ตอนที่ 14 ผีสาง นางไม้สินบน-ต้นไทร [1]
..
บ้านของเล็กเป็นค่ายมวยเลยเป็นแหล่งรวมเหล่าพวกพันธุ์อึดที่ค่อนข้างจะแปลกๆ กว่าพวกชาวบ้านชาวเมืองสักหน่อย อันนี้เล็กก็พอเข้าใจ เมื่อชีวิตตัวเล็กมันก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรตั้งแต่เกิดมา เลิกเรียน ซ้อมมวย มีงานก็ขึ้นชกบ้างตามแต่ที่พวกผู้ใหญ่จะชักชวน ส่วนเงินที่ได้มาก็มากบ้างน้อยบ้าง ใช้ซื้อนู้นซื้อนี้ไปตามอัตภาพ และเพราะไอ้การเป็นนักมวยนี่ล่ะไอ้เรื่องโดนดักตีนี้เลยบ่อยออกสักหน่อย แต่ส่วนมากจะเพราะความห้าวเป้งที่คนตีไม่ได้ดูหนังหน้าเสียมากกว่า เพราะถ้าลองมีสติไตร่ตรองสักนิด ใครมันจะกล้าฟาดเด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนตุ๊กตาได้ลงคอ
แต่ก็ว่าไม่ได้ ว่าเล็กจะรอดจากมือตีนทุกครั้งเพราะถ้าพวกในค่ายหรือพวกรุ่นพี่รุ่นน้องมีเรื่องเล็กก็พร้อมลุยอยู่แล้วแต่นั่นมันก็บอกไม่ได้หรอกว่าในตอนที่เล็กโดนไม้ฟาดในคราวที่ไปอาละวาดที่พัทยาเล็กคิดอะไรอยู่ ช่วงนี้เล็กถึงได้แต่เร่งเก็บเงิน เร่งทำงาน เร่งจนบางครั้งเรื่องเรียนก็มีดร็อปไปบ้าง แต่โชคยังดีที่มีโตคอยดันหลังให้อยู่ เล็กไม่ชอบใช้สมองเท่าไหร่ อาศัยทำตัวให้เป็นที่เอ็นดู แค่นั้นก็พอถูไถไปได้บ้าง แต่นั้นล่ะ จุดพีคของเรื่องราวต่อไปนี้
“ไอ้ก้องมึงจุดธูปไหว้สิว่ะ!”
เพื่อนร่วมคลาสที่มีด้วยกันต่างคะยั้นคะยอ ให้คนที่ถือได้ว่าหน้าโหดที่สุดจุดธูปบนบาน การสอบครั้งนี้ความจริงมันก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าอาจารย์ในคลาสไม่ใช่พวกอีโก้สูงที่ประกาศต่อหน้านักศึกษาว่า จะไม่มีใครได้คะแนนรายวิชาของท่านเกินครึ่ง เฉพาะเมื่อไม่ได้เล่ห์ ทั้งกลและมนต์คาถาถึงได้ถูกงัดออกมาใช้
รวมไปถึงการบนบานศาลกล่าวขอให้เจ้าพ่อเจ้าแม่ไทรประจำคณะให้ความช่วยเหลือลูกช้าง ลูกหมา ลูกม้า ลูกลิงค่างบ่างชะนีทั้งหลายที่รวมตัวกันมาไหว้บนบาน ต้นไทรใหญ่หลังตึกเรียนติดริมน้ำ บรรยากาศเวิ้งว้างพอสมควรเพราะไม่ค่อยมาใครกล้ามานั่งมานอน แม้จะเป็นจุดรับลมแต่ด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างและเสียงข่มขู่ที่หยิบยกเหล่าเรื่องราวอาถรรพ์ นู้นนี้นั่นมายำกันจนพื้นที่ใต้ต้นไทร กลายเป็นพื้นที่อันตรายของนักศึกษา
สายลมวูบใหญ่พัดมาเล่นเอาพวกที่คุกเข่ากำลังบนมองหน้ากันเลิกลักจะมีก็แต่เล็กที่ยังยืนนิ่งมองพวกนั้น และเพราะเป็นคนเดียวที่ยืนนั่นล่ะ เศษขี้เถ้าธูปในกระถางมันถึงได้เข้าตาอย่างจัง นั่นคงพอนับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
พอสายลมปริศนาสงบลง..ภาพของความหฤหรรษ์ก็ปรากฏตรงหน้า บนต้นไทร เหล่าลูกเล็กเด็กแดงวิ่งรอบโคนต้นไปมา ไหนจะมีบ้างคนที่โหนลำกิ่งไทรแล้วขย่มให้มันไหวโยก ..
เล็กได้แต่มอง ดวงตากลมใสเบิกกว้าง ชั่วโมงนั้นเล็กคิดเพียงแต่ว่า ‘ท่าจะไม่ดี’ เร็วกว่าเพื่อนฝูงทั้งหมดเพราะพอมองเหตุการณ์ ได้แค่นั้นตัวเล็กเองก็เตรียมหันหลังกลับด้วยสปีดนักมวยเจนสนาม ทุกอย่างคงจะผ่านเลยไปหากไม่มีกระถางธูปใหญ่ที่กลิ้งหล่นจากศาลอาถรรพ์นั้นกลิ้งหลุนๆ ลงมาโดนข้างๆ เท้าเล็กอย่างกับจะขวางไว้เสียก่อน
เสียงหัวเราะเปรี่ยมอำนาจดังขึ้นมาสักพักเหมือนแกล้งหยอกเล็กได้แต่ก้มหน้ามองพื้นบังคับตัวเองไม่ให้มองไปเหนือหัวยังทิศของเสียงปริศนานั่น
“เก็บกระถางให้กูหน่อยสิวะ..แล้วมึงจะไปไหนก็ไป”
สุรเสียงเปรี่ยมอำนาจดังสาดเข้ามาในหู เล็กข่มอารมณ์ทั้งหมดเพื่อทำตามเสียงนั่นกำลังจะเอื้อมมือลงไปเก็บกระถางหากแต่ก็ต้องชะงักค้างไว้แค่นั้นเมื่อในวงสายตามีมือขาวซีดปริศนาเอื้อมมาหยิบกระถางธูปให้ลอยหวืดกลับไปตั้งตรงยังตำแหน่งเดิมเล่นเอาเล็กชะงักไปจนตั้งสติได้เล็กถึงกล้าถอนหายใจแล้ว เตรียมจะเดินกลับกะว่าจะสลัดทุกอย่างทิ้งไว้แค่นั้นทำทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้า..
ไม่มีเด็กคนหนึ่งจับข้อขาเล็กยึดเอาไว้แล้วเงยหน้าขาวๆ ขึ้นมาถามว่า..
“เอ็งเห็นพวกข้าใช่ไหม?”
นาทีนั้นไม่มีคำตอบใดๆ นอกไปเสียจากลูกเตะแบบเสยปลายคางที่เป็นเอฟเฟ็คเฉพาะตัว หัวเด็กน้อยหน้าซีดลอยละลิ้วฟุ่งโด่งขึ้นแล้วทิ้งดิ่งลงใส่พุ่มไม้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนมันจะกลิ้งหลุนๆ ไปตกตูมที่อีกมุมของสระน้ำ ทิ้งให้ส่วนตัวที่ไร้ซึ่งศีรษะนั้นได้แต่นั่งงง
ณ เวลานั้นนายเดชะไม่ได้จะมามั่วตะลึงหรือตระหนกอะไรนักหรอกน่าสาบานได้ เมื่อสิ่งที่อดีตนักมวยเวทีราชดำเนินในร่างหนุ่มน้อยนั้นทำคือการกระทืบไอ้เด็กผีนรกนั้นซ้ำแล้วยันหน้าอกมันเข้าไปอีกกะให้จมดิน
เมื่อความกลัวมากระจุกรวมกับความตระหนกไอ้สิ่งที่เคยเป็นสันดานและสัญชาติญาณดิบมันเลยโดนขุดมาจากสักส่วนของความกล้าเหมือนความรู้สึกแรกที่เด็กชายเดชะต้องเผชิญหน้ากับไอ้ยักษ์คู่ชกคนแรกบนเวทีมวยที่วางเดิมพันไว้ที่หลักหมื่น ในคืนที่อยู่กลางเวทีและแสงไฟ เสียงเชียร์ของใครต่อใครดังก้องไปทั่วทิศทาง ทุกอย่างมันจบและสยบทุกเสียงลงตรงที่เด็กชายเดชะวาดแข้งเข้าใส่ก้านคอไอ้ยักษ์นั่นจนมันสลบลงไปกองกับพื้นแล้วทุกอย่างทุกสิ่งรอบข้างก็เงียบกริบ
เหลือเพียงความสว่างของแสงไฟ เหมือนกันกับครั้งนี้ที่เล็กฟิวส์หลุดไปไกล ไอ้สิ่งรอบข้างที่ใครต่อใครกล่าวถึงพากันนิ่งแล้วหันมองมายังเล็กเป็นตาเดียว แล้วบรรดาพวกอมนุษย์กับสิ่งที่ระบุสัญชาติไม่ได้ทั้งหลายก็พากันก้มหน้าเมื่อดวงตากลมแข็งกล้าเกินคนของนายเดชะหันมองบรรดาสิ่งที่บอกถึงตัวตนรอบๆ เหมือนคาดโทษ ไม่ไว้หน้า
“ถ้าไอ้ตัวไหนกล้ามายุ่งกับกูอีกกูกระทืบไม่เลี้ยงแน่”
เรื่องราวเริ่มมามันก็เป็นซะอย่างนั้น เลยเป็นอันว่าการอาศัยเจ้าพ่อต้นไทรศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยดลบันดาลในการสอบนั้นจบได้อย่างไม่อาจมีใครกล้าก้าวกลับไปกราบขออะไรอีกเพียงแค่นั้นนั่นละจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่ปรากฏเหมือนช่วงหนึ่งของความฝัน ...
“แล้วมึงไม่แก้บนกู ฤ?”
เสียงหัวเราะปริศนาดังแฝงมากับคำถามลอยๆ แว่วดังตามหลังมาจากยอดต้นไทรใหญ่..