บทที่8
KIN’S PART
“ไอเหี้ยคิน เมาปุ๊นหรอวะ? ช่วงนี้มึงดูอารมณ์ดีหนัก” ไอโต้งทักผม
“อะไร กูเปล่า” ผมยิ้ม
“ยังงายยย ยังไง กูเห็นตั้งแต่กลับมาจากค่ายสร้างนี่มึงยิ้มบ่อยชิบหาย”
“มึงคิดไปเอง”
“ควาย ทำงุบงิบ”
ผมอารมณ์ดีจริงๆครับ เมื่อเช้าผมเจอไอซีใต้หออีกแล้ว จริงๆใช้คำว่าเจอก็ไม่ถูก ผมรู้อยู่แล้วว่าวันนี้มันมีเรียนกี่โมง ผมแค่จงใจ”บังเอิญ”เจอมันใต้หอ แล้วขอซ้อนมอเตอร์ไซค์มันเข้ามหาลัยมาด้วยพอดี
ผมไม่ปฎิเสธ ว่าการไปค่ายทำให้ผมชอบมันมากขึ้น ยิ่งรู้จักมัน ยิ่งรู้ว่ามันเป็นคนใจดี มองโลกในแง่ดี.....แต่ละวันในค่ายมักมีเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายอย่างฝนตก ปูนไม่แห้ง เพื่อนทะเลาะกัน ฯลฯ แต่มันสามารถหาข้อดีในสถานการณ์ที่น่าเบื่อหรือเลวร้ายที่สุดได้อย่างไม่ยากเย็น
ไอซีมันพิเศษจากคนอื่นๆตรงที่มันพร้อมจะเข้าใจทุกคน ใครอยู่ใกล้มันก็สบายใจ ผมเป็นตัวของตัวเองเวลาได้อยู่กับมัน...มารู้ตัวอีกทีผมก็เสพย์ติดความรู้สึกดีเวลาได้คุยกับไอซีไปซะแล้ว
ที่ผ่านมาผมไม่เคยรักใคร แต่ถ้าจะลองรักใครซักคนดู....
ผมก็อยากให้คนนั้นเป็นไอซี.....
.
.
(17.56)
KIN: มึงอยู่ไหน?
Z: เสือก
KIN: กินข้าวยัง?
Z: มึงจะเลี้ยง?
KIN: กูกินเหลือ
Z: มึงอยู่ไหน?
KIN: เสือก
Z: กวนตีนกูละ
KIN: ร้านข้าวใต้หอ
Z: กูอยู่ตึกเสดสาด ไม่เกิน10นาทีไปหา
KIN: เออ
มันไปทำไรตึกเศรษฐศาสตร์วะ....แต่ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจ ไอซีมันรู้จักคนเยอะ ทำกิจกรรมก็เยอะ คงไปทำธุระอะไรซักอย่าง
.
.
“พี่ซีมาแล้วครับ กินข้าวคนเดียวเหงาหรอครับคุณเดือน” มันเดินยิ้มกริ่มมาเลย
ผมกำลังจะยิ้มกลับให้มัน แต่เห็นธุระของมันจากเศรษฐศาสตร์เดินตามมาซะก่อน ไอซีเองก็คงจะเห็นผมชะงักไป มันเลยรีบพูด
“เออ รินมากินด้วยนะ วันนี้ไอเปิ้ลกลับบ้าน รินอยู่ห้องคนเดียว”
“อ่อ อืม...”
ถ้าจะให้ผมเปรียบมันกับอะไรซักอย่าง ผมคิดว่าไอซีก็เหมือนกับดาวบนฟ้า มันสว่างไสว สบายตาสบายใจจนใครๆก็ชอบมัน มันเองก็ส่องแสงตอบรับทุกคน ผมอิจฉามัน........แต่ผมก็ชอบมันด้วย
.
.
.
โชคร้าย...ที่ดูเหมือนจะไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดแบบนั้น
“เดี๋ยวกูไปส่งรินก่อนนะ” ไอซีบอกผมหลังจากกินข้าวเสร็จ
“อืม”
ผมรู้ว่าวันนี้ผมทำตัวไม่มีเหตุผล รินพยายามชวนคุย ผมก็ตอบไปแกนๆแทบจะไม่พูดไม่จา เพราะผมไม่รู้จะพูดอะไรดี ที่จริงผมไม่อยากทำตัวงี่เง่าแบบนี้หรอก มันไม่ใช่ผมเลย แต่ไม่รู้ทำไม พอเป็นเรื่องไอซี ทุกอย่างก็เหมือนจะเป็นข้อยกเว้นไปซะหมด
ผมเดินขึ้นห้องมานั่งเกากีตาร์เล่นคนเดียว จะว่าเศร้า? ผมก็ไม่เศร้านะ จริงๆผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่รินชอบไอซี เรื่องนี้ผมรู้ตั้งแต่วันแรกๆที่ไปค่ายด้วยกันแล้ว แต่การต้องมานั่งกินข้าวพร้อมมันกับรินแบบนี้....มันเป็นอารมณ์หน่วงๆในอก เซ็งๆนิดหน่อยเท่านั้น....มั้ง....ก็ผมจะไปมีสิทธิรู้สึกอะไรมากกว่านี้หละ....
(19.20)
Z: กูส่งรินเสร็จละ
: โทดที เมื่อกี๊กูก็ลืมนึก ว่าอยู่ๆมึงชวนกินข้าวนี่มึงมีเรื่องอะไรจะปรึกษากูรึเปล่า
KIN: เปล่า
Z: มึงเป็นไร? ทำไมดูเครียด? ตั้งแต่ตอนกินข้าวแล้ว
:กูขึ้นไปหามั้ย?
KIN: กูหายละ
Z: คือมึงขี้ออกแล้วหรอ?
KIN: ขี้พ่อง มีคนทำให้กูเซ็ง แต่เมื่อกี๊มันทำกูหายเซ็งละ
Z: เออ งั้นกูไปละ
KIN: กูหายเซ็ง แต่กูเบื่อแทน มึงขึ้นมานั่งเล่นห้องกูมั้ย เดี๋ยวกูลงเพลงใหม่ให้
Z: ควาย เอาเพลงล่อ กูไม่ใช่เด็กนะ
: เดี๋ยวกูขึ้นไป
ผมว่าผมเจอปัญหาใหญ่แล้วครับ ความรู้สึกที่ผมมีให้ไอซี มันมากขึ้นทุกทีที่ผมเจอมัน ผมไม่อยากรักใครแบบที่พ่อรักแม่ แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้วจริงๆ ไอซีก้าวข้ามประตูทุกบานที่ผมพยายามปิดเอาไว้ มันเข้ามาได้ง่ายๆ โดยที่มันเองก็คงจะไม่ได้ตั้งใจ....
แต่ในขณะเดียวกันผมก็กลัว....ผมกลัวที่จะต้องเจ็บ ผมยิ่งกลัวมากขึ้น เวลาที่ผมมองตามันนานๆสายตาไอซีไม่ได้ลึกลับหรือดำสนิท ตรงกันข้าม ตามันใสแจ๋ว...
ไม่ได้ใสเหมือนแก้ว แต่มันใสเหมือนกระจกเงา...กระจกเงาที่พร้อมจะสะท้อนทุกอย่างกลับมา
มันเหมือนจะเข้าหาง่าย แต่ไม่มีอะไรเข้าถึงใจมัน....ผมไม่มั่นใจว่ามันจะรับรู้ความรู้สึกของผมที่มีต่อมันรึเปล่า
ปล. ตอนนี้มาเป็นพาร์ทคินสั้นๆก่อนนะคะ
ปล.2 ขอบคุณทุกคอมเม้นเหมือนเดิมนะคะ *กราบแนบอก
ปล.3 ไม่ต้องกลัวม่าเน้อ คนเขียนแต่งม่าไม่เก่ง(แต่อาจจะมีนิดๆ สปอย55555) แต่งเอ็นซีก็ไม่เก่ง (จริงๆแล้วไม่เก่งอะไรเลย 555) แต่ความสัมพันธ์คู่นี้มันจะไปช้าๆแบบนี้แหละค่ะ ต้องเข้าใจธรรมชาติของคินกับซีด้วย ว่าสองคนนี้ค่อนข้างรักคนยากนิดนึง แถมซีก็ไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนด้วย คินรุกมากเดี๋ยวไก่ตื่น 5555