Chapter 9
กันต์ ‘s Partค่ำนี้ได้ฤกษ์งามยามดีฉลองบ้านใหม่ของไอ้พวกนั้นครับ และวันนี้ก็ไม่มีซ้อมเชียร์ด้วย ซึ่งตอนแรกเราตั้งใจกันว่าจะทำหมูกระทะกินกันที่บ้านเช่าครับ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนแผนเพราะพวกมันขี้เกียจเก็บล้างและเก็บงานหลังกินเสร็จ ก็เลยไปจบกันที่ร้านหมูกระทะแถวมหาลัยฯครับ
ผมไปกับไอ้ธันเลยไปรับไอ้เคมันที่คณะ ส่วนพวกที่เหลือไปรถไอ้เรย์มันที่ร้านกันแล้ว
“ ธันให้กูลองขับไปที่ร้านมั้ย “ เมื่อเวลาผ่านไปความกลัวเรื่องรถก็ได้ลืมเลือนไปเยอะแล้ว และก่อนที่จะเอาความรู้คืนอาจารย์หมด ผมก็ต้องมาทบทวนกันบ้างล่ะครับ
“ ไหวเหรอกันต์... “ ไอ้ธันที่ยังไม่ได้สตาร์ทรถที่หน้คณะเภสัทฯ ถามพลางมองผมอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ อย่าเลยมึง... กูยังอยากเรียนให้จบ ได้ข่าวว่าคราวก่อนก็เกือบชนมาแล้วไม่ใช่เหรอ “ ไอ้เคที่นั่งด้านหลังว่ามาทันที ให้ผมหันหน้าไปหาก่อนจะพูดขึ้น
“ แค่เกือบเอง ยังไม่ได้ชนสักหน่อย “
“ ก็นั่นแหละ ! สงสารกูและแมวกูเหอะ เดี๋ยวแม่งกำพร้า “
ผมด่ามันว่า ‘ เชี่ย ‘ แบบไม่ออกเสียงในขณะที่ธันได้แต่หัวเราะขำก่อนจะออกรถไปครับ
“ จำไว้เลยนะเว้ยไอ้เค กูจะเทรนพี่พีให้เอาชนะมึงให้ได้ โทษฐานที่มึงดูถูกกู “ ผมขู่มันไปครับ แต่ก็ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ
“ อะไร... พี่พีเขา... ทำไม “
จู่ๆ มันก็เปลี่ยนสีหน้าแล้วถามผมขึ้นมาเสียงตะกุกตะกักครับ
“ ก็เมื่อวานพี่เขามาขอให้ช่วยเทรนแบดให้อะ เห็นบอกว่าต้องเอาชนะมึงให้ได้อะไรเนี่ยแหละ ทำไมวะ... มึงไปทำไรพี่เขาถึงหัวเสียขนาดนั้น นี่กูไม่เคยเห็นพี่พีเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะเว้ย! “ ผมหันกลับไปคุยกับมันครับ
“ เป็นกูมากกว่ามั้งที่ถูกทำ... “
มันบ่นอะไรไม่รู้อู้อี้กับตัวเองครับ ผมฟังไม่ชัดเลยถามกลับไปว่าอะไรนะ...
“ กูบอกว่า... กูจะไปทำไรพี่เขาได้ล่ะ ตัวโตซะขนาดนั้น “ มันเสียงดังขึ้นมาครับ
“ ไม่เกี่ยวเว้ย คนเรามันไม่เก่งกันทุกอย่างหรอก แต่ที่แน่ๆ กูฟันธงเลยว่าพี่เขาต้องเอาชนะมึงได้สักวันแหละ “
“ ทำไมมึงถึงมั่นใจวะ... “ มันถามมาเสียงอ่อยครับ
“ ก็เพราะกูสอนไง และอีกอย่าง... พี่เขามีพื้นฐานด้านกีฬาดีอยู่แล้ว เทรนไม่นานต้องเอาชนะมึงได้แน่ “
“ เหรอ...... แล้วกูจะคอยดู “
ผมยิ้มพลางเลิกคิ้วก่อนจะหันหน้ากลับมามองทางข้างหน้าต่อ ซึ่งตอนนี้กำลังจะออกจากรั้วมหาลัยฯแล้วล่ะครับ
......
ที่ร้านหมูกระทะ
เข้าร้านมาพวกนั้นก็มาถึงกันอยู่ก่อนแล้ว แถมอาหารก็ยังเต็มโต๊ะไปหมด เรื่องกินนี่แม่งไม่เคยช้าและรอผมเลยจริงๆ แถมเบคอนของโปรดผมมันก็ตักมาเท่าแมวดม สุดท้ายก็เลยต้องเดินไปตักเองจนได้ครับ...
โต๊ะเราค่อนข้างจะครึกครื้นสักหน่อย เพราะนอกจากจะคนเยอะแล้ว ไอ้เรย์นี่ตัวดีเลยครับที่เสียงดังอยู่บ่อยๆ เวลาโดนแย่งของที่มันตั้งใจย่างไว้อย่างดี แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดรบกวนชาวบ้านโต๊ะอื่นเขาหรอกนะครับ
กินกันไปได้สักพักก็มีกลุ่มนักศึกษาสาวปีหนึ่งซึ่งมากันเป็นแก๊งสามคนและผมก็จำได้ดีว่าแก๊งใคร เพราะเจ้าตัวที่พึ่งจ่ายตังค่าแท็กซี่เสร็จได้เดินตามหลังเข้ามาเป็นคนสุดท้ายครับ ก่อนจะเดินอ้อนแอ้นผ่านโต๊ะของพวกเราพร้อมทั้งปลายตามามองยังผมเล็กๆ
“ อูย.... “
ไอ้เรย์ซึ่งนั่งต่อจากไอ้ธันที่นั่งข้างผมแหงะหน้ามาหาผมพลางส่งเสียงเบาๆ ซึ่งผมก็พอเข้าใจได้ว่ามันต้องการจะสื่ออะไร เพียงแต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ แค่คุยกับเขาผมก็ยังไม่เคยคุยด้วยเลย
เท่าที่สังเกตรู้สึกว่าเพื่อนสาวของอามจะเป็นคนต่างคณะนะครับ ส่วนจะคณะอะไรนั้นผมไม่แน่ใจ แต่ดูท่าคงจะเป็นเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยมัธยมแน่ๆ
พวกผมสนุกสนานกันต่อ เพราะยิ่งคนเยอะแถมสนิทกันด้วยแล้วมันก็ยิ่งสนุกครับ ไอ้แน๊คมันเอารูปติดวิญญาณที่ลงในเพจซุบซิบของมหาลัยฯ มาให้ดู ซึ่งพวกเราก็เถียงกันว่าภาพที่ถ่ายที่ตึกชมรมนั้นเป็นภาพจริงหรือแค่จินตนาการปรุงแต่งให้มองเห็นเป็นรูปติดวิญญาณ เถียงกันไปเถียงกันมาสุดท้ายจึงเกิดเป็นการท้าทายขึ้นมาระหว่างพวกเรา ถึงการทดสอบความกล้าเกี่ยวกับเรื่องลึกลับของมหาลัยฯ โดยเฉพาะใครที่ไม่เชื่ออย่างไอ้ธันกับไอ้เคยิ่งโดนไอ้แน๊คมันท้าทายให้ไปพิสูจน์ครับ
ผลก็คือ...วันศุกร์สุดสัปดาห์นี้ เราจะมีการทดสอบความกล้ากันครับ... ซึ่งผมกับไอ้เรย์ปฏิเสธเสียงแข็งยังไง แต่สุดท้ายก็ไม่รอดโดนลากเข้ามาร่วมด้วยอยู่ดี
งานเข้าแล้วไงครับ เพราะผมกับมันยิ่งเป็นพวกกลัวผีโครตๆ อยู่ด้วยนี่สิ....
“ สวยเนอะ!! “
“ นางเอ้กนางเอก “
จู่ๆ สาวโต๊ะข้างๆ ก็ส่งเสียงดังขึ้นมาก่อนจะหัวเราะขำกันคิกคัก
“ ฉันว่าอามแกสวยกว่าตั้งเยอะ ไม่เข้าใจพี่เขาเลยจริงๆ แต่ถ้าพี่เขาหันมาชอบผู้ชายแล้วแบบนี้ แกก็มีหวังแล้วสิทีนี้ “
คือไม่ได้อยากจะแอบฟังหรอกนะครับ แต่เสียงพวกคุณเธอดังเข้าหูมาให้ได้ยินเองราวกับจงใจ แต่... มันก็คงไม่ใช่หรอกมั้งครับ...
“ ผอมเพรียวกว่า หน้าก็หวานกว่า แถมเป็นลีดอีกต่างหาก เดี๋ยวไม่นานพี่เขาก็ติด “ อีกคนพูดต่อครับ ในขณะที่ตอนนี้โต๊ะผมกลับเงียบขึ้นมาเสียอย่างนั้น ราวกับกำลังตั้งใจฟังเรื่องของโต๊ะข้างๆ กันอยู่
“ ใช่ๆ ยิ่งต้องเจอกันบ่อยๆ ตอนซ้อมลีดด้วยนะ พี่เขาจะไม่หลงแกก็บ้าแล้ว อิอิ “
ถึงตรงนี้ผมเริ่มเปลี่ยนความคิดแล้วนะครับว่า บางทีเขาอาจจะตั้งใจให้พวกผมได้ยินกันก็เป็นได้ และไม่ใช่แค่ผมคิดไปเอง เมื่อไอ้เจมส์มันหันมาถามผมพลางพูดเบาๆ ว่ามันเกี่ยวกับผมรึเปล่า ซึ่งผมก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบไปว่าไม่รู้ให้เท่านั้น
“ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ หัวเราะทีหลังดังกว่าเปล่าวะแก ฮะๆๆ “
เมื่อสาวโต๊ะข้างๆ พูดจบก็พากันหัวเราะคิกคักชอบใจใหญ่ ไอ้เรย์มันเลยหันมาคุยกับผมทันทีครับ
“ กูว่าเกี่ยวกับมึงแล้วล่ะ... กูเห็นตั้งแต่เชี่ยนั่นมองมึงตอนเข้าร้านมาละ “
“ ไม่ใช่หรอกมั้ง เขาก็ไม่ได้เอ่ยชื่อกูนี่หว่า “ ผมอ้อมแอ้มบอกไป ทั้งๆ ที่ขัดกับความคิดในใจสุดๆ
“ แต่เราว่าใช่นะกันต์ เอาจริงๆ ตอนซ้อมลีดน่ะ เราเห็นนะว่าอามมันพยายามเข้าหาพี่กิจตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เพราะเราดูแล้วพี่กิจไม่มีท่าทีสนใจเลยสักนิด “ คราวนี้แพรบอกมาครับ เพราะเธอเองก็เป็นหนึ่งในลีดปีหนึ่งปีนี้ด้วยเช่นกัน และก็คงจะได้เห็นอะไรมาบ้างพอสมควร
“ อื้ม... เราไม่ได้คิดมากเลยอะเรื่องพี่เขา “
ผมว่าไปตามจริงครับ เพราะหลังจากที่พี่กิจเปิดตัวผมในวันนั้น มันก็เหมือนปลดล็อคความไว้ใจไปได้หมดเลย ตอนนี้ผมเชื่อในตัวพี่กิจมากกว่าคำพูดของคนที่ผมไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ
“ จริง! ทำไมมองกูอย่างนี้กันวะ “
ผมย้ำขึ้นเมื่อทั้งโต๊ะมองผมราวกับว่าไม่เชื่อว่าผมจะคิดอย่างที่พูดมาจริงๆ
“ ยังไม่เชื่ออีก...!! ไรว้า... ไปห้องน้ำดีกว่าวู้ว! “
ในเมื่อทนต่อสายตาเคลือบแคลงสงสัยของคนทั้งโต๊ะไม่ได้ ทางเดียวที่ผมทำก็คือการออกจากจุดเกิดเหตุครับ รอเรื่องมันซาลงก่อนแล้วค่อยกลับมาใหม่
ผมยืนทำธุระส่วนตัวอยู่ที่โถปัสสาวะ ซึ่งภายในห้องน้ำตอนนี้มีผมอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ไม่นานชายร่างผอมก็เดินสะโอดสะองมายืนปัสสาวะด้วยข้างๆ ให้ผมได้หันไปมองเล็กๆ และเมื่อรู้ว่าเป็นอามผมก็หันกลับมาสนใจธุระส่วนตัวของตัวเองต่อ
“ ถามจริง.. ทำยังไงถึงได้พี่กิจมาเป็นแฟน... “
นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยครับที่เขาคุยกับผม ทว่าน้ำเสียงและบทสนทนามันกลับฟังดูไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่
“ จะรู้ไปทำไม ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย “ ผมตอบไปเสียงงเรียบครับ
“ ทำไม... บอกหน่อยไม่ได้เหรอ หรือว่ากลัว.... “
ถึงจุดนี้ผมเลยหันไปมองพลางร่นคิ้วใส่อย่างไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ ก่อนจะพบรอยยิ้มกริ่มราวกับว่าตนเองอยู่เหนือทุกคนเสียอย่างนั้น
“ กลัวไร...? “
ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ห้วนลงไปเล็กน้อยจากท่าทีของคนตรงหน้าที่ทำให้ผมไม่ค่อยชอบขึ้นมาแล้วในตอนนี้ คือเอาจริงผมก็ไม่ได้อะไรกับเขาเลยนะ แต่ไหงดูเหมือนเขาจะเข้ามาระรานกับผมเสียอย่างนั้น
“ ก็กลัวว่า... เราจะทำบ้างแล้วแย่งพี่กิจไปจากนายได้ไง “
อ่ออย่างนี้นี่เอง... ผมหันกลับไปรูดซิบขึ้นเมื่อทำธุระเสร็จก่อนจะกดน้ำแล้วหันมาพูดกับคนข้างๆ อีกครั้ง
“ เราว่านายคิดมากไปนะ... “
พูดจบผมก็เดินไปล้างมือที่อ่างล้างมือใกล้ๆ ครับ ไม่ทันเสร็จอามก็เดินตามมาทันที
“ อย่าว่ากันนะถ้าเราจะจีบพี่กิจ “
“ อืม... ตามสบาย “
ผมขานรับไปเสียงเรียบก่อนจะปิดก๊อกน้ำลง
“ ดูนายไม่ทุกข์ร้อนเลยนะ ถ้าพี่กิจเปลี่ยนใจมาหาเรา ก็อย่าว่าเราก็แล้วกัน “
ผมมองรอยยิ้มเย้ยหยันแล้วไม่ค่อยชอบเลยครับ เอาจริงผมไม่คิดว่าเขาจะดูร้ายได้ขนาดนี้เลยจริงๆ
“ อืม...แล้วแต่นายเลย แต่เราจะบอกอะไรให้นายรู้ไว้อย่างนะ เรากับพี่กิจน่ะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เราผ่านอะไรกันมาเยอะ มันไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ผิวเผิน แต่มันเหนียวแน่นกว่าที่นายคิดเอาไว้มาก จนทำให้เราเชื่อใจและไว้ใจพี่เขามากด้วยเช่นกัน “
พูดจบผมก็ส่งยิ้มให้เล็กๆ ก่อนจะพบสีหน้าไม่พอใจของคนตรงหน้า แต่ผมไม่อยากเสียเวลาสนทนาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องกับคนที่ไม่น่าคบอีก ผมเลยเลือกที่จะเดินจากไปทันที สู้เอาเวลาไปแย่งหมูกับไอ้เรย์เสียยังจะสนุกซะกว่า
แต่ผิดคาดครับ...
“ เชี่ย!! เบคอนกูหายไปไหนทั้งแถบวะ!! “
ผมโวยขึ้นทันทีเมื่อพบว่าเบคอนที่ผมบรรจงย่างให้เกรียมแบบพอดีได้หายไปหมดเลยตอนนี้ ก่อนจะพบว่าไอ้ตัวต้นเหตุกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทว่าหลักฐานมันกลับยังคงเต็มถ้วยอยู่ให้ผมได้ลงโทษมันได้ครับ
“ มึงตายไอ้เรย์! “
กินกันต่อไปได้ไม่นานแขกไม่ได้รับเชิญสองคนก็เดินเข้ามาครับ ย้ำว่าไม่ได้รับเชิญจริงๆ นะ...
“ อ้าว! ก็ไหนว่าพี่ไปซื้อของกับพี่พีไง “
ผมถามพี่กิจที่เดินตรงดิ่งมากับพี่พี ก่อนจะสะกิดให้ไอ้เคมันขยับที่ออกไปแล้วตัวเองก็เข้ามานั่งแทน มาเฟียชัดๆ..
“ ก็ซื้อเสร็จแล้วไง เห็นว่าเสร็จเร็วก็เลยจะมากินด้วย “
พี่กิจไม่ว่าเปล่าเรียกพนักงานเข้ามาบอกเพิ่มสองที่ทันทีครับ ผมหันไปมองที่พี่พีเป็นเชิงถาม ในขณะที่พี่เขากำลังเลื่อนเก้าอี้ตัวสุดท้ายริมสุดของโต๊ะข้างๆ ไอ้เคนั่งลง จนไอ้เคถึงกับขยับตัวออกห่างทันที
“ พี่พร้อมแล้วนะกันต์ ทั้งไม้ ทั้งรองเท้า ทั้งเวลา นัดมาได้เลยว่าจะเทรนกันวันไหน ยังไงพี่ก็ต้องชนะให้ได้ “
ประโยคุดท้ายพี่พีเบนสายตาไปมองยังไอ้เคจนมันทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว ท่าทางพี่พีจะเอาจริงนะครับเนี่ย ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนถึงได้อยากเอาชนะไอ้เคมันได้ถึงขนาดนี้
“ เดี๋ยวๆ มึงไอ้พี... นี่ชมรมลักบี้มึงว่างขนาดนั้นเลยเหรอวะ “
“ ก็ไม่ว่างหอก แต่กูไม่ต้องซ้อมมากก็ได้ เพราะถึงไงก็ได้เหรียญอยู่แล้ว “ พี่พีพูดอย่างมั่นใจจนน้องๆ ในโต๊ะพากันโห่แซวอย่างหมันไส้ครับ
“ เห๊อะ... ทำเป็นคุย “ ไอ้เคมันเหน็บคนข้างๆ เบาๆ ครับ ว่าแต่เดี๋ยวนี้มันกล้ากับรุ่นพี่ขนาดนี้เลยเหรอวะ
“ รอเลย... ไม่นานหรอก “ พี่พีบอกมันไปครับ แต่สายตากลับหวานมากกว่าท้าทายเสียอย่างนั้น หรือว่าผมอาจจะคิดไปเองนะ
“ กูไปตักของมาเพิ่มนะ “ ไอ้เคพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
“ พี่ไปด้วย “ พี่พีลุกตามครับ
“ จะตามมาทำไมเนี่ย “ รู้สึกเหมือนไอ้เคมันจะเริ่มหัวเสียขึ้นแล้วล่ะครับตอนนี้
“ ตามที่ไหน... คนพึ่งมาถึงก็แค่จะออกไปตักอาหาร ทำไมคิดว่าพี่จะตามล่ะ “
พี่พีพูดกวนประสาทมันครับ เห็นมันทำหน้ายุ่งทันทีพร้อมกับจิ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะแยกออกไปโดยมีพี่พีเดินยิ้มตามหลังไปติดๆ อย่างชอบใจที่ยั่วโมโหไอ้เคมันได้สำเร็จ
“ แล้วพี่ไม่ไปตักอาหารกับเขาเหรอ “ ผมหันมาถามคนข้างๆ ครับ ซึ่งกำลังจับตะเกียบที่พนักงานพึ่งเอามาเพิ่มให้สองที่เมื่อตะกี้นี้ พร้อมกับสายตาเล็งไปยังเบคอนชุดใหม่ที่กำลังสุกได้ที่ของผม
“ ไม่อะ แย่งแฟนกินเนี่ยแหละอร่อยสุดละ “
พี่กิจไม่พูดเปล่าครับ เอื้อมมือไปยังเป้าหมายบนเตาทันที ในขณะที่กองเชียร์คุณภาพที่โต๊ะก็แซวพี่กิจเสียสนุกเชียว ผมจึงเอาตะเกียบของผมไปปัดตะเกียบพี่เขาอย่างเอาเรื่องครับ
“ ของกันต์ พี่จะกินก็ย่างเอง “
“ อะไรกันต์... พี่หิวนะ คนอะไรขี้หึงเป็นบ้า “
“ หวง! “ ไอ้เรย์เสียงดังแก้ให้ครับ จนพี่กิจหันไปยิ้มบอกมันว่า “ เฉียบ! “
เออ! เข้าขากันดีเนาะพี่น้องชมรมคู่นี้
“ เออพี่กิจ พวกผมอยากรู้อะ “ แล้วไอ้แน๊คก็เริ่มถามไอ้คนที่แย่งเบคอนบนเตาของผมได้สำเร็จขึ้นครับ
“ ว่า..? “
พี่กิจขานรับหากแต่ไม่ได้มองคนถามเลยแม้แต่น้อย เพราะสนใจอยู่กับการจุ่มเบคอนของผมลงในถ้วยน้ำจิ้ม(ของผมอีกเช่นกัน) จนเคลือบไปทั่วเบคอน เยิ้มน่ากินจนผมอยากจะแย่งคืนมาให้ได้เลย
“ ทำไมพี่ชอบเพื่อนผมอะ นี่ผมกับไอ้เจมส์เปิดเทอมมาคืองงเลยว่าพี่กับมันเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ “
“ อืม... ไม่รู้ว่ะ รู้ตัวอีกทีพี่ก็ชอบมันไปแล้วอะ “
“ ง่ายๆ อย่างนั้นเลยเหรอพี่ “ ไอ้แน๊คทำหน้าแปลกใจถามต่อ ในขณะที่พี่กิจก็จดจ่ออยู่กับการเอาเบคอนผมไปกินเรื่อยๆ ไม่รู้ไปหิวมาจากไหน
“ จริงๆ ก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก เพราะแรกๆ พี่กับกันต์เราไม่ค่อยถูกกันน่ะ แถมกันต์ยังเป็นผู้ชายอีก ถึงจะ.... น่าร้ากก็เถอะ “ พี่กิจไม่พูดเปล่าครับ เอามือมาจับคางผมส่ายไปมาด้วย คนนะเว้ยไม่ใช่แมว!
“ แต่เอาจริงๆ นะ... “ คราวนี้พี่กิจทำหน้าจริงจังหันมามองยังคนถามแล้วครับ
“ เสน่ห์ของกันมันไม่ได้อยู่ที่ภายนอกหรอก มันอยู่ข้างใน... “
รู้สึกเหมือนโดนชมลยแฮะ อดเขินไม่ได้เลยครับ...
“ เดี๋ยวเฮีย.. พูดแบบนี้ผมคิดนะ ข้างในไอ้กันต์มันมีอะไรดีเหรอ “
ไอ้เรย์ครับ ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่ส่อความหมายนะ แต่สีหน้าและแววตาที่มันถามมาก็ด้วย จนผมต้องหักก้านผักบุ้งขว้างมันไปเบาๆ ครับ
“ อย่าให้ต้องเล่า... “ อีพี่กิจก็เล่นด้วยกับมัน แถมยังทำสายตาเจ้าเล่ห์พลางเลิกคิ้วบอกคนอื่นๆ ด้วย
แบบนี้เขาก็คิดกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย!! ไอ้พี่กิจ!!!
“ พี่กิจ! อย่าบ้าตามไอ้เรย์มันดิ พูดอะไรคนเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้วเนี่ย “ ผมทำหน้าและน้ำเสียงตัดพ้อบอกไปครับ ทว่าเจ้าตัวกับยิ้มร่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเอาเสียเลย
“ ร้อนตัวนะมึงไอ้กันต์ “ ไอ้เรย์ว่ามาครับ ผมเลยหันไปเขม่นใส่มันแล้วด่ามันไปอีกรอบ แล้วทั้งโต๊ะก็พากันหัวเราะผม รู้สึกราวกับตัวเองเป็นตัวตลกแฮะ...
“ แล้วแบบนี้พี่จะเปลี่ยนรสนิยมมาชอบ.. แบบนี้เลยรึเปล่าอะ คือมันดีกว่าผู้หญิงเหรอผมอยากรู้ “
ไอ้แน๊คนี่ก็อยากรู้อะไรไม่จบไม่สิ้นสักทีห๊ะมึง!
“ อย่างแรกนะ... มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศเลยที่พี่ชอบกันต์ ส่วนจะเปลี่ยนมั้ยมันไม่สำคัญแล้วล่ะ เพราะพี่จะไม่สนใจคนอื่นอีกแล้ว ”
“ ฮิ้ว!!!! “ ประสานเสียงกันทั้งโต๊ะเลยครับ เฮ้อ....
“ นั้นถ้ามีสาวสวยๆ มาจีบ พี่ก็ไม่สนอย่างนั้นดิ “ ไอ้เจมส์ถามบ้างครับคราวนี้
“ ใช่..”
“ แล้วถ้าเป็นผู้ชายล่ะ เฮียก็ไม่เอาอย่างนั้นเหรอ “
“ ใช่.. “
“ ผู้ชายแบบหุ่นเพรียวๆ อ้อนแอ้นๆ หน้าหวานๆ เฮียก็ไม่เอาดิ “ ตรงนี้ไอ้เรย์เสียงดังแบบตั้งใจสุดๆ ให้โต๊ะข้างๆ ได้ยินครับ แต่ถึงมันไม่เพิ่มเสียง เรื่องที่คุยกันเมื่อกี้นี้กลุ่มนั้นก็คงได้ยินกันหมดทุกประโยคอยู่แล้วล่ะ
“ ยิ่งไม่ใหญ่เลย.... นี่มึงไอ้เรย์.... กูไม่ได้เป็นเกย์นะเว้ยไอ้สัด! “
“ ชัดยังพวก!! “ ไอ้เรย์พูดเสียงดังขึ้นมาลอยๆครับ แต่ผมเข้าใจเจตนามันดีนะ เลวมากไอ้สัด!!
“ เข้าใจแล้วคร้าบ!!! “
แหมไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คนี่ก็รู้จังหวะซิทคอมดีจังนะพวกมึง เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยดีเชียว...