ตอน 4 หนอนรถด่วน
พอเขาพาไอ้ธันเดินออกมานอกสถาบัน คนที่เดินสวนกันแถวซุ้มประตูและกำลังเดินข้ามถนน พวกมันมองตามหลังจนกระทั่งเลี้ยวเข้าตรอก ก็เจอกับกลุ่มนักศึกษาที่เครื่องแบบเดียวกันกำลังนั่งดูดบุหรี่พิงมอเตอร์ไซค์คนละคัน
“ไอ้ดำ กุญแจมาหน่อย” ไอ้ดำที่กำลังคาบบุหรี่อยู่ที่ปากเหล่มองไอ้คนที่เดินตามมา มือก็ล้วงกุญแจมอเตอร์ไซค์โยนให้ติว “อย่าเอาลูกกูไปผ่านหน้าสวะนิมิตนะ เสนียด”
ติวหัวเราะฝืดๆ ในคอ “งั้นมึงเตรียมเอาลูกมึงเข้าล้างอัดฉีดเจ็ดวันได้เลย” ถ้าไอ้ดำมันจะห้ามคงช้าเกินไปแล้ว ติวขึ้นคร่อมสตาร์ทเครื่องกำลังจะใส่หมวกกันน็อกฉลาม
ธันมัวแต่มองหน้าแต่ละคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น พลางนึกว่ายังเหลือคนไหนที่เขายังไม่เคยตีบ้าง
ถ้ายังเหลือก็แปลก ไอ้พวกนี้หัวโจก.. จำได้ว่าวันแรก ไอ้เชี่ยที่ชื่อกานพูดว่าไอ้ติวคุมพวกใหญ่ งั้นก็หมายถึงไอ้พวกนี้น่ะสิ
“ต้องให้กูจุดธูปมั้ย ขึ้นมาซักทีสิวะ” ติวหันไปเรียกธัน เห็นแมร่งมองหน้ากันอยู่ได้ ไว้ฟัดกันวันหลังได้มั้ย คนยิ่งเสี้ยนๆ อยู่
ธันหันไปมองติวตาแข็ง “ใครบอกว่ากูจะไปกับมึง มึงอยากไปไหนก็ไปดิ”
เขาแทบอยากจะถอดหมวกกันน็อกฟาดหน้าไอ้ห่านี่จริงๆ เป็นส้นตีนอะไรขึ้นมาอีกน่ะ “กู บอก ว่า ให้ มึง ขึ้น มา” ติวพูดเน้นทีละคำ ไอ้เก้าโยนก้นบุหรี่แล้วขยี้ด้วยปลายเท้าก่อนจะเดินเข้ามาร่วมวง “มึงรีบๆ ทำตามที่มันบอกเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระพวกเรา” ธันหันซ้ายหันขวาอีกทีก็เห็นไอ้พวกที่เหลือเริ่มเดินเข้ามาสมทบ เห้ออ แมร่งเอ้ย
ธันขึ้นซ้อนท้ายคาวาซากินินจาสีดำทะมึน ยังไม่ทันจะได้จับดีๆ ติวก็ออกตัวกระชากจนฝุ่นตลบ คนเบื้องหลังได้แต่มองตามเงียบๆ มีแต่ไอ้ดำนี่แหละที่แอบลุกลี้ลุกลน “โค้งหน้าไม่น่ารอด” ไอ้เสกอวยพรเพื่อนตามหลัง
“ตายห่าช่างแมร่งแต่ลูกกูห้ามถลอก”
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นะ คาวาซากินินจาคันเป็นแสน แค่ที่จับตรงไฟท้ายซักอันก็ไม่มีให้ ขี่อย่างกับจะรีบไปตายแบบนี้เขาทนโหนลมหรืออาศัยกระดูกสันหลังตัวเองคงจะยาก ธันกำปลายเสื้อช็อปติวแน่น ลมตีหน้าเขาจนแดงไปทั้งหน้าแล้ว ไอ้คนขับคงไม่สะทกสะท้าน นึกแล้วอยากจะดึงหมวกกันน็อกมันเหวี่ยงทิ้งจริงๆ เห็นแก่ตัวฉิบหาย
เขาทนให้ลมตบหน้าอยู่เกือบสิบนาทีได้ พอรถจอดเมื่อถึงที่หมายเขาหยั่งขาลงทันที เข่าแทบทรุด เปล่าหรอกนะ เขาไม่ได้กลัว สงสัยเลือดมันไม่เดินล่ะมั้ง
“หึ แค่นี้เข่าอ่อนเลยเหรอ” ติวแขวะ มันยิ้มมุมปากก่อนจะเดินเข้าไปใน.. เห้ย เดี๋ยวนะ
พอเงยหน้ามองถึงกับชะงัก...ม่านรูด มันมาทำอะไรที่ม่านรูด?
“ฮัลโหล นับหนึ่งถึงสิบ .. เจอกันที่เดิม”
มันยืนหันหลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนไม่นานก็วางสาย พอหันหน้ากลับมา ไอ้ติวมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่กลับมองค้างที่เป้าเขา ..
“หึ ไอ้หนอนรถด่วน”
ธันเริ่มขมวดคิ้ว ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดเสียงฝีเท้าถี่ๆ ก็ดังมาจากข้างหลังเขาเสียก่อน มันหยุดลงทันทีที่เสียงนั้นถึงตัวติว ตรงหน้าเขามีผู้หญิงตัวเล็กๆ ขาวๆ ผมยาวประมาณเอวในชุดนักเรียนกระโปรงลายสก๊อตฟิตๆ แทบจะเป็นมินิสเกิร์ตกำลังสวมกอดไอ้ติวอยู่
“พี่ติวว มี่คิดถึงจังเลยยย” เสียงเล็กแหลมจนแสบหูตะโกนลั่นพร้อมกับเขย่งหอมแก้มมันอีกฟอดใหญ่ ธันมองการกระทำเหล่านั้นเงียบๆ ไม่ลืมที่จะคิดว่าตัวเองเป็นอากาศ
เธอไม่แม้แต่จะสนใจใคร ควงติวกระหนุงกระหนิงเดินเข้าม่านรูด เขาเลยหยุดเดินตามแล้วรอข้างนอก พอมันหันมาเห็นเขากำลังจะเดินกลับไปนั่งรอที่รถมันก็เรียก “มึงจะไปนั่งตรงนั้นทำไม ตามมาดิ”
ติวกอดเอวสาวร่างเล็กหันมาเรียกธันให้เข้าไปข้างในด้วย “จะให้กูเข้าไปทำอะไร จะทำอะไรก็รีบไปทำดิ” ธันพูดไม่สบตาเขากลับหันไปมองยอดไม้ยอดหลังคา ท่าทางเหล่านั้นทำเขาลอบยิ้มมุมปากคนเดียวออกมาง่ายๆ
“ถ้าเกิดมึงหนีไปใครจะรับผิดชอบ” ติวพูดพลางมองไปที่ธัน มันรีบหันกลับมาแก้ตัว “กูไม่หนี” พอเขาสบตาเขาก็พบกับนัยน์ตานั้นที่ฉายแววประหลาดที่ต่างไปจากทุกทีของติว “กู ไม่ขี้ขลาดขนาดนั้น” และเขาก็หลบตาอีกครั้ง
ไม่รู้ทำไมติวถึงรู้สึกสนุกไปกับกิริยาท่าทางของไอ้ธันในตอนนี้ เขาก้มกระซิบสาวก่อนที่เธอจะเดินนำเข้าไปในห้องก่อน ติวเดินกลับมาหาธันทีละย่างก้าว
ติวมองจนเขารู้สึกได้ว่ากำลังถูกคุกคาม สายตานั่นต่างไปจากทุกคนที่เขาเคยสบตา เขาไม่เคยถูกมองแบบนี้ ไม่รู้ด้วยว่ามันหมายความว่ายังไง แต่ที่รู้สึกได้ตอนนี้คือ
อันตราย นี่มันไม่ใช่เวลาที่ตั้งการ์ดแล้วจะป้องกันได้เหมือนทุกที เขารู้สึกเหมือนถูกสะกดจิต รู้ตัวอีกทีก็ถูกลากเข้ามาอยู่ในห้องซะแล้ว สาวคนนั้นสลัดชุดนักเรียน เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่านอนรออยู่บนเตียง เขาถูกลากมาวางทิ้งตรงโซฟาที่หันหน้าไปหาปลายเตียงราวกับสิ่งของ
เขานั่งตัวแข็งเป็นรูปปั้น ติวค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตาก็พลางชำเลืองมองเขาไปด้วย ยิ่งเห็นหน้าไอ้ธันเขายิ่งอยากจะหัวเราะ ดูหน้ามันสิ เริ่มซีดเป็นไก่ต้มน้ำปลา ไอ้นี่ท่าทางจะเวอร์จิ้น สงสัยจริงๆ มันอยู่รอดมาได้ไงจนเกือบสิบแปดปี หน้าตาก็พอไปวัดไปวาไม่จัดว่าขี้เหร่ รูปร่างก็ไม่ได้แย่ สูงก็สูงเกือบเท่าเขา แถมยังดูสะอาดไม่โสโครกเหมือนพวกสวะนิมิตคนอื่น
ติวแทบจะไม่ได้สนใจสาวเปลือยเปล่าบนเตียงเลย เอาแต่คิดพิจารณาถึงรูปร่างไอ้ตัวประกอบที่นั่งอยู่ตรงโซฟาจนเจ้าหล่อนลุกขึ้นมาช่วยถอดเสื้อผ้า ธันกลืนน้ำลายมองทรวดทรงร่างสาวเต็มตา ผิวขาวเนียนตัดกับผมดกดำยาวจนถึงเอว สาวเจ้าไร้การเหนียมอายใดๆ พอถอดเสร็จกับโน้มคอติวลงมาจูบที่เตียงอย่างดูดดื่มเสน่หา..
ติวหลับตารับจูบก่อนจะเหลือบตามองมาที่ธันอีกครั้งด้วยแววตาเช่นเดิม
แววตานั่นส่งผลให้ธันเริ่มรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าเวียนผ่านในร่าง เขามองการกระทำนั้นและแววตาคู่นั้นอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้ ..ราวกับถูกครอบงำ
หญิงสาวยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่ออย่างไม่ได้สนใจว่ากำลังมีใครจับจ้อง พวกเขานอนหันหัวไปคนละฝั่งกับหัวเตียง ซึ่งนั่นทำให้ธันมองเห็นการกระทำทุกอย่างจากด้านข้างได้อย่างชัดเจนกว่าดิจิตอลโฟร์ดี เธอหันบั้นท้ายงอนไปอีกด้านก่อนจะก้มลงไปกัดขอบกางเกงชั้นในของติวก่อนจะค่อยๆ ดึงมันลงต่ำแล้วใช้มือช่วยดึงด้านข้างลงมาจนถึงหัวเข่า ทันทีที่หัวมังกรดีดพ้นขอบกางเกง สายตาของธันกลับจ้องค้างที่สิ่งนั้น และแทบไม่ได้สนใจการกระทำของหญิงสาวอีก
ติวหันมายิ้มมุมปากจ้องหน้าธันที่นั่งกลืนน้ำลายอยู่ตรงมุมนั้น สารภาพเขาเริ่มไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมกับคู่นอนสาวเท่าไหร่แล้วมั้ง เล่นจ้องธันซะขนาดนี้
“มึงควรจะดีใจนะ ที่กูอนุญาตให้มึงดูหนังสด ..โดยมีกูเป็นพระเอก”
เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะแสดงละครฉากหนึ่งเท่านั้น เขาจัดการเปิดฉากด้วยการพลิกร่างหญิงสาวแล้วคร่อมร่างเธอ ติวโน้มหน้าลงจูบปลายบัวตูมนั่นก่อนจะแลบปลายลิ้นสะกิดเข้าที่ยอดสีคล้ำ ตลอดเวลาที่ทำติวลอบมองธันเป็นระยะ แต่จังหวะพอดีกับที่ธันหอบหายใจเฮือกเมื่อปลายลิ้นเขากำลังฉกเฉี่ยวยอดอกของหญิงสาว
ธันดูออกง่ายมากในเรื่องแบบนี้ เขาทดลองทำซ้ำ ดูเหมือนอาการนั้นของธันจะลดลงบ้างแต่ก็ยังมีปรากฏให้เห็นทุกครั้งที่เขาสัมผัสหญิงสาว ติวยิ้มย่องคนเดียวขณะที่ปากยังแตะอยู่ที่ผิวกายเธอ เธอหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกับการถูกติวเล้าโลม และครางเรียกชื่อเขาเป็นพักๆ เขาเหลือบไปมองธันอีกครั้ง น่าแปลก ที่สีหน้าแม้จะเห็นไกลๆ ของมันทำให้ติวรู้สึกอยากทำอะไรมากกว่านี้
ธันพยายามหันทางอื่นที่ไม่ใช่สิ่งตรงหน้า มองผนังห้องบ้าง ผ้าม่านบ้าง แม้มันจะไม่ได้น่ามองเลยก็ตาม เขาเริ่มนั่งไม่ไม่ติดเมื่อติวเริ่มโยกบั้นเอวใส่หญิงสาวคู่นอน และค่อยๆ เริ่มสับเปลี่ยนเวียนเป็นท่าต่างๆ อยู่เกือบสิบห้านาที
เขารู้สึกร้อนรุ่มในร่มผ้า อึดอัดจนอยากระบายออกให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ทำไม่ได้ จะเดินไปเข้าห้องน้ำมันก็จะยังไงๆ อยู่ ไอ้เสี้ยนติวนี่อึดเอาเรื่องจริงๆ มันนานจนเขารู้สึกได้ว่า ถ้าในเวลาแบบนี้มีอะไรมาโดนหรือเฉี่ยวกลางลำตัวเขา เขาคงพร้อมยิงกระสุนน้ำได้ตลอดเวลา
เสียงครวญครางใสดังสอดแทรกกับเสียงเนื้อกระทบกัน มันช่างเข้าจังหวะกับเสียงหัวใจที่เต้นถี่ระรัวจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก ไม่ใช่แค่ใจที่เต้น ข้างล่างมันก็เต้นตุบๆ อยู่ในร่มผ้าเช่นเดียวกัน จะทำเป็นไม่สนใจก็ยาก ธันทำได้แค่สะกดตัวเองให้นั่งนิ่งๆ และบังคับสายตาไม่ให้มองไปที่เตียง
ติวทั้งงัดทั้งสะบัดจนก้นเธอแทบไม่ติดเตียง หัวคิ้วเริ่มย่นหลับตาคำรามในคอต่ำ ห้วงอารมณ์ได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด เขาเร่งสุดพลัง หญิงสาวส่งเสียงร้องราวกับจะขาดใจตายให้ได้ แต่ไอ้คนตรงโซฟานี่สิ ยังคาราคาซัง กลืนก็ไม่เข้าจะคายก็คายไม่ออก โคตรของโคตรทรมาน
หลังเสร็จกิจธันต้องรอจนกระทั่งติวอาบน้ำใส่เสื้อผ้าจนเสร็จ เขารู้สึกอยากจะไปเข้าห้องน้ำมากแต่ก็ทำไม่ได้ พอติวอาบน้ำเสร็จ สาวคนนั้นก็เข้าไปอาบต่อทันที ไอ้เชี่ยนี่ก็เร่งจะให้กลับลูกเดียว
“จะไปมัวรอไรวะ เสร็จแล้วก็กลับดิ” แมร่งไม่ถงไม่ถามสุขภาพลูกชายเขาซักคำ
ติวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์กำลังจะใส่หมวกกันน็อกสายตาก็ต้องมาสะดุดกับเป้ากางเกงธัน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ กลับใส่หมวกกันน็อกและลอบยิ้มคนเดียวภายในนั้นเอง.. เขาเปิดกระจกกันลมขึ้นสบตาธันอีกที คราวนี้เขาแกล้งมองเหวี่ยงๆ “มึงจะขึ้นมาได้รึยัง”
ธันหันกลับเข้าไปมองประตูห้องพักอีกครั้ง ชั่งใจอยู่ว่าจะกลับไปเข้าห้องน้ำดีมั้ย ติวลงจากรถก้าวฉับๆ เดินมาลากเขาไปที่มอเตอร์ไซค์ ตอนนี้ธันรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยจะมีแรง ฉะนั้นติวจะลากแมร่งไปไหนก็ขัดอะไรไม่ได้หรอก เขาจำยอมขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ในที่สุด
อัดอัดว่ะ เกิดมาเขายังไม่เคยอึดอัดขนาดนี้มาก่อน ปกติถ้าไม่มีสิ่งกระตุ้นก็คงจะไม่เท่าไหร่ มันโด่เองซักพักมันก็ล้มเอง แต่นี้หนังสด.. ฉากแต่ละฉากยังวนฉายซ้ำอยู่นั่น
ติวขี่ผิดจากเมื่อตอนขามาราวฟ้ากับดิน ขามาอย่างกับจะรีบไปตาย แต่ขากลับนี่ขี่แทบจะคลาน ไม่รู้จะมาอยากชมนกชมไม้อะไรตอนนี้ แถมยังกำเบรกสุดชนิดที่ว่าคนซ้อนนี่แทบจะลงไปนั่งกับคนขี่ จากที่นั่งห่างๆ ตอนนี้ธันเริ่มเบียดมาชิดหลังติวเรื่อยๆ จะเขยิบถอยหลังก็ไม่ได้ท้ายรถไม่มีที่จับ เขาพยายามจะขืนตัวเองไว้ไม่ให้ไปชิดหลังติวมาก..
แต่เมื่อรถเบรกอีกที...ธันนั่งตัวแข็งกว่าหินเมื่อรู้สึกว่าเป้ากางเกงที่กำลังเต่งตึงเบียดชิดกับหลังคนขี่
นั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะเข้าสู่กระบวนการคายน้ำทางธรรมชาติ ..แมร่งเอ้ย
TBC
.
******