“ รักคืนรัง ”
ตอนที่ 19
ธรณ์เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง หลังจากสมองกลั่นกรองคำพูดของชินดนัยอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขามองหน้าเพื่อนรักที่กระตุกยิ้มร้ายอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า ก่อนจะเบนสายตามามองเขมจิราที่ยืนนิ่งงัน
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน !?! คนรุ่นพ่อรุ่นแม่กำลังเล่นตลกอะไรกันอยู่ เขมจิราถึงกับหน้าถอดสี เมื่อความลับที่เธอเฝ้าเก็บงำมาเนิ่นนาน จนเผลอคิดว่ามันตายไปพร้อมกับคนบางคนแล้ว กลับถูกเด็กหนุ่มที่อายุรุ่นราวคราวลูกเปิดโปงออกมา
เหตุการณ์เหมือนวันนั้นไม่มีผิด วันที่เธอคิดจะกลับมาทวงสิ่งที่เป็นของเธอจากอดีตเพื่อนรัก ด้วยหลักฐานที่เธอมั่นใจว่าธีรยุทธต้องกลายเป็นเบี้ยล่างเธออย่างแน่นอน แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพียงเพราะคำพูดประโยคเดียวที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
‘ออกไปจากชีวิตของพวกฉัน ถ้าเธอไม่อยากให้ครามรู้ว่าเขตแดนไม่ใช่ลูกของเขา’ เขาว่ากันว่า...คนเราเวลาจนตรอกย่อมตัดสินใจทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะไตร่ตรองหรือปราศจากการไตร่ตรองก็ตามที ตอนนั้นเธอคิดเพียงแต่ว่า...เธอจะต้องปิดปากธีรยุทธ ทีแรกเธอก็ตั้งใจแค่จะส่งคนไปขู่ แต่ใครจะรู้ว่าความยโสโอหังของคนที่เป็นอดีตเพื่อนรัก จะทำให้เธอบันดาลโทสะขึ้นมาจริงๆ จนควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้
เธอเฝ้าลำพองว่าความลับจะเป็นความลับต่อไป แต่แล้วนี่มันอะไรกัน เด็กผู้ชายอวดดีคนหนึ่งรู้เรื่องของเธอได้อย่างไร
“แก...แกรู้ได้ยังไง”
ชินดนัยเหยียดยิ้มออก แม้จะสงสารหลายต่อหลายคนที่ต้องมารับรู้ความจริงที่เจ็บปวด แต่ในเมื่อเรื่องมันดำเนินมาถึงขนาดนี้ ก็มีแต่จะต้องพูดทุกอย่างออกมาให้หมด อย่าให้เหลือความลับอะไรมาทำร้ายใครได้อีก ถ้าจะต้องเจ็บ ก็ให้มันเจ็บทีเดียวจนชาไปเลย จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดกับอะไรอีก เขาเหลือบมองธรณ์ที่มีแต่ความสับสนปรากฏอยู่บนหน้า อยากจะดึงเพื่อนรักเข้ามากอด แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาจะทำทีหลัง
“คุณคงไม่รู้ว่าเคยมีการตรวจดีเอ็นเอระหว่างคุณเขตแดนกับคุณสงคราม”
แค่ประโยคเดียว เป้าหมายก็เบนกลับไปที่คุณสงครามทันที เขมจิรามองอดีตสามีดวงตาวาวโรจน์ คุณสงครามเองก็ไม่ได้คิดจะหลบสายตา มันคงมากเกินพอแล้วสำหรับความอดทนของเขา
“คุณรู้อยู่แล้ว?”
คุณสงครามพยักหน้าช้าๆ แรกเริ่มเดิมทีมันเป็นความคิดของธีรยุทธ ตอนแรกเขาก็คัดค้านเรื่องตรวจดีเอ็นเอ เพราะไม่ว่าเขตแดนจะเป็นลูกของเขาจริงหรือไม่ เขาก็พร้อมที่จะรักและเลี้ยงดูเขตแดน แต่สุดท้ายก็ทนการหว่านล้อมของธีรยุทธไม่ไหว จนต้องดำเนินการตรวจดีเอ็นเอเงียบๆ โดยที่เขตแดนไม่รู้ตัว
ผลการตรวจออกมาปรากฏว่าเขากับเขตแดนไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย ที่มีก็เป็นเพียงแค่ความเสียดายที่เขตแดนไม่ใช่ลูกของเขา ถึงอย่างไร เขาก็ยังคงรักเขตแดนอยู่เสมอ เขายังจำคำพูดของธีรยุทธวันที่รู้ผลได้ว่า...
‘ผมให้ตรวจ ไม่ได้ต้องการให้พี่ปฏิเสธหรือคืนเขตต์ให้กับเข็ม แต่มันเป็นสิทธิ์ของพี่ที่ควรได้รู้’ มันเป็นสิทธิ์ของเขาที่ควรได้รู้ว่าเขตแดนไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขา แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะรักเขตแดนอย่างไม่มีเงื่อนไขเช่นกัน ถึงแม้เขากับธีรยุทธจะรักกันมากแค่ไหน เราทั้งคู่ก็ไม่สามารถมีทายาทด้วยกันได้ การได้เฝ้าดูเด็กชายตัวน้อยเติบใหญ่จึงกลายเป็นความสุขของเขาและธีรยุทธ
เขาตกหลุมรักเด็กทารกตัวน้อยตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น แม้ระหว่างเขากับเขมจิราจะไม่มีความรัก แต่เขากลับรักเขตแดนอย่างเต็มหัวใจ รัก...โดยไม่สนว่าเขตแดนจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใคร
“รู้ไว้เลยนะเขมจิรา ว่าที่ผ่านมาฉันรู้แต่ไม่พูด เพราะฉันไม่อยากให้ลูกชายของฉันเสียใจ” เขาเรียกเขตแดนว่าลูกชายได้อย่างเต็มปาก ขณะมองคนที่เป็นแม่ของลูกดวงตากร้าว
“น่าขำนะ ในเมื่อคุณรักเด็กที่ไม่ใช่ลูกตัวเองได้ ทำไมคุณถึงรักฉันไม่ได้ล่ะ”
ความอัดอั้นในใจเธอ ใครเลยจะรู้ ไม่ว่าพยายามแค่ไหน ก็ไม่เคยได้อยู่ในสายตาของเขา เขตแดนเป็นลูกชายที่เธอรัก แต่ในความรักมันก็แฝงความอิจฉาไว้เต็มเปี่ยม ลูกชายของเธอได้รับความรักจากเขา แม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดของเขา แต่ทำไมความรักที่เขามีถึงไม่เผื่อแผ่มาถึงเธอบ้างเลย
“ฉันว่าเราเคยพูดเรื่องนี้กันหลายรอบแล้วนะเขมจิรา ความรักมันบังคับกันไม่ได้ ฉันรักและเอ็นดูเขตต์ แต่สำหรับความรักฉันท์ชู้สาว...ฉันให้เธอไม่ได้จริงๆ”
“ไม่ว่าจะมีมันหรือไม่มีมัน คุณก็ไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาอยู่ดี”
คุณสงครามถอนหายใจยาว เขาก็เคยคิดอยากจะลองรักคนอื่นนอกจากธีรยุทธดูเหมือนกัน เผื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บเจียนตายกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ แต่หัวใจคนเรามันไม่ได้บังคับกันง่ายๆ ถ้าทุกอย่างมันง่ายดายอย่างที่พูดจริง ปัญหามันคงไม่คาราคาซังมาจนถึงจุดนี้ ถ้าเพียงแต่เขาสามารถรักคนอื่นนอกจากธีรยุทธได้ แต่เพียงแต่เขายอมตัดใจและปล่อยมือจากธีรยุทธได้ แต่เขาก็ทำไม่ได้จริงๆ
“ฉันให้เธอเป็นได้แค่น้องสาว แต่ความเป็นพี่น้องของเรามันสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่เธอทรยศยุทธเขาแล้ว”
“ทุกอย่างก็สาสมแล้วสำหรับสิ่งที่มันทำกับฉัน”
ธรณ์ที่ยืนฟังอยู่ ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เข้าใจ สิ่งที่พ่อของเขาทำมันร้ายแรงถึงขนาดต้องชดใช้ด้วยชีวิตเชียวหรือ
“พ่อผมทำอะไร ทำไมถึงกับต้องฆ่าแกงกัน...”
เขมจิราเบือนหน้ากลับมาหาธรณ์ ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงวาดรอยยิ้มเยาะ ที่คงมีเพียงเจ้าตัวที่รู้ว่าเธอกำลังเย้ยหยันตนเองหรือเด็กหนุ่มตรงหน้า
“พ่อของแกน่ะหรือ...”
ดวงตาเรียวทอดมองราวกับจะย้อนกลับสู่อดีต เธอเฝ้ารอวันที่ธีรยุทธจะล้มลง แต่มันก็เป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆของเธอ แม้ขนาดตัวจากไป ก็ยังอุตส่าห์ทิ้งทายาทเอาไว้
“ฉันกับพ่อแกเคยเป็นเพื่อนรักกัน หลังจากที่มันแต่งงานกับแม่แก ส่วนฉันก็แต่งงานกับคุณสงคราม พ่อแกเกิดรู้ว่าที่จริงแล้วเป็นแผนการของฉันที่จะผูกมัดสงคราม ฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอก ฉันรักสงคราม ฉันทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามา แม้กระทั่งเอาลูกคนอื่นมาเรียกร้องให้เขารับผิดชอบ แต่แกรู้ไหม...ว่าพ่อของแกมันค่อยๆวางแผนตลบหลังฉันอย่างเงียบๆ พอมันก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารของอิสรพัฒน์ มันก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมบีบจนที่บ้านฉันล้มละลาย แล้วก็เป็นมันอีกเหมือนกัน...ที่เข้ามาหยิบยื่นเงินก้อนโตให้ฉัน แลกกับการเซ็นใบหย่าและออกไปจากชีวิตของคุณสงคราม”
“ไม่จริง...”
ไม่ใช่แค่ธรณ์ที่ปฏิเสธออกมา แม้แต่คุณสงครามก็ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงเมื่อคำยืนยันมันหลุดออกมาจากปากของชินดนัย
“จริง! อายุทธใช้อำนาจของประธานบริษัทบีบจนครอบครัวคุณเขมจิราล้มละลาย”
เขมจิราปรายตามองชินดนัยแวบหนึ่ง ก่อนจะเล่าต่อ
“ฉันต้องรับเงินก้อนจากธีรยุทธอย่างไม่มีทางเลือก เซ็นใบหย่าให้คุณสงครามมีอิสระ แล้วตัวเองก็ต้องหายออกไปจากชีวิตของคุณสงครามกับเขตแดน ได้แต่เฝ้าดูมันพาตัวเองเข้ามาแทนที่ฉัน มันคงคิดว่าฉันจะลืมและเรื่องทุกอย่างจะจบ แต่มันคิดผิด ฉันคอยตามดูมันกับคุณสงครามตลอด คิดว่ามันต้องมีช่องโหว่ให้ฉันเล่นงานได้บ้าง แต่ยิ่งตามดู ยิ่งได้เห็นมันมีความสุข ฉันก็ยิ่งโกรธแค้นเป็นเท่าตัว พอฉันมั่นใจว่าจะเล่นงานมันได้ ฉันถึงได้กล้ากลับมาหามัน”
“ซึ่งนั่นก็คือวันที่อายุทธถูกฆ่า” ชินดนัยเอ่ยต่อเสียงเรียบๆ
ธรณ์แทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น ถึงภาพลักษณ์ของพ่อในสายตาของเขาจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าพ่อจะทำถึงขนาดนี้ มันคงเป็นการจองเวรจองกรรมกันไปไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องราวมันจะจบลงอย่างไร หรือจะต้องฟาดฟันกันจนตายเสียทั้งคู่ถึงจะสาแก่ใจ
สิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมือนกับบ่วงกรรมที่พันธนาการทุกคนไว้ด้วยกัน ถ้าพ่อกับคุณเขมจิราไม่ได้ชอบผู้ชายคนเดียวกัน ถ้าไม่คิดที่จะแก้แค้นกันและกัน ทุกอย่างคงไม่ดำเนินมาจนถึงจุดนี้ จุดที่อะไรๆ ก็สายเกินกว่าจะกลับไปแก้ไขได้
“ฉันอยากจะทำให้อิสรพัฒน์ล้ม อยากจะให้มันพังลงไปเหมือนที่มันเคยทำกับฉัน แต่ฉันก็ทำไม่ได้ เพราะลูกชายของฉันเอาแต่ประคับประคองมันเอาไว้”
คุณสงครามรู้ว่าคุณธีรยุทธเองก็รักและเอ็นดูเขตแดนเหมือนเป็นลูกชายอีกคน แต่เขาเพิ่งรู้ซึ้งวันนี้เองว่า ที่ธีรยุทธเฝ้าทุ่มเททุกอย่างให้เขตแดน เพราะหวังว่าอย่างน้อยเขมจิราจะรู้สึกอะไรบ้าง และที่สำคัญ การที่พินัยกรรมผูกมัดให้เขตแดนต้องดำรงตำแหน่งประธานบริษัทจนกว่าธรณ์จะอายุครบยี่สิบห้า มันไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือหักหน้าธรณ์ แต่เพราะธีรยุทธมั่นใจว่าเขมจิราจะไม่มีทางทำอะไรอิสรพัฒน์ ตราบใดที่เขตแดนเป็นคนกุมบังเหียน และระยะเวลาที่ผูกมัดเขตแดนเอาไว้ด้วยตำแหน่งประธานบริษัท มันน่าจะเพียงพอให้เขมจิรายอมเลิกรา หรือถ้าเขมจิราไม่ยอมวางมือ อย่างน้อยเขตแดนก็ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับลูกชายคนเดียวของเขา...
ธรณ์ อิสรพัฒน์ ทายาทตัวจริง!! ธีรยุทธรู้จุดอ่อนของเขมจิราดี มันไม่ใช่จุดอ่อนของผู้หญิง แต่มันเป็นจุดอ่อนของคนเป็นแม่ ที่ถึงจะดีจะชั่วอย่างไร ก็ต้องคิดคำนึงถึงลูกเสมอ ต่อให้ทำร้ายคนทั้งโลก แต่คนเดียวที่เขมจิราจะไม่มีวันยอมทำร้ายก็คือ...เขตแดน เกียรติณรงค์ ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ
ธรณ์เองก็คงไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคุณธีรยุทธ ซึ่งคุณสงครามมั่นใจว่า ถึงธีรยุทธจะไม่ได้รักอัจฉราฉันท์ชู้สาว แต่ธีรยุทธย่อมรักลูกชายคนเดียวที่ตนเองเป็นคนให้กำเนิดแน่ๆ ทว่าธรณ์กลับตีความหมายการกระทำของพ่อตนเองไปไกล เฝ้าน้อยอกน้อยใจว่าพ่อรักเขตแดนมากกว่าตนเอง คุณสงครามเองก็เคยนึกสงสัยการกระทำของคนรัก แต่วันนี้ทุกอย่างได้กระจ่างแจ้งหมดแล้ว
คนที่จากไปได้วางแผนการทุกอย่างอย่างแยบยล แต่คนที่เหลืออยู่นี่สิ...
“คุณรู้ไหมคุณเขมจิรา อายุทธเขาฉลาดกว่าที่คุณคิดเสียอีก”
ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คุณสงครามที่มองทุกอย่างออก ชินดนัยเองก็ไม่ต่างกัน ธรณ์ได้แต่มองคุณสงครามสลับกับเพื่อนรักไปมาอย่างสับสน ทุกอย่างมันประเดประดังเข้ามาจนเขาจับต้นชนปลายไม่ถูก จนตอนนี้ไม่รู้ว่าควรจะสงสารใครกันแน่
...ความรักในอดีต นอกจากไม่ทำให้ใครสมหวังแล้ว ยังทำให้คนในปัจจุบันต้องเป็นทุกข์ตามไปด้วย... “ไม่ว่ายังไงคุณก็ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก ไม่มีวันเลยจริงๆ” ชินดนัยเอ่ยย้ำ ราวกับจะให้มันซึมลึกลงไปในใจของคนฟัง
“รู้ได้ยังไง ว่าฉันไม่มีวันชนะธีรยุทธได้” เขมจิราประกาศออกมา ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายตัวชา เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยดังมาจากเบื้องหลัง
“พอเถอะครับแม่” ทุกสายตาหันขวับไปทางต้นเสียง มีเพียงชินดนัยที่ไม่ได้มีท่าทีแปลกใจอะไร ร่างสูงที่ยังสวมสูทยืนอยู่ตรงกรอบประตู ดวงหน้าคมมีหยาดเหงื่อเกาะพราว บ่งบอกถึงความเหนื่อยอ่อน แม้รูปประโยค เขตแดนจะพูดกับผู้เป็นแม่ แต่ดวงตาของเขากลับมองตรงมาที่ธรณ์ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
เขตแดนมองเห็นความเปราะบางสะท้อนออกมาจากแววตาของธรณ์ เขาอยากจะคว้าร่างคนที่ยืนอยู่เข้ามากอดแนบอกแน่นๆ แล้วปลอบประโลมน้องน้อยของเขา ติดที่ว่าสถานการณ์ตรงหน้าไม่เอื้ออำนวยให้ทำอย่างที่ใจคิด
“เขตต์...” เขมจิราครางชื่อลูกชายเพียงคนเดียวเสียงแผ่ว
“พอนะครับแม่ อายุทธเองก็เสียไปแล้ว เลิกแล้วต่อกันเถอะครับ”
เขมจิรานิ่ง เจ็บไหนจะเจ็บเท่าลูกตัวเองไม่เข้าข้าง ลูกชายเธอก็ไม่ต่างอะไรจากคุณสงคราม หลงลูกของธีรยุทธหัวปักหัวปำจนไม่เห็นแก่แม่ตัวเอง
“เขตต์ไม่รู้ว่าแม่ต้องเจออะไรบ้าง คนที่แกเคารพรักเหมือนพ่ออีกคนน่ะ ทำกับแม่แกยังไง”
เขตแดนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาไม่เคยมีโอกาสได้พูดกับแม่อย่างจริงจัง สำหรับเรื่องที่ผ่านมา แต่นี่คงถึงเวลาที่ต้องพูดแล้วจริงๆ เพราะถ้าไม่พูด เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องมันจะยืดเยื้อไปอีกเท่าไหร่ ต่อให้อีกฝ่ายเป็นแม่บังเกิดเกล้า แต่ก็คงต้องว่ากันไปตามผิดตามถูก
ถ้าเขายังปล่อยให้แม่ทำเรื่องเลวร้ายต่อไป เขาก็ไม่ต่างอะไรจากลูกเลวๆคนหนึ่ง
“ผมรู้ครับแม่ ผมได้ยินหมดแล้ว”
“ได้ยิน? เขตต์ได้ยินอะไรบ้าง” เขมจิราถามเสียงเครียด
ต่อให้ความลับจะถูกเปิดโปง เรื่องเลวร้ายจะถูกป่าวประกาศ ขอเพียงอย่างเดียว ขอแค่เขตแดนยังไม่รู้ หัวอกคนเป็นแม่แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ลูกก็มีอิทธิพลเสมอ ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอก อยากให้ลูกรับรู้ความร้ายกาจของตัวเอง
“ผมรู้ว่าอายุทธทำอะไรไว้” เขตแดนเอ่ยเสียงเรียบๆ
“แกรู้ แต่แกก็ยังเข้าข้างพวกมัน” เขมจิรามองลูกชายคนเดียวด้วยความผิดหวัง
“มันคงไม่เป็นอย่างนี้ ถ้าแม่ไม่หลอกพ่อว่าผมเป็นลูกพ่อ”
อย่า...อย่ามองแม่ด้วยสายตาแบบนั้น ต่อให้ทุกคนจะมองด้วยความเกลียดชังอย่างไร มันก็ไม่เท่าสายตาที่เจ็บปวดจากลูกชายคนเดียว เธอคิดเสมอ ว่าการเลือกคุณสงครามให้เป็นพ่อของเขตแดนคือสิ่งที่ดีสุด เธอคิดฝันจะสร้างครอบครัวอบอุ่นด้วยกันกับคุณสงคราม แต่เธอคงลืม...ถ้าเธอฝันอยู่คนเดียว ทุกอย่างก็เป็นได้แค่ความฝันลมๆแล้งๆ
“อายุทธและพ่อดีกับผมมากๆ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อก็ตามที ให้เรื่องทุกอย่างมันจบเถอะนะครับแม่ อย่าดันทุรังอีกเลย”
เขตแดนมองผ่านผู้เป็นแม่ไปยังคุณสงคราม ก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่ธรณ์ บางอย่างในแววตาของเขตแดน กระตุ้นให้ธรณ์ค่อยๆขยับตัวเข้าไปหา
“ในเมื่อเขตต์รู้ทุกอย่างแล้ว ก็ให้เรื่องทุกอย่างมันจบลงซะทีเถอะเขมจิรา”
“ยอมมอบตัวเถอะครับคุณเขมจิรา อย่าให้เรื่องมันยุ่งยากไปมากกว่านี้เลย” ชินดนัยเอ่ยเสียงเรียบ ตั้งท่าเตรียมพร้อมจะเข้าชาร์จอีกฝ่ายอยู่ทุกขณะ
เขมจิรานิ่งงัน ท้ายที่สุดเขตแดนก็รู้สิ่งที่เธอพยายามปิดบัง แล้วมันจะเหลืออะไรให้เธอต้องเสียอีก ไม่มีธีรยุทธแล้ว เรื่องก็ยังไม่จบ เพราะอะไรกัน เพราะเด็กนั่น...เพราะมีธรณ์ อิสรพัฒน์อยู่ใช่ไหม ถ้าไม่มีธรณ์อยู่ซักคน เรื่องทุกอย่างมันคงง่ายดาย
ก่อนที่ใครจะทันรู้ตัว ปืนกระบอกเหล็กก็ถูกชักออกมา มัจจุราชสีเงินพุ่งเป้าตรงไปอย่างเป้าหมาย ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากคนที่เขมจิราคิดว่าเป็นเสี้ยนหนามตำใจเธอ
“แม่!!” ปังงงงง!!!====================
[มีต่อนะคะ]