จันทร์จ้าว
โดย Dezair
……………………
บทพิเศษ Christmas…again and again.
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ธันวาคม
อากาศหนาวและหิมะที่ตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้ผู้คนไม่ใคร่ออกจากบ้านมากนัก จันทร์จ้าวและภวัตก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาเป็นชาวเอเชียเขตร้อนชื้น เมื่อย้ายมาอยู่ต่างถิ่นที่สภาพอากาศแตกต่างจากเคย ก็ย่อมต้องปรับตัวอยู่พักหนึ่ง
แต่...ก็พักเดียวเท่านั้น คนเช่นจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ ปรับตัวนานที่ไหนเล่า!
พอเข้าเดือนธันวาคม อากาศหนาวเหน็บและหิมะโปรยปราย ชายหนุ่มเมืองร้อนก็สวมเสื้อกันหนาวหนาเตอะวิ่งออกไปปั้นหิมะเล่นกับเด็กๆในละแวกนี้เสียสนุก พอกลับเข้าอพาร์ทเม้นท์ จามฟุดฟิด ภวัตต้องต้มซุปหัวหอมกับไก่ให้รับประทานอยู่ ๓ วันจนคนเอาแต่ใจบ่นกระปอดกระแปดว่าหน้าจะกลายเป็นหัวหอมและตัวกลายเป็นไก่แล้ว
แต่...คนเช่นจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ บ่นไปอย่างนั้น แท้จริงมิได้ขยาดเลยสักนิด! แล้วยังเกิดความคิดดีว่าฤดูหนาวปีหน้า จะไปเล่นรถเลื่อนหิมะ เจ้าตัวโอ่ใหญ่โตว่าเมื่อครั้งมาเรียนที่นี่ เคยไปเล่นมาแล้ว เคยลงแข่งกับเพื่อนๆ และชนะทุกๆคนด้วย!
“ปีหน้านะหมอ! ปีหน้าเราไปเล่นรถเลื่อนด้วยกัน!” เจ้าตัวย้ำหนักแน่น ฤดูหนาวปีนี้ยังไม่พ้น แต่จันทร์จ้าวคนเจ้าความคิดวางแผนการฤดูหนาวปีหน้าเสร็จสรรพ
ทว่า...เพราะมัวแต่วางแผนฤดูหนาวปีหน้า ฤดูหนาวปีนี้ จันทร์จ้าวลืมส่งโปสการ์ดกลับไปเมืองไทยเสียสนิท!
กว่าจะนึกขึ้นได้ก็ใกล้วันคริสต์มาสเข้าไปทุกทีแล้ว ครั้นจะให้ส่งโปสการ์ดอะไรก็ได้ ก็เห็นจะมิสมฉายานามคนเรื่องมาก เจ้าตัวกวาดซื้อโปสการ์ดจำนวนมากกลับมาที่อพาร์ทเม้นท์ และใช้เวลาช่วงบ่ายอยู่กับการคัดเลือกโปสการ์ดที่ดีที่สุดเพื่อส่งกลับประเทศไทย
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนั่งอยู่บนพื้น ดวงตากลมใหญ่กวาดมองรูปภาพที่วางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะหน้าชุดเก้าอี้บุนวม ถัดจากเก้าอี้บุนวมไปเล็กน้อยคือต้นคริสต์มาสขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ตกแต่งแล้ว สมกับที่อีกไม่กี่วันจะถึงวันคริสต์มาสแล้ว
ภวัตเดินเข้ามาในห้องพอดี เห็นชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดเสื้อสเวตเตอร์ตัวหนากำลังวุ่นอยู่กับกระดาษบนโต๊ะเล็กแล้วก็ให้เขารู้สึกว่าคู่รักของเขาช่างเหมือนภูตตัวน้อยๆที่แสนซุกซน เก้าอี้มีตั้งหลายตัว ไม่ยักนั่ง ลงไปนั่งกับพื้นข้างต้นคริสต์มาสแน่ะ!
แต่...ภูตรายนี้ ออกจะเจ้าอารมณ์อยู่สักหน่อย เพราะแม้จะไม่มีคู่กรณี ก็ยังเอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด บ่นงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์
“ทำอะไรหรือครับ” ภวัตเดินเข้าไปใกล้แล้วถาม ชะโงกหน้ามองดูสิ่งที่จันทร์จ้าวกำลังสนใจ
ดวงหน้าสวยของบุตรชายคุณหญิงผกา เงยขึ้นมอง ดวงตากลมใหญ่ส่อประกายขัดใจตามประสาคนเจ้าอารมณ์
“Postcard น่ะซี! ผมอยากได้แผ่นสวยๆ ส่งกลับไปให้คุณพงศ์ อ้ายเรารึ! กวาดซื้อมาจากทุกร้าน แต่นี่! หมอดูซี! มีแต่รูปฝรั่งชายหญิง! รูปครอบครัวฝรั่ง! แล้วก็...รูปหิมะและรถเลื่อน! อะไร้! ไม่เห็นจะเป็นผู้แทนพวกเราได้!” จันทร์จ้าวบ่น แต่พออีกฝ่ายวางถาดเครื่องดื่มร้อนลงบนโต๊ะใกล้ๆ ก็ร้องตาวาว “Oh! Hot Chocolate!”
ภวัตส่งแก้วให้ เจ้าตัวรับไปจิบ พอได้เครื่องดื่มร้อนของโปรด ก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว นายแพทย์หนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมใกล้ๆ
“ถ้าอย่างนั้น ก็วาดเอาไหมครับ” ภวัตเสนอ ทำเอาดวงตากลมใหญ่เหลือกโต
“แค่เขียนหนังสือ ตัวอักษรของผมยังโย้ไปเย้มา ถ้าให้วาดรูป ต้นคริสต์มาสของผมคงเป็นแค่รูปสามเหลี่ยม!”
คนฟังได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะเบา ฝ่ายจันทร์จ้าวผู้ตระหนักว่าฝีมือวาดรูปของตนมิอาจปรากฏอยู่บนกระดาษใดๆได้ ก็เกิดสติเฟื่องขึ้นมา
“ฮ้า! นึกออกล่ะ! รูปถ่ายยังไรล่ะ!” เจ้าของดวงตากลมใหญ่ร้องแล้วทุบกำปั้นลงกับฝ่ามือ ภวัตเลิกคิ้วเล็กน้อย
“รูปถ่ายหรือครับ?”
“ใช่แล้ว! แต่ผมต้องหาคนฝีมือดีมาถ่ายรูปให้พวกเราเสียก่อน!”
“แล้ว...ถ่ายที่ไหนเล่าครับ”
“ก็ที่นี่น่ะซี! ถ่ายพวกเราแล้วก็ต้นคริสต์มาสนี่! หมอว่าดีไหม ผมว่าเยี่ยมเลย!” ลงท้ายอย่างนี้ แล้วยังยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย ภวัตจะปฏิเสธลงได้อย่างไร
“เอ? แล้วจะส่งรูปถ่ายเป็นโปสการ์ดได้หรือครับ”
“ก็ใส่ซองแยกไปต่างหาก ส่วน Postcard...” เจ้าตัวชำเลืองมองไปยังกองโปสการ์ดที่ซื้อมาจำนวนมาก แต่ไม่ถูกใจสักแผ่น “...เอาจากในกองมาสักแผ่นก็ได้! ยังไรก็มีรูปของพวกเราเป็นผู้แทนอยู่แล้วนี่! ผมไปหากล้องก่อน แล้วค่อยคิดว่าใครจะเป็นคนถ่ายรูปให้พวกเราดี!” จากนั้น คนความคิดดีก็ลุกขึ้นวิ่งผลุบออกจากห้องไป แต่อึดใจต่อมา เสียงของจันทร์จ้าวก็ดังกลับเข้ามาโดยไร้ตัว
“หมอ กล้องอยู่ตรงไหนนะ ผมหาไม่เจอ...เอ? จำได้ว่าคราวก่อนเก็บไว้แถวนี้...”
แล้วก็บ่นอะไรอีกไม่ทราบ ภวัตหัวเราะเบา ด้วยเอ็นดูภูตแสนซนของตนเอง ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามออกไปอีกคน
……………….
หากล้องเจอแล้ว ลำดับต่อไปคือต้องหาคนได้รับโชคเป็นช่างกล้องให้ ซึ่งก็ต้องฝีมือดี ได้แก่ มิสเตอร์สมิธ เพื่อนบ้านใกล้เคียงของพวกเขานั่นเอง
มิสเตอร์สมิธยินดีรับงานยิ่ง นัดแนะกันว่าวันถัดมาจะมาถ่ายรูปให้ เมื่อถึงเวลานัด มิสเตอร์สมิธก็มาที่อพาร์ทเม้นท์ของพวกเขา จันทร์จ้าวกับภวัตสวมสูทอย่างดี และจะถ่ายรูปกันที่ต้นคริสต์มาสซึ่งมีเก้าอี้บุนวมตัว ๑ ตั้งอยู่
หนุ่มอเมริกันเลิกคิ้วเล็กน้อย อยากถามว่าทำไมมีเก้าอี้วางอยู่เพียงตัวเดียว แต่เห็นเจ้าของห้องผู้มีลักยิ้มที่แก้มซ้ายกำลังสั่งอีกคนเป็นภาษาไทยซึ่งเขาฟังไม่ออก
สุดท้าย ภวัตก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น ส่วนเจ้าตัวยืนเยื้องหลังเก้าอี้เล็กน้อย มิสเตอร์สมิธคิดเอาว่า ตำแหน่งอย่างนี้เหมือนรูปของเขากับภริยาจริง! ภริยาของเขานั่ง ส่วนเขาน่ะยืน!
“Ready. (เอาล่ะ)” จันทร์จ้าวหันมามองมิสเตอร์สมิธผู้ได้รับโชคให้เป็นช่างกล้องให้ เป็นอันส่งสัญญานว่ากดกล้องถ่ายรูปได้แล้ว
มิสเตอร์สมิธกดไป ๒ รูป ก็ทักขึ้นมาว่า
“"Wouldn’t you want to take individual shots too? (ทำไมพวกคุณไม่ถ่ายรูปทีละคนบ้างเล่า)”
“No, that costs too much. (ไม่ล่ะ เปลือง)”
คำตอบของจันทร์จ้าวทำเอาภวัตกลั้นหัวเราะแทบแย่ ไม่ต้องหันไปมองสีหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้เขา ก็รู้ว่าเจ้าตัวคงทำหน้าเฉยๆ เหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ
ฝ่ายมิสเตอร์สมิธนั้นมิทราบความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเพื่อนบ้านชาวเอเชียทั้ง ๒ ก็หัวเราะร่วน
“You two are wealthy. This wouldn't cost a thing. (พวกคุณรวยจะแย่ ยังจะเปลืองอะไรกัน)”
แต่จันทร์จ้าวก็เพียงยักไหล่ แล้วพูดต่อไปว่า “Could you please wait for us to change? We want to take shots with sweaters too.(รอพวกผมเปลี่ยนเสื้อผ้าสักครู่ จะใส่สเวตเตอร์ถ่ายรูปด้วย)”
แล้วทั้ง ๒ ก็ออกจากห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หายไปพัก คราวนี้กลับมาอีกครั้ง มิได้สวมสูทแล้ว แต่สวมสเวตเตอร์ทับเสื้อเชิ้ต ภวัตใส่สีเขียว ส่วนจันทร์จ้าวใส่สีแดง มิสเตอร์สมิธอารมณ์ดีเป็นทุน จึงหัวเราะแล้วหยอกว่า
“"You two look groovy! And also like two peas in a pod! (สวยจริง! พวกคุณนี่ยังกับฝาแฝด!)”
ภวัตยิ้มจางแล้วถาม “We look the same? (เราหน้าเหมือนกันหรือ)”
มิสเตอร์สมิธยังหัวเราะ พยักหน้าหงึกหงัก
“"Exactly the same! I couldn't tell from afar. (เหมือนกันทุกอย่าง! เห็นไกลๆ เกือบทักผิดตั้งหลายครั้ง)”
“That means you need a pair of eyeglasses. (นั่นแสดงว่าคุณควรใส่แว่น)” จันทร์จ้าวย้อน แต่มิสเตอร์สมิธนั้นมีทักษะทางการโต้เถียงดีเยี่ยม จึงเสนอขึ้นว่า
“Or you two could stop looking like twins. (หรือไม่อย่างนั้นพวกคุณควรเลิกเหมือนกันสักที)”
“That's not going to happen! (ไม่มีทาง)” ๒ เสียงตอบพร้อมกัน แม้แต่เจ้าของเสียงยังมองหน้ากันด้วยไม่คิดว่าจะพร้อมใจเพียงนี้ มิสเตอร์สมิธหัวเราะจนน้ำตาไหล
“You two are definitely twins! All right, twins, shall we continue? (พวกคุณเป็นฝาแฝดจริงๆด้วย เอาล่ะ ฝาแฝด ถ่ายรูปกัน!)”
แล้วจากนั้น มิสเตอร์สมิธก็ช่วยถ่ายรูป ‘ฝาแฝด’ ให้ ๒ เพื่อนบ้านชาวต่างชาติ เขากดไปหลายรูป หลายอิริยาบถ เมื่อแล้วเสร็จ ภวัตชวนเขาดื่มน้ำชาสนทนากันต่อ ส่วนจันทร์จ้าว พอดีมีเด็กๆมาชวนไปเล่นหิมะ จึงออกไปสนุกอยู่ตรงหน้าอพาร์ทเม้นท์นี่เอง
มิสเตอร์สมิธถูกคอกับภวัตยิ่ง สนทนากันอยู่เป็นนาน กว่าจะกลับ พอกลับถึงบ้านแล้วก็พลันนึกขึ้นได้เรื่อง ๑
จันทร์จ้าวกับภวัตไม่มีรูปเดี่ยวเลยสักรูป เพราะจันทร์จ้าวบอกว่าเปลือง
แต่พอเขาถ่ายรูปให้ทั้ง ๒ หลายสิบรูป กลับไม่มีใครใน ๒ คนนี้ที่พูดว่าเปลืองเลยสักคำ
...เอ? หรือ ‘ฝาแฝด’ ชอบถ่ายรูปด้วยกัน ไม่ชอบแยกกันถ่ายหนอ?...
…………………..
กว่าแอร์เมลจากสหรัฐอเมริกาจะมาถึงมือผู้รับ ก็พ้นวันคริสต์มาสแล้ว
เมื่อเห็นว่าชื่อผู้ส่งคือจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์สหายรัก หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งใจว่าจะเปิดจดหมายออกอ่านพร้อมคนอื่นๆ อย่างพวกพี่น้องของจันทร์จ้าวอย่างนี้ น้องสาวของเขาอย่างนี้ หรือเพื่อนสนิทอย่างเรย์มอนด์ อดัมกับนายวินิตอย่างนี้
แต่...บางอย่างดลใจให้เขาลองเปิดอ่านเสียก่อน
ราชนิกูลหนุ่มตัดขอบซองแล้วหยิบเอากระดาษที่อยู่ภายในออกมา คราวนี้แอร์เมลจากจันทร์จ้าวมิได้เป็นจดหมายยาวๆหลายหน้าที่บอกเล่าชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าตัวกับหมอภวัต แต่เป็นรูปถ่ายใบ ๑
รูปถ่ายใบนั้นเป็นรูปของหมอภวัตสวมสเวตเตอร์นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมข้างต้นคริสต์มาส มีจันทร์จ้าวสวมสเวตเตอร์ยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ มีตัวอักษรโย้เย้เขียนกำกับอยู่ที่มุมภาพ
‘ส่งมาเป็นที่ระลึกในวันคริสต์มาส’
ลงชื่อบรรทัดถัดมาว่า
‘จันทร์จ้าว’ ที่ตัวอักษรออกจะเบี้ยวสักหน่อย และ ‘ภวัต’ ที่ตัวอักษรเป็นระเบียบ
แล้วก็มีจดหมายฉบับเล็กแนบมาด้วย ระบุว่า
‘รูปนี้หมอใส่ Sweater สีเขียว ผมใส่สีแดง สีแห่งคริสต์มาส! แล้วก็มีรูปผมกับหมอใส่สูทด้วย แต่หมอใส่สูทสวยมาก สวยทั้งหมอ สวยทั้งสูท ผมเลยตัดใจไม่ให้ คุณพงศ์มาที่นี่ แล้วจะให้ดู แล้วก็มีรูปผมนั่ง ส่วนหมอยืน ผมก็ไม่ให้ แลจะไม่ให้ใครดูด้วย จะเก็บไว้ดูคนเดียว เพราะหมอสวยมากแม้จะสวม Sweater!’
หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอ่านแล้วก็หัวเราะ นึกขันความโอ่ของสหายที่ย้ายไปอยู่ต่างแดน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่แอร์เมลที่ส่งมาเนืองๆก็บอกให้รู้ว่าจันทร์จ้าวแลภวัตมีความสุขกับชีวิตคู่เพียงใด
เขาเก็บรูปถ่ายและจดหมายน้อยใส่ซองตามเดิม จากนั้นก็สั่งให้คนไปหากรอบรูปที่ไม่ได้ใช้มาให้
หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน ที่โต๊ะทำงานของราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรก็มีรูป ๑ ตั้งอยู่
รูปนี้...ที่มิใช่รูปเดี่ยวของเขา มิได้มีเขาอยู่ในรูป และมิใช่รูปของคนในสกุลฉัตราภาสคนใด
แต่เป็นรูปของจันทร์จ้าวกับภวัตและต้นคริสต์มาส
ราชนิกูลหนุ่มตัดสินใจว่า หากใครต้องการชมรูปนี้ ก็จะเชิญมาชมที่วังฉัตร และหากใครชมแล้วเกิดซุกซน แอบแกะกรอบรูปออกล่ะก็ จะพบจดหมายน้อยซ่อนเอาไว้ข้างหลังรูปด้วย
...จดหมายขี้โอ่อย่างนี้ จะทิ้งได้อย่างไรกัน เก็บเอาไว้มีโอกาสเมื่อไร จะให้ภวัตได้อ่านสมกับที่จันทร์จ้าวโอ่นี่ล่ะ!...
จบ
*ตอนพิเศษนี้ เชื่อมกับ จอมร้าย ตอนพิเศษ พิเศษ Christmas…again and again.
สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ