...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)  (อ่าน 743369 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
คุณหมอยังคงสึภาพและน่ารักเสมอ
ถึงบางทีจะเจ้าเล่ห์ไปบ้าง

ขอบคุณพี่บัวนะคะ

ออฟไลน์ Rose_Apple

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คือคุณ Dezair คะ เป็นหวานมากๆ เป็นบะลั่กๆอุ๋งๆ เขินพี่หมอ ฮืออออออ ขอบคุณที่อัพให้หายคิดถึงนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หมออ้อนคุณจันทร์ :ling2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดูแลแบบพิเศษ?  :hao7:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ Cloudnine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 730
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
หมอออออ ร้ายนะหมอ
 :-[ :o8: :hao6:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
โอ๊ยหวานมาก :-[

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
หมอเจ้าเล่ห์ขนาดนี้เลยหรอเนี่น

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เป้นตอนที่น่ารักมาก หลากอารมณ์ดี แต่ที่อยากบอกคือจะอย่างไรคุณจันทร์ก็ยังน่ารักน่าหลงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Summerset

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงคุณจันทร์​ กะ คุณหมอผู้เรียบร้อย???

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เป็นไงล่ะคุณจันทร์คนแก่น ไปไม่เป็นเลยล่ะซี่

ออฟไลน์ brapair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ้โหห หมอจ๋าาาาา แลงมากๆนะคะคุณหมอออ จันทร์จ้าวถึงกับไปไม่เป็นเลย เอ็นดูวววว

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คิดถึงเหมือนกันค่ะ
หมออออออออออ :z1:  :z1: :z1:
ทำเอาจันทร์ไปไม่เป็นเลย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อ่านยาวจนจบรวดเดียวเลยครับ ^^

ออฟไลน์ Nobodylove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  งานดี มีคุณภาพ ชอบบบบบบ ไม่น่าค้างเรื่องนี้ไว้ตั้งหลายปี เรื่องนี้มันดีมากจริงๆ ต้องไปตามหาหนังสือมาอยู่ในมือให้ได้

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ ตุ๊บป่อง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao7:  ของขวัญ ถอดแบบ จันทร์เจ้า มาทุกกระเบียด

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
งุ้ยยยยยยยยย :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 เป็นเกลอกันที่สงสัยได้ตรงกันแต่ก็ทำเลือนไป ไม่อยากถาม
พงศ์เป็นอะไรที่มีศักดิ์เหนือกว่า แต่แพ้ทางจันทร์จ้าวตลอด

หมอป่วย ก็อยากมีคนดูแล แต่ก็ห่วงกลัวคนรักกังวล
แล้วเป็นไงล่ะ กังวลจริง จนต้องแอบมาส่องถึงโพรงพยาบาล
ตอนนี้หมอหายป่วยแล้ว ไม่รู้คนเฝ้าตัวเย็นดูแลดีจนติดไข้ไปยัง

ขอบคุณมากนะคะ คิดถึงเสมอเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๓  :mew1: :mew1: :mew1:
มาอ่านใหม่ ชอบบบบบบ   :impress2:
ชอบคุณจันทร์ที่ถูกหมอคุมเกมซะเขินอาย ประหม่า พูดไม่ออก  :m20: :laugh:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
โอ้ยยย เป็นพีเรียดสีลูกกวาดที่สนุกมากๆ เสียดายไม่ได้อ่านแบบเรียลไทม์ เนื้อเรื่องน่าเอ็นดู กลมกล่อมละมุน ครบทุกอรรถรส ชอบทุกตัวละคร มีคาเรทเตอร์ที่ชัดเจน มีความเอ็นดูทุกคนเลย เหมือนได้ดูละครพีเรียดผ่านตัวอักษรเลย ดีต่อใจมากกกกกกก

จันทร์จ้าว คือถ้วยฟูกับจอมขวัญ เขย่ารวมกัน จนน่ามันเข้ว! เธอไปของได้จริงๆใครจะยังไงก็ช่าง ดื้อได้กับทุกคนยกเว้นหมอภวัต แพ้ทุกทาง น่าเอ็นดูววตรงนี้  :laugh:

พี่หมอคือสามีแห่งชาติ ที่ควรหวงแหนอย่างแท้จริง แอบร้ายแอบเจ้าเล่ห์เนียนๆให้กร๊าวววใจไปอี๊ก  :hao5:

ขอบคุณนะคะ สนุกและอิ่มใจมาก นิยายของคุณบัวดีงามต่อใจเหลือเกินค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:




ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนเห็นชื่อเรื่องแรกๆคิดว่าน่ากลัวแต่อยู่ๆก็กดเข้ามาอ่านชอบภาษามากเลยค่ะอ่านเพลินพีเรียดลูกกวาดไม่หวือหวาแต่น่ารักมากๆเลยค่ะสายสุขนิยมอย่างเราชอบบบบ แล้วก็ชอบนายเอกอย่างคุณจันทร์ด้วยคุณหมอภวัตก็อ่อนโยนมากแต่ตอนพิเศษกรี๊ดกร๊าดใช่คุณหมอคนอ่อนโยนจริงๆหรือ

เรื่องคุณพงศ์ก็อยากอ่านมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ yulsawa81

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งได้มาอ่านค่ะ สนุกมาก ๆ เป็นสไตล์ที่เราชอบเลยค่ะ ถูกจริตมาก พีเรียดยุคแบบนี้ก็ชอบมาก ๆ แทบจะเก็บไปฝันเลยค่ะ 5555 ตัวละครน่ารักไปหมดเลยค่ะ ยิ่งคุณจันทร์นี่น่าเอ็นดูสุด ๆ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
หวานมากคะ
คุณหมอบทจะหวานก็น่ารักมากเลยคะ♥️

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
จันทร์จ้าว
โดย Dezair
………………..
ตอนพิเศษ กลเม็ด



เสียงหวดลูกเงียบลงไปแล้ว เมื่อคู่ตีเทนนิสทั้ง ๒ เดินกลับจากคอร์ดมานั่งพักที่เก้าอี้ม้านั่งยาวริมสนาม


ร่มไม้น้อยใหญ่ในวังฉัตรให้ความร่มรื่น ลมจากแม่น้ำพัดหอบขึ้นมาพอให้คลายร้อน กระนั้นเสื้อของเด็กหนุ่มทั้ง ๒ คนก็ยังชื้นเปียกไปด้วยเหงื่ออยู่ดี


                “แล้ววันนี้แกจะกลับกี่โมง หอบน้องสาว ๒ คนมาอยู่ที่นี่นานๆ ที่บ้านไม่ว่าเอาหรือ” ทายาทเจ้าของวังอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมาถามเพื่อนรักผู้คบหากันมาแต่อ้อนแต่ออก แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะทิ้งเขาไปเรียนต่อต่างประเทศเสียแล้ว


   คนถูกถามทำหน้าดื้อรั้นพลางยักไหล่


                “จะว่าอย่างไรผมไม่สนหรอก ปล่อยให้อยู่ที่นั่นสิเรื่องใหญ่ น้องสาวผมอายุ ๑๔ แล้ว คุณพ่อคุณแม่ทำอย่างกับนภาและดาราอายุสัก ๔ ขวบ จู่ๆก็จะให้เพื่อนพาลูกชายมาพบหน้า คุณพงศ์รู้จักท่านศักดิ์ วิชาญโยธินไหมล่ะ เห็นว่าลูกเป็นหมอหรือเรียนหมอ ผมก็ไม่ทันได้ฟังคุณแม่พูดหรอก พอรู้ว่าจะพามาให้รู้จักกัน ผมก็ตัดสินใจหอบนภากับดารามาที่นี่ เรื่องอะไรจะอยู่ให้ได้พบหน้า ฟังดูก็รู้ว่าคิดจะจับคู่ให้น้องผม ถ้าหากอยากให้รู้จักกันเอาไว้ ก็น่าจะพามารู้จักกันแต่เล็ก ไม่ใช่พอน้องผมเริ่มโตเป็นสาวก็จะพาผู้ชายมารู้จัก ผมไม่ยอมหรอก!” ลงท้ายอย่างใส่อารมณ์เช่นนี้ ก็ทำเอาคนฟังต้องรีบปราม


                “จันทร์ น้องแกเพิ่งจะ ๑๔”


   คนชื่อ ‘จันทร์’ ผู้เจ้าอารมณ์ถึงกับหันขวับ


                “อายุตั้ง ๑๔ แล้วต่างหาก! เกิดอ้ายลูกชายของเพื่อนคุณพ่อเห็นเข้าแล้วถูกใจ ขอแต่งงานแต่งการ น้องผมมิต้องออกจากโรงเรียนกลางคันรึ?!”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรส่ายศีรษะอีกหน


   “แกก็พูดเกินไป”


   “ไม่เกินไปหรอก ผมก็ต้องคิดไว้ก่อน“


                “แต่อีกไม่กี่วัน แกก็จะไปเรียนต่อแล้ว ถ้าคิดจะจับคู่ให้น้องแกจริง ก็ทำหลังจากแกไปก็ได้นี่” คำพูดของราชนิกูลเพื่อนรัก ทำเอาคนมีกำหนดต้องไปเรียนต่อต่างประเทศเริ่มคิดหนัก


                “เอ? หรือผมไม่ไปเรียนแล้วดี อยู่มันที่นี่เสียเลยเป็นไร”


                “เฮ้ย! พูดเป็นเล่น! แกรับทุนเขามาแล้ว จะไม่ไปได้ยังไร!”


                “แต่ผมห่วงน้องผม พี่อาทิตย์ก็ใช่จะขัดใจคุณพ่อคุณแม่ได้ ดูอย่างวันนี้ซี! แทนที่จะอยู่กันท่า กลับบอกว่าต้องเข้าสวนไปดูต้นไม้อะไรก็ไม่รู้! ใช่เรื่องเสียที่ไหน! อ้ายผู้ชายอื่นจะมาฉกน้องสาวอยู่แล้ว ยังจะคิดเรื่องต้นไม้ใบหญ้าอยู่อีก! ดีแค่ไหนว่าผมหัวไว รีบพามาที่นี่เสียก่อน ไม่อย่างนั้นต้องได้เจอกันแน่!”


   “เจอกันจะเป็นไร ก็แค่รู้จักกันเอาไว้”


   “น้องผมเป็นผู้หญิงนะคุณพงศ์! ทางนั้นเป็นผู้ชาย! หญิงชายเจอกัน ใครที่ไหนจะแค่ทำความรู้จักเล่า?!”


   “อ้อ! เหมือนแกน่ะหรือ หญิงชายเจอกัน มองหญิงตาเยิ้มทุกที”


   คนถูกย้อนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเพราะถูกหยอก แต่แม้นจะถูกหยอกอย่างไร เรื่องอันดับ ๑ ในใจเวลานี้ก็คือเรื่องกันท่า


   “ไม่รู้ล่ะ! ยังไรผมก็ไม่ไว้ใจให้ลูกชายของเพื่อนคุณพ่อมาเจอนภากับดารา!”


                “ไฮ้! แกมันก็คิดมาก! เธอไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก” ฟังแล้วคล้ายจะเข้าข้างผู้อื่น คู่สนทนาจึงหรี่ดวงตาลงจับจ้องพลางถามเอาเรื่อง


                “เธอที่ว่าน่ะเธอไหน”


                “ก็ท่านศักดิ์ วิชาญโยธินกับคุณภวัต ลูกชายของท่านที่เรียนหมอน่ะซี”


                “อ้อ! ชื่อภวัตรึ?! แค่ชื่อก็รู้สึกไม่ถูกโฉลกเสียแล้ว คุณพงศ์รู้จักใช่ไหม? ดี! จะได้เป็นหูเป็นตาแทนผม หากนายคนนี้มีทีท่าอยากจะพบหน้าน้องสาวผมให้ได้ คุณพงศ์ต้องขวางให้ผมด้วย แล้วต้องคอยรายงานผมเป็นระยะล่ะ ผมจะได้วางใจ”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ดูท่าคู่สนทนาจะฝังใจไปแล้วว่า ‘คุณภวัต’ บุตรชายคนใหญ่ของท่านศักดิ์  วิชาญโยธิน หมายตาน้องสาวแฝดคนใดคนหนึ่งของตนเป็นแน่แท้ คนดื้อดึงเช่นนี้ พูดอย่างไรคงไม่ฟัง คร้านจะโต้แย้งด้วยจึงพยักหน้าเออออราวกับรับคำสั่ง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่า ‘คุณภวัต’ ผู้นั้น มุ่งมั่นร่ำเรียน และไม่เคยมีข่าวเสียหายเรื่องคบหากับเพศตรงข้ามเลยสักครั้ง


              “เลิกพูดถึงนายภวัตพะวังอะไรนั่นเถิดคุณพงศ์ มาเล่นกันอีกสักตาดีกว่า”


   คนเปลี่ยนอารมณ์ง่ายราวกับพายุพูดแล้วก็ถือแร็กเก็ตลงไปรอที่คอร์ด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรยังมัวแต่คิดสะระตะ จึงถูกกระทุ้งอีกรอบ


“เฮ้! คุณพงศ์! ลงมาเล่นกันอีกสักตาซี! มัวแต่คิดอะไรน่ะ!”


ก่อนที่พายุลูกใหม่จะก่อตัว ราชนิกูลหนุ่มก็รีบคว้าแร็กเก็ตลงไปตีโต้กับเพื่อนรักผู้มีนามว่า ‘จันทร์’ แล้ว


ปล่อยให้เรื่องของ ‘นายภวัตพะวังอะไรนั่น’ เลือนหายไปจากบทสนทนาของพวกเขาอย่างรวดเร็ว


………………..


   ตอนที่รถยนต์เคลื่อนตัวออกมาจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ ท่านศักดิ์ก็เอี้ยวตัวมาที่บุตรชายทั้ง ๒ ที่นั่งอยู่เบาะหลัง


   “น่าเสียดาย วันนี้ลูกบ้านนี้ไม่อยู่สักคน ไม่อย่างนั้นคงได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ อายุไล่เรี่ยกัน เผื่อคบหากันถูกคอ”


ภวัตเพียงยิ้ม ไม่ตอบกระไร ในขณะที่เภาไม่ได้มีท่าทีสนใจแต่ประการใด นอกจากทิ้งสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ


   “จะว่าไปตาเดชนี่ใจเด็ด สงครามเพิ่งจบ ก็ยังปล่อยให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ” พอบิดาเอ่ยถึงเรื่องนี้ ก็ชวนให้ภวัตเลิกคิ้ว


   เมื่อครู่นี้ เขาอยู่ในวงรับประทานของว่างด้วย หลังจากบทสนทนาที่เจ้าบ้านซักถามเรื่องการเรียนแพทยศาสตร์ของเขาแล้ว ท่านเดชก็กล่าวถึงบุตรชายคนรองของท่านซึ่งกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ



ท่านเล่าอย่างติดตลกว่าไม่ทราบบุตรชายคนนี้ไปสมัครสอบอย่างไร รู้อีกทีก็ได้รับทุนแล้ว คุณหญิงผการ้องไห้อยู่สามวันเจ็ดวันเพราะบุตรชายต้องจากไกล แต่บุตรชายคนที่ว่ากลับยืนกรานหนักแน่นว่าต้องไป หากไม่ไปจะเป็นที่ครหา เพราะชิงทุนมาได้แต่กลับสละสิทธิ์ คนจะกล่าวหาว่ารักษพิพัฒน์โลเลไม่น่าเชื่อถือ


   คิดย้อนกลับไปตามความที่ท่านเดชเล่า ภวัตก็นึกขันในใจเกี่ยวกับบุตรชายคนดังกล่าว บุคคลที่สามเช่นเขาฟังแล้วยังรู้ว่าเรื่องคำครหา สละสิทธิ์ หรือแม้แต่ทำให้สกุลไม่น่าเชื่อถือเป็นเพียงข้ออ้างทั้งนั้น แต่...ก็เป็นข้ออ้างที่ขัดไม่ลงทั้งสิ้น


   ...ดูท่าจะพูดเก่ง กลเม็ดแยะ...ที่สำคัญคือหัวแข็งและใจเด็ด...


   “ผมว่าคนใจเด็ดน่าจะเป็นคนสมัครทุน สงครามเพิ่งจบก็ยังคิดจะไปต่างประเทศ เคยได้ยินมาว่าทุนนี้เป็นทุนให้เปล่าเต็มจำนวน เพื่อนผมหลายคนก็เคยสมัครสอบ แต่ไม่ได้ แสดงว่าลูกชายของท่านเดชนอกจากจะใจเด็ดสมัครทุนเองแล้ว น่าจะเรียนเก่งมาก” ภวัตกล่าว ผู้เป็นบิดาเพียงรับคำเออออ แต่มิได้สนใจมากนัก



พอรถยนต์แล่นออกสู่ถนนใหญ่ หันกลับไปมองไม่เห็นเรือนไทยรักษพิพัฒน์แล้ว เรื่อง ‘ลูกชายของท่านเดช’ ก็ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยอีก รวมถึง...ไม่มีใครกล่าวด้วยซ้ำว่าคนผู้นั้นชื่ออะไร


แล้วเรื่องนี้...ก็จางหายไปจากความทรงจำของภวัต  วิชาญโยธิน...นานหลายปี…


……………………..



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2020 22:24:31 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
   กระนั้น สมองของคนเรานี้น่าแปลก แม้ภวัตเป็นหมอย่อมเรียนกายวิภาคจนแตกฉาน แต่ร่างกายที่ธรรมชาติสรรสร้างก็น่าอัศจรรย์เสมอ


   จู่ๆ ตอนที่กำลังนั่งรอคู่รักอยู่ในภัตตาคาร เขาก็พลันนึกย้อนไปคิดถึงเรื่องราวในอดีต ที่ครั้งหนึ่ง...เคยติดตามบิดาไปเยือนบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ จำได้ว่าพบเพียงเจ้าของเรือนอย่างท่านเดชและภรรยา ส่วนบุตรธิดาทั้ง ๔ ไม่มีใครอยู่


   น่าเสียดาย...มิเช่นนั้นอาจจะได้พบจันทร์จ้าวในยามเยาว์วัย


   พอคิดถึงคู่รักของตนแล้ว หมอภวัตก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้


   จันทร์จ้าวยามนี้ คนใกล้ชิดล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านิสัยมิได้แตกต่างจากสมัยเด็กเสียเท่าไร เอาแต่ใจอย่างไรก็เอาแต่ใจอย่างนั้น อีกทั้งยังเป็นเจ้าความคิด ทำแต่เรื่องเปิ่น กลเม็ดก็แยะ ดีขึ้นหน่อยตรงนี้ไม่เจ้าอารมณ์เท่าสมัยก่อนแล้ว เรื่องเจ้าอารมณ์นี้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรย้ำหนักหนาว่าถึงขั้น ‘ญาติผู้ใหญ่ยังไม่เอา’


   เรื่องนี้ ชวนให้ภวัตสงสัย จึงสอบถามกับบุคคลผู้อยู่ในชีวิตจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์มาตั้งแต่จำความได้ ก็จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเจ้าเก่าเจ้าเดิม


    ‘ญาติผู้ใหญ่ยังไม่เอา? หมายความว่ายังไรหรือครับ’


   ‘คุณปู่ของจันทร์ท่านมีลูกหลานแยะ พ่อของจันทร์ท่านเป็นลูกคนหลังๆ แต่ได้ดิบได้ดี คุณหมอคงพอจะนึกออก เวลาจัดงานเลี้ยงทีไร พวกผู้ใหญ่บางทีก็พูดจากระทบกระเทียบประชดประชันกัน พวกเด็กๆเล่นสนุกไม่รู้เรื่องไปก็ได้ แต่จันทร์น่ะ...ไม่ได้’


   คำว่าไม่ได้ คล้ายจะบอกว่าจันทร์จ้าวไม่ปล่อยให้เรื่องระคายเคืองบิดามารดาของตนเองถูกปล่อยผ่าน


   ‘พอไปงานเลี้ยงแล้วเจอคำพูดไม่เข้าหู มีครั้งหนึ่งคงสุดจะทน ก็เลยทะเลาะกับพวกลุงๆป้าๆ หลังจากนั้น จันทร์ก็ไม่ไปงานเลี้ยงครอบครัวใหญ่อีกเลย’


   ‘คุณจันทร์คนเดียวที่ไม่ไปหรือครับ’


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะพรืด


   ‘คนอย่างจันทร์น่ะหรือจะไม่ไปคนเดียว พี่น้องโดนห้าม ส่วนพ่อแม่จะไปก็สุดแล้วแต่ คุณหญิงผการักจันทร์จะตายไป พอลูกชายคนโปรดว่าอย่างนั้นก็เลยไม่ไปบ้าง ท่านเดชก็รักครอบครัวอย่างกับอะไร ลูกเมียไม่ไปก็ไม่ไป สุดท้ายเลยไม่ไปกันหมดทั้งบ้าน’


   หมอภวัตถอนหายใจเบา คล้ายระอาความเอาแต่ใจและเจ้ากี้เจ้าการของคนรักยามเยาว์วัย แต่ใบหน้าของเขากลับมีรอยยิ้มน้อยๆราวกับเอ็นดู


   ‘แต่จริงๆแล้ว จันทร์เคยบอกผมว่า ไม่ถูกโฉลกลุงป้าคู่นั้นอยู่แล้ว พอทางนั้นหาเรื่องมา จันทร์ก็เลยหาเรื่องกลับ จะได้ก่อเรื่องแล้วเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงครอบครัวใหญ่อีกอย่างไรล่ะ เรื่องกลเม็ดของเพื่อนผมคนนี้น่ะ...บอกเลยว่าแยะ!’


   หมอภวัตเพียงยิ้ม เห็นด้วยหมดใจว่าคู่รักของตนนั้น กลเม็ดแยะเพียงใด


   “หมอ!”


เสียงเรียกดังข้างหูพร้อมกับการตะปบไหล่จากด้านหลัง คนกำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้งหันมอง เจ้าของเสียงและการเย้าแหย่เช่นนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ถ้าไม่ใช่คนที่เขาคิดถึงเมื่อครู่


   จันทร์จ้าวยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่หยีจนเป็นเส้นโค้ง ดวงหน้าแสดงออกอย่างมีชีวิตชีวา


   วันนี้ พวกเขาไม่ได้ไปตีเทนนิสอย่างทุกที แต่นัดเจอกันที่ภัตตาคารชื่อดัง แน่นอนว่าในเมื่อภัตตาคารแห่งนี้ชื่อดัง ย่อมมีลูกค้ามาก การที่นายแพทย์หนุ่มคนดังปรากฏกายที่นี่ ย่อมทำให้ผู้คนสนใจแล้ว ยิ่งเมื่อมีชายหนุ่มผู้รุ่มรวยด้วยเสน่ห์เช่นจันทร์จ้าวตามมาอีกคน ก็ย่อมทำให้โต๊ะของพวกเขาเป็นที่สนใจ


แต่ความสนิทสนมของพวกเขานั้นเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันอยู่แล้ว การที่จะพบหมอภวัตและจันทร์จ้าวอยู่ด้วยกันตามร้านอาหาร ท้องถนนหรือที่สโมสรเทนนิส ถือว่าเป็นเรื่องคุ้นตา 


   “หมอมาถึงนานหรือยัง ขอโทษทีที่ช้า คุณพงศ์น่ะซี โอ้เอ้” เจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายเอ่ยปาก ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับคู่รักของตน พอนั่งลงแล้ว บริกรก็รีบนำรายการอาหารมาให้ จันทร์จ้าวพลิกดูทีละหน้า ท่าทางจะหิว


“หมอสั่งอะไรไปบ้างแล้ว”


   “สั่งแค่เครื่องดื่มเท่านั้นครับ”


   “ถ้าอย่างนั้นกินอะไรดี ซี่โครงหมูอบไหม แล้วก็...สตูลิ้นวัว...”


หมอภวัตผู้ตามใจคู่รัก ไม่ว่าจันทร์จ้าวเสนออะไรก็ล้วนดีงามไปหมด หลังจากปล่อยให้คนเพิ่งมาเป็นผู้สั่งอาหารไปหลายอย่าง และบริกรจากไปแล้ว คราวนี้คุณหมอหนุ่มถึงได้มีเวลาเป็นส่วนตัว


แม้จะอยู่ในที่สาธารณะ และพวกเขามิอาจใกล้ชิดกันได้มากไปกว่าการนั่งร่วมโต๊ะอาหาร แต่ดวงตาของภวัตยามมองคู่รักนั้นแตกต่างจากยามมองผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด


   “แล้วนี่คุณมาอย่างไรครับ คุณพงศ์มาส่งหรือ”


   “ใช่ พอดีคุณพงศ์ต้องแวะมาแถวนี้ ผมก็เลยขอติดรถมา”


   วันนี้มีเรื่องประหลาด ๒ เรื่อง เรื่อง ๑ คือจันทร์จ้าวเสนอให้ยกเลิกการตีเทนนิส แล้วเปลี่ยนเป็นมื้อเย็นแทน และเรื่อง ๒ คือเจ้าตัวบอกให้ ‘ต่างคนต่างมา’


   ภวัตไม่ได้ลำบากอะไรเพราะมีรถยนต์ส่วนตัว แต่จันทร์จ้าวนี่สิ ไม่ทราบว่าจะระหกระเหินอย่างไร แม้เขาจะแย้งก็แล้วว่าให้ไปรับที่สำนักงานค้าหนังสือก็ได้ แต่เจ้าตัวยืนกรานว่าให้มาเจอกันที่ภัตตาคาร เขาไม่ทันได้ซักไซ้ เพราะเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์ ภวัตเองต้องรีบไปทำงานต่อ จึงได้แต่เออออแล้วอดใจรอมาสอบถามตอนพบหน้าแทน


   “แล้วคุณพงศ์ไม่มาทานด้วยกันหรือครับ”


   “ไม่หรอก เธอรีบ”


   คราวนี้คนฟังเริ่มฉุกใจ กะพริบตาปริบๆ


   “ถ้าคุณพงศ์รีบ ก็น่าจะให้ผมไปรับคุณจากสำนักงาน จะได้ไม่ต้องรบกวน...” นายแพทย์หนุ่มยังพูดไม่ทันจบ จันทร์จ้าวก็โบกมือไปมา


   “ไม่รบกวนหรอก คุณพงศ์ยินดี”


ไม่แน่ใจนักว่า ‘คุณพงศ์’ ยินดีจริงหรือไม่ แต่ในเมื่อสหายรักของ ‘คุณพงศ์’ ว่ามาเช่นนี้ หมอภวัตก็ไม่แย้งอะไรอีก ได้แต่พยักหน้าแล้วชวนคุย


“แล้วนึกอย่างไร อยู่ๆอยากกินที่นี่ล่ะครับ”


ทว่าเรื่องอื่นเรื่องนี้ก็หาใช่เรื่องที่ตอบง่ายเลย จันทร์จ้าวนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ


   “ก็...นึกอยากกินน่ะซี”


   “ถึงขนาดยกคอร์ดเทนนิสให้คุณวินิตไปตีแทนเลยหรือครับ”


   ก่อนหน้านี้ จันทร์จ้าวบ่นว่าอยากยืดเส้นยืดสายด้วยการตีโต้กับเขาให้ชุ่มปอด ถึงขั้นที่ออกปากว่าจะไม่จับคู่กับใครเด็ดขาด แล้วจะตีโต้กับภวัตเพียงคนเดียว คนฟังฟังแล้วชื่นใจไปหน รีบจัดการจองคอร์ดอย่างเร่งด่วน แต่แล้วจู่ๆคนที่เคยบ่นว่าอยากตีโต้กับเขา ก็เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน โทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลแล้วขอเปลี่ยนการนัดหมายในตอนเย็นจากสนามเทนนิส เป็นภัตตาคารแห่งนี้แทน


   “ก็...ก็ปล่อยคอร์ดทิ้งไปก็น่าเสียดาย ให้คุณวินิตไปเล่นแทนก็ดีแล้วนี่นา”


   คนพูดเก่ง วันนี้ดูมีลับลมคมในอย่างไรชอบกล ภวัตมองแล้วยิ่งฉงน แต่เพราะจันทร์จ้าวเองก็ไม่ใช่คนโง่งม ย่อมรู้ว่ากำลังถูกสงสัย จึงชวนคุยเรื่องอื่นแทน


   “จริงสิ! ผมได้หนังสือเกี่ยวกับการแพทย์มา ว่าจะหยิบมาให้หมอก็ลืมเสียสนิท”


   “ไว้ผมไปเอาจากสำนักงานของคุณก็ได้ครับ อย่างไรวันจันทร์ก็ต้องไปส่งคุณที่นั่นอยู่แล้ว”


   เป็นอีกครั้งที่คนตรงหน้าของภวัตชะงัก ก่อนจะเลี่ยงสายตาไปทางอื่นแล้วพูด


   “อ้อ...ว...วันจันทร์...วันจันทร์ผมว่าผมจะไม่เข้าสำนักงานหรอกนะ เอ่อ...ตอนนี้ห้องทำงานผมเต็มไปด้วยหนังสือแล้ว ก็เลย...เลย...จะย้ายไปนั่งทำงานที่วังฉัตรก่อน”


   ภวัตเลิกคิ้ว ความสงสัยขยายตัวเต็มอก


   “ถ้าอย่างนั้น...เช้าวันจันทร์ ผมหิ้วข้าวต้มไปให้ทานที่บ้านเช่าดีไหมครับ”


   คราวนี้เจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายถึงกับหัวเราะร่วน


   “หมอกะไม่ให้ผมพลาดอาหารสักมื้อเลยหรือ”


   “มื้อเช้าสำคัญนี่ครับ”


   “รู้แล้วว่าสำคัญ หมอเล่นนัดตั้งแต่เย็นวันศุกร์”


   “ก็คุณต้องกลับไปนอนที่เรือนไทย กว่าผมจะได้ไปรับคุณก็เย็นวันอาทิตย์แล้ว นัดไว้ตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้เช้าวันเสาร์ ผมจะได้ฝากคนให้เตรียมข้าวต้มเผื่ออย่างไรล่ะครับ” คนทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอนเอ่ยปากไล่เรียงลำดับกิจกรรมของตนเองตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้


   เริ่มจากเย็นวันนี้ หลังจากรับประทานอาหารเย็นด้วยกันแล้ว เขาต้องไปส่งจันทร์จ้าวที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ จากนั้นก็จะกลับไปนอนที่บ้านพักแพทย์ในโรงพยาบาล เช้าวันเสาร์จะได้ตื่นมาจัดแจงฝากคนที่พอจะไหว้วานเรื่องอาหารการกินให้ช่วยเตรียมข้าวต้ม ๒ ที่สำหรับเช้าวันจันทร์ แล้วพอตอนเย็นวันอาทิตย์ ไปรับจันทร์จ้าวจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์พาไปส่งที่บ้านเช่า จากนั้นค่อยเลยไปเยี่ยมหม่อมราชวงศ์ฉัตรที่วังฉัตร เพื่อสอบถามเรื่องสุขภาพของท่าน


   ชีวิตของหมอภวัตนั้นเรียบง่ายและเป็นระเบียบ แต่...การคบหากับจันทร์จ้าว ทำให้ความเป็นระเบียบของเขา...ยุ่งเหยิงเป็นบางส่วน


   “เอ้อ...ว...วันนี้ผมว่าจะกลับไปนอนที่บ้านเช่า...” คำพูดของเจ้าของดวงตากลมใหญ่ที่หลุบไปมองทางอื่น ทำเอาคนที่อุตส่าห์เรียงลำดับชีวิตช่วงสุดสัปดาห์นี้ไว้เรียบร้อยแล้วถึงกับชะงักอีกคำรบ


   “อ้าว? แล้วคุณไม่ต้องกลับไปนอนที่เรือนไทยหรือครับ”


จันทร์จ้าวส่ายหน้า ทั้งที่เคยรับปากคุณหญิงผกาว่าจะแวะไปค้างที่บ้านเรือนไทยทุกสุดสัปดาห์ แต่ดูท่าสัปดาห์นี้จะเกเรเสียแล้ว


   “เรียนคุณแม่ไว้แล้วว่าไม่ไป”


   “คุณแม่ของคุณจะไม่ว่าหรือครับ”    


“หึ!” เจ้าตัวส่ายหน้าอีกครั้ง พอดีกับที่บริกรนำอาหารมาที่โต๊ะ จึงรีบเลื่อนจานอาหารเข้าไปใกล้คนรัก “หมอ! ดูซี น่ากินมากเลย! กินกันเลยเถอะ!”


อย่างที่กล่าวว่าภวัตมิได้เป็นคนโง่ เขาดูออกว่าคู่รักมีเรื่องปกปิด แต่เขาก็มิใช่คนโจ่งแจ้ง เมื่อดูท่าอีกฝ่ายว่าไม่อยากเล่า เขาก็ไม่คาดคั้น อีกทั้งอาหารเย็นในภัตตาคารชื่อดังมีรสชาติดีเยี่ยม จันทร์จ้าวชื่นชมไม่ขาดปาก พวกเขาจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่องอาหาร ตามด้วยเรื่องเทนนิส และเรื่องจิปาถะทั่วไป จันทร์จ้าวก็มิได้มีท่าทีตะกุกตะกักเช่นเมื่อครู่อีก


จนอิ่มหนำสำราญ เจ้าของดวงตากลมใหญ่ก็เริ่มชักชวนพาไถลไปที่อื่น


“หมอ ผมอยากกินไอศกรีม”


ออกปากว่าอยาก หมอภวัตย่อมไม่ขัด พาคู่รักของตนไปต่อร้านไอศกรีม


ล้างปากด้วยของหวานแล้ว คนพาไถลมาแล้วครั้ง ๑ ก็พาไถลเป็นครั้งที่ ๒


“หมอ รีบไหม ผมอยากนั่งรถเล่นสักหน่อย”


จันทร์จ้าวผู้เอาแต่ใจ แม้จะเอาแต่ใจเป็นนิจ แต่วันนี้ดูจะเอาแต่ใจอย่างไรชอบกล


หมอภวัตผู้ตามใจ แม้จะตามใจอยู่เนืองๆ และครั้งนี้ก็ตามใจ แต่มิได้หมายความว่าเขาจะตามใจโดยไม่สงสัย ชายหนุ่มยอมพาคนรักขับรถเล่น แต่พอเห็นจันทร์จ้าวเริ่มเพลิดเพลินกับอากาศเย็นสบาย และถนนหนทางที่ไม่ค่อยมีรถรามากนัก เขาก็เริ่มเอ่ยปาก


“วันนี้เป็นอะไรครับ”


คนถูกถามหันมามองพลางเลิกคิ้ว “เป็นอะไรหรือ”


“ก็คุณน่ะ...วันนี้ทำไมอยากหลายอย่าง อยากกินมื้อเย็นแทนที่จะไปตีเทนนิสอย่างนี้ ทั้งที่ตีเทนนิสก่อนแล้วค่อยมากินก็ได้ อยากกินไอศกรีมอย่างนี้ ทั้งที่ปกติไม่เห็นอยาก แล้วก็...ยังอยากนั่งรถเล่นอย่างนี้”


“ก...ก็...ก็ไม่เห็นแปลก อยากกินมื้อเย็นก็เพราะว่าหิว อยากกินไอศกรีมก็เพื่อล้างปาก แล้ว...แล้ว...วันนี้ก็อากาศดี อยากนั่งรถเล่นกับหมอ...”


แม้จะรับหน้าที่สารถี แต่หมอภวัตก็ยังอาศัยช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีหันมามองข้างกาย คล้ายจะบอกให้รู้ว่าเขารู้ทัน


เพียงเท่านั้น จันทร์จ้าวก็เงียบ


ถึงได้เคยตั้งปณิธานเอาไว้อย่างไรว่าไม่อยากมีคู่รักที่ฉลาดเกินไป เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะถูกอ่านขาดเช่นนี้


แต่หมอภวัตก็สมเป็นคนฉลาด ฉลาดเพราะรู้ว่าคนเช่นจันทร์จ้าวไม่ชอบถูกรู้ทัน ไม่ชอบการถูกหักหน้า ดังนั้น แม้จะรู้ทันแต่ก็ไม่โพล่งขึ้นมาให้เสียหน้า เพียงแค่มองทีหนึ่ง ก็คล้ายเป็นสัญญานแล้วว่าจันทร์จ้าวต้องสารภาพ


“ก็ได้ๆ! ผมบอกแล้ว...” พูดพลางถอนหายใจพลาง “วันนี้ ญาติฝั่งคุณแม่มาจากต่างจังหวัด มาขออาศัยที่เรือนไทย ผมก็เลยไม่กลับ”


ภวัตฟังแล้วก็หวนคิดถึงเรื่องที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเคยเล่าให้ฟังว่าจันทร์จ้าวไม่ถูกกับญาติ แต่คราวนั้นญาติที่ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรกล่าวถึง เป็นญาติฝั่งท่านเดช ไม่ใช่ฝั่งคุณหญิงผกาไม่ใช่หรือ


หรือแท้จริงแล้ว จันทร์จ้าวไม่ถูกกับญาติทั้งฝั่งบิดาและมารดา?


“แล้วคุณแม่น่ะ...จู่ๆก็บอกให้ผมชวนหมอไปที่เรือน อยากให้ทำความรู้จักกับสุดา....ญาติผู้น้องของผม...”



พูดมาถึงตรงนี้ จันทร์จ้าวก็ทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นสนุกจับคู่หมอภวัตกับนภาสรวงต่อหน้ามารดา เพราะรู้แก่ใจว่าอย่างไร ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ นภาสรวงคบหากับเรย์มอนด์ อดัมส์ ส่วนภวัตก็คบหาอยู่กับเขา เรื่องเล่นสนุกจึงเป็นเพียงเรื่องเล่นสนุก



ทว่า...ไม่ใช่คราวนี้


“คุณแม่ของผม พอรู้ว่าสุดายังไม่มีใคร ก็คิดจะจับคู่ให้หมอ ผมบอกแล้วว่าหมอชอบทำงาน ยังไม่คิดจะมีใครเวลานี้ คุณแม่ก็ยังยืนกรานจะให้หมอพบสุดาให้ได้ ถึงกับบอกให้ผมรั้งหมอไว้ตอนที่หมอไปส่งไปรับผมที่เรือนไทย บอกให้สุดาช่วยนภาทำอาหารเตรียมไว้รอหมอมาร่วมโต๊ะด้วย สุดาก็...พอรู้ว่าคุณแม่ผมจะแนะนำให้รู้จักกับหมอก็กระตือรือร้นขึ้นมาทีเดียว...ผมก็เลย...ตัดปัญหา ไม่กลับไปนอนที่นั่นจนกว่าสุดาจะกลับต่างจังหวัด”


จันทร์จ้าวไม่เคยมีปัญหากับญาติของมารดา กับสุดาซึ่งเป็นญาติผู้น้องนี้ก็เห็นตั้งแต่หล่อนยังเป็นเด็ก เอ็นดูในระดับหนึ่งทีเดียว แต่พอเห็นหล่อนกระตือรือร้นอยากจะทำความรู้จักกับ ‘หมอภวัต’ แล้ว ก็นึกขัดหูเคืองตาขึ้นมาชอบกล


“แล้วที่ไม่ให้ผมไปรับจากสำนักงานล่ะครับ”


“ก็คุณแม่ผมพาสุดาไปดูกิจการน่ะซี! ไม่รู้จะอยู่ถึงกี่โมงกี่ยาม ผมก็เลย...โทร.ไปบอกหมอว่าไม่ต้องไปรับอย่างไรล่ะ”


“รวมถึงเรื่องที่ยกเลิกตีเทนนิสด้วยหรือครับ”


“ก็ถ้าคุณแม่ผมรู้ว่าผมไปตีเทนนิสกับหมอ ก็คงให้ผมหอบหิ้วสุดาไปที่สโมสรด้วย ผมก็เลยบอกคุณแม่ว่ามีนัดต้องออกไปข้างนอกกับคุณพงศ์ คุณแม่ก็เลยพาสุดากลับ”


“แล้วคุณก็เลยติดรถคุณพงศ์ออกมาที่ภัตตาคารแทนสินะครับ”


“ผมไม่ได้โกหกคุณแม่นะ! ก็ไปธุระกับคุณพงศ์จริง ธุระของผมคือการติดรถคุณพงศ์มาหาหมอยังไร” จันทร์จ้าวรีบออกตัว เพราะเกรงว่าจะถูกดุ ทว่าเจ้าตัวคงไม่รู้ว่าเวลานี้ภวัตไม่คิดจะดุสักนิด เพราะครึ้มอกครึ้มใจที่คู่รักพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ให้เขาพบเจอกับหญิงอื่น


ถูกหวงบ้าง หึงบ้าง บางครั้งก็ทำให้กระชุ่มกระชวยขึ้นมาเหมือนกัน


“ส่วนที่ให้ผมพาไปกินไอศกรีม พามานั่งรถเล่น ล่ะครับ”


“ก็...ถ้าหมออยู่กับผมนานๆ หมอก็จะไม่มีเวลาไปเจอใครน่ะซี! กรุงเทพฯเล็กจะตาย! เกิดหมอส่งผมที่บ้านเช่า กลับไปนอนที่บ้านพักในโรงพยาบาลแล้วบังเอิญเจอสุดาจะทำยังไร”


ทั้งๆที่เป็นเหตุผลแสนเอาแต่ใจ แต่ยิ่งฟัง ก็ยิ่งครึ้มใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว


ทว่าการเงียบของภวัต ทำให้จันทร์จ้าวใจคอไม่สู้ดี


“หมอ...อย่าโกรธผมเลยที่ผมโยกโย้ไม่บอกหมอก่อน ผมไว้ใจหมอ ผมรู้ว่าหมอไม่คิดเป็นอื่นกับใคร แต่... แต่ผมแค่ไม่อยากให้หมอรู้จักกับสุดา...”


นายแพทย์หนุ่มเก็บความละมุนเอาไว้ในอก ก่อนจะตั้งคำถามเรียบๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วเขายินดีเพียงใดกับการถูกหวงแหนในคราวนี้


“ทำไมล่ะครับ ในเมื่อคุณไว้ใจผม ถ้าผมรู้จักกับคุณสุดา ก็เพียงแค่รู้จักไม่ใช่หรือ”


“หมอเพียงแค่รู้จัก แต่สุดาน่ะซี! พอรู้ว่าหมอเป็นหมอในโรงพยาบาลใหญ่ ตาเป็นประกายวิบวับเชียว แล้วคุณแม่ของผมก็ขายหมอยกใหญ่ บอกว่าสุภาพอย่างนี้ ใจดีอย่างนี้ สุดาก็ยิ่ง...ยิ่งดูมีความหวัง...แต่ผมกลับบอกอะไรเธอไม่ได้เลยว่าเธอไม่มีหวังตั้งแต่แรกแล้ว ถึงหมอจะเป็นหมอในโรงพยาบาลใหญ่ เป็นคนสุภาพ ใจดี แต่หมอก็มีคู่รักแล้ว และคู่รักของหมอก็คือผม” จันทร์จ้าวพูดอย่างงุ่นง่าน ความสัมพันธ์ที่เป็นเรื่องลับของพวกเขา ให้อย่างไรก็ต้องเก็บเอาไว้ แม้จะอยากป่าวประกาศว่าหมอภวัตผู้สุภาพ ใจดีคนนี้ มีเจ้าของหัวใจครึ่งหนึ่งแล้วก็ตามที


“พูดอะไรไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีพาผมหนีไม่ให้เจอหน้าอย่างนั้นหรือครับ”


จันทร์จ้าวทำหน้างอ ทั้งหงุดหงิด ทั้งจนปัญญา


“ก็จะให้ผมทำยังไรล่ะ ผมพูดอะไรไม่ได้ ให้ไปพบหน้ากัน ผมก็คงไม่พอใจแล้วชักสีหน้า หมอเองก็คงรู้สึกไม่ดีที่ผมเป็นอย่างนั้นใช่ไหม ไหนจะสุดาอีก คุณพ่อคุณแม่อีก คุณน้าๆที่เป็นพ่อแม่ของสุดาอีก...” พูดได้เพียงเท่านั้นก็เงียบ มิใช่เพราะอับจนคำพูด แต่เพราะรู้สึกว่ามือของตนถูกกอบกุมด้วยความอบอุ่น เมื่อลดสายตาลงมองก็ถึงได้พบว่าภวัตเลื่อนมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาจับมือเขาเอาไว้แล้วบีบเบาๆ พอเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือก็พบว่าแม้นายแพทย์หนุ่มจะกำลังจับจ้องถนนเบื้องหน้า แต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มจาง


“หมอ...ยิ้มหรือ? ไม่โกรธผมใช่ไหม”


“ไม่โกรธหรอกครับ เอ็นดูเสียอีก”


“เอ็นดู? ผมน่ะหรือ?!” ดวงตากลมใหญ่ เหลือกโตกว่าเดิมเป็นเท่าตัวยามมองสารถีที่แม้จะกำลังตั้งอกตั้งใจขับรถ แต่อีกมือกลับไม่ยอมปล่อยจากการกอบกุมมือเลยแม้แต่น้อย


หนำซ้ำ...ปลายนิ้วโป้งยังไล้มือของจันทร์จ้าวเบาๆ คล้ายแสดงความเอ็นดูอยู่ในที


“ทั้งๆที่เราคบหากันมาพักหนึ่งแล้ว แต่คุณเหมือนหนังสือเล่มหนาๆที่ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่เปิดอ่าน บางครั้งคุณก็ตรงไปมาตรง คิดอะไร รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกชัดเจน แต่บางครั้งก็เจ้าความคิด ทำเรื่องเปิ่น เรื่องคาดไม่ถึงจนผมตามไม่ทัน”


“ตามไม่ทันอะไรกัน ตามไม่ทันแต่ต้อนผมจนมุมต้องพูดออกมาหมดเปลือก” คนข้างกายบ่นหน้างอ ทว่าภวัตยังยิ้มจาง


“ตามไม่ทันจริงๆครับ ผมเพียงแค่สงสัย แต่นึกไม่ออกว่าคุณทำเช่นนี้เพื่ออะไร”


“คราวนี้ก็รู้แล้วว่าผมทำเพราะไม่อยากให้หมอเจอสุดา”


“เรื่องนั้นก็น่าเอ็นดูมากด้วยครับ”


จันทร์จ้าวหันมองอย่างฉงน


“หมอท่าจะเพี้ยน ผมกันท่าหมอไม่ให้เจอกับคนอื่นอยู่นะ น่าเอ็นดูยังไร”


ภวัตไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มจาง ความเอ็นดูรักใคร่อิ่มเอิบเต็มอก ไม่ใช่แค่วิธีการโยกโย้พาเขาหลบเลี่ยงจากสุดา แต่ยังรวมไปถึงความหวงแหนอันเป็นต้นเหตุให้จันทร์จ้าวพาเขาหลีกหนีจากผู้อื่นด้วย


ทั้งๆที่รู้เต็มอกว่าความรู้สึกที่พวกเขามีให้กันมากมายเพียงใด แต่การถูกหึงหวง ห่วงหวง หรือหวงแหน ก็ล้วนทำให้รู้สึกยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น จึงอดจะพอใจไม่ได้


“หมอเพี้ยนจริงด้วย ยังเอาแต่ยิ้มอยู่ได้”


ภวัตผู้ถูกกล่าวหาว่าเพี้ยน แท้จริงแล้วเป็นคนฉลาดอย่างยิ่ง เพราะรู้ว่าขืนอธิบายความน่าเอ็นดูของจันทร์จ้าวออกไป ก็จะกลายเป็นคู่รักของเขาเองที่เก้อเขินแล้วพาลพูดไม่ออก


พอภวัตอุบเงียบไม่ยอมพูด จันทร์จ้าวก็ไม่จี้ถามเรื่องนั้นอีก หันไปทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างสบายอารมณ์ แล้วก็พลอยเห็นว่าสารถีเลี้ยวพวงมาลัยเข้าจอดที่หน้าตึกแถวต่างหาก



เขาหันไปหาพลขับ ยังไม่ทันได้ถาม นายแพทย์หนุ่มก็เอ่ยปาก


“เรือนไทยรักษพิพัฒน์อยู่ใกล้โรงพยาบาลนะครับ”


เพียงแค่บอกตำแหน่งแห่งหน คนที่สู้อุตส่าห์พาภวัตหลบเลี่ยงไม่ให้เฉียดใกล้เรือนไทยรักษพิพัฒน์และญาติที่มาพักอาศัยที่นั่นก็ถึงกับร้องอ้อในใจ


   “ระหว่างนี้ ผมจะมาค้างที่นี่แทน แต่ถ้าวันไหนมีคนไข้อาการไม่ดี ก็จะกลับไปค้างในโรงพยาบาล ในระหว่างทำงาน คงไม่มีใครตามเข้าไปพบหรอกครับ”


   “ดี!” จันทร์จ้าวร้องอย่างเห็นด้วย เหมือนเห็นทางสว่างที่จะทำให้ภวัตและญาติผู้น้องของตนไม่ต้องพบหน้ากัน


   “แล้วคุณจะสบายใจไหมครับ หากผมมาค้างที่ตึกแถวคนเดียว...” ทว่าคำพูดประโยคถัดมา ก็ทำเอาคนร้อง ‘ดี!’ เมื่อครู่ ถึงกับชะงัก หันมอง


ใบหน้าของนายแพทย์หนุ่มยังคงมีรอยยิ้มพริ้มเพรา ดวงตาคมทอประกายรักใคร่ยามทอดมองจันทร์จ้าว ทว่า...หาใช่มีเพียงความรักใคร่ แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความฉลาด…และกลเม็ด


   “...กรุงเทพฯเล็กนิดเดียว วันดีคืนดี ญาติของคุณอาจผ่านมาแถวนี้ เพื่อความสบายใจของคุณ จะมาค้างที่นี่กับผมก็ได้นะครับ”


   ใช่ว่าจันทร์จ้าวไม่เคยมาค้างที่นี่ แต่เพราะตึกแถวห้องนี้ ภวัตซื้อให้เขามีนัยเป็น ‘เรือนหอ’ ยามมาค้างทีไร จึงถูกใช้ไม่ต่างจาก ‘เรือนหอ’ ทุกที คราวนี้ พอถูกชวนให้มาค้างด้วยกัน ก็ทำให้รู้สึกว่ากำลังถูกตะล่อมให้มาอยู่ ‘เรือนหอ’ กับหมอภวัตทุกวัน 


   ภวัตคนฉลาด ไม่ถามย้ำว่าอีกฝ่ายจะมาค้างด้วยกันได้หรือไม่ แต่ถามไปอีกเรื่องแทน


“ว่าแต่...ญาติของคุณจะค้างที่เรือนไทยกี่วันหรือครับ”


ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่กล่าวถึง ‘ญาติของคุณ’ ย่อมทำให้ระลึกถึงสุดา จันทร์จ้าวผู้ห่วงหวงไม่อยากให้ภวัตและญาติผู้น้องของตนพบหน้ากัน จึงยิ่งตัดสินใจได้เด็ดขาด


ภวัตและสุดาไม่พบหน้า อีกทั้งภวัตยังอยู่ในสายตาตลอดเวลา เห็นทีก็มีแต่จะต้องมาค้างที่นี่ด้วยก็เท่านั้น!


“หนึ่งสัปดาห์! ผมจะมาค้างที่นี่กับหมอหนึ่งสัปดาห์!”


นายแพทย์หนุ่มไม่พูดกระไร นอกจากยิ้มจางพยักหน้ารับรู้แล้วเปิดประตูลงจากรถ โดยมีคู่รักของตนเดินตามอาดๆเข้าไปในตึกแถวอย่างมุ่งมั่น


หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ตึกแถวห้องนี้จะเป็นสถานที่ที่จันทร์จ้าวซุกซ่อนภวัตจากผู้อื่น


แต่สำหรับหมอภวัตแล้วไซร้ หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ตึกแถวห้องนี้...จะเป็นเรือนหอของเขาและจันทร์จ้าวผู้ที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเคยยกยอว่า ‘กลเม็ดแยะ’


ทว่า...ไม่แน่ใจนักว่าระหว่างจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์กับภวัต วิชาญโยธิน...ใครจะมี ‘กลเม็ดแยะ’ กว่ากัน...





จบ



จริงๆแล้ว หมอภวัตเป็นหมาป่าห่มหนังแกะค่ะ ฮ่าฮ่า ส่วนคุณจันทร์คือลูกแกะที่ทำเป็นห่มหนังหมาป่า สุดท้ายถูกถลกหนังหมาป่า แล้วโดนหมาป่าจริงๆจับกินเรื่อยเลย



ส่วนคุณพงศ์ ผู้อยู่ในทุกช่วงชีวิตของคุณจันทร์ อยากรู้เรื่องอะไรของคุณจันทร์ ให้ถามคุณพงศ์ค่ะ (กัลยาณมิตรที่แท้)



ตอนนี้ บัวเคลียร์ชีวิตไปได้หลายเรื่องแล้ว คาดว่าปีนี้น่าจะได้อ่านเรื่องใหม่กันค่ะ แต่ในระหว่างที่ยังไม่เอาเรื่องใหม่มาลง ก็จะยังมีตอนพิเศษรายเดือนแบบนี้ไปก่อนนะคะ



ขอบคุณสำหรับทุกการอ่าน การคิดถึง และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ



เจอกันเดือนหน้าค่ะ (พรุ่งนี้คือเดือนหน้า ฮ่าฮ่า)

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เอ็นดูคุณจันทร์

เป็นคนคิดมาก คิดเยอะ คิดล่วงหน้าที่น่าเอ็นดูจริงเชียว

ส่วนคุณหมอ ยอมในความต้อนคุณจันทร์จริงๆ
ได้อยู่ด้วยกันยาวๆ 1 อาทิตย์เลย กลเม็ดแยะจริงๆ

ปล.คิดถึงคุณคนเขียนนะคะ ขอบคุณที่เอาตอนพิเศษมาฝากอีกแล้ว

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
คิดถึงคุณพี่หมอกับคุณจันทร์มากเลยยยยย
ดูแล้วคุณจันทร์จะตามความเจ้าเล่ห์ของคุณหมอไม่ทันเลยนะคะ 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ไปคงได้เขาหอทุกคืนเป็นแน่ 5555

ขอบคุณที่เอาตอนพิเศษมาให้คลายคิดถึงนะคะ จุ๊บๆ  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด