น้องหญิงของพี่ 14
เช้าอันแสนสดใส สดใสดิ เพราะวันนี้คนปลุกผมคือก้อนน่ารักที่กำลังพองแก้มเป่าผมให้ผมอยู่ เอาจริงๆ ผมของผมเนี่ยมันไม่ได้ยาวขนาดต้องใช้ไดร์หรอก ถึงไม่ได้สั้นแบบเด็กนักเรียนทั่วไปแต่ก็ไม่ได้ยาวขนาดเด็กมหาลัยไว้กัน ไดร์ที่มีติดห้องเพราะสมัยปิดเทอมผมของผมค่อนข้างยาวแล้วแม่ก็ไม่ชอบให้นอนหัวเปียกเลยซื้อมาให้ ซึ่งมันก็นอนตายอยู่ในลิ้นชักมาตลอดจนกระทั่งหญิงมารื้อเจอ หลังจากนั้นหญิงก็คอยมาเป่าๆ เซทๆ ให้ตลอด
ก็นะ พอมีไอ้มือนิ่มๆ มาช่วยนวดๆ เป่าๆ มันก็รู้สึกจนเออๆ ให้เป่าไปเถอะ กำไรดีแหละ
“เมื่อไหร่พี่จะตัดผม ยาวเกินไปแล้ว เดี๋ยวโดนไถทำไง”
“กูจะตัดก็ตอนที่จารย์ตอบได้ว่าทำไมกูไว้ทรงนี้แล้วยังสอบได้ที่หนึ่งของห้องอยู่” ไม่ได้กวนตีนนะ จะมาตัดผมกันได้ไงวะ
“พี่”
“ป๋าไม่ไถหัวกูหรอกหมวย” วู้ว
ป๋าคืออาจารย์ห้องปกครองโรงเรียนผม แกก๊งเหล้าอยู่กับพ่อผมบ่อยๆ ผมนี่ติดสินบนด้วยการเดินไปซื้อน้ำแข็งให้ประจำ
“เห้อ”
“ต่อให้ไถแล้วยังไง บอกเลยสกินเฮดกูก็ยังหล่ออยู่ดีนะ”
“อือ หญิงเชื่อ”
“เชื่ออะไรวะ”
“พี่อ่ะ โกนหัวก็หล่อ ยังจำตอนที่หญิงเอาหมากฝรั่งป้ายหัวพี่ตอนเด็กได้ป่ะ” ผมมองหญิงผ่านกระจก แก้มขาวนั้นยกขึ้นเล็กน้อยเพราะเจ้าตัวอมยิ้ม
“ขำไรหมวย เพราะหมากฝรั่งมึงนะ กูถึงต้องโกนผม”
“ก็ปิ้วมันท้า”
“ท้าว่ามึงจะกล้าเอาหมากฝรั่งมาแปะหัวกูแล้วกูจะโกรธไหมแล้วมึงก็แปะมาได้ห้าอันเนี่ยนะ” คิดย้อนกลับไปแล้วมันก็ทั้งขำทั้งโกรธ ไอ้หมวยนี่ทดสอบความรักผมด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งมาแปะหัวผมห้าอันตอนผมหลับ
ครับ...
ตื่นมาอีกเหมือนหัวมีราขึ้น เหนียวแห้งติดหนังหัว แม่แทบลมจับตอนเห็นผมเดินออกมาจากห้องนอน
“แต่พี่ก็ไม่โกรธนี่” ผมกระตุกยิ้ม
ใช่ครับ ตื่นมาหัวเหนียว แต่โจรที่ทำร้ายหัวผมไม่ได้หนีไปไหนไกล แค่ไม่กี่ก้าวจากระยะตัวบ้าน ยืนก้มหน้าน้ำตาคลออยู่แถวรั้วเพราะกลัวผมโกรธ ตัวก็แค่นั้น หัวฟูมัดจุกน้ำพุเหมือนลูกหมาแล้วยิ่งมาน้ำตาคลอมองหน้าผมด้วยตากลมๆ นั่น
ใครมันจะไปโกรธลง
จ้างห้าร้อยยังไม่เอาเลย
“แค่โกนหัว”
“...”
“มันแย่น้อยกว่าทะเลาะกับมึงเยอะหมวย”
“พี่...”
“หืม?”
เสียงไดร์เงียบไปพร้อมกับมือนิ่มที่ผละออก
ผมมองหน้าหญิงที่สบตาผมผ่านกระจก ดวงตากลมนั่นติดเศร้าอยู่เล็กน้อย
“วันนั้น...”
“...”
“พี่โกรธหญิงไหม”
“วันไหน” ผมขมวดคิ้วงง
“จูบ”
“...”
“วันที่หญิงจูบกับพี่เป้” หญิงเม้มปากแน่น “วันนั้น… พี่โกรธหญิงไหม”
ผมรู้สึกได้ถึงความใจกระตุกไปวูบหนึ่งเมื่อนึกถึงภาพวันนั้นฉายขึ้นมา
โกรธไหมงั้นหรอ?
ผมนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าตอนนั้นตัวเองโกรธรึเปล่า ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองได้ใช้สมองประมวลผลก่อนตัดสินใจต่อยออกไปไหม
... ที่มาของขาดสติมันคงเป็นแบบนี้
“จำไม่ได้”
“พี่...”
“แต่ไม่ได้โกรธมึง”
“...”
“แต่ไหนๆ ก็พูดขึ้นมาแล้ว...” ผมยกมือขึ้นเกาหัวก่อนจะหันไปเผชิญหน้าหญิง
เพราะผมนั่งอยู่แต่หญิงยืนทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าน่ารักของหญิงตึงเครียดขึ้นเยอะ ปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่น มือที่จับไดร์อยู่ก็สั่นเล็กน้อย
“...”
“เล่าได้ไหม ว่าจูบกับมันทำไม”
“...”
“ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร”
“พี่...”
“หมวย ไม่เอาแบบนี้”
“หญิงรู้สึกผิด...”
“ส่วนกูเจ็บหัวนมไปหมดแล้ว เห็นหน้ามึงเศร้าแล้วเจ็บกว่าหัวนมดำอีก ไม่เอา ไม่ต้องเล่าแล้ว กูขี้หูตัน ไม่ฟังแล้ว ยิ้มหน่อยหมวย” ผมยกมือขึ้นใช้นิ้วโป้งนวดแก้มน้อง
“วันนั้นพี่เป้แค่ถามว่าหญิงจะเอายังไงต่อกับพี่”
“หมวย...”
“หญิง.. หญิงตอบไปว่าหญิงจะตัดใจ อย่างน้อยเป็นน้องข้างบ้านก็ยังดีกว่าถ้าบอกออกไปแล้วพี่จะทิ้งหญิง ช่างน้ำหนักกันแล้ว หญิงรู้ว่าอย่างหลังมันแย่กว่าเยอะ” ผมคว้ามือของหญิงที่สั่นระริกมาจับไว้ พร้อมกับจ้องหน้าน้องนิ่ง
ไม่ไปไหน...
รักขนาดนี้จะไปไหนได้ยังไง
“หญิง...”
“หญิงบอกพี่เป้ว่ายังไงคนอีกเป็นล้านคนบนโลก ถ้ามันเป็นพี่ไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องปล่อยให้เวลามันจัดการ”
“...”
“พี่เป้บอกหญิงว่าคนมีเป็นล้าน แต่ถ้าหญิงชอบไอ้คนนี้ ล้านที่เหลือก็หมาล้วนๆ” ผมอมยิ้มเล็กน้อย เสียใจกับหมาทั้งหลายด้วยแล้วกันนะ
“อาฮะ”
“พี่เป้ถามหญิงว่าถ้าเป็นพี่เป้จากในล้านคน พอจะเป็นตัวเลือกได้ไหม” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากหญิงพูดจบ ลองตัดอคติทุกอย่างทิ้งไป ถ้าให้พูดตรงๆ ไอ้เวรหน้าเหมือนกีบเท้าควายที่ทิ่มโคลนอย่างไอ้เป้ก็ไม่ได้แย่อะไรเลย
เพราะผมรู้นั่นแหละ
ถึงได้หวงน้องกับมันมากเป็นพิเศษ
“...”
“พี่เป้ ถามหญิงว่าอยากลองไหม” ถึงตอนนี้หญิงก็เริ่มน้ำตาคลอ นิ้วเล็กนั่นกำมือผมแน่น
“ลอง...”
“ลองจูบ”
“...”
อ่า...
เส้นเลือดตรงขมับตึงขึ้นนิดหนึ่งแบบรู้สึกได้เลยแหะ
“หญิงปฏิเสธไปทันที แต่มันด้วยอะไรไม่รู้พี่ หญิง... หญิงสับสน หญิงไม่ได้จะแก้ตัวอะไรนะ แต่ตอนนั้นมันแว่บขึ้นมาเฉยๆ” น้ำตาเม็ดกลมหล่นลงกับแก้มขาว ปากแดงนั่นเม้มเข้าหากันจนซีดขาว “...ว่าจูบมันเป็นยังไง ถ้าไม่ใช่พี่มันจะเป็นยังไง หรือจริงๆ มันอาจจะไม่มีวันที่พี่จะจูบหญิงก็ได้ หญิง-”
“แล้วเป็นไง” ผมถามออกไปเพราะไม่อยากจะฟังหญิงพูดถึงไอ้เวรนั่นแล้ว
“จะอ้วก”
“ฮ่ะๆ” ผมระเบิดหัวเราะออกมาทันที
“แค่ไม่กี่วิเองนะ เพราะจูบไปไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ พี่ก็มาแล้ว ตอนที่หันไปเจอพี่อ่ะ ใจหญิงเหมือนตกไปอยู่ที่ตีนเลย”
“ตอนที่หันหน้ามาเป็นมึงใจกูก็ตกไปอยู่ที่ตีนเหมือนกัน นั่นแหละสาเหตุว่าทำไมตีนกูถึงไปประทับอยู่หน้าไอ้เวรนั่น” ผมยกมือหญิงขึ้นมาจูบ
“พี่...”
“ที่ผ่านมาจะอยากลอง จะสับสน จะอะไรกูไม่ว่าเลย กูไม่ว่าเลยจริงๆ”
“...”
“ปากแดงๆ เนี่ย กูโคตรหวงเลย ขอร้องเลย ให้กราบตีนก็ได้ กูอาจจะดูห้าวมากกับทุกเรื่อง แต่กับมึง... กับเรื่องของมึง ใจกูแม่งบางกว่ากระดาษอีก”
“พี่ ฮึก”
“ต่อจากนี้อย่าเอาไปให้ใครแตะอีกนะ”
ผมรั้งเอวหญิงลงมาให้นั่งบนตักผม หนักขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะแต่ก็ยังเบามากถ้าเทียบกับน้ำหนักที่ผู้ชายวัยนี้ควรจะเป็น ใบหน้าน่ารักเบะร้องไห้จ้ากับไหล่ผม ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้น ดีแล้ว ดีแล้วจริงๆ ที่น้องยังอยู่ในอ้อมกอดผม ผมไม่ใช่ผู้ชายละเอียดอ่อนที่จะมานั่งบรรยายความรักให้สวยหรู หรือวิเคราะห์ความเป็นเหตุเป็นผลให้กับความรู้สึกตัวเอง ผมรู้แต่ความรู้สึกของผมที่มีกับหญิง มันไม่เหมือนคนอื่น
“หญิงขอโทษ ฮึก”
“เลิกขอโทษได้แล้ว ก็บอกไม่ได้โกรธ”
“ฮึก ถ้าหญิงรู้ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ หญิงจะเก็บจูบแรกไว้ให้พี่ หญิงรู้สึกแย่ แย่โคตรๆ” หญิงดันตัวออกจากอกผมพร้อมกับยกมือขึ้นถูปากตัวเองไปมาจนผมต้องกระชับเอวบางบนตักด้วยแขนซ้ายแล้วยกแขนขวาขึ้นจับก่อนที่หญิงจะถูปากตัวเองแดงไปมากกว่านี้
“อย่าถูดิ ปากแดงไปหมดแล้ว”
“ฮือ”
“แล้วใครบอกว่ามันเป็นจูบแรกของมึงวะหญิง”
“...”
“จูบแรกของมึงอะ”
“...”
“คือ...”
“...”
“คือ... ไอ้อ้วนพอร์ชต่างหาก น้องกูจูบปากมึงโชว์กูเป็นร้อยรอบ ไอ้เป้เรอะ? หึ ไปขี้”
พูดจริงครับ ไอ้ก้อนอ้วนนั่นชอบบีบแก้มหญิงแล้วก็จุ๊บปาก ทำตั้งแต่ผมยังโกรธจนปัจจุบันผมเริ่มจะชินแล้ว ไม่รู้พ่อกับแม่ไปทำอะไรโชว์ มันถึงได้ติดมาทำกับหญิง
“กับพอร์ชเค้าเรียกจุ๊บต่างหาก”
“ถ้าเอาลิ้นด้วยก็น่าจะไอ้ไมโล เลียหน้าเก่ง”
“ยี้” หญิงเบะปากเมื่อถึงตอนที่ตัวเองเคยโดนไมโลเลียปาก ผมยังจำได้อยู่เลยว่าน้องวิ่งมาฟ้องว่าไมโลเลียปากโดนลิ้นตัวเองจนต้องกลับบ้านไปแปรงฟันจนปากชา
“ต่อจากนี้ อยากจูบมาจูบกับกูนี่ ปากกูพร้อมมาก”
“อยาก”
“ห๊ะ”
“เนี่ย อยากจูบ”
“เบาได้เบานะหญิง เพิ่งบอกไปว่ากับมึงใจกูบาง”
“ไหนบอกว่าอยากจูบให้บอกไง”
“มึงอย่าใช้หน้าน่ารักพูดจาแบบนั้นได้ไหม”
“แล้วจะทำไม”
“ก็ไม่ไง กูอยากฟัดให้ปากแตก”
“พี่!!!”
พูดจริงทำจริง ผมยอดชายนายพี่พี่ พูดอะไรทำจริงอยู่แล้ว แน่นอนครับว่าหลังพูดจบผมก็โอบตัวหญิงไว้ มืออีกข้างก็จับท้ายทอยรั้งใบหน้าน่ารักนั่นให้ขยับเปลี่ยนองศาก่อนจะฉกหน้าเข้าไปเอาจมูกถูกับจมูกหญิง ถูจนพอใจแล้วก็ขยับไปจิ้มตรงแก้ม สูดกลิ่นแป้งแคร์ของหญิงเข้าปอด
โคตรน่ารัก น่ารักกว่าไอ้พอร์ชอีก
ไอ้เด็กเวรนั่นอายุไม่กี่ขวบแต่เสือกมีกลิ่นน้ำมันมวยติดตามตัว
“หมวย...” ผมกระซิบข้างหูของหญิงก่อนจะค่อยๆ เลื่อนปากมางับริมฝีปากล่างของน้องเบาๆ แค่พอเป็นการเตือนว่ากูเอาจริงแล้วนะ กูจะจูบ กูจะจูบแน่ๆ หางตาผมเหลือบมองเห็นว่าหญิงกำลังกำเสื้อกล้ามของผมแน่น ตากลมหยีลงหนีความเขินสุดชีวิต
... หนีรอดที่ไหน หูแดงขนาดนั้น
ผมค่อยๆ รุกรานริมฝีปากบางนั่นด้วยการขยับลิ้นไปสัมผัส หญิงสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็สู้กลับด้วยการงับลิ้นผมคืน บอกเลยว่าเพราะไอ้การสู้กลับน่ารักๆ นั่นแหละทำให้ผมหยุดไม่อยุ่
ความตั้งใจแรกที่กะจะให้เป็นจูบน่ารักๆ แต่พอโดนต้อนกลับสัญชาตญาณนักสู้ก็พุ่งพรวด โดยไม่รู้ตัว จากการค่อยๆ ลิ้มลองก็กลายเป็นหยาบโลน เสียงเฉอะแฉะดังข้างหูดูลามกเหมือนหนังเอวีที่เคยดู ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกับหญิงเปลี่ยนองศาหัวสลับข้างไปกี่รอบ
เครื่องติด!!!
เครื่องติดแล้ว!!!!
ย้ำ หัวหน้าครับ เครื่องผมติดแล้ว!!!!
เบิ้นเครื่องเต็มกำลังพร้อมรังแกคนไร้ทางสู้ด่วน!!!!
แอ๊ด!
“ไอ้พี่ เดี๋ยวมึงไปดูยิม... อ่า” เสียงแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้นมาจากหน้าประตูห้อง ทำเอาหญิงสะดุ้งเฮือกเกือบจะผละออกแต่ผมก็ยกมือขึ้นจับท้ายทอยไว้ไม่ให้หนี จากเสียงก็พอเดาได้ว่าเป็นไอ้พี่พาม
โล่งอกไปทีที่เป็นพี่พาม
อย่างน้อยพี่มันก็คุยง่ายสุด แบบนี้จูบต่อได้ไหมนะ
“พี่พี่! พ็อจจิมาแน้ววววว”
“น้องพอร์ชไม่วิ่งหนีแม่สิลูก!!! อ้าวพาม ยืนงงอะไรอย- ตาพี่!!”
ไอ้เวรพอร์ชมึงงงงงงงงงงงงง
ผมผละออกจากหญิงทันทีที่ได้ยินเสียงแม่ สภาพผมและหญิงตอนนี้โคตรจะยับเยินทั้งคู่ ทั้งหัวฟู ปากช้ำเปียก ไหนจะไอ้ท่านั่งตักฟัดปากแบบติดเรทนั่นอีก
“พี่พี่แก้งพี่หญิงอีกแน้ว!!!”
“...” กูไม่ได้แกล้ง ไอ้อ้วน อยากจะวิ่งไปหยิกแก้มอ้วนๆ นั่นสักสามทีถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ผมได้แต่ยืนนิ่ง รอแม่สติเข้าร่างแล้ววีนต่อ
“พี่พี่งับปากพี่หยิงทำไมมม เอาคืนที่พี่หยิงชอบแก้งงับเวลาพี่พี่หลับหรอ”
ห๊ะ...
ผมหันขวับไปหาหญิงทันที ใบหน้าน่ารักนั่นเบิกตากว้าง
“มะ มะ ไม่ใช่ ไม่ใช่นะ”
“หญิง มึงเคยแอบจูบกูตอนนอนหรอ”
“เรียกจูบหยอออ”
“มะ ไม่ใช่นะ พี่ เอ่อ ฮือ ทำไงดี”
“พ็อจจิเห็นพี่หญิงทำ พ็อจจิเลยทำกับพี่บ่อยๆ เหมือนกัง”
“มึงก็แอบจูบกูตอนนอนด้วยเรอะไอ้อ้วน!!!”
“หยะ หยุดพูดเรื่องจูบก่อนได้ไหม ขอแม่หายใจก่อน!!!”
สงครามจบทันทีที่แม่ตะโกน ผมหุบปากแน่นจนปากเป็นขีดส่วนไอ้พอร์ชก็ยกมือขึ้นอุดปากตัวเองอย่างกล้าๆ กลัวๆ ด้วยความที่บ้านผมเต็มไปด้วยผู้ชาย พ่อกับลูกชายอีกสี่คนกับแม่ที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว ดังนั้นกฏของบ้านมีอยู่ข้อเดียว
แม่คือที่หนึ่ง
บอกไม่ก็คือไม่ บอกให้ทำก็คือต้องทำ
ดังนั้นเมื่อแม่บอกให้หยุดพูดก็แปลว่าต้องหยุดพูดทันที ต่อให้ไม่มีอะไรกั้นก็ต้องหยุด คุณพิมพ์ดาวน่ะ ตีตูดกับหยิกหูเจ็บที่สุดในโลก ผมเคยโดนกระทืบสี่รุ่มหนึ่งยังไม่เจ็บเท่าเลย ไม่ได้เวอร์นะ แต่ผมว่าแม่ผมมีสายเลือดโอดินสัน เป็นญาติห่างๆ ของธอร์ชัวร์ ค้อนโยดานั่นแม่ผมก็น่าจะยกได้ เผลอๆ ยกได้เอามาใช้ตำส้มตำอีก
“โอเค หายใจเข้าหายใจออก ดั่งดอกไม้บาน”
“...”
“แม่ตกใจด้วยหรอ ถามจริง” พี่พามที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูอยู่พูดถามด้วยเสียงปนขำ
“ตกใจสิ!!!”
“...”
“เวลาจะมีอะไรกันก็หัดล็อคห้องบ้างนะตาพี่ น้องยังเด็ก!!!” แม่หันมาชี้หน้าผมเล่นเอาหางแทบหด
แต่เอ๊ะ...
“อ้าว แม่ไม่ได้ตกใจเรื่องคบกันหรอ”
“อันนั้นต้องตกใจด้วยหรอ”
“...”
“พี่ แม่ไม่ได้โง่นะ ลูกน่ะ ตั้งแต่โตมาก็ตัวติดน้องหญิงมาตลอด ติดกว่าน้องแท้ๆ อย่างเจ้าพอร์ชอีก คิดว่าแม่จะไม่เตรียมใจหรือไง” แม่กอดอกมองหน้าผมสลับกับหญิง “แม่ไม่ว่านะเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่ต้องเซฟเซกซ์นะพี่ ถุงยางต้องใส่ทุกครั้ง”
“มะ ไม่นะครับ ไม่ใช่นะ” หญิงหน้าแดงไปยันหู ไอ้ตัวน่ารักรีบโบกไม้โบกมือแก้ข่าว ส่วนผมได้แต่ยืนเกาท้ายทอยแกรกๆ
“ถุงยางคือไยอ่ะพี่พาม”
“ถุงยา หมายถึงถุงใส่ยาแก้ปวดไง จำได้ไหมที่นวดๆ กลิ่นเหม็นๆ”
“อ๋ออออออออ ยานวดๆ”
“ใช่ จริงๆ พี่ก็เริ่มปวดบ่าขึ้นมาหน่อยแล้ว ไปหยิบให้หน่อยได้ไหม”
“ด้ายยยยยย” ก้อนอ้วนกระโดดดึ๋งๆ ก่อนจะออกตัววิ่งออกนอกห้องไป พี่พามแม่งฉลาดจังวะ ไล่ก้อนอ้วนไปได้ง่ายๆ เลย
พอไอ้พอร์ชวิ่งออกจากห้องไป แม่ก็ตวัดสายตาชวิ้งใส่ผม
น่ากลัวโว้ยยยยยยย
“แล้วนี่บ้านหญิงรู้เรื่องรึยังลูกว่าคบกัน”
“...” หญิงหน้าเจื่อนลงไปทันที
“ตายแล้ว! ไม่ได้นะ ตาพี่ เราต้องเข้าตามตรอกออกตามประตูนะ เอาลูกชายเขามาปู้ย่ำปู้ยีแบบนี้ยังไงก็ต้องไปคุยให้เรียบร้อย”
ปู้ย่ำปู้ยี่ คุณพิมพ์ดาวนี่เขาจะพูดไปไกลเกินจริงไปไหม ผมยู่หน้าเล็กน้อย แต่เอาเถอะ ในอนาคตก็น่าจะได้ปู้ย่ำปู้ยีลูกชายเขาจริง ไปทำให้ถูกต้องมันก็ดีอยู่แหละ
“เค เดี๋ยวถ้าพร้อมจะเข้าไปคุย”
“ตาพี่”
“แม่ก็รู้ป่ะว่าพี่พร้อมอยู่แล้ว”
“...”
“ให้เวลาน้องมันหน่อย” ผมยกมือขึ้นแปะบนหัวฟูของหญิงแล้วโยกไปมา แม่ขยับปากเหมือนจะพูดอะไรแต่พอเห็นหน้าหญิงก็ต้องยอมพยักหน้า แหง หน้าหงอยเป็นหมาขนาดนี้ ใครก็ต้องยอมทั้งนั้นแหละ
“เอาเถอะ แต่ยังไงก็ใส่ถุงยางด้วยนะตาพี่”
“คร้าบบบ”
“พี่!! “ หญิงศอกป้าปเข้าพุงผม
“แม่ไปแล้ว ฝากดูไอ้หมีนี่ด้วยนะหญิง มันฟังหนูมากกว่าแม่อีก” แม่บ่นงุบงิบแล้วก็เปิดประตูเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้หญิงอ้าปากพะงาบๆ แก้ข่าวไม่ทัน
“พี่...”
“เอาน่า ไว้พร้อมเมื่อไหร่ก็บอก”
“...”
“หมายถึงบอกพ่อแม่นะ ส่วนปู้ย่ำปู้ยีกูบอกเลยว่ารอเรียนจบ”
“พี่!!!”
หญิงฟาดมือลงบนไหล่ผมแล้วหันตัวกระแทกขาเดินเข้าห้องน้ำไป ดูท่าจะเข้าไปแก้เขินนั่นแหละ ผมมองภาพนั้นพร้อมกับหัวเราะนิดๆ ก่อนจะลุกบิดขี้เกียจเดินตามหญิงเข้าไปเงียบๆ
เมื่อกี้โดนขัดจังหวะ แต่เครื่องติดแล้วมันลงยาก
คราวนี้จะฟัดให้แก้มเป็นรอยเลย ไอ้ตัวน่ารัก
---