(แจ็คXบอย) แจ็คกับแบงค์เจอกันแล้วแต่ยังไม่รุ้ว่าใครคือใคร
Part แจ็ค ผมได้ยินมาว่าวันนี้ที่บ้านลุงกฤษณะ มีทำบุญให้กับองค์กร และผมยังรู้อีกว่า ลุงณะ ไม่ให้ผมมาที่นี้ จะว่าไปผมก็ไม่ได้มาที่นี้นานแล้วตั้งแต่บอยหายกลับมาที่นี้ และวันนี้ผมก็มาโดยการฝืนคำสั่ง ผมบอกพ่อและพี่ชายของผมว่าผมอยู่สนามบินกับไอ้หลุยส์ แต่จริงๆแล้ว ผมเดินทางมาถึงที่นี้นานแล้วและกำลังให้คนขับรถของพ่อมารับ พี่ปีเตอร์ การ์ดของพี่โจ
“คุณแจ็คครับจะดีเหรอครับพี่ว่าเรากลับบ้านกันเถอะครับ คุณท่านและคุณโจสั่งว่าคุณแจ็คไม่ควรจะไปที่นั้น” พี่ปีเตอร์บอกผม ผมก็นั่งไขว้ห้างคุยไลน์กับไอ้หลุยส์มันอยู่
หลุยส์ = มึงแม่งกล้ามากเลยวะ (มันคงหมายถึงผมกล้าที่ขัดคำสั่งของลุงหนึ่ง)
แจ็ค = กูอยากรู้ว่าทำไมเขาห้ามกูและไอ้ดิวมันกลับได้ไปวันนี้
หลุยส์ = ขอให้มึงขัดขวางสำเร็จวะ
แจ็ค “ Thanks
ผมปิดการสนทนาระหว่างไอ้หลุยส์ตอนนี้พี่ปีเตอร์กำลังนำรถเข้าไปจอดตามที่ผมบอก ผมก็ก้าวเท้าลงจากรถ มีรถมาจอดมากมาย วันนี้เป็นงานใหญ่แต่ไม่มีใครถูกเชิญมานอกจากบอยและดิว แสดงว่าลุงหนึ่งต้องการจะทำอะไรสักอย่างแล้วผมจะอยู่เฉยๆได้ยังไง
“สวัสดีครับคุณแจ็ค”
“สวัสดีครับพี่ ผมจะเข้าไปหาพ่อผม พ่อภูมิที่เป็นแฟนของเจ้าของบ้าน” ผมพูดพร้อมกับเอามือล้วงเข้าในกระเป๋ากางเกง เสื้อสูทแบบไม่เป็นทางการ ผมไม่ได้สวมเน็กไท ใส่แต่สูททับเสื้อยืดเข้ารูป กับกางเกงยีสส์
“แต่ว่า”
“หรือจะให้ผมโทรหาพ่อผมละ พี่อาจจะได้หางานใหม่ได้นะครับ “
“แต่”ยังทำท่าคิดอีก
“อย่าให้ผมรอนานผมไม่ชอบ” ผมพูดและพี่เขาก็เปิดทางให้ผมเดินเข้าไปในทันที ผมก็หยิบมือถือขึ้นกดโทรหาพี่โจ พี่ชายผม
“แจ็ค อยู่ไหน”
“อยู่สนามบินไง”ผมพูด และอดอมยิ้มไม่ได้พี่โจคงได้เห็นความสามารถของผมเร็วๆนี้ที่กล้าขัดคำสั่ง ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุผมให้ผมต้องทำ ผมเดินไปเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้มานานหลายปีแต่ผมก็ยังจำทางเดินตรงไปยังโซนที่ใช้สำหรับประกอบพิธีได้ดี ระหว่างที่ผมกำลังเดินอยู่นั้น
“ปึก” ผมชนเข้ากับบางสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กมาก เพราะว่าผมต้องก้มลงมอง โชคดีที่ชนไม่แรงมากแต่ก็เล่นเอาคนที่ชนผมถอยหลังและล้มลงไปก้นจั้มเบ้ากับพื้นหญ้า ผมเอียงคอมอง นี้มันไม่ใช่แค่สิ่งมีชีีวิตธรรมดา นี้มันเด็ก และยังเป็นเด็กน้อยซะด้วย และเด็กนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองผมเอียงคอตามผมเช่นกัน ผมก็เลยสงเคราะห์โดยการใช้นิ้วคีบคอเสื้อให้เด็กน้อยลุกขึ้น ถ้ามีอย่างอื่นผมก็จะรีบหยิบมาใช้แทนเพราะว่าผมเป็นโรคไม่ชอบเด็กเอาซะเลย ที่บ้านผมเลยไม่มีเด็กให้ขวางหูขวางตา และผมก็ถอยหลังออกมาเอามือล้วงกระเป๋ามองหน้า ทำไมหน้ามันคุ้นเหลือเกิน ไอ้หมอนี่ พอหมอนั้นลุกขึ้นมาได้มันก็ยืนโอนเอนไปมา รากฐานไม่ค่อยจะมั่นคงเท่าไหร่นะเนี๊ยะ แถมยังมองผมและยืนเอามือล้วงกระเป๋า มันก๊อปปี้ผมครับ
“Who?” เด็กน้อยถามผมเป็นภาษาอังกฤษ และชี้มาที่ผม มันถามว่าผมคือใคร
“Who are you ? ผมก็ถามกลับและชี้ไปที่หมอนั้น แบบเอานิ้วจิ้มที่หน้าผาก สองสามทีแถมด้วยหยักคิ้วให้อย่างเท่ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมและไม่ทันที่ผมจะชักนิ้วกลับ เด็กมันคงหิวคิดว่าไส้กรอก มันเลยงับนิ้วผมไปซะงั้น
“อิ้ววว!,,,,,เฮ๊ย!!!! ” ผมร้องดังลั่นและและพยายามดึงนิ้วออกแต่ เด็กนี้ไม่ยอมปล่อย ผมก็เลยรับบีบจมูกเท่านั้นแหละปล่อยทันที
“โอ๊ยย!!!!” ผมร้องและสะบัดนิ้วตัวเองและหันมามองหน้าเด็กน้อยที่กล้ามาก รู้ไหมว่าแจ็คคนนี้เก่งกับหมาซ่ากับเด็กแตะผู้หญิงบางคนที่ทำให้ผมโกรธ ตอนนี้ผมก็กำลังโกรธ….เด็กและเล็กมาซะด้วย
“นายถือดียังไงมากัดฉันฮะ!!!! “ ผมชี้หน้าเด็กน้อยและพูดเสียงดังใส่ เด็กน้อยมองหน้าผม และ
“ฮือๆ “ ร้องออกมาซะอย่างนั้น แต่ถ้าเด็กนี้ร้อง คนในบ้านบอยก็จะรู้ว่าผมแอบเข้ามาและอาจจะโดนสะกัดก่อนจะไปถึงด้านหน้าแน่ๆ ผมก็เลย ใช้มือผมปิดปากเด็กน้อย
“อืม” ดิ้นอีกฤทธิ์เยอะอีกด้วย
“หยุดร้อง!!!” ผมตะคอกแต่ไม่ดังมากเสียงแบบลอดไร่ฟัน เด็กนี้ก็หาได้ฟังผมไม่
“แหง๊ๆๆๆๆ” นั้นร้องดังเข้าไปอีก
“ฉันบอกให้หยุดร้องไง !!!!” ผมบอกเด็กน้อยดิ้นอยู่ได้ผมเลยอุ้มตัวลอยขึ้นมาจ้องหน้าและชี้นิ้ว เดี๋ยวโดนกินตับ
“ปู้ด” นั้นไงสิ่งที่เด็กคนนี้ทำกับผมคือเป่าพ่นใส่หน้าผมและน้ำลายคงเต็มใบหน้าผมไปหมด
“ฉันบอกให้หยุด!!!! “ คราวนี้ดังของจริง ได้ผลหยุดชะงักแต่ว่า
“โอ๊ย!!! “ผมต้องร้องเสียงหลงเพราะว่าเล่นหยิกเข้าที่จมูกผมอย่างจัง เจ็บซิ รออะไร
“ไหนละผึ้ง คุณหนูนะ คุณหนูค่ะ “ เสียงแม่บ้านวิ่งมาหาเด็กน้อยนี้ แต่ถ้าแม่บ้านมาเห็นผมกำลังตีกับเด็กนี้ผมคงโดนอีกหลายข้อหาแน่ๆ ผมเลยต้องจับเด็กบ้านี้ลงก่อน ยังหันมามองหน้าผมอีกนะ จะเข้ามาหาเรื่องผมอีก โอ้ยย นี้มันวันอะไรของแจ็ควะ ผมรีบดันหัวเอาไว้ เข้ามาใกล้ไม่ได้ก็ยังจะมีพยายามแต่ผมก็ดันเอาไว้ด้วยฝามือข้างเดียว
“ไม่จบใช่ไหม กี่ขวบวะเนี๊ยะ “ ผมเองก็ดันไว้และเสียงคนใช้ก็เข้ามาใกล้ๆซะแล้วซิ ผมเลยผลักซะกลิ้งเป็นลูกขนุนไปเลย และผมก็ออกวิ่ง นิ้วก็เจ็บ จมูกก็เจ็บ ฝากไว้ก่อนนะให้งานเสร็จก่อนจะไปตามหาตัวและจับไปกระทืบ เด็กก็เด็กเถอะครับเล่นแบบนี้แจ็คไม่เก็บไว้แน่ แต่ตอนนี้วิ่งไปหาพวกพี่ๆก่อน และผมก็เห็นพี่ๆ นั่งกันอยู่ด้านหน้าเขาจัดที่ไว้สำหรับลูกหลานนั่งแต่ถ้าลุงๆและอาๆ ก็จะนั่งด้านใน ผมยืนอยู่ด้านหลังพี่ๆบ้านจอจาน พี่โจนั่งกดมือถืออยู่พยายามโทรหาพี่ปีเตอร์แน่ๆ
“ตกลงไอ้แจ็คมันยังอยู่สนามบินใช่ไหมวะ” พี่โจถามพวกพี่ๆผม
“ใช่ไง”พี่เจสเป็นคนคุยกับผมล่าสุด พอพี่เจสหันมาเจอผม และอ้าปากค้าง
“พี่มันไม่ได้อยู่สนามบินแล้วแหละ” พี่เจสสะกิดพี่เจมส์ที่กำลังช่วยพี่โจโทรเช็คผมแน่ๆ
“แล้วมันอยู่ไหนละ มึงรู้เหรอไอ้เจส” พี่เจมส์ถามพี่เจส พี่เจและพี่จิมมี่ก็หันมาเจอผมอีก พากันอ้าปากค้าและชี้ พี่เจมส์ก็หันหลังกลับมามองผม
“ไอ้แจ็ค!!” พี่เจมส์เรียกชื่อผมดังลั่น พี่โจและพี่โจ้ก็หันมามองผม พี่โจลุกขึ้นยืนและหลังทำท่าจะเดินออกทันที ผมแอบคิดในใจทำไมไม่มากอดน้องสักที
“ไอ้แจ็ค พ่อบอกไม่ให้มึงมา มึงมาทำไม” พี่โจ้ถามผม พี่ชายคนที่สอง
“ทำไมอ่ะ อยากมา ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย แค่งานทำบุญ ไม่ใช่ความลับอะไรสักหน่อย “ผมพูดและเดินมาหาพี่โจที่ยืนหันหลังให้ผมอยู่
“พี่โจ” ผมเรียกพี่โจ พี่โจหันมามองหน้าผม
“แจ็ค มึงหาเรื่องให้พวกพี่โดนพ่อด่า” พี่โจหันมาบ่นผม
“แต่น้องมาแล้วนะ “ ผมพูดบอกพี่โจ
“พ่อ ไอ้แจ็คมันอยู่นี้พ่อ” พี่โจโทรบอกพ่อผม ทันที
“ได้พ่อ ครับพ่อ” พี่โจกดวางสายและหันมามองหน้าผม
“พ่อบอกห้ามเข้าไปด้านใน ถ้าไม่อยากทำให้พ่อเดือดร้อนแจ็ค เพราะนี้คำสั่งลุงหนึ่งเขา เราควรจะฟังพ่อบ้างแจ็ค “ พี่โจพูด ผมหันมามองพี่ๆ ทำนิ้วเฉือดคอให้ผมกันหมด
“นั่งลงเลยมึงไอ้พระเอกประจำบ้าน” พี่เจพูดและพี่โจก็เดินเข้าไปด้านในเหลือแค่ผมที่นั่งกับพี่ๆ
“พี่กลับเลยนะ เพราะว่าพี่ต้องไปรับพี่เจนพวกมึงอ่ะ”
“รับแฟนเหรอพี่โจ้” พี่เจสแซวพี่โจ้ พวกผมนะรับรู้สถานะที่เกินพี่น้องของพี่โจ้และพี่เจนมาได้พักใหญ่ๆก่อนทีพ่อจะรู้ จนพ่อรู้ก็มีห้ามปรามแต่มันยากพี่โจ้บอกรักพี่เจนไปหมดใจแล้วและพี่เจนก็รักพี่โจ้เช่นกัน ตอนนั้นพี่เจนยังไม่รู้ว่าพี่เขาไม่ใช่ลูกของพ่อภูมิ
“เออแฟนกูครับ พี่สาวพวกมึงด้วยครับ แค่นี้น่ะ ถ้าไอ้แจ็คมีเรื่องไม่ต้องโทรตามนะ กูจะพาเจนไปดูหนังใหม่เข้าโรงวันนี้ ปิดมือถือ” พี่โจ้พูดผมก็เงยหน้ามอง
“ระดับแจ็ค ไม่มีแน่นอน ผมเอาอยู่พี่โจ้” ผมพูดและยกเท้าขึ้นมาพาดนั่งแบบเท่ๆ พี่โจ้โชว์นิ้วกลางให้ผมเป็นรางวัลและพี่โจ้ก็เดินออกไป
“เดี๋ยวพี่มานะ จะไปหาเบียร์ “
“เฮ้ยพี่จะดื่มเบียร์ตอนนี้นี้นะ” ไอ้พี่เจส
“กูจะไปหาเพื่อนรักกูไอ้เบียร์ แต่ถ้าดื่มได้กูจับดื่มไปนานแล้ว” พี่เจมส์พูดและลุกขึ้น ทำเอาพวกผมทำหน้างงกันหมด มุขไหนของพี่แก
“แล้วนี้มึงมะทำไมวะ ไม่รอที่บ้านแจ็ค “ พี่จิมมี่ถามผม
“พี่เห็นไอ้คนที่ชื่อแบงค์ไหมพี่ “ ผมถามพวกพี่ๆที่นั้งตรงนี้ ผมหันมามองหน้าพี่เจ เพราะว่าสนิทกับพี่บอลมากที่สุด
“กูนั่งมาตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่เห็นใครสักคนมึง ว่าแต่มึงจะถามหาคนชื่อแบงค์ทำไมวะ”
“ก็ไอ้นี้นะ มัน มันคือ กางของผมพี่ “
“อะไรของมึง มึงจะบอกว่าบอยมีแฟนใหม่เหรอวะ” พี่เจสหันมามถามผม
“ใช่อะดิ น่าเจ็บใจนี้ก็บินมาก่อนเพื่อมันเลยนะพี่ ผมอยากเจอมันอ่ะ จะอัดให้น่ามเลย”ผมพูดและกำมัดต่อยที่อุ้มมือ
“พี่เจลองไปถามพี่บอลให้หน่อยดิ” ผมอ้อนพี่ชายที่ห่างจากผมแค่ปีเดียว จะเรียกพี่สาวก็ได้แต่ไม่เรียกดีกว่าเดี๋ยวพี่เจงอนไม่ช่วยผมอีก
“ไม่ได้แจ็ค กูไม่อยากผิดใจกับบอลมัน มันเพื่อนรักกูนะแจ็ค แค่คอยถามเรื่องบอยว่าเป็นไงบ้างนะได้แต่ไปล้วงลึกมากมันไม่ดี เข้าใจหน่อยดิวะ” พี่เจพูด
“พ่อมาวะ” พี่เจสพุดและนั้นพ่อผมเดินหน้าตั้งมาเลย พ่อภูมิ พ่อมาถึงก็
“ไม่ต้องหันหน้าหนึไปไหนเลยแจ็ค พ่อบอกว่าไง บอกว่าอย่ามาไงแจ็ค” พ่อภูมิพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าโมโหผมมากในวันนี้
“พ่อผมแค่อยากรู้ทำไมผมมาไม่ได้ และทำไมไอ้ดิวมันมาได้ละพ่อ” ผมพูดกับพ่อ พี่เจสดึงแขนผมไม่ให้ผมพูดเสียงดังกับพ่อ ผมรู้ว่าไม่ถูก
“ก็ดิวเขา”
“มันคือคนที่ถูกเลือก แต่ผมกับบอยเรารักกัน แต่ตอนนี้งอนกันนิดหน่อย” ผมพูดและพี่ๆกสะบัดหน้ามามองผม
“ลุงหนึ่งอยู่ด้านในนั้น เราอยู่ทีนี้ไม่ได้ พ่อว่าเราจะทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงแจ็ค กลับไปรอพ่อที่บ้าน เดี๋ยวนี้” พ่อภูมิพูดผมก็หันไปมองทางอื่น
“ผมขอคุยกับบอยก่อน”
“บอยเขายุ่งอยู่ พ่อจะบอกให้ บอยโทรหาหลังเสร็จงาน ตอนนี้ กลับบ้าน” พ่อบอกผมด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว พี่ๆพยักหน้าให้ผมทำตามที่พ่อบอก พี่โจเดินออกมาอีกคน
“บอกน้องมึงให้กลับบ้านซะโจ” พ่อกำลังเดินกลับเข้าไปด้านใน พี่โจเดินมาแตะทีไหล่ผมเบาๆ
“ทำไมงอนกันกับบอยเหรอ”
“ใช่พี่โจ ผมพูดไม่ค่อยดีกับบอยอ่ะ และทั้งหมดก็เพราะว่าผมหึงเขากับไอ้แบงค์ “
“แบงค์เหรอ ใครอะ” พี่โจถามผม
“แต่ชื่อนี้คุ้นๆนะ ตอนพี่เข้าไปได้ยินคนใช้พูดกันว่าคุณแบงค์ ตามหาคุณแบงค์กันอยู่ แต่ดูน่าจะเด็กเล็กนะ “
“ไม่น่าจะใช้เด็กหรอก บอยพูดจ๊ะจ้าซะขนาดนั้นพี่โจ “
“เอานะ พี่จะคุยกับบอยและให้บอยโทรหานะ พี่จะบอกว่าน้องพี่สำนึกผิดแล้ว แต่ตอนนี้กลับบ้านตามที่พ่อบอกก่อนและพรุ่งนี้พี่ไปส่ง” พี่โจพูด ผมหันมามองพี่คนอื่นไม่มีใครช่วยเลย
“กลับบ้านแจ็ค อย่าทำให้พ่อต้องทะเลาะกับลุงหนึ่ง พี่ขอวะ” พี่โจพูดบอกผม ผมก็พยักหน้าและเดินออกทันทีเช่นกัน แต่เบื่อไม่อยากกลับอ่ะ ให้พี่ปีเตอร์ขับพาไปเที่ยวดีกว่า ผมเดินออกไปอย่างหัวเสีย บอยก็ไม่เจอและนี้กผมก็งอนเขาและไม่ได้ส่งข้อความง้ออะไรทั้งนั้น บอยเองก็เงียบเช่นกัน ระหว่างที่เดินออกก็แอบชะเง้อมองหาไอ้เด็กแสบ ถ้าออกมาเจออีกนี้โดนเอาคืนแน่
----------------------------------------------------------------------------------------------
Part บอย ผมเห็นอาภูมิรีบเดินออกไป เหมือนกับมีเรื่องเลย ดิวก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ขอ้ความคงจะคุยกับแอ้แน่ๆ ผมรู้ว่าเขาสองมีความพิเศษต่อกันและยิ่งวันนั้นที่ติ๊กและดิวมีปากเสียงเรื่องลูก แต่แอ้บอกว่าเรื่องลูกหมา ผมว่าไม่ใช่หรอก ผมเป็นคนที่มีเซ้นที่พิเศษ ไม่ใช่เซ้นลิ่งลี้ลับแต่เซ้นผมที่สามารรถอ่านความคิดของอื่นได้ ตอนนี้ดิวกำลังเครียดอธิบายให้แอ้เข้าใจอยู่ว่าทำไมเขาต้องมา และพออาภูมิกลับเข้ามาและไปนั่งกับพ่อผม ดูสีหน้าอาภูมิไม่ค่อยดีเลย
“มีเรื่องหรือเปล่าบอย” ดิวเงยหน้าจากมือถือขึ้นมาถามผม ผมพยักหน้าว่าน่าจะใช้
ตื้ด เสียงมือถือของผมสั่น ผมก็หยิบขึ้นมาดู เป็นข้อความจากธรรณ์ นั้นเอง
“บอย เจอแจ็คหรือยัง แจ็คไปหาบอยที่บ้านนะ “ ผมก็ชะงักแจ็คมาเหรอ
“มีอะไรเหรอบอย” ดิวถามผม
“แจ็คมานะดิว” ผมบอกดิว ดิวมันพยักหน้า
“มันอยู่ไหนอะ ดิวจะได้เปลี่ยนคิวให้มันถ่ายทำต่อเลย” ดิวรีบกระซิบถามผม ผมก็ทำหน้ายู้ มันเปลี่ยนกันได้ง่ายๆเหรอลุงหนึ่งก็นั่งอยู่ ผมเห็นลุงหนี่งเดินไปหาพ่อผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะหันมาพยักหน้ากับทุกคน เหมือนเรียกประชุมบรรดาลุงและอาของผมที่มาในวันนี้ก็พากันลุกออกไป
“คุณบอย คุณดิว ตอนนี้เขาจะเลี้ยงพระกัน รบกวนไปนั่งพักที่ห้องรับรองก่อนนะครับ” ผมสองคนได้ยินดังนั้นกลุกขั้น ผมนี้อยากจะเดินกลับไปตึกหลังเพื่อไปหาลุกชายคนผมแย่แล้วเพราะว่าพรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว แต่ถ้าแจ็คมาหาผม ทไมไม่โทรหาผมเลย หรือส่งข้อความก็ได้ หรือว่าเขาแค่มาดูว่าผมทำอะไร แทนที่จะมาง้อกันก็ไม่มีเลย
“มันมาได้ไง ไหนบอกว่าไม่ให้มาไง และนี้มันไปไหนแล้ว” ผมได้ยินเสียงลุงหนี่งโวยวาย
“พี่หนึ่ง ลูกผมก็เข้าออกบ้านพี่ณะ และแจ็คก็หลานพี่ณะคนหนึ่ง ทำไมเขาจะมาไม่ได้ “
“นายรู้ดี ภูมิ” ผมได้ยินเสียงลุงหนึ่ง และอาภูมิเอะอะโวยอยู่ ดิวแตะที่ไหล่ผมเบาๆ และผมสองคนก็พากันไปหาที่นั่งพัก ผมนั่งลงและหันไปมองดิวที่พยามกดสายโทรหาแอ้แน่ๆ แต่ดูท่าแอ้จะไม่ยอมรับ
“ดิว “ เสียงลุงหนึ่งเดินเข้ามาถึงก็เรียกดิวทันที ผมก็สะดุ้งโย้งเลยเหมือนกัน ดิวไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด เขาแค่ละสายตาจากมือถือและหันไปตามต้นเสียงที่เรียกชื่อของเขาแค่นั้น
“พ่อเราบอกลุงว่าเราจะเลือกหมอทหาร ไม่ได้เลือกหมอแค่นั้นพอ” ลุงหนึ่งพูดและผมก็หันไปมองดิว
“ผมเลือกแล้ว ผมจะลงหมอทหาร “ ดิวพูดขั้น
“ไม่ได้ เพราะเราต้องอยู่ใกล้ชิดกับบอย และเรา”
“ผมก็ว่าจะพูดเรื่องนี้เหมือนกันลุง ผมไม่ได้รักบอย เราไม่ได้รักกัน ต่อให้ลุงเอาตำแหน่งบ้าบออะไรมาให้ผม ผมก็ไม่เอา ผมมีคนรักแล้ว ลุงควรจะพอได้แล้ว ให้เขาเลือกคนที่เขารักกัน “ดิวลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับลุงหนึ่ง
“ดิว” ผมจับมือดิวให้เย็นลงก่อน เพราะว่ามันไม่เหมาะสมที่ดิวจะเถียงลุงหนึ่งแบบนั้น
“ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องรอให้ภารกิจมันเสร็จ กลับมาเข้ามหาวิทยาลัยและแต่งงานกันเลย ทำตามที่ฉันสั่ง”
“ผมไม่ทำ ผมมีคนรักแล้ว “
“ใคร”
“ผมมีแล้วกัน และผมก็เลือกแล้วว่าผมจะไปเป็นหมอทหาร ใครก็ห้ามผมมไม่ได้ ตอ่ให้ลุงเองก็ตาม” ดิวพูด
“ไอ้ดิวหยุด” ลุงภาเดินข้ามา
“ลุงคิดว่าการให้เขาสร้างพวกผมขึ้นเพื่อมาทำสิ่งที่ลุงต้องการ ผมไม่ใช่หุ่นยนต์ พวกผมมีเลือดมีเนื้อมีหัวใจ ดังนั้นผมจะทำสิ่งที่ผมต้องการ ผมคิดว่าผมก็ทนมามากพอแล้วกับการที่ต้องมานั่งตรงนี้ โคตรอืดอัดเลย “ ดิวพูดและลุงภาก็ดึงแขนดิวออก
“ไอ้ดิว มึงลองดีกับกูใช่ไหม”
“ใช่ผมลองดี กับลุง”
“ไอ้ดิวหยุด กูบอกให้หยุด นั้นพี่กู “ลุงภาพูด ตอนนี้มีนายทหารท่านหนึ่งวิ่งเข้ามาหาลุงหนี่ง และกระซิบอะไรบ้างอย่าง
“กูจะไปหามึงและคุยกับมึงอีกทีดิว “ ลุงหนึ่งพูดและเดินออกทันทีเช่นกัน ผมหันมามองหน้าดิว ดิวโกรธมากแต่ลุงภามองหน้าดิวคงโกรธยิ่งกว่าเพราะว่าผมถูกสอนมาไม่ให้ข้ามรุ่นกัน ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ตาม
“คุณบอยคะ คุณแบงค์หายไปค่ะ” ผมสะดุ้งเมื่อมีผู้หญิงกึ่งเดินกึ่งวิ่งเดินมาหาผม เขาเป็นคนใช้ในบ้านของผม
“อะไรนะ หาดีแล้วเหรอ”
“ค่ะคุณแบงค์หายไปได้สักพักแล้วค่ะและเราก็หาพี่ผึ้งไม่เจอด้วยค่ะ “ ผมได้ยินเช่นกันนั้นก็รีบเดินออกไปทันที ผมไม่รอช้ารีบวิ่งออกไป ผมเห็นพ่อผมกำลังยืนคุยกับคนรับใช้ แต่อาภูมิไม่อยู่ ออกไปข้างนอก ผมก็เลยวิ่งกลับไปที่ตึกหลังทันที ไม่น่ะแบงค์ ไม่นะแบงค์ ผมไม่น่าจะอยู่ห่างจากเขาเลยวันนี้