บทที่ 8
“พี่ครับ พี่ คือว่า แต่งตัวเร็ว เพื่อนผมมา”ผมรีบวิ่งไปปลุกพี่เมฆ แกลืมตาขึ้นมองผมเฉยๆ แต่ไม่ยอมขยับ ผมรีบเก็บเศษถุงยางทิ้งในถังขยะ เก็บกวาดรอบๆห้อง ใส่เสื้อผ้า แล้วก็ดึงพี่เขาลุกขึ้น พี่เขาไม่ยอมขยับเลยเหมือนจงใจแกล้งผม
“พี่ครับลุกก่อนนะ ลุกมาใส่เสื้อผ้าก็ได้”ผมแทบนั่งกราบพี่เมฆ พี่แกก็เลยลุกขึ้นมาทั้งเปลือยเปล่า ให้ตายเถอะ ทำไงดี ผมหอบเสื้อผ้าพีเขาก แล้วผลักให้ขึ้นไปบนบ้าน ก่อนจะยัดพี่แกเข้าไปในห้องนอน ผมโยนเสื้อผ้าเขาไว้บนเตียงแล้วปิดห้องลงมาเก็บข้างล่าง
จากนั้นก็ออกไปรับปูเป้เธอไม่ได้มาคนเดียว มีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ข้างๆด้วย ผมเปิดประตูรั้วออกไปรับ เธอรีบตรงเข้ามาแล้วยื่นถุงมาให้สองข้าง ผมยื่นมือออกไปรับ
เชี่ยหนัก
แขนผมแทบทรุดเส้นเลือดขึ้นแขนเลย เอาอะไรมาให้เยอะแยะเนี่ย
“กว่าจะติดต่อได้ ดีนะหน้าบ้านเขียนเบอร์ไว้ ไม่งั้นเป้จะบุกเข้าไปแล้วนะ”ผมยิ้มแหยๆ ดีนะไม่บุกเข้ามาไม่งั้นซวยแน่
“เอ่อะ คือ...”ผมหันไปทางผู้ชายมาใหม่อีกคน
“เดี่ยวค่อยไปคุยกันในบ้านนะ ตรงนี้ยุงกัด”ปูเป้ตบยุงเปาะแปะ
“อ้อได้ๆ”ผมหลีกทางให้ปูเป้และชายนิรนามเข้าไปด้านใน ผมเอาถุงไปเก็บในครัวแล้วก็เอาน้ำมาเสิร์ฟให้
“นี่น้ำ”ผมเสิร์ฟแล้วนั่งลงตรงข้ามปูเป้กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง
“นี่พี่ชายเราชื่อป็อก”ปูเป้แนะนำ ผมยกมือไหว้พี่เขาทันที เขาส่งยิ้มมาให้ พลางมองไปที่ปูเป้
“ผ่านใช่ไหม”เธอขยิบตาพูดคุยกับพี่ชาย ผ่านอะไรวะ ผมเกาหัวแกร๊กๆ
“พี่ชายเราลงมาหาก็เลยเอาสตอเบอรี่กับอะโวคาโด้มากฝาก เป้กินคนเดียวไม่หมดเลยแบ่งมาให้ดินด้วย แต่ว่าพรุ่งนี้มะรืนนี้เป้จะพาพี่ป็อกไปเที่ยวเพชรบูรณ์กลัวมันเน่าก็เลยเอามาให้ตอนนี้ ขอโทษทีดึกไปหน่อยน้า”
“อ้อไม่เป็นไร แค่นี้ก็ดีแล้ว วันหลังไม่ต้องเอามาก็ฝากก็ได้ครับผมเกรงใจ”ผมยกมือโบกไปมาบอกปูเป้ แล้วหันไปหาพี่ชายเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกครับสบายมาก ในไร่มีอีกเยอะเลย ถ้าชอบบอกได้พี่จะให้คนงานเอาลงมาให้ทานนะ”
“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้พี่เขาอีกรอบ ครอบครัวนี้ดีกับผมมากเลย พ่อแม่ปูเป้ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็พาไปเลี้ยงข้าว
ผมเพิ่งรู้เหมือนกันว่าพี่ชายปูเป้ทำงานที่เชียงใหม่ ผมรู้มาว่าครอบครัวเธอเป็นคนกรุงเทพฯ
ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับเป้แล้วก็พี่ชาย พี่เมฆดันเดินลงมาจากด้านบนพอดี เขาพันผ้าขนหนูรอบเอวเท่านั้นส่วนด้านบนเปลือย
เปล่า ดีที่ว่าทั้งสองคนนั่งหันหลังเลยไม่เห็นพี่เขา
พี่เมฆทำไม้ทำมือถามประมาณว่า ห้องน้ำอยู่ทางไหน บ้านผมเป็นแบบโบราณห้องน้ำเลยอยู่ชั้นล่าง ด้านบนมีแค่ห้องนอนผมแล้วก็ห้องพระ พ่อนอนชั้นล่าง แต่ตอนนี้ห้องพ่อถูกผมเปลี่ยนเป็นที่เก็บรูปไปแล้ว
ทางนู้น
ผมชี้มือไปทางขวา แกยืนมองสองคนนั้นนิ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินไป
“มีอะไรหรอ”ปูเป้หันไปมองด้านหลัง พี่เมฆก็เดินไปเข้าห้องน้ำแล้ว
อ๊ากใจจะขาด
“ไม่มีอะๆไรหรอก ปวดแขนนิดหน่อยน่ะ วันนี้ไปซื้อของเขาบ้านมา”แก้ตัวหน้าตาย
“คือว่าที่จริงเป้จะมาชวนดินไปเที่ยวด้วยกันน่ะ สองวันนี้ดินว่างไหม พรุ่งนี้ออกเดินทางตอนเช้าสนใจไปด้วยกันไหม”อ้ออย่างนี้นี่เอง ผมยิ้มกว้างก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ขอโทษทีนะ พอดีว่าดินต้องทำความสะอาดสตูดิโอพ่อน่ะ ว่าจะเคลียร์รูปส่งให้ลูกค้า ไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะ”ผมก้มโค้งขออภัยเพราะพี่ชายเป้อยู่ด้วย
“แย่จัง ไม่เป็นไรครั้งหน้าดินต้องไปกับเป้นะ”เธอทำหน้ายู่ พี่ป็อกยกมือลูบหัวน้องสาวตัวเองไปมา
“ครับ ครั้งหน้าไม่พลาดแน่”
“อื้อ โอเคเลย เออดินเป้ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ คืออั้นไว้ตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว”เธอบ่นงุ้งงิ้งก่อนจะลุกขึ้นยืน
เฮ้ย!!!!
“เข้าไม่ได้”เป้ตกใจที่ผมเสียงดังใส่ ผมรีบลุกแล้วเดินไปใกล้เธอ
“อ้อ พอดีห้องน้ำข้างในเต็มอ่ะ ดินยังไม่ได้ให้คนมาดูดส้วมเลย เป้เข้าห้องน้ำด้านนอกนะ ติดครัวจำได้ไหม”
เธอพยักหน้าแล้วส่งยิ้มสดใสร่าเริงมาให้
“โอเค ได้เลย ดินนะดินคุณพ่อไม่อยู่ บ้านช่องไม่เป็นระเบียบเลย”เธอบ่นอู้ ผมยิ้มสู้แล้วเปิดประตูบ้านให้
ผมกลับมานั่งยิ้มแฮะๆส่งให้พี่ป็อก แกอดขำน้องสาวตัวเองไม่ได้
“เป้ขี้บ่นแบบนี้แหละ พี่โดนประจำ”แกว่า
“ไม่เป็นไรหรอกครับน่ารักดี”เธอห่วงผมตลอดมีอะไรก็นึกถึง ผมรู้สึกเลยว่าผมโชคดีที่มีเพื่อนแบบนี้
“พี่ฝากดูแลด้วยนะ ถึงจะขี้บ่นไปหน่อยแต่เป้น่ะรักใครรักจริงนะ”แกพูดอย่างจริงจัง
“ครับ”ผมพยักหน้ารับ ขนลุกแปลกๆ ถ้าใครหักอกเป้ สงสัยพี่แกคงตามมายิงถึงบ้านแน่ๆ ผมละหนาวแทนคนที่มาจีบเป้เลย
“เป็นไงบ้าง เห็นเป้ว่าพ่อเพิ่งเสีย”พี่เขามองไปรอบๆบ้าน
“ก็ยังงงๆครับ บ้านก็รกรุงรังอยู่ ผมเพิ่งจัดงานทำบุญร้อยวันไปก็เลยยังไม่เข้าที่เท่าไหร่”
“มีปัญหาอะไรบอกพี่ได้เลยนะ”แกลุกเอื้อมมือมาแตะบ่าผม
ผมสะดุ้งเอือกมองไปด้านหลังพี่ป็อก พี่เมฆเดินจากห้องน้ำมาหยุดอยู่หลังพี่เขาแบบใกล้มากๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ได้ พี่เขาจ้องมาที่ผมก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
หัวใจผมจะวาย ทำไมช่วงนี้มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้
ปูเป้เดินกลับเข้ามาในบ้าน ก่อนจะเรียกพี่ชายตัวเองกลับบ้าน
“ดึกแล้วเป้ว่าเรากลับกันก่อนดีกว่าค่ะพี่ป็อกพรุ่งนี้เดินทางแต่เช้า เดี๋ยวจะลุกไม่ไหว”เธอเดินไปกอดแขนพี่ชายแน่น
“ไปสิ”พี่ป็อกลูบหัวปูเป้ไปมาอย่างเอ็นดู ผมลุกขึ้นเดินไปลงทังสองหน้าบ้าน
“ขอบคุณมากนะครับ สำหรับผลไม้”ผมหันไปบอกพี่ป็อก ปูเป้อิงซบพี่ชายแล้วยิ้มกว้าง
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าติดใจบอกเป้เลยนะ เราจะให้พี่ป็อกเอามาให้อีก”
“เราเกรงใจแค่นี้ก็เยอะแล้ว ไม่รู้จะกินหมดหรือเปล่า ยังไงก็ขอบคุณมากเลย พรุ่งนี้เดินทางปลอดภัยนะครับเที่ยวให้สนุกนะ”ผมอวยพร
“จะสนุกได้ไง ก็ดินไม่ไปด้วย”ปูเป้บ่นเบาๆ ได้ยินกันแค่สองคนพี่น้อง
“มีอะไรหรือเปล่า”ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“อ้อ เขาบ่นว่าอยากให้ดินไปด้วยน่ะ เสียดายนะ”พี่ป็อกตอบแทน
“ไว้วันหลัง เดี๋ยวเราไปเที่ยวด้วยกัน”ผมกันไปบอกเธอ ปูเป้ยิ้มกว้าง ก่อนจะขึ้นรถตามพี่ชายกลับบ้าน
พอรถแล่นออกไปผมก็ถอนหายใจยาว
เฮ้ออออออออ จะบ้าตาย ผมรีบล็อกประตูรั้วแล้วก็เข้าบ้าน ผมยังต้องมีคนที่ต้องไล่กลับบ้านอีกคน
ผมขึ้นไปบนห้องพี่เมฆนอนอยู่บนเตียง ผมเดินเข้าไปแล้วใกล้เขาก่อนจะสะกิดเบาๆ เขานอนถอดเสื้อด้านล่างมีแค่ผ้าขนหนูผืนบางปิดเอาไว้
“พี่ครับ มันดึกแล้วกลับได้แล้วครับ”พี่เมฆลืมตาขึ้นมามองหน้าผม จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงพนักเตียง เขายื่นมือมา
ดึงผมให้ล้มลงไปนั่งทับตัวพี่แก
“เมื่อกี้แขกอีกคนหรอ”พี่เขากระซิบถามเสียงเหี้ยม
“แขกเขิกอะไรกัน พี่ชายของเพื่อนผมครับ”ผมหันไปตาเขียวใส่พี่เขาทันที
“อย่างนั้นเองหรอ ทำไมต้องถึงเนื้อถึงตัวกันด้วย”แกคงหมายถึงตอนที่พี่ป็อกแตะไหล่ละมั้ง
“เขาแค่ฝากให้ผมดูแลปูเป้เท่านั้นเอง”
“โอ๊ะ”พี่เขาจับข้อมือผมบีบอย่างแรงแล้วดึงมาถามใกล้ๆ
“แล้วปูเป้นี่ใคร”พี่เมฆขมวดคิ้วแน่น แล้วจ้องตาผมไม่หยุด
“ล-แล้วพี่จะอยากรู้ไปทำไมละ ปล่อยผมนะ”ผมสบัดตัวลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อผ้าพี่เมฆเอาไว้ในมือ ผมดึงตัวพี่เขาลากออกจากห้อง
พี่แกเดินตามอ้อยอิงลงมาข้างล่าง
“กลับไปได้แล้วครับดึกแล้ว แล้วก็ไม่ต้องมาที่นี่แล้วนะ ผมไม่ขายแล้ว ผมเลิกขายแล้ว”ผมยัดเสื้อผ้าใส่มือพี่แก พี่เมฆทิ้งมันลงกับพื้นแล้วเดินเข้ามากอดผม
“บอกพี่ก่อนว่าปูเป้คือใคร”เขาเซ้าซี้ไม่เลิก
“หื้ม บอกพี่มาสิครับแล้วพี่จะกลับ”ให้ตายเถอะ ผมม้วนตัวหันไปเผชิญหน้ากับเขา
“เป็นเพื่อนที่มหาลัย พอใจหรือยังครับ กลับได้แล้ว”ผมผลักตัวพี่เขาออก พี่แกก็กอดผมแน่นขึ้น
“เด็กดี อื้ม”พี่เขาก้มลงมาจูบผม ผมพยายามเบี่ยงหน้าหลบแต่ก็ถูกไล่จูบจนได้
“พ-พอแล้วครับ กลับเถอะนะ”ผมอยากนอนจะแย่แล้วเหนื่อยมาทั้งวัน
“คืนนี้พี่ขอนอนนี้น่ะ”ไหนบอกจะกลับเลยไง ผมส่ายหน้าไปมา พี่เมฆไม่ฟังเขาอุ้มผมไปที่โซฟาอีกครั้ง ผ้าขนหนูหลุดออกจาเอว
พี่แก ไอ้หนูตัวโตโผล่ออกมาจนผมอาย มันชนกับเอวของผม
“อย่าครับ”ผมใช้มือปัดไม่ให้พี่แกวุ่นวาย
“พี่รู้ว่าเราเหนื่อย พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก พี่แค่จะทำให้เราสบาย”ไม่ว่าเปล่าพี่เมฆดึงกางเกงของผมออก ไอ้หนูของผมมันพร้อมรบ
ตั้งแต่พี่แกจูบ ตอนนี้มันเผยตัวออกมาทำความอับอายให้ผมแบบสุดๆ พี่แกหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะก้มลงครอบครองมัน
“อ๊า ไม่นะครับ”ผมใช้มือดันศรีษะพี่แกออก พี่เมฆดุดกลืนมันเข้าไปทั้งแท่งก่อนจะรัวลิ้นตรงหัวไม่หยุด
“อ๊ะ อ๊ะ”เสียวชิบผมกำมือจิกขยุมผมแก เพื่อยั้งไม่ให้พี่เมฆทำมันมากกว่านี้
“อื้อ อื้อ”ใบหน้าของผมเหยเก เพราะเสียวซ่านไปทั้งตัว ในท้องผมตอนนี้เหมือนมีนกบินร่อนนับร้อยๆ มันปั่นป่วนไปหมด พี่แกรูด
เข้ารูดออกอย่างชำนาญ ผมกำมือแน่นหลับตาปี๋
กริ้ง กริ้ง กริ้ง
ใครโทรมานักหนานเนี่ย TT^TT
แฮ่ก ผมเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์บ้านที่ดังอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ
“พี่ครับโทรศัพท์”พี่เมฆไม่ฟังแกตั้งหน้าตั้งตารังแกผมอย่างเดียว ผมจับใจยกหูโทรศัพท์ขึ้น พลางกัดปากตอบรับไปตามสาย
“ดินหรอ เป้นะ”มีอะไรอีกนะ ผมอยากตะโกนถามเธอ
“ครับว่าไง”ซี้ดดดด ผมอู้ปากครางออกมาเบาๆ
“เป้ลืมกระเป๋าไว้ที่โต๊ะ ดินหยิบออกมาให้เป้หน่อยสิ เป้รออยู่หน้าบ้านนะ”ผมเหลือบมองบนโต๊ะก่อนจะเห็นกระเป๋าสีชมพูของปูเป้
ตั้งอยู่ ทำไมถึงขี้ลืมแบบนี้
“อ้อ ครับๆ อ๊ะ ด- เดี๋ยว ร-เราเอาออกไปให้นะ”ผมกลั้นใจพูดตอบไป พี่เมฆรัวลิ้นไม่หยุดเหมือนจงใจแกล้งผม
"ดินทำอะไรอยู่หรอ ทำไมเสียงแปลกๆ"เธอถามมาอย่างสงสัย
"อ้อพอดีเรากินมาม่าแล้วมันเผ็ดน่ะ ซี็ดดดด"ผมสูดปากดัง
"นั้นเป้รออยู่ข้างหน้านะ"
สายถูกตัดไป
“อ๊า”ผมครางลั่น เงยหน้าขึ้นฟ้า ครางลั่น
“พี่ครับหยุดก่อน”ผมดันตัวเองขึ้น แล้วขยับตัวออก แต่พี่แกจับเอวผมกดไว้แน่นแล้วจับมันสาวขึ้นลง ส่วนหัวก็ถูกเลียรัวๆ
“พะ พี่ครับ”
................................................
ดินไหวไหมมม
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใส่ถอด ใส่ถอดกางเกงหลายรอบ
มาแอบลงตอนดึกๆ ฝันดีค่าา ><
คนสวยหมดแรง >< พี่เมฆขาน้องจะไม่ไหวแล้วววว