บทที่ 6
แสงแดดอ่อนๆที่ส่องผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาภายในห้องกว้างทำให้คนที่นอนหลับตาอยู่ค่อยๆรู้สึกตัว มือสวยวาดสะเปะสะปะควานหาโทรศัพท์มือถือทั้งๆที่ดวงตาหวานฉ่ำยังไม่ทันได้ลืมขึ้นด้วยซ้ำตามความเคยชินที่ทำเป็นประจำทุกวันเพราะเป็นคนที่หลับลึกจึงชอบตั้งนาฬิกาปลุกในมือถือและวางไว้ข้างหมอนตัวเองจะได้ยินพอตื่นก็จะได้เชคเวลาและข้อความต่างๆด้วยแต่แล้ววันนี้มันกลับต่างออกไป ตาวไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงของนาฬิกาปลุกแถมควานหามือถือจนทั่วก็ยังไม่พบอีก เรียวคิ้วโค้งสวยได้รูปค่อยๆขมวดเข้าหากันพร้อมกับแพรขนตาที่ค่อยๆกระพริบปรับให้ชินกับแสงแดดที่ส่องเข้ามา
“ ที่นี่ ที่ไหนเนี่ย ” เมื่อได้ตื่นเต็มตาและได้มองห้องกว้างอย่างชัดเจนตาวก็อุทานออกมาอย่างมึนงง ที่นี่ไม่ใช่ห้องของเขา การตกแต่งห้อง โทนห้อง หรือแม้แต่เตียงก็ไม่ใช่ ฝ่าเท้าเล็กหย่อนลงจากเตียงก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับมุ่งตรงไปยังประตูของห้องนอน
พรึบ!!!
“ เหี้ย!!! ” เสียงอุทานดังลั่นพร้อมกับร่างของผู้ชายตัวหนาที่ใส่เพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวสั้นแค่คืบยกมือขึ้นกากบาทกอดอกตัวเองราวกลับสาวน้อยวัยแรกแย้มที่เนียมอายตอนแก้ผ้าแล้วผู้ชายเปิดเข้ามาเจอทำเอาตาวแทบอยากจะมองบนถ้าหากว่าตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ชวนมึนงงแบบนี้น่ะนะ
“ ผมชื่อตาว ” ตาวหน้ามุ่ยเมื่อโดนคนตรงหน้าพ่นคำว่าเหี้ยใส่เต็มๆหน้า
“ เออ นั่นแหละๆ ” ภาคโบกมือปัดๆพร้อมกับกอดหน้าอกของตัวเองแถมยังหนีบขาไว้ราวกลับกลัวตาวจะเข้าไปปล้ำยังไงยังงั้น
“ ...... ” ตาวไม่ได้พูดอะไรต่อแต่สายตากำลังสำรวจร่างของคนตรงหน้าที่ทำท่าทางราวกลับสาวน้อยที่ไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชาย
อะไรกันตัวก็ตั้งแมน ทำอายไปได้
“ อะ อะไร มองไร กูรู้หรอกว่ากูหล่อ และคนแบบกูก็เป็นคนมีเซ็กแอพพีลสูงจนบางทีมึงเห็นแล้วอาจจะอดใจไม่ไหวแต่โทษทีว่ะมึงไม่ใช่สเปคกูและที่สำคัญคนของน้องกูไม่ยุ่ง ”
“ เฮ้อ ไร้สาระจริง ” ตาวพ้นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเดินผ่านร่างสูงที่ยกมือปกปิดร่างกายตนเองไปมาด้วยสายตาที่เย็นชาแบบสุดๆ
“ เฮ้ เห็นงี้กูเดือนมหาลัยเลยนะโว้ย ” ภาคโว้ยวายเดินตามคนตัวเล็กมานั่งลงที่โต๊ะอาหารที่ตาวพึ่งนั่งลงเมื่อกี้ ตั้งแต่เกิดมาเขาโดนชมมาตลอด ใครๆก็บอกว่าเขาหล่อ เขาคือหน้าตาของมหาลัย เขามือสมบัติของมอ แล้วไอ้เตี้ยตัวกินไก่นี่มันยังไงกันสายตาเสื่อมสมรรถภาพรึไงกันวะ
ภาคไม่เข้าใจ...
ภาคจะฟ้องคุณยาย!!!
“ ผมจำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอครับ? ” น้ำเสียงเรียบๆถามต่อ
“ ก็ไม่จำเป็นแต่กูอยากบอก ”
“ ที่นี่ ที่ไหน ”
“ แล้วนี่มึงมาอยู่ห้องน้องกูได้ไง ”
“ ห้องคุณเมือง? ”
“ ใส่เสื้อผ้าน้องกูซะด้วย ”
“ แล้วคุณภาคมาอยู่ในห้องคุณเมืองได้ไง ”
“ อย่าบอกนะว่ามึงกับสัสเมือง.... ” ภาคตาโตชี้นิ้วมาตรงหน้าตาวอย่างเหลือเชื่อ
“ คุณเมืองไปไหนครับ ”
“ จึกจึกกันแล้วเหรอ!! ไอ้เหี้ยร้ายลึกนี่หวา เห็นเงียบๆแต่ฟาดเรียบเหรอมึงอ่ะ หูยยยเด็ดว่ะ ”
“ คุณภาคช่วยหยุดคิดไปเองแล้วพูดเรื่องเดียวกันกับผมสักทีได้ไหมครับ! ” ตาวพูดออกมาอย่างเหลืออด
“ พูดแค่นี้ทำไมต้องดุด้วยวะคิดว่ามึงน่ากลัวเหรอหน้าอย่างกะตำบลโกรธเวลาคุณยายไม่ยอมให้แดกปลาทู ”
“ ตำบล? ” ตาวทวนชื่อใหม่ที่พึ่งได้ยินครั้งแรก อะไรกันบ้านนี้นอกจาก ภูมิภาค นคร แล้วยังจะมี ตำบลอีกเหรอ อีกหน่อยไม่มีอำเภอ หมู่บ้านมาเลยเหรอเนี่ย
“ เออแมวของกูกับไอ้เมืองเองแต่ฝากคุณยายเลี้ยงแล้วนี่เป็นเหี้ยอะไรขยี้ตาอยู่ได้ ”
หน้าแบบนี้เนี่ยนะพากันเลี้ยงแมว....หิมะจะตกที่ประเทศไทยไหมเนี่ย
“ เจ็บตาสงสัยเพราะไม่ได้ถอดคอนแทคเลนส์ตั้งแต่เมื่อคืนแน่เลย ” ตาวบ่น
“ แล้วทำไมไม่ถอดบ้าเหรอใส่ได้ไงทั้งคืนตาอักเสบกันพอดี ถอดๆ ”
“ ถอดไม่ได้ ถอดแล้วผมมองไม่ชัดไม่ได้เอาแว่นมา ” ตาวปัดมือของภาคที่พยายามเอื้อมมาจะจับใบหน้าของเขาทิ้ง
“ ไม่ได้ ยังไงก็ต้องถอด ถอดเดี๋ยวนี้ ”
“ ถอดเหี้ยไร! ” เสียงคนมาใหม่ที่ดังขึ้นทำให้ทั้งตาวและภาคหันไปมองพร้อมกับที่สายตาทั้งสองคู่หยุดอยู่ที่ร่างสูงในชุดเสื้อบาสแขนกว้างจนเห็นผิวเนื้อด้านในไปกว่าครึ่งตัวสีดำกับกางเกงบอล รองเท้าแตะดาวเทียมหัวคีบสีน้ำเงิน ผมยุ่งๆ และในมือถือถุงน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋อยู่
“ ก็เมียมึงดินอนไม่ถอดคอนแทคเลนส์ดูดิตาเริ่มแดงละบอกให้ถอดก็ไม่ยอม ” ภาคฟ้อง
“ ไม่ใช่เมีย ” ตาวเถียงกลับ
“ ไม่ต้องอายหรอกน่าตาวตาว เห็นไอ้เมืองดูหน้าเหี้ยๆแบบนี้แต่มันมีความรับผิดชอบนะได้กันแล้วบ้านไหนเขาก็เรียกผัว เมีย ทั้งนั้นแหละไอ้เมืองมันไม่ว่าหรอกใช่ไหมเมือง ” ภาคว่าพร้อมกับหันไปถามความคิดเห็นของเมือง
“ งั้นมั้ง ” เมืองตอบส่งๆพร้อมกับอมยิ้มเดินไปโซนห้องครัวหยิบแก้วพร้อมกับจานมาวางไว้บนโต๊ะที่มีร่างสองร่างนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆพี่ชายของตนเองโดยมีตาวนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ตาวกวาดสายตาสำรวจสองพี่น้องที่นั่งคู่กันตรงหน้าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลูกชายตระกูล อัครเดชา หล่อร้ายกาจทั้งคู่ ถ้าพวกแฟนคลับที่คลั่งสองคนนี้มากๆหรือแม้แต่ตัวบอยเพื่อนของตาวเองมาเห็นสองคนนี้ในสภาพที่คนหนึ่งไม่ใส่เสื้อ ส่วนอีกคนก็ใส่เสื้อบาสที่ทั้งแขนกว้าง คอกว้างจนแทบปกปิดอะไรไม่ได้ตอนนี้ล่ะก็ได้กรี๊ดจนสลบเป็นแน่ ภาคกับเมืองถ้ามองเผินๆก็ดูเหมือนจะคล้ายกันจนนึกว่าแฝดแต่พอมองดูดีๆจะรู้ว่าสองคนนี้ต่างกันมากทั้งไลต์สไตล์ การแต่งตัว ซึ่งตาวคิดว่ามันคือความแตกต่างที่ลงตัว ก็ไม่อยากจะชมหรอกนะแต่ว่าความเป็นพวกเขาที่แตกต่างมันกลับเป็นการแตกต่างที่เป็นจุดเด่นของพวกเขาเอง และทำให้พวกเขาดูดีทั้งคู่
“ งั้นมั้งอะไรครับ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ ”
“ จริงเหรอ แต่เมื่อคืนมึงบอกว่าชอบกูด้วยนะ ” เมืองว่าพร้อมกับยิ้มให้อย่างเหนือกว่า
“ ไม่มีทาง ” ตาวค้านเสียงเข้มเขายอมรับว่าเมื่อคืนเขาอาจจะดื่มหนักไปจนเมามากจำเรื่องเมื่อคืนแทบไม่ได้แต่ก็มั่นใจว่าคนแบบเขาไม่มีวันพูดอะไรแบบนั้นออกไปแน่นอน
“ อ๋อเมื่อคืนมึงแทนตัวเองว่าน้องด้วยนะ ” เมืองว่าเสริม
“ แค่กๆ ” ตาวสำลักน้ำเต้าหู้ที่พึ่งยกขึ้นดื่มจนหน้าแดงเพราะสิ่งที่เมืองพูดมามันทำให้ตาวเริ่มไม่มั่นใจว่าเมื่อคืนเขาทำไรลงไปบ้าง สรรพนามคำว่าน้องเป็นคำที่ตาวใช้เรียกแทนตัวเองเวลาคุยกับพ่อและแม่ซึ่งน้อยคนมากจะรู้ถ้าไม่ได้ใกล้ชิดกับตาวก็คงจะไม่รู้แต่ว่า.....ทำไมเมืองรู้ล่ะ
“ หูยยย น้องตาวตาว ” ภาคยิ้มล้อ
“ ทำไมชอบทำตัวเย็นชากับกูนักล่ะเวลาอ้อนน่ารักจะตายทำใจกูสั่นไปหมด เมื่อคืนมึงพูดว่าไรนะ น้องกลัว เมืองต่อยๆ มะ.... ”
“ พูดมากจริง!! ” ตาวว่าพร้อมกับยัดปลาท่องโก๋เข้าปากเมืองให้หยุดพูดเรื่องน่าอายให้เขาเขินไปมากกว่านี้ สาบานเลยว่าต่อไปนี้ตาวจะเลิกดื่มเหล้าอย่างถาวร
“ หึหึ น่ารักนะเราน่ะ ” เมืองหัวเราะคนตัวเล็กที่เขินจนหน้าแดงลามไปถึงใบหูที่กำลังกระดกน้ำเต้าหู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
“ เห้อหมาอีกละกูไปดีกว่า ” ภาคว่าอย่างเซ็งๆ
“ มึงควรจะไปตั้งนานละภาค ”
“ น้องเวร ” ภาคว่าพร้อมกับชูนิ้วกลางให้เมืองที่ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรอยู่แล้วก่อนจะหันไปหาตาว “ ตาวตาวปิดตา ”
“ แค่กๆ ปะ ปิดทำไม ” ตาวที่ก้มหน้าก้มตาดื่มเต้าหู้อย่างไม่มีสติสำลักเพราะตกใจทันทีที่โดนภาคเรียกชื่อ
“ ก็กูโป๊กูจะเดินเข้าห้อง มึงปิดตาเลย ”
“ มึงเลิกปัญญาอ่อนได้ละภาค ” เมืองด่าพี่ชายของตนเองอย่างเอือมระอา
“ นี่กูจริงจังนะเว้ยถ้าเมียมึงเกิดติดใจกูขึ้นมาทำไง ศึกพี่น้องกูไม่เอาด้วยนะเว้ย ”
“ ต่อให้มีสิบคุณภาคผมก็ไม่สนหรอกไว้ใจได้เลย ” ตาวว่า
“ อ๋อเพราะสนคุณเมืองไปแล้วใช่ป่ะตาวตาว หูยยยมั่นคงเวอร์ ”
“ คุณภาค!!! ”
“ ฮาๆ โอเคๆ ไปแล้ว ” ภาคยกมือขึ้นเหนือหัวอย่างยอมแพ้ก่อนจะเดินเข้าห้องของเขาไป
“ ยิ้มหน่อย ” เมืองว่าพร้อมกับยื่นมือไปบีบแก้มย้วยๆของคนตัวเล็กที่ทำหน้าบึ้งเพราะถูกกวนอารมณ์ตั้งแต่เช้า
แชะ!
“ คุณเมือง! ” ตาวขึ้นเสียงใส่คนตัวโตที่แอบถ่ายภาพเขาอีกแล้ว เมืองตีหน้ามึนยิ้มใส่คนตัวเล็กที่ทำหน้าดุใส่อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรพร้อมกับกดโทรศัพท์หยุกหยิกก่อนจะยื่นให้ตาวดู
Nakara Akkaradecha ได้โพสต์สถานะของเขาเมื่อ 1 นาที ที่แล้ว
Good morning, bae
*รูปมือของเมืองที่เอือมไปบีบแก้มของตาวที่นั่งก้มหน้าอยู่
34 คนถูกใจ 0 คอมเม้น
“ น่ารักออก ” เมืองว่า
“ ทำแบบนั้นคนยิ่งได้เข้าใจผิดกันไปใหญ่พอดี ”
“ งั้นก็ทำให้เข้าใจถูกซะสิ ” เมืองว่ากลับ
“ งั้นก็ลบโพสต์สิครับคนจะได้เข้าถูก ”
“ มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น ”
“ อะไรล่ะครับ ”
“ เราก็แค่ ” เมืองเว้นช่วงพูดก่อนจะหันมาจ้องตาของตาว “ เป็นแฟนกันจริงๆ ”
-///-
***********************************************************
พอใจไง จะใครล่ะ : ตาวมึงอยู่ไหน
พอใจไง จะใครล่ะ : ตาวตอบกูเดี๋ยวนี้นะ
พอใจไง จะใครล่ะ : เมื่อคืนมึงไปนอนกับพี่เมืองเหรอ
เช่อบี๋ค่ะ เม้นเม้นเด๋วทักกลับ : กรี๊ดดดดเพื่อนกูมีผัวแล้ว
พอใจไง จะใครล่ะ : ใช่เรื่องมาดีใจป่ะอิบอยนี่ลูกสาวมึงเสียตัวให้ชายอื่นนะ
เช่อบี๋ค่ะ เม้นเม้นเด๋วทักกลับ : เออว่ะกูลืม ลูกสาวมาตอบแม่ซิ
Taw Traikhun : อืม
พอใจไง จะใครล่ะ : อืมอะไร เดี๋ยวกูตบให้คว้ำเลยไอ้พี่เมืองมันอยู่ไหนพรุ่งนี้กูจะไปเอาเลือดหัวมันออก
เช่อบี๋ค่ะ เม้นเม้นเด๋วทักกลับ : พอใจมึงใจเย็นนั่นพี่เมือง นคร เลยนะเว้ย
พอใจไง จะใครล่ะ : กูไม่สนกูโมโหลูกกูเสียตัวมันต้องรับผิดชอบ
Taw Traikhun : แต่เมื่อวานพอใจกับบอยเมาแล้วทิ้งเราไว้คนเดียวเองนะ
เช่อบี๋ค่ะ เม้นเม้นเด๋วทักกลับ : เออว่ะ นี่กูยังงงอยู่เลยว่ากูกลับมานอนกองกับอิพอใจที่ห้องได้ไง
พอใจไง จะใครล่ะ : ไอ้พี่เมืองทำอะไรมึงบ้างเล่ามาให้หมด
Taw Traikhun : ไม่ได้ทำอะไร
พอใจไง จะใครล่ะ : ไม่ได้ทำอะไรบ้านมึงสิใส่เสื้อผ้าเขา นั่งแดกน้ำเต้าหู้ผมยุ่งๆในห้องเขาตอนเช้าแล้วปล่อย
ให้เขาจับแก้มขนาดนั้นน่ะห๊ะ!!
Taw Traikhun : นี่พี่เมืองเองนะ
เช่อบี๋ค่ะ เม้นเม้นเด๋วทักกลับ : กรี๊ดดดด สุดที่รักของบี๋
พอใจไง จะใครล่ะ : อิตุ๊ดเงียบ!!
Taw Traikhun : พี่ไม่ได้ทำอะไรตาวจริงๆ
เช่อบี๋ค่ะ เม้นเม้นเด๋วทักกลับ : ไม่ใช่คนเสียหายพี่จะพูดไงก็ได้หนิ ตาวมันหัวอ่อนจะไปทันอะไรคนแบบพี่
Taw Traikhun : แล้วจะให้พี่ทำยังไง
พอใจไง จะใครล่ะ : 11 โมงตรงเจอกันที่ 1987 café’ เคนะ
“ ไปอาบน้ำแต่งตัว ” เมืองว่าพร้อมกับยื่นโทรศัพท์คืนให้คนตัวเล็กกว่าที่เขาแย่งมาตอบเองในตอนแรกเพราะทนเห็นตาวทำหน้าเครียดพร้อมกับเสียงเด้งแชทที่ดังขึ้นรัวๆอย่างกดดันแบบนั้นไม่ไหว
“ จะไปไหนครับ ” ตาวรับโทรศัพท์ของตนเองกลับมาถืออย่างงุนงง
“ ไปหาเพื่อนมึง ”
“ คุณเมือง ”
“ ว่า? ”
“ เรื่องเมื่อคืนอย่าว่าสองคนนั้นเลยนะ ผมอยากไปเองแหละ ”
“ กูชอบมึงนะตาวแต่ความชอบของกูไม่ใช่ชอบจนต้องตามใจมึงไปซะทุกอย่าง พวกมึงทำตัวไม่ดีกูโตกว่าก็ต้องว่าบ้างไม่งั้นพวกมึงก็จะไม่รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่โอเค ที่กูพูดกูก็หวังดีทั้งนั้นแต่ถ้าสิ่งที่กูพูดมันทำให้มึงอึดอัดกูก็ขอโทษละกัน ” เมืองว่าเสร็จก็ทำท่าจะเดินออกไปจากตาวทำเอาคนที่นั่งก้มหน้ากัดปากอย่างสำนึกผิดแทบทำตัวไม่ถูก ตาวก็พึ่งเคยเห็นเมืองโหมดระเบิดแตกครั้งนี้ก็ครั้งแรกเลยล่ะ
“ คุณเมืองจะไปไหน ” ตาวผวาคว้าชายเสื้อของคนที่ทำท่าจะเดินจากตัวเองไปเอาไว้
“ กูจะไปอาบน้ำห้องไอ้ภาคถ้ามึงอาบเสร็จก่อนก็ออกมานั่งรอเลย เสื้อผ้ามึงกูซักแห้งให้แล้ววางอยู่ตรงเก้าอี้หน้าตู้กระจก ”
“ ไม่โกรธจริงๆใช่ไหม ” ตาวช้อนดวงตาสำนึกผิดขึ้นมองเมืองอย่างขอร้องตาวรู้ว่าตัวเองผิดแต่ตามนิสัยปากแข็งของเขาก็ไม่รู้ว่าควรขอโทษหรือง้อเมืองยังไง
“ อืม ” เมืองตอบรับในลำคอ
“ ไม่อืมไม่ได้เหรอ ” ตาวว่าอีกครั้งแค่คำว่า อืม ของเมืองทำไมมันทำให้ตาวใจแป้วได้ขนาดนี้กันนะ
แต่ตาวคงไม่รู้หรอกว่าคำพูดของตาวกับน้ำเสียงแบบนั้นมันทำให้เมืองใจยวบไปหมด..
เมืองยอมแล้วทุกอย่าง โมโหเหี้ยไร ตาวถูกเสมอ...นั่นคือสิ่งที่เมืองคิดในหัวตอนนี้
“ เป็นไรโดนว่าแค่นี้หงอเลยเหรอ หึหึ กูไม่ได้โกรธมึงหรอกนะวางใจได้แค่พอพูดถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วอารมณ์มันขึ้นนิดหน่อยจริงๆมันก็ไม่ใช่ความผิดของมึง ”
“ แต่มันก็ถูกแบบที่คุณเมืองว่า ”
“ อะไรทำไมทำหน้าหงอยขนาดนั้น กลัวกูโกรธ? ”
“ ก็คุณเมือง.. ”
“ แคร์กูมากเลยดิ ”
“ ไม่ใช่นะครับผมก็แค่ไม่อยากให้ใครมองผมไม่ดี ” ตาวส่ายหน้าปฏิเสธ
“ ปากมึงนี่แข็งจังนะ ” ว่าพร้อมกับยื่นมือไปบีบริมฝีปากเล็กสีชมพูธรรมชาติอย่างหมั่นเขี้ยว
“ อื้อ คุณเมือง ” ตาวส่งเสียงร้องอย่างขัดใจพร้อมกับพยายามจะดึงมือหนาออกจากริมฝีปากของตนเอง
“ เอโคๆไม่แกล้งละ ไปอาบน้ำได้แล้วไปเรายังต้องเจอศึกหนักอีกเยอะ ”
“ ศึกหนักอะไรครับ ”
“ ก็คุณแม่จอมหวงเพื่อนทั้งสองของมึงไง ”
************************************************
“ คุณเมืองห้ามว่าบอยกับพอใจนะ ” ตาวเตือนเมืองอีกครั้งหลังจากที่มาถึงที่นัดหมาย
“ มีแต่เพื่อนมึงน่ะสิจะยำกูจนเละ ”
“ พอใจกับบอยไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ” ตาวพูดงึมงำแก้ตัวแทนเพื่อนของตนเอง
“ ตาว ”
“ ครับ? ”
“ มึงเคยได้ยินทฤษฎีขนมครกไหม ”
“ ไม่ครับ ”
“ มีอาจารย์คนหนึ่งเคยเล่าให้กูฟังว่าผู้ชายคนหนึ่งไปจีบผู้หญิงที่ตัวเองชอบโดยการซื้อขนมครกไปให้ผู้หญิงคนนั้นในเวลาเดิมๆทุกวันจนครบ 21 วันและผู้ชายคนนั้นก็หายไป มันทำให้ผู้หญิงคนนั้นเริ่มมองหาผู้ชายคนนั้นในเวลาเดิมๆว่าเขาหายไปไหนทำไมไม่มาอีก ผู้หญิงคนนั้นเริ่มคิดถึง และอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาผู้ชายคนนั้นก็กลับมาและมันทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าเธอได้เริ่มตกหลุมรักผู้ชายคนนั้นไปแล้วพวกเขาจึงได้ตกลงคบกันในที่สุด ”
“ แต่ผมเคยอ่านมาว่าเรื่องแบบนี้มันก็แค่ทฤษฎีทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับการทำอะไรซ้ำๆจนเกิดเป็นความเคยชิน ”
“ ถ้าเกิดสมมติเพื่อนมึงบอกว่าให้กูเลิกยุ่งกับมึงล่ะ แล้วถ้าวันหนึ่งกูหายไปบ้างมึงจะคิดถึงกูไหม ”
“ ผมไม่รู้ครับ ” ตาวตอบตามที่คิดเพราะเข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหากวันหนึ่งที่เมืองหายไปเขาจะรู้สึกอย่างไรอาจจะเฉยๆเพราะก่อนหน้าที่จะเจอเมืองเขาก็ยังอยู่ได้ปกติดี หรืออาจจะคิดถึงก็ได้อันนี้ใครจะไปรู้ก็เพราะว่าเมืองยังไม่เคยหายไปและวนเวียนอยู่ใกล้เขาตลอดเวลานี่เนอะ
“ คำตอบสมกับเป็นมึง หึหึ ”
“ คุณ... ” ตาวเม้นปากบีบมือของตนเองแน่น “ จะถอดใจเหรอครับ ”
“ หืม? พูดแบบนี้หมายความว่าไง ” เมืองหันมาจ้องหน้าคนที่ตั้งคำถามกับเขาในใจลึกๆเมืองรู้แหละว่าจริงๆแล้วตาวก็เริ่มชอบเขาแล้วเหมือนกันแต่สิ่งที่เมืองอยากได้ก็คือความแน่ชัด เมืองก็แค่อยากให้ตาวพูดออกมาตามที่ตัวเองรู้สึกบ้าง
บางทีตาวก็ทำตัวเหมือนคนเป็นโรค...กลัวความรัก
ถ้าเขาผลัก ตาวจะดึง...แต่ถ้า เขาดึง ตาวกลับผลัก จนเขาไม่รู้แล้วว่าตาวต้องการอะไรกันแน่
“ อะ อากาศดีจังเลยนะครับ ” ตาวรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง
“ บ้านมึงเรียกอากาศที่ฝนตกในฤดูหนาวว่าอากาศดีเหรอ? ” เมืองยิ้มอย่างขำๆในท่าทางที่ทำตัวไม่ถูกของคนตัวเล็ก
“ ก็..... ”
“
คุณเมืองอย่าถอดใจได้ไหม พูดแบบนี้ จะเขินไรนักหนาบ้านมึงผลิตยาเขินรึไงใช้เปลืองจัง ตรงบ้างก็ได้กูไม่ถือหรอก ”