คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต
บทที่ 71
ภรรยาก็เอาใจใส่
---------
เรือนอหัสกรเป็นเรือนใหญ่และเก่าแก่ ถามทางจากผู้ใดก็มีแต่คนรู้จัก กัญญาใช้เวลาไม่นานก็มาถึง ตอนที่ไปถึง อาหารเย็นพร้อมสรรพแล้ว นางจึงถูกเชิญชวนร่วมโต๊ะด้วย
สมาชิกอหัสกรนั้นเป็นคนที่นางรู้จักไปแล้วสามคน คือ รติ รุจีและระพี ส่วนสามีของรติชื่อว่าตรัส มีย่าหนึ่งคนชื่ออมรา ทั้งสองไม่ค่อยพูดแต่ก็เป็นกันเอง ต้อนรับขับสู้นางอย่างดี
กระนั้น กัญญาไม่ได้มาที่นี่เพื่อหวังให้ใครต้อนรับอย่างดี นางมาเพื่อพบรติต่างหาก
หญิงสาวสู้อุตส่าห์รบเร้าบิดามารดาจนได้ออกเดินทางมาที่นี่ แต่เมื่อพบแล้วกลับเห็นความเปลี่ยนแปลงชุดใหญ่
รติแต่งงานแล้ว
หนำซ้ำยังแต่งกับชาย ยิ่งกว่านั้นคือแต่งเข้าสกุลอื่น
นับตั้งแต่พบรติในเมือง นางก็ใคร่ครวญแต่คำว่าทำไม...ทำไม...ทำไม
กัญญามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย รติที่นั่งอยู่ข้างชายหนุ่มผู้นั้น ดูอย่างไรก็มีทั้งส่วนคล้ายและไม่คล้ายรติที่นางรู้จัก
นางรู้จักรติตั้งแต่เล็ก เมื่อถึงเวลาหนึ่งความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปเป็นคนรัก จนกระทั่งรติเสียพี่สาวไป จึงขอเลิกกับนางด้วยเหตุผลว่าเขามีภาระหน้าที่ จึงไม่อาจดูแลนางได้อย่างเดิมแล้ว ยามนั้นนางโกรธเคือง ยิ่งเขาบอกลา ออกเดินทางจากเมืองใต้มายังเมืองตะวันออก นางก็ยิ่งไม่เข้าใจ พอติดตามมาที่นี่ เห็นเขาแต่งงานเข้าสกุลอื่น นางก็ยิ่งมีแต่คำถาม
แต่...พอมองเขากับบุรุษอีกผู้หนึ่งที่นั่งข้างกันแล้ว ก็คล้ายมีคำตอบบางอย่างเกิดขึ้นในใจของนาง โดยที่ไม่อาจอธิบายเป็นคำ
รติและตรัส อหัสกรมิได้ใกล้ชิดอ้อล้อ ตรงกันข้าม กลับเพียงนั่งรับประทานอาหารข้างกันอย่างเงียบๆ รติดูแลระพีบ้าง หันมาพูดคุยกับนางซึ่งเป็นแขกคนเดียวของโต๊ะบ้าง กระนั้น กับข้าวในชามของเขากลับไม่เคยพร่องเลย
แต่ละคนล้วนได้ปลาเป็นกับข้าวส่วนตัวคนละหนึ่งตัว แต่ที่กลางโต๊ะมีกับข้าวที่รับประทานร่วมกันอีกสี่-ห้าอย่าง รติแทบไม่ต้องตักอะไร เพราะคนข้างกายคอยดูแลตักมาให้อย่างเงียบๆ
“เจ้ามาที่นี่คนเดียวหรือ ท่านลุงท่านป้าไม่ว่าเอาหรือไร” รติถาม กัญญายิ้มแหย นางไม่กล้าเอ่ยความจริงว่าเพราะนางดื้อรั้นจนทะเลาะกับบิดามารดาแล้วหลายครั้ง จนทั้งสองระอาใจในครั้งสุดท้ายถึงได้ปล่อยนางมา
“ข้าอยากมาเที่ยวนี่นา”
“แล้วพักที่ไหนเล่า” หญิงชราหันมาถามบ้าง
“มีคนปล่อยเรือนให้เช่าเจ้าค่ะ ข้าก็เลยขอเช่ารายวัน”
“แล้วเจ้ามากี่วันแล้ว” รติถามต่อ
“สองวันได้”
สองวันที่นางเตร็ดเตร่ตามตรอกซอกซอยมองหารติ จนกระทั่งวันนี้ถึงได้พบ แต่เมื่อพบ...ก็รู้แล้วว่าเขาเปลี่ยนไป
“แล้วเจ้ามาอยู่ที่นี่กี่วัน อย่าบอกว่าไม่มีกำหนด ท่านลุงท่านป้าจะปวดหัว”
“ท่านปวดหัวแทนพ่อแม่ข้าแล้วกระมัง” หญิงสาวกระเง้ากระงอด แต่แล้วก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้ คนที่นางเคยกระเง้ากระงอดได้อย่างใจ กลับมีสามีแล้ว หญิงสาวมองไปยังสามีของรติ ฝ่ายนั้นไม่พูดอะไร ก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ รติเองก็พอรู้ว่ามื้อนี้ตรัสเงียบกว่าทุกที ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นใด นอกจากที่มีหญิงสาวมาร่วมโต๊ะ
“ตรัส ท่านชิมผักดองเปรี้ยวหรือยัง”
แม้จะต้องทั้งดูแลแขกซึ่งเป็นสหายของตน รติก็ยังเอาใจใส่สามีเช่นเคย มือเอื้อมไปตักผักดองเปรี้ยวที่วางอยู่ใกล้กัญญามาใส่ชามของตรัส พลางยิ้มชวน
“ลองชิมดู ไม่รู้จะสู้ฝีมือพุดกรองได้หรือไม่”
คำพูดนั้นทำเอาทั้งตรัสและกัญญาพากันชะงัก แม้ตรัสจะอยากถาม แต่กัญญาไวกว่า
“ท่านพูดอย่างกับท่านทำเองอย่างนั้นล่ะ”
รติหันไปมองหญิงสาว แล้วยิ้มเขิน ก่อนจะหันมามองคนข้างกาย
“ข้าลองทำดู...”
ตรัสกะพริบตาปริบๆ คาดไม่ถึง ก้มลงมองผักดองที่วางอยู่บนข้าวของตนเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย
ผักดองเปรี้ยวเป็นอาหารโปรดของเขา เรื่องนี้คนในเรือนทราบดี แต่สิ่งหนึ่งที่คนทั้งเรือนก็ย่อมทราบคือรติไม่มีฝีมือด้านการทำอาหาร
เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยในครัวน่ะได้ เป็นลูกมือก็ได้ แต่ให้ลงมือทำอาหารด้วยตนเอง เจ้าตัวมักขอถอยฉาก นอกจากนั้น รติก็ยุ่งกับการทำผงสมุนไพรและค้าขาย เวลาว่างน้อยเต็มที แต่ก็ยังเอาเวลาไปทำผักดองเปรี้ยวของโปรดของตรัส
“เจ้าเอาเวลาที่ไหนไปทำ” ตรัสถามเสียงเบา หัวใจอุ่นซ่านที่ได้รับความเอาใจใส่ถึงเพียงนี้ รติยิ้มไม่ยอมตอบ เขาถึงลองตักเข้าปาก เนื้อผักดองนั้นกรอบกรุบ ให้รสเปรี้ยวสดชื่น กินแกล้มกับข้าวอย่างอื่นยิ่งช่วยเสริมรสชาติอาหาร
“อร่อยไหม” คนทำตั้งคำถาม ดวงตาเป็นประกายวาวอย่างวาดหวัง
“อืม” ไม่เพียงคำตอบ แต่ยังพยักหน้า เพียงเท่านั้นคนทำก็ยิ้มกว้าง หันไปชวนคนทั้งโต๊ะให้ลองฝีมือของตน
รติก็ยังเป็นรติ เขาช่างเอาใจใส่ผู้อื่น แต่รติในเวลานี้ก็ไม่ใช่รติคนเดิมที่กัญญารู้จัก
หญิงสาวมองใบหน้าสดใสร่าเริงของเขา และมองท่าทีเอาใจใส่ที่เขามีต่อสามีแล้วก็พลันรู้ตัวว่าเวลานี้สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือเขามีคนข้างกายแล้ว
กัญญาบอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไร แต่หัวใจของนางอื้ออึงด้วยเสียงที่จับไม่ได้ศัพท์ทีเดียว
---------
หลังมื้ออาหาร หญิงสาวถูกชวนให้ร่วมดื่มน้ำชาและขนม ท่านอมราขอตัวไปพักผ่อน โดยมีรุจีดูแล ตรัสเองก็ขอตัวไปดูแลระพี รติในฐานะสหายของกัญญา จึงเป็นคนรับรองนาง
เรือนอหัสกรนั้นมิดชิด ดังนั้นการที่สองหนุ่มสาวจะนั่งดื่มน้ำชาด้วยกันที่ชานเรือนจึงไม่เป็นเป้าสายตาของใคร
“ท่าน...มีความสุขดีใช่ไหม รติ”
เมื่ออยู่กันสองคน คำถามที่คาใจกัญญาก็ดังขึ้นมาเป็นสิ่งแรก รติเลิกคิ้วมองนาง แล้วจึงยิ้มจาง พยักหน้ารับ
“ใช่”
“แม้ว่าท่านจะเป็นชาย และเขาก็เป็นชายน่ะหรือ”
“ใช่”
กัญญาเม้มปาก รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งหัวใจ
“มีความสุขกับการเป็นภรรยาของชายผู้นั้นอย่างนั้นหรือ”
“ใช่”
“แม้ว่าท่านจะถูกมองว่าเป็นภรรยาของชายด้วยกัน แม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อท่าน เรียกท่านเหมือนท่านเป็นหญิง ท่านก็มีความสุขอย่างนั้นหรือ”
“เพราะข้าเป็นชาย ข้าถึงให้เขาเรียกเช่นนั้น”
กัญญามองชายหนุ่มเบื้องหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่รติยังยิ้มจาง
“เจ้าคิดว่าการมีภรรยาเป็นชาย จะเป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาคนทั่วไปโดยง่ายหรือ ไม่ง่ายเลย ตรัสเป็นหมอ อหัสกรมีร้านยาอยู่ใจกลางเมือง การที่เขาแต่งงานกับข้า คนส่วนหนึ่งก็พูดกันอย่างขำขันเป็นเรื่องตลกแล้ว หากข้ายังเอาความเป็นชายมากำกับอีก เขาจะรู้สึกเช่นไร”
“การแต่งงานของข้ากับเขาไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความรักแต่แรก การที่ข้ายอมให้เขาเรียกข้าอย่างผู้หญิง อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้เขารู้สึกแปลกแยกจากคตินิยมของการแต่งงานระหว่างชายหญิงมากนัก ตรัสเป็นคนเคร่งธรรมเนียม การให้เขายอมรับทั้งการแต่งงานกับชาย การได้ชายเป็นภรรยา หรือการปฏิบัติตัวกับภรรยาที่เป็นชาย มันมากเกินไปสำหรับการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน”
“ท่านก็เลยยอมหรือ” กัญญามองคนตรงหน้าด้วยความอาทร
“ตอนแรกเป็นการยอม แต่เวลานี้ไม่ใช่การยอมอีกแล้ว”
รติพูด รอยยิ้มยังประดับอยู่บนใบหน้า กวาดตามองสวนหลังบ้านด้วยความสบายอกสบายใจ
“เวลานี้ ข้าไม่ได้คิดเรื่องชายหญิง สิ่งสำคัญคือความสุข หากเขามีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ข้าก็มีความสุขเช่นกัน หากสิ่งใดทำให้เขาทุกข์ ข้าก็อยากปันมาเพื่อแบ่งเบา สามีภรรยา ไม่ใช่ฝ่ายใดเป็นชายหรือฝ่ายใดเป็นหญิง แต่คือการเคียงข้างอย่างเข้าอกเข้าใจ”
กัญญาได้แต่มอง ชายหนุ่มในเวลานี้ ยังคงเป็นรติที่นางเคยรู้จัก
นิสัยของเขามักคิดถึงคนอื่นก่อนตนเอง คนเช่นนี้หาความสุขง่ายดายเพราะเพียงเห็นผู้อื่นมีความสุข ตนเองก็มีความสุขแล้ว แต่คนเช่นนี้ก็มักเหนื่อยยาก เพราะต้องลงแรงกายแรงใจทำให้ผู้อื่นสุขสบายก่อน กว่าจะได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อตนเองก็แทบไร้เรี่ยวแรงแล้ว
...ไม่สิ...
รติจะไม่เหนื่อยยาก เพราะในยามที่รติทำเพื่อคนอื่น ก็มีผู้อื่นคนหนึ่งทำเพื่อรติ
กัญญาคิดไปถึงตอนรับประทานอาหาร ชายผู้นั้นคอยดูแลเอาใจใส่รติอย่างสม่ำเสมอ กับข้าวใดๆก็ล้วนตักมาให้
‘สามีภรรยา ไม่ใช่ฝ่ายใดเป็นชายหรือฝ่ายใดเป็นหญิง แต่คือการเคียงข้างอย่างเข้าอกเข้าใจ’
หญิงสาวถอนหายใจยาว คล้ายทั้งปล่อยวางและสบายใจ
“ถ้าท่านพอใจเช่นนี้ ข้าก็ยินดีด้วย”
“ขอบใจ กัญญา”
“ค่ำมากแล้ว เห็นทีต้องกลับเสียที” หญิงสาวเอ่ย พลางลุกขึ้นยืน
“ข้าจะไปส่ง ขอไปตามตรัสก่อน” รติพูดแล้วลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในเรือน อึดใจหนึ่งก็กลับมาพร้อมกับชายหนุ่มผู้เป็นสามีของเขา
สองชายหนึ่งหญิงออกจากเรือนอหัสกร แต่ครั้นทั้งสามจะเดินขนาบข้างกันไป ทางเดินก็ไม่ได้กว้างมากนัก ตรัสจึงดันไหล่ภรรยาเบาๆให้เดินข้างหญิงสาวผู้มาจากต่างถิ่น
รติสบตาอีกฝ่าย แต่ตรัสเพียงยิ้ม ไม่มีท่าทีโกรธขึงแต่อย่างใด เขาก็พยักหน้ารับ ก้าวเท้าเคียงไปกับสหายผู้มาจากเมืองใต้ โดยมีตรัสเดินรั้งตามหลัง กระนั้น...แม้จะไม่ได้เดินเคียงกันอย่างเคย แต่รติก็คอยมองหลังอยู่เสมอ ว่าอีกฝ่ายตามมาหรือไม่ คล้ายจะรั้งรออยู่ในที
ใช้เวลาไม่นาน ก็เดินมาถึงที่พักของกัญญา
“แล้วพรุ่งนี้จะไปไหนบ้าง” รติถามอย่างห่วงใย นางมาที่นี่ตัวคนเดียว จะไม่ให้เขาใส่ใจก็ไม่ได้
“ข้าได้ยินว่าทางตอนเหนือของเมืองมีทะเลสาบที่ดอกไม้สวย”
“ทะเลสาบตอนเหนือหรือ? อ๊ะ! หรือว่าทะเลสาบที่ท่านเคยพาข้าไปตอนฤดูหนาว” คราวนี้ รติหันไปถามคนข้างกาย ตรัสพยักหน้า แล้วหันไปเอ่ยกับหญิงสาว
“ในฤดูร้อน ที่นั่นจะมีทุ่งดอกไม้สวยทีเดียว แต่ต้องใช้เวลาเดินทางสักหน่อย ควรออกจากที่นี่แต่เช้า ไปถึงจะได้ไม่ร้อนมากนัก”
รติเป็นนักเที่ยวตัวยง ได้ยินอย่างนี้ก็เนื้อเต้นอยากไปดูให้เห็นกับตา แต่ครั้นจะไปกับกัญญา เขาก็รู้ว่าตนเองไม่ได้ตัวเปล่า หน้าตาชื่อเสียงของตรัส อหัสกรเป็นสิ่งสำคัญ คนจะพูดเอาได้ว่าภรรยาเที่ยวโร่ไปกับผู้อื่น ที่สำคัญกว่าชื่อเสียงคือความรู้สึกคนขี้หึงนี่อย่างไร
ดังนั้น แม้จะอยากเที่ยวเพียงใด รติก็สงวนท่าทีเอาไว้ แล้วหันไปกล่าวกับสหายจากแดนใต้
“ถ้าอย่างนั้น ก็ควรพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นไหว”
กัญญาคบหากับรติมาแต่เล็กแต่น้อย มีหรือจะไม่รู้ว่าเขาชอบท่องเที่ยวเพียงใด ดูสีหน้าเขาก็รู้แล้วว่าสนใจอยากจะไปชมทะเลสาบตอนเหนือในวันพรุ่งนี้
แต่...รติก็ยังเป็นรติ เขาวางความอยากของตนเองลง เพราะเอาใจใส่สามีของเขา
“พวกข้าไม่กวนเจ้าแล้ว พรุ่งนี้เดินทางปลอดภัย” รติกล่าวเช่นนั้น ส่งยิ้มให้กับหญิงสาวแล้วจึงจากมาพร้อมกับตรัส เขาไม่ได้หันกลับไปมองเบื้องหลัง แต่กัญญาก็ยังมองตามส่งจนเขาลับสายตา
ชายผู้นั้น...ช่างโชคดี ที่ได้รับความเอาใจใส่จากคนเช่นรติ
---------
#คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต
ธ ม น
THAMON926
---------
มีแต่คนเอาใจใส่กันและกัน อิจฉาจังค่ะ ฮ่าฮ่า
รติเป็นคนน่ารักมากจริงๆ เห็นอย่างงี้แล้วก็อยากมีรติเป็นของตัวเองเหมือนกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านเสมอเลย
เจอกันวันศุกร์ค่ะ