ตอนที่ 21 Recall
การเตรียมตัวสำหรับเดินทางของอินและพีทไม่ได้วุ่นวายมากนัก หลังจากเขาบอกให้มอสจองตั๋วเพิ่มแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น แม่ของเขาขับมาส่งอินและพีทที่สนามบิน เพราะมอสตั้งแต่จองไฟล์ทที่ออกในวันเดียวกันเลย จะได้มีเวลาเตรียมตัวเดินทางจากอุดรธานีไปยังหนองคายซึ่งคงต้องต่อรถกันไป
เมื่อมาถึงสนามบิน อินและพีทไม่มีเวลาอะไรมากนัก เนื่องจากพวกเขาสายเพราะรถติด จึงรีบเช็คอินและวิ่งขึ้นเครื่องกันหน้าตั้ง กว่าจะได้เจอคนอื่นๆก็คือหน้าเกตแล้ว มอสส่ายหน้าให้เขาแว้บหนึ่ง เพราะคิดว่าเขาจะพลาด และเมื่อขึ้นเครื่อง เขาก็พบว่าโฟล์คได้มากับพี่พนักงานบาร์คนนั้น คนที่เขาเคยพบ แต่ไม่ได้ทันจะได้พูดคุยกัน เขาก็ถูกจับแยกไปนั่งอีกที่หนึ่ง
“เห้ย จะนั่งไหม” พีทร้องถาม ขณะที่อินหันไปมองโฟล์คนานเกินไป
“อ๋อโทษที” อินนั่งลงที่ริมหน้าต่าง พลางนั่งลงอย่างใช้ความคิด ขณะที่พีทมองไปรอบๆอย่างงงๆ
“นึกว่าจะมาโฟล์คเค้าสองคนซะอีก” พีทร้องถาม “ใครวะ ไม่รู้จักใครเลย”
“เพื่อนสมัยเรียนอ่ะ โรงเรียนเก่า” อินตอบ
“ก่อนที่จะย้ายมา ม.6 อ่ะนะ”
อินพยักหน้ารับ ก่อนที่พนักงานต้อนรับจะเริ่มแจ้งเรื่องความปลอดภัย และเครื่องก็เริ่มออกเดินทาง
..........
“โอเค งั้นเดี๋ยวพวกกู ออกจากอุดรก่อน แล้วเดี๋ยวยังไงค่อยว่ากันโอเค๊” มอสพูดขณะเดินไปตามทางออกของสนามบิน “อ่าๆ ใจเย็นมึง พวกกูเพิ่งจะมาถึงเนี่ย อ่าๆ ไว้เจอกัน”
“เบนซ์ มันว่าไง” เบนซ์ถามมอส
“เดี๋ยวมีรถตู้มารับ เดี๋ยวพวกเราไปโรงแรมกันก่อน เก็บของให้เสร็จ แล้วค่อยไปวัด” มอสตอบ “แล้วเดี๋ยวเรื่องเที่ยวเชี่ยไรก็ค่อยว่ากันอีกที”
“เอ้อ ยังไม่ได้รู้จักกันเลย แนะนำกันก่อนมั้ย มัวแต่วุ่นๆกันที่สนามบิน” เบนซ์หันไปมองรอบๆ “เอ่อ...เริ่มที่กูก่อนละกัน นี่โบว์ น้องสาวกู”
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวหน้าตาน่ารัก ที่พวกเขาเคยเห็นอยู่ครั้งสองครั้งสมัยเรียน ยกมือไหว้สวัสดีพี่ๆทุกคน “รบกวนด้วยค่ะทุกคน พอดีหนูเบื่อๆ เลยขอติดมาด้วย”
“สบายๆน้อง” มอสกล่าวแช่มชื่น ซึ่งถ้าอินจำไม่ผิด ก็เหมือนว่ามอสก็เคยพยายามจีบเธออยู่พักนึงสมัยที่พวกเขาเรียนกันอยู่เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเบนซ์ก็ไปปารีสซะก่อน แล้วก็แยกย้ายกันไป
“แล้วคุณล่ะครับคุณโฟล์ค” เบนซ์หันไปยังโฟล์คที่เหมือนกับว่าโฟล์คและพี่บอล กำลังชวนกันดูร้านของฝากที่อยู่ไม่ไกลกัน อินหลบสายตามาอย่างอึดอัด เมื่อเห็นทั้งคู่
“เห้ย เพื่อนเรียกคับผม” มอสย้ำอีกครั้ง และนั่นทำให้โฟล์คหันมามองเพื่อนๆ ขณะที่พี่บอลเอามือมาโอบไหล่โฟล์คไว้
“ว....ว่า” โฟล์คร้องถาม
“โอ้โห ขอโทษพี่นิดนึงนะคับ ... ไอ้เวร มึงไม่แนะนำเพื่อนๆหน่อยหะ เออ ไอ้นี่” มอสว่าต่อ
“อ๋อ...โทษที เอ่อ... ทุกคนนี่พี่บอล เค้าเป็นพี่บาร์เทนเดอร์ที่ร้านดาดฟ้าอ่ะ คือกูทำที่นั่นตั้งแต่จบ ม.6 แล้วก็เลย...”
“พี่เป็นแฟนโฟล์คคับ” พี่บอลยิ้มกว้าง ก่อนจะมองไปที่ทุกคน
“อ้ออออ” มอสอ้าปากค้างนิดหน่อย ก่อนที่จะเกิดเสียงเงียบกันทั้งวง “เอ่อ... สวัสดีค้าบ”
มอสได้สติทำลายความเงียบก่อนด้วยการเอ่ยทักทาย ซึ่งนั่นทำให้ทุกคนกล่าวทักทายตามกันหมด รวมถึงอินที่มองนิ่งๆ และก้มหัวให้นิดหน่อย
“ก็..นั่นแหละ” โฟล์คยิ้มกว้าง ขณะที่มองทุกคนอยู่เช่นกัน
“ขอติดมาด้วยนะ คงเหมือนน้องคนนั้น อยากมาเที่ยวบ้าง” บอลกล่าว “แล้วน้องอ่ะ...อินป่ะ...มากับใครคับเนี่ย”
บอลชี้มายังอินที่ยืนอยู่ตรงนั้น ขณะที่ทุกคนก็มองมา
“เพื่อนภาคมันอ่ะพี่ ชื่อพีท” โฟล์คตอบแทน “เค้าอยู่บ้านเดียวกันด้วย”
“อ้าวเหรอ” มอสหันไปมอง “งั้นก็รุ่นเดียวกันดิ”
“อ่า...ใช่คับ” พีทยิ้มรับ “คือพอดีอินมัน...”
“พีทเป็นแฟนกูเองอ่ะ” อินพูดขึ้นบ้าง และนั่นทำเอาพีทหันไปมองอินและเงียบสนิท ขณะที่มอสทำหน้าเหวอมากขึ้นเป็นสองเท่า
“เอ่อ....”
“ก็คงเหมือนพี่บอล ผมกับมันอยากมาพัก หลังจากปิดพรีเซนต์แล้ว” อินพูดและยิ้มให้โฟล์ค ที่มองมาทางอินด้วยสายตาว่างเปล่า
“โอ้...ดี ดีเลย...งั้น...เอ่อ.... นั่นๆ ...รถตู้มาแล้วคับผม” มอสชี้ไปยังรถตู้ที่กำลังขับมาจอดเทียบ “โชคดีจังมาซะที มามาทุกคน ยกกระเป๋าคับ”
มอสออกคำสั่ง ขณะที่คนอื่นๆหันไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง และเดินไปยังหลังรถ ขณะที่อินพ่นลมหายใจออก และยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
แต่ทว่าพีทก็เอาคางมาวางไว้ที่ไหล่ของเขา
“มึงพูดเองนะ”
อินหันไปมองพีทที่ยิ้มกริ่ม และเดินหยิบกระเป๋าไปขึ้นรถ ขณะที่ทุกๆคนกำลังทยอยขึ้นรถตู้ไป
..........
แม้จะเป็นการเดินทางโดยรถตู้ประบอากาศอย่างดี แต่การเดินทางจากอุดรธานีตรงไปยังหนองคาย และยังต่อไปยังอำเภอบึงกาฬ เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างทรหดเอามาก บนรถตู้ที่มอสและเบนซ์เป็นคนเปิดบทสนทนาอยู่แทบจะตลอดเวลา เพื่อดึงบรรยากาศให้สนุกสนาน อาจจะเพราะมีน้องโบว์ที่มอสก็พยายามแอ๊วเอินเธอไปตลอดทาง และทำให้ทุกอย่างไม่ดูอึดอัดมากเกินไปนัก แต่ดูเหมือนว่าแถวหลังที่ยึดครองโดยโฟล์คและพี่บอลที่อยู่ และอินกับพีทที่อยู่ที่นั่งอยู่แถวกลาง มันกลายเป็นจุดที่แปลกประหลาดเหลือเกิน
โฟล์คยังคงติดหูฟังเหมือนเก่า ขณะที่เขาแบ่งหูฟังข้างหนึ่งให้กับพี่บอล และก็เหมือนว่าทั้งคู่จะโดนดึงให้ออกไปจากบรรกาศโดยรอบ และจมหายไปกับท้ายรถเสียงอย่างนั้น ขณะที่อินก็ที่พบว่าตัวเองได้รอยยิ้มประหลาดมาจากพีทอยู่ตลอดเวลาที่หันไปเจอ และมันก็ดันทำให้เขาทำตัวไม่ถูกเช่นกัน
เมื่อมาถึงโรงแรม พวกเขาไม่มีเวลาจัดการอะไรกันมา เนื่องจากใกล้เวลาฌาปกิจเข้าไปทุกที ด้วยความเร่งรีบ พวกเขาจึงได้แต่รีบเอากระเป๋าของทุกคนทิ้งไว้ที่ล็อบบี้รวมถึงน้องโบว์ที่ขอตัวอยู่ที่โรงแรมเพื่อดูแลกระเป๋าให้พวกเขา และที่เหลือก็รีบออกจากโรงแรมมาก่อนที่จะได้ขึ้นห้องตัวเองกันด้วยซ้ำ
การมาถึงวัดที่จัดงานนั้นไม่ได้ไกลจากโรงแรมมาก แต่พวกเขาก็ตื่นตากับวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง และงานศพที่จัดอย่างเรียบง่าย เมื่อรถตู้จอดถึงวัด พวกเขาก็เห็นว่ามีกลุ่มคนอยู่ที่ศาลาอยู่ก่อนแล้ว มอสจึงจัดแจงเป็นคนนำเพื่อนๆทุกคนลงไป
“นั่นไงไอ้กาย ไปกัน แต่เดี๋ยว” มอสหันมาหาอิน “มึงจะไม่เปิดช้ะ”
“กูไม่ได้งี่เง่าไอ้สัส” อินย้อนทันที “ให้จบเผาก่อนมั้ย มึงนี่ก็นะ...”
“โอเค๊... มีสติก็ดี ไปพวกมึง” มอสเดินนำหน้าไป ขณะที่พีทมองไปตรงหน้าด้วยสีหน้าประหลาดอย่างที่อินไม่เคยเห็นมาก่อน
“มีอะไรเหรอ” อินร้องถาม
“อ๋อ...เปล่า” พีทตอบ “แล้วเอ่อ... เมื่อกี้... มอสเค้าหมายถึงไรอ่อ”
“อ๋อ... ไม่มีไร คือ เพื่อนเรา เจ้าของงานอ่ะ คือ... เคยทะเลาะกัน แต่ก็นานมาแล้วอ่ะ” อินว่า “ที่มานี่ก็... มอสกะให้มาเคลียร์กันด้วย”
“เคลียร์ในงานศพเนี่ยนะ” พีทร้องถาม ขณะที่อินยักไหล่
“ก็ถึงบอกมันตะกี้ไง ให้ไว้ก่อน” อินว่า “ไปเหอะ”
อินเดินนำพีทเข้าไปที่ศาลา ที่ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนกำลังเตรียมที่จะเข้าสู่พิธีฌาปนกิจแล้ว แขกเหรื่อที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ต่างก็เดินไปมากันค่อนข้างวุ่นวาย เขามองเห็นมอสที่กำลังสวมกอดใครคนหนึ่งอยู่ เพื่อนของเขาที่ไม่ได้เจอมาหลายปี ตอนนี้อยู่ในชุดสูทที่ดูดี ดีเสียจนเขานึกว่าเป็นคนละคนกับกายที่เขาเคยรู้จัก แต่ในสภาพที่ดูดีอยู่นั่น สีหน้าของกายดูย่ำแย่ ในตาของมันแดงก่ำขณะที่เขาเดินไปอยู่ใกล้
“ไม่เป็นไรมึง พวกกูมาแล้ว” มอสพูดปลอบเพื่อนที่ยังกอดมันแน่นอยู่อย่างนั้น มอสหันหลังส่งสายตามาหาอิน ที่เกาจมูกตัเองเบาๆขณะที่เดินมาถึงศาลา
มอสทำหน้าตาส่งสัญญาณให้อินเดินเข้ามาใกล้อีก
“ขอบใจมึงมากเว่ยมอส กู... กูขอโทษที่ไม่ได้บอก มึงด้วยโฟล์ค ขอบคุณที่มา” กายพูดเสียงสั่น พลางมองไปยังโฟล์คที่ตบไหล่เขาเบาๆ
“ไม่ใช่แค่พวกกู โน่น..” โฟล์คชี้ให้กายมองมาที่อิน ชายหนุ่มหันหลังกลับมามองอินที่ยืนอยู่ตรงนั้น และแล้วก็เป็นความเงียบอย่างประหลาด
อินมองหน้ากายอยู่อย่างนั้น เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดอะไรดี ดูเหมือนเรื่องราวในอดีตที่เขาพยายามฝังกลบมันไว้ กำลังผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของความคิด อินถอนหายใจก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ขึ้น
“กูเสียใจด้วย” อินพูดเสียงเรียบ
กายยังคงเงียบสนิทขณะที่มองอิน
“ยังไง... ก็ต้อง...มาป่ะวะ” อินพูดต่อ ขณะที่กายหลับตาลง พลางหันกลับมามองมอส
“มึงนัดมันอ่อ” กายพูดต่อเสียงเข้ม
“เห้ย... ไม่เอาดิ มันอยากมาดูมึง มึงก็ใจเย็นเย...”
กายหันไปคว้าตัวอินมากอดไว้อีกคน และนั่นก็เหมือนกับว่า กายกำลังทำลายกำแพงหลายๆอย่างในตัวอินไปจนหมด
“กูขอโทษเว่ย...” กายพูดเสียงสั่น “กูเสียใจ กูไม่น่าทำกับมึงแบบนั้น”
อินยืนตัวสั่น ขณะที่กายยังกอดเขาอยู่
“กูขอโทษอิน”
อินหลับตาลงก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหลังเพื่อน
“เออ..ช่างมัน...กู ไม่ได้คิดไรแล้ว” อินพูดพลางยิ้มให้มอสที่ส่งยิ้มกลับมา อย่างน้อยความตั้งใจของมอสก็สำเร็จไปแล้วเปลาะหนึ่ง Zodiac กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้งแล้ว
กายผละออกจากอิน พลางมองไปที่ทุกคนตรงหน้า
“กู ดีใจที่พวกมึงมากัน กู...” กายยังคงพยายามห้ามตัวเองไม่ให้เสียงสั่น “คือ.... เดี๋ยวจะเอาแม่ไปแล้ว ไว้คุยละกันคืนนี้นะ กูไปหาหลวงลุงก่อน พอดีเอ่อ...ต้อง ...จัดการ”
“เห้ยไม่เป็นไร มึงไปเหอะ พวกกูโอเค” มอสว่าต่อ
“งั้น ดูแลตัวเองแล้วกัน และ...เห้ย....”
กายมองไปยังพีทที่ยืนอยู่ข้างอิน ก่อนจะเดินไปใกล้ๆเขามากขึ้น อินมองตามไป และก็พบว่าพีทเองก็มองหน้ากายด้วยสีหน้าประหลาดอีกแล้ว เหมือนตอนที่ลงจากรถตู้เมื่อกี้
“...พีท...นั่นพีทป้ะ” กายร้องขึ้น
“กายเหรอ...” พีทถามกลับ “กาย ลูกของลุงพอลอ่ะนะ”
“เห...” มอสส่งเสียงขึ้นมาทันที แต่ทว่าทั้งสองคนก็เงียบสนิทใส่กันอยู่อย่างนั้น ท่ามกลางความงงงันของทุกคนตรงหน้า พีทมองไปยังป้ายงานศพก่อนจะเห็นรูปของแม่อินใสกรอบทองนั้น เขามองกลับมาหากายอีกทีนึง
“ป้าแก้วเสียทำไมมึงไม่บอก”
พีทส่งเสียงไปหากาย ขณะที่กายก้มหน้าหลับตาอยู่อย่างนั้น
..............