G A Y P O R N
[แฝด x แฝด]
[ตึก X CASTLE ]
“ลมลองเก็บเรื่องนี้ไปคิดดูอีกสักคื--”
“ไม่ครับ”
“แต่ว่--”
“เลิกเดินตามผมได้แล้วพี่ จะกลับบ้าน”
“ค่าตอบแทนตั้งเจ็--”
“ไม่เดือดร้อนเงิน”
“โถ่ลมมม อย่าใจร้ายสิ่”
“พี่ชุนอย่าขวาง จะขึ้นรถ”
ผมเริ่มดุเสียงแข็ง เมินสายตาของคนตัวเตี้ยที่พยายามออดอ้อนและหว่านล้อมเต็มที่ให้ผมรับ’งาน’ที่ผมไม่เต็มใจ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ย้ายจากยืนขวางประตูรถไปยืนขวางหน้ารถให้ผมขับออกไปไม่ได้แทน
“พี่ชุน ผมหิวข้าวโว้ย อย่ามาขวาง!” ผมขึ้นเสียงใส่เมื่อหมดความอดทน โมโหทั้งเรื่องนี้และโมโหหิวด้วยจนไม่เกรงใจแม่งละ บอสก็บอสเหอะ เออ! เข้าใจไม่ผิดหรอกครับ ผู้ชายหน้าตาน่ารักแต่ตัวเตี้ย ๆ แคระ ๆ ที่ตามตื๊อให้ผมรับงานจนน่ารำคาญอยู่นี่คือบอสใหญ่ของ X CASTLE ค่ายผลิตสื่อ GAY PORN ทั้งหนัง นิตยาสาร และ Photo book ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในตอนนี้
ซึ่งผมก็คือหนึ่งนักแสดงของค่ายเกรด Royalty (TOP 10) ส่วนไอ้งานที่เป็นปัญหาอยู่นี่ไม่ใช่งานถ่ายหนัง แต่เป็นงานถ่ายแบบลง Special Photo Book ฉลองครบรอบ 2 ปีของค่าย ซึ่งมันก็มีหลายคอลัมน์ในเล่มแต่ไอ้ที่ผมต้องถ่ายเป็นคอลัมน์ TWINCEST คือต้องเยกับฝาแฝดของตัวเอง! ซึ่งทั้งผมและมันก็เป็นรุกกันทั้งคู่ไง แต่ผมดันต้องเป็นรับให้แฝดตัวเอง แต่คิดกูก็เสียวตูดแล้วแม่ง ข้างหลังกูไม่ได้มีไว้ให้ใครเสียบโว้ยยย ต่อให้เป็นฝาแฝดกูก็ไม่ยอม!
“เล่นไรกันเนี่ย” พี่เบสท์หนึ่งในนักแสดงของค่ายเกรด Royalty เช้นเดียวกันกับผมเดินผ่านมาเจอก็ขมวดคิ้วถามงงๆเมื่อเห็นบอสใหญ่กางแขนกางขาขวางรถผมไม่ยอมขยับ
“บอสงอแงชิบหายเลยพี่เบสท์ เอาไปเก็บที” ผมบ่นอย่างโคตรหัวเสียเพราะหิวข้าวมาก พี่เขาหัวเราะแล้วจับบอสอุ้มพาดบ่าเดินเข้าตึกไปแบบสบายๆ บอสดูพยายามขัดขืนแต่ตัวเท่าลูกหมาดิ้นให้ตายยังไงก็สู้แรงพี่เบสท์ไม่ไหวหรอกนั่นน่ะ
ผมถอนหายใจแล้วเหยียบคันเร่งแบบไม่ระวังเพราะอยากรีบไปกินข้าว แต่ความชิบหายก็มาเยือนเมื่อ..
เอี๊ยดดดด
โครมมม!! BMW ลูกผมชนเข้ากับรถอีกคันที่จอดอยู่เต็มๆ ถุงลมนิรภัยฟาดหน้าผมป้าบใหญ่จนสมองตื้อไปหมด มึนจนทำอะไรไม่ถูก ผมพยายามลืมตาแต่ได้ไม่ถึงครึ่ง ได้ยินเสียงคนวิ่งมาดูกี่คนไม่รู้ แล้วก็ได้ยินเสียงตัวเองพูดใกล้ๆ
“
ลม! ลม! นี่น้ำเอง อย่าหลับดิ่วะลม” อ๋อเสียงไอ้น้ำ ไม่ใช่เสียงกู
“…”
“
ลมได้ยินน้ำมั้ย ลม” ได้ยิน กูได้ยิน แต่ตอบไม่ได้ กูมึน ไอ้เหี้ยลืมตาไม่ไหวละ เอากูส่งโรงบาลด้วย..
“…”
“
แม่งเอ๊ย! พี่เบสท์ได้รถยัง เร็วๆ ลมสลบไปแล้ว!!”
“…”
“อย่าเป็นอะไรนะ” [โรงพยาบาล]
“อื้อ..” ผมครางในลำคอเมื่อลืมตาขึ้นแล้วเจอกับแสงไฟสีขาวสว่างจ้าแยงตา
“ฟื้นแล้วหรอ” เสียงที่เหมือนกันกับเสียงผมแต่ทุ้มกว่าหน่อยเอ่ยขึ้น ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็นน้ำ
“อืม..” ผมตอบไหวแค่นั้น โคตรคอแห้ง น้ำเหมือนจะเข้าใจเลยรินน้ำใส่แล้วแล้วปักหลอดยกมาให้ดึ่ม เมื่อตาปรับสภาพได้ก็มองได้เต็มตาเลยเห็นน้ำ พี่เบสท์ บอส ผัวบอส น้องอัน พี่อิน พี่คริส พี่ฟอง พี่โบ้ท ยืนกันอยู่ข้างเตียงเต็มไปหมด ทุกคนดูมีสีหน้าโล่งใจเมื่อเห็นผมฟื้น
“มึงหลับไปโคตรนาน” ผัวบอสบอก
“กี่ชั่วโมงอะพี่” ผมถาม พี่เบสท์ชูขึ้นมาหนึ่งนิ้ว
“ชั่วโมงเดียวนานตรงไหนวะ”
“หนึ่งวันโว้ยไอ้ควายยย ทำพวกกูใจหายใจคว่ำหมด หมอแม่งก็บอกมึงไม่เป็นไรเลย แค่มีฟกช้ำ แต่หลับนานจนพวกกูวิตกกันไปหมด!”
“อ้าวหรอ”ผมยกแขนขาตัวเองขึ้นดู มันก็ขยับได้ปกติแค่มีปวดๆเล็กน้อยเพราะแรงกระแทกเท่านั้น อ้าวมีหัวแตกด้วยนี่หว่า “แล้วกลับบ้านได้เลยไหม” ผมถาม น้ำพยักหน้า
“หมอบอกตื่นก็กลับบ้านได้ ต้องพักผ่อนเยอะๆด้วย ที่มึงนอนนานกว่าจะฟื้นเพราะมึงพักผ่อนน้อยนี่แหละ” พี่เบทส์บ่น ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆแล้วพยักหน้ารับ
“เออใช่ แต่รถที่พี่ลมชน---” ผมเบิกตากว้างเมื่ออันพูดถึงสมองก็พึ่งนึกขึ้นได้
“เหี้ย! ลืมเลย แล้วรถเขาเป็นไงบ้างวะอัน ซ่อมเยอะมั้ย แล้วคันที่พี่ชนเป็นรถของใคร”
“ยับน้อยกว่ารถพี่หน่อย ส่วนเจ้าของก็พี่โบ้ทเนี่ย” อันตอบพร้อมกับชี้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่โบ้ทยิ้มบางๆก่อนจะเอ่ยคำที่ผมอยากตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอดยังดีกว่าตื่นมาได้ยินคำว่า..
“ค่าซ่อมห้าแสน”
เหี้ย “ละ..หลอกใช่ปะ” ผมถามเสียงสั่น
“อืม..จริงๆหกแสนห้า พี่ช่วยเราได้นิดหน่อย ห้าแสนก็พอ”
“รถมึงกี่ล้านเนี่ยพี่! ทำไมค่าซ่อมแพงขนาดนี้วะ”
“ก็บีเอ็มรุ่นเดียวกับเรา”
“โห..แล้วรถผมค่าซ่อมเท่าไหร่พี่”
“ของพี่โดนชนท้ายไง เลยถูกกว่าเราเอาหน้ารถชนมาเต็มๆ...มันก็...อืม..ก็หลายแสนอยู่” พี่โบ้ททำหน้าลำบากใจเหมือนไม่อยากพูด แต่ผมไม่อยากคาใจแล้ว บอกมาเหอะ จะได้ช็อครอบเดียวให้มันจบๆไป!
“เท่าไหร่พี่”
“มึงขายซากแล้วซื้อฟีโน่มาขับเหอะ จริงๆ อย่าซ่อมเลย” พี่คริสพูดแล้วก็โดนพี่ฟองตบหัวไปทีนึง ขอบคุณที่ตบแทนให้นะครับ
แล้วขณะที่ทุกคนกำลังเงียบ ก็มีเสียงเล็กๆจากก้อนเตี้ยๆที่มีตำแหน่งเป็นบอสพูดขึ้นมาว่า..
“การเงินมีปัญหา..แก้ผ้ามาถ่ายแบบให้พี่ก็ได้นะลม ค่าตัวงานนี้ตั้งเจ็ดแสน..”
มันใช่เวลาตื๊อกูมั้ยบอส! [คอนโด]
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ พลิกตัวไปมาจนน้ำรำคาญเลยรวบผมไปกอดเอาไว้หลวมๆ
“จะพลิกตัวทำไมหนักหนาเนี่ย”
“กูไม่อยากเสียลูกกูไป” ผมว่าพลางนึกถึงสภาพรถที่ดูจากมือถือของบอสถ่ายรูปเอาไว้ แม่งยับแบบยับเลยอะ ค่าซ่อมล้านกว่าๆแล้วประกันกูขาดไง ก็ต้องจ่ายเอง ความเหี้ยนี้..
“ลมแท้งหรือไง”
“ใช่เวลาเล่นมุกมั้ยน้ำ”
“ก็เห็นเครียด หึๆ เอาน่า เงินเก็บน้ำก็มีอยู่ เดี๋ยวลมเอาไปใช้ก่อนก็ได้” มันลูบหัวผมเบาๆ ผมพลิกตัวเข้าหามันแล้วซุกเข้าอกอุ่นๆ
“แต่รถกูแม่งเพิ่มอีกล้านก็เท่าเราคาซื้อใหม่แล้วอะ ยังผ่อนไม่หมดเลย ฮื่ออออ” ผมปล่อยโฮออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ พอถูกปลอบมากๆร่างกายแม่งก็อ่อนไหวง่ายเลยไง
“ถึงรถจะยับแต่อย่างน้อยก็ดีที่ลมไม่เป็นอะไรน่า แล้วเหลืออีกเท่าไหร่”
“ล้าน..ฮึ่ก..ล้านห้า ฮื่ออออ”
“เออดี เนี่ยมีอยู่ล้านห้า โปะรถให้หมดแล้วขายซากทิ้งไปเลย ส่วนค่าซ่อมรถพี่โบ้ทก็ขาดอีกแค่ห้าแสน”
“ก็ไม่มีอยู่ดีอะ ฮึ่ก..” ผมสะอึกสะอื้นคาอกน้ำย่างต่อเนื่อง ถ้ามันไม่เลิกปลอบผมก็ไม่เลิกร้องแน่ๆ ฮื่อ
“เคยบอกแล้วใช่มั้ย ได้เงินมาให้เก็บๆไว้บ้างน่ะ” มือที่ลูบหัวให้ผมอยู่เปลี่ยนเป็นเคาะเบาๆทีนึงก่อนจะลูบต่อ
“อย่าดุสิ่ ฮือ” ผมพูดเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิด น้ำถอดหายใจยาวๆแล้วเอ่ยข้อเสนอที่โคตรโหดร้าย
“งั้นลองบอกป๊ามั้ย?”
“ไม่เอา! ไม่เอาเด็ดขาด ฮึ่ก ให้กูถ่ายแบบให้บอสยังดีกว่า ฮึ่ก ขอความช่วยเหลือจากป๊าเลย!”
“แล้วกล้าถ่ายหรือไง” น้ำย้อนถาม ผมคิดภาพตามแล้วก็เบะปาก
“งื่อ ไม่ไหว เจ็บมากแน่ๆ”
งานถ่ายแบบมันแย่กว่างานถ่ายหนังคือถ้าเสียบแล้วไม่ใช่ว่าซอยเหมือนถ่ายหนัง แต่ต้องคาไว้อย่างนั้นให้ตากล้องถ่ายรูป เก็บรายละเอียดมุมนั้นมุมนี้ก่อนจะเปลี่ยนองศาขยับท่าทาง ที่รู้เพราะเคยถ่ายแบบที่ผมได้เป็นรุกไง แต่คราวนี้ให้กูรับนี่แหกแน่ๆ ลมจะร้องไห้ ฮื่อออ ท่อนของลมแปดนิ้วไง ท่อนไอ้น้ำก็ใหญ่เท่ากันอะ ยิ่งคิดภาพตามยิ่งอยากร้องไห้..ต้องยอมถ่ายจริงๆหรอวะ ไม่เอา..
[ตึก X CASTLE ]
“พี่คริสสส ยืมตัวพี่ฟองแปปนะเดี๋ยวเอามาคืน” ผมเอ่ยกับพี่คริสที่นั่งคุยกับพี่ฟองอยู่ที่โซนห้องนั่งเล่นของตึก
“อืม แล้วเอามาคืนกูเร็ว ๆ ด้วย” พี่คริสพยักหน้า ผมขอบคุณแล้วจูงพี่ฟองให้เดินตามมาที่ห้องพักนักแสดง ในตึกจะมีโซนห้องนั่งเล่นใหญ่สำหรับนักแสดงทุกคนให้เอาไว้มาผ่อนคลาย(หมายถึงนั่งหรือนอนเล่นนะครับไม่ใช่ผ่อนคลายในแง่นั้น) และสำหรับนักแสดง เกรดRoyalty จะมีห้องพักส่วนตัวให้ด้วย เรื่องที่ผมจะคุยมันค่อนข้าง อืม..ส่วนตัว ก็เลยพาพี่ฟองมาคุยกันที่ห้องของผม
“ความลับขนาดนี้เลยหรอ” พี่ฟองเลิกคิ้วถามขำๆ แต่ผมขำไม่ออก เพราะเรื่องที่จะถามเนี่ยมัน..
“ก็นิดหน่อยครับ ผมแบบ..อยากถาม”
“อ่าฮะ ก่อนถามเปิดแอร์หน่อยไหม ร้อน” เออว่ะ มัวแต่จะถามจนลืมไปเลย
ผมรีบหยิบรีโมทมากดเปิดแอร์ให้พี่ฟอง หยิบหนังยางที่มีติดห้องไว้มัดจุกเวลาร้อนๆส่งให้เขารวบผมตัวเองขึ้น พี่ฟองไว้ผมยาวเกือบถึงกลางหลัง ตัวสูง ร่างเพรียวไม่หนาแบบพวกพี่เบสท์ พี่คริส แต่ก็มีกล้ามเนื้อกำลังสวยไม่ได้อวบๆเป็นก้อนๆแบบบอส พี่ฟองรับหนังยางไปเกล้าผมตัวเองลวกๆ แล้วเดินไปนั่งบนเตียงผมแทนเพราะตรงนั้นแอร์มันเย็นมากกว่านั่งที่โซฟา
“จะถามอะไรหรอ”
“คือพี่ฟอง..ชอบรุกหรือรับมากกว่ากันอะครับ” ถามจบพี่ฟองถึงกับเหวอ แล้วหัวเราะเบาๆ
“ฮ่ะๆ ก็..อืม…ตอบยากเหมือนกันนะ มันรู้สึกดีคนละแบบ”
“แล้วตอนรับไม่เจ็บหรอพี่ฟอง” ผมเม้มปาก คิ้วขมวดไปอัตโนมัติเมื่อคิดภาพว่าตัวเองโดน..
“เจ็บอยู่แล้วสิ่ เพราะรู้ว่าคนเป็นรับมันเจ็บเวลาพี่ได้บทรุกก็จะเห็นว่าพี่นุ่มนวลกับฝ่ายที่เป็นรับตลอดไง ทำแรงๆมันเสียวก็จริงแต่คนที่ต้องรับก็เจ็บมากอยู่”
โห..แล้วผมเคยดูหนังที่น้ำเล่นไงแม่ง…
กูตายอะ… “ถ้าผมรับข้อเสนอบอส..มันจะ..โอ่ย พูดไม่ถูกเลยว่าจะถามยังไงดี” ผมทิ้งตัวลงกับเตียง ยกแขนก่ายหน้าผากทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
“กลัวรับไม่ไหวล่ะสิ่ ฮ่าๆๆๆ กับน้ำพี่ไม่รู้ว่ะ เคยรับให้คริสมันคนเดียว แต่คริสแม่งบ้าพลังไง ใส่กูไม่ยั้งเลย เจ็บโคตร แต่ก็เสียวโคตรๆจริงๆนั่นแหละนะ ถึงบอกไงว่ามันดีคนละแบบ”
“แล้วแบบ…ผมถามลึกกว่านี้ได้มั้ยอะ เกรงใจว่ะ แต่ก็อยากรู้” ผมพูดอ้อมแอ้มเพราะเกรงใจพี่เขามากๆ คือคำถามกูแต่ละอย่างมันไม่ใช่เรื่องที่คนปกติเขามานั่งคุยกันอะ แต่พี่แกก็ยังยิ้มอย่างใจดีตอบกลับมา
“ขนาดนี้แล้วก็ถามมาเหอะ พี่ไม่ว่าหรอก”
งั้นไม่เกรงใจแล้วนะครับ “ตอนต้องเป็นรับครั้งแรกพี่ฟองเตรียมตัวเตรียมใจยังไงอะ แล้วรู้สึกยังไงหรอครับ”
“ก่อนทำจริงพี่ลองใช้นิ้วกับข้างหลังของตัวเองดูอะ มันก็แปลกๆ แต่ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรก็เลยกล้าทำกับคริสขึ้นมาหน่อย แต่ครั้งแรกยังไงใส่เจลเยอะๆเลย มันฝืดแล้วเดี๋ยวเจ็บ…ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ฮ่าๆๆๆๆ มันไม่ได้แย่เว่ย กลับบ้านไปลองดู สู้ๆ” เขายิ้มบางๆ ชูสองนิ้วให้ผม ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย
“แล้วถ้ามีอะไรผมโทรไปปรึกษาอีกได้มั้ยพี่ฟอง”
“ได้ดิ่” พี่ฟองเอ่ยพร้อมกับยีหัวผมเล่นอย่างเอ็นดู “เดี๋ยวอีก20นาทีพี่ต้องไปถ่ายงานละ ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ”
“ครับ ขอบคุณนะครับพี่ฟอง” ผมยกมือไหว้ พี่ฟองยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะลุกขึ้น
“อื้ม อย่าเครียดๆ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ไม่ต้องฝืนล่ะ” เขาบอก ผมพยักหน้ารับ จะเดินพาพี่ฟองไปส่งแต่เขาดันผมลงกับเตียงให้นอนพักเพื่อผ่อนคลายอยู่ที่นี่ไปก่อนเพราะผมดูเครียดมาก พอพี่ฟองออกไปผมก็นอนพลิกตัวไปมาแบบเครียดๆเซ็งๆ เอามือถือมาเสิร์ชหาข้อมูล..อืม..มันต้องทำความสะอาดตรงนั้นของตัวเองก่อนสิ่นะ
1 ชั่วโมงต่อมา ผมออกจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดภายนอกร่างกายและต่อด้วยข้างในร่างกายเรียบร้อย รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยแต่ก็ทนได้อยู่ ผมเดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำ ใช้ผ้าเช็คตัวเช็ดตามแขนขาและผมให้แห้ง ส่วนลำตัวชุดคลุมก็ซับไปแล้ว เสร็จก็หยิบเจลที่อยู่ในลิ้นชักซึ่งปกติเอาไว้ใช้กับคนอื่นไง ไม่เคยคิดว่าวันนึงต้องมาใช้กับตัวเอง
ผมขึ้นไปนั่งเอนตัวพิงกับหัวเตียง ชันเข่าขึ้น บีบเจลชโลมให้ทั่วนิ้วกลางของตัวเองและที่ช่องทาง นวดคลึงอยู่บริเวณปากทางเข้าสักพักก่อนจะลองค่อยๆกดสอดนิ้วเข้าไปข้างใน ใส่เข้าไปได้เพียงครึ่งนิ้วร่างกายก็เกร็งไปหมด ผมเบ้หน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ พยายามหายใจเข้าออกลึกๆ ผ่อนคลายตัวเองให้มากที่สุด เมื่อเริ่มรู้สึกว่าช่องทางคลายตัวก็ค่อยๆสอดนิ้วตัวเองเข้าไปให้ลึกขึ้นจนสุดนิ้วก็ขยับคว้านเบาๆแล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมันไปโดนจุดหนึ่งเข้า ผมสูดหายใจเข้าช้าๆแล้วค่อยๆถอนนิ้วออกมาจนเกือบสุดแล้วสอดเข้าไปใหม่อีกครั้ง ค่อยๆขยับเข้าออกจนร่างกายเริ่มจะปรับตัวได้บ้างแล้วก็ลองเทเจลลงนิ้วนาง สอดเข้าไปสองนิ้วพร้อมกันอย่างช้าๆ
เชี่ย..
มัน..คับๆ แล้วก็รู้สึกแปลกๆ
แต่ก็ยังพอไหวอยู่.. ผมสอดเข้าและถอนออกพร้อมกับเร่งจังหว่าขึ้นเรื่อยๆตามที่ร่างกายต้องกาย มืออีกข้างที่ว่างก็ลูบคลึงหัวนมตัวเองเบาๆ
อือ..
เสียวไปอีกแบบจริงๆ..อา.. สวบ สวบ สวบ
“อือ..อื้ม..” ผมเร่งจังหวะมือตัวเองให้เร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าใกล้จะเสร็จ แล้วร่างกายก็กระตุกพร้อมกับสมองที่ขาวโพลน
พรวด!! น้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาจากแก่นกายจนเลอะเตมหน้าท้อง ผมชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่า…
เมื่อกี๊…
กูเสร็จได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แตะลูกชายตัวเองเลยหรอวะ..
ผมนอนหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่ง หากแต่ว่าเมื่อลืมตาขึ้นก็ต้องชะงักมากกว่าเมื่อผมเห็นน้ำยืนจ้องผมที่ทำลังนอนแหกขาและนิ้วยังคงคารูเที่เยิ้มไปด้วยเจลตาไม่กะพริบอยู่ที่ปลายเตียง!!!
“ไอ้เหี้ยน้ำ เข้ามาตั้งแต่ตอนไหน!!!!!!!”
[to be continued]