พักเที่ยงของวันรุ่งขึ้น หลังจากรีบ ๆๆ กินข้าวกลางวันแล้ว ผมก็แอบไอ้ลิงไปนั่งรอคุณน้องโฟร์ ที่ห้องสมุด เลือกมุมที่เงียบ ๆ จนผ่านไปครึ่ง ชม. ก็มีผู้หญิงคนนึงที่ผมเห็นอยู่เป็นประจำ เพราะเธอเด่นเหลือเกินในหมู่นักเรียน หน้าตาสะสวย มองด้านซ้ายเหมือน พิ้งกี้ ด้านขวาเหมือนอั้ม ด้านหลังเหมือนนุ่ม ด้านหน้าเหมือน ส้มเช้ง แป่ววววว ไม่ช่ายยยยยยย สรุปว่า โดยรวม ๆ แล้วสวยมาก แถมยังอยู่ชมรมการละครอีกด้วย บ้านก็รวยอีกต่างหาก
“รอนานไหมคะ”
“อ้อ ไม่ครับ ไม่เป็นไร” ค่ะ ให้กรูรอตั้งครึ่งชม.
“เห็นพี่หญิงบอกว่าโฟร์ มีเรื่องให้ทางชมรมผมช่วย ไม่ทราบว่าเรื่องอะไรหรอคับ” ผมไม่รอช้า พุ่งเข้าสู่ประเด็นหลักของการสนทนาวันนี้ทันนี้ แต่โฟร์เขาคงยังไม่ทันได้ตั้งตัวมั้ง เห็นผงะไปเล็กน้อย หน้าที่ขาวใสก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูจาง ๆ ทันที มือก็ยกขึ้นมาเสยผมแก้เขินทันที
“เออ...คือว่า.....คือ....เออ...คือตัวฉัน....เออ...แบบว่ามัน...” จะเอาให้จบเพลงเลยไหมครับ แหม ลอกเพลงอั่ม อัมรินทร์ มาทั้งดุ้นขนาดนี้
“โฟร์นี่ก็ขำดีเหมือนกันนะ” ขำตายละ
“นายชื่ออะไรหรอ” เออ ลืมแนะนำชื่อไปเลยกรู
“เรา มะขามครับ อยู่ชั้นเดียวกันกับเธอนั่นแหละ แต่คนละห้อง”
“อ้อ มะขาม คริคริ” ตลกอะไร ชื่อกรู ไม่ใช่หม่ำ จ๊กม๊กสักหน่อย
“แล้วมีเรื่องอะไรจะให้ช่วยครับเนี่ย” ผมตัดบทเข้าเรื่องทันที ไม่งั้นเดี๋ยวมันขำอีกนาน
“คือ....ว่ายังงี้” น้องโฟร์นิ่งไปนิดนึง ก่อนที่จะตัดสินใจพูดต่อ ขนาดท่าคิดก็ยังสวยซะ
“คือว่า เรานะแอบชอบคน ๆ นึง เขาเป็นคนที่น่ารักมาก ๆ นิสัยก็ดี แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า เขายังไม่รู้หรอกว่าเราชอบเขาอะ” ดูท่าทางเคลิ้มของไอ้น้องโฟร์แล้ว ท่าทางหมอนี่คงจะน่ารักจริง ๆ
“แล้วทำไมไม่บอกเขาละครับ” น่านนะสิ มาบอกกรูทำไมวะ
“ฟังก่อนดิ..คือว่าเรากับเขานะ ค่อนข้างใกล้ชิดกันพอสมควรเลยหละ แต่ด้วยความใกล้ชิดเนี่ยแหละ ทำให้เราไม่มีโอกาสได้บอกเขา แต่ตอนนี้เราตัดสินใจแล้วว่าเราจะบอกเขา
“แล้วทำไมโฟร์ถึงได้ตัดสินใจจะบอกเขาหละ”
“ก็เพราะว่าเรารักเขานะสิ รักมากด้วย แต่ว่ามันจะมีประโยชน์อะไรหละ ถ้าเขาไม่รู้ว่าเรารักเขา”
“อืม...” เจอคำตอบนี้ไป ทำเอาผมพูดอะไรไม่ออกเหมือนกันครับ ทำไมชีวิตน้องโฟร์ถึงเหมือนกับชีวิตผมเลยน้า ตอนนี้ผมรู้แล้วหละครับ หลังจากที่คิด
ทั้งคืน ว่าไอ้โรคประหลาด ๆ ที่ผมเป็นนั่นอะเราเรียกว่า “รัก” คงไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าผมรักใคร แต่จะถามว่ามันเริ่มจากตรงไหน ผมเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน”
“แล้วมีอะไรจะให้ชมรมช่วยหรอ”
“เราอยากบอกรักเขาคนนั้น ผ่านทางรายกายของชมรมนะ” O_O อึ้งครับ นี่หมายความว่า คุณน้องโฟร์คนนี้จะป่าวประกาศไปทั่วโรงเรียนว่าเธอรักเขาคนนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคนนั้นจะรู้สึกยังไงเหมือนกัน
“แล้วนี่เธอไม่กลัวว่าเขาคนนั้นจะตกใจ หรือว่าอาย อะไรหรอ”
“อืม ก็กลัวเหมือนกัน แต่ว่าฉันได้เตรียมใจไว้แล้วหละกับผลที่จะเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าผลจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังถือได้ว่าเราได้ทำอะไรเพื่อความรักแล้ว ดีกว่ามานั่งโมโหตัวเองเมื่อเวลาผ่านไปว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ทำ จริงไหม”
ผมไม่ตอบ ครับ ได้แต่พยักหน้า หงึก ๆ แทนคำตอบ ขนาดคนสวย ๆ ขนาดนี้ยังมีเรื่องกลุ้มใจเรื่องความรัก นับประสาอะไรกับคนอย่างเรา
“ตกลงครับ ผมจะช่วยโฟร์เอง ให้โฟร์ได้บอกรักคนที่โฟร์รัก ส่วนเรื่องเวลา และสถานที่ เดี๋ยวผมจะนัดอีกทีนึง ผมจะพยายามทำให้โฟร์สมหวังให้ได้นะ รับรองว่านายนั่นต้องปลื้มมากแน่ ๆๆ”
“จริงนะ มะขาม”
“อืม จริงสิ” ดวงตาที่เป็นประกายของโฟร์ ทำให้ผมตื้นตันอย่างประหลาด และเต็มใจที่จะช่วยให้เขาสมหวัง
“เรามาพยายามด้วยกันนะ” น้องโฟร์เอื้อมมือมาจับมือผม และพูดกับผม
“อืม ได้ เราจะพยายามด้วยกัน” หวังว่างานนี้คงจะผ่านไปอย่างราบรื่นทั้งคู่ของโฟร์ และคู่ของ....ผม
เราจะพยายามด้วยกัน
หลังจากวันนั้นผมก็ได้ไปประชุมกับพี่โมบาย ในฐานะตากล้อง โดยเราได้ตัดสินใจที่จะทำการถ่ายทอดสดออกอากาศผ่านทางรายการของชมรมไปทั่วโรงเรียน ไหนจะเตรียมเรื่องสถานที่ เวลาที่เหมาะสม รวมทั้งสคริปของทั้งโฟร์และผม
“จริงหรอที่ว่าน้องโฟร์เขาจะบอกรักถ่ายทอดสดอะ” พี่โมบายพูดเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง หลังจากที่ผมเล่าให้พี่โมบายฟัง
“อืม ใช่ กล้าเนอะ”
“อืม กล้ามาก ๆ”
“นายนั่นโชคดีเป็นบ้าเลย รู้เปล่า”
“หรอ พี่คิดอย่างนั้นหรอครับ”
“ใช่สิ คิดดูสิ คนที่กล้าทำอะไรแบบนั้นเพื่อใครสักคนอะ คงจะต้องรักเขามากเลยหละ”
“อืม” และแล้ว คำพูดของโฟร์ก็แว่วเข้ามาในหัวอีกครั้ง
หลังจากคุยกับพี่โมบายเสร็จแล้ว ผม พี่หญิง พี่หนุ่ม และพี่โมบาย ได้ประชุมกันไว้ว่า เราจะใช้ดาดฟ้าของโรงเรียนเป็นสถานที่บอกรักของโฟร์เขา เนื่องด้วยว่าเป็นสถานที่ที่เงียบ ปลอดโปร่ง เหมาะสมกับการบอกรักเป็นที่สุด ส่วนวันที่นั้นก็คือหลังจากนี้ไป อีกหนึ่งอาทิตย์
ผมบอกกับตัวเองว่า จะทำให้โฟร์ได้สมหวัง ให้สมกับความตั้งใจ ก็นะ จะมีสักกี่คนกันหละ ที่กล้าหาญทำเพื่อความรักซะขนาดนี้ ผมจะไม่ยอมทำให้โฟร์ผิดหวังเด็ดขาด
“ตื่นเต้นไหม” ผมถามโฟร์ขณะที่เราอยู่กันตามลำพังระหว่างประชุมเพื่อเตรียมงานครั้งสำคัญนี้
“อืม นิดหน่อยอะ แต่รู้สึกดีมากกว่า” ผมสำผัสได้ถึงความดีใจ ความสุขของโฟร์เขา
“ขอให้สมหวังนะ”
“อืม ขอบใจจะ” หลังจากนั้นผมกับโฟร์ก็เงียบไปอึดใจ ก่อนที่ผมจะตัดสินใจถามถึงความรู้สึกของโฟร์
“เธอกล้าจังเลยเนอะ เราคงไม่กล้าอย่างเธอหรอก”
โฟร์เอื้อมมือมาจับมือผมพร้อมกับบีบคล้าย ๆ จะให้กำลังใจ “ความรักไงหละ ที่ทำให้เราได้ตัดสินใจที่จะบอกรักคนที่เรารัก นี่แหละ คือสิ่งที่กระตุ้นให้เราทำในสิ่งที่ควรทำ
“ควรทำหรอ” ผมถามซ้ำด้วยความไม่เข้าใจ
“ใช่ ควรทำ เราคิดว่าความรักมันก็เหมือนกระดาษว่าง ๆ นะ เราอยากให้มันออกมาเป็นแบบไหน หรือมีสีสันอย่างไร เราก็ระบายมันลงไป
“เธอจะบอกว่า ความรักนั้น สามารถออกแบบได้หรอ”
“ใช่ ความรักสามารถออกแบบได้”
“แล้วเธอหละ มีความรักไหม” โฟร์ย้อนถามผม
“อืม...จะว่ามีก็ไม่ใช่ ก็คงคล้าย ๆ กับเธอนั่นแหละ แอบรักเขานะ” ผมคว้ากระดาษสคริปในมือขึ้นมากัดแก้เขิน
“เรารู้” โฟร์ยิ้มน้อย ๆ ตอบผม
“เธอรู้.....รู้ได้ไงอะ” ผมแปลกใจที่โฟร์รู้ว่าผมแอบรักคนอื่น หวังว่าจะไม่รู้นะว่าใคร
“พี่โมบายใช่ไหมหละ” เฮ้ยยยยยยยย มะ...มะใช่ เอ้ย ไม่รู้
“555555” โฟร์หัวเราะอย่างรู้ทัน ทำเอาผมหน้าแดงซะเอง
“แล้วโฟร์รู้ได้ไงหละ”
“แหม สังเกตนิดหน่อยก็รู้แล้วหละ” โฟร์สะบัดบ๊อบใส่อย่างมั่นใจ แต่ผมไม่ตอบเอาแต่ก้มหน้า นี่กรูดูง่ายขาดนั้นเลยหรอวะ
โฟร์เอื้อมมือมาจับมือผมเหมือนจะให้กำลังใจ
“เราจะพยายามด้วยกันไง จำได้ไหม” ผมพยักหน้าตอบอย่างเข้าใจ และยิ้มรับความรู้สึกนั้น เสียงพูดที่ว่า เราจะพยายามด้วยกันของโฟร์ ยังก้องอยู่ในหัวผม