ตอนที่2
ตลอดสามวันหลังจากที่ผมติดหนี้พี่กิตต์อยู่สี่บาทคำทักทายยามเช้าของไอ้อัทก็เปลี่ยนไปเป็น”มึงซื้อของสี่บาทได้ยัง”
“ยัง”ผมส่ายหัวพรืด
“รีบหาหน่อยดิมึง จะวันศุกร์อยู่แล้ว จันทร์หน้าพี่เขาต้องไปประจำต่างจังหวัดเดือนนึงไม่ใช่เหรอ”
“ก็กูไม่รู้จะซื้ออะไรนี่หว่า ของราคานี้หาได้ง่ายๆซะที่ไหน ต่อให้มีของราคานี้จริงแต่ก็เป็นของที่พี่เขาใช้ไม่ได้ ไม้โปรงี้ เรียนหมอจะเอาไปทำไรวะ”ไม่ใช่ว่าผมไม่พยามหาหรือปล่อยปละละเลยนะครับ ผมไม่ชอบทำอะไรค้างคา เงินแค่สี่บาทก็จริงแต่ถ้าต้องค้างชำระไปเดือนหน้าผมก็ไม่โอเคอ่ะ
“เอางี้ มึงก็ซื้ออะไรก็ได้ หนมปังก้อนละสิบบาทก็ได้ ละก็แปะโพสต์อิทไปว่าอย่าลืมทอนหกบาทด้วยนะครับ คิ้วท์ๆกันไปเรยยย”
“ตลก มันดูเหมือนอ่อยพี่เขา ไม่เอา น่าเกลียด”
“เอ๊า อ่อยมาอ่อยกลับไม่โกงไง พี่เขาเริ่มก่อนป่าววะ”อัทพูดหน้าตาเฉย
“พี่เขามีแฟนแล้วนะ ที่สำคัญกว่านั้นคือกูจะอ่อยพี่เขาทำมะขามป้อมอะไร ไอ่หอยนี่อย่าเอาแต่ตัวเองบันเทิงอยู่คนเดียวดิ๊”ผมเขกมเหงกให้เพื่อนรักโป๊กใหญ่
อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยครับ ถ้าถึงนาทีสุดท้ายแล้วจริงๆผมก็คงซื้อขนมปังสิบบาทให้พี่เขาแต่ไม่เอาเงินทอนให้มันยืดเยื้อ”เอ้อ มึงเห็นรายชื่อกลุ่มที่จะไปเข้าค่ายกันยัง”ผมถามไอ้อัท
เสาร์อาทิตย์หน้าคณะผมได้ไปเข้าค่ายรับน้องที่ชลบุรีกันครับงานนี้หวังว่าจะเพื่อนสนิทเพิ่มได้นะ ตัวติดกับไอ้อัทสองคนจนสาววายเริ่มจับจิ้นละ
“เห็นแล้ว กูได้อยู่กับแจน ส่วนมึงกลุ่มเดียวกับอร อิจฉาสัส ฝากกันหมาตัวอื่นไม่ให้เข้ามาเห่าอรด้วยนะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวแวะซื้อน้ำเซเว่นแปป เอาไรป่ะ”
อัทส่ายหัวแทนคำตอบผมจึงเดินเลี้ยวเข้าร้านสะดวกซื้อเพียงคนเดียว พูดถึงพี่กิตต์แล้วอยากกินน้ำดอยคำขึ้นมาต้องซื้อขึ้นไปกินในห้องเรียนสักกล่อง
เอ...คราวนี้ลองกินน้ำมัลเบอรีดูดีมั้ยน้อออ
“อ๊ะ น้องนิทาน”คนที่เลือกน้ำผลไม้อยู่ข้างผมเอ่ยทักขึ้นผมจึงหันไปมอง
สาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆผมคือใครล่ะเนี่ย หน้าคุ้นๆแฮะ
อ่อ
แฟนพี่กิตต์
ชื่ออะไรนะ
เอ๊ะ ว่าแต่พี่เขารู้จักผมได้ไงเนี่ย
“เอ่อ ขอโทษนะคะ ใช่นิทานรึป่าวเนี่ย”หล่อนคงเห็นผมทำหน้ายุ่งเลยกลัวว่าจะทักคนผิด เสียงหวานเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนักผมจึงรีบพยักหน้าหงึกๆด้วยรอยยิ้มขัดเขิน แหมมม คนสวยระดับนี้รู้จักผมจะไม่ให้เขินได้ไงไหว
“พี่ได้ยินเรื่องของเรามาจากพี่กิตต์”สงสัยเธออ่านใจผมออก”มีอะไรจะฝากไปให้พี่กิตต์มั้ยคะ พี่อาสาเป็นบุรุษไปรษณีย์ให้ คิกๆ อย่าทำหน้าเอ๋อย่างนั้นสิคะ เดี๋ยวพี่ก็หลุดขำหรอก”พี่หัวเราะมาแล้วครับผมได้ยิน
“ก็พี่สวยแล้วนิสัยยังน่ารักอีกนี่ครับ จะไม่ให้มองตาค้างได้ไงไหว ผมอิจฉาพี่กิตต์แย่ ได้คนสวยอย่างพี่เป็นแฟน ว่าแต่พี่ชื่ออะไรนะครับ”
“ชื่อเฟิร์นจ้า ดีใจนะเนี่ย ปกติมีแต่คนอิจฉาพี่ที่ได้พี่กิตต์เป็นแฟน รายนั้นก็สมบูรณ์แบบเกิ๊นนนน”
“ผมว่าพี่แกนิสัยเกินๆไปหน่อยนะ มีอย่างที่ไหนวนลูปใช้หนี้กับผมไม่จบสิ้นสักทีเนี่ย”ขนาดแฟนของพี่กิตต์ยังคิดว่าพี่กิตต์เพอร์เฟ็คเลยเหรอ ผมเถียงด้วยน้ำเสียงงงๆ
“ปกติพี่กิตต์ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะ คิกๆ”เอาอีกละ มีอะไรตลกเหรอครับคนสวย กลั้นหัวเราะจนกล้ามท้องขึ้นแล้วนั่น ผมเกาหัวด้วยความมึนงงกับชีวิต กวาดสายตามองชั้นวางของใกล้ตัวเผื่อเจอของที่ต้องการ
โอ๊ะ อันนี้แหละเด็ด ผมหยิบของที่โดนใจไปจ่ายตังค์ที่เคาเตอร์โดยไม่ลืมน้ำมัลเบอร์รี่ซึ่งเป็นเป้าหมายแรก
“พี่เฟิร์นครับ ผมฝากอันนี้ไปให้พี่กิตต์ได้มั้ยครับ บอกเขาด้วยนะว่าไม่ต้องทอน”ผมยิ้มก่อนหย่อนของสิ่งหนึ่งลงบนมือของพี่เฟิร์น เธอมองเจ้าสิ่งหน้าตาปริบๆ
“อมยิ้ม?”
“ครับ ไปนะครับ สวัสดีครับ”บ๊ายบายคนสวยเสร็จก็เดินออกมาจากร้าน ป่านนี้อัทรอจนรากงอกไปแล้วมั้ง
เวลาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดวันเข้าค่ายรับน้องก็มาถึง ผมกับอรอยู่กลุ่ม1 ส่วนไอ้อัทอยู่กลุ่ม9โน่นนน พวกเราเลยได้ขึ้นรถบัสกันคนละคัน ผมนั่งข้างอรตลอดทางพวกเราไม่ได้คุยกันมากนักแต่ยังมิวายโดนเพื่อนๆแซวว่ากิ๊กกัน
“เห็นหงิมๆแต่ร้ายไม่เบาเลยนะนิทานนน อรเป็นขวัญใจของพวกเราเลยนะเว่ย”ถ้าจำไม่ผิดคนแซวเรียนเซคเดียวกับผมแถมยังอยู่กลุ่มเดียวกันในค่ายนี้ด้วย
“คนนี้ไม่ใช่ของเราหรอก แต่ก็มีคนจองไว้แล้วอยู่ดี แย่งได้รึป่าวไม่รู้ไปถามเจ้าตัวเอา อยู่รถเบอร์5นู่น”ผมตอบกลับไปยิ้มๆเล่นเอาอรหันหน้าหนีออกไปมองหน้าต่างแทบไม่ทัน
ไม่ได้หรอก ผมรับปากกับเพื่อนไว้แล้วว่าจะกันไม่ให้หมาตัวอื่นมาเห่าใส่อร
แต่หมากลุ่มนี้เป็นหมาน่ารักนะครับ ชิวาว่ามาเอง แซวแบบขำๆไม่คิดจริงจัง คงแค่ชวนคุยเพราะเห็นเราสองคนไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนคนอื่น “ไอ้อัทมันร้ายยยย แต่ถ้ากูเบ้าหน้าดีได้เท่ามันกูก็จะจีบอรเหมือนกันว่ะ เห้อๆๆๆ หลีดปีนี้โดนจองตัวไว้ครบทุกคนรึยังเนี่ย มิ้งกับฝ้ายก็โดนพี่ปีสามซิวไปแล้ว ไม่เหลือถึงท้องพวกบ้านๆอย่างกูเล้ยยยย”
“มึงก็ไม่ต้องเศร้าไปไอ้แก๊ป ยังเหลืออยู่คนนึง”
“ใครวะ”
“นิทานไงงงงง”
สัส!
ไม่น่ารักแล้วพวกมึงอ่ะ เอาตำแหน่งชิวาว่าคืนมาเลยกูไม่ให้เป็นละ
“หูยยยยย นิทานมีคนจองรึยังคร้าบบบ บอกให้แก๊ปชื่นใจหน่อยสิคร้าบบบบ”นี่ก็ยังอุตส่าห์ต่อมุกเพื่อนอีก!!
“มีแล้ว”คราวนี้คนตอบไม่ใช่ผมแต่เป็นอรครับ สาวเจ้าหัวเราะชอบใจใหญ่เมื่อผมทำหน้าเหรอหราขณะโดนพวกไอ้แก๊ปซักไซ้ ขี้เผือกนะพวกมึงอ่ะ
“ใครอ่ะ คณะไหน ไปหามาได้ยังไง มีแนะนำเราบ้างมั้ย...”
“เดี๋ยวสิ อรก็พูดไปเรื่อย มาแก้ต่างให้เราก่อน เรายังโสดนะ!!”แล้วทำไมผมต้องเขินด้วยวะ นี่ขนาดไม่มีอะไรในกอไผ่เลย ถ้าวันดีคืนดีผมเกิดมีคนคุยด้วยขึ้นมาคงไม่กล้าเอามาเปิดตัวที่คณะแน่นอน
เขินตายชัก
“แทบแย่ ทีหลังอย่าแกล้งเราอย่างนี้อีกนะอร”ผมพูดหน้ามุ่ย
“คิกๆ ก็มีจริงๆนี่ พี่กิตต์ไง”
“ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยเหอะ”แถมครั้งสุดท้ายยังฝากของผ่านแฟนเขาอีก ถ้าเป็นกิ๊กจริงผมคงเป็นกิ๊กที่หน้าด้านมากอ่ะ
“น้องๆกลุ่ม1เข้าแถวรับกล่องข้าวจากพี่เอตรงด้านซ้ายสุดของลานนะคะ พี่ให้เวลาอิสระ45นาที ทานข้าวกลางวันให้เสร็จ เก็บของในห้องแล้วมารวมตัวกันที่ลานอเนกนะคะ”
พี่สตาฟกรอกเสียงใส่โทรโข่ง เหล่าเด็กน้อยปีหนึ่งทั้งหลายหยิบข้าวกล่องเสร็จก็พากันไปยังห้องพัก งานนี้เขาให้พักกับเพื่อนกลุ่มกิจกรรมเดียวกันผมเลยได้นอนกับพวกไอ้แก๊ปไปโดยปริยาย “กูขอนอนตรงนี้ได้ป่ะ แอร์ตกพอดี”แก๊ปกล่าวพลางวางกระเป๋าสัมภาระลงบนฟูกที่หมายปองทันที แล้วถามเพื่อ?
สุดท้ายผมก็โดนเกี่ยงให้มานอนฟูกที่อยู่หน้าห้องน้ำ โคตรวรรณะต่ำต้อย พวกน้อยก็เงี้ย
“ว่าจะทักตั้งแต่บนรถละ นิทานเป็นคนเรียบร้อยเนอะ”หนึ่งในเพื่อนร่วมกลุ่มกิจกรรมเอ่ยขึ้นขณะที่พวกเรากำลังเดินไปยังลานอเนกที่พี่ๆนัดไว้
“เหอ? งั้นเหรอ”
“สุดๆอ่ะ ดูไม่สู้คนด้วย มึงต้องหัดสู้บ้างนะ เดี๋ยวคืนนี้เปลี่ยนที่นอนกับกูนะไม่ต้องร้อง”แก๊ปเข้ามาลูบหัวผมป้อยๆ อารมณ์รู้สึกผิดที่เขี่ยผมไปนอนหน้าห้องน้ำเหรอ
“เห้ย ไม่ต้อง ตรงที่เรานอนก็ดีอยู่แล้ว ไม่เป็นไร”
“จริงดิ”แก๊ปถามย้ำ
“อืม แค่ปิดประตูห้องน้ำก็นอนได้แล้ว ห้องใหม่จะตายไม่ได้มีกลิ่นเหม็นอะไรสักหน่อย”ผมพยักหน้าพร้อมจ้องอีกฝ่ายเพื่อยืนยันว่าผมคิดอย่างนี้จริงๆ สุดท้ายแก๊ปก็ปล่อยมือจากหัวของผม มันเกาหัวตัวเองแกรกๆก่อนเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“ไม่ต้องคิดมากน่า เอาเป็นว่าช่วยเราตอนเข้าฐานด้วยละกัน ไม่ค่อยชอบเล่นอะไรผาดโผนน่ะ”เมื่อกี้เดินผ่านฐานแอดเวนเจอร์ ไม่รู้ว่าพี่ๆเขาจะบังคับเล่นด้วยรึป่าวแต่ผมไม่ชอบยืนบนพื้นที่ไม่มีความสเถียรอย่างการไต่เชือกเนี่ยขอเถอะ
“ได้ๆ เดี๋ยวกูคอยอุ้มเอง”
“เว่อร์”
“ฮ่าๆๆๆ”กลายเป็นว่าพวกเราทั้งหกคนแผดเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ดูท่าค่ายนี้จะสนุกกว่าที่คิดนะ
ซะเมื่อไหร่ล่ะ!!
“ให้นั่งรอเป็นเพื่อนมั้ย”แก๊ปเอ่ยถามด้วยใบหน้าเป็นห่วง
ผมส่ายหน้าช้าๆแทนคำตอบ”มึงไปเล่นกับเพื่อนเหอะ”เสียงของผมคงติดเสียดายเอามากๆเพื่อนใหม่คนนี้เลยยืนเก้ๆกังๆไม่ยอมไปไหน
เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อกลางวันผมขาแพลงครับ บาดเจ็บแบบโง่ๆด้วยการสะดุดถุงข้าวกล่องที่พี่ๆฝ่ายสวัสดิการกองรวมกันไว้เพื่อเอาไปทิ้ง ทำให้ทั้งวันผมได้แต่เดินกะเผลกๆตามเพื่อนเข้าออกฐานต่างๆแต่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอะไรเลยเพราะขาพิการ
“ไปเถอะแก๊ป เดี๋ยวอรดูเพื่อนเอง”คนสวยประจำกลุ่มถือถาดอาหารเข้ามาให้
คนในคณะผมค่อนข้างมีฐานะ ไหนจะได้เงินสนับสนุนจากศิษฐ์เก่าอีกอาหารค่ำมื้อนี้จึงหรูเป็นพิเศษ
บาบีคิวแบบ’ยืน’ปิ้งกินกันสดๆจากเตา
เจริญเถิด
ผมจะไปยืนคีบเนื้อย่างอยู่หน้าเตาไหวได้ไง พี่เขาเอาเก้าอี้มาตั้งไว้ให้แต่ก็ตั้งห่างจากวงประมาณนึงเพราะมันเกะกะชาวบ้านเขา แถมมีการเปิดเพลงแดนซ์กันด้วยกลัวจะมีคนเต้นไม่ลืมหูลืมตามาชนผมล้มโดนเตาหน้าแหก(อันนี้พวกพี่เขาห่วงกันเวอร์ไปเอง)
“ไปเล่นกับพวกแจนเหอะอร อยู่เงียบๆดูวิวทะเลคนเดียวก็ดีเหมือนกัน”ผมแสดงให้เธอเห็นว่าผมโอเคมากๆ ชอบนั่งคนเดียวสุดๆ ตอนนี้กำลังแฮปปี้ดื่มด่ำกลิ่นไอทะเลอ่าวไทยอยู่นะเห็นมั้ย อรไม่เชื่อหรอกครับ เธอบอกว่าจะผลัดกันมาเยี่ยมกับอัท ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ ใช้ตะเกียบคีบเนื้ออย่างเข้าปาก มองเพื่อนร่วมคณะเต้นแร้งเต้นกากันอย่างสนุกสนาน ไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหนกัน เข้าฐานเมื่อกลางวันไม่เหนื่อยบ้างเหรอ
“คนเจ็บครับบบ มองกล้องหน่อยยย”หืม ฝ่ายโฟโต้? มีใครก็ไม่รู้ถือกล้องโปรมาขอผมถ่ายรูป ผมก็ยิ้มให้กล้องอย่างว่าง่าย
“คนหล่อตรงนั้นเหงามั้ยคะ บีมอยู่เป็นเพื่อนให้เอามั้ย”โอเค ผมคงไม่ได้อยู่สงบๆแล้วล่ะ สารพัดสาวน้อย สาวเทียมผลัดกันเข้ามาเต้นรูดเก้าอี้ผมต่างการรูดเสา จนผมชักตาลาย
“พอครับๆ เพื่อนผมเมาคนหมดแล้ว”เดือดร้อนอัทเพื่อนรักต้องเข้ามาเคลียร์ทาง
“แหมมม ถ้าไม่ติดว่าอัทจีบอรอยู่เราคงเข้าใจว่าอัทเป็นแฟนกับนิทานไปแล้วนะเนี่ย ขี้หวงเหลือเกินนะ หมั่นไส้!!”เสียงใครก็ไม่รู้เอ่ยแซว
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววว”แต่นี่น่ะเสียงทุกคนร้องประสานกัน ไม่บ้าก็เมากาวอ่ะครับเพื่อนคณะผม
ดีนะที่หาดนี้ไม่มีรีสอร์ทอื่นอยู่เลยเสียงของพวกเราจึงไม่รบกวนใคร
“อยากกลับห้องก่อนป่าว เดี๋ยวพาไปส่ง”อัทถามเพราะเห็นมีเพื่อนบางคนแอบหนีกลับห้องไปแล้วแต่พวกรุ่นพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“อืม ก็ดีเหมือนกัน”ผมไม่อยากอยู่รบกวนเพื่อนๆจึงยอมให้อัทหิ้วปีกกลับไปยังที่พัก
สถานที่ที่พวกผมมาเข้าค่ายกันเป็นรีสอร์ทที่ก่อตั้งเพื่อทำกิจกรรมแนวผจญภัย เห็นหน้าผาจำลองด้วยแต่พวกรุ่นพี่ไม่ให้ไปเล่นเพราะมันกินเวลา นอกจากนี้ก็มีเซอร์วิสที่ตอบโจทย์การรับน้องหลายอย่างทั้งเครื่องเล่นหรือพื้นที่ว่างสำหรับการจัดฐาน “หนาวเนอะ”ผมเปรยเบาๆเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบเกินไปนัก
“อืม มืดด้วย”อัทตอบ
“อยู่คนเดียวได้แน่นะ”ผมพยักหน้ายืนยันอีกครั้ง ตอนนี้อัทพาผมมาส่งถึงห้องแล้ว
“ไปเหอะ อรโดนแจกขนมจีบจนพุงกางแล้วมั้งป่านนี้”คนฟังหัวเราะในลำคอ ก่อนออกไปมันล็อคประตูห้องให้พร้อมบอกว่าฝันดี
“...”
ผมนอนมองเพดานห้องเงียบๆ
อืม เหงาเหมือนกันแฮะ
หิวด้วย เมื่อกี้ได้กินแค่จานเล็กๆที่อรตักมาให้เอง
“ร้านตรงฟรอนต์น่าจะยังเปิดอยู่...”มันเป็นร้านของชำเล็กๆ เมื่อกลางวันพวกพี่บอกว่ามันจะเปิดถึงสี่ทุ่ม ตอนนี้เพิ่งสามทุ่มกว่าผมคิดว่ามันน่าจะยังไม่ปิด คงต้องไปหามาม่าลงท้องสักถ้วย แต่เพราะขาเจ็บอยู่กว่าจะลากสังขารมาถึงแสงไฟจากเค้าเตอร์ขายของเล็กๆก็ดับลงพอดี
“เอ้ย เดี๋ยวครับๆ...เดี๋ยว”
ทัน
ซะเมื่อไหร่
ลุงคนขายโกยแน่บไปโน่น สาบานได้ว่าแกได้ยินเสียงตะโกนของผมแต่แกคงอยากกลับบ้านไปหาเมียจัดเลยรีบจ้ำอ้าวหนีไป โว๊ยยย อะไรมันจะซวยได้ขนาดนี้นะ ผมทรุดตัวลงนั่งแปะบนโซฟาต้อนรับหน้าฟรอนต์ มองซองมาม่าในตู้กระจกด้วยสายตาที่มีด้านมืดเข้าครอบงำ
เราเปิดตู้หยิบออกมาเองแล้วเอาเงินวางไว้ได้มั้ยนะ
พรึ่บ
“เห้ย!”ผมคงคิดไม่ดีมากเกินไปความมืดเลยเข้าครอบงำผม รอบตัวดับวูบไปหมดมองอะไรไม่เห็นเลย ซะที่ไหนกันเล่า! ใครเล่นพิเรณปิดตาผมก็ไม่รู้”ใครอ่ะ!! ตกใจจริงๆนะเว้ย ไม่เล่นนะ!”ผมโวยวาย ไอ้บ้าที่ไหนแกล้งหยอกผมในที่เปลี่ยวแบบนี้กันวะ จะว่าโจรก็ไม่น่าเข้ามาปล้นถึงรีสอร์ทหลังเขาแบบนี้นะ
“ทายสิใครเอ่ย”
“ไม่รู้!! ไม่ทาย”
“ที่ห้องมีของกิน ถ้าตอบถูกจะยอมแบ่งให้”
กึก
ได้ผลครับ ผมตอนนี้โดนล่อด้วยของกินได้สบายมาก ใครวะ ผมเริ่มพิจารณาเสียงของคนที่ยืนปิดตาผมจากด้านหลังอย่างเอาเป็นเอาตาย
ผมเคยได้ยินเสียงเขา แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้ ไม่ใช่คนในค่ายที่เพิ่งคุยกันมาหยกๆแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า
“พี่กิตต์?”
ผมลองทายด้วยความไม่มั่นใจนัก
“ผิดครับ!! ว้า น้องนิทานชวดรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย แต่เพราะพี่ใจดีตามมาที่ห้องสิเดี๋ยวจะหามาม่าให้กิน ”
ผมรีบหันขวับไปมองหน้าคนพูดทันทีที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ ใบหน้าหล่อๆของคนที่ไม่ควรมาอยู่ที่นี่ส่งยิ้มกว้างมาให้
“อ้าว ก็ทายถูกนี่หว่า”
_________________________________
แฟนของพี่กิตต์ได้แอร์ไทม์เยอะกว่าพี่กิตต์อีกตอนนี้ 5555+
เห็นหลายๆคนทัก ใช่ค่ะ เราคือคนแต่งเรื่อง38องศาเอง
ใครไม่เคยอ่านก็ไปหาอ่านกันได้นะ(ขายตรง)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ตอนแรกเม้นต์เยอะจนตกใจ
เกิดมาไม่เคยขึ้นหน้า 2ได้ตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ /กราบบบบบ/
ปล. พี่กิตต์ is all around you นิทานไปที่ไหนก็เจอ
ทำไมทุกคนถึงบอกว่าพี่กิตต์หาตัวยากหว่าาา