ตอนที่ 16
สายน้ำจากฝักบัวที่หลั่งออกมาราวกับเม็ดฝนที่ตกปรอย ๆ ในรัศมีพื้นที่จำกัด มันค่อย ๆ ชะล้างคราบความสกปรกบนเรือนร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง... วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขมากที่สุดอีกวันหนึ่ง เพราะนานทีปีหนกว่าที่คนรักของเขาจะยอมแสดงอาการขี้อ้อนพร้อมทั้งประจบเอาใจออกมา
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแม็กกี้ก็คิดว่าจะชวนไม้ไปที่มหาลัย อย่างน้อยก็ไปซุ่มดูรุ่นน้องว่าที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในปีนี้หน่อยว่ามีสีหน้าค่าตาเป็นอย่างไรบ้าง และหลังจากที่กลับจากมหาวิทยาลัย ก็ให้รางวัลไม้สักยกก็คงจะดี... รางวัลที่พวกเขาต่างก็ไม่ได้กระทำมากันตั้งนานหลายเดือนแล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมาต่างคนก็ต่างมัวแต่ยุ่งกับการเรียน อีกทั้งไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ... ความคิดต่าง ๆ นานาของแม็กกี้ก็พลันต้องสลาย เมื่อเขาเห็นตั๋วหนังสองใบวางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งในทีแรกก็คิดว่าเป็นตั๋วหนังที่เพิ่งไปดูกันมาด้วยกัน เพราะชื่อเรื่องก็ปรากฏเด่นหราแล้วว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ทว่าพอมองวันที่และเวลาแล้ว เขาก็ถึงกับชะงัก ...มันไม่ใช่ของวันนี้ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าก่อนหน้านี้ ไม้ต้องแอบไปดูหนังมากับใครก่อนแน่ ๆ
และในระหว่างนั้นเอง เสียงประตูระเบียงที่ถูกเลื่อนเปิดออกมาก็ทำให้แม็กกี้รีบเขี่ยตั๋วหนังสองใบนั้นไปยังใต้กระป๋องแป้ง
“จะให้กูแต่งตัวให้เหรอ" พูดจบก็สวมกอดร่างที่เล็กกว่าจากทางด้านหลัง... เนื้อตัวที่สะอาดสะอ้านหลังอาบน้ำของแม็กกี้เป็นอะไรที่จี้จุดหื่นของไม้มาก ๆ เลยล่ะ
“ไม่ใช่" แม็กกี้ตอบออกมา เขาพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด... ทั้งที่ในใจมันรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม้ไม่เคยมีความลับหรือโกหกเขาสักครั้ง ...นี่สินะ เหตุผลที่หมอนี่ไม่อยากดูหนังเรื่องนี้ เพราะเขาไปดูกับคนอื่นมาแล้ว
“คร้าบ...” ไม้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรยังคงตอบออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างสนุกสนาน "ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าก็ดี มาให้กอดหน่อย คิดถึง ๆ ไปนอนบนเตียงกันเถอะ ป่ะ ๆ"
พูดจบก็ออกแรงลากร่างที่อยู่ในอ้อมกอดไปยังเตียง ซึ่งแม็กกี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรจนกระทั่งทั้งสองล้มตัวลงไปนอนอยู่บนเตียงและไม้ก็ยังคงกอดแม็กกี้จากด้านหลังทั้งอย่างนั้น
“ไม้...” แม็กกี้ไม่แน่ใจว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาเรียกชื่อ 'ไม้' โดนที่ไม่มีคำว่า 'ไอ้' นำหน้า หรือคำว่า 'มึง' ต่อจากชื่อที่เขาเรียก "ถ้าวันหนึ่งไม้เจอคนที่ใช่สำหรับไม้... ไม้จะยัง...”
“อะไร...” ไม้ไม่ปล่อยให้แม็กกี้พูดจบ เขาใช้มือข้างหนึ่งที่กอดอยู่เลื่อนขึ้นไปปิดปาก... เขายังคงจำเรื่องราวความสัมพันธ์เมื่อครั้งวันที่ขอคบกันได้เสมอว่าเคยพูดอะไรออกไปบ้าง "มึงไงคนที่ใช่...”
“อืม... ก็ถ้าวันหนึ่งเจอคนที่ใช่มากกว่า" แม็กกี้พูดทั้งที่ยังโดนปิดปาก น้ำเสียงที่ออกมาจึงก้องแปลก ๆ
สำหรับแม็กกี้แล้ว... เขาไม่เคยกลัวเลยว่าไม้จะนอกใจไปมีคนอื่น เพราะระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาไปกันได้ดีแค่ไหน แต่ในวันนี้มันไม่ใช่ ตั๋วหนังใบนั้นคืออะไร มันมีคำถามมากมายที่ผุดขึ้นมาในสมองหลังจากที่เห็นตั๋วใบนั้น ...ใช่ ไม้อาจะไปดูกับเพื่อน กับญาติ หรือใคร ๆ ที่เขารู้จักก็ได้ แต่ทว่าทำไมไม้ถึงไม่ยอมบอกสักคำ เพราะใช่ว่าเขาจะไม่มีเหตุผลในเรื่องอะไรแบบนี้ ถึงจะขี้งอนไปหน่อยก็เถอะ
“มึงเป็นอะไร ทำไมถามแปลก ๆ" ไม้เอ่ยขึ้นบ้าง เขาชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าตกลงหมอนี่เป็นอะไรกันแน่
“ช่างมันเถอะ...” แม็กกี้ตอบออกไป บางทีการที่เขาไม่ต้องรับรู้รับฟังอะไรก็น่าจะดีกว่าการที่รู้อะไรมากไปแล้วต้องมานั่งทนเจ็บ ดีไม่ดี...เกิดรู้ไปแล้วมีหวังแม็กกี้ตัดสินใจบอกลาเขาขึ้นมา คนที่จะเจ็บที่สุดก็คือเขานั่นแหละ
ถ้าในตอนนี้เขายังมีความสุข เขาก็ควรเลือกที่จะเก็บความสุขให้ได้นานที่สุดใช่ไหม... แต่การเก็บสิ่งที่สงสัยไว้ในใจแบบนี้ มันจะมีความสุขแน่เหรอ
“อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี... ถ้าจะมีอะไรมาทำลายความสัมพันธ์ของเราได้ก็คงจะเป็นความหวั่นไหวและคิดไปเองนั่นแหละ" ไม้เอ่ยออกมา แม้ไม่รู้ว่าแม็กกี้เป็นอะไรแต่จากปฏิกิริยาที่แสดงออกมานั้นทำให้ไม้มั่นใจได้ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่
“ไปมหาลัยกันดีกว่า" แล้วในที่สุดแม็กกี้ก็ต้องเปิดปากชวน... เพราะไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ และถ้าเลือกได้ก็ขอเลือกที่จะทำอะไรเพื่อให้ลืมความสงสัยที่เกิดขึ้นคงจะดีกว่า
“ไปสิ" ไม้ตอบรับ... ก่อนจะแต่งตัวแล้วเดินออกจากประตูห้องทันที
ด้านล่างของหอพัก... มิวส์ที่นั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าศาลพระภูมิด้วยความเบื่อหน่าย พอเห็นเจ้านายสุดหล่อเดินลงมาก็รีบหายตัววับไปปรากฏดักหน้าของไม้ทันที
“เฮ้ย!” ผลจากการปรากฏตัวแบบกะทันหันทำให้ไม้ร้องด้วยความตะใจพร้อมกับชะงักกึก
“อะไรมึง" แม็กกี้ที่เดินตามหลังมาเอ่ยถาม "ทำท่าอย่างกับเห็นผีงั้นแหละ"
“เออ... เปล่า ๆ ไปกันเหอะ" พูดจบก็เดินทะลุร่างไอ้วิญญาณสุดหื่นทันที
เห็นดังนั้นมิวส์ก็ขมวดคิ้วด้วยความขัดใจสุดฤทธิ์ที่เจ้านายกล้าดีที่เลือกไม่สนใจเขา
“เจ้านาย! จะไปไหน ผมไปด้วย...” มิวส์บ่นตามหลังไม้ เมื่อเห็นว่าไม้ยังไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเขาก็เลยต้องงัดไม้เด็ดออกมาใช้ "ถ้าเจ้านายไม่ให้ผมไปด้วย ผมจะแกล้งแม็กกี้ ทำให้แม็กกี้กลัว ทำให้แม็กกี้กับเจ้านายผิดใจกัน และอื่น ๆ ที่ทำให้เจ้านายไม่มีความสุข!!!”
'ไอ้ผีนรก...' ไม้ได้แต่ก่นด่าในใจเพราะเขาไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้นอกจากอาการกัดริมฝีปากกับตาเหลือกเขม็งเท่านั้น เพราะแม็กกี้ที่เดินตามหลังไม่มีทางเห็นแน่นอนว่าสีหน้าของเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
“รอกูแป๊บนึง" ไม้หันไปบอกแม็กกี้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใต้หอ
หลังจากที่เดินกลับออกมา ช่อดอกกล้วยไม้ที่แช่อยู่ในช่องเย็นซึ่งถูกถือออกมาด้วยคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางนางไม้ก็ทำให้แม็กกี้ถึงกับขมวดคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ
“ซื้อมาทำไม" แม็กกี้เอ่ยถาม
“เอามาไหว้ผีนรก" ไม้เผลอตอบออกไปเพราะอารมณ์กรุ่นโกรธที่คุอยู่ในใจ ซึ่งคำตอบนั้นทำเอาหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตนที่ได้ยินถึงกับแสดงสีหน้าออกมาในอารมณ์ที่ต่างกันสุดฤทธิ์
“เฮ้ย... ผีนรก นี่กูฝันไปเปล่าเนี่ย ปกติมึงไม่เคยเชื่อเรื่องผีไม่ใช่เหรอ ฮ่า ๆ เข้าใจอำกูนะมึง" แม็กกี้พูดไปขำไป
“เจ้านาย!!!” ส่วนมิวส์ได้แต่ร้องประท้วงด้วยความขัดใจที่เจ้านายสุดที่รักของเขาบังอาจว่าเขาเป็น 'ผีนรก' "ผมไม่ใช่ผีนรก เจ้านาย เดี๋ยวเหอะ... ผีนรกอย่างผมจะพาเจ้านายขึ้นสวรรค์ให้ดู"
“เออ กูอำมึงเล่น... ก็มึงจะมาอยู่หลายวันก็เลยคิดว่าน่าจะไหว้เจ้าที่ให้คุ้มครองสักหน่อย... ไม่ต้องมองกูด้วยความสงสัยเลย ทำแล้วสบายใจก็ไม่เสียหายนี่ กูเป็นห่วงมึงนะ” ไม้เอ่ยกับแม็กกี้ก่อนที่จะเดินไปศาลพระภูมิแล้วอธิษฐานในใจว่า 'ท่านเจ้าที่ครับ ขอพาไอ้ผีนรกมิวส์ออกไปข้างนอกด้วยครับ'
หลังจากทำพิธีเสร็จก็เดินไปยังจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์ทันทีโดยมีไอ้วิญญาณหน่อมแน้มเดินตามพร้อมกับการทำแก้มป่อง ก็เจ้านายเขาดันมาเรียกเขาว่า 'ไอ้ผีนรก' นี่นา จะให้เขายิ้มแป้นแล้นมีความสุขอยู่ได้อย่างไรเล่า
“มึงขับนะ" ไม้พูดขึ้นทันทีที่หยุดอยู่หน้ารถ ถ้าให้เขาต้องขับโดยที่มีไอ้วิญญาณหน่อมแน้มคอยป่วนไปตลอดทางเขาคงไม่มีสมาธิและไม่แน่อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันตอนขับก็ได้
“อือ" พูดจบก็สตาร์ทรถทันที ก่อนที่ไม้จะก้าวขาขึ้น มิวส์ก็ตัดสินใจขึ้นไปนั่งคั่นกลางเสียก่อน ไม้ได้แต่มองด้วยความหงุดหงิด จะด่าจะว่าหรือขู่อะไรมันก็ไม่ได้
“มึงเกลียดกูหรอ นั่งห่างซะอย่างกับว่ากูเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังอย่างงั้นแหละ" แม็กกี้เอ่ยถาม
“หยุดนะเจ้านาย นั่งตรงนั้นแหละ" ก่อนที่ไม้จะเอ่ยตอบ มิวส์ก็พูดขึ้นขัดเสียก่อน แต่ทว่าไม้ไม่สนใจ
“เปล่า... กูกำลังจะเขยิบนี่ไง" พูดจบก็เขยิบทับร่างล่องหนของมิวส์เสียเลย
มิวส์เกือบจะทำหน้าหื่นอยู่แล้วเชียวในทีแรก เพราะเจ้านายเล่นเขยิบเข้ามาทับเขาจากด้านหลัง แต่พอเห็นไม้เอื้อมมือไปเกาะเอวของคนขับรถเท่านั้นแหละ พิษหึงที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ถาโถมเข้ามาทันที
“เอามือออก" มิวส์สั่งอย่างกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน แต่ทำไมนะ... ปากและการกระทำมันถึงได้แสดงออกมาแบบนี้
ไม้ไม่ได้สนใจสิ่งที่มิวส์พูดสักนิด เพราะถึงอย่างไรหมอนี่ก็เป็นแค่วิญญาณ นอกจากเขาแล้ว ก็คงไม่มีใครเห็นหรอก
แม็กกี้ใช้เวลาขับรถไม่นานมากนักก็พาทั้งสองร่างมาถึงยังมหาวิทยาลัย เสียงร้องเพลงดังกระหึ่มไปทั่วสถานศึกษา แม้ว่ายามนี้จะเป็นยามบ่ายจวนเย็นอยู่แล้วแต่ทว่าทุกคนก็ยังคึกคักไม่มีความเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด
หลังจากที่เดินทะลุฝูงคนไปยังใต้ตึกคณะ ร่างของรุ่นพี่สุดหล่อสองคนที่ปรากฏขึ้นก็ทำให้รุ่นน้องปีสองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หากแต่ไม้กับแม็กกี้เพียงยิ้มรับเท่านั้น ก่อนจะกระซิบฝากรุ่นน้องคนหนึ่งให้ไปบอกน้องหนิงที่กำลังทำหน้าที่เป็นพี่ตัวแม่ในการคุมรับน้องว่า...
“พี่แค่มาดูเฉย ๆ เชียร์กันไปเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปเดินเล่นรอบ ๆ มหาลัย"
ที่ต้องสั่งไปแบบนั้นก็เพราะเกรงว่าน้องหนิงจะสั่งให้ไปร่วมทำกิจกรรมด้วย
แม็กกี้ใช้สายตากวาดมองรุ่นน้องปีหนึ่งที่กำลังนั่งหน้าจิ้มลิ้มอยู่ตรงหน้า ...เป็นเด็กใหม่นี่มันสดใสอย่างนี้นี่เอง... ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาพลางนึกถึงอดีตที่เขากับไม้เคยมาร่วมรับกิจกรรมรับน้องในฐานะเด็กใหม่ของสถาบันแห่งนี้
ในตอนนั้นแม็กกี้กับไม้ถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่โดนรุ่นพี่ทั้งนอกและในสาขากรี๊ดกร๊าดเป็นเวลาเล่น(ตอนนี้ก็ยังโดน) เพราะหน้าตาอันหล่อเหลาของหนุ่ม ๆ ที่ไม่ค่อยหาได้ในคณะนี้สักเท่าไหร่ หรือถ้ามีก็มีจำนวนน้อยใช้สอยแต่พอเพียง เลยทำให้ทั้งคู่ดูโดดเด่นขึ้นมาทันตา
“คิดถึงตอนรับน้องจังเลยว่ะ" ไม้บ่นอุบอิบ
“อ้าวเฮ้ย! ไหนตอนรับน้องมึงบอกว่าไม่ชอบ น่าเบื่อ เหนื่อย ต้องทำอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระทั้งนั้น แล้วไหงมาคิดถึงได้วะ" แม็กกี้แซวเข้าให้ เพราะเมื่อครั้งที่พวกเข้ารับน้อง ไม่เคยมีวันไหนที่ไม้จะมาด้วยความเต็มใจสักครั้ง ทั้งหน้าหงิกหน้างอ ผิดกับแม็กกี้ที่หลังจากเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็กลายเป็นคนที่เข้ากับเพื่อน ๆ และสนิทกับรุ่นพี่มากกว่าไม้เสียอีก
“ก็มันน่าเบื่อจริง ๆ แต่มันก็สนุกดี สงสัยจะแก่แล้วมั้ง" ไม้ว่าพลางนึกถึงอนาคตข้างหน้า
อีกเพียงปีเดียวเท่านั้นพวกเขาก็จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้... ไม่รู้ว่าอนาคตจะต้องรับผิดชอบตัวเองมากแค่ไหน แล้วหากจะต้องทำงาน เพื่อนร่วมงานจะเข้ากันได้เหมือนดีกับสมัยเรียนหรือเปล่าก็ไม่รู้ คิดแล้วก็ไม่อยากจะให้วันเวลาเหล่านั้นมาถึงเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเคยบ่นกับตัวเองเสมอว่าอยากเรียนจบเร็ว ๆ จะได้ทำงานเก็บตังค์
“ไปนั่งคุยกันบนตึกดีกว่า อยู่ตรงนี้เสียงดัง" แม็กกี้ออกความเห็น ซึ่งไม้ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี
บนอาคารในยามนี้ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมาให้เห็น แม้เสียงสะท้อนจากชั้นล่างจะดังก้องแต่ทว่ามันก็ไม่สามารถลบความเงียบเหงาในใจของคนทั้งคู่ได้ มิหนำซ้ำวิญญาณอีกตนที่ตามติดไม้มาด้วยก็รู้สึกไม่ต่างกัน
แม้มิวส์จะพยายามแสดงอาการออกมาด้วยท่าทีที่กระปรี้กระเปร่า แต่เบื้องลึกในใจจิตกำลังต่อสู้กับความอาฆาตแค้นอย่างแสนสาหัส ทุกครั้งที่กลับมามหาวิทยาลัยมิวส์จะคิดถึงอดีตดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ แต่หลังจากคืนนั้นที่ได้รู้ว่าก้องยังคงทำงานอยู่ที่นี่ มันเลยยิ่งทำให้ทั้งความรัก ความคิดถึง ความสุข และความอาฆาตแค้นปะทุออกมาพร้อม ๆ กันจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่
“เจ้านาย... ถ้าเจ้านายจะไปห้องพักอาจาร์ผมขอรออยู่ตรงนี้นะ" มิวส์เอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเขาก้าวขาขึ้นมาถึงชั้นที่ 4
ไม้เพียงผงกศีรษะเล็ก ๆ เพื่อเป็นการรับรู้ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมแต่มันก็ดีเหมือนกันเพราะจะได้ไม่ต้องมีวิญญาณมาคอยจุ้นจ้าน
ทว่าหลังจากที่ไม้เดินลับสายตาไป เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังก็ทำให้มิวส์ต้องชะงัก... มันเป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยและตอกย้ำอยู่เสมอว่าอยากได้ยินมันเหลือเกิน
“มิวส์...” สิ้นเสียง มิวส์ก็ค่อย ๆ หันไปทางด้านหลัง และภาพที่ปรากฏก็ทำให้เขาถึงกับตกตะลึง
ก้องกำลังยืนอยู่ทางด้านหลัง มันไม่สำคัญว่าร่างนั้นจะขึ้นบันไดตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่มิวส์ไม่เข้าใจเลยก็คือ นอกจากไม้... ก้องก็ยังมองเห็นเขาด้วยอย่างนั้นน่ะหรือ
ก้องเองก็ตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ตัวเองเห็น เพราะเขาสามารถมองร่างอันซีดเผือดที่เกือบจะล่องหนของมิวส์ได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ
คำเตือน!!! ห้ามค้างนะครับ
จบตอน
----------------
คุยกับคนอ่านครับ ^^
คุณ
mentholss :: ขอบคุณครับ T^T ยิ่งตอนหลังๆคิดว่าน่าจะมีคำผิดเยอะเลยครับ เพราะช่วงนี้แอบยุ่งๆ นิดนึงเลยไม่ได้รวจทานก่อนนำมาโพสต์สักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยนะครับ เดี๋ยวจะแก้ไขในตอนที่รีไรท์ครับ แหะๆ ปล.ช่วยตรวจคำผิดและแจ้งได้นะครับว่าผิดตรงไหน โดยเฉพาะชื่อคน
คุณ
มยอนฮวา :: อ๋อ โอเคคร้าบ ^^
คุณ
Fujoshi :: ทั้งรักทั้งน่าหมั่นไส้ T^T เชื่อว่าหลายคนคิดอย่างงี้ อิอิ
คุณ
Nus@nT@R@ :: T^T ยิ่งตอนล่าสุดยิ่งทำให้เจ้านายลำบากใจ ฮือๆๆ
คุณ
mukmaoY :: ระหองระแหงเพราะมิวส์เลย T^T
ตอนล่าสุดเลยให้ก้องมาจัดการซะ ฮ่าๆ
คุณ
oumpatta :: 555 มีๆ ครับคนเชื่อว่าไม่ใช่คนเดียวที่ไม่ชอบมิวส์
คุณ
mindmaru :: น้องมิวส์ทำงั้น คนเขียนไม่รู้ คนเขียนไม่ผิดนะงับ วิ่งไปหลบอยู่ใต้เตียง T^T
คุณ
Chichi Yuki :: ก้องโผล่มาแล้วครับ แต่โผล่มาแบบตัดจบ - -" แง่ววว สำหรับเรื่องของก้อง รออีกนิดนะครับ T^T
คุณ
iamnan :: เวลาที่มิวส์โดนว่าบาปแต่ละที รู้สึกผิดยังไงไม่รู้เหมือนทำให้มิวส์กลายเป็นวิญญาณบาปหนัก T^T เอิ๊กๆ
คุณ
@Lucifer_Prince@ :: ง่า... ถ้าปมคลายไวเดี๋ยวจบไวจิครับ แฮ่ๆ รอก่อนน๊า...
คุณ
Lily teddy :: ชอบการวิเคราะห์ของคุณ Lily teddy มากๆครับ ^^ อ่านทีไรกำลังใจในการเขียนมาเต็มเลย
คุณ
darkeyes1 :: ครับผม T^T ไม้ไม่ได้หลายใจหรอก แค่หวั่นไหวเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ (เอ๊ะ? หรือนั่นเรียกว่าหลายใจหรือเปล่าหว่า) แหะๆ