บทที่ 2รุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ผมตื่นตามเวลาปกติเพราะชิน แต่กินข้าวเช้าเสร็จก็ไปนั่งง่วงต่อหน้าทีวี ถ้าไม่ใช่วันทำงานก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ดูหนังที่เช่ามา อ่านหนังสือ เก็บผ้าซักไปตามเรื่อง พี่อิทเคยถามเคยชวนแล้วแถมค่อนว่าผม ‘ไร้ชีวิตสังคม’ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น... แค่ขี้เกียจ ถ้าเต็มที่กับงานมาตลอดพอถึงวันหยุดผมว่าผมสมควรมีสิทธิ์เนือยและเลื้อยได้นะ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพาให้ต้องขมวดคิ้ว เพราะไม่น่ามีเพื่อนหรือคนรู้จักคนไหนโผล่มาตอนเช้าอย่างนี้ ส่องดูแล้วจึงพบว่าก็เป็น... คนรู้จักจริงๆ แต่รู้จักนานมาแล้วน่ะ
“ว่า?”
โอบยืนยิ้มรับอรุณอยู่หน้าประตูโดยไม่สนใจว่าจะได้ยิ้มตอบกลับไปหรือไม่ “เพิ่งย้ายเข้ามาข้าวของยังไม่เรียบร้อย มีค้างอยู่ที่เก่าด้วย แต่ต้องรีบไปขนมาแล้วเพราะสัญญาหมด คนใหม่เขาจะย้ายเข้า”
ผมงงอยู่นิดหน่อยจนเริ่มระลึกได้ว่ามันบอกผมทำไม พร้อมๆ กับที่โอบพูดต่อ “แทคมีรถ เลย... จะมาขอความช่วยเหลือ”
“ขนของ...?”
“... ก็แทคมีรถ” โอบว่าอีกเหมือนเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นที่สุดในสากลจักรวาลนี้
“รู้ได้ไง”
“... พี่อิทบอก”
ผมเอารถห้าประตูคันเก่าของที่บ้านขึ้นมาใช้จากหาดใหญ่ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ขับ นอกจากเวลาต้องไปหาลูกค้าไกลๆ
ไม่รู้คุยอะไรกันไปบ้างสองคนนี้ตอนผมนั่งง่วงอยู่ในแท็กซี่เมื่อคืน หัวหน้าหนอ... ขยันหางานให้ทั้งราษฎร์และหลวง
แต่กับ ‘ราษฎร์’ คนนี้ คิดว่าอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบผมนะ
ชะรอยจะรู้สึกได้ถึงกระแสธุระไม่ใช่ที่แผ่ออกไปจากตัวผม โอบเลยเปลี่ยนมาทำเสียงอ้อนวอน
"แทค... ช่วยหน่อยน่า นะ นึกว่าเห็นแก่ลูกนกลูกกา ตาดำๆ"
ผมมองประเมินแล้วอยากจะบอกว่าอีแร้งสิไม่ว่า ตัวใหญ่ขนาดนี้เลยความเป็นลูกนกไปไกลแล้ว “เพื่อนตัวเองไม่มีหรือไง"
"ที่พอสนิทๆ กันกลับบ้าน ไม่ก็ติดธุระหมดเลย นะแทคนะ ช่วยหน่อย"
ผมถอนใจ ไอ้ 'ช่วย' ผมก็ช่วยแล้ว เกี่ยวกับการงานตัวเองด้วย คือพยายามให้มันได้เดต การชักจูงให้ตัดสินใจสมัครสมาชิกใหม่นี่ถึงกับต้องช่วยขนของย้ายเข้าหอด้วยเหรอ มากไปมั้ย
โอบทำท่าจะพูดต่อ แต่เสียงมือถือในกระเป๋าผมดังขัดเสียก่อน มองเบอร์แล้ว... ไม่รับก็ไม่ได้
“ว่าพรือโหลก...”
โทรมาเองแล้วถามทำไมนิแม่...
พอได้คำตอบเหมือนทุกทีคือสบายดีไม่ป่วยไม่ไข้ (ยัง) ไม่มีปัญหาอะไร แม่ก็เริ่มบ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง เป็นกิจวัตร บ่นได้ทุกเรื่อง พ่อไม่ยอมเติมน้ำมันรถ ดีที่มันมาหมดเอาหน้าบ้าน... สวนยางปีนี้ไม่รู้จะได้กำไรเท่าไหร่... เด็กผู้หญิงที่โรงเรียนสมัยนี้เถียงคำไม่ตกฟาก...
อยากจะไปพูดต่อในห้องเหมือนกันแต่โอบยังยืนคาประตูอยู่ ผมก็รัวกลับแม่บ้าง ภาษาถิ่น ไม่มีซับไตเติ้ล เห็นสีหน้าคนพยายามฟังให้ทันแล้วขำดี
แต่โอบถาม “คุณป้าเหรอ” แล้วมันก็เรียกเลย “คุณป้าครับโอบเอง!”
เดซิเบลขนาดนี้น่าจะได้ยินไปถึงหาดใหญ่... อย่าว่าแต่ลอดเข้าหูโทรศัพท์ ผมได้ยินเสียงแม่ถามไถ่กลับมาอย่างดีใจ กำลังคิดว่าจะยื่นโทรศัพท์ให้คุยกันเลยดีไหมคุณนายก็สั่ง
"แทคเปิดลำโพงซิ"
"โอยแม่!" ทำไมต้องมาพูดโทรศัพท์กันสามคนให้วุ่นวายอย่างนี้ด้วยก็ไม่รู้ แม่เปลี่ยนกลับมาเป็นกลางทันทีที่รู้ว่า ‘น้องโอบ’ อยู่ในสายด้วย ผมจะดึงดันแหลงต่อคนเดียวก็ไม่ได้ ของอย่างนี้ต้องทูเวย์ คอมมิวนิเคชั่น ไม่งั้นไม่หรอย
"เปิดยัง แม่ไม่ได้ยินเสียงน้องโอบ"
“เปิดแล้วๆ แม่! ก็หลังจากเมื่อกี้มันยังไม่ได้พูดอะไรเลยจะได้ยินได้ไง”
... จากนั้นแม่ก็ซักสารทุกข์สุกดิบลูกนอกไส้เป็นการใหญ่ ถ้าสำหรับผมแล้ว โอบเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้ ในสายตาแม่ โอบคงเหมือนเดิม... เพราะแม่ก็ยังน้องโอบ นั่น นี่ ทุกคำ ซึ่งเรียกเด็กเจ็ดแปดขวบเมื่อก่อนคงดูน่ารักดี
แม้ไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าคนยืนค้ำหัวผมในตอนนี้เท่าไหร่
มาสะดุดตอนแม่ว่า “นันเขาบอกน้องโอบใกล้เริ่มงาน ต้องย้ายจากหอเดิมด้วย ป้าเลยว่าไหนๆ จะย้ายแล้วมาอยู่ย่านเดียวกันก็ดี เผื่อมีอะไรได้ช่วยเหลือกันนะลูก”
แสดงว่าแม่ก็ยังติดต่อกับน้านันมาเรื่อยๆ...
แล้วแม่นี่เองชี้โพรงให้กระรอก! ได้ใกล้ขนาดชั้นเดียวกันตึกเดียวกันเลยแหละ ไม่ใช่แค่ย่านเดียวกันหรอก สมใจแม่... แล้วผมก็ต้องคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำตอบ
“ครับคุณป้า... นี่พี่แทคกำลังจะช่วยโอบย้ายของ”
ผมจ้องหน้ามัน โอบก็เลิกคิ้วคล้ายจะถามว่า ‘ไม่จริงเหรอ’ มีแต่ต่อหน้าแม่เท่านั้นแหละที่มันจะเรียกผมพี่
ผมไม่มีช่องปฎิเสธ เพราะแน่นอนว่าแม่เห็นดีเห็นงามแถมให้ผมรับปากเสียด้วย ก่อนจะร้อง
“อ้าวพ่อเข้าบ้านมาพอดี... พ่อๆ มาคุยกับแทคเร็ว น้องโอบด้วยพ่อ... ปัดโธ่ วางของก่อน! มานี่พ่อ”
ถึงเวลาโทรหาผมแม่จะบ่นพ่อคิดเป็นร้อยละเก้าสิบ แต่ความรัก เป็นร้อยละร้อย... ตั้งแต่วันแรกเจอกันในงานกีฬาเขต พ่อเป็นตัวแทนลงแข่งรักบี้แต่แม่มาจากคนละวิทยาลัย จนวันที่ต่างคนต่างจบไป พ่อเป็นครูดนตรี แม่เป็นครูคหกรรม ได้เจอกันอีก จนแต่งงาน พ่อจะตั้งชื่อเล่นลูกชายว่าแทคเกิ้ลเหมือนอย่างในรักบี้ แต่สุดท้ายก็ยอมตัดเหลือแทคเฉยๆ ตามแม่ว่าเพราะกลัวลูกถูกล้อ... จนวันที่ลูกชายคนเดียวนั้นเลยวัยเบญจเพสไปแล้ว
ผมก็คิดว่า ความรักยังเป็นร้อยละร้อยอยู่...
“แทคพ่อถามว่าจะกลับบ้านอีกเมื่อไหร่”
“ได้ยินแล้วแม่” ทุกครั้งที่ลากพ่อมาพูดโทรศัพท์แม่ก็ทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้อีกต่อทั้งๆ ที่ไม่ต้องก็ได้ ส่วนพ่อตามใจเหมือนเคย... “แทคกลับเช็งเม้งไง เหมือนทุกปี”
แม่ไปเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่อีกพักก่อนจะว่า “พ่อบอกให้แทคไปช่วยน้องโอบเถอะเดี๋ยวจะสายมากกว่านี้ แล้วแม่ค่อยโทรมาใหม่...”
แต่กว่าจะได้วางหูจริงๆ ก็ล่อไปอีกเกือบสิบนาที ผมถอนใจเฮือก เห็นโอบมองยิ้มๆ
ผมยกไหล่นิดเหมือนบอกว่าพ่อแม่ก็อย่างนี้ ไม่แน่ใจว่าโอบจะจำได้แค่ไหนว่าพ่อแม่ผมเป็นอย่างไรจากที่เคยเจอกันเมื่อนานมาแล้ว นอกจาก ‘พ่อเล่นกีตาร์เก่ง แม่ทำกับข้าวอร่อย...’ ที่ผมนึกออกว่ามันเคยพูดตั้งแต่ตอนเด็กๆ โอบว่า
“พ่อแม่แทคดีออก รักกันดีด้วย เมื่อก่อนก็...”
แต่แล้วก็ทำท่าเหมือนลืมว่าจะพูดอะไรไปเสียอย่างนั้น
โอบลงจากรถแล้วผลุบหายเข้าไปในตึกหอเดิม จากในรถพอมองเห็นว่าพูดจาอยู่กับลุงที่คงเป็นคนเฝ้าอยู่นิดหนึ่งก็วิ่งกลับมา
“แทคลงมาช่วยกันหน่อยดิ๊!”
ขับรถขนของให้ยังไม่พอ ต้องมาใช้แรงงานอีก... เช้าวันหยุดที่ผมควรจะได้นอนเขลงอ่านหนังสือ งีบ ไม่ก็เรื่อยเปื่อยดูหนัง...
“แทครับปากแม่ไว้แล้วว่าจะช่วย ห้ามผิดคำพูดนะ”
“เออๆ” ผมจำต้องเดินตามเข้าไปในตึก โอบรับกุญแจจากลุงมาไขห้องเก็บของก่อนจะบอกผมว่าขนลงมาแล้วเมื่อสองสามวันก่อน ก็เหลือแต่ยกไปขึ้นรถเท่านั้น ส่วนกล่องข้างนอกอีกนิดหน่อยเพื่อนเพิ่งเอามาฝากลุงไว้เมื่อเช้า ก่อนรีบบึ่งไปธุระต่างจังหวัด
ผมคว้าลังขึ้นมา โอบก็ว่า “แทคยกอันนี้ดีกว่า อันนั้นหนังสือล้วนๆ เลย หนัก...”
“ไม่เป็นไร” ถึงมันจะหนักจริงผมก็ยกไหวล่ะน่ะ
“เถอะน่า เท่านี้ก็ใช้แรงงานคนแก่...” โอบเว้นนานอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะต่อ “... กว่า จะแย่แล้ว”
... มันน่าช่วยไหมเนี่ย!
ผมออกมายกของข้างนอกที่มีกล่องผ้าคลุมไว้เทินอยู่บนสุด แต่พอยก ลังที่ซ้อนกันอยู่ก็เหลื่อมจนเอียงวูบ
"แทคระวังดาวเรือง!"
โอบยังไวพอจะละมือมาจับเอาไว้ได้ทันท่วงที จึงไม่ถึงกับตกลงพื้นไป เลิกผ้าคลุมขึ้นดูแล้วก็ว่า
"หนูเรือง... เป็นไงมั่ง"
เอาจริงๆ ผมจะรู้ได้ไงว่าไอ้โอบมีสัตว์เลี้ยงรวมอยู่ในขบวนสัมภาระของมันด้วย พอเห็นถนัดตาก็ยังนึกไม่ออกจนต้องถาม
"ตัวอะไรหน้าตาพิลึก"
"แทคก็... เดี๋ยวเขาเสียใจ หนูเรืองเขาเป็นแฮมสเตอร์ยักษ์"
ผมไม่รู้ว่าเจ้าพวกนี้หนักได้เท่าไหร่ หรือว่าตัวโตได้แค่ไหน แต่ที่อยู่ในกรงนี่คู่ควรกับคำว่า 'ยักษ์' ทุกประการ
"อ้วนขนาดนี้เดินยังไง" ผมอยากรู้จริงๆ
"แทค!" โอบทำท่าประหนึ่งว่าผมทำร้ายความรู้สึกสัตว์โลกผู้น่ารักเข้าให้แล้ว ผมอดขำไม่ได้
"น่าเอ็นดูไปนะ หนูเรือง"
"ก็เขาเป็นหนูรึเปล่าล่ะ"
ผมคร้านจะเถียง กรง ‘หนูเรือง’ นี่รวมอยู่กับของข้างนอก ก็แสดงว่าเพิ่งถูกเอามาฝากลุงเมื่อเช้า
“หนูเพื่อน?”
“อืม หอพักเพื่อนเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ก็เลยเอามาเลี้ยงให้แทนก่อน”
“... เพื่อน?”
“ก็เพื่อนสิ” โอบยกลังสุดท้ายใส่หลังรถแล้วปิดประตู ยังถือกรงหนูไว้ในมือ “ถ้าไม่ใช่เพื่อน จะอยากใช้ บอ-ริ-กาน บริษัทแทคทำไมเล่า”
เออเนอะ...
ขึ้นรถแล้วโอบก็เอากรงไว้บนตัก เอี้ยวตัวพยายามจะรัดเข็มขัด ผมช่วยสงเคราะห์ให้เลยเพิ่งจะเห็นชัดว่าตรงท้องแขนโอบมีรอยค่อนข้างยาว... เหมือนแผลเป็น แต่น่าจะเป็นแผลเก่า
“นี่ไปโดนอะไรมาเนี่ย”
ผมก็ไม่สังเกตมาก่อน ตอนเจอกันในร้านมืด ในแท็กซี่ก็มืด โอบใส่เสื้อแขนยาวแต่ตอนนี้ถลกแขนเสื้อขึ้นเมื่อยกของ หรือเพราะก่อนหน้านี้... ผมไม่เคยมีโอกาสดูดีๆ ก็เป็นได้
โอบมองตามสายตาผมก่อนจะดึงแขนเสื้อลง แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ยิ้มให้แล้วว่า "ไม่เป็นไรหรอก..."
รถข้างหลังที่มาจ่ออยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้บีบแตรสนั่น ผมเลยต้องรีบออกรถ ส่วนโอบก็นั่งปลอบใจแฮมสเตอร์ยักษ์พุงหลามไปกับการขับรถกระชาก (อย่างไม่ตั้งใจ) ของผม
... พอดีไม่เคยขับรถให้หนูนั่งน่ะนะ...
ขนของไปกองอยู่ในห้องโอบเสร็จผมก็หันหลังเดินกลับมาห้องตัวเอง กระพือเสื้อให้ลมเข้าไปพลาง อยากอาบน้ำอีกสักรอบ... รอให้เหงื่อแห้งหน่อยดีกว่า
แต่โอบเดินตามมาด้วย ผมหันไปจะปิดประตูมันก็ว่า
“... หิวเนอะ...”
เอาจริงๆ นอกจากภายนอกแล้ว... ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่ สีหน้าท่าทาง คำพูดคำจา
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็แค่ลากมันไปปล่อยทิ้งไว้กับแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีกับข้าวแม่แล้วนี่สิ
“... แทคไม่หิวเหรอ”
มนุษย์เรา... อย่างที่บอก พอมีคนเตือนก็หิวขึ้นมาเลยแหละ
“ขี้เกียจออกไปอีก” ผมว่า ข้างนอกฟ้ามืดเดี๋ยวฝนคงได้ตกแน่
“... ขี้เกียจเหมือนกัน”
แล้วไงต่อล่ะ...
“เพิ่งย้ายเข้าของกินอะไรก็ยังไม่ได้ซื้อ ครัว... ง่อยมาก ตู้เย็นงี้ เล็กกว่ากรงหนูเรืองอีก”
ผมถอนใจ “เอ้า ไม่อร่อยห้ามว่า” ไหนๆ ผมก็ต้องทำกินเองอยู่แล้วน่ะ
ของในครัวผม (ที่เล็กเหมือนกัน แต่น่าจะดีกว่าของโอบหน่อยหนึ่ง) ก็ไม่ค่อยจะมี ถือว่าตามมีตามเกิดมากมื้อนี้ โอบตามมาเหมือนจะช่วย แต่ทำให้ลำบากขึ้นมากกว่า พื้นที่ก็น้อยอยู่แล้ว พอผมถามว่าไม่ถนัดแล้วจะช่วยทำไม มันดันตอบ
“... ก็มีมารยาท”
ผมจึงให้มันไปนั่งมีมารยาทรอที่โต๊ะ จากของที่มีก็ได้ไข่เจียวกับผัดผักโง่ๆ เนี่ยแหละ มีอะไรก็ใส่ไป ความจริงคนทำเก่งคือแม่อย่างที่เด็กนี่ก็รู้ ของผมแค่พอรับได้... แต่โอบก็ตั้งหน้าตั้งตากินท่าทางอร่อยจนผมต้องตักให้เพิ่ม
จากเมื่อวานที่มันคุยกับพี่อิท ผมรู้ว่าพอย้ายไปแล้วโอบเรียนอยู่เชียงใหม่จนมาต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ แต่จริงๆ ก็ไม่เคยรู้ว่าทำไมตอนนั้นถึงย้ายกะทันหัน ว่าไป โอบเองอาจจะไม่รู้ก็ได้ เด็กเจ็ดขวบกว่าในตอนนั้น... พอโตขึ้นบ้าง ปรับตัวเข้ากับที่ใหม่ ได้เพื่อนใหม่ คุ้นเคยกับบ้านใหม่ คงไม่คิดจะถามหรืออยากรู้อีกแล้วด้วยซ้ำ
ยิ่งเด็ก ยิ่งปรับตัวได้เร็ว ผมเรียนจิตวิทยา อาจารย์บอกอย่างนั้น...
ผมก็ว่าอย่างนั้น...
โอบหัวเราะนิดๆ เมื่อผมบอกสิ่งที่คิด "ก็ว่าไป... ตอนนั้นร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์ๆ เลย"
เสร็จก็ยิ้มเหมือนพูดเล่น ต่อด้วย “แต่ว่าขอบคุณมาก วันนี้”
ผมเงยหน้าขึ้นมอง โอบก็ยิ้มกว้าง
“ขอบคุณทั้งเรื่องที่ช่วยย้ายของ แล้วก็เรื่องข้าว อร่อยมาก มาก!”
ผมแน่ใจว่าโอบเกินจริง ตั้งแต่เรื่องร้องไห้เป็นอาทิตย์นั่นแล้ว เรื่องผมทำกับข้าวอร่อยมากนี่ยิ่งห่างไกลความจริงออกไปนอกจักรวาล
แต่คำชมใครได้ยินก็ดีใจใช่ไหมล่ะ...
... ชักจะเข้าใจอารมณ์แม่ขึ้นมาตงิดๆ ว่าทำไมชอบทำกับข้าวให้คนกินนัก... ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุณ Wordslinger ขอบคุณนะคะ เม้นแรกเลย อ่านช้าไม่เป็นไรแค่อ่านก็ดีใจแล้วค่ะ แอบเห็นนิยายคนอ่านอยู่เหมือนกันแต่คนเขียนแค่เขียนก็กินเวลาโขแล้วค่ะเลยยังไม่ได้ไปอ่านเลยยย
คุณ MiSS-U ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า
คุณ Millet คิดถึงเหมียนกันค่ะ อิอิ เรื่องนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ
คุณ irksome ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ขอบคุณที่แวะไปอ่านเรื่องก่อนด้วยน้า
คุณ seaz ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่ะ ฝากตอนต่อไปด้วยน้า
คุณ R-Chisel ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า
คุณ PK37 55 พรหมลิขิตจริงๆ ด้วย เรื่องสองคนนี้ก็ไม่รู้ยังไงต่อ 55 ต้องขอฝากเชียร์ด้วยค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจค่า
คุณ moredee ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ
คุณ puppyluv ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ขอบคุณสำหรับเป็ดของโอบ 55
คุณ sukie_moo ขอบคุณค่า ต้องรอดูกันต่อปายยย
คุณ ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ตอนนี้กินข้าวไปก่อน ฮา
คุณ AGALIGO ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า ฝากตอนต่อไปด้วยนะคะว่าจะใครจะได้บำบัดใคร 55 ขอบคุณสำหรับเป็ดค่า
คุณ sunshinesunrise ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า ฝากติดตามต่อด้วยน้า บริษัทหาคู่มีค่ะ แต่แผนกเฉพาะอย่างของแทคนี่ไม่รู้มีป่าว 555
คุณ milkteabeige ยินดีต้อนรับอีกครั้งค่า คนเขียนก็รู้สึกว่าน้องโอบน่ารักค่ะ อิอิ
คุณ PapermintReal 555 ได้เลยๆ โอบไม่หวง กร๊าก
คุณ Aoya ยินดีที่เข้ามาอ่านเหมือนกันค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ
คุณ malula บังเอิญเพราะแม่บอกแล้วว่าแทคอยู่ตรงไหน 555
คุณ iforgive ขอบคุณมากที่อ่านนะคะ มาบำบัดไปด้วยกัน
คุณ bozang ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า ฝากอ่านและลุ้นต่อด้วยน้า
คุณ boobooboo ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า
คุณ saruwatari_guy ขอบคุณที่ชอบค่า ฝากติดตามต่อด้วยน้า
เอาล่ะ จริงๆ ต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องหลัง แต่อาจจะเป็นคนละเรื่อง (เดียวกัน) ฮา ขอบคุณคนอ่านทุกๆ ท่านมากเลยค่า