Short Fiction Singular -This Love By Heart Or Destiny // รักนี้....หัวใจหรือใครลิขิต // ห่วง*หวง
“ วันนี้ถ้าได้รางวัล แล้วเรามาฉลองกันสองคนนะที่บ้านซิน ซินจะทำกับข้าวที่นัทชอบด้วยล่ะ”
“คร๊าบบ แล้วแต่คุณซินครับ ว่าแต่พร้อมยัง... พร้อมไหมครับ”
นั่นคือเหตุการณ์ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าก้าวลงจากรถตู้ของบริษัท ผ่านมาเกือบปีที่ทั้งสองได้เป็นกลุ่มนักร้อง Duo ตามที่ฝันกันไว้ในนาม ….Singular.. ชื่อวงที่ทั้งคู่ช่วยกันคิด และเป็นประเด็นให้ถามกันทุกครั้งที่ออกสื่อ คำตอบที่ได้รับกลับไปเป็นเพียงภาพรวม..... ความหมายจริง ๆ ก็แค่ทั้งคู่คิดว่าชื่อนี้น่ะ ใช่ แค่นั่นเอง.... Singular ได้รับความนิยมอย่างมากจนเหมือนฝัน ทุกวันที่ผ่านมีความสุขกับการได้ทัวร์เล่นดนตรี ร้องเพลงในที่ต่าง ๆ มีแฟนคลับตามอย่างเหนียวแน่น ความสัมพันธ์และความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม ใส่ใจกันมากขึ้นเพราะต้องทำงานทุกวันแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน แต่ด้วยกำลังใจจากแฟนคลับ จากครอบครัว และที่สำคัญ....จากกันและกัน......
“เหมือนฝันอ่ะนัท” ระหว่างทางเดินกลับเข้าหลังเวที หลังจากรับรางที่สองในการประกาศผลรางวัลที่ถือว่าเป็นรางวัลแห่งเกรียติยศ
“เหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ฝันหรอก..นี่ไง” มือหนาเอื้อมมือไปจับมือเล็กไว้พร้อมกับกระชับให้แน่นตั้งใจบอกให้ร่างบางข้าง ๆ นี่รู้ว่าทุกสิ่งจับต้องได้ ไม่ใช่แค่ฝัน
“อืม จริงด้วย นี่ไง คิก! อิอิ” ปากสวยคลี่ยิ้มกว้างให้เพื่อนร่วมวง ขยับมือออกจากมือหนาแล้วเอื้อมมือไปหยิกแก้มคนตัวสูงข้าง ๆ เบา ๆ พร้อมกับหัวเราะชอบใจ จนคนที่ถูกทำร้ายเบา ๆ อดหัวเราะตามไม่ได้...มีความสุข แค่รู้สึกว่าความหอมหวานมันอวลอยู่ข้าง ๆ ตัวของทั่งคู่
“ดีใจด้วยนะ เยี่ยมจริงโว๊ย !!!” เสียงนักร้องรุ่นพี่ร่วมค่ายที่อยู่หลังเวทีดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่หันไปยิ้มให้ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้บริเวณเดียวกัน หลังจากที่เดินพ้นซอยเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างหน้าเวทีและห้องพักศิลปิน
“เก่งจริงนะตัวแค่นี้”
“โห่ พี่แตมป์ ชมซินคนเดียวเลย แมร่งโคตรน้อยใจ” นัททำท่าโอดครวญหลังจากที่เห็นแสตมป์ลุกขึ้นมายืนข้างซินที่นั่งอยู่พร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ผมคนตัวเล็ก พูดเหมือนไม่คิดอะไรนอกจากแกล้งน้อยใจ แต่จริง ๆ แล้ว...ไม่ชอบ..ไม่อยากให้จับ....
“อ้าวไอ้นี่ ก็บอกสิว่าอยากให้ชม เก่งโว๊ย พ่อกีตาร์แมน พ่อเด็กแจ๊ส..พอใจยัง” เมื่อเห็นรุ่นน้องหน้าหล่อทำท่าน่าถีบ ทำหน้างอน ๆ ก็ชมเหน็บไปดอกนึง ...ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเป็นยังไง แค่ไม่รู้ว่าต่างคนต่างยังไม่รู้ในความรู้สึกของตัวเอง หรือไม่ให้อีกคนรับรู้ถึงความรู้สึกของตนกันแน่ เขาไม่ได้รังเกียจเรื่องอย่างนี้ และที่สำคัญทั้งสองคนเคมีเข้ากันได้อย่างไม่น่าเกียจเลย ยังไงดีล่ะคงจะไม่แปลกถ้าจะใช้คำว่า เหมือนเกิดมาเพื่อกัน และสามารถเติมเต็มกันได้ในเกือบทุกเรื่อง และที่สำคัญความรักไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ มันเป็นสิ่งที่สวยงามถ้าเข้าใจซึ่งกันและกัน
“คร๊าบ ขอบคุณครับ ของมันแน่ ฮ่า ๆๆๆ”
“เออ เสร็จงานแล้ว บอสนัดเลี้ยงนะโว๊ย ไม่ไปไม่ได้ เตรียมตัวกันด้วย” แสตมป์บอกก่อนจะเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
“เอาไงอ่ะนัท ไปเปล่า” ใบหน้าน่ารักหันมาทำหน้ายู่ถามเพื่อนร่วมวง เป็นสัญญาณบอกกลาย ๆ ว่าตัวไม่อยากไป และก็ไม่ต้องการให้คนตรงหน้าไปด้วย
“ได้ไงล่ะซิน บอสสั่งไว้ว่าไม่ไปไม่ได้นิ แล้วที่เลี้ยงน่ะของเรานะ”
“คนเยอะแน่ ๆ ว่าจะไปฉลองกันสองคนที่บ้านซักหน่อย”
“ไม่เป็นไรถ้าซินไม่ชอบก็ไปแป๊บเดียวแล้วเราก็ขอตัวกลับไง ไปฉลองกันสองคนที่บ้านซินไง บอสคงเข้าใจเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้วนี่” หันไปพูดหว่านล้อมคนที่ไม่ชอบเข้าสังคมซักหน่อย งานนี้เลี้ยงก็รางวัลของพวกเค้าไม่ไปก็น่าเกลียด มองคนตัวเล็กข้าง ๆ ที่ยังคิ้วขมวดไม่หาย
“ก็ได้.. แต่นัทสัญญานะว่าจะกลับกับซิน ซินเตรียมของไว้ตั้งเยอะ กะว่าได้หรือไม่ได้รางวัลก็จะฉลองล่ะ”
“ครับผ๊ม” รับปากเสียงหนักแน่น ให้คนหน้าหวานมั่นใจ อย่างนี้ค่อยเห็นรอยยิ้มสวย ๆ หน่อย
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ทั้งคู่ก็ขึ้นรถตู้มาที่ผับหรู ตามที่นัดกันไว้ บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างคึกคัก และแสงสว่างที่มีน้อยทำให้ดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร บอสก็ช่างเลือกได้ไม่เข้ากับการเลี้ยงฉลองซักนิด
“เหม็นมากเปล่า” นัทหันมาถามคนข้าง ๆ ที่ย่นจมูกทันทีที่เดินเข้ามาภายในร้าน แค่เขาเองยังฉุนกับกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่จนรู้สึกแสบจมูก แล้วคนตัวเล็กข้าง ๆ นี่ล่ะ...
“เหม็น แต่เดี๋ยวคงชิน ไปเถอะ นั่นไง” ทั้งคู่เดินไปที่โต๊ะที่มีเพื่อนร่วมค่ายที่ค่อนข้างสนิทกันรวมถึงบอสใหญ่ของค่ายนั่งรออยู่
“มา ๆ นัทซิน มานั่งข้างบอสนี่” เมื่อเดินไปถึงโต๊ะ บอสก็เรียกไปนั่งข้าง ๆ ที่เหมือนเว้นที่ว่างไว้ พูดงั้นแต่พอเดินไปถึงโต๊ะจริงๆ กลับดึงแต่มือซินไปนั่งข้าง ๆ นัทจึงนั่งลงตรงข้ามกัน เป็นอย่างนี้แหละมักจะได้รับความรักและเอ็นดูจากคนรอบข้างเสมอ...ทำให้นัทต้องทำใจให้ชินที่พยายามจะไม่หวง มากไปกว่าทำเป็นห่วง...
งานฉลองดำเนินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับดีกรีของคนในวงก็สูงขึ้นเช่นกัน รวมถึงร่างสูงที่นั่งชนเอาชนเอากับแตมป์ ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่มากมาย แค่เป็นพิธี แต่ทุกครั้งที่มองไปที่คนร่างบางตรงข้าม ก็มีแต่คนหันไปคุยด้วยจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่....คนตรงหน้าไม่เคยปฏิเสธ ที่จะถ่ายรูปคู่ ให้กอดคอ จับมือถือแขน ด้วยจุดประสงค์ที่ใช่หรือไม่ใช่ ก็ทำให้นัทรู้สึกว่า ทำไมต้องวางใจใครไปทั่วแบบนั้น รวมถึงบอสใหญ่ที่มือหนา ๆ นั่นจ้องแต่จะโอบเอวบาง ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส ซินปฏิเสธใครไม่เป็นเขารู้ และรู้ตัวไม่ควรคิดเล็กคิดน้อยอย่างนี้ แต่มันช่วยไม่ได้ยิ่งดีกรีมากขึ้น ความคิดยิ่งหยุดไม่ได้ สายตาเริ่มนิ่งจับจ้องซินมากขึ้น
“เฮ๊ย ไอ้เด็กแจ๊ส ใจเย็น นั่นบอสนะเว่ยเฮ๊ย” รุ่นพี่ตัวใหญ่ข้าง ๆ ต้องสะกิดทันทีที่สายตารุ่นน้องหน้าหล่อเริ่มขวาง และมองไปตรงหน้าไม่วางตา….จะว่าไปแล้ว อีกคนก็ไม่รู้จักระวังตัวอะไร มองโลกในแง่ดีตลอด จะรู้ตัวหรือเปล่าว่าใครคิดจะทำอะไรตัวเองบ้าง
“ม่ะ ชนพี่แตมป์ ร้านไม่เลิก ไม่ต้องกลับ!”
“มาแล้วเมร่ง! อารมณ์ตี๋ใหญ่... มาชน!” จำเป็นต้องหันแก้วไปชน ก็ดีกว่าให้มันไปนั่งมองหน้าบอสตาขวาง ไอ้นี่เวลาเมาแล้ววิญญาณมาเฟียชอบเข้าสิง
“ จะห้าทุ่มแล้ว” คนตัวเล็กบอกกับตัวเอง เมื่อล้วงไอโฟนขึ้นมาดูเวลา หลังจากขอตัวเข้าห้องน้ำเมื่อครู่ รู้สึกอึดอัดจัง แต่จะแสดงออกอะไรมากก็ไม่ดี นัทก็ไม่ยอมสนใจเลย เอาแต่กินเหล้าแล้วก็บอกว่าจะไม่มาก
“เฮ่อ!! อ้าวนัท” เงยหน้าขึ้นมองกระจกขณะที่กำลังล้างมือ ร่างสูงก็เดินเข้ามาพอดี หน้าที่แดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ท่าเดินก็รู้ว่าสติไม่ได้เหมือนเดิมเท่าไหร่
“นัท กลับได้ยังอ่ะ ซินอยากกลับแล้ว” เมื่อร่างสูงหันมามอง ก็รีบบอก เพราะถ้าไปชวนในวง คงไม่เหมาะเท่าไหร่
“พึ่งอยากกลับเหรอ... แต่นัทยังไม่กลับ” เสียงขึม และสีหน้าไม่แสดงอะไรออกมา ทำให้ซินชะงักมือที่กำลังถูกันหันไปมองหน้าคนร่างสูงที่เดินเข้าห้องน้ำห้องนึงไป
จากเหตุการณ์ในห้องน้ำ คนที่เอาแต่ชนแก้วก็ไม่ได้หันมาสนใจคนที่นั่งกระสับกระส่ายอยากกลับบ้านใจจะขาด ไม่อยากอยู่แล้ว..... ความน้อยใจถาโถมเข้ามาในใจ ทั้งที่สัญญากันไว้แล้วว่าจะกลับไปฉลองกันสองคน
“ซินเป็นอะไร รึเปล่าอยากกลับบ้านไหม เดี๋ยวบอสให้คนไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ ซินจะกลับเอง ไม่ต้องลำบากใครด้วย!!!” ประโยคท้ายตั้งใจพูดให้ดัง และหันหน้าไปหาคนที่กำลังแซวสาวชงเหล้ากันอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจอยู่ดี.....ว่าแล้วก็ลุกออกมาทันที มือเรียวรีบกดโทรศัพท์หาบุพการี
“ไม่สนใจแล้ว นัทบ้า ฮึ! กลับเองก็ได้ อึก ..ฮึก! ทั้งที่สัญญากันไว้แล้ว ฮึก! บ้าที่สุด” น้ำตาที่พาลจะไหลออกมาแต่ก็ต้องกลั้นไว้ เดี๋ยวม๊ากับป๊ามาจะเป็นเรื่องใหญ่อีก และยังไม่มีท่าทีว่าคนตัวใหญ่จะตามออกมาซักนิด ยิ่งเพิ่มทวีความน้อยใจมากขึ้น นัทไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย ทุกทีต้องตามง้อเสมอ.....
ไม่นานป๊าก็เป็นคนขับรถมารับ ถามไถ่นิดหน่อย แต่ก็บอกปัดไปว่าตัวเองง่วงนอนแล้ว แต่แค่อาการที่แสดงออกกับคำพูดมันสวนทางกัน คนเป็นพ่อทำไมจะดูไม่ออกว่าเป็นอะไร เพราะเรื่องที่ลูกชายจะเป็นอย่างนี้ก็มีไม่กี่เรื่อง และมันเป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องแก้ปัญหาเอง
“ฮึก ฮืออ ไอ้บ้า ฮือ ไอ้คนไม่รักษาสัญญา ไอ้มาเฟียนิสัยเสีย!” ทั้งเสียงสะอื้นและคำกร่นด่าที่พรั่งพรูออกจากปากเล็กที่ตอนนี้นอนคว่ำหน้ากับหมอนบนที่นอนนุ่มในห้องตัวเอง ว่าจะไม่ร้อง แต่มันก็ทนไม่ไหว ยิ่งไม่เห็นเงา โทรศัพท์ที่หวังว่าจะโทรหาก็ไม่มีวี่แวว .........อย่างนี้ทุกทีสินะถ้าเป็นเรื่องนัท
วันนี้ทั้งคู่มีงานที่ผับแห่งนึง ช่วงกลางวันจึงมีเวลาว่าง ซินเลือกที่จะนอนต่อหลังจากลุกขึ้นมาอาบน้ำกินข้าวตอนเช้าเพราะเมื่อคืนนอนร้องไห้จนหลับไปเลย ยังถูกทักว่าตาบวม เลยต้องแก้ตัวว่าเมื่อคนเผลอกินเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอลล์ก็เลยแพ้รึเปล่า ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบบ่ายแล้ว เปิดตู้เย็นกินนมเห็นผักผลไม้ของที่เตรียมไว้เมื่อคีนยิ่งโมโหอยากจะเอาไปโยนทิ้งซะให้หมดจะได้หายแค้นไอ้คนหน้าหล่อแต่ผิดกฎหมายนั่น แฟนคลับจะรู้ไหมนะว่ามันผิดกฎหมายทั้งหน้าตาและนิสัยนั่นแหละ แต่ก็เสียดายของเก็บไว้แล้วกัน
“เมี๊ยว ๆๆ” เสียงเรียกจากเจ้าแมวตัวอ้วน ที่เพื่อนร่วมวงมักจะทักทุกทีที่มาบ้านว่า แมวหรือหมู เดินเข้ามาเอาขนนุ่ม ๆ มาพันแข้งพันขาจนบางครั้งเกือบจะเหยียบกันขี้แตกเลยทีเดียว
“ว่าไงคุณดาว วันนี้ไม่ออกไปหาเพื่อนเหรอ” คุณดาว แมวตัวโปรดที่มักจะหายไปตอนกลางวันและกลับเข้าบ้านตอนเย็น ม๊าบอกว่ามันชอบไปเล่นกับแมวข้างบ้าน..มันไปเล่นอะไรกัน??
“เมี๊ยว ๆ” เหมือนจะเป็นคำตอบที่ฟังไม่เข้าใจ อุ้มเจ้าขนปุยขึ้น แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวหน้าทีวี มือเรียวกดรีโมทเปิดทีวี เปลี่ยนช่องเรื่อย ๆ มือเล็กลูบหัวลูบตัวเจ้าตัวอ้วนที่นอนบนตัก เนื้อหาสาระในทีวีไม่ได้เข้าในหัวสมองซักนิดเมื่อสิ่งที่คอยแว๊บเข้ามากวนใจ ทำให้คิ้วเรียวต้องขมวดเข้าหากันตลอด
“ฮึ่ย ไอ้บ้า! ไอ้แบดแบด ไอ้หน้าเป็ด ไอ้กีตาร์มาเฟีย ไอ้หน้าง่วง ไอ้ขี้เมา! อะ! อ้าวไปไหนอ่ะคุณดาวว ? อยู่เป็นเพื่อนซินก่อนซิ... อะไรวะ ใคร ๆ ก็ไม่รัก โฮ่ย!!” ปากเล็กบ่น มือก็เริ่มลูบเจ้าหน้าขนบนตักแรงขึ้นจนมันทนไม่ไหว กระโดดหนีไป เห็นอย่างนั่นหน้าจิ้มลิ้มก็เริ่มยุ่ง หงุดหงิดจนต้องเอามือขยี้หัวตัวเอง ผมนุ่มตุปัดตุเป๋ไม่เป็นทรง และสบถออกมาเพื่อระบายอารมณ์
“ฉายานัทมีแค่นั้นเหรอ?”
“ยัง แต่นึกไม่ออก.. เฮอะ เฮ๊ย !นัท !มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“มายืนตั้งแต่คุณซินเริ่มด่าผมนั่นแหละครับ” มาเฟียหน้าหล่อ ถือวิสาสะที่มาบ่อยเดินมานั่งข้าง ๆ คนที่กำลังงงอยู่
“มาทำไม ! ที่นี่ไม่เหล้าให้กินหรอก” เมื่อตั้งสติได้ก็เริ่มเข้าโหมด ...งอน
“คร๊าบ นัทไม่ได้มากินเหล้า แต่มากินข้าว”..... หลังจากเมื่อคืน ซินออกมา เขาเดินตามออกมาแต่ไม่ได้เดินไปหา เขาไม่ไว้ใจ วางใจใครทั้งนั้น ยอมรับว่าไร้เหตุผลไปบ้าง แต่เหล้าเข้าปากนิสัยความยับยั้งชั่งใจก็เปลี่ยนไปได้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นสัญญากันไว้แล้วว่าจะเพลา ๆ เรื่องเหล้าเรื่องเที่ยวลง แต่ซินก็ผิดที่ไม่รู้จักปฏิเสธปล่อยให้คนอื่นมาล่วงเกินได้ ป่านนี้ก็คงไม่รู้ตัวหรอก... หลังจากเห็นซินขึ้นรถที่ป๊ามารับกลับเรียบร้อย เขาก็ขอตัวกลับทันที เมื่อถึงบ้านก็เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ว่าจะเอายังไงดี แต่อาการกรึ่ม ๆ ทำให้นั่งมองได้ไม่นาน ก็ต้องหลับไปในห้องรับแขก แม่มาปลุกอีกทีก็เกือบเที่ยง และบอกว่าม๊าซินโทรหา ทำให้ต้องรีบโทรกลับ.... ได้ความว่า เย็นนี้ให้เขาไปรับซินด้วย เพราะป๊ากับม๊าติดธุระและยังไม่ได้บอกซินไว้.....ถูกถามว่ามีอะไรกัน ทะเลาะอะไรกันรึเปล่า ม๊าเข้าไปปลุกเมื่อเช้า ก็เห็นนอนทั้งชุดเมื่อคืน ลุกขึ้นมากินข้าวก็ไม่พูดไม่จา ตาบวมเชียว บอกว่เผลอกินเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์เข้าไป........ วางสายจากม๊าก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวและบึ่งรถมาที่นี่ ....เครื่องดื่มอะไรของซิน มีแอลกอฮอล์ เห็นนั่งจิบแต่น้ำเปล่า เฮ่อ! ถ้าเขาเดาไม่ผิดก็คงนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งทั้งคืนแน่ ๆ..... มาถึงก็เห็นคนตัวเล็กนั่งประนามเขาอยู่ แล้วยังทำท่าอะไรน่าขำ แต่ไม่ได้เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ แค่นี้ก็ปั้นปึ่งประชดประชันไม่หวาดไม่ไหวละ
“ข้าวอะไร ไม่มีหรอกซินกินหมดแล้ว” นั่นไงบทจะงอน ก็พูดอะไรได้น่าหัวเราะ กินหมดแล้วนี่นะ ตัวแค่เนี๊ยะ
“แล้วกัน นัทอุตส่าห์ไม่กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืน หิวจะแย่”
“กินเหล้าไม่อิ่มเหรอ เห็นกระดกไม่วางแก้ว อิ่มตาอิ่มใจ สาวเสริฟก็สวยจะตาย” ทำไมจะไม่เห็นว่าไปซงไปแซวแม่สาวอกอึ๋มนั่นน่ะ
“ฮ่า ๆๆ พูดเหมือนหึงอ่ะ” เอาซะหน่อย เห็นหน้ายุ่ง ทำปากยื่นประชดประชันแล้วมันน่านัก....
“บ้าดิ!ใครจะหึงกัน โมโหต่างหาก” ว่าไม่หึงแต่ทำไมรู้ว่าหน้าตัวเองมันเห่อร้อนขึ้นมาดื้อ ๆ
“ครับ ๆ ....นัทขอโทษนะ ได้ไหม” ต้องรีบอ่อนลงไม่งั้นคงบานปลายกว่านี้แน่ ก็ตั้งใจมาเพื่อทำอย่างนี้นี่
“...................”
“ซิน แต่ซินก็ผิดนะ”
“ซินผิดอะไร!” รีบโต้กลับทันทีที่รู้สึกว่าถูกกล่าวหา นี่เขาต้องยืนรอป๊าหน้าผับคนเดียว ใครต่อใครก็พากันมอง แล้วต้องกลับมานอนร้องไห้ จนม๊าทักว่าตาบวม นี่เค้าผิดรึไง คิดแล้วมันน่าน้อยใจมั๊ยล่ะ...
“ซิน...เอ่อ เฮ่อ!!” อยากจะตบปากตัวเองซักร้อยครั้งจริง ๆ ในที่สุดก็หลุดปากจนได้ แล้วดูหน้าสวย ๆ ตอนนี้สิหันมาคาดคั้นเค๊า แล้วที่สำคัญตาเริ่มแดง ๆ อีกแล้ว
“ซิน...นัทเป็นห่วงซินนะ ซินยอมให้ใครต่อใครมาแตะเนื้อต้องตัว ยอมให้กอด ยอมให้โอบ ถึงแม้จะเป็นบอส แต่ซินไม่รู้สึกอึดอัดบ้างเหรอ ซินเคยรู้บ้างไหมว่าคนอื่นเค้าคิดยังไงกับตัวเอง นัทไม่รู้ว่าสิ่งที่นัทคิดใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ แต่บางครั้งซินปฏิเสธหรือแสดงออกบ้างว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ใช่อ่ะ” ยาวเลยทีนี้ ได้พูดแล้วหยุดไม่ได้....
“ฮึก ! ฮึ ฮึก!” อ้าวซวยแล้วไง ไอ้นัท!
“ฮึก.. แล้ว..นัท.สนใจซินเหรอ ฮือ..ทั้ง ที่เดิน เข้าไปด้วยกัน ฮึก แต่นัทก็ไปนั่งกับ พี่แตมป์ ฮึก ปล่อยให้ซินไปนั่งกลับ บอส ..นัท ก็รู้ ว่า ซิน เป็นคน อืออ ขี้ เกรงใจ ไม่กล้า ปฏิเสธ...ซ้ำ ยังลืม สัญญาด้วย ซินอุตส่าห์ ฮึก ดีใจที่จะ ได้ ฉลอง กัน ฮือ แค่ สองคน แต่นัท ก็ผิด.ฮืออ สัญญา มัวแต่ สนใจ แต่เหล้า..แล้วก็หลี ผู้หญิง ซินอึด อัด แล้วยังไงล่ะ ฮึก อยากกลับบ้านก็ กลับ ไม่ได้ ฮึก ฮืออ นัทบ้า..ยัง มาว่าซิน ฮือ ผิดอีก”
“ซิน เฮ่อ!” ....หมดทุกคำพูด...
นั่นสินะ ทำไมเขาถึงลืม... ว่าทุกทีต้องทำยังไง เพราะเห็นว่าเป็นบอสทุกอย่างเลยรวนไปหมด เพราะเกรงใจที่เป็นบอส .....ได้ยินอย่างนี้เขาถึงนึกได้ว่าเขาต้องเป็นคนปกป้องซินซินะ.... ต้องเป็นเขาที่จะต้องเข้าไปพาซินออกมา..ไม่ใช่นั่งรอให้ซินเดินออกมาหา..
“ซิน.....นัทขอโทษ” เอ่ย..... ขอโทษ.....พร้อมกับดึงคนที่นั่งสะอื้นอยู่เข้ามาในอ้อมกอด ซินไม่ได้ขัดขืน ซุกหน้าเข้าที่บ่าใหญ่ ยิ่งอยู่ในอ้อมกอดก็ยิ่งสะอื้นหนัก เหมือนอารมณ์เมื่อคืนยัง่ไม่จบ...
“ฮึก ..ฮือ นาทบ้า” เสียงอู้อี้ในอ้อมกอด ทำให้ต้องเอื้อมมือขึ้นลูบศรีษะเล็กเบา ๆ และลูบหลังที่สั่นน้อย ๆ ตามแรงสะอื้น
“คร๊าบบ ๆ บ้าก็บ้า เอาเป็นว่านัทผิดเองเนอะ..... นัทขอโทษ ต่อไปนัทจะไม่ผิดสัญญา หยุดร้องนะครับ...เฮ่อ ~ หิวจังเลย ไม่ได้กินอะไรเลย แล้วคนที่สัญญาว่าจะทำของที่นัทชอบให้กิน ยังจะอยากทำอยู่ไหมน้อ...อยากกินจัง ว่าไงครับ” พูดพร้อมกับใช้มือหนาดันไหล่คนที่เริ่มนิ่ง เพราะกำลังฟังเขาออกจากบ่าตัวเอง ให้มือปาดน้ำตาออกจากดวงหน้าสวย ๆ ...เห็นอย่างนี้แล้วไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“ก็ ต้อง ช่วยกันทำ อ่ะ” เสียงยังสั่นอยู่ แต่แค่ได้อยู่ในอ้อมกอดอุ่น ๆ ฟังคำขอโทษและรับรู้ได้ด้วยคำพูดก่อนหน้านั้นว่านัทก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน ความโกรธในใจก็หายไปหมด แต่ก็ยังฟร์อมไว้ก่อน...
“ครั๊บ ผม! นัทพร้อมแล้ว ป่ะ” ยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะฉุดมือเล็กลุกขึ้นด้วย....
“นัท” นอกจากจะไม่ลุกแล้ว ยังฉุดแขนเขาไม่ให้เดินไปไหนด้วย...
“ซิน ขอโทษ เหมือนกันที่ทำให้นัทลำบากใจ ต่อไปซินสัญญาว่าจะดูแลตัวเอง และระวังตัวเองมากกว่านี้” ก้มหน้าก้มตาพูดทั้งที่มือยังจับมือใหญ่อยู่
“รับทราบครับ ป่ะไปได้ยัง หิวจนไส้จะบิดแล้วเนี่ย” ซินก็คือซินจะดื้อจะเอาแต่ใจกับเขายังไง สุดท้ายก็จะคิดได้ด้วยตัวเองเสมอว่าต้องทำตัวยังไง ..แล้วอย่างนี้จะ....ไม่ให้รักได้ไง....ไม่ว่าตอนนี้หรือจากนี้ไปจะอยู่ในฐานะไหน....ความรักความห่วงใยก็จะเป็นอย่างนี้ต่อเรื่อย ๆ