7
สาวสวย
บอกใครใครเขาจะเชื่อ ว่าพ่อหนุ่มคาสโนวาอย่างริว ต้องหมดหนทางต่อสู้กับผู้ชายร่างใหญ่ แถมใจกล้า หน้าด้าน ทำเรื่อง
ลามกกับเขาได้อย่างไม่มีสำนึกของความเกรงกลัว
ความแข็งแกร่งกดทับร่างเขาจนแทบจะจมไปกับอกนั้น ริวอึดอัด พยายามดันร่างที่ใหญ่โตให้ออกห่าง ลูซยังคงงัวเงีย ริว
ไม่รู้เลยว่าเขามานอนจมอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เขาแสนเกลียดได้อย่างไร แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญในตอนนี้ เขาต้องหา
ทางหนีให้รอดจากอุ้งมือของว่าที่ภรรยาหน้าสวยนี่เสียก่อน
ภาพความทรงจำที่แสนอับอายยังคงอยู่ไม่เลือนหาย ริวรู้ดีว่าร่างกายของเขาแปลกไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะยอมรับได้
ง่ายๆ ใครมันจะไปยอมรับผู้ชายตัวโตให้มาสมรสเป็นภรรยาได้ลงคอ แค่คิดก็พาลให้อยากคลื่นไส้จนแทบจะอาเจียนออกมา
ด้วยความที่ลูซนอนดิ้นอยู่บ้าง เขาพลิกกายออกห่างจากริวอย่างงัวเงีย ความสบายใจเกิดขึ้นแทบจะทันที อย่างน้อยตอนนี้
เขาก็ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้ไออุ่นของลูซอีกต่อไป
ทางเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ คือต้องหนีไปจากที่นี่ แต่ริวก็คิดไม่ตกว่าเขาควรจะหนีไปที่ไหน ในเมื่อคอนโดแห่งนี้ก็เหมือน
ไม่ใช่หลบภัยของเขาเสียแล้ว หรือว่าเขาจะไปเช่าห้องที่ไหนสักแห่ง
ทันทีที่เข้ามาในห้องน้ำ เพื่อทำธุระส่วนตัว ใบหน้าของเขาก็เห่อร้อนขึ้นมาแทบจะทันที ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกทำเรื่อง
น่าอับอายในสถานที่แห่งนี้ แถมเขายังสลบไป ตื่นมาอีกทีก็อยู่ในชุดนอนสะอาดตาเสียแล้ว
…ก้น…
ศักดิ์ศรีความเป็นชายเหมือนโดนล่วงล้ำ เขาโดนนิ้วเรียวยาวนั้นสอดเข้ามาในร่างกาย เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ดวงตาเขา
นั้นสั่นไหว ใจเต้นแรงจนแทบควบคุมสติตัวเองไม่อยู่
“ริวจางงง”
เสียงนั้นครางเรียกอย่างอ่อนหวาน แต่มันเหมือนเป็นมีดมากรีดใจเขา เขาเกลียดเสียงที่เต็มไปด้วยความเสน่หาและปรารถ
นาของลูซ ริวรีบกดล็อกประตูห้องไม่ให้ลูซได้เข้ามาได้ง่ายๆ เขาไม่อยากเห็นหน้าคู่หมั้นของตัวเอง
“ริวจังอยู่ในห้องน้ำเหรอ เปิดประตูให้ลูซทีน้า”
ไม่มีวัน… เขาไม่มีวันเปิดประตูให้กับไอ้กะเทยโรคจิตนี่แน่นอน
ไวกว่าความคิด ริวรีบเลื่อนมือไปปิดก้นตัวเอง เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
เขาจะไม่ยอมเสียความเป็นชาย
เรื่องเมื่อคืนมันแค่ความฝัน เขาเมา ถ้าหากทำเป็นไม่รู้เรื่อง จำอะไรไม่ได้ มันน่าจะดีต่อตัวเขามากที่สุด เขาพูดได้ไม่เต็ม
ปากว่ารู้สึกเกลียดสัมผัสของลูซ เพราะถึงใจเขาจะสั่งให้ขยะแขยงมากแค่ไหน แต่ร่างกายเขากลับตอบสนองไปกับการปรนเปรอ
ที่อีกฝ่ายได้มอบให้
“ริวจัง…เจ็บก้นเหรอ โกรธลูซเหรอ”
อย่ามารื้อฟื้นได้ไหมเจ้าบ้า!
ริวพยายามควบคุมสติของตัวเองไม่ให้แตกกระเจิงไปมากกว่านี้ เขากำลังรู้สึกแย่สุดๆ แถมเจ้าบ้านั่นยังมาย้ำเตือนความ
ทรงจำที่เขาน่าจะลืมไปมันแล้วแท้ๆ
“ไปซะ!”
นี่คือคำเดียวที่คิดออก ลูซเลิกคิ้ว ไม่อยากคิดว่าตัวเองจะได้ยินผิดไป แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะหยุดง่ายๆ เรื่องอะไรที่เขาจะ
ต้องหยุด ในเมื่อเขาเองก็รู้สึกต้องการริวจนแทบทนไม่ไหว เขาไม่อยากปล่อยคนที่เขารักเอาไว้คนเดียว
“ริวจัง ออกมาหาลูซเถอะนะ”
“ไม่! นายออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
พอได้ยินแบบนั้น ลูซก็คอตก เขาแนบแก้มกับประตู้ห้องน้ำ ยกนิ้วเขี่ยพื้นประตูราวกับลูกแมวตัวโต
“แต่ลูซอยากอยู่กับริวจังนี่นา”
“แต่ฉันไม่อยากอยู่กับนาย”
“ริวจังโกรธ ที่ลูซสอดนิ้วเข้าไปเหรอ?”
ริ้วแห่งความเขินอายเกิดขึ้นบนใบหน้าของริวทันที ไม่คิดว่าลูซจะไม่ยอมหยุดพูดเรื่องเมื่อคืน
“ออกไป!”
เขาตะโกนไล่ เพราะไม่อาจจะทนรับความอับอายได้ ลูซขมวดคิ้วทันที เขาไม่คิดจะยอมให้ริวไล่เขาไปได้ง่ายๆแบบนี้
“ลูซไม่ไป ลูซเป็นแฟนของริวจัง”
“แกไม่ใช่แฟนฉัน!”
แค่ปวดหัวเพราะเรื่องเมื่อคืนก็มากพอแล้ว เขายังจะต้องมาต่อปากต่อคำกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ช่างเป็นอะไรที่แย่
สำหรับเขาเสียเหลือเกิน
“ริวจัง”
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับแก”
เขาไม่คิดจะนับญาติกับลูซตั้งแต่แรก ไม่ได้อยากรู้จัก แล้วถ้าจะต้องมาแต่งานเข้าหอด้วยกัน เขายิ่งทำใจยอมรับไม่ได้
“ก็ได้…ริวจังคงอายลูซ”
ชายหนุ่มพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง ริวไม่ตอบกลับ ได้แต่เงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าที่ขยับเคลื่อนที่ห่างออกไป เพียงเท่านี้เขาก็
คลี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
“เฮ้อ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้น มันเหมือนช่วยปลดปล่อยความเครียดที่สะสม เขาทำธุระส่วนตัวเพียงครู่ ไม่อยากจะจดจำภาพ
ความอัปยศของตัวเองอีกต่อไป เขาจะลืมมันให้หมด จะทำเป็นไม่สนใจลูซ
“ริวจังจะไปไหนเหรอ?”
พอเห็นว่าริวเดินออกมาหยิบชุดในตู้เสื้อผ้า เพื่อจะไปเปลี่ยนในห้องอาบน้ำ ลูซก็เด้งกายเดินเข้ามาถามริวทันที ริวทำเป็น
ไม่สนใจ คิดเสียว่าลูซเป็นธาตุอากาศ ไม่จำเป็นต้องมองก็ได้
ชายตัวสูงได้แต่คอตก อย่างกับคนซึมเศร้า แต่ก็แค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ลูซก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง
…เขาจะรอริวจังออกมาจากห้องน้ำ…
ความหวังของเขาไม่ไกลเกินเอื้อม เมื่อริวเปลี่ยนชุดเสร็จ เป็นชุดสูท ริวระบายยิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มนั้นดูภูมิฐาน หล่อเหลา
น่ามอง
“ริวจังหล่อจังเลย”
เขาพุ่งเข้ามากอดริวจากด้านข้าง ปฏิกิริยาของร่างกายตอบสนองได้รวดเร็ว ริวผลักลูซออกห่างอย่างรังเกียจ จึงทำให้ลูซ
แสดงใบหน้าที่ง้ำงอในทันที
“อย่ามาเกะกะ”
“ริวจังจะไปทำงานเหรอ ให้ลูซไปด้วยนะ”
“นายจะมากับฉันทำไม นายทำงานที่บริษัทฉันหรือไง”
แม้ไม่รู้จะหาทางรับมือกับว่าที่เจ้าสาวที่ทำตัวราวกับปลิงเกาะได้อย่างไร แต่ริวก็ไม่คิดจะหยุดความคิดที่จะสลัดลูซให้ออก
ห่างจากตัวของเขา
“เปล่าหรอก แต่ลูซอยากไปให้กำลังใจ”
ริวยกนิ้วชี้หน้าลูซ เมื่อร่างสูงจะขยับเข้ามาใกล้
“หยุดเลยนะ! ถ้านายคิดจะก่อความวุ่นวายให้ฉัน โดยตามฉันไปที่บริษัทล่ะก็…ฉันจะไม่พูดกับนายอีกแม้แต่คำเดียว”
ท่าทางไม่ได้ล้อเล่นนั้น ทำให้ลูซเงียบไป เขาได้แต่ยืนมองริวเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะใจกล้าบ้าบิ่นขนาดไหน แต่ลูซก็พอจะรู้ขีดจำกัด เขาไม่อยากริวเกลียดเขา เขาอยากให้อีกฝ่ายรักเขามากกว่า
“ไม่ว่ายังไง ริวจังก็เป็นของลูซ”
-------+++++-------
ไม่คิดว่าพูดแค่นั้น แล้วลูซจะยอมปล่อยเขาให้หลุดออกมาได้ง่ายๆแบบนี้ ริวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจระบายความ
เหนื่อยล้า ที่ต้องมาต่อสู้กับคนที่เขาไม่อยากจะยุ่งด้วย
“มาแล้วเหรอคะ”
“ครับ”
วันนี้เขาเข้าทำงานสาย แม้การดื่มเหล้ามันจะทำให้เขาพอจะลืมความทุกข์ได้บ้างแต่พอตื่นขึ้นมา ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่าง
แทบจะเป็นเหมือนเดิม มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เขาก็ยังหาวิธีสลัดเจ้ากะเทยหน้าสวยให้ออกห่างไม่ได้
“มีเอกสารอะไรที่ผมต้องดูบ้างครับ”
เขาบอกกับเลขานุการ ในเมื่อเรื่องส่วนตัวมันพาให้รำคาญนัก ทางเดียวก็คงต้องพยายามทำงานจะได้ไม่มีเวลาไปคิดเรื่อง
อื่น ซึ่งเรื่องอื่นนั้นก็คงไม่พ้นผู้ชายที่ชื่อว่าลูซ
“หมดสักที”
แฟ้มงานกองใหญ่ถูกริวจัดการจนหมด เขาเหลือบตามองเวลาที่บอกเขาว่าใกล้จะเลิกงานแล้ว ริวเก็บของบนโต๊ะให้
เรียบร้อย
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ริวละสายตาไปมอง เขาเอ่ยบอกคนที่เคาะประตูเป็นเชิงอนุญาต
“เข้ามาได้เลยครับ”
ชายหนุ่มไม่ทันได้มองคนที่เดินเข้ามา เพราะเขาคิดว่าคือเลขานุการ ชายกระโปรงสีขาวพลิ้วไสว ริวเริ่มใจเต้นแรงอย่างไม่
ทราบสาเหตุ บรรยากาศในห้องเริ่มแปลกไป เหมือนว่ามีกลีบดอกไม้อันบริสุทธิ์ตกร่วงลงมา
ตุบ!
สิ่งที่ตกไม่ใช่กลีบดอกไม้ แต่เป็นปากกาในมือของชายหนุ่ม ดวงตาเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ พร้อมกับท่าทางพยายามจ้อง
มอง
“นะ นี่นาย!”
แม้ไม่อยากจะเชื่อสมองตัวเอง แต่ริวก็พยายามประคับประคองสมองของเขาไม่ได้ผิดไปจากความเป็นจริง เบื้องหน้าเขา
ไม่ใช่หญิงสาวแสนสวยเหมือนที่ความรู้สึกเขาสัมผัสได้
“ริวจางงงง”
ความกลัวเริ่มมาเยือน เมื่อสมองเขาฝังลึกกับเสียงนี้ได้แม่น ราวกับเป็นเสียงที่ได้ยินมาตลอดหลายปี
ร่างกายใหญ่โต ถาโถมเข้ามาเข้าริวอย่างไม่ยั้งกำลังที่มี แต่ริวก็ไม่ปล่อยให้ลูซได้ลวนลามเขาไปมากกว่านี้ เขาออกแรง
ทั้งหมดที่มีผลักลูซให้ออกห่าง
“ทำบ้าอะไรของนาย!”
เขาไม่ได้พูดเพราะแค่การกระทำของลูซเท่านั้น แต่การแต่งตัวของลูซก็ทำให้ริว ทั้งโมโห ทั้งหงุดหงิด
“อะไรกัน ชุดนี้ไม่เข้าลูซเหรอริวจัง”
ลูซคลี่ยิ้มร่า แล้วหมุนกาย จนกระโปรงที่ใส่ยาวคลุมเข่านั้นบานสะพรั่ง
“ไม่เข้า! ทุเรศ”
พูดไปก็รู้สึกว่าสมองมันสั่งทำงานตรงกันข้าม ลูซมาหาเขาในวันนี้ด้วยชุดกระโปรงลูกไม้สีขาวสวย เสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า
อ่อน แถมยังใส่หมวกปีกกว้างสีครีมที่มีโบขนาดใหญ่ติดอยู่ที่หมวก สิ้นสุดร่างของกายช่วงล่างด้วยรองเท้าหุ้มส้นสีครีม
…ทั้งสวย ทั้งน่ารัก…
จิตใต้สำนึกของริว บอกว่าคนตรงหน้าเขางดงามเหมือนนางฟ้า แต่พอใบหน้าสวยนั้นยื่นเข้ามาใกล้ สติของริวก็กลับมา
“ออกไปห่างๆเลยเจ้าบ้า”
เขายกมือดันใบหน้าสวยของลูซ ขนาดชายหนุ่มไม่ได้แต่งหน้า ยังสวยขนาดนี้ เขาไม่อยากจะคิดตอนที่เห็นอีกฝ่ายใช้
เครื่องสำอาง กลัวว่าจะเผลอไผลไปกับใบหน้าที่งดงามนี้
“นึกบ้ายังไง ถึงได้เอาชุดผู้หญิงมาใส่”
ถึงแม้ลูซจะตัวใหญ่ แต่ก็น่าแปลกที่ชุดที่เขาใส่มันกลับเข้ากับรูปร่างและส่งเสริมให้เจ้าของร่างดูงดงามเป็นที่สุด
รอยยิ้มสวยถูกส่งมาให้ริว ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ก็ไปดินเนอร์ครั้งก่อน ริวจังดูเครียดๆนี่นา ก็เลยคิดว่าเป็นเพราะชุดที่ลูซใส่หรือเปล่า?”
“บ้าเปล่าฮะ มันจะเป็นเพราะชุดได้ยังไง”
“อ้าวเหรอ แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะริวจัง”
ไม่พูดเปล่า แต่ร่างสูงกลับเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ริวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ รีบลุกจากเก้าอี้ ถอยหลังราวกับหนีสิ่งชั่ว
ร้าย ทั้งๆที่คนที่กำลังใกล้เข้ามาคือลูซที่เป็นมนุษย์เหมือนกับเขาทุกอย่าง
“ก็เพราะนายมันเป็นผู้ชายไงล่ะ!”
พอได้ฟังจบ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันที ใบหน้าสวยงามเริ่มบึ้งตึง เขาเดินเข้าไปใกล้กับริวให้มากขึ้น จนคนตัวเล็ก ตัวแนบ
ติดไปกับผนังห้อง
“ผู้ชายแล้วมันทำไมเหรอริวจัง…”
“ฉะ ฉันไม่ชอบผู้ชาย”
“ทำไมล่ะริวจัง ผู้ชายน่ะดีออก”
“แกจะบ้าหรือไง!ผู้ชายมันก็ต้องคู่กับผู้หญิง”
ริวตอบกลับไปตามความจริงของโลกใบนี้ แต่นั่นกลับทำให้ลูซคลี่ยิ้มสวย ขยับกายเข้าไปแนบชิดกับริวมากขึ้น
“แต่ลูซดีกว่าผู้หญิงอีกนะริวจัง”
“ดะ ดีกว่ายังไง”
“ก็…”
ภัยอันตรายเริ่มมาเยือน แต่เขาไม่สามารถหนีพ้นไปได้ ก้นเล็กโดนมือใหญ่นั้นจับกุม ลูซยิ้มหวาน ส่วนริวก็ตกใจจนตัวแข็ง
ทื่อ
…เขาโดนลวนลาม…
“ลูซเติมเต็มให้ริวจังได้ ทำให้ริวจังมีความสุข แบบที่ไม่เคยได้รับจากผู้หญิงคนไหนแน่ๆ”
เขาไม่พูดเพียงอย่างเดียว แต่ฝ่ามือร้อนเริ่มไต่เข้ามาในกางเกง ริวสะดุ้งสุดตัว เขาบีบต้นแขนของลูซเอาไว้แน่น
“ยะ หยุดนะเจ้าบ้า”
“เอ๋…หยุดอะไรเหรอริวจัง”
คนตัวสูงยิ้มกริ่ม ไล้นิ่วไปตามแก้มก้นเนียน ริวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ออกแรงผลักลูซให้ออกห่างด้วยความโมโห ปน
อับอาย
“ยะ อย่ามายุ่งกับก้นฉัน!”
“แต่ตรงนั้น ทำให้ริวจังรู้สึกดีได้น้า”
“บะ บ้า!”
“คิคิ”
“ออกไปจากห้องฉัน จะไปไหนก็ไป”
“ทำไมต้องโกรธลูซด้วยล่ะริวจัง”
“ก็นายมันทำเรื่องทุเรศได้ไม่เลือกที่ นี่มันห้องทำงานของฉันนะ ให้เกียรติกันบ้าง”
“แหม ลูซก็นึกว่าริวจังจะชอบซะอีก”
ลูซยิ้มเย็น ริวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาไม่รู้ว่าลูซไปได้ยินอะไรแปลกๆมาหรือเปล่า เพราะมันพาลให้เขานึกถึงเรื่องเก่าๆ
เขาเคยแอบพาสาวๆมานัวเนียในห้องทำงาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เพราะมันเป็นนิสัยของผู้ชายที่เจ้าชู้อยู่แล้ว
“เอาเถอะ ฉันจะถือว่าเรื่องวันนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น นายกลับไปได้แล้ว”
“เสียใจ ลูซไม่กลับ”
“อะไรนะ…”
เขากดเสียงต่ำ ทั้งสองมองหน้ากัน ริวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาไม่อยากจะมีปัญหาตามมา แต่ดูเหมือนว่าลูซจะไม่
ยอมง่ายๆ
“วันนี้ริวจังต้องไปเดทกับลูซ”
“เดทบ้าอะไรของนาย”
ริวไม่คิดจะยอมง่ายๆ แค่ไปดินเนอร์กับเจ้าบ้านี่ เขาก็ปวดหัวมากพออยู่แล้ว ลูซยักไหล่ เปิดกระเป๋าสะพายข้างสีขาวของตนเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา
“เราจะไปกินข้าว แล้วก็ไปดูหนังกัน”
โทรศัพท์มือถือถูกยื่นไปตรงหน้าของริว เป็นตารางดูหนังของวันนี้
“ลูซจองเอาไว้สองที่แล้วล่ะ รอบสี่ทุ่ม”
“ห๊ะ!”
เวลาตอนนี้ก็เกือบห้าโมงเย็น ใครจะไปคิดว่าตัวเองจะต้องไปดูหนังกับกะเทยโรคจิตดึกดื่นขนาดนั้น
“ทำไมต้องไปดูดึกขนาดนั้น”
“แสดงว่าริวจังจะไปกับลูซใช่ไหม คิคิ”
“ฉันยังไมได้บอกว่าจะไป”
“แต่คำถามริวจัง มันก็เหมือนบอกว่าจะไปอยู่แล้วล่ะน้า”
พูดไปก็ยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี ริวหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาไม่อยากจะทะเลาะกับคนที่น่าปวดหัวแบบลูซ
“ก็…รอบดึกมันไม่ตัดฉากนี่นา”
“อะไรนะ!”
เพราะลูซพูดเบาเกินไป ริวเลยไม่ได้ยิน ชายหนุ่มยักไหล่ ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่คิดจะไขข้อสงสัยของริว
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวรถติดน้า”
แล้วสุดท้ายริวก็โดนลูซดึงตัวไปด้วยจนได้ ริวเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงได้ใจง่าย ปล่อยให้ผู้ชายตัวใหญ่แต่งหญิงลาก
เขาไปไหนมาไหนตามใจชอบ แถมเขายังบ้าขับรถพาลูซมาที่ห้างอีกด้วย
“ริวอยากกินอะไรเหรอ?”
“อะไรก็ได้ กินได้หมดนั่นล่ะ”
เขาเหนื่อยเกินกว่าจะพูด แถมยังไม่ชอบสายตาของผู้คนที่มองเขาเหมือนตัวประหลาด ที่จริงเขาคงไม่ใช่ตัวประหลาด แต่
ที่มันประหลาด น่าจะเป็นผู้ชายตัวสูงหน้าสวยที่ใส่ชุดผู้หญิง แล้วเดินกอดแขนเขามากกว่า
…อย่างกับปลิง…
แค่คิดก็ปวดหัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พยายามจะสลัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุด เขาจึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายกอดแขนเขาไป
เรื่อยๆ
“อ๊ะ แวะร้านหนังสือก่อนได้ไหมริวจัง ริวจังหิวมากไหม”
จะบอกว่าเครียดจนหายหิวแล้วก็ได้ หรือเขาควรจะไปปล่อยลูซทิ้งไว้ที่ร้านหนังสือ แล้วแอบชิ่งหนี
“อยากไปก็ไปสิ”
เขาบอกอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ปล่อยให้ลูซลากเขาเข้าไปในร้านหนังสือจนได้ ลูซเดินมาตรงโซนที่เป็นหนังสือทำอาหาร
“มาทำไมแถวนี้”
“ก็ลูซจะหาเมนูอร่อยๆ ทำให้ริวจังกินไง”
“ใครว่าฉันอยากจะกินอาหารฝีมือนาย”
“กลัวลูซใส่ยาพิษเหรอ?”
รอยยิ้มสวยเผยให้เห็น ริวเผลอมองไปชั่วขณะ ก่อนที่จะดึงสติตัวเองให้กลับมา
“ก็ทำนองนั้นล่ะมั้ง”
ชายหนุ่มหมุนกายจะไปดูหนังสือในโซนอื่นบ้าง ลูซวางหนังสือทำอาหาร แล้วเดินตามชายหนุ่ม
“ตามมาทำไม”
“ลูซกลัวริวจังหนีนี่นา”
“กลัวแล้วจะพามาทำไม?”
“ก็อยากเดทกับริวจัง”
“บ้าหรือไง”
เขาบอกอย่างเซ็งจัด แต่สิ่งที่ได้รับก็ยังคงเป็นรอยยิ้มสวยจากลูซอยู่ดี ริวถอนหายใจ ไม่คิดว่าการที่ต้องอยู่ใกล้กับลูซจะ
น่าปวดหัวมากขนาดนี้
“แล้วไม่ซื้ออะไรหรือไง?”
“ยังไม่อยากซื้อ”
ลูซตอบไปตามความจริง เขาเดินดูหนังสือไปเรื่อยๆ เท่านั้น ยังไม่คิดจะซื้อในวันนี้
“ไปกินข้าวกันเถอะนะริวจัง”
“อืม”
แม้จะไม่อยากยอมทำตามลูซ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มยอมรับชะตากรรม หนียังไง เขาก็คงจะหนีไม่พ้น แล้วถ้ากลับบ้าน
โดยไม่สนใจลูซหรือทิ้งลูซเอาไว้ ก็คงได้โดนมารดาต่อว่าไม่หยุดเหมือนในตอนกลางวันที่มารดาเขาโทรมาต่อว่าก่อนที่เขาทิ้ง
ลูซเอาไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว
ริวได้แต่ปลง อย่างน้อยลูซในตอนนี้ก็เหมือนผู้หญิงตัวใหญ่ มากกว่าผู้ชาย
“ฉันไม่ค่อยโอเค”
“อะไรเหรอริวจัง”
“กับการที่นายมาเกาะแขนฉันแบบนี้ ดูตัวนายสิ”
“ทำไมเหรอริวจัง”
ลูซได้แต่เลิกคิ้วกับสายตาของว่าที่เจ้าบ่าว เมื่อริวมองเขาเหมือนรู้เอือมระอาเต็มทน
“หรือว่าคิดมากที่ลูซสูงกว่า ไม่เห็นจะแปลกเลยริวจัง ผู้ชายคบกับผู้หญิงตัวสูงกว่าตั้งเยอะแยะ วันนี้ลูซก็แต่งตัวเพื่อริวจัง
เลยนะ”
“ไม่ใช่ว่าการแต่งหญิงมันเป็นงานอดิเรกของกะเทยอย่างนายหรือไง!”
“ลูซไม่ใช่กะเทยสักหน่อยริวจัง”
“อมพระมาพูด ฉันก็ไม่เชื่อนายหรอก ปล่อย!”
เขาแกะมือใหญ่ออกจากแขน แล้วรีบเดินเข้าร้านอาหาร
“รอลูซด้วยสิริวจัง”
ลูซรีบเดินตามริวเข้าไปในร้านอาหาร เขามองริวสั่งอาหาร แล้วสั่งตาม
“เอาเหมือนกับเขา”
“ไม่มีความคิดหรือไง”
เพราะความหงุดหงิดขั้นสุด ทำให้ริวพูดออกไป ลูซคลี่ยิ้ม
“อย่าหงุดหงิดสิริวจัง วันนี้…ริวจังมาเดทกับสาวสวยทั้งทีน้า”
ถ้าเขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเขาเป็นผู้ชายมาตั้งแต่แรก ริวก็คงคิดว่าเขากำลังมาเดทกับสาวสวยจริงๆ
…สวยยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยพบเจอ…
ตึก ตึก
ริวไม่อยากจะเชื่อว่าเขากำลังใจเต้นแรง เพียงเพราะมองใบหน้าของลูซที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกร้าน
“อึก”
เพียงครู่ที่ลูซหันกลับมา ทำให้เขาได้สบตากับลูซ ริวรีบเบือนหน้าหนี เขาไม่อยากให้ลูซรู้ว่าเขากำลังรู้สึกแปลกๆ
“อ๊ะ!”
ริวสะดุ้ง เมื่อรับรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่างที่อยู่ใต้โต๊ะอาหาร ดวงตาเขาเบิกกว้าง เหงื่อเริ่มชื้นขึ้นบนบริเวณใบหน้า เมื่อปลาย
เท้าสวยที่สวมถุงน่องสีขาวนั้นหลุดออกมาจากรองเท้า แล้วกำลังไล้เล่นตั้งแต่ปลายเท้าเล็กขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงบริเวณต้นขา และ
มีทีท่าจะขึ้นมาเรื่อยๆที่บริเวณใจกลางลำตัวของเขา พอชายหนุ่มเงยหน้ามองใบหน้าสวย ก็ตัวค้างแข็งทื่อ เพราะพบเจอกับรอย
ยิ้มร้ายที่มุมปาก
“รู้สึกไวจังเลยนะ…ริวจัง”
100%
1/6/59
ฝากเพจด้วยค่ะ
https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/