เศษดิน
พบกันอีกครั้ง
น้องดิน - พี่แคน - พี่แสน
“We wish you a Merry Christmas;
We wish you a Merry Christmas;
We wish you a Merry Christmas and a Happy New Year.”
ผมร้องเพลงไป สายตาก็ทอดมองพระอาทิตย์ในยามอัสดง ส่วนมือก็ลูบตัวก้อนหินที่นอนหนุนตักตาปรือๆ ไปด้วย
วันนี้ไซเลอร์ติดประชุมร่วมกับหน่วยพิเศษของอีกสองอาณาจักร ก่อนออกจากบ้านไปก็บอกเราไว้แล้วว่าต้องกลับดึกไม่ต้องรอกินข้าวเย็น ผมกับก้อนหินก็เลยอยู่กันสองตัว เอ๊ย! อยู่ด้วยกันตามลำพัง วันนี้ผมก็ไม่มีธุระที่ไหน ก็เลยใช้ชีวิตเยี่ยงสล็อต กินอิ่มแล้วก็นอนแทบทั้งวัน พอตกเย็นก็พาก้อนหินมาเดินเล่นแล้วก็นั่งกินลมชมวิวที่ท่าน้ำ
“ถ้าเป็นทางโน้นวันนี้ก็คงตรงกับวันคริสต์มาสสินะ”
“ก๊าส” ก้อนหินร้องรับทั้งที่จะหลับมิหลับแหล่จนผมอดที่จะหัวเราะด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ผมละสายตาจากก้อนหินมาทอดมองพระอาทิตย์ตกดินแล้วรำลึกถึงความหลังต่อ
“นึกถึงตอนที่อยู่ที่นั่น วันคริสต์มาสจะเป็นวันที่สนุกมากเลย เพราะครูเทพ ครูมวยของเราจะจัดงานปีใหม่ให้ลูกศิษย์ในค่ายจันทรเทพล่วงหน้า เพื่อให้ทุกคนได้สนุกร่วมกัน แล้วค่อยไปฉลองวันปีใหม่กับครอบครัวทีหลัง ในงานนี่มีทั้งของกิน มีทั้งแลกของขวัญกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในค่าย มีทั้งจับของขวัญที่ครูเตรียมไว้เยอะแยะเลย
ว่าแล้วก็นึกถึงครู นึกถึงพี่แคนกับพี่แสนจัง ครูเทพเป็นครูมวยที่ใจดีมาก ตอนที่เจอกับไซเลอร์ครูอนุญาตให้ไซเลอร์ไปอยู่ที่ค่ายได้ด้วยนะ ส่วนพี่แคนกับพี่แสนก็เป็นพี่ที่สนิทด้วยที่สุดในค่าย
พี่แคนถึงจะปากไม่ค่อยดี แต่ก็จริงใจมาก พี่แกจะคอยมาช่วยสอนมวย สอนเรื่องการใช้ชีวิต คอยปกป้องไม่ให้ใครรังแก ส่วนพี่แสนบางครั้งถึงจะปากร้าย แต่ก็ใจดีมากๆ เหมือนกัน
พี่แสนจะคอยสอนนั่นสอนนี่ สอนการบ้าน สอนเรื่องการเข้าสังคม ซื้อนั่นซื้อนี่มาให้ตลอด ถึงจะชอบบอกว่าซื้อมาผิดประจำก็เถอะ เฮ้อ! ไม่รู้ป่านนี้พี่ๆ จะเป็นยังไงบ้าง”
“ก๊าสสสสส” ก้อนหินที่ตาสว่างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มองมาตาแป๋ว แล้วถามว่าอยากเจอไหม
“อยากสิ ไปเจอได้เหรอ” ผมถามด้วยความตื่นเต้น
“ก๊าสสส”
“ห๊ะ! ทำไมต้องนอน ให้ฝันเอาเหรอ ตลกละหิน”
“ก๊าส” ก้อนหินถอนหายใจพรืดเหมือนเซ็ง จนน่าจับมาฟัด มันลุกขึ้นนั่งแล้วตบพื้นแปะๆ ให้ผมนอนลง
“โอเคๆ นอนก็นอน”
เมื่อผมนอนหงายแล้วก้อนหินก็บอกให้หลับตา ก่อนจะเอามือมาวางตรงหน้าผาก เพียงครู่เดียวผมรู้สึกอุ่นๆ บริเวณหน้าผาก ก่อนที่สติผมจะดับวูบลง
“ก๊าสสส”
เสียงร้องเรียกของก้อนหินทำให้ผมรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมา จึงได้รู้ว่าตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ในสถานที่ๆ คุ้นตาและคุ้นเคย เพราะมันคือ...
เวทีมวย?
พร้อมกับ...
เป็ด? และควาย
“เอ่อ... หิน ที่บอกว่าอยากเจอน่ะพี่แคนกับพี่แสน ไม่ใช่เป็ดกับควายนะ เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย”
“เป็ดพ่อง”
“เชี่ยยยย เป็ดพูดได้” ผมกระโดดโหยง เมื่อเป็ดที่อยู่ตรงหน้าเปิดปากพูดขึ้นมา
“เชี่ยน้องดิน บอกว่าไม่ใช่เป็ดก็ไม่ใช่เป็ดสิวะ”
ผมกระพริบตาปริบๆ เมื่อเป็ดเท้าสะเอวด่า น้ำเสียงที่ได้ยินนั้นคุ้นๆ จนต้องตั้งใจฟัง
“พะ... พี่แคน?”
“ใช่ กูเอง”
ผมยิ้มแหยๆ เมื่อกวาดตามองสภาพพี่แคนที่เปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ก็จะให้เหลือเค้าเดิมได้ไงครับ ในเมื่อแต่ก่อนพี่แคนเป็นคน แต่ตอนนี้เป็นเป็ด?
“อย่าบอกนะว่า....” ผมละสายตาจากพี่แคนแล้วเงยหน้าขึ้นมองควายซึ่งมองมาที่ผมด้วยสายตาเซ็งๆ
“ใช่ พี่เอง” เสียงคุ้นหูที่ได้ยินทำให้ผมเบิ่งตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“พี่แสน! ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้กันล่ะครับ ไปทำอีท่าไหนถึงมาอยู่ในร่างเป็ดกับ เอ่อ... ควายได้ล่ะ”
“บอกแล้วไงว่ากูไม่ใช่เป็ด”
พอพี่แคนค้านขึ้นมา ผมจึงตั้งใจพิจารณาให้ดีขึ้น เห็นแล้วรู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่จะนึกออกว่าเคยเห็นสัตว์ชนิดนี้ที่ไหน ผมหันไปขอคำยืนยันจากก้อนหิน
“ก๊าส”
“อ้าว! แล้วมาอยู่มิตินี้ได้ยังไงล่ะ” ผมถามด้วยความงง ปกติสัตว์ชนิดนี้มีแค่ที่ไวเวิร์นไม่ใช่เหรอ
“นี่ตัวไรอะดิน ตัวเหี้ยเหรอ” พี่แคนเดินมาใกล้ๆ ยืนจ้องก้อนหินแล้วถามขึ้นมา
“ก๊าสสสสส”
“เฮ้ย! ใจเย็นหินใจเย็นๆ” ผมรีบคว้าก้อนหินขึ้นมากอดไว้ เมื่อมันทำท่าจะพุ่งไปหาพี่แคน ก้อนหินรู้ว่าตัวเหี้ยเป็นคำด่า เพราะผมเคยเล่าให้มันฟัง
“ฮ่าๆๆๆๆ”
ยังจะมีหน้ามาหัวเราะ! กวนตีนยังไงก็ยังกวนตีนอย่างนั้นนะพี่แคนเนี่ย
“ไร้สาระ” ควาย เอ๊ย! พี่แสนส่งสายตาหน่ายๆ ใส่พี่แคน
“คนเป็นควายมีสิทธิ์พูดอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ไอ้แคน!”
“พี่แสนใจเย็นครับใจเย็นๆ” ผมต้องรีบไปขวางพี่แสนไว้ เมื่อพี่แกทำท่าจะขวิดพี่แคนอยู่รอมร่อ แต่พี่แคนก็มิได้นำพา เพราะรู้ดีว่าพี่แสนไม่มีวันทำร้ายพี่แกไง ผมได้แต่ถอนหายใจเพลียๆ กับความเกรียนของพี่แคน จนเมื่อเห็นทุกคนเริ่มอยู่ในความสงบแล้วก็เลยถามเรื่องที่ข้องใจต่อ
“ตกลงไปไงมาไงถึงได้มาอยู่ในร่างนี้กันได้ครับ”
“พี่ประสบอุบัติเหตุ ตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ในร่างนี้แหละ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน” พี่แสนเป็นคนตอบก่อน
“กูตายแล้วอะน้องดินกูตาย ฮืออออ ทำงานอยู่ดีๆ ก็โดนเสาทับตาย ไม่รู้ว่าใครมันทำพลาด ไอ้เหี้ย! โคตรโหดร้ายอะ พอฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างนี้เลยเหมือนกัน” พี่แคนบอกพร้อมเบะปากทำท่าจะร้องไห้
“ช่วยอะไรได้ไหมหิน” เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของพี่ๆ ทั้งสองจบ ผมก็หันไปถามก้อนหิน
“ก๊าสสสสส”
“โชคชะตาอย่างงั้นเหรอ? แล้วพี่ๆ เค้าจะไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ก๊าสสสสสสส”
“อือ โล่งอกไปที” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อก้อนหินบอกว่าต่อไปคงไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่านี้แล้ว
“ทนกันไปก่อนแล้วกันนะครับ เอ่อ... สักวันคงจะดีขึ้น” ผมเอ่ยปลอบใจพี่ๆ ไป ก่อนที่จะถามต่อ
“แล้วพี่ๆ มีความสุขดีไหมครับ ลำบากอะไรรึเปล่า”
“ก็ดี อยู่ในร่างนี้ก็ไม่ลำบากอะไรนักหรอก แค่ต้องทนอยู่กับคนที่โง่ยิ่งกว่าควายเท่านั้นเอง แถมตอนอยู่ที่นั่นพี่ก็ความจำเสื่อมอีก จำอดีตไม่ได้เลย แต่พอเห็นดินก็จำได้ซะงั้น” พี่แสนพูดพร้อมกับทำหน้าเซ็งและงง ขนาดอยู่ในร่างควาย ผมยังรู้สึกได้ว่าพี่แกเซ็งคนที่พูดถึงและเซ็งชีวิตขนาดไหน
“กูก็เหมือนกัน ชีวิตก็สบายดี แค่ต้องทนกับไอ้เด็กเวรหน้าตายคนหนึ่งแค่นั้นเอง” พี่แคนพูดพร้อมกับทำหน้าเบื่อๆ ก่อนจะพูดต่อ
“แล้วมึงล่ะดิน ไปไงมาไงถึงได้มาอยู่กับตัวเหี้ยได้” พี่แคนยังคงปากหมา เอ๊ย! ปากเสียไม่หยุด
“ก๊าสสส”
“พี่แคน! ก้อนหินเป็นมังกรครับไม่ใช่ตัวเหี้ย ใจเย็นหินใจเย็นนนน” ผมบอกพี่แคนก่อนจะรีบรัดก้อนหินไว้แน่น เมื่อมันทำท่าจะโผออกจากอ้อมกอดไปฟัดกับพี่แคนอีกครั้ง
“มังกร? พี่ไม่ควรแปลกใจสินะ ต่อให้เป็ดบินได้ก็ไม่น่าแปลกใจแล้วละนะตอนนี้ แค่ชีวิตตัวเองก็แฟนตาซีจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่แล้ว” พี่แสนมองก้อนหินแล้วก็บ่นอยู่คนเดียว
“แล้วสบายดีไหม อยู่กับมังกรก็แสดงว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่โลกเราล่ะสิ เกิดอะไรขึ้น” พี่แสนหันกลับมาถามผมต่อ เมื่อพี่แคนกับก้อนหินยังคงจ้องตากันอยู่
“ตอนนี้สบายดีครับ ถ้าจะให้เล่าก็คงยาวเลย นั่งก่อนไหมครับ ไหนๆ ก็ได้มาเจอกันทั้งที เรามาผลัดกันเล่าเรื่องของตัวเองดีไหมครับ”
“ก็ดีนะ พี่ก็มีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะเหมือนกัน” พี่แสนบอกก่อนจะทิ้งตัวลงนอนก่อน ส่วนผมก็ขยับเข้าไปนั่งพิงเสาสังเวียน ก่อนที่พี่แคนจะเลิกจ้องตากับก้อนหินแล้วทิ้งตัวลงนั่งเหยียดขาข้างๆ พี่แสน คือ จะว่าน่ารักมันก็น่ารัก จะว่าตลกมันก็ตลก เพราะพี่แคนเป็นเป็ด เอ๊ย! เป็นสัตว์ที่ทำท่าทางเหมือนคนมาก ฮ่าๆๆๆๆ
ผมเล่าเรื่องของผมให้พี่ๆ ฟังก่อน ก่อนที่จะนั่งฟังพี่ๆ เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังบ้าง บางครั้งฟังไปก็หัวเราะไป บางครั้งก็อมยิ้ม บางครั้งก็อดจะลุ้นกับเรื่องราวที่พี่ๆ เจอมาไม่ได้
หลังจากเล่าเรื่องราวของตัวเองจนครบทั้งสามคน เราก็มานั่งรำลึกความหลังในช่วงที่ยังอยู่โลกโน้นกัน ผมนั่งฟังไปเรื่อยๆ จนรู้สึกง่วง แต่ก็พยายามฝืนเอาไว้ เพราะอยากอยู่กับพี่ๆ ให้นานที่สุด แต่ก็ฝืนได้ไม่นาน สุดท้ายก็เผลอหลับไป
“ก๊าสสสส”
ผมค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกของก้อนหิน เมื่อลืมตาตื่นเต็มที่ก็เห็นก้อนหินก้มมองมาตาแป๋วจนอดจะยิ้มให้ไม่ได้
“ขอบใจนะหิน เป็นของขวัญคริสต์มาสที่ดีที่สุดเลย”
“ก๊าสสสส”
ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วอุ้มก้อนหินมานั่งตัก มองแสงจันทร์ที่ทอแสงกระทบผืนน้ำแล้วก็ได้แต่ยิ้มเมื่อนึกถึงพี่ๆ ทั้งสองคน
ถึงก้อนหินจะสามารถเปิดประตูมิติได้ แต่ผมก็ไม่ควรที่จะนำพลังนั้นมาใช้พร่ำเพรื่อ มันควรจะนำมาใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวมมากกว่า แค่ได้รู้ว่าพี่ๆ มีความสุขก็พอแล้วละ
หวังว่าสักวันจะได้พบกันใหม่
สุขสันต์วันคริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะครับพี่แสน พี่แคน
********************************************
Merry Christmas & Happy New Year 2019
ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนนับถือ ดลบันดาลให้ทุกคนมีความสุขมากๆ
พบเจอแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังสมปรารถนาทุกประการนะคะ
ปล.หวังว่าจะมีไฟเขียนพี่แคนบ้าง ส่วนพี่แสนนั้นใกล้แล้ว คนเขียนอ่ะ ใกล้บ้าแล้ว 55555
รักเหมือนเดิม