ส่งท้าย...
หลังจากนั้นพี่สนก็ยังคงติดต่อกับผมอย่างต่อเนื่อง เราโทรคุยกันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งในช่วงแรกมันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย เราต่างก็ยังคงมีความรู้สึกกระอักกระอ่วนกันอยู่บ้าง แต่สุดท้ายความรู้สึกของเราก็เริ่มเข้าที่ จนเรารู้สึกสบายใจที่จะคุยกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม และความสัมพันธ์ของเราสองพี่น้องที่พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ก็ทำให้พี่ฟ้าดีใจมากเช่นกัน นอกจากนั้นมันยังส่งผลทำให้ชีวิตสังคมของผมดีขึ้นอีกด้วย เพราะนอกจากผมจะกลายเป็นคนที่มีความสุขขึ้น ผมยังรู้สึกสบายใจที่จะเปิดใจให้กับผู้คนรอบข้างมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รักบอกผมว่า บางทีมันอาจจะเป็นเพราะในที่สุดผมก็ได้ระบายความอัดอั้นที่เก็บซ่อนไว้ในใจออกไป แต่ผมรู้ดีว่าเขาต่างหากที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้ผมเป็นผมอย่างในทุกวันนี้
เมื่อวันเกิดของผมมาถึง ผมก็ได้รับเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตจากรัก เขาพาผมไปยังร้านอาหารโปรดของเรา ซึ่งที่นั่น เขาได้เชิญพี่ฟ้ากับสามี และพี่สนกับผู้ชายอีกคนที่ผมไม่รู้จักมาด้วย พี่สนแนะนำผู้ชายคนนั้นว่าเป็นแฟนของเขา ชื่อ เอก เขาสองคนคบกันได้สี่เดือนแล้ว เย็นเรานั่งคุยและกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข นั่นคือเซอร์ไพรส์วันเกิดครั้งแรกในชีวิตของผม มันทำให้ผมดีใจมาก แต่เมื่อเรากลับบ้าน รักก็ทำให้ผมต้องประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อเขาบอกผมว่าเขาตัดสินใจที่ปล่อยบ้านของเขาออกให้เช่า โดยที่ถ้าหากผมอนุญาต เขาจะขอย้ายเข้ามาอยู่กับผมอย่างถาวร
เมื่อเขาพูดจบ ผมก็กระโดดเข้าไปกอดเขา ทำเอาเราล้มลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นห้อง แน่นอนว่าผมต้องเห็นด้วยและอนุญาตอยู่แล้ว! เขาบอกผมว่าคนที่อยากจะมาเช่าอยู่ก็คือ โต๋ เพื่อนของเขาคนที่เคยช่วยขนของเมื่อวันที่เขาย้ายเข้ามาวันแรก เพราะโต๋กำลังจะแต่งงานกับแฟนของเขาที่เพิ่งตั้งท้อง พวกเขาจึงอยากจะขยับขยาย และรักเองก็อยากจะช่วยเหลือเพื่อนของตัวเองด้วยเช่นกัน
“ตอนแรกพี่คิดว่ารักจะไม่อยากย้ายออกจากบ้านของตัวเองซะอีก” ผมถามเขา
“ก็จริงนะครับ ผมก็ไม่อยากจะย้ายออกจริงๆ นั่นแหละ บ้านหลังแรกของผมนี่นะ ลึกๆ ผมก็รู้สึกเสียดายมันอยู่เหมือนกัน”
“อ้าว งั้นแน่ใจเหรอว่าตัวเองอยากจะมาอยู่กับพี่จริงๆ น่ะ”
เขายิ้มกว้าง “แต่ผมก็ไม่ได้ย้ายออกจาก ‘บ้าน’ ของตัวเองสักหน่อยนี่ ที่จริงต้องบอกว่าผมกำลังจะ ‘ย้ายเข้า’ มาอยู่สถานที่ที่ตัวเองเรียกว่าบ้านจริงๆ อย่างเต็มปากมากกว่า”
คำพูดของเขาทำให้ผมต้องยิ้มออกมา “พี่เองก็อยากให้รักย้ายเข้ามาอยู่กับพี่ตั้งนานแล้ว แต่พี่ไม่อยากจะบังคับรัก”
“ผมเองก็อยากจะย้ายเข้ามาอยู่กับพี่ที่บ้านของเรานี่นานแล้วเหมือนกันนั่นแหละครับ แต่ผมไม่อยากปล่อยบ้านหลังนั้นไว้เฉยๆ พี่เก้าเองก็รู้ว่าเวลาผมต้องนอนคนเดียวในบ้านหลังนั้นน่ะ ผมเหงาขนาดไหน” เขาทำเสียงอ้อน
“พี่ก็เหมือนกัน”
“สำหรับผม คำว่า ‘บ้าน’ มันไม่ใช่แค่ตัวสิ่งก่อสร้างหรอกนะครับ แต่คือ ‘คน’ ที่อยู่ด้วยต่างหาก คนที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น รู้สึกอยากจะกลับมาเจอ อยากกลับมานอนกอด และอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยทั้งชีวิต... ถ้าหากมีคนๆ นั้นแล้วล่ะก็ ผมก็ไม่แคร์แล้วล่ะว่าจะต้องอยู่ที่ไหน”
“เหรอครับ... แล้วเจอคนๆ นั้นรึยังล่ะ”
“เจอมานานแล้วล่ะครับ และผมก็จะไม่ปล่อยให้คนๆ นั้นหนีผมไปไหนแน่นอน!” เขาพูดพลางกำชับวงแขนที่กอดผมอยู่ให้แน่นขึ้น “สุขสันต์วันเกิดนะครับ คุณหมอก้าวตะวันของผม”
ผมที่เขินจนไม่รู้จะตอบเขาไปอย่างไรได้แต่นอนยิ้มและคิดขอบคุณฟ้าที่ส่งผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิตของผม เขาคือผู้ชายที่งดงามที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา เขามอบความกล้า ความสุข และความสดใสให้ชีวิตของผมที่เคยแห้งแล้ง เขาคือพลังที่ขับเคลื่อนผมให้สามารถลุกออกไปทำงานและเจอผู้คนได้อย่างมีกำลังใจ ไม่เคยมีเลยสักวันที่ผมจะไม่คิดถึงเขาและสิ่งดีๆ ที่เขานำพาเข้ามาสู่ชีวิตของผม ต่อจากนี้ไป เตียงนอนของผมจะไม่ต้องว่างเปล่าอีกแล้ว และบ้านของผมก็จะกลายเป็นครอบครัวเล็กๆ ของสองเรา ที่จะคอยเติมความชุ่มชื้นและความอบอุ่นให้แก่หัวใจของผมไปตราบนานเท่านาน
ลักษณ์ธิสุทธิ์... สุดที่รักของผมแค่เพียงคนเดียวจากวันนี้และตลอดไป
จบ