พิมพ์หน้านี้ - บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: เดหลี ที่ 18-01-2013 07:38:03

หัวข้อ: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 18-01-2013 07:38:03
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

หัวข้อ: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 18-01-2013 07:48:43
บทที่ 1

“เรียบร้อยครับ” ผมยิ้ม รับเอกสารเก็บใส่แฟ้ม อวยพรให้โชคดีก่อนจะมองทั้งสองคนเดินเคียงกันออกไปจากร้านกาแฟ

คงไม่มีงานไหนแล้วที่เสียลูกค้าแต่เรายังยิ้มออก...

ความจริงธุรกิจจัดหาคู่ไม่ใช่ของใหม่ เพียงแต่ต้องอาศัยเวลาเล็กน้อยกว่าจะได้รับความเชื่อถือหรือความนิยม โดยเฉพาะกับ ‘ฝั่งเรา’ การที่ไม่มีอัตราการแต่งงานมาเป็นมาตรชี้วัดความสำเร็จออกจะทำให้จับต้องเป็นรูปธรรมได้น้อยกว่า   

แต่รักที่มั่นคง... ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ

ของแบบนี้ ก็แล้วแต่คน และขึ้นอยู่กับว่า... เขากำลังมองหาอะไรในชีวิต

ถ้าจะหาเพียงสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนผมว่าหลายคนไม่ได้เดือดร้อน แต่การหาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกัน ในกรณีหลังเราก็แค่... จัดให้คนที่มีความต้องการตรงกันอยู่แล้วมาเจอกันเท่านั้นเอง

ถ้าเขาตกลงปลงใจ ต่างฝ่ายต่างเห็นอีกฝ่ายอยู่ในชีวิตกันและกันในระยะยาว ก็อาจจะยกเลิกสมาชิก บ่งบอกว่าไม่ต้องการเดตใครคนอื่นอีก ผมก็ยินดีกับเขาด้วย ที่หา ‘คนคนนั้น’ เจอ และหวังให้เป็นคนที่ใช่ไปนานๆ

... สมหวังบ้างไม่สมหวังบ้าง เพราะบางที คนที่ยกเลิกสมาชิกไปแล้วก็กลับมาเป็นลูกค้าเราอีก

ผมถอนใจยาว พอดีกับที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลยกดรับแล้วกรอกเสียงลงไปโดยไม่รอปลายสาย “เสร็จแล้วพี่อิท”

“เสร็จแล้วก็มาเสียทีสิจ๊ะ” ด้านหลังมีเสียงอึกทึกให้ได้ยินแว่วๆ “จำร้านได้ใช่ไหม ที่บอกเมื่อวาน”

“พี่อิท ผมวุ่นวายมาตั้งแต่เช้าละนะ” ผมพยายามขอความเห็นใจ ไม่ได้โอเว่อร์ด้วยแต่มันคือเรื่องจริง “... อยากกลับบ้านไปนอ...”

“งานลูกค้าเก่าเรา โผล่หน้ามาสักนิดก็ยังดี” อีกฝ่ายตอบ “ทำตัวเป็นคนแก่ไปได้แทคเอะอะกลับบ้านนอน อุ๊ย สวัสดีค่า...”

ท้ายประโยคแน่ใจว่าไม่ได้พูดกับผมแน่ ที่จริงร้านนั้นก็อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน ถ้าแวบไปแล้วหาทางแวบออกอย่างเร็วๆ ได้...

“มาน่า รู้หรอกว่ายังไม่ได้กินข้าว เมื่อกี้ลูกค้าก็ถามถึง...”

ผมนิ่งคิด นอกจากเรื่องรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า คนเรานี่พอพูดถึงข้าวขึ้นมาแล้วต้องหิวทั้งๆ ที่ห้านาทีก่อนยังดีๆ อยู่เลย กลับบ้านไปตอนนี้ก็ต้องหาอะไรกินอีก “... โอเคๆ แต่อยู่ไม่นานนะ...”

“อะไร ไม่ห่วงพี่ห่วงเชื้อบ้าง...” ปลายสายบ่นหงุงหงิง

“ก็ไปแล้วนี่ไง” ผมว่าก่อนได้ยินเสียงจอแจดังขึ้นอีกเลยถือโอกาสวางหู

จะว่าไปผมก็รู้จักกับพี่อิทมานาน... รุ่นพี่ที่ห่างกันหลายปี แต่มาพบตอนมีขอแรงแนะแนวน้องๆ โรงเรียนเก่าถึงการเรียนต่อมหาวิทยาลัย แล้วผมก็ต้องอึ้ง เพราะพี่อิทตอนจบม. 6 ชื่ออิทธิ

... พอกลับไปอีกหนชื่ออิสสริยา

ยังไงก็ตาม งานปัจจุบันนี่ผมก็ได้มาเพราะพี่อิท ถือว่าคุณเธอเป็นหัวหน้างานผมกลายๆ ชื่อในวงการพี่อิทก็มี คืออิสซี่ เธอชอบตัวละครนี้ในเกรย์ส์ อนาโตมี่ สงสัยนึกว่าตัวเองหน้าตาเหมือนแคธรีน ไฮเกิล

ผมก็ค่อนขอดไปอย่างนั้น... พี่อิท ‘เป็น’ ผู้หญิงได้ ‘ถึง’ มากที่สุดคนหนึ่ง คนแบบพี่อิทไม่เคยทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ อยู่แล้ว

ผมเดินเข้าร้านด้วยอาการหิวซ่ก กรุงเทพฯ ตอนเย็นก็รถติดได้อีก มนุษย์เรานี่จริงๆ อย่างที่ว่านั่นแหละ อาจจะอยู่ได้ถ้าไม่มีอะไรหรือใครมากระตุ้นเตือน ทุกคนคงมีประสบการณ์ปั่นงานจนลืมหิวกันบ้าง แต่พอเพื่อนมาทักว่ากินข้าวหรือยังจึงรู้ว่าแสบไส้ขนาดไหน ก็เหมือน... อีกหลายๆ เรื่อง

ในร้านค่อนข้างสลัว ไม่เข้าใจว่าสมัยนี้ทำไมต้องแต่งให้มืดเข้าไว้ เสียงเพลงออกจะดังเกินพิกัดไปหน่อย ผมพยายามมองหาพี่อิท... จนการยื้อยุดกันตรงมุมห้องที่เห็นแวบๆ จากหางตาดึงความสนใจไปเสียก่อน

จะดูว่าพูดจาจับมือถือแขนธรรมดาก็คงได้ เพราะกลืนไปกับความวุ่นวายในร้านจนคนอื่นอาจไม่ทันสังเกต ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่อยู่กลางวงล้อมด้วยสีหน้ายุ่งยากเป็นคนที่ผมกำลังมองหาอยู่ แถมยังคุ้นเคยกันมากพอจะดูออกว่าแบบนี้คือเต็มใจหรือเปล่า

ผมถลันเข้าไป “พี่อิ...”

ยังไม่ทันจบคำก็รู้สึกว่าคอเสื้อถูกดึงไปข้างหลังอย่างแรง ตึงเสียจนปกเชิ้ตข้างหน้าที่ปลดกระดุมไว้แล้วรั้งขึ้น ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศเป่ารดช่วงผิวตรงหลังคอพาให้ขนลุก

ผมรีบคว้ากลับแล้วจึงเห็นตัวการ... ที่โผล่มาเมื่อไรไม่รู้ขมวดคิ้วมองลงมาเหมือนกัน แต่ก่อนที่ผมจะนึกอะไรทัน อีกฝ่ายก็แทรกตัวเข้าไปในวง เบียดเอามือที่จับข้อศอกพี่อิทไว้หลุดออกอย่างเนียนๆ

ผมมองคนที่หันหลังยืนกอดอกแต่มือซ้ายขยับเล็กน้อย... ราวจะบอกให้ถอยไปก่อน พี่อิทรีบคว้าแขนผมดึงออกมาโดยไม่ต้องให้เตือนซ้ำสอง ผมเหลียวไปดู เห็นหมอนั่นก็คุยกับกลุ่มนั้นต่ออย่างไม่ติดขัด ท่าทางเหมือนรู้จักกันอยู่แล้ว

“โอ๊ยแทค ฉันใจหายใจคว่ำหมด” พี่อิทลากผมมาจนถึงโต๊ะที่ว่างอยู่อีกฝั่งของร้านแล้วจึงปล่อย “คนสมัยนี้นี่ คุยกันทำความรู้จักกันดีๆ ไม่ได้ จะต้องมาเกาะแกะถึงเนื้อถึงตัวตั้งแต่คราวแรกที่เจอเลยหรือไง”   

ผมยังไม่ทันตอบพี่อิทก็ร่ายต่อ “ฉันก็ไม่ใช่พวกหวงตัวอยู่บนหิ้งอะไรหรอกนะ อายุปูนนี้แล้ว แต่เบื๊อเบื่อพวกพูดไม่รู้เรื่อง... เข้ามาดีๆ จะไม่ว่าเล้ย เมื่อกี้ถ้าไม่ได้น้องคนนั้นคงยุ่ง”

ลงอีท่านี้ผมก็ได้แต่ปล่อยให้เธอบ่นต่อไปจนกว่าจะพอใจ ที่หิวๆ เมื่อกี้หดหมด สงสัยได้อะดรีนาลินไปแทน พักใหญ่ผ่านไปพอดีพี่อิทเจอเพื่อนอีกกลุ่มเข้ามาทัก ขยิบตาให้เป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร ผมเลยว่าจะเข้าห้องน้ำนิดหนึ่ง

ออกมาก็แทบชนกับผู้มีอุปการคุณเมื่อสักครู่ของพี่อิท พอเห็นหน้ากันชัดๆ ผมถึงรู้สึกว่าคุ้น คุ้นมาก ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้น ผมจำหน้าคนแม่น... ปกติก็เป็นประโยชน์กับการงาน เลยแน่ใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอแน่ๆ

โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายยิ้มให้เกินคนที่เพิ่งเห็นหน้ากันไปโข ยิ้มเหมือน... ดีใจที่ได้พบ จนผมเองต้องถาม

“... เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า”   
   
ถึงจะดูเหมือนประโยคชวนสนทนาเกร่อๆ (แบบที่เคยแนะลูกค้าไว้เองว่าอย่าทำ) แต่ตอนนี้ผมต้องการคำตอบจริงๆ

... รอยยิ้มขยายกว้างขึ้นเล็กน้อย ตามมาด้วยการพยักหน้า แล้วผมก็นึกออก

บ้านเดิมที่หาดใหญ่... รั้วติดกัน... เพื่อนบ้านใหม่... กว่าสิบปีมาแล้ว

ตอนนั้นผมก็อยู่ชั้นประถม จำอะไรไม่ได้ชัดนัก แค่แม่ชอบทำกับข้าวไปฝากบ้านข้างๆ... ฝากน้านันคนสวยของแม่ ส่วนเจ้าเด็กลูกน้าก็ชอบลอดรั้วข้ามมาประจำไม่ว่าจะได้รับเชิญหรือไม่ รู้ตัวอีกทีมันก็กินข้าวบ้านผมแทบจะทุกเย็นเพราะน้านันยังไม่กลับ

'บ้านแทค... ดีออก มีเสียงเพลง เสียงหัวเราะ พ่อแทคเล่นกีตาร์เก่ง แม่ก็ทำกับข้าวอร่อย'

ที่จำได้แม่นคือผมหมั่นไส้เจ้าเด็กนี่อยู่ไม่น้อย เพราะพ่อแม่ผมโอ๋ตามใจมันยิ่งกว่าลูกแท้ๆ อย่างผมเสียอีก มีโอกาสแกล้งได้ก็แกล้ง แต่มันก็ยังมา ราวกับอยากอยู่บ้านผมมากกว่าบ้านตัวเอง

“... โอบ” ผมพึมพำ

วันหนึ่งพอกลับบ้าน โต๊ะอาหารเย็นก็กลับมีแค่สามคนเหมือนเก่า น้านันพาลูกย้ายไปแล้ว... ตอนนั้นผมไม่ได้ดีใจอย่างที่คิด

แต่ก็อย่างว่า สิบกว่าปีมาแล้ว พอขึ้นชั้นมัธยม และไปเข้ามหาวิทยาลัยที่อื่นในเวลาต่อมา เรื่องเด็กข้างบ้านก็ลางเลือนจากความทรงจำจนไม่ได้นึกถึงอีก ทั้งที่จริงแล้วสมัยนั้น... ผมเจอมันแทบทุกวัน

โอบพยักหน้ายิ้มๆ “นึกว่าจะจำไม่ได้”

พี่อิทกวักมือเรียกเราอยู่ไหวๆ ผมก็เดินไปหาอย่างงงๆ เอาเข้าจริงคือไม่คิดว่าจะได้เจอโอบอีก แต่ก็นั่นแหละชีวิต มักจะมีอะไรไม่คาดคิดรออยู่เสมอ

โอบเดินตามมาด้วย ระหว่างทางคนทักมันเยอะก็มีหยุดคุยบ้าง ถึงจะยังยิ้มอยู่แต่ท่าทางติดจะหน่ายยังไงบอกไม่ถูกจนผมต้องเอ่ยเมื่อลับหูพวกเขาแล้ว

“ดูทำ... ยังกับไม่ชอบงานแบบนี้”

อีกฝ่ายกลับพยักหน้าเสียอย่างนั้น “คนเยอะ หนวกหู เหม็นบุหรี่... แต่งานวันเกิดสายรหัสก็เลยต้องมา"

เพราะมันมีส่วนเปิด กึ่งๆ กลางแจ้ง คนเลยตีเนียนสูบบุหรี่ พากลิ่นเข้ามาในร้านด้วย เอาอีกละ ถ้าไม่พูดเรื่องกลิ่นบุหรี่ก็จะไม่สังเกตอยู่แล้วเชียว

เจ้าของวันเกิดคือลูกค้าเก่าผม ญาติมีหุ้นที่นี่ถึงได้ปิดโซนหนึ่งในร้านจัดงาน...

ลูกค้าเก่าผมคนนี้เป็นเภสัชกร จบมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่หน้าคนที่ผมจำแม่น โปรไฟล์ก็แม่น ช่วยตอนจับคู่ดีนักแหละ แสดงว่าโอบเรียนที่เดียวกัน

ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเรียนเก่ง บอกแล้วไงว่าที่เคยเจอกันนั้น... นานมากมาแล้ว   

"อะไรที่เขาทำกันก็ทำมาหมดเลยไม่เหลือความสนุกละ" โอบยังขยายความต่ออีก สงสัยเห็นหน้าผมแสดงถึงความไม่เชื่อถือว่าตัวเองจะเป็นคุณหนูอนามัย เหล้าไม่กินผับไม่เข้า อะไรเทือกนั้น

... เจริญ นี่แม่มันรู้หรือเปล่าว่าเรียนกรุงเทพฯ ก็เที่ยวซะขนาดทำมาหมดทุกอย่างแล้ว ผมเผลอจ้องมัน นึกถึงความเป็นไปได้ โอบหัวเราะหึๆ

"ก็จะอะไร เมาปลิ้น เต้นแร้งเต้นกา อ้วกในห้องน้ำ นี่แทคคิดไปถึงไหนแล้ว" ก่อนจะลดเสียงลงพูดเบาๆ "ทะลึ่งนะเราน่ะ"

ผมไม่ยอมแพ้ “รู้ได้ไงว่าคิดถึงอะไร แล้วมันก็ไม่เกี่ยวรึเปล่า ลืมไปแล้วเรอะว่าใครแก่กว่าใคร ห้าปีนะห้าปี”

โอบก็ยิ้มขำๆ เหมือนเดิม พอดีถึงโต๊ะ พี่อิทไม่พลาดโอกาสที่จะคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ หันมาบอกผมแค่ว่า “สั่งข้าวให้แล้วนะ”
 
ของกินอยู่ตรงหน้าผมเลยจ้วง ได้ยินเสียงโอบตอบคำถามดังมาเป็นระยะหลังจากขอบอกขอบใจกันไปเป็นที่เรียบร้อย

“กลุ่มนั้นเป็นเพื่อนของเพื่อนพี่รหัสผมเอง เคยเห็นหน้ากันอยู่บ้าง จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คงคะนองไปหน่อย”

“ไม่ได้น้องโอบช่วยเคลียร์ให้ล่ะพี่ลำบากแน่ๆ” พี่อิทว่า
           
ดีนะ ทีรุ่นน้องที่พุ่งเข้าไปตั้งแต่แรกล่ะไม่เอ่ยถึง...

“เรื่องเรียน... ถือว่าจบแล้วก็ได้ครับ ตอนนี้ช่วยงานวิจัยอาจารย์อยู่ที่คณะ รอสอบเอาใบประกอบ... ฝึกงานที่โรงพยาบาลไปด้วย”

“... อ๋อ ที่คุยกับแทค ครับเคยเจอกันมาก่อน ตอนเด็กๆ ผมอยู่หาดใหญ่ข้างบ้านกันเลย แต่แป๊บเดียวแล้วก็ย้ายไปอยู่เชียงใหม่เรียนโรงเรียนที่นั่น อำเภออื่นครับไม่ใช่เมืองหรอก...”

“เหรอ... แทคเคยเรียนเชียงใหม่เหมือนกันนะ ไม่ยักเจอกันก่อนหน้านี้” เสียงพี่อิท

“จะเจอได้ไง เชียงใหม่ไม่ใช่เล็กๆ” ผมเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นแทรก “แล้วโอบก็ลงมาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ไม่ใช่เหรอ”

ซึ่งทำให้พี่อิทถามโอบเลยไปอย่างอื่นเสีย

ก็ดีแล้ว เพราะเรื่องที่เชียงใหม่เป็นเรื่องที่ผมไม่ได้อยากจะนึกถึง

ท้องอิ่มผมก็กะหาตัวเจ้าของงานสวัสดีให้เรียบร้อย จะได้ปลีกตัวกลับบ้าน มองไปมองมาโอบก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้เลยคิดจะถามหาสายรหัสเอากับมัน พอดีโอบพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

"... สี่ปีครึ่งนะ"

"หา" ผมต่อไม่ติดแล้วว่าเป็นเรื่องอะไร

"สี่ปีครึ่ง ไม่ใช่ห้าปี"

... อ๋อ เรื่องใครแก่กว่า

“นั่นแหละ ก็ปัดๆ เศษไปป่ะ” จะเป๊ะอะไร เรื่องนี้ปัดขึ้นดีกว่าปัดลง เพราะถ้าพูดว่าแก่กว่าห้าปีย่อมมีภาษีเป็นที่น่าเชื่อถือว่าสี่ ใช่มะ

“ไม่ได้ปัดได้ทุกเรื่อง” เป็นคำตอบ “คิดดูถ้าให้ยาคน สี่จุดห้ากรัมแต่ปัดเป็นห้านี่ ซี้แหงแก๋เลย”

เยอะแยะเหลือเกินจริงๆ ผมขยับจะตอบแต่พอดีเจ้าของงานผ่านมา ท่าทางกรึ่มหน่อยๆ “โอบ... กิจ! นั่งอยู่ตรงนี้เอง โอ๊ะ คุณแทค!” หันไปทักพี่อิทอีกจนรอบวงแล้วถึงได้ลงนั่ง เสียงพี่อิทถามถึงแฟนจากการจับคู่ของผมที่ประสบความสำเร็จไปเมื่อปีก่อนแว่วๆ

“... อยู่กับเพื่อนเขาตรงโน้นแน่ะ ต้องขอบคุณจริงๆ ไม่งั้นผมก็ไม่ได้เจอคนน่ารักยังงี้หรอก”

‘น่ารัก’ อย่างที่คุณภก. อยากได้และเคยระบุ คือ... ไม่ตามไม่ถามไม่จิก... แลกกับการที่ไม่ถูกตามถามจิกเช่นกัน กว่าจะหาให้เหมาะกันได้ผมแทบตาย... แต่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องรู้ โอบก็นั่งฟังไปท่าทางเฉยๆ สายนี้คงไม่ได้ปิดอะไรกันอยู่แล้ว

“จะเปิดร้านยาเองเมื่อไหร่ บอกเฮีย!” ลุงรหัสตบไหล่สายป้าบๆ “มันมีคูหาหนึ่งเพิ่งว่าง ทำเลดี เดี๋ยวคนอื่นจะมาเช่าไปก่อน”

“ผมยังไม่ได้ใบประกอบฯ เลย” สายรหัสหัวเราะ “เฮียปล่อยเช่าไปเหอะไม่ต้องห่วง ผมกะทำงานในโรงพยาบาลก่อน”

“เพิ่งเจอ ‘จารย์โดยบังเอิญ เห็นว่าที่ไปฝึกงานเขาก็รอจะจ้างอยู่แล้ว เปิดของตัวเองคู่ไปด้วยแหละ เชื่อเฮีย!”

“ครับ ครับ” ท่าทางน้องรหัสทำตามตำรา... อย่าเถียงคนบ้าอย่าว่าคนเมา แต่อีกฝ่ายไม่หยุดแค่นั้น

“คุณอิทคุณแทคดูแลน้องผมด้วยซิ.. นี่ก็ครบหมดทุกอย่างแล้ว ขาดแต่คนรู้ใจ”

“ผมไม่รีบ” โอบท้วง ส่วนผมไม่แน่ใจว่าคนพูดกรึ่มจนลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าเฉพาะทางแผนกของเราคืออะไร เลยพยายามเตือน
 
“หมายถึงบริษัทแม่ของเราใช่ไหมครับ” ก็ฝั่งที่เขาลงเอยกันด้วยการแต่งงานได้ไง

“ไม่ๆ แผนกคุณแทคแหละ!”

คราวนี้โอบก็ไม่ค้านอะไรเสียด้วย พี่อิทยิ้มกริ่มแต่ผมยังขอกระซิบถามคนต้นเรื่องให้แน่ใจ

"นี่ขับรถคร่อมเลน?"

"โน้ว วันเวย์ โอนลี่"

ผมขมวดคิ้วมองมัน โอบก็ยิ้มนิดหนึ่ง

เป็นครั้งที่สองของคืนนี้แล้วที่ผมต้องคิดว่า แม่มันรู้หรือเปล่าเนี่ย...

“โอเค ฝากด้วย” ทิ้งท้ายไว้แล้วเจ้าของวันเกิดก็ลุก ไม่วายบอก “ค่าสมาชิกหรืออะไรไม่ต้องห่วงนะ อยากเห็นน้องมีความสุข”

“ผมไม่กวนเฮียเรื่องนั้นหรอก” น้องรหัสว่า

ลูกค้าเก่าลุกไปแล้วพี่อิทแทบจะถลาใส่ลูกค้าในอนาคตจนผมต้องขัด “ที่จริงเมื่อกี้เดินไปเหยียบเท้าเขาหรือเปล่าถึงได้เกือบมีเรื่อง”

“ฉันเดินของฉันเฉยๆ นี่แหละ มืดๆ เมาๆ เข้าหน่อย ไม่ดูให้ดี” พี่อิทบ่น

“คนสวย จะมืดไม่มืดก็ยังสวยแหละครับ เขาคงเห็น” โอบก็พูดไปยิ้มๆ เหมือนเดิม

อื้อหือ... ผมชักไม่ค่อยเชื่อแล้วว่าคารมขนาดนี้ยังต้องอาศัยความช่วยเหลืออะไร มันดูยิ่งกว่าเอาตัวรอดได้อีกนะผมว่า

“น้องโอบ... พูดงี้รักตายเลย” พี่อิทชอบอกชอบใจ “เอาจริงๆ เรื่องเป็นหรือไม่เป็นสมาชิกนี่ไว้ค่อยคิดก็ได้นะ เอานามบัตรพี่ไปก่อน”

“ไหนว่าค่อยคิดไงครับ...”

“เรื่องเป็นสมาชิกหรือเปล่าค่อยคิด แต่ตอนนี้คิดถึงเจ้าของนามบัตรไปพลางไงจ๊ะ”

โอบหัวเราะ “พี่อิทครับ ผมชมนะ คือพี่สวย... เป็นผู้หญิงเกินไปน่ะ”

“โธ่ ถ้ารู้ว่าจะได้เจอน้องโอบ พี่ยังไม่รีบสวยหรอก จริงจริ๊ง” พี่อิทว่า “ไม่อยากจะเชื่อ อย่างน้องโอบไม่มีแฟน”

“ไม่มีจริงๆ ครับ สงสัยจะไม่มีโชคทางนี้”

“น้องโอบ... เรื่องแบบนี้ไม่ได้ใช้โชคช่วยอย่างเดียวหรอก งั้นเอานามบัตรแทคไป”

เอ้ย! ผมก็นั่งอยู่ดีๆ นะเนี่ย ยังไม่รู้ว่าโอบสนใจหรือเปล่าด้วยซ้ำ เมื่อกี้เพิ่งบอกว่าไม่ได้รีบ เดตไปเรื่อยๆ เล่นๆ นี่ไม่ไหวนะ เปลืองทรัพยากรเปล่า

พี่อิทหันมาสำทับ “เอานามบัตรให้เขาไปซิ”

“พี่อิททำไมมาเดือดร้อนผมล่ะ!” ผมกระซิบ พอดีโอบมีเพื่อนมาทักอีกแล้ว มันเลยหันไปคุยด้วย พี่อิทกระซิบกลับ

“เดือดร้อนอะไรกัน เราน่ะเพิ่งปิดงานเสร็จไปสองคน ตอนนี้ฉันดูอยู่ตั้งกระบุง ครีมก็ยังใหม่มาก เคยบอกแล้วใช่เปล่าว่าต้องขวนขวายหาลูกค้าใหม่ด้วย”

ครีมเป็นพนักงานคนล่าสุดในแผนกเรา ยังเรียนรู้งานอยู่ก่อนจะออกไปดูลูกค้าได้ด้วยตัวคนเดียว ผมส่ายหัว 

“มันจะเป็นสมาชิกหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ตอนนี้ไม่ใช่ผมไม่ยุ่งนะ” 

ถึงบัญชีลูกค้าที่ผมดูอยู่ในมือตอนนี้จะน้อยกว่าพี่อิท แต่ของยากๆ น่ะตกมาทางผมหมดทั้งสิ้น แต่ละคนนี่... อย่าให้พูด

“คิดๆ ดูแล้ว...” เสียงโอบดังขึ้น “ความจริงก็น่าสนใจ”

กับคนที่ ‘สนใจแต่ยังไม่ตกลงใจ’ ยิ่งลำบาก เพราะนโยบายบริษัทคือเราต้อง... พยายามให้เขาตกลงใจด้วยการเสนอคำแนะนำเรื่องนี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อย่างน้อยก็หนึ่งครั้ง มากกว่านั้นแล้วแต่หัวหน้างานจะสั่ง

ในกรณีนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าพี่อิทไม่ลังเลจะสั่งผมแน่

“ไหนบอกไม่รีบ” ผมว่า

“ไม่รีบ... แต่เจอเร็วก็ดีกว่าเจอช้ามั้ย”

“จริงค่ะ” พี่อิททะลุกลางปล้อง ยัดเยียดนามบัตรอีกใบใส่มือคนหมายมาดจะให้เป็นลูกค้า “น้องโอบคิดถูกแล้ว”

“พี่อิท บริษัทเรานี่ตั้งใจให้คนที่กะคบใครจริงจังมาเจอกันไม่ใช่เหรอ” ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหนก็ตามเถอะ

“ก็ใครว่าจะไม่จริงจังล่ะ” คนได้นามบัตรไปว่า

“จะสอบอยู่ไม่ใช่หรือไง”

“มีคนให้กำลังใจดีจะตาย” โอบพูดก่อนก้มลงอ่าน “พันธิตร ที่ปรึกษา... บริษัทบำบัดโสด”

“พี่ล่ะอยากดูน้องโอบเอง” คนให้ทำเสียงเสียดาย “แต่ตอนนี้งานล้นมือ แทคว่างกว่า”

“พี่อิท มีนามบัตรผมได้ไง” ไม่เคยรู้สึกเหมือนถูกมัดมือชกมากเท่านี้มาก่อนเลยให้ตาย ส่วนคุณเธอตอบหน้าตาเฉย

“ฉันเป็นหัวหน้า ฉันก็มีนามบัตรของทุกคนแหละจ้ะ”

“พี่อิท!”

พี่อิทยิ้มแต่พูดโดยไม่ขยับปาก “จะเอาไหมโบนัส”

เพราะเลือดงกที่อยู่ในตัวหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ ทำให้ผมกระแทกแก้วลงกับโต๊ะ พูดโดยไม่ถนอมเสียงแล้ว “เออ! แต่ถ้าสุดท้ายแล้วยังไม่ยอมสมัครสมาชิก ก็ไม่ใช่ความผิดผมนะ”

เสียงพี่อิทบ่นผมแว่วๆ ว่าเรียนจิตวิทยามาแต่บางทีก็พูดอะไรได้ไม่มีจิตวิทยาเอาเสียเลย

ส่วนโอบเพียงแต่ยิ้มเหมือนเดิม ก่อนจะเก็บนามบัตรใส่กระเป๋า


... กว่าจะอพยพมาเรียกแท็กซี่กันได้ก็ดึกเกินความตั้งใจของผมไปโข นั่งไปส่งพี่อิทก่อนแต่โอบก็ขึ้นมาด้วย ส่งพี่อิทเสร็จมันก็ยังไม่ลง เอาเข้าจริงตอนแรกผมยังไม่ทันสังเกต นั่งง่วงๆ ไปนิดหนึ่ง จนถึงหน้าตึกที่อยู่ก็เดินด้วยสัญชาตญาณไปขึ้นลิฟต์

แล้วจึงรู้ว่าคนที่นั่งแท็กซี่คันเดียวกันมาก็ยังไม่ไปไหน

“นี่ส่งพี่อิทคนเดียวก็พอ” ผมว่า คือก็ไม่นึกหรอกว่าโอบจะอยากมาส่งอะไรผม แต่คิดไม่ออกว่าทำไมถึงยังอยู่

โอบส่งเสียงอืมในคอ เงยหน้าดูเลขบอกชั้น สาม... สี่... ห้า จนลิฟต์เปิดมันก็เดินออกมาด้วย

"แล้วจะตามมาทำไม กลับบ้านตัวเองไปซิ” ผมว่า

"ใครตามใคร" โอบทำหน้าไม่รู้เรื่อง

ผมเดินต่อจนถึงหน้าห้อง หันไปดูเลยเห็นว่า... อีกคนหันหลังล้วงอะไรยุกยิกในกระเป๋าอยู่

"... ล้อเล่นใช่มั้ย"

โอบชูกุญแจ "เพิ่งย้ายเข้า สดๆ ร้อนๆ"

ผมได้แต่ยืนมองมันไขเข้าห้องตรงข้าม เกาหัว หาว เกาหลัง สมองเพิ่งรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

... จะบังเอิญเกินไปละ

“แทค...”

ผมมองคนเรียก อันที่จริงโอบก็เปลี่ยนไปมากจากเด็กตัวเล็กหน้าตามอมแมมน้ำมูกยืด เด็กข้างบ้านของผมคนนั้น ถ้าเดินผ่านกันเฉยๆ โดยไม่ได้พิจารณาคิดว่าคงจำไม่ได้ ทั้งๆ ที่สมองคนเราถูกฝึกมาให้มองหาและจดจำ... หน้าอยู่แล้ว เป็นเหตุผลที่เรามักจะเห็นรูป ‘หน้า’ จากที่อื่นๆ ด้วยเหมือนกันเช่นก้อนเมฆบนท้องฟ้า พุ่มไม้ หรือบางทีแม้แต่วงกลมกับจุดสองจุดก็เพียงพอ

เมื่อได้เห็นหน้ากันชัดๆ แล้ว สมองส่วนหนึ่งก็จะพยายามหาว่าเคยรู้จักที่ไหน

... จากข้อมูลที่เก็บกักไว้เมื่อนานมาแล้ว

จะว่าไปตั้งแต่ตอนเด็กๆ โอบก็เรียกแต่ชื่อผมมาตลอดโดยไม่ต้องมีอะไรนำหน้า แทค... รอด้วย แทค... หิวแล้ว แทค...

... อย่าลืมนะ

“หืม”

“อย่าลืมเรื่องที่รับปากจะช่วยนะ”

โอบยิ้มก่อนจะหายเข้าไปในห้องกับประโยคสุดท้าย

“... บำบัดความโสดไง”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตื่นเต้นลงเรื่องใหม่ เรื่องนี้ชิลนะ ภูมิหลังพอประมาณ (แต่ก็มี 55) ขอฝากไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณคนอ่านทุกคนเช่นเคย รักและคิดถึงคนอ่านม้ากมาก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 18-01-2013 08:10:23
เข้ามากรี๊ดก่อน แล้วค่อยอ่านนะคะ (ปลื้มคนเขียนจากเรื่องก่อนแล้ว แต่ว่ายังอ่านไม่จบ  :laugh: เพราะเป็นคนอ่านช้า แต่มิใช่ว่าทำอะไร "อย่างอื่น" ช้านะคะ  :laugh:)

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-01-2013 08:56:04
 :mc4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 18-01-2013 09:46:10
โอ๊ยยยยยดีใจเห็นชื่อคนแต่งต้องรีบพุ่งเข้ามาด้วยความคิดถึง ^^


ตอนแรกก็สนุกแล้ว ท่าทางแทคจะได้บำบัดโสดให้ตัวเองปะเนี่ยย แอร๊ยยยย

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 18-01-2013 09:57:58
 :mc4: น่าอ่านๆ
รอตอนต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-01-2013 10:13:42
แอบหวาน เบาๆ อิอิ น่ารักจัง โอบ-แทค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: R-Chisel ที่ 18-01-2013 10:17:56
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 18-01-2013 10:22:38
"พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ" อ่านจบตอนแรกแล้วถึงกับต้องฮัมเพลงกันเลยทีเดียว
ไม่รู้พี่อิทจะดูน้องโอบออกหรือเปล่า แต่น้องโอบชอบแทคชัวร์ ชอบตั้งแต่เด็กๆ แล้วด้วยแน่ๆ  :z1:
เบอร์ก็ได้แล้ว ห้องก็อยู่ตรงข้ามกัน รอให้น้องโอบมาทำให้แทคยุ่งยากหัวใจ  :impress2:

เป็นกำลังใจให้และจะรอตอนต่อๆ ไปนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 18-01-2013 11:08:51
 :L2:ต้อนรับเรื่องน่าอ่าน เขียนชวนติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 18-01-2013 11:14:07
แค่ชื่อเดหลีก็ร้องโย่วววววว! แล้ว
ติดตามอย่างใกล้ชิด
แทคคคคคค ฮิ้ว
กดบวกปล่อยเป็ดให้โอบ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 18-01-2013 13:37:28
เรื่องนี้สนุกดี โอบจะให้พี่แทคช่วยหา หรือ ช่วยเป็น "คนรู้ใจ"ละเนี่ย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 18-01-2013 16:29:56
ดันจะกิน พนง.
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 18-01-2013 16:39:47

มัวแต่ช่วยบำบัดให้คนอื่น

คราวนี้ถึงคราวบำบัดให้ตัวเองแล้วแน่เลย

+ เป็ดจ้า

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshinesunrise ที่ 18-01-2013 19:25:44
อึ๊ยยย น่ารักอ่ะ!!! เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆ น่าติดตามจ้า ปล. บ.นี้มีอยู่จริงไหม อยากใช้บริการ 55555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 18-01-2013 20:22:55
ตามมาค่ะ เย่ๆๆ

งานเข้าแทคละนะ คิคิ เหมือนน้องโอบจะน่ารักอ่าาาา

 :z2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 19-01-2013 07:21:18
อยากถูกแทคบำบัดความโสดให้ง่าา :z1: /////  :z6: โดนโอบสกายคิก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 19-01-2013 12:33:58
ดีใจได้อ่านเรื่องใหม่ของคุณเดหลี  :man1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-01-2013 13:43:55
บังเอิญเกินไปหรือเปล่าน้องโอบ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-01-2013 13:51:15
มาบำบัดด้วยคน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 19-01-2013 15:24:17
โอบแทค น่าอ่านนนน ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 19-01-2013 15:48:43
น่าสนุกมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 19-01-2013 16:37:47
>.< น่าติดตามค่ะ เปิดมาก็ชอบแทคแล้วอ้ะ
หัวข้อ: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 24-01-2013 13:22:35
บทที่ 2

รุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ผมตื่นตามเวลาปกติเพราะชิน แต่กินข้าวเช้าเสร็จก็ไปนั่งง่วงต่อหน้าทีวี ถ้าไม่ใช่วันทำงานก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ดูหนังที่เช่ามา อ่านหนังสือ เก็บผ้าซักไปตามเรื่อง พี่อิทเคยถามเคยชวนแล้วแถมค่อนว่าผม ‘ไร้ชีวิตสังคม’ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น... แค่ขี้เกียจ ถ้าเต็มที่กับงานมาตลอดพอถึงวันหยุดผมว่าผมสมควรมีสิทธิ์เนือยและเลื้อยได้นะ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นพาให้ต้องขมวดคิ้ว เพราะไม่น่ามีเพื่อนหรือคนรู้จักคนไหนโผล่มาตอนเช้าอย่างนี้ ส่องดูแล้วจึงพบว่าก็เป็น... คนรู้จักจริงๆ แต่รู้จักนานมาแล้วน่ะ

“ว่า?”

โอบยืนยิ้มรับอรุณอยู่หน้าประตูโดยไม่สนใจว่าจะได้ยิ้มตอบกลับไปหรือไม่ “เพิ่งย้ายเข้ามาข้าวของยังไม่เรียบร้อย มีค้างอยู่ที่เก่าด้วย แต่ต้องรีบไปขนมาแล้วเพราะสัญญาหมด คนใหม่เขาจะย้ายเข้า”

ผมงงอยู่นิดหน่อยจนเริ่มระลึกได้ว่ามันบอกผมทำไม พร้อมๆ กับที่โอบพูดต่อ “แทคมีรถ เลย... จะมาขอความช่วยเหลือ”

“ขนของ...?”

“... ก็แทคมีรถ” โอบว่าอีกเหมือนเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นที่สุดในสากลจักรวาลนี้

“รู้ได้ไง”

“... พี่อิทบอก”

ผมเอารถห้าประตูคันเก่าของที่บ้านขึ้นมาใช้จากหาดใหญ่ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ขับ นอกจากเวลาต้องไปหาลูกค้าไกลๆ

ไม่รู้คุยอะไรกันไปบ้างสองคนนี้ตอนผมนั่งง่วงอยู่ในแท็กซี่เมื่อคืน หัวหน้าหนอ... ขยันหางานให้ทั้งราษฎร์และหลวง

แต่กับ ‘ราษฎร์’ คนนี้ คิดว่าอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบผมนะ

ชะรอยจะรู้สึกได้ถึงกระแสธุระไม่ใช่ที่แผ่ออกไปจากตัวผม โอบเลยเปลี่ยนมาทำเสียงอ้อนวอน

"แทค... ช่วยหน่อยน่า นะ นึกว่าเห็นแก่ลูกนกลูกกา ตาดำๆ"

ผมมองประเมินแล้วอยากจะบอกว่าอีแร้งสิไม่ว่า ตัวใหญ่ขนาดนี้เลยความเป็นลูกนกไปไกลแล้ว “เพื่อนตัวเองไม่มีหรือไง"

"ที่พอสนิทๆ กันกลับบ้าน ไม่ก็ติดธุระหมดเลย นะแทคนะ ช่วยหน่อย"

ผมถอนใจ ไอ้ 'ช่วย' ผมก็ช่วยแล้ว เกี่ยวกับการงานตัวเองด้วย คือพยายามให้มันได้เดต การชักจูงให้ตัดสินใจสมัครสมาชิกใหม่นี่ถึงกับต้องช่วยขนของย้ายเข้าหอด้วยเหรอ มากไปมั้ย

โอบทำท่าจะพูดต่อ แต่เสียงมือถือในกระเป๋าผมดังขัดเสียก่อน มองเบอร์แล้ว... ไม่รับก็ไม่ได้

“ว่าพรือโหลก...”

โทรมาเองแล้วถามทำไมนิแม่...

พอได้คำตอบเหมือนทุกทีคือสบายดีไม่ป่วยไม่ไข้ (ยัง) ไม่มีปัญหาอะไร แม่ก็เริ่มบ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง เป็นกิจวัตร บ่นได้ทุกเรื่อง พ่อไม่ยอมเติมน้ำมันรถ ดีที่มันมาหมดเอาหน้าบ้าน... สวนยางปีนี้ไม่รู้จะได้กำไรเท่าไหร่... เด็กผู้หญิงที่โรงเรียนสมัยนี้เถียงคำไม่ตกฟาก...

อยากจะไปพูดต่อในห้องเหมือนกันแต่โอบยังยืนคาประตูอยู่ ผมก็รัวกลับแม่บ้าง ภาษาถิ่น ไม่มีซับไตเติ้ล เห็นสีหน้าคนพยายามฟังให้ทันแล้วขำดี

แต่โอบถาม “คุณป้าเหรอ” แล้วมันก็เรียกเลย “คุณป้าครับโอบเอง!”

เดซิเบลขนาดนี้น่าจะได้ยินไปถึงหาดใหญ่... อย่าว่าแต่ลอดเข้าหูโทรศัพท์ ผมได้ยินเสียงแม่ถามไถ่กลับมาอย่างดีใจ กำลังคิดว่าจะยื่นโทรศัพท์ให้คุยกันเลยดีไหมคุณนายก็สั่ง

"แทคเปิดลำโพงซิ"

"โอยแม่!" ทำไมต้องมาพูดโทรศัพท์กันสามคนให้วุ่นวายอย่างนี้ด้วยก็ไม่รู้ แม่เปลี่ยนกลับมาเป็นกลางทันทีที่รู้ว่า ‘น้องโอบ’ อยู่ในสายด้วย ผมจะดึงดันแหลงต่อคนเดียวก็ไม่ได้ ของอย่างนี้ต้องทูเวย์ คอมมิวนิเคชั่น ไม่งั้นไม่หรอย

"เปิดยัง แม่ไม่ได้ยินเสียงน้องโอบ"

“เปิดแล้วๆ แม่! ก็หลังจากเมื่อกี้มันยังไม่ได้พูดอะไรเลยจะได้ยินได้ไง”

... จากนั้นแม่ก็ซักสารทุกข์สุกดิบลูกนอกไส้เป็นการใหญ่ ถ้าสำหรับผมแล้ว โอบเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้ ในสายตาแม่ โอบคงเหมือนเดิม... เพราะแม่ก็ยังน้องโอบ นั่น นี่ ทุกคำ ซึ่งเรียกเด็กเจ็ดแปดขวบเมื่อก่อนคงดูน่ารักดี

แม้ไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าคนยืนค้ำหัวผมในตอนนี้เท่าไหร่

มาสะดุดตอนแม่ว่า “นันเขาบอกน้องโอบใกล้เริ่มงาน ต้องย้ายจากหอเดิมด้วย ป้าเลยว่าไหนๆ จะย้ายแล้วมาอยู่ย่านเดียวกันก็ดี เผื่อมีอะไรได้ช่วยเหลือกันนะลูก”

แสดงว่าแม่ก็ยังติดต่อกับน้านันมาเรื่อยๆ...

แล้วแม่นี่เองชี้โพรงให้กระรอก! ได้ใกล้ขนาดชั้นเดียวกันตึกเดียวกันเลยแหละ ไม่ใช่แค่ย่านเดียวกันหรอก สมใจแม่... แล้วผมก็ต้องคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำตอบ

“ครับคุณป้า... นี่พี่แทคกำลังจะช่วยโอบย้ายของ”

ผมจ้องหน้ามัน โอบก็เลิกคิ้วคล้ายจะถามว่า ‘ไม่จริงเหรอ’ มีแต่ต่อหน้าแม่เท่านั้นแหละที่มันจะเรียกผมพี่

ผมไม่มีช่องปฎิเสธ เพราะแน่นอนว่าแม่เห็นดีเห็นงามแถมให้ผมรับปากเสียด้วย ก่อนจะร้อง

“อ้าวพ่อเข้าบ้านมาพอดี... พ่อๆ มาคุยกับแทคเร็ว น้องโอบด้วยพ่อ... ปัดโธ่ วางของก่อน! มานี่พ่อ”

ถึงเวลาโทรหาผมแม่จะบ่นพ่อคิดเป็นร้อยละเก้าสิบ แต่ความรัก เป็นร้อยละร้อย... ตั้งแต่วันแรกเจอกันในงานกีฬาเขต พ่อเป็นตัวแทนลงแข่งรักบี้แต่แม่มาจากคนละวิทยาลัย จนวันที่ต่างคนต่างจบไป พ่อเป็นครูดนตรี แม่เป็นครูคหกรรม ได้เจอกันอีก จนแต่งงาน พ่อจะตั้งชื่อเล่นลูกชายว่าแทคเกิ้ลเหมือนอย่างในรักบี้ แต่สุดท้ายก็ยอมตัดเหลือแทคเฉยๆ ตามแม่ว่าเพราะกลัวลูกถูกล้อ... จนวันที่ลูกชายคนเดียวนั้นเลยวัยเบญจเพสไปแล้ว

ผมก็คิดว่า ความรักยังเป็นร้อยละร้อยอยู่...   

“แทคพ่อถามว่าจะกลับบ้านอีกเมื่อไหร่”

“ได้ยินแล้วแม่” ทุกครั้งที่ลากพ่อมาพูดโทรศัพท์แม่ก็ทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้อีกต่อทั้งๆ ที่ไม่ต้องก็ได้ ส่วนพ่อตามใจเหมือนเคย... “แทคกลับเช็งเม้งไง เหมือนทุกปี”

แม่ไปเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่อีกพักก่อนจะว่า “พ่อบอกให้แทคไปช่วยน้องโอบเถอะเดี๋ยวจะสายมากกว่านี้ แล้วแม่ค่อยโทรมาใหม่...”

แต่กว่าจะได้วางหูจริงๆ ก็ล่อไปอีกเกือบสิบนาที ผมถอนใจเฮือก เห็นโอบมองยิ้มๆ

ผมยกไหล่นิดเหมือนบอกว่าพ่อแม่ก็อย่างนี้ ไม่แน่ใจว่าโอบจะจำได้แค่ไหนว่าพ่อแม่ผมเป็นอย่างไรจากที่เคยเจอกันเมื่อนานมาแล้ว นอกจาก ‘พ่อเล่นกีตาร์เก่ง แม่ทำกับข้าวอร่อย...’ ที่ผมนึกออกว่ามันเคยพูดตั้งแต่ตอนเด็กๆ โอบว่า

“พ่อแม่แทคดีออก รักกันดีด้วย เมื่อก่อนก็...”

แต่แล้วก็ทำท่าเหมือนลืมว่าจะพูดอะไรไปเสียอย่างนั้น


โอบลงจากรถแล้วผลุบหายเข้าไปในตึกหอเดิม จากในรถพอมองเห็นว่าพูดจาอยู่กับลุงที่คงเป็นคนเฝ้าอยู่นิดหนึ่งก็วิ่งกลับมา

“แทคลงมาช่วยกันหน่อยดิ๊!”

ขับรถขนของให้ยังไม่พอ ต้องมาใช้แรงงานอีก... เช้าวันหยุดที่ผมควรจะได้นอนเขลงอ่านหนังสือ งีบ ไม่ก็เรื่อยเปื่อยดูหนัง...

“แทครับปากแม่ไว้แล้วว่าจะช่วย ห้ามผิดคำพูดนะ”

“เออๆ” ผมจำต้องเดินตามเข้าไปในตึก โอบรับกุญแจจากลุงมาไขห้องเก็บของก่อนจะบอกผมว่าขนลงมาแล้วเมื่อสองสามวันก่อน ก็เหลือแต่ยกไปขึ้นรถเท่านั้น ส่วนกล่องข้างนอกอีกนิดหน่อยเพื่อนเพิ่งเอามาฝากลุงไว้เมื่อเช้า ก่อนรีบบึ่งไปธุระต่างจังหวัด

ผมคว้าลังขึ้นมา โอบก็ว่า “แทคยกอันนี้ดีกว่า อันนั้นหนังสือล้วนๆ เลย หนัก...”

“ไม่เป็นไร” ถึงมันจะหนักจริงผมก็ยกไหวล่ะน่ะ

“เถอะน่า เท่านี้ก็ใช้แรงงานคนแก่...” โอบเว้นนานอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะต่อ “... กว่า จะแย่แล้ว”

... มันน่าช่วยไหมเนี่ย!

ผมออกมายกของข้างนอกที่มีกล่องผ้าคลุมไว้เทินอยู่บนสุด แต่พอยก ลังที่ซ้อนกันอยู่ก็เหลื่อมจนเอียงวูบ

"แทคระวังดาวเรือง!"

โอบยังไวพอจะละมือมาจับเอาไว้ได้ทันท่วงที จึงไม่ถึงกับตกลงพื้นไป เลิกผ้าคลุมขึ้นดูแล้วก็ว่า

"หนูเรือง... เป็นไงมั่ง"

เอาจริงๆ ผมจะรู้ได้ไงว่าไอ้โอบมีสัตว์เลี้ยงรวมอยู่ในขบวนสัมภาระของมันด้วย พอเห็นถนัดตาก็ยังนึกไม่ออกจนต้องถาม

"ตัวอะไรหน้าตาพิลึก"

"แทคก็... เดี๋ยวเขาเสียใจ หนูเรืองเขาเป็นแฮมสเตอร์ยักษ์"

ผมไม่รู้ว่าเจ้าพวกนี้หนักได้เท่าไหร่ หรือว่าตัวโตได้แค่ไหน แต่ที่อยู่ในกรงนี่คู่ควรกับคำว่า 'ยักษ์' ทุกประการ

"อ้วนขนาดนี้เดินยังไง" ผมอยากรู้จริงๆ

"แทค!" โอบทำท่าประหนึ่งว่าผมทำร้ายความรู้สึกสัตว์โลกผู้น่ารักเข้าให้แล้ว ผมอดขำไม่ได้

"น่าเอ็นดูไปนะ หนูเรือง"

"ก็เขาเป็นหนูรึเปล่าล่ะ"

ผมคร้านจะเถียง กรง ‘หนูเรือง’ นี่รวมอยู่กับของข้างนอก ก็แสดงว่าเพิ่งถูกเอามาฝากลุงเมื่อเช้า

“หนูเพื่อน?”

“อืม หอพักเพื่อนเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ก็เลยเอามาเลี้ยงให้แทนก่อน” 

“... เพื่อน?”

“ก็เพื่อนสิ” โอบยกลังสุดท้ายใส่หลังรถแล้วปิดประตู ยังถือกรงหนูไว้ในมือ “ถ้าไม่ใช่เพื่อน จะอยากใช้ บอ-ริ-กาน บริษัทแทคทำไมเล่า”

เออเนอะ...

ขึ้นรถแล้วโอบก็เอากรงไว้บนตัก เอี้ยวตัวพยายามจะรัดเข็มขัด ผมช่วยสงเคราะห์ให้เลยเพิ่งจะเห็นชัดว่าตรงท้องแขนโอบมีรอยค่อนข้างยาว... เหมือนแผลเป็น แต่น่าจะเป็นแผลเก่า

“นี่ไปโดนอะไรมาเนี่ย”

ผมก็ไม่สังเกตมาก่อน ตอนเจอกันในร้านมืด ในแท็กซี่ก็มืด โอบใส่เสื้อแขนยาวแต่ตอนนี้ถลกแขนเสื้อขึ้นเมื่อยกของ หรือเพราะก่อนหน้านี้... ผมไม่เคยมีโอกาสดูดีๆ ก็เป็นได้

โอบมองตามสายตาผมก่อนจะดึงแขนเสื้อลง แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ยิ้มให้แล้วว่า "ไม่เป็นไรหรอก..."

รถข้างหลังที่มาจ่ออยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้บีบแตรสนั่น ผมเลยต้องรีบออกรถ ส่วนโอบก็นั่งปลอบใจแฮมสเตอร์ยักษ์พุงหลามไปกับการขับรถกระชาก (อย่างไม่ตั้งใจ) ของผม

... พอดีไม่เคยขับรถให้หนูนั่งน่ะนะ...


ขนของไปกองอยู่ในห้องโอบเสร็จผมก็หันหลังเดินกลับมาห้องตัวเอง กระพือเสื้อให้ลมเข้าไปพลาง อยากอาบน้ำอีกสักรอบ... รอให้เหงื่อแห้งหน่อยดีกว่า

แต่โอบเดินตามมาด้วย ผมหันไปจะปิดประตูมันก็ว่า

“... หิวเนอะ...”

เอาจริงๆ นอกจากภายนอกแล้ว... ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่ สีหน้าท่าทาง คำพูดคำจา

ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็แค่ลากมันไปปล่อยทิ้งไว้กับแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีกับข้าวแม่แล้วนี่สิ

“... แทคไม่หิวเหรอ”

มนุษย์เรา... อย่างที่บอก พอมีคนเตือนก็หิวขึ้นมาเลยแหละ

“ขี้เกียจออกไปอีก” ผมว่า ข้างนอกฟ้ามืดเดี๋ยวฝนคงได้ตกแน่

“... ขี้เกียจเหมือนกัน”

แล้วไงต่อล่ะ...

“เพิ่งย้ายเข้าของกินอะไรก็ยังไม่ได้ซื้อ ครัว... ง่อยมาก ตู้เย็นงี้ เล็กกว่ากรงหนูเรืองอีก”

ผมถอนใจ “เอ้า ไม่อร่อยห้ามว่า” ไหนๆ ผมก็ต้องทำกินเองอยู่แล้วน่ะ

ของในครัวผม (ที่เล็กเหมือนกัน แต่น่าจะดีกว่าของโอบหน่อยหนึ่ง) ก็ไม่ค่อยจะมี ถือว่าตามมีตามเกิดมากมื้อนี้ โอบตามมาเหมือนจะช่วย แต่ทำให้ลำบากขึ้นมากกว่า พื้นที่ก็น้อยอยู่แล้ว พอผมถามว่าไม่ถนัดแล้วจะช่วยทำไม มันดันตอบ

“... ก็มีมารยาท”

ผมจึงให้มันไปนั่งมีมารยาทรอที่โต๊ะ จากของที่มีก็ได้ไข่เจียวกับผัดผักโง่ๆ เนี่ยแหละ มีอะไรก็ใส่ไป ความจริงคนทำเก่งคือแม่อย่างที่เด็กนี่ก็รู้ ของผมแค่พอรับได้... แต่โอบก็ตั้งหน้าตั้งตากินท่าทางอร่อยจนผมต้องตักให้เพิ่ม

จากเมื่อวานที่มันคุยกับพี่อิท ผมรู้ว่าพอย้ายไปแล้วโอบเรียนอยู่เชียงใหม่จนมาต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ แต่จริงๆ ก็ไม่เคยรู้ว่าทำไมตอนนั้นถึงย้ายกะทันหัน ว่าไป โอบเองอาจจะไม่รู้ก็ได้ เด็กเจ็ดขวบกว่าในตอนนั้น... พอโตขึ้นบ้าง ปรับตัวเข้ากับที่ใหม่ ได้เพื่อนใหม่ คุ้นเคยกับบ้านใหม่ คงไม่คิดจะถามหรืออยากรู้อีกแล้วด้วยซ้ำ

ยิ่งเด็ก ยิ่งปรับตัวได้เร็ว ผมเรียนจิตวิทยา อาจารย์บอกอย่างนั้น...

ผมก็ว่าอย่างนั้น...

โอบหัวเราะนิดๆ เมื่อผมบอกสิ่งที่คิด "ก็ว่าไป... ตอนนั้นร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์ๆ เลย"

เสร็จก็ยิ้มเหมือนพูดเล่น ต่อด้วย “แต่ว่าขอบคุณมาก วันนี้”

ผมเงยหน้าขึ้นมอง โอบก็ยิ้มกว้าง

“ขอบคุณทั้งเรื่องที่ช่วยย้ายของ แล้วก็เรื่องข้าว อร่อยมาก มาก!”

ผมแน่ใจว่าโอบเกินจริง ตั้งแต่เรื่องร้องไห้เป็นอาทิตย์นั่นแล้ว เรื่องผมทำกับข้าวอร่อยมากนี่ยิ่งห่างไกลความจริงออกไปนอกจักรวาล

แต่คำชมใครได้ยินก็ดีใจใช่ไหมล่ะ...

... ชักจะเข้าใจอารมณ์แม่ขึ้นมาตงิดๆ ว่าทำไมชอบทำกับข้าวให้คนกินนัก... 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณ Wordslinger ขอบคุณนะคะ เม้นแรกเลย อ่านช้าไม่เป็นไรแค่อ่านก็ดีใจแล้วค่ะ แอบเห็นนิยายคนอ่านอยู่เหมือนกันแต่คนเขียนแค่เขียนก็กินเวลาโขแล้วค่ะเลยยังไม่ได้ไปอ่านเลยยย

คุณ MiSS-U ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า

คุณ Millet คิดถึงเหมียนกันค่ะ อิอิ เรื่องนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ

คุณ irksome ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ขอบคุณที่แวะไปอ่านเรื่องก่อนด้วยน้า

คุณ seaz ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่ะ ฝากตอนต่อไปด้วยน้า

คุณ R-Chisel ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า

คุณ PK37 55 พรหมลิขิตจริงๆ ด้วย เรื่องสองคนนี้ก็ไม่รู้ยังไงต่อ 55 ต้องขอฝากเชียร์ด้วยค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจค่า

คุณ moredee ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ puppyluv ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ขอบคุณสำหรับเป็ดของโอบ 55

คุณ sukie_moo ขอบคุณค่า ต้องรอดูกันต่อปายยย

คุณ ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ตอนนี้กินข้าวไปก่อน ฮา

คุณ AGALIGO ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า ฝากตอนต่อไปด้วยนะคะว่าจะใครจะได้บำบัดใคร 55 ขอบคุณสำหรับเป็ดค่า

คุณ sunshinesunrise ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า ฝากติดตามต่อด้วยน้า บริษัทหาคู่มีค่ะ แต่แผนกเฉพาะอย่างของแทคนี่ไม่รู้มีป่าว 555

คุณ milkteabeige ยินดีต้อนรับอีกครั้งค่า คนเขียนก็รู้สึกว่าน้องโอบน่ารักค่ะ อิอิ

คุณ PapermintReal 555 ได้เลยๆ โอบไม่หวง กร๊าก

คุณ Aoya ยินดีที่เข้ามาอ่านเหมือนกันค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ malula บังเอิญเพราะแม่บอกแล้วว่าแทคอยู่ตรงไหน 555

คุณ iforgive ขอบคุณมากที่อ่านนะคะ มาบำบัดไปด้วยกัน

คุณ bozang ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า ฝากอ่านและลุ้นต่อด้วยน้า

คุณ boobooboo ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ saruwatari_guy ขอบคุณที่ชอบค่า ฝากติดตามต่อด้วยน้า

เอาล่ะ จริงๆ ต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องหลัง แต่อาจจะเป็นคนละเรื่อง (เดียวกัน) ฮา ขอบคุณคนอ่านทุกๆ ท่านมากเลยค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 24-01-2013 14:21:31
น้องโอบได้ทีอ้อนใหญ่เลยนะ ตอนนี้ก็มาอยู่ใกล้ๆ กับพี่แทคแล้ว
ถ้าน้องโอบแอบเล็งพี่แทคไว้ก็พยายามเยอะๆ ก่อนที่จะมีใครเข้ามาเป็นคู่แข่งนะ เริ่มก่อน?ได้เปรียบ หึหึ
หวังว่าหนูเรืองจะไม่ใช่หนูของแฟนเก่าหรืออะไรที่มากกว่าเพื่อนนะ
แผลเป็นที่แทคเห็นเดาเอาว่าน่าจะได้มาตอนที่อยู่กับแทคที่หาดใหญ่แน่เลย
น้องโอบสู้ๆ คนเขียนสู้ๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-01-2013 14:42:58
ท่าทางโอบจะทำตัวเป็นแขกขาประจำห้องแทคแล้วสิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 24-01-2013 15:20:11

บุพเพสันนิวาส

คู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกันหรอกค่ะ

ว่าแต่ท่าทางจะมีอดีตอันเจ็บปวดอยู่นะคะน่ะ

+ เป็ดค่า

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 24-01-2013 15:34:36
ให้กำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 24-01-2013 16:01:38
ชอบน้องโอบ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-01-2013 16:21:58
น่ารักเกินไปแล้วหนูเรือง? 555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 24-01-2013 16:51:50
ชอบน้องเรือง  :m3: :m1:

5555
เป็นกำลังใจให้คนเขียนละจ๊ะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 24-01-2013 17:19:25
อ่านได้ 2 ตอน ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของตัวละคร และความน่ารักของคนเขียน

งั้นผมขอฝากตัวเป็นแฟนเรื่องนี้ด้วยคนนะครับ  :-[

อ่อ แอบกลัวเรื่องไม่ควรจำที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่จัง :n1: :confuse:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 24-01-2013 19:26:19
โอบน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกก
เล่นหนูยักษ์ด้วย555555555555
ติดตามนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 24-01-2013 21:04:53
ยังเดาทางเรื่องไม่ค่อยออกเลยค่ะ แต่น้องโอบดูน่ารักมากๆๆๆๆ
พี่แทคนี่ดูเนือยๆ กับชีวิตจัง เอ้าาาา พี่แทค! ร่าเริงหน่อยยยย  :z2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 24-01-2013 21:10:44
โหยยยย~~~~ อ่านมาสองตอน อยากบอกว่า 'ชอบหนูเรือง' :impress2:
จะรอหนูเรืองต่อไป
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 24-01-2013 21:31:33
ชอบหนูเรืองอ่ะ   :m1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: CheetahYG ที่ 24-01-2013 22:40:29
น่ารักอ้ะ  o18
กรี้ดดดดดด หนูเรือง เป็นคนชอบไม่สิคลั่งหนูแฮมเตอมาก ไปเดินตลาดเจอทีไรต้องไปเล่นทุกรอบ แอร๊ย :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 24-01-2013 23:27:26
ฮาแม่โทรมา กร๊ากกกก

เริ่มเห็นเค้าลางความสนุกของตอนต่อไปปป
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 26-01-2013 20:58:03
พรหมลิขิต? สวรรค์บันดาล? หรือบุพเพสันนิวาสที่ชักนำเรามาเจอกัน(อีกครั้ง)?
ชอบหนูเรือง หนูแฮมสเตอร์น่ารัก :-[
คนอ่านคนนี้แพ้ภาษาใต้อย่างแรง :z3: (ทั้งๆที่ป้าสะใภ้เป็นคนใต้ เอากับเขาสิ)
ถ้าเป็นภาษาเหนือหรืออิสานจะสู้ตายเลย
สุดท้ายคนอ่านตาดำๆขอฝากตัวด้วยครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 26-01-2013 21:18:24
แอร๊ยยยยยยยยยย น่ารักดีค่า จะให้คนช่วยบำบัดคนนี้บำบัดแบบไหนล่ะจ๊ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 27-01-2013 11:22:33
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนโอบหาทางจีบแทคแบบเนียนๆน่ะ
ต้องเป็นแผนย้ายมาอยู่ใกล้ๆแน่เลย :-[
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 27-01-2013 19:23:34
โดดเข้ามาทันทีที่เห็นชื่อผู้แต่ง กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดให้กับเรื่องใหม่นะคะ

แค่สองตอนแรกก็น่าติดตามมากๆ แล้ว อยากรู้จังเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับแทคที่เชียงใหม่ และรอยแผลเป็นของโอบอีก

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 27-01-2013 22:54:45
น้องโอบน่ารักนะ คิดจะเล่นพี่ใช่ป่ะ คุณแม่ก็เป็นใจให้ย้ายมาอยู่ที่เดียวกัน
พ่อกับแม่แทครักกันน่ารักมากเลยเนอะ ท่าทางพี่แทคจะต้องดูแลน้องโอบไปอีกนาน
ดูจะหน้ามึนนะเด็กคนนี้

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 28-01-2013 16:35:31
พอรู้ว่าคนแต่งเป็นเดหลีเท่านั้น รีบจิ้มเข้ามาเลย 55555

น้องโอบน่ารักจัง เข้ามาแบบเนียนๆ
หัวข้อ: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 30-01-2013 09:55:29
บทที่ 3

ผมจอดรถใต้ตึกก่อนเดินเข้าออฟฟิศ วันนี้เอารถมาเพราะตอนบ่ายต้องออกไปหาลูกค้าแถวชานเมือง ซึ่งปกติก็จะเป็นจุดประสงค์เดียว แต่เมื่อเช้าดันต้องแวะไปอีกที่ก่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ พูดให้เจาะจงคือไปคณะเภสัชศาสตร์ เพราะอดีตเด็กข้างบ้านที่ตอนนี้กลายเป็นเด็กห้องตรงข้ามวิ่งพรวดพราดมาเกาะกระจก พอเปิดให้แทนที่จะอธิบายถึงต้นสายปลายเหตุประโยคแรกกลับเป็น

‘... ทีหลังอย่าเปิดให้คนง่ายแบบนี้ล่ะ’

มันใช่เรื่องมั้ย ถามจริงเหอะ

โอบว่าก่อนถึงที่ทำงานผมต้องผ่านมหาวิทยาลัยด้วย แต่ตัวเองไปจากหอนี้ครั้งแรก ไม่ชินเลยกะเวลาพลาดไปหน่อย

ตึกที่เราอยู่ไม่ได้ใกล้ปากซอย พ้นปากซอยต้องเดินไปสักพักกว่าจะถึงป้ายรถเมล์ รถไฟฟ้าอยู่ไกลออกไปอีก พอลงแล้วต้องเดินต่อเพื่อให้ถึงคณะ (กรณีนี้คงได้วิ่ง) จากตรงนี้เป็นทางตรง ตอนเช้ารถไม่ติดมาก... ทั้งหมดนี่มันไม่ได้พูด พูดแค่กะเวลาพลาดนั่นแหละแต่ผมรู้

อดหมั่นไส้คนนั่งกระพือเสื้อให้ลมแอร์เข้าอย่างสบายใจไม่ได้ เหมือนทุกอย่างจะพอดีลงตัวไปเสียหมด

โอบเห็นสายตาผมเข้าก็เสริมคล้ายอธิบายเพิ่ม

‘สายอาจารย์ตัดเงินผู้ช่วยนี่ตาย... ตั้งต้นก็ไม่ได้เยอะอยู่แล้ว จริงๆ’

ไม่รู้ว่าเพราะเห็นใจที่ทำงานหาเงินเหมือนๆ กัน หรือเมื่อกี้หน้าตาคนวิ่งกระหืดกระหอบมาทำท่าจะตายจริงอย่างปากว่า  ผมก็หลวมตัวไปส่งแล้ว และการที่ถนนโล่งจนถึงคณะโอบแต่ติดสนั่นหวั่นไหวตั้งแต่เลี้ยวออกมาจนเข้าบริษัทคืออะไร

... สัญญาณให้ผมต่อรถเมล์มาขึ้นรถไฟฟ้าในเช้าวันอื่นแทนมั้ง

เข้ามาก็เห็นครีมคุยอยู่กับพี่อิทอย่างออกรสจนผมต้องทัก “พี่อิทอารมณ์ดีนะ...”

ครีมบุ้ยใบ้ “เมื่อเช้าผู้ชายลุกให้นั่งบนรถไฟฟ้า”

พี่อิทตัดสินใจขายรถเพราะจะดาวน์คอนโดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว สำหรับคุณเธอแล้ว ‘ไม่มีรถยังมีขนส่งมวลชนให้ใช้ แต่ไม่มีที่ซุกหัวนอนนี่ไม่รู้จะไปอาศัยอยู่กับมวลชนที่ไหนนะคะ!’ เป็นสาเหตุให้การออกไปหาลูกค้าไกลๆ เป็นหน้าที่ผมเพียงผู้เดียว เพราะครีมเพิ่งเริ่มงาน ยังไม่มีรถเหมือนกัน

แต่ส่วนใหญ่ลูกค้ามักจะนัดแถวนี้ เราก็แบ่งกันไปดู จะขึ้นมาออฟฟิศเลยก็ยินดี

“ต่อเลยเจ๊” ครีมว่า ยื่นถุงปาท่องโก๋มาทางผมแบบไม่ให้เสียจังหวะ

“... พี่ก็ขอบคุณเขาไปค่ะ... แล้วก็...”

“... ตื่น” ผมต่อให้ พี่อิทค้อนตาคว่ำ

“เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงย่ะ ฉันไม่เคยหลับในรถไฟฟ้า เสียลุค... พอดีผู้หญิงท้องขึ้นมาฉันก็ให้เขานั่งแทน”

“ส่วนผู้ชายบอกว่า...” ครีมคอยเป็นลูกคู่

“... เรายืนคุยกันอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ... วิ้ว...”

ผมส่ายหน้า มือซ้ายถือปาท่องโก๋มือขวาเปิดแฟ้ม ครีมก็ตั้งอกตั้งใจฟังอย่างกับจะเอาไปใช้ในงานได้ 

“คุยกันไปได้อีกสองป้ายพี่ต้องลงแล้ว เขาก็ลงตามมา” พี่อิทเล่าต่อ “แต่ไม่ยัก... ไปที่ทางออก เขาขึ้นบันได...”

“ไปไหนล่ะเจ๊...”

“ข้ามไปอีกชานชาลาค่ะ! ก่อนแยกกันเขาบอก... คุยกับคุณจนลืมป้ายเลยนะครับ...”

ครีมหัวเราะ “แหมมันได้ใจ! ทำไมเจ๊ไม่ขอเบอร์เขาเนี่ย”

“เจอกันครั้งแรกถือเป็นเรื่องบังเอิญ ครั้งที่สองถึงจะเป็นพรหมลิขิตนะคะน้องครีม...”

“เจ๊เยอะอะ...”

“เราเป็นฝ่ายหญิง คิดเยอะดีกว่าคิดน้อยค่า” พี่อิทก็ตลกไปเสีย แต่จริงๆ ผมรู้ว่าพี่อิทระวัง เรื่องแบบนี้ใจเร็วด่วนได้ก็อาจจะได้จริง
 
แต่ได้อะไรมาไม่รู้เหมือนกัน

ได้ยินเธอเปลี่ยนเรื่อง "ลูกค้าที่มาปรึกษาน้องครีมเมื่อวันก่อนนี่ถึงไหนแล้วคะ"

ครีมหน้าบูด "ไม่ถึงไหนเลยเจ๊ เขาขอเวลากลับไปตัดสินใจว่าจะเป็นสมาชิกดีไหม"

"น้องครีมต้องฮาร์ดเซลหน่อยสิคะ ตอนแรกทุกคนก็ไม่มั่นใจกันทั้งนั้น น้องครีมต้องให้เขารู้ว่าเราพร้อมช่วยเขา บางคนไม่ได้เดตจริงจังมานานแล้ว เหล่กันในยิมไม่นับ..." พี่อิทร่าย

“ปิ๊งปั๊งกันในรถไฟฟ้าวูบเดียวก็ไม่นับ...” ผมว่า

“... กำลังจะบอกว่าในผับแต่ก็นั่นแหละ น้องครีมต้องเสริมสร้างความมั่นใจให้เขานิดนึง อย่าไปเอาอย่างแทคนะ เอาอย่างพี่ แทคมันพวกรักต้องโหด เราใจดีสวยๆ นางฟ้าเข้าไว้ค่ะหนู"

พี่อิทก็เกินจริงอีกละ ผมออกจะสุภาพกับลูกค้า แต่แต่ละคนที่พี่อิทส่งมามีความเอาใจยากเฉพาะตัวอยู่ไม่มากก็น้อยทั้งนั้น (ส่วนใหญ่ค่อนไปทางมาก) ที่จริงตอนแรกครีมมาสมัครเป็นที่ปรึกษาของฝั่งโน้น ทำไปทำมาจับพลัดจับผลูถูกส่งมาทางนี้เพราะทางโน้นพนักงานเยอะแล้ว ตอนนั้นส่วนของเราเพิ่งเริ่มต้น ครีมก็ไม่ว่าอะไร ดูสนุกสนานดีที่ได้มาอยู่แผนกเรา

... แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าจำนวนคนทำงานอาจจะอยู่แค่เท่านี้ไปอีกพักใหญ่ ดูจากอัตราการเพิ่มขึ้นของลูกค้าที่ต่างจากอีกฝั่งอย่างฟ้ากับเหว ยิ่งออฟฟิศตั้งเยื้องกันอยู่แค่ฟากตรงข้ามทางเดิน ผนังเป็นกระจกใสยิ่งเห็นความคึกคักของฝั่งนั้นและความ... เงียบสงบ ของทางเรา
   
และพี่อิทก็ไล่เบี้ยกับผมอย่างไม่รอช้า

“แทคน้องโอบเขาว่าไงเรื่องสมาชิก”

“เพิ่งผ่านไปวันสองวันพี่อิทจะเร่งทำไมเนี่ย ขอเวลาหน่อย” นับจากตกลงกันไว้อย่างหลวมๆ ที่ร้านเมื่อวันนั้นผมก็ยังไม่ได้คุย หรือ ‘ขายงาน’ อะไรเป็นจริงเป็นจังกับโอบ รู้สึกประหลาดนิดๆ ทั้งๆ ที่ภาพเด็กข้างบ้านที่คอยแต่จะตามผมต้อยๆ ควรจะเลือนไปแล้ว ความจริงก็ไม่ได้นึกถึงมานาน แต่พอเจอกันถึงรู้ว่าไม่ได้นึกถึง... ไม่ได้แปลว่าลืม

เสียงพี่อิทบอกครีมถึงลูกค้าที่เล็งเอาไว้ซึ่งพอดีเคยรู้จักกับผมแล้วเอารูปจากโทรศัพท์ให้ดู ซึ่งเรื่องแบบนี้ไวมาก ถ่ายรูปแนบหน้ากันไปแล้วเมื่อวันศุกร์นั่นแหละ

“ใช้ได้ๆ นี่หน้าตาหล่อเลยนะเนี่ย” ครีมว่า

“น้องครีมเพ่งหน้าจอมือถือพี่จะซีดแล้วค่า”

“เจ๊... นี่ไม่ได้อะไรนะเพราะเขาไม่มาทางครีมอยู่แล้ว แต่เจ๊ถ่ายมามืด”

“ในร้านกึ่งผับขนาดนี้น้องครีมจะให้พี่เอาสปอตไลต์มาจากไหนล่ะคะ คนหล่อ จะมืดไม่มืดก็ยังหล่ออยู่ดีแหละค่ะ”

“ไม่คิดเองเลยนะพี่อิท” ผมขัด นี่พี่อิทลอกโอบคืนนั้นมาเป๊ะ

“อะไรเล่า น้องโอบเขาไม่ได้จดลิขสิทธิ์ แหม... เสียดายเขาไม่ชอบสวยๆ อย่างฉัน”

พี่อิทชมตัวเองเต็มปากเต็มคำมาก คือก็สวยนั่นแหละแต่ของแบบนี้ต้องให้คนอื่นพูดหรือเปล่า

“น้องโอบน่าร้าก...” พี่อิทยังว่า ก่อนทำท่าตัดใจ “... แต่ถ้าถึงขนาดต้องกลับไปเป็นชายเพื่อให้น้องโอบชอบนี่ดิฉันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะคะ"

"เสียดายผู้ชายแต่เสียดายค่าทำอึ๋มมากกว่าสิเจ๊"

"น้องครีม! พูดจาไม่เป็นกุลสตรี" พี่อิทกรี๊ด ส่วนครีมหัวเราะแทบตกเก้าอี้

เป้าหมายต่อไปของการไล่เบี้ยจึงตกเป็นครีมแทน “ว่าไป... น้องครีมอัพทวิตยังคะวันนี้”

“ทำแล้วเจ๊ เอาจริงๆ ครีมชักหมดมุขละ อีกฟากเขาเพิ่งอัพ ในที่สุดคู่ที่เราเฝ้าลุ้นก็ถึงประตูวิวาห์ไปอีกคู่! ทางบริษัทยินดีและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง... อะไรเทือกนั้น แต่ฝั่งเรามันไม่มีไง แล้วตอนนี้ก็ยังไม่มีใครลงเอยกันเลยด้วย ครีมอัพคำคมจนจะเกลี้ยงละ แล้วก็ออกแนวให้กำลังใจไป เหมือนเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่เรียนปรัชญามายังไงบอกไม่ถูก” ครีมพูดยืดยาว

ผมยิ้มขำกับคำเปรียบเปรยของครีม แต่ก็จริง... ถ้าฝั่งโน้นมีการแต่งงานเป็นจุดหมายปลายทาง แล้วจุดหมายปลายทางของฝั่งเรา คืออะไรดี...

ครีมหันหน้าจอให้พี่อิทดู “สถานะทวิตเตอร์โดนๆ วันนี้ขอเสนอ รักเป็นกริยา แต่อกหัก... เป็นกรรม... ฝั่งเรารับแก้กรรมค่า”

“ไม่มีรักก็ไม่มีกรรม จบ...” ผมว่าทั้งๆ ยังก้มอยู่กับแฟ้ม

“ต๊าย สาบานได้ว่านี่คือความคิดของคนที่ทำบริษัทจัดหาคู่”

ครีมหัวเราะ ว่าใหม่ “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์...”

“มืดมนมากค่ะน้องครีม พี่บอกแล้วอย่าไปเอาอย่างแทค อัพอะไรให้ลูกค้าเรามีความหวังหน่อยสิคะ”

“ยังไม่จบเจ๊ ที่ใดมีรับ ที่นั่นมีรุ...”

“น้องครีมอย่าเขียนลงไปนะคะ!”

“โธ่เจ๊ เหล่าพวกพ้องเจ๊เนี่ยอัพอะไรแรว้ง... กว่านี้หลายเท่า”

“แล้วเขาใช่กลุ่มเป้าหมายลูกค้าเราไหมละคะ เขาก็ไปแซ่บกันโดยไม่ต้องพึ่งเราแล้วสิ”

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมปล่อยสองคนรบกันต่อเรื่องสถานะทวิตเตอร์ก่อนกรอกเสียงลงไป

“บริษัทบำบัดโสด พ...”

ยังไม่ทันพูดจบปลายสายก็ตอบกลับมาก่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรง “คุณแทคเหรอ...”

มือผมจับหน้าผากโดยอัตโนมัติ ถ้ามีลูกค้า ท็อปฮิตติดชาร์ตของความยาก ผมให้เสี่ยน็อตเป็นอันดับสอง นิวเอ็นทรี่ เพิ่งมาใหม่แต่แรงแซงโค้งทุกคน

“ครับ เสี่ยเป็นไงครับ...”

“คุณแทค... ผมจะตายแหล่ว...”

เสี่ยน็อตชอบพูดเป็นรหัส ให้ผมตะล่อมเอาเองว่ามันมาจากเรื่องอะไร เพราะอะไร บางทีกว่าจะรู้เรื่องแทบกลับลำแก้ไขกันไม่ทันแล้ว ผมตั้งสติค่อยๆ เริ่มตั้งแต่ต้น

“คู่เดตเสี่ยพอเสร็จวันนั้นเขาไปต่างประเทศนี่ครับ บอกว่ากลับมาแล้วจะโทร ผ่านไปสามวันเองครับ... เสี่ยยังบอกผมอยู่เลยว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“ผมล่ะช้อบชอบเขา แต่รู้สึกเขาจะไม่ชอบผม” ปลายสายครวญ

ผมย้อนกลับไปจุดที่คิดว่าเข้าใจร่วมกัน “เสี่ยบอกว่าโอเคดีตอนผมโทรหาหลังเดตเสร็จ ไปกินข้าวแล้วเดินเล่น... มันมีอะไรเปลี่ยนไปครับ”

“แลกเฟซบุ๊คกันแล้วผมแท็กเขาในรูป เขาอันแท็ก...” เสียงเสี่ยน็อตตอนนี้เหมือนโลกจะแตก “เย็นนั้นเลย แต่ผมเพิ่งรู้ แล้วเขาคงขึ้นเครื่องมั้ง ผมอุตส่าห์ขอให้คนอื่นถ่ายให้ดีๆ เพราะสวนตรงนั้นวิวสวย ยืนคู่กันธรรมดาผมยังไม่ได้ไปแตะอะไรเขาเลย ทำไมเขาอันแท็ก...”

ผมย่นหัวคิ้ว คู่เดตของเสี่ยที่จัดให้ไม่ได้มีปัญหาต้องปิดบังเรื่องนี้ สกรีนแล้วก็โสด ไม่อยากให้แฟนหึงหวงคงไม่ใช่ แปลว่าเขาไม่อยากให้ใครเห็นเขากับเสี่ยน็อตหรือ จริงๆ เสี่ยน็อตก็หน้าตาโอเค ลงพุงบ้างนิดหน่อยตามประสาคนอยู่ดีกินดี ตอนเห็นรูปถ่ายก็ไม่มีปัญหา

ผมเกือบถอนใจเมื่อเสี่ยพูดต่อ “ผมตั้งใจมาก ดิ่งจากโรงงานนะ ผมก็ไปรับเขาเลย...”

เสี่ยน็อตเพิ่งจะเปิดเผยเรื่องนี้ตอนอายุสามสิบห้า แน่นอนว่าไม่ค่อยได้เจอใคร ประสบการณ์การเดตยิ่งน้อย อะไรที่ไม่น่าพลาดเสี่ยจะทำให้ดู เหมือนที่ผมกำลังได้คำตอบอยู่ตอนนี้

“นี่เสี่ยไปจากโรงงานโดยไม่เปลี่ยนเสื้อเหรอครับ...”

เสี่ยน็อตเป็นเจ้าของโรงงานน้ำปลา ผมเคยต้องไปหาถึงที่มาแล้ว ชุดตรวจโรงงานของเสี่ยภายใต้บู๊ต หมวก และเสื้อคลุม คือเสื้อยืดตราน้ำปลายี่ห้อตัวเอง กับกางเกงสามส่วน

เอาจริงๆ เดี๋ยวนี้คนแต่งตัวไปเดินห้างกินข้าวนอกบ้านกันตามสบายกว่านี้ก็ยังมี แต่มันใช่ชุดไปเดตแรกไหมเล่า!

“เสี่ย... ผมจำไม่ได้ว่าแนะนำให้เสี่ยเจอเขาทั้งอย่างนั้นนะ”

"... คุณแทคบอกให้ผมเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดแล้วจะดีเองไง!" ปลายสายโหยหวนกลับมา

เคล็ดลับการเดต 101 ที่ผมพร่ำใส่หัวเสี่ยน็อต เข้าตำรา... Be yourself and come as you are… แสดงตัวตนที่แท้จริง มาอย่างที่เป็น ซึ่งเสี่ยยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

... แต่บางทีเสี่ยก็เถรตรงไปนะ

"เสี่ยครับ" ผมอยากเอาหัวโขกโต๊ะจริงๆ "ผมบอกเสี่ยเหมือนกันว่าเดตแรกคืออะไรครับ... สร้างความประทับใจครั้งแรก คนเราบางทีตัดสินกันชั่วเสี้ยววินาที แล้วมันจะติดอยู่ในใจเขาอีกนาน... ไม่ยุติธรรมหรอกแต่โลกมนุษย์ก็เป็นแบบนี้ เสี่ยอยากให้เขากลับบ้านไปนึกถึงเสี่ยว่าเป็นคนขี้เกียจกระทั่งแต่งตัวใหม่เพื่อมาเจอเขา หรืออยากเป็นคนที่ดูมีความพยายามกันล่ะครับ”

“... น้องเขาราศีสิงห์แต่ผมเป็นมังกรมันไม่เข้ากันหรือเปล่าคุณแทค”

“เดี๋ยวๆ เสี่ยอย่าเพิ่งไปถึงตรงนั้น” บางทีเสี่ยเหมือนฟังทุกคำแต่บางทีก็เหมือนไม่ฟังเลย อย่างตอนนี้เป็นต้น หน้าที่ผมคือเหมือนสารถีหักเลี้ยวกลับมาเข้าเรื่อง “ผมไม่ได้บอกให้เสี่ยใส่สูทผูกไทอะไรนะ แค่แต่งให้มันดูดีดูพิเศษกว่าทุกวันที่เสี่ยแต่งไปโรงงานแค่นั้นเอง มันแสดงให้เห็นถึงความพยายาม...”

เสียงผมสะดุดนิดแต่อีกฝ่ายคงไม่ทันสังเกต “... จะสร้างความสัมพันธ์ก็ต้องอาศัยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่ายถ้าอยากให้ยืนยาว...”

ครีมมาสะกิดเรียกเบาๆ “พี่แทค คุณศรัณย์สายสอง รออยู่พักแล้ว”

“เสี่ย เสี่ย!” ผมตะโกนแทรกปลายสายที่ยังครวญต่อไป “เอาเป็นว่าขอผมติดต่อคู่เดตเสี่ยให้ได้ก่อน แล้วจะรีบโทรกลับนะครับ ตอนนี้ทำใจสบายๆ ถ้าเผื่อได้เดตครั้งที่สอง...”

ผมชะงักไปนิดก่อนพูดใหม่ จริงๆ เราก็ควรคิดในทางดีไว้ก่อน ‘ถ้าเผื่อ’ มันดูเป็นลางไปนะ เหมือนจะไม่ได้

“พอนัดครั้งที่สองได้แล้ว เสี่ยถ่ายรูปก่อนแต่งตัวออกไปส่งมาให้ผมดูก่อนละกัน โอเคนะครับ ครับ...”

ผมถอนใจเฮือกแล้วรวบรวมลมปราณก่อนกดรับอีกสาย ลูกค้าฮิตติดชาร์ตความยาก อันดับหนึ่ง อยู่ในชาร์ตมาแล้ว เจ็ดสิบสองสัปดาห์...

ในบริษัทอื่นการถือบัญชีลูกค้าไว้ได้ยาวนานอาจจะแสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจหรืออะไรก็ตาม แต่ของเราคือความไร้ประสิทธิภาพที่หาคนเหมาะสมให้ไม่ได้สักที ผมก็ไม่โทษลูกค้าเพราะเขาย่อมมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด แต่ก็นะ... จะเปลี่ยนให้พี่อิทดูแทนก็ไม่ยอม

“สวัสดีครับคุณศรัณย์ เป็นยังไงบ้างเมื่อคืน” ความจริงตอนสายวันนี้ผมควรจะโทรติดตามผลกับคุณศรัณย์ก่อนนั่นแหละ แต่มัวติดสายอยู่กับเสี่ยน็อต

และคุณศรัณย์... เป็นขั้วตรงข้ามของเสี่ยน็อต

“ก็ดีนะคุณแทค...”

ผมห้ามตัวเองไม่ให้พูดต่อว่า ‘ก็ดี แต่...’ คุณศรัณย์มักจะเริ่มแบบนี้ทุกที ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะไม่มีปัญหาอะไรอย่างอื่นตามมา

“งั้นผมนัดเดตครั้งที่สองให้นะครับ?” ผมได้ข้อความจากคู่เดตคุณศรัณย์ตั้งแต่เช้า ดูจะโอเคมาก ถ้าฝั่งนี้ไม่มีปัญหาด้วยคุณศรัณย์จะได้ข้ามพ้นเดตแรกอาถรรพ์ไปเสียที

“ไว้ก่อนเถอะคุณแทค”

นั่นไง มันมาแล้ว “คุณศรัณย์บอกว่าเดตแรกดีไงครับ”

“ก็ดี... แต่ผมรู้สึกว่ายังไม่ใช่”

“ผมทราบว่าคุณศรัณย์คาดหวังสูง แต่ผมว่าลอง...”

“ผมไม่ได้คาดหวังสูงอะไรเลยคุณแทค แค่คุยกันรู้เรื่อง”

“เอ่อ... มันมีหลายแบบนะครับคุยกันรู้เรื่องเนี่ย” ผมพูดซื้อเวลาไปก่อน ค้นที่จดไว้จากข้อความคู่เดตคุณศรัณย์ก็ไม่เห็นได้อะไรเพิ่มขึ้นมา ดูประทับใจปกติ ซึ่งไม่แปลก เพราะคุณศรัณย์หน้าตาดี พูดจาฉลาด ฐานะก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ จนพี่อิทฟันธงว่า ‘ฉันให้งานเธอง่ายมากนะแทค รับรองเธอปิดบัญชีคุณศรัณย์ได้ภายในไม่เกินสามเดือน’ แล้วเป็นไง ถึงตอนนี้พี่อิทก็ไม่พูดเรื่องนี้อีกเลย ปล่อยคุณศรัณย์ผู้เพียบพร้อมติดท็อปชาร์ตของผมมาปีกว่าแล้ว 

คู่เดตของคุณศรัณย์คนนี้ผมก็คัดจะตาย โปรไฟล์เทียบเทียมกันได้ทุกอย่าง จบโทเมืองนอก การงานมั่นคงดี พูดจาฉะฉานแบบคนสมัยใหม่ที่มั่นใจ ผมจำได้ว่าคุณศรัณย์เคยบอกชอบคนท้าทาย คงไม่ใช่ว่าเพิ่งมาเปลี่ยนใจหรอกนะ

“ผมรู้สึกว่าเขาอยากจะให้คนอื่นเห็นมากกว่าทำความรู้จักกับตัวผม ตอนแรกผมว่าจะไปร้านที่บรรยากาศส่วนตัวหน่อยจะได้ใช้เวลาคุยกัน แต่เขาอยากไปที่ที่มันดัง ทุกคนไปกัน ผมก็ตามใจ พอไปถึงโทรเรียกเพื่อนมา อีกเดี๋ยวถ่ายรูปลงเฟซบุ๊คกับอินสตาแกรม ข้าวยังไม่ได้กินเลย”

ผมเคาะปากกา พูดไม่ออกไปชั่วครู่ ทำงานแบบนี้ต้องฟังความสองฝ่าย แล้วก็... ประนีประนอม “คุณศรัณย์ได้บอกเขาหรือยังครับ ลองให้โอกาสกันดูอีกทีดีไหม เผื่อจะ...”

“ผมบอกแล้ว เตือนแล้ว ทั้งตรงทั้งอ้อม เบ็ดเสร็จสี่หน”

ผมอึ้ง ก็คงไม่ได้รู้เรื่องจริงๆ นั่นละ

“... นี่ภายในเวลายังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะ ผมเลยเลิกพูด”

คนนี้คงเหมาะกับคนอื่นที่ไม่ใช่คุณศรัณย์ ปกติผมไม่เคยจับพลาดไปไกลขนาดนี้ แค่บางทีบางคู่ต้องลองจากเดตแรกแล้วดูต่อ บางทีนิสัยตรงกันข้ามกลายเป็นว่าดึงดูดกัน แต่บางทีก็... เป็นอย่างนี้แหละ

“ขอโทษด้วยครับคุณศรัณย์ เอาเป็นว่าครั้งหน้า...”

คุณศรัณย์หัวเราะ “ไม่ต้องขอโทษหรอก ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยนะ แค่หาคนคุยกันรู้เรื่อง...”

“... ครับ”

“ที่ผ่านมาเนี่ย ผมรู้สึกว่าคุยกับคุณแทครู้เรื่องสุดเลยนะ...”

ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่คุณศรัณย์พูดแบบนี้ จนกลายเป็นเรื่องทีเล่นทีจริงขำขันกันไปแล้ว ผมก็หัวเราะกลับ “ผมไม่เดตลูกค้า...”

“... ถ้าไม่ใช่ลูกค้าจะเดตหรือเปล่า...”

“ที่ออกไปนี่ก็เรื่องงานหมดแหละครับ... ความจริงผมไม่เดต”
 
“เปลี่ยนใจเมื่อไหร่อย่าลืมบอกผมนะ”

“คงนาน... ตอนนี้ผมสนใจเรื่องหาคนไปเดตใหม่ให้คุณศรัณย์ดีกว่า”

วางหูแล้วผมก็นั่งคิดอะไรอีกพัก คุณศรัณย์พูดเล่นแบบนี้เป็นปกติ ซึ่งต้องมีคนดีๆ ที่พร้อมจะรักเขาและเข้ากับเขาได้อยู่แล้ว เป็นหน้าที่ผมต้องหาต่อไป

เล่าให้ครีมฟังคร่าวๆ เพราะครีมกำลังเรียนรู้งาน แล้วเราก็ไม่ได้จะไปขยายต่อนอกออฟฟิศอะไร ครีมถามว่า

“คุณศรัณย์เขาก็ไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ปิดไม่ได้หมายความว่าเขาชอบให้ใครอวดเขาไปทั่วเหมือนเป็นของโชว์น่ะ”

“เอาจริงๆ ป่ะพี่แทค ถ้าครีมเป็นแล้วได้ควงอย่างคุณศรัณย์นี่ครีมก็อยากอวดเหมือนกันนะ”

“ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว จะอวดใครเขาก็ไม่ว่าหรอก” ผมบอกน้อง “อย่าเพิ่งรีบ”

พอดีเมสเซนเจอร์มาครีมเลยออกไปรับ พี่อิทเดินมาพูดกับผม “แต่เธอต้องรีบคุยกับน้องโอบนะจ๊ะ”

ผมถอนใจ “ได้ ได้ ทุกคนก็อยากมีความรักกันทั้งนั้น...”

ปกติพี่อิทจะเล่นมุกอะไรขำๆ กลับมา แต่คราวนี้ยืนมองผมอยู่ท่าทางครุ่นคิด

“แทค ฉันว่า...”

ผมรออยู่ว่าพี่อิทจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูดต่อ เลยว่า

“พี่อิทไม่ต้องห่วงน่า... ถึงผมจะพูดเล่นกับครีมก็ไม่ได้แปลว่าผมติดลบมากมายอะไรกับความรั... เรื่องพรรค์นี้ ไม่งั้นทำงานนี่ไม่ได้หรอก”

“เออเธอเชื่อ เชื่อของคนอื่น... อย่างน้อยก็มีพ่อแม่ให้เห็นเป็นตัวอย่าง แต่ไม่เชื่อว่า..."

แล้วพี่อิทก็ไม่พูดต่ออยู่ดี กลับบอก “อย่าลืมคุยกับน้องโอบละกัน”

ผมก็รับปากพี่อิท ตอนขับรถกลับบ้านหลังจากออกไปหาลูกค้าก็ยังคิดเรื่องนี้อยู่ ความจริงกลุ่มลูกค้าเราไม่ค่อยมีวัยยี่สิบต้นๆอย่างโอบ ซึ่งน่าจะอยากออกไปหาเองมากกว่ามาพึ่งคนกลาง ก็... ไม่รู้คิดอะไรอยู่เหมือนกัน


ถึงบ้านได้ไม่นานคนได้ติดรถผมไปเมื่อเช้าก็โทรมา พูดรวดเดียวท่าทางรีบ

“พอดีต้องสอนพิเศษแทนพี่อีกคนด่วนแทคช่วยอะไรหน่อย”

อยากให้แม่รู้มากว่าจากความคิดแม่ในการบอกโอบย้ายมาอยู่ใกล้ๆ นี่ผมต้องเป็นธุระให้มันกี่เรื่องละ เพราะโอบช่างมีความสามารถในการทำให้ธุระตัวเองกลายเป็นธุระผม จริงๆ ควรมีโควต้าไหม อาทิตย์ละไม่เกินสามครั้งอะไรอย่างนี้

แล้วผู้ช่วยวิจัยก็เป็น โรงพยาบาลก็ไป สอนพิเศษก็ทำ อ่านหนังสือก็ต้องอ่านเพราะจะสอบ มันมีเวลามาสนใจเรื่องหาฟงหาแฟนอีกได้ไง

“แทคให้อาหารหนูเรืองหน่อยนะ กุญแจฝากไว้ที่ป้าข้างล่าง บอกชื่อแทคไว้แล้ว”

“กินช้าไปชั่วโมงสองชั่วโมงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” ผมก็ไม่เคยมีหนูของตัวเอง แต่มันไม่น่าจะเป็นไรนา

“แทค... หนูเรืองเขาจะหิ-ว”

แล้วสุดท้ายผมก็ต้องลงมาเอากุญแจที่ป้า ไปไขห้องโอบหยิบพวกเมล็ดธัญพืชมาใส่ชามอาหารหนูตามเจ้าของชั่วคราวมันบอก ดาวเรืองนี่กินอาหารตรงเวลากว่าผมอีกสรุปแล้ว

ห้องโอบเรียบร้อยกว่าที่คิด ไม่ค่อยมีของวุ่นวายเวิ่นเว้อเท่าไหร่ รกสุดคือที่โต๊ะหนังสือ มีหนังสือสมุดเปิดค้างไว้กับกรอบรูป... มีอยู่อันเดียว ในนั้นเป็นรูปที่ผมจำได้ว่าคือน้านัน แม่ของโอบถ่ายคู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็น

ผมเคยเจอพ่อของโอบอยู่ไม่กี่ครั้งที่หาดใหญ่ตอนเราเป็นเพื่อนบ้านกัน จริงๆ ก็อย่าเรียกว่าเจอเลย เรียกว่ามองดูไกลๆ ดีกว่า แต่คิดว่าเป็นคนละคนกับคนนี้

คงพบกันหลังย้ายไป... เพราะพอน้านันไม่อยู่ ผมก็ไม่เคยเห็นพ่อของโอบอีกเหมือนกัน

ผมเดินกลับมาที่กรงดาวเรือง ไม่ได้อยากจะละลาบละล้วงอะไรชีวิตส่วนตัวโอบ... ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องของผม

แฮมสเตอร์ยักษ์พาอาหารไปกินนอกชาม ผมลงนั่งแล้วว่า

“ขอบคุณยัง... ขอบคุณก่อน”

แล้วก็ขำตัวเอง ผมก็ไม่คาดหวังว่าหนูจะยกมือไหว้หรือพูดตอบจริงๆ หรอก ทำไปได้

ตาดำเหมือนเม็ดกวยจี๊มองตอบกลับมา ก่อนหนูเรืองจะปีนขึ้นกงล้อแล้วเริ่มวิ่ง

ผมหัวเราะ หรือนี่เป็นวิธีแสดงความขอบคุณของหนู ชักเข้าใจโอบ... อ่านหนังสือเครียดๆ หันมาเจออะไรแบบนี้เข้าคงบันเทิงไปได้ชั่วคราว กงล้อหมุนจี๋ด้วยหนูยักษ์ที่ตั้งหน้าตั้งตาปั่นอย่างจะคัดตัวทีมชาติ

“วิ่งขนาดนี้ยังอ้วนอีก” ผมว่าแต่ใจเริ่มลอยไปไกล

เจ้าหนูจะรู้ไหมว่า ต่อให้วิ่งเร็วแค่ไหน ก็วนกลับมาที่เก่า...

นั่งมองต่ออีกหน่อย พอมันเดินช้าลง ผมก็ยกตัวเจ้าหนูออกจากวงล้อจักรนั้นเสีย


สามทุ่มกว่าผมจะได้ยินเสียงเคาะประตู รู้ตั้งแต่ยังไม่เปิดว่าเป็นใคร โอบจะมีวิธีเคาะของตัวเองคือสามหนหยุดนิดหนึ่งแล้วเคาะอีกหน วันที่มาขอให้ไปช่วยย้ายของก็เคาะแบบนี้

มันเดินมานั่งแปะที่โต๊ะกินข้าวหน้าตาเหนื่อยๆ ผมก็เห็นใจรินน้ำไปวางให้ โอบยิ้มขอบคุณ กินน้ำพลางมองกุญแจที่ผมยื่นคืน

“ทีหลังอย่าฝากกุญแจให้คนง่ายแบบนี้ล่ะ”

โอบหัวเราะ พอหัวเราะแล้วก็ดูจะเหนื่อยน้อยลง “กับแทคไม่เป็นไร โอบไม่มีความลับ”

เรื่องที่พี่อิทให้คุยผมก็เห็นมันยุ่งตลอด ความจริงเลยคือผมไม่ได้อยากให้โอบเจียดเงินมาทางนี้ถ้ายังไม่พร้อม คิดว่าพี่อิทคงเข้าใจตรงกันเพราะไม่ใช่จะหน้าเลือดขนาดนั้น ถามมันไปเนียนๆ โอบว่า

“เปล่า... ไม่ได้ลำบาก คราวนี้เขาขอให้ช่วยเป็นพิเศษ คงหนเดียวแหละ นอกนั้นก็สอนตามปกติ” 

“จะสอบแล้วไม่พักงานไว้หน่อยเหรอ”

“ยังเหลือเวลาอยู่นะ... สอนก็สนุกดี”

โอบคงแบ่งเวลาเก่งอย่างที่ผมไม่สามารถ เพราะถ้าใกล้สอบนี่ผมจะไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ แต่ชีวิตมหาวิทยาลัยสำหรับผมผ่านไปนานแล้ว... พอเอ่ยเรื่องที่เป็นเหตุให้โอบมีนามบัตรผมจนโทรมาโน่นนี่นั่นอย่างทุกวันนี้ว่าต้องคุยกันสักทีโอบก็บอก

“เอาสิ... แต่พักนี้ต้องอยู่ช่วยเวรถึงค่ำๆ งานวิจัยอาจารย์ก็เร่งทำเพราะจะมีสัมมนา วันเสาร์เลยได้มั้ย สอนพิเศษเสร็จแล้วเจอกัน”
 
“ที่ไหนดี” ผมก็อยากให้ใกล้ที่โอบสอนแหละนะ เห็นเหนื่อย

“โอบไงก็ได้ ขอบคุณนะแทคที่ช่วยเรื่องหนูเรือง”

พอพูดเรื่องหนูนั่นผมนึกขึ้นมาได้เลยถามต่อ “แล้วนี่กินไรมายัง”

“กินที่เรียนพิเศษแล้ว...”

ผมพยักหน้า เก็บแก้วจะไปล้าง เสียงลอยตามลมมา

“... ถามอย่างนี้จะทำให้กินอีก?”

“ฝันละฝัน!”

ได้คืบเอาศอกตลอด...
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 30-01-2013 09:58:45
คุณ PK37 ขอบคุณสำหรับการอ่านมากค่า ทุกอย่างต้องขอฝากให้ติดตามต่อไป น้องโอบก็พยายามอยู่ ไปเรื่อยๆ 55 ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

คุณ malula บทนี้ก็มาอีกแล้ว มาห้องบ่อยจริงอะไรจริง

คุณ AGALIGO อยากเชื่ออย่างนั้น ชอบ คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน อดีตก็มีบ้างค่ะพอเป็นกระสาย ขอบคุณมากสำหรับเป็ดค่ะ

คุณ mr_longza ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจค่ะ

คุณ 2pmui ชอบไปนานๆ นะ 55

คุณ iamnan หนูเรืองยังน่ารักต่อไป ฮา

คุณ cher7343 หนูเรืองมานิดเดียวได้แฟนไปโขเลย ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจค่ะ

คุณ NewYearzz มาเลยค่ะ คนเขียนก็ขอฝากตัวด้วยเหมือนกันค่ะ ฝากติดตามด้วยน้า

คุณ quiicheh. ขอบคุณมากสำหรับการติดตามค่ะ ตอนนี้ก็มีหนูเรืองน้า อิอิ

คุณ milkteabeige เรื่องนี้ก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะเรื่อยๆ มีปมนิดหน่อย ปมตัวละคร กร๊าก ขอบคุณที่ชอบน้องโอบ ส่วนพี่แทคก็ นะ 55 ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ PapermintReal หนูเรืองแย่งซีน ตอนนี้ก็มีหนูเรือง ฮา

คุณ yuyie หนูเรืองมีแฟนคลับเป็นของตัวเองแน่ๆ คราวนี้ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ CheetahYG หนูเรืองนี่เป็นตัวเรียกแขกจริงๆ เลย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า

คุณ Millet มีแม่โทรมาอีกชัวร์ เดี๋ยวก่อน 55 ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ meomeo2 หมดนั่นเลยมั้ย ขอบคุณที่ชอบหนูเรืองค่ะ ภาษาใต้ไม่มากค่ะนิดหน่อยพร้อมซับไตเติ้ลทุกครั้ง 55 คนเขียนก็ขอฝากตัวกับคนอ่านด้วยเหมือนกันค่ะ

คุณ yamapong ขอบคุณค่า เราก็บำบัดกันและกันไป หุหุ

คุณ Takarajung_TK เนียน เนียนเกิน ฮา ก็ไม่รู้ยังไง ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ

คุณ pim_onelove 55 ขอบคุณมากค่า ดีใจเหมือนกันได้เจอกันอีก ฝากอ่านต่อด้วยน้า มันก็จะค่อยๆ ไปค่ะแต่สองเรื่องนั้นมีความสำคัญแน่นอน

คุณ ่patsaporn แม่คงไม่ได้คิดอะไร ฮา ส่วนคนจะคิดก็ห้ามเขาไม่ได้ ชีวิตพัวพันกันจริงๆ ขอบคุณเหมือนกันค่ะ

คุณ lazat.mchub ขอบคุณที่เชื่อยี่ห้อกันค่ะ จะพยายามค่ะ 55 ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้ตามแทคไปทำงาน จะเห็นว่างานแทคไม่ง่าย ฮา โอบมาน้อย แต่มีหนูเรือง แย่งซีนตลอดตัวนี้ ตอนหน้าจะเจอโอบมากกว่านี้แต่แทคคงคิดว่าไปทำงานอยู่ดี

ขอบคุณคนอ่านทุกๆ ท่านมากเลยค่า
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 30-01-2013 10:34:27
สนุกดี ดูเรื่อยๆสบายๆ

ไม่มีการรีบร้อน

แต่ลูกค้านี่จีบแทคอยู่ใช่ป่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 30-01-2013 11:00:21
งานแบบแทคนี่ก็เครียดเนอะ กว่าจะช่วยให้แต่ละคู่ได้พบเจอกันและเดินคู่กันไปได้ด้วยดีนี่มันยากจริงๆ
คุณศรัณย์เนี่ยดูอะไรๆ กับแทคนะ เหมือนที่คุณศรัณย์พูดว่า คุยกับแทครู้เรื่องสุดละ แล้วเราว่าคุณศรัณย์ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับคู่เดตตัวเองด้วยแน่เลย และคงเพราะว่ายังไม่เจอใครที่ตัวเอง(น่าจะ)ถูกใจเท่าแทคแน่เลย ถึงทำให้กลายเป็นอันดับหนึ่งในชาร์ตเนี่ย
ส่วนน้องโอบเนี่ย ยังสงสัยเกี่ยวกับเจ้าของหนูเรืองอยู่เลยนะเนี่ย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใครที่จะจีบแทคคงจะต้องใช้เวลานานมากแน่ๆ เลย เพราะแทคไม่เปิดใจด้วยนะ

สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วจะรออ่านตอนหน้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 30-01-2013 11:57:30
คุณศรัณย์ยื้อเวลาเพื่อคุยกับแทครึเปล่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-01-2013 14:21:57
คุณศรัณย์อะไรนั่นคงหมายปองแทคมากกว่า  เพราะงั้นไม่ว่าใครก็มีข้อตำหนิไปหมดนั่นแหละ
แต่แทคไม่อยากจะรู้ตัว  เพราะมีปณิธานว่าไม่เดทกับลูกค้า  โธ่  น่าเสียดายจัง  หุ หุ หุ
ว่าแต่น้องโอบนี่มาเนียน ๆ เลยเนาะ  เข้าทางแม่  ใช้หนูเป็นสื่อ  สารพัด  แหม ๆ ๆ ๆ แต่คนอ่านรู้นะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 30-01-2013 14:48:07
คุณลูกค้าเบอร์1 สงสัยจะติดใจแทคเสียแล้ว น้องโอบต้องรีบแล้ว เดี๋ยวโดนตัดหน้านะ  :ped149:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 30-01-2013 15:11:32
โอบเีนียนใช้พี่แทคตลอดนะ โน่นนั่นนี่ ในที่สุดก็กลายเป็นความเคยชินของสองคน
งานหาคู่ดูจะยากเนอะ ลูกค้าแต่ละคนก็แตกต่าง แทคมีลูกค้ามาจีบด้วย อิอิ
เรื่องพี่อิทกับผู้ชายบนรถไฟฟ้าน่ารักดี

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 30-01-2013 16:04:43

ขยันขนาดนี้

จะเก็บตังค์ไปสู่ขอพี่ข้างบ้านหรือเปล่าเนี่ย

+ เป็ดจ้า

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-01-2013 16:59:37
ถ้าธุระของโอบแล้วให้แทคทำแทนเยอะแยะขนาดนี้ขอรับเงินเดือนผู้จัดการส่วนตัวเลยดีไหม
น่าจัดให้คุณศรัณย์เจอกับเสี่ยน็อต ช่างเลือกนักก็เอาแบบต่างกันสุดขั้วไปเลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-01-2013 18:05:58
โอบเนียนใช้แทคตลอดๆ  :really2:
ซักพักเดี๋ยวก็ชิน ถ้าไม่ได้ทำก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่าง :o8:
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 30-01-2013 20:06:08
แอร๊ยยยยยยยยยยยยย ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะเรื่อยๆ แต่เราอ่านแล้วไม่น่าเบื่อเลยนะคะ ชอบมากอ่ะ แบบค่อยเป็นค่อยไป

แต่ตอนนี้มีเรื่องสงสัยว่าบริษัทนี้จัดหาคู่แบบไหนเนี่ย ชาย-หญิง หรือ ชาย-ชาย หรือว่าได้หมดอ่ะคะ 55555+
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: CheetahYG ที่ 30-01-2013 22:04:42
เเย่เเล้วๆ โอบมีคู่เเข่งซะเเล้ว :really2: :really2:
PS คิดถึงหนูเรืองงง คิดถึงคนเเต่งด้วยเหมือนกันนะ อย่าน้อยใจไป :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 30-01-2013 22:43:09
สนุก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 31-01-2013 00:27:23
บอกตามตรงว่ากลัวปมในอดีตของแทค คงไม่น่ากลัวทรมานมากหรอกเนอะ :undecided:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 31-01-2013 00:42:45
เนื้อเรื่องสนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 31-01-2013 07:07:39
คุณศรันย์นี่หยอดแทคตลอดเลยนะ

โอบก็เนียนได้อีกกกกก ชอบหนูเรืองอะ หนูอ้วนๆ นึกภาพตามเลย เคยเลี้ยงเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 01-02-2013 02:10:43
หนูเรืองแย่งซีนทุกคน 555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 01-02-2013 03:03:23
โอบนี่มาเนียนมากๆเลยนะ อย่าพึ่งหลวมตัวสมัครสมาชิกล่ะ เพราะแทคไม่เดทลูกค้า
แอบสงสัยนิดๆว่าจริงๆแล้วแทคชอบผู้ชายรึเปล่า หรือชอบผู้หญิง
ชอบหนูเรืองอ่า ฟังดูน่ารัก อิอิ

รออ่านต่ออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 01-02-2013 08:01:58
แทคเนื้อหอมมากจริงๆ
เหมือนจะโดนจีบกลายๆ ไม่ให้ไก่ตื่นหลายคนนะนี่
ฮาเสี่ย
เฮียไปทั้งชุดน้ำปลางั้นเลยเหรอ
เป็นแทคได้ขำท้องแข็งไปแล้ว กร๊าซซซซ
ได้ฟีลดีมาก ยกนิ้วให้เสี่ย^^
แต่ขอนอกใจกดบวกปล่อยเป็ดให้หนูเรือง
555 ชอบตอนวิ่งคัดทีมชาติเอาใจเจ้านายแบบตั้งใจสุดๆ นี่ล่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 01-02-2013 16:56:21
เรื่องน่ารักมากฮะ
ไม่รู้บริษัทฯแบบนี้มีจริงหรือเปล่าอ่ะ สงสัยจัง
แทคดูน่ารักดีนะฮะ แบบกดๆอ่ะ อธิบายไม่ถูก
สงสารคู่เดตเสี่ยเหมือนกันแต่ก็โอ เพราะเพิ่งครั้งแรกยังไม่ผูกพัน 5555+
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 03-02-2013 11:33:46
 - อดีตที่เชียงใหม่ ท่าทางจะสร้างปมใหญ่ให้แทคจริงๆ
 - คุณศรันย์ คิดไงกับแทคหรือเปล่ายังต้องติดตามกันต่อไป
 - ถึงจะออกมาแค่นิดเดียว แต่แอบเอาใจช่วยเสี่ยโรงงานน้ำปลา 5555

 - หนูเรืองน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 3] 30 ม.ค. 56 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-02-2013 20:18:41
เข้ามาตามอ่านด้วยคน
แทคต้องมีอดีตที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับความรักแหงมๆ ลุ้นๆ><
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 06-02-2013 13:05:26
บทที่ 4

“ลูก...”

เช้าวันเสาร์ ผมอยู่ในมินิมาร์ทข้างล่างตอนที่แม่โทรมา คราวนี้พูดเบากว่าเคย ตอนแรกนึกว่าเพราะรอบๆ ข้างเสียงดังกว่าอยู่ในห้องแต่ไม่ใช่

“... แม่ไปโรงพยาบาลมาวันนี้”

ผมรีบถามด้วยความเป็นห่วง “แม่เป็นไรเปล่า”

“แค่เจ็บคอ เสียงแหบ หมอเขาว่าเริ่มจะเป็นหวัด” โอเค แม่ดีอย่าง คือไม่ต้องบังคับกันปากเปียกปากแฉะให้ไปหาหมอถ้าเป็นอะไร บางทีเธอไปของเธอเองพ่อยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ผมเลยไม่ต้องห่วงมาก ประเด็นคือแม่กลัวต้องขาดสอน แต่ผมคิดว่าจริงๆ อาจจะกลัวไม่มีเสียงพูด ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแม่

“พักมากๆ แม่ จะได้ดีขึ้น” นึกว่าจะวางไปนอนต่อ แต่แม่บอก

"แทคเรียกน้องโอบให้แม่ที"

แม่รู้ว่าโอบอยู่ตึกเดียวกับผมจากตอนโทรมาครั้งที่แล้วก่อนจะวางหูไป สะดวกแม่ล่ะ...

“แม่ แทคอยู่ข้างล่าง”
 
“เดี๋ยวแม่รอ เล่าไปพลางซิลูกเป็นไงบ้างอาทิตย์นี้”

เอ๊า... สรุปผมเป็นแค่ทางผ่านไปซะอย่างนั้น

“เหมือนเดิมแหละแม่ แม่จะคุยกับโอบก็โทรหาโอบสิ”
 
“ไม่อยากวางหูแล้วโทรใหม่... จะถามน้องโอบเรื่องยาหน่อย”

"ร้านประจำที่แม่ซื้อด้วยตรงตลาดเขาไม่อยู่แล้วเหรอ" แม่ไปโรงพยาบาลหาหมอก็จริงแต่ชอบขอให้หมอจดชื่อยามาซื้อข้างนอก เธอได้ส่วนลด ซื้อกันมาตั้งแต่ผมยังไม่เข้าประถม

"ซื้ออยู่... แต่เขาไม่ได้เกียรตินิยมเหมือนน้องโอบนี่” ... ดูเหตุผลแม่ “น้านันบอกน้องโอบจะจบเกียรตินิยม”

“แม่ฟังแทค ร้านนั้นเขาว่ายังไงก็ยังงั้นแหละ เผลอๆ เชื่อถือได้มากกว่าด้วยซ้ำเพราะอย่างน้อยเภสัชฯ เขาก็ได้ใบประกอบเป็นเรื่องเป็นราว โอบยังไม่ได้สอบเลย...”

“แม่ถามน้องโอบอีกทีเพื่อความสบายใจเฉยๆ น่า”

“... ดูสิยิ่งพูดเสียงยิ่งแห้ง กินยาแล้วพักดีกว่าไหม”

แต่คนที่แม่อยากคุยด้วยก็โผล่เข้าร้านมาตอนนั้นเอง ตายยากจริงๆ โอบเห็นผมเกือบทันทีเพราะร้านค่อนข้างโล่ง แล้วก็เดินตรงมาหาโดยไม่ต้องเรียก
 
ผมยัดโทรศัพท์ใส่มือมัน โอบก็ว่า “คุณป้าใช่เปล่า”

“... รู้ได้ไง”

“แทคไม่พูดใต้กับคนอื่น...”

ถึงผมพูดกับที่บ้านแต่เวลาพูดกลางก็ไม่ทองแดงนะ แหลงฉับเปรี๊ยะทั้งสอง โอบหันไปสนใจโทรศัพท์แล้ว “ครับคุณป้า... อ๋อ ตัวเดียวกัน ใช่ครับบริษัทยาเพิ่งเปลี่ยนชื่อ ข้างใน...”

ผมได้ยินโอบคุยกับแม่แว่วๆ แต่เห็นหยิบของไปด้วย แยกประสาทได้ดีตามเคย จนผมจ่ายเงินเสร็จ ยืนรอเพราะจะเอาโทรศัพท์คืน โอบเดินมาส่งให้แถวแคชเชียร์ ผมยกแนบหูนึกว่าแม่จะพูดกับลูกตัวจริงต่อแต่ปรากฎว่า... เงียบ

“... วางแล้ว คุณป้าบอกเจ็บคอ” คนถูกโทรมาปรึกษาถึงที่ยังอุตส่าห์อธิบาย

แม่นะแม่... คุยกับลูกรักเสร็จก็ไปเลย แต่คราวนี้ยกประโยชน์ให้เพราะควรจะพักจริงๆ หรอก

“ความจริงแม่ก็มีร้านประจำถามได้ที่โน่น... แต่คงอยากให้แน่ใจเฉยๆ โทษทีที่กวน”

"กวนอะไรล่ะ แม่แทคก็เหมือนแม่โอบ เมื่อก่อนนี้แทบเลี้ยงมาเลย” โอบว่า

น้านันทำงานถึงค่ำๆ เกือบทุกวัน พ่อโอบยิ่งแทบไม่เห็น... แต่แม่ผมกลับบ้านเร็วกว่า มาทำของว่าง ทำกับข้าว... เมื่อก่อนตอนยังเด็กก็ไม่รู้ตัวว่าโชคดีแค่ไหนที่พ่อแม่อยู่ร่วมโต๊ะกันพร้อมหน้าทุกเย็น

... มัวแต่รำคาญเด็กที่มากวนตอนจะทำการบ้าน หรือคอยตามติดเวลาผมอยากออกไปกับเพื่อนวัยเดียวกัน

ความจริงตอนนั้นแทนที่จะหมั่นไส้ผมควรเห็นใจ เพราะถ้าโอบไม่อยู่บ้านผม ก็ต้องอยู่คนเดียว...

“จริงๆ แม่แทคบอกให้เรียกแม่ตั้งแต่ตอนอยู่หาดใหญ่ แล้วแทคมีปัญหาไง แทคเป็นลูกคนเดียว! ไม่มีน้องนะแม่!” โอบพูดยืดยาวแถมเลียนเสียงผมอีก ซึ่งทำให้ความสงสารในชะตากรรมชีวิตวัยเด็กมันกลับกลายมาเป็นความหมั่นไส้เหมือนเดิมเรียบร้อยแล้ว “เลยเรียกคุณป้ามาตลอด แต่เหมือนแม่อีกคน...”

โอบย้ายมาอยู่ข้างบ้านผมตอนห้าขวบ พอแปดขวบก็ไปเชียงใหม่ ถึงเวลาสามปีกว่าจะไม่นาน แต่ตอนนี้พอคิดย้อนไปแล้ว... พอเข้าใจว่าคงมีความผูกพันกับพ่อแม่ผมไม่น้อย

... ว่าแต่เมื่อก่อนเราเป็นเด็กป. 4 ที่ขี้อิจฉาเข้าขั้น ไม่อยากจะเชื่อ

"จำหมดได้ไง"

"จำไม่ได้หรอก แม่แทคแหละเล่าให้ฟัง"

แม่... ไม่ได้ถามแค่เรื่องยา นินทาลูกด้วย นี่ขนาดคอเจ็บอยู่นะเนี่ย

ถึงคิวโอบจ่ายเงินพอดี สาวน้อยผู้ทำหน้าที่ก็ยิ้มให้ก่อนจะทัก

“เป็นหมอเหรอคะ...”

ชะรอยจะได้ยินที่โอบคุยกับแม่ เพราะมันเดินแทบทั่วร้าน โอบก็ยิ้มตอบ

“ไม่ใช่หรอกครับ เรียนเภสัชฯ”

คิดเงินเสร็จ เห็นว่าข้างหลังไม่มีคิวแล้วเจ้าหล่อนก็ถามเบาๆ อย่างออกจะเกรงใจ

“ดูยานี่ให้หน่อยได้ไหมคะ ของพี่สาว... กินแล้วสิวหายเลยยกให้ เผื่อเราจะหายด้วย”

โอบหยิบซองซึ่งไม่มีอะไรเขียนไว้ทั้งสิ้นนอกจากเวลากินขึ้นมาดู ผมเห็นแต่เป็นแคปซูล แล้วตอบ

“แค่นี้บอกยากครับว่ายาอะไร น่าจะพวกปฏิชีวนะ ฆ่าเชื้อน่ะ แต่อย่ากินเลย ยาหมอสั่งให้ใครก็ของคนนั้น ไม่ควรจะกินด้วยกัน”

“อ้าวเหรอคะ อยากหายบ้าง”

“ไปหาหมอเองดีกว่า ยารักษาสิวมีหลายกลุ่ม มีผลข้างเคียงด้วย” ผมไม่เคยเห็นโอบโหมดนี้ เท่าที่เจอมีแต่อะไรก็ไม่รู้ เหนื่อยบ้าง หิวบ้าง ห่วงหนูจะหิวบ้าง ซึ่งไม่ค่อยจะปกติทั้งนั้น

“กินไม่ได้เหรอ” คนถามยังอาลัยอาวรณ์อยู่ “พี่อุตส่าห์ให้มาแล้ว”

“... อย่าเสียดาย คิดซะว่ายาพี่ก็เหมือนอะไรดี... แฟนพี่ อนุญาตไม่อนุญาตก็...”

สาวแคชเชียร์พยักหน้า “ใช้ร่วมกันไม่ได้”

ออกมาแล้วผมต้องพูด “ยกตัวอย่างอะไรพิลึก”

“เคยมีญาติเพื่อนกินยาคนอื่นให้ ยารักษาสิวเหมือนกัน พอดีท้องอยู่ด้วย เกือบแย่ทั้งแม่ทั้งเด็ก...” โอบว่า “เมื่อกี้คิดไม่ออก อยากให้เข้าใจไปเลยว่าไม่ใช่ของเราไง”

ทั้งๆ ที่โอบกำลังพูดเรื่องยา แต่ประโยคนี้ผมก็เคยพูด... บอกลูกค้าที่เคยผิดหวังมาก่อน ทำไมเขาทิ้งเรา ทำไมเขามีคนอื่น

ไม่เป็นไรนะครับ เขาไม่ใช่ของเรา... ไม่เป็นไร ดีแล้ว รู้ตอนนี้ก็ดีแล้ว

แต่บางคนต้องใช้เวลากว่าจะยอมรับว่าคนแสนดีที่อยากให้เป็นคนนั้นอาจจะไม่มีอยู่

เหมือนที่ไม่มียาครอบจักรวาล ดีทุกอย่าง รักษาได้ทุกอย่างในโลก... แต่กว่าคนจะยอมรับเรื่องนี้ก็ใช้เวลาหลายร้อยปีนะนั่น

“เมื่อกี้บอกญาติเพื่อน เพื่อนเจ้าของหนูรึเปล่า”

“ใช่... แทคนี่...” โอบมองผมแล้วยิ้ม “... หลงรักหนูเรืองแล้วใช่มั้ยถามจัง ไม่ต้องห่วง เขายังไม่เอาคืน ตอนนี้โอบเป็นเจ้าของหนูเรือง กับแทค...”

“ไม่ต้องเลย” ผมรู้หรอกว่าที่แบ่งกรรมสิทธิ์ร่วมให้นี่เพราะจะได้มีคนช่วยรับผิดชอบเลี้ยงดูหนูอ้วนตัวนั้นไงเผื่อเกิดจะกลับดึกขึ้นมาอีก อ่านง่ายจริงๆ

โอบก็ยิ้มๆ ก่อนเหลือบดูนาฬิกา “งั้นเจอกันตอนเย็น”

“... ไปส่งตรงรถไฟฟ้าไหม พอดีจะเอารถไปเช็ค” รถยิ่งเก่ายิ่งต้องดูแลหน่อย

“จริงเหรอ” นี่ก็... ดีใจออกนอกหน้า อาจจะเพราะไม่ต้องเดินตากแดดเปรี้ยง หรือเสียค่าวินมอเตอร์ไซค์ละมัง

“อืม” อย่างแม่ว่า

... ช่วยๆ กัน


อู่ที่ผมใช้ประจำอยู่ไม่ไกล บ้านๆ ไม่ได้มีที่นั่งรอหรือรับรองอะไร เลยเดินออกปากซอยมาหาของกิน กำลังตัดสินใจอยู่ว่าเจ้าไหนก็พอดีได้ยินเสียงเรียก

“... คุณแทค”

ในชีวิตไม่มีใครเรียกคุณนอกจากลูกค้า แต่ผมเหลียวไปเหลียวมาก็ยังไม่เห็นคนทัก

“ทางนี้ๆ”

หันหลังไปถึงเจอคุณศรัณย์ จอดรถข้างทางลดกระจกโบกมือให้ผมอยู่ก่อนจะลงแล้วเดินมาหา

“มาทำอะไรแถวนี้...” เราพูดพร้อมกัน คุณศรัณย์ขำแล้วยกมือเป็นทำนองให้ผมพูดก่อน

“เอารถมาเข้าอู่หน่อยครับ แค่เช็คทั่วไป คุณศรัณย์ล่ะ”

“พอดีผมนัดเพื่อนไว้ข้างหน้า” อีกฝ่ายว่า ก่อนเสริม “แต่ไม่ใช่เดตนะ...”

“เดตก็ดีสิ เผื่อคุณศรัณย์จะได้เจอคนถูกใจเสียที” บางทีลูกค้าเจอคนอื่นเองระหว่างรอคู่เดตที่เราจับให้ บางคนเลยลดลงมาเหลือโทรปรึกษาขอคำแนะนำความสัมพันธ์บ้างเฉยๆ จนกว่าจะหมดสมาชิกภาพ บางคนก็ขอพักไม่ก็ยกเลิกไปก่อนก็ไม่เป็นไร

“ผมก็รอคุณแทคหาให้นี่แหละ เออเมื่อกี้บอกว่าเอารถไปเช็ค ทำไมไม่โทรหาผมล่ะ”

ปกติเวลาทำงานผมค่อนข้างแยกเรื่องแบบนี้ออกจากกัน ก็เลยไม่เคยมีอยู่ในหัวว่าควรจะเอารถไปซ่อมกับคุณศรัณย์เผื่อจะได้ส่วนลด ทำงานง่ายกว่านะผมว่า

... ความจริงเคยได้กระเช้าน้ำปลาจากเสี่ยน็อต แต่ถือว่าเสี่ยให้ออฟฟิศ เลยแจกจ่ายพี่อิทกับครีมไปด้วยเรียบร้อย ยังใช้ไม่หมดจนทุกวันนี้

“... อู่คุณศรัณย์หรูเกินเจ้าแก่ผมน่ะครับ” ผมว่า ซึ่งเป็นเรื่องจริง อู่คุณศรัณย์ซ่อมรถยี่ห้อแพงระยับ ส่วนต้อนรับยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวเสียอีก

“หรูอะไรกัน ช่างดูให้ได้ ผมรับรอง คราวหน้าโทรหาผมนะ”

“... ขอบคุณครับ”

อย่างน้อยก็ถือว่าขอบคุณน้ำใจไว้ก่อนละกัน

“... ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะ”

“อู่คุณศรัณย์เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วเหรอครับ” สงสัยผมจะตกข่าว

“สายโทรศัพท์ผมน่ะ” คุณศรัณย์หัวเราะ ก่อนว่า “อู่ก็ด้วย อีกสาขากำลังจะเปิดเป็นยี่สิบสี่ชั่วโมงเร็วๆ นี้”

ผมก็แสดงความยินดีไปตามเรื่องตามราว ก่อนคุณศรัณย์จะขอตัวไปทำธุระต่อ


บ่ายคล้อยกว่าผมจะได้รถ เร่งเถ้าแก่ก็ไม่ได้เสียด้วย ดีที่พอรู้อยู่แล้วเลยติดหนังสือไปอ่านในร้านกาแฟแถวนั้น... ไหนๆ ก็ไหนๆ เลยขับต่อไปห้างเพราะใกล้เวลานัด

โอบโผล่มาโดยที่สายไปเกือบสิบห้านาที ผมไม่ได้อะไรมากเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าเด็กอยู่ถามต่อนานกว่าที่คิดขนาดเผื่อเวลาไว้แล้ว แต่ที่บอกลูกค้าตลอดคือ ถ้าเป็นเดตแรกอย่าสาย ห้ามสายเด็ดขาด จริงๆ เดตไหนก็ไม่ควรสายทั้งนั้น แต่เดตแรกยิ่งไม่ได้

โอบว่า “อ้าวโทษ ไม่รู้ว่านี่นับเป็นเดตแล้ว”

“ก็ไม่ใช่ไง” มันได้ยินผมหรือเปล่า “บอกว่าถ้า ถ้าจริงนับว่าความประทับใจแรกติดลบ ตอนนี้เป็นช่วงแนะแนวฟรี ควรฟังไว้ต่อไปได้ไม่พลาด”

โอบรู้ว่าเราทำอะไรบ้างเพราะพี่อิทร่ายไว้เบื้องต้น จริงๆ ก็ทั่วไป คือถ้าอยากเดตเพราะไม่ค่อยได้เจอใครหรือหาใครไม่เจอ เราก็นัดให้ ระหว่างนั้นโทรถามได้ ยังไม่อยากเดตแต่อยากขอคำปรึกษาเผื่อต่อไปอาจจะเจอเองก็ย่อมได้ คุยกันแรกๆ แบบนี้โดยยังไม่ตกลงเป็นสมาชิกเขาจะเห็นว่าเราแนะนำอะไรเป็นประโยชน์ ทำให้ตัดสินใจสมัครทีหลัง ปกติผมบอกตลอดไม่มีกั๊ก

กับข้าวเริ่มจะทยอยมาแล้วผมก็ถาม “รู้รึเปล่าว่าความจริงเดตแรกมีจุดประสงค์อะไรเป็นหลัก”

“ทำความรู้จักกัน?”

“อืม แต่อะไรที่เกิดขึ้นในเดตแรกเป็นวิธีไปสู่เป้าหมาย ไม่ได้บอกว่าไม่สำคัญ ก็ต้องพยายามทำทุกอย่างให้ดีนั่นแหละ แต่เป้าหมายจริงๆ คือให้มีเดตที่สอง”

ทำให้มีเดตสองยากกว่าไปเดตที่สามสี่ห้ามาก เป็นเรื่องที่คนมักจะลืม ลูกค้าผมหลายคนจอดอยู่แค่เดตแรกมาหลายเดือน ไม่ต้องนับคุณศรัณย์ที่ชอบไม่เลือกไปอีกครั้งเองก็ได้ เยอะกว่าที่คิดนะ

โอบเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ถามเรื่อยๆ “แล้วอะไรที่แทคว่าในเดตแรกมันควรจะทำไงบ้าง”

"ก็อย่างเช่น ถามคำถามที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับสิ่งที่คู่สนทนาทำ..." ผมพยักหน้าเป็นสัญญาณให้คนนั่งตรงข้ามลองดู

"... แทคชอบกินลูกชิ้นเหรอ"

... นี่ก็ตามน้ำได้มั่วมาก เหมือนเห็นแล้วพูดเลย ผมชะงักมือที่จิ้มยำลูกชิ้นแล้วบอก

"... การถามในเดตครั้งแรกว่าชอบกินหรือไม่ชอบกินอะไรแบบเจาะจงอาจทำให้เขาลำบากใจที่จะตอบ เพราะไม่อยากดูเรื่องมาก เอาเป็นเรื่องเรียน เรื่องงานจะปลอดภัยกว่า อ่ะสมมติว่าตอบแล้ว...  ผมทำงานบริษัทจัดหาคู่ครับ"

โอบมองผมนิดหนึ่งแล้วหลุดหัวเราะเสียอย่างนั้น

“อะไรอีกล่ะ” ผมว่าผมก็ไม่ได้พูดอะไรขำนะ “ถ้าพริกติดฟันก็บอก ปล่อยไปนี่โกรธกันเลย”

"เปล่า... ไม่ชินแทคพูดเพราะ แทคพูดอย่างนี้เหรอถ้าไปเดต? เสียงเรียบร้อยเชียว"

"อย่าเพิ่งชักใบให้เรือเสียได้มั้ย” บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าที่โอบไปบอกพี่อิทว่าสนใจเพราะอยากแกล้งผมกลับหรือเปล่า แบบเอาคืนที่เมื่อก่อนผมเคยแกล้งมันตอนเด็กๆ อะไรอย่างนี้ รู้สึกทำงานยากชอบกล “เอ้า เราก็ควรจะตอบว่า...”

โอบมองผมแล้วชี้มือไม้เป็นทำนองว่าเคี้ยวข้าวอยู่ ผมถอนใจเฮือก

... ทำงานยากจริงๆ น่ะแหละ

"... ถามเขาต่อก่อนพูดเรื่องตัวเอง อย่าใช้สิ่งที่เขาเล่ามาโยงถึงเรื่องของเราเท่านั้นเพราะมันจะดูหลงตัวเองมาก ไม่แนะนำให้เฟค อย่านึกว่าเขาดูไม่ออก ไม่สนใจเรื่องนี้ก็พยายามหาที่สนใจตรงกันมาคุย..." ผมก็พูดไปเรื่อยๆ ส่วนโอบบอก

"... ไม่เฟคหรอก สนใจจริงๆ"

"เออดี" อย่างน้อยมันก็ฟังผมแหละคิดว่านะ ถ้าเอาพื้นฐานให้ได้ต่อไปก็ไม่ยากหรอก “ทีนี้อาจจะมีคนถาม ทำไมเภสัชเรียนนานกว่าคณะอื่น”

“ทำไมถึงคิดว่าเรียนนานล่ะ”

“นั่น... อย่าย้อน แบบนี้เหนื่อยมาก สุดท้ายเขาก็จำได้แค่ว่าคุยกับคนนี้แล้วไม่สนุก เดตสองไม่เกิดแน่ๆ เขาถามมาก็ตอบไปตรงๆ”

พอโอบว่ารุ่นน้องต้องเรียนนานกว่าอีกเพราะทุกที่จะเป็นหกปีหมดแล้ว ผมก็พูดเฉยๆ ว่าใช้เวลาอย่างกับเรียนหมอ โอบบอกคนที่คณะอาจจะเคืองได้ถ้าถามแบบนี้ มันไม่เหมือนกันนี่นา

“แต่เรามีใช้ทุนนะ โอบก็เลือกที่แล้วยังไม่รู้ผล”

จากตอนมันคุยกับสายรหัสผมจำได้ว่าเหมือนจะทำงานต่อในกรุงเทพฯ แต่ถ้าไปใช้ทุนก็แปลว่าปีหน้าจะย้ายอีกแล้วหรือเปล่า เหมือนตอนนั้น... แต่ครั้งนี้หวังว่ามันคงจะบอกผมก่อน ไม่ใช่จู่ๆ หายไปเลย เหลือแต่โพรงริมรั้วที่เคยมุดข้ามมา กับเก้าอี้ว่างข้างพ่อตอนมื้อเย็น...

“รุ่นพี่เขามั่นใจว่าปีนี้โควต้าที่ขอมาคงน้อยกว่าคนสมัคร แต่ไม่รู้เหมือนกัน”

ถ้าผลการเรียนดีอย่างโอบ เลือกที่ไหนไปเขาคงอยากได้ แต่ผมก็ไม่ถามต่อว่าที่ไหนแน่

คิดถึงเก้าอี้ว่างตัวนั้นแล้วหดหู่พิกล...

กับข้าวอีกชามเพิ่งยกมาเสิร์ฟให้คนนั่งตรงข้ามผมทำหน้าสยอง “อะไรเนี่ย”

ผมเอาช้อนกลางแหวกให้มันดู “ต้มเครื่องใน หัวใจ ปอด ม้าม ไส้...”

โอบค่อยๆ เลื่อนชามไปอยู่ตรงหน้าผม “เชิญตามสบาย”

“เอ๊า ไม่กินไม่บอกล่ะตอนสั่ง”

“แทคก็กินไปไง ไม่เป็นไรหรอก”

“ชวดของดีนะ” ผมแกล้งตักเน้นๆ “โอ๊ย อร่อย”

โอบนั่งกินข้าวต่อพยายามไม่มอง ส่วนผมก็... ชักจำได้แล้วว่า เมื่อก่อนแกล้งเด็กข้างบ้านมันสนุกยังไง


กินข้าวเสร็จ สมควรแก่เวลาโดยหวังว่าได้แสดงให้คนที่พี่อิทอยากได้มาเป็นลูกค้าเห็นถึงข้อดีในการใช้บริการบริษัทเราบ้างไม่มากก็น้อย ย้ำแล้วว่าปรึกษาได้ตลอดถ้าเป็นสมาชิกไม่ว่าจะตกลงเดตกับคนที่เรานัดให้หรืออยากรอก่อน จริงๆ เรานัดกรุงเทพและปริมณฑลเป็นหลัก แต่พี่อิทเคยมีลูกค้าอยู่ถึงน่านซึ่งพอใจกับการโทรมาปรึกษาขอคำแนะนำเวลาออกไปเป็นครั้งคราว เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้ก็ยืดหยุ่นกันได้

ผมนึกว่าโอบจะแยกไปทำอย่างอื่นไม่ก็กลับก่อนเพราะสอนมาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับเดินตามมาด้วยจนถึงโรงหนัง เรื่องใหม่ที่ผมคอยอยู่เพิ่งเข้า ซึ่ง... ผมไม่แน่ใจจริงๆ ว่าใช่รสนิยมมัน

“หนังผีแบบจิตวิทยา ไม่แหวะมากหรอก”

โอบเงยหน้ามองโปสเตอร์ใหญ่ยักษ์หน้าโรงที่ทึมทะมึนมาเชียว พร้อมตัวอักษรแนวสยองขวัญแดงแปร๊ดพาดกลาง

“ไม่เห็นเครื่องใน...มั้ง คิดว่า” ผมพยายามไม่หัวเราะแต่อดไม่ไหว “โอบดูอีกเรื่องป่ะล่ะ ถ้าอยากติดรถกลับเดี๋ยวรอก็ได้”

“ไม่เอา อยากดูด้วย” โอบว่าทั้งๆ ที่ยังแหงนมองโปสเตอร์อยู่นั่นแหละ

ความชอบของคนเป็นเรื่องพูดยาก... ผมชอบดูหนังสยองขวัญ และต้องคอยบอกลูกค้าว่า ถ้าเป็นไปได้อย่าเลือกหนังสยองขวัญในเดตแรก แต่ส่วนตัวถ้าต้องดูหนังลูกกว๊าดลูกกวาดคงขอบายเหมือนกัน 

สุดท้ายก็เข้าไปจนได้... พอเลือดสาดมาเหลือบเห็นโอบขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ผมต้องหันหน้าไปยิ้มอีกทางทั้งๆ ที่ตอนนั้นบนจอกำลังหลอนได้ที่

จะไม่บอกใครให้เภสัชกรเกียรตินิยมของแม่ต้องด่างพร้อย

... ว่าที่โอบไม่เรียนหมอทั้งๆ ที่ดูแล้วน่าจะเรียนได้ อาจจะเพราะไม่ถูกกับเลือดแล้วก็เครื่องในน่ะแหละ


ออกจากห้างเดินไปขึ้นรถผมก็ต้องล้วงกระเป๋าซ้ายขวาให้วุ่น เป็นโรคนี้ทุกทีเวลาจะออกแล้วหาบัตรจอดรถไม่เจอ แต่คิดว่าเก็บมาแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือเอาของในกระเป๋าออกมาให้หมด

หลังจากช่วยเปิดที่เก็บของทั้งข้างหน้าและข้างที่นั่งดูแล้วว่าไม่มีโอบก็หันมามองของที่ผมกองไว้ มองแล้วก็ขมวดคิ้ว

“... นี่แทคยังสูบบุหรี่อยู่อีกเหรอ”

ผมมองตามสายตามัน

... ไฟแช็ค

“เปล่า แค่เคย”

เมื่อก่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัย เคย แต่ตอนนี้ก็เลิกแล้ว เลิกหมด ทุกอย่าง

ไม่รู้ว่าทำไมโอบถึงถาม เพราะตอนแยกกันผมยังไม่ขึ้นม. 1 เลย เป็นไปไม่ได้ที่โอบจะเคยเห็นผมสูบ

... หรือแม่เล่าให้ฟังอีก

โอบพยักหน้านิดหน่อย เอื้อมมือไปหาหลังที่นั่งผมแล้วก็บิงโก... เจอแล้วบัตรจอดรถ

... อะไรดลใจให้ผมยัดไว้ตรงนั้น บางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

“แทคทีหลังไว้ให้เป็นที่ดิ เลือกสักอย่างจะเอาไปด้วยหรือจะเอาไว้ในรถ” 

“เออน่ะ” เป็นนิสัยแก้ไม่หายจริงๆ ยอมรับ แต่หมั่นไส้คนบ่น พูดเหมือนตัวเองไม่เคยไว้ของผิดที่ ตอนนี้แกล้งกลับได้ก็...

“นี่คืนนี้จะนอนหลับมั้ย”

“ไม่ได้กลัวขนาดนั้น”

“จริงน่ะ”

โอบไม่ถึงกับสะดุ้งหรืออะไรหรอก แต่รู้สึกได้ว่ากลั้นใจนิดหนึ่งเป็นพักๆ สำหรับคนไม่ค่อยคุ้นกับหนังพรรค์นี้ถือว่าอาการน้อยแล้ว ผมก็แค่แหย่มันเล่น สนุกดี

"ไม่ได้กลัว..." โอบว่า "แบบมันติดตานานเฉยๆ"

"น่าสงสารจริงๆ" ผมพยายามกลั้นหัวเราะ "อย่างนี้ถ้าเดตแล้วคนที่ไปด้วยเขาอยากดูหนังผีให้ได้ หรือไม่ก็ไปชอบคนที่ชอบดูหนังผี จะทำไงเนี่ย"

โอบเท้าข้อศอกที่ขอบหน้าต่างหันมามองผมแล้วยิ้ม ยิ้มเหมือนรู้อะไรที่ผมไม่รู้ ตอบว่า

"ก็คง... ตามใจเขามั้ง"

“ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ดูเท่าที่ตัวเองไหว ขืนเอาไอ้ที่มันสยองขวัญมากๆ หนีออกมาอ้วกมันจะแย่ เข้าใจเปล่า ความประทับใจติดลบแน่” นี่ผมพูดจากประสบการณ์เลย เพียงแต่เดตของลูกค้าตอนนั้นไม่ใช่หนังผี เป็นไปสวนสนุก แล้วไม่ยอมบอกว่าไม่ใช่ทาง มันน่าดูไหมล่ะลงจากรถไฟตีลังกาแล้วอ้วกเสียหมดไส้พุงเนี่ย “เอางี้ เดี๋ยวพอมาเป็นสมาชิกจะหาคนที่ไม่ค่อยชอบหนังผีให้”

โอบหัวเราะ บอกว่า “ไม่เป็นไร ดูแล้วก็สนุกดี”

... ยอมรับความต่างแบบนี้ งานผมง่ายขึ้นนะ   

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 06-02-2013 13:07:40
คุณนอนกินแรง ขอบคุณมากที่เข้ามาอ่านค่ะ ก็ตั้งใจให้อ่านสบายๆ แบบนี้แหละนะ ลูกค้าก็มีขอลองดูบ้างไรบ้าง 55 ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ PK37 แทคก็ต้องตั้งใจทำงาน... แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคุณศรัณย์ปักใจขนาดไหน เอิ๊ก เจ้าของหนูเรือง น้องโอบบอกเพื่อนเราก็เชื่อน้องโอบค่ะ 55 ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ ดีใจที่อ่านค่ะ

คุณ iamnan ไม่รู้ว่าใช่อย่างเดียวเปล่า หรือเผื่อไว้ก่อน ตอนนี้คุณศรัณย์ก็มาอีกแล้ว (แบบแวบๆ)

คุณ iforgive แกเป็นคนเลือกมาก แทคไม่เดตกับลูกค้า ถึงไม่ลูกค้าก็บอกแล้วว่าไม่เดต 55 คนอ่านรู้ทันน้องโอบ

คุณ 2pmui น้องโอบก็ไปของแกอยู่ 55 ฝากเชียร์ต่อด้วยนะคะ

คุณ ่patsaporn ตอนนี้น้องโอบไม่ได้ใช้พี่แทค แต่พี่แทคก็ทำให้นะ 55 เรื่องลูกค้ามาจีบมันก็มากับอาชีพ ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่ะ

คุณ AGALIGO ขยันจริงไรจริง 55 ขอบคุณสำหรับบวกเป็ดนะคะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ malula เป็นไอเดียที่ดี ตายละคุณศรัณย์กับเสี่ยน็อต เป็นคู่ที่แม้แต่แทคก็คิดไม่ออก 55 (สรุปใช่เฉย) ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจและการอ่านมาโดยตลอดนะคะ

คุณ mesomeo2 ใช่ป่ะล่ะ ตอนนี้ก็ส่งเองเลยนะ

คุณ yamapong ขอบคุณค่า ก็อย่าเพิ่งเบื่อน้า เอื่อยแต่จะพยายามไม่ให้อืด กร๊าก บริษัทนี้ถ้าเป็นส่วนแผนกแทคทำ มีแทค พี่อิท ครีมเนี่ย ก็ชช ค่า แต่บริษัทใหญ่ (ที่แทคว่าอยู่เยื้องทางเดินกัน) ก็ประชากรส่วนใหญ่ ชญ ค่า

คุณ CheetahYG โอบยังไม่รู้ตัวเลย ฮา ขอบคุณจ้ะ คิดถึงคนอ่านเหมียนกัน

คุณ 1wariya1 ขอบคุณค่า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ NewYearzz คนอ่านอย่ากลัว คือเรื่องนี้มันไม่ใช่แนวเครียดมากตายไปเลย อยู่แล้ว ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Naenprin ขอบคุณค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Millet ก็มีบ้างไรบ้าง ฮา หนูเรืองอ้วนจริง กินอยู่ดี

คุณ krappom ถูก ไม่ต้องทำไรมากก็แย่งซีนได้ 55 ปล. ขอบคุณด้วยนะคะที่แวะไปอ่านอีกเรื่องมา ดีใจมากค่ะ

คุณ AeRoMoZa แนะนำน้องโอบแบบนี้แทคอาจจะเคืองได้ ฮ่า แทคทำส่วนนี้ก็ต้องมาทางนี้แล้วล่ะค่ะ กร๊าก ขอบคุณที่ชอบหนูเรือง ฝากอ่านต่อด้วยค่ะ

คุณ puppyluv ไม่รู้คุณศรัณย์ว่าเฉยๆ เผื่อฟลุคเปล่า เสี่ยก็อุตส่าห์คิดว่าทำดีละนะ กร๊าก ขอบคุณสำหรับบวกและเป็ดให้หนูเรืองค่ะ

คุณ kaokorn ขอบคุณค่ะ มีนะบริษัทแบบนี้แต่ที่เห็นเป็นชญ... เลยคิดดูว่าถ้ามีชช จะเป็นยังไงน้า น่ารักแบบกดๆ นี่คือแทคเก็บกดรึคะ 555 คู่เดตเสี่ยอาจขอเวลาทำใจนิดนึงหลังเจอเสี่ยคราวที่แล้วไป ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ pim_onelove ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า เด๋วปมจะมารอแป๊บ เอาใจช่วยเสี่ยน็อตต่อด้วย คนมันไม่เคย ฮา หนูเรืองเป็นตัวโปรดจริงๆ

คุณ kyoya11 ขอบคุณมากค่ะ อดีตมันก็เป็นเรื่องของอดีต (รึเปล่าแทค) ยังไงฝากอ่านต่อด้วยน้า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้ว ไม่สั้นนะ (ออกตัวก่อน) ตอนนี้ก็ยังชิลอยู่แต่มันเพิ่งบทที่สี่เองนะทุกคน... ต่อไปจะงวดขึ้น ตามสไตล์ กร๊าก ขอบคุณคนอ่านทุกท่านเช่นเคยค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-02-2013 13:57:26
โอบมาแบบซ่อนเงื่อน ที่ใครก็น่าจะดูออก ยกเว้นแทค
และดูเหมือนทั้งคู่ได้กระทำการเดตแรกไปแล้วด้วย คิคิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 06-02-2013 14:03:25
ครับ ไม่สั้น :laugh:
เป็นหมอกลัวเลือดกะเครื่องใน เลยเป็นเภสัชฯเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: 11235 ที่ 06-02-2013 15:01:04
อ่านแล้วอยากมีความรู้สึกของคนถูกแอบรักบ้าง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 06-02-2013 16:35:21
คุณศรัณย์นี่ถ้าได้ใกล้ชิดกับแทคมากๆ สงสัยจะต้องเลิกหยอดหันมาจีบแทนแน่เลย  :laugh3:
แทคตั้งใจทำงานเต็มที่เลยนะเนี่ย แนะนำการวางตัวต่างๆ ให้กับน้องโอบใหญ่เลย แต่เราว่าน้องโอบต้องเหมาว่านี่เป็นเดตแรกกับแทคแน่เลย
น้องโอบรู้เรื่องบุหรี่ แอบคิดเบาๆ ว่าน้องต้องเคยไปหาแทคที่มหาวิทยาลัย แต่แทคจำน้องไม่ได้ น้องเลยไม่กล้าทักแน่เลย
ว่าแต่ถ้าคืนนี้น้องนอนไม่หลับแทคจะไปนอนเป็นเพื่อนน้องหรอ  :z1:

ปล. เชื่อน้องโอบด้วยก็ได้ว่าเป็นเพื่อน  :laugh:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-02-2013 17:03:45
รวดเดียวจบ คำเดียวคือต้องตาม ไม่ตามไม่ได้555++

แทคมีอดีตที่เชียงใหม่หลอ โอบไปเชียงใหม่เพราะไปแอบมองอะเปล่า แต่คนใต้ในบร์ดเยอะแท้

เค้าก้อเปงคนใต้ จะติดตามผลงานเนอะๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 06-02-2013 17:14:57
ก็นี่งัยล่ะ  เดทแรกของโอบ  555+  โถ ๆ ๆ แทคไม่ทันน้องซักทีนะ
เราชักอยากเห็นคุณศรันย์รุกแทคซะแล้วล่ะ  คิดว่าที่ไม่ยอมตกลงกับใครซักคน
คงเป็นเพราะชอบแทคนี่แหละ  ชัวร์เลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 06-02-2013 17:55:36
โอบแอบเก็บรายละเอียดหรือเปล่านะ แต่ก็เคยรู้จักกันมาก่อนแล้วนะ ต้องเก็บข้อมูลด้วยหรอ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 06-02-2013 18:30:40
แทคจะรู้ตัวไหมเนี่ย ว่านี่คือ "เดตแรก" 5555555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 06-02-2013 18:47:59
แทคเอ๊ยเป็นคู่เดตแรกของโอบ ยังไม่รู้ตัวอีก

รอจ้า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 06-02-2013 19:19:12
จีบกันอยู่ชัดๆ นายแทค...นายซื่อมาก o16
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 06-02-2013 19:50:47
อั๊ยย่ะ คุณเดหลีน่ารักจังตอบด้วย 5555+ เข้าใจแล้วค่า แผนกแทคมัน ช-ช สินะ หุหุ

อ่านตอนนี้แล้วแบบ เจ้าหนูข้างบ้านมันดูมีซัมติงแปลกๆ แอร๊ยยยยยยยยยยย น่าร๊ากกกกกกก >/////<
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-02-2013 20:41:56
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเล้ยยยยยย 555
คุณศรันย์มาแบบแว๊บ ๆ แต่ชอบอ่ะ รู้สึกเหมือนเจอแทคแล้วมีบรรยากาศหวาน ๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ชอบอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 06-02-2013 22:17:38
ชอบแม่แทคจัง น่ารัก... คู่นี้ตัวติดกันตลอดเลยนะ นี่ถือเป็นเดทแรกของโอบกับแทคเลยป่ะเนี่ย
ไ่ม่ใช่แค่มาสอนวิธีการเดทละ ดูจะตามใจแทคพอสมควร แทครู้ตัวบ้างป่ะ ชอบตอนแทคทำแกล้งน้อง
น้องไม่ใช่เด็กแล้วนะจะจีบก็จีบเลยจ้า คุณศรัณย์เค้าก็จ่อๆ จะรุกมาอยู่นะ โทรหาได้ 24 ชม.
แถมโปรไฟล์แกก็โอเคอยู่นะ รอดูรอชมต่อไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-02-2013 00:30:38
น่ารักจังค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 07-02-2013 03:02:13
555 ฮาแทค แนะนำโน่นนี่นั่น เหมือนรู้ไปเสียหมด แต่จริงๆไม่รู้อะไรซะเลย
กินข้าว ดูหนัง นั่งคุย 555 ครบสูตร นี่มันเดตชัดๆ แทคเอ้ย ยังมีหน้าไปแนะนำเขาอีกกก 555
เข้าทางน้องโอบมันละ

ตอนนี้ อ่านแล้วเขินนะ ทำไมไม่รู้เหมือนกัน  :impress2:  แทคน่ารักดี
เกือบลืมเฮียเจ้าของอู่ อิตานี่ก็ขยันหยอดตลอด แต่เรื่องนี้น้องโอบเค้าเป็นพระเอกอะเฮีย เสียใจด้วยล่วงหน้า ขอให้เฮียเจอผู้ชายดีๆ ก๊ากๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 07-02-2013 05:20:45
ตั้งแต่หนูเรืองออกมา ก็ต้องขอมีบทนิดๆหน่อยๆ555 น่ารักจริงๆ

สรุปนี่เดทแล้วป่ะเนี่ย หุหุ ทานข้าวดูหนัง เป๊ะ!

อีกหน่อยอาจมีโอบมาหวงๆแทคจากศรัณย์รึเปล่านะ
เพราะเหมือนคุณศรัณย์จะโผล่มาบ่อยละ

น้องโอบแอบน่ารักอ่ะค่ะ
คือดูเป็นผู้ใหญ่กว่าแทคนะ แต่บางทีก็เหมือนขี้เล่นขี้แกล้ง

ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างเราเรื่องแทคชอบแนวไหน...

รออ่านต่ออยู่ค่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: CheetahYG ที่ 07-02-2013 06:18:39
555555555  ฮาโอบอ่ะ  :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-02-2013 08:29:02
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ
เรื่องน่ารักดี สนุกครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 07-02-2013 16:34:42
ฮ้าาาา รู้สึกว่าดีล่ะ ที่ลองเข้ามาดู
เคยจะคลิ๊กแล้วก็ข้ามผ่านไป ^^"

การทำงานของแทคนี่ช่าง...ยากแท้
เหมือนจะไม่รู้ตัวว่ามีคนสนใจ แต่มีระบบป้องกันตัวดีมาก
ส่วนเด็กข้างบ้าน...ท่าทางว่าจะมีอะไรให้ค้นหามากกว่า-ความทรงจำวัยเด็ก-นะ

รอเวลาเปิดมีดดดด เอ๊ย!! เปิดปม...อดีตรักอันน่าสงสัยของ-คนจับคู่- หุหุ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 07-02-2013 18:31:15
เรื่องนี้มาแบบเรื่อยๆ แต่ไดความรู้สึกที่อบอุ่นอยู่รอบๆตัวเวลาอ่าน

ถึงแม้ว่าบ้างครั้งอ่านแล้วจะกลัวอดีตของแทคไปบ้างก็ตาม ชอบครับ :กอด1:



รอตอนต่อไปครับ :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 07-02-2013 18:47:25
แทคจับคู่เสี่ยน๊อตกะคุณศรัญไปเลย

5555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 08-02-2013 14:38:50
คุณศรันย์ขาหยอด

โอบแทคเดทกันแล้ว แบบไม่รู้ตัว อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 10-02-2013 04:30:53
คุณศรันย์นี่เผลอๆจะเล็งแทคอยู่สินะ
 :a5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 10-02-2013 19:59:13
โอบกับแทคน่ารักอ่ะ นี่ตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอกันโอบติดต่อแม่ของแทคตลอดเลยหรือป่าวเนี่ย ดูรู้เรื่องแทคเยอะจัง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 11-02-2013 08:10:19
น้องโอบน่ารักๆๆๆ  :z2:

คุณแทคตีมึนตลอดดดดด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 4] 6 ก.พ. 56 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 11-02-2013 21:57:22
เรื่องนี้น่ารักมากเลย

ดู แทค กะ โอบ สนิทกันดีจัง

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 12-02-2013 15:11:02
บทที่ 5

ผมน่าจะรู้ว่าถ้ามีครั้งที่หนึ่ง ก็จะมีครั้งที่สอง... และสาม... ตามมา

ทุกวันนี้นอกจากเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และป้าเฝ้าตึก สิ่งมีชีวิตที่ผมเจอประจำเกือบทุกวันคือหนูแฮมสเตอร์ยักษ์ชื่อดาวเรืองกับเจ้าของ (ชั่วคราว) ของมัน ชั่วโมงเวรฝึกของโอบยืดยาวออกไปถึงค่ำ วันไหนได้เลิกห้าโมงนับว่าเร็ว (และบางทียังถ่อกลับไปคณะทำโน่นนี่อีกกว่าจะกลับมาได้) ผมก็ไซโคมันโดยการเล่าเรื่องผีในโรงพยาบาลรัฐที่โอบทำอยู่ซึ่งถือกันว่าผีดุสุดๆ อีกแห่ง
 
โอบพยายามจะให้ผมเงียบโดยบอกว่าตอนเรียนก็มีกายวิภาค เพราะฉะนั้นผ่านสายตามาหมดแล้วทั้งสิ้น แต่เอาเข้าจริงคือมันไม่ต้องผ่าแยกแยะชำแหละอะไรเองไง แล้วที่มาเป็นชิ้นนั่นผมว่าโอบไม่ชอบนักหรอก ขนาดเห็นในชามเลี่ยงได้ก็เลี่ยง
 
ทั้งหมดเป็นการเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ ของผมเองในการที่ยังต้องลงไปข้างล่าง เอากุญแจขึ้นมาไข แล้วก็บอกหนูอ้วนขนส้มว่าไม่ต้องวิ่งให้ดูทุกครั้งก็ได้ พอพูดกับเจ้าของมันว่าขี้เกียจจะลงไปโอบดันถามว่าจะเอากุญแจไว้เลยไหม

ป้าข้างล่างก็ถามแบบนี้เหมือนกัน... ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงประเด็น

เวลามาเคาะห้องเอากุญแจคืนพักหลังชักรู้งานหิ้วขนมติดมือมา เสร็จนั่งแช่อีกกว่าจะยุรยาตรกลับ ซื้อขนมสินบนผมค่าเลี้ยงหนูแต่กินเองด้วยซะอย่างนั้น... ผมก็เริ่ม

“รู้เปล่าที่โรงพยาบาลโอบนะเขาว่ากันว่ามันจะมีเสียงออกมาจากตรง...”

“... ชั้นสอง? ห้องยาผู้ป่วยในอยู่ระหว่างทางไปห้องดับจิต เตียงเข็นผ่านทุกวันตอนนี้ชินแล้ว” มันบอกหน้าตาเฉย “แทคหาเรื่องใหม่ดีกว่า”

เล่าเรื่องผีแล้วคนรู้ทันชักไม่ค่อยสนุกแฮะ...

จริงๆ แล้วโอบบอกว่าเฉพาะช่วงนี้เท่านั้นที่ต้อง ‘กวน’ เรื่องหนูเรือง พอฝึกงานผลัดสุดท้ายเสร็จคงไม่ต้องกลับเย็นย่ำอย่างนี้ เหลือแต่พรีเซนต์ สอบ สอบ แล้วก็สอบ...

ฟังโอบพูดผมก็ให้ดีใจที่ผ่านชีวิตช่วงนั้นไปแล้ว ถึงตอนนั้นมันจะมีเรื่องอื่นอีกนอกจากสอบ แต่คิดภาพอ่านหนังสือ ‘เพื่อสอบ’ นี่ก็เหนื่อยตายแล้ว

เพราะฉะนั้นผมถึงไม่ไล่มันจริงจังนักเวลาโอบมานั่งกินขนมทำหูทวนลมกับเดอะช็อคที่ผมพยายามจัด... ก็เห็นว่าเหนื่อยหรอก


เช้าวันทำงาน ผมได้ข้อความจากคุณศรัณย์ว่าไปต่างประเทศด่วน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้สนใจจะออกไปกับใคร... คุณศรัณย์ถามอย่างมีมารยาทว่าอยากได้อะไรหรือเปล่าซึ่งผมก็อีเมล์กลับไปขอบคุณและปฏิเสธอย่างสุภาพแล้ว เป็นอันว่าพักหมายเลขหนึ่งไว้ชั่วคราว

คนอื่นๆ ในบัญชีลูกค้าก็ไม่มีปัญหา... วันก่อนผมฝากข้อความให้เสี่ยน็อตว่าโทรกลับหรือส่งข้อความมาสั้นๆ ก็ได้ว่าสะดวกให้ผมโทรไปตอนไหน เพราะในใจผมมีอีกคนที่อยากให้ลองออกไปด้วยกันดู น่าจะดี...

เสี่ยโทรมาตอนสายๆ ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “น้องเขาโอเคแล้วเหรอ ไม่ว่าอะไรแล้วใช่มั้ยเรื่องที่ผมพลาดไปตอนแรก”

“เสี่ย คู่เดตคนก่อนของเสี่ยกลับพรุ่งนี้ แล้วผมจะโทรให้” ผมพูดอัตโนมัติ “คือผมมีอีกคนที่อยากจะ...”

“อ้าว แล้วน้องเขาจะคิดยังไงล่ะ”

“เขาก็... ไม่คิดยังไงหรอกครับ” ผมงงนิดๆ กับคำถามเสี่ยน็อต แต่ก็อธิบายต่อ “เขาทราบอยู่แล้ว ระหว่างที่ยังไม่ได้คำตอบเรื่องเดตที่สองระหว่างเสี่ยกับเขานี่ยังไงเสี่ยลองออกไปกับ...”

“ผมรอเขากลับมาก่อนดีกว่า”

ผมแน่ใจว่าอธิบายกลไกการทำงานของเรื่องนี้ให้ลูกค้าฟังถี่ถ้วนแล้ว แต่ไม่เป็นไร พูดซ้ำอีกก็ได้

“เสี่ย... ถึงมีสิบเดต เหลืออีกเก้าไม่ได้หมายความว่าเสี่ยต้องไปกับคนเดิมทุกหนนะครับ คู่เดตเสี่ยเขาก็เข้าใจอย่างนี้” แปลว่าพอเขากลับมาเขาอาจอยากไปกับคนอื่นดูบ้างก็ได้ เสี่ยควรจะรู้ มันอยู่ในกระบวนการ

“เขายังไม่บอกนี่ว่าไม่อยากออกไปกับผมแล้ว”

“... ผมแค่ไม่อยากให้เสี่ยตัดโอกาสตัวเองในการเจอคนอื่น คนที่เสี่ยอาจจะเข้ากับเขาได้ดีกว่าคนเดิมด้วยซ้ำ”

เดตครั้งที่สองของเสี่ย แต่เป็นครั้งที่ห้าของอีกคน... ก็ไม่ใช่ผมไม่เคยบอกเสี่ยน็อตว่าไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าจะได้ลงเอยกับคนแรกที่นัดให้ จะมาปักใจหรือว่ารอแต่คนใดคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่อง ที่เสี่ยมาเป็นลูกค้าไม่ใช่เพราะจะเพิ่มโอกาสการได้พบคนมากขึ้นหรอกหรือ

... คนแรก... มีอิทธิพลขนาดไหนทำไมผมจะไม่รู้
 
“ผมว่าผมควรจะรอเขาก่อนนะ ไม่สิ ผมว่าผมอยากรอเขาก่อน”

... เสี่ยน็อตคือกรณีตัวอย่างในการรักษาสมดุลระหว่างเคารพความต้องการของลูกค้า... กับแนะสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้ ซึ่งครั้งนี้ผมคิดว่าการออกไปกับอีกคนไม่เสียหลาย

แต่เสี่ยน็อตก็ยังยืนยันอยู่เหมือนเดิม จนในที่สุดผมต้องพูด

“เสี่ย... มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะครับ เสี่ยต้อง...”

แต่เสี่ยน็อตขัดขึ้นก่อนที่ผมจะทันพูดจบ “ผมรู้ตั้งแต่ต้นแล้วคุณแทคว่ามันไม่ง่าย... ถ้าอยากง่ายผมก็หลับหูหลับตาแต่งไปกับผู้หญิงที่บ้านหามาให้ นั่นน่ะง่าย แต่ผมขี้เกียจหลอกตัวเอง แล้วก็ไม่อยากหลอกน้องผู้หญิงเขา เพราะฉะนั้น... ผมรู้... รู้ดี”

แม่เสี่ยแทบเป็นลมตายตอนรู้เรื่อง จะตัดออกจากกองมรดกก็ไม่ได้เพราะเสี่ยต้องสืบทอดโรงงานน้ำปลา มีลูกน้าสาวยังเพิ่งขึ้นป. 4 เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้แม่เสี่ยโอเคขึ้นมาก... ตอนคุยประวัติกันครั้งแรกๆ ผมก็นับถือเสี่ยน็อตเรื่อยมา

เพราะเสี่ยไม่กลัวที่จะประกาศเหตุผลจริงแท้ที่ไม่อยากแต่งงาน

“ถ้าเสี่ยตัดสินใจอย่างนั้นแล้วก็... ได้ครับ พอเขากลับมาแล้ว ผมจะคุยแล้วติดต่อกลับไปให้เร็วที่สุด”

เสี่ยขอบคุณที่ผมเข้าใจ ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วผมเข้าใจขนาดไหน แต่รู้แน่ว่า ผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนเขา

มันก็อีกแค่วันเดียว... เสี่ยยอมรับปากแม้ไม่ค่อยเต็มใจว่าหากคำตอบไม่ตรงกันแล้วเสี่ยจะลองดูอีกคน เดตครั้งที่สองของเสี่ย อาจจะเกิดขึ้นกับคนเดิม หรือคนใหม่ แต่ผมหวังเพื่อเสี่ยจริงๆ ว่าให้คนที่เสี่ยออกไปด้วยหนแรกมองข้ามเสื้อยืดเก่าย้วยโฆษณาน้ำปลายี่ห้อตัวเองกับการตะกุกตะกักและเขวออกนอกเรื่องเวลาประหม่าของเสี่ย... ไปจนถึงข้างใน

จู่ๆ ครีมที่อ่านประวัติเก่าลูกค้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นเปรย

"... คิดว่าอีกฝั่งเขาทำงานยากกว่าฝั่งเราหรือเปล่า"

“หญิงก็คนชายก็คน ขึ้นชื่อว่าคนแล้วยากพอกันค่า” คนตอบคือพี่อิท ซึ่งความจริงแล้วตอนนี้บัญชีลูกค้าในมือเธอราบรื่นหวานจ๋อยกันจนน่าอิจฉา ไม่ได้ ‘ยาก’ เลยสักหน่อย “ทำไมน้องครีมถามยังงั้นล่ะคะ”

"อ้าวก็บริษัทจัดหาคู่โดยทั่วไปน่ะ ถ้าเดตกันเกินสองปีโดยไม่มีการขอแต่งงานเกิดขึ้นนี่ก็นับว่าไม่ไปถึงไหน บางที่แนะนำให้หยุดด้วยซ้ำ ผู้หญิงเสียโอกาสนะคะเจ๊"

ทางฝั่งเรานี่ก็ 'เดต' กันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดลดลงเหลือเดตอยู่คนเดียวละมัง นับว่าเสียโอกาสหรือเปล่า

หรือบางคนก็เป็นอย่างเสี่ย... ที่เต็มใจ

"ถ้าผู้หญิงเขาอยากจะมีลูก เขาก็มีนาฬิกาชีวภาพของเขาอยู่นา” ครีมว่าต่อ “เกินสามสิบห้าไปแล้วนี่ไม่ใช่ยากอย่างเดียว บางทีอันตรายด้วย ฝั่งนั้นจะจับคู่ใครกับใครก็ต้องทำเวลานิดหนึ่ง"

“น้องครีม... หนูเพิ่งจบทำไมคิดเรื่องนี้แล้วล่ะคะ” พี่อิทถามขำๆ

“ครีมยัง... ตอนแรกครีมกะไว้ตอบสัมภาษณ์เข้าทำงานของฝั่งโน้น แต่จริงๆ ครีมเชื่ออิเหนา... แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า”

“ถ้าเท่านั้นก็จริงค่ะ... แต่อิเหนาเหน็บจรกา ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง จรกาถึงรูปชั่วตัวดำก็รักเดียวใจเดียว อิเหนาหล่อแต่หลายใจ เป็นแบบนี้พี่เลือกจรกาดีกว่า”

... เฮ้อ เด็กอักษรฯ คุยกัน...

แต่ถ้าเลือกได้ ทุกคนคงอยากได้อิเหนาที่รักเดียวใจเดียว...

“แทคตกลงคุณน็อตเขารอคนแรกก่อนใช่ไหม” จากกำลังอยู่ในโลกของวรรณคดีพี่อิทสามารถตามงานกับผมต่อได้ทันที นี่ยังดี เหมือนจะเพลาๆ เรื่องโอบไปชั่วคราว แต่ผมสังหรณ์ว่าไม่นานคงถามใหม่

“ผมพยายามบอกแล้วแต่ว่าเสี่ย...”

“ไม่เป็นไร” พี่อิทว่าอย่างนั้น “เขายังใหม่ แทคดูด้วยละกัน”

“เสี่ยเพิ่งออกไปกับคนนี้ครั้งเดียวเอง” ผมว่า

“เราก็ไม่ได้นั่งอยู่ในใจเขา” พี่อิทบอก “ถ้าใช่ก็คือใช่แหละน่า”

มันยากตรงที่อีกฝ่ายเขาจะใช่กับเสี่ยด้วยมั้ย... ถ้าแฮปปี้เอ็นดิ้งเกิดขึ้นได้ง่ายอย่างนั้นคงดี

“เจ๊ก็... อย่าโสดนานนัก ลมหนาวมาแล้วนะคะ” ครีมว่า

“น้องครีม ลอยกระทงนี้อย่าคิดว่าพี่ว่างค่ะ...” พี่อิทมีเลศนัย

“ไปกับแก๊งล่ะสิ” ผมดัก

“ปีนี้ฉันไปลอยกับผู้ชายจ้า ผู้ชายชวน” เธอยิ้มอย่างเป็นต่อ ครีมก็กรี๊ดกร๊าดไปตามเรื่อง “ว่าแต่เรา กลับบ้านนอนอีกหรือไงแทค น้องครีมเขายังไปกับเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยเลย”

“ไม่รู้เหมือนกันพี่อิท” 

เกือบลืมว่าวันนี้ลอยกระทง จริงๆ มันก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญกับชีวิตผมมาตั้งหลายปีแล้ว จนกระทั่งเมื่อคืนที่เด็กห้องตรงข้ามมานั่งกินขนมพูดจาเรื่อยเปื่อยเหมือนเคย แล้วก็บอกว่าถ้าทำงานแล้วอยู่เวรเต็มรูปช่วงเทศกาลคงยุ่งสะบัด ลอยกระทงนี่โรงพยาบาลวุ่นวายไม่แพ้วันอื่น

ผมว่าถ้าลอยเองก็... ต้องปีนี้ละมัง โอบบอกมหาวิทยาลัยตัวเองจัด เพื่อนๆ ก็ไปกัน ผมลอยครั้งสุดท้ายหลายปีแล้ว... ตอนยังเรียนอยู่

แล้วโอบก็ชวน เท่านี้เลยจริงๆ

สรุปคือผมก็ไม่รู้ว่าจนแล้วจนรอดผมบอกจะไปหรือเปล่า หรือผมควรโทรบอกโอบว่าผมจะกลับบ้าน ถ้าโอบไปงานลอยกระทงมหาวิทยาลัยผมจะได้เอาอาหารให้หนูเหมือนเคย เพราะจะให้ผมไปเที่ยวงานลอยกระทงกับกลุ่มเพื่อนโอบวัยยี่สิบสองยี่สิบสามทั้งนั้นนี่จะไม่สนุกกันเปล่าๆ ทั้งผมทั้งเพื่อนมันนั่นแหละ ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนด้วย

แต่ตอนบ่ายงานก็เข้าต่อเนื่อง... ชะรอยลูกค้ากลัวไม่มีเดตในวันลอยกระทง รวมทั้งผู้ที่ตัดสินใจจะเข้ามาปรึกษาคุยกับเราเอาวันนี้ กว่าผมจะมีเวลาก็สายเกินที่จะบอกปฏิเสธ หยิบมือถืออีกทีเห็นโอบส่งข้อความมาว่ารออยู่แล้ว ข้อความก่อนหน้าคือเอาอาหารใส่เผื่อให้หนูเรืองเรียบร้อย ซึ่งปกติมันไม่ทำบ่อยเพื่อสุขอนามัยอันดีของหนูเพราะกลัวจะเก่า เป็นที่มาของการถ่อลงไปเอากุญแจของผมในทุกเย็นที่โอบเกิดจะกลับค่ำ

ผมก็รีบสุดๆ เพราะไม่ค่อยอยู่ในนิสัยที่จะให้ใครรอ วันนี้ไม่ได้เอารถมาซึ่งดีเพราะคงหาที่จอดไม่ได้ เสียเวลาในการโทรศัพท์ตะโกนหากันอีกพักท่ามกลางคลื่นมหาชนกว่าจะเจอ เห็นหน้าผมเข้าคนมารอก็ว่า

“นี่คราวนี้โอบไม่สายละนะ”

ความจริงโอบจะสายหรือไม่สายผมก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปว่าอะไรมัน แค่อย่าสายกับคนอื่นเท่านั้นละเพราะจะดูไม่ดีกับตัวเอง ผมกวาดสายตาไปรอบๆ แต่ท่ามกลางความวุ่นวายตรงนั้นไม่มีใครหยุดอยู่เลยนอกจากเราสองคน

“แทคหาอะไร”

“เพื่อนๆ ล่ะ” หรือว่าโอบมารอผมตรงนี้คนเดียวก่อน “เห็นบอกเพื่อนก็มากัน”

คนฟังเลิกคิ้วเหมือนนึกถึงเมื่อวาน แต่แล้วก็เม้มปากเหมือนกลั้นยิ้ม

“บอกว่า...” โอบพูดช้าๆ “เพื่อนๆ ก็มากันเยอะ แต่ไม่ได้บอกว่าจะมาด้วย”

ความจริงก็ถูก คิดว่าโอบคงปะกับเพื่อนยากเหมือนกันถ้าไม่นัด คนเป็นหนอน

“... อีกอย่าง วันนี้ใครเขาก็ไปลอยกับแฟนทั้งนั้นน่ะ”

จริงอีก จู่ๆ ลูกค้าถึงได้โทรหาผมกันให้พรึบ และน่าจะเป็นที่นิยมโดยทั่วไปเพราะพอเราเดินหากระทงก็หมดแสนจะหมด เหลืออยู่อันเดียวที่ต้องซื้อไว้ก่อน และได้ค้นพบความจริงว่า มัน... หมดแล้วหมดเลย

โอบเลยว่า “แทคถือไหม”

“ไม่ได้ลอยเสียเที่ยวกว่า” ในสถานการณ์แบบนี้เราไม่ควรจะถืออะไรทั้งสิ้น ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ “ลอยด้วยกันนี่แหละเสร็จแล้วจะได้ไปกินข้าว”

จากนั้นเราก็วนเวียนหาที่ว่างรอบสระ แต่คนก็ยังเยอะอยู่จนผมต้องถามว่ามหาวิทยาลัยโอบศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษหรือพวกที่จะต้องสอบใบประกอบวิชาชีพนี่จำเป็นต้องมาขออะไรแถวนี้หรือเปล่า เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ

“ก็คงศักดิ์สิทธิ์มั้ง รุ่นพี่บอก... แต่เขาเชื่อกันว่าถ้าขอเองจะสอบไม่ได้ นี่บางกลุ่มจริงจังขนาดมีคู่บัดดี้ นอกจากติวหนังสือแล้วผลัดกันอธิษฐานด้วย" โอบเล่าขำๆ

"แล้วใครอธิษฐานให้โอบล่ะ"

"ไม่รู้ซิ ก็คิดๆ เผื่อไปหมดอยากให้ได้กันยกรุ่นเลยยิ่งดี ขอแล้วไม่อ่านหนังสือก็เท่านั้นแหละป่ะ"

คนข้างหน้าเราถอยออกมาโอบก็จับแขนผมลากเข้าแทนที่ ไม่นึกมาก่อนว่าการหาที่ลอยกระทงแค่นี้อย่างกับวนหาที่จอดรถในห้างแน่นๆ ใครดีใครได้มาก... แต่มันลืมไปหรือเปล่าว่าคนที่เพิ่งลอยเสร็จเขามาคนเดียว

ข้างๆ เบียดเข้ามาจนผมขยับไม่ได้ โอบหันมองผมก็พยักเพยิดให้วางไปเลย แขนยาวกว่าก็ให้มันยื่นไปวางลงน้ำแหละ ถือว่ากระทงผมด้วยแล้ว

เราลุกขึ้นพยายามชะเง้อดูผลงาน... กระทงใบตองเขียวแซมธูปเทียนดอกไม้ดูกลมกลืนกันไปหมดก็จริง แต่ผมคิดว่า... คราวนี้คงจะไม่ล่มกลางคัน

“โอย เกือบลืมไปแล้วว่าลอยกระทงมันวุ่นวายยังไง”

“นานเหรอ” โอบถาม เราเดินห่างออกมาพอให้มีที่หายใจหายคอบ้าง ผมพยักหน้า

“ก็... กี่ปีละ ตั้งแต่ปีสอง”

“ปีสอง?... นั่นยี่เป็งในเมืองเชียงใหม่ครั้งแรกของโอบเลยนะ ตอนม. 4... ก่อนหน้านั้นอยู่แต่รอบนอก” คนพูดหัวเราะนิดๆ

งานครั้งนั้นในความทรงจำผมเลือนลางยกเว้นอยู่อย่างเดียว ถอนใจแล้วจึงรู้ว่าเผลอยกมือซ้ายแตะหลังคอ... ผมอยากจะจำขบวนแห่ โคมที่ลอยขึ้นเต็มท้องฟ้า หรือแม้แต่เสียงดนตรีในวันนั้นได้ เพื่อที่ว่าเมื่อเอ่ยถึงยี่เป็งในปีนั้น... ผมจะได้มีเรื่องอื่นให้นึกแทน

ความจริง... ผมกับโอบก็อาจจะอยู่ในงานเดียวกัน เพียงแต่ตอนนั้น เรายังมองไม่เห็นกันเท่านั้นเอง

โอบมองตามมือผม แลเลยไปข้างหน้า แล้วบอกว่า “แปลกนะ... พอโตขึ้น คำขอของคนเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ”

“เมื่อกี้ ขออะไร...”

“ก็... ให้พ่อให้แม่...” โอบพูดเรื่อยๆ “ให้พ่อทั้งสองคน... ถึงคนแรกจะแทบไม่มีโอกาสได้รู้จัก”

น้านันคงแต่งงานใหม่จริงๆ เมื่อย้ายไปแล้ว กับคนที่อยู่ในรูป บนโต๊ะเขียนหนังสือของโอบ

... อยากให้พ่อกลับบ้านทุกวันเหมือนพ่อแทค ทำไมพ่อไม่กลับ...
 
จู่ๆ ผมก็จำได้ เสียงที่ลอยลอดรั้วมากับลม บางทีก็ปนสะอื้น บางทีก็บ่นหงุงหงิงกับแม่

ตอนนั้นผมน่าจะเกือบสิบสาม ก่อนหน้าที่โอบจะย้ายไปแป๊บเดียว เพราะตอนเด็กกว่านั้นบางทีก็ไม่คิด... แค่ได้ข้ามรั้วมากินขนมคงพอแล้ว
 
“... แม่เขาก็เหนื่อยมาเยอะแล้วนะ” โอบยังพูดไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม “ดีที่... เจอพ่อ คนนี้ แต่ถ้าโอบรักใคร เขาจะไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเสียใจอย่างนั้น... เมื่อก่อนตอนอยู่หาดใหญ่ แม่บอกว่า พ่อเขามีธุระสำคัญต้องจัดการ มีเรื่องสำคัญ... เราก็คิดอย่างเด็กๆ ว่า ไม่ใช่เรากับแม่หรือที่ควรจะสำคัญที่สุด... ถ้าเป็นโอบ โอบจะให้เขาสำคัญสุด เรื่องอื่น... เขาก็ไม่ต้องห่วงอีก”

พูดเสร็จก็เหลือบมองผมแล้วยิ้ม ดูจะกลับมาเป็นคนเดิมที่ใจไม่ลอยไปไกลอย่างเมื่อครู่

“เอ้าเงียบเชียว ห่วงเรื่องงานที่พี่อิทสั่งเหรอ... เมื่อกี้โอบขอไปแล้ว อีกอย่าง”

“เรื่องที่อยากให้ช่วยน่ะนะ...” ผมรอ

"อืม... ขอ... ว่าถ้าเขาจะให้โอกาสใคร มองเราก่อน"

"มักน้อยจัง"

จริงๆ แล้ว ถ้าคนเราอธิษฐานเรื่องความรัก ถึงจะยังไม่มีแฟน ก็ต้องอยากให้สมหวัง ให้เขารักเราคนเดียวไม่ใช่หรือ ไม่ขอเพียงโอกาสแรกหรอก

... แค่ตอนนี้ผมเลยวันเวลาที่จะอธิษฐานเรื่องแบบนั้นไปแล้ว

“น้อยไปเหรอ" โอบทำท่าคิด "งั้นขอให้... ถึงเขายังไม่รักเรา ก็อย่าเพิ่งรักใคร”

“มันขอตามกันทีหลังได้ด้วย ลอยไปแล้วนะกระทง” ผมก็ขำ ก่อนจะว่า “แล้วเพิ่งรู้ว่าของแบบนี้มันห้ามกันได้”

“ไม่รู้... ก็ต้องหวังไว้ก่อนแหละ” โอบว่า “เอ้าแทคบอกมา เมื่อกี้ขออะไรบ้าง”

"... ให้งานราบรื่น พ่อแม่สุขภาพแข็งแรง บ้านเมืองสงบๆ..."

โอบหัวเราะ “ขออะไรหว่านแหขนาดนี้”

"... แล้วก็ ให้โอบสอบได้"

ผมพูดจริงๆ ผมขอเผื่อ... เพราะโอบบอกว่าไม่รู้จะมีใครขอให้หรือเปล่า

โอบหยุดเดิน ยิ้ม แล้วก็มองผมนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น ก่อนจะประสานมือเหยียดไปข้างหน้า สูดลมเข้าเฮือกใหญ่

"เฮ้อ โล่งใจ”

ผมหันไปมองคนเดินข้างกันอย่างมีคำถาม แต่ได้รอยยิ้มตอบกลับมาอีกครั้ง

“สอบผ่านชัวร์... กำลังใจดี”
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 12-02-2013 15:15:08
คุณ malula บทนี้ก็ต้องพูดแบบนี้อีก ฮา นี่เดตสองแล้วละเปล่า ขอบคุณสำหรับการอ่านมาโดยตลอดเลยนะคะ

คุณ mesomeo2 เนอะ ก็หาทางกันไป ขอบคุณสำหรับการอ่านนะคะ

คุณ 11235 จริงด้วย อยากให้ได้อารมณ์นั้นนะ

คุณ PK37 คนเขียนไม่แน่ใจกับคุณศรัณย์จริงๆ ฮา แทคตั้งใจทำงานเสมอ เรื่องเมื่อก่อนต้องฝากติดตามด้วย แต่น่าคิดมากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจนะคะ

คุณ •♀NoM!_KunG♀• ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า โอบเรียนประถมมัธยมอยู่เชียงใหม่อยู่แล้วเน้อ สรุปอยู่ก่อนแทคอีก ฮา ความจริงคนเขียนไม่ใช่คนใต้ แต่แทคเป็นคนใต้ค่ะ 55 ฝากติดตามแทคด้วยละกันนะคะ

คุณ iforgive โถ จริงๆ ด้วย คุณศรัณย์ยังไม่มา ให้ซีนโอบบ้างไรบ้าง (แต่เดี๋ยวก็มา)

คุณ Naenprin เคยเจอกันน้านนานมาแล้วค่ะ อาจจะอยากรู้เพิ่มบ้าง 55

คุณ pim_onelove ยังสติลไม่รู้ต่อไป ฮา แต่เดี๋ยวก่อนเถอะ...

คุณ Takarajung_TK 55 รู้ตัวช้า ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะคะ ฝากตอนต่อไปด้วยน้า

คุณ kyoya11 คนอ่านนี่แหละที่เห็นว่า จีบกันอยู่ชัดๆ เหอๆ

คุณ yamapong 55 ค่า ยังคงมีซัมติง ไรท์หรือรอง? ต่อไป

คุณ iamnan เรามีแม่ยกคุณศรัณย์ด้วยอยู่ตรงนี้เอง ฝากยกต่อ กร๊าก

คุณ ่patsaporn ยังคงสนิทสนมกันต่อ... น้องโอบยังไม่รู้เลยว่ามีคู่แข่ง (แต่ก็ไม่ช้าไม่นานนี้ละ) ขอบคุณมากสำหรับการอ่านด้วยค่า

คุณ Tassanee ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ 2pmui แทคคิดว่าตัวเองรู้และทำหน้าที่แล้ว ฮา เข้าทางตลอด บทนี้ด้วย ขอบคุณสำหรับคำอวยพรคุณศรัณย์ ฝากส่งถึงแกด้วย 555

คุณ AeRoMoZa อันนั้นเราก็ต้องคอยดูกันต่อไป ขอบคุณค่ะที่เห็นว่าน้องโอบน่ารัก 55 ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ CheetahYG ขอบคุณสำหรับการอ่านค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ ordkrub ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Gokusan ขอบคุณที่ตัดสินใจกดเข้ามาค่ะ แทคมีระบบป้องกันตัวจริงๆ เลยแบบ ไม่ค่อยคิด อะไรกับใครทั้งสิ้น อันนี้ก็ต้องขอฝากอ่านต่อไปด้วยค่ะ

คุณ NewYearzz ขอบคุณค่ะ หวังว่ายังอุ่นอยู่ อย่ากลัวค่ะอ่านสบายๆ เนอะ ฝากอ่านต่อด้วยค่ะ

คุณ entirom ควร แต่ตอนนี้สองคนยังมิโคจรมาเจอกันเลย

คุณ Millet อิอิ ส่วนครั้งนี้รู้ตัวหรือเปล่า

คุณ krappom อันนี้คนเขียนก็ไม่แน่ใจคุณศรัณย์ 55 ยังไงฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ KAEHUB ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ อันนี้ก็ไม่แน่ใจแต่แม่แทคสนิทกับแม่โอบ 555

คุณ milkteabeige 55 คนมันยังไม่คิดมันก็ยังไม่คิดล่ะนะ แต่อีกเดี๋ยวเหอะ...

คุณ hanataro ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า เคยสนิทกันมาก่อนก็สนิทกันต่อ 55

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โอเค ขอคงอารมณ์ประมาณนี้อีกสักบทก่อนที่มันจะ ฮืม เอาเป็นว่ายังเจอกันไม่ครบองค์ และเรื่องนี้ไม่มาม่าแรงอะไรแต่อย่างใด โปรดเชื่อ

เราลอยกระทงเดือนกุมภากันไปก่อน ฮา เนื่องจากไทม์ไลน์ในเรื่องยังอยู่พฤศจิกาปีที่แล้ว (ในความเป็นจริงคือสอบใบประกอบวิชาชีพรอบแรกกันไปเมื่อต้นเดือน สำหรับคนอ่านที่อยากรู้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมน้องโอบยังไม่ได้สอบ แต่เราก็จะเดินหน้ากันต่อไป นะจ๊ะ)

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านอย่างแรงๆ เช่นเคย รักมากมาย
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-02-2013 16:21:50
หวานเรื่อยๆ โอบแอบหวังอะไรไว้เราก็รู้ๆกันอยู่
เรียกว่าเดทสองจะได้ไหม

ขอบคุณคุณเดหลีสำหรับนิยายดีๆครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 12-02-2013 16:30:31
อยากให้เสี่ยน็อตสมหวังเร็วๆ จังเลยนะ
โอ๊ะโอ...ประจวบเหมาะงานยุ่งจนแทคปฏิเสธน้องโอบไม่ทัน ไม่งั้นน้องโอบคงต้องลอยคนเดียวหรืออาจจะไม่ลอยก็ได้ น้องโอบเลยได้ไปลอยกระทงกับแทค แถมยังได้ลอยกระทงด้วยกันอีกนะ  :impress2:
งานยี่เป็งเกิดอะไรขึ้นกับแทคอ่ะ หรือว่าเพราะสิ่งที่เกิดในวันนั้นทำให้แทคปิดตัวเองขนาดนี้กันนะ
คำขอของน้องโอบนี่คิดเข้าข้างแทคเต็มประตูเลยนะ ถ้าแทคเปิดใจอยากให้ให้โอกาสน้องโอบคนแรกเลยนะ และยิ่งถ้ายังไม่รักน้องโอบก็ไม่เป็นไร แต่อย่าเพิ่งไปรักคนอื่นเลยนะ
น้องโอบเริ่มมีอิทธิพลในใจแทคมากขึ้นนิดหน่อยแล้วนะ และยังขอเรื่องสอบให้กับน้องโอบด้วยนะเนี่ย
แหม...น้องโอบกำลังใจมาเต็มจากแทคอย่างนี้สอบไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วนะ  o18

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 12-02-2013 16:54:22
เดทกันอีกแล้วนะ โอบแทค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine538 ที่ 12-02-2013 17:22:57
เข้ามารายงานตัวแล้วค่ะ ตามมาจากน้องจีแหละ  :o8: (เอิ่ม... ทำไมเพิ่งมาตอนนี้หะ ?? ... คุณคนเขียนคงสงสัยเนอะ 555)

แอบอยากเป็นรีพลายที่ 99 นะ เลขสวย แต่พอจิ้มแล้วก็ได้ลำดับที่ 100 พอดี ถือว่าฉลองร้อยแล้วจ้าแทนละกันค่ะ  :mc4:

น้องโอบอ่ะ เนียนมาก...มากถึงมากที่สุด ที่สำคัญ คนอ่านรู้นะว่าโอบกำลัง "เข้าหา" แทคด้วยกลวิธีต่างๆ อยู่ แต่ทำไมแทคไม่รู้ตัวก็ไม่รู้  :เฮ้อ: งานนี้โอบคงต้องเล่นลูกตรงสักหมัดแล้วแหละ เดตที่ 2 แล้วแทคยังไม่ได้รู้สึกอะไรเล้ย ...

ว่ากันถึงบริษัทบำบัดโสดกันหน่อย จะบอกว่ามีเพื่อนหลายคนที่ประสบความสำเร็จกับการเจอเนื้อคู่ด้วยวิธีนี้อยู่นะคะ ถึงจะเป็น ช-ญ ก็เหอะ แต่มันก็เพิ่มโอกาสให้คนมาพบกันได้จริงๆ ที่ฮาก็คือ คนที่ไปหาบริษัทอ่ะ สวยหล่อดูดีกันหมดเลย แต่หาคู่เองกันไม่ได้อ่ะ ท่าทางจะเลือกเกิน 555

นอกจากโอบแทคแล้ว รู้สึกเสี่ยกับคุณศรันย์ก็เป็นขวัญใจคนอ่านเหมือนกันนะคะ น่าลุ้นดีทีเดียวว่าทั้งสองคนจะจับคู่กับใครได้
แต่จะบอกว่า ขวัญใจตัวจริงของเรื่องนี้น่าจะเป็นหนูดาวเรืองนะ คุณคนเขียนบรรยายซะน่ารักน่ากอดเชียวแหละ หุหุหุ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:
 
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 12-02-2013 18:46:51
คู่นี้จะเรียกว่าออกเดตกันได้ป่าวเนี่ย

แทค มีการขอพรเผื่อ โอบ ด้วย มีเลศนัยนะเนี่ย

รอตอนต่อไปจ้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 12-02-2013 20:42:41
งวดนี้มาสั้นจัง :z3:
เมื่อไหร่จะจีบกันแบบจริงๆจังๆ คนอ่านจะได้เขินแทนบ่อยๆ :laugh:
ตอนนี้ขนาดจีบแบบมึนๆก็ยังเขินแทนได้ขนาดนี้ :impress2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 12-02-2013 20:44:22
อ๊ายยยยยยยยยยย แท๊คน่ารักแบบนี้จะไม่ให้หลงรักได้ไงค๊าาาาคุณ 55555555555555555+

หวานกันไปๆๆ รอคุณศรัณย์มาทำให้ดราม่าอยู่ หุหุ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 12-02-2013 21:17:14
โอบเนียนไปได้เรื่อยๆนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-02-2013 22:04:36
แทคน่าเอ็นดูจริ๊งพ่อคุณ ถูกเด็กจีบไม่รู้ตัว
เมื่อปีสองแทคอกหักสินะ (เดา)
อยากรู้ซะจริงว่าโอบไล่ตามแทคมาตั้งแต่เมื่อไหร่ คงไม่ใช่เพิ่งเจอเมื่อเร็ว ๆ นี้แน่
เข้าใจเสี่ยน็อตนะ ก็คนมันถูกใจแล้วนี่ ต่อให้ยากก็อยากลอง(ดี)
พอได้รู้จักหนูเรืองแล้ว ก็อยากมีเป็นของตัวเองบ้างสักตัว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-02-2013 22:13:51
เฮ้ยๆๆ ตอนท้ายนั่นมันน่ารัก พี่แทคเค้าก็ใจดีเนอะมีขอให้น้องโอบด้วย น้องปลื้มเลยน้า กำลังใจดี ฮิ้ววววว
ที่โอบขอก็ดูจะเข้ามาทางแทคไงไม่รุ (คนอ่านก็คิดเข้าข้างความคิดตัวเอง 555)
อะไรไม่อะไรโอบชวนแทคไปลอยกระทงเนี่ยคิดไรป่าว แต่พี่แทคไม่คิดซักนิดเลยนะ เหมือนจะจีบยากนะคนนี้
มีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเยอะ บ้างาน ไม่ค่อยคิดถึงเรื่องความรักเท่าไรป่ะ รอดูน้องโอบละกันจะทำไง

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: CheetahYG ที่ 12-02-2013 22:14:46
 อะแฮ่มๆ โอบได้กำลังใจดีเนอะ  อยากได้บ้าง อะอะไม่ไช่จากแฟนนะจ๊ะ เเต่อยากได้จากฉาก เอ็นซี อ่ะเหอๆ ยาชูกำลังชั้นดีหุหุ :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 12-02-2013 23:07:25
อยากเห็นวันที่เขารักกันเร็วๆจังเลย  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 13-02-2013 01:34:12
อ่านด้วยคนนะครับ เรื่องน่ารักมาก รอตอนต่อไปอยู่นะครับขอบคุณมากๆครับผม
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-02-2013 01:54:22
หืมมมมคุณน้องโอบชัดเจนกระแทกเบ้าตาขนาดนี้ แทคยังไม่รู้เรื่องอีกเหรอเนี่ยยยย

เราชอบเรื่องนี้นะ นายเอกมึนแบบธรรมชาติดีเพราะบางเรื่องที่เคยอ่านจะบรรยายว่านายเอกน่ารัก มีคนชมซึ่ง ๆ หน้าแต่นายเอกมึนค่ะเราว่านั่นไม่ใช่มึนแต่แอ๊บ แต่จะว่าอึนก็อาจจะไม่ได้อาจเพราะแทคไม่ได้คิดอะไรกับน้องรึเปล่าเลยไม่ได้รู้สึกอะไร

ขอให้แทคหวั่นใจ รู้ตัวเร็ว ๆ เถอะ (กับคุณศรัณย์ก็ได้นะ 555)
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 13-02-2013 02:40:14
อย่างนี้ถือเป็นการเดทได้มั้ยนะ
 :o8:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 13-02-2013 03:18:10
เพิ่งอกหักมานั่งอ่านเลยไม่ค่อยอิน นิยายไม่ผิดครับ ผิดที่นิวเอง  :laugh:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 13-02-2013 03:22:43
แอบยิ้มกับประโยค 'วันนี้ใครก็ไปลอยกับแฟนทั้งนั้น'
คือโอบอาจจะหมายถึงเพื่อน แต่อิฉันมโนไปแล้วว่าหมายถึงคู่นี้ ฮี่ๆๆ ก็ไหนว่าใครๆก็ไปกับแฟนไง ฮ่าาาา
เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ ดำเนินเรื่องไม่ช้าไม่เร็วเกินไป เรื่อยๆ แต่ไม่น่าเบื่อ ยังอยากอ่านมากขึ้นๆๆ
ขอสมัครเป็นแฟนคลับหนูเรืองด้วยคน โอ๊ย น่ารักกกกอ่ะตัว ///
เห็นด้วยกับคอมเม้นต์ของคุณ iamnan เรื่องนี้พี่แทคเค้ามึนแบบธรรมชาติจริงๆ เป็นแบบที่อ่านแล้วรับได้ ไม่รู้สึกขัดหูขัดตาขัดใจ
แต่เราว่าจริงๆน้องโอบเค้าก็แอบเนียนใช้ได้อยู่นะ เพราะพวกเราอยุ่ในตำแหน่งคนนอก-คนอ่านเลยอาจดูออกได้ง่ายกว่าตัวแทค
ดูเหมือนตอนนี้พี่แทคก็ยังไม่อะไรๆกับน้องโอบ สงสัยน้องต้องเพิ่มเลเวลขึ้นมาซักจึ๋งนึงแล้วมั้ง
ไม่งั้นอาจจะไม่คืบหน้า ยังไม่อยากให้รุกตรงไปเดี๋ยวพี่เค้าไม่ทันตั้งตัวหนีเสียก่อน มันต้องค่อยๆเพิ่มขึ้นๆๆๆๆ
ขนาดคุณศรัณย์เค้าตามมาตั้งนานยังไม่ถึงไหนเล๊ย น้องต้องรีบทำคะแนนก่อนทางโน้นจะกลับมานะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 13-02-2013 03:33:03
ออกเดทกันแบไม่รู้ตัวหรือเปล่าแทค แต่โอบน่าจะรู้นะ เพราะแอบหวังอยู่นิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 13-02-2013 04:19:47
เดตครั้งที่ 2 สินะ 55 
"...วันนี้ใครเขาก็ไปลอยกับแฟนทั้งนั้น" แหม่ ทึกทักเข้าข้างตัวเองซะงั้นนะน้องโอบ รู้นะแฟนที่ว่าอะใคร
อิพี่เทคเนี่ยสิ เมื่อไหร่จะเปิดใจ เปิดตา เห็นเหมือนที่คนอ่านเห็นจ๊ะ
มันน่าหยิกให้เนื้อเขียว ทำงานบริษัทจัดหาคู่ซะปล่าว โดนจีบโต้งๆก็ยังไม่รู้ตัวสักที
คำอธิษฐาน น้องโอบมันคงลุ้นกันตัวโก่ง ดีนะที่อิตาแทคมันเป็นคนดี เลยอธิษฐานให้
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 13-02-2013 08:41:44
พี่แทคต้องมีความหวังกับใครสักคนตอนปี 2 แน่ๆๆ

ส่วนน้องโอบนี่คงมีดราม่าชีวิต แต่น่ารักนะ
แอบหวังเล็กๆ และเชื่อว่าน้องโอบแอบหลงรักพี่แทค

แล้วประโยคที่พูดนี่เกี่ยวกะพี่แทคแน่ๆๆ

พี่แทคซึนเนอะ  :really2:


แต่ยังคงประโยคเดิมค่ะ
"น้องโอบน่ารักจังเลย"

 :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-02-2013 09:33:58
จับคู่ให้แต่คนอื่น  ไม่ได้ดูตัวเองเล๊ยยยยย  ว่าโอบพยายามจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างออกมา
เฮ้อ  ชักสงสารโอบเล็ก ๆ  คงต้องพยายามให้หนัก ๆ และแสดงออกชัด ๆ ละเน๊าะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 13-02-2013 14:24:16
ท่าทางว่าระบบป้องกันตัวจะไม่ทำงานเมื่ออยู่กับเด็กบ้านตรงข้าม ^^
ยอมตามใจเขาไปหมด แม้จะมีงุ้งงิ้งๆ ไปบ้าง แต่...ยอมทำให้ล่ะน้าาาา

ตาโอบนี่ก็เนียนเนาะ...เหตุผลร้อยแปดที่จะให้เขาทำเพื่อเรา
สังเกตการตอบรับ เอาใจใส่ทุกเรื่องไปด้วยสิท่า...ใจฟูเชียว ^^

เป็นลอยกระทงที่...คนแน่นและโรแมนติกมาก(??) ^^V
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pudson ที่ 14-02-2013 05:51:17
สมาชิกใหม่ ฝากตัวด้วยค่ะ  :L2: :L2: :L2:
เนื้อเรื่องน่าสนใจ สนุกดี

เดตสอง ลอยกระทงอันเดียวกันด้วย

ชอบประโยคนี้ค่ะ ^^
งั้นขอให้... ถึงเขายังไม่รักเรา ก็อย่าเพิ่งรักใคร
สอบผ่านชัวร์...กำลังใจดี
แทคต้องมองตาโอบตอนพูดนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 14-02-2013 12:51:54
- เสี่ยน็อต อยากให้เจอเนื้อคู่เร็วๆ จังเลย จิตใจมั่นคงแถมรวยอีกต่างหาก ต้องเจอคนดีๆ ซิหน่า
- หนูเรือง น่ารักมากจ้า ออกมานิดเดียวแต่ออร่าเปล่งมากสุดๆ 
- แทค  เริ่มคิดว่าไม่ใช่ไม่รู้ตัว แต่เลือกที่จะไม่รู้มากกว่า เพราะโอบพูดขนาดนี้ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกทั้งนั้น
- โอบ อย่าท้อนะ เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ พรที่ขอไปกับกระทงเป็นจริงแน่นอน เพราะเรื่องนี้ "โอบเป็นพระเอก" 555555  o18
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 14-02-2013 18:54:11
ชอบค่ะ   o13 เป็นกลจให้

รอลุ้นว่าตกลงใครคู่ใครกันแน่
ดูเหมือนแทคเป็นพวกขยาดความรัก
ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอดีตมาเกี่ยวพันหรือเปล่า

ส่วนโอบ พูดเป็นนัยๆนี่แอบรักแทคอยู่หรือเปล่าค่ะ ?

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 5] 12 ก.พ. 56 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 15-02-2013 14:35:30
แทคตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่จริ้ง จริง
นี่ขนาดว่าคนคุ้นเคยแต่เด็กนะเนี่ย
สงสัยว่าเก็บกดขนาดนี้เพราะเสียใจมากที่เด็กข้างบ้านหายไปแน่ๆเลย
รออ่านต่อนะฮะ ว่าโอบจะทำยังไงให้แทคใจอ่อน ^_^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 17-02-2013 20:13:06
บทที่ 6

“เมื่อวันก่อนพี่แทคไปแถวงานลอยกระทงที่มหาวิทยาลัยครีมหรือเปล่า เห็นแวบๆ อยู่กับคนที่เจ๊บอกว่าจะเป็นลูกค้าใหม่เราด้วย ทำงานแม้นอกเวลาจริงๆ นะพี่เนี่ย” ครีมทักขึ้นเมื่อผมเดินเข้าออฟฟิศในเช้าวันทำงาน “ครีมว่าจะเรียกแต่พี่แทคคงไม่ได้ยิน คนเยอะด้วย”
 
พี่อิทก็หูผึ่งทันที

“ต๊าย เธอไปลอยกับน้องโอบเหรอ”

ผมไม่รู้ว่าพี่อิทมีภาพแบบไหนอยู่ในหัว เราแต่งชุดไทยช่วยกันประคองกระทงลงน้ำและยิ้มให้กล้องเหมือนในโปสเตอร์ท่องเที่ยวหรือเปล่า เหตุการณ์จริงๆ คือผมถูกเบียดอยู่ระหว่างแขนใครก็ไม่รู้ที่พยายามจะหาพื้นที่ให้ตัวเอง ส่วนอีกฝั่งเป็นแขนเสื้อของโอบ มือผมสองข้างกองกันอยู่บนเข่าแบบขยับไม่ได้ส่วนมือโอบกำขอบกระทงมั่นเพราะกลัวไหลลงน้ำไปแบบไม่ได้ตั้งใจ ธูปเทียนไหวสั่นเพราะโดนเบียดจากอีกข้างมาเหมือนกัน รีบวางรีบลุก

แค่นั้นแหละ...

เพราะตอนแรกผมก็นึกว่าโอบจะไปกับเพื่อนอยู่แล้ว แต่ปรากฎว่าการณ์ออกมาในรูปนี้ก็ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ลอยมานาน และก็... ไม่ได้รู้สึกไม่สนิทใจอะไรที่จะไปกับโอบ จริงๆ อาจเป็นครั้งเดียวตั้งแต่ทำงานมาที่ผมไม่ได้แยกสองส่วนออกจากกันเด็ดขาด

เรื่องนี้ต้องโทษแม่เลย... เมื่อวานนี้เองโอบเพิ่งจะเคาะประตูผมแล้วยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้ คุณนายโทรมาจากหาดใหญ่ถามว่าที่เภสัชกรเกียรตินิยมเรื่องหยูกยาให้พ่อ แล้วก็เหมือนเดิมคือขี้เกียจวางหูแล้วโทรใหม่แต่นึกขึ้นได้ว่ามีอะไรอยากจะพูดกับลูกตัวเองด้วย พอเสร็จผมก็ต้องไปเคาะห้องคืนโทรศัพท์มันอีก โอบดัน... แปะโน้ตไว้หน้าห้องผมว่าจะลงไปมินิมาร์ท ซึ่งผมว่าผมไม่เคยพูดโทรศัพท์นานขนาดนั้น

... แต่คงประมาทแม่เกินไปเพราะปรากฎถ่านหมด ที่ชาร์จโอบก็เกิดจะเจ๊งขึ้นมาพอดี เลยต้องมาจิ้มไว้ห้องผมก่อน แล้วค่อยมาเคาะเอาคืนทีหลัง

ชีวิตดูพัวพันกันเกินเหตุจริงๆ บางที

พี่อิทยังเท้าโต๊ะผมอยู่อย่างมีนัยสำคัญจนผมต้องถาม “แล้วพี่อิทล่ะเป็นไง เล่ามาดีกว่า” 

พี่อิททำหน้าไม่สบอารมณ์ทันที ตอนนั้นครีมไม่อยู่แล้วคงลุกไปเข้าห้องน้ำหรืออะไรสักอย่าง เธอเลยจัดเต็ม

“ฮาย... ไม่ไหว ยกมาแต่เรื่องเบี้ย!”

เบี้ย... ภาษาถิ่นเรา คือเงิน ผมก็นั่งฟังต่อ ท่าทางลอยกระทงปีนี้ของพี่อิทจะไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่

“จะอวดทำไมว่าหาได้แค่นั้น แค่นี้... เล่นหุ้น ไปเที่ยวเมืองนอก... ฟังอยู่ครึ่งค่อนคืนฉันเลยถามกลับไปว่า เงินเยอะขนาดนี้ให้พ่อแม่ พาไปเที่ยวบ้างสิคะ ครั้งสุดท้ายเมื่อไร... เงียบนิ ตอบไม่ได้ หายเปรตไป”

หายเปรตก็ประมาณว่าหายบ้า สม... สะใจหน่อยๆ น่ะแหละ พี่อิทไม่ได้ถามเรื่องที่ผมออกไปกับโอบอีกแต่พูดเรื่องงานต่อ

ผมคิดว่าตัวเองไม่ได้กลัวที่จะตอบ แต่มันอธิบายยากอยู่เหมือนกัน สนิท... ใช่ ถึงอย่างนั้นสนิทสนมกันก็มีหลายแบบ แบบเพื่อนบ้านที่ดี รุ่นพี่รุ่นน้อง คนเคยรู้จักเมื่อตอนเด็กๆ แล้วเผอิญมาเจอกันอีกในเมืองหลวงแสนวุ่นวาย เป็นทั้งหมดนั้น แล้วก็เป็นอะไรที่มากกว่านั้น

เป็น... แบบที่อยากให้ได้เจอคนดีๆ...

“เธอคุยกับน้องโอบอีกสักทีนะ คราวนี้เอาครีมไปด้วยจะได้สอนงาน”

“ให้เวลาน้องโอบของพี่ตัดสินใจบ้างเหอะ แล้วกว่าจะตกลงเป็นสมาชิกจริงนี่ยังไงผมว่าต้องรอทำงานก่อน อีกตั้งสี่ห้าเดือนแน่ะพี่อิท”

“ไม่เห็นเป็นไร วางแผนระยะยาวไว้ เผื่อน้องโอบเขาทำงานแล้วจะได้ไปกระจายข่าวให้เพื่อนที่ทำงานบ้าง เสี่ยน็อตเป็นฝั่งเป็นฝาไปเธอก็เหลือแค่คุณศรัณย์กับเก็บตกอีกไม่กี่คนเองนะ”

พี่อิทพูดเพราะเมื่อเช้าผมเพิ่งโน้มน้าวคู่เดตเสี่ยสำเร็จ ชักแม่น้ำทั้งห้าจนคอแห้ง แต่สรุปว่าเสี่ยได้เดตสองกับคนเดิมสมใจ ไม่ได้อยากมองโลกมืดหรืออะไรอย่างที่พี่อิทชอบค่อน แต่แค่นี้ยังเร็วไปในการสรุปว่าเสี่ยจะได้ ‘เป็นฝั่งเป็นฝา’ จริงๆ

... ของแบบนี้ต้องมองกันยาวๆ

ผมรู้ว่าครั้งนี้พี่อิทจะให้ทำอะไร ปกติถ้าต้อง ‘ขายงาน’ อีกครั้งที่สองนี่เราก็มักจะไปกับเขาในร้านหรือสถานที่ที่คนรุ่นราวคราวเดียวกันเยอะหน่อย พอให้ได้เห็นว่าชอบแนวไหน มีผลสองทางคือเขาก็ได้เกร็ดในการเข้าไปคุย ได้เบอร์มาก็ดี บางคนที่ขี้อายก็จะยิ่งเห็นประโยชน์ของการเป็นลูกค้า เพราะบริษัทจะนัดให้ ส่วนเราก็เก็บข้อมูลไปเผื่อได้ว่า ‘สเปค’ ของเขาคือแบบไหน
 
แต่ที่ผมรู้สึกมาตั้งแต่ต้นและยังรู้สึกอยู่ก็คือ จริงๆ แล้วโอบไม่จำเป็นต้องอาศัยการเทรนอะไรพวกนี้... หรือเปล่า เพราะสำหรับผมโอบไม่ใช่คนขี้อายเหมือนเสี่ยน็อต ไม่ได้ทำงานที่แทบไม่มีโอกาสเจอคนใหม่ๆ อย่างคุณศรัณย์ แล้วก็พูดเองว่าไม่ได้ ‘รีบ’... ถ้ามันไม่เอ่ยกับพี่อิทว่าสนใจนี่ผมจะไม่คิดเลยว่าโอบอยากมาเป็นลูกค้า

ถึงผมจะทำงานนี้ แต่บางอย่างไม่ต้องจัดต้องหา ปล่อยให้เกิดตามธรรมชาติบ้างก็ดี...

... พี่อิทจัดการโทรหาโอบเองตอนพักกลางวัน และบอกว่านอกจากผมแล้วจะมีน้องอีกคนที่ทำงานตามไปคุยด้วย ผมไม่ได้ยินว่าโอบตอบอย่างไร แต่พี่อิทบอกโอเค ตามด้วยสถานที่เวลาเสร็จสรรพ ก่อนผมจะต้องออกไปหาลูกค้าตอนบ่าย และบึ่งกลับเข้ามา

นัดโอบที่ร้านกาแฟใต้ตึกก่อนเพราะจะได้ไปด้วยกันเสียเลย ไปถึงผมก็เห็นนั่งคุยอยู่กับครีมก่อนแล้วท่าทางปกติ จริงๆ ทั้งคู่รุ่นราวคราวเดียวกันแถมเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมาอีกถึงจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ถึงบอกว่าถ้าขี้อายจริงจะไม่ใช่แบบนี้ไง
 
โอบเห็นผมเข้าก็ยิ้ม ลุกขึ้นยืน บอกว่าวันนี้ได้เลิกเร็วหน่อยเลยแวะไปเอาอาหารใส่ให้หนูเรืองก่อนออกมา ครีมก็อวยอยู่ข้างหลังว่าโอบน่าจะเป็นงานง่ายของบริษัทเราลองตกลงเป็นลูกค้าเท่านั้นแหละ

“... รับรองเดตมาให้เลือกไม่หวาดไหว แต่โอบต้องทำใจหน่อยนะเพราะกลุ่มลูกค้าเราส่วนใหญ่จะทำงานมาพักหนึ่งแล้ว พูดง่ายๆ คือ ยี่สิบห้าอัพ...”

“ถึงขนาดต้องทำใจเลยเหรอ” คนฟังยิ้ม
   
“อุ่ย โทษ เลือกใช้คำผิดไปหน่อย คือครีมจะหมายความว่า...”

“ลูกค้าเราตอนนี้มีแต่คนแก่กว่าโอบ” ผมพูดให้มันชัดไปเลย จะถือว่าปิดบังข้อมูลผู้บริโภคไม่ได้ล่ะ

“อ๋อ ไม่มีปัญหาหรอกเรื่องนั้น”

ได้ยินคำตอบครีมก็ยิ้มแป้น คงคิดว่าเจองานง่ายจริงๆ

... ผมอยากบอกน้องว่าในวงการนี้งานง่ายจริงๆ ไม่มี มีแต่งานที่ ‘เหมือน’ ง่าย

ซึ่งพวกนี้แหละตัวดี ดูอย่างคุณศรัณย์สิ 

ผมออกรถมาได้หน่อยครีมก็ร้องขึ้น "ครีมลืมแฟ้มงานวางไว้บนโต๊ะเมื่อกี้"

"ผมไปเอาให้" คนนั่งข้างผมปลดเข็มขัดคลายล็อกรถก่อนจะลงมุ่งหน้าไปทางร้าน

"โอบดีอะ" คนลืมชื่นชม "ไว มีน้ำใจกว่าผู้ชายบางคนที่ครีมเคยเจออีก คือจริงๆ ก็หิ้วได้นะของ หรือแบบนี้กลับไปเอาเองก็ได้ แต่ช่วยเสนอหน่อยก็ดี"

ผมพยักหน้า ส่วนครีมก็เจื้อยแจ้วต่อถึงความที่งานน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ขนาดว่ายากสุดในเคสนี้คงเป็นการทำให้โอบตัดสินใจเป็นลูกค้าให้ได้นั่นแหละ

พี่อิทเลือกร้านคึกคักพอสมควร แต่ไม่ใช่ร้านเฉพาะทางแต่อย่างใด เอาเข้าจริงผมเคยได้ยินกรณีอีกฝั่งพาลูกค้ามา ทั้งๆ ที่เริ่มด้วยการเป็นลูกค้าฝั่งนั้น จับสังเกตไปแล้ว อ้าว มองแต่หนุ่มๆ... ลงเอยด้วยการเปลี่ยนฝั่งบริษัท พี่อิทเพิ่งจับคู่ให้สำเร็จ ออกจากบัญชีไปเมื่อไม่นานมานี้

ก็ถือเป็นการสกรีนกันไปอีกชั้น...

สั่งอาหาร (คราวนี้ผมไม่ได้สั่งอะไรที่เป็นเครื่องในแต่อย่างใด) เรียบร้อยแล้วผมก็นั่งไปสักพักหนึ่ง โอบคุยกับครีมเรื่องทั่วไปในมหาวิทยาลัย เสร็จแล้วก็หันมาสนใจของกิน

... ผมแน่ใจว่าพี่อิทบอกมันแล้วนะว่าครั้งนี้เราออกมากันทำไม

แต่โอบไม่ได้มีท่าทีสนใจใครให้ผมเดาได้เลยว่าประมาณไหน ผมเลยว่า

“นี่เราต้องรู้จักหาโอกาสนะ”

“จะดีเหรอ”

“บอกให้หาโอกาส ไม่ใช่ฉวยโอกาส” ไม่รู้โอบคิดถึงอะไรอยู่ “หาโอกาส แปลว่ามองคนที่น่าจะเป็นไปได้”

ครีมก็ขำก่อนจะบอกเหมือนเพิ่งนึกออก

"พี่แทค ครีมว่าคนเขาจะคิดว่าโอบมากับแฟนอยู่แล้วเปล่า"

ก็โอบนั่งโซฟาตัวเดียวกับผมเฉย แล้วข้อศอกที่เท้าพนักพิงอยู่ตรงหัวผมนี่อีก...

"งั้นครีมมานี่" ผมกวักมือให้น้องมานั่งข้าง ตัวเองก็กระเถิบเข้าไปจนไหล่ชนกัน "โอบไปโน่น"

ผมให้มันนั่งอีกฝั่ง ก่อนบอกครีม "ดูเหมือนเรามาด้วยกันมากกว่ายัง เอาให้คนมองแล้วคิดว่าโอบว่างชัวร์"

"โอเค โอบหันหลังให้ประตูไปแล้วยังไงก็ไม่เหมือนกำลังรอคนอยู่" ครีมว่า แล้วพูดกับเจ้าตัวที่นั่งทำหน้าพิลึก “คราวนี้โอบลองมองๆ ดู เริ่มจากตรงแถวบาร์ก่อนก็ได้ เพราะคนที่เลือกแถวนั้นมักจะมาคนเดียวมากกว่า”

ผมพยักหน้าที่น้องจำที่เคยสอนได้ แต่ลูกค้าในอนาคตกำลังจะสำแดงความยากให้เห็นแล้วไง

“... ตรงนั้นไม่มีใครที่ชอบ” มันบอกครีมง่ายๆ

ได้มองหรือยังเถอะ... ผมขยับจะพูดพอดีครีมร้องขึ้นอย่างดีใจ

“พี่ภัค!”

ผมมองตามสายตาครีม ภัคพล... เคยเรียนมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ด้วยกันแต่คนละคณะ จนภัคไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ ในขณะที่ผมกลับบ้าน พอมากรุงเทพฯ อีกทีก็ได้ข่าวว่าภัคทำงานอยู่ในบริษัทกฎหมาย ยังติดต่อกันมาเรื่อยๆ ถึงจะมีช่วงที่งานยุ่งบ้างทั้งคู่

แต่กับคนที่เพื่อนน้อยอย่างผม ภัคเป็นคนที่ใกล้เคียงกับคำว่าเพื่อนสนิทที่สุดแล้ว เพราะขาขึ้นขาลงในชีวิตผม ภัคก็รู้ทั้งนั้น... ถึงตอนแรกจะเพราะภาวะจำยอมกลายๆ ตอนหลังพอต้องมีส่วนยุ่งเกี่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ ภัคก็ช่วยผมมาไม่น้อยเหมือนกัน 

ครีมโบกไม้โบกมือ อีกฝ่ายก็ยิ้มตอบ เดินตรงมาหา ทักทั้งผมและคนเรียก

ครีมเคยเจอภัคหลายหนแล้ว ตอนแรกก็บังเอิญเจอกันตอนออกมาทำงานกับผมนี่แหละ พอรู้ว่าภัคอยู่บริษัทกฎหมายเลยเคยส่งต่อนามบัตรให้ญาติใช้บริการ ครีมแนะนำโอบว่ากำลังจะมาเป็นลูกค้า... นี่ก็คุยๆ กันอยู่ พอภัคนั่งก็พูดอีก

“พี่ภัคเข็มขัดสวย”

"เจ็ดสิบบาทจากสะพานพุทธ" เพื่อนผมตอบยิ้มๆ

"จริงเหรอ ของดูแพงไม่แพงมันขึ้นกับคนใส่จริงๆ นะเนี่ย" ครีมชื่นชม

ภัคหัวเราะแล้วว่า "ขึ้นกับเลือกดีๆ มากกว่า เดี๋ยววันหลังไปด้วยกันสิ"

"ไปๆ" ครีมก็กระตือรือร้น

ภัคถามอะไรโอบก็ตอบสุภาพ แต่ออกจะสงวนคำอยู่สักหน่อย ผมไม่เคยเห็นโอบกับคนที่ไม่คุ้นจริงๆ มาก่อน เพราะขนาดพี่อิทหรือครีมมันก็คุยด้วยง่ายๆ ยิ่งกับผมนี่ทำตัว ‘คุ้น’ ตั้งแต่แรกเริ่มเลยทีเดียว

ภัคถามผมว่าหนังตอนนี้มีอะไรน่าดู... เผื่อจะไปรอบดึกต่อ แล้วก็ว่า “เออ ยังชอบไปดูหนังผีคนเดียวอยู่รึเปล่า เรื่องนั้นดูยัง"

ไม่ต้องบอกว่าเรื่องไหนเพราะตอนนี้หนังสยองขวัญเข้าโรงที่ดังๆ มีอยู่เรื่องเดียว ผมพยักหน้า กำลังจะเอ่ยต่อโอบก็พูดขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย “เรื่องนั้นไม่ได้ดูคนเดียว...”

ภัคหันไปมองคนพูด ยิ้มนิดๆ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์มาเช็กแล้วลุกขึ้น

“คนที่นัดเมสเซจมาบอกว่ารออยู่ชั้นสองพอดี ไปก่อนนะ...” ก่อนจะหันมาบอกผม “ว่างๆ กินข้าวกันบ้าง เพื่อนคนอื่นบ่นไม่เห็นหน้าเลย”

ผมก็พยักหน้ารับไป... ว่างไม่ตรงกันสักที ได้เจอกันอีกคงงานแต่งงานใครสักคน

“พี่ภัคถ้าไม่ว่างเมสเซจมาบอกพิกัดร้านครีมก็ได้นะ” ครีมยังอุตส่าห์พูด ความห่วงของถูกไม่เคยเข้าใครออกใคร

ภัคก็ผงกศีรษะยิ้ม ก่อนจะลับหายขึ้นชั้นบนไป

ครีมกินข้าวต่ออย่างอารมณ์ดีจนผมต้องทัก "นี่คงไม่ได้ลืมอะไรไปหรอกนะ"

"ไม่ลืมหรอกแหม รู้น่า ปลื้มก็ส่วนปลื้มไม่ได้อยากจะไปเป็นแฟนกับเขานี่" ครีมว่า "คนอะไรไม่รู้โคตรดูดี... ถ้ามาเป็นลูกค้าเรานี่รับรองจับได้ไว ปรู๊ด ง่าย เสียด๊าย... แต่ก็นะ พี่ภัคหาเองไม่ได้สิแปลก”

ผมก็ไม่เคยคิดจะให้ภัคเป็นลูกค้า เพราะรู้ว่าเพื่อนไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนไอ้ความคิดที่ว่าจับให้คนโน้นก็ง่ายคนนี้ก็ง่ายจะอันตรธานไปเมื่อครีมได้ลูกค้าของตัวเองจริงๆ สักคนนี่แหละ...

แต่ตอนนี้ต้องบอกคนที่ไม่ยอมเป็นลูกค้าสักทีก่อน

"เมื่อกี้เฟล"

"... ทดสอบอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย"

... ตกตั้งแต่ต้น จอดตั้งแต่ยังไม่ทันแจวเลยละ

"พี่ภัคมานั่ง โอบต้องถามเรื่องเขาบ้าง เอาพื้นๆ อย่างมาที่นี่บ่อยหรือเปล่าก็ได้” ครีมบอก “ลูกค้าเราก็อายุประมาณนี้เยอะเหมือนกันนะ ต้องลองคุยดู แต่ถ้าเป๊ะอย่างพี่ภัคนี่ครีมว่า...”

"เขารอคนอยู่" โอบว่าอย่างไม่สนใจ

"แล้วก่อนหน้านี้รู้ไหมล่ะ นี่ไม่เข้าใจคำว่าหาโอกาสให้ตัวเองเรอะไงโอบ" จริงๆ นะ บางทีผมก็ไม่รู้ว่าโอบฟังหรือไม่ฟังกันแน่

"ก็ไม่ได้ปิ๊งอะไรเขานี่" มันบอกครีม

ผมถึงกับต้องวางแก้ว "จะหารักแรกพบ? บอกให้มองคนที่มีทางเป็นไปได้ มัวแต่รอคนที่ใช่ นั่งอยู่ตรงนี้จนแก่จะเจอหรือเปล่ายังไม่รู้เลย"

"บางทีคนที่ใช่สำหรับเรามันก็เป็นไปไม่ได้นะ" ครีมว่า

โอบยังดื้อ "อยากให้เป็นคนเดียวกัน"

"คิดถึงความจริงหน่อยได้ไหมเล่า!" บางทีผมก็รู้สึกเหมือนโอบจงใจทำให้งานผมยากขึ้น ยิ่งกว่าเสี่ยน็อตอัพเลเวลอีก ผมน่าจะรู้ตั้งแต่ตอนอยู่บ้านข้างกันแล้วว่า เวลาจะดื้อ...

... โอบดื้อได้แบบสุดๆ

“ทำไม ถ้าเป็นแทค แค่อย่างใดอย่างหนึ่งมันดีพอแล้ว?” นี่ไงคำถามโลกแตก

... ทุกคนไม่ได้ ‘ได้’ สิ่งที่อยากได้ตลอด แล้วพอได้มา บางทีก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด

ผมก็อยากถามมันกลับเหมือนกันว่าทำไม กับความจริงง่ายๆ ข้อนี้ ถึงยอมรับยากนัก

“ถ้าจะหาทั้งทีทำไมไม่...”

"เออ แต่ตอนนี้ไม่ได้หาเข้าใจไหม ไม่ได้หา ไม่ได้มอง ก็ไม่เดือดร้อน ใครที่เป็นคนอยากมีแฟนแต่หาเองไม่ได้ ถึงเดือดร้อนคนอื่นอยู่เนี่ย!”

ผมรู้สึกว่าโอบไม่ได้มองอะไรตามความเป็นจริง หรือไม่อย่างนั้น... ความ ‘จริง’ ของเราก็คงแตกต่างกัน ผมไม่ได้ตัดสินมัน ไม่ได้จะบอกว่าเพราะเมื่อก่อนชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์ โอบถึงได้พยายามหา... แต่ขนาดผมที่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ไม่เคยแม้แต่จะระหองระแหงจริงจังกันสักครั้ง ยังยอม ยอมตั้งนานแล้ว ว่ารักแบบนั้น... ไม่ได้เกิดขึ้นได้กับทุกคน

แล้วใครที่กระโดดลงสังเวียนโดยไม่เผื่อใจไว้บ้าง ก็เหมือนขึ้นชกโดยไม่มีนวมหรือเฮดการ์ด

... เตรียมถูกน็อกเอาท์ได้เลย

ผมก็แค่จะเตือนมันไว้ก่อนเท่านั้นเอง

โอบนิ่ง เม้มปากและ... ในจังหวะอันแสนจะไม่พอดีนั้น สาวโต๊ะสุดผนังทางขวากับหนุ่มที่บาร์ก็ยกแก้วชนอากาศมาทางเรา ซึ่งผมแน่ใจว่าเป้าหมายอยู่ที่คนนั่งตรงข้าม คือมันเลือกได้เลยล่ะเพราะทั้งสาวทั้งหนุ่มต่างคนต่างเห็นว่าจะชนแก้วกับคนเดียวกัน เลยรออยู่ แต่โอบไม่มอง ไม่อย่างนั้นก็ไม่สนใจจะดูเหมือนเคย

จุดประสงค์ของการออกมาครั้งนี้ดูท่าจะเป็นหมันเสียแล้ว ผมถอนใจ

"ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ย"

"แล้วตอนนี้ไม่ดียังไง มองไม่เห็น"

"โอบ!"

"พี่แทคใจเย็นๆ" ครีมรีบห้ามทัพ “นะ... จริงๆ ก็... ถ้าเป็นงั้นได้ใครจะไม่อยาก... แต่พี่แทคก็แค่หวังดี...”

ผมไม่รู้ว่ามันเชื่อหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือคืนนั้นกร่อยแล้วเพราะท่าทาง ‘ลูกค้า’ ไร้ซึ่งอารมณ์จะร่วมมือใดๆ จนชำระบัญชีกันเรียบร้อยครีมให้พี่ชายมารับกลับบ้าน ผมเลยเดินออกไปส่ง

กลับมาอีกทีโอบไม่อยู่แล้ว ผมยืนมองเก้าอี้ว่างนิดหนึ่งแล้วจึงถอนใจ กลับออกไปหน้าร้าน
 
... แต่พอใกล้ถึงรถเงาร่างคุ้นเคยก็ยืนรออยู่

ถ้าเป็นสมัยผมยังสูบบุหรี่ ผมคงคิดว่าอารมณ์โอบตอนนี้ใกล้เคียง บางทีเวลามีเรื่องที่... หนักเราก็อยากจะอัดอะไรเข้าไปแรงๆ แล้วค่อยระบายออกมา เป็นเมื่อก่อนคงยื่นให้สักตัว

แต่ตอนนี้ผมเลิกแล้ว โอบก็ไม่สูบ

เราขึ้นรถกันเงียบๆ ผมเปิดวิทยุ เอาคลื่นที่โอบเคยบอกว่าชอบเผื่อจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง ส่วนคนนั่งข้างพิงพนักท่าทางเหนื่อยๆ แต่ไม่ได้หลับตา

“นึกว่าจะงอนกลับบ้านเองไปแล้ว” ผมว่า อยากแหย่มันเหมือนเก่าแต่บรรยากาศยังไม่ให้

“ก็...” โอบเท้าข้อศอกกับขอบหน้าต่างเหมือนเดิม ถอนใจ “แทคขับรถกลับบ้านดึก...”

โอบพูดแค่นั้น ไม่รู้แม่ไปพูดอะไรพิลึกเข้าอีกหรือเปล่า ผมไม่ชอบขับรถกลางคืน แต่... ถ้ามีคนนั่งด้วย...

ถึงตึกที่อยู่แล้วโอบก็เงียบๆ เหมือนเดิมเหมือนมีเรื่องคิด ซึ่งผมไม่ชิน ไม่ได้ไม่ชินที่มันคิด แต่ไม่ชินที่ไม่พูด เพราะปกติโอบก็เล่าโน่นเล่านี่ ที่ทำงาน ที่คณะ ก็เลย... ไม่ค่อยชินเท่าไรที่เป็นแบบนี้

“แทคโอบถามอะไรหน่อย” ประตูลิฟต์เปิด เดินมาจนจะถึงห้องอยู่แล้วโอบเพิ่งพูด ผมที่กำลังไขกุญแจอยู่หันหลังกลับไป โอบยืนอยู่หน้าห้องตัวเอง เท้ากรอบประตูที่เปิดแง้ม เอ่ยช้าๆ

“ที่แทคว่า...”

ผมรอ

“ที่... ไม่หา ไม่มอง ไม่สนใจนี่ ก็เพราะ...”

ผมมีคำตอบอยู่ คำตอบพื้นๆ ที่เคยตอบคนอื่น ไม่ว่าการคาดเดาเหตุผลนั้นคืออะไร เพราะอย่างไร... ก็ไม่ถูก

อยู่อย่างนี้ดีแล้ว... จริงๆ... เรื่องนั้นไม่แน่หรอก ใครจะรู้อนาคต แต่ตอนนี้สบายดี...

แต่ประโยคต่อมาทำให้ผมชะงัก

“เพราะ... ที่อยู่บนหลังคอนั่นใช่มั้ย”

อักษรไม่กี่ตัว รอยสักที่ผมได้มาในยี่เป็งครั้งนั้น... ผมไม่แปลกใจที่โอบจะรู้ว่าผมเคยคบคนตอนอยู่เชียงใหม่ เรื่องนี้พี่อิทหรือแม่เองอาจจะหลุดปากไปก็ได้ พูดกระทั่งชื่อก็ยังได้ ถึงผมจะไม่รู้ว่าบทสนทนาต้องดำเนินไปในทิศทางไหนถึงจะออกมารูปนี้ก็เถอะ

แต่สักไว้ตรงนั้นไม่ใช่ที่ที่คนจะเห็นกันง่ายๆ... พี่อิทยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
 
แล้วผมก็นึกออก... ที่ดึงคอเสื้อเพราะจะห้ามไม่ให้เข้าไป ตอนเจอกันครั้งแรก ตอนนั้น... ก็คงเห็นแล้ว

ผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เพราะบานประตูปิดลงเหมือนคนถามไม่ต้องการคำตอบ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 17-02-2013 20:15:03
คุณ mesomeo2 ต้องเชียร์โอบให้หวังต่อไปนะ อันนี้โอบคงคิดว่าเป็น อิอิ ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่ะ

คุณ PK37 เสี่ยดูจะไปได้สวย หวังว่าจะเป็นงั้นต่อไป สองคนนี้ประจวบเหมาะบ่อย ฮา ตั้งแต่เจอกันละ อาจจะไม่ใช่ที่เกิดในวันนั้นซะทีเดียว แต่ก็คาบเกี่ยวกันอยู่ จริงๆ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจค่ะ

คุณ Millet แล้วบทนี้ล่ะ 55 ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ sunshine538 มาเลยค่ะ ยินดีที่ได้เจอกันอีกน้า ฉลองร้อยจ้าก็ดีเหมือนกันค่า คนอ่านรู้แทคยังไม่รู้ มันมึนตรงนี้แหละหนา แล้วตอนนี้ทำไงต่อดี 55 ขอบคุณที่เล่าเรื่องบริษัทบำบัดโสดให้ฟังนะคะ ได้ยินมาเหมือนกันว่ามีคนที่เจอกันด้วยวิธีนี้แล้วก็แต่งงานอยู่กันแฮปปี้ดี ทุกคนชอบหนูเรือง 55 ขอบคุณสำหรับการอ่านด้วยค่ะ

คุณ hanataro โอบคงอยากเรียก แทคก็แบบอยากให้สอบได้ล่ะนะ จะได้เป็นเภสัชกรมีใบอนุญาต 55 ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ kyoya11 สั้นเหรอตัวเอง แปดหน้าเอสี่แล้วนะ รอแป๊บนะ เด๋วได้เขิน อย่าเพิ่งทิ้งกัน 55

คุณ yamapong หลังจากบทนี้ไปไม่รู้ว่าคนอ่านยังจะเห็นแทคน่ารักอยู่อีกป่าวค่ะ กร๊าก แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า เดี๋ยวคุณศรัณย์มาค่ะ

คุณเฉาก๊วย เนียนแต่อยากให้เป้าหมายรู้บ้างไรบ้าง 55

คุณ malula ใกล้เคียง อาจจะยัง แต่ก็โยงๆ กันมาอยู่ เรื่องนั้นก็ต้องฝากอ่านต่อไป ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้เสี่ยน็อตแฮปปี้ ขอบคุณที่ชอบหนูเรืองด้วย อิอิ

คุณ ่patsaporn ตอนนี้คนเขียนไม่รู้ว่ากำลังใจน้องโอบเป็นไงบ้างค่ะ คนอ่านช่วยด้วย คนเขียนก็คิดว่างั้นเหมือนกันคำขอโอบน่ะ 55 จีบยาก แต่ก็นะ... ดูกันไปค่ะ ขอบคุณสำหรับการอ่านด้วยค่ะ

คุณ CheetahYG เรื่องนั้นก็ไม่รู้อุ๊บอิ๊บไปก่อน เหอ

คุณ cher7343 อีกหน่อยนะคะ ฝากอ่านต่อไปก่อน อิอิ

คุณ yumsonteen ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ iamnan มันคงชัดในสายตาคนอื่นแต่แทคนี่ต้องใช้เวลาอีกนิดค่ะ นิดนึง 55 ขอบคุณสำหรับการอ่านมากนะคะ ยังไม่คิดแต่อีกเดี๋ยวก็ไม่มีใครรู้ เดี๋ยวคุณศรัณย์มาแน่

คุณ krappom ได้ คนเขียนตอบ 55

คุณ NewYearzz โอ ขอให้ดีขึ้นในเร็ววัน คนเขียนไม่รู้ว่ามุมมองความรักแทคจะทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลงสิตอนนี้ แต่มันเปลี่ยนกันได้ สู้ๆ นะคะ

คุณ RoseBullet ขอบคุณมากที่เข้ามาอ่านค่ะ จริง คนเขียนก็อยากมโนว่าน้องโอบอยากหมายถึงคนที่ลอยด้วยบ้างไรบ้าง ตัวละครที่มีแฟนคลับเยอะที่สุดในเรื่องนี้ คือหนูเรือง 555 ตอนนี้แทคยังดูไม่ออกแต่ต่อไปมันต้องมีพัฒนาการค่ะ ต้องเชียร์น้องโอบอย่าเพิ่งท้อ (ดูตอนนี้สิ) ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ Naenprin นี่ยังจะหวังได้อยู่มั้ยเนี่ย ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ 2pmui 55 โอบอาจจะนับแต่ไม่รู้คนไปด้วยนับหรือเปล่า ขอเวลาให้พี่แทคอีกนิดนะคะ คนมันเคยมีปมอะสงสารกันหน่อย ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ milkteabeige แอร๊ยยย เรื่องเมื่อก่อนใกล้เคียงนะ ความจริงไม่รู้ว่าจะเรียกซึนได้มั้ยเพราะมันต้องรักเขาแต่พยายามไม่แสดงออกใช่มะ อันนี้นี่... ขอลุ้นกันต่ออีกนิดละกันค่ะ ขอบคุณที่ชอบน้องโอบ 55

คุณ iforgive บางทีก็ดูแต่คนอื่นนะ ตอนไม่เห็นมันก็ยังไม่เห็น (แต่อีกเดี๋ยวเถอะ) น้องโอบคงต้องอดทนและพยายาม ต่อไป ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ Gokusan จริงๆ แทคการ์ดลงเยอะมาก แต่ก็ยังมี ฮา คนแน่นจริงไรจริง แต่โอบก็โอเค กร๊าก

คุณ pudson ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า ถ้าแทครู้เหมือนที่คนอ่านรู้ก็ดีสิ

คุณ pim_onelove ช่วยเชียร์เสี่ยต่อด้วยค่ะ ขอให้เส้นทางรักของเสี่ยราบรื่น 55 อันนี้มันก็คาบเกี่ยวระหว่างไม่รู้ หรือไม่อยากรู้ดีกว่าแต่ไม่รู้ตัวว่าคิดงั้นก็เลยเป็นไม่รู้อยู่ดี (งงมะ) แบบเป็นไปเองอัตโนมัติ อันนั้นเป็นเหตุผลที่ดีมากค่ะ "เพราะโอบเป็นพระเอก" 555 ชนะทุกอย่างอะ แต่กว่าจะถึงขั้นนั้นก็นะ เหนื่อยหน่อย

คุณ suck_love ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ แทคก็มีเรื่องหลังนิดหน่อย ฝากอ่านต่อด้วยนะค้า

คุณ kaokorn ตั้งใจทำงาน จนกระทั่งบทนี้ แต่ปมมันก็มาจากเรื่องหลังอื่นอีกเช่นกัน ต้องให้น้องโอบอย่าเพิ่งถอดใจล่ะค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทุกคนโปรดเข้าใจแทคด้วย แต่ก็จะไม่รู้ได้อีกไม่นาน (นัก) หรอก เรื่องมันต้องไปต่อค่ะ 55 ป.ล. ใครอยากเจอคุณศรัณย์เดี๋ยวฮีมา   

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เช่นเคยนะคะ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 17-02-2013 20:52:22
รอยสักบนหลังคอ... :z1:
อดีตอันขมขื่น รอให้โอบมาคลี่คลายปมนั้น :-[
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-02-2013 20:55:10
อะไรอ่ะ  อย่าบอกว่าแทคมีความหลังใจถึงขนาดไม่มองใครอีกแล้วนะ
สงสารโอบนิด ๆ ที่แทคไม่ยอมรับรู้อะไรเลย  โอบคงเหนื่อยเนาะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 17-02-2013 21:10:18
โอบก็บอกความรู้สึกตัวเองไปเลยสิ แทคจะทำยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 17-02-2013 21:15:16
เรื่องดูวุ่นวายไปกันหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-02-2013 21:17:38
ใครหนออออแทคถึงกับสลักชื่อไว้เลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-02-2013 22:13:33
รักขนาดสักชื่อไว้ที่ต้นคอ ทำให้แทคไม่มองใครอื่นเลย
แล้วตอนนี้ไปอยู่เสียที่ไหน ถ้าให้เดาก็คงขึ้นสวรรค์แล้ว
โอบก็ต้องพยายามหนักหน่อยหละ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 17-02-2013 22:29:18
มันดู...เจ็บเนอะ ยิ่งกับคนที่เราเฝ้ารอจะเจอ
พอได้กลับมาเจออีก และคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้
แต่กลับโดนปิดโอกาสทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเข้าหาจริงจัง มัน...เสียดๆ แฮะ ^^"

ทุกคนพยายามจัดการกับว่าที่ลูกค้า...ให้ลงตัว
แต่ว่าที่ลูกค้าสุดดื้อ(ของบางคน)ไม่ได้ให้ความร่วมมือเล้ยยยย ฮี่ๆ
มันต้องเป็นแบบนี้แต่แรกอยู่แล้วแหละ...ก็ว่าที่ลูกค้าไม่ได้อยากหาแฟน แต่ชอบพนักงานนี่นา

รอดูว่า...พอเพื่อนรู้ว่าว่าที่ลูกค้าสนใจพนักงานจะถวายใส่พานให้เลยมั้ย กริกริ้วววว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 17-02-2013 23:03:18
ตอนนี้ดูหน่วงๆ อ่ะ
สงสารโอบ แฟนคนก่อนของแทคคงเป็นอะไรที่ยากจะลืม
เพราะถึงขั้นสักไว้ที่ตัวนี่ก็หมายความได้อย่างเดียว
ว่าจะรักเท่าชีวิตและตลอดชีวิต แล้วโอบจะมีโอกาสไหม
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 17-02-2013 23:42:08
โถ่ โอบเปิดโอกาส หาโอกาส ไม่รู้จะยังไงแล้ว เหลือแค่ยังไม่พูดกับคนที่ใช่และชอบให้มันชัดนี่แหละ
ไอ้คนที่บอกให้โอบเปิดโอกาสนี่แหละ ที่ไม่เคยเปิดใจ เปิดโอกาสให้ตัวเองเลย แถมยังลืมคนรักเก่าไม่ได้อีก
น่าสงสารโอบ ส่วนเทคยังไงก็ไม่มีวันทำงานนี้สำเร็จหรอก เอาสิ่งที่บอกโอบ มาบอกตัวเองบ้างสิ
โอบช่างสังเกต หรือโอบรู้เรื่องอยู่ก่อนโดยที่ไม่ใช่แม่แทคบอก แบบว่าตามมองห่างๆอยู่นานมากแล้ว แต่แทคไม่รู้ ...เดาเอา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-02-2013 01:21:03
เอ้า ชื่อใครกันหนอที่อยูบนหลังคอของ แทค อ่ะอยากรู้จัง

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 18-02-2013 01:43:02
ถึงขนาดสักชื่อลงไปที่ตัวนี่ก็แสดงว่ารักมากประมาณหนึ่งเลยนะ และอาจยังฝังใจมั้ย (ไม่รู้)
โอบดูคิดมากกับเรื่องนี้ ลุยเลยเหอะ มันเป็นอดีตไปแล้วนี่ โอบก็ดูชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ นะ
มีหวงแทคกับเพื่อนด้วยรีบกันซีนก่อนว่าไม่ได้ไปดูคนเดียว น่ารักดี
รักแรกกับคนที่ใช่อยากให้เป็นคนเดียวกัน อยากจะชี้หน้าพี่แทคว่าก็แกน่ะแหละ 555
แล้วอารมณ์แบบไม่สนใจใครเล๊ยแบบนี้นี่นะจะมาใช้บริการบริษัทจัดหาคู่
นอกซะจากว่าอยากใกล้ชิดพี่แทคแค่นั้นแหละ   :เฮ้อ:  เอาใจช่วยน้องโอบเน้อ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: pudson ที่ 18-02-2013 03:52:02
รอยสักที่คอ...คนในอดีตใช่มั้ย :m17:
สงสัยแทคคงจะฝังใจ เจ็บปวดมาก (หรือว่ายังไม่ลืม) ถึงไม่ยอมเปิดใจ มองใครเลย
สงสารแทค คนที่เราชอบมองไม่เห็น แล้วยังยัดเยียดให้ออกเดท หรือ คบคนอื่นอีก (ในสถานการณ์นี้)
คงเจ็บ..เสียใจ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 18-02-2013 04:24:32
 โอ้ววววว :sad4:
กลิ่นมาม่าลอยมาตามสายลม
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-02-2013 06:06:12
แทคอาจจะยังรักและยังฝังใจ ไม่เป็นไร... แค่เปิดหัวใจให้โอบเข้ามาดูแล ฮิ้ววววว

คิดถึงหนูเรือง โผล่มาแค่ชื่อก็ทำคนอ่านฟิน(?)ได้

:กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 18-02-2013 06:45:12
5
ตอนนี้บรรยากาศดีเชียว
ลอยกระทงด้วยกัน
คุยกันเรื่อยๆ แถมแทคยังขอให้โอบสอบผ่านด้วย
โอบก็น่ารักตลอด คือคำพูดเวลาอยู่กับแทคซื่อๆดี
แต่ซื้อแบบบางทีก็เกรียนนิดๆ ชอบๆๆค่ะ
หรือว่าจะพูดแนวนี้กับแทคคนเดียวนะ
แบบว่าอยู่กับเพื่อนๆหรือคนอื่นจะเป็นอีกแบบรึเปล่า

6
อึมครึมจังเลยตอนนี้ ระหว่างแทคกับโอบ

โอบช่างสังเกต แล้วก็คงเดาถูกสินะ
ชักอยากรู้เรื่องอดีตของแทคแล้วสิ
แล้วก็อยากอ่านแทคกับโอบหวานๆบ้าง
ไม่มีอะไรคืบบหน้าเลย เง้อ
ต้องลุ้นทางแทคอ่ะแหละ นิ่งเกิน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 18-02-2013 07:51:49
ความหลังเมื่อครั้งยี่เป็ง  :z3:

แอบอึ้งตอนที่น้องโอบพูดเรื่องบนคอ
แบบเข้าใจอารมณ์น้องโอบเลย
อยากจะไปปลอบจังเลยยยยย น้องโอบของพี่  :z3:

พี่แทคอย่าซึนนานจ้า สงสารน้องโอบนะคะ

ปล.ตกลงว่าน้่องโอบนี่เป็น อยู่แล้วใช่ป่ะคะ ถึงจะเป็นลูกค้าฝั่งของแทคอ่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 18-02-2013 19:29:00
ร้องไห้อ่ะ สงสารโอบ ผมเป็นคนขี้แยอยู่แล้วครับ ปกติ  :sad4:


รอตอนต่ไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 19-02-2013 19:07:04
อ๊ายยยยยยยยย แทคโหดร้ายยยยยยยย น้องโอบเค้าก็หวงบ้างอะไรบ้าง เลยอารมณ์บ่จอย ถ้าโอบบอกชอบแทคไปนี่ เราว่าเทคต้องไม่รับแน่เลย อั๊ยย่ัะ เห็นแววดราม่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 19-02-2013 20:51:06
มันมีประเด็นขึ้นมาแล้วสิ
แต่ยังงงว่าระดับโอบจะมาจัดหาคู่ทำไม เพิ่งจะเรียนจบแท้ๆ คุณพี่แทคไม่เอะใจบ้างเหรอนี่ สงสารน้อง โธ่
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 19-02-2013 21:33:10
ผมว่าผมเข้าใจความรู้สึกโอบครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 19-02-2013 23:50:34
เพิ่งมาได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ชอบมากกกกก

แอบสงสารแทคนิดนึง ต้องฝังใจกับเจ้าของชื่อบนหลังคอมากแน่ๆเลย

แต่สงสารโอบมากกว่า รักพี่ชายคนนี้เข้าไปเต็มๆเลยสินะ

แถมทำอะไร จะจงจะจีบก็ไม่ได้อีก

สู้ๆนะน้องโอบ ฮื่ออออออออ


อยากรู้คุณศรัณย์จะจีบพี่แทคของพวกเรารึเปล่า อิอิ


หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-02-2013 00:48:58
“ฮาย... ไม่ไหว ยกมาแต่เรื่องเบี้ย!”

เบี้ย... ภาษาถิ่นเรา คือเงิน ผมก็นั่งฟังต่อ ท่าทางลอยกระทงปีนี้ของพี่อิทจะไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่

“จะอวดทำไมว่าหาได้แค่นั้น แค่นี้... เล่นหุ้น ไปเที่ยวเมืองนอก... ฟังอยู่ครึ่งค่อนคืนฉันเลยถามกลับไปว่า เงินเยอะขนาดนี้ให้พ่อแม่ พาไปเที่ยวบ้างสิคะ ครั้งสุดท้ายเมื่อไร... เงียบนิ ตอบไม่ได้ หายเปรตไป”

^
^
^
^
ชอบตอนนี้ สุดๆ แบบว่าได้ใจไปโล้ดดด ฟิลคนใต้สุดๆ

แต่ตอนจบตอนนี้ทำไมมันหวิวๆนะ แบบว่าโอ้ยย T^T

โอบต้องเคยเหงแทคตอนนั้น แล้วมันก้อต้งมีอะไรผูกพันกานมากมายสินะ T^T
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 20-02-2013 18:52:44
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุก ๆ  o13 o13 o13

อ่านแล้วนึกถึงรายการ take me out อ่ะ

โอบสู้ ๆ นะอย่าเพิ่งท้อ

จะรอตอนต่อไปค่ะ :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 20-02-2013 23:12:45
ตอนนี้โอบเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตแทคมากขึ้นอีกแล้ว
ที่แทคไม่ค่อยกระตืนรือร้นที่จะให้โอบมาเป็นสมาชิก เพราะดูออกว่าโอบไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจใครเป็นพิเศษและไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นสมาชิกเลยสักนิด
แต่เมื่อไรแทคจะรู้นะว่าการที่โอบอยากเข้ามาเป็นสมาชิก เพราะต้องการใกล้ชิดแทค หรือแทคอาจจะรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจก็ได้นะ
ตอนที่ภัคเข้ามาคุยด้วยแล้วโอบไม่ค่อยพูดเนี่ย เพราะว่าไม่ใช่คนใกล้ตัวแทคหรือเปล่า หรือว่าอาจจะต้องการสังเกตอีกฝ่ายก็ไม่รู้
โอบต้องการสร้างโอกาสให้ใกล้แทคมากขึ้นก็เลยไม่เปิดโอกาสให้กับคนอื่น ยิ่งการที่เดินมานั่งกับแทคก็ด้วย
ดอบเป็นห่วงแทคอยู่เสมอ ไม่อยากปล่อยให้อีกฝ่ายขับรถกลับคนเดียว ถึงจะยังงอนอยู่ก็เถอะ
โอบก็พยายามหาโอกาสอยู่เสมอ แต่ในเมื่อแทคยังปิดตายโอกาสอยู่ ก็เลยยังไม่ได้เริ่มสักที
ไม่รู้ว่าในอดีตแทคเคยเจออะไรมาบ้าง ถึงยังปิดตัวเองขนาดนี้ เมื่อไรโอบจะมีอิทธิพลเข้าไปถึงในใจของแทคกันนะ
การที่แทคปิดตัวเอง เพราะยังลืมไม่ได้ หรือไม่เคยลืม หรือเจ็บปวดเกินกว่าจะเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เริ่มใหม่กันนะ
โอบสู้ๆ  :a2:

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 21-02-2013 13:01:53
คือโอบอะชัดเจนแล้ว

แต่แทคนี่สิ ..... ปิดตัวเองมาก โฮฮฮ สงสารโอบบบ


ปล หายเปรตไป กร๊ากกกกกก ชอบอะ อ่านแล้วคิดถึงบ้านคนใต้ชอบพูด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine538 ที่ 22-02-2013 20:05:58
ชอบพี่อิทค่ะ แซ่บขึ้นเรื่อยๆ แซ่บแบบมีสาระด้วยนะ ชอบจังที่ตอกหน้าคนอวดรวยว่าเอาไปให้พ่อแม่บ้างอ่ะ ขอให้พี่อิทเจอเนื้อคู่เร็วๆ  :laugh:

ส่วนแทคโอบ รู้สึกว่าตอนท้ายของตอนนี้กับตอนที่แล้วจะให้บรรยากาศต่างกันลิบลับ ก็นะ...โอบอุตส่าห์วางแผนเข้าหาแทคทุกทาง เอาตัวเองมาพัวพันกับชีวิตของแทคซะขนาดนั้น แล้วก็มาพบว่ามันคงไม่ง่ายอย่างที่คิด เป็นใครก็คงเศร้าเนอะ แทคปิดตัวเองทุกประตูจริงๆ แต่ด้วยนิสัยของโอบ คาดว่าโอบจะฟื้นขึ้นมาได้ในเร็ววัน อย่างแทคอ่ะ ต้องลูกตรงนะโอบ สู้ๆ  :a2:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 6] 17 ก.พ. 56 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 23-02-2013 17:50:30
ใครคือคนบนหลังคอแทค  อยากรู้อ่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 24-02-2013 21:30:24
บทที่ 7

ผมไม่เห็นหน้าโอบอีกหลายวัน ถ้าไม่มีเหตุการณ์ก่อนนั้นความจริงก็... เป็นตามที่เคยบอก คือฝึกงานผลัดสุดท้ายเสร็จก็ไม่ต้องให้ผมช่วยเลี้ยงหนูเรืองอีก ตอนนี้คงยุ่งๆ กับการเตรียมสอบ

ผมเคยเดินไปหยุดหน้าห้องตรงข้ามหลายครั้ง แต่ตกลงใจไม่ได้ว่าควรจะเคาะหรือไม่ เคาะแล้วจะพูดอะไรต่อ... แค่... ไม่อยากให้แปลกไป

ผมไม่แน่ใจว่าโอบถามเรื่องนั้นทำไม ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะเรื่องที่พี่อิทมอบหมาย เพราะเคยมีลูกค้าที่ไม่อยากได้ผมเป็นที่ปรึกษาเพียงเพราะยังโสดแถมไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้มาตั้งนาน... เป็นเหตุผลด้านจิตใจ บางทีเขาก็แค่อยากได้คนที่มีชีวิตรักตัวอย่างมาช่วยเพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างนั้นได้บ้าง พอเห็นการทำงานของผมที่ผ่านมา เปลี่ยนใจบ้างก็มี

อันที่จริงเรื่องนั้นก็ไม่ได้กระทบงาน ส่วนชีวิตส่วนตัวผมอยากจะเชื่อว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นการเลือกอย่างจงใจของผมเอง ผม ‘เลือก’ จะโสด... ‘เลือก’ จะไม่มีใคร แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเราตัดสินใจอย่างไร ก็เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา จนการเลือกทำอะไรแบบรู้ตัวกับจากจิตใต้สำนึกผสมปนเปกันไปจนแยกไม่ออก และบางทีเลือกจะรู้สึกอะไร ก็ง่ายกว่าเลือกจะไม่รู้สึก...   

... จากสายตาที่มองมาวันนั้น ก่อนประตูปิดลง ผมคิดว่ายังมีอะไรอื่นอีก พอเห็นแล้ว... ผมก็เลือกที่จะไม่ห่วงไม่ได้

เพียงแต่... ผมไม่อยากก้าวก่าย ไม่อยากเข้าไปในช่วงที่ชีวิตของอีกฝ่ายยังจัดการอะไรไม่ลงตัว ซึ่งก็... อาจกินความอยู่หลายเรื่อง

ผมกำลังเดินเข้าตึกเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ยังว่า... ไม่โทรมาตั้งนาน ผิดวิสัย เลยหยุดพูดก่อนเพราะเดี๋ยวขึ้นลิฟต์สัญญาณจะหายและคุณนายก็จะอารมณ์บ่จอยอีก

“ลูก... วันอาทิตย์นี้ขับรถไปเอาของบ้านลุงแหวงให้แม่ที”

“แม่จะขึ้นมาเหรอ” ครั้งสุดท้ายที่พ่อแม่ถ่อขึ้นมาคือสงกรานต์ปีที่แล้ว นัยว่ากลับกัน คนอื่นกลับบ้านผมได้รดน้ำดำหัวพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ แปลกดี ปกติแม่ชอบให้ผมกลับไปตอนเช็งเม้งมากกว่า

“เปล่า... ลูกไปเอาแล้วส่งไปรษณีย์มาให้แม่นะ บอกลุงแหวงไว้แล้ว”

“แม่...” ทำไมมันอ้อมโลกขนาดนี้ “แม่ขอให้ลุงส่งให้ไม่ง่ายกว่าเหรอ ทำไมต้องพาไปพามา พาไปไปรษณีย์อีกแม่”

“ลุงแกขาไม่ค่อยดีแล้วลูกก็ยืมรถไปใช้กว่าจะกลับตั้งเดือนหน้า มีแต่มอเตอร์ไซค์ แทคจะให้ลุงเอาของตั้งห้าหกโลขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปไปรษณีย์เหรอ”

ลุงแหวงเป็นพี่ชายคนโตของแม่ ได้ภรรยาเป็นคนองครักษ์เลยย้ายมาตั้งรกรากที่นั่น เคยเป็นช่างตัดผมแต่ตอนนี้เกษียณแล้ว ความจริงผมก็ไม่ได้เจอลุงตั้งนาน... ทั้งๆ ที่จะว่าไปนครนายกก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯ สักเท่าไหร่

“เอ้า... ได้ๆ แล้วแม่กับพ่อเป็นไงบ้าง...”

“ไม่ต้องห่วง สบายดีกันทั้งคู่ นี่แม่ก็เพิ่งโทรไปหาน้องโอบมา...”

“เหรอ...” ผมน่าจะรู้ เพราะโอบคงไม่อยู่แถวนี้น่ะแหละแม่ถึงได้ต้องวางแล้วโทรหาผมอีกที ไม่อย่างนั้นคงให้โอบมาเรียกเหมือนเดิม... “เป็น... ไงบ้างล่ะแม่”

“แทคต้องรู้ดีกว่าแม่ซิอยู่ที่เดียวกันน่ะ” แม่กลับตอบเสียอย่างนั้น “แม่รู้ว่าลูกไม่ค่อยชอบขับรถคนเดียวไปไกลๆ เลยขอแรงน้องโอบนั่งไปเป็นเพื่อนให้แล้วนะ”

“แม่...!”

“ทำไมล่ะ น้องก็รับปากแล้ว แม่จะได้หายห่วง”

“กวนโอบน่ะแม่”

“แทค นี่คนกันเองทั้งนั้นนะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย น้านันบอกแล้ว เหมือนลูกเหมือนหลาน อย่างถ้าน้านันวานอะไรแทคจะคิดว่ากวนเหรอ”

“ก็... ไม่... แต่โอบยุ่งไงแม่ กำลังจะสอบ”

“แม่ถามแล้วน้องเพิ่งสอบเสร็จ กว่าจะสอบอีกก็ตั้งสองเดือน” แม่บอก “แค่นี้นายุงขบอีตายแล้ว”

แม่ไปพูดอะไรนอกบ้านให้ยุงกัด... แต่ผมก็ทำได้แค่วางหูตามแล้วกดปุ่มลิฟต์ด้วยใจที่ยังไม่สงบนัก ความจริงก็... ไม่ใช่ไม่อยากเจอ แต่ไม่อยากเจอโดยที่อีกฝ่าย ‘ต้อง’ มาเจอเพราะขัดผู้ใหญ่ไหว้วานไม่ได้ บอกว่าไม่เป็นไรเสียจะดีไหม

“รอด้วยครับ”

ได้ยินเสียงผมก็กดลิฟต์ค้างไว้โดยอัตโนมัติ ยังคิดเรื่องในหัวอยู่แต่พอเห็นหน้าคนวิ่งเข้าลิฟต์มาแล้วก็ต้องชะงัก นับว่าปะหน้ากันจังๆ หนแรกเลยก็ได้นับจาก... วันนั้น

เรายืนกันอยู่คนละฟากของลิฟต์ ยังไม่มีใครพูดอะไร เลขชั้นขยับอย่างเชื่องช้าไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ โอบก็เอ่ยขึ้น

“... ขอโทษ”

ผมอยากบอกว่าไม่ต้องขอโทษ... คนเราต้องขอโทษก็ต่อเมื่อได้ทำผิด แต่โอบไม่ได้ผิด ที่อยากรู้คือ... ทำไมถึงถาม และอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาด้วยเสียงเนือยๆ

“... ไม่รู้... เมามั้ง พูดอะไรไม่ได้คิด”

“คืนนั้นแทบไม่กิน...”

โอบยกไหล่ขึ้นนิดเหมือนจะบอกว่า... ไม่มีเหตุผล ซึ่ง... จะทำยังไงได้ ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะคาดคั้นเอาอะไรกับโอบ อยากพูดแค่นี้ ก็แค่นี้

“เรื่องมัน... จบไปนานแล้ว จบไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

ที่จริงคำว่าไม่ดียังน้อยไป... น้อยไปมากๆ แต่ช่างเถอะ

“ไม่ต้องเล่าหรอก”

“ก็... ถาม”

โอบพูดเรื่อยๆ “ไม่เป็นไร... เอาที่แทคสบายใจ”

นอกจากสถานที่และเวลา คือเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมายืนพูดกันในลิฟต์แล้ว ผมก็ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้ว่าพร้อมจะขุดคุ้ยบางอย่างที่กลบฝังมาเนิ่นนานหรือยัง

... การเปลี่ยนเรื่องดูจะปลอดภัยสุดในเวลานี้

“... แม่โทรมาบอกเรื่องต้องไปเอาของกับลุงที่ขอให้นั่งไปด้วย ความจริงไม่เป็นไร ถ้า... รบกวน”

คราวนี้คนที่ยืนข้างกันหันมามองตรงๆ

“... โอบเคยพูดอย่างนั้นเหรอ”

“ก็... เปล่า” ผมว่า เงยหน้าดูเลขชั้นลิฟต์อย่างไม่รู้จะทำอะไรดี “คิดว่ายุ่ง ไม่เห็นหลายวัน”

โอบมองผมอยู่นิ่งๆ เหมือนเดิม ก่อนจะยิ้มนิดๆ “ทำไม อยากเจอ?”

“... อืม”

ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องบอกว่าไม่ในเมื่อผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นไงบ้าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ก็แทบต้องมาเล่าตอนฝึกงานอยู่ทุกบ่อยอยู่แล้ว โอบยิ้มกับประตูลิฟต์ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่พอดีลิฟต์เปิดออกเสียก่อน

ผมสูดน้ำมูก ก่อนควานได้ผ้าเช็ดหน้า โอบก็มองๆ แล้วว่า “จะเป็นหวัดรึเปล่า”

ผมส่ายหน้า เอาจริงๆ ผมเป็นอะไรยากมาก ไม่เคยถึงกับต้องลมหมอนนอนเสื่อหรือขาดงานขาดเรียน นอนไปก็หายแล้ว

“มียาไหม น้ำมูกไหลก็ คลอเฟนิรามีน เม็ดหนึ่ง มีไข้ก็พารา...” เภสัชกรยังจ่ายยาต่อไป “มีไหม เดี๋ยวโอบเอาให้”

ผมบอกไปว่าไม่เคยไข้ขึ้นมานานมากแล้ว น้ำมูกไหลเหมือนแพ้อากาศนิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวก็หยุดไปเอง

โอบมองอย่างไม่รู้จะยังไงดีกับการทนให้หายเองมาตลอดของผม ตอนเด็กๆ แม่จับกินยาน้ำเชื่อมซึ่งผมแสนเกลียด เขาน่าจะพยายามทำให้มันกินง่ายแล้ว แต่ต่อมรับรสผมมันคงพิลึก ยาในท้องตลาด ส้ม สตรอเบอรี่ เชอรี่ อะไรนี่ไม่ไหวทั้งนั้น อยากจะอ้วกทุกทีไป กลายเป็นว่าจะเปรี้ยวจะขมก็ไม่กลัวแต่ฝังใจกับรสหวานประหลาดๆ แบบนี้ เป็นเม็ดยิ่งแล้วใหญ่ ผมมีปัญหากับการกลืนยาเม็ด คือยากับผมนี่ถือเป็นอย่างเดียวในชีวิตเลยก็ได้ที่เรื่องมาก

โอบฟังแล้วก็ถาม “กลิ่นหรือรสอะไรที่คิดว่ากินได้”

"ใบเตย... กะกาแฟ?"

คนถามขำพรืด "... นี่แทคจะเอายาหรือวุ้นนครปฐม"

... ก็มันถามว่าอะไรที่ผมกินแล้วจะไม่อยากคายของเก่า... มันถามเองนะ

แต่เย็นนั้นผมก็กลับเข้าห้องไปด้วยความรู้สึกสบายใจกว่าหลายวันที่ผ่านมามาก ยังไง...ผมก็อยากเห็นเด็กห้องตรงข้ามอยู่ในอารมณ์ปกติ มียิ้ม มีขำ... มากกว่าเงียบอึมครึมอย่างเมื่อหลายคืนก่อน

งีบไปตื่นมาสามทุ่มกว่าก็ชักหิว ว่าจะลงไปหาอะไรกิน พอผ่านห้องโอบก็อดไม่ได้ที่จะเคาะ... แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา ผมไม่อยากโทรเพราะอาจหลับหรือดูหนังสือก็ได้ เลยลงไปฝากท้องกับบะหมี่รถเข็นข้างตึก

เดินเข้ามาอีกทีกำลังจะผ่านเลยไปขึ้นลิฟต์ก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงสนทนาดังมาจากตรงโต๊ะข้างหน้า

“... โทรขึ้นไปไม่มีคนรับ รอจนกว่าเพื่อนจะกลับมาแล้วกันนะจ๊ะ เขาไม่ฝากกุญแจให้ใครนอกจากคนชื่อพันธิตรที่อยู่ชั้นเดียวกัน”

คนที่ฝากกุญแจให้ผมมันก็มีอยู่คนเดียว ผู้มาติดต่อหันกลับ บ่นอุบ

“... แล้วเมื่อไหร่จะกลับ... โทรไปก็ไม่รับ ไอ้โอบนะไอ้โอบ”

ผมยืนรีรออยู่ว่าควรจะทักไหม ความจริงผมไม่คิดว่าโอบจะออกไปอีก แต่ก็ไม่แน่เพราะเคยเล่าว่าบางทีรันเครื่องอะไรก็ไม่รู้ให้อาจารย์ ต้องกลับไปเช็กเป็นระยะ ส่วนเพื่อนนี่สงสัยจะไม่ได้นัด

ป้าที่โต๊ะเห็นผมเข้าพอดี บอกว่า “เอ้านั่นไงคนที่เพื่อนน้องฝากกุญแจให้บ่อยๆ เผื่อเขาจะรู้ว่าเพื่อนน้องกลับเมื่อไหร่”

แล้วผมก็ต้องแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายรีบเดินมาหา ไหว้ก่อนจะเอ่ย “พี่... แทคใช่ไหมครับ”

คนทักพูดต่ออย่างจะอธิบาย คงเห็นผมงง “คือ... โอบเคยพูดถึง ว่ารู้จักกันมานานแล้วด้วย พอดีเมื่อก่อนช่วงจะสอบก็กลับค่ำกันหมด ต้องขอบคุณที่ช่วยให้ข้าวหนูเรืองด้วยนะครับ”

อ๋อนี่เอง... เพื่อนเจ้าของหนู ผมบอกไปว่าไม่เป็นไร ก่อนจะรู้ว่าชื่อไมค์ ฝึกงานคนละที่กับโอบ แต่เคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาก่อน ส่วนเรื่องสัตว์เลี้ยง...

“... หนูแฟนเก่าผม แต่ผมก็รักนะ หมายถึงหนูน่ะ...”

... ท่าทางเพื่อนไมค์จะมีเยื่อใยกับหนูมากกว่าคนอยู่โข

“โอบบอกพี่ทำบริษัทจัดหาคู่ พอเข้าใจพวกลูกค้าผู้หญิงบ้างไหม ผู้หญิงนี่นะ... ให้ซื้อให้ตอนไปเดินจตุจักร เลี้ยงได้แป๊บเดียวเลิกกัน คืนของมาหมดรวมหนูเรืองด้วย ตอนแรกอยากได้เองแท้ๆ... ผมบอกแล้วว่ากำลังจะย้ายที่อยู่ใหม่เลี้ยงสัตว์ไม่ได้”

... เลยตกมาหาโอบ ฝากเพื่อนเลี้ยงแทน ดาวเรืองนี่เปลี่ยนมากี่มือละ ชักสงสารหน่อยๆ...

ผมก็ไม่รู้จะตอบน้องไมค์ว่าอย่างไร เพราะฝั่งที่ผมทำนั่นปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงน้อยมาก ถ้ายึดแค่ครีม (กับพี่อิทด้วยก็ได้) เป็นกลุ่มตัวอย่างน่าจะไม่ครอบคลุมสักเท่าไหร่ ที่สำคัญผมไม่รู้ว่าโอบได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อนหรือยัง

เพื่อนไมค์ยังคุยจ้อ ดูท่าจะเป็นคนประเภทอัธยาศัยดี บอกว่าที่จริงหอกับโรงงานยาที่ฝึกอยู่ไกลออกไป แต่พอดีเพื่อนสมัยมัธยมนัดกินข้าวแถวนี้เลยถือโอกาสแวะมาจะได้เจอหนูสักที ความจริงก่อนออกจากคณะเห็นโอบอยู่ในแล็บ นึกว่าพอตัวเองเสร็จธุระกับเพื่อน โอบคงกลับมาแล้ว

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าโอบจะกลับเมื่อไหร่ จะขอกุญแจป้าไขห้องให้ได้เยี่ยมหนูก็กลัวจะละลาบละล้วงเกินไป คนเป็นเพื่อนบอกจะรออีกสักครู่ ก่อนถามผมเรื่องงานที่ทำอย่างสนอกสนใจ ซึ่งคงเป็นเรื่องใหม่สำหรับบางคนนั่นแหละ

“ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก... ก็จัดให้คนที่ดูน่าจะเข้ากันได้ออกไปเดตกันถ้าเขาเห็นโปรไฟล์เห็นรูปของอีกฝ่ายแล้วต่างคนต่างพอใจ จะพัฒนาต่อหรือไม่ก็ตามแต่ ไม่คลิกก็เริ่มใหม่”

“หาลูกค้ายากไหมพี่”

“ก็...” ผมควรจะบอกว่ายากดีไหม มันแล้วแต่ช่วง “... เรื่อยๆ นะ บางทีหาจากคนใกล้ตัวเพื่อนฝูง แนะนำกันไปปากต่อปากก็มี”

“เหรอ... แต่ท่าทางพี่จะไม่ได้เพื่อนผมเป็นลูกค้า” คนพูดหัวเราะ

เพื่อนไมค์น่าจะไม่รู้จริงๆ นั่นแหละว่าโอบมาสนใจบริการนี้ แต่ที่พูดมาก็หมายความว่า...

ผมพยายามถามให้ปกติ “เพื่อนน้องไม่มีปัญหา เรื่องแบบนี้?”

"มันคบกับคนเยอะไปพี่ เพิ่งพักนี้แหละที่นิ่งๆ แต่ทุกคนเป็น... เพราะฝึกงานหนักแล้วก็อยากสอบใบประกอบฯ รอบเดียวให้ผ่าน” เพื่อนไมค์เล่า “แบบ... ส่วนใหญ่คนชอบมันก่อนทั้งนั้นน่ะทั้งผู้หญิงผู้ชาย มาชวนไปกินข้าวดูหนังมันก็ไป แต่ไม่เห็นจะอยาก 'พัฒนา' อะไรกับใครสักคน”

... ถ้าโอบหาได้เองขนาดนี้แล้วจะต้องมาให้ช่วยอีกทำไม หรือคบไปแต่ไม่เจอคนที่ใช่สักทีก็เลยมาลองให้บริษัทหาดู แต่ยังไงก็ไม่น่าจะ...

“อีกสัก... สามสี่เดือนผมคงไม่กวนโอบมันเรื่องหนูเรืองแล้ว” ไมค์บอก “ถ้าสอบได้ใบประกอบฯ เสร็จคงเริ่มงานเลย”

“เออ... แล้วประกาศที่ใช้ทุนหรือยัง” ผมถาม นึกถึงอีกคน เพียงแต่ไม่รู้ว่า... จะไปใช้ทุนที่ไหน ต้องย้ายอีกหรือเปล่า

“แล้วพี่ เพราะคณะส่งรายชื่อคนจะจบไปตั้งแต่เดือนก่อนนู้น รู้ตัวกันแต่เนิ่นว่าจะไปลงไหน ประกาศผลสอบใบประกอบฯ ประมาณมีนา ต้นเมษาก็ต้องรายงานตัวกันหมดแล้ว โอบมันก็ได้ที่เลือกไม่ใช่อยู่ในสำรอง”

“แล้วโอบ...” ผมกำลังจะถามว่าโอบใช้ทุนที่ไหนกันแน่ก็พอดีเจ้าตัวหัวเรื่องสนทนาตรงดิ่งเข้าประตูมา ร้อง

“จะมาไม่บอก!”

“ได้เมสเซจแล้วสิท่า” คนเป็นเพื่อนบ่นก่อนถาม “เออวันนี้ขออาจารย์ใช้แล็บทำไมวะ ค่ำแล้วด้วย ถ้าจะเตรียมสอบใบประกอบฯ ก็ทฤษฎีก่อนปฏิบัตินะเว้ย”

โอบไม่ตอบ หันมาหาผม “ลงมานั่งตากลมเดี๋ยวก็ไม่หาย...”

“ดีขึ้นแล้ว” ผมบอก ส่วนเพื่อนไมค์ก็เร่งยิกจะไปหาหนูสุดรักเนื่องจากหอไกลจัดและตอนนี้จะห้าทุ่มอยู่รอมร่อ เลยอพยพขึ้นไปกันทั้งหมด

เปิดประตูปุ๊บเพื่อนไมค์ก็กรากเข้าหากรง “หนูเรืองลูกพ่อ...!”

“ไอ้เว่อร์!” เจ้าของห้องว่าเข้าให้ “ก่อนหน้านี้ไม่เห็นดูดำดูดี”

“พ่อยุ่งจริงๆ” เพื่อนไมค์ครวญ “ดูเครื่องตอกยาตายังลายถึงตอนนี้ แต่รับรอง พอเริ่มงานแล้วจะหาที่ที่หนูเรืองไปอยู่ด้วยได้ รอก่อนนะลูก...”

โอบส่ายหน้าขำๆ บอกว่า “ออกไปแล้วล็อกประตูด้วยล่ะ”

“เออ เจอกันที่คณะ” เพื่อนโบกไม้โบกมือไม่สนใจอีก

โอบตามผมออกมา แล้วก็ยัง... เลยเข้าห้องมาด้วย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร อีกฝ่ายลงนั่ง หยิบของออกมาจากเป้ เลื่อนมาให้บนโต๊ะ

"คลอเฟนิรามีน น้ำ กลิ่นกาแฟ อันนี้ พารา ใบเตย ดูฉลากนะเขียนไว้หมดละ”

ผมมองดูขวดสองขวดที่ตั้งเคียงกันกับฉลากเขียนมือ อีกฝ่ายรีบย้ำ

“กินได้น่ะ... ยาน้ำนี่เด็กปีสามก็ทำได้แล้ว”

โอบยังว่ามีเพื่อนที่คณะบ้านทำร้านเบเกอรี่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเลยแวะไปเอาของก่อน รสชาติอาจจะงั้นๆ แต่ไว้จะฝากรุ่นพี่ที่ไปเมืองนอกซื้อยาพาราผงละลายน้ำรสกาแฟมาให้

“... ขอบคุณ”

ขอบคุณจริงๆ เพราะ... ความรู้สึกแบบที่ว่ามีคนทำอะไรให้เราคนเดียว ทำให้ ‘เป็นพิเศษ’ มัน... ห่างหายไปนานมากแล้ว

“... เงียบไปตั้งนานพูดแค่เนี้ย”

“จริงๆ ก็ไม่เป็นไร บอกแล้ว หัวแข็ง”

“ไม่ใช่หัวอย่างเดียว... ใจก็แข็งด้วย” คนนั่งตรงข้ามว่าเบาๆ

ผมไม่แน่ใจว่าจะตอบยังไง เลย... ถามเรื่องที่ยังอยากรู้อยู่ เรื่องที่ฝึกงานของโอบ ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าโอบจะกลับไปทำงานที่เชียงใหม่หรือภาคเหนือ

“แม่ไม่ได้เร่งให้โอบกลับ... แม่กับคุณพ่อก็สบายดี แม่ว่าให้โอบได้ทำที่อยากทำก่อน” คนตอบพูดเรื่อยๆ “โอบได้ที่กรุงเทพฯ”

ความรู้สึกแวบแรกคือ ก็ดีใจ... ที่ยังไม่ต้องเตรียมบอกลากันอีกในเร็ววันนี้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็ยังไม่แน่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคตบ้าง

“โอบเลือกที่กรุงเทพฯ ไว้แต่แรก?” ผมทวน

“เผื่อจะเรียนต่อมันก็ง่าย” อีกฝ่ายว่า “ก็เผื่อไว้หลายเรื่อง...”

ได้ยินเสียงประตูฝั่งตรงข้ามปิด เพื่อนคงกลับแล้วหลังจากได้ร่ำลาหนูเป็นที่เรียบร้อย โอบก็ลุก บอกว่า

“นอนเยอะๆ จะหายต้องอาศัยภูมิคุ้มกันตัวเอง”

“ก็รู้อยู่แล้ว...” ผมถึงได้ให้มันหายเองมาตลอดไง “เป็นหวัดจริงก็ไม่หายด้วยยานี่”

“ไม่หาย แต่ก็เป็นผู้ช่วย...” โอบบอก สบตาผมตรงๆ “...ทำให้รู้ว่า บางอย่างที่ไม่จำเป็น ก็ไม่เห็นต้องทนเลย”

เมื่อตอนนั้น น่าจะมีคนบอกผม...

ก่อนจะทันคิดก็ถามออกไปแล้ว “ทำไมถึง... ทำขนาดนี้”

โอบมองผมอยู่เหมือนเดิม ยิ้มน้อยๆ "ไม่รู้จริงเหรอ..."

เราสบตากัน มือโอบจับอยู่ที่ลูกบิดประตู

ผมไม่รู้ว่าตัวเองอยากรู้หรือเปล่า... ถ้า 'รู้' แล้วจะเกิดอะไรขึ้น

รู้แล้วย้อนกลับไปเป็นตอนยังไม่รู้ได้ไหม รู้แล้ว... ทุกอย่างจะดีขึ้น หรือแย่ลง

... แต่คงไม่เหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 24-02-2013 21:32:35
คุณ kyoya11 คนเขียนก็รออยู่เหมือนกัน 55 ต้องใช้เวลานิดนึง

คุณ iforgive จริงๆ ก็เป็นแบบนั้นมาตลอด แต่เราต้องดูกันต่อไปกับโอบ อิอิ โอบคัมแบค!

คุณ Naenprin ถ้าจู่โจมเลยนี่อาจจะตกกะใจได้นะคะ 55 แต่ก็เริ่มรู้แล้วแหละ

คุณ KAEHUB อ่านต่อน้า มันเป็นเรื่องเบื้องหลังของแทคเอง ที่สองคนต้องก้าวผ่านไปให้ได้

คุณ iamnan คนในอดีตค่ะ 55 แต่จะอะไรยังไงในปัจจุบันนั้นต้องรอดู

คุณ malula โอบพยายามอยู่แล้ว ฝากเชียร์ต่อ อิอิ

คุณ Gokusan จริงค่ะ แต่น้องโอบน่าจะไม่ยอมแพ้ คุณเพื่อนนี่คงมีบทบาทในกาลต่อไป

คุณ Aoya เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ใช่แนวหน่วง (มีบ้างนิดๆ หน่อยๆ) ตอนสักคิดอย่างหนึ่ง อาจจะรักจริง แต่มันก็นะ... ต้องเชียร์โอบกันต่อค่ะ

คุณ 2pmui จริง แต่ตอนนี้เค้าก็เริ่มรู้ตัวแล้วน้า เรื่องที่เดาไว้คอยดูกันต่อไปนะคะ

คุณ hanataro คนในอดีต จะกลับมาไหมต้องฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ ่patsaporn จริงค่ะ ตอนนั้นรักนะ แต่แบบจะมิให้คิดมากก็กระไรอยู่ โอบไม่รู้นี่นาว่าอยากเปิดแล้วยัง แต่ก็ดูมีหวังมากขึ้นนะ ขอบคุณสำหรับการเอาใจช่วยด้วยค่า

คุณ pudson ถูก หลายอย่างปนกัน แต่ก็ควรเริ่มรู้ตัวบ้างไรบ้างละ บทที่เจ็ดละ 555 น้องโอบต้องอย่าเพิ่งยอมแพ้ล่ะ

คุณ krappom เรื่องนี้ไม่ม่าน้า จริงๆ เลย (หรืออาจจะนิดหน่อย 55)

คุณ mesomeo2 ตอนนี้ก็มีหนูเรือง อิอิ จริง ก็เริ่มเปิดๆ บ้างแล้วน้า

คุณ AeRoMoZa ขอบคุณมากนะคะเม้นสองบทเลยทีเดียวเชียว 55 ซื่อแต่เกรียน ตอนนี้ก็เจอเพื่อนโอบแล้วนะคะ เดี๋ยวเรื่องอดีตของแทคก็จะออกมาเรื่อยๆ ค่ะ พร้อมๆ กับที่เรื่องปัจจุบันก็คืบหน้าไป ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ milkteabeige อันนี้ก็ต้องฝากให้กำลังใจน้องโอบต่อ แต่มันดูกระเตื้องนะ? ถ้าดูในบทแรกจะเห็นว่า มีการถามไถ่เคลียร์กันไปแล้วค่ะว่า เป็น หรือไม่ แต่ถึงไม่อะไรถ้าอยากอยู่กะแทคก็ต้องมาฝั่งนี้อยู่ดีเพราะแทคไม่ได้ทำอีกฝั่ง 555

คุณ NewYearzz โอ๋ เรื่องนี้ไม่เศร้าน้า นิดหน่อยมาก ขอบคุณสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ yamapong เนอะ 55 แต่ก็ยังไม่ทันทีนะ ยังพยายามอยู่ เรื่อยๆ น้ำหยดลงหิน ฮา

คุณ 1wariya1 มันก็จะเป็นประเด็นต่อไป สักพัก แต่น้องโอบก็ยังพยายามต่อไปอยู่น้า

คุณ yumsonteen ขอบคุณมากค่ะ แต่น้องโอบก็ยังไม่ถอดใจเสียทีเดียวล่ะ

คุณ PPink ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ สงสารทั้งคู่เลยเนอะ 55 เชียร์น้องโอบต่อนะคะ ทางฝั่งคุณศรัณย์ก็ลองดูกันต่อไป

คุณ •♀NoM!_KunG♀• มาค่ะ อ่านต่อเถอะ 55 จริงๆ เขาก็ผูกพันกันมาเนิ่นนานแล้วจริงๆ นะ แต่เห็นกันเมื่อไหร่นี่ก็ต้องฝากอ่านต่อไปด้วยล่ะค่า

คุณ De_cimo ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านมากๆ เลยค่า จริงๆ เพราะว่า บริษัทที่ทำธุรกิจประมาณนี้ก็ไปทำเทคมีเอาท์ด้วยนี่แหละ แต่อาจจะไม่ใช่บริษัทที่แทคทำ ฮา

คุณ PK37 ก็ยังเข้ามาอยู่เรื่อยๆ คิดว่าตอนนี้คงเคลียร์มากขึ้นที่ว่าโอบไม่น่าจะมาเป็นสมาชิกจริงๆ นี่แหละ ตอนนี้ก็เหมือนจะรู้แล้วนะ ตอนแรกโอบก็อาจจะไม่แน่ใจว่าภัคเป็นเพื่อนจริงเปล่า 55 หวงไปหมด แต่ก็ต้องดูกันต่อไปค่ะอาจจะมีอะไรมากกว่านี้ นี่แทคก็... เปิดหน่อยๆ แล้วหรือเปล่า ขอบคุณมากสำหรับการอ่านและกำลังใจนะคะ

คุณ Millet ชัดละ นี่ฝั่งนี้ก็เริ่มแง้มละ ต้องพยายามกันต่อไป 55

คุณ sunshine538 ขอบคุณที่ชอบพี่อิทค่ะ 55 เธอจะมีเนื้อคู่ไหมนี่ ส่วนคู่หลักนี่ก็มีขึ้นมีลงนิดนึงค่ะ ก็ไม่ง่ายจริงๆ เน้อ แต่ก็ถูกอีกที่ด้วยนิสัยโอบ เดี๋ยวโอบก็คัมแบค ฮา ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ suck_love คนในอดีตค่ะ แต่จะมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ต้องขอฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อีกนิดนึง น้องโอบเขาไม่รีบ 555 แต่เราก็ได้เจอเพื่อน (ที่สรุปแล้วก็เพื่อนจริงนะ) ของโอบ ก็ต้องฝากติดตามกันต่อไป...

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านอย่างมากๆ เช่นเคยค่า
   :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-02-2013 21:51:52
พี่แทคอึนตลอดดดด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-02-2013 22:30:23
น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน
โอบหมั่นคอยดูแลอยู่อย่างนี้ แทคจะไปไหนเสีย

ชอบหนูเรือง ชอบเพื่อนไมค์เจ้าของหนูเรืองด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 24-02-2013 23:16:38
โอบรักมั่นและรักจริงอ่ะ แทคเปิดใจรับรู้หน่อยเถอะ สงสารโอบแย่อ่ะ สู้ต่อไปนะโอบ เชื่อว่าวันนึงแทคต้องยอมใจอ่อนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 25-02-2013 00:02:54
ช่วงแรก ๆ อึมครึมจนใจหาย น้องโอบหายไปหลายวันเกิน แต่พอพี่แทคบอกตรง ๆ ว่าอยากเจอแค่นั้นล่ะ
โลกก็ใสบลิ๊งค์~~~ ขึ้นมาทันที คนอ่านก็โล่งนะ แม่แทคสติลเป็นแม่สื่อแบบไม่รู้ตัว คนอ่านช้อบชอบนะ
ชอบคุณเภสัชที่แบบทุ่มทุนสร้างหาหยูกหายาแบบที่พี่แทคพอจะกินได้มาให้ด้วย น่ารักไปไหนเนี่ยพ่อคนนี้
คำเล่าของเพื่อนนี่ชัดเลย โอบไม่ต้องพึ่งพาบริษัทหาคู่จ้า แค่อยากเข้าหาพี่แทคแค่นั้น
อยากรู้จริงเหรอ... พี่แทคยังลังเล แ่ต่คนอ่านโคตรอยากรู้มาก 555 สติลลุ้นสุดตัวค่ะ

ขอบคุณค่ะ รอเรื่องนี้ตล๊อดๆๆๆ ติดซะแล้ว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: pudson ที่ 25-02-2013 00:52:10
อย่างแทคเนี่ย ยาแค่นั้นยังไม่พอ
เตรียมฮีรูดอยไว้ด้วย (เอาไว้เป็นตัวช่วย รักษาแผลเป็นในใจ จะได้หายซักที) :laugh3:
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น โอบ สู้ๆ :a2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 25-02-2013 01:00:57
แหมแสดงออกแบบนี้ถ้าแทคไม่เข้าใจก็ลาออกจากบริษัทเถอะค่ะ อยากให้เปิดใจเร็วๆนะแทค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 25-02-2013 03:28:46
“ก็เผื่อไว้หลายเรื่อง...”

แน่ะ โอบนี่ขยันหยอดต่อไปเรื่อยๆนะ แทคต้องใจอ่อนซักวัน

ชัดขนาดนี้ ถ้ายังจะปิดหูปิดตาอีกก็เกินไปละ โอบออกน่ารักอบอุ่น ฮือออ ดูพูดแต่ละคำดิ แม่ยกกรี๊ดจนตัวแตกละเนี่ย

ป.ล. ไมค์น่ารักเว่อร์ หนูเรืองลูกพ่อ กร๊ากกกกก ให้มาบ่อยๆนะคะ ชอบอีกแล้ว

ป.ล. อีก ขอพารารสใบเตยแผงนึง ท่าทางอร่อย

>< ชอบตอนนี้อะ   :z2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 25-02-2013 03:42:45
พี่แทคถามแล้ว วู้ววว แสดงว่าพี่แทคเริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกน้องแล้วซิ
น้องโอบสู้ๆ สู้ต่อไปอย่าท้อนะ
หนูเรืองและเพื่อนไมค์น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 25-02-2013 09:44:09
แม่พี่แทคน่าร้ากกกกกกกกกก~ ถ้าไม่ได้แม่สงสัยคู่นี้ยังไม่คืนดีกันแหงๆเลย
ตอนในลิฟท์นี่แบบ อัยย่ะ น้องโอบบบบ ตัวเองก็คิดถึงพี่เหมือนกันนั่นแล
แล้วที่กลับมาช้าไปทำยาให้ โอยยยยย เภสัชกรเค้าจีบคนที่ชอบเวลาป่วยแบบนี้หรอ น่ารัก~
ฟินสุดคือตอนอยู่ในห้องที่โอบขยันหยอดเบาๆเนี่ยหล่ะ
หวังว่าพี่แทคจะลืมเรื่อง(น่าจะ)ไม่ดีในอดีต แล้วลองมาเริ่มต้นใหม่กับเภสัชโอบนะค้าาาา

ปล.1 น้องไมค์เพื่อนน้องโอบน่ารักมากกกก~
ปล.2 ยังปักหลักชูป้ายไฟเชียร์คุณศรัณย์ให้หาคู่ได้อยู่ค่ะ55555555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 25-02-2013 13:00:46
  รู้ตัวแล้ว ไม่เหมือนเดิมสิ ก็กำลังจะเป็นว่าที่แฟนไงพี่แทค คิคิคิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-02-2013 14:01:41
แทค...จะซึน จะอึนมากไปแล้วเน้อ :fire:
เดี๋ยวยุให้โอบปล้ำซะเลย :z1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 25-02-2013 15:23:37
งอนกันได้แป๊บก็คืนดีกันละ แต่ก็ดีจะได้ไม่เครียด
 แบบ จะบอกว่าแทคซึนอย่างเดียวก็ไม่ถูกอ่ะนะ
คุณน้องก็ไม่เคยพูดอะไรเหมือนกัน คอยตอดนิดตอดหน่อย
เทคนิคนี้กับบางคนมันก็ไม่ได้ผลนะจ๊ะ
อย่างแทคนี่ถ้าจะให้รู้ตัวสงสัยต้องตะโกนกรอกหู 55555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-02-2013 15:39:14
อร๊ากกกกกกกกกกกกกก >< เขิล เขิลจิงๆนะ

มันแบบว่า อรั้ยย><

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 25-02-2013 16:19:46
โอบทำให้ถึงขนาดนี้ ไม่รู้ก็แย่แล้วล่ะแทค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 25-02-2013 16:26:43
อ่านแล้วอยากจะกรี๊ด ไปทำยามาให้
โอบน่ารักสุดๆอ่ะ
แทค บอกตัวเองให้รู้ทีเถอะ โอบทำขนาดนี้แล้ว
ชอบตอนโอบบอกเรื่องที่ใช้ทุนเองเลย
รู้สึกแบบ โอ๊ย อธิบายไม่ถูก แบบใส่ใจ อยากให้รู้ อยากบอก อยากแชร์ อะไรแนวๆนี้

พ่อหนูเรืองก็ท่าทางฮาๆดี

รออดีตของแทคนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 25-02-2013 19:09:04
น้องโอบบบบ อย่าเพิ่งท้อนะลูกกกก สู้ต่อไปปปป

พี่แทคไม่ได้ใจแข็งจ๊ะ แค่ซึนเท่านั้นเอ๊งงงง

งืออออ น้องโอบสู้ๆ พี่แทคเหมือนจะรู้ๆ ละนะ

เชียร์น้องโอบสุดๆ ฮึบๆๆ   :z2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 25-02-2013 19:42:03
อั๊ยย่ะ เจ้าของหนูเรืองจะมีบทแค่นี้เองเรอะ

แต่เรื่องที่ถามเนี่ย เหมือนแทคจะรู้คำตอบอยู่แล้วนะ แค่ว่าจะยอมรับรึเปล่าแค่นั้นเอง อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 25-02-2013 21:07:54
หนูเรืองกำลังจะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!
ฮือหนูเรื่อง หนูจะปรับตัวได้เหรอเปล่าเนี่ย อาหารการกินอีกล่ะ #สรุปตอนนี้ห่วงหนูเรืองที่สุด

ส่วนโอบไม่ห่วงเพราะคนนี้ยังไงก็พระเอก555555 //เอาเขียนป้ายไปติดหน้าห้องแทค"เรื่องนี้พระเอกชื่อโอบ"
แต่ท่าทางคุณพี่แทคจะเริ่มใจอ่อนบ้างแล้ว เห็นม่ะอย่างที่คิดไว้เลยที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่รู้แต่แกล้งมองไม่เห็นเองต่างหาก
ว่าแต่ที่หลังคอสักคำว่าอะไรเน้อ คนอ่านอยากรู้ด้วยคน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 25-02-2013 23:28:57
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 26-02-2013 00:00:08
'อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว..'

โอบดูแลแทคไปอย่างนี้ แทคจะไปไหนรอด
ลงทุนไปทำยาให้แทคด้วยตัวเองเลยนะ เพราะรักจึงจัดให้รึเปล่า
โอบชอบพูดอะไรให้คิด แล้วมีกุมมงกุมมือกันด้วย ตอนหน้าสารภาพรักเลยเหอะ ขี้เกียจลุ้นละ

#หนูเรืองงงง จะไปแล้วจริงๆหรอ เค้าคงคิดถึงหนูเรืองมากๆเลย อาหารการกินจะดีรึเปล่า จะผอมลงมั้ย บลาๆๆ T3T

(สรุป ห่วงหนูเรืองที่สุดละ ฮา)
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 26-02-2013 11:32:18
รักกันเถอะนะ คนอ่านลุ้นมากกกกกก

รอตอนต่อไปครับ :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 26-02-2013 11:51:21
โอบสู้ๆ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
แทคมันซึนปนอึนอย่าได้แคร์
เราด้านได้อายอด
ริจะรักต้องขยัน
กดบวกปล่อยเป็ด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 26-02-2013 13:46:00
นั่นแหละ ทำขนาดนี้...
จะไม่รู้คงไม่ใช่เรื่องนะ
อยู่ที่ว่าจะยอมรับหรือเปล่า
จะใจแข็งไปทำไมในเมื่อ...ลึกๆ ก็สนใจเขา

แม้จะเป็นเด็กข้างบ้านที่เพิ่งได้กลับมาเจอกัน
แต่มันก็มีความผูกพันวัยเด็กมาด้วยกัน...พัฒนาไม่ยาก แค่ยอมรับ

แทบจะยกป้ายไฟตามเชียร์ตาโอบไปทุกที่ ทำขนาดนี้...ยังใจแข็งได้ให้รู้ไป ^^V

ปล.ถึงรีบน...เป็นครั้งแรกที่ตามเจอจนชนก้นกัน หุหุ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 26-02-2013 15:05:35
ก็รอวันที่แทคเปิดใจกันต่อไป  :sad4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 27-02-2013 20:37:51
เพิ่งได้เข้ามาอ่านนิยายเรื่องใหม่ของคุณเดหลี ( แต่การอ่าน 7 ตอนรวด เป็นอะไรที่ฟินมากเลยค่ะ  :give2: )
ชอบการดำเนินเรื่องที่ค่อย ๆ เผยแย้มคลายความเป็นมาเป็นไป พร้อม ๆ กับการเดินหน้าต่อไปแบบนี้มากเลยค่ะ
จากปริศนาดำมืด(?)ก็ค่อย ๆ สว่างขึ้นเรื่อย ๆ เฉกเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของตัวละครที่ค่อย ๆ ผูกพันแนบแน่น

คุณแทค น่าจะมีอดีตรักร้าวลืมไม่ลง จนไม่คิดจะเริ่มใหม่ อันนี้คงต้องรอดูกันต่อไป... 
ส่วนน้องโอบ อาจจะเป็นรักฝังใจแต่ที่แน่ ๆ การกระทำกับความรู้สึกชัดเจนมาก ฉนั้นสู้ต่อไป...ทาเคชิ(?)
แอบอยากให้คุณศรัณย์กับเสี่ยน็อตเจอกันสักรอบ เพราะ บางทีพวกที่โปรไฟล์ไม่ได้ตรงกันเลย อาจจะพูดกันรู้เรื่องกว่าที่คิดนะ
แต่ท่าทางตัวละครที่ขโมยซีนที่สุด คงหนีไม่พ้น "หนูดาวเรือง" สินะ :m3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 28-02-2013 13:59:41
เหมือนแทครู้นะว่าโอบคิดยังไง ตัวเองก็แอบๆชอบเค้าอยู่นี่นา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 01-03-2013 13:08:38
อ๊ายยย คือโอบชอบแทคอยู่ใช่ไหมมมมม

อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 7] 24 ก.พ. 56 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 06-03-2013 15:12:50
 :call:มาต่อเร็วๆนะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 12-03-2013 08:57:00
บทที่ 8

สรุปว่าคืนนั้นจบลงที่เสียงเคาะประตูรัวจนคนจับลูกบิดอยู่แล้วต้องเปิดออกไปก่อนผมจะทันได้ตอบอะไรจริงๆ ปรากฎว่าเจอเจ้าของหนูบอกลืมกระเป๋าเป้ไว้ในห้อง โอบทำหน้าเซ็งสุดขีดใส่เพื่อน แต่พอออกไปไขกุญแจให้เอาของแล้ว ก็ไม่ได้กลับเข้ามาอีก

ซึ่งก็อาจจะดี เพราะผมยังต้องการเวลาคิดอะไรอยู่... นิดหน่อย


พอวันอาทิตย์คนที่รับธุระจากแม่ไปเอาของกับผมก็มานั่งอยู่ตรงโซฟาเรียบร้อย ผมให้โอบรอก่อนเพราะกำลังล้างจานติดพัน ค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนแต่ง่วงเลยขี้เกียจ ยกยอดมาล้างตอนเช้า เป็นนิสัยแบบที่แม่คงบ่นสามวันไม่จบสิ้น ความจริงมีคนเสนอจะช่วย แต่ผมมือเปียกอยู่แล้วก็ล้างไปคนเดียวเสร็จเร็วกว่า

"แทคเมสเซจเข้า" เสียงโอบตะโกนบอก

"ดูให้หน่อย” ผมยังไม่อยากวางมือปิดก๊อกตอนนี้เพราะจะหมดกองอยู่แล้ว ค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นแม่ อาจฝากเอาของเพิ่ม หรือฝากบอกอะไรถึงลุงแหวงก็ได้

เงียบไป ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินมาหาถึงในครัว

“แทคนี่โอบควรห่วงรึเปล่า”

“ไหน” ถึงจะตงิดกับการวางรูปประโยคของคนพูดแต่ผมก็หันไปดู ตอนแรกกะดูผ่านแต่แล้วก็ต้องหันไปมองซ้ำ

“เฮ้ย!”

ปกติผมไม่ค่อยได้อะไรประหลาด แม่เคยถ่ายส่งมาบ้าง ส่วนใหญ่เป็นต้นนั่นต้นนี่ของพ่อ แต่คราวนี้เหนือความคาดหมายและคนส่งไม่ใช่แม่

ลูกค้าเคยส่งรูปตัวเองมาให้ผมบ้างเหมือนกันเพื่อลงโปรไฟล์ อันนี้ก็รูปลูกค้า พูดให้เฉพาะเจาะจงคือเสี่ยน็อต

ให้ลงรายละเอียดอีกก็คือ เป็นเสี่ยน็อตที่ใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวยืนถ่ายรูปอยู่หน้ากระจก

เสี่ยเล่นไรเนี่ย!

ผมรีบเช็ดมือกับกางเกงลวกๆ คว้าโทรศัพท์มากดหาตัวต้นเรื่อง ส่วนโอบก็ทำหน้าพิลึก กึ่งฉิวกึ่งขันบอกไม่ถูก แต่คือคราวนี้ผมเดาไม่ออกเลยว่าอะไรดลใจเสี่ย หรือว่าถูกปฏิเสธเดตอีกครั้งถึงกับฟั่นเฟือนไปแล้ว

“ฮัลโหล”

เสี่ยรับปุ๊บผมก็กรอกเสียงลงไปทันที

“เมื่อกี้ส่งรูปมาผิดเครื่องหรือเปล่าครับ”

“โทษทีคุณแทคบ้านผมช่างเขามาทำ ไปพูดตรงไหนก็เสียงดังหมดเลย" เสี่ยตะโกนตอบกลับมา เสียงสะท้อนจนก้องออกนอกโทรศัพท์ โอบก็ยังยืนอยู่ตรงนี้แต่ไม่เป็นไร ได้ยินก็ดีจะได้ไม่เข้าใจไปว่าผมบอกให้ลูกค้าส่งรูป (เกือบ) โป๊มาดูเล่น เสียชื่อเสียงบริษัท เสียหมดนั่นแหละ

"ส่งรูปผิดหรือเปล่าครับ" ผมตอบกลับไปเสียงดังพอกัน

“อะไรนะ”

“เสี่ยส่งรูปเมื่อกี้มาผิดเครื่องครับ!” ผมตัดสินใจไม่ใช้ประโยคคำถามแล้ว ยังไงก็ส่งผิด ส่งผิดชัดๆ

ลูกค้าจะส่งอะไรถึงกันนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ไม่ต้องซีซีที่ปรึกษาให้มีส่วนร่วมทุกครั้งก็ได้...

"ไม่ๆ ผมตั้งใจส่งให้คุณแทคถูกแล้ว เป็นไง"

... ผมหันหลังพิงเคาน์เตอร์ครัวด้วยความมึนตึ้บ เสี่ยเข้าใจผิดตรงไหนอีกหรือเปล่า เสี่ยต้องการอะไรจากผมในเช้าวันอาทิตย์ก่อนที่ตัวเองจะออกไปเดต แล้วยังถามว่าเป็นไงอีก
 
"ผมไม่เคยบอกให้เสี่ยส่งอะไรแบบนี้มา..."

"คุณแทคบอก จำไม่ได้เหรอ" คำตอบมั่นอกมั่นใจเป็นที่ยิ่ง

หน้าโอบชักไม่ขำละ ถ้าคิดว่าผมทำงานแบบให้ลูกค้าส่งรูปวาบหวามมาบรรณาการนี่ภาพพจน์ป่นปี้กู่ไม่กลับเอาจริงๆ

“เสี่ย เอาใหม่ เสี่ยได้ยินผมพูดว่ายังไงนะครับตอนนั้น” 

"ก็บอกให้ส่งรูปก่อนแต่งตัวออกจากบ้านไง คุณแทคจะดู"

ผมกุมขมับ ไอ้ที่เสี่ยโทรมาเมื่อวันนั้นหลังถูกอันแท็กรูปพลาดๆ จากเฟซบุ๊ค... ผมเสนอด้วยความหวังดีแต่ท่าทางจะกลับตาลปัตรอีกแล้ว

"เสี่ย... หมายถึงว่าแต่งตัวเสร็จแล้วก่อนออกจากบ้าน! เสี่ยไม่มั่นใจว่าดีหรือยังผมก็จะช่วยดูเสื้อผ้าให้ ผมจะเอารูปเสี่ยก่อนใส่เสื้อไปทำไมล่ะ!" คิดบ้างเสี่ย โอ๊ย

"อ้าว..."

ต่างคนต่างเงียบ มีเสียงข้างหลังเป็นช่างกำลังเจาะทุบดังมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ

"ก็ยังว่าแปลกๆ ผมคงตีความผิดเองแหละ”

ที่จริงคือมันไม่ต้องตีความเลยไง ผมพยายามไม่ถอนใจใส่โทรศัพท์ส่วนคนยืนฟังข้างๆ ขำไปโลกหน้าแล้ว

“คุณแทคอย่าไปส่งต่อให้ใครนะ ผมอาย"

"ไว้ใจได้ ลบเลยล่ะครับ” ผมตอบแบบไม่ต้องคิด เสี่ยนึกว่าผมจะเซฟไปทำฟอร์วาร์ดเมล์หรือไงล่ะ “อ้อความจริงเชิ้ตตัวที่เสี่ยใส่มาบริษัทครั้งแรกนั่นก็โอเคอยู่... กางเกงยีน... ไม่ใช่ๆ ไม่เอาตัวขาสั้น ครับ... ยาวธรรมดาตรงๆ นั่นแหละ ไม่ต้องส่งมาแล้วก็ได้ครับ โชคดีนะครับวันนี้”

ผมวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะในครัวด้วยความเหนื่อยใจ โอบยังขำไม่หยุด ถามว่า “ลบเลยมั้ย ลบเลยนะ”

พอพยักหน้าโอบก็หยิบโทรศัพท์กลับไปทางโซฟา “ลูกค้าแทคนี่ตล๊กตลก”

ทำเป็นพูด... ตอนแรกมันก็ขำไม่ออกพอกับผมแหละ


ตอนนี้เราออกมาถึงแถววงแหวนรอบนอกแล้ว รถไม่ค่อยติดอาจเพราะเป็นเช้าวันอาทิตย์ อีกสักครึ่งชั่วโมงกว่าน่าจะถึงบ้านลุงได้
 
... ความจริง... ไมค์เองก็บอกว่าเพื่อน ‘คบกับคนเยอะไป’ และผมก็ไม่รู้ว่า ‘เคยคบ’ หรือ ‘ยังคบ’ เมื่อก่อนถ้าเป็นลูกค้า ในฐานะที่ปรึกษา ผมมีสิทธิซัก ถาม คัด ว่าไร้พันธะผูกพันจริงหรือเปล่าก่อนจะเข้ามาอยู่ในบัญชี

... ตอนนี้ไม่ใช่เสียแล้ว ผมควรจะถามไหม ควรอยาก ‘รู้’ หรือเปล่า เมื่อก่อนไม่เคยจะสนใจอะไรมาก ยังไงเรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องของคนสองคน เคยคิดแบบนี้ จนมันกลายเป็นสอง... สามสี่ห้าคนไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

แต่ผมจะไม่เอามาตรฐานนั้นมาใช้กับโอบ เพราะโอบ... ไม่เหมือน

“แทคดูถนน!”

ผมรีบกลับมาเลนตัวเอง ขับรถนี่ใจลอยไม่ได้เลยจริงๆ แต่เมื่อกี้ไม่ถึงกับอันตรายสาหัสอะไรนะแค่เผลอคร่อมไปหน่อยเดียว ส่วนคนนั่งข้างทำหน้าสยองเว่อร์ ดูก็รู้ว่าไม่ได้กลัวจริงจังหรอก แค่จะกวนเท่านั้นล่ะ

“จะรอดถึงองครักษ์ไหม”

“พูดมากนักขับเองเลยไป” ผมว่า ที่พูดได้ก็เพราะโอบขับไม่เป็น ยังไงก็ต้องให้ผมขับ... หรือเปล่า

โอบเท้าข้อศอกตรงขอบกระจกท่าถนัด หันมาทางผมกระดิกนิ้วเสียด้วยนะ “จอดแล้วเปลี่ยนที่กันมา”

ผมอึ้งไปนิดก่อนจะต้องถาม “นี่ทำไมไม่บอกว่าขับรถเป็น”

แล้วไอ้ที่ให้สงสารลูกนกลูกกาตาดำๆ ขนาดขับไปช่วยขนของคืออะไร ถ้าฟังตอนนั้นก็คิดว่าต้องพึ่งให้ขับทั้งนั้นแหละ ไม่อย่างนั้นยืมรถใครสักคนก็ได้

“ไม่มีรถไม่ได้แปลว่าขับไม่ได้ป่ะ” ผู้โดยสารตอบเสียอย่างนั้น

“โอ๊ย แม่น่าจะวานลูกรักขับรถไปเอาของแล้วส่งไปรษณีย์ให้เสียเลยสิ้นเรื่องสิ้นราว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว” ผมประชด ทำเป็นลืมชั่วคราวว่าธุระก็ธุระแม่ผม และที่จะไปหานี่ก็ลุงผม โอบเอนหลังพิงพนัก ว่าเรื่อยๆ

“รถแทคน่ะแทคชอบขับเอง แค่ไม่ชอบขับคนเดียว”

... มันจะรู้นิสัยผมดีเกินไปแล้ว ตอนแม่บอกให้มาด้วยนี่พูดอะไรบ้าง

“โอบนั่งข้างๆ คอยส่งข้าวส่งน้ำไง จะกินอะไรก็บอก”

ผมหันไปมองแวบหนึ่ง โอบก็ยิ้มจนผมต้องว่า “อยู่เฉยๆ เถอะ”

“ผ้าเย็นก็มี”

นี่คืออะไร รายการแม่บ้านตัวอย่างหรือยังไง ผมจัดการแซวมันกลับแต่โอบบอกหน้าตาเฉย

“เปล่า เผื่อรถแทคแอร์เสีย เห็นเก่ามากกกแล้ววว”

ผมแทบเขวี้ยงผ้าใส่มัน เพียงแต่เรื่องนี้เถียงไม่ได้

... คือแอร์เคยดับมาแล้วจริงๆ น่ะ


เราถึงบ้านลุงเมื่อใกล้เที่ยง สิบห้านาทีแรกผ่านไปโดยที่โอบยืนฟังผมแหลงใต้อย่างเมามันกับลุงแหวง จนในที่สุดลุงหันมาขอโทษขอโพยด้วยสำเนียงทองแดงว่าอยู่นี่ไม่รู้จะแหลงกับใครเลยเพลินไปหน่อย แต่ความจริงแม่โทรมาบอกแล้วว่าจะมีหลานที่เคยอยู่บ้านใกล้กันมาด้วย ซึ่งขานี้ก็ตอบว่า

“อ๋อไม่เป็นไรครับ ผมพยายามทำตัวให้คุ้นอยู่”

ลุงหัวเราะ บอกว่าบ่าวนี้ท่าจะอยากมีแฟนเป็นคนใต้ และ “หาไม่ยากแล อยู่ไม่โบระที”

โอบยิ้มเหมือนฟังรู้เรื่อง มากระซิบถามผมทีหลัง “แปลว่าอะไร”

“ไม่ได้น่าเกลียด” นี่ผมแปลตรงที่สุดล่ะนะ ตามตัวเป๊ะๆ

“ลุงชมว่าโอบหล่อเหรอ”

“เปล่า แค่บอกว่าไม่ได้น่าเกลียด”

แต่คนถูกชมคงได้ยินเฉพาะสิ่งที่อยากได้ยินไปแล้ว แป๊บเดียวก็คุยจ้ออยู่กับลุงอย่างไม่ติดขัด ป้าสะใภ้ผมไปบ้านญาติที่ตำบลข้างๆ เขามารับไปงานบุญแต่เช้า กว่าจะกลับก็บ่ายแก่ ลุงเลยชวนกินข้าวด้วยกันก่อนเพราะทำแกงไตปลาเอาไว้

โอบตักเข้าไปช้อนหนึ่งผมต้องบอก “มันเผ็ด”

“ก็กินเผ็ดอยู่เป็นปกตินะ”

คือแกงใต้มันเผ็ดไม่ปกติไง ผมรีบเลื่อนแก้วน้ำเมื่อไม่นานคนกินก็ร้อง

“เฮ้ยเผ็ดจริง!”

ลุงหัวเราะ บอกอาหารใต้ไม่มีเผ็ดเล่นๆ ผมว่าจะเจียวไข่เพิ่มให้แกล้มกับคั่วกลิ้งซึ่งลุงบอกว่าทำเผ็ดน้อยกว่าไตปลาแล้วแต่อาจจะยังเผ็ดเกินมาตรฐานคนกินทั่วๆ ไป โอบว่าไม่เป็นไรก่อนกระซิบ

“ทำตัวให้คุ้นเข้าไว้”

ผมเลยเอากระจาดผักไปอยู่ตรงหน้าให้มันประทังชีวิต หาไม่ขากลับคงต้องแวะห้องน้ำทุกสองกิโลแน่ พอพ้นมื้อนั้นซึ่งโอบคงได้กินข้าวมากกว่ากับข้าวอย่างมีนัยสำคัญแล้วลุงก็พาไปดูของ ความจริงคือแผ่นเสียงเก่ากับหนังสือโน้ตดนตรี ฝรั่งที่เคยมาตัดผมประจำกับลุงกำลังจะย้ายกลับประเทศ บอกขายข้าวของเหล่านี้ในราคาไม่แพง ลุงจำบางเพลงที่เขาพูดให้ฟังได้ นึกถึงน้องเขยว่าชอบเลยถามมาทางแม่ กลายเป็นโครงการมหกรรมของขวัญวันเกิดพ่อแบบข้ามจังหวัด เห็นว่าบางเพลงก็ค่อนข้างหายากแล้วจริงๆ

... ตอนนั้นแม่ถึงได้ออกมาพูดข้างนอกให้ยุงกัด เพราะจะเซอร์ไพรส์เจ้าของวันเกิด...

บางทีผมก็สงสัยว่าตัวเองจะรักคนคนหนึ่งยาวนานเป็นสิบๆ ปีอย่างนั้นได้ไหม เคยคิดว่าได้ แต่ไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้าง นอกจากรัก

ความอดทน เข้าอกเข้าใจ ให้อภัย อย่างนั้นหรือ เคยคิดว่ามีสิ่งเหล่านั้นและทำได้... อีกเหมือนกัน กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ควรจะอภัยต่อไปเรื่อยๆ และทนกับเรื่องเดิมๆ ความเชื่อมั่นของผมก็สั่นคลอนไปมากแล้ว

บางทีคำตอบก็อาจจะไม่ใช่ทำไม่ได้ แค่... อาจจะพยายามผิดคน

เสียงลุงดังขึ้นดึงผมออกจากภวังค์ “... หลานจะให้อะไรพ่อล่ะ”

“ยังไม่ได้คิดเลยลุง...”

“ลืมวันเกิดน้องเขยคนโปรดลุงได้ไง”

... จะไม่โปรดก็ไม่ได้เพราะมีอยู่คนเดียว แม่มีน้องอีกสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่กว่าพ่อจะได้ตำแหน่งคนโปรดก็ต้องฝ่าด่านอรหันต์ลุงกับอาผมอุตลุดอยู่เหมือนกัน ที่แม่เอ็นดูน้านันแม่ของโอบมาก อาจเพราะแม่ไม่เคยมีน้องสาว...

“ไม่ได้ลืมลุง... แต่วันเกิดพ่ออีกตั้งเกือบสองเดือน”

และแม่ก็เตรียมการตั้งแต่ตอนนี้เท่านั้นเอง ลุงหัวเราะแล้วว่าสมกับเป็นผู้หญิงที่ต้องดูแลผู้ชายทั้งบ้านจริงๆ เพราะคุณยายผมเสียตั้งแต่ลูกๆ ยังเล็ก คุณตาก็ทำงานหนัก คนที่มีแผนกะเกณฑ์ทุกอย่างไม่มีพลาด เป็นต้นว่าค่าน้ำค่าไฟจ่ายตรงเวลา น้องชายสองคนไม่เคยสายพร้อมห่อข้าวไปโรงเรียนเรียบร้อย พี่ชายตื่นทันสอบไล่จบมาได้ก็แม่นี่แหละ

ลุงชอบเล่าโน่นเล่านี่ตามประสาคนแก่ที่ลูกไปทำงานต่างจังหวัดไกลๆ พอมีคนตั้งใจฟังอย่างโอบเลยติดลม แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องเล่าก็ได้อย่างตอนที่ผมไม่อยากไปโรงเรียนและปีนขึ้นต้นไม้ไปซ่อนแต่รังมดแดงตกลงมาใส่จึงได้สมหวังหยุดโรงเรียนจริงด้วยความทรมานทั้งจิตใจและร่างกายเป็นอย่างยิ่ง เรื่องพวกนี้เกิดก่อนโอบจะย้ายมาทั้งนั้น ทั้งคนเล่าคนฟังดูบันเทิงมากจนผมต้องเบรกเป็นพักๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกลายเป็นเป้าไปโดยไม่ตั้งใจเสียได้
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 ก.พ. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 12-03-2013 09:04:23
บทที่ 8 (ต่อ)

บ่ายคล้อยจวนจะเย็นมีคนมาส่งป้าสะใภ้พอดีเลยได้ฤกษ์ขอตัวกลับหลังจากไหว้และถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันเรียบร้อยแล้ว ขนาดเจอกันแป๊บๆ โอบยังมีความสามารถทำให้ป้าเอ็นดูขนาดชวนมาเที่ยวบ้านอีก ผมแทบปล่อยให้มันยกของขึ้นรถคนเดียวอารามหมั่นไส้

ขับมาจนเกือบเข้าเมืองเจ้าแก่ผมก็เริ่มออกอาการรวน กระตุกหน่อยๆ ไปถึงมากและ... ดับลงในที่สุด ลองขยับตำแหน่งเกียร์ดูแล้วก็ยังสตาร์ทไม่ขึ้น ดีที่ผมชิดข้างทางตั้งแต่ตอนต้นเผื่อไว้ก่อน เลยไม่ถึงกับกีดขวางทางรถคนอื่น เริ่มมืดลงทุกทีแล้วด้วย

โอบไม่พูดเรื่องรถผมเก่าแล้ว แต่ลงไปเปิดกระโปรงรถ มีผมตามลงไปยืนอยู่ข้างๆ เพราะไม่เคยแก้เครื่องยนต์อะไรเองเหมือนกัน ความจริงก็เข้าอู่เช็คอยู่แล้วเวลามีสั่นบ้าง แต่ไม่เคยดับไปอย่างนี้   

“เรียกช่างดีกว่ามั้ย”

“แป๊บนึง”

“... แก้ได้เหรอ” ล่าสุดคิดว่ามันเรียนเภสัชซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับเครื่องยนต์รถเท่าไหร่นะ

“ก็ไม่รู้ได้ไหมแต่เดี๋ยวดูให้ก่อน” โอบว่า ขยับโน่นนี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าขยับอะไร... ก่อนจะบอกให้กลับไปลองสตาร์ทเครื่องซึ่ง... ยังไม่ติด

ผมกลับลงมา “จั๊มสตาร์ทอะไรยังงี้พอได้มั้ย”

“มีรถอีกคันไหมล่ะจะได้ทำให้”

ผมทำหน้าเฉยกันโอบจับได้ว่าผมลืมเรื่องต้องใช้รถอีกคัน ซึ่งก็เห็นกันอยู่นี่แหละว่าไม่มีหมาแมวที่ไหนผ่านมาทั้งนั้น

"โทรหานายจะมาไหม"

"พี่อิทเหรอ"

"หือ?" ผมงงกลับ แล้วถึงระลึกได้ว่าเมื่อกี้อารมณ์กังวลผสมเครียดทำให้ปนคำถิ่นลงไปแล้ว "... หมายถึงโทรหานายตำรวจ ตำรวจทางหลวงอะไรอย่างนี้"

“แทคลองดูก็ได้” โอบก้มลงไปดูในกระโปรงรถใหม่ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปรากฎ... แบตหมด ให้มันได้อย่างนี้ หรือว่าแบตเริ่มเสื่อม

“โอบยืมโทรศัพท์หน่อย”

“ไม่ได้เอามา...”

“อะไรนะ” ผมเริ่มเหลียวหาตู้โทรศัพท์ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องลุยเข้าไปหาร้านหาบ้านคนขอเขาโทรหน่อยแล้ว “ลืมเหรอ”

“เปล่า... วันนี้ไม่อยากให้ใครกวน” 

เหตุผลบ้าอะไรของมันเนี่ย ความจริงเมื่อคืนแม่เพิ่งโทรมา นอกจากเตือนว่าอย่าลืมไปเอาของแล้ว ก็เล่าว่าน้านันไปงานบวชของญาติอีกจังหวัดกับสามี แม่ยังบอกน้านันโทรคุยกับลูกชายเรียบร้อยว่ากลับมาอีกทีวันจันทร์ ระหว่างนี้คงไม่มีสัญญาณที่วัดเพราะค่อนข้างเป็นวัดป่า

เรื่องบ้านมันจะโทรไม่เจอลูกชาย (อันอาจเป็นผลให้โทรหาแม่และแม่จะโทรหาผม โทรไม่ได้เพราะแบตหมดตอนนี้ผมก็จะโดนด่าในคราวหน้าที่แม่โทรติด) คงไม่ต้องห่วง แต่ไม่รู้ว่าโอบขี้เกียจรับโทรศัพท์วันหยุดขนาดไม่พกออกมาด้วย ซึ่งทำให้ซวยกันอย่างทั่วถึงอยู่ในตอนนี้

"ทำไมไม่มีไฟฉายติดรถบ้าง" โอบยืดตัวขึ้น บ่นทำนองว่าเพ่งตาจะหลุดอะไรเทือกนั้น ไฟริมทางก็ริบหรี่จริงๆ นั่นล่ะ 

"มีแต่ไฟแช็ค ใช้ได้ป่ะ"

“เอาเปลวไฟมาจ่อใกล้แบตเดี๋ยวก็เกิดตูมตามขึ้นมาหรอก” โอบว่าแล้วปิดกระโปรงรถเดินอ้อมมา “ความจริงสปาร์คน่ะอยากอยู่แต่ขอไม่ตายพิการเสียโฉมด้วยก็ดี...”

... ไม่ใช่ผมไม่รู้ ตอนนั้นแค่คิดว่าจะจุดไฟแช็คยืนโบกริมถนนเผื่อมีรถเห็นถ้าเราไปต่อไม่ได้จริงๆ แต่พูดออกมาตอนนี้ฟังดูบ้าไม่ต่างจากการจุดไฟแช็คส่องให้โอบดูแบตสักเท่าไหร่เลยเงียบไว้ดีกว่า 

“เอ้า ลองสตาร์ทดู”

... คราวนี้ติด อยากไชโยโห่ร้องให้ลั่นรถ เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มขึ้นมานี่มันเพราะจริงๆ ผมค่อยๆ ออกรถอย่างระวังแล้วถาม

“โอบทำไงบอกหน่อย”

“ฟลุค” คนตอบว่ายิ้มๆ

“บอกหน่อย... เผื่อเสียครั้งหน้าจะได้แก้ได้”

“ก็ให้โอบนั่งไปด้วยซิ เดี๋ยวแก้ให้”

มันพูดอะไรไม่คิดถึงหลักความจริงอีกละ ผมจะมีคุณเภสัชกรเป็นตุ๊กตาหน้ารถไปทุกคราวได้ยังไง เจ้าตัวเองก็ยุ่งน้อยอยู่เมื่อไหร่

“เอาจริงๆ ตอบดีๆ”

“เมื่อกี้ขั้วสายไฟแบตเตอรี่มันหลวม คราวแรกขยับยังไม่เข้าที่เลยไม่ติด ดีว่าแบตยังไม่หมดเสียทีเดียว ที่สั่นๆ อยู่นี่น่าจะเป็นปัญหาจากหัวเทียนซึ่ง...”

“เดี๋ยวๆ” ผมชักฟังไม่รู้เรื่องละ อนาถตัวเองเหลือเกิน แต่อยากรู้ว่าโอบไปรู้เรื่องพวกนี้จากที่ไหน พอถามมันก็ตอบว่า

“เมื่อก่อนขับกระบะของคุณพ่อเขาที่เชียงใหม่มันเก่าแล้วเหมือนกัน พอรวนก็ต้องแก้เองบ้างถามคนเขาบ้าง คลำๆ ไปแหละไม่มีอะไรมาก”

ไอ้ไม่มีอะไรมากของมันนี่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แต่โอบว่าผมอาจจะต้องเปลี่ยนหัวเทียนใหม่สักที เพราะที่จับเมื่อกี้ก็คงไปได้ชั่วคราวเฉยๆ

ไวเท่าความคิด ตอนนั้นประคองรถกันมาจนลงสะพานไปได้ระยะหนึ่งแล้ว จำได้ว่ามีอู่ของคุณศรัณย์ซึ่งผมทึกทักเอาเองว่าเป็นสาขาที่ดูธรรมดาและเข้าถึงประชาชนที่สุดอยู่แถวนี้ เลยเลี้ยวเข้าไป ไม่อยากให้มันดับกลางทางอีกเหมือนกัน

“ปกติแทคไม่ได้ใช้อู่นี้รึเปล่า ดูแพง” โอบว่า นี่หรือเหตุผล... แต่ถามว่าจริงไหมคำตอบคือจริง ถ้าเป็นปกติผมคงไม่คิดมา “น่าจะพอไปถึงแถวบ้านเราได้...”

“อู่นั้นไม่เปิดอาทิตย์เย็น... ไม่เป็นไรหรอกอู่ลูกค้า เขาเคยแนะนำมา”

ผมค่อยๆ พาเจ้าแก่คลานเข้าไป เห็นพนักงานมองมาอย่างสงสัยแต่อาจเพราะไม่มีนัดไว้ ลงไปยืนกำลังจะอ้าปากพูดก็พอดีมีเสียงทักขึ้นอย่างดีใจจากข้างหลัง

“คุณแทค! ไม่โทรบอกก่อนล่ะ บังเอิญผมมาดูสาขานี้พอดี กำลังจะกลับแล้วเชียว” คุณศรัณย์เดินตรงมาหาพร้อมๆ กับที่ผมหันกลับไป “ถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่ได้เจอ”

“คุณศรัณย์สบายดีหรือครับ” ผมก็คิดอะไรไม่ออกเลยลงเอยที่ประโยคพื้นฐานสุด ก่อนจะแนะนำเพื่อนบ้านให้รู้จักลูกค้าตามมารยาท

คุณศรัณย์จัดการให้ช่างมาดูรถผมเรียบร้อย น่าจะใช้เวลาไม่นานสำหรับการเปลี่ยนอะไหล่แค่บางอย่าง แต่ก็ยังยืนยันว่าควรจะต้องเอามาตรวจเช็คอย่างจริงจังเพราะคงมีชิ้นส่วนที่เก่าหรือหมดประสิทธิภาพไปแล้วอีก เวลาเท่านี้คงดูได้ไม่ครบ

เวลาส่วนใหญ่ที่นั่งรอหมดไปกับการคุยเรื่องสัพเพเหระ ซึ่งจริงๆ การคุยทั่วไปที่ไม่เทไปทางใดทางหนึ่งและไม่เข้าเรื่องส่วนตัวมากเกินนี่ต้องอาศัยสมดุลอยู่เหมือนกัน เพราะสองคนที่นั่งกันอยู่คนละฟากข้างของผมช่างมีเรื่องสนใจร่วมกันน้อยมาก จะคุยเรื่องรถเนื่องจากคุณศรัณย์ทำธุรกิจด้านนี้ ส่วนโอบก็ดูรู้ ปรากฎว่าไม่เป็นผล ผมอุตส่าห์เล่าว่าก่อนมานี่มันดับไปหนหนึ่งแล้วแต่โอบแก้จนติด คนข้างๆ ดันแค่พยักหน้า ไม่พยายามขยายความอะไรทั้งสิ้น

บทสนทนาเลยต้องออกมาในรูปดินฟ้าอากาศ... ฝนตกอีกแล้ว แต่น้ำคงไม่ท่วมละมั้งปีนี้? ส่วนพนักงานก็เสิร์ฟชากาแฟขนมไม่ขาดตกบกพร่องสมกับเป็นอู่มีชื่อเสียง จนคุณศรัณย์เอ่ยขึ้นว่า

“คุณแทคได้ของฝากผมเรียบร้อยแล้วนะ?”

“อะไรนะครับ...?”

“ช็อกโกแลตที่ผมฝากเมสเซนเจอร์ไปให้ มีชิ้นส้มกับสตรอเบอรี่อยู่ข้างใน กินหรือยังชอบไหม ผมไปจะได้ซื้อมาอีก”

“อ๋อ...”

ตอนแรกผมพยายามคิดโดยไม่ให้คนซื้อฝากรู้ว่าผมยังนึกไม่ออก จนถึงบางอ้อกับวัตถุที่มาส่งออฟฟิศเมื่อสองสามวันก่อนแต่ผมมัวสนใจนิตยสารฉบับลงบทความถึงบริษัทเราซึ่งเมสเซนเจอร์เอามาพร้อมกัน ช็อกโกแลตกล่องนั้นความจริงคนกินส่วนใหญ่คือครีม พี่อิทรักษาหุ่น ส่วนผมไม่ค่อยกินของแบบนี้เท่าไหร่ ตอนนี้ก็ยังวางแปะอยู่ในตู้เย็นที่บริษัท

“อ๋อ... “ คนข้างผมทำท่าคิดออกตามขึ้นมาบ้าง “เหมือนแทคเคยบอกกินส้มกับสตรอเบอรี่แล้วคลื่นไส้จะอ้-ว-ก...”

พูดไปก็ยิ้ม แต่ลากเน้นคำเสียขนาดนั้นนี่ไม่รู้จะให้ได้อะไรขึ้นมา ผมมองมันตาเขียว จำต้องแก้ตามหลัง

“... เฉพาะรสสังเคราะห์แบบที่มันอยู่ในยาน่ะครับ”

“อ้าว” คุณศรัณย์ท่าทางกังวลจริง สงสัยคิดว่าผมพูดรักษามารยาทเท่านั้น “โทษที คราวหน้าแก้ตัวใหม่นะ”

“คราวหน้าซื้อแบบมีถั่วอยู่ข้างในแทนสิครับ มะม่วงหิมพานต์ก็ได้” โอบว่า

“อ้อ คุณแทคชอบแบบนั้นเหรอ” คุณศรัณย์หันมาถามผมแต่คนเสนอความคิดตอบหน้าตาเฉย

“เปล่าหรอกครับผมชอบ จะได้ไปกินที่ห้องแท...”

“คือว่า!” ผมหันเหบทสนทนาจนไม่รู้จะหันไปทางไหนแล้ว “รถเสร็จหรือยังก็ไม่ทราบนะครับ น่าจะใกล้แล้วมัง...”

เป็นโชคดีที่รถเสร็จแล้วจริงๆ แต่ผมก็ต้องยืนพูดกับคุณศรัณย์อยู่อีกเป็นนานค่าที่ดูบิลยังไงมันก็ถูกเหลือเชื่อ ขนาดผมไม่ค่อยจะมีความรู้ด้านนี้ยังมองออกว่าคงต่ำเกินราคาท้องตลาดไปโข ยังค่าแรงอีก จนต้องยกเรื่องงานมาอ้างว่าผมคงไม่สบายใจที่เป็นที่ปรึกษาให้โดยได้สิทธิพิเศษเยอะขนาดนี้ คุณศรัณย์เลยประนีประนอมที่ส่วนลดสิบเปอร์เซ็นต์ แล้วกำชับว่าต้องกลับมาเช็คอีก

ผมมองคนโคลงหัวร้องตามเพลงในวิทยุ ขึ้นรถได้ก็อารมณ์ดีเชียวล่ะ

“เป็นไงไม่บ่นแล้วสิ แอร์ก็เย็น รถไม่สั่น แบตเตอรี่เต็ม...”

โอบหยุด หันมาบอก “ทั้งหมดมันมาจากการที่แทคดื้อจะใช้รถเก่านั่นแหละ”

“นี่ยังไม่จบเรื่องอีกเรอะไง” ตอนรถดับไปจริงๆ มันก็ไม่ได้ว่าผมสักคำเรื่องรถเก่า ตอนนี้เกิดจะเป็นประเด็นขึ้นมาอีกเสียอย่างนั้น

“คือความจริง ซ่อมไปซ่อมมาเปลืองตังค์เปล่า ยิ่งกับอู่แพงหูฉี่นี่นะ เ-ป-ลื-อ-ง”

“หนอย”

... พูดอะไรก็พูดได้ มาว่ารถคู่ทุกข์คู่ยากของผมนี่มีเคือง

คันนี้แหละที่ผมลงมาเอาขึ้นไปใช้ที่เชียงใหม่ตอนปีสอง เป็นเพื่อนกลับลงมาเมื่อเรื่องทั้งหมดจบลงอีกสามปีหลังจากนั้น... แล้วก็ขึ้นมากรุงเทพฯ ด้วยกัน ประวัติศาสตร์ยาวนานเชียวแหละ

“เดี๋ยวไปแน่ ไม่ต้องเข้าแล้วอู่อะไรเนี่ยเสียเวลา”

“อย่าแช่ง ห้ามแช่ง! ไม่งั้นจะแช่งบ้าง” 

“แช่งว่า?” ดูท่าโอบจะไม่คิดว่าผมปากพระร่วงอะไรแต่อย่างใดทั้งสิ้น

“จะ... จะแช่งให้หนูเรืองย้ายไปต่างจังหวัดเร็วๆ ตามน้องไมค์!”

“เขาไปจริงอย่ามาบ่นถึงนะ” คนถูกแช่งไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด

เงียบกันไปพักหนึ่ง จนคนข้างๆ ถามขึ้นเบาๆ

“คิดอะไรอยู่...”

... คิดว่า... ความจริงก็คิดหลายเรื่อง คิดว่าดีที่... วันนี้ไม่ได้อยู่คนเดียวตอนรถเสีย ดีที่มีคนนั่งไปด้วย ทำให้ยิ้มแล้วก็หัวเราะ... 
 
“คิดว่า... วันจันทร์พี่อิทคงบ่นถ้าบอกว่าต้องมองหาลูกค้าใหม่อีก...” ผมพูด ก็จากที่ได้ฟังน้องไมค์แล้วก็จาก... เมื่อคืนก่อนด้วย คิดว่าที่ ‘รู้’ มาไม่ผิดนะ

“เพราะไม่ได้จากโอบน่ะเหรอ”

“ก็ใช่มั้ยล่ะ”

“ใช่มั้ง...” ดูมันตอบ ก่อนจะหัวเราะบอก “พี่อิทไม่ว่าหรอก เขาอยากให้โอบได้เจอคนที่อยากเจอจะตาย ส่วนแทคสิ...”

“ทำไมเหรอ”

“ไม่รู้... ก็ยังมีคนอื่นที่อยากเจอแทคนี่”

“คุณศรัณย์เป็นลูกค้า...”

“ลูกค้าเหมือนเสี่ยนุ่งลมห่มฟ้าเมื่อเช้า?”

... ต้องนับว่าเสี่ยยังปรานีที่เหลือท่อนล่างให้ผม ไม่นุ่งลมห่มฟ้ามาจริง... ไม่อย่างนั้นอาจมีมองหน้าไม่ติดกันบ้าง

“อย่าไปเรียกเขางั้น” ผมอดขำไม่ได้ “ลูกค้าเหมือนกันหมดแหละ”

โอบเงียบไปอีกนิดแล้วว่า “เมื่อกี้โทษที อาจจะยังไม่มีสิทธิ์พูด...”

ผมเหลือบไปมอง แต่ไม่รู้สึกว่าพูดด้วยอารมณ์ตัดพ้อต่อว่าน้อยอกน้อยใจอะไร ดูออกปกติดี

“ให้เป็นมากกว่านี้จะได้มีสิทธิ์” นั่นไง ใจความสำคัญมันอยู่ประโยคหลัง

เข้ากรุงเทพฯ ชั้นในรถติดตามเคย ผมเลยหันมามองคนนั่งข้างได้เต็มที่

“โอบยังไม่ได้เริ่มชีวิตการทำงานจริงๆ จังๆ ยังจะเจอคนอีกเยอะ มันไม่ยุติธรรมที่จะปิดโอกาสตัวเองไปเลยตั้งแต่ตอนนี้ เรื่องนี้ คนนี้... ที่คิดว่าสำคัญมันก็อาจจะสำคัญน้อยลงพอไปเจอเรื่องอื่น คนอื่น...”

นี่ผมไม่ได้พูดด้วยอารมณ์ตัดพ้อหรือน้อยใจอีกเหมือนกัน แค่อยากให้มีทางเลือก อยากให้คิดดีๆ ไม่อยากให้นึกย้อนกลับมาแล้วมีเรื่องต้องเสียใจ

ไม่อยากให้นึกย้อนกลับมาแล้วคิดว่า ถ้าตอนนั้น ไม่... คงดี

“... เมื่อกี้จำที่โอบพูดได้ไหม”

“ตอนไหนล่ะ...”

“ได้เจอคนที่อยากเจอไง”

“อืม...”

“เจอแล้ว ก็ไม่อยากเจอคนอื่นอีก”

“ก็แค่... อยากให้ยุติธรรมกับตัวเองเท่านั้นแหละ” ผมบอกเบาๆ

“โอบยุติธรรมกับตัวเองตลอดแหละ แต่แทคไม่ต้องก็ได้นะ”

“หืม?”

รถเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง... คนนั่งข้างยังพูดเรื่อยๆ

“กับโอบ ลำเอียงเข้าข้างบ้างก็ได้”

ผมถึงกับขำ โอบก็ว่า

“นะ ต่อให้หน่อย”

“แน่ใจ?”

โอบหัวเราะ ถึงหันไปไม่ได้เพราะขับรถแต่รู้ว่ากำลังมองอยู่ ทั้งมองทั้งยิ้ม บอกว่า

“คำถามนี้ไม่ต้องถามละ รู้ไหม... รู้ยัง”

โอเค... ผมรู้แล้ว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 12-03-2013 09:11:44
คุณ iamnan ตอนนี้ไม่อึนแล้วนะ ไม่อึนแล้วยัง

คุณ malula ไม่ไปไหนแต่ก็ยังต้องดูกันต่อไป (เพราะเรื่องยังไม่จบ ฮา) เพื่อนไมค์ (กับหนูเรือง) ออกน้อยได้ซีนมากตลอด อะไรกั๊น

คุณ KAEHUB ขอบคุณที่เชียร์โอบนะคะ เชียร์ต่อนะ ใจอ่อนแล้วแต่ยังไม่ใช่ที่สุดของเรื่องนะ กร๊าก

คุณ ่patsaporn ขอบคุณที่รออ่านเหมือนกันนะคะ มันก็ยังงี้แหละค่ะมีขึ้นมีลงสลับกันไป ชีวิตคน (ชีวิตตัวละคร ฮา) โอบทุ่มทุนตลอด พี่แทครู้ละ (ซะที)

คุณ pudson จริง เรื่องบนคอก็ยังไม่หายนะน่ะ ถึงตอนนี้เรียกว่าสำเร็จได้ยัง

คุณ Naenprin เริ่มมาแล้วค่ะเริ่มเปิดแล้ว ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ Millet ก็มีแต่คนอ่านที่เข้าใจน้องโอบ (โถ) พูดเหมือนเดิมคือเริ่มอ่อนแล้วแต่ยังไม่ใช่ที่สุดของเรื่อง ฮา หวังว่าจะชอบตอนนี้ด้วยเช่นกันนะคะ เพื่อนไมค์ขโมยซีนอะ

คุณ RoseBullet รู้แล้วค่ะ (ในที่สุด) ขอบคุณที่เชียร์น้องโอบน้า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ PPink ความจริงก็ยังไม่ได้โกรธ (จริงๆ) อาจจะดีกันง่าย 55 หวังว่าจะชอบตอนนี้ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ เรื่องเก่ายังลืมไม่ได้แต่ก็ค่อยๆ ไปละกันเนอะ ปล. น้องไมค์ เดี๋ยวคงมาอีก ส่วนคุณศรัณย์นี่ได้กับใครดีโถ

คุณ 2pmui อะนะ อะนะ ว่าที่เภสัชกรและว่าที่แฟน 55

คุณ kyoya11 จริงๆ ไม่ซึนมาก (คนเขียนแก้ตัวแทนกร๊าก) ปล้ำนี่คงมีตกกะใจกันบ้าง ฮา

คุณ 1wariya1 เรื่องนี้มันไม่เครียดน่ะค่ะ (หรือไม่นาน อะไรอย่างนี้) ก็รู้บ้างไรบ้างซิ 55 ไม่ถึงกับต้องตะโกนนะตอนนี้

คุณ •♀NoM!_KunG♀• หวังว่าจะชอบตอนนี้ด้วยเช่นกันน้า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากเลย

คุณ bangkeaw เขาก็อยากทำให้อะจริงๆ ฮา ก็จะรู้บ้างแล้วแหละ

คุณ AeRoMoZa บอกตัวเองให้รู้ ฮา ชอบค่ะ อดีตของแทคเดี๋ยวมาค่ะ อิอิ

คุณ milkteabeige ตอนนี้ความพยายามของโอบคงส่งผลแล้วไม่มากก็น้อย ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์ ฮา ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากเลยค่า

คุณ yamapong อาจจะมาอีกนะเจ้าของหนู จริงด้วย ยอมรับหรือยาง...

คุณ pim_onelove หนูเรืองงง อย่าเพิ่งไปน้า 55 ชอบมากเรื่องนี้พระเอกชื่อโอบ ควรต้องประกาศ ฮา เรื่องที่หลังต้นคอเดี๋ยวกลับมานะคะ ทิ้งไว้ก่อนนิดนุง

คุณเฉาก๊วย ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า

คุณ mesomeo2 ชอบกลอนมากเลยทีเดียว มาได้ถูกใจ โอบจับลูกบิดประตูห้องแทคอะค่ะจริงๆ แล้วส่วนแทคยังไม่ได้ไปจับด้วย อิอิ โถหนูเรืองงง อย่าเพิ่งไป๊

คุณ NewYearzz นี่ถือว่ารักกันรึยัง แต่อย่างที่ว่ามันก็ยังไม่ใช่ดิเอนด์ออฟเดอะสตอรี่ ฮา

คุณ puppyluv ขอบคุณมากๆๆ ที่แวะเข้ามาค่ะ เป็นกำลังใจให้นิยายตัวเองด้วยเหมือนกันด้วยน้า  จริง ทุกอย่าง ริจะรักต้องขยันเนี่ย ขอบคุณมากสำหรับบวกและเป็ดจ้า

คุณ Gokusan ยอมรับแต่ก็ยังไม่จบมันยังมีเรื่องราวต่อ อิอิ ฝากเชียร์โอบต่อ โอบยังต้องสู้ต่อไปนะ

คุณ suck_love จริงก็เริ่มมาแล้วนะ มันตั้งแปดบทแล้วอะ (เหตุผล? ฮา)

คุณ Cherry Red ขอบคุณมากๆ เลยค่ะสำหรับการอ่าน ฝากอ่านต่อด้วยน้า ยังมีปมอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวก็มา เหอๆ คุณศรัณย์กับเสี่ยน็อต ความจริงจะรับกันได้มั้ยเนี่ยต้องลองดู จริง หนูเรืองแบบไม่ต้องทำไรมากก็ขโมยซีนได้ กร๊าก

คุณ yumsonteen ถึงขนาดนี้มันก็ต้องมีรู้บ้างไรบ้าง ขอบคุณมากนะคะที่ติดตาม

คุณนอนกินแรง ชอบอยู่ใช่ไหมมมล่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับการอ่าน ฝากอ่านต่อด้วยน้า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้ว ไม่รู้เป็นไรพอลงถึงบทที่เจ็ดแปดนี่งานโหมใส่ตลอดเลย พยายามจะให้ได้สัปดาห์ละบทแล้วก็ลากมาถึงตอนนี้ แต่ยังไงจะพยายามไม่ให้นานเกินนี้มากนะคะ

ชิลกันไปอีกตอน (ขัดกับการงานคนเขียนตอนนี้มาก ฮา) มีทั้งเสี่ยน็อตและคุณศรัณย์ เพื่อให้น้องโอบรู้ว่าไม่ควรช้า ความจริงกะลังบิลด์ไปสู่จุดหนึ่งซึ่งก็... ไม่น่าจะนานแล้วแหละ แต่มันจะราบรื่นมั้ยนี่ก็ต้องดูกันต่อไป 55

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เช่นเคยค่า
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 12-03-2013 10:26:05
แอร๊ยยยยยยยยยยยย

แทคต่อให้โอบเยอะๆเลยนะ 

โอบน่าเอ็นดูอะ ยิ่งอ่านยิ่งเอ็นดู


ตลกเสี่ยเดี้ยนหัวเราะเสียงดังมาก กร๊ากกก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 12-03-2013 11:17:27
ฉากรถดับ มือถือโทรไม่ได้เนี่ย นึกว่าจะเหมือนหนังไทย
มีคลอเคลีย มีได้เสียกัน กันซะแล้ว ฮ่าๆๆ ดีที่ฝนไม่ตกด้วย
ถ้าโอบทำจริง พี่แทคคงต๋อยน้องโอบปากฉีก
ฮาเสี่ยน็อต ไม่ใช่ว่าแกแอบคิดอะไรกับแทคอยู่อีกคนใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 12-03-2013 12:02:52
โอ้ยบอกความในขนาดนี้ แทคยังจะไม่รู้ตัวอีกหรอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 12-03-2013 12:25:02
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขมากๆครับ ขอบคุณพี่คนเขียนมากครับ  :จุ๊บๆ:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 12-03-2013 12:48:05
ชอบโอบบบ โอบจ๊ะไม่ต้องสงไม่ต้องสื่อรักให้พี่แทคและ มาสีื่อให้เจ๊ดีหว่าา :z1:///ไม่กลัวโดนแทคเตะ :laugh:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 12-03-2013 12:55:47
โอบน่ารักขึ้นทุกวัน
ไม่ต้องถามหรอกเพราะคำตอบชัดขนาดนั้น 555
บวกและเป็ดให้เสี่ย
ตัวฮาขโมยซีนจริง
แต่เสียฉากรถ น่าจะเก็บแต้มได้ซักกะหน่อย อุอุ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-03-2013 13:52:39
แทคอาจจะยังไม่แน่ใจ แต่คนอ่านเทใจให้หมดแล้ว
น้องโอบสู้ ๆ
เสี่ยน็อตจะซื่อไปไหน ที่ปรึกษากลุ้ม...
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 12-03-2013 14:36:11
โอ้วววว ขำไปโลกหน้าพร้อมตาโอบ
เสี่ยน็อตนี่น้อ...แต่คิดภาพตามแล้วขำไม่ออกเหมือนกัน ^^"

ชอบเรื่องความรักยาวนานต้องการอะไรบ้าง
พยายามที่จะประคับประคองได้ แต่ต้องไม่ผิดคน...นั่นสินะ ^^

รถเสียเป็นใจให้ฮีโร่...ว่าแล้วก็ไปหาไฟฉายมาติดรถไว้บ้างดีกว่า << เกี่ยว??
แต่ว่าขี้หวงออกอาการนี่มันจะเสียคะแนนมั้ย?? แต่พาให้อารมณ์ดีก็พอหยวนนิ ^^

เมื่อไหร่จะได้เลื่อนขั้นแบบลำเอียงๆ จากคนที่เจอแล้วหนอ...คอยเชียร์ตาโอบกันต่อไป ^^V
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-03-2013 15:58:02
ใบ้ให้ซะขนาดนี้ ถ้ายังไม่รู้ตัวก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
เสี่ยน้ำปลา(?) แกซื่อไปมั๊ย = =" เล่นถ่ายรูปนุ่งบ็อกเซอร์มาให้เนี่ย
โอบหวงแทคเนาะ กันท่าเต็มที่

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 12-03-2013 17:00:19
เข้ามาอ่าน  2 ตอนรวดค่ะ

โอบจ๋า น๊าร๊ากกกกกกก -///- โอบแสดงออกไม่พอ หรือแทค(แอบ)ซื่อ(บื้อ) หว่า  :m20:

เฮ้!!เสี่ย  :angry2: ทำไรนะ!! อย่านะเค้าหวง  :m16: แทนใครบางคน คริคริ  :z1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 12-03-2013 18:50:44
ตอนนี้หวานเบาๆ หวิวชิลๆ :-[
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-03-2013 20:26:07
น้องโอบจีบพี่แทคเต็ม ๆ เลยตอนนี้ ดูพี่แทคก็ให้โอกาสน้้องดีนะ (รึป่าว)
ลำเอียงเข้าข้างน้องโอบเยอะๆๆๆ นะพี่แทค 555 น้องโอบน่ารัก
มีหวงก้างกับคุณศรันย์ถึงกับอยากให้เปลี่ยนรถใหม่กันเลยทีเดียว
จะได้ไม่ต้องมาอู่บ่อย ๆ เนอะ คุณศรันย์แกก็น่ารักดี แต่คนอ่านเชียร์น้องโอบ
ที่จริงน้องโอบก็มีบางมุมที่พี่แทคไม่รู้เยอะเหมือนกันเนอะ ศึกษากันซะ ฮี่ๆๆ เชียร์สุดตัว
เอิ่ม...เสียน๊อตจะฮาไปไหน แกจะหาเมียได้มั้ยเนี่ย เอาใจช่วยแกจัง

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-03-2013 22:20:26
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 12-03-2013 22:33:44
ชอบตอนจบของตอนนี้จังเลยครับ.  ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 12-03-2013 23:09:42
โอ๊ยยยยยยยยยย...น่ารักเกิ๊นนนนนนนน 
เรื่องราวน่าติดตามไหลลื่นมากครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 12-03-2013 23:27:21
น้องโอบบุกขนาดเน้ ไม่นาน ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 12-03-2013 23:29:49
เสี่ยก็ซื่อไปนะ  :jul3:   

เชียร์โอบคะ ฮูเล่
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 13-03-2013 16:53:16
งืออออ พี่แทครู้แล้วใช่มั้ยยยย
ส่งแรงเชียร์ให้น้องโอบไม่ผิดหวังจริงๆ


ส่วนคุณศรันย์นี่แอบชอบพี่แทคแน่ๆๆๆ
 :z2:

ตอนนี้น่ารักจังค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 13-03-2013 17:25:00
แทค เหมอนพยายาม ปิด ไม่รับรู้อะไร รึเปล่าคะ เราอ่านแล้วรู้สึกแบบนั้น 

ทั้งๆที่ โอบก็แสดงออกมาเด่นชัดขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 13-03-2013 22:48:05
555555555+ เสี่ยน๊อตก็ซื่อไปอะไรไปนะเสี่ย บื้อไปแล้วววววววววว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 14-03-2013 22:13:33
ตะ ตอนนี้ไม่มีหนูเรืองงงงงงงงงง T^T :m15:

ตอนนีิโอบชัดเจนมาก มีเตะตัดขาคู่แข่งเล็กๆอีกต่างหาก กร๊ากกกกกกกกก
ส่วนแทคก็เริ่มเอนเอียงแล้วนะ แต่คงอยากให้มั่นใจมากกว่านี้
และนายโอบเวลาอยู่กับเพื่อนคงกวนน่าดูเหมือนกันแน่ๆ อิอิ  o13
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 14-03-2013 22:47:58
ขำเสี่ยน็อตมากกกกกกก  :laugh:

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 18-03-2013 20:45:41
ทุกอย่างที่น้องโอบกระทำในตอนนี้ได้ใจดิฉันทุกประการเลยนะค่ะเนี่ย  :-[ ( แต่ไม่รู้จะได้ใจแทคสักแค่ไหน?  :m26:)
ตั้งแต่ประโยคที่บอกว่ากำลังทำตัวให้คุ้นแล้ว ทั้งยังการอยู่ข้าง ๆ แบบพึ่งพาได้
การพยายามกำจัดคู่แข่งแบบเนียน ๆ ไหนจะการบอกความนัยแบบมีลูกล่อลูกชนแต่ก็ยังรู้สึกถึงความจริงใจนั่นอีกล่ะ   :m3:
ถ้าดิฉันอยู่แถวนั้นคงจับคุณแทคใส่พานถวายน้องโอบแล้วล่ะค่ะ...   :o8:

แต่ที่จะลืมมิได้ MMS สยิวกิ้วจากเสี่ยน็อต หนูดาวเรืองต้องยกตำแหน่งสุดยอดขโมยซีนให้เสี่ยซะแล้วสิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 18-03-2013 20:50:20
ดันๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 22-03-2013 16:18:54
ทำไมรู้สึกว่าตอนนี้โอบน่ารักจัง

โอบหวงออกขนาดนี้ แทคยังใจแข็งอีก

ตามต่อน้าาาา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 27-03-2013 23:01:16
 :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 31-03-2013 08:35:58
ในที่สุด.........ดีใจด้วยจริงๆกับน้องโอบ
ฮาตอนโอบกวนติงคุณศรันย์
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 8] 12 มี.ค. 56 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 31-03-2013 12:01:10
แง่วหายไปนานจัง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 31-03-2013 16:07:10
บทที่ 9

โดยทั่วไป... คงเรียกได้ว่าสถานการณ์คล้ายเดิม เนื่องจากพักนี้โอบก็อ่านหนังสือหนัก อีกไม่ถึงเดือนต้องสอบเอาใบประกอบวิชาชีพ ยังมีไปคณะ ติวหนังสือกับเพื่อนบ้าง ส่วนงานสอนพิเศษเพลาลงแล้วเพราะไม่มีเวลาจริงๆ... แต่ถึงไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไร บางครั้งก็จะมาเคาะประตูแล้วบอกง่ายๆ ว่า ‘ไปกินข้าวกัน’

ที่เป็นอยู่นี้สำหรับผมก็ถือว่าโอเคดี... ความจริงเคยผ่านมาแล้วไอ้สภาพที่เหมือนชีวิตเราแขวนไว้กับคนอีกคน เขาจะทำอะไร ไม่ทำอะไร มันส่งผลกับเราไปหมด เขาไม่โทรมา ตอบข้อความช้า บางทีไม่ตอบ ต้องนั่งวิเคราะห์ทุกอย่างทุกการกระทำ เหนื่อย แต่หยุดไม่ได้

แต่อยู่กับโอบ ผม... สบายใจ


วันหนึ่งเลิกงานแล้วผมกำลังเดินเข้าตึกตามปกติ คิดถึงโอบอยู่ว่ากินข้าวเย็นหรือยัง ความจริงผมมักจะรอให้อีกฝ่ายถามมามากกว่าเพราะไม่อยากกวนตอนอ่านหนังสือ พอดีได้ยินเสียงเรียก

“พี่แทค! โอ๊ย กำลังคิดอยู่เลยว่าจะเอาไง เพื่อนผมมันไม่รับโทรศัพท์อีกแล้ว”

น้องไมค์ เจ้าของหนูเจ้าเก่า... ป้าใต้ตึกก็เคร่งครัดมากในการไม่ให้กุญแจกับคนที่เจ้าของห้องไม่ได้บอก แม้อาจจะจำได้จากวันนั้นว่าเป็นเพื่อนคนอยู่ที่นี่ก็ตามที

“พี่แทคไปเรียกโอบกับผมหน่อยนะ ไม่งั้นผมขึ้นตึกไม่ได้เลยเนี่ย”

“อาจจะไม่อยู่ก็ได้” ปกติโอบมักเมสเซจมาก่อนผมเลิกงานนิดหน่อยเผื่อได้หาอะไรกินกัน แต่วันนี้ยังเงียบ

“ผมว่ามันอยู่” น้องไมค์มั่นอกมั่นใจ “มีสองอย่างเปิดสั่นไว้แล้วใส่หูฟังอ่านหนังสือ หรือตั้งใจไม่รับ... ผมถึงต้องให้พี่แทคไปด้วยเพราะมันน่าจะเกรงใจ”

ไมค์เอาเหตุผลไหนมาคิดก็ไม่รู้เหมือนกัน พอพูดว่าเกรงใจผมเลยรู้สึกถึงวัยตัวเองขึ้นมา... นิดหน่อย ในสายตาเพื่อนมันนี่ผมคงมีวัยวุฒิไม่น้อยแล้วล่ะ สามปีจะสามสิบ กับอีกฝั่งสามปีจะเบญจเพสน่ะ

ไมค์ก็พูดไม่หยุดจนผมเดาได้เลาๆ ว่าเกี่ยวกับเรื่องหนู เลยใจหายนิดหน่อยเหมือนกันว่าเจ้าหนูอ้วนมันจะต้องจากกรุงไปเป็นหนูบ้านนาเสียแล้ว แต่นึกอีกทีไมค์ยังต้องสอบพร้อมโอบ แล้วก็รายงานตัวเข้าทำงานไม่ได้จนกว่าจะรู้ผลสอบใบประกอบฯ...

พอเคาะประตู (ซึ่งใช้เวลานานพอสมควรกว่าเจ้าของห้องจะมาเปิด พร้อมหูฟังยังคาคออยู่เหมือนเพื่อนพูดไม่มีผิด) ไมค์ก็พุ่งเข้าไปในห้องหากรงหนู ทิ้งโอบถามผมอย่างออกตกใจว่ากี่โมงแล้ว ผมบอกอย่าห่วง... เพราะถ้าเพื่อนไมค์ไม่ทำท่าว่ามีเรื่องด่วนผมก็อยากให้โอบอ่านหนังสือไปตามสบายมากกว่า อีกฝ่ายยิ้มให้พอดีเพื่อนเรียกเสียงลั่น

“โอบ! นี่ลูกข้าผอมลงหรือเปล่า”

“ไม่รู้ไม่ได้ชั่งน้ำหนักไว้เทียบ” คนเลี้ยงตอบ ถ้าถามผมมันก็ยังอ้วนเหมือนเดิม นั่งจุมปุ๊กมองคนนั้นทีคนนี้ที เอาจริงๆ เลยคือถ้าไม่ใช่หลังให้ข้าวนี่เห็นขยับตัวน้อยมาก เหมือนก้อนอะไรไม่รู้กลม ฟู ส้ม

“หนูเรือง... ถ้าต้องไปตอนนี้บักโกรกแน่” เจ้าของตัวจริงดราม่าอยู่หน้ากรง ผมชักสงสัยแล้วว่ามันเป็นการปูเรื่องไปสู่อะไรสักอย่างหรือเปล่า “พ่อล่ะไม่อยากให้หนูไปลำบากกับพ่อด้วยเลยจริงจริ๊ง ตอนแรกพ่อต้องไปนอนในโรงงาน... บ้านยังไม่ว่าง"

โอบเหลือบมองผมนิดหนึ่ง แววตายิ้มๆ เหมือนรู้ทันเพื่อน แต่พูดเสียงหน่าย

"จะเอาอะไรก็บอกมาตรงๆ"

"ต้องฝากอยู่ต่อก่อนนะ โอบ เพื่อนเลิฟ"

“ถึง... ?”

"ก็ฝากต่อจนได้บ้านพักเท่านั้นล่ะน่า! จะเอาหนูเข้าไปในโรงงานยาได้ยังไง อีกอย่างหนูเรืองนอนห้องแอร์มาตลอด" คือเหตุผลของเพื่อนไมค์ผู้ (คิดว่าน่าจะ) เห็นแก่ความสุขสบายของหนูเป็นที่ตั้ง "นี่เขาให้เอาพัดลมไปเอง คิดดู"

ที่จริงประเด็นหลักน่าจะอยู่ตรงความไม่ลงรอยระหว่างสัตว์เลี้ยงหน้าขนกับสภาพที่ทำงาน อย่างน้อยก็ชั่วคราว แต่ท่าทางเหตุผลเรื่องหนูนอนห้องพัดลมไม่ได้จะทำคนรับฝากหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ ดูจากสีหน้า คนฝากก็คงรู้เหมือนกันเลยเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

"เพื่อนรู้ว่าเพื่อนเป็นคนดี... ตั้งแต่ฝากเลี้ยงมา ไม่เคยทวงค่าอะไรสักแดง ตอนนี้คงมีน้่ำใจช่วยต่อ เนอะ"

"พูดอย่างนี้จะให้ทวงไหมล่ะ" เพื่อนคนดีว่า "ค่าอาหาร ค่าหมอ ค่าขี้เลื่อย ค่า..."

"ปัดโธ่ โอบ!” ไมค์หันรีหันขวาง ก่อนจะหันมาหาผม “งั้นฝากพี่แทคได้ไหม... พี่แทคเอ็นดูหนูตัวน้อยๆ หน่อยนะพี่นะ”

“หยุด! ไม่ต้องไปกวนเขาเลย” 

"พี่แทคเขาใจดีไง เคยพูดเอง! ขอให้ช่วยไรก็ช่วย ฝากให้ทำอะไรก็..."

"แล้วแต่คนและความสนิท"

เออ มันทำผมเดือดร้อนได้คนเดียวว่างั้น... ไมค์มองผมอย่างขอความช่วยเหลือซึ่งปกติผมก็เห็นโอบโอ๋หนูเรืองจะตายละน่ะ เรื่องเลี้ยงต่ออีกนิดๆ หน่อยๆ ไม่น่าเป็นปัญหา

“โอบ...”

ยังไม่ทันเริ่มพูดเจ้าของห้องก็เด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือที่นั่งอยู่แล้วว่า “เอ้า เลี้ยงต่อให้ก็ได้ ขอบคุณพี่แทคเขาซะนะ”

น้องไมค์แทบลงไปพังพาบกับพื้น คารวะผู้มีพระคุณ... ผมรู้ละ น่าจะบ้าหนังจีน ซึ่งจริงๆ ผมก็ยังไม่ได้ทำอะไร เดาไม่ผิดว่าโอบคงช่วยนั่นแหละ ไมค์พูดต่อ

“เดี๋ยวสองทุ่มมีเลี้ยงสายรหัส... เออ พี่แนนเขาจะแต่งงานแล้วนะ”

"แนนไหน" โอบก็ถามเฉยๆ ไม่มีอาการชะงักใดๆ ทั้งสิ้น มองเพื่อนเปิดกรงล้วงหนูขนฟูมาอุ้ม

“แนนที่สวยๆ มีอยู่คนเดียว”

“อ๋อ แนนลีด” คนฟังพยักหน้ารับรู้ เพื่อนก็ว่า

“รุ่นพี่รุ่นน้องบ่นเสียดายกันใหญ่ แต่ความจริงก็ไม่ถือว่าเร็วอะไรมากมั้ง ยี่สิบหกแล้ว ฝากมาเชิญด้วยนะ จะไปไหม”

"เขาเชิญเหรอ ไปดิ”

ไมค์มองเพื่อนอย่างพินิจพิจารณา ส่วนผมก็มองหนูดาวเรืองที่นั่งเรียบร้อยอยู่ในมือคนอุ้ม ไม่รู้เป็นอะไรยังไม่อยากมองไปทางโอบ

“ไม่เสียดายบ้างเรอะ”

“เสียดายทำไม”

“เอ๊า... คนเคยชอบๆ กันอยู่”

“ก็ไม่ได้มีอะไรนี่”

“เออ! ไม่เห็นจะอะไรกับใครซะที” ไมค์ประชดแล้วหันมา “ตอนแรกบอกพี่แทคว่าคงไม่ได้เพื่อนผมเป็นลูกค้า แต่ตอนนี้ผมว่าพี่หาให้มันสักคนดีกว่า”

คราวนี้โอบมองผม ยิ้ม แล้วบอก “ก็ว่าอยู่...”

ดีที่ไมค์วางหนูลงในกรงอย่างสิ้นสุดความสนใจชีวิตรักของเพื่อนง่ายๆ เอาแค่นั้น “หนูเรือง... กินเยอะๆ นะ โถ คิดถึงพ่อจนผอม...”

... ถ้ากินมากกว่านี้ดาวเรืองคงกระเพาะครากแล้วล่ะ โอบรุนเพื่อนออกจากห้องก่อนปิดประตูถอนใจเฮือก ผมต้องพูด

“จริงๆ ก็จะรับฝากต่ออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ... โยกโย้ทำไม”

“แทคไม่รู้ไมค์น่ะฝากได้ฝากดี เมื่อก่อนฝากจ่ายค่าหอ ซื้อของ ยังจะเก็บชีท ทำโน้ต ดูแล็บ สารพัด ฝากสอบได้คงฝากละมั้ง” อีกฝ่ายตอบ “ให้ยากนิดหนึ่ง... ติดนิสัยนี่จะทำงานอยู่แล้ว”

“เล่นตัว...” ผมว่าขำๆ ก่อนจะหยุดขำเมื่อเจอประโยคถัดมา

“... กับแทคโอบไม่เล่นนะ ออกจะ...”

“เออน่า...”

“เออน่าอะไร” คนยืนพิงประตูถามยิ้มๆ

“เออน่า... รู้แล้ว”

“... รู้แล้วก็ไปกินข้าวกัน”

“ไม่อ่านหนังสือต่อเหรอ” ผมก็เอาตัวเองวัดล่ะนะเพราะเมื่อก่อนถ้าจะสอบ อ่านติดพันอยู่นี่ถ้าลุกแล้วลืม ต้องให้จบบทเสียก่อนอย่างน้อย

“ก็มาให้เห็นหน้าทำไมล่ะ เห็นแล้วเลยนึกขึ้นได้ว่า...”

โอบเว้นไปนาน แต่แล้วก็หัวเราะหึๆ พูดต่อ

“... ว่า... ไปกินข้าวดีกว่า”

ผมไม่รู้โอบนึกถึงอะไรอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเห็นผมแล้วมันจะไม่ลืมกินก็... ไม่เป็นไร

เราเดินลงบันไดไปเรื่อยๆ เพราะลิฟต์ที่ตึกช้าเหลือเกิน พักหลังบางทีไม่ค่อยได้ใช้นอกจากขาขึ้น แต่ขนาดนั้นก็ยังต้องรออยู่พักใหญ่

... ผมไม่รู้ว่าควรจะถามดีไหม อดห่วงความรู้สึกอีกฝ่ายไม่ได้ ถึงแม้... ที่จริงถ้าถึงกับเคยเป็นแฟนเก่านี่ก็ไม่น่าจะเชิญไปงานแต่งงาน หรือยังไง

“เมื่อกี้... โอเคนะ”

โอบมองผมอย่างจะถาม ผมเลยว่า “เรื่องที่... ไมค์มาบอก”

“ทำไมต้องไม่โอเคด้วยล่ะ”

“เอ้า ก็คนเคยชอบกัน” ผมพูดอย่างที่ได้ยินเพื่อนมันพูดนั่นแหละ

"ไม่ได้ชอบกัน เขามาชอบ" โอบตอบ ท่าทางเฉยๆ เหมือนเดิม

... แต่ไม่ได้บอกเพื่อนแบบนี้ ท่าทางไมค์จะยังเข้าใจว่าเพื่อนกับพี่รหัสเคย ‘ชอบกัน’ อยู่ ดูจากตอนถามอย่างไม่แน่ใจว่าจะไปงานไหม ถ้าขนาดเพื่อนสนิทเข้าใจอย่างนี้คนอื่นก็คงคล้ายคลึง จนห่างกันไปจะดูเป็นอย่างไรในสายตาใครๆ ผมก็นึกภาพโอบโพนทะนาว่าผู้หญิงมาชอบอยู่ฝ่ายเดียวไม่ออกเหมือนกัน เพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้องที่รู้จักทั้งคู่อาจคิดว่าโอบควรเสียดาย หรืออกหักเสียแล้ว

พอบอกโอบก็ยิ้มแล้วว่า

“ไม่เป็นไรหรอก... ช่างเหอะ แต่แทคเข้าใจนะ”

ผมพยักหน้า สบตากันโอบก็ยิ้มให้อีก

บางเรื่องก็คงต้อง... อาศัยเพียงเท่านี้แหละ...

ไปถึงร้านพอนั่งที่โต๊ะผมก็หยิบโทรศัพท์มาดูเผื่อจะมีข้อความจากพี่อิทหรือเรื่องงานที่ไม่ทันได้ยินก่อนหน้า แต่ปรากฎว่าดับไปเสียแล้ว ต้องปลุกปล้ำกันอยู่พักใหญ่กว่าจะติดขึ้นมาอีก ผมมองโทรศัพท์ตัวเองอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก 

"... สงสัยแบตจะเสื่อมหรือเปล่าไม่รู้"

"ตกใจรูปลูกค้าแทคเมื่อวันนั้นมั้ง"

นี่ก็พูดได้หน้าเฉยมาก... โทรศัพท์ผมจะขวัญอ่อนไปแล้วถ้างั้น เจอรูปเสี่ยน็อตถึงกับเสื่อมกันเลย

“มันเก่าแล้วน่ะ...”

“ให้โอบเอาไปดูให้ไหม เผื่อเกิดอะไรขึ้นมาไม่มีใช้จะลำบาก”

“รถคงไม่เสียซ้ำบ่อยขนาดนั้นหรอกน่า” คราวที่แล้วก็ถือว่าซ่อมที่สำคัญจำเป็นไปเรียบร้อย ผมจะลำบากเรื่องการงานมากกว่า

“กันไว้ก่อน...”

“โอเคๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปทำ” ผมบอก ความจริงคือถ้าวันนั้นผมไม่มีโอบไปด้วยคงแย่กว่านี้มาก ที่สำคัญมารดาจะตกอกตกใจถ้าติดต่อลูกไม่ได้ในยามที่อยากติดต่อ เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่และคนแรกๆ ที่แม่จะโทรหาอีกก็คือโอบนี่แหละ

“พรุ่งนี้กลับดึกหรือเปล่า”

“นิดหน่อยแต่ไม่น่าจะมากนะ... มีงานลูกค้า”

“ลูกค้า?” โอบทวน แล้วก็นิ่งเหมือนรอให้พูดต่อ ส่วนผมก็มัวแต่คิดว่าพรุ่งนี้อาจลากยาว เพราะกว่าจะเริ่มก็ไม่ใช่หัวค่ำแล้ว ได้ยินเสียงคนนั่งตรงข้ามถาม

"... ก่อนเที่ยงคืนมั้ย"

"เป็นซินเดอเรลล่าเหรอเราน่ะ" ผมพูดแกมหัวเราะ ทำไมต้องก่อนเที่ยงคืนด้วย

โอบส่ายหน้า ยิ้มแล้วว่า

“ไม่ใช่หรอก... เพราะถึงหลังเที่ยงคืนก็ยังอยู่ที่เดิม"
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 31-03-2013 16:14:52
บทที่ 9 (ต่อ)

วันรุ่งขึ้นผมเข้าที่ทำงานก็เจอสายเสี่ยน็อตแต่เช้า ฟังดูอินเลิฟจริงอะไรจริง โลกสวยงามเป็นสีชมพู นี่ออกไปถึงสองครั้งในสัปดาห์เดียวกัน นับไปนับมาถือเป็นเดตครั้งที่ห้าแล้ว

ประเด็นคือเสี่ยไม่ยอมเดตกับคนอื่นไปพร้อมกัน แต่อีกฝ่ายไม่ใช่ ผมพยายามเตือนอยู่ตลอดถึงข้อนี้ เพราะถึงใช้บริการบริษัทจัดหาคู่ก็รับประกันไม่ได้ว่าคนที่เราถูกใจและอยากเดตกับเขาคนเดียวจะรู้สึกอย่างนั้นด้วย จากที่ผมคุยเอง คู่เดตเสี่ยก็ยังอยากเดตคนอื่นอยู่ ยังไม่ได้ตกลงปลงใจอะไร แต่ดูเสี่ยจะฟังบ้างไม่ฟังบ้าง (เหมือนเดิม) มัวแต่เล่าจ้อ

“วันเสาร์ผมไปขัดหน้ามาไงไอ้ที่ที่คุณแทคแนะ...”

เสี่ยก็เรียกซะน่ากลัวทำเอาผมคิดถึงขัดหม้อไห ความจริงผมไม่ได้ไปเองหรือเชี่ยวชาญเหมือนกัน อารามขี้เกียจ ล้างหน้าเช้าเย็นตอนอาบน้ำก็พอจบ พี่อิทเป็นคนให้ข้อมูลมาอีกที

“... เกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ผมระวังเรื่องแต่งตัวด้วยอย่างที่คุณแทคบอก... รู้สึกนะว่าเขามองผมดีขึ้น จำได้ใช่ไหมผมเคยบอกคุณแทคว่าราศีสิงห์กับมังกรนี่บางทีจะไม่เข้ากัน แต่ผมว่าไม่ใช่แล้วล่ะ พอกินข้าวเสร็จเขาก็พาผมไปหาซินแส แล้วก็...”

“อะไรนะครับ”

อันนี้ไม่อยู่ในรายการที่ผมเคยคุยกับเสี่ยไว้ จริงๆ แล้วลูกค้าอยากจะไปทำอะไรก็ได้ไม่ต้องตามลิสต์เป๊ะตราบใดที่แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย แต่ของเสี่ยนี่โปรแกรมแทบไม่เปลี่ยน ครั้งก่อนๆ ก็เหมือนกัน ถึงกับลากไปหาหมอดูเกือบทุกครั้ง... ในหัวผมชักมีสัญญาณเตือนว่า แปลกๆ...

“ซินแสก็ดูผมแล้วไปบอกน้องเขา...”

“เดี๋ยวนะครับ” นั่นไง แปลกจริงด้วย “ดูให้แต่ไม่พูดกับเสี่ยโดยตรงเหรอครับ”

แสดงว่าเสี่ยรู้ผ่านคู่เดตเท่านั้นนะนี่...

“เหมือนเป็นวิธีของเขาแหละ แต่น้องเขาก็มาบอกผมว่าทุกอย่างโอเคดี นี้วันอาทิตย์จะไปอยุธยากัน...”

“ดีครับ ไปไหว้พระ แล้วเช่าจักรยานก็ไม่เลว แถวนั้นของอร่อยเยอะ ตรง...”

“... เพราะว่าที่นั่นมีหมอดูแม่นมาก! นี่ทุกอย่างไปได้สวยนะ คุณแทคว่าไหม ผมคงมีแฟนซะที”

ถึงจะตงิดกับอะไรบางอย่างแต่ผมก็บอกเสี่ยว่าดีใจด้วย แล้วจะโทรไปติดตามความคืบหน้าเหมือนเคย ไม่ลืมกำชับว่าตอนนี้เขายังไม่ได้เดตเสี่ยคนเดียวเพราะฉะนั้นเสี่ยมีไม้ตายอะไรก็งัดออกมาซื้อใจเขาด้วย บวกกับที่ผมเคยแนะๆ ไปก่อนหน้านี้แล้ว
 
งานผมนี่ท่าทางจะมีอะไรกลับตาลปัตรอยู่ในตัว เพราะพอเสี่ยเริ่มรอดลูกค้าคนอื่นของผมในบัญชีก็เกิดมีปัญหาขึ้นมาพร้อมๆ กัน ที่คิดว่าน่าจะปิดได้ในเร็ววันสักสองสามคนเป็นอันตกไป พูดในแง่ธุรกิจอาจจะดูดีนิดหน่อยเพราะเขาต่ออายุสมาชิก ซื้อโอกาสไปเดตเพิ่ม แต่ยิ่งนานยิ่งหาคู่ที่ถูกใจไม่ได้ความเชื่อมั่นเขาก็ยิ่งลดน้อยถอยลง พาลจะเลิกพยายามเอาง่ายๆ

พี่อิทถามผมตอนกินข้าวกลางวันเรื่องลูกค้าที่เคยหมายมั่นปั้นมือไว้แต่แรกเริ่ม คนที่อยู่ตึกเดียวกับผมนั่นแหละ แต่... ไม่น่าจะได้แล้ว ถ้าเข้าใจถูกนะ

“ต๊าย! ทักษะการขายเธอต่ำขนาดนี้เลยเหรอ” พี่อิทบ่น

“ผมลองแล้วพี่อิท” ผมว่า และอย่างที่คิด เธอซักต่อ

“เขาบอกเหตุผลไหม”

“ก็... เปลี่ยนใจแหละพี่”

“เปลี่ยนใจแล้วก็เปลี่ยนกลับมาอีกได้น้า” ครีมบอก

... ครีมพูดถูก เปลี่ยนใจแล้วก็เปลี่ยนอีกได้ นี่ถ้าโอบเปลี่ยนใจมาเป็นลูกค้าให้จัดหาคู่ให้นี่จะขำพิลึก หรือถึงตอนนั้น... ผมจะขำออกหรือเปล่า

“เพราะฉะนั้นเย็นนี้เธอต้องพยายามหาลูกค้าต่อ อย่าได้ลดละ! คุณศรัณย์เขาทำเรื่องรถคงมีผู้ชายมาในงานเยอะ มันต้องมีบ้างล่ะที่เป็น ยังไม่เจอเธอก็เอานามบัตรอีกฝั่งให้เขาไปก่อน เข้าใจนะจ๊ะ”

งานเย็นนี้... ซึ่งกว่าจะเริ่มก็สามทุ่มล่วงไปแล้ว คืองานเปิดอู่ใหม่ของคุณศรัณย์ นัยว่าโต้รุ่งให้สมกับที่เป็นอู่ยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ผมไม่น่าต้องอยู่นานขนาดนั้น ตอนแรกตั้งใจว่าเป็นเพื่อนพี่อิทเอากระเช้าไปแสดงความยินดีแล้วปลีกตัวกลับ เพราะยังไงคุณศรัณย์ก็เป็นลูกค้าที่ผมดูอยู่โดยตรง ไม่ไปไม่ได้เสียด้วย

“นี่ถ้าน้องโอบเปลี่ยนใจ เธอต้องรู้ก่อนคนอื่นนะ”

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นล่ะพี่อิท”

ผมคงรู้ทุกอย่างทีหลังทุกคนอีกเป็นครั้งที่สองไม่ไหว คนเรามันก็ต้องมีฉลาดขึ้นบ้างนะ จริงๆ


ครีมติดธุระที่บ้าน ผมกับพี่อิทเลยสะสางงานถึงค่ำๆ แล้วหอบกระเช้าดอกไม้ขึ้นแท็กซี่กันมา งานคลาคล่ำไปด้วยผู้คนแทบหาตัวเจ้าของงานไม่เจอ แต่ด้วยความเป็นพี่อิทเธอก็อุตส่าห์แยกคุณศรัณย์ท่ามกลางแสงแฟลชและชุดสูทที่ดูเหมือนๆ กันหมดออกมาจนให้กระเช้ากับมือได้

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”

“ขอบคุณมากครับ” คุณศรัณย์รับไปแล้วหันมาบอกผม “คุณแทคอย่าเพิ่งไปไหนนะเดี๋ยวผมมาคุยด้วย”

พี่อิทหันมากระซิบ “ฉันจะอยู่ทางโน้น ถ้าคุณศรัณย์มาแล้วเธออย่าลืมให้เขาแนะนำเพื่อนๆ นามบัตรนี่แจกไปเลยไม่ต้องกั๊ก แล้วมองหาลูกค้าใหม่ด้วยนะจ๊ะ”

สั่งงานเสร็จเธอก็เฉิดฉายไปอีกฝั่ง สงสัยจะเห็นประชาสัมพันธ์ที่รู้จัก ผมล่ะนับถือพี่อิทจริงๆ เรื่องหางานได้ทุกที่ทุกเวลานี่

หันมาพอดีเห็นหน้าคนคุ้นเคย ผมชะงักไปก่อนจะทักอย่างงงๆ ปนดีใจ

“อ้าวภัค ไม่นึกว่าจะเจอ”

“มาแทนหัวหน้า... เขาเคยดูเรื่องกฎหมายให้เจ้าของงาน” เพื่อนผมตอบ “เป็นไงช่วงนี้?”

“ก็โอเค...”

“เออ! ยายแป๊วจะแต่งงาน ฝากเชิญด้วย” ภัคบอก “ยังว่างานแต่งเพื่อนนี่เหมือนงานรวมรุ่นแน่ๆ หาเวลาเจอกันยากจริงๆ แต่น่าจะได้เจอเพื่อนคนอื่นที่ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ เยอะหน่อย”

พอทำงานแล้วก็เป็นอย่างนี้แหละ... พักนี้ฤกษ์ดีหรืออย่างไรไม่รู้ รุ่นพี่โอบก็จะแต่ง เพื่อนผมก็จะแต่ง...

“แล้วนี่... น้องคนนั้นไม่มาด้วยเหรอ”

“ใคร” ผมหันมองตามภัค นึกไม่ทันว่าหมายถึงคนไหน

“คนที่ครีมบอกว่าจะมาเป็นลูกค้า ไม่มาด้วยเหรอ”

“อ๋อเปล่า โอบไม่รู้จักเจ้าของงาน” ผมบอก ความจริงเจอกันแล้วหนหนึ่งแหละแต่จะพูดว่ารู้จักก็ไม่ได้เต็มปากนัก

ภัคหัวเราะ “คิดอยู่ว่าดูเป็นคนน่าสนใจดี... แต่เห็นเขาแล้วนึกถึงแทคเมื่อก่อนนะ”

ผมงงนิดๆ ภัคก็เพียงแต่ยิ้มๆ ก่อนจะต้องผละไปเพราะมีคนที่รู้จักหัวหน้าที่บริษัทมาทัก แต่เอาเข้าจริงถึงจะนับได้ว่าผมเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของภัค ผมก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจเจ้าตัว บางทีชอบพูดเป็นปริศนาสฟิงซ์

คุณศรัณย์แหวกผู้คนตรงมาทางนี้พอดี พลางบอก “โทษทีคุณแทค คนเยอะเหลือเกิน”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณศรัณย์คงยุ่งอยู่แล้ว” ผมว่า “ยินดีด้วยอีกที อู่สวยมาก”

“อย่าลืมมาประเดิมล่ะ ผมลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยสาขานี้ ฉลองเปิดใหม่”

“ลดขนาดนี้เยอะไปมั้งครับ ไม่ได้กำไรกันพอดี”

“กับคุณแทคผมไม่เอากำไรหรอก เท่าทุนก็พอ”

ผมยิ้มตอบอย่างสุภาพ ยังอยากแยกความสัมพันธ์กับลูกค้าออกจากเรื่องส่วนตัวอยู่... มีความรู้สึกว่าเวลาทำงานจะง่ายกว่าจริงๆ “วันนั้นก็ต้องขอบคุณมากแล้วครับ... ผมมีอู่เจ้าประจำอยู่ด้วยเดี๋ยวเถ้าแก่จะน้อยใจ”

“ผมลดขนาดนี้นึกว่าคุณแทคจะย้ายเจ้าประจำบ้าง” คุณศรัณย์หัวเราะ ผมเลยว่า

“คุณศรัณย์ก็เป็นลูกค้าประจำของผมอยู่แล้วนี่ครับ ถ้าผมมาเป็นลูกค้าประจำของคุณศรัณย์อีกมันจะอัฐยายซื้อขนมยายไปนะ”

คุณศรัณย์ยิ้มขำๆ ตอนนั้นเองที่ผมเห็นคู่เดตเสี่ยจากอีกฝั่งของห้อง ซึ่งความจริงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเพราะอีกฝ่ายก็เป็นหนุ่มสังคมอยู่เหมือนกัน ประเด็นคือเขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองใช้บริษัทจัดหาคู่ เราเคารพความต้องการของลูกค้าอยู่แล้วเพราะฉะนั้นผมก็ไม่ได้คิดจะเข้าไปทัก เพียงแต่เพิ่งคุยกับเสี่ยมาเมื่อเช้าเลยยังติดใจอยู่

คุณศรัณย์มองตามสายตาผมแล้วว่า “คุณแทครู้จักเหรอ”

“อ๋อ... ก็... เคยเห็นตามหน้าสังคมน่ะครับ” ผมตอบแบบให้ปลอดภัยที่สุด ยังคิดอยู่ว่าคู่เดตเสี่ยเขาไม่ยักจะอยากเดตคุณศรัณย์ ทั้งที่เคยเห็นรูปและโปรไฟล์ แม้ว่าคุณศรัณย์ดูพร้อมหมดทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะการงานก็ตาม

“เขาเอารถมาทำกับผมบ่อย... ผมเคยชวนไปกินข้าวด้วย” คุณศรัณย์เล่าเรื่อยๆ

หรือเขาอาจจะอยากคุยกับคุณศรัณย์ต่อนอกบริบทของการที่ใช้บริษัทเราเป็นคนกลาง เพราะเขาก็ได้เจอคุณศรัณย์ตั้งแต่ข้างนอกแล้วนี่นา

“ปรากฎว่าเขาพาผมไปหาหมอดู ผมก็ไปนะ ขำๆ ดี แต่หมอดูบอกเขาว่าดวงผมชง ก็เลยไม่ได้ไปต่อ” คุณศรัณย์ว่าพลางหัวเราะ “หมอดูยังบอกว่าเขาต้องมีแฟนให้ได้ก่อนอายุสามสิบไม่อย่างนั้นธุรกิจเขาจะแย่ ผมก็หวังว่าเขาจะหาได้”

... ไม่รู้ว่านี่เป็นเหตุผลชักนำที่ทำให้เขาออกไปถี่ในช่วงหลังๆ หรือเปล่า แล้วยังเสี่ยที่ดูจะตกหลุมรักเข้าเต็มเปาอีก...

“คุณศรัณย์... ไม่เชื่อหมอดูหรือครับ”

“ผมไม่ได้ว่าคนเชื่อนะ คุณแม่ผมก็ชอบดู... หลายคนทักว่าอู่ผมเจ๊งแน่ ถ้าเชื่อหมดทุกอย่างคงไม่ต้องเปิดอะไรแล้ว”

ผมจัดการเก็บเรื่องนี้เข้าไว้ในรายการ 'เรื่องควรระวังสำหรับเสี่ยน็อต' ไปก่อน ถ้าทั้งสองคนจูนกันติดจริงๆ ไม่ว่าก่อนหน้านั้นจะมีต้นเรื่องอย่างไร ถ้าสุดท้ายเสี่ยประสบความสำเร็จในการทำให้คนที่เสี่ยชอบมาเดตกับเสี่ยคนเดียวได้ ผมก็ควรจะเงียบไว้ก่อนหรือเปล่า

... ถ้าเขาไม่ได้เดตเสี่ยเพราะเชื่อคนอื่นล้วนๆ ล่ะก็นะ...

“นี่คุณแทคคิดเรื่องงานอยู่ใช่ไหม”

“เอ้อ... ขอโทษครับ” ผมรีบหันกลับมามองคุณศรัณย์ ไม่ให้เสียมารยาทมากไปกว่านี้

“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าผมพอช่วยอะไรได้นี่ไม่ต้องเกรงใจนะ”

ผมรู้ว่าคุณศรัณย์รู้จักคนเยอะ แล้วจริงๆ จะถามข้อมูลเอาไว้โดยที่คุณศรัณย์ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผมหมายถึงใครก็ยังได้ แต่ยัง... ไม่ค่อยสะดวกใจอยู่ดี

“... คง... ไม่เหมาะเท่าไหร่นะครับ ให้ลูกค้ามาช่วยเรื่องงาน”

“ก็คุณแทคไม่ยอมออกไปไหนถ้าไม่ใช่เรื่องงานนี่...”

พอดีพี่อิทฝ่าฝูงชนกลับมาถึง ผมเลยไม่ต้องนึกหาคำตอบต่อไปหวุดหวิด คุณศรัณย์รับว่าจะช่วยแนะนำบริการบริษัทเรากับเพื่อนที่ดูน่าจะสนใจให้ แต่หลังจากนั้นพี่อิทก็ตามประกบผมตลอดเพราะบอกว่าดูท่าให้ผมพูดคนเดียวมันจะไม่ค่อยได้งาน กว่าเพื่อนคุณเธอจะมารับก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว

ผมกลับถึงบ้าน เพิ่งนึกได้ว่าจนแล้วจนรอดวันนี้ก็ยังไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปทำ หยิบขึ้นมาดูก็นั่นไง... หน้าจอมืดสนิท ผมรีบเปิดแล้วยังต้องเขย่าอีก พอติดปุ๊บสายก็เข้าทันที

“แม่ยังไม่นอนอีกเหรอ”

“แม่เป็นห่วง โทรไม่ติดตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว อย่างนี้จะมีโทรศัพท์ไว้ทำไหร้...”

ผมรีบบอกว่าตัวลูกน่ะไม่เป็นไร แต่โทรศัพท์ทำท่าจะเสีย ไม่ต้องห่วงพรุ่งนี้จะรีบซ่อม แต่พอแม่เอ่ยถึงเรื่องถัดมาเท่านั้นแหละ...

ผมก้มดูนาฬิกา จะตีหนึ่งอยู่แล้ว

‘... กลับดึกหรือเปล่า...’

ผมวางหูจากแม่ กดลิฟต์ แต่ลิฟต์ตึกนี้มันช้า... เลยวิ่งขึ้นบันได

‘ก่อนเที่ยงคืนมั้ย...’

ถึงชั้นห้าผมก็ถลาไปเคาะประตูห้องตรงข้ามด้วยอาการหอบ คือไม่อยากคิดว่าตัวเองแก่ แต่ตอนขึ้นดอยเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วเหมือนจะเหนื่อยน้อยกว่านี้นะ

เจ้าของห้องมาเปิดประตูด้วยหัวยุ่งๆ นิดหน่อยเหมือนนอนไปแล้ว แต่รอยแดงตรงแก้มเหมือนหลับคาหนังสือกับโต๊ะมากกว่า ผมเท้ามือสองข้างกับกรอบประตูสูดลมหายใจ โอบก็รอ

ผมอ้าปากจะพูดแต่นึกอะไรไม่ออก เพราะพอเห็นหน้า... ไอ้ที่ตั้งใจจะว่า ทำไมไม่บอกก่อน? อยากให้รู้ก็บอก ใครจะเกิดพุทธิปัญญาขึ้นมาได้เองกับเรื่องแบบนี้ หา? หายหมด เมื่อนึกไม่ออกก็... ร้องเพลงประจำวันนี้ แบบที่คนเขาร้องกันทั่วโลกแล้วกัน

โอบก็ดูตั้งใจฟังดี เสร็จก็พยักหน้า “เยี่ยม”

“เอ่อ... ไม่มีของขวัญ” ผมโพล่ง เขาว่าเหนื่อยแล้วจะเรียบเรียงความคิดไม่ค่อยถูก...

คนถูกปลุกยืนกอดอกอยู่ตรงประตู พูดด้วยหน้าตากลั้นขำเต็มที่

“... ถือว่าให้แล้วก็ได้ พอใจละ”

ไอ้เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์เสียงแบบเป็ดยังอายเมื่อกี้น่ะ... ขนาดเพื่อนผมยังหาให้ดีกว่านี้เลย แล้วนี่เป็น... เออ... เป็นอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะปล่อยโอบเผชิญวันแรกของอายุยี่สิบสามโดยมีแต่เสียงเพลงเพี้ยนๆ ต้อนรับก็ออกจะแร้นแค้นไปหน่อย   
           
ผมเริ่มสิ้นคิดเต็มที ไม่มีอะไรติดตัวพอจะนับได้ว่าเป็นของขวัญเลยสักอย่าง แต่จะบอกว่า ‘รอก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ (ก็คือวันนี้? หรือถ้าไม่ได้เจออีกคงต้องมะรืน หรืออาทิตย์หน้า) จะเอาให้’ มันก็ดูประหลาดอยู่ ของขวัญวันเกิดก็ควรให้วันเกิด

เอาเข้าจริงตามปกติผมไม่ได้อินังขังขอบกับอะไรแบบนี้มากนอกจากวันเกิดพ่อแม่ กับเพื่อนสนิทจริงๆ ไม่กี่คนแล้วก็... เมื่อก่อนซึ่งละไว้ในฐานที่เข้าใจ ของตัวเองนี่บางทีลืม แม่โทรมาหรือเห็นของที่ส่งให้ถึงนึกได้ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรนำพาให้วิ่งขึ้นบันไดมาตอนตีหนึ่ง วิ่งทั้งๆ ที่รู้ว่าวิ่งยังไงก็ไม่มีทางทันเที่ยงคืนแล้วนี่แหละ

“เอางี้นะ” ผมว่า มือไม้ก็ล้วงกระเป๋าไปพลาง ได้สมุดโน้ตมาเล่มหนึ่งฉีกหน้ากระดาษออกเขียนแล้วส่งให้ 

โอบรับไปดู หัวเราะพรืดแล้วรีบหยุด “เช็คของขวัญ?”

ถ้าไม่กลัวข้างห้องเปิดประตูออกมาด่านี่คงได้ปล่อยก๊ากไปแล้วแน่ๆ จะโทษคนได้ก็ไม่ถนัดเสียด้วย

ผมมองแผ่นกระดาษขยุกขยุยกับตัวอักษรเขียนไว้หวัดๆ... ไม่ต้องเรียกว่าหวัดแกมบรรจงหรืออะไรทั้งนั้น มันหวัดถึงขั้นไข้หวัดใหญ่กลายพันธุ์เลยล่ะ เป็นเรื่องที่โดนค่อนขอดมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าพ่อแม่เป็นครูทั้งคู่ลูกชายดันลายมือไก่เขี่ย... สภาพโดยรวมก็ถือว่าห่างไกลความเป็น ‘เช็คของขวัญ’ มากโขอยู่ แต่เอาไงเอากัน

“ว่างั้นก็ได้... มั้ง”

“นี่ขอไปตอนลอยกระทงยังไม่รู้เลยจะเป็นจริงเปล่า... ขออีกติดๆ กันโอบใช้โชคตัวเองหมดแล้วทำไงล่ะ”

“ไม่ต้องกลัวสอบไม่ได้หรอกน่า อ่านหนังสือซะขนาดนี้”

“อันนั้นไม่กลัวเพราะแทคขอให้” เจ้าของวันเกิดว่าแล้วบ่น “นี่จะจำเรื่องเดียวหรือไง”

ผมพยายามระลึก... แล้วบอกไป

“... ก็ไม่เกี่ยวกันหรอก” ขอคนละที่คนละทางกันนะ คิดว่า

“... อันนี้ให้ขอแทค?”

ผมพยักหน้า โอบเคาะกระดาษกับคาง แล้วถาม

“ให้ขออะไร”

"ขออะไรก็ได้"

... จริงๆ... จะให้เลี้ยงหนัง เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนู ได้หมด

"อะไรก็ได้? อันตรายนะนั่น"

หัวสมองผมยามดึกหลังจากสู้รบปรบมือกับลูกค้ามาทั้งวันและยังไปงานเลี้ยงโดยต้องคิดบทสนทนาอยู่ตลอดทั้งที่ไม่ค่อยถนัดเริ่มจะไม่ทำงานสักเท่าไหร่แล้ว โอบก็ยิ้ม มองอยู่อีกครู่แล้วว่า

“มีวันหมดอายุไหม”

"ปีหนึ่ง..."

โอบชะงักไปเล็กน้อย ถามว่า “ปีหนึ่งเท่านั้นเองเหรอ”

"... ปีหน้าก็เกิดอีก... เดี๋ยวหาอย่างอื่นให้”

โอบค่อยๆ พับกระดาษเก็บ

"... งั้นเอาไว้ก่อน...”

ผมมองอย่างสงสัย แต่อีกฝ่ายบอก ยังยิ้ม

“ไว้ก่อนจนกว่า... โอบสมควรจะได้”

อีกครั้งที่ผมคิดอะไรไม่ออก จะตอบว่ายังไงดีกับประโยคแบบนี้

... แต่ก็พูดออกไป

“แล้ว... จะรอ”
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 31-03-2013 16:17:21
คุณ Millet ก็ดูเอนเอียงอยู่อะไรอยู่นะ ฮา เอาใจช่วยเสี่ยกันต่อปาย

คุณ 2pmui ฮ่าๆ หนังไทย ถ้าฝนตกคนลงไปแก้เครื่องก็จะเปียกละซีนะ อิเมจพี่แทคดูโหดร้ายมาก ฮา เสี่ยน็อตแกก็ทุ่มเทกับคู่แกอยู่นะ

คุณ Naenprin ก็รู้นะคะแต่ก็ไปกันแบบช้าๆ นิดนึง อิอิ ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ NewYearzz หวังว่าตอนนี้จะอ่านแล้วมีความสุขเหมือนกันนะคะ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะ

คุณ PapermintReal ขอบคุณค่ะที่ชอบโอบ กร๊าก สื่อรัก 55 ฝากอ่านต่อไปด้วยนะคะ

คุณ puppyluv ขอบคุณมากๆ สำหรับการอ่านน้า เสี่ยก็ยังมาเรื่อยๆ แต้มเดี๋ยวไว้ก่อนนะ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม กร๊าก

คุณ malula ก็ต้องอาศัยเวลาบิลด์ความแน่ใจกันนิดนึงคนมันเคยเฮิร์ตมาก่อนนะ แต่คนเขียนชอบที่เสี่ยเป็นแบบนี้นะ 555 (แต่แทคอาจหนักใจจริงๆ)

คุณ Gokusan คนได้รูปขำไม่ออกแน่ๆ ฮา มีไฟฉายไว้ยามฉุกเฉินก็ดีนะ ฝากเชียร์โอบต่อ อิอิ

คุณ mesomeo2 รู้สิรู้ แค่ต้องการเวลานิดนึง เสี่ยแกไม่ค่อยประสา ต้องดูกันไป ฮ่าๆ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะคะ

คุณ De_cimo ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า นี่แกก็รู้แล้วนะ ก็ไปกันต่อค่ะเรื่อยๆ เสี่ยยังออกอยู่นะ อิอิ

คุณ kyoya11 ไปกันต่อ ชิลกันต่อ อิอิ

คุณ ่patsaporn ให้โอกาสสิ (รึเปล่า 55) หวงบ้างไรบ้างยังไม่เยอะ อิอิ ตอนนี้ก็มีคุณศรัณย์ แต่ฝากคนอ่านเชียร์น้องโอบ (อ้าว) มาค่ะ เรียนรู้กันต่อไป เสี่ยน็อตก็ดูมีหวังนะ (แต่เคสแกจะแอบแปลกนิดนึง กร๊าก) ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่ะ

คุณ Tassanee ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ฝากต่อด้วยน้า

คุณ yumsonteen ขอบคุณที่เข้ามารออ่านเสมอน้า ซึ้งใจมากจ้า

คุณ kubkamsoda ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ว่าจะยังไงกันต่อไป...

คุณ iamnan คนเขียนก็หวังว่ามันจะไม่นานเหมือนกันค่ะ แต่อาจจะมีอะไรนิดๆ หน่อยๆ ตามรายทางนะ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ suck_love เสี่ยแกก็เป็นของแกอย่างนี้แหละ เชียร์โอบต่อนะคะ

คุณ milkteabeige รู้แล้ว... แต่ยังต้องเชียร์โอบต่อนะ อิอิ ขอบคุณมากเลยค่ะ

คุณ shabushabu4 ตอนแรกก็คงเป็นกลไกป้องกันตัวเองแหละค่ะ เพราะเคยมีอดีตไม่ค่อยดีเกี่ยวกับความรักนะ (อันนี้เรายังเหลือให้ขยายความกันต่อไป) แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วแหละ

คุณ yamapong มันเป็นธรรมชาติของเสี่ย ฮา ต้องเอาใจช่วยแกด้วย

คุณ pim_onelove ตอนนี้มีหนูเรือง อิอิ แทคก็เอียงไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังต้องอาศัยความมั่นใจอยู่อีกเหมือนกัน ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า

คุณเฉาก๊วย ก็มีเสี่ยอีก อิอิ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า

คุณ Cherry Red ยินดีที่ได้เจอกันอีกค่า มันก็ต้องได้ใจแทคบ้างแหละ (มั้ง) ไม่มากก็น้อยนะ พยายามกันต่อไป 55 ใส่พานถวายเลยนะคะ (นี่หนูดาวเรืองกลับมาทวงบัลลังก์ดาวขโมยซีนหรือเปล่าเนี่ย)

คุณนอนกินแรง นี่คนเขียนว่าแทคก็เอียงแล้วนะ ก็ดูกันต่อไปค่ะ ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาอ่านน้า

คุณ 1wariya1 ฮา แต่ก็ฝากเชียร์น้องโอบต่อด้วยน้า ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ปรากฎหนูเรืองได้อยู่ต่อ (ไปก่อนในตอนนี้... เธอดูเป็นตัวละครที่มีความสำคัญนะ ฮา) เส้นเรื่องทุกอย่างน่าจะบรรจบกันในไม่ช้าไม่นาน... จริงๆ มันก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหารึเปล่า เนอะ

ปล. ขอโทษคนอ่านที่รออ่านด้วยนะคะ ตอนนี้การงานโหดร้ายกับคนเขียนมาก โฮว คนอ่านก็อย่าเพิ่งทิ้งเค้าน้า สัญญาเหมือนเดิมว่าถึงช้าบ้างแต่ก็จะรับผิดชอบจนจบแน่ๆ ขอบคุณมากๆ เลยค่า
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 31-03-2013 16:51:42
แอบชอบคุณศรันย์เล็ก ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 31-03-2013 17:32:43
แว๊บมาอ่าน  :katai5:

หนูเรืองยังอยู่ :heaven

แทคให้ของอันตรายจริงๆแหละ ถ้าโอบขอให้แทคเป็น'เมีย' ทำไงดีล่ะ  :m26:  :laugh:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 31-03-2013 19:28:20
แทคเนี่ยเป็นพวกความรู้สึกช้ารึเปล่าเนี่ย  :mew4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 31-03-2013 19:49:38
อยากให้ลงเอยกันจัง คงจะน่ารักมากเลยคู่นี้
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 31-03-2013 21:49:10
มาต่อแล้ววววว :mc2:
โอบค่อยๆกระดึ๊บความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ เชียร?สุดใจเลย :a9:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 31-03-2013 22:42:37
โอบดูอบอุ่นตลอดเวลาเลยนะ อยากเห็นตอนเขาเอาใจใส่กันอย่างเปิดเผยไวๆ จัง   :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 31-03-2013 23:20:46
กำลังคิดถึงอยู่เชียวว่าหายไปนาน ปกติจะมาอาทิตย์ละครั้งเนอะ รอได้ค่ะ แต่ก็คิดถึง 555

น้องโอบยังไม่ขอหรา เช็คของขวัญเลยน้า ขออะไรก็ได้เลยน้า ไม่ต้องให้ถึงหนึ่งปีตามอายุเช็คนะ
เดี๋ยวคนอ่านจะรอเหงือกแห้งตายซะก่อน (เค้าก็จะรักกันเบา ๆ เรื่อย ๆ อิคนอ่านก็เร่งจัง)
แต่พี่แทคน่ารักมากนะตอนวิ่งขึ้นบันไดมาอวยพรวันเกิดให้ ใจดีกับน้องตลอด ๆ เด็กมันก็แอบชอบมาตั้งแต่เด็กอ่ะสิ
ชอบตอนโอบห้ามเพื่อนรบกวนแทค ตัวเองรบกวนได้คนเดียว ฮิ้วววว ชอบมุมนี้ของโอบ หยอดบ่อย ๆ ดิ ใช้ความเด็กเข้าสู้
ยังไงก็น่าเอ็นดูอยู่แล้ว
แหม่ คุณศรัณย์เค้าก็ขยันหยอดเนอะ รู้จักแทคดีด้วยว่าถ้าไม่ใช่้เรื่องงานนี่ไม่มีสน ที่จริงโปรไฟล์แกก็เริ่ดอยู่นะ
ส่วนเสี่ยน๊อต ห่วงใยจากใจเลยค่ะ คู่เดตแกดูแปลกมาก อืม แต่ถ้ารักกันแล้วส่งเสริมกันไปก็คงดีนะ
อยากให้แกสมหวังมากบ่องตง~

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 01-04-2013 00:28:55
ชั้นชอบน้องไมค์ นางพูดมากดี กรี๊ดด  :hao3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 01-04-2013 10:13:31
เมื่อวานเปิดมาเจอตอนสี่ทุ่ม
ก็ยังเปิดแช่ต่อจน...เที่ยงคืน
และปรากฏว่า...ไปต่อไม่ไหว นอนดีกว่า
เลยอ่านขาดๆ เกินๆ จับใจความไม่ได้เรื่องอะไรเท่าไหร่

แค่หมั่นไส้คุณศรัณย์...เพื่อ?? ^^" ก็คนมันหมั่นไส้อ่ะ
แอบตามลุ้นคู่เดทเสี่ย...จะยังไงเนี่ย เหมือนทุ่มใจ ถ้าไม่ได้ก็น่าสงสารเสี่ยนิ

แล้วก็แทค...ถ้าไม่ชอบคงไม่ลงทุนวิ่งขึ้นห้อง(เขา)หรอกเนาะ ^^
ของขวัญตาโอบเป็นอะไรหนอ...ท่าทางว่าคนให้อาจได้อันตรายทางร่างกายได้ เบาๆ ;p

ชูป้ายไฟเชียร์ตาโอบกันต่อไป ^^V
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 01-04-2013 10:24:16
ว้ายยยย อยากรู้ว่าโอบจะขออะไร :hao6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 01-04-2013 10:34:27
ขอบอกว่าชอบโอบตอนนี้มาก
เที่ยงคืนก็ยังที่เดิม อ๊าซซซซซ :hao7:
แต่เสี่ยยังน้่ารักน่าหยิกกวนโอ๊ยเหมือนเดิม 555
สีสันจริงๆ คนนี้
คุณศรนย์เริ่มล่ะ
ชักสนุกขึ้นทุกที
อยากอ่าน :hao5:
กดบวกและเป็ด^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 02-04-2013 08:55:28
จนกว่าจะพร้อมที่คืออะไรค่ะ รอให้แทคสมยอมหรือเปล่า  :hao6: เราก็คิดไปไกล 555555555555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆาสีน้ำเงิน ที่ 02-04-2013 18:36:02
เรื่องรักบางทีก็รีบไม่ได้จริงๆนะครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 03-04-2013 22:00:09
เย้ ๆ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 03-04-2013 23:46:53
คือมีความสุขที่ได้อ่าน บรรยากาศดูเรื่อยๆแต่อบอุ่น

แบบว่ายังไงดี ผู้ชายแบบโอบนี่ผู้ชายในฝันมาก

เข้าใจอะไรทุกสิ่งอย่าง น่ารัก ผมตกหลุมรักเรื่องนี้แล้วครับ  :กอด1:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 04-04-2013 02:30:35
ขออะไร...โอบจะขออะไรน้า
 :z1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 04-04-2013 13:27:54
ขออะไรก็ได้??!!
แทคคิดดีแล้วใช่มั้ยถึงได้พูดแบบนั้น
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 04-04-2013 14:41:38
ขอบคุณเช่นกันนะครับที่มีเรื่องดีๆน่ารักๆให้ผมได้อ่าน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 05-04-2013 08:28:24
เป็นตอนที่อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลย อบอุ่นกำลังดี ไม่หวานจนเกินไป

และที่สำคัญ
.
.
.
.
หนูเรืองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง หนูเรืองอ้วนๆ อวบๆ ขนฟูๆ น่ารักที่สุด  *\^_________^/*  :mc4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 05-04-2013 20:54:14
ตามมาอ่านเพราะมีโอกาสได้ไปอ่านรอยรัก จำหลักใจ ของคุณเดหลีค่ะ ชอบมากกกกกก

เรื่องนี้น้องโอบน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ชอบบรรยากาศระหว่างโอบกับแทค ดูทั้งคู่รู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่พูดอะไรออกมาชัด ๆ
แต่มันไม่อึมครึมเลย กลับน่ารักมาก  รอตอนใหม่อย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: วงกลม ที่ 06-04-2013 21:43:32
มาตามอ่าน สนุกมาก
ปูเสื่อรอล่ะนะ ^[++++]^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 9] 31 มี.ค. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 08-04-2013 01:30:04
โอบน่ารัก>< :mew1:
คุณศรันย์ คิดจะจีบ แทคใช่มั๊ย 5 5  :hao7:+ ไม่ได้ แทคของโอบ :katai5:
รอคนเขียนมาต่อค่ะ ชอบมาก ^^ :hao6: รอวันที่เช็คของขวัญจะถูกใช้น้ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 08-04-2013 14:15:53
บทที่ 10

เย็นวันศุกร์ผมทำงานเสร็จก็เปลี่ยนเนคไทใหม่ไปงานแต่งเพื่อนต่อ งานของแป๊วจัดในโรงแรมขนาดกลาง ไม่เน้นหรูแต่รู้สึกเป็นกันเองดี ได้มีเวลาถ่ายรูป พูดคุยกับบ่าวสาวรวมทั้งเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันนานตั้งแต่สมัยเรียน สาวๆ ต่างก็ควงแฟนมา บางคนกำลังจะแต่ง... ส่วนเพื่อนผู้หญิงที่ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนก็ชักจะบ่นๆ อยากมีบ้าง เป็นอันว่าผมได้แจกนามบัตรของบริษัทไปจนแทบหมดที่พกมาด้วย แม้ไม่ใช่ความตั้งใจแต่ทีแรกที่จะไปงานเพื่อนเพื่อให้ได้งานตัวเองก็ตามเถอะ

... ถึงส่วนที่ได้ลูกค้าใหม่จะไม่ใช่แผนกเราผลก็คือกัน เพราะนโยบายบริษัทนั้นแบ่งโบนัสร่วมกันทุกแผนกไม่ได้แบ่งแยก บางทีฝั่งเรายังได้ลูกค้าเพราะฝั่งตรงข้ามแนะนำมาก็มี พี่อิทว่าช่วยกันทำงาน ยังไงเราก็ไม่แย่งลูกค้ากันอยู่แล้ว

ผมไม่เห็นภัคจนกระทั่งเจ้าสาวจะโยนดอกไม้ เพื่อนๆ กรูกันไปรอหน้าเวทีห้องเลยโล่งขึ้น ภัคยืนอยู่คนเดียวเกือบสุดข้างหลัง ยกแก้วน้ำขึ้นจิบ มองภาพความโกลาหลข้างหน้าแล้วก็ยิ้ม... แต่เพราะผมรู้จักเพื่อนมานาน เลยพอจะดูออกว่าหน้าตาหม่นๆ พิกล   
ผมเดินเข้าไปใกล้ ภัคเห็นผมเข้าก็ยิ้มให้ เป็นยิ้มอย่างเดิม ผมเลยถามตรงๆ ว่า

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"

ภัคถอนใจ ยังไม่ตอบ เรายืนอยู่ตรงนั้นกันครู่หนึ่งจนผมถามขึ้นอีก “เจอแป๊วแล้วใช่ไหม”

ภัคพยักหน้า ความจริงแป๊วเรียนคณะเดียวกับผม แต่ภัคอยู่นิติฯ งานนี้ส่วนใหญ่เลยมีแต่เพื่อนคณะเรา ซึ่งภัคอาจจะไม่รู้จักมากนัก แล้วก็คงไม่อยู่ในอารมณ์จะไปตั้งวงสนทนาใหม่ ที่จริงแป๊วกับภัค (หรือแม้แต่ภัคกับผม) อาจไม่รู้จักกันเลยก็ได้ถ้าเราไม่บังเอิญเลือกวิชาเรียนรวมของมหาวิทยาลัยตัวเดียวกัน แล้วก็มาจับกลุ่มทำรายงานด้วยกัน...

มหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับเจาะจงชั้นปีเวลาลงทะเบียนรายวิชาเลือกแบบนี้ กลุ่มรายงานนั้นเลยมีรุ่นพี่คณะของภัคด้วย แล้วก็...

ผมหันกลับไปมองภัคก่อนจะจมอยู่ในห้วงความคิดและอดีตเสียเอง บอกเพื่อนว่าออกไปหาที่คุยกันข้างนอกดีกว่า หลังจากนี้อาฟเตอร์ปาร์ตี้คงเริ่ม ออกไปตอนนี้ก็ไม่น่าเกลียด

ภัคพยักหน้าอีกครั้ง เท่าที่รู้จักกันมา... เดี๋ยวพร้อมคงเล่าเอง ก็คล้ายๆ กับนิสัยผมนั่นละ

ในซอยข้างโรงแรมพอมีร้านเงียบๆ อยู่บ้าง ลงนั่งเรียบร้อยสั่งอะไรมาดื่มเสร็จผมก็รอ จนผ่านไปแก้วที่สองแล้วนั่นแหละภัคถึงพูดขึ้นง่ายๆ “โดนทิ้ง”

ผมรีบวางแก้ว แต่เพื่อนบอก “ไม่ต้องตกใจ โอเคแล้ว... ความจริงก็ผ่านมาพักหนึ่ง พอดี... งานยายแป๊วนี่ล่ะที่ชวนมาแต่โดนตีตัวออกห่างเลย... บอกว่ามันจริงจังเกิน”

ภัคยกแก้วขึ้นดื่ม ถือไว้ในมือ พูดยิ้มๆ “ก็ชวนไปงานแต่งนะไม่ได้ชวนไปแต่งงาน...”

ไม่เกี่ยวกับเรื่องจดทะเบียนหรือกฎหมายอะไรหรอก แต่ผมเข้าใจที่ภัคหมายถึง... เพราะพอจะรู้ว่าเพื่อนคบกับคนนี้มานานพอสมควร ถึงเขาจะไม่ค่อยยอมมาเจอเพื่อนฝูงภัคเท่าไหร่ก็เถอะ พอคิดจะจริงจัง มีแค่คนเดียว ก็ทิ้งไปง่ายๆ อย่างนี้เอง

ประเด็นคือผมแทบไม่รู้จักไอ้หมอนี่เลย แต่ว่า...

พอดีภัคพูดขึ้น “นี่ไม่ต้องทำหน้าเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนั้นหรอก ไม่ได้คิดติดใจเอาเรื่องอะไรมากเพราะ... ตอนแรกดันไปบอกว่าเล่นๆ กันทั้งคู่... ความจริงมันก็ไม่เคยบอกหรือสัญญาอะไรที่เราจะทวงได้”

ผมมองภัค เพื่อนก็ยิ้มก่อนยกแก้วขึ้นดื่มอีกอึก ภัคพูดเหมือนสะท้อนภาพของผมเมื่อก่อน... เพราะคราวของผม เคยมีสัญญา แต่อีกฝ่ายรักษาไว้ไม่ได้ หรือบางที... ก็ไม่คิดจะรักษาไว้ตั้งแต่ต้น

"คือคราวนี้เป็นคนดีด้วยไง" ภัคบอก จู่ๆ ก็วางแก้วลงกับโต๊ะดังโป๊ก น้ำกระฉอก "เป็นคนดีก็ยังโดนทิ้ง สรุปเป็นคนดีแล้วได้อะไร”

... ถ้ายังแค่คุยๆ ไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันเพื่อนก็มีแสบและแซ่บบ้างตามสถานการณ์ แต่คราวนี้คงไม่เหมือนคราวอื่นๆ และผมก็นึกคำตอบให้ภัคทันทีไม่ได้

ที่จริง... ผมคิดว่าคนที่เราคบอยู่เป็นส่วนสำคัญในการทำให้เราอยากเป็นคนดีหรือไม่ดี ที่พูดกันว่าอยากทำตัวดีขึ้นเพราะใครมันไม่ใช่เรื่องน้ำเน่านะเอาจริงๆ แล้ว

เพียงแต่บางทีมันก็ไม่เสมอไปที่เราอยากเป็นคนดีเพื่อใครแล้วสุดท้ายเขาจะดีกับเราไปตลอด

เรื่องนี้ผมมีประสบการณ์ตรง...

ภัคเงียบไปนานจนผมต้องหันไปมอง เพื่อนหัวเราะเบาๆ เมื่อผมถามว่าเป็นไรหรือเปล่า

“แค่คิดถึงเรื่องเมื่อก่อน... นิดหน่อย” ภัคบอก หมุนแก้วไปมาในมือแล้วถอนใจ “ยังคิดอยู่จนทุกวันนี้ ไม่น่าแนะนำไอ้พี่นั่นให้รู้จักแทค ดูสิแทคตอนนั้น... เราตอนนี้ เจอคนพรรค์นี้ชีวิตแย่ไปพักใหญ่”

“คิดมาก... ความจริงเขาเป็นคนมาขอเข้ากลุ่มทำรายงาน แล้วภัคก็แค่รู้จักพอดีเพราะเป็นพี่คณะเท่านั้นเอง” ผมตอบ พยายามยิ้มให้เพื่อนสบายใจ

ภัคมองผมอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ย “รู้ตัวหรือเปล่าว่าไม่ค่อยทำอย่างเมื่อก่อนแล้ว”

ผมมองเพื่อนอย่างสงสัย ภัคก็ยิ้มนิดๆ แล้วว่า “เมื่อก่อนชอบจับต้นคอบ่อย รอยนั่นน่ะ ยิ่งถ้าพูดถึง... ยิ่งห้ามไม่ได้ อัตโนมัติเลย เมื่อกี้เฉยๆ แล้วนี่”

“เรื่องมันผ่านมานานแล้วมั้ง” ผมตอบ เสยกแก้วเครื่องดื่มขึ้น

ผ่านมาแล้วและผ่านไปแล้วจริงๆ... วันยี่เป็งในตอนนั้นที่ผมสักชื่อย่อของคนคนหนึ่งลงด้วยความคิดน้อยของตัวเอง คิดว่า... คนจะอยู่กับตัวไปตลอดเหมือนรอยสัก ตอนนั้นเรื่องราวทุกอย่างมันยังดีในความคิดผม ก็ดีจนถึงอีกปีต่อมา... แต่ความจริงมันเริ่มมีเค้าลางมาตั้งแต่ต้นแล้ว ภัคเองก็เคยเตือน เพียงแต่ผมเลือกจะไม่มอง เพราะผมรักความคิดที่ได้รัก จนลืมดูว่าแท้จริงแล้วคนที่ผมคิดว่ารักนั้นเป็นอย่างไร

ถึงป่านนี้ผมก็ไม่ลบ เอาไว้เตือนตัวเองว่า... อย่าโง่อีก

ส่วนลอยกระทงปีนี้คิดว่า... ยังมีคนให้ลอยด้วย... น่าจะเป็นคนเดิมกับปีที่แล้ว

“... มีใครหรือเรื่องอะไรที่ทำให้เลิกคิดเหรอ”

ผมสะอึกนิดหนึ่งแต่ก็กลืนน้ำลงไปได้โดยไม่ถึงกับสำลัก รู้สึกว่าเพื่อนมองๆ พอยังไม่ได้คำตอบภัคก็เลยถอนใจแล้วสรุปเอง

“ดี... อยากเจอเหมือนกัน”

ผมไม่เคยแนะนำบริษัทตัวเองให้ภัค เพราะรู้มาตลอดว่าเพื่อนอยากเจอคนเอง ไม่ได้อยากถูก ‘จับ’ ให้ อย่าว่าแต่ภัคเคยพูดว่าขืนมาใช้บริการ รับรองที่ปรึกษากับลูกค้าได้มีการทะเลาะทุ่มเถียงกันรายวันแน่...

เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระต่ออีกหน่อยก่อนแยกย้ายกันกลับ เพื่อนบอกก่อนจากพร้อมกับยิ้มล้อๆ

“อย่าลืมระวังใจไว้บ้าง”

ผมขำ... หยอกกลับว่าให้บอกตัวเองเถอะ เพื่อนเล่นกับคำเวลาเราไว้เตือนคนที่กำลังมุ่งสู่เส้นทางที่น่าจะเกิดอันตรายได้ เราก็บอกเขาให้ระวังตัว

แต่ผมคิดว่าคราวนี้น่าจะปลอดภัย


ผมแวะซื้อของกินนิดหน่อยจากร้านอาหารที่ยังเปิดอยู่ คิดถึงคนอ่านหนังสือสอบว่าอาจหิวยามดึกไม่งั้นก็เก็บไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้ พอขึ้นไปถึงชั้นห้าเห็นแสงไฟยังลอดออกมาจากห้องตรงข้ามเลยตัดสินใจเคาะประตู ถึงโอบแอบงีบแต่เปิดไฟทิ้งไว้อย่างนี้จะได้ลุกไปนอนดีๆ

โอบเปิดประตูโดยที่หน้าตาไม่ได้ดูง่วงแต่อย่างใด พอผมถามว่าทำอะไรอยู่ก็ว่าดูข้อสอบเก่า... เพิ่งเสร็จชุดหนึ่งพอดี รับถุงไปแล้วยิ้ม

“... ใจดีจัง”

ผมเดินตามเข้าไปในห้องมองโอบเก็บของ แต่จู่ๆ อีกฝ่ายก็พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

"เออ... ทีหลังบอกก่อนสิถ้าจะร้องเพลง”

“ทำไม” ผมชักระแวง คือมันเป็นทักษะที่ไม่ได้ภูมิใจเลยไง หรือโอบต้องการเวลาชิ่ง/เตรียมตัว/หาสำลีอุดหูก่อนผมจะร้อง?

“จะได้เอาโทรศัพท์อัดไว้” โอบว่าพลางหัวเราะ

... นี่ผมก็ช่วยอะไรมันเยอะแยะหลายสิ่งรวมซื้อข้าวให้กินโดยที่มันไม่ต้องแบล็คเมล์ผมอยู่แล้วนะ...

“ไม่น่าอัดหรอก ทำอะไรไม่เห็นได้”

“ทำไมจะไม่ได้... เอาเป็นเสียงปลุกตอนเช้าดีป่ะ” โอบพูดแล้วก็ขำ “ตื่นแน่ๆ”

ที่ต้องตื่นเพราะน่าจะทนฟังต่อไม่ไหวแหละผมว่านะถ้าทำจริง อนาถตัวเองที่นอกจากลายมือแย่แล้วหูยังเพี้ยนอีกด้วย... พ่อเป็นครูดนตรีแท้ๆ

“จะเอาไว้ทำไมแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ใครเขาเกิดกันทุกวันบ้าง”

“ก็ไม่ได้เกิดทุกวันแต่อยากได้ยินเสียง... เพลงทุกวันได้ไหมล่ะ”

พูดแล้วก็หัวเราะอีก ไม่แน่ใจว่าจะยังไงแน่... ผมเหลือบไปเห็นปฏิทินหน้าโต๊ะหนังสือมีรอยกาไว้พอดี เลยถามต่อถึงเรื่องสอบเพราะใกล้เต็มที โอบว่าสอบเสาร์หน้าแล้ว หลังจากนั้นอีกสิบวันก็รู้ผล ถ้าผ่านก็สมัครสอบหนที่สองต่อ

สนามสอบคือที่มหาวิทยาลัยโอบ... ผมคิดไปคิดมาแล้วก็เลยว่า

“เสาร์หน้าจะไปแล้วมาเคาะห้องสิ เดี๋ยวไปส่ง”

โอบเอาคางเกยแขนตัวเองที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ มองผม ยิ้มแล้วก็พูดซ้ำเหมือนเดิม

“... ใจดีจัง”

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดิบพอดี ล้วงออกมาดูแล้วปรากฎว่าเป็นแม่ซึ่งยังไงก็ต้องรับ เลยลุกกลับไปพูดที่ห้องตัวเอง โอบก็เดินตามมาจนถึงประตู

แม่อยากจะรู้ว่าผมให้อะไรน้องโอบของแม่ ซึ่งไม่รู้ว่าจับใจความจากการอุบอิบของผมได้แค่ไหน แต่จุดประสงค์หลักของคุณนายคือ...

“เมื่อเย็นแม่คุยกับน้านัน น้องโอบจะสอบเอาใบประกอบฯ หนแรกเสาร์หน้าแล้ว แทคไปส่งน้องหน่อยซิ”

“ได้แม่”

“น้องสอบสำคัญนะลูก ตื่นเช้าสักวันสองวันมันไม่เป็นไรหรอก...”

“แทคว่าได้ไงแม่ เดี๋ยวแทคไป” ท่าทางผมจะรับคำง่ายไม่ก็เร็วเกินจนแม่ไม่ชินละมังเนี่ย

“... ออกสายรถติดอีกหลาว...”

ผมก็รับให้แม่สบายใจว่าไม่สายแน่จนกดวาง

คือคราวนี้... ผมทำก่อนแม่จะโทรมาบอกนะ...


ศุกร์ต่อมาได้ลูกค้าใหม่เข้ามารายหนึ่ง พี่อิทส่งต่อผมทันทีผมเลยให้ครีมช่วยดู น้องจะได้เรียนรู้งานไปด้วย

เมื่อดูโปรไฟล์บัญชีเราไปๆ มาๆ แล้ว ผมก็ไม่แปลกใจที่เขาอยากออกไปกับคุณศรัณย์ก่อน พอลูกค้ากลับผมจึงโทรหาลูกค้าขายดีหมายเลขหนึ่งทันที

“เหรอ... ผมไม่เคยออกไปกับเขานะ?” คุณศรัณย์ถามไถ่มาตามสาย

“คนใหม่ครับ... เพิ่งเข้ามาเป็นลูกค้า เขารีเควสต์เดตกับคุณศรัณย์คนแรกเลยนะครับ” ไม่รู้น้ำเสียงผมลิงโลดเกินไปหรือเปล่า ก็ถ้าคุณศรัณย์ถูกใจคนนี้จะได้มีความเคลื่อนไหวในบัญชีผมบ้าง คุณศรัณย์ไม่ได้ออกไปกับใครหลายเดือนซึ่งเข้าใจได้เนื่องจากงานช่วงนี้ยุ่งบวกกับหลายคนที่ช่วงอายุ ความสนใจ หรือภูมิหลังดูพอจะไปกันได้คุณศรัณย์ก็เดตมาหมดแล้ว และบอกว่า... ไม่ถูกใจ

“เดี๋ยวผมส่งรูปกับโปรไฟล์เขาให้ดูทางอีเมล์นะครับ? หรือจะให้ส่งข้อความภาพไป”

“อ้าว ปกติคุณแทคก็เอามาให้ผมดูเองทุกทีนี่นา”

บางบริษัทที่ทำธุรกิจเดียวกับเราใช้วิธีให้ลูกค้าที่มีรหัสเข้าไปดูประวัติเองในฐานข้อมูล แต่ฝั่งผมยังใช้วิธีเดิมคือใส่แฟ้มไปคุยโดยตรง นอกจากเห็นรูปชัดเจนแล้วเผื่อมีอะไรจะได้ตอบข้อสงสัยต่อหน้า บางทีลูกค้าไม่อยู่หรือไม่สะดวกจริงๆ จึงใช้อีเมล์... แต่ที่เสนออย่างนี้เพราะคุณศรัณย์เพิ่งเปิดอู่ใหม่ น่าจะยุ่งไม่เบา

“ผมกลัวคุณศรัณย์ไม่มีเวลาน่ะครับ”

“ผมจะไม่มีเวลาให้ที่ปรึกษาผมได้ไงล่ะ ตกลงมานะ”

“คุณศรัณย์นี่ป๊อบตลอด” ครีมว่าเมื่อผมวางหูลงหลังจากนัดแนะเวลากันเรียบร้อยแล้ว เป็นเย็นวันพุธหน้า “แกไนซ์... พี่แทคอะเก่ง ถ้าเป็นครีมแล้วย้ายคุณศรัณย์ไปฝั่งนู้นนะ ฮู้ย...”

ผมจัดการบอกครีมไปว่าจะฝั่งไหนถ้าเป็นลูกค้าเราต้องมืออาชีพทั้งนั้น... ที่จริง คุณศรัณย์ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วตามปกติประสาคนมีเสน่ห์ให้บริหาร

... ซึ่งผมไม่เคยจะคิดอะไรมาก


วันรุ่งขึ้นผมจอดส่งโอบใกล้ตึกที่จะสอบ เหลืออีกครึ่งชั่วโมงนิดๆ ก่อนถึงเวลา ผมเข้าใจว่าโอบอาจอยากลงไปเจอเพื่อนไม่ก็หาที่ทวนอะไรเงียบๆ ก่อน แต่เจ้าตัวกลับยังนั่งอยู่ในรถ ผมเลยเรียก ไม่รู้ว่ามัวแต่คิดถึงหัวข้อที่จะสอบอยู่หรือเปล่า

"... ถึงแล้ว ไม่ลงไปล่ะ"

โอบเท้าศอกที่กรอบประตูหันมา บอกยิ้มๆ

"... ตากแอร์ เย็นดี..."

ผมขำ พอจะนึกรู้แล้วว่าทำไมถึงยังนั่งอยู่ เลยพูด

"เอ้า ขอให้ได้คะแนนเต็ม"

"เอาอะไรที่มันเป็นไปได้หน่อยซิ" เจ้าตัวว่าแต่ก็ยังยิ้ม ผมยิ่งขำ

ทางจิตวิทยาเขาบอกว่า... การเชียร์อัพมีผล อยากได้ผลร้อยพูดสักสองแสน ประมาณนั้น

“ถ้าตั้งใจแล้วก็พยายาม เป็นไปได้ทุกเรื่องแหละน่า”

โอบยิ้มกว้างแล้วว่า

"ทุกเรื่องจริงนะ..."

ผมยิ้มตอบก่อนจะผงะนิดหน่อยกับเงาดำที่ทาบมาเบื้องหลังคนนั่งข้าง

... ไมค์ เกาะขอบหน้าต่างอยู่แถมยังป้องหน้าส่องเข้ามาอีก พอลดกระจกฝั่งนั้นให้ก็ยกมือไหว้ผมแผล็บ รีบพูดกับเพื่อน

"ทำไรอยู่ไม่ลงซักที! เอาโน้ตมาด้วยเร็วๆ จะเข้าห้องสอบแล้วจำอะไรไม่ได้เลย ตายแน่ ตายแน่ๆ..."

โอบถอนใจ ผมอดขำไม่ได้ ความจริงเพื่อนมันจะเห็นก็ไม่แปลกเพราะรถผมไม่ได้ติดฟิล์มดำมืดอะไร ค่อนข้างใสด้วยซ้ำ ผมโบกมือลาทั้งคู่ส่วนโอบจำต้องลงจากรถไปเอาสมุดยัดใส่มือเพื่อนที่เริ่มออกอาการทึ้งหัวแล้วบอกให้ตั้งสติ ก่อนเลื่อนกระจกขึ้นโอบก็ส่งยิ้มมาให้

ผมยิ้มตอบ... หน้าตาสบายใจแบบนั้น ทำข้อสอบได้แน่ๆ...


ไหนๆ เอารถออกมาแล้วผมเลยตีออกนอกเมือง ไปเยี่ยมเสี่ยน็อตเสียหน่อย เดตครั้งล่าสุดของเสี่ยก็สองสามวันก่อน... ถึงจะเป็นวันเสาร์แต่แน่ใจว่าอยู่โรงงานเพราะหยุดแค่วันอาทิตย์ โทรไปเช็คอีกทีตอนอยู่ในรถเสี่ยก็บอกด้วยน้ำเสียงยินดีว่ามาได้เลย

เสี่ยออกมารับผมเอง ไม่ได้ใส่เสื้อยืดย้วยและกางเกงขาสามส่วนอย่างเมื่อก่อนแต่เป็นเสื้อโปโลดูดีกับกางเกงขายาว ผมต้องถาม

“เดี๋ยวเสี่ยออกไปไหนหรือว่าจะมีลูกค้ามาพบครับ”

เสี่ยหัวเราะ “เปล่าหรอกคุณแทค ผมก็แต่งๆ ให้มันดีขึ้นน่ะพอออกไปไหนจริงจะได้ไม่พลาดอีก ตอนแรกพวกพนักงานผมก็ไม่ชินกันเหมือนคุณแทคนี่แหละ”

เจ้าของโรงงานเดินนำเข้าไปในส่วนออฟฟิศ ทางขวามีดิสเพลย์สินค้าวางโชว์เอาไว้เรียงกันสวยงามแถมผูกโบเสียเรียบร้อย เสี่ยก็คว้ามาขวดแล้วยื่นให้

"นี่ผลิตภัณฑ์ใหม่ผมคุณแทคเอาไป น้ำปลาลดโซเดียม กำลังเจาะตลาดกลุ่มคนใส่ใจสุขภาพ"

ผมขอบคุณก่อนเดินถือขวดน้ำปลาตามเสี่ยเข้าไปในห้องทำงาน ขวดเก่าไซส์ครอบครัว (ขยายด้วยไม่ใช่ครอบครัวเดี่ยว) ที่เสี่ยให้มาคราวก่อนนั่นผมยังใช้ไม่หมดเลย แต่ก็ถือว่ารับน้ำใจเสี่ย ซึ่งไม่ได้เค็มเหมือนน้ำปลาที่ทำแต่อย่างใด

“เดตครั้งล่าสุดเท่าที่ได้คุยกันคร่าวๆ ก็ราบรื่นดีใช่ไหมครับ” ผมถาม จับสังเกตลูกค้าไปด้วย เพราะบางทีคุยโทรศัพท์กันไม่เห็นสีหน้าท่าทาง พี่อิทเคยมีกรณีลูกค้านิสัยดี (จนเกินไป) กลัวที่ปรึกษาจะเป็นกังวลและขี้เกรงใจจนบอกแต่ว่าอะไรก็ดีมาแล้ว กว่าจะรู้ปัญหากันก็เกือบแย่

“ราบรื่นสิ” เสี่ยว่า ผมยกแก้วน้ำกำลังจะดื่มเสี่ยก็ต่อด้วยประโยคที่ทำเอาผมเกือบทำน้ำหก “... ผมทำของเช้าไปให้เขาที่เตียงด้วย”

ผมนั่งถือแก้วน้ำค้าง ชะรอยเสี่ยจะกลัวผมยังไม่เข้าใจเลยพูดอีก “เบรกฟาสต์อินเบด”

จะได้อินเบดกันตอนเช้า ก่อนหน้านั้นมันก็ต้อง...

ผมยังไม่ได้แนะอะไรเสี่ยเรื่องนี้ เพราะเอาจริงผมไม่คิดว่าเสี่ยจะก้าวหน้าไวจนกามนิตยังอาย เสี่ย... สุดยอดของพัฒนาการ ดีใจด้วยอย่างมาก

แต่ประโยคถัดมาทำเอาภาพโรแมนติกที่น่าจะมากับคำนี้พังไปในทันที

“แต่ผมไม่แนะนำนะ ลุกไปกินดีกว่า ไม่รู้ฝรั่งนิยมได้ไง เศษขนมปังร่วงกราวเลย ระวังยากมาก แล้วก็กาแฟหก! ผมกับเขานี้โดดกันไปคนละทางแทบตกเตียง ชงมาอย่างร้อน" เสียงเสี่ยน็อตสยอง "เกือบโดนตรง..."

"เสี่ยครับ เสี่ย ไม่ต้องลงรายละเอียดถึงขนาดนั้นก็ได้” ผมรีบเบรก พอคุยซักไปเรื่องอื่นก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร นอกจาก...

“ที่... ไปดูหมงดูหมออะไรนี่ เสี่ยโอเคนะครับ?” ผมถามย้ำ คือถ้าไลฟ์สไตล์เขาไปด้วยกันได้ หรือแม้แต่ในกรณีนี้เสี่ยไม่เคยจะแยแสเรื่องโหราพยากรณ์ แต่ไปแล้วไม่รู้สึกเหมือนถูกบังคับมันก็ดี เพราะเคยมีกรณีลูกค้าเก่าผมคนหนึ่งเป็นเซียนไอที ส่วนอีกคนแค่เปิดปิดคอมได้ก็เก่งแล้ว ตอนนี้ก็ยังคบกันอยู่ ฝ่ายหลังหันมาสนใจเรื่องนี้จนชอบไปเองด้วย ส่วนฝ่ายแรกก็สนุกสนานกับการสอนแฟน แต่ถ้าฝืนใจนี่มันก็มักจะ... ไม่ยืด

"ผมก็มีความสุขดีนะคุณแทค" เสี่ยว่า "... ไม่ใช่จุดประสงค์งานนี้เหรอ"

“คู่เดตเสี่ยเขายัง... ไม่ได้หยุดเดตคนอื่นเหมือนเสี่ยนะครับ” ผมบอก ไม่อยากย้ำนักหรอกแต่ผมระวังผลประโยชน์เสี่ยไม่น้อยไปกว่าลูกค้าคนไหน ถึงอยากช่วยแต่ผมก็ไม่สามารถบังคับคู่เดตเสี่ยให้เขาออกไปกับเสี่ยแค่คนเดียวเหมือนกัน... เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ลูกค้าตัดสินใจเอง

“ผมเข้าใจ... คุณแทคทำงานดีแล้วสบายใจได้” เสี่ยบอก เว้นไปนิดก่อนจะเอ่ย “บางทีผมก็ทำเป็นลืมไปเหมือนกันนะข้อนี้เวลาอยู่กับเขาน่ะ... แต่ผมให้ที่ปรึกษากำหนดตอนจบให้ไม่ได้นี่นา”


ผมขับรถกลับบ้าน ยังคิดอยู่ บางทีคนเราก็... มีความสุขได้ทั้งๆ ที่ไม่ต้องรู้ความจริงทั้งหมด หรือบางที... จงใจลืมบางอย่างไปชั่วคราว ผมเคยผ่านมาแล้ว และรู้สึกว่ามันไม่ยั่งยืน ถ้าอีกฝ่ายยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม... แต่มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมอีกที่จะกะเกณฑ์ความสุขของคนอื่น

ไม่ได้เอาตัวไปตัดสินก็จริง แต่ทั้งเสี่ยทั้งคู่เดตเสี่ยคงยังได้ยินผมพูดเรื่องนี้ไปอีกสักพัก...

โอบส่งเมสเซจมาบอกว่าอยู่บ้านเพื่อนในกลุ่มที่ใกล้มหาวิทยาลัยคงจะค้าง มีไมค์ด้วยแล้วก็เพื่อนอีกสองสามคน ติวเคสกันแต่หลักๆ คือเยียวยาไมค์ซึ่งสภาพจิตใจค่อนข้างบอบช้ำจากข้อสอบ (โอบใส่อีโมติคอนขำมาด้วยแต่ผมสังหรณ์ว่าคงมีมูลความจริงอยู่ไม่น้อย) เอาอาหารใส่ไว้ให้หนูเรืองแล้วแต่ถ้าอยากเข้าไปดูเผื่อจะเพิ่มนิดหน่อยหรืออะไรก็ฝากกุญแจไว้ที่ป้าเหมือนเคย พรุ่งนี้เช้าคงไปสอบพร้อมเพื่อนๆ

ผมรับกุญแจจากป้า ขึ้นข้างบนเลี้ยวขวาแทนเลี้ยวซ้าย ยื่นนิ้วไปเล่นกับหนูขนฟูในกรงที่ย่นจมูกยุบยิบก่อนจะเปิดเอาออกมาอุ้ม

ผมผูกริบบิ้นที่ดึงมาจากขวดให้ ชม “หนูเรืองสวย”

หันซ้ายหันขวาดูอีกหน่อยก็แกะออกเอาไปผูกไว้กับซี่กรงบนสุดเก็บชายให้เรียบร้อยเดี๋ยวจะเผลอแทะไป ปล่อยเจ้าหนูอ้วนเข้าไว้ในกรงอย่างเดิมแล้วจึงยืนขึ้น วางน้ำปลาลดโซเดียม ‘เพื่อสุขภาพ’ จากเสี่ยไว้ที่เคาน์เตอร์ในครัว

... แต่คิดว่าเจ้าของห้องจะถือไปเคาะห้องผม ขอให้ทำกับข้าวมากกว่า...

ความจริงผมก็เริ่มชิน ชินกับการได้เมสเซจ ฝากข้อความ หรือใดๆ ก็ตามที่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน ทำอะไร ไม่ใช่ถึงกับรายงาน แต่ก็เล่าด้วยความใส่ใจ

ถ้าเป็นเรื่องของคนนี้ ตอนนี้ ผมก็อยากรู้มากกว่าไม่รู้...
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 08-04-2013 14:17:59
คุณ iforgive คุณศรัณย์มาน้อยได้มากตลอดอะ บทนี้ด้วย ฮา เดี๋ยวก็ยังมาอีกเรื่อยๆ

คุณ mesomeo2 ตายและนี่ก็รอมาตั้งนานก็รอไปอีกหน่อยนะ ฮา

คุณ Takarajung_TK จริงๆ ก็รู้แล้วนะคะ แต่ก็... แสดงออกแบบเนี้ย 55

คุณ Naenprin อีกเดี๋ยวนะ นิดนึง อันนี้ก็ต้องฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ kyoya11 ดึ๊บๆ ไปเดี๋ยวก็ได้ (แน่ใจนะคนเขียน) ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์ค่า

คุณเฉาก๊วย ฝากอ่านต่อด้วยน้า รับรองได้เห็นแน่ค่ะ อิอิ

คุณ ่patsaporn ดีใจค่ะมีคนรอ แหะ ก็พยายามปั่นมาล่ะค่ะ คิดถึงคนอ่านเหมือนกัน น้องโอบรอก่อนค่ะเดี๋ยวค่อยใช้ คนเขียนว่าก่อนหนึ่งปีแหละ ตอนนี้พี่แทคก็ใจดีนะ คุณศรัณย์ใช้เรื่องงานอีกแล้วอะไรเนี่ย คาดว่าคนอ่านยังต้องห่วงเสี่ยต่ออีกหน่อย ขอบคุณสำหรับการอ่านเช่นกันค่ะ

คุณ Millet ดิชั้นก็ชอบน้องไมค์นะ นางเป็นอีกคนที่ออกน้อยแต่ชัด 555

คุณ Gokusan ง่วงนอนก่อนได้ค่ะ (แล้วค่อยอ่าน อิอิ) เดี๋ยวต้องหมั่นไส้คุณศรัณย์มากแน่เลยอะ ตายแร้น ลุ้นเสี่ยกันต่อ และเชียร์โอบกันต่อนะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

คุณ PapermintReal อีกสักพักนิดๆ แหละเราต้องเคลียร์เรื่องอื่นกันไปก่อน อิอิ

คุณ puppyluv ตอนนี้ก็ฝากชอบด้วยนะ กี๊ด ไม่รู้ว่าจะยังไงกับเสี่ยตอนนี้อะเอาจริงๆ แกทั้งฮาแต่บางทีก็เศร้า โถ (คุณศรัณย์ก็ไฟต์ของแกต่อ เอ้า)

คุณ suck_love แหะๆ อันนี้ก็ต้องฝากอ่านต่อล่ะค่ะ จะใช่อย่างที่คิดไหม

คุณเมฆาสีน้ำเงิน จริงค่ะ เรื่องนี้สองคนก็เลยออกแนวค่อยเป็นค่อยไปหน่อย

คุณ cher7343 ฝากอ่านต่อด้วยน้า เย้

คุณ NewYearzz 55 ขอบคุณค่ะ แต่ของแบบนี้บางทีก็ต้องดูกันนานๆ เนอะ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า

คุณ krappom อิอิ ก็ต้องฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ 1wariya1 ตอนนั้นแทคเหนื่อย คาดว่าไม่ได้คิด 55 หรือคิดสิ่งที่ไม่ตรงกับใจนักอ่านส่วนใหญ่แน่ๆ

คุณ yumsonteen ขอบคุณมากเลยค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ pim_onelove ขอบคุณค่าที่อ่านแล้วรู้สึกดี ฝากอ่านต่อด้วยน้า ตอนนี้ก็มีหนูเรืองแพลมมา อิอิ

คุณ Windyne ขอบคุณมากนะคะที่อ่านเรื่องนี้ด้วย แล้วก็ขอบคุณที่ชอบเรื่องโน้น เรื่องนี้คู่นี้ก็เป็นแบบนี้แหละรู้กัน ฮา ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณวงกลม ขอบคุณมากค่า อย่าลืมอ่านต่อด้วยน้า

คุณ ben ขอบคุณค่ะที่ชอบพระเอก กร๊าก คุณศรัณย์แกก็ไงดี แกก็พยายาม (รึเปล่า) ฝากอ่านต่อด้วยค่า เช็คนั่นก็... อีกหน่อยค่ะ อิอิ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เอ้า ชิลกันไปอีกตอน ความจริงอยากจะเตือนบางคน (ในเรื่องนี้) ว่าอย่าชิลมาก ก็ไว้รอดูกันต่อไป...

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านแรงๆ เช่นเคยค่ะ 
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 08-04-2013 14:41:34
ฮาเสี่ย  :hao6: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 08-04-2013 14:48:56
อยากอ่านเรื่องราวในอดีตของแทคจัง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 08-04-2013 15:28:53
ตอนนี้คู่แทคโอบยังเรื่อยๆไม่น่าห่วง แต่ไปพะวงคู่เสี่ยน็อต ถึงแกจะไม่ใช่คู่หลักแต่ถ้ามันมีเรื่องขึ้นมาคงทำให้บรรยากาศในเรื่องหม่นลงเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 08-04-2013 17:38:53
 :mew1:

ลูกค้าจีบนายจ้างหรือป่าวววววววววว

เนื้อหอมจังเลยนะคะ คุณแทค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 08-04-2013 17:39:23
หนูเรืองน่ารัก  :hao6: แฮ่ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 08-04-2013 17:40:49
โอบแสดงออกมากกว่านี้อีกนะ เอาแบบตรงๆ ชัดเจนไปเลย
จีบผู้ใหญ่แกล้งเฉไฉแบบนี้ เราต้องรุกเท่านั้น  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-04-2013 18:35:39
ไหดองแตก ฮะๆ
เห็นคำเตือน อย่ามัวแต่ชิล
ปั๊ดโธ่ งวดนี้กี่ห่อดี? มาม่าน่ะ..
หนูเรืองน่ารัก ผูกริบบิ้นด้วย อยากได้เนาะ
เสี่ยแกนี่โผล่มาฮาตลอดเลย เบรคฟาสต์ร่วง 555
โอบมีกำลังใจดี สอบได้แน่ๆ เชื่อสิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 08-04-2013 20:02:30
โอบกับแท็คน่ารักเกินไปแล้ว ชอบโอบจัง มีแฟนแบบนี้รักตายเลย ฮ่าๆๆๆ เสี่ยน็อตนี่ก็น่าเป็นห่วงตลอด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 08-04-2013 20:08:37
เสี่ยน่ารัก  :m1: :m1:
ไมค์ก็น่ารัก  :m3: :m3:




น่าจับ 2 คนนี้คู่กัน  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 08-04-2013 20:40:45
พี่แทคเริ่มซึมซับในการมีน้องโอบใกล้ ๆ เข้าไปเรื่อย ๆ แล้ว ทำเองโดยแม่ไม่ต้องบอกด้วยน้า
มีซื้อของมาฝากคนอ่านหนังสือ แหม่ มัวเคาะห้องกันอยู่ได้ไมไม่ย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน 555 คนอ่านใจร้อน
เหมือนแทคจะเริ่มลืมอดีตรักร้าวได้แล้วนิด ๆ ตอนไปส่งกันนี่น้องโอบเค้าก็นะพยายามจะอ้อนจะคุยต่อ
แล้วเพื่อนไมค์มาขัดจังหวะไมเนี่ย เค้าจะอวยพรจะโน่นนี่กัน ฮุ้ว ขัดตลอดคนเนี้ย

คุณศรันย์ดูอิดออดไม่ค่อยอยากไปเดทกับใคร รอวันที่แกจะขอเดทกับแทคนี่แหละ ฮาตึง
ต้องเอาแฟ้มไปให้ดูเองอยากเจอหน้าอ่ะสิ

เสี่ยน๊อตแกแต่งตัวดีขึ้นเนอะ มีอาหารเช้าบนเตียงกันด้วยเ้ค้าไปถึงไหน ๆ กันแล้วเหรอ แต่เสี่ยก็คือเสี่ย
มีเรื่องให้ห่วงตลอด อยากให้แกสมหวังจริงๆ แต่ใครจะกำหนดได้เนอะ

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 08-04-2013 21:09:45
แทคอยากรู้เรื่องโอบบบ แอร๊ยย แค่นี้ก็ชื่นใจละ

ว่าแต่ขอดูรอยสักหน่อยสิ 5555 :katai1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 08-04-2013 21:51:53
น่ารักๆๆๆ  อ่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 08-04-2013 23:18:51
รออ่านตอนที่โอบได้ "โอบ" แทค ><
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 08-04-2013 23:50:53
555+ กะจะอัดไว้ฟัง ด้วยย แหมๆ ไม่ต้องอัดหรอก อีกไม่นานก้อได้ฟังทุกวันแล้ว :katai2-1:
แฮ่มมมม แทค บอกไปว่าหากพยายามแล้วก้อทำได้อย่างนู้น ทำได้อย่างงี้ ตัวเองก้อให้ความร่วมมือด้วยสิ :hao5:
 โอบจะได้ทำ!!สำเร็จ ทุกเรื่อง!! 55+ :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 09-04-2013 00:07:13
ถ้าเตือนว่าอย่าชิล แสดงว่าคุณเดหลีเริ่มเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เกทแล้วมุ่งหน้าไปชั้นบะหมี่ถึงสำเร็จรูปเพื่อหยิบยี่ห้อที่แจกทองสินะคะ

อุอุอุ แทคอย่าได้นิ่งนอนใจไป >\\<
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 09-04-2013 00:44:46
น่ารักจังเลย รักกันเร็วๆนะ ดีใจที่แทคเริ่มลืมคนเก่าได้แล้ว มาซบอกน้องโอบดีกว่าเนอะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆาสีน้ำเงิน ที่ 09-04-2013 07:18:01
กลัวคลื่นใต้น้ำ ถ้าจะมีก็อย่าลูกใหญ่เกินนะครับ แหะๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 09-04-2013 11:49:47
โฮ่...เบื่อจะรำคาญตาคุณศรัณย์
คนอื่นไม่ใช่รึหวังอะไรกันแน่...ชิชะ

แทคเริ่มใส่ใจพร้อมติดใจ...ตาโอบ ^^
ความใกล้ชิดมิตรข้างบ้านเริ่มเป็นผล...ฮิ้วววว
ยกป้ายไฟเชียร์แพ็คคู่...เอาอย่างเรียลลิตี้ทั่วไป ฮ่าๆ

ชอบเสี่ยที่มีความสุขตามแต่ใจ...
กับประโยคท้ายที่ว่า...ให้ที่ปรึกษากำหนดตอนจบให้ไม่ได้ ^^

ว่าไป...คนว่างๆ อีกหลายในเรื่อง
ทั้งภัค ทั้งเจ้าไมค์...จับแพ็คให้บ้างก็ดี อิอิ

รอดูว่าตาคุณศรัณย์นี่จะมาไม้ไหน...ชิชะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 09-04-2013 12:02:02
อยากเอาหนูเรืองมากอด. อุ๊ย! ผูกโบด้วย อ๊ากกกกกก. ชอบหนูเรืองงง :hao6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: somuch ที่ 09-04-2013 20:40:38
 :mew2: อยากให้เสี่ยกับคุณศรันย์คู่กันจังค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 09-04-2013 21:31:00
อ่้ะ!! อย่าบอกนะว่าตอนต่อไปจะมาม่า ม่ายยยยยน :hao5:

เอาเป็นว่าตอนนี้ฮาเสี่ยมากอ่ะ แหม่เล่าซะละเอียด ฮาาาาา  :m20:

แทค กับโอบดูหวานเว่อออ โอ้ยอิจฉา55555 :-[

รักคนแต่งมากๆ มาต่อไวๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 10-04-2013 19:53:48
อ้างถึง
เอ้า ชิลกันไปอีกตอน ความจริงอยากจะเตือนบางคน (ในเรื่องนี้) ว่าอย่าชิลมาก ก็ไว้รอดูกันต่อไป...
.

ผมกลัวนะพี่  :sad4:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-04-2013 22:32:41
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ถึงกับติดงอมแงมเลยทีเดียว :z1:
รู้สึกอบอุ่นจัง เวลาน้องโอบอยู่กับพี่แทค :o8:
ขอให้รักครั้งใหม่เกิดขึ้นและอยู่กับแทคไปนานๆนะ และคนที่ทำให้เกิดก็คือโอบนั่นเอง คนอื่นไม่เชียร์ :laugh:
รออ่านตอนต่อไปค่า :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 11-04-2013 14:52:08
 :katai2-1: รอรอรอ. มาต่อเร็วๆนะครับ. ขอบคุณครับบบ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 11-04-2013 20:01:09
ตอนนี้แทคใจอ่อนกับโอบมากแล้วสิเนอะ

มันเป็นเนื้อเรื่องที่เรื่อยๆดี ไม่เครียดเลย

เหมือนเรากำลังนั่งดูความรักของคนคู่นึงอยู่เลย

ชอบมากๆๆๆ จะติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-04-2013 21:24:33
ถ้าเรื่องคนมันจะเครียด งั้นตามติดชีวิตหนูเรืองก็แล้วกัน น่ารักตลอด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 11-04-2013 22:48:59
น้องโอบ เสี่ยเขามาแรงแซงโค้งไปแล้วนะ 5555
.
.
.
หนูเรืองสวย งื้ออออออออออออออออ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 14-04-2013 00:58:36
เล่นสงกรานต์เพลินแน่เลยนะครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 10] 8 เม.ย. 56 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 15-04-2013 17:13:19
พึ่งได้อ่าน ตามทันแล้วครับ ชอบๆ จะติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 17-04-2013 05:34:01
บทที่ 11

เสียงเคาะประตูดังขึ้นแบบที่ผมรู้ว่าเป็นใครตั้งแต่ก่อนเปิดเสียอีก โอบยืนยิ้มเหมือนเคย แต่ด้วยความที่รู้จักมักคุ้นกันมาสักพักหนึ่งแล้วจึงพอดูออกว่ารอยยิ้มนั้นออกจะแฝงแววกังวลอยู่

“มีอะไรหรือเปล่า” ผมพูดอย่างเป็นห่วง แล้วจึงนึกได้ วันนี้วันประกาศผลสอบครั้งแรก ตรงกับผมหยุดงานครึ่งวันพอดีเนื่องจากที่ทำงานฉีดพ่นยาประจำปีทั้งชั้น ยังคิดจะถามอยู่เลยว่าเป็นยังไงบ้าง

โอบกำลังจะตอบ แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน เจ้าตัวขมวดคิ้วก่อนกดรับ

“อืม... ยังเหมือนกัน ไม่ต้องมาหรอก... อะไรนะถึงแล้ว?” โอบหันมองผมนิดหนึ่งแล้วถอนใจ “เออๆ เดี๋ยวลงไป”

ผมพอจะเดาออกว่าคงเป็นไมค์เจ้าเก่า ซึ่งก็เป็นตามคาดเมื่อเจ้าของห้องตรงข้ามกลับขึ้นมาพร้อมเพื่อนที่คุยจ้อแต่น่าจะมาจากความตื่นเต้นด้วยส่วนหนึ่ง... ผมยังจำความรู้สึกตอนลุ้นผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เลยพอเข้าใจว่าคงตึงเครียด ใจเต้นมวนท้องกันขนาดไหน ถึงโอบจะไม่ได้มีท่าทีแปลกไปจากเดิมให้สังเกตเห็นชัดเจนก็เถอะ

“... ไม่ลุ้นกับแฟนก็ที่บ้านนะของแบบนี้” น้องไมค์ยังพูด “แต่นี่... โสดสนิท พ่อแม่ก็อยู่ต่างจังหวัด ดูผลคนเดียวประสาทตาย ต้องมาหาเพื่อนหัวอกเดียวกัน อ้อ... ลูกสาวด้วย”

‘ลูกสาว’ ขนฟูที่ว่าจะช่วยเป็นกำลังใจได้แค่ไหนผมก็ยังสงสัย... ปรากฎว่าโอบเดินมาหยุดหน้าห้องผมเหมือนเดิมส่วนเพื่อนเลี้ยวขวาไปห้องที่มีหนูแล้ว ยังเหลียวมาเรียกให้ไขกุญแจ พอเห็นผมตรงประตูเข้าเลยยกมือไหว้

“พี่แทคเป็นไงบ้างพี่” ไม่รอคำตอบก็ไปเรื่องอื่นแล้ว “เนี่ยพี่ถ้าผ่านนะแค่ครึ่งเดือนก็สอบอีกหน ครึ่งเดือนเอง! อยากขออาจารย์นอนที่แล็บให้รู้แล้วรู้รอด”

โอบปล่อยเพื่อนพูดไปเรื่อย ตัวเองก้มลงบอกผมเบาๆ “แทคดูกับโอบนะ”

ผมพยักหน้า อยากพูดอะไรมากกว่านี้แต่โอบเพียงแต่ยิ้ม จับแขนผมไว้นิดหนึ่งแล้วก็ปล่อย เดินเข้าไปในห้อง

“เอ๊า แล็ปท็อปยกไปซ่อมเหรอ” เพื่อนไมค์ก็เดินตามมาจากอีกฝั่งเมื่อเห็นเจ้าของห้องไม่เปิดประตูแต่กลับหายเข้าห้องตรงข้าม “หรือเขาตัดไฟ ตัดเน็ต? ปัดโธ่ ดียังมีพี่แทคให้พึ่ง ลูกข้าคงไม่ร้อนนะ... พี่แทคผมกวนหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ”
 
ผมขำที่น้องไมค์สามารถต่อบทสนทนาเองไปได้เรื่อยๆ เพราะตั้งแต่มานี่โอบยังพูดนับคำได้ ถึงบางทีจะรำคาญเพื่อนที่มาโดยไม่ได้เชิญบ้าง ฝากหนูไว้อย่างแทบไม่มีกำหนดบ้าง แต่เพื่อนก็คือเพื่อน มีอะไรก็ช่วยกันอยู่ดีนั่นแหละ

ผมเปิดคอมพิวเตอร์ให้ บอกว่าตามสบาย น้องไมค์รีบพูด

"โอบ ดูของตัวเองก่อนป่ะ"

“ได้” คนนั่งอยู่ตอบ เหลือบมองผมนิดหนึ่ง ถึงจะดูเหมือนเฉยๆ แต่คงลุ้นอยู่ไม่น้อย ผมยิ้ม พยักหน้าอย่างจะให้กำลังใจ

โอบสูดหายใจลึกแต่พอดีเพื่อนร้อง
“เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งทิ้งกันดิ๊! ตัวเองผ่านชัวร์เสร็จแล้วใครจะมาช่วยลุ้นของข้าล่ะ”

โอบทำหน้าเซ็งเต็มทีกับการเปลี่ยนใจไวปานปรอทของเพื่อน บอกว่าไม่ชัวร์ทั้งนั้นแหละแต่ดูไปจะได้รู้ว่าต้องสมัครสอบต่อเลยหรือเปล่า น้องไมค์ก็ยังอิดเอื้อนอยู่จนผมตะล่อมถามว่ากลัวอะไร

"กลัวแบบ... อีกคะแนนเดียวผ่านน่ะพี่" ไมค์ครวญ "ห้าเก้ามันเป็นเลขที่โหดร้ายมาก"

"เดี๋ยวพอสอบหนสองเสร็จ เจ็ดเก้าก็จะกลายเป็นเลขที่โหดร้ายมาก" โอบว่า "เอาเหอะ เปลืองค่าไฟค่าเน็ตห้องคนอื่นเขา”

น้องไมค์คว้ากระเป๋ามาบังหน้าตัวเองเหลือแต่ตา บอก “มา ตายเป็นตาย”

“มันไม่ถึงกับตายหรอกน่ะ" เพื่อนว่า “ก็สอบใหม่”

บางทีความจริงก็ไม่ใช่สิ่งที่คนอยากฟัง... น้องไมค์โวยว่าพูดเป็นลางแต่พอโอบดึงกระดาษจดเลขประจำตัวสอบไปก็ตะโกนลั่น

"เฮ้ย! อย่าคอนโทรลเอฟ! ค่อยๆ เลื่อนลงมาให้เวลาเพื่อนได้เตรียมใจบ้าง"

ผมฟังโอบเถียงกับเพื่อนว่าถ้าเริ่มตั้งแต่หน้าแรกล่ะถึงเย็นก็ยังไม่รู้เรื่อง จนเสนอให้เจอกันครึ่งทางด้วยการเริ่มที่เลขสองตัวหน้า โอบก็เลื่อนเอกสารลงมาเรื่อยๆ จนถึงเลขประจำตัวเพื่อนที่ชูกระดาษขึ้นเทียบ น้องไมค์ชะโงกหน้าไปดูแทบชิดจอ
 
"นั่นเครื่องหมายถูกจริงๆ ใช่ไหม”

"เออ คะแนนเลยผ่านมาสามคะแนนแน่ะ"

“เอ้ยรอดแล้ว!”

คนสอบผ่านผุดลุกขึ้นกระโดด เขย่าไหล่เพื่อนพลางขอบคุณผมที่เอื้อเฟื้อสถานที่ จากนั้นก็วิ่งปรู๊ดออกนอกห้อง คงไปโทรศัพท์บอกพ่อแม่และวงศาคณาญาติ

เหลือผมกับโอบ... เห็นคนนั่งอยู่เหงื่อซึมที่ขมับหน่อยๆ ทั้งๆ ที่ห้องไม่ร้อน ยังมือข้างซ้ายที่กำแน่นอยู่บนตักโดยดูจะไม่รู้ตัวนั่นก็อีก

ผมตัดสินใจสอดมือเข้าไปประสานกับอุ้งมือเย็นชื้น จับไว้จนมันคลายลง ตอนแรกโอบสะดุ้งน้อยๆ ก้มมองมือ แล้วจึงหันมามองผม สีหน้าเหมือนยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนผมยิ้มให้แล้วบีบมือนั้นเบาๆ อย่างจะให้ลดความกังวล

ถ้าความพยายามส่งผลจริง ความพยายามไม่เคยสูญเปล่า ผมก็อยากให้มันสำเร็จ ทุกเรื่อง...

โอบยิ้มตอบ แล้วกดเลขประจำตัวสอบก่อนจะคลิกด้วยมือขวา มือซ้ายก็ยังอยู่ที่เดิม... ไม่ทำเหมือนเพื่อนที่ค่อยๆ เลื่อน พอผมถามก็บอก “... หักดิบเลยดีกว่า ทีเดียวจบ

... แต่เครื่องหมายถูกเด่นหราหลังเลขประจำตัวที่ถูกไฮไลต์จากการค้นหา ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองกลั้นหายใจอยู่เหมือนกัน ลุ้นไม่แพ้คนสอบ พอดูคะแนนก็เลยผ่านมาพอสมควรทีเดียว

น้องไมค์เปิดประตูกลับเข้ามาตรงดิ่งหาโต๊ะคอมพิวเตอร์ แม้มือจะคลายการเกาะกุมลงแล้วแต่เรายังยิ้มให้กันอยู่ เพื่อนเห็นหน้าจอเข้าก็ร้อง

“เป็นไงล่ะ บอกแล้วผ่านชัวร์ เออไขห้องให้หน่อยซิจะไปหาลูก...” 

นี่คงเป็นเหตุผลแท้จริงที่กลับเข้ามาอีกละมัง... โอบลุกขึ้น บอกว่าจะโทรหาน้านันรวมทั้งคุณพ่อ

“บอกแม่ด้วย” ผมว่า โอบก็ยิ้มพยักหน้า ความจริงอาจจะไม่ต้องเตือน เพราะแม่ผมแทบคิดว่าโอบเป็นลูกอีกคนอยู่แล้ว

คงดีใจไม่เบาเลยแหละ


ตอนเย็นก่อนออกจากที่ทำงานผมโทรยืนยันนัดกับคุณศรัณย์ตามปกติ แต่ปลายสายตอบกลับมาว่า

“พอดีผมต้องออกไปพบลูกค้าที่สนามบิน เขากลับวันนี้เลย...”

“อ้อ ครับ” ถึงจะงงๆ อยู่เล็กน้อยเพราะคุณศรัณย์ไม่เคยผิดนัด หรือถ้าเลื่อนจะบอกก่อน แต่คราวนี้คงเป็นเหตุสุดวิสัย ผมเลยว่า “อย่างนั้นนัดกันใหม่ก็ได้ครับ”

“ผมยังไม่ได้กินข้าว คุณแทคเอางานไปให้ผมดูตอนนั้นได้ไหม นะ ช่วยผมหน่อย เพราะหลังจากนี้ผมต้องเดินทาง หาช่วงว่างยาก”

“ที่อู่หรือครับ” โดยทั่วไปแล้วคุณศรัณย์มักจะอยู่ที่สาขาใหญ่ในเมือง ซึ่งผมเคยไปพบ เลยคิดว่าจะให้คนซื้อมาให้ทานก่อนออกไปอีก

“ตอนนี้ผมอยู่ข้างนอก คุณแทคพบผมที่ร้านเลยนะ...” อีกฝ่ายบอกชื่อร้านกับที่ตั้งแล้ววางสายไป ผมจึงเช็คข้อมูลในแฟ้มอีกครั้งก่อนบอกพี่อิทที่กำลังจะพาครีมออกไปพบลูกค้าเหมือนกันว่าหากออกไปก็ล็อกออฟฟิศได้เลย พี่อิทยังอวยพรให้คุณศรัณย์ได้คู่ถูกใจในคราวนี้

ถ้าเป็นอย่างนั้น อันดับหนึ่งชาร์ตความยากของผมคงได้ฤกษ์เปลี่ยนแปลงเสียที

คุณศรัณย์รออยู่ก่อนแล้วในร้าน ข้างหน้ามีเพียงน้ำเปล่าผมเลยนึกว่าคงทานเสร็จเรียบร้อย จัดแจงหยิบแฟ้มจากกระเป๋าออกมากางเผื่อเขาจะรีบไป แต่อีกฝ่ายกลับเรียกบริกรมาสั่ง แล้วถามเผื่อมาทางผมจนต้องรีบพูด

“เชิญคุณศรัณย์ตามสบายเลยครับ...”

“นี่ก็ได้เวลามื้อเย็นแล้ว กินเป็นเพื่อนผมหน่อยเถอะ จะได้คุยไปด้วย กินอยู่ฝ่ายเดียวมันยังไงๆ ไม่รู้”

ผมเหลือบดูโทรศัพท์อีกครั้งโดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต ความจริงวันนี้โอบก็ยังไม่ได้เมสเซจมาบอกว่าจะกินข้าวหรืออะไร แล้วผมก็เคยคุยงานตอนกินข้าวทั้งมื้อเช้าสายกลางวันเย็นดึกมาก่อนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เลยสั่งจานเดียวง่ายๆ ไป

คุณศรัณย์ก็ดูให้ความร่วมมือดี เพราะลูกค้าคนนี้ผมประมวลแล้วว่าช่วงอายุใกล้เคียง โปรไฟล์ก็น่าสนใจ เหลือเพียงให้คนที่เขาสนใจคือคุณศรัณย์ตกลงออกไปด้วย แต่พอถามว่าอยากออกไปเมื่อไรคุณศรัณย์ก็บอกว่าพักนี้งานค่อนข้างรัดตัวและยังมีเดินทางติดกันอีกสองสามครั้ง เลยขอผลัดมาบอกผมเมื่อกลับมาแล้ว

ยังไม่ทันจะได้นัดแนะกันต่อผมก็เห็นคนหน้าตาคุ้นๆ เดินเข้ามาในร้าน ปรากฎว่าเป็นภัค มากับผู้ชายอีกคนหนึ่ง กำลังจะเก็บไปทักทีหลังว่าได้คนมาดามใจใหม่แล้วแต่... ที่คุ้นนั้นไม่ใช่คุ้นแค่ภัคคนเดียว

... จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่ว่าที่เภสัชกร เพิ่งสอบได้ครึ่งใบไปหมาดๆ

ผมเผลอขมวดคิ้ว แต่ภัคเห็นโต๊ะเราก่อนเลยเดินตรงมา โอบก็เดินตามมาด้วยท่าทางเฉยๆ ผมลุกขึ้น ลังเลว่าจะชวนให้ร่วมโต๊ะดีไหม แล้วจึงนึกได้ว่าคนเป็นลูกค้ายังไม่ได้กลับออกไป
     
สุดท้ายคุณศรัณย์ก็ออกปากให้นั่งเสียด้วยกันอยู่ดี อาจจะเพราะมารยาท หรือด้วยความเจนสังคม... ภัคก็ไม่ได้ปฏิเสธ อันที่จริงผมเคยเห็นภัคคุยอยู่กับคุณศรัณย์แล้วที่งานเปิดอู่เมื่อครั้งนั้นที่ไปแทนหัวหน้า ทั้งโอบและคุณศรัณย์ หรือว่าโอบกับภัค ก็ไม่ใช่แปลกหน้าต่อกันเสียทีเดียว

... แต่ผมยังคิดไม่ออกว่าสองคนหลังมาด้วยกันได้อย่างไร เลยถามโอบไปก่อน “วันนี้ไปโรงพยาบาลเหรอ”

โอบพยักหน้า บอกว่าที่ฝึกงานเก่าซึ่งกำลังจะกลายเป็นที่ใช้ทุนด้วยหากสอบได้ใบประกอบฯ ขาดคนมากเลยให้ไปช่วยดับเบิ้ลเช็คฉลากและเตรียมยา ถือว่าได้โอกาสซ้อมแล็บไปในตัว ภัคเสริมขึ้น

“ก็เจอกันที่โรงพยาบาลนี่แหละ”

“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมต้องไปหาหมอ” ผมรีบถาม นึกเป็นห่วงขึ้นมา

"เปล่าหรอก ไปเยี่ยมหัวหน้าฝ่าย ผ่าไส้ติ่ง... ลงมาเจอโอบออกจากห้องยาพอดี"

... ภัคไม่ได้ขยายความต่อ

นอกจากเจอกันครู่เดียวในร้านอาหารเมื่อวันนั้น ที่โอบดูไม่ใส่ใจอะไรทั้งสิ้น ภัคก็เพียงแต่เอ่ยถึงคนนั่งข้างผมในงานเปิดอู่ของคุณศรัณย์ผ่านๆ เท่านั้นเอง

ไม่รู้เป็นไงมาไงเหมือนกัน...
 
... มื้อนั้นผ่านไปโดยเรียบร้อย โอบกับคุณศรัณย์ไม่ได้คุยโดยตรงอะไรมากมายเหมือนเดิม แต่อาจเป็นตามปกติของคนที่ข้องเกี่ยวกันน้อยอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไรเพราะในโต๊ะมีภัคอยู่ ซึ่งที่ไหนมีภัคก็ไม่ต้องห่วงว่าวงสนทนาจะจืดชืดกร่อย ถ้าสิ่งนี้เป็นจุดบอดของผมที่ต้องพยายามทุกหนเวลาไปงานสังคม ก็คงเป็นธรรมชาติติดตัวของเพื่อนผมแบบไม่ต้องพยายามเลยนั่นแหละ

คุณศรัณย์แยกไปพบลูกค้าแล้ว ส่วนภัคก็มีเลี้ยงของเพื่อนร่วมงานต่อเหมือนกัน ก่อนเดินไปยังว่า

“ไว้ค่อยนัดกันอีกที”

ผมพยักหน้า เพราะทุกครั้งที่เจอเพื่อนก็พูดคล้ายๆ อย่างนี้ ไม่กำหนดเวลาแน่ชัดแต่ก็ได้เจอกันตามวาระ ยิ่งพักนี้รู้มาว่าเพิ่งจบความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีนักไป ถ้ามีปัญหาอะไรอยากระบายผมก็พร้อมจะรับฟัง ภัคเอง... ก็เคยอยู่ตรงนั้นเพื่อผมมาแล้ว

แต่ว่าที่เภสัชกรกลับตอบเหมือนกันอย่างที่ผมต้องหันมองแทบไม่รู้ตัว

“ครับ”

 
โอบกลับกับผมแต่พูดน้อยกว่าปกติ คงล้าจากโรงพยาบาล

ผมเปรยขึ้นว่าวันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะกินข้าวนอกบ้าน ความจริงคือ... อยากให้รู้ว่า ‘กินข้าว’ ของผมกับลูกค้า ไม่เหมือนเวลา ‘กินข้าว’ ของผมกับคนนั่งข้าง ซึ่งอีกฝ่ายดูจะเข้าใจดี เพราะตอบว่า

“ก็เรื่องงานไม่ใช่เหรอ”

คิดถึงตอนที่เรานัดกินข้าวข้างนอกกันหนแรก จนโอบตามผมไปดูหนัง ตอนนั้น... ก็ยังคิดว่าเป็นงาน

ผมคิดไม่ออกเหมือนกันว่าเพื่อนจะมีเรื่องอะไร แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่อยากนึกสงสัยแบบเดิม ซ้ำรอยเดิม เพราะฝ่ายหนึ่งคือภัค คือเพื่อนผม คนที่รู้อยู่แล้วว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง รู้ว่าผมเก็บข้าวของหนึ่งปีหลังเรียนจบ ออกจากเชียงใหม่กลับบ้านด้วยสภาพจิตใจเช่นไร ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง...

อีกฝ่ายหนึ่ง คือคนที่ผมอยากให้เข้าใจ และอยากจะเชื่อ...

เพราะอย่างนี้บางที ผมก็เลยไม่คิดว่าต้องอธิบายทุกเรื่องทุกอย่าง แล้วก็ไม่ต้องคาดคั้นเอาคำอธิบายทุกเรื่องทุกอย่างอีกเหมือนกัน ถ้าเข้าใจ จะมีพื้นที่ให้หายใจ มีพื้นที่ให้ความรู้สึก... เติบโตและงอกงามอย่างที่ควรจะเป็น

ให้รากหยั่งลึกลงไป เพื่อที่ว่าถ้าเจอลมมรสุม จะได้ไม่หักโค่นลงง่ายๆ
 
“เออว่าแต่ พรุ่งนี้กินข้าวมั้ย” เพราะปกติผมไม่ได้เมสเซจไปกลัวจะกวน ถ้าโอบไม่ได้บอกมา เจอหน้ากันผมเลยอาศัยถามแบบนี้มากกว่า

“โอบเลิกดึก...” อีกฝ่ายตอบมาท่าทางเหนื่อยจนผมชักห่วง วันนี้ก็ไปแต่เช้า “ต้องซ้อมแล็บแต่มันว่างให้ใช้แค่บางช่วง จะไปรอใช้แล็บไม่ช่วยงานเขาเลยก็น่าเกลียด”

ผมพูดเบาๆ “ความจริงไม่ต้องกลัวจะไม่ผ่าน...”

“ไม่ได้กลัว... ก็ผ่านอยู่แล้ว” โอบว่า คราวนี้ยิ้ม

แล้วใครกันที่มือเย็นเฉียบตอนจะดูผลอยู่เมื่อวันสองวันนี้เอง...

“... เพราะอ่านหนังสือและทำแล็บหนักมาก” ผมต่อให้

“... เพราะมีคนไปส่ง... ต้องคนนี้ด้วยนะ” คือคำตอบ ความจริงไม่เป็นเหตุผลเอาเลย แต่บางทีสำหรับบางอย่าง... คงเป็นคำอธิบายที่ใช้ได้แล้ว

ผมเลี้ยวเข้าหน้าตึก ยิ้มกับกระจกมองหลัง

“งั้นคราวหน้า... ไปส่งอีกละกัน”
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 17-04-2013 05:36:42
คุณ yisren. เสี่ยแกดูไม่เครียดนะ (หรือควรเครียดบ้างไรบ้างเสี่ย)

คุณ iforgive เดี๋ยวก็จะแพลมๆ มาเรื่อยๆ แหละค่ะ เมื่อแทคคิดถึงอดีต อิอิ

คุณ 1wariya1 มันควรจะห่วงรึยัง แต่แทคก็ยังดูโอเคอยู่ ฮา แทคก็ห่วงเสี่ยเหมือนกันค่ะ

คุณ Naenprin นิดนึง เขาก็ดูๆ อยู่ไม่รู้จะยังไง เหอๆ

คุณ cher7343 น่ารักตลอดอะตัวเนี้ย

คุณเฉาก๊วย จริงเห็นด้วย แต่แป๊บนึงนะ (เอ๊า) ก็รุกคืบกันเข้าไปค่ะ อย่าได้ถอย

คุณ mesomeo2 แอร๊ย จะม่ามั้ยน้องโอบไม่ใช่คนม่าสักเท่าไหร่ (เหรอ) โอบสอบได้จริงด้วย

คุณ KAEHUB ขอบคุณค่ะ 55 เมื่อไหร่เสี่ยแกจะได้แฮปปี้เอ็นด์เนี่ย

คุณ morningflower จะดีเหรอคู่นี้ กร๊าก

คุณ ่patsaporn จริงค่ะ นี่ก็ไปรับปากเขาเองอีก เดี๋ยวก่อนค่ะ ฮา ตอนนี้เพื่อนไมค์ก็มาอีกแล้ว คุณศรัณย์ก็ยังเหมียนเดิม อยากให้เสี่ยเรียบร้อยเหมือนกันค่ะ ก็ต้องดูกันต่อไปเนอะ ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่า

คุณ Millet ฝากอ่านต่อด้วยน้า รอยสักนี่เค้าคงได้ดู (ชัดๆ) กันตอนสนิทชิดใกล้กันแล้วอะ (แต่คนอ่านดูได้เลย ฮา)

คุณ Tassanee ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ kyoya11 คนเขียนว่าอีกสักพักอะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนล่ะก็นะ

คุณ ben ไม่นานจริงนะ อิอิ นี่แทคก็ให้ความร่วมมือจะแย่ละนะ รึป่ะ ก็มาดูกันต่อไปค่า

คุณ Windyne นิดนึงนะคะ ให้มีรสชาติ วุ้ย แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เครียดน้า

คุณ drasil เริ่มละค่ะ จริง มาหาพระเอกดีก่า

คุณเมฆาสีน้ำเงิน แหมโดนดักด้วยเรื่องคลื่นใต้น้ำอย่างนี้ ฮ่าๆ ต้องขอฝากให้อ่านต่อไปด้วยค่า

คุณ Gokusan ต้องหมั่นไส้คุณศรัณย์อย่างหาที่เปรียบมิได้แน่เลยอะตอนนี้น่ะ เชียร์แพ็คคู่เลยนะคะ ต้องการค่ะ กร๊าก ภัคนี่จะแพ็คกับใครดี ส่วนน้องไมค์ฮีสเตรทอะ ให้ฮีไปเจอสาวละกันนุ

คุณ PapermintReal หนูเรืองนางแย่งซีนตลอด แหม

คุณ somuch 55 จะไปกันได้มั้ยเนี่ยคะคู่นี้ ขอบคุณสำหรับการอ่านนะคะ

คุณ Theomen ยังค่ะ แต่มีบ้างไรบ้างมั้ยพอเป็นกระสาย นิดหน่อย (อ้าว) ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ รักคนอ่านเหมือนกันค่ะ

คุณ NewYearzz อย่าเพิ่งกลัวไป รับรองไม่ถึงขั้นกระอักเลือด (เอ๊ะ) ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับการอ่านมากค่ะ

คุณ BeeRY ขอบคุณมากที่อ่านค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า เชียร์น้องโอบนะคะ (เธอต้องการ ฮา) ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ

คุณ yumsonteen ขอบคุณที่รอนะคะ ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณนอนกินแรง ตอนนี้ก็อ่อนมากกก ด้วยเหมือนกัน ขอบคุณที่ชอบนะคะ ฝากอ่านต่อด้วยค่ะ

คุณ malula จริง หนูเรืองนางไม่เครียด กร๊าก ขอบคุณสำหรับการอ่านนะคะ

คุณ pim_onelove จริงอีกค่ะ แต่เสี่ยนี่ไม่รู้จะหายห่วงหรืออะไรดี หนูเรืองสวย ส้ม 55

คุณ DarknLight ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

น้องไมค์... ชื่อกลางเธอคือการขัดจังหวะเหรอ กร๊าก
จากตอนที่แล้วมีทั้งคนเชียร์เสี่ยกับไมค์ เสี่ยกับคุณศรัณย์ เสี่ยดูเลือกได้นะ แหม
 
ป.ล. ทุกคนในเรื่องนี้ใจร่มๆ กันต่อปาย (บทที่แล้วยังบอกว่าอย่าชิลอยู่เลย 55 ความจริงมันก็ยังไม่มีอะไรเครียดนิ รึเปล่า)
ขอบคุณคนอ่านทุกท่านเป็นอย่างมากเช่นเคยค่า
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 17-04-2013 06:52:26
เอาล่ะ คุณเดหลีเริ่มต้มน้ำแล้ว 555

ตาโอบนี่ยังไงน้า :?
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-04-2013 07:04:28
ตอนที่แล้วชิล แต่ตอนนี้เริ่มเครียดแล้วอ่า :z3:
แทคเป็นคนมีเหตุผลมากเลยนะ ถ้าเคยเจอเรื่องไม่ดีแบบนั้นมาก่อนมันต้องมีระแวงบ้างล่ะ :katai1:
ถ้าไม่มีอะไรก็อย่าทำให้แทคต้องระแวงสงสัย ไม่เชื่อใจนะน้องโอบ ไม่งั้นเราเปลี่ยนไปเชียร์เสี่ย เย้ย มาจากไหนอะ :m20:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 17-04-2013 08:56:51
น้องโอบร้ายนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 17-04-2013 09:05:50
จริงๆแล้วรู้สึกเหมือนแทคคิดกับโอบแค่น้อง แต่โอบนี้คิดกับแทคไปไกลละ  :ling1:

ตอนนี้มันอึนๆยังไงไม่รู้ ขอหวานๆมาให้ชุ่มช่ำหน่อยน้าาา555 :hao7:


รักคนแต่งเท่าเดิมค่าาา จะตามอ่านไปเรื่อยๆ แม้จะใกล้สอบซัมเมอร์แล้วก้อตาม ฮาาา :กอด1:

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: วงกลม ที่ 17-04-2013 09:51:37
ชอบจัง ^[++++]^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-04-2013 09:58:49
เหมือนมีอะไรอึมครึม ซ่อนเร้น
โอบห้ามโลเลนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 17-04-2013 10:10:30
คิดถึงเรื่องนี้มาก นั่งรอวันอัพทุกวัน  :hao5:
น้องโอบดูอึมครึมนะ  แอบรู้อะไรมาจากภัครึเปล่า สู้ ๆ  พี่แทคเริ่มใจอ่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 17-04-2013 10:58:16
 :mew1:

เริ่มมีความรู้สึกที่ไม่อยากให้เข้าใจผิดแล้ว

แล้วเด๋วก็จะยอมเปิดใจให้

รอวันนั้นนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 17-04-2013 12:32:10
ได้เวลาต้มน้ำรอแล้วใช่ไหม  :ling3:
เหมือนแทคจะเปิดใจให้โอบแล้วนะ
แต่โอบอ่ะอย่าทำให้แทคหวนกลับไปนึกถึงความรู้สึกเดิมๆ เลย
มีอะไรก็พูดก็คุยกันเถอะ ไม่อยากเห็นแทคเสียใจอีก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 17-04-2013 13:57:00
ฮุ้ว เืพื่อนไมค์นี่ไม่มีเพื่อนคนอื่นเลยรึไงนะ มาหาแต่โอบตลอดดดด คนเค้าจะขอกำลังใจกันส่วนตัวล่ะแทบจะไม่มีโอกาส
ดีนะยังเปิดช่องให้จิ๊ดนึง ย้ำว่าจิ๊ดนึง ให้เค้าได้ประสานมือให้กำลังใจกัน เย้ๆๆๆๆ โอบผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว
อยากให้ผ่านเร็ว ๆ จะได้มีเวลาจีบพี่แทคเต็มที่ แหม่...ได้ข่าวตอนนี้ก็จีบอยู่นะ จีบแบบแผ่ว ๆ เบา ๆ เข้าใจกันสองคน
เอ...ภัคกับโอบมาด้วยกัน แปลก ๆ นะ ไม่มีซัมติงใช่ป่ะ แค่ชวนกันมากินข้าว ดันมาเจอกันโดยบัีงเอิญอีกเนอะ
รอบหน้าไปส่งกันอีกน้า ไหน ๆ เค้าก็อ้อนมาแล้ว เติมกำลังใจกันนี้ดนึง

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 17-04-2013 14:18:39
เพิ่งได้อ่าน สนุกมาก เชียร์โอบขาดใจ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-04-2013 15:08:47
ไมค์ = ตัวขัดจังหวะ ฆ่าตัดตอนดีไหม o3

เห็นไหมล่ะ กำลังใจดี มีชัยไปกว่าครึ่ง #ไม่เกี่ยว!!

+1 +เป็ดครับ :hao3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: kingviolet ที่ 17-04-2013 17:15:17
 :hao5: ตามทันแล้ว ฮ่าๆ
ลุ้นๆ รออัพนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 17-04-2013 17:52:02
มันเหมือนจะดีแต่ว่า มีลางแปลกๆ กร๊ากกก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 17-04-2013 17:58:28
จบตอนได้หวานมากกก :-[
ปล.มันจะเกิดอะไรที่ทำให้ต้องซดมาม่าหรือเปล่านิ :ling1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 17-04-2013 20:12:45
ตอนนี้น่ารักแบบเย็นๆ แอบมีปมนิดหน่อย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 17-04-2013 22:40:08
 อยากเห็นคู่นี้มีความสุข ไร้อุปสรรค รักทั้งคู่นะ พี่คนเขียนด้วยครับ :กอด1:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 17-04-2013 22:48:15
ตอนนี้แอบหวานนะ ไม่รู้ทำไมถึงหวาน

แต่ชอบมากเลย แล้วตกลงภัคกับโอบนัดเจอกันเหรอ

รู้สึกเหมือนนัดเจอกันเลย สงสัยอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 18-04-2013 16:20:58
เอ่อ...ถ้าคุณน้องไมค์มีทางปกติ
หาสาวงามๆ มาให้เขาปิ๊งๆ แล้วโดนขัดจังหวะบ่อยๆ แบบนี้ทีเถอะ
ยิ่งถ้าเป็นหนูเรืองลูกรักขัดจังหวะด้วยนะ จะยิ่งสะใจ!! 5555 ;p ชอบขัดจังหวะนัก หึหึ

ส่วนคุณลูกค้าน้องแทค...เบื่อจะรำคาญ ตัดสินใจแระ
ช้านเกลียดตาคุณศรัณย์นี่...มุกเนียนมาก ชอบเอาเรื่องงานมาอ้าง แหวะๆ
แต่รู้ตัวไว้เถอะ เธอทลายกำแพงน้องแทคไม่ได้หรอกย่ะ...รวยไปก็เท่านั้น ชิชะ << นี่ก็อินเกิน อารมณ์ล้วนๆ ^^"

แอบสงสัยตาม...แต่ก็นะ เรื่องความไว้ใจ มันจะทำได้ไม่ง่าย ถ้ามีปมมา
หวังว่าจะเคลียร์ได้โดยไม่มีใครบาดเจ็บ...ก็ภัคน่าจะมีคนของตัวนี่นา
และมีรังสีชมพูให้ดูตอนท้ายเล็กๆ ด้วย...ยกป้ายไฟกันต่อไป ^^V
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Morethan ที่ 19-04-2013 23:54:22
เกือบพลาดไปแล้วค่ะ TT ไม่ได้เข้าเล้านาน ไม่รู้ว่าคุณเดหลีเปิดเรื่องใหม่ ต้องขอบคุณเพื่อนที่เอาข่าวมาบอกมาก ไว้เดี๋ยวอ่านก่อนจะมาอีดีทนะคะ

____________________________

เพิ่งจบไปสองตอน ตอนนี้ยังบอกอะไรมากไม่ได้ ภาษาเรียบๆ แต่อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ ตอนนี้ตัวละครที่โผล่มายังมีไม่เยอะ ไม่รู้ว่าจะมีใครมาจีบนายแทคอีกไหม แต่ตอนนี้ก็คิดว่าปักธงเชียร์โอบไปนะ 555555 แต่ทั้งคู่ดูมีความลับ อย่างแทคก็เรื่องที่เชียงใหม่ ของโอบก็รอยแผลนั่น...แล้วก็บรรยากาศ กลับมาเจอกันแบบนี้ ใช่แค่เรื่องบังเอิญจริงๆ รึเปล่า...
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 20-04-2013 20:30:32
มึนๆ อึนๆ ไม่น๊าาาา จะดราม่าแล้ว :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 20-04-2013 21:07:08
 :z1: อมยิ้มจนแก้มผมจะปริแล้วครับ
ยิ่งมาหยอดหวานกันตอนท้ายอีก.... :hao6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 11] 17 เม.ย. 56 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 21-04-2013 20:35:45
ตอนต่อไปไม่อยากได้แบบเศร้าเลยครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 26-04-2013 06:20:02
บทที่ 12

เวลาเราเริ่มเรียนรู้ใครสักคน นอกจากจะรู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ของกิน หนังสือที่อ่าน หนังที่ดู... เรื่องส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ อย่างวันเกิด ไซส์เสื้อ หรือแม้แต่วิธีเคาะประตู บางทีก็ยังมีความรู้สึก... ที่คิดว่าพอรู้ ไปๆ มาๆ อาจจะรู้น้อยอยู่ดี
 
แต่ก็ไม่เป็นไร มันสำคัญที่ว่า... ยังอยากเรียนรู้กันไปอยู่หรือเปล่า และอีกฝ่ายเต็มใจที่จะให้เราค่อยๆ ได้รู้ โดยไม่มีอะไรปิดบัง
เพราะเราก็ยินยอมเปิดช่องว่างในหัวใจให้เขาเข้ามาทำอย่างนั้นแล้วเหมือนกัน


โอบเลิกดึกจริงแทบทุกวันอย่างที่เคยบอกไว้ กินข้าวเย็นที่โรงพยาบาล ตอนเช้าก็รีบออกไป เลยไม่ค่อยได้ปะหน้าพูดจากันเท่าไหร่ แต่เรื่องสำคัญตอนนี้คืออีกฝ่ายได้มีเวลาซ้อมทำแล็บเต็มที่เพื่อสอบให้ผ่าน ส่วนการงานผมก็เรื่อยๆ ดี ทุกคนดูมีความสุขตามอัตภาพรวมถึงเสี่ยน็อต คู่เดตเสี่ยเดตคนอื่นน้อยลงด้วยจนผมชักวางใจว่าคงมีพัฒนาการไปในทางที่ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก วันศุกร์พอเช็คบัญชีก็พบว่าครบกำหนดสัญญาของคุณศรัณย์แล้ว สอบถามไปคุณศรัณย์ตกลงจะต่อ แต่ว่างตอนเย็นเหมือนเดิม
 
ผมเลยรีบแวะคอนโด เอาอาหารให้หนูเรืองก่อนบึ่งไปพบคุณศรัณย์ที่อู่ เจ้าของอู่ต้อนรับขับสู้ผมอย่างดีเหมือนเคย พูดคุยเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้วยังไม่ทันได้ถามถึงคนที่ผมเพิ่งให้ดูแฟ้มประวัติเมื่อคราวที่แล้วว่าคุณศรัณย์ยินดีจะออกไปด้วยหรือไม่ก็พอดีมีโทรศัพท์ด่วนจากต่างประเทศเข้ามาเรื่องอะไหล่

ผมนั่งรอคุณศรัณย์พูดธุระอยู่ในออฟฟิศ เพิ่งเห็นว่ามีข้อความเข้าเหมือนกัน
 
‘กินข้าวยัง’

ผมเงยหน้าขึ้น เห็นคุณศรัณย์ยังยุ่งอยู่กับการพูดโทรศัพท์เลยกดตอบ ‘ยัง... อยู่กับลูกค้า’

คราวนี้ข้อความปรากฎขึ้นเกือบจะทันที ‘คนเดิม?’

โอบก็เคยเจอลูกค้าผมอยู่คนเดียว ถ้าไม่นับรูปจงใจหลุด อุบัติเหตุของเสี่ยน็อตนั่น

‘งาน เดี๋ยวก็กลับ’

คุณศรัณย์วางหูพอดี ผมเลยเก็บโทรศัพท์กลัวจะเสียมารยาท หันไปสนใจลูกค้า

“ตกลง... คุณศรัณย์คงประวัติเดิมไว้นะครับ อยากเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า”

ผมยื่นเอกสารให้ดู ตอนนี้เรานั่งกันอยู่ที่ชุดโซฟาในห้องทำงาน ย้ายเพราะอีกฝ่ายว่า ‘ไปนั่งคุยกันสบายๆ ดีกว่า’ ก็เลยไม่มีโต๊ะตัวใหญ่กั้นเหมือนปกติ คุณศรัณย์ชะโงกมา สายตาไล่ไปจนหยุดที่ ‘สเปค’ เหมือนผม

ส่วนใหญ่ลูกค้าระบุจุดนี้ค่อนข้างชัด คือก็เปิดกว้างแหละ แต่ยังมี ‘แบบที่ชอบ’ อยู่ดีไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือลักษณะนิสัยบางอย่าง แต่ของคุณศรัณย์ปล่อยว่างไว้ตั้งแต่ต้น

“ผมไม่มีสเปค... จนกว่าจะเจอคนที่ถูกใจ” เจ้าของอู่ว่ายิ้มๆ
   
ที่ไม่ต้องมีก็เพราะว่า อาจจะเป็นสเปคของทุกคนอยู่แล้ว

... เกือบทุกคนน่ะ

“คุณแทคล่ะ...”


“... แล้วตอบไปว่าไง”

คนถามยืนพิงผนังอยู่หน้าลิฟต์ เพราะพอเสร็จธุระกับคุณศรัณย์ผมกลับถึงตึกก็เจอว่าที่เภสัชกรซึ่งวันนี้คงเลิกเร็วเข้าพอดีตรงล็อบบี้ เลยขอไปเก็บของก่อนแล้วค่อยไปหาอะไรกินต่อ

ผมเหลือบมอง โอบหน้าตาเฉยๆ เหมือนเดิมแต่คิ้วขมวดนิดหน่อย

“เออ... ลิฟต์ช้าจัง”

“... รออยู่”

“ลิฟต์?”

“คำตอบ”

ผมพูดช้าๆ

“ก็มีไม่ได้แล้ว...”

ถึงตอนนี้ มีไปก็ไร้ประโยชน์นะเอาจริงๆ

คนฟังได้ยินแล้วหัวคิ้วยอมคลายลง ถามด้วยสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“เอ๊ะ ทำไมล่ะ”

“จะได้ไม่ต้องเที่ยวมองหาคนโน้นคนนี้อีกไง นู่นก็ไม่ตรง นี่ก็ยังไม่ใช่ เหนื่อย”

“พูดอ้อมโลก” โอบว่า แต่คราวนี้ยิ้ม

เวลาเรากำลังเรียนรู้ใคร ก็หวังว่า เขาคงเข้าใจอย่างเดียวกับที่เราเข้าใจ...


คืนวันเสาร์ผมกำลังกดรีโมตเรื่อยเปื่อยตอนที่ได้เมสเซจจากโอบว่ายังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันและใกล้ถึงตึก ผมรู้ว่าวันนี้อีกฝ่ายเลยไปงานแต่งงานรุ่นพี่คณะ สายรหัสไมค์จากโรงพยาบาล ถึงตัวเองจะเรียบร้อยแล้วแต่พอมาแบบนี้ปกติผมก็ออกไปนั่งกินขนมอะไรเป็นเพื่อน ส่งกลับไปก็ได้คำตอบว่าให้เจอกันร้านประจำที่ตรงข้าม

ผมถึงก่อนแป๊บหนึ่ง โอบเดินหน้ายุ่งนิดๆ เข้ามาพร้อมเพื่อนเจ้าเก่า น้องไมค์ไหว้ผมอย่างรวดเร็วแล้วว่างานแต่งแบบค็อกเทลสมัยนี้กินอะไรไม่ได้อิ่ม เลยขอตามมากินข้าวก่อนกลับหอนอกเมือง โอบก็บอกให้รีบกินเสร็จแล้วจะได้รีบกลับ

“ไม่รู้เร่งทำไมนักหนา... เมื่อกี้โต๊ะนั้นสั่งของหวานน่ากิ๊น...”   

โอบปล่อยเพื่อนคอยืดคอยาวกับการพยายามดูของกินคนอื่น หันมาถามผมที่นั่งดูดโอเลี้ยง

“ทับทิมกรอบไหม? เจ้านี้อร่อย”

“จะสอบอยู่แล้วยังสั่งแห้วมาให้เป็นลาง” ไมค์บ่น ส่วนเพื่อนว่า

"เอ้า... กินแห้ว ดีกว่าแห้วกิน..."

คนถือโชคลางกระทั่งชื่อส่ายหัว บอกรายการกับเจ้าของร้านแล้วยักคิ้ว

“ต้องลอดช่อง คราวนี้จะได้รอดอีก”

แล้วแต่จะว่า... ผมฟังไมค์พูดไปเรื่อยถึงงานคืนนี้ จนมาสะดุดนิดหนึ่ง

“โลกกลมมากเลย เจอเพื่อนพี่แทคด้วย เพิ่งรู้ว่าโอบมันก็รู้จัก”

ผมเหลือบมองคนนั่งข้างกันที่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก่อนวางด้วยท่าทางปกติแล้วยอมขยายความ

“... พี่ภัค”

“เห็นว่ารู้จักกับทางฝ่ายเจ้าบ่าว เรียนป. โทที่เดียวกันหรือไงนี่แหละ” น้องไมค์เอ่ยต่อ “ผมคุยกับเพื่อนอยู่หันมาอีกที สองคนนี้คุยอะไรกันไม่รู้ท่าทางติดพันเชียว... เรียกตั้งหลายหนกว่าจะได้ยิน”

“เรื่องทั่วไปนี่แหละ” โอบว่าก่อนบอกเพื่อนด้วยสุ้มเสียงติดจะรำคาญ “พูดให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหม”

น้องไมค์ก็ไม่สนใจ จ้วงลอดช่องต่อพลางเรื่อยเจื้อยเหมือนเดิม 

โอบไม่ได้ต่อบทสนทนาเรื่องนั้น และไม่ได้บอกว่าไม่มีอะไร... ผมไม่มีปัญหากับการที่ทั้งคู่ญาติดีกันอยู่แล้ว เพราะการเจอคนไม่ถูกชะตาแต่เลี่ยงไม่ได้เพราะเพื่อนเราเองดันรู้สึกตรงข้ามนั้นอึดอัดอึมครึมจนผมไม่อยากให้โอบหรือภัคต้องเผชิญทั้งสิ้น แต่ก็ยัง... คิดถึงตอนพบกันครั้งแรกที่ทั้งสองคนแทบถามคำตอบคำจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องให้คุยกัน ‘ติดพัน’ อย่างน้องไมค์ว่า
 
บางทีถ้าโอบเหมือนผม ไม่อธิบายก็เพราะมันไม่มีอะไรจะให้อธิบายจริงๆ

เพียงแต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองไม่ถามเพราะเข้าใจจนไม่มีอะไรต้องถามด้วยเหมือนกันหรือเปล่า


ตลอดสัปดาห์นั้นผมขจัดเรื่องรบกวนจิตใจออก ประจวบกับโอบทำแล็บมืดค่ำเหมือนเคย เลยไม่ได้เจอหน้ากันอีก พอพฤหัสก็เตือนตัวเองให้ตั้งนาฬิกาปลุกเช้ากว่าเดิมในวันรุ่งขึ้นเพราะต้องไปส่งคนสอบใบประกอบวิชาชีพครั้งที่สอง...

เย็นนั้นผมบอกพี่อิทเอาไว้ว่าจะเลยไปส่งที่ร้านเพื่อนเธอก่อนเป็นการด่วน เพราะพี่อิทรับปากดูหลานให้ระหว่างเพื่อนไปทำธุระช่วงหัวค่ำ ถ้าพี่อิทยังไม่ถึง เพื่อนของเธอก็ออกไม่ได้ แต่คราวเคราะห์ หลังจากวิ่งไปได้ระยะหนึ่งรถเจ้ากรรมก็ดับลงและสตาร์ทไม่ขึ้นอีก

ผมลงไปเปิดกระโปรงรถแต่ทำไปก็เท่านั้น ถึงจะขยับอะไรไปคนไม่รู้เรื่องนี้อย่างผมคงแก้ให้ติดขึ้นอีกโดยเร็วไม่ได้ พี่อิทตามลงมา ถลกแขนเสื้อ

“นี่เธอจะให้ฉันเข็นอะไรก็บอกนะ ถึงจิกส้นสูงมาแต่ฉันพร้อม...”

ผมให้พี่อิทกลับไปถือพวงมาลัย แต่ก็ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม ตอนค่ำแบบนี้อู่เถ้าแก่ที่ผมใช้ประจำปิดไปแล้ว กำลังพยายามค้นหาเบอร์กรณีฉุกเฉินอื่นพี่อิทก็เอ่ยขึ้น

“เออ โทรหาคุณศรัณย์ดีกว่ามั้ย”

ผมชะงัก แต่พี่อิทเป็นคนพูดแล้วทำเลย เธอจึงฉวยโทรศัพท์จากมือผมไปแล้วจัดการโทรออกเอง

“โทรหาอู่สิพี่อิทจะโทรหาคนทำไมล่ะ”

“แทค เธอจะเรื่องมากอะไรตอนนี้ เธอมีเบอร์อู่คุณศรัณย์เหรอ”

“ก็เดี๋ยวหา...” แต่สัญญาณตรงนั้นริบหรี่มากพี่อิทก็คงเห็น

“ชักช้าเสียเวลา คุณศรัณย์เขารับรองแข็งขันว่ามีอะไรล่ะโทรได้ เราทำงานให้เขามาเกือบสองปีละนะ แล้วก็ไม่ได้จะกวนให้มาเองเสียเมื่อไหร่ แค่ขอให้บอกอู่เขาใกล้ๆ นี่เฉยๆ ตังค์ก็จ่าย”

“... พี่อิทรีบก็ขึ้นแท็กซี่ไปก่อนเลยเดี๋ยวเสียคำพูด”

“ฉันจะปล่อยเธอทิ้งไว้อย่างนี้คนเดียวได้ไง” พี่อิทบอกโดยไม่สนใจคำท้วงว่าผมคงเอาตัวรอดได้โดยไม่ถูกจี้ปล้นหมกข้างทางอย่างที่คุณเธอวิตกก่อนหันไปพูดโทรศัพท์ต่อ

พี่อิทยืนรอจนเห็นไฟหน้ารถ มิไยที่ผมจะบอกให้ไปก่อน แต่รถที่แล่นตามหลังรถอู่อีกทีนั้นกลับเป็นคันที่ผมจำได้ว่าคุณศรัณย์ใช้อยู่เสมอ แล้วก็ได้รับการยืนยันจากเสียงอุทานของพี่อิทเมื่อเห็นคนที่ลงมา

“ต๊ายคุณศรัณย์มาเองเลย เกรงใจจัง”

ช่างดูเครื่องยนต์รถผมแล้วได้ความว่า... ต้องลาก คุณศรัณย์จึงบอกให้จัดการให้เรียบร้อยแล้วเสนอจะไปส่งผมและพี่อิท

ผมอยากรบกวนให้ไปส่งพี่อิทคนเดียวพอ เพราะเดี๋ยวผมหาโบกแท็กซี่กลับได้ แต่คุณศรัณย์บอกว่าไหนๆ ต้องตีเข้าเมืองกลับไปอู่สาขาใหญ่ ผ่านไปทางคอนโดผมอยู่แล้วไม่ได้ลำบาก พี่อิทก็ตีความว่าผมเรื่องมากอยากขัดน้ำใจลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทอีก จนต้องยอมเลยตามเลยในที่สุด

“... คุณแทคจำเป็นต้องใช้รถช่วงนี้หรือเปล่า” คุณศรัณย์ถามเมื่อขับรถมาได้ระยะหนึ่ง ผมเองก็คงเป็นเพื่อนคุยในรถที่ไม่ได้เรื่องเสียเลย เพราะบทสนทนาแทรกด้วยความเงียบเป็นพักๆ ตลอดทาง นึกเรื่องมาชวนคุยไม่เก่งเอาจริงๆ

“ก็... ครับ” ลำพังไปทำงานนั้นไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไพล่ไปคิดถึงพรุ่งนี้... รับปากแล้วกับใครที่เคยบอก... ไม่กลัวไม่ผ่านเพราะมีคนไปส่ง

“งั้นเอารถผมไปใช้ก่อนไหม” คนขับเสนออย่างมีน้ำใจ ผมเคยได้ยินเหมือนกันว่าถ้ารถเสียบางทีอู่จะมีบริการให้ยืมรถใช้ แต่กับอู่ระดับของคุณศรัณย์รถที่ไปซ่อมมีแต่ดังๆ แพงๆ บริการยิ่งต้องดีเลิศอยู่แล้ว ซึ่งเทียบมูลค่าค่าซ่อมเจ้ารถเก่าของผมคงไม่ใช่วิธีปฏิบัติปกติแน่

ผมปฏิเสธไป และต้องปฏิเสธอยู่หลายครั้งกว่าเจ้าของอู่จะยอม นอกจากรบกวนโดยไม่จำเป็นแล้วก็รู้สึกว่าการแยกเรื่องส่วนตัวออกจากงานคงไม่เป็นผลถ้าผมจะมายอมรับสิทธิพิเศษอะไรแบบนี้อีก 

“... ที่คุณแทคพูดวันนั้นผมก็เข้าใจนะ” ผ่านไปสักพักคุณศรัณย์ก็เอ่ยขึ้น

“... ครับ?”

“ที่ว่ามีสเปคไม่ได้แล้วน่ะ ทำงานนี้จะไปมีมันก็ลำบาก เผื่อมีคนถูกสเปคเข้ามาเป็นลูกค้า ความรับผิดชอบตรงหน้ามันคือต้องหาคู่ให้เขาใช่ไหมล่ะ คุณแทคยิ่งไม่ชอบให้สองเรื่องปนกันอยู่ แต่จะว่าไปสมัยนี้คนเราก็ถูกใจได้หลายคน คุยได้หลายคนนะ ตราบใดที่ยังไม่ตกลงเป็นแฟน...”

คุณศรัณย์พูดเหมือนภัค... แล้วก็จริงของเขา เพราะบริษัทที่ผมทำอยู่นี่ก็ส่งเสริมด้วยซ้ำ... แต่ใครคนหนึ่งเคยพูดไว้ว่า ถ้าพบคนที่อยากเจอแล้ว ก็ไม่อยากเจอใครอีก

เหมือนผมที่ไม่จำเป็นต้องมีสเปคอีก


ฝ่ารถติดมาถึงตึกได้ก็ใช้เวลาพอสมควร คุณศรัณย์ไม่ยอมส่งผมหน้าปากซอยทั้งๆ ที่เตือนแล้วว่าข้างในกลับรถยาก จนต้องลงไปช่วยดูช่วยโบก รถคันงามจึงได้แล่นจากไปโดยสวัสดิภาพ ถ้าเป็นรอยขึ้นมาไม่อยากจะคิดว่าต้องใช้เงินเดือนกี่เดือนถึงจะพอเหมือนกัน

เหลียวไปก็เจอเงาร่างคุ้นเคยที่ยืนอยู่ข้างเสาปากประตูทางเข้าตึกเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ที่ไม่เห็นคงเพราะผมก้มๆ เงยๆ ดูรถให้คุณศรัณย์นั่นแหละ อ้าปากจะทักแต่โอบพูดขึ้นก่อน
   
“นี่ก็งานหรือ”

แสงตรงนั้นสลัว เลยไม่เห็นสีหน้าว่าเป็นอย่างไร แต่น้ำเสียงนิ่งสนิทผิดเคย

“รถตาย ตอนเย็น...”

คนฟังขยับตัวนิดหนึ่ง แต่ใช้เสียงเดิม

“ตอนเย็น? ตอนนี้จะสี่ทุ่มแล้ว”

“ก็กลับถึงบ้านเรียบร้อยดี” ผมกำลังจะบอกว่าถึงพี่อิทไม่ได้อยู่ด้วยตอนนั้นและโทรหาคุณศรัณย์ ผมก็พอจะเอาตัวรอดกลับมาได้ไม่ให้ต้องเป็นห่วง ถ้า... นั่นคือสิ่งที่คนยืนกอดอกอยู่ตรงเชิงบันไดคิด

“เห็นแล้ว มีคนมาส่ง”

โอบไม่จำเป็นต้องย้ำ ใช่ว่าผมขอร้องอ้อนวอนให้คุณศรัณย์มาส่ง หรือว่าดีอกดีใจที่ได้นั่งซุปเปอร์คาร์แบบที่คนเล่นรถอยู่ต้องมองเหลียวหลังเสียเมื่อไร 

อีกฝ่ายยังพูดต่อ “มีเรื่องอะไร บอกกันบ้าง... จะได้ไม่รู้สึกว่า... อยู่ฝ่ายเดียว”

ท้ายประโยคพูดเบาจนผมไม่ได้ยิน แต่ถ้าโอบคาดหวังว่าผมควรต้องกดโทรศัพท์ โทรหาเป็นคนแรกแล้วบอกให้แล่นมาช่วยทั้งๆ ที่ตัวเองจะสอบสำคัญอยู่วันพรุ่งนี้และคงกำลังใช้สมาธิกับการซ้อมทำแล็บเป็นครั้งสุดท้าย ก็ควรต้องรู้ว่าผมไม่ใช่คนอย่างนั้น จะไม่ทำแบบนั้น

แล้วผมก็ไม่เห็นอยากจะคาดคั้นมันเลยว่า ถ้าน้องไมค์ไม่พูดขึ้นมาผมคงไม่รู้ว่าโอบเจอภัคและได้ ‘คุย’ กันอีก ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เรื่องผิดธรรมดาผิดปกติจนต้องจงใจละเอาไว้สักหน่อย มีอะไรก็พูดให้ฟัง... อย่างนั้นหรือ เรื่องนี้แหละที่ไม่เล่า ก็ไม่รู้ทำไม แต่เพราะอย่างนี้ จะพูดเหมือนว่าตัวเองบอกทุกอย่างและทำอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เหมือนกัน

โอบก็นิ่งเมื่อเห็นผมไม่ตอบ ก่อนเอ่ย “ไม่เป็นไร... เอาที่แทคสบายใจ”

ประโยคนี้โอบเคยพูดกับผม หลังเหตุการณ์ที่ร้านวันนั้น หลังจากที่ถามเรื่องรอยบนหลังคอ เพื่อบอกว่า จะรอรับฟังตอนผมพร้อมจะเล่า ซึ่ง... ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่า ความสบายใจของเรายังตรงกันอยู่หรือเปล่า 

ผมมองตามคนที่หันหลังเดินเข้าตึกไป

พรุ่งนี้... คงไม่ได้ไปส่งแล้ว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 26-04-2013 06:22:08
คุณ Windyne 55 นิดหน่อยนะ ทดสอบความราบรื่นของชีวิต

คุณ BeeRY โอ๋ ไม่เครียดนะคะ มันมีมั้ยมีเหตุผลมากไป 55 บางทีก็อยากให้บอกบ้างไรบ้างนิ ตอนนี้ปล่อยเสี่ยมีความสุขไปก่อน เหอๆ

คุณ yisren. จริงๆ ก็ยังไม่ได้ทำไรเลยนะ หรือไง

คุณ Theomen คนเขียนว่ามันก็เกินน้องนะ แต่แบบจริงๆ ก็ยังไม่ชัดเจนซะทีเดียว หวานๆ เดี๋ยวก่อนน้า ป.ล. โชคดีในการสอบ (เหมือนน้องโอบ) นะคะ

คุณวงกลม ขอบคุณมากๆ สำหรับการอ่านค่า

คุณ malula ขออึมไปอีกหน่อย อันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป

คุณ ReiSei ขอบคุณมากน้าที่รอ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ Naenprin ความจริงก็เริ่มเปิดแล้วจริงๆ นั่นแหละ ต้องฝากอ่านต่อด้วยแล้วแหละอย่างงี้

คุณ Aoya นิดนุงนะ คนเขียนว่าไม่เยอะแต่มันก็ต้องมีบ้าง มีอะไรต้องพูดอะจริงๆ แตคือมันก็มีเหตุผลของมันอยู่ละมัง

คุณ ่patsaporn น้องไมค์คิด (เอาเอง) ว่าสนิทกับโอบสุดอะค่ะ 55 แต่ไม่งั้นแทคก็ไม่รู้อะไรๆ นะ เพราะน้องไมค์เธอช่างพูด ซัมติงหรือเปล่าอันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่คราวนี้อดไปส่งเลยง่ะทำไงดี ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่า

คุณ goosongta ขอบคุณมากค่ะ ฝากอ่านต่อและเชียร์ต่อด้วยน้า

คุณ mesomeo2 กร๊าก น้องไมค์จะถูกฆ่าตัดตอนเสียแล้ว จากคนอ่าน ขอบคุณมากสำหรับบวกและเป็ดค่ะ

คุณ kingviolet ขอบคุณมากที่อ่านค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Millet ลางสังหรณ์คนอ่านคงแม่นนะ เหอ

คุณ kyoya11 ไม่รุอะ แต่นี่แหละชีวิต มันก็ต้องแก้กันไปเนอะ

คุณ drasil อันนี้ก็ต้องฝากอ่านต่อล่ะค่ะ นิดนุง

คุณ NewYearzz คนเขียนก็อยากให้เป็นงั้นแหละค่ะ แต่ก็นะเรื่องราว ก็มีบททดสอบบ้างอะไรบ้าง ขอบคุณมากนะคะ

คุณนอนกินแรง หวานบ้างแต่ก็ไม่หวานอย่างเดียว ฮา เขาไปเจอกันค่ะไม่รู้นัดไหม ต้องฝากอ่านต่อ กร๊าก ก็สงสัยตามคนเล่านั่นแหละเนอะ

คุณ Gokusan ฮ่าๆ เหมือนอยากให้ไมค์ได้รับกรรมสนองบ้าง คุณศรัณย์นี่ยังโผล่มาให้รำคาญอยู่อีกค่ะแต่อันที่จริงแกก็มีทางของแก ไว้อีกบทต่อๆ ไปคงได้คลี่ เผอิญมันเหมาะอะนะ รถเสีย เจ้าของอู่ แม้ เสี่ยก็รวยนะ แต่ไม่โดนหมั่นไส้อะ 55 ภัคมีคนของตัวเองหรือเปล่านั้นก็ต้องดูกันต่อไปเช่นกัน ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ Morethan ดีใจที่ได้พบกันอีกค่ะ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะคะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า ตัวละครก็มาเรื่อยๆ ค่ะ เราควรต้องเชียร์โอบถูกแล้วค่ะ 555 เรื่องความของทั้งสองที่สงสัยนั้นคงได้เผยอีกไม่ช้าไม่นานนี้แหละ 

คุณ cher7343 ไม่มากน้า มันก็มีไม่เข้าใจกันมั่งไรมั่ง นี่สองคนก็ทำตัวเข้าใจ๊เข้าใจกันมาตั้งนานแล้วนะ (รึเปล่า)

คุณ DarknLight แหะ อ่านตอนนี้ไม่รู้จะยิ้มได้หรือเปล่าสิคะ แต่ในอนาคตต้องกลับมายิ้มได้แน่ๆ ค่ะ

คุณ yumsonteen มันก็ไม่เศร้าซะทีเดียว ยังไงดี ต้องฝากอ่านต่อด้วยล่ะค่ะ ขอบคุณมากเลยน้า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เอาเป็นว่าน้องโอบสอบให้ผ่านละกัน เรื่องอื่นไว้ค่อยคิด ชีวิตคนเรามันก็มีเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง งี้แหละ

(ป.ล. แบบว่าบทนี้เขียนลำบากไงไม่รู้กว่าจะเสร็จ คือมันเป็นเหมือนกึ่งสะพานเชื่อมไปหาอะไรบางอย่าง...)

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เลยค่า เป็ดให้ทุกคนนน
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-04-2013 06:55:26
ไม่รู้สิ ตอนนี้เข้าใจแทคนะ เพราะนิสัยคล้ายๆกันเลย เรื่องที่จำเป็นก็บอกอยู่แล้ว แต่เรื่องที่เราคิดว่าไม่จำเป็นเราก็ไม่ได้บอกอะไร
เพื่อนยังเคยพูด เหมือนคนมีความลับเยอะ แต่จริงๆไม่มีอะไรซักหน่อย เราเองก็อยากรู้แค่เรื่องที่สมควรต้องรู้เท่านั้น เลยถูกมองว่าเย็นชาไปป่าวะแก :katai1:
แต่ตอนนี้รู้สึกว่าระหว่างโอบกับภัคไม่มีอะไรหรอก เผลอๆที่คุยกันอาจเป็นเรื่องของแทคก็ได้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีหรอก
เอาเป็นว่ารักกันไว้ดีกว่าเนอะ อย่าทำให้คนอ่านอึนไปมากกว่านี้เลย :z3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-04-2013 09:15:49
เฮ้อ  :katai5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 26-04-2013 10:13:53
มันเป็นเรื่องมองต่างมุมที่ต่างฝ่ายจะมีความไม่สบายใจเป็นของตัวเองนะ
ซึ่งจริง ๆ เราไม่รู้หรอกว่าลับหลังเราเค้าจะไปทำอะไรบ้าง เค้าก็เหมือนกัน

ไม่รู้จะมีอะไรรึเปล่า แต่เปิดใจนะโอบ แทค เปิดจ๊ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-04-2013 10:40:39
คิดมากไปเองทั้งสองฝ่าย
นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ
อึดอัด ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 26-04-2013 10:57:59
 :mew3:

เปิดใจรับคนข้างเถอะ 

โอบก็น่ารักนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 26-04-2013 11:02:28
รู้สึกว่าอึนๆ ซึนๆ ทั้งคู่...ปากหนัก
ไม่ถามไม่เล่าแล้วจะรู้เรื่องกันมั้ย??
ไม่มีใครนึกรู้และเดาใจใครได้ทุกอย่างหรอก

แค่รู้สึกว่า...ถ้าเราอยากเรียนรู้เขา แค่มองและคิดเอาเองไม่ได้
ประสบการณ์ของแต่ละคนต่างกัน...เราไม่รู้ว่าชีวิตที่เขายังไม่มีเรา เขาผ่านอะไรมา
เมื่อตกลงใจว่าจะมองแค่เขาต้องถามเพื่อจะรู้...ตราบใดที่เขาไม่รำคาญที่จะตอบน่ะนะ

ตอนนี้คุณศรัณย์ไม่ได้น่าหมั่นไส้ และภัคก็ไม่ได้ผิดอะไร
เป็นเรื่องของ-ใจ-ว่าจะมั่นคงพอมั้ย?? ทั้งโอบและน้องแทค

ยังเชียร์แพ็คคู่ต่อไป...แค่เหนื่อยแทนกับอาการ-อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม และตีความโดยรวมเอาเอง-... - -"
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 26-04-2013 11:17:47
 :mew2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 26-04-2013 12:29:25
ตามความคิดผมนะ เวลาคนเราเริ่มมีความรู้สึกดีๆต่อกัน สิ่งแรกๆคือเห็นความดีความน่ารัก

แต่พอมันเริ่มมากขึ้น ความต้องการอยากรู้เรื่องราวต่างๆต่อตัวคนๆนั้นก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย

และก็จะเริ่มรู้ในมุมไม่น่ารักบ้าง หรือบางครั้งก็มุมของเค้าที่ตัวเองไม่ชอบบ้าง และในหลายครั้งก็...คิดไปเอง

มันเป็นสิ่งไม่ดีๆที่พ่วงมากับความรัก ถ้าทั้งสองคนมีความเข้าใจกันมากพอก็คงจะผ่านมันไปได้

ผมรักคู่นี้นะ และเช่นกัน รักพี่คนเขียนด้วยครับ  :กอด1:


รอตอนต่ไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 26-04-2013 12:47:22
ตอนนี้มันหน่วงๆ จริงวุ้ย :katai4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 26-04-2013 14:08:23
อึดอัด  อยากง้างปากทั้งสองคนนี้มาก ๆ เดี๋ยวเชียร์คุณศรัณย์ซะเลยจริง ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 26-04-2013 18:01:19
มันก็มองกันคนละมุม จะให้มีความเห็นตรงกันทุกเรื่องก็คงจะไม่ีไหว :hao4:

เดี๋ยวเราคงเห็นโอบหึงโหด ฮิฮิ  :m4:

+1+เป็ดครับ :hao3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 26-04-2013 18:22:12
อึมครึม มืดมัว หม่นหมองกะเค้า 2 คน เปิดใจแล้วทำไมไม่เปิดให้หมดใจ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 26-04-2013 18:22:58
 :z3:
บรรยากาศอึมครึมกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 26-04-2013 18:30:10
 :hao3: อืมมมม บรรยากาศอึมครึมแหะ555555  :ling1:

แหม่แอบอึกอัดแทนแทค มีอะไรก็พูดกับน้องโอบไปตรงๆสิจ้ะ  :ling2:

ปล.ขอบคุนมากค่ะ สอบเสร็จแล้ว หวังว่าคะแนนจะออกมาสวย 5555 :hao7:
มาต่อไวๆนะคะรออยู่เสมอๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 26-04-2013 18:40:39
อึมครึมกันซะแล้วสองคนนี้ เหตุเกิดจากความอึดอัดไม่ถามกันให้เข้าใจ
ยิ่งมีความรู้สึกให้กันเพิ่มขึ้นเท่าไร ความคิดมากหวั่นไหวก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น
พักนี้ดูห่างๆกันแท้หนอ แต่โอบกับภัคนี่ยังไงๆ อย่าว่าแต่แทค คนอ่านก็ยังอยากรู้้เลย
หรือจะสนิทกันมากขึ้นเพราะคุยกันเรื่องแทค หรือโอบกันท่าแทคเลยเอาตัวเข้าแลก
คุณศรัณย์แกก็พยายามเนอะ บางทีก็อยากให้แทคลองคุยดูบ้างเหมือนกัน
ประชดเด็กพูดน้อย (หุๆ เอียงเข้าข้างแทคกันเห็นๆ) โอบหึงสินะที่เห็นแบบนั้น
ส่วนแทคก็มีเหตุผลของตัวเอง ก็ไม่อยากรบกวนโอบนี่ พี่แทคคิดถึงโอบเสมอนะ
รีบขอพี่เค้าเป็นแฟนดิโอบ จะได้หวงได้เต็มที่ ว้า...ไม่ได้ไปส่งกันแล้วน้องโอบจะมีกำลังใจมั้ยนิ
คิดถึงโมเม้นท์ตอนไปส่งกันรอบที่แล้ว

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 26-04-2013 19:51:44
อย่ามาดราม่าเลแบบนี้ได้มั้ย ไม่ชอบเลยอ่ะ แทคก็ไม่พูด โอบก็คิดเองเออเอง อะไรกันหล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 26-04-2013 23:34:07
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 28-04-2013 00:31:12
เรียกได้ว่าเป็นช่วงอึดอัด

ขอให้ผ่านอาการแบบนี้ไปเร็วๆ

อยากให้ทั้งสองคนชัดเจนไปเลย แอร๊ยยย กองเชียร์ลุ้นะเว้ยยเฮ่ยยยย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 29-04-2013 15:12:00
อ่านตอนนี้แล้วเหมือนโอบจะขี้หวงแทคมากเลย

ความรู้สึกก็เหมือนจะตรงกันแต่ก็ไม่ได้บอกอะไรกันให้ชัดเจน

ดูแล้วกำกวมทั้งคู่เลย โอบน่าสงสัยเรื่องที่คุยกับภัค ตั้งแต่ตอนที่แล้วและ

คุณศรัณย์ก็ชอบทำให้โอบเข้าใจแทคผิดแบบไม่ได้รู้ตัวตลอดเลย

รอตอนต่อไปนะคะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 12] 26 เม.ย. 56 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 29-04-2013 16:13:04
เป็นตอนที่รู้สึกอึดอัดมาก แอบคิดว่าแทคทำให้เรื่องอึดอัดมากไปหรือเปล่า
กับคุณศรัณย์ถ้าไม่ใช่ก็บอกปัดไปตรงๆ ไม่เชื่อหรอกว่าแทคไม่รู้ว่าโอบรู้สึกยังไงกับคุณศรัณย์
การที่ใช้คำว่าศึกษาแสดงว่ามันมากกว่าขั้นธรรมดา แล้วทำไมแทคถึงทำเหมือนกับโอบเป็นแค่เด็กข้างห้องธรรมดาล่ะ
ถ้าเรื่องนี้มันจะพัง มันก็พังเพราะความคิดของแทคเองคนเดียวนั่นแหละ

ป.ล. เริ่มอยากรู้แล้วว่าเรื่องครั้งที่เชียงใหม่มันพังเพราะสาเหตุจากอะไร
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 03-05-2013 15:13:48
บทที่ 13

เสียงเพลงเปิดเอาไว้เบาๆ ในออฟฟิศเหมือนทุกที ช่วงนี้เป็นช่วงก่อนพักกลางวันที่ดูเรื่อยๆ พองานซาผมก็หวนกลับไปคิดเรื่อง... เออนั่นแหละ ความจริงถึงรถจะซ่อมอยู่ แต่ถ้ายังอยากให้ไปด้วย...

จนแล้วจนรอดเมื่อเช้าก็ไม่มีเสียงเคาะประตู

เสียงพี่อิทคุยกับครีมลอยมาแว่วๆ ผมไม่ได้ฟังเท่าไหร่จนครีมร้องพร้อมกับหัวเราะ

“แหมเจ๊ เกินไป๊...”

"เอ๊า ชีวิตชาวเรานี่ไม่ได้ง่ายนะคะน้องครีม" พี่อิทตอบ ครื้นเครงกันทั้งคู่

"เป็นผู้หญิงก็ลำบากเหมือนกันแหละเจ๊"

"สรุปมันยากตั้งแต่เกิดมาแล้ว" ผมโพล่ง
 
สองคนหันมองผมแล้วมองกันเอง ก่อนพี่อิทจะบอก

"แทค โลกมืดมากนะวันนี้ มีเรื่องไรยะ"

ผมส่ายหัว ถอนใจ

ก็มันไม่ควรมีเรื่องเลยสักหน่อย...

บ่ายนั้นผมดูโทรศัพท์แต่ก็เงียบ จนเลิกงานแยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่รู้เป็นไงถึงมาอยู่หน้าสนามสอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมได้ ตอนไปถึงคลื่นมหาชนกำลังหลั่งไหลออกจากตึก หลายคนยืนออ คุยกับเพื่อนอยู่แถวนั้น ท่าทางโล่งใจที่สอบเสร็จสักที อันที่จริงผมก็รู้ว่าคงหาตัวคนที่อยากจะเจอยาก แต่... ลองดู 
 
ผมเห็นน้องไมค์ก่อน มองกวาดรอบแล้วก็ยังไม่เห็นคนเป็นเพื่อน ไมค์ปลีกตัวออกจากกลุ่ม ทักผมขึ้น

“อ้าวพี่แทค มาทำไรแถวนี้พี่”

“พอดีมาธุระ...” ผมไม่ได้ผิดศีลข้อสี่ ธุระจริงถึงจะเป็นธุระส่วนตัวก็เถอะ “เลยแวะมาดูเผื่อเพื่อนไมค์จะ...”

ผมเตรียมตัวหน้าม้านหากน้องไมค์หรือเพื่อนที่ว่าซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นตัวบอกว่าคงไปฉลองกับเพื่อนๆ ด้วยกัน แต่ยังพูดไม่จบประโยคไมค์ก็ขัดขึ้น

“อ้าว ไม่ได้นัดกันใช่ไหมพี่ ผมก็ว่ากินข้าวเสร็จแล้วจะขอไปดูหนูเรืองหน่อย แต่โอบจะกลับบ้าน ผมยังว่าไม่เอาหนูฝากพี่แทคเหรอ มันบอกสอบเสร็จแล้วจะเลยไปเอาหนูแล้วขึ้นรถไฟเลย สอบเสร็จก่อนผมป่านนี้คงไปแล้วมั้ง”   

กลับบ้าน... ขึ้นรถไฟ ก็แปลว่าบ้านที่ไชยปราการ สอบคราวนี้กว่าจะรู้ผลก็ตั้งเดือนหนึ่ง จะว่าไปก็ถือว่าว่าง เป็นผม ผมก็อยากกลับบ้าน แต่...

“... ไปนานมั้ย”

“ไม่รู้เหมือนกันพี่ ถามคำตอบคำ ผมเลยเลิกพูดกับมันไปก่อนดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” น้องไมค์ว่าแค่นั้นเพื่อนก็ตะโกนเรียก

ผมเดินกลับไปสถานีรถไฟฟ้า อารามใจลอย ดันจะขึ้นบันไดเลื่อนขาลงแทนเสียอีก


ตลอดสุดสัปดาห์นั้นผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไม่รู้กี่หน แต่สุดท้ายก็... วาง เพราะถ้าจะไปไม่บอกนี่ผมก็ควรแปลความหมายเองได้แล้วว่า... ไม่อยากให้กวน

จนวันจันทร์กลับมาแล้วยังไม่อยากขึ้นไปอุดอู้ในห้อง เลยนั่งอยู่ใต้ตึก ลมพัดมา เย็นชื้นๆ เหมือนฝนจะตก ควรจะสบายแต่ใจผมไม่สบาย นานแล้วที่ไม่ต้องคิดเรื่องใครมากขนาดนี้ เพราะผมไม่เคยปล่อยให้ใครเข้ามาอีกจน...

แล้วมันก็ไม่ใช่ความรู้สึกหวือหวา หรือว่าวูบวาบอะไรมากมายด้วยซ้ำ ไม่ได้ต้องใจสั่น ตื่นเต้นเหมือนขึ้นรถไฟเหาะตีลังกาอยู่ตลอดเวลา ต้องล่าต้องวิ่งตาม ร้อนรนเหมือนอยู่ในกองไฟ ซึ่ง... ผ่านมาแล้วก็คงผ่านไปในที่สุด แต่มันแค่สบายใจที่ได้อยู่ด้วย ที่ได้รับรู้ความเป็นไป ได้เห็นหน้า ได้รู้ว่าสบายดี ได้ให้กำลังใจ ได้ดูแล... บ้าง ก็เท่านั้น

ผมไม่ใช่จะเลือกแต่ความสบายใจ หรือคิดว่าในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์อะไรก็ตามต้องมีแต่ความราบรื่น แต่ถ้าเกิดเรื่องที่ทำให้ ‘ไม่สบายใจ’ ขึ้นแล้ว มันก็ควรจะมีวิธี...

แล้วคนที่กำลังคิดถึงอยู่ก็เดินเข้าประตูมาตอนนั้นพอดี สะพายแค่เป้ใบหนึ่ง แล้วที่หิ้วมือขวาก็คงเป็นกรงหนูขนส้ม

ความจริงผมไม่คิดว่าจะกลับเร็วขนาดนี้ กลับบ้านที่เชียงใหม่... ถ้าขึ้นรถไฟเย็นวันศุกร์คงถึงเช้า นี่สองวันก็กลับแล้ว

ผมลุกขึ้นยืน โอบก็เห็นผมเหมือนกัน ชะงักนิดหนึ่ง แต่ก็เดินตรงมาหา

ผมทักขึ้นก่อน “เห็นว่ากลับบ้าน”

“คุณป้าบอกเหรอ”

ความจริงแม่ไม่ได้บอก แต่ผมก็ไม่อยากขยายความว่าไปรอที่สนามสอบจนรู้เรื่องจากเพื่อน... และไม่อยู่ในอารมณ์จะย้ำว่า ใครกันที่พูด มีเรื่องอะไร ให้บอกกันบ้าง

“พ่อแม่สบายดีนะ”

โอบพยักหน้า ผมพูดต่อไปเรื่อย “แหมอิจฉา ได้กินอาหารเหนือเปรม แต่กลับไปแป๊บเดียวเอง อยู่บ้านบ้างหรือเปล่า หรือว่าเที่ยว?”

“ไม่ได้เที่ยว... ก็มี... เข้าไปในตัวเมือง เดินดู... คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” คำตอบไม่ชัดเจนนัก ผมมองอีกฝ่ายล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยมือข้างที่ว่าง ยื่นของบางอย่างให้

“... เผื่อต้องใช้”

กุญแจรถ...

โอบเคยบอกผมก่อนหน้านี้แล้วว่าที่บ้านซื้อรถใหม่ไว้เมื่อลูกชายเรียนจบ เจ้าตัวเองก็กะจะผ่อนคืนด้วยเงินเดือนพอเริ่มทำงานแล้ว ยังไม่ได้ขึ้นไปเอาสักที นี่คงขับกลับลงมานั่นแหละ

แต่ผมไม่ได้อยากได้รถใช้ อยากให้คนตรงหน้ากลับมาเหมือนเดิม ยิ้มง่ายๆ หัวเราะง่ายๆ มีอะไรก็บอกกัน... เหมือนเก่า

“ไม่เป็นไร ไม่กวนดีกว่า... พรุ่งนี้รถก็ซ่อมเสร็จแล้ว”

โอบนิ่ง ก่อนจะพูดแค่ “อ้อ” เก็บกุญแจลงกระเป๋าแล้วเดินไปเลย ผมได้แต่มองตาม จนอีกฝ่ายลับไปแล้วจึงนั่งลงที่เดิม

ความจริงผมยังอยากถามเรื่องอะไรอีกเยอะแยะ สอบเป็นไง ขับรถได้พักบ้างหรือเปล่าถ้าง่วง เหนื่อยไหม...

แต่... บางทีก็ดูจะสวนทางกัน


รุ่งขึ้นตอนเช้าผมก็ไปรับรถเสียให้มันเสร็จๆ กำลังตรวจเช็ครถพอดีคุณศรัณย์เดินออกมาจากในห้องทำงานพร้อม... ภัคพล

ผมชะงัก แต่คิดว่าคงคุยงานเพราะบริษัทที่ภัคทำอยู่ดูเรื่องกฎหมายให้บริษัทคุณศรัณย์ จนเจ้าของอู่เอ่ยทัก “คุณแทคมารับรถหรือ”

ผมยังไม่ทันพูดอะไร เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อีกฝ่ายจึงเอ่ยขอโทษก่อนเดินออกมาคุยอีกทางหนึ่ง ส่วนเพื่อนผมก็ยืนยิ้มๆ ตามปกติ ผมเลยว่า

“ทำงานแต่เช้า”

“ไม่ใช่งานหรอก”

ผมอึ้งไปนิดแล้วจึงประมวลผลได้ จริงๆ แล้วก็ไม่แปลกเพราะจะว่าไปสองคนยังโสดอยู่ทั้งคู่แถมเสน่ห์ล้นเหลือพอๆ กัน ภัคพูดต่อ

“นัดกินข้าวเช้า... เขารู้ว่าบริษัทเราน่ะมันเข้าสายเลิกดึก แต่คราวนี้ชวนกินด้วยไม่ได้นา ไว้ค่อยไปกินกันทีหลัง กลุ่มเพื่อนๆ ด้วย”
   
พอหายแปลกใจแล้วผมก็อดกังวลขึ้นมานิดๆ ไม่ได้ ไม่ใช่อะไร ผมดูบัญชีคุณศรัณย์มาเกือบสองปี พอเข้าใจแพทเทิร์นการเดตของเขา ตอนแรกก็เหมือนจะถูกชะตาทั้งนั้น คุณศรัณย์เป็นคนช่างเทคแคร์ อัธยาศัยดี จึงทำให้คนประทับใจได้ไม่ยาก แต่เพื่อนผมจบความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีนักได้ไม่นาน ถ้าคุณศรัณย์ยังมารูปแบบเดิมคือออกไปหนสองหนแล้วทิ้งขว้าง... โอเค ทิ้งขว้างอาจจะแรงไป เรียกว่าไม่ติดใจแล้ว เพื่อนผมก็เจ็บซ้ำสองอีก

แต่นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณศรัณย์ยังไม่ออกไปกับลูกค้าในบัญชีผมคนอื่นในช่วงนี้... เหมือนเขาดูทีละคนก็จริง แต่ระยะเวลาที่ดูตามสถิตินั้น... สั้นมาก

ถ้านับกันในฐานะที่ผมเป็นที่ปรึกษาของคุณศรัณย์อย่างเดียว ผมไม่ควรเข้าไปยุ่ง ควรจะยินดีด้วยซ้ำที่ตอนนี้เขามีคนออกไปด้วยที่ถูกใจ แต่เพราะ ‘คนที่ออกไปด้วย’ เป็นเพื่อนผม... ถ้าภัคเป็นลูกค้าในบัญชีตามปกติ ผมก็ไม่มีหน้าที่ไปเตือนก่อนอยู่แล้ว

“ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้นน่ะ... แค่คุยกันเฉยๆ ยังไม่ได้อะไรเลย”

“คุณศรัณย์เขา... ตัวเลือกเยอะ” ผมพยายามเลือกคำให้ตรงและไม่เกินความจริง “เขาก็รู้ด้วย”

“เอ้า แล้วคิดว่าเราไม่มีหรือ” ภัคก็หัวเราะขำ “ถ้ายังห่วงเรื่องที่แล้วมาน่ะก็ช่างเถอะ ก็รู้นี่ว่าไม่จมอยู่แล้ว”

ผมบอกภัคไปอีกหลายประโยค ไม่ได้ขายคุณศรัณย์หรือว่าใส่ร้ายอะไร แต่ก็อยากให้รู้ไว้ ภัคพยักหน้า ก่อนจะบอก

"ถ้าเป็นคนอื่นมาพูดด้วยอย่างนี้... จะคิดแล้วว่าเพราะหวงคุณศรัณย์ เลยไม่อยากให้เดต”

"เฮ้ย ไม่ใช่!" ผมร้อง "ก็แค่เป็น..."

"เออ รู้แล้ว รู้แล้ว ว่าห่วง ไม่ต้องห่วง” ภัคย้ำ ก่อนจะพูดสิ่งที่ทำให้ผมชะงักขึ้นมา “ความจริง... คุณศรัณย์เขาก็ลองพยายามคุยก่อนแล้วนี่ ตั้งแต่แรกๆ ที่ทำงานด้วยกันเลย แต่แทคไม่สนใจ เขาไม่ได้บอกหรอกนะ แต่เอาจากที่เห็น กับที่เคยเล่า...”

“เขาเป็นลูกค้า...”

“ลูกค้าหรือเปล่ามันไม่สำคัญเท่าชอบหรือเปล่าหรอก แต่นี่ก็คงไม่ชอบ...” ภัคว่า “ไม่ได้ชอบใช่มั้ย”

เพราะไม่ได้สนใจ หรือว่ามองคุณศรัณย์ในแง่นั้นตั้งแต่ต้น เลยไม่ได้อยู่ในความรู้สึกนึกคิดส่วนนั้น... ผมก็ตั้งใจทำงานให้เขาดีที่สุด เหมือนที่ทำให้เสี่ยน็อต ให้ลูกค้าคนอื่นๆ แต่ไม่ได้อยากจะใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น มากขึ้น...

“เปล่า ทำไมต้องถามอีก”

“ก็เอาให้แน่ใจ” ภัคหัวเราะ “ขนาดคนที่ชอบบางทียังดูเฉยๆ แต่นั่นก็เรา เป็นเพื่อน ถ้าเป็นคนที่แทคชอบเขาอาจจะเข้าใจก็ได้”

มีเรื่องหนึ่งที่ภัคคงไม่รู้ เพราะตอนภัคบอกผมว่าเจ้าของตัวอักษรย่อนั้นมีคนอื่นไปพร้อมกันด้วย เป็นรุ่นน้องคณะ ไม่ได้ไกลตัวเลย เขาก็มาบอกผมเหมือนกันว่าตัวผมเองปล่อยให้เกิดช่องว่างในความสัมพันธ์ขึ้นมา จนคนอื่นเข้ามาแทรก ทั้งๆ ที่เหตุผลเดียวกันนี้แหละ คือเหตุผลที่พูด ยามรัก... ว่าผมเข้าใจ เว้นระยะ ให้เขามีอิสระ... ก็อิสระจนไปมีคนอื่นได้ละมัง

ครั้งแรก... เมื่อบอก ผมพร้อมจะปรับปรุงตัว ถึงจะคิดว่าทำแล้ว ใส่ใจแล้ว ดูแลแล้ว แต่ถ้าต้องถึงกับไปเฝ้ากันที่คณะ กินข้าวด้วยกันทุกมื้อเขาก็รำคาญอีก (มารู้ภายหลังว่ากิ๊กเบอร์สาม อยู่คณะข้างๆ) แถมผมยังรำคาญตัวเอง เพราะต้องตามถามเฝ้าไม่ให้คลาดสายตาแบบนั้นไม่ใช่ตัวผมเลยสักนิดเดียว

ภัคไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงทนอยู่ได้ ทั้งๆ ที่เรื่องแบบนี้เกิด หลายหน... เรื่องเดิมๆ เดิมๆ... ทุกคู่คงมีเรื่องแบบนี้เข้ามาบ้าง หรือเปล่า? เพราะตอนแรกผมโทษตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง เชื่อเขา ที่บอกว่าผมเป็นสาเหตุให้เขาต้องไปหาคนอื่น แต่เมื่อสัญญาแล้วว่าจะไม่เกิดอีก แต่ยังเกิด ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่าถ้ามีอะไร ให้คุยกันก่อน ก็ทนจนทนไม่ไหวเพราะความทุกข์มันมากกว่าความสุขขึ้นทุกทีจนไม่เหลือแล้วนั่นแหละถึงได้ย้ายความรักมาไว้ที่ตัวเองบ้าง

กลับบ้าน กลับไปหาพ่อแม่ คนที่รักเราจริงๆ ดีกว่า

เพราะความรักย่อมไม่ทำร้ายกันแบบนี้

ก่อนหน้านั้นภัคเตือนแล้วเตือนอีกไม่ใช่ผมไม่ฟัง ไม่ใช่ไม่เชื่อว่าเพื่อนหวังดีหรือเป็นห่วง แต่จิตใจคนเรามักเลือกเอาเพียงสิ่งที่อยากได้ยิน เพราะหวังว่ามันจะเป็นไปตามนั้น...

ผมไม่รู้ว่ากับคราวนี้ ผมก็เลือกเห็นเลือกได้ยินแต่เฉพาะบางส่วนหรือเปล่า... ถ้าคุณศรัณย์ตัวเลือกเยอะ ภัคก็ตัวเลือกเยอะเหมือนกัน พูดออกจากปากเอง

ก่อนจะห้ามตัวเองทันผมก็เปรยขึ้นไปแล้ว “เออ... เห็นว่าเจอโอบอีกที่งานแต่งงาน”

“ใช่ โลกกลม ก็เลยคุยกันมาเรื่อยๆ”

ที่เคยคิดว่าคงไม่มีอะไรเพราะภัคก็รู้เรื่องเมื่อก่อน แต่เอาเข้าจริงภัคไม่ได้รู้เรื่องอะไรระหว่างโอบกับผมในปัจจุบัน หรือความจริงตอนนี้ผมก็ไม่รู้แล้วด้วยว่าระหว่างเรามันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ยังถาม

"แล้วคุณศรัณย์ล่ะ"

"กับคุณศรัณย์ก็คุย..." ภัคตอบแล้วว่า “เออเย็นนี้งานวันเกิดพี่อิทคงตามไปทีหลังนะ...”

คุณศรัณย์เดินออกมาพอดี ผมรีบขอตัว ปล่อยให้คนที่กำลัง ‘คุยๆ กัน’ ไปกินข้าวเช้าอย่างที่นัด แล้วพาตัวเองมาถึงออฟฟิศได้ไงไม่รู้

จอดรถแล้วผมก็ยังนั่งอยู่นิ่งๆ พูดให้ยุติธรรม โอบก็ไม่ได้มีพันธะอะไร ผมคิดตลอดว่าอีกฝ่ายยังมีสิทธิ์เลือก มีสิทธิ์เปลี่ยนใจ... อยากให้เป็นอย่างนั้นไหมมันอีกเรื่อง แต่ก็มีสิทธิ์... เหมือนที่ภัคหรือคุณศรัณย์มีสิทธิ์

เพราะยังไม่ได้ตกลงเป็นอะไรกับใครทั้งนั้น

ทำงานในบริษัทนี้ ผมควรจะไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ

นั่งอยู่อีกพักถึงนึกได้ ลืมของขวัญวันเกิดพี่อิทไว้ในห้อง ห่อแล้วเขียนการ์ดเรียบร้อยแล้วนั่นแหละแต่พักนี้ก็ใจลอยจนลืมหยิบออกมา ไว้เลิกงานกลับไปเอาแล้วค่อยเลยไปเลี้ยงก็แล้วกัน

ผมผ่านวันนั้นมาได้ กลับถึงคอนโดได้ ขึ้นชั้นห้า... เข้าห้องตัวเองหยิบของโดยไม่มองห้องตรงข้าม

ไม่ควรรู้สึกอะไร... แต่ยังไม่พร้อมเจอ เท่านั้นเอง


แต่ความพร้อมไม่พร้อมของผมคงไม่มีผลกับโชคชะตา เพราะพอย่างเข้าร้าน... ซึ่งเป็นร้านเดิมกับที่ผมเจอโอบครั้งแรก ก็เห็นเจ้าตัวนั่งอยู่ก่อนแล้วที่โต๊ะ พี่อิทลุกขึ้นรับผม เลยยื่นของขวัญให้ อวยพรกันเรียบร้อยก็อดถามเบาๆ ไม่ได้

“โอบไม่ได้เป็นลูกค้าเรา พี่อิทเชิญมาด้วยเหรอ”

“แหม... น้องโอบเขาน่ารัก” คำตอบไม่ตรงคำถาม ก่อนพี่อิทจะขยายความ “ขอให้ช่วยเป็นธุระเรื่องสถานที่ สายรหัสเขามีหุ้นอยู่ได้ส่วนลดตั้งเยอะจะไม่เชิญได้ไง”

ผมลงนั่งข้างครีมซึ่งกำลังสนุกสนานกับการกิน ภัคยังไม่มา อาจยังไม่เลิกงาน... แต่แล้วก็รู้สึกว่าที่ว่างข้างตัวมีคนจับจอง หันไปก็เจอ... คนตรงข้ามห้องนั่นแหละ

โอบมองผมนิ่งอยู่ครู่ก่อนเอ่ย “แท...”

“อ้าวคุณศรัณย์มา” ครีมยกมือไหว้แล้วเชิญให้นั่งอีกข้างแต่ผมผุดลุกขึ้น “คุณศรัณย์ครับผมเชิญคุยด้วยหน่อย”

คุณศรัณย์ดูงงๆ แต่ก็เดินตามมาโดยดี ผมไม่ได้หันไปมองอีกฝั่ง พยายามจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ต้องพูดก่อนภัคจะมาถึง

แต่อันที่จริงก็พูดลำบาก จะบอกออกไปโต้งๆ ว่า เพื่อนผมเพิ่งเลิกกับคนมาไม่ค่อยดี กรุณาระวังด้วยนี่คงยุ่งจนเกินเหตุ (เท่านี้ก็ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่ายุ่งอยู่แล้ว) ที่สำคัญ มันก้าวก่ายและขายเรื่องเพื่อนมากไป และผมก็เริ่มได้แค่

“คือ... ภัคเป็นเพื่อนผม”

“ผมรู้” อีกฝ่ายพยักหน้า “คุณแทคไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

“อย่างเพื่อนผมน่ะ... ใครเห็นก็ชอบ แต่ไม่ค่อยมีใครพยายามจะเข้าใจ... เท่าไหร่จริงๆ ก็เลย...”

“คุณแทคไม่ต้องห่วงหรอก” คุณศรัณย์ว่าอีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะ “ภัคเขาก็โตแล้ว เป็นผู้ใหญ่ ดูแลตัวเองได้ แล้วผมก็ไม่โกหกปิดบังเขา รับรอง นี่เรารู้กันหมดทุกอย่างแหละ ดีออก มีคู่แข่งยิ่งรู้สึกมีไฟ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ต้องมีท่าทีกับเราด้วยแหละนะ”

คุณศรัณย์คงรู้ว่า ‘คู่แข่ง’ อีกคนยังนั่งอยู่ข้างนอกด้วย ก็ดี มีผมแหละที่ไม่รู้หรือไม่อยากรู้อยู่คนเดียว ตอนแรกน่ะ

“เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวล” อีกฝ่ายบอก “ผมกับภัคเราพูดกันรู้เรื่อง แฟร์ๆ”

“... ครับ”

ผมเหลือบเห็นโอบเดินผ่านมา หยุดนิดหนึ่งแล้วก็ผ่านเลยไป... ผมรีบกลับโต๊ะก่อน ส่วนคุณศรัณย์ว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ถึงโต๊ะก็เจอภัคนั่งคุยกับครีมอยู่แล้ว

ผมพยายามคิดว่าผมก็ควรจะ ‘แฟร์ๆ’ เหมือนคุณศรัณย์ แต่รู้ตัวเองเอาตอนนี้ว่ายังไม่พร้อมจะเห็นโอบกับภัคด้วยกัน ทักไปคำสองคำก็บอกว่าปวดหัว ซึ่งปวดจริงๆ ขอกลับบ้านก่อน รีบลาพี่อิทที่ยังท้วงแล้วเดินออกมา

... เมื่อก่อนชีวิตคงง่ายกว่านี้ สมัยพ่อกับแม่ยังหนุ่มยังสาว ที่แม่บอกว่า เป็นเพื่อน... คือเพื่อนจริงๆ 'คุยกัน' ไม่มีหรอก มีแต่จีบ แล้วก็... ขอเป็นแฟน

ยุคสมัยเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน แต่ไม่ว่าจะยุคไหน ความรักก็ยังยากเหมือนเดิม

ผมยืนอยู่หน้าร้าน ตอนเย็นขับรถกลับแล้วก็จอดทิ้งไว้คอนโด ขี้เกียจขับออกมาอีกแล้วไง... พยายามงมหาแท็กซี่ว่างในมหาสมุทรรถ ใช้เวลาจนมีคนตามออกมาได้นั่นล่ะ

“ไปที่โต๊ะไม่เห็นแล้ว... พี่ภัคบอกปวดหัวจะกลับ ไม่สบายหรือเปล่า”

พูดเรื่องปวดหัวไม่สบายอะไรนี่ แล้วผมก็ดันนึกถึงยาพาราน้ำ สูตรเภสัชกรทำเฉพาะในแล็บตำรับนั้นขึ้นมา ความรู้สึกที่ว่ามีใครทำอะไรให้ ‘เป็นพิเศษคนเดียว’ น่ะหรือ...

“เมื่อกี้พี่ภัคว่า...”

“คุยก็คุย อย่าทำคนอื่นเขาเสียใจอีก... แล้วกัน”

“พูดอะ...” อีกฝ่ายคว้าแขนเอาไว้ ผมพูดต่อราบเรียบ

“กลับเข้าไปเถอะ”

โอบคลายมือลง มองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก และผมไม่ควรจะ ‘ถือ’ กับเรื่องแบบนี้ แค่คิดว่าน่าจะบอกให้รู้กันบ้าง เพราะคุณศรัณย์ หรือแม้แต่คู่เดตเสี่ยก็ไม่เคยให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าเขาเป็นคนเดียว หรือความจริงผมควรจะรู้เอง แต่ไพล่ไปคิดอีกทางก็ไม่รู้

ตอนนี้ หรือว่าเมื่อก่อน ก็รู้ทีหลังคนอื่นทุกที

พี่อิทตามออกมาแต่ผมได้แท็กซี่แล้ว เธอถามว่าโอบก็จะกลับด้วยหรือ บ้านอยู่ทางเดียวกัน กลับก็ดี เพราะผมดูหน้าตาไม่ค่อยสบาย

ผมชิงพูดเสียก่อน "โอบยังมีเรื่องคุยกับภัค"

ขึ้นรถแล้วผมไม่หันมองข้างหลัง ไม่มองอะไรทั้งนั้น บอกซอยคนขับ เอนหลังพิงพนักหลับตา

ทำไมถึงเรียกว่าหลุมรัก... ทำไมต้องเป็นหลุมด้วย

ถ้าตกแล้ว ก็อยากจะตกต่อไปเรื่อยๆ อยากให้ 'หลุม' นี้ ไม่มีที่สิ้นสุด

เพราะเมื่อถึงพื้นกะทันหันแล้วมันจุกและเจ็บ

"คุณ... คุณ!" ได้ยินเสียงเรียกแว่วๆ “แหมหลับเพลิน... ลุงถามว่าเลี้ยวซอยข้างหน้าเลยใช่ไหม”

ผมไม่ได้บอกลุงว่าไม่ได้หลับ ไม่รู้ว่าสีหน้าตัวเองเป็นยังไง แต่ลุงก็ถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเบาลง

"เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ" 

ผมมองออกนอกหน้าต่าง ตอบแบบที่รู้ว่าลุงคงไม่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไร ไม่ต้องมีใครเข้าใจก็ได้

"... รู้สึก... เหมือนตกจากที่สูงเลยลุง"

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 03-05-2013 15:16:25
คุณ BeeRY เนอะ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรสักหน่อย แต่คนอื่นมองแล้วคิดไปอีกแบบ  ขอโทษด้วยนะคะที่มันยังคงอึนอีกตอน แต่ใกล้แล้วละ

คุณ mild-dy ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Windyne เห็นด้วยทุกอย่าง (เล่นง่ายมาก 55) ฝากอ่านต่อละกันนุ ป.ล. แอบเห็นนิยายคนอ่าน ถึงยังไม่ได้ตามตอนนี้แต่เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณมากที่อ่านเรื่องนี้ค่ะ

คุณ malula อิชั้นว่าตอนยังไม่เป็นอะไรกันอะตัวคิดมากนะ คือมันไม่มีความแน่นอนไรเลยสักอย่าง 55 ยังไงก็ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

คุณ Naenprin นี่ก็เปิดใจ๊เปิดใจ ดูแอบตกหลุมเขาไปด้วยแล้วนะ 55 ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Gokusan มันเป็นแบบนี้จริงๆ บางทีคิดว่าไม่พูดก็น่าจะเข้าใจ แต่ความจริงมันเข้าใจไขว้เขวได้ง่ายมากถ้าไม่พูด นี่คุณศรัณย์เธอก็ไปหาคนที่เป็นไปได้ของเธอแล้ว คอยดูกันต่อนะคะว่าใจตัวเอกเรามั่นคงพอไหม แอบขอให้เชียร์แพ็คคู่ต่อ อิอิ

คุณ PapermintReal โอ๋ๆ อ่านต่อดีกว่าน้า

คุณ NewYearzz เห็นด้วยเหมือนกันค่ะ ยิ่งเรื่องคิดไปเองแต่เพราะมันอยู่ในความคิดของเรา จากสิ่งที่เราเห็นมา ก็เลยมั่นใจว่าถูกแล้วเนี่ย... แก้ยาก แต่ก็แก้ด้วยความเข้าใจนั่นแหละนะ ขอบคุณนะคะ รักคนอ่านเหมือนกัน

คุณ yisren. ตอนที่แล้วหน่วงแล้วตอนนี้เรียกว่าอะไรดี...

คุณ iforgive คุณศรัณย์เปลี่ยนเป้าหมายแล้วสิ จริงๆ ถ้าไม่ปากหนักจะไม่เกิดเรื่อง 55

คุณ mesomeo2 อร๊าย คาแรกเตอร์ไปเป็นนายหัวไรงิ 55

คุณ goosongta ขออึมต่ออีกตอนนะ แต่เรื่องนี้ส่วนไม่อึมเยอะกว่าแน่นอน ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ kyoya11 นิดนึงนะ อ่านต่อนะ อิอิ

คุณ Theomen คราวนี้แทคคงคิดว่าพูดไปตรงๆ ไม่ได้แล้วค่ะ แต่เรื่องมันก็จะคลี่แหละเนอะ ขอบคุณที่รออ่านค่า

คุณ ่patsaporn จริงค่ะ แล้วโอบภัคมันจะยังไงล่ะเนี่ย (อ่านต่อนะคะ อิอิ) คุณศรัณย์แกก็ไปพยายามกะคนที่มีท่าทีดีกว่า แทคไม่อยากกวนสมาธิโอบจริงๆ แหละค่ะ มีแต่คนอ่านที่เข้าใจแทค กร๊าก นี่ก็ไม่รู้ผลสอบจะออกมาเป็นไงเลยเนี่ย ขอบคุณเหมือนกันค่า

คุณ KAEHUB บางทีก็เกิดขึ้นได้ คนเรา เฮ้อ ถึงตอนนี้มันพูดยากจริงๆ นะ

คุณ kubkamsoda มาแล้ว ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณ Millet ผ่านมาก็ต้องมีผ่านไปจิ ถ้าไม่เกิดเมฆหมอกมันก็จะไม่เกิดความชัดเจนตามมากร๊าก ขอบคุณสำหรับการอ่านนะคะ

คุณนอนกินแรง หวงนะแต่แบบ ไม่รู้หวงได้มากเท่าไหร่เหมือนกัน เหอ ตอนแรกๆ ตอนความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจนก็มีกำกวมเช่นนี้แหละหนอ ขอบคุณที่อ่านนะคะ

คุณ pim_onelove มีส่วนนะ เป็นคนนิสัยอย่างนี้ด้วยส่วนหนึ่งแล้วก็คิดว่ากับคุณศรัณย์ไม่มีอะไรสักหน่อยซึ่งโอบก็ควรเข้าใจ (ก็เห็นเข้าใจมาตั้งนาน) ตอนนี้น่าจะได้คำตอบเรื่องที่เชียงใหม่มากขึ้นนะคะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เลขบทมันเป็นอันลัคกี้นัมเบอร์ (เกี่ยว?) ถ้ามองว่าโอเวอร์รีแอคไหมทั้งคู่ก็อาจจะ... แต่อารมณ์นั้นคนน้อยใจมันก็น้อยใจจริง (เคยอยู่ในเหตุการณ์คล้ายกันแต่ไม่ใช่ชีวิตคนเขียนเองนะ 55 แล้วเวลาเป็นแบบนี้จะไม่ดราม่าแบบระเบิดลงด้วย อึนงี้แหละ) ได้แต่ฝากให้อ่านต่อนะคะ

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากค่ะ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-05-2013 15:39:53
ไปกันใหญ่แล้วแทค คิดไปถึงไหนแล้ว
โอบก็นะ อุบเงียบอยู่ได้ มั่นใจตัวเองหน่อย
ยังไม่เริ่มก็เจ็บซะแล้ว อย่างนี้จะไม่เข็ดขยาดความรักได้ไง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 03-05-2013 15:42:20
ทำไมมันมืดมนกว่าเดิมครับ :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 03-05-2013 16:21:05
 :mew1:

รู้สึกเหมือนเรื่องราวจะไปกันใหญ่

ต่างคนต่างเข้าใจผิดอะไรไปกันใหญ่แล้ว

ทั้งคู่ก็ยังคงเงียบกันอยู่
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 03-05-2013 16:26:35
อึนๆ แต่เชียร์ให้ผ่านไปด้วยดี
ไม่พูดอะไรเพราะไม่ต้องอธิบายอะไร
บางทีมันก็ใช้กับคนรักกันมิได้เน้อ
โอบสู้ๆ
คุณแทคก็อ่อนให้น้องเยอะๆ หน่อยก็ได้
กดบวกและเป็ด :mew1:
ชอบทับทิมกรอบ แต่ลอดช่องหาร้านถูกใจยาก
ชอบน้ำกะทิแตงไทยมากกว่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 03-05-2013 16:39:31
เม้นท์ก่อนด้วยการอ่านคร่าวๆ << เดี๋ยวมาตามละเลียดต่อ

ยังไม่มีอารมณ์อยากอึนตาม แต่ก็...
ตาโอบ!! ถ้าเขาปิดโอกาส ตัดเธอออกจากชีวิต ฉันจะสมน้ำหน้าให้ ฮึ่ม!!

.....................................

กลับมาอ่านแบบค่อยๆ ค่อยๆ ไป...
ค่อยๆ ซึมซับความโกรธไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ...
น้องแทคอาจแค่น้อยใจหรือคิดโทษตัวเองว่าสำคัญตัวผิด
แต่ถ้าเป็นเราเองคงเดือดพล่านตั้งแต่ตาโอบกลับบ้านโดยไม่บอกแล้ว!!
ก็ถ้าไม่รู้สึกว่าเราพิเศษ...แล้วมาทำให้เราคิดว่าพิเศษทำไม(วะ) แถมเป็นได้คนเดียวไม่ใช่รึไง ฮึ่ย!!

แม้จะมีแต้มเล็กๆ ตรงที่กลับบ้านไปเอารถมาให้ใช้ แต่มัน.....
ไม่รู้ว่าจะทดสอบความรู้สึกหรือไม่ทันคิดว่าเขาจะรู้สึกอะไรเวลาที่เราไม่อยู่ด้วย
แต่คนที่มีแผล...แม้มันจะหายแล้ว แต่มันระแวง...เหมือนคนซ้อนมอ'ไซค์ พอล้มแผลหาย ก็ยังกลัวอยู่

คนรู้กับคนไม่รู้...ความรู้สึกมันต่างกัน
ในความสัมพันธ์...การไม่พูดไม่บอก ปล่อยให้คิดเข้าใจไปเอง จะทำให้เรื่องไปกันใหญ่

โกรธนะ ลดป้ายไฟลง...ก็เชียร์ต่อแหละ แต่มันเมื่อย ;p
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-05-2013 16:44:06
สงสารแทคนะ  จะโทษแทคก็ไม่ได้  โอบเองก็พอจะรู้นี่ว่าเกิดอะไรกับแทคบ้าง
โอบน้อยใจได้ แต่ต้องเข้าใจแทคด้วย ตอนนี้เหมือนแทคปลีกตัวออกมา คิดอะไรไปไกล
คงไม่อยากเจ็บมากไปกว่านี้  เฮ้อ ตอนหน้ามาเร็วหน่อยได้หรือเปล่าหนอ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-05-2013 19:13:07
อะไรกัน :hao5:
บรรยากาศช่างมืดซะเหลือเกิน :ling1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 03-05-2013 19:38:17
หน่วงมหากาพย์!!!! อ่านแล้วหัวใจมันเนือยๆ  :katai5: :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 03-05-2013 19:46:31
 :hao5: หัวเราะทั้งน้ำตาค่ะ ดีใจอ่ะที่มาอัพต่อ....แต่ทำไมมันบรรยากาศอึมครึมจังเลยอ่ะ  :m15:

"ทำไมถึงเรียกว่าหลุมรัก... ทำไมต้องเป็นหลุมด้วย

ถ้าตกแล้ว ก็อยากจะตกต่อไปเรื่อยๆ อยากให้ 'หลุม' นี้ ไม่มีที่สิ้นสุด

เพราะเมื่อถึงพื้นกะทันหันแล้วมันจุกและเจ็บ"
^
^
"... รู้สึก... เหมือนตกจากที่สูงเลยลุง"


อ่านประโยคนี้แล้วมัน...... :o12: ไม่มีคำบรรยายค่ะ :monkeysad:

มาต่อเร็วๆน้าาา :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 03-05-2013 20:39:22
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 03-05-2013 20:57:44
ตอนหน้าน้องโอบจะพยายามรุกเพื่อรักมากกว่านี้มั้ยคะ ถ้าไม่พี่ก็จะเลือกเชียร์แล้ว บู่วววว (เข้าข้างแทคกันเห็นๆ)
พี่แทคคิดไปไกลแล้วนะโอบ ภัคก็แบบดูมาลึกลับอะไรกันตอนนี้ทั้ง ๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ
คิดในแง่ดีโอบคงคุยกับภัคเรื่องแทครึป่าวนะ อาจถามโน่นนี่ตามประสา สนิทกันเร็วเกิ้น
แล้วถ้ามองในมุมโอบบ้างเค้าก็คงผิดหวังเสียใจน้อยใจของเค้าล่ะมั้งถึงรีบกลับบ้านไปไม่บอกแทค
ส่วนหนึ่งคงอยากรีบไปเอารถเห็นรถแทคเสียไม่อยากให้ลำบาก พอเอามาให้แทคก็แบบไม่เอาอีก
แล้วก็ไม่บอกว่าไปรอสนามสอบ โอย...คนอ่านอยากวิ่งปรู้ดไปเป็นพรายกระซิบมาก
พูดน้อยกันเหลือเกิน... ฟังกันก็น้อยอีก น้องโอบจะพูดอะไรทำไมพี่แทคไม่ฟังอ่าคะ คนอ่านอยากฟังจะแย่
แบบนี้ก็คิดกันไปคนละทางสองทางอ่ะสิ ลุ้นนะลุ้น อยากให้ได้กันมากกกกกกกกกก 555

มาต่อเร็ว ๆ ได้ป่ะคะ ขอแบบตรง ๆ กันเลย กร๊ากๆๆๆ  :katai2-1:  :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 03-05-2013 21:27:00
อื้อหือ ตอนนี้ทำเอาพูดไม่ออก รู้สึกจุกๆเจ็บๆหน่วงๆไปทั้งตอนเลย :mew4:
ขอให้เรื่องโอบกับภัคเป็นแค่การเข้าใจผิดด้วยเถอะ เจอแบบนี้เหมือนโดนหักหลังเลยอะ :mew6:
ร้องเพลงไม่รักไม่ต้องให้น้องโอบฟังดีไหมนะ สงสารแทคอะ เราเข้าใจความรู้สึกนะ เคยอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกัน ฮือออ :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 03-05-2013 22:07:08
อ่านนนิยายของคนเขียนที่เขียนดีๆมันก็ไม่ดีตรงนี้แหล่ะนะ

เพราะเวลาที่เค้าเขียนตอนที่สื่ออารมณ์และความรู้สึกทีไร ข้าพเจ้าน้ำตาแตกทุกที  :sad4:

พี่คนเขียนครับ รับผิดชอบน้ำตาผมด้วย มาต่อเร็วๆนะ  :hao3:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 03-05-2013 23:26:45
อีกแล้วแนวหน่วงไม่แน่นอน

ทั้งแทคทั้งโอบเหมือนต่างเข้าใจผิดกันอยู่เลย

ไม่คุยกันแล้วจะจบไหมเนี่ย

ติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 04-05-2013 00:58:13
คุณแทคนี่ขี้ใจน้อยหวงของ :hao3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 04-05-2013 01:17:45
เราสงสารแทคอ่ะ
เรื่องคิดไปเองนี่ก็ส่วนหนึ่งนะ แต่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนที่แทคเคยเจอมา
แทคคงคิดว่าตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าถลำลึกจนกลายเป็นบาดแผลอีกแผลหนึ่ง

แล้วยิ่งอีกฝ่ายเป็นเพื่อนที่รับรู้เรื่องราวทุกอย่าง รับรู้ช่วงเวลาความเจ็บปวดมาด้วยกันแล้ว
มาตอนนี้เพื่อนก็เพิ่งบาดเจ็บมาสดๆ ร้อนๆ
แทคก็เลยหลีกทางให้ด้วยความเต็มใจเลยล่ะ

แต่เราไม่เข้าใจโอบ โอบสับสนหรือกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ
ทำไมอยู่ดีๆ ถึงกลับบ้านไม่บอกไม่กล่าวแทคสักคำ
แถมไม่ติดต่ออะไรมาเลย ทั้งๆ ที่แทคเปิดใจให้ขนาดนี้แล้วแท้ๆ
แล้วอยู่ๆ เพื่อนก็มาบอกว่ากำลังคุยๆ กันอยู่
ต่อให้เข้มแข็งแค่ไหนก็คงต้องขอเวลาทำใจบ้าง

เราไม่โทษแทคเลย โอบสิทำไมมีอะไรไม่พูดไม่บอกกันล่ะ
ปล่อยให้คิดไปเองคนเดียวทำไม
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 04-05-2013 01:33:26
อาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะแทค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 04-05-2013 03:32:51
แม๊! มันช่างอึมครึมดีแท้
เข้าใจอารมณ์แทคนะ ชอบเค้าแต่ก็ไม่มีสิทธิ์จะหึงหวง
จะแสดงอารมณ์อะไรออกไปก็ไม่ได้ ทุกอย่างมันเลยอัดแน่นในใจ

หวังว่าสถานการณ์ระหว่างแทคกะโอบจะคลี่คลายในเร็ววัน

PS. ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะคุณเดหลี ถ้าชอบนิยายแฟนตาซีก็ลองแวะมาอ่านได้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 04-05-2013 11:22:32
อึนสุดๆ เมื่อไหร่จะคุยกันรู้เรื่องนะ ทั้งแท็คทั้งดอบเลย ต่างฝ่ายต่างคิดเองเออเองไปทั่ว แล้วจะมาเสียใจทีหลัง มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาแล้วนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 04-05-2013 15:42:43
อมพะนำกันทั้งสองคน จะเอาอะไรง้างดีน้อ
บรรยากาศอึมครึมเกินไปล่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 04-05-2013 18:41:18
โอบทำทุกอย่างเพื่อแทคจริงๆ ที่กลับบ้านเนี่ยคงตั้งใจไปเอารถมาให้ใช้
เมื่อไหร่เค้าจะเข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 05-05-2013 01:07:07
ต่างคนต่างก็หยั่งๆกัน โอ๊ยยยยย

เข้าใจทั้งสองคน เจ๊เข้าใจจจจ

แต่ทั้งสองคนต้องเข้าใจเจ๊ด้วย เจ๊อึดอัด 555555555555555555555

รีบชัดเจนเถอะ หม่นมากกอะ กรี๊ด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 05-05-2013 23:52:11
เบื่อแทค!!!

ตลอดเวลาที่โอบแสดงออกมาเนี่ยมันไม่ได้บอกอะไรเลย หรือช่วยให้คิดอะไรออกเลยใช่ไหม
ตลอดเวลาที่ผ่านมามีโอบคนเดียวที่แสดงออกอย่างชัดเจน ส่วนแทคเลือกที่จะสงวนท่าทีมาตลอด
พอโอบเลือกที่ถอยออกมาบ้าง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แทคก็ยังเลือกที่จะสงวนท่าทีต่อไป
เขาไม่โทรก็ไม่รู้จักโทรไปเองล่ะ เขาไม่พูดด้วยทำไมไม่รู้จักเข้าไปทักก่อน รู้จักไหมเคาะห้องตรงกันขามแล้วถามว่าจะไปห้องสอบยังไงน่ะทำเป็นไหม
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็รอจะให้โอบเป็นฝ่ายออกตัวก่อนเหมือนอย่างที่เคยชินมาตลอด เคยแสดงให้อีกฝ่ายรู้ไหมว่าแคร์เขาบ้างเหมือนกัน
เขากลับบ้านเพื่อไปเอารถมา พอเขาเสนอก็ดันบอกปัด เคยคิดเห็นใจเขาไหมว่าเหนื่อยขนาดไหนขับรถไปกลับต่างจังหวัดไกลๆ เนี่ย

พอเห็นเขาคุยกับคนอื่นเข้าหน่อยดันมาทำคิดมาก สรุปจะไม่ให้โอบคุยกับคนอื่นเลยหรือไง ทีตัวเองสนใจเขามากนักหรือไง


สรุปนะ ตอนนี้เบื่อนิสัยของแทคมาก 
.
.
.
อิน อิน อิน อิน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 06-05-2013 13:27:56
อ่านแล้วอึดอัดจัง เหมือนกับว่าถูกมึนตึงใส่ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทำผิดอะไร
ต่างคนต่างคิดแต่ไม่มีใครพูดออกมาสักคน แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะเข้าใจกันเนี่ย
ไม่เข้าใจกันแล้วทำแบบนี้ มันอึดอัดยิ่งกว่ามาชี้หน้าด่ากันซะอีก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 13] 3 พ.ค. 56 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 12-05-2013 19:52:44
ฮืออออออออออออออออออ คิดถึงแทค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 13-05-2013 11:27:15
บทที่ 14

ควันบุหรี่ลอยอ้อยอิ่งเป็นสาย เถ้าขาวค่อยหักร่วงลง ที่ยังเหลือติดแดงวาบขึ้น

ท้องฟ้ากรุงเทพฯ มืดหม่น รถราวิ่งกันขวักไขว่อยู่ข้างล่างแต่เสียงไม่ได้ยินถึงบนนี้เท่าไร
 
ผมพาดแขนตรงที่กั้น ทอดสายตาออกไปไกล...

เมื่อครู่กลับถึงห้องก็คว้าซองบุหรี่ไฟแช็ค มุ่งหน้าขึ้นดาดฟ้า ลมกลางคืนหอบพัดจนพาเอาละอองฝนที่เพิ่งตกเมื่อตอนเย็นมาด้วย ผมเคาะเถ้าบุหรี่ในมือขวาอีกครั้ง

งานนี้... เท่าที่ผ่านมา ผมก็คิดว่าทำได้บรรลุจุดประสงค์ ช่วยให้คนสมหวัง คนที่อาจจะไม่ได้เจอกัน ถ้าไม่มีเรา... ดีใจกับเขาถ้ามันไปได้สวยงาม ปลอบใจเขาถ้าตรงข้าม แต่ก็จะมีครั้งใหม่ ได้ลองใหม่ เจอคนใหม่ ถ้ายังไม่ถอดใจไปเสียก่อน

พี่อิทชวนขึ้นมาช่วยงานกัน ผมตกลง เพราะไม่อยากคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง   
 
อันที่จริงแล้ว ความรักต้องอาศัยการ ‘ช่วยเหลือ’ มากขนาดนั้นหรือเปล่า ผมคิดว่าตัวเองได้ช่วย แต่บทบาทของคนนอก ในกรณีนี้อาจเรียกว่าคนกลาง พ่อสื่อ หรืออะไรก็ตาม มันสำคัญแค่ไหน ผมก็ไม่รู้

อย่างภัคกับคุณศรัณย์ ก็ออกไปกันโดยผมไม่ต้องช่วย ทั้งๆ ที่ผมรู้จักทั้งสองคนมาก่อนแล้วตั้งนาน หรือไม่ต้องคิดว่าเพราะภัคเป็นเพื่อน ไม่ใช่ลูกค้า เพราะภัคไม่อยากให้ทำผมเลยไม่ทำก็ได้ ลองดูจากคนอื่น... แป๊วกับแฟน พ่อแม่ผม หรือที่ภัคไปเจอ... ใคร... ในงานแต่งงานรุ่นพี่ คนเรา... บทจะเจอก็เจอ บทจะชอบก็ชอบ ใครจะไปกะเกณฑ์ความรักความชอบได้จนถึงที่สุด ต้องรักเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร

เพราะความรักไม่มีกฎ หรือถ้ามี ก็คงเป็นกฎของตัวเอง

ผมห่วงภัค เลยไปพูดกับคุณศรัณย์ แต่สุดท้าย ภัคก็ยังต้องเป็นคนตัดสินใจเอง คิดเอง และเรื่องทั้งหมดก็เป็นเรื่องระหว่างภัคกับคุณศรัณย์ หรือภัคกับใครก็ตามที่เพื่อนเลือกจะคุยด้วย

ผมปกป้องเพื่อน ก็ใช่... จริงๆ ผมอาจจะพยายามปกป้องใจตัวเองไปพร้อมกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก พอปล่อยให้ใครเข้ามา ลดเกราะลงแล้ว... เขาก็มีส่วนแบ่งในการควบคุมจิตใจเรา จะสุขหรือว่าทุกข์ ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็มีส่วน... ยิ่งให้เข้ามามาก ยิ่งมีบทบาทมาก

โดยที่เราไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรด้วยซ้ำ

วันนี้ เป็นวันเดียวกับที่ผมอยู่เชียงใหม่เป็นวันสุดท้าย และสูบบุหรี่เป็นครั้งสุดท้าย

ตอนนั้นภัคไปเรียนต่อแล้ว ผมยังไปส่ง บอกเพื่อนว่า ไหว... จริงๆ แล้ว ไหวหรือไม่ไหว ในที่สุดตัวผมจะรู้เอง ภัคพยักหน้า เข้าใจ
 
สามวันต่อมา ในร้านอาหาร ซึ่งผมไม่ได้สนใจหรือจดจำรายละเอียดว่าร้านอะไร กับคนเดิม เรื่องเดิม... มีสายเรียกเข้า เขารับ บอกว่าที่บ้านเรียกจัดการธุระด่วน

ผมไม่พูดอะไร พอเขาไปก็ลุก จ่ายเงิน ออกจากร้าน เดินไปเรื่อยๆ

ตอนนั้นน้ำตาไม่ไหลด้วยซ้ำ รู้แค่เหนื่อย เหนื่อยมาก... ไม่ได้เหนื่อยเพราะเดิน เพราะร้อน

แต่เพราะรู้ว่า สายเมื่อกี้ ไม่ใช่ที่บ้าน

เหลือจะนับว่าครั้งที่เท่าไร เลยไม่นับ แต่รู้

เดินไร้จุดมุ่งหมายอยู่พักหนึ่งถึงได้กลับไปคอนโด เก็บของ เอาที่เป็นของตัวเอง เอาที่สำคัญ ใบปริญญา รูปถ่ายกับพ่อแม่ แล็ปท็อป หนังสือเสื้อผ้านิดหน่อย

ที่ไม่สำคัญก็ปล่อยไว้ ทิ้งเอาไว้ทั้งหมด

ผมจำได้ว่าไม่มีปัญหาในการเก็บของ แยกของตัวเอง กับของเขา... ไม่มีสักชิ้นที่อาลัยอาวรณ์ ไม่มีสักอย่างที่หยิบขึ้นมาแล้วคิดว่า นี่เคยไปซื้อด้วยกัน หรือเคยเป็นที่ระลึกสำหรับโอกาสโน้นโอกาสนี้ เพราะไม่อยากจะ ‘ระลึก’ ไม่ใช่ของผม ก็มองผ่านเลยไป

ความทรงจำที่ดี มีไหม... ต้องมีบ้าง แต่เมื่อถึงจุดนั้น ไม่มากพอจะรั้งใจให้อยู่ต่อได้อีก

ครั้งนี้ต่างจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วๆ มาอย่างไร อาจจะไม่ต่าง... แต่เพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนี่แหละ เพราะเรื่องอย่างเดิม ถ้าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า คำแก้ตัว... สัญญาไร้ความหมาย ทำให้เยื่อใยที่มีอยู่เบาบางลงทุกที
 
... รอเพียงฟางเส้นสุดท้าย และน้ำหนักของฟางเส้นเดียวนั้น ก็ทำให้หลังอูฐหักได้เหมือนกัน

เก็บของใส่รถเสร็จ ผมขับขึ้นดอยไปคนเดียว นั่งจนพระอาทิตย์ขึ้น จึงหยิบโทรศัพท์มากดหมายเลขที่จำขึ้นใจ

พ่อแม่ผมตื่นเช้าทั้งคู่ แม่เคยบอกพลางหัวเราะ ‘เป็นแม่เป็นเมียตื่นก่อนนอนทีหลัง เป็นครูก็ไปก่อนกลับทีหลัง’ ส่วนพ่อคอยแซว ตื่นก่อนลูกน่ะใช่ แต่ถ้าพ่อไม่ปลุกล่ะแม่ไม่ตื่นหรอก... ตอนนี้พ่อกับแม่คงกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่ที่โต๊ะตัวเก่า พ่ออ่านหนังสือพิมพ์ แม่เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่พ่อก็รู้เรื่องทั้งที่อ่านและฟัง ภาพเหล่านั้นผุดขึ้นมาอย่างชัดเจนแค่เพียงคิดถึง

ได้ยินเสียงคุ้นเคยรับสาย ผมก็บอกแม่ ‘แทคหลบบ้านนะ...'

หลบบ้าน... กลับบ้าน แต่ผมคิดถึง 'หลบ' อย่างความหมายในภาษากลาง เพราะผมอยากไปให้พ้นจากเรื่องราวทุกอย่าง แต่ก็แค่หลบ ไม่ได้คิดว่า... หนี

เพราะคงไม่มีใครตาม

ตอนเช้าหมอกลงเกือบแหกโค้งไปที ถึงกับต้องจอดให้ใจที่แทบกระดอนออกจากอกสงบลงเป็นปกติก่อน

หัวใจเป็นของเรา มีบางขณะที่อาจรู้สึกว่า ไม่ใช่อีกแล้ว แต่... ให้ได้ ก็เอากลับคืนมาได้ และสุดท้าย หัวใจก็ยังต้องเต้นต่อไป
 
แค่นี้ ไม่ตาย

ตลอดระยะทางมีจอดเติมน้ำมัน พักบ้างถ้าเริ่มล้า แปลกที่ไม่ค่อยหิว... นอกจากนั้นก็ไม่ได้หยุดเลยจนถึงบ้านเอาเกือบเที่ยงคืน
 
บ้านดูเหมือนเดิม... กระบองเพชรของพ่ออาจจะออกดอกเพิ่มมาบ้าง ต้นมะม่วงริมรั้วที่เคยปีนตอนเด็กๆ ยังอยู่ ทั้งที่ไม่ได้กลับมาสักพักแล้ว แต่รายละเอียดพวกนี้ไม่ได้เลือนไป

พ่อกับแม่ยังรอ บนโต๊ะมีกับข้าวที่แม่เก็บไว้ให้ เหมือนเมื่อก่อนตอนเรียนที่ผมกลับบ้านปิดเทอมใหญ่เพื่อมาเช็งเม้ง

... น้ำตาเริ่มไหลตอนกินข้าวฝีมือแม่นั่นเอง

พ่อกับแม่ไม่ได้ถามหรือซัก แต่นั่งอยู่ข้างๆ พ่อบีบไหล่ผมเบาๆ ส่วนแม่จับมือเอาไว้

ผมไม่เคยอยากขับรถไกลๆ คนเดียวอีก

... ถึงคู่เดตเสี่ยไปกับคนอื่น เสี่ยก็ยังอยู่ คุณศรัณย์รู้ว่าคนที่สนใจไม่ได้มองเขาคนเดียวแต่ไม่เลิกล้มความตั้งใจ ผมนับถือทั้งคู่ แต่ก็อีกนั่นแหละ เดตของเสี่ยไม่ใช่คนเดียวกันกับภัค และเสี่ยกับคุณศรัณย์ก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน

ผมถอยออกมาคราวนี้ มองได้ว่าเอาตัวรอด ไม่สู้ หรืออะไรก็ตาม ผมเคย ‘ไม่ตาย’ มาหนหนึ่ง แต่เพราะก่อนหน้าที่จะออกมานั้นความรู้สึกมันค่อยๆ หมดสิ้นลงไปเรื่อยๆ... นานแล้ว คราวนี้ คราวนี้... ผมไม่ใช่แมว ไม่มีเก้าชีวิต คราวนี้รับประกันไม่ได้ว่า... จะไม่ตาย


เสียงฝีเท้าดังกระทบพื้นจากเบื้องหลัง ดาดฟ้าไม่ค่อยมีใครขึ้นมา ผมถึงใช้เป็นที่ปลีกวิเวกเวลามีเรื่องต้องคิด แต่... ระยะหลังก็ไม่ได้ใช้เท่าไร

ผมเหลียวไปช้าๆ นึกรู้ว่าใคร

โอบก้าวเข้ามาใกล้พอจะเห็นหน้าได้ยินเสียงกัน มองผมอยู่นิ่งๆ แล้วสายตาจึงเลื่อนลงไปจับมือขวาที่ยังเหลือบุหรี่อยู่ค่อนมวน

อันที่จริงผมจุดเพราะชิน มีไฟแช็ค มีบุหรี่ แต่ไม่ได้สูบ ที่บอกว่าเลิกแล้ว เลิกขาด

ถ้า... เครียดก็จุดบ้าง มองเถ้าลามร่วง เคาะทิ้งไปเรื่อยๆ บอกตัวเองว่า ไหม้หมดมวนคงเลิกเครียด... ไม่รู้คราวนี้จะได้ผลหรือเปล่า

"... เวลาแทคไม่สบายใจ ชอบขึ้นมาที่สูงๆ ทุกที..."

อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนเหมือนรู้ว่าผมสงสัย ทำไมจึงตามจนเจอที่นี้ได้ เรื่องนี้สังเกตเอาคงไม่ได้ แต่วิธีการพูดทำให้ผมคิดว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมรู้สึก... โอบรู้จักผม รู้จักความเป็นผม นิสัยอะไรต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ ตอนแรกนึกว่าคงรู้จากแม่ แต่หลายอย่างก็ไม่ใช่ ต้องใส่ใจสังเกต และที่ใส่ใจ สังเกต ก็เพราะ...

ผมขยี้บุหรี่ทิ้ง พอแล้วกับการตกหลุมที่ขุดเอาไว้เอง ก็คงขุดลึกจนต้องใช้เวลานานกว่าจะปีนกลับขึ้นมาได้ ยิ่งอีกฝ่ายยังทำแบบนี้ ผมก็อยู่ตรงก้นหลุมนั่นแหละ เพราะไม่มีทางจะไปต่อ ไม่ว่าจะขึ้น... หรือลง

แต่โอบพูดเสียงเบา “อย่าเพิ่งไป ถ้าขออะไรก็ได้ จะขอให้อยู่ก่อน ให้ฟัง”

ผมชะงัก หยุดลงทั้งที่ไม่ตั้งใจ

“... คิดเสียว่า ใช้ของขวัญวันเกิด... แล้วกัน”

เก็บไว้ก่อน... จะขอต่อเมื่อคิดว่า สมควรจะได้...

แต่โอบก็ขอเพียงแค่ให้ผมหยุดฟังเท่านั้น

อีกฝ่ายพูดต่อ เบา แต่ชัดเจน

"ที่ว่า มีเรื่องอะไรบอกกันบ้าง แทคก็ยังคิดว่า ถ้าต้องบอกอะไร คือการกวน... แทคจะไปไหนเจอใคร ไม่มีปัญหา แค่... ถ้าไปเกิดปัญหาที่ไหนแล้ว ขอให้บอก แต่... ก็ทำใจ พยายามคิดว่าไม่เป็นไร เพราะรักเขาก่อนเป็นแบบนี้... เขาอยู่ในใจเราตลอด แต่เราอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้...”

“เดี๋ยว...”

ผมได้ยินเต็มที่ ตอนก่อนนู้น หรือแม้กระทั่งก่อนรู้เรื่องจากภัค ก่อนหน้านี้... คงดีใจ คนเรา... พอความรู้สึกตรงกัน จะใครรักใครก่อนไม่สำคัญ แล้วที่ว่า ‘อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้’ ก็ไม่จริง ไม่จริงมาตั้งนานแล้ว

แต่ตอนนี้... ที่ขัดขึ้น เพราะผมไม่ไหวกับการบอกรัก แต่ไม่ใช่ทั้งหมดใจ บอกว่ารัก แต่เดี๋ยวก็ไปหาคนอื่น ซึ่งผมยังไม่มีสิทธิ์จะรู้สึกอย่างนั้นกับคนตรงหน้า จะว่าเอาประสบการณ์ส่วนตัวที่ไม่ดีมาเป็นปัจจัยร่วมก็ได้ เกินเหตุไปก็ได้อีกเพราะมันแค่ครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวนั้นกินเวลาอยู่นาน... เยียวยาตัวเองนานยิ่งกว่า ผมจึงตัดไฟแต่ต้นลม

“แทค ฟัง...”

น้ำเสียงนั้นไม่ได้บังคับ กลับอ่อนโยนจนผมต้องหยุดเป็นครั้งที่สอง ยอมให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเอ่ยต่อ
   
“ในร้านก็พยายามจะพูด ลุกไปกับคุณศรัณย์เสียอีก ตามออกมา โดนไล่... ตอนนั้นงง... เสียใจ แต่ก่อนขึ้นรถแทคบอกพี่อิทว่า โอบต้องคุยกับพี่ภัค... ก็เลย... คิดว่าถามให้รู้เรื่องดีกว่า เพราะไม่รู้จะเคลียร์กันยังไงถ้ายังจับต้นชนปลายไม่ถูก พูดอะไรไปก็ยิ่งไม่ฟัง พี่ภัคถึงมาบอกว่า เจอกันก่อนหน้านี้ที่อู่คุณศรัณย์ พูดไปแทคอาจจะเข้าใจผิด”

ที่ไม่ฟังตั้งแต่ตอนนั้นยอมรับก็ได้ว่าเกิดบ้าบอส่วนหนึ่ง เพราะความไม่มั่นใจมันประดังประเดขึ้นมา และผมก็เกลียดความรู้สึกแบบนั้น... พอมาเรื่องนี้... ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมภัคถึงดูอ้อมค้อมทั้งๆ ที่ปกติก็พูดจาตรงๆ กันตลอด จนโอบพูดต่อเบาๆ 

“ตอนนั้นก็เสียใจ... นิดหนึ่ง ทำไมแทคถึงคิดว่าโอบจะไปคุยกับคนอื่นแบบนั้นอีก ตอนนี้ มองยังไม่มองแล้วเลย...”
 
“แต่ว่า...”

“เข้าใจผิด...” โอบย้ำ “แทคไปพูดอะไรกับคุณศรัณย์... พี่ภัคก็แบบเดียวกัน ทักก่อนเองที่โรงพยาบาล เพราะเขาเห็นตั้งแต่หนแรกที่เจอกันที่ร้านแล้ว มีแทคแหละที่ตอนนั้นยังไม่เห็น... แทคไม่อยากให้พี่ภัครู้ว่าไปพูดกับคุณศรัณย์ พี่ภัคเขาก็กลัวเพื่อนว่าก้าวก่ายเกินไปเหมือนกัน ตอนแรกก็เลยไม่ได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมา... ไมค์ดันพูดอีก โอบโกหกไม่เก่ง ไม่อยากโกหกด้วย”

แต่ตอนนี้ภัคคงรู้หมดแล้วแหละว่าผมก็ไปยุ่งแบบห้ามตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ภัคห่วง... ไม่แปลก เรื่องที่ผ่านมาคงทำให้ห่วงคนที่จะเข้ามาในชีวิต เพราะผมก็เป็นห่วงเพื่อน... คล้ายๆ กัน

“ไม่พูด... แต่ไม่คิดว่าจะเป็นต้นเหตุให้เข้าใจผิดไปขนาดนี้ เป็นเรื่องเดียวที่ไม่ได้บอก เรื่องอื่น หรือเรื่องต่อๆ ไป พูดหมดอยู่แล้ว”

“... กลับบ้านก็ไม่บอก” ผมพูดเบาๆ

โอบนิ่งไปนิดแล้วจึงว่า “เรื่องนั้น... ขอโทษที่ไปไม่บอก ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ค่อยออก ก่อนสอบอยากไปหานะ... อยากเห็นหน้า แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า คงไม่สนใจ... มากมั้ง ติดพันมาจากคืนก่อนด้วย พอกลับไป พ่อแม่ติดธุระอีก นัดคนไว้นาน วันอาทิตย์ก็ต้องออกไปฝางแล้วกว่าจะกลับอีกสี่ห้าวัน ยังว่า อยู่ๆ ก็มา... เลยขับรถเข้าไปเดินในตัวเมืองเชียงใหม่คนเดียว เดินตาม...”

ผมมองรอยยิ้มน้อยๆ นั้น โอบสบตาผมแล้วบอก

“... ตามทางที่เขาเคยแห่ขบวนยี่เป็งเมื่อปีนั้น คิดถึง... ตอนที่เห็นครั้งแรก ตอนนั้นดูมีความสุข...” 
 
ผมไม่เคยรู้ว่าโอบเห็นผมมาก่อนและจำได้ ตอนเราไปลอยกระทงด้วยกัน โอบบอกว่า ไปงานยี่เป็งในตัวเมืองเชียงใหม่ครั้งแรกปีนั้น ผมมองไม่เห็นอะไร เห็นแต่คนข้างตัว มีความสุข เพราะคิดว่าคนข้างๆ เป็นคนทำให้มีความสุขและจะเป็นอย่างนั้นเรื่อยไป แต่ผมก็เป็นเพียงเด็กปีสองที่ไม่รู้อะไรเลย

“จำได้... ไม่คิดว่าจะจำได้ แต่ก็จำได้ ไม่ลืมหรอก คนที่ติดอยู่ในใจ ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าความรักคืออะไรด้วยซ้ำ...”

ผมได้แต่ยืนฟัง เพราะอีกฝ่ายบอกให้ฟัง หัวใจเต้นแรง ต้องแรงกว่าเมื่อตอนขับรถจะตกเขา เลือดที่สูบฉีดให้กับความสุขคงมีกำลังกว่าความกลัว... คนตรงหน้าพูดต่อ

“ไม่ได้เจออีกนาน ก็ยังคิดถึงอยู่... บ้าง... ทั้งๆ ที่แทคก็มีแฟน มีความสุขไปแล้ว จนรู้จากคุณป้าที่บอกแม่ว่า อยู่ตึกนี้... อยู่คนเดียว ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรแต่... พอแทคใจดีด้วยนิดเดียวก็ไปไหนไม่รอด รู้ตัวอีกทีก็ไม่ได้มองที่ไหนอีก... เห็นสักไว้... เป๋ไปนิดหนึ่ง แต่มันก็เป็นอดีต ตอนนี้ ถ้าบอกแล้ว ไม่รัก... เสียใจแน่ ไม่ได้ลองพยายาม คง... เสียใจกว่า”

โอบก้าวเข้ามาใกล้ พูดเบาๆ “รู้ไหม รีบกลับ คิดถึง... อยู่ได้ไม่นานถ้ายังไม่ลงมาพูดกันให้รู้เรื่อง เป็นห่วง จะต้องไปหาลูกค้าไกลๆ อีกไหมวันเสาร์ จะไปยังไงเพราะรถยังเสียอยู่”

แต่กลับมา ก็โดนปฏิเสธไม่รับน้ำใจความช่วยเหลืออีก... ผมลดสายตาลงจนเห็นรอยแผลยาวที่ท่อนแขน ลูบปลายนิ้วลงแผ่วเบา

โอบก็มองอยู่เหมือนกัน ยิ้มนิดๆ “ที่บอกว่ามีเรื่องชอบขึ้นไปสูงๆ... บางเรื่องตอนเด็กๆ โอบก็จำไม่ได้ แต่เรื่องนี้จำได้ ถ้าโดนแม่ดุ ทะเลาะกับเพื่อน แทคก็ปีนขึ้นต้นไม้ อยู่บนนั้นตั้งนาน... คุณป้าเรียกกินข้าว ไม่ยอมลง คุณป้าให้โอบมาเรียก แทคถึงลง เพราะคิดว่าถ้าไม่ลงโอบจะไม่ได้กินข้าว”

แต่เรื่องนี้ผมก็จำได้ เจ้าเด็กข้างบ้านจะยืนแหงนหน้า ตะโกนปาวๆ ไปเรื่อย สรรหาอะไรต่างๆ มาพูดตามแต่จะนึกออก ‘คุณลุงบอกมีรังมดแดงนะ กัดเจ็บนะ ไม่กลัวตกเหรอ’

จนในที่สุดอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วบอก ‘แทค... ลงเหอะ หิวข้าว’

ไม้นี้ ผมใจอ่อนทุกทีไป

โอบแตะลงบนปลายนิ้วผมที่วางอยู่บนแขน บอกว่า “แต่ก็... นี่ไง... เคยไล่ตามมาแล้ว เจ็บตัวมาแล้ว ไม่เข็ด ยังทำอีก”

ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย อีกฝ่ายพูดต่อ “วันสุดท้าย... ก่อนที่แม่ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับญาติที่เชียงใหม่กะทันหัน แต่โอบไม่อยากไป มุดรั้วข้ามมา เพราะแทคเคยบอกว่า ขึ้นมาสูงๆ แล้วสบายใจ สมองเด็กแหละนะ คิดว่าแทคอาจจะยังอยู่ เพราะเห็นจากหน้าต่างว่า ขึ้นไปอีกตั้งแต่เช้า แต่พอปีนตามไป ก็ไม่เห็นแล้ว”

ตอนโอบมา ผมคงลงไปโรงเรียนกับเพื่อนแล้วแต่อีกฝ่ายไม่เห็น พอผมกลับจากโรงเรียน บ้านข้างๆ ก็ร้าง ไม่มีเด็กข้างบ้านกินข้าวเย็นด้วยเหมือนเคยอีกต่อไป ถ้าอย่างนั้นแผลเป็น...

“แม่มาตาม ตกใจ รีบก็เลย... ตกแอ้ก” คนเล่าหัวเราะ “แขนครูดอะไรไปบ้างก็ไม่รู้เย็บตั้งหลายเข็ม ตอนนั้นคิดว่าไม่มีใครช่วยเลย คุณลุงคุณป้าไปทำงาน แทคก็... ไม่อยู่แล้ว”

ผมจำได้ โอบเคยบอก ‘ย้ายไปเชียงใหม่ ร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์’ สรุปแล้ว... ไม่ได้เกินความจริง

“ทั้งหมดจะบอกว่าถึงเคยน้อยใจ แต่ไม่น้อยใจแล้ว... เพราะถ้าไม่รักกันบ้างก็ไม่เป็นแบบนี้ เรื่องพี่ภัคกับคุณศรัณย์โอบก็รู้ จริงๆ เพิ่งรู้ พี่ภัคยังไม่ได้รักคุณศรัณย์ แค่ชอบๆ... คุณศรัณย์ก็เหมือนกัน เลยมีตาไว้มองคนอื่น มองเฉยๆ ยังไม่เป็นไร แต่เขาก็รับได้ถ้าอีกคนไปใส่ใจดูแลคนอื่นเหมือนที่ทำกับเขา ถึงชอบคนอื่นมากกว่า มาบอกกันก็โอเค อาจจะแสดงความยินดีได้เสียด้วยซ้ำ ถ้ารักแล้ว... ไม่เป็นอย่างนั้น ใช่ไหม”

คนตรงหน้ายิ้ม

“ยอมรับไหมว่า เข้าใจผิด”

ผมพยักหน้า อีกฝ่ายพูดต่อ “ที่เหลือ โอบเข้าใจถูก?”

“บางส่วน”

ผมมองคนตรงหน้าคิ้วขมวดน้อยๆ ถามว่า “ส่วนไหน”

“ส่วนที่ว่า รักบ้าง... ที่จริง รักมาก... แล้ว”

ผมมีเรื่องอยากพูดอีกมากมาย อยากขอบคุณที่ไม่ถอดใจเลิกทิ้งกันไปกลางคัน ทั้งๆ ที่ผมก็รู้ตัวว่าไม่ใช่คนน่ารัก... แบบที่หลงรักได้ง่ายๆ แต่... ยังมีเวลา แล้วบางครั้ง ความรู้สึกที่อัดแน่นในใจก็สื่อออกไปได้ด้วยคำเพียงคำเดียว

คราวนี้โอบยิ้ม ขยับเข้ามาอีกหน่อย แผ่นกระดาษในมือถูกฉีกออกนิดหนึ่ง สอดเข้ามาในกระเป๋าเสื้อผม “นี่... ต้นขั้ว ขอเสร็จเรียบร้อย”

แค่นี้ผมก็นับถือที่โอบยังเก็บไอ้กระดาษยับยู่แผ่นนั้นไว้อยู่แล้ว ที่จริงไม่ต้องเก็บตัวกระดาษก็จำได้ว่าเคยบอกอะไรไว้ พร้อมจะให้ทวงเสมอ

คนตรงหน้ายังก้าวมาอีกก้าวจนปลายคางผมสัมผัสเข้ากับบ่า เอียงหน้าลงนิดก็พอดี แขนเรากระชับกันและกันเอาไว้ เป็นอ้อมกอดที่พอดีและอบอุ่น เป็นกอดที่ทำให้จำได้ว่า ดีจริงๆ ที่ยังมีการกอดนอกเหนือไปจากกับพ่อแม่ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง

อีกฝ่ายกดจมูกลงข้างขมับพร้อมทั้งกระซิบเบาๆ

"แต่นี่... ไม่ขอนะ อยากทำมาตั้งนานแล้ว"
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 13-05-2013 11:29:28
คุณ malula คิดเยอะมากจริงๆ แต่ตอนแรกโอบไม่รู้ว่าแทคไปรู้อะไรมาจากภัค 55

คุณ mesomeo2 เรื่องมันเกิดตอนกลางคืน 55 แต่ตอนนี้คลายความมืดมนแล้วนะคะ

คุณ Naenprin เนี่ย พูดแล้ว บางทีพูดกันมันก็ดีอย่างนี้แหละเนอะ

คุณ puppyluv มาค่ะ น่าจะผ่านไปด้วยดีแล้วแหละ นี่ก็อธิบายนะ ตอนแรกแค่ไม่รู้ว่าทำไรผิด เข้าใจผิดไปละ ขอบคุณมากสำหรับบวกและเป็ดนะคะ พูดถึงขนมมาหิวอีกแล้วละ

คุณ Gokusan ขอบคุณสำหรับการอ่านมากเลยน้า ตอนนี้ขอแรงยกป้ายไฟขึ้นต่อน้า 55 น้องโอบก็น้อยใจบ้างไรบ้างอะค่ะตอนแรก ไม่ได้ตั้งใจจะทดสอบอะไรหรอก นี่ก็พูดแล้วละ

คุณ iforgive จริงเห็นด้วย มาแล้วน้า ฝากอ่านต่อนะคะ

คุณ kyoya11 ก็ตอนนี้หวังว่าจะเคลียร์แล้วและสว่างแล้ว (ซักที ฮา)

คุณ yisren. ไม่หน่วงแล้วน้า ห่วงหัวใจคนอ่าน 55

คุณ Theomen มาค่ะอ่านต่อดีกว่า 55 ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ขอบคุณสำหรับการอ่านมากนะคะ

คุณ Takarajung_TK ขอบคุณที่เข้ามาจ้า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ ่patsaporn รุกพอมั้ยคะ (บอกน้องโอบ เธอเป็นพระเอกนะ! ช่วยทำไรหน่อย 55) ก็จะเห็นว่าทำไมภัคต้องลึกลับก็เหมือนแทคทำลึกลับเรียกคุณศรัณย์ไปคุยน่ะแหละ ตอนนี้น้องโอบเลยขอให้ฟังซะเลย ขอบคุณมากนะคะ

คุณ BeeRY มันลงแล้วมันก็ต้องขึ้นค่ะ (กราฟน่ะ) น้องโอบไม่ไปหาคนอื่นหรอกเนอะ

คุณ NewYearzz ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับการอ่าน โอ๋ อย่าร้องน้า ดีขึ้นแล้วนะคะ สถานการณ์ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณนอนกินแรง ไม่หน่วงละ เข้าใจผิดมันก็ต้องเคลียร์ คุยกันก็จบ อิอิ ขอบคุณที่อ่านนะคะ

คุณ yumsonteen นี่ก็ไม่แสดงแล้วนะฉากหลบดีกว่า ฮา

คุณ Aoya ขอบคุณมากนะคะสำหรับการอ่าน นี่คิดอย่างนั้นจริงๆ อะ ตัดใจก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะตายจริง โอบก็นอยไปบ้างอะค่ะ แต่รู้ว่าควรจะบอกแหละ ก็อาจจะดีมั้งทำให้กลับไปทวนตั้งแต่เจอกันที่ยี่เป็ง ซึ่งไอ้การเปิดใจอย่างแทคนี่มันอาจจะน้อยไปในสายตาบางคนก็ได้นะ แบบชอบก็แสดงออกมากกว่านี้หน่อยมั้ยอะไรงิ หวังว่าอ่านตอนนี้โอบจะคะแนนดีขึ้นบ้างนะคะ

คุณ drasil การมโนนี่มันร้ายแรงกว่าความจริงมาก ฮ่าๆ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณน้า

คุณ Windyne ขอบคุณสำหรับการอ่านมากนะคะ ใช่ป่ะล่ะยังไม่ไรกันมากบางทีก็วางตัวไม่ค่อยถูก ก็ถือว่าคลี่แล้วนะ เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ

คุณ KAEHUB เนี่ยคุย ก็เลยรู้เรื่อง ฮา บางทีคิดเองเออเองก็มีบ้างเลยต้องเคลียร์งี้แล

คุณ DarknLight พูดแล้ววว ไม่อึมแล้วเนอะ

คุณ goosongta ใช่แล้ว ไปมันก็คิดถึงนะ นี่ก็ถือว่าเข้าใจกันแล้วล่ะเนอะ

คุณ Millet มันสิบสี่บทแล้วมันควรจะเลิกหยั่งและลุยได้แล้ว กร๊าก ชัดยังคะตอนนี้ อิอิ

คุณ pim_onelove นิสัยบางอย่างแทคเป็นปัญหาจริงๆ นะ แต่มันก็มาจากปัญหาเมื่อก่อนด้วยส่วนนึง ที่จริงก็รู้แหละ แล้วก็คงแสดงออกน้อยไปกว่าที่ควร ในภายภาคหน้าควรดีขึ้น เหอ นี่ถ้าโอบไม่ใช่พระเอกประเภทนี้ไม่รู้จะทำไง จริงๆ ก็ไม่เชิงไม่ให้คุยแต่อยากให้บอกมั่งละมั้ง ความรู้สึกคนมันก็ซับซ้อนไปเรื่อย ฝากอ่านต่อด้วยละกันนะคะ อิอิ ขอบคุณมากค่า

คุณ u_cosmos เนี่ยความรู้สึกของโอบ เพราะจริงๆ โอบไม่รู้นะว่าภัคบอกอะไรแทคไป ตอนแรก ตอนนี้ก็พูดแล้วล่ะค่ะ เคลียร์กันเนอะๆ

คุณ hobozaki แทคมาแล้ววว ขอบคุณสำหรับการอ่านมากค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เริ่มด้วยความมืดแต่ตอนลงท้ายไม่มืดแล้วนะ อิอิ ก็จะเห็นว่าทำไมแทคดันทุรังซ่อมรถอยู่ได้แล้วก็... แผลเป็นแขนน้องโอบ แล้วก็อีกหลายเรื่อง เนอะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากๆ นะคะ คิดถึงทุกคนอยากมาบ่อยกว่านี้แต่ว่างานไม่ค่อยเอื้ออำนวย - -" อิบทความรู้สึกอย่างเต็มนี่ก็เขียนนานอีก (หลายอารมณ์ดูขึ้นต้นกะตอนท้ายสิ) พูดไปพูดมาก็จะขอบคุณนั่นแหละ 55 ขอบคุณที่อ่านนะคะ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 13-05-2013 11:40:32
โอเคค่ะ ชามนี้เป็นมาม่าต้มสามนาที ไม่อืด แป๊บเดียวหมดชาม แต่กลัวใจคุณเดหลีจริงจริ๊งว่าจะมีชามใหม่ใหญ่กว่าเก่า -_-"

จริง ๆ ถ้าพูดกันตรง ๆ ก็เข้าใจกันนานแล้วนะแทค ปากหนักเอง
แต่ก็เข้าใจแหละ สถานะนั้นจะให้พูดก็คงยากอยู่

ตาโอบเค้าเปิดไฟเขียวละ คราวนี้ 's ได้แระนะแทคนะ ^^

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 13-05-2013 12:05:11
กรี๊ดดดดดดดดดดดด หายใจคล่องขึ้นหน่อยยยย

อบอุ่นที่สุดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 13-05-2013 12:05:50
 :hao5: คนอ่านก็อยากจะขอบคุณโอบที่ไม่ทิ้งแทคไปจริงๆ 555

อ่านแล้วรู้สึกว่าโอบรักแทคมากจริงๆ อิจฉาๆๆ  :impress3:

มาต่อไวๆนะ รออ่านอยู่เหมือนกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-05-2013 12:35:08
เข้าใจกันได้สักที จากนี้คงมีแต่ความหวาน หว๊านหวาน
น้องโอบน่ารักจัง รักตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าความรักคืออะไร อยากมีความทรงจำดีดีแบบนี้บ้างจัง
อิจฉาแทคที่เจอคนจริงใจ ใส่ใจอย่างโอบ ดูอย่างเรื่องยาซิ คนแบบนี้ยังมีอีกมั้ย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 13-05-2013 12:43:43
 :mew3:

กว่าจะเปิดใจกันได้ นะคะทั้งคู่

แต่ดีใจจังที่พูดออกมาแล้ว

น่ารักอ่ะ อ่านตอนนี้แล้วยิ้มไม่หุบเลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 13-05-2013 12:44:50
แสงสว่างค่อยๆส่องลงมาปัดเป่าความมืดอึมครึมที่ปกปิดหัวใจเรา เพียงเปิดใจรับฟัง ทุกอย่างจะคลี่คลาย... o8


*พิมพ์ไรวะตู  :mew5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-05-2013 12:46:51
โล่งอกมากมาย ดีใจที่โอบยังไม่ถอดใจและแทคก็ไม่ได้ปากแข็งอีกต่อไป :กอด1:
อยากจะเชียร์คุณศรัณย์กับภัคไปกันได้ดีด้วยนะ :katai2-1:
ต่อจากนี้ก็ขอให้มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นนะจ๊ะ คู่รักคู่ใหม่ :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-05-2013 13:29:53
ขอบคุณโอบที่มาเฉลยความในใจเสียที
ต่างคนต่างชอบแต่ไม่ยอมพูด
ยืนยันกันชัด ๆ อย่างนี้จะได้ไปต่อไม่รีรอ
โอบตอนเด็กน่ารักจัง...ไม่เห็นเคยมีเพื่อนข้างบ้านแบบนี้มั่งฮิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-05-2013 15:08:49
อูยยยย  ลุ้นจนเมื่อย  กว่าจะขยับปากบอกความในใจกันได้
คงไม่มีมาม่าอีกแล้วเนาะ สงสารแทคเรื่องแฟนเก่าจัง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 13-05-2013 15:43:13
ยังไม่ได้อ่าน...มองผ่านๆ ก็เห็นว่าเขาดีกันแล้ว
เลื่อนมาดูตอบเม้นท์...รู้สึกว่าตาโอบโดนหนัก ตอนนี้เลยเคลียร์ๆ ฮ่าๆ

ขอเวลาอ่านแป๊บ.............

ท่าทางว่า...ป้ายไฟไม่ต้องยกแล้วมั้ง
นั่งตามดูไปเรื่อยๆ ไม่เมื่อยดี...อย่ามีน้อยใจ-ไม่ถามเป็นพอ
รออีกซักพัก...มักได้กัน << เอ๊ะๆ คิดอะไรออกไป...เอาน่า พอให้ชื่นใจกันไป

หวังว่าจะไม่มีมารความหลังตามมาผจญ...
แค่นี้ก็ซึนกันมาจะทั่วทุกคนล่ะ ^^"

รอดูวิธีการศึกษาดูใจในแบบตาโอบและแทคต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 13-05-2013 16:09:27
โล่ง 

 :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-05-2013 20:13:29
ในที่สุด :mc3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 13-05-2013 21:27:10
ค่อยหายใจโล่งขึ้น หน่วงๆ มาหลายตอนละ

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 13-05-2013 21:30:25
ในที่สุดก็เข้าใจกันแล้วววววว  :mc4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 13-05-2013 21:40:25
ดีใจที่สุดท้ายทั้งสองคนก็ได้คุยกัน และบอกอะไรๆที่อยู่ในใจกันให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แต่ต้องยอมรับเลยอ่านตอนนี้แล้วรู้สึกนับถือโอบมากอ่ะ เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรจริงๆ ชอบคำที่โอบว่าไม่ลอง คงเสียใจกว่า มันก็จริงแหละหากเราลองได้รักใครซักคนมากๆแล้ว แล้วยิ่งอย่างโอบแบบรักมานานและรักมาก แถมยังมั่นคงในรักได้ขนาดนี้ ทุ่มซะขนาดนี้ แต่หากหยุดกลางคันเอาดื้อๆ ไม่ไปต่ออีกหน่อย ไม่เคลียร์ให้รู้เรื่องไปเลยว่าตกลงอีกฝ่ายคิดยังไงกันแน่ สุดท้ายคงต้องเสียใจมากแน่ๆหากมารู้ทีหลังว่าเค้าคิดยังไงกับเรา แท็คเองก็เหมือนกัน ก็เข้าใจแหล่ะว่าโดนอดีตทำร้ายมา แต่ยังดีทีแท็คเองก็รู้ว่าถ้าโอบไม่มาบอกในตอนนี้แท็คคงคิดจะตัดใจอีกแน่ แล้วสุดท้ายตัวเองก็คงต้องเสียใจอีกชัวร์ ก็ได้แต่หวังว่าต่อไปทั้งคู่คงจะพูดอะไรกันให้มากขึ้น ฟังและบอกอีกฝ่ายให้มากขึ้นไม่ใช่เอาแต่คิดเองไปเรื่อยกันอย่างนี้ เพราะต่อให้รักกันมากแค่ไหน แต่หากมีเรื่องไม่ขเจกันแล้วไม่คุยกันสุดท้ายความรักอาจจะไปไม่รอดก็เป็นได้
ยาวมากมายเพิ่งเคยตอบอะไรยาวๆแบบนี้ รู้สึกตัวเองคิดแทนเค้ามากไปป่ะเนี่ย อินจัดจริงชั้น 55 แต่เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเข้าใจชีวิตของคนเราเลยจริงๆอ่ะ เพราะบ่อยครั้งเมื่อเจอกับความรัก มันก็มักจะมีความกลัวตามมาด้วยเสมอ อยู่ที่ว่าเราอยากจะเลือกทางเดินแบบไหนนั่นเองแหละ แต่สำหรับหลายๆคนมันก็คงยากที่จะเอื้อมมือออกไปคว้าอะไรที่เราเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถคว้าได้หรือป่าวนั่นแหละ ถึงทำให้หลายๆครั้งจึงต้องเจ็บกับความรักอยู่แบบนี้ไง คุณเดหลีเขียนได้แบบเราว่ามันเข้าใจอารมณ์จริงๆอ่ะ สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-05-2013 23:44:07
อ่านที่แทคคิดตอนแรกแล้ว เอาแล้ว ยาวแล้วไงเพราะถอดจิตถอดใจคิดจะถอนตัวออกมาสุด ๆ
อดีตก็มีีส่วนสำคัญนะ คนเคยเจอมันก็หลอนแหละ เพื่อนภัค คุณศรันย์ ทุกอย่างน้องโอบเป็นผู้เฉลย
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พระเอกชั้นคัมมิ่งแล้วจ้า ขอบอกแม่ยกโอบแทคปลื้มมาก
กว่าดอกพิกุลจะร่วงจากปาก ต้องแข็งขันคึกคักนิดหนึ่งพี่แทคถึงจะอยู่ฟังด้วย ได้คุยกันหมดเปลือกเลย
ชอบทุกตอนที่เล่าถึงความรักของโอบ แอบรักเค้าอ่ะจิเด็กน้อย รักตั้งแต่ยังไม่รู้ว่ารักเป็นยังไง
แค่แทคทำดีด้วยก็ไปไหนไม่รอดแล้ว ฮิ้ววววว น่าร้อกอ่ะ~~ รักเด็กมันกรุบกริบกรุบกรอบแบบนี้เอง
โกรธด้วยนะที่พี่แทคคิดว่าโอบจะไปรักคนอื่น ที่พูดถึงตอนไปเชียงใหม่แล้วเห็นแทคอยู่กับแฟน
แล้วดูมีความสุขนี่น่าสงสารเบา ๆ เนอะ อารมณ์แบบเห็นรักครั้งแรกของตัวเอง เราเห็นเค้าแต่เค้าไม่เห็นเรา
แต่เวลาก็พัดพามาเจอกันจนได้เนอะ ๆๆๆ ดีใจ ที่ได้เปิดใจคุยและฟังกัน ลุ้นมากบอกตรง
น้องโอบแกก็ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ อธิบายสุด ๆ นะ แต่ภาษาค่อนข้างเข้าใจยากต้องค่อย ๆ อ่านไป
มันเต็มไปด้วยอารมณ์อ่ะค่ะ มีเก็บต้นขั้วไว้ เอ็นดูพระเอกฟร่ะ กลัวพี่เค้าไม่ให้เหรอ
ชอบตอนแทคคิดว่าตัวเองไม่น่ามีคนมาหลงรักด้วยนะ 555 อะไร ออกจะน่ารัก น่ารักแบบผู้ใหญ่ พึ่งพาได้
ห่วงใย แต่อ่อนแอกับคนรักบ้างก็ดีเนอะ เค้าอยากให้บอก เค้าอยากช่วยเหลือ โอเคนะแทคนะ

เม้นท์ยาวเวิ่นเว้อ เป็นปลื้มค่ะ ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 14-05-2013 00:35:09
ในที่สุดก็เข้าใจกันซะที เข้าใจนะว่าแทคมีความหลังที่ไม่ดีกับความรัก แต่ก็ไม่อยากให้คิดว่าทุกคนจะต้องเหมือนคนรักเก่านะ

*ชูป้ายไฟเชียร์โอบให้หววานใส่อีก*  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 14-05-2013 00:48:39
น่ารัก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: bennnyyy ที่ 14-05-2013 01:03:17
รักอึมครึมเริ่มกระจ่างแล้ว

เพิ่งมาอ่านใหม่ขอฝากตัวด้วยค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 14-05-2013 22:30:30
เวรแล้ว เค้ารักกันผมก็ร้องไห้  :hao5:

รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 14-05-2013 23:50:58
หันหน้าคุยกันสักที ลุ้นแทบตายว่าจะคืนดีกันยังไง

เพราะต่างคนต่างเข้าใจผิด แถมแทคยังหนีอีกด้วย

และในที่สุดก็บอกรักกันแล้ว ทีนี้จะได้ไม่ต้องกลัวอะไรอีก

ชอบฉากสุดท้ายนะ บรรยายการกอดได้ดีเลยล่ะ :mew1:

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: yoyo ที่ 15-05-2013 11:46:19
เย้ๆๆๆ
แฮปปี้แล้ว
รักกันๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 15-05-2013 12:45:11
ค่อยหายใจได้สะดวกหน่อย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 14] 13 พ.ค. 56 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 17-05-2013 00:31:43
อั๊ย  เค้าเขินนะโอบ  ว่าแต่ทำไรอ่ะ  เล่าให้ฟังบ้าง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 23-05-2013 02:43:05
บทที่ 15

คืนนั้น... เราคุยกันมากมายหลายเรื่อง จนรู้สึกว่า ไม่มีอะไรติดขัด ค้างอยู่ในใจให้ขุ่นมัวอีก เรื่องที่บางทีอาจจะดูไม่สลักสำคัญ แต่พอเกี่ยวกับคนที่รักแล้ว ก็สำคัญอยู่ดี ไหล่เราชนกัน หัวเราะให้กับกระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หัวใจของผมมีความสุข... และรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอย่างนั้นเช่นเดียวกัน
 
เมื่อเรารักใคร ความสุขของเขาก็เป็นความสุขของเราด้วย ยิ่งดีใจถ้า... เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความสุขนั้น ถึงก่อนหน้าจะมีปัญหาอยู่บ้าง ทุกคนที่มีความรักคงอยากจะสมหวัง ไม่มีใครอยากเสียใจ แต่ถ้าไม่มีละอองน้ำในอากาศ ไม่ว่าจะจากน้ำตาของความเจ็บปวด หรือมรสุมของความไม่เข้าใจ ก็คงไม่มีสายรุ้งให้ได้ชื่นชม จากเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา ผมบอกตัวเองว่า จะไม่ถอยง่ายๆ ไม่พูดหรือไม่ฟัง ทำให้คนข้างตัวเสียใจอีก 


โอบสอบผ่านแล้วรอขึ้นทะเบียน ตอนนี้เลยกลับไปช่วยโครงการวิจัยของอาจารย์ที่คณะเหมือนเดิม ยังไม่ใช่งานเต็มเวลา บางทีก็ทำครึ่งวันหรือตามอาจารย์จะเรียก ต่างกับพักนี้ที่งานผมชุก ที่จริงเราก็เจอกันตามปกติ เย็นบ้างสุดสัปดาห์บ้าง แต่มีวันหนึ่งจู่ๆ โอบก็โผล่ไปที่ออฟฟิศตอนพักกลางวัน ครีมกำลังเก็บของ ยังส่งเสียงชวนเพราะทุกคนก็ถือว่ารู้จักกันหมด พี่อิทรีบเบรกไว้แถมส่งสายตามีลับลมคมนัย ผมรู้ว่าเดี๋ยวขึ้นมาต้องถูกซักแน่ แต่นึกห่วงคนมาหาว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า เลยรีบออกไปก่อน

แต่โอบก็กินข้าวเฉย คุยโน่นนี่ตามปกติ จนผมต้องถามเพราะมันใกล้จะหมดเวลาพักกลางวันแล้ว เจ้าตัวกลับบอกว่า
 
“ไม่เห็นต้องมีเรื่องอะไรเลย ก็อยากเจอ... เดี๋ยวพอเริ่มงานที่โรงพยาบาลก็แวบไม่ได้แล้ว”

ทั้งๆ ที่ผมทำงานด้านนี้ แต่พอมาถึงเรื่องตัวเองก็รู้สึกว่ายังต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เพราะรักของใคร... ก็ของคนนั้น ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจจะเทียบ มันคงติดอยู่ในใจเองเฉยๆ เนื่องจากเมื่อก่อนถ้าอยู่ๆ ‘ใคร’ ที่คบด้วยโผล่มาแบบไม่ได้นัดละก็เป็นอันมีเรื่องให้ต้องแก้กันทุกทีไป ทั้งเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก บางทีเป็นปัญหาบ้าบอคอแตกอะไรไม่รู้ แต่นี่โอบก็มาเพราะอยากเจอผมเฉยๆ

และการกระทำเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้... ก็สร้างความสุขได้แล้ว

โอบบอกว่าเย็นนี้อยู่เฝ้าเครื่องให้อาจารย์ น่าจะกลับเย็นหน่อย “... เผื่อมีคนไปหาอีกที่คณะจะได้ไม่ต้องคอย”

“ใครเหรอ” ผมถาม ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ก็ใครล่ะที่ไปหาที่คณะตอนสอบเสร็จ”

นี่ก็... ไมค์รู้ โลกรู้ แต่อันที่จริงก็ปกติที่เพื่อนจะบอกเจ้าตัว และผมเลยจุดที่จะปฏิเสธให้ป่วยการนานแล้ว กับเรื่องนี้ คนคนนี้ ผมไม่มีฟอร์มจะต้องไว้อีก

แยกจากกันขึ้นมาบนออฟฟิศ พี่อิทกับครีมถึงก่อนแล้วแต่ไม่ยักถาม ครีมนั่งอมยิ้มแก้มแดง... ผมเลยพอเดาได้ว่าพี่อิทคงบอกอะไรไปแล้วนั่นแหละ กลายเป็นผมเสียเองที่ต้องกระซิบถามพี่อิทเอาทีหลัง เพราะไม่รู้ว่าคุณเธอรู้ตั้งแต่ตอนไหน

“... ก็ตั้งแต่ต้นแหละ”

ผมอึ้ง ในห้องนอกจากเสียงแอร์หึ่งแล้วก็มีแต่เสียงเปิดปิดตู้เย็นที่ครีมไปคุ้ยช็อกโกแลตกล่องใหม่ของคุณศรัณย์มา ก่อนจะได้สติถาม “ต้นขนาดไหน”

“แหม... ฉันผ่านโลกมาก่อนเธอมั้ย พอจะมองอะไรออก ที่จริงให้นามบัตรเสร็จฉันก็ลองโทรไปถามความคืบหน้า เธอน่ะทำงานช้า...”

ผมคิดว่าพี่อิทรู้จากการโทรเช็คงานผมนี่แหละมากกว่า

“กับคนอื่นก็ปล่อยให้ผมทำไม่เห็นเช็คเลย”

“ก็คนนี้ฉันมีเซนส์ ทำไมล่ะ คนอื่นฉันรู้ว่าเขาไม่จริงจังแล้วเธอก็ไม่สนด้วย แต่ว่า...” พี่อิทก็พูดแค่นั้นแล้วบอก “ยิ่งพอภัคไปเจอนี้ยิ่งคอนเฟิร์มเซนส์ฉัน”

“ครีมต้องพัฒนาอีกเยอะเลยเจ๊ ครีมก็อยู่พร้อมพี่ภัค ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” ครีมว่าหลังจากกลับมานั่งที่โต๊ะ

“หนูตั้งใจทำงานก็ดีแล้วน้องครีม ของอย่างนี้มันมากับประสบการณ์ค่ะ...”

วงแตกเพราะครีมถามต่อเสียงซื่อ “แล้วทำไมเจ๊ยังไม่มีแฟนสักที...”

พี่อิทจึงไล่ให้ทุกคนกลับไปทำงาน ความจริงเรื่องแบบนี้ พอถึงจังหวะเวลาชีวิตก็มา จะเร่งให้เร็วหรือยืดให้ช้า ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียวเสียด้วย แค่บางที คนที่ไม่ใช่ก็มักจะมาก่อนคนที่ใช่ เท่านั้นเอง


ค่ำวันรุ่งขึ้นโอบมานั่งห้องผมตามปกติ แต่แม่โทรมา เพราะภาคใต้เพิ่งไฟดับไปหลายจังหวัดรวมถึงสงขลา แต่จริงๆ สายที่จ่ายไฟลงใต้ยาวมากโดยที่ข้างล่างก็กำลังน้อย ไม่รู้โรงไฟฟ้าใหม่ที่กำหนดน่าจะเสร็จปีหน้าจะทันแก้ปัญหาได้หรือเปล่า ไฟดับทีแม่ก็โทรมาทีเนื่องจากเป็นห่วงลูก (น่าจะกลับกันมากกว่า) บอกว่าคราวนี้โทรติดยากเสียด้วย

“นี่แม่ก็บอกให้พ่ออยู่เฉยๆ เที่ยวเดินหาไฟฉาย ดูซิ... ชนโต๊ะเข่าเขียวเลย แม่น่ะรู้ว่าเก็บไว้ที่ไหน พ่อเราใช่ตาดีพอตกกลางคืน... ถ้าที่กรุงเทพฯ ไฟดับลูกอย่าเพิ่งรีบลุกไปทำอะไรนะ ให้ชินกับความมืดก่อนเดี๋ยวล้มหัวร้างข้างแตก มีอะไรก็เรียกน้องโอบเผื่อช่วยเหลือกันได้...”

ประโยคสุดท้าย อะไรแล้วนิแม่... เพราะแม่รู้ว่าโอบอยู่เลยให้เปิดลำโพง แล้วอีกฝ่ายก็นั่งขำจนแม่วางหูไปถึงได้บอกว่า

“แม่พูดถูกนะ ไฟดับให้อยู่เฉยๆ”

“เฉยได้ไงเล่ามันก็ต้องมาหยิบไฟฉายแล้วปิดไอ้ที่ยังใช้ไฟอยู่ไหม” ไฟสำรองนี่ไปแค่พื้นที่ส่วนกลางกับลิฟต์เท่านั้น ปกติถ้าดับก็รอถึงเช้านั่นแหละ

“ก็อยู่เฉยๆ เดี๋ยวโอบมา”

“ไม่เป็นไรหรอก...”   

“นี่... เอาอีกละ” อีกฝ่ายติงเสียงอ่อน ผมถึงได้รู้ตัวว่าเผลอปฏิเสธความหวังดีไปเสียอีกแล้ว

มันคงเป็นความเคยชินของคนที่อยู่คนเดียวมานานและต้องถือคติ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน... เพราะไม่พึ่งตนแล้วจะพึ่งใคร ตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ มา ไม่ว่าจะหลอดไฟแตกช็อตเปรี๊ยะกะทันหัน กระเบื้องหลุดแทบสะดุดฟาดพื้นในห้องน้ำได้เลือดที่หัวแม่เท้าเป็นของแถมหรือก๊อกในครัวระเบิดแบบสุดความสามารถจะแก้เองนี่ก็ผ่านมาหมด เหมือนไม่เป็นเรื่องแต่ตอนนั้นก็ก่อความวุ่นวายได้พอสมควร จำได้ว่าหลังจากเช็ดน้ำที่เจิ่งนองไปทั่ว ขอปิดวาล์วเรียบร้อยก็ยังต้องรอช่างอีกสามวัน อ่างล้างจานเป็นพื้นที่ต้องห้ามโดยปริยาย   
       
ความจริงพอบอก โอบอาจจะแก้ไม่ได้เหมือนรถเพราะไม่ใช่ช่าง แต่อย่างน้อยก็มีคนที่ร่วมรับรู้และผ่านไปด้วยกันไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ยิ่งเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น ก็คงมีคนช่วยคิด

ซึ่งตอนนี้ ผมมีคนคนนั้นแล้ว... 

“บางทีไฟทางเดินไม่ติด มืดเหมือนกัน” ผมไปน้ำขุ่นๆ

“มันมีวิธีนะที่ไม่ต้องเดินข้าม... มาน่ะ” อีกคนว่ายิ้มๆ

ผมชะงักไป แต่ก็นิดเดียว คิดออกเหมือนกันว่าวิธีที่ไม่ต้องเดินข้ามทางเดินหน้าห้องมาเคาะประตูคืออะไร แต่อย่างที่บอก ผมอยู่คนเดียวมานาน... โอบก็ไม่ได้พูดเรื่องนั้นต่อ บอกให้ลองเอาไฟฉายมาเปิดดูสนองการเตือนของแม่และปรากฎว่า... ถ่านหมด

“เอ้าแล้วทำไง”

“มีเทียน มีไฟแช็ค” เห็นไหม... มีประโยชน์ โอบจะไม่สามารถค่อนขอดเรื่องมีไฟแช็คไว้จุดบุหรี่สิ้นเปลืองของผมได้อีกต่อไป (ถึงแม้ว่าผมไม่ได้ซื้อเพิ่มและคงไม่มีเหตุให้ต้องเผาผลาญบุหรี่อย่างนั้นอีกก็ตาม)

“เออ... ไฟไม่ดับก็จุดเทียนได้” อีกฝ่ายว่าไปนู่น

ความจริง... เรายังไม่ได้ฉลองกันเรื่องโอบสอบผ่านครั้งที่สอง เป็นเภสัชกรมีใบอนุญาตเรียบร้อยถึงจะยังไม่ได้รายงานตัวทำงานกับที่ใช้ทุนเพราะรอการอนุมัติผลเป็นทางการอยู่ ผมเลยว่าให้โอบเลือกร้าน เสาร์หน้า ให้ทั้งวัน ผมเลี้ยงเอง

“... ในห้องก็ฉลองได้”

ผมก็ขำ ถ้าทำกินกันเองนี่มันจะไม่ใช่การฉลอง เพราะการฉลองควรต้องอร่อย อย่างหนึ่งที่มนุษย์มีความสามารถอย่างโอบทำไม่ได้คือกับข้าว ส่วนผมก็ทำได้พอกันตายอย่างที่ผ่านๆ มา ตอนรู้คะแนนน้องไมค์กลับบ้านไปหาพ่อแม่ชั่วคราว เลยคงมีคนลุ้นด้วย และโทรมาบอกว่าผ่านเหมือนกัน ถึงจะผ่านแบบเส้นยาแดงผ่าแปดสิบ (เพราะเลยเจ็ดสิบเก้ามาคะแนนเดียว เลยผ่าแค่แปดไม่พอตามปากคำ) โอบก็เลยมาพอสมควรเหมือนเดิม

แต่เจ้าตัวขมวดคิ้วนิดๆ แล้วบอกว่า

"... ที่จริงมันต้องได้มากกว่านี้รึป่ะ..."

ไม่รอให้ถามว่าทำไมก็ร่าย "วันนั้นต้องไปเองเลยได้น้อย ไม่มีคนไปส่ง...”

พอเห็นหน้าผมเลยดูเหมือนจะกลั้นขำไม่อยู่ ต้องว่า “... ล้อเล่น ก็พยายามเต็มที่แล้ว” ก่อนจะพูดเสียงจริงจังขึ้น “... พยายามคิดว่า ถ้าวันนั้นกำลังทำยาจริง พลาดไปขั้นตอนหนึ่ง ปนเปื้อนนี่ก็ชีวิตคน เรื่องในชีวิตเราเองเลย... วางไว้ก่อน ยามันมีตั้งทิ้งให้ตกตะกอน... นี่ก็เหมือนกัน แต่ยังอยู่ในใจ... ตัดไม่ได้หรอก”

มือขวาโอบจับมือผมไว้ นิ้วหัวแม่มือคลึงอยู่ที่ข้อนิ้วเบาๆ สบตาแล้วก็บอก “ไม่เคยตัดได้สักที...”

ในอกผมเต็มตื้นขึ้น... ไม่ว่าเมื่อไร แต่ได้รู้ว่า... ยังมีคนที่มีเราอยู่ในใจตลอดมา

“นี่ก็... จ่ายยาเองได้แล้วสิ สอบผ่าน”

“ใช่... แต่อันนี้จ่ายให้คุณพันธิตรคนเดียว...”

ผมหัวเราะ รู้ว่า ‘นี้’ คืออะไร ฟังเภสัชกรบรรยายสรรพคุณไปเรื่อยๆ

“อยู่ด้วยแล้วไม่ง่วง ถ้าขับขี่ยานพาหนะควรเอาไปด้วย...”

ผมขำไม่หยุด โอบตลกได้หน้าตายแต่ผมเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ยิ่งรู้จริงๆ ว่า คงพูดกับผมคนเดียว

“การเก็บรักษา... ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง แต่เปิดแอร์นิดก็ดี ขี้ร้อนเดี๋ยวเสื่อมสภาพ... วันที่จ่าย โหยจะเริ่มนับตั้งแต่ตอนไหนดี”

“นั่นสิ จะเก็บไว้ได้กี่ปี...”

คนพูดยิ้ม ก่อนเอ่ยช้าๆ “... ไม่มีวันหมดอายุ”

ก็ดูท่าว่า... ผมจะแพ้ยาขนานนี้อย่างหมดรูปเสียแล้วล่ะ

“ลงชื่อ ภก. โอบกิจ”

ผมพยักหน้า ขำคนเห่อ ได้ใช้นำหน้าชื่อเสียที “ว่าแต่ การเก็บรักษานี่ท่าทางต้องทนร้อนหน่อย”

“อ้อเหรอ...” โอบก็ยิ้ม

“ประมาณสามสิบแปด...”

ผมมองคนตรงหน้าหัวเราะ ตอนนี้ ท่าทางจะร้อนกว่านั้น

เพราะอุณหภูมิของหัวใจ จะสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกายปกติ นิดหน่อย...


ศุกร์นั้นผมมีนัดกินข้าวกับเพื่อนสมัยเรียน แป๊วให้ผมเป็นคนบอกภัค ผมเลยว่าเราไปเร็วกว่าเวลานิดหนึ่งเพราะมีเรื่องอยากคุยก่อนเพื่อนคนอื่นๆ จะไปถึงด้วย
 
ภัคก็ดูเฉยๆ เหมือนรู้ว่าผมจะพูดเรื่องอะไร ยังว่า “... ตอนแรกก็นึกว่ารู้เรื่องกันตั้งแต่ลุกตามออกไปหน้าร้านแล้ว...”

“คงรู้เรื่องมั้งถ้าไม่มีคนบอกที่อู่ว่ากำลังคุยกันอยู่ก่อนน่ะ”

โอบอาจจะนึกว่าภัคพูดคลุมเครือด้วยความไม่ตั้งใจ แต่ผมที่อยู่ตรงนั้นและรู้จักเพื่อนมานานไม่คิดว่าทนายอย่างภัคหลุดปากอะไรไปด้วยความพลั้งเผลออย่างเดียวหรอก

“ก็คิดว่ามันจะช่วยให้อะไรๆ คืบไปได้เร็วขึ้นอีกหน่อย ทำตัวเป็นพระเอกชักช้ายืดยาดชาตินี้จะรู้เรื่องกันไหม นี่พูดทั้งสองฝั่ง..."

ผมถอนใจ ตัวเองก็ดันเคยไปยุ่งเรื่องคุณศรัณย์เข้าเหมือนกันเลยไม่มีสิทธิ์จะทักท้วงเพื่อนได้เต็มปาก เพื่อนกันก็เป็นอย่างนี้ ว่าจะไม่วุ่น แต่ด้วยความเป็นห่วงก็อดไม่ได้ แค่ต้องรักษาระยะไม่ให้มากเกินไปเท่านั้น อันที่จริงภัคน่าจะรู้ว่าลองพูดมาแบบนี้ผมอาจจะถอย เจ้าตัวกลับว่า

“เออ เป็นคนดี... เหมือนเดิม ความจริงอยากให้ตรงข้าม แต่ไม่เป็นไร ถอยก็มีคนตาม รู้เรื่องเสร็จแทบบินกลับคอนโดเลยมั้ง” แถมยังตบท้าย “คนเรามันก็ต้องโง่ก่อนฉลาดทั้งนั้นน่ะ”

ถ้าเรื่องนี้โอบฉลาดมาตั้งแต่ต้น... แต่ผมก็ทำลืม ไม่ยอมรับคำสรรเสริญเพื่อนปล่อยให้เป็นเรื่องของวงกว้างไป

แป๊วเดินเข้าร้านมาพอดี โบกมือโบกไม้ให้แต่ไกล บอกว่าเดี๋ยวคนอื่นตามมา เราเลยคุยกันเรื่องงาน แล้วก็ชีวิตแต่งงานใหม่ของแป๊ว ความจริงเรื่องในอดีตของผม เพื่อนๆ นอกจากภัครู้แค่ว่าผมเคยคบกับรุ่นพี่ตอนเรียน จนหยุดกันไปเพราะอีกฝ่ายไปเรียนต่อ ปัญหามีแต่ไม่รู้ว่าแย่ขนาดไหนเนื่องจากผมดูเฉยๆ มาตลอด และไม่รู้ว่าผมกลับบ้านก่อนหน้าด้วยเรื่องอะไร ตอนนั้นเรียนจบรับปริญญาเรียบร้อย หลายคนแยกย้ายกันไปทำงาน ที่พอสนิทแทบไม่เหลืออยู่ในเชียงใหม่แล้ว

สั่งของกินเล่นกันไปรอคนอื่น จู่ๆ แป๊วก็พูดขึ้นว่า “เออแทครู้ยัง”

ภัครีบวางแก้วน้ำ ผมถามงงๆ “อะไร”

“แป๊ว..” เสียงภัคดังขึ้นอย่างปรามๆ ผมก็ไม่ทันนึกว่าภัคไม่อยากให้ผมรู้อะไร

“เรื่องอะไรหรือแป๊ว”

“แป๊วนึกว่าภัคบอกแทคแล้ว ภัคน่าจะรู้เป็นคนแรกๆ นี่นา เห็นว่าเขาส่งข้อความในเฟซหาภัคก่อน ท่าทางอยากเจอเชียวล่ะ”

เสียงกริ่งสัญญาณดังเตือนขึ้นในหัว และผมก็รู้ก่อนแป๊วพูดออกมาเสียอีก

“ก็พี่... เขาจะกลับมาแล้ว”
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 23-05-2013 02:45:12
คุณ Windyne ไม่มี้ค่ะ (เสียงสูง) แต่เอาจริงๆ มันแค่ต้องเคลียร์เรื่องนี้เฉยๆ น่ะ แต่แทคว่ามีอะไรก็พูดแล้วนี่นะ

คุณ Millet ต่อไปก็ไม่อึมครึมค่ะ อิอิ

คุณ Theomen โอบก็อยากจะขอบคุณตัวเองจริงๆ (อ้าว) ก็รักมากนี่เนอะ มาแล้วนะคะ

คุณ goosongta ก็หวานได้อยู่นะ ต่อไปด้วย ไม่รู้พอสำหรับคนอ่านรึเปล่า 555

คุณ Naenprin พูดแล้วค่ะ อิอิ ขอบคุณมากนะคะสำหรับการอ่าน

คุณ mesomeo2 แหม 55 มาเป็นพรรณนาโวหารกันเลยทีเดียว

คุณ BeeRY ขอบคุณมากสำหรับคำอวยพรค่ะ คู่นี้ต้องการนะเนี่ย

คุณ malula ชัดแล้วก็ไปต่อได้ คนเขียนก็เขียนจากเพื่อนบ้านสมัยเด็กด้วยนิดหน่อยนะ... แต่คงไม่น่ารักเท่าน้องโอบล่ะ 55

คุณ iforgive ไม่ม่าค่ะ แทคนี่ก็เจ็บแล้วก็จำพอสมควรแหละ

คุณ Gokusan ความจริงก็ยังต้องการการเชียร์อยู่นะ ตามสไตล์ จนกว่าจะจบเรื่องมันก็ยังต้องมีเรื่องสิ กร๊าก โดนดักไว้ มารความหลัง... เอาน่ะคงไม่อะไรมาก จัดการได้

คุณ PapermintReal โล่งแล้วก็มาค่ะ อ่านต่อ อิอิ

คุณ kyoya11 ในที่สุดก็... อิอิ

คุณเฉาก๊วย ต่อไปก็ไม่หน่วงนะคะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ

คุณ Takarajung_TK ใช่แล้ว ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ KAEHUB เนอะ โอบก็คิดว่าขอพยายามดีกว่า นี่โชคดีเพราะแทคคิดเหมือนกัน แต่ถึงคิดไม่ตรงกันก็คงพยายามบอกไปสักหน ก็คงได้บทเรียนจากคราวนี้ ไม่เกิดเรื่องซ้ำก่อนนะ ขอบคุณที่อินค่ะ 55 ดีใจ ความจริงถ้าไม่รักขนาดนั้นอาจจะไม่เสี่ยง ก็ขออยู่ในฐานะเดิมต่อไปดีกว่า แต่ถ้าอยากเปลี่ยนสถานะมันก็ต้องพูดแหละนะ

คุณ ่patsaporn พระเอกคัมแบ็ค ฮา อันนี้มันก็ยังมีเรื่องให้จัดการอยู่อีกต่อไปนะ อันนี้น้องโอบก็เหมือนไม่คิดถึงไปอีกพักแต่โชคชะตาทำให้รู้ว่าจะมีโอกาสมาอยู่ที่เดียวกันได้ก็ขอลองอีกสักที 55 เข้าใจยากหรือคะ มันเป็นอารมณ์แบบมีเรื่องมากมายที่ต้องพูดและแนวอัดอั้น ต้องพยายามเรียบเรียง แต่ก็อยากบอกให้หมดมันเลยออกมาเป็นเช่นนี้ คนฟังก็ต้องตั้งใจฟังด้วยไม่งั้นไม่รู้เรื่อง 55 ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า

คุณ hobazaki ความจริงแทคก็ไม่คิดว่าโอบเหมือนนะ จะมีในบทนึงที่แบบรู้ว่าเป็นคนละคนไรงี้ แต่พอมีเหตุการณ์คล้ายนิดหนึ่งเลยรีบออกมาก่อน ตอนนี้ไม่แล้ว เหอๆ

คุณ kubkamsoda ขอบคุณค่ะ อิอิ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ bennnyyy เขาเข้าใจกันแต่เรื่องยังไม่จบ 55 ยินดีต้อนรับค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ NewYearzz จากนี้ไปก็ไม่น่าจะร้องแล้วน้า ฝากอ่านต่อด้วยค่า

คุณนอนกินแรง เข้าใจกัน เดินหน้าต่อ อิอิ ขอบคุณที่ชอบค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ yoyo รักกันต่อไป ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Aoya ต่อจากนี้ก็สะดวกนะคะ (คิดว่า) อิอิ

คุณ Tassanee ยังไม่ได้ทำไรมากแต่ต่อไปก็ไม่แน่ 55 อ้อป.ล. เพิ่งแอบเห็นนิยาย เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความจริงเรื่องนี้มันไม่ต้องห่วงคุณศรัณย์แต่ต้นแล้วป่ะ มันมีเรื่องอื่น (บอกน้องโอบ)

ไม่ม่า ไม่ม่า (อันนี้บอกคนอ่าน อิอิ)

รักและขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 23-05-2013 04:24:47
แอร๊ยยยยยยยย!! เขินตอนเค้าจ่ายยาเฉพาะบุคคลที่ไม่มีวันหมดอายุให้กัน

เอาล่ะ เค้าเป็นใครหนอ เค้ามาจากไหน ตาพี่คนที่กำลังจะกลับมานั่นน่ะ
เห็นคุณเดหลีปฏิเสธเสียงสูงนี่ เราชักจะแน่นอกนะคะเนี่ย
กลัวนางต้มมาม่าอี๊ก 555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 23-05-2013 06:37:51
 :-[  โอ้ยหวานมาก  แทบสำลักน้ำตาลตาย55555

แหม่ตอนหน้าดูจะมีลับลมคมในอีกละ อย่าดราม่าอีกน้าาา :sad4:

มาต่อไวๆนะ รออยู่ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 23-05-2013 07:40:47
ยาขนานนี้ ให้คุณได้คนเดียว ให้เก็บไว้ในใจ ให้ระรึกไว้ ว่า"เภสัชฯ"คนนี้ ยังห่วงใยคุณ

*แอร๊ยยย เขินอะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 23-05-2013 07:50:37
 เอาแล้วไงคนเค้ากำลังจะไปกันได้ดี
แต่กลับมาก็คงไม่มีผลอะไรป้ะ แทคคงไม่ใช่คนหวั่นไหวอะไรง่ายๆ หรอกมั้ง
อีกอย่างก็เคยเจ็บมาตั้งขนาดนั้นแล้ว เรื่องที่จะกลับไปรู้สึกเดิมๆ เจ็บปวดเดิมๆ แทคคงไม่ทำหรอก
ถ้าฝ่ายนั้นไม่มาวุ่นวายอ่ะนะ ว่าแต่จะอยากเจอแทคไปทำไม

น้องโอบบบบบบ อย่าปล่อยให้เขามาวุ่นวายเชียว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-05-2013 07:51:11
หมดค่าแล้วมาทำไม ชิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-05-2013 10:23:40
พึ่งหวานกันได้แหม่บ ๆ จะมีคนเก่ามากวนตะกอนหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 23-05-2013 10:51:47
นั่นไง...มารความหลังมาล่ะ
เอาไม้หน้าสามไปดักตีหัวลากทิ้งข้างทางดีกว่า
เอ๊ะๆ ไม่ๆ ทิ้งไว้กลางถนนเลย รอรถสิบล้อทับไปทับมาเหอะ ;p
เพราะรู้สึกว่า จากกันด้วยไม่ดีจะไม่มีวันทำเป็นเฉยๆ ได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ตาม

แม้จะคิดว่ามันอาจเป็นการทดสอบจิตใจของคนคู่นึง
และคิดว่าก็คงจะผ่านกันไปได้ไม่ยากเพราะเคลียร์กันแล้ว
แต่ก็นั่นแหละ ไม่จำเป็น อย่ามาให้เห็นจะดีกว่า...เยอะเนอะ คนอ่านเนี่ย ^^

ป้ายไฟยังมีอยู่ แค่ถือไว้เฉยๆ เพราะเห็นว่ารักแล้ว
เหลือแค่ปรับตัวนิดๆ หน่อยๆ ตามประสาคนรัก
ตาโอบกะแทคน่ารักจะตาย ไม่ทิ้งป้ายหรอก ^^V
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 23-05-2013 12:14:50
คนที่รอยสักบนต้นคอแทคใช่มั้ยที่จะกลับมา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 23-05-2013 13:32:25
 :o8:

พอเปิดมจพูด ก็หวานกันเลยทีเดียว

โอ้ยน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 23-05-2013 14:56:45
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เขินมวากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกคร่าาา

เขินทุกคำพูดดดดดดด

อยากได้พี่โอบกิจมาครอบครองงงง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 23-05-2013 15:52:35
อ้าวใครฟ่ะ

ไม่เอาาาาาาาาาาาา  กลับไปๆๆๆ


หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-05-2013 19:12:26
ชอบตอนจ่ายยาของคุณภก.โอบจริงๆ น่ารักมาก ทำเอาเขินตามแทคไปด้วย :o8:
ว่าแต่พี่คนนั้นจะกลับมาก็กลับได้ค่ะ แต่อย่ามายุ่งกับแทคก็แล้วกัน :m16:
ถึงมาวุ่นวายด้วย แทคก็ไม่สนใจหรอกเนอะ ก็ตอนนี้โอบสำคัญที่สุดนี่นา
โชคชะตาชอบเล่นตลกกับเราจริงๆ ทั้งๆที่กำลังไปได้ดี ก็ชอบมีมารมาขัดซะงั้น
ก๊าก แฟนเก่าแทคกลยเป็นมารในสายตาเราไปแล้ว :laugh:
ก็เล่นนิสัยเสียอย่างนั้น ใครก็ไม่ชอบหรอก คนหลายใจน่ะ ชิ :a14:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: KAEHUB ที่ 23-05-2013 21:06:06
แท็ครู้อยู่ก่อนแล้ว แสดงว่าแท็คจะไม่หวั่นไหวกับคนนั้นอีกใช่มั้ย แท็คจะมั่นคงกับโอบใช่ป่าว เค้ารู้น้า เค้าเชื่อใจแท็ค อิอิ โอบน่ารักเวอร์ อยากมีแฟนแบบนี้จัง ภัคก็นะสมจริงที่เป็นเพื่อนกับแท็คมานาน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 23-05-2013 21:58:27
ทุกครั้งที่ผมอินหรือมีฉากกินใจมากๆผมก็ร้องทั้งนั้นแหล่ะครับ ขอพี่คนเขียนอย่าได้กังวัล  :laugh:

แต่ถ้าเป็นห่วงจริงๆ ก็...มาลงบ่อยๆนะคึรับ   :yeb:


รอตอนต่อไปครับ   :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 23-05-2013 22:04:20
สุข สงบ ร่มรื่น และอบอุ่นตามประสาคนเข้าใจและรักกันใหม่ ๆ ยกเว้นประโยคท้าย!! พี่ที่ว่านั่นใคร
อดีตแทค? อืม นะ มาดิมามาทำให้ความรักแข็งแรงกัน มาพิสูจน์ความรักคู่รักคู่ใหม่กันหน่อย
ชอบตอนจ่ายยากันน้อ น่ารักแท้ ภก. โอบกิจนี่ อยากจ่ายอยู่คนเดียวนี่แหละ เหมือนโอบจะอยากย้าย
มาอยู่ห้องเดียวกับพี่แทคแล้วนะ เค้าจะเห็นตรงกันมั้ยนิเรื่องนี้ ก็รอดูรอชมกันต่อไป
พระเอกขี้อ้อนมากจ้าทุกตรงๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-05-2013 22:18:51
รักกันอยู่ดีๆ มีใครคนนั้นกลับมา...เพื่ออะไร :katai4:
อย่ามาทำลายความรักที่พวกเราเฝ้าเพาะบ่ม(?)
 :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 23-05-2013 22:30:26
บททดสอบความรักของโอบแทคจะมาแล้วววว
เตรียมตัวเตรียมใจจ้า (บอกตัวเอง)
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-05-2013 17:34:31
เพิ่งได้มีโอกาสติดตามค่ะ อ่านรวดเดียว
คบกันแล้วแต่ยังไม่สวีทเท่าไหร่  ลุ้นๆให้หวานขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งสมมติฐานเอาเองว่าครอบครัวของแทครู้ว่าเป็นเกย์อยู่แล้วหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: bennnyyy ที่ 24-05-2013 18:48:57
แฟนเก่า o22 แล้วจะกลับมายุ่งหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: ✪PATTY✪ ที่ 24-05-2013 22:41:57
เพิ่งมาอ่านน้า. ชอบอ่ะะะ  :-[
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: yoyo ที่ 25-05-2013 05:39:21
ว้าย ใครอะไรยังไง
กำลังมาหวานๆเลย อิพี่อะไรจะเข้ามา ห้ามมายุ่งกะแทคนะ
เค้าหวงไว้ให้โอบ :m31:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 25-05-2013 06:46:56
เขา..... o22  มานคือครายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 28-05-2013 21:20:59
 :laugh:แฟนเก่าหรอครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 15] 23 พ.ค. 56 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 29-05-2013 00:07:50
ง่ะ อมยิ้มอยู่ได้ไม่นาน มีแววจะมีมารมาผจญอีกล่ะ
 :serius2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 31-05-2013 11:31:00
บทที่ 16

ผมเงียบ ภัคก็เงียบ ความจริงเขาจะกลับหรือไม่กลับ (ซึ่งคงมีวันหนึ่งต้องกลับ ผมไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะอยู่แบบไม่มีคนรองมือรองเท้าที่เมืองนอกได้นาน) ก็ไม่เกี่ยวอะไรกันแล้ว ผมไม่คิดว่าต้องมีเหตุให้เจอกันอีก หรือจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอยากทำอย่างนั้นอีก แต่ถ้าปะหน้ากันจริงนี่มันคงมีอารมณ์ไม่ทันได้ตั้งตัวบ้างถ้าไม่รู้มาก่อน

แป๊วเห็นสีหน้าผมเลยพูดอ่อยๆ “เห็นพี่เขาว่าอยากเจอ... แป๊วมาบอกแทคให้ ก็แล้วแต่นะ เผื่อเป็นเพื่อนกันได้”
   
ผมมองหน้าภัค แป๊วไม่รู้ว่าเรื่องจบลงอย่างไรจึงได้เสนอขึ้น อันที่จริง ผมก็ไม่เคยคิดว่าเราจะกลายมาเป็นเพื่อนในภายหลัง หรืออยากทำด้วยซ้ำ บางคนทำได้ แต่สำหรับผม คนที่เลิกราไปแล้วเป็นเพื่อนกัน ถ้าไม่ใช่ยังรักอยู่... ก็อาจจะไม่ได้รักแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น หรือไม่คงจากกันด้วยดี ด้วยความเข้าใจ ซึ่งในกรณีนี้ไม่มีอะไรเข้าข่ายเลย

ภัคหันเหบทสนทนาไปเป็นเรื่องอื่นได้อย่างแนบเนียนตามเคย จนแป๊วลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมจึงได้ถามขึ้น
 
“รู้แล้วจะบอกเมื่อไหร่”

“ก็เขายังไม่ได้กลับ แล้วก็ยังไม่ได้พยายามติดต่อ แค่เปรยๆ มาเลยคิดว่า... รอให้อะไรๆ มันแน่นอนก่อนดีกว่า”

ผมก็ไม่รู้ว่า ‘อะไรๆ’ นั้นคือกำหนดกลับชัดเจน หรือเรื่องราวระหว่างผมกับโอบที่เพิ่งจะเข้าใจไปกันแน่ แต่ถ้าเป็นเรื่องหลังก็... คิดว่าไม่ต้องรอแล้ว ทั้งหมดที่ผ่านมาบวกกับพอนึกย้อนกลับไป ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้พยายามกับใครอื่นตั้งแต่ต้น ผมก็ไม่เคยรู้สึกว่าโอบไม่หมายความตามที่พูด บางทีอาจจะเหมือนพูดเล่นหรือพูดให้ขำ แต่ด้วยนิสัยแล้วก็ไม่ใช่คนทำอะไรทิ้งขว้างเรื่อยเปื่อย
 
คิดอีกทาง ถ้าผมเป็นเพื่อน เห็นเพื่อนเพิ่งเริ่มมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ดูท่าจะไปด้วยดี ผมก็ไม่อยากเอาเรื่องเก่าเข้าไปแทรกตอนนี้เหมือนกัน

“ไม่ได้อยากเจออยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

เรื่องนี้ภัคก็เข้าใจผมอีก ผมพยักหน้า พอดีกับเพื่อนคนอื่นๆ มาถึง เราจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้กันอีก

ภัคบอกตอนขับรถมาส่งผมที่คอนโดว่า ถ้าฝ่ายนั้นพยายามจะนัด แต่นัดไม่ได้ คงเลิกล้มไปเองเพราะอันที่จริงเราก็รู้กันอยู่ทั้งคู่ว่าเขาไม่ใช่เป็นคนมีความพยายามสูงส่งอะไร ไอ้ที่จะกลับมาจดจ่อกับคนเก่าทั้งๆ ที่ตอนอยู่ด้วยกันก็ใช่ไยดีมากคงไม่เกิดขึ้น ลงเอยด้วยการต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม แล้วอย่างไรเขาก็น่าจะกลับไปอยู่บ้านเขาที่เชียงใหม่มากกว่า

ผมก็เห็นด้วยกับเพื่อน หวังว่า... คงเป็นอย่างนั้น


สัปดาห์ถัดมาผมลงไปเช็งเม้งแบบรีบไปรีบกลับ (เนื่องจากวันลาได้แค่นี้) โดยมีโอบขับไปส่งที่สนามบินก่อนจะต้องเข้าเวรต่อ เพราะตอนนี้เริ่มใช้ทุนอย่างเป็นทางการแล้ว ความจริงบอกว่าไม่เป็นไรเพราะอีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องตื่นให้เช้ายิ่งกว่าเดิม โดนท้วงว่า ‘เอาอีกละ...’ อันเป็นวิธีที่โอบใช้เวลาผมเผลอปฏิเสธความหวังดี ทั้งที่จริงๆ ก็แค่ไม่อยากให้ต้องเหนื่อยเท่านั้น

กลายเป็นว่าที่ผมลงไปนี่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ถึงจะคนละแบบกับการอยู่เวรทรหดของโอบ จริงๆ แล้วผมชอบกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่เงียบๆ เจอเพื่อนเก่าตามประสามากกว่างานรวมญาติขนานใหญ่แบบนี้ แต่พอเริ่มทำงานจริงๆ ก็ได้กลับตอนเช็งเม้งเป็นหลัก นอกจากลุงแหวงกับป้าสะใภ้ อาๆ และลูกพี่ลูกน้องที่ขนกันมาจากหัวอำเภอ ยังมีหลานลูกเด็กเล็กแดงร้องกันกระจองอแง แล้วผมที่เลี้ยงเด็กไม่เป็นที่สุดก็ดันถูกมอบหมายให้ดูอีก ยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้ง วุ่นวายได้ใจ ขึ้นเครื่องบินขากลับเหนื่อยหลับเป็นตายกันเลยทีเดียว

พอถึงกรุงเทพฯ จึงได้รู้สึก... คนใต้พูดเสียงดังเป็นธรรมชาติแฮะ

เด็กใต้ก็ร้องเสียงดังกว่าที่อื่นด้วยหรือเปล่า นี่ยังสงสัย

ระหว่างเรียกแท็กซี่ว่าจะกลับบ้าน ผมก็นึกถึงคนเข้าเวรขึ้นมา ความจริงตอนอยู่ที่นู่นมีส่งข้อความบ้างปกติ โทรมาจะได้คุยประมาณสามนาทีอย่างเก่งเพราะหลานที่ผมกระเตงและอีกสองสามตัวที่เกาะขาอยู่จะแหกปากทันทีถ้าผมสนใจอย่างอื่นมากกว่า นอกนั้นถ้าเป็นเวลาโอบทำงานก็โทรไม่ได้อยู่ดี เลยตัดสินใจ... แวะไปหา

สมัยเด็ก โอบชอบกินอะไรอยู่อย่าง ไม่รู้จะจำได้หรือเปล่า ความจริงผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจำได้จนเห็นเข้า ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ขนมงานเช็งเม้งเฉพาะเจาะจงหรอก แต่ไปเจอที่ตลาดเลยต้องซื้อเพราะคิดถึง รวมทั้งของกินอย่างอื่นด้วย กองทัพเดินด้วยท้อง เผื่อหิวขึ้นมาจะได้มีอะไรทาน 

แต่การไปหาของผมคือไปฝากของไว้ให้ เกรงใจคนทำงาน เดินออกมาแล้วจึงได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมากับเสียงเรียกคุ้นเคยเจือด้วยความดีใจ

เมื่อหันไปก็พบรอยยิ้มกว้างจนผมอดยิ้มตอบกลับไม่ได้

“มาไม่ให้เขาเรียก”

"คิดว่าคงยุ่ง..."

"อยู่ห้องยาผู้ป่วยนอกข้างล่างพอดีช่วงพัก ออกมาได้แป๊บนึง... คิดถึงจะแย่”

เท่านี้ผมก็ยิ้ม... จะแย่... ขอบคุณกันเรียบร้อย พูดเรื่องเดินทางญาติพี่น้องแป๊บหนึ่งผมก็ถามว่าได้ดูของหรือยังเผื่อมีอะไรไม่ถูกใจ อีกฝ่ายบอก

“เห็นนิดเดียวมันโผล่ออกจากถุงรีบวิ่งมาก่อน หนมลา... ไม่ได้กินตั้งนาน”

คุยกันได้อีกหน่อยโอบก็ต้องกลับเข้าไปทำงานแล้ว แต่ยังว่า “ทีหลังมาบอกนะ จะได้เจอ”

“เผื่อไม่ได้อยู่ข้างล่างล่ะ”

“เขาโทรให้ได้ ไม่งั้นก็... ประกาศ” แววตาคนพูดเต้นระยิบเหมือนทุกครั้งที่คิดอะไรแกล้งผมได้ "... ว่า ภก. โอบกิจแฟนมาหาเชิญรับได้ที่ช่องสอง..."

ผมก็ขำ ใครจะไปพูดอย่างนั้น "แบบรับยาน่ะนะ?”

“เอ้า นี่ก็ยา...”

ผมรอ ถ้าโอบเล่นมุขน้ำเน่าแบบยาใจหรืออะไรนี่จะเตรียมเก็บไว้ล้อล่วงหน้าโดยไม่ปรานี อีกฝ่ายบอก

“... ยาชูกำลัง เห็นแล้วมีกำลังใจ”

ขากลับคนขับแท็กซี่เหลือบมองกระจกหลังเป็นระยะ ผมว่าผมคงนั่งยิ้มคนเดียวน่ะ...

โอบบอกไว้ก่อนแล้วว่าวันนี้เย็นๆ เพื่อนไมค์จะมาขอเจอหนู ให้ไขกุญแจด้วย พอกลับไปถึงก็เจอไมค์ที่มาก่อนเวลา เลยปล่อยให้ได้ฟูมฟายกับลูกสาวก่อนไปทำงานต่างจังหวัด เมื่อวานรุ่นโอบเพิ่งมีเลี้ยง หลายคนเริ่มแยกย้ายกันไปใช้ทุนตามที่ต่างๆ

ไมค์มาเคาะประตูบอกผมว่าจะไปแล้ว พอบอกให้เดินทางปลอดภัยกลับถาม “พี่ว่า... ผมจะได้เจอคู่สักทีไหม ย้ายคราวนี้”

ถึงผมจะทำงานด้านนี้แต่ก็ไม่ใช่หมอดู... ฟันธงไม่ได้ น้องไมค์จะเจอหรือไม่เจอใคร เจอคนที่ใช่ตอนนี้ แต่จะใช่เฉพาะช่วงเวลาหนึ่ง หรือว่าใช่ไปตลอด ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน บางครั้ง กว่าจะเจอ เราก็ต้องเจอเรื่องราวอื่นมาก่อน หลายเรื่องที่อยากจะบอกว่า ไม่เจอได้ไหม ถ้าเลือกได้ ไม่อยากเจอเลย แต่บางอย่างในชีวิตก็ไม่ได้อยู่ในอำนาจที่เราจะเลือกได้

ถ้ามองย้อนกลับไป อาจจะเก็บเอาไว้เป็นบทเรียน เก็บไว้เตือนตัวเอง หรือแม้ในบางกรณี เก็บไว้ระลึกถึงเป็นความทรงจำในครั้งหนึ่งก็ได้เหมือนกัน

และผมก็อวยพรให้น้องไมค์โชคดี...


เย็นวันรุ่งขึ้นผมกำลังจะออกจากที่ทำงานอยู่แล้วแต่เสียงโทรศัพท์สายของตัวเองดังขึ้นก่อน พอรับก็ได้ยินเสี่ยน็อตพูดมาเนือยๆ

“ฮัลโหลคุณแทค”

“ครับ เสี่ยเป็นไง” ผมเหลือบดูตารางตรงหน้า ขีดไว้ว่าเสี่ยยัง... ออกไปกับคนเดิมอยู่ ส่วนคนเดิมของเสี่ย วันนี้ไปกับคนใหม่
 
“... นี่ความรักมันเป็นสาระกับชีวิตขนาดนั้นเลยหรือเปล่า”
   
ตั้งแต่ดูบัญชีให้เสี่ยมา คำถามในใจของผมทุกครั้งที่ผุดขึ้นเวลาได้รับโทรศัพท์คือ วันนี้เสี่ยอารมณ์ไหน...

เสียงเสี่ยน็อตออกจะกึ่มๆ เล็กน้อยแต่ข้างหลังก็เงียบ ถ้าให้เดาอาจจะนั่งปล่อยอารมณ์เหงาอยู่คนเดียวที่บ้าน
 
"ผมก็ว่ามันไม่ไร้สาระมั้ยครับ...” ผมพยายามพูด เสี่ยไม่ตอบ ผมเลยไปทางขำแทน “ถ้าไม่สำคัญขนาดนั้นพวกผมตกงานกันหมดเลยนะ...”   

เสี่ยคงไม่อยู่ในอารมณ์จะขำ พอถามว่ามีเรื่องอะไรก็บอกไม่ ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่คงไม่คืบหน้าไปกว่าเดิม... ละมัง

“คือผมว่าบางทีมันก็วุ่นวาย... สงสัยขึ้นมาว่ามันเป็นแก่นสารจริงๆ หรือเปล่า” 

“แล้วอะไรที่ควรจะเป็นแก่นสารล่ะครับ...” ผมถามไปเรื่อยๆ เพราะงานนี้นอกจากจะคอยดูคอยเชียร์ ให้กำลังใจแล้ว เวลาลูกค้าผิดหวัง หรืออย่างตอนนี้... อารมณ์ซึมๆ มา ก็ต้องปลอบเหมือนกัน

“... สันติภาพไง หรือภาวะอดอยากในแอฟริกา?”

เมาแน่ เมาแน่ๆ... ผมปล่อยให้เสี่ยพูดไปก่อน ซึ่งปลายสายก็ว่าต่อเอง “เอ... แต่อย่างนั้นก็ยังไม่พ้นความรักมาช่วยแก้อยู่ดี ทำไมหนีไม่พ้นเลยล่ะ”

เสี่ยเป็นคนที่เมาแล้วเวิ่นได้ที่มากๆ และผมก็ยิ่งกว่า เพราะคุยกับคนเมาได้เป็นวรรคเป็นเวร ถ้านับว่าผมมักจะแยกเรื่องส่วนตัวออกจากงาน ความสัมพันธ์กับลูกค้าคือความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่บางทีผมก็รู้สึกขึ้นมาแวบๆ เหมือนกันว่าเสี่ยคล้ายจะเป็นเพื่อนผมคนหนึ่ง

“รักอะไรล่ะครับ...”

“ก็... ความรักเพื่อนมนุษย์ไง” เสี่ยไปนู่น ก็จริงของเสี่ยนะจะว่าไปแล้ว

“มันคนละแบบกับที่เสี่ยกลุ้มใจอยู่นี่ครับ...” ผมว่า

“จริง... เพราะว่าแบบนั้นน่ะ รักทั้งโลกเลยก็ได้ แต่แบบนี้ เราอยากให้เขารักเราคนเดียวนี่นา”

อันนี้ก็จริงอีก ถึงเสี่ยจะเข้าใจแล้วว่าถ้าอยู่ในบริการแบบนี้ ยังไม่ตกลงปลงใจ ก็มีสิทธิ์เลือกไปเรื่อยๆ แต่บางคราวมันคงอดน้อยใจขึ้นมาบ้างไม่ได้

“เสี่ยเคยบอกผมว่ามีความสุขดี” ผมกำลังจะพูดต่อว่าถ้าไม่ใช่แล้ว ก็ต้องบอกเหมือนกัน แต่เสี่ยเอ่ยขึ้นก่อน

“อืม ผมไม่ได้บอกคุณแทคหรอก”

ผมเกือบจะคิดว่าแอลกอฮอล์ในเลือดทำเอาลืมตอนเราคุยกันในออฟฟิศที่โรงงานเสียแล้ว จนอีกฝ่ายพูดต่อ “... บอกตัวเองน่ะ”

หลังจากนั้นก็พูดอะไรกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ท่าทางตอนคุยกับผมน่าจะดวดไปด้วยแน่ๆ ลงเอยด้วยการบอกว่าไว้จะโทรมาใหม่ถ้ายังรู้สึกเหมือนเดิม อาจจะคิดแบบนี้แค่ชั่ววูบก็ได้ เพราะตอนอยู่ด้วยกันเขาก็เอาใจใส่ดี
 
แต่ก็นั่นล่ะ ความรู้สึกที่ว่า เขาคงไม่ได้ดีแบบนี้กับเราคนเดียว บางทีมันก็บั่นทอนกำลังใจเหมือนกัน

พักนี้ผมกลับบ้านไปก็เป็นพี่เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์เหมือนเดิม ต้อนรับชั่วโมงเข้าเวรอันยาวนานของโอบ ซึ่งผมเข้าใจเพราะเพิ่งเริ่มทำงาน จะปฏิเสธก็ยากนอกจากของตัวเองแล้ว พี่คนโน้นลา คนนี้ไปคลอด คนนู้นไปอบรม นี่ก็รับเละ ควบแล้วควบอีก
 
ตอนกำลังหาร้านให้ลูกค้าไปทานข้าวเย็นอยู่กับครีม พี่อิทชายตามายิ้มๆ ผมรู้ว่าครีมคิดอะไรอยู่ในใจ เพราะคอยแต่จะกระเซ้าว่า “หวีตไหม หวีตไหม” อยู่นั่น ซึ่งคงย่อมาจากสวีต ยังกับจะให้ผมไปบ้าง จนผมตอบว่า “หวีดสยองเหรอ” และได้รับการขว้างค้อนมาเป็นรางวัล ครีมมีความเชื่อว่าคนเราควรหาบรรยากาศสวีตตลอดเวลา (หรือเกือบตลอดเวลา) ซึ่ง... น้องควรลองมีแฟนดูจริงๆ สักคนจะได้รู้

ถ้าถามความรู้สึกทั่วไปผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก ไปหาได้ก็ไปหาที่โรงพยาบาลอยู่บ้าง เลือกเอาช่วงที่โอบเคยบอกแล้วว่าพัก (ไปแล้วเห็นยิ้มหน้าบานมีความสุข ผมก็มีความสุข) นอกนั้นยังทำอะไรมากไม่ได้ ผมออกไปทำงาน กลับมาค่ำโอบไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้มีเข้าเวรดึกออกเช้าอยู่บ่อยๆ บางทีทำงานต่อเลย วันหยุดมีเวร ก็ต้องไป ส่วนวันที่ได้ออกมาดึงดันจะกินข้าวกับผม แต่อยู่ในสภาพหัวแทบทิ่มชามเพราะคืนที่แล้วไม่ได้นอนก็ต้องบอกให้ไปนอน เป็นต้น

ก็เห็นโอบอยากใช้เวลากับผมอยู่ปกติ ไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรพอกัน แล้วไม่ใช่ไม่ใกล้หรือไม่ได้แตะ คือก็แตะนั่นแหละ อย่างตอนดูหนัง ในโอกาสหายากที่หยุดพร้อมกันนี่เอนมาจัง (และบอกว่า ‘แอร์หนาว’ บ้าง ‘กลัวผี’ บ้าง ซึ่งไม่จริงหรอก แต่ผมก็ปล่อยไป)
 
“... ถ้าโอกาสหรือบรรยากาศมันไม่เกิด ก็ต้องสร้างสิคะ!” เสียงพี่อิทดังชัดเจนทั่วออฟฟิศ ผมสะดุ้ง หันไปถึงได้เห็นคุณเธอพูดโทรศัพท์กับลูกค้าอยู่ “ต๊าย... ใจเย็นๆ ค่ะคุณน้อง เราไม่ต้องจงใจว่าจะไปถึงไหน จงใจมากไปก็ขาดเสน่ห์ค่ะ... พี่แค่บอกว่า มันต้องมีบรรยากาศโรแมนติกระหว่างกันบ้าง อยู่ด้วยกันคุยกันได้สบายใจน่ะดีอยู่แล้ว แต่เขาอยู่กับเพื่อนเขาก็เหมือนกันนี่คะ”

ครีมยื่นหน้ามาบอกผม “พี่แทคเสี่ยน็อตอยากคุยด้วย สายสอง”

“ผมว่ามันอยู่ที่บรรยากาศนะคุณแทค” พอผมรับเสี่ยก็เริ่มโดยไม่มีอารัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น

“ครับ?”

“นี่ผมอ่านมาจากหนังสือ...” เรื่องขวนขวายต้องยกให้เสี่ย “ผมก็จุดเทียน นะ เปิดน้ำใส่อ่าง แล้วนวดสักหน่อย”

“เสี่ยครับบ้านผมไม่มีอ่าง” ผมใจลอยพูดไปก่อนจะได้สติ โชคดีที่เสี่ยดูไม่ทันได้ฟังเหมือนกัน มัวแต่เล่าต่อ

“... ตานี้พอเราออกไปกัน เจอเพื่อนผม ผมแนะนำว่าเขาเป็นแฟน ตอนแรกคิดว่าเราปากเบาไปหรือเปล่าแต่มันก็พูดออกไปแล้ว...” เสียงเสี่ยดี๊ด๊ามาก หน้ามือเป็นหลังมือผิดกับวันก่อน “... เขาไม่ว่าอะไรคุณแทค นี่แสดงว่าคืบหน้านะคืบหน้า”
 
ปากผมก็รับ เพราะผมคิดว่าเสี่ยมีความพยายามอย่างน่ายกย่อง แต่มือจดโน้ตว่าต้องไปตามเรื่องนี้กับเจ้าตัวคู่เดตเสี่ยต่อ แล้วยังคนที่เขาออกไปใหม่ด้วยตั้งสองคนไม่รู้จะยังไง ผมอยากเห็นเสี่ยได้ลงเอยกับคนที่เป็นของตัวเองจริงๆ สักทีเหมือนกัน

ตอนเย็นภัคนัดกินกาแฟนิดหนึ่งบอกมีเรื่องจะคุย เราเลยเจอกันที่ร้านกาแฟใต้ตึก เพราะเพื่อนออกมาประชุมข้างนอกใกล้ๆ กันพอดี ผมเข้าไปก็เห็นภัครออยู่ก่อนแล้ว เอ่ยขึ้นโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง

“นี่บอกนะ ยังไม่ต้องกังวล แค่ว่าเขาจะกลับมาเดือนหน้าแล้วตอนนี้ก็ถามๆ เพื่อนคณะแทคหลายคนว่าจะติดต่อได้ยังไง เพื่อนๆ โบ้ยมาทางเราเพราะคิดว่าน่าจะเจอกันบ่อยสุด แต่เราเฉยๆ ไป”

“ก็... ไม่ได้กังวล” ผมค่อยๆ นั่งลง “อย่างที่คุยกันไว้แหละ ไม่ได้เจอคงกลับเชียงใหม่ไปเอง บ้านช่องกิจการพ่อแม่เขาอยู่ทางนั้นนี่”

ที่จริงผมก็รู้ว่าไอ้จะอยู่กรุงเทพฯ น่ะไม่เป็นปัญหากับฐานะทางการเงินของเขาหรอก แต่คนใช้เงินที่บ้าน บ้านให้กลับก็ต้องกลับ ผมไม่คิดว่าเขาจะมีความอดทนพอเจอผมให้ได้

“แล้วคิดอะไรอยู่”

“คิดว่า น่าจะบอกโอบไว้”

ภัคนิ่งไปอย่างครุ่นคิดเหมือนกัน แล้วถาม “เพราะจะไปเจอหรือ”

“เปล่า แค่คิดว่าน่าจะบอกเฉยๆ”

ผมเข้าใจ ในความรู้สึกของภัค ถ้าจะไปเจอ ควรบอก เพราะจะได้ไม่ดูเหมือนแอบพบกันลับหลัง ถ้าไม่ไปอยู่แล้ว ก็ปล่อยๆ ให้ผ่านไปเลยไม่ต้องพูดถึง แต่หลังจากที่คุยกันวันนั้นผมก็รู้ว่าถ้ามีเรื่องอะไรผ่านเข้ามาในชีวิตไม่ว่าเล็กน้อยขนาดไหนผมควรจะพูด อีกฝ่ายก็คงทำเหมือนกัน

“ตามใจ... มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ”

ผมขอบคุณเพื่อนไป ออกจากร้านแล้วถึงเพิ่งนึกได้ว่า ยังไม่ได้ถามไถ่เรื่องเพื่อนกับคุณศรัณย์ว่าถึงไหน ราบรื่นดีหรือไม่ อันนี้ผมก็ตามกับคุณศรัณย์ไม่ได้อีกเพราะคุณศรัณย์ไม่ได้เดตภัคในฐานะลูกค้า อีกอย่างภัคเป็นเพื่อนผม จะถามใครก็ควรถามภัคนี่แหละ... แต่ไม่เป็นไร ไว้ครั้งหน้าที่เจอกันก็ได้

ผมรีบกลับบ้าน วันนี้โอบไม่ต้องเข้าเวรดึก บอกว่าจะซื้อกับข้าวไปผมก็ฝากกุญแจสำรองไว้ที่ป้าตั้งแต่เช้า พอเปิดประตู เห็นหน้าเห็นยิ้มต้อนรับกว้างขวางก็แทบลืมเรื่องอื่นหมด

สำหรับคนเคยเปิดเข้าไปเจอห้องว่างเปล่าปีแล้วปีเล่า แต่วันหนึ่งมีคนรอ... ความรู้สึกมันเทียบกันไม่ได้เลย

กินข้าวกันเสร็จโอบอาสาล้างจาน ระหว่างนั้นผมยังไม่มีโอกาสพูด มัวแต่คุยกันเรื่องอื่น เอาจริงโอบมีเรื่องประหลาด (และส่วนใหญ่ขำ) มาเล่าให้ผมฟังทุกวันจากที่ทำงาน ที่ว่าอยู่ด้วยแล้วไม่ง่วง... คงจริง

ผมนั่งอยู่บนโซฟา มองคนหันหลังยืนล้างจาน รู้สึกว่าควรจะเกริ่นก่อน

“เออ... ดูรายการนี้สิ เขาตามหาแฟนคนแรก พามาเจอกันแน่ะ แต่พิธีกรบอกว่าเบื้องหลังไปถามความสมัครใจสองฝ่ายแล้วว่าอยากจะเจออีก ถ้าจู่ๆ มาเลยนี่คงเหวอ” ผมพูดไปเรื่อย “โอบมีใครติดต่อมาบ้างหรือเปล่าเนี่ย”

“โอบไม่มีแฟนเก่าให้ไปเจอหรอก...” อีกฝ่ายเหลียวมานิดหนึ่ง ยิ้มก่อนจะหันไปล้างต่อ “ไม่เคยใช้คำนี้กับใคร”

“ไม่จริงน่า...”

“จริง... สมัยเด็กโอบเนิร์ดจะตาย”

... ถือว่าการเกริ่นตกไปแล้วไหม ผมก็ขี้เกียจจะอ้อมแล้ว เลยตัดสินใจพูดเรื่องที่เพื่อนบอกไปตรงๆ

มือที่กำลังถูฟองน้ำชะงักนิดหนึ่ง ซึ่ง... ไม่ต้องเห็นหน้าผมก็รู้ว่า... ไม่ชอบใจ แต่โอบก็เพียงแต่พยักหน้ารับรู้โดยไม่หันมา

"ปล่อยแฟนไปเจอแฟนเก่า ใจดีไปรึเปล่า..." ผมว่าลอยๆ

คนหันหลังยืนล้างจานหัวเราะหึๆ "ทำไม อยากให้ร้าย?"

อันนี้ผมก็นึกไม่ออกอีกว่าจะเป็นยังไง

“... เห็นไม่ห้าม”

คราวนี้ไม่ตอบ ผมต้องรีบพูด “ไม่ได้จะไปอยู่แล้ว”

อันที่จริงคู่อื่น ถ้าเลิกกันด้วยดี เผอิญเจอก็คุยถามไถ่กันมันไม่เป็นไรหรอก แต่นั่นคือยังเหลือความเป็นเพื่อนไว้บ้าง หรือจำเป็นต้องเจอ ด้วยหน้าที่การงานอะไรต่างๆ นี่ก็ไม่ใช่อีก อันนี้ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรดีกับใครเลยจริงๆ โอบล้างจานเสร็จ เช็ดมือกับกางเกง แล้วเดินมานั่งลงข้างๆ 

“ถึงไม่ห้ามไง...”

โอบเท้าข้อศอกไว้ที่พนักพิงโซฟา ผมนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหา อีกฝ่ายยิ้มอ่อน เอื้อมมือมาเกลี่ยไรผมที่ข้างขมับให้เบาๆ
 
“ถ้าไม่ไป ไม่ต้องมีคนห้าม ก็ไม่ไปอยู่ดี กลับกัน คนอยากจะไป ห้ามให้ตาย คงมีช่องเจอจนได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นยิ่งไม่รั้ง... เพราะถือว่า ใจเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้ว”

ผมยิ้ม “โอบคนดี...”

"ไม่ได้ดี...” คนนั่งข้างยิ้มตอบ “แค่ไว้ใจ ว่าจะไม่ทำให้เสียใจ”

“ไว้ใจได้แน่”

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่เคยทำร้ายผมไม่คิดว่าโอบจะมีปัญหา ผมไม่รู้ว่าตอนแรกมีความคิดว่าอยากให้ห้ามอยู่ในหัวหรือเปล่า อาจจะมีก็ได้ อยากให้ตัดสินใจให้ บอกว่า อย่าไป ห้ามไป แต่จริงๆ จะไปหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเรานี่แหละ ไม่ใช่แฟนเราหรอก
 
พอผมชวนดูหนัง โอบก็พลิกปกไปมาแล้วว่า

“ไม่ใช่หนังผีเหรอ”

โอบคิดว่าผมดูหนังอยู่ประเภทเดียวหรือไง “เปลี่ยนบรรยากาศมั่งสิ”

ผลคือ...

ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ผมก็ชักรู้สึกได้ว่าตัวเองดูหนังอยู่คนเดียว ส่วนอีกคนน่ะ... หนังดูไปเรียบร้อยแล้ว

อันนี้ผมก็ไม่อยากจะคิดว่าโอบอยู่กับผมแล้วง่วง ความจริงที่ลืมนึกไปคือ ไม่ต้องเข้าเวรวันนี้ เพราะเมื่อคืนมันควบมาแล้วไง เที่ยงคืนถึงสี่โมงเย็น

แล้วโอบก็เพิ่งจะเล่าว่า ‘เป็นคืนที่รับโทรศัพท์บ่อยที่สุดตั้งแต่ทำมา เดี๋ยวหมอเดี๋ยวพยาบาล’ แปลว่า... ไม่ค่อยได้นอน

ผมขยับไปจัดหมอนให้ท่าทางสบายขึ้น ก่อนหันกลับมาดูจูเลีย โรเบิร์ตส์ต่อไป

... ไหนๆ ก็เช่ามาแล้วไหมล่ะ เสียดายตังค์

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 31-05-2013 11:34:15
คุณ Windyne มันคือ... คนเก่าค่ะ แต่คงไม่เกิดเรื่องอะไรแล้วล่ะเน้อ... (เสียงสูงท้ายประโยค 555)

คุณ Theomen ยังไม่ค่ะ และมันอาจจะไม่ขนาดนั้นแล้วนะม่าเนี่ย (บอกว่าไม่มาม่าทำไมไม่ค่อยเชื่อกันล่ะ 55) ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ mesomeo2 แอร๊ยยย เป็นสโลแกนเชียว ขอบคุณนะคะ

คุณ Aoya กลับมาแล้วจะเป็นยังไงนี่ก็... ต้องขอให้อ่านต่อไปล่ะค่ะ ก็ดูอยากวุ่นวายอยู่นะ เหอๆ

คุณ iforgive เพราะเพิ่งเห็นค่าของอีกคนมั้ง คนเรามันก็เป็นซะยังงี้

คุณ malula พยายาม แต่ไม่รู้จะออกมาเป็นยังไงสิเนี่ย

คุณ Gokusan คนอ่านโหดมากค่ะ คือทับหนเดียวไม่ได้ด้วยต้องทับไปทับมา 555 แทคก็ไม่ได้อยากเจอหรอกนะ ถึงจะเคลียร์ถึงจะบอก มันก็ยังมีช่องถ้ามันจะมีน่ะนะ (นี่ใบ้อะไรเนี่ย) ก็ยังต้องปรับตัวกันต่อไปจริงๆ ด้วย

คุณ goosongta ตอบสั้นๆ คือ ใช่ แต่ยังไม่มาตอนนี้ อิอิ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ Naenprin ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ Millet เราก็ไม่รู้ว่า จริงๆ แกแพลนไว้มั้ย หรือมันเป็นธรรมชาติของแก ฮา

คุณ Tassanee กร๊ากโดนไล่ตั้งแต่ยังไม่ออกชื่อกันเลยทีเดียว

คุณ BeeRY คนมันเหมือนอยากยุ่งน่ะ ทำไงดี ใช่ๆ โอบสำคัญสุด 55 ก็ยังงี้แหละค่ะชีวิตคนเรา นั่นก็เป็นมารในสายตาคนอ่านหลายคนอยู่ จริง เชิดใส่ 55

คุณ KAEHUB ใช่ป่าว โอบก็เชื่อใจแทคน้า

คุณ NewYearzz คนเขียนก็พยายามปั่นมาส่งค่ะ ฮา ขอบคุณสำหรับการอ่านมากนะคะ

คุณ ่patsaporn จริงๆ คู่นี้ชิลๆ นะ คือนิสัยมันคล้ายๆ กันบางส่วน ในความคิดคนเขียนน่ะนะ โอบก็ใบ้ไปตานี้แทคก็พยายามมั่งแต่น่าจะเฟล เอาน่ะมันคงไม่เฟลไปทุกคราว ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณเหมือนกันค่ะ

คุณ kyoya11 มันมาเป็นอุปสรรค อีกนิด อิอิ แต่แหม ไม่น่าจะทำลายได้หรอกน่า

คุณ Takarajung_TK ยังไม่เครียดนะคะ อิอิ ฝากอ่านต่อด้วยนะจ๊ะ

คุณ yeyong ขอบคุณมากค่ะที่แวะเข้ามา อันนี้ก็ค่อยๆ ไป (ก็ตั้งแต่แรกแล้วนี่) คนเขียนก็ว่ายังงั้นแหละค่ะ

คุณ bennnyyy ไม่รู้เหมียนกัน เห็นพยายามอยู่ ต้องฝากอ่านต่อด้วยล่ะค่ะ

คุณ ✪PATTY✪ ขอบคุณมากค่า อย่าลืมมาอ่านต่อด้วยน้า

คุณ yoyo ดีมากค่ะคนอ่าน 55 แทคก็ไม่อยากจะยุ่งหรอก

คุณ PapermintReal จนป่านนี้ก็ยังไม่อยากจะออกชื่อกร๊าก มานคือคนเก่านั่นเองงง

คุณ yumsonteen ถูกค่ะ

คุณ DarknLight ไม่เยอะหรอก ชีวิตมันต้องมีบ้างสิจะได้มีรส กร๊าก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

น้องโอบยูชิลลลนะ (ส่วนแทคพยายามใหม่นะคราวหน้า กร๊าก) แต่ความจริงเรื่องมันยังไม่ถึงที่สุด ต้องรอดูกันต่อไป อีกหน่อยนะจ๊ะ

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เลยค่า
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 31-05-2013 11:48:00
คุณเดหลีเสียงสูงตล๊อดดดดดดดด!! กลัวใจคนเขียนเหลือเกิน!!! 555

ในใจเอาแต่คิด...
อิพี่คนเก่าจะมาทำไม โอบจะคิดมากมั้ย แทคจะหวั่นไหวอะไรรึเปล่า
แต่ทำไรไม่ไดั รออ่านสถานเดียว ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 31-05-2013 12:36:48
โอบน่ารักเสมอต้นเสมอปลายเสมอกิ่งเสมอก้านเสมอใบจริงๆ
อยากได้ยาชูกำลังแบบโอบบ้าง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 31-05-2013 13:05:09
ไม่รู้แหละ สถานการณ์ต่อไปจะเป็นยังไงช่างก่อน

นี่เขินโอบบบบบบบตลอดดดดดดดเลย (นึกว่าตัวเองชื่อแทค)

รบกวนห้องยา จัดยา โอบกิจเซตามอนให้สองแผงค่ะ ไม่ไหวแร้ว กรี๊ดดดด  :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 31-05-2013 13:05:33
อบอุ่นกันทั้งคู่เลย  น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 31-05-2013 13:33:41
ตาโอบน่ารักมาก...มิเสียแรงที่ชูป้ายไฟ ฮิ ^^
ในทุกความสัมพันธ์...ต้องไว้ใจกันมันถึงจะได้ใจเนาะ

ไม่ต้องมาเจอหรืออะไรหรอก...แทคแยกออกอยู่แล้ว
ระหว่างคนพยายามและมั่นคงกับเรามาตลอด...จนได้มาเจอเราอีกครั้ง
กับคนไม่มีความพยายามจะทำและรักษาอะไรไว้ซักอย่าง...จบกันด้วยไม่ดี จะมีใครกลับไปหา

แอบสงสารตาเสี่ย...ท่าทางน้อยใจ คุณคนนั้นเขาจะเห็นไหมหนอ
อยากให้เสี่ยได้เจอคนของตัวซักที...เหมือนที่แทคแอบหวัง

เมื่อมั่นใจและเชื่อใจ...อะไรก็ไม่น่ากลัวแล้วเนาะ ^^V สู้ๆ แพ็คคู่ของชั้น อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 31-05-2013 14:27:06
ชอบประโยคนี้จังเลย "ความรู้สึกที่ว่า เขาคงไม่ได้ดีแบบนี้กับเราคนเดียว บางทีมันก็บั่นทอนกำลังใจเหมือนกัน"

 แต่ยังไงก็ขอตบมือให้กับความพยายามของเสี่ย 55 :katai2-1:

พยายามจะเชื่อว่าไม่มีดราม่า แต่กลัวแทคจะเปลี่ยนใจจริงๆนะ. สงสารโอบ55

มาต่อเร็วๆน้าาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 31-05-2013 15:01:30
น่ารักจัง  แต่อยากให้มีเลิฟซีนบ้าง 

มันดูไม่มีอะไรผูกมัดเกินไป กลัวววว  ใครสักคนหายไป
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 31-05-2013 18:12:17
แทคเราเพ้อละ "บ้านผมไม่มีอ่างอาบน้ำ...." อยากจะ Romance บ้างสินะ  :m20:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 31-05-2013 18:13:58
เขินแทนแทคๆๆๆ :hao7:
บรรยากาศกำลังดี แฟนเก่าก็ปล่อยให้เก่าไปแบบนั้นแหละ :katai4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 31-05-2013 19:20:46
ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ เวลาเปิดประตูมาเจอคนรักรออยู่ ที่พักคงสุขยิ่งกว่าวิมาน  :-[


รักพี่คนเขียน :กอด1:

รอตอนต่ไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 31-05-2013 22:11:51
คู่โอบแทคลงตัว
งั้นลุ้นคู่คุณศรัณย์กับภัคดีกว่า
แถมเป็นกำลังใจให้เสี่ยคนน่ารักด้วยอีกคน อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-05-2013 22:17:21
ดีจังเลย พอมีอะไรก็พูดคุยกัน สื่อสารกันมากขึ้น
แต่ไม่เข้าใจว่าคนเก่าจะมาพยายามอะไรเอาป่านนี้
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 31-05-2013 22:34:41
ความสัมพันธ์ดูจริงจังมากขึ้น ชอบที่แทคพูดเรื่องแฟนเก่าตรงๆ รู้จากปากเราเองดีที่สุด
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 31-05-2013 23:29:18
แหม่ แทคพยายามสร้างบรรยากาศโรแมนติก
หลังได้ยินเค้าพูดกรอกหูมาทั้งวัน
แต่อีกคนไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว  :laugh:

จริงๆ นึกบุคลิกแทคไว้ว่าเป็นคนเฉยๆ แต่เห็นแบบนี้แล้วก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย

หวังว่าคนนั้นคงไม่มีความพยายามสูงส่งที่จะเจอแทคให้ได้
หรือไม่โลกเราก็คงจะไม่กลมจนเกินไป แต่ถ้ามันจะบังเอิญก็เชิดใส่มันเลยแทค  :z6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 31-05-2013 23:46:57
หวานๆ งดมาม่าาา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 01-06-2013 00:15:42
 :mew3:

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 01-06-2013 10:16:20
เอาซี๊  อยากรู้เหมือนกันว่ากลับมาแล้วแต่แทคไม่สนใจ  มันจะทำยังงัย ชิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: bennnyyy ที่ 01-06-2013 14:11:04
สงสัยแฟนเก่าแทคต้องกลับมาป่วนนานแน่ๆ แต่ยังดีที่แทคกับโอบเข้าใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 01-06-2013 14:46:37
 :-[ แหม~คนแบบโอมเนี่ยหาได้ที่ไหนบ้าง เจ๊จะได้เอามานอนกอดโอบ กรากกกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 01-06-2013 22:07:36
อยู่กันแบบเรียบง่ายน่ารักดี เค้าชอบอ่ะ ความรู้สึกที่มีคนห่วงใย คนพิเศษรออยู่
อย่างตอนแทคดีใจที่เปิดประตูมาก็เจอโอบ ได้นั่งคุยกันนิด ๆ หน่อยแม้โอบจะง่วงมากก็ตาม
แล้วก็ตอนแทคไปหาที่ รพ. แหม คนอยากเจอก็น่าจะรู้พี่แทคนี่น้า น้องโอบวิ่งตามทั่ก ๆ เลย
อยู่ห้องปั๊ดจับฟัดเนอะ เรื่องคนเก่าของแทค ตอนบอกโอบ..ผู้ชายคนนี้คิดอะไรในใจเยอะเหมือนกันนะ
โอบบอกว่าไว้ใจแทค ถึงเวลาจริงจะทำได้ป่าวไม่รู้  แทคเองก็เหมือนกันต้องเข้มแข็งนะ
ดูผู้ชายคนนั้นจะพยายามน่าดูที่จะเจอ และคิดว่าคงได้เจอแน่ ดูจะเป็นคนที่อยากได้อะไรต้องเอาให้ได้
ทำไม? อยากได้คืนเหรอ...ชิส์ กินเด็กดีกว่าเป็นอมตะ เนอะแทคเนอะ โฮะๆๆ

ขอบคุณค่า

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 02-06-2013 01:14:19
โอบเนี่ย...เอาโล่ห์พระเอกมั้ย เราจะทำให้  :hao5:  ชอบจัง  รักกันแบบเรื่อย ๆ แต่ดูมั่นคงดี 
สงสารเสี่ย  หวังว่าเสี่ยจะได้เจอรักแท้เข้าสักทีในสักวัน  :กอด1:
ส่วนแฟนเก่า ติดต่อกลับมา หวังอะไรเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 16] 31 พ.ค. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 03-06-2013 13:50:13
ชอบ~ พอเป็นแฟนกันแล้วบรรยากาศหววานๆก็ลอยมาตลอด

น่ารักมากเลย อ่านไปยิ้มไปทีเดียว โอบก็น่ารัก แทคก็น่ารัก

ตอนแรกๆ ไม่คิดว่าโอบจะเป็นคนขี้เล่นขนาดนี้ โอ๊ย เขิน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 11-06-2013 23:25:44
บทที่ 17

“... ไม่โสดแล้วมาสายเลยนะจ๊ะ...”

เสียงพี่อิททักลอยลมมาในเช้าวันหนึ่งเมื่อผมผลักประตูออฟฟิศเข้าไป ครีมเดินถือถ้วยกาแฟออกมาสอง วางให้พี่อิทแล้วถามผมว่าจะเอาด้วยไหม

“แหม... กาแฟไม่พอม้าง...” พี่อิทตอบแทน แซวได้แซวดี แต่ดันเป็นการแซวที่ไม่มีมูลเอาเสียเลยนี่สิ

“อร๊าย พี่แทคทำอะไรมาถึงต้องโด๊ป...” ครีมกรี๊ดกร๊าด

“น้องครีม เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่เอาลูก...” พี่อิทจุ๊ปากแต่สำเนียงยังไงก็ให้ท้ายน้องสุดชีวิต

“เอ๊า เจ๊ก็... พูดให้คิดก่อนนี่นา” ครีมหัวเราะร่วน ก่อนเย้าอีก “ตั้งแต่ทำงานมา ไม่เคยเห็นพี่แทคสายเลย”

“เออ... ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกันหรอก”

คืนนั้น หลังจากจูเลียได้ให้ความบันเทิงแก่ผมจนคุ้มราคาค่าเช่าแผ่นเรียบร้อยแล้ว โอบก็งัวเงียตื่นขึ้นมาตอนหนังจบพอดี ผมจึงบอกให้ไปนอน ที่จริงผมก็ง่วงเหมือนกัน เพราะดูหนังรักโรแมนติกคนเดียว (ซึ่งไม่ใช่หนังที่ปกติผมจะดู) มันไม่ได้อารมณ์อะไรทั้งสิ้นนอกจากอารมณ์อยากหลับ ส่วนเมื่อเช้า...

เสียงเคาะประตูดังเร่งร้อนก่อนนาฬิกาจะปลุก พอลุกมาเปิดคนอยู่ห้องตรงข้ามก็พรวดเข้ามา ได้ใจความว่าฝักบัวเสียกะทันหัน ทิ้งกุญแจรถกับกระเป๋าไว้บนโต๊ะแล้วก็พุ่งเข้าห้องน้ำไป ผมยังไม่ตื่นดีเลยตอนโอบเสร็จธุระออกมาด้วยความรวดเร็ว ได้แต่เดินมึนๆ ไปส่งที่ประตู

อีกฝ่ายหัวเราะหึ สะพายกระเป๋าทั้งมือหนึ่งยังกลัดกระดุมเสื้อ
 
‘... ถ้าอยากดูเดี๋ยวกลับมาให้ดู ตอนนี้ถ้าสายล่ะไม่ผ่านทดลองงานแน่’

แล้วผมถึงรู้ว่านี่เผลอมองนานไป... หน่อย โทษความไม่มีสติจากที่ยังตื่นไม่เต็มตานั่นแหละ โอบเอื้อมมาหยิบกุญแจรถ ตอนขยับถอยออกรู้สึกถึงปลายจมูกเฉียดผ่านใกล้ ต้องบอก

‘รีบไปเลยไป’

แว่วเสียงหัวเราะอยู่จนประตูปิด ผมจะนอนต่อก็ไม่ได้แล้ว ที่สายนี่... ตอนออกมาดันใจลอยนั่งรถไฟฟ้าเกินป้ายไปนิดเท่านั้น

ระยะนี้โอบมีฝึกอบรมด้านเทคนิคโดยต้นสังกัดส่งไป ความจริงอาจจะไม่เร็วขนาดนี้สำหรับคนทำงานได้ไม่ถึงปี แต่พี่คนที่ได้รับเสนอชื่อตอนแรกเพิ่งรู้ว่าจะมีน้อง ซึ่งเสี่ยงกับเด็กถ้าทำยากลุ่มนี้ โอบเลยได้ไปแทน ประชุมในกรุงเทพฯ สัปดาห์หนึ่ง แต่ต่อจากนั้นต้องทำอยู่ห้องยาอีกประมาณเดือนกว่า

โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์อบรมมีแค่สี่ห้าแห่งเท่านั้น ในกรุงเทพฯ เต็มเสียแล้ว โอบจึงต้องไปถึงฉะเชิงเทรา อันที่จริงโรงพยาบาลก็มีหอพักให้อยู่ในชั่วเวลาเดือนกว่าๆ ที่ไปฝึก แต่นี่ดื้อ ยืนยันจะไปกลับ เป็นชนวนให้เรา (เกือบจะ) ได้เถียงกันเป็นหนแรกหลังจากเหตุการณ์บนดาดฟ้าเป็นต้นมา เมื่อสองสามวันก่อนนี่เอง

‘... ขับรถก็แค่ชั่วโมงนิดๆ รถติดในกรุงเทพฯ บางทียังนานกว่า’ โอบเริ่ม

‘ชั่วโมงนิดๆ นั่นน่ะต้องเหยียบกี่ร้อย’

‘อ๋อ...’ โอบลากเสียงยาว มองหน้าผมเหมือนจะคิด ‘ถ้าเป็นแทคขับก็ประมาณสี่ชั่วโมง เทียบเอาละกัน’

ผมพยายามไม่หลงกลกับคำตอบชวนโมโหเพราะจะลืมประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ แล้วผมก็ไม่ได้ขับช้าเต่าคลานขนาดนั้นสักหน่อย ว่ากันจริงๆ เหตุมันมาจากแม่ที่ไม่ยอมให้เอารถขึ้นเชียงใหม่ตั้งแต่สมัยเรียนจนกว่าจะขับพาไปตลาดกิมหยงในระดับความเร็วที่พอใจ กลับหาดใหญ่ทีแม่ก็ยังมานั่งกับผมตลอดแล้วเลย... คงติดมา แต่ในกรุงเทพฯ ถ้าไม่ใช่ทางด่วนหรือหัวรุ่ง ได้เกินหกสิบก็เก่งแล้ว โอบน่ะขับเร็ว ให้ระวังอย่างไรมันก็เสี่ยง แล้วใช่เรื่องไหมที่ต้องขับไปขับมาวันละสองร้อยกิโลเนี่ย

‘ก็นอนซะที่นั่นมันเป็นไงล่ะจะได้ไม่ต้องตื่นเช้าขนาดนี้ เย็นรถติดอีก’ ผมบอก

‘แค่เดือนเดียวแหละแล้วก็กลับมาทำที่เดิม’

‘พูดเพราะห่วง...’ ผมใช้ไม้อ่อน และเตรียมชักแม่น้ำทั้งห้าต่อ ‘เสาร์อาทิตย์ค่อยเข้ามาก็ได้’

แล้วผมก็ออกไปหาด้วยก็ได้ เอ้า

แต่อีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมสายตาแบบที่ทำให้ผมใจอ่อนไปด้วย ‘เจอหน้าแค่เสาร์อาทิตย์ ไม่พอ...’

ทุกวันนี้ตอนเย็นสภาพคือ... กลับมาได้ก็เหนื่อยจะตายแล้ว ซึ่งโอบไม่เคยบ่นหรอก แต่ผมดูออก แล้วเสาร์อาทิตย์บางทียังต้องไปทำงานบ้างประปราย คงเห็นว่าไม่มีเวรดึกจันทร์ถึงศุกร์ตอนอบรมละมัง

“... เอ้า ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจแล้วยังไงจ๊ะ แหม... ทำยังกับอยู่กันมาแล้วสามสิบปี กินข้าวเสร็จก็หลับหน้าทีวีเหรอ” พี่อิทว่าต่อทำนองถ้าเป็นตามนั้นนี่ผมทำงานอะไรอยู่กันแน่ ได้ยินถึงไหนอายไปถึงนั่น เสียเกียรติประวัติบริษัท ฯลฯ

ถึงผมจะจับคู่ให้คนเป็นอาชีพก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตส่วนตัวผมต้องโลดโผนโจนทะยานด้วยนะ...

เห็นผมเงียบพี่อิทก็อุทาน “ต๊าย! ที่พูดมานี่จริงหมดหรือยะ...”

“ก็...”

“เธออย่ามาอย่างนั้นอย่างนี้ เขาเห็นเธอเฉยเขาก็เฉยบ้างสิ ถ้าเธอไม่เอื้อมันจะได้เรื่องไหม”

... นี่ผมก็ไม่เห็นจะไม่ ‘เอื้อ’ ตรงไหน (อย่างน้อยก็คิดว่าไม่ได้ทำอะไรที่ดูเป็นการขัดขวางนะ) เปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยเล่าที่โอบไปอบรมจนเป็นเหตุให้ต้องตื่นเช้ากว่าเดิมเพื่อเดินทาง พี่อิทจะได้เข้าใจถึงสภาพงานรัดตัวแบบนี้เพราะเราก็มีช่วงยุ่งเป็นพักๆ เหมือนกัน แล้วมันก็แค่เดือนเดียวเอง

“ทำยาเคมีบำบัด? แหม... ระวังนะ” พี่อิททำเสียงมีเลศนัยไม่เลิก ส่วนครีมก็หัวเราะคิกคักเป็นลูกคู่อยู่นั่นแหละ

“มันไม่เสื่อมกันง่ายขนาดนั้นหรอกน่ะ” ผมบอก

สองคนปล่อยก๊ากอย่างไม่เกรงใจ พอดีกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมรีบคว้าก่อนประเด็นจะไปไกลกว่านี้

“บริษัทบำบัดโสด พั...”

“คุณแทค...” เสี่ยน็อตไม่ยอมให้ผมพูดจนจบเหมือนเคย บางอย่างในน้ำเสียงทำให้สะดุดใจ “... ขอบคุณมากที่เป็นที่ปรึกษาให้ผมมาตลอด”

ถึงจะชินแล้วกับการเริ่มเรื่องแบบไม่มีอารัมภบทของเสี่ย แต่คราวนี้ผมยังไม่ทันตอบเสี่ยก็พูดต่อ “ผมขอหยุดสัญญาไว้แค่นี้นะ ที่เหลือบริษัทปรับเงินได้เลย”

“บริษัทเราไม่มีนโยบายปรับ... เอ้ย เดี๋ยวก่อน เสี่ยครับ” ผมรีบลำดับความสำคัญ “เดี๋ยว ใจเย็นๆ... เล่าให้ผมฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

นี่ไม่ใช่ ‘ขอหยุดสัญญาเพราะตกลงกันแล้วว่าจะคบคนเดียว’ แน่ๆ ฟังจากเสียงคนพูด เสี่ยนิ่งไปนิดแล้วว่า

“ผมก็สนใจอยู่พวกดวง เนื้อคู่อะไรเนี่ยคุณแทคก็รู้ ยังเคยดูเลยว่ามันมีราศรีที่เข้ากันดีเป็นพิเศษหรือเปล่า”

ผมจำได้ ตอนแรกๆ เสี่ยเคยคิดว่าสิงห์ไม่เข้ากับมังกร หรือจะจริง...

“ผมถึงไม่เคยมีปัญหา เขาจะลากผมไปหาหมอดูกี่คนๆ ก็ไป ถ้าทำให้เขามีความสุข แต่ก็...”

ปลายสายเงียบไปอีก ผมรออย่างอดทน ให้พูดออกมา ยังดีกว่าเก็บไว้ ได้ยินเสียงหัวเราะนิดหนึ่ง แต่ไม่ได้มาจากความชื่นมื่นแน่
 
“... หรือผมหาเรื่องเอง เงียบๆ ไว้คง... ไม่เป็นแบบนี้”

“เสี่ยอยากอยู่แบบ ‘ไม่รู้’ มากกว่าหรือครับ...”

อีกฝ่ายถอนใจยาว “นั่นสิ เคยคิดว่าไม่รู้เสียดีกว่า แต่คุณแทค ผมเคยไม่อยากหลอกตัวเองมาหนหนึ่งแล้วตอนจะถูกจับแต่งงาน ทำอีกหน... คงทำได้ไม่นานเหมือนกัน ผมไม่ถามเขาเรื่องคนอื่นเพราะรู้อยู่แล้ว ปรากฎว่าได้เรื่องกับเรื่องที่ไม่คิดว่าจะต้องเป็นปัญหาเลยด้วยซ้ำ”

นิ่งไปอีกแล้วถึงบอก “ดันถาม... ถ้าหมอดูบอกว่าผมกับเขาไปกันไม่ได้ หรือมีคนบอกว่า ดวงผมกับเขาเกิดชงกันขึ้นมา  เราจะเป็นยังไงต่อ ต้องเลิกเลยไหม”

ผมไม่จำเป็นต้องถามถึงคำตอบที่เสี่ยได้รับ มันก็... ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว

“... ผมไม่ว่าอะไรกับเรื่องความเชื่อส่วนตัวนะ แต่เขาตอบได้โดยที่ไม่ต้องคิด ไม่ต้องลังเล ผมเลย... คิดได้ตอนนั้นด้วยมั้ง ผมไม่อยากอยู่กับคนที่ตัดผมออกจากชีวิตได้ง่ายขนาดนั้นน่ะ... แต่เขาคงไม่เป็นไร คงมีอีก... หลายคน”

“เสี่ย...” เริ่มแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ถ้าจะถามว่า ‘โอเคไหม ไม่เป็นไรนะ’ คำตอบมันไม่มีทางไม่เป็นไรอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่กำลังโกหกตัวเองอยู่ “ผม... เสียใจจริงๆ ครับที่เป็นแบบนี้”

ถ้าเสี่ยไม่ได้อยู่ในบริการเดต ถ้าคนที่เจอเรื่องอย่างนี้เป็นเพื่อนผม ผมคงแทบอยากไปหาเรื่องเสียเองกับคนคนนั้น แต่... นี่คือความจริงของธุรกิจนี้ หรือคง... เป็นความจริงของโลกการเดตปัจจุบัน ยังมีสิทธิ์เลือก ก็เลือกไป แต่ต้องยอมรับให้ได้ว่า เราเองก็อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วยเหมือนกัน ซึ่งยัง... ปกติ แต่ถ้า ‘เผื่อเลือก’ ล่ะ

คนไม่ถูกเลือก... เจ็บเสมอ

เงียบกันไปหน่อย เสี่ยจึงเอ่ยออกมาเองด้วยเสียงแห้งแล้งเต็มที

“บอกว่าไม่เป็นไรคงไม่ได้... แต่ผมก็พยายามทำงานไปน่ะ”

“... เรายังไม่ต้องยกเลิกก็ได้ครับ” ผมพูดโดยที่ความตั้งใจตอนนั้นไม่ใช่การยื้อลูกค้าไว้กับบริษัทมากเท่าไม่อยากให้คนคนหนึ่งเสียความเชื่อมั่นจากรักที่พังทลายเพียงครั้งเดียวจนปิดกั้นตัวเอง

เจ็บได้ เสียใจได้ หลบเลียแผล นานเท่าที่ใจจะกลับมาแข็งแรงใหม่

แต่ต้องอย่าลืม คนที่ไม่ควรถูกตัดโอกาสมากที่สุด คือตัวเราเอง...

“ผมรู้ว่าตอนนี้เสี่ยยังไม่พร้อม ก็พักเอาไว้ก่อน... ที่จริงมีคนอยากจะออกไปกับเสี่ยตั้งหลายคน ติดแค่ว่าตอนนั้นเสี่ยอยากออกไปกับคนเดียว เอาไว้เสี่ยโอเคแล้ว ค่อยบอกผม... ผมจะระงับบัญชีไว้ชั่วคราว แต่ยังไม่ต้องยกเลิก นะครับ”

“ผม... เหนื่อยน่ะ”

“ผมเข้าใจ...” ผมบอก “อย่าเพิ่งท้อ คนแรก ลืมยาก ฝังใจ... แต่ถ้าเขาไม่ดี ไม่เหมาะกับเรา ไม่พยายามกับเราเหมือนที่เราพยายามกับเขา เวลาผ่านไป เราจะรู้เองว่า ไม่มีเหตุผลให้ต้องจำ”

ปลายสายเงียบไป ผมพูดต่อ

“ตอนนี้อาจยังยาก แต่... มันจะค่อยๆ ดีขึ้น”

“จริงหรือคุณแทค”

“เสี่ยเชื่อผมเถอะครับ ผมผ่านมาแล้ว”

วางสายจากเสี่ยโดยที่อย่างน้อยอีกฝ่ายไม่ได้คัดค้านเรื่องพักไว้ชั่วคราว... ตกลงกันว่าสักวันสองวันผมจะไปเยี่ยม อย่างน้อยผมก็อยากจะไปดูเผื่อเสี่ยอยากคุย ถามหรือระบายอะไร เพราะบางอย่างคุยทางโทรศัพท์ก็ไม่เหมือนต่อหน้ากัน เสี่ยยังบอก ถึงรัก แต่ก็รักแบบทำใจมาได้พักใหญ่ เลยลดทอนความสาหัสลงไปบ้าง... นิดหน่อย 

พี่อิทเดินมาบีบไหล่ผม ถึงไม่ได้ยินบทสนทนาฝั่งเสี่ย แต่ที่ผมพูดเธอคงได้ยินชัดเจน

“บ้ายดีแล้ว น้อง...”

ผมตบหลังมือพี่อิทเบาๆ ยิ้มให้

ผมคงหายดีแล้วจริงๆ


ตอนเย็นภัคส่งข้อความมาว่าออกมาพบลูกค้าใกล้ที่ทำงานผมอีกแล้ว เลยได้เจอกันหน่อย เพื่อนจิบกาแฟ เหลือบตาขึ้นมอง แล้วก็ถามแบบที่ควรไปเป็นหมอดูมากกว่าทนายให้รู้แล้วรู้รอด

“ตกลงบอกไปแล้ว?”

ผมพยักหน้า

“เป็นไงมั่ง”

“ไม่เป็นไง บอกด้วยว่าจะไม่ไปเจอ โอบก็เฉยๆ”

ก่อนหน้านี้นาน ตอนที่ทุกอย่างยังสดอยู่ และผมเพิ่งกลับจากเชียงใหม่นั้น ผมก็เคยคิดว่า ที่จริงผมออกมาโดยไม่มีคำลา ไม่มีการปิดฉาก เก็บของที่เป็นของตัวเอง แล้วทิ้งทุกอย่างนอกจากนั้นไว้ จะถือได้ว่าเรื่องจบลงแล้วหรือยัง มันจบโดยที่ผมอยากจบฝ่ายเดียวได้หรือเปล่า โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องมารับรู้ต่อหน้า และยืนยันการสิ้นสุดไปด้วย แต่นานไปก็เลิกคิด เพราะ... ถ้าความรู้สึกจบ ก็คือจบ

... ไม่จำเป็นต้องรอการอนุมัติหรือคำอนุญาต

ภัคผงกศีรษะเหมือนคาดได้ บอกว่าก็คิดไว้อย่างนั้น ยกเว้นแต่ว่าจะมีอะไรมาสะกิดใจให้นึกถึง ซึ่ง... ไม่น่าจะมีแล้วมั้ง

ผมเลยสบโอกาสถามถึงเรื่องคุณศรัณย์ เพื่อนตอบสั้น “ก็โอเค”

นิสัยขยายความเฉพาะที่จำเป็น (หรือบางที เฉพาะเท่าที่อยากทำ) ของภัคทำเอาเพื่อนเข็ดขยาดกันไปหลายคนแล้ว มีผมนี่แหละที่ยังถาม แต่คราวนี้เหมือนตกลงใจจะพูดแค่นี้ เพราะ “ถ้าไม่โอเค จะบอก”

รู้นิสัยเพื่อน เท่านี้ผมก็ต้องโอเคไว้ก่อนล่ะ...

แยกจากกันได้ไม่นานโอบก็ส่งข้อความมาว่าวันนี้เลิกเร็วหน่อยและพรุ่งนี้ได้หยุดแน่ๆ ทั้งวัน ตอนนี้กำลังซื้อของกินอยู่แถวใกล้คอนโด ผมเลยบอกให้เลือกหนังมาด้วย เอาที่ไม่น่าจะง่วง

ซึ่งโอบเลือกหนังไล่ล่าฆาตกรรมเลือดสาดมา เพราะคิดว่าผมคงชอบ...

กินข้าวเย็นเสร็จไปที่โซฟา ผมก็อุตส่าห์ พอดีลูกค้าให้ไวน์มาขวด อีกคนมองแบบประหลาดใจนิดหน่อย แต่ผมว่าไหนๆ ก็ได้หยุดแล้วนี่นา 

ตอนนี้ในจอตื่นเต้นระทึกขวัญมาก นอกจอก็เงียบสงบมากเช่นกัน โอบขยับเข้ามาใกล้ แต่ปกติก็นั่งใกล้อยู่แล้ว และพูดว่า...

“... ห้องมืดไปหน่อยรึเปล่า เดี๋ยวตาแย่” จากนั้นก็สงสัยว่าผมเกิดอยากจะประหยัดไฟอะไรขึ้นมาตอนนี้

... ใครเคยบอก ไฟไม่ดับก็จุดเทียนได้? แล้วจุดเทียนดูทีวีมันประหลาดเกินเลยหรี่ไฟลงนิดหนึ่ง แค่เนี้ย

“ดูไปเหอะน่า มืดๆ เหมือนโรงหนังไง”

ได้ครึ่งเรื่อง คนนั่งข้างเริ่มไหลมาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าวันไหนอยากแกล้ง ผมจะดันกลับแล้วบอกให้นั่งดีๆ แต่วันนี้ไม่แกล้ง โอบเลยเอนจนแก้มมาแปะอยู่บนไหล่ผมเรียบร้อย 

“... เปลี่ยนน้ำหอมเหรอ”

ทำจมูกฟุดฟิดอีกนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ลุกออกไป

เห็นอย่างนั้นผมเลยแอบดมเสื้อตัวเองอีกข้าง เออ... พอฉีดแล้วผ่านไปพัก กลิ่นมันทำไมคล้ายๆ บุหรี่

ซึ่งเป็นกลิ่นที่โอบไม่ชอบ...

เรื่องนี้ผมรู้อยู่แล้ว แต่เพิ่งได้รายละเอียดหมดเมื่อไม่นาน

... พ่อแท้ๆ ของโอบเคยสูบบุหรี่ สูบจัดมากด้วย แต่เจ้าตัวไม่เคยมีความทรงจำอะไรที่ดีกับพ่อนัก ถ้าได้ยินพ่อทะเลาะกับแม่ หรือถูกไล่จนต้องมุดรั้วข้ามมาบ้านผม คงจำทุกอย่างร่วมกับกลิ่นบุหรี่ ได้กลิ่นอีกก็ไม่ทำให้อารมณ์เบิกบานไปได้
 
ขวดนี้ท่าทางต้องยกให้เพื่อน... อยู่บนตัวผมมันไม่เวิร์กแล้วล่ะ

ฤกษ์ชักไม่ค่อยดี หรือว่าควรต้องเปลี่ยนเสื้อ... อาบน้ำเลยมั้ย

ผมลุกพรวดแล้วสะดุดขาเก้าอี้แทบจะลงไปทับคนยังนั่งอยู่ แต่นี่ไม่ใช่ละคร ผมจึงยั้งตัวเองไว้ทัน

... ที่สะดุดก็เพราะมันมืดนั่นแหละ

โอบจับแขนผมไว้สองข้าง กึ่งรับกึ่งพยุง ก่อนจะลุกขึ้นมา “เป็นอะไร มึนหรือนิดเดียวเอง... หรือว่าตื่นเช้าไป? ตอนเย็นเจอแอลกอฮอล์เข้าอีก”

ความจริงผมไม่ได้มึนเลย แต่... ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ

โอบจึงปิดทีวี ส่งผมไปนอน และเกิดฉากคลาสสิกเสียหลักกันหน้าห้อง

อันนี้เปล่ามารยาเลยสาบาน พรมผืนเล็กที่ปูอยู่หน้าห้องนอนมันเลื่อนเพราะคนสองคนเซไปเซมาด้วยฝีเท้าไม่มั่นคงเท่าไหร่ (ยอมรับว่าอาจทิ้งน้ำหนักใส่โอบนิดหน่อย) ผมลื่นจริง
   
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ละครอีก ไม่มีการที่จมูกจะชนจมูกแบบพอดิบพอดี สบตากันหวานซึ้งอะไรทั้งสิ้น เพราะโอบก็ออกแรงรั้งผมขึ้นมาตามเดิม ดึงมือข้างหนึ่งให้พาดไหล่ แล้วบอกว่า...

"... แทคนี่ตัวไม่ใช่เบาๆ เลยนะ"

ซึ่งเป็นประโยคที่ไม่ชวนให้เกิดบรรยากาศโรแมนติกแต่อย่างใด...

ด้วยความที่ไม่เมา (แค่ตามน้ำเฉยๆ) ผมจึงพยายามจะเดินเอง ส่วนคนพยุงก็นึกว่ากำลังหิ้วคนเมาอยู่ ผลคือทุลักทุเลขนาดหนักจนไปถึงเตียงโดยที่โอบต้องทิ้งตัวนั่งตามลงไปด้วย

รู้สึกถึงปลายนิ้วอุ่นเกลี่ยระกรอบหน้า เปลือกตา แผ่วเบา... เรื่อยมาจนถึงไรผม ข้างแก้ม แล้วก็...

แล้วก็... หยุด

"แทค... ตอนนั้นก็เมาใช่มั้ย"

ผมนี่นะ... อยู่ดีไม่ว่าดีทำไมต้องรนหาเรื่องด้วย

ในสถานการณ์แบบนี้มันมีอะไรที่ตอบแล้วจะไม่เป็นการ 1) เข้าตัว 2) เสียความรู้สึก 3) โกหก
 
ไม่ต้องตอบ...

โอบถอนใจเฮือก ยกมือเสยผมลุกขึ้น 

"เออ ผ่านไปแล้ว ช่างมัน! แต่กับคนนี้ต้องสติเต็มร้อย รู้ไว้"

... นี่ผมก็มีสติอยู่ จริงๆ นะ

แต่จะ ‘สร่าง’ ขึ้นมาปัจจุบันทันด่วนยิ่งไม่ช่วยรูปการณ์ให้ดีขึ้น และนี่ก็ยังไม่ใช่ละครไทย เพราะโน่น... ได้ยินเสียงประตูข้างนอกปิด กลับห้องไปแล้ว

... ความจริงผมก็ไม่ควรหรี่ไฟซะห้องมืดตั้งแต่ต้นจะได้ไม่สะดุด สะดุดแล้วก็ไม่ควรจะรับสมอ้างว่าเมา หรือจริงๆ มันเริ่มที่ไม่ควรจะเปิดไวน์ จะได้ไม่ถูกทักว่าเมา หรือไม่ควรจะลุกพรวดพราดขึ้นมาตอนนั้น หรือ...

เคยได้ยินเรื่องทฤษฏีเคออสไหม ภาษาไทยจะแปลว่าทฤษฎีโกลาหล อลวน หรืออะไรก็ตาม แค่เงื่อนไขเบื้องต้นเปลี่ยนไปหน่อยเดียว ก็คาดเดาผลที่ออกมาไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้สภาพจะบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ในอนาคตน่ะน่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ จากเงื่อนไขในปัจจุบัน แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่เกิด...

อาจารย์เคยให้ยกตัวอย่างตอนเรียน ทุกคนคิดถึงหนังเรื่องบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟกต์

แต่ต่อจากนี้ คืนนี้แหละ ตัวอย่างขั้นเอกอุในชีวิตผม...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณ Windyne ไม่นะคะ! อย่ากลัวไปค่ะ 55 ขอบคุณมากเลยน้าที่อ่าน อิคนเก่ามันก็ยังไม่โผล่ โอบไปคิดมาก (หรือไม่มากดี เรื่องอื่น นี่ขนาดมันยังไม่มานะ) ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ goosongta ขอบคุณมากค่ะที่ชอบ ฝากอ่าน (โอบ 55) ต่อด้วยน้า

คุณ Millet ขอบคุณมากสำหรับการอ่านน้า ดีใจที่เขิน 55 คนเขียนก็อยากได้ยาตามสั่ง (ไม่ใช่ยาสั่งนะ) เหมียนกันนะ

คุณเฉาก๊วย ไม่รู้ตอนนี้มันน่ารักป่าว 55 ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ Gokusan ก็ไว้ใจแหละ เราควรจะเชื่อมั่นในการแยกแยะของแทคต่อไป กร๊าก ตอนนี้เสี่ยน่าสงสารสุด แต่แล้วมันก็จะดีขึ้นนะเสี่ยนะ ฝากอ่าน (+ เชียร์) ต่อด้วยนะคะ

คุณ Theomen ก็คงจะต้องสงสารเสี่ยสุดเช่นเดียวกันในตอนนี้ พยายามแต่เขาไม่พยายามด้วยนี่น้อ นี่ไม่ม่านะคะ ก็มีเรื่องต้องจัดการกันไปตามประสา ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ Tassanee แป๊บนึง ฮ่า แต่ถึงยังไม่ก็ผูกมัดได้น้า

คุณ mesomeo2 ความพยายามพังมากอะขอบอก กร๊าก

คุณ kyoya11 มาค่ะอ่านต่อ ตอนนี้บรรยากาศไม่รู้จะเป็นไงเลยเนี่ย ฮ่าๆ

คุณ NewYearzz คงใช้เวลาอีกหน่อย เท่านี้ก็เจอกันทุกบ่อยอยู่แล้วเนอะ รักคนอ่านเช่นกันค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Takarajung_TK อันนี้ถือว่าลงตัวยังไม่รู้ได้กร๊าก ทุกคนต้องการการเชียร์อย่างทั่วถึงจนกว่าจะจบ 55 ขอบคุณ (แทนเสี่ย) สำหรับกำลังใจค่ะ

คุณ malula ก็คิดได้เมื่อสายไป หรือเปล่า แต่อันนี้ยังไม่แน่ชัด ฮา ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

คุณ yeyong แทคก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะคะ

คุณ Aoya และได้เฟลอย่างมหาศาลอีกแล้ว คราวนี้โอบไม่ได้หลับนะกร๊าก ความจริงคนอ่านเข้าใจถูกนะ จริงๆ แล้วแทคก็เป็นคนเฉยๆ แหละ แต่ไม่ใช่แนวเย็นชา มันเลยออกมาเปื่นๆ บางจังหวะ 55 หวังว่าโลกจะไม่กลมนะ

คุณ drasil ไม่ม่าค่ะไม่ม่า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ Naenprin ขอบคุณมากค่ะ อ่านต่อน้า

คุณ iforgive ฮียังไม่มากร๊าก จะมาจริงเปล่าเนี่ย

คุณ bennnyyy นานหรือเปล่าก็ไม่แน่เหมือนกัน... อิอิ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ

คุณ PapermintReal นั่นสิ 55 ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะคะ

คุณ ่patsaporn เรียบๆ ง่ายๆ อิอิ คราวนี้ไม่ง่วง แต่ก็ไรก็ไม่รู้ 55 เราต้องมาดูกันต่อไปว่าน้องโอบทำได้อย่างปากว่าหรือเปล่า แล้วแทครักษาสัญญาได้เปล่า จริงๆ คนเก่าก็น่าจะเป็นคนที่เอาแต่ใจประมาณหนึ่งเลยแหละ ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่า

คุณ ReiSei 55 มอบให้เลยนะ คนเขียนก็สงสารเสี่ย เดี๋ยวนะเสี่ยนะ เรื่องแฟนเก่าก็ต้องฝากให้อ่านกันต่อไป อิอิ

คุณนอนกินแรง อยากให้เรื่องนี้อ่านสบายๆ น่ะค่ะ โอบก็แบบนี้มาตั้งแต่ต้นนะ แต่พอสนิทกันก็เล่นขึ้นเป็นธรรมดา ความจริงชอบแกล้งกันไปมาทั้งคู่แหละ (มันมาจากสมัยเด็ก 55) ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แทคก็... พลาดอีกละ 555 ส่วนเสี่ย... ได้แต่บอกว่าอย่าเพิ่งถอดใจ นะจ๊ะ

ตอนนี้งานเยอะมากจริงๆ (แต่ไม่ใช่ว่าคนเขียนงานเยอะเลยหาเรื่องให้น้องโอบยุ่งเหมือนกันนะ อันนี้มันอยู่ในโครงเรื่อง...) น้องโอบถึงยุ่งยังไงก็กลับมานิ คนเขียนก็กลับมาเช่นเดียวกัน จะพยายามไม่ให้ขาดช่วงมากค่ะ เอ๊ะต้องย้ำอีกมั้ยว่าไม่ม่าไม่หน่วง (อะไรมาก) แล้วนะ อิอิ

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เช่นเดิมค่า
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-06-2013 00:03:11
บางทีความพยายามก็ไม่ได้นำมาซึ่งความสำเร็จเสมอไป
ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติบ้าง
โอบเนี่ย ยากอยู่เหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 12-06-2013 00:05:20
 :mew3:

เรื่องความรัก ไม่เข้าใครออกใครจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-06-2013 00:22:23
เกือบแล้วๆ  ลุ้นตัวโก่งเลย

ฮาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 12-06-2013 00:27:25
 :ling1: :katai1:  อะไรกันเนี่ย

เป็นสูตรมากเกินไปอะนะแทค  คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติบ้าง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 12-06-2013 12:34:23
กร๊ากกกก ขำอ่ะ ขอโทษนะแทค มันไม่ไหวจริงๆ  :laugh:
แหม่อุตส่าพยายามสร้างบรรยากาศขนาดนี้ โอบมันก็ยังไม่รู้
แทคก็ตามน้ำไปแล้ว โอบยิ่งคิดไปกันใหญ่ ลงท้ายกลายเป็นหงุดหงิดอีก  :ling1:
แต่แทคก็เปิ่นได้น่าเอ็นดูจริงๆ

สงสารเสี่ยน็อตจัง อารมณ์คงเหนื่อยๆ เบื่อๆ ท้อด้วย
หวังว่าเสี่ยคงสมหวังเร็วๆ นี้เนอะ

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 12-06-2013 12:40:22
 :hao5: เสี่ยน่าสงสารมากๆๆ  :m15:

ชอบประโยคนี้จังเลยยยย " คนไม่ถูกเลือก... เจ็บเสมอ "  :monkeysad:

มาต่อไวๆน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 12-06-2013 14:45:08
ตอนนั้นก็เมาใช่ไหม  ตอนไหนฟระ  ต้องย้อนไปอ่านก่อน
ตอนนี้สงสารเสี่ยน๊อตจัง มามะ  โอ๋ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 12-06-2013 15:21:32
ตาโอบ!! มีโอกาสก็ฉวยไว้ก่อนเซ่...
เขาอุตส่าห์สร้างความโรแมนซ์ให้แล้วอ่ะ
ครั้งต่อไปค่อยสติสมบูรณ์ก็ยังไม่สายนะยะ
เอ๊ะๆ นี่ป้าสอนอะไรออกไป...ฮี่ๆ ^^V ไม่สำนึก

ชอบที่แทคบอกเสี่ย...
ถ้าเขาไม่พยายามเท่าที่เราพยายามกับเขา เราจะรู้เองว่าไม่น่าจำ
เมื่อเวลาผ่านไป...เราจะรู้เองว่า ใครที่พอดีกับเรา...สู้ๆ เข้าเสี่ยน็อต ^^V

เฝ้ามองการเรียนรู้กันและกันของแพ็คคู่นี้ต่อไป
อย่ามีข้อจำกัดเยอะนักตาโอบ...เขาเล่นตัวมั่ง เธอจะเสียดาย ;p
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-06-2013 15:50:01
ยั่วบ้างไรบ้างสิหนู :laugh:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 12-06-2013 18:25:25
รอฤกษ์เสียตัววันหลังนะแทค อุ้ย! เขิน :o8:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 12-06-2013 21:24:18
โอบไม่เข้าใจความต้องการแทคเลยอ่ะ อ่านแล้วตลกอ่ะเหมือนแทคพยายามมากกกกกกกกกกกกก
โอบแสนดีอีกแล้ว คนดีแบบนี้เชื่อเหอะว่าไม่มีแล้ว ขนาดแค่กอดแค่หอมยังอดทนรอตั้งนาน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-06-2013 21:43:43
ยกนิ้วให้พลังรักของน้องโอบเลย ขับรถไปกลับแบบนี้มันเหนื่อยอยู่นา แต่ทำไงได้ต้องเจอหน้าแทคทุกวันนี่เนอะ :mew3:
แต่ตอนท้ายมันสะดุดจริงๆ ทั้งสงสารทั้งขำ แทคทำตัวเองจริงแหละ :laugh:
เอาน่ะ ครั้งต่อไปยังมี ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ล่ะมั้ง :m20:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 13-06-2013 00:30:36
ขออนุญาตเรียนตามตรงว่าแอบเกือบร้องไห้เบาๆ ตอนที่โอบพูดเหมือนเปรียบเทียบคนเก่าในตอนที่กำลังจะ...

คือมันแบบ...เหมือนไม่พอใจอะไรบ้างอย่าง ถ้าเป็นตัวเองร้องไห้แล้วจริงๆ

มันอาจดูตลก แต่ผมเป็นคนขี้แยแบบนี้หล่ะครับ  :laugh:

รักพี่คนเขียน  :กอด1:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-06-2013 00:35:15
ฮุ้วววว  :katai1: กองเชียร์นี่ตบเข่าฉาด อะไรของน้องโอบเนี่ย พี่แทคเค้าอุตส่าห์นะ...ตั้งหลายอย่าง
ปัญหาคือเมื่อไรจะย้ายมาอยู่ด้วยกั๊น จะได้ไปไหนไม่รอด อยากให้ได้กันจริง ๆ วุ้ยคู่นี้
น้องโอบน่ารักนะตอนที่ยอมไปกลับ อยากมาเห็นหน้าแฟนเนอะ แหม่ แต่พี่เค้าก็เป็นห่วง
จะดีมากถ้าได้นอนด้วยกันเพราะอย่างน้อยก็ได้กอดกันหลายชั่วโมงเลย (ยุยงและส่งเสริมสุด ๆ )
เสี่ยน๊อตน่าสงสาร แต่เลิกไปดีแล้วคนนี้ไม่เวริ์คแน่ ๆ จากที่ผ่านมา อยากให้เสี่ยเจอคนดี ๆ จริง ๆ

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 13-06-2013 00:53:18
งืออ ตอนนั้นนี่ก็คือหมายถึงกับคนเก่าเหรอ
คนนี้สติต้องเต็มร้อย โห... โอบ   o13   ยอมพลาดการเอื้อครั้งนี้ ถึงจะเสียดาย แต่นายเจ๋งว่ะ ฮ่าๆ
สงสารเสี่ยมาก ๆ ค่า   เจอเสี่ยบ่อยมาก ทั้งฮาทั้งลุ้นไปกับเสี่ยก็หลายตอน  เข้าใจแทคเลย ไม่ใช่แค่ลูกค้าแล้วล่ะ เหมือนเพื่อนอะ ก็อยากจะให้เขาเจอคนดี ๆ เรื่องดี ๆ เข้าสักวันจริง ๆ  :เฮ้อ:
แอบอยากรู้ความคืบหน้าของภัคกับคุณศรัณย์ มาแบบวับ ๆ แวม ๆ ก็ดีนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 13-06-2013 16:28:34
ตอนนี้รู้สึกว่าแทคฮาแฮะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 15-06-2013 00:26:25
นี่แทคอุตส่าห์อ่อยนะ (?) ใช่ป่าว

โอบไม่อยากให้เหมือนคนเก่าของแทคสินะ

แทคก็ไม่ยอมบอกว่า ตัวเองไม่ได้เมา

โอบเลยเข้าใจผิดอีกแล้ว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 18-06-2013 08:28:27
สนุกมากเลยค่ะ
ชอบมากเลย
โอบน่ารักอบอุ่นมากกกกกก >,,<
โอยยย ชอบสำนวนการเขียนมากนะ
แบบ...บทที่โอบพูดยาวๆ อ่านแล้วให้ฟีล ลัษณาวดีมาก
คือกระชับๆๆ ตัดๆ เหมือตัดคำ แต่เข้าใจอ่ะ

^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Anyann ที่ 20-06-2013 17:53:45
เพิ่งมาได้อ่าน โถ พลาดมาตั้งนานได้ไงเนี่ย เป็นเรื่องแต่งที่ทำเอาหลงรักตัวละครเลยล่ะค่ะ น่ารักทั้งแทคทั้งโอบเลย โดยเฉพาะแทคตอนที่เข้าใจผิดกันทำเอาเราที่อ่านแต่ละตอนติดๆกันถึงกับน้ำตาคลอเลย มันเสียใจจริงๆนะคะ ต่อจากนั้นก็มารู้สึกผิดกับโอบอีกที่ไม่ยอมเชื่อใจพ่อพระเอกของเราแต่แรก เงิบไปกับแทคเลย55555  :-[
คราวนี่แฟนเก่ากลับมา แค่ตอนล่่สุดนี่ก็ดูวุ่นวายอย่างสุดๆแล้ว เชื่อแล้วค่ะว่าพอตารุ่นพี่ออกมาต้องทำให้แทคกับโอบของเราต้องเจ็บช้ำระกำใจแน่ แต่เชื่อว่ายังไงสองคนนี้ก็ต้องผ่านไปได้อยู่แล้วค่ะ  o13
ปล. ชอบภัคกับคุณศรัณย์เหมือนกัน คุณศรัณย์นี่เป็นคนที่เหมาะกับคำว่าบริหารเสน่ห์มากๆ คืออ่านดูแล้วเหมือนจะแอบหยอดตลอด แถมยังทำแล้วไม่น่าเกลียดด้วย โปรจริงๆ(ฮา) ส่วนภัคนี่ก็นิ่งๆนะคะ น่าดูว่าตอนมีความรักแล้วจะเป็นแบบไหนกัน
รอตอนต่อไปนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆาสีน้ำเงิน ที่ 25-06-2013 18:22:14
ทำยังไงแทคถึงเป็นคนที่ใจเย็นได้ขนาดนี้น้ออออ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-07-2013 09:45:30
พี่แทคน้องโอบหายไปนานแล้วน้า...
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 17] 11 มิ.ย. 56 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 24-07-2013 14:49:14
คิดถึงโอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 25-07-2013 17:35:56
บทที่ 18

วันรุ่งขึ้น ผมยืนอยู่หน้าห้องตรงข้าม ในห้องเงียบทั้งๆ ที่เจ้าของห้องเป็นคนตื่นเช้า และน่าจะได้ยินเสียงทำอะไรหรือเดินไปเดินมาบ้าง

พอจะเคาะเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้นเหมือนรู้ว่าผมกำลังรีรออยู่ หยิบขึ้นมาดูได้ใจความสั้นๆ

‘ออกไปวิ่ง’

... ให้มันได้อย่างนี้ ก็ยังดีที่บอก

ความจริงถึงโอบได้หยุดแต่ผมก็ยังต้องไปทำงานไม่มีเวลามาอ้อยสร้อย ตอนแรกคิดว่าจะโทรไปหาเพื่อน เผื่อมีแง่มุมอะไรที่ผมไม่ทันนึกอีก แต่ภัคบอกไว้ว่าต้องไปสัมมนาต่างจังหวัด แบบนี้กว่าจะว่างคงเย็น และเมื่อถึงเวลานั้นผมก็ควรกลับไปคุยกับโอบให้เรียบร้อย เพราะอย่างที่บอกลูกค้าอยู่เสมอ ถ้ามีเรื่องอะไรระหว่างกัน พักไว้ได้... แต่ไม่ควรปล่อยเกินยี่สิบสี่ชั่วโมง

... แล้วมันก็... ไม่น่ามีอะไรที่จะพูดกันไม่ได้นะ ป่านนี้แล้ว

วันนี้งานค่อนข้างว่าง ลูกค้าดูเงียบๆ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ผมเลยว่าจะไปเยี่ยมเสี่ยน็อตสักหน่อยดีกว่า ในจำนวนลูกค้าทุกคนตอนนี้ ก็มีเสี่ย... น่าห่วงที่สุด พอโทรไปประจวบกับเสี่ยเข้าเมืองเพื่อคุยงานกับลูกค้าต่างชาติ เสี่ยจึงบอกว่าจะแวะมาแถวที่ทำงานผมก่อนกลับ

เสี่ยดูจะซูบๆ ไปเล็กน้อย แต่นับว่าสภาพยังดีกว่าที่ผมคาดไว้ บางที การพอจะรับรู้ถึงสัญญาณและไม่อยู่ในความสัมพันธ์อย่างปิดหูปิดตาจนเกินไปก็อาจช่วยเตรียมใจไว้ก่อนได้บ้าง แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครอยากคบคนโดย ‘เตรียม’ คิดไปถึงวันที่ความสัมพันธ์จะจบลงหรอก ปกป้องตัวเองมากไปกลับทำให้ทุกอย่างหยุดอยู่เพียงครึ่งๆ กลางๆ

ให้ใจเต็มที่ มีโอกาสจะเจ็บเต็มที่ แต่วันหนึ่ง ก็จะเริ่มใหม่ได้เต็มที่เหมือนกัน
 
เราไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ คุยกันเรื่องทั่วไป ผมทำอย่างที่บอก คือรอให้เสี่ยเอ่ยว่าพร้อมเองจึงค่อยแนะนำคนอื่น กาแฟแก้วที่สองหมดลง เมื่อลุกขึ้นเดินไปถึงประตู เสี่ยจึงพูด

“... ถึงเขาจะไม่เลือกผม แต่ผมยังเลือกให้ตัวเองได้นะคุณแทค”

ผมหยุดรอ อีกฝ่ายเอ่ยต่อ “ผมเดินออกมา เลือกให้ตัวเองไม่เจ็บแบบสูญเปล่าอีก”

ผมอดยิ้มนิดๆ ไม่ได้ทั้งๆ ที่หัวข้อยังออกจะเครียดอยู่

“แล้วเจ็บแบบไม่สูญเปล่าเป็นยังไงครับ”

“อืม... ก็... แบบรู้ว่ายังมีอนาคต มีจุดหมายปลายทางอยู่มั้ง แล้วที่รู้ว่ามี เพราะเขายังอยู่ตรงนั้นกับเรา ให้ความมั่นใจเราบ้างน่ะ แบบนั้นระหว่างทางถึงมีปัญหาอะไรบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องผ่านไปให้ได้ แต่กับ... อันนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่คนเดียวมาได้สักพักแล้ว คงถึงเวลาของมัน”

ผมเดินไปส่งเสี่ยที่รถ ทำเสียงให้ร่าเริงไว้ก่อน

“เสี่ยอยากพักสมองจากงาน ออกไปกินข้าวเมื่อไรบอกผมนะครับ ยังมีคนน่าสนใจอยู่ในบัญชีเพียบ”

“คงอีกนาน...”

“ผมไม่ได้จะขัดเสี่ย แต่อย่าเพิ่งตั้งใจจำกัดตัวเองไว้ก่อนเลยว่าต้องอีกนาน หรืออีกเท่านั้นเท่านี้ เอาเป็นว่าไม่รีบแต่ก็ไม่ปิดดีกว่า นะครับ”

เสี่ยนิ่งไปนิดแล้วจึงยิ้ม พยักหน้า

ผมเคยอ่านเจอว่า ความรักทุกครั้งที่จบลงไป หรือรักแล้วไม่ได้รักตอบอย่างที่หวังไม่ได้หายไปไหน แต่มันกลับมาหาเรา เพื่อให้รู้ว่าอย่างน้อยหัวใจของเราก็รักเป็น

นี่คือการอกหักครั้งแรกของเสี่ยน็อต ถ้าไม่นับการชอบคนโน้นคนนี้หรือปลื้มอย่างผิวเผินบ้างอย่างที่เคยเล่าให้ฟังตอนคุยประวัติ แผลจะหาย ถ้าได้คนเยียวยาที่ดีพอ... ผมหวังว่าคงอีกไม่นาน

ส่วนตอนนี้ผมก็กลับบ้านไปจัดการเรื่องตัวเอง ความจริงยังไม่ใช่ปัญหา แค่เป็นเรื่องที่เราควรจะคุยกันเท่านั้น

แต่มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของอีกคนด้วยล่ะนะ

ตอนเปิดประตูเข้าไปโอบให้ข้าวหนูเรืองอยู่ ยังไม่หันมา แต่ผมก็ชวนคุยตามปกติไปก่อน

เจ้าตัวว่าวิ่งเสร็จก็กลับมาอาบน้ำแล้วไปเดินดูหนังสือ ผมพอเดาได้เพราะหลังทำงานและยิ่งมีฝึกอบรมโอบก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไรนัก

“เหรอ... เล่มนั้นออกยัง”

ผมกำลังรอหนังสือเล่มหนึ่งให้แปล จะได้อ่านได้เร็วและเพราะภาษาไทยขายถูกกว่าต้นฉบับด้วย แค่บอกว่า ‘เล่มนั้น’ โอบก็พยักหน้าทั้งยังหันหลังอยู่แล้วว่า

“เลยซื้อมา... อยู่บนโต๊ะ”

โอบใส่ใจเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้เสมอ เพียงแต่ตอนนี้ความอยากอ่านหนังสือไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับผม ในเมื่อคุยสัพเพเหระมันยังไม่เข้าประเด็นสักที ผมจึงตัดสินใจบอก “เมื่อคืน ไม่ได้เมา... ก็ไม่เหมื-”   

โอบยืดตัวขึ้นจากกรง ถอนใจแล้วว่า

“ช่างเถอะ... จะเมา แค่มึน หรือไม่เมาน่ะมันก็ไม่มีอะไร ดันนึกไป...” คนพูดถอนใจอีกเฮือก “ช่างมันเถอะ”

โอบเคยเห็นผมเมื่อวันงานที่เชียงใหม่อย่างเคยบอก เห็นอยู่กับใครคงไม่ต้องพูด ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสำแดงความเมาออกไปมากน้อยขนาดไหน ไปสักก็วันนั้น หลังจากนั้น... ละไว้ในฐานที่เข้าใจ สถานการณ์มันคงทำให้คิดโยงกันได้ เมื่อคืนดันคล้ายอีก

ที่จริง ‘ตอนนั้น’ น่ะไม่ถึงกับไม่มีสติ แต่ถ้าถามว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดไหม คำตอบคือมี มากกว่าเมื่อคืนพอสมควรด้วย ผมไม่อยากคิดว่าถ้าไม่มี จะตัดสินใจต่างไปจากเดิมไหม เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องในอดีต อดีตก่อนอายุยี่สิบ ยังเห็นสิ่งที่คิดว่าใช่รักนั้นมีแง่มุมเดียวคือความสวยงามและราบรื่น

แต่โอบอาจจะไม่ต้องการคำขยายความมากกว่านี้ เพราะไม่มีใครอยากฟัง หรืออยากคิดถึงตอนที่แฟนเรายังเป็นแฟนคนอื่นหรอก
 
เจ้าตัวหันกลับไปหากรงหนูอีกแล้ว ผมเปรย

"รักจริ๊ง..."

"... ก็ไม่..." โอบพูดแล้วหยุด

... ก็ไม่ทำให้เสียใจ เสียเวลา หรืออะไร? เป็นเรื่องจริงที่สมองคนเราถ้าเริ่มน้อยใจจะคิดไปได้ไกลและเร็วมาก แต่ผมพยายามดึงตัวเองกลับมา เพราะประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงที่เกิดอะไรขึ้นในวันยี่เป็ง ถ้าโอบจะมีปัญหากับแค่ผมเคยมีแฟนคงไม่ได้คบกันตั้งแต่แรกแล้ว

ซึ่ง... อาจจะล่อให้เรื่องที่กวนจิตใจอยู่เผยออกมาด้วยจิตวิทยากลับด้าน... รีเวิร์สไซคอลอจี้ ลองสักตั้ง ผมสูดลมหายใจเข้าลึก

"ถ้าเหนื่อย เสียใจ... ก็อย่ารั-”

พูดไปเสียงสั่นจริง ไม่ใช่อะไร อิน คือเหมือนไม่ได้แกล้งพูดแล้วล่ะตอนนี้ ให้จบประโยคยังลำบากเลยด้วยซ้ำ

เพราะผมไม่อยากให้ในชีวิตนี้ มีวันที่คนตรงหน้าไม่รักผม

... รู้อีกทีก็ถูกรั้งเอาไปกอดไว้ทั้งตัว เป็นกอดที่แน่นกว่าทุกคราว แต่... ไม่อึดอัดเลย

ทุกคนพยายามสร้างพื้นที่ให้ตัวเองในสังคมเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าพื้นที่ทางอาชีพ ทางการศึกษา สถานะ กระทั่งทางวัตถุอย่างการซื้อที่ดินหรือว่าบ้าน ใช้ความสามารถ ความขยัน เม็ดเงินแลกมา... แต่บางทีเราก็ไม่ต้องการอะไรมากนอกจากพื้นที่แค่สองเท้าเหยียบพอ ข้างหน้าคนที่เรารัก และรักเรา เป็นพื้นที่ที่ได้มาต่อเมื่อเขาจะให้เอง และรับเราเข้าไว้ด้วยความเต็มใจ

เป็นพื้นที่ที่เรารู้แน่ว่า เป็นของเราเพียงคนเดียว

เจ้าของอ้อมกอดเอ่ยเบาอยู่ข้างหู "อย่าพูดอย่างนั้น เมื่อกี้... ขอโทษ”

ผมส่ายหน้า และอ้อมกอดก็แน่นขึ้นอีกหน่อย

“... อย่างอื่นโอบไม่สนใจ ไม่เคยสนอยู่แล้ว แต่พอนึกขึ้นมาแวบเดียว ถึงตอนนั้น แทคต้องเคยรักใครมาก มาก่อน... มัน...”

“สำคัญอยู่ที่ ‘เคย’ ไง” ผมบอก “แค่เคยเท่านั้น เพราะตอนนี้... รักแต่ปัจจุบัน มากที่สุด”

อดีตไม่สำคัญเท่าปัจจุบัน แต่การบอกว่าให้ใช้ชีวิตอยู่แค่กับวันนี้ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ยังมีอนาคตที่ไม่ได้แยกออกจากปัจจุบันเด็ดขาด อนาคตไม่ได้ ‘อยู่ส่วนอนาคต’ อย่างเคยได้ยินมา เพราะเราไม่ได้อยากให้เขารักเพียงวันนี้ อยากให้พรุ่งนี้ก็รัก ต่อไปก็รัก... ไม่ใช่แค่ผม โอบก็รู้สึกเหมือนกัน

ผมไม่ได้หลงตัวเองถึงขนาดคิดว่าไม่มีใครแทนได้ ถ้าโอบตัดสินใจไม่ย้ายมา ไม่คิดว่าลองดูอีกสักครั้ง ก็อาจมีวันที่ไปเจอคนอื่น แต่ในเวลานี้โอบอยู่กับผม ก็จะไม่ยอมให้มีเหตุต้องเปลี่ยนใจ เรื่องนี้... ความจริงผมก็ตั้งใจอยู่แล้ว

ดังนั้นผมจึงบอกว่า “... คืนห้องนะ”

อีกฝ่ายถอยออกไปมองอย่างประหลาดใจ หัวคิ้วขมวดอยู่สักครู่จึงคลายเมื่อนึกขึ้นได้

“คืนห้องแล้วโอบจะไปนอนไหนล่ะ” คนถามแววตาพราว ลักษณะกลั้นยิ้มแน่ชัด “หนูเรืองอีก”

“ก็... มาทั้งคนทั้งหนูแหละ”

คืนห้องต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนสองเดือนถึงย้ายได้ แต่ก็ดี จะได้ขนของไม่ฉุกละหุก ถึงของโอบจะไม่ค่อยเยอะก็ตามเถอะ
 
“จะลำบากมั้ย... ใครบอกแล้วบอกอีกว่าชินอยู่คนเดียว”

ประโยคใจความเหมือนจะกังวลนะ แต่ขอโทษ เสียงระรื่นมาก ผมฉวยถุงหนังสือขึ้น นึกไว้ว่าจะซื้อคืนให้สักเล่ม แล้วตอบยิ้มๆ

“โอบต่างหากจะลำบาก เพราะไม่มีที่หนี...  เกิดอะไรขึ้นไม่มีห้องให้วิ่งกลับแล้ว”

“จำไว้นะว่าเป็นคนชวน” เจ้าตัวว่า หิ้วกรงหนูเป็นอย่างแรกก่อนชะโงกมาใกล้ “เพราะต่อจากนี้ ถึงไล่ ก็ไม่ไป...”

แล้วเราก็กลับมาห้องฝั่งตรงข้ามเพื่อ...

... กินข้าวเย็นและดูหนังที่ค้างไว้เมื่อคืนให้จบ

เนื่องจากเภสัชกรยังต้องเข้าเวรดึก อันที่จริงเดือนหนึ่งมันก็ควรจะมีแค่เจ็ดแปดครั้ง ขนาดโอบไม่ได้รับเวรที่มีคนมา ‘ขาย’ เพราะติดธุระ หรือไม่ก็เพราะจะไปทำร้านขายยาแล้วนะ ตอนแรกนึกว่ามีอบรมแล้วไม่ต้องกลับมาเข้าเวรดึก แต่พอได้วันหยุดติดกันบ้างก็มีคนโทรตามเสียนี่

แต่อย่างน้อยอีกไม่นานอบรมที่แปดริ้วเสร็จก็คงว่างมากขึ้น

... แถมยังย้ายสำมะโนมาขนาดนี้แล้วด้วย


เช้าวันอาทิตย์โอบกลับมาจากเวรพร้อมของกินพะรุงพะรังและ... หนังสือพิมพ์ บอกว่าเมื่อคืนไม่ค่อยมีใครเรียกเลยได้นอนเยอะหน่อย ส่วนผมก็พยายามชะลอการกินของตัวเอง เพราะวันอาทิตย์โอบชอบกินข้าวเช้าช้าๆ ความจริงไม่ต้องเป็นข้าว จะเป็นอะไรก็ช้า มื้ออื่นไม่เป็น เป็นมื้อเช้ามื้อเดียว วันอื่นไม่เป็น เป็นแค่วันอาทิตย์อีกเหมือนกัน (เวลานอกเหนือจากนี้โอบจะเข้าโหมดคนมีประสิทธิภาพ สามารถจัดการอะไรต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว)   
 
สาเหตุมาจากชอบอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วยกินไปด้วย ไม่อ่านเปล่า ติดทำปริศนาอักษรไขว้ ภาษาไทยนั่นแหละ

ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่นานว่านี่เคยเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างโอบกับคุณพ่อที่เชียงใหม่ ความจริงผมก็เคยมีเรื่องที่ทำกับพ่อเหมือนกัน พูดแล้วก็ชักคิดถึง ประกอบไปด้วยการเชียร์รักบี้ (ยังแม่นกฎมาถึงทุกวันนี้) ปลูกต้นไม้ (งามบ้างไม่งามบ้างแล้วแต่กรณี) และพยายามร้องเพลงขณะพ่อเล่นกีตาร์ (ซึ่งแม่เปรยว่าเสียงผมนี่แหละเป็นเหตุให้ต้นไม้ไม่งาม)

โอบย้ายไปได้ปีกว่า น้านันจึงแต่งงานอีกครั้ง เช้าวันอาทิตย์เด็กป. 4 ที่คงยังประดักประเดิดกับครอบครัวและบ้านใหม่อยู่มากจะนั่งทำปริศนาอักษรไขว้กับคุณพ่อ เป็นอุบายสร้างความคุ้นเคยที่ไม่เลวเลย จนป่านนี้เมื่อถึงวันอาทิตย์ในบางสัปดาห์และพ่อแม่โทรมาหาจากเชียงใหม่ ผมยังได้ยินเสียงสนทนาแว่วแกมหัวเราะ

‘โห... คราวนี้ทำช้านะพ่อ’ หรือไม่ก็ ‘ง่ายกว่าสัปดาห์ที่แล้วอีก...’

ความจริงผมไม่มีอะไรขัดข้องกับการรำลึกกิจวัตรนี้ แค่พยายามให้มันใช้เวลาเร็วขึ้นอีกหน่อย... นิดเดียวเท่านั้นเอง

"มันเป็นวิธีติดตามข่าวสารนะ" คนพลิกหนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ออกอ่านทีละหน้าจนถึงปริศนาอักษรไขว้บอก

"ทีวีก็เปิด" ก๊วนข่าวเช้าวันหยุดไง

... แต่ทีวีไม่มีปริศนาอักษรไขว้ และโอบก็เทศนาผมต่อว่าการดูทีวีมากๆ จะทำให้สมองฝ่อ ส่วนการรับข้อมูลโดยการอ่านนั้นช่วยเรื่องความทรงจำมากกว่า ฯลฯ ซึ่งถึงตอนนั้นผมก็เลิกฟังไปแล้ว

"... มันเป็นนิสัยน่ะ แล้วโอบไม่มีนิสัยแย่ๆ หรอก" ช่างกล้าพูด "มีแต่ดีๆ ทั้งนั้น"

ผมกำลังจะเอ่ยถึงพฤติกรรมดองของกินในตู้เย็นเป็นพันปี แล้วไม่ทำในห้องตัวเองด้วย โอบจะสร้างชุมชนฟอสซิลอยู่ในตู้เย็นห้องผมนี่แหละเพราะเป็นที่กินข้าวหลักของเราสองคน ยิ่งจะย้ายมาแล้วยิ่งไม่ต้องจินตนาการเลย เหตุผลคือ

‘เดี๋ยวแทคไม่มีอะไรกินตอนเช้า/สาย/เที่ยง/บ่าย/เย็น/ดึก’ (แทนคำตามช่วงเวลาที่เหมาะสม)

ยังดีที่ส่วนใหญ่ก็ไม่สิ้นเปลือง เพราะได้กินจริง แต่จะมีบางส่วนยิบย่อยที่หลงหูหลงตาผมและเจ้าตัวคนซื้อก็ลืมสนิท ในวันหยุดถ้าจะช่วยกันทำความสะอาด ควรเป็นการเก็บห้องเบาๆ คุยกันกระหนุงกระหนิงถึงจะสมภาพความโรแมนติกที่ควรเป็น (ยอมรับว่าระยะหลังผมชักดูหนังรักถี่เกินไปหน่อย) ในกรณีเรากิจกรรมหลักคือการงัดซากอารยธรรมออกจากซอกหลืบช่องแช่แข็งซึ่ง... ใช้แรงมากกว่าที่คุณคิด 

แต่โอบพูดต่อเสียก่อน

"... เป็นนิสัย ก็แปลว่าเลิกไม่ได้ เหมือนรัก... ใคร... เป็นนิสัย... อะไรอย่างนี้"

นิสัยดีๆ คือรักใครสักคนให้เป็นนิสัย... เป็นความคิดที่น่ารักจนผมอดยิ้มไม่ได้ ถามว่า
       
“พูดถึงใครเหรอ”

“คิดว่าใครล่ะ” โอบเงยหน้าขึ้นจากปริศนาอักษรไขว้ ยิ้มมองผมเหมือนกัน

“... หนูเรือง” ผมตอบกลั้วหัวเราะ แกล้งคนช่างเฉไฉ

เจ้าคู่แข่งขนส้มมองผมตาปริบจากในกรง ผมอาจจะรู้สึกไปเองแต่ผมว่ายายเรืองยังอยู่ในขั้นตอนประเมินสภาพแวดล้อมห้องผมอยู่ อาจจะชินกับความเรียบร้อยกว่านี้โดยรวมจากห้องโอบ 

“จริง... นี่ก็อยากเจอพ่อแม่เขาเหมือนกันนะ รักลูกเขามาตั้งน้าน...” อีกฝ่ายลากเสียงยาว

“ขอเลย” ผมยุส่ง “เมื่อไหร่จะไปเพชรบุรี”

น้องไมค์ทำงานอยู่นั่น... เคยโทรมาชักชวนอยู่หลายครั้งด้วยเหงาเต็มทีและเหตุผลหลัก ‘ยังหาแฟนไม่ได้’

“ให้ขอเหรอ...” คนนั่งตรงข้ามหัวเราะหึๆ “ต้องถามว่า เมื่อไรจะได้ไปหาดใหญ่ต่างหาก”

เมื่อยังเถียงไม่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ‘นิสัยดีๆ’ หรือเรื่องอื่น ผมจึงต้องนั่งเป็นเพื่อนโอบ กินข้าวเช้าช้าๆ ต่อไป...
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 25-07-2013 17:38:06
คุณ malula เนอะ ชิลๆ ดีสุด ขอบคุณที่ยังรออ่านด้วยนะคะ

คุณ Naenprin ขอบคุณนะคะ มีอะไรก็ต้องคุยกันเนอะ ขอบคุณที่รอนะคะ

คุณ Tassanee ฮา ลุ้นต่ออีกสักหน่อยนะ อิอิ

คุณเฉาก๊วย ปล่อยแล้วค่ะ ชิลลล ฮา

คุณ Aoya เรื่องนี้มันรอมคอมนะ ไม่เน้นดราม่า จริงจริ๊ง ต่อไปไม่ต้องสร้างแล้วมั้ง อะไรมันจะเกิดง่ายขึ้นเพราะอยู่ห้องเดียวกัน 55 รอลุ้นเสี่ยต่ออีกหน่อยนะคะ

คุณ Theomen เอาน่ะ สักวันมันจะเป็นวันของเสี่ย ขอบคุณที่อ่านน้า

คุณ iforgive ไม่มีตอนนั้นอย่างโจ่งแจ้งค่ะอิอิ มีแต่ตอนที่โอบไปเห็นอยู่ด้วยกันดูแฮปปี้ ก็คงไปหนุงหนิงกับแฟน (ตอนนั้น) ต่อน่ะแหละ เอาใจช่วยเสี่ยน็อตต่อดีกว่า

คุณ Gokusan เอาน่ะ มันคงอีกไม่ไกล เสี่ยสู้ๆ โอบนึกแล้วปรี๊ดเองเฉยๆ (ไม่มีเหตุผล กร๊าก)

คุณ mesomeo2 อยู่ห้องเดียวกันคงไม่ต้องยั่วแล้วล่ะ อิอิ

คุณ kyoya11 อร๊าย ฤกษ์สะดวกดีกว่า ม่ะ

คุณ goosongta บางทีแฟนกันก็มีสวนทางกันบ้างอะไรบ้าง จูนกันต่อไป แทคคงปล่อยชิลแล้วอะไรมันจะเกิดก็เกิด 555 คนเขียนชอบพระเอกคนดีๆ อะค่ะ กร๊าก

คุณ BeeRY เทรนจะเสร็จแล้วต่อไปก็อยู่ในกรุงเทพ ตอนนี้อยู่ด้วยกันละน้า อิอิ

คุณ NewYearzz โอบคงไม่ได้ตั้งใจเปรียบหรอกค่ะ ไม่คิดขนาดนั้น แค่จี๊ดไปเองเฉยๆ รักจะตาย 55 รักคนอ่านเหมือนกัน ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ ่patsaporn บางทีคนเรามันก็เข้าใจยากนะ หุหุ คิดว่าตอนนี้สมใจล่ะค่ะ พี่แทคเอ่ยปากให้มาเองเลยน้า เสี่ยเป็นคนดีต้องได้เจอคนดีๆ สิ ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่า

คุณ ReiSei ประมาณน้าน นี่ก็นึกเองนอยเองเฉยๆ แต่ไม่แล้วละ เสี่ยต้องได้เจอคนที่เหมาะกับเสี่ยสิ... เราต้องหวังต่อไป ภัคกับคุณศรัณย์ น่าจะคราวหน้านุ

คุณ drasil ความจริงก็ไม่ใช่คนเครียดนะ 55

คุณนอนกินแรง นิดหนึ่ง ทั้งคู่เลย ฝากอ่านต่อด้วยน้า ขอบคุณมากค่า

คุณ A-J.seiya* ขอบคุณสำหรับการอ่านมากนะคะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า อีกไม่เยอะแล้วล่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะที่ชอบ

คุณ Anyann แหะ พอมาอ่านก็ให้รอนานเลยทีเดียวขอโทษด้วยค่ะ เรื่องแฟนเก่าก็ต้องดูกันต่อไป ว่าจะจัดการกันอีท่าไหน จริง คุณศรัณย์แกเพลย์ขั้นเทพ มีแต่แทคที่ดูมีภูมิคุ้มกัน (แต่กับน้องโอบไม่มี 555) ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า

คุณเมฆาสีน้ำเงิน แกเป็นคนชิล 55

คุณ Millet ขอบคุณที่แวะมารอน้า มาแล้วนะคะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ด้วยสถานการณ์การงานตอนนี้ทำให้คนเขียนจำเป็นต้องช้าจริงๆ ในช่วงนี้นะคะ (คราวนี้ช้ามากเลยแหละ ขออภัยเป็นอย่างสูง) แต่เหลืออีกไม่เยอะก็จะจบแล้ว (มรสุมเบาๆ อีกสักลูก? ตานั่นเครื่องดีเลย์หรือไงว่าจะมาไม่มาซักที กร๊าก) ด้วยความที่อาจจะมาช้าถ้าใครอยากให้มันจบก่อนแล้วค่อยอ่านเราก็จะเข้าใจ 55 แต่ถ้าใครอยากอ่านและคุยกันเลยก็ขอบคุณมากๆๆ เช่นเดียวกัน

รักคนอ่าน และขอบคุณทุกคนเช่นเคยนะคะ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-07-2013 18:27:09
ฮ่าฮ่า ตอนนี้เหมือนแทคต้องคอยกระตุ้นทุกอย่างเลย
โอบรักแต่ขอช้า ๆ ชัวร์ ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 25-07-2013 19:15:08
มาต่อแล้ว ดีใจจังเลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 25-07-2013 19:55:56
ขอบคุณจ้า 
มาแบบหวานเบาๆ  หวานละมุนละไม
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 25-07-2013 20:04:59
มาต่อแล้ว  :mc4:

ตอนนี้อบอุ่นละมุนละไมจัง  :mew3:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 25-07-2013 20:11:49
นึกว่าทิ้งกันไปซะแล้ว ดีใจจังที่กลับมา

เขาอยู่ด้วยกันแล้วอ่ะ  :mew3:
แล้วคนนั้นของแทคล่ะหมดความพยายามที่จะเจอแล้วเหรอ
ส่วนโอบช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่มีคนในอดีตบ้างเหรอ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 25-07-2013 20:28:38
แทคบอก

อยากขอ ให้เธอจดจำ แค่วันนี้ ปัจจุบันของเรา และฝันถึงวันพรุ่งนี้กัน
บอกไว้ จากนี้ ฉันมีแต่เธอเท่านั้น ชีวิตฉันเริ่มต้นใหม่ แค่มีเธอ....

เขาย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 25-07-2013 20:44:20
อร้ายยยย คิดว่าตาฝาด มาต่อเเล้วจริงๆด้วย :z2:

 “แค่เคยเท่านั้น เพราะตอนนี้... รักแต่ปัจจุบัน มากที่สุด” แทคพูดขนาดนี้ถ้าเราเป็นโอบ เราจะโดดกอดซักที555 :-[

โมเมนท์ที่แทคกับโอบ อยู่ด้วยกัน กินข้าวเช้าด้วยกัน บ่นเรื่องนู้นเรื่องนี้ ดูเหมือนคู่สามีภรรยาที่พึ่งแต่งงาน?! เลยแหะ555

มาต่อเร็วๆน้าาา หายไปนานๆ คนอ่านคิดถึงงงงง :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 25-07-2013 21:21:56
แทคมาแบบเนียนๆ หรือจริงๆแล้วนี่คือแผนโอบ ทีนี้ก็ใกล้กันเข้าไปอีก ดีจัง คงได้อ่านหวานๆบ้างงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-07-2013 21:52:41
บางทีอดีตมันก็รบกวนจิตใจคนได้อยู่นะ แต่ก็นั่นแหละ แค่รบกวน ไม่ได้รำคาญมากไปกว่าฝุ่นเข้าตาหรอกเนอะ :z1:
ให้กำลังใจข้าวคู่ใหม่ปลามัน ใช้คำนี้ได้ยังเนี่ย ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วนี่นา :o8:
อีตาคนนั้น เครื่องดีเลย์ไปนานๆเลย ทางที่ดีไม่ต้องมาก็ได้ ชิๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 25-07-2013 22:41:52
น่ารัก กุบกิบจังเลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 26-07-2013 00:05:17
อ่านแล้วอมยิ้มตามเลยค่ะ :)
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-07-2013 06:58:38
มันเปงอะไรที่หน่วงเกิ๊นนน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Anyann ที่ 26-07-2013 09:38:41
ตอนนี้หวาน ชิล มีความสุข ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วว พัฒนาไปอีกขั้น เย้
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 26-07-2013 14:14:37
มีช้อยส์ข้อที่ไม่มีมรสุมมั้ย?? จะได้เลือก ^^"
ช้าแต่ก้าวหน้าก็ยังพอโอเคนะ

ง้อกันซะย้ายห้องมา...ให้หนีไปไหนไม่ได้ หุหุ
แต่อย่างว่า...คนอยากมาอยู่แล้ว ใครจะปล่อยไป ^^

แอบเป็นกำลังใจให้เสี่ยน็อต...ส่วนอีกคู่คงจัดการกันได้ลงตัว
และแอบหวังให้เครื่องดีเลย์ลำนั้น...ตก!! ;p
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 26-07-2013 23:45:51
ชอบมากเลยคะ เพิ่งเข้ามาอ่าน ก็อ่านซะเพลินรวดเดียว

ชอบคู่นี้ดูเรื่อยๆ เข้าใจกัน รู้จักกันมานาน ไม่รวดเร็วหรือฉาบฉวยเกินไป

รออ่านตอนต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 27-07-2013 00:17:57
มาอยู่ด้วยกันแล้ววว แอร๊ยย เหลือไปขอกับพ่อแม่ให้เป็นเรื่องเป็นราว ฮาาา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 27-07-2013 12:05:19
มีความสุข ฟินเว่อๆ  :m2:

แต่มันก็แอบอิจฉาเน้อ ทำไมเราไม่บ้าง  :L3:


รักพี่คนเขียน  :กอด1:

รอตอนต่ไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-10-2013 03:09:50
เค้าไปโหวตนิยายดองเค็มให้แล้วนะจ๊ะตัวเธอ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 06-10-2013 13:34:47
พี่ครับ คิดถึง ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 18] 25 ก.ค. 56 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 06-10-2013 18:58:14
เพิ่งได้อ่าน :ling2:
รักจริงก็ไปขอเลยจ้า นี่ส่งเสริมเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 11-10-2013 10:23:25
บทที่ 19

“... อ่านอะไรอยู่...”

คนถามเดินมาทางโซฟาที่ผมกำลังนอนเหยียดยาวพร้อมด้วยหนังสือเล่มหนึ่ง ทีวีปิดไปแล้ว

อบรมเสร็จสิ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน โอบจึงกลับมาทำงานที่เดิมไม่ต้องออกเช้าตรู่ทุกวันอีก บางทีมีอยู่เวรผมก็ขับไปรับที่โรงพยาบาลตอนเช้า จากนั้นจึงไปออฟฟิศ โรคไม่ชอบขับรถของผมแทบจะหายขาดก็เพราะอยากให้คนเพิ่งออกเวรได้นั่งสบายๆ นี่ล่ะ ส่วนวันทำงานตามเวลาปกติโอบเอารถไปก็แวะส่งผมบ้าง รู้กันว่าถ้าใครถึงบ้านก่อน จะหากับข้าวไว้รอ... กลายเป็นกิจวัตร เหมือนอีกหลายอย่างที่เป็นจังหวะชีวิตเพิ่มขึ้นมาเวลาเราอยู่กับใครสักคน และไม่ได้อยู่คนเดียวอีก

โอบลงนั่งที่โซฟาตัวเดียวกันแต่ผมยังอยู่ท่าเดิม ก็เลยยกส่วนข้อเท้าขึ้นพาดตักตัวเองแล้วใช้ผ้าขนหนูที่คล้องคอมาด้วยเช็ดศีรษะ ส่วนผมก็อธิบายว่าคนเขียนทำวิจัยเรื่องการบ่งบอกลักษณะนิสัย ความคิด ภูมิหลังพื้นเพต่างๆ จากข้าวของที่แวดล้อมคนคนนั้นอยู่ มีตัวอย่างที่น่าสนใจหลายบทเช่นการจัดโต๊ะทำงาน จัดบ้าน วิธีการวางรูป อย่างถ้าหันรูปครอบครัวหาแขก อาจจะอยากอวดว่ามีครอบครัวสมบูรณ์น่าอิจฉา หรือมีภรรยาสวย ถ้าหันเข้าหาตัวเอง ก็อาจเป็นเหตุผลด้านจิตใจ กำลังหาความอุ่นใจอยู่ก็ได้

โอบเท้าข้อศอกกับพนักโซฟา มองยิ้มๆ จนผมหยุดเองแล้วจึงบอก

“... รู้ตัวมั้ยว่า จะตอบยาวมาก ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่เคยเรียนมา”

“เอ้าเหรอ โทษ...” ผมคว่ำหนังสือไว้ที่อก ส่งยิ้มกลับไปให้ “เบื่อเปล่า...”

เรื่องที่เรียนมา ยังเป็นเรื่องที่สนใจ และยังอ่านอยู่... เมื่อก่อนไม่มีใครให้คุยด้วยเท่าไหร่ เพราะพี่อิทกับครีมก็เป็นสาวอักษร เพื่อนสนิทๆ อย่างภัคไม่ได้สนใจเรื่องนี้โดยตรง ดังนั้นเราต้องปรับลดลงไป (ผมไม่ได้มีเพื่อนมาก ถ้ายังเวิ่นเว้อเรื่องที่เพื่อนจะเบื่ออีกนี่คงเลิกคบ...) พวกที่เรียนมาด้วยกันส่วนใหญ่ย้ายสายงาน มีโอบที่ยังอยู่กับวิทยาศาสตร์สุขภาพ คล้ายๆ กัน แล้วอีกฝ่ายก็ฟัง ฟังจริงๆ ที่รู้เพราะบางทีถามต่ออีกต่างหาก 

“เปล่า โอบชอบฟัง” เจ้าตัวตอบเหมือนทุกที มือลูบข้อเท้าผมเล่น “แค่กำลังคิด...”

ผมรู้ว่าโอบคิดอะไร ที่จริง... ก่อนเกิดเรื่องเก็บข้าวของออกจากเชียงใหม่ ผมเคยจะหางานทำอยู่ที่นั่น ไม่ทำกับกิจการครอบครัวเขาอย่างถูกชวน แต่อยากทำเกี่ยวกับที่เรียนมา สอบใบประกอบทางจิตวิทยาคลินิก คิดไปถึงเรียนต่อด้วยซ้ำ

... ตอนนั้นได้แต่คิด เพราะปัญหาที่ยังคิดไม่ตกมีมากกว่า จนปลงใจว่ายังไงอนาคตไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่แน่ กลับบ้านด้วยอาการเคว้งคว้างระดับหนึ่งแล้วพี่อิทชวนไปทำงาน เลยทำมาจนถึงตอนนี้ อีกอย่าง ที่ตัดสินใจยังไม่เดินทางสายงานเดิมเพราะขณะนั้น... ไม่คิดว่าตัวเองจะ ‘เสถียร’ พอให้คำแนะนำคนอื่นที่มีปัญหาทางจิตใจได้จริงๆ... นอกจากหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวเพราะไม่มีแฟนละก็นะ

จะบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นสั่นคลอนความเชื่อมั่นในตัวเองไปก็มีส่วน... แต่ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้ว ดีแล้วจริงๆ
 
ถ้าจะสอบผมต้องไปหาที่ฝึกงานให้เป็นกิจจะลักษณะ อ่านหนังสืออีก โอบก็รู้ว่าเรื่องจะสอบหรือจะอะไรผมต้องตกลงใจเอง เลยทำหน้าที่รับฟังและเป็นกองสนับสนุน ซึ่งผมขอบคุณมากอยู่แล้วที่เป็นแบบนี้

โอบกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วว่า “ถ้าจากในหนังสือ จะบอกว่าเจ้าของห้องนี้เป็นยังไงน้า...”

“อันนี้ก็ชัดอยู่นะ...” ผมเอาด้วย ทั้งจากรองเท้า ข้าวของ... “มีแฟนแล้วแน่ๆ”

อีกคนยิ้ม ก้มลงบอก “... และแฟนรักมาก”

ผมหัวเราะอยู่กับหนังสือที่เลื่อนจนมาปิดครึ่งๆ อยู่ระหว่างปากกับจมูก บางทีก็ควรเขิน แต่โอบเป็นประเภทอยากพูดก็พูด (บ่อยด้วย) จนผมน่าจะมีภูมิต้านทานไปแล้ว ที่จริงคือ... ความดีใจกับความสุขมันชนะความเขิน และยังเป็นอย่างนั้นทุกครั้ง

ผมเกือบจะลืมว่าหัวใจคนเราพองโตได้แค่ไหน ถ้าได้คิดได้ทำเรื่องต่างๆ ให้คนที่รัก คนรักของเราที่นอกเหนือไปจากครอบครัว หรือว่าเพื่อนฝูง ถึงจะแค่ส่งข้าวส่งน้ำ หรือบางทีจู่ๆ ก็ไปรับ บางเรื่อง... ที่ไม่ต้องใหญ่โตอะไรเลย

... พี่อิทได้ทีแซว ‘ไม่ใช่เธอจะไปแอบเช็คกิ๊กน้องโอบที่โรงพยาบาลนะ’

แล้วผมก็ยืดอกตอบอย่างภาคภูมิใจว่า ‘ไม่มีหรอก’

ผมไม่ได้ไปบ่อยเนื่องจากงานมีต้องจัดการ ปกติถ้าจะไป ยกเว้นเวลาเลิกงานแล้ว ก็บอกก่อนทุกครั้งจนเจ้าตัวว่าให้เซอร์ไพรส์บ้างก็ได้ แต่นั่นแหละ จะโผล่ไปแบบบอกไว้ก่อนหรือเปล่า ถ้าคนมันไม่ซื่อสัตย์ก็หาวิธีจนได้อยู่ดี ไม่เห็นต้องไปเพื่อจับผิด กับโอบผมยิ่งไม่มีความรู้สึกแบบนั้น ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น

ความจริงดวงเรื่องจะเซอร์ไพรส์ของผมก็ลุ่มๆ ดอนๆ มีวันหนึ่งเนื่องจากไปอ่านเจอมา แนะลูกค้าแล้วเลยทำบ้าง เขียนโน้ต (ขอสงวนข้อความไว้ ณ ที่นี้ ยังไงก็ไม่น่าจะมีใครอ่าน...) ใส่ไว้ให้ในกระเป๋า จนเจ้าของเสื้อขึ้นไปราวนด์พร้อมหมอ ทำอีท่าไหนไม่รู้ คนไข้อ้วกใส่เข้าเต็มๆ กาวน์ก็เอาไม่อยู่ต้องถอดทุกอย่างส่งซักที่โรงพยาบาล ทีนี้ไม่ต้องคิดละว่าชะตากรรมกระดาษโน้ตแผ่นนั้นมันจะเป็นยังไง

พอโอบเล่ารวมทั้งเสริมแกมหัวเราะถึงทักษะหลบหลีกสารคัดหลั่งจากคนไข้ของอาจารย์หมอที่มากับประสบการณ์และโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนี้อีก ผมเลยไม่พูดถึงดีกว่า (กลับไปส่งของกินอย่างเดิมน่าจะเหมาะ)

เพราะฉะนั้นหลายๆ อย่าง หลายๆ เรื่อง ผมก็... ปล่อยไปตามธรรมชาติ แต่ที่ควรใส่ใจ ก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไป
 
อีกคนบนโซฟายังโน้มตัวต่ำลงมาเรื่อยๆ จนปลายจมูกเราแตะกัน “แต่ว่าตอนนี้... เก็บหนังสือไว้ก่อนนะ”

ผมยิ้ม ยอมให้หยิบหนังสือที่ยังขวางอยู่ออกแต่โดยดี

บางเรื่อง... ไม่ต้องพยายาม ก็... ไม่ต้องมากเท่าไหร่

... อาศัยความพยายามนิดหน่อย แต่ใช้ความรักมากๆ ก็พอ


แสงแดดอ่อนยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาจางๆ เมื่อลืมตาขึ้น รับรู้ถึงสัมผัสอุ่นจากปลายนิ้วไล้เกลี่ยอยู่บนต้นคอ สบายจนแทบอยากหลับลงไปใหม่

ความใกล้ชิดที่เพิ่งผ่านพ้น ทุกอย่าง... ทุกการกระทำ แสดงให้รู้ว่าที่ทำ คือกำลังบอกรัก ผูกพันกันไว้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่าเดิม แล้วก็...

... ผมพลิกตะแคงข้างด้วยความตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่อีกฝ่ายแตะอยู่คือรอยอะไร โอบละมือกลับ ท่าทางงงนิดหน่อย ส่วนผมพูดรัว

“จะลบออก ไปลบออก วันนี้เลย เนี่ย เดี๋ยวไป”

โอบยังขมวดคิ้วแล้วจึงเหมือนนึกออก ค่อยบอกว่า “... ไม่ต้องหรอก”

... ที่ผ่านมา ระยะหลังผมลืมจริงๆ ไม่นึกถึงอีก แม้จะอยู่ในที่ที่มองเห็นยาก แต่มันก็ยังอยู่... ที่สำคัญคนเห็นต่อจากนี้มันไม่ใช่ผมคนเดียวแล้วนี่สิ

“แต่โอบไม่ชอบ...” ผมพูดไปก่อน ไม่รู้ว่าถ้าเห็น จะพาให้นึกถึงอะไรบ้าง

"ก็ไม่ชอบ... ผิวดีๆ สวยๆ อยู่แล้วไปทำทำไม" เป็นคำตอบพร้อมรอยยิ้มนิดๆ “แต่ก็... แค่นั้น ตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรมากไปกว่าเป็นเส้นหมึกไม่ใช่หรือ”

ผมนิ่ง แต่คิดแล้ว ก็ยังไม่ปลงใจ เส้นหมึก... ใช่ แม้ว่าผมจะตัดอดีตได้เด็ดขาด แต่เส้นหมึกนั้นยังเห็นชัด อ่านรู้เรื่องว่าคืออักษรอะไร เคยใช้แทนชื่อใคร... เป็นร่องรอยถาวร เป็นความคิดอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในตอนนั้น คิดว่า คนจะอยู่ด้วยเหมือนรอยสักที่ตัว ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย
 
"พูดจริง... เรื่องลบออก ลบไปดีกว่า"

"เจ็บตัวอีก... ลบรอยสักก็เจ็บนะ"

... แต่ผมยอม ยอมได้เพื่อที่ว่าโอบจะไม่ต้องเห็นอะไรแบบนี้อีก และไม่อยากให้มีเรื่องมากระทบใจแม้แต่นิด อีกฝ่ายพูดต่อ

“แทคเจ็บได้ครั้งเดียว ไม่ต้องเจ็บอีกแล้ว ตัว ใจ อะไรก็ตาม” มืออุ่นลูบหลังผมอยู่เบาๆ “จะตรงนี้ หรือว่าที่ไหน สักเอาไว้ หรือไม่มี... มันก็เป็นส่วนหนึ่งของตัวแทคเหมือนๆ กัน รักไปแล้ว ไม่ได้เลือกว่าต้องรักที่ส่วนไหนหรอก รักทั้งหมดแหละ...”

น้ำตาผมรื้นขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนขี้แย ที่บอก... ไม่ได้เลือกว่าจะรักที่ส่วนไหน ไม่ได้หมายถึงแค่ร่างกาย ผมรู้... แต่หมายถึงส่วนของชีวิตที่ผ่านมาด้วย ทุกอย่างในอดีตที่ทำให้ผมเป็นผมอย่างทุกวันนี้

เหลือบลงเห็นรอยแผลเป็นยาวที่ท้องแขน... โอบได้แผลเพราะผม แต่รอยที่หลังคอ รวมถึงบาดแผลในจิตใจที่ตอนนี้สมานกันสนิทและตกสะเก็ดดี ผ่านไปแล้วและเป็นบทเรียนเช่นกัน

จริง... ผมไม่ควรจะเปิดแผลใหม่อีก

ผมขยับเข้าไปกอดคนตรงหน้าไว้ กอดแน่นๆ ให้เท่าที่ภาษากายจะบอกว่ารักและขอบคุณได้ อีกฝ่ายตวัดแขนรั้งเข้าไปชิดพลางหัวเราะ

“ยังไงเนี่ย... เดี๋ยวก็ไม่ได้ลุกกันพอดี”

และผมก็บอกว่า “วันหยุด ไม่ต้องรีบก็ได้...”


เย็นวันต่อมาภัคนัดกินข้าว ตอนแรกนึกว่าจะมีแป๊วและคนอื่นๆ ด้วย แต่พอไปถึงก็เห็นเพื่อนนั่งอยู่คนเดียว หลังจากสั่งอาหารแล้วจึงแจ้งเรื่องที่ผมหมายจะถามอย่างไม่อ้อมค้อม ถ้าพูดออกมาเองแสดงว่าชัวร์ แต่กลับทำให้ผมชะงักค้างอยู่หลายอึดใจก่อนจะหาเสียงเจอ

“ห่างกันแล้ว!”   
         
“เสียงดัง...” เพื่อนว่า ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอย่างไม่ทุกข์ร้อน

ผมนึกย้อนกลับไป แสดงว่าสองคนนี้ไม่ได้ตกลงจะคุยกันเหมือนก่อนมาพักใหญ่ ผมเห็นคุณศรัณย์เงียบๆ เลยวางใจ แต่อีกฝ่ายอาจงานยุ่งจึงยังไม่ได้แจ้งว่าจะกลับเข้ามาใช้บริการ ตอนแรกที่ภัคเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาน่ะผมยังคิดว่าจะเป็นข่าวการคบกันอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ

“คราวที่แล้วยังบอกโอเคอยู่เลย”

“โอเค... แต่เฉยๆ เจอก็ได้ไม่เจอก็ได้ พอนัด ความรู้สึกเหมือนกำลังไปเจอเพื่อนที่รู้จักกินข้าวธรรมดา จะเจอแทคยังดีใจกว่าเพราะสนิทกว่า คุณศรัณย์เขาก็คิดเหมือนกัน รู้ตัวแต่เนิ่นๆ ดี เป็นเพื่อนกันต่อ... ยังเอารถไปทำด้วยได้” ภัคว่าเรื่อยๆ หัวเราะนิดเมื่อถึงประโยคสุดท้าย

คนที่น่าจะดึงดูดกัน และทั้งคู่ก็คงคิดอย่างนั้นด้วยเมื่อแรกพบ ไปๆ มาๆ แรงดึงดูดกลับลด... ไม่พัฒนา แบบนี้ผมเคยเห็นแต่ไม่บ่อย คุณศรัณย์ยังคงความยากแบบอาถรรพณ์ได้คงเส้นคงวา ขนาดเพื่อนผมที่อวยได้แบบไม่เข้าข้างกันเลยว่าน่าจะเป็นแบบที่ชอบแน่ๆ ทั้งพูดจารู้เรื่อง ฉลาดทำงานเก่ง นิสัยดีหน้าตาก็ดี จนแล้วจนรอดยังไม่คลิก

กินข้าวกันไปได้สักพัก ภัคเล่าเรื่องที่ไปสัมมนาต่างจังหวัดได้นิดหนึ่งแล้วจู่ๆ ก็บอก
 
“... ถ้าอยากแนะนำใคร ก็ได้”

ผมหูผึ่งทันที “พูดจริงนะ”

“อืม...” เพื่อนพยักหน้า “แต่แค่แนะนำก็พอ ที่เหลือปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องของมัน”

หมายความว่าภัคไม่อยากให้ผมยุ่งอีกในระหว่างทาง ซึ่งก็โอเค ทำความรู้จักกันตามธรรมชาติ... ไม่ต้องโทรปรึกษาหลังหรือก่อนเดตทุกครั้ง ในหัวผมแล่นไปถึงคนคนหนึ่งโดยทันที หวังว่าที่เคยทั้งฝึกทั้งแนะไปแล้วจะเอาตัวรอดได้

คราวภัคกับคุณศรัณย์ความจริงผมไม่ได้จับ แต่คราวนี้ขอใช้ทักษะที่สั่งสมจากการทำงานลองดูสักตั้ง

เพราะคนที่ผมนึกถึงก็... ออกจะอยู่นอกวงโคจรการเดตของภัค การงานส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในเมือง หน้าตาหุ่นระดับมาตรฐาน (มีพุงบ้างเล็กน้อย) แต่จากการรู้จักนิสัยทั้งสองฝ่ายมา ผมไม่คิดว่าอยู่นอกวงโคจรที่จะชอบได้ วัดกันด้วยใจกับความคิด คนนี้ผมเชียร์สุดตัว

เพราะภัคเป็นเพื่อน ผมจึงไม่ได้ขายจุดดีก่อน เพียงต้องบอกให้รู้กันแต่เริ่มแรก

“มีอยู่คนหนึ่ง... อาจจะซื่อๆ ช้าๆ ไม่ทันใจบ้าง”

“ยังชอบกว่ากะล่อน”

“ดูดีตามอัตภาพ”

“ไม่เคยคบคนที่หน้าตาสักที”

... ผมกะปิดปากให้สนิทหากมีการแง้มถามในอนาคต ที่ผ่านมาแต่ละคนของภัคนี่ถ้าเสี่ยน็อตรู้เดี๋ยวก็เกิดการเปรียบเทียบแล้วเสียเซลฟ์ขึ้นมาอีก แค่คนหน้าตาดีมักจะดึงดูดกันก่อนเป็นพื้นฐาน... ซึ่งจริง แต่หลังจากนั้นคบยืดไม่ยืดยังมีอีกหลายปัจจัย

รู้จักผ่านเพื่อนยังใช้ได้เสมอ เหลือไปทาบเรื่องกับเสี่ยเมื่ออาการครั้งเก่าก่อนดีขึ้นจริงๆ... ผมรู้สึกว่าคู่นี้มีแววเข้ากันได้ดีเกินกว่าใครจะคาด บางครั้งตัดสินเพียงเท่าที่เห็นในทีแรกก็ไม่ได้

เรากินข้าวเสร็จ เดินออกไปจากร้าน ผมยืนรอภัคแวะดูของ เจ้าตัวว่าแถวนี้ถูก... นึกถึงครีม ผมหัวเราะ บอกว่าพรุ่งนี้เข้าที่ทำงานแล้วจะแจ้งเบาะแสน้อง ไม่แคล้วรีบแจ้นมา

... แต่พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องชะงัก ท่ามกลางยวดยานจอแจ ฝั่งถนนด้านตรงข้ามคลับคล้ายคลับคลาว่ามี... คนเคยรู้จักยืนอยู่ แต่เป็นคนที่ผมไม่อยากเห็นและไม่คิดว่าต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก เลยเรียกเพื่อนให้ดูเพื่อช่วยยืนยัน

“เมื่อกี้...”

“อะไร” ภัคลุกขึ้นมองตาม แต่พอผมหันไปอีกทีก็เห็นเพียงผู้คนเดินกันขวักไขว่ ไม่มีใครหยุดยืนจ้องตรงมาทางนี้สักคน “จะซื้อของกินฝากโอบเหรอ”

ผมยังนิ่งอึ้งอยู่จนเพื่อนถามซ้ำจึงได้สั่นศีรษะตอบกลับไปว่าโอบทำงาน หวังว่าตัวเองจะ... ตาฝาด ภัคก็ไม่เห็น ตอนเดินกลับไปรถยังเหลียวหลังให้แน่ใจ

มันเป็นความรู้สึกไม่อยากข้องแวะอะไรกันอีกแล้วก็จริง ผมไม่ได้กลัวการเผชิญหน้า เพราะหลุดพ้นจากการโทษว่าเป็นความผิดตัวเองมานานแล้ว... ผมไม่กลัวเขา เพียงรังเกียจความเดือดเนื้อร้อนใจที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะถ้ามันจะกระทบคนที่ผมรัก

แต่อย่างไร ที่ผ่านมาก็ขอให้ไปแล้วไปลับ เป็นวิญญาณจากอดีตที่มีค่าเท่าเทียมอากาศธาตุเท่านั้น
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 11-10-2013 10:26:25
คุณ malula ก็ต้องการความมั่นใจบ้างไรบ้าง 55 ความจริงคู่นี้มันก็ช้าแต่ชัวร์มาแต่ต้นละนะ

คุณ Naenprin ฝากอ่านต่อด้วยน้า ขอโทษน้าช้าอีกแล้ว

คุณ warin ขอบคุณเช่นกันสำหรับการอ่านจ้ะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Takarajung_TK ฝากอ่านต่อด้วยน้า จะพยายามไม่ให้รอนานค่ะ

คุณ Aoya ไม่ทิ้งค่ะคือ... จะเขียนให้จบแหละ แต่ว่าถ้าช้าโปรดรอหน่อยน้า นี่คนเก่าแทคก็แวบๆ ไม่รู้มาจริงละป่าว ส่วนโอบเคยแยบๆ กันไปแล้วว่าไม่มีไรค่ะ

คุณ mesomeo2 ปัจจุบันและอนาคตด้วย ฮา นี่ก็อยู่กันแล้วจริงๆ แหละ

คุณ Theomen ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับการอ่าน คู่นี้เป็นแฟนกันก็มีบ่นบ้างไรบ้าง 55 จะพยายามมาเร็วๆ น้า

คุณ goosongta แทคเป็นพวกทำตามแผนแล้วจะโดนแผนซ้อนเองทุกที (ควรต้องปล่อยทุกอย่างไป ฮา) ไม่รู้หวานป่าว... จะพยายาม อิอิ

คุณ BeeRY โอบพยายามไม่ให้มากวนละค่ะ ก็ตกลงใจได้ (คิดว่า... ในที่สุดเครื่องบินลำนั้นคงถึงกรุงเทพฯ แล้วแหละ)

คุณ Tassanee ขอบคุณจ้า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ Windyne ขอบคุณมากค่ะที่ชอบ หวังว่าจะชอบตอนนี้ด้วยน้า

คุณ •♀NoM!_KunG♀• มันไม่หน่วงแล้วนะ จริงๆ นะ นี่ใกล้จบละ

คุณ Anyann ก็ยังน่าจะหวาน ชิล มีความสุข อยู่ (หวังว่าจะเป็นไปนานๆ ฮา)

คุณ Gokusan เอาน่ะ เราก็โล้คลื่นกันไป จัดการได้ (น้องโอบอยากมาอยู่แล้วจริง) ขอกำลังใจให้คู่ใหม่ เสี่ยกะภัคด้วย กร๊าก อ้อเครื่องตกแล้วผู้โดยสารคนอื่นทำไงล่ะ (มีตกแล้วม่องคนเดียวไหม) คนอ่านโหด (กับอุปสรรคความรักพระนาย) ตลอดล่ะ

คุณ Arancia ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากที่ชอบ ขอโทษด้วยที่เข้ามาอ่านก็ต้องรอนานเชียว จะพยายามมาต่อให้เร็วค่ะ คู่นี้ก็เรื่อยๆ งี้แหละ 55

คุณ Millet เหลือกลับใต้ ฮา (จะได้ไปเมื่อไหร่นี่คู่นี้)

คุณ NewYearzz หวังว่าจะมีความสุขกับตอนนี้เหมือนกันน้า ขอบคุณสำหรับการทวงด้วย กร๊าก รักและคิดถึงคนอ่านเหมือนกันค่ะ

คุณ 2pmui อร๊าย (ถือว่าเป็นแรงกระตุ้น) จะพยายามมาต่อให้เร็วค่ะ ใกล้จบแล้วแหละ

คุณ kyoya11 จวนแล้วจ้ะ 55 ฝากอ่านต่อด้วยน้า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผีแฟนเก่า กร๊าก หลอนนะ

หนังสือที่แทคพูดถึงคือเล่มนี้ http://www.snoopology.com/Main.html ... ก็น่าสนใจดีอยู่ อ้อละมีใครเล็งภัคกับเสี่ยตั้งแต่ตอนแรกๆ มั่งมั้ย 55 คู่กันแล้วไม่แคล้วกันน้า

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆ นะคะ  :กอด1: เข้าโค้งสุดท้ายละ ฮึบๆ


ป.ล. สารภาพว่า... ก่อนหน้านี้งานยุ่งหนักมากบิลด์อารมณ์ไม่ขึ้น คู่นี้ก็นะแหมอินเลิฟ ขออภัยหากต้องให้ท่านรอ... แต่ยังไงก็คงเขียนให้จบตามที่ตั้งใจไว้ หวังว่ายังมีคนอ่านอยู่ (เหมือนเดิม แวะมาตอนเห็นมันจบแล้วก็ได้นะตัวเอง อีกไม่นาน เกรงใจ) ความจริงอยากส่งจดหมายลาเหมือนกัน แต่กลัวลาแล้วยิ่งไม่มาเพราะถือว่าลาแล้ว (ตรรกะ...) เอาเป็นว่าจบแน่และใกล้จบแล้วแหละ แต่ขอเวลาอีกหน่อยนะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆ เลย  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 11-10-2013 12:49:23
โอ้วว ตอนนี้หวานสุดๆไปเลยน้าาา อิจฉาจัง อยากได้แบบโอบสักคน5555 :o8:

ไม่เป็นไรนะค่อยๆแต่งได้ค่ะ รอได้555
ช่วงนี้เรียนหนักเหมือนกัน เลยมารอนิยายสนุกๆอ่านแก้เครียด ยังไงก็สู้ๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-10-2013 13:43:03
คิดถึงแทคกับโอบสุดๆ คนเขียนด้วยค่ะ :กอด1:
ชีวิตคู่ (แอร๊ย :o8:) ดูแฮปปี้ มีความสุขสุดๆ แต่มีลางไม่ดีเอาตอนแทคสายตาฝ้าฟางมองเห็นอดีตแวบๆนี่แหละ
แต่มาเถอะไม่ต้องกลัว ยังไงโอบก็ดีที่สุดแล้วตอนนี้  :impress2:
สู้ๆนะคะ คนอ่านรอเสมอค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 11-10-2013 16:18:16
หายไปนานมากกก  แทบจะต้องฟื้นความจำกันเลยทีเดียว
ขอกลับไปอ่านตอนเดิมแบบเร็ว ๆ อีกซักรอบเหอะ
คุ้น ๆ เหมือนว่าแฟนเก่าแท็คจะกลับมาแล้วเหรอ  หรือว่าอย่างไร
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 11-10-2013 17:12:08
เย้ๆๆ มาแล้ว
ขอบคุณที่มาต่อจ้า
เดี๋ยวไปเอาโหวตนิยายดองเค็มออกดีมั้ยน้า  :z2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-10-2013 18:22:56
แทคมีอ้อนด้วยอ่ะ เจ๋ง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 11-10-2013 18:43:32
ไม่ส่งใบลา ที่ทำงานผมเรียก"แอ๊บ"ตัด 2 แรง งั้น...จ่ายมาเลย 2 ตอน เน้นๆ   :laugh:

ยังรอได้เสมอนะครับ แต่...เรื่องเสี่ยกะภัคนี่ไม่คิดนะ คือแบบ..ใช่หรอฮะ?  :a5:

ตอนนี้โอบแบบว่า...กวาดใจไปได้อีกแล้ว กวาดไปแบบเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวเลย :-[ :-[

ขอแบบนี้สักคน แต่..ผู้ชายดีๆมันมีแต่ในนิยาย ชีวิตจริงก็คงมี ..แต่มันจะเหลือมาถึงเราปะหล่ะ  :เฮ้อ:

รันทดชีวิต


รอตอนต่อไปนะครับ +++++++++ 1!!! (กดบวกแบบสะใจมาก..แต่มันกดได้ทีเดียว!)

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 11-10-2013 20:26:36
ขอบอกประโยคแรกด้วยคำว่า คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอบเป็นคนที่จิตใจดีจัง เคยอ่านเจอว่าถ้าเราอยู่กับใครแล้วเป็นตัวเองที่สุดให้รักคนนั้น โอบให้ความรู้สึกแบบนั้นเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 11-10-2013 20:27:25
อุ๊ย ไหดองแตก
ตอนนี้เขินมากกก แทบเอาผ้าขนหนูมาคลุมเป็นฮิยาปเลย ฮา
ตอนสุดท้าย แฟนเก่าคุณแทคหรอ??

ยังไงก็รอเสมอนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 11-10-2013 20:30:45
ช่วงแรกมันหวานมากเลยนะ ชอบมากเลย

อ่านแล้วเขินสุดๆ ถึงจะไม่มีฉากหวาบหวิว

แต่ก็เอาฉากหวานมาบังแทน ยิ้มแก้มจะแตก

ส่วนเรื่องของภัคกับเสี่ย ลุ้นจ๊ะว่าจะเป็นยังไง

คู่นี้ไม่ได้คิดมาก่อนเลยนะสำหรับเรา

นึกว่าภัคกับศรัณย์จะไปรอดซะอีก

และก็ช่วงท้าย แฟนเก่าก็ยังมาหลอกหลอนอยู่อีกเนอะ

รอตอนต่อไปจร้า ชอบมาก o13
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 11-10-2013 21:45:21
อุ๊ย นึกว่าตาฝาด 555
ดีใจมากคะที่มาต่อ นี่เราแอบไปโหวตให้เป็นนิยายดองเค็มด้วยนะ
แต่ที่โหวตเพราะอยากอ่านต่อมากๆ น่ะแหละ

ชอบความสัมพันธ์ของแทคกับโอบมาก ดูเรื่อยๆ แต่ให้ความรู้สึกสบายใจ
เหมือนลมพัดแม่น้ำ ไหลเรื่อยๆ เอื่อยๆ แต่เย็นสบาย

ไม่เคยมีอยู่ในความคิดเลยค่ะ ภัคกับเสี่ยน็อต แต่ก็ดีใจกับเสี่ยจริงๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-10-2013 22:37:06
ชีวิตมันผิดพลาดกันได้ แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจและพร้อมจะยอมรับและรักทุกอย่างที่เราเป็นอย่างโอบ น้อยยิ่งกว่าน้อย

ไม่เคยนึกถึงเรื่องการจับคู่เสี่ยน็อตกับภัคเลยให้ตายเหอะ
แอบชอบบุคลิคอย่างภัค ชิล ๆ เชิด ๆ ไงไม่รู้

ส่วนแฟนเก่าแทค อยากเจอก็มาเจอจะได้จบ ๆ กันไป ไม่ต้องตามมาหลอกหลอนกันอีก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Chelylie ที่ 11-10-2013 23:27:27
ติดตามอ่านอยู่นะคะ คนเขียนหายไปนานเลย ฮือ... :katai4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-10-2013 01:17:50
ตามอ่านอยู่ครึ่งวัน โอบน่ารักอ้ะ
ส่วนแทคคงเจ็บกับความรักครั้งเก่ามาหนักสุดๆ
ว่าแต่ภัคกับเสีย จะทันกันเร้ออออ
ภัคดูเจนเวที เสียดูห่างชั้นกับภัคเยอะ 5555555555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 12-10-2013 08:42:10
ยังคงหวานกันอยู่นะคะ

มาช้าดีกว่าไม่มานะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine538 ที่ 12-10-2013 11:22:38
กลับมาแล้วค่ะ  :katai5:  (แกหายไปไหนมาตั้งนาน -- คนเขียน 555)

รู้สึกว่าจะไม่ได้เข้ามาเม้นท์ให้หลายตอนเลย อย่าน้อยใจไปนะคะ ท้ายตอนที่แล้วเหมือนตัดพ้อคนอ่านเบาๆ จริงๆ แล้วคือไม่ได้เข้ามาเม้นท์ในเล้าแม้แต่เรื่องเดียวไปพักนึงเลยค่ะ มีเหตุให้รู้สึกนอยด์กับการเม้นท์เล็กน้อย(...ที่เรื่องอื่นๆ นะคะ ไม่ใช่กับเรื่องนี้)  แต่ยังตามอ่านอยู่นะคะ แค่แผลสด...พอฟื้นตัวได้ก็กลับมาเหมือนเดิมแล้วค่ะ

ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า หรือเป็นเพราะว่าเนื้อเรื่องตอนนี้ค่อนข้างสบายๆ ก็ไม่รู้ สำนวนและภาษาก็เลยอ่านได้สบายๆ ตามไปด้วย มีอยู่ช่วงหนึ่งยอมรับว่าอ่านไปแอบมึนไป เพราะพอไม่มีประธานของประโยคก็ต้องเดาว่า ...นี่คำพูดใครเหรอ? 555  แต่โดยภาพรวมยังคงชอบสำนวนการเขียนของคุณคนเขียนอยู่นะคะ  :mew1:

ตอนนี้แทคเปิดใจให้โอบแบบเต็มตัว ชอบที่โอบเดินมานั่งด้วยโดยแทคไม่ต้องขยับตัวแค่โอบยกขาแทคขึ้นพาดตักแทน ให้ความรู้สึกเป็นกันเองและสบายๆ มาก การได้คุยเรื่องที่ตัวเองสนใจกับคนที่ตัวเองชอบก็ช่างน่าอิจฉา แถมทำให้รู้ด้วยว่า "ไม่ต้องพยายามมาก" มันก็ทำให้บางอย่างราบรื่นได้เหมือนกัน  :hao6:

แต่ที่หักมุมก็เรื่องของเสี่ยที่จะได้คู่สักทีนี่แหละ ลุ้นนานเหลือเกิน อยากให้คู่เสี่ยกับภัคไปด้วยกันได้ดีจริงๆ ค่ะ  อ้อ ที่หักมุมอีกก็คงเป็นวิญญาณคนเป็นที่มาหลอนกลางวันแสกๆ บรื๋อออ  หลอกได้ แต่อย่าเข้ามาทำให้เรื่องยุ่งเลยนะ จะกรวดน้ำไปให้  :katai1:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ   :call:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 12-10-2013 14:38:20
กลับมาอัพแล้ว คู่โอบนี่น่ารักอะ อิอิอิ หวานแหวว อบอุ่น

รอดูคู่เสี่ยกับภัค ตอนแรกนึกว่าจะไปกับคุณศรันย์ซะอีกก็ดูเหมาะกันดี
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: bennnyyy ที่ 12-10-2013 15:46:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 13-10-2013 22:09:56
ตามอ่านนานกว่าจะถึงตอนล่าสุด อยากบอกว่าระดับน้ำตาลในเลือดดิฉันพุ่งปรี๊ดเชียวค่ะ เรื่องนี้อ่านง่าย ด้วยเพราะเหตุผลหลายประการ หนึ่งคือภาษา ยกนิ้วที่เขียนด้วยภาษาที่สวยอย่าง...ฉลาด นิยายนี่อ่านมาเยอะ การใช้ภาษาก็มีหลายประเภท บ้างก็สวย บ้างก็เท่ห์ บ้างก็ร่าเริง บ้างก็หม่นหมอง อย่าว่าแต่ละประเภทยังแบ่งย่อยลงไปได้อีก อย่างถ้าบอกภาษาสวย ก็จะมีสวยหลายแบบ เช่นสวยน่ารัก สวยกินใจ สวยอย่างวรรณคดี หรือสวยอย่างฉลาดแบบเรื่องนี้ คืออ่านแล้วรู้สึกคนมีความคิดเป็นคนเขียน (ฮา) ชอบนะคะ อ่านไม่มีสะดุด ทั้งเรื่องตัวสะกด การใช้คำอย่างถูกกาลเทศะ หรือแม้กระทั่งการเว้นวรรคตอน (ซึ่งแม้แต่สำนักพิมพ์ดีๆ บางครั้งก็ทำให้ขัดใจด้วยเรื่องวรรคตอนนี่แหละค่ะ) วรรคตอนถูกจะทำให้ "ความ" ของเรื่อง ส่งถึงผู้อ่านได้อย่างไม่ผิดประสงค์ ถ้าวรรคตอนผิด อาจเข้าทำนอง "ไม่เจอกันนาน นมโตขึ้นเป็นกอง" (ฮา)

ช่วงแรกของเรื่อง ดิฉันประหวัดไปถึงนิยายของฝรั่งมังค่าเรื่อง "Emma" ของคุณทวด Jane Austen บรรยากาศประมาณนี้คือ เข้าไปจัดการเรื่องธุรกิจรักๆ ใคร่ๆ ให้คนอื่น จนท้ายที่สุด มีบางปัจจัยเกิดบ้าขึ้นมา ทำเอาคนเจ้ากี้เจ้าการแทบกระอักเลือด ตรงกับกรณีแทคพอดิบพอดี

ประเด็นแทคนี้ ทำดิฉันขัดใจมากๆ เลยนะ คือแบบ...ขัดใจแทคมากเลยค่ะคุณขา ทำไมต้องคิดเอง เออเอง แล้วก็เหมือนจะพยายามยัดเยียดโอบให้ภัคเหลือเกิน อิฉันกลั้นใจแทบตาย กลัวว่าจะได้อ่านตอนที่โอบอยู่กับภัค แล้วนี่คุณแทคก็ยังจะไปสนับสนุนเขาอีก โอ๊ย อ่านไปทึ้งหัวไปค่ะคุณ จะหน่วงขนาดนี้ไปถึงเมื่อไหร่เอ่ย เหอะๆ เห็นใจคนแก่บ้างเถ้อะ หัวใจจะวายเอาได้ 55+ แล้วคำพูดของแทคแต่ละอย่างนะ น้องโอบเขาจะไปเข้าใจได้ยังไง คิดอย่างนั้นค่ะ แต่พอตอนที่ ๑๔ เท่านั้น ดิฉันก็ยกป้ายไฟน้องโอบ สุดๆ ค่ะ ทำให้ดิฉันอ่อนระทวยลงไปแทบเท้า รัก...ก็บอกรัก เสียใจ...ก็บอกเสียใจ น้อยใจ...ก็บอกน้อยใจ เป็นคนตรงสุดๆ ชอบค่ะชอบ อย่าได้ปล่อยให้หลุดมือไปนะคะ ปลื้มกับคำอธิบายของน้องโอบมากค่ะ โดยเฉพาะตอนเดินตามรอยยี่เป็ง 55+ แบบ...เหมือนน้องเป็นหมาน้อยตามกลิ่นอะไรซักอย่าง

ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ นะคะ ส่วนหนึ่งอาจเพราะมันมีส่วนคล้ายกับประสบการณ์ของดิฉันด้วย อ่านไปก็อึดอัดแทนทั้งโอบและแทค หรือแม้กระทั่งในกรณีของภัคเอง แต่คุณเดหลีเข้าใจเลือกตอนบอกรักนะคะ ตอนที่ ๑๔ พอดีเลย หุหุ น้องโอบจะทำมากกว่าหอมขมับก็ได้นะคะ เจ๊อยากจะเห็น ได้โปรดเอา "ไฟ" ของน้องโอบมาละลาย "น้ำแข็ง" ของใครบางคนด้วยเถิดค่ะ

เรื่องไหนที่อารมณ์แบบ...เรื่อยๆ มาเรียงๆ นี่แหละค่ะตัวดี ตอนไหนเจ็บจี๊ดก็จะเจ็บหนัก เล่นเอาผู้อ่านดิ้นพล่านกันเลยนั่นแหละ ส่วนตอนไหนหวาน ก็ประมาณมดขึ้นเต็มเป็นทะเลมด อ่านแล้วจิกหมอน ทุบเตียง หรือเอาหัวโขกกำแพง เลือกเอาแล้วแต่ชอบ แม้ว่าจะไม่มีฉากโคมไฟหัวเตียงให้ไปสิง หรือฉากม่านหน้าต่างเปิดพะเยิบพะยาบ พอให้คนอ่านได้ไปแอบเกาะเพื่อสังเกตการณ์บ้าง แต่ก็ยังหวานมากๆ อยู่ดี รักของโอบกับแทคมิใช่รักหรูหราเด่นดังหรือประเจิดประเจ้อ แต่เป็นรักเก็บนาน เป็นรักหวานลึก ได้เห็นการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ได้เห็นสองคนดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ได้รู้ว่าต่างฝ่ายก็ห่วงหากันตลอดเวลา แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ (นี่ไงคะ ที่บอกว่าเรื่องนี้ใช้ภาษาอย่างฉลาด แถมเนื้อหาก็ฉลาดด้วย) มันเป็นรักที่จับต้องได้ และถ้าถามว่ารักอย่างไหนเป็นรักที่จะหาได้ในชีวิตจริง ก็ต้องบอกว่ารักอย่างนี้แหละค่ะ

(คุณกนกวลี พจนปกรณ์เคยบอกไว้ว่า การเขียนหนังสือต้องมีความงาม ๔ อย่าง คือ งามเนื้อหา งามภาษา งามความคิด และงามจิตสำนึก ดิฉันว่าเรื่องนี้มีทุกอย่างเลยค่ะ อ้อ...มีงามอีกสองอย่างนะคะ คือ งามผู้เขียน กับงามผู้อ่าน  :hao7:)

อย่างไรก็ตาม อยากจะบอกว่าชอบโอบมากๆ โอบเป็นพระเอกที่ไม่ต้องบรรยายหรอกว่าหล่อ แต่อ่านไปก็รู้ว่าหล่อจริง แล้วก็ที่ดิฉันอินมากๆ นี่ก็เพราะเห็นว่าโอบหล่อ และดี เอาการเอางาน ไม่ล็อกแล็ก และไม่ไขว้เขวง่ายๆ รักใครรักจริง และมีความอดทนเป็นเลิศ จึงไม่อยากให้แท็คปล่อยให้น้องหลุดมือไป บางครั้งจึงอ่านแล้ว "อิน" มากๆ (ย้ำ) และสิ่งที่ไม่ย้ำไม่ได้เลยคือ แทคได้กินเด็ก  :laugh: (อุ้ย โทษค่ะ อย่าถือสานะคะ คือดิฉันแก่แล้ว!)

ขอบคุณคุณเดหลีมากนะคะ สำหรับความตั้งใจบรรจงเขียนมาให้ได้อ่าน แม้ว่าจะจบในเร็ววัน แต่ก็อยากให้มีโปรเจ็คเรื่องนี้ เรื่องนั้น เรื่องโน้น หรือเรื่องไหนๆ ให้อ่านกันอีก และดิฉันก็จะติดตามแน่นอน แหม...ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็ติดหนึบเป็นแฟนแน่นหนาไปแล้วนี่

ปล. อยากอ่านเรื่องเสี่ยกับภัคจังเลยค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 19] 11 ต.ค. 56 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Anyann ที่ 13-10-2013 22:28:55
ตอนนี้หวานมาก ดูรักกันดีจริงๆ ฮ่าๆๆ ผีแฟนเก่าโผล่มา แต่ยังไงโอบก็ไม่หวั่นใช่ม้าา (สาธุ๊)

ส่วนภัคกับเสี่ย.. ไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะ 55555 แอบจิ้นว่าเสี่ยไม่หล่อไปซะก่อน เลยไม่ได้จับคู่ผู้ชายคนนี้กับใครๆเลย
ยังไงก็ขอตอนเสี่ยเท่ๆมาเรียกคะแนนกองเชียร์สักหน่อยนะคะ 5555

รอตอนต่อไปค่ะ หลงรักเรื่องนี้ซะแล้ว ยังไงก็ไม่ทิ้งกัน <3
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 21-10-2013 10:58:09
บทที่ 20

“... ถึงแล้วจะโทรมานะ”

ผมยิ้มพยักหน้า “ไปได้แล้ว... เดี๋ยวสาย”

โอบหยิบกุญแจรถแล้วก็ยังไม่ออกไป บอก “เกือบลืม... เมื่อกี้ตอนแทคอยู่ในห้องน้ำคุณป้าโทรมา ฝากถามย้ำว่าช่วงปีใหม่จะกลับวันไหนแน่”

... ที่ทำงานส่งโอบกับรุ่นพี่อีกคนไปประชุมวิชาการต่างจังหวัดสามวัน โอบเอารถไปเอง ออกแต่เช้ามืด พอดีเป็นจังหวัดที่น้องไมค์ทำงานและส่งข่าวมาก่อนหน้านี้ไม่นานว่าได้บ้านพักแล้ว เลยจะพาหนูเรืองกลับไปคืนเสียทีเดียว ผมซึ่งระยะหลังช่วยเลี้ยงมาตลอดจึงต้องบอกลาเจ้าขนฟูสีส้ม... แต่มีความรู้สึกว่าลาแล้วจะไม่ลาลับ เพราะน้องไมค์ก็ชักชวนให้ไปเที่ยวอยู่

แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น ผมเพิ่งดูโทรศัพท์ ไม่เห็นอะไร แสดงว่า...   

“แม่โทรหาโอบเหรอ”

“อื้ม ชวนไปบ้าน ปีใหม่”

นี่คือนิสัยเตรียมการอะไรล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ของแม่ ซึ่งผมคิดว่าแม่ชวนเพราะเอ็นดูน้องโอบของแม่เป็นทุนเดิมมาตั้งแต่เด็กๆ พอหาตัวได้อีกเลยอยากเจอ... ผมก็ลืมนึก เพราะปกติโอบคงกลับบ้านตัวเองที่ไชยปราการ คนยังยืนอยู่ตรงประตูเสริม
 
“ปีใหม่นี้พ่อแม่เขาไปเที่ยวกับญาติๆ บอกว่า ถ้าจะกลับให้ไปสงกรานต์แทน...”

งานผมพักนี้ยุ่งเพราะเป็นช่วงปลายปี ใครๆ ก็อยากมีคนลอยกระทงด้วย และไม่อยากนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่เพียงลำพัง... นอกจากนั้นผมพยายามสะสางบัญชีที่ยังอยู่ในมือให้เรียบร้อยที่สุดรวมทั้งส่งถ่ายงานบางส่วนต่อให้ครีมเตรียมเอาไว้ เพราะเริ่มคิดถึงการสอบเพื่อกลับไปทำสายงานเดิมจริงๆ จังๆ เรื่องนี้พี่อิทก็รู้ เนื่องจากเคยพูดกันเอาไว้พักหนึ่ง... ทั้งหมดทั้งมวลทำให้ยังไม่ได้คุยเรื่องแผนวันหยุดกับโอบ นี่วันมะรืนที่จะไปเบียดผู้คนซ้ำรอยเดิมที่สระน้ำมหาวิทยาลัยก็เป็นอันต้องพับเนื่องจากงานประชุมของอีกฝ่ายคาบเกี่ยวอยู่พอดี

... ผมไม่อยากกลับบ้านแล้วต้องมาระวังการแสดงออกกับ ‘คนที่พาไปบ้าน’ ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าผมจะประเจิดประเจ้ออะไรหรอก แต่มันมีความต่างระหว่างน้องข้างบ้านที่เผอิญมาอยู่ห้องตรงข้ามกับคนที่ย้ายเข้าห้องเดียวกันไปแล้ว ซึ่งพ่อแม่ผมน่าจะรู้โดยไม่ต้องบอกด้วยซ้ำ ความจริง ผมก็ไม่ได้ไม่มั่นใจกับคนตรงหน้า... แต่ก่อนจะทันพูดอะไรออกไปโอบก็ยิ้มแล้วว่า

“งั้น... เรื่องนี้เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกัน ตอนนี้มากอดก่อน”

... ถึงจะไม่อยู่แค่สามวัน แต่ต้องคิดถึงมากแน่ๆ


เย็นนั้นผมออกไปกินข้าวกับภัค เสี่ยน็อตยังไม่ได้กลับเข้ามาเป็นลูกค้าหลังจากขอหยุดชั่วคราว เลยแนะนำนอกบริบทงานได้ ตั้งแต่ทำตัวเป็นพ่อสื่อให้นี่ก็ผ่านมาสองเดือนกว่าแล้ว เพิ่งไปทะเลกันมาสุดสัปดาห์หนึ่งท่าทางชื่นมื่น ก้าวหน้าดี ทั้งๆ ที่ตอนแรกทำเอาผมแอบกลัวแทนเสี่ยเพราะ...

‘... เดตแรกในโรงงานน้ำปลา!’

... เสี่ยได้เก็บที่ผมเคยบอกไปต่อยอดบ้างไหม หรือคิดว่าเป็นคำแนะนำประเภทใช้แล้วทิ้ง หรือยังไง แต่ภัคกลับเอ่ยแกมหัวเราะ

‘อย่าไปว่าเขา... ดันบอกเองว่าอยากเห็นที่ทำงาน เลยได้ทัวร์ชุดใหญ่ แต่ก็สนุกดี’

ภัคก็ดู ‘สนุก’ จริงๆ เวลาเล่า หรือพูดถึง ‘เฮีย’ ทั้งสีหน้าแววตา ดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเก่า เอาจริงๆ มันไม่เหมือนตอนภัคคบกับคนอื่นๆ เพราะเวลาอยู่กับผม หรือว่าอยู่กับเพื่อนๆ ภัคก็ดูเป็นภัคคนเดิมที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย แต่ถ้าอยู่กับคนที่คบด้วย (ซึ่งผมเคยเจอเวลาได้รับคำชวนไปกินข้าวในบางครั้ง) ภัคก็... เป็นแบบที่ทุกคนคงชอบ พอมาคบกับเสี่ยถึงได้เห็นว่าปล่อยตามสบายมากขึ้น

... เหมือนรู้ว่า ตอนนี้มีคนมาติดใจแค่คนเดียวก็พอแล้ว

ภัคให้ผมรับปากตั้งแต่ต้น ห้ามแนะนำ... เพื่อให้เรื่องทั้งหมดดำเนินไปตามครรลองของมันอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ผมก็บอกเสี่ยน็อตไปแล้วว่าครั้งนี้ยุ่งด้วยไม่ได้ แต่เสี่ยยังมีโทรหาผมอยู่บ้างบางครั้ง ซึ่งต้องจัดการแบบที่ไม่ให้ผิดสัญญากับเพื่อน ไม่ก็เลี่ยงๆ กันไป

เมื่อสัปดาห์ก่อนนี่เองเสี่ยโทรมาครวญ ‘คุณแทคภัคเขาไม่ค่อยยอมให้เลี้ยงอะไรเขาเลย... เมื่อวานก็เพิ่งเลี้ยงวันเกิดผมไป’

... ผมเกือบอวยพรเสี่ยแต่นึกขึ้นมาได้ว่าตั้งปฏิทินให้เตือนวันเกิดลูกค้าในบัญชีตัวเองทุกคนอยู่แล้ว และเมื่อวันนั้นก็ไม่มีเสียงเตือนอะไร มันมีไม่กี่คนหรอกที่ผมไม่ต้องตั้ง (รวมถึงคนที่เมื่อต้นปีทำให้ต้องวิ่งเป็นบ้าเป็นหลังขึ้นไปชั้นห้าตอนตีหนึ่งนั่นด้วย)
   
‘... เลี้ยงล่วงหน้า เพราะเขาต้องไปต่างจังหวัดกับที่ทำงานตรงวันเกิดผมพอดี’ อธิบายต่อแล้วเสี่ยก็ว่า ‘ผมแค่อยากเลี้ยงเขาบ้าง...’

ผมเกาศีรษะ เพราะคนที่เสี่ยคบด้วยตอนนี้คือเพื่อนผมซึ่งมีการห้ามขาดกันไปแล้วว่าอย่าได้แนะอะไร แต่ยังไงผมก็อยากให้ไปรอด ราบรื่นไร้อุปสรรคมากที่สุด เพราะเห็นมาแล้วว่า... ครั้งนี้เพื่อนมีความสุข

‘เสี่ยลองเปลี่ยนที่ดูสิครับ... ถ้าจะเลี้ยงมันก็มีหลายที่ที่ไม่ต้องเป็นร้านข้างนอกก็ได้’

เอาเถอะ ภัคห้าม ‘บอก’ ไม่ได้ห้าม ‘ใบ้’ นี่นะ

เพราะฉะนั้นเมื่อเจอกันวันนี้ ภัคจึงได้เล่า “... เพิ่งไปให้เสี่ยเลี้ยงมา”

“เหรอ ร้านไหน” ผมตามน้ำ

“ทำให้กินเองที่บ้าน ดีแฮะ... ไม่เคยคบใครที่ทำกับข้าวอร่อย”

ผมแอบยิ้ม ความจริงเสี่ยเพิ่งเริ่มทำหลังสืบทอดกิจการได้ไม่นานเพราะจะปรับสูตรน้ำปลาเก่าที่ใช้กันมาแต่รุ่นบรรพบุรุษ แล้วมันจะมีวิธีไหนทดลองได้ดีไปกว่าการเอามาทำอาหารเอง พอเจอภัควิชาฝีมือเข้าฝักแล้ว ไม่แพ้ตามเหลา... สร้างความประทับใจได้ไม่ยาก เสี่ยน็อตนี่แค่ต้องรู้จักดึงจุดเด่นของตัวเองออกมาแสดงบ้างเท่านั้นล่ะ

เสี่ยปลูกบ้านของตัวเองอยู่ไม่ไกลจากโรงงาน แล้วก็มีบ้านใหญ่ที่แม่อยู่... แต่ท่าทางเพื่อนผมจะไปมาหมดแล้วทั้งสอง เพราะเล่าต่อ

“เฮียชวน... ตอนแรกหม่าม้าเฮียหน้าตาดุมาก เรายังเกรง แต่กลับหันไปว้ากลูกชาย บอกว่าอะไร! อาตี๋ลื้อเปลี่ยนคนอีกแล้ว นี่จะคบผู้ชายก็ไม่ว่า แต่อย่าหลายใจอั๊วไม่ชอบ!”

ผมน่ะลุ้น แต่ต้องทำสีหน้าให้เป็นปกติประหนึ่งเชื่อมั่นว่าเสี่ยจะไม่ตกใจและรับมือหม่าม้าได้ดี ซึ่งจริง เพราะเพื่อนพูดต่อพลางหัวเราะ

"เฮียเลยบอก... ถ้าเขายอมหยุดอยู่กับผม ผมก็ไม่เปลี่ยนแล้วนะ"

“แล้วภัคล่ะ”

เพื่อนไม่ว่าอะไร แต่นั่งยิ้ม และผมว่า... ผมพอรู้คำตอบ

วันรุ่งขึ้นเสี่ยโทรมา เดาได้ก่อนเข้าเรื่องเสียอีก... จากที่เคยพักสัญญาไว้ชั่วคราวตามคำขอของผม กลายเป็นยกเลิกถาวร

เสี่ยก็ดูสบายๆ ขึ้นเหมือนกัน ไม่มีท่าทางไม่มั่นใจหรือประหม่าอีก จากตอนแรกที่โทรมาโอดแทบจะทันทีหลังเจอภัคครั้งแรก เพราะ 'เขาหน้าตาดี... มาก แบบมากๆ... เขาจะชอบผมไหม มันจะไปรอดไหม' แต่ตอนนี้ความมั่นใจที่ได้กลับมา มาจากการรู้ว่ามีคนที่เข้าใจกันจริงๆ อยู่ และผมก็ว่า... เสี่ยดูดีในแบบของเสี่ย

เสี่ยบอกขอบคุณผม แต่แท้จริงแล้ว เป็นตัวของตัวเองด้วยที่นำพามาจนถึงวันนี้ เพราะเสี่ยน็อตเป็นพวกทุ่มเท และซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง ตั้งแต่รบกับแม่เรื่องไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่หามาให้... เป็นพวกที่ถ้ารัก จะรักแบบไม่กลัวเจ็บ พออยู่กับคนที่เห็นคุณค่าแล้ว ก็ไปกันได้ดีแบบนี้เอง

ผมถอยรถออกจากโรงงาน คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเสี่ย

... ในฐานะที่ปรึกษา ต่อจากนี้คงพบกันในฐานะแฟนเพื่อน แล้วก็... น่าจะกลายมาเป็นเพื่อนผมด้วย
 
ตอนค่ำนอนกลิ้งคุยโทรศัพท์กับโอบอยู่บนเตียง ขานั้นแวะส่งหนูเรืองถึงมือเพื่อนไมค์ตั้งแต่วันแรก พอรู้เรื่องภัคกับเสี่ยยังดีใจด้วย... บอกว่าพรุ่งนี้คงถึงกรุงเทพฯ ดึกๆ ผมก็ย้ำเป็นรอบที่ร้อยล้าน (อย่างอีกฝ่ายกระเซ้า) ว่าให้ขับรถระวัง อย่าเร็วมาก

ยังไงผมก็รออยู่ที่เดิมเนี่ยแหละ...


ในบัญชีของผมตอนนี้เหลือคุณศรัณย์คนเดียวที่ยังนิ่งๆ อยู่ อาจจะต้องให้ครีมดูต่อ... พอเลิกงานแล้วผมลงมาจากตึก กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เพลินๆ สลับกับว่าจะซื้ออะไรไปรับคนกลับจากต่างจังหวัด... ขับรถมาอาจจะหิว พอดีมีคนก้าวมาขวาง

ผมเงยหน้าขึ้น และวิญญาณจากอดีตก็มีตัวตนอีกครั้ง

ปฏิกิริยาแรกของคนเราเวลาเจอสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ คือชะงัก ระหว่างนั้นตัดสินใจ... สู้ หรือ หนี... แต่ผมหลบมาพอแล้ว และหากไม่พูดกันตรงๆ ให้จบเรื่อง ก็คงมีข้ออ้างให้ทำเป็นไม่เข้าใจและตามรังควาญอยู่ไม่เลิกรา

เขาพยายามคว้าแขน แต่ผมดึงออก ความจริงไม่โกรธ ไม่ตกใจ... ที่เคยเจ็บปวดนั้นไม่คุกรุ่นขึ้นอีก ผมไม่มีถ่านไฟเก่า มันมอดดับไปแล้วด้วยน้ำใสใจจริงของคนที่ทุ่มเทความรักลงให้ คนที่ผมรู้ว่า ผมเชื่อได้

แต่กับคนนี้... ไม่มีคำพูดอะไรแปลกใหม่... ‘เสียดาย’ ‘เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม’ หรือ ‘ไม่เคยเจอใครดีเท่า’ บอกว่าพยายามมาดักเจอผมตั้งแต่สองเดือนก่อนแล้วแต่ต้องกลับบ้านด่วน... ซึ่งคนเราพูดอะไรก็ได้ เพื่อให้เป็นไปอย่างที่ตัวเองต้องการ

อำนาจจากคำพูดนั้นสำคัญ แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นจากการกระทำสำคัญกว่า และถ้าสิ่งที่ ‘ได้ยิน’ ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ ‘เห็น’ หลอกตัวเองไปก็เท่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเห็นจนเกินพอ จึงบอกได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ถ้ากลับ คงโง่”

คนตรงหน้าอึ้งไปนิด แล้วจึงทำไขสือ “ทำไมถึงว่าใครๆ ที่กลับไปหาแฟนเก่าอย่างนั้น มันก็...”

"ไม่ได้พูดถึงคนอื่น พูดถึงตัวเองนี่แหละ คนที่ตัดสินใจกลับไปเขาไม่ได้โง่ ถ้ามีเหตุผลให้คิดว่าคงมีอะไรดีขึ้น ไปเพราะรัก...”

... เพราะรักจะอดทน ให้อภัย และยังมีความหวัง

ผมสูดลมหายใจเข้าลึก พูดต่อ

"แต่ผมไม่ได้รักแล้ว และไม่ใช่มาโซคิสต์ที่อยากจะทนทรมานกับอะไรซ้ำซาก ผมมีชีวิตของผม คุณไปมีชีวิตของคุณ ขอให้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก”

กับคำถามโลกแตกที่ว่า ‘ทำไมถึงชอบคนเลว นิยมแบดบอย’ หรือ ‘รู้ว่าเขาไม่ดี แต่ยังทนอยู่ได้’ ความจริงอาจจะไม่ได้ชอบ แต่สมองคนเราเสพติดความไม่แน่นอน เพราะมันตื่นเต้น... มันลุ้น ไม่รู้เขาจะดีด้วยเมื่อไหร่ พอเขาดี เหมือนได้รางวัลที่ไม่ควรจะได้ ทั้งที่ความจริงไม่ต้องเป็นอย่างนั้น

คิดถึงเวลาเล่นรัสเซียนรูเล็ต... อ้อ อาจจะเป็นการเปรียบเทียบที่อยากตายมากไป (แม้ความรู้สึกเวลาอยู่ในความสัมพันธ์ห่วยๆ แบบไม่มีทางออกจะใกล้เคียง) เอาเป็น... เหมือนเล่นสล็อตแมชชีน อุตสาหะหยอดเหรียญเข้าไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย พอได้นิดๆ หน่อยๆ ดีใจจนลืมนึกไปว่า นี่เสียก่อนหน้านี้ไปเป็นร้อยๆ ไหลคืนมาแค่... สิบ ยังมานะพากเพียร หยอดต่อไป... เทจนเหรียญหมดหน้าตัก เล่นจนหมดกำลังใจ
   
... ในที่สุดก็จะโหยหาความปลอดภัยและมั่นคง อยากได้คนที่พร้อมจะเป็นของเราตลอดเวลาโดยไม่ต้องคาดหวังในสิ่งที่อาจได้บ้าง ไม่ได้บ้าง... และรู้ว่าถ้าให้ไปร้อย ไม่ควรจะกลับคืนมาแค่สิบ

อีกฝ่ายหน้าเครียดขึ้น และถามคำถามที่ไม่แปลกใหม่อะไรเลยอีกคำถามหนึ่ง “มีคนใหม่ใช่ไหม ถึงได้พูดยากพูดเย็น”

ผมถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย "จะมีหรือไม่มี ก็คิดเหมือนเดิม ไม่เปลี่...”

เขาคว้ามือไปอีกก่อนจะทันพูดจบ ตอนนั้นเองที่ผมเหลือบไปเห็นคนที่กำลังเดินข้ามถนนมุ่งตรงมา

... คือคนที่บอกว่า จะถึงกรุงเทพกลางดึกคืนนี้...
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 21-10-2013 11:00:16
คุณ Theomen ตอนนี้หวานน้อยหน่อยเพราะโอบไม่อยู่ 55 แถมกลับมาเจออะไรที่... นะ ขอบคุณมากค่ะที่รออ่านอยู่ สู้ๆ เรื่องการเรียนเหมือนกันค่ะ

คุณ BeeRY คนเขียนก็คิดถึงคนอ่านค่ะ ที่จริงแทคเปล่าตาฟาง ฮา เขากลับมาแล้วจริงๆ ขอบคุณที่รออ่านนะคะ

คุณ iforgive สองเดือนกว่าแน่ะ ขออภัยด้วยค่ะ อันนี้ก็ใบ้กันมาหลายบทว่าจะกลับมาแล้ว ตอนนี้ก็ปรากฎตัวแล้วจริงๆ แถมโอบไม่อยู่อีก (เพิ่งกลับ)

คุณ 2pmui ขอบคุณที่อ่านเหมือนกันค่า 55 ไม่เป็นไรหรอกถือว่ารออยากอ่านเนอะ

คุณ kyoya11 ก็มีบ้างอะไรบ้าง (ทำไม่บ่อย กร๊าก)

คุณ NewYearzz 55 แหม แต่มาแล้วน้า อีกนิดเดียวก็จบละ บางคู่ดูเหมือนไม่น่าเข้ากันแต่เข้าก็มี เอิ๊ก อย่ารันทดค่ะ คนดีๆ ก็ต้องได้เจอคนดีๆ สินะ ขอบคุณสำหรับบวกจ้ะ

คุณ goosongta คิดถึงคนอ่านเหมือนกันค่า คนเขียนก็คิดยังงี้นะ ตอนนี้จะเห็นว่าภัคก็เหมือนกัน เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ตอนอยู่กับเสี่ยน็อต 55 โอบเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วน่าจะสบายใจ ชิลดี (ตอนนี้ยังจะชิลไหวมั้ยมันก็อีกเรื่อง)

คุณ mesomeo2 55 เห็นภาพเลย ขอบคุณที่รอน้า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณนอนกินแรง ขอบคุณที่ชอบจ้า ภัคกับเสี่ยเขาก็คงแฮปปี้กันดี ขอบคุณที่รอน้า ฝากอ่านต่อด้วยจ้า

คุณ Aoya ขอบคุณสำหรับการอ่านค่ะ 55 ขอบคุณที่ยังรออ่านอยู่น้า คนเขียนก็ดีใจกับเสี่ยด้วยเหมือนกัน

คุณ malula ตอนรักตอนแรกนั่นก็คงไม่คิดว่าจะพลาด แต่ใครจะรู้อนาคตเนอะ นี่ไม่มีใครคิดถึงภัคกับเสี่ยทั้งนั้น ฮา คนเขียนก็ชอบภัค นี่ตอนนี้เจอละแฟนเก่า แทคไม่หนีด้วย

คุณ Chelylie ขอบคุณสำหรับการอ่านค่ะ อีกนิดเดียวก็จะจบแล้วแหละ ฝากต่อด้วยนะคะ

คุณ lizzii ขอบคุณมากค่ะสำหรับการอ่าน พวกรักจริงจะเจ็บจริงด้วยอะ 55 จริง ภัคมีประสบการณ์และอยู่ในวงการมานานกว่า แต่ที่เสี่ยไม่เจนเท่านี่มันก็เข้ากันได้นะ

คุณ Naenprin ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ ฝากต่อด้วยน้า

คุณ sunshine538 ขอบคุณมากนะคะ อันที่จริงก็ไม่ได้จะตัดพ้อน้า แบบว่าเกรงใจคนอ่านจริงๆ เพราะว่ามาได้ไม่สม่ำเสมออย่างที่อยากมาเลยค่ะ แค่คนอ่านเมนต์ก็ดีใจแล้ว เมนต์ตอนไหนก็ได้ หมายถึงตอน 19 เหรอคะที่มึน ถ้ายังไงจะพยายามเขียนให้ชัดเจนขึ้นค่ะ ในที่สุดเสี่ยก็ได้บำบัดโสดไปเนอะ ทีนี้มันจะยุ่งหรือเปล่าเรื่องคนเก่ากลับมาต้องขอฝากต่อด้วยค่ะ ใกล้จบแล้ว อิอิ

คุณ Arancia ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ตอนแรกภัคกับคุณศรัณย์ก็ดูเหมาะจริงๆ นะ แต่บางทีคนที่ดูภายนอกไม่เหมาะก็เติมเต็มกันได้เหมือนกันนะ อิอิ

คุณ bennnyyy ขอบคุณสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ Worldslinger ขอบคุณมากนะคะที่อ่าน คนเขียนก็อยากจะมีเวลาให้มากกว่านี้จะได้ 1) เขียนมาลงให้สม่ำเสมอกว่านี้ 2) ไปเป็นแฟนนิยายคนอ่านบ้างค่ะ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับการเขียนด้วยเช่นกันนะคะ จริงๆ ตอนหลังตั้งใจให้แทคโตขึ้นทางความคิดด้วยอยู่แล้ว เหมือนรักษาแผลใจหาย ก็มีความมั่นใจมากขึ้น พอพูดถึงเอ็มม่า คิดตามแล้วก็จริงเหมือนกันเนอะ แต่แทคเนี่ยเป็นอาชีพเลยด้วย (ยุ่งกว่าเดิม 55) คิดว่าคงมีคนขัดใจเธอเหมือนกันนะ แต่ตอนนั้นสถานการณ์มันทำให้เข้าใจอย่างนั้นด้วยนี่นา... แล้วเธอก็ยังอยู่ในโหมดหนีๆ อยู่เลย ฮา เลยถอยออกมาดีกว่า คือภัคก็ห่วงว่าจะมีคนไม่เข้าใจเพื่อนนั่นแหละค่ะ พอดีน้องโอบเป็นคนตรงก็เลยเข้าใจกันไป จริงๆ อยากให้เรื่องนี้ชิลๆ ไม่เครียด (อ้อ ถ้าบอกว่างามผู้อ่าน เชื่อว่าจริงแน่ๆ ค่ะ) น้องโอบเคยมีคนชมว่าแกหล่อ แต่คนเขียนก็ชอบคนหล่อและดีด้วยเหมือนกัน 555 กินเด็ก เป็นอมตะ ส่วนเรื่องต่อไปมีโปรเจ็คท์นะคะ แต่ขอเรื่องนี้จบก่อน อีกนิดหนึ่ง ไม่ค่อยมีเวลาเลย แต่ก็ยังอยากเขียนอยู่ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ (ป.ล. เสี่ยกับภัค ก็น่าจะแฮปปี้แหละ อิอิ)

คุณ Anyann สาธุด้วย โอบหนักแน่นเข้าไว้นะ กร๊าก ส่วนเสี่ยนี่ดูดีแบบคนปกติธรรมดาอะค่ะ 555 แต่คนธรรมดาก็มีแฟนหล่อ (อย่างภัค) ได้น้า ขอบคุณมากสำหรับการรออ่านค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

... นี่คือจริงๆ แฟนเราเคยบอกดิบดีว่าจะไม่มีการเจอแฟนเก่าเกิดขึ้น... แล้วเป็นไง กร๊าก น้องโอบยูเป็นพระเอกนะ (ไม่รู้เตือนใครจะจบเรื่องละ)

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เช่นเคยค่ะ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 21-10-2013 12:25:57
โอบเป็นคนที่มีเหตุผลเสมอๆแค่จับมือไม่สะเทือนความรู้สึกหรอก <เนอะ>
ชอบคำพูดแท็คจัง ชัดเจนไม่ต้องแปล ไม่รักก็คือไม่รัก ทำไมคนฟังไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 21-10-2013 12:33:37
แม่สื่อของเรา ลุ้นจนตัวโก่งแล้ว

ใกล้จบแล้วหรอ ไม่อยากให้จบเลย

เนื้อเรื่องสนุก อ่านแล้วเพลินมากเลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 21-10-2013 14:23:55
โอบจ๋า อยากเห็นโอบบู๊บ้างจัง  :laugh:

เรื่องนี้เรียบง่ายแต่สุขล้นมากครับ  :กอด1:


รอตอนค่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 21-10-2013 15:28:43
น้องโอบเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง, จริงใจ, ตรง, มั่นคง, มีเหตุผล, ไม่สั่นคลอนต่อเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฯลฯ ดังนั้นแม้จะเห็นแทคจับมือชายอื่น, และแม้จะรู้สึกอารมณ์สูงในใจ, ก็คงจะอยู่ฟังคำอธิบายของแทคใช่ไหมคะ อย่าปล่อยให้ของดีหลุดมือนะคะ อุตส่าห์รอคอยมาจนถึงทุกวันนี้ได้แล้ว

รักแล้วจงรัก

อย่าพาลปล่อยให้ใครเข้ามาทำลายรักสวยงามนั้น

ส่วนวิญญาณของคนในอดีต...กลับรังของแกไปซะ!!!  :z6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 21-10-2013 15:42:59
ดีใจกับเสี่ยและภัคด้วย

โอบสู้ๆ เข้มแข็งและเชื่อใจแท็คนะ  :a2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-10-2013 18:04:31
น้องโอบไม่เข้าใจแทคผิดหรอก เรราเชื่ออย่างนั้น ยกเว้นจะงอนเพื่อให้แทคง้อ :z1:
นายคุณแฟนเก่าคะ ถ้าไม่อยากโดนคนอ่านรุม :z6:  ช่วยออกไปจากนิยายเรื่องนี้ด้วยค่ะ ไม่ต้อนรับแล้วค่ะ (แรงจริงๆยัยคนอ่านคนนี้ :laugh:)
ภัคกับเสี่ยน็อตนี่ดูน่ารัก กุ๊กกิ๊กไงไม่รู้อ่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-10-2013 18:13:34
โอบอย่าเข้าใจผิดนะ จะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย เจอกันในสถานการณ์นี้  :ling1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 21-10-2013 18:52:38
หวาา ใจเย็นๆนะ ถามไถ่ก่อน อย่าเพิ่งหน้ามืดนะโอบบ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-10-2013 20:27:58
เราเห็นภาพเสี่ยชัดเจนมาก
ดีใจที่ลงเอยไปหนึ่งคู่
ว่าแต่แฟนเก่ากลับมาทำไม
แล้วโอบจะเข้าใจผิดมั้ย แต่จากที่ผ่านมาคิดว่า
โอบเป็นพระเอกที่คิดเป็น ไม่น่าจะเข้าใจผิดหรอกเนอะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 21-10-2013 21:29:04
สองตอนรวด...ห่างกันไปทีเดียว ^^"

ทิ้งท้ายให้พอลุ้นว่า...อีกคนจะเข้าใจผิดไหม
แต่คงไม่น่าหนักหนาอะไร...ใจผูกกันไปแล้ว

รังเกียจคนคิดเข้าข้างตัวเองแบบนี้
แค่อยากเอาชนะ เพราะคิดว่าเขารักเราที่สุด
แต่คนเก่านั่นคงไม่รู้ว่า...มีรักได้ ก็มี...หมดรักได้
ไม่เกี่ยวกับว่ามีคนใหม่หรือไม่...แค่-ไม่รัก-ก็เป็นเหตุผลพอแล้ว

ดีใจไปกับเสี่ยน็อตและภัค...เจอคนลงตัวซักที
แถมแม่เสี่ยก็ไม่ได้ว่าอะไรซะด้วย ^^

รอการเคลียร์ของโอบ...สู้เขา เพื่อคนของเรา อย่ายอม!! ^^V
วิญญาณในอดีตจงโดนขับไล่จนไม่ได้ผุดออกมาอีกเลยเถอะ...ซ้าาาาธุ ^/\^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-10-2013 22:41:42
หายไปเป็นชาติกลับมาเรียกร้องอดีตคิดว่าเราเป็นของตายหรือไง เสียใจด้วยคนใหม่สดใสไฉไลกว่าเดิมร้อยเท่ากลับไปก็โง่
คู่เสี่ยน็อตกับภัคลงเอยเพราะแสดงตัวตนที่แท้จริงล้วนๆ ที่ผ่านมา มัวแต่ปรุงแต่งหวังให้คนเห็นแต่ข้อดีเราก็จะเห็นแต่เปลือกเขาเช่นกัน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 22-10-2013 07:51:16
ถ้าเป็นเรื่องอื่น  เราคงคิดว่าพระเอกคงเข้าใจผิดแหงๆ แต่พอเป็นเรื่องนี้ เราว่าโอบไม่เข้าใจผิดแน่ๆ
โอบดูเป็นคนที่มีเหตุผล แถมเชื่อใจแทคมากๆเลยอ่ะ :o8:

"เสี่ยดูดีในแบบของเสี่ย"ตอนที่แทคคิดถึงตรงนี้ เราว่าแทคดูเท่มากเลยนะ :katai2-1:
ดีใจด้วยกับคู่ของเสี่ย :mew3:
ขอบคุณมากค่ะ มาต่อเร็วๆน้าา  :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 22-10-2013 08:44:27
แปะป๊าบบบบบบบ น่าสนุกๆ


เดี๋ยวจะเข้ามาอ่านนะค้า^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 24-10-2013 22:42:55
กรี๊ดดดด ในที่สุดเสี่ยก็สมหวังสักที

นึกว่าจะโทรมาโอดครวญกับแทคต่อ

ปิดบัญชีได้ไปอีกหนึ่ง ดีใจกับคู่นั้นด้วย

แอบอยากได้ตอนกับเสี่ยกับภัค อิอิ

และก็แฟนเก่าของแทคก็ตื้อเกินไปนะ

แทคปฏิเสธไปแล้วก็ยังไม่เลิกอีก

โอบมาอีก ไม่อยากให้ทะเลาะกันเลย

ขอให้โอบเข้าใจนะเพราะว่าแทครักโอบแล้ว

สู้ๆนะจ๊ะคนเขียน :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 25-10-2013 00:51:01
มาอัพแล้ววววว

ดีแล้วที่เสี่ยไปได้ดีกับภัค ดูน่ารักนะคู่นี้

ส่วนเรื่องปัจจุบัน น้องโอบอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ แทคเค้ารู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี

รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 27-10-2013 02:22:10
โอ้ววววว 

เห็นใครเม้นท์แว๊บ ๆ ว่าแทกนี่เรื่อย ๆ  เนือย ๆ จนอยากจะให้ไปไวกว่านี้หน่อยนะลูก 
คือเห็นด้วยเลยอ่ะเรื่องบุคลิกของเขา  แต่การที่เขามีบุคลิกอย่างนั้น  เลยทำให้คนนี้ดูน่าสนใจมาก ๆ  ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต  คือชีวิตเขาเนือยแต่มันน่าจับจ้อง  จนกระทั่งโอบเข้ามา  มันก็เริ่มเปลี่ยน  แต่ไม่ได้เปลี่ยนแบบรุนแรง  ค่อยประสานเข้าด้วยกัน  ซึ่งตรงที่คุณเดหลีบรรยายการก่อตัวขึ้นของความรัก  ทำอย่างระมัดระวังมาก  ค่อยเป็นค่อยไปจนความรู้สึกของคนอ่านก็ลึกซึ้งตามไปด้วย

ในด้านน้องโอบ  วิธีการเข้าใกล้พี่แทคนี่ก็เนียนสุด ๆ  กำลังพอดี  ฉลาด  ไม่งี่เง่า ตรงไปตรงมา  บุกตะลุยในตอนที่ควรจะบุก  ส่วนบุคลิกนี่  โอ..อุดมคติเลยครับ  แต่ไม่ใช่ว่าเลิศเลอล้ำโลก  แต่เป็นคนแบบที่อยากได้มาเป็นคนรักในชีวิตจริง   

มีคนปลื้มพี่อิธเยอะ  แต่สำหรับผม  คนที่ปลื้มที่สุดคือน้องไมค์ครับ  ชอบความรั่วของน้องเขาและความสามารถในการต่อประโยคได้เอง  รองลงมาแน่นอน  เสี่ยน็อต  ยังฮากับขนมปังร่วงเต็มเตียงไม่หาย  ฮ่าๆๆๆๆ  แล้วเสี่ยน๊อตยังเป็นคนเดียวที่มีฉากเลิฟซีนถึงพริกถึงขิงในเรื่องนี้เท่าที่ผ่านมาอีก  เสี่ยเจ๋งมากครับ

จะว่าไป  ผมแอบกิ๊วก๊าวเบา ๆ อยากเห็นปฏิกิริยาน้องไมค์เวลาที่จับสังเกตได้ว่าพี่แทกกะไอ้โอบเป็นแฟนกัน  แล้วจะยังไง  คือแบบอยากมีอารมณ์ฟิน ๆ แบบที่โอบได้ประกาศตัวแฟนกะเพื่อนไรเงี้ย

ส่วนภัคนี่บทเงียบจริงอะไรจริงครับ  ดูเหมือนมีความสำคัญ  แต่ก็มีความชัดเจนของตัวตนน้อยที่สุดเลยล่ะ

วกเข้าเรื่องอื่นนอกจากความคลั่งไคล้ในตัวละครที่น่ารัก ๆ  และทำให้โลกวันนี้ตอนที่ผมอ่านเวลาตีสองสดใสเบ่งบานเหมือนเจดีย์วัดจานบิน

ชอบสำนวนครับ  คงมีคนชมไปเยอะแล้ว  ที่อ่านคำวิจารณ์ของคุณ World Slinger เห็นด้วยหมดเลย  ยกเว้นนิยายของเจนออสตินเพราะผมไม่เคยอ่าน 555 

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และตั้งใจจะฝึกตามเคล็ดวิชาของท่านให้ได้  คือ  การทิ้งท้ายที่มีพลังเอามาก ๆ ในแต่ละจุดของเรื่อง  โดยเฉพาะบรรทัดสุดท้ายของบท

มันมีพลังเพราะเป็นสิ่งที่อ่านแล้วเจ๋ง  และคนอ่านรู้ว่า  ถ้าให้คิดอะไรแบบนี้เองคงคิดไม่ได้แน่ ๆ  คือมันฉลาดมาก ๆ ในการพูดวลีเดียว  แล้วความหมายกับภาพพจน์น์จำนวนมากถูกอัดอยู่ในนั้น

อย่างเช่นอันนี้ครับ   คิดบทเปรียบเทียบนี้ได้ยังไง

อ้างถึง
เพราะอุณหภูมิของหัวใจ จะสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกายปกติ นิดหน่อย...

ซึ่งมันไม่ได้สะท้อนความฉลาดอย่างเดียว  แต่มันสะท้อนมุมมอง  วิธีการมองโลก  คือห้วงรำพึงของตัวเอก  มันก็คือห้วงรำพึงของคนเขียน  และไอ้ห้วงรำพึงแบบนี้  มันมีอารมณ์ขันที่น่ารักมาก ๆ  และความมองโลกในแง่ดี  และการมองโลกในแบบที่แตกต่างจากคนทั่วไป  อย่างอันนี้ครับ  ผมมันทำให้ผมหลงรักคนที่มีความคิดแบบนี้ซึ่งมันสะท้อนในห้วงคิดที่มีเสน่ห์และน่าสนใจ

อ้างถึง
เด็กใต้ก็ร้องเสียงดังกว่าที่อื่นด้วยหรือเปล่า นี่ยังสงสัย

อย่างตรงนี้ก็อารมณ์ขันที่น่ารัก  แบบไม่ใช่ไฟต์บังคับว่าเป็นมุกที่ต้องมา  แต่เหมือนเป็นดีเทลเล็ก ๆ ของความรุ่มรวยทางอารมณ์ของพระเอก

อ้างถึง
... ไหนๆ ก็เช่ามาแล้วไหมล่ะ เสียดายตังค์

มันเลยทำให้การทิ้งท้ายในบทที่มีฉากรักยิ่งหวานซึ้ง  เพราะไอ้ความโรแมนติกมันถูกบีดอัดเข้าไปในห้วงคิดที่เป็นวลีสั้นๆ  อย่างมากมาย  เรื่องนี้โคตรโรแมนติกเลยครับ  มันจะต่างกับอีกเรื่องที่ผมเพิ่งอ่านเมื่อวานที่ผมประทับใจมาก ๆๆๆ เหมือนกันรู้สึกหน่วง  แต่อันนี้ที่เด่นจริง ๆ คืออารมณ์โรแมนติกเลยล่ะ  ผมได้ฟีลแบบเดียวกันนี้จาก Norwegian Wood ของมุราคามิ  เป็นอารมณ์ขันที่ชาญฉลาดบวกกับอารมณ์รักลึกซึ้ง  ต่างกันเพียงแค่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีด้านที่หม่นเศร้า

รออ่านบทต่อไปฮะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 27-10-2013 14:05:00
หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนะ
เพราะน้องโอบไม่ใช่คนประเภทหึงหน้ามืดตามัว
น้องโอบมีเหตุผลและใจเย็นพอ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 28-10-2013 00:07:12
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine538 ที่ 29-10-2013 18:14:49
อ้าว เผลอแป๊บๆ หนูเรืองต้องกลับไปหาคุณพ่อไมค์ซะแล้ว คิดถึงแย่เลย...  :mew2:

ส่วนเสี่ย คงต้องเตรียมโห่สามลาไว้ให้ล่วงหน้า ท่าทางภัคจะยอม "หยุด" ไว้ที่เสี่ยนี่แหละ สำหรับภัค...คนที่เคยมีความสัมพันธ์แบบหวือหวาหรูหรา สุดท้ายก็ต้องการแค่ใครคนหนึ่งที่ทำให้ยิ้มได้สินะ... 

...วิญญาณอดีตตามมาหลอนแบบจริงจัง ไม่อ้อมค้อม ตรงเป้ามากๆ โชคดีที่แทคมีภูมิคุ้มกันพอตัวแล้ว และยังรู้ล่วงหน้ามาก่อน ถึงได้รับมือกับวิญญาณร้ายได้ดีทีเดียว มาตายตอนจบตรงที่โอบดันมาเซอร์ไพรส์กลางวันแสกๆ นี่แหละ  :katai1:

โอบเข้าใจแทคใช่ไหม อย่าเดินหนีแทคเชียวนะ เอาข้าวสาร เอาเกลือสาดวิญญาณร้ายไปให้ไกลๆ แทคเลย  :hao7:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 29-10-2013 19:48:50
มาอ่านสองตอนติดที่อัพล่าุสุด  โอ๊ยคุณขา น้ำตาเราจะไหลอะ  :m15:   ไม่รู้ตัวเลยนะว่าเชียร์เสี่ยน็อตขนาดนี้  ดีใจที่ได้เจอคนที่เข้าใจกันจริง ๆ สักที  แล้วคาดไม่ถึงว่าคนนั้นจะเป็นภัค คือแบบ ดีใจอะ  :กอด1:

โอบกะแทคก็น่ารักมาก น่ารักอุ่น ๆ จนแบบ แง๊วว  :-[   
ดีใจที่โอบมาพอดี  ให้รู้ซะบ้าง  โอบไม่ใ่ช่คนใหม่ แต่โอบเป็นปัจจุบันของแทคต่างหาก แทคมีความสุขก็ดีอยู่แล้ว ถ้ายังคิดจะเอาแทคกลับไปน่ะแสดงว่าไม่ได้รักแทคหรอกอย่ามาพูดเลย รักแต่ตัวเองต่างหาก ใครที่รู้ตัวว่าเป็นแค่อดีตไม่ได้เรื่องจงหลบไปป   :z6:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 29-10-2013 22:02:04
จบตอนกำลังค้างเลย
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-10-2013 17:00:43
แฟนเก่าแทคเป็นพวกที่หลงตัวเองได้อย่างร้ายกาจจริง ๆ
พวกที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ บางทีก็ต้องจัดหนักให้เขาหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: akichan ที่ 03-11-2013 08:13:10
เพิ่งได้อ่านสนุกมากคะ
มาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 20] 21 ต.ค. 56 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 12-11-2013 19:43:54
คือ ชอบ ชอบมากกกกกก
เรื่องมันเอื่อยๆ แต่ก็ดำเนินไปตามเรื่องราวของมัน อาจจะไม่หวือหวาเหมือนนิยายเรื่องอื่นๆ
แต่อ่ารแล้วอิ่ม สุขใจจริงๆนะ ชอบวิธีการคิดของแทค เหมือนจะดูเรื่อยๆ แต่ใส่ใจทุกรายละเอียด
ชอบโอบ เป็นผูัชายในฝันที่ใครๆก็อยากได้

สรุป ชอบ ชอบมากกกก ชอบบรรยากาศของเรื่อง ชอบ ชอบไปหมด แต่!!! ไม่ชอบอย่างเดียว จบตอนที่20 มันค้างงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 16-11-2013 12:09:25
บทที่ 21

คนไม่ค่อยโกรธเวลาโกรธแล้วน่ากลัวนะ...

แบบที่ทำให้รู้สึกว่าเมฆฝนตั้งเค้ามืดครึ้มมาได้ทั้งๆ ที่ฟ้ายังสว่างอยู่นั่นล่ะ

แต่ในกรณีนี้ผมก็อดโล่งนิดๆ ไม่ได้ที่เป้าหมายไม่ใช่ตัวเอง... ยิ่งมาแน่ใจตอนคนเพิ่งมาถึงฉวยมือผมที่ดึงหลุดจากการเกาะกุมโดยไม่เต็มใจอีกครั้งไปจับไว้แน่น

... แน่นเหมือนจะบอกว่า ไม่มีช่องว่างให้ใครหน้าไหนแทรกเข้ามาได้ทั้งสิ้น

ถึงความอบอุ่นจากมือนั้นจะทำให้คลายกังวล แต่ดูจากสีหน้าสองคนที่ประจันกันอยู่แล้วไม่ค่อยน่าวางใจเท่าไหร่ ที่จริงฝ่ายโน้นเหมือนควรช่ำชอง แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ว่าในกิตติศัพท์ของความเป็นแบดบอย บ้านรวย แต่งรถซิ่ง ไม่นับเจ้าชู้ เกิดเรื่องที่ต้องลงไปใช้กำลังเองจริงๆ น้อยมาก เพราะพอจะเกิดเรื่องก็มีคนเคลียร์ให้ก่อนทุกที ท่าดีทีเหลวไปงั้น ต่างกับโอบ ถ้าไอ้พวกที่น้องไมค์เคยแอบหลุดๆ มาให้ผมได้ยินเป็นเรื่องจริง สมัยมัธยมนี่ซ่าพอแรงเลยทีเดียว
 
ผมรีบพูด “อย่ามีเรื่อง”

โอบมองมาผมก็สั่นหัว ที่ห้ามนี่ไม่ได้กลัวเป็นรองหรืออะไร แต่เราไม่ควรเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ เอาไม้สั้นไปรัน เอ่อ... ขี้ เรื่องอะไรโอบจะต้องมาเดือดร้อน อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีเจ็บข้อนิ้ว เสียมือจริง

"ทำไมล่ะ... มั่นใจว่าชนะ" คนยืนข้างพูดเสียงเรียบหน้าก็เฉย ตอนนั้นผมแทบหมดความสนใจอีกคนที่ตามมาดักเจอไปสิ้นเชิงแล้ว ห่วงใครก็มองแต่คนนั้นแหละ

“ไม่ต้องมีเรื่องก็ชนะอยู่แล้วน่ะ” ผมว่าพลางกระตุกมือด้วยเป็นการย้ำ “อย่าไปแลก”

คราวนี้โอบยิ้มมุมปากนิดๆ ซึ่งมันคงขัดหูขัดตาคนที่ยืนตรงข้ามพอสมควร แต่ก็ทำได้เพียงฮึดฮัดอยู่เพราะโอบก็ท่าทางเอาจริงแบบที่บอกแล้ว... ถ้าผมเป็นเป้าคงกลัวเลยแหละ
 
“กลับไป อย่าให้ผมเห็นคุณเข้าใกล้ หรือแม้แต่เดินบนถนนเดียวกับแฟนผม ถ้าเห็นเขาเดินมา ไม่ต้องพูดอะไร ทำอะไรทั้งสิ้น เดินข้ามไปอีกฝั่ง” คนที่ยังยืนจับมือผมไม่ปล่อยเอ่ยช้า ชัด ด้วยน้ำเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

เพราะโอบไม่เคยพูดเสียงเย็นขนาดนี้กับผม
 
เมื่อไร้ซึ่งทางจะตอบโต้อีกฝ่ายก็ได้แต่ผรุสวาทไปเรื่อยแถมท้ายให้ระวังว่าสักวัน แฟนผมคนนี้จะดีแตก... โอบก็พูด

“ผมไม่มีความลับ แต่ผมรู้จักทนายที่เก่งเรื่องขุดคุ้ยและยินดีจะช่วยทั้งผมและเพื่อนเขา ซึ่งคุณคงรู้ฤทธิ์เดชเขาดีนะ ทนายภัคพลน่ะ...”
 
ด้วยความที่ขาดการติดต่อและไม่สนใจแล้วจริงๆ ผมจึงไม่รู้ว่าที่ผ่านมาอีกฝ่ายไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมาบ้าง แต่น่าจะไม่ใช่กิจกรรมของพลเมืองดีทั้งหมด ถ้าชื่อเสียขึ้นมาพ่อแม่เขาได้ตัดออกจากกองมรดกแน่ และนั่นคือเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงคนไม่เคยยืนด้วยลำแข้งตัวเองเบบเขา ครอบครัวนั้นมีลูกชายหลายคน ที่ผ่านมาก็ระอาพฤติกรรมลูกชายคนเล็กอยู่ไม่น้อย... แต่ก็เพราะความเป็นลูกชายคนเล็กนี่แหละมังที่ทำให้หลุดประโยคถัดไปออกมา อาจจะคิดว่าเรายังไม่มีหลักฐานก็ได้

“มึงขู่กู! รู้ไหมพ่อกูเป็นใคร”

“ไม่ได้ขู่”

โอบทำหน้าหน่าย สบตากับผมอย่างขำปนรำคาญ ซึ่งผมก็รู้สึกแบบเดียวกัน

... สมัยนี้ยังมีคนใช้ข้ออ้างนี่อยู่อีก! ล้าหลังสุดอะไรสุด แต่เมื่ออีกฝ่ายอยากเล่นไม้นี้ โอบก็ย้อนศรกลับไปได้ด้วยธนูดอกเดียวกัน

“เคยได้ยินนามสกุลนี้ไหม”

... นามสกุลพ่อเลี้ยงของโอบ ซึ่งผมรู้จักนานแล้ว รู้ว่ากว้างขวางประมาณหนึ่ง โอบก็ไม่เคยจะขยายความอวดอะไรให้มากไปกว่านี้ แต่เสี่ยน็อตนั่นแหละที่ให้ข้อมูลผมสดๆ ร้อนๆ ว่าธุรกิจ กิจการอะไรแถบเทือกนั้นต้องพึ่งสายสัมพันธ์กับตระกูลนี้อยู่พอสมควร คงรวมกิจการบ้านคนที่หลุดมาดนักเรียนนอกสุภาพเรียบร้อยตอนแรกมาขึ้นกูมึงอยู่อย่างนี้ด้วย ถ้าเขาทำอะไรให้กระทบธุรกิจที่บ้าน โดนเฉ่งยับแถมตัดเงินแน่ๆ

ผมมองอีกฝ่ายเริ่มหน้าซีด และยิ่งถอดสีเมื่อระลึกได้ว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไร

“ถ้าคุณคิดจะเล่นโป๊กเกอร์ จำไว้ว่าผมมีเอซ”

เท่านั้นก็คงชัดเจน โอบดึงมือผมเบาๆ เราเดินออกจากตรงนั้นอย่างไม่เหลือธุระอะไรคั่งค้างอีก แต่ยังได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังมา คงเป็นความพยายามเฮือกสุดท้าย

"... อะไรที่มันมีพี่ก็มีได้ หามาได้ มันดีกว่าพี่ตรงไหน!”

ผมรู้ว่าบ้านเขารวย เขาก็สบายเพราะที่บ้าน ไม่ใช่น้ำพักน้ำแรงตัวเองสักนิด เขาไม่รู้เหมือนที่ผมรู้ด้วยซ้ำ ว่าโอบไม่ได้ยุ่งกับกิจการที่บ้าน เพราะถือว่าไม่เหมาะที่ลูกเลี้ยงจะเข้าไปก้าวก่ายมาก ปล่อยให้ญาติๆ ฝ่ายพ่อทำไป แม่ก็ช่วยได้ในฐานะภรรยา ขนาดรถที่พ่ออยากซื้อให้เมื่อเรียนจบโอบยังเอาเงินเดือนมาผ่อนคืน เพราะฉะนั้นถ้าว่ากันตามแต่ตัวเลข เขาอาศัยเงินที่บ้านจะนับว่ารวยกว่าเงินเดือนเภสัชกรโรงพยาบาลรัฐของโอบก็ไม่ผิด

แต่ผมตอบได้ ตอบได้อย่างไม่ลังเลด้วย

"มันไม่มีทางมีอะไรที่พี่ไม่มีได้หรอก!”

ผมเหลียวไป พูดช้าๆ “ถ้าถามว่าดีกว่าตรงไหน ดีกว่ามากแบบสาธยายไม่หมด เลยไม่พูด แต่เขามีที่คุณจะไม่มีอีกแล้วแน่ๆ คือ ผม

เสร็จสิ้นกันเสียที คงไม่มีมากวนใจอีก ขึ้นรถได้ผมก็ถอนใจเฮือก โอบเร่งแอร์ให้เย็น ขากลับคอนโดเราไม่ได้พูดอะไรกัน แต่ไม่ใช่ด้วยความมึนตึง มีบางครั้งหลังจากเจออะไรเหนื่อยๆ อะไร... ที่ทดสอบความสัมพันธ์และร่วมฝ่าฟันกันมาแล้ว เราก็อยากจะนั่งอยู่กับคนที่เรารักและรักเราเงียบๆ... มีเพียงความเข้าใจลอยอวลในอากาศ


... แต่พอถึงห้องอีกฝ่ายก็รวบผมไปกอดไว้แน่น และผมก็กอดตอบ... แน่นพอกัน

เรายืนนิ่งๆ กันอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง หลังโอบพิงบานประตู มือลูบหลังผมอยู่เบาๆ

“นี่... ทำไมเชื่อ...” ผมถาม ลองคิดดู บอกเสียแน่นหนา จะไม่กลับไปเจอ แต่เห็นเข้าตำตาขนาดนี้ อย่างน้อยก็น่าจะมีแวบขึ้นมาบ้างแหละว่านัดกันลับหลังหรือเปล่า

“ไม่เคยทำอะไรให้ไม่เชื่อ” อีกฝ่ายตอบอ่อนโยน
 
“จริงๆ สิ...”

“นี่ก็จริงๆ” เสียงหัวเราะสั่นสะเทือนจนมาถึงผม เมื่อผละออกมองหน้ากัน โอบถึงได้พูด “... ตอนแรกก็มี... จี๊ดๆ บ้าง ตอนแรกนะ แต่พอเดินเข้ามาใกล้อีกหน่อย...”

ผมรอให้พูดต่อ อีกฝ่ายก็หยุดไปนานจนบอก “เดินเข้ามาใกล้ เห็นสีหน้า...”

ผมคงทำหน้างง เพราะโอบก็ยิ้มอีก ก่อนเอ่ย “โอบว่า โอบรู้จักแทคนะ”

ความเชื่อใจมาจากการไว้ใจ รู้แน่ว่าเขาไม่มีทางทรยศเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่... ต้องเริ่มจากการรู้จักกันดีเสียก่อน ไม่ใช่เฉพาะกับคนที่เป็นแฟน แต่กับเพื่อนสนิทที่กระโจนเข้าแก้ตัวแทนเราเวลาถูกคนอื่นใส่ความ พ่อแม่ที่คอยปกป้อง ให้กำลังใจจนเราลุกขึ้นยืนใหม่ได้... ก็เหมือนกัน

“รู้จักสีหน้า ท่าทาง ตอนคิดเรื่องงาน ตอนคุยกับแม่ ตอนเครียด ตอนเหนื่อย ตอนหิว... แล้วก็หน้าตาตอนมีความสุข”

ถ้าพ่อแม่เป็นคนที่รู้จักเราดีที่สุด เพื่อนเป็นคนที่เรา ‘อยาก’ ให้รู้จักเราดีที่สุด คนรักก็คงเป็นคนที่เรา ‘หวัง’ ว่าจะรู้จักเราดีที่สุด...

"ตอนนั้นน่ะแทคทำหน้าไม่เหมือนตอนอยู่กับโอบ ไม่ใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำ..."

ผมถอนใจยาว กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกหน่อย คงไม่มีทาง... ไปทำหน้าตามีความสุขอยู่กับผู้ชายคนไหนได้อีกหรอกชีวิตนี้

"มันจบไปนานแล้วโอบ นี่ก็แค่... ปิดคดี"

อีกฝ่ายหัวเราะ "ขุดหลุมฝังมิดเลยนะ"

"อืม"

"ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลยนะ"

ผมพยักหน้า อดยิ้มตามไม่ได้ จะให้ถ่วงน้ำ ลงยันต์เลยไหมล่ะ

"แน่นอน..."


เราทำมื้อเย็นกินกันอย่างง่ายๆ เมื่อถามถึงสาเหตุที่กลับมาเร็ว โอบก็บอกว่า

“เขายกเลิกสัมมนาช่วงบ่าย... มีคนอยู่เที่ยวต่อ นี่กลับมาเลยเผื่อจะทันไปลอยกระทง”

สรุปพังหมดทั้งลอยกระทงเซอร์ไพรส์ ทั้งการซื้อของกินมารับคนกลับจากต่างจังหวัดของผม หรือเราควรจะลอยในอ่างล้างจาน?... แต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นกระทงดี ฝาหม้อ? แล้วให้ถือทุกอย่างเป็นรูปสมมติไปตามคำพระท่านว่า

“แต่ไม่ลอยก็ไม่เป็นไร” อีกคนกินข้าวไม่รู้ไม่ชี้ “... เพราะได้อย่างที่ขอหมดแล้ว...”

... เสร็จแล้วย้ายวิกไปโซฟาหน้าทีวี โอบปล่อยผมครองรีโมตส่วนตัวเองลงนอนหนุนตักเหยียดยาว แป๊บเดียวคงหลับ เพราะเหนื่อยมาจากขับรถข้ามหลายจังหวัด

เถอะ... เดี๋ยวค่อยปลุกไปอาบน้ำ

ผมหรี่เสียงทีวี ก้มลงมองใบหน้าของคนที่หลับตานิ่ง ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อน... หรือเพราะเริ่มชีวิตการทำงาน มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ แต่ที่จริงคนตรงหน้านี้ก็ทำตัวพึ่งได้มาตั้งนานแล้ว อาจจะเป็นมุมมองของผมเองที่เปลี่ยนไป ไม่ได้เห็นโอบเป็น ‘เด็กข้างบ้าน’ ‘เด็กห้องตรงข้าม’ ‘เด็กที่แม่ฝากให้ดู’ เหมือนแต่ก่อน

ความผูกพันนั้นยังคงอยู่ เพียงแต่เป็นพื้นฐานของความรักที่ต่างออกไป เป็นคนที่จะอยู่ร่วมชีวิตด้วยกัน...

... ภาพในจอโทรทัศน์เป็นรายการพาชิมของอร่อยภาคใต้ พิธีกรลุยสวนเข้าไปหาแม่ครัวถึงในบ้าน แต่เสียงหนึ่งกลับแวบเข้ามา แจ่มชัดในความทรงจำ


'... พันติ๊ด พันติ๊ดแปลว่าอะไร...'

เป็นคำถามที่เด็กตะบอยถามมาพักหนึ่งแล้วโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ถามอยู่ได้ทุกวันมาสองอาทิตย์กว่า
   
'พันธิตร พันธิตร...' จำได้ว่าผมพูด ย้ำๆๆ อยู่นั่นแหละ ตอนนั้นคิดว่าถ้าเด็กนี่จะมากินข้าวบ้านผม อ้อนแม่ผม อย่างน้อยก็ต้องเรียกชื่อลูกเจ้าของบ้านถูกหรือเปล่า แล้วทีกับชื่อเล่นผมน่ะเรียกได้ พอตามหลัง พ พาน ดันออกเสียง ท ทหารไม่ได้เสียอย่างนั้น  ‘พัน-ทิด...’

'พันติ๊ดแปลว่าอะไร...'

'ไม่บอก... จนกว่าจะเรียกถูก'



ผมไล้นิ้วไปตามกรอบหน้าเคยคุ้นแผ่วเบา แต่คนที่นอนนิ่งกลับเอื้อมมาจับเอาไว้ยกแนบริมฝีปาก พูดทั้งยังหลับตา
 
"พันธิตรแปลว่าอะไร..."

ผมยิ้ม โอบก็จำได้ ตอนนั้น... “แล้วตอนนี้รู้หรือยัง”

อีกฝ่ายยกยิ้มเหมือนกัน เรียกให้ผมก้มลงไปหาเพื่อกระซิบริมหู
 
ความรัก... เป็นมาตั้งนานแล้ว...

“รักขนาดไหน เทียบกับอะไรดีน้า...” ผมหลุดปากออกไปแล้วจึงเพิ่งนึกได้ คำถามนี้เคยถามคนมาก่อน

ตอนนั้นได้คำตอบอย่างไม่ใส่ใจ '... อยากเทียบกับอะไรก็รักมากเท่านั้นแหละ' ซึ่งเป็นคำตอบเพลย์บอยและเพลย์เซฟมาก แปรตามคุณค่าที่เราให้ตัวเอง เพราะตอนคิดว่าเขายังรักเราอยู่ ก็หัวใจพองโต สำคัญตัวเท่าฟ้าเท่าจักรวาล

แต่ยิ่งนานไป ยิ่งรู้พฤติกรรมตอนหลังๆ ยิ่งตีค่าตัวเองต่ำลงทุกทีแล้วมันก็คงเหลือเท่า... เท่าอะไรไม่รู้ เท่าถุงเท้าเก่าๆ ข้างหนึ่งก็ได้ พร้อมโละทิ้ง แต่พอหยิบมาใส่ก็ยังสบายเท้าอยู่

ผมเลยเดินออกมาก่อนที่จะทันถูกทิ้งลงถังขยะจริงๆ กลับบ้านไปหาพ่อแม่ เจอพี่อิท ตอบรับคำชวนมาทำงานกรุงเทพฯ เพื่อให้ห่างไกลความคิดฟุ้งซ่าน... นับเป็นการตัดสินใจดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

เพราะผมได้เจอโอบ

โอบยังจับมือผมเอาไว้ ลูบวนอยู่เบาๆ ตอบว่า "ไม่รู้สิ... เทียบกับอะไรไม่ได้หรอก ไม่เทียบดีกว่า”

“นี่...” ผมเรียกหลังจากผ่านไปอีกครู่ “ปีใหม่นี้ กลับบ้านกันนะ”

โอบยิ้ม หลับตาลงอีกครั้งหนึ่ง “คิดว่าจะไม่ชวนซะแล้ว”

ผมหัวเราะ ในใจมีคำตอบ

เพราะผมก็รัก จะรัก... แบบที่เทียบกับอะไรไม่ได้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 16-11-2013 12:13:06
คุณ goosongta เนอะ ^^ ตอนนี้แทคก็ยังชัดเจนต่อไป ฮา

คุณ Naenprin ขอบคุณมากๆ สำหรับการติดตามนะคะ แทคก็อยากให้เพื่อนได้แฮปปี้เอ็นดิ้งเหมือนกันนะ บทหน้าก็จบแล้วเนอะ แล้วเรามาเจอกันใหม่ ฝากด้วยค่า

คุณ NewYearzz แทคกลัวโอบเสียมือค่ะ 55 แต่โอบพร้อมนะ เท่านี้ก็คงไม่กลับมาแล้วนะ ขอบคุณนะคะที่ชอบ ฝากอ่านต่อด้วยน้า สุดท้ายละ

คุณ Wordslinger ตอนแรกปรี๊ดค่ะ ต่อมาเห็นแทคไม่ค่อยแฮปปี้เลยนึกได้ 55 ส่งวิญญาณลงหม้อไปเลย

คุณเฉาก๊วย คู่นั้นลงเอยกันซะที คู่นี้ก็โอนะ

คุณ BeeRY กร๊าก งอนก็ไม่ได้งอนด้วยซ้ำไปนะนี่ รวมพลังจัดการตาคนเก่าดีกว่า คนอ่านก็ไล่จริงๆ ภัคกับเสี่ยน็อตนี่ดีนะ เสี่ยดูช่างเอาใจ 555

คุณ kyoya11 เกือบเป็นแต่ไม่เป็นค่ะ เราต้องมาตั้งหลัก

คุณ mesomeo2 หน้ามืดหิวล่ะมากกว่าเนี่ย ยังใจเย็นอยู่ อิอิ

คุณ lizzii เนอะ ปลื้มใจที่คนอ่านเชื่อว่าจะใจเย็นพอ ฮา เสี่ยก็สมควรได้แฮปปี้เอ็นดิ้งเหมือนกันนะ

คุณ Gokusan ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า อยากเอาชนะจริงๆ อะคนนั้นน่ะ แม่เสี่ยตอนแรกแอบตกใจ ตอนนี้ทำใจได้แล้ว 55 เอาถ่วงหม้อไปเลยวิญญาณในอดีตนั่นน่ะ

คุณ malula ถ้าได้แฟนดีขนาดนี้กลับไปหาคนเก่านี่ต้องป่วยไรสักอย่าง 55 ตัดสินใจผิดพลาด? จริงๆ นะ ดีใจกับภัคและเสี่ยน็อตที่หากันจนเจอ (ด้วยความช่วยเหลือของแทค ฮา) ภัคก็จะชิลๆ กับชีวิตมากขึ้นได้ละ

คุณ Theomen ขอบคุณค่ะที่เชื่อใจโอบ ฮ่าๆ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านเหมือนกันค่า ฝากต่อด้วยน้า ตอนหน้าสุดท้ายแล้ว

คุณ Mancha KHIRI อย่าลืมเข้ามาอ่านนะค้า ขอบคุณค่า

คุณนอนกินแรง ทุกคนต่างดีใจกับเสี่ย 555 ไม่ทะเลาะนะไม่ทะเลาะ รักกันๆ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ Arancia ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะคะ น้องโอบยังใจเย็นอยู่ค่ะ ไว้ใจได้ อิอิ

คุณคีรี~มัญจาโร ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ แทคเป็นคนเรื่อยๆ นะ แต่เมื่อก่อนก็กลัวความรักประมาณหนึ่ง น้องไมค์นี่เป็นเพื่อนพระเอกที่ออกไม่เยอะ แต่เธอฮา เสี่ยน็อตด้วย 555 ต่อไปน้องไมค์ก็คงรู้เนอะคนเขียนว่า เล่าจากมุมมองแทค คนอ่านก็เลยจะเจออะไรเหมือนที่เจ้าตัวเจอและรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ผ่านเขา คือกับภัคก็เป็นเพื่อนกันมานาน เป็นคนที่ไม่ค่อยแชร์อะไรกับเราแต่เราก็เข้าใจและเป็นเพื่อนเราอยู่ดี 55 ความโรแมนติกมันอยู่ในความคิดและความรู้สึกก่อนแล้วจึงถ่ายทอดออกมาเป็นการกระทำ ซึ่งบางทีก็ไม่ต้องเยอะเนอะ เอาความรู้สึกเป็นหลัก จริงๆ เรื่องนี้อยากให้อ่านสบายๆ ค่ะ เป็นเรื่องที่ยังมองโลกในแง่ดี มีความหวังอยู่ ไม่มืดมนอะไรมาก คือแทคก็มีโมเมนต์คิดไปเรื่อย (ห้วงรำพึง นั่นแหละ) เล่าจากบุรุษที่หนึ่งนี่เนอะ ขอบคุณนะคะที่เห็นว่ามันเป็นเรื่องโรแมนติก อิอิ

คุณ Aoya น้องโอบอยากหึงเหมือนกันนะแต่คงไม่หน้ามืด อิอิ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า

คุณ PEENAT1972 ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ

คุณ sunshine538 คุณพ่อไมค์คงคิดถึงลูกสาวบ้างอะไรบ้าง เสี่ยสละโสดไปสักที จริงค่ะ ภัคก็อยากอยู่กับคนที่ทำให้สบายใจนะ ร่วมมือกันกำจัดวิญญาณจริงๆ 55

คุณ ReiSei ขอบคุณค่ะที่เชียร์เสี่ย เสี่ยได้มีแฮปปี้เอ็นดิ้งสักที โอบเป็นปัจจุบัน เป็นคนเดียวด้วย 555 นี่ก็คงไม่กลับมาแล้วแหละ

คุณ drasil ขอบคุณมากนะคะ ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ iforgive ถูก แต่นี่ไม่รู้ว่าจัดหนักยัง 55 ก็ถ้ามายุ่งมาทำอะไรอีกไม่ได้เบี้ยเลี้ยงแน่ชีวิตแย่เลยนะนั่น

คุณ akichan ขอบคุณมากค่ะสำหรับการอ่าน ดีใจที่ชอบน้า

คุณ dekzappp ขอบคุณมากที่แวะมาอ่านค่า มันเรื่อยๆ นะ แต่ก็อยากให้อ่านสบายๆ ค่ะ คนเขียนก็ชอบโอบ ฮา ฝากอ่านต่อด้วยน้า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ถึงคนเขียนจะงานยุ่งเหยิง ก็ดีใจทุกครั้งที่มีเวลาได้เขียน ได้มาลงตอนใหม่ ได้เจอคนอ่าน ตอนหน้ามาส่งท้ายกันเนอะ น่าจะมาเกือบครบทุกคนนะคิดว่า 555

ขอบคุณมากๆ ค่า กอดถ้วนทั่ว
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 16-11-2013 12:41:57
 :-[ คู่นี้หวานซะนะ อิจฉาอ้าาาาา  :impress2:

รออ่านตอนจบค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 16-11-2013 13:33:56
เป็นความรักแบบผู้ใหญ่
อบอุ่นหวานละมุน
เหมือนดื่มชอคโกแลตร้อนๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 16-11-2013 13:43:46
^__________________^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 16-11-2013 14:10:24
อบอุ่นอ่อนโยน โอบช่างน่ารัก การเชื่อใจสำคัญจริง ๆ

รักษาสิ่งที่คนอื่นไม่มีวันมีอีกแล้วให้ดีนะ  :กอด1:

มีความสุขมากครับสำหรับตอนนี้

รอตอนต่อไปครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 16-11-2013 14:38:47
เคลียร์...ชัดนะ พ่อคนไม่รู้ว่าลูกใคร
คนโกรธแบบเย็นชาน่ากลัวกว่าคนโวยวายเสมอ
ขุดหลุมฝังวิญญาณให้ไม่ได้พบพานอีกเลย...แม้เฉียดก็ไม่ได้!!

ตอนหน้า...สุดท้าย
รอเจอความสุขส่งท้าย ^^V
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-11-2013 15:40:18
จะจบแล้ว ชอบเรื่องนี้จัง อ่านแล้วละมุนละไมดี
มีลุ้นเล็ก ๆ ไปด้วย อยากให้รวมเล่มจัง เรื่องก่อนหน้าด้วย
รอยรักจำหลักใจน่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 16-11-2013 16:09:41
ทึ่งในความงามของเรื่องนี้ ทั้งความคิดทั้งอักษร ยกนิ้วให้โอบที่เป็นพระเอกเจ้าปัญญา ไม่คิดเล็ก ไม่คิดน้อย ไม่คิดมาก ไม่สรุปเอาเอง เข้าใจว่าแทคเป็นอย่างไร และไม่ทำให้เรื่องเลวร้ายลงไปกว่าเดิม

ปรี๊ดมากตอนไอ้คุณแฟนเก่ามันบอก "รู้ไหมลูกใคร" โฮะ...เห็นด้วยเลยค่ะว่าสมัยนี้ยังมีใครใช้มุขนี้อยู่อีกหรือ เลยสะใจมากเมื่อโอบใช้หมัดเดียวกันฮุกเข้าปลายคาง!

คราวนี้ปีใหม่ชวนกลับบ้าน คาดว่าคุณแม่คงดีใจ  :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-11-2013 17:34:15
โอบช่างเป็นแฟนที่ประเสริฐอะไรเช่นนี้ ทั้งรักและรู้จักตัวตนจริง ๆ ของแทค
นำมาสู่ความเข้าใจและพร้อมที่จะปกป้อง หายากแท้ ๆ แฟนแบบนี้
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 16-11-2013 19:24:57
ปิดประตูใจ ไม่มองใครอีกแล้ว
รอตอนสุดท้ายครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-11-2013 22:02:00
คิดถึงโอบกับแทคมากกก
ตอนนี้สวีตแบบมีชั้นเชิงมากๆ ทั้งตอนเคลียร์กับแฟนเก่าแทค
แล้วก็ตอนที่อยู่กัน 2 คน น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 16-11-2013 22:21:07
 :mew2:

กลับมาแล้ว ดีใจจังเลยค่ะ

หายไปนานเลย

กลับมาก็ยังคงความหวานอยู่นะ แม้จะไม่มากไม่มายอะไร
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 16-11-2013 22:31:03
เป็นไงล่ะพี่ หน้าหงายไปเลย
ตอนนี้โอบหล่อมากจริงๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 16-11-2013 23:15:11
โอบกับแทคสุดยอดเลย ปิดคดีอย่างสวยงาม o13
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 17-11-2013 11:02:08
กะแล้ว น้องโอบมีเหตุผลให้พี่แทคเสมอ
จะเปลี่ยนชื่อน้องโอบเป็นน้องแมนแล้ว เพราะน้องแมนมากๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 17-11-2013 13:04:30
เด็ดขาดมากค่ะลูก แม่ปลื้ม
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-11-2013 15:40:03
รู้สึกอิ่มเอมใจ  (เอ่อ ใช้คำนี้ไม่แก่เกินไปหรอกเนอะ :mew5:) ก็แทคกับโอบหวานขนาดนี้ คนอ่านก็รู้สึกอย่างอื่นไม่ได้แล้วนอกจากอิ่มเอมใจ :o8:
เพิ่งรู้ว่าโอบไม่ธรรมดาเลยนะฮะ อีตาคนเก่าหงายเงิบเลยสิ ไปๆชิ่วๆ อย่ามาวุ่นวายเดี๋ยวเจอของจริงจะคอยสมน้ำหน้าให้ สะใจจริง :laugh:
ตอนหน้าจบแล้วเหรอฮะ ใจหายเลย แต่ก็จะรอนะฮะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 18-11-2013 21:35:55
ขอบคุณค่ะ หวานกำลังดีเลยเชียว แอร๊ย!
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 21] 16 พ.ย. 56 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 03-12-2013 17:54:44
เรื่องนี้อ่านแล้ว รู้สึกเรื่อยๆมาเรียงๆ ภาษาสวย อ่านง่ายมากเลย รู้สึกถึงความรักของคนสองคนอ่ะ ไม่รีบร้อน อ่านแล้ว สบายใจสบายตามากเลยค่ะ

ยกนิ้วให้เลย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 18-12-2013 10:37:25
บทที่ 22

“โอ้ย หรอย!”   

ภัคนั้นเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด แต่เนื่องจากคบค้าสมาคมกับผมมานานจึงติดภาษาถิ่นใต้มาใช้ด้วย ถ้ารู้สึกว่าสื่อสารถึงใจกว่า หรอยนี่ก็ใช้หลายอย่าง ตั้งแต่อร่อย ได้ใจ มันใช่ อะไรก็ว่าไป

“น่าจะอยู่ด้วยตอนนั้น... แต่เจอเข้าแบบนี้ก็คงไม่กล้ามากวนใจอีกล่ะ ได้ข่าวมาว่ายังมีหนี้สินรุงรัง... อยู่ที่โน่นก็เคยติดพนัน ไม่ได้เงินที่บ้านช่วยนี่ตายแน่ๆ ตีถูกจุดสุดๆ!”

โอบวางแก้วน้ำ ยิ้มเฉยเสีย... นับว่าคำเปรียบเรื่องเล่นโป๊กเกอร์ได้ผลสองเด้ง ผมแน่ใจอย่างภัคบอก... หน้าตึกออฟฟิศนั้น คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ต้องข้องแวะหรือเจอะเจอ
 
เรานัดกินข้าวกลางวันกันสี่คนวันนี้ ก่อนหยุดสิ้นปีที่ผมกับโอบจะกลับบ้าน ไม่ได้ถามว่าภัคมีแผนฉลองปีใหม่อย่างไร ที่รู้แน่คือ... กับใคร เสี่ยน็อตกระหืดกระหอบเข้าร้านตรงมานั่งข้างเพื่อนผมพร้อมทั้งขอโทษขอโพยที่เสร็จธุระกับลูกค้าช้ากว่าที่คิด
 
ภัคไม่ได้ว่าอะไร ทั้งๆ ที่นิสัยทนายคือตรงเวลาแทบจะเป็นวินาที คนก่อนๆ นี้อาจมีเปรยต่อหน้าให้รู้กันไป แต่เรามักมีข้อยกเว้นให้ใครบางคนเสมอ... ซึ่งผมคิดว่าพื้นฐานของข้อยกเว้นนั้นมาจากความไว้ใจกันส่วนหนึ่ง ถ้าเชื่อว่าคือเหตุสุดวิสัย ไม่ได้ไปเถลไถลนอกลู่ทางที่ไหน หรือไม่ใส่ใจจะมาให้ทัน ก็กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ถือสาได้ทั้งนั้น

พอบริกรทวนอาหารที่สั่งเสร็จ ภัคก็มองๆ แล้วว่า “เฮีย... ถ้าจะกินเยอะขนาดนี้เดี๋ยวต้องเบิร์นออกบ้างละนะ”

“เยอะอะไร้” เสี่ยน็อตก็เสียงสูง ก่อนรีบเปลี่ยนเรื่อง “อ้อ เย็นนี้อย่าลืม ต้องไปกินข้าวกับเฮียที่บ้านหม่าม้านะ บ่นไม่ได้เจอนานแล้ว ภัคงานยุ่งตลอดเลย”

“ตอนเย็นเฮียก็กินเยอะอีก”

“กินน้อยหม่าม้าก็งอนสิ ภัครอดอยู่แล้วนี่ หม่าม้ารักจะตาย”

เสียงเสี่ยน็อตสะบัดสะบิ้งได้อีก ผมกับโอบสบตากันแล้วแอบอมยิ้ม 

“ถ้าเฮียรู้ว่าตอนเย็นต้องกินเยอะอยู่แล้ว ตอนกลางวันจะกินเยอะทำไมล่ะ ร้านอยู่ชั้นสองเอง ขึ้นบันไดมาแค่นี้หอบแล้วเห็นมั้ย ไม่ออกกำลังแล้วเป็นยังไง” 

“เฮียหอบ... แดด...” เสี่ยน็อตไปได้ข้างๆ คูๆ “มันร้อน รีบมาหาภัค...”

“เฮียเป็นเจ้าลัคกี้เหรอ” ภัคถาม แต่มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ เจ้าลัคกี้คือหมาเซนต์เบอร์นาร์ดที่บ้านเสี่ยน็อต ซึ่งแน่นอนว่าหลงเสน่ห์ภัคตามทั้งตัวเจ้าของและหม่าม้าเจ้าของไปแล้วเรียบร้อย “ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้เช้าจะมารับไปวิ่ง แต่งตัวรอด้วย”

... เสี่ยไม่ได้น้ำหนักเกิน อวบอ้วนอะไรอย่างชัดเจนหรอก ตี๋ขาวตามเชื้อสาย พอขยันแต่งตัวเข้าหน่อยก็ยิ่งกว่าดูได้ แต่คอเลสเตอรอลมันไม่เข้าใครออกใคร เมื่อมาอยู่กับกูรูด้านฟิตเนสและสุขภาพอย่างภัคก็เป็นธรรมดาที่จะโดนเคี่ยวเข็ญ และเป็นธรรมดาอีกเหมือนกันที่คนทำอาหารมักจะชอบกิน เสี่ยเลยมีอาการอิดออดพอให้เห็น

ผมแสนจะเข้าใจเสี่ย เพราะตัวเองจากนอนเลื้อยเป็นตัวขี้เกียจวันหยุดนี่ก็ถูกลากออกไปวิ่งเช่นเดียวกัน (วันอาทิตย์นั้น หลังโอบเสร็จภารกิจอักษรไขว้เรียบร้อยแล้ว) แถมตอนเย็นบางวันอีก เป็นเรื่องที่โอบเข้ากับภัคได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ถึงจะไม่ขนาดเข้าฟิตเนสอะไรก็ตามทีเถอะ

 “จะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ...” ภัคว่า เสียงอ่อน เอื้อมมือไปจับแขนคนข้างตัว แล้วเสี่ยก็ยวบเชียว

จริงๆ ไม่ใช่ผมไม่เคยเห็น คือพอลงพูดด้วยหน้าตาอย่างนี้ น้ำเสียงอย่างนี้ ร้อยทั้งร้อย (หรือไม่อย่างนั้นก็เก้าสิบเก้า) ยอมภัคหมดนั่นแหละ ผิดกันแค่ว่าเมื่อก่อนภัคจะใช้เพื่อยังประโยชน์มาทางตัวเอง ไม่ว่าจะอ้อนให้ไปไหนต่อด้วยกัน หรือตรงกันข้ามคืออยากชิ่งกลับบ้านเพราะคนที่คุยด้วยนั้นน่าเบื่อสุดพรรณนา แต่คราวนี้... ไม่ได้ใช้เพื่อตัวเองแล้ว

โอบกับเสี่ยน็อตดูมีเรื่องให้คุยกันไปได้เรื่อยๆ อายุห่างกันไม่เป็นปัญหา ผมมองเพื่อนที่นั่งตรงข้าม ถึงจะบ่นไปก่อนหน้า แต่พออาหารมาถึง ก็ตักของชอบให้คนข้างๆ อยู่ดี นึกดีใจ ที่ทุกอย่างลงตัว... เหมือนจิ๊กซอว์ เพื่อนผมอาจจะเป็นชิ้นที่มีลวดลาย มีสีสันสักหน่อย แต่บางทีในภาพ ชิ้นส่วนแบบนั้นก็อยู่ข้างกันกับชิ้นที่เรียบๆ ไม่ฉูดฉาดอะไร เพียงแต่มันต่อกันได้พอดีแบบที่ชิ้นอื่นมาแทนไม่ได้เท่านั้น

มาด หรือการระมัดระวังตัวอะไรบางอย่างที่เพื่อนผมเคยมี... บางทีเป็นไปเองโดยไม่รู้ตัว เพราะยังวางใจลงไม่ได้สนิท หรือ... ยังหาชิ้นส่วนที่พอดีนั้นไม่ได้ แต่พอเจอแล้ว การแสดงออกทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติอีกเหมือนกัน

... และผมว่า ผมชอบเวลาที่ภัคอยู่กับเสี่ยน็อตนะ


ตอนบ่าย ผมกลับไปจัดการงานที่บริษัทเป็นวันสุดท้าย ส่วนโอบได้หยุด จึงแยกไปซื้อของฝากลงใต้ที่รับอาสาเอาไว้ตั้งแต่วันก่อนหลังจากขึ้นไปทักพี่อิทกับครีมเรียบร้อยแล้ว

ก่อนสมัครเข้าอบรมและฝึกงานเพื่อให้มีสิทธิ์สอบใบประกอบโรคศิลปะของจิตวิทยาคลินิกได้นั้น ผมจะเริ่มช่วยงานอาจารย์เตรียมความพร้อมไว้ทั้งตรวจวินิจฉัยและบำบัด ท่านเคยสอนผมที่เชียงใหม่ แต่ผมเพิ่งรู้จากแป๊วว่าอาจารย์ย้ายมาทำงานที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เมื่อไม่นานมานี้เอง โชคดีที่อาจารย์รับว่าจะช่วยดูเรื่องต้นสังกัดและอื่นๆ ต่อไปให้ เพราะขาดคนอยู่เหมือนกัน

ระหว่างนั้นว่าจะอ่านหนังสือฟื้นฟูความรู้ด้วย จะได้ไม่ล้าหลังคนอื่นๆ ที่ถ้าไม่เพิ่งจบ ก็ทำงานด้านนี้มานานจนเชี่ยวชาญ แต่ผมไม่ได้รีบร้อนหรือจะประเมินตัวเองสูงเกินเหตุอะไร ถ้าปีหน้ารู้สึกว่าไม่ทันหรือยังไม่พร้อมจริงๆ ค่อยสอบปีต่อไปก็ได้

ผมบอกพี่อิทไว้แล้ว เพื่อไม่ให้ลำบากถ้าจะต้องรับคนมาแทน เห็นสัมภาษณ์ประปรายเหมือนกัน แต่พี่อิทยังไม่ได้ตกลงรับใคร บอกว่างานตอนนี้ยังไม่ค่อยยุ่ง มีเวลาเลือกคนต่ออีกหน่อย

“ที่จริงใกล้ปลายปี ลูกค้าลงเอยกันไปได้หลายคู่แล้วนะ” พี่อิทว่าเสียงใส “บอกแล้ว เรียบร้อยดีทุกอย่าง”

ผมพยักหน้า ยิ้มให้พี่อิท พี่อิทคงอยากให้ผมสบายใจ... ผมเองก็พยายามสะสางงาน ถ่ายทอดครีมให้ได้มากที่สุด ไม่อยากทิ้งงานที่ควรจะจัดการได้เป็นภาระทั้งคู่ ผมไม่เคยลืมว่า พี่อิทเป็นคนชวนผมมาทำงานที่กรุงเทพฯ ให้ได้ตัดสินใจออกมาจากการหลบอยู่กับบ้าน กับตัวเองในตอนนั้น... ประสบการณ์งานที่นี่ทำให้ได้พบ ได้รับรู้ปัญหา แล้วก็ได้มีส่วนช่วยเป็นที่ปรึกษาด้านจิตใจอยู่ไม่น้อย ทำให้จิตใจผมเองค่อยๆ แข็งแรงขึ้นบ้าง จนมาเจอคนของผม จนแน่ใจว่า ความรักแท้จริงแล้วนั้น จะไม่ทำร้ายกันให้เจ็บปวดทั้งร่างกาย คำพูด และจิตใจ

ถึงต่อไปผมจะต้องบำบัดคนที่มีรอยแผลในชีวิตมากกว่านี้ แต่ที่นี่ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรไปมากมายเหมือนกัน และจะอย่างไร... ปัญหาด้านความรักก็ยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนเราเสมอ

“อาจจะเริ่มยุ่งอีกครั้งช่วงใกล้วาเลนไทน์” ครีมบอกพลางหัวเราะ “เดือนกุมภาเป็นเดือนที่ยุ่งที่สุดอยู่แล้ว ทั้งสองฝั่งเลย”
 
ผมยังจำได้ กุมภาที่แล้วครีมอัพทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กของบริษัทว่า... ไม่มีใครอยากไร้รักในเดือนแห่งความรัก ที่จริงก็คงไม่มีใครอยากไร้รักในทุกๆ เดือน แต่เดือนกุมภาเป็นเดือนที่มีจำนวนวันน้อยที่สุดของปี และถ้าจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้น ก็คงมีโอกาสมากกว่าเดือนที่มีสามสิบหรือสามสิบเอ็ดวันอยู่นิดหน่อย... ละมั้ง

ครีมมองแฟ้มสุดท้ายที่อยู่บนโต๊ะของผม ลูกค้าคนสุดท้ายที่ยังคงไม่มีคู่ในปลายปีนี้ และยังรักษาอันดับหนึ่งเหนียวแน่นในการอยู่ในบัญชีได้นานที่สุด

... แฟ้มของคุณศรัณย์

“บางที ที่คิดว่าจะง่ายก็ไม่ง่ายเลยนะพี่แทค” ครีมพูดเบาๆ

“คุณศรัณย์ควรขายออกไปตั้งนานแล้ว” พี่อิทว่า “นี่ก็เลือกอยู่นั่น... แต่เข้าใจนะ เขาเลือกได้”

“เลือกแล้วมันจะไม่ถูกใจสักคนเลยได้ไงเจ๊” ครีมบ่น

“เขาก็ให้โอกาสทุกคนแล้วนี่คะน้องครีม ไม่ใช่เขาไม่ออกไปกับใครที่เราหาให้เสียเมื่อไหร่ มันยังไม่ใช่นี่นา จะให้ทำยังไงล่ะ” พี่อิทตอบ หัวเราะนิดๆ

ครีมทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน พอรับแล้วก็ปิดกระบอกเสียงไว้ “พี่แทค คุณศรัณย์”

ผมขยับจะไปพูดสาย แต่ครีมสั่นหัว บอก “คุณศรัณย์มา”


เจ้าของอู่ขึ้นมาพร้อมกระเช้าปีใหม่ใบเบ้อเริ่ม แล้วยังมีของขวัญห่อแยกมาอีก ที่จริงผมแจ้งคุณศรัณย์แล้วถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังปีใหม่... ไม่ว่าครีมหรือพี่อิทจะเป็นคนดูคุณศรัณย์ต่อ ผมแน่ใจว่าคงเป็นไปด้วยดี เพราะครีมก็ตั้งใจแถมเก่งขึ้นมาก ส่วนพี่อิทมีประสบการณ์พร้อม ตอนนั้นปลายสายเงียบไปจนผมต้องพูดซ้ำ ไม่แน่ใจว่าสัญญาณไม่ดีหรือเปล่า

เรานั่งคุยกันตรงชุดรับแขกข้างหน้า หลังจากพี่อิทกับครีมมาทักทาย ต้อนรับเอากระเช้าเก็บแล้วก็กลับไปทำงานที่โต๊ะ เพราะคุณศรัณย์ไม่ได้มีจุดประสงค์จะให้บริษัทช่วยหาคนกินข้าวหรือฉลองปีใหม่ด้วย แค่ ‘อยากคุยกับที่ปรึกษาผมหน่อย จะไม่อยู่แล้วนี่นา’

“ปีใหม่นี้คุณศรัณย์ไปไหนหรือเปล่าครับ” ผมถามหลังจากเอากาแฟไปให้และนั่งลงเรียบร้อย เพราะคุณศรัณย์ยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ วางลงแล้วก็ยังไม่พูดอะไร

“ปีใหม่นี้...” คนนั่งตรงข้ามทวน ก่อนยิ้มน้อยๆ “ผมก็คงทำงานน่ะ”

“ทำทั้งปีแล้ว พักบ้างก็ได้ครับ เดี๋ยวสุขภาพจะแย่ไปเสียก่อน”

คุณศรัณย์นิ่งไปอีกนิดจึงถาม “แล้วคุณแทคล่ะ ไปไหนหรือเปล่า”

“... ผมกลับบ้านครับ”

“ที่หาดใหญ่ใช่ไหม” อีกฝ่ายว่า “คนเดียว?”

ปกติถ้าคุณศรัณย์อยากคุยเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับงาน ก็จะถามทีเล่นทีจริงอยู่เสมอ แต่คราวนี้ดูจริงมากกว่าเล่น และผมก็ตอบความจริงเช่นเดียวกัน “กับแฟนครับ...”

คุณศรัณย์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ผมพูดต่อ “แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับที่ผมออก ผมอยากทำงานให้ตรงตามที่เรียนมานานแล้ว ตอนนี้เป็นจังหวะที่ทุกอย่างลงตัว พร้อม พอดี...”

“ผมเข้าใจ” คุณศรัณย์พยักหน้า แต่แล้วก็ถอนใจ บอกว่า “ถามอะไรหน่อยเถอะ คนนั้นเขาคงไม่ใช่ลูกค้า เพราะคุณแทคบอกว่าไม่เดตลูกค้า”

“ไม่ใช่หรอกครับ”

เหมือนคล้ายเริ่มจะเป็น สุดท้ายก็ไม่ได้เป็น ผมไม่คิดว่านั่นเคยเป็นจุดประสงค์แต่แรก... เพราะโอบแค่อยากรู้จักผมให้มากขึ้น แล้วก็รู้จักงานที่ผมทำ เท่านั้นเอง

“อ้อ...” ผมรอว่าคุณศรัณย์จะพูดอะไร อีกฝ่ายเพียงยิ้มนิดๆ ก่อนเอ่ย “ถ้าเป็นลูกค้า ผมคงรู้สึกพลาดกว่านี้” 

คุณศรัณย์ถามถึงภัคต่อ ซึ่งคงรู้ได้อีกเหมือนกันว่าภัคก็ไม่ว่างแล้ว ระยะหลังคงไม่ได้ติดต่อกันด้วยเพราะต่างคนต่างยุ่ง แต่เขาก็บอก

“บางคนเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า ภัคเขาก็ดี นิสัยดี ก็ดีแล้ว...”

คุณศรัณย์ดูจะยินดีที่เพื่อนผมได้ลงเอย คุยสัพเพเหระกันอีกเล็กน้อย ก่อนกลับผมเดินไปส่งที่หน้าลิฟต์ 
 
“ผมรู้ล่ะ...” อีกฝ่ายเอ่ยพลางหัวเราะเบาๆ “ผมว่าจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ ต่อไปถ้าผมชอบใคร ไม่มีเผื่อเลือก ไม่มีดูคนอื่นอีกแล้ว”
 
คุณศรัณย์ยื่นมือมาจับกับผมซึ่งยิ้มให้ และอวยพรให้เขาโชคดี

“ขอบคุณนะคุณแทค สำหรับทุกอย่าง ปีใหม่ ก็หวังว่า... จะมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามาหาผมบ้างนะ”


“... แค่นั้นเหรอจ๊ะ” พี่อิทถามเมื่อผมกลับเข้ามาแล้ว

“ผมก็บอกให้เขาอย่าหมดหวัง”

‘โอกาสใหม่ๆ’ ของคุณศรัณย์นั่น ลูกค้าใหม่คงเข้ามาอีกปลายมกรา เป็นหน้าที่ของพี่อิทหรือครีมที่จะต้องนำเสนอกันต่อไป
“นี่เป็นตัวอย่าง...” พี่อิทเริ่ม

“ของ...” ครีมต่อ

“... ของสิ่งที่ไม่ควรพูดกับคนโสดค่ะ! เขาแค่ยังไม่มีแฟนนะคะ ไม่ได้เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย” พี่อิทพูด ปรายตามาทางผมขันๆ “คนเรายังไม่ตายก็มีหวังทั้งนั้นแหละค่ะ”

“พี่แทคมีแฟนแล้วก็เงี้ย ไม่เห็นใจสาวโสดอย่างเรา” ครีมผสมโรง

เอาเข้าไป... ผมส่ายหัวแล้วลุกไปเก็บล้างถ้วยกาแฟในครัวที่อยู่ติดกัน ความจริงพี่อิทก็รู้ว่าผมหมายความว่ายังไง อยากจะแซวเล่นไปงั้น

แต่พอคิดว่าที่ทำงานใหม่จะไม่มีพี่อิทหรือครีมมาคอยแหย่อย่างนี้แล้วก็อดรู้สึกใจหายขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้

พี่อิทเดินตามผมเข้ามาในครัว โอบไหล่ผมไว้ แล้วเราก็ยืนกันเงียบๆ อยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนเธอจะพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย

“ฉันไม่ลานะ... เพราะไม่ได้ไปแล้วไปลับ ใช่ไหม”

ผมพยักหน้า ถึงผมจะไม่มีพี่สาว แต่พี่อิทก็เป็นเหมือนพี่สาวของผมมาตลอด

“รู้ไหม เคยมีช่วงที่ฉันอยากเชียร์คุณศรัณย์อยู่เหมือนกัน”

ผมหันไปมองพี่อิท เธอก็ยิ้ม

“แต่บางที ก็ไม่รู้เขาจะเอายังไง ตัวเลือกเยอะเหลือเกิน ฉันเลยเชียร์คนที่เขารู้ตัวว่าชอบใครแน่แล้วดีกว่า”

ผมหัวเราะเบาๆ “แต่ผมเชียร์พี่อิทนะ เชียร์ตลอด”

พี่อิทก็หัวเราะเหมือนกัน ปีหน้า ปีต่อๆ ไป อาจจะไม่ใกล้ไม่ไกล

... คงจะมีชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ของเราที่ต่อกันได้สนิทพอดีรออยู่

“อ๊าย กอดอะไรกันในนี้ ครีมกอดด้วย” ครีมโผล่เข้ามา แล้วก็เกิดการกอดหมู่ขึ้นในครัวที่แสนแคบนั้น “พี่แทคต้องกลับมาเยี่ยมครีมกับพี่อิทบ้างน้า...”

“น้องครีมเอาอย่างแทคแต่ที่ดีๆ นะคะ อย่าจับอะไรประหลาดมาให้พี่ ไม่ไหวจะตามดูแลค่ะ” พี่อิทยังไม่วายแซะผมเป็นครั้งสุดท้าย

“ใครจะไปรู้เจ๊... พี่ภัคกับเสี่ยน็อตนี่ไง สุดๆ... เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ”

“ยังไงก็แล้วแต่ น้องครีมต้องอยู่ช่วยพี่ไปนานๆ นะคะ...”

“แหม เจ๊ก็อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปก่อนแล้วกันค่า...”

เสียงหัวเราะครื้นเครงดังขึ้น ถ้ามองผ่านประตู ข้ามกระจกใสที่กรุผนังออกไปที่ฝั่งตรงข้าม จะเห็นความวุ่นวายขวักไขว่ พนักงานเดินรับโทรศัพท์กันให้ว่อน ช่วงปลายปีคงยุ่งไม่น้อยสำหรับฝั่งโน้น

แต่ไม่ว่าจะเป็นฝั่งนี้ หรือว่าฝั่งนั้น ปีหน้าก็ขอให้เป็นปีที่ดี...


ผมลงไปข้างล่างตอนเย็นในเวลาที่นัดกันไว้ โอบก็ขับรถมาจอดเทียบได้พอดี เอื้อมมือดึงประตูรถฝั่งตรงข้ามเปิดออกให้พลางยิ้ม ผมกวาดตามอง ขึ้นรถแล้วก็ยังต้องถาม

“... อะไรกันเนี่ย”

ขาไปก็โล่งดีอยู่หรอก ขามานี่... ถ้าไม่ต้องเว้นที่ไว้ให้ผมนั่งบ้างละก็ ท่าทางข้าวของคงได้ลามล้นเต็มหมดแน่

“ของฝากพ่อแม่ไง” เจ้าตัวก็ตอบไม่รู้ไม่ชี้

“ทั้งหมดเนี่ยนะ” ผมเอาศอกดันถุงกระดาษใบหนึ่งที่เสียสมดุลเอียงมากลับไปเทินอยู่บนกองพะเนินบนเบาะหลังตามเดิม แล้วปิดประตู โอบก็ออกรถ ก่อนคำตอบจะทำเอาผมต้องหันไปมองอีกครั้ง

“... ยังไม่หมด มีท้ายรถอีกหน่อย”

“ไม่หน่อยแล้วมั้ง” 

“แทค กลับบ้านปีใหม่ทั้งทีเราต้องสุดสิ”

โอบเปิดวิทยุท่าทางไม่ทุกข์ร้อน ก็ปกติไม่ค่อยซื้ออะไรนอกจากหนังสือกับของกิน... สิ่งอื่นนั้นตามแต่เจอและคิดว่าผมคงชอบ เช่นเมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งเอาต้นไม้ใส่กระถางกลับบ้านมา ผมเกือบทำตายไปหนหนึ่งทั้งๆ ที่ก็ดูแลเป็นอย่างดี คนซื้อปลุกปล้ำจนฟื้นคืนชีพแต่แคระแกร็นชอบกล เป็นเหตุให้โอบกล่าวว่านอกจากหนูเรือง ผมนี่ท่าจะเลี้ยงอะไรไม่รอดแล้วในโลกใบนี้ แน่นอนว่าผมเถียง

‘ไม่จริง’

‘เหรอ...’

บางทีโอบก็อยากจะกวนประสาทผมขึ้นมา และทำได้ดีด้วย เนื่องจากแม่มักชอบโทรมาคุยกับคนโปรด ถ้าคุยเฉยๆ ก็ไม่ใช่แม่ จะต้องแพลมเรื่องขายหน้าต่างๆ เมื่อก่อนของผมด้วยอยู่บ่อยๆ พอได้ยินเสียงหัวเราะดังมาพักหลังผมระแวงทุกที ต้องชิงพูดก่อนโอบจะคุ้ยเอาเรื่องอะไรประหลาดมาอีก

‘เออ... ถ้าซื้อต้นรักมานะ ปลูกรอดแน่ๆ’

นี่กะว่า... ต้องได้ปฏิกิริยาอะไรกลับมาบ้างล่ะ แต่ผมและมุกของผมก็ไร้คนเหลียวแลโดยสิ้นเชิง โอบเพียงแค่ส่ายหัวขำๆ แล้วกลับไปดูต้นไม้ต่อ บอก

‘เอาจริงน่ะ... เขาว่าปลูกต้นรักในบ้านแล้วจะมากรัก วุ่นวาย ไม่ดีมั้ง’

เป็นงั้นไป ล้างจานต่อให้เสร็จคงได้งานมากกว่า ปล่อยโอบอยู่ที่ระเบียงประคบประหงมต้นไม้ต่อไปนั่นแหละ แต่เสียงลอยๆ ที่ตามมาทำให้ชะงักการเลื่อนประตูมุ้งลวดเปิดออกชั่วคราว 

‘เลี้ยงต้นรักไม่รอดหรอก ต้องริง ถึงจะรอด’

‘ลิงเหรอ เราจะเลี้ยงลิงเหรอ’

ถึงได้ยินไม่ค่อยชัดแต่ผมเริ่มคิดไปไกลมาก จากเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ (ไม่นานเท่าไหร่) เป็นเลี้ยงลิงเลยนี่มันออกจะแอดวานซ์ไปนะ

‘รัก... จริง... ไง รอดแน่ เพราะทำอยู่’

เลี้ยงลิงนี่คือ ริง... จัก... เหรอ... ถ้าเป็นคนอื่นพูดผมคิดมาตลอดว่ามุกคำผวนเป็นอะไรที่จะต้องแป้กสุด ไม่ขำและไม่เขินใดๆ ทั้งสิ้น

แต่นั่นแหละ เรามักมีข้อยกเว้นให้ใครบางคนเสมอ... ผมจึงกลับเข้าไปล้างจานตามเดิม และยิ้มให้ฟองน้ำกับก๊อกเรื่อยเปื่อยไป

เพียงแต่ว่า คนที่ไม่ค่อยซื้ออะไรแล้วจู่ๆ ก็ซื้อเสียเยอะนี่ ตัดเรื่องอื่นที่ไม่เข้าข่ายออกแล้ว อาจจะมีอะไรกังวลใจอยู่ก็เป็นได้ ผมคิดว่ารู้... เลยลองบอก

“พ่อแม่น่ะรักโอบอยู่แล้วนะ”

โอบยิ้มอยู่แต่ไม่ตอบอะไร ซึ่งผมเข้าใจว่าการรักเอ็นดูเด็กข้างบ้านเหมือนหลาน เป็นลูกเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรกันมาก่อนและเคยฝากเอาไว้ ก็คงต่างกับการรักเมตตาคนที่ลูกตัวเองพากลับบ้านในอีกฐานะหนึ่ง แล้วยอมรับว่าเขาจะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตลูกต่อไปในอนาคต แต่กรณีนี้ ผมคิดว่ามันไม่มีเส้นแบ่งแยกกันชัดเจนเด็ดขาดหรอก

“แล้วพ่อแม่ก็รักลูกเขา...” ผมว่า “ลูกเขารักใคร เขาก็รักด้วยแหละ”

โอบละมือซ้ายจากพวงมาลัย มาจับมือผม

และผมก็คิดว่า เราเข้าใจกัน

 
ถึงบ้านผมทำข้าวเย็น ปล่อยโอบวุ่นวายกับการจัดของฝากไปเอาใจพ่อแม่ผม (ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า อยากทำ จะทำเอง) กลับเข้ามาอีกทีก็เรียบร้อยแล้ว โอบพูดโทรศัพท์อยู่ พอหันมาเห็นผมจึงเปิดลำโพงวางลงกับโต๊ะ

เสียงน้องไมค์ลอดออกมา บอกว่านอกจากผมแล้ว ให้ชวนคนนี้ คนนั้น คนโน้น ด้วย ซึ่งคงเป็นเพื่อนๆ ที่สนิทกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย โอบเพียงแต่นั่งยิ้มๆ รอจนเพื่อนพูดจบประโยค ก่อนบอก

“ถ้าจะไป ก็ไปสองคน”

“เอ้า! ได้สองก็สอง” น้องไมค์กลับรับเสียง่ายๆ “ให้มาเถอะ”

โรงงานยาที่ทำงานของไมค์นั้นอยู่ ‘กลางป่ากลางดง’ อย่างเคยเล่า เพราะฉะนั้นถึงได้แห้งเหี่ยวเหลือใจ จะถ่อขับรถเข้าเมือง แต่ไม่มีเพื่อนไปไหนต่อไหนด้วยก็ไม่สนุกอยู่ดี

เราจึงตกลงกันว่าหลังปีใหม่ ถ้าโอบได้วันหยุดก่อนผมเริ่มงาน เราจะไปเยี่ยมน้องไมค์ให้ถึงที่

โอบสบตาผม ยังยิ้มอยู่เหมือนเดิม บอกเพื่อนว่า “ไปคราวนี้ มีเซอร์ไพรส์”

“อะไรๆ” ปลายสายรีบถาม ก่อนเดาเองยาวเหมือนเคย “พี่แทคจะหาคู่ให้หนูเรืองของข้าเหรอ บอกไว้ก่อนลูกเขามีพ่อมี... เอ้อ ยังไม่มีแม่ แต่จู่ๆ เอาใครไร้หัวนอนปลายเท้ามาไม่ได้นะ หนูเรืองนี่เพ็ตดีกรีนาเว้ย”

ผมขำอยู่เงียบๆ หนูแฮมสเตอร์ควรจะมีเพ็ตดีกรีจริงหรือไม่ หรือน้องไมค์ถูกหลอกมาตั้งแต่จตุจักรไม่ทราบได้ แต่จริงๆ มันก็ไม่สำคัญ... ที่สำคัญอาจจะมีเพียงแค่ว่าหนูดาวเรืองนั้นยังอยู่กับน้องไมค์ หลังจากเป็นอนุสรณ์ของชีวิตรักล่มๆ หนหนึ่ง การฝึกงานหฤโหด หอเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ต้องเอามาฝากเพื่อนจนถึงยังไม่ได้บ้านพักแม้จะได้ที่ทำงานแล้ว แต่สุดท้ายหนูเรืองก็กลับไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ไปหาเจ้าของที่แท้จริง ถึงเส้นทางจะอ้อมสักหน่อย บางที... มันก็แค่ไม่มีทางลัดนี่นะ

โอบวางหูโดยไม่สนใจเพื่อนที่ยังโวยวาย บอกว่าถ้ารู้ตั้งแต่ตอนนี้มันจะเป็นเซอร์ไพรส์ได้ยังไงเล่า คนเรามันก็ต้องรู้จักรอกันบ้าง

โอบจะเซอร์ไพรส์เพื่อน... แต่ผมไม่เคยเซอร์ไพรส์พ่อแม่ได้ ทั้งคู่เป็นประเภทที่รู้จักลูกดี รู้จักมานาน... บางเรื่องมองปราดเดียว ก็เข้าใจ หรืออาจเป็นเพราะตัวผมเองที่ไม่เคยคิดจะปิดบังอะไรพวกท่านจริงจังเลยสักหน ที่เชียงใหม่ก่อนผมจะทิ้งทุกอย่างแล้วขับรถกลับบ้านนั้น ผมก็คิดอยู่ว่าแม่รู้ อาจไม่ใช่ในทุกรายละเอียด แต่น่าจะรู้ ทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กัน ทุกครั้งที่แม่ถามผมว่า เป็นยังไงบ้างลูก... ถ้าแม่รู้ พ่อก็รู้ แต่ท่านรอ... เพราะถ้าเป็นการบังคับให้ออกมาโดยไม่ใช่การตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว ก็มีโอกาสที่ยังอยากจะกลับไปอยู่นั่น

ผมคิดตลอดว่าตัวเองโชคดี ตอนเด็กๆ ก็คิดอย่างเด็กๆ เพราะแม่มีช่วงจู้จี้เหลือเฟือ แต่พอโตขึ้น คิดได้มากขึ้น ถ้าผมไม่มีพ่อแม่ที่รู้ว่าใส่ใจ พร้อมให้กลับไปหา พอเจอมรสุมชีวิตเข้า รู้สึกว่าถูกทรยศ แต่ไม่มีที่จะไป... อาจจะเตลิดถึงไหนต่อไหน ไม่ก็ทนรับกรรมในความสัมพันธ์ที่ไร้ทิศทางแบบนั้นต่อก็ได้

ครอบครัวเป็นที่แรกที่สอนให้เราเห็นคุณค่าของตัวเอง ตอนนี้ผมก็ไม่มีอะไรลังเลอีกที่จะให้คนสองคนที่ผมรักที่สุด ได้รู้จักคนที่ผมเต็มใจจะแนะนำว่า... รักที่สุดด้วยเหมือนกัน ไม่ลังเลตั้งแต่ตอนชวนโอบกลับบ้าน ความจริงก็ไม่ลังเลมาตั้งนานแล้ว

ผมมองโอบจัดกระเป๋าต่อ แล้วก็เลยพับเสื้อให้ผมด้วย ก่อนขยับเข้าไปกอดเอาไว้ วางคางลงบนไหล่ กระชับแขนรอบบ่า หัวใจของผมแนบสนิทกับแผ่นหลังของคนตรงหน้า มันคงอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกันพอดี

โอบหัวเราะหึ ละจากเสื้อ มาจับมือผม พูดว่า

“นี่ทำยังงี้บ่อยไม่ต้องกินข้าวละนะ อิ่มทิพย์”
 
... ถ้าเราจะมีคนที่เรารัก และรักเราด้วยความจริงใจอยู่ด้วย ไม่ต้องเป็นปราสาทราชวัง ถึงเป็นห้องเล็กๆ ที่ระเบียงมีต้นไม้กิ่งก้านใบหรอมแหรมอยู่หนึ่งต้น...

ที่นั้นก็เป็นสวรรค์บนดิน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 18-12-2013 10:44:57
ส่งท้าย

เราไปถึงหาดใหญ่ก่อนมื้อกลางวัน พ่อขับรถมารับ แล้วก็แวะตลาด ซื้อของกินตามคำสั่งแม่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณนายคงจัดชุดใหญ่ไว้รออยู่แล้ว ถึงจะเป็นคนประหยัด แต่ที่ไม่เคยเขียมคือเรื่องกินนี่แหละ

แน่นอนว่าพ่อแม่ดีใจที่ได้เจอโอบ ของฝากก็ชื่นชมทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะกินหมดก็เอาไว้แจกจ่ายญาติมิตรเพื่อนบ้าน ที่ว่ารักเหมือนหลานนั้นสรุปว่าคงห่าง เหมือนลูกอีกคนจะใกล้เคียงกว่า ผมรู้ว่าโอบเคยไปเยี่ยมพ่อแม่ผมกับน้านันอยู่บ้าง แต่ก็ตอนผมเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว พักหลังน้านันยุ่งกับครอบครัวและงานที่เชียงใหม่ ยิ่งโอบมาเรียนกรุงเทพฯ แล้วคงไม่ค่อยได้ไป แต่ถ้าดูจากการพูดคุย เสียงหัวเราะร่าเริง และแววตาเอื้อเอ็นดูที่พ่อแม่มีให้แล้ว ก็เหมือนเราไม่เคยห่างกันไกลเลย 

พ่อชวนผมไปดูรักบี้ต่อในวันนั้น เป็นเรื่องที่ผมทำกับพ่อบ่อยๆ ถ้าเผอิญอยู่บ้าน และมีนัดแข่งขันพอดี ไม่ว่าจะนัดใหญ่หรือเล็ก จนถึงจิ๋ว แข่งกันเล่นๆ กระชับมิตรในวิทยาลัย พ่อก็สนุกสนานได้เท่าเทียม

ผมยังคิดอยู่ว่าเราควรหาโอกาสบอกพ่อแม่ให้เป็นกิจจะลักษณะ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากปล่อยให้มันเป็นของมันไปเองแบบนี้ ขยับจะชวนโอบไปด้วย เพราะวันนี้วันหยุด แม่อาจจะอยากไสยาสน์ก่อนตื่นมาทำกับข้าวอีก แต่แม่ดึงเอาไว้ ว่าจะชวนโอบไปเที่ยวสวนยางที่อยู่ไม่ไกล จะได้ช่วยเก็บผักเหลียงในนั้นมาทำมื้อเย็นด้วย

ถึงผมจะตงิดกับการแยกกันอย่างชอบกลเช่นนี้ แต่ก็ไม่อะไรมาก ตามพ่อไปสนามรักบี้โดยดี ส่วนโอบก็ขึ้นรถขับพาแม่ไปสวนยาง ทำตัวเป็นลูกผู้เชื่อฟังกันทั้งคู่

พ่อทวนกฎรักบี้กับผม ซื้อน้ำซื้อขนมกันเข้าไป ผมนึกห่วงโอบกับแม่อยู่บ้าง แต่ไม่นานก็เหมือนได้กลับสู่วันเก่าๆ แม้ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ตอนที่เริ่มมีปัญหาแล้ว เวลากลับบ้านและพ่อพาผมมาสนามรักบี้ ก็คล้ายกับว่าจะลืมเรื่องอื่นภายนอก ได้ตะโกนจนเต็มเสียง และจดจ่ออยู่กับความเคลื่อนไหวในสนามเท่านั้น

พอพักครึ่งผมก็เหงื่อไหลไคลย้อย ยื่นน้ำส่งให้พ่อที่สภาพไม่ต่างกันมากนัก พ่อกระพือคอเสื้อจนเหงื่อพอแห้ง ยกแขนพาดบ่าผมไว้หลวมๆ เรียกผมอย่างที่ผมสุดแสนจะอายเพื่อนเมื่อตอนเด็กๆ ว่า ‘แทคเกิ้ล’

แต่ตอนนี้ผมก็เพียงแต่ยิ้มขำๆ เพราะรู้แกวแล้วว่า พ่อแกล้งเรียกผมเล่นๆ หรือไม่ก็เรียกเพราะจะพูดอะไรต่อ พ่อคุยเรื่องเกมครึ่งแรกที่เพิ่งผ่านไป พ่อชอบรักบี้ เคยเล่นรักบี้ ถึงได้ตั้งชื่อผมตามเทคนิกการเข้าปะทะอย่างหนึ่ง แล้วก็ยังสอนผมอยู่เรื่อยๆ โดยไม่แคร์แต่อย่างใดว่าป่านนี้ลูกชายคงไม่มีทางจะเป็นนักรักบี้อาชีพแล้วล่ะ

“เวลา ‘แทค’ คู่ต่อสู้ ต้องอย่าละสายตา ต้องเข้าไปหาตรงๆ อย่าลังเล ยิ่งเลี่ยงยิ่งเจ็บตัวกันทั้งคู่ ทำผิดวิธีก็เจ็บอีกเหมือนกัน ปะทะให้แรง ถ้าล้มแล้ว เอาให้อยู่...”

ผมหันไปมองพ่อ เริ่มคิดว่า เวลาพ่อสอน ‘รักบี้’ ผม พ่ออาจจะไม่ได้สอนแค่รักบี้อย่างเดียว พ่อคงบอกผมอยู่เสมอมาว่า ถ้าเวลามาถึง อย่ากลัวที่จะปะทะ อย่ากลัวที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา และเอามันให้อยู่   

ซึ่งผมคิดว่าทำได้แล้ว ถึงความเข้มแข็งนั้นจะมาจากคนอื่นที่ช่วยสนับสนุนมาด้วยตั้งแต่ต้นเช่นเดียวกัน (... คล้ายๆ กับรักบี้เล่นคนเดียวไม่ได้) ทั้งจากพ่อแม่ที่คอยเป็นหลักในครั้งนั้น จากเพื่อนๆ แล้วก็... จากคนที่รักมากพอจะทลายกำแพงเข้ามา

ผมบอกพ่อ และพ่อก็ขยี้หัวผมเบาๆ พูดสั้นๆ “ลูกพ่อ”


เรากลับถึงบ้าน ชะโงกหน้าเข้าไปเห็นแม่อยู่ในครัวกับโอบแล้ว ฝ่ายหลังก็เป็นลูกมือดีเหลือเกินไม่ว่าแม่จะบอกให้หยิบจับช่วยทำอะไร ผมอดปากไม่ได้

“แม่ให้โอบช่วยนี่มันจะกินได้มั้ย ทำเป็นเหรอเราน่ะ”

“ไม่เป็น” โอบก็อุตส่าห์เงยหน้าจากครกมาตอบผม “แต่ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับแม่ครัว ฝีมือดีมีชัยไปกว่าครึ่ง โอบแค่ใช้แรงงานเฉยๆ”

แม่หัวเราะ พยักหน้า ไล่ให้ผมกับพ่อไปอาบน้ำ ก่อนออกจากครัวยังได้ยินเสียงแม่แว่วๆ

“โอบหยิบนั่นให้แม่หน่อยลูก”

แล้วยังเสียงเจ้าตัวขาน “ครับแม่...”

นี่ก็ดูเข้ากันดีพิลึก เอ๊ะแต่เดี๋ยว ตอนสายยังเรียกกันคุณป้าอยู่เลย

... มันเกิดอะไรขึ้นในสวนยางล่ะนั่น...


ผมยังเก็บความสงสัยไว้จนจบมื้อเย็น แม่ไล่ให้โอบไปดูทีวีกับพ่อ ส่วนผมก็สบช่องเข้าไปช่วยแม่ล้างจาน ซึ่งผมล้างเป็นส่วนใหญ่ แม่รับไปคว่ำในตะแกรง นอกนั้นก็คุยโน่นนี่นั่นไม่หยุดปากตามประสาแม่

แต่ไอ้โน่นนี่นั่นมันยังไม่เฉียดใกล้ถึงเรื่องที่ผมอยากรู้เท่าไหร่ กระทั่งแม่ถามไถ่เรื่องโครงการฝึกอบรมเพื่อให้ได้มีสิทธิ์สอบใบประกอบโรคศิลปะของผม ซึ่งถ้าไม่มีปัญหาเรื่องต้นสังกัดก็น่าจะเบิกค่าใช้จ่ายได้ หรืออาจจะรอไว้อีกปี แต่เรื่องของเรื่องคือแม่ห่วงว่าผมจะรอดไหมในกรุงเทพฯ กับรายได้ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนสายงานที่ลดลงกว่าเดิมนั่นแหละ

“แม่ไม่ต้องห่วง แทคมีเงินเก็บ ไม่ค่อยได้ใช้อะไร จริงๆ”

... แล้วค่าเช่านี่โอบยังออกอยู่ครึ่งหนึ่งด้วย

“บัญชีจากสวนยางนี่แม่ว่าเพิ่มอีกส่วนหนึ่งดีกว่า แล้วก็ใส่ชื่อลูก”

“แม่... ยังไม่ต้องหรอก แทคยังไม่ได้มาช่วยทำ ยังไม่ต้องให้”

... คือถ้ามีวันหนึ่งในอนาคตอันไกลที่ผมจำเป็นต้องมารับช่วงดูสวนยาง และถ้าสภาพมันยังพอไปได้น่ะผมถึงจะคิดว่าตัวเองมีเอี่ยวในเงินรายได้ตรงนั้น ตอนนี้คะเนดูแล้ว... ไม่จำเป็นต้องกวนพ่อกับแม่

“ไว้ก่อนก็ไว้ก่อน” แม่ยอม แต่อีกประโยคที่ตามมานี่แทบทำเอาผมปล่อยจานลงอ่าง “ตอนแรกว่าเป็นบัญชีร่วมก็ดี เผื่อลูกจะเอาไปทำอะไรกัน เผื่อจำเป็นต้องดาวน์คอนโด หรือว่า...”

“เดี๋ยวแม่” ผมโพล่ง ร่วมกับใคร? ก็มีอยู่คนเดียว แต่เสร็จแล้วยังอึ้งอยู่แบบไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แว่วเสียงโอบหัวเราะกับพ่อกับเสียงโทรทัศน์จากห้องนั่งเล่น แม่ก็รออยู่ จนถามเอง “ทำไมเหรอ”

“ทำไม... โอบ... แม่... คือแทคจะบอกอยู่แล้ว แต่ว่า...” ผมคงพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แม่ยิ้มขำๆ

“แม่รู้น่ะ... พ่อก็รู้”

แม่บอกว่าที่เคยโทรไปถามโอบเรื่องยา แล้วก็สารทุกข์สุกดิบ โทรไปอยู่เรื่อยๆ ถือว่าเป็นลูกหลานอีกคนหนึ่งที่คอยไต่ถามอยู่บ้างด้วยความห่วงใย แต่ว่า...

“เวลาเราคิดถึงใคร มีใครอยู่ในใจ มันก็พูดถึงอยู่เรื่อยนะ รู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง”

“แค่นั้นน่ะ...” ถึงแม่จะเป็นครูคหกรรมและแนะแนวระดับมหากาฬที่นักเรียนเคยเอาไปลือว่าครูกานดาอ่านจิตได้ ซึ่งจริงๆ ก็มาจากความช่างสังเกตเท่านั้น แต่ด้วยข้อมูลแค่นี้ ผ่านทางโทรศัพท์เนี่ยนะ? แม่จะเก่งเกินไปแล้ว

“น้องโอบไม่ได้พูดอยู่ฝ่ายเดียวนะลูก...”

อ้อ... แม่คงได้ยินจากฝั่งผมด้วยสินะ ชักอายแม่หน่อยๆ...

"แม่ก็เลยไปคุยกับน้องโอบในสวนยาง คุยกันตรงๆ เนี่ย..."

แม่นะ อย่างกับตอบไม่ถูกใจจะหมกไว้ในสวนยางกลางดงเหลียงอย่างนั้นแหละ

“ที่จริงตอนแม่พูดเรื่องบัญชี น้องโอบว่า แทคคงไม่อยากกวนพ่อแม่ ตอนนี้ก็ไม่ได้ลำบาก แต่ถ้าพ่อกับแม่จะให้ ก็ให้เป็นชื่อแทคคนเดียว เพราะว่า...” แม่ยิ้มน้อยๆ “เพราะว่า เขาได้สิ่งที่มีค่าที่สุดของพ่อกับแม่ไปแล้วนี่”

ผมล้างจานต่อไปเงียบๆ รู้สึกได้ว่าแม่ยืนยิ้มมองอยู่ ผ่านไปสักพักจึงได้เอ่ย

“น้องโอบเป็นคนดีนะ...”

ผมพยักหน้า ยังไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ดี

“ดีที่สุดคือ เป็นคนดีที่รักลูก...” แม่เช็ดมือจนแห้งแล้ว มือเย็น นุ่มนวลอย่างที่จำได้ลูบแขนผมอยู่เบาๆ

... แต่แล้วคุณนายดูจะเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน “อ้อ! เกือบลืม ลูกต้องพยายามหน่อยนะ”

ผมเป็นงง ถ้าพูดถึงความรักครั้งนี้ก็ตั้งใจรักษาไว้อยู่แล้ว หรือแม่พูดถึงเรื่องอะไรอีก

แม่หายไปค้นอะไรกุกกักจากลิ้นชักในครัวอีกฝั่ง ก่อนได้สมุดเล่มเล็ก ตัวเขียนละเอียดยิบมายื่นให้

ผมรู้ว่าเป็นอะไรก่อนเปิดดูเสียอีก “โอ๊ยแม่!”

... สูตรอะไรต่อมิอะไรของแม่นั่นไม่ใช่ผมไม่มี เนื่องจากแม่เพียรส่งให้อยู่ทุกวิถีทาง แต่คนทำกับข้าวไม่เก่งบางทีมันก็ยังไม่อร่อยเป๊ะถึงจะตามสูตรแล้วก็เถอะ หนักเข้าผมก็กลับไปหาไข่เจียวผัดผักของตัวเองเหมือนเดิม รอดตายอีกมื้อ คนกินด้วยก็ไม่เห็นบ่นอะไรนี่

“คราวนี้แม่เขียนให้ง่ายแล้ว กับข้าวนะลูก... เดี๋ยวน้องโอบอด”

... แม่ก็ยังเป็นแม่อยู่ดีนั่นแหละ เรื่องกินเรื่องใหญ่สุด

แต่ว่า... สมัยนั้นแม่คงไม่ได้ใช้เสน่ห์ปลายจวักอย่างเดียวมัดใจพ่อให้อยู่หรอกมั้ง มันต้องอาศัยความ ‘หรอย’ อย่างอื่นด้วยน่ะ


รุ่งเช้าเราตักบาตร... ฟังคำพระแล้ว พ่อแม่ก็อวยพร เป็นการนับเข้าสู่ปีใหม่ที่เป็นมงคล

หลังจากนั้นครูใหญ่ผ่านมารับพ่อกับแม่ไปงานปีใหม่ที่ใกล้โรงเรียน ทั้งคู่ว่าจะกลับบ่ายๆ หน่อย ผมกับโอบจึงอาสาไปรับทีหลัง

พอรถลับแล้ว ผมหันหลังกลับ แต่สายตาปะเข้ากับต้นมะม่วงต้นเก่าแก่ที่ริมรั้ว ต้นที่ผมเคยปีน และที่เจ้าเด็กข้างบ้านในตอนนั้นเคยมาแหงนคอเรียก เกือบลืมว่ายังมีชิงช้าผูกไว้ใต้ต้นมะม่วงด้วย

ผมลองไกวชิงช้าเบาๆ มันส่งเสียงเอี๊ยดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ติดขัดอะไร ผมนึกถึงแบบทดสอบทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง... วาดรูปคนบนกระดาษ แค่ให้วาดรูปคนบนกระดาษขาวว่างแผ่นหนึ่งเท่านั้นก็บอกอะไรได้มากมาย

ผมเพิ่งรู้ตัวว่า นึกถึงแบบทดสอบนี้อยู่เป็นระยะตลอดตั้งแต่เรียนมา ผมมักจะนึกภาพตัวเองเป็นคนในกระดาษแผ่นนั้น ก็เป็นคนธรรมดาๆ อยู่ในพื้นที่ธรรมดา แต่งตัวตามธรรมดา แต่เพราะรู้ความหมายและการแปลผลแล้ว ที่มักจะนึกถึงบ่อย คืออีกขั้นหนึ่งของการให้วาดคนบนกระดาษ นั่นคือ คนบนกระดาษ... กลางสายฝน

สายฝนสำหรับนักจิตวิทยา เป็นตัวแทนของอุปสรรคหรือปัญหา พอเจอฝนแล้ว คนที่เราให้วาดจะแทนวิธีการจัดการกับปัญหานั้นลงในกระดาษ บางคนอาจจะวาดตัวเองหน้าเศร้าลง บางคนอาจจะดูโกรธเกรี้ยว บางคนอาจวาดให้เข้าไปหลบหรือแอบ ใต้ชายคา ใต้ต้นไม้...

ซึ่งผมก็เคยเป็นอย่างนั้น... ผมกลับบ้าน เพราะทุกคนมีพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง แต่คนเราอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยไม่ได้เสมอไป ตีกรอบตัวเองไว้แค่นั้นไม่ได้ตลอดไป ขอให้ใครช่วย ‘กำบัง’ ให้ไม่ได้ตลอดไป...

ผมออกจาก ‘บ้าน’ มาทำงาน อยู่คนเดียวที่กรุงเทพฯ และนึกภาพตัวเองกางร่ม ไม่ก็ใส่เสื้อกันฝน เพราะผมพยายามจะดูแลตัวเองก่อนขอให้คนอื่นช่วย ก็พยายามจะเป็นอย่างนั้นเรื่อยมา

มืออุ่นๆ ที่คุ้นเคยข้างหนึ่งสอดเข้ามาประสานกับมือผมไว้ โอบเงยหน้ามองต้นมะม่วงอยู่เหมือนกัน จะคิดถึงตอนหิวข้าวจนท้องร้องและต้องรับหน้าที่มาตามผม หรือตอนตกลงมา ได้แผลเพราะจะตามผมอีกก็ไม่รู้ได้

ผมยิ้มกับตัวเอง โอบก็คงมีกระดาษของโอบ แต่กระดาษของเราอยู่ติดกัน พื้นที่ของเราอยู่ติดกัน เหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่อยู่ข้างกัน ถ้าเจอฝน เราก็จะกางร่ม ใส่เสื้อกันฝน แล้วก็เดินต่อไป

ส่วนมือข้างที่ไม่ได้ถือร่ม เราก็จะจับกันไว้เหมือนอย่างตอนนี้ และเดินต่อไป...

“ยิ้มอะไรหรือ” โอบเลิกมองต้นมะม่วงแล้ว หันมามองผมแทน แต่วงหน้าก็ปรากฎรอยยิ้มน้อยๆ อยู่เช่นกัน

“คิดว่า... คนที่มาเจอกัน รักกันนี่ โชคดี” ผมบอก ขยายความว่า มีโอกาสที่เจอ แต่เขาจะไม่รักเราก็ได้ ที่สำคัญ คนคนนั้น... ต้องควรค่าให้รักด้วย แต่ประโยคหลังไม่ได้พูดออกไปหรอก

“เพราะว่าจะไม่รักก็ได้?” โอบทวน “บางที เราก็เจอคนที่ไม่รักไม่ได้น่ะ”

... ซึ่งก็ตอบคำถามผมแล้วล่ะ

สิ้นปีหน้าผมอาจจะไปบ้านโอบบ้าง... เชียงใหม่ไม่ใช่ที่น่ากลัวที่ต้องหลีกเลี่ยงอีกต่อไป

“อย่างนั้นเชียว”

“อย่างนั้นแหละ ถ้าเจอแล้ว พยายามจนเขารักเราแล้ว ก็จะกอดเอาไว้แน่นๆ ไม่ปล่อยไปไหน...”

โอบยังไม่ได้ทำอย่างปากว่า เพราะนี่คือหน้าบ้าน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ของครูผู้เป็นที่นับหน้าถือตาสองท่านในท้องถิ่น
 
แต่แววตาระยิบนั่นก็บ่งบอกความในใจมาจนหมด

ผมนึกถึงที่เจ้าตัวเคยพูด คืนแรกที่เจอกันอีกครั้ง   

‘อย่าลืมที่สัญญานะ... บำบัดความโสดไง’

ผมยิ้ม ลองเป็นแบบนี้แล้ว...

คงได้บำบัดกันไปจนตลอดชีวิตนั่นแหละ.
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: เดหลี ที่ 18-12-2013 10:49:32
คุณ Theomen ตอนจบมาแล้วน้า ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ หวังว่าจะชอบน้า

คุณ Takarajung_TK ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่ะ ฝากอ่านตอนจบด้วยน้า ก็ลงเอยกันไปด้วยดีนะ อิอิ

คุณ kubkamsoda ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า

คุณ NewYearzz ขอบคุณมากสำหรับการอ่านนะคะ หวังว่าจะชอบตอนจบเช่นกัน คนเขียนก็อยากเขียนให้คนอ่านมีความสุขจ้ะ อิอิ

คุณ Gokusan เคลียร์กันไป ไม่ต้องมาเจอกันละ แฮปปี้เอ็นดิ้งนะ ขอบคุณมากๆ สำหรับการอ่านจ้า

คุณ iforgive ขอบคุณนะคะที่ชอบ ขอบคุณที่อ่านมาเรื่อยๆ ตลอดเลย เรื่องรวมเล่มยังไม่มีโครงการเลยค่ะ มีแต่โครงการเขียนต่อ 55 ฝากอ่านเรื่องต่อๆ ไป ถ้ามี ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

คุณ Wordslinger ขอบคุณมากนะคะ แล้วก็ขอเป็นกำลังใจในการเขียนให้ด้วยนะ ถึงจะยังไม่ได้ไปอ่าน แต่สู้ๆ นะคะ คือมันจะจบแล้วจะไม่ดราม่าปิดท้ายอะไรกันขนาดนั้น 55 พ่อแม่ดีใจแน่ค่ะ กลับบ้าน เอาลูกมาอีกคนด้วย 555

คุณ malula เอาจริงๆ คือ ระวังไม่อยากให้ดี๊ดีเกิน ยังอยากให้เป็นคนอยู่ 55 ก็คงมีอารมณ์แบบคนปกติอยู่บ้าง แต่พื้นฐานคือถ้ารักแล้วก็อยากจะดีด้วยล่ะนะ

คุณ mesomeo2 ขอบคุณสำหรับการอ่านค่ะ ฝากอ่านตอนสุดท้ายด้วยน้า

คุณ lizzii แหะ มาช้าตลอดเลย แต่ตั้งใจเขียนทุกตอนเลยนะ 55 (ก็ไม่ใช่ข้ออ้างอยู่ดี) ขอบคุณที่อ่านและชอบนะคะ

คุณ Naenprin ตอนสุดท้ายมาแล้วนะคะ ขอบคุณที่อ่านอยู่น้า เรื่องนี้มันก็แบบนี้ละเรื่อยๆ หน่อย ชิล 55

คุณ Aoya 55 ขอบคุณค่ะ ฝากอ่านตอนสุดท้ายด้วยน้า

คุณ kyoya11 ปิดฝังไปละ ตอนนี้ก็กลับบ้านละ

คุณ goosongta ถ้ารักก็อยากจะเชื่อนะ ที่คบกันแทคก็ประวัติดีอยู่ 55

คุณ drasil ขอบคุณค่ะ คนบางคนมันก็ต้องจัดการให้เด็ดขาดเนอะ

คุณ BeeRY ขอบคุณสำหรับการอ่านมากค่ะ หวังว่าตอนจบก็คงจะชอบเช่นเดียวกันน้า เหมือนมีสองตอน บทที่ 22+ส่งท้าย (epilogue) ด้วย ไม่สั้นน้า

คุณ PEENAT1972 ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า ฝากอ่านตอนจบด้วยน้า

คุณ DraCo_SLa13 ขอบคุณนะคะ อยากให้ได้ความรู้สึกสบายใจตอนอ่านไปเหมือนกัน ชิลๆ นะ ชีวิตง่ายๆ บ้าง 55 ไว้เรื่องอื่นเราค่อยดราม่ากัน (อ้าว) ฝากอ่านตอนจบด้วยนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จบลงแล้วอีกเรื่อง เรื่องนี้โดยรวมแล้วค่อนข้างชิล พระนายวิบากกรรมน้อย อยากให้คนอ่านได้อารมณ์สบายๆ อีกอย่างคนเขียนอยากพักจากปมซ้อน แต่ก็พบว่าถึงสบายสมองขึ้นบ้าง (ตามอารมณ์เรื่อง) แต่มันไม่ได้เขียนง่ายกว่าเดิมขนาดนั้นนิ ตัวละครแต่ละตัวก็มีปัญหาให้แก้กันไปเนอะ

ความจริงยังมีอีกหลายแนวพล็อตที่อยากเขียน (เวลาที่จะเขียนนี่ซิ ช่างหายากเย็น โครงการต่อไปถ้าเป็นเรื่องยาวแอบหนักหนาจัดเต็มกับการเขียนมากทั้งข้อมูลและพล็อต - มันจะเครียดกว่าเรื่องนี้แล้วสินะ - -") แต่ยังไงคนเขียนก็หวังว่าจะได้เจอคนอ่านอีก ในเรื่องต่อๆ ไปนะคะ

ขอบคุณทุกท่านมากสำหรับการอ่าน และกำลังใจค่ะ ขอบคุณมากๆ เลย
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-12-2013 11:31:53
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ นะคะ จะรอเรื่องต่อไป และการรวมเล่มที่อาจเกิดขึ้น
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 18-12-2013 13:17:56
“... ของสิ่งที่ไม่ควรพูดกับคนโสดค่ะ! เขาแค่ยังไม่มีแฟนนะคะ ไม่ได้เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”  :laugh: ตลกประโยคนี้อ่ะ

“เพราะว่า เขาได้สิ่งที่มีค่าที่สุดของพ่อกับแม่ไปแล้วนี่” โอยซึ้งกับคุณแม่กับพ่อของแทค ใจดีจังเลย :hao5:

จบได้ซาบซึ้งมากค่ะ รอติดตามเรื่องต่อไปน้าาา+1 :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 18-12-2013 14:52:37
ปลื้มใจมากกกกกกกกก....อิ่มเอมมมมมมม...สนุกมากกกกกก..เนื้อเรื่องตอบตัวมันเองในแต่ละตอน...สนุกมาก..อ่านแล้วไม่ค้างคา..ขอบคุณกับเรื่องราวดีๆๆนะครับ รักแทคและโอบเพิ่มอีก 1  คู่แล้วจ้า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 18-12-2013 16:07:10
 :mew1:

จอง

ขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 18-12-2013 17:04:36
จบแบบน่ารักมากค่ะ

ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านนะคะ

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 18-12-2013 17:31:36
จบได้น่ารักมาก ขอบคุณคุณเดหลีมากค่ะ ชอบบรรยากาศของเรื่องนี้ ชอบคำพูดของตัวละคร ชอบคนแต่งอะ รักโอบบบบบบบบบบมากจริงๆ อิิอิ รอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-12-2013 17:33:16
น่ารักมากๆเลย เพิ่งรู้ว่าแทคมาจาก แทคเกิ้ล  :laugh:
จะมีตอนพิเศษไหมหนอ +1 +เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-12-2013 17:49:57
ในที่สุดก็มาถึงบทสรุป จบอย่างสวยงาม
คู่หลักโอบ-แทค ไร้ปัญหา ไม่มีอุปสรรคจากครอบครัว
ถึงโอบไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟค แบบพระเอกนิยายเรื่องอื่น แต่เป็นคนที่อบอุ่นมาก จิตใจดี มีความรับผิดชอบ
เหมาะเป็นคู่ชีวิตมีไว้ติดตัว ติดบ้านไปตลอดชีวิตจริง ๆ
คู่รองเสี่ยน๊อต-ภัค ถึงจะต่างแต่ก็ลงตัว อยู่กับใครแล้วเราเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องปั้นแต่ง นั่นล่ะใช่เลย
ส่วนคุณศรัณย์จะว่ายังไงดี คงเล็งแทคไว้แต่แรกแล้วล่ะ แต่ก็ยังอยากเดตไปเรื่อย ๆ มัวแต่เลือก สุดท้ายเลยแห้ว

ขอบคุณคนเขียนอีกครั้ง สำหรับเรื่องดีมีสาระ ภาษาสวย
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 18-12-2013 18:39:46
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดี ที่แปลกและแตกต่าง ไม่รู้ว่าในชีวิตจริงมีบริษัทแบบนี้หรือเปล่าน๊า
ต้องขอบอกว่า โอบ เป็นผู้ชายที่หลุดออกมาจากความฝันของเราเลย เค้าเป็นเด็กที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูงมากๆ ชอบตอนที่ทำยารสกาแฟให้แทค จะมีสักกี่คนที่ใส่ใจเราแบบนี้
รออ่านเรื่องต่อๆๆไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-12-2013 18:47:02
เป็นตอนจบที่มีความสุขมากกกกกกก :-[
พ่อกับแม่ก็ใจดี โอบกับแทคโชคดีมากเลย :กอด1:
ปลื้มภัครกับเสื่อน็อตที่สุดอ่ะ หวานแซงหน้าคู่หลักอีก ถึงจะออกมานิดเดียวก็เถอะ :o8:
เรื่องใหม่มาลงก็จะตามไปอ่านแน่นอนค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 18-12-2013 18:52:07
ขอบคุณที่เขียนเรื่องสาระบันเทิงดีๆ
ชอบแง่คิดที่สอดแทรกในเรื่องมากค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-12-2013 19:19:00
ชอบจังงงงงงง จบได้ดีมากเลย
ชอบตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้จริงๆ ทั้งแทค โอบ
รวมถึงภัคกับเสี่ยด้วย น่ารักๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 18-12-2013 21:41:00
โอ๊ยยยย ถ้าเขาได้จีบใครนี่
ไม่หลงรักตาโอบนี่ก็ไม่รู้จะยังไงแล้ว

ตายๆๆ กับที่น้องบอกว่า
เขาได้สิ่งที่ดีที่สุดของพ่อกับแม่ไปแล้ว...
และ พยายามจนเขารักเราแล้ว จะกอดให้แน่น ไม่ปล่อยไปไหน

เป็นตอนจบส่งท้ายที่เรียกน้ำตาลได้สุดๆ
เพราะโชคดี...ที่ได้รัก

ขอบคุณที่มีเรื่องราวสวยงามมาให้ตามอ่านค่ะ
แต่ละตัวละครมีแง่มุมให้ติดตามเสมอ ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 18-12-2013 22:16:03
ขอบคุณค่ะ สำหรับเรื่องดีๆ

ชอบมากๆ ค่ะ เป็นเรื่องที่มีเนื้อหาเรื่อยๆ มันดำเนินไปแบบราบเรียบไม่หวือหวา

แต่มีความรู้ซ่อนอยู่ในทุกๆ ตอนค่ะ  ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่า....ทุกอย่าง ค่อยๆ เดินไปในทางที่ควรจะเป็น

บางทีก็เดาทางไม่ออก นึกสงสัยว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง  ....  คนที่เคยเจ็บมันจะกล้าเปิดใจไหม

สุดท้้าย.....   ก็จบลงด้วยดี  ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine538 ที่ 18-12-2013 22:44:21
เผลอแป๊บเดียว มาถึงตอนสุดท้ายซะแล้ว  :hao7:

คือว่า ตอนที่แล้วยังไม่ได้เข้ามาเม้นท์เลยนะคะ 555 ทั้งๆ ที่จริงๆ ชอบตอนตอกฝาโลงของโอบแทคมาก โอบโหดได้ใจ(ขนาดให้เขาเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งถ้ามาเจอแทคนี่นะ !!!)    ส่วนแทคก็ปิดคดีได้สวย  "หรอย" อย่างที่ภัคว่าจริงๆ   :hao3:

ดีใจกับเสี่ยที่ความรักเหมือนจะราบรื่นกับภัคได้ดีจริงๆ บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูเป็นธรรมชาติมากๆ  ส่วนคุณศรันย์... คิดว่าคงพลาดตั้งแต่แทคไม่เดตลูกค้าแล้วแหละ ต่อไปคงต้องจริงจังกับความรักให้มากขึ้นเนอะ

ตอนจบ รวมทั้งส่งท้ายที่ยาวพอๆ กัน ถือว่าทำให้คนอ่าน "อิ่ม" กำลังดีค่ะ ไม่มากไม่น้อย ดีใจที่ไม่มีดราม่าที่หาดใหญ่ พ่อกับแม่ของแทคช่างน่ารัก และเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากการอ่านหลายๆ เรื่องในเล้าที่จัดหนักดราม่าเกี่ยวกับครอบครัวอย่างต่อเนื่องเลย (ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นได้มากว่าอ่ะนะ แต่คนอ่านก็ยังอยากได้อะไรให้บันเทิงใจบ้าง)

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ เรื่องนี้นะคะ

รออ่านผลงานต่อไปค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 18-12-2013 23:19:38
น่ารักจนหยดสุดท้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 19-12-2013 00:07:12
อ่านรวดเดียว
สารภาพว่าตอนแรกที่เข้ามาเพราะชื่อเรื่อง คาดว่าเรื่องราวน่าจะหวือหวากว่านี้
แต่พออ่านไป เรื่องไม่ตรงกับความคิดเท่าไหร่
แต่ความ "ลงตัว" ของเรื่อง ที่ทำให้อ่านไปยิ้มไป กลับทำให้ไม่อาจละสายตาไปจากเรื่องนี้ได้จริงๆ
ทุกอย่างในเรื่องให้ความรู้สึก ตรึงใจ
ชอบมากๆ ดีใจจริงๆที่ได้เข้ามาอ่าน ถ้าพลาดไปต้องเสียใจแน่ๆ
ขอบคุณที่นำนิยายดีๆมาแบ่งปันนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 19-12-2013 09:22:29
ชอบโอบจัง  :impress2: อิจฉาแทคอ่ะ  ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 19-12-2013 12:04:37
ตามมาตั้งแต่แรก ๆ จำได้ว่าอ่านแล้วจะมีความอบอุ่นอยู่ในทุก ๆ ตอน

มีปมให้ได้ขนลุกขนพองกลัวดาร์ค  :o8:

เร่องนี้เรื่อย ๆ แต่สนุกมาก ทั้งยังเต็มไปด้วยข้อคิดเกี่ยวกับความรัก

ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆมาให้ได้อ่านนะครับ

+1 แทนคำขอบคุณนะครับ  :pig4:

แล้วถ้ามีโอกาศจะตามไปเรื่องต่อๆไปนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 19-12-2013 12:15:51
เพิ่งได้เข้ามาอ่านก็จบซะแล้วววววว  :katai1:
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆ นะคะ  ชอบมากค่ะ :man1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 19-12-2013 21:56:09
อ่านจนจบแล้วนะคะ สนุกดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 20-12-2013 13:20:41
จบน่ารักมากค่ะ เสียดายอย่างเดียวน่าจะได้ติดตามตั้งแต่แรกๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 21-12-2013 23:15:17
ได้ตามอ่านทีเดียวรวดเดียวจบเลยค่ะ  มีความสุขมากกกก  ปริ่ม5555  อาจจะเม้นท์ไม่เก่งไม่ยาวนะคะแต่จะบอกว่าเราพยายามตามอ่านเรื่องของคุณค่ะ  หาชื่อคุณเอาไว้เลยเวลาเข้ามาในเล้า(ซึ่งนานนนนนนทีจะเข้าสักครั้ง)  เราชอบพล๊อตเรื่องค่ะ  ถึงจะไม่หวือหวามากแต่อ่านแล้วอมยิ้มตามเลย  แอบหัวเราะกับมุกเล็กๆน้อยๆของตัวละครด้วย  มันน่ารักค่ะ  เรื่องรักเร่ก็ชอบ  จะตามไปจองนะคะ  เรื่องนี้ยังมีบางประโยค  บางท่อนที่งงๆอยู่บ้าง  ต้องย้อนขึ้นไปอ่านใหม่ว่าใครพูด  แต่ไม่มากค่ะ  ความรู้สึกเรื่องนี้เรื่อยๆไม่เอื่อย  สนุกสนานดีค่ะ  รอเรื่องใหม่อยู่นะคะ
ให้กำลังใจค่ะ  สู้ๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-01-2014 10:06:59
เป็นนิยายที่อ่านแล้วมีความสุขมาก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 23-01-2014 02:10:48
น่ารักอ่ะ
มีแบบน้องโอบสักคนมั้ย
จะขอน้องโอบไปใช้บริการ บำบัดโสดบ้าง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Sillyfoolstupid ที่ 18-02-2014 00:19:49
เพิ่งได้มาอ่านตอนที่เห็นว่าย้ายมาอยู่ในนิยายที่โพสจนจบแล้ว

เริ่มเมื่อนตอนเย็น ตะบันอ่านจนจบ ภายในคืนเดียว

ชอบที่ดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆ ไม่ดราม่า

อาจจะงงๆไปบ้าง เวลาย้อนไปถึงพี่คนนั้นหรือเรื่องในอดีต

แต่พอท้ายๆเรื่องมาเฉลยก็เข้าใจได้หมด

ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 18-02-2014 09:23:55
จบแบบน่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 18-02-2014 14:58:51
เพิ่งอ่านได้ตอนแรกท่าจะสนุกนะเนี่ย
จะช่วยบำบัดโสดกันยังไงนะ
น้องโอบท่าจะมีแผน
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Shin Heeyoo ที่ 18-02-2014 15:08:05
นึกว่าคุณศรัณย์กับภัคจะลงเอยซะแล้ว

แต่เป็นเสี่ยก็ดีนะคะ ฮาที่ถ่ายรูปบ็อกเซอร์ส่งมาให้แทค

โอบก็ช่างแสนดี อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 19-02-2014 14:55:05
ขอแบบโอบซักคนได้ม๊ะ???
น่ารัก จริงใจ นิสัยดี มั่นคง
แอร๊ยยยยยยยย
 :impress2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 19-02-2014 22:46:39
เขียนได้ดีจริงๆค่ะ

ถึงจะไม่มีเรื่องหวือหวา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลง

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องดีๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 23-02-2014 01:10:23
เริ่มมาเฉื่อยๆเนือยๆแต่ก็มีสีสันตอนหน่วงๆนี่แหละ
ทั้งคู่ดูอบอุ่นมาก
สงสารคุณศรันย์นี่แหละ เมื่อไหร่จะเจอรักกับเค้าซะที
ชอบคำสุดท้ายจัง
บำบัดความโสดกันไปตลอดชีวิต
พ่อแม่ก็น่่ารัก
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านกันนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ปุยหมาม่วง ที่ 23-02-2014 22:58:51
อ่านจบแบ้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อิชั้นมาเจอเข้าและอยากอ่านด้วยเพราะชื่อคนเขียน
ที่ประทับใจมาตั้งแต่ รอยรักจำหลักใจ
แต่ตอนนั้นเปิดดูแล้วยังไม่จบ ก็เลยยังไม่อ่านเพราะชอบอ่านแบบไม่ค้าง
แต่ก็ลองอ่านตอนแรกไปสรุปว่าชอบก็เลยรอมันจบแล้วกลับมาอ่าน

มาดูอีกที จบแล้วเลยอ่านรวดเลย

เหมือนเดิมนะคะในเรื่องของการบรรยาย ปมเล็กปมน้อยที่ยังทำได้ดี
สำหรับเราเรื่องนี้ออกจะดูวัยรุ่นกุ๊งกิ๊งกว่ารอยรักฯเนอะ เรื่องนั้นออกแนวผู้ใหญ่มากๆ
เราชอบที่งานของคุณเดหลีไม่ง้องแง้ง นายเอกไม่สาวแตก แอ๊บแบ๊ว มีเสน่ห์แบบเว่อๆเกินไปแบบชนิดที่ถ้าเจอผู้ชาย10คนต้องเข้ามาจีบ10คน
อ่านแล้วมันดูจริงดีค่ะ แบบน่ารักกำลังดีไม่เว่อ
พระเอกก็ไม่งี่เง่าเว่อร์ๆ ทุกการกระทำของตัวละครมีเหตุมีผลในมุมของเค้า ไม่เว่อร์เกินจริงเกินไป
แบบหึงแล้วเอะอะฉุดกระชากๆทั้งเรื่องแบบนั้นก็ชอบนะแต่ถ้าเยอะก็ดูนิย้ายยยยนิยายอ่ะ แบบมันดูเด็กน้อยไปในบางที 555
ตัวละครไดูจับต้องได้ ไม่ใช่เอาแต่รวยแล้วเอะอะไรก็ใช้ลูกน้อง ๆ ใช้ตังฟุ่มเฟือย
(ขนาดพี่วิลรวยจะตายยังไม่เว่อร์เลย คือดูรวยแบบปกติ  คือบางเรื่องพระนายยังขอตังแม่แท้ๆแต่ใช้ตังเว่อมากกก <<บ่นเรื่องอื่นทำไม 5555)


เราชอบดราม่าของคุณจังมันอ่านแล้วหวิวๆ คือเราไม่ชอบดราม่าที่อ่านแล้วหน่วงหดหู่เหมือนชีวิตเคว้างคว้างอะไรแบบนั้น 555
ชอบดราม่าแบบพอสังเขป มีไม่เข้าใจกันบ้าง เข้าใจผิดกันบ้างอะไรแบบนี้มากกว่า แล้วสุดท้ายก็เคลียกันได้
จริงๆคืออธิบายไม่ถูกแฮะ

#อยากอ่านตอนย้ายเข้าห้องวันแรกมาก แบบนอนเตียงเดียวกันครั้งแรกเป็นยังไงเกิดอะไรขึ้นมา เคอะเขินกันมั้ยอะไรแบบนี้
ตรงนี้ไม่มี มารู้อีกทีแบบว่าผ่านมาหลายวันแล้ว อันนี้ผิดหวังนะ เคือง ฮึ
#เอนซีครั้งแรก อยากอ่านอ่ะ แบบเข้าใจว่าคนเขียนคงจงใจไม่เขียนแต่คือเขียนแบบมองตา ล้มลงนอนแล้วตัดไปที่โคมไฟ  มาอีกทีเช้าเลยก็ได้
คือประเด็นแค่อยากเห็นว่าครั้งแรกของทั้งคู่เริ่มต้นยังไง เป็นไปในแนวไหนแค่นั้นเอง ฮึกๆๆ
สำหรับคนอ่านอย่างอิชั้นคิดว่ามันสำคัญมากๆ เหมือนได้เห็นพัฒนาการในอีกขั้นของพวกเค้าว่า มันเกิดขึ้นแล้ว เค้าพัฒนากันแล้ว

อาจดูหื่น 5555 แต่จริงจังเลยว่าไม่ได้หวังจะอ่านฉากหื่นเลยจริงๆ แต่เราว่าฉากนี้มันสำคัญอ่ะค่ะ อันนี้มันมารู้อีกทีคือได้กัน(ครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้)แล้ว มันดูก้าวกระโดดอ่า
เราว่าครั้งแรกสำคัญมากนะ


สรุปเลยละกัน

ชอบการบรรยายที่ให้แง่คิด บรรยายในสิ่งที่้เราไม่เคยนึกถึง อ่านๆไปก็แอบคิดว่า คนเขียนคิดได้ยังไงน้า


เราว่านิยายของคุณเดหลี เป็นนิยายที่ควรคู่กับคำว่า "นิยายดีๆ" นะคะ


^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-02-2014 21:29:19
อ่านรวดเดียวจบ
อบอุ่น ประทับใจครับ
เรื่องนี้คงเป็นกำลังใจให้หลายๆ คน ไม่หมดหวังในการตามหาคู่ชีวิตกันต่อไป
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: waerp_ ที่ 26-02-2014 00:55:25
ชอบภาษาและการบรรยายเรื่องมาก ๆ ค่ะ
ชอบบรรยากาศของตัวละครด้วย ดูจิต ๆ ไงไม่รู้ ๕๕๕

ถือเป็นเรื่องที่ติดอันดับท๊อปเท็นในดวงใจแบบแซงทางโค้งมาก ๆ

ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ ให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-02-2014 10:20:16
จบได้น่ารักและมีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jj-pits ที่ 01-03-2014 02:48:20
 :mew1:  :mew1:  :mew1:

มุมิ มุมิ อ่านจบแล้วเปรมคร่าาาาา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Deuan ที่ 01-03-2014 11:13:17
เป็นเรื่องเบาๆ ละมุนๆ อ่านเพลิน น่ารักดีค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 02-03-2014 19:05:25
อยากอ่านภัค กับเสี่ยจริงๆ น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: evil_kun ที่ 12-03-2014 16:20:56
นั่งอ่านเรื่องนี้รวดเดียว ที่ทำงานทั้งวันเลย 555

ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องดีๆค่ะ
อ่านแล้วอบอุ่นมาก

รักพี่แทค ชอบน้องโอบ อยากได้น้องโอบมาไว้ที่บ้านบ้าง >_<
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: nichytaec ที่ 18-03-2014 19:40:47
จะผิดไหมคะถ้าจะปันใจให้กับเสี่ยมากกว่าคู่หลัก 555+ ชอบอะดีแล้วที่ได้คู่กับเค้าสักที แต่ไม่ใช่ไม่ชอบแทคกับโอบนะคะ เพราะยังไงคู่นี้ก็ดำเนินเรื่องเนอะ เสียดายคุณศรัณย์ อย่างนี้ต้องเชียร์น้องไมค์ให้มาสมัครเมมเบอร์บริษัทนี้ซะแล้วสิ 555+ ของคุณนะคะอ่านเพลินและน่าติดตามทุกตอนเลยค่ะ โชคดีที่แทคได้รับความรักจากคนดีๆ เช่นโอบเนอะ ส่วนโอบเองก็ได้ผลตอบแทนจากความอดทนและพยายามอย่างมากด้วย สรุปวินวินทุกฝ่าย อิอิ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Sillyfoolstupid ที่ 08-04-2014 21:16:40
กลับมาบวกเป็ดให้แล้วทุกตอน

เผื่อคุณเดหลีจะปล่อยผลงานเรื่องใหม่เร็วขึ้น

อยากอ่านแล้ววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 25-08-2014 18:03:00
ขอบคูณสำหรับนิยายดีๆๆค่ะ :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_psj ที่ 06-09-2014 17:51:45
ขอบคุณมากๆสำหรับนิยายดีๆ อีกแล้ว ก็มันจริงๆนี่เนาะ :impress2:

แทนคำอื่นไม่ได้แล้ว นิยายดีๆ ที่คนเขียนที่จิตใจดีเขียนมาให้อ่าน

ขอบคุณมากๆจริงๆค่า 

รออ่านเรื่องต่อไปด้วยคนนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 07-09-2014 16:17:07
อ่านจบแล้ว
น่ารักกันทุกคนเลยค่ะเรื่องนี้ เป็นนิยายที่ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ
เหมือนชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องมีตัวอิจฉาเหมือนเรื่องส่วนใหญ่ แต่ก็สื่ออะไรออกมาได้ชัดเจน
เพราะในความเป็นจริงแล้วตัวทุกคนเองก็มักจะมีความขัดแย้งในตัวเองกันอยู่แล้วเนาะ
ชอบภาษา และทักษะที่คนเขียนใช้ค่ะ อย่างที่หลายๆคนบอก นักเขียนแต่ละคนก็มีแนวการเขียนที่แตกต่างกัน
แต่สิ่งที่สัมผัสได้จากการเขียนเรื่องนี้คือ เป็นแนวการเขียนที่คนเขียนเหมือนตั้งใจจะบอกอะไรไว้แต่ก็จะไม่ได้บอกไว้ตรงๆ
ในแต่ละประโยคเหมือนจะมีนัยยะสำคัญในตัวมันเอง ประมาณว่าต้องอาศัยการตีความนิดหน่อย
ให้ความรู้สึกว่ามีเสน่ห์และชวนให้ต้องคิดตามตลอดเวลา

 สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณมากสำหรับงานเขียนดีๆอย่างนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายไผ่ ที่ 12-09-2014 19:58:06
โอบน่าร๊าก
ตอนแรกนึกว่ายาวววว
น่าเบื่อ

แต่พออ่านจบนะยิ้มไม่หุบเลย
เสี่ยน็อตก็น่ารักได้อีก :katai5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: express_men ที่ 18-09-2014 00:47:09
ขอบคุณมากครับ เป็นงานเขียนที่มีเอกลักษณ์ดีครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 20-09-2014 17:47:25
 :mew1: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 22-09-2014 08:05:28
เป็นอีกเรื่องที่สนุกจนอ่านรวดเดียวจบ ปวดหัว ปวดตากันเลยทีเดียว แต่ไม่ปวดตับ
ชอบตรงที่ไม่มีตัวอิจฉา ไม่มีมือที่สาม มาให้ดราม่า
   
"ที่ว่ามีเรื่องอะไรบอกกันบ้างแทคก็ยังคิดว่าถ้า ต้องบอกอะไรคือการกวน...แทคจะไปไหนเจอ ใครไม่มีปัญหาแค่...ถ้าไปเกิดปัญหาที่ไหนแล้ว ขอให้บอก"

แนวคิดการคบกันของโอบ น่านำมาเป็นตัวอย่างนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 22-09-2014 12:19:05
สนุกมากค่า ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจังไม่กินหัวหอม ที่ 27-09-2014 03:13:35
อ่านจบแล้วสนุกมากชอบภาษาของคุณเดหลีมาก อยากบอกว่าอ่านรอยรักจำหลักใจไปประมาณ 4-5 รอบได้แล้ว ชอบการดำเนินเรื่องปมที่ซ้อนกันไว้ ขนาดอ่านจนจบเนื้อเรื่องได้แล้วยังรู้สึกตื่นเต้นไปทุกครั้งไม่ได้เลย
ส่วนเรื่องนี้เรื่องนี้เนื้อหาดำเนินไปเรียบๆ แต่ก็สนุกดีเป็นความรักแบบผู้ใหญ่
เปิดเรื่องใหม่เมื่อไร จะรอติดตามผลงานต่อๆไปนะครับ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 07-10-2014 22:19:30
ขอบคุณค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: bookie ที่ 03-11-2014 00:58:52
น้องโอบน่ารัก แต่คนแบบนี้ช่างหายากนักใจชีวิตจริง
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 06-02-2015 11:18:05
เรื่องนี้เรามีโอกาสได้ติดตามตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่คุณเดหลีลง
จนกระทั่งเรื่องดำเนินไปได้พักหนึ่ง เราก็ออกไปใช้ชีวิต
ไม่เรียกว่าไม่ว่าง แต่เรียกว่าออกไปใช้ชีวิตในอีกมุมหนึ่ง
เลยไม่ได้เข้ามาอ่านต่อ ค้างไว้นาน 2 ปี

ช่วงแรกที่เข้ามาที่เล้าหลังจากหายไป
เรื่องแรกก็เรื่องใหม่ของคุณเดหลีอีก อย่างที่บอก ชอบเรื่อง ชอบภาษา

ยอมรับเลยค่ะว่าจำเนื้อเรื่องที่อ่านค้างไว้แทบไม่ได้เลย
แต่มาดูคอมเม้นเก่าๆ ของตัวเอง ที่โอดโอยถึงความน่ารักของน้องโอบ
มันก็เหมือนตะกอนที่เริ่มฟุ้งขึ้นมาว่า เรื่องนี้มันกรุ่นอยู่ในใจ อยากจะลองเข้ามาเชียร์น้องโอบอีก

และเป็นอย่างนั้น เข้ามาก็อยากเชียร์น้องโอบอีก น้องโอบน่ารักมาก
อยากรู้ปมในใจของพี่แทค และสงสัยว่าน้องโอบสนใจพี่แทคยังไง
รวมไปถึง ยี่เป็งเมื่อตอนพี่แทคปี 2 มันเกิดอะไรขึ้น

พอได้รู้ ก็ยิ่งรักน้องโอบ อยากเชียร์ให้น้องสมหวัง
และดีใจที่กำแพงของพี่แทคค่อยๆ หายไป
ชอบพี่แทคที่ตรงไปตรงมากับความรู้สึก และน้องโอบที่ตรงไปตรงมาตลอด

ไม่มีอะไรที่เดาผิด แม้กระทั่งว่าคุณศรัณย์ชอบพี่แทค
แต่ที่ทำให้ตกใจคือเรื่องของภัคกับเสี่ยน็อต คืออันนี้อยู่เหนือที่คาดหมาย
แต่ก็ดีใจกับเสี่ยด้วย เราชอบลุคของภัค น่ารักดีในความรู้สึก

เรื่องนี้สำหรับเรา ค่อนข้างอ่านยากนิดนึง ต้องใช้สมาธิในการอ่าน
บางประโยคต้องใช้อ่านซ้ำ แต่มันคือเสน่ห์ของน้องโอบเลย
อ่านแล้วรู้สึกปริ่มในใจ และความคิดของพี่แทคที่มากมาย แต่ไม่ซับซ้อนมาก
ยกเว้นเวลาที่พี่แทคเปรียบเทียบอะไร บางทีเราคิดไปไม่ถึงพี่แทคค่ะ
555555


ยังคงชอบโคตรงเรื่อง พล็อตเรื่อง เนื้อเรื่อง และภาษาของคุณเดหลีเช่นเดิมค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ของพี่แทคและน้องโอบที่ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ
ครั้งแรกแอบสะดุดที่ว่า เรื่องนี้คงกินเด็กแน่ๆๆ แต่อ่านไปอ่านมา ก็กินเด็กจริงๆแหละ
ก็เด็กน่ารักน้อยซะเมื่อไหร่คะ

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 06-02-2015 16:46:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 06-02-2015 19:55:54
อ่านจบแล้วต้องบอกว่าขอบคุณนะคะ
นอกจากความสนุกแล้วสารภาพเลยว่าได้ข้อคิดอะไรบางอย่างด้วย   :impress2:

แม้จะช้าไปหน่อยที่มาอ่านแต่ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องสนุกๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: mymicky ที่ 04-06-2015 22:13:24

เพิ่งมาเจอและได้อ่านเรื่องนี้ ต้องขอบคุณกระทู้แนะนำนิยาย... :pig4:

ถ้าถามว่าเรื่องนี้มีอะไร ก็คงตอบไม่ได้ แต่เพราะความไม่มีอะไร ความเรื่อยๆของเนื้อเรื่องที่สำคัญภาษา/สำนวนที่ใช้ มันชวนให้อ่านเพลิน แป๊บเดียว จบแล้ว  :mew3:

ชอบจริงๆค่ะ ชอบสำนวน เวลาอ่านบทพูดของ แทคกับโอบ มันธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง จนเหมือนเป็นเสน่ห์ เช่น ประโยคที่แทคสั่งเครื่องในตอนเดต(หรือเปล่า?)ครั้งแรกกับโอบ >> "ไม่กิน ทำไมไม่บอกตอนสั่ง" เชื่อไหมคะ เราอ่านแล้วแบบ เฮ้ยยย เออแหะ เวลาเราพูดในชีวิตจริงก็ประมาณนี้นี่นะ

นี่แหละค่ะ คือเสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้ สำนวนดี ภาษาที่ใช้เป็นธรรมชาติ บวกกับเรื่องราวหวานๆของคนสองคน  o13

อ่านแล้วได้มุมมองความรักไปพร้อมๆกัน จนรักโอบกับแทคไปเลย เผลอแอบเชียร์เสี่ยด้วยกลายๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 27-06-2015 13:29:42
เรื่องนี้ค่อยเป็นค่อยไป
อ่านตอนแรกคิดว่าแทครุกรุกนะ 55555555555555
โอบน่ารักเกิ๊น
แอบขำคู่เสี่ยนิดนิด ไม่คิดว่าจะสปาร์คกัน :hao7:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 01-07-2015 22:44:24
ผ่านไปนานพึ่งได้มาอ่าน

ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอผลงานดี ๆ อีกเรื่องนึง
ภาษามีจังหวะสวยงามมาก
อยากเจอหน้าคนเขียนแล้วชมให้ฟังจังเลยค่ะ
ให้พิมพ์นี่พิมพ์ไม่ออกเลย แค่รู้ว่าชอบไปหมด

จะอ่านผลงานที่ผ่านมาและจะรอติดตามผลงานใหม่ ๆ นะคะ
อยากได้เป็นหนังสือจังเลยค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 12-07-2015 12:35:40
รู้สึกเฉยๆกับแทคมาก ตั้งแต่ต้นเรื่อง

ทีมน้องโอบเต็มตัว  เหมือนโอบพยายามอยู่คนเดียวเลย

แต่พอแฟนเก่ากลับมา ก็อืม  โอเคขึ้นนะ 

เนื้อเรื่องเนิบมากก   

แต่ดีที่มีเฮียน็อตมาช่วยสร้างสีสันค่ะ เลยไม่รู้สึกเบื่อ 

คือเฮียตลกมากกก   :laugh:

ขอบคุณที่สร้างสรรค์ผลงานให้อ่านนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 21-07-2015 01:57:54
ดำเนินเรื่องเรียบง่ายแต่น่าติดตามมากเลยค่ะ ละมุนละไม หวานอย่างมีจังหวะ ไม่ได้เลี่ยนหรือรู้สึกขัดหูขัดตาอะไรเลย แถมยังมีการกวน ล้อเล่นน่ารักๆอีก เราชอบทุกตัวละครในเรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะน้องโอบ เป็นผู้ชายที่น่ารักมาก อายุยังน้อยแต่มีความมั่นคงสูงมาก น่าไว้วางใจและก็เข้าอกเข้าใจ เวลาอ่านตัวละครนี้จะชอบนึกถึงเพลง 'มันคงเป็นความรัก' 555555555 ส่วนแทค ก็เป็นนายเอกที่สวยงามตามท้องเรื่อง ขัดใจนิดหน่อยตรงที่ชอบคิดเองเออเอง แต่ก็เข้าใจได้เพราะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน ซึ่งก็ดีตรงที่พอมั่นใจปุ๊บก็เดินหน้าต่อทันที แล้วก็ชอบเวลาแทคหลุดภาษาใต้เล็กๆน้อยๆ น่ารักดี สำหรับคนที่อดพูดถึงไม่ได้ เสี่ยยยยย นางตลกด้วยน่าสงสารด้วย 5555555 ชอบเวลาคุยกับแทค เวิ่นเว้อดี ยิ่งตอนถ่ายรูปเปลือยบนส่งให้นะ เราขำหนักมากจนคนข้างๆตกใจ อะไรจะสื่อปานนั้นพ่อคุณ อ้อ ผิดคาดเหมือนกันที่คบกับคุณภัค
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 01-08-2015 01:01:54
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 07-08-2015 06:20:07
เรื่องสนุก น่ารัก มากๆเลยคะ  ขอบคุณนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 07-08-2015 16:59:25
ทําไมพึ่งจะมาเจอนิยายดีๆ อย่างนี้เอาตอนที่เร่ร่อนอยู่ในเล้าตั้งสามสี่ปีแล้วนะ

จําได้ว่าเคยเห็นแว่บๆ แว่บมาแล้วก็แว่บไปไม่ได้เปิดเข้าไปอ่าน เพราะตอนนั้นจะชอบเปิดอ่านเรื่องที่จบแล้วมากกว่า

จนไม่รู้หรอกว่าจบไปนานมากโขถึงขนาดนี้แล้ว

เอาจริงๆ คือเป็นนิยายที่ต้องอ่านทวนประโยคอย่างน้อยสักสองครั้ง

ไม่ใช่ว่าเขียนวกวนหรือเขียนไม่ดี แต่เพราะว่าดีมากจนต้องกลับไปอ่านทวนว่าเฮ้ย...เราอ่านเจอประโยคอย่างนี้ได้จริงๆ ในนิยายรักธรรมดาๆ อย่างนี้ได้ด้วยหรอ

ในเล้านี่ถือว่ารวม 'นักเขียน' ที่ใช้ภาษาได้สวยหลายท่านนะคะสําหรับเรา และเรายกให้ 'นักเขียน' เป็นท็อปลิสต์ในใจเราเลย

เพราะบางท่านก็ดําเนินเรื่องง่ายๆ ด้วยภาษาธรรมดาๆ (แต่อ่านแล้วก็จรรโลงใจนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่ดี)

แต่ท่านที่เขียนแนวแอดวานซ์หน่อยก็จะใช้อีกภาษาหนึ่ง

แต่นุกเขียนนี่เขียนเรื่องราวธรรมดาแต่ใช้ภาษาที่มันเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดานี่สิ

ชีวิตคนเราสักกี่คนจะเจอแบบนี้กันล่ะ? แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีเลยนี่เนอะ

นิสัยตัวละครหาได้จากบุคคลทั่วๆ ไป รอบข้างเราก็มี (แต่ไม่เพอร์เฟ็คลี่ถึงเพียงนี้ 555)

ชอบทั้งบรรยากาศเรื่อง และบรรยากาศของตัวละคร 'ทุกตัว' ธรรมชาติจนคิดภาพออก

รักมากเลย

อ่านรวดเดียวจบ (ทั้งๆ ที่ปวดกระบอกตาด้วยนะ จะอึดไปไหน)

ขึ้นแท่นนิยายในดวงใจเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-08-2015 15:48:45
สนุกมากค่ะ ชอบเสี่ยน็อตมาก5555
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Quipblur1994 ที่ 09-08-2015 19:14:49
อ่านจบแล้ว รู้สึกใจหายค่ะ เพราะนิยายดีมากจนไม่อยากให้จบเลย อ่านๆไปนี่ก็ค่อยๆละเมียดอ่าน เพราะกลัวจบ555555
ประทับใจมากๆเลยค่ะ เขียนดีมากจนเรารู้สึกผูกพันธ์กับทุกตัวละคร รู้สึกมันเรียลดี
ชอบบรรยากาศที่มันดูเหมือนไม่มีอะไร ชิลๆ แต่จริงๆแล้วมันมี เพราะในความเป็นจริงแล้วทุกความสัมพันธ์ของคนสองคนมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนทุกความสัมพันธ์
สิ่งที่เราชอบอีกอย่างก็คือ โอบและแทคเป็นคนที่มีเหตุผลมากๆ คืออ่านแล้วสัมผัสได้อ่ะว่าเป็นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะโอบ นายจะดีเกินไปละจนฉันนึกว่าเป็นเทวดา5555555
ขอบคุณมากเลยนะคะที่เขียนนิยายดีๆให้เราได้อ่านกัน เรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องที่จะเก็บไว้ในใจว่าเคยอ่านแล้วมีความสุข ประทับใจมากๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ :L2:

ปล.นายเอกตัวจริงต้องยกให้หนูเรือง เพราะน้องโผล่มาแต่ละตอน แย่งซีนพ่อแม่(บุญธรรม)ได้ม๊ด555555 :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: naja-kitase ที่ 26-08-2015 20:02:08
เพิ่งได้มาอ่าน

คือเห็นเรื่องนี้ผ่านตาไปๆมาๆ แต่ไม่คิดจะเปิดอ่าน
ด้วยการคาดเดาเนื้อเรื่องไปเอง
แต่ไม่คิดว่าเปิดอ่านมาจะเจอแบบนี้

แบบที่ตามหาเลย ฮือออออ
ชอบอ่านนิยายที่พระนายค่อยๆรักกัน ค่อยๆจีบกัน
พระเอกจีบนายเอกแบบ จีบอ่ะ เทคแคร์ดูแลรักจริง

มันดูชีวิตจริง พบได้ในชีวิตประจำวัน
และอินมากกกกกกกกก

ไม่มีดราม่าแต่แอบหวิวเล็กๆตอนแทคเข้าใจผิด ตอนนั้นชอบโอบมาก
ทำดีมาก ที่ไปถามความจริงกับภัคและมาอธิบายให้แทคเข้าใจ
ไม่มีงี่เง่ากัน ดีงามเหลือเกิน

ชอบเสี่ยกับภัค
ประทับเสี่ยน๊อต จริงๆนี่ก็เป็นผู้ชายอบอุ่นอีกคน
ชอบความน่ารักของคู่นี้

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ภาษาสวยๆแบบนี้นะค้าาาาา
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: M_April ที่ 29-08-2015 21:39:47
เพิ่งมีโอกาสได้อ่าน สนุกค่ะ

น้องโอบน่ารักจริงๆ

เสี่ยกับภัคแอบขโมยซีนนะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 18-10-2015 17:40:36
ชอบหลายๆประโยคในเรื่องนี้นะ ทั้งเปรียบเทียบเรื่องยากับแฟนพี่ เรื่องความรักกับสล็อตแม็ชชีน ทุกอย่างโอเคมากอ่ะ อ่านได้เรื่อยๆไม่ถึงกับว่า โหยดราม่าอ่ะพักก่อนสองวันมาอ่านต่อ ไม่ใช่นะ อ่านวันเดียวจบ เนื้อเรื่องเรื่อยๆนะแต่เป็นความเรื่อยๆที่ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ เหมือนทุกอย่างถูกปูทางไปเรื่อยๆ เรื่องทฤษฎีวาดรูปอันนี้มีจริงๆนะเราเคยลงเรียนจิตวิทยาครอบครัวเค้าก็บอกทำนองนี้ คนเรานึกถึงใครก่อนก็จะวาดคนนั้นแสดงว่าคนๆนั้นเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อเรามาก เราวาดรูปตัวเองคนแรกเลย แปลความหมายว่าเป็นคนที่รักและใส่ใจตัวเองมากกว่าใคร เราชอบอะไรที่เกี่ยวกับจิตวิทยานะ คิดว่าถ้ามีโอกาสได้ต่อป.โทจะลองเรียนด้านนี้ดู ชอบมาก อ่านเรื่องนี้แล้วได้เห็นมุมมองในหลายๆด้านของความรักนะ รู้สึกว่าแท็คโชคดีมากที่ได้เจอโอบ และโอบโชคดีมากที่แท็คก็ใจตรงกัน และเราก็โชคดีมากที่ได้อ่านเรื่องนี้ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 28-10-2015 10:04:38
เราว่าเนื้อเรื่องมันเรื่อยๆมาเรียงๆไปนิดหนึ่ง แต่ก็สนุกดี

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 05-11-2015 17:46:50
กลับมาอ่านรอบที่เท่าไหร่ สุดจะนับค่ะ แต่ความรู้สึกก็ยังเดิมๆ คือยิ้มอย่างมีความสุขตั้งแต่บทแรก กระทั่งบทส่งท้ายที่เพิ่งจบลงไปตะกี้

ความน่ารักของน้องโอบก็ยังกระแทกใจเราเหมือนเดิม บทพูด-บทคิดของพี่แทคก็ยังประทับใจอยู่เหมือนเดิมค่ะ

เรื่องมันเริ่มจากเช้าวันหนึ่ง อยู่ๆ ก็คิดถึงน้องโอบขึ้นมาซะเฉยๆ ค่ะ ระหว่างที่รอพี่หมอพัทธ์ ก็เลยแอบแว่บมาหา ภก.โอบกิจ ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 09-04-2016 16:19:12
น่ารักมาก ๆ ครับ เป็นเรื่องที่อ่านได้เรื่อย ๆ มีหน่วงบ้างนิดหน่อย ผมชอบคู่ เสี่ยน๊อต-ภัค นะ น่ารักดี

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 06-05-2016 02:17:36
แรกๆงงกับสำนวนนิดหน่อย แต่อ่านไปเรื่อยๆจนจบแล้วคือดีค่ะ ชอบมาก :กอด1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 08-05-2016 10:31:38
โอบนี่เป็นผู้ชายในฝันของหลายๆคนเลยนะ รวมทั้งเราด้วย
นีกเราคนเดียว รักมั่นคงไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล พยายามทำความเข้าใจ อดทน
พยายามเรียนรู้กัน ใส่ใจรายละเอียด ไม่จู่จี้ขี้บ่น ไม่โทรเช็คโทรตาม
ไว้ใจกัน ไม่ได้คาดหวังในตัวเราสูง รักในแบบที่เราเป็น
อะไรจะดีขนาดนี้
อ่านแล้วยิ้มมีความสุขตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนสุดท้ายเลย
สนุกมากกก แต่ตอนแรกจะงงๆกับสำนวนแบบนี้นิดหน่อย
บางประโยคเหมือนเชื่อมประโยคด้วยเซมิโคลอน555 ต้องเติมเอง
แต่อ่านไม่เรื่อยๆรู้สีกว่ามันคือเสน่ห์ อ่านแล้วได้ฟิลดีจัง อะไรแบบนี้
ภก. โอบกิจ น่ารักมากกนะ ไม่หวานเลี่ยน แต่ทำตัวเป็นต้นไม่ใหญ่อะ
ไว้พักเวลาเหนื่อย ไว้กันฝนเวลาฝนตก ไว้หลบแดด
ต้นไม้ที่'ให้'อะไรหลายๆอย่างกับหลายๆคน เป็นที่พักพิงที่ดีมากเลยอะ
แทคนี่เป็นตัวอย่างของคนที่ถูกประสบการณ์หล่อหลอมมาจน้ปลี่ยนไปจากเดิม
เพราะประสบการณ์แย่ๆทำร้ายมา เลยไม่เปิดใจให้ใครทั้งนั้น
หมดศรัทธาในความรักทั้งๆที่งานเกี่ยวกับพวกนี้
เป็นคนมีปมแต่มีกำลังใจจากคนรอบข้างล้นเหลือ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ สนุก อ่านลื่น คำผิดน้อยมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Gnaap ที่ 18-07-2016 04:19:01
ชอบบรรยากาศในเรื่องมากเลยค่ะ มันก๊าวใจมากกก  :-[
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 20-07-2016 13:35:09
หาแบบน้องโอบให้สักคนสิคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 22-07-2016 00:03:54
 :m1: :m3: :m1: :m3: :m1: :m3: :m1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 30-01-2017 13:21:44
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 15-03-2017 21:11:47
สนุกมากอีกแล้ว ปกติเราจะเบื่อแนวที่เล่ามุมมองบุคคลที่หนึ่งเพราะอ่านมาเยอะจนเกลื่อนแล้ว
แต่อันนี้ไม่เลยค่ะ ภาษาและการเล่าเรื่องน่าติดตามมาก แต่ละรายละเอียดไม่บอกกันโต้งๆ
ทำให้เราได้คิดและอยากติดตาม ไม่อยากจะข้ามสักตัวอักษรเลย ขอชื่นชมจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 04-05-2017 12:43:13
เป็นนิยายเรื่อยๆที่อ่านแล้วสนุก และมีความสุขมากค่ะ
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 10-05-2017 00:15:01
เป็นคู่ที่ดูเหมือนจะเรื่อยๆ แต่หนักแน่นกันมาก
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 23-11-2018 05:17:08
ขอบคุณมากๆค่ะ ชอบพระเอกแบบโอบจัง :hao5:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jorainy ที่ 07-07-2020 21:34:53
ประทับใจอีกเช่นเคย เป็นนักเขียนที่มีฝีมือมากจริงๆ ค่ะ ครบทุกรส ในเรื่องนี้ จริงๆตามมาจากอีกเรื่อง เพราะประทับใจในฝีมือการเขียนและเล่าเรื่อง พล๊อตเรื่อง เรื่องนี้อ่านไปก็ยิ้มไปกับทุกตัวละคร แม้แต่หนูเรืองและเพื่อนไมล์ ที่ยิ้มกว้างที่สุดคงเป็นเสี่ยน๊อต ที่เราช่วยตามลุ้น ตามเชียร์ไม่แพ้คู่หลักมาตั้งแต่ต้น จนจบ
น้ำตาซึมเล็กๆกับคำสอนของพ่อกับแม่ อ่านนิยายของคุณเดหลีแล้วมันอิ่มจริงๆค่ะ  มันเต็มตื้นในใจ ขอบคุณมากๆกับความตั้งใจ  กับผลงานดีๆ แบบนี้ จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้นะคะ 

Sent from my CPH1727 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Sriwanan ที่ 10-07-2020 17:36:55
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Sriwanan ที่ 11-07-2020 13:06:55
ขอบคุณครับ อ่านจบแล้ว เป็นเรื่องที่ดีเลยครับ ไม่หวือหวามาก แต่ก็แฮปปี้ o18 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 18-07-2020 17:19:47
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: