มาต่อแล้วววว
******************************************
“ว่าไงนะเมื่อกี้.....แค่หอมเหรอ”ผมถามเจใหม่อีกรอบครับ ตอนนี้มันนั่งหันหน้าออกกระจกรถไปแล้ว วิวสวยมากเหรอไงวะ ทีเมื่อกี้มาว่าผมว่าไม่มองหน้ามัน หึหึ ไอ้เปี๊ยกเอ้ยยยย
“ก็..ก็บอกว่าขำๆ ไง แค่หอมแก้มกัน ผู้ชายเขาไม่ถือหรอก”
“
หืมมมม”แค่หอมแก้มงั้นเหรอวะ จำได้แค่นี้เองเหรอไอ้เปี๊ยกกกกก
“หึๆ ฮ่าๆๆๆๆ”ไม่ไหวแล้วครับ ผมหัวเราะลั่นรถ ไอ้เด็กบ้านี่ทำอะไรไว้กับคนอื่นนี่ไม่รู้เลยเหรอไง แค่หอมแก้มผมจะไปโกรธ ไปเขินมันทำไม เรื่องพวกนี้บางทีก็เจอในวงเหล้าบ่อยๆ เพื่อนผมบางคนก็เป็นเกย์ เป็นกะเทยเยอะแยะ เมาๆ มาก็โดนหอม โดนกอดกันพอขำๆ ไม่ถือกันหรอก ตราบใดที่มันไม่มากกว่านั้น
“หัวเราะไร”แน่ะ ทำเสียงดุด้วยเว้ย กลัวตายล่ะไอ้เปี๊ยกกก
“หัวเราะปลาทอง”จำไม่ได้ก็ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งเขินกัน
“ปลาทองบ้าไร พูดอะไรไม่รู้เรื่อง รีบๆ ขับให้ทันรถเพื่อนๆ เลย จะไปซื้อของฝาก”
“หายเวียนหัวแล้วรึไง หน้ายังซีดๆ อยู่เลย”
“ยัง แต่อยากซื้อของฝาก”ฟังมันพูดห้วนๆ แล้วอยากจับกรอกเบียร์อีกสักรอบจริงๆ ทีเมื่อคืนนะ เจอย่างนั้น เจอย่างนี้ ผมล่ะรับมือกับมันไม่ถูกจริงๆ
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โมทย์พี่รหัสมัน เพราะปกติพี่รหัสต้องซื้อของให้น้องรหัสก่อนกลับอยู่แล้ว
“ถึงร้านของฝากยังโมทย์”
“ยังว่ะ เกือบถึงแล้วแหล่ะ”เสียงรุ่นน้องรุ่นพี่ร้องเพลงดังลั่นรถเลยครับ อิจฉาน่ะ อยากร่วมด้วย ผมน่ะไม่ได้อยากเอารถตัวเองมาหรอกครับ แต่เศกมันอยากให้มีรถไว้ใช้ฉุกเฉิน และก็ได้ใช้จริงๆ ด้วย
“รอเดี๋ยวนะมึง น้องมึงอยากได้ของฝากน่ะ แล้วมึงน่ะซื้อของให้น้องกูกับกูด้วย”ผมยื่นโทรศัพท์ให้เจที่นั่งมองผมตาแป๋วอยู่ มันก็รับไปพูดอย่างงงๆ น่ะแหล่ะ
“พี่โมทย์!”เสียงใสเชียวครับ ทีกับผมนี่นานๆ ที่จะได้ยินมันเรียกพี่
“ครับ ก็ดีขึ้นแล้วครับ.... เอาข้าวหลามสีดำนะครับ ไม่เอาแบบมีถั่ว แล้วก็ขนมหม้อแกง...แห่ะๆ อันนั้นแพ้ครับ กินไม่ได้ อันนั้นกินได้ครับ ครับ ไม่ต้องเยอะก็ได้ครับผมกินไม่หมดเดี๋ยวเสีย ครับ ขอบคุณครับพี่โมทย์”
ทีกับพี่รหัสมันเนี่ยยยย หมั่นไส้โว้ยยย
ผมขับมาเรื่อยๆ เปิดเพลงฟังพอให้คลายเครียด เพราะตอนนี้ทั้งผมทั้งเจไม่มีใครพูดไรเลย ผมเลยขับเข้าปั๊มเติมน้ำมันแล้วก็แวะซื้อของกินนิดหน่อย จะได้ขับยาวกลับกรุงเทพเลยทีเดียว
“เจจะกินไร”
“ไม่อ่ะพี่ไม่หิว”อีกแล้วครับ ไม่รู้จักดูแลตัวเองเลย แล้วก็มาป่วยให้คนอื่นเขาพลอยเป็นห่วงไปด้วย
“มันใช่คำตอบเหรอ บอกมาเร็วๆ”
“นมช็อคโกแล็ต”แค่นี้จะไปอิ่มได้ไงวะ กินยาไปเดี๋ยวก็กัดกระเพาะอีก เวาลามันพูดกับผมครับ หน้าหงิกหน้างอตลอด ขี้เกียจต่อความยาวกับมัน
เดินเข้ามาด้านใน พนักงานก็กล่าวสวัสดีครับ สวัสดีค่ะ และพูดยินดีต้อนรับตามที่ถูกฝึกมา ผมก็ยิ้มให้ ผมคิดเสมอว่ามันเป็นหน้าที่แต่ หน้าที่นี้ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ทำไมเขาต้องสอนให้พนักงานทำแบบนี้กับลูกค้าทุกคน ก็คงเพราะนิสัยพื้นฐานของคนไทย ความเป็นมิตรที่มีให้ผู้พบเห็นเสมอ ถึงคนไทยส่วนใหญ่จะลืมข้อนี้ แต่คนบางคนเขาไม่ลืม ผมก็ไม่ลืม แม้ไม่ได้พูดตอบกลับไป ก็ยิ้มให้เป็นอันรู้กันว่า ‘เช่นกันครับ ขอบคุณครับ’ นิสัยส่วนนี้อาจมาจากการที่ครอบครัวผมทำงานบริการเหมือนๆ กันก็ได้นะ
ผมเลือกนมช็อคโกแล็ตแบบไม่แช่เย็น ท้องว่างๆ ก็ไม่ควรกินอะไรเย็นๆ นะครับ ยิ่งมันปวดท้องง่ายๆ อยู่ แล้วก็เลือกขนมปังไส้ช็อคโกแล็ตไปด้วย นอกนั้นก็ขนมขบเคี้ยวอื่นๆ ที่ผมชอบกิน
เปิดประตูรถเข้าไปนั่งก็เห็นเจมันหลับไปแล้ว ดีครับจะได้ไม่พูดมาก ผมเอื้อมไปปรับเบาะให้เอนลง หน้ามันยังซีดอยู่บ้าง เมื่อเช้าผมเคลียร์เรื่องที่บ้านพักกับผู้จัดการโรงแรมอยู่ดีๆ ก็มีพนักงานที่ผมให้คอยดูแลเรื่องอาหารเช้า วิ่งมาบอกว่ามีรุ่นน้องเป็นลม ผมก็รีบวิ่งมาดู แทรกตัวผ่านคนอื่นที่ยืนล้อมอยู่ก็เห็นโมทย์ยืนลูบหัวน้องรหัสมันอยู่ เห็นหน้าซีดๆ ของมันแล้วใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลยครับ ผมนึกว่ามันปวดท้องอีกแล้ว ก็ไหนมันเพิ่งหาย ปลาหมึก หรืออาหารทะเลก็ไม่ได้กิน ถามไปถามมาเลยรู้ว่ามันกินเยอะไป เด็กมากเลยครับ ผมมีน้องชายหนึ่งคน อายุห่างกันสองปียังดูไม่เด็กเท่ามันเลย ตัวเท่าลูกหมาแต่ขยันหาเรื่อง ใครมีเรื่องอะไรมันคอยแต่จะเสนอหน้าก่อนเขาเพื่อน แต่ก็มันอีกน่ะแหล่ะที่คอยออดอ้อนคนโน้นคนนี้ แล้วก็บอบบางมากเลยครับ
อยู่กับมันไม่นาน บอกตรงๆ ว่ามันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก มันไม่ได้ทำตัวเรื่องมากเหมือนพวกผู้หญิงนะครับ แต่อะไรที่มันทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้จริงๆ แล้วมันก็ไม่ค่อยพูดด้วย ผมคิดว่ามันคงกลัวเสียฟอร์ม เพราะอย่างนี้แหล่ะมั้งเลยต้องมีตี๋กับโก้คอยห้ามเวลามันทำอะไรเกินตัว ผมเข้าใจครับที่โมทย์มันบอกว่าไอ้เด็กนี่น่ารัก แล้วทำให้มันคิดถึงน้อง ผมยังอดคิดถึงน้องไม่ได้เลย ตอนเด็กๆ น้องผมก็ชอบอ้อน ติดพี่อย่างนี้แหล่ะครับ แต่พอโตมีเพื่อนฝูง ความเป็นผู้ชายมีมากขึ้น มันก็ไม่อ้อนผมแล้วครับ
“อื้อออ”เสียงเจมันตื่นแล้วบิดขี้เกียจครับ ตาดูเบลอๆ งงๆ เห็นแล้วก็อดเอ็นดูมันไม่ได้
“ตื่นแล้วเหรอ”
“ผมหลับไปนานมั้ยเนี่ย ใกล้ถึงยัง”
“ไม่นานหรอก อีกสักชั่วโมงก็ถึง หิวไหม”
“นิดหน่อยครับ”
“ถุงของกินอยู่เบาะหลังน่ะ หยิบมากินซะ เดี๋ยวจะปวดท้องอีก”พูดจบมันก็ปรับเบาะขึ้นมาแล้วก็คว้าถุงมาเลือกขนมกิน มันก็หยิบนมขึ้นมาดูๆ แต่ไม่กินสักที
“ทำไม ก็นมช็อคโกแล็ตไง มีหนมปังด้วยนะ กินไปด้วย”ผมเห็นเจเก็บนมใส่ถุงแล้วหยิบขนมปังมากัดกินแทน
“แล้วนมล่ะ ทำไมไม่กิน”
“มันไม่เย็นแล้ว”เรื่องมากจริง
“ก็ไม่ได้ซื้อแบบเย็นมา กินไปแบบนี้แหล่ะ”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบ ชอบกินแบบเย็นๆ กินแค่หนมปังก็พอ”แน่ใจนะครับว่านี่เด็กมหาลัย ปี 3
“ไม่ได้ ขนมปังไม่อยู่ท้อง ไม่กินนมก็กินโกโก้ มันยังอุ่นๆ อยู่ พี่ชงแบบไม่หวานเท่าไหร่ น่าจะกินได้”ผมเคยเห็นตอนมันปรุงอาหาร มันไม่ใส่น้ำตาล น่าจะไม่ชอบหวานนะ
“จริงอ่ะ”มันทำหน้าเหวอนิดๆ เป็นไรของมัน
“จริงไร”
“ที่ว่าพี่ชง...โกโก้”
“เออสิ ก็นี่มันกระติกพี่ ชงกินเมื่อเช้าเลยชงใส่มาเผื่อด้วย ทำไม ไม่ชอบเหรอ”ผมยกคิ้วข้างหนึ่งเป็นเชิงถาม เจก็ตอบแบบอ้อมแอ้มเบาๆ ให้พอได้ยิน
“เปล่า...ชอบ”
เป็นไรของมันอีก เอาใจยากจังวะ
“แล้ว...พี่กินไรยัง”
“ยังเลย เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน เอาหนมปังมากินหน่อยดิ”ผมซื้อขนมปังไส้ช็อคโกแล็ตมาสองห่อครับ
เจก็ควานหาในถุง แกะปากถุงออกให้ตัวขนมปังโผล่ขอบถุงออกมา แล้วยื่นมาตรงหน้าผม เอ่อ...มัน..ป้อนเหรอ คนป้อนก็ยังกัดขนมปังในมือตัวเอง อีกมือก็ยังค้างที่หน้าผม พอเห็นผมไม่กินสักทีมันก็เอียงคอเล็กๆ เหมือนจะถามว่าไม่กินเหรอ ผมก็เลยต้องกินครับ พอผมกัด เจก็ชักมือกลับ ผมเคี้ยวๆ ไปสักพักมันก็ยื่นมาใหม่ ก็สบายดีครับ กินๆ ป้อนๆ กันจนหมด เจก็เอานมที่ผมซื้อมานั่นแหล่ะเจาะหลอด ยื่นมาให้ผมอีก สรุป...ต้องกินใช่มั้ยเนี่ย กินก็กิน ผมก็ดูดๆ สลับกับขนมปังรสนมที่มันแกะห่อใหม่ นมหมด ขนมปังหมดก็อิ่มครับ
“ขอบใจ”ผมหันไปขอบคุณ เจก็ส่งยิ้มบางๆ ให้ผม
“หายเวียนหัวยัง”
“หายแล้ว ได้นอนพักก็หาย แต่...ปวดหัวแทน”นั่นไง นึกแล้วไม่มีผิดครับ ตี๋มันก็บอกผมไว้ก่อนขับรถออกมาแล้วแหล่ะ ว่าอาการเพื่อนรักมันจะเป็นยังไงบ้าง
“มียาแก้ปวดหัวอยู่ในถุงยาเบาะหลัง เอามากินซะ”แปลกครับ ตอนนี้ผมบอกให้ทำอะไรมันก็ทำหมดเลย สงสัยปวดหัวจริงๆ ตี๋บอกผมว่าเวลาเจไม่สบายหนักๆ มันชอบอ้อน ชอบให้คนเอาใจใส่ ทำตัวเป็นเด็กขาดความอบอุ่นไปด้ายยยยย
“นอนซะ ถึงแล้วจะปลุก”ว่าง่ายครับ บอกให้นอนมันก็ปรับเบาะนอนเลย หน้าเริ่มมีสีเลือดแล้ว ผมก็ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่รีบครับ ไม่รีบ