หลังจากกินข้าวกินปลากันเสร็จ ผมกับน้องหมอกก็ช่วยกันเจ็บจานชามกันไปล้างครับ วันนี้เวรของน้องเอิร์ธกับน้องซ่า จริงๆผมว่าเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆนะครับ แม้ปากจะกัดกันไปกันมาก็เถอะ แต่พอถึงเวลาแล้วเอิร์ธจะเลือกเสียสละก่อนครับ อย่างเช่นตอนนี้....
"เอาชามมา"
ตอนนี้น้องซ่าถือชามในมือร่วมๆเกือบๆสิบชามได้ครับ
"ไม่กูถือเองได้"
"ถือเหรี้ยไร มันจะล้มทับหน้ามึงแล้ว"
น้องซ่าอ้าปากจะเถียงครับ แต่เอิร์ธชิงแย่งชามทั้งหมดมาไว้กับตัวเอง ก่อนจะเดินดุ้ยๆเข้าที่ล้างจานไป ผมกับน้องหมอกหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะเบาๆให้กับไอ้เด็กสองคนนี้ ยิ่งพอล้างจาน พวกมันก็แย่งกันจะล้างน้ำยาล้างจานครับ แต่สุดท้ายไอ้น้องเอิร์ธก็ชนะอยู่ดีซ่าก็เลยไปนั่งล้างน้ำเปล่าหน้างอๆ
หลังจากล้างจานเสร็จ ผมกับน้องๆก็ไปนั่งย่อยนั่งเล่นกันที่ห้องนั่งเล่น ตอนนี้เสียงเจี้ยวจ้าวเต็มไปหมดเลยครับ แต่ก็มีความสุขดีครับ อยู่กับเด็กพวกนี้แล้วสนุกครับ นั่งหัวเราะกันไปบ้าง
อ้อ สายไหมตื่นแล้วนะครับ
เจ้าตัวเล็กที่ตื่นแล้วก็มานั่งๆล้อมวงเล่นกับพวกผมและพี่ๆเนี้ยแหละครับ แต่ดูเหมือนน้องมันจะไม่ชอบเล่นเท่าไหร่เลยนั่งกระพริบตาปริบๆอยู่ข้างๆน้องหมอก ส่วนมากแล้วสายไหมจะชอบพูดอ้อแอ้ช่วงที่ดูหนังหรือการ์ตูนกันครับ
"พี่ปัน"
"ครับๆ? "
"เมื่อเช้าตอนขับรถมา พี่ไม่ได้ฟังหมอกพูดเลยเหรอ ?"
"คือ....พี่ง่วงๆนิดหน่อย"
ผมตอบน้องมันไปหลังจากเห็นสายตาน้องหมอกเจื่อปนอะไรบางอย่าง
"พี่ปัน"
"ครับ ?"
"ทำไม...พี่ต้องแกล้งยิ้มด้วยอ๊ะ"
"..............."
"พี่...คนเราเป็นมนุษย์นะ บางครั้งบางที่เราก็อดกั้นกับมันได้ไม่นานหรอก หมอกเห็นพี่ปันแบบนี้แล้วไม่สบายใจเลย พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ ?"
"เอาไว้พี่พร้อมแล้วพี่จะบอกนะ"
สุดท้ายผมก็เลิกฝืนยิ้มปั้นหน้า ก่อนจะทำหน้าปกติๆให้น้องหมอก มือเล็กๆเอื่อมมาจับผมไว้
"มีอะไรก็บอกหมอกได้นะพี่ปัน หมอกอาจจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่หมอกรับฟังได้นะ"
รอยยิ้มจางๆจากคนข้างๆยิ้มมาให้ผม ผมยิ้มตอบแล้วบีบมือกลับเบาๆ
"ได้ครับ พี่สัญญา"
หลังจากนั้นน้องหมอกก็เล่าให้ผมฟังถึงกีฬาสีที่จะจัดให้น้องๆแข่งกัน โดยจะแบ่งเป็นสองสี ฝั่งหนึ่งมีน้องเอิร์ธกับน้องๆอีกสามคน ที่เหลือก็พวกน้องแคทที่อยู่ทีมน้องซ่า
เกมกีฬาสีเกมแรกคือต่อตัวครับ กติกาง่ายมาก แค่ทุกคนในทีมยืนอยู่บนแผ่นหนังสือพิมพ์ที่จะค่อยๆลดขนาดลง ผมมองดูรูปการณ์แล้วฝั่งน้องเอริธ์ได้เปรียบครับ ก็น้องมันเล่นอุ้มเด็กอีกสองคนพร้อมกันอ๊ะ บ้าพลังจริงๆ!!
"5 4 3 2 1 หมดเวลา!!! เกมนี้ทีมไอ้เอริธ์ชนะ"
เสียงน้องหมอกขานบอก ก่อนทีมน้องซ่าจะจุ๊ปากขัดใจ เพียงแต่เกมต่อไปดูเหมือนจะเข้าทางทีมน้องซ่านะครับ
เกมส์ที่ว่าคือเกม24ครับ เป็นเกมทางคณิตฯอย่างหนึ่ง คือเรากำหนดตัวเลขขึ้นมา4ตัวเป็นเลขอะไรก็ได้ แล้วจะบวกลบคูณหารก็แล้วแต่เลยครับ ขอแค่ต้องใช้เลขให้ครบทั้ง4ตัวและผลลัพธ์ที่ได้ต้องเท่ากับ24
โจทย์จะมีทั้งหมดสามชุด ผมกับหมอกจะเป็นคนกำหนดตัวเลขครับ
ตามคาด ทีมน้องซ่าเป็นฝ่ายชนะเนื่องจากหัวหน้าทีมโชว์สกิลโหดด้วยการตีโจทย์ภายในครึ่งนาที ชักสงสัยแล้วสิครับว่าเด็กนี้ไอคิวเท่าไหร่ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นตอนนี้ครับ
"เกมที่สอง ทีมไอ้ซ่าชนะ ตอนนี้เสมอกัน1-1 เหลือเกมนี้เกมสุดท้ายแล้วนะ"
พูดจบผมกับน้องก็ให้พวกมันพักเหนื่อยนั่งดูผมกับหมอกช่วยกันจัดของกินใส่จานอาหาร เกมสุดท้ายคือเกมกินวิบากครับ มีทั้งหมด7จาน จานแรกขาไก่ จานที่สองปีโป้ จานที่สามสาหร่ายเถ้าแก้น้อย จานที่สี่ขนมผิง จานที่ห้าไข่ต้มครับ(ของจากเมื่อเช้านั้นเอง) จานที่แป๊ปซีครับ และจานสุดท้ายคือ...
"แช่แฟ้บ ลูกโป่ง!!!"
เอริธสถบขึ้นมานิดๆหลังเห็นลูกโป่งวางในจาน
"ลูกโป่งนี้ ต้องให้หัวหน้าทีมเป่านะ ห้ามใช้เล็บจิกด้วย ส่วนของกินต้องกินจานแรกให้หมดก่อนถึงจะกันจานต่อไปได้"
เสียงน้องหมอกเหมือนฟ้าผ่ากลางหัวไอ้เอิร์ธ ถ้าให้ผมเดาน่ะ ไอ้เด็กนี้กลัวลูกโป่งแตกใส่หน้าชัวร์เลย พอเทียบกับสีหน้าทางฝั่งน้องซ่าแล้วบอกเลยว่าแตกต่างกันมาก ทางนั้นดูจะมีความมั่นใจมากว่าจะชนะ แต่ก็นั้นแหละครับ เห็นน้องซ่าแบบนั้นแล้วไอ้เอิร์ธมันจะยอมแพ้ได้ไง
"พี่จะนับ 1 2 3 นะถ้าพร้อมแล้ว...เริ่ม!!!"
ผมขานเวลาก่อนจะเริ่มเกม
เด็กๆทั้งสองทีมวิ่งแข่งกันไปกินของที่อยู่ในจาน ก่อนแต่ละคนจะช่วยกันกิน อย่างที่บอกครับ ถ้าจานแรกไม่หมดก็ไม่มีสิทธิ์ทานจานต่อไป ตอนนี้ทีมน้องเอิร์ธยังนำอยู่นิดหน่อยนะครับ แต่ซ่ากับน้องแคทเองก็ใช่ย่อย เขมือบเอาๆ จนตอนนี้ทั้งสองทีมสูสีกันมาก เวลาผ่านไปห้านาที่ ตอนนี้ทั้งสองทีมทานกันไปได้แล้ว 4จาน น้องเอิร์ธทานได้ดุเดือดมากครับ คุณท่านเล่นยัดไข่ทั้งฟองเข้าไปในปากก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มมันป้องออกมา ผมเห็นนะว่าไอ้ซ่าแอบมองแล้วอมยิ้มขำด้วยครับ แต่ไม่เอาครับไม่แซวน้อง หึหึ
หลังจากนี้สิครับ ของจริง
"พี่ซ่า เป่าเลยๆ"
น้องแคทยืนตะโกนเชียร์อยู่ข้างๆ ตอนนี้ทั้งสองทีมกินครบหมดทุกจานแล้วครับ เหลือแต่ลูกโป่งหนึ่งใบ จริงๆฝั่งน้องเอิร์ธกินเสร็จหมดแล้วนะครับ แต่ไอ้เอิร์ธยืนนิ่งไม่กล้าเป่า
"พี่ปัน"
น้องหมอกที่อุ้มสายไหมอยู่สะกิดผมเบาๆก่อนจะชี้นิ้วไปทางน้องซ่า
ภาพที่เห็นคือ น้องซ่าเองแม้จะเริ่มเป่าไปแล้วแต่ก็หยุดกลางคันดื้อๆ น้องแคทยืนอมยิ้มขำอยู่ข้างๆ ส่วนเด็กๆที่เหลือก็คงจะงงๆกันว่าหัวหน้าทีมของตรจะหยุดทำไมฟระ
"ทำไมไม่เป่าต่อล่ะ"
"ผมกลัวลูกโป่งแตก/ผมกลัวลูกโป่งแตก"
ประโยคที่พูดพร้อมกันขึ้นมาแบบไม่ได้นัดหมายก็ทำเอาพวกมันสองคนเลิกคิ้วมองกันครับ น้องเอิร์ธขยับปากด่าอะไรสักอย่างนั้นแหละ แต่น้องซ่าก็ตีหน้าตายครับ
"งั้นเกมนี้พี่ที่ว่าเสมอกัน ตกลงมั้ย ?"
"ไม่ได้พี่ จริงๆเกมนี้ทีมมันชนะอ๊ะ"
น้องเอิร์ธแย้งเบาๆ ซ่าหันมามองก่อนจะชี้ไปที่ลูกโป่ง
"ลูกโป่งแตกไหม ?"
"ก็...ก็ไม่"
"อื้ม ก็ไม่ไง ก็แปลว่ากูไม่ได้ชนะมึง....และก็คงไม่ได้ชนะตลอดไป..."
คำพูดราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ปลายประโยคพูดเสียงเบาหวิว ผมหันไปมองหน้าน้องหมอกที่ยิ้มจางๆก่อนจะยื่นสายไหมมาให้ผมอุ้มบ้าง แล้วเดินไปตรงกลางระหว่างเด็กสองคนนี้
"พี่จัดเกมนี้ขึ้น เพราะอยากให้พวกเราได้สนุกกัน ทุกคนได้สนุกกัน พี่เคารพทุกๆการตัดสินใจของพวกเรา ของรางวัลที่ได้ มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่ได้รับ พี่ดีใจที่เราสองคนโตขึ้นมาก รู้จักความรับผิดชอบและการเสียสละ ขอให้พวกเราเป็นยังงี้ต่อไป ถึงพวกเราจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่พี่ก็รักพวกเรามากๆ"
จบประโยคเด็กๆก็กรู่กันเข้าไปกอดน้องหมอก ชุลมุนอยู่พักใหญ่ๆก่อนจะคลี่คลายได้ ที่สำคัญคือน้องสายไหมหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจมากครับที่เห็นน้องหมอกโดนเด็กๆลุมกอด หลังจบเหตุการวุ่นๆช่วงแรก ผมกับน้องหมอกก็ช่วยกันแจกของให้เด็กๆ ตั้งแต่เสื่อผ้า ร้องเท้า และอุปกรณ์การเรียนอื่นๆที่ซื่อกันมา ผมชอบสายตาและสีหน้าของน้องๆตอนที่ยิ้มออกมาหลังจากได้รับของพวกนี้นะครับ พูดๆไปแล้วก็คงจะเหมือนที่น้องหมอกว่าเอาไว้
ของรางวัลที่ได้ มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่ได้รับ
ผมเป็นผู้ให้...ที่รู้สึกได้รับจนเต็มเปรียบ เป็นผู้ให้ .... ที่ได้รับรอยยิ้มบริสุทธิ์ของเด็กๆ
การมาทำบุญครั้งนี้ คิดถูกแล้วจริงๆนั้นแหละครับ...
หลังจากแจกจ่ายของเสร็จ ผมกับน้องๆก็ช่วยกันทำอาหารกลางวันต่อ เนื่องจากข้าวต้มเมื่อเช้าหมดหม้อไปเลย ยายอิ่มไล่ผมกับหมอกไปดูแลเจ้าสายไหมนะครับ แต่น้องมันไม่ยอม ก็อย่างว่าและครับนานๆมาที่ ตอนนี้ในครัวเลยวุ่นวายไปหมด ตั้งแต่ผมที่อุ้มน้องสายไหมคอยเชียร์หมอกทำอาหาร ไอ้เอิร์ธไอ้ซ่าที่หั่นผักไปกัดกันไป น้องๆที่เหลือที่ช่วยกันเช็ดจานบ้าง จัดจานบ้าง
เป็นการเข้าครัวที่โคตรอบอุ่น....
พอทำเสร็จเด็กๆก็เฮโหล กันกันอลหม่านเลยครับ กินเสร็จก็นั่งกันพุงกาง เพราะมื่อนี้ขนาดน้องซ่ายังฟาดไปสองจาน ส่วนไอ้น้องเอิร์ธอย่าถามนะครับ กระซิบเบาๆว่าเลขสามบวก
แต่ก็นั้นแหละครับ ด้วยความที่ทำกันเพลินกันจนเกินไป อาหารที่ทำออกมามันเลยเยอะเกินปริมาณที่เด็กๆรับประทานนั้นแหละครับ ขนาดยายอิ่มแกบอกว่าจะเอาไว้อุ่นมือเย็นกับมือของพรุ่งนี้เช้าก็ตาม ปริมาณที่เหลือมันก็ยังเยอะอยู่ดี
"ยายครับ บ้านเรามีถุงพลาสติกหรือถุงร้อนอะไรพวกนี้ไหมครับ ?"
น้องหมอกถามพลางมองอาหารที่เหลืออยู่ตรงหน้า
"ที่บ้านไม่มีนะ แต่รู้สึกร้านหน้าปากซอยน่าจะมีนะจ๊ะ"
"ไอ้เอิร์ธ ไอ้ซ่า ไปซื่อ6X9มาสามมัดเอาหนังยางสิบบาท"
น้องหมอกว่าก่อนจะยืนแบงค์ร้อยให้เด็กสองคนนี้ไปซื่อถุงร้อนมาไว้ ไม่นานทันคู่ก็กลับมา น้องหมอกจัดแจงค่อยๆรัดอาหารที่เหลือไปที่ละถุงๆจนมันหมดหม้อ ก่อนจะใส่อาหารและข้าวสวยพวกนั้นไว้ในถุงพลาสติกใบใหญ่ที่ใส่อุปกรณ์ให้พวกน้องๆมา
ผมกับน้องๆนั่งเล่นกันจนถึงประมาณสี่โมงเย็น น้องหมอกเองก็ขอตัวกลับ ผมยื่นซองทำบุญให้ยายอิ่มไป ที่แรกแกไม่รับครับเพราะแกบอกว่าแค่นี้ก็ดีสำหรับเด็กๆพวกนี้แล้ว แต่ผมเองแสดงเจตนาจริงๆว่าอยากช่วยแกถึงได้ยอมรับไป
"พีี่ฝากดูแลน้องๆด้วยนะ โตๆกันแล้ว มีอะไรก็พูดกันดีๆ"
"ครับ/ครับ"
ตอนนี้ผมกับน้องยืนกันอยู่หน้าบ้านครับ หมอกฝากฝั่งให้พี่ใหญ่ทั้งสองคนก่อนที่น้องๆสองคนจะรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ
"ถ้ามีโอกาส พี่จะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะ..."
ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า ทำไมน้ำเสียงของน้องมันถึงได้หม่นลงมากในตอนที่พูดประโยคนี้
"พี่ไปก่อนนะสายไหม"
น้องหมอกเข้าไปอุ้มเจ้าตัวเล็กที่ทำตาแป๋วก่อนจะงอแงหลังจากส่งคืนให้ยายอิ่ม
"โชคดีนะ หลานๆของยาย"
ยายอิ่มกอดส่งหมอกแน่นก่อนจะยอมปล่อย
"งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ ยายครับ สวัสดีครับ เอิร์ธ ซ่า ดูแลน้องๆด้วยนะ"
น้องๆทุกคนยกมือกันไหว้ผมก่อนผมจะยกมือไหว้รับ แล้วหันไปไหว้ยายอิ่ม
"ไปก่อนนะครับยาย"
"จำเริญๆนะพ่อหนุ่ม"
"โชคดีนะครับพี่ๆ"
"แวะมาเยี่ยมหนูอีกนะพี่หมอก พี่ปัน หนูอยากเล่นพ่อแม่ลูกอีก"
"ไปดีมาดีนะพี่"
"บายๆครับ"
เด็กๆหลายคนอวยพรให้ผมกับน้อง ก่อนพวกเราจะขึ้นรถยนต์และค่อยๆขับไกลออกมา ภาพที่เห็นก็ทำให้ผมยิ้มได้อย่างเป็นสุขใจ
แต่ที่สงสัยคือ น้องหมอกจะนำกับข้าวพวกนี้ไปไหน ?
"แล้วนี้ เราจะไปไหนกันต่อครับ"
"ไปสนามหลวงครับพี่..."