- ไฮโซฯ ภพหรือภวินท์ กิจจานนท์ นักธุรกิจหมื่นล้านเจ้าของห้างฯ ดังลงรูปในไอจีในรอบปี!!! อู๊ยยยยย มาดามเม้าท์ไม่อยากจะเม้าท์เลยค่ะว่าหนุ่มหล่อไฮโซฯ คนนี้ไม่ค่อยอัพไอจีสักเท่าไร แต่พอคุณภพสุดหล่อได้อัพทีนั้นไอจีก็แทบแตกเลยค่าเพราะรูปที่คุณภพอัพนั้นก็ไม่ใช่รูปใครที่ไหน แต่เป็นรูปคุณนทหรือนทีริน กิจจานนท์ภรรยาผู้เป็นเซเลบริตี้ของวงการไฮโซฯ ซึ่งในภาพเป็นภาพที่ทั้งคู่ถ่ายคู่กันซึ่งเดาโลเคชั่นได้ว่าน่าจะเป็นทะเลที่ไหนสักแห่งค่ะและดูจากสายตาที่คุณภพมองคุณนทแล้วมาดามอยากสิงร่างคุณนทเลยค่าาาา ที่สำคัญนะคะแคปชั่นใต้ภาพนั่นก็หวานเสียจนมดแทบไม่อยากกลับรังเลยค่าคุณผู้โช้มมมมม-
-เป็ปเปอร์โป๊ะแตก! รีบลบรูปคู่ไฮโซฯ ภพแทบไม่ทันหลังเผลอแท็กไอจีภรรยาของอีกฝ่ายไป นักข่าวกรูเข้าสัมภาษณ์เรื่องราวทั้งหมดแต่เจ้าตัวได้แต่ปิดปากเงียบ ชาวเน็ตฯ รุมแห่ให้กำลังใจคุณนทก่อนจะตำหนิเป็ปเปอร์ว่าทำตัวไม่เหมาะสมก่อน -
-เป็ปเปอร์สร้างกระแสเก่ง!! อุ๊ปส์ การตลาดเก่ง เมื่อเจ้าตัวยอมให้สัมภาษณ์แล้วว่ากับไฮโซฯ ภพเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันและที่ได้ถ่ายรูปคู่กันเพราะได้ไปทำงานร่วมกันเท่านั้น ก่อนจะกล่าวขอโทษคุณนทภรรยาของไฮโซฯ ภพผ่านสื่อฯ สำหรับความผิดพลาดที่เกิดจากความไม่ตั้งใจของตัวเอง ซึ่งตนก็ไม่สบายใจเช่นกันหลังจากมีชาวเน็ตฯ ไปถล่มด่าตัวเองในไอจี…-กระแสข่าวดังของวงการบันเทิงที่กำลังเป็นที่นิยมในโลกโซเชียลต่างๆ ก็คงไม่พ้นเรื่องของภวินท์ นทีรินและเป็ปเปอร์ ซึ่งก็มาจากข่าวที่เป็ปเปอร์ได้สร้างกระแสและปั่นกระแสเสียจนนทีรินโดนว่าแต่นทีรินก็ทำได้แค่นิ่งเฉยแล้วจู่ๆ คดีกลับพลิกเมื่อสังคมเริ่มเสาะหาต้นตอและเรียบเรียงเหตุการณ์ว่าแท้จริงแล้วนั้นนทีรินไม่ใช่คนที่สมควรจะโดนด่าแต่เป็นเป็ปเปอร์ต่างหากที่ควรจะโดนกระแสสังคมตอกกลับว่ามีความประพฤติที่ไม่ดี
แม้นทีรินจะงงงวยและสงสัยกับข่าวที่ดันพลิกผันมาที่ทุกคนในโลกโซเชียลต่างก็มาให้กำลังใจเขาและกลับกลายเป็นว่าเป็ปเปอร์เป็นคนตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้เสียเองแต่ในใจลึกๆ เขาก็รู้สึกดีที่ไม่ได้โดยสังคมติฉินนินทาไปในทางเสียหายอย่างเช่นที่ผ่านมา
หลังจากที่ทุกคนเริ่มเสพข่าวลืออย่างมีสติกันแล้วนั้นความสัมพันธ์ของนทีรินและภวินท์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ภวินท์ไม่ได้บอกภรรยาว่าเขาจัดการเรื่องทุกอย่างอย่างไรกอปรกับที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สอบถามหรือตามติดอะไรเพราะทั้งคู่รู้ๆกันดีว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่สมควรที่จะนำมาพูดเพื่อให้เสียอารมณ์อีก
“อ๊ะ.. คุณภพ!”
ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีมือหนากอดมาจากทางด้านหลังพร้อมยื่นจมูกคมมาสูดดมความหอมหวานจากแก้มนวลฟอดใหญ่ทั้งสองข้างจนคนโดนขโมยหอมแก้มต้องเอียงหน้าหนี
“ตื่นแล้วไม่ปลุกพี่เลยนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยอ้อนภรรยาจนใบหน้านวลขึ้นสีแดงเรื่อ
“นทเห็นคุณกำลังหลับสบายนี่นา วันนี้ก็วันหยุดทำไมไม่นอนต่ออีกสักหน่อยล่ะครับ”
ภรรยาเอ่ยบอกเสียงนุ่ม เขาไม่ยอมปลุกอีกฝ่ายเพราะที่ผ่านมาภวินท์ทำงานหนักมากทั้งงานที่เดอะแกรนด์ฯ และงานที่บริษัทซูเปอร์คาร์ทำเอาเจ้าตัวแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งนทีรินเองก็ได้ดุอีกฝ่ายอยู่บ่อยครั้งและถ้าหากวันใดที่เป็นวันหยุดของสามี เขาก็เลือกที่จะให้อีกฝ่ายนอนหลับให้เต็มอิ่ม
“เมียตื่นแล้ว ก็อยากรีบตื่นมาเจอเมียนี่ครับ” ใบหน้าหล่อคมวางบนลาดไหล่มนพร้อมเอ่ยออดอ้อนก่อนจะฝังจมูกคมลงไปบนแก้มนวลอีกหลายๆ คราจนร่างบางต้องปรามเสียงดุ
“คุณภพ! อย่ารุ่มร่ามสิครับ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“เห็นก็เห็นสิครับ สามีหอมแก้มภรรยาผิดด้วยเหรอหืม”
แต่ภวินท์หาได้ใส่ใจคำดุนั้นไม่ จมูกคมสูดดมไปยังแก้มนวลซอกคอหอมกรุ่นหลายๆ ทีจนนทีรินหัวเราะเบาๆ เพราะความจั๊กจี้จนต้องร้องปรามอีกครา
“พอแล้วครับ พอแล้วนะ…”
เสียงเว้าวอนเชิงออดอ้อนของภรรยาทำเอาคนขี้แกล้งใจเต้นแรงเพราะใบหน้านวลที่ขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่ารักกอปรกับร่างบางขาวเนียนไปทุกส่วนทำเอาเขาแทบคลั่งจนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาชักหลงใหลในกายของภรรยาขึ้นทุกวันจนกลายเป็นเสพติดไปเสียแล้ว
“ทานข้าวเช้าเลยไหมครับ วันนี้นททำเกี้ยมอี๋ใส่เกี๊ยวปลาด้วยนะครับ” ร่างบางเอ่ยบอกสามีเสียงใสร่าเริง ในมือบางมีทัพพีคู่ใจเตรียมตักอาหารเช้าที่เขาบรรจงทำขึ้นด้วย
“หอมมากเลยครับ” จมูกคมสูดดมความหอมของน้ำซุปในหม้ออย่างสนใจ
“นทใส่กระเทียมพริกไทยเยอะน่ะครับ กลิ่นเลยหอมเป็นพิเศษ…”
นทีรินนำเสนออย่างภูมิใจกับอาหารที่เขาตั้งใจทำมากๆ
หม้อน้ำซุปกระดูกหมูที่ถูกเคี่ยวเป็นเวลานานพร้อมกับกระเทียมพริกไทยและรากผักชีที่โขลกรวมกันใส่ผสมลงไปนั้นทำให้ซุปหม้อนี้ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายได้เป็นอย่างดี เส้นเกี้ยมอี๋สีขาวที่ถูกลวกกับน้ำเดือดในอุณหภูมิที่พอเหมาะทำให้เส้นไม่เละเสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวปลาเจ้าดังที่นทีรินตั้งใจซื้อมาเพราะเจ้าสัวพีระนั้นโปรดปรานมากๆ
“แต่ไม่หอมเท่านท” ว่าไม่พอคนจอมเจ้าเล่ห์ก็กอดหมับเข้าที่ร่างบางอีกคราก่อนจะหอมไปที่ข้างขมับของภรรยาอย่างแสนรัก
“คุณภพ! หยุดเลยนะครับ อ.. อายพี่นวลบ้างสิครับ”
มือบางตีเข้าที่ไหล่แกร่งเบาๆ เป็นการปรามความเจ้าเล่ห์และชอบฉวยโอกาสของสามีที่มีเพิ่มขึ้นทุกวันจนเขาเองก็แทบปรามไม่อยู่แล้ว แล้วยิ่งเห็นสายตาเป็นประกายของพี่เลี้ยงคนสนิทของตัวเองแล้วนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกเขินอาย
“พี่นวลไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับถ้าผมจะกอดคุณหนูของพี่นวล” ภวินท์หันไปเอ่ยเป็นเชิงขออนุญาตจากพี่เลี้ยงคนสนิทของภรรยาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“กอดได้ค่ะคุณภพ แต่กอดแล้วห้ามปล่อยคุณหนูของพี่แล้วนะคะไม่งั้นพี่จะไม่ให้กอดอีกตลอดไปเลย”
พี่นวลเอ่ยบอกเสียงติดดุที่ดูเหมือนจะไม่จริงจังทว่าก็จริงจังมากเพราะใบหน้าที่สื่อออกมานั้นเธอตั้งใจให้ภวินท์ทำตามที่เธอพูดจริงๆ คุณหนูของเธอนั้นเจ็บปวดมามากเหลือเกินจนเธอเองก็อยากให้คุณหนูมีความสุขกับคนที่รักมาตลอดอย่างภวินท์เสียที
“ไม่ปล่อยแน่นอนครับ”
ภวินท์เองก็เอ่ยตอบเสียงหนักแน่นกลับไปเช่นเดียวกันสายตามุ่งมั่นและมั่นคงทำให้พี่นวลเบาใจไปได้มากจนต้องเผยรอยยิ้มดีใจออกมาก่อนจะหันไปยิ้มล้อเลียนคุณหนูของเธอ
“พี่นวลอ่า… ทำไมไม่ช่วยนทเลยล่ะครับ”
นทีรินเอ่ยบอกพี่เลี้ยงกระเง้ากระงอดใบหน้าหวานยู่ขึ้นอย่างขัดใจที่พี่เลี้ยงคนสนิทเข้าขากับสามีของเขาดีเหลือเกิน พี่นวลหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะแกล้งทำท่าไม่รู้ไม่ชี้
“พี่ไปจัดอาหารให้ท่านเจ้าสัวดีกว่าค่ะ คุณนทกับคุณภพกอดกันเสร็จแล้วก็ไปทานข้าวได้แล้วนะคะ… อ้อ คุณหนูขา ทานเกี้ยมอี๋ไม่ต้องใส่น้ำตาลแล้วนะคะเพราะหวานอยู่แล้ว”
พี่นวลทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มล้อเลียนเต็มที่จนคุณหนูหน้าแดงกว่าเดิมซึ่งนั่นก็เป็นที่พึงพอใจให้ทั้งภวินท์และพี่นวลเป็นอย่างดี
“พี่นวล! -- เห็นไหมครับ… โดนพี่นวลแซ็วใหญ่เลยอ่ะ” มือบางทุบไปที่ไหล่แกร่งหลายๆ ทีอย่างขัดใจเมื่อโดนล้อเลียน จะว่าขัดใจมันก็ใช่แต่เขาเขินมากกว่าที่ต้องโดนแกล้งแบบนี้
“ฮ่ะๆ เขินแล้วอย่าลงไม้ลงมือสิครับ” มือใหญ่ปัดป้องไปมาขณะหัวเราะชอบใจที่แกล้งภรรยาได้
“พอเลยครับ หยุดหัวเราะเลยไม่งั้นนทจะโกรธคุณภพแล้วนะ”
เสียงภรรยาขู่ไม่ได้ทำให้ภวินท์กลัวแต่อย่างใดกลับกันเขาดันชอบความน่ารักที่คนตรงหน้าแสดงออกมาเสียด้วยซ้ำ เพราะมันเหมือนแมวน้อยตัวเล็กๆ กำลังขู่อย่างไรอย่างนั้นเลย
“คนอารมณ์ดีหัวเราะแล้วผิดเหรอครับ” ดวงตาคมแสนกรุ้มกริ่มจับจ้องไปที่ใบหน้านวลที่ขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั่วแก้มขาว
“อารมณ์ดีที่ได้แกล้งนทเหรอครับ” ร่างบางยู่ปากใส่สามีอย่างงอนๆ แต่ก็ต้องรีบก้มงุดเขินอายอีกคราเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของสามี
“อารมณ์ดีที่ได้อยู่กับนทแล้วพี่มีความสุขต่างหากครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยชิดใบหูเล็กเบาๆ แต่ทว่ากลับดังชัดเจนในความรู้สึกของนทีริน เขาอมยิ้มไปพร้อมหัวใจที่พองโตจนคับอกและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขากำลังมีความสุขและไม่อยากให้ความสุขนี้จางหายไปเลย
และเขาก็อยากเก็บความสุขที่มันสุขล้นหัวใจไว้แบบนี้นานๆ เลย
***
ช่วงเวลาแห่งความสุขของภวินท์และนทีรินยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ แต่ทว่ามันยิ่งมากขึ้นทุกวันในความรู้สึกของคนสองคน การมีความรักหากมันถึงคราวจะสุขมันก็สุขเสียจนล้นหัวใจ ทั้งคู่ใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่แท้จริงโดยการไม่มีการแยกห้องนอนอีกต่อไปแม้นทีรินจะอยากกลับไปนอนห้องตัวเองแต่ก็พ่ายแพ้ให้แก่ความเจ้าเล่ห์ปนลูกอ้อนของสามีอยู่ร่ำไปจนเขาเองก็จนใจจะต้านทานไหวแล้วจึงต้องยอมจำนน
เฉกเช่นเดียวกับวันหยุดสุดสัปดาห์ในวันนี้ร่างสูงใหญ่นอนพาดไปกับโซฟาหลังใหญ่โดยที่ศีรษะหนุนตักนิ่มของภรรยาที่กำลังนั่งอ่านหนังสือวรรณกรรมต่างประเทศเล่มโปรดอยู่โดยมีคนตัวใหญ่คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง
“วันนี้เราไปเดตกันดีไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามภรรยาเสียงอ้อนพลางจับมือบางมาจรดจูบเบาๆ
“เดตเหรอ…” นทีรินทวนซ้ำก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยเป็นเชิงสงสัย
“ใช่ครับ นทอยากไปไหนอยากทำอะไรวันนี้พี่ภพตามใจทุกอย่างเลย” ภวินท์เอ่ยเอาใจภรรยาที่รักสุดๆ
“แน่ใจนะครับว่าจะตามใจนททุกอย่าง” นทีรินหรี่ตาเล็กน้อยอย่างนึกสนุกพลางเอ่ยถามย้ำเพราะเขากำลังคิดอะไรดีๆ ได้
“แน่ใจมากครับ” ถึงภวินท์จะสงสัยกับสายตาหวานซึ้งที่ฉายความสนุกของภรรยาแต่ก็ตอบรับเสียงหนักแน่นกลับไป
“อะไรครับ?”
ภวินท์ถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อภรรยาพาเขาลงมาที่สวนของที่บ้านและตรงหน้าเขาก็มีต้นไม้เรียงรายเต็มไปหมดจน ร่างสูงนึกแปลกใจเพราะเขาชวนภรรยาไปออกเดตแต่แล้วทำไมถึงมาจบที่สวนของที่บ้านแบบนี้ได้
“ปลูกต้นไม้ไงครับ” นทีรินเอ่ยบอกเสียงใสร่าเริงเป็นพิเศษ ใบหน้าหวานฉายแววความสนุกพร้อมรอยยิ้มหวาน
“หืม?”
“ก็เดตของนทคือการที่คุณภพต้องช่วยปลูกต้นไม้ทั้งหมดนี่ไงครับ”
นทีรินเฉลยสามี เพราะสำหรับเขาแล้วการเดตไม่ได้แปลว่าจะต้องออกไปนอกบ้านเสียหน่อย อยู่บ้านก็สามารถเดตด้วยกันได้เพียงแค่หากิจกรรมทำร่วมกันเท่านั้นเอง และที่สำคัญการปลูกต้นไม้ก็เป็นกิจกรรมที่เขาโปรดปรานมากพอๆ กับการทำอาหารเลยทีเดียว
“สบายมากครับ”
ภวินท์ยักคิ้วกวนๆ ให้ภรรยาก่อนจะถลกแขนเสื้อขึ้นในท่าทีสบายๆ แค่ปลูกต้นไม้เขาทำได้สบายๆ อยู่แล้วเพราะที่จริงแล้วตอนเด็กๆ เขาก็ช่วยนทีรินปลูกต้นไม้อยู่บ่อยครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นเริ่มจากต้นกุหลาบพวกนี้เลยครับ เอาลงดินให้หมดเลย” นทีรินชี้ไปที่ต้นกุหลาบสวยงามที่วางเรียงรายกันหลายต้นเลยทีเดียว
“หอม…”
ภวินท์จับต้นกุหลาบขึ้นมาดมเพราะกลิ่นของมันนั้นหอมชื่นใจโชยมาแตะจมูกจนเขาไม่สามารถละเลยที่จะดอมดมได้เลย
“นี่เป็นพันธุ์ดับเบิ้ลดีไลท์*ครับ กลิ่นมันจะหอมสดชื่นมากกว่าพันธุ์อื่นๆ พอเช้าๆ มามีแดดอ่อนๆ รับกับลมเย็นๆ กลิ่นมันจะฟุ้งตามลมหอมมากเลยครับ นทอยากปลูกไว้รอบๆ บ้านเช้าๆ มาเวลาเปิดหน้าต่างจะได้มีกลิ่นหอมๆ ของมันลอยขึ้นมาให้ดมทุกเช้าเลย”
นทีรินอธิบายก่อนจะเอาต้นกุหลาบขึ้นมาดมบ้าง เขาชอบกุหลาบพันธุ์นี้มากๆ เพราะว่ากลิ่นมันช่างหอมรัญจวนใจราวกับฉีดน้ำหอมกลิ่นกุหลาบลงบนร่างกายเลยทีเดียว และที่สำคัญนทีรินโปรดปรานน้ำหอมที่มีส่วนผสมของกุหลาบมากๆ
“แต่พี่ว่าไม่หอมเท่าอีกพันธุ์นึงนะ” ภวินท์เอ่ยขึ้นจนนทีรินทำหน้าสงสัย
“หือ? พันธุ์ไหนเหรอครับ”
“สำหรับพี่กุหลาบพันธุ์นทีรินคือกลิ่นที่หอมที่สุด”
เสียงทุ้มยั่วแหย่พร้อมดวงตาคมจับจ้องลึกลงไปในดวงตาหวานซึ้งพลางยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ก่อนจะไล่สายตาไปหยุดที่ริมฝีปากแดงฉ่ำราวกลีบกุหลาบจนเจ้าของใบหน้านวลวางหน้าไม่ถูกจนต้องหลบสายตาคมไปเอง
“ไม่มีกุหลาบชื่อนี้สักหน่อยครับ.. คุณภพมั่วที่สุดเลย”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างประหม่าปนขัดเขินเมื่อรู้ว่าพันธุ์กุหลาบที่ภวินท์กล่าวถึงนั้นมันไม่มีจริง แถมชื่อนั้นก็เป็นชื่อของเขาต่างหาก แต่กระนั้นก็อดเขินไม่ได้ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้ภวินท์อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาชอบบรรยากาศแบบนี้ ชอบที่ได้หยอดนทีรินเพราะมันทำให้เขาได้หวนกลับไปนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เขาและนทีรินมีด้วยกัน
นทีรินกำลังมองผู้ชายตัวโตกำลังปลูกต้นไม้อย่างขะมักเขม้นด้วยสายตาขบขัน ใบหน้าหล่อที่บนหัวประดับไปด้วยหมวกสานของคนสวนทำเขาอดที่จะยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายไม่ได้ ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มหวานประดับอยู่บนนั้นแสดงให้เห็นเลยว่าเขากำลังมีความสุขกับช่วงเวลาเหล่านี้
บรรยากาศเก่าๆ เริ่มกลับมาเขายังจำได้ดีในวันที่ภวินท์มาช่วยเขาปลูกต้นไม้เป็นร้อยๆ ต้นเลยทีเดียว ในวันนี้ก็เหมือนกันแต่ไม่เพียงแค่ปลุกต้นไม้เท่านั้น ภวินท์ยังออกแบบแปลงดอกไม้ก่อนจะจัดอย่างเป็นระเบียบ ถึงแม้จะดูไม่สวยหวือหวาทันสมัยเท่าใดนักแต่ก็ดูสวยเรียบง่ายจนนทีรินคนที่เชี่ยวชาญด้านการจัดสวนเองยังแปลกใจเลยว่าฝีมือของภวินท์นี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
“เสร็จแล้วครับ… เป็นไงบ้างพี่ปลูกพอใช้ได้ไหม”
ภวินท์ใช้มือปาดเหงื่อตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามอย่างลุ้นๆ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าสวนที่เขาตั้งใจออกแบบนั้นจะถูกใจนทีรินหรือเปล่า ถ้าถามว่าเขาจัดสวนเป็นไหมเขาตอบเลยว่าพอทำได้แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญเท่ากับนทีรินที่ชอบจัดสวนเป็นพิเศษซึ่งนั่นเลยทำให้เขาแอบกังวลว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่ชอบหรือไม่พอใจเอาได้
นทีรินไล่สายตาตรวจตราไปทั่วสวนดอกไม้ที่ถูกจัดตกแต่งโดยภวินท์ แต่แล้วเขาก็ต้องแอบยิ้มขำเมื่อมองใบหน้าลุ้นๆ ของสามีที่เดินตามมาไม่ห่าง
“อืม.. เป็นระเบียบเรียบร้อยดีครับ”
นทีรินเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มจนคนที่ทำหน้ากังวลคลายความกังวลออกมาได้โดยการพรูลมหายใจยาวออกมาอย่างโล่งใจที่อย่างน้อยสวนที่เขาตั้งใจจัดครั้งแรกก็ผ่านมาตรฐานจากภรรยา
“แต่ไม่ใช่แค่นี้นะครับ เสร็จจากนี้คุณภพต้องช่วยนททำอาหารเย็นไว้ทานเย็นนี้ด้วย” นทีรินเอ่ยบอกภารกิจการเดตให้กับสามีจนร่างสูงเบิกตากว้างแปลกใจอีกคราจนนทีรินหัวเราะออกมา
“ทำไม่ได้เหรอครับ” ร่างบางเอ่ยล้อพร้อมใบหน้าที่ติดขำ
“ใครว่าล่ะครับ ต่อให้พี่ไม่เก่งเท่านทแต่พี่จะทำให้ดีที่สุด” ภวินท์ยักคิ้วให้ภรรยาอย่างกวนๆ แต่ใบหน้าคมกลับฉายความหนักแน่นไว้ภายใน
ทั้งคู่เดินเข้ามาในครัวใหญ่ของคฤหาสน์สถานที่ที่นทีรินคุ้นเคยเป็นอย่างดีซึ่งต่างจากภวินท์ที่ไม่ค่อยย่างกรายเข้ามาในนี้สักเท่าใดนัก นทีรินให้แม่บ้านเตรียมของสำหรับทำอาหารไว้เย็นนี้ไว้เรียบร้อยแล้วเหลือแค่ไม่กี่อย่างที่ยังต้องจัดเตรียม ร่างบางให้สามีช่วยเตรียมผักและหั่นเนื้อสัตว์ต่างๆ ส่วนตัวเขาก็จะทำการปรุงรสและจัดตกแต่งจาน
“โอ๊ย!” เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้นจนนทีรินตกใจรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“คุณภพ! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ! อ๊ะ..” ความตกใจมลายหายสิ้นไปเมื่อจมูกคมกดลงมาบนแก้มนวลของเขาฟอดใหญ่
“ชื่นใจจัง” ใบหน้าหล่อคมไม่มีความเจ็บปวดใดๆ เจือปนเลยแม้แต่น้อยมีก็แต่สายตากรุ้มกริ่มและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เท่านั้นที่ประดับอยู่
“คุณภพ! นี่หลอกนทเหรอครับ”
เสียงใสแหวขึ้นเมื่อเขาโดนภวินท์หลอกอีกจนได้ ใบหน้าหวานสะบัดหนีงอนๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้คนขี้แกล้งสลดแต่อย่างใดกลับหัวเราะชอบใจขึ้นอีกต่างหากจนนทีรินหมั่นไส้
ทั้งคู่ทำอาหารช่วยกันไปจนเสร็จเรียบร้อยก่อนที่นทีรินจะให้พี่นวลยกสำรับอาหารขึ้นไปให้เจ้าสัวพีระเช่นเคย ส่วนเขาและภวินท์ในวันนี้เลือกที่จะตั้งโต๊ะที่ในสวนของบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและเพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับการเดตในวันนี้ จานอาหารที่ทั้งคู่ช่วยกันทำถูกวางเรียงรายเต็มโต๊ะพร้อมกับแชมเปญยี่ห้อดังอย่างดอม เปอริญง* ที่ภวินท์ตั้งใจซื้อมาเพื่อการเดตกับนทีรินวันนี้โดยเฉพาะ
เสียงแก้วกระทบกันดังขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะยกขึ้นดื่ม
“เหนื่อยไหมครับ” นทีรินเปิดประเด็นก่อนเพราะวันนี้เขาแกล้งให้ภวินท์ปลูกต้นไม้ให้ตั้งครึ่งค่อนวันเลยทีเดียว
“ไม่เลยครับ ถึงเหนื่อยแต่ก็มีความสุขดี”
เสียงทุ้มเอ่ยตอบภรรยาพร้อมรอยยิ้ม เขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอย่างที่เหนื่อยจากการทำงาน ความเหนื่อยในวันนี้มันคล้ายกับการได้ออกกำลังกายมากกว่าและเขาก็รู้สึกว่าการได้ปลูกต้นไม้และทำอาหารทั้งวันมันยังเหนื่อยเท่าที่เขาทำงานในบริษัทไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นแค่นี้ถือว่าเบสิกมากสำหรับเขา
“แล้วเบื่อไหมครับที่เดตกับนทวันนี้” เสียงหวานเอ่ยถามอีกครา
“ทำไมถามแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็คงไม่มีใครชวนเดตอยู่ที่บ้านหรอกครับ มันดูธรรมดาจะตาย”
นทีรินเอ่ยบอกตามที่ใจคิดเพราะถ้าเอาจริงๆ แล้วในความคิดของใครหลายๆ คนการเดตนั้นคือการที่คู่รักออกไปเที่ยวด้วยกันข้างนอกทำกิจกรรมที่สนใจร่วมกัน นทีรินเลยคิดว่านี่อาจจะเป็นเดตที่น่าเบื่อที่สุดของภวินท์เลยก็ว่าได้
แต่เขาคิดผิดเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของสามี
“ถึงนี่จะเป็นการเดตที่บ้านธรรมดาๆ ในสายตาคนอื่น แต่สำหรับพี่มันคือเดตที่มีความสุขที่สุด เพราะการเดตของพี่ก็คือการใช้เวลาร่วมนทในทุกๆ อย่าง”
ภวินท์เอ่ยบอกออกไปตามที่เขาคิดเพราะถึงเดตในวันนี้จะเป็นการเดตที่บ้านธรรมดาและกิจกรรมที่เขาและนทีรินทำร่วมกันก็แค่ปลูกต้นไม้กับทำอาหารทานด้วยกัน สำหรับภวินท์แล้วนี่แหละคือสิ่งที่เขามีความสุขที่สุด เพราะการได้ใช้เวลาร่วมกับนทีรินเป็นสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดและที่สำคัญการปลูกต้นไม้และการทำอาหารก็เป็นกิจกรรมที่เขาและนทีรินเคยทำร่วมกันในตอนเด็กๆ มันจึงทำให้เขาหวนคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นซึ่งเขาเองก็หลงรักช่วงเวลาเหล่านั้นมากๆ และในวันนี้นทีรินก็ได้ทำให้เขาหลงรักช่วงเวลานั้นอีกครั้ง
“พี่รักนทนะครับคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมดวงตาคมจับจ้องเข้าไปในดวงตาหวานซึ้งที่มองมาอยู่แล้ว
นทีรินยิ้มกว้างพลางเสตาหลบดวงตาคู่คมนั้นเพราะความเขินอาย เขาไม่ชินเลยเวลาที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของภวินท์เสียงทุ้มที่ดังขึ้นไม่ได้ดังเพียงในโสตประสาทแต่ยังคงก้องดังในหัวใจของเขาวนไปมาจนหัวใจแทบจะหลุดออกจากอก
“จะไม่พูดอะไรกับพี่หน่อยเหรอครับ” ภวินท์ยิ้มล้อคนขี้อายทำให้คนตรงหน้ายิ่งประหม่าทำตัวไม่ถูกไปกันใหญ่
“น… นทก็… รั..” เสียงหวานกำลังจะเอ่ยคำๆ นั้นออกมาแต่ทว่าถูกขัดด้วยเสียงของใครบางคนก่อน
“คุณหนูคะ! คุณภพคะ!”
พี่นวลวิ่งหน้าตาตื่นมาทางภวินท์และนทีรินจนทั้งคู่รีบลุกขึ้นยืนเพราะใบหน้าที่พี่นวลฉายมานั้นมีแต่ความตื่นตระหนกและสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“มีอะไรเหรอครับพี่นวล” ภวินท์เอ่ยถามขึ้นแล้วก็ต้องใจเสียมากกว่าเดิมเมื่อพี่เลี้ยงคนสนิทของภรรยามีน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
“ท่านเจ้าสัวค่ะ…” พี่นวลสะอึกสะอื้นก่อนจะเอ่ยออกมาเพียงเท่านั้นแต่ภวินท์และนทีรินต่างรับรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าบ้านไปเพื่อไปยังห้องของชายชราทันทีด้วยใจที่ร้อนรน ทั้งๆ ที่เคยเตรียมใจกันมานานแล้วแต่พอถึงวันนี้ที่เป็นวันที่ต้องสูญเสียทีไรไม่มีใครเลยที่จะทำใจได้อย่างที่ใครหลายคนเคยกล่าวไว้
ความตายเป็นการจากลาที่เราไม่อยากจะรับรู้แต่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้และต้องรับให้ได้…
To be continue
__________________________________________________________________________________
TALK WITH WRITER :: หวานได้ไม่เท่าไรขมก็มาเสิร์ฟแล้วจ้าาาา แง้ อากงเสียแล้วนะคะ ชีวิตต่อจากนี้ของทั้งคู่จะเป็นยังไงฝากเป็นกำลังใจให้น้องนทกับพี่ภพด้วยนะคะ สัญญาว่าจะพยายามไม่ขมมาก (มั้งนะ)
เจอกันตอนหน้าค่ะ
* กุหลาบพันธุ์ดับเบิ้ลดีไลท์ = เป็นพันธุ์กุหลาบที่ปลูกง่าย ออกดอกง่ายและมีกลิ่นหอมชื่นใจเป็นพิเศษ ลักษณะพิเศษของกุหลาบพันธุ์นี้คือกลีบดอกจะเป็นสีขาวครีมแซมสีชมพูแดงๆบริเวณปลายกลีบ
* ดอม เปอรีญง (Dom Pérignon) = เป็นแชมเปญยี่ห้อเก่าแก่ของฝรั่งเศสผลิตโดยโรงแชมเปญชื่อดังอย่างโมเอ้ เตช็องดง ยี่ห้อดอม เปอรีญงถือเป็นแชมเปญระดับสูงสุดของโมเอ้ เตช็องดง ซึ่งเริ่มมีการผลิตในปี ค.ศ.1921 โดยชื่อยี่ห้อตั้งตามนักบวชคณะเบเนดิกต์ที่เป็นผู้บุกเบิกแชมเปญที่ชื่อว่าดอมปีแยร์ เปรีญง (Dom Pierre Pérignon)