♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 432751 ครั้ง)

ออฟไลน์ jubujubu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ไม่ได้อ่านซะนาน
พออ่านตอนใหม่แล้ว เอ๊ะ  บุคลิกต่ายน้อยเป็นแบบนี้เหรอเนี่ย
ต้องขอตัวไปรื้อฟื้นก่อนซักรอบ :laugh:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
OMO
น้องต่าย เดี๋ยวหยิกปากเลย นอนใจทิมได้ยังไง งอนๆๆๆ

//กอดและบวกคนแต่งแก้คิดถึงค่ะ

ปล...โหวตเซ็งเป็ดกันด้วยนะคะ สู้ๆๆๆๆๆๆ เข้ารอบสุดท้ายให้ได้

เรียกข้าว่าอิแรด

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
อืม แบบ กำลังจะพิมพ์ประมาณ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เอาพี่ทิมมาๆๆๆๆๆๆๆเอาหมอไปๆๆๆๆๆๆๆ เอาทิมเท่าน๊านนนนนนนนนนนนนนนน พี่ทิมของเค้า ไม่ยอมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม พี่ทิ๊มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
แต่
เลื่อนลงมาแล้วเจอเมนต์ที่เชียร์แต่พี่ทิมแล้ว งึม สงสารหมอตงิดๆ โถ ทั้งที่ตอนนี้ควรจะเป็นอะไรที่เรียกคะแนนให้หมอแบบสุดๆแท้ๆ เหมือนเขาจะแสดงตัวตน+ความน่ารักอันแท้จริงแท้ๆ แต่แม่ยกทิมกลับทำให้ประเด็นนั้นกระเด็นไปเลย!(อนึ่ง เราก็แม่ยกทิม)
พูดถึงการรักษาซะหน่อย มันน่าเศร้าจริงๆเวลาที่เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นมาเนี่ย แต่อย่างที่คะน้าว่า ถ้าเราทำได้ดี ตั้งใจกับมันแล้ว ก็อย่าได้เสียใจกับสิ่งที่จะตามมา เพราะมันไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร ทั้งกับตัวเราและตัวคนไข้เลย
ปล.วันนี้วันจันทร์ โฮ!!!อีก24ชม.เลยเหรอกับการรอพี่ทิมปรากฏตัว
ปล.2เราเป็นแม่ยกทิม
ปล.3คิดถึงคนแต่งมากมายเลยนะคะ!!!

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ยังไม่ชัดกับความรู้สึกตัวเอง ถ้าวันนึงรู้ว่าหมอไม่ใช่ แต่ทำแบบนี้หมอจะเจ็บมากนะน้องต่าย

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
หงะ ...พี่น้องต่ายเฟร๊ยยยยยยย>< ไม่น๊า ..
นี่คือหวั่นไหว หรือบรรยากาศพาไป หรือเลือกแล้ว งึดงาดๆๆๆๆ

โบกธงเชียร์น้องทิมด้วยคน ฮือออ

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ทิมล่ะ O.o
แล้วทิมของเราหายไปไหนเนี่ยยยยยยยยยยยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เกือบร้องไห้ตามตุลแน่ะ

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
ยังอ่านไม่จบ อ่านถึงแค่ตอน 7 แต่ขอแสดงตัวก่อน

หนูเชียร์น้องทิม!!!!!!!!!!

เชียร์มาตั้งแต่แรก ชอบบุคลิกแบบนี้ เราว่าบุคลิกแบบหมอตุลมันไม่น่าค้นหาเท่าน้องทิม
เงียบ ๆ นิ่ง ๆ แต่เวลาอยู่กับเรา จะกลายเป็นอีกคน เหมือนว่ามีเพียงแต่เราเท่านั้นที่จะได้เห็นมุมนี้ของเค้า
โคตะระพิเศษอ่ะ ^^

เขินแทนน้องต่าย

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
เฮ้! ทิมรีบๆทำคะแนนเลย ตอนนี้บักตุลทำคะแนนนำไปไกลแล้วนา
รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
สวัสดีครับ ขอบคุณทุกๆ คำอวยพร ทุกคำคอมเมนต์ที่แวะมาทักทายกันนะครับ
คิดถึงทุกๆ คนมากเลย ดีใจมากๆ ที่เรียกได้ว่ายังไม่ลืมกัน ประทับใจมากจริงๆ ครับ
ก็อย่างที่บอกครับ วันนี้มาตามคำสัญญานะ ช่วงนี้ทนๆ อ่านไปก่อนแล้วกันนะครับ นะๆๆๆ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




ตอนที่ 12




ความรักคืออะไร

ชายหรือหญิง ยาก ดี มี หรือจน ครั้งหนึ่ง ก็น่าจะเคยตั้งคำถามโง่ๆ นี้กับตัวเอง
ทั้งๆ ที่มีคนมากมายเคยให้นิยามมันไว้นับไม่ถ้วน แต่เมื่อถึงจังหวะเวลาหนึ่ง
สมองเหมือนกับว่ามันจะลืมเลือนสิ่งที่เคยได้ยินมาไปหมดสิ้น อยากจะรู้ อยากจะค้นหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง




แสงแดดในยามเย็นอาบผิวขาวของคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ จนเจือด้วยสีส้มอ่อน
กระดุมบนเชิ้ตสีขาวที่มีรอยยับย่นถูกปลดออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อบริเวณแผ่นอกที่ขึ้นเป็นสันชัด
เจ้าของร่างสูงโปร่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาสีเข้มที่ดูเหมือนจะดูดซับความเมื่อยล้า
ทั้งหมดของผู้เอนกายด้วยความอ่อนนุ่มของมัน ทิมนั่งหลับตาอยู่เบื้องหน้าเขา
สองแขนกางออกแล้ววางลงบนพนักดั่งที่พักพิง ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศที่เงียบสนิท
ค่อยๆ ซับความชื้นของเม็ดเหงื่อบนร่างกายให้ค่อยๆ แห้งลง

...ไม่ได้สนใจไอศกรีมบนถ้วยที่อยู่ข้างหน้า หลังจากหลายนาทีผ่านไป
มันก็ค่อยๆ ละลายลงจนแทบจะกลายเป็นน้ำ

ไม่รู้เพราะความรู้สึกน้อยใจที่ระคนอยู่กับถ้วยไอศกรีมตรงหน้าที่เดียวดาย
เพราะความนิ่งเงียบในบรรยากาศ หรือเพราะว่าความเป็นทิมที่สลัดเท่าไหร่
ก็ไม่พ้นไปจากหัวสมองกันแน่ ที่ทำให้คะน้ารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

ทันทีที่อีกฝ่ายซึ่งหลับตาอยู่นั้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวแม้เพียงแผ่วเบา
ดวงตาคมสีดำก็ตวัดขึ้นจากนิทรา แม้ถูกแสงอัสดงแห่งอาทิตย์ยามเย็น
ย้อมจนสีดำเข้มนั้นกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่อาจกลบ
สิ่งที่ฉายชัดในแววตาคู่นั้นได้แม้เพียงเสี้ยววินาที ...ไม่เลย

“เอ่อ... จะกลับห้องน่ะ” แปลกที่คำพูดง่ายๆ
กลายเป็นเรื่องยากเสมอต่อหน้าเด็กหนุ่มรุ่นน้องคนนี้

เงียบ ...เงียบและนิ่งแบบทุกครั้งไม่เคยเปลี่ยนไป
ดวงตาวาวแค่ปรือลงก่อนจะปิดสนิทอีกครั้ง มือกว้างขยุ้มคอเสื้อไปมา
ก่อนจะคลายกระดุมเสื้อลงอีกเม็ดด้วยความเกียจคร้าน

คะน้าลอบผ่อนลมหายใจตัวเองออกเบาๆ สะบัดหัวไปมา
กับความคิดฟุ้งซ่านในสมอง ฝ่ามือข้างซ้ายค่อยๆ ยกขึ้นขยำเสื้อ
บนหน้าอกตัวเองโดยไม่รู้ตัว ...ต้องทนอยู่กับความรู้สึกนี้อีกนานแค่ไหน?

เพียงครู่เดียว เมื่อตัดสินใจลุกขึ้นยืน โดยไม่ทันจะได้ขยับเคลื่อนไหวใดๆ
ร่างคนที่เคยหลับใหลอยู่ก็ปรากฏขึ้นในระยะประชิดตัว
วงแขนกว้างของเด็กหนุ่มรุ่นน้องวาดขึ้นบนไหล่แล้ววางน้ำหนักลงอย่างวิสาสะ
ดวงตากลมโตที่ซุกซ่อนอยู่ใต้แพขนตาโค้งหนาอาบด้วยแสงสีส้ม
จนดูเหมือนสีของช็อคโกแลต ...ขม แต่ให้รสสัมผัสที่หวานชุ่มคอ

“เหม็นว่ะ! อะไรเนี่ย” คะน้าบ่นกระปอดกระแปด ทั้งๆ ที่รู้สึกร้อนวูบๆ บนใบหน้า

“เหรอ” ร่างสูงกว่าพลิกตัวอย่างคล่องตัว แขนที่เคยวางบนบ่าลดต่ำลง
แล้วโอบช้อนร่างตรงน้าแล้วกอดรัดทั้งสองแขนจนแน่น “เหม็นก็ต้องทน”

“ไรวะเนี่ย! ไอ้บ๊อง ปล่อย!” คะน้าโวยเต็มที่แต่ผลกลับกลายเป็นว่า
คางที่เป็นสันแหลมของคนข้างหลังกลับกดล็อคบนหัวไหล่อย่างไม่สนใจ

“หึ”

“เล่นอะไรเป็นเด็กๆ จะเกาะไปจนเมื่อไหร่ เหม็น!”

“จนกว่าจะชิน”

“เออ ชินแล้ว!” ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงนั้น จะเมื่อไหร่ หรือนานแค่ไหนก็ไม่ชินสักที

“ก็แค่นั้น” ทิมตอบกลับอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับคลายวงแขนที่รัดอยู่ออก
คะน้าเอามือลูบไปตามเนื้อตัวของตนเองแล้วบ่นอุบ
ราวกับโดนหมามุ่ยที่แสลง มีทิมยืนยิ้มกริ่มอยู่เบื้องหน้า

“ป้อน” เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเจ้าตัวยักคิ้วสบายอารมณ์

“อะไร” ...อึดอัดกับอะไรพวกนี้จัง

“ติม”

“ตีนได้ไหม?” คะน้าเหวี่ยงกลับอย่างหัวเสีย เกิดมาสาบานได้ว่า
เป็นคนใจเย็น อารมณ์เย็น แต่ขอเว้นคนๆ นี้ไว้สักคนเถอะ

“มีเถียง” ทิมไม่ได้สนใจหาความ
เขาล้มตัวลงไปเอกเขนกบนโซฟาอีกครั้งแล้วหลับตา





ความรักคืออะไร

ยากเหลือเกินที่จะหาคำตอบที่ถ่องแท้ แต่สิ่งที่ยากกว่านั้นสำหรับตัวเราในเวลานี้ก็คือ
ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ...จะรู้ได้อย่างไรว่ามันคือความรักที่แท้จริง





ช้อนถูกหมุนวนช้าๆ ในถ้วยไอศกรีม เหมือนกับความคิดที่วนเวียน
อยู่ในหัวสมองของคะน้าในห้วงเวลานี้ รู้สึกตัวเองเป็นเหมือนเด็กโง่ที่ไม่รู้ความ
เด็กที่อ่อนไหวกับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ง่ายดายเหลือเกิน

ยังรู้สึกโทษตัวเองที่เมื่อคืนวันก่อน เพราะความที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจจึงทำอะไรแบบนั้นลงไป
แต่กระนั้นความรู้สึกอีกด้านมันกลับรู้สึกดี ...อันที่จริง มันดีมากเลยล่ะ

มันเหงามากเลยนะ กับความรู้สึกที่ต้องอยู่คนเดียว ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา
ไม่เคยรู้จักเลยว่าความรักมันคืออะไร ได้แต่แอบมอง แอบชอบคนนั้นคนนี้ไปทั่ว
แต่ไม่เคยสักครั้ง ...ไม่เคยเลยที่จะมีตัวตน ไม่เคยที่จะใครสักคนมองกลับมาที่เรา
นี่ไม่ใช่แค่การมีตัวตน ไม่ใช่แค่นั้น ...ตุลให้ความรู้สึกถึงการได้เป็นคนสำคัญ
อยู่คนเดียวมันก็อยู่ได้นะ ชีวิตทุกวันนี้มันก็โอเคนะ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร




...แต่ไม่อยากจะอยู่คนเดียวอีกแล้ว

มันแปลก มันไม่น่าจะเข้าท่า และถ้าใครรู้ว่าเรามีความคิดทุเรศแบบนี้
คงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ถ้าป๊ากับแม่อยู่ที่นี่ อาจต้องเสียใจ
และแม้แต่ผักกาดก็คงผิดหวังในตัวเราสุดๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม...



ทำไมเราถึงมีความรู้สึกแบบนี้กับ...

คะน้าสะบัดหัวเบาๆ มองทุกอย่างรอบตัวไปเรื่อยๆ ด้วยความสับสน
และโดยไม่รู้ตัว จู่ๆ ชายหนุ่มก็ค่อยๆ เงยหน้าจากถ้วยไอศกรีมแล้วนิ่งงัน
เขาไล่สายตาลามขึ้นไปตามร่างกายของคนที่นอนเอกเขนกอยู่เบื้องหน้า
ทิมเอนกายนอนหลับตาพริ้ม ผมที่เคยเซ็ตเป็นทรง บัดนี้ดูยุ่งเหยิงสบายๆ
แขนเสื้อเชิ้ตถูกพับขึ้นง่ายๆ กระดุมที่เคยติดมิดชิดคลายออก
พร้อมกับชายเสื้อที่อยู่นอกยีนส์สีฟ้าเข้ม ผิวขาวเนียนละเอียดไม่แพ้ผู้หญิง
แต่กลับมีกล้ามเนื้อนูนชัดเป็นเส้นสวยแบบผู้ชายที่ออกกำลังกายมาเป็นอย่างดี



...มีความรู้สึกแบบนี้กับคนเพศเดียวกัน

“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอของทิมทำให้คะน้าสะดุ้งขึ้นจากภวังค์
เหมือนคนทำผิดที่ถูกจับได้ ไม่รู้จะกลบเกลื่อนยังไง
คะน้ารีบตักไอศกรีมกะทิที่เริ่มละลายในถ้วยขึ้นทานอย่างรีบร้อน

“อะไร?”

“ผมควรถามพี่ไม่ใช่เหรอ” คนอายุน้อยกว่าค่อยๆ เปิดตาขึ้นมอง
พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “...อะไร?”

“อะไรเล่า?”

“หึ” เจ้าตัวค่อยๆ ลุกขึ้น เอามือขยี้ผมตัวเองอย่างเกียจคร้าน
แล้วเดินมานั่งเบียดข้างๆ อย่างจงใจ
ทิมเสตามองไปทางถ้วยไอศกรีมที่คะน้าจ้วงเอาๆ แล้วยักคิ้ว

“ชอบเหรอ?”

“ก็... ก็เสียดาย” รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก “อ...อร่อยดีด้วย!”

ว่าแล้วคะน้าก็ตักไอศกรีมฝีมือตนเองตักเข้าปากต่อ คำต่อคำจนน่าอร่อย
ปกติเขาเคยทานตอนเวลาที่มันเย็นจัด แต่เนื้อละเอียดของไอศกรีมสีขาว
ที่ค่อยๆ ละลายผสมกับเนื้อมะพร้าวอ่อนที่ฝานบางๆ ให้รสชาติที่ดูนุ่มนวลไปอีกแบบ
กระทั่งคำสุดท้าย คะน้าตักทั้งหมดขึ้นเต็มช้อนเตรียมส่งเข้าปาก แต่...


...แต่ช้าไปเสียแล้ว

เมื่อทิมโน้มตัวลงมาอย่างรวดเร็วแล้วขโมยงับคำสุดท้ายลงไปอย่างหน้าตาเฉย
นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่ทิมทำอะไรพิเรนทร์ๆ แบบนี้ น้ำส้ม ...และไอศกรีม
ทิมเงยหน้าขึ้นมาก็สบตาอย่างไม่ลดละ ดูเหมือนเป็นเด็กๆ ที่เอาแต่ใจ
อยากได้อะไรก็ต้องได้เดี๋ยวนั้น อยากทำอะไรก็จะทำทันที แต่มันแค่นั้นจริงๆ ใช่ไหม

...เพราะบางที มันก็ทำให้ความรู้สึกของคนที่ถูกกระทำเตลิดไปไกลเหลือเกิน

“อะไร” ไม่อยากจะมองสายตาคู่นั้นเอาเสียเลย
บางทีมันก็ให้ความรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก

“หวานดีนะ” คำพูดสั้นๆ แบบนี้ บางครั้งก็ทำให้ตีความไม่ถูก
คะน้าได้แต่เมินตาไปทางอื่นเพื่อซ่อนความรู้สึกที่ร้อนวูบขึ้นที่ใบหน้า
หากแต่สายตาของทิมดูเหมือนยังจะตามจับจ้องอย่างไม่ลดละ

“อะไรอีกเล่า!”

“หึ” เจ้าตัวหัวเราะสั้นๆ ในลำคอแล้ววิสาสะยกมือขึ้นมา
วางพาดบนบ่าของคะน้าอย่างถือกรรมสิทธิ์ “...ต่าย”

“อะไร”

“เมื่อกี้น่ะอะไร”

“เมื่อกี้อะไร ไม่เข้าใจ”

“หมายถึงก่อนหน้านี้” ทิมหันกลับมาสบตาอีกครั้ง
แววตาสุกใสวับวาวด้วยความเจ้าเล่ห์ “คิดว่าไม่เห็นเหรอ”

เล่นเอาคะน้าถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกผิดกับความรู้สึกตัวเอง “มองอะไร”

นึกอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปให้ไกลๆ ถามแบบนี้ จะให้ตอบว่าอะไร
ต่อให้พูดแต่ความจริง มันยากเกินไปที่จะอธิบายความรู้สึกอะไรพวกนี้ได้
ผิดกับอีกฝ่ายที่เหมือนกำลังสนุกกับการไล่ต้อนให้จนมุมอย่างพ่ายแพ้

“หืมมม? ถามก็ตอบสิ” ทิมออกแรงกดกระชับวงแขนบนบ่า “ตอบเร็ว”

“มองบ้ามองบออะไร มั่วแล้ว” พยายามเฉไฉลุกขึ้นยืน
อย่างรวดเร็วแล้วรีบรวบรัดตัดความ “กลับก่อนนะ”

“โอ้ววว... ฮ่าๆๆๆๆ” อีกฝ่ายหัวเราะชอบใจ
ก่อนจะตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “โอเค ไม่ส่งนะ”

“ไม่ต้อง” คะน้าหยิบภาชนะที่ส่งไอศกรีมขึ้นมาแล้วเก็บก่อนจะเดินจ้ำๆ ไปกดลิฟต์
ระหว่างที่ยืนรอไฟกระพริบที่ค่อยๆ ไล่จากชั้นล่างขึ้นมาทีละชั้นทิมก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“เป็นอะไรหรือเปล่า ดูมีเรื่องคิดๆ นะ”

เดิมทีที่คะน้าตั้งใจจะหันกลับไปต่อปากกวนประสาทกลับ
แต่เมื่อเห็นสายตาที่ดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้งของทิม เขาก็ได้แต่รับคำเบาๆ
แล้วก้มหน้าไม่ได้พูดอะไรอย่างที่ตั้งใจออกมา กระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก
คะน้าค่อยๆ ก้าวเข้าไปในลิฟต์ กดชั้นที่ตัวเองจะลงไป ไม่ช้าประตูลิฟต์ก็ค่อยๆ ปิดลง

“เดี๋ยว!” เสียงทิมตะโกนมาจากที่เดิม คะน้ากดประตูลิฟต์ให้เปิดออกขึ้นอีกครั้ง
แต่แล้วคนที่ตะโกนเรียกก็ไม่ได้พูดอะไร จะคะน้าตะโกนถามด้วยความสงสัย

“อะไรเหรอ”

“เปล่า ไม่มีไร”

ทิมก้มหน้าก้มตาไม่รู้ไม่ชี้อะไรเหมือนจะกวนโทสะเล่น
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่คะน้าชินเสียแล้ว ชายหนุ่มกดปิดลิฟต์อีกครั้ง
โลหะสี่เหลี่ยมค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าหากันช้าๆ ภาพสุดท้ายก่อนที่ประตุลิฟท์จะปิดลง
คือท่าท่างประดักประเดิกของทิมก่อนที่เขาจะหันหน้าไปด้านข้าง
แล้วขยี้หัวตัวเองไปมาเหมือนไม่รู้จะทำอะไร ใบหน้าก้มต่ำผิดกับทุกที
และใบหูที่ดูเป็นสีแดงระเรื่อเหมือนคนโดนบิดหูแรงๆ มา





ความรักคืออะไร

ต่อให้ถามคนเป็นร้อยคน ก็คงจะมีร้อยคำตอบที่แตกต่างกันออกไป
จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากอย่างนั้นหรือเปล่า
จะเป็นเรื่องที่ทำให้เราทุกข์ใจแบบนี้ไหม คิดว่าคงไม่ใช่
เพราะหากมันเป็นสิ่งที่ยุ่งยากจริง ทำไมใครๆ ต่างก็อยากครอบครองมัน
ความรักคืออะไร แล้วจริงๆ แล้วเรารู้สึกยังไงกับหัวใจของตัวเองกันแน่





เวลาที่อยู่ใกล้กับทิม ไม่มีสักครั้งที่ไม่รู้สึกอึดอัด มันเหมือนกับหายใจไม่ออก
ทั้งๆ ที่เราก็ยังหายใจตามปกติ ทุกครั้ง เวลาที่อยู่ใกล้ เดี๋ยวก็รู้สึกสั่นเหมือนกับ
คนที่เจออากาศเหน็บหนาว บางครั้งก็ร้อนวาบเหมือนกับเจอไฟลน
ไม่เคยมีสักครั้งเลยที่ได้รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ทุกอย่างเป็นเรื่องยาก ...ยากเหลือเกิน


...บางคนบอกว่านี่คือความรัก

เวลาที่อยู่ใกล้กับตุล มันมีแต่ความรู้สึกสบายใจ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำให้เรารู้สึกได้ว่าเราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่
อยากทำอะไร มันทำได้ทุกอย่าง เวลาที่เห็นตุลมีความสุข
มันรู้สึกเหมือนกับเราก็สุขไปด้วย แต่เวลาที่เห็นเขาทุกข์ มันทรมาน
มันหงุดหงิดไม่สบายใจ อยากให้ตุลมีความสุข ...อยากเห็นรอยยิ้มของตุลอีกครั้ง



...บางคนก็บอกว่านี่คือความรัก

ถ้ามันคือความรักทั้งคู่ รักทั้งคู่เหมือนๆ กัน
ความรู้สึกมันก็ควรจะเหมือนกันไม่ใช่หรือ
แต่นี่มันต่างกัน ...ต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย

เปิดดูโทรทัศน์รายการอะไร หรือจะเปิดเพลงเพราะๆ ให้ดังแค่ไหน
แต่มันก็เท่านั้น ไม่สามารถสลัดคำถามมากมายที่มีอยู่ในใจเหล่านี้ไปได้เลย
ลงท้ายคะน้าก็ได้แต่นั่งจับเจ่าอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาเนิ่นนาน กระทั่งเสียงกริ่งประตูดังขึ้น

“คิดแล้วเชียวว่าต้องอยู่ ได้ยินเสียงเพลงไปถึงที่ห้องเลย”

“อ้าว ตุล” คะน้ายิ้มรับและเปิดประตูต้องรับอย่างยินดี ร่างสูงยิ้มร่า
พร้อมชูสปาเก็ตตี้จานโตขึ้นสูง กลิ่นหอมของอาหารคละคลุ้งขึ้นมาทันที

“มีเยอะ มาแบ่งกันกินนะ” เพื่อนบ้านที่เริ่มกลายเป็นเพื่อนสนิทจึงเดินเข้ามา
ก่อนที่คะน้าจะปิดประตูแล้วเดินนำเข้าไปในครัว

“เยอะแยะเลย แบ่งกันกิน”

“อะไรน่ะ หน้าตาเข้าท่าดีนะ” คะน้าเดินมาสูดจมูกใกล้ๆ
ความที่เป็นคนทานง่าย อาหารไม่เคยมีปัญหากับคะน้าเลยสักอย่าง

“นาโปลิตาน่า ใช้เส้นเฟตตูชินีทำ ไม่รู้จะไหวไหม”
คะน้ายืนเกาหัวแกรกๆ กับชื่ออาหารภาษาอิตาเลียนที่ไม่คุ้นหู

“อะไรนั่น ทำไมชื่อมันพิสดารแบบนั้น มีที่เรียกง่ายๆ ไหมน่ะหมอ”

“สปาเก็ตตี้ซอสทะเล” ตุลตักแบ่งออกเป็นสองจาน แล้วยื่นจานหนึ่งให้กับเจ้าของห้อง
คะน้าที่จ้องตาเขม็งคว้าส้อมมาหมุนเส้นเป็นวงกลมๆ

“เออ ก็แค่นั้นแหละ” หมุนเป็นคำโตๆ แล้วก็จ้วงเข้าปาก “กำลังร้อนๆ เลย”

“ไหวป่าว”

ตุลทำหน้าหวั่นๆ คะน้าเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่ตอบอะไร แต่ยกนิ้วโป้งขึ้นมาชู
ไม่นานนักทั้งคู่ก็อิ่มพุงกาง ตุลนั่งลงบนโซฟาแล้วเอนตัวพิง
โดยมีคะน้าเดินตามมาสมทบแล้วนั่งลงข้างๆ แล้วลูบพุงตัวเองป้อยๆ

“ไหนว่าทำอาหารไม่เป็นไง หมอ”

“ก็ไม่เป็นจริงๆ” ตุลหัวเราะแหะๆ

“แล้วเมื่อกี้นี่มันอะไร จานเบ่อเร้อ” ตุลยิ้มแล้วก้มหน้าก้มตา
คะน้าเลยเอาข้อศอกกระทุ้งไปสองสามที

“มันอาหารไมโครเวฟต่างหาก” ตุลพูดเสียงเบาๆ ทำหน้าแหย “สี่กล่องเลยนะนั่น”

“อ้าวว... นึกว่าทำเอง ใส่จานมาซะหรู”

“ผมว่ายี่ห้อนี้อร่อยนะ ...ก็อยากให้ลองกินไง” ตุลรับเสียงอ่อยๆ
แม้ว่าจะเป็นเหตุผลที่แปลกประหลาด แต่คะน้าก็รู้สึกว่าอาหารนั้น
ก็สมกับราคาคุยของเพื่อนบ้านที่เป็นเจ้าแห่งอาหารกล่องจริงๆ

“เอามาทั้งกล่องก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลาล้าง แผนสูงนี่นา ร้ายว่ะหมอ ฮ่าๆๆ”
คะน้าหัวเราะในความเจ้าเล่ห์ของตุล เจ้าตัวก็เลยตีเนียนหัวเราะกลบเกลื่อนไปตามประสา

“ฮ่าๆๆ ก็แผนสูงจริงๆ นั่นแหละ อร่อยไหมล่ะ”

“อร่อย...มมมมมมมมมมมมาก”

“ถ้าต้องทานอาหารแบบนี้บ่อยๆ ต้องทานเรื่อยๆ จะไหวไหม?”

“ไหวนะ อร่อยออก” คะน้าตอบแบบไม่ต้อวคิดให้เปลืองหัวสมอง
แน่ล่ะ ก็มันดีกว่าไข่เจียวไหม้ๆ ที่เขาทำเองเป็นไหนๆ

“ต่าย...”

“ว่าไง...” คะน้าหันมายิ้ม ตุลยิ้มตอบ
...เฮ้อ มันเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ามองอะไรขนาดนั้นนะ

ตุลค่อยๆ โน้มตัวลงมาข้างหน้า แล้วค่อยๆ ยื่นหน้ามาใกล้




(ยังไม่จบนะ มีต่ออีกหนึ่งจึ๊กครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ต่อครึ่งหลังครับ)




ตุลค่อยๆ โน้มตัวลงมาข้างหน้า แล้วค่อยๆ ยื่นหน้ามาใกล้

...ใกล้จนสัมผัสได้ถึงไออุ่นของลมหายใจ ดวงตาที่อ่อนโยนนั้น
วับแววเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้งที่ไม่ปิดบัง ริมฝีปากอิ่ม
ค่อยๆ แย้มขึ้นจนเห็นไรฟันสะอาดขาว ตุลเอื้อมมือโอบลงบนบ่าของคะน้าเบาๆ
แล้วดึงมาแนบชิด ก่อนจะกระวิบคำถามเบาๆ ที่ข้างใบหู



“งั้นเรามาทานอาหารแบบนี้กันไปเรื่อยๆ จนแก่กันดูไหมครับ?”

ไม่รู้ว่าโง่จนตีความหมายเตลิดเข้าข้างอกุศลหรือว่าอะไร
แต่สิ่งที่ตุลไต่ถามนั้น มีความนัยเป็นคำเชิญชวนบางอย่างในทีอย่างเปล่า



“ต่ายครับ ...เรามาลองคบกันดูไหม”

เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตไปชั่วขณะ หูอื้อจนฟังอะไรไม่ได้ยิน
ตาลายจนมองอะไรพร่าเลือนไปหมด อยู่ๆ คะน้าก็รู้สึกแปลบขึ้นกลางอก
ไม่ใช่ความเจ็บปวด แต่มันอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ไม่ถูก
ในอกมันแน่นเหมือนมันจะระเบิด แต่มันไม่ได้รู้สึกอึดอัดใดๆ
แทบจะเป็นความรู้สึกตรงกันข้ามเลยก็ว่าได้
มันเบา ...เบาเหมือนตัวเองมันพร้อมจะล่องลอยไปไหนๆ





ความรักคืออะไร

ผู้คนมากมายคว้าไขว่เสาะแสวงหา บ้างก็ต่างรอคอยการมาเยือนของคนๆ หนึ่ง
ที่จะหอบเจ้าความรักมาฝาก ผมไม่รู้จักความรัก ...ไม่เคยรู้จักเลย หน้าตามันเป็นยังไง
รูปร่างแบบไหน แล้วมันจะมีจริงแบบที่เขาพูดๆ กันหรือเปล่า ผมไม่รู้ ไม่มั่นใจ มันจะใช่...





คะน้าเหลือบตาขึ้นมาคนที่อยู่ตรงหน้า ผิวขาวบนใบหน้าตัดกับคิ้วเข้มและเรือนผมดกดำ
ไรผมไหวไปตามแรงขยับตัวบอกถึงความอ่อนนุ่มของตัวผมที่ดูหนาแน่นนั้นได้เป็นอย่างดี
กรอบแว่นตาพลาสติกเหลี่ยมตัดกับดวงตาที่โค้งมนสุกใส จมูกเป็นสันสูงเรียว
รับกับริมฝีปากสีชมพูเข้มแบบคนสุขภาพดี กลิ่นครีมโกนหนวดจางๆ
ชวนให้คะน้าต้องหยุดสายตาลอบมอง ไรหนวดอ่อนๆ ถูกโกน
จนเกลี้ยงเกลาเหลือร่องรอยสีสีเขียวจางๆ ดูมีเสน่ห์เหลือเกิน




...มันจะใช่ตุลไหม?



“ว่าไงครับ”

คะน้าได้แต่อึกๆ อักๆ ปรับตัวไม่ถูก ไม่รู้จะตอบยังไงกับคำถาม
ที่ดูจะเกินความคาดหมายแบบนี้ แล้วควรจะทำตัวยังไงเพราะตั้งแต่เกิดมา
เขาไม่เคยคาดคิดจริงๆ ว่าจู่ๆ วันนึง ความรักจะเข้ามาทักทายแบบนี้

“ไม่รู้ ...อ่า ไม่รู้ครับ”

ตุลขมวดคิ้วเข้มขึ้นสูง แสดงออกถึงความไม่เข้าใจในคำตอบที่ไม่มีทั้งคำปฏิเสธ
หรือคำตอบรับใดๆ จากปากของคะน้า แต่แล้วเมื่อลองประมวลจากท่าที
และอุปนิสัยใจคอของคนที่ตัวเล็กกว่าก็พอจะจับแนวทางได้ว่า
อีกฝ่ายนั้นคงไม่รู้จะรับมือกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ยังไงเป็นแน่




“หรือว่าคะน้ามีคนที่ชอบๆ อยู่แล้วหรือเปล่าครับ”

ฉับพลันทันใดนั้น ภาพท่าทางกวนประสาทของคนที่เจอ
เมื่อตอนเย็นก็ผุดขึ้นมาในหัวสมอง คะน้ากระพริบตาถี่ๆ
สลัดไล่ความคิดแปลกๆ นั้นออกไป กระทั่งภาพตรงหน้าแจ่งชัดขึ้นทุกที



...รอยยิ้มของตุลที่ทำให้เขามีความสุข

ใบหน้าคนที่ถูกตั้งคำถามสะบัดไหวไปมา
...น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดเท่าที่พอจะคิดได้ในตอนนี้ล่ะมั๊ง



“ถ้าอย่างนั้น ลองดูไหมครับต่าย”

“แต่ผมเป็นผู้ชาย”

“ครับ ผมทราบดี” ตุลสบตากลับอย่างไม่หวั่นไหว

“ความรักบางครั้งมันก็ไม่มีเหตุมีผลเอาเสียเลย ถามคนร้อยคน
ก็มีคำตอบให้กับความรักร้อยอย่าง ผมไม่รู้ว่าความรักของต่าย
มีรูปแบบหน้าตาเป็นแบบไหน แต่ความรักที่ผมมี...
อย่าขำในความไร้สาระของผมเลยนะครับ นับตั้งแต่ได้เห็นคุณที่สวนในวันนั้น...
เห้อ ช่างเถอะครับ เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ ผมเองก็ตื่นเต้นจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”

ตุลก้มหน้าลง ได้ยินเสียงบ่นงุบงิบพอได้ยินแผ่วๆ ในบรรยากาศ
“บ้าฉิบ! ทั้งๆ ที่เตรียมตัวมาอย่างดีแล้วแท้ๆ ไอ้ตุลเอ้ย!”

“ผมอาจมีคำพูดที่ไม่ได้ดีมากมาย รวมทั้งตัวผมเองก็คงไม่ได้ดีอะไรมากมายกว่าใครๆ
เพียงแต่ผม ...ผมอยากเป็นคนที่ดีที่สุดของคุณ ผมเองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อในความรักแบบนี้
และผมเองก็ไม่รู้ว่าความรักมันคืออะไร แต่ให้ตายเหอะ ...วันนี้ผมอยากลอง
ทำความเข้าใจกับมันดูสักตั้ง ผมอยากให้โอกาสตัวเอง ...ผมไม่รู้ ไม่รู้เลย”



“ความรักเหรอ มันคืออะไรน่ะตุล”

“ไม่รู้สิ ที่รู้ ที่คิดมาตลอด และมั่นใจมาตลอดก็คือมันต้องมีต่ายเป็นส่วนผสมอยู่ในนั้น”



“ไม่กลัวกับความไม่แน่นอนในอนาคตเหรอ
ไม่กลัวว่าผมจะทำให้หมอผิดหวัง เสียใจเหรอ”

“ไม่”



“ไม่กลัวเหรอ กับการที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ทั่วไป”

“ไม่”



“แล้วไม่กลัวเหรอกับ...”

“ไม่นะ ไม่กลัวสักอย่าง ..แค่มีนายอยู่ข้างๆ ...มีกันและกัน ไม่กลัว

“ถ้าผมทำหมอเสียใจล่ะ”

ตุลยิ้มขึ้นมาช้าๆ สองแขนโอบกอดร่างคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้ามาจนชิดใกล้
ใบหน้าที่ดูคมสันโน้มลงแล้วค่อยๆ เอี้ยวออกข้าง ก่อนที่ปลามจมูกจะกดลงเบาๆ
บนแก้มของคนในอ้อมกอด ไออุ่นเล็กๆ ค่อยๆ ซึมผ่าน
ไปจนเจ้าของแก้มรับรู้ เสียงทุ้มที่อ่อนโยนดังแผ่วขึ้นที่ข้างหู

“อย่าทำให้ผมเสียใจเลยนะครับ”

คะน้าหลับตานิ่ง ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้ารับเบาๆ



เป็นแฟนผมนะครับ คะน้า



นะครับ






นะครับ

























ครับ




คะน้าล้มตัวนอนลงบนเตียงนอนที่หนานุ่ม ห้องที่ดูว่างเปล่านั้น
ผิดกับคำถามมากมายที่อัดแน่นอยู่ในสมองของผู้เป็นเจ้าของ
หน้ากระดาษไดอารี่ที่เปิดอยู่บนเตียงมีแต่ความว่างเปล่า
ถ้าจะขีดเขียนทุกอย่างที่คิดอยู่ลงไปในกระดาษ ไม่รู้ว่าต้องใช้พื้นที่มากแค่ไหนถึงจะพอ
ถ้าเจ้อยู่ตอนนี้ก็คงจะพอปรึกษาหาความได้บ้าง
เนียนๆ ว่าเป็นเรื่องของเพื่อนแบบทุกๆ ทีนั่นแหละ

...จริงสิ! โทรไปก็ได้นี่หว่า

คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาพี่สาว แต่ก็ไม่รู้จะถามว่ายังไงให้คนเป็นพี่
ที่เหมือนจะมองทะลุปรุโปร่งไปหมดจะไม่รู้ถึงความลับในใจเขา
ลงท้ายก็ได้แต่กดมือถือเล่นไปมา คะน้าใช้โทรศัพท์มือถือถูกๆ ราคาแค่ไม่กี่ร้อยบาท
ไม่ได้ต่อต้านกระแสอะไร แต่โทรศัพท์รุ่นดีแค่ไหนก็เท่านั้น
...ไม่มีใครโทรหา ...และไม่มีใครให้โทรหา กดดูมือถือเล่นๆ ไปมา
ถึงได้เห็นว่ามี sms ในกล่องข้อความมากมาย



ข้อความที่ไม่ได้อ่าน: 45 ข้อความ

ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าจะมีคนส่งอะไรมา ผักกาดก็ไม่ได้ส่ง sms อยู่แล้ว
มีอะไรกดโทรหาตลอด ไม่รับก็กดโทรเรื่อยๆ จนกว่าจะรับตามนิสัย
จนเขาไม่เคยสนใจอะไรมือถือเลย 45 ข้อความ? จากใคร?
คงเป็นข้อความขายสินค้าหรือโปรโมชั่นพวกฟิตเนสล่ะมั๊ง

แต่เมื่อกดดูก็เป็นข้อความจากเบอร์เดิมๆ
ที่กดส่งมาหาทุกคืน เบอร์เดิม และข้อความก็ซ้ำเดิมทุกวัน




ฝันดีนะ ไอ้น่ารัก

เป็นเบอร์ที่เขาไม่เคยเมมไว้ในเครื่อง เคยคิดว่าจะเมมเก็บ
แต่ก็ลืมไปเสียสนิท เบอร์ของคนที่เขาไม่เคยคุยด้วย




...เบอร์ของทิม

คะน้าค่อยๆ กดไล่ไปทีละข้อความ อ่านมันจนครบทุกๆ อัน
ข้อความเดิมๆ ที่อวยพรให้เขานอนหลับฝันดีในทุกๆ คืน
คะน้ายิ้มขึ้นน้อยๆ แต่ความรู้สึกในใจกลับเบาหวิวอย่างประหลาด
นิ้วโป้งค่อยๆ กดเลือกที่หน้าข้อความทีละข้อความ ไล่ลงไปเรื่อยๆ
นับตั้งแต่ข้อความแรกจนกระทั่งถึงข้อความสุดท้าย ก่อนจะไล่กลับขึ้นสู่ปุ่มเมนูบนสุด

...46 ข้อความ

ชายหนุ่มหลับตาลง ความรู้สึกเดิมๆ กลับมาอีกครั้ง
...แปลก ที่เหมือนกับทิมลงลงอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้
อึดอัด ทรมาน ไม่รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง แต่ผิดกับทุกๆ ครั้งตรงที่มันอึดอัดกว่า
ทุกข์ทรมานมากกว่า ใจหายนะ ...มันเหมือนกับคนที่ไม่อยากจะหายใจอีกแล้ว






“อย่าทำให้ผมเสียใจเลยนะครับ”


นิ้วโป้งบนฝ่ามือสั่นๆ แต่คะน้าก็ฝืนกลั้นใจ

...เลือกที่จะลบทุกๆ ข้อความ
...เพราะเขาเลือกแล้ว

คะน้าลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง ยังรู้สึกใจหาย นิ้วมือที่กดยังสั่นไหวอย่างประหลาด

ข้อความในกล่อง: 0 ข้อความ

...ก็เลือกแล้ว
...ก็เลือก ...จะลบมันไปแล้ว

คะน้าหลับตาลงอีกครั้ง ในหัวสมองที่เคยวุ่นวายและเต็มไปด้วยคำถาม
ตอนนี้ มันช่างว่างเปล่า ห้องว่างเปล่า ความรู้สึกในใจก็ว่างเปล่า

มีเพียงคำถามเดียวที่ยังดังก้องในใจ




ความรัก ...มันคืออะไร?



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เขียนแบบนี้ คนแต่งจะโดนดักทุบหัวแตกไหมเนี่ย เหอๆๆ
รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ชอบกลบอกไม่ถูกแฮะ
เอาเป็นว่ารีบมารีบไป รีบชิ่งดีกว่าเนอะ
พบกันอีกทีไม่วันพฤหัสก็วันศุกร์นะครับ

ปล. เห็นเหตุผลแล้วหรือยังครับว่าทำไมต้องแต่งแบบมีสต็อค! 5555

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
หวานแบบหน่วงๆ แล้วทิมอะ ทิมอะจะเอาไปไว้ไหน เป็นน้องพลับได้เปล่า
ขอ 2 อะ  รักพี่เสียดายน้องเว้ยเห้ย

ขอบคุณมากค่ะ น้องต่ายมาไวอิอิ จัดเต็มมาเลยรอน้องทิมขอเป็นแฟนอีกคน

 :L1: :pig4: :L1:+ :3123:

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ค้าง งงง ค้างมาก ค้างที่สุด
คือมันรู้สึกหน่วงๆ อ่านๆไปก็เหมือนหมอจะเป็นพระรอง ส่วนทิมเป็นพระเอกยังไงก็ไม่รู้ แล้วตอนนี้เหมือนคะน้าจะเลือกผิดอะไรประมาณนี้ =_=
เอาเป็นว่า รอติดตามเนื้อเรื่องต่อนะจ๊ะ

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
แง ..ไม่นะ...T_T เอาจริงหรอคะน้าาาาา
แต่ก็นั่นแหละ ความรู้สึกทั้งสองอย่าง ก็น่าจะคิดได้ว่าเป็นรักทั้งคู่
แต่ไม่รู้ว่ารักแบบไหนนี่ละนะ..เฮ้ออ


แอบอาศัยช่วงชุลมุน พาน้องทิมหนี กร๊ากกส์ :laugh:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
เม้นท์ไม่ออก แต่อ่านจบแล้ว อารมณ์ประมาณอีโมนี้เลย  :z3: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ไม่เข้าใจคะน้าอย่างที่สุด จะรอจนกว่าหายอึมครึมแบบนี้ค่อยมาว่ากันใหม่ ทำตัวเองอีกแล้วเฮ้อไม่ชัดเจนอะไรแล้วยังทำให้มันยุ่งยากไปอีก

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
กรี๊ดดดด ฮืออออ
มันหวานนะ แต่ก็เศร้าอย่างบอกไม่ถูก
แอร๊ยย ขัดใจ ขัดใจจริงๆ

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
มันจะใช่ตุลไหม มันจะใช่ทิมไหม? ...แล้วคำตอบจะเป็นอย่างไรหากทิมบอกรักคะน้าก่อน?
ไม่รู้มันก็ต้องลอง ก็จริงอยู่ค่ะ ถึงจะขัดใจไปพอสมควร เพราะเราชอบทิม เราเลยอยากให้คะน้าเลือกทิม
เราดันเอาความชอบตัวเองไปใส่เต็มที่ แต่อันที่จริงชีวิตเป็นของคะน้านี่เนอะ เหอๆ
จริงๆเราก็ไม่ได้เกลียดหมอนะ แค่พอเทียบกับทิมแล้วเราชอบทิมมากกว่าแค่นั้นเอง
หลังจากทำใจและลดอคติกับหมอไปแล้ว หมอตุลก็ไม่ได้แย่อะไรเลย (เคลียร์บรรดากิ๊กๆเก่าให้หมดด้วยนะยะหมอ!)
เพราะฉะนั้นถ้าคะน้าเลือกแล้ว ก็อย่าทำให้หมอเสียใจล่ะ!!
เราไม่ชอบคนโลเลไม่มั่นคง ดังนั้นถึงแม้เราจะเป็นแม่ยกน้องทิม แต่การที่คะน้าเลือกที่จะลบข้อความทิ้งเราโอเค
คุณ Lucea ถ้าคะน้าคู่หมอจริง อย่าลืมหาคู่มาดามใจให้น้องทิม(ของเรา?)ด้วยน้าาาา
 :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2012 23:40:07 โดย RoseBullet »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
แม่ยกทิมยกสากเตรียมพร้อมแล้ว!

ออฟไลน์ MZter

  • ~ใครหาว่าผมอินดี้...ผมเกรียนจะตาย(•`^`•)~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อ้ากกกกกก น้ำตาจะไหล  :sad5:
 สงสารทิม...แต่ก็เห็นใจหมอ แต่ถ้าเป็นต่ายก็คงหนักใจน่าดู...จะเป็นไงต่อล่ะเนี่ย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :a5: :a5: :a5: :a5:
คนเขียนเอาทิมไปไว้ไหนอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ทำไมหมออยู่ดีๆก็มาขอคะน้าคบซะงั้น
 :o12: :o12: :o12: ยังหวังลึกๆว่าคะน้าจะคู่กับทิม  :sad4: :sad4:
ตอนอ่านไปช่วงแรกๆเราก็ เอ๊ะ! รึว่าคะน้ากับทิม แล้วพออ่านช่วงหลัง อ๊าววว! รึว่ากับหมอนะ?
สุดท้ายหมอก็งาบไป

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อยู่กับตุลแล้วสบายใจ
อยู่กับทิมแล้วอึดอัด
แต่พอเลือกตุลแล้วทำไมทั้งอึดอัดและใจหายหละ

cotone

  • บุคคลทั่วไป
.....รู้สึกคะน้ากับตุลมันอันตรายว่ะ.....

คือมีความรู้สึกดีๆให้กันทั้งคู่ แต่ก็ดูหวั่นไหวมากพอที่จะเดินไปหาคนอื่นเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งคู่เลย จริงๆเป็นคู่ที่ดูลงตัวมากนะ แต่มันให้ความรู้สึกคลื่นใต้น้ำมากเลย

ถ้าตามที่บรรยายนะ รู้สึกว่าความรู้สึกของคะน้ากับทิมมันดูเหมือน ชอบ อ่ะ แต่คะน้ากับตุลย์มันดูลึกซึ้งมากกว่านั้น มันดูเป็น รัก
แต่ก็ไม่รู้นะว่าเป็นรักแบบไหน

ถ้าคู่นี้จะคู่กันจริงๆ ก็ขอให้ทั้งสองคนหนักแน่นมั่นคงต่อกันมากกว่านี้เถอะ~

รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ เมฆาสีน้ำเงิน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เพราะหมอรุกหนักใช่ป่าว เลยยอม ถ้าทิมรุกบ้างจะยอมมั้ย
แล้วถ้าถามว่าวันข้างหน้าจะเสียใจมั้ยถ้าวันนี้ไม่เลือกทิม คะน้าลังเลที่จะตอบหรือเปล่า
ขออย่างเดียว หากเลือกหมอแล้วใจก็อยู่กับหมอด้วย แม้ว่าสงสารทิมที่โดนทิ้งอยู่อีกด้านนึงของโลกใบเดียวกัน
แต่หมอจะน่าสงสารกว่าหากเอาเข้าจริงใจครึ่งนึงของคะน้าไม่ได้อยู่กับหมอ
ก็เข้าใจอารมณ์คะน้านะ - อยากรู้จักรักและไม่อยากอยู่คนเดียว และก็โกรธตัวเองด้วยที่ไม่พอใจ ขอโทษครับ



เฮ้ออออ อินไปมั้ยฟร่ะเนี่ย กร๊ากกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ พิรุณสีเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด