ตอนที่ 7
กัดไม่ปล่อย
“นี่…”
“…”
“ที่ตรงกลางนายจะเอาไว้เล่นฟุตบอลหรือไง”
เสียงเอื่อยเฉื่อยเอ่ยถามพลางมองไปยังที่ว่างตรงกลางระหว่างตัวเองและผม
ทำไงได้ล่ะ ก็วันนี้เขาทำให้ผมรู้สึกแปลกๆไม่เป็นตัวของตัวเองทั้งวันจนไม่กล้าจะนอนใกล้ๆเลยเนี่ย ผลก็เลยออกมาว่าผมเขยิบไปนอนอีกฝั่งจนแทบจะตกเตียงโดยเว้นระยะห่างจากเขามามากโข
“ก็…”
“เขยิบมา เดี๋ยวก็ตกหรอก”
ไม่ได้แค่ออกคำสั่ง แต่เขายังเอื้อมมาดึงแขนผมอีกต่างหาก เพียงออกแรงแค่ครั้งเดียว ตัวผมก็พุ่งเข้าหาเขาอย่างง่ายดาย
นี่กูแรงน้อยหรือมึงมันแรงควายกันแน่ฟะ!
“แบบนี้ก็ใกล้ไปนะผมว่า เดี๋ยวคุณจะนอนไม่สบาย”
“เลิกพูดแล้วนอนได้แล้ว”
“อ๊ะ เดี๋ยว เหวอ!”
เป็นอีกครั้งที่ผมต้องร้องเหวอให้กับการกระทำของเขา!
คุณจักรวาลผลักผมให้นอนลงบนท่อนแขนเขาที่กางยื่นออกไปโดยที่ผมนอนตะแคงหันหลังให้เขา แผ่นหลังชนกับแผงอกกว้างแบบแนบสนิท
ปะ…แป๊บนะ ขอตั้งสติแป๊บหนึ่ง!
นอนท่านี้มันเสียวสันหลังยังไงชอบกล
“ฝันดีนะ หมาน้อยของฉัน”
ปลายคางมนเกยเข้ากับหัวของผม มืออีกข้างที่ว่างพดผ่านลำตัวคล้ายกับจะกอดผมกรายๆ ในห้องเงียบและมืดสนิท แสงไฟจากด้านนอกส่องสว่างพอให้เห็นเพียงรำไรเท่านั้น
ฟี้…ฟี้…
เสียงลมหายใจของเขาดังสม่ำเสมออยู่เหนือหัว ท่าทางจะหลับไปแล้วแน่ๆ ดูเขาจะเหนื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอุตส่าห์รีบทำงานและไปหาผมที่โรงเรียน ช่วยเหลือผมที่กำลังถูกรังแกเอาไว้ พาผมออกมากินข้าวข้างนอก ทำแผลให้
ไม่เข้าใจเลยว่าการเป็นหมามันทำให้ผมสบายไดขนาดนี้เลยเหรอ
คิดไปก็เท่านั้น สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้คือทำยังไงผมถึงจะหลับ! เล่นมานอนกอดกันเหมือนผัวเมียแบบนี้ใครมันจะไปหลับลงวะ!
ไม่สิ ก็ไอ้คนด้านหลังผมมันหลับไปแล้วนี่นา
เวรกรรมเลยมาตกอยู่ที่กู ใจเต้นแรงขนาดนี้จะไปหลับได้ยังไงกันเล่า อ๊ากกกก!
“ตายแล้วคุณไทม์ เป็นอะไรไปคะเนี่ย ทำไมขอบตาคบ้ำเป็นหมีแพด้าอย่างนี้ล่ะคะ”
‘ป้าจี’ แม่บ้านที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกินและเตรียมเสื้อผ้าให้พุ่งเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ผมนั่งโงนไปโงนมาอยู่ที่โต๊ะอาหารมาได้พักใหญ่แล้ว
จะให้บอกยังไงล่ะว่าเม่อคืนแทบไม่ได้นอนเพราะไอ้คุณจักรวาลมันกอดแน่นไม่ยอมปล่อย!
“ผมคิดเรื่องเรียนมากไปหน่อยนะครับป้า”
“ไม่เอานะคุณไทม์ ถึงจะรักเรียนมากแค่ไหนแต่ก็ต้องมีพักผ่อนกันบ้าง นี่ถ้าคุณไทม์ไม่สบายขึ้นมา มีหวังป้าโดนนายท่านดุแย่”
“ผมจะระวังแล้วกันนะครับ”
ได้แต่ยิ้มแหยๆกลับไป ป้าจียกข้าวต้มกุ้งมาวางไว้ตรงหน้า มันส่งกลิ่นหอมฟุ้งยัวน้ำลายผมโคตรๆ รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเลย ผมกำลังจะได้กินกุ้งเหรอเนี่ย!
“ทานสิคะ เดี๋ยวจะได้ไปโรงเรียน”
“ขอบคุณมากนะครับ น่าอร่อยมากเลย”
ว่าแล้วก็ลงมือจ้วงกินเหมือนคนตายอดตายอยากมาหลายปี
เพียงแค่คำแรกเข้าปาก ผมก็แทบจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจว่า…โอ้ สวรรค์! รสชาติของกุ้งมันเป็นแบบนี้นี่เอง อร่อยจนหยุดกนไม่ได้เลย!
“อ๊ะ นายท่านมาพอดีเลย จะรับข้าวต้มด้วยไหมคะ เดี๋ยวป้าไปตักให้”
“ไม่เป็นไร ฉันมาเพาะมีเรื่องจะคุยกับหมาน้อยนิดหน่อย เดี๋ยกว็จะไปแล้ว”
“ค่ะ งั้นเดี๋ยวป้าไปในครัวก่อน ถ้าคุณไทม์ต้องการอะไรเพิ่มเรียกป้าได้เลยนะคะ”
“อ๋อ ครับ ขอบคุณมากนะครับป้าจี”
ป้าจีเดินกลับเข้าไปในครัว ในห้องอาหารเลยเหลือแค่ผมกับคุณไทม์
วันนี้เขาก็ใส่ชุดสีดำอีกแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงตอนนี้ ผมเห็นเขาใส่แต่เสื้อผ้าสีดำ เวลาไปทำงานก็จะเป็นเชิ้ตสีดำ กางเกงดำ สูทดำ รองเท้าดำ เวลานอนก็จะเป็นชุดนอนสีดำ แต่งตัวอย่างคนกับไว้ทุกข์
“คุณมีอะไรกับผมเหรอครับ”
“ของนาย”
พูดพลางส่งซองสีน้ำตาลขนาดเท่าซองจดหมายมาให้ ผมรับมาอย่างงงๆก่อนจะเปิดดูข้างใน
“นี่มัน…!”
“เงินเดือนของนาย จะได้ไม่ต้องเอาข้าวจากที่บ้านไปกิน แล้วก็เผื่อมีกิจกรรมอะไรที่โรงเรียนหรือว่านายอยากได้อะไร”
“แล้วทำไมคุณต้องให้ผมด้วยล่ะครับ แถมยังเยอะขนาดนี้อีก!”
แบงก์พันเป็นปึกๆ…
เกิดมาไม่เคยจับเงินเยอะขนาดมาก่อนเลยให้ดิ้นตายเหอะ!
“ฉันให้ก็เพราะนายเป็นหมาน้อยของฉัน”
“แต่นั่นมันก็เพราะผมมาเพื่อขัดดอกหนี้สิบล้านไม่ใช่เหรอครับ!”
ลูกหนี้ที่มาเพื่อขัดดอกแต่กับได้เงินรายเดือนจากเจ้าหนี้เยอะแยะบนโลกนี้มันมีซะที่ไหนกันเล่า!
“ฉันไม่ชอบตอบคำถามซ้ำๆหรืออธิบายอะไรมากมายนะ เอาเป็นว่ารับไว้ นายจะไม่ได้ถูกใครดูถูกอีก เพราะฉันคงไม่ว่างไปช่วยนายได้ทุกครั้ง”
“แต่ว่า…มันเยอะเกินไปนะครับ”
“…”
“ถ้าคุณยืนยันที่จะให้ผมจริงๆล่ะก็…”
ผมหยิบเงินในซองออกมาจนเกือบหมด เหลือไว้แค่สามใบเท่านั้น
“ผมขอแค่นี้ก็พอครับ”
“แน่ใจนะ”
“ครับ ไว้ถ้าผมมีเรื่องจำเป็นต้องใช้จ่ายจริงๆผมจะบอกคุณ แต่ว่าตอนนี้น่ะ…ผมขอแค่นี้ก็พอ นะครับ นะ…”
ตอนท้ายแอบเล่นเสียงอ้อนเล็กน้อย ผมเพิ่งอายุแค่สิบแปดและยังไม่จบชั้นมัธยมปลาย จะให้มีเงินรายเดือนใช้เป็นแสนๆแบบนั้นคงไม่ไหว!
“ก็ได้ๆ ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนหรอก”
คุณจักรวาลพยักหน้ารับ เขายอมรับเงินที่เหลือคืนไปก่อนจะมองหน้าผมสลับกับข้าวต้มที่อยู่บนโต๊ะ
“เอ่อ…กินด้วยกันไหมครับ เดี๋ยวผมไปตักให้”
ถามพร้อมกับลุกขึ้นเตรียมจะไปตักข้าวต้มมาให้เขา แต่คุณจักรวาลกลับดักผมด้วยการเอามือข้างหนึ่งเท้าไว้กับโต๊ะ ส่วนมืออีกข้างเท้ากับพนักเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ จนผมต้องทิ้งตัวลงนั่งอีกรอบ ร่างสูงก้มหน้าเข้ามาใกล้
“ไม่ต้อง สำหรับฉัน…”
“…”
“แค่นี้ก็พอ”
แผล่บ…
“!!!”
ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง ร่างกายแข็งเป็นหินด้วยตกใจกับการกระทำอันไม่คาดคิดของอีกฝ่าย! ผมเหลือบตามองคุณจักรวาลที่แลบลิ้นให้ผมดูเล็กน้อย ตรงปลายลิ้นเขามีเม็ดข้าวจากข้าวต้มที่ผมกินอยู่ มันจะไม่น่าตกใจเลยถ้าไอ้เม็ดข้าวนั่นเขาไม่ได้ใช้ลิ้นมาเลียมันไปจากตรงมุมปากของผม!
กูแค่กินข้าวติดปากหน่อยเดียว มึงเล่นกันอย่างงี้เลยเรอะ!
“แล้วเจอกัน”
มือหนายีหัวผมเบาๆก่อนจะเดินออกไป ทิ้งเอาไว้เพียงร่างที่ไร้วิญญาณเพราะสัมผัสที่ได้รับอย่างกะทันหันนั้นมันยังไม่จางหายไป
คล้อยหลังเขาไปแล้ว ผมยกมือขึ้นปิดหน้าที่ร้อนฉ่าของตัวเอง สะ…เสียงหัวใจ เสียงหัวใจมันดังจนเหมือนจะระเบิดเลย!
ที่สำคัญ…มุมปากตรงที่ลิ้นของเขาสัมผัสก็…
“บ้าเอ๊ย…”
ทำไมผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย
“จอดที่เดิมใช่ไหมครับคุณไทม์”
“ครับพี่เข้ม”
ตอบรับคนขับรถที่มาส่ง พี่เข้มเป็นคนขับรถที่คุณจักรวาลให้มาคอยรับส่งผมทุกวัน รูปร่างหน้าตาพี่เขาเข้มสมชื่อจริงๆนะ
ผมลงจากรถแล้วเดินต่อไปโรงเรียนเหมือนปกติ จะไม่ปกติก็ตรงที่ผมยังสลัดเรื่องเมื่อเช้าออกไปจากในหัวไม่ได้เลย คิดยังไงก็ไม่เข้าใจ ทำไมคุณจักรวาลถึงทำแบบนั้นกับผม หรือเพราะเขาเห็นว่าผมเป็นน้องหมาจริงๆ แต่เฮ้ย! ยังไงผมก็ผู้ชายนะ มาทำอะไรแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกันมันไม่ออกจะแปลกไปหน่อยหรือไง
ไม่หน่อยสิ
แปลกมากกกกกกกกกเลยต่างหาก!
ซุบซิบๆๆๆๆ
อ่า…
อย่างที่คิดไว้เลย ทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียน นักเรียนคนอื่นๆรวมถึงครูอาจารย์ก็พากันถอยห่างและกระซิบกระซาบกัน แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรไปมากกว่านั้น บางทีเรื่องที่ผมเป็นหมาน้อยของคุจักรวาลอาจจะแพร่ไปทั่วแล้วก็ได้
ตกลงมันดีหรือไม่ดีกันนะ ปฏิกิริยาตอบกลับแบบนี้จากทุกคนน่ะ
ไม่สิ ไม่เหมือนเดิม ผมรู้สึกว่าสายตาที่พวกเขามองมามันแปลกไป ไม่ใช่ความหวาดกลัวหรือสมเพชเหมือนทุกที ให้ตายสิ สังหรณ์ใจแปลกๆอีกแล้ว!
ฟิ้ววววว~~
แปะ!
“โอ๊ะ!”
อะไรบางอย่างลอยมาแปะเข้าที่หน้าผมอย่างจังจนต้องหยุดเดิน ผมหยิบเอากระดาษที่ลอยมาจากไหนก็ไม่รู้ออกจากหน้า ก้มมองดูเนื้อหาที่อยู่ในกระดาษอย่างสนใจ
‘ขายตัว! ไอ้ไทม์ชั้นมอหกขายตัวให้เจ้าพ่อคนดังแลกเงิน มีเสี่ยกระเป๋าหนักมากมายแห่ซื้อตัวมันในราคา XXX,XXX ต่อคืน’
“นี่มัน…”
ในกระดาษไมได้มีแค่เนื้อหาที่หมายถึงผมเท่านั้น แต่ยังมีภาพที่ตัดต่อผมกับผู้ชายอีกมากมายกำลังมีอะไรกันรวมอยู่ด้วย!
ฟิ้ววววว~~
กระดาษอีกแผ่นที่เนื้อหาเหมือนกันเป๊ะปลิวมาตามลมหยุดอยู่ตรงปลายเท้าอีกแผ่น ผมก้มลงเก็บมันขึ้นมาก่อนจะขยำกระดาษทั้งสองแผ่นนั้นทิ้ง แต่ทว่า…
ฟิ้วววววว~
มีกระดาษปลิวมาอีกหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า…! ไม่สิ! กระดาษมากมายที่เนื้อหาเหมือนกันหมดปลิวว่อนอยู่บนฟ้า กระจายไปทั่วทั้งโรงเรียน!!!
ผมเงยหน้ามองไปด้านบน ซึ่งข้างหน้าคือตึกเรียนที่มีดาดฟ้าอยู่ และบนดาดฟ้านั่นก็…
ไอ้เฟี้ยว!!!
มันกำลังโปรยกระดาษพวกนี้ลงมาจากบนดาดฟ้า ต่อให้ผมไล่เก็บเท่าไหร่ก็คงเก็บไม่หมดอยู่ดี ดูท่าจะมีพิมพ์มาเยอะ
จะเล่นกันแบบนี้ใช่ไหม มึงกะจะกัดกูไม่ปล่อยเลยสินะ!!!
‘ขายตัวด้วยแหละ’
‘ที่แท้ก็ขายตัวให้คุณจักรวาล’
‘ทุเรศ’
‘น่ารังเกียจ’
‘ขยะแขยงชะมัด’
‘คนแบบนี้ ไม่น่ามาอยู่โรงเรียนเดียวกับพวกเราเลย’
‘น่าจะตายไปซะ รกโลก’
ไม่ใช่นะ…
เข้าใจผิดแล้ว…
มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย!!!
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพตอนที่เจ็ดต่อแล้วจ้า ความร้ายกาจของเฟี้ยวยังคงไม่หมดแค่นี้ ไม่รู้ว่าน้องไทม์จะสามารถรับมือได้หรือเปล่า หรือว่าท่านจักรวาลจะเป็นฮีโร่พิทักษ์น้องไทม์โผล่มาช่วยไว้อีก อยากรู้จริงๆเลยนะว่าเพราะอะไรเฟี้ยวถึงเกลียดท่านจักรวาลและกกลั่นแกล้งรังแกน้องไทม์ขนาดนี้?
ตอนหน้าห้ามพลาม การปรากฏตัวของตัวละครสำคัญอีกหนึ่งคนในเรื่อง…จะเป็นใครนั้นต้องรอติดตามจ้า