ตอนที่ 3 เอาแล้วไง...ความหวั่นไหว
หลังจากถึงบ้านแล้ว ประมาณ 2 ทุ่ม อั้มก็โทรเข้ามาที่บ้าน
“เห่น...โล๊” สำเนียงอั้มประมาณนี้จริง ๆ
“เออว่าไง” วินตอบกลับไป
“เป็นไงมั่งเมิง วันนี้ไม่ได้เดินด้วยกันเลย ไม่ได้เม้าท์เลยหว่ะ กรุเจออีส้มดำด้วย”
ส้มดำจริง ๆ แล้วชื่อส้ม แต่เนื่องจากเรามีเพื่อนชื่อส้มถึง 3 คน จึงต้องดึงเอกลักษณ์มา
ต่อท้ายชื่อ ส้มดำเป็นเพื่อนเก่าอั้ม ซึ่งขณะนั้น ส้มดำเลิกคบกับอั้มไปแล้ว พร้อมทั้งอั้มยัง
ปฏิบัติการแฉความร้าย (ที่จริงมั่ง แต่งขึ้นเองมั่ง) ของส้มดำให้เพื่อน ๆ คนอื่นฟัง อั้มเป็น
คนที่มีภาวะเทพพูดอะไรคนฟังหมด ทำเอาส้มดำมีเพื่อนเหลืออยู่ 2 – 3 คนกันไปเลย
(ซึ่งปัจจุบันอั้มหมดภาวะเทพไปแล้ว และเหมือนกรรมตามสนอง ไม่มีเพื่อนคนไหนเลยที่
คบอั้ม ยกเว้นเพื่อนใหม่ที่มหาวิทยาลัย และวิน ซึ่งยังติดต่อกันอยู่บ้าง)
“เออ...เดอะมอลล์มันบ้านเมิงรึไง - - มันถึงไปเดินเจอเมิงไมได้อ่ะ” วินรำคาญมากเวลา
อั้มเอาเรื่องส้มดำมาเล่าให้ฟัง (ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็โอเคเลย เพราะวินเบื่อเรื่องส้มดำแล้ว
อยากฟังเรื่องใหม่ 555)
“เอ้อออ...เพื่อนกันอ่ะ เอาเหอะ ๆ - - แล้วทำไมวันนี้โทรไปไม่รับ ทำไมลงมาจากรถช้า
แล้วทำไมไม่มาเจอกันไม่มากินข้าวด้วยกัน” อั้มเป็นคนแบบนี้เสมอ ๆ อยากรู้อะไรจะถาม
รวดเดียว ม้วนเดียวจบ ถ้าฟังไม่ทัน มันจะถามใหม่เหมือนอัดเทปไว้เลย
“เออ...เราก็ว่าจะบอกแกหว่ะ - - คือทุกวันศุกร์อ่ะ สงสัยพวกแกจะติดรถไปไม่ได้แระ”
วินเกริ่นแบบตรง ๆ
“ไมว้ะ” อั้มถามแบบสั้นๆ
“ก็วันนี้ ที่ลงจากรถช้า เพราะแมทไม่พอใจเราอ่ะที่ชอบพาเพื่อนมาด้วย” วินไม่ได้นึกถึงสิ่ง
ที่สัญญาหรือ คิดจะรักษาคำพูดที่ว่า ‘วินไม่ใช่คนแบบนั้น’ ไปได้อย่างไรกัน นี่วินกำลังจะ
ทำให้เพื่อน ๆ เกลียดแฟนตัวเอง
“เห้ย ! จริงหรอ - - แมทมันไม่ชอบพวกกรุหรอ” อั้มเสียงอ่อยไป
“ป่าว ๆ - - มันคงอึดอัดน่ะอั้ม... บอกว่าอยากมีเวลาส่วนตัวกับเรามากขึ้น อีกอย่าง
อาทิตย์นึงเราเจอกันครั้งเดียวเอง - - คงอยากมีความเป็นส่วนตัวกันน่ะ” วินยังคงสาธยาย
ตามความเป็นจริงไม่หยุด (เริ่มเห็นความไม่ซื่อตรงของวินแล้วใช่มั้ย อย่าเพิ่งเกลียดกัน
หละ อ่านกันไปก่อนนะ)
“อะไรว้ะ - - บนรถเมิงจะส่วนตงส่วนตัวอะไรกันมาก . . . เมิงทำอะไรให้แมทตอนขับรถ
หรอ เดี๋ยวก็รถคว่ำตาย ห.อ่า หรอก” อั้มเป็นคนที่พูดไม่คิด หรือคิดแล้วแต่จะพูดก็ไม่รู้
“ทำไมหัวเมิงถึงคิดแต่เรื่องแบบนี้ว้ะ. . . กรุไม่ใช่คนอะไรอย่างนั้นแน่นอน” และก็เป็น
อย่างที่วินว่า ไม่รู้ว่าเราทั้งสองคนไม่กล้าเริ่มต้น หรือยังไงถึงได้ไม่ทำอะไรกันเลยเถิดเลย
ตลอด 1 เดือนกว่า ๆ นั้น (เชื่อหรือไม่ว่ามากสุดแมทแค่จุ๊บปากเท่านั้น แม้แต่ French
Kiss เราก็ไม่เคยทำ)
“หย่ะ...พ่อคนเลิศเลอ เพอร์เฟกท์ พ่อคนไม่ฉาบฉวย” อั้มประชดประชัน
“มีอะไรอีกป่ะ จะไปอาบน้ำ” วินพูดกับอั้ม ทั้ง ๆ ที่วินสนิทกับอั้ม แต่มีหลายครั้งมากที่วิน
รำคาญอั้มจนแทบจะเดินหนีไปไกล ๆ หรือวางโทรศัพท์ไปเสียเดี๋ยวนั้น
วินต้องขอเล่านิดนึงว่ามาสนิทกับอั้มได้อย่างไร อั้มเคยเป็นเพื่อนเก่าสมัยประถม (ซึ่งตอน
นั้นแววแรงของเธอก็มีให้เห็นแล้วแพลม ๆ)
พอมาเจอกันตอนม.6 ในช่วงแรก ๆ ก็ยังไม่ได้สนิทกัน วินไปอยู่กับอีกกลุ่มนึง
แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เหมือนจะโกรธกันด้วยเรื่องจุกจิกซึ่งวินก็นึกไม่ออกแล้วว่าเรื่องอะไร
ประกอบกับเพื่อนของอั้มชื่อนิม สาวสวยประจำห้อง ขาวสวย ตาโต ผมสวยราวกับ
พรีเซนเตอร์ยาสระผม มากุ๊กกิ๊กกับวิน (ไม่ได้ชอบจริงจัง ก็แค่แบบกระแซะเด็กใหม่แค่นั้น)
ซึ่งในวิชาลีลาศอาจารย์จะเป็นคนจับคู่ชาย – หญิงให้นักเรียนทุกคน ซึ่งวินอยู่สายศิลป์
เป็นที่รู้กันว่าผู้ชายมันช่างน้อยนิด นักเรียน 50 คน มีผู้ชายรวมวินแล้ว 11 คน
ที่เหลือผู้หญิงก็เต้นด้วยกันเองพออาจารย์เรียกชื่อวิน นิมก็ยกมือแล้วขออาจารย์ว่า
“หนูขอคู่กับวินได้มั้ยค่ะ” อาจารย์ก็ตกลง จากนั้นท่าทีของเพื่อนทั้งห้องก็ฮือฮา ประมาณ
ว่า ‘นิมมันช่างกล้า’ แถมเรื่องบังเอิญที่อาจารย์ลีลาศดันสนิทกับพ่อของวิน อาจารย์จึง
ไม่ได้ขัดข้องอะไรมาก จากนั้นก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกันตามประสาผู้หญิงม.ปลายในห้อง
พูดจากระแทกใส่กัน ว่านิมสารพัด นิมก็ส่ง sms (ทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องเรียนด้วยกันแต่นั่ง
คนละแถว) มาบอกว่า “I’m really sorry that I brought you to this position”
อะไรทำนองนี้แปลประมาณว่า ‘เราขอโทษที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้’
จากนั้นวินก็ใกล้ชิดกับนิมมากขึ้นเพราะต้องเต้นลีลาศด้วยกันทุกสัปดาห์ ทำให้วินเข้าใกล้
อั้มมากเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนกัน (ประมาณว่าเพื่อนในห้องไม่ชอบขี้หน้าสองคนนี้
เหมือนกัน) และวินก็สนิทกับอั้มในที่สุด แต่พอนิมรู้ว่าวินไม่เล่นด้วย ก็เริ่มห่าง ๆ ออกไป
จะเล่นด้วยได้ไงก็เธอเล่นมีแฟนอยู่แล้วแถมตัวอย่างกับตึก ตัวใหญ่มากกก อยู่ม.5 เองตัว
ใหญ่กว่าเราซักสามคนได้มั้ง จริง ๆ ก็ไม่ต้องอ้างอะไรหรอก ก็เพราะวินไม่ชอบผู้หญิง
ต่างหาก 555 แต่ตอนนั้นก็คิดว่าจะเปลี่ยนตัวเองได้ซะอีกนะ เต้นรำด้วยกันทุกวัน
แถมนิมก็เป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่นิสัยไม่ต้องพูดถึง เพื่อนไม่ชอบทั้งห้องขนาดนั้น -*-
นั่นแหละทำให้วินต้องมาสนิทสนมกับอั้ม แต่อั้มก็ใช่ว่าจะมีข้อเสียไปซะหมด อั้มเป็น
เพื่อนที่แทบจะเรียกได้ว่า ‘คอยรับใช้’ แทบทุกอย่าง อั้มชอบบริการเพื่อน ทำให้เพื่อนเห็น
ให้ได้ว่าอั้มทำ อั้มทุ่มเท ประมาณนั้น แต่ก็ด้วยความที่อั้มเป็นคนที่มีปัญหาในการให้
ความจริงใจกับเพื่อน ขาดการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนไป ทำให้อั้มกับวินลดความ
สนิทสนมลงจนเป็นเพื่อนธรรมดาในเวลาต่อมา ซึ่งสนิทกันน้อยกว่าตอนประถมเสียอีก
กลับมาที่เรื่องหลักของเราต่อ....
หลังจากครั้งแรกที่วินได้เห็นอาการแปลก ๆ และท่าทีกลับไปกลับมาวันนั้นของแมท
เวลาก็ช่วยทำให้วินมองข้าม และลืม ๆ มันไปจนไม่ได้นึกถึงมันอีกตลอดเวลาที่คบกัน
แต่วินก็ระวังมากขึ้น เรื่องการพาเพื่อนมาทำให้แมทอึดอัด ยังมีบ้างบางครั้งที่วินพาเพื่อน
มาด้วย แต่จะพามาก็เฉพาะเวลาจะติดรถไปลงระหว่างทาง ประมาณว่าแค่ทางสั้น ๆ เท่านั้น
ความสัมพันธ์ของวินกับแมทขยับขึ้นเมื่อย่างเข้าเดือนที่ 3 ตอนนั้นเราคบกันได้ประมาณ
เกือบสองเดือนแล้ว วินเองก็จำไม่ได้ เพราะพอดีในไดอารี่ ช่วงเวลานี้ไม่ได้จดวันที่ เพราะ
เริ่มรู้สึกขี้เกียจบันทึก
ตอนนั้นกำลังย่างเข้าเดือนกรกฎาคมแล้ว 12 กรกฎาคม เราก็จะคบกันครบ 3 เดือน
แมทเป็นคนที่ซีเรียสกับวันครบรอบ (เดือน) ของเรามาก ทุก ๆวันที่ 12 ของทุกเดือน
แมทจะทำให้มันเป็นโอกาสพิเศษเสมอ โดยจะพาวินไปเลี้ยงข้าว และมีของขวัญทุกเดือน
(ซึ่งวินไม่คิดเลยว่าเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่จะทำให้แมทนำมันมาทำร้ายวินอย่างเจ็บปวดพอดูในเวลาต่อมา)
ในช่วงเวลานี้ของการคบกันของเราก็มีคนคนนึงเข้ามาในชีวิตวิน.. “ฟิว” เป็นนักเรียน
โรงเรียนเอกชน ชายล้วนขึ้นชื่อของกรุงเทพแห่งนึงเลยทีเดียว ฟิวเป็นนายแบบโฆษณา
ตัวนึงในตอนนั้น คิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้จัก ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีงานถ่ายแบบหลายงาน
ทีเดียว และตอนนี้ก็ก้าวเข้ามาเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น ฟิวชอบเต้น “เบรกแดนซ์”
(เขียนอย่างนี้รึเปล่า) เท่ห์ในสายตาหลาย ๆ คน (แต่ไม่ใช่สำหรับวินแน่นอน)
อย่างที่บอก วินชอบคนเรียบ ๆ เนี๊ยบ ๆ แบบแมทมากกว่า แต่ไม่รู้ยังไงฟิวก็เข้ามาในชีวิต
วินจนได้
ปุ้ยเป็นเพื่อนร่วมห้องม.6 อีกคนของวิน ซึ่งก็รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมเหมือนอั้ม เป็นคนที่
นำพาฟิวเข้ามาในชีวิต เนื่องจากในวันเสาร์นั้น ปุ้ยโทรมาชวนไปร้องคาราโอเกะที่ SF มา
บุญครอง ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ๆ เลย เป็นคาราโอเกะแบบห้องส่วนตัวที่ใคร ๆ ก็เห่อและแห่ไป
ร้องกัน วินไปพร้อมอั้ม เนื่องจากสายถนนอยู่ละแวกเดียวกัน (แต่วินก็ต้องไปรับเพื่อน
บังเกิดเกล้าคนนี้ถึงบ้านอยู่ดี) พอถึงห้องวินก็เปิดประตูห้องเลขที่ตามที่ปุ้ยบอกทุก
ประการ วินก็เห็นฟิวนั่งอยู่คนเดียวในห้อง
“โอ๊ะ...ขอโทษครับ ๆ” และรีบเปิดประตูออกไป เพราะคิดว่าเข้าห้องผิด
“เพื่อนปุ้ยรึเปล่าครับ” ฟิววิ่งตามออกมาหน้าตาตื่นปนยิ้ม
“ใช่ค่ะ” เสียงตอบฉะฉานจากอั้มตอบนายแบบโฆษณาร่างสูง หุ่นดีไป
“ห้องนี้แหละครับ ปุ้ยไปเข้าห้องน้ำ - - เดี๋ยวมา” ฟิวบอก
“อ่าวแล้วนัดกันเที่ยง นี่เที่ยงครึ่งแล้ว ยังมากันไม่ครบอีกหรอ” วินซีเรียสมากกับเรื่องเวลา
(ในขณะนั้น...เดี๋ยวนี้สายซะเองแล้ว) ถามไป โดยลืมไปว่า ไอตานี่เรายังไม่รู้จักเค้าด้วยซ้ำ
ก็แผลงฤทธิ์ไปแล้ว
ฟิวตอนนั้นในสายตาวิน ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาดีมาก ถึงมาก ๆ (แต่ไม่มากที่สุดแฮะ อิอิ)
แต่ด้วยความที่วินเพิ่งมีแฟนครั้งแรก คนแรก จึงยังไม่รู้จักคำว่า “เจ้าชู้” (ซึ่งฟิวก็สอนให้วิน
รู้จักในเวลาต่อมานั่นเอง) วินคิดอย่างเดียวเลยว่ามีแมทแล้ว วินไม่สนใจฟิวอย่างสิ้นเชิง
ไม่เลยแม้แต่จะคิด
พวกเรานั่งกันอยู่สามคนอยู่พักใหญ่ ปุ้ย และเพื่อน ๆ อีก 7-8 คนก็เข้ามา
“อ่าววิน - - แกมาแล้วหรอ” ปุ้ยทำเสียงเล็กแหลมถาม ปุ้ยเป็นคนตัวเล็ก ๆ น่ารักใช้ได้
ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่เสน่ห์อยู่ที่ความตลกของเธอ (ปัจจุบันปุ้ยก็อยู่มหาวิทยาลัย
เดียวกับวิน เพียงแต่คนละคณะ ซึ่งเรายังไป – กลับด้วยกันบ่อย ๆ โดยปุ้ยจะติดรถวินไป
ลงที่บ้าน ซึ่งอยู่เพียงหมู่บ้านตรงข้ามกัน และทุกครั้งที่เราเจอกัน ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยพูด
ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยม.6)
“เออ ซักพักแล้วหละ - - ไปไหนกันมานานเชียว” ปุ้ยเป็นเพื่อนที่ดี วินจึงไม่ต่อว่าอะไรมาก
ที่ปล่อยให้นั่งรอเกือบ 10 นาที อย่างอึดอัดกับคนที่ไม่รู้จักในห้องอีก 1 คน
(ตอนนั้นวินไม่รู้เลยว่าฟิวเป็นนายแบบโฆษณา รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้เฉิดฉายมีราศีดีเท่านั้น
เพราะคงยังไม่มีชื่อเสียงเหมือนทุกวันนี้...แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมากนะ)
“พาเมย์มันไปเล่นเกมตรงเนี้ย - - แกนี่เพื่อนเรา ‘ฟิว’ พอดีพามันมาตัดผมที่ร้านประจชั้น”
ปุ้ยไม่เคยใช้ภาษาพ่อขุนรามฯ จะใช้คำว่าชั้น (ฉัน) กับแก เสมอ
“เมื่อกี๊ เพื่อนปุ้ยวีนด้วยว่า นัดเที่ยงแล้วทำไมยังไม่มา” ฟิวพูดกับปุ้ยเชิงตลก แล้วก็มอง
หน้าวินยิ้ม ๆ
วินยิ้มตอบแบบงง ๆ รู้สึกว่า ไอนี่มันกล้าดีเนอะ กล้าทำอะไรแบบนี้กับคนที่เพิ่งพูดไป
ด้วยประโยคเดียว แถมเป็นประโยคที่ไม่ดีซะด้วยสิ
“เออ - - วินมันขี้วีน” อั้มโพล่งขึ้นมาแทรกระหว่างปุ้ยกับฟิว ขณะที่วินเอนตัวพิงกับโซฟา
ด้วยความเบื่อว่า วันนี้จะร้องเพลงกันมั้ย
“อ่อ...หรอครับ” ฟิวพูดตอบอั้ม แล้วหันมามองวินอีกครั้ง
จากน้ำเสียงทุ่ม ๆ จากหุ่น และท่าทางของฟิวแล้ว วินไม่ได้เอะใจหรือคิดเลยว่าฟิวไม่แมน
วินยิ้มตอบไป ทำหน้าแบบกำกึ่งยอมรับ – ไม่ยอมรับไป
“ท่าทางไม่เห็นเป็นแบบนั้นนะ - - เราว่า” ฟิวยังพูดต่อไปและมองหน้าอั้มสลับกับมอ
หน้าวิน
“ร้องเพลงเหอะ - - ไปฟังอะไรอิอั้ม...ฟังแล้วต้องเอามาหารสิบ” ปุ้ยตัดบท พาเอาทุกคน
หัวเราะเกือบตกเก้าอี้กับคำพูดของเธอ
พวกเรานั่งฟังปุ้ยร้องเพลง (ซึ่งจ่ายค่าห้องครึ่งนึง เพราะเธอรู้ตัวว่า ไมโครโฟน 2 ตัว 1 ตัว
ต้องเป็นของเธอ) กันอยู่นาน โดยมีอั้มนั่งอยู่ทางขวาซึ่งกันระหว่างวินกับฟิวไว้
และปาฏิหาริย์ก็ช่างกลั่นแกล้งวินให้ต้องเจอจุดเริ่มต้นของหายนะแห่งชีวิต
‘ยัยอั้มเกิดปวดฉี่จากการกินเป๊บซี่ไปเกือบเหยือก’
“เมิง...ปวด ย.เอี่ยว หว่ะ” ไม่มีประโยคไหนของอั้มที่ไม่มีคำหยาบคาย
“ก็ไปสิว้ะ - - วินมันเป็นพ่อเมิงรึไง จะให้มันเปลี่ยนผ้าอ้อมหรอ”
ปุ้ยวางไมค์ชั่วคราวหันมาตอบแทน (เนื่องจากอั้มพูดดังมากว่าเธอปวดฉี่)
“เออเดี๋ยวกรุมา” อั้มบอกแล้วพรวดข้ามเพื่อนๆ ออกประตูไป
“ไม่ต้องรีบนะอิอั้ม ค่อย ๆ ปล่อย” ปุ้ยพูดใส่ไมค์ พอที่ให้อั้มได้ยิน
ตอนนั้นวินไม่รู้เลยว่าอะไรทำให้ปุ้ยต้องตอบรับแทนที่ไล่ให้อั้มไปเข้าห้องน้ำ หรือพูดว่าไม่
ต้องรีบกลับมา คิดเพียงแต่ว่าเป็นมุขตลกของเธอที่มีอยู่แล้วประจำเท่านั้นประกอบกับ
เป็นที่รู้กันว่าเพื่อน ๆ ในห้องไม่ค่อยชอบอั้มเท่าไหร่ พอ ๆ กับนิม ซึ่งฟิวมาบอกทีหลัง
ว่าวันนั้นฟิวไม่ได้มาตัดผม ฟิวอยากเลิกกับแฟน เลยให้ปุ้ยหาแฟนใหม่ให้หน่อย ถ้าเป็นปัจจุบันคงใช้คำว่า ‘กิ๊ก’แทนคำว่า ‘แฟนใหม่’ ของฟิวแน่ ๆ และที่ปุ้ยเข้าห้องมาช้า เพราะ
ก่อนหน้านั้น วินโทรหาปุ้ยว่าอยู่ห้องไหน ทำให้ปุ้ยรู้ว่าวินกำลังจะมาถึง จึงแห่กันออกไป
หมด กะให้วินอยู่กะฟิวลำพัง แต่ผิดแผนที่วินพาอั้มมาด้วย เพื่อน ๆ ไม่ได้เชิญอั้มไว้ใน
ตอนแรก วินพามาเอง
หลังจากอั้มออกไปได้ไม่ถึงนาที ฟิวก็กระเถิบเข้ามานั่งใกล้วิน โดยเว้นระยะห่างไว้
ประมาณ 1 คืบได้ ฟิวคงเห็นท่าทีงง ๆ ของวินเลยรีบชวนคุยกลบอาการตกใจของวิน
“วินเรียนที่เดียวกับปุ้ยหรอครับ” บอกตรง ๆ ว่าวินแพ้คนพูดเพราะจริง ๆ
“อาฮะ” วินตอบไปสั้น ๆ ในใจเริ่มสั่น และรู้ว่านี่มันไม่ปกติแน่ ๆ
“ทำไมเพิ่งเข้ามาตอนม.6 หละ” ฟิวถาม วินรู้ทันทีว่านี่ผิดปกติ นี่แสดงว่าฟิวกับปุ้ยต้องคุย
กันไว้ถึงวินก่อนหน้านี้ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่ย้ายโรงเรียนมาฟิว (คนนอก) ยังรู้
“ไปทำอะไรผิดมารึเปล่า” ฟิวแซวทำน้ำเสียงอย่างที่วินไม่มีทางได้ยินจากแมทแน่นอน
“จะถามอ้อม ๆ ว่าเราโดนไล่ออกรึเปล่าหรอ” วินตอกกลับไปทีเล่นทีจริงบ้าง
“ใช่ เราโดนไล่ออก เพราะเอาคัตเตอร์กรีดท้องเพื่อน มันมายั่วประสาท ตอนแรกก็โดนทัณ
บนฑ์ก่อน แต่มีคดีใหม่ เพราะมีคนใหม่มากวนประสาทอีก เลยเอากรีดหน้ามันซะเลย - -
ก็เลยย้ายมานี่แหละ” วินใส่เป็นชุด หวังว่าฟิวจะรู้ว่าวินพูดเล่น
วินสาบานได้ตรงนี้เลยว่าตอนนั้นไมได้แม้แต่จะคิดสนใจอะไรในตัวฟิว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบหน้าเหมือนตอนแรก ๆ รู้สึกแต่ว่า...เออคุยกันได้
ไม่นานอั้มก็เข้ามา แล้วมองหน้าวิน และฟิวแปลก ๆ ที่กำลังคุยกันอยู่ แล้วไม่พูดอะไรเลย
แล้วก็ไปนั่งแทนที่ฟิว โดยมีฟิวมานั่งแทนที่อั้ม
อั้มเงียบลงไปเยอะมาก ทุกครั้งที่หน้าของวินพ้นหลังของฟิว จะทำให้อั้มมองวินได้ อั้มจะ
มองวินด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก วินมีลางสังหรณ์ลึก ๆ ว่าต้องทำอะไรซักอย่าง อั้มกำลัง
เข้าใจอะไรไม่ดีแน่ ๆ
ถึงคราววินปวดฉี่บ้าง เลยไปเข้าห้องน้ำ โดยที่วินเอ่ยปากชวนอั้มให้ไปเป็นเพื่อน เพราะ
อยากคุยกับเธอพอดี แต่อั้มปฏิเสธและบอกว่าปวดท้องประจำเดือน ซึ่งภายหลังอั้มเฉลยว่า จะดูซิว่าฟิวจะตามไปมั้ย
ซึ่งฟิวก็ตามมาจริง ๆ ตอนแรกที่วินเข้าห้องน้ำยังไม่เห็นฟิว แต่พอเปิดประตูออกมา ฟิวก็
ยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า
“อ่าว” วินอุทานขึ้น
“อ่าว...ครับ” ฟิวพูดตอบ พยักหน้าเชิงว่าทัก
ขณะที่วินล้างมือ ฟิวยืนพิงขอบอ่างอยู่ห่างไป 1 อ่างล้างหน้า พอวินเช็ดมืออะไรเสร็จ
ก็ถามว่า
“มาทำอะไรเนี่ย - - ยืนเฉยๆหรอ”
วินรู้ทันทีว่านั่นเป็นคำพูดแรกที่เปิดฉากอะไรต่อมิอะไรได้
“ป่าว มารอวิน” ฟิวตอบหน้าตาเฉยมาก ๆ
“ทำไม - -เพื่อน ๆจะกลับแล้วให้มาทวงตังค์ กลัววินชิ่งหรอ” วินยังพูดต่อไม่หยุดทั้ง ๆ ที่รู้
ว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย (แย่ที่สุด)
“ป่าว - - “ ฟิวทำตากลอกไปกลอกมา ก่อนจะพูดคำที่ทำให้วินหน้าชาเหมือนถูกฉีดยา
ชาไปซัก 5 เข็ม
“วินน่ารักดีนะ - - รู้ป่ะ” ฟิวพูดอย่างหน้าตาเฉยอีกครั้ง
“.........” วินพูดไม่ออก มองหน้าฟิว แล้วก็ดึงทิชชู่อันใหม่มาเช็ดมือแบบอึ้ง ๆ ตอนนั้นรู้สึก
ว่ามันชาไปหมด หน้ารู้สึกร้อนเหมือนเป็นไข้ไม่มีผิด
“น่ารักจริง ๆ นะ - - หน้าเหมือนแฟนเก่าฟิวเลย… แค่วินดูดีกว่า” เขาพูดอย่างไม่สะทก
สะท้าน ไม่แม้แต่จะกลัวใครมาได้ยิน หรือไม่กังวลเลยว่าประตูห้องน้ำที่ปิด ๆ อยู่นั้นจะมี
ใครอยู่รึเปล่า หรือว่าเค้าเช็คหมดแล้วก่อนวินออกมาก็ไม่รู้
“กลับห้องเถอะ” วินกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ
ชีวิตดั่งฉากในละคร แขนเป็นมัดๆ ยาว ๆ ยื่นมาบังแล้วกวาดตัววินกลับเข้าไปในห้องน้ำ
อีกครั้ง วินทั้งตกใจ และสติสตังแทบไม่เหลือ นี่มันอะไรกัน เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ
“เดี๋ยวดิ - - เข้าไปก็ไม่ได้คุยแบบนี้” ฟิวจู่โจม เหมือนคนสบโอกาส
“ฟิว... ฟิวจะคุยอะไรกับเรา” เสียงวินตอนนั้นแหบ ๆ เบา ๆ เหมือนไม่มีเสียงเสียเฉยๆ
“วิน - - วินน่ารักจริง ๆ นะ……ฟิวขอเบอร์วินหน่อยสิ แต่ให้เพราะอยากให้นะ อย่าให้
เพราะอยากออกไปจากที่นี่” ฟิวพูดเหมือนไปอ่านนิยายอมตะที่ไหนมา ประโยคมันคุ้น
พิลึก หรือว่าเราเคยดูในละคร
“เอาโทรศัพท์มา” วินพูดห้วนๆ
“อยากให้รึเปล่า หรือว่าต้องให้” ฟิวยียวนมาก ๆ ตอนนั้น รู้สึกโกรธ งง ตกใจ และแอบ
ชอบใจอยู่ลึก ๆ (รู้ตัวเลย)
“อืมให้ ๆ อยากให้” วินตอบไป “เอามาสิ”
ฟิวยื่นโทรศัพท์ให้ และวินก็กดเบอร์ให้ไป เมื่อวินยื่นโทรศัพท์ให้ฟิวไป ขณะที่กำลังจะ
ออกไปจากห้องน้ำ ฟิวก็เอาตัวเข้ามาขวางไว้อีกที ตามองที่โทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง แล้วก็เอา
โทรศัพท์แนบหู ไม่นานโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงวินก็ดังขึ้น
“โอเค - -ไม่มั่ว” ฟิวเอ่ยขึ้น เมื่อรู้ว่าวินไม่ได้ให้เบอร์ผิดไป
“วินเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวเข้าไปพร้อมกัน...คนอื่นจะสงสัย” ฟิวพูด พร้อมกับเดินเปิดประตู
เข้าห้องน้ำไป ทำเอาเรางง ว่าทำไมต้องกลัวใครสงสัย นี่เราทำอะไรผิดไปจริง ๆ หรอ
อารมณ์นั้นงงมาก ไม่รู้ว่าตัวเองชอบฟิวแล้วรึยัง ชอบใจที่เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรือว่า
อย่างไร...........