WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE นิยายเปิดให้จองเเล้วค่ะ รายละเอียดหน้า 1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE นิยายเปิดให้จองเเล้วค่ะ รายละเอียดหน้า 1  (อ่าน 618914 ครั้ง)

ออฟไลน์ iranen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #210 เมื่อ27-10-2010 13:37:39 »

เจ้าเลห์มากเลยภูผานะ
คนงานของนัสต้องยักหยอหแน่เลย
รออ่านตอนต่อไปจ๊า

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #211 เมื่อ27-10-2010 14:20:42 »

มาเชียร์คุณหิน ช่วยน้องนัสด้วย
น้องนัสโดนคนงานโกงแน่นอน

เห็นด้วย  คนงานโกงแน่ๆเลย
อะไรมันเสียมากขนาดนั้น น้องนัสไม่มีประสบการณ์ก็อย่างงี้แหละ
คุณหินช่วยว่าที่แฟนที

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #212 เมื่อ27-10-2010 14:58:58 »

คุณภูผา รุกคืบ อย่างเร็ว  :m11:
อีกไม่นาน วนัสกับคุณภูผา ก็จะ ..  :-[


อ่านแล้วบรรยากาศสบายๆ อ่านได้เรื่อยๆ อ่านไปยิ้มไป

ปล. เรื่องที่ดินและสวนของวนัส มันต้องมีคนรอฮุบอยู่แน่ๆเลย  :angry2:

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #213 เมื่อ27-10-2010 16:40:23 »

น่ารักมากกกกกก

ชอบเรื่องนี้จังเลย มีพี่น่ารักแนะนำให้มาอ่านเรื่องนี้
ก็เลยตามติดเลยค่ะ

ชอบภาษาในการเขียน เล่าเรื่องได้อย่างสนุก
อ่านเข้าใจง่าย

แถมได้กลิ่นอายของท้องทุ่งด้วย

รอตามตอนต่อไปเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้คนโพสด้วย
และขอบคุณ sake ด้วยนะคะ เพราะทราบว่าคนแต่งแต่งจบแล้ว

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #214 เมื่อ27-10-2010 17:08:50 »

แหมๆ  คุณภูผา ใช้ลูกช่วยสื่อรักหรอคะ?
รุกเร็วเชียว

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #215 เมื่อ27-10-2010 17:31:41 »

 :pig4: :pig4: :pig4:
 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #216 เมื่อ27-10-2010 17:43:19 »

คุณหิน รุกเข้าอีกขอรับ ใกล้ละ... :-[
รอตอนต่อไปโลด :a9:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #217 เมื่อ27-10-2010 18:28:44 »

คุณหินชักจะเอาใหญ่แล้วเว้ย

ถ้าเจอกับตัวคงละลายไปกองกับพื้นแล้วนะเนี่ย เขินแทน  :-[

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ kboom

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 498
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #218 เมื่อ27-10-2010 19:04:50 »

หินนะ
ไม่ใช่พระอิฐ พระปูน คริ ๆ ๆ
น่าลากจริง ๆ ๆ

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #219 เมื่อ27-10-2010 19:48:43 »

รุกไวจริงๆ แถมยังเนียนอีก โอ๊ยยย แบบนี้จะไปไหนรอดเนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
« ตอบ #219 เมื่อ: 27-10-2010 19:48:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #220 เมื่อ27-10-2010 22:03:36 »

แหมคุณหิน รุกเร็วมาก ๆๆ เลยน้า  เขินแทนอ่า

สงสัยนัสจะโดนคนงานโกงแน่ ๆ เลย คุณหินช่วยมาดูหน่อยเร็วววว

+1 จ้า

ออฟไลน์ kkmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #221 เมื่อ27-10-2010 22:04:46 »

ขอบคุณนะคับ

ออฟไลน์ meduza

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #222 เมื่อ28-10-2010 00:20:17 »

เรื่องนี้น่ารักจังชอบคุณหินอ่ะเท่ห์ๆหื่นๆโดนใจอิอิ
นัสอ่ะเมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองนะคุณหินรุกหนักขนาดนี้รู้ได้แล้วเด้อ
อยากบอกว่าชอบลูกลิงมากอยากฟัดดด :man1:
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #223 เมื่อ28-10-2010 12:36:10 »

ภูผารุกแล้ววววววววว :z1: :z1:
รออีกคู่อยุ่นะ :impress2:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #224 เมื่อ28-10-2010 13:18:30 »

น้องนัสเปิดใจแล้ว

Pr_promise

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #225 เมื่อ28-10-2010 18:13:37 »

อ้า.... กำลังน่ารักเลย :-[ :-[

คุณหินเนียนมาเลย    :z1: :z1:

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ 

รีบๆๆมาต่อเร็วๆๆๆนะคะ

 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #226 เมื่อ28-10-2010 19:37:11 »

เจอคนอย่างคุณหินเข้าไป
แล้วนัสจะรอดได้ยังไงเนี่ย

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #227 เมื่อ28-10-2010 20:38:07 »

ตามชื่อคุณสาเกกับคุณเจี๊ยบมาแล้วค่า
แต่จิเพิ่งตามอ่านได้ถึงตอนที่  4  เองค่ะ
น้องไม้ถูกพี่หินลักหลับ แอร้ยยยยยยยย  -///-
แอบเก็บอีก 2 ตอนเอาไว้อ่านรอยามคุณเจี๊ยบไม่ว่างมาอัพ(จะมีวันนั้นมั้ยคะ?)555+
จิ้มบวกขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่งและคนโพสต์ค่ะ
 :กอด1:

Solar cell

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #228 เมื่อ29-10-2010 01:45:44 »

เพิ่งมีเวลาเข้ามาอ่าน แบบเห็นแวบ ๆ หลายวันแล้ว
พอได้อ่านก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ นายภูผากะน้องนัส
อบอุ่น ดีจ้ะ

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #229 เมื่อ29-10-2010 14:15:04 »

วันนี้จะมาต่อไหม เอ่ย :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
« ตอบ #229 เมื่อ: 29-10-2010 14:15:04 »





rero

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #230 เมื่อ29-10-2010 18:29:00 »

ติดตามอ่านงานของ คุณ sake
มาสองเรื่องแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาม
ชอบทุกเรื่อง
ขอบคุณ ที่นำเรื่องดีดีมาให้อ่าน

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 6 (26/10/2010)
«ตอบ #231 เมื่อ29-10-2010 21:27:27 »

ตามชื่อคุณสาเกกับคุณเจี๊ยบมาแล้วค่า
แต่จิเพิ่งตามอ่านได้ถึงตอนที่  4  เองค่ะ
น้องไม้ถูกพี่หินลักหลับ แอร้ยยยยยยยย  -///-
แอบเก็บอีก 2 ตอนเอาไว้อ่านรอยามคุณเจี๊ยบไม่ว่างมาอัพ(จะมีวันนั้นมั้ยคะ?)555+
จิ้มบวกขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่งและคนโพสต์ค่ะ
 :กอด1:

ห้าๆๆๆๆ เกือยจะมีวันนั้นเเล้วคร้า
ช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง มีประชุม เเถมงานยุ่งทั้งวัน

ตอนนี้กำลังจะลงตอนที่ 7 ให้นะคะ

ติดตามอ่านงานของ คุณ sake
มาสองเรื่องแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาม
ชอบทุกเรื่อง
ขอบคุณ ที่นำเรื่องดีดีมาให้อ่าน

ขอบคุณที่ชอบนะคะ
พี่สาเกเข้ามาอ่านคอมเมนท์นะ เเต่พี่เค้าไม่มีuserเลยเมนท์ไม่ได้
เอานิยายมาลงที่นี่เรื่องที่สี่เเล้วนะ น้องตามอ่านให้ครบนะคะ อิอิ


ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Part 7


หลังกินข้าวกลางวันเสร็จก็ชวนกันเข้าไปดูคนงานตัดหญ้าในสวนมะพร้าวหลังบ้าน

เสียงเครื่องตัดหญ้าดังก้องไปทั่วสวน ทำให้ต้องตะโกนเรียกคนงานที่ตัดหญ้าอยู่ใกล้ๆเข้ามาถามไถ่

“อืม ตัดไปได้เยอะแล้วนี่ ยังไงก็เอาเถาวัลย์ที่เกาะตามรั่วออกด้วยน่ะดำ ถ้าตัดได้แบบนี้ อีกสองสามวันก็น่าจะเสร็จละน่ะ”

วนัสพยักหน้ากับคนงานชื่อดำ ที่ลุงชัดหามาให้ ตอนแรกก็ยังเกรงๆ ว่าจะทำงานได้ดีรึเปล่า แต่เท่าที่สังเกตก็ขยันขันแข็งดี ทำให้เขาเบาใจไปได้มาก

เสียงเครื่องตัดหญ้ายังคงทำงานอยู่อีกเครื่องโดยคนงานชื่อบิ้ก ที่พันผ้าปิดหน้าปิดตากันแสงแดดร้อนแรงและฝุ่นละอองเศษผงต่างๆ วนัสมองบิ๊กดับเครื่องตัดหญ้าเพื่อเติมน้ำมัน เจ้าตัวเลยถือโอกาสพักดื่มน้ำ จึงปลดผ้าโพกศีรษะออก เหงื่อชุ่มโชกเส้นผมจนเปียกแนบไปกับรูป

ศีรษะ ผิวสีคล้ำกับรูปร่างใหญ่โตทำให้เป็นที่สะดุดตาของวนัสตั้งแต่ครั้งแรกที่รับเข้ามาทำงาน ทั้งแววตาหลุกหลิกไม่อยู่นิ่ง ทำให้เขาต้องชั่งใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจให้ทำงานได้ ผิดกับคนงานอีกคน แต่ที่ผ่านมาเจ้าตัวทำงานได้ดีมากเชียวละ ขยันดี

“งั้นพอเลิกงานก็กลับบ้านกันไปเลยน่ะ ฉันจะไปข้างนอกคงไม่เข้ามาดูแล้วละ”

วนัสบอกคนงานแล้วจึงหันไปชวนภูผากลับ แต่ร่างสูงใหญ่ของภูผายังคงมองเขม็งไปที่คนงานชื่อบิ๊ก ที่เริ่มตั้งท่าพันผ้าโพกศีรษะเพื่อทำงานอีกครั้ง

“มีอะไรหรือครับ” วนัสเข้าไปสะกิดภูผาให้รู้ตัว

“ไม่มีหรอก เสร็จแล้วใช่มั้ย”

“ครับ”

ระหว่างทางเดินกลับ ร่างสูงใหญ่มีท่าทางครุ่นคิดเรื่องอะไรบางอย่าง จนร่างบางต้องคอยเหลือบมองอย่างแปลกใจ แต่พอสบตากันร่างสูงก็ส่งยิ้มให้เขาเป็นปกติ

“นี่……นัส ปกติจะขายมะพร้าวในสวนให้กับพ่อค้าคนกลาง หรือให้คนงานเอาไปขายส่งที่โรงงาน”

ถึงจะแปลกใจกับเรื่องชวนคุยของอีกฝ่ายแต่วนัสก็ยอมตอบไปโดยดี

“มีพ่อค้าเจ้าประจำมารับซื้อที่สวนอยู่แล้วครับ ตั้งแต่รุ่นพ่อแล้วละ”

“แล้วเคยแบ่งขายบ้างมั้ย อย่างให้คนงานเอาไปขายที่โรงงานโดยตรงเองอะไรแบบนั้นน่ะ”

“อืม………ไม่เคยเลยนะครับ ผมจะขายส่งให้พ่อค้าเจ้าประจำรายเดียวเท่านั้น เพราะรู้จักกันมานาน แล้วเขาก็ไม่ได้กดราคาอะไรมาก อีกอย่างก็สะดวกผมด้วย”

“เหรอ………..”

“ทำไมหรือครับ”

“เปล่า……………เห็นมีผลผลิตมากเลยถามดู แล้วคนงานสองคนนั้นเป็นคนที่ไหนกันฮึ”

“อ๋อ…………ไม่ใช่คนที่นี่หรอกครับ เขามาจากทางใต้ มาหางานแถวนี้ทำ ก็เขาเคยไปสมัครงานที่ไร่ภูผามาก่อนที่ผมจะรับไว้น่ะครับ เห็นลุงชัดว่าตอนนั้นไร่ภูผาไม่รับคน พอดีทางผมก็ขาดคนงานเลยรับไว้ แต่ก็ขยันนะครับ”

“อืม………..ก็ท่าทางใช้ได้”

ภูผายอมรับในคำชมของร่างบาง แต่มีอะไรบางอย่างที่สะดุดตาสะดุดใจกับคนงานสองคนนั้นมากอยู่ เขาเคยเห็นหน้าคนงานชื่อบิ๊กที่โรงงานรับซื้อมะพร้าวของเขา ตอนไปตรวจงานเดือนก่อน ก็เพราะรูปร่างสูงใหญ่ทำให้เป็นที่สะดุดตาได้ง่าย ถ้าเป็นคนพื้นที่ก็ไม่แปลกใจหรอกที่จะพบเจอกันที่โรงงานของเขา เพราะคนที่นี่จะเอามะพร้าวไปขายให้กับโรงงานของเขากันเยอะ แต่เจ้าสองคนนี้เป็นคนต่างถิ่น กลับมีมะพร้าวไปขายที่โรงงานของเขานี่สิแปลก เมื่อกี้เจ้านั้นก็เหมือนจะจำหน้าเขาได้ด้วย ถึงได้รีบเอาผ้ามาปิดหน้าปิดตามีพิรุธ แต่จะบอกร่างโปร่งตอนนี้ก็ดูจะตื่นตูมเกินเหตุ ไว้สืบดูให้รู้แน่ค่อยว่ากันใหม่

ภูผาพาวนัสซ้อมท้ายมอเตอร์ไซด์กลับไปยังไร่ภูผา และยังขับต่อลึกเข้าไปในไร่บนทางเล็กๆแคบๆ มีหญ้าขึ้นรกตลอดสองข้างทาง จนสุดเขตแดนไร่ภูผาติดกับลำคลองที่ทอดยาวพาดผ่านแนวท้ายไร่ จากไร่หนึ่งสู่ไร่หนึ่งให้ชาวไร่ชาวสวนได้ใช้หล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรของตนตลอดปี ภูผาจอดรถใกล้กระท่อมมุงหญ้าคาหลังเล็กๆริมคลอง

วนัสมองกระท่อมที่ปลูกสร้างง่ายๆ ไว้สำหรับพักผ่อนชั่วครั้งชั่วคราวตั้งอยู่ริมน้ำ ดูน่ารักน่าเอ็นดูข้างต้นจามจุรีใหญ่ เขาเห็นเชือกเส้นโตผูกไว้บนกิ่งไม้ ที่แผ่กิ่งก้านเหนือพื้นน้ำใสห้อยทิ้งตัวอยู่ นี่ละมั่ง ที่ใช้แทนเถาวัลย์เอาไว้เล่นทาร์ซานของเจ้าลูกลิงน้อยสองตัว ตอนนี้แววตาของเด็กทั้งสองเปล่งประกายวิบวับเตรียมพร้อมจะกระโจนลงน้ำเต็มที่

“ตูม!” เสียงน้ำแตกกระจายเมื่อร่างเล็กๆกระโดดลงน้ำกันคนละทีสองที

“น้านัสเร็ว” เจ้าลิงตัวเล็กตะโกนเรียกอยู่ในน้ำ ท่าทางจะว่ายน้ำแข็งกันทั้งคู่

วนัสยกแขนถอดเสื้อเหลือเพียงกางเกงยีนส์สีซีดเดินลุยน้ำลงไปหาเด็กทั้งสองที่ตีน้ำเข้าใส่กันเองอย่างเมามัน

“พ่อ………..”

เสียงน้องอิฐตะโกนชวนพ่อให้เข้ามาร่วมวง ด้วยหลังจากที่รออยู่สักพักพ่อก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลงมาเล่นน้ำด้วยกัน

“พ่อขอนั่งตรงนี้ละลูก” ก็ตรงนี้วิวดีจะตาย ร่างขาวๆ เปียกน้ำดูน่ามองในความรู้สึกของเขานักหนา สายตาเพ่งพินิจไปที่ตุ่มสีชมพูเข้มเล็กๆสองจุด ก่อนจะไล่เรื่อยไปถึงเอวบาง ตลอดจนหน้าท้องแบบราบที่หลบอยู่ภายใต้กางเกงยีนส์เนื้อหนา

ผิวแก้มนวลเปล่งประกายจากหยดน้ำที่เกาะพราวบนใบหน้า สะท้อนแสงอาทิตย์ดูสดใสจับตาคนมอง ผิวเนื้อที่ปกติก็ขาวอยู่แล้วพอลงไปแช่ในน้ำนานๆก็ยิ่งดูขาวใสจนเห็นเส้นเลือดเขียวรำไรใต้ผิวหนังบาง ริมฝีปากที่เคยอิ่มแดงสด ตอนนี้เริ่มซีดลงเพราะแช่น้ำเป็นเวลานาน ภูผานั่งดูคนทั้งสามดำผุดดำว่ายจนน้ำที่เคยใสเริ่มขุ่นจากการเหยียบย้ำกวนตะกอนของเท้าทั้ง 3 คู่ แต่น่าจะขึ้นได้แล้วมั้ง เดี๋ยวจะหนาวจนเป็นตะคริวซะเปล่าๆ

“อิฐ เมฆ ขึ้นได้แล้วลูก”

“อีกนิดน่ะพ่อ” เจ้าคนพี่รีบตะโกนต่อรองทันที

“ไม่นิดละ ขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ถ้าดื้อพ่อจะไม่พามาแล้วน่ะ”

“แต่พ่อยังไม่ได้ว่ายเลยนี่นา”

วนัสขำกิ๊กกับอาการงอนของเด็กชายอิฐ ที่อ้างนู้นอ้างนี่เพื่อจะอยู่เล่นน้ำให้นานที่สุด แต่ก็เข้าใจน่ะ เขาก็เคยเป็นเด็กมาก่อนนี่นา

“จะไม่ลงมาเล่นด้วยกันหน่อยหรือครับคุณภูผา น้ำเย็นดีนะครับ”

ใบหน้านวลติดรอยยิ้มเชิญชวนให้ร่างสูงลงมาแหวกว่ายด้วยกัน ทำให้ภูผาเกิดอยากเปลี่ยนใจกระทันหัน

ของล่อดีแบบนี้ก็น่าสนใจอยู่ ภูผาถอดเสื้อโยนกองไว้ที่โคนต้นไม้ เดินลุยน้ำไปหาลูกชายทั้งสองที่พยายามว่ายน้ำเข้ามากอดรัดพ่อตนอย่างสนุกสนาน

ฝ่ายภูผาก็ตรงเข้าจับลูกลิงทั้งตัวเล็กตัวใหญ่โยนทุ่มลงน้ำ ให้ลูกได้ตะเกียกตะกายขึ้นมาหายใจอย่างเอาเป็นเอาตาย

“นี่!….เดี๋ยวก็ได้สำลักน้ำตายกันพอดี” วนัสร้องบอกร่างสูงที่เล่นพิเรนกับลูกตัวเอง

“ไม่เป็นไรหรอก ลูกฉันมันอึด”

“ยังไงก็ยังเด็กอยู่น่ะครับ ไปเล่นแรงๆยังงั้นเดี๋ยวไม่สบายเอาน่ะ เล่นแบบนั้นไว้ให้คุณเล่นไปคนเดียวเถอะ”

“ถ้ากับเด็กมันแรงไป งั้นเล่นกับนายก็ได้งั้นสิ”

ภูผาไม่พูดเปล่ากลับว่ายน้ำรี่ๆ เข้าไปหาคนตัวบาง ที่เริ่มรู้สึกตัวว่า เจ้าคนที่ว่ายน้ำตรงเข้ามาต้องคิดอุตริอะไรอื่นแน่ๆ จึงรีบว่ายน้ำหนี แต่ก็ช้าไป เพราะมือใหญ่คว้าข้อเท้าเขาได้ก็ฉุดรั่งเข้าไปปะทะแผงอกแข็งเปล่าเปลือย

ร่างเล็กกว่าของวนัสถูกโอบกอดจากวงแขนเข็งแรงของคนเจ้าเล่ห์

“ไม่เล่นน่ะ!”

คนที่อยู่ในอ้อมกอดตะโกนใส่หน้าคมเข้ม มือไม้พยายามปัดไล่ฝ่ามือแข็งแรงที่พยายามจับไปตามลำตัวลากผ่านยอดอกจนเขายังต้องสะดุ้ง นี่ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงคิดว่าอีกฝ่ายพยายามลวนลามเขาแน่ๆ แต่ปัดเท่าไรก็ไม่หลุดซะที จนถูกอีกฝ่ายล๊อคเข้าที่ไหล่บางแล้วโยนทุ่มลงน้ำโดยที่ไม่ยอมปล่อยมือ แถมยังลากดำลึกลงไปใต้น้ำเรื่อยๆ

วนัสที่ถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว ให้ได้มีโอกาสเก็บกักลมหายใจไว้สำหรับใต้น้ำ ทำให้ทุรนทุรายกว่าร่างสูงที่เตรียมพร้อมเพื่อจะแกล้งอีกฝ่ายโดยเฉพาะ

ภูผาพลิกร่างบางให้หันมาเผชิญหน้ากันใต้น้ำ เฝ้ามองดูใบหน้าขาวแสดงอาการขึงโกรธและพยายามผลักไสเขาไปให้ห่าง ฟองอากาศผุดพรายรายล้อมเขาทั้งสองไว้ ภูผายังไม่มีท่าทีจะปล่อยให้ร่างบางเป็นอิสระขึ้นไปสูดอากาศเหนือผิวน้ำแม้แต่น้อย

วนัสมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความโมโหสุดขีด เขาจะกลั้นไม่ไหวแล้วน่ะ จะให้เขาสำลักน้ำตายจริงๆหรือไง

“ปล่อย” ฟองอากาศพวยพุ่งออกมาจากปากบางแต่ภูผาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ยังสนุกกับการฝืนใจยึดจับอีกฝ่าย

“ปล่อยน่ะ จะไม่ไหวแล้ว”

ยิ่งดิ้นรนร่างหนาก็ยิ่งเหนี่ยวรั้งอีกฝ่ายเข้ามาโอบกอด มองใบหน้าขาวที่อยู่เพียงปลายจมูกส่งสายตาดุดันมาให้ ร่างสูงจึงส่งยิ้มกลับไปอย่างล้อเลียน

“แกล้งกันเหรอ…………..ปล่อย!”

พรืด……………………ลมหายใจเฮือกสุดท้ายถูกปล่อยออกมา เหมือนอากาศภายในร่างลอยหายไปกลับสายน้ำ ความเคยชินทำให้วนัสเผลอสูดเอาน้ำเข้าไปจนเริ่มสำลัก มือเล็กทุบหลังแข็งสองสามที แขนที่กระหวัดกอดเกี่ยวดุจคีมเหล็กจึงคลายออก ปล่อยให้ร่างบางรีบพุ่งตัวขึ้นสู่ผิวน้ำสูดอากาศเข้าปอดเหมือนคนตะกรุมตะกรามไม่มีผิด

สายลมเย็นพัดเอื่อยๆ ผ่านร่างโปร่งบางที่โผล่พ้นน้ำเพียงครึ่งตัว ร่างบางรีบสูดลมหายใจจนทรวงอกขยับขึ้นลงหนักๆ ก่อนจะเป็นปกติ แล้วจึงรีบหันไปมองหาคนต้นเหตุตัวแสบด้วยดวงตาแดงก่ำจากการสำลักน้ำ

ฟองอากาศผุดพรายขึ้นข้างกายร่างบาง ตามด้วยศีรษะของภูผาที่ทะลึ่งพรวดขึ้นใกล้ๆตัวจนวนัสต้องผงะออกห่าง

“คุณ!” วนัสมองอีกฝ่ายตาเขียว แต่เจ้าตัวยังคงยิ้มใส่ไม่สนใจอาการโมโหของเขาเลย

“ฉันกลั้นหายใจได้อึดกว่านายใช่มั้ยละ” ภูผาเสยผมเปียกขึ้นลวกๆ พลางถามด้วยเสียงเย้าแหย่

“ก็คุณเล่นทีเผลอนี่ ขี้โกง” วนัสตอบด้วยน้ำเสียงสะบัดแกมโมโห

“งั้นมาแข่งกันใหม่มั้ยละ”

“……………………….” ทุเรศ ใครจะไปเล่นให้คุณได้แกล้งอีกละ ดูสิ สำลักน้ำจนเจ็บตาเจ็บคอไปหมดแล้ว นึกเข่นเขี้ยวอีกฝ่ายในใจแล้วจึงตีน้ำใส่ร่างสูง เดินลุยน้ำขึ้นฝั่งไป

“ผมจะขึ้นแล้ว เชิญเล่นกันไปสามคนพ่อลูกเถอะ” ร่างบางกระแทกเสียงใส่

หึๆ มีงอนแฮะ

ภูผามองแผ่นหลังขาวเดินลุยน้ำขึ้นฝั่งไปหยิบเสื้อขึ้นมาสวม แล้วยืนกอดอกไม่มองหน้าเขา แต่วันนี้ก็กำไรละ ได้กอดไปตั้งสองครั้งแน่ะ

“อิฐ เมฆ ขึ้นเถอะลูก เย็นแล้ว ไว้พ่อจะพามาใหม่วันหลังน่ะ”

ร่างสูงเดินจูงลูกสองมือสองไม้ขึ้นฝั่ง แต่จนแล้วจนรอดหน้านวลก็ยังไม่ยอมมองหน้าเขา

ภูผาพาเด็กๆไปส่งบ้าน ให้ป้าหยดแกจัดการกับเนื้อตัวเปียกปอนของเด็กทั้งสองก่อนที่หวัดจะกิน แล้วจึงเปลี่ยนเอารถยนต์ไปส่งวนัสที่บ้านแทนมอเตอร์ไซด์เพราะเย็นมากแล้วจะหนาวสั่นกันไปซะเปล่าๆ ถึงกระนั้นร่างบางก็ยังไม่ยอมเปิดปากพูด แม้ร่างสูงจะชวนให้เปลี่ยนเสื้อผ้ากินข้าวเย็นกันก่อนก็ไม่ยอมพูด ทำนิ่งเฉยซะนี่

งอนนานจังเลยน๊า………………….

“ปิดแอร์น่ะ จะได้ไม่หนาว เอาเสื้อมั้ย? คลุมไว้หน่อยก็ยังดี”

ภูผาหันไปพูดด้วยขณะขับรถไปส่งวนัสที่บ้าน แต่ร่างบางทำเพียงแค่ชายตามาเหลือบแลเสี้ยวหน้าเขาเท่านั้น การพยายามชวนคุยครั้งนี้ไม่สำเร็จตามเคย มือใหญ่จึงยัดเสื้อหนาพาดโปะไว้บริเวณหน้าอกให้มือเล็กรับเอาไว้ แล้วจึงลดมือตบเบาๆที่ต้นขาเรียว เหมือนจะบอกขอโทษขอโพยในสิ่งที่ทำให้ร่างบางขุ่นเคืองใจ เขาแค่แหย่เล่นเท่านั้น ไม่ตั้งใจจะทำให้โกรธ

การกระทำของภูผาทำให้หัวใจเย็นๆของวนัสอุ่นขึ้นมาฉับพลัน

เขาก็แค่เคืองเท่านั้น ก็กลัวจะจมน้ำนี่ เล่นจับไว้ซะแน่นจนดิ้นไม่หลุดแบบนั้น

วนัสระบายลมหายใจเบาๆ ก่อนจะคลี่เสื้อคลุมบริเวณหน้าอกไว้พลางๆ แล้วจึงเอ่ยพูดกับคนข้างๆ

“ผมขอแวะร้านค้าหน่อยนะครับ เมื่อกลางวันใช้น้ำมันพืชหมดพอดี เดี๋ยวเย็นนี้ไม่มีใช้”

“ได้สิ ร้านยายติ๋มใช่มั้ย”

“ครับ”

ร่างบางชายตามอง สบตากับคนขับรถที่เหลือบมองมาพอดี แววตานั้นสื่อถึงความรู้สึกหลากหลาย ทั้งที่เขารู้และไม่รู้ แต่ก็ทำให้หน้านวลอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะเสมองไปข้างๆรถ โดยมีมือใหญ่เอื้อมมาสัมผัสบริเวณต้นคอแล้วโยกบีบเบาๆไปมา เหมือนจะโอ้เด็กเวลางอนให้อารมณ์ดี พร้อมกับส่งยิ้มมาให้เป็นของกำนัล

หายโกรธเถอะ

วนัสรู้สึกแบบนั้นจริงๆ จึงยิ้มอย่างเขินๆ พลางปัดมือของอีกฝ่ายออกเป็นพัลวัน เขาอายุเลยยี่สิบแล้วน่ะ ไม่มานั่งโกรธเป็นเด็กแบบนั้นหรอกน่า………………….

ภูผาขับรถมาจอดหน้าร้านยายติ๋ม ร้านค้าร้านเดียวในหมู่บ้านนี้ ร่างสูงลงจากรถเดินตามวนัสเข้าไปในร้าน

“ป้า …..ซื้อน้ำมันพืชขวดหนึ่ง อืม…………………….เอา น้ำตาลทรายกิโลหนึ่งด้วยครับ”

วนัสร้องบอกไปตามความเคยชิน แต่คนที่ถือมาให้กลับไม่ใช่ยายติ๋ม แต่เป็นลูกสาวยายติ๋ม คนที่เขาเห็นหน้าก็แทบอยากจะเดินออกจากร้านไปเลย ก็เด็กดาวนั้นปะไร

วันนี้แม่คุณใส่เสื้อผ้าเว้าหน้าโชว์หลังให้ยุ่งไปหมด เห็นแล้วก็เศร้าใจแทนแม่น้องเขาจริงๆ แล้วก็ไม่รู้มาติดอกติดใจอะไรเขานักหนาถึงได้ส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้เขาตลอดเวลา นี่ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งจะตีให้หลังลายเชียว ก็เพราะคิดเป็นเพียงน้องนุ่ง เขาถึงได้รู้สึกปลง ไม่ก็นึกขำกับท่าทีทอดสะพานของเด็กดาวนี่เท่านั้นเอง

“เท่าไรครับ”

“46 บาทจ๊ะ” น้องดาวยิ้มหวานมาให้ร่างโปร่งอีกระลอก

“พี่นัสไปทำอะไรมาจ๊ะ ดูสิ เปียกโชกไปทั้งตัวเลย ไม่หนาวเหรอจ๊ะ”

“อ๋อ………..พี่ไปเล่นน้ำคลองมา” วนัสยิ้มแห้งๆ พลางยื่นธนบัตรให้เด็กสาว

“แหม ไปเล่นคนเดียว ไม่ชวนดาวไปด้วยเลย ดาวก็อยากไปเล่นน้ำเหมือนกันน่ะ แต่หาคนไปเป็นเพื่อนไม่ได้เลย” น้ำเสียงฉอเลาะเกินเด็กทำให้วนัสขมวดคิ้ว

“เหรอ……………..ครับ” เอาแล้วไง เปิดช่องเป็นไม่ได้ วนัสนึกอย่างยุ่งยากใจ


“วันหลังชวนดาวไปด้วยน่ะจ๊ะ ดาวอยากไปด้วย น่ะพี่นัส”

“เออ…………เออ………….” เจอไม้นี่เข้าไปวนัสก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน ตื้อกันซึ่งๆหน้าแบบนี้นี่น่ะ จะปฏิเสธก็กลัวผู้หญิงเขาจะเสียหน้า แต่จะตกลงก็ไม่ดีแน่ๆ เข้าทางเจ้าหล่อนนะสิ เดี๋ยวได้เป็นสามีแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็แย่เลย

“ไปด้วยไม่ได้หรอกดาว!”

เสียงทุ้มหนักๆ ดังแทรกมาจากข้างหลัง ทำให้เด็กสาวใจกล้าสะดุ้งหน้าเหลือสองนิ้ว

“คุณหิน!

“มีแต่ผู้ชายเขาไปกันทั้งนั้น เราน่ะเป็นสาวเป็นนางแล้ว เดี๋ยวชาวบ้านเขาจะนินทาเอา แล้วแม่เรานั้นละจะมาว่า ว่าน้าไม่ดูไม่มองลูกเขาบ้าง” ใบหน้าร่างสูงที่ปรากฏขึ้นมาภายหลังดูถมึงทึงจนเด็กสาวหายใจได้ไม่ทั่วท้อง

“ดาวก็………..ก็แค่อยากไปเล่นน้ำเท่านั้นเอง เลยถามพี่นัสดู” น้ำเสียงตอบอ้อมแอ้มเหมือนจะเกรงอะไรบางอย่างทำให้วนัสเลิกคิ้วสงสัย

“ก็ถ้าอยากเล่นน้ำคลองก็ไปชวนคนงานหญิงไร่น้าโน้นก็ได้ เห็นเขาไปกันเกือบทุกเย็น เราก็พลอยไปกับพวกเขาสิ”

“จ๊ะ”

วนัสมองเด็กสาวก้มหน้าก้มตาตอบเหมือนจะหลบหน้าเจ้านายเขายังไงพิกล

“ก็ดี เรานะโตเป็นสาวแล้ว จะมาตะลอนๆกับพี่เขาได้ยังไง พี่เขาเป็นผู้ชาย”

“จ๊ะ”

โฮ้…………………เจ้านายเขาทำให้เด็กดาวนั้นรับคำทำตามได้ด้วยแฮะ ปกติเห็นพูดเป็นน้ำไหลไฟดับไม่เคยฟังเขาเลย

ภูผามองหน้าจ๋อยสนิทของเด็กดาวเมื่อถูกเขาต่อว่ากลายๆ นี่เขาเพิ่งจะรู้น่ะว่า วนัสถูกเด็กดาวตามตื้ออยู่ ถ้ารู้ไม่แวะให้ลงซื้อของหรอก แล้วพฤติกรรมของเด็กสาวคนนี้ก็เคยผ่านหู ผ่านตา ผ่านตัวเขามาแล้วทั้งนั้น เมื่อก่อนตอนที่เด็กคนนี้ยังเรียนไม่จบ ม. 6 เจ้าคนเป็นแม่ก็คือยายติ๋มแทบจะเอาลูกสาวใส่พานมาถวายให้เขาถึงบ้าน ตัวเด็กเองก็ใช่ย่อย ทำตาหวานเชื่อมหัวอ่อนตามใจแม่ซะงั้น เขาผิดพลาดมาครั้งหนึ่งแล้ว และจะไม่ยอมผิดซ้ำเหตุการณ์เดิมแน่ แน่นอนว่าสองแม่ลูกนี้ได้เจอฤทธิ์ของเขาไล่ตะเพิดออกมาแทบไม่ทัน เด็กดาวนั่นคงเข็ดขยาดจนไม่คิดอยากจะเป็นเมียเจ้าของไร่ภูผาอีกต่อไป แล้วสองแม่ลูกนี้ก็ไม่เคยมายุ่งยากกับเขาอีก

แต่แล้วไง นี่ดันมาเล็งของๆเขา ขอบอกไว้ก่อนเลยน่ะว่า คนนี้เขาจองแล้วอย่าได้คิดยื่นมือเข้ามาแทรกเชียว ไม่งั้นได้เห็นดีกัน

เด็กสาวคงได้รับกระแสจิตพิฆาตจากร่างสูง จึงได้รีบทอนเงินแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะสำหรับเก็บเงินแล้วส่งยิ้มแหยๆให้ชายหนุ่มทั้งคู่

“จะเอาอะไรอีกมั้ย” หลังจากจัดการไล่ลิ้นไรเสร็จแล้ว ภูผาจึงหันมาถามร่างโปร่งบางที่ยืนทำหน้าอึ้ง

“ไม่แล้วละครับ”

วนัสตอบแล้วหันหลังเดินกลับไปยังรถ พอขึ้นรถได้ภูผาก็เริ่มพูดวนเข้าสู่เรื่องที่ตนเองยังติดใจ และคิดวางแผนถากถางวัชพืชในสมองอย่างรวดเร็ว

“มาซื้อของร้านยายติ๋มบ่อยหรือ”

“เดี๋ยวนี้ก็ไม่บ่อยหรอกครับ ส่วนมากจะซื้อจากในเมืองมาเก็บไว้แล้ว แต่ถ้าขาดเหลือก็ที่นี่ละครับ”

เดี๋ยวนี้ไม่บ่อย แสดงว่าเมื่อก่อนมาบ่อยละสิ เจ้าของร่างสูงคิดอย่างไม่สบอารมณ์

“ความจริงที่บ้านฉันเข้าเมืองทุกวัน เพราะต้องไปรับไปส่งลูกฉันที่โรงเรียน ถ้าขาดเหลืออะไรก็จดรายการฝากคนขับรถบ้านฉันไปซื้อให้สิ ถูกกว่าซื้อที่นี่ด้วย”

“โฮ้…………ไม่เป็นไรครับ ของเล็กๆน้อยๆ ซื้อเอาแถวนี้ละครับ เกรงใจลุงก้อนแก ต้องมาพะว้าพะวงกับของแค่นี้”

“มันเป็นหน้าที่เขาอยู่แล้ว ป้าหยดแกก็ให้ลุงก้อนซื้อของสดกลับมาทุกวันละ เอาของนายพ่วงไปด้วยอีกคน ไม่หนักหนาหรอกน่า”

วนัสมองคนคะยั้นคะยอเต็มใจเป็นธุระให้อย่างอ่อนใจ เขาเกรงใจ และกลัวตัวเองจะเคยตัว เอาแต่พึ่งอีกฝ่ายท่าเดียว เดี๋ยวได้เป็นง่อยกันพอดี

“คราวหน้าก็เอาแบบนี้ละ ไม่ต้องถือเองให้หนักด้วย”

นั้นปะไร คิดเองตอบเองให้เสร็จ แต่ก็เป็นความหวังดี จะให้เขาปฏิเสธน้ำใจอีกฝ่ายได้ยังไง

ทำไมถึงได้รู้สึกอบอุ่นใจขนาดนี้กันน่ะ

“ครับ ขอบคุณ”

ภูผายิ้มกับคำตอบที่ดูจะถูกใจและเข้าทางตามที่เขาวางไว้เป็นที่สุด เพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเจ้าเล่ห์เหมือนกันก็วันนี้ละ


////////////////////////////////////////////////////////


ร่างสูงใหญ่นั่งเท้าคางบนโต๊ะไม้สักตัวหนากว้างภายในห้องทำงาน ณ โรงงานผลิตผลไม้กระป๋องแปรรูป ซึ่งเป็นกิจการอีกอย่างหนึ่งของครอบครัวเขา คิ้วเข้มขมวดยุ่งจากรายละเอียดในเอกสารตรงหน้า

เป็นอย่างที่สงสัยจริงๆ

ภูผาระบายลมหายใจออกมายืดยาว เรื่องแบบนี้มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น การลักขโมยผลผลิตจากเจ้าของไร่ไปขาย

ด้วยติดใจกับเรื่องนี้ จึงให้คนไปสืบสาวราวเรื่อง และก็ได้ความตามที่คาดไว้ คนงานของวนัสแอบลักลอบนำมะพร้าวจากสวนที่ตัวเองทำงานอยู่ไปขายตรงให้กับโรงงานของเขา จึงทำให้สืบเรื่องได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งเจ้าพวกนี้ยังทำเป็นขบวนการเสียด้วยสิ

หนักใจจริงน้า

ถ้าจัดการเองคนเดียวได้ ก็ไม่อยากให้วนัสต้องมารับรู้เรื่องเหล่านี้ให้เสียกำลังใจเปล่าๆ เด็กคนนั้นยังอ่อนประสบการณ์กับวิถีชีวิตของที่นี่ มันไม่ได้ซื่อตรงเช่นเมื่อครั้งกาลก่อนอีกแล้ว พวกที่หากินบนหยาดเหงื่อแรงงานของคนอื่นก็มีไม่น้อย มีข่าวให้บ่อยไป ลงทุนปลูกเผือก ปลูกข้างโพดแทบตาย พอใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิตอยู่รอมร่อ พวกหัวขโมยก็ย่องดอดมาตอนกลางคืน ขุดหักไปซะหลายคัดรถ ตอนเช้าเจ้าของไร่มาเห็น แทบลมจับล้มทั้งยืน ก็พืชผักที่อุตส่าห์ทะนุทนอมถูกพวกขโมยไปแล้ว แถมยังทิ้งร่องรอยเหยียบย้ำความเสียหายให้เจ้าของได้เจ็บใจเล่น เพราะชะล่าใจไม่ได้วางยามไว้

อยู่ที่นี่มันจะใช้แต่พระคุณอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้พระเดชด้วย มันถึงจะได้เรื่องได้ราว

ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นรวบเอกสารตรงหน้า หนีบเข้าใต้รักแร้เดินออกไปสั่งงานกับเลขาหน้าห้อง แล้วจ้ำพรวดๆขึ้นรถกลับไร่ภูผา

////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ภูผามองร่างโปร่งบางที่นั่งตรงข้าม มีเพียงโต๊ะทำงานขวางกั้นระหว่างเขาสองคน ใบหน้าที่ได้รับฟังเรื่องราวจากปากเขาดูซีดเผือกลงไปถนัดใจ

หลังจากกลับมาถึงที่ทำการไร่ภูผา เขาก็เรียกวนัสเข้ามาคุยในห้องทำงานตามลำพัง และถึงจะได้รับฟังเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน ร่างบางก็ยังนั่งหลังตรงไม่งองุ้ม มีเพียงแววตาที่สลดลงแล้วค่อยๆเต้นระริกอย่างสับสนงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ยังไงฉันอยากให้เธอนิ่งไว้ก่อน จะจับพวกนี้ได้ ก็ต้องจับแบบคาหนังคาเขา เอาให้ดิ้นไม่หลุด เพราะจากที่ฉันสืบมา มันใช้เป็นหลักฐานอะไรไม่ได้หรอก พวกนั้นมันคงเลี่ยงไปได้อย่างหน้าตาเฉย เราต้องล่อให้พวกมันชะลาใจลงมืออีกครั้ง แล้วเราจะได้ล้อมจับมัน………….ไม้”

ร่างสูงเพ่งพินิจมองคนหน้าตาซีดเผือกเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเม้นปากจนเป็นเส้นตรง เจ้าตัวคงจะสับสนวุ่นวายใจอยู่ไม่น้อย

“ไม้…………..”

“……………………..”

“ไม้……..เรื่องจะเรียบร้อย เชื่อฉันสิ”

ร่างเล็กบางเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย

เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่กว้างเข้ามาโอบล้อมร่างกายราวกับจะช่วยปลอบประโลมหัวใจที่สับสนให้สงบลง รู้สึกถึงความเข้มแข็งจากร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ที่คอยให้เขาได้อาศัยพึ่งพิงยามอับจนหนทาง ยามมองไม่เห็นใคร หัวใจที่ห่อเหี่ยวจึงค่อยๆเริ่มโป่งพองจนคับอก

“ครับ” ร่างบางรับคำเบาๆ เขาควรจะเชื่อและไว้ใจในประสบการณ์ของชายหนุ่มซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าเขาคนนี้

“ฉันถามอีกหน่อย เวลาเก็บผลผลิตได้ไปตรวจดูบ้างมั้ย” ภูผาลุกเดินอ้อมมาวางมือแปะบนไหล่เล็ก แล้วบีบเบาๆเหมือนจะให้กำลังใจ

“ก็ไปดูน่ะครับ ผมก็เช็คดูแล้วว่า มะพร้าวที่ลิงกังขึ้นไว้ กับที่คนงานเก็บมากองไว้รอขาย ยอดตรงกัน จะต่างกันก็แค่นิดหน่อยเท่านั้น แต่ที่ขายได้น้อยเพราะมะพร้าวมันลูกเล็ก ก็เลยสั่งให้คนงานแยกเอาไปผ่าตากแดดแคะขายเป็นมะพร้าวแห้งไป ส่วนพ่อค้าที่มารับซื้อก็ซื้อขายกันมานานไว้ใจได้ เขาคัดขึ้นรถไปเท่าไรก็จะออกบิลให้ไว้ แต่ก็จะให้คนงานดูอยู่ด้วย”

“ก็คงใช่ช่องโหว่งตรงนี้ละมั้ง”

“หะ!” ดวงตาแห้งแล้งเบิกกว้าง

“ก็เจ้าพวกหัวขโมยอาจจะเอามะพร้าวที่ได้ขนาดแอบไปซ่อนไว้ หลังจากที่เธอตรวจเช็คยอดแล้ว แต่ยังไม่ได้คัดแยกขนาดขาย แล้วส่วนต่างตรงนี้ก็จะบอกว่าเป็นมะพร้าวลูกเล็กขายไม่ได้ เวลาเอาไปผ่าตากแดดมันก็จะกะคำนวณจำนวนไม่ได้แล้วละ พวกมันก็เลยโมเมใช่ตรงนี้มาตบตาเธอก็ได้”

“……………………”

วนัสไม่มีความคิดเห็นอื่นใดมาโต้แย้งภูผา เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดปกติอยู่เหมือนกัน แต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ ถ้าขโมยเงินขโมยทรัพย์สิน เขาก็เข้าใจอยู่ แต่ขนาดคิดขโมยผลผลิตมันเหนือความคาดคิดของเขาจริงๆ อีกอย่างคนงานทั้งสองคนก็ดูขยันขันแข็งดี ไม่เกไม่เบี้ยวงาน นึกๆไปก็ให้เสียดายแรงงานทั้งสองคนนี้ เหมือนกับพวกเขาเข้ามาเริ่มบุกเบิกไร่สวนที่พ่อทิ้งไว้ให้พร้อมกัน เขาก็มีความรู้สึกผูกพันอยู่ ตลอดเวลาที่ทั้งสองคนเข้ามาทำงาน เขาก็พยายามจะเป็นนายจ้างที่ดี มีน้ำใจ ผลหมากรากไม้อะไรในไร่ในสวน ก็อนุญาตให้เก็บสอยกินได้ตามสบาย เข้าเมืองก็จะมีของติดมือติดไม้มาให้เสมอ วันไหนมีธุระจะเลิกงานก่อนเวลาเขาก็ไม่เคยขัด แล้วทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้ อยากจะดูหน้าให้ชัดๆ ให้เต็มสองตาคู่นี้จริงๆ อยากดูให้ลึกถึงใจของคนพวกนั้น ว่ามันเป็นสีอะไร

“ยังไงฉันขอดูพฤติกรรมคนพวกนี้อีกซักหน่อยน่ะ เอาให้มั่นแล้วเราค่อยไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยอีกครั้งหนึ่ง”

“ครับ”


ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3


หลังจากนั้นวนัสก็ออกมานั่งทำงานด้วยความกระสับกระส่ายเหมือนมีไฟมาสุมอก กระวนกระวายใจทุกครั้งที่นึกถึงใบหน้าคนงานทั้งสองคน จนไม่เป็นอันทำงาน และถึงภูผาจะบอกให้เขานิ่งไว้ แต่เขากลับเลิกงานก่อนเวลาเล็กน้อย และตรงดิ่งกลับบ้านทันที ทันได้พบเป้าหมายทั้งสองคนที่เลิกงานเดินออกมาจากในสวนพอดี

ต้องนิ่งไว้ ต้องนิ่ง อย่าได้กระโตกกระตากไปจะเสียการ

วนัสนึกถึงคำพูดของร่างสูง เขาเปิดประตูลงจากรถตรงเข้าไปหาคนทั้งคู่เป็นปกติ

“กลับเร็วนะครับวันนี้” ดำคนงานร่างสันทัดเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาสบายๆอย่างทุกที

ก็มองดูธรรมดา ซื่อๆ ไม่อยากจะเชื่อเลย ปลายเล็บตัดสั้นจิกเข้ากลางฝ่ามือ สะกดอารมณ์ต่างๆที่กำลังพวยพุ่ง พลางเหลือบตามองคนงานอีกคนที่ยืนเยื้องออกไป

“มีธุระต้องทำน่ะ”

“อะไรหรือครับ ให้ผมช่วยมั้ย” ยังคงเป็นดำ ที่ถามกลับอย่างเอื้อเฟื้อ ยิ่งทำให้คำพูดเหล่านั้นบาดลึกลงไปในใจที่สั่นไหว

“จะไปหาลุงชิดหน่อย……………นะ………..น่ะ”

เขาเพียงแค่จะลองหยั่งเชิงท่าทีของสองคนนี้เท่านั้น ว่าจะออกพิรุธอะไรให้ผิดสังเกตรึเปล่า ไม่คิดว่ากำปั้นของคนที่ยืนนิ่งเงียบมาตลอด จะซัดเข้าข้างแก้มเขาเต็มแรงจนเซผงะ เพราะเพียงแค่ได้ยินชื่อลุงชิด หรือจ่าชิดที่ชาวบ้านรู้จักกันดี

ตุ๊บ!

“อุ๊ก!”

ตามด้วยหน้าแข้งแข็งหวดเข้าปะทะลำตัวบางจนจุก ลงไปนั่งกองบนพื้นดินในทีเดียว เท้าที่เต็มไปด้วยดินติดกรังยังตามเข้ามากระทืบซ้ำ แต่ร่างโปร่งเอี้ยวตัวหนี มันจึงลงไปกระแทกตุ๊บที่ไหล่ลู่แทน ความเจ็บจุกทำให้วนัสไม่มีแรงมากพอจะตะเกียกตะกายหนีไปจากตรงนี้

แค่บอกว่าจะไปหาลุงชิดนี่น่ะ! ยังไม่ได้รู้เลยว่าจะไปทำอะไร พวกนี้กินปูนร้อนท้อง แสดงว่าทำจริงๆใช่มั้ย เขาคิดอย่างเศร้าสร้อย เพราะลึกๆในใจ หวังจะให้มันเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิด

“เฮ้ย! ไอ้บิ๊ก แกทำอะไรว่ะ” ร่างสันทัดร้องเสียงหลง

“มันรู้ตัวแล้ว เก็บมันก่อนดีกว่า เชื่อฉันสิว่ะไอ้ดำ เดี๋ยวมันก็เอาตำรวจมาลากคอเราเข้าคุกหรอก กูจำไอ้เจ้าของโรงงานนั่นได้ มันเคยเห็นพวกเรา” คนที่ยังง้างเท้าเตะใส่ร่างบางอย่างไม่คิดจะยั้งแรงตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“มันก็ยังไม่แน่นี่ แกมาทำแบบนี้พวกมันก็รู้ตัวนะสิว่ะ ซวยมั้ย” ดำพูดต่ออย่างร้อนรน

“มันจำพวกเราได้แน่ ฉันเห็นมันจ้องมองพวกเราตั้งนานวันนั้น”

“แล้วเอาไงกันดีว่ะทีนี่” น้ำเสียงดำเริ่มเจือความวิตกกังวลกับการกระทำที่บุ่มบ่ามของเพื่อนตน

“ก็หนีสิวะ จะอยู่ให้พ่อมึงมาจับรึไง แต่ก่อนอื่นต้องปิดปากไอ้โง่นี่ก่อน”

ชายหนุ่มชื่อบิ๊กยกด้ามจอบที่เดินถือออกมาจากสวนเงื้อขึ้นสูง เตรียมหวดลงยังร่างที่ยังนั่งจุกอยู่ตรงหน้า ถ้าไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ที่แล่นปราดเข้ามาอย่างรวดเร็วนั้นเสียก่อน ทำให้มือที่เตรียมจะปลิดชีวิตคนต้องชะงักค้างอยู่กลางอากาศ แล้วปล่อยหล่นตรงหน้าร่างบางก่อนจะรีบเผ่นหนีกันกระเจิดกระเจิง

“นัส!”

เสียงเรียกคุ้นหูทำให้ร่างบางที่หอบจุกจนตัวโยน ค่อยๆหันมองด้วยความยากลำบาก ร่างสูงใหญ่ของภูผากระโดดลงมาจากรถวิ่งรี่ตรงมายังเขาด้วยสีหน้าวิตกกังวล

“คุณภูผา……………….ช่วย……………แจ้ง………ตำรวจเร็ว”

ภูผาเข้ามาประคองร่างบางที่พยายามทรงตัวนั่ง แต่ก็ต้องฟุบลงไปกับพื้นอีกด้วยสำลักอากาศปั่นป่วนภายในช่องท้อง

“เธอเป็นยังไงบ้าง! เจ็บตรงไหน” น้ำเสียงของร่างสูงร้อนรนเมื่อเห็นอีกฝ่ายล้มลงกับพื้น

“แจ้งตำรวจที” ร่างบางฝืนบอกด้วยความยากลำบาก

ให้ตายเถอะคุณภูผา! ช่วยแจ้งตำรวจซะที ผมไม่มีแรงจะพูดได้ยินมั้ย อย่าเพิ่งมาห่วงผมเลย เดี๋ยวเจ้าพวกนั้นก็หนีไปได้กันพอดี

“แจ้ง…………..”

“เอาไว้ก่อนเถอะ! เธอเจ็บตรงไหน บอกสิ” มือใหญ่สำรวจลูบคลำไปตามเนื้อตัวที่คลุกฝุ่น ท่าทางสุขุมรอบคอบของร่างสูงถูกความหวั่นวิตกเข้าครอบง่ำ จนดูรีบร้อนลนลาน

“ไม่! ไม่เป็นไร แจ้งตำรวจก่อนเร็ว!” ร่างบางพยายามกัดฟันบอกอีกครั้ง ช่วยเข้าใจหน่อยเถอะ

ภูผาถอนหายใจเฮือกใจอย่างไม่พอใจพลางล้วงโทรศัพท์ออกมากดๆ แจ้งตำรวจตามความประสงค์ของคนที่ขดตัวเจ็บ โดยที่สายตาคมกริบไม่ยอมละไปจากใบหน้าขาวซีด

“เรียบร้อยแล้ว ตำรวจจะสกัดจับไว้ทุกจุดที่คาดว่าพวกนั้นน่าจะไป แล้วจะเข้ามาสอบปากคำที่นี่ด้วย แต่ตอนนี้เธอต้องไปโรงพยาบาล”

ภูผาช้อนร่างบางแนบไว้กับอก ตั้งท่าจะพาขึ้นรถไปโรงพยาบาล แต่วนัสกลับยื้อบอกอีกฝ่ายว่าตัวเองไม่เป็นไรมาก แค่จุกและเจ็บที่ถูกเตะถูกต่อยเท่านั้น ขอนอนพักทายาแก้ฟกช้ำดำเขียวอยู่บ้านดีกว่า และอีกเดี๋ยวตำรวจก็จะมาแล้วด้วย

คนตัวใหญ่พ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความดื้อแพ่งของลูกน้อง แต่เมื่อพิจารณาร่องรอยอย่างละเอียดแล้ว มันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทำให้วางใจได้ว่าคนเจ็บไม่ได้กระทบกระเทือนบอบช้ำภายในถึงขั้นมีเลือดตกในอะไรแบบนั้น ไม่ต้องไปตรวจถึงโรงพยาบาลก็ได้

ภูผาล้วงกุญแจบ้านในกระเป๋ากางเกงอีกฝ่าย ไขพาร่างบางเข้าไปนอนพักในห้องนอน และยังไม่ทันจัดการอะไรกับคนเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงในเวลาอันรวดเร็ว

เมื่อการสอบปากคำเสร็จสิ้นลง วนัสก็แทบจะหมดเรียวแรงและหมดกำลังใจจะจัดการกับเนื้อตัวของตน เขาได้แต่นั่งนิ่งมองภูผาเดินเข้าเดินออกอยู่พักใหญ่ จึงได้ค่อยเอื้อนเอ่ยกับร่างสูง

“ผมไม่เป็นไรมากหรอกครับ ที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเองได้ ค่ำแล้วคุณกลับไปอยู่กับเด็กๆเถอะครับ”

รอยยิ้มเหนื่อยๆถูกส่งไปให้เจ้านายที่กลับมานั่งริมขอบเตียง มือใหญ่เอื้อมมาแตะแผ่วๆบริเวณเขียวช้ำข้างแก้ม คิ้วเข้มขมวดยุ่งเมื่อเห็นรอยช้ำชัดถนัดตา

“คุณภูผา” เสียงเบาหวิวร้องเตือน เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูจะไม่ใส่ใจกับประโยคของเขาเมื่อครู่

“ทางโน้นยังมีป้าหยดคอยดูแลอยู่ แล้วก็ยังมีเจ้ารอยอีก ถ้ายังไม่พอก็ยังมีคนงานที่อาศัยอยู่ที่บ้านพักคนงานใกล้ๆแถวนั้นอีกโขยงหนึ่ง หายห่วงรึยัง”

คำบอกกล่าวแฝงร่องรอยความไม่พอใจจนวนัสจับน้ำเสียงแข็งๆนั้นได้

“แต่เธอไม่มีใคร เวลาแบบนี้ไม่ต้องมาเกรงใจกันหรอก”

วนัสยังคงนั่งเงียบ เขาเพียงแค่ไม่อยากให้ใครมาเห็นสภาพอ่อนแอ น่าเวทนา ดูไม่ได้แบบนี้ ก็เลยอยากอยู่คิดอะไรคนเดียวเงียบๆ

“แล้วไม่ต้องคิดอยากจะขออยู่คิดอะไรคนเดียวเงียบๆเลย ยิ่งอยู่คนเดียวยิ่งคิดมากฟุ้งซ่านไปกันใหญ่”

“……………!” คนตัวเล็กเบิกตามองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ

ปิดอะไรตาคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆน่ะ มานั่งอยู่กลางใจเขารึไงถึงได้รู้ดีไปหมด วนัสหันหน้าหนีด้วยใบหน้าติดจะบึ้งนิดๆ ที่ถูกคนจับได้ไล่ทันความคิด

“แต่ถ้าเห็นเป็นคนอื่นคนไกลกัน ฉันก็จะไม่กวนเธอละน่ะ” ภูผาตั้งท่าจะลุกไปจากเตียงเมื่อพูดจบ

“ปะ…….เปล่านะครับ!”

มือเล็กรีบคว้าชายเสื้ออีกฝ่ายที่กำลังจะลุกเดินจากไปหมับทันที

ร่างสูงนึกยิ้มในใจให้กับอาการร้อนรนของคนเจ็บ และทรุดตัวนั่งลงที่เดิม

“ผมเกรงใจนะครับ ช่วยผมไว้ตั้งหลายอย่าง จนไม่รู้จะขอบคุณ ตอบแทนยังไงดีแล้ว”

“หึๆ ก็แค่ทำตามที่ฉันเคยบอกไว้ก็พอแล้วละ” ภูผายิ้มอย่างอ่อนโยนโดยไม่สนใจกับอาการตื่นๆของคนบนเตียง

ไอ้กฎสามข้อนั้นอะนะ คิ้วเรียวขมวดมองอีกฝ่ายที่ยังปั้นหน้าตายอยู่

“ไว้จะเพิ่มอีกซักข้อสองข้อเร็วๆนี่ละ”

ยังจะมีอีกหรอห๊า!

ความวิตกกังวลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูจะถูกลมปากของร่างสูงใหญ่พัดกระเด็นกระดอนหายไปในอากาศรอบตัว เพราะความสนใจของเขาพุ่งตรงไปที่ชายหนุ่มเพียงคนเดียวแล้วตอนนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นแม้จะต้องเสียรู้ เจ็บตัว แต่ทุกอย่างมันต้องมีทางแก้ไขได้ ถ้ายังมีผู้ชายคนนี้คอยช่วยเหลือ

“หึๆ หายเครียดได้แล้ว” ภูผาอ้อมแขนไปด้านหลังพลางคว้าไหล่เล็กเขย่าแรงๆ “กล่องยาอยู่ตรงไหนละ”

วนัสพยักเพยิดหน้าไปทางข้างฝาด้านซ้ายมือ ร่างสูงเดินไปหยิบค้นยาในตู้ยาขนาดเล็กแล้วเดินกลับมาพิจารณาร่างที่กึ่งนอนกึ่งนั่งบนเตียงขนาดนอนได้สองคนสบายๆ

“อาบน้ำก่อนทายาดีกว่ามั้ย? แต่ว่าฉันเช็ดตัวให้ดีกว่าน่ะ คงเดินไปไม่ไหวหรอก”

ภูผาตั้งท่าเอื้อมมือไปถลกเสื้อหวังจะช่วยอีกฝ่ายถอดเครื่องแต่งกาย แต่ถูกห้ามปรามไว้ก่อน

“ผมไหวครับ ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้ว ขอลุกไปอาบน้ำเองดีกว่าครับ”

ถ้าจะให้คุณมาเช็ดตัวให้ ผมขอลากสังขารเจ็บๆไปอาบเองอีกว่า ตอนเมาคราวก่อนยังอายไม่หายเลย

วนัสลุกเดินโดยมีภูผาคอยพยุง เสี้ยวหน้าขาวบ่งบอกถึงความกระอักกระอ่วนใจให้ร่างสูงได้ยกยิ้มเจ้าเล่ห์อีกคราว

นี่ถ้ารู้ว่าเขาได้ทำการละเมิดจับต้องร่างกายของเจ้าตัว จนเขาสำเร็จสมใจจะทำหน้ายังไงกันน่ะ จะอาละวาดหรือเขินอาย แต่เขาขอภาวนาให้เป็นอย่างหลังดีกว่า

เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้ภูผารีบเดินไปประคองร่างโปร่ง ที่สวมเพียงกางเกงผ้าเนื้อบาง ส่วนเสื้อที่เขาเตรียมไว้ให้ถูกเจ้าตัวจับพาดไหล่ไว้เฉยๆ กลับมานั่งบนเตียง แล้วจึงบรรจงทายาตามบริเวณที่ฟกช้ำดำเขียว แต่ที่ชัดที่สุดก็ตรงบริเวณกราม ซึ่งตอนนี้บวมปูดจนเห็นได้ชัด กับบริเวณท้องที่เห็นรอยช้ำวงกว้าง เสร็จแล้วจึงส่งยาแก้ไข้ให้กินไปด้วย

“…………………….” วนัสเหลือบมองอีกฝ่ายก่อนจะหลุบตาลง

“มีอะไรฮึ” ภูผาเห็นอีกฝ่ายจ้องมองด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้จึงถามกลับไป

“คุณภูผาตามผมมาหรือครับ”

“ใช่”

สายตาคมปราดมองแผ่นอกราบเรียบ ตุ่มเล็กสีชมพูเข้มหดเล็กด้วยเพิ่งอาบน้ำมาหมาดๆ ก่อนจะละสายตาขึ้นยังวงหน้านวล

“ฉันสั่งคนงานไปบอกเธอ ให้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน พอคนงานกลับมาบอกว่าเธอกลับไปแล้ว ก็คิดว่ามันผิดปกติ เป็นห่วง กลัวว่าเธอจะเผลอทำอะไรวู่วาม เลยรีบตามมาดู มีเรื่องซะจริงๆ”

ร่างสูงถอนใจยาว

“อย่าทำอย่างนี้อีกน่ะ บอกแล้วไง มีอะไรให้มาปรึกษากันก่อน เห็นเป็นคนอื่นไปได้”

แม้ใจอยากจะเถียงว่า ตนยังไม่ได้พูดกล่าวหาอะไรสองคนนั้นเลย เพียงแค่ลองหยั่งเชิงดูปฏิกิริยาก็โดนแล้ว แต่ก็ต้องหุบปากเงียบ เพราะเจตนาหวังดีของอีกฝ่ายทำให้พูดไม่ออก ทั้งยังรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของผู้ชายคนนี้มากเหลือเกิน เพราะฉะนั้น จะว่าอะไรมาเขาก็ยอมรับผิดทุกประการ

“ครับ”

เห็นคนตัวเล็กตอบรับแต่โดยดี คนที่เป็นห่วงก็ค่อยเบาใจ แต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะเขายังเห็นร่องรอยความกังวลใจสะท้อนในดวงตาคู่รีงาม

“นอนพักซะก่อนเถอะ เรื่องอื่นไว้ค่อยคิดกันที่หลังน่ะ”

“……………………” วนัสยังคงนั่งก้มหน้านิ่งพรูลมหายใจออกมา

“มันหลับไม่ลงครับ รู้สึกว่าในหัวเหมือนมีอะไรตีกันยุ่งเหยิงไปหมด คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงกับไร่สวนนี้ต่อไปดี นี่ถ้าพี่สาวรู้คงไม่ยอมให้ผมอยู่ที่นี่คนเดียวแน่ๆเลย”

“ถ้ายังรับมือไหวก็ไม่ต้องบอกก็ได้ พี่เขาจะเป็นห่วงซะเปล่าๆ ยังไงก็ยังมีฉันอยู่นะ อย่าลืมสิ”

ร่างสูงนั่งมองอีกฝ่ายก้มหน้านิ่งอยู่บนเตียง

“แต่………ผม”

“อืม……………..นายนี่! เริ่มฟุ้งซ่านอีกแล้วน่ะ” ภูผาพูดแกมดุอีกฝ่ายที่ยังไม่ยอมล้มตัวนอน

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังนั่งนิ่ง ร่างสูงจึงขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างบาง พลางวาดวงแขนโอบรั้งเข้ามาแนบอก ในขณะที่วนัสเองก็ดูจะเริ่มชินกับการเข้าถึงเนื้อถึงตัวของเจ้านายตน จึงยอมเอนตัวอิงไหล่หนาทั้งๆที่ช่วงบนยังเปล่าเปลือย

“กังวลหรือ? ไม่ต้องคิดมากไปหรอก เรื่องคนงานที่ขาดไปฉันจะจัดคนของไร่ภูผามาแทนให้ รวมทั้งระบบการจัดการในไร่ทั้งหมดด้วย จะให้หัวหน้าคุมงานมาช่วยดูและวางแผนกันใหม่”

ภูผารับรู้ถึงการคลายตัวของกล้ามเนื้อในร่างที่อิงซบอก เขาถึงได้เข้าใจว่าวนัสกังวลใจเรื่องนี้นี่เอง คงกลัวว่าจะหาคนงานมาทำงานในไร่ไม่ได้สินะ พอเขาบอกจะช่วยในเรื่องนี้ถึงได้ดูผ่อนคลายความวิตกกังวลลงไป เด็กจริงๆเลยน้า…………… สายตาคมหลุบมองเส้นผมบนศีรษะที่อยู่เพียงปลายคาง แล้วยกมุมปากขึ้นน้อยๆ

“ส่วนมะพร้าวก็จะให้รถโรงงานของฉันมารับซื้อถึงที่นี่ ขายตรงกับทางโรงงานไปเลย เดี๋ยวจะรับซื้อราคาพิเศษเลยดีมั้ย”

น้ำเสียงหยอกเย้าทำให้ร่างที่อยู่ในอ้อมแขนดิ้นหยุกหยิกอย่างไม่สบอารมณ์

“นอนได้รึยังฮึ” วงแขนแข็งแรงแกล้งบีบคนตัวเล็กเล่น

“ผมไม่ได้หวังอะไรแบบนั้นน่ะ!” เสียงบึ้งตึงทำให้ภูผานึกอยากจะสัพยอกต่อไปอีก

“หวังหน่อยจะเป็นไรไปละ เรือล่มในหนองทองจะไปไหนเสียนี่น่ะ” ภูผายิ้มเย้าใส่ตาเขียวๆของร่างเล็ก

ไอ้ประโยคนั้นมันไว้ใช้กับผู้หญิงเฟ้ย พูดไม่ถูกแล้วยังจะเอามาใช้อีก วนัสนึกอย่างขุ่นๆใจ ถึงจะเป็นคำหยอกชวนให้หงุดหงิดหัวใจ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจ โล่งอก เมื่อมีคนๆนี้อยู่ข้างๆ ก่อนจะเอี้ยวตัวออกจากวงแขนแข็ง เอนตัวลงนอนบนฟูกนุ่ม

“ไม่ใส่เสื้อละ” เมื่อเห็นร่างขาวคลี่ผ้าห่มทั้งๆที่ยังไม่สวมเสื้อจึงเอ่ยทัก

“ปกติก็ไม่ใส่อยู่แล้วครับ”

ภูผากวาดตามองติ่งเนื้อสีชมพูเข้มบนพื้นผิวขาวเนียน แล้วต้องลอบกลืนน้ำลายเอื๊อกที่เดียว จะยั่วกันรึไงเจ้าเด็กนี่

“งั้นฝันดี อย่าคิดอะไรมากอีกล่ะ ทุกอย่างจะดีเอง” มือใหญ่ช่วยดึงผ้าห่มคลุมร่างเล็กให้เสร็จสรรพ ก่อนจะก้มหน้าทาบริมฝีปากลงบนหน้าผากมนแผ่วเบา และรอดูปฏิกิริยาของอีกฝ่ายว่าจะลุกขึ้นมาโวยวายอย่างทุกทีรึเปล่า

“……………….”

หากฝ่ายที่ถูกกระทำกลับรู้สึกว่า คนตัวโตกำลังทำเหมือนเขาเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของตัวก็ไม่ปาน ก็เล่นจูบราตรีสวัสดิ์เหมือนพ่อทำกับลูกแบบนี้จะให้เขาว่าอะไรได้ละ จึงได้แต่มองตาปริบๆมองใบหน้าเข้มที่ลอยห่างแค่คืบ

ดวงตาใสแป๊วมองกลับมาไม่มีทีท่าจะหลบเลี่ยง ทำให้ร่างสูงลดใบหน้าประทับริมฝีปากที่เปลือกตาอย่างเชื่องช้า แล้วค่อยๆเคลื่อนไปกดแนบลงบริเวณมุมปากเนิ่นนาน ก่อนจะกลั้นใจถอนใบหน้าออกห่าง แล้วยืดตัวขึ้น

“หลับซะ”

ร่างสูงขยับตัวลุก แต่ถูกมือตุ๊กแกของวนัสยึดเหนี่ยวไว้แน่น คิ้วเข้มจึงเลิกขึ้นถาม

“ผมไม่ใช่ลูกคุณน่ะ” ถึงจะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่มามองเขาเป็นเด็กแบบนั้น เขาก็อดฉุนไม่ได้

อาการนิ่วหน้าอย่างดื้อดึงทำให้ภูผาอมยิ้ม

“อืม……….หึๆ……. แต่ตอนนี้ทำตัวเหมือนเด็กสามขวบ”

“เหมือนตรงไหนกัน!”

“ก็ตรงแก้มป่องๆปากยื่นๆแบบนี้ไง” นิ้วแข็งแรงจิ้มลงไปที่พวงแก้มอิ่มใสข้างที่ไม่ถูกชก กดย้ำจนอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีอย่างรำคาญ

“ผมไม่ใช่เด็ก อย่ามาทำแบบนี้อีกน่ะ ของแบบนั้นเขาไว้ทำกับเด็ก ผมโตแล้วน่ะ!” มือเล็กพยายามปัดนิ้วที่จิ้มๆใบหน้าเขาออก พลางเหลือบมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่ก้มลงมาใกล้

“ไม่ชอบให้ทำแบบเด็ก งั้นทำแบบผู้ใหญ่ก็ได้ จะได้ไม่ถูกเธอว่าอีก”

ทันทีนั้น ศีรษะทุยก็ก้มลงมาแนบริมฝีปากกับกลีบปากสีอ่อนเรื่อ แล้วไล้ลิ้นสีแดงสดไปตามขอบปาก ปลายลิ้นอุ่นสัมผัสหยอดเย้ากดแนบเน้นไปทั่วรูปปากหยักโค้ง ก่อนจะดุนดันให้อีกฝ่ายเปิดปากรับลิ้นอุ่นชื้นของตนเข้าไปสำรวจภายในอย่างง่ายดาย

วนัสรู้สึกเหมือนเวลาหยุดนิ่ง เขามองใบหน้าที่เข้ามาแนบชิดเต็มตา แต่ไม่อาจห้ามปรามโวยวายได้เลย รู้สึกเหมือนทั้งตัวโดนแช่แข็ง ขยับเขยื้อนไม่ได้ ทำได้แต่เพียงบีบบ่าหนาไว้แน่น ลิ้นของเขาเหมือนจะเป็นอัมพาตในบัดดล แต่ก็ยังรับรู้ถึงการเกี้ยวกระหวัดดูดกลืนของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

คุณภูผา!……..นี่คุณจะแกล้งกันรึไง ผมบอกให้คุณปฏิบัติกับผมแบบผู้ใหญ่ที่เขาพึงกระทำต่อกัน ไม่ใช่ให้คุณมาแสดงว่าผู้ใหญ่เขาทำกันยังไงน่ะ! ทำเข้าไปได้ยังไงเนี่ย ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ อ๊า……………..เอาลิ้นคุณออกไปน่ะ

ภูผาเพิ่มแรงกดทับร่างที่เริ่มดิ้นรนคลุกคลักด้วยลำตัวของตนเอง กำปั้นขนาดกำลังดีทุบตุ๊บตั๊บลงบนไหล่กว้าง แต่ร่างสูงคงคิดว่ามันเป็นแมลงหวี่แมลงวัน ที่เข้ามาขัดความสำเริงสำราญ จึงรวบจับกดทาบด้วยท่อนแขนให้มันแน่นิ่งลุกขึ้นมารบกวนอีกไม่ได้

ยิ่งถูกรุกไล่เท่าไร ร่างบางที่กลั้นลมหายใจเอาไว้ก็ยิ่งทุรนทุราย ด้วยอากาศกำลังจะหมดไปจากปอด 3 2 1

“อ๊า!” วนัสอ้าปากกว้างเพื่อสูดเอาอากาศเข้าปอดอีกครั้ง ทำให้อีกฝ่ายมีโอกาสประกบปากบางได้ถนัดถนี่มากขึ้น ลิ้นอุ่นๆทำให้วนัสรู้สึกแปลกประหลาดมากกว่าความรังเกียจในเพศเดียวกัน

“อื่อ……………….” ออกไปน่ะคุณ……………… ถ้าไม่ออกไปผมโกรธจริงๆแล้วน่ะ

ลิ้นเล็กๆเริ่มผลักไสดุนดัน ให้อีกฝ่ายชักลิ้นพิเรนออกไปจากปากตน แต่ยิ่งขยับก็เหมือนจะไปสอดคล้องกับจังหวะของฝ่ายตรงข้ามที่เร่งเร้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกวูบวาบไปตามเนื้อตัว เลือดของเขาอุ่นจนร้อนวิ่งพล่านไปตามร่างกาย ก่อนจะไหลวนมารวมกันที่กลางลำตัว จากที่แข็งขืนในตอนแรกก็เริ่มผ่อนปรน และเหนี่ยวรั้งในที่สุด

น้ำใสๆไหลล้นทางมุมปาก เสียงดูดกลืนลิ้นของกันและกันยิ่งกระตุ้นให้อารมณ์ของร่างบางกระเจิดกระเจิง ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ เขาต้องทำเรื่องน่าอับอายออกไปแน่ๆ

แต่ก่อนจะเกินเลยไปมากกว่านี้

ภูผาค่อยๆถอนใบหน้าออกอย่างเชื่องช้า เฝ้าดูใบหน้านวลแดงเรื่อสบตาเขานิ่ง แววตาของคนอ่อนประสบการณ์เจืออารมณ์พิศวาสโดยไม่ปิดบัง ทำให้ร่างสูงลอบถอนหายใจ

“เป็นไง แบบผู้ใหญ่เขาทำกัน ถูกใจมั้ย”

หน้านวลแดงจัดจนควันแทบจะออกหู เมื่อได้ยินคำสัพยอกของเจ้านายจอมเฮี้ยว ด้วยทั้งกระดากอาย ทั้งโกรธขึงตัวเองที่ดันไปมีอารมณ์ร่วมกับเจ้าคนช่างแกล้ง มือเล็กจึงหยิบคว้าหมอนข้างศีรษะ เหวี่ยงปาเข้าใส่ร่างสูงที่ยิ้มหน้าทะเล้นรอรับอยู่อย่างอารมณ์ดี แล้วรีบตะแคงตัวหันหลัง หลับหูหลับตาข่มใจหลับท่ามกลางความครึ้มอกครึ้มใจของร่างสูง

“อย่าลืมฝันถึงฉันละ”

เสียงกระซิบข้างหูชวนให้คนที่นอนขดตัวในผ้าห่มหลับตาปี๋ ไม่อยากฟังคำคนกวนประสาทอีกต่อไป เพราะถึงต่อล้อต่อเถียงไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แถมยังเข้าตัวอีกต่างหาก แล้วอีกอย่าง………………

ไม่อยากจะโทษว่าอีกฝ่ายเป็นคนเริ่มเรื่องพิเรนๆนี้คนเดียว เขาเองก็กลับรู้สึกดีจนร้อนรุ่มไปด้วยเหมือนกัน ว่าเขาก็เหมือนกับว่าตัวเอง ทางที่ดี อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บจะดีกว่า เพราะเขากลัว กลัวจะไปเจอกับคำตอบที่เขาเองคอยแต่จะหลบเลี่ยง พยายามไม่คิดถึงตลอดเวลาที่อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้



หลับซะ เจ้าไม้ หลับให้สนิทเลยน่ะแก





TBC




งานหนักมากค่ะ ช่วงนี้
ขอโทษที่มาต่อช้า เเหะๆ เเค่ สองสามวันเองเนอะ

ความสัมพันธ์ของทั้งสองกระชับเเน่นมากขึ้น อิอิ
หวังว่าจะชอบกันนะจ๊ะ



ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :L1:สมกับที่รอคอย

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
กรี๊ดดดดด  เขาจูบกันแล้ววววว
คุณหินนี่รุกคืบ  กระดื๊บ ๆ ถี่ยิบ  
ใกล้ละ  น้องนัสเอ๋ยยย  ใกล้เสียสาว เอ๊ย เสียหนุ่มเต็มแก่แล้ว
+1 ให้คนโพสต์จะได้มาต่อเร็ว ๆ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
คุณหินเจ้าเล่ห์จังเลย แอบมองแอบจับนู่นนี่ตลอด 555

aekporamai2

  • บุคคลทั่วไป
น่ารัก :L2:

lasom

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดด  :m3:กะแล้วคุณภูต้องใช้มุกนี้แต่ไม่คิดว่าจะdeepขนาดนี้ อร้ายยยยยยยย
ม้วนหน้าสัก3ตลบ :110011:แล้ววิ่งมากด+

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อ๊า จูบกันอย่างดูดดื่มแล้ว  :o8: คุณหินดีจัง มาปกป้องไม่พอ เซอร์วิสทุกอย่างเพื่อความอุ่นใจ คึคึ o18 ว่าแต่นัส รู็้ตัวรึยังเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด