มนต์มาร
Part 5
เปลวไฟในน้ำแข็ง...
.
.
.
รพินทร์เปลี่ยนชุดขี้ม้า...สวมกางเกงยีนส์เชิ้ตแขนยาวลายสก็อต...สวมหมวกคาวบอย....
รองเท้าบูธสีน้ำตาลเข้ม พร้อมออกไปขี้ม้ากับกายันต์และหนูผา...ไม่ต้องแปลกใจว่ารองเท้ากับหมวกได้แต่ใดมา...
ก็จากห้องเก็บอุปกรณ์ในบ้านนี้...กายันต์พาไปเลือกเอาตามใจชอบ..มีตั้งแต่ไซค์ S M L ยังกะคลังสะสมเชียวหละ...
แสดงว่าคนที่นี้ชอบขี่ม้า...หึหึหึ!..แต่รพินทร์ชอบควบม้ามากกว่า....ฮ่าๆๆๆๆๆ...กร๊ากกกๆๆ
“พร้อมยังครับรพินทร์” กายันต์เรียกซะสนิท รพินทร์ไม่ถือหรอกดีเสียอีกดูคุ้นเคยดี
หนูผาตัวน้อยกระตุกแขนยิกๆ อยากไปเต็มแก่แล้วนั่น
“อ่ะ..เรียบร้อยไปกันเถอะ” รพินทร์ตอบ พร้อมเดินนำไปยังมุกเรือนไทย...รถตำรวจ
วิ่งเข้ามาจอดพอดี..ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มหน้าคมเข้ม จะเปิดประตูออกมาพร้อมกับตำรวจวัยกลางคน
“สวัสดีครับคุณกายันต์ หวัดดีค่ะหนูผา” นายตำรวจเอ่ยทักทายกายันต์กับหนูผาทันที
ส่วนรพินทร์เพียงแต่ส่งยิ้มให้ เพราะยังไม่แน่ใจว่าทอมหล่อคนนี้คือใคร
“หวัดดีครับสารวัตร จ่ายอด..” กายันต์ทักทายกลับ
“ผมมีนัดกับคุณจานะครับ” สารวัตรรูปหล่อบอกจุดประสงค์
“พี่จารออยู่แล้วมั้งครับ สักครู่ธรรมตรัยคงมาพาสารวัตรไปพบ...หนูผาไหว้คุณอาคมสัน
กับลุงจ่าก่อนสิค่ะ” กายันต์บอกหลานสาวตัวน้อยยกมือไหว้สารวัตรคมสัน กับจ่ายอด
“สวัสดีค่ะคุณอา คุณลุง” หนูผาก็ว่าง่าย ยกมือไหว้ได้น่ารักน่าชัง สารวัตรกับจ่ายอดยิ้มอบอุ่น
ให้เด็กหญิงกลับเช่นกัน
“ผมขอแนะนำคุณรพินทร์สมาชิกใหม่ของคุ้ม..คุณรพินทร์...นี่สารวัตรคมสันกับจ่ายอดเจ้าหน้าที่
ดูแลพื้นที่ในอำเภอดงพญาครับ” กายันต์แนะนำรพินทร์ ก่อนสารวัตรจะพูดขึ้นว่า
“ยินดีรู้จักคุณรพินทร์ มีอะไรเรียกใช้ผมได้ จะไปขี่ม้าใช่ไหมครับ?”
“ค่ะ...เรากำลังจะไปขี่ม้า สารวัตรสนใจไหมคะ?” รพินทร์เอ่ยปากชวนตามมารยาท
“วันนี้คงไม่สะดวก ไว้โอกาสหน้าต้องรบกวนคุณรพินทร์พาผมสำรวจคุ้มดงพญาแน่ๆ”
“คงลำบากดิฉันไม่รู้จักเส้นทางสักเท่าไหร่..ถ้าสารวัตรไม่กลัวหลงก็ยินดีค่ะ...ฮ่าๆๆๆๆ”
รพินทร์ติดพูดเล่นเป็นนิสัย อารมณ์สนุกของเธอ ทำให้สารวัตรหนุ่มพลอยขำไปด้วย ก่อนเสียงทุ้มเย็นจะขัดจังหวะทุกคนขึ้น
“เชิญสารวัตรครับ...คุณจากำลังรออยู่” เลขาเย็นชาตาดุจเหยี่ยว เอ่ยปากตัดบทสนทนาที่กำลัง
ออกรสชาติอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่รู้ด้วยซ้ำเข้ามาตอนไหน ทำให้สารวัตรหนุ่มยิ้มเจื่อนให้กายันต์และรพินทร์ ก่อนจะเดินตาม
ธรรมตรัยเข้าไปในบ้านพร้อมกับจ่ายอด
ภายในห้องสมุดของเรือนไทย...เจ้าคุ้มหนุ่มหล่อนั่งหลังโต๊ะทำงาน โดยมีสารวัตรคมสันกับ
จ่ายอดนั่งตรงกันข้าม หลังจากคนรับใช้เอาน้ำมาบริการเสร็จกลับออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สารวัตรคมสันเริ่มบทสนทนา
ทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลา
“คุณจา..พอมีเบาะแสเพิ่มไหมครับ?” สารวัตรหนุ่มไฟแรงรับผิดชอบคดีฆาตกรรมปริศนา..
ซึ่งยังตามจับคนร้ายไม่ได้...หกศพกับระยะเวลาหกเดือน...หยามเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ยิ่งนัก เอ่ยปากขึ้นสอบถาม
เจ้าคุ้มสุดหล่อมาดนิ่ง...โดยมีจ่ายอดเตรียมบันทึกข้อมูล
“ผมไม่มีข้อมูลอะไรให้สารวัตรหรอกครับ...ความจริงผมหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ช่วยสะสางคดีนี้โดยเร็ว
มันมีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจคนงานของผมเป็นอย่างมาก ถ้ายังจับตัวคนร้ายไม่ได้..คุ้มผมเสียหายไม่น้อยเลยนะครับ...
แทนที่สารวัตรจะเอาเวลามาตั้งคำถามเดิมๆ...ผมควรถามสารวัตรมากกว่า..ทางตำรวจมีความคืบหน้าเรื่องคดีไปถึงไหนแล้ว?”
สารวัตรหนุ่มสะอึกกับคำย้อนของปาจาผู้ชายที่เจอกี่ครั้ง ก็คงนิ่งเข้มชวนให้อึดอัดพิกล...ไหนจะคำพูด
แดกดันที่เจ้าตัวช่างถนัดเหน็บแหนมอีกตะหาก...
“ความจริงทางเราพยายามอย่างเต็มที่ แต่ยังหาร่องรอยหลักฐานคนร้ายไม่ได้เลย ผมคงต้องขอ
ความร่วมมือคุณจา คงไม่ว่าอะไรนะครับ ถ้าผมจะขออนุญาตเข้าออกคุ้มดงพญาโดยไม่ต้องผ่านพิธีการเหมือนเคย...
เพื่อคอยตรวจตราดูความผิดปกติต่างๆ อาจเจอข้อมูลล่าตัวคนร้ายได้เร็วขึ้น” สารวัตรหนุ่มถือโอกาสรวบรัด
อาศัยประเด็นปัญหาเป็นข้ออ้างที่จะสามารถเข้าออกคุ้มดงพญาได้สะดวกยิ่งขึ้น ดีกว่าต้องนัดหมายอย่างเป็นทางการ
ซะทุกครั้ง เจ้าคุ้มหนุ่มสบตาสารวัตรนิ่ง ก่อนยกยิ้มมุมปากแล้วพูดขึ้นมาว่า
“หึ...ถ้าสารวัตรคิดว่ามันเป็นหนทางที่ช่วยให้จับคนร้ายได้เร็วขึ้น ผมก็ไม่มีปัญหา..เชิญตามสะดวก...
คุ้มดงพญายินดีต้อนรับ...คุณมีอะไรอีกไหม...ถ้าหมดธุระแล้วผมคงต้องขอตัว” เป็นการเอ่ยปากไล่อย่างมีมารยาท
สารวัตรหนุ่มก็คร้านจะดื้อดึงต่อ..อย่างน้อยก็บรรลุวัตถุประสงค์สามารถเข้าออกคุ้มได้สะดวก ถือว่ามาไม่เสียเที่ยว...
“งั้นผมขอตัวกลับเลยแล้วกัน...ไว้พบกันใหม่ลาหละครับ” สารวัตรหนุ่มพร้อมจ่ายอด
พากันกลับออกจากคุ้มดงพญา....
เจ้าคุ้มปาจามองออกหน้าต่างไปไกลถึงยอดเขาที่เห็นอยู่ลิบๆ...ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่....แววตาสงบนิ่ง
ดุจห้วงสมุทร...ใบหน้าคมเข้ม...จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนาได้รูปรับกับโครงหน้าคมสันได้อย่างลงตัว...ใครต่อใครคงนึกอิจฉา...
ถ้าไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง...ว่าชายผู้นี้ช่างสมบูรณ์แบบเสียจริงๆ...รูปหล่อ...รวยทรัพย์..ดีกรีด๊อกเตอร์จากอังกฤษ
พ่อหม้ายเนื้อหอม...แต่ใครจะรู้ดีเท่ากับตัวเค้าเล่า
ภายใต้เกราะน้ำแข็งแฝงเชื้อไฟอยู่...ซึ่งรอคอยการจุดประกายจากใครสักคนเพื่อมาละลาย
เกราะน้ำแข็งนี้...หลังจากใจดวงนี้ปิดตายมากว่า 7 ปี ใครจะเป็นผู้ละลายเกราะน้ำแข็งหัวใจปาจาได้...ต้องคอยดูต่อไป
ในขณะอีกมุมหนึ่งของบ้าน เสียงหัวเราะสนุกสนานอย่างมีชีวิตชีวาของทอมบอยหน้าหล่อ
กับหนุ่มหล่อตัวโต พร้อมเด็กหญิงตัวน้อยหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ....พากันหัวเราะร่าอย่างมีความสุข...
“ฮ่ะ..ฮ่ะ..ๆๆๆ....สนุกมากมาย...โอ้ย!...ผมไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้วเนี่ยะคุณยันต์..”
รพินทร์ กายัตน์ หนูผา เดินขึ้นเรือนด้วยเหงื่อชุ่มตัวหน้าแดงก่ำ..หลังพากันไปตลุยขี้ม้าชมอาณาบริเวณของคุ้มดงพญา
“รพินทร์แมนโคด..คุณแทนตัวว่าผม...ไม่ใช้ค่ะแล้วหรือครับ..ลืมตัวละสิ...ถึงไงผมก็ไม่เลิกคิด
จะจีบคุณอยู่ดี” กายันต์ทัก..พร้อมยิ้มขำที่รพินทร์กร่างยังกะผู้ชาย..เรียกแทนตัวว่า ‘ผม’ ได้เต็มปากเต็มคำ...ในขณะที่
รพินทร์หน้าเจื่อน เมื่อสำนึกได้ถึงความละหลวมของตนเอง...เพลินจนลืมตัวเพราะการไปขี่ม้าในครั้งนี้ นอกจากจะได้
ข้อมูลไม่น้อย ยังสนุกได้เหงื่ออีกตากหาก...ทำให้พลั้งเผลอโดยไม่ตั้งใจ
“เหรอ...สงสัยลืมตัวไปหน่อย...ความจริงแล้วฉันคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายด้วยซ้ำเลยติดปาก...
ขอโทษด้วยจริงๆ คุณกายันต์” กายันต์ยิ้มขำ..กับท่าทางประหม่าของรพินทร์ ตัวตนของรพินทร์ไม่ได้ทำให้กายันต์
แปลกใจสักนิด..กลับมองว่ามันเป็นเสน่ห์แถมท้าทายอีกตะหาก...เห็นฝีมือการขี่ม้าของรพินทร์วันนี้..คงต้องยกนิ้วโป้งให้...
ไม่อยากเชื่อทอมบอยรูปร่างสูงโปร่ง...แม้จะดูกระฉับกระเฉงเกินปกติ...แต่ก็ไม่น่าว่าจะมีความคล่องตัวและท่วงท่าสง่างาม
ยามควบม้ายังกะบุรุษเพศ...ที่แน่ๆ ผู้ชายบางคนยังขี่ม้าไม่สง่างามเท่ารพินทร์เลยก็ว่าได้...นี่ต่างหากที่กายันต์ประทับใจ...
“โธ่!..คิดมากน่า...จะขอโทษผมทำไม..คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย..ที่สำคัญผมสนที่ไหน..
ไม่ว่าคุณจะแทนตัวยังไง..ผมว่าดูเข้ากับคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติเสียด้วยซ้ำ..อยู่กับผมสบายๆ...แต่กับพี่จาไม่รู้นะ..
ขานั้นสมชายจรดปลายเท้า...คุณควรระวังหน่อยก็ดี...ฮ่าๆๆๆๆ” รพินทร์ค่อยรู้สึกโล่งใจ คราวหน้าคราวหลัง
คงต้องระวังให้มากขึ้น นี่ดีนะที่กายันต์ไม่คิดเล็กคิดน้อย...แต่ถ้าเป็นเจ้าคุ้มน้ำแข็งคงได้หาข้อแก้ตัวพัลวัน
หลังจากแยกย้ายกันไปอาบน้ำ...เพื่อเตรียมตัวทานมื้อเย็นตอนหกโมง...รพินทร์ก็กลับเข้าห้องล๊อคประตู
แน่นหนาเรียบร้อย..รีบเอาโน๊ตบุ๊คออกมาเปิดคุยกับหัวหน้าทันที...รอไม่นานหัวหน้าออนกลับมา
“ว่าไง...ไอ้ตัวแสบ.” หัวหน้าทักหลังจากรพินทร์ แสดงความต้องการจะคุยส่งไปให้
“หัวหน้า...ผมมีเรื่องรบกวนให้ช่วยหน่อย” ไม่เสียเวลาเข้าประเด็นทันที
“เรื่องอะไร..ไหนว่ามาสิ” หัวหน้าถาม
“สืบประวัติของคุณปาจา..และทุกคนอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกทีได้ไหมครับ...คือผมต้องการรู้เรื่อง
ภรรยาคุณจาด้วย..รวมถึงคนที่นี้ตั้งแต่รุ่นพ่อเลยครับ” รพินทร์ หรือพระลักษมณ์ แจ้งความจำนงค์ให้หัวหน้าทราบทันที
“ความจริงฉันได้ส่งรายละเอียดให้แกไปศึกษาดู..ก่อนเตรียมตัวเข้ามาที่นี่แล้วนี่หนา....
แกยังไม่เข้าใจอีกหรือเจ้าลักษมณ์..” หัวหน้าทบทวนความจำพระลักษมณ์อีกครั้ง
“ฟังนะพ่อ...ที่ให้ผมมานะผมรู้หมดแล้ว แต่มันยังไม่โอเคไง...ข้อมูลขาดหายไปหลายอย่าง
ผมว่ามันเป็นเงื่อนปมที่มีประโยชน์...เช่นภรรยาของคุณจาแม่ของหนูจันทร์ผานั่นไง...ไม่รู้เป็นใคร เรารู้แค่คุณจา
เป็นพ่อหม้ายลูกติด...แล้วภรรยาเค้าไปไหน....ทำไมไม่มีประวัติ...ผมต้องการด่วน...ยังมีเรื่องของอาไพรภพพ่อของรพินทร์อีก..
เพราะอะไรถึงออกจากบ้านโดยไม่ยอมติดต่อใครอีกเลย...จนกระทั้งเสียชีวิตอยู่ที่อังกฤษคนทางนี้ก็ยังไม่มีใครทราบ..
พวกเค้าไม่ได้ติดต่อกันถึงกับว่าคนในคุ้มไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่า รพินทร์ตัวจริง..เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อน..
ที่สำคัญเธอไม่ได้เป็นทอม....ไม่งั้นแผนที่ให้ผมสวมรอยจะผ่านฉลุยหรือครับ...หน่วยเราใช้ช่องว่างที่พวกเค้าไม่เคยรู้
มาเลยตะหาก..อาศัยเปลี่ยนแปลงข้อมูลแล้วส่งตัวผมมารับงานนี้....โดยไม่มีใครระแคะระคายมาก่อน...
ยังไงก็ตาม...ผมว่ามันมีเงื่อนงำเกี่ยวข้องภรรยาคุณจา...หรือแม้แต่ความซับซ้อนรุ่นพ่อแม่แล้วด้วย....
ถ้าผมคิดไม่ผิด...พ่อทำยังไงก็ได้ผมต้องการข้อมูลอย่างละเอียด..ให้หน่วยข่าวกรองของเราหามาให้ผมด่วน...
ตกลงตามนี้นะพ่อ..ผมต้องรีบเตรียมตัวไปทานมื้อเย็นแล้ว...ที่นี้แม่งทุกอย่างเป็นระเบียบมาก...ผิดเวลาไม่ได้ด้วยโอเคนะพ่อ”
พระลักษมณ์ตัดจบทันที
“เดี๋ยว!...เจ้าลักษมณ์...ดูแลตัวเองให้ดี..” คำสั่งสุดท้ายจากหัวหน้าพ่อของพระลักษมณ์เรียกรอยยิ้ม
บนหน้าหล่อใสทันที..พ่อเค้ายังไงก็รักและเป็นห่วงเสมอหลายต่อหลายครั้งที่พ่อพยายามไม่ให้เค้ารับงานสุ่มเสี่ยง...
งานนี้ก็เหมือนกัน..ไม่ติดว่าหน้าตารูปร่างของเค้าสามารถตบตาคนอื่นได้...คงไม่ได้งานนี้มาหรอก....หึหึหึ!!!!
ต่อด้านล่าง