื่นบนโซฟาในห้องทำงานนี้แน่ๆ บรรยากาศมันออกจะน่าตื่นเต้นเกินไปเพราะผนังห้องด้านหลังโต๊ะทำงานเป็นกระจกใสที่เห็นวิวทิวทัศน์ทั่วทั้งใจกลางเมืองหลวง

"อื้อ พอครับ มีคนมาหาพี่"
ผมผลักอกให้เข้าถอยห่างออกไปแล้วรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องให้คนที่มาเยือน ผมแทบจะเบ้ปากเมื่อใบหน้าที่แสนคุ้นเคยแทรกเข้ามา พี่ไลค์!

"อุย พี่มาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า?"
พี่ไลค์ทำเสียงล้อเลียนจนผมหน้าร้อนวูบ ผมกำลังจะเบี่ยงตัวหนีแต่กลับโดนรั้งข้อมือแล้วลากกลับเข้าไปในห้องตามเดิม สรุปว่าผมจะไม่ได้กลับไปนั่งที่ตัวเองเลยใช่ไหมเนี่ย งานการไม่ต้องทำกันแล้วเหอะ

"ขัดมาก มาทำไมวะ?"
เป็นพี่จีบที่ตอบกลับแทนก่อนจะดึงให้ผมนั่งลงข้างๆ เขา ส่วนพี่ไลค์เบ้ปากเล็กน้อยแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาเดี่ยวด้านข้าง

"จะมาปรึกษาว่าจัดงานแต่งงานที่ไหนดี"
ตามที่ได้ยินกันจากปากพี่ไลค์ เขากำลังจะแต่งงานกับพี่ไนน์ แต่ตกลงเรื่องสถานที่กับเจ้าสาวไม่ลงตัวสักทีเลยต้องมาเดือดร้อนผมกับพี่จีบช่วยกันเสนอแนะ พูดง่ายๆ คือให้ตัดสินใจเลิกเลยมากกว่า

"งานแต่งงานกูหรือมึงกันแน่ไลค์ คิดเองดิวะ"
พี่จีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงลงจนผมแอบขำ สมน้ำหน้าอยากหื่นดีนัก ดวงตาคมหันมาจ้องกันเขม็ง ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากทันทีเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้รับอันตราย

"ช่วยๆ กันคิดหน่อยดิวะ กูพี่มึงนะ"

"ริมหาดเป็นไง บรรยากาศโรแมนติก"
พี่จีบไม่เถียงอะไรกลับไปแต่เลือกที่จะบอกสถานที่ในหัวแทน หน้าหล่อๆ ยังคงเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไร ผมลอบมองคนนั้นทีคนนี้ทีก็เพลินตาดีเหมือนกัน หล่อคนละแบบ

"เออ ความคิดดี งั้นเอาตามที่มึงบอก กูไปละน้า"
พี่ไลค์ยิ้มร่าแล้วจะลุกขึ้นแล้วโน้มตัวไปหอมแก้มพี่จีบและหันกลับมาจุ๊บเหม่งผมก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้พี่จีบตะโกนด่าไล่หลังไปติดๆ ที่ทำอะไรน่าขยะแขยง ส่วนผมได้แต่นั่งทำตาเหลือกเพราะการกระทำแสนบ้าบอนั่น ร้อยวันพันปีพี่ไลค์จะกล้าเข้าใกล้ผม เพราะพี่จีบดุยิ่งกว่าหมาอีก

"ขนลุกสัด"

พี่จีบบ่นกระปอดกระแปดด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงเหมือนเด็กโดนขัดใจ ผมเลยใช้มือทั้งสองข้างบีบแก้มเขาเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู วันนี้แปลกที่เขาไม่ได้แสดงอาการหึงหวงเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาแต่กลับมองกันด้วยสายตาที่แปลกออกไป ไม่ชินเลย แปลไม่ออกด้วยว่ามีความหมายยังไง

"คิส..." เสียงทุ้มเรียกชื่อกันก่อนจะเงียบไป ผมเลิกคิ้วมองแล้วผละมือออกจากแก้ม บรรยากาศรอบตัวรู้สึกถึงความกดดันแปลกๆ หัวคิ้วพี่จีบขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังมีเรื่องเครียดในหัวจนผมตามไม่ทัน เมื่อครู่ยังหงุดหงิดพี่ไลค์อยู่เลย

"ครับ?"
ผมเอียงคอเล็กน้อยเฝ้ารอคำตอบจากริมฝีปากหยัก พี่จีบเม้มปากเข้าหากันแน่นเหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ไม่นานนักเขาก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วเอื้อมมือมากอบกุมมือของผมไว้ การกระทำแบบนี้ยิ่งทำให้งงเข้าไปใหญ่

"แต่งงานกันไหม?" ดวงตาคมฉายแววจริงจังออกมาจนผมเผลอหยุดหายใจ ไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินเรื่องนี้จากปากพี่จีบ ไม่เคยคาดหวังว่าคนตรงหน้าจะมาขอแต่งงานอะไร เพราะว่าเราก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่

"....."  ผมเงียบเพราะยังอึ้งอยู่ แต่ดูเหมือนพี่จีบจะร้อนรนและคิดว่าผมกำลังจะปฏิเสธเขาเลยออกแรงบีบมือกันเบาๆให้ผมรู้สึกตัว

"อย่าเงียบดิ พี่ใจคอไม่ดีเลยว่ะ" พี่จีบพูดเสียงสั่น ดวงตาคมไหวระริกแสดงความหวาดกลัวออกมาชัดเจน ผมได้สติกลับมาก่อนจะรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบ เพิ่งจะมาเขินเอาตอนที่ผ่านไปเกือบหนึ่งนาที ถือว่าความรู้สึกช้าไหม

"อึ้งอยู่"

"ไม่อยากแต่งเหรอ?"

"เปล่า บอกว่าอึ้งอยู่ไง"

"อึ้งอะไรวะ?"
พี่จีบถามแล้วเคลื่อนมือมาประคองหน้ากันไว้ ตอนนี้ผมไม่สามารถหนีสายตาของคนตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว อยากจะใช้หัวโขกคนขี้สงสัยจริงๆ โดนขอแต่งงานจะไม่อึ้งยังไงไหววะชีวิต

"ไอ้บ้า โดนขอแต่งงานนะเว้ย ตกใจสิวะ"
ผมด่าออกไปเสียงเบาและพยายามจะหลบสายตาที่เปลี่ยนเป็นกรุ้มกริ่มของคนตรงหน้า มือหนาที่ประคองอยู่เริ่มลูบไล้แก้มอย่างแผ่วเบา ฮึก อยากมุดดิน เขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกอยู่ตรงไหนแล้วเว้ย จะอ่อนโยนทำไมเวลานี้

"เขินล่ะสินะ แล้วคำตอบล่ะ พี่ใจร้อนอยากได้คำตอบแล้ว"
พี่จีบกดจูบลงมาเบาๆ ตรงมุมปากของผม ลมหายใจสะดุดกึกอีกครั้งเมื่อโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว หัวสมองกำลังเออเร่อหาคำตอบไม่เจอไปซะอย่างนั้น

"พี่จีบ... ปล่อยผมก่อน"
เสียงสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

"ไม่ปล่อย ตอบมาก่อน"
เสียงอออ้อนจนอยากถีบไปไกลๆ

"ผม... แต่งก็ได้ แต่งงานกัน แต่งงาน! "
ยอมรับว่าสติหายตอนตอบคำถามออกไปก่อนจะโผทิ้งตัวเข้ากอดพี่จีบไว้แน่น น้ำหูน้ำตาไหลออกมาเป็นสายโดยไม่รู้ตัว ไม่มีคำบรรยายอะไรให้กับความสุขในครั้งนี้ อาจจะสุขจนล้น ล้นจักรวาลไปเลยก็ได้

"ขอบคุณครับที่ตอบตกลง รักคิสนะ"
คำพูดหวานหูกระซิบเบาๆ ผมพยักหน้ารับกับลาดไหล่กว้างรัวๆ พี่จีบกดปลายจมูกลงกลางกระหม่อมอย่างอ่อนโยนจนผมยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมไปอีก

"ฮือ รัก รักเหมือนกัน"
ผมพูดแทบไม่เป็นภาษา มือไม้มันสั่นไปหมดเลย ทำยังไงดี เหมือนจะเป็นลมตรงนี้ให้ได้ พี่จีบผละออกแล้วใช้มือหนาเช็ดน้ำตาให้กันก่อนจะล้วงกล่องสีเหลี่ยมเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบของด้านในออกมา

"ส่งมือมา"
พี่จีบออกคำสั่งแบบไม่จริงจัง ผมยื่นมือข้างซ้ายไปให้โดยไม่ลังเล เขาถอดแหวนทองคำขาววงเก่าออกแล้วสวมแหวนวงใหม่ที่มีเพชรเม็ดเล็กๆ ประดับอยู่ก่อนจะกดจูบลงบนนิ้วนางข้างซ้าย หัวใจของผมเต้นตึกตักอย่างบ้าคลั่ง ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างจนไม่รู้ว่าจะกว้างได้มากกว่านี้อีกหรือไม่ รู้แค่ว่าปวดแก้มไปหมดเลย

"อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ"

"อื้อ ผมจะอยู่กับพี่จีบตลอดไป สัญญา"

"อย่าทำตัวน่ารักตอนนี้สิวะ"
พี่จีบผละตัวออกแล้วใช้สองมือประคองหน้ากันเอาไว้ ผมเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัยว่าทำไมจะทำตัวน่ารักไม่ได้ในเมื่อพี่จีบชอบไม่ให้เหรอ

"ทำไมอะ?"
ผมถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามดัดให้ดูน่ารักเพื่อแกล้งคนตรงหน้า พี่จีบเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างต้องการข่มอารมณ์อะไรบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ถ้าให้ผมเดามันต้องไม่พ้นเรื่องใต้สะดือแน่ๆ เมื่อครู่ยังทำซึ้งอยู่เลยทำไมกลายเป็นเรื่องกามไปได้วะคนเรา

"พี่อยากกลับบ้านแล้ว"
พี่จีบผละมือออกแล้วลุกขึ้นจากโซฟา เขาเดินไปเก็บของเตรียมจะกลับบ้านอย่างที่เปรยออกมาจริงๆ ผมมองตามด้วยความตะลึงในความเอาแต่ใจนั้น คิดจะกลับก็กลับนี่ทำได้ทันทีเลยเหรอไง เป็นผู้จัดการที่นิสัยแย่ไปไหมเนี่ย

"เดี๋ยวๆ คุณผู้จัดการจะกลับบ้านจริงๆ เหรอ?"
ผมรีบไปดักหน้าพี่จีบเอาไว้ ดวงตาคมช้อนมองกันก่อนจะพยักหน้าเบาๆ แล้วเอื้อมมือมาคว้าข้อมือกันไว้

"หิว"

"หา หิวนี่ถึงต้องกลับบ้านเลยเหรอพี่?"
ผมมองหน้าพี่จีบด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าหิวแล้วทำไมต้องกลับบ้าน หาอะไรกินแถวๆ บริษัทก็ได้มั้ง แต่เหมือนคำตอบจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้มีความเจ้าเล่ห์อยู่เต็มเปี่ยม

"หิวคิสไง ต้องกลับบ้านจริงไหม?"
กูว่าแล้ว กูว่าแล้ว! ทำไมถึงซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างวะคนเรา ขอแต่งงานเสร็จเรียบร้อยหื่นแตกทันที แต่เอาเถอะยังไงๆ ก็เสียตัวมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว จะเสียตัวให้ว่าที่เจ้าบ่าวคนเดิมอีกครั้งจะเป็นไรไป ไปครับ ขึ้นเตียง Let' s Go!




------------------------------------------------------


มาอัพตอนจบแล้วน้า ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดเนอะ

ปล. ตอนจบ...แต่ยังไม่จบสนิทนะ 555555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-10-2016 10:23:38
จะขอแต่งหรือไม่ขอแต่งพี่จีบเขาก็หื่นแตกกับคิสอยู่ดี  :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-10-2016 10:33:40
น่ารักมากมาย. เอาให้ฟินจนหยดสุดท้ายเลยนะคะ.   :katai2-1:   
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 09-10-2016 10:38:25
อู้ววว หื่นคงเส้นคงวาตั้งแต่เป็นแฟน ยันขอแต่งงาน 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-10-2016 11:17:35
ความหื่นคงเส้นคงวามากอ่ะ พี่จีบ  ไม่มีลดมีแต่จะเพิ่มขึ้นใช่มั้ยเนี่ย :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-10-2016 11:51:24
 :L2: :L1: :pig4:

น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-10-2016 12:18:50
ความหื่นของพี่จีบก็ยังเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-10-2016 13:51:35
พี่จีบหื่นมาก ขอแต่งงานปุ๊บปั๊บเลยน่ารัก จบแล้วจริงหราเนี้ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 09-10-2016 13:55:27
พี่จีบทำไมเป็นคนอย่างงี้ :o8:
แต่น้องคิสก็ชอบใช่ม้าา :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 09-10-2016 14:12:55
หื่นได้หื่นดีพี่คิสเอ้ยย

ยินดีกับคู่บ่าวและบ่าวด่วยค่าาา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-10-2016 14:36:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 09-10-2016 14:42:20
จบแล้ว ขอบคุณนักเขียนมากๆเลย สนุกและน่ารักมากๆ รอติดตามผลงานต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 09-10-2016 14:44:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 09-10-2016 14:57:53
พี่จีบน่าร๊ากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 09-10-2016 15:35:13
 :o8: จบซะละ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-10-2016 17:07:08
โถ่ววววว จบแล้ว คือดีใจที่ลงเอยกัน
แต่เรายังอยากอ่านต่อออออออออ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-10-2016 18:02:27
พี่จีบหื่นว่ะ

แต่ชอบ

 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-10-2016 19:27:01
 :laugh: ขอแต่งปุ๊บ ต่อที่เตียงเลยนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 09-10-2016 19:44:20
เป็นคู่ที่น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 09-10-2016 22:49:48
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-10-2016 23:39:16
อย่าเห็นงานแต่งของพี่จีบกับน้องคิสนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-10-2016 00:29:50
แบบนี้ก้อได้เนาะ 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-10-2016 11:38:03
5555 พี่จีบหื่นนน
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: isuloveU Soly ที่ 12-10-2016 19:52:07
รักน้องจูบกับพี่จีบ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-10-2016 20:26:46
เรียกเลขาตลอดเลยนะครับ คุณผู้จัดการ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 14-10-2016 21:34:20
อยู่กับพี่จีบนี่ไม่รู้จะเขินวันละกี่ร้อยรอบดี  :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 14-10-2016 21:53:09
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-10-2016 21:35:18
น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 26-10-2016 08:21:50
5555. อิพีีจีบหื่น
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งสุดท้าย -P.21- (09.10.59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-11-2016 17:28:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 11-11-2016 11:08:30
Pepero Day




เช้าวันนี้ผมตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะหวังจะได้รับเปเปโร่หรือป๊อกกี้ที่เรารู้จักกันจากพี่จีบ... แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้เตรียมอะไรเอาไว้เลยสักอย่างถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะเหยียบแผ่นดินโซลอยู่ก็เถอะ เฮ้อ

ผมนั่งหายใจทิ้งอยู่บนโซฟาตัวเขื่องด้านหลังพี่จีบที่ยังนั่งจัดการอีเมล์งานอยู่ที่โต๊ะ ขนาดลาพักร้อนนะเนี่ยยังจะหอบงานมาเป็นก้างขวางคออีก คนบ้างานมักไม่คิดเรื่องอย่างว่าแต่ไม่ใช่กับพี่จีบ รายนี้เขาสม่ำเสมอเรื่องบนเตียงจนผมได้แต่ร้องขอให้เว้นระยะบ้าง ตัวพรุนหมดแล้ว!

"เป็นอะไรครับเมีย หายใจทิ้งๆ ขว้างๆ"
เขาถามกันทั้งๆ ที่ไม่หันมามองกันเลยด้วยซ้ำ ผมแยกเขี้ยวใส่แผ่นหลังกว้างนั่นแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างหงุดหงิด

"วันนี้วันอะไร"
ผมแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้ว่าคำตอบคงจะแสนธรรมดาสามัญ

"วันที่สิบเอ็ดไง สมองปลาทองเหรอน้องจูบ"
โห... ไม่สนใจกันยังด่าอีก มันน่าถีบให้ตกเก้าอี้ไหมคนเรา

"เหอะ ไม่สนใจกันยังจะด่าอีก ทำงานของพี่ไปเลยนะ ผมงอนแล้ว!"
ผมนอนคว่ำลงกับโซฟาแล้วแหกปากอัดหมอน ตั้งแต่มาเกาหลีพี่มันก็เอาแต่เคลียร์งานลูกเดียว จริงๆ ก็สมใจอยากที่ได้พักเรื่องบนเตียง แต่ไม่สนใจกันเลยคืออะไรวะ มีเมียเป็นงานเหรอ ส่วนไอ้คิสนี่เมียน้อยสินะ เกลียด!

"คุณเมียอารมณ์ฉุนเฉี่ยวว่ะ ท้องเหรอ"
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูและตามมาด้วยแรงที่โถมลงมานอนทับกันทั้งตัว รู้ว่ามาง้อแต่งอนและที่สำคัญ หนักมาก!

"ท้องบ้าอะไรเล่า ลุกออกไปเลยหนักจะตาย!"
ผมพูดเสียงอู้อี้เพราะหน้ายังคงซุกอยู่กับหมอน แทบจะตายเพราะหายใจไม่ออก ไม่นานนักแรงกดทับก็หายไปแต่เขากลับจับผมพลิกตัวให้นอนหงายขึ้นมาสบตากันโดยคร่อมกันอยู่ ท่วงท่าล่อแหลมกลับทำให้ผมใจกระตุก ไม่เคยชินกับการอยู่ใกล้กันเลยสักที

"ไหน บอกมาสิว่างอนอะไรพี่"
เจ้าของร่างสูงใช้มือบีบจมูกกันเบาๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงมาใช้ปากแตะปาก จากที่โมโห น้อยใจผสมปนเปกันไปกลับรู้สึกเขินขึ้นมาแทนที่จนต้องเบนหน้าหนี

"หื้อ วันนี้วันอะไร"
ผมแสร้งถามด้วยน้ำเสียงติดรำคาญเมื่อเขาใช้จมูกไล้ไปตามโครงหน้าและลำคอ อยากดิ้นหนีใจจะขาดแต่ร่างกายกลับอ่อนระทวยจนน่าหงุดหงิด แพ้เขาทุกทีไป

"วันที่สิบเอ็ด"

"พี่จีบ!"

"โอ๋ๆ งั้นวันศุกร์"

"หื้อ!!"

"เปเปโร่เดย์ก็ได้ครับ"
เข้าพูดเสียงกลั้วหัวเราะแล้วฝังจมูกลงบนแก้มทั้งสองข้างอย่างเอาใจ ผมปัดป่ายสัมผัสนั้นด้วยความหงุดหงิดและจ้องเขม็ง ทำไมขี้แกล้งขนาดนี้วะ คบกันมานานแค่ไหนก็ไม่ยอมเลิกแกล้งกันสักที

"กวนนะ"
ผมยกมือขึ้นบิดเนินอกเขาด้วยความหมั่นไส้ พี่จีบซี้ดปากเล็กน้อยแล้วดึงมือไปจูบหน้าตาเฉยแถมยังส่งสายตาออดอ้อนมาให้อีก แล้วแบบนี้จะให้โกรธยังไงไหวล่ะ!

"ขอโทษนะครับ อยากกินเปเปโร่เหรอ"

"เปล่า แต่ไม่คิดจะให้กันหรือไง"
ผมบอกแล้วทำหน้างอนๆ ใส่ พี่จีบเลยก้มลงขโมยจูบไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว ฮึ่ย บ้าบอว่ะ ยอมอีกแล้วไง

"ไม่ให้หรอก เปเปโร่น่ะ กินเยอะมันจะอ้วน"

"อะไรวะ ไม่โรแมนติกเลยคนเรา"

"แต่รักคิสนะครับ"

"เกลียดว่ะ!"

"แน่ใจว่าเกลียด?"
เสียงเข้มจนผมเผลอกลั้นหายใจ แต่ตานี่เป็นประกายวิบวับเชียว ไม่น่าไว้ใจ เหมือนจะเสียตัวยังไงไม่รู้

"ป เปล่า"
ผมตอบเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะยกแขนขึ้นคล้องคอเขา ส่งสายตาออดอ้อนให้หวังจะได้รับการลดโทษ แต่ก่อนหน้านั้นคงโดนลงโทษซะก่อนเพราะมุมปากหยักกระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

"เดี๋ยวให้คิสกินเปเปโร่ส่วนตัวของพี่เป็นการไถ่โทษแล้วกันนะ หึหึ"

"อะ.... ไอ้พี่จีบ ไอ้คนหื่นกาม ฮือ!!"

และแล้วก็จบที่เตียง... เปเปโร่เดย์ก็เคลื่อนผ่านไปซะอย่างนั้น โฮ เสียใจ ไอ้คนไร้ความโรแมนติกคิดแต่เรื่องหื่น!!




----------------------------------------------------

เผื่อใครคิดถึงพี่จีบกับน้องจูบเน้อ 555555555555
โมเม้นต์หวานๆ หื่นๆ ก็มา

ปล. อ่านให้หายคิดถึงเนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-11-2016 12:01:49
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-11-2016 13:55:54
ขอให้ได้หื่นใส่เปงพอ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 11-11-2016 14:27:46
ทำไมพี่จีบเป็นคนอย่างนี้  :hao7: :hao7: :hao7:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-11-2016 15:48:12
ขอโทษนะ เราไม่รู้จักอ่ะวันเปเปโร่คือวันอะไรเหรอค่ะ แต่พี่จีบนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยหื่นยังไงก็ยังเป็นยังงั้น
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 11-11-2016 15:55:15
ขอโทษนะ เราไม่รู้จักอ่ะวันเปเปโร่คือวันอะไรเหรอค่ะ แต่พี่จีบนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยหื่นยังไงก็ยังเป็นยังงั้น


เป็นวันพิเศษของเกาหลีฮะ ตรงกับวันที่ 11 พ.ย. ของทุกปี เทียบเท่าวันวาเลนไทน์ของชาวตะวันตก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 11-11-2016 17:39:56
พี่จีบคนหื่น...ผู้หาประโยชน์เข้าตัวได้ตลอดเวลา...เย้!
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-11-2016 18:30:22
คิดได้เนาะ แท่งๆเหมือนกันต่างกันที่อันนี้ของน้องจูบคนเดียวแถมอร่อยกว่าและฟรี
ขอบคุณค่าา
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-11-2016 21:16:09
คิดถึงพี่จีบกับคิสนะ แต่สุดท้ายก็ยังจบบนเตียง....เอวังด้วยความหื่นพี่จีบ... :call: :call:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 11-11-2016 21:23:09
 :z3:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-11-2016 22:07:29
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-11-2016 22:30:28
อะไรเนี่ยะ อิจฉานะเฮ้ย!! 555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-11-2016 23:33:08
ขอโทษนะ เราไม่รู้จักอ่ะวันเปเปโร่คือวันอะไรเหรอค่ะ แต่พี่จีบนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยหื่นยังไงก็ยังเป็นยังงั้น


เป็นวันพิเศษของเกาหลีฮะ ตรงกับวันที่ 11 พ.ย. ของทุกปี เทียบเท่าวันวาเลนไทน์ของชาวตะวันตก

ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-11-2016 00:14:01
โฮ่ น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-11-2016 01:14:23
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-11-2016 20:04:46
เปเปโร่ส่วนตัว :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-11-2016 20:41:33
ไม่พ้นใต้สะดือนะพี่จีบ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 14-11-2016 12:56:18
 :L2: :L2: :L2:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : Pepero Day -P.22- (11.11.59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 23-11-2016 21:29:52
ไม่ว่าวันอะไรพี่จีบก็หื่นได้  :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 21-02-2017 11:16:13
- ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ –



หลังจากแต่งงานอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ผมก็ได้เรียนรู้วิธีการเป็นแม่บ้านแม่เรือนมาแบบเต็มๆ ถ่ายทอดวิชาโดยตรงจากแม่และออมม่า การเอาอกเอาใจสามี การทำอาหาร รีดผ้า ซักผ้า และอื่นๆ อีกมากมายหลั่งไหลเข้าสมองยิ่งกว่าน้ำป่าไหลหลากเสียอีก ทำได้บ้างทำไม่ได้บ้างตามประสาคนกากเกรียนอย่างผม


"คิส ทำอาหารให้กินหน่อย" เสียงกึ่งสั่งกึ่งขอร้องดังมาจากระเบียงห้องในคอนโดหรูใจกลางเมือง ผมที่กำลังนั่งดูรายการทีวีเพลินๆ ถึงกับทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเพราะโดนขัดใจแต่ก็ยอมลุกจากโซฟาเดินไปถามไถ่คนที่นั่งเป่าขนหมาไซบีเรียนฮัสกี้อยู่ด้านนอก เกิดเป็นไอ้ข้าวเหนียวนี่มันดีจริงๆ


"อยากกินอะไรครับ บัญชามาได้เลย" ผมถามแล้วนั่งยองๆ เพื่อจะลูบหัวไอ้ข้าวเหนียวที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่มหล่อแล้ว ตอนเจอกันครั้งแรกนี่สภาพเหมือนก้อนขนสีดำขาวกลมๆ น่าเตะมาก แต่ดูตอนนี้สิหล่อไม่แพ้เจ้านายเลย


"สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล" พี่จีบบอกกันโดยที่ไม่มองหน้า ผมชะงักมือที่กำลังลูบขนข้าวเหนียวแทบจะทันที ก็เมนูที่ขอให้ทำเพิ่งเรียนไปเมื่อวานนี้เอง แล้วที่สำคัญคือในตอนนั้นไม่มีสมาธิเท่าไหร่ ก็ครูสอนเล่นยืนซ้อนหลังแล้วโอบกอดกันไปด้วย ลมหายใจอุ่นๆ รดต้นคอใครมันจะมีกะจิตกะใจทำอาหาร จริงไหม


"โหย ถ้าเป็นเมนูนี้รบกวนพี่เข้าครัวกับผมเถอะ" หลังจากพูดจบดวงตาคมก็จ้องมองกัน ไดร์เป่าผมในมือถูกปิดลงแล้วตั้งเอาไว้บนเก้าอี้ไม้ พี่จีบดันหัวไอ้ข้าวเหนียวออกจากตักแล้วลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจไปมา


"เมื่อวานไม่ตั้งใจเรียนใช่ไหม?" น้ำเสียงราบเรียบถามกันขึ้นมาทำให้ผมเผลอกันหายใจก่อนจะส่งยิ้มแหยไปให้อย่างยอมรับผิด ได้โปรดอย่าถามว่าทำไมถึงไม่ตั้งใจนะ ไม่กล้าตอบคำถามจริงๆ


"อือ ขอโทษครับ" ผมตอบกลับไปแล้วลุกขึ้นยืนก้มหน้านิ่งๆ ได้ยินเสียงถอนหายใจก่อนที่ร่างของพี่จีบจะเดินผ่านหน้ากันไปแล้วหายลับเข้าห้องน้ำ คงไปล้างตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้า


ผมลากไอ้ข้าวเหนียวกลับเขามาในห้องแล้วออกไปเก็บกวาดกองขนของมันทิ้งลงถุงดำที่พี่จีบตั้งเตรียมเอาไว้ ระหว่างทำก็จามออกไปนิดหน่อยเนื่องจากขนเข้าจมูก เหลือบสายตามองกลับเข้าไปในห้องจะเห็นหมาหล่อเอาหน้าแนบกระจกอยู่ ผมหลุดขำออกมาเพราะข้าวเหนียวทำตัวน่ารัก ไม่นานนักผมก็จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับเข้ามาในห้อง แต่ไม่เห็นพี่จีบ สงสัยยังอาบน้ำไม่เสร็จ


"ข้าวเหนียวตัวหอมแล้วนะเนี่ย" ผมขยี้หัวไอ้ข้าวเหนียวเล่นอย่างมันเขี้ยวก่อนจะเดินไปที่หน้าห้องน้ำแล้วเคาะประตูเบาๆ รออยู่สักครู่คนในนั้นก็ตอบกลับมา


"เข้ามาอาบน้ำด้วยกันสิ" คำเชิญชวนนั้นทำให้หัวใจผมเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่อยู่ มันเขินนะแต่ไม่อยากปฏิเสธเพราะการได้อาบน้ำด้วยกันมันเป็นอะไรที่สามารถกระชับความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี ฮึ่ย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
"ครับผม"


ตอบกลับไปก่อนจะส่งมืออันสั่นเทาไปจับลูกบิดประตูก่อนจะเปิดออก ผมก้าวเข้าไปแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเห็นลาดไหล่เปลือยโผล่ให้เห็นวับๆ แวมๆ ออกมาจากม่านกั้นฉาก


"พี่จีบ... แช่น้ำอยู่เหรอ?" ผมถามในขณะที่เริ่มถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ไม่เคยชินกับการเปลือยกายต่อหน้าพี่จีบสักที อาจเป็นเพราะสายตาคมคู่นั้นคอยแทะโลมกันอยู่เสมอก็เป็นได้


"อืม มาแช่ด้วยกันสิ"


"อะ อื้อ" ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบก่อนจะก้าวขาลงอ่างช้าๆ ดีที่พี่จีบยังคงหลับตาอยู่เลยไม่ได้เห็นผมเปลือยแบบโต้งๆ


"หันหลังสิ" พี่จีบลืมตาขึ้นแล้วบอกให้ผมทำตามคำสั่ง อยากจะถามกลับว่าทำไมต้องหันหลังแต่ไม่ดีกว่า ยังมีคดีไม่ต้องใจเรียนติดตัวอยู่ ห้ามมีปากเสียงใดๆ ทั้งสิ้น


"อื้อ" ผมหันหลังอย่างว่าง่ายก่อนจะถูกแขนแกร่งรวบให้นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขา อะไรต่อมิอะไรของพี่จีบสัมผัสกับของผม และด้วยความลื่นของฟองสบู่ทำให้ความวาบหวามเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว


"อืม ชอบไหม?" เสียงแหบพร่ากระซิบเพียงแผ่วเบา ปากหยักได้รูปแกล้งขบเม้มติ่งหูเบาๆ ผมกระตุกเกร็งตัวทันทีเพราะความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นมา ก็มือของพี่จีบกำลังลูบไล้ตรงนั้นของผมไปด้วย แกล้งกันชัดๆ เลย


"อึก อ๊ะ เล่นอะไร?" ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก่อนจะทิ้งตัวพิงหลังพี่จีบอย่างอ่อนแรง ถูกปรนเปรอจนสมองเริ่มขาวโพลนไปซะหมด ริมฝีปากถูกเม้มแน่นจนซีดขาวเพราะต้องกากลั้นเสียงครางที่หน้าอายเอาไว้


"ไม่ได้เล่นนะ 'เอา' จริง" คำที่เน้นทำให้ผมตัวร้อนวูบขึ้นมา มือไม้อ่อนไม่มีแรงจะต้านทานอะไร มีแต่ยอมและยอมให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ กิจกรรมเข้าจังหวะเริ่มขึ้นอย่างเนิบนาบก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความเร้าร้อนขึ้นทีละนิด ทีละนิด จนแทบขาดใจตาย


สรุปแล้ววันนี้แทนที่พี่จีบจะได้กินเมนูสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล กลายเป็นว่าได้กินผมเป็นอาหารแทนไปซะอย่างนั้น แต่ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจในอาหารจานนี้นะ ก็ผมน่ะ อร่อยกว่าอะไรทั้งหมดรวมไปถึงเครื่องดื่มกาแฟสุดโปรดของพี่จีบด้วย หึหึ




-------------------------------------

มันคือตอนจบจริงๆ ของเรื่องนี้ ~
รอผลพิจารณาจาก สนพ. กันต่อไปนะ ฮือ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-02-2017 12:22:30
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-02-2017 13:13:18
 :L1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 21-02-2017 13:18:39
คิดถึงงงง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-02-2017 18:43:04
555555
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-02-2017 19:12:00
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 21-02-2017 19:29:48
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-02-2017 19:43:31
 :o8:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-02-2017 22:06:59
ฮ่าๆ มีอวยตัวเองด้วยว่าอร่อยที่สุด ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 22-02-2017 00:39:11
 :mew2:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 22-02-2017 06:58:11
มาแบบเบาๆแต่ละมุนละไม
พี่จีบดูขรึมขึ้นนะ ไม่ใช่แกล้งขรึมชิมิ55

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
รอผลสำนักพิมพ์เป็นเพื่อนคนเขียนด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-02-2017 12:49:32
อันนี้ไม่เถียง ถ้าไม่อร่อยจริงพี่จีบมันจะหื่นใส่คิสขนาดนี้เรอะ  :haun5: :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 23-02-2017 01:45:22
พี่จีบหื่น

 :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 24-02-2017 21:46:55
คนมันไม่ใช่ ยังใงก็ไม่ใช่นะพี่แบท ฮือสงสารอะ
     :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 25-02-2017 12:23:27
                               :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: Haruya ที่ 25-02-2017 12:50:03
สนุกดีค่ะ.  พี่จีบนี่จีบเก่งสมชื่อเลย
อ่านแล้วน่ารักมาก เป็นนิยายฟิลกู้ดที่ไม่มีดราม่า
คนอ่านสบายใจ ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 26-02-2017 17:32:29
เป็นเรื่องที่น่ารักมาก ๆ ครับ อ่านแล้วยิ้มได้ตลอดเรื่อง



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 27-02-2017 20:39:13
5555 น่ารักมากค่ะ
หลงตัวเองกันทั้งคู่เลย แล้วแถมยังหลงกันเองหนักมาก
ชะตาต้องกันอะนะ จีบถึงได้ชอบคิสแบบกู่ไม่กลับ คิสก็หัวปักหัวปำกันเลย 5555

ตอนจีบกัน ก็ยังว่ามีความเอ๋ออยู่ พอเป็นแฟนแค่นั้นแหละ คิสอัพสกิลเป็นขั้นสุดมาก จีบแอทแทค

ตลกคิส ใช่ว่าห้ามจีบไม่ได้นะ ติดที่ตัวเองระทวยเอง แล้วชอบด้วย ยอมใจ
จีบอย่างเนียน เนียนทุกท่วงท่า จนเพื่อนกับคนที่บ้านรู้ทัน แต่มีคนเอ๋ออยู่คนเดียว

ชอบจีบค่ะ ชัดเจน จริงจัง รุกคืบ ยอมใจจีบ

ดีพจะได้ภีมไหมคะ 5555

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ จะติดตามเรื่องอื่นด้วยจ้า


หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 03-03-2017 20:57:28
อ่านรวดเดียวจบค่ะ เรื่องน่ารักมากกกก
มีคำผิดบ้างแต่ไม่ถึงกับสะดุด เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 10-03-2017 03:44:48
อ่านจบจนได้ เย่ ๆ ๆ  :jul1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-03-2017 01:38:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 12-03-2017 15:26:28
ตลอดอะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 17-03-2017 20:51:34
 o13 สนุกค่ะ ชอบน้องคิส~
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 17-04-2017 01:29:42
อ่านมาจนจบรู้สึกได้ถึงความน่ารักของพี่จีบ....ที่มีความมั่นคงต่อคิสถึงแม้จะมีใครมาชอบหรือเข้าหา...ก็ไม่หวั่นไหว จนอยากได้พี่จีบเลยอ่ะ ชอบๆ  :o8: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 18-04-2017 22:56:37
อยากได้แฟนแบบจีบเลย กวนๆแต่ก็โรแมนซ์
ปล.หันมามองแฟนตัวเอง อุ่ต๊ะ!!!! 55555
  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 26-04-2017 11:11:26
พี่จีบเจ้าเล่ห์ น้องคิสนี่ก็แพ้ทางคนพี่ตลอด :hao7:
น่ารักจังเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : ดื่มครั้งแรกให้กับชีวิตคู่ -P.23- (The End)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 28-04-2017 00:14:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : แจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์หนังส -P.24-
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 15-07-2017 16:25:03
เรื่อง Coffee Shop ผ่านพิจารณาจาก สนพ. แล้วน้า
ถ้าเคลียร์อะไรเรียบร้อยจะมาแจ้งรายละเอียดอื่นๆ อีกครั้งฮับ

ฝากคนอ่านช่วยอุดหนุนด้วยนะ ><
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : แจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์หนังส -P.24-
เริ่มหัวข้อโดย: hoihak ที่ 15-07-2017 23:31:56
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โอ๊ยยยน่ารักอะไรขนาดนี้ ฮื่อออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : แจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์หนังส -P.24-
เริ่มหัวข้อโดย: skysky ที่ 15-10-2017 09:40:43
น่ารักมากเลยยยยย อ่านไปทั้งเอ็นดู ทั้งหมั่นไส้ ทั้งอิจฉา อะไรจะหวานกันขนาดนี้คะ 555
ยินดีกับความรักของทั้งคู่ น่ารักมากจริงๆ อ่านไปยิ้มไป เขินไปกับคิสเลย คิคิ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆนะคะ ^_^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : แจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์หนังส -P.24-
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-10-2017 07:50:25
ฟินอีกแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : แจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์หนังส -P.24-
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 25-10-2017 21:03:42
เรื่องนี้น่ารัก อ่านแล้วละมุนอบอุ่นหัวใจมากๆเลย :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือวันที่ 18 ม.ค. - 20 มี.ค. 61
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 13-01-2018 22:29:21
(https://i.imgur.com/Ibxvteu.jpg)


ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าแฟนเพจสำหนักพิมพ์น้า

https://www.facebook.com/whybooksth/

ปลูกไตแล้วมาสู่ขอพี่จีบกับน้องคิสกันน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 18-01-2018 16:33:27
ทุกคน ~ วันนี้ทางสำนักพิมพ์ WHY BOOKS เปิดพรีออเดอร์หนังสือเรื่อง 'Coffee Shop รักนี้ รสกาแฟ' แล้วน้า
สามารถสั่งจองได้ที่ เพจ สนพ. https://www.facebook.com/whybooksth/ ทาง Inbox น้า

รายละเอียด
♥ ระยะเวลาเปิดจอง 18 ม.ค. - 20 มี.ค. 2561
♥ ตอนพิเศษมีทั้งหมด 4 (อีกตอนเเถมนิดๆ)
1.- ดื่มครั้งพิเศษ : ยอม – (ดีพ x ภีม)
2.- ดื่มครั้งพิเศษ : เข้าใจ – (แก๊ป x คิน)
3.- ดื่มครั้งพิเศษ : รัก – (จีบ x คิส)
4.- Pepero Day
♥ ราคา 369 บาท (เฉพาะรอบจอง)
♥  โปสการ์ด
♥ ที่คั่น
♥ สติ๊กเกอร์ (เฉพาะรอบจอง)

ปล. หน้าปกจะตามมาทีหลังน้า กำลังรอนักวาดทำอยู่ฮับ ~

ช่วยรับพี่จีบกับน้องคิสไปอยู่ด้วยหน่อยน้า ^0^
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 01-10-2018 20:04:32
พี่จีบนี่ความอดทนเป็นเลิศจริงๆ นับถือๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 01-10-2018 20:24:36
 :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-10-2018 18:54:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 11-10-2018 19:39:35
ชอบมากๆค่ะ
น่ารักมากๆทั้งคู่เลย :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 28-10-2018 09:02:20
น่าเอ็นดูทั้งน้องคิส ทั้งพี่จีบ   :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 31-10-2018 21:51:58
ดีต่อใจมากๆ เลย  :กอด1:
ชอบมากเลยค่ะ กับความเนียนของพี่จีบ อิอิ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ แบบนี้นะคะ
จะรอติดตามผลงานอื่นๆ อีกนะคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-12-2018 08:51:41
 :pig4: :pig4: :pig4: