บทที่25 หยางxดีดี
หนึ่งสัปดาห์หลังจากอินกลับมาจากอยุธยา...
ร่างเล็กเจ้าของนามดีดีนั่งมองข้อความในโทรศัพท์มือถือซึ่งปรากฏชื่อผู้ส่งว่ามาจากคนรักของเขามาเกือบชั่วโมงแล้ว ใบหน้าตี๋น่ารักที่ในยามปกติจะปรากฏรอยยิ้มน่าเอ็นดูเสมอกลับฉายแววหม่นหมอง หยาดน้ำตาซึ่งไหลออกมาไม่หยุดร่วมชั่วโมงแล้วยังคงพรั่งพรูออกมาเรื่อยๆไม่รู้จบ
“ทำไม...”เสียงหวานตัดพ้อแผ่วเบา
คำว่าเราเลิกกันเถอะที่เจ้าหล่อนส่งมามันทำร้ายจิตใจดวงน้อยๆนี้จนยากเกินกว่าจะตั้งสติได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ความเจ็บช้ำกระหน่ำเข้ามาอีกครั้งระลอกเมื่อเขาเปิดโซเชียลขึ้นมาหวังหาอย่างอื่นทำเพื่อคลายทุกข์
นอกจากเจ้าหล่อนจะยกเลิกสถานะคบกันของพวกเราออกไปแบบไม่มีใยดีแล้วยังโพสต์รูปคู่กับชายหนุ่มรูปหล่อในชุดดูดีมีราคา เจ้าของใบหน้าหล่อๆนั้นกำลังหอมแก้มอดีตแฟนสาวของเขาอยู่ ใบหน้าของทั้งคู่ดูมีความสุขดี ฉากหลังคือร้านเหล้า
ดูจากการแต่งตัวแล้วคืนนี้ทั้งคู่คงไปไหนกันต่อ
“อ้าว มึงกลับมาแล้วเหรอวะ ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ”
ความมืดมิดภายในห้องนอนถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างจากหลอดไฟนีออน ดีดีซึ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัยของรูมเมทอย่างอินเพราะเขาไม่ได้ลงเรียนคาบเย็นเอาไว้เงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของตัวเองขึ้นมาสบกับร่างสูงโปร่งซึ่งมือยังแช่อยู่ที่สวิตส์เปิดไฟด้วยความตกใจ
“เห้ย!! มึงร้องไห้ทำไมวะ”อินรีบถลาเข้ามาหาเพื่อนทันที
ร่างเล็กทำเพียงแค่เช็ดรอยน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วก็ส่ายหัวไปมา
เห็นอาการของเพื่อนแล้วอินก็ชะงักตัวไปครู่หนึ่งเหมือนเขากำลังตัดสินใจพูดอะไรบางอย่าง ไม่นานเด็กหนุ่มก็เอ่ยข้อสันนิษฐานออกมา
“มึงเลิกกับแฟนใช่ไหม”อย่างแผ่วเบา
“ระ รู้ได้ยังไง”คนถูกแทงใจดำเบิกตากว้างตกใจ
อินเกาแก้มแล้วก็เสตามองไปทางอื่น”ขอโทษว่ะ กูมีสายอยู่คนนึง แล้วเมื่อวานนี้สายกูก็บอกว่าเจอแฟนมึงเดินนัวเนียอยู่กับผู้ชายคนอื่น ตอนแรกกูก็ยังไม่เชื่อหรอกแต่พอเห็นหน้ามึงแล้วก็พอจะเดาได้”
คำตอบของอินทำเอาคนฟังตกใจ ดีดีไม่รู้สึกตัวถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
“แล้วสายของอินพอจะรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงเลิกกับเรา”ตัวเขาที่เป็นแฟนกันอยู่ยังจับเค้าลางไม่ได้เลยจนกระทั่งวันนี้
ถ้าจะเลิกกันดีดีก็ไม่คงไม่ไปฉุดรั้งอะไรไว้ แต่อย่างน้อยก็อยากรู้เหตุผล เขาจะได้ไม่ทำผิดอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อได้เจอกับคนที่อยากมอบหัวใจให้อีกครั้ง....เมื่อได้เจอกับคนที่จะไม่ทำร้ายกันให้เจ็บช้ำแบบนี้อีกครั้ง
เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่อยากให้เขาถูกขโมยไปแบบนี้อีก
พอคิดมาถึงจุดนี้น้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก
“อ่า...เอ่อ...”อินทำท่าพิรุธขนาดนี้เพื่อนสนิทอย่างดีดีเลยแน่ใจว่าร่างโปร่งต้องล่วงรู้ความจริงบางอย่างแต่ยังไม่อยากให้เขารู้
“บอกมาเถอะอิน!!”
“กู...กูไม่รู๊!!”
“เสียงสูงเชียว ไม่เชื่อหรอก บอกมาเถอะ ขอร้องล่ะ อิน!!”มือเล็กตรงเข้าคว้าคอเสื้อของคนที่ได้ชื่อว่าแกร่งที่สุดในภาคแล้ว ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกเป็นแรงผลักดันให้เด็กเรียบร้อยฟิวส์ขาด
“สายกูบอกว่าเจอแฟนมึงกับผู้ชายคนนั้นตอนทั้งสองคนกำลังกินเลี้ยงฉลองที่คบกันครบสองเดือน!!”
เหมือนมีฟ้าฝ่าลงกลางห้อง ศีรษะของร่างเล็กซึ่งรู้ข่าวที่น่าตกใจโรงเครงไปมาเหมือนเรือใบกลางพายุฝน ดีดีช็อคจนเดินเหมือนตุ๊กตาไขลาน ร่างเล็กเดินไปยังตู้เสื้อผ้า หยิบเอาชุดไปรเวทตัวที่หยิบง่ายออกมา ก่อนจจะจัดแจงถอดเสื้อถอนกางเกงท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมห้อง
“เห้ย!! มึงจะทำอะไร”เสียงของอินส่งไปไม่ถึงหูของดีดี คนถูกหักอกสายฟ้าแลบจัดชุดที่เพิ่งสวมเสร็จให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าตังแล้วก็กุญแจรถที่นานทีปีหนจะขับสักครั้ง
“ดีดี มึงเดี๋ยว ชิบหายแล้วไงกู พัด!!!”อินถึงกับทำอะไรไม่ถูก ร่างโปร่งกดมือถือต่อสายออกหาคนที่น่าจะช่วยอะไรได้บ้างในสถานการณ์แบบนี้ขณะสาวเท้าวิ่งตามเพื่อนที่สติหลุดไปแล้วติดๆ
“พัดมึง ออกจากห้องมาที่ลานจอดรถด่วน ดีดีแม่งช็อคจนเออเร่อไปแล้ว!!”กรอกเสียงเร่งปลายสายก่อนโผตัวเข้าไปในลิฟท์ทันแบบหวุดหวิด
ดีดีซึ่งยืนน้ำตานองหน้าทอดสายตามองแผงควบคุมชั้นอย่างเหม่อลอย อินไม่อาจเดาใจเพื่อนของตนตอนนี้ออกเลยแม้แต่น้อย เขาได้แต่ภาวนาไม่ให้เพื่อนของตัวเองถือขวดน้ำกรดไปสาดหน้าใครเข้า
ไม่นานลิฟท์ก็เปิดออก ลานจอดรถซึ่งเป็นชั้นประจำที่พัดและดีดีจะมาจับจองพื้นที่ให้รถของตัวเอง ดีดีเดินตรงไปยังรถยนต์นอกของตัวเองก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งโดยไม่พูดไม่จาอะไร อินที่เหลียวหลังมองหาว่าพัดมาถึงหรือยังเลยต้องตัดจัดตามเข้าไปนั่ง
โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ดีดีก็ออกรถ อินเลยโทรไปบอกให้พัดขับรถตามมาทีหลัง
ปกติดีดีเป็นคนขับรถช้าจนเต่าตามตอดยางทัน แต่ครั้งนี้ตรงกันข้าม ถ้าแถวนี้มีจรวดอินเชื่อว่ามันคงถูกแซงทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น
“เดี๋ยว!!! มึงจะรีบไปตายที่ไหนวะ”
ไม่รู้ว่าฟ้าฝนไม่เป็นใจหรืออะไรก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เวลาโพล้เพล้แบบนี้รถควรจะติด แต่บังเอิญว่ามีถ่ายทอดสดฟุตบอลทีมชาติไทย ถนนที่พวกเขาใช้ตอนนี้ก็เลยโล่งเสียจนอยากจะร้องไห้
แม้ที่หมายจะอยู่แถบชานเมืองแต่ก็ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีทั้งคูก็มาถึง
ดีดีเดินตรงเข้าไปในร้านขณะที่อินยังคงยืนเหวออยู่ เขาแทบจะอ้วกออกมาแต่ก็ไม่มีเวลาจะอ้วก
“ร้านนี้มัน!?”
ร้านที่สองคนนั้นเช็คอินนี่!!
แฟนเก่าของดีดีและแฟนใหม่ของหล่อนเพิ่งเช็คอินที่ร้านนี้เมื่อครู่นี้เองนั่นก็หมายความว่าทั้งสองคนยังอยู่ในร้านนี้อย่างแน่นอน
“หยุด!!”ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ ดีดีที่กำลังอารมณ์พลุ่มพล่าน เลือดขึ้นหน้าไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนนั้นนั้นตวัดสายตาเกรี้ยวกราดมองอินที่ดึงแขนของตนเอาไว้
“ปล่อย”น้ำเสียงเย็นเยียบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อินเผลอคิดไปว่าคนตรงหน้าอาจไม่ใช่ดีดีที่อินรู้จัก
แต่แม้จะข่มขู่อะไรไปมือที่จับแขนของดีดีอยู่ก็ยังไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยสิอิน จับเราไว้ทำไม”น้ำเสียงไม่เย็นแบบเมื่อกี้แล้ว แต่คราวนี้มันฟังดูอ่อนระโหยอ้อนวอนจนเกือบใจอ่อนปล่อยเป็นอิสระ
“กูไม่ปล่อย มึงต้องใจเย็นๆก่อนนะ กูขอโทษที่ปากพล่อยบอกความจริงกับมึงไป กูขอโทษนะเพื่อน วันนี้เรากลับกันก่อนเถอะ กูขอร้องล่ะ!!”
แม้ว่าอินจะให้กู๊ดส์นำข่าวของหญิงสาวที่คบกับดีดีอยู่มาบอก แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าสายที่หามาได้แบบขอไปทีจะทำงานของตัวเองได้ดีเลิศขนาดนี้ เพราะผ่านไปไม่กี่วันหลังจากอินเคลียปัญหากับพัดเรียบร้อยแล้วพัดก็นำข้อมูลและรูปถ่ายที่กู๊ดส์ไปตามสืบมาให้พร้อมจดหมายขอบคุณจากเจ้าตัว
วินาทีแรกที่อินเห็นภาพถ่ายผู้หญิงคนนั้นกับชายอื่นเขาช็อคแทบจะล้มทั้งยืน เพื่อนเขาถูกสวมเขาโต้งๆแบบนี้ แต่เขาก็ไม่รู้จะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับดีดีอย่างไรก็เลยเอาเรื่องไปปรึกษาพัดแล้วก็ยังตกลงกันไม่ได้ เมื่อเย็นพอเห็นผู้หญิงคนนั้นโพสต์รูปคู่ก็เลยคิดแล้วว่างานเข้าแน่ๆจึงรีบกลับมา
แล้วก็เป็นดังคาด
ดีดีสติแตกไปแล้ว
ร่างเล็กสะบัดมือของอินออกแล้วก็ผลักเขาล้มก้นจ้ำเบ้า เพราะคนในร้านค่อนข้างเยอะบวกกับดีดีตัวเล็กทำให้ร่างโปร่งคลาดสายตากับเพื่อนของตัวเองไปจนได้!!
เจ้าของใบหน้าน่ารักซึ่งมักจะประดับด้วยรอยยิ้มเสมอหากแต่นาทีนี้มันเต็มไปด้วยความเศร้าและสับสน ดีดีวิ่งเข้ามาในร้านเขาเคยมากับหญิงสาวสองสามครั้งทำให้จำทางและรู้ว่าที่ที่หล่อนนั่งอยู่คือตรงไหน
“แห่กๆ”
“ดีดี!!”เสียงแหลมของร่างบางสวยของหญิงสาวซึ่งใบหน้าแต่งแต้มใบด้วยเครื่องสำอาง ดีดีทอดมองหล่อนและสามีคนใหม่ของหล่อนด้วยแววตาอาวรณ์
“ทะ...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ เราเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอไง!?”หยกกล่าวเสียงสั่นแต่ก็ทำใจดีสู้เสือเมื่อเธอมีพวกเป็นแฟนหนุ่มร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างกายทั้งคน
ดีดีจ้องมองมือหนาที่บังโอบเอวบางเอาไว้ทั้งๆที่แฟนเก่าของหล่อนกำลังยืนเดือดพล่านอยู่ต่อหน้าแท้ๆ
หยามกันชัดๆ!!
“นี่คุณ ผู้หญิงเขาบอกเลิกไปแล้ว ผู้ชายก็อย่าตอแยนักเลย มันไม่แมนนะ มาทางไหนกลับทางนั้นเถอะ”เสียงทุ้มกล่าว ร่างสูงกำยำยืดตัวขึ้นเต็มความสูงเล่นเอาคนตัวเล็กถูกข่มด้วยสรีระ
อันที่จริงแล้วดีดีเองก็ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรก่อนมาที่นี่เลย เขาแค่นั่งอยู่เฉยๆไม่ติด หัวใจมันร่ำร้องให้มาที่นี่แล้วร่างกายมันก็ขยับไปเอง...ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะทำอย่างไรดี
แค่เห็นหน้าเธอก็รู้แล้วว่าเธอคงไม่ย้อนกลับมาหาเขา
ไม่สิ หัวใจของเธอไม่ได้เป็นของเขาอยู่แล้วตั้งแต่แรก
ทั้งๆที่มันน่าอาย แต่น้ำตาก็ไหลออกมาไม่ขาดสาย เสียงนักร้องบนเวทีซึ่งกำลังร้องเพลงผิดจังหวะดังเข้ามาเสียดแทงโสตประสาท
มันต้องใช้น้ำตาแค่ไหนต้องร้องไห้กี่ครั้ง ให้เขาและเธอทิ้งขว้างความรักแล้วเลิกลา
ให้เธอเห็นว่ารักของผมให้เธอได้มากกว่า ต้องใช้สักกี่น้ำตาให้เธอเห็นใจ
ใครกันนะที่เลือกเพลงนี้ เดี๋ยวส่งอินไปกระทืบซะเลยนี่
“ทำไมถึงเลิกกับเราเหรอ”...ทำไมถึงเลือกเขา
“ขอโทษนะดีดี เธอ...เธอเป็นคนดีมากๆ มากจนเราอึดอัด เราขอโทษ”
อา...นี่เรา...
“เห้ยๆ มันร้องไห้ว่ะหยก เอาไงดีวะ”เมื่อเห็นหยาดน้ำตาสีไหลพรั่งพรูออกมา ชายหนุ่มร่างสูงที่เตรียมตัวจะมีเรื่องก็เลยใจหายรีบหันไปถามแฟนของตัวเองเพราะไม่อยากถูกมองว่ารังแกคนอ่อนแอกว่า
“อ่อนชิบหายเลย ร้องไห้เนี่ยนะ โหย!! ทุเรศว่ะ ฮ่ะๆๆ”
“อย่าไปหัวเราะเยาะเขาสิต้น น่าสงสารออก! ดีดี อย่าร้องนะ กลับไปเถอะ มายืนร้องไห้อยู่ตรงนี้มันน่าอายนะ”หล่อนกล่าวขณะมองซ้ายมองขวาแล้วพบสายตาของคนจำนวนมากกำลังพุ่งตรงมายังพวกเราสามคน
น่าสมเพชชะมัด...
จะมาให้ขายหน้าทำไมก็ไม่รู้...กลับดีกว่า...
มือเล็กกำจิกแน่นจนห้อเลือด แต่คนแพ้ก็ต้องหลีกทาง เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอยู่ในที่แบบนี้อีกต่อไป ดีดีก้มหน้าแล้วก็กำลังจะก้าวขาเดินออกมาจากโต๊ะอาหารของคู่รักคู่ใหม่
แต่ทว่า...
ทันใดนั้นเองก็มีมือปริศนามาโอบไหลบางอันสั่นเทาเอาไว้ กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกลอยเข้ามาในจมูกจนร่างเล็กต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
และสิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาซึ่งรื้นไปด้วยหยดน้ำก็คือชายหนุ่มรูปร่างสูง ผิวขาวละเอียด ใบหน้าหล่อเหลาออกไปทางเชื้อสายจีนแล้วก็รอยยิ้มมีเลศนัยที่ประดับอยู่บนมุมปากได้รูปสะกดให้หัวใจของคนมองสั่นวาบ
“เอ้าๆ ดูสิ รังแกเด็กน้อยที่น่ารักจนร้องไห้หมดแล้วเนี่ย”เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยด้วยแววตาเย็นเยียบเล่นเอาความกร่างของแฟนหยกหดเหลือเท่านิ้วก้อย!
ร่างเล็กถูกดึงตัวออกมาจากสถานการณ์เลวร้าย ความรู้สึกเหมือนโดนตีแสกหน้าเริ่มเจ็บน้อยลงแล้วแต่ความมึนตึบและความตกใจยังไม่คลายลงไป
อันที่จริงดีดีก็ไม่ใช่แฟนที่ดีนัก เขาเปลี่ยนแฟนมาหลายคน การเลิกกันครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกทำให้เขามีประสบการณ์ทำใจมาพอสมควร แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกคบซ้อน
เรียกว่าเจ็บใจจะดีกว่าเสียใจ...
“อ่า...ขอบคุณนะครับ”แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณผู้ชายคนนี้ที่เข้ามาช่วย ร่างเล็กเอ่ยพร้อมก้มหัว ทีแรกเด็กหนุ่มกะจะเลี้ยงอาหารเขาเป็นการตอบแทนแต่เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ถูกเดินโอบไหล่พามาที่ลานจอดรถเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรๆ”ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกับเนคไทค์ที่ผูกแบบหลวมๆทำให้ดีดีเดาได้ว่าเขาคงเป็นพนักงานบริษัท
”ผมชื่อหยาง คุณล่ะ”
“ดีดีครับ”
“เหรอ ชื่อน่ารักจัง เหมือนหน้าตาเลย”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ คุณเองก็หล่อมากเหมือนกัน”
แต่เขาก็ยังเดาไม่ออกอยู่ดีว่าอีกฝ่ายพาตนมาในที่แบบนี้ทำไม แต่ก่อนจะได้คิดอะไรหยางก็หยิบกุญแจรถออกมาก่อนเดินนำไปยังรถบีเอ็มสีดำขลับ ท่าทางเพิ่งถอยออกมาได้ไม่นาน มือหนาเปิดประตูแล้วก็ผายมือให้คนอายุน้อยกว่าเดินเข้าไปในรถ
“เราเปลี่ยนร้านกันดีกว่า ผมคิดว่าคืนนี้คุณควรมีเหล้าเข้าปากสักหน่อยแต่จะอยู่ในร้านนี้ต่อคงลำบากใจใช่ไหมล่ะ”
ทั้งสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มพราวระยับ ดีดีไม่คิดว่านี่คือความหวังดีจากคนแปลกหน้า...คิดว่าผู้ชายคนนี้คงมีเป้าหมายอะไร
บางอย่างซึ่งเขายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร
แต่ว่า...
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
แม้จะยังไม่ได้ดื่มเหล้าสักหยดแต่คนอกหักก็เมามาย สติสัมปชัญญะถูกกดเอาไว้ใต้อารมณ์ ร่างเล็กก้าวขึ้นรถคันหรูไปด้วยความอยากลองดี
ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปนั้นดีดีสาบานเลยว่าเห็นร่างโปร่งของอินแล้วก็พัดวิ่งตามไล่มา ทั้งสองคนตะโกนอะไรก็ไม่รู้โหวกเหวก แต่แทนที่ดีดีจะเปลี่ยนใจแล้วก็ขอตัวไปกับเพื่อน เขากลับหมดห่วงที่ไม่ได้ทิ้งอินไว้คนเดียว เดี๋ยวอินก็คงกลับคอนโดพร้อมพัด
ส่วนเขาคืนนี้คงไม่ได้กลับ...
ใช้เวลาไม่นานดีดีและผู้ชายแปลกหน้าก็เดินทางมาถึงที่หมาย ดูเหมือนชายหนุ่มจะพาเขามาเข้าเล้าจ์ของโรงแรมหรูระดับหกดาวแห่งหนึ่ง
เด็กอย่างดีดีไม่เคยเข้ามาในสถานที่แบบนี้มาก่อนเจ้าตัวเลยอดแปลกตาแปลกใจไม่ได้ ร่างสูงระบายยิ้มเอ็นดูท่าทางเหมือนเด็กๆนั้นแล้วก็โอบไหล่เล็กให้เดินตามมายังที่นั่ง
“พี่ชายเป็นเกย์เหรอครับ”เสียงใสเอ่ยถาม ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีแดงเรื่อจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ฝ่ายคนถูกถามก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“ว้า...โดนจับได้ซะแล้วเหรอเนี่ย”แต่ก็พูดตอบด้วยน้ำเสียงแสร้งเป็นเสียดายแล้วก็แบบมือทั้งสองข้างออกมาเหมือนยอมแพ้ การกระทำแสนเสแสร้งทั้งหมดอยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มที่กำลังโดนมอมเหล้า
รู้ตั้งแต่ตอนที่เข้ามาช่วยแล้ว...เพราะอย่างนั้นถึงได้ตามมาง่ายดายขนาดนี้
“บางทีผมคงอยู่กับอินมากเกินไปหน่อยก็เลยติดนิสัยบ้าระห่ำมา...หึหึ”ยามยกของเหลวสีเหลืองนวลจรดริมฝีปาก ความร้อนผ่าวที่หลั่งรินลงมาตามลำคอเป็นตัวเร่งให้ความยับยั้งชั่งใจของดีดีลดลง
“ผมถูกบอกเลิกด้วยเหตุผลเดียวกันมาห้าครั้งแล้ว”
ตลอดยี่สิบปีที่เกิดมาเขาเป็นเด็กดี...ทุกคนต่างชมว่าเขานิสัยดีเหมือนชื่อ
“ถ้าเป็นคนดีแล้วต้องถูกบอกเลิกตลอดแบบนี้ จากนี้ไปผมก็จะเป็นคนไม่ดีล่ะ”แก้วเหล้าถูกวางลงบนโต๊ะเสียงดัง พอกันทีประสบการณ์เลวร้ายทั้งหมดที่ผ่านมา ที่ถูกบอกเลิกเพราะว่าแสนดี จากนี้จะไม่มีดีดีคนดีอีกแล้ว
“คืนนี้พี่ช่วยทำให้ผมเป็นเด็กไม่ดีทีสิครับ”“หึหึ...ได้สิ...งั้นเราเลิกดื่มกันเท่านี้แล้วก็ขึ้นไปข้างบนกันดีไหม”
ถ้าหากมันช่วยลืมเลือนความโศกเศร้านี้ได้ล่ะก็...ต่อให้ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง...
ต่อให้ถูกย้อมจนเป็นสีดำหรือถูกนัยน์ตาคมส่องประกายเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายดูดกลืนจนหายไป
“ด้วยความยินดีเลยครับ”
แสงไฟระยิบระยับของกรุงเทพตรึงในสายตา กระจกใสกว้างในห้องโรงแรมหรูในยามค่ำคืนนั้นแสนโรแมนติค หากแต่ร่างเล็กเจ้าของสีหน้าเรียบเฉยราวกับตรอมใจอยู่นั้นกลับไม่ได้ซึมซับบรรยากาศเหล่านั้นแม้แต่น้อย ดีดีในชุดคลุมอาบน้ำยืนเกาะกระจกอยู่อย่างนั้น รอคอยใครอีกคนซึ่งชำระร่างกายอยู่ในห้องน้ำ
ใบหน้าหวานผินหันมามองห้องสวีทสุดหรูในค่ำคืนนี้ด้วยรอยยิ้มเยาะตัวเอง
บ้าบอที่สุดเลยเรา...
จะมาถอยเอาตอนนี้คงไม่ทันแล้ว แต่หัวใจที่พยาพยามกดให้สงบมาตลอดกลับเต้นตัวราวกับจะร้องเตือนว่าเขาไม่ควรทำแบบนี้
“วิวสวยไหม หืม?”ฉับพลันคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำก็เอ่ยถามเขาด้วยรอยยิ้มละไม
“ครับ”เสียงตอบกลับของดีดีนั้นเบาโหวง
ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีดำขลับในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวส่งยิ้มให้และเดินเข้ามาโอบเอวบางจากด้านหลัง ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูช่วยให้เลือดลมในตัวของคนอกหักสูบฉีด
ริมฝีปากของหยางก้มลมคลอเคลียแถวใบหูก่อนมือแกร่งจะจับใบหน้าเนียนใสให้เอนไปทางตนก่อนจะจรดจุมพิตที่แก้มชวนให้หัวใจเต้นโครมคราม ก็ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรืออะไร แต่สำนึกผิดชอบชั่วดีมันกลับทำงานขึ้นมาอีกครั้ง
ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับชายแปลกหน้า....แบบนี้ดีแล้วเหรอ
ถามใจตัวเองดูขณะถูกช้อนอุ้มไปวางบนเตียง
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็ดีเองนะ”มือแกร่งลูบหัวของคนอ่อนวัยกว่าอย่างปลอบปะโลมพร้อมมอบจุมพิตแสนหวานชวนเคลิบเคลิ้มให้
“คืนนี้ฉันจะกล่อมให้เธอหลับสบายและอบอุ่นในอ้อมแขนของฉันเองนะเด็กดี”
“อืม...แต่ผมไม่อยากเป็นเด็กดีนะ...อา...ฮ... อ๊า.....”
เสียงหวานหลุดรอดจากริมฝีปากของร่างใต้อาณัติบนเตียงใหญ่สีขาวนวล ริมฝีปากของหยางแนบสัมผัสไปทั่วผิวกายสีขาวนวลเนียนอย่างอ่อนโยน จนอุณหภูมิในร่างกายของผู้ถูกกระทำยิ่งพุ่งขึ้นสูงเรื่อยๆ
เสื้อผ้าถูกปลดออกไปอย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญ
ความร้อนอุ่นวาบเข้าครอบครองส่วนรวมความรู้สึกแสนอ่อนไหวใจกลางลำตัว ร่างทั้งร่างกระตุกเกร็งด้วยความเขินอาย
“ดะ เดี๋ยว!!”มือบางออกแรงดันไหล่กว้างของชายหนุ่มออก มือใหญ่ซึ่งกำลังจะเลื่อนไปหยิบเจลหล่อลื่นชะงักค้าง หยางขมวดคิ้วพิจารณาร่างเล็กซึ่งสั่นเทาเหมือนกระต่ายที่เปียกฝน
“กลัวเหรอ...หืม?”เสียงทุ้มกระซิบข้างหู หยางทิ้งตัวลงนอนข้างร่างกายเปล่าเปลือยของดีดีแล้วก็กระชับอ้อมกอดเหมือนกำลังปลอบใจเด็กน้อย
“ก็ยังเป็นเด็กดีอยู่นี่”
สิ้นคำดีดีก็ปล่อยโฮออกมาอีกรอบ เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกอย่างแท้จริง เกือบพลาดพลั้งทำเรื่องไม่เป็นเรื่องไปแล้ว นึกกลัวว่าถ้าขอหยุดกลางคันอีกฝ่ายจะยอมแต่โดยดีไหมแต่พอหยางยกมือขึ้นลูบผมนุ่มแผ่วเบาเด็กหนุ่มก็รู้สึกวางใจ
และแล้วค่ำคืนนี้ก็ผ่านพ้นไปโดยที่ดีดียังคงเป็นเด็กดีอยู่เหมือนเดิม เด็กหนุ่มใส่เสื้อที่อีกฝ่ายเพิ่งถอดออกไปหยกๆแล้วก็หันไปพูดขอบคุณร่างสูงซึ่งจุดบุหรี่สูบแล้วก็เอนกายพิงหัวเตียงมองการกระทำของตนอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ขอบคุณนะครับ”
“หึ ขอบคุณเรื่องอะไร...ที่ฉันพาเธอมาเลี้ยงเหล้าหรือให้นอนในโรงแรมหรูล่ะ”หยางยิ้มอย่างไม่ยี่หระ ภายใต้ดวงตาซึ่งไม่แสดงความเสียดายหรือแปลกใจออกมาเลยนั้นทำให้ดีดีอดสงสัยไม่ได้
หรือว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้...?
จะเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไรล่ะเนอะ...
..............................................................................
ความกาวนี่มัน 5555+
เรื่องนี้ใกล้จบเต็มแก่แล้ว ยังไงก็ขอให้อยู่ด้วยกันอย่างนี้จนถึงที่สุดนะคะ