พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END  (อ่าน 783913 ครั้ง)

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :m25:


แต่ พระจันทร์การที่หนูไม่บอกอาจมีผลต่อลูกนะครับ แล้วใจพี่ยะจะคิดว่าทำไมพระจันทร์ถึงต้องปิดบัง

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อ๊ายยยพระจันทร์ท้องใช่ไหม

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด :mew3:

 :pighaun: :pighaun: :pighaun:

เชื่อแล้วว่าพี่ยะหื่น นั้นคนป่วยนะ
แต่ก้นะจันทร์น่ารักน่ากินซะขนาดนี้
ว่าแต่ขัดใจจริงกำลังจะได้รู้ความ(เกือบไม่)ลับแล้วเชียว
:pig4:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ก็คนกำลังท้องนี่พี่ยะ

ออฟไลน์ Hope2TheEnd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โง้ยยย น้องจันทร์ท้องแล้วใช่ไหม จะมีเบบี๋ให้พี่ยะแล้ว
ตื่นเต้นนนนนนนนนนนนนน 55555

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เหมือน จะตะหงิด กับพระจันทร์และน้ำฟ้ามาตั้งแต่เรื่องคุณแม่ครับผมล่ะว่าสองคน นี้มันต้องท้องได้ด้วยอะไรสักอย่าง อาจจะมีฮอร์โมนเพศหญิงหรือ อะไรก็ได้ เพียงแต่น้ำฟ้าอ่อนแอเลยไม่สามารถอะไรได้งี้อ่ะ แต่พระจันทร์ไม่ใช่อะไรงี้อ่ะ

(คิดแปป)

ออฟไลน์ Cardiac

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
แท้งไปนี่ยุ่งเลย

Kathe

  • บุคคลทั่วไป
 :haun4:พระจันทร์จะท้องแย้ววววววว  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
ดีใจจังพระจันทร์กลับมาแล้วววว :z2:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
จันทร์มีน้องแน่ๆ

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น้องท้อง!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เย้เย้ ดีจัยจัง พระจันทร์กับมาแล้วมาพร้อมกับน้องด้วย

ออฟไลน์ miho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
พระจันทร์ท้องแล้วอยากให้เฮียแกรู้จริงว่าเมียท้องแล้วจะได้เพลาๆมั้ง น่าเสียด้วยที่ฟ้าเอาออกแล้วไม่งั้นมีน้องให้หนูลินเพิ่มแน่ๆ  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ท้องจิงแล้วจันทร์เอ๊ยยย

ออฟไลน์ rinoou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :pighaun: :pighaun: อิอิ.... กลับมาแล้วเย้ๆ แทบจุดพลุฉลอง..
ฉลองที่เค้าได้กัน..เอ้ยยยยย.. ฉลองที่น้องจันทร์กะพี่อาทิตย์ปลอดภัยจร้า.. (เหรอ)

ขอบคุณคะที่กลับมาต่อ  เป็นกำลังใจให้น้า
สนุกน่ารักม๊ากมาก...อิอิ

ออฟไลน์ Nunng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กลับมาแล้ววววววววววว :-[

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
โอเค รู้ละว่าน้องท้อง
แต่ที่งงคือ เราอ่านตกอ่านข้ามตรงไหนวะ :m28:
ก่อนหน้านี้สองคนนี้ไปได้กันตอนไหน
เอ่อ.. ขอกลับไปอ่านทวนทั้งหมดก่อนนะ :m29:

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เข้ามาดันกระทู้ครับผม

อยากให้คนแต่งแต่งตอนที่ลูกโตด้วยจังขอสักประมาณสิบแปดปีก็พอ 555555

รีบมาต่อน๊าาาา ลุ้นสุดๆเลยว่าจะเป็นไงต่อ อย่างทิ้งกันไปนานๆเลย

รักคนแต่งจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
ลูกกกกกกก น้องท้องแล้วสินะคะนะคะนะคะ :impress2:
บอกพี่ยะคงดีใจตายเลย อุตส่าห์ขยันทำการบ้านซะขนาดนี้น่ะ
ป้าแหม่มช่วยดูแลน้องดีๆด้วยน้า เรากลัวจันทร์ไม่ยอมบอกพี่ยะเพราะกลัวพี่แกโกรธ ลองปรึกษาพี่ฟ้า พี่หมอเชนดู
รอตอนต่อไปปปปปปปปป เร็วๆน้าา

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
ชอบคู่มังกรมาก
พระจันก็น่ารัก

ออฟไลน์ PaTtO

  • อาซามิซามะ.. ทาคาบะ4ever
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ขุ่นพระ ไม่ใช่ว่าท้องแล้วหรอกนะ..ดีใจแทนพ่อเด็กตายเลย :impress2:

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
พันธนาการ...รัก #28


“มาดาม ได้ข่าวว่าลูน่าไม่สบายเหรอ”

“อุ๊ยตายว๊ายตาเถรตกยายชี!!” คุณแม่บ้านเก่าแก่ที่กำลังล้างหัวไชเท้าอยู่ในครัวอุทานลั่นเมื่อจู่ๆเสียงใครบางคนก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันที่ด้านหลัง หล่อนยกมือทาบอกอย่างโล่งใจเมื่อหันกลับไปมองแล้วคนที่ยืนอยู่คือคนรู้จักที่หล่อนก็ค่อนข้างคุ้นเคยอยู่ เพราะเคยมาที่บ้านหลังนี้แล้วสองสามครั้ง “คุณโรส มาเงียบๆ ป้าตกใจหมดเลยค่ะ”

“ขอโทษค่ะ แต่พอดีที่มหาวิทยาลัยบอกว่ามีคนโทรไปลาให้ลูน่าเพราะไม่สบาย โรสเป็นห่วงก็เลยมาเยี่ยมน่ะค่ะ” หญิงสาวหน้าตาลูกครึ่ง ผมหยิกยาวสีทองคำ แต่นัยน์ตายาวรีสีดำสนิทยกตะกร้าใส่ของบำรุงสำหรับคนป่วยเอาไว้เต็มแน่นขึ้นโชว์ระหว่างที่พูดตอบ ความจริงวันนี้หล่อนตั้งใจจะชวนลูน่าไปเป็นเพื่อนเที่ยวซื้อของหลังเลิกจากมหาวิทยาลัยเสียหน่อย แต่ทว่าเมื่อหล่อนไปถามหาลูน่าจากอาจารย์ที่ภาควิชาของเพื่อนตัวเล็ก ก็กลับได้รับการบอกกล่าวว่ามีคนโทรมาขอลาหยุดให้กับเพื่อนของเธอ เนื่องจากเพื่อนของเธอนั้น ‘ป่วย’

   ...จะจู่ๆก็ป่วยได้อย่างไร ก็เมื่อวานยังดูแข็งแรงดีอยู่เลยนี่นา...

“คุณลูน่าป่วยจริงๆค่ะ นี่ก็นอนซมอยู่ข้างบน...บนห้องน่ะค่ะ แต่ระวังหน่อยนะคะ ชิวชิวกับซิมบ้าน่ะนอนเฝ้ากันเข้มแข็งเชียวค่ะ” คุณแม่บ้านพูดไปก็หยิบหัวไชเท้าที่ลงไปไชท่อน้ำในซิงค์ล้างผักขึ้นมาล้างน้ำใหม่ ก่อนจะกระชับมีดในมือแล้วสับหั่นหัวท้ายของไชเท้าอย่างคล่องแคล่ว

“ตายจริง! ถึงขั้นนอนซม นี่ลูน่าเป็นอะไรกันคะ แล้วนี่ทำไมไม่พาไปหาหมอล่ะคะมาดาม” โรสวางตะกร้าเยี่ยมไข้ลงบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบมีดปอกเปลือกที่วางอยู่ข้างโต๊ะส่งให้คุณป้าแหม่มเมื่อหล่อนร้องขอ

“ทะเลาะกันใหญ่โตไปเมื่อเช้าแล้วค่ะกับหยางหลง คุณลูน่าเธอไม่ยอมไปค่ะบอกว่าขอนอนพักที่บ้านอย่างเดียวพอ เฮ้อ...ถ้าไม่ติดว่าหยางหลงมีประชุมสำคัญตอนเช้านะคะคงได้มีการเห็นเด็กงอแงโดนอุ้มลงจากเตียงบังคับพาไปโรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ นี่หยางหลงเธอบอกว่าประชุมแค่เที่ยงก็กลับ ก็เลยตั้งใจว่าจะมารับไปหาหมอด้วยตัวเองน่ะค่ะก็เลยยอมปล่อยให้คุณลูน่าเธอนอนพักไปก่อน”

“อืม...งั้นโรสขอขึ้นไปเยี่ยมหน่อยนะคะมาดาม”

“เชิญเลยค่ะ จะให้ป้าขึ้นไปพาชิวชิวกับซิมบ้าไปห้องอื่นก่อนมั้ยคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ โรสเริ่มชินกับสองบอดี้การ์ดจากธรรมชาตินั่นแล้วล่ะค่ะ”

   หญิงสาวยกมือไหว้แบบวัฒนธรรมไทยแบบแขนเก้กังเล็กน้อยให้กับคุณป้าแหม่มเป็นการขอบคุณ จากนั้นจึงเดินจากห้องครัวมาเดินขึ้นไปชั้นบน ระหว่างทางหล่อนเจอคนงานชายหญิงกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นมาก ด้วยความเป็นคนอารมณ์ดีหล่อนจึงเซย์ ‘เฮลโหล’ กับพวกเขาไปตลอดทาง ซึ่งก็ได้รับผลการตอบกลับที่น่าพอใจ เมื่อคนงานทุกคนฟังภาษาอังกฤษในเบื้องต้นได้ทั้งหมด

   ...เอ ต้องเข้าไปในห้องนี้ก่อนสินะ จากนั้นก็ห้องแยกทางซ้าย...ห้องนี้ๆ...

   ...ก๊อก...ก๊อก...

‘โฮกก...’

‘…ฮึ่มมมม’

   เสียงสัตว์ป่าสองชนิดคำรามฮึ่มฮั่มขึ้นมาพร้อมกันดังลอดออกมาให้ได้ยิน นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าบ้านนี้เลี้ยงสัตว์ประหลาดเอาไว้ล่ะก็หล่อนคงได้มีการเผ่นหนีป่าราบไปแล้ว แต่นี่เพราะเริ่มคุ้นเคยหรอกนะ หล่อนถึงกล้าทำใจดีสู้เสือ(และสิงโต) ค่อยๆแง้มลูกบิดออกเมื่อหล่อนค้นพบว่ามันไม่ได้ล็อก

“ชิวชิว ซิมบ้า ถ้าพี่ยะมาไล่ออกไปเลยนะ...คนอะไร ดื้อมาก!” พอหล่อนเข้ามาปุ๊บก็ได้ยินเสียงคนนอนป่วยอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบๆแต่แฝงแววหงุดหงิดเอาไว้ โรสค่อยๆกระดึ้บตัวเองไปยืนอยู่ข้างๆเตียงเมื่อสองเสือและสิงโตไร้อาการข่มขู่ใดๆหล่อนอีก พวกมันเอาแต่ฟาดหางไปมาพึ่บพั่บเป็นการต้อนรับและทำจมูกฟุดฟิดคล้ายต้องการดมกลิ่น ว่าใช่ ‘กลิ่น’ ที่เจ้านายมันสั่งให้ ‘ไล่’ ออกไปจากห้องรึเปล่า

“อะแฮ่ม! ใครกันแน่ที่ ‘ดื้อ’ จ๊ะลู่น่า” โรสเอ่ยแซวขึ้นหลังจากสองสัตว์หน้าขนไม่มีอาการใดๆอีกนอกจากส่ายหางฟาดกันไปมาให้หล่อน

“...โรสมาเหรอ!”

“เยส! ฉันเอง...ก็นายป่วย ไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยวันนี้ ฉันก็เลยมาเยี่ยมน่ะสิ เป็นยังไงบ้าง ป่วยเป็นอะไร แล้วทำไมถึงไม่ยอมไปหาหมอ” สาวลูกครึ่งถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเอามือไปแตะหน้าผากคนที่หันหน้ามาแล้วทำตาปริบๆใส่เธอ

“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่...อาหารเป็นพิษน่ะ ก็เลยอาเจียนกับปวดศีรษะนิดหน่อย”

“หืม...ไม่นิดหน่อยมั้ง ดูซิหน้าซีดเชียว คุณมาดามบอกว่าเดี๋ยวตอนเที่ยงคุณพี่ชายเขาก็จะกลับมาหาแล้วก็จะพาไปหาหมอแล้วนี่”

“ไม่เอาหรอกฉันไม่ได้เป็นอะไรมากเสียหน่อย คนนั้นน่ะเขาตกใจมากไปเอง ชอบทำอะไรโอเวอร์”

“แต่ที่เขาโอเวอร์ก็เพราะเขาเป็นห่วง อย่าทำตัวเป็นเด็กๆสิ”

“ไม่ได้ทำตัวเด็ก แต่ไม่อยากไปจริงๆโรส” พระจันทร์เอื้อมมือไปจับแขนเพื่อนแล้วเขย่าเบาๆเป็นการยืนยันความรู้สึก ...ก็เขาไม่อยากไปโรงพยาบาลจริงๆนี่นา...

“โอเคๆ ไม่อยากไปโรงพยาบาล ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวโรสตรวจให้เอง”

“เฮ้ย อะไร...ไม่เอาไม่ต้อง...นี่ไงเพื่อนมียาแล้ว...คือ...”

“ชีพจรเต้นปกติ มีไข้ต่ำๆ อืม...แล้วก็...ปวดหัว กับอาเจียนใช่มั้ย นี่ถ้ารอบเดือนขาดด้วยนะ...ท้องชัวร์! ฮ่าๆ”

“ไอ้...บ้า! ขำมากมั้ยเนี่ย เพื่อนป่วยอยู่แท้ๆยังจะมาหัวเราะอีก...แค่กๆ”

“อ้าวๆ ไอเลย น้ำๆ สิงโตๆ...เอ้อ เสือ แกนั่นแหละสักตัว เอาตะกร้าหมาเด็กนี่ไปเก็บก่อน” โรสพยายามจะเอื้อมมือไปหยิบน้ำที่อยู่ข้างเตียงให้เพื่อน แต่ติดตะกร้าของเจ้าหมาน้อยตาบอดที่เพื่อนเขาหยิบมาวางข้างหมอนจนเตียงเต็มไปด้วยสัตว์หน้าขนขวางไว้ทำให้หยิบไม่สะดวก เธอจึงพยายามเรียกสัตว์เลี้ยงของเพื่อนให้เอาไปเก็บ แต่มือของพระจันทร์ก็ยื่นมาขวางไว้ไม่ยอมให้ใครเลื่อนสัตว์เลี้ยงตัวเองไปไหนได้

“อย่านะอย่าเลื่อนไอ้ตัวเล็ก วางไว้นี่แหละ...” พระจันทร์บอกเพื่อนเสียงอ่อย โรสส่ายหน้ามองอาการเด็กเอาแต่ใจของเพื่อนแล้วถอนหายใจยาว

“...จะเป็นแม่คนอยู่แล้วนะ ทำตัวดีๆหน่อย”

“โรส...นี่คือจะไม่หยุดใช่มั้ย...” พระจันทร์ถามเพื่อนหน้าเครียด แต่คนเป็นว่าที่หมอกลับยักไหล่แล้วพร้อมเอ่ยย้ำทับเข้าไปอีกว่า

“อ้าว โรสก็แค่ว่าไปตามอาการ แต่ก็นะ เราคงจะพักผ่อนน้อยไปหน่อยแล้วก็เครียด ที่สำคัญ...ช่วงนี้นอนดึกล่ะสิท่า มัวแต่วาดรูปไม่หลับไม่นอน” คนพูดพูดพลางก็เท้าคางมองไปทางเฟรมวาดรูปของเพื่อนที่ถูกจัดวางเอาไว้ให้ที่มุมหนึ่งของห้อง เพราะตอนนี้ได้รับอนุญาตให้ได้เรียนต่อตามทุนที่ตัวเองอุตส่าห์สอบได้แล้ว พี่ยะก็เลยใจดีช่วยหาช่างมาเนรมิตมุมหนึ่งของห้องนอนให้เป็นที่สำหรับวาดรูปด้วยดินสอหรือสีไม้ของเขา ส่วนพวกสีอื่นที่มีกลิ่นแรง ชายหนุ่มก็ให้ช่างมาจัดห้องเอาไว้ให้ต่างหากอีกห้องหนึ่งที่ชั้นล่าง เพื่อให้เขาได้ใช้ทำงานและเคลื่อนย้ายเฟรมไปไหนมาไหนได้ง่ายๆเพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาไม่ชอบนั่งวาดภาพแบบอุดอู้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม

“ก็...คงงั้น...” พระจันทร์รับคำเพื่อนแผ่วเบา เอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าสุนัขตาบอดเมื่อมันครางฮือฮึ่มฮั่มเรียกหาเจ้าของ

“เฮ้อ เอาเถอะ ฉันเองก็เป็นแค่นักศึกษาแพทย์ปีหนึ่ง จะไปตรวจอาการของนายได้มากมายแค่ไหนกัน เอาเป็นว่าฉันจะลองเอาอาการของนายไปปรึกษาอาจารย์หมอดูก็แล้วกัน อาจารย์คนนี้เก่งมากเลยนะน่าจะพอช่วยบอกได้ว่านายเป็นอะไร แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาเยี่ยมใหม่...อ้อ แล้วถ้าคุณพี่ชายเขาจะพาไปหาหมอจริงๆก็อย่าดื้อใส่เขาอีกล่ะ เข้าใจมั้ยเด็กดื้อ”

“โรส...” พระจันทร์เรียกเพื่อนเสียงอ่อยเมื่อตัวเองโดนดุราวกับเป็นเด็กเล็กๆ

   วันนั้นพระจันทร์นอนหลับไปด้วยความกังวลใจเรื่องที่สุริยะมณฑลไม่ได้กลับมาที่บ้านจนถึงเช้า มากกว่าเรื่องที่โรสบอกจะเอาเรื่องอาการของเขาไปปรึกษาคนอื่นเพราะคิดว่าเพื่อนสาวคงกำลังล้อเล่น

แน่นอนว่าพระจันทร์ไม่ได้รับรู้เลยว่าโรสจัดการส่งอีเมล์ถามอาจารย์หมอที่หล่อนเรียนออนไลน์อยู่จริงๆและจัดการเล่าอาการของเพื่อนคนสำคัญของเธอลงไปอย่างละเอียดยิบ พร้อมกับแนบชื่อจริง นามสกุลจริงของพระจันทร์ลงท้ายอีเมล์ไปอย่างเรียบร้อยเพราะโรสมั่นใจว่าอาจารย์ของเธอต้องอ่านออกแน่ ในเมื่ออาจารย์ท่านนั้นเป็นคนสัญชาติ ‘ไทย’เหมือนเพื่อนเธอ แม้ว่าตัวอาจารย์ตอนนี้จะอยู่ที่ประเทศอังกฤษก็เถอะ

   โรสมั่นใจ...ว่าอาจารย์หมอ ‘เชษฐา’ ต้องช่วยวิเคราะห์อาการของเพื่อนเธอได้แน่ๆ...

-----------------------------------------------

   พระจันทร์ค่อยๆเกาะราวบันไดพาตัวเองลงมาจากชั้นสองเมื่อความหิวมันมีมากเกินจะทนไหว เมื่อเช้าตอนเขาตื่นมาแล้วลุกขึ้นนั่งได้ ในช่องท้องก็เริ่มมีอาการตีของขึ้นทันที ศีรษะเริ่มปวดหนึบๆพระจันทร์จึงต้องเอนตัวนอนกลับลงไป แต่แค่ครู่เดียวก็ต้องรีบลุกขึ้นนั่งใหม่พร้อมกับรีบโก่งคอไปที่ข้างเตียง แล้วพยายามอาเจียนเอาน้ำย่อยรสชาติเปรี้ยวแสบคอออกมาเพราะในกระเพาะนั้นยังว่างเปล่า แม้ว่าสมองจะสั่งร่างกายว่าให้หยุดอาเจียนได้แล้วเพราะมันไม่มีอาหารอะไรจะออกมา แต่ความรู้สึกอยากอาเจียนก็ยังไม่หมดไป ชิวชิวกับซิมบ้าที่นอนอยู่ด้วยกันเมื่อคืนเดินวนไปวนมาอยู่ข้างเตียงด้วยอาการหงุดหงิด พวกมันคงถูกปลุกให้ตื่นเพราะอาการยามเช้าแบบนี้ของเขาสินะ

   ...ทั้งๆที่เมื่อวานบอกไว้ว่าตอนเที่ยงจะกลับมาหา เขาก็เลยคอยจะเจอ...แต่สุดท้าย...จนป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่ได้กลับมานอนที่บ้านเลยทั้งคืน...

   ถึงจะกังวลใจเรื่องนี้มาก แต่พระจันทร์ก็พยายามจะเข้าใจว่าชายหนุ่มคงจะมีเรื่องด่วนก็เลยต้องค้างที่สำนักงาน เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องบนเรือขึ้นสุริยะมณฑลก็นอนค้างที่สำนักงานบ่อยๆ บางคืนก็ไปค้างที่คอนโดกับพวกสาวๆในสต็อกบ้าง ที่พระจันทร์รู้ก็เพราะมักจะได้ยินพวกเด็กๆที่บ้านพูดให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ

   แต่หลังจากเรื่องตอนนั้นและทั้งสองคนบอกรักกันไปแล้วสุริยะมณฑลก็ไม่เคยออกไปค้างนอกบ้านอีกเลย แถมยังกลับบ้านเร็วกว่าปกติเสียด้วยซ้ำจนป้าแหม่มยังออกปากแปลกใจ เมื่อคืนจึงเป็นครั้งแรกที่พระจันทร์ต้องนอนคนเดียว ยอมรับว่าไม่ชิน...แต่ก็พยายามจะทำความเข้าใจกับชีวิตของผู้ชายที่ตัวเองตกลงใจจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปแล้ว ว่าจะเอาตัวเองไปผูกติดอยู่กับเขาตลอดเวลาไม่ได้เด็ดขาด ก่อนหน้านี้โลกของพวกเขาถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิงเป็นสองใบเลยด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้จะค่อยๆหลอมรวมกัน แต่มันก็รู้สึกเหมือนมีบางส่วนที่ยังไม่ประสานกันสนิทอยู่ดี

“ป้าแหม่ม...พี่ยะล่ะครับ กลับมารึยัง...” เสียงของพระจันทร์ที่เข้ามาในห้องทานอาหารอย่างเงียบเชียบคงจะทำให้คุณป้าแหม่มตกใจสินะ ถึงได้มือไม้สั่นทำหนังสือพิมพ์หลุดร่วงลงไปกองที่พื้นแบบนั้น

“คะ...คุณหนู...แหม มาไม่ให้ซุ่มเสียง ป้าตกใจหมดเลยค่ะ...จะรับอะไรดีคะเช้านี้...”

“ป้าแหม่มครับพี่ยะกลับมารึยัง” เสียงติดแหบนิดๆของพระจันทร์ถามซ้ำเมื่อยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

“ยะ...ยังค่ะ สงสัยคงจะงานยุ่งเหมือนเคย คุณหนูทานเช้าเลยดีกว่านะคะไม่ต้องรอ เดี๋ยวป้าไปจัดมาให้ แหม...ป้านี่ก็หลงๆลืมๆเสียแล้ว วันหลังโทรลงมาสั่งก็ได้นะคะไม่สบายอยู่ ทานในห้องนอนก็ได้ป้าจะ...”

“ป้าครับ นั่นหนังสือพิมพ์วันนี้ใช่มั้ย ขอผมอ่านหน่อยสิครับ” พระจันทร์ที่หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้วเอ่ยปากขอหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือของสาวใหญ่ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่มันถูกกำขยำเสียจนยับไปหมด แถมป้าแหม่มยังเอามันไม่ซ่อนไว้ข้างหลังเสียอีก ท่าทางเหมือนไม่อยากให้เขาอ่านอย่างโจ่งแจ้งเลยทีเดียว

“เอ่อ...มันเป็น...ฉบับของเมื่อวานน่ะค่ะ คุณหนูก็อ่านแล้วนี่ ป้าขอเอาไปรองครกนะคะเที่ยงนี้จะตำน้ำพริกเสียหน่อย ขี้เกียจมาล้างทีหลังเวลาพริกแกงมันกระเด็นออกนอกครกน่ะค่ะ”

“ป้าแหม่มครับ...มันคือของวันนี้ ขอจันทร์อ่านมันหน่อยเถอะนะครับ” คงเพราะท่าทางแปลกๆของคุณแม่บ้านมันเรียกความอยากรู้อยากเห็นของพระจันทร์ให้มันพุ่งสูง...ป้าแหม่มคงจะมีอะไรที่ต้องการปิดบังเขาอยู่แน่ๆ เด็กๆที่เช็ดบันได้กับกระจกเมื่อเช้าตอนที่ลงมาก็พากันหลบตาเขากันเป็นแถว มันเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ...

“ยะ...อย่าเลยค่ะคุณหนู ไม่มีข่าวอะไร...ที่น่าสนใจหรอกนะคะ ป้า...ไปเข้าครัวก่อนก็แล้วกัน” แม่บ้านสาวใหญ่รีบหมุนตัวหลบพร้อมกำหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแน่นขึ้น ทว่าเสียงร้องโอ๊ยอย่างเจ็บปวดของพระจันทร์ที่ดังตามมาไล่หลังก็ทำให้หล่อนรีบหมุนตัวกลับไปดูอาการคนป่วยที่นั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียวทันที

   พระจันทร์อาศัยจังหวะที่คุณแม่บ้านเข้ามาใกล้นั้นคว้าเอาหนังสือพิมพ์ไปจากมือของหล่อนอย่างง่ายดาย พอได้มาปุ๊บก็รีบคลี่มันออกอ่าน มันเปิดค้างไว้ที่หน้าหนึ่งอยู่แล้ว ถึงจะยับยู่ยี่ไปหน่อยแต่พระจันทร์ก็พอจะรู้ว่าข่าวไหนที่คุณป้าแหม่มพยายามปิดบังเพราะคิดว่าเขาไม่สมควรจะรู้

   ‘กิ่งทองใบหยกแห่งวงการธุรกิจฮ่องกง ได้ฤกษ์วิวาห์แล้ว หลังจากพ่อแม่ฝ่ายชายบินมาสู่ขอฝ่ายหญิงถึงเกาะฮ่องกงเมื่อวานนี้...’

   หน้าข่าวยังเขียนรายละเอียดอะไรต่างๆอีกยาวเหยียด แต่ทว่ามือของพระจันทร์กลับอ่อนแรงและทิ้งหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ เมื่อรูปถ่ายที่อยู่เคียงกับหัวข้อข่าวนั้นเป็นภาพ ‘กิ่งทองใบหยก’ ที่ว่ายืนคู่กันอยู่ในนั้น อีกทั้งชุดที่ฝ่ายชายใส่ ก็คือชุดที่พระจันทร์จำได้ดีว่าเจ้าของชุดใส่ไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า...
“คุณหนู...คุณหนูอย่าคิดมากนะคะ ไม่เอาๆ ข่าวมันก็เขียนมั่วๆไปอย่างนั้นเองแหละ ไม่จริงหรอกนะคะ”

ฝ่ามือหยาบกร้านเพราะทำงานครัวของป้าแหม่มตรงเข้าโอบกอดคุณหนูพระจันทร์ของหล่อนเอาไว้แนบอกทันทีที่เห็นหยดน้ำของพระจันทร์ไหลออกมาจากตา พระจันทร์นั่งนิ่งเหมือนหุ่น มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาอย่างอัตโนมัติ เด็กหนุ่มจ้องมองภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ยังมีรูปครอบครัวของทั้งสองฝ่ายถ่ายร่วมกัน ด้วยความรู้สึกปวดร้าวในใจลึกๆ

...ทั้งๆที่ทำใจมาก่อนหน้านี้แล้ว...ว่าสักวันเรื่องแบบนี้มันคงจะเกิดขึ้น...

...แต่ว่า...

“จันทร์...ไม่เป็นไร แค่รู้สึกว่ามันเร็วเกินไป...แค่นั้นเอง”

“โธ่!...คุณหนู...” ป้าแหม่มเธอแทบจะร้องตามตอนที่เห็นคุณหนูของเธอพยายามจะกลั้นก้อนสะอื้น สองมือของคนสูงวัยพยายามจะลูบหลังลูบไหล่ของพระจันทร์เพื่อปลอบโยน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่เลย

“คุณแม่บ้านครับ คุณหยางสั่งให้เอาหนังสือพิมพ์วันนี้ไปทิ้งให้หมด อย่าเพิ่งให้...” เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นหยุดอยู่หน้าห้องอาหารเพียงแค่นั้น เมื่อพบว่าคนนำคำสั่งมาบอกคุณแม่บ้านนั้นมาช้าไป “คุณหนู...”

“อาตี้! ชู่ว!” และเป็นคุณแม่บ้านที่เอามือจุ๊ปาก ห้ามไม่ให้ตี้เฉินบอดี้การ์ดของพระจันทร์ได้พูดอะไรออกมาอีก

   ชายหนุ่มร่างสูงมองไหล่ของพระจันทร์ที่สั่นเทาอย่างน่าสงสารแล้วก็ต้องกำหมัดแน่น เขาค่อยๆเดินเข้าไปทรุดเข่าข้างหนึ่งตรงข้างๆพระจันทร์ แล้วจับมือของคนที่เขาดูแลความปลอดภัยมาตลอดระยะเวลาสองปีกว่าขึ้นมาจับไว้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณหนูพระจันทร์มีแต่ความร่าเริงสดใส ยิ้มง่าย ไม่เคยคิดร้ายกับใคร มีแต่จะคอยปกป้องเขาเสียด้วยซ้ำยามที่มองเห็นว่าเขากำลังโดนหยางหลงดุเอาในเรื่องต่างๆ ตี้เฉินยอมรับ ว่าเขาคิดกับคนที่ต้องคุ้มครองมากกว่าแค่เจ้านายตามหน้าที่ พระจันทร์นับถือเขาเหมือนพี่ เขาก็บอกตัวเองไปแล้วว่าจะปกป้องพระจันทร์ให้เหมือนน้องคนหนึ่ง

   ...ไม่รู้ว่าหยางหลงกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้ตัดสินใจจะแต่งงานกับเหม่ยเฟิ่งแบบรวดเร็วสายฟ้าแล่บแบบนี้ ทั้งๆที่ทุกคนในบ้านนี้ก็รู้ดีกันอยู่ ว่า ว่าคนคนนี้ที่ถูกกักขังเอาไว้ที่บ้านนี่ต่างหากที่เป็นตัวจริง!...

“จันทร์...จันทร์ไม่เป็นไร ถ้าเขาไม่อยากให้จันทร์รู้ จันทร์ก็จะไม่รู้...ป้าแหม่ม พี่ตี้ อย่าบอกเขาก็แล้วกันนะ แล้วก็...ฝากพี่ตี้ เอาหนังสือพิมพ์ไปทิ้งตามคำสั่งของเขาด้วย ส่วนป้าแหม่ม...จันทร์ยังหิวอยู่เลย ขอโอวัลตินให้จันทร์สักแก้วนะครับ แต่ให้ใครยกไปให้ข้างบนหน่อยนะ...จันทร์อยากนอนต่อแล้ว” น้ำเสียงสั่นเครือเหมือนคนที่พยายามจะฝืนบอกคนข้างตัวสองคนที่กำลังพยายามจะปลอบใจเขาให้คลายกังวล แม้ปลายจมูกและดวงตาจะแดงก่ำแต่พระจันทร์ต้องทน อย่าให้คนอื่นต้องมาพลอยร้อนใจแทนเขาแบบนี้

“โธ่คุณหนูคะ...”

“คุณหนูพระจันทร์...มาครับ ผมขออนุญาต” ตี้เฉินมองอาการแขนขาไร้เรี่ยวแรงของพระจันทร์ที่พยายามประคองตัวกลับออกไปจากห้องทานข้าวแล้วก็ทนไม่ไหว ต้องขออนุญาตคนตัวเล็กเพื่อจับอุ้มพาไปส่งให้ถึงที่ จนเมื่อห่มผ้าให้พระจันทร์เรียบร้อยแล้วตี้เฉินถึงได้เดินกลับลงมาหาคุณป้าแหม่มแล้วคลึงนิ้วที่หว่างคิ้วอย่างปวดศีรษะกับเรื่องของเจ้านาย

“ไม่รู้คิดอะไรอยู่สิน่า...” คุณป้าแหม่มที่ยืนรออยู่ที่เชิงบันไดขยำขยี้กระดาษหนังสือพิมพ์ในมือด้วยความขึ้งโกรธ ถึงตัวเธอจะไม่ได้มีอคติอะไรกับหงส์หรือเหม่ยเฟิ่งผู้มีข้างขึ้นคู่กับสุริยะมณฑล แต่เธอก็รู้สึกอดรนทนไม่ได้ที่ข่าวนี้ทำให้พระจันทร์ต้องเสียน้ำตา เพราะหล่อนเอ็นดูหงส์เหมือนเพื่อนของเจ้านาย แต่รักพระจันทร์กว่ามากมายในฐานะของคนที่จะมายืนเคียงคู่กับเจ้านายเธอไปชั่วชีวิตมากกว่า ซึ่งความรู้สึกนี้ตี้เฉินก็มีไม่ต่างกัน ยิ่งได้ยินเสียงสะอื้นแผ่วๆดังลอดออกมาจากใต้ผ้าห่มตอนที่เขาออกมาจากห้องก็ยิ่งรู้สึกเจ็บใจแทนพระจันทร์นัก

“แล้วเราจะช่วยคุณหนูพระจันทร์ยังไงดี” ตี้เฉินออกปากถาม ในขณะที่ป้าแหม่มก็ส่ายหน้าเป็นการตอบ

“งั้นให้ฟ้าเป็นคนช่วยน้องเองได้มั้ยครับ...”

   และจู่ๆเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น ตี้เฉินและป้าแหม่มสะดุ้งขึ้นสุดตัวเมื่อกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดกันทั้งคู่ แต่เมื่อสายตาละไปมองที่มาของเสียงทั้งคู่ก็ต้องรีบก้มหัวเมื่อพบกับน้ำฟ้ากำลังยืนอยู่ด้วยสีหน้าเครียดขึ้ง

“น้องอยู่ข้างบนใช่มั้ย...” น้ำฟ้าเอ่ยขึ้น ตี้เฉินและป้าแหม่มมองหน้ากัน และตัดสินใจร่วมกันว่าในเวลานี้พระจันทร์น่าจะยังไม่อยากจะพบใคร

“เอ่อ แต่เมื่อสักครู่คุณหนูเพิ่งจะหลับไปน่ะครับ ผมเกรงว่า...”

“อย่ามาห้ามฉันนะอาตี้...ป้าแหม่มก็ด้วย เกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้ทำไมไม่มีใครรายงานฉันเลย!”

   และจู่ๆในตอนที่ตี้เฉินเดินเข้ามาขวางน้ำฟ้าเอาไว้ ใครบางคนที่เดินตามหลังน้ำฟ้ามาและคงจะได้ยินคำพูดทั้งหมดก็เอ่ยขึ้นอย่างกราดเกรี้ยวและทรงอำนาจ ป้าแหม่มและตี้เฉินสะดุ้งเฮือกสุดตัวเมื่อน้ำเสียงแบบนี้พวกเขาจำได้แม่น...

             ...แม่ของเจ้านาย...

          ...คุณหญิงดารกานต์...!!

“คุณหญิง!”    สองเสียงต่างวัยประสานขึ้นพร้อมกันเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งงามระหงส์ของบุคคลอีกคนที่เข้ามาใหม่ คุณหญิงดารกานต์เดินเข้ามาก่อนจะคล้องแขนเข้ากับแขนของน้ำฟ้าอย่างเคยชิน คุณแม่บ้านกับบอดี้การ์ดหนุ่มเอามือมาจับกันพร้อมก้มหน้ายืนเรียงเป็นระเบียบ เปิดทางให้น้ำฟ้าและคุณหญิงดารกานต์เดินขึ้นข้างบนไปอย่างสะดวกโยธิน โดยก่อนที่จะเดินลับหายไปคุณหญิงยังมีการหันกลับมาชี้หน้าแล้วบอกว่า ‘จะกลับมาจัดการทีหลัง’ ซ้ำอีกต่างหาก

-------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์

   พระจันทร์พยายามที่จะไม่คิดมาก แต่ข้อความและภาพที่อยู่บนกระดาษหนังสือพิมพ์ก็ยังอยู่ติดตาเขา เคยคิดไว้อยู่เหมือนกันว่าสักวันเหตุการณ์แบบนี้มันจะต้องเกิด...และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ...

   แต่ก็ยังดีที่ทำใจเอาไว้ก่อนหน้านี้มาโดยตลอดตั้งแต่วันที่เจอพี่หงส์...วันนั้นที่ฟังเขาบอกรักในเรือก็เลยไม่ได้เชื่อเขาไปเต็มร้อย ที่ผ่านมาก็เลยทำใจไว้แล้วว่าแค่ช่วงสั้นๆก็ยังดี...ได้เป็นเหมือนคนรักของเขาแบบนี้ก็เหมือนฝันแล้ว...

   ความจริงก็รู้สึกเหมือนตัวเองงี่เง่าเอามากๆ ทำตัวไม่ต่างจากนางเอกในละครที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนร้องไห้ให้คนอื่นเขามาดูถูกว่าอ่อนแอ...เขาเองก็เถียงไม่ออกหรอก และก็คงได้แต่แก้ตัวด้วยคำซ้ำๆเดิมๆเหมือนกัน...

   ...ว่าใครไม่มาเป็นเขาตอนนี้ก็คงไม่เข้าใจหรอก...ว่ามันรู้สึกเจ็บแค่ไหน ที่ต้องมารับรู้ความจริงว่าคนที่ตัวเองรัก...กำลังจะต้องแต่งงานกับคนอื่น แล้วตัวเขาก็จะค่อยๆกลายเป็นคนอื่นแทนในที่สุด

“พระจันทร์...” เสียงเรียกแผ่วเบาของใครบางคนดังขึ้นจากเบื้องหลัง พระจันทร์พลิกตัวกลับไปมองเมื่อคุ้นหูเสียงนั้นเหลือเกิน

“พี่ฟ้า...คุณหญิง...”

      เสียงพระจันทร์สั่นเครือจนคนเพิ่งเข้ามาใหม่ใจสั่นเพราะสงสารน้องจับใจ น้ำฟ้าอ้าแขนรับพระจันทร์ที่โผเข้ามาซบเอาไว้เต็มอ้อมแขน พร้อมลูบหลังลูบไหล่ปลอบโยนคนที่ปล่อยโฮออกมากับอกเขาจนเสื้อชื้นน้ำตาไปหมด

“...นี่ดูท่าว่าคงจะเห็นข่าวแล้วล่ะสิ...ไม่เอาลูกไม่ร้อง...” คุณหญิงดารกานต์ทรุดนั่งลงข้างๆน้ำฟ้า ยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบศีรษะคนที่กอดเอวน้ำฟ้าเอาไว้อย่างหาที่พึ่ง พระจันทร์สะดุ้งเล็กน้อยตอนที่เธอแตะตัว จากนั้นจึงช้อนมองหล่อนด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ ก่อนที่มือน้อยทั้งสองจะยกขึ้นพนมแล้วกล่าวกับเธอเสียงเครือ

“ผมขอโทษนะครับคุณหญิง...ที่หลงรัก...ลูกของคุณ แต่ผมสัญญา...ว่าผมจะตัดใจ...”

“เด็กบ้านี่ มาขอโทษอะไร ฉันว่าอะไรสักคำรึยัง...” ดารกานต์ยกมือขึ้นไปหยุดการไหว้ของพระจันทร์ แล้วเป็นคนดึงร่างสั่นเทาของพระจันทร์มากอดเอาไว้เอง

“คุณหญิง...ผม...”

“เอาล่ะไม่ต้องร้อง...ถึงจะยังไม่แน่ใจแต่ยังไงเราก็ต้องพาพระจันทร์ไปตรวจ หลานแม่ทั้งคน ถ้าเขามาอยู่กับเราจริงยังไงแม่ก็ไม่มีทางปล่อยให้หลานแม่ต้องกำพร้าแน่ ต่อให้ต้องเถียงกับคุณศิลาจนแตกหักกันไปข้างแม่ก็ยอม!”

“เดี๋ยว...ก่อน คุณหญิง...พูดเรื่องอะไร...” พระจันทร์ผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดของหญิงตรงหน้าแล้วถอยตัวห่างออกมาเล็กน้อย ดวงตาเบิ่งกว้างพร้อมอาการปวดหัวที่เริ่มปวดตุ้บขึ้นมาอีกครั้ง

“พี่บอกเรื่องของเรากับคุณแม่หมดแล้ว...คุณแม่รู้แล้ว เรื่องที่พระจันทร์...อาจจะท้อง...”

   บรรยากาศภายในห้องเงียบงันลงไป เมื่อเจ้าตัวค่อยๆยกมือขึ้นมาวางทับลงไปที่หน้าท้องของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้าไปมาช้าๆแล้วพูดขึ้นเบาๆพร้อมรอยยิ้มที่ฝืดเฝือนเต็มที

“ไม่จริง ไม่ใช่หรอก...เรื่องบ้าๆแบบนั้น...”

“อย่าพูดว่าเรื่องหลานของแม่เป็นเรื่องบ้าๆนะพระจันทร์ แม่รู้หมดแล้วทั้งเรื่องที่เราสองคนรู้จักกันมาก่อนตอนอยู่ที่อังกฤษ และเรื่องคนไข้ในโครงการศึกษาพิเศษของทางโรงพยาบาลนั่นด้วย...แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น เด็กในท้องเราคือลูกตาอาทิตย์ใช่มั้ย แม่จะได้...”

“คุณแม่ครับ ใจเย็นๆก่อน น้องอาจจะยังตั้งตัวไม่ทัน...” น้ำฟ้ารีบยึดมือขาวนวลของหญิงสาวคนเดียวในห้องให้หยุดที่จะยกโทรศัพท์ขึ้น แล้วพยักหน้าบอกคุณหญิงดารกานต์ว่าตนจะคุยกับน้องเอง “...พระจันทร์ฟังพี่ดีๆนะ เมื่อคืนพี่หมอโทรหาพี่ บอกให้พี่พาเราไปอังกฤษเดี๋ยวนี้ เพราะอาการที่เราเป็นอยู่ตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก ว่าเราอาจจะ...ท้อง”

“แล้วพี่หมอ...รู้เรื่องของจันทร์ได้ยังไง ขนาดพี่ฟ้า...” พระจันทร์แทบจะกลืนเสียงหายลงไปในลำคอ เมื่อเห็นนัยน์ตาดุของน้ำฟ้าที่จ้องมองมาทางตน

“เพราะขนาดพี่จันทร์ยังไม่ยอมบอกเลยใช่มั้ย” น้ำฟ้าเอ่ย เสียงแข็งๆแต่แฝงแววน้อยใจเอาไว้เล็กๆ พระจันทร์ก้มหน้าหลบตาแล้วเอ่ยขอโทษแผ่วเบา “เอาเถอะ...เมื่อคืนมีเด็กในคลาสออนไลน์ของพี่หมอชื่อโรซาน่า ส่งอีเมล์ถามอาการเพื่อนของเธอกับพี่หมอ ว่าทั้งปวดหัวและอาเจียน พี่หมอบอกว่าเขาคงจะวิเคราะห์ว่าเป็นโรคเครียดหรือเพราะสาเหตุอื่นไปแล้วถ้าไม่ใช่ว่าท้ายอีเมล์ โรซาน่าลงชื่อของพระจันทร์ไปด้วย เพราะคิดว่าบางทีพี่หมออาจจะรู้จักเพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน...แล้วก็แจ็กพอต...พี่หมอรู้จัก ‘เรา’ สองคนดีจริงๆ”

“หมะ...หมายความว่า...คือ...ผม...” พระจันทร์เริ่มมีอาการหน้ามืดและวิงเวียนตีตื้นอาการปวดหัวขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามจะอดทนไว้ ดวงตากลมโตชื้นน้ำตาช้อนมองน้ำฟ้าและคุณหญิงดารกานต์แล้วก็พูดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูกจริงๆว่าสถานการณ์อย่างนี้เขาควรจะพูดอะไรดี

“เอาล่ะ แม่โทรจองตั๋วไปอังกฤษให้แล้วนะ เราจะไปที่นั่นกันสามคน ไฟลท์สามทุ่ม...พรุ่งนี้”

“คุณหญิง!...แต่...คือจันทร์...ไม่...”

“คุณศิลากับตาอาทิตย์จะไม่มีทางรู้เรื่องนี้แน่ เพราะเราได้ไฟลท์นี้ก็พอดีงานตาอาทิตย์เริ่ม ถึงตอนนั้นทุกคนคงจะไปรวมกันอยู่ที่งาน ไปฟ้า...ช่วยแม่เก็บของ...พาสปอร์ตน้องอยู่ในห้องอาทิตย์ใช่มั้ย แม่จะให้แหม่มเอากุญแจสำรองมาไขนะ...”

“ดะ...เดี๋ยวก่อน...ครับ จันทร์...อยากคุยกับพี่ยะก่อน...ได้มั้ยครับ...” น้ำเสียงแผ่วหวิววอนขอ เรื่องที่เพิ่งได้รับรู้ว่าพี่ยะกำลังจะแต่งงานยังไม่สั่นคลอนความรู้สึกที่ว่าพรุ่งนี้ตัวเองอาจจะต้องจากคนที่รักไปไกล...อย่างน้อยถ้าทุกคนเห็นควรว่าเขาควรจะไปอังกฤษเขาก็จะไป ขอแค่ได้คุยกับพี่ยะอีกครั้งก่อนก็พอ...

“...” น้ำฟ้าที่หันไปเปิดตู้เสื้อผ้าของน้องชายต่างสายเลือดหันมองสบตากับคุณหญิงดารกานต์ และเป็นหล่อนที่เป็นคนพยักหน้าอนุญาตให้พระจันทร์โทรหาสุริยะมณฑลได้

   โทรศัพท์สีเงินส่องประกายล้อแสงโคมไฟอยู่บนโต๊ะข้างเตียง พระจันทร์เอื้อมมือไปหยิบ เขากดเลขหนึ่งแล้วกดโทรออก มือสั่นเทายกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นมาปาดรอยน้ำตาแล้วก็ปิดปากตัวเองไว้เพื่อกลั้นก้อนสะอื้น สัญญาณเสียงรอสายในรอบแรกดังอยู่นานจนมันดับไป พระจันทร์ก็เฝ้าเพียรโทรหาซ้ำอีกครั้ง จนพอถึงครั้งที่สาม ปลายสายถึงได้มีคนตอบรับ

“ฮัลโหล...พี่ยะ...” พระจันทร์พยายามสกัดกลั้นเสียงสั่นของตัวเองเอาไว้อย่างสุดชีวิต

‘พระจันทร์...โทษที แต่ตอนนี้พี่กำลังยุ่งมาก มีอะไรหลายอย่างที่ต้องรีบจัดการให้เสร็จ...แต่เราโทรมาก็ดีแล้ว เพิ่งตื่นใช่รึเปล่า...’

“...อ...อืม...จันทร์เพิ่งตื่น ก็เลยโทรหาพี่ยะ เห็นเมื่อคืนไม่ได้กลับมา...” พระจันทร์อยากจะคิดว่าอุปาทานไปเองว่าได้ยินเสียงพี่ยะถอนหายใจยาวตอนที่เขาโกหกไปว่าเพิ่งตื่นด้วย...สงสัย คงไม่อยากให้เขารู้เรื่องนั้นจริงๆสินะ...

‘ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรบอก...แต่สาบานได้ว่าไม่ได้ไปเถลไถลที่ไหนแน่นอน’ ท้ายประโยคเหมือนจะติดเสียงหัวเราะแผ่วๆของคนปลายสายมาด้วย...อย่างน้อยก็ดีแล้วที่พี่ยะยังสบายดี...

“พี่ยะ...จันทร์ปวดหัว” ไม่ได้อยากจะอ้อนหรืออะไร เขาแค่รู้สึกยังไงก็พูดออกไปอย่างนั้น ก็ระหว่างพวกเขาสองคนเป็นอย่างนี้มาตลอดเลยนี่นา

‘พระจันทร์ พี่สั่งให้ตี้เฉินพาเราไปหาหมอแทนพี่แล้วนะ เรารู้สึกยังไง อาการไม่ดีตรงไหนต้องบอกหมอเขาให้หมดรู้รึเปล่า แล้วพี่จะโทรไปถามหมอเขาเองอีกทีว่าเราเป็นอะไร...’

“...แล้วจันทร์ก็อยากเจอพี่ยะ...ตอนนี้...เดี๋ยวนี้เลยได้มั้ย” ประโยคเอาแต่ใจที่ตัดสินใจพูดออกไป...เพราะรู้ดีว่ามันไม่มีทางได้รับการตอบสนองแน่ๆก็เลยกล้าพูด...

‘...พระจันทร์...พี่ก็อยากกลับไปหา อยากกลับไปกอดเราจะแย่แล้ว...แต่...’

“แต่ถ้าพี่ยุ่งอยู่ก็ไม่เป็นไร ไว้คืนนี้ก็ได้...พี่กลับบ้านมาหาจันทร์หน่อยได้มั้ย...จันทร์คิดถึง...” น้ำเสียงสั่นเครือในตอนท้ายทำให้สุริยะมณฑลรู้สึกใจแกว่งแปลกๆ บอกตามตรงว่าตอนนี้ที่ยืนอยู่นี่มีแต่ร่างกายของเขาล้วนๆ ส่วนหัวใจนั้นวิ่งไปหาเจ้าของเสียงที่โทรมาหานี่ตั้งนานแล้ว

‘เป็นอะไรครับ ป่วยแล้วงอแงเหรอ...’

“กลับมาหาจันทร์หน่อยได้มั้ย...จันทร์อยากเจอพี่ยะ...นะ” พระจันทร์เอ่ย ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าน้ำเสียงที่พูดวอนขอออกไปมันบาดลึกลงในจิตใจคนฟังขนาดไหน

‘...ก็ได้ครับ แต่ถ้าพี่กลับดึกมากก็ไม่ต้องรอนะ หลับไปก่อนได้เลย พักผ่อนให้มากๆนะ...อย่าลืมทานข้าวทานยาตามที่หมอสั่งด้วย พี่จะโทรถามอาการเรากับป้าแหม่มเป็นระยะ’

“...จันทร์รักพี่ยะ...”

‘พี่ก็รักเรา...รักมากที่สุด รู้มั้ย...’

“รู้...”

   ไม่มีคำพูดบอกลาอื่นใดอีกระหว่างคนสองคน เสียงคุยโทรศัพท์เงียบไปแล้ว...แต่เสียงร้องไห้ของพระจันทร์ยังดังแผ่วออกมาไม่หยุด...

   น้ำฟ้าเดินไปจับมือของมารดาบุญธรรมอย่างต้องการขอความคิดเห็น ภาพพระจันทร์นั่งร้องไห้กอดเข่าและแนบโทรศัพท์เอาไว้ที่อกทำให้เขาต้องคิดหนัก...

“แม่ครับ...”

“แม่รู้ว่าฟ้ากำลังจะบอกอะไรแม่...แม่ไม่ได้อยากแยกสองคนนั้นออกจากกัน ถ้าเป็นในสถานการณ์อื่นแม่คงจะให้พระจันทร์บอกตาอาทิตย์เรื่องนี้ไปแล้ว แต่ฟ้าก็เห็นท่าทีของคุณศิลากับลูกชายคนโตของแกไม่ใช่เหรอตอนที่เราสองคนไปคัดค้านเรื่องที่จะให้ตาอาทิตย์แต่งงานกับหนูหงส์...เพราะเราคัดค้านพวกนั้นไม่ได้เราถึงได้มาที่นี่กันไม่ใช่รึไง”

“แต่แม่ครับ เหมือนน้องไม่อยากจะไปเลย...”

“จะอยากหรือไม่อยากไม่ใช่สิ่งที่พระจันทร์จะตัดสินใจคนเดียวได้นะฟ้า ถ้าในท้องพระจันทร์มีหลานของแม่อยู่จริงแม่ไม่ยอมให้น้องอยู่ที่นี่แน่ น้องจะต้องได้รับการดูแลรักษาจากหมอที่ดีที่สุดเท่านั้น...ถ้าปล่อยไว้ที่นี่รับรองได้ว่าพระจันทร์คงจะเครียดตายเสียก่อนที่แม่จะได้เห็นหน้าหลาน...หึ ต้องมาทนเห็นพ่อของลูกในท้องตัวเองแต่งงานไปกับผู้หญิงคนอื่น...ไม่มีทางที่พระจันทร์จะทนได้แน่ๆ แค่เห็นข่าวตาอาทิตย์จะแต่งงานยังร้องไห้จะเป็นจะตายเลย แบบนี้ไม่ไหวหรอก”

“แต่ฟ้าว่าการที่น้องจะต้องอยู่ห่างจากคนที่เขารัก...จะไม่ยิ่งทำให้เขาเครียดหนักกว่าเดิมเหรอครับ”

“อาจจะเครียดในช่วงแรก แต่ที่นั่นเรามีหมอ...ยังไงแม่ก็มั่นใจว่าน้องจะปลอดภัยมากกว่าอยู่ที่นี่”

“แต่แม่ครับ ลองให้เขาได้คุยกันก่อน...”

“แม่รู้ว่าฟ้าเป็นคนขี้ใจอ่อน แม่ถึงไม่ไว้ใจเราให้มาพาน้องไปอังกฤษคนเดียวไง เชื่อแม่เถอะ...ทำแบบนี้น่ะดีที่สุดแล้ว พระจันทร์น่ะอ่อนแอเกินไป เขาควรที่จะได้เรียนรู้การอยู่โดยไม่มีอาทิตย์คอยปกป้องบ้าง...บางทีการที่เราจะทำให้ใครคนหนึ่งเข้มแข็งขึ้นมาได้ เราจะต้องยอมลดปีกที่คอยปกป้องเขาลง เพื่อให้ปีกของเขาได้ทำหน้าที่ปกป้องตัวเอง...ซึ่งนั่นคือเกราะกำบังชั้นที่ดีที่สุดสำหรับตัวเขาเอง แม่เชื่อว่าพระจันทร์เข้มแข็งกว่าที่เราคิดไว้เยอะ...” คนผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าอธิบายให้ลูกชายคนโปรดฟัง น้ำฟ้ายังคงมีท่าทีลังเลและกังวลใจฉายชัด แต่กระนั้นก็ไม่ได้ค้านความคิดอะไรของหล่อนอีก

“ส่วนสาเหตุหลักอีกประการที่เราควรแยกสองคนนี้ออกจากกันก็คือ...แม่ต้องการให้ตาอาทิตย์ทำทุกอย่างให้มันถูกต้องและชัดเจนเสียที แม่ไม่ชอบที่เขาทำเหมือนน้องเป็นของตาย เป็นสิ่งที่เขามั่นใจว่าเขาจับเอาไว้แน่นพอแล้ว ก็เลยทำสิ่งที่อยากจะทำทุกอย่างได้โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงจิตใจของพระจันทร์ เพราะยังไงซะพระจันทร์ก็ไม่มีวันที่จะไปจากเขาได้...แม่จะสั่งสอนให้อาทิตย์รู้ว่าเขาเข้าใจผิด ชีวิตคนนะลูก...ไม่ใช่หมาแมวหรือสัตว์เลี้ยงอย่างซิมบ้า ชิวชิว ที่จะรักเจ้าของได้จนหมดหัวใจโดยไม่แคร์ว่าเจ้าของจะทำร้ายร่างกายหรือด่าทออะไรพวกมันบ้าง...แม่ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าที่คุณศิลากับอาทิตย์ยอมจัดงานแต่งขึ้นในวันพรุ่งนี้นั้นมันคงจะมีสาเหตุสำคัญบางอย่างที่พวกเขาไม่ยอมบอกเราอยู่ แต่เราจะอยู่รอจนกว่าพวกเขาจะบอกเราไม่ได้...อาการของพระจันทร์ไม่ดีเลยฟ้าก็เห็น...”

   เหตุผลที่คุณหญิงดารกานต์เอ่ยออกมานั้นถูกต้องหมดทุกอย่าง เขาเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ แต่กระนั้นในหัวใจส่วนลึกก็อยากคัดค้านจุดไหนสักจุดหนึ่งในคำพูดนั้น แต่มันไม่มีช่องโหว่ให้น้ำฟ้าใช้งานได้เลย...ใจหนึ่งเขาก็อยากให้น้องได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่รัก อยากให้พูดปรับความเข้าใจกันก่อน บางทีสิ่งที่คิด หรืองานแต่งงานในวันพรุ่งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้...

คืนนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ทั้งอาทิตย์และพระจันทร์จะได้อยู่ใกล้กัน เขาหวังว่าทั้งคู่จะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด...ถ้าหากพระจันทร์ไม่ยอมพูดกับสุริยะมณฑลเรื่องลูกก่อนที่งานแต่งงานจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ น้ำฟ้าก็ภาวนาขอให้พระจันทร์อย่าได้มีเรื่องค้างคาใจกับคนรักอีกเลยก่อนจะไป เพราะเขาเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าทั้งคู่จะได้กลับมาพบกันอีกเมื่อไหร่...ลองว่าเรื่องนี้คุณหญิงดารกานต์มาลงมือเองแล้วล่ะก็ คุณสุริยะมณฑลคงได้กระอักเลือดแน่ๆ เขาเองโดนมากับตัว...

...อาการเกลียดแรง รักแรง และโกรธนานของคุณหญิงน่ะ...น้ำฟ้ารู้ซึ้งดีเลยทีเดียวล่ะ...

---------------------------------------------------------

ตอนเปลี่ยนวันที่ตอนเลยเพิ่งได้รู้ตัวเอง...ว่าอัตราการลงนิยายคือเดือนละตอน

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด *ถอนหายใจสังเวชความเฉื่อยของตัวเองแรงๆ :katai1: :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2014 17:53:34 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :z13:  คุณหญิงออกโรงเองอาทิตย์เจองานหนักแน่

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
มาแล้วววววเว้ยยยยยย นางพญามาประทับทรงเองแล้วเว้ยยยยยยยย

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ดี ดัดนิสัยพี่ยะ ซะบ้าง ทำเหมือนพระจันทร์เป็นของตาย ชิส์

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 o13

สม ที่ขุ่นหญิงแม่พูดมาถูกทุกอย่างโดยเฉพาะ การทำอะไรโดยไม่ปรึกษาตัดสินใจเอาเอง โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้


เอาให้หนักค่ะกระอักเลือดตายไปเลย ไอ้พี่ยะ เกลียด

Kathe

  • บุคคลทั่วไป
 :katai1: :katai1: :katai1:  กรีดร้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เคธไปดันที่เฟสบุ๊คมา ฮ่าๆๆๆ สมใจละทีนี้
.
.
.
 อร๊ายยยยยย พระจันทร์ท้องแล้ว สมน้ำหน้าพี่ยะ หุหุ  o18 o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด