บทที่ 28 จิตใจของป้ากับความจริงที่ถูกเปิดเผยหลังจากที่ผมให้เงินป้าเสร็จ ป้าแกก็ขอส่งผมเท่านี้แกบอกว่าเดินต่อไม่ไหวเหนื่อย ผมจึงเดินไปคิวรถสองแถวคนเดียว เมื่อถึงสะพานลอยที่จะข้ามไปฝั่งคิวรถผมเจอ กร กลุ่ม 6 เดินสวนมาพอดี
“อ่าวกร” ผมทัก
“อ่าว...ว่าไง” กรทักกลับ
“เออเห็นอาจารย์จงบอกว่ามึงทำโปรเจคหัวข้อเดียวกับกูเลยใช่ปะ”
“ใช่ๆ เครื่องช่วยฟังพร้อม MP3 ใช่ไหมละ”
“ใช่ๆ แล้วหาเครื่องเล่น MP3 ได้มั้งยัง”
“ยังเลยเนี่ย ว่าจะเข้าไปหาดูตามตลาด”
“หรอๆ งั้นฝากด้วยดิได้ปะ”
“ได้ๆ”
“เท่าไหร่อะ ต้องให้เงินเลยปะ”
“ใจเย็นๆ ไว้เจอก่อนเดี๋ยวซื้อมาให้แล้วค่อยเก็บเงิน”
“โอเคๆ ขอบใจมาก” พูดจบก็ต่างคนต่างเดิน ผมก็เดินขึ้นรถสองแถวกลับบ้านไป
ขอพูดถึงกรอีกรอบนะครับ แต่เหมือนจะเคยพูดถึงไปแล้วแหละ คือกรเป็นผู้ชายตัวขาวหน้าตาน่ารักออกไปทางผู้ชายหน้าหวาน บุคลิกภายนอกเหมือนผู้ชายตุ้งติ้งพูดง่ายๆน่าจะเป็นเหมือนเกย์รับอะไรประมาณนี้อะครับ
.
.
.
.
.
หลังจากวันนั้น ผมก็เข้าไปหอน๊อตเช่นเคยเหมือนทุกวัน ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าป้าเริ่มแปลกๆ แกชอบหายออกไปข้างนอกแล้วเรียกเพื่อนออกไปหาแกทีละคน พอคนนี้เข้ามาก็จะมาบอกให้อีกคนเดินออกไป คนที่ไม่โดนเรียกเลยน่าจะเป็นบิ๊กคนเดียวเพราะบิ๊กกับป้าไม่ค่อยสนิทกัน ส่วนเรื่องเงิน 500 บาท ผมไม่เคยทวงแกเลยมีแต่แกบอกว่าให้รอก่อนอีกไม่กี่วันก็จะได้แน่นอน อีกอย่างช่วงพักหลังมานี้ตันไม่ค่อยไปเรียนด้วย ส่วนป้าแกก็ไม่ไปทำงานนานมากแล้ว ไม่รู้ว่าแกโดนไล่ออกแล้วหรือยัง
ระหว่างทางบิ๊กชวนผมคุยเรื่องป้า ว่าป้าแกทำตัวแปลกๆ ไม่น่าไว้ใจ ผมเองก็พูดเรื่องนี้กับบิ๊กเหมือนกัน รวมถึงเรื่องที่ป้าขอยืมเงินผมด้วย บิ๊กยังบอกผมด้วยว่าคนชื่อ “แอน” อาจจะไม่มีตัวตนก็ได้ แอนตัวจริงคงเป็นป้าคนนั้นแหละ เพราะจากที่สังเกตป้าแกก็ทำตัวไม่เหมือนเป็นป้าจริงๆอะครับ มันเกิดป้าไปแล้วมันเหมือนพวกผู้หญิงที่ใช้เงินเลี้ยงเด็กผู้ชายอะไรประมาณนี้ ส่วนแอนนั้นก็คงเป็นนามสมมุติที่ใช้ลอกคนอื่นๆ เพื่อปิดบังตัวเอง เรื่องนี้คงมีแค่ตันกับป้าที่รู้กันอยู่สองคนแน่นอน แต่เรื่องที่ตันไม่รู้อาจจะเป็นเรื่องที่ป้ายืมเงินผม เพราะถ้ารู้ตันคงเลิกยุ่งกับป้าแน่ๆเพราะไม่มีเงินเลี้ยงแล้ว
อันนี้ผมคิดของผมเองนะครับ และบิ๊กยังเล่าอีกว่าป้าเคยเรียกบิ๊กไปคุยอยู่ครั้งนึงประว่ามาณ “เมื่อกี้ป้าคุยกับชัย ชัยบอกว่าไม่ชอบบิ๊ก” คือพูดง่ายๆนะครับ เวลาที่ป้าแกเรียกใครออกไปถ้าไม่พูดยุแยงให้แตกกัน ก็จะเป็นเรื่องยืมเงินนี่แหละ บิ๊กก็เคยโดนยืมเงินไป 300 บาท แล้วไม่คืนด้วย เมื่อรู้แบบนี้บิ๊กก็บอกกับผมว่าให้อยู่ห่างๆแกไว้เป็นดี หลังจากที่บิ๊กมาส่งผมที่บ้าน ผมก็โดนแม่สวดยับเหมือนเดิม
วันต่อมาน๊อตถามผมว่า “ไปพูดอะไรกับบิ๊ก” ผมก็งงน๊อตเลยเล่าว่า “เมื่อคืนหลังจากที่บิ๊กกลับมาถึงห้องก็เก็บของเดินออกนอกห้องไปเลย” น๊อตก็ถามว่า “จะไปไหน” บิ๊กไม่ยอมบอก บอกแค่ว่า “เป็นอย่างที่คุยไว้กับไอ้อินเลย” พวกนั้นจึงสงสัยและโทรหาผมทั้งคืน ถ้าผมจำไม่ผิด 36 สาย แต่ผมไม่ได้รับเพราะเวลานอนผมจะปิดเสียงตั้งสั่นเอาไว้ ผมก็อธิบายไปประมาณว่า “ไม่มีอะไรนะกูไม่ได้พูดอะไรเลย อีกอย่างที่ไม่ได้รับสายเพราะกูตั้งสั่นเอาไว้” แต่เหมือนไม่มีใครเชื่อ มันก็จริงแหละครับใครจะไปเชื่อ จากนั้นพวกน๊อต ชัย มั่น และตัน ก็ไม่ค่อยพูดคุยกับผมอยู่ 2-3 วัน ผมตามตื้ออยู่ 1 วัน กว่าจะกลับมาคุยด้วย แล้วผมก็ยังกลับไปที่หอน๊อตนะครับผมหักห้ามใจจากตันไม่ได้จริงๆ แต่การไปในแต่ละครั้งนั้นผมระมัดระวังตัวจากป้ามากขึ้น
ส่วนบิ๊กหลังจากวันที่หนีออกจากหอวันต่อมาก็ไม่มาเรียน โพล่มาทีก็อีกวันเลยพวกน๊อตถามว่าไม่ค้างที่ไหนก็ไม่ยอมบอก เวลาเลิกเรียนบิ๊กจะหายตัวไปไวมากครับ
.
.
.
.
.
.
วันนี้หลังเลิกเรียนพวกผมนัดกันไปเดินเล่นห้างในเมือง
“เฮ้ย กูถามจริงเถอะ มันมีอะไรหน้าเดินว่ะ เดินมา 3 ปีแล้ว ไม่เบื่อกันหรือว่า 555+” บาสพูด
“เอออัยเอี้ย ไอ้เอื่ออันอื๋อไออ๊ะ” แรกพูด ประมาณว่า เออไอ้เหี้ยไม่เบื่อกันมั้งหรือไงว่ะ
“เออน่ามาดูสาวๆ” น๊อตพูด
เราเดินขึ้งมาชั่งที่ชั้น 2 มันจะมีม้านั่งวางให้คนเดินห้างนั่งครับ
“เฮ่ยๆมึงดูดิคนนี้แม่งแจ่มว่ะว่ามะ” มั่นชี้สาวให้ เพื่อนๆดูแต่คุยกันอยู่เงียบๆนะครับไม่ให้เขารู้ตัว
“ไหนๆคนไหน” ตันร่วมด้วย
ผมนั่งรอเพื่อนๆนั่งเหล่สาวกันอยู่สักพักก็มีกลุ่มสาวอาชีวะกลุ่มนึงเดินมา
“เฮ่ยกูชอบคนนี้ว่ะ” ตันพูด ผมฟังอยู่เงียบๆ
“มึงก็ไปขอเบอร์ดิว่ะ อย่าให้เสียโอกาสไอ้สัส” น๊อตพูด
“ไอ่ห่ากูไม่กล้าว่ะ น๊อตมึงขอให้กูทีดินะนะ เดี๋ยวกูเลี้ยงเบียร์เลยคืนนี้ที่หอมึง” ตันขอให้น๊อตช่วย จากนั้นน๊อตจึงลุกเดินไปขอเบอร์สาวอาชีวะคนนั้น เขาก็ให้มาพร้อมบอกชื่อด้วย
ตอนนั้นใจผมกระจ่างขึ้นมาเลยครับ เข้าใจเลยว่ายังไงตันก็ไม่มีวันมาชอบผมหรอก ตันเป็นผู้ชายแท้ๆ ผมไม่จำเป็นต้องรอฟังคำตอบจากปากตันด้วยซ้ำว่าตันชอบผมหรือไม่ เพราะสิ่งที่เห็นมันก็ตอบผมได้อย่างชัดเจน ถ้าตันชอบผมจริงๆตันคงไม่ไปเหล่สาว และให้น๊อตไปขอเบอร์สาวเพื่อหักหาญน้ำใจผมอย่างแน่นอน ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ผมลุกออกจากที่นั่งบอกเพื่อนๆว่า “กูกลับก่อนนะ” พูดจบ เหมือนเพื่อนๆไม่ได้สนใจอะไรผมเท่าไหร่ ผมจึงเดินลงบันไดเลื่อนกลับบ้านทันที ระหว่างทางกลับบ้านเสียใจอยู่ตลอดทาง แต่แปลกที่ผมไม่เคยเสียน้ำตาให้กับตันเลย หรือมันยังไม่ถึงที่สุดก็ไม่รู้นะครับ
กลับมาถึงบ้าน ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง เกี่ยวกับป้าคนนั้นกับตันรวมถึงเรื่องที่ผมโดนยืมเงิน 500 บาท แล้วไม่คืนด้วย ทีแรกผมก็คิดว่าแม่จะโกรธผมแต่สุดท้ายแม่กลับสอนผมให้ทันคน ส่วนเงิน 500 บาท แม่ผมยินดีจ่ายชดเชยค่ากิจกรรมให้ แม่บอกว่า “ถือว่าซื้อบทเรียนสอนลูกก็แล้วกัน” และแม่ก็สั่งห้ามไม่ให้ผมไปหอน๊อตอีกด้วย
วันต่อมาเวลาที่ผมเจอตันผมจะไม่คุยกับตัน ตันชวนผมคุยบ่อยมากแต่ผมก็เงียบไม่มองหน้าไม่อะไรทั้งนั้น จนตันเริ่มโมโห ผมจำได้แม่นมากตันพูดว่า “มึงเป็นอะไรว่ะ กูไปทำอะไรให้มึงไม่พอใจมึงก็บอกกูดิว่ะ” ตันพูดแบบอารมณ์เสียสุดๆ แต่ผมก็ไม่สนใจอะไรนั่งเงียบๆอย่างเดียว จนสุดท้ายตันก็ไม่คุยกับผมเหมือนกัน
ต่อมาน๊อต ชัย และมั่น มาปรึกษาผมเรื่องป้าคนนั้น คุยกันไปคุยกันมาพวกน๊อตก็โดนเหมือนผมกับบิ๊กเลยครับ ทุกคนจึงวางแผนหาทางให้ป้าคนนั้นออกจากหอน๊อตไป เพราะป้ากับตันมาอยู่นานแล้วไม่ช่วยออกค่าห้องค่าน้ำค่าไฟเลย และป้าก็ดูเป็นตัวอันตรายไปแล้วด้วย
เวลาผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ใกล้จบ ปวช.3 ขึ้นมาทุกที ทุกคนวุ่นกับโปรเจคมากๆ ผมเองก็เช่นกัน กลุ่มผมมี ผม แรก น๊อต พูดถึงวิชาเรียกในแผนก ช่วงนี้ตันไม่ค่อยมาเรียน จนอาจารย์ถามว่า “ตันหายไปไหนมีปัญหาอะไรที่บ้านหรือป่าว” ผมจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้อาจารย์ฟังเกี่ยวกับตันและป้าคนนั้น อาจารย์จึงประสานไปที่อาจารย์บุญทัน จากนั้นอาจารย์บุญทันก็โทรไปบอกแม่แท้ๆของตัน
ตกดึกมีคนโทรมาหาผม
“ฮาโหล......” ผมตอบตันอย่างไม่อย่างตอบ
“อินนี่ตันเองนะ ตันรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับป้าแล้วละ ขอโทษนะที่โกรธอินเรื่องที่ไม่คุยกับตันหนะ” ตันพูด จริงๆแล้วที่ผมไม่คุยกับตันสาเหตุคือผมเสียใจอกหักจากตันก็เท่านั้น แต่ผมขี้เกียจจะอธิบายเลยปล่อยไปตามนั้น
“อืม ไม่เป็นไรหรอกตัน”
“ตอนนี้ตันอยู่กับพวกน๊อตนะ กำลังจะไปบ้านมั่นเพื่อปรึกษาพ่อแม่ของมั่นว่าจะรับมือป้ายังไง”
“อ๋อ”
“เดี๋ยวตันเข้าไปรับอินนะ”
“โอเคๆ” พูดจบก็วางสายไป
คืนนั้นผมรอตันมารับอยู่บนห้อง แต่ตันก็ไม่มาสักทีผมมองไปข้างหน้าต่างเห็นรถกระบะตันขับมาจองหน้าบ้าน แล้วก็ขับออกไปคงเพราะเกรงใจไม่กล้าเรียกผมละมั้งครับ เพราะตอนนี้พ่อแม่ผมปิดไฟน้องกันหมดแล้ว เมื่อเห็นรถตันขับออกไปผมก็เลยนอนหลับดีกว่า ก่อนนอนผมเปิดเสียงมือถือไว้เผื่อตันโทรมา
กลางดึกมีคนโทรมา ผมดูชื่อคนโทรเข้าสรุปว่าป้าโทรมาครับ ผมจึงกดรับสายไป ป้าโทรมาร้องไห้พร้อมกับต่อว่าผมต่างๆมากมายเกี่ยวกับที่ผมเอาเรื่องป้าไปบอกอาจารย์ ทำให้อาจารย์ไปบอกแม่ของตัน แล้วทำให้ตันหนีออกจากหอน๊อตไป ตอนนี้ยังไม่กลับ แต่ผมรู้อยู่ในใจแล้วละครับที่พวกนั้นไม่กลับกันเพราะไปปรึกษาพ่อแม่ของมั่นเพื่อหาทางรับมือป้าคนนี้ ต่อว่าผมอยู่สักพักแกก็วางสายไป แล้วบิ๊กก็โทรมา บิ๊กบอกว่า “กูได้ยินทุกอย่างเพราะกูอยู่หอเพื่อนที่อยู่ตรงข้ามกับหอน๊อต ยัยป้าร้องไห้ว่ามึงเสียงดังกูได้ยินหมดเลย ไม่ต้องคิดมากนะเพื่อนมันทำอะไรมึงไม่ได้หรอก” บิ๊กพูดจบก็วางสายไป ผมก็นอนหลับ
มันมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมาก แต่ผมขอสรุปที่จะปมนะครับ
- ปมที่ 1 บทที่ 25 “ความรู้สึกของคนไม่ใช่ของเล่น” ตอนที่ตันถูกมิ้งหักอกแล้วขึ้นมานอนบนเตียงกับผมจะมีช่วงที่ป้าแกกดโทรศัพท์ แล้วที่มิ้งโทรมาหาตันเป็นเพราะป้าแกปั่น แกส่ง SMS ไปหามิ้งแต่ผมจำไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนั้นพวกชัย นอต มั่น แอบเอาโทรศัพท์ป้าแกมาเปิดดูตอนที่แกหลับตอนกลางคืนครับ มี SMS ที่ส่งถึงมิ้งเยอะมากๆ ชัยเล่าว่าเรื่องที่แกส่ง SMS หามิ้งไม่มีเหตุการณ์จริงเลยสักเรื่อง ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังครับ เช่น ตันไม่ได้ชอบมิ้ง แต่ป้าส่ง SMS ไปบอกมิ้งว่าตันชอบมิ้ง อะไรประมาณนี้ครับ แล้วเรื่องของคืนที่มิ้งโทรหาตันตอนที่อกหักนั้นป้าแกก็ปั่นให้มิ้งโทรไปหาครับ
- ปมที่ 2 บทที่ 27 “ทางที่ต้องเลือก” ตอนที่ป้ายืมเงินผมจริงๆแล้วป้าแกตกงาน เนื่องจากมาอยู่หอน๊อตเป็นเดือนๆ จนแกถูกไล่ออกแล้วก็ไม่มีเงินมาเลี้ยงตัน คงกลัวว่าตันจะหนีหายไปจากแกมั้งครับ แกจึงยืมเงินเพื่อนผมแทบทุกคนเลย ชัยก็ด้วยตอนที่ผมกำลังจะกลับบ้านแล้วชัยเดินเข้ามาให้ผมหยิบ ATM ให้มัน มันมาเล่าตอนหลังว่าป้าแกขอยืมเงินแต่ห้ามบอกใคร แกก็อ้างเรื่องตันติดปัญหานู้นนี่นั่น จริงๆแล้วเป็นที่ตัวแกเองทั้งนั้นครับ
- ปมสุดท้าย ทุกตอนที่ตันคุยโทรศัพท์กับคนที่ชื่อ “แอน” จริงๆแล้วแอนไม่มีตัวตนแอนตัวจริงก็คือ “ป้า” แกนั่นแหละครับ ปมนี้ผมและเพื่อนๆคุยกันแล้วตอนนั้นว่าป้ากับตันต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งออกแนวชู้สาวครับ คงประมาณว่าป้าแกเป็นเจ็เลี้ยงเด็กอะไรประมาณนี้ครับ ส่วนตันก็ยังวัยรุ่นอยู่มีคนเอาเงินมาให้มาเปย์ก็คงชอบไม่ใช่น้อย ผู้อ่านทุกท่านสังเกตทุกตอนที่ตันคุยโทรศัพท์ป้าแกจะไม่อยู่ในห้องครับ แกจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแล้วอ้างว่าคุยกับเพื่อนทุกครั้งแกคงคิดว่าพวกผมเป็นเด็กหลอกง่ายมั้งครับ ส่วนเบื้องลึกเบื้องหลังเขาเคยมีอะไรกันไหมเรื่องนี้ไม่มีใครรู้จนถึงทุกวันนี้ครับ เพราะไม่มีใครอยากพูดถึงมันอีก
ผมขอสรุปเรื่องป้าเลยนะครับ หลังจากวันนั้น ป้าก็ทั้งโทรทั้งส่งข้อความมาหาผมมากมาย แต่ผมไม่รับอะไรทั้งนั้น สุดท้ายผมรำคาญจนต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ และป้าแกก็หายไปจากชีวิตของผม จากนั้นแกก็ออกจากหอน๊อตไป
ส่วนมิ้งนั้นผมฟังจากชัยเล่าให้ฟังเขาเป็นผู้หญิงขี้อ่อยทุกท้ายแล้วเขาก็ได้กับเพื่อนผมทุกคน น๊อต มั่น ชัย และบิ๊ก ส่วนตันนั้นชัยไม่ได้พูดถึง และผมยังทราบจากบิ๊กอีกว่าบิ๊กเคยชอบมิ้งมาก่อนที่มิ้งจะเจอกับตันเสียอีก สักเกตใน บทที่ 24 “หึงหวง” ตอนที่ตันโทรมาชวนบิ๊กไปหน้าศาลแล้วบิ๊กทำอารมณ์เสียบอกว่าไม่ไปไม่ค่อยสบายแล้วส่งผมไปแทนนั่นแหละครับ ผมได้รู้จากปากบิ๊กเองนี่แหละว่าบิ๊กเคยชอบมิ้งมาก่อน แต่มาโดนมิ้งหักออกไปเล่นกับตัน
หลังจากนั้นทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ จากเหตุการณ์ที่เกิดนั้นทำให้เพื่อนๆทุกคนรักใคร่ปรองดองกันมากยิ่งขึ้น ก่อนจะถึงวันจบพวกบาสตั้งเฟสกลุ่มของพวกเราขึ้นว่า “My friends.. EN.3/4 ความทรงจำดีๆ ที่พวกเรามี แระจะมีกันตลอดไป” จนในที่สุดก็มาถึงวันที่ทุกๆคนรอค่อยนั่นก็คือวันรับใบประกาศนียบัตร
[วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2555]
ณ วิทยาลัยเทคนิคXXXX
วันนี้ทุกคนแต่งชุดนักเรียนเสื้อขาวทับในกางเกง อาจารย์บุญทันใส่ชุดครุย ป.โท ของมหาวิทยาลัยบูรพา ดูสง่ามากครับ ช่วงเช้าพวกเรากลุ่ม 3-4 ถ่ายรูปหมู่ที่หน้าพระวิษณุกรรม จากนั้นก็เดินถ่ายรูปเล่นกันจนถึง เวลา 13.00 น. ก็เข้าหอประชุม มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มอบใบประกาศ กลุ่ม 3 จบทุกคน กลุ่ม 4 มีจบแค่ ผม บาส แรก บิ๊ก น๊อต ตัน ส่วน โจ๋ โอ๊ต อาฟู่ และชัย ไม่จบเพราะไม่ส่งโปรเจค ในระหว่างพิธีรับใบประกาศนั้น ผมรู้สึกปวดท้องมาก ไม่ได้ปวดขี้นะครับ มันปวดบิดปวดมากๆ ผมนั่งทนจนเหงื่อหยุดเต็มตัวไปหมด แต่ผมไม่ได้บอกใคร จนกระทั่งพิธีทุกอย่างเสร็จทุกคนก็เดินออกจากหอประชุม ผมเดินไปที่แผนกเจอแม่และอุ้ม มายืนรออยู่ ผมจึงถ่ายรูปกับแม่และอุ้มที่หน้าแผนก จากนั้นก็ถ่ายกับอาจารย์บุญทัน และคนที่สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือตัน เรายืนถ่ายคู่กันที่หน้าแผนก ความปวดยังคงมีอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายผมจึงบอกแม่และรีบกลับ แม่บอกจะพาไปหาหมอผมก็โอเค ผมเดินขึ้นรถเมล์กับแม่และอุ้ม โดยไม่ล่ำลาเพื่อนๆเลย (แม่ไม่ได้เอารถมาเพราะพ่อเอาไปทำงาน)
ในระหว่างทางกลับผมนอนปวดท้องตลอดเวลารถเมล์ก็ขับช้ามากๆครับ กว่าจะถึงในเมืองเป็นชั่วโมงเลย พอมาถึงในเมืองแม่ก็รีบพาผมไปโรงพยาบาล สรุปว่าผมอาหารเป็นพิษลำไส้อักเสพหมอจ่ายยามา ผมก็กลับไปนอนพักผ่อนที่บ้าน นึกเสียดายนะครับวันจบทั้งทีไม่ได้อยู่กินเลี้ยงกับเพื่อนๆ เช้าวันต่อมาตันโพสต์หน้าไทม์ไลน์ผมว่า
[ตันโพสต์]
นายเมื่อวานไม่มากินหมูย่างว่ะนาย
[ผมตอบ]
หลังจากออกจากเทคนิคก็แวะไปโรงพยาบาล กระเพาะอักเสบอะปวดมาก ปวดตั้งแต่ในห้องประชุมแล้ว (T^T)
[ตันตอบ]
อ่าวแร้วไม่บอกจะได้บอกอาจานให้
[ผมตอบ]
อ๋อไม่เป็นไร
[จบการคอมเม้นท์]
หลังจากวันนั้นความรู้สึกของผมที่มีให้ตันมันก็ยังคงเดิมอยู่ มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานอย่างบอกไม่ถูก กินไม่ค่อยได้นอนไม่ค่อยหลับ การตัดใจจากใครบางคนมันยากมากเลยนะครับ แม่เห็นผมเป็นแบบนั้นก็สงสัยแต่ผมก็บอกแม่ว่า “ผมไม่ได้เป็นอะไรแค่เบื่อๆไม่มีอะไรทำ” แม่จึงให้ผมไปเที่ยวหาเมย์ที่สมุทรปราการเผื่ออะไรมันจะดีขึ้น ครั้งนี้ผมได้ไปหาเพื่อนที่ ส.ป. ด้วย ยังจำเพื่อนผมที่ชื่อ เจ็สี่หรือว่าไหม ได้ไหมครับที่เขาปรากฏในบทที่ 2 พอดีช่วงที่ผมไปหาเมย์นั้นเป็นช่วงที่พวกเพื่อนที่ ส.ป. ที่ต่อ ม.4-6 ที่นั่นเขาได้ใบประกาศนียบัตรพอดีจึงได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย การได้เจอเพื่อนเก่ามันก็ดีขึ้นมานิดหน่อยตรงที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศให้เราได้ลืมเรื่องเศร้าได้บ้าง
จากนั้นผมก็มาอยู่กับเมย์หลายวันมาก เมย์คอยเทคแคร์ผมตลอดทั้งพาผมไปเที่ยวและพาไปหาอะไรอร่อยๆกิน เมย์บอกกับผมว่า “มันยิ่งใหญ่มาจากไหนว่ะ ทำไมถึงทำให้มึงเป็นได้ขนาดนี้ มึงตัดใจเถอะตันมันเป็นผู้ชาย” พูดเหมือนง่ายแต่ทำสิมันยาก ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจด้วยแหละครับ ทำให้ผมนึกไปถึงตอนใกล้จะจบการศึกษา ปวช. ผมมีโอกาสได้ขึ้นไปคุยปรึกษาปัญหาหัวใจกับอาจารย์สุชาติ อาจารย์บอกผมว่า “ไม่มีของมีค่าอะไรที่ไม่มีวันเสื่อมสลาย คนก็เช่นกัน อย่าไปยึดมั่นถือมั่นมันนัก เรายึดไว้มันถึงทุกข์ ปล่อยเมื่อไหร่ก็สุข” ผมยังจำคำของอาจารย์ได้จนมาถึงทุกวันนี้
จบภาค ปวช.
********************************************************************************************
ถึงผู็ติดตามอ่านทุกท่าน ใครที่ยังติดตามกันอยู่คอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจในการลงภาคใหม่ของผมด้วยนะครับ ผมลงหลายตอนมากเงียบมากเลยครับ ยังไงก็ขอขอบคุณผู้ติดตามอ่านทุกท่านนะครับ หลังจากนี้อาจจะนานหน่อยนะครับกว่าผมจะลง เพราะต้องไปนั่งระลึกชาติสมัยเรียน ปวส. ก่อนครับ
เนื้อเรื่องต่อจากนี้โปรดติดตามต่อในลิงค์นี้นะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69272.0