แถลงการณ์ ที่หายไปนานไม่ใช่เพราะอะไร บ้านนนี่กำลังเกิดการสร้างใหม่
ข้างล่างเสร็จแล้วเหลือข้างบนและห้องนนนี่ก็โดนปรับปรุงเป็นคนเรก
เลยต้องยกข้าวของทุกสิ่งอย่างไปไว้ข้างล่างโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์
ก็เลยเกิดการแต่งไม่ได้อะนะเพราะข้างล่างคนอยู่เยอะ
เสียงดังจากการซ่อมห้องด้วยก็เลยยังไม่ได้แต่ง
พอซ่อมห้องเสร็จก็ต้องไปช่วยงานบวชของลูกพี่ลูกน้องอีกก็เลยยังไม่มีเวลามาเขียนและลงให้
ต้องขอโทษทุกคนด้วยน้า
บทที่ 11
“ซี๊ดดดดดด……….โอ๊ย เบาๆหน่อยซิครับฟ้า”
เห้อ นี่แหละน้าอยู่ดีไม่ว่าดีอยากไปยั่วโมโหเค้าก่อนเอง
“ไม่ต้องมาบ่นเลยนะ ทำตัวเองแท้”
ย้อนกลับไปที่ร้านก๊วยเตี๋ยวยายไม้ หลังจากที่พี่วินัยบอกว่าจะมาหาหนู พอพี่แกมาถึงก็
“น้องฟ้า ครับไม่จริงใช่มั๊ยที่ชาวบ้านเค้าลือกันน่ะ” เอ่อคือจะตอบยังไงดีล่ะ
“จริงไม่จริง แล้วมึงเป็นใครมายุ่งอะไรกับเมียกู”
เอ่อหนูยังไม่ทันพูดอะไรเลยปกรณ์ก็พูดออกมาก่อนซะงั้น เป็นอย่างนี้อีกแล้วครับท่าน
“ไม่จริงเว๊ย น้องฟ้าเป็นแฟนกู”
แล้วหลังจากที่พี่วินัยพูดจบนั้นก็มีการใส่กันเกิดขึ้น
ปกรณ์วิ่งไปใส่หมัดพี่วินัยอย่างแรง แล้วหลังจากนั้นก็เกิดการตะลุมบอลกันอย่างรุนแรง
ชาวบ้านพากันแตกกระเจิงบ้างก็พากันมุงดูกันใหญ่
ดีที่พี่โชติอยู่แถวนั้นเลยช่วยหนูจับปกรณ์กับพี่วินัยได้
หนูเลยให้พี่โชติพาปกรณ์กลับบ้านไปก่อน
ซึ่งปกรณ์ก็ไม่ยอมแต่พอหนูส่งสายตาพิคาดไปให้ก็เลยยอมกลับไปแต่โดยดี
หนูอยู่เคลียร์กับพี่วินัย ซึ่งหนูก็เล่าความจริงให้พี่แกฟังกว่าพี่แกจะเข้าใจได้ก็นานพอสมควร
หนูบอกกับพี่เค้าว่าถึงเราจะไม่ได้เป็นแฟนกันแต่เราก็ยังมีความรูสึกดีๆให้แก่กันได้
หลังจากปรับความเข้าใจเสร็จ หนูก็เลยต้องมานั่งทำแผลให้กับคนเจ็บนี่แหละค่ะ
ดีนะแค่เจ็บนิดหน่อย ถ้ามีคราวหน้าอีกละก็น่าดู
………………………………………………………………
………………………………………………………………
………………………………………………………………
………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
ความสงบสุขมาเยือนอีกครั้งเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์
วันนี้ที่วัดมีการจัดงานวันสงกรานต์ด้วย
หนูกับปกรณ์ก็มาเล่นสาดน้ำกันส่วนมากจะเล่นกับพวกเด็กๆมากกว่า
ส่วนวัยรุ่นแค่เห็นหน้าปกรณ์ก็กลัวกันหัวหดแล้ว
หลังจากสาดน้ำกันจนเปียกปอนแล้วก็มีการ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
ซึ่งจะมีคนแก่ในหมู่บ้านแล้วก็พระสงฆ์มานั่งที่เก้าอี้เรียงกันเป็นแนวยาว
แล้วก็ให้เด็กๆรดน้ำกับผู้ใหญ่เดินรดทีละคนตั้งแต่คนแรกยันคนสุดท้าย
หลังจากนั้นก็ไปสงน้ำพระพุทธรูป พอสงน้ำเสร็จก็มีการแข่งขันเล่นเกมต่างๆ
อย่างเช่นชักเย่อ วิ่งกระสอบทราย ปิดตาตีปี๊บ แข่งกินแตงโม และสุดท้ายเตะบอล
หนูลงแข่งกับเค้าด้วยน้าวิ่งกระสอบทรายอะแต่สู้เด็กๆไม่ได้หรอกได้ที่สาม
เลยได้มาม่าเป็นของขวัญปลอบใจ ส่วนปกรณ์นี่เล่นแทบทุกอย่าง
ชักเย่อ วิ่งกระสอบทราย ปิดตาตีปิ๊บ แข่งกินแตงโม เตะบอล ซึ่งเค้าเล่นได้ทุกอย่างจริงๆ
เหมือนกับไม่เคยได้เล่น เออก็ไม่เคยได้เล่นนิหน่ายกเว้นบอล ได้ขนมมาเยอะแยะเลย
เสร็จกิจกรรมต่างๆที่วัดจัดขึ้นก็หกโมงครึ่งและท้องฟ้าเริ่มเป็นช่วงผีตากผ้าอ้อมและ
หนูและปกรณ์ก็เลยกลับบ้านกัน
………………………………………………………………
………………………………………………………………
………………………………………………………………
………………………………………………………………
………………………………………………………………
………………………………………………
จากวันนั้นจนถึงวันนี้หนูว่าหนูเริ่มมีความรู้สึกที่ดีๆให้กับปกรณ์มากขึ้น
ไม่เกลียดไม่กลัวเหมือนแต่ก่อนรู้สึกเป็นตัวเองทุกครั้งที่หนูอยู่กับปกรณ์
หนูว่าหนูรักเค้าแล้วละรักมากๆด้วย แต่การกระทำที่เค้าทำกับหนูต่างๆนาๆ
หนูก็ยังไม่ลืมยังจำอยู่ในใจแต่ก็ไม่คิดที่จะพูดถึงมัน มีเรื่องหนึ่งที่หนูกังวลใจก็คือ
เรื่องลูกกับเมียเค้า ถ้าหนูอยู่กินกับปกรณ์หนูก็ต้องเป็นเมียน้อยเค้า
แล้วคนในหมู่บ้านจะคิดยังไง ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าปกรณ์มีลูกมีเมียแล้วเค้าจะว่ายังไง
หนูคงถูกคนในหมู่บ้านตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยแย่งผัวชาวบ้าน
ซึ่งตัวหนูนี่ไม่เท่าไหร่แต่หนูห่วงความรู้สึกของพ่อกับแม่มากกว่า
ทุกวันนี้อีเมียหลวงยังโทรมาตามรังควานหนูอยู่เรื่อยๆแต่หนูก็ไม่อยากพูดอะไร
เพราะหนูเป็นเมียน้อยปกรณ์จริงๆเป็นความจริงที่หนูต้องยอมรับ
เค้าทั้งโทรมาด่าสารพัดพอหนูไม่รับสายก็ส่งข้อความมาขู่
เป็นอย่างนี้แทบทุกวัน อย่างเช่นวันนี้
หนูก็ได้รับข้อความจากคุณเมียหลวงอีกเช่นเคย
= ระวังตัวให้ดีอีกะหรี่ แย่งผัวชั้นไปกกแล้วอย่าหวังว่าจะได้สุขสบาย
ขอเตือนด้วยความหวังดี เลิกยุ่งกับผัวชั้นซะ อย่าหาว่าชั้นไม่เตือน =
หนูเริ่มรู้สึกถึงภัยคุกคามที่กำลังจะตามมาหาหนูในอีกละลอกใหญ่แล้วละค่ะ
หนูควรทำยังไงต่อไป เลิกกับปกรณ์เค้าคงไม่ยอมแน่นอน แล้วจะทำยังไงดี
หนูนอนกลุ้มอยู่ทั้งคืนจนนอนไม่หลับ ตื่นเช้ามาด้วยอาการที่ไม่สดใสเอาซะเลย
ความกังวลของหนูฉายชัดออกมาทางสีหน้าอย่างัดเจนจนคนเป็นแม่ถาม
“ฟ้า เป็นอะไรลูก มีเรื่องกลุ้มใจอะไรรึเปล่า” แม่พูรู้สึกน้ำเสียงแม่จะสั่นๆ
“ปล่าวหรอกแม่ หนูแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอะค่ะ” หนูพูดทั้งไม่ยอมสบสายตาแม่
“มีอะไรก็บอกแม่ได้ อย่าเก็บไว้คนเดียวนะลูก” แม่พูดไปด้วยลูบหัวหนูไปด้วย ทำให้หนูรู้สึกสบายใจมากขึ้น
“เออ แม่แล้วปกรณ์หล่ะค่ะ” เค้าหายไปไหนของเค้าแต่เช้า ตื่นมายังไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยไปไหนของเค้านะ
“ไปเอาข้าวสารที่โรงสีนะลูก ข้าวสารเราจะหมดแล้วแม่เลยให้พ่อเอาไปสีเมื่อสองวันก่อน นี่ก็ให้พ่อแกไปเอา
ปกรณ์เลยอาสาไปช่วยเพราะ พ่อแกแก่แล้วคงแบกมาไม่ไหว” แม่พูด
เห็นมั๊ยปกรณ์ทำให้หนูรู้สึกดีๆกับเค้าอีกแล้ว
เค้าเริ่มทำตัวดีมากขึ้นไม่เถลไถลเมือนแต่ก่อน มีน้ำใจกับพ่อแม่หนูมาก
ไม่เคยคิดรังเกียจคนจนๆอย่างหนูกับพ่อแม่เลย หนูตัดสินใจแล้วค่ะ
ยังไงหนูก็จะไม่ปล่อยผู้ชายคนนี้ไปเป็นอันขาดถึงหนูจะเป็นเมียน้อยเค้าก็ยอม
พ่อกับปกรณ์ยังไม่กลับหนูก็เลยออกมาเดินเล่นซะหน่อย
เช้าๆแบบนี้อากาศมันชั่งสดชื่นดีจริงๆ
หนูเดินของหนูไปเรื่อยด้วยความเพลินกว่าจะรู้ตัวก็เดินมาไกลจากบ้านมากโขเลยทีเดียว
แต่พอหันกลับ ไปเท่านั้นแหละ มีผู้ชายสามคนยืนยิ้มอยู่ข้างหลังหนูท่าทางไม่น่าไว้ใจ
พอหนูจะเดินผ่านเท่านั้นแหละมันก็มาดักทางไมไห้หนูเดิน
หนูเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
แต่พวกมันก็ใช้กำลังต่อยสวนกลางท้อง หนูจุกจนพูดไม่ออกมันเอาผ้ามัดปากหนู
หนูพยายามดิ้นรนจนเหนื่อย แต่เหมือนสวรรค์มาโปรดพี่โชติเข้ามาช่วยหนู
แต่ก็โดนพวกมันยำตีนจนฟุบไปกองกับพื้น แล้วมันก็พาหนูมายัดในรถ
ขับพาหนูไปไหนก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ไม่ไกลจากหมู่บ้านมาก
มันลากหนูมาที่ดงตานี ซึ่งข้างดงกล้วยตานีนั้นก็มีกระท่อมไม้ปลูกอยู่หลังไม่ใหญ่มาก
หนูว่าแถวนี้คงไม่มีคนแน่ๆ หลังจากนั้นมันก็แก้ผ้าที่มัดปากหนูออก
หนูก็เลยเริ่มถามมันทันทีให้หายข้องใจ
“แกจับชั้นมาทำไม” ตอนนี้หนูรู้เลยว่าน้ำเสียงหนูสั่นมากแค่ไหน
พวกมันยิ้มแล้วหนึ่งในสามคนของพวกมันก็ตอบหนู
“พวกพี่แค่ทำตามที่นายสั่งเจ้านายเท่านั้นแหละน้องสาว เค้าจะให้ทำอะไรค่อยว่ากัน”
พอมันพูดจบก็มีเสียงโทรศัพท์เข้า
“ครับนายหญิง จำตัวได้แล้วครับ จะให้ทำอะไรต่อดีครับครับ………..ครับ ”
แล้วมันก็วางสายไป สรุปว่ามีคนจ้างมันมาอีกทีหนึ่ง ได้ยินว่านายหญิง
หึ ถ้าเดาไม่ผิดละก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก
=อิเมียหลวง=
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….
หลังจากที่หนูโดนจับตัวมาผ่านไปได้ไม่นาน ก็มีรถเก๋งคันหรูขับเข้ามาจอด
พอเห็นคนที่ก้าวออกมาจากรถเท่านั้นแหละ สิ่งที่หนูคิดไว้มันไม่ผิดไปจากที่หนูคิดเลย
อิเมียหลวงก้าวลงมาจากรถด้วยท่าทางมาดมั่นดุจไม่เคยเกรงกลัวใคร
มันเดินมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าหนู จิกผมหนูให้เงยหน้ามองมันเต็ม แล้วก้มกระซิบข้างใบหนูหนูว่า
“ชั้นเตือนแกแล้วใช่มั๊ยอีกระเทย อยากได้ผัวมากนักใช่มั๊ยงั้นชั้นจะหาให้เอาไอ้สามคนนี้ไปละกัน”
หลังจากที่อิเมียหลวงพูดจบหนูเบิกตาด้วยความตกใจ นี่มันแค้นหนูมากขานดนี้เลยเหรอ
“นี่พวกแก สงเคระห์มันหน่อยซิ มันอยากได้ผัว จัดหนักๆเลยนะพวกแก”
สิ้นเสียงอิเมียหลวง พวกมันลากหนูเข้าไปในดงตานี
หนูพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต แต่จนแล้วจนรอนก็ทำได้เพียงเท่านั้น
พวกมันกระชากเสื้อผ้าของหนูจนขาดหลุดลุ่ยไปหมด มองหนูด้วยความหื่นกระหาย
คนหนึ่งจับแขน อีกคนจับขาแล้วอีกคนก็คล่อมตัวหนูไว้
มันไซ้ซอกคอหนูอย่างหื่นขยำนมหนูจนแทบแหลกเละคามือมัน
มันช่างเหมือนจริงๆเหมือนกับวันนั้นที่หนูโดนปกรณ์กับพวกรุมข่มขืน
ทำไมชีวิตของหนูมันต้องมาเจอกับเรื่องราวเดิมๆเหตูการณ์เดิมๆซ้ำๆซากๆอย่างนี้ด้วย
หนูเคยทำกรรมอะไรไว้แต่ชาติปางก่อนหรือไง
หนูเบิกตากว้างตอนที่มันเอานิ้วเข้ามาในช่องทางของหนู
พอมันเตรียมช่องทางของหนูเสร็จ มันก็เอาแก่นกายอันโสโครกของมันมาจ่อที่ช่องทางของหนู
ถูไถไปมา หนูขยะแขยงพวกมันเหลือเกิน
ตุ๊บพลั๊วะผลั๊ก
และแล้วสวรรค์ก็เป็นใจ ส่งปกรณ์มาช่วยหนู หนูโผเข้ากอดปกรณ์อย่างเต็มที่
ส่วนพวกที่จะข่มขืนหนูสามคนนั้นโดน พี่โชติ พี่วินัย
แล้วก็……..เอ๊ะพี่ชายของปกรณ์เหรอ กำลังรุมยำอยู่
หนูสงสัยพี่ชายปกรณ์มาได้ยังไงแต่ความกลัวของหนูตอนนี้
ทำให้หนูไม่อาจคิดอะไรได้อีกต่อไป นอกจากอ้อมกอดของคนๆนี้
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………
“เพี๊ยะ เธอทำอย่างนี้ทำไม”
ปกรณ์พูดพร้อมฟาดฝ่ามือลงกลางหน้าอิเมียหลวงอย่างแรง หึ สะใจหนูจริงๆ
“แล้วทีนายทำกับชั้นล่ะ มันสมควรแล้วเหรอ ทิ้งลูกทิ้งเมียมาหา อิกระเทยเนี่ย มันสมควรแล้ว
เหรอ บอกชั้นสิ”
อิเมียหลวงลุกขึ้นมาตะคอกปกรณ์กลับทั้งน้ำตา
“พอเถอะขวัญ ผมไม่เคยรักคุน ส่วนเรื่องลูกยังไงปอนด์ก็จะยังเป็นลูกของผมเหมือนเดิม” ปกรณ์พูด
“ไม่ ชั้นรักคุน อย่าทิ้งชั้นไป”
คุนเมียหลวงพูดไปน้ำตาไหลไป จนหลายๆคนในที่นี้แอบสงสาร
“พอเถอะขวัญ บอกความจริงไอ้กรณ์ไปว่าน้องปอนด์ไม่ใช่ลูกมัน แต่เป็นลูกของเรา”
พี่ชายปกรณ์ที่ชื่อกล อยู่ดีๆก็โพล่งออกมาทำเอาเราทุกคนอึ้งกันไปทั่วหน้าเลยทีเดียว
“ไม่ แกหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ”
อิเมียหลวงหันกลับไปตะคอกพี่กลแล้วหันมามองหน้าหนูแบบอาคาดแค้น
“หึ ความจริงปรากฏแล้วสินะ จริงๆกูรู้เรื่องที่มึงรักขวัญ แล้วก็ปอนด์ไม่ใช่ลูกกูตั้งนานแล้วละกล แต่กูรอแค่มึงพูดเท่านั้นเอง”
“แต่ก็ขอบใจที่มึงบอกกู เพราะกูจะได้รู้สึกว่า กูยังเป็นน้องมึงอยู่พาเมียมึงกลับไปเถอะ อย่าให้มาทำร้ายเมียกูอีก”
ปกรณ์พูดแววตาเศร้าๆยังไงชอบกล
ปกรณ์อุ้มหนูมาขึ้นรถแล้วก็ขับกลับบ้าน
ตลอดระยะเวลาการเดินทางปกรณ์ก็ถามหนูตลอดว่าเจ็บตรงไหนรึเปล่า
แต่หนูก็ส่ายหน้าปฏิเสธลูกเดียว พอมาถึงบ้านแม่กับพ่อก็ซักไซ้ไร่เรียงเรื่องที่เกิดขึ้นทันที
ปกรณ์เลยเล่าความจริงทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังเอง
พ่อกับแม่ก็เหมือนจะตกใจมากแต่ก็บอกกับหนูว่าถือว่าฟาดเคราะห์หมดเวรหมดกรรมกันเสียที
………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………
เรื่องร้ายๆพัดมาแล้วก็ผ่านไป
พ่อกับแม่ของปกรณ์และครอบครัวของอิเมียหลวง(เอ๊ะไม่ใช่สิเราไม่ได้เป็นเมียน้อยเค้าแล้วหนิ)
รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ก็เลยส่งพี่กลน้องปอนด์และยัยขวัญไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก
เพื่อไปดูแลกิจการที่นั่น ทุกอย่างก็เลยเหมือนจะผ่านไปด้วยดี
ตอนนี้หนูเปิดเทอมแล้วค่ะหนูขอปกรณ์ใช้ชีวิตแบบเดิมอย่างที่หนูเคยเป็น
คือช่วยพี่ติ๋วทำงาน นอนที่ร้านพี่ติ๋ว จะมีไปนอนกับปกรณ์บ้าง
วันนี้หนูก็ช่วยพี่ติ๋วทำผมแต่หน้าลูกค้าตามปกติ
แต่ที่ไม่ปกติคือ มีพี่คนหนึ่งมาถามหนูว่าหนูเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงทำไมสวยจัง
ที่พี่แกไม่แน่ใจเพราะพวกหนูชอบพูดกันภาษากระเทยอะค่ะ
พี่แกก็เลยไม่ค่อยแน่ใจในสถานะทางเพศหนูเลยมาถามเพื่อความแน่ใจ
หนูก็ตอบไปตามความจริงว่าหนูเป็น กท
พี่เค้าชื่อพี่เอ (ไม่ใช่เอศุภชัยนะ คนละคนกัน) เป็นแมวมองโมเดลลิ่งหนึ่ง
คือตอนนี้พี่เค้ากำลังหาสาวสองไปประกวดมิสทิฟานี่
ประจวบเหมาะกับที่พี่แกกำลังหานางงามไปประกวดอยู่พอดี
ตอนแรกแกจะชวนหนูเป็นดาราแต่พอรู้ว่าหนูเป็น กท
ก็เลยเปลี่ยนใจให้ไปประกวดแหละ ก็กำลังหาคนอยู่นี่นา
หนูตอบตกลงทันที เพราะมันเป็นความฝันอันสูงสุดของหนู
อีโอ๋ น้อยหน่า จ๊ะจ๋า ตื่นเต้นกันใหญ่ที่หนูจะเข้าประกวด
ส่วนปกรณ์รายนั้นเค้าตามใจหนูทุกอย่างค่ะ
ยิ่งรู้ว่าเป็นความฝันของหนูแล้วเค้ายิ่งสนับสนุนเต็มที่
……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
………………………………………………….
ถ้าไม่มีเรียนเวลาว่างของหนู ก็คือเค้าคอสนางงามค่ะ
หัดเดินใหม่ ฝึกการพูด การวางตัว ทุกอย่างที่นางงามเค้าทำ
หนูว่าหนูสนุกนะค่ะที่หนูได้ทำมัน อาจจะด้วยความที่หนูชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เวลาหมู่บ้านมีการประกวดหนูแทบไม่เคยพลาด
และแล้วก็มาถึงวันสมัครพี่เอพาหนูมากรองใบสมัคร
โดยมีปกรณ์ตามมาให้กำลังใจหนูด้วยเช่นกันค่ะ
การคัดเลือกสามสิบคนสุดท้ายจบลงได้ด้วยดีค่ะ
โดยที่หนูก็เข้ารอบด้วย หนูต้องทำการเก็บตัวเป็นสามสิบคนสุดท้ายที่พัทยา
พร้อมกับเพื่อนๆนางงามอีกยี่สิบเก้าคน เค้าก็ให้เค้าคอสปรับสภาพผิวต่างๆนาๆ
เค้าคอสเหมือนที่พี่เอให้หนูเข้าเลย ซึ่งหนูก็ทำมาหมดแล้ว
แต่ทำอีกก็สนุกดีพี่ๆทางกองประกวดชมหนูกันใหญ่ว่าหนูทำได้ดีกว่าคนอื่น
ซึ่งหนูไม่กังวลเลยจะมีก็แต่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ
ซึ่งหนูไม่มั่นใจเลยเพราะหนูยังไม่ได้ผ่ากลัวมันไม่เนียน
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..
เมื่อวันงานมาถึงหนูซึ่งเตรียมตัวอยู่หลังเวทีตื่นเต้นมาก
หนูต้องมีสมาธิจดจ่ออยู่กับตัวเองห้ามวอกแวกเด็ดขาด
วันนี้หนูได้รับเกียรติจากช่างแต่งหน้ากิตติมาศักดิ์ด้วยแหละค่ะนั่นก็คือ พี่ติ๋วนั่นเอง
หนูมั่นใจในหน้าหนูมากเพราะหนูเชื่อใจในฝีมือการแต่งหน้าของพี่ติ๋วอย่างมาก
แต่งให้ใครสวยทุกคน
พอแต่ตัวเสร็จสักพักพี่ทางกองประกวดก็บอกให้พวกหนูเตรียมพร้อม
อีกยี่สิบนาทีเตรียมตัวออกแสตนบายเวที
…………………………………………ยี่สิบนาทีหมดไปอย่างรวดเร็ว…………………………….
ทุกคนก้าวออกไปหน้าเวทีโดยหมาเลขหนึ่งออกไปคนแรก
ตามด้วยหมายเลขสองและสาม ส่วนหนูหมายเลขสิบเอ็ดค่ะ
พอถึงคิวหนูก้าวแรกที่หนูก้าวออกมาหนูฉีกยิ้มที่คิดว่าสวยและจริงใจที่สุดออกไป
และไปประจำอยู่กับที่ จนกว่าจะครบทุกคน
หนูกวาดตาไปรอบคนดูข้างล่างเวที
เห็นพ่อแม่ ปกรณ์ อีโอ๋ จ๊ะจ๋า น้อยหน่า พี่ติ๋วและยิ่งไปกว่านั้นทุกคนที่หมู่บ้าน
ขนกันมาเกือบยี่สิบคนได้
หนูเชื่อว่าคนที่ไม่ได้มาอาจจะรอดูถ่ายทอดสดหนูอยู่ที่หมูบ้านก็เป็นได้
หนูภูมิใจจังเลยค่ะ หนูจะทำความฝันให้เต็มที่ จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวหนูคนนี้
พอครบสามสิบคนแล้วเค้าก็ประกาศ นางงามมิสโฟโต้จินิก
และนางงามอะไรอีกมากมาย ซึ่งไม่มีหนูอยู่ในนั้นเลย
หลังจากนั้นก็รอผลการตัดสินสิบคนสุดท้ายที่จะได้เข้ารอบ
จึงต้องกลับกันไปหลังเวทีอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนกลับหนูเหลือบไปเห็นปกรณ์ยิ้มให้กำลังใจหนูเหมือนจะบอกให้หนูสู้ๆ
หนูอยากจะบอกปกรณ์จังเลยค่ะว่า
แค่ได้เห็นรอยยิ้มของคุนแค่นี้ก็เป็นกำลังใจให้หนูมากเลยล่ะ
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
……………………………………
นางงามทั้งสามสิบคนออกมายืนอยู่บนเวทีอีครั้งหนึ่งเพื่อรอการตัดสิน
การเค้ารอบ สิบคนสุดท้ายของมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิส
“เอาล่ะค่ะท่านผู้ชมทุกท่านเราจะมาประกาศผลการประกวดสิบคนสุดท้ายของมิสทิฟานี่ยูนิเวิสกันนะค่ะ” พิธีกรหญิงกล่าว
หนูแทบหยุดลมหายใจนั่วขณะหนึ่ง แล้วตั้งใจฟังพิธีกรชายอีกท่านพูดต่อไป
“เราจะไม่เรียงลำดับหมายเลข หรือจำนวนคะแนนใดๆทั้งสิ้นนะครับ”
“ท่านแรกค่ะหมายเลข เก้าค่ะ”
“หมายเลข สี่ครับ”
“หมายเลข ยี่สิบค่ะ”
“หมายเลข เจ็ดครับ”
“หมายเลข สิบหกค่ะ”
“หมายเลข สิบสองครับ”
“หมายเลข สามสิบค่ะ”
“หมายเลข หนึ่งครับ”
“หมายเลข แปดค่ะ”
“และหมายเลขสุดท้ายที่จะเข้ารอบสิบคนสุดท้ายของมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิสได้แก่…………”
คนสุดท้ายแล้สสินะหนูคงทำได้ดีที่สุดแล้วหละ
แต่ทันใดนั้นคนในหมูบ้านพ่อแม่หนูและคนอื่นๆ
ต่างพร้อมใจกันตะโกนกันซะลั่นโรงละครทิฟฟานี่
“สิบเอ็ด สิบเอ็ด สิบเอ็ด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เสียงกองเชียร์หนูเองค่ะ
“หมายเลข……………………………”
“หมายเลข……………………………”
“หมายเลข……………………………สิบเอ็ดครับ คุณม่านฟ้า เทพอัปสร ยินดีด้วยนะครับ”
“เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
หนูแทบไม่เชื่อหูตัวเองหนูปล่อยโฮออกมาทันที
“เชิญผู้เข้าประกวดยี่สิบท่านข้านหลังเวทีค่ะ”
“ส่วนสาวงามอีกสิบท่าน เดินอวดโฉมให้คณะกรรมการชมอีกรอบหนึ่งก่อนกลับเวทีครับ”
พ่อแม่พี่น้องบ้านหนูกระโดดโลดเต้นกันเต็มที่ ดีใจกันยกใหญ่
พอมาหลังเวทีหนูโผเข้ากอดพี่เออย่างเต็มเหนี่ยวปล่อยโฮเต็มที่
แค่เข้ารอบสิบคนสุดท้ายได้ก็สวยสุดๆแล้ว
รอบต่อไปจะเป็นการ ใส่ชุดว่ายน้ำเดินโชวสรีระ
ซึ่งเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ หลังจากนั้นก็ ตอบคำถามไม่เกินสามสิบวินาที
หนูทำการเปลี่ยนชุดเป็นชุดว่ายน้ำแล้วรอสแตนบายขึ้นเวที
สายตาหนูแอบเห็นพี่วินัยโบกมือให้หนู มาด้วยก็ไม่บอก
พอเดินโชว์ชุดว่าน้ำเท่านั้นล่ะทั้งโรงละครนี่ฮือฮากันใหญ่ ด้วยแต่ละคนสวยๆทั้งนั้น
พอถึงเวลาตอบคำถาม หนูเป็นคนตอบคนสุดท้ายค่ะ คำถามก็แตกต่างกันไปค่ะ
และแล้วก็มาถึงคิวของหนูแล้วล่ะค่ะ
“ถ้าคุณไม่ได้เกิดมาเป็นสาวประเภทสอง แต่เกิดมาเป็นสัตว์ คุณจะเลือกเกิดเป็นสัตว์อะไร เพราะเหตูใด”
พิธีกรอ่านคำถามในซองของหนูเสร็จก็ยื่นไมค์มาทางหนูทันที
“ถ้าน้องฟ้าเกิดเป็นสัตว์ น้องฟ้าจะเลือกเกิดเป็นช้างค่ะ เพราะช้างเป็นสัตว์ประจำชาติและเป็นสัตว์มงคล
ช้างใช้ทำสงครามยุตธหัตถีร่วมกับพระมหากษัตริย์ ถือเป็นผู้มีพระคุณของเรา ถ้าไม่มีช้างก็ไม่มีเราอยู่ทุกวันนี้ ขอบคุนค่ะ”
เฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หิ้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“อื้อ หือเป็นคำตอบที่ดีมากเลยนะครับ ฉลาดหลักแหลมจริงๆ ต่อไปจะเป็นการตัดสิน
สามคนสุดท้ายของการประกวดมิสทิฟฟานี่นะครับ”
“เดี๋ยวเรารอผลการตัดสินจากท่านคณะกรรมการอีกสักครู่นะค่ะ”
หลังจากนั้นก็มีการแสดงขั้นเวลา รอผลการตัดสินจากคณะกรรมการ
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
………………………………………………………………
หนูไม่รู้ว่าหนูมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง สามคนสุดท้าย หนูแทบไม่เชื่อ
ผลการตัดสินออกมาแล้ว หนูเข้ารอบสามคนสุดท้าย
กรรมการให้ตอบคำถามอีกครั้งหนึ่งซึ่งหนูก็ตอบไปแล้วอย่างงงๆจำไม่ได้แล้ว
.
.
.
“และรองชนะเลิศอันดับสองได้แก่ หมายเลข…………………………….”
“เก้าค่ะ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หนูกับหมายเลขสิบสองยืนกุมมือหันหน้าเข้าหากัน ส่งยิ้มให้กันนิดหน่อย
เค้าสวยมากๆ ไม่ว่าผลจะออกมายังไงหนูพร้อมยินดีไปกับเค้าด้วยเพราะเค้าสวยจริงๆค่ะ
“เหลือสองท่านสุดท้ายแล้วนะครับ คือหมายเลขสิบเอ็ด และหมายเลขสิบสอง”
“และมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิสปี………………ได้แก่หมายเลข……………..”
“หมายเลข…………………………….”
“หมายเลข…………………………….”
“หมายเลข……………………สิบ……….”
“สิบเอ็ดครับ”
เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เขียนโดย: นนนี่ ชะนีป่า
อิอิ น้องฟ้าสวยเว่อร์ๆ อยากจะบอกว่าใกล้จบแล้วน้าอีกประมาณสองตอน
พอจบเรื่องนี้แล้วจะมาต่อเรื่องใหม่เลยอยากถามความเห็นของผู้อ่าน ว่าถ้าเราลงเรื่องดราม่าหนักๆจะมีใครติดตามป่ะ แบบ
นางเอกร้าย อ่า ต้องรอดูอีกที แต่ตอนนี้อยากลงพี่แสงกับน้องจ๊ะจ๋ามาก ขอบพระคุนที่ติดตาม ยังไงฝากด้วยน้า อิอิ
ปล อย่าลืมคอมเม้นไม่งั้นงอนอาจหายไปนานอีกก็เป็นได้ อิอิ เค้าล้อเล้ง
=กท บ้านนอก กับ ด เดือนมหาลัย=
=ดอกฟ้ากับแสงอาทิตย์=
=หนูพิมใจกับพี่ชายคนเถื่อน=