ตอนพิเศษ: พี่เจ้าขาปีสามกับพนักงานบริษัท
“เฮ...” เสียงบูมเสียงเชียร์ของการรับน้องใหม่เฟรชชี่ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศครรึกครื้น กิจกรรมสนุกสนานสำหรับเด็กปีหนึ่งที่ก้าวผ่านวัยมัธยมมาสู่ระดับอุดมศึกษา ที่จะก้าวต่อไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตได้อย่างมั่นคง
นัยน์ตากลมโตยืนเป็นวงอยู่รอบๆคนกลุ่มใหญ่ เสียงร้องเพลงเชียร์ เสียงคำบอกจากรุ่นพี่ปีสองที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานมองน้องๆตั้งใจร้องเพลงเชียร์อย่างเต็มที่
จากเด็กปีหนึ่งเฟรชชี่ ผ่านพ้นมาเป็นพี่ปีสอง และตอนนี้ก็ก้าวขึ้นมาเป็นพี่ปีสามแล้ว การรับน้อง การเข้าเชียร์ถูกสงต่อให้กับรุ่นน้องปีสองเป็นคนจัดการ
จันทร์เจ้าอยู่ปีสามแล้ว เกือบจะเป็นพี่ใหญ่สุดของคณะ จากปีที่แล้วที่เขาหัวหมุนไปกับการรับน้อง ทำกิจกรรมทั้งหลาย ปีนี้ถึงเวลาที่จะได้พักสักที แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงน้องๆ เลยมายืนดูเผื่อมีอะไรผิดพลาด
อชิระจากเดือนคณะและเดือนมหาลัยก็ส่งต่อตำแหน่งให้กับรุ่นน้องคณะวิศวกรรมไปแล้ว ตอนนี้เป็นอดีตเดือนมหาลัยที่ก็ยังพอมีคนเรียกไปร่วมกิจกรรมอยู่เนืองๆ
จากเด็กวัยรุ่นสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ก็ต้องจริงจังมากขึ้นกับการเรียนเพื่อจะก้าวเข้าสู่วัยทำงาน
ทุกๆวันของจันทร์เจ้ายังเหมือนเดิม ไปเรียน ทำกิจกรรม ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ...กลุ่มของพี่นาฏย คนรักเขาเรียนจบกันไปหมดแล้ว จากที่เคยกินข้าวด้วยกัน ไปเรียนด้วยกัน ก็เหลือเขาทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
แต่พี่นาฏยไม่ได้ทิ้งเขาไปไหน พี่นาฏยยังเป็นพี่นาฏยหน้าดุแต่ใจดี เป็นคนรักที่เอาใจใส่ทุกอย่าง
แต่พี่นาฏยไม่ใช่นักศึกษาคณะประมงอีกแล้ว พี่นาฏยกลายเป็นพนักงานบริษัทในเครือของซีซ๊ กรุ๊ป พี่นาฏยต้องเข้าไปเรียนรู้กิจการของที่บ้าน แต่ไม่ใช่ว่าคุณพ่อจะให้พี่นาฏยไปบริหารเลย พี่นาฏยเริ่มจากการไต่เต้าเป็นพนักงานในแผนกการควบคุมการผลิต หลังจากที่พี่นาฏยพร้อมด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิแล้วคุณพ่อบอกว่าถึงจะให้พี่นาฏยเข้ามาร่วมบริหาร
ลูกชายบ้านช่วงชัชวาลย์ต้องเริ่มจากศูนย์ทุกคน เฮียเนตร เฮียนโมก็เหมือนกัน คุณพ่อสอนเสมอว่าไม่มีใครที่จะรุ่งเรืองถ้าไม่เริ่มจากศูนย์ พี่นาฏยอาจจะโชคดีที่มีธุรกิจครอบครัว แต่ว่ากว่าจะถึงตอนนั้น พี่นาฏยจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเขาพร้อมที่จะบริหารกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พูดถึงคนอื่นๆ พี่เอ็ดมันด์ ได้ยินว่าอินดี้จัด ไปขลุกอยู่กับเรือประมงทางใต้ตั้งแต่เรียนจบ แต่จันทร์เจ้าคิดว่าน่าจะไปเหล่สาวใต้มากกว่า ส่วนพี่เตเตก็ไปอยู่บริษัทด้านพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางทะเล
ทุกคนๆจบออกไปแล้วก็มีทางเดินที่แตกต่างกัน ซึ่งเขาก็คิดว่าทุกคนๆกำลังใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองวาดหวังเอาไว้
มหาลัยที่ไม่มีพี่นาฏย ไม่มีพี่ๆคนอื่นๆ ดูเงียบเหงาไปบ้าง แต่จันทร์เจ้าก็ต้องอยู่ต่อไป เขาก็ยังมีหน้าที่ของเขาที่ต้องทำ
จำได้ว่าวันที่พี่นาฏยสอบวันสุดท้าย เขาตาแดงก่ำ มือใหญ่ลูบแก้มกลมๆ
‘เจ้าขาร้องทำไม?’
‘เจ้าขาใจหายเฉยๆ ต่อไปจะไม่ได้เจอพี่ๆในมหาลัยอีก’
‘เรายังเจอกันทุกวัน’ ใช่พี่นาฏยเขาเจอกันทุกวัน แต่ว่าพี่เอ็ด พี่เตเต หรือพี่คนอื่นๆที่อยู่กันจนสนิทเหมือนพี่ชายจริงๆกำลังจะจบและแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง
‘ไม่ต้องร้องนะ เรานัดเจอกันบ่อยๆได้’ พี่เตเตยิ้มบางๆให้ ลูบไหล่ๆเขาเบาๆ
‘โธ่ เรื่องแค่นี้เอง เรายังได้เจอกันอีกนาน’ เสียงพี่เอ็ดดัง แต่เขาจับได้ว่าภายใต้เสียงร่าเริงนั่นมีความสั่นไหวอยู่ นัยน์ตาสีอ่อนแพรวพราวนั่นก็ดูอ่อนไหว
เขารู้ว่าพี่เอ็ดสนิทกับพี่นาฏยและพี่เตมาก พี่เอ็ดถึงจะกวนตีน ชอบแกล้งกวนประสาทเพื่อน แต่ไม่มีใครปฏิเสธว่าเขาก็คือคนที่รักเพื่อนมากที่สุดเช่นกัน
จันทร์เจ้ามองชายหนุ่มทั้งสามที่จับมือจับไหล่กันแน่น ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากพี่ๆ จันทร์เจ้ารู้ว่าไม่มีใครในกลุ่มนั้นที่ไม่เสียใจ แม้แต่ละคนจะไม่มีน้ำตากันสักหยดก็ตาม
“มึงๆ พวกปีสองขอรวมพล” เสียงอชิระดังขัดขึ้นมา
จันทร์เจ้าหันไปมอง พวกปีสองที่ปล่อยน้องๆกลับไปแล้วก็เริ่มมารวมๆกัน ปีสามที่ยืนอยู่เลยเขาไปดูเผื่อมีอะไรจะปรึกษา ด้านพี่รหัสเขาและพวกพี่ปีสี่ก็ไม่ค่อยได้มากันแล้ว พวกพี่เขากำลังยุ่งกับการทำงานหลายๆอย่าง
“พี่เจ้า หวัดดีครับ” เสียงไอ้จี น้องรหัสปีสองของเขา
“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?” เขาถาม รุ่นน้องเขาเหงื่อโซมเพราะต้องดูแลน้องปีหนึ่ง
“นิดหน่อยครับพี่” น้องหรัสโบกมือ หัวเราะแผ่วๆ
เขายื่นขวดน้ำที่ซื้อมาให้น้องอยู่แล้วไปให้ “อย่าหักโหมละ”
“เออ พี่ ผมอยากได้เลคเชอร์วิชาการจัดการ พี่ยังมีอยู่ไหม?” เขาส่งต่อหนังสือ ชีทต่างๆไปให้รุ่นน้องแล้วแต่ก็ยังมีบางอย่างที่เขายังหาไม่เจอ
“เดี๋ยวดูให้นะๆ” ต้องไปหาก่อนว่าอยู่ไหน ไม่รู้ว่าเอาลงลังชั่งกิโลไปหรือยังด้วย
“เฮ้ย มึงกูไปธุระก่อนนะเว้ย” อชิระเดินมาหลังจากคุยกับน้องรหัสมันเสร็จ
“เออ มึงไปเถอะ”
“พี่นาฏยมารับเปล่า?”
เขาส่ายหน้า “ไม่แน่ใจว่ะ พี่นาฏยบอกไม่รูจะเลิกกี่โมง”
พออชิระไป เขาก็คุยเรื่อยเปื่อยกับน้องรหัสต่อ
“พี่เห็นหลานยัง?”
“ยัง ใครจับได้จีล่ะ” เขาก็ไม่รู้นะว่าใครจะมาเป็นหลานรหัสเขา
“เดี๋ยวไว้ผมชี้ให้ดู” จันทร์เจ้าพยักหน้ารับ เดี๋ยวไปหาซื้อขนมนมเนยเอาไว้รับหลานก็ดีเหมือนกัน
Nathya: เดี๋ยววันนี้พี่ไปรับ
จันทร์เจ้าเอาโทรศัพท์ที่ขึ้นเตือนมากดอ่าน พี่นาฏยบอกว่าจะมารับ
TheMoonChanChao: มาได้หรือครับ
Nathya: ได้ เดี๋ยวอีกสี่สิบนาทีเจอกัน
TheMoonChanChao: ได้ครับ
“จีไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวมีคนมารับ” เก็บดทรศัพท์เข้าประเป๋าเหมือนเดิม
“ใช่พี่เขยคณะเปล่าพี่” จีทำเสียงล้อเลียน
มันก็มีเรื่องที่ทำให้เหล่าบรรดาปีหนึ่งรู้ว่าเขามีแฟน
+++++++++++++++++++++++++ 50% +++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่า
มาตามสัญญาเอาไว้เด้อ วันนี้เอาตอนพิเศษมาฝากกันค่า
ตอนพิเศษตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายที่จะนำลงในเว็ปนะคะ หลังจากนั้นตอนพิเศษที่เหลือ คนเขียนขออนุญาตนำไปลงไว้ในเล่มนะคะ
รับรองว่าตอนพิเศษทั้งที่ลงในเว็ปและลงในเล่มนั้น พิเศษจริงๆ เอาไว้หลังจากที่ต้นฉบับทุกอย่างเรียบร้อย เราจะมาแจ้งรายละเอียดของรูปเล่มให้ฟังนะคะ ตอนนี้อดใจรอกันอีกเล็กน้อย ใครใคร่อยากจะเอาพี่หมีต่ายแคระไปนอนกอดที่บ้าน หยอดปุกเตรียมเอาไว้ได้เลยจ้า
ตอนนี้เป็นตอนที่หลังจากพี่นาฏยกับเจ้าขาคบกันมานานเหมือนกันนะคะ มีบางคอมเม้นเคยบอกว่าอยากจะอ่านชีวิตของทั้งคู่ต่อไปเรื่อยๆ เราเลยตัดสินใจนำตอนนี้มาลงให้อ่านกัน
เราขอขอบคุณทุกท่านๆที่ให้ความเอ็นดูพี่นาฏยและเจ้าขามาโดยตลอด ขอบคุณจากใจค่า
ปล. เราของฝากเรื่อง รักหนักมาก และเรื่องอื่นๆที่จะตามมาในอนาตต่อไปเรื่อยๆนะคะ
เยิฟฟฟฟ
ปล. อีกหนึ่งเรื่องของคนเขียน วณิพกพเนจร ไปตามได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55317.0
และเรื่องที่สองคือ HEAVY WEIGHT รัก ▪️ หนัก ▪️ มาก
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59114.0
ปล.สอง. แวะเวียนไปคุยกันได้นะค่า
ขอฝากไปกดไลค์เพจเฟสบุ้คกันได้นะครับบบบ เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะอัพเดทเวลาที่เรา
หายไปนานๆ หรือว่าติดธุระอะไร เราจะไปอัพเดทไว้ในเฟส หรือว่าบางครั้งจะมีเขียนโมเม้นน่ารักของอีพี่กะน้องเอาไว้เล่นๆที่ไม่
ได้เอามาลงหน้านิยายนะครับ เลยอยากให้ไปพูดคุยในเฟสกันเลยยยย ถ้าคนเขียนหายไปตามจิกในเฟสจะเจอเราเร็วมากเพราะ
เราเล่นประจำ
https://www.facebook.com/airin.arpo/?fref=ts