บทที่ 5
หึงจนตะลึงกันทุกฝ่าย
Maruay’ s talk
“เฮียผมมีซ้อมนะตอนเย็น เฮียกลับก่อนเลยก็ได้อาจจะดึกครับ” ผมบอกเฮียบิ๊กหลังจากที่มาถึงคณะ เฮียบิ๊กเดินมาส่งผมหลังจากที่เราแวะทานข้าวที่โรงอาหาร
“กี่โมง”
“ไม่แน่ใจเวลาเหมือนกัน แต่ถ้าดึกอาจจะกลับไปนอนหอนะจะได้ไม่รบกวน” ผมไม่ได้นอนที่ห้องตัวเองนานขนาดที่ไม่สามารถจำเลขห้องได้แล้วหล่ะครับ
“ไม่เอามานอนที่ห้อง ไม่อย่างนั้นเฮียจะไปนอนที่ห้องเรา”
“ก็ได้เดี๋ยวผมโทรบอก ขอเข้าไป.....”
“รวย!!” ผมหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นว่าเป็นเซย์ที่วิ่งเข้ามาทักทายด้วยท่าทางที่ร่าเริงและแจ่มใสแต่คนที่อยู่ข้างๆ ผมไม่ได้แจ่มใสไปกับเซย์เลย
“หวัดดีเซย์”
“ทำไมวันก่อนไม่เข้าซ้อมอะเห็นพี่ๆ บ่นกันใหญ่เลย รวยไปไหนหรือติดธุระอะไรเหรอจะแข่งแล้วนะ” ผมไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเซย์อย่างไงดี จะตอบว่าโดดเพราะไปช่วยเฮียติดแบรนเนอร์วันเกิดตัวเองก็ดูจะเกินไปไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เอาเป็นว่าไม่ตอบก็แล้วกันเนอะ
“มีธุระนิดหน่อย แต่วันนี้ซ้อมไม่โดดแน่นอน..เอ่อ เฮียครับผมเข้าไปเรียนก่อนนะ” ผมหันไปบอกเฮียบิ๊กที่ยืนจ้องหน้าเซย์อยู่ตั้งแต่แรก ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยเห็นเฮียบิ๊กเป็นแบบนี้มาก่อนเลยครับเรียกได้ว่าครั้งแรกที่เห็นชัดเจนและออกอาการมากกว่านี้ เรียกว่าหึงก็ได้มั้ง
“พี่ชายรวยเหรอ?”
“วันนั้นก็บอกไปแล้วนะครับ หรือว่าได้ยินไม่ชัดเจน”
“ผมถามรวย คุณชื่อรวยเหรอครับ?”
“ไม่ได้ชื่อรวยแต่เมียชื่อรวยโอเคไหม?”
“เฮีย มานี่เลย” ผมลากแขนเฮียให้ออกมาอีกทาง ถ้ายังอยู่ตรงนั้นต่อมีหวังได้ทะเลาะกันแน่ๆ รู้สึกฮ็อตก็วันนี้แหละครับผม ปรกติไม่ได้มีคนแย่งแบบนี้บ่อยๆ
“ก็ไม่พอใจ” ทันทีที่มาถึงอีกทางเฮียสะบัดมือออกจากมือของผมพร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจ
“เฮียนั่นเพื่อนผมนะ”
“แต่เฮียไม่ไว้ใจมัน มันมองเราเหมือนที่เฮียมอง”
“มองอย่างไงวะ ผมไม่เข้าใจแต่เฮียต้องใจเย็นๆ ก่อนนะครับ มันไม่มีอะไรจริงๆ” ผมพยายามควบคุมอารมณ์และน้ำเสียงของตัวเองให้เย็นที่สุดขณะที่เฮียบิ๊กกำลังร้อน
“เคยฟังเพลงของ Poly cat ไหม?” ผมมองหน้าเฮียด้วยสายตางงๆ หลังจากที่เฮียพูดจาแปลกๆ ออกมา
“เพลงอะไรเฮีย”
“แกลองมองในตาเขา ถ้ามีสายตา แบบเดียวกับฉันที่มองแกตลอดมา ก็แปลว่ารักหมดหัวใจ”
“......”
“เฮียไม่เล่นนะถ้ารวยไม่โง่รวยก็คงดูออกว่ามันไม่ได้คิดกับรวยแค่เพื่อน เพื่อความสบายใจของเฮียเย็นนี้ขอมานั่งดูได้ไหมล่ะ ว่าง”
“ก็ได้ครับ แต่นานนะ”
“ครับ ตั้งใจเรียนนะ เลิกแล้วไลน์บอกเฮียด้วย” ผมพยักหน้าตกลงตามที่เฮียบอกก่อนจะแยกย้ายกันตรงนั้นเลย ส่วนผมเดินกลับมาที่คณะเหมือนเดิม แต่ต้องแปลกใจที่เห็นว่าเซย์ยืนรอผมอยู่
“ว่าไงเซย์” ตั้งแต่ที่เฮียบอกว่าเซย์มองผมด้วยสายตาเดียวกับเฮียผมก็รู้สึกว่าผมต้องเว้นระยะห่างเอาไว้ ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรือผยองอะไร เพียงแค่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้วดังนั้นเรื่องการให้เกียรติแฟนต้องมาก่อนแน่นอน
“รวยเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ เหรอ” เซย์เดินเข้ามาถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ใช่ เป็นแฟนกัน”
“เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ารวยชอบผู้ชาย ถ้ารู้เราก็คงจะจีบรวยไปนานแล้ว...” ประโยคสุดท้ายของเซย์ดูเศร้าผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปแตะบ่าให้กำลังใจเซย์
“เชื่อเถอะว่าเซย์ไม่จีบรวยอะดีแล้ว รวยไม่ได้น่ารักขนาดนั้น” ผมบอกแล้วว่าผมยังคงงงกับตัวเองอยู่เลยครับที่อยู่ๆ มีเฮียบิ๊กหลงเข้ามาหาผมเพราะไอ้กลิ่นบริสุทธิ์บ้าๆ นั่นจนทำให้เราสองคนได้คบกัน มันเป็นเรื่องมหัสจรรย์มากเลยครับในชีวิตที่แสนจะธรรมดาของมารวยคนนี้
“รวยมีมากกว่าน่ารัก แต่เอาเถอะเอาเป็นว่าเรารอรวยอยู่นะ เราไม่แย่งแต่ถ้าวันไหนที่รวยเลิกหรือรวยทะเลาะกับเขาคนนั้น นึกถึงเราเป็นคนแรกเลยนะ”
“เอ่อ...เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะเซย์ ไปเรียนกันเถอะ” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เซย์เศร้าหรือพูดจาแปลกๆ ออกมาเพราะผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ ถ้าทุกคนเป็นคนธรรมดาแบบผมแล้วอยู่ๆ มาเจอผู้ชายสองคนที่ไม่เคยให้ความสนใจมาก่อนแต่วันนี้กลับแสดงออกว่าสนใจ..ทุกคนคงคิดแบบเดียวกับผมอย่างแน่นอน
โชคดีที่วันนี้ผมกับเซย์มีเรียนวิชาไม่เหมือนทำให้ไม่ต้องเจอกันในเวลาเรียน นี่เป็นวิธีที่สามารถเลี่ยงการเจอได้ ผมบอกตรงๆ เลยครับว่าผมทำตัวไม่ถูก
“เฮียไลน์มาบอกว่าให้ดูแลมึงดีๆ อย่าให้ไปยุ่งกับไอ้เซย์มันเกิดอะไรขึ้นวะ” ขณะที่กำลังเลคเชอร์อยู่นั้นไอ้บุ๊คที่ตามเข้ามาเรียนทีหลังถามขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอก เรียนไปมึง”
“โกหก ไม่งั้นเฮียจะไลน์มาบอกทำไม”
“เออหนาไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ไอ้บุ๊คมันซักไซ้มากกว่านี้ อีกอย่างเรื่องนี้มันจะไม่มีอะไรเลยถ้าผมไม่เล่นด้วยและแน่นอนว่าคนอย่างผมรู้ดีครับว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เฮียบิ๊กอะระแวงเกินไปทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรเลย
“ถ้าเฮียกูหึงไอ้เหี้ยเซย์บรรลัยแน่บอกไว้ก่อนเลย” ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้โดยที่ไม่ได้ตอบอะไรไอ้บุ๊คต่อต่างคนต่างตั้งใจเรียนโดยที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย
BIG’ s talk
“หงุดหงิดอะไรมึงวะไอ้บิ๊ก ตั้งแต่เช้าแล้วนะมึง” เสียงของไอ้เกรทพูดขึ้นหลังจากที่มันคงสังเกตเห็นว่าผมเอาแต่นั่งถอนหายใจและทำท่าหงุดหงิดตั้งแต่เช้า จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงครับก็เมื่อเช้าผมไปส่งมารวยที่คณะแต่ดันเจอเพื่อนของมารวยที่ผมมองอย่างไงก็ไม่น่าใช่เพื่อนธรรมดา เพราะสายตาของมันยามที่จ้องมองมาที่มารวยของผมมันเป็นสายตาที่ห่วงใยและพิเศษมากกว่าเพื่อนที่จะมองกัน ขนาดสายตาของตี๋ที่เป็นเพื่อนสนิทมารวยยังมองไม่ขนาดมันเลย คิดแล้วก็โมโหทุกที! มันไม่ใช่แค่ครั้งแรกเพราะครั้งที่ผมเจอมันตอนที่ไปหามารวยที่สเตเดียมก็โอบเอวกันมาขนาดนั้น ผมขอเตือนไว้เลยว่าอย่าทำให้คนอย่างเฮียบิ๊กหึง ไม่อย่างนั้นมีเดือดแน่
“กูหึงแฟนว่ะมึง”
“เป็นเอามากนะมึงคนก่อนยังไม่ขนาดนี้เลยนะไอ้บิ๊ก” ไอ้วสุที่นั่งอยู่อีกข้างพูดขึ้นมา
“พูดถึงคนเก่าทำไม” พูดถึงคนเก่า.....สะกิดแผลผมเต็มๆ บอกตรง
“ซอรี่เพื่อนลืมไปว่าจบไม่สวย” อีกเรื่องที่ผมกังวลแต่ไม่เคยบอกกับใครแม้กระทั่งเด็กบื้อของผมเลยก็คือ..อดีตของผมกับคนรักเก่า จะว่าอย่างไงดีผมเองก็ผิดมั้งครับที่ขี้หึงจนเกินไปทำให้เธอไม่มีเวลาส่วนตัว ผมไม่รู้นะว่าขอบเขตของแฟนมันอยู่ตรงไหน แต่ที่ผมรู้คือการทำทุกอย่างที่ผมคิดว่าดีและทำให้เธอมีความสุขที่สุดก็น่าจะพอ แต่กลายเป็นว่าการที่ผมทำแบบนั้นมันคือการที่ผมทำให้เธออึดอัด....และบอกเลิกผมไปเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าถามว่าเสียใจไหมก็เป็นธรรมดาของคนที่เลิกกันแต่ถ้าถามว่าตอนนี้ผมเสียใจอยู่ไหมก็ไม่แล้วครับ คนเราอย่าไปจมกับความเศร้าหรือความทุกข์นานๆ มันเสียสุขภาพจิตสู้เอาเวลาที่เหลืออยู่มาทำให้ทุกวันมีความสุขมากกว่าเดิมผมว่าน่าจะดีกว่านะครับ ทุกคนว่าไหม?
“ช่างเถอะ ว่าแต่ตอบกูมาก่อนว่ากูควรทำอย่างไงกับอาการหึงดี คือกูไม่พอใจคนที่เข้ามาใกล้กับน้องมันแต่ไม่ใช่ว่ากูไม่พอใจทุกคนที่เข้ามา แต่พวกมึงก็น่าจะรู้นะว่าคนที่เข้ามาแบบไหนที่พวกมึงจะหึงกัน”
“เออเข้าใจ แต่บางทีมึงก็ต้องเชื่อใจน้องมันนะอีกอย่างพวกมึงสองคนเป็นแฟนกันเรื่องเชื่อใจไว้ใจกูว่าเป็นสิ่งที่โคตรจะสำคัญเลย”
“อืม....” ผมเองก็ไม่รู้ว่าเด็กบื้อของผมจะไปหวั่นไหวกับคนอื่นอีกไหมเพราะตี๋มันเคยพูดไว้ว่าเด็กบื้อขี้หวั่นไหวง่าย แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่คบกับผมมานิสัยเหล่านั้นมันยังมีอยู่ไหม ถ้ามีอยู่ผมว่านะอาการหึงของผมมันได้รุนแรงขึ้นมาแน่ๆ และสุดท้ายมันก็จะจบไม่สวยเหมือนเดิมดังนั้น....ผมต้องควบคุมอารมณ์ของผมให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“พามาเจอพวกกูมั้งดิเพื่อน” ไอ้เกรทหันมาพูดกับผม
“เออ กูก็อยากเห็นหน้า” ไอ้วสุพูดเสริม
“อีกไม่นานหรอกเดี๋ยวพามารู้จัก” รอให้อะไรๆ มันชัดเจนกว่านี้ก่อนแล้วผมจะพาเด็กบื้อมาเจอกับเพื่อนๆ ของผม ส่วนตอนนี้ผมควรเลิกคิดมากและตั้งใจเรียนก่อนเป็นอันดับแรกเดี๋ยวไม่จบครับ
Maruay’ s talk
ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกเรียนทั้งทีตอนนี้ผมตรงมาที่สเตเดียมเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเพราะโดดมาหลายต่อหลายครั้งแล้วอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ถึงวันแข่งในงานกีฬามหาวิทยาลัยผมจะมัวมาเล่นไม่ได้ ดีแค่ไหนแล้วที่พี่ๆ คนอื่นไม่ด่า
“ไอ้รวยมาไวนะวันนี้ กลัวโดนด่าละซิ” ผมยกมือไหว้พี่คิมพี่ใช่ทีมที่เดินเข้ามาหลังจากเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาเสร็จเพราะตอนนี้ผมกำลังยืดแข้งยืดขาวอร์มร่างกายก่อนลงสนาม
“ครับ ผมขอโทษนะพี่”
“เออ ไม่เป็นไรมึง” พี่คิมพยักหน้าให้บอกว่าไม่เป็นไร พี่คิมนี่ถือเป็นกองหน้าขาลุยเลยทีเดียวถ้าถามว่าใครทำประตูให้ทีมมากที่สุดก็ต้องยกให้พี่คิมเลยครับ คนอะไรนอกจากเล่นกีฬาเก่งแล้วยังเรียนเก่งแถมหน้าตาดีอีกด้วย ได้พี่คิมนี่ครบเครื่องทุกเรื่องเลยครับ แต่....พี่คิมไม่โสดแล้ว “ได้ข่าวมึงมีแฟน?”
“ใครบอกพี่คิมเนี่ย”
“เมียกูดิ เห็นว่าวันไหนนะมานั่งเฝ้าด้วย ได้ข่าวว่าอดีตเดือนมหาลัยรุ่นกูด้วยนะ ไอ้รวยมึงไม่ธรรมดาเลยว่ะ” เฮียบิ๊กเคยเป็นเดือนมหาลัยด้วยเหรอ? ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลยวะ
“พี่คิมรู้ได้ไงวะ”
“เมียกูบอกมา เห็นสาวๆ กรี๊ดแฟนมึงเหลือเกินไอ้รวย” ผมควรภูมิใจซินะที่มีแฟนหล่อๆ อย่างเฮียบิ๊ก แต่ก็เอาเถอะครับเป็นบุญของไอ้รวยจริงๆ
“ครับพี่คิม ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” ไม่รู้ว่าผมควรตอบว่าอะไรดีไม่อยากจะอวยแฟนตัวเองมากเกินไปได้แต่ยกมือเกาศีรษะแก้เขิน
“แล้ววันนี้เซย์มาไหม ปรกติเห็นจะมาพร้อมมึง หรือมีแฟนแล้วเทเพื่อน”
“เปล่าพี่ เดี๋ยวก็คงมาแหละอาจจะติดธุระ”
“เออ เสร็จแล้วไปวอร์มนอกสนามกัน” ผมเดินตามพี่คิมออกไปด้านนอกเพื่อรวมกับคนอื่นๆ ที่ถยอยกันมา แต่สังเกตเห็นว่าเซย์ก็ยังคงไม่มาปรกติเวลาซ้อมเซย์ไม่เคยพลาดเลยหรือว่าจะเป็นเพราะผม? ที่ทำให้เซย์ไม่อยากมาซ้อม
จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงที่ผมซ้อมเสร็จยอมรับเลยครับว่าไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ แต่ดีที่ว่าพี่ๆ ไม่มีใครสังเกตเห็น ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าผมมัวแต่คิดเรื่องของเซย์แน่ๆ
“เด็กบื้อเฮียมารับแล้วครับ” จังหวะที่ผมเดินออกมาจากสเตเดียมก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อมาแต่ไกล และชื่อนั้นก็เป็นชื่อเฉพาะซะด้วยซิครับ ทำให้ผมรู้เลยว่าใครเรียก
“ครับเฮีย” ผมรีบวิ่งไปหาเฮียบิ๊กที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับอ้าแขนออกเพื่อให้ผมเข้ามากอด...เอ่อ ก็ต้องเข้าไปกอดตามที่เฮียต้องการนั่นแหละครับ เขาเรียกว่าเป็นการชาร์จแบต
“ชื่นใจไหมครับเด็กบื้อของเฮีย เป็นไงบ้าง” หลังจากที่ผมผลักออกจากอ้อมกอดของเฮียบิ๊ก เฮียแกก็จัดการแย่งกระเป๋าเสื้อผ้าของผมไปสะพายแทน
“ชื่นใจครับ ก็เรื่อยๆ นะ เหนื่อยดี”
“เฮียเห็นเราไม่ค่อยมีสมาธิเลย”
“ก็มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยครับ แต่ว่าไม่มีอะไรแล้ว” ผมพยายามทำตัวให้ปรกติที่สุดเพื่อไม่ให้เฮียบิ๊กรู้ว่าผมแอบคิดเรื่องของเซย์เดี๋ยวจะมีปัญหากันอีก
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?”
“อยากกิน....ก๋วยเตี๋ยวใต้หอก็ได้นะเฮียน่าจะเปิดอยู่” เพราะตอนนี้ก็เกือบๆ จะสามทุ่มแล้วถ้าไปที่อื่นของก็น่าจะหมดดังนั้นก๋วยเตี๋ยวใต้หอเฮียบิ๊กน่าจะเป็นคำตอบของอาหารเย็นไม่ซิครับ อาหารค่ำวันนี้
“จัดไปครับ” ผมไม่ได้คิดไปเองนะแต่ว่าวันนี้เฮียบิ๊กดูแปลกไปมาก ดูนิ่งกว่าเดิมไม่ค่อยยิ้มหรือขี้เล่นเหมือนที่ผ่านมา บางทีเฮียบิ๊กอาจจะเครียดเรื่องงานก็ได้
เมื่อมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเราทั้งคู่ต่างคนต่างกินไม่ค่อยได้พูดคุยสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าผมหิวด้วยทำให้ไม่ค่อยได้สนใจเฮียบิ๊กสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมาถึงห้องเฮียบิ๊กก็เข้าไปอาบน้ำทันทีไม่ได้คุยเล่นกับผม.. แล้วสถานการณ์แบบอย่างนี้ผมควรจะทำอย่างไงดีครับทุกคน? ผมไม่รู้ว่าเฮียบิ๊กเป็นอะไร มีคนเดียวที่สามารถช่วยผมได้ก็คือ
“ไอ้บุ๊คอยู่ห้องไหม”
“อยู่ เข้ามา” ผมเปิดประตูเข้าไปทันทีที่ยืนรอไอ้บุ๊คตอบ วันนี้อยากทำตัวมีมารยาทครับเพราะปรกติแล้วผมเปิดเข้าไปเลย “มีไร”
“เฮียแปลกๆ ไป กูไม่รู้ว่าทำอะไรผิดหรือเปล่า”
“เหนื่อยมั้งเห็นช่วงนี้ปั่นโปรเจคจบ” ไอ้บุ๊คที่นอนอยู่บนเตียงเล่นเกมตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่..มันแปลกไป กูไม่ได้คิดไปเองนะเว้ย” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ไอ้บุ๊ค “เหมือนมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกูเลย”
“ก็ไปถามเฮียกูซิ ถามกูไม่ได้คำตอบหรอก นี่ไอ้รวยคนนี้สวยไหมกูว่าจะจีบสักหน่อยปีหนึ่งด้วย ไม่รู้เป็นอะไรกูอยากเลี้ยงเด็กฉิบหายเลย” และไอ้บุ๊คมันก็เพิกเฉยเรื่องของผมโดยการขยับตัวเข้ามาก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่เปิดรูปผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาน่ารักมาให้ผมดู
“น่ารักแต่มึงอย่าเลย สงสารผู้หญิงเขาดูมีอนาคตอะไอ้บุ๊ค”
“หึงกูป่ะจ๊ะ?” ไอ้บุ๊คลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างของมันบีบแก้มของผมแรงๆ
“หึงอะไร บ้าป่ะวะ” ผมขยับออกห่างแต่ไอ้บุ๊คกลับขยับเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับดึงตัวผมเข้าไปแนบชิดกับตัวของผม
“ถ้าเฮียไม่ว่างแต่กูว่างนะ....”
“ตี๋ทำไร!!” จังหวะที่ไอ้บุ๊คโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เพราะผมรู้ว่าไอ้เวรบุ๊คมันชอบแกล้งแหย่เล่น แต่ที่ไม่เข้าใจเลยคือการที่เฮียบิ๊กผลักประตูเข้ามาพอดี...
“เปล่าครับเฮีย เล่นกัน”
“เมียเฮียเข้ามาอ่อยผม”
“ไอ้บุ๊ค!” ผมหันไปด่ามันตรงๆ อ่อยห่าอะไรของมันผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยมีแต่มันแหละครับที่เข้ามาเริ่มก่อน แต่สีหน้าของเฮียบิ๊กตอนนี้ดูไม่มีแววล้อเล่นเลย
“ไปเคลียร์กันเองละกัน ไปดูดบุหรี่ก่อน” พูดจบไอ้บุ๊คลุกออกไปด้านนอกระเบียงทิ้งให้ผมอยู่กับเฮียบิ๊กร่างสองที่ไม่ค่อยจะปรกติสักเท่าไหร่
“เฮีย...แค่เล่นกันครับ” ผมลุกออกจากเตียงก่อนจะตรงมาหาเฮียบิ๊กที่ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมสายตาที่มองผมมาตรงๆ
“เฮียไม่ชอบ”
“แต่นั่นน้องเฮียนะ”
“แล้วไงน้องก็ผู้ชาย”
“ผมก็ผู้ชาย”
“มันไม่เหมือนกัน เฮียอย่าเป็นแบบนี้ดิ” ผมยื่นมือไปจับมือเฮียเบาๆ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือเฮียบิ๊กสะบัดมือออกจากมือของผมแรงๆ
“อย่าแรดเฮียไม่ชอบ”
“เฮีย! เกินไปป่าววะ” ผมไม่คิดมาก่อนว่าเฮียจะพูดแบบนี้เข้าใจว่าหึงแต่นั่นคือเพื่อนของผมอีกอย่างคือเป็นน้องชายแท้ๆ ของเฮียแต่ดูการกระทำของเฮียโคตรจะไม่ให้เกียรติทั้งผมและน้องชายของเขาเอง
“......”
“โคตรไม่มีเหตุผลเลย ไปสงบสติอารมณ์ก่อนค่อยมาคุยกัน” ผมพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองให้มากที่สุดทั้งๆ ที่ด้านในของผมก็เดือดไม่แพ้กันอยู่ๆ มาพูดจาแรงๆ แบบนี้เป็นใครก็ไม่ชอบกันทั้งนั้น “ว่าผมไม่เท่าไหร่แต่นั่นน้องชายแท้ๆ ของเฮียถ้ามันได้ยินคงเสียความรู้สึกอะครับ”
“ถ้าไม่เข้ามาก็คงทำกันมากกว่านี้ซินะ ถามจริงๆ เป็นเพื่อนกันแน่ๆ ใช่ไหม”
“ผมเริ่มหมดความอดทนละนะ...ผมขอตัว” ผมเดินหนีออกมาหวังจะกลับไปนอนที่หอของตัวเองเพราะถ้ายังอยู่ต่อมีหวังได้ทะเลาะกันอีกรอบแน่ๆ คบกันยังไม่เท่าไหร่จะเลิกกันไวขนาดนี้ก็ไม่ค่อยเมคเซ้นมั้งครับ
“จะไปไหน!” เฮียบิ๊กตามมาคว้าข้อมือของผมก่อนจะออกแรงกระชากจนผมกลับเข้ามาด้านใน “คิดจะไปหาไอ้เวรนั่นอีกรึไงรวย!”
“เฮียเริ่มไปกันใหญ่แล้ววะ” ผมผลักเฮียออกด้วยแรงที่มีจนเฮียบิ๊กเซไปทางด้านหลัง “ผมไม่ชอบคนไม่มีเหตุผล”
“ทำไม ไอ้เวรนั่นมีเหตุผลมากใช่ไหม”
“อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยว” ผมกดเสียงต่ำพร้อมกับกัดฟันข่มอารมณ์ไว้อย่างเต็มที่ “ผมเตือนนะเฮีย ถ้าอยากจะคบกันนานๆ เฮียต้องใจเย็นและมีเหตุผลมากกว่านี้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ผมว่า...อีกไม่นานก็คง”
“อย่าพูดคำนั้นออกมา!” เฮียบิ๊กเอื้อมมือมาปิดปากของผมทันทีทั้งๆ ที่ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค “เฮียแค่...หึงเรามากไปจนขาดสติ” เฮียบิ๊กปล่อยมือออกจากปากของผมเบาๆ พร้อมกับก้มหน้ามองพื้นด้วยแววตาและสีหน้าที่รู้สึกผิด
“คืนนี้ผมขอไปนอนหอนะ”
“แต่....”
“ไปทบทวนตัวเองดีๆ นะเฮีย แล้วเรื่องที่พูดวันนี้ผมก็จะลืมมันไป อย่าลืมขอโทษไอ้บุ๊คด้วยหละ” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินออกมาโดยไม่สนใจคำพูดของเฮียบิ๊กที่พยายามรั้งผมเอาไว้...และเหตุการณ์นี้ที่ทำให้ผมเริ่มตระหนักว่าบางทีรักครั้งแรกมันก็อาจจะไม่สมหวังเสมอไป
#เฮียขี้หึงเกินไป!!