บทพิเศษ อ่านเถอะโคตรตลก
สงกรานต์นี้ไม่เปียก
Jaokom’ s talk
ทุกคนเคยหลงแฟนไหมครับ? ผมยอมรับเลยว่ามีช่วงหนึ่งผมเคยหลงแฟนมากๆ แต่ตอนนี้จากหลงมันเปลี่ยนมาเป็นเอือมระอามันมากกว่า ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิดมาไอ้พีมันไม่เคยหยุดนิ่งเลย อะไรที่เป็นกระแสมันทำหมดโดยเฉพาะตอนนี้
“พีคะ พีคะ หนูชื่อพีมากับพีแล้วก็มากับพี” ไอ้พีตั้งกล้องโทรศัพท์เต้นตามเพลงฮิตอย่างเจน นุ่น โบว์อะไรนี่แหละที่ดังอยู่ในแอพติ๊กตอก อ่อ! ผมลืมบอกว่าไอ้พีมันพึ่งสมัครแอพติ๊กตอกได้ไม่นานแต่คลิปที่มันลงมีเกือบร้อย ถ้ามันว่างเมื่อไหร่มันเล่นเมื่อนั้นแหละครับ ดีไม่ดีชวนผมเล่นด้วย แต่ผมบอกมันไปว่าถ้ามันเอาแอพนี่มายุ่งกับผมเมื่อไหร่ผมปาโทรศัพท์มันกระจายแน่ หลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนเห็นมันสามารถเล่นคนเดียวโดยที่ตัวมันมีหลายบทบาทได้ นี่ก็อาจจะเป็นความสามารถที่มันพึ่งค้นพบในช่วงนี้
“พี่กรมพี่ คนดูเป็นพันอะผมตั้งชื่อว่า น้องพีมากับพีแล้วก็มากับพี” ไอ้พีมันวิ่งมานั่งข้างๆ ผมก่อนจะเอาโทรศัพท์ของมันมาให้ผมดูด้วยความภาคภูมิใจ
“เก่งจังนะเรื่องแบบนี้”
“ชมหรือด่าบอกก่อนจะได้แสดงสีหน้าถูก” ผมไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้าให้กับมัน “ตลกตัวเองว่ะ ฮ่าๆ” มันนั่งหัวเราะกับคลิปของตัวเองอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง....
“หิวอะพี่”
“ไม่เล่นก็หิวนะมึง”
“กินไรไหมผมทำให้”
“ไม่เอา เดี๋ยวกูท้องเสีย ไปโรงพยาบาลตอนนี้เสี่ยงโควิด”
“ไม่ไว้ใจกันเลยนะพี่ ผมแฟนพี่นะ”
“มึงอะตัวดีเลย ไว้ใจอะไรได้ที่ไหน” ผมพูดจบไอ้พีก็เดินเข้าไปในครัว ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันไปทำอะไร แต่ที่แน่ๆ มันทำอะไรมาผมจะไม่กิน ประสบการณ์มันสอนให้ผมรู้จักเรียนรู้ครับ
Pee’ s talk
พี่กรมอะครับกลัวไม่เข้าเรื่อง อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ไม่รู้จักมูฟออน เป็นไงศัพท์ผมทันสมัยไหม ช่วงนี้ผมเสพโซเชียลบ่อยครับเลยได้ศัพท์ที่เป็นกระแสมาใช้ เออ! ช่วงนี้โควิดระบาดนะครับดูแลรักษาสุขภาพกันดีๆ นะครับ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ออกไปไหนก็ใส่หน้ากากอนามัยด้วย ถึงแม้จะหายากก็เถอะไม่รู้ว่าใครแม่งกักตุน...
“เขาดูเป็นคนซื่อๆ ..ถุ้ย! ซื่อเหี้ยอะไรจะทำผิด โทษทีผมอินไปหน่อย!”
พูดถึงเรื่องโควิดแล้ว ผมเซ็งนะตอนแรกก็ดีใจที่ไม่ต้องไปทำงานข้างนอก แต่พออยู่บ้านนานๆ ผมรู้สึกประสาทจะกิน ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอกครับก็เรื่องติ๊กตอกที่ผมทำนั่นแหละ ตอนแรกคิดว่าคลิปของตัวเองเจ๋งแล้วพอไปเจอคลิปของคนอื่นแม่งเจ๋งกว่าผมเยอะเลย เดี๋ยวทำอะไรกินเสร็จผมจะไปนั่งคิด content ของตัวเองให้คนทำตามกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยคอยดู เอาให้พี่กรมมันอึ้งไปเลยครับ บังอาจมาว่าสิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องไร้สาระ
“ทุกคนสบายดีไหมครับ” ผมวางโทรศัพท์ที่กำลังไลฟ์ทางไอจีอยู่ เมื่อเห็นตัวเลขของคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยรีบเอนเตอร์เทนก่อนที่ยอดคนดูจะหาย
“พี่เทพเอฟตีตัวจริงผมนะเนี่ย ไลฟ์ยังไม่ถึงนาทีก็เข้ามาเลย”
‘ไอ้ควาย’
“จะทำเป็นมองไม่เห็นก็แล้วกัน คอมเมนต์ที่มันท็อกซิสผมจะไม่สนใจ” ผมเมินคอมเม้นต์ของพี่เทพ เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอก แค่แกล้งๆ พี่มันเล่น
“วันนี้ผมจะไลฟ์ตอนทำอาหาร ใครที่เหงาๆ ก็หาทำตามผมได้นะ เมนูในวันนี้ผมจะทำอะไรดีน้า?” ผมแกล้งๆ ใช้นิ้วชี้จิ้มที่มุมปากของตัวเองเพื่อทำท่าคิด “ไหนๆ ลองเม้นต์มา ผมจะอ่าน ถ้าน่าสนใจผมจะทำ”
‘จิ้กจกผัดไข่’
“เก็บไว้ให้พ่อมึงกินเถอะไอ้ห่า อุ๊บ! ซอรี่ครับ น้องพีขอโทษที่ใช้คำหยาบ” ผมหลุดพูดคำหยาบออกมาเมื่อไอ้บิวเพื่อนหัวแก้วหัวแหวนของผมเสนอ
‘ต้มยำเฉลิม’
“เอ่อ...น่าสนใจ” ผมอยากเอาเฉลิมลูกรักพี่กรมมาต้มให้รู้แล้วรู้รอด เดี๋ยวนี้พี่มันสนใจไอ้เฉลิมมากกว่าผมที่เป็นแฟนพี่มันอีกครับ พอเอ่ยท้วงพี่มันก็บอกว่า
‘เฉลิมมาก่อนมึง เจียมด้วยครับน้องพี’
นั่นแหละครับผมเลยเลิกต่อล้อต่อเถียงเรื่องนี้อีก รอโอกาสเผลอๆ จะเอาหนังไอ้เฉลิมมาทำหนังงูทอดกรอบส่งออกต่างประเทศเลยคอยดู แต่วันนั้นพี่กรมมันคงจะต้องเขี่ยผมออกจากบ้านแน่ๆ
“มีใครเสนออะไรอีกไหมครับ? น้องพีจะเริ่มทำแล้วน้า”
‘ปลาทองตุ๋นยาจีน’
“กูทำแล้วมึงแดกไหมไอ้บิว ใช้ขี้เล็บหรือสมองคิดวะ!” แต่ละอย่างที่เสนอกันมานี่หน้าเอากระทะทุบหัวกันจริงๆ ผมพาโทรศัพท์ที่กำลังไลฟ์อยู่เดินไปที่ตู้เย็นเปิดเพื่อดูวัตถุดิบว่ามีอะไรที่ผมสามารถทำกินเองได้และมีความคิดสร้างสรรค์ตามที่เชฟเอียนเคยบอก
“ตอนนี้สิ่งที่ผมสนใจก็จะมีไข่ หมูสามชั้น อ่า แค่นี้พอครับ” ผมเอาวัตถุดิบออกมาจากตู้เย็นพร้อมกับจัดมุมกล้องให้สามารถมองเห็นผมได้ชัดๆ
“ทุกคนลองทายกันมาว่าผมจะทำอะไร มีเพียงแค่สองอย่าง ผมจะทำออกมาให้มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด ทุกคนพิมพ์กันเข้ามานะครับ เดี๋ยวน้องพีจะทำไปด้วย” ผมละสายตาจากหน้าจอมาหั่นหมูสามชั้นที่เตรียมเอาไว้ ส่วนไข่...ผมจะทำอะไรดีวะ?
“ไข่ต้ม ไข่ดาว ไข่เจียว...แม่งไม่สร้างสรรค์” ผมปรึกษาตัวเอง เขาว่ากันว่าคนที่คุยกับตัวเองมักเป็นคนฉลาด “ไข่พี่กรมดีไหม?”
‘จัญไรไม่เปลี่ยนเลยน้องกู’ ผมยิ้มให้กับเม้นต์ของพี่เทพแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรไป อยากรับบทเป็นเน็ตไอดอลหยิ่งๆ ดูบ้าง เฟรนลี่ไปก็ดูเข้าถึงง่ายครับ ผมต้องทำตัวแพงๆ เข้าไว้
“อ่า ผมได้เมนูแล้ว หมูสามชั้นน้องพีท็อปด้วยไข่พี่กรม เมนูนี่มันสุดยอดโคตร!” ผมลองหลับตาจินตนาการถึงไข่พี่กรมว่ามีสีอะไรเพื่อที่จะทำออกมาได้สมจริงมากที่สุด ถ้าออกไปขอพี่กรมดูมีหวังผมได้ตายคาตีนพี่มันแน่ๆ
“ไม่ดำนะ ไม่น้ำตาลมาก น้ำผึ้ง..น่าจะสีใกล้เคียงกับน้ำผึ้งเดือนห้า” ผมไม่รีรอจัดการต้มไข่ทันทีพร้อมกับเตรียมผงโอวันติน ใช่ครับผมจะเอาไข่ต้มมาคุกโอวันตินเล็กน้อยเพื่อให้มีสีสัน ส่วนตัวหมูสามชั้นผมจะเอามาทอดน้ำปลาสักหน่อย
แค่ทอดหมูอะจิ๊บๆ ....
“โอ๊ย! เหยดแม่!!!!” ไม่จิ๊บแล้วครับเมื่อผมเอาหมูสามชั้นที่หมักน้ำปลามาหมาดๆ โยนใส่ในกระทั่งที่ตั้งน้ำมันเดือดๆ
‘โง่กว่านี้ไม่มีแล้ว’
‘สงสารหมูสามชั้น’
และอีกหลากหลายคอมเมนต์ของคนที่รักผมส่งเข้ามา แต่ที่ผมสงสัยคือผมตะโกนร้องโคตรดังแต่พี่กรมไม่วิ่งเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วงเหมือนที่ควรจะเป็น ถ้าเป็นไอ้เฉลิมร้องนะเชื่อเถอะแทบจะเหาะเข้ามา เอ่อ..งูมันร้องไม่ได้ไม่ใช่หรอวะ สมองกูไปหมดแล้วครับ
“พี่กรมครับ น้ำมันกระเด็นใส่น้องพี!” ผมแกล้งตะโกนดูเพื่อพี่กรมจะเข้ามาปลอบประโลม
“พี่กรม!” ใช่ครับ ผมกลายเป็นสายบัวรอเก้อไปเลย น้อยใจว่ะครับ
“รอไปก็เจ็บปวด จะหนีไปบวชก็จำบทสวดไม่ได้” ผมถอนหายใจพร้อมกับตัดพ้อให้กับเหล่าเอฟซีที่ยังคงดูผมอยู่อย่างน้อยก็ไม่เหงาเวลาทำอาหาร
‘อย่าบวชเลยกูสงสารพระ’ อันนี้พี่เทพ
‘บวชเลยเพื่อนกูอยากเต้น ขอรถแห่เต็มวงนะเพื่อน’ ไอ้บิวเพื่อนรักผมเอง
ก็อย่างที่บอกถ้ามีคอมเม้นต์ที่ทำให้ผมเจ็บปวดผมก็จะเมินและไม่สนใจ
“อ่า เสร็จแล้วครับ สุดท้ายนี้ไม่ว่าม้าจะเร็วสักแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องแพ้ลา เพราะลาไปก่อนสวัสดีครับ” ผมกดปิดทันทีพร้อมกับยกอาหารที่รังสรรค์ผ่านมันสมองอันชาญฉลาดออกมาที่เดิม
“พี่กรม พี่ไม่ได้ยินผมเหรอ?” ผมวางอาหารลงตรงหน้าพี่กรม
“ได้ยิน”
“แล้วไม่เป็นห่วงเลยดิ?”
“ถ้าไม่เป็นห่วงแล้วตรงหน้ามึงคือขี้รึไง” ผมกวาดสายตามาที่โต๊ะตรงหน้าพี่กรม ก่อนจะเห็นกล่องปฐมพยาบาลที่ตอนแรกไม่มี
“อ่อนโยนแต่ไม่แสดงออกนะเรา” ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ พร้อมกับออเซาะพี่กรมไปด้วย นานๆ ทีจะมีโอกาสแบบนี้ แฟนผมอะไม่หวาน แต่ผมอะหวานมาก
“พูดมากนะมึง ยื่นแขนมา” ผมยื่นแขนข้างที่น้ำมันกระเด็นใส่ไปตรงหน้าพี่กรม “ทำไม่เป็นแล้วเสือกอยากจะทำ”
“นั่งนิ่งๆ แบบพี่มันเหงา ผมต้องหาอะไรทำตลอดเวลา” ผมมองพี่กรมที่กำลังทายาอะไรเย็นๆ ใส่บริเวณแขนของผมที่โดนน้ำมันกระเด็น
“แต่อยู่แบบมึงก็เปลืองพลังงานไอ้พี คนห่าอะไรหาอะไรทำได้ทั้งวี่ทั้งวัน”
“ก็อยู่บ้านมันเหงา อีกอย่างผมว่านะผมจะหันมาเอาดีทางติ๊กตอก”
“ไอ้พีขอร้องอย่าหาทำ”
“แหม! ใช้คำว่าหาทำด้วย อินเทรนด์เหมือนกันนะเรา” ผมยื่นมือไปบีบจมูกของพี่กรมเบาๆ แต่พี่มันไม่โรแมนติกเลย เขี่ยมือผมออกประหนึ่งว่ามือผมคือขี้
“แล้วทำอะไรมา น่าตาทุเรศฉิบหาย” ผมยิ้มทันทีที่พี่กรมหันไปสนใจอาหารที่ผมรังสรรค์
“พี่แกล้งๆ รับบทเป็นเชพเอียนหรือเชฟป้อมได้ไหม”
“หล่อๆ แบบกูต้อง....”
“พี่ป็อก!”
“ป็อกที่หน้ามึงสิ!” พี่กรมสวนผมกลับมาทันทีเล่นเอาผมระเบิดหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ นานๆ ทีพี่กรมมันจะเล่นกับผมแบบนี้ “ไหนอธิบายเมนูอาหารของมึงมา”
“อะแฮ่ม! เมนูนี้นะครับเชฟมีชื่อว่าหมูสามชั้นน้องพีท็อปด้วยไข่พี่กรม...” ผมเว้นจังหวะเพื่อดูสีหน้าของพี่กรมหลังจากที่ได้ยินชื่อเมนูอาหารของผม และก็เป็นไปตามที่ผมคิดไม่มีผิดเพราะคิ้วทั้งสองข้างของพี่กรมขมวดเข้าหากันทันที
“ไอ้พี ไข่กูไม่ได้น่าเกลียดขนาดนี้”
“อย่างน้อยก็มีอย่างหนึ่งที่หวานนะครับเชฟ”
“ตรงไหน?”
“หวาน ไข่หวาน”
“......”
“อ่า...หมูสามชั้นผมใช้เทคนิคชูวีก่อนจะเอาไปเซียกับกระทะและเอาไนโตรเจนมาดับร้อน ส่วนไข่ผมใช้เทคนิคต้มด้วยน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ในอุณหภูมิที่ไม่สูงเกินไป ก่อนจะชุบกับผงโอวันตินครับ....”
“มั่วฉิบหาย”
“แกล้งๆ ไม่ได้ยินก็ได้ อยากเป็นมาสเตอร์เชฟ”
“อยากเป็นมาสเตอร์เชฟแต่สกิลเท่าขี้ตีนอะนะ”
“แรงนะครับ แต่รับได้ พี่ชิมๆ” ผมยื่นช้อนไปตรงหน้าพี่กรม “เอาเลยเชฟ เป็นเชฟต้องชิมได้ทุกอย่าง”
“เดี๋ยวเชฟป้อนนะครับ” พี่กรมจับช้อนพร้อมกับตักทุกอย่างมาพูนๆ ก่อนจะจ่อมาที่ปากของผม “อ้าปากซิครับ”
“ในรายการเขาไม่ป้อนกันนะพี่”
“กูเป็นรายการพิเศษ อ้าปากครับก่อนที่กูจะงัด”
“อ้ามมมมมม อื้มมม อาโหร่ยยยย” ผมอ้าปากรับอาหารเข้าไปเต็มๆ คำ รสชาติที่ได้ก็คือมันไม่แย่นะแต่มันก็ไม่ควรกินอะ ผมบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกจริงๆ อย่าหาทำตามที่พี่กรมบอกเลยครับ
“กินให้หมดนะมึง”
“.....” และผมก็จำใจกินจนหมดไม่เหลือสักเม็ด ระหว่างที่ผมกินผมเห็นพี่กรมเตรียมยาคาร์บอนเอาไว้ สงสัยคงรู้ชะตากรรมว่าผมจะท้องเสียแน่ๆ เป็นอย่างไงครับแฟนผมน่ารักไหม ไม่ต้องชมนะผมโคตรหวง!!
หลังจากที่ผมล้างจานเก็บครัวเสร็จ ออกมาอีกทีพี่กรมที่นั่งอยู่ที่โซฟากอดไอ้เฉลิมหลับไปเฉย ส่วนผมนะเหรอ..หึหึ เล่นติ๊กตอกต่อไปครับ
“เงาะโลไล้ ส้มโลไล้ มุดโลไล้ คุดโลไล้ เรียนโลไล้ อืม.. แล้วตี๊บล่ะโลไล้” ขอตามกระแสหน่อยนะครับ แต่ระหว่างนั้นผมพยายามเปิดเพลงให้เบาที่สุด เพราะไม่อยากไปรบกวนการนอนกลางวันของพี่กรม
“อยากเต้น Any song อะ แต่ไม่มีคู่ว่ะ” อยู่ๆ ก็คันอยากเต้นครับแต่เพลงที่ผมอยากเต้นมันเต้นไปคู่ ถ้าไปชวนพี่กรมเต้น โทรศัพท์ผมได้กระจายแน่ๆ งั้นผมหาเพลงที่เต้นคนเดียวได้ดีกว่า...
“เย้เยเย เย้เยเย เยเยเย้เย เพชรผมวิบวิบวิบวิบวิบ เพลงผม hit hit hit hit hit พวกผมแม่ง fucking lit Man she loves my drip....”
“ไอ้พี! เบาๆ กูจะนอน” ยังไม่ทันที่ผมจะดิปพี่กรมก็ตะโกนแทรกเข้ามาในวีดิโอของผม
“พี่! เสียงมันเข้า”
“อยากเต้นไปเต้นข้างนอกไอ้พี!”
“ข้างนอกมันร้อน”
“งั้นมึงก็เต้นแบบไม่มีเพลง”
“ถ้าผมเต้นแบบไม่มีเพลงมันจะเรียกว่าเต้นไหมอะครับ” เท่านั้นแหละจากที่พี่กรมนอนอยู่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าผมด้วยแววตาหงุดหงิด “อย่าหงุดหงิดใส่ผมดิ ผมก็เล่นของผมดีๆ”
“มึงเล่นมาทั้งวันแล้ว”
“ก็ผมว่าง”
“มึงก็หาอะไรอ่าน”
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่กรม พี่พูดเหมือนพ่อผมเมื่อสิบปีที่แล้วเลย”
“เถียงเก่งนักใช่ไหม” พี่กรมลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ตรงมาที่ผมเตรียมจะแย่งโทรศัพท์จากมือของผม แต่ผมไหวตัวทันเอาหลบไปก่อน “เอามาไอ้พี”
“พี่จะปาเหรอ?”
“เอามา”
“พี่....”
“อย่าให้กูพูดซ้ำ” เมื่อน้ำเสียงของพี่กรมเริ่มเอาจริงขึ้นมา ผมจำใจส่งโทรศัพท์ของตัวเองไปให้พี่กรม “นั่งขัดสมาธิ”
“อย่าบอกนะว่า....”
“นั่งสมาธิหนึ่งชั่วโมงแล้วกูจะคืนให้”
“พี่....”
“ไอ้พีมึงดื้อเอง”
“ผมเกลียดการนั่งสมาธิ ผมอยู่เฉยไม่ได้”
“ถ้าเฉยแล้วมึงตายก็ให้ตายตรงนี้แหละ ถ้าไม่ครบชั่วโมงกูจะลบคลิปในติ๊กตอกมึง!” เท่านั้นแหละครับผมนั่งขัดสมาธิทันทีพร้อมกับหลับตานั่งตัวตรง ลบอะไรก็ลบได้แต่ลบคลิปในติ๊กตอกผมไม่ยอม
“อย่าหาว่ากูใจร้าย แต่มึงทำตัวเองไอ้พี”
“.......” ผมนั่งเงียบไม่ตอบโต้ เดี๋ยวไอ้พี่กรมจอมโหดจะหาเรื่องนับเวลาใหม่ แค่นี้ผมก็คันจะแย่แล้ว เวลานั่งนิ่งๆ ทีไรผมจะคันทุกที
“ตื่นมามึงก็เล่น กินข้าวมึงก็เล่น มึงเล่นไม่หยุดมาหลายวันแล้ว ไม่ใช่ว่าแค่วันนี้นะไอ้พี กูบอกมึงหลายรอบแล้วมึงฟังไหม? ถ้ามึงเล่นรู้จักเวลากูจะทำแบบนี้หรอ? แล้วมาบอกว่ากูดุเป็นพ่อมึงเลย แต่ดูมึงทำตัวดิวะ กูก็ไม่อยากดุบ่อยๆ หรอกนะ แต่มึงทำตัวเอง”
“......” ทำไมผมรู้สึกขอบตาร้อนๆ วะ แค่โดนดุแค่นี้น้ำตากูจะไหลเลยเหรอ? ไม่นะไอ้พี ฮึบไว้!! อย่าแสดงความอ่อนแอออกมา ลูกผู้ชายห้ามร้องไห้เพราะโดนแฟนดุ
“แทนที่มีเวลาว่างจะได้ใช้เวลาด้วยกัน มึงก็เอาแต่เล่นติ๊กตอก เคยสนใจกูบ้างไหม”
“......” เดี๋ยวนะ...พี่กรมตัดพ้อผมเหรอวะ?
“ที่ไม่พูดก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกนะเว้ย กูก็อยากทำอะไรร่วมกับมึงบ้าง แต่มึงก็ยุจะให้กูเล่นแต่ติ๊กตอกมึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบ ถ้ากูบังคับให้มึงทำสิ่งที่ไม่ชอบบ้างมึงจะรู้สึกอย่างไง”
“......”
“ฉิบหาย! กูน้อยใจคนอย่างมึงเหรอวะเนี่ย” ผมลืมตาขึ้นมาทันทีก่อนจะลุกขึ้นตรงไปกระโดดใส่พี่กรมทันที โดยที่ไม่สนใจว่าผมจะได้โทรศัพท์คืนไหมก็ตาม
“ผมขอโทษ ไม่รู้ว่าพี่รู้สึกแบบนี้...” ผมซบหน้าลงบนอกพี่กรม ไอ้ตัวผมก็ไม่ได้น้อยหรอก แต่ผมเชื่อว่าพี่กรมรับไหวถึงจะหนักไปบ้างก็เถอะ อยากเป็นน้องบ้างอยากตัวเล็กๆ
“มึงลุกมาไม่กลัวกูลบคลิปมึงรึไง”
“ลบไปเถอะพี่คลิปพวกนั้น ผมไม่สน แต่ถ้าพี่รู้สึกไม่ดีเพราะผมอันนี้ผมสน” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่กรมที่ตอนนี้ยกยิ้มเล็กๆ พร้อมกับมองลงมาที่ผมเหมือนกัน
“เข้าใจกูไหม?”
“เข้าใจครับ”
“ติ๊กตอกกับกูเลือกอะไร?”
“ติ๊ก...พี่กรมอยู่แล้ว” ผมแกล้งแหย่พูดติ๊กตอกไปหน้าพี่กรมขมวดทันทีก่อนที่ผมจะพูดชื่อพี่กรมออกมา “พี่คือที่หนึ่งของผม แต่ติ๊กตอกอะที่สอง”
“เกือบจะดี”
“งั้นเราทำอะไรกันดีพี่ ดูหนังไหม? ผมเห็นเขาฮิตเรื่องอิแทวอนกัน ที่ปาร์คซอจุนแสดง คนที่พี่เคยบอกว่าเขาหล่ออะ คนที่ผมตัดผมเหมือนเขาตอนที่เล่นเรื่องเลขาคิมอะ”
“เออ อธิบายกลัวกูนึกภาพไม่ออกรึไง”
“ดูไหม”
“ไปเปิดดิ” ผมกระโดดลงจากตัดของพี่กรมทันที ก่อนจะตรงมาเปิดเน็ตฟิกและดูอิแทวอนที่มีสิบหกตอนรวดเดียว..ใช่ครับผมกับพี่กรมเราสองคนได้ใช้เวลาร่วมกันเกือบสิบแปดชั่วโมง ไม่ได้หลับได้นอนกันเลยเพราะเนื้อเรื่องมันเข้มข้นมาก มากจนผมไม่สามารถหยุดได้ รู้ตัวอีกทีก็เช้าของอีกวัน...
“ผมอยากตัดผมตามพัคแซรอยอะพี่ ตัดให้ผมหน่อยดิ ร้านตัดผมมันปิดหมด” หลังจากที่ดูจบ ผมอินมากครับ ผมอินจนอยากที่จะตัดผมตามพัคแซรอย
“มึงเอาจริง?”
“ผมเห็นพี่มีแบตตาเลี่ยนอยู่นิหนา”
“มึงมั่นใจนะไอ้พี?”
“มั่นใจครับ พี่ไปเอามา ผมจะไปนั่งรออยู่หลังบ้านนะ” ผมถอดเสื้อออกทันทีทำให้เหลือแต่กางเกง นั่งบนเก้าอี้รอพี่กรมไปเอาแบตตาเลี่ยนลงมา
“กูถามอีกครั้ง มึงมั่นใจใช่ไหม?”
“เอาเลยพี่ ตัดเลย!!” ตอนนี้ผมยังอินอยู่ ถ้านานไปผมจะไม่อิน ดังนั้นตัดมาเลยผมพร้อม
สิ้นเสียงคำตอบรับของผม พี่กรมเปิดแบตตาเลี่ยนทันที พร้อมกับไถบนหัวของผมอย่างไม่ลังเล ผมมองผมของตัวเองที่หล่นลงมาบนพื้น...
ใจมันหวิวๆ เหมือนกันนะ
“ไอ้พี...”
“ทำไมเสียงพี่ดูไม่มั่นใจ”
“พัคแซรอยนี่พระเอกใช่ไหม?”
“เห้ย! พี่ได้ดูกับผมป่ะเนี่ย!!” ผมรีบหันไปมองหน้าพี่กรมทันทีที่ได้ยิน มาบอกอะไรตอนที่ไถผมเกือบจะหมดหัว
“กูหลับ..มึงไม่รู้เหรอ?”
“พี่.......”
“อยากเห็นผมตัวเองไหม?” สีหน้าของพี่กรมตอนนี้ดูไม่มั่นใจแบบสุดๆ ส่วนผมน่ะเหรอ หัวใจมันล่วงไปทีตาตุ่มทันที พัคแซรอยของผม!!
“เห็นก็ได้พี่...” จะช้าจะเร็วอย่างไงผมก็ต้องเห็นอยู่ดี
“หนึ่ง สอง สาม!” ผมจ้องสภาพตัวเองที่อยู่ในกระจก.... “ไอ้พี อย่าเงียบดิ”
“......!”
“ไอ้พี มันไม่แย่นะเว้ย” พี่กรมจับไหล่ผมบีบเบาๆ เหมือนต้องการจะให้กำลังใจ แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องการ...
“พัคแซรอยไม่ใช่แบงก์ วงแคลช!!!!!!!!!!!!!”
“ไอ้พี......”
ผมอยากจะร้องไห้ ผมที่ผมต้องการมันต้องไม่ใช่แบบนี้..
“สงกรานต์นี้ผมคงไม่กล้าออกไปเล่นน้ำแน่ๆ”
“เขาเลือนไม่มีกำหนด”
“จริงปะเนี่ย!!!!!!!” ผมตกใจกว่าทรงผมของผมอีกที่รู้ว่าสงกรานต์ที่ผมเฝ้ารอเลื่อน
“มึงไปมุดหัวอยู่ไหนมาวะ?”
“ติ๊กตอก”
“เจริญ”
นอกจากสงกรานต์ไม่ได้ไปไหนแล้ว ผมยังมีทรงผมที่โคตรจะโคตรแมนเหมือนที่แบงก์วงแคลช! เอาเถอะครับ ถือว่านี่คือการใช้เวลาร่วมกับพี่กรมตามที่พี่มันต้องการก็แล้วกัน
ผมอยากร้องไห้จริงๆ นะ ไม่เชื่อผมเหรอ???