เมื่อวานเศกก็เรียกน้องๆ มารวมกัน เพื่อให้โหวตดาวเดือนคณะอีกครั้ง ก็ทำเหมือนตอนรับน้องน่ะแหล่ะครับ เขียนใส่กระดาษมาแล้วนับคะแนน สุดท้ายแล้วก็เป็นโอ้กับเก๋ได้ไปครับ โอ้นี่ผมคิดว่าน่าจะมาจากวีรกรรมคืนนั้น ทำให้มันเข้ากับเพื่อนๆ ได้มากขึ้น คือ มันเป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้วครับ ถ้ามันเริ่มสนิทกับใครก็จะเฮฮาสนุกสนาน ส่วนเก๋นี่น้องๆ บอกคำเดียวว่า ฮา ครับ เก๋เป็นเด็กผู้หญิงที่ดูภายนอกแล้วน่าทะนุถนอมมากครับ สูงร้อยหกสิบต้นๆ ผิวขาว ผมยาว ตากลม แต่เป็นคนกล้าแสดงออกมากๆ เพื่อนๆ ก็เลยโหวตให้ ความจริงอันดับสองผมไม่อยากจะบอกเลย อันดับสองดาวคณะผมเป็นไอ้เจมันอ่ะ ตอนแรกผมนึกว่าเขียนกันผิดหรือเปล่า พวกมันก็ตะโกนยืนยันเลยครับ บอกว่าตอนประกวดให้ยัดฟองน้ำเอา เล่นเอาไอ้เปี๊ยกลุกขึ้นด่ากลางที่ประชุม เรียกเสียงโห่ฮาได้ตลอด
ช่วงนี้เจมาแวะเวียนห้องผมบ่อยครับ เพราะขนมมันยังอยู่ในตู้เย็นห้องผมอยู่ ขนมที่ป้านอมทำให้ มันกับไอ้ตี๋ก็ซัดซะเกลี้ยงเลย พากันมานั่งกินนอนกินอยู่ห้องผมประจำ
“เอ็กซ์มีคนมาหาว่ะ”ผมนั่งทำงานส่งอาจารย์อยู่ให้ห้อง lab เพื่อนในห้องก็ตะโกนเรียกจากหน้าประตู
มองออกไปเห็นแขกของผมแล้ว ไม่อยากลุกเลยครับ
“หวัดดีครับดาว ใส่ชุดมหาลัยพี่ด้วย มาเรียนที่นี่แล้วเหรอ”
“ใช่สิคะ มาจนจะครึ่งเทอมแล้ว เคยเดินสวนกันก็หลายครั้ง พี่เอ็กซ์ไม่เห็นหรือแกล้งไม่เห็นคะ”
“ไม่เห็นจริงๆ แล้วดาวเรียกพี่มีอะไรหรือเปล่า พี่ทำงานอยู่น่ะ”คือ...ถึงผมจะไม่ชอบนิสัยของผู้หญิงคนนี้ แต่ยังไงเธอก็เป็นเพศแม่ จะให้ด่าเสียเทเสียก็ไม่ควรครับ ผมยังให้เกียรติผู้หญิงอยู่บ้าง ถึงเมื่อก่อนผมจะมั่วไปหน่อย แต่ปีสุดท้ายแล้วต้องสนใจการเรียนก่อนครับ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่จะมาบอกว่าให้ไปเชียร์วันเสาร์นี้หน่อยค่ะ ดาวประกวดด้วย”
“เหรอครับ ของคณะไรครับ”
“สถาปัตย์สิคะ จะให้ดาวเรียนคณะไหนล่ะ”ดีครับ จะได้พยายามไม่ผ่านตึกถาปัตย์
“งั้นพี่ขอตัวไปทำงานก่อนนะ แล้วเจอกัน”ผมรีบเดินกลับเข้ามาในห้อง ไม่สนใจคำบอกลาของเธอเลย ไม่เข้าใจครับมาทำไมถึงมายุ่งกับผมอีก ถ้าเข้ามาพูดตรงๆ ว่าขอกลับมาคบกันใหม่ ผมจะได้ปฏิเสธตรงๆ แต่เข้ามาแบบนี้ ไม่รู้จะพูดยังไง เราสองคนไม่ใช่คนที่เลิกแล้วจะกลายเป็นเพื่อนได้ ผมเจอดาวตอนไปกินเหล้ากับเพื่อน เห็นว่าสวยดีก็เลยเข้าไปคุย แล้วคืนนั้นก็ไปต่อ........ นั่นแหล่ะครับ แล้วก็คบหากันเรื่อยมา ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์นะผมว่า เฮ้อ...มาทำให้ผมเครียดเลย เก็บของกลับไปทำต่อที่ห้องดีกว่าครับ
เดินออกจากคณะ ก็พบรุ่นน้องบ้าง ตอนนี้หมดกิจกรรมรับน้อง นอกจากกลุ่มไอ้เจ ผมก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกับน้องคนอื่นเท่าไหร่ อาศัยเดินไปเดินมาทักทายกันบ้าง เดี๋ยวช่วงนี้ต้องเตรียมซ้อมบาสอีกครับ เหนื่อยสายตัวแทบขาดเลย
ปั่นจักรยานกลับมาถึงหอ ก็แวะซื้อข้าวใส่กล่องขึ้นมาไว้กินดึกๆ ปีสุดท้ายไม่ค่อยเข้าเรียนหรอกครับ ส่วนมากก็เอาเวลาทำโปรเจ็ค นี่ก็นั่งหัวหมุนกันอยู่ ส่งหัวข้อกี่รอบๆ ก็ยังไม่ถูกใจอาจารย์เขาสักที ช่วงนี้ก็แบ่งงานครับ หาข้อมูล วิเคราะห์เบื้องต้น แล้วก็ทำตัวอย่าง นั่งทำไปทำมาฟ้ามืดไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมลุกขึ้นเดินออกไปรับลมที่ระเบียง ลมก็ไม่ค่อยมีหรอกครับ ตึกสูงๆ บังหมด แต่ก็ยังดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม
มองไปที่ระเบียงห้องข้างๆ เห็นเจมันยืนอยู่ก่อนแล้ว มันมองออกไปข้างหน้า ดูเครียดๆ ที่สำคัญ มันคาบบุหรี่ไว้ที่ปากด้วย ผมไม่เคยเห็นมันสูบบุหรี่เลยสักครั้งนะ ตั้งแต่รู้จักกันมา กลิ่นบุหรี่ก็ไม่เคยได้ มองหน้ามันจากด้านข้างก็แปลกไปอีกแบบครับ หน้าหวานๆ ขาวๆ ที่คาบบุหรี่ไว้ที่ปากสีชมพู ดูมีเสน่ห์มากครับ ผมคงเผลอจ้องมันนานเกินไป จนมันรู้สึกตัว
“อ้าวพี่เอ็กซ์ มายืนตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้ยินเสียงเลย”เจเอานิ้วคีบบุหรี่ออกจากปากไปโยนทิ้งใส่ถังขยะ
“สูบด้วยเหรอวะ ปกติไม่เคยเห็น”
“เปล่าหรอกพี่ คาบไว้เฉยๆ”
“สูบก็สูบดิ พี่ไม่ได้จะว่าหรอก”ผมคิดไปว่าเจมันอาจกลัวผมดุ ยังไงผมก็เป็นรุ่นพี่
“ไม่ได้สูบจริงๆ พี่”
“เออ แล้วเอามาคาบไว้ทำไม เครียดอะไรวะ พี่มายืนมองสักพักแร่ะ”ภาพลักษณ์มันกับบุหรี่ไม่เข้ากันเลยครับ
“ก็...หลายอย่างน่ะพี่...บางทีก็อยากสูบนะ ถึงจะรู้ว่ามันไม่ดี..แต่........ไม่ชอบคนสูบบุหรี่ ผมก็เลยได้แต่คาบไว้เฉยๆ จะได้บอกคนอื่นได้เต็มปากว่าผมไม่สูบ บุหรี่มันไม่ดี แล้วอีกอย่างมันเป็นการฝึกความอดทนด้วย”เป็นเหตุผลที่เป็นตัวของตัวเองดีครับ
“อดทนยังไงวะ”
“ก็อดทนที่จะไม่ยกไฟแช็คมาจุดที่ปลายมวนไงพี่”เจชูไฟแช็คในมือให้ผมดู
“เออ คิดดีนี่หว่า แล้วนี่ออกมายืนดูอะไรตั้งนาน”
“ดูดาว”เจหันมายิ้มให้ผม เด็กคนนี้มีหลายอารมณ์ หลายใบหน้า จนผมสับสนไปหมดแล้วครับ
“ดาวไร ไม่เห็นมีสักดวง”
“
ดาวบนดิน มีเฉพาะที่กรุงเทพเลยนะ พี่ดูดิ เต็มถนนไปหมดเลย”ผมเห็นเจมองไปตามท้องถนน ที่มีรถวิ่งบ้าง จอดติดไฟแดงบ้าง อยู่สูงๆ ก็จะเห็นไฟรถเป็นดวงๆ.......นี่ล่ะมั้ง ดาวบนพื้นของมัน
“พี่ดูตรงนั้นดิ ไฟเรียงเป็นทางยาวเลย สงสัยทางช้างเผือกมั้ง หึหึ”ทางที่เจมันบอก ก็คือเส้นที่รถติดหนักๆ ติดยาวทั้งเส้นเลยครับ ผมเห็นแล้วก็หัวเราะตามไปด้วย คงจะมีมันนี่แหล่ะ ที่คิดแง่บวกได้แบบนี้
“แล้วทำอะไรดึกแล้วไม่นอน”
“ก็เตรียมเพลงประกอบโชว์ของเก๋มันน่ะ มันบอกให้มิกซ์ให้ ผมเลยต้องรีบทำ มันจะได้เอาไปซ้อมดู”
“เออก็ดี แต่บอกมันแล้วกันว่าไม่ต้องซีเรียสมาก ไม่ได้ตำแหน่งอะไรมาก็ไม่เป็นไร หนุกๆ พอ”
“อันนี้พี่ต้องไปบอกมันเอง เพราะมันน่ะเป็นพวกฆ่าได้หยามไม่ได้”
“พรุ่งนี้ตี๋มันจะไปคัดตัวบาสตอนเย็น จะไปเชียร์มันรึเปล่า”
“ไม่ว่างอ่ะ พรุ่งนี้ผมต้องไปคุยงานลูกค้า คงกลับมาไม่ทัน”
“งานที่เคยบอกน่ะเหรอ เดือนนึงนี่รับกี่งานวะเนี่ย”อดแปลกใจไม่ได้ครับ ผมคิดว่ามันรับงานแบบสนุกๆ นานๆ ครั้ง แต่นี่ไม่พ้นเดือนมันมีงานใหม่อีกแล้ว
“ก็ประมาณเดือนละงานสองงานแหล่ะ ไม่รับเยอะหรอก ช่วงนี้ยังไม่อยากได้อะไร ตอนแรกอยากได้ตู้เย็น แต่ตอนนี้อาศัยฝากข้างห้องแช่ไปก่อน เลยยังไม่ซื้อดีกว่า”อืมมมมม ประหยัดดีครับ ข้างห้องมันก็ผมนี่แหล่ะ ไอ้นี่คุยนานๆ ชักกวนขึ้นมาอีกแล้ว
“เออฝากได้ ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าฝากแล้วมันหายไปก็อย่าว่าแล้วกัน”
“โหยยย ใจร้ายว่ะ ไปทำงานต่อดีกว่า ไปแล้วนะพี่”
“เออไปเหอะ”
เจมันเดินกลับเข้าห้องไปแล้ว ส่วนผมยังยืนอยู่ที่เดิม ผมเป็นเด็กกรุงเทพ ใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสี ข้อเสียของเมืองกรุงก็รู้เห็นมันเหมือนทุกคน จนเบื่อและอยากหนีไปอยู่ที่อื่นบ้าง แต่กับเจ เด็กตจว.ที่ต้องมาอยู่กรุงเทพ มันกลับมองหาข้อดีในข้อเสียร้อยแปด แล้วอยู่กับสิ่งนั้น เหมือนกับที่มันมองรถติดแล้วบอกว่าเป็น...ดาวบนดินนั่นแหล่ะ
************************************************************************************
ใครอยากอ่านตอนน่ารักๆ รอพรุ่งนี้นะคะ
ขอให้หลับฝันดีนะคะทุกคน